Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คำนำ

คำนำ

Description: คำนำ

Search

Read the Text Version

คู่มือเผยแพร่องคค์ วามรู้ เรอ่ื ง “ กล้วยทบั อบมว้ นตำบลจอมประทดั ”

หนังสือ “กล้วยทับอบม้วนตำบลจอมประทัด” ฉบับนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สป.อว.) ดำเนินงานโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจท้องถิ่นในภูมิภาคด้วยองค์ ความรู้ภูมิปัญญาและนวัตกรรมประจำปีงบประมาณ 2563 แผนงานการส่งเสริมนำนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่เพื่อพัฒนา สังคมและชุมชน (Area-Based Innovation for Community) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและงานวิจัยไปใช้ ประโยชน์ในชุมชนในพืน้ ทีภ่ าคตะวนั ตก ดำเนินงานโดย สำนักอุทยานวิทยาศาสตรแ์ ละอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระ จอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี ปรับปรุงและพัฒนาเครื่องทับกล้วยสแตนเล สระบบเปดิ ปดิ แผ่นสแตนเลสอตั โนมตั ิ ใหแ้ ก่ วสิ าหกิจชมุ ชนกลมุ่ แม่บ้านเกษตรกรตำบลจอมประทัด จงั หวดั ราชบุรี คณะทำงาน ผศ.ดร.ใหม่ นอ้ ยพทิ กั ษ์ หัวหนา้ โครงการ ผศ.ดร.กมลวรรณ คำภูมี ผูร้ ว่ มวจิ ยั นายสุทธิพงษ์ ปานโชติ ผรู้ ่วมวิจยั นายวรายุทธ พนู นายม ผู้ร่วมวิจัย หน่วยวิจยั วสั ดุและการทดสอบโดยไม่ทำลาย ศนู ย์บรกิ ารทางการศกึ ษาราชบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบุรี ผู้จัดทำหนังสือและวิทยากร อ.ดร.รัชนดิ า รอดอ้วิ คณะวทิ ยาการจัดการ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏหมบู่ ้านจอมบึง

ก คำนำ สำนกั งานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัย และนวัตกรรม (สป.อว.) ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณประจำปี 2563 ในการดำเนินแผนงานยกระดับคุณภาพ ชีวิตและเศรษฐกิจท้องถิ่นในภูมิภาคด้วยองค์ความรู้ภูมิปัญญาและนวัตกรรม ภายใต้ แผนการสง่ เสรมิ การนำนวตั กรรมไปใช้ประโยชน์พน้ื ทีเ่ พือ่ พัฒนาสงั คมและชุมชน ดำเนนิ งานโดย สำนกั อุทยานวทิ ยาศาสตร์และอุตสาหกรรม (สออ.) มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี ตระหนักถึงความจำเป็นที่อยากให้กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตำบลจอม ประทัด ได้เครื่องทับกล้วยสแตนเลสระบบเปิดปิดแผ่นสแตนลสอัตโนมัติ ของวิสาหกิจ ชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตำบลจอมประทัด อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี เมื่อก่อน เครอ่ื งทบุ กลว้ ยดว้ ยแรงงานคนทำจากสแตนเลส ใช้แรงแขนยก แผ่นสแตนเลสมนี ้ำหนัก ประมาณ 10 กิโลกรัม เพื่อให้กล้วยแบนซึ่งกล้วย 1 แผ่นใช้การทุบ 1-2 ครั้ง แล้วแต่ ขนาดของกล้วย แต่จะมีปัญหาคือ กล้วยจะกระเด็นออกนอกเครื่องทับ ทำให้พื้นและตัว พนักงานผู้ทุบเหนียวเปรอะเปื้อน ดูสกปรกไม่ถูกหลักอนามัย นอกจากนี้ขณะทุบผู้ทุบ จะต้องใช้เท้ากดเครื่องทับไม่ให้เคลื่อนที่ทำให้ปวดเกร็งบริเวณกล้ามเนื้อขาและปวด กล้ามเนื้อแขนซึ่งเกิดจากการยกแผ่นทุบที่มีน้ำหนักมากเป็นเวลานาน นอกจากนี้เครื่อง รุ่นนี้จำเป็นต้องใช้แรงงานผู้ชายเป็นหลัก ตอนนี้วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ตำบลจอมประทัด อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี ได้เครื่องทับกล้วยสแตนเลสระบบเปิด ปิดแผ่นสแตนลสอัตโนมัติ จึงเพิ่มผลผลิตกล้วยอบม้วนให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม จึงทำให้ผลผลิตที่ได้จากเครื่องทับกล้วยไฟฟ้าสามารถใช้ได้ทุกวัยสะดวกสบาย ประหยัด แรงและเวลา ช่วยลดปัญหาด้านสขุ ภาพของพนักงานผทู้ ับกล้วย ไม่จำเปน็ ตอ้ งใช้แรงงาน พนกั งานผูช้ ายเพียงอย่างเดยี ว ลดการปวดเมอื่ ยจากการทำงาน คณะผูจ้ ัดทำ

ข สารบญั เรอื่ ง หนา้ คำนำ ......................................................................................................... ก สารบัญ ..........................................................................................................ข 1. กลว้ ยนำ้ ว้า ..................................................................................................1 2. ลกั ษณะทัว่ ไปทางพฤกษศาสตร์ของกล้วยนำ้ ว้า......................................... 2 3. สว่ นประกอบของตน้ กลว้ ยน้ำวา้ .................................................................. 3 4. การปลูกกลว้ ยน้ำว้า ....................................................................................5 • พนั ธท์ุ ีใ่ ช้ในการผลิตกลว้ ยอบม้วน......................................................5 • การเพาะปลกู ......................................................................................5 • การเก็บเกี่ยว.......................................................................................6 • โรคของกล้วย......................................................................................7 5. ประโยชนข์ องกล้วยนำ้ ว้า..............................................................................8 6. การแปรรูปกลว้ ยนำ้ ว้า ................................................................................9 • ขัน้ ตอนการผลิต.................................................................................9 7. การพฒั นาเครื่องทับกล้วยสแตนเลส.......................................................12 • วธิ ดี ัง้ เดมิ ..........................................................................................12 • วิธที ่ีไดก้ ารพฒั นา ............................................................................13 • กำลังการผลติ เปรยี บเทียบ...............................................................14

1 1. กล้วยน้ำวา้ กล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ของกล้วยป่า 2 ชนิด ได้แก่ Musa acuminate และ Musa balbisaina กล้วยเป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดใน เอเชยี ใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลว้ ยเปน็ พชื ทช่ี อบอากาศรอ้ นช้ืนจงึ เหมาะกับการ ปลูกในประเทศไทย เชื่อกันว่ากล้วยเป็นไม้ผลชนิดแรกที่มีการปลูกไว้ตามบ้าน ประเทศไทยมีการปลูกกล้วยกันมานานจึงมีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งพันธุ์พื้นเมือง ดั้งเดิม และนำเข้ามาจากประเทศใกล้เคียง ในสมัยสุโขทัยมีการนำกล้วยตานีเข้ามา ปลูกเป็นจำนวนมากและปลูกอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน จังหวัดสุโขทัยจึงเป็นแหล่ง ปลูกกล้วยตานีที่มีจำนวนมากที่สุด ต่อมาในสมัยอยุธยาประชาชนนิยมปลูกกล้วยไว้ เป็นไม้ประดับเพื่อความสวยงามและเพื่อการบริโภค ในปัจจุบันกล้วยน้ำว้า ปลูกกัน มากที่สุดในจังหวัดเลย หนองคาย และระนอง พันธุ์กล้วยน้ำว้าที่พบในไทย ได้แก่ กล้วยน้ำว้าแดง กล้วยน้ำว้าค่อม กล้วยน้ำว้าเหลือง กล้วยน้ำว้าขาวกล้วยน้ำว้านวล 2.ลกั ษณะทัว่ ไปทางพฤกษศาสตร์ของกล้วยนำ้ วา้ ชอ่ื สมนุ ไพร กล้วยน้ำว้า ชอื่ อน่ื ๆ/ชอื่ ทอ้ งถนิ่ กลว้ ยใต้ (ภาคเหนอื ) กลว้ ยตานีอ่อง , กลว้ ยอ่อง (ภาคอสี าน) กลว้ ยมะลิอ่อง (ภาคตะวนั ออก) , ปซิ งั (มาเลเซยี , อินโดนเี ซยี ) ซาจงิ (ฟลิ ปิ ปินส์), เงก็ เปาตี (พม่า) ซิกนมั วา (กมั พูชา) ชอ่ื สามญั Banana blossom, Banana, Cultivated banana ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Musa sapientum Linn , [Musa ABB group (triploid) cv. ‘Nam Wa’] ชอ่ื พอ้ งวิทยาศาสตร์ M. paradisiaca L.var sapientum (L.) O. Ktzl วงศ์ Musaceae

2 ลักษณะทว่ั ไปกลว้ ยนำ้ วา้ กล้วยน้ำว้า เป็นพืชใบเลี้ยงเดีย่ ว (ลำต้นสูง) 3.0- 4.5 เมตร ลำต้นแท้จะเป็น ส่วนหวั (เหง้า)ท่ีอยเู่ หนือดนิ เล็กน้อย หรือ ฝังอยใู่ ตด้ นิ เหง้ากลว้ ยน้ำว้าสามารถแตก หน่อแยกเป็นต้นใหม่ได้ ส่วนลำต้นเหนือดินที่เป็นลำต้นเทียมประกอบด้วยกาบใบ และใบ โดยกาบใบจะแทงออกจากเหง้าเรียงซ้อนกันแน่นเป็นวงกลมจนกลายเป็นลำ ต้นตามที่มองเห็น แผ่นกาบด้านนอกที่มองเห็นจะมีสีเขียว และมีสีดำประเล็กน้อย กาบใบเป็นแผ่นโค้งเป็นรูปครึ่งวงกลม โดยมีแกนกลางเป็นกาบอ่อนเรียงซ้อนกัน แต่ เมือ่ กลว้ ยออกปลี (ดอก) แกนกลางจะกลายเปน็ แก่นกล้วยแทน ขนาดของลำต้นเทียม ประมาณ 15-25 ซม.ส่วนรากล้วยจะมีเพียงระบบรากแขนงที่แตกออกจากเหง้ากล้วย รากแขนงนม้ี ลี ักษณะเป็นเปลอื กหมุ้ สีดำ แกน่ รากมีสีขาว ขนาดของรากประมาณ 0.5-1 ซม. หรือ ขนาดประมาณเท่านิ้วก้อย ใบกล้วยเป็นส่วนที่ถัดจากกาบกล้วย ประกอบด้วยส่วนก้านใบ และใบ ก้านใบมีความยาวประมาณ 0.5-1 เมตร ถัดมาจะ เป็นส่วนใบ หรือเรียก ใบตอง ซึ่งเป็นแผ่นเดียวกัน ซ้าย-ขวา ที่ถอดยาวไปจนถึง ปลายใบยาว 1.5-2 เมตร แผ่นใบหรือใบตองที่เป็นยอดอ่อนจะมีสีเขียวอ่อน และต้ัง ตรง เมื่อแก่จะมีสีเขียวสด และก้านใบโน้มลงด้านล่าง แผ่นใบมีลักษณะเรียบ แผ่นใบ ด้านบนมีสีเขียวสด และเป็นมัน ส่วนแผ่นใบด้านล่างมีสีเขียวอมเทา ความยาวของ แผ่นใบแต่ละข้างจะยาวเท่ากันประมาณ 25-30 ซม. ดอก (ปลี)กล้วยจะแทงออกที่ ปลายยอด มีลักษณะเป็นช่อห้อยลง เรียกว่า เครือกล้วย โดยเครือกล้วยประกอบด้วย ใบประดับสีแดงหุ้มดอกไว้ เรียกว่า ปลีกล้วย มีลักษณะค่อนข้างป้อมเมื่อเทียบกับปลี กล้วยชนิดอื่น ใบประดับส่วนปลายม้วนงอ แผ่นใบประดับด้านนอกบริเวณส่วนบนมีสี แดงมว่ ง ส่วนล่างมีสีแดง แผ่นใบประดบั ดา้ นในมีสีครมี ส่วนดอกทอี่ ยดู่ า้ นในจะมี หลายดอกยอ่ ยเรียงซ้อนกนั เป็นแผง เรียกวา่ หวี โดยกลว้ ยน้ำวา้ 1 เครือ จะมหี วี กล้วยประมาณ 7-12 หวี แต่ละหวี มผี ลกล้วยประมาณ 10-16 ผล

3 3. สว่ นประกอบของตน้ กลว้ ยนำ้ ว้า ลำต้นกล้วยมีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า หัว หรือ เหง้า (rhizome) ที่หัวมีตา (bud) ซึ่งจะเจริญเป็นต้น เกดิ หนอ่ (sucker) หลายหนอ่ เรียกว่า การแตกกอ หนอ่ ที่เกิด หรือต้นที่เห็นอยูเ่ หนอื ดิน ความจริงแลว้ มิใชล่ ำตน้ เรา เรียกว่า ลำต้นเทียม (pseudo stem) ส่วนนี้เกิดจากการอดั กันแน่นของกาบใบ ที่เกิดจากจุดเจริญของลำต้นใต้ดิน กาบ ใบจะชูก้านใบ และใบ และที่จุดเจรญิ นี้ จะมีการเจริญเปน็ ดอก ตามขึ้นมาหลงั จากสิ้นสุดการเจริญของใบ ใบสุดท้ายก่อนการ เกิดดอก เรยี กวา่ ใบธง ดอกหรอื ปลีดอกของกล้วยออกเป็นชอ่ (inflorescence) ในชอ่ ดอก ยงั มกี ลมุ่ ของช่อดอกย่อยเปน็ กล่มุ ๆ ระหวา่ งกลมุ่ ของช่อดอกย่อยแต่ละช่อจะมกี ลีบประดบั หรือท่เี ราเรยี ก กันว่า กาบปลี (bract) มีสมี ว่ งแดงกนั้ ไว้ กลมุ่ ดอกเพศเมยี อย่ทู ี่โคนและกลมุ่ ดอกเพศผอู้ ยูท่ ่ปี ลาย เป็นส่วนที่เราเรียกว่า หัวปลี (male bud) ระหว่าง กลุ่มดอกเพศเมีย และดอกเพศผู้ มีดอกกะเทย แต่ บางพันธุ์ก็ไม่มี ในช่อดอกย่อยแต่ละช่อมีดอกเรียง ซ้อนกันอยู่ ๒ แถว ถ้าเป็นดอกเพศเมีย ดอก เหล่าน้ีจะเจริญตอ่ ไปเปน็ ผล ดอกออกเป็นชอ่ โดยมี กาบปลีสีม่วงแดงกั้นไว้ กลุ่มดอกเพศเมียอยู่ที่โคน สว่ นกลมุ่ ดอกเพศผู้อย่ทู ปี่ ลาย

4 ผลกล้วยเกดิ จากดอกเพศเมีย ซึง่ อยู่ทโี่ คน กลมุ่ ของดอกเพศเมีย ๑ กลุม่ เจริญเป็นผลเรยี กว่า ๑ หวี ชอ่ ดอกเจรญิ เป็น๑ เครอื ดงั น้ันกล้วย ๑ เครือ อาจมี ๒ - ๓ หวี หรอื มากกว่า ๑๐ หวี ท้งั น้แี ลว้ แตพ่ นั ธุ์กลว้ ยและการดูแล ผลของกล้วยมีการเจริญได้โดยไมต่ อ้ งผสมพันธุ์ จงึ ทำใหก้ ลว้ ยสว่ นใหญ่ไม่มี เมลด็ ผลอ่อนมีลักษณะเปลือกสีเขียวเปน็ เหลยี่ มผลหา่ มจะมเี หลย่ี มน้อยลง และ เมอ่ื สกุ จะมลี ักษณะอวบกลมไม่มเี หล่ียมเปลือกผลจะคอ่ ยเปลีย่ นเปน็ สเี หลอื ง เน้ือกล้วยที่ถัดจากเปลือก เมอื่ ยงั อ่อนจะมีสขี าวเนอื้ แนน่ เหนียว เมอื่ สุกจะมีสีเหลืองอ่อน เน้อื อ่อนนุ่มมีรสหวาน แต่ไมส่ ่งกลิน่ หอม เหมือนกลว้ ยชนิดอน่ื เมลด็ กล้วยมลี กั ษณะกลมเล็ก บางพนั ธ์ุมขี นาดใหญ่ เปลอื กหนา แข็ง มสี ดี ำ รากเป็นระบบรากฝอย แผ่ไปทางด้านกว้างมากกวา่ ทางแนวดิ่งลึก ใบกล้วยมลี ักษณะเปน็ แผน่ ใบใหญ่ มีความกว้างประมาณ ๗๐ - ๙๐ เซนติเมตร ความยาว ๑.๗ - ๒.๕ เมตร ปลายใบมน รปู ใบขอบขนาน โคนใบมน และแผ่นใบมีสเี ขียว

5 4. การปลูกกลว้ ยนำ้ วา้ พนั ธท์ุ ใ่ี ชใ้ นการผลติ กล้วยอบมว้ นกลุม่ แม่บ้านใช้ กล้วยน้ำวา้ พันธ์กุ าบขาวในการผลิตกล้วยอบมว้ นเนอื่ งจากเปน็ สายพนั ธทุ์ ่นี ยิ มปลูกในเขตจงั หวัดราชบุรี ลำต้นมคี วามสงู ไม่ เกนิ 3.5 เมตร กาบดา้ นนอกเปน็ สีเขียวออ่ น มปี ้นื เลก็ นอ้ ย ใบเด่ยี ว เรยี งสลับ ดอกหรือหัวปลี ออกท่ีปลายยอด ผลมี เหลย่ี มเล็กน้อย ผลอ่อนสีเขยี ว ผลสุกสเี หลอื งอมสม้ เครอื ใหญ่ ในหน่ึงเครอื มีกล้วย 10-12 หวี และในหน่งึ หวีมีกล้วย 10-16 ผล รสชาติหวานหอมอร่อย เนือ้ สขี าว ไส้สีเหลอื งอ่อน เนอ้ื น่มุ ฟู เนือ้ และไส้ไม่แข็งกระด้าง การเพาะปลกู กลว้ ยเปน็ พืชทีป่ ลูกงา่ ย และเจริญเติบโตได้ ในทุกสภาพดนิ ชอบความชน้ื สงู ชอบดนิ ท่ีระบายน้ำได้ดี ไมช่ อบนำ้ ขัง ใหผ้ ลผลติ เร็วเกษตรกรจึงนยิ ม ปลูกภายในรอ่ งสวน โดยปลูกแซมระหวา่ งตน้ มะพรา้ วหรอื พืชยนื ต้นอ่ืนๆ การเตรยี ม ปลูกใช้เกษตรกรจะกำจัดวชั พืชใหเ้ รียบรอ้ ยก่อนปลูก ขดุ หลมุ ใหล้ ึกและกวา้ งประมาณ 505× 0 เซนติเมตร ระยะหา่ งระหว่างตน้ ประมาณ 4×4 เมตร นำปุ๋ยคอกหรอื ปุ๋ยหมกั รอง ก้นหลุมและผสมกบั ดนิ ท่ีขุด นำหนอ่ กลว้ ยวางลงกลางหลุม กลบดนิ ให้แนน่ รดนำ้ สม่ำเสมอ

6 การเกบ็ เกยี่ วกล้วยนำ้ ว้าที่ปลกู จากหน่อจะเรมิ่ ออกปลีเมื่อมอี ายุหลังการปลูกประมาณ 8 เดือน ระยะหลังการแทงดอกหรือปลีจนถึงดอกกล้วยบานจนหมดจะใช้เวลาประมาณ 14 วัน ปลีกล้วยน้ำว้าจะมีลักษณะเป็นกาบหุ้มดอกสีแดงปกคลุมดอกไว้ โดยส่วนดอก นี้จะไม่พัฒนาเป็นผล ดังนั้น การตัดปลีจะตัดเมื่อเห็นกล้วยหวีสุดท้าย ที่เรียกว่า หวี ตนี เตา่ เกษตรกรจะตดั เครอื กลว้ ยโดยใชม้ ือข้างหน่งึ จับปลายเครือ แล้วใช้มีดฟันก้าน เครือให้ขาดออกโดยตัดที่โคนเครอื ระยะการสกุ ของกลว้ ยนำ้ ว้า ระยะที่ 1 ผลแข็ง เปน็ เหล่ยี มชัดเจน เปลอื กสเี ขียว ระยะท่ี 2 ผวิ เปลือกเร่มิ เปลีย่ นสจี ากสเี ขียวออกเหลอื งเล็กนอ้ ย ระยะท่ี 3 ผิวเปลือกเปลีย่ นสเี ปน็ เหลอื งมากขนึ้ แต่ยงั มีสีเขยี วมากกว่า ระยะท่ี 4 ผิวเปลือกเปลย่ี นเป็นสเี หลอื งมากขน้ึ และมีสเี หลอื งมากกว่าสีเขยี ว ระยะท่ี 5 ผวิ เปลอื กบรเิ วณตน้ ผลเปน็ สเี หลือง ส่วนปลายผลเปน็ สีเขยี ว ผลกลมม่มีเหล่ยี มเล็กน้อย ระยะท่ี 6 ผวิ เปลือกท่วั ผลจะมสี ีเหลอื งทัง้ หมด ผลกลมไมม่ ีเหลี่ยม เปน็ ระยะผลสุกพอดี แตย่ ังไมม่ ีกลน่ิ ระยะที่ 7 ผวิ เปลอื กมสี เี หลอื ง และเร่ิมมีจุดสดี ำหรอื นำ้ ตาล เปน็ ระยะผลสุกเตม็ ท่ี และเร่ิมมกี ลิน่ หอม ระยะที่ 8 ผวิ เปลอื กมสี เี หลอื ง และมสี ีดำหรอื นำ้ ตาลกระจายทว่ั ผล เป็นระยะท่ผี ลสกุ มากเกินไป เนื้อกล้วยจะอ่อนนิม่ มีกลน่ิ แรง และจะเรมิ่ เนา่ ภายใน 2-3 วัน

7 โรคของกลว้ ย โรคตายพรายเกิดจากเชื้อรา Fusarium oxysporum เขา้ สพู่ ืชทางรากและ แพรก่ ระจายสู่ทอ่ ลำเลยี งน้ำ ทำใหเ้ กิดอาการเนื้อเย่ือตายเปน็ สนี ้ำตาลในท่อลำเลยี ง ของลำต้นเทยี มของกล้วย และลกุ ลามขึ้นสู่ก้านใบ โคนใบแก่ดา้ นนอกมสี ซี ดี เหลือง และผืนใบเปล่ยี นเปน็ สีนำ้ ตาลโดยเรมิ่ จากขอบใบเขา้ ส่กู ลางใบและใบหักพบั ภายใน ๑-๒ สปั ดาห์ และในทส่ี ุดลำต้นเทียมจะยนื ตน้ ตายหรอื ลม้ ตายลงไป ลกั ษณะอาการของโรคมกั จะเกิดกบั กลว้ ยทมี่ ีอายุ ๔-๕ เดอื นขน้ึ ไป โดยจะเห็นทางสี เหลืองออ่ นตามก้านใบของใบลา่ งหรือใบแก่ก่อน ต่อมาปลายใบหรอื ขอบใบจะเริ่ม เหลอื ง และขยายออกไปอยา่ งรวดเร็วจนเหลืองทว่ั ใบ ใบออ่ นจะมอี าการเหลืองไหมห้ รอื ตายนง่ึ และบดิ เปน็ คลนื่ ใบกลว้ ยจะหกั พบั บริเวณโคนกา้ นใบ ใบยอดจะเหลอื งตง้ั ตรง เขียวอยู่ในระยะแรก กล้วยทต่ี กเครอื แลว้ จะเหี่ยว ผลลบี เลก็ ไมส่ มำ่ เสมอ หรอื แกก่ อ่ น กำหนด บางครั้งพบใบกลว้ ยหักพบั ท่ี โคนใบโดยไมแ่ สดงอาการใบเหลือง หรอื เหลือง เพยี งเล็ก ถ้าตัดลำตน้ ตามขวางจะพบวา่ เนื้อในของกาบใบบางส่วนเป็นสีน้ำตาลแดง และอาจมีเส้นใยของเชอื้ รา

8 5. ประโยชน์ของกล้วยนำ้ วา้ กล้วยน้ำว้าเป็นพืชที่สามารถนำทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ลำต้น ใบ ก้าน ผล ปลี เช่น ผล กล้วยน้ำวา้ นำมารบั ประทานเปน็ ผลไมห้ รือใช้ประกอบอาหารทั้งอาหาร คาวและอาหารหวาน เช่นแกง เผด็ กลว้ ยดบิ , กล้วยบวชชี กล้วยฉาบ เปน็ ตน้ ลำต้นกลว้ ยนำมาเปน็ องค์ประกอบในการประกอบพธิ กี รรมทางศาสนา เช่น พิธียก เสาเอกขึ้นบ้านใหม่ ขบวนขันหมากงานแต่งงาน เป็นต้น ลำต้นหรือหยวกกล้วยอ่อน สามารถนำมาปรุงอาหาร เช่น หมกหยวกกล้วย แกงหยวกกล้วย เป็นต้น หรือนำมา เป็นอาหารสตั ว์ เช่น ผสมกับรำข้าวให้เลย้ี งหมูทำให้หมูอ้วนไดน้ ำ้ หนกั เปน็ ต้น ปลีกล้วยนำมาประกอบอาหาร เช่น ยำหัวปลี แกงหัวปลีใส่ปลา ห่อหมกหัวปลีใส่ ไก่ หรอื ใช้เปน็ เครื่องเคยี งได้ ใบกล้วยนำมาห่ออาหาร เช่น ห่อหมกต่างๆ และกระทงใส่ขนมไทยต่างๆ ใช้ทำ เครื่องพธิ กี รรม ทางศาสนา เชน่ ใช้ทำพานบายศรสี ูข่ วัญ หรอื ใชห้ ่อกระทง ก้านกล้วยใช้ทำของเลน่ เด็กกลว้ ย เชน่ ม้ากา้ น กาบกล้วยสดนำมาฉีกแบ่งเป็น เส้นเล็กทำเป็นเชือกกล้วยสำหรับใช้แทนเชือกรัดของ นอกจากนี้กล้วยน้ำว้ายังมี ประโยชน์ด้านสุขภาพ เช่น ผลสุกเป็นยาระบายสำหรับผู้ที่มีอุจจาระแข็ง หรือเป็น ริดสีดวงทวารขั้นเริ่มแรก หัวปลีแก้ท้องเสีย ผลดิบใช้ป้องกัน บำบัด โรคแผลใน กระเพาะอาหาร เปน็ ตน้

9 6. การแปรรูปกล้วยน้ำวา้ วตั ถดุ บิ 1. กลว้ ยน้ำวา้ 2. เกลือ 3. น้ำ ขนั้ ตอนการผลติ 1. กล่มุ วิสาหกิจจะรับซอื้ กลว้ ยน้ำวา้ จากสมาชกิ ของกลมุ่ โดยใช้ระบบประกนั ราคา นำกล้วยที่ตดั แล้วมาบม่ ไว้ 6-7 คืน 2. นำกลว้ ยทบี่ ่มไวม้ าปอกเปลอื ก

10 3. นำกลว้ ยที่ปอกแล้วมาล้างด้วยนำ้ เกลอื 4. นำกลว้ ยท่ีลา้ งน้ำเกลือไวแ้ ลว้ มาทุบให้ละเอยี ด 5. นำมาข้ึนแผ่นให้ได้รูปทรงทต่ี อ้ งการ

11 6. นำกลว้ ยเขา้ ตู้อบ 6 ช่ัวโมง 7. รอให้กลว้ ยเยน็ (ทิ้งไว้ 10 ชัว่ โมง) 8. นำกล้วยท่เี ยน็ มากลับด้าน แลว้ นำเข้าตูอ้ บอกี ครัง้ ใชเ้ วลาในการอบ 30-40 นาที 9. รอใหก้ ล้วยเย็นแลว้ บรรจุกล้วยใสก่ ล่อง

12 7. การพฒั นาเครอื่ งทบั กล้วยสแตนเลส เครื่องทุบกล้วยด้วยแรงงานคนเครื่องทุบกล้วยด้วยแรงงานคนทำจากสแตน เลส ใช้แรงแขนยก แผน่ สแตนเลสมีน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรมั เพือ่ ให้กล้วยแบน ซึ่งกล้วย 1 แผ่นใช้การทุบ 1-2 ครั้ง แล้วแต่ขนาดของกล้วย แต่จะมีปัญหาคือ กล้วย จะกระเด็นออกนอกเครื่องทับ ทำให้พื้นและตัวพนักงานผู้ทุบเหนียวเปรอะเปื้อน ดู สกปรกไม่ถูกหลักอนามัย นอกจากนี้ขณะทุบผู้ทุบจะต้องใช้เท้ากดเครื่องทับไม่ให้ เคลื่อนที่ทำให้ปวดเกร็งบริเวณกล้ามเนื้อขาและปวดกล้ามเนื้อแขนซึ่งเกิดจากการยก แผน่ ทบุ ท่มี นี ำ้ หนกั มากเปน็ เวลานาน นอกจากนเี้ คร่อื งรุ่นนจ้ี ำเป็นต้องใช้แรงงานผู้ชาย เปน็ หลกั

13 เครื่องทับกล้วยกึ่งอัตโนมัติเครื่องทับกล้วยกึ่งอัตโนมัติเป็นเครื่องทับกล้วยท่ี ได้รับการพัฒนาใหม่โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการหมุนแผ่นสแตนเลสสำหรับทำให้ กล้วยแบนเป็นแผ่น มีการติดตั้ง ทำให้สะดวกและง่ายต่อการทำงาน ไม่จำเป็นต้องใช้ แรงงานพนักงานผู้ชายเพียงอย่างเดียว ลดการปวดเมื่อยจากการทำงาน โดยมี ขัน้ ตอนการทำงานดงั น้ี 1. เปิดสวติ ซ์เครือ่ งอยู่บริเวณด้านลา่ งขวามือ โดยโยกสวติ ซ์ขึ้นเพื่อเปิดเครอื่ ง หาก ตอ้ งการปิดเครื่องให้ผลักสวิตช์ลง 2. เมื่อเครื่องเริ่มเดินแล้วใหน้ ำกลว้ ยซึง่ อยู่ในแผ่นพลาสติกวางลงในพืน้ ที่ทับกลว้ ย ควรวางมอื นอกพ้ืนทีท่ บั กล้วย เมื่อแผ่นสแตนเลสพับลงมาจนสนิทกล้วยจะแบนลงซึ่งจะต้องหมุนแผ่นกล้วยเพื่อให้ กลว้ ยแบนเสมอกันทุกดา้ น

14 3. เมื่อทับกล้วยครบทั้ง 3 ด้าน กล้วยจะมีลักษณะเป็นแผ่นบาง ซึ่งสามารถนำไป ขนึ้ รปู และอบตามลำดับ กำลงั การผลติ เปรยี บเทยี บผลผลติ ทไ่ี ดจ้ ากแรงงานคนจะดีกวา่ แต่เสยี เวลา มากกวา่ การใช้เคร่ืองทบั ไฟฟา้ เครอ่ื งทับกล้วยไฟฟา้ สามารถใช้ไดท้ กุ วัยสะดวกสบาย ประหยดั แรงและเวลา ชว่ ยลดปัญหาด้านสขุ ภาพของพนักงานผทู้ บั กลว้ ย ตารางท่ี 1 การเปรยี บเทียบกำลงั การผลิตด้วยเคร่อื งรุ่นเก่าและเครอ่ื งร่นุ ใหม่ทไี่ ดร้ ับ การพัฒนาขึ้น รปู แบบเครอื่ งทบั กลว้ ยสแตนเลส กำลงั การผลติ เครอ่ื งทับกล้วยด้วยแรงงานคน 120 ชิ้น ต่อ ชวั่ โมง เคร่อื งทับกลว้ ยสแตนเลสแบบกึ่งอัตโนมตั ิ 180 ชนิ้ ตอ่ ช่ัวโมง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook