“หนิ ทรายผาแตม้ ”
เน่ืองในปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ อันเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นปีแห่งการสถาปนากรมทรัพยากรธรณี ครบรอบ ๑๒๐ ปี เพ่ือแสดงความสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ แสดงความจงรักภักดี และแสดงความมุ่งมั่น ท่ีจะปฏิบัติหน้าท่ีอันจะก่อให้เกิดการเรียนรู้วิชาการด้านธรณีวิทยาอย่างกว้างขวางตามรอยพระยุคลบาท ทท่ี รงมพี ระมหากรณุ าธคิ ณุ แกว่ ิชาการดา้ นธรณีวิทยาของประเทศอยา่ งหาทีส่ ุดมไิ ด้ตลอดระยะเวลาท่ีผา่ นมา กอปรกับในปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ สำ�นักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเน่ือง มาจากพระราชด�ำ ริ (ส�ำ นกั งาน กปร.) ไดร้ บั พระราชทานพน้ื ทโี่ รงงานสรุ าบางยข่ี นั (เดมิ ) แขวงบางยข่ี นั เขตบางพลดั กรงุ เทพมหานคร เพอ่ื กอ่ สรา้ งอาคารส�ำ นกั งานแหง่ ใหมเ่ พอ่ื ใชเ้ ปน็ สถานทป่ี ฏบิ ตั งิ านของขา้ ราชการส�ำ นกั งาน กปร. และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิชัยพัฒนา เพ่ือสนองงานพระราชดำ�ริร่วมกัน โดยอาคารสำ�นักงานได้จัดพ้ืนที่จัดแสดง หินและแร่สัญลักษณ์ของจังหวัด อันจะส่ือถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรม- วงศานุวงศท์ กุ พระองค์ทไ่ี ดเ้ สดจ็ พระราชดำ�เนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกจิ ในทั่วทกุ ภูมิภาคของประเทศ กรมทรพั ยากรธรณี โดยคณะกรรมการคดั เลอื กและจดั ท�ำ ขอ้ มลู เอกสารหนิ หรอื แรส่ ญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั คณะอนุกรรมการคัดเลือกและจัดทำ�ข้อมูลเอกสารทรัพยากรธรณีของจังหวัด และคณะอนุกรรมการพิจารณา จดั ท�ำ สอ่ื ความหมายและเผยแพรข่ อ้ มลู ทรพั ยากรธรณสี ญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั ไดด้ �ำ เนนิ การคดั เลอื กทรพั ยากรธรณี ของจังหวัดต่างๆ ให้ถูกต้องและตรงกับข้อเท็จจริงทางวิชาการธรณีวิทยา ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของแต่ละจังหวัด ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการจัดแสดงตัวอย่างทรัพยากรธรณีบริเวณอาคารสำ�นักงาน กปร. และจัดทำ� ส่ือเอกสารและหนังสือทรัพยากรธรณีสัญลักษณ์ของจังหวัด เพ่ือเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ ความเข้าใจ และ ประชาสัมพันธใ์ ห้ประชาชน ผูส้ นใจทว่ั ไป และภาคสว่ นต่างๆ ได้รบั ทราบถงึ สญั ลักษณท์ รัพยากรธรณีของแตล่ ะ จังหวัด และสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระราชกรณียกิจทพี่ ระองค์ได้เสด็จพระราชดำ�เนินไปท่วั ทุกภูมิภาค ของประเทศไทย เพื่อดูแลทุกข์สุขของพสกนิกรชาวไทยของพระองค์ รวมทั้งเป็นการปลูกฝังและสร้างจิตสำ�นึก ในการน�ำ ความรแู้ ละขอ้ มลู ธรณวี ทิ ยาไปใชเ้ ปน็ ปจั จยั พน้ื ฐานและประโยชน์ตอ่ ไปในการสนองพระบรมราโชวาททวี่ า่ “วิชาการทัง้ ปวงนัน้ ถงึ จะมีประเภทมากมายเพยี งใดก็ตาม แตเ่ มอื่ น�ำ มาใชส้ รา้ งสรรค์ส่งิ ใด ก็ต้องใช้ดว้ ยกัน หรือตอ้ งน�ำ มาประยุกต์เขา้ ด้วยกนั เสมอ อย่างกับอาหารที่เรารับประทาน กวา่ จะส�ำ เรจ็ รปู ขนึ้ มา ให้รบั ประทานได้ ตอ้ งอาศัยวชิ าประสมประสานกนั หลายอยา่ ง และต้องผา่ นการปฏิบัตมิ ากมาย หลายอย่างหลายตอน ดงั นั้นวชิ าต่างๆ มีความสมั พันธ์ถงึ กันและมอี ุปการะแก่กนั ท้ังฝา่ ยวทิ ยาศาสตร์ และศลิ ปศาสตร์ ไม่มีวิชาใดท่ีนำ�มาใชโ้ ดยลำ�พงั ตวั หรือเฉพาะอยา่ งได้เลย” (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ครูใหญโ่ รงเรยี นและนักเรียนที่สมควรได้รับพระราชทานรางวัล ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ประจ�ำ ปีการศกึ ษา ๒๕๑๙วันที่ ๓ สงิ หาคม ๒๕๒๑)
สารบัญ พระราชกรณยี กจิ และพระกรณยี กจิ ๔ พทั ลุง ๕๕๓๔ ดา้ นธรณวี ทิ ยาและทรัพยากรธรณ ี พิจิตร ๕๕ ธรณีวทิ ยาประเทศไทย พษิ ณโุ ลก ๕๕๗๖ ทรัพยากรธรณี สญั ลักษณข์ องจงั หวดั เพชรบรุ ี ๕๘ ๑๐ เพชรบรู ณ์ ๕๙ กรงุ เทพมหานคร ๖๖๖๒๑๐ ๑๗ แพร่ ๖๓ กระบี่ ๑๘ ภูเกต็ ๖๖๖๔๕๖ กาญจนบรุ ี ๑๒๒๙๑๐ มหาสารคาม ๖๗ กาฬสนิ ธ์ุ ๒๒ มกุ ดาหาร ๖๗๖๗๙๘๑๐ กำ�แพงเพชร ๒๒๒๓๕๔ แม่ฮ่องสอน ๗๒ ขอนแก่น ๒๖ ยโสธร ๗๗๓๔ จนั ทบุรี ๒๒๒๙๘๗ ยะลา ๗๕ ฉะเชิงเทรา ๓๐ รอ้ ยเอด็ ๗๗๗๘๗๖ ชลบุรี ๓๓๓๒๓๑ ระนอง ๗๙ ชยั นาท ๓๔ ระยอง ๘๘๘๒๑๐ ชัยภมู ิ ๓๓๓๗๕๖ ราชบุรี ๘๓ ชมุ พร ๓๘ ลพบุรี ๘๔ เชยี งราย ๓๔๔๙๑๐ ลำ�ปาง ๘๘๕๖ เชียงใหม่ ๔๒ ล�ำ พนู ๘๗ ตรัง ๔๔๔๓๔๕ เลย ๘๘๙๙๙๘๑๐ ตราด ๔๖ ศรสี ะเกษ ๙๙๒๓ ตาก ๔๔๔๙๘๗ สกลนคร ๙๔ นครนายก ๕๐ สงขลา ๙๕ นครปฐม ๕๕๒๑ สตูล นครพนม สมทุ รปราการ นครราชสีมา สมทุ รสงคราม นครศรธี รรมราช สมทุ รสาคร นครสวรรค์ สระแก้ว นนทบรุ ี สระบรุ ี นราธวิ าส สงิ ห์บรุ ี น่าน สโุ ขทัย บึงกาฬ สุพรรณบรุ ี บุรีรัมย์ สรุ าษฎรธ์ านี ปทมุ ธานี สุรินทร์ ประจวบคีรีขันธ ์ หนองคาย ปราจนี บุรี หนองบวั ล�ำ ภู ปตั ตานี อ่างทอง พระนครศรอี ยธุ ยา อ�ำ นาจเจริญ พะเยา อดุ รธานี พงั งา อุตรดิตถ์ อุทยั ธานี อบุ ลราชธานี บรรณานกุ รม
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด พระราชกรณียกจิ และพระกรณียกิจ ดา้ นธรณีวทิ ยาและทรัพยากรธรณี The Royal Duties Related to Geology and Mineral Resources พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั มพี ระบรมราชานญุ าตใหน้ ายอภิชยั ชวเจริญพนั ธ์ อธิบดีกรมทรพั ยากรธรณีและคณะผู้บริหาร เขา้ เฝ้าฯ ทลู เกลา้ ฯ ถวายสมดุ แผนที่ทรพั ยากรธรณี ประเทศไทย เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ His Majesty King Bhumibol Adulyadej graciously granted an audience to the Director-General of Department of Mineral Resources, Mr. Apichai Chawacharoenphan, and government officials to present mineral resources map of Thailand on August 9, 2007. 4
Aพ..Dศ..1๒95๕7o-o1-97๒7๕๒o ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ 5 เสด็จพระราชดำ�เนินไปทอดพระเนตรการประกอบกิจการเหมืองแร่ท่ีภาคใต้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๒ โดยมีข้าราชการและพนักงานกรมโลหกิจ (กรมทรัพยากรธรณี) เฝา้ ทลู ละอองธุลพี ระบาทรับเสดจ็ His Majesty King Bhumibol Adulyadej and Her Majesty Queen Sirikit graciously paid a visit to mining industry in the South in 1959. On this occasion, His Majesty the King and Her Majesty the Queen graciously granted an audience to the civil servants and personnel of the former Department of Mines (currently the Department of Mineral Resources). สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกุมาร ขณะด�ำ รงพระอสิ ริยยศพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ เสด็จพระราชดำ�เนินพร้อมด้วยพระสหาย ไปทอดพระเนตรการดำ�เนิน การด้านทรัพยากรธรณีของกรมโลหกิจ (กรมทรัพยากรธรณี) ถนนพระรามท่ี ๖ เขต ราชเทวี กรุงเทพฯ เน่ืองในวันเด็กแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๔ โดยมีข้าราชการ และพนักงานกรมโลหกจิ เฝ้าทูลละอองพระบาทรบั เสดจ็ และกราบบงั คมทลู บรรยาย During the time when His Royal Highness Crown Prince Maha Vajiralongkorn still held the royal title of His Royal Highness Prince Vajiralongkorn, the prince accompanied by his friends graciously paid a visit to the former Department of Mines (currently the Department of Mineral Resources), located on Rama VI Road, Ratchathewi District, Bangkok on Children’s Day, 1961. On this occasion, the prince graciously granted an audience to the civil servants and personnel of the former Department of Mines to report on the Department’s activities. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ขณะดำ�รงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ เสด็จพร้อมด้วยพระสหายร่วมช้ัน ไปทอดพระเนตรโรงทดลองแต่งแร่ของกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ ถนนพระรามที่ ๖ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เมอื่ วนั ที่ ๑๕ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๑๓ โดยมีนายสันต์ รชั ฎาวงศ์ นายชา่ งเอก กองการเหมอื งแร่ พรอ้ มข้าราชการและพนักงานกรมทรพั ยากรธรณี เฝ้ารับเสดจ็ และกราบทลู อธิบายโดยละเอยี ด Her Royal Highness Princess Chulabhorn accompanied by her classmates graciously paid a visit to the pilot plant of Department of Mineral Resources, Ministry of National Development, located on Rama VI Road, Ratchathewi District on September 15, 1970. On this occasion, the princess was welcomed to the site by Chief Engineer of Mining Division, Mr. Sant Rachadawongse and other civil servants and personnel of Department of Mineral Resources.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด พA..Dศ..1๒97๕8๒-๑19-9๒7๕๔o สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชด�ำ เนนิ ไปทรงเปน็ ประธานในพธิ เี ปดิ แหล่งกา๊ ซธรรมชาติบงกช อ่าวไทย เม่อื วันที่ ๑๕ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๒๖ Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn graciously presided over the opening ceremony of Bongkot Natural Gas Field in the Gulf of Thailand on September 15, 1983. สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำ�เนนิ พร้อมดว้ ย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจา้ พัชรกติ ยิ าภา ไปทอดพระเนตรการแสดงนิทรรศการ ของกระทรวงอตุ สาหกรรม โดยกรมทรพั ยากรธรณี ในงานเวิลดเ์ ทค ’๙๕ เม่ือวันท่ี ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๘ ณ จงั หวัดนครราชสีมา โดยมนี ายปรชี า อรรถวภิ ัชน์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เฝา้ ทลู ละอองพระบาทรบั เสดจ็ กราบบงั คมทลู รายงาน และน�ำ เสดจ็ เยย่ี มชมส่วนแสดงนทิ รรศการ Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn accompanied by Her Royal Highness Princess Bajrakitiyabha graciously paid a visit to the exhibition booth of Department of Mineral Resources, Ministry of Industry, which was held at WorldTech ’95 expo on November 4, 1995, Nakhon Ratchasima Province. Upon arrival, the princesses were welcomed to the exhibition area by Mr. Preecha Attavipach, 6 the Permanent Secretary of Ministry of Industry.
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำ�เนินไปทอดพระเนตรหลุมขุดค้น ไดโนเสารภ์ กู มุ้ ขา้ ว อ�ำ เภอสหสั ขนั ธ์ จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ เมอื่ วนั ท่ี ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๘ โดยมีนาย วราวธุ สธุ ธี ร นักธรณีวทิ ยาของกรมทรัพยากรธรณี กราบบังคมทูลอธิบายวิธีขุดค้นไดโนเสาร์และ นำ�เสดจ็ เย่ียมชมหลมุ ขุดค้นบริเวณใกลเ้ คียง Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn graciously paid a visit to Phu Kum Khao Dinosaur Excavation Pit, Sahatsakhan District, Kalasin Province on November 24, 1995. The princess was welcomed to the site and received report about the exploration of dinosaur remains by Mr. Voravudh Suteethorn, Department of Mineral Resources geologist. พ.ศ. ๒๕๔๑ - ปจั จบุ นั A.D. 1998 - present สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั เสด็จพระราชดำ�เนินเยี่ยมพื้นที่ท่ีเกิดธรณีพิบัติภัย ที่บ้านนํ้าตะ๊ อ�ำ เภอท่าปลา จงั หวัดอุตรดติ ถ์ เมือ่ วนั ท่ี ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยมนี ายสมศกั ดิ์ โพธสิ ตั ย์ อธบิ ดกี รมทรพั ยากรธรณี ถวายการบรรยาย His Royal Highness Crown Prince Maha Vajiralongkorn graciously paid a visit to an area severely affected by landslide at Baan Nam Ta, Tha Pla District, Uttaradit Province, on July 5, 2006. The Crown Prince was welcomed by the Director-General of Department of Mineral Resources, Mr. Somsak Potisat. 7
สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เสดจ็ พระราชดำ�เนนิ ไปทอดพระเนตร การแสดงนิทรรศการของกรมทรพั ยากรธรณี ในงานวันเกษตรแห่งชาติ เมอ่ื เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๔๕ ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีนายนภดล มัณฑะจิตร อธิบดี กรมทรัพยากรธรณี เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ กราบบังคมทูลรายงานและนำ�เสด็จ เยีย่ มชมส่วนแสดงนทิ รรศการของกรมทรัพยากรธรณีโดยรอบ Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn graciously paid a visit to the exhibition of Department of Mineral Resources organized on National Agriculture Day, at Chiang Mai University in January 2002. On this occasion, the princess was welcomed to the exhibition area by the Director-General of Department of Mineral Resources, Mr. Nopadon Mantajit. สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำ�เนินไปทอดพระเนตร โครงการโรงเรยี นพระราชทาน ซงึ่ กรมทรพั ยากรธรณีได้เข้ารว่ มสนับสนนุ ดา้ นการขดุ เจาะ นํ้าบาดาล ณ อำ�เภอซ็อมโบร์ จงั หวัดกำ�ปงธม ราชอาณาจกั รกัมพชู า เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยมีนายสมศักด์ิ โพธิสัตย์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ และกราบบงั คมทูลรายงาน Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn graciously paid a visit to the royal award school that Department of Mineral Resources provided deep well at Sombor District, Kampong Thom Province, Cambodia in 2002. On this occasion, the princess was welcomed by the Director-General of Department of Mineral Resources, Mr. Somsak Potisat. ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชด�ำ เนนิ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ไปทรงเป็นประธานเปิดพิพิธภัณฑ์สิรินธร อำ�เภอสหัสขันธ์ จังหวัด เสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการเร่ืองธรณีวิทยา บริเวณสวนสมเด็จ กาฬสินธุ์ เม่อื วนั ที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ พระศรนี ครินทร์ จังหวดั กาญจนบรุ ี เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๔๓ Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn graciously Her Royal Highness Princess Chulabhorn graciously paid a visit 8 presided over the opening ceremony of Sirindhorn Museum, to geological exhibition at Somdet Phra Srinagarindra Park, Sahatsakhan District, Kalasin Province on December 9, 2008. Kanchanaburi Province in 2000.
สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกมุ ารี เสดจ็ ทอดพระเนตร พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ ศรรี ศั ม์ิ พระวรชายาในสมเดจ็ พระบรม- งานมหกรรมวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ปี๒๕๕๒เมอื่ วนั ที่๑๓สงิ หาคมพ.ศ.๒๕๕๒ โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ไปทรงเยี่ยม ณ ศนู ยแ์ สดงสนิ คา้ และการประชมุ นานาชาตกิ รงุ เทพ ไบเทค บางนา ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ราษฎรผปู้ ระสบอทุ กภยั ณ บา้ นนา้ํ ตะ๊ อ�ำ เภอทา่ ปลา Her Royal Highness Princess Chulabhorn graciously paid a visit to National จังหวัดอตุ รดติ ถ์ เมอื่ เวลา ๑๓.oo น. วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๙ Science and Technology Fair 2009 at BITEC Bang Na on August 13, 2009. Her Royal Highness Princess Srirasm, Royal Consort to His Royal Highness Crown Prince Maha Vajiralongkorn graciously paid a visit on behalf of the Crown Prince to the flood victims at Baan Nam Ta, Tha Pla District, Uttaradit Province on June 26, 2006. On this occasion, the princess also provided reliefs to the flood victims in that area. พระเจา้ หลานเธอ พระองคเ์ จา้ พชั รกติ ยิ าภา เสดจ็ เยยี่ มชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกร ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั สิรินธร จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ โดยมี รัศมีโชติ เสด็จเย่ียมพิพิธภัณฑ์แร่-หิน นางพรทิพย์ ป่ันเจริญ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี คณะผู้บริหาร พร้อมด้วยพระสหายโรงเรียนจิตรลดา 9 และประชาชน เฝ้ารับเสด็จ ทอดพระเนตรภายในอาคารหลุมขดุ คน้ เม่ือวันท่ี ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ไดโนเสาร์ภกู ุม้ ขา้ ว โดยมีนายอดิศักด์ิ ทองไข่มุกต์ อธิบดี Her Royal Highness Princess Bajrakitiyabha graciously paid กรมทรัพยากรธรณี ถวายการต้อนรบั a visit to Sirindhorn Museum, Kalasin Province on February His Royal Highness Prince Dipangkorn 13, 2011. Upon entering Phu Kum Khao Dinosaur Excavation Rasmijoti accompanied by his Pit building, the princess was welcomed by the Director- Chitralada classmates graciously paid General of Department of Mineral Resources, Mrs. Pornthip a visit to the Geological Museum on Puncharoen, government officials and other civilians. December 22, 2009. The prince was welcomed by the Director-General of Department of Mineral Resources, Mr. Adisak Thongkaimook.
ธรณวี ิทยาประเทศไทย กวา่ หา้ รอ้ ยลา้ นปี สรรคส์ รา้ งผนื ธรณี “สวุ รรณภมู ”ิ ประเทศไทยมีประวัติทางด้านธรณีวิทยาท่ีเก่าแก่ ประเทศไทยตงั้ อยบู่ นรอยเชอ่ื มตอ่ ของแผน่ เปลอื กโลก (Tectonic ยาวนานมาตง้ั แตก่ อ่ นยคุ แคมเบรยี นหรอื เมอ่ื กวา่ ๕๐๐ลา้ นปกี อ่ น plate) ขนาดใหญ่ ๒ แผน่ คอื แผน่ เปลอื กโลกฉาน-ไทยทางดา้ น และต่อเน่ืองตามธรณีกาลมาจนถึงปัจจุบัน หลักฐานทาง ทศิ ตะวนั ตกและแผน่ เปลอื กโลกอนิ โดจนี ทางดา้ นทศิ ตะวนั ออก ธรณวี ทิ ยาประเภทตา่ งๆ ทพ่ี บทง้ั จากการล�ำ ดบั ชนั้ หนิ โครงสรา้ ง โดยเช่ือมต่อกันตามแนวรอยตะเข็บในแนวเหนือ-ใต้ ต้ังแต่ ทางธรณีวิทยา และซากดึกดำ�บรรพ์ ฯลฯ ทำ�ให้ทราบได้ว่า จงั หวดั นครสวรรค์ ลพบรุ ี นครนายก สระแกว้ ตราด ถงึ นราธวิ าส ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด 10
มหายคุ ยคุ และสมัย ววิ ัฒนาการของสิ่งมีชวี ิต ธรณีวิทยาและชีวติ ERA PERIOD & EPOCH EVOLUTION OF LIFE GEOLOGY & LIFE ยคุ ของมนษุ ยป์ จั จบุ นั ควอเทอร์นารี โฮโลซีน / HOLOCENE ภเู ขาไฟปะทใุ หแ้ หลง่ แรพ่ ลอย เปน็ ยคุ ของมนษุ ยส์ มยั หนิ QUATERNARY ถา่ นหนิ สะสมตวั อยา่ งกวา้ งขวาง มชี า้ ง C ีซEโNนโOซZ ิอOIกC ไพลสโตซีน / PLEISTOCENE และสตั วเ์ ลย้ี งลกู ดว้ ยนมขนาดใหญแ่ พรห่ ลาย ๒.๕ ล้านปี ไพลโอซนี / PLIOCENE ไมด้ อกเจรญิ เตม็ ท่ี เรม่ิ มหี มแี ละสนุ ขั ไมโอซีน / MIOCENE แอง่ อา่ วไทยเรม่ิ พฒั นาจนเปน็ แหลง่ ปโิ ตรเลยี มในปจั จบุ นั เรม่ิ มหี นแู ละลงิ NEนOีโอGจEนี NE โอลิโกซนี / OLIGOCENE เร่มิ ต้นสตั ว์ตระกลู มา้ สตั วก์ บี และชา้ ง อโี อซีน/ EOCENE มีการสะสมตัวของเกลือหนิ และโพแทช หินแกรนติ ๒๓ ล้านปี พาลโี อซนี /PALEOCENE แทรกดนั ขึน้ มาให้แรด่ บี กุ และทงั สเตน เร่มิ มีพรรณไม้ดอก หอยนาํ้ จดื แพร่หลาย ไดโนเสารด์ บั สนิ้ สญู พนั ธุ์ในชว่ งปลายยคุ พาลโี อจนี ทะเลเริ่มถดถอยจากแผ่นดินไทย เริ่มมีนก พบแอมโมนอยด์ PALEOGENE แพร่หลาย เปน็ ยุคเฟอ่ื งฟูของไดโนเสาร์ แผ่นเปลือกโลกประสานรวมกนั เป็นผนื แผ่นดนิ ไทย มกี ารปะทุ ๖๕ ลา้ นปี ของภเู ขาไฟ และมีการแทรกดันของหินแกรนติ เกิดแหลง่ แร่ มากมาย เป็นยคุ ของสตั วเ์ ล้ือยคลาน และเรมิ่ มีไดโนเสาร์ ครีเทเชยี ส มีการสะสมตัวของหินปนู ในทะเลอย่างกวา้ งขวาง CRETACEOUS บางบรเิ วณเกิดแหล่งแร่ยิปซัม เร่ิมมแี มลงปกี แขง็ พบสตั ว์ เล้ือยคลานหลากหลายพันธุ์ และไทรโลไบตเ์ รมิ่ สูญพันธุ์ M ีมEโSซโOซZ ิอOIกC จแู รสซิก ๑๔๕ ลา้ นปี JURASSIC ๒๐๐ ลา้ นปี เปน็ ยคุ ของพชื บก มเี ฟิร์นขนาดยักษ์ และป่าไม้เจริญเต็มที่ ไทรแอสซิก เปน็ ยคุ ของปลา และเป็นช่วงการกำ�เนิดฉลาม เริ่มพบแมลง TRIASSIC และมสี ัตว์สะเทินน้ําสะเทินบกคืบคลานอยู่บนพื้นดนิ เพอร์เมยี น ๒๕๑ ลา้ นปี เรมิ่ ยคุ นํา้ แขง็ เรม่ิ มแี กรปโตไลต์แพรห่ ลาย PERMIAN ๒๙๙ ลา้ นปี เริ่มมีสตั วต์ ระกลู ปลา แต่ไม่มีครีบและขากรรไกร คารบ์ อนิเฟอรัส พบไทรโลไบต์ขนาดใหญ่มาก นอตลิ อยด์ขนาดยกั ษ์ CARBONIFEROUS และมปี ะการงั แพร่หลาย PพAาLลีEโอOโZซOิอIกC ๓๕๙ ลา้ นปี เรม่ิ มสี ตั ว์ที่มีเปลือกแข็งหุ้มตัว เช่น ไทรโลไบตท์ ี่เกาะตะรเุ ตา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั ดีโวเนยี น DEVONIAN จงั หวัดสตูล มไี ครนอยด์และหอยชนดิ ตา่ งๆ ไซลูเรียน ๔๑๖ ลา้ นปี มสี ิง่ มชี ีวติ ขนาดเล็กอาศยั ในทะเล SILURIAN ๔๔๔ ลา้ นปี พบหลกั ฐานสง่ิ มีชวี ติ เซลลเ์ ดียว เชน่ แบคทเี รีย ออรโ์ ดวเิ ชยี น และสาหรา่ ยสีเขยี วแกมนํ้าเงิน ORDOVICIAN PRพรีEแCคAมเMบBรีRIยAนN ๔๘๘ ลา้ นปี แคมเบรียน CAMBRIAN ๕๔๒ ลา้ นปี โปรเทอโรโซอกิ PROTEROZOIC ๒,๕๐๐ ลา้ นปี อารเ์ คยี น 11 ARCHEAN ๔,๖๐๐ ลา้ นปี
วางรากหนิ ฐานซบั ซ้อน ในสมัยบรรพกาลประเทศไทยไม่ได้ตั้งอยู่ที่ตำ�แหน่งปัจจุบัน หากแต่ได้มีการเคลื่อนที่ไปกับแผ่นเปลือกโลกตามแรงขับของพลังงาน จากภายในโลก ในช่วงก่อนยุคแคมเบรียน (มากกว่า ๕๔๐ ล้านปีก่อน) ประเทศไทยได้เริ่มก่อกำ�เนิดเป็นหินฐานซับซ้อน (Basement complex) ที่ประกอบด้วยหินอัคนีและหินตะกอนที่ถูกแปรสภาพด้วยกระบวนการทับถมในที่ลึกกลายเป็นหินแปรเกรดสูง จำ�พวกหินไนส์ หินชีสต์ หินแคลก์- ซิลิเกต และหินอ่อน ซึ่งปัจจุบันพบแผ่กระจายตัวอยู่ตามแนวแกนของแผ่นเปลือกโลกฉาน-ไทย ในเขตจังหวัดเชียงใหม่และตาก โดยวางตัว อยู่ใต้หินตะกอนของมหายุคพาลีโอโซอิก ๑๙๐ ล้านปี ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ๕๐ ลา้ นปี ๑๐๐ ล้านปี 12
๓๙๐ ลา้ นปี ทวิ เขาสลบั ซบั ซอ้ นในภาคเหนอื ภาคตะวนั ออก และตลอดแนวชายแดน ๒๖๐ ล้านปี ตะวันตกของไทยตงั้ แตเ่ หนอื จรดใต้ ซ่ึงอยบู่ นแผน่ เปลอื กโลกฉาน-ไทย ปรากฏ หลักฐานการสะสมตวั ของตะกอนทรายและดินเหนยี วบรเิ วณชายฝ่งั ทะเล และ หินปูนเนื้อโคลนช้ันบางๆ ท่ีก่อตัวบริเวณทะเลต้ืนต่อเนื่องไปจนถึงในทะเล ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั คอ่ นขา้ งลกึ ในชว่ งตน้ ของมหายคุ พาลโี อโซอกิ ภายหลงั จงึ แขง็ ตวั เปน็ หนิ ตะกอน ท่ีมีซากดึกดำ�บรรพ์ท่ีทำ�ให้สามารถระบุอายุหินได้แน่นอน ในขณะท่ีบริเวณ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และบางส่วนของภาคตะวันออกท่ี อยู่บนแผ่นเปลือกโลกอินโดจีนมีการสะสมตัวของหินปูนในทะเลตื้นอย่าง กว้างขวาง ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งวัสดุก่อสร้างท่ีสำ�คัญของ ประเทศ ทั้งหินก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ และหินอ่อน ส่วนในทะเลลึกมีการสะสมตัวของชั้นหินเชิร์ต จำ�นวนมหาศาล ท่ีใช้เป็นแหล่งวัสดุดินถม ในปัจจุบนั ในช่วงปลายยุคเพอร์เมียนเกิด การมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกมหาสมุทร เข้าใต้แผ่นเปลือกโลกฉาน-ไทย และ อินโดจีน ทำ�ให้มีการปะทุของภูเขาไฟ อย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นแนวหินภูเขาไฟ หลายแนวที่เป็นต้นกำ�เนิดของแหล่งแร่ ทองคำ�และแร่เงิน เช่น แนวเชยี งราย-ลำ�ปาง- สโุ ขทยั แนวเลย-พจิ ติ ร-ลพบรุ ีและแนวสระแกว้ - ตราด-นราธิวาส ปัจจุบันมีการทำ�เหมืองแร่ ทองคำ�ท่ีจงั หวัดพจิ ติ รและจงั หวดั เลย ปจั จบุ ัน • ภาพแสดงววิ ฒั นาการของโลก นบั ตง้ั แต่ ดาวเคราะห์โลกถือกำ�เนิดขึ้นเมื่อ ๔,๖๐๐ ล้านปีก่อน ดาวเคราะห์ดวงน้ียังคงมีความ เปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา และจุดสีแดง ท่ีปรากฏบนดาวเคราะห์ โลกคือตำ�แหน่ง ของประเทศไทยท่ีเปลี่ยนแปลงไปใน แต่ละยุคตั้งแต่เม่ือ ๓๙๐ ล้านปีก่อน จนแปรเปลย่ี นเปน็ รปู ขวานทองในปจั จบุ นั 13
สองแผน่ เปลือกโลกเชอื่ มประสาน แผน่ เปลอื กโลกฉาน-ไทยและแผน่ เปลอื กโลกอนิ โดจนี • แรงขับจากเทือกเขากลางสมุทรผลักดันให้แผ่นเปลือกโลกมหาสมุทรมุดตัวลงใต้แผ่น เคลื่อนที่เข้าหากันอย่างต่อเนื่อง และเริ่มชนกันในช่วงต้น เปลอื กโลกฉาน-ไทย และอนิ โดจนี เกดิ การระเบดิ ของภเู ขาไฟอยา่ งรนุ แรงตลอดแนวการมดุ ตวั ยุคไทรแอสซิก หรือประมาณ ๒๕๐ ล้านปีก่อน การชนกัน และมุดกันของแผ่นเปลือกโลกดำ�เนินเร่ือยมาประมาณ งานตะกอนสะสมถมทับ ๕๐ ล้านปี และมาสิน้ สุดในปลายยุคไทรแอสซิก ในชว่ งเวลา ดังกล่าวมีการปะทุของภูเขาไฟอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน หนิ หนดื บางสว่ นแทรกขน้ึ มาเปน็ หนิ แกรนติ และดนั ใหเ้ ปลอื กโลก บริเวณรอยตอ่ ยกตวั ขน้ึ เป็นเทือกเขาสูง บริเวณแนวการชนกันของแผ่นเปลือกโลกท้ังสอง ปรากฏหลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาทบี่ ง่ ชว้ี า่ เคยเกดิ อยใู่ ตเ้ ปลอื ก โลกระดบั ลกึ เชน่ แร่โครไมต์ แรน่ ิกเกิล แร่แมกนีไซต์ และ แรท่ ลั ก์ และทสี่ �ำ คญั มกี ารแทรกดนั ตวั ของหนิ หนดื ใตผ้ วิ โลก ข้ึนมาตกผลึกเป็นหินแกรนิตใต้เปลือกโลกในระหว่างยุค ไทรแอสซิก เป็นแนวยาวจากเหนือจรดใต้ถึงสองแนว คือ แนวตะวันออก และแนวตอนกลาง พร้อมท้ังพาธาตุต่างๆ มาสะสมจนเกิดเป็นแหล่งแร่โลหะหลายชนิด เช่น ทองคำ� ดีบุก วุลแฟรม แหล่งแร่อโลหะ เช่น ฟลูออไรต์ เฟลดสปาร์ และดินขาว ตลอดจนหินประดับและหนิ กอ่ สรา้ ง ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ภายหลังการชนและเชื่อมต่อกันของแผ่นเปลือกโลกทั้งสอง ทะเลโบราณ ถอยรน่ ไปเหลอื เปน็ ทะเลตนื้ เลก็ ๆ บนแผน่ เปลอื กโลกฉาน-ไทย พบหนิ กรวดมน หนิ ทราย สีแดง หินดินดาน และหินปูนของยุคไทรแอสซิก-จูแรสซิก ถูกปิดทับอย่างมีแนว ไม่ต่อเน่ืองด้วยหินทรายแดงที่สะสมตัวในระหว่างยุคจูแรสซิก-ครีเทเชียสบนแผ่นดิน ในยุคครีเทเซียสแผ่นเปลือกโลกพม่าตะวันตกเคลื่อนท่ีเข้ามาชนแผ่นเปลือกโลก ฉาน-ไทยทำ�ให้เกิดหินแกรนิตแนวท่ีสาม คือ แนวตะวันตกท่ีให้แร่ดีบุกและวุลแฟรม บริเวณชายแดนไทย-พม่า ส่วนบนแผ่นเปลือกโลกอินโดจีนมีสภาพเป็นแอ่งสะสมตะกอนบนภาคพื้นทวีป เกือบตลอดช่วงมหายุคมีโซโซอิก ในสภาวะแวดล้อมท่ีร้อนช้ืน บางช่วงแห้งแล้ง จนมีสภาพเป็นทะเลทราย ในบางช่วงมีการท่วมเข้ามาของน้ําทะเล จึงเป็นท่ีรวม ของตะกอนหลายชนิด รวมทั้งเกลือหินและแร่โพแทช ซึ่งเป็นธาตุอาหารหลักของพืช และเปน็ ชว่ งเวลาทีไ่ ดโนเสารห์ ลากหลายสายพนั ธุ์มวี วิ ัฒนาการอย่างเฟอ่ื งฟู จนกระท่งั ดับสิ้นสูญพันธุ์ในช่วงปลายยุคครีเทเชียส ท้ิงหลักฐานโครงกระดูกและรอยตีน ไว้บนช้ันตะกอนที่พวกมันเคยอาศัยอยู่ โดยปัจจุบันสามารถค้นพบซากดึกดำ�บรรพ์ ของไดโนเสาร์ได้มากมายจากชั้นหินทรายและหินดินดานในกลุ่มหินโคราช และเป็น ไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ที่มีการค้นพบเป็นคร้ังแรกในเมืองไทยถึง ๔ สายพันธ์ุ ที่สำ�คัญท่ีสุดและเป็นที่รู้จักกันทั่วไปคือ ไดโนเสาร์คอยาว ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน 14 (Phuwiangosaurus sirindhornae) ซึ่งช่ือชนิดได้รับพระราชทานจากสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ปรบั โครงสรา้ งธรณี ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั ต่อมาในช่วงมหายุคซีโนโซอิกซ่ึงเป็นยุคเริ่มต้นของสัตว์เลี้ยงลูก ดว้ ยนม หรอื ประมาณ ๖๕ ลา้ นปเี ปน็ ตน้ มา แผน่ เปลอื กโลกอนิ เดยี ไดเ้ คลอื่ นท่ี 15 ขึ้นมาชนกับแผ่นเปลอื กโลกยเู รเซีย ท�ำ ให้ประเทศไทยถกู ดันใหห้ มุนตาม เข็มนาฬิกา ประเทศไทยด้านแผ่นเปลือกโลกอินโดจีนถูกยกตัวขึ้น เปน็ ทรี่ าบสงู โคราช เกดิ การโคง้ งอของแนวเทอื กเขาในภาคเหนอื และมี การยกตวั ขนึ้ เปน็ ภเู ขานอ้ ยใหญต่ ลอดแผน่ ดนิ ไทย พรอ้ มกนั นไ้ี ดม้ กี าร พฒั นาแนวรอยเลอ่ื นตามแนวระดบั (strike-slip fault) ทส่ี �ำ คญั ใน ทิศทางตะวนั ตกเฉยี งเหนอื -ตะวันออกเฉยี งใต้ เช่น รอยเลอ่ื น แม่ปิง รอยเล่ือนเจดีย์สามองค์ และในทิศทางตะวันออก เฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ เช่น รอยเลื่อนอุตรดิตถ์-น่าน รอยเลือ่ นระนอง และรอยเล่ือนคลองมะรุย่ เป็นต้น ในขณะเดยี วกนั ดา้ นแผน่ เปลอื กโลกฉาน-ไทยถกู ดงึ จนเกดิ รอยเลอ่ื นปกตใิ นแนวเหนอื -ใต้ และมกี ารแยกตวั เปน็ แอง่ ขนาดเลก็ ๆ มากมายตลอดเหนอื จรดใต้ วางตวั ขนานกบั รอยเลอ่ื น รวมท้ังทำ�ให้ตอนกลางของไทยเปิดตัวออกเป็นอ่าวไทย โดยแอ่งส่วนใหญ่ เป็นท่ีสะสมตะกอนและซากพืชซากสัตว์ เป็นแหล่งกำ�เนิดของเช้ือเพลิงธรรมชาติ ท้ังถ่านหินและปิโตรเลียมประเภทต่างๆ ท้งั บนบกและในทะเลของประเทศไทย ในชว่ งปลายมหายคุ ซโี นโซอกิ มกี ารแทรกดนั ตวั ของหนิ หนดื ขน้ึ มาตามรอยแตก ปะทุเป็นภูเขาไฟในภาคเหนือ แนวเขาเพชรบูรณ์ ภาคตะวันตก ขอบด้านใต้ของ ท่ีราบสูงโคราช และภาคตะวันออก หินภูเขาไฟเหล่านี้ประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆ ทเ่ี ปน็ ประโยชนส์ �ำ หรบั พชื และบางบรเิ วณหนิ หนดื ไดอ้ มุ้ ผลกึ พลอยทเ่ี กดิ อยใู่ ตผ้ วิ โลก ระดับลึกข้ึนมาดว้ ย ปนั สายนทีทัว่ สุวรรณภูมิ กระบวนการทางธรณีวิทยาต่างๆ มีท้ังการสร้างสรรค์และการทำ�ลาย ซึ่งล้วนเป็นการ สรา้ งสภาวะสมดลุ ใหแ้ กโ่ ลก ยกตวั อยา่ งเชน่ การแทรกดนั ของหนิ หนดื ขนึ้ มาเปน็ เทอื กเขาแกรนติ หรือระเบิดเป็นภูเขาไฟ การยกตัวของแอ่งสะสมตะกอนข้ึนเป็นที่ราบสูงเป็นการรังสรรค์ ทางธรณวี ทิ ยา ในขณะเดยี วกนั กระบวนการกดั เซาะท�ำ ลายทเี่ กดิ ขนึ้ อยตู่ ลอดเวลาทงั้ จากนาํ้ ลม แสงแดด และสารเคมใี นธรรมชาติ ก็ส่งผลในทางสรา้ งสรรค์ ทางนํ้าเล็กๆ ทกุ สาขาทสี่ ลกั เสลา ทิวเขาสูงสลับซับซ้อนในทุกภูมิภาคให้เกิดเป็นลำ�ธารและประสานรวมเป็นแม่น้ํา ต่างพัดพา ตะกอนพรอ้ มอนิ ทรยี สารในธรรมชาตลิ งสเู่ บอ้ื งลา่ ง การคดั ขนาดของตะกอนตามก�ำ ลงั ของนา้ํ ทำ�ให้เกิดแหล่งกรวด ทราย และดินเหนียว ในลุ่มน้ําหลักทั้ง ๒๕ แห่งของไทย คลื่นลม ทะเลที่พัดโหมกระหน่ําชายฝ่ังท้ังสองฟากของแหลมไทยได้ทำ�หน้าท่ีปรับธรณีสัณฐาน และภมู ปิ ระเทศใหเ้ ปน็ เกาะ หน้าผา ชายหาด และปา่ ชายเลน กระบวนการทางธรณวี ทิ ยา ทดี่ ำ�เนนิ มาอยา่ งตอ่ เน่ืองยาวนานเหล่าน้ีลว้ นส่งผลถงึ ความอดุ มสมบรู ณ์ของสวุ รรณภมู ิ
ทรัพยากรธรณี สญั ลักษณข์ องจงั หวัด
กรุงเทพมหานคร ดนิ เหนียวกรงุ เทพ (Bangkok Clay) เป็นชั้นดินเหนียวอ่อน เน้ือนุ่มและเนียน สีเขียว อมเทา สะสมตัวในทะเลเมอื่ ๖,๐๐๐ ปีกอ่ น มีความหนา ตั้งแต่ ๑ ถึง ๑๕ เมตร วางตัวรองรับพ้ืนที่ทั้งหมดของ กรุงเทพมหานครและบางส่วนของปริมณฑล จึงเรียกว่า ดนิ เหนยี วกรุงเทพฯ ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด สมัยโฮโลซีน ธรณีวทิ ยา รอยช้ัน กรงุ เทพมหานครตงั้ อยบู่ น ไม่ต่อเนอื่ ง ทรี่ าบลมุ่ แมน่ า้ํ เจา้ พระยาประกอบดว้ ย ตะกอนดนิ และทรายยคุ ควอเทอรน์ ารี สมยั ไพลสโตซนี (Quaternary) ที่สะสมตัวอันเนื่องมาจาก การเปลย่ี นแปลงระดบั นา้ํ ทะเลทเ่ี รม่ิ ในสมยั โฮโลซนี BANGKOK (Holocene ประมาณ ๑.๑๗ หมื่นปีกอ่ น) ซงึ่ ได้ท่วมขึน้ Bangkok Clay is the geological symbol of Bangkok. The layer of สูงสุดเมือ่ ๖,๐๐๐ ปกี อ่ น ในขณะน้นั ท่รี าบภาคกลางตอนลา ง grayish green and soft Bangkok Clay deposited in marine environment มีลักษณะราบเรียบเปนบริเวณกวาง น้ําท่ีไหลลงมาถึงบริเวณ ปากแมนํ้าเจาพระยาเมื่อปะทะกับน้ําทะเลทําใหไหลช้าลง เกิดการสะสม 18 around 6,000 years ago with thickness varied from 1 to 15 meters ของตะกอนอยางรวดเร็วจนเปนดินดอนสามเหล่ียมปากแมน้ํา และในส่วน underlain most of Bangkok area and some parts of its surrounding. ของที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่างบริเวณที่มีน้ําข้ึนน้ําลง จะมีการสะสมตัว ของตะกอนทะเลหรอื ดนิ เคลยทะเล (marine clay) เนื่องจากนาํ้ ทะเลที่ไหล เข้ามาตามแม่นํ้าลำ�คลองท่ีมีอยู่มากมายในช่วงน้ันได้นำ�ดินเหนียวเข้ามา สะสมตัว ซง่ึ รู้จักกนั ในช่อื ดินเหนียวกรุงเทพ
จงั หวดั กระบ่ี หอยเจดีย์แหลมโพธิ์ เปน็ ลานซากหอยเจดยี น์ าํ้ จดื ขนาดใหญจ่ ำ�นวนมากทบั ถมอดั แนน่ เปน็ แผ่น มีลักษณะคล้ายแผ่นซีเมนต์ที่วางเอียงตัวเล็กน้อยไปทางทิศตะวันออก เฉยี งใต้ มคี วามโดดเดน่ ทางดา้ นธรณวี ทิ ยาระดบั โลก และเปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว ท่ีสำ�คัญของประเทศ ปัจจุบันพบเพียงแห่งเดียวในโลกบริเวณสุสานหอย แหลมโพธิ์ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตำ�บลไสไทย อำ�เภอเมอื งกระบ่ี ธรณีวทิ ยา KRABI ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั Hoi Chedi Laem Pho is the geological symbol of Krabi Province. The fossils of หอยเจดีย์แหลมโพธิ์เป็นหอยเจดีย์น้ําจืด Hoi Chedi Laem Pho, large freshwater mollusks, deposited some 37 - 31 million ขนาดใหญห่ ลายสกลุ เชน่ Margaryasp.,Melanoides years ago. The Hoi Chedi formed as large sheets of mollusk fossilized beds, sp. และ Viviparus sp. อาศัยอยู่ในบึงน้ําจืดขนาด 0.5 - 2.0 meters thick, that look similar to concrete plates. ใหญ่เมอ่ื ประมาณ ๓๗ - ๓๑ ลา้ นปกี อ่ น เมอ่ื ตายลง หอยเจดยี น์ าํ้ จดื ไดถ้ กู ทบั ถมรว่ มกบั ตะกอนโคลน ทราย และซากพืชที่เกิดร่วมในบึง และต่อมาถูกอัดตัวแน่น แขง็ เปน็ ชน้ั หนิ หลายชนั้ หนาประมาณ๐.๕ -๒.๐เมตร ปจั จบุ นั พบชน้ั หอยโผลใ่ หเ้ หน็ ชดั เจนบรเิ วณรมิ ชายทะเล โดยชั้นหอยที่แหลมโพธิ์ ๑ และแหลมโพธิ์ ๒ มีอายุ แก่กว่าชนั้ หอยท่แี หลมโพธิ์ ๓ 19
จงั หวดั กาญจนบรุ ี หินบะซอลต์บ่อพลอย เป็นหินภูเขาไฟสีเทาเข้มท่ีเขาลั่นทม อำ�เภอบ่อพลอย ซึ่งเป็น แหลง่ ตน้ กำ�เนดิ อญั มณที สี่ วยงามและมคี า่ ของประเทศไทย ทงั้ ประเภท พลอยไพลนิ เขยี วส่อง บุษราคัม และนิลเส้ียน นิลตะโก และเป็นท่มี า ของชื่ออำ�เภอบอ่ พลอย ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณีวิทยา KANCHANABURI Bo Phloi Basalt, a dark gray volcanic rock, formed 4 - 3 million years หนิ บะซอลตบ์ อ่ พลอยเกดิ จากการแทรกดนั ตวั ของหนิ หนดื ago, found at Khao Lanthom, Bo Phloi District, is the geological symbol ขนึ้ มาจากปลอ่ งภูเขาไฟเมือ่ ๔ - ๓ ลา้ นปีก่อน พรอ้ มกับพลอย of Kanchanaburi Province. Bo Phloi Basalt is a source rock of most นิล และชิ้นส่วนของหินอัคนีระดับลึกประเภทเลอโซไลต์ แล้ว ไหลอาบเปน็ ลานลาวาบนหนิ เดมิ และเยน็ ตวั ลงอยา่ งรวดเรว็ เปน็ 20 beautiful and valuable gem of Thailand including blue sapphires หินบะซอลต์ เน้อื แนน่ ละเอยี ด บางสว่ นมีรพู รุน บางสว่ นเย็นตัว (Phloi Phailin) and black spinel (Nil Tako). เร็วมากจนมีลักษณะเป็นแก้ว ส่วนกลางของชั้นลาวามักพบ โครงสร้างรูปเสาเหลี่ยม (columnar jointing) หินบะซอลต์ เม่ือผุพังเป็นเศษหินและดินจะถูกพัดพาไปสะสมตัวในท่ีต่ํา พร้อมกับพลอยและนิลที่อยู่ในหินเดิม เกิดการสะสมตะกอน ช้ันกะสะ กลายเป็นแหล่งพลอยท่ีมีช่ือเสียงของกาญจนบุรี โดยมีก้อนกรวดจำ�นวนมหาศาลที่นำ�ไปใช้เป็นหินประดับ ในอุตสาหกรรมก่อสร้างเปน็ ผลพลอยได้
จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ หนิ ทรายเสาขัว เป็นหินทรายแดงของหมวดหินเสาขัว อายุกว่า ๑๒๐ ล้านปี ที่มีการขุดพบซากดึกดำ�บรรพ์กระดูกไดโนเสาร์ หลายพนั ธุ์ เชน่ ไดโนเสารก์ นิ เนอื้ กนิ รมี มิ สั (Kinnareemimus) และไดโนเสาร์กินพืชคอยาว ภูเวียงโ+กซอรัส สิรินธรเน ที่มี สภาพสมบรู ณท์ สี่ ดุ ในประเทศไทย ทภี่ กู มุ้ ขา้ ว อำ�เภอสหสั ขนั ธ์ จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ ซึ่งเป็นทตี่ ั้งของพิพิธภณั ฑ์สริ ินธร พิพิธภณั ฑ์ ไดโนเสารท์ ใ่ี หญท่ ส่ี ดุ ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตอ้ กี ดว้ ย ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั หินทรายเสาขัวเป็นหินทรายสีแดงสลับ ด้วยหินทรายแป้งและหินโคลน วางตัวอย่าง ต่อเน่ืองอยู่บนหมวดหินพระวิหารและอยู่ใต้ หมวดหินภูพาน กลุ่มหินโคราช มีความหนา ของลำ�ดับช้ันหินต้ังแต่ ๒๕๐ - ๖๐๐ เมตร เกดิ จากการสะสมตวั จากแมน่ าํ้ โคง้ ตวดั ในสว่ น ของตะกอนรอ่ งนํ้าและตะกอนทร่ี าบน้ําทว่ มถงึ ในสภาพภมู อิ ากาศกง่ึ แหง้ แลง้ ชว่ งยคุ ครเี ทเชยี ส ตอนต้น หมวดหินเสาขัวเป็นหมวดหินท่ีพบซาก ดกึ ดำ�บรรพส์ ตั วม์ กี ระดกู สนั หลงั มากทส่ี ดุ ในบรรดา หินมหายุคมีโซโซอิกท้ังหลายท่ีพบในประเทศไทย อาทิ ปลาฉลามนาํ้ จดื จระเข้ ไดโนเสารท์ ง้ั ประเภทกนิ เนอ้ื และประเภทกนิ พชื KALASIN 21 Red Sandstone of the early Cretaceous Sao Khua Formation is the geological symbol of Kalasin Province. This rock unit contains various types of fossils especially the meat-eating Kinnareemimus dinosaurs existed over 120 million years ago. Kalasin is one of a few provinces in Thailand that a number of various types of dinosaurs sites have been reported, especially in the Sao Khua sandstone unit.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจังหวดั กำ�แพงเพชร นํา้ มนั ดบิ เพชร เป็นน้ํามนั ดบิ ท่ไี ด้รับพระราชทานนามวา่ “เพชร” ตาม ชอ่ื จงั หวดั กำ�แพงเพชร นาํ้ มนั ดบิ เพชรผลติ ไดจ้ ากแหลง่ นา้ํ มนั ดบิ ทใี่ หญท่ ส่ี ดุ ในประเทศ และไดร้ บั พระราชทานนามวา่ แหลง่ นา้ํ มนั สิริกิติ์ ซึ่งต้ังอยู่ในเขตอำ�เภอลานกระบือที่ปรากฏอยู่ในคำ�ขวัญ ของจงั หวัดกำ�แพงเพชรดว้ ย ธรณีวทิ ยา นาํ้ มนั ดิบเพชรมลี ักษณะเปน็ ของเหลวหนืดขน้ สีดำ�ทึบแสง มีปริมาณ ซัลเฟอร์ต่ํา จัดอยู่ในประเภทพาราฟิน คือเมื่อกล่ันแล้วได้ของเหลือเป็นไข (wax) น้ํามันดิบเพชรเกิดจากการสะสมตัวของเศษซากสิ่งมีชีวิตท้ังพืช และสัตวใ์ นยุคพาลโี อจนี - นโี อจีน (อายุราว ๖๕ - ๒ ล้านปี) ร่วมกบั ตะกอนใน สภาพแวดลอ้ มแบบทะเลสาบนํ้าจดื ในระหว่างการสะสมตวั ของตะกอนจาก ทางนาํ้ ซง่ึ เปลย่ี นทศิ ทางและทบั ถมซา้ํ ไปมาผา่ นสภาวะอากาศทงั้ แหง้ แลง้ และ ชมุ่ ชน้ื สลบั กนั นน้ั แอง่ มกี ารขยายตวั กวา้ งขน้ึ และทรดุ ตวั ลกึ ขนึ้ ซากอนิ ทรยี สาร ท่ีสะสมในแอ่งเม่ือถูกบีบอัดด้วยน้ําหนักกดทับและความร้อนอย่างค่อยเป็น คอ่ ยไป จะกลายสภาพเปน็ นา้ํ มันดิบซึง่ เป็นสารเคอราเจนกง่ึ แข็งกง่ึ หนดื และ ก๊าซธรรมชาติอยู่ภายในหินดินดานและหินโคลนของหมวดหินชุมแสงซึ่งเป็น หนิ ตน้ กำ�เนดิ ปโิ ตรเลยี ม จากนน้ั จงึ ไหลมารวมตวั กนั ในชอ่ งวา่ งและรพู รนุ ของ หินทรายหมวดหินลานกระบือ ซ่ึงเป็นชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียมในแหล่งสิริกิต์ิ และถกู ปดิ กนั้ ดว้ ยหนิ โคลนของหมวดหนิ ชมุ แสงอกี ครง้ั ซง่ึ จากการเกดิ สลบั กนั ของหนิ ทั้งสองหนว่ ยหิน ทำ�ใหม้ ีช้ันหนิ กักเกบ็ นํ้ามนั ได้ถงึ ๔ ชั้น KAMPHAENG PHET “Phet” Crude Oil is Kamphaeng Phet’s geological symbol. The name “Phet” was royally given after its provincial name, Kamphaeng Phet. The crude oil has been produced from the largest onshore oil 22 production site of Thailand, named after Her Majesty the Queen, Sirikit Oil Field, located in Lan Krabue District.
จงั หวัดขอนแก่น กระดูกไดโนเสาร์ ประเทศไทยมีการค้นพบซากดึกดำ�บรรพ์ กระดูกไดโนเสาร์ “ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน” อายุ ๑๓๐ ล้านปี เป็นครั้งแรกทภ่ี ปู ระตูตหี มา อำ�เภอภูเวยี ง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งชื่อชนิดได้รับพระราชทาน จ า ก ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ ท พ รั ต น ร า ช สุ ด า ฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้สนพระราชหฤทัย ในงานดา้ นโบราณชวี วทิ ยาเปน็ อยา่ งมาก ธรณวี ทิ ยา KHON KAEN ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั The geological symbol of Khon Kaen Province is the Fossil of Dinosaur Bones ซากดกึ ดำ�บรรพก์ ระดกู ขาขนาดใหญข่ องไดโนเสารซ์ อโรพอด of plant-eating sauropod dinosaurs lived in the area around 130 million years 23 ทมี่ คี อยาว หางยาว เดนิ ๔ ขา พบบรเิ วณหลมุ ขดุ คน้ ท่ี ๑ - ๓ ภเู วยี ง ago. This dinosaur has been named “Phuwiangosaurus Sirindhornae”. The ฝังตัวอยู่ในชั้นหินทรายเนื้ออาร์โคสสีแดงที่มีเน้ือหินปูนบางส่วน name “Sirindhornae” was given to highly honor Her Royal Highness Princess หมวดหนิ เสาขวั กลมุ่ หนิ โคราช ยุคครเี ทเชยี สตอนตน้ เมื่อมกี าร Maha Chakri Sirindhorn, who is interested in paleontology. Khon Kaen is ศึกษาเปรียบเทียบกับซากดึกดำ�บรรพ์ไดโนเสาร์จากแหล่งต่างๆ the first province where dinosaur fossils were firstly reported in Thailand. ทั่วโลกแล้ว พบว่าเป็นไดโนเสาร์กินพืชสกุลใหม่ ชื่อว่า “ภูเวียง โกซอรัส สริ ินธรเน” (Phuwiangosaurus sirindhornae) ทพี่ บใน ประเทศไทยเปน็ แห่งแรกในโลก
จงั หวดั จันทบรุ ี หินบะซอลต์ เขาพลอยแหวน เป็นหินภูเขาไฟสีดำ�ประเภทหินบะซอลต์ ตง้ั อยทู่ ต่ี ำ�บลเขาพลอยแหวน อำ�เภอทา่ ใหม่ จงั หวดั จันทบุรี ซึ่งเป็นแหล่งพลอยที่สำ�คัญของจันทบุรี และเป็นต้นกำ�เนิดพลอยสีเขียวผักตบที่เรียกว่า พลอยเมอื งจันท์ ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณีวทิ ยา CHANTHABURI เขาพลอยแหวนเปน็ ปลอ่ งภเู ขาไฟเกา่ ทป่ี ระกอบ Khao Phloi Waen Basalt is the geological symbol of Chanthaburi Province. This basalt ด้วยหินบะซอลต์แบบฮาวายไอต์ และแบบอัลคาไลน์ is a dark gray volcanic rock, which is a parent rock for the famous green sapphires โอลวิ นี สเี ทาเขม้ และสเี ทาเขยี ว เนอ้ื ละเอยี ดถงึ ละเอยี ด มาก เกิดจากลาวา (lava) หรือหินหนืดท่ีอุ้มพลอย 24 and other corundum of Chanthaburi. Chanthaburi is famous for gems of outstanding แซปไฟร์และคอรันดัมท่ีตกผลึกอยู่ก่อนแล้วใต้ผิวโลก quality, beauty and rarity of Thailand. ไหลผ่านทางรอยแตกหรือรอยแยกขึ้นมาบนผิวโลก ในยคุ ควอเทอรน์ ารีและแผก่ ระจายแขง็ ตวั ปดิ ทบั อยบู่ น ภมู ปิ ระเทศของหนิ เดมิ ตอ่ มาหนิ บะซอลตไ์ ดผ้ พุ งั อยกู่ บั ท่ี ดว้ ยสภาพภมู อิ ากาศตามธรรมชาติทำ�ใหเ้ กดิ เปน็ ชนั้ หนิ บะซอลตผ์ ุ ช้ันดนิ บะซอลต์ และกะสะพลอย กลายเป็น แหล่งพลอยในปจั จบุ ัน
จงั หวดั ฉะเชิงเทรา หนิ แกรนติ เขาหนิ ซอ้ น เป็นหินแกรนิตเนื้อดอกที่มีเนื้อสวยงาม สามารถนำ�มาทำ�หินประดับได้ พบท่ีเขาหนิ ซ้อนและ เขาหน้ามอด ตำ�บลเขาหินซ้อน อำ�เภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มองเห็นเด่นชัดได้แต่ไกล และ เป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเน่ืองมาจากพระราชดำ�ริ ซ่ึงเป็นโครงการศึกษา ทดลอง วิจัย และพัฒนาที่ดินเสื่อมโทรม ใหก้ ลบั มาใชป้ ระโยชนด์ า้ นการเกษตร ธรณวี ิทยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั เขาหินซ้อนเป็นภูเขาหินแกรนิตท่ีเกิดจากการ แทรกดันตัวขึ้นมาของแมกมา (magma) และเย็นตัว ตกผลึกใต้ผิวโลกในช่วงยุคไทรแอสซิก (ประมาณ ๒๔๕ - ๒๑๐ ลา้ นปี) หินแกรนิตทีพ่ บมีสีเทาและเทาขาว เน้ือปานกลางถึงหยาบ เป็นหินแกรนิตชนิดฮอร์นเบลนด์- ไบโอไทต์ ทปี่ ระกอบดว้ ยแรค่ วอรต์ ช์ เฟลดส์ ปาร์ ฮอรน์ เบลนด์ และไบโอไทต์เป็นหลัก ท่ัวไปมีเน้ือผลึกสองขนาดโดยพบแร่ เฟลดส์ ปารเ์ ปน็ แรด่ อก บางสว่ นพบการแตกในลกั ษณะเปน็ กาบ (exfoliation) บางบริเวณพบหินปลอมปน (xenolith) ท่ีเป็น หนิ ภูเขาไฟชนิดหนิ แอนดไี ซต์ CHACHOENGSAO 25 Formed during the Triassic (245 - 210 million years ago) period, the Khao Hin Son Granite, the geological symbol of Chachoengsao Province, inhibits beautiful porphyritic texture of feldspar. The rock crops out in the area of Khao Hin Sorn Royal Development Study Center, where the study, experiment, research and development of royal projects focus on rehabilitating degraded soil to be used for agricultural purpose.
จงั หวัดชลบรุ ี หินแคลก์-ซิลเิ กต เขาชจี รรย์ เขาชีจรรย์เป็นภูเขาหินแคลก์-ซิลิเกตที่มีภูมิทัศน์ยิ่งใหญ่ สง่างามตามธรรมชาติ เป็นแหล่งท่องเท่ียวที่สำ�คัญของประเทศ ตั้งอยู่ในอำ�เภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หน้าเขาสูงชันซึ่งในอดีต เคยเป็นเหมืองหินท่ีถูกระเบิดทำ�ลายได้รับการปรับพ้ืนผิว และ ประดิษฐานพระพุทธรูปสลักลายเส้นในลักษณะพระพุทธฉาย ทใ่ี หญ่ทส่ี ุดในโลก เปน็ พระพทุ ธรูปประจำ�รัชกาลที่ ๙ ซึ่งพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามว่า “พระพุทธมหา วชริ อตุ ตโมภาสศาสดา” ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณีวทิ ยา CHON BURI หินแคลก์-ซิลิเกตเขาชีจรรย์เป็นหินแปร Khao Chi Chan Calc-silicates is the geological symbol of Chon Buri Province. These สีเทาดำ�-สีขาวแทรกสลับกัน มีแถบหินเนื้อดินสีดำ�- series of metamorphic rocks inhibit beautiful foliation, alternated dark and light parallel น้ําตาลดำ�แทรกสลับร่วมด้วย มีลักษณะเนื้อแน่น แข็งและเหนียว ซึ่งเกิดจากหินปูนผสมดินเน้ือแน่น 26 strips. The rocks were found at Khao Chi Chan quarry where the large laser-carved ท่ีถูกแปรสภาพเน่ืองจากการแทรกดันของหินแกรนิต Buddha is presence. This is also an important site for the province. ข้ึนมาทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเขาชีจรรย์ ในยุคไทรแอสซิกเม่ือกว่า ๒๐๐ ล้านปีก่อน อิทธิพล ความร้อนและความดันจากแมกมาท่ีแทรกดันข้ึนมา ทำ�ใหห้ นิ ปนู ทอี่ ยใู่ กลแ้ นวสมั ผสั กบั หนิ แกรนติ ถกู แปร สภาพเป็นหนิ แคลก-์ ซิลเิ กตดงั ปัจจุบัน
จังหวดั ชยั นาท ทรายบกชัยนาท เป็นทรายร่วนสีน้ําตาลอ่อน เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนตามร่องน้ํา เกา่ ของแมน่ า้ํ เจา้ พระยา ปจั จบุ นั ทรายบกชยั นาทเปน็ แหลง่ วตั ถดุ บิ ทสี่ ำ�คญั ในการ ก่อสร้างถนน อาคารบ้านเรอื น และสาธารณปู โภคของจังหวดั ธรณีวิทยา CHAINAT ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั The unit of Chainat Sand, a geological symbol of Chainat Province, comprises ทรายบกชัยนาทเป็นตะกอนสีน้ําตาลแกมเหลือง pale brown sand beds 10 - 30 meters thick with some clay and gravel grains ช้ันหนาตั้งแต่ ๑๐ ถึง ๓๐ เมตร เกิดจากการสะสมตะกอน found as a result of sedimentation along the old channel of the Chao Phraya river. บริเวณร่องน้ําเก่าของแม่น้ําเจ้าพระยาตามทางน้ําโค้งตวัด (meanderingbelt)ตงั้ แตส่ มยั โฮโลซนี (Holocene๑.๑๗หมนื่ ปี ก่อน) จนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วยเม็ดทรายกลมมนของแร่ ควอตซ์ เศษหนิ ตา่ งๆและแรไ่ มกา และแสดงลกั ษณะการลำ�ดบั ขนาดตะกอนละเอียดอยู่ด้านบนและหยาบมากอยู่ด้านล่าง บางบรเิ วณพบกรวด ทรายปนกรวด และดนิ เหนยี วบา้ งเลก็ นอ้ ย ตะกอนชุดนี้พบวางตัวแทรกอยู่ในตะกอนท่ีราบน้ําท่วมถึง ในลกั ษณะรปู เลนส์ ในบางบรเิ วณดา้ นบนถกู ปดิ ทบั ดว้ ยชน้ั ดนิ เคลย์ บางบริเวณตะกอนด้านบนค่อยๆ เปล่ียนเป็นตะกอน คันดินธรรมชาติ (natural levee) 27
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจังหวดั ชยั ภูมิ โพแทชบำ�เหน็จณรงค์ เปน็ แรเ่ กลอื หนิ ชนดิ หนงึ่ สขี าวอมสม้ เกดิ จากการระเหยของนา้ํ ทะเล โบราณทร่ี กุ เขา้ มาในชว่ ง ๙๐ ลา้ นปกี อ่ น เปน็ แรส่ ำ�คญั ในการผลติ ปยุ๋ โพแทช และอุตสาหกรรมเคมีอ่ืนๆ แหล่งโพแทชที่สำ�คัญของจังหวัดอยู่ที่บ้านตาล ตำ�บลบา้ นตาล อำ�เภอบำ�เหน็จณรงค์ ธรณวี ทิ ยา แร่โพแทชเป็นชื่อกลุ่มแร่ท่ีเกิดจากกระบวนการระเหย ของนํ้าทะเลต้ืนโดยตรง ประกอบด้วยแร่สำ�คัญๆ หลายชนิด เช่น แร่ซิลไวต์ (Sylvite) คาร์นัลไลต์ (Carnallite) แลงบีไนต์ (Langbeinite) ไคไนต์ (Kainite) และโพลีเฮไลต์ (Polyhalite) เปน็ แรท่ ลี่ ะลายนา้ํ ไดง้ า่ ยมาก มรี สเฝอ่ื นถงึ ขมมากแตไ่ มเ่ คม็ จดั เหมอื น เกลือหินหรือแร่เฮไลต์ โพแทชบำ�เหน็จณรงค์เป็นส่วนหนึ่งของ แอง่ เกลอื หนิ -โพแทช ซง่ึ ครอบคลมุ พน้ื ทก่ี ง่ึ หนง่ึ ของภาคตะวนั ออก เฉียงเหนือ อยใู่ นลำ�ดบั ชั้นหินส่วนล่างของหมวดหินมหาสารคาม กลุ่มหินโคราช ในพ้ืนที่ที่มีเกลือหินและโพแทชมักพบคราบเกลือ ละลายน้าํ ซึมข้นึ มาบนผวิ ดนิ บรเิ วณที่ชั้นเกลอื ถูกดนั แทรกข้นึ มา ในชนั้ หนิ ระดบั ตนื้ ในลกั ษณะโดมเกลอื (salt dome) มกั ถกู ละลาย จนเป็นหนองนา้ํ หรือบงึ น้ําใหญ่ แต่กม็ ีบางแห่งทใี่ ช้ทำ�นาเกลอื CHAIYAPHUM Bamnet Narong Potash is the geological symbol of Chaiyaphum Province. Potash usually referred to a series of minerals that formed in association with rock salt indicating that the area used to be dominated by shallow sea in the ancient time. 28 These minerals are easily dissolved in water thus leaving behind traces of white salt on the ground surface or that the area is dominated by large and small ponds as the result of weathering and erosion processes.
จงั หวัดชมุ พร หนิ ทรายแดงชมุ พร เป็นหินทรายสีแดง บริเวณหน้าผาชายทะเล บ้านผาแดง ตำ�บลหาดทรายรี อำ�เภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ซ่ึงมีลักษณะภูมิทัศน์ของธรณีสัณฐาน ชายฝ่ังแบบสะพานหินธรรมชาติ และเป็นแหล่งอนุรักษ์ ทางธรณีวทิ ยาท่มี ีทวิ ทศั น์สวยงามประจำ�จังหวัด (1) (2) ธรณวี ทิ ยา (3) ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั ชน้ั หนิ ทรายชายฝง่ั บา้ นผาแดงเกดิ จากการสะสมตะกอนตาม CHUMPHON 29 แม่น้ําและเนินตะกอนรูปพัดโบราณในช่วงยุคครีเทเชียสตอนปลาย Chumphon Red Sandstone,thegeologicalsymbolofChumphonProvince, ประกอบด้วยหินทรายหยาบช้ันหนา เม็ดทรายค่อนข้างเหล่ียม formed as rocky natural bridge and stack found by the seashore of มีช้ันหินกรวดมนและหินทรายแป้งแทรกสลับ เม็ดกรวดส่วนใหญ่ Ban Pha Daeng, Hat Sai Ri Subdistrict, Mueang Chumphon District, เปน็ หนิ ทรายสแี ดงถงึ แดงเขม้ ทว่ี างเรยี งตวั กนั โดยเอยี งเทไปทางตน้ นา้ํ Chumphon Province. The place is considered one of the most important ภายหลังจากการสะสมตะกอนส้ินสุดลง แอ่งหินทรายได้ถูกยกตัว geological conservation site of the country. เป็นภูเขา และเกิดการกัดเซาะโดยธรรมชาติจากกระแสคล่ืนตาม แนวชายฝงั่ ทำ�ใหช้ ายฝงั่ บา้ นผาแดงมสี ภาพเปน็ แหลมทย่ี นื่ ออกจาก แนวหน้าผาและแบ่งชายหาดออกเป็น ๒ ส่วน หลังจากนั้นกระแส คลื่นได้กัดเซาะส่วนหัวแหลมท่ีย่ืนออกมา ทำ�ให้เกิดลักษณะเป็น สะพานหนิ ธรรมชาติ มรี ปู รา่ งเปน็ ซมุ้ หนิ โคง้ และสว่ นปลายสดุ มโี ขดหนิ ขนาดใหญ่ตั้งอยเู่ ปน็ เกาะหนิ โดง่ (stack) ตามภูมทิ ัศน์ปจั จุบนั
จังหวัดเชียงราย แรแ่ มงกานีสเชียงราย เป็นแร่โลหะชนิดหนึ่ง มีสีดำ� พบท่ีอำ�เภอพญาเม็งราย อำ�เภอเทงิ และอำ�เภอเวียงปา่ เปา้ แมงกานสี เป็นแร่ท่ีสำ�คัญของ ประเทศซง่ึ นำ�ไปใชใ้ นอตุ สาหกรรมถา่ นไฟฉาย อตุ สาหกรรมเหลก็ และโลหะผสมแมงกานีส เป็นตัวทำ�ให้สีแห้ง เป็นตัวฟอกสี ในอุตสาหกรรมแก้ว ใช้ทำ�แบตเตอร่ีแห้ง หรือเป็นตัวทำ�ให้เกิดสี ในอิฐ เครอ่ื งปั้นดินเผา และแก้ว เปน็ ตน้ ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณวี ทิ ยา CHIANG RAI สินแร่แมงกานีสที่พบในจังหวัดส่วนใหญ่เป็นแร่ Chiang Rai Manganese is the geological symbol of Chiang Rai Province, ไพโรลูไซต์และแร่ไซโลมีเลน สำ�หรับแร่ไพโรลูไซต์มักพบเป็น found in Phaya Mengrai, Thoeng and Wiang Pa Pao Districts. This black คราบบางๆ รูปก่ิงไม้ เคลือบตามรอยแตกและผิวก้อนกรวด เกิดเป็นสายแร่ร่วมกับควอตซ์ และเป็นแร่พลัดอยู่ในช้ัน 30 metallic mineral is important to the country to be used in battery and iron ดินแลงก่ึงแข็งตัว ส่วนแร่ไซโลมีเลนมีเน้ือแน่น มักพบใน industries as well as manganese alloy. ลกั ษณะเปน็ รปู พวงองนุ่ หรอื รปู ไต มกี ารเกดิ แบบสะสมตวั ใหม่ โดยอิทธิพลของน้ําบาดาล เป็นช้ันอยู่ในช้ันดินแลงและช้ัน ศลิ าแลง สินแร่แมงกานสี สามารถแบง่ ตามประโยชนข์ องการ ใชง้ านตามเปอร์เซน็ ต์ของธาตุแมงกานสี ออกไซดไ์ ด้ ๓ เกรด คือ เกรดโลหกรรม เกรดเคมี และเกรดแบตเตอร่ี
จงั หวัดเชียงใหม ่ หนิ ไนสด์ อยอนิ ทนนท์ เปน็ หนิ แปรสดี ำ�สลบั ขาว แสดงรวิ้ ขนานสวยงาม และมอี ายุ เกา่ แกท่ ส่ี ดุ ของประเทศไทย พบทด่ี อยอนิ ทนนทซ์ ง่ึ เปน็ ดอยทส่ี งู ทสี่ ดุ ในประเทศไทย และเป็นท่ีตั้งของพระมหาสถูปเจดีย์ดอยอินทนนท์ นอกจากนี้ยังพบได้ทั่วไปบริเวณเส้นทางหลวงจอมทอง-อินทนนท์ บริเวณนํ้าตกแม่ยะ นํ้าตกแม่กลาง นํ้าตกสิริภูมิ และนํ้าตกวชิรธาร อำ�เภอจอมทอง และท่ีอทุ ยานแห่งชาติออบหลวง อำ�เภอฮอด ธรณวี ิทยา CHIANG MAI ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั Doi Inthanon Gneiss, the geological symbol of Chiang Mai Province, is a หินไนส์ดอยอินทนนท์เป็นหินช้ันเก่าแก่แห่งมหายุค Precambrian (>590 million years ago) metamorphic rock with alternated 31 พรแี คมเบรยี นอายกุ ว่า ๕๙๐ ล้านปี ทถี่ ูกแปรสภาพในระดบั dark and light strips showing beautiful dark-light layers. Doi Inthanon (Peak), ปานกลางถึงสูงไม่ตํ่ากว่า ๕ คร้ัง แรงดันและความร้อน the highest mountain peak of Thailand, where the Doi Inthanon Pagoda ใต้เปลือกโลกผ่านระยะเวลาแสนนานทำ�ให้ผลึกแร่ที่เกิดใน located, is the important site where this rock is cropped out. สว่ นลา่ งของหนิ เดมิ แปรสภาพ เปลย่ี นรปู ทรง หรอื เปลยี่ นเปน็ แรช่ นดิ อนื่ เกดิ เปน็ หนิ ไนสท์ ม่ี กี ารเรยี งตวั ของแรเ่ ปน็ ลวดลาย สีดำ�สลับขาว และบางส่วนถูกแปรสภาพรุนแรงจนถึงข้ัน เรม่ิ หลอมเหลว จากการเคลอ่ื นทขี่ องเปลอื กโลกทำ�ใหห้ นิ ไนส์ ดอยอินทนนทย์ กตัวอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ตง้ั แตเ่ มอ่ื ๕๕ ลา้ นปกี ่อน จนถงึ ปจั จบุ นั ประกอบกบั เนอื้ หนิ ไนสส์ ว่ นใหญป่ ระกอบดว้ ย แร่ซิลิกาท่ีมีความแกร่งและทนทานต่อการกัดกร่อน จึง ทำ�ให้ดอยอินทนนท์ตั้งตระหง่านเป็นเทือกเขาท่ีสูงที่สุด ในประเทศไทย
จงั หวัดตรงั หนิ อ่อนตรัง เป็นหินอ่อนสีขาว เทาแกมชมพู ลายสีดำ� มีความโดดเด่น สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ จังหวัดตรังจึงเป็นแหล่งผลิตหินประดับที่สำ�คัญ ของภาคใต้ ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณีวทิ ยา TRANG The geological symbol of Trang Province is the unique white to pinky gray with black stripes หนิ ออ่ นเปน็ หนิ แปรชนดิ หนงึ่ ซง่ึ ประกอบดว้ ย Trang Marble. The rock is a result of metamorphism of Thung Song’s limestone caused by แรแ่ คลไซตแ์ ละ/หรอื โดโลไมต์ เกดิ จากการแปรสภาพ granite intrusion during the Triassic period. Trang Marble occurs along a narrow area along ของหนิ ปนู ดว้ ยอทิ ธพิ ลของความรอ้ นและความกดดนั ทำ�ใหห้ นิ ปนู หลอมและตกผลกึ ใหมม่ ขี นาดละเอยี ดถงึ 32 the foothills in Pak Chaem Subdistrict, Huai Yot District. There are a total of nine active หยาบ โดยปรกติจะมีเนื้อผลึกสม่ําเสมอ หินอ่อนตรัง mines with total reserves of 800 million tons. เกิดจากการแปรสภาพของหินปูนกลุ่มทุ่งสงของยุค ออรโ์ ดวเิ ชยี น เนอื่ งจากการแทรกดนั ตวั ของหนิ แกรนติ แนวตอนกลางของไทยในช่วงยุคไทรแอสซิก ในทาง การค้าหรืออุตสาหกรรม หินอ่อนใช้เรียกหินปูนท่ีมี ผลึกที่สามารถนำ�มาขัดหรือใช้กับงานสถาปัตยกรรม ที่ละเอียดประณีต ใช้เพื่อการประดับตกแต่ง แหล่ง หินอ่อนในจังหวัดตรังพบเป็นแนวแคบๆ บริเวณ เชิงเขา ในเขตตำ�บลปากแจ่ม อำ�เภอห้วยยอด มที ง้ั หมดจำ�นวน ๙ แหล่ง มีปริมาณสำ�รองประมาณ ๘๐๐ ล้านตนั
จงั หวดั ตราด หินบะซอลต์ วัดเมอื งเกา่ แสนต่มุ เป็นหินภูเขาไฟสีเทาเข้ม ท่ีแสดงการแตกเป็นแท่งรูปเสาหิน หกเหลี่ยมคล้ายเสาหินเมืองโบราณ พบท่ีวัดเมืองเก่าแสนตุ่ม และ โบราณสถานเขาโต๊ะโมะ หมู่ที่ ๗ บา้ นอเี รม็ ตำ�บลประณตี อำ�เภอเขาสมงิ ซงึ่ เป็นสถานทสี่ ำ�คัญของจงั หวดั ตราด ธรณีวทิ ยา TRAT ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั The geological symbol of Trat Province is Basalt of Wat Mueang Kao Saen หินบะซอลต์วัดเมืองเก่าแสนตุ่มมีเนื้อละเอียดสีเทาเข้ม Tum, a dark volcanic rock with columnar joints that formed a similar shape 33 มีแร่ดอกเป็นแร่นิลและแร่ไคลโนไพรอกซีน เกิดจากการปะทุของ of pillars of the ancient city. The rock was found in Mueang Kao Saen Tum หินหนืดใต้ผิวโลกข้ึนมาตามรอยแยกเมื่อประมาณ ๓ - ๑ ล้าน Temple and Khao Tomo, Khao Saming District. The site is one of the most ปีก่อน ลาวาร้อนเหลวเม่ือข้ึนมาถึงผิวโลกจะเย็นตัวแข็งเป็นหิน important place of Trat Province. บะซอลต์อย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีการหดตัวของมวลหินในทุก ทิศทาง ทำ�ให้เกิดการแตกเป็นกลุ่มแท่งหินรูปหกเหลี่ยมเส้นผ่าน ศนู ยก์ ลาง๑๕-๒๐เซนตเิ มตรและยาวตง้ั แต่๓๐-๑๕๐เซนตเิ มตร บางแท่งอาจมีเหลี่ยมนอ้ ยหรอื มากกวา่ หกเหลี่ยมก็ได้
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจังหวดั ตาก หนิ แกรนิตตาก เป็นหินอัคนีสีเทาอมฟ้า หรือเรียกว่าฟ้าดิบ ซ่ึงเป็นสี ท่ีมีความสวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะ จังหวัดตากเป็นจังหวัดที่ผลิตหินประดับชนิดหินแกรนิตที่ใหญ่ ทส่ี ุดในประเทศไทย ธรณวี ิทยา หินแกรนิตที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดตาก เป็นหินแกรนิตที่มีสีเทาอมฟ้าซ่ึงเป็นสีของแร่เฟลด์สปาร์ กลุ่มแพลจิโอเคลส (Plagioclase) หินแกรนิตตากเป็น สว่ นหนง่ึ ของหนิ แกรนติ แนวตะวนั ออก (EasternBeltGranite) ซงึ่ เปน็ หนงึ่ ในแนวหนิ แกรนติ จำ�นวน๓แนวของไทยหนิ แกรนติ ในแนวตะวันออกมักเกิดเป็นมวลหินขนาดเล็ก หรืออาจเกิด เป็นมวลหินขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยมวลหินขนาดเล็กๆ ของ หินแกรนิตชนิดต่างๆ แทรกทับซ้อนกันอยู่ หินแกรนิตแนวน้ี มปี ระเภทหนิ และแรป่ ระกอบหนิ แตกตา่ งกันมาก ต้งั แตท่ ี่มเี นอ้ื หนิ ใกล้เคียงกับหินภเู ขาไฟ มีสีเขม้ มากถึงดำ� จนถึงเป็นหินแกรนิตแทๆ้ เนอื้ หยาบและสจี าง ผลกึ แรม่ กั จะไมแ่ สดงการเรยี งตวั เหมอื นหนิ แกรนติ ฟ้าดิบ และจะพบเศษหินแปลกปลอม (xenolith) ประเภทหินอัคนี สีเขม้ และหินภูเขาไฟปนอยใู่ นเน้ือหนิ แกรนิตเสมอ TAK Tak Granite is the geological symbol of Tak Province. This bluish gray intrusive igneous rock of unique beauty and high quality has long been used as a dimension stone for decoration. Tak is 34 thus famous for its largest center for granite dimension stone production site of the country.
จงั หวดั นครนายก หินสบู่ดกิ ไคต์ หินชนิดนี้มีช่ือเรียกทางธรณีวิทยาว่าแร่ดิกไคต์ และ มีชื่อเรียกโดยทั่วไปว่าหินอ่อนหรือหินสบู่ เป็นแร่ดินชนิดหน่ึง มีเนื้อละเอียดคล้ายสบู่ มีสีเทาอ่อนหรือสีเขียวตองอ่อน ใช้ทำ� เครื่องประดับ งานแกะสลัก หรืออุตสาหกรรมเซรามิก หินสบู่ ดิกไคต์พบเฉพาะที่เขาชะโงก ตำ�บลพรหมณี อำ�เภอเมือง นครนายก ธรณีวทิ ยา NAKHON NAYOK ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั The geological symbol of Nakhon Nayok Province is dickite. Usually referred to ดิกไคต์ (Dickite) เป็นแร่ดินชนิดหนึ่งในกลุ่ม as “soft rock” or “soap rock”, the pale green to pale brown “dickite” is in fact เคโอลิไนต์ ซึ่งมีองค์ประกอบทางเคมีเหมือนกัน แต่มี one of the kaolinite group formed under the influence of hydrothermal water that โครงสร้างผลึกต่างกัน พบเป็นหินแข็ง มีสีหลากหลาย seeped through fractures in parent rocks, e.g. rhyolite and tuff. Dickite usually ตง้ั แต่เทาอ่อน นํา้ ตาลออ่ น ไปจนถึงเขียวตองอ่อน ดกิ ไคต์ contains a considerable amount of alumina (28 - 32 percent) and always used เกดิ จากการทน่ี า้ํ แรร่ อ้ นและแกส๊ ซมึ ผา่ นรอยแตกของหนิ เดมิ as carving materials or ceramics. ท่ีเป็นหินไรโอไลต์และทัฟฟ์ แล้วเปลี่ยนสภาพแร่ประกอบ หินเดมิ ให้เป็นแร่ดกิ ไคต์ หรือเกดิ จากการท่ีนาํ้ แรไ่ หลเขา้ ไป บรรจุในรอยแตกท่ีมีอยู่ในหิน การแพร่กระจายของแร่ จึงสัมพันธ์กับแนวโครงสร้างธรณีวิทยา การใช้ประโยชน์ ขึ้นอยู่กับคุณภาพแร่ตามปริมาณของอะลูมินา คือ ร้อยละ ๒๘ - ๓๒ สว่ นมากใชท้ ำ�เครอ่ื งประดบั หรอื งานแกะสลกั เชน่ พระพทุ ธรปู แจกนั ฯลฯ ร้อยละ ๑๑ - ๒๘ ใชใ้ นอุตสาหกรรม เซรามกิ ที่ตาํ่ กว่านน้ั ใชผ้ สมทำ�ปนู ซีเมนต์ขาว 35
จงั หวัดนครปฐม ทรายบกกำ�แพงแสน เปน็ ทรายปนกรวดสนี า้ํ ตาลออ่ น ทเ่ี กดิ จากการสะสมตวั แบบเนินตะกอนรูปพัดของแม่น้ําเม่ือประมาณ ๗ แสนปีก่อน จนเป็นแหล่งทรายขนาดใหญ่ที่มีปริมาณทรายมหาศาล เช่น ทบ่ี า้ นหนองกรา่ ง ตำ�บลทงุ่ ลูกนก อำ�เภอกำ�แพงแสน จังหวัด นครปฐม ในอดีตทรายบกกำ�แพงแสนเคยเป็นแหล่งวัสดุ กอ่ สร้างขนาดใหญ่และสำ�คัญท่สี ดุ ของกรุงเทพมหานคร ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณวี ิทยา NAKHON PATHOM Kamphaeng Saen Alluvial Sand is the geological symbol of Nakhon Pathom Province, ทรายบกกำ�แพงแสนมขี นาดตง้ั แตท่ ราย comprising pale brown gravels and sand with fragments of wood and animal bones ละเอียดถึงหยาบมาก เน้ือร่วน สีน้ําตาลอ่อน มีกรวดปน เม็ดทรายประกอบด้วยแร่ควอตซ์ 36 deposited as alluvial fan around 700,000 years ago. Kamphaeng Saen Sand used to be the และเศษหินชนิดต่างๆ เมด็ ค่อนขา้ งมน การคดั largest and most important construction material for Bangkok Metropolitan. ขนาดไมด่ ี มักพบเศษไม้หรือเศษกระดกู ปะปน ด้วยเล็กน้อย เกิดจากการสะสมตัวแบบเนิน ตะกอนรูปพัด (alluvial fan deposit) ขนาด ใหญ่มากของแม่น้ําแม่กลองในช่วงท่ีไหลลงสู่ ทีร่ าบลมุ่ เจา้ พระยา
จังหวดั นครพนม รอยตีนไดโนเสาร์ท่าอุเทน เป็นซากดึกดำ�บรรพ์รอยตีนไดโนเสาร์กินรีมิมัส บนหินทราย สแี ดงอายกุ วา่ ๑๐๐ลา้ นปีทส่ี มบรู ณแ์ ละพบมากทสี่ ดุ ในเอเชยี ตะวนั ออก เฉียงใต้ ด้วยความสำ�คัญท้ังทางด้านโบราณชีววิทยาและธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณีจึงได้ประกาศให้เหมืองหินทรายเก่า หมู่ท่ี ๒ ตำ�บล พนอม อำ�เภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เป็นแหล่งซากดึกดำ�บรรพ์ ขึ้นทะเบียนแห่งแรกของประเทศ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ พร้อมทั้งพัฒนาเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้และท่องเท่ียวทางธรณีวิทยา โดยส่งมอบใหจ้ งั หวดั นครพนมบรหิ ารจัดการ ธรณวี ิทยา NAKHON PHANOM ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั The over 100-million-year-old Tha Uthen Dinosaur Footprints on red แหล่งรอยตีนไดโนเสาร์ท่าอุเทนเป็นรอยพิมพ์แนวทางเดิน sandstone rock unit represent the geological symbol of Nakhon Phanom 37 ของฝูงไดโนเสาร์นกกระจอกเทศกินรีมิมัส จำ�นวนมากกว่า ๓๒ แนว Province. The site was considered the best preserved Kinnareemimus บนชั้นหินทรายสีนํ้าตาลแกมแดงและหินโคลนสีนํ้าตาลแดงของ dinosaur footprints and most abundant in Southeast Asia region found หมวดหินโคกกรวด กลุ่มหินโคราช ยุคครีเทเชียสตอนกลาง ลักษณะ in sandpits of Tha Uthen District. The Department of Mineral Resources รอยตนี ทพ่ี บแบง่ ออกเปน็ ๓ กลมุ่ คอื กลมุ่ ของไดโนเสารน์ กกระจอกเทศ has realized the importance of the site thus registered as the first fossil กินรีมิมัส ลักษณะของรอยตีนเป็น ๓ นิ้ว คล้ายรอยตีนไก่ ท่ีปลายนิ้ว site of the country on 18 May 2011 as well as developed it to be a study มีร่องรอยของเล็บแหลมคม บางรอยมีรอยครูดของเล็บให้เห็น แสดง and geotourism site of the province. Other geological features of ลกั ษณะของสตั วก์ นิ เนอื้ เปน็ อาหาร เดนิ ดว้ ย ๒ ขาหลงั จำ�นวน ๒๐๐ รอย sandstone unit include ripple marks and mudcracks. เหยียบย่ําบนรอยร้ิวคลื่น (ripple marks) และรอยระแหงโคลน (mudcracks) โบราณ นอกจากน้ียังพบกลมุ่ ของไดโนเสาร์ออรน์ ิโธพอด และกลุ่มของจระเข้ขนาดเล็กอีกหลายแนว และยังพบรูปพิมพ์นูน ของรอยตีนไดโนเสาร์ท่ีสมบูรณ์อีกมากมายใต้ช้ันหินทรายท่ีปิดทับบน รอยพิมพ์เหล่านีอ้ ีกดว้ ย
จงั หวดั นครราชสมี า ไมก้ ลายเป็นหนิ เป็นซากดึกดำ�บรรพ์ชนิดพืช เกิดจากสารละลายซิลิกา เข้าไปแทนท่ีเนื้อไม้ ทำ�ให้แข็งเป็นหิน แต่ยังคงสภาพโครงสร้าง เนอื้ ไมเ้ ดมิ ไว้ จงั หวดั นครราชสมี าเปน็ จงั หวดั ทพี่ บไมก้ ลายเปน็ หนิ มากที่สุดในประเทศ และยังเป็นท่ีต้ังของพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็น หนิ ทใี่ หญ่ท่ีสุดของประเทศ ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณวี ิทยา NAKHON RATCHASIMA The geological symbol of Nakhon Ratchasima Province is petrified wood. ไม้กลายเป็นหินคือซากดึกดำ�บรรพ์ของพืช เกิดจาก Petrified wood is a kind of plant fossil that its structure was replaced by silica ท่อนไม้ถูกฝังกลบและแช่อยู่ในสารละลายซิลิกาท่ีมีความเข้มข้น solution making it rock solid with some remain of wood tissues. Nakhon สูงเพียงพอในสภาพที่ขาดออกซิเจน ทำ�ให้เนื้อไม้ไม่เน่าเป่ือย บางช่วงเวลาท่ีท่อนไม้และสารละลายซิลิกาได้สัมผัสกับออกซิเจน 38 Ratchasima is the province where petrified wood has been most abundant ทำ�ให้สารละลายซิลิกาตกตะกอนในรูปของซิลิกาเจล สะสมตัว and the largest petrified wood collection and museum of the country is แทนที่ช่องว่างของเนื้อไม้ ด้วยระยะเวลานับร้อยนับพันปีทำ�ให้ located. ทอ่ นไมก้ ลายเปน็ เนอื้ หนิ โดยทย่ี งั รกั ษาโครงสรา้ งเนอื้ ไมด้ งั้ เดมิ เอาไว้ เนื้อไม้กลายเป็นหินบางส่วนมีการพัฒนาเป็นโอปอลท่ีมีสีสัน สวยงาม โดยแร่ธาตุต่างๆ ที่ปะปนอยู่ทำ�ให้เกิดสีต่างๆ กัน เช่น สดี ำ�จากคารบ์ อน สแี ดง-นํ้าตาล-เหลืองจากเหล็กออกไซด์ เป็นต้น
จงั หวดั นครศรีธรรมราช หินปนู ทุง่ สง เปน็ หนิ ปนู เนอ้ื ดนิ สเี ทาเขม้ ทส่ี ะสมตวั บริเวณทะเลนํ้าตื้นเมื่อ ๔๕๐ ล้านปีก่อน มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัวและเป็นกลุ่มหิน ท่ีได้รับคัดเลือกให้เป็นชั้นหินแบบฉบับสำ�หรับ หนิ ปนู ยคุ ออรโ์ ดวเิ ชยี นของประเทศไทย รวมทง้ั เปน็ แหลง่ วสั ดหุ นิ สำ�หรบั อตุ สาหกรรมกอ่ สรา้ ง และซเี มนต์ที่สำ�คญั ของภาคใต้ ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั หินคาร์บอเนตยุคออร์โดวิเชียน รู้จักกันโดยทั่วไปใน ชื่อว่า “กลุ่มหินปูนทุ่งสง” ซ่ึงมีสภาวะแวดล้อมการสะสมตัวใน บรเิ วณชายฝ่งั ทะเลนาํ้ ต้นื กลมุ่ หนิ นี้มีความหนากวา่ ๑,๖๐๐ เมตร โดยทั่วไป ประกอบด้วยหินปูนสีเทาถึงเทาดำ� ชั้นหนาถึงหนามาก มกั จะมชี นั้ ดนิ แทรกสลบั ในบางบรเิ วณหนิ ปนู จะมเี นอื้ เปน็ เมด็ แบบ ไข่ปลา หรือเป็นเนื้อหินปูนโดโลไมต์ ส่วนบนของกลุ่มหินนี้จะเป็น หินปูนท่ีมีเน้ือดินปน และในบางบริเวณมีหินดินดานสีเทาดำ� แทรกสลับ ในเน้ือหินปูนทุ่งสงมักพบซากดึกดำ�บรรพ์ท่ีเกิดในทะเล อาทิ หอยฝาเดยี ว แบรคโิ อพอด ไทรโลไบต์ และนอตลิ อยด์ NAKHON SI THAMMARAT Thung Song Limestone is the geological symbol of Nakhon Si Thammarat Province. The dark gray Thung Song limestone was accumulated in shallow sea environment about 450 million years ago with the thickness over 1,600 meters. This is the type locality of the Thung Song Group. 39
จังหวัดนครสวรรค์ หินแกรนติ สสี ม้ นครสวรรค์ เป็นหินประดับท่ีมีความสวยงาม เป็น เอกลกั ษณโ์ ดดเดน่ ของจงั หวดั นิยมนำ�มาทำ�หนิ ประดับอาคาร แหล่งหินแกรนิตสีส้มพบตาม เนินเขาและเขาโดดทางทิศตะวันออกของ จงั หวดั เชน่ ทเี่ ขาพระ-เขาสงู ตำ�บลหนองกลบั และที่ตำ�บลหนองบัว อำ�เภอหนองบัว และ อำ�เภอไพศาลี ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณวี ทิ ยา NAKHON SAWAN Nakhon Sawan Orange Granite is the geological symbol of Nakhon Sawan Province. หินแกรนิตสีส้มนครสวรรค์เป็นหินแกรนิต The granite formed as a part of Central Belt Granite of the country of Triassic age เน้ือดอกขนาดปานกลาง พื้นหินมีสีชมพู สีเทาอมส้ม (225 - 210 million years ago). This porphyritic rock clearly exhibits its pink to orange และสีส้ม โดยมีลายจุดสีดำ�ของแร่สีเข้มแทรกประอยู่ ทั่วไป สำ�หรับสีชมพูหรือสีส้มท่ีพบในเนื้อหินแกรนิต 40 background as a result of the changing of orthoclase feldspar (white) to microcline เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงชนิดของแร่เฟลด์สปาร์ feldspar (pink). The outcrops also show exfoliation feature. ภายในเนือ้ หนิ จากแรอ่ อร์โทเคลส (Orthoclase) ซึง่ มี สีขาวไปเป็นแร่ไมโครไคลน์ (Microcline) ซ่ึงมีสีชมพู หนิ แกรนติ สสี ม้ นครสวรรคเ์ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของหนิ แกรนติ แนวกลางของประเทศไทย ยคุ ไทรแอสซกิ (๒๒๕ - ๒๑๐ ลา้ นป)ี เกดิ จากการเยน็ ตวั อยา่ งชา้ ๆ ของหนิ หนดื ใตผ้ วิ โลกที่มีส่วนประกอบของแร่อัลคาไลเฟลด์สปาร์และ แร่ควอตซ์เป็นส่วนใหญ่ ภายหลังจากการยกตัว อันเน่ืองมาจากการเคลอ่ื นทข่ี องเปลอื กโลก หนิ แกรนติ ได้ขยายตัวและผุพังทำ�ลายด้วยเหตุจากสภาพ ภูมิอากาศ ทำ�ให้พบหย่อมเขาแกรนิตสีชมพูโค้งมน ท่ีแสดงการแตกเป็นกาบ (exfoliation) คลา้ ยหัวหอม
จังหวดั นนทบรุ ี ดนิ ดำ�สวนทุเรยี น เป็นดินเหนียวสีน้ําตาลเข้มถึงดำ� เนื้อแน่น เหนียว เกิดในบริเวณที่ราบน้ําท่วมถึงริมแม่นํ้าเจ้าพระยา เป็นช้ันดินท่ีมี คุณสมบัติพิเศษที่ทำ�ให้ทุเรียนเมืองนนท์มีรสชาติอร่อย แตกต่าง จากที่อื่น ธรณีวิทยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั เมอ่ื ประมาณ๖,๐๐๐ปที ผ่ี า่ นมาระดบั นา้ํ ทะเลมกี ารเปลย่ี นแปลง ข้ึนสูงสุดถึงระดับประมาณ ๔ เมตรจากระดับน้ําทะเลปัจจุบัน หลงั จากนน้ั นาํ้ ทะเลมกี ารขยบั ขนึ้ ลงอยา่ งตอ่ เนอ่ื งจนกระทงั่ ลดลงมา อยูท่ ีร่ ะดบั ปจั จบุ นั เม่ือประมาณ ๒,๐๐๐ ปที ผี่ า่ นมา การเปลย่ี นแปลง ระดับของน้ําทะเลทำ�ให้เกิดเป็นท่ีราบภาคกลางตอนล่าง ต่อมา เมื่อแม่นํ้าเจ้าพระยาหลากล้นตล่ิงและเกิดนํ้าท่วมทุกปี พร้อมกับ พดั พาเอาตะกอนและอนิ ทรยี สารมาสะสมในทร่ี าบนาํ้ ทว่ มถงึ เกดิ เปน็ ดินเหนียวสีดำ� เม็ดละเอียดมาก เน้ือแน่นเหนียว ที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำ�หรับการทำ�นาและสวนผลไม้ NONTHABURI 41 Black Earth Soil for Durian Plantation is the geological symbol of Nonthaburi Province. The secret behind the best taste of durian in Nonthaburi is its fertile dark soil that used for the plantation of durian. This fine-grained, dark gray to black, massive clay was formed from the sediments deposited caused by the annual overflow of the Chao Phraya River.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจงั หวัดนราธวิ าส ดินขาวนราธวิ าส เป็นแร่ดินชนิดหน่ึง มีสีขาว เน้ือละเอียด ดินขาวนราธิวาส มคี วามพิเศษคอื มคี วามขาวกวา่ ดินขาวในที่อืน่ ๆ เนื่องจากมีปรมิ าณ เหล็กเจือปนน้อยมาก จึงใช้เป็นตัวเติมในอุตสาหกรรมกระดาษ สี ไฟเบอร์กลาส และใช้เป็นส่วนผสมของเนื้อดินป้ันในอุตสาหกรรม เครื่องเคลือบดินเผาท่ีต้องการความขาวเป็นพิเศษ พบมากบริเวณ ทร่ี าบเชงิ เขาบา้ นบาดู ตำ�บลจวบ อำ�เภอเจาะไอร้อง จงั หวัดนราธิวาส รมิ ทางหลวงสายนราธวิ าส-สไุ หงโกลก และตามทรี่ าบเชงิ เขาหนิ แกรนติ แถบอำ�เภอสุไหงปาดี ธรณวี ิทยา ดินขาวนราธิวาสเป็นแร่ดินขาวท่ีมีปริมาณอะลูมินาตํ่า แต่มีความขาวมากกว่าดินขาวในพ้นื ทีอ่ ่นื ๆ ของประเทศ เกดิ จาก การผุพังของหินแกรนิตสีขาวเน้ือหยาบปานกลางตามแนวเขา ตันหยง ทางทิศตะวันออกสุดของจังหวัด ซึ่งเป็นแนวหินแกรนิต แนวตอนกลางของไทย (Central Belt Granite) ทเี่ ปน็ ผลมาจากการ ชนกันของแผ่นเปลือกโลกในช่วงยุคไทรแอสซิก ทำ�ให้เปลือกโลก บางส่วนหลอมเหลวและตกผลึกใหม่เป็นมวลหินแกรนิตระดับตื้น ตอ่ มากระบวนการนา้ํ รอ้ นและแกส๊ รอ้ นบรเิ วณขอบนอกของแกรนติ ได้เปลี่ยนแร่เฟลด์สปาร์ในเน้ือหินให้กลายเป็นแร่ดินขาว (Kaolinization) และถูกพัดพามาทับถมใหมใ่ นพ้นื ทแ่ี หลง่ ดินขาว ในปัจจบุ ัน NARATHIWAT The geological symbol of Narathiwat Province is Narathiwat Kaolinite. This white and fine-grained Narathiwat kaolinite was formed through the weathering of white granite found along the Tanyong Range located along the easternmost 42 part of the province. This kaolinite inhibits lower amount of iron content than any other places in the country thus being used in paper and ceramic industries. This kaolinite can be found along the plain around the granite foothills.
จังหวัดนา่ น แรโ่ ครไมต์น่าน เปน็ แรโ่ ลหะชนดิ หนงึ่ สนี าํ้ ตาลดำ�หรอื สดี ำ�ดา้ น ใชท้ ำ�โลหะ ผสม ทำ�ให้เน้ือแข็ง เหนียว และทนทาน กนั สนมิ และปฏิกริ ยิ าเคมี ทนต่อการขัดสี ต้านการกัดกร่อน ทนไฟฟ้าและความร้อน ใช้ชุบ หรือเคลือบผิวโลหะทำ�ให้เป็นเงามัน ในทางเคมีใช้ทำ�สารประกอบ สำ�หรับทำ�สีทาและสีย้อม นอกจากนี้ใช้ทำ�วัสดุทนไฟ เช่น ทำ�อิฐ บเุ ตาถลงุ โลหะ เตาหลอมแก้ว และเตาเผาซเี มนต์ แร่โครไมต์จัดวา่ เป็นแร่ที่หายากของประเทศ โดยพบเปน็ แหล่งแรข่ นาดใหญ่เฉพาะ ในอำ�เภอนาน้อย จังหวัดน่าน ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั แร่โครไมต์เป็นสินแร่ชนิดเดียวของธาตุโครเมียม มักพบ เปน็ มวลเมด็ เนอื้ แนน่ สดี ำ�แบบเหลก็ หรอื ดำ�นา้ํ ตาล สผี งสนี า้ํ ตาล เข้ม ความแขง็ ขนาดขีดเหล็กเข้า โปร่งแสงถงึ ทบึ แสง วาวแบบ โลหะถงึ กง่ึ โลหะ หรอื ผวิ ดา้ นๆ คลา้ ยยางมะตอย พบเกดิ สมั พนั ธ์ กบั หนิ อคั นสี เี ขม้ (เมฟกิ และอลั ตราเมฟกิ ) ทพี่ บเปน็ แนวยาวทาง ทิศใต้ของจังหวัดน่าน โดยตกผลึกแยกตัวออกมาจากหินหนืด จมตัวลงและสะสมตัวเป็นช้ันแร่ กระเปาะแร่ แร่บางส่วนถูก ดันออกไปแข็งตัวเป็นสายแร่หรือกระเปาะแร่ภายในหน่วยหิน เพรโิ ดไทตแ์ ละเซอรเ์ พนทิไนต์ NAN 43 Nan Chromite is the geological symbol of Nan Province. Chromite is brownish black to dull black metallic mineral used in various industries including alloy and metal coating to prevent rust. The mineral is usually formed in association with mafic and ultramafic rocks through magmatic segregation. Chromite deposit is found in Na Noi District.
จังหวดั บึงกาฬ หนิ ทรายภทู อกนอ้ ย เปน็ หนิ ทรายสแี ดงรว้ิ ลายขาว ทเี่ กดิ จากการสะสมตะกอน ของดินลมหอบในสภาวะแห้งแล้งเม่ือ ๗๕ ล้านปีก่อน พบเป็น เขาลูกโดดยอดราบ หน้าผาสูงชัน ตามแนวเทือกเขาภูสิงห์- ภูทอกใหญ่ และภูวัว บางครั้งพบเป็นลานหินหรือเนินเขาตาม พทุ ธสถานทสี่ ำ�คญั เชน่ ทว่ี ดั เจตยิ าครี วี หิ าร เขาภทู อกนอ้ ย อำ�เภอศรวี ไิ ล หนิ ทราย ที่เขาภูทอกน้อยจัดเป็นหนึ่ง ในชั้นหินแบบฉบับของ ประเทศไทย ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดBUENG KAN ธรณวี ทิ ยา Phuthok Noi Sandstone is the geological symbol of Bueng Kan Province. The sandstone unit formed isolated hill surrounded by เขาภูทอกน้อยเป็นส่วนหนึ่งของหมวดหินภูทอก ประกอบด้วย steep cliffs, namely Phu Thok Noi, as a part of Phu Singh - Phu หนิ ทรายสองชนดิ สลบั กนั ชนดิ แรกเปน็ หนิ ทรายเนอื้ ละเอยี ดมากถงึ หนิ ทราย Thok Yai Range. A series of clastic sedimentary beds of Phu Thok แป้งเนื้อปนปูน การจับตัวค่อนข้างดี เน้ือหินแสดงริ้วลายลอนคล่ืน พบ Noi reveal alternate high and low resistance of rocks to weathering การแตกแบบหมอนบนผิวหน้าของช้ันหิน หินทรายชนิดท่ีสองเป็นหินทราย and erosion process. Sedimentary structure and texture such as เนือ้ ละเอียดถึงหยาบ การจบั ตวั ไม่ดนี ัก พบแนวชั้นเฉยี งระดบั หลายทิศทาง อยู่ท่ัวไป หินทรายภูทอกเกิดจากการสะสมตะกอนที่พัดพาโดยน้ําและลม 44 ripples and cross-bedding found in the rock units are also important ในสภาพภูมิอากาศแห้งแล้ง ช่วงอายุยุคครีเทเชียสตอนปลายหรือ ๗๕ features and difficult to find. ล้านปีมาแล้ว และได้ยกตัวขึ้นเป็นเทือกเขาภายหลังจากการเคลื่อนที่ของ เปลอื กโลกในชว่ ง ๕๕ ลา้ นปที ผี่ า่ นมา หลงั จากนน้ั สภาพภมู อิ ากาศบนผวิ โลก ได้กัดกร่อนเทือกเขาน้ีให้กลายเป็นเขาลูกโดดในปัจจุบัน โดยลักษณะการ เว้าของชั้นหินท่ีมีความคงทนต่อการผุพังตํ่าและสูงสลับกัน รวมไปถึง ลวดลายภายในชั้นหินซึ่งมีลักษณะคล้ายลอนคลื่นและลายเฉียงไปมาตาม ชน้ั หิน ถอื ว่าเปน็ ลกั ษณะทสี่ ำ�คญั และหาไดย้ ากย่งิ ในประเทศ
จังหวัดบุรรี มั ย์ หินบะซอลตเ์ ขาพนมรงุ้ เปน็ หนิ ภเู ขาไฟสดี ำ�ทเ่ี กดิ จากการไหลหลากของลาวา ในอดีตท่ีปัจจุบันยังคงลักษณะโดมรูปโล่ของภูเขาไฟ (shield volcano) ได้สมบูรณ์ และเป็นที่ต้ังของปราสาทเขาพนมรุ้ง อำ�เภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ซ่ึงเป็นโบราณสถาน และเปน็ แหลง่ ท่องเทย่ี วทสี่ ำ�คัญของจงั หวดั ธรณีวทิ ยา BURI RAM ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั The geological symbol of Buri Ram Province is Khao Phanom Rung Basalt. The black Phanom เขาพนมรงุ้ มลี กั ษณะภมู สิ ณั ฐานทห่ี ลงเหลอื Rung Basalt formed as lava flow that still perfectly remains its shape of shield volcano. The basalt 45 อยู่ของภูเขาไฟแบบลาวาโดมรูปโล่ ประกอบด้วย of the area is of hawaiite with some of the scoria. Volcanism took place during the Quaternary, หินบะซอลต์ประเภทฮาวายไอต์ (Hawaiite) i.e. around 900,000 years ago. This is the place where the historical site of Phanom Rung Stone เนื้อละเอียด สีเทาถึงเทาดำ� ปกคลุมพ้ืนที่รอบเขา Sanctuary is located on the top of the hill as one of the most important tourism sites in Buri Ram. บริเวณปล่องภูเขาไฟพบตะกรันภูเขาไฟ (scoria) ซ่ึงมีรูพรุนมาก หินบะซอลต์เขาพนมรุ้งมีลักษณะ เนอ้ื หนิ และรปู แบบการเกดิ เชน่ เดยี วกบั หนิ บะซอลต์ ท่ีเขากระโดง ภูพระอังคาร และเขาไปรบัด โดย ท้ังหมดจัดอยู่ในหน่วยหินบะซอลต์บุรีรัมย์ ซึ่งเกิด จากลาวาหลอมเหลวใต้เปลือกโลกท่ีปะทุข้ึนมา ในยคุ ควอเทอรน์ ารเี มื่อประมาณ ๙ แสนปีกอ่ น
จงั หวดั ปทมุ ธานี หอยนางรมยกั ษ์ เป็นซากดึกดำ�บรรพ์หอยสองฝาที่เกิดจากการ พัดพาของนํ้าทะเลเข้ามาสะสมตัวเม่ือ ๕,๕๐๐ ปีก่อน พบมากทสี่ ุดในประเทศไทยท่ีวัดเจดีย์หอย ตำ�บลบ่อเงิน และทวี่ ดั สวุ รรณประดษิ ฐ์ตำ�บลระแหงอำ�เภอลาดหลมุ แกว้ จงั หวดั ปทมุ ธานี ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดPATHUM THANI ธรณวี ิทยา Giant Oyster Fossils (Crassostrea gigas), the geological symbol of Pathum Thani Province, deposited about 5,500 years ago along the ซากหอยนางรมยักษ์เป็นหอยตะโกรมขนาดใหญ่ อยู่ในสกุล ancient tidal flat area or coastal zone, especially in Chedi Hoi Temple, หอยนางรมที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Crassostrea gigas บางตัวอาจมี Bo Ngoen Subdistrict and Suwanpradit Temple, Rahaeng Subdistrict, ขนาดยาวถึง ๔๐ เซนติเมตร พบทั่วไปบริเวณชายฝั่งน้ําทะเลข้ึนลง บริเวณ น้ํากร่อย สำ�หรับจังหวัดปทุมธานี พบช้ันหอยนางรมยักษ์โบราณช้ันหนา 46 Lat Lum Kaeo District. This 1-m-thick layer of giant oyster fossils ประมาณ ๑ เมตร ฝังกระจายอยู่ในช้ันดินปนทรายแป้งและทรายละเอียด were deposited along with layers of silty and sandy clay of the upper สีเทาเข้ม พบเปลือกหอยทะเลอีกหลายชนิดปะปนอยู่ในช้ันหอย ซ่ึงเป็น Quaternary sediment representing a part of Bangkok Clay deposit. หลกั ฐานแสดงขอบอา่ วไทยสมยั โบราณประมาณ ๕,๕๐๐ ปกี อ่ น เหนอื ชนั้ หอย เป็นชั้นดินเหนียวสีดำ�เทาเข้ม หนาประมาณ ๒ เมตร ถัดขึ้นไปเป็นชั้นทราย ข้เี ปด็ หนาประมาณ ๒ เมตร และปิดทบั ดว้ ยชน้ั ดนิ บนอกี ประมาณ ๑ เมตร ชั้นตะกอนท้ังหมดนี้จัดอยู่ในหน่วยตะกอนท่ีเรียกว่า ชุดดินเหนียวกรุงเทพฯ ซึ่งปกคลุมพื้นท่ีทางตอนใต้ของลุ่มแม่น้ําเจ้าพระยา และจัดเป็นลำ�ดับ ชั้นตะกอนสว่ นบนสดุ ของหนว่ ยตะกอนยคุ ควอเทอร์นารีในพน้ื ทีน่ ี้
จังหวัดประจวบครี ีขันธ์ หินปูนเขาชอ่ งกระจก เป็นหินปูนที่เกิดในทะเลนํ้าตื้นเมื่อ ๒๘๐ ล้านปี ก่อน พบที่เขาช่องกระจก ตำ�บลอ่าวน้อย อำ�เภอเมือง ประจวบคีรีขันธ์ ซ่ึงเป็นเขาหินปูนที่ถูกน้ําและลมกัดเซาะ จนทะลุเป็นช่องขนาดใหญ่ คล้ายมองทะลุกระจกใส ทต่ี ดิ อยบู่ นภเู ขาจากดา้ นหนง่ึ ไปอกี ดา้ นหนงึ่ จงึ เปน็ สถานท่ี ทอ่ งเทย่ี วทมี่ ภี มู ทิ ศั นส์ วยงาม แปลกตา และเปน็ สญั ลกั ษณ์ ของจงั หวัดประจวบคีรขี ันธ์ ธรณวี ทิ ยา PRACHUAP KHIRI KHAN ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั The geological symbol of Prachuap Khiri Khan Province is Khao Chong Krachok หินปูนเขาช่องกระจกจัดอยู่ในกลุ่มหินราชบุรี Limestone, which was formed under shallow sea environment of Permian time about 47 ตามการลำ�ดับชั้นหินทางธรณีวิทยาของประเทศไทย 280 million years ago. The rock unit belongs to Ratburi Group. The present natural เป็นหินปูนสีเทาช้ันบางถึงไม่แสดงชั้น มักพบซาก bridge formed over the top of the hill was a result of weathering and erosion caused ดึกดำ�บรรพ์ อาทิ คตข้าวสาร พลับพลึงทะเล และ by wind and water, in association with various fractures within the rock unit itself. ปะการงั ในเนอื้ หนิ หนิ ปนู ดงั กลา่ วเกดิ จากการสะสมตวั ของตะกอนคาร์บอเนตในทะเลโบราณยุคเพอร์เมียน ซ่ึงเป็นยุคที่ส่ิงมีชีวิตในทะเลเจริญพันธุ์สูงสุด ต่อมา การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกทำ�ให้แอ่งตะกอน คารบ์ อเนตในทะเลถกู ยกตวั ขนึ้ จนกลายเปน็ ภเู ขา เกดิ รอยแตกหลายทิศทางตัดกันในเน้ือหินอันเน่ืองจาก ผลของแรงบีบอัดและคลายตัวที่กระทำ�ต่อช้ันหิน จากนน้ั กระบวนการกดั กรอ่ นจากนาํ้ และลมทำ�ใหเ้ กดิ การถล่มของชั้นหินท่ีมีรอยแตกมากและถ่ี ส่งผลให้ เขาหนิ ปนู ทะลเุ ปน็ รโู หวข่ นาดใหญด่ งั ทเี่ หน็ ในปจั จบุ นั
Search