64-08-03-คู่มือครู ภาษาไทย ป.4-2

หนวยการเรยี นรทู ี่ ๔ เรือ่ ง อักษราภิธานสอ่ื สารภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี ๔ ๕๒๗ เกณฑก ารประเมินการเขียนสรุปขอ คิด ประเด็น เกณฑก ารใหค ะแนน การประเมิน ๑. เนอ้ื หาสาระ ๔ ๓๒ ๑ ๒. แบบแผน เนือ้ หาสาระถกู ตอง เนอ้ื หาสาระ ความคดิ ครบถวน เนื้อหาสาระถูกตอง เนอ้ื หาสาระถกู ตอง ถกู ตองเปน สวนนอย ครบถว นเปน ครบถวนบางสว น เรยี งลาํ ดบั เรือ่ งราว ๓. การเขยี นสรปุ เรยี งลาํ ดับเรือ่ งราวที่ สวนใหญ สมั พนั ธเ ชือ่ มโยงกนั ขอ คิด แสดงความสมั พนั ธ เปน สว นนอ ย เชอ่ื มโยงกันอยา ง เรยี งลาํ ดบั เรอื่ งราวที่ เรยี งลําดับเรื่องราวที่ ตอ เน่ือง ชดั เจน แสดงความสมั พันธ แสดงความสัมพันธ ใชถ อ ยคาํ ภาษา เช่ือมโยงกนั อยา ง เช่อื มโยงกันอยา ง ในการเขียนถูกตอง ใชถอ ยคําไดถกู ตอง ตอ เนอ่ื งคอนขาง ตอเนอ่ื งเปนบางสว น และสรุปขอคดิ ไดเ ปน ตามหลกั เกณฑ ชัดเจน สวนนอย การเขียน สรุปขอคดิ เพ่อื นาํ ไปประยุกตใช ใชถอ ยคาํ ส่ือ ใชถอ ยคําภาษาของ ในชีวิตประจาํ วนั ได ความหมายไดช ัดเจน ตนเองไดอยา ง อยา งมเี หตผุ ล เปน สว นใหญ ถกู ตองสละสลวย สรปุ ขอ คดิ เพื่อนาํ ไป รอ ยรัดกลมกลนื ประยกุ ตใ ชใ น ส่อื ความหมายได ชวี ติ ประจาํ วันได ชดั เจนเปนบางสว น เกณฑก ารประเมนิ ๑๐-๑๒ คะแนน หมายถึง ดีมาก ๗-๙ คะแนน หมายถงึ ดี ๔-๖ คะแนน หมายถงึ พอใช ๑-๓ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง เกณฑการผา น ตงั้ แตระดับ พอใช ข้ึนไป

๕๒๘ คูม ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) แบบประเมนิ การเขียนสรุปขอคิด ชอื่ ผูป ระเมนิ .................................................โรงเรียน................................ชน้ั ............หนว ยที่...........แผนท.ี่ ........ ครั้งท.ี่ .............................วนั ท.่ี ........................เดือน............................................พ.ศ. ......................................... ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คําชแ้ี จง ครผู ูสอนทําเคร่ืองหมาย √ ลงในชองที่ผเู รยี นแสดงพฤติกรรมตามเกณฑการเขียนสรปุ ขอคิด เนื้อหาสาระ แบบแผน การเขียนสรปุ รวม ระดับ เลขท่ี ชอ่ื -สกุล ความคิด ขอ คดิ (๑๒) คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑการประเมนิ ๑๐-๑๒ คะแนน หมายถงึ ดมี าก ๗-๙ คะแนน หมายถึง ดี ๔-๖ คะแนน หมายถึง พอใช ๑-๓ คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ เกณฑก ารผาน ตงั้ แตระดบั พอใช ข้นึ ไป

หนวยการเรียนรทู ี่ ๔ เรอ่ื ง อักษราภธิ านสื่อสารภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ ๔ ๕๒๙ เกณฑก ารประเมนิ การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง ประเดน็ เกณฑการใหค ะแนน การประเมนิ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑. ประเดน็ หวั ขอ การเขยี นแผนภาพ เขียนแผนภาพโดย เขยี นแผนภาพโดย เขยี นแผนภาพได ชัดเจน โดยแยกประเดน็ แยกประเด็นหัวขอ แยกรายละเอยี ด แตรายละเอยี ด หวั ขอชัดเจน ชัดเจนมีรายละเอยี ด ยอยไมมหี วั ขอ ชดั เจน ตา ง ๆ ปะปนกนั มรี ายละเอียดของ ของแตละประเดน็ แตมรี ปู แบบที่ทําให ไมเ รียงลาํ ดบั หวั ขอ แตล ะประเดน็ พอสมควร รูปแบบ เขา ใจได ไมมหี วั ขอ ครบถวน รูปแบบ และการใชคาํ เขาใจ และการใชคําเขา ใจ งาย งา ย ๒. ความสอดคลอ ง เน้ือเรอื่ งแสดงถงึ เน้อื เร่อื งแสดงถงึ เนื้อเร่อื งแสดงถึง เนอ้ื หาแสดงถึงความ เปน เหตเุ ปนผล ความเปนเหตเุ ปน ผล ความเปนเหตเุ ปนผล ความเปน เหตุเปน ผล เปน เหตเุ ปน ผล สนับสนุนซ่ึงกันและกัน สนับสนุนซ่ึงกันและกัน สนับสนนุ ซึ่งกนั และกนั ไมช ัดเจนและไมมี มกี ารยกตวั อยา ง มกี ารยกตวั อยา ง มกี ารยกตวั อยา ง การยกตวั อยางหรือ หรืออา งอิงประกอบ หรอื อา งอิงประกอบ หรืออา งอิงประกอบ อางองิ ประกอบ ไดส อดคลอ ง ไดคอนขา งสอดคลอง แตไมส อดคลอง ๓. ระบขุ อ คดิ / สรปุ บอกขอคดิ สรปุ บอกขอคดิ บอกขอ คดิ และ บอกขอ คิดของเรื่อง คุณคา การนําไปใช อธิบายคณุ คา ของ อธิบายคณุ คา ของ ประโยชนทีไ่ ดจ าก ท่ีอา นไดเปน สว นนอย ในชวี ิต เร่ืองท่ีอานได ถกู ตอง เรื่องที่อา นไดถกู ตอ ง เรอื่ งท่ีอา นได ครบถว นสามารถ ครบถวน พอสมควร นําไปประยุกตใ ชใ น ชวี ิตประจําวันได เกณฑก ารประเมนิ ๑๐-๑๒ คะแนน หมายถึง ดีมาก ๗-๙ คะแนน หมายถงึ ดี ๔-๖ คะแนน หมายถึง พอใช ๑-๓ คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง เกณฑการผา น ตงั้ แตระดับ พอใช ข้นึ ไป

๕๓๐ คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) แบบประเมินการเขียนแผนภาพโครงเรื่อง ชอ่ื ผูประเมนิ .................................................โรงเรียน................................ชนั้ ............หนว ยที่...........แผนท.ี่ ........ คร้ังท.ี่ .............................วันท.ี่ ........................เดอื น............................................พ.ศ. ......................................... ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาํ ช้แี จง ครูผูส อนทําเคร่ืองหมาย √ ลงในชองทผี่ ูเ รียนแสดงพฤติกรรมตามเกณฑการเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง เลขท่ี ช่อื -สกุล ประเดน็ ความ ระบขุ อคิด/ รวม ระดับ หวั ขอ สอดคลอ ง คณุ คา (๑๒) คะแนน ชดั เจน เปน เหตุ การนําไปใช เปน ผล ในชีวติ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑการประเมิน ๑๐-๑๒ คะแนน หมายถึง ดีมาก ๗-๙ คะแนน หมายถึง ดี ๔-๖ คะแนน หมายถึง พอใช ๑-๓ คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ เกณฑการผา น ต้งั แตร ะดบั พอใช ขึน้ ไป

หนว ยการเรียนรทู ี่ ๔ เรอ่ื ง อักษราภิธานสื่อสารภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปที่ ๔ ๕๓๑ ๑๐. บนั ทึกผลหลังสอน แผนการจดั การเรียนรูท่ี ๙ เร่ือง วรรณกรรมนําความคิด (๒) ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสําเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ จาํ กัดการใชแผนการจัดการเรียนรู และขอ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแกไ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผูสอน (..........................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. ๑๑. ความคดิ เห็น/ขอเสนอแนะของผูบริหารหรือผูทไ่ี ดรับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ...................................................... ผตู รวจ (..........................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

๕๓๒ คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) ใบงานที่ ๑๐ เรอ่ื ง แผนภาพโครงเรื่อง หนวยการเรยี นรทู ่ี ๔ เร่ือง อักษราภธิ านสอ่ื สารภาษา แผนการจดั การเรียนรูที่ ๙ เรอ่ื งวรรณกรรมนําความคดิ (๒) รายวิชา พ้นื ฐานภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๔๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี ๔ คาํ ชีแ้ จง ใหน ักเรียนเขยี นแผนภาพโครงเร่อื งสรุปการอา นบทเหเ รือ่ งจับระบํา ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ตวั ละครสาํ คญั สถานทเี่ กดิ เหตุ บทเหเ รือ่ งจับระบาํ เหตุการณท่เี กดิ ข้ึน ผลของเหตกุ ารณ ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ช่อื -สกุล .................................................................. ชนั้ ............ เลขที่ ...........

หนว ยการเรียนรูท ่ี ๔ เร่ือง อักษราภธิ านสือ่ สารภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปที่ ๔ ๕๓๓ ใบงานที่ ๑๑ เร่ือง สรปุ ขอคิดพินิจใช หนว ยการเรียนรทู ี่ ๔ เร่ือง อักษราภธิ านส่ือสารภาษา แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๙ เรื่องวรรณกรรมนําความคดิ (๒) รายวชิ า พน้ื ฐานภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๔๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที่ ๔ ๑. ใหน กั เรียนบอกขอคิดที่ไดจ ากการอานเร่ือง “ระบาํ สายฟา” บทเหก ลอมพระบรรทม จํานวน ๒ ขอ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๒. ใหนักเรียนเขียนอธบิ ายวิธีการนาํ ขอ คดิ ท่ไี ดไปปรับใชใ นชวี ิตประจําวัน จํานวน ๓ ขอ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ชื่อ-สกลุ .................................................................. ช้ัน ............ เลขท่ี ...........

๕๓๔ คูมือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) เฉลยใบงานท่ี ๑๐ เรอ่ื ง แผนภาพโครงเรื่อง หนวยการเรยี นรูที่ ๔ เรื่อง อกั ษราภธิ านสอื่ สารภาษา แผนการจดั การเรียนรูท่ี ๙ เร่ือง วรรณกรรมนําความคิด (๒) รายวชิ า พน้ื ฐานภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๔๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี ๔ คาํ ชีแ้ จง ใหน ักเรยี นเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ งสรปุ การอา นบทเหเ รื่องจับระบํา ๑. เมขลา - บนสวรรค ๒. รามสูร ตัวละครสาํ คัญ สถานทีเ่ กิดเหตุ บทเหเรอ่ื งจับระบาํ เหตกุ ารณท เี่ กดิ ขนึ้ ผลของเหตกุ ารณ ๑. นางเมขลาไดออกมาระบําลอแกวทําให ๑. รามสรู พยายามจับตวั นางเมขลา แตนาง เกิดแสงแวววบั คลา ยฟาแลบเวลาฝนตก หลบไดทนั ทกุ ครงั้ ๒. รามสรู ตามหานางเมขลาเพอื่ จับตัวนาง ๒. รามสูรโกรธทพี่ ยายามจบั ตัวนางไมไดสกั ที ไปถวายพระอินทร ๓. รามสรู ขวางขวานใสน างเมขลาจนเกดิ เสียง ๓. รามสูรพบนางเมขลากําลงั ระบาํ ลอแกว ดังเหมือนเสยี งฟารอ ง และเกดิ ไฟคลา ยฟา ผา

หนวยการเรียนรทู ่ี ๔ เรอ่ื ง อักษราภธิ านส่อื สารภาษา ช้ันประถมศึกษาปท ี่ ๔ ๕๓๕ เฉลยใบงานท่ี ๑๑ เรือ่ ง สรปุ ขอคดิ พนิ ิจใช หนวยการเรียนรทู ่ี ๔ เรื่อง อกั ษราภธิ านส่ือสารภาษา แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๙ เร่อื ง วรรณกรรมนําความคดิ (๒) รายวิชา พนื้ ฐานภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๔๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปท ี่ ๔ ๑. ใหนกั เรียนบอกขอ คดิ ทไ่ี ดจ ากการอานเร่ือง “ระบําสายฟา ” บทเหกลอมพระบรรทม จํานวน ๒ ขอ __๑_._เ_รอื่__งค__ว_าม__โก_ร_ธ__ค_ว_ร_ล_ด_อ_า_ร_ม_ณ__รุน__แ_ร_ง_ข_อ_ง_ต_น_เอ__งแ_ล__ะ_ป_ฏ_ิบ_ตั _ิก_บั__ค_น_ร_อ_บ_ข_า_ง_อ_ย_า _ง_น_มุ _น_ว_ล_____ __เห_น็__ได_จ__าก_ต__อ_น_ท_ร่ี _า_ม_ส_ูร_โ_ก_ร_ธ_น_า_ง_เม_ข_ล__าท__ี่ล_อ _แ_ก_ว __ท_ํา_ให__ไม_พ__อ_ใจ_________________________ __๒_._ไ_ม_ค_ว_ร_อ_ย_า_ก_ไ_ด_ข_อ_ง_ค_น_อ_่นื_ม__าเ_ป_น_ข__อ_งต__น_เอ_ง__เห__็น_ไ_ด_จ _า_ก_ต_อ_น_ท_่ีร_า_ม_ส_รู_อ_ย_า_ก_ไ_ด_แ_ก_ว__________ __ข_อ_ง_น_า_ง_เม_ข_ล_า_แ_ล__ะ_พ_ย_า_ย_า_ม_ไ_ล_จ _ับ_น_า_ง___________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๒. ใหนกั เรยี นเขียนอธิบายวธิ กี ารนําขอคิดทไี่ ดไ ปปรบั ใชใ นชีวิตประจําวัน จํานวน ๓ ขอ __๑__. _ล_ด_ท_ิฐ_ขิ _อ_ง_ต_น__เอ_ง_ล_ง__ไม_ใ_ห_อ_า_ร_ม_ณ__โ_ก_ร_ธ_ข_อ_ง_ต_น_เอ__งค__รอ__บ_ง_ําแ__ล_ะ_เข_า_ท_ํา_ร_า_ย_ผ_อู_่ืน____________ __๒__. _จ_ะ_ไ_ม_อ_ย_า_ก_ไ_ด_ส_่งิ _ข_อ_ง_ข_อ_ง_ค_น_อ_่นื __เพ__ร_า_ะ_อ_า_จ_เป_น__ส_่งิ _ข_อ_ง_ท_ีม่ _ีค_า_ม_า_ก_ท_สี่_ดุ_ส__ําห__ร_บั _เข_า_ก_ไ็_ด_______ __เ_ห_ม_อื_น__แ_ก_ว _น_า_ง_เม_ข__ล_า_____________________________________________________ __๓__. _ไ_ม_ใ ช_อ__าว_ุธ_เ_ข_า_ท_ํา_ร_า _ย_ร_า_ง_ก_า_ย_ผ_อู _ืน่ _เ_พ_ีย_ง_เพ__รา_ะ_เ_ร_า_อ_ย_า_ก_ไ_ด_ข _อ_ง_ข_อ_ง_เข_า__________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________

๕๓๖ คูม อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) แบบประเมินตนเอง ชือ่ : _________________ สกลุ : _________________วัน____ เดือน____________พ.ศ._____ หนว ยการเรียนรทู ี่ ๔ เรอื่ ง อักษราภธิ านสอ่ื สารภาษา คําช้ีแจง ๑. ระบายสีลงใน ของแตล ะกิจกรรมทน่ี ักเรียนคดิ วา ทาํ ไดตามระดับการประเมินเหลา น้ี เพ่อื ประเมินการเรียนรขู องนักเรียน ปรับปรุง พอใช คอนขางดี ดี ดีมาก กิจกรรม ระดบั ความสามารถ ๑. การเขียนจดหมายถงึ เพื่อนและบิดามารดา ๒. การแยกขอเท็จจริงและขอคดิ เหน็ จากสอ่ื โฆษณา ๓. การพดู แสดงความคดิ เหน็ ๔. การระบชุ นิดและหนาท่ีของคํา (คํากรยิ า คาํ วิเศษณ) ๕. การเขียนแผนภาพความคิดและเขียนแผนภาพโครงเร่ือง ๒. นบั จํานวนดาวจากตารางขางบนเพ่ือบนั ทึกผลการเรียนรูของนักเรยี น ดังนี้ จาํ นวน.............................. จาํ นวน.............................. จาํ นวน.............................. จํานวน.............................. จาํ นวน.............................. สรุป : วงกลมรอบผลการเรียนรูของนักเรียน โดยนับจากขอทไ่ี ดดาวมากทสี่ ุด ปรับปรุง พอใช ดี คอนขางดี ดีมาก ๓. กาเคร่ืองหมาย ลงใน  ทีน่ ักเรียนวางแผนจะทําเพ่ือพฒั นาการเรยี นในคร้ังตอไป (เลือกได มากกวา ๑ ขอ)  ทาํ การบานสงครูทกุ ครั้ง  มีสมาธใิ นการเรียนหนังสือ  ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามทคี่ รมู อบหมายใหส าํ เร็จ  ต้งั ใจเรียน จดบนั ทกึ และทบทวนบทเรียน

หนวยการเรียนรทู ี่ ๔ เรื่อง อักษราภิธานส่ือสารภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปที่ ๔ ๕๓๗ บนั ทึกการเรยี นรู (Learning logs) ช่อื : __________________ สกลุ : _________________วัน____ เดือน_______________ พ.ศ. _____ ส่งิ หนึง่ ทฉ่ี นั ไดเรยี นรจู ากการเรยี นวชิ านี้ในคร่ึงภาคเรยี น คอื .......................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ฉันนา จะเรียนรูไดดีกวาน้ีหาก ....................................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ส่งิ ทฉ่ี ันอยากจะบอกคุณครู คือ ..................................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ส่ิงที่ฉนั ควรปรับปรงุ ตวั เองใหดีขน้ึ คือ .......................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ปญหาในการเรียนของฉัน คือ ....................................................................................... .................................................................................................................................... ....................................................................................................................................

๕๓๘ คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๕ วรรณกรรมคาํ สอน

หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๕ เรอ่ื ง วรรณกรรมคําสอน ชั้นประถมศึกษาปท่ี ๔ ๕๓๙ ชอ่ื หนวยการเรยี นรู หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๕ วรรณกรรมคําสอน รหสั วิชา ท๑๔๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย กลุมสาระการเรยี นรูภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๙ ช่วั โมง ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวช้วี ัด สาระท่ี ๑ การอา น ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพ่ือนําไปใชตัดสินใจ มาตรฐานการเรียนรู ท ๑.๑ แกป ญหาในการดาํ เนนิ ชวี ิต และมีนสิ ยั รักการอาน ตัวชี้วัด ป.๔/๑ อานออกเสียงบทรอ ยแกวและบทรอยกรองไดถูกตอง ตัวชวี้ ัด ป.๔/๒ อธบิ ายความหมายของคาํ ประโยค และสาํ นวนจากเรอื่ งที่อา น ตวั ชี้วดั ป.๔/๓ อา นเร่ืองส้นั ๆ ตามเวลาทกี่ ําหนดและตอบคําถามจากเรือ่ งท่ีอาน ตวั ชีว้ ดั ป.๔/๖ สรปุ ความรูและขอ คิดจากเรื่องที่อานเพ่อื นาํ ไปใชในชีวติ ประจาํ วัน สาระท่ี ๓ การฟง การดู และการพูด มาตรฐานการเรยี นรู ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงและดูอยางมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู ความคิด ความรูส กึ ในโอกาสตาง ๆ อยา งมวี จิ ารณญาณ และสรางสรรค ตวั ช้วี ัด ป.๔/๓ พดู แสดงความรู ความคิดเหน็ และความรูสึกเก่ยี วกบั เร่ืองท่ีฟงและดู ตัวชี้วดั ป.๔/๔ ตั้งคาํ ถามและตอบคาํ ถามเชงิ เหตุผลจากเรื่องท่ีฟงและดู ตัวชี้วัด ป.๔/๖ มมี ารยาทในการฟง การดู และการพูด สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ าษาไทย มาตรฐานการเรียนรู ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิปญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเปนสมบัติ ของชาติ ตวั ชีว้ ัด ป.๔/๖ บอกความหมายของสํานวน สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐานการเรยี นรู ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณวรรณคดี และวรรณกรรมไทยอยาง เห็นคุณคา และนํามาประยกุ ตใ ชใ นชีวติ จริง ตวั ชว้ี ัด ป.๔/๒ อธบิ ายขอ คิดจากการอานเพื่อนาํ ไปใชในชวี ติ จริง ตัวชว้ี ดั ป.๔/๔ ทอ งจําบทอาขยานตามทก่ี ําหนด และบทรอ ยกรองท่ีมีคุณคา ตามความ สนใจ ๒. สาระสําคัญและความคิดรวบยอด อานขาวที่สนใจหรือเหตุการณในชีวิตประจําวัน แยกขอเท็จจริงและขอคิดเห็นจากขาว แสดงความ คิดเห็นจากการฟงหรือดูขาว เขียนจดหมายถึงบิดามารดาและเพ่ือน ฝกอาน ฝกแตงประโยคที่ใชคํากริยา และคาํ วิเศษณพรอ มทง้ั บอกหนาที่ของคําในประโยค

๕๔๐ คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) ๓. สาระการเรยี นรู ดา นความรู ความเขาใจ ๑) ความหมายของคําและสาํ นวนจากเรอื่ งน้าํ ผึง้ หยดเดยี ว ๒) ขอคิดจากเรอื่ งนาํ้ ผึง้ หยดเดยี ว ๓) หลักการอานบทอาขยาน ๔) ความรูแ ละขอ คิดจากเร่อื งทอ่ี า นเพอื่ นาํ ไปใชในชีวิตประจําวนั ๕) หลักการต้ังคําถามและตอบคําถามจากเรอื่ งท่ีฟงและดู ๖) หลักการพูดแสดงความคิดเห็น ๗) ความหมายของสาํ นวนไทย ๘) ความหมายของสาํ นวนท่เี ปน สุภาษิต ๙) ความหมายของสํานวนที่เปน คําพังเพย ดา นทกั ษะ/กระบวนการ ๑) การคิด วเิ คราะห และตอบคําถามจากเรื่องนาํ้ ผี้งหยดเดยี ว ๒) การพดู แสดงความคิดเหน็ จากการอา นนํ้าผึง้ หยดเดียว ๓) การทองบทอาขยานปากเปน เอก เลขเปน โท หนังสอื เปนตรี ชวั่ ดีเปนตรา ๔) การเขยี นแผนภาพความคิดสรปุ ความรูและขอ คิด ๕) การตงั้ คําถามและตอบคาํ ถามจากเรอ่ื งท่ฟี งและดู ๖) การแสดงความคิดเห็นจากเร่อื งท่ฟี ง และดู ๗) การพดู แสดงความคดิ เหน็ จากส่อื อิเลก็ ทรอนิกส ๘) การใชสาํ นวนไทยไดถ กู ตอง ๙) การคนหาความหมายของสํานวนทีเ่ ปน สุภาษติ ๑๐) การคนหาความหมายของสํานวนทเ่ี ปน คําพงั เพย ดา นคุณลักษณะ เจตคติ คานิยม ๑) มารยาทในการอา น ๒) คณุ คาของการทองบทอาขยาน ๓) คาํ สอนท่ไี ดจ ากบทอาขยาน ๔) มารยาทในการฟง การดู และการพดู ๕) คุณคาของการใชสํานวนไทยใหตรงความหมาย ๔. สมรรถนะสําคญั ของผเู รยี น ๑) ความสามารถในการแกปญหา ๒) ความสามารถในการคดิ

หนวยการเรียนรูท ี่ ๕ เรื่อง วรรณกรรมคําสอน ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี ๔ ๕๔๑ ๕. คุณลักษณะอนั พึงประสงค ๑) มวี ินัย ๒) ใฝเ รยี นรู ๓) มงุ ม่นั ในการทาํ งาน ๔) รักความเปน ไทย ๖. การประเมนิ ผลรวบยอด ๖.๑ ชิน้ งานหรือภาระงาน ๑) ใบงานที่ ๑ เรือ่ ง ชวนคดิ พินจิ เรอ่ื งราว ๒) ใบงานที่ ๒ เรอื่ ง สรุปขอคดิ ๓) ทองบทอาขยาน ปากเปน เอก เลขเปนโท หนงั สือเปนตรี ชวั่ ดเี ปน ตรา ๔) ใบงานท่ี ๓ เรื่อง แผนภาพความคดิ ๕) ใบงานท่ี ๔ เร่อื ง ตัง้ คําถามตอบตามแนวคดิ ๖) ใบงานท่ี ๕ เรือ่ ง การแสดงความคดิ เหน็ ๗) พดู แสดงความคิดเหน็ จากส่ืออเิ ลก็ ทรอนิกส ๘) ใบงานท่ี ๖ เรอ่ื ง ความหมายสํานวน ๙) ใบงานที่ ๗ เรอื่ ง สุภาษิตไทย ๑๐) ใบงานที่ ๘ เรื่อง คําพงั เพย

๕๔๒ คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) ๖.๒ เกณฑก ารประเมินชิน้ งานหรอื ภาระงาน ประเด็นประเมิน ๔ (ดมี าก) ระดับคณุ ภาพ ๑. สาํ นวนไทย ๓ (ด)ี ๒ (พอใช) ๑ (ปรบั ปรุง) อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมาย ๒. พดู แสดง ของคํา สํานวน ของคํา สาํ นวน ของคํา สาํ นวน ของคํา สํานวน ความคดิ เหน็ และประโยคจาก และประโยคจาก และประโยคจาก และประโยคจาก จากเร่อื งท่ีอาน เร่ืองนํ้าผ้ึงหยดเดยี ว เร่ืองน้ําผงึ้ หยดเดียว เร่ืองน้ําผ้ึงหยดเดยี ว เรื่องน้ําผ้งึ หยดเดยี ว ไดถ ูกตอ ง ไดถูกตอง ไดถูกตอ ง ไดถูกตอ งนอยกวา ๓. สรปุ ขอ คดิ จาก ๑๘-๒๐ คาํ ๑๕-๑๗ คํา ๑๒-๑๔ คํา ๑๒ คํา เรอ่ื งท่ีอาน ๔. ทอ งบท พดู แสดง พดู แสดง พดู แสดง พูดแสดง อาขยาน ความคดิ เห็นจาก ความคิดเห็นจาก ความคิดเหน็ จาก ความคดิ เหน็ จาก เร่ืองท่ีอานอยาง เรื่องที่อา นอยาง เร่อื งท่ีอานอยาง เรือ่ งที่อานอยาง สรา งสรรคแ ละ สรางสรรคและ สรางสรรคและ สรางสรรคไ มตรง ครบถวนตรง ครบถวนตรง ครบถว นตรง ประเดน็ หรอื ไม ประเด็นทุก ประเดน็ เกือบทุก ประเด็นเปน บาง ครอบคลุมเน้อื หา ประเด็น ประเด็น ประเด็น ทอ่ี าน สรปุ ขอ คิดจากเรื่อง สรปุ ขอ คดิ จากเร่ือง สรปุ ขอ คิดจากเรื่อง ไมสามารถสรปุ ทอ่ี า นถูกตอง ทอี่ า นถูกตอง ทอี่ า นถูกตองบาง ขอ คิดจากเรื่องที่ ทุกประเด็น เกอื บทกุ ประเดน็ ประเด็น อาน ทองบทอาขยาน ทองบทอาขยาน ทองบทอาขยาน ทองบทอาขยาน หลักทีก่ าํ หนด หลกั ที่กาํ หนด หลกั ที่กาํ หนด หลกั ท่กี าํ หนด ถกู ตองดวยความ ถูกตองรอยละ ๘๐ ถกู ตองรอยละ ๖๐ ถูกตองรอ ยละ ๔๐ ไพเราะ อธิบาย ดว ยความไพเราะ อธบิ ายคุณคาของ อธิบายคุณคาของ คุณคาของบท อธบิ ายคุณคา ของ บทอาขยานท่ีทอง บทอาขยานทีท่ อง อาขยานทีท่ อง บทอาขยานท่ที อง ไดถูกตองรอยละ ไดถูกตองรอยละ ไดถ ูกตอ ง ไดถ ูกตองรอยละ ๖๐ ๔๐ ๘๐ เกณฑการตดั สนิ การประเมนิ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๑๓-๑๖ คะแนน หมายถึง ดี คะแนน ๙-๑๒ คะแนน หมายถงึ พอใช คะแนน ๕-๘ คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง คะแนน ๑-๔ คะแนน เกณฑการผา น ผา นเกณฑตั้งแตระดับ พอใช ขึน้ ไป

หนวยการเรยี นรทู ่ี ๕ เรื่อง วรรณกรรมคําสอน ชนั้ ประถมศึกษาปที่ ๔ ๕๔๓ หนว ยการเรยี นรูท ่ี ๕ แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี ๑ เรื่อง งดงามคาํ สอน (๑) เวลา ๑ ชั่วโมง เรื่อง วรรณกรรมคําสอน กลุม สาระการเรียนรูภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปท ี่ ๔ ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตวั ชี้วดั สาระท่ี ๑ การอา น มาตรฐานการเรยี นรู ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพ่ือนําไปใชตัดสินใจ แกปญหาในการดาํ เนนิ ชีวติ และมนี สิ ยั รักการอา น ตวั ช้ีวดั ป.๔/๒ อธบิ ายความหมายของคํา ประโยค และสํานวนจากเร่ืองที่อา น ตวั ช้ีวัด ป.๔/๓ อานเร่ืองสน้ั ๆ ตามเวลาทีก่ ําหนดและตอบคําถามจากเรอื่ งที่อาน ๒. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด “น้ําผึ้งหยดเดียวกอเหตุ” เปนนิทานที่อยูในหนังสือ นิทานเทียบสุภาษิต ของพระยาสีหราชฤทธิไกร (ทองคํา สหี อุไร) รบั ราชการในพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลาเจาอยหู ัว เนอื้ หากลาวถึงตัวละครสําคัญหลายคน มีเหตุการณที่ตอเน่ืองกันไปอยางมีเหตุและผลเหมือนลูกโซ และตนเหตุคือ “น้ําผึ้งหยดเดียว” ลามปามถึง เร่ืองราวใหญโตคือเกิดการทะเลาะวิวาทกัน นิทานเทียบสุภาษิตเร่ืองน้ีเปนสํานวนที่แตงข้ึนในสมัยรชั กาลที่ ๕ จงึ มีหลากหลายสํานวนที่ตา งไปจากปจจุบันอนั ควรคาแกก ารศกึ ษา สงั เกต และความเขา ใจดา นภาษา ๓. จดุ ประสงคการเรียนรู ๓.๑ ดา นความรู ความเขาใจ (K) - บอกความหมายของคําและสํานวนจากเรื่องนํา้ ผ้ึงหยดเดยี ว ได ๓.๒ ดา นทกั ษะ/กระบวนการ (P) - คิด วิเคราะห และตอบคาํ ถามจากเรอื่ งน้าํ ผง้ี หยดเดียว ได ๓.๓ ดานคุณลักษณะ เจตคติ คา นิยม (A) - มมี ารยาทในการอา น ๔. สาระการเรยี นรู - นิทานเทยี บสภุ าษติ เรื่อง นา้ํ ผงึ้ หยดเดียว ๕. สมรรถนะสําคญั ของผูเ รียน ๕.๑ ความสามารถในการแกป ญหา ๕.๒ ความสามารถในการคดิ ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค ๖.๑ มวี ินยั ๖.๒ ใฝเ รยี นรู ๖.๓ มุงม่ันในการทาํ งาน ๗. กจิ กรรมการเรยี นรู

๕๔๔ การจัดกจิ กรรมการเรยี น หนวยการเรยี นรทู ่ี ๕ เรอื่ ง วรรณ รายวชิ า ภาษาไทย แผนการจัดการเรียนรทู ่ี ๑ ลาํ ดบั จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ข้ันตอนการ เวลา แนวก ที่ จัดการเรียนรู ทีใ่ ช กจิ กรรมครู ๑. ขอบเขตเนอ้ื หา ๕ นาที ๑. ครนู าํ เสนอสุภาษิต สํานว - นทิ านเทยี บสภุ าษติ ข้ันนาํ เรื่อง น้าํ ผึง้ หยดเดยี ว ใหนกั เรยี นอา น และจบั คูกบั ความหมายใหถกู ตอง ๒. ครถู ามคาํ ถามนักเรยี น ดัง ครู : นักเรียนรหู รอื ไมวา ขอความท่ีครูใหนักเรยี นอาน และจับคคู วามหมายเรียกวา อะไร ครู : สํานวน สภุ าษติ คาํ พังเพ เปนคําสอนหรือไม ๓. ครูเช่ือมโยงความรใู ห นักเรยี นทราบวาจะเรียน เกยี่ วกบั วรรณกรรมคาํ สอน เร่อื ง นํา้ ผ้ึงหยดเดียว

คูมือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) นรู ชัน้ ประถมศึกษาปที่ ๔ ณกรรมคาํ สอน จาํ นวน ๙ ชั่วโมง ๑ เรื่อง งดงามคาํ สอน (๑) จํานวน ๑ ช่ัวโมง การจดั การเรียนรู ส่อื การเรยี นรู การประเมิน กิจกรรมนกั เรยี น ๑. สื่อนําเสนอ Power การเรยี นรู Point เรือ่ ง งดงาม วน ๑. นักเรียนอานสํานวนและ คําสอน (๑) จับคบู อกความหมายของ สภุ าษิตและสํานวน งนี้ ๒. นกั เรียนตอบคําถาม ดังน้ี ๒. แถบขอ ความสาํ นวน นักเรียน : สํานวน สภุ าษติ ไทย น คาํ พงั เพย พย นกั เรียน : เปน คาํ สอน

หนวยการเรียนรทู ี่ ๕ เร่ือง วรรณกรรมคําสอน ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ ๔ ลําดบั จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ขั้นตอนการ เวลา แนวก ท่ี จัดการเรียนรู ท่ีใช กจิ กรรมครู ๒. จุดประสงคการเรยี นรู ๒๐ ๑. ครูแนะนาํ ใหน ักเรียนรจู ัก ขั้นสอน นาที ท่มี าของหนงั สือนทิ านเทยี บ สุภาษติ เรอื่ ง นํา้ ผึ้งหยดเดียว ประวตั โิ ดยสังเขปของผูแตง และใหนักเรยี นดูรปู ผูแ ตง (พระยาสีหราชฤทธไิ กร) ๑. มีมารยาท ๒. ครูนาํ เสนอบทรอ ยกรองให ในการอาน นักเรียนอา น ดังนี้ นํา้ ผ้งึ ถึงแมส กั หยดเดยี ว อาจเปนเหตเุ กลียว ไตเ ตา ฟง ไมศพั ทฉุกเฉียว ไมต รกึ ตรอ ตางกห็ าญกเ็ หา ตอสบู รคู วา ๓. ครใู หน ักเรยี นอานนทิ าน เทยี บสภุ าษิต เรอื่ ง น้ําผ้ึง หยดเดยี วและลาํ ดบั เหตุการณ พรอม ๆ กบั ครู ๔. ครูใชบตั รภาพตัวละครติด บนกระดานใชว ธิ เี ชอ่ื มโยง สัมพันธม ิติของตวั ละครวา มี

การจัดการเรียนรู สอื่ การเรียนรู ๕๔๕ กจิ กรรมนกั เรยี น ๓. สอ่ื นําเสนอ power การประเมิน point เรอ่ื ง งดงาม การเรียนรู ก ๑. นักเรยี นศกึ ษาเก่ยี วกบั คําสอน (๑) ประวตั ผิ ูแ ตง จากหนังสือ ว วรรณคดีลาํ นาํ ป.๔ และ อภิปรายความรูร ว มกบั ครู ห ๒. นกั เรียนอานบทรอ ยกรอง ๔. บทรอยกรอง และพจิ ารณาเน้ือหาในบท รอ ยกรองวากลา วถึงสง่ิ ใด โดยอภปิ รายความรรู วมกบั องนา เพือ่ นและครู าม ๓. นกั เรียนอา นนทิ านเทียบ ๑. สังเกตพฤติกรรม สภุ าษติ เรอ่ื ง นาํ้ ผึ้งหยดเดยี ว การอาน ณ และรว มกันลาํ ดบั เหตุการณ สําคัญในเรื่อง ดไว ๔. นักเรยี นชว ยกันอธบิ าย ๕. บัตรภาพตัวละคร ความสมั พนั ธข องตวั ละคร สําคัญจากเร่ืองนํ้าผ้งึ เปน ลาํ ดับไปจนจบเรอ่ื ง หยดเดยี ว

๕๔๖ ลาํ ดบั จดุ ประสงคก ารเรียนรู ข้ันตอนการ เวลา แนวก ที่ จดั การเรยี นรู ทใี่ ช กจิ กรรมครู ความสมั พนั ธกับเหตุการณ อยางไร และใหน ักเรียนชวยก อธิบาย ๕. ครูถามคําถามนกั เรยี น ดัง ครู : นกั เรียนพบสํานวนหรือ คําศัพททน่ี าสนใจหรือไม ลองนําเสนอ ๒. บอกความหมาย ๖. ครนู าํ เสนอสํานวนท่ปี ราก ของคาํ และสาํ นวนจาก ในเร่ืองนํา้ ผึ้งหยดเดยี วและ เรอ่ื งน้ําผ้งึ หยดเดยี ว ได สาํ นวนทีม่ ีความหมายใกลเ ค กับการกระทําหรอื เหตุการณ เกิดขึ้น และใหน ักเรียนชวยก อธิบายความหมาย ดังน้ี - กอหวอด - ขงิ ก็ราขา ก็แรง - ชักนา้ํ เขาลึก ชกั ศึกเขาบ - เดด็ ดอกไมกระเทอื นถงึ ดวงดาว - ตอ ความยาวสาวความยดื - ตาตอตา ฟนตอฟน

คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) การจดั การเรยี นรู สอ่ื การเรียนรู การประเมนิ กิจกรรมนกั เรียน การเรยี นรู กนั งนี้ ๕. นกั เรียนชวยกันนําเสนอ ๖. แถบขอ ความสํานวน อ คําศัพทและสํานวนที่สนใจ ไทย พรอ มทัง้ อธบิ ายความหมาย กฏ ๖. นกั เรยี นอธบิ ายความหมาย ๗. ใบความรทู ี่ ๑ เร่อื ง ๒. ประเมินการปฏบิ ตั ิ ของสํานวนท่ีครูนาํ เสนอ งดงามสํานวน กจิ กรรม คียง สามารถคนควา จากพจนานุกรม ๓. การตอบคําถาม ณท่ี หนังสือเรยี น หรือใบความรทู ่ี ๑ กัน เรอื่ ง งดงามสาํ นวน บา น ด

หนว ยการเรียนรทู ี่ ๕ เรอื่ ง วรรณกรรมคําสอน ชั้นประถมศึกษาปท ี่ ๔ ลาํ ดับ จุดประสงคก ารเรียนรู ขน้ั ตอนการ เวลา แนวก ที่ จัดการเรียนรู ทใ่ี ช กิจกรรมครู ๓. ๓. คิด วเิ คราะห และ ขนั้ ปฏิบตั ิ ตอบคาํ ถามจากเรื่อง - บานปลาย นํา้ ผ้งี หยดเดียว ได - หนุ หนั พลนั แลน ๒๐ ๑. ครชู ้ีแจงการทาํ ใบงานท่ี ๑ นาที เรื่อง ชวนคิดพนิ จิ เรื่องราว ๒. ครมู อบหมายใหนักเรียน ปฏิบัติกิจกรรมในใบงานที่ ๑ เร่อื ง ชวนคิดพินจิ เรื่องราว แ ชว ยเหลอื นักเรียนเปนรายบุค ๔. ขัน้ สรปุ ๕ นาที ๑. ครแู ละนักเรยี นรวมกัน อภิปราย สรปุ ความรู และเฉ ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง ชวนคดิ พินจิ เรอ่ื งราว ๒. ครถู ามคําถามนักเรียนดงั น ครู : นกั เรยี นรูสกึ อยา งไรบาง ที่ไดอานนิทานเร่ืองน้ําผ้ึง หยดเดยี ว

การจดั การเรยี นรู ส่ือการเรยี นรู ๕๔๗ กิจกรรมนกั เรยี น การประเมิน การเรียนรู ๑ ๑. นกั เรยี นฟง คาํ ช้แี จงและ ๘. ใบงานท่ี ๑ เรื่อง ๔. ประเมินการปฏบิ ตั ิ ปฏิบัติตาม หากมีขอ สงสยั ชวนคิดพินจิ เรื่องราว กจิ กรรม ใหซักถาม ๒. นักเรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรม ๑ ในใบงานที่ ๑ เรื่อง ชวนคดิ และ พินิจเรือ่ งราว คคล ๑. นักเรียนอภิปรายความรูและ ฉลย เฉลยคาํ ตอบรวมกบั ครู จ นี้ ๒. นักเรยี นแสดงความคดิ เห็น ๕. การตอบคําถาม ง ไดอ ยา งอิสระ

๕๔๘ คูมือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) ๘. สื่อ/แหลงเรียนรู ๑) สือ่ นาํ เสนอ PowerPoint เรือ่ ง งดงามคําสอน (๑) ๒) แถบขอความสํานวนไทย ๓) ใบความรูที่ ๑ เร่ือง งดงามสํานวน ๔) บตั รภาพตวั ละครสาํ คัญจากเรอ่ื ง นา้ํ ผึ้งหยดเดยี ว ๕) ใบงานที่ ๑ เรือ่ ง ชวนคดิ พินิจเรอ่ื งราว ๙. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี ๑ เร่อื ง ชวนคดิ พินิจเร่อื งราว ประเด็นการประเมนิ วิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑก ารประเมนิ - ตอบถูก หมายถงึ ดา นความรู ความเขาใจ (K) - ประเมินการตอบ ๑. คําถามสาํ คญั ผา นเกณฑการประเมนิ - บอกความหมายของคาํ และ คาํ ถามในชน้ั เรยี น ๒. แบบบันทึกคะแนน สาํ นวนจากเร่อื งน้าํ ผึ้งหยด - ผา นเกณฑการประเมิน เดียว รอ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป ดา นทกั ษะ/กระบวนการ (P) - แบบประเมินใบงาน - ผา นเกณฑการประเมนิ - คิด วิเคราะห และตอบ - ประเมนิ ใบงานท่ี ๑ ท่ี ๑ เรอื่ ง ชวนคดิ พนิ จิ ระดบั คุณภาพ “ผา น” คําถามจากเร่ืองนา้ํ ผีง้ หยด เร่ือง ชวนคิดพนิ ิจ เรือ่ งราว ขึน้ ไป เดยี ว เรอ่ื งราว - ผานเกณฑก ารประเมนิ ระดับคุณภาพ “ผาน” ดา นคุณลกั ษณะ เจตคติ - ประเมนิ การทํางาน - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ข้ึนไป คา นยิ ม (A) และ การปฏิบตั ิ - ผานเกณฑก ารประเมนิ - มีมารยาทในการอาน กจิ กรรมในชัน้ เรยี น ระดบั คุณภาพ “ผา น” ข้นึ ไป คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค - ประเมนิ การทํางาน - แบบประเมนิ ๑. มีวินัย และ การปฏบิ ตั ิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ๒. ใฝเรยี นรู กจิ กรรมในชัน้ เรยี น ประสงค ๓. มุง ม่นั ในการทาํ งาน สมรรถนะสาํ คัญของผูเรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ประเมินความสามารถ - แบบประเมิน ๒. ความสามารถในการคิด ในการคิดและการสื่อสาร สมรรถนะสําคัญของ ผูเรยี น

หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๕ เร่อื ง วรรณกรรมคําสอน ช้ันประถมศึกษาปท่ี ๔ ๕๔๙ ๑๐. บนั ทกึ ผลหลังสอน แผนการจัดการเรียนรูที่ ๑ เรื่อง งดงามคําสอน (๑) ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสําเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญ หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอจํากัดการใชแ ผนการจัดการเรยี นรู และขอเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................................ผูส อน (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. ๑๑. ความคดิ เหน็ /ขอ เสนอแนะของผบู รหิ ารหรือผทู ่ีไดร บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ...................................................... ผูตรวจ (..........................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

๕๕๐ คูม ือครูและแผนการจัดการเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) ใบความรูท่ี ๑ เรอ่ื ง งดงามสาํ นวน หนว ยการเรียนรทู ่ี ๕ เรอ่ื ง วรรณกรรมคําสอน แผนการจัดการเรียนรทู ่ี ๑ เรื่อง งดงามคําสอน (๑) รายวิชา พืน้ ฐานภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๔๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี ๔ สํานวนที่มีความหมายเก่ียวกับการกระทําโดยไมคิดใครครวญทบทวนใหดีกอน ผลของ การกระทํานั้นแมเพียงเล็กนอย ก็อาจสงผลใหเกิดปญหาหรือการทะเลาะวิวาทท่ีลุกลามและ รนุ แรงเกนิ คาด ไดแ ก ลาํ ดบั ที่ สาํ นวน ความหมาย เรม่ิ จบั กลมุ เพ่ือทําการอยางใดอยา งหนงึ่ ๑. กอหวอด มักใชในทางทไี่ มดี ตางมอี ารมณรอนพอ ๆ กัน ไมม ีใครยอมใคร ๒. ขงิ ก็ราขาก็แรง นําศตั รหู รอื ส่งิ ที่เปน อันตรายเขา ถึงตวั ๓. ชักนํา้ เขาลึก ชักศึกเขาบา น เปนสํานวนสมยั ใหม หมายถงึ การทาํ งาน ๔. เดด็ ดอกไมกระเทอื นถึงดวงดาว หรอื การทําใหเกดิ ความสูญเสียแมเ พยี งสวน เลก็ นอ ยหรือสวนใดสวนหน่ึงของสรรพสิ่ง ๕. ตอความยาวสาวความยดื ท้งั หลาย ยอ มกระทบถึงผลตอเน่ืองกัน ๖. ตาตอตา ฟน ตอฟน อาจทาํ ใหเ กดิ ผลเสยี ท่ียิ่งใหญเ กินคาด ๗. บานปลาย พูดกนั ไปมาใหมากเรือ่ งเกินสมควร ตอบแทนกันอยา งสาสม ๘. หนุ หนั พลนั แลน ขยายออกไปมากกวาที่ต้ังใจไว ขยายเร่ืองเล็ก ใหกลายเปน เร่ืองใหญโ ตกวา เดิม ดว นทาํ ส่ิงใดลงไปโดยไมย้งั คดิ ดว ยอารมณ โกรธ

หนวยการเรยี นรทู ่ี ๕ เรอื่ ง วรรณกรรมคําสอน ชนั้ ประถมศึกษาปที่ ๔ ๕๕๑ ใบงานที่ ๑ เร่ือง ชวนคดิ พนิ จิ เรอ่ื งราว หนวยการเรียนรทู ี่ ๕ เรื่อง วรรณกรรมคําสอน แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๑ เรอื่ ง งดงามคาํ สอน (๑) รายวชิ า พ้นื ฐานภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๔๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปท ่ี ๔ คําชี้แจง ใหน ักเรียนตอบคาํ ถามตอ ไปนี้ ๑. เม่อื นายอําเภอไตส วนเรอ่ื งราว ไดฟงคําซดั ทอดแลวกต็ อ งหวั รอข้นึ เพราะอะไร _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๒. เมอ่ื นายอําเภอไตสวนทวนความระหวา งคกู รณีในเร่ือง ใครใหก ารกระจางชดั ท่ีสดุ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๓. การทจ่ี ะไมใหเ ร่ืองเล็ก ๆ กลายเปนเรอ่ื งใหญ เราไมค วรมีสงิ่ ใด _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๔. นักเรียนพจิ ารณาดวู าเหตกุ ารณตอนใดบา งที่สามารถแกไ ขได กอ นท่จี ะเกดิ ปญ หาอนื่ ตามมา และควรแกไขดวยวธิ ใี ด _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๕. สํานวน “รอ ยแปดพันเกา” มคี วามหมายวาอยา งไร _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ชอ่ื -สกลุ .............................................................................................. ชน้ั .............. เลขที่ .............

๕๕๒ คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) เฉลยใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง ชวนคิดพนิ ิจเรอ่ื งราว หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๕ เรอ่ื ง วรรณกรรมคําสอน แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๑ เรอ่ื ง งดงามคาํ สอน (๑) รายวิชา พ้นื ฐานภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๔๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๔ คําชี้แจง ใหน กั เรยี นตอบคําถามตอ ไปน้ี ๑. เมอื่ นายอําเภอไตส วนเรือ่ งราว ไดฟง คําซัดทอดแลวกต็ องหัวรอข้นึ เพราะอะไร _____ค_ํา_ซ_ัด_ท_อ_ด_เ_ข_า_ถ_ึง_ห_ม_า__เพ__รา_ะ_น__าย__อ_าํ _เภ_อ_ห__ม_ด_ท_า _ท_่ีจ_ะ_เ_อ_า_ห_ม_า_ม_า_ถ_า_ม_ต_อ_ไ_ด_______________ _______________________________________________________________________ ๒. เมอ่ื นายอําเภอไตสวนทวนความระหวา งคกู รณีในเรอ่ื ง ใครใหก ารกระจา งชัดที่สดุ _____เด_็ก__เจ_า_ข_อ_ง_แ_ม_ว________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๓. การทจี่ ะไมใ หเ ร่ืองเลก็ ๆ กลายเปนเร่อื งใหญ เราไมค วรมสี ่งิ ใด _____ค_ว_า_ม_ค_ิด_เ_ห_็น_ส__ว น__ต_วั _เป__น _ให__ญ_ _ห_ร_ือ__ท_ฐิ _ิ ______________________________________ _______________________________________________________________________ ๔. นกั เรียนพิจารณาดวู าเหตกุ ารณตอนใดบางท่สี ามารถแกไขได กอนที่จะเกดิ ปญหาอนื่ ตามมา และควรแกไขดว ยวธิ ีใด _____ค_ํา_ต_อ_บ_อ_ย_ูใ _น_ด_ลุ _พ__ิน_ิจ_ข_อ_ง_ค_ร_ู ______________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๕. สํานวน “รอ ยแปดพันเกา ” มีความหมายวา อยา งไร _____ม_า_ก_ม_า_ย_ห_ล_า_ย_ป_ร_ะ_ก_า_ร___________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________

หนวยการเรียนรูท ี่ ๕ เรอ่ื ง วรรณกรรมคําสอน ชั้นประถมศึกษาปที่ ๔ ๕๕๓ หนว ยการเรียนรูท่ี ๕ แผนการจดั การเรียนรทู ี่ ๒ เร่ือง งดงามคาํ สอน (๒) เวลา ๑ ชว่ั โมง เร่ือง วรรณกรรมคําสอน กลมุ สาระการเรียนรภู าษาไทย รายวิชา ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๔ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู/ตัวชีว้ ดั สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐานการเรยี นรู ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณวรรณคดีและวรรณกรรมไทย อยา งเหน็ คุณคา และนํามาประยกุ ตใ ชในชวี ติ จรงิ ตัวชี้วดั ป.๔/๒ อธิบายขอคิดจากการอานเพือ่ นําไปใชในชวี ติ จริง ๒. สาระสาํ คัญ/ความคิดรวบยอด “นํ้าผึ้งหยดเดียวกอเหตุ” เปนนทิ านเทียบสุภาษิตท่มี ีลีลาการเลาที่เปนธรรมชาติ ใหค วามรูสึกเหมือน ไดฟงนิทานมากกวาอานนิทาน เร่ืองน้ีแตงขึ้นเพื่อใหคติเตือนใจ ใชเปนหลักในการดําเนินชีวิตวา ปญหา บางอยางอาจเริ่มมาจากเรื่องเพียงเล็กนอยแลวลุกลามขยายใหญโต เร่ืองราวทํานองน้ีเกิดข้ึนไดเสมอ ไมวา ระหวางบคุ คลหรือระหวางประเทศ ๓. จุดประสงคการเรยี นรู ๓.๑ ดา นความรู ความเขา ใจ (K) - สรปุ ขอ คิดจากเร่อื งน้ําผ้ึงหยดเดียว ได ๓.๒ ดานทกั ษะ/กระบวนการ (P) - พูดแสดงความคดิ เห็นจากการอานน้าํ ผ้ึงหยดเดยี ว ๓.๓ ดานคุณลกั ษณะ เจตคติ คานิยม (A) - มมี ารยาทในการอาน ๔. สาระการเรียนรู - นิทานเทยี บสภุ าษติ เร่อื ง นา้ํ ผึ้งหยดเดยี ว ๕. สมรรถนะสําคญั ของผเู รียน ๕.๑ ความสามารถในการแกป ญ หา ๕.๒ ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค ๖.๑ มวี นิ ยั ๖.๒ ใฝเ รียนรู ๖.๓ มุงมน่ั ในการทาํ งาน ๗. กิจกรรมการเรียนรู

๕๕๔ การจัดกิจกรรมการเรยี น หนวยการเรียนรทู ่ี ๕ เรอื่ ง วรรณ รายวิชา ภาษาไทย แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๒ ลาํ ดบั จุดประสงคการเรียนรู ขนั้ ตอนการ เวลา แนวก ท่ี จดั การเรียนรู ท่ใี ช กิจกรรมครู ๑. ขอบเขตเน้ือหา ข้นั นาํ ๕ นาที ๑. ครูทบทวนความรูเดิมโดย - สรปุ ขอ คิดและพูด นักเรยี นอภิปรายเหตุการณส ํา แสดงความคิดเห็นจาก ทเ่ี กิดขนึ้ ในเร่ือง น้ําผึ้งหยดเด นทิ านเทยี บสุภาษิต เรอื่ ง น้าํ ผงึ้ หยดเดยี ว ๒. ครนู าํ เสนอภาพเหตกุ ารณ ทะเลาะวิวาท ความขัดแยง หรอื ปญหาความรุนแรงตาง ๆ ใหน ักเรยี นดู สงั เกตวา เปน ภา เกย่ี วกบั อะไร ๓. ครูถามคําถามนักเรียน ดัง ครู : นกั เรียนคดิ วา ภาพท่ีครู นํามาใหด สู อดคลองกบั เร่ือง น้ําผง้ึ หยดเดียวอยา งไร

คูม ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) นรู ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี ๔ ณกรรมคําสอน จํานวน ๙ ช่วั โมง ๒ เร่ือง งดงามคําสอน (๒) จาํ นวน ๑ ชั่วโมง การจัดการเรียนรู ส่ือการเรียนรู การประเมิน กิจกรรมนกั เรียน การเรยี นรู ยให ๑. นักเรยี นรว มกันอภิปราย าคัญ แสดงความรู จากการอานเรื่อง ดียว น้ําผง้ึ หยดเดียว ณ ๒. นักเรยี นดภู าพท่คี รนู ําเสนอ ๑. ภาพเหตกุ ารณ และอภิปรายรว มกบั ครแู ละ ทะเลาะววิ าท ๆ เพ่ือน ความขดั แยง ปญหา าพ ความรุนแรง งน้ี ๓. นักเรียนตอบคาํ ถาม ดงั น้ี ๑. การตอบคําถาม นักเรียน : การไมใ ชส ติ ไตรต รองตนสายปลายเหตุของ เร่อื งราวจะนาํ มาสคู วามขัดแยง หรือเกดิ เหตุทีค่ าดไมถึง ฯลฯ (นักเรยี นสามารถแสดงความ คิดเห็นไดอยางหลากหลาย)

หนวยการเรียนรทู ี่ ๕ เร่ือง วรรณกรรมคําสอน ช้ันประถมศึกษาปที่ ๔ ลาํ ดับ จุดประสงคการเรียนรู ข้นั ตอนการ เวลา แนวก ที่ จดั การเรียนรู ท่ใี ช กจิ กรรมครู ๒. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ๑. มมี ารยาท ขั้นสอน ๔. ครเู ชือ่ มโยงความคิดของ ในการอาน นกั เรียนเขาสูเรอ่ื งการสรุปขอ จากเรื่องทอี่ า นและนาํ ไปใชใน ชวี ิตจริง ๒๐ นาที ๑. ครูใหน กั เรียนอา นบท รอ ยกรองดงั นี้ เปลวไฟตองเศษไม เผาผลาญไหมบ านเรือนสญู ปญ หาพาเพม่ิ พนู ดว ยประมาทขาดระวงั น้าํ ผึง้ เพียงหนง่ึ หยด กอปรากฏทกุ ขประดัง ลุกลามเพราะพลาดพลั้ง พาพวกพองพบผองภยั ดอกไมปลิดจากกา น ส่ันสะทา นดวงดาวไหว โยนหนิ ลงนา้ํ ไป เปน วงคลื่นกระเทือนกัน ผลยอมเกิดจากเหตุ ผสู งั เกตรสู รางสรรค ทุกสิ่งสืบสมั พนั ธ ใครค รวญคิดติดเตอื นตน

๕๕๕ การจดั การเรยี นรู สอ่ื การเรยี นรู การประเมนิ กจิ กรรมนกั เรยี น การเรยี นรู อคดิ น ๑. นักเรยี นอานบทรอ ยกรอง ๒. ส่ือนาํ เสนอ Power ๒. สงั เกตพฤติกรรม และพิจารณาเน้ือหาวากลา วถึง Point เร่อื ง งดงาม การอาน เรอ่ื งใด คําสอน (๒) ๓. หนังสือวรรณคดี ลํานาํ ป.๔

๕๕๖ ลําดับ จดุ ประสงคการเรยี นรู ขน้ั ตอนการ เวลา แนวก ท่ี จัดการเรยี นรู ทีใ่ ช กจิ กรรมครู ๒. พดู แสดงความ ๒. ครใู หนกั เรยี นรวมกนั คิดเหน็ จากการอาน อภปิ รายสรปุ สาระสาํ คัญของ นํ้าผงึ้ หยดเดยี ว บทรอยกรองที่อาน เช่อื มโยง ขอ คิดที่ไดจากการอา นเรื่อง นา้ํ ผ้งึ หยดเดยี ว ๓. ๓. สรุปขอคิดจากเรื่อง ขั้นปฏิบัติ ๓. ครถู ามคําถามนักเรยี น ดัง นาํ้ ผึ้งหยดเดยี วได ครู : นกั เรยี นชอบตัวละครใด มากทสี่ ดุ และไมช อบตัวละค เพราะเหตุใด (อภปิ รายกลมุ ) ๒๐ นาที ๑. ครูชี้แจงการทําใบงานที่ ๒ เร่ือง สรุปขอ คดิ ๒. ครใู หนักเรียนปฏบิ ตั ิกจิ กร ในใบงานท่ี ๒ เร่ือง สรุปขอค ๔. ข้นั สรุป ๕ นาที -. ครูและนกั เรยี นอภปิ ราย ความรู สรุปขอคิดที่ไดจ าก การอาน และเฉลยใบงานท่ี ๑ เรื่อง สรปุ ขอคิด โดยใหนกั เร ชว ยกนั อธิบายคําตอบ พรอมนําเสนอแนวทางการน ขอคิดไปใชในชวี ติ ประจําวัน

คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) การจัดการเรยี นรู สอ่ื การเรียนรู การประเมิน กจิ กรรมนักเรยี น การเรียนรู ๓. สังเกตพฤติกรรม ๒. นักเรยี นอภิปรายความรู ง สรุปสาระสาํ คัญของบท งสู รอยกรองท่ีอา นพรอมกบั เพือ่ น และครู งน้ี ๓. นกั เรียนเขากลมุ และ ๔. การตอบคาํ ถาม ด อภิปรายแลกเปลย่ี นความ ๕. ประเมนิ การปฏบิ ัติ ครใด คิดเหน็ พรอมเสนอเหตุผล กิจกรรมกลุม ) ประกอบอยางสมเหตุสมผล ๖. ประเมินการปฏิบตั ิ ๒ ๑. นกั เรยี นฟง คําชี้แจงการทํา ๔. ใบงานท่ี ๒ เร่อื ง กิจกรรมกลมุ ใบงาน หากมขี อสงสยั ใหซักถาม สรปุ ขอคิด รรม ๒. นกั เรยี นปฏิบตั ิกจิ กรรมใน คิด ใบงานที่ ๒ เรอ่ื ง สรปุ ขอคิด - นกั เรยี นชว ยกนั อธิบายคําตอบ พรอ มนําเสนอแนวทางการนํา ๑ ขอ คิดไปใชในชวี ิตประจําวนั รียน นํา

หนว ยการเรียนรทู ่ี ๕ เรื่อง วรรณกรรมคําสอน ชั้นประถมศึกษาปท ่ี ๔ ๕๕๗ ๘. ส่ือ/แหลง เรียนรู ๑) ภาพเหตกุ ารณทะเลาะวิวาท ความขัดแยง ปญ หาความรุนแรง ๒) สื่อนําเสนอ PowerPoint เรือ่ ง งดงามคําสอน (๒) ๓) หนังสอื วรรณคดลี าํ นาํ ป.๔ ๔) ใบงานท่ี ๒ เรือ่ ง สรุปขอคิด ๙. การประเมินผลรวบยอด ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน - ใบงานที่ ๒ เร่ือง สรปุ ขอคิด ประเด็นการประเมนิ วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑก ารประเมนิ - ผา นเกณฑการประเมนิ ดา นความรู ความเขา ใจ (K) ๑. ประเมนิ การตอบ ๑. คําถามสาํ คัญ ระดับคุณภาพ “พอใช” ๑. สรุปขอ คดิ จากเร่ืองนา้ํ ผ้ึง คาํ ถามในชนั้ เรยี น ๒. แบบบันทึกคะแนน ข้นึ ไป หยดเดยี ว ๒. ประเมินใบงานที่ ๒ ๓. แบบประเมินใบงาน - ผา นเกณฑก ารประเมิน เร่อื ง สรปุ ขอคิด ที่ ๒ เรอ่ื ง สรุปขอ คิด รอยละ ๖๐ ขน้ึ ไป ดานทกั ษะ/กระบวนการ (P) ๑. แบบประเมนิ ใบงาน - ผา นเกณฑก ารประเมิน - พดู แสดงความคดิ เหน็ จาก - ประเมนิ ใบงานที่ ๒ ที่ ๒ เรอ่ื ง สรุปขอคิด ระดบั คุณภาพ “ผาน” การอา นน้าํ ผ้งึ หยดเดยี ว เรื่อง สรุปขอคดิ ๒. แบบประเมิน ขน้ึ ไป การเขียนสรปุ ขอคดิ - ผา นเกณฑการประเมนิ ระดบั คุณภาพ “ผา น” ดานคณุ ลักษณะ เจตคติ - ประเมินการทํางาน - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ขึ้นไป คานยิ ม (A) และ การปฏิบตั ิ - ผานเกณฑการประเมิน - มมี ารยาทในการอาน กิจกรรมในช้ันเรียน ระดับคุณภาพ “ผา น” ขน้ึ ไป คุณลักษณะอันพงึ ประสงค - ประเมินการทํางาน - แบบประเมิน ๑. มีวนิ ยั และ การปฏิบตั ิ คุณลกั ษณะอันพงึ ๒. ใฝเ รียนรู กิจกรรมในชนั้ เรยี น ประสงค ๓. มงุ ม่ันในการทาํ งาน สมรรถนะสําคญั ของผูเรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ประเมินความสามารถ - แบบประเมิน ๒. ความสามารถในการคดิ ในการคดิ และการส่อื สาร สมรรถนะสาํ คัญของ ผเู รยี น

๕๕๘ คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) เกณฑการประเมนิ การเขียนสรุปขอคิด ประเดน็ เกณฑก ารใหคะแนน การประเมิน ๑. เน้อื หาสาระ ๔ ๓๒ ๑ ๒. แบบแผน เน้ือหาสาระถูกตอง เน้อื หาสาระ ความคดิ ครบถวน เนอื้ หาสาระถูกตอง เนอื้ หาสาระถูกตอง ถูกตองเปน สว นนอย ครบถวนเปน ครบถว นบางสวน เรียงลําดบั เรอื่ งราว ๓. การเขียนสรปุ เรียงลําดับเร่ืองราวท่ี สวนใหญ สัมพันธเ ช่อื มโยงกัน ขอ คิด แสดงความสัมพนั ธ เปนสว นนอ ย เช่อื มโยงกนั อยา ง เรยี งลําดับเรอ่ื งราวที่ เรยี งลําดับเรื่องราวที่ ตอ เนื่อง ชัดเจน แสดงความสัมพันธ แสดงความสมั พันธ ใชถอยคาํ ภาษา เช่ือมโยงกนั อยาง เชือ่ มโยงกันอยาง ในการเขยี นถูกตอง ใชถอ ยคําไดถูกตอง ตอเนื่องคอนขาง ตอ เนื่องเปนบางสว น และสรุปขอ คดิ ไดเปน ตามหลกั เกณฑการ ชดั เจน สวนนอย เขียน สรุปขอ คิดเพื่อ นําไปประยุกตใ ชใน ใชถ อ ยคาํ ใชถอยคาํ ภาษาของ ชวี ติ ประจําวนั ได สื่อความหมายได ตนเองไดอ ยาง อยา งมเี หตุผล ชดั เจนเปนสว นใหญ ถูกตองสละสลวย สรุปขอ คิดเพ่ือนาํ ไป รอยรัดกลมกลืน ประยกุ ตใชใ น ส่อื ความหมายได ชวี ติ ประจําวันได ชดั เจนเปนบางสว น เกณฑการประเมิน ๑๐-๑๒ คะแนน หมายถึง ดมี าก ๗-๙ คะแนน หมายถึง ดี ๔-๖ คะแนน หมายถึง พอใช ๑-๓ คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ เกณฑก ารผา น ตั้งแตระดบั พอใช ข้นึ ไป

หนวยการเรยี นรูที่ ๕ เรอื่ ง วรรณกรรมคําสอน ช้นั ประถมศึกษาปท่ี ๔ ๕๕๙ แบบประเมนิ การเขียนสรุปขอ คิด ชอ่ื ผปู ระเมิน.................................................โรงเรียน................................ช้นั ............หนวยที่...........แผนที่......... คร้งั ท.ี่ .............................วันท.่ี ........................เดือน............................................พ.ศ. ......................................... ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คําชแี้ จง ครผู ูสอนทาํ เครื่องหมาย √ ลงในชอ งทผ่ี เู รียนแสดงพฤติกรรมตามเกณฑการเขียนสรุปขอ คดิ เน้อื หาสาระ แบบแผน การเขียน รวม ระดับ เลขท่ี ชื่อ-สกุล ความคิด สรุปขอ คิด (๑๒) คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑการประเมิน ๑๐-๑๒ คะแนน หมายถงึ ดีมาก ๗-๙ คะแนน หมายถงึ ดี ๔-๖ คะแนน หมายถงึ พอใช ๑-๓ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง เกณฑก ารผาน ต้งั แตระดบั พอใช ขนึ้ ไป

๕๖๐ คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) ๑๐. บนั ทึกผลหลังสอน แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๒ เรอื่ ง งดงามคาํ สอน (๒) ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาํ เร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ จาํ กัดการใชแ ผนการจัดการเรียนรู และขอเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแกไ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................................ผสู อน (..........................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. ๑๑. ความคดิ เห็น/ขอเสนอแนะของผบู ริหารหรือผูท ่ีไดร ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผูตรวจ (..........................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

หนว ยการเรียนรูท ่ี ๕ เร่ือง วรรณกรรมคําสอน ช้ันประถมศึกษาปท ่ี ๔ ๕๖๑ ใบงานที่ ๒ เรือ่ ง สรุปขอ คิด หนวยการเรยี นรูท่ี ๕ เรือ่ ง วรรณกรรมคําสอน แผนการจัดการเรียนรทู ่ี ๒ เรอ่ื ง งดงามคําสอน (๒) รายวิชา พืน้ ฐานภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๔๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๔ คาํ ชแ้ี จง ใหนกั เรยี นตอบคาํ ถามตอไปนี้ ๑. นกั เรยี นชอบตัวละครใดในเรือ่ ง “นํา้ ผง้ึ หยดเดียว” มากทส่ี ุด เพราะเหตุใด _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๒. นักเรียนไมชอบตัวละครใดในเรอื่ ง “น้ําผง้ึ หยดเดียว” มากที่สดุ เพราะเหตใุ ด _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๓. นักเรยี นอภปิ รายแลกเปล่ียนความคดิ เห็นกนั เกี่ยวกับปญ หาและสาเหตขุ องปญหาท่เี กดิ ขน้ึ จาก เร่ือง “นํา้ ผง้ึ หยดเดียว” _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๔. ขอ คดิ ท่ีไดจากเรอื่ ง “น้ําผึ้งหยดเดยี ว” คอื อะไร _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๕. นกั เรยี นจะนําขอคดิ ทไี่ ดไปใชใ นชีวิตประจําวันไดอยา งไร _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ชอ่ื -สกลุ .............................................................................................. ชัน้ .............. เลขที่ .............

๕๖๒ คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) เฉลยใบงานที่ ๒ เรอื่ ง สรุปขอคิด หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๕ เรอื่ ง วรรณกรรมคาํ สอน แผนการจดั การเรียนรทู ่ี ๒ เรื่อง งดงามคําสอน (๒) รายวชิ า พนื้ ฐานภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๔๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที่ ๔ คําชแี้ จง ใหนกั เรยี นตอบคําถามตอ ไปนี้ ๑. นักเรยี นชอบตวั ละครใดในเร่ือง “น้ําผ้งึ หยดเดียว” มากท่ีสดุ เพราะเหตุใด ___ก_า_ร_ต_ร_ว_จ_ค_ํา_ต_อ_บ_ข_น้ึ__อ_ย_ูใน__ด_ลุ _พ_นิ _ิจ_ข_อ__งค__รผู_ูส__อ_น_เ_น_่ือ_ง_จ_า_ก_น_ัก__เร_ยี _น_ส_า_ม_า_ร_ถ_แ_ส_ด__งค__วา_ม_ค__ิด_เห__็น_ได_ ___อ_ย_า _ง_ห_ล_า_ก_ห_ล_า_ย_________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๒. นักเรียนไมช อบตัวละครใดในเรอื่ ง “นํ้าผ้งึ หยดเดียว” มากทสี่ ดุ เพราะเหตุใด ___ก_า_ร_ต_ร_ว_จ_ค_ํา_ต_อ__บ_ข_้นึ _อ_ย_ูใ _น_ด_ลุ _พ__นิ _จิ _ข_อ_ง_ค_ร_ผู _สู _อ_น__เน__ื่อ_ง_จ_า_ก_น_กั _เ_รยี_น__ส_า_ม_า_ร_ถ_แ_ส_ด_ง_ค_ว_า_ม_ค_ิด_เ_ห_็น_ไ_ด ___อ_ย__าง_ห_ล__าก__ห_ล_า_ย________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๓. นักเรียนอภิปรายแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นกนั เก่ียวกับปญหาและสาเหตุของปญหาทีเ่ กิดขนึ้ จาก เรอ่ื ง “นํา้ ผ้ึงหยดเดยี ว” ___เ_ห_ต_กุ _า_ร_ณ__ท_ส่ี _า_ม_า_ร_ถ_แ_ก_ไ _ข_ได__ค _อื _ถ_า_เ_ป_น_เ_ด_ก็ _ค_น_ท__ี่ท_าํ _น_ํ้า_ผ_ง้ึ _ห_ก_จ_ะ_ต_อ_ง_เ_ช_ด็ _ใ_ห_ส _ะ_อ_า_ด_เ_ร_ีย_บ_ร_อ _ย_ก_อ _น_ ___เ_ด_ิน_ไ_ป_ต_อ__เน__ื่อ_งจ__าก__ส_า_เห_ต_ุข__อ_งป__ญ _ห_า_เ_ก_ิด_จ_า_ก_น_ํา้_ผ_ง้ึ________________________________ _______________________________________________________________________ ๔. ขอคิดทไี่ ดจากเรื่อง “นํ้าผึง้ หยดเดียว” คืออะไร ___อ_ย_า _ห_ุน_ห__นั _พ_ล_นั_แ_ล__น_เ_ม_ือ่ _ไ_ด_ฟ _ง_ห_ร_อื_ไ_ด_เ_ห_น็ _ส_งิ่_ใ_ด_ต_อ_ง_พ_ิจ_า_ร_ณ__าใ_ห_ร_อ_บ__ค_อ_บ_ถ_ึง_ผ_ล_ด_ี___________ ___ผ_ล_เ_ส_ยี _ต_อ_ต_น_เ_อ_ง_แ_ล_ะ_ผ_อู _่นื__ก_อ _น_ท_จี่ _ะ_เ_ช_อื่ _ห_ร_ือ_ป_ฏ__ิบ_ตั _ิต_า_ม______________________________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________ ๕. นกั เรยี นจะนาํ ขอคดิ ทีไ่ ดไ ปใชในชีวิตประจาํ วนั ไดอยา งไร ___-_พ_จิ__าร_ณ__า_ไต__ร_ต _ร_อ_งท__ุก_ส_ิง่ _ท_ุก_อ_ย_า_ง_ก_อ _น_ล_ง_ม_อื_ป__ฏ_ิบ_ตั _สิ_่งิ_ใ_ด__เพ_่อื__ไม_ใ_ห_เ_ก_ิด_ผ_ล_เ_ส_ีย_ท_่ตี _า_ม_ม_า_______ ___-_ค_ดิ_ไ_ต_ร_ต_ร_อ_ง_ใ_ห_ร_อ_บ_ค_อ_บ__ห_า_ต_น_ส_า_ย_ป_ล_า_ย_เ_ห_ต_ุข_อ__งป__ญ_ห_า_แ_ล_ะ_แ_ก__ไข_ป__ญ _ห_า_ใ_ห_ถ_ูก_จ_ดุ __________ _______________________________________________________________________ _______________________________________________________________________

หนวยการเรยี นรูที่ ๕ เรอื่ ง วรรณกรรมคําสอน ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี ๔ ๕๖๓ แผนการจดั การเรียนรูท ่ี ๓ เรื่อง อาขยานขานไข (๑) หนวยการเรียนรูที่ ๕ เร่ือง วรรณกรรมคาํ สอน เวลา ๑ ชว่ั โมง กลุมสาระการเรยี นรภู าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ ๔ ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วัด สาระที่ ๑ การอาน มาตรฐานการเรียนรู ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพ่ือนําไปใชตัดสินใจ แกป ญ หาในการดาํ เนินชวี ติ และมนี สิ ัยรกั การอา น ตวั ชว้ี ัด ป.๔/๑ อา นออกเสียงบทรอ ยแกว และบทรอยกรองไดถูกตอง สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐานการเรยี นรู ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณวรรณคดีและวรรณกรรมไทย อยางเหน็ คณุ คา และนาํ มาประยุกตใชในชีวิตจริง ตัวชว้ี ัด ป. ๔/๔ ทองจําบทอาขยานตามท่ีกําหนด และบทรอยกรองทมี่ คี ุณคา ตามความ สนใจ ๒. สาระสาํ คัญ/ความคิดรวบยอด ปากเปนเอก เลขเปนโท หนังสือเปนตรี ชั่วดีเปนตรา ผลงานประพันธของทานผูหญิงสมโรจน สวัสดิ กลุ ณ อยุธยา แตงเปน กลอนแปด ๔ บท เพอื่ อธบิ ายขยายความสุภาษติ ใชคําเขา ใจงาย มคี วามไพเราะ เนื้อหา ใหขอคิด ช้ีใหเห็นความสําคัญตามลําดับ ไดแก การพูด การคิดคํานวณ การศึกษาเลาเรียน และความดีงาม วา แตล ะสง่ิ มีความสาํ คัญเชน ไร ๓. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ๓.๑ ดานความรู ความเขา ใจ (K) - บอกหลกั การอา นบทอาขยานได ๓.๒ ดานทักษะ/กระบวนการ (P) - ทองบทอาขยานปากเปนเอก เลขเปน โท หนังสอื เปน ตรี ชั่วดีเปน ตรา ได ๓.๓ ดานคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คานิยม (A) - เห็นคณุ คาของการทองบทอาขยาน ๔. สาระการเรียนรู ๔.๑ บทอาขยานปากเปนเอก เลขเปน โท หนังสือเปนตรี ช่วั ดีเปน ตรา ๔.๒ การทองบทอาขยาน ๕. สมรรถนะสําคญั ของผเู รยี น ๕.๑ ความสามารถในการแกปญหา ๕.๒ ความสามารถในการคดิ

๕๖๔ คูมือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) ๖. คุณลักษณะอนั พึงประสงค ๖.๑ รักความเปน ไทย ๖.๒ ใฝเ รยี นรู ๖.๓ มงุ มนั่ ในการทํางาน ๗. กจิ กรรมการเรยี นรู

หนวยการเรียนรทู ่ี ๕ เร่ือง วรรณกรรมคําสอน ช้ันประถมศึกษาปท ี่ ๔ การจัดกิจกรรมการเรยี น หนวยการเรยี นรูที่ ๕ เร่ือง วรรณ รายวิชา ภาษาไทย แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๓ ลาํ ดบั จดุ ประสงคการเรียนรู ข้ันตอนการ เวลา แนวก ท่ี จัดการเรยี นรู ที่ใช กจิ กรรมครู ๑. ขอบเขตเน้อื หา ขัน้ นาํ ๕ นาที ๑. ครยู กตัวอยา งสาํ นวนไทย - การทอ งจาํ บท นกั เรียนอา นพรอมกนั ดังนี้ อาขยานปากเปนเอก - พดู ดเี ปน ศรีแกป าก เลขเปน โท หนังสอื - รูไ วใชวาใสบาแบกหาม เปนตรี ชั่วดีเปน ตรา - ฝนท่งั ใหเ ปนเขม็ - รักดีหามจ่วั รักชัว่ หามเส - ปด ทองหลังพระ ๒. ครถู ามคําถามนกั เรียน ดัง ครู : นกั เรยี นลองพิจารณาดวู สาํ นวนทค่ี รูยกตัวอยางมา กลา วถึงเร่อื งใด

นรู ชั้นประถมศึกษาปที่ ๔ ๕๖๕ ณกรรมคําสอน จํานวน ๙ ช่วั โมง การประเมนิ ๓ เรือ่ ง อาขยานขานไข (๑) จาํ นวน ๑ ช่วั โมง การเรยี นรู การจัดการเรยี นรู สื่อการเรียนรู กิจกรรมนกั เรียน ๑. สื่อนาํ เสนอ Power Point เรื่อง อาขยาน ยให ๑. นักเรียนอานสาํ นวนท่คี รู ขานไข (๑) ยกตวั อยาง และอธบิ าย ความหมายของสาํ นวน สา งนี้ ๒. นักเรยี นพจิ ารณาสํานวน ๒. ใบความรูท่ี ๒ เรือ่ ง ๑. การตอบคาํ ถาม วา และอภิปรายสาํ นวนรว มกัน การอานและทองจํา บทอาขยาน ดงั นี้ - พูดดีเปน ศรีแกป าก (การพูด) - รูไวใชวาใสบาแบกหาม (การเรยี นหนงั สือ) - ฝนทัง่ ใหเ ปนเขม็ (ความ ขยันหม่นั เพยี รในการเรียน)

๕๖๖ แนวก ลาํ ดบั จุดประสงคการเรยี นรู ขน้ั ตอนการ เวลา กิจกรรมครู ที่ จัดการเรียนรู ที่ใช ๒. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ขั้นสอน ๓. ครูเชือ่ มโยงความคิดของ นักเรยี นสูก ารอานบทอาขยา “ปากเปนเอก เลขเปน โท หนงั สอื เปนตรี ช่ัวดเี ปนตรา” และแจงจุดประสงคการเรยี น ใหนกั เรียนทราบ ๒๐ นาที ๑. ครูถามคาํ ถามนกั เรียน ดัง ครู : นกั เรียนเคยทอ งบทอาขย หรือไม ครู : การทองบทอาขยานคือ อะไร (ครชู ีน้ ําใหนักเรยี นศึกษ ใบความรูท ี่ ๒ เร่ือง การอาน และทองจําบทอาขยาน)

คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๔) การจดั การเรียนรู สื่อการเรยี นรู การประเมิน กจิ กรรมนกั เรยี น การเรยี นรู - รกั ดหี ามจ่วั รักช่ัวหามเสา (การใฝดี ละเวน ความชวั่ ) - ปด ทองหลงั พระ (การทํา ความดแี ตไมไ ดร ับการยกยอ ง เพราะไมมใี ครเหน็ คุณคา) าน ” น งน้ี ๑. นักเรยี นตอบคําถาม ดังนี้ ๓. ใบความรูท่ี ๒ เรอ่ื ง ๒. การตอบคําถาม ขยาน นกั เรยี น : เคยทอ งบทอาขยาน การอา นและทองจาํ ๓. การตอบคําถาม จากวรรณคดีเร่ืองพระอภยั มณี บทอาขยาน อ นกั เรียน : การทองจาํ ขอความ ษา หรือคาํ ประพนั ธท ี่ชอบ น บทรอ ยกรองที่ไพเราะ โดยอาจ ตัดตอนมาจากหนงั สือวรรณคดี เพื่อใหทอ งจาํ ได และเหน็ ความงามของบทรอยกรอง

หนวยการเรียนรูท่ี ๕ เรื่อง วรรณกรรมคําสอน ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี ๔ ลําดับ จุดประสงคการเรยี นรู ขนั้ ตอนการ เวลา แนวก ที่ จดั การเรียนรู ท่ีใช กจิ กรรมครู ๒. ครนู าํ เสนอบทอาขยาน ใหนักเรียนรูจ ัก “ปากเปนเอก เลขเปนโท หนังสอื เปน ตรี ช่วั เปน ตรา” ๑. บอกหลักการอาน ๓. ครถู ามคาํ ถามนักเรียน ดัง บทอาขยานได ครู : บทอาขยานทน่ี กั เรียนอ เปนคาํ ประพนั ธป ระเภทใด ครู : การแบง วรรคตอนใน การอา นกลอนแปดแบง ได อยา งไร (ครูช้นี ําใหนกั เรียน ศึกษาใบความรูที่ ๒ เรื่อง การอานและทองจําบทอาขย ๔. ครใู หนักเรยี นชว ยกนั แบง วรรคตอนในการอานบท อาขยาน และฝกอานเปน รอยแกว ๑ รอบ ๕. ครูพานักเรียนอานบทอาขย เปนทาํ นองเสนาะทลี ะวรรค