Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 6. มวยโบราณสกลนคร

6. มวยโบราณสกลนคร

Published by wilawan phiwon, 2021-02-18 03:49:20

Description: 6. มวยโบราณสกลนคร

Search

Read the Text Version

๔๓ ท่านา้ วคนั ศร ที่มา : พพิ ิธภัณฑ์เมืองสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๔๔ ๙. ทำ่ กนิ นรเขำ้ ถำ้ ท่ากนิ นรเข้าถา้ มีลักษณะเดน่ คือ ผูแ้ สดงจะโน้มตวั ไปขา้ งหนา้ แล้วถอยขาข้างหน่ึงยื่นไปข้างหลัง ค่อย ๆ ย่อตัวให้เตี้ยลงทีละน้อย จนขาหลังถึงพ้ืน ส่วนขาหน้าต้ังเข่าชันไว้ ส่วนมือทั้งสองก็ร่ายรา ไปตามจังหวะดนตรี เรียกว่า “กินนรเข้าถ้า” ต่อมาจะโน้มตัวไป ข้างหลัง จนนั่งอยู่บนส้นเท้าข้างหลัง ส่วนมือท้ังสองก็ร่ายรา ไปเร่ือย ๆ แล้วโน้มตัวไปข้างหน้าจนเข่าที่ต้ังชันอยู่จดกับพ้ืน เรียกว่า “กินนรลงสรง”

๔๕ ทา่ กินนรเขา้ ถา้ ท่ีมา : พพิ ธิ ภณั ฑเ์ มอื งสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๔๖ ๑๐. ท่ำเตี้ยต่ำเสอื หมอบ ท่าเต้ียต่าเสือหมอบ เป็นท่าที่ต่อเนื่องจากกินนรเข้าถ้า มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะกาหมัดกระทุ้งศอกลงกับพ้ืนข้างหน้า สองถึงสามคร้ัง ส่วนแขนอีกข้างหน่ึงกาหมัดต้ังไว้ที่บั้นเอว โดยเปล่ียนทาเช่นนี้ ทั้งแขนซ้ายและแขนขวาสลับกัน ๒ – ๓ ครั้ง ข า ที่ เ ห ยี ย ด อ อ ก ไ ป ก็ ใ ช้ ป ล า ย เ ท้ า ต บ กั บ พ้ื น ต า ม จั ง ห ว ะ ด น ต รี และผู้แสดงจะหมอบตัวลงจนติดกับพื้น โดยให้ลาแขนและฝ่ามือ แนบกับพื้น จากน้ันจะทาการวาดแขนทั้งสองข้างกวาดไปกับพื้น ที่อยู่ข้างหน้า คร้ันแล้ว จะใช้มือท้ังสองตบพ้ืนอย่างแรง พร้อมกับยกลาตัวข้ึนสูง โดยแขนทาหน้าที่ยันกับพ้ืนพยุงตัวให้ตรง สอดส่ายสายตาไปทั่ว แล้วหมอบลงกับพ้ืนอีกและยกตัวข้ึนอีก ผ้แู สดงจะทาวนอยู่ ๒ – ๓ ครงั้

๔๗ ท่าเตย้ี ต่าเสือหมอบ ท่ีมา : พพิ ธิ ภณั ฑ์เมอื งสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๔๘ ๑๑. ทำ่ ทรพีชนพ่อ ท่าทรพีชนพ่อ เป็นท่าท่ีต่อเนื่องจากท่าเตี้ยต่าเสือหมอบ มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะตบพ้ืนอย่างแรง และใช้ศอกทั้งสองข้าง ที่กางออกขวิดลงที่พ้นื ไปมาอยา่ งรวดเร็ว

๔๙ ท่าทรพีชนพอ่ ที่มา : พพิ ิธภัณฑเ์ มืองสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๕๐ ๑๒. ลอ่ แก้วเมกขลำ ท่าล่อแก้วเมกขลา มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะย่ืนเท้า ท่ีอยู่ข้างหลังไปข้างหน้า และโน้มตัวมาข้างหลัง พร้อมกับกางแขน ทั้งสองข้าง แล้วเหยียดตรงไปข้างหน้าและข้างหลังในระดับ ๔๕ องศา ปลายมือกวัดแกว่งในท่ารา และม้วนแขนท้ังสองข้าง เข้ามาบริเวณหน้าอก โน้มตัวไปข้างหน้า แล้ววาดแขนกางเหยียด ออกไปเป็นทา่ เดมิ โดยจะทาอยู่ ๒ – ๓ ครั้ง

๕๑ ทา่ ล่อแก้วเมกขลา ท่ีมา : พพิ ธิ ภณั ฑเ์ มอื งสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๕๒ ๑๓. ท่ำม้ำกระทบื โรง ท่าม้ากระทืบโรง มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะทรงตัวค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน พร้อมกับม้วนแขนทั้งสองข้างไปมา ในลักษณะควงหมัด เป็นวงกลมหลาย ๆ รอบ พร้อมกับยกเท้าขึ้นและกระทืบลงกับพ้ืน อยา่ งแรงและหนักแนน่ จานวน ๓ ครง้ั

๕๓ ท่าม้ากระทบื โรง ท่ีมา : พพิ ธิ ภณั ฑเ์ มอื งสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๕๔ ๑๔. ทำ่ ช้ำงโขลงทะลำยป่ำ ทา่ ชา้ งโขลงทะลายปา่ เปน็ ท่าสุดท้ายของการแสดงมวยโบราณ ท่าราเดีย่ ว มีลกั ษณะเดน่ คือ ผแู้ สดงจะเหว่ยี งแขน และส่งขาข้างหน่ึง ไปข้างหลัง กางแขนทั้งสองออกเต็มท่ี ให้ได้ระดับไหล่ แล้วม้วนแขน ท้ังสองเข้ามาในลาตัวบริเวณสีข้างท้ังสอง แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า เหยาะยา่ งไปตามจงั หวะดนตรี

๕๕ ท่าช้างโขลงทะลายปา่ ท่ีมา : พพิ ธิ ภณั ฑ์เมืองสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๕๖ กำรแสดงมวยโบรำณประเภท “รำหม”ู่ ก า ร แ ส ด ง ม ว ย โ บ ร า ณท่ า ร า ห มู่ห รื อก า ร แส ด ง ใ น ขบว นแห่ มักมีจานวนผู้แสดงหลายคน เป็นการแสดงเพื่อโชว์พละกาลัง ความสามารถและความพร้อมเพรียงของคณะผู้แสดง โดยมีแม่ท่า ทัง้ หมด ๙ ทา่ ดงั น้ี ๑. ท่ำกำเตน้ กอ้ นไถ ท่ากาเต้นก้อนไถ มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะกามือท้ังสอง ไว้ท่ีบั้นเอว แล้วยกไหล่ กางศอกออก ส่วนขาย่อแล้วกางออก แต่พองามก้าวไปข้างหน้า ในลักษณะเต้นและลงส้นเท้า เอียงตัวเล็กน้อยเข้ากับจังหวะดนตรี แขนทั้งสองกางกามือติดที่เอว แบบเดมิ ส่ายตวั ช้า ๆ ไปตามจังหวะดนตรี จงึ เปลี่ยนไปทา่ ถดั ไป

๕๗ ท่ากาเต้นกอ้ นไถ ท่ีมา : พิพธิ ภณั ฑ์เมอื งสกลนคร มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๕๘ ๒. ท่ำหวะพรำย ท่าหวะพราย มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะโน้มตัวไปข้างหน้า พร้อมกับม้วนแขนทั้งสองข้างเข้ามาท่ีสีข้าง แล้วยกแขนสูง ข้ึนเหนือศีรษะ แล้วตวัดปลายนิ้วมือไปข้างหน้า ๓ คร้ัง พร้อมเงยหน้าขึ้นมองดูมือ ส่วนเท้ายังเต้นอยู่ตามจังหวะ ในท่าทหี่ นึ่ง

๕๙ ทา่ หวะพราย ท่ีมา : พิพิธภณั ฑเ์ มืองสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๖๐ ๓. ทำ่ ยำ้ ยสำมเสำ้ ท่าย้ายสามเส้า มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะยกขาข้างหน่ึง อยู่ในระดับเอว โดยทรงตัวด้วยขาข้างเดียว แขนข้างหนึ่งจะกามือ วางไว้ตรงขาข้างที่ยกไว้แล้วกางศอกออก พร้อมยกไหล่ให้ผ่ึงผาย ในส่วนแขนอีกข้างจะวางไว้ที่บั้นเอวลักษณะกางศอกยกไหล่ เช่นเดียวกัน แล้วผู้แสดงจะเหยาะย่าง ไปข้างหน้าสามก้าว ตามจงั หวะดนตรี และยนื ทรงตวั อยู่ด้วยขาข้างเดียว กามอื ทงั้ สองวาง ไว้ท่ีขาและบั้นเอวเช่นเดียวกบั ท่ีทามาแลว้ ยืดตัวให้ตรงแลว้ ใช้สายตา มองกวาดไปมา

๖๑ ทา่ ย้ายสามเสา้ ท่ีมา : พิพิธภัณฑ์เมอื งสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๖๒ ๔. ท่ำน้ำวเฮยี วไผ่ ท่าน้าวเฮียวไผ่ มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะเบนขา ท่ียกสูงจากท่าย้ายสามเส้าให้เอียงมาอยู่อีกทางหนึ่ง แล้วปล่อยแขน ท่ีวางไว้ให้หย่อนลงมาข้าง ๆ ขา พร้อมกับเหวี่ยงแขนท่ีอยู่บั้นเอว ขน้ึ แลว้ เอยี งไหล่คอ้ มศีรษะลง แลว้ ตงั้ ขอ้ ศอกกามือไวท้ ขี่ ้ันเอวตามเดิม ส่วนแขนข้างหน้าท่ีหย่อนลงให้งอข้อศอกขึ้น และตั้งไว้ที่ขาซ่ึงยกไว้ แล้วเหยาะย่างไป

๖๓ ทา่ น้าวเฮียวไผ่ ท่ีมา : พพิ ธิ ภณั ฑเ์ มอื งสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๖๔ ๕. ท่ำไล่ลกู แตก ท่าไล่ลูกแตก มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะย่อเข่าทั้งสองลง จ น น่ั ง บ น ส้ น เ ท้ า พ อ ไ ด้ จั ง ห ว ะ จ ะ ก ร ะ โ ด ด ไ ป ข้ า ง ห น้ า พร้อมกับเหวี่ยงแขนท้ังสองข้างไปตบท่ีข้างหลัง และเหว่ียง มาตบข้างหน้า ต่อมาจึงตบลอดขาทั้งสองข้าง และยกแขนข้างหนึ่ง ให้สูงขึ้นเพ่ือเปิดช่องว่างให้มือข้างหนึ่ งตบสีข้างใต้รักแร้ ตามด้วยการตบใต้ข้อศอกหลังมือ เข่า ไหล่ ส้นเท้าและขาด้านนอก แล้วกระโดดถอยหลังและไปข้างหน้า พร้อมกับตบมือและหมุนตัว ตบยอดอกด้วยฝ่ามือท้ังสองข้าง ใช้หลังมือข้างหน่ึงตบขาใน และกระโดดเตะฝ่ามือทีย่ ่ืนไปขา้ งหน้า พร้อมกับทิ้งตัวลงในท่ายอ่ เขา่ ลากขาอีกข้างหน่ึงไปข้างหลังในท่าแอ่นอก กางศอกและกามือ วางไว้ท่บี ั้นเอวท้งั สองข้าง โดยสลับทาทั้งข้างซา้ ยและข้างขวา

๖๕ ท่าไล่ลกู แตก ที่มา : พพิ ิธภัณฑเ์ มอื งสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๖๖ ๖. ท่ำชำ้ งม้วนงวง ท่าช้างม้วนงวง มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะยกขามายืนชิดกัน แล้วยกเข่าข้างหนึ่งไปข้างหน้าให้สูงระดับเอว ม้วนท่อนแขน ท้ังสองข้างหมุนลักษณะควงหมัดหลาย ๆ รอบ อยู่เหนือขาท่ียกไว้ พร้อมกับก้าวขาสืบเท้าไปข้างหน้า ๓ ก้าว แล้วหยุดยืนยกขาขา้ งหนึง่ มาข้างหลังงอเข่าให้สูงขึ้นพร้อมกับเหวี่ยงแขนท้ังสองออกจนสุดแขน แล้วโน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมย่อเข่าลงเล็กน้อย แล้วม้วนแขนทั้งสอง ข้างหมุนควงหมัดวงกลมและก้าวขาสืบเท้าไปข้างหน้า ๓ ก้าว เหมอื นครง้ั กอ่ นไปจนรอบ

๖๗ ทา่ ชา้ งมว้ นงวง ท่ีมา : พพิ ิธภัณฑเ์ มอื งสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๖๘ ๗. ทำ่ ทวงฮกั กวกั ชู้ ท่าทวงฮัก กวักชู้ มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะเต้น ออกไปข้างหน้า ๓ ก้าว ในรูปทแยงมุมแบบลายฟันปลา พร้อมใช้แขนตีลงท่ีสีข้างให้ดัง ตามจังหวะเท้าที่เต้นไป แล้วเอ้ียวตัว ส่งแขนทั้งสองย่ืนไปข้างหน้า ให้ขนานกับพ้ืนแล้วแบมือทั้งสองข้าง กวักไปข้างหน้าตามจังหวะดนตรี ส่วนขาท่ีอยู่ข้างหน้ายืนเป็นหลัก ย่อเข่าลงเล็กน้อย อีกขาหน่ึงไขว้หลังย่ืนไปข้างหน้าใช้ปลายเท้า กระท้งุ ลงท่ีพน้ื ใหเ้ ป็นจังหวะเขา้ กบั มอื ท่กี วักอยู่

๖๙ ท่าทวงฮัก กวักชู้ ท่ีมา : พพิ ธิ ภณั ฑ์เมอื งสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๗๐ ๘. ท่ำแหลวถลำ กำตำกปกี ท่าแหลวถลา กาตากปีก เป็นท่าต่อเน่ืองจากท่าทวงฮัก กวักชู้ มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะถอยเท้าท่ีกระทุ้งพื้นอยู่มาข้างหลัง ๑ ก้าว แล้วถอยเท้าอีกข้างหน่ึงมาชิดติดกัน ส่วนแขนท้ังสอง ข้างท่ีย่ืนไปข้างหน้าจะมารวมกันท่ีหน้าอก ในลักษณะจีบมือ และก้าวเท้าท่ีอยู่ข้างหน้าออกไป ๑ ก้าว ส่วนเท้าที่ก้าวไปก่อน ผู้แสดงจะถอยหลังกลับมาอีก ๑ ก้าว เท้าท่ีก้าวข้ามไปก็จะถอย มารวมกันอีก พร้อมหมุนลาตัวไปอีกข้างหน่ึงด้วย โดยแขนทั้งสอง ข้างจะกางขนานกับพื้นเหว่ียงไปตามลาตัว โดยผู้แสดงจะสลับข้าง ซ้ายและขวา ๓ ครั้งแล้วย่อตัวลง ส่วนแขนท้ังสองยังคงกางอยู่ เมอ่ื ได้จังหวะก็ลกุ ขน้ึ ก้าวขาและกางแขนทาเหมอื นกับท่กี ลา่ วมาแลว้

๗๑ ทา่ แหลวถลา กาตากปกี ท่ีมา : พพิ ธิ ภณั ฑเ์ มืองสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๗๒ ๙. ท่ำเลำะเลียบตูบ ท่าเลาะเลียบตูบ เป็นท่าสุดท้ายของการแสดงมวยโบราณ ท่าราหมู่ มีลักษณะเด่น คือ ผู้แสดงจะวาดแขนข้างหน่ึงไปข้างหน้า พร้อมหงายฝ่ามือค่อย ๆ ยกขึ้นจนได้ระดับไหล่ และพลิกข้อมือ ให้อยู่ในลักษณะคว่าลง แล้วสลัดปลายน้ิวขึ้นเหนือศีรษะ ๓ ครั้ง แล้วโน้มลาตัวไปข้างหน้าตามแขนที่ยื่นไป ส่วนมืออีกข้างหนึ่ง จะเหยียดตรงส่งไปทางด้านหลัง ทาอย่างเดียวกันกับแขนข้างหน้า ผู้แสดงจะสลับทาข้างซ้ายและข้างขวา ในส่วนของเท้าท้ังสองข้าง จะเตน้ ตามจังหวะกาเต้นกอ้ นไถในแบบท่าที่ ๑ ดังท่ีกล่าวมาแล้ว

๗๓ ท่าเลาะเลียบตูบ ท่ีมา : พิพธิ ภณั ฑ์เมอื งสกลนคร มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๗๔ กำรแสดงมวยโบรำณประเภท “ต่อสู้” การแสดงมวยโบราณประเภทต่อสู้หรือ “ตีมวย” เป็นการแสดง ช้ันเชิงแห่งศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบตัวต่อตัว ท้ังน้ี การตีมวย แบบโบราณ จะไม่มีการเปรียบมวย ในขณะทาการตีนั้นแต่ละฝ่าย ก็จะร่ายราแม่ท่าต่าง ๆ ตามที่กล่าวมาแล้ว เพื่อเป็นการข่มขวัญ ฝ่ายตรงข้าม โดยจะสังเกตเห็นว่า การตีมวยโบราณนั้น ผู้ตีจะไม่ใช้กาปั้นหรือหมัด แต่จะใช้ฝ่ามือ เท้า เข่า และศอก เป็นอาวุธเท่านั้น คร้ันเข้าตีแล้ว ก็จะถอยออกมาร่ายราแม่ท่า พอได้จังหวะก็จะเข้าตีอีก โดยกติกาผู้ห้ามมวยไม่เข้าห้าม หากฝ่ายหน่ึงฝ่ายใดล้มลง เนื่องด้วยการล้มลงเป็นช้ันเชิง อย่างหน่ึงในการเอาชนะคู่ต่อสู้ของบางสานัก ผู้ตีแต่ละฝ่าย จงึ ตอ้ งอาศยั ชัน้ เชงิ ไหวพริบและปฏภิ าณเฉพาะตน ท้ังนี้ ด้วยสภาพสังคมเศรษฐกิจท่ีเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ มวยโบราณสกลนครประเภท “ต่อสู้” หรือการ “ตีมวย” และผู้สามารถแสดงแม่ท่าและการตีมวย ท่ีเคยมีอยู่ในแต่ละคุ้มภาย ในเมืองสกลนครเริ่มทยอยหายไป ในปัจจุบันรูปแบบมวยโบราณ ประเภทการต่อสู้ ที่กล่าวมาจึงปรากฏให้เห็นเฉพาะรูปแบบ ของการจาลองทาการแสดงเพือ่ กิจกรรมนันทนาการเทา่ นนั้

๗๕ การแสดงมวยโบราณประเภท “ต่อสู้” หรือ “ตีมวย” ท่ีมา : พิพิธภณั ฑเ์ มอื งสกลนคร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

๗๖ การแสดงมวยโบราณประเภท “ตอ่ สู้” หรอื “ตีมวย” ท่ีมา : พิพิธภณั ฑเ์ มอื งสกลนคร มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

๗๗ ดนตรีประกอบจังหวะ แคน กลอง โน้ตดนตรีลายภูไทนอ้ ย ท่ีมา : หนังสอื มวยโบราณสกลนคร การตอ่ สสู้ ู่ศิลปะการแสดง การรามวยโบราณสกลนคร เป็นศิลปะการแสดงพ้ืนถิ่น ท่ีต้องอาศัยจังหวะ จากเสียงดนตรีประกอบ ด้วยเสียงดนตรี เป็นตัวให้จังหวะการเยาะย่างตามลีลาและแม่ท่าของผู้แสดง ในอัตราความเร็วพอประมาณ สาหรับจังหวะเสียงดนตรีหรือลายลาย ดนตรีท่ีเหมาะคือ ลายภูไทน้อย เครื่องดนตรีจะประกอบด้วยเครื่อง ดนตรีพ้ืนถ่ิน อาทิ กลองกิ่ง กลองตุ้ม แคน กระจับปี่ ซอบั้งไม้ไผ่ ผ่างฮาด ฆ้องโหมง่ และฉาบ เป็นต้น

๗๘ บรรณำนุกรม เกรยี งไกร ปริญญาพล. (๒๕๕๘). พงศาวดารเมอื งสกลนคร ฉบบั รองอามาตยโ์ ทพระบรบิ าลศุภกจิ (คาสาย ศิรขิ นั ธ์). สกลนคร : โรงพมิ พ์สกลนครการพิมพ์. จาลอง นวลมณ.ี (๒๕๓๐). หนังสือเชิดชเู กียรตจิ าลอง นวลมณี ผมู้ ผี ลงานดเี ดน่ ทางดา้ นวัฒนธรรม ประจาปี ๒๕๒๙ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. กรุงเทพฯ : หา้ งห้นุ ส่วนจากัด ป.สมั พนั ธพ์ านชิ ย์. จาลอง นวลมณี. (๒๕๓๑). ครบรอบทาบุญ ๑๐๐ วนั ฟอง นวลมณี. กรุงเทพฯ : บรษิ ัท เพ่ือนพมิ พ์ จากัด. พจนวราภรณ์ เขจรเนตร. (๒๕๖๑). พงศาวดารเมืองสกลนคร : ฉบับลายมอื อามาตยโ์ ท พระยาประจนั ตประเทศธานี (โงน่ คา พรหมสาขา ณ สกลนคร). สกลนคร : สมศกั ด์ิการพิมพ์ กรุ๊ป สกลนคร. พรสวรรค์ วงศ์กาฬสนิ ธ.์ุ (๒๕๔๕). มวยโบราณสกลนคร การต่อสู้สู่ศลิ ปะการแสดง กรุงเทพฯ : โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพรา้ ว. สพสนั ติ์ เพชรคา. (๒๕๖๐). ประวตั ศิ าสตร์ทอ้ งถ่ินสกลนคร (พิมพ์ครง้ั ที่ ๒). เชยี งใหม่ : หจก.วนดิ าการพมิ พ์.

๗๙ สโมสรไลออนส์ สกลนคร. (๒๕๓๑). ทรี่ ะลึกครบรอบปที ี่ ๑๒ ปบี ริหาร ๒๕๓๑ – ๒๕๓๒ สโมสรไลออนส์ สกลนคร กรุงเทพฯ : ธรี ะพงษ์การพิมพ,์ ๒๕๓๑. ข้อมูลบคุ คลใหส้ มั ภาษณ์ นางสาวเผดมิ สนิ ธุรวิชย,์ ให้สมั ภาษณเ์ รอื่ ง ศิลปวฒั นธรรมพนื้ ถน่ิ สกลนคร “การฟ้อนภูไท”, วนั ท่ี ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒. นางรจนา วงศร์ าชา, ให้สมั ภาษณ์เรอ่ื ง ศิลปวฒั นธรรมพ้นื ถนิ่ สกลนคร “การฟอ้ นผา้ หาง”, วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒. นางทองพูน วทิ ยารตั น,์ ใหส้ ัมภาษณเ์ รอื่ ง ศลิ ปวฒั นธรรมพน้ื ถน่ิ สกลนคร “การฟ้อนภไู ท”, วันท่ี ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒. นายไพจิตร โคตรวชิ ยั , ใหส้ ัมภาษณ์เรอื่ ง ศลิ ปวฒั นธรรมพืน้ ถนิ่ สกลนคร “การฟ้อนภไู ท”, วนั ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒.

๘๐ พระเทพสทิ ธิโสภณ, ให้สัมภาษณ์เรอื่ ง ศิลปวฒั นธรรมพ้ืนถนิ่ สกลนคร “การฟอ้ นผ้าหาง”, ”การฟอ้ นงา้ ว”, วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒. พระครปู ลดั ศรีธรรมวฒั น์, ให้สมั ภาษณเ์ ร่ือง ศิลปวฒั นธรรมพื้นถน่ิ สกลนคร “ศิลปวฒั นธรรม และการเลน่ พ้นื ถ่นิ เมอื งสกลนคร, วนั ท่ี ๒๑ เมษายน ๒๕๖๓.

๘๑

๘๒ ----------------------------- พิพธิ ภัณฑ์เมอื งสกลนคร งานวชิ าการและวจิ ัย สถาบนั ภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลยั ราชภัฏสกลนคร เลขที่ ๖๘๐ ถนนนิตโย ตาบลธาตเุ ชิงชุม อาเภอเมืองสกลนคร จงั หวดั สกลนคร โทร. ๐ ๔๒๗๔ ๔๐๐๙

๘๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook