Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-16-คู่มือและแผนการเรียนรู้สุขศึกษา ม.1

64-08-16-คู่มือและแผนการเรียนรู้สุขศึกษา ม.1

Published by elibraryraja33, 2021-08-16 01:39:02

Description: 64-08-16-คู่มือและแผนการเรียนรู้สุขศึกษา ม.1

Search

Read the Text Version

8949 94 ใบควำมรู้ท่ี ๑ เร่อื ง กำรเบ่ียงเบนทำงเพศ หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ ๑๕ เรื่อง กำรเบย่ี งเบนทำงเพศ รำยวิชำ สุขศึกษำ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี ๑ ............................................................................ บทควำมโดย ศำสตรำจำรย์แพทยห์ ญิง นงพงำ ลมิ้ สวุ รรณ แหล่งทม่ี ำของขอ้ มูล : หนังสือ “เล้ียงลูกถูกวธิ ี ชวี ีเปน็ สุข” ควำมเป็นหญิงหรอื ชำย ก่อนจะพดู ถึงควำมเปน็ เพศหญงิ และเพศชำยน้นั พัฒนำขึ้นมำในคนเรำได้อย่ำงไร และเรำจะเลี้ยงลูกอย่ำงไร ไม่ให้ผดิ เพศ คงตอ้ งมำทำควำมเข้ำใจเก่ียวกบั ควำมเป็นเพศหญงิ เพศชำยวำ่ เปน็ อยำ่ งไรเสยี ก่อน ควำมเปน็ หญงิ หรือ ชำยไมใ่ ชป่ ระกอบไปด้วยลกั ษณะกำรแต่งกำย กำรพูด หรือพฤติกรรมท่ีแสดงออกเท่ำนั้น ยังประกอบไปดว้ ยแกน่ แท้ ของควำมรู้สกึ ที่อยู่ภำยในของคนๆ นั้น อีกด้วยควำมเปน็ หญิงชำยไม่ไดอ้ ย่เู พียงอวัยวะเพศภำยนอกท่ีมองเหน็ ได้ ตงั้ แต่แรกเกดิ อย่ำงเดียว พัฒนำกำรเรือ่ งเพศ กำรท่ีเด็กเกิดมำแล้วจะพัฒนำไปเป็นหญิงหรือชำยขึ้นกับปัจจัยต่ำงๆ หลำยอย่ำงมำก แต่พอจะสรุปย่อๆ ไดว้ ่ำปจั จยั ใหญ่ๆ ที่เกยี่ วขอ้ ง คือ 1. ปจั จัยทำงชวี ภำพ หมำยถึง สงิ่ ท่ีตดิ ตวั เด็กมำตำมธรรมชำตหิ รอื สภำพทำงกำยท่เี กิดมำ เชน่ เด็กบำงคน ขณะอยู่ในครรภ์มำรดำนั้น เกิดมีภำวะผดิ ปกติของระดับฮอร์โมนที่ควบคุมควำมเป็นหญิงหรอื ชำย เด็กคนนัน้ เกิดมำ ก็จะมคี วำมผิดปกตทิ ำงเพศ เช่น มีอวยั วะเพศก้ำกงึ่ ระหว่ำงหญงิ ชำย หรอื มีพฤตกิ รรมของเพศตรงขำ้ มด้วย เชน่ เป็น เหปญน็ ิงหญแติง่มแีลตักม่ ษีลณักษะทณ่ำะททำา่ งทพาฤงตพิกฤรตรกิ มรขรอมงขเอดง็กเชดำก็ ยชทาี่มยักทเี่มรักียเกรกียันกกว่ำนั ทวอ่าทมอบมอบยอทย้ังนท้ีจังนำกีจ้ อากิทอธทิพธลพิ ขลอขงอฮองฮรอ์โมรนโ์ มเพนเศพทศ่ีไทดีไ่้รดับร้ บั ระหว่าำงอยูใ่ นทอ้ งแม่ 2. ปัจจัยทำงจิตใจ สังคม และส่ิงแวดล้อม ภำวะแวดล้อมหลังคลอดแล้วมีควำมสำคัญและมีอิทธิพล อย่ำงมำกตอ่ เด็กท่จี ะพฒั นำเพศของตนไปเปน็ หญงิ หรือชำย ปจั จยั เหล่ำน้ปี ระกอบดว้ ย - กำรอบรมเลี้ยงดู กำรอบรมเลี้ยงดูจะเป็นปัจจัยท่ีกำหนดเพศ (sex designation) ของเด็ก ตำมปกติแล้ว พ่อแม่ และผู้ใหญ่จะปฏิบัติต่อเด็กหญิงและเด็กชำยต่ำงกันต้ังแต่แรกเกิด เช่น คำพูดท่ีพูดด้ว ยควำมอ่อนโยน กำรจับต้องตัวเด็ก เสื้อผ้ำของใช้ต่ำงๆ อำจมีลักษณะต่ำงกัน สีก็อำจจะใช้ต่ำงกัน เช่น สีชมพูสำหรับเด็กหญิง สีฟ้ำ สำหรับเด็กชำย ของเล่นท่ีซ้ือให้ก็ต่ำงกัน เช่น ตุ๊กตำสำหรับเด็กหญิง ปืน รถ หุ่นยนต์สำหรับเด็กชำย เป็นต้น นอกจำกนั้นกำรอบรมดว้ ยคำพูด กม็ สี ว่ นในกำรแยกเพศใหเ้ ด็ก เช่น พอ่ แมจ่ ะพูดกบั เดก็ ว่ำ “เปน็ เด็กผู้หญิงต้อง ตอ้ ง เรียบร้อยหน่อยจ้ะลูก” หรือ “ผู้ชำยเขำไม่พูด ลำกเสียงแบบนี้นะ ต้องพูดจำให้เขม้ แขง็ สิลูก” กำรชมเชยของผู้ใหญ่ ก็มีส่วนกลอ่ มเกลำเดก็ ให้มพี ฤตกิ รรมตรงกับเพศของตนได้ เชน่ “ลกู เกง่ มำกที่เปน็ สภุ ำพบุรษุ แบบนี้” - กำรเป็นแบบอย่ำงท่ีดีของพ่อแม่ ทำรกท่ีเกิดขึ้นนั้นไร้เดียงสำ ต้องมำเรียนรู้ในโลกเกือบทุกอย่ำง บทบำท ทำงเพศก็เช่นเดียวกัน เด็กต้องมำเรียนรู้ภำยหลังจำมกท่ีสังคมกำหนดว่ำเพศใดมีบทบำทอย่ำงไร โดยกำรเอำอย่ำง

9950 95 ผู้ใหญ่ท่ีใกล้ชิด โดยเฉพำะพ่อแม่ซึ่งเป็นบุคคลที่เด็กรักและนับถือมำก พ่อแม่จึงเป็นแบบอย่ำงให้เด็กได้ทำตำมโดย เป็นแบบอย่ำงท่ีดีให้ลูก ตำมธรรมชำติเด็กหญิงจะเอำแบบอย่ำงแม่ เด็กชำยจะเอำแบบอย่ำงพ่อ พ่อแม่คู่ไหนที่มี ปัญหำอำจจะทำให้ลูกมีปัญหำตำมไปด้วย เช่น พ่อกับแม่มีควำมสัมพันธ์ไม่ดี ไม่อบอุ่น พ่อหำยไปจำกบ้ำนเสมอ แม่จะโกรธและไม่พอใจพ่อมำกๆ ดังนั้นลูกชำยนอกจำกจะไมม่ ีโอกำสใกลช้ ิดเอำแบบอย่ำงพ่อแล้ว โดยแม่อำจพูดจำ ติเตียนหรือพูดถึงพ่อในแง่ลบต่ำงๆ ให้ลูกฟัง ลูกชำยก็เลยไม่ต้องกำรเอำแบบอย่ำงพ่อท่ีไม่ดีแบบน้ัน จำกหลำย กำรศกึ ษำพบวำ่ ลกู ชำยทีม่ ีควำมสมั พันธท์ ี่ดีกบั พอ่ จะไม่เตบิ โตมำเปน็ รักร่วมเพศ - สภำพแวดล้อมท่ีเด็กเติบโต เด็กผู้หญิงบำงคนไปเติบโตท่ำมกลำงเด็กผู้ชำยทั้งหมด เด็กผู้ชำยบำงคนไป เติบโตในสถำนบริกำรทำงเพศเพรำะแม่เป็นแม่เล้ำ เด็กผู้ชำยบำงคนมีพี่น้อง ญำติ เด็ก เป็นผู้หญิงหมดอำจทำให้ ทำ่ ทีพฤติกรรมคล้ำยผู้หญิงบ้ำง เช่น ชอบเล่นตุ๊กตำ เล่นขำยของ วี๊ดว้ำย กลัวเสียงดัง แต่เด็กผู้ชำยคนนอี้ ำจมีจิตใจ เป็นชำยได้ ปัจจบุ ันยงั ไม่แนใ่ จวำ่ สภำพแวดล้อมเพยี งปัจจยั เดยี วสำมำรถทำให้เกิดพฤตกิ รรมผิดเพศได้หรือไม่ ************************************************ ขอขอบคุณข้อมลู จำก : https://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=85522 อำ้ งถึง นงพงำ ลิม้ สวุ รรณ (2542). กำรเลีย้ งลูกไมใ่ หผ้ ดิ เพศ. เลี้ยงลูกถูกวธิ ี ชวี เี ปน็ สุข พมิ พค์ รั้งท่ี 9, กรงุ เทพฯ : พรนิ ทต์ ิ้งเพรส.

9916 96 ใบงำนท่ี ๓ เรื่อง กำรเบี่ยงเบนทำงเพศ หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ี่ ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ ๑๕ เรอื่ ง กำรเบี่ยงเบนทำงเพศ รำยวชิ ำ สขุ ศึกษำ ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๑ ................................................................ กลุ่ม...........................................ชน้ั ...................เลขท.ี่ ........................................................................................ คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถำมตอ่ ไปนี้ ๑. ปัจจยั ทก่ี ่อใหเ้ กดิ กำรเบีย่ งเบนทำงเพศ มอี ะไรบำ้ ง จงอธิบำย ............................................................................................................................. .................................................. ........................................................................ ......................................................................................... .............. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................ ................................................................................. ............. ............................................................................................................................. .................................................. ๒. นกั เรยี นควรปฏิบตั ิตนอย่ำงไรจึงจะเหมำะสมต่อบคุ คลที่มกี ำรเบ่ียงแบนทำงเพศ ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ๓. นักเรยี นควรปฏบิ ัติตนอยำ่ งไรต่อเพ่ือนที่มพี ฤตกิ รรมเบยี่ งเบนทำงเพศ ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................................. .............. ๔. นกั เรียนคิดวำ่ เพ่ือนที่มีพฤติกรรมเบ่ียงเบนทำงเพศ จะดำเนนิ ชีวิตอย่ำงไร เพื่อมใิ ห้ตนเองตกอยู่ ในสถำนกำรณ์เสย่ี งต่อกำรถูกลว่ งละเมดิ ทำงเพศ ............................................................................................................................. .................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..................................................

97 97 97 แผนกำรจดั กำรเรยี นรแ้ทู ผี่ 1น6กำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี 16 หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี 2 วหยั นสดว่ ยใสกชำรีวเิตรมยี สีนขุรู้ท่ี 2 วัยสดใสชวี ติ มสี ขุ เรื่อง เรียนรทู้ ักษแะชผวีนิตกเรำ:อ่ื รกงจำเัดรรลกีย่วนำงรลทู้เระกั เียมษนดิะรชทู้ทวีำี่ิตง1เพ:6ศกำรลว่ งละเมิดทำงเพศ เวลำ 1 ชั่วโมง เวลำ 1 ชวั่ โมง หน่วยกกลำุ่มรสเรำียระนกรำทู้ ร่ีเ2รยี นวรัยู้สสดุขกใศลสึก่มุ ชษสวีำติรแะลมกะสี ำพขุรลเรศียกึ นษรำู้ สขุ ศึกษำและพลศเึกรษอื่ ำง เรยี นรู้ทักรษำยะชวิชีวำิตส:ขุ กศำกึ รษลำว่ งลระำเยมวดิ ชิ ทำำสงขุเพศึกศษำ ช้ันมธั ยมศกึ ษเำวปลีทำ่ี 1ช1น้ั มชัธยว่ั มโมศึกงษำปีที่ 1 กลุ่มสขำอรบะกเขำตรเนร้ือยี หนำรู้ สุขศึกขษอำบแเขลตะเพนลอื้ หศำกึ ษำ กิจกรรมกำรเรยี นรู้รำยกวจิ ชิกรำรมสกุขำศรึกเรษยี ำนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ สือ่ /แหล่งเรยี นรู้ ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 1 ขอบเขกตำรเปนรอื้ บั หตำวั ตอ่ กำรเปล่ยี กนำแรปปลรงบั ทตำัวงตร่อำกงกำรำเยปจลติ ย่ี ในจแอปำลรงมทณำ์งร่ำงกขกจิ ้ันำกยนรจำริตมใจกอำำรรเรมยีณน์ รู้ ข้ันนำ ๑. ห้องสสือ่ ม/ดุแหล่งเรยี น๑.รู้ห้องสมดุ กำรปรแับลตะพวั ตัฒอ่ นกำำกรำเรปทลำงยี่ เนพแศปตแลอะงดพทจัฒำนงนรกำำ่ กงรำกใรชำท้ ยำกั จงษเติ พะใศกจตำอรลปำอฏรดมเิจสนณธกม์ ำี รใชขท้ ัน้ กั นษะำกำ1ร.ปทฏบิเสทธวมนี ควำมรู้เดิม 1. ทบทวนควำมรเู้ ดิม ๒. ww๑w..yหoอ้ uงtสuมbุดe.co๒m. www.youtube.com และพสัฒ่วนนำชกว่ ำยรปท้อำงกงเันพตศนตเอลงอจสดำ่วกจนกนชำก่วรำยถรปูกใอ้ลชง่วท้กงกันละตษเนะมเกิดอำทงรจำปำงกเฏพกเิศำสรธถมกู ีลว่ งละเมิดทำ21ง.เ.พแทศจบ้งจทุดวปนรคะวสำงมค์กรเู้ำดร2เิมร.ียแนจร้งู้ใจหุด้นปกั รเะรสยี งนคท์กรำำรบเรียนรู้ใหน้ กั เรียน๓ท.รำสบือ่ ๒คว. ำwมwรเู้ wก่ยี .yวoกบัu๓เtรu.่ือbสงeกอื่ .ำคcรวoลำm่วมงรลู้เกะ่ยีเมวิดกทับำเรง่อืเพงศกำรล่วงละเมิดทำงเพศ สว่ นช่วยป้องกันตนเองจำกกำรถูกลว่ งละเมิดทำงเพศ 32..คแรจนู ง้ ำจวดุิ ปีทรัศะนส์ งถคำน์กกำ3รำ.รเครณรยี นู์ขน่ำรวู้ใกดิ หำีท้นรศั ลกัน่วเ์สงรถลยี ำะนนเมทกิดำรทรำณบำง์ขเพำ่ วศกำรล่วงจลำะกเสมื่อิด๓อท.อำงนสเไพอื่ ลศคนว์ ำเชมน่รเู้จกำ่ยีกวสก่ือับออเรนือ่ ไลงนก์ำรเชลน่ ว่ งละเมดิ ทำงเพศ จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ จำก ww3w..yคoรuนู tำuวbิดeีท.cจศัoำนmกส์ wมถwำในwหก.้นyำักoรเuณรtยี u์ขนbำ่ ชeวม.กcoำรmลว่มงำลใหะ้นเมกั ิดเรทียำนงชเมพศ https:จ//ำwกwสอ่ืwอ.hอoนnไeลshนttd์topเcsช:s่น/./cwow/wwh.haot-nise-setdxoucasl-.co/what-is-sexual- จุดประสดง้ำคน์กคำวรำเมรรยี ู้นรู้ ด้ำนควำมรู้ จขำ้นั กสอwนww.youtubeข.cนั้ oสmอนมำให้นักเรยี นชม bullyihngtt-apnsd:/-/wwhwy-wdb.ouh-lokliyndines-gse-tandngodacg-wse.-hcinyo-/idtwoh-kaidt-si-se-nsgeaxguea-iln--it ดำ้ นค๑ว.ำบมอรกู้ สำเหตขุ องกำรถ๑ูก.ลบว่ องลกะสเำมเหิดตทขุำงอเงพกศำไรดถู้กล่วงละเมดิ ขทนั้ ำสงเอพนศ๑ได. ้ นักเรยี นกลุ่มเดมิ กล๑ุ่ม. ลนะกั เ๔รีย-น๖กลคุ่มนเดร่วมิ มกลนั มุ่ วลเิ คะร๔ำะ-ห๖์ คนรh่วtมtpกนั:/bว/wิเuคwlรlำywะi.nหthg์ -aaicnhdihl-dtwtrpihg:hy//t-wsd.owr-wgk/.itadhrsta-iiceclhneigsld/argigeh-itns.-oitrg/articles/ ๑. บอ๒ก.สบำอเหกผตลขุ กอรงะกทำบรจถำูกกลก๒่วำง.รลถบะกูอเลกม่วผิดงลลทกะำรเงะมเทิดพบทศจำไำงดกเพ้กศำไรดถู้กลว่ งละแเมลดิะทอภำงปิ เ๑พร.ำศยนไหดัก้ลเรงั จียำนกกกแลำล่มุระชเดอมภิมวิดปกทีรลำศั ยุ่มนหล์ ใละนังปจ๔ำรกะ-กเด๖ำน็รชคกมำนรวรลดิ ่วว่ที มงัศกลนะนั ์เใวมนิเดคปทรำำะงะเดหน็ ์ aกrำtรicลlว่ehง-ลdttะepเfม:e/ิดn/ทcweำwง w.atrhtaicilceh-diledfreignhcets.org/articles/ ๒. บอดกำ้ ผนลทกกั รษะะทแบลจะำกกระกบำวรนถดูกำ้ ำลนรว่ทงักลษะะเแมลิดะทกำรงะเบพวศนไกดำ้ ร แเพลศะโอดภยปิเจรตำนยำหแลังะจไมำ่เกจเกพตำศนรโำดชกยมรเะวจทิดตำทีนำศั แนล์ ะใไนมปเ่ จรตะนเดำกน็ รกะำทรำล่วงละเมิดท๔ำ.งใบคaวrำtiมcรlู้ทe-ี่ ๒deเfรeื่อnง๔c.กeใำบรลค่วงำลมะรเู้ทมี่ ิด๒ทเำรงื่อเงพศกำรล่วงละเมดิ ทำงเพศ ด้ำนทกักำษรปะอ้แงลกะนั กแรละะบหวลนกี เกลำยี่ กรงำสรถปำอ้ นงกกำันรแณล์เะสหีย่ ลงกีตเอ่ ลีย่ งสถำนกำรณเพ์เสศีย่โดงตย่อ๒เจ.ตคนรตูำแงั้ คลำะถไำมมเ่ เจพต่มิ นเตำิมก๒วร.ำ่ะคทหรตูำกงั้ คนำกั ถเำรมียเนพเิม่ปเ็นตบิมุควคำ่ ลหทำี่ถกูกนลกั ่วเรงียนเภปำน็ รบะุงค๔ำคน.ล/ใทชบี่ถิ้นคกู งวลำำ่วนมง รูท้ ภ่ี ๒ำระเรงอ่ืำนง/กชำิ้นรงลำ่วนงละเมิดทำงเพศ กสำรรุปกปกำอ้ราถงรกูปลันอ้ ่วแงลกละนั หเแมลิดกีะทเหำลงลย่ี เีกพงกเสศลำถไรี่ยดำถง้ นูกสลกถ่วำางรนลณะกเ์ามสรดิ่ียณทงเ์ตำสง่อเยี่ พงศได้ ละเมดิ ท๒ำง.เพคศรตู ำงั้ มคสำถำำลนมะกเมพำริดิ่มณทเำตข์ งำ่มิ เวพว่ำศนตหกัำำเมรกสยี นถนำักจนเะรกมยีำีแรนนณเวป์ขทน็่ำำวบงกุคนำคกัรลเรทีย่ีถนกูจละ1มว่ ีแง. นสวมทดุภำจำงดรกบะำันงรำทนกึ /ช้นิ 1งำ. นสมดุ จดบันทึก กตำอ่ รกถากู รลถดว่ ูก้ำงนลลคว่ ะงณุ เลมละิดักเทมษำิดณงทะเพางศเไพดศ้ ดไดำ้ น้ คุณลักษณะ ลปะอ้ เงมกิดันทแำลงะเหพลศีกตเลำีย่มงสสถปถำ้อำนงกันำรแณณละ์เ์ขสหำ่ยีลวงกี นเลนั้ ่ยีอักงยเสร่ำถงยี ำไนรนจกะใำหรมต้ณีแอเ์นสบว่ียคทงำนำถ้นังำกอมำยร่ำงไร2.ใใหบ้ตง1อำน.บทสค่ีำม๔ถุดำจเมรดอ่ื บงันก2ทำร.กึ ถใบูกงลำ่วนงทละ่ี ๔เมเดิ รทือ่ ำงงกเพำรศถูกล่วงละเมดิ ทำงเพศ ด้ำนค๑ณุ . ลแักสษดณงพะฤติกรรมกำร๑ม.วี นิ แยั สดงพฤติกรรมกำรมีวนิ ัย ปโดอ้ ยงกกำนั รแบลนั ะทหึกลงกี สเลมดุีย่ จงโสดดบถยนัำกนทำรกึ บำันรทณกึ เ์ ลสงยี่ สงมนดุ ้ันจอดยบำ่นั งทไึกร ให้ตอบคำถำม 2. ใบงำนที่ ๔ เร่ือง กำรถูกล่วงละเมดิ ทำงเพศ ๑. แ๒สด. งแพสฤดตงิกพรฤรตมิกกรรำมรใมฝีว่เนิ๒รยี.ยั นแรู้สดงพฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ โดยกำร๓บ.ันนทกั ึกเรลยี งนสศมึกดุ ษจำดคบ้นันคทว๓้ำึก.คนวกัำเมรรยี เู้ นพศ่มิ ึกเตษิมำคเน้ รค่อื วง้ำสคำวเำหมตรุู้เแพลมิ่ ะเติม เรือ่ ง สำเหตุ และ ๒. แ๓สด. งแพสฤดตงิกพรฤรตมกิ ใรฝร่เมรมียุง่ นม๓รั่น.ู้ ในแกสำดรงทพำฤงตำิกนรรมม่งุ มัน่ ในกำรทำงผำนลกระท๓บ.ทนเี่ กกั ิดเจรำียกนกศำึผกรลษก่วำงรคละน้ะทเคบมวทดิ ้ำ่ีเทกคำิดวงจำเพำมกศรกูเ้ จพำรำ่ิมลกเว่สตง่ือิมลอะอเเมนริดไื่อลทงนำต์สงเำ่ พงเศหๆตจุำแกลสะ่ือออนไลน์ตำ่ งๆ ๓. แ๔สด. งแพสฤดตงิกพรฤรตมกิ มรร่งุ มกัน่ ำใรน๔ม.กีจำติ แรสทำดำธงงำพรำฤณนตะิกรรมกำรมจี ติ สำธำรณผแเะชล่นกะผระลทกบระททเี่ กบิดทจี่เำกกิดกจเำชารน่กลก่วางรลละว่ เงมลดิ ะทเมำงดิ เทพาศงเจพำศกสจื่อากอสออื่นไลน์ตำ่ งๆ ๔. แสดงพฤติกรรมกำรมจี ติ สำธำรณะ เอhชอt่นtนpไsล:/น/w์ตwา่ งwๆ.hoเชnน่esthdtotpcs:./c/ow/wwha.hto-isn-essetxduoacls-.co/what-is-sexual- hbtutlplysi:n//gw-awndw-w.hhoyn-deobs-utkdlildoysicn-seg.n-cagona/dgw-ewh-ihnay-ti-tdiso-s-keidxus-aeln-gage-in-it bแuลlว้ lทyำinใบg-งaำnนdท่ี-๔whเรy่ือ-งdแลoก้วำ-ทkรiถำdใูกบsล-งeว่ ำงnนลgทะaี่เ๔gมeดิ เ-รทi่ือnำง-iเtกพำศรถูกลว่ งละเมิดทำงเพศ แล้วทำใบงำนท่ี ๔ เร่อื ง กำรถูกล่วงละเมดิ ทำงเพศ 97 9297 97

หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี 2 วัยสดใสชีวติ มสี ุข แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ี่ 16 98 กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ เร่ือง เรยี นรู้ทกั ษะชีวติ : กำรลว่ งละเมดิ ทำงเพศ เวลำ 1 ชว่ั โมง ชนั้ มัธยมศึกษำปที ่ี 1 รำยวิชำ สุขศกึ ษำ ขัน้ สรุป ๑. หลังจำกที่นักเรียนได้รับชมวิดีทัศน์ ได้ร่วมกัน วิเครำะห์และอภิปรำยแลกเปล่ียนเรียนรู้ เรื่อง กำรเบ่ียงเบนทำง เพศแล้ว นักเรียนมีควำมเข้ำใจ และเจตคติท่ีดีต่อผู้ท่ีมีพฤติกรรม เบี่ยงเบนทำงเพศมำกยิ่งข้ึน ใช่หรือไม่ และยังมีข้อสงสัยอยู่อีก หรอื ไม่ ๒. นักเรียนสำมำรถดำเนินชีวิตประจำวันร่วมกับเพ่ือนที่ เบี่ยงเบนทำงเพศได้อย่ำงรำบร่ืน ไม่มีควำมขัดแย้งในกลุ่มเพื่อนใช่ หรอื ไม่ ๓. หำกนักเรียนรู้ตัวว่ำตัวเองเบย่ี งเบนทำงเพศ นักเรยี นมี วิธีกำรปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่ำงมีควำมสุข โดยไม่มี ควำมขัดแย้งกับบุคคลในครอบครัว และกลุ่มเพื่อนใช่หรือไม่ อยำ่ งไร 93

94 การวดั และประเมินผล สิ2งท2ีต้องการวดั /ประเมิน วิธีการ เคร2ืองมือที2ใช้ เกณฑ์ ๑. บอกสาเหตุและผลกระทบ ตรวจใบงาน แบบตรวจผลงาน ระดบั พอใชข้ นPึ ไป จากการถกู ลว่ งละเมดิ (มติ คิ ณุ ภาพแบบ ทางเพศ การใหค้ ะแนน Rubric) ๒. สรปุ การป้องกนั และ หลกี เลยUี งสถานการณ์เสยUี งต่อ การถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ ตรวจการบนั ทกึ แบบตรวจการบนั ทกึ ระดบั พอใชข้ นPึ ไป ๓. แสดงพฤตกิ รรมการมวี นิ ยั สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต (Rubric) ระดบั พอใชข้ นPึ ไป ๔. แสดงพฤตกิ รรมใฝ่เรยี นรู้ ตรวจสอบความสาํ เรจ็ มติ คิ ณุ ภาพการประเมนิ ระดบั พอใชข้ นPึ ไป ๕. แสดงพฤตกิ รรมมงุ่ มนัU ของชนPิ งาน ชนPิ งาน (Rubric) ระดบั พอใชข้ นPึ ไป ในการทาํ งาน ตรวจสอบความสาํ เรจ็ มติ คิ ณุ ภาพการประเมนิ ของชนPิ งาน ชนPิ งาน (Rubric) ๖. แสดงพฤตกิ รรม สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต (Rubric) ระดบั พอใชข้ นPึ ไป การมจี ติ สาธารณะ

10950100 บันทกึ ผลหลงั สอน ผลกำรเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... .......................................................................................................................................................................... ............ ปญั หำและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ........................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ .............................................................................. ............................................................................................................................. ......................................................... ขอ้ เสนอแนะ/แนวทำงแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ............................................................................................................................. ......................................................... ...................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ลงช่ือ……………………………………….ผู้สอน (……………………………………….) วันท่…ี ……เดอื น……………พ.ศ………… ควำมคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหำรหรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมำย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ......................................................................................................................................... ............................................. ...................................................................................... ................................................................................................ ............................................................................................................................. ......................................................... ลงชอ่ื ………………………………………ผู้ตรวจ (……………………………………..) วันท…ี่ ……เดอื น………………พ.ศ…………..

10916101 ใบควำมรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง กำรล่วงละเมิดทำงเพศ หน่วยกำรเรียนรูท้ ี่ ๒ แผนกำรจัดกำรเรยี นร้ทู ่ี ๑๖ เรอื่ ง กำรลว่ งละเมิดทำงเพศ รำยวชิ ำ สุขศกึ ษำ ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี ๑ ..................................................... กำรลว่ งละเมดิ ทำงเพศ (Sexual Bullying) เรียนรเู้ พิม่ เตมิ เกย่ี วกบั กำรลว่ งละเมิดทำงเพศ อัปเดตล่ำสุดเมื่อวันท่ี ม.ค. 23, 2019 อะไรคอื กำรล่วงละเมิดทำงเพศ (Sexual Bullying) กำรล่วงละเมิดทำงเพศ (Sexual Bullying) เป็นรูปแบบหน่ึงของกำรล่วงละเมิดบุคคลและเกิดขึ้นบ่อยใน หมวู่ ยั รนุ่ (อำยุ 10-20 ปี) พฤติกรรมน้เี กิดจำกบคุ คลหรอื กลุม่ บุคคลกระทำกำรคุกคำมคนอ่นื ๆๆ ผำ่ นกำรแสดงควำม คิดเห็นและกำรกระทำในแนวลำมก กำรล่วงละเมิดทำงเพศสำมำรถกระทำกำรผ่ำนทำงออนไลน์หรือเจำะจ ง รำยบุคคล เม่ือวัยรุ่นถูกล่วงละเมิดทำงเพศไปแล้ว จะมีแนวโน้มท่ีจะโดนรังแกด้ำนอ่ืนๆๆ อีก เช่น โดนซุบซิบนินทำ ดถู กู กล่ันแกล้งทำงโลกออนไลน์ เยน็ ชำ ไมย่ อมรับ ทำให้อบั อำย หรอื ข่มขู่ กำรล่วงละเมิดทำงเพศจะแตกต่ำงจำกกำรล่วงละเมิดทำงร่ำงกำยท่ัวไป เพรำะมันไม่สำมำรถเห็นร่องรอย ชัดเจนที่มองเห็นได้ กำรล่วงละเมิดทำงเพศมักจะเกิดขึ้นเม่ือไม่มีผู้ใหญ่อยู่รอบๆๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ต้องพูดคุย กับเด็กเก่ียวกับกำรล่วงละเมิดทำงเพศและพัฒนำกำรทำงเพศที่ถูกต้องอย่ำงสม่ำเสมอ หำกบุตรหลำนขอขงอคงณุ คุณ อำจจะเป็นเหยื่อของกำรถูกล่วงละเมิดทำงเพศ ควรเปิดโอกำสให้ลูกๆ กล้ำที่จะพูดคุยกับคุณเก่ียวกับสถำนกำรณ์ ท่เี กดิ ขนึ้ ตวั อยำ่ งของกำรลว่ งละเมดิ ทำงเพศ ภำพถ่ำยเปลือยหรือภำพเก่ยี วกับกำรร่วมเพศ ตลกลำมก ภำษำและควำมเห็นท่ีไม่เหมำะสม สื่อลำมกและ กำรกระทำท่ีให้ผู้ตกเป็นเหยื่อ อึดอัด อับอำย หรือกลัว จัดเป็นกำรคุกคำมทำงเพศหรือกำรล่วงละเมิดทำงเพศ รวมถงึ กำรกระทำหรือกำรแสดงควำมคิดเห็นอ่ืนๆ ต่อไปนี้ - กำรพูดเร่อื งตลกทำงเพศหรอื แสดงควำมคดิ เหน็ เกยี่ วกบั คนอ่ืนไปในแนวลำมก ทำทำ่ ทำงร่วมเพศ กับคนอ่ืน - แสดงควำมคดิ เห็นเก่ยี วกับควำมสนใจเรอ่ื งเพศหรือกิจกรรมทำงเพศของคนอนื่ เรยี กช่อื ผ้ทู ่มี ี เพศสัมพันธด์ ้วยอย่ำงชัดเจนและทำให้เส่อื มเสีย อบั อำย - จบั ต้องรำ่ งกำยผ้อู ื่นแบบลำมกและโดยจงใจ เปดิ กระโปรงหรอื เสือ้ ผ้ำคนอ่นื เพ่อื เจตนำลำมก - กระจำยขำ่ วลือเร่อื งกำรรว่ มเพศหรือนินทำคนอื่นด้วยข้อควำมหรือสื่อออนไลน์ - กำรโพสต์แสดงควำมคิดเห็นทำงเพศ ภำพ หรือวดิ ีโอลำมกบนส่ือสงั คมออนไลน์ เชน่ Facebook - สง่ ข้อควำมและภำพลำมกผ่ำนข้อควำม ทรี่ จู้ กั กนั ว่ำ ข้อควำมลำมก หรอื Sexting - กดดันให้คนอนื่ มีส่วนรว่ มในกำรส่งข้อควำมลำมกเพ่ือให้แสดงว่ำรกั มำก - สง่ ต่อข้อควำมและภำพลำมกผ่ำนขอ้ ควำมหรอื อีเมล

19072102 - เขียนควำมคิดเห็นที่เกี่ยวกับคนอืน่ ในทำงลำมกบนผนงั ห้องน้ำหรือในสถำนทีส่ ำธำรณะอน่ื ๆ - แบง่ ปันวดิ โี อหรอื รูปภำพลำมก - แอบอ้ำงเปน็ คนอนื่ บนสือ่ ออนไลน์ โดยแสดงควำมคดิ เหน็ ลำมกหรือเสนอกำรร่วมเพศ แทนคนอนื่ - มีสว่ นร่วมในกำรทำให้คนอนื่ รสู้ กึ ผิดหำกไมร่ ว่ มเพศดว้ ย ทำไมเดก็ ถึงล่วงละเมดิ ทำงเพศผอู้ น่ื มีเหตุผลมำกมำยว่ำทำไมเด็กจึงมีส่วนร่วมในกำรล่วงละเมิดทำงเพศ แต่เหตุผลสำคัญที่สุดจะเก่ียวข้องกับ กำรต้องกำรสถำนะทำงสังคมในโรงเรียน ควำมอิจฉำ ควำมหึงหวง กำรเรียกร้องควำมสนใจ และควำมกลัว เร่ือง กำรพัฒนำควำมสัมพนั ธท์ ำงเพศของพวกเขำ เป็นเหตุผลสำคญั ปัจจัยทส่ี ร้ำงแรงจูงใจสำหรับกำรลว่ งละเมดิ ทำงเพศ มดี งั น้ี กำรล่วงละเมิดทำงเพศอำจเป็นกำรกระทำเพ่ือแสดงอำนำจ เม่ือรู้สึกอ่อนแอหรือสูญเสียอำนำจ เด็กหลำย คนกระทำกำรล่วงละเมิดทำงเพศ เพรำะเคยถูกคุกคำมหรือถูกล่วงละเมิดทำงเพศ เพ่ือเพ่ิมควำมสำมำรถในกำร ควบคุม เด็กเหล่ำน้ีจะเลือกเด็กที่อ่อนแอกว่ำ เพ่ือสำมำรถแสดงถึงอำนำจและกำรควบคุมชวี ิตคนอื่น เด็กหลำยคนมี อคติต่อเพศใดเพศหน่ึงหรือวิถีชีวิตของคนอ่ืน จึงมีพฤติกรรมพำลต่อคนอ่ืนๆๆ ขึ้นอยู่กับควำมเช่ือเหล่ำน้ัน กำรแสดง ถึงวุฒิภำวะทำงเพศ เม่ือเด็กถึงช่วงวัยรุ่น พวกเขำจะให้ควำมสำคัญเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขำถูกมองและสิ่งที่เพื่อนของ เขำคิดเกีย่ วกบั เขำ เด็กเหลำ่ น้ีตอ้ งกำรถกู มองว่ำเป็นผ้ใู หญ่และได้รบั กำรยอมรับ เป็นผลให้พวกเขำมักจะกดดันเร่ือง กำรยอมรับจำกคนในกลุ่ม บ่อยครั้งทเ่ี ด็กผู้ชำยจะล่วงละเมิดทำงเพศเด็กผู้หญิง เพ่ือให้ไดร้ ับกำรยอมรับจำกคนรอบ ข้ำงหรือเพ่อื แสดงลกั ษณะวำ่ เปน็ ผ้มู ีประสบกำรณ์ทำงเพศ เด็กผู้หญงิ ก็จะมุ่งเน้นไปทก่ี ำรขม่ ขู่ผหู้ ญิงคนอน่ื ๆๆ โดยกำร เรยี กชื่อทลี่ ำมกหรือส่อื สัญลักษณท์ ำงเพศชดั เจนในควำมพยำยำมที่จะลดสถำนะ ทำงสงั คมของเดก็ ผหู้ ญิงคนอืน่ เพื่อเป็นกำรสร้ำงควำมตื่นเต้น ผู้นิยมกำรล่วงละเมิดทำงเพศบำงคนเพลิดเพลินในกำรเล่ำเรื่องรำวไม่ดี แพร่กระจำยข่ำวลือ หรือกำรแบ่งปันข่ำวเชิงลบเกี่ยวกับผู้อื่น โดยเฉพำะผู้หญิงจะทำกำรล่วงละเมิดทำงเพศ ผู้หญิงอ่ืนโดยกระจำยข่ำวลือและนินทำ เล่ำควำมลับ หรือดึงควำมสนใจของคนอื่น โดยเล่ำสิ่งท่ีคนอ่ืนๆๆ ไม่รู้ พวกเขำเตบิ โตขึน้ บนควำมทุกข์ยำกของคนอื่น ๆ เพ่อื ลดควำมไม่ม่นั คงในชีวติ กำรล่วงละเมดิ ทำงเพศเหมอื นเป็น ส่ิง ปกป้องควำมรู้สึกด้ำนควำมไม่เพียงพอและควำมนับถือตนเองต่ำ ตัวอย่ำงเช่น บำงคนอำจรู้สึกมีปมด้อยใน พัฒนำกำรของร่ำงกำยรวมถึงพัฒนำกำรทำงเพศ จึงเลือกกระทำรุนแรงคนอ่ืนก่อนที่คนอ่ืนจะโจมตีเขำเพื่อลดกำร แข่งขัน เด็กผู้หญิงบำงคนกระทำกำรล่วงละเมิดทำงเพศต่อเด็กผู้หญิงคนอน่ื เพรำะควำมอิจฉำ อำจรู้สึกว่ำเพอ่ื นของ เธอสวยอย่ำงชำญฉลำดหรือเป็นท่ีนิยมมำกในหมู่ผู้ชำย ไม่ว่ำด้วยเหตุผลใด เด็กผู้หญิงมักกำหนดเป้ำหมำยผู้หญิง ด้วยกันเพื่อทำให้เพ่ือนได้รับควำมพอใจจำกคนอื่นลดลง ควำมสัมพันธ์ท่ีรุกรำนน้ีจะรวมถึงสิ่งที่แบ่งปันเกี่ยวกับ ควำมลับทำงเพศหรือกระจำยข่ำวโกหกและข่ำวลือเก่ียวกับกิจกรรมทำงเพศของบุคคลเป้ำหมำยเพ่ือเลียนแบบ บำงคร้ังเด็กจะมสี ว่ นรว่ มในกำรลว่ งละเมิดทำงเพศจำกส่ิงท่ีเห็นคนอื่นทำเพื่อเลียนแบบคนอ่ืนๆๆ อทิ ธิพลเช่นน้รี วมถึง กำรกระทำทุกอย่ำงจำกผู้ใหญ่ในชีวิตจริง รำยกำรเรียลิต้ีทำงโทรทัศน์ ภำพยนตร์ และเพลง ญำติพ่ีน้องที่โตกว่ำ เพื่อน พ่อแม่ หรือแม้กระท่ังกลุ่มเพ่ือนบ้ำน เด็กมักจะจำลองและเลียนแบบพฤติกรรมของพวพกวเขกาเจขาำกจสำ่ิงกทสี่อิงยทู่ีอยู่ ข้ำงหนำ้ ขอขอบคุณข้อมลู จำก : https://www.honestdocs.co/what-is-sexual-bullying-and-why-do-kids

19083103 ใบงำนที่ ๔ เร่อื ง กำรลว่ งละเมิดทำงเพศ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๒ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑๖ เรื่อง กำรลว่ งละเมดิ ทำงเพศ รำยวชิ ำ สขุ ศกึ ษำ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ี่ ๑ ..................................................... กลมุ่ ...........................................ชั้น...................เลขท.ี่ ........................................................................................ คำชแ้ี จง ให้นักเรียนตอบคำถำมต่อไปน้ี ๑. กำรใช้ส่อื ออนไลนอ์ ย่ำงไรส้ ติ อำจสง่ ผลให้นักเรยี นถูกล่วงละเมิดทำงเพศอย่ำงไรบ้ำง ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ....................................................................................................................................................................... ........ ........................................................................................................................... .................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ๒. นักเรยี นคิดวำ่ สำเหตขุ องกำรล่วงละเมดิ ทำงเพศในวัยรุ่น เกดิ จำกสำเหตใุ ดบ้ำง จงอธิบำยเป็นขอ้ ๆ ............................................................................................................................. .................................................. .............................................................................................................................................. ................................. .................................................................................................. ............................................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................. .............................................. ๓. ผลกระทบที่เกดิ ขนึ้ จำกกำรใชส้ อื่ ออนไลนป์ ระจำนเร่อื งเพศ พฤตกิ รรมลำมกอนำจำร จะสง่ ผลต่อใครบ้ำง เพรำะเหตุใด ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ๔. หำกมีใครสง่ ขอ้ ควำมลำมกอนำจำรมำให้ นักเรียนจะทำอยำ่ งไร เพรำะเหตุใด ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ๕. หำกนักเรียนตกอยู่ในสถำนกำรณ์เส่ียง เผชิญหนำ้ กบั ผ้ทู ต่ี ้องกำรลว่ งละเมิดทำงเพศ นักเรียนจะทำอยำ่ งไร ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ...............................................................................................................................................................................

104 หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี 2 วัยสดใสชวี ิตมีสุข แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ่ี 1๗ เวลำ 1 ช่วั โมง เรอื่ ง เรยี นรทู้ ักษะชีวิต : ผลกระทบทเ่ี กดิ จำกกำรถกู ล่วงละเมิดทำงเพศ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ รำยวิชำ สุขศกึ ษำ ช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ 1 ขอบเขตเน้ือหำ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ กำรปรับตัวต่อกำรเปลีย่ นแปลงทำงรำ่ งกำยจิตใจ อำรมณ์ ขัน้ นำ ๑. หอ้ งสมดุ และพฒั นำกำรทำงเพศตลอดจนกำรใช้ทักษะกำรปฏิเสธ 1. ทบทวนควำมร้เู ดิม ๒. www.youtube.com ตวั อยำ่ งสถำนกำรณ์ มสี ่วนช่วยปอ้ งกนั ตนเองจำกกำรถูกลว่ งละเมดิ ทำงเพศ 2. แจ้งจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ใหน้ ักเรียนทรำบ กำรถกู ลว่ งละเมิดทำงเพศ ๓. ครนู ำตวั อยำ่ งสถำนกำรณ์กำรถกู ลว่ งละเมดิ ทำงเพศใน 3. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ สถำนกำรณต์ ่ำงๆ จำก www.youtube.com มำใหน้ ักเรยี นชม ภำระงำน/ชนิ้ งำน ดำ้ นควำมรู้ ขน้ั สอน 1. สมดุ จดบันทึก ๑. บอกผลกระทบจำกกำรถูกล่วงละเมิดทำงเพศได้ ดำ้ นทักษะและกระบวนกำร 1. ครูวิเครำะห์ผลกระทบที่เกดิ ขึ้น จำกตัวอย่ำงสถำนกำรณ์ ท่ี วเิ ครำะห์ผลกระทบท่เี กดิ จำกกำรถกู ลว่ งละเมิดทำงเพศ รับชมวิดีทัศน์ข้ำงตน้ ใหน้ ักเรียนรับฟังเพ่ือเป็นตวั อย่ำงกำรวิเครำะห์ จำกนนั้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มวริเค่วมราวะเิ คหรแ์ ำละะหอ์แภลปิ ะรอาภยิปเพรำม่ิ ยเตเพมิ มิ่ เติม ตำมสถำนกำรณ์ที่เกดิ ขนึ้ ได้ ด้ำนคณุ ลักษณะ 2. นักเรียนจับคู่กับเพื่อนแล้วศึกษำสถำนกำรณ์กำรถูกล่วง ๑. แสดงพฤติกรรมกำรมวี นิ ัย ละเมิดทำงเพศ จำกwww.youtube.com อย่ำงน้อยคู่ละ ๔ ๒. แสดงพฤตกิ รรมใฝ่เรียนรู้ ๔สสถถำานนกกำารรณณ์ ์จำกน้ันช่วยกันวิเครำะห์ว่ำสถำนกำรณ์ตัวอย่ำงที่รับชม ๓. แสดงพฤตกิ รรมมุ่งมนั่ ในกำรทำงำน ดังกล่ำวจะเกิดผลกระทบกับใครอย่ำงไรบ้ำง แล้วบันทึกผลกำร ๔. แสดงพฤตกิ รรมกำรมจี ติ สำธำรณะ วิเครำะห์ลงสมดุ จดบนั ทึก ๓. ครูขออำสำสมัครนักเรียนอย่ำงน้อย ๓ คน ที่วิเครำะห์ สถำนกำรณ์ไม่ซ้ำกัน มำนำเสนอให้เพื่อนฟังหน้ำช้ัน และเพื่อนในช้ัน ที่มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมก็ช่วยกันแสดงควำมคิดเห็น โดยกำร นำเสนอผลกำรวเิ ครำะหข์ องตนเองเพม่ิ เตมิ ได้ 99 104

หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี 2 วัยสดใสชีวติ มีสขุ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ 1๗ 105 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ เร่ือง เรยี นรู้ทักษะชีวติ : ผลกระทบที่เกดิ จำกกำรถกู ล่วงละเมดิ ทำงเพศ เวลำ 1 ช่วั โมง ชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี 1 รำยวิชำ สขุ ศกึ ษำ ๔. ครสู รปุ และเสนอแนะควำมคิดเหน็ เพ่มิ เติมหลงั จำก อำสำสมคั รนักเรียนคนสุดท้ำยนำเสนอเสรจ็ ส้ิน และเพ่ือนในช้นั เสนอแนะควำมคิดเห็นเพ่ิมเติมแลว้ ขัน้ สรุป ๑. นักเรียนรู้สกึ อย่ำงไร หำกสถำนกำรณ์กำรล่วงละเมิด ทำงเพศกำลงั คุกคำมตัวนกั เรียนอยู่นกั เรียนคดิ วำ่ สำมำรถจัดกำร ปญั หำนไ้ี ด้เองหรือไมน่ ักเรยี นจะแจง้ ใหบ้ ิดำ มำรดำ หรือผู้ปกครอง ทรำบและร่วมจัดกำรกบั ปัญหำน้ีหรอื ไม่ อย่ำงไร นักเรยี นคดิ ว่ำ ปญั หำนส้ี ำมำรถจัดกำรไดโ้ ดยใครดีทีส่ ุด ๒. หำกกำรหลีกเลยี่ งและป้องกนั ตนเองจำกสถำนกำรณ์ เสยี่ งโดยกำรใช้ทักษะปฏิเสธแลว้ ไม่ไดผ้ ลจนนำไปสู่กำรถูกลว่ งละเมิด ทำงเพศ นักเรยี นคิดวำ่ ใครท่ีจะได้รบั ผลกระทบที่เกดิ ข้นึ บ้ำง เพรำะ เหตุใด ๓. หำกนกั เรียนเปน็ คนหนึ่งที่ไดร้ บั ผลกระทบจำกกำร ถกู ล่วงละเมิดทำงเพศ นักเรียนมวี ิธปี ฏิบัติตนอย่ำงไรเพื่อให้สำมำรถ ดำรงชวี ติ อยูไ่ ด้อยำ่ งมีควำมสุข ๔. หำกสถำนกำรณ์หน่ึง เพอ่ื นสนิทของนักเรียนเปน็ ผู้ ได้รับผลกระทบจำกกำรถูกลว่ งละเมิดทำงเพศ นกั เรยี นจะใหก้ ำร ดูแลชว่ ยเหลือเพือ่ นได้อยำ่ งไรบ้ำง 101005

101 การวดั และประเมินผล สิ2งที2ต้องการวดั /ประเมิน วิธีการ เครื2องมือที2ใช้ เกณฑ์ ๑. บอกผลกระทบจาก แบบตรวจผลงาน ระดบั พอใชข้ นOึ ไป การถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ ตรวจใบงาน (มติ คิ ณุ ภาพแบบ การใหค้ ะแนน Rubric) ๒. วเิ คราะหผ์ ลกระทบ ตรวจการบนั ทกึ แบบตรวจการบนั ทกึ ระดบั พอใชข้ นOึ ไป ทเUี กดิ จากการถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ ๓. แสดงพฤตกิ รรมการมวี นิ ยั สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต (Rubric) ระดบั พอใชข้ นOึ ไป ๔. แสดงพฤตกิ รรมใฝ่เรยี นรู้ ตรวจสอบความสาํ เรจ็ มติ คิ ณุ ภาพการประเมนิ ระดบั พอใชข้ นOึ ไป ๕. แสดงพฤตกิ รรมมงุ่ มนัU ของชนOิ งาน ชนOิ งาน (Rubric) ระดบั พอใชข้ นOึ ไป ในการทาํ งาน ตรวจสอบความสาํ เรจ็ มติ คิ ณุ ภาพการประเมนิ ของชนOิ งาน ชนOิ งาน (Rubric) ๖. แสดงพฤตกิ รรม สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต (Rubric) ระดบั พอใชข้ นOึ ไป การมจี ติ สาธารณะ

110027107 บันทึกผลหลังสอน ผลกำรเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... .................................................................................................................................................... .................................. ................................................................................................. ..................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ปัญหำและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................................................................. ......... ขอ้ เสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ......................................................................................................................................................... ............................. ...................................................................................................... ................................................................................ ............................................................................................................................. ......................................................... ลงชื่อ……………………………………….ผูส้ อน (……………………………………….) วนั ท่ี………เดอื น……………พ.ศ………… ควำมคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหำรหรอื ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมำย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ...................................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. ......................................................... ....................................................................................................................................... ............................................... ลงชือ่ ……………………………………ผู้ตรวจ (……………………………………) วนั ที่………เดอื น………………พ.ศ…………..

101808 แผแนผกนำกรจำรัดจกัดำกรเำรรียเรนยี รนทู้ ร่ี 1ูท้ ๘ี่ 1๘ หนห่วนย่วกยำกรเำรรียเรนียรนูท้ รี่ 2้ทู ี่ ว2ยั วสัยดสใสดชใสวี ชิตีวมติ สี มขุ ีสุข เรอ่ื เรงือ่ เงรยี เรนียรนทู้ รักู้ทษักะษชะีวชติ ีว:ติ ก:ำกรปำร้อปงอ้กงันกแนั ลแะลหะลหกี ลเลกี ี่ยเลง่ียง เวลเวำลำ1 1ช่วั ชโม่วั งโมง กลกุม่ ลสุม่ ำสระำกระำกรเำรรียเรนียรนู้ สรุขู้ สศุขึกศษึกำษแำลแะลพะลพศลกึ ศษกึ ำษำ รำยรำวยิชวำิชสำขุ สศขุ ึกศษกึ ำษำ ช้ันชมั้นัธมยัธมยศมึกศษกึ ำษปำที ป่ี 1ที ่ี 1 ขอขบอเขบตเขเนตื้อเนห้อื ำหำ กจิ กจิรกรมรรกมำกรเำรรียเรนยี รนู้ รู้ สอื่ ส/แือ่ ห/แลหง่ ลเรง่ ียเรนยี รนู้ รู้ กำกรปำรปับรตับัวตวัอ่ ตก่อำกรเำปรลเปีย่ ลนย่ี แนปแลปงทลงำทงรำำ่งงรกำ่ ำงกยจำยิตจใจิตใอจำอรมำรณม์ ณ์ ขน้ั ขนนั้ ำนำ ๑. ๑ห.้อหงส้อมงสุดมดุ แลแะลพะัฒพนัฒำนกำกรทำรำทงเำพงศเพตศลตอลดอจดนจกนำกรใำชรท้ใชัก้ทษกั ะษกะำกรปำรฏปเิ สฏธิเสธ 1.1ท.บททบวทนวคนวคำมวำรมูเ้ ดริมเู้ ดิม ๒. ๒w.wwww.ywo.yuotubtueb.ceo.cmom มสี ม่วีสนว่ชน่วชย่วปย้อปงกอ้ ันงกตันนตเอนงเจอำงกจำกกำกรถำรกู ถลูก่วลงล่วะงลเมะดิเมทิดำทงเำพงศเพศ 2.2แ.จแง้ จดุง้ จปดุ รปะสระงคส์กงคำก์รเำรรียเรนยี รนู้ใหรนู้ใหักน้ เรักยี เรนียทนรทำบรำบ - ว-ีดวิทีดศั ทิ นัศ์แนส์แดสงสดถงสำนถำกนำกรณำร์กณำก์รถำรกู ถลูก่วลงล่วะงลเมะดิเมทิดำทงเำพงศเพศ ๓.๓ค.รคนู รำนูวิดำวีทดิ ัศที นศั ์แนสแ์ดสงสดถงสำนถำกนำกรณำร์ ณกำ์ กรถำรูกถลูก่วลงลว่ ะงลเมะิดเมทดิ ำทงเำพงศเพจศำกจำก - ว-ดี วทิ ดี ัศิทนัศ์แนสแ์ดสงทดงักทษักะษปะฏปิเสฏธิเสธ จุดจปุดรปะสระงสคงก์ คำก์รเำรรยี เรนยี รนู้ รู้ wwwww.ywo.yuotubtueb.ceo.cmomใหน้ใหกั น้ เรกั ยี เรนยี รนบั รชบั มชม ดำ้ ดน้ำคนวคำวมำรมู้ รู้ ขนั้ ขสนั้ อสนอน ภำภระำงรำะนงำ/นชิน้/ชงน้ิำนงำน อธอบิ ธำบิยวำยิธกีวธิำกีรแำรสแดสงทดงักทษักะษปะฏปิเสฏธิเสในธกในำกรหำรลหกี ลเลีกี่ยเลงแี่ยลงแะละ 1.1ส.มสุดมจดุ จบดันบทนั กึ ทกึ ๑.๑น.กั นเรกั ยี เรนยีจนบั จกบั ลก่มุ ลตมุ่ ำตมำสมสัคมรัคใจรกใจลกุ่มล่มุะล๔ะ-6๔-ค6นคเนพื่อเพร่ือวมร่วกมันกัน ๒.๒ใบ. งใบำนงำทน่ี ๖ที่ เ๖รอ่ื เรง่ือกงำกรปำร้อปงก้อนังกแันลแะลหะลหีกลเลกี ีย่ เลงย่ี ง ปอ้ ปงก้อนังกตนั นตเอนงเจอำงกจำกกำกรถำรกู ถลกูว่ ลงลว่ ะงลเมะดิเมทดิ ำทงเำพงศเพไดศ้ได้ วิเควรเิ คำะรหำะ์แหล์แะลอะภอิปภรปิำยรใำนยปในรปะเรดะ็นเด“็นถ“้ำเถร้ำำเเรปำ็นเปน็ ผ้ถู ผกู ถู้ลูกะลเมะิดเมทิดำทงเำพงศเพ”ศด”งั ดงั ด้ำดน้ำทนกั ทษกั ะษแะลแะลกะรกะบระวบนวกนำกรำร สถสำนถำกนำกรณำร์ขณำ้ ์งขต้ำน้งตเน้ รำเจระำจทะำทอำยอ่ำงยไำ่ รงไรโดยโดใหยแ้ใหตแ้ล่ ตะ่ลคะนคเสนนเสอนคอวคำมวำคมิดคเหิด็นเห็น แสแดสงทดงกั ทษักะษกะำกรปำรฏปิเสฏธเิ สเพธื่อเพป่ืออ้ ปงกอ้ นังกตนั นตเอนงเจอำงกจำก แลแ้วลบว้นั บทันึกททกึ กุ ทคกุวคำมวำคมิดคเหิดน็เหขน็ อขงเอพงอื่เพน่อื ในกในลกุ่มลมุ่งใลนงสในมสดุ มจดุ จบดันบทันึกทขึกอขงตอนงตเอนงเอง ๒.๒ค.รคสู รมุ่ สูถมุ่ำถมำตมวั ตแวัทแนทกนลกุ่มลอมุ่ยอำ่ ยงนำ่ งอ้ นยอ้ ๒ย ก๒ลก่มุ ลใมุ่ หน้ใหำน้เสำนเสอนผอลผกลำกรำร กำกรถำรูกถลกูว่ ลงลว่ ะงลเมะิดเมทดิ ำทงเำพงศเพไดศ้ได้ วิเควริเคำะรหำะ์แหลแ์ะลอะภอปิ ภริปำยรขำยอขงกอลงกมุ่ ลมุ่ จำกจำนก้ันนคั้นรคูอรธอูิบธำิบยเำพยิ่มเพเต่ิมิมเตจมิำกจำทก่ีคทร่คีูตร้ังูตั้ง ด้ำดน้ำคนณุ คลณุ กั ลษกั ณษะณะ คำคถำมถำทม้ิงท้ิงำทยำ้ไวยเ้ ไมว่ือเ้ มชื่อัวชโมว่ั งโมงทแี่ ทลแี่ว้ ลว้ ๑.๑แ. สแดสงพดงฤพตฤกิ ตริกรมรรกมำกรมำรวี มินวีัยนิ ยั ๓.๓ค.รคูเปริดเู ปวิดี วิทีดัศิทนัศ์ wน์wwww.ywo.yuotubtueb.ceo.cmomตัวตอัวยอ่ำงยกำ่ ำงกรแำรสแดสงทดงักทษักะษะ ๒.๒แ. สแดสงพดงฤพตฤกิ ตริกรมรรใฝม่เใรฝยี เ่ รนยีรนู้ รู้ กำกรปำรฏปิเสฏธิเสเธพอ่ืเพปือ่ ้อปงก้อนังกตันนตเอนงเจอำงกจำกกำกรถำรูกถลูกว่ ลงล่วะงลเมะิดเมทิดำทงเำพงศเพใศหน้ใหัก้นเรักียเรนยีชนมชม ๓.๓แ. สแดสงพดงฤพตฤิกตริกรมรรมมุ่งม่นัุงมใน่ั กในำกรทำรำทงำนงำน ๔.๔แ. สแดสงพดงฤพตฤิกตริกรมรรกมำกรมำรจี มติ จีสติำสธำรธณำระณะ 103 110088

หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี 2 วยั สดใสชีวิตมสี ุข แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 1๘ 109 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ สุขศกึ ษำและพลศึกษำ เร่ือง เรยี นร้ทู กั ษะชวี ิต : กำรปอ้ งกันและหลกี เลีย่ ง เวลำ 1 ชั่วโมง ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ 1 รำยวิชำ สุขศกึ ษำ ๔. จำกนนั้ ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ทบทวนสถำนกำรณ์ขำ้ งต้น และขอนักเรยี นอำสำสมัครแสดงบทบำทสมมตุ ิใชท้ ักษะกำรปฏเิ สธ เพ่อื ปอ้ งกันตนเองจำกกำรถูกล่วลง่วลงะลเะมเดิมิด 5. นักเรียนแต่ละกลุม่ ระดมควำมคิดทำใบงำนท่ี ๕ เรอ่ื ง กำร ป้องกนั และหลกี เลย่ี ง โดยกำรคิดสถำนกำรณเ์ สี่ยงทห่ี ลำกหลำยควบคไู่ ปกับ กำรแสดงทักษะปฏเิ สธ เพ่อื ปอ้ งกนั กำรถูกล่วงละเมิดทำงเพศ ขัน้ สรปุ ๑. นกั เรยี นมีควำมรสู้ กึ อย่ำงไรต่อสถำนกำรณเ์ สี่ยงต่ำงๆท่ีอยู่ รอบตวั เรำ ซึ่งเรำอำจถูกลว่ งละเมิดทำงเพศได้ตลอดเวลำหำกเรำไมม่ ที ักษะ ในกำรหลกี เลยี่ งหรือปฏิเสธ ๒. นอกเหนือกำรถกู ล่วงละเมิด เรำมวี ิธกี ำรปฏบิ ตั ติ นอย่ำงไรที่ จะไม่ไปล่วงละเมิดทำงเพศผู้อ่ืน ซึง่ ปัจจุบันกำรสอ่ื สำรบนโลกออนไลน์ ลว้ น เป็นปจั จัยเสีย่ งที่อำจนำเรำไปส่กู ำรเป็นผ้ถู กู ล่วงละเมิด และเปน็ ผูล้ ว่ ง ละเมิดทำงเพศได้ตลอดเวลำ ๓. นกั เรยี นตอ้ งมแี ละเลือกใช้ทกั ษะกำรปฏเิ สธได้อย่ำงมี ประสทิ ธิภำพเพื่อกำรดำรงชีวติ ดว้ ยควำมปลอดภยั และมีควำมสุขในสังคม ปัจจบุ นั และอนำคต 104 109

105 การวดั และประเมินผล ส2ิงท2ีต้องการวดั /ประเมิน วิธีการ เครือ2 งมอื ที2ใช้ เกณฑ์ ๑. อธบิ ายวธิ แี สดงทกั ษะใน ตรวจคาํ ตอบ แบบตรวจคาํ ตอบ ระดบั พอใชข้ นMึ ไป การป้องกนั และหลกี เลย=ี ง สถานการณ์เสย=ี งต่อการถกู สงั เกต แบบสงั เกต (Rubric) ระดบั พอใชข้ นMึ ไป ลว่ งละเมดิ ทางเพศ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต (Rubric) ระดบั พอใชข้ นMึ ไป ๒. แสดงทกั ษะในการป้องกนั และหลกี เลย=ี งสถานการณ์ เสย=ี งต่อการถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ ๓. แสดงพฤตกิ รรมการมวี นิ ยั ๔. แสดงพฤตกิ รรมใฝ่เรยี นรู้ ตรวจสอบความสาํ เรจ็ มติ คิ ณุ ภาพการประเมนิ ระดบั พอใชข้ นMึ ไป ๕. แสดงพฤตกิ รรมมงุ่ มนั= ของชนMิ งาน ชนMิ งาน (Rubric) ระดบั พอใชข้ นMึ ไป ในการทาํ งาน ตรวจสอบความสาํ เรจ็ มติ คิ ณุ ภาพการประเมนิ ของชนMิ งาน ชนMิ งาน (Rubric) ๖. แสดงพฤตกิ รรม สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต (Rubric) ระดบั พอใชข้ นMึ ไป การมจี ติ สาธารณะ

111016111 บนั ทึกผลหลังสอน ผลกำรเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ............................................................................................................................. ......................................................... ...................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ปัญหำและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... .......................................................................................................................... ............................................................ ............................................................................................................................. ......................................................... ........................................................................................................................................... ........................................... ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ............................................................................................................................. ......................................................... ...................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ลงช่อื ……………………………………….ผสู้ อน (……………………………………….) วันท…่ี ……เดือน……………พ.ศ………… ควำมคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหำรหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมำย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ............................................................................................................................. ......................................................... ...................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... ลงชอ่ื ………………………………………ผูต้ รวจ (……………………………………..) วันท…ี่ ……เดอื น………………พ.ศ…………..

111072112 ใบงำนท่ี ๖ เร่ือง กำรป้องกนั และหลีกเล่ียง หนว่ ยกำรเรียนร้ทู ี่ ๒ แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่ ๑๘ เร่ือง กำรปอ้ งกันและหลีกเลย่ี ง รำยวิชำ สขุ ศกึ ษำ ช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี ๑ ....................................................................... กลมุ่ ................................................ชัน้ ...................เลขที.่ .......................................................................................... คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นคิดสถำนกำรณเ์ ส่ยี งทห่ี ลำกหลำย และเกิดขน้ึ จริงในสงั คมปจั จุบนั และเลือกใชท้ ักษะ กำรปฏเิ สธเพอ่ื ป้องกนั และหลีกเลย่ี งจำกกำรถูกลว่ งละเมดิ ทำงเพศ สถำนกำรณ์เสี่ยง ทกั ษะกำรปฏิเสธ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙.

113 แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ่ี 19 หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ 2 วยั สดใสชวี ิตมีสขุ เรื่อง เรียนรทู้ ักษะชวี ิต : หนว่ ยงำนที่ใหค้ วำมช่วยเหลือ เวลำ 1 ชั่วโมง กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สขุ ศึกษำและพลศึกษำ รำยวชิ ำ สขุ ศึกษำ ชั้นมัธยมศกึ ษำปีท่ี 1 ขอบเขตเนื้อหำ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ กำรปรับตวั ต่อกำรเปล่ียนแปลงทำงร่ำงกำยจิตใจ ขัน้ นำ ๑. ห้องสมดุ อำรมณ์ และพัฒนำกำรทำงเพศตลอดจนกำรใช้ 1. ทบทวนควำมรูเ้ ดิม ๒. ส่ือควำมรู้เก่ียวกับ เรื่อง พรบ.ค้มุ ครองเด็ก ทักษะกำรปฏเิ สธมีสว่ นชว่ ยปอ้ งกันตนเองจำกกำร 2. แจง้ จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ใหน้ กั เรียนทรำบ พ.ศ.๒๕๔๖ จำกสื่อออนไลน์ เช่น ถูกล่วงละเมิดทำงเพศ ข้นั สอน https://www.dcy.go.th/webnew/upload/ จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. ครอู ธิบำยควำมรขู้ ้อกฎหมำยและสิทธิของเด็กที่พึงได้รับควำมค้มุ ครองจำก laws/law_th_2001177119096016515751587_1.8p_d1f .pdf กำรถกู ลว่ งละเมิดทำงเพศ พรอ้ มทง้ั นำเสนอตวั อย่ำงส่ือออนไลน์ เรอ่ื ง พรบ.คุ้มครอง http://www.thaihealth.or.th/node/18115511 ดำ้ นควำมรู้ พ.ศ.๒๕๔๖ เดก็ ใหน้ กั เรยี นเขำ้ ไปศกึ ษำค้นควำ้ และสรปุ เป็นควำมรทู้ ่เี กี่ยวขอ้ งกับตัว ๓. สือ่ ควำมร้เู กี่ยวกบั เรื่อง หน่วยงำนตำ่ งๆท่ใี ห้ ระบชุ ือ่ และที่ต้ังหนว่ ยงำนท่ีใหค้ วำมชว่ ยเหลอื แก่ นักเรียนและครอบครวั แลว้ บนั ทกึ ลงสมุดจดบนั ทึก ควำมชว่ ยเหลอื กำรถูกล่วงละเมิดทำงเพศ เชน่ ผ้ถู ูกล่วงละเมิดทำงเพศ 2. นักเรียนร่วมกันอภิปรำยชอ่ื ทตี่ งั้ บทบำทหน้ำท่ีของหน่วยงำนในพ้ืนที่ https://dinutvei.no/th/thai- ด้ำนทักษะและกระบวนกำร สว่ นภูมภิ ำค และส่วนกลำงที่ให้ควำมชว่ ยเหลือผู้ถูกล่วงละเมิดทำงเพศ (หน่วยงำน subjected/62255-s-smmisisoo แกสำรดตงิดบตทอ่บหานทว่สยมงมำตนิกทา่ีใรหตค้ ิดวตำ่อมหชนว่ ยว่ ยเหงลานือแทก่ีให่ ้ รำชกำรและหนว่ ยงำนเอกชน) โดยกำรสบื ค้นได้จำกล่อื ออนไลน์ แล้วบนั ทึกลงสมุดจด http://gg.gg/d2tcr คผู้ถวากู มลช่ว่วงยลเะหเมลดิอื ทแกำงผ่ เู้ถพูกศล่วงละเมดิ ทางเพศ บนั ทึกของตนเอง http://gg.gg/d2td77 ดำ้ นคณุ ลักษณะ ๓. จำกขอ้ ๒ ใหน้ กั เรยี นจับกลุม่ ตำมควำมสมัครใจ กลุ่มละ ๔ – ๖ คน ภำระงำน/ชนิ้ งำน ๑. แสดงพฤติกรรมกำรมวี ินยั แสดงบทบำทสมมตใิ นกำรดำเนินกำรติดต่อหนว่ ยงำนที่ให้ควำมชว่ ยเหลอื แก่ผ้ถู กู ลว่ ง 1. สมุดจดบนั ทกึ ๒. แสดงพฤติกรรมใฝเ่ รียนรู้ ละเมิดทำงเพศ ว่ำเปน็ บุคคลใดบำ้ ง มีขั้นตอนกำรตดิ ต่อกบั ใคร ท่ีไหน อย่ำงไร โดยมี ๓. แสดงพฤติกรรมม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน สมำชกิ คนหนง่ึ ในกลุ่มเป็นผู้บันทกึ ขน้ั ตอนและวธิ ีกำรลงในสมดุ จดบันทกึ ๔. แสดงพฤตกิ รรมกำรมจี ิตสำธำรณะ ๔. ครูส่มุ กลมุ่ อำสำสมัครจำนวน ๑ กลมุ่ ออกมำสำธติ กำรแสดงบทบำทสมมติ ใหเ้ พอื่ นชมหน้ำชน้ั หลังจำกน้ันครูและเพอ่ื นรว่ มชน้ั ร่วมกันอภิปรำยและเสนอแนะ เพิม่ เติม 108 113

หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 2 วยั สดใสชวี ิตมีสุข แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 19 114 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ เรื่อง เรยี นรทู้ ักษะชวี ติ : หน่วยงำนท่ใี หค้ วำมช่วยเหลือ เวลำ 1 ช่วั โมง ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 1 รำยวิชำ สุขศึกษำ ข้นั สรุป ๑. ครสู อบถำมควำมคดิ เหน็ ของนักเรียนทมี่ ตี ่อ พรบ.คุ้มครองเดก็ พ.ศ. ๒๕๔๖ วำ่ สง่ ผลดีตอ่ ตัวนกั เรียน และครอบครวั ในดำ้ นใด อย่ำงไรบำ้ ง ๒. ครเู นน้ ยำ้ ควำมรอบรูข้ องนักเรยี นในเรอื่ งกฎหมำยและสิทธเิ ดก็ เพือ่ ให้สำมำรถนำไปใช้ในกำรดำเนินกำรดแู ลช่วยเหลือนกั เรียนและครอบครวั กรณีมี ปญั หำเกดิ ข้นึ ๓. นกั เรียนควรตระหนกั และให้ควำมสำคญั พรอ้ มจดจำข้อมูลของ หน่วยงำนทีใ่ หก้ ำรชว่ ยเหลือ กรณีพบปญั หำกำรถูกล่วงละเมดิ ทำงเพศขึน้ อยำ่ งไรบ้ำง กำรตดิ ต่อประสำนงำน ควรเปน็ หนำ้ ที่ของใคร มีขน้ั ตอนต่ำงๆ อยำ่ งไรบ้ำง ๔. สิง่ ทนี่ ักเรยี น๔เ.รสียน่งิ ทรน่ีูม้ ำกั ใเนรยีเรนื่อเงรกยี ำนรรถูม้ ูกาลในว่ งเรล่ือะงเมกิดารถทกู ำลง่วเพงลศะนเมักิดเร ียทนาตงเอ้ พงศสำนมกั ำเรรถียน ตนอ้ำไงปสใาชม้ไาดรเ้ ถปนน็ �ำทไกัปษใชะไ้ ชดวี เ้ ติปน็ ทักษะชีวิต 109

110 การวดั และประเมินผล ส2ิงที2ต้องการวดั /ประเมิน วิธีการ เครื2องมอื ท2ีใช้ เกณฑ์ ๑. ระบุชอ*ื และทต*ี งั2 หน่วยงาน ตรวจคาํ ตอบ ทใ*ี หค้ วามชว่ ยเหลอื แก่ผถู้ กู แบบตรวจผลงาน ระดบั พอใชข้ น2ึ ไป ลว่ งละเมดิ ทางเพศ (มติ คิ ณุ ภาพการประเมนิ ชน2ิ งาน Rubric) ๒. แสดงบทบาทสมมตกิ าร สงั เกตการนําเสนอ แบบสงั เกต (Rubric) ระดบั พอใชข้ น2ึ ไป ตดิ ต่อหน่วยงานทใ*ี หค้ วาม สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต (Rubric) ระดบั พอใชข้ น2ึ ไป ชว่ ยเหลอื แกผ่ ถู้ กู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ ๓. แสดงพฤตกิ รรมการมวี นิ ยั ๔. แสดงพฤตกิ รรมใฝ่เรยี นรู้ ตรวจสอบความสาํ เรจ็ มติ คิ ณุ ภาพการประเมนิ ระดบั พอใชข้ น2ึ ไป ๕. แสดงพฤตกิ รรมมงุ่ มนั* ของชน2ิ งาน ชน2ิ งาน (Rubric) ระดบั พอใชข้ น2ึ ไป ในการทาํ งาน ตรวจสอบความสาํ เรจ็ มติ คิ ณุ ภาพการประเมนิ ของชน2ิ งาน ชน2ิ งาน (Rubric) ๖. แสดงพฤตกิ รรม สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต (Rubric) ระดบั พอใชข้ น2ึ ไป การมจี ติ สาธารณะ

111116116 บันทกึ ผลหลงั สอน ผลกำรเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ปัญหำและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ลงชื่อ……………………………………….ผู้สอน (……………………………………….) วันท…่ี ……เดอื น……………พ.ศ………… ควำมคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหำรหรือผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมำย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ลงช่ือ……………………………………..ผ้ตู รวจ (……………………………………..) วนั ท…ี่ ……เดือน………………พ.ศ…………..

117 หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 2 วยั สดใสชีวิตมีสุข แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ่ี 20 เวลำ 1 ช่วั โมง กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สุขศกึ ษำและพลศึกษำ เรื่อง เรียนรูท้ กั ษะชวี ิต : กำรใช้ทกั ษะกำรปฏิเสธ ขอบเขตเน้ือหำ รำยวิชำ สุขศึกษำ ช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี 1 กำรปรบั ตัวตอ่ กำรเปล่ียนแปลงทำงรำ่ งกำยจติ ใจ อำรมณ์ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ และพัฒนำกำรทำงเพศตลอดจนกำรใชท้ กั ษะกำรปฏเิ สธ ขั้นนำ 1. ห้องสมดุ มสี ่วนช่วยปอ้ งกันตนเองจำกกำรถูกลว่ งละเมดิ ทำงเพศ 1. ทบทวนควำมร้เู ดิม 2. สอ่ื ควำมรู้ เรื่อง กำรเปลยี่ นแปลงทำงร่ำงกำยจติ ใจ จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ 2. แจ้งจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ให้นักเรียนทรำบ อำรมณ์ และพัฒนำกำรทำงเพศ กำรใชท้ กั ษะปฏเิ สธ ข้ันสอน และกำรถูกลว่ งละเมดิ ทำงเพศ จำกส่อื ออนไลน์ ตำมท่ี ด้ำนควำมรู้ 1. นักเรียนนำผลกำรศกึ ษำค้นควำ้ และกำรทำ ปรำกฏในแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๑๑ – ๑๙ รำยงำนกำรปฏิบัตติ นทส่ี ง่ เสริมให้เกดิ วยั สดใสชีวิตมสี ุข กจิ กรรมจำากกำารเรียนรู้ในหน่วยกำารเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรื่อง วัย ด้ำนทักษะและกระบวนกำร สเรดอื่ ใงสชวัยวี ติสดมใสี สขุ ชมวี ำติ นมำีสเขุสนมอาซนง่ึ �ำปเสระนกออซบึ่งปดว้ระยกอบด้วย ภำระงำน/ชิ้นงำน สรุปผลกำรพฒั นำตนเองนำไปใชป้ ฏบิ ัติอย่ำงตอ่ เนื่อง 1. แสดงผลงำนรวบยอดท้ำยหนว่ ย ดำ้ นคณุ ลกั ษณะ - บนั ทกึ กำรปรับปรุงและกำรเปลย่ี นแปลงทำง ๑. แสดงพฤตกิ รรมใฝ่เรยี นรู้ เพศ ของวัยรุน่ ๒. แสดงพฤติกรรมมงุ่ มั่นในกำรทำงำน - นำผลกำรวิเครำะห์รำยงำนวธิ ีกำรปรบั ตัวต่อ ๓. แสดงพฤติกรรมกำรมีจิตสำธำรณะ กำรเปล่ียนแปลงทำงรำ่ งกำย จติ ใจ อำรมณ์และ พฒั นำกำรทำงเพศอยำ่ งเหมำะสมของตนเอง - อธบิ ำยควำมสำคญั และแสดงบทบำทสมมติกำร ใชท้ ักษะปฏเิ สธในสถำนกำรณต์ ่ำงๆ ๒. นักเรียนแลกเปล่ยี นเรียนรผู้ ลงำนของเพอ่ื นๆ ขั้นสรปุ ๑. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ประเมนิ ผลงำน และ คแรลกูะลคำ่รวกู ชล่นื ่าชวชมนื่กชำรมนกำาเรสนน�ำอเสขนอองนขกัอเงรนยี ักนเรยี น ๒. ครูฝำกนักเรียนให้นำควำมรู้และประสบกำรณ์ ทีไ่ ด้รบั จำกกำรเรียนรู้ไปใช้ในกำรดแู ลตนเอง เพื่อนและ ครอบครัวให้ดำเนนิ ชีวติ ได้อย่ำงมคี ุณภำพ 111127

111138118 กำรวดั และประเมินผล สงิ่ ทีต่ ้องกำรวดั /ประเมนิ วธิ ีกำร เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ 1. ควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจเกี่ยวกับ ๑สทพ-ง่.ำกัฒเรงสำนรารรำ่ยำเิมปงกงใกาลำหำนรี่ยเ้ ยทกกนิดาำจแรงวิตปเปัยพใลฏสจศงดบิ อใัตำสิตรชมนวี ณทิต่ีม์ แีสลุขะ ตตรรววจจรใบายงงำานน - กำรใชท้ ักษะชีวติ แบบตรวจผลงำน ระดับพอใชข้ ้ึนไป (มิติคุณภำพแบบ กำรใหค้ ะแนน Rubric) ๒2. สรืบุปคผน้ ลขก้อามรลูพไฒั ด้หนลาตำยนวเอธิ งีและ สังเกตกำรนำเสนอ แบบสังเกต (Rubric) ระดับพอใช้ขึ้นไป หลำกหลำย 3. ปฏบิ ตั ติ ำมข้อตกลง สงั เกตกำรทำงำน แบบสงั เกต (Rubric) ระดับพอใชข้ ึ้นไป ทไ่ี ดร้ ับมอบหมำย ๔. แสดงพฤติกรรมกำรมีวินัย สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกต (Rubric) ระดับพอใชข้ ้นึ ไป ๕. แสดงพฤติกรรมใฝเ่ รยี นรู้ ตรวจสอบควำมสำเร็จ มิตคิ ุณภำพกำรประเมนิ ระดับพอใช้ขึ้นไป ของช้ินงำน ชิน้ งำน (Rubric) ระดับพอใช้ขน้ึ ไป ๖. แสดงพฤติกรรมมุ่งม่นั ตรวจสอบควำมสำเรจ็ มติ คิ ุณภำพกำรประเมนิ ในกำรทำงำน ของชิน้ งำน ชิ้นงำน (Rubric) ๗. แสดงพฤตกิ รรม กำรมจี ิตสำธำรณะ สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต (Rubric) ระดบั พอใชข้ ้ึนไป

111149119 บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลกำรเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ปญั หำและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ขอ้ เสนอแนะ/แนวทำงแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ลงชอ่ื ……………………………………….ผูส้ อน (……………………………………….) วนั ท…ี่ ……เดือน……………พ.ศ………… ควำมคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหำรหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมำย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... ลงชอ่ื ……………………………………..ผตู้ รวจ (……………………………………..) วันท…่ี ……เดือน………………พ.ศ…………..

111250120 บรรณานุกรม พรสขุ หนุ่ นริ ันดร,์ ประภาเพ็ญ สวุ รรณ ,สรุ ยี ์พนั ธ์ุ วรพงศธร, อนนั ต์ มาลารตั น์ (2553) สขุ ศกึ ษา กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน.์ กลุ่มพัฒนากระบวนการเรียนรู,้ สานกั งานวิชาการ และมาตรฐานการศกึ ษา, สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน(2558) หลากหลายเทคนิควธิ ีสอนสกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น,เอกสารประกอบการอบรม กิตติ ปรมัตถผล ,ปรชี า ไวยโภคา ,กาไลทิพย์ ระน้อย,ศิริรัตน์ สีเหลือง,วชิ าญ มะวญิ ธร,ประภาพร บุญมา (2557) สุขศึกษา ม.1 นนทบรุ ี :เอมพนั ธ์ สมหมาย แตงสกลุ ,เชาวลติ ภมู ิภาค และวิชดุ า คงสทุ ธ์ิ (2551) คมู่ ือการสอนสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ม.1 , กรุงเทพมหานคร:วัฒนาพานิช คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน สานกั งาน.(2553).แนวทางการจดั การเรยี นรเู้ พ่ือพัฒนาทักษะการคดิ ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพล ศกึ ษา. กรุงเทพมหานคร:ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. สานกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา, สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน, กระทรวงศึกษาธิการ, ตัวชวี้ ดั และกระบวนการเรียนรแู้ กนกลางกลมุ่ สาระการเรียนร้สู ุขศกึ ษาและพลศึกษา กรงุ เทพ, ชมุ ชนสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย, 2552 26 ทา่ พัฒนาสมอง ด้วย Brain Gymhttps://bit.ly/2ggmMB55[[สสืบืบคค้น้นววนั ันทที่ ี่๙๙กกุมมุ ภภาาพพนั ันธธ์ ์พพ..ศศ..๒๒๕๕๖๖๒๒]].. การทางานของสมองและระบบประสาท http://www.idoctorhouse.com/library/physio-neuro/ [สบื ค้นวันที่ ๙ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. ระบบประสาทhttps://sites.google.com/site/systembody30022//nneervrvoouuss__ssyysstetemm [สบื ค้นวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. ระบบประสาททางานอยา่ งไรhttps://www.honestdocs.co/how-does-the-nervous-system-work www.thaihealth.or.th [สืบค้นวันท่ี ๙ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. การทางานของระบบประสาท http://www.thaigoodview.com/library/sema/sukhothai/lamphu_s/bodysystem/sec066pp0044.h.htmtm [สบื คน้ วนั ที่ ๙ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. ระบบตอ่ มไร้ทอ่ www.honestdocs.co/hormones/endocrine-system [สบื ค้นวนั ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. ระบบต่อมไร้ท่อwww.bangkokhealth.com/index.php/health/health-system/diabetes/ [สบื คน้ วนั ท่ี ๙ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. รูเ้ ทา่ ทนั นา้ หนัก-สว่ นสูง แนวทางการประเมนิ ผลกระทบต่อสขุ ภาพ จากโครงการพัฒนาแหล่งนา้ :ด้านโภชนาการ สานักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ http://nutrition.anamai.moph.go.th/images/files/AW-WeightHeight.PDF [สบื ค้นวันที่ ๙ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว http://kanchanapisek.or.th/kp6/ ค่าดชั นมี วลกาย https://www.honestdocs.co/bmi-body-mass-index-calculator [สืบค้นวนั ท่ี ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. สุขบญั ญัติแห่งชาติ http://www.sukabanyad.com/ [สบื คน้ วันที่ ๙ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๖๒].

112116121 คู่มือ ผูน้ านนั ทนาการ สถาบันพัฒนาบคุ ลากรการพลศกึ ษาและการกฬี า กรมพลศกึ ษา กระทรวงการท่องเท่ียวและ กีฬา ๒๕๕๗ สานกั งานกิจการโรงพมิ พ์ องค์การสงเคราะห์ผ่านศึก ในพระบรมราชชูปถัมภ์ https://www.dpe.go.th/manual-files-3992288991719719913593[ส5บื ค[สน้ บื วคันน้ ทว่ี ัน๙ทกี่ ๙ุมภกามุพภนั าธพ์ พัน.ธศ์ .พ๒.๕ศ.๖๒๒๕]๖. ๒]. วัยรุ่น https://www.thairath.co.th/tags/www.youtube.com[สบื ค้นวันท่ี ๙ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. ข่าวการเปล่ยี นแปลงของวยั รุ่นhttps://scholar.google.co.th/scholar?qwww.youtube.com [สบื คน้ วันที่ ๙ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. กรมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ https://www.dmh.go.th/ebook/dl.asp?id=100 [สืบค้นวันที่ ๙ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวทิ ยาลยั มหิดล https://med.mahidol.ac.th/ramamental/generaldoctor/ [สบื ค้นวนั ที่ ๙ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. บทความสขุ ภาพ http://rhold.anamai.moph.go.th/all_file/brochure/cd144.p.pddff [สบื ค้นวนั ท่ี ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. นพ.สุริยเดว ทรปี าตี พฒั นาการและการปรับตัวในวัยรุน่ .บทความ http://www.nicfd.cf.mahidol.ac.th/th/images/documents/3.pdf [สบื คน้ วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. อะไรคือการล่วงละเมิดทางเพศ (Sexual Bullying) และทาไมเด็กถึงมีส่วนร่วมในการกระทาน้ี .บทความ https://www.honestdocs.co/what-is-sexual-bullying-and-why-do-kids-engage-in-it [สบื ค้นวันที่ ๙ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. ศนู ย์พทิ ักษ์สทิ ธเิ ด็ก [ออนไลน์].ไดจ้ ากhttp://www.thaichildrights.org/articles/article-defence [สบื ค้นวันท่ี ๙ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. กรมกิจการเดก็ และเยาวชน[ออนไลน]์ .ไดจ้ าก https://www.dcy.go.th/webnew/upload/laws/law_th_2001177119096016515751587_1.8p_d1f .pdf [สืบคน้ วนั ท่ี ๙ กมุ ภาพันธ์ กฎหมายสทิ ธเิ ดก็ [ออนไลน์].ได้จาก http://www.thaihealth.or.th/node/188115511 [สืบคน้ วนั ท่ี ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. เม่อื รู้วา่ งเด็กถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ ควรทาอย่างไร ศนู ย์พิทักษ์สิทธิเดก็ [ออนไลน์].ไดจ้ าก http://gg.gg/d2td77 [สบื คน้ วันที่ ๙ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๖๒]. พรสขุ หุน่ นริ ันดร์, ประภาเพ็ญ สวุ รรณ ,สรุ ียพ์ นั ธุ์ วรพงศธร, อนันต์ มาลารตั น์ (2553) สขุ ศกึ ษา กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทศั น.์ กลมุ่ พฒั นากระบวนการเรียนร,ู้ สานกั งานวิชาการ และมาตรฐานการศึกษา, สานกั งานคณะกรรมการการศึกษา ข้นั พื้นฐาน(2558) หลากหลายเทคนิควธิ สี อนสูก่ ารพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น,เอกสารประกอบการอบรม กติ ติ ปรมตั ถผล ,ปรชี า ไวยโภคา ,กาไลทิพย์ ระน้อย,ศิรริ ัตน์ สเี หลอื ง,วชิ าญ มะวิญธร,ประภาพร บุญมา (2557) สุขศึกษา ม.1 นนทบรุ ี :เอมพนั ธ์ สมหมาย แตงสกลุ ,เชาวลิต ภมู ภิ าค และวิชดุ า คงสุทธิ์ (2551) คมู่ ือการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา ม.1 , กรงุ เทพมหานคร:วฒั นาพานชิ

111271222 คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน สานกั งาน.(2553).แนวทางการจัดการเรยี นรู้เพ่ือพัฒนาทกั ษะการคดิ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา. กรุงเทพมหานคร:ชมุ ชนสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย. สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา, สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน, กระทรวงศึกษาธกิ าร, ตัวช้วี ัดและกระบวนการเรยี นรู้แกนกลางกลุม่ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา กรงุ เทพ, ชมุ ชนสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย, 2552 http://www.thaihealth.or

118 คณะจดั ทำคู่มือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น เพื่อการเรยี นการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) มลู นิธกิ ารศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ ทป่ี รกึ ษา รองประธานกรรมการบริหาร ๑. รองศาสตราจารย์ นราพร จันทร์โอชา มลู นิธกิ ารศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ ๒. พลอากาศโท ภกั ดี แสง-ชโู ต เลขาธิการ ๓. นายอนุสรณ์ ฟูเจริญ มูลนธิ กิ ารศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทยี ม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ๔. รองศาสตราจารย์ เฉลยี วศรี พบิ ูลชล ผู้ชว่ ยเลขาธกิ าร ๕. นายเชดิ ศกั ดิ์ ศรศี ักดว์ิ ชิ ัย มูลนิธกิ ารศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ๖. นายบุญรักษ์ ยอดเพชร กรรมการบรหิ ารมลู นธิ กิ ารศึกษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม ๗. นางสาวนิจสดุ า อภินันทาภรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ๘. นางสาวรัตนา แสงบวั เผอื่ น หัวหนา้ สำนกั งาน ๙. นางผานิต ทวีศักดิ์ มลู นธิ กิ ารศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน ผู้อำนวยการสำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา ผอู้ ำนวยการกลมุ่ พัฒนาหลักสตู รและมาตรฐานการเรยี นรู้ สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา ผอู้ ำนวยการกลุ่มพฒั นากระบวนการเรยี นรู้ สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา คณะจัดทำค่มู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ ๑. นางสาวนริ มล โพธะ ข้าารราาชชกกาารบรบำนำ� านญาญ ๒. นายประสงค์ นารถอุดม ขา้ารราาชชกกาารบรบำน�ำานญาญ ๓. นางสาวจรนิ ทร์ โฮส่ กลุ ขศา้กึ รษาชากนาิเรทบศำกน์าสญพม. เขต ๑ ๔. นางงามตา นิลเกตุ ครูโรงเรียนโพธิ์ตากพิทยาคม สพม.เเขขตต๒๒๑๑ ๕. นายสุวทิ ย์ พุมนวล ครโู รงเรียนวังไกลกงั วล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ๖. นายสมศักดิ์ ทองเงิน ครโู รงเรียนวงั ไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ๗. นางสาวรสจิเรศ วัดโลก ครโู รงเรียนวังไกลกงั วล ในพระบรมราชปู ถัมภ์ ๘. นายณัฐพงศ์ รกั ษาราษฏร์ ครโู รงเรยี นวังไกลกงั วล ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ๙. นายสาธร ปานนนุ่ ครูโรงเรยี นปอ้ มนาคราชสวาทยานนท์

119 ๑๐. ส.อ.จเร สิงหน์ อ้ ย ครโู รงเรียนนครสวรรค์ สพม. เขต ๔๒ ๑๑. นายพชั รศกั ดิ์ พรหมมาศ ครูโรงเรยี นนครสวรรค์ สพม. เขต ๔๒ ๑๒. นายกำชยั บุตระมี ครโู รงเรยี นเลยพิทยาคม สพม. เขต ๑๙ ๑๓. นางสาวนภาพร ปทุมพงษ์ ครโู รงเรียนบุญวาทย์วิทยาลยั สพม. เขต ๓๕ ๑๔. นายจกั รพงษ์ ศรีจำนงค์ ครูโรงเรยี นรอ้ ยเอด็ วิทยาลัย สพม. เขต ๒๗ ๑๕. นางสุชาดา ทองแก้ว ครูโรงเรียนสระแก้ว สพม. เขต ๗ ๑๖. นางสาวสุพรรณกัลยา คุปดนิ ทร ครูโรงเรยี นวัดนวลนรดิศ สพม. เขต ๑ ๑๗. นางปริญญรัตน์ พลวชิ ยั ครโู รงเรียนวัดนวลนรดศิ สพม. เขต ๑ ๑๘. นางสาวลดาวัล ศริ ิคติพจน์ ครูโรงเรียนขลุงรชั ดาภเิ ษก สพม. เขต ๑๗ ๑๙. นายกำชยั บตุ ระมี ครโู รงเรียนเลยพทิ ยาคม สพม. เขต ๑๙ ๒๐. น.ส.นภาพร ปทมุ พงษ์ ครโู รงเรยี นบุญวาทยว์ ิทยาลัย สพม. เขต ๓๕ คณะปรบั ปรงุ คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ ๑. นางนริ มล โพธะ ขา้ ราชการบำนาญ ๒. นายประสงค์ นารถอุดม ข้าราชการบำนาญ ๓. นางสาวจรนิ ทร์ โฮ่สกุล ข้าราชการบำนาญ ๔. นางสรอ้ ย เสริมพล ขา้ ราชการบำนาญ ๕. นางสาวสุคนธ์ แสงสขุ ศกึ ษานิเทศก์ สพป.สพุ รรณบรุ ี เขต ๒ ๖. นางสาวรสจเิ รศ วดั โลก ครูโรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชปู ถัมภ์ ๗. นายณัฐพงศ์ รกั ษาราฎร์ ครโู รงเรียนวงั ไกลกังวล ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ๘. นายสมศักดิ์ ทองเงนิ ครโู รงเรียนวังไกลกงั วล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ๙. นายสวุ ทิ ย์ พุมนวล ครูโรงเรยี นวังไกลกงั วล ในพระบรมราชปู ถัมภ์ ๑๐. นางปรญิ ญารตั น์ พลวิชยั ครูโรงเรยี นวัดนวลนรดิศ สพม. เขต ๑ ๑๑. นางสาวพรรณพศิ ทวาเรศ ครูโรงเรยี นเบญจมานุสรณ์ สพม.เขเขตต๑๑๗๗ ๑๒. นายจกั รพงษ์ ศรจี ำนงค์ ครโู รงเรียนร้อยเอด็ วิทยาลัย สพม. เขต ๒๗ ๑๓. นายกำชยั บุตระมี ครโู รงเรียนเลยพทิ ยาคม สพม. เขต ๑๙ ๑๔. นางสาวนิภาพร ประทุมพงษ์ ครูโรงเรยี นบญุ วาทยว์ ทิ ยาลัย สพม. เขต ๓๕ คณะตรวจปรู๊ฟ/พิมพ์ และจัดทำรูปเลม่ คูม่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑

๑๓. นายกำชยั บุตระมี ครูโรงเรียนเลยพทิ ยาคม สพม. เขต ๑๙ ๑๔. นางสาวนิภาพร ประทมุ พงษ์ ครโู รงเรยี นบุญวาทย์วทิ ยาลัย สพม. เขต ๓๕ 120 คณะตรวจปร๊ฟู /พมิ พ์ และจดั ทำรปู เลม่ คูม่ อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ ๑. ๑๑. น. ายนอนานยาุสยอรอนณนุส์ุสรณฟรณเู์ จ์ฟรฟญิเู จูเจรญิรญิ ผชู้ ่วผยผ้ชู เลชู้ว่ ยข่วยเาลธเลขกิ ขาธาริกธิการาร ประปธปราะรนธะกาธรนารนกมกรกรามรรมกการาร มูลนมธิ มลู ิกูลนานธิริกธศกิากึ ราษศราศึกทึกษาษางทาไกทาลงาไผงกไ่ากลนลผดผา่ าน่าวนดเทดาวยีาเวมทเทียในยีมพมใรนใะนพบพรระรมบะรบรามรชมรูปารถชามั ชูปภูปถ์ ถมั ัมภภ์ ์ ๒. ๒๒. น. างนรนาตงารงารี ศตาตรีไรศพี ศรไีรวพีไรพรวณรรวรณรณ ผูอ้ ำผนผู้อว้อูำยนำกนวายวรยกโรกางราเโรรโียงรนเงรเวียรังียนไกนวลังวไกังกไังกลวลกกงั ใวงั นลวพลใรนใะนพบพรระรมบะรบรามรชมรูปารถชามั ชปู ภูปถ์ ถัมมัภภ์ ์ กรรกมกรกรามรรมกการาร ๓. ๓๓. น. ายนธนาีรยาะยธพีรธละีรพะเขพล่งลขเขวเขง่าขง่ ขวาวา รองรผอรอู้ องำผงนผ้อู ว้อูำยนำกนวายวรยกฝกา่ รายฝรวฝ่าชิ ย่ายวกชิวาิชารกามกาัธรายรมมมัธศยัธึกยมษมศาศกึ กึษษาา กรรกมกรกรามรรมกการาร โรงเโรรโยี งรนเงรเวยีรังยีนไกนวลังวไกังกไังกลวลกกงั ใวังนลวพลใรนใะนพบพรระรมบะรบรามรชมรปู ารถชาัมชูปภปูถ์ ถัมมัภภ์ ์ ๔. ๔๔. น. างนวนิภางาวงิภตวิภัณาาฑตตณัุลัณพฑงฑลุ ษลุพ์ พงษงษ์ ์ รองรหอรัวองหหงนหวั า้ หัวสหนำน้านสา้ ักสำงนำานักนกังางนาน กรรกมกรกรามรรมกการาร มูลนมิธมลู กิ ูลนานธิรกิธศกิาึกราษศราศกึ ทึกษาษางทาไกทาลงาไผงกไา่ กลนลผดผ่าาน่าวนดเทดาวียาเวมทเทยีในียมพมใรนใะนพบพรระรมบะรบรามรชมรปู ารถชามั ชูปภปูถ์ ถัมมัภภ์ ์ ๕. ๕๕. น. างนสนางวาสงจสารวานิ จวทจรรนิร์ ินทโฮทรส่ ์รโก์ฮโลุ ฮ่สส่กกุลุล ขา้ รขาข้าชร้าการาชารชกบกาำรานบราบำญนำนาญาญ คณะคทคณณำะงทะาทนำงำางนาน ๖. ๖๖. น. างนสนารงา้อสงยสร้อเรส้อยรยมิเสพเสรลิมริมพพลล ขา้ รขาขา้ชร้าการาชารชกบกาำรานบราบำญนำนาญาญ คณะคทคณณำะงทะาทนำงำางนาน ๗. ๗๗. น. างนปนารงาญิ ปงญปรญิราิญรญตั ญานรา์ ตัรพัตนลน์ ช์พัยพลลชชัยยั ครูโครงครเูโรรโูียงรนเงรเวยีรัดยีนนนววัดวลดันนนวรลวดลนิฐนรดรดิฐฐิ คณะคทคณณำะงทะาทนำงำางนาน ๙. ๙๙. น. างนสนาวงาสงาสวาสิตวาสรวีาศิตวรติ โี รนศี นศรีโรยนีโานงนยายงาง ครโู ครงครเูโรรโูยี งรนเงรเวียรดั ยีนอนวัยดัวยดัอิกอยั ายั รยกิาิกามราารมาม คณะคทคณณำะงทะาทนำงำ างนาน ๑๐.๑๑๐น๐. า.งนสนาวงาสงาสณุ วาสิ วาณุสุณถิสาสิ ปาถนั าถแปากปันว้ ันแกแก้ว้ว ครโู ครงครเโูรรโูยี งรนเงรเวียรดั ียนคนวุณัดวดัหคคณุญณุ ิงหสหญ้มญิงจสิงีนส้ม้มจจีนติ ีนรมภมติ าิตรพภรทภา่ีพา๖พท๔ที่ ๖่ี ๖๔๔ คณะคทคณณำะงทะาทนำงำ างนาน ๑๑.๑๑น๑. า. งนสนางวาสงกสามวาลกววกมรมลรลวณรวรคณรลณา้ คยคลมล้าายา้กยมมากาก นักวนิชนักากัวกิชวาชิารกาศกาึกราษศราศึกกึษษาา เลขเาลนเลขุกขาานารนกุ ุการาร มูลนมิธมูลิกลูนานิธรกิธศกิาึกราษศราศกึ ทึกษาษางทาไกทาลงาไผงกไ่ากลนลผดผ่าาน่าวนดเทดาวียาเวมทเทยีในียมพมใรนใะนพบพรระรมบะรบรามรชมรปู ารถชาัมชูปภูปถ์ ถัมัมภภ์ ์ ๑๒.๑๑๒น๒. า. งนสนางวาสงวสารวราวณรววรษิณรณาวษิภวษิาพู าภนภูพทูพาอนางนททอองงนักวนชิ นักาักวกชิวาิชารกาศกากึ ราษศราศึกึกษษาา ผชู้ ว่ ผยผู้ชเลู้ชว่ ยข่วยเาลนเลขกุ ขาานารนุกกุาราร มูลนมิธมลู กิ ลูนานธิริกธศกิาึกราษศราศกึ ทึกษาษางทาไกทาลงาไผงกไา่ กลนลผดผ่าาน่าวนดเทดาวียาเวมทเทยีในยีมพมใรนใะนพบพรระรมบะรบรามรชมรูปารถชาัมชูปภูปถ์ ถัมมัภภ์ ์ ๑๓.๑๑๓น๓. า. งนสนางวาสงกสามวาลกวชกมนมลกลชชนดนกวกงดคดวำงวคงคำำ นกั วนิชนักาักวกิชวาชิารกาศกากึ ราษศราศึกึกษษาา ผู้ชว่ ผยผู้ชเลู้ชว่ ยขว่ ยเาลนเลขกุ ขาานารนกุ กุาราร มูลนมธิ มูลกิ ูลนานิธริกธศกิากึ ราษศราศกึ ทกึษาษางทาไกทาลงาไผงกไา่ กลนลผดผา่ าน่าวนดเทดาวยีาเวมทเทยีในยีมพมใรนใะนพบพรระรมบะรบรามรชมรปู ารถชาัมชปู ภปูถ์ ถัมมัภภ์ ์ ๑๔.๑๑๔น๔. า. งนสนางวาสงณสาัฐวาพณวณรฐั พัฐเผพรือรเดผเจผือันอืดทดจกึจันันททึกกึ นกั วนิชนกั ากัวกชิวาชิารกาศกากึ ราษศราศึกึกษษาา ผู้ช่วผยผูช้ เลูช้่วยข่วยเาลนเลขกุ ขาานารนกุ กุาราร มูลนมิธมลู กิ ลูนานธิริกธศิกากึ ราษศราศกึ ทึกษาษางทาไกทาลงาไผงกไา่ กลนลผดผ่าาน่าวนดเทดาวยีาเวมทเทยีในียมพมใรนใะนพบพรระรมบะรบรามรชมรปู ารถชาัมชูปภูปถ์ ถัมัมภภ์ ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook