SAR ปีการศึกษา ๒๕๖๔ โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบง

๔๖ (๑.๑.๒) ให้เด็กหมุนเวียนเข้ามาเล่นเป็นกลุ่มหรือรายบุคคลตามความ เหมาะสม (๑.๑.๓) ขณะเด็กเลน่ ครูมีหนา้ ท่เี พียงแนะนำ (๑.๑.๔) เมอื่ เล่นเกมแต่ละชุดเสรจ็ แล้วให้เดก็ เก็บให้เรยี บร้อย (๒) กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ ขัน้ ตอนการดำเนินงานมีดังน้ี (๒.๑) การสนทนา อภิปราย เป็นกานสง่ เสริมพัฒนาการทางภาษาในการพูดการ ฟัง ร้จู กั แสดงความคดิ เปน็ และยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ผูอ้ นื่ (๒.๒) การเล่านิทาน เป็นการเล่าเร่ืองต่าง ๆ ส่วนมากจะเป็นเรื่องท่ีเน้นการ ปลูกฝงั ใหเ้ กดิ คุณธรรม จรยิ ธรรม (๒.๓) การสาธิต เป็นการจัดกิจกรรมที่ต้องการให้เด็กได้สังเกตและเรียนรู้ตาม ขัน้ ตอน (๒.๔) การทดลอง/ปฏิบัติ จากกิจกรรมบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ที่จัดให้เด็กได้รับ ประสบการณ์ตรงเพราะได้ทดลองปฏิบตั ดิ ว้ ยตนเอง ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลง ฝึกการสังเกต การคดิ แก้ปัญหา (๒.๕) การศึกษานอกสถานทหี่ อ้ งสมดุ และศูนย์เรยี นรู้ นวัตวิถชี ุมชนบ้านสรา้ งบง (๒.๖) การเล่นบทบาทสมมุติ เป็นการให้เด็กเล่นสมมุติตนเองเป็นตัวละครต่าง ๆ ตามเนือ้ เร่อื ง (๒.๗) การร้องเพลง เล่นเกม ท่องคำคล้องจอง เป็นการจัดให้เด็กได้แสดงออก เพอื่ ความสนุกสนาน เพลิดเพลนิ และเรียนรเู้ ก่ียวกับภาษาและจังหวะ ผลการพัฒนา จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพื่อให้มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มี ทักษะการคิดพ้นื ฐาน และแสวงหาความรูไ้ ด้ ผลจากการดำเนนิ งานพัฒนา มดี ังน้ี เดก็ สนทนาโตต้ อบและเลา่ เรอ่ื งให้ผู้อ่ืนเข้าใจ ต้ังคำถามในสงิ่ ท่ีตนเองสนใจหรือสงสัย และพยายามค้นหาคำตอบ อ่านนิทานและเลา่ เรื่อง ท่ีตนเองอ่านได้เหมาะสมกับวัย มีความสามารถในการคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผลทางคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ การคิดแก้ปัญหาและสามารถตัดสินใจในเร่ืองง่าย ๆ ได้ สร้างสรรค์ผลงานตามความคิดและ จินตนาการ เช่น งานศิลปะ การเคล่ือนไหวท่าทาง เด็กมีพัฒนาการด้าน สติปัญญาบรรลุตามเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรและมีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมเสริมใน การพัฒนาเด็กอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เด็กเข้าใจเนื้อหาและเรื่องราวจากการจัดประสบการณ์ เด็กมี พัฒนาการด้านการใช้ภาษาในการฟัง พูด และการถ่ายทอดเร่ืองราว เด็กกล้าแสดงความคิดเห็นและรับฟัง ความคิดเด็กได้ฝึกความมีระเบียบวินัย มารยาทในการฟัง พูด และลักษณะนิสัยที่ดี รับฟังความคิดเห็นของ ผู้อื่น ๒. จุดเดน่ มาตรฐานท่ี ๑ ๑) เด็ก มีพัฒนาการด้านร่างกาย กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ส่งผลให้ เด็กมี พฒั นาการดา้ นร่างกายแข็งแรง เจริญเตบิ โตตามวยั มีความสามารถในการใช้กล้ามเนอื้ เลก็ และกลา้ มเนอื้ ใหญไ่ ด้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ๒) คุณภาพเด็กด้านอารมณ์จติ ใจ ควบคุม แสดงออกทางอารมณ์ได้ กจิ กรรมที่ส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้สนุกสนาน มคี วามสุขในการเรียนรู้ จากสอื่ DLIT กิจกรรมเกมการศกึ ษา สง่ ผลให้เด็กมีความคิดสรา้ งสรรค์ เหมาะสมกับพฒั นาการ มพี ฒั นาการดา้ น อารมณ์จติ ใจ บรรลตุ ามเปา้ หมายที่สถานศึกษากำหนด

๔๗ ๓) คุณภาพเด็กด้านสังคม ช่วยเหลือตนเองและเป็นสมาชิกท่ีดีของสังคม เด็กทุกคนช่วยเหลือ ตนเองในการทำกิจวัตรประจำวัน มีวินัย ประหยัดพอเพียง มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาส่ิงแวดล้อมท้ังในและ นอกห้องเรียน มีมารยาททางวัฒนธรรมไทย เช่น การไหว้ การทักทาย จากเสริมประสบการณ์ เช่น กิจกรรม การเล่านทิ าน กจิ กรรมบา้ นวิทยาศาสตรน์ ้อย การศกึ ษานอกสถานท่ี ๔) คุณภาพเด็กด้านสติปัญญา ส่ือสารได้มีทักษะการคิดพ้ืนฐานและแสวงหาความรู้ได้ เด็กทุก คน สนทนาโต้ตอบและเล่าเร่ืองให้ผู้อ่ืนเข้าใจ อ่านนิทานและเล่าเรื่องที่ตนเองอ่านได้เหมาะสมกับวัย จาก กิจกรรมเกมการศึกษา กิจกรรมเสริมประสบการณ์ การเรียนรู้สู่โลกกว้างผ่านกิจกรรมการศึกษานอกสถานที่ สง่ ผลให้เด็ก รอ้ ยละ ๙๘ มีพัฒนาการด้านสติปญั ญา สื่อสารได้มีทักษะการคิดพนื้ ฐาน แสวงหาความรไู้ ด้อย่าง เหมาะสม ๓. จุดท่คี วรปรับปรุง มาตรฐานที่ ๑ ๑) ครคู วรเน้นใหเ้ ดก็ วางแผนการทำงาน โดยผ่านการจดั กจิ กรรมไฮสโคป ๒) เน้นเสรมิ สรา้ งดา้ นสตปิ ัญญาของเดก็ โดยผา่ นกระบวนการบา้ นวทิ ยาศาสตรน์ ้อย เชน่ การ สังเกต การต้ังคำถาม และการปฏิบตั ิ ๔. แนวทางการพฒั นาให้ไดร้ ะดับคณุ ภาพที่สูงขึ้น โรงเรียนได้มีแนวทางในการพฒั นามาตรฐานที่ ๑ ให้ได้ระดับคณุ ภาพทส่ี ูงขึ้นโดยกำหนดโครงการ และกจิ กรรม ดังต่อไปน้ี (๑) กิจกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัย เรื่อง \" การฝึกสมาธิของเด็กปฐมวัย โดยการใช้ศิลปะ สรา้ งสรรค์ \" ขนั้ ตอนการดำเนินงานมีดังนี้ (๑.๑) ประชุมทำความเข้าใจและร่วมมือกับผู้ปกครอง เพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ ท่ีดีระหว่าง เด็ก ผู้ปกครอง ครู โรงเรียน และชุมชน เร่อื งการฝึกสมาธใิ ห้เด็กปฐมวยั มรสมาธิในการทำกิจกรรมต่าง ๆ และ การทำงาน การสร้างสรรค์ผลงานอย่างเหมาะสมกบั วัย (๑.๒) ผู้ปกครอง ครู สนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันและช่วยกันแก้ปัญหาอย่าง สม่ำเสมอและต่อเนอื่ ง (๑.๓) ประเมินผลการฝึกสมาธขิ องเด็กปฐมวัย โดยการใช้ศิลปะสรา้ งสรรค์ เนื่องจากต้อง ฝึกสมาธิให้กับเด็กปฐมวัย เพราะเด็กวัยนี้จะมีช่วงเวลาการสนใจทำกิจกรรมน้อยมาก จะไม่อยู่น่ิง ดังนั้นมี ความสำคัญอย่างยิ่งท่ีต้องฝึกให้เด็ก รู้จักการทำสมาธิ ไม่ใช่เป็นการจับเด็กมาน่ังนิ่ง ๆ แต่เป็นการให้เขาได้ฝึก ใจจดใจจ่อ ในช่วงขณะหนึ่งให้ได้ ย่ิงโดยเฉพาะในการจัดการเรียนการสอนทำกิจกรรมกับเพื่อนในห้องเรียน จะต้องหันมาสนใจในการเรียนใหไ้ ด้ ในการฝึกสมาธิ โดยเรม่ิ จาก ให้เด็กหยิบ จบั เก็บของ การปฏิบตั ิกิจกรรม ร่วมกับเพื่อน และหากิจกรรมขยายเวลาไปเรื่อย ๆ ให้เหมาะสมตามวัย กิจกรรมศิลปะ นับว่าเป็นวิธีท่ีทำให้ เด็กได้ฝึกสมาธเิ ร็วท่ีสุด เพราะเด็กได้ใช้จินตนาการของตัวเองในการสร้างสรรคผ์ ลงาน เด็กจะชอบมาก เพราะ ไม่ต้องมีกฎเกณฑ์อะไรให้เขาต้องเครียด และได้ปล่อยความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาในผลงานได้ การฝึก สมาธิโดยใช้ศิลปะสร้างสรรค์ในการช่วย ท่ีสำคัญเด็กได้มีความคิดริเร่ิมแปลกใหม่ การยืดหยุ่นทางความคิด และทสี่ ำคญั เด็กไดม้ ีพฒั นาการท้ัง ๔ ด้าน การสร้างขอ้ ตกลงในห้องเรียน เปน็ สิ่งสำคญั ในการจัดการเรียนรู้ ครู จะตอ้ งบอกตกลงกบั เด็กในหอ้ งเรยี นใหท้ ราบว่าเรากำลังจะสอนในเร่อื งอะไร ชว่ งแรกต้องฝึกใหเ้ ด็กทำกจิ กรรม ที่ส่งเสริมสมาธิในเวลาสั้น ๆ เช่น หยิบ จับ เก็บของ กวาดห้อง เก็บรองเท้า การเข้าแถวให้ได้และบรรลุ วัตถุประสงค์ ทำเป็นประจำทุกวัน จนเด็กทำได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องรอครูบอก จึงจัดประสบการการเรียนรู้ ใหก้ บั เด็กลำดับตอ่ ไป

๔๘ ประสบการณ์ (๑.๔) สรุปจากแบบสังเกตพฤติกรรมการฝึกสมาธิเด็กปฐมวัย และบันทึกหลังแผนการจัด (๑.๕) รายงานผลการปฏบิ ัตติ อ่ ผบู้ ริหารสถานศึกษา ๕. ผลสัมฤทธ์ทิ เ่ี กดิ ขน้ึ กบั เด็ก และรางวลั ทไี่ ดร้ บั ที่ ชือ่ รางวัล หนว่ ยงานทมี่ อบ ปีทไี่ ดร้ ับ ๑ บ้านวิทยาศาสตร์น้อย(รบั ประเมินยงั่ ยืน) สพฐ. ๒๕๖๔ ๖. แหล่งขอ้ มลู หลกั ฐานเอกสารอา้ งองิ ท่ี เอกสารหลักฐาน Qr code ๑ บันทกึ ค่านำ้ หนกั และสว่ นสงู ๒ รายงานโครงการส่งเสรมิ พัฒนาการเดก็ ท้งั ๔ ดา้ น ๓ รายงานโครงการบ้านวทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย ๔ แบบบันทึกการมสี ว่ นรว่ มของพอ่ แม่ครอบครัว ชมุ ชน และทุกฝา่ ย ทีเ่ กีย่ วข้องในการสง่ เสรมิ พัฒนาการของเดก็ ๕ แบบประเมินจากครู ผู้ปกครอง ๖ ประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นทกั ษะชวี ติ ของเด็ก ๗ ผลงานสร้างสรรคข์ องเดก็ ๘ สมุดรายงานประจำตวั ของเดก็ ๙ หนังสือนทิ านคุณธรรมตา่ ง ๆ ๑๐ เกยี รติบัตร ๑๑ แผนการจดั ประสบการณ์ ๑๒ รายงานผลการจดั กจิ กรรมการทดลองบา้ นวทิ ยาศาสตร์นอ้ ย มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ ๑. ผลการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดเี ลิศ ประกอบดว้ ยผลการประเมนิ 6 ข้อ ดงั น้ี ๑.๑ ดา้ นจดั ให้มีหลักสตู รครอบคลุมพัฒนาการท้ัง ๔ ดา้ น สอดคลอ้ งกับบริบทของทอ้ งถิ่น กระบวนการพฒั นา โรงเรียนบ้านนาดีสรา้ งบง ไดด้ ำเนินการพัฒนาโดยมี โครงการ และกิจกรรม ๑.๒ ดา้ นการจัดครใู หเ้ พียงพอกับช้ันเรยี น กระบวนการพัฒนา โรงเรียนบ้านนาดีสรา้ งบง จดั ครใู ห้เหมาะสมกับภารกิจการเรียนการสอนหรอื จัดครูที่จบ การศึกษาระดับปฐมวยั หรอื ผา่ นการอบรมการศึกษาปฐมวยั อย่างพอเพียงกบั ชั้นเรยี น การดำเนินงาน ๑) โครงการพัฒนาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา

๔๙ - กจิ กรรมประชมุ อบรมครู - กจิ กรรมพัฒนาผ้บู รหิ าร - กจิ กรรมศึกษาดูงานของครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ผลการพฒั นา โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษาที่ยืดหยุ่น และสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย โดยสถานศึกษาออกแบบการจัดประสบการณ์ท่ีเตรียมความพร้อมและไม่เร่งรัดวิชาการ เน้นการเรียนรู้ผ่าน การเล่นและการลงมือปฏิบัติ ตอบสนองความตอ้ งการและความแตกตา่ งของเดก็ ปกตแิ ละกลมุ่ เปา้ หมายเฉพาะ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของครอบครัว ชุมชนและท้องถ่ิน จัดครูเพียงพอและเหมาะสมกับช้ันเรียน ครูได้รับ การพฒั นาตนเองทกุ ปี ๑.๓ ด้านการสง่ เสริมให้ครมู คี วามเชย่ี วชาญด้านการจดั ประสบการณ์ กระบวนการพฒั นา การดำเนนิ งาน กจิ กรรม/ขน้ั ตอนการดำเนนิ งาน (๑) โครงการพฒั นาครูและบุคลากรทางการศึกษา (๑.๑) สง่ เสริมให้ครมู ีความเช่ยี วชาญด้านการจดั ประสบการณโ์ ดยครมู ีช่ัวโมงใน การแลกเปลยี่ นเรยี นรแู้ ละประสบการณ์ (PLC) เพอ่ื ร่วมกนั ปรบั ปรุงพฒั นาการจดั การเรียนร้ใู หม้ ีประสิทธภิ าพ ในระดับปฐมวัย (๑.๒) จัดกจิ กรรมศึกษาดูงานของครแู ละบคุ ลากรทาง การศึกษาทกุ ปี ผลการพัฒนา พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูต ร สถานศึกษา มีทักษะในการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการเด็ก ใช้ประสบการณ์สำคัญในการ ออกแบบการจัดกิจกรรม มีการสังเกตและประเมินพัฒนาการเด็ก ส่งผลต่อคุณภาพเด็กเป็นรายบุคคลตรง ความต้องการของครแู ละสถานศึกษา ๑.๔ จัดสภาพแวดลอ้ มและสื่อเพ่อื การเรียนรู้ อยา่ งปลอดภัยและเพยี งพอ กระบวนการพัฒนา โรงเรยี นบ้านาดีสร้างบง จัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรยี นท่คี ำนงึ ถงึ ความ ปลอดภัย ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้เป็นรายบุคคลและกลุ่ม เล่นแบบร่วมมือร่วมใจ มีมุมประสบการณ์ หลากหลาย มีสื่อการเรยี นรู้ เช่น ของเล่น หนังสือนิทาน ส่ือจากธรรมชาติ สื่อสำหรบั เด็กมดุ ลอด ปนี ป่าย ส่ือ เทคโนโลยี สอื่ เพื่อการสืบเสาะหาความรู้ การดำเนินงาน กจิ กรรม/ข้นั ตอนการดำเนินงาน (๑) โครงการพัฒนาปรบั ปรงุ แหล่งเรียนรู้และอาคารสถานท่ี (๑.๑) รณรงคใ์ ห้นักเรยี นรู้จกั การใช้ประโยชนแ์ หลง่ เรยี นรแู้ ละรว่ มบำรงุ รกั ษาให้อยู่ ในสภาพดอี ย่เู สมอ (๑.๒) สง่ เสริมสนับสนนุ ในการจดั หาสอื่ และอปุ กรณ์ (๑.๓) กิจกรรมพบผปู้ กครองนักเรยี นเพอ่ื การเรยี นรู้อย่างเพยี งพอและหลากหลาย

๕๐ (๑.๔) จัดทำรั้วล้อมรอบอาคารปฐมวัย เพอ่ื ความปลอดภยั ของเด็ก ผลการพฒั นา โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ มีอาคารที่เหมาะสม บรรยากาศร่มร่ืน สวยงาม เอ้ือต่อการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นที่ชื่นชมต่อชุมชนและผู้พบเห็น ครูและนักเรียนใช้แหล่ง เรียนรู้ในโรงเรียนได้อย่างท่ัวถึง นักเรียนทุกคนเกิดความตระหนักรักโรงเรียน เห็นคุณค่าและรักษา จัด สภาพแวดลอ้ มอย่างปลอดภยั เช่น สนามเด็กเล่น ในห้องเรียนมสี ือ่ การเรียนรู้เพียงพอและหลากหลาย ๑.๕ ใหบ้ ริการส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศ และสื่อการเรียนรเู้ พอ่ื สนบั สนุนการจัดประสบการณ์ กระบวนการพัฒนา โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบงสามารถอำนวยความสะดวก และให้บริการสื่อเทคโนโลยี สารสนเทศวัสดุ และอุปกรณ์เพ่ือสนับสนุนการจัดประสบการณ์ตามโครงการปรับปรุงระบบข้อมูลสารสนเทศ และนำระบบดิจติ อลเทคโนโลยมี าใช้ (๑) โครงการปรับปรงุ ระบบข้อมลู สารสนเทศและนำระบบดิจิตอลเทคโนโลยีมาใช้ กจิ กรรม/ขน้ั ตอนการดำเนินงาน กิจกรรมท่ี ๑ จัดหา ปรับปรุง ซ่อมแซม สื่อเทคโนโลยีการสื่อสารเพ่ือการเรียนรู้ และการบรหิ ารจดั การ ระบบ ICT ให้สอดคลอ้ งกับสภาพปัจจบุ นั - ซ่อมคอมพิวเตอร์ - จัดหา ปรับปรุง ซ่อมแซมระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อการเรียนการสอนและการ บริหารจดั การ กจิ กรรมท่ี ๒ การใชส้ อื่ ดิจิทัลมาใชใ้ นการจดั การเรียน - ค้นคว้าข้อมลู ทางอินเตอรเ์ นต็ - สื่อ Multimedia - สื่อ DLIT - สอื่ จากสังคมออนไลน์ สรปุ ผลการดำเนนิ งานโครงการ และรายงาน ผลการพัฒนา โรงเรียนได้รับการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศให้สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน ปรับปรุง ระบบสอ่ื โสตทศั นูปกรณใ์ ห้มีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีจัดการเรียนการสอนใหค้ รอบคลุมอย่างท่วั ถงึ ๑.๖ มีระบบบริหารคณุ ภาพทเี่ ปิดโอกาสใหผ้ ู้เก่ียวข้องทุกฝา่ ยมสี ว่ นร่วม กระบวนการพฒั นา กิจกรรม/ขนั้ ตอนการดำเนนิ งาน (๑) โครงการพัฒนาระบบงานประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา (๑.๑) ประชมุ คณะกรรมการดำเนนิ การจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา ฯ (๑.๒) จดั ทำแผนปฏิบัตกิ ารประจำปี ๒๕๖๔ (๑.๓) เสนอแผนพัฒนาการศึกษา ฯ และแผนปฏิบัติการ ฯ ต่อคณะกรรมการ สถานศกึ ษา (๑.๔) กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐาน การศึกษา ปฐมวัยและ อตั ลกั ษณ์ ท่ีโรงเรียนกำหนด

๕๑ (๑.๕) ประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา ติดตามผลการ ดำเนินงาน (๑.๖) จัดทำรายงานผลการประเมินตนเองประจำปี นำผลการประเมินไปปรับปรุง และ พัฒนาคณุ ภาพสถานศกึ ษา โดยผูป้ กครองและผ้เู กี่ยวข้องทกุ ฝ่ายมสี ่วนรว่ ม (๑.๗) รายงานผลการประเมนิ ตนเองใหห้ น่วยงานตน้ สงั กดั ทราบ ผลการพฒั นา โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบงได้กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาท่ีสอดคล้องกับ มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและอัตลักษณ์ท่ีสถานศึกษากำหนด จัดทำแผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษาท่ี สอดรับกับมาตรฐานที่สถานศกึ ษากำหนดและดำเนินการตามแผน โรงเรยี นมีระบบบรหิ ารจดั การคุณภาพของ สถานศึกษา การช้ีแนะระหว่างการปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อคุณภาพมาตรฐานของสถานศึกษา บูรณาการการ ปฏิบัติงานและเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม และจัดทำรายงานผลการประเมิน ตนเองประจำปี นำผลการประเมินไปปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยและจัดส่งรายงานผลการ ประเมินตนเองประจำปไี ปยังสำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๒ เมอื่ ส้ินสุดปีการศึกษา ทุกปี ๒. จุดเด่น มาตรฐานท่ี ๒ ๑) การวางแผนจัดทำหลักสูตรปฐมวัย ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน จัดสภาพแวดล้อมและ สื่อเพ่ือการเรียนรทู้ ี่ปลอดภัยเพียงพอให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสอ่ื การเรยี นรู้เพื่อสนบั สนุนการจัด ประสบการณ์สำหรับครู และกระตุ้นการเรยี นรู้ เปดิ โอกาสให้ผ้เู กี่ยวขอ้ งทกุ ฝ่ายมีสว่ นร่วมเป็นภาคีเครอื ขา่ ย ๒) จดั ระบบเครือขา่ ยข้อมลู สารสนเทศ การให้บรกิ ารและเผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธ์ได้ทัว่ ถึง ๓. จุดทคี่ วรปรับปรุง มาตรฐานท่ี ๒ ๑) ควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นในการจัดการศึกษาเพ่ือ พัฒนาผเู้ รยี นมากขนึ้ ๒) ควรสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียน ให้มี ความเขม้ แขง็ มีสว่ นร่วมรบั ผิดชอบต่อผลการจดั การศกึ ษา และการขับเคลือ่ นคณุ ภาพการจดั การศึกษา ๔. แนวทางการพัฒนาใหไ้ ด้ระดับคณุ ภาพทส่ี งู ขนึ้ ๑) จัดระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่เหมาะสมและต่อเนื่องมีการชี้แนะระหว่าง การปฏบิ ตั ิงานตามมาตรฐานของสถานศกึ ษา ๒) บูรณาการการปฏิบัตงิ านและเปดิ โอกาสให้ผู้เก่ยี วข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมจนเป็นแบบอย่างที่ดี และได้รบั การยอมรบั จากชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๓) มีการส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ท่ีส่งผลต่อคุณภาพเด็กเป็น รายบุคคล ตรงความตอ้ งการของครแู ละสถานศกึ ษา ๔) จัดให้มีชุมชนการเรยี นรทู้ างวิชาชพี ๕) จัดสภาพแวดล้อมอย่างปลอดภัยเช่น การปรับปรุงบำรุงรักษาแปลงไม้ดอกไม้ประดับ สวนหย่อม จดั ทำสวนหยอ่ มและปลูกไม้ดอกไม้ประดบั เพมิ่ เตมิ ๖) จดั สอ่ื เพอ่ื การเรยี นรูแ้ ละพัฒนาเดก็ อย่างต่อเน่ืองเพยี งพอและหลากหลาย

๕๒ ๕. ผลสมั ฤทธ์ิที่เกดิ ขนึ้ กับผู้บริหาร รางวลั ท่ไี ดร้ ับ ท่ี ชือ่ รางวัล หนว่ ยงานท่ีมอบ ปีท่ีได้รบั ๒๕๖๔ จ.ส.อ.สายัณห์ นามแสง สพฐ. Qr code ๑ รางวัลเหรยี ญทอง ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา ยอดเยย่ี ม ดา้ นนวตั กรรมฯ ๖. แหล่งข้อมลู หลักฐานเอกสารอ้างองิ ท่ี เอกสารหลักฐาน ๑ หลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดับปฐมวยั ๒ แบบประเมินหลกั สูตร ๓ แผนปฏบิ ตั ิราชการ ๔ บันทกึ การประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษา ประกาศโรงเรยี นบ้านนาดสี ร้างบง เรือ่ ง ให้ใชม้ าตรฐานการศกึ ษา ๕ ระดบั ปฐมวยั และระดับการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน เพ่ือประกนั คุณภาพ ภายในสถานศกึ ษา (๒๕๖๓) ๖ แผนการจัดประสบการณ์เนน้ ใหเ้ ดก็ ได้เรียนร้โู ดยการปฏบิ ตั จิ รงิ ให้มาก ข้นึ (Active Learning) ๗ บนั ทึกการเยย่ี มนเิ ทศ ๘ บนั ทึกการประชมุ PLC ๙ แบบบนั ทกึ การมสี ว่ นรว่ มของพอ่ แม่ครอบครวั ชมุ ชน และทกุ ฝ่ายที่ เกยี่ วข้องในการสง่ เสริมพัฒนาการของเด็ก ๑๐ เกยี รติบตั รท่ผี า่ นการอบรม ๑๑ รปู ภาพ รายงานโครงการต่าง ๆ ๑๒ อปุ กรณส์ ื่อ ICT ๑๓ สนามเด็กเล่น ๑๔ รายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพการจดั การศึกษา ประจำปี (SAR) ๒๕๖๔ ๑๕ เกยี รติบตั รทผ่ี า่ นการอบรมของครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณท์ เี่ นน้ เด็กเปน็ สำคญั ๑. ผลการประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดเี ลิศ ประกอบดว้ ยผลการประเมนิ ๔ ข้อ ดังนี้ ๑.๑ จดั ประสบการณท์ ส่ี ่งเสริมใหเ้ ดก็ มพี ฒั นาการทุกด้านอยา่ งสมดุลเตม็ ศักยภาพ กระบวนการพฒั นาการดำเนนิ งาน โครงการพัฒนาคุณภาพของเด็กระดบั ปฐมวยั กิจกรรม/ ขัน้ ตอนการดำเนนิ งาน ๑. ครรู ะดบั ชั้นปฐมวยั รว่ มประชมุ วางแผน

๕๓ ๒. จดั ทำหลักสูตรระดบั ปฐมวัย ๓. วิเคราะหม์ าตรฐานคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ในหลกั สูตรสถานศึกษา ๔. จดั ทำแผนการจัดประสบการณโ์ ดยมีกิจกรรมที่สง่ เสริมพัฒนาการเด็กครบทุก ด้านท้ังทางด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา มีความรู้ คุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมใน การดำรงชีวติ ๕. วิเคราะหข์ อ้ มลู เดก็ เป็นรายบคุ คล ๖. จัดประสบการณ์ในรูปแบบบูรณาการการเรียนรู้ แบบเรียนผ่านเล่นท้ังใน ห้องเรียนและนอกห้องเรียนโดยจัดกิจกรรมตามตารางประจำวันคือกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเกมการศึกษา ใช้ เทคโนโลยีประกอบกิจกรรมการจัดการเรยี นการสอน และกจิ กรรมเคลื่อนไหวเขา้ จงั หวะ ๗. เด็กลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเองและการเรียนรู้รายกลุ่ม (กิจกรรมบ้านทยา ศาสตรน์ อ้ ย) ๘. จัดมุมส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ มีการตกแต่งห้องเรียนให้สดใส และมี สอื่ การเรียนร้ทู เ่ี อือ้ ต่อการจดั ประสบการณ์การเรยี นการสอน ๙. ประเมินพัฒนาการของเด็กปฐมวัย จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และ การจดั กจิ วตั รประจำวัน ดว้ ยเคร่ืองมอื และวิธีการทหี่ ลากหลาย เชน่ การสงั เกต การสอบถาม การสำรวจ และ การวิเคราะห์ผลพัฒนาการของเด็ก โดยให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วม และนำผลการประเมินที่ได้ไปปรับปรุงการจัด ประสบการณแ์ ละพัฒนาเด็ก ผลการพัฒนา ๑. เด็กได้ประสบการณ์ตรง เกิดการเรียนรู้และมีการพัฒนาท้ังทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม และสตปิ ัญญา ซึ่งสามารถยืดหยุ่นไดค้ วามเหมาะสมและสอดคล้องกบั หลักสตู รปฐมวัย ๒. เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างเหมาะสม รู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้จักการรอ คอย กล้าแสดงออก ชว่ ยเหลือแบง่ ปนั มีความรบั ผดิ ชอบดา้ นสังคม ๓. เด็กชว่ ยเหลือตัวเองในการปฏิบตั ิกิจวัตรประจำวันได้ มีวินัยในตนเอง เล่นร่วมกับผู้อื่น ได้ มสี ัมมาคารวะต่อผูใ้ หญ่ ด้านสติปัญญา มคี วามคิดรวบยอด รจู้ ักการแกป้ ัญหา ส่ือสารและมที ักษะความคิด พื้นฐานแสวงหาความรู้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามวัย 1.2 สร้างโอกาสใหเ้ ด็กได้รับประสบการณ์ตรง เลน่ และปฏบิ ตั ิอย่างมคี วามสขุ กระบวนการพฒั นา จัดประสบการณ์ให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ รู้จักเด็กเป็น รายบุคคลและสร้างโอกาสให้เด็กทุกคนได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและลงมือกระทำผ่านประสาทสัมผัส จัด บรรยากาศที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ ใช้ส่ือและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวยั มีการติดตามและประเมนิ ผลพัฒนาการ เดก็ อยา่ งเป็นระบบ การดำเนนิ งาน กิจกรรม/ ข้ันตอนการดำเนินงาน ๑. ครูระดบั ชนั้ ปฐมวยั รว่ มประชุมวางแผน ๒. จดั ทำหลักสตู รระดบั ปฐมวยั ๓. วเิ คราะห์มาตรฐานคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ในหลกั สตู รสถานศึกษา

๕๔ ๔. จัดทำแผนการจัดประสบการณ์โดยมีกิจกรรมท่ีส่งเสริมพัฒนาการเด็กครบทุก ด้านทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา มีความรู้ คุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมใน การดำรงชีวิต ๕. วิเคราะห์ขอ้ มลู เดก็ เปน็ รายบคุ คล ๖. จัดประสบการณ์ในรูปแบบบูรณาการการเรียนรู้ แบบเรียนผ่านเล่นท้ังใน ห้องเรียนและนอกห้องเรียนโดยจัดกิจกรรมตามตารางประจำวันคือกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเกมการศึกษา ใช้ เทคโนโลยีประกอบกจิ กรรมการจดั การเรยี นการสอน และกจิ กรรมเคลอื่ นไหวเขา้ จังหวะ ๗. เด็กลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเองและการเรียนรู้รายกลุ่ม(กิจกรรมบ้าน วิทยาศาสตรน์ ้อย) ๘. จดั มมุ ส่งเสรมิ ประสบการณก์ ารเรียนรู้ มีการตกแตง่ หอ้ งเรียนใหส้ ดใส และมสี ่ือ การเรียนร้ทู ่เี อ้อื ตอ่ การจดั ประสบการณก์ ารเรียนการสอน ๙. ประเมินพัฒนาการของเด็กปฐมวัย จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และ การจัดกิจวัตรประจำวัน ด้วยเครื่องมือและวิธีการท่ีหลากหลาย เช่น การสังเกต การสอบถาม การสำรวจ และการวิเคราะห์ผลพัฒนาการของเด็ก โดยใหผ้ ปู้ กครองมีส่วนร่วม และนำผลการประเมนิ ที่ได้ไปปรับปรุงการ จัดประสบการณแ์ ละพฒั นาเดก็ ผลการพฒั นา ๑. เด็กได้ประสบการณ์ตรง เกิดการเรียนรู้และมีการพัฒนาท้ังทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม และสตปิ ัญญา ซงึ่ สามารถยืดหย่นุ ได้ความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกับหลกั สูตรปฐมวัย ๒. เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างเหมาะสม รู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้จักการรอ คอย กลา้ แสดงออก ชว่ ยเหลอื แบง่ ปัน มคี วามรบั ผิดชอบดา้ นสงั คม ๓. เด็กช่วยเหลือตัวเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ มีวินัยในตนเอง เล่นร่วมกับผู้อื่น ได้ มีสัมมาคารวะตอ่ ผใู้ หญ่ ดา้ นสติปัญญา มีความคิดรวบยอด ร้จู ักการแก้ปัญหา สื่อสารและมที ักษะความคิด พ้ืนฐานแสวงหาความรไู้ ด้อยา่ งเหมาะสมตามวยั ๑.๓ จดั บรรยากาศที่เอือ้ ต่อการเรียนรู้ ใชส้ อ่ื และเทคโนโลยีท่เี หมาะสมกบั วยั กระบวนการพัฒนา จัดประสบการณ์ให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ รู้จักเด็กเป็น รายบุคคลและสร้างโอกาสให้เด็กทุกคนได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและลงมือกระทำผ่านประสาทสัมผัส จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับวัย มีการติดตามและประเมินผล พัฒนาการเดก็ อยา่ งเป็นระบบ การดำเนนิ งาน กิจกรรม/ ขน้ั ตอนการดำเนินงาน ๑. ครูระดบั ช้ันปฐมวัยรว่ มประชมุ วางแผน ๒. จัดทำหลกั สตู รระดับปฐมวัย ๓. วิเคราะหม์ าตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ในหลกั สูตรสถานศึกษา ๔. จัดทำแผนการจัดประสบการณ์โดยมีกิจกรรมท่ีส่งเสริมพัฒนาการเด็กครบทุกด้าน ท้ังทางด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา มีความรู้ คุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมในการ ดำรงชีวิต

๕๕ ๕. วิเคราะหข์ ้อมูลเดก็ เปน็ รายบคุ คล ๖. จัดประสบการณ์ในรปู แบบบูรณาการการเรียนรู้ แบบเรยี นผ่านเล่นท้ังในห้องเรียน และนอกห้องเรียนโดยจัดกิจกรรมตามตารางประจำวันคือกิจกรรมการเคล่ือนไหวและจังหวะ กิจกรรม สร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเกมการศึกษา ใช้เทคโนโลยี ประกอบกจิ กรรมการจดั การเรยี นการสอน และกจิ กรรมเคลือ่ นไหวเขา้ จงั หวะ ๗. เด็กลงมือปฏิบัติจรงิ ดว้ ยตนเองและการเรียนรู้รายกลมุ่ (กิจกรรมบ้านวิทยาศาสตร์ น้อย) ๘. จัดมุมส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ มีการตกแต่งห้องเรียนให้สดใส และมีส่ือ การเรยี นรทู้ ี่เอ้ือตอ่ การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นการสอน ๙. ประเมินพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย จากการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ และการจดั กิจวัตรประจำวัน ด้วยเคร่ืองมือและวิธีการท่ีหลากหลาย เช่น การสังเกต การสอบถาม การสำรวจ และการ วิเคราะห์ผลพัฒนาการของเด็ก โดยให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วม และนำผลการประเมินที่ได้ไปปรับปรุงการจัด ประสบการณ์และพัฒนาเดก็ ผลการพัฒนา ๑. เด็กได้ประสบการณ์ตรง เกิดการเรียนรู้และมีการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม และสติปญั ญา ซงึ่ สามารถยืดหยุ่นได้ความเหมาะสมและสอดคล้องกับหลักสตู รปฐมวัย ๒. เด็กมพี ัฒนาการด้านอารมณค์ วามรสู้ กึ ไดอ้ ย่างเหมาะสม รู้จักยบั ย้ังชั่งใจ รู้จักการรอคอย กล้าแสดงออก ชว่ ยเหลือแบ่งปัน มีความรับผิดชอบดา้ นสังคม ๓. เด็กชว่ ยเหลือตัวเองในการปฏบิ ัติกิจวตั รประจำวนั ได้ มวี ินยั ในตนเอง เลน่ รว่ มกบั ผูอ้ ่นื ได้ มีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ ด้านสติปัญญา มีความคิดรวบยอด รู้จักการแก้ปัญหา ส่ือสารและมีทักษะความคิด พืน้ ฐานแสวงหาความรูไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามวัย ๑.๔ ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจรงิ และนำผลการประเมนิ พฒั นาการเด็กไปปรับปรุง การจดั ประสบการณแ์ ละพฒั นาเด็ก กระบวนการพัฒนา จัดประสบการณ์ให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ รู้จักเด็กเป็น รายบุคคลและสร้างโอกาสให้เด็กทุกคนได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและลงมือกระทำผ่านประสาทสัมผัส จัด บรรยากาศที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ ใชส้ ื่อและเทคโนโลยที ี่เหมาะสมกับวยั มีการติดตามและประเมินผลพัฒนาการ เดก็ อยา่ งเปน็ ระบบ การดำเนนิ งาน กิจกรรม/ข้นั ตอนการดำเนนิ งาน ๑. ครูระดบั ชัน้ ปฐมวัยรว่ มประชุมวางแผน ๒. จัดทำหลักสูตรระดับปฐมวัย ๓. วเิ คราะห์มาตรฐานคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงคใ์ นหลักสูตรสถานศกึ ษา ๔. จัดทำแผนการจัดประสบการณ์โดยมีกิจกรรมท่ีส่งเสริมพัฒนาการเด็กครบทุกด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา มีความรู้ คุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมในการ ดำรงชีวติ ๕. วิเคราะห์ขอ้ มลู เด็กเป็นรายบุคคล ๖. จัดประสบการณ์ในรูปแบบบูรณาการการเรียนรู้ แบบเรียนผ่านเล่นท้ังในห้องเรียน และนอกห้องเรียนโดยจัดกิจกรรมตามตารางประจำวันคือกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรม

๕๖ สร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเกมการศึกษา ใช้เทคโนโลยี ประกอบกจิ กรรมการจัดการเรยี นการสอน และกิจกรรมเคลือ่ นไหวเข้าจังหวะ ๗. เด็กลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเองและการเรียนรู้รายกลุ่ม(กิจกรรมบ้านวิทยาศาสตร์ นอ้ ย) ๘. จัดมุมส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ มีการตกแต่งห้องเรียนให้สดใส และมีสื่อ การเรียนร้ทู ี่เอื้อตอ่ การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นการสอน ๙. ประเมนิ พฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย จากการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ และการจัด กิจวัตรประจำวัน ด้วยเครื่องมือและวิธีการที่หลากหลาย เช่น การสังเกต การสอบถาม การสำรวจ และการ วิเคราะห์ผลพัฒนาการของเด็ก โดยให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วม และนำผลการประเมินที่ได้ไปปรับปรุงการจัด ประสบการณ์และพัฒนาเดก็ ผลการพฒั นา ๑. เด็กได้ประสบการณ์ตรง เกิดการเรียนรู้และมีการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ซง่ึ สามารถยืดหยนุ่ ได้ความเหมาะสมและสอดคล้องกับหลักสูตรปฐมวยั ๒. เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างเหมาะสม รู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้จักการรอ คอย กลา้ แสดงออก ช่วยเหลอื แบง่ ปัน มคี วามรับผิดชอบดา้ นสังคม ๓. เดก็ ชว่ ยเหลือตวั เองในการปฏบิ ัตกิ ิจวัตรประจำวันได้ มีวนิ ัยในตนเอง เล่นรว่ มกับผูอ้ ื่น ได้ มสี มั มาคารวะต่อผู้ใหญ่ ด้านสตปิ ัญญา มคี วามคิดรวบยอด รู้จักการแกป้ ัญหา ส่ือสารและมที ักษะความคิด พื้นฐานแสวงหาความรู้ได้อยา่ งเหมาะสมตามวยั ๒. จดุ เดน่ มาตรฐานที่ 3 จัดประสบการณ์ให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ รจู้ ักเด็กเปน็ รายบุคคลและ สร้างโอกาสให้เด็กทุกคนได้รับประสบการณ์ตรง เลน่ และลงมือกระทำผ่านประสาทสัมผัส จัดบรรยากาศที่เอ้ือ ต่อการเรียนรู้ ใช้ส่ือและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับวัย มีการติดตามและประเมินผลพัฒนาการเด็กอย่างเป็น ระบบเด็กเรียนรู้จากการเลน่ และปฏิบตั กิ ิจกรรม ผ่านโครงการบา้ นวิทยาศาสตร์นอ้ ยอย่างต่อเน่ืองส่งผลให้เด็ก มีพัฒนาการการอย่างสมดุล มีบรรยากาศ สภาพห้องเรียนเอ้ือต่อการเรียนรู้ มีการประเมินผลเด็กด้วยวิธีการ หลากหลาย ๓. จดุ ทค่ี วรปรบั ปรุง มาตรฐานท่ี ๓ ๑. จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมในส่วนของการผลิตสื่อ และจัดมุมประสบการณ์ต่าง ๆ ใน ห้องเรยี น เพื่อเป็นแหลง่ เรียนรทู้ ี่เด็กสามารถสัมผสั และเรียนรไู้ ดใ้ กลช้ ิด ๒. จัดซ้ือเครื่องเล่นสนาม กระบะทราย เพ่ิมเติม เน่ืองจากท่ีมีอยู่เดิมชำรุด ไม่สวยงาม และไม่ ปลอดภยั ๔. แนวทางการพฒั นาให้ไดร้ ะดบั คณุ ภาพท่ีสงู ข้ึน โรงเรียนได้มีแนวทางในการพัฒนามาตรฐานท่ี ๓ ให้ได้ระดับคุณภาพท่ีสูงขึ้นโดยกำหนด โครงการและกิจกรรม ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. โครงการการสอนแบบไฮสโคป ๒. โครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน เช่น ปรับปรุงห้องเรียน มุมประสบการณ์ ส่ือ การเรียนรู้ และเพมิ่ กจิ กรรมการทดลองโครงการบา้ นวิทยาศาสตรน์ อ้ ย ๓. โครงการพฒั นาเคร่อื งเลน่ สนาม

๕๗ ๔. โครงการส่งเสริมสขุ ภาพและสุนทรยี ภาพเดก็ ๕. โครงการส่งเสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นิยมทพี่ ึงประสงค์ ๖. โครงการสบื สานวัฒนธรรมประเพณีท้องถ่นิ และวันสำคญั ๕. ผลสมั ฤทธิ์ที่เกดิ ข้ึนกบั ครูผู้สอน และรางวลั ทไี่ ด้รับ ท่ี ช่ือรางวัล หนว่ ยงานท่มี อบ ปที ี่ไดร้ บั - Qr code ๖. แหล่งข้อมลู หลักฐานเอกสารอา้ งอิง ท่ี เอกสารหลกั ฐาน ๑ หลกั สูตรสถานศึกษาระดบั ปฐมวัย ๒ แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ ๓ ภาพการจดั กิจกรรมกจิ วตั รประจำวนั ๔ ภาพมุมประสบการณ์การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ ๕ รายงานผลการประเมนิ ตนเอง ๖ ภาพผลงานเดก็ ๗ แบบบันทกึ การพฒั นาการของเดก็ ระดับการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน มาตรฐานท่ี ๑ คุณภาพผเู้ รียน ๑.๑ ผลการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ยอดเย่ียม ๑.๒ กระบวนการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน ๑.๒.๑ ดา้ นผลสัมฤทธิท์ างวชิ าการของผู้เรียน ๑) ดา้ นความสามารถในการอา่ น การเขยี น การสือ่ สาร และการคดิ คำนวณ มคี วามสามารถ ในการอ่าน การเขยี น การส่อื สารและการคิดคำนวณ ผูเ้ รียนมที ักษะในการอ่าน การเขยี น การสือ่ สาร และการ คิดคำนวณตามเกณฑ์ทสี่ ถานศกึ ษากำหนดในแต่ละระดบั ช้นั โครงการยกระดบั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน กิจกรรม/ ขั้นตอนการดำเนินงานดงั นี้ (๑) กจิ กรรม “คลนิ กิ รักการอา่ น” (๑.๑) สอนซอ่ มเสริมโดยใช้คลินิกรกั การอ่าน จำนวน 5 ห้อง (๑.๑.๑) ห้องสระ/ พยัญชนะ (๑.๑.๒) ห้องสะกดคำแม่ ก กา (๑.๑.๓) ห้องสะกดคำตรงมาตรา (๑.๑.๔) ห้องสะกดคำไมต่ รงมาตรา (๑.๑.๕) ห้องจับใจความสำคญั (๒) กจิ กรรม “คลนิ กิ หมอภาษา” (๒.๑) รกั ษา โรค ร ล ลกั ปดิ ลกั เปิด

๕๘ ของ สพฐ. (๒.๒) รักษา โรคคำควบกลำ้ เปน็ พษิ (๒.๓) รกั ษา โรค ส ซ อกั เสบ (๒.๔) รกั ษา โรควรรณยกุ ตเ์ คล่อื นเร้ือรงั (๒.๕) รกั ษา โรคมะเรง็ หลอดเสยี ง ช ฉ (๓) กิจกรรม “คิดเลขเป็น” (๓.๑) ฝึกให้นักเรียนฝึกคิดเลขเร็วในชั้นเรียน โดยใช้แบบฝึกคิดเลขเร็ว (๓.๒) นักเรยี นกลุ่มสนใจฝกึ คิดเลขเรว็ จากโปรแกรมในอินเทอร์เนต็ (๔) กิจกรรม ”การยกระดับผลสัมฤทธส์ิ คู่ ณุ ภาพผู้เรียน” (๔.๑) วิเคราะห์หลักสตู ร (๔.๒) วิเคราะหผ์ ลการทดสอบ O-NET NT และ RT ในปีทผี่ ่านมา (๔.๓) ปรับเปล่ียนวิธีสอนของครูให้สอดคล้องกับการประเมินผลตาม หลักสูตรแกนกลางและจากผลวิเคราะห์การทดสอบ O-NET NT และ RT โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ Active learning (๔.๔) กจิ กรรมสอนซ่อมเสริม (๔.๕) ติว O-NET NT ตามตารางท่กี ำหนด (๔.๖) จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยวิธีท่ีหลากหลาย เช่น On - Site, On – Line, On - Hand, On - Demand, On - School Line โดยใช้ Application ตา่ ง ๆ (๔.๗) ประเมนิ ผลภาคเรียนละ ๒ ครั้ง (๕) กจิ กรรม “การพฒั นากระบวนการเรยี นรดู้ ว้ ย Active Learning” (๕.๑) ฝกึ ทกั ษะอาชพี เพอื่ หารายไดร้ ะหวา่ งเรียนไดแ้ ก่ กจิ กรรม ทำขนม เจลลา้ งมือ (๕.๒) กิจกรรมบูรณาการการเรียนการสอนแบบโครงงาน ได้แก่ โครงงาน ฝึกทักษะอาชพี โครงงานวิทยาศาสตร์ (๖) กิจกรรม “โครงการภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร” ได้แก่ กิจกรรม ภาษาองั กฤษวันละคำ การทกั ทายภาษาอังกฤษก่อนเขา้ เรยี น ภาษาองั กฤษวันละประโยค (๗) กจิ กรรม “โครงการส่งเสรมิ กจิ กรรมนักเรียน” เชน่ - กจิ กรรมวนั วทิ ยาศาสตร์ - กิจกรรมวันภาษาไทย - กิจกรรม “ไทยนยิ มย่ังยนื รว่ มกันแกไ้ ขปญั หายาเสพติด (ครูแด)” - กิจกรรมทำเจลลา้ งมอื ต้านโควิด-๑๙ ฯลฯ ผลการดำเนนิ งาน (๑) กจิ กรรม “คลนิ กิ รกั การอ่าน” ผลการประเมนิ การอ่านเขียนอย่ใู นระดับ ดีมาก (๒) กจิ กรรม “คลนิ ิกหมอภาษา” ผลการประเมนิ การอา่ นเขยี นอยใู่ นระดบั ดมี าก (๓) กิจกรรม “คิดเลขเป็น” นักเรยี นมีความรู้และทกั ษะในคิดเลขเป็นและคิดได้เร็ว ขึ้นโดยใช้โปรแกรม/ แบบฝกึ คิดเลขเรว็ (๔) กิจกรรม “การยกระดบั ผลสัมฤทธ์สิ ูค่ ุณภาพผเู้ รยี น”

๕๙ (๔.๑) ผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนของนักเรียนเป็นไปตามหลักสูตรสถานศกึ ษา กำหนด (๔.๒) ผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET) ) ระดับช้ัน ป.๖ และ ม.3 ปี การศกึ ษา ๒๕๖๔ สงู ขึ้น (กลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตร์) (๔.๓) ผลการประเมนิ กิจกรรมการอ่าน การเขยี นระดับ ป.๑ - ๓ , ป.๔ - ๖ ผลไม่ดีเท่าท่ีควร เน่ืองจากสถานการณ์โควิด โรงเรียนไม่ได้เปิด On Site ทำให้นักเรียนไม่ได้รับการพัฒนา อย่างทว่ั ถึง (๕) กิจกรรม “การพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ดว้ ย Active Learning” (๕.๑) ฝึกทักษะอาชพี ทำขนม เจลล้างมอื นักเรียนสามารถผลิตชิ้นงาน และนำไปจำหนา่ ยเพื่อการมรี ายไดร้ ะหวา่ งเรียน (๕.๒) นักเรยี นสามารถจดั ทำบญั ชรี ายรับ - รายจา่ ย ได้ (๕.๓) นกั เรยี นสามารถคดิ วเิ คราะหแ์ ละแก้ปญั หาจากการทำกิจกรรม โครงงานได้ (๖) กิจกรรม “โครงการภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร” นักเรียนสามารถทักทาย ประโยคส้ันๆเปน็ ภาษาอังกฤษได้ ๒) ดา้ นความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ คดิ อย่างมีวิจารณญาณ อภปิ รายแลกเปลยี่ นความ คดิ เห็น และแก้ปญั หา ๒.๑) จัดกิจกรรมคณิตคิดเรว็ โดยใช้จินตคณิตให้กับผู้เรียนทุกคน ต้ังแต่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 - 6 ประมาณ 10 นาทีก่อนเรียนเนื้อหาคณิตศาสตร์ทุกวัน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนทุกระดับช้ัน ได้รับการฝึกทักษะกระบวนการคิดและมีเทคนิค การคิดเลขได้อย่างรวดเร็ว คิดได้อย่างถูกต้อง เพื่อส่งเสริม กระตุ้นให้นักเรยี นมคี วามกระตือรือร้น ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ในวชิ าคณิตศาสตรแ์ ละนักเรยี นมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน คณติ ศาสตรส์ ูงข้นึ ผลการดำเนินการ ทำให้นักเรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ สามารถอภิปรายและ แก้ปัญหาได้ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์สูงข้ึนและผลการทดสอบระดับชาติ (O-Net ปี การศึกษา ๒๕๖๔) สูงกว่าระดับประเทศ และสามารถทำบัญชีรายรับรายจ่ายการทำขนม คดิ กำไรขาดทุนเป็น และสามารถนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ ๓) ดา้ นความสามารถในการสรา้ งนวตั กรรม นักเรียนสามารถสร้างสรรค์ผลงาน ได้แก่ การใช้อินโฟกราฟิก ในวิชาภาไทยระดับ มัธยมศึกษามาใชป้ ระโยชนเ์ รื่อง คำท่ีมักใช้ผิดในสงั คมออนไลน์ และการตดั ตอ่ วีดโี อ (Tik Tok) ในการนำเสนอ ผลงานของนักเรยี นระดบั ช้นั ประถมศึกษาและระดับช้นั มธั ยมศึกษา ๔) ดา้ นความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่อื สาร ๔.๑) การเทคโนโลยีสร้างสรรค์ผลงาน ได้แก่ การใช้อินโฟกราฟิก ในวิชาภาไทยระดับ มธั ยมศึกษามาใช้ประโยชน์เร่ือง คำท่ีมกั ใชผ้ ิดในสังคมออนไลน์ และการตัดตอ่ วีดโี อ (Tik Tok) ในการนำเสนอ ผลงานของนักเรียนระดับชนั้ ประถมศกึ ษาและระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษา ๔.๒) ใชเ้ ว็บไซตแ์ ละเพจ ท่สี นับสนนุ กิจกรรมการเรียนการสอนต่าง ๆ ในระบบออนไลน์ เชน่ ทรูปลูกปัญญา หรอื อื่น ๆ ในทกุ สาระการเรียนรู้ ๕) ด้านการมีผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนตามหลักสตู รสถานศึกษา

๖๐ นักเรียนได้รับการความรู้อย่างเต็มตามศักยภาพของตนโดยผ่านกิจกรรมท่ีหลากหลาย เชน่ ๕.๑) กิจกรรมการเรียนรู้ตามโครงสร้างหลักสูตรตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ใน หอ้ งเรยี นและนอกหอ้ งเรียน ๕.๒) ฝึกทกั ษะอาชพี เพือ่ หารายไดร้ ะหว่างเรยี นได้แก่ กจิ กรรม ทำขนม เจลล้างมอื ๕.๓) กิจกรรมบูรณาการการเรียนการสอนแบบโครงงาน ได้แก่ โครงงาน วิทยาศาสตร์ประเภททดลอง ทำเจลล้างมือต้านโควิด ๑๙ โครงงานฝึกทักษะอาชีพการทำขนมเพ่ือหารายได้ ระหวา่ งเรียน ๕.๔) กิจกรรม “โครงการภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร” ได้แก่ การทักทาย ภาษาอังกฤษก่อนเข้าเรียน กจิ กรรมภาษาอังกฤษวนั ละคำ ภาษาองั กฤษวันละประโยค ๕.๕) กิจกรรม “โครงการส่งเสริมกจิ กรรมนกั เรยี น” เช่น - กิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ - กิจกรรมวันภาษาไทย - กจิ กรรม “ไทยนิยมย่งั ยืน รว่ มกันแก้ไขปัญหายาเสพตดิ (ครแู ด)” - กิจกรรมทำเจลลา้ งมือตา้ นโควิด - ๑๙ ฯลฯ ส่งผลให้นักเรียนมีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษากำหนดรอ้ ย ละ ๑๐๐ ๖) ดา้ นความรู้ ทักษะพน้ื ฐาน และเจตคตทิ ดี่ ตี ่องานอาชีพ กจิ กรรมบรู ณาการการเรยี นการสอนแบบโครงงาน ได้แก่ ๑. โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง ทำเจลล้างมือต้านโควิด ๑๙ และนักเรียน สามารถทำเจลล้างมือจำหน่ายให้สหกรณ์โรงเรียนและบุคคลท่ัวไป ทำบัญชีรายรับรายจ่าย คำนวณต้นทุน กำไร - ขาดทุนได้ ๒. โครงงานฝกึ ทกั ษะอาชีพการทำขนมเพ่ือหารายไดร้ ะหว่างเรยี น ทำบญั ชีรายรับ - รายจ่าย คำนวณต้นทนุ กำไร - ขาดทนุ ได้ ส่งผลใหน้ ักเรียนมีความรู้ ทกั ษะพืน้ ฐานและเจตคติท่ีดตี ่องานอาชพี ๑.๒.๒ คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ๑) การมีคณุ ลกั ษณะและคา่ นิยมทดี่ ีตามท่สี ถานศึกษากำหนด (๑) โครงการสง่ เสรมิ ความสัมพนั ธบ์ า้ น วดั โรงเรยี น มีกิจกรรมดงั นี้ (๑.๑) กจิ กรรมหนา้ เสาธง (๑.๒) กิจกรรมทำความดีระหวา่ งเรียน (๑.๓) กิจกรรมประจำสปั ดาห์ (๑.๔) กจิ กรรมเนื่องในวนั สำคญั ทางพระพทุ ธศาสนา (๑.๕) กิจกรรมพิเศษอน่ื ๆ ได้แก่ กิจกรรมบนั ทึกความดี (แบบบนั ทกึ ความด)ี กิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ร่วมกิจกรรมวัฒนธรรมประเพณีของชุมชน (บุญผะเหวด) อบรมคุณธรรมจริยธรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา (วันมาฆบูชา) กิจกรรมสร้างสรรค์ สังคม เช่น ทำความสะอาดโรงเรียน เป็นต้น กิจกรรมปฏิสัมพันธ์ เช่น ครูทักทายนักเรียนด้วยกิริยาวาจา อ่อนหวาน มเี มตตา นักเรยี นถ่ายคลปิ การชว่ ยงานบา้ นสง่ ครูทาง Application Line (๒) โครงการโรงเรียนคณุ ภาพประจำตำบล

๖๑ (๓) โครงการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงสู่การปฏิบตั ิ (๔) โครงการส่งเสริมประชาธปิ ไตยในโรงเรียน (๕) โครงการโรงเรยี นสขี าว (๖) โครงการสง่ เสรมิ กฬี านกั เรยี น (๗) โครงการลกู เสอื เข้มแข็ง (๘) โครงการออมทรพั ย์ โดยจดั กจิ กรรมดังตอ่ ไปน้ี (๘.๑) ปฏิบตั ิตามระยะเวลาทีก่ ำหนดของโครงการตา่ ง ๆ ในแผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปี (๘.๒) ประเมินและรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการประจำปีต่อ ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา (๘.๓) ประชุมสรุปผลการดำเนินงานตามโครงการต่าง ๆ พร้อมปัญหาอุปสรรคและ ข้อเสนอแนะปรับปรุงในการดำเนินงานให้ดีข้ึน ผลการดำเนินงาน (๘.๓.๑) นกั เรยี นมีคณุ ลักษณะและค่านิยมทีด่ ีตามทส่ี ถานศกึ ษากำหนด (๘.๓.๒) โรงเรียนมีกิจกรรมที่ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม ท่ีพึง ประสงค์ให้ผู้เรยี น เช่น โรงเรียนวิถีพุทธ โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล กิจกรรมจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ เน่ืองในวันสำคัญต่าง ๆ ส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีเป็นแบบอย่างได้ และมีกิจกรรมส่งเสริม ทักษะอาชีพให้กับนักเรียนให้ได้รับความรู้และลงมือปฏิบัติจริง ตามโครงการทักษะชีวิตเพื่อสร้างแกนนำ นกั เรยี น (๘.๓.๓) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย ดำเนินงานตามโครงการ ชมุ ชนนวตั วถิ ีเศรษฐกิจพอเพียง การทำบายศรีสู่ขวัญ การทำขนม (๘.๓.๔) การยอมรับท่ีจะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ส่งเสริม ความเสมอภาคและโอกาสทางการศึกษา โดยรับนักเรียนชาวต่างชาติ (สปป.ลาว) ท่ีติดตามผู้ปกครองมา ทำงานในประเทศไทย รวมถึงการคัดกรองนักเรียนที่บกพร่องการเรียนรู้ และจัดทำแผนการพัฒนาเป็น รายบุคคล (๘.๓.๕) สุขภาวะทางร่างกายและลักษณะจิตสังคม ดำเนินงานตามโครงการ เยาวชนรุ่นใหม่เรยี นรู้ สขุ ภาพตนเอง เชิญวิทยากรมาใหค้ วามรเู้ กีย่ วกับการดแู ลสุขภาพวัยรุ่น และการปอ้ งกัน ตนเองจากภัยยาเสพติด การเลือกรับประทานอาหาร ภัยจากการคุกคามทางเพศ ภัยจากอุบัติเหตุ โครงการ แก้ปัญหาท้องกอ่ นวยั อนั ควร ๒) ความภมู ิใจในทอ้ งถ่นิ และความเปน็ ไทย ๑. กิจกรรมใส่ผ้าไทยในวนั องั คาร นักเรยี น ครู และบุคลากรทางการศกึ ษา ๒. กจิ กรรมวิถีชุมชน เชน่ ศูนย์เศรษฐกจิ พอเพียงในทอ้ งถนิ่ ๓) การยอมรบั ที่จะอยู่รว่ มกนั บนความแตกตา่ งและหลากหลาย กจิ กรรมส่งเสริมประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น เชน่ การเลอื กประธานนกั เรียน สภานกั เรียน การเลอื กหัวหนา้ หอ้ ง เป็นต้น ๔) สุขภาวะทางรา่ งกายและจติ ใจ (๔.๑) โครงการส่งเสริมกีฬานักเรียน ได้แก่ กิจกรรมกีฬาสีภายในโรงเรียน กีฬากลุ่ม เครอื ข่ายเสอเพลอผาสุก

๖๒ (๔.๒) โครงการลกู เสือเข้มแขง็ ไดแ้ ก่ กจิ กรรมเดนิ ทางไกล กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ เช่น รว่ มกจิ กรรมประเพณีวัฒนธรรมในวนั สำคญั ต่าง ๆ เชน่ วันมาฆบูชา วนั เข้าพรรษา วนั อาสาฬหบูชา วนั วสิ าขบู ชา และประเพณีของชมุ ชน เชน่ บุญขา้ วประดับดนิ บญุ ผเหวด เป็นตน้ ๑.๓ ผลการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ผลการพัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างวชิ าการของผเู้ รียน ผู้เรียนสามารถอา่ นออก เขยี นได้ตามมาตรฐานระดับชน้ั โดย ผู้เรียน สามารถเขียนสอ่ื สารได้ รู้จักวางแผน ทำงานร่วมกับผู้อ่นื ไดต้ ามระบอบประชาธปิ ไตย กล้าแสดงออก เช่น เป็นผ้นู ำในกจิ กรรมต่าง ๆ ที่ ทางโรงเรียนจัดขนึ้ แสดงความคิดเห็น เช่น เม่ือครูให้ออกความคิดเห็นนักเรียนกล้าท่ีจะให้ความคิดเห็นให้กับ ครู เพื่อน หรือน้อง ๆ ได้ สืบค้นข้อมูลและแสวงหาความรู้จากสื่อเทคโนโลยดี ้วยตนเอง รวมท้ังวิเคราะห์ข้อมูล ส่ิงไหนดี เหมาะสม หรือไม่ดี รูเ้ ทา่ ทนั สื่อและสังคมท่เี ปล่ยี นแปลง ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น ผลการพฒั นาคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ จากการดำเนนิ การพัฒนาคณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ของผู้เรียน ทำให้ผู้เรยี น รูแ้ ละตระหนักถึง โทษและพิษภัยของสิ่งเสพติดต่าง ๆ เลือกรับประทานอาหารท่ีสะอาด และมีประโยชน์ รักการออกกำลังกาย นกั เรียนทุกคนสามารถเลน่ กีฬาได้อย่างนอ้ ยคนละประเภท ยอมรับในกฎ กติกาของกลุ่ม ของสถานศึกษา ของ สังคม มีทศั นคตทิ ี่ดีตอ่ อาชพี สุจริต รวมถึงมคี วามเข้าใจเรอื่ งความแตกตา่ งระหว่างบุคคลและระหวา่ งวัย ๑.๔ จดุ เดน่ ด้านผลสมั ฤทธ์ทิ างวิชาการของผ้เู รยี น ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนตามหลักสูตรที่สถานศึกษกำหนด และผลการทดสอบทาง การศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา ๒๕๖๔ กลุม่ สาระวิทยาศาสตรม์ คี า่ เฉลย่ี สูงกว่าระดับประเทศ ดา้ นคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงคข์ องผู้เรยี น ผู้เรียนมีระเบียบวินัย จนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา เป็นท่ียอมรับของชุมชนโดยรอบใน เรื่องความมีวินัย เคารพกฎกติกา มารยาทของสังคม ได้แก่ การเข้าคิวรับของในงานสาธารณะต่าง ๆ ผู้เรียน เป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต เห็นได้จากไม่มีการลักขโมยในห้องเรียนโรงเรียน ประหยัดมัธยัสถ์จากโครงการออม ทรพั ย์ ๑.๕ จุดควรพฒั นา ดา้ นผลสมั ฤทธ์ิทางวิชาการของผเู้ รียน เป็นส่งิ ที่ผเู้ รียนมีผลการประเมินอยู่ในระดบั ปานกลาง เช่น ผเู้ รียนควรพัฒนาในด้านการรจู้ ัก วางแผน การกล้าแสดงออก และแสดงความคิดเห็น และเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ และภาษาองั กฤษให้สงู ขึน้ ด้านคุณลักษณะทพี่ ึงประสงคข์ องผู้เรยี น ๑) ผเู้ รียนควร มกี ารปอ้ งกันตนเองจากภยั ทางอินเตอรเ์ น็ต เช่น การเล่นพนนั ออนไลน์ ๒) ผู้เรียนในระดับช้ัน ม.๑ – ม.๓ ยังต้องได้รับการส่งเสริมในด้านทัศนคติที่ดีต่อความเป็น ไทย ไมห่ ลงใหลกบั คา่ นยิ มตา่ งชาติ จนเกดิ การลอกเลยี นแบบ ทำให้ลืมวัฒนธรรมอันดงี ามของไทย

๖๓ ๑.๖ แนวทางการพัฒนาให้ได้ระดับคณุ ภาพที่สงู ขนึ้ โรงเรยี นได้มีแนวทางในการพฒั นามาตรฐานท่ี ๓ ใหไ้ ด้ระดับคุณภาพที่สงู ข้นึ โดยกำหนดโครงการ และกจิ กรรม ดังตอ่ ไปน้ี ๑) พัฒนาให้นักเรียนมีทักษะในการอ่าน การเขียน การส่ือสาร และการคิดคำนวณเป็นไป ตามเกณฑ์ท่ี โรงเรยี นกำหนดในแต่ระดับช้นั ๒) พัฒนาให้นักเรียนมีความสามารถในการคิดจำแนก แยกแยะ ใคร่ครวญไตรต่ รอง พิจารณา อย่างรอบคอบ โดยใช้เหตุผลประกอบการตดั สนิ ใจ มกี ารอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปญั หาอย่าง มเี หตุผล ๓) พัฒนาให้นักเรียนมีความสามารถในการรวบรวมความรู้ได้ท้ังด้วยตนเองและการทำงาน เป็นทมี เช่ือมโยงองคค์ วามรู้ และประสบการณ์มาใชใ้ นการสรา้ งสรรคส์ ิง่ ใหม่ ๆ ๔) พัฒนาให้นักเรียน มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเพ่ือ พฒั นาตนเอง และสังคมในดา้ นการเรียนรู้ การสอื่ สาร การทำงาน อยา่ งสร้างสรรค์ และมคี ณุ ธรรม ๕) พัฒนาให้นักเรียน มีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ตามหลกั สูตรสถานศึกษาจากพื้นฐานเดิม ในดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ กระบวนการต่าง ๆ ๖) พัฒนาให้นักเรียนมีความก้าวหน้าในผลการทดสอบระดับชาติ มีความรู้ ทักษะพื้นฐานใน การจัดการเจตคติท่ีดีพรอ้ มที่จะศึกษาต่อในระดับชั้นท่ีสูงขึ้น มีพฤติกรรมเป็นผู้ท่ีมีคุณธรรม จริยธรรม เคารพ ในกฎกติกา ๗) พัฒนาให้นักเรียนมีค่านิยมและจิตสำนึกตามท่ีสถานศึกษามีความภูมิใจในท้องถ่ิน เห็น คุณคา่ ของความเปน็ ไทย มีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมประเพณีไทยรวมทั้งภูมปิ ญั ญาไทย ๘) พัฒนาให้นักเรียน มีการรกั ษาสุขภาพกาย สขุ ภาพจิต อารมณ์ และสงั คม แสดงออกอย่าง เหมาะสมใน แต่ละชว่ งวัย โดยมีแผนงาน/ โครงการท่ีโรงเรยี นดำเนินงานมีดังนี้ (๘.๑) โครงการยกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น (๘.๒) โครงการปรับปรุงระบบข้อมูลสารสนเทศและนำระบบดจิ ทิ ลั เทคโนโลยมี าใช้ (๘.๓) โครงการสง่ เสรมิ ความสัมพันธ์บา้ น วดั โรงเรียน (๘.๔) โครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล (๘.๕) โครงการนอ้ มนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏบิ ตั ิ (๘.๖) โครงการโรงเรียนสีขาว (๘.๗) โครงการส่งเสรมิ กฬี านกั เรียน (๘.๘) โครงการลูกเสอื เข้มแข็ง (๘.๙) โครงการออมทรพั ย์ (๘.๑๐) โครงการรักษ์การอ่าน-เขียน (๘.๑๑) หลักสตู รสถานศกึ ษา (๘.๑๒) แผนปฏบิ ัติราชการ (๘.๑๓) แผนการจดั การเรยี นรู้ Active Learning

๖๔ ๑.๗ ผลสมั ฤทธ์ิทเ่ี กดิ ขึ้นกับผเู้ รียน และรางวัลทไ่ี ด้รับ ท่ี ชือ่ รางวลั หน่วยงานท่มี อบ ปีท่ีได้รับ โรงเรยี นบา้ นนาดีสรา้ งบง ๒๕๖๔ ๑ นางสาวพัชรพร นาสมยนต์ โรงเรยี นบา้ นนาดีสรา้ งบง ๒๕๖๔ เปน็ ผมู้ ีผลการเรียนยอดเยี่ยม อันดับ 1 โรงเรยี นบา้ นนาดสี รา้ งบง ๒๕๖๔ โรงเรียนบา้ นนาดสี รา้ งบง ๒๕๖๔ ๒ นางสาวพัชรพร นาสมยนต์ โรงเรยี นบา้ นนาดีสรา้ งบง ๒๕๖๔ เปน็ ประธานสภานักเรยี น ปีการศึกษา 2564 โรงเรยี นบา้ นนาดีสรา้ งบง ๒๕๖๔ โรงเรยี นบ้านนาดีสรา้ งบง ๒๕๖๔ ๓ นางสาวขวญั จริ า สุขรมย์ โรงเรียนบา้ นนาดีสรา้ งบง ๒๕๖๔ เปน็ รองประธานสภานักเรยี น ปีการศึกษา 2564 โรงเรยี นบา้ นนาดสี รา้ งบง ๒๕๖๔ โรงเรยี นบ้านนาดสี รา้ งบง ๒๕๖๔ ๔ นางสาวขวญั จริ า สุขรมย์ เป็นผู้มีทกั ษะดา้ นวิชาการเปน็ เลิศ โรงเรยี นบ้านนาดีสรา้ งบง ๒๕๖๔ ๕ นางสาวพชั ราภา โกยชยั โรงเรยี นบ้านนาดสี รา้ งบง ๒๕๖๔ เปน็ ผู้มจี ิตสาธารณะและสรา้ งคุณประโยชน์แก่โรงเรยี น ๖ นางสาวพัชราภา โกยชยั เปน็ ผ้นู ำในการจดั กจิ กรรมนันทนาการ ๗ นางสาวรวภิ า นิลสนธิ เปน็ ผมู้ ีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและสรา้ งคุณงามความดี ๘ นางสาวรวิภา นิลสนธิ เปน็ ผู้นำในการจัดกจิ กรรมและมีจิตสาธารณะ ๙ นายอนุชติ กองเงิน เปน็ บุคคลสาธารณะและสรา้ งคุณประโยชน์แก่โรงเรยี น ๑๐ นายศุภกิตต์ิ มะโฮง เปน็ ผู้มีความสามารถดา้ นกฬี าโดดเดน่ นายวนั เฉลิม แสงสว่าง ๑๑ เป็นผมู้ ีความโดดเดน่ ด้านกจิ กรรมนันทนาการและเป็นผ้นู ำ แฟชน่ั ๑๒ นายธนวฒั น์ หอมยามเยน็ เป็นผ้มู ที ักษะการใชเ้ ทคโนโลยีเป็นเลศิ

๖๕ ๑.๘ แหลง่ ขอ้ มูลหลักฐานเอกสารอ้างอิง ท่ี เอกสารหลกั ฐาน Qr code ๑ รายงานโครงการยกระดบั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น ๒ รายงานโครงการสง่ เสริมความสัมพันธบ์ า้ น วดั โรงเรียน ๓ รายงานโครงการน้อมนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่การปฏบิ ตั ิ ๔ รายงานโครงการโรงเรยี นสขี าว ๕ รายงานโครงการสง่ เสรมิ กีฬานกั เรียน ๖ รายงานโครงการลกู เสอื เข้มแขง็ ๗ รายงานโครงการออมทรพั ย์ ๘ รายงานโครงการรกั ษ์การอา่ น-เขียน ๒. มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ๒.๑ ผลการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดีเลิศ ๒.๒ กระบวนการพฒั นากระบวนการบริหารและการจดั การ ๒.๒.๑ การมีเป้าหมาย วสิ ัยทัศน์ และพนั ธกจิ ทสี่ ถานศึกษากำหนดชดั เจน โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบงได้ดำเนินการจัดระบบบริหารจัดการทุกส่วนงานอย่างมีคุณภาพ รอบด้าน โดยมีการวางแผนร่วมกันในการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ แผนพัฒนาคุณภาพการจัด การศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพผู้เรียน แผนปฏิบัติการงบประมาณประจำปีการศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการพฒั นา ทันต่อการเปลย่ี นแปลงของชุมชน สงั คม นโยบายการปฏริ ูปการจัดการศึกษาและ ตามจุดเน้นของโรงเรียนเพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรมและมีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตใน ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมไดอ้ ย่างมีความสุข ทั้งนี้โรงเรียนจัดสรรงบประมาณ จัดหาทรัพยากร มอบหมายผู้รับผิดชอบดำเนินการตาม แผนงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ มีการดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผลและสรุปผลการ ดำเนินงานอย่างเป็นระบบ นำผลการดำเนินงานมาวางแผนปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเน่ืองต่อไป ปรากฏงานที่ เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ กิจกรรม/ขนั้ ตอนการดำเนินงาน ๑. โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบงจัดทำเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนด ชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ความต้องการชุมชน นโยบายรัฐบาล แผนการศึกษาแหง่ ชาติ เป็นไป ได้ในการปฏิบตั ิ ไดแ้ ก่ โครงการปรบั ปรุงระบบขอ้ มลู สารสนเทศและเทคโนโลยี ๒. โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบงมีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาท่ีชัดเจนมี ประสิทธิภาพ ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน โดยความร่วมมือของผู้เก่ียวข้องทุกฝ่าย ได้แก่โครงการพฒั นาระบบงานประกนั คุณภาพในสถานศึกษา ๓. ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคณุ ภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา และ ทุกกลมุ่ เป้าหมาย เช่ือมโยงกบั ชวี ิตจรงิ ได้แก่ โครงการตามแผนปฏิบตั ิราชการปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ ๔. จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมท่ีเอ้ือต่อการจัดได้แก่ การจัดกิจกรรมการ เรยี นการสอนของครู

๖๖ ๒.๒.๒ มรี ะบบบรหิ ารจัดการคุณภาพของสถานศกึ ษา มีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี ให้สอดคล้องกับสภาพ ปัญหา ความต้องการพัฒนา และนโยบายการปฏิรปู การศึกษา โดยการจดั ทำแผนปฏิบัตกิ ารประจำปี พรอ้ มทัง้ จดั หาทรพั ยากร จัดสรรงบประมาณ มอบหมายงานใหผ้ ู้รบั ผิดชอบ ดำเนินการพฒั นาตามแผนงานเพอื่ ใหบ้ รรลุ เป้าหมายท่ีกำหนดไว้ มีการดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน และจัดทำรายงานผล การจดั การศึกษา รายงานการปฏิบตั งิ าน ดำเนนิ การบรหิ ารจดั การโดยยดึ หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงในการ จัดการเรียนเรยี นการสอน ๒.๒.๓ ดำเนินการพัฒนาวิชาการท่ีเน้นคุณภาพผูเ้ รยี นรอบด้านตามหลักสตู รสถานศึกษาและทุก กลุ่มเป้าหมาย โรงเรียนได้ดำเนินการส่งเสริมพัฒนาผู้เรียน มีกิจกรรมเสริมหลักสูตร เช่น โครงการทักษะ อาชีพเพื่อมีรายได้ระหว่างเรียน โครงการส่งเสริมกีฬา โครงการทัศนศึกษา กิจกรรมอบรมเสริมสร้างความ ฉลาดทางอารมณ์ อบรมความรู้เรอ่ื งโควิด - ๑๙ โดยจัดกิจกรรมโครงการขึ้น เพ่ือให้ผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรม รับความรู้ให้เท่าทันในเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในปัจจุบันเพ่ือท่ีนักเรียนจะได้รับมือกับเหตุการณ์ท่ีจะต้องเจอไม่ว่า จะอยภู่ ายในโรงเรยี นหรือออกไปสสู้ งั คมภายนอกกต็ าม นักเรียนก็จะสามารถจดั การกับเหตกุ ารณ์ที่เผชิญอยู่ได้ ๒.๒.๔ พฒั นาครแู ละบุคลากรใหม้ ีความเชีย่ วชาญทางวิชาชพี วิธีการพฒั นา/ผลท่เี กดิ จากการพฒั นา เพื่อให้บรรลุตามกระบวนการบริหารและการจัดการคุณภาพของสถานศึกษา โรงเรียน บ้านนาดีสร้างบงได้ดำเนินการส่งเสริมพัฒนาครู พัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน ตามหลักสูตร สถานศึกษาทุกกลุ่มเป้าหมาย เชื่อมโยงกับชีวิตจริง จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพจัดการศึกษา ตามโครงการ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยให้ครูได้จัดทำแผนพัฒนาตนเอง ส่งเสริมการใช้ส่ือเทคโนโลยีในการ บริหารจัดการและการจัดการเรียนการสอน และ สร้างนวัตกรรมเพ่ือพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความ เชย่ี วชาญทางด้านวชิ าชพี ตามความตอ้ งการของครูและสถานศึกษา ๒.๒.๕ จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมทเ่ี อื้อต่อการจดั การเรยี นรูอ้ ยา่ งมีคณุ ภาพ โรงเรียนได้ดำเนินการส่งเสริม ตามโครงการพัฒนาปรับปรุงแหล่งเรียนรู้และอาคารสถานที่ สนับสนุนและพัฒนาอาคาร จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมท่ีเอ้ือต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมี คุณภาพ เช่น บรรยากาศในชั้นเรียน แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ สนามกีฬาประเภทต่าง ๆ ส่ิงแวดล้อมในโรงเรียนที่ เอ้ือต่อการจดั การเรียนรู้ ๒.๒.๖ จดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือสนับสนนุ การบรหิ ารจดั การและการจดั การเรยี นรู้ โรงเรียนได้ดำเนินการจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือสนับสนุนการบริหารจัดการและ การเรียนรู้ที่เหมาะสมกับสภาพของโรงเรียน ตามโครงการปรับปรงุ ระบบข้อมูลสารสนเทศและนำระบบดิจิทัล เทคโนโลยีมาใช้ จัดซื้อและจัดหาคอมพิวเตอร์ ให้ครใู ช้ประจำ คนละ ๑ ชุด พร้อมเครื่องพร้ินท์ และจัดเคร่ือง คอมพวิ เตอร์ส่วนกลางพร้อมเคร่ืองพรน้ิ ท์ มเี ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ไว้ประจำหอ้ งปฏิบัติการทางภาษาพร้อมติดตั้ง ระบบอินเตอร์เน็ต เพ่ือให้ ครู บุคลากร และผู้เรียนได้ ศึกษา สืบค้นข้อมูล มีการจัดเก็บข้อมูล สารสนเทศ ที่ ทนั สมัย ทันเหตุการณแ์ ละเปน็ ปัจจบุ นั ๒.๓ ผลการพฒั นา ๑) โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบงมีระบบบรหิ ารจัดการที่ดี มวี ิสยั ทศั น์ พันธกจิ และเปา้ หมายกำหนด ไว้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ความต้องการของชุมชน นโยบายรัฐบาล และทันต่อการ

๖๗ เปลี่ยนแปลง โดยยึดหลัก ๙ จุดเน้น 6 มิติคุณภาพสู่การปฏิบัติ มีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และ สภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ มีการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาเข้มแข็ง ย่ังยืนตามนโยบายและ จุดเน้น สพป.อุดรธานี เขต 2 ระยะ 3 ปี (พ.ศ.2563 – 2565) (สพป.อด.๒) มีระบบการบริหารงาน ตามลำดับข้ัน โปร่งใส ตรวจสอบได้ และชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ โรงเรียน สถาน ศึกษามีการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง มีความทันสมัย ครอบคลุมทุก กลุ่มเป้าหมายและ เปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วม ส่งเสริมให้บุคลากรทุกคนเข้ารับการพัฒนาตนเอง เพ่ือ เพ่ิมพนู ความรู้ ทักษะในวิชาชีพ พร้อมระบบอินเตอร์เน็ตให้บริการสืบคน้ ข้อมลู ทุกห้องเรยี น (๑) มาตรฐานสถานศกึ ษา (๑.๑) มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย และค่าเป้าหมายประกอบด้วย มาตรฐาน การศกึ ษาระดับปฐมวัย และค่าเป้าหมาย จำนวน ๓ มาตรฐาน ดงั น้ี มาตรฐาน / ประเดน็ การพจิ ารณา ค่าเป้าหมายมาตรฐาน/ ประเด็นการพิจารณา มาตรฐานท่ี ๑ คณุ ภาพของผู้เรียน ๑.๑ มีการพัฒนาดา้ นรา่ งกาย แข็งแรง มีสขุ นสิ ัยทดี่ ี และดแู ลความปลอดภยั ของ ดีเลศิ ตนเองได้ ๑.๒ มกี ารพัฒนาดา้ นอารมณ์ จิตใจ ควบคมุ และแสดงออกทางอารมณไ์ ด้ ดเี ลศิ ๑.๓ มกี ารพัฒนาการดา้ นสงั คม ชว่ ยเหลอื ตนเอง และเป็นสมาชกิ ทีด่ ขี องสงั คม ๑.๔ มพี ฒั นาการดา้ นสติปัญญา ส่ือสารได้ มีทักษะการคดิ พน้ื ฐานและแสวงหาความรไู้ ด้ ดีเลศิ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและจัดการ ดีเลศิ ๒.๑ มหี ลกั สตู รครอบคลมุ พัฒนาการทั้ง ๔ ดา้ น สอดคลอ้ งกับบริบทของทอ้ งถนิ่ ดี ๒.๒ จัดครูให้เพียงพอตอ่ ชนั้ เรียน ดีเลศิ ๒.๓ ส่งเสรมิ ให้ครมู คี วามเชี่ยวชาญดา้ นการจัดประสบการณ์ ดี ๒.๔ จดั สภาพแวดลอ้ มและสือ่ เพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัย และเพยี งพอ ดเี ลิศ ๒.๕ ให้บริการสอื่ เทคโนโลยีสารสนเทศและสอ่ื การเรียนรเู้ พือ่ สนับสนุนการจดั ดีเลศิ ประสบการณ์ ดีเลศิ ๒.๖ มรี ะบบบริหารคณุ ภาพทีเ่ ปดิ โอกาสให้ผู้เก่ยี วข้องทกุ ฝา่ ยมสี ่วนร่วม มาตรฐานที่ ๓ การจดั ประสบการณ์ท่ีเน้นเดก็ เปน็ สำคญั ดี ๓.๑ จัดประสบการที่สง่ เสริมใหเ้ ด็กมีพฒั นาการทุกดา้ นอยา่ งสมดลุ เตม็ ศกั ยภาพ ๓.๒ สร้างโอกาสให้เดก็ ได้รบั ประสบการณต์ รง เลน่ และปฏิบตั อิ ย่างมีความสขุ ดีเลิศ ๓.๓ จดั บรรยากาศที่เออื้ ต่อการเรยี นรใู้ ชส้ ่ือเทคโนโลยที ่เี หมาะสมกบั วัย ดเี ลิศ ๔.๔ ประเมิณพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและนำผลประเมนิ พฒั นาการเดก็ ไปปรบั ปรงุ ดี การจดั ประสบการณ์และพฒั นาเดก็ ดเี ลิศ ดี สรปุ ผลการประเมินในภาพรวมของสถานศกึ ษา ดีเลิศ ดีเลิศ

๖๘ มาตรฐานการศึกษาระดบั การศึกษาขั้นพน้ื ฐานและค่าเปา้ หมายจำนวน ๓ มาตรฐาน ดังน้ี ระดับการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน โรงเรยี นบ้านนาดีสรา้ งบง ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ คา่ เป้าหมาย มาตรฐาน / ประเด็นการพจิ ารณา มาตรฐาน/ ประเดน็ การพิจารณา มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผ้เู รียน ดเี ลศิ ๑.๑ ผลสัมฤทธท์ิ างวชิ าการของผู้เรียน ๑) มีความสามารถในการอา่ น การเขียน การส่อื สารและการคิดคำนวณ ดี ๒) มคี วามสามารถในการวิเคราะหแ์ ละคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ อภิปราย แลกเปล่ียน ดี ความคดิ เห็น และแก้ปัญหา ๓) มคี วามสามารในการสร้างนวตั กรรม ดี ๔) มคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่อื สาร ดเี ลศิ ๕) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา ดีเลศิ ๖) มคี วามรู้ ทกั ษะพื้นฐานและเจตคตทิ ด่ี ีตอ่ งานอาชพี ดเี ลศิ ๑.๒ คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงคข์ องผ้เู รียน ๑) การมีคุณลกั ษณะและคา่ นยิ มท่ดี ตี ามทีส่ ถานศกึ ษากำหนด ดเี ลิศ ๒) ความภมู ิใจในทอ้ งถิ่นและความเป็นไทย ดเี ลิศ ๓) การยอมรับทีจ่ ะอย่รู ่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ดเี ลิศ ๔) สขุ ภาวะทางรา่ งกายและลักษณะจติ สงั คม ดเี ลิศ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบรหิ ารและจัดการ ดเี ลิศ ๒.๑ การมเี ปา้ หมาย วสิ ัยทศั น์ และพันธกิจทสี่ ถานศึกษากำหนดชดั เจน ดีเลศิ ๒.๒ มรี ะบบบริหารจัดการคณุ ภาพของสถานศกึ ษา ดีเลิศ ๒.๓ ดำเนนิ งานพัฒนาวชิ าการท่ีเนน้ คุณภาพผู้เรยี นรอบด้านตามหลกั สตุ รสถานศกึ ษาและ ดี ทุกกลมุ่ เปา้ หมาย ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลกรให้มีความเช่ยี วชาญทางวชิ าชพี ดีเลศิ ๒.๕ จดั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสงั คมทเ่ี ออ้ื ต่อการจัดการเรยี นรอู้ ยา่ งมีคูณภาพ ดีเลศิ ๒.๖ จดั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื สนบั สนนุ การบริหารจัดการและการจดั การเรียนรู้ ดเี ลิศ มาตรฐานท่ี ๓ กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ดี ๓.๑ จัดการเรียนรผู้ า่ นกระบวนการคิดและปฏบิ ตั จิ ริง และสามารถนำไปประยุกต์ใชใ้ น ดี ชวี ิตได้ ๓.๒ ใชส้ อื่ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ทีเ่ อ้ือต่อการเรยี นรู้ ดีเลิศ ๓.๓ มกี ารบริหารจดั การชนั้ เรียนเชิงบวก ดีเลิศ ๔.๔ ตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รียนอยา่ งเป็นระบบ และนำผลมาพฒั นาผเู้ รยี น ดี ๓.๕ มกี ารแลกเปลย่ี นเรียนรแู้ ละใหข้ อ้ มูลสะท้อนกลบั เพอ่ื พฒั นาและปรับปรงุ การจัดการ ดี เรียนรู้ สรปุ ผลการประเมินในภาพรวมของสถานศกึ ษา ดเี ลิศ

๖๙ หมายเหตุ การกำหนดค่าเปา้ หมาย ๑. ศกึ ษาข้อมูลเดมิ ผลการประเมินต่าง ๆ ทผ่ี ่านมา เพ่อื เป็นข้อมลู ฐานในการกำหนดคา่ เปา้ หมาย ๒. การกำหนดค่าเป้าหมาย แต่ละมาตรฐาน ควรกำหนดเป็น ระดับคุณภาพ ๕ ระดับ เพ่ือให้ สอดคลอ้ งกบั การประเมนิ ดังน้ี ระดบั ยอดเยยี่ ม ระดบั ดเี ลศิ ระดบั ดี ระดบั ปานกลาง ระดบั กำลงั พัฒนา

๗๐ (๑.๒) มาตรฐานและค่าเปา้ หมายระดับการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน ระดับการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน โรงเรยี นบา้ นนาดสี ร้างบง ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ ค่าเป้าหมาย มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา มาตรฐาน/ ประเดน็ การพจิ ารณา มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผเู้ รียน ดีเลศิ ๑.๑ ผลสมั ฤทธ์ทิ างวิชาการของผเู้ รียน ๑) มคี วามสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคิดคำนวณ ดี ๒) มีความสามารถในการวิเคราะห์และคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ อภปิ ราย แลกเปลี่ยน ดี ความคดิ เห็น และแก้ปัญหา ๓) มีความสามารในการสรา้ งนวตั กรรม ดี ๔) มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ และการสือ่ สาร ดเี ลิศ ๕) มีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนตามหลักสตู รสถานศึกษา ดเี ลิศ ๖) มีความรู้ ทกั ษะพนื้ ฐานและเจตคติทดี่ ตี อ่ งานอาชพี ดเี ลิศ ๑.๒ คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงคข์ องผูเ้ รยี น ๑) การมคี ณุ ลกั ษณะและค่านิยมทด่ี ตี ามที่สถานศึกษากำหนด ดีเลศิ ๒) ความภูมใิ จในทอ้ งถ่นิ และความเป็นไทย ดเี ลศิ ๓) การยอมรบั ที่จะอยู่รว่ มกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ดเี ลศิ ๔) สขุ ภาวะทางรา่ งกายและลักษณะจติ สงั คม ดเี ลิศ มาตรฐานท่ี ๒ กระบวนการบริหารและจัดการ ดีเลศิ ๒.๑ การมีเปา้ หมาย วสิ ยั ทัศน์ และพันธกิจทสี่ ถานศึกษากำหนดชดั เจน ดเี ลศิ ๒.๒ มรี ะบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา ดีเลิศ ๒.๓ ดำเนนิ งานพัฒนาวชิ าการทเ่ี นน้ คุณภาพผเู้ รยี นรอบดา้ นตามหลกั สตุ รสถานศึกษาและ ดี ทกุ กล่มุ เป้าหมาย ๒.๔ พฒั นาครแู ละบุคลกรใหม้ ีความเชย่ี วชาญทางวชิ าชีพ ดเี ลิศ ๒.๕ จัดสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสังคมทเ่ี อื้อต่อการจดั การเรยี นรอู้ ย่างมีคูณภาพ ดเี ลิศ ๒.๖ จดั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื สนบั สนนุ การบรหิ ารจัดการและการจดั การเรียนรู้ ดเี ลศิ มาตรฐานท่ี ๓ กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดี ๓.๑ จัดการเรียนรผู้ า่ นกระบวนการคิดและปฏิบัติจรงิ และสามารถนำไปประยกุ ต์ใชใ้ น ดี ชวี ิตได้ ๓.๒ ใช้สอื่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหลง่ เรียนร้ทู ่ีเออื้ ต่อการเรยี นรู้ ดเี ลศิ ๓.๓ มกี ารบริหารจดั การชน้ั เรยี นเชิงบวก ดเี ลศิ ๔.๔ ตรวจสอบและประเมินผเู้ รียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพฒั นาผเู้ รียน ดี ๓.๕ มกี ารแลกเปล่ียนเรยี นรู้และให้ข้อมลู สะทอ้ นกลับเพ่อื พัฒนาและปรบั ปรุงการจัดการ ดี เรยี นรู้ สรปุ ผลการประเมินในภาพรวมของสถานศึกษา ดีเลิศ

๗๑ (๑.๓) วสิ ยั ทศั น์ ภายในปี ๒๕๖๖ โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบง เป็นองค์กรท่ีทันสมัย มีคุณภาพมาตรฐาน เด็กปฐมวัยพัฒนาการสมวัยอย่างรอบด้านและเต็มศักยภาพ นักเรียนท่ีมีทกั ษะสศู่ ตวรรษท่ี ๒๑ มีคุณธรรม มีจิต สาธารณะดำรงชวี ิตอย่างมีความสุขตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง (๑.๔) พันธกจิ (๑.๔.๑) พัฒนาระบบบริหารการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ พร้อมก้าวทันความ เปล่ียนแปลง ได้แก่ โครงสร้างพ้ืนฐานด้านเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต การจัดการเรียนการสอน (Active Learning) พฒั นาระบบ ข้อมลู สารสนเทศ (information) (๑.๔.๒) พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เป็นคนดี มีคุณธรรมนำความรู้ รักษาส่ิงแวดล้อม มี ทศั นคตทิ ี่ดตี อ่ บา้ นเมอื ง มีวิถีชวี ิตอยูอ่ ย่างพอเพยี ง มอี าชพี (๑.๔.๓) ส่งเสริมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณธรรมจริยธรรมเป็น แบบอยา่ งทด่ี ตี ่อผ้เู รียนมีความรู้ กา้ วทันความเปล่ยี นแปลงและให้มกี ารพฒั นาอย่างตอ่ เน่ือง (๒) แผนพัฒนาคณุ ภาพการจัดการศึกษา แผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปี สอดคล้องกบั การพัฒนาผ้เู รียน ทุกกลุ่มเป้าหมาย มีการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ตามมาตรฐานตำแหน่ง ข้อมูลสารสนเทศมคี วามถูกต้อง ครบถ้วน ทันสมัย นำไปประยุกต์ใช้ได้ ดำเนินการอย่างเป็นระบบ และมีกิจกรรม จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมทีก่ ระต้นุ ผเู้ รียนใหใ้ ฝเ่ รียนรู้ (๓) สถานศึกษามีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี ให้ สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการพัฒนา และนโยบายการปฏิรูปการศึกษา โดยผมู้ ีส่วนได้เสียมีส่วนรว่ มใน การพฒั นาและร่วมรบั ผดิ ชอบ (๔) ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา มีส่วนร่วมในการ ร่วมวาง แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และรบั ทราบ รบั ผิดชอบต่อผลการจัดการศกึ ษา (๕) สถานศึกษามีการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารและการจัดการศึกษา ที่ เหมาะสม เป็นระบบและต่อเน่อื ง เปิดโอกาสใหผ้ เู้ ก่ยี วข้องมสี ว่ นรว่ มในการจดั การศกึ ษา (๖) สถานศึกษามีรูปแบบการบริหารและการจัดการเชิงระบบ โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ยึดหลัก ธรรมาภบิ าล และแนวคิดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยมุ่งพฒั นาผเู้ รยี นตามแนวทางปฏริ ปู การศกึ ษา (๗) สถานศึกษามีการระดมทรัพยากรเพ่ือการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจากเครือข่ายอุปถัมภ์ ส่งผลให้สถานศึกษามีส่อื และแหลง่ เรยี นรทู้ มี่ คี ุณภาพ ๒.๔ จดุ เดน่ ๑) ผู้บริหารมีความตั้งใจ มีความมุ่งม่ัน มีหลักการบริหาร และมีวิสัยทัศน์ท่ีดีในการบริหารงาน สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีในการทางาน และคณะกรรมการสถานศึกษามีความต้ังใจ และมีความพร้อมในการ ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ตี ามบทบาท ๒) โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบงมีการบริหารและการจัดการอย่างเป็นระบบ มีระบบประกันคุณภาพ ภายในสถานศึกษาที่เข้มเขง็ โรงเรยี นได้ใช้เทคนิคการประชุมท่ีหลากหลายวิธี เช่น การประชุมแบบมีส่วนร่วม การ ประชมุ ระดมสมอง การประชุมกลุ่ม เพ่อื ให้ทุกฝา่ ยมีส่วนรว่ มในการกำหนดวสิ ยั ทศั น์ พันธกจิ เป้าหมายทีช่ ัดเจน มี การปรับแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปีท่ีสอดคล้องกับผลการจัดการศึกษา สภาพ ปัญหา ความต้องการพัฒนา และนโยบายการปฏิรูปการศึกษา ที่มุ่งเน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณภาพตาม มาตรฐานหลักสตู รของสถานศกึ ษา ครูผูส้ อนสามารถจดั การเรียนรไู้ ด้อยา่ งมีคณุ ภาพ มกี ารดาเนินการนเิ ทศ กำกับ

๗๒ ตดิ ตาม ประเมินผล การดำเนินงาน และจัดทำรายงานผลการจัดการศึกษา และโรงเรียนได้ใช้กระบวนวิจัยในการ รวบรวมข้อมูลมาใช้เปน็ ฐานในการวางแผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ๒.๕ จุดควรพัฒนา ๑) ควรเปิดโอกาสให้ผูป้ กครองไดม้ สี ว่ นร่วมในการเสนอความคดิ เห็นในการจัดการศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาผูเ้ รียนมากขึ้น ๒) มกี ารระดมความคดิ ในการพฒั นาสถานศึกษาจากทุกฝา่ ยท่ีเก่ยี วขอ้ ง เพ่ือพัฒนาอยา่ งต่อเน่ือง ๒.๖ แนวทางการพัฒนาใหไ้ ดร้ ะดบั คณุ ภาพท่สี ูงข้นึ ๑) พัฒนาหลักสตู รใหส้ อดคลอ้ งกบั ชุมชนมากข้ึน ๒) จดั ให้มีชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชพี เพือ่ พฒั นางานเพ่มิ ขน้ึ ๓) พฒั นาครูสคู่ รมู ืออาชพี ใหส้ อดคล้องกบั การพฒั นานกั เรยี นในศตวรรษท่ี ๒๑ ๒.๗ ผลสัมฤทธ์ิทเ่ี กดิ ขนึ้ กับผบู้ ริหาร และรางวลั ท่ไี ด้รับ ท่ี ช่ือรางวลั หนว่ ยงานท่มี อบ ปีทีไ่ ด้รบั สพฐ. ๒๕๖๔ 1 สถานศึกษา ได้รบั รางวลั เข้าร่วม รางวัลทรงคณุ ค่า สพฐ. OBEC AWARDS สพฐ. ๒๕๖๔ ๒ จ.ส.อ. สายณั ห์ นามแสง ไดร้ บั รางวลั เหรยี ญทอง รางวลั ทรงคุณคา่ สพฐ. OBEC AWARDS ๒.๘ แหลง่ ขอ้ มลู หลักฐานเอกสารอ้างอิง ท่ี เอกสารหลักฐาน Qr code ๑ เอกสารหลกั ฐาน ๒ แผนพฒั นาการศกึ ษาและแผนปฏิบัตริ าชการปีฯ๒๕๖๔ ๓ คำสง่ั มอบหมายการปฏบิ ตั ิราชการ ๔ หลักสตู รสถานศึกษา ๕ รายงานโครงการพัฒนาระบบงานประกนั คุณภาพในสถานศึกษา ๖ รายงานโครงการพฒั นาครูและบุคลากรทางการศึกษา ๗ รายงานโครงการพัฒนาปรบั ปรุงแหล่งเรยี นรู้และอาคารสถานท่ี ๘ รายงานโครงการปรับปรุงระบบสารสนเทศและนำระบบดจิ ิทัลเทคโนโลยมี าใช้ ๙ รายงานโครงการนเิ ทศภายในสถานศกึ ษา ๑๐ เกยี รตบิ ตั รครูและบคุ ลากรทเ่ี ขา้ รบั การอบรม ๑๑ สภาพหอ้ งเรยี นและบรเิ วณภายในโรงเรยี น ๓. มาตรฐานท่ี ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ ๓.๑ ผลการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดีเลศิ ๓.๒ กระบวนการการพฒั นากระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่ีเน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ๓.๒.๑ จดั การเรยี นรูผ้ า่ นกระบวนการคดิ และปฏิบตั จิ ริงและสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ได้

๗๓ โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบง จัดกระบวนการจัดการเรียนการสอนตามมาตรฐานและตัวช้ีวัดของ หลักสูตรสถานศึกษา โดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง มีการ บรหิ ารจัดการ ชั้นเรยี นเชิงบวกสร้างปฏิสัมพนั ธท์ ี่ดี ครรู จู้ ักผูเ้ รียนเป็นรายบุคคล ดำเนนิ การตรวจสอบและประเมิน ผู้เรียนอย่างเป็นระบบและนำผลมาพัฒนาผู้เรียน รวมท้ังร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำผลท่ีได้มาให้ข้อมูล ปอ้ นกลบั เพอ่ื พัฒนาและปรบั ปรงุ การจัดการเรียนรดู้ ังน้ี (๑) โครงการยกระดบั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น กจิ กรรม/ ขน้ั ตอนการดำเนินงาน (๑.๑) จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักสตู รและตัวชี้วัดทุกกล่มุ สาระการเรียนรู้ โดย เน้นกระบวนการเรียนรู้ด้วย Active Learning ให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริง เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ท่ีดีในห้องเรียน เช่น การทดลองวทิ ยาศาสตร์ กจิ กรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ในระดับมธั ยมศึกษา กจิ กรรม English morning (๑.๒) กิจกรรมสื่อสาร พัฒนา กล้าแสดงออก เช่น กิจกรรมรักษ์การอ่าน ทดลองวิทย์ ประดษิ ฐข์ องเล่น สรา้ งสรรค์ผลงานดว้ ยวัสดเุ หลือใช้ การใชเ้ ทคโนโลยีเพื่อการสอื่ สารภาษาอังกฤษ (๑.๓) กิจกรรมโครงงาน นักเรียนกำหนดปัญหา วัตถุประสงค์ ต้ังสมมติฐาน ค้นคว้าหา ความรู้ กำหนดตัวแปร กำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ อุปกรณ์ วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล สรุปและอภิปรายผล และ วิธกี ารนำเสนอผลงานด้วยตัวเอง โดยมคี รคู อยให้คำปรกึ ษาและสนับสนุน (๒) โครงการทักษะชีวิตเพื่อสร้างแกนนำนักเรียน และโครงการการพัฒนาศักยภาพด้านภาวะ ผนู้ ำและทักษะอาชพี สำหรับเยาวชนในชนบท โดยความรว่ มมอื ระหว่าง มูลนิธริ กั ษไ์ ทยและบรษิ ทั เมอร์คจำกดั กจิ กรรม/ ขั้นตอนการดำเนินงาน (๒.๑) ศึกษาข้อมลู การผลติ แหลง่ วัตถดุ บิ รปู แบบการผลติ ช่องทางการตลาด (๒.๒) วางแผนดำเนนิ การ (๒.๓) ทดลองการผลิตเพอื่ ค้นหาวธิ ีการทเ่ี หมาะสมกบั พื้นที่ (๒.๔) ปรบั ปรงุ วิธกี ารผลติ และทดสอบตลาดหรือการจำหน่ายผลผลิต (๒.๕) สรปุ การทดลองและวางแผนดำเนินการจรงิ (๒.๖) เริม่ การผลติ จรงิ และการคดั แยกผลผลิตและการจดั จำหน่ายผลผลติ (๒.๖.๑) การผลิต จะดำเนินผลิตขนม จำนวน ๓๐๐ ช้ินต่อ รอบการผลิต ๑ ครั้ง โดยจะมีรายการผลิตสำหรับนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ คอื ขนมวุ้นกะทิและ ถั่วแปบ คุกกี้ สำหรับนกั เรยี นชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ - ๓ คอื ขนมตะโก้ ขนมกล้วย ขนมถั่วแปบ คุกก้ี ในแต่ละสปั ดาห์ วางแผนการผลติ ไว้ ๒ วนั (๒.๖.๒) ด้านการจำหน่าย จะแยกจำหน่ายออกเปน็ ๒ พนื้ ท่ี คือจำหนา่ ยในในราคา ช้ินละ ๑ บาท สำหรบั วุ้นกะทิและ ราคาชิ้นละ ๕ บาทสำหรบั ขนมอน่ื ๆ ท่ผี ลิตจำหน่ายนอกโรงเรยี น ได้แก่ ตลาด นัดชุมชน (วนั อาทติ ย์ กบั วนั พฤหสั บด)ี ซึ่งจะแยกขาย เป็นชดุ ๆ ละ ๒๐ บาทจำนวน ๑๐ กล่อง (๒.๖.๓) ด้านการจัดการรายได้ ด้วยการหักต้นทุนออกแล้วแบ่งงบเป็น ๓ ส่วน คือ มอบคนื สมาชกิ กลุม่ รอ้ ยละ ๖๐ นำเขา้ กองทนุ ร้อยละ ๔๐ และนกั เรียนทำบันทึกรายรบั -รายจา่ ยต่อรอบการผลติ (๒.๗) สอบถามความพึงพอใจในการบริโภคขนม เช่น รสชาติ ราคา รูปแบบ การบรรจุ หบี ห่อแลว้ นำข้อมูลมาปรบั ปรงุ ใหด้ ีข้นึ หมายเหตุ การดำเนินงานตามโครงการ ดำเนนิ การไม่ได้เตม็ รูปแบบเนื่องจากในปีการศึกษา ๒๕๖๔ นกั เรยี นเรยี น ออนไลน์ เปิดเรยี น On site ไดใ้ นบางชว่ งเวลา (ตามสถานการณ์โควิด-19) ผลการดำเนนิ งาน

๗๔ (๑) นักเรียนทุกคนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามมาตรฐานการศึกษาท่ีสถานศึกษา กำหนด (๒) นักเรียนได้ปฏบิ ัติจริง ทั้งด้านการผลิต และการจำหน่าย และมีครูคอยเป็นที่ปรึกษา สนบั สนนุ อย่างใกลช้ ดิ (๓) นักเรยี นมีบทบาทในการดำเนินการต้ังแตเ่ รมิ่ ตน้ ระหว่างดำเนินการ และการสรุปผล การดำเนนิ งาน (๔) นักเรียนบันทึกข้อมูลต่าง ๆ แต่ละขั้นตอนการดำเนินงาน และนำข้อมูลมาทบทวน วิเคราะห์ สงั เคราะหโ์ ดยกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรรู้ ว่ มกัน ๓.๒.๒ ใช้สือ่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหลง่ เรียนรู้ท่เี อ้ือต่อการเรยี นรู้ มีการใชส้ ื่อ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้รวมทั้งภูมปิ ัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการจัดการ เรยี นรู้โดยสร้างโอกาสใหผ้ ้เู รียนไดแ้ สวงหาความรดู้ ้วยตนเองจากสือ่ ทีห่ ลากหลายดังน้ี (๑) โครงการปรบั ปรุงระบบข้อมูลสารสนเทศและนำระบบดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้ กจิ กรรม/ ข้นั ตอนการดำเนินงาน (๑.๑) ใชส้ อ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศ เป็นแหล่งเรียนรู้ เพอื่ สรา้ งบรรยากาศทเี่ อือ้ ต่อการ พฒั นาผูเ้ รยี นให้เกิดการเรยี นรทู้ กุ ด้าน กจิ กรรมท่ี ๑ จัดหา ปรบั ปรุง ซ่อมแซม ส่ือเทคโนโลยีการส่ือสารเพือ่ การเรียนรู้ และ การบรหิ ารจดั การ ระบบ ICT ใหส้ อดคลอ้ งกับสภาพปจั จบุ ัน - ซอ่ มคอมพวิ เตอร์ - จัดหา ปรับปรุง ซ่อมแซมระบบอินเตอร์เน็ตเพ่ือการเรียนการสอนและการ บรหิ ารจัดการ กิจกรรมท่ี ๒ การใช้ส่ือดจิ ทิ ลั มาใช้ในการจดั การเรียน - ค้นคว้าข้อมลู ทางอินเตอร์เนต็ - สื่อ Multimedia - สื่อ DLIT - ส่ือจากสังคมออนไลน์ (๑.๒) โรงเรียนบ้านนาดสี รา้ งบงเป็นชมุ ชนแห่งการเรยี นร้ทู างวชิ าชพี ตามโครงการทักษะ ชีวิตเพอื่ สร้างแกนนำนักเรยี น และภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ินในชมุ ชน ร่วมจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ จดั กจิ กรรมให้เชอื่ มโยง กบั นวัตวถิ ีชมุ ชน เศรษฐกิจพอเพียง ได้นำนักเรียนรว่ มกิจกรรมกับชุมชน เช่น การปลูกผัก การทำขนม การทำไม้ กวาด ฯลฯ ผลการดำเนินงาน ร้อยละ ๘๐ นักเรียนมีการใช้สื่อ ICT จากอินเทอร์เน็ตทุกช้ันเรียนตามโครงการปรับปรุง ระบบข้อมลู สารสนเทศและนำระบบดจิ ทิ ลั เทคโนโลยีมาใชก้ ารศกึ ษาค้นควา้ หาความรดู้ า้ นตา่ ง ๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ๓.๒.๓ มกี ารบรหิ ารจัดการช้ันเรยี นเชิงบวก ครูผู้สอนมีการบริหารจัดการช้ันเรียน โดยเน้นการมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกตามเอกลักษณ์ของ โรงเรียนคือ สายใยครูและศิษย์ เพื่อให้เด็กรักครู ครูรักเด็ก และเด็กรักเด็ก เด็กรักท่ีจะเรียนรู้ สามารถเรียนรู้ ร่วมกนั อย่างมีความสขุ กิจกรรม/ ขัน้ ตอนการดำเนนิ งาน

๗๕ (๑) จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักสูตรและตัวช้ีวัดทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดย เนน้ กระบวนการเรียนรู้ดว้ ย Active Learning ให้นกั เรยี นได้ปฏิบตั ิจริง เพอ่ื สรา้ งปฏสิ มั พนั ธ์ทดี่ ใี นห้องเรียน (๒) ครูสอนคิด ช่วยให้เด็กคิดเป็น เคารพในความคิดของเด็ก เป็นการแสดงออกถึงการ ยอมรบั และความใส่ใจความคิดเห็นของเดก็ ภายใต้บรรยากาศทเี่ ปน็ มติ ร (๓) ครูช่วยส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อน รุ่นพี่ และรุ่นน้องในโรงเรียน เปน็ ที่ปรึกษาให้กับเด็ก ๆ ในการจัดกจิ กรรม เป็นการแสดงออกถงึ ความยอมรบั และเชอื่ ม่ันในศกั ยภาพของเด็ก (๔) การพบกันระหวา่ งครูและผ้ปู กครองเปน็ รายบคุ คล ชว่ ยใหค้ รไู ดร้ จู้ กั และเข้าใจเด็กมาก ข้นึ ครูให้คำแนะนำกบั ผู้ปกครองในการร่วมมือกันดูแลเด็กอย่างเหมาะสม เป็นการแสดงออกถึงความเข้าใจ ความ ใส่ใจ และสามารถเป็นทพ่ี ึ่งใหก้ ับเด็กได้ (๕) ครูท่ีมีความเข้าใจและให้การดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษได้อย่าง เหมาะสม เป็นการแสดงออกถึงความเข้าใจ เอาใจใส่ ความเชื่อมั่นในตัวเด็ก รวมทั้งช่วยให้นักเรียนรู้สึกวา่ ครูเปน็ ผู้ ทเี่ ขาพึง่ พาได้ เช่น การพดู คยุ การชว่ ยแกป้ ญั หา ผลการดำเนนิ งาน (๑) นกั เรยี นไดเ้ รยี นรู้โดยไดป้ ฏบิ ตั ิจริงเพือ่ สรา้ งปฏิสัมพนั ธท์ ดี่ ใี นห้องเรียน (๒) โรงเรียนเปน็ ชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู้ างวชิ าชพี (๓) โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ครูมีชั่วโมงในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้และประสบการณ์ เพื่อร่วมกันปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ โดยแบ่งเป็นระดับช้ัน เรยี น ๓.๒.๔ ตรวจสอบและประเมนิ ผู้เรยี นอย่างเปน็ ระบบ และนำผลมาพฒั นาผูเ้ รยี น มกี ารตรวจสอบและประเมินคณุ ภาพการจัดการเรยี นรูอ้ ยา่ งเป็นระบบ มีข้ันตอนโดยใช้เคร่อื งมอื และวิธกี ารวดั และประเมนิ ผลท่ีเหมาะสมกบั เป้าหมายในการจดั การเรียนรู้ และให้ข้อมูลย้อนกลบั แก่ผูเ้ รยี นเพ่อื ไป ใช้พฒั นาการเรยี นรู้ กจิ กรรม/ ขัน้ ตอนการดำเนินงาน (๑) โครงการนิเทศภายใน (๑.๑) การตรวจสอบและประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจของผู้เรยี นอย่างเปน็ ระบบและมี ประสทิ ธิภาพ ข้นั ตอนการตรวจสอบและประเมนิ ผลการจัดการเรยี นรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ มดี งั นี้ (๑.๑.๑) ประเมนิ นกั เรยี นจากสภาพจริง (๑.๑.๒) ตรวจสอบและประเมินอย่างเป็นระบบคือ ประเมินก่อนเรียน ระหว่าง เรียน และหลังเรียน (๑.๑.๓) ใช้เคร่ืองมือและวิธีการวัดและประเมินผลที่เหมาะสมกับเป้าหมายและ การจดั การเรียนการสอน (๑.๑.๔) นักเรียน ครู และผปู้ กครอง มีสว่ นรว่ มในการวัดและประเมินผล (๑.๑.๕) แจง้ ผลการประเมนิ ใหก้ บั นักเรยี นทราบและนำไปใชพ้ ฒั นาตนเอง ผลการดำเนินงาน (๑) มีขั้นตอนการตรวจสอบและประเมินผลการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ พร้อม สะท้อนผลเพอ่ื เป็นข้อมูลย้อนกลับแก่ผเู้ รียนและผปู้ กครองทราบ

๗๖ (๒) โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ครูมีช่ัวโมงในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้และประสบการณ์ เพื่อร่วมกันปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ โดยแบ่งเป็น ระดับช้ัน เรียน ๓.๒.๕ มกี ารแลกเปลย่ี นเรียนรู้และให้ข้อมลู สะทอ้ นกลับเพอื่ พฒั นาและปรับปรงุ การจดั การเรยี นรู้ ครแู ละผู้มีส่วนเกี่ยวขอ้ งรว่ มกนั แลกเปล่ยี นความรู้และประสบการณร์ วมท้ังใหข้ อ้ มูลป้อนกลับเพ่ือ นำไปใช้ในการปรับปรุงและพฒั นาการจัดการเรยี นรู้ (๑) โครงการพัฒนาศกั ยภาพครแู ละบคุ ลากร กิจกรรม/ขน้ั ตอนการดำเนินงาน (๑.๑) โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ครูมีชั่วโมงในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้และประสบการณ์ เพื่อร่วมกันปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ โดยแบ่งเป็น ระดับชั้น เรียน เช่น ระดบั ปฐมวัย ระดับประถมศึกษาตอนต้นตน้ - ปลาย ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ หรอื ต่างระดบั ช้ัน (๑.๒) บันทึกข้อมูลต่าง ๆ แต่ละขั้นตอนการดำเนินงาน และนำข้อมูลมาทบทวน วิเคราะห์ สังเคราะห์โดยกระบวนการแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันท่ีเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน เช่น การ แก้ปญั หาเดก็ อ่าน – เขียนไมไ่ ด้, อา่ น – เขียนไม่คลอ่ ง เดก็ ไม่ทำการบ้าน ขาดเรียนบอ่ ยเรยี นไมท่ นั เพื่อน (๑.๓) การทดสอบความรู้ความสามารถของครูผู้สอนจากสถาบันต่าง ๆ โดยส่งเสริมให้ บุคลากรครเู ข้ารับการทดสอบด้วยบทเรียนรูปแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาอุดรธานีเขต ๒ และจาก สถาบันต่าง ๆ ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ เพ่ือเป็นมาตรฐานและการประกันคุณภาพว่าระบบการบริหาร การทดสอบ ความชดั เจนสามารถปฏิบัติไดจ้ ริง มคี ณุ ภาพเปน็ ทย่ี อมรับ (๑.๔) ให้ครูผู้สอนทำรายงานการวิจัยในชั้นเรียน นำผลไปใช้ เพื่อแก้ไขปัญหาท่ีเกิดขึ้นใน ห้องเรียนและนำผลมาใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนให้เกดิ ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน รวมท้ังสะท้อนข้อมูลเกี่ยวกับ การปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้ทั้งตนเองและกลุ่มเพื่อนร่วมงานได้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน PLC (Professional Learning Community) หรือชุมชนการเรยี นร้ทู างวิชาชพี (๑.๕) การนิเทศการจัดการเรียนรู้ให้ข้อมูลย้อนกลับเพ่ือพัฒนาและปรับปรุงการจัดการ เรยี นรู้ ผลการดำเนินงาน ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ มีทักษะและประสบการณ์ในการเรียนและการทำงาน เพ่ือให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข สามารถนำความรู้ที่ได้ไปเรียนต่อและ ประกอบอาชีพท่ีดีต่อไป และผู้เรียนท่ีมีปัญหาต่าง ๆ ได้รับการแก้ไขตามข้ันตอน และมีพฤติกรรมท่ีดีข้ึน โดยมีครู เป็นผู้อบรมส่ังสอนชี้แนะแนวทางในการเรียนการสอน การศึกษาที่มีคุณภาพจะต้องพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่มี ความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรม มีวัฒนธรรมในการดำเนินชีวิต สามารถอยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ื่นได้อยา่ งมีความสขุ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๓.๓ ผลการพัฒนา จากการดำเนินงาน/ โครงการ/ กิจกรรมอย่างหลากหลาย เพ่ือพัฒนาให้ครูจัดการเรียนการสอนที่ เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ส่งผลใหผ้ ลการประเมนิ คณุ ภาพมาตรฐานที่ ๓ อยใู่ นระดบั ดเี ลิศ ๓.๓.๑ จดั การเรียนรู้ผา่ นกระบวนการคดิ และปฏิบตั จิ รงิ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ได้ (๑) กจิ กรรม “คลนิ กิ หมอภาษา” ระดับมัธยมศกึ ษา (๒) กจิ กรรม “คลินกิ รกั การอา่ น” ระดับประถมศึกษา

๗๗ (๓) กจิ กรรม “โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภททดลอง” เรอื่ งสมุนไพรยอ้ มผม (๔) กจิ กรรม “โครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภททดลอง” เรอื่ งทำเจลแอลกอฮอร์ลา้ งมอื ๓.๓.๒ ใช้ส่อื เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรยี นรู้ท่เี อื้อตอ่ การเรียนรู้ (๑) การเทคโนโลยีสร้างสรรค์ผลงาน ได้แก่ การใช้อินโฟกราฟิก ในวิชาภาไทยระดับมัธยมศึกษา มาใช้ประโยชน์เร่ือง คำที่มักใช้ผิดในสังคมออนไลน์ และการตัดต่อวีดีโอ (Tik Tok) ในการนำเสนอผลงานของ นกั เรียนระดับชัน้ ประถมศกึ ษาและระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษา (๒) ใชเ้ วบ็ ไซต์และเพจ ที่สนบั สนุนกิจกรรมการเรียนการสอนต่าง ๆ ในระบบออนไลน์ เช่น ทรูป ลูกปัญญา หรอื อ่นื ๆ ในทกุ สาระการเรยี นรู้ ๓.๓.๓ มกี ารบริหารจัดการชั้นเรยี นเชงิ บวก ครูผู้สอนมีการบริหารจัดการชั้นเรียน โดยเน้นการมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกตามเอกลักษณ์ของ โรงเรียนคือ สายใยครูและศิษย์ เพ่ือให้เด็กรักครู ครูรักเด็ก และเด็กรักเด็ก เด็กรักท่ีจะเรียนรู้ สามารถเรียนรู้ รว่ มกันอย่างมคี วามสขุ ๓.๓.๔ ตรวจสอบและประเมนิ ผู้เรียนอยา่ งเปน็ ระบบ และนำผลมาพัฒนาผเู้ รยี น ครูจำนวน ๑๗ คนจากครูท้ังหมด ๑๗ คน ได้รับการอบรมพัฒนาความรู้ที่เก่ียวข้องกับการ วัด และประเมินผล ในระยะเวลาไม่เกิน ๒ ปี (เฉพาะครูผู้สอน)คิดเป็นร้อยละ ๒๙.๔๑ ครู ๕ คน จากครูท้ังหมด ๑๗ คน โดยใช้วิธีการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง โดยใช้เคร่ืองมือที่หลากหลาย เช่น การสังเกตพฤติกรรม การสำรวจ การสมั ภาษณ์ การตรวจผลงาน การแสดงความคดิ เห็นของนักเรียน ครู ผ้ปู กครอง เป็นต้น ๓.๓.๕ มกี ารแลกเปล่ียนเรยี นรแู้ ละให้ขอ้ มูลสะท้อนกลบั เพ่ือพฒั นาและปรับปรงุ การจดั การเรยี นรู้ ครูจำนวน ๑๗ คน มีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่างครูในโรงเรียนและภายในกลุ่มเครือข่าย และการใหข้ ้อมลู สะท้อนกลับเพ่ือพฒั นาการจัดการเรยี นรู้ มกี ารนิเทศการเรียนการสอนจำนวน ๑ ครั้ง/ ภาคเรยี น ซ่ึง ผู้นิเทศจะมีการให้ข้อมูล สะท้อนกลับกับผู้ถูกนิเทศ ครูเข้าร่วมจัดกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) จำนวน ๒ ครง้ั ภายใน ๑ ปี ๓.๔ จุดเดน่ โรงเรยี นบ้านนาดีสรา้ งบง มีระบบการบริหารจัดการเป็นระบบตามแผนงาน มีสภาพแวดลอ้ มทาง กายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ มีหลักสูตรสถานศึกษา มีโครงการทักษะชีวิตเพ่ือสร้างแกนนำ นักเรียน จัดกิจกรรมให้เชื่อมโยงกับนวตั วิถีชมุ ชนเศรษฐกิจพอเพียง โครงการปรับปรงุ ระบบข้อมลู สารสนเทศและ นำระบบดจิ ิทัลเทคโนโลยมี าใช้ มีส่ือ เทคโนโลยีสารสนเทศ โครงการนิเทศภายใน กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลา รู้ท่ีเสริมสร้างทักษะการคิดและทักษะอาชีพ ที่สามารถบูรณาการใช้จัดการเรียนการสอนได้ และจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนรูปแบบ Active Learning เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิดข้ันสูงท่ี ผู้เรียนสามารถเช่ือมโยงความรู้หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเองด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรม การเรียนรู้ มีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีต่อกันท้ังครูผู้สอนกับผู้เรียนและผู้เรียนกับผู้เรียน ผลการประเมินการจัดการเรียนรู้ โดยรวมในระดบั มาก ผู้เรยี นมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning โดยรวม ส่งผลใหผ้ เู้ รียนมี โอกาสในการเรยี นรู้ร่วมกัน ได้แลกเปล่ยี นเรียนรู้กนั เกิดสังคมแห่งการเรยี นรู้ สอดคล้องกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตรงตามหลักสูตร มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความภูมิใจในท้องถิ่น รวมท้งั สขุ ภาวะทางรา่ งกายและจติ สงั คมทดี่ ี

๗๘ ๓.๕ จุดควรพัฒนา ด้านคุณภาพผู้เรียน ส่งเสริมผู้เรียนให้ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ การส่ือสารภาษาอังกฤษ เทคนิคด้านคณิตศาสตร์คิดเลขเร็ว และการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาทักษะด้านคิดคำนวณให้มี ประสิทธภิ าพ ด้านการบริหารและการจัดการ ควรจดั หาบุคลากรเพิ่มและตรงเอกวิชาทสี่ อน ด้านกระบวนการเรียนการสอน ควรพัฒนาเครื่องมือ (ข้อสอบ) ให้ทันสมัย จัดกิจกรรมการเรียน การสอนท่ีเน้นรูปแบบโครงงานเพ่ิมข้ึน เพ่ือให้ผู้เรียนฝึกทักษะการคิด การแก้ปัญหา และทำงานร่วมกับผู้อื่น เพอ่ื ให้ทันต่อเหตุการณก์ ารเปล่ียนแปลงในยุคปจั จบุ ัน ๓.๖ แนวทางการพัฒนาใหไ้ ด้ระดับคุณภาพท่สี ูงข้ึน ๑) ครูควรจัดกิจกรรมเน้นให้ผู้เรียนได้มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์อย่าง หลากหลาย และใช้แหลง่ เรยี นรใู้ นการพฒั นาตนเอง ๒) ครูควรจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในระดับช้ัน ป.๑ –ป.๓ ให้สามารถนำเสนอ อภิปราย และ แลกเปล่ียนเรียนรู้อยา่ งสมเหตสุ มผล และมีทักษะในการแก้ปญั หาตามสถานการณไ์ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๓) ครคู วรจัดกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนในระดับชั้น ม.๑ –ม.๓ ให้มีพฤติกรรม ทศั นคติท่ดี ีต่อความเป็น ไทย ไม่หลงใหลกบั คา่ นิยมตา่ งชาติ จนเกิดการลอกเลยี นแบบ ทำให้ลืมวัฒนธรรมอนั ดีงามของไทย ๔) จัดหาบุคลากรที่มีความเช่ียวชาญด้านเทคโนโลยี เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพด้านการใช้งาน อินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ ซ่อมบำรงุ และใชส้ ่ือเทคโนโลยีตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างคุ้มคา่ ๕) สนบั สนุนให้มนี วตั กรรมในการจัดการเรียนรู้และมีการเผยแพร่ผลงาน ๖) โครงการส่งเสรมิ จดั กิจกรรมการเรยี นร้แู บบ Active learning ใหม้ อี ย่างตอ่ เนื่อง ๓.๗ ผลสัมฤทธิ์ทีเ่ กดิ ขน้ึ กบั ครูและรางวลั ที่ได้รบั ท่ี ชื่อรางวลั หนว่ ยงานที่มอบ ปที ไ่ี ดร้ บั สพป.อด.๒ ๒๕๖๔ ๑ นางสาวเพลนิ จติ ร พลตอื้ สพป.อด.๒ ๒๕๖๔ ได้รบั รางวัลเหรียญทองแดง สอ่ื การเรียนรู้ “คลปิ การสอนคดิ เลข สพป.อด.๒ ๒๕๖๔ สพป.อด.๒ ๒๕๖๔ เร็ว” ระดับชัน้ ป.๑-ป.๓ นางสาวเพลินจติ ร พลตอ้ื ๒ ไดร้ บั รางวัลเหรียญทองแดง สอื่ การเรียนรู้ “คลปิ การสอนคดิ เลข เรว็ ” ระดับชัน้ ป.๔-ป.๖ นายประภาส จุน่ หัวโทน ๓ ไดร้ ับรางวลั เหรยี ญทอง ส่ือการเรียนรู้ “คลปิ การสอนคิดเลขเร็ว” ระดับช้นั ป.๔-ป.๖ นายประภาส จนุ่ หัวโทน ๔ ไดร้ บั รางวลั เหรยี ญทอง สื่อการเรียนรู้ “คลิปการสอนคดิ เลขเร็ว” ระดบั ชั้น ม.๑-ม.๓

๓.๘ แหลง่ ขอ้ มลู หลักฐานเอกสารอ้างองิ ๗๙ ท่ี เอกสารหลกั ฐาน ๑ ภาพการจดั กระบวนการเรียนรูด้ ว้ ย Active Learning Qr code ๒ รายงานโครงการโรงเรยี น ๓ รายงานผลการจัดกจิ กรรม PLC ๔ รายงานโครงการนิเทศภายใน ๕ รายงานโครงการพฒั นาศักยภาพครูและบุคลากร ๖ รายงานโครงการปรบั ปรงุ ระบบข้อมลู สารสนเทศและนำระบบดจิ ิทัล เทคโนโลยมี าใช้

๘๐ ตอนท่ี ๓ สรปุ ผลการประเมินตนเองในภาพรวมของสถานศึกษา ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบงมีการดำเนินงานตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และแผนปฏิบตั ิการประจำปี เพ่ือสนองต่อมาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษา จากผลการพัฒนาส่งผลให้โรงเรียน พัฒนาคุณภาพการศกึ ษาประสบผลสำเรจ็ ตามท่ีตง้ั เปา้ หมายไว้ในแตล่ ะมาตรฐาน ดังนี้ ๑. ระดับปฐมวัย จากผลการประเมินมาตรฐานท่ี ๑ คุณภาพของเด็ก อยู่ในระดับ ดีเลิศ มาตรฐานท่ี ๒ กระบวนการ บริหารและการจัดการ อยู่ในระดับ ดีเลิศ มาตรฐานท่ี ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ อยู่ในระดับ ดี เลิศ และมีข้อมูลที่เป็นจุดเด่น จุดท่ีควรพัฒนาของสถานศึกษา รวมท้ังแนวทางการพัฒนาและความต้องการ ช่วยเหลือ ดังรายละเอียดตามตาราง ดังนี้ มาตรฐาน สรุปผลการประเมิน ระดับคณุ ภาพ มาตรฐานท่ี ๑ มาตรฐาน ดเี ลศิ มาตรฐานท่ี ๒ ดีเลิศ มาตรฐานท่ี ๓ คณุ ภาพของเดก็ ดเี ลิศ กระบวนการบริหารและการจดั การศึกษา การจดั ประสบการณท์ เี่ นน้ เด็กเปน็ สำคัญ 1.1 จดุ เด่น 1) ด้านคณุ ภาพของเด็ก 1.1) เด็ก มีพัฒนาการด้านร่างกาย กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ส่งผลให้เด็กมี พัฒนาการด้านร่างกายแข็งแรง เจริญเติบโตตามวัย มีความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อเล็ก และกล้ามเนื้อใหญ่ได้ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 1.2) คณุ ภาพเด็กด้านอารมณจ์ ิตใจ ควบคุม แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ กจิ กรรมที่ส่งเสรมิ ให้เด็ก ๆ ได้สนุกสนาน มีความสุขในการเรียนรู้ จากสื่อ dlit กิจกรรมเกมการศึกษา ส่งผลให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ เหมาะสมกับพฒั นาการ มีพฒั นาการดา้ น อารมณจ์ ิตใจ บรรลตุ ามเปา้ หมายท่ีสถานศึกษากำหนด ๑.๓) คุณภาพเด็กด้านสังคม ช่วยเหลือตนเองและเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม เด็กทุกคนช่วยเหลือ ตนเองในการทำกิจวัตรประจำวัน มีวินัย ประหยัดพอเพียง มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาส่ิงแวดล้อมทั้งในและนอก ห้องเรียน มีมารยาททางวัฒนธรรมไทย เช่น การไหว้ การทักทาย จากเสริมประสบการณ์ เช่น กิจกรรมการเล่า นิทาน กิจกรรมบา้ นวิทยาศาสตร์นอ้ ย การศกึ ษานอกสถานที่ ๑.๔) คุณภาพเด็กด้านสติปัญญา ส่ือสารได้มีทักษะการคิดพื้นฐานและแสวงหาความรู้ได้ เด็กทุก คน สนทนาโตต้ อบและเล่าเร่อื งใหผ้ ู้อนื่ เข้าใจ อ่านนิทานและเล่าเร่อื งที่ตนเองอ่านไดเ้ หมาะสมกับวยั จากกจิ กรรม เกมการศึกษา กิจกรรมเสริมประสบการณ์ การเรียนรู้สู่โลกกว้างผ่านกิจกรรมการศึกษานอกสถานท่ี ส่งผลให้เด็ก รอ้ ยละ ๙๘ มพี ัฒนาการด้านสติปญั ญา ส่อื สารไดม้ ที กั ษะการคิดพนื้ ฐาน แสวงหาความรไู้ ด้อยา่ งเหมาะสม

๘๑ 2) ดา้ นกระบวนการบรหิ ารและการจัดการศกึ ษา 2.1) การวางแผนจัดทำหลักสูตรปฐมวยั ครอบคลุมพฒั นาการท้ัง ๔ ดา้ น จัดสภาพแวดลอ้ มและ สื่อเพื่อการเรียนรู้ที่ปลอดภัยเพียงพอ ให้บริการส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศและส่ือการเรียนรู้เพ่ือสนับสนุนการจัด ประสบการณส์ ำหรับครู และกระตุ้นการเรยี นรู้ เปดิ โอกาสใหผ้ ูเ้ กีย่ วขอ้ งทุกฝ่ายมีส่วนรว่ มเป็นภาคเี ครือขา่ ย 2.2) จดั ระบบเครอื ข่ายข้อมูลสารสนเทศ การใหบ้ รกิ ารและเผยแพรป่ ระชาสมั พันธไ์ ดท้ ั่วถึง 3) การจดั ประสบการณท์ ี่เน้นเดก็ เป็นสำคัญ 3.1) จัดประสบการณ์ใหเ้ ดก็ มีพัฒนาการทกุ ด้านอยา่ งสมดลุ เต็มศักยภาพ รู้จกั เด็กเปน็ รายบุคคล และสรา้ งโอกาสให้เดก็ ทุกคนได้รับประสบการณ์ตรง เลน่ และลงมอื กระทำผ่านประสาทสมั ผสั จัดบรรยากาศท่ีเอื้อ ต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย มีการติดตามและประเมินผลพัฒนาการเด็กอย่างเป็นระบบ เด็กเรียนรู้จากการเล่นและปฏิบัติกิจกรรม ผ่านโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เด็กมี พัฒนาการการอย่างสมดุล มีบรรยากาศ สภาพห้องเรียนเอื้อต่อการเรียนรู้ มีการประเมินผลเด็กด้วยวิธีการ หลากหลาย 1.2 จุดควรพัฒนา 1) ด้านคุณภาพของเด็ก 1.1) ควรเนน้ ใหเ้ ด็กไดว้ างแผนการทำงาน โดยผา่ นการจดั กจิ กรรมไฮสโคป 1.2) เน้นเสริมสร้างด้านสติปัญญาของเด็ก โดยผ่านกระบวนการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย เช่นการ สังเกต การตงั้ คำถาม และการปฏิบตั ิ 2) ดา้ นกระบวนการบรหิ ารและการจัดการศกึ ษา 2.1) ควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นในการจัดการศึกษาเพื่อ พัฒนาผูเ้ รียนมากขน้ึ 2.2) ควรสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียน ให้มี ความเขม้ แข็ง มีสว่ นร่วมรบั ผดิ ชอบต่อผลการจัดการศกึ ษา และการขบั เคลอื่ นคณุ ภาพการจดั การศกึ ษา 3) การจัดประสบการณท์ ่ีเน้นเด็กเป็นสำคัญ 3.1) จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมในส่วนของการผลิตสื่อและจัดมุมประสบการณ์ต่าง ๆ ใน หอ้ งเรยี น เพอ่ื เปน็ แหลง่ เรียนร้ทู เ่ี ดก็ สามารถสัมผัสและเรียนรไู้ ดใ้ กลช้ ดิ 3.2) จัดซื้อเคร่ืองเล่นสนาม กระบะทราย เพ่ิมเติม เน่ืองจากที่มีอยู่เดิมชำรุด ไม่สวยงามและไม่ ปลอดภัย 1.๓ แนวทางการพัฒนาให้ได้ในระดับคุณภาพทีส่ งู ขน้ึ 1) โรงเรียนได้มีแนวทางในการพัฒนามาตรฐานที่ ๑ ให้ได้ระดบั คุณภาพท่สี ูงข้ึนโดยกำหนดโครงการ และกจิ กรรม ดังตอ่ ไปนี้ ๑.๑) กิจกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัย เรื่อง \"การฝึกสมาธิของเด็กปฐมวัย โดยการใช้ศิลปะ สรา้ งสรรค์\" ขนั้ ตอนการดำเนินงานมดี ังน้ี ๑.๑.๑) ประชุมทำความเข้าใจและร่วมมือกับผู้ปกครอง เพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ท่ีดีระหว่าง เดก็ ผู้ปกครอง ครู โรงเรยี น และชุมชน เรอ่ื งการฝึกสมาธใิ ห้เดก็ ปฐมวัยมรสมาธิในการทำกิจกรรมต่าง ๆ และการ ทำงาน การสรา้ งสรรค์ผลงานอยา่ งเหมาะสมกบั วยั ๑.๑.๒) ผู้ปกครอง ครู สนทนาแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันและช่วยกันแก้ปัญหาอย่าง สมำ่ เสมอและตอ่ เน่อื ง

๘๒ ๑.๑.๓) ประเมนิ ผลการฝกึ สมาธขิ องเด็กปฐมวยั โดยการใช้ศิลปะสร้างสรรค์ เนื่องจากต้อง ฝึกสมาธิให้กับเด็กปฐมวัย เพราะเด็กวัยนี้จะมีช่วงเวลาการสนใจทำกิจกรรมน้อยมาก จะไม่อยู่น่ิง ดังน้ั นมี ความสำคญั อยา่ งยงิ่ ท่ีตอ้ งฝกึ ให้เด็ก รจู้ กั การทำสมาธิ ไม่ใชเ่ ป็นการจับเด็กมานั่งน่ิง ๆ แต่เปน็ การใหเ้ ขาได้ฝึกใจจด ใจจ่อ ในช่วงขณะหน่ึงให้ได้ ยิ่งโดยเฉพาะในการจัดการเรียนการสอนทำกิจกรรมกับเพื่อนในห้องเรียน จะต้องหัน มาสนใจในการเรียนให้ได้ ในการฝึกสมาธิ โดยเร่ิมจาก ให้เด็กหยิบ จับ เก็บของ การปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับเพื่อน และหากิจกรรมขยายเวลาไปเรื่อย ๆ ให้เหมาะสมตามวัย กิจกรรมศิลปะ นับว่าเป็นวิธีที่ทำให้เด็กได้ฝึกสมาธิเร็ว ทส่ี ดุ เพราะเดก็ ได้ใช้จินตนาการของตัวเองในการสร้างสรรค์ผลงาน เด็กจะชอบมาก เพราะไมต่ อ้ งมีกฎเกณฑ์อะไร ให้เขาต้องเครยี ด และได้ปล่อยความเป็นตวั ตนของตัวเองออกมาในผลงานได้ การฝึกสมาธิโดยใชศ้ ิลปะสร้างสรรค์ ในการช่วย ทส่ี ำคญั เดก็ ได้มีความคิดรเิ รม่ิ แปลกใหม่ การยดื หยนุ่ ทางความคดิ และท่สี ำคัญเดก็ ได้มีพฒั นาการทั้ง ๔ ด้าน การสร้างข้อตกลงในห้องเรียน เป็นสิ่งสำคัญในการจัดการเรียนรู้ ครูจะต้องบอกตกลงกับเด็กในห้องเรียนให้ ทราบว่าเรากำลงั จะสอนในเรอ่ื งอะไร ช่วงแรกตอ้ งฝึกใหเ้ ด็กทำกิจกรรมท่ีสง่ เสริมสมาธิในเวลาสั้น ๆ เชน่ หยิบ จับ เก็บของ กวาดห้อง เก็บรองเท้า การเข้าแถวให้ได้และบรรลุวัตถุประสงค์ ทำเป็นประจำทุกวัน จนเด็กทำได้ด้วย ตนเองโดยไมต่ อ้ งรอครบู อก จงึ จัดประสบการการเรยี นรใู้ ห้กบั เดก็ ลำดบั ตอ่ ไป ๑.๑.๔) สรุปจากแบบสังเกตพฤตกิ รรมการฝกึ สมาธิเดก็ ปฐมวัย และบนั ทกึ หลงั แผนการจัด ประสบการณ์ ๑.๑.๕.) รายงานผลการปฏิบตั ติ ่อผู้บริหารสถานศึกษา ๒) โรงเรียนได้มแี นวทางในการพัฒนามาตรฐานที่ ๒ ใหไ้ ด้ระดบั คุณภาพที่สงู ข้นึ ดงั ตอ่ ไปน้ี ๒.๑) จัดระบบบรหิ ารจัดการคุณภาพของสถานศกึ ษาท่เี หมาะสมและตอ่ เน่ืองมกี ารช้แี นะระหว่าง การปฏิบัติงานตามมาตรฐานของสถานศึกษา ๒.๒) บูรณาการการปฏิบัติงานและเปิดโอกาสให้ผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมจนเป็นแบบอย่างท่ี ดีและไดร้ ับการยอมรับจากชุมชนและหน่วยงานท่ีเก่ยี วข้อง ๒.๓) มีการส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ท่ีส่งผลต่อคุณภาพเด็กเป็น รายบุคคล ตรงความตอ้ งการของครูและสถานศึกษา ๒.๔) จดั ใหม้ ีชมุ ชนการเรียนรู้ทางวิชาชพี ๒.๕) จัดสภาพแวดล้อมอย่างปลอดภัย เช่น การปรับปรุงบำรุงรักษาแปลงไม้ดอกไม้ประดับ สวนหย่อม จดั ทำสวนหย่อมและปลกู ไมด้ อกไมป้ ระดบั เพิ่มเตมิ ๒.๖) จดั ส่อื เพ่ือการเรียนรูแ้ ละพัฒนาเด็กอย่างต่อเนอ่ื งเพยี งพอและหลากหลาย 3) โรงเรียนได้มีแนวทางในการพัฒนามาตรฐานที่ ๓ ให้ได้ระดับคุณภาพทสี่ ูงข้ึนโดยกำหนดโครงการ และกิจกรรม ดังตอ่ ไปนี้ ๓.๑) โครงการการสอนแบบไฮสโคป ๓.๒) โครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน เช่น ปรับปรุงห้องเรียน มุมประสบการณ์ ส่ือ การเรียนรู้ และเพิ่มกจิ กรรมการทดลองโครงการบ้านวทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย ๓.๓) โครงการพฒั นาเคร่ืองเล่นสนาม ๓.๔) โครงการส่งเสรมิ สุขภาพและสนุ ทรียภาพเดก็ ๓.๕) โครงการส่งเสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ มทพ่ี งึ ประสงค์ ๓.๖) โครงการสบื สานวัฒนธรรมประเพณที อ้ งถน่ิ และวันสำคัญ 1.๔ ความตอ้ งการและความชว่ ยเหลอื 1) สนับสนุนงบประมาณและสอ่ื เพ่ิม

๘๓ 2. ระดบั การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน จากผลการประเมนิ มาตรฐานที่ ๑ คณุ ภาพผู้เรียน อยูใ่ นระดบั ดเี ลศิ มาตรฐานท่ี ๒ กระบวนการบริหาร และการจัดการ อยู่ในระดับ ดีเลิศ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ อยู่ใน ระดับ ดี และมีข้อมูลท่ีเป็นจุดเด่น จุดท่ีต้องพัฒนาของสถานศึกษา รวมท้ังแนวทางการพัฒนาและความต้องการ ช่วยเหลือ ดงั รายละเอียดตามตาราง ดงั นี้ มาตรฐาน สรุปผลการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ มาตรฐานที่ ๑ มาตรฐาน ดเี ลศิ มาตรฐานที่ ๒ ดเี ลศิ มาตรฐานที่ ๓ คุณภาพของผูเ้ รยี น ดี กระบวนการบริหารและการจดั การศึกษา กระบวนการจัดการเรียนการสอนทีเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั 2.1 จุดเดน่ ๑) ด้านคณุ ภาพของผู้เรยี น ๑.๑) ด้านผลสัมฤทธทิ์ างวิชาการของผเู้ รียน ผ้เู รียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรท่ีสถานศึกษกำหนด และผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้น พ้ืนฐาน (O-NET) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 และชันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ปีการศึกษา ๒๕๖๔ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์มี คา่ เฉลี่ยสงู กว่าระดับประเทศ ๑.๒) ดา้ นคุณลักษณะที่พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น ผู้เรียนมีระเบียบวินัย จนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา เป็นที่ยอมรับของชุมชนโดยรอบใน เรื่องความมีวินัย เคารพกฎกติกา มารยาทของสังคม ได้แก่ การเข้าคิวรับของในงานสาธารณะต่าง ๆ ผู้เรียนเป็น คนซือ่ สัตย์ สุจรติ เห็นไดจ้ ากไมม่ กี ารลกั ขโมยในห้องเรียนโรงเรยี น ประหยัดมธั ยสั ถ์จากโครงการออมทรพั ย์ ๒) ดา้ นกระบวนการบรหิ ารและการจัดการของผบู้ ริหารสถานศึกษา ๒.๑) ผู้บรหิ ารมีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น มีหลักการบริหาร และมีวิสยั ทัศน์ที่ดีในการบริหารงาน สามารถเป็นแบบอย่างท่ีดีในการทำงาน และคณะกรรมการสถานศึกษามีความตั้งใจ และมีความพร้อมในการ ปฏิบตั หิ น้าทต่ี ามบทบาท ๒.๒) โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบงมีการบริหารและการจัดการอย่างเป็นระบบ มีระบบประกัน คณุ ภาพภายในสถานศึกษาท่ีเข้มเข็ง โรงเรียนได้ใช้เทคนิคการประชุมที่หลากหลายวิธี เช่น การประชุมแบบมีส่วน รว่ ม การประชุมระดมสมอง การประชมุ กลุ่ม เพ่อื ให้ทกุ ฝ่ายมีสว่ นร่วมในการกำหนดวสิ ัยทัศน์ พนั ธกิจ เป้าหมายท่ี ชัดเจน มกี ารปรับแผนพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศึกษา แผนปฏิบัตกิ ารประจำปีทีส่ อดคลอ้ งกบั ผลการจดั การศึกษา สภาพปัญหา ความต้องการพัฒนา และนโยบายการปฏิรูปการศึกษา ท่ีมุ่งเน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณภาพตาม มาตรฐานหลักสูตรของสถานศกึ ษา ครูผูส้ อนสามารถจดั การเรียนรู้ได้อยา่ งมีคุณภาพ มีการดาเนินการนิเทศ กำกับ ตดิ ตาม ประเมินผล การดำเนินงาน และจัดทำรายงานผลการจัดการศึกษา และโรงเรียนได้ใชก้ ระบวนวิจัยในการ รวบรวมขอ้ มลู มาใช้เปน็ ฐานในการวางแผนพฒั นาคณุ ภาพสถานศกึ ษา

๘๔ ๓) ด้านกระบวนการจดั การเรียนการสอนทีเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั โรงเรียนบ้านนาดีสร้างบง มีระบบการบริหารจัดการเป็นระบบตามแผนงาน มีสภาพแวดล้อม ทางกายภาพและสังคมที่เอ้ือต่อการจัดการเรียนรู้ มีหลักสูตรสถานศึกษา มีโครงการทักษะชีวิตเพื่อสร้างแกนนำ นกั เรยี น จัดกิจกรรมให้เช่ือมโยงกับนวตั วิถีชมุ ชนเศรษฐกิจพอเพียง โครงการปรับปรงุ ระบบข้อมูลสารสนเทศและ นำระบบดจิ ิทัลเทคโนโลยมี าใช้ มีสื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ โครงการนิเทศภายใน กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลา รู้ที่เสริมสร้างทักษะการคิดและทักษะอาชีพ ที่สามารถบูรณาการใช้จัดการเรียนการสอนได้ และจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนรูปแบบ Active Learning เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิดข้ันสูงท่ี ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้หรือสร้างความรู้ให้เกิดข้ึนในตนเองด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรม การเรียนรู้ มีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีต่อกันท้ังครูผู้สอนกับผู้เรียนและผู้เรียนกับผู้เรียน ผลการประเมินการจัดการเรียนรู้ โดยรวมในระดบั มาก ผู้เรยี นมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรยี นรแู้ บบ Active learning โดยรวม ส่งผลให้ผ้เู รียนมี โอกาสในการเรยี นรรู้ ่วมกัน ได้แลกเปลีย่ นเรียนรู้กันเกิดสังคมแห่งการเรยี นรู้ สอดคล้องกับการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 และผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนตรงตามหลักสูตร มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความภูมิใจในท้องถ่ิน รวมทั้งสขุ ภาวะทางร่างกายและจิตสงั คมทดี่ ี ๒.๒ จุดควรพัฒนา ๑) ด้านคุณภาพของผ้เู รยี น ๑.๑) ด้านผลสัมฤทธทิ์ างวชิ าการของผูเ้ รยี น เป็นสิ่งท่ีผู้เรียนมีผลการประเมินอยู่ในระดับปานกลาง เช่น ผู้เรียนควรพัฒนาในด้านการรู้จัก วางแผน การกล้าแสดงออก และแสดงความคิดเห็น และเพ่ิมผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ และ ภาษาองั กฤษใหส้ งู ขน้ึ ๑.๒) ด้านคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ของผู้เรียน ๑.๒.๑) ผู้เรียนควร มีการป้องกันตนเองจากภัยทางอินเตอร์เน็ต เช่น การเล่นเกมส์/พนัน ออนไลน์ ๑.๒.๒) ผเู้ รียนในระดับชนั้ ม.๑ –ม.๓ ยังต้องไดร้ บั การส่งเสริมในดา้ นทัศนคติท่ดี ตี ่อความเป็น ไทย ไมห่ ลงใหลกบั ค่านยิ มต่างชาติ จนเกิดการลอกเลยี นแบบ ทำใหล้ มื วฒั นธรรมอนั ดีงามของไทย ๒) ด้านกระบวนการบริหารและการจดั การของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา ๑.๑) ควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นในการจัดการศึกษาเพ่ือ พฒั นาผเู้ รียนมากขนึ้ ๑.๒) ควรสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียน ให้มี ความเข้มแขง็ มีส่วนรว่ มรับผิดชอบตอ่ ผลการจดั การศึกษา และการขบั เคล่ือนคณุ ภาพการจดั การศกึ ษา ๑.๓) มีการระดมความคิดในการพัฒนาสถานศึกษาจากบุคลากรทุกฝ่ายที่เก่ียวข้อง เพื่อพัฒนา อย่างตอ่ เนอื่ งและเปน็ ธรรม ๓) ด้านกระบวนการจัดการเรยี นการสอนท่เี น้นผ้เู รียนเป็นสำคัญ ควรพัฒนาเครื่องมือ (ข้อสอบ) ให้ทันสมัย จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นรูปแบบโครงงาน เพิ่มข้ึน เพื่อให้ผู้เรียนฝึกทักษะการคิด การแก้ปัญหา และทำงานร่วมกับผู้อื่น เพ่ือให้ทันต่อเหตุการณ์การ เปลีย่ นแปลงในยุคปจั จบุ ัน

๘๕ ๒.๓ แนวทางการพฒั นาให้ได้ในระดบั คุณภาพท่ีสูงขน้ึ ๑) ด้านคุณภาพของผเู้ รยี น ๑.๑) พัฒนาให้นักเรียนมีทักษะในการอ่าน การเขียน การส่ือสาร และการคิดคำนวณเปน็ ไปตาม เกณฑท์ ี่ โรงเรยี นกำหนดในแตร่ ะดับชนั้ ๑.๒) พัฒนาให้นักเรียนมีความสามารถในการคิดจำแนก แยกแยะ ใคร่ครวญไตร่ตรอง พิจารณา อย่างรอบคอบ โดยใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหาอย่างมี เหตุผล ๑.๓) พัฒนาให้นกั เรยี นมีความสามารถในการรวบรวมความรู้ได้ทง้ั ดว้ ยตนเองและการทำงานเป็น ทมี เช่ือมโยงองคค์ วามรู้ และประสบการณม์ าใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ๑.๔) พัฒนาให้นักเรียน มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารเพื่อพัฒนา ตนเอง และสงั คมในดา้ นการเรยี นรู้ การสอ่ื สาร การทำงาน อย่างสร้างสรรค์ และมีคณุ ธรรม ๑.๕) พัฒนาให้นักเรียน มคี วามก้าวหน้าในการเรียนรตู้ ามหลกั สตู รสถานศึกษาจากพืน้ ฐานเดิมใน ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะ กระบวนการตา่ ง ๆ ๑.๖) พัฒนาให้นักเรียนมีความก้าวหน้าในผลการทดสอบระดับชาติ มีความรู้ ทักษะพ้ืนฐานใน การจัดการเจตคติที่ดพี ร้อมท่จี ะศกึ ษาต่อในระดบั ชนั้ ทส่ี ูงข้ึน มีพฤติกรรมเป็นผทู้ ่มี ีคุณธรรม จรยิ ธรรม เคารพในกฎ กตกิ า ๑.๗) พัฒนาให้นักเรียนมีค่านิยมและจิตสำนึกตามที่สถานศึกษามีความภูมิใจในท้องถิ่น เห็น คุณค่าของความเปน็ ไทย มีสว่ นร่วมในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมประเพณีไทยรวมท้ังภูมิปญั ญาไทย ๑.๘) พัฒนาให้นักเรียน มีการรักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิต อารมณ์ และสังคม แสดงออกอย่าง เหมาะสมใน แตล่ ะชว่ งวยั โดยมีแผนงาน/โครงการทโี่ รงเรียนดำเนินงานมดี งั นี้ ๑.๘.1) โครงการยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ๑.๘.2) โครงการปรับปรงุ ระบบขอ้ มูลสารสนเทศและนำระบบดิจทิ ัลเทคโนโลยีมาใช้ ๑.๘.3) โครงการสง่ เสริมความสมั พนั ธ์บา้ น วดั โรงเรยี น ๑.๘.4) โครงการโรงเรยี นคุณภาพประจำตำบล ๑.๘.5) โครงการนอ้ มนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสกู่ ารปฏิบัติ ๑.๘.6) โครงการโรงเรยี นสีขาว ๑.๘.7) โครงการสง่ เสรมิ กีฬานกั เรียน ๑.8.๘) โครงการลูกเสอื เขม้ แขง็ ๑.๘.9) โครงการออมทรพั ย์ ๑.๘.๑๐) โครงการรักษก์ ารอา่ น-เขยี น ๑.๘.11) หลักสตู รสถานศกึ ษา ๑.๘.12) แผนปฏบิ ตั ริ าชการ ๑.๘.13) แผนการจดั การเรียนรู้ Active Learning, STEM Education ๒) ดา้ นกระบวนการบรหิ ารและการจัดการของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ๒.๑) พัฒนาหลักสตู รใหส้ อดคล้องกับชุมชนมากข้ึน ๒.๒) พัฒนาระบบ นิเทศ กำกับ ติดตามให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน และมีการตรวจสอบท่ีเป็น ระบบ ๒.๓) จัดใหม้ ีชมุ ชนการเรียนรทู้ างวชิ าชพี เพอ่ื พัฒนางาน

๘๖ ๒.๔) พฒั นาครสู ่คู รมู ืออาชพี ๓) ดา้ นกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ ๓.๑) ครูควรจัดกิจกรรมเน้นให้ผู้เรียนได้มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์อย่าง หลากหลาย และใช้แหล่งเรียนรใู้ นการพัฒนาตนเอง ๓.๒) ครูควรจดั กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนในระดบั ช้ัน ป.๑ –ป.๓ ให้สามารถนำเสนอ อภปิ ราย และ แลกเปล่ียนเรียนรอู้ ย่างสมเหตสุ มผล และมที กั ษะในการแก้ปัญหาตามสถานการณ์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๓.๓) ครูควรจดั กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียนในระดบั ชน้ั ม.๑ –ม.๓ ให้มีพฤติกรรม ทัศนคตทิ ด่ี ตี อ่ ความ เปน็ ไทย ไม่หลงใหลกบั ค่านิยมต่างชาติ จนเกดิ การลอกเลียนแบบ ทำใหล้ มื วัฒนธรรมอันดงี ามของไทย ๓.๔) จัดหาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้งาน อินเตอรเ์ นต็ คอมพิวเตอร์ ซ่อมบำรุง และใชส้ อ่ื เทคโนโลยตี ่าง ๆ ไดอ้ ย่างคุ้มคา่ ๓.๕) สนับสนุนให้ห้องสมุดเป็นแหลง่ ค้นคว้าทด่ี อี ย่เู สมอ และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ใน การจัดการเรียนรู้ ๓.๖) สนับสนุนใหม้ นี วัตกรรมในการจดั การเรียนร้แู ละมกี ารเผยแพร่ผลงาน ๓.๗) โครงการพัฒนาระบบงานบริหารเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัตงิ านของบุคลากรโดย ใชก้ ระบวนการ PDCA ๓.๘) โครงการส่งเสริมจัดกิจกรรมการเรยี นร้แู บบ Active learning ใหม้ ีอย่างตอ่ เนื่อง ๒.๔ ความตอ้ งการและความชว่ ยเหลือ ๑) การพฒั นาครใู นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ท่ีสอดคลอ้ งกับการพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษ ท่ี ๒๑ ๒) จัดสรรครูผสู้ อนให้ตรงตามวชิ าเอกท่ีโรงเรยี นมคี วามต้องการและจำเปน็

๘๗ ภาคผนวก

๘๘ คำสงั่ โรงเรียน บ้านนาดสี ร้างบง ท่ี ๒๙/๒๕๖๔ (แก้ไขเพมิ่ เติม) เรือ่ ง แตง่ ตงั้ คณะกรรมการจดั ทำระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา อาศยั อำนาจตามพระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2545 และ มาตรา 47 วรรคสอง และกฎกระทรวง วา่ ดว้ ยการประกันคุณภาพการศกึ ษา พ.ศ.2561 กำหนดให้ สถานศึกษาจดั ระบบการประกันคุณภาพภายใน เพือ่ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษา มกี ารประเมิน คณุ ภาพภายใน ถอื วา่ เป็นกระบวนการบรหิ ารตอ้ งดำเนนิ การอยา่ งต่อเนอ่ื ง และรายงานต่อหนว่ ยงานตน้ สงั กดั และสาธารณชนเปน็ ประจำทกุ ปี จึงแตง่ ตั้งบุคคลตอ่ ไปนี้เป็นคณะกรรมการประกนั คุณภาพภายใน ดงั น้ี ๑. จ.ส.อ.สายณั ห์ นามแสง ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ประธานกรรมการ ๒. นางสุภาพร พลู ทอง ครู คศ.๓ รองประธานกรรมการ ๓. น.ส.รงุ่ นภา ผลาพฤกษ์ ครู คศ.๓ กรรมการ ๔. นางสาวศภุ สิ รา โรมเมือง ครูผู้ชว่ ย กรรมการ/เลขานุการ ๕. นางสาวณัฐฐินนั ท์ สิมพา ครูผชู้ ว่ ย กรรมการ/ผช.เลขาฯ ๖. นางสาวเพลินจิตร พลต้ือ ครูผ้ชู ว่ ย กรรมการ/ผช.เลขาฯ ๗. นายธนพฒั น์ พิมพรภริ มย์ ครูผู้ชว่ ย กรรมการ/ผช.เลขาฯ ๘. นางสุธาสนิ ีย์ สายพรหม ครูผชู้ ่วย กรรมการ/ผช.เลขาฯ มหี นา้ ที่ ๑. ดำเนินการประชุมชแ้ี จงครแู ละผู้เก่ยี วข้องให้เข้าใจแนวทางของการประกนั คุณภาพภายในเพอ่ื เตรยี มตัวรบั การ ประเมินภายนอก ๒. อำนวยการปฏิบตั งิ านของคณะกรรมการฝา่ ยตา่ งๆ ทั้งดา้ น คูม่ อื เอกสาร วัสดแุ ละงบประมาณ ๓. ประสานงาน กำกับดูแลตดิ ตามให้คำปรกึ ษา แนะนำ ตัดสนิ ใจ และแกป้ ญั หาต่างๆ ในการดำเนนิ งานให้เป็นไปดว้ ย ความเรียบร้อย รวมท้งั จดั ทำแฟม้ รายมาตรฐานให้สมบูรณเ์ ปน็ ปัจจบุ นั ๔. รวบรวม จดั ทำเอกสาร และนำเขา้ แฟ้มตามมาตรฐาน ๕. หน้าที่อ่นื ๆ ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ทั้งน้ี ให้คณะกรรมการทีไ่ ด้รับการแต่งตงั้ ไดป้ ฏบิ ัตหิ น้าท่ี ที่ได้รบั มอบหมายดำเนินการให้เปน็ ไปตามระเบยี บและ กฎหมายท่ีเก่ียวข้อง อย่าใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกท่ างราชการ สง่ั ณ วนั ที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ จ.ส.อ. (สายณั ห์ นามแสง) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาดีสรา้ งบง

๘๙