64-07-28-คู่มือครู คณิต ป.3 หน่วยที่ 4

กลุม่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๕ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ แนวคิด นบั เวลาถอยหลงั จากเวลาส้นิ สุด บนเสน้ จ�ำ นวน ได้ดังน้ี 5 นาที 10 นาที 10 นาที 10 นาที 10 นาที 08.05 น. 08.10 น. 08.20 น. 08.30 น. 08.40 น. 08.50 น. ดังน้ัน เพชรเรมิ่ ล้างรถเวลา 8 นาฬกิ า 5 นาที ขัน้ สรปุ 3. ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล โดยครเู ขยี นโจทย์บนกระดาน ให้นกั เรียน ทำ�ในสมดุ ดงั น้ี 47 แพมทำ�การบา้ นเสร็จเวลา 19.35 น. ใช้เวลาทำ�การบ้าน 25 นาที แพมเร่มิ ท�ำ การบ้านเวลาใด เมอื่ นักเรยี นท�ำ เสร็จ ครูสุ่มตวั แทนนกั เรยี นออกมาแสดงวิธหี าค�ำ ตอบ ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปวา่ - การบอกระยะเวลาอาจบอกเปน็ ชั่วโมงและนาที โดยนับเวลาเรม่ิ ต้นจนถึงเวลาสิน้ สุด - การหาเวลาเร่มิ ต้นกิจกรรมท�ำ ไดโ้ ดยนับเวลาถอยหลงั จากเวลาสิน้ สุดเป็นระยะเวลา ท่ใี ชท้ ำ�กิจกรรม จากนั้นใหน้ ักเรยี นทำ�แบบฝึกหัด 4.5

48 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ขนั้ น�ำ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๖ ข้นั สอน ขั้นสรุป แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล ทบทวนความสมั พนั ธ์ของระยะเวลาท่มี หี นว่ ยเป็นชวั่ โมงกบั นาที จัดกิจกรรมเปลย่ี นหนว่ ยเวลาท่มี ีหนว่ ยช่วั โมงและนาทเี ป็นนาที ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนเปน็ รายบุคคลเกยี่ วกับการเปล่ียนหนว่ ยเวลา ทีม่ ีหน่วยชว่ั โมงและนาทีเป็นนาที ใบกิจกรรม 4.3 และ แบบฝึกหัด 4.6 - ประเมนิ จากการตอบคำ�ถาม การท�ำ ใบกิจกรรม 4.3 และการท�ำ แบบฝกึ หดั 4.6 - ประเมนิ จากการแก้ปญั หา และการสื่อสารและสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์

กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๖ ช้นั ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชั่วโมง ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขอบเขตเน้อื หา กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เสน้ จ�ำ นวน การเปล่ียนหนว่ ยเวลาที่มี ขน้ั น�ำ 2. ใบกิจกรรม 4.3 หนว่ ยชว่ั โมงและนาทเี ปน็ นาที 1. ครูหมนุ นาฬกิ าแบบเข็มเพอื่ ทบทวนว่าเขม็ ยาวหมนุ ไป 1 รอบ เปน็ ระยะเวลา 60 นาที 3. แบบฝกึ หัด 4.6 เขม็ สน้ั จะเคล่ือนท่ไี ป 1 ช่องใหญ่ เปน็ ระยะเวลา 1 ช่ัวโมง ดงั น้นั ระยะเวลา 1 ชัว่ โมง เทา่ กับ สาระส�ำ คัญ 60 นาที ครถู ามนักเรียนว่า ระยะเวลา 2 ช่วั โมง เทา่ กบั กนี่ าที (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ) การประเมนิ 1. 1 ชวั่ โมง เทา่ กับ 60 นาที ขัน้ สอน 1. วธิ ีการ 2. การเปล่ยี นหน่วยเวลาท่มี ี 2. ครูจัดกจิ กรรมการเปล่ียนหน่วยเวลาทม่ี หี น่วยชวั่ โมงเป็นนาที โดยใชค้ วามสมั พันธ์ 1 ชวั่ โมง 1.1 สงั เกตพฤติกรรม หน่วยช่วั โมงและนาทีเป็น เทา่ กับ 60 นาที โดยใช้ค�ำ ถาม ดงั นี้ การเรียนรู้ นาที ใหน้ ำ�จ�ำ นวนชวั่ โมงคูณ 1) 2 ชวั่ โมง เท่ากับกีน่ าที (120 นาที) คิดได้อยา่ งไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ) เชน่ 1.2 ตรวจใบกจิ กรรม ด้วย 60 นาที หากมีหน่วย 1.3 ตรวจแบบฝึกหดั นาทใี ห้น�ำ ไปบวกเพมิ่ แนวคิด ใช้เส้นจำ�นวนแสดงวธิ คี ิด ได้ดงั น้ี 2. เครื่องมือ 2.1 ใบกจิ กรรม 4.3 จุดประสงค์การเรียนรู้ 60 นาที 60 นาที 2.2 แบบฝึกหัด 4.6 2.3 แบบประเมินทักษะ ดา้ นความรู้ และกระบวนการทาง เพื่อให้นกั เรียนสามารถ คณติ ศาสตร์ เปล่ียนหนว่ ยเวลาที่มหี นว่ ย 0 1 ชม. 2 ชม. 3. เกณฑ์ ช่วั โมงและนาทีเปน็ นาที 3.1 ผลงานมีความถูกตอ้ ง 1 ช่วั โมง เทา่ กบั 60 นาที ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 2 ช่ัวโมง เทา่ กับ 60 + 60 หรือ 2 × 60 = 120 นาที ดังนั้น 2 ชั่วโมง เทา่ กบั 120 นาที 49

50 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖ ชน้ั ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 2) 4 ช่ัวโมง เท่ากับกน่ี าที (240 นาที) คิดได้อยา่ งไร (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจ) เช่น 3.2 คะแนนรวม ดา้ นทกั ษะ ทางคณติ ศาสตร์ แนวคิด ใชเ้ สน้ จ�ำ นวนแสดงวธิ คี ิด ได้ดังนี้ และกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ ไมน่ ้อยกว่า เพ่ือใหน้ ักเรียนสามารถ 60 นาที 60 นาที 60 นาที 60 นาที ร้อยละ 60 1. แกป้ ญั หา 2. สื่อสารและสอ่ื ความหมาย 0 1 ชม. 2 ชม. 3 ชม. 4 ชม. ทางคณิตศาสตร์ 1 ช่วั โมง เทา่ กับ 60 นาที 4 ชั่วโมง เทา่ กับ 60 + 60 + 60 + 60 หรือ 4 × 60 = 240 นาที ดังน้ัน 4 ช่ัวโมง เท่ากับ 240 นาที 3) 12 ชั่วโมง เท่ากบั กี่นาที (720 นาท)ี คิดได้อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ) เชน่ เน่ืองจาก 12 ช่ัวโมง เท่ากบั 6 ช่วั โมง กับ 6 ช่ัวโมง 6 ชัว่ โมง เท่ากบั 60 + 60 + 60 + 60 + 60 + 60 หรือ 6 × 60 = 360 นาที 12 ช่วั โมง เทา่ กับ 360 + 360 = 720 นาที ดังนน้ั 12 ชั่วโมง เทา่ กบั 720 นาที 3. ครูจัดกิจกรรมการเปลี่ยนหนว่ ยเวลาทีม่ ีหน่วยชั่วโมงและนาทเี ป็นนาที โดยใชค้ วามสมั พันธ์ 1 ช่ัวโมง เท่ากบั 60 นาที โดยใช้ค�ำ ถาม ดงั นี้

กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๖ ช้ัน ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ 1) 1 ช่วั โมง 30 นาที เท่ากบั กน่ี าที (90 นาท)ี คิดได้อย่างไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ) เชน่ แนวคดิ 60 นาที 30 นาที 0 1 ชม. 2 ชม. 1 ชวั่ โมง 30 นาที เท่ากบั 60 + 30 = 90 นาที ดงั นั้น 1 ชว่ั โมง 30 นาที เท่ากบั 90 นาที 2) 2 ชว่ั โมง 47 นาที เทา่ กบั กน่ี าที (167 นาท)ี คดิ ไดอ้ ยา่ งไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ) เชน่ แนวคดิ 60 นาที 60 นาที 47 นาที 0 1 ชม. 2 ชม. 3 ชม. 2 ช่ัวโมง เทา่ กบั 60 + 60 หรือ 2 × 60 = 120 นาที 2 ช่วั โมง กับ 47 นาที เท่ากบั 120 + 47 = 167 นาที ดังนน้ั 2 ช่ัวโมง 47 นาที เท่ากับ 167 นาที 51

52 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุม่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ ช้ัน ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง ข้นั สรุป 4. ครใู หน้ กั เรียนจบั คู่กนั ทำ�ใบกิจกรรม 4.3 ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจความถูกต้อง และร่วมกัน สรุปว่า การเปลีย่ นหนว่ ยเวลาท่ีมีหนว่ ยช่ัวโมงและนาทีเปน็ นาที ให้นำ�จำ�นวนชั่วโมงคูณดว้ ย 60 นาที หากมหี นว่ ยนาทีให้นำ�ไปบวกเพิ่ม จากนน้ั ใหน้ กั เรียนท�ำ แบบฝกึ หดั 4.6

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขนั้ นำ� แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๗ ขน้ั สอน ขั้นสรปุ แนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล ทบทวนการเปลี่ยนหนว่ ยเวลาท่มี ีหน่วยช่ัวโมงและนาทเี ปน็ นาที จัดกิจกรรมเปล่ยี นหนว่ ยเวลาท่ีมหี นว่ ยนาทีเปน็ ชั่วโมงและนาที ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล เกยี่ วกบั การเปลี่ยนหนว่ ยเวลาทีม่ หี นว่ ยนาทีเป็นชัว่ โมงและนาที ใบกจิ กรรม 4.4 และ แบบฝึกหัด 4.7 - ประเมนิ จากการตอบคำ�ถาม การท�ำ ใบกิจกรรม 4.4 และการท�ำ แบบฝกึ หัด 4.7 - ประเมนิ จากการแกป้ ัญหา และการสอื่ สารและสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 53

54 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๗ ชนั้ ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ช่ัวโมง สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ ขอบเขตเน้ือหา กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. บตั รระยะเวลา การเปล่ียนหน่วยเวลาท่มี ี ข้ันนำ� 2. ใบกิจกรรม 4.4 หนว่ ยนาทเี ปน็ ชว่ั โมงและนาที 1. ครทู บทวนการเปลีย่ นหน่วยเวลาทีม่ ีหนว่ ยชว่ั โมงและนาทีเป็นนาที โดยครูถามวา่ ระยะเวลา 3. แบบฝึกหัด 4.7 1 ชว่ั โมง เทา่ กบั กนี่ าที (60 นาที) ครูติดบัตรระยะเวลาเปน็ ชั่วโมง ให้นกั เรยี นเปล่ยี นระยะเวลา สาระสำ�คญั เป็นนาที ดงั น้ี การประเมิน 1. 1 ช่วั โมง เทา่ กบั 5 ชวั่ โมง 3 ชว่ั โมง 18 นาที 1. วธิ กี าร 60 นาที 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรม 2. การเปล่ียนหนว่ ยเวลา ครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยค�ำ ตอบ ดังน้ี การเรียนรู้ ทมี่ หี นว่ ยนาทเี ปน็ ชว่ั โมงและ 1.2 ตรวจใบกจิ กรรม นาที หาจ�ำ นวนชว่ั โมงได้โดย 5 ชว่ั โมง 3 ชว่ั โมง 18 นาที 1.3 ตรวจแบบฝึกหัด หาว่าจ�ำ นวนใดคณู ดว้ ย 60 2. เคร่อื งมอื แล้วได้เทา่ กบั จำ�นวนนาที 5 ช่วั โมง เทา่ กบั 5 × 60 = 300 นาที 3 ชั่วโมง เทา่ กับ 3 × 60 = 180 นาที 2.1 ใบกิจกรรม 4.4 หรอื ใกล้เคยี ง และหาจ�ำ นวน 3 ชั่วโมง 18 นาที เท่ากับ 180 + 18 = 198 นาที 2.2 แบบฝึกหดั 4.7 นาทีที่ไม่เตม็ ชวั่ โมงดว้ ย 2.3 แบบประเมนิ ทักษะ การลบ ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ วา่ การเปล่ยี นหน่วยเวลาทมี่ หี น่วยชว่ั โมงและนาทเี ป็นนาที ให้นำ� และกระบวนการทาง จำ�นวนชั่วโมงคูณดว้ ย 60 นาที หากมีหนว่ ยนาทใี ห้น�ำ ไปบวกเพมิ่ คณติ ศาสตร์ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3. เกณฑ์ 3.1 ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง ด้านความรู้ ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80 เพือ่ ให้นกั เรียนสามารถ เปลีย่ นหนว่ ยเวลาทมี่ ีหนว่ ย นาทเี ปน็ ชว่ั โมงและนาที

กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๗ ช้ัน ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชั่วโมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ด้านทกั ษะและกระบวนการ ขนั้ สอน 3.2 คะแนนรวมดา้ นทักษะ ทางคณิตศาสตร์ 2. ครูจัดกิจกรรมเปล่ียนหนว่ ยเวลาท่ีมหี นว่ ยนาทีเป็นช่วั โมง และนาที โดยใช้เส้นจ�ำ นวน และกระบวนการทาง Bar Model และความสมั พนั ธก์ ารคูณและการหาร ดังน้ี คณติ ศาสตร์ไม่นอ้ ยกวา่ เพ่ือให้นักเรียนสามารถ 1) 120 นาที เทา่ กบั ก่ีชัว่ โมง (2 ช่ัวโมง) รอ้ ยละ 60 1. แก้ปญั หา 2. สอ่ื สาร และสอ่ื ความหมาย แนวคดิ ที่ 1 ใชก้ ารนบั เวลาบนเสน้ จ�ำ นวน ทางคณิตศาสตร์ 120 นาที 60 นาที 60 นาที 0 1 ชม. 2 ชม. 60 นาที เท่ากับ 1 ช่ัวโมง 120 = 60 + 60 นาที เท่ากับ 2 ช่ัวโมง ดังน้ัน 120 นาที เท่ากับ 2 ชั่วโมง แนวคิดที่ 2 ใช้ Bar Model 120 นาที 60 นาที 60 นาที 1 ชม. 1 ชม. 60 นาที เท่ากบั 1 ช่วั โมง 60 + 60 = 120 นาที เทา่ กบั 2 ชั่วโมง ดังน้นั 120 นาที เท่ากบั 2 ช่ัวโมง 55

56 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๗ ช้ัน ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง แนวคิดท่ี 3 ใช้ความสมั พนั ธ์ของการคูณและการหาร คดิ จาก × 60 = 120 เนื่องจาก 2 × 60 = 120 ดังนน้ั 120 นาที เทา่ กับ 2 ชว่ั โมง 3) 240 นาที เท่ากับกชี่ ว่ั โมง แนวคดิ ท่ี 1 ใช้ Bar Model 240 นาที 60 นาที 60 นาที 60 นาที 60 นาที 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 60 นาที เทา่ กับ 1 ช่ัวโมง 60 + 60 + 60 + 60 = 240 นาที เท่ากบั 4 ชั่วโมง ดังน้นั 240 นาที เทา่ กบั 4 ช่วั โมง แนวคิดที่ 2 ใช้ความสัมพันธ์การคูณและการหาร 4 คูณ 6 สิบ เทา่ กับ 24 สิบ คิดจาก × 60 = 240 เนอ่ื งจาก 4 × 60 = 240 ดงั นน้ั 240 นาที เทา่ กับ 4 ชั่วโมง ครเู ขียนโจทยบ์ นกระดาน ให้นกั เรยี นจบั คกู่ ันเปล่ยี นหนว่ ยเวลา และเขียนคำ�ตอบลงในสมดุ

กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๗ ชนั้ ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชวั่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ 4) 420 นาที เทา่ กับกช่ี ว่ั โมง 60 นาที 60 นาที 60 นาที ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยและตรวจคำ�ตอบ เชน่ แนวคดิ ท่ี 1 ใช้ Bar Model 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 420 นาที 60 นาที 60 นาที 60 นาที 60 นาที 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 60 นาที เทา่ กับ 1 ชั่วโมง 60 + 60 + 60 + 60 + 60 + 60 = 420 นาที เท่ากบั 7 ช่ัวโมง ดังนั้น 420 นาที เท่ากบั 7 ชวั่ โมง แนวคดิ ท่ี 2 ใชค้ วามสมั พนั ธ์การคณู และการหาร 7 คูณ 6 สบิ เท่ากบั 42 สิบ คดิ จาก × 60 = 420 เนอื่ งจาก 7 × 60 = 420 ดงั นน้ั 420 นาที เท่ากับ 7 ชัว่ โมง 3. ครจู ัดกิจกรรมเปลยี่ นหนว่ ยเวลาท่มี หี นว่ ยนาทเี ปน็ ชั่วโมงและนาที โดยใช้ Bar Model และ ความสัมพนั ธก์ ารคูณและการหาร ดังนี้ 57

58 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๗ ชน้ั ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง 1) 90 นาที เทา่ กับกชี่ ่ัวโมง กนี่ าที 90 นาที แนวคิดที่ 1 ใช้ Bar Model 60 นาที 30 นาที 1 ชม. 90 นาที เทา่ กับ 60 + 30 นาที 60 นาที เท่ากบั 1 ช่วั โมง ดงั นนั้ 90 นาที เทา่ กบั 1 ช่วั โมง 30 นาที 1 × 60 = 60 แนวคดิ ท่ี 2 ใช้ความสมั พันธก์ ารคณู และการหาร 2 × 60 = 120 (มากกว่า 90) คดิ จาก × 60 = 90 จะไดว้ ่า 1 × 60 = 60 กบั อกี 90 – 60 = 30 นาที ดังนั้น 90 นาที เท่ากบั 1 ช่วั โมง 30 นาที 2) 135 นาที เทา่ กบั ก่ชี ัว่ โมงกีน่ าที 135 นาที แนวคดิ ที่ 1 ใช้ Bar Model 60 นาที 15 นาที 60 นาที 1 ชม. 1 ชม.

กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๗ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชวั่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ 135 นาที เท่ากบั 60 + 60 + 15 นาที หรือ 120 + 15 นาท ี 60 นาที เท่ากบั 1 ชว่ั โมง 120 นาที เทา่ กบั 2 ชว่ั โมง ดังน้นั 135 นาที เท่ากับ 2 ชวั่ โมง 15 นาที 2 × 60 = 120 แนวคิดท่ี 2 ใช้ความสัมพนั ธ์การคณู และการหาร 3 × 60 = 180 (มากกว่า 135) คดิ จาก × 60 = 135 เนอื่ งจาก 2 × 60 = 120 กบั อีก 135 – 120 = 15 นาที ดงั น้นั 135 นาที เท่ากบั 2 ช่วั โมง 15 นาที 3) 250 นาที เท่ากับกี่ช่ัวโมงก่นี าที 250 นาที แนวคดิ ที่ 1 ใช้ Bar Model 60 นาที 60 นาที 60 นาที 60 นาที น1า0ที 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 250 นาที เท่ากับ 60 + 60 + 60 + 60 + 10 นาที หรือ 240 + 10 นาที 60 นาที เท่ากับ 1 ชั่วโมง 240 นาที เท่ากับ 4 ช่ัวโมง ดังนนั้ 250 นาที เทา่ กบั 4 ชวั่ โมง 10 นาที 59

60 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๗ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง แนวคิดที่ 2 ใช้ความสัมพันธก์ ารคูณและการหาร คดิ จาก × 60 = 250 เนือ่ งจาก 4 × 60 = 240 กบั อกี 250 – 240 = 10 นาที ดงั น้ัน 250 นาที เท่ากบั 4 ชั่วโมง 10 นาที ข้นั สรุป 4. ครูใหน้ ักเรยี นจบั ค่กู ันทำ�ใบกิจกรรม 4.4 เมอ่ื นกั เรยี นทำ�เสร็จแลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลย และตรวจความถูกตอ้ ง และร่วมกนั สรปุ วา่ การเปลย่ี นหนว่ ยเวลาที่มีหน่วยนาทเี ป็นชวั่ โมงและนาที หาจำ�นวนช่ัวโมงได้โดยหาว่า จ�ำ นวนใดคูณด้วย 60 แลว้ ไดเ้ ท่ากับจำ�นวนนาทีหรอื ใกลเ้ คียง และหาจำ�นวนนาทที ่ีไมเ่ ตม็ ช่วั โมงดว้ ยการลบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนท�ำ แบบฝึกหัด 4.7

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขั้นน�ำ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ ขัน้ สอน ข้ันสรุป แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล สนทนากับนักเรียนเกี่ยวกบั ระยะเวลา ครจู ดั กจิ กรรมการเปรยี บเทียบระยะเวลาท่ีมีหนว่ ยเดียวกนั และหนว่ ยตา่ งกัน ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเป็นรายบคุ คล เกยี่ วกับการเปรยี บเทยี บระยะเวลาที่มหี นว่ ยเดียวกันและหน่วยต่างกันในใบกจิ กรรม 4.5 แบบฝกึ หัด 4.8 - ประเมนิ จากการตอบค�ำ ถาม การท�ำ ใบกิจกรรม 4.5 และการท�ำ แบบฝึกหดั 4.8 - ประเมินจากการแกป้ ัญหา และการส่อื สารและส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 61

62 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๘ ช้นั ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชั่วโมง สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ ขอบเขตเน้ือหา กิจกรรมการเรียนรู้ 1. บัตรภาพ การเปรยี บเทียบระยะ ขั้นนำ� 2. ใบกจิ กรรม 4.5 เวลาทีม่ ีหน่วยเดียวกันและ 1. ครูสนทนากบั นักเรียนเกยี่ วกับการเทย่ี วสวนสัตว์ นักเรียนใชเ้ วลาทอ่ งเทีย่ วในสวนสตั ว์ 3. แบบฝกึ หดั 4.8 หน่วยต่างกนั มากนอ้ ยเพียงใด ครตู ดิ บัตรภาพและสถานการณ์บนกระดาน ดงั นี้ การประเมนิ สาระสำ�คญั นนุ่ ใช้เวลาเทย่ี วสวนสตั ว์ 4 ชวั่ โมง 45 นาที 1. วิธกี าร การเปรียบเทียบระยะเวลา ณฐั ใช้เวลาเท่ยี วสวนสัตว์ 5 ชั่วโมง 10 นาที 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรม - ถา้ ระยะเวลามหี นว่ ย การเรยี นรู้ เดยี วกันใหน้ �ำ หน่วยเดียวกัน ใครใชเ้ วลามากกว่ากัน 1.2 ตรวจใบกิจกรรม มาเปรียบเทียบกัน 1.3 ตรวจแบบฝึกหัด - ถา้ ระยะเวลามหี น่วย ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั หาค�ำ ตอบ พร้อมให้เหตผุ ลตามความเข้าใจ 2. เครอื่ งมือ ตา่ งกันต้องเปลยี่ นหนว่ ยเวลา ขนั้ สอน 2.1 ใบกจิ กรรม 4.5 ใหเ้ ป็นหน่วยเดยี วกันก่อน 2. ครสู ุ่มตัวแทนนักเรยี นออกมานำ�เสนอค�ำ ตอบและแนวคิด ซ่ึงจะอาจท�ำ ไดห้ ลายวิธี เชน่ 2.2 แบบฝึกหดั 4.8 แลว้ น�ำ เวลามาเปรียบเทยี บ แนวคดิ ท่ี 1 เปรยี บเทียบระยะเวลาโดยเทียบกบั 5 ชัว่ โมง 2.3 แบบประเมนิ ทักษะ กัน และกระบวนการ เน่ืองจาก น่นุ ใช้เวลา 4 ชวั่ โมง 45 นาที ใช้เวลาไมถ่ งึ 5 ช่ัวโมง ทางคณติ ศาสตร์ แตณ่ ัฐใชเ้ วลา 5 ชั่วโมง 10 นาที ใชเ้ วลามากกวา่ 5 ชว่ั โมง ดังนน้ั ณฐั ใชเ้ วลาเท่ยี วสวนสัตว์มากกว่านนุ่

กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ แนวคิดท่ี 2 น�ำ จำ�นวนช่ัวโมงมาเปรียบเทยี บกัน 3. เกณฑ์ เนื่องจาก 5 ช่ัวโมง มากกว่า 4 ช่วั โมง 3.1 ผลงานมีความถกู ต้อง ด้านความรู้ ดงั นน้ั 5 ชวั่ โมง 10 นาที มากกว่า 4 ชั่วโมง 45 นาที ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 เพ่อื ใหน้ ักเรียนสามารถ ครูแนะน�ำ วา่ การเปรียบเทียบระยะเวลาเปน็ ชัว่ โมงและนาที จำ�นวนช่ัวโมงมากกว่าระยะเวลา 3.2 คะแนนรวมดา้ นทกั ษะ เปรียบเทยี บระยะวลาที่มี และกระบวนการทาง หนว่ ยเดียวกนั และหนว่ ย นนั้ จะมากกวา่ คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกวา่ ตา่ งกัน รอ้ ยละ 60 ด้านทกั ษะและกระบวนการ 3. ครยู กตัวอย่างสถานการณเ์ พ่ิมเตมิ เพ่ือให้นกั เรยี นเปรียบเทยี บระยะเวลาท่มี หี น่วยเดียวกนั เชน่ ทางคณิตศาสตร์ นักเตน้ ร�ำ ใชเ้ วลาซ้อมการแสดง 4 ชั่วโมง 15 นาที นักดนตรีใชเ้ วลาซอ้ มการแสดง 4 ชว่ั โมง 32 นาที เพ่อื ให้นักเรยี นสามารถ 1. แกป้ ัญหา ครูถามวา่ 2. ส่ือสารและส่ือ - ใครใช้เวลาซ้อมการแสดงมากกวา่ (นกั ดนตรี) ความหมายทางคณิตศาสตร์ - ทราบไดอ้ ย่างไร (ตอบตามความเข้าใจ เชน่ ท้งั คูใ่ ชเ้ วลาซ้อมการแสดงอยา่ งน้อย 4 ชวั่ โมง เทา่ กัน แตน่ ักดนตรใี ชเ้ วลาทเี่ ป็นนาทมี ากกว่า เนื่องจาก 32 มากกวา่ 15) ครเู ขียนบนกระดาน ดงั นี้ นกั เตน้ ร�ำ ใช้เวลาซอ้ มการแสดง 4 ชว่ั โมง 15 นาที นักดนตรใี ช้เวลาซอ้ มการแสดง 4 ชว่ั โมง 32 นาที 63

64 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๘ ช้ัน ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง แนวคดิ เปรยี บเทียบจ�ำ นวนชั่วโมงได้ 4 ชั่วโมงเทา่ กัน พจิ ารณาทจ่ี ำ�นวนนาทีจะไดว้ า่ 32 มากกว่า 15 ดงั น้ัน 4 ช่ัวโมง 32 นาที มากกว่า 4 ชวั่ โมง 15 นาที หรือ 4 ชว่ั โมง 15 นาที นอ้ ยกว่า 4 ช่วั โมง 32 นาที ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปว่า นักดนตรีใชเ้ วลาซ้อมการแสดงมากกว่านักเต้นรำ� หรอื นกั เตน้ รำ�ใช้เวลาซ้อมการแสดงนอ้ ยกว่านักดนตรี ครแู นะน�ำ วา่ การเปรยี บเทยี บระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมงและนาที จำ�นวนชว่ั โมงเทา่ กัน จ�ำ นวนนาทีมากกว่า ระยะเวลาน้นั จะมากกวา่ 4. ครูยกตวั อย่างสถานการณเ์ พิ่มเติม เพื่อให้นกั เรียนเปรยี บเทยี บระยะเวลาทีม่ หี น่วยต่างกัน เชน่ 1) คุณพ่อล้างรถใช้เวลา 90 นาที คณุ แม่ทำ�งานบ้านใชเ้ วลา 1 ช่ัวโมง 40 นาที ครถู ามว่า - ใครใช้เวลาทำ�งานมากกวา่ กนั (ตอบตามความเขา้ ใจ) - มแี นวคดิ ในการหาค�ำ ตอบอยา่ งไร (ตอบตามความเขา้ ใจ) ครูแนะนำ�วา่ การเปรียบเทียบระยะเวลาทมี่ หี นว่ ยต่างกัน ต้องเปล่ียนหน่วยเวลาใหเ้ ป็น หน่วยเดียวกันกอ่ น แล้วนำ�เวลามาเปรยี บเทียบกัน ดังน้ี

กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๘ ชัน้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ แนวคิดที่ 1 เปลย่ี นหนว่ ยเวลาจากชวั่ โมงและนาทีเปน็ นาที คณุ แม่ทำ�งานบา้ นใชเ้ วลา 1 ชวั่ โมง 40 นาที คดิ เปน็ 60 + 40 = 100 นาที คณุ พอ่ ล้างรถใช้เวลา 90 นาที ดงั นั้น คุณแมใ่ ชเ้ วลาท�ำ งานมากกวา่ คณุ พอ่ (100 นาที มากกว่า 90 นาท)ี แนวคิดท่ี 2 เปลยี่ นหน่วยเวลาจากนาทเี ปน็ ชั่วโมงและนาที คุณพอ่ ลา้ งรถใชเ้ วลา 90 นาที คิดจาก × 60 = 90 เนอ่ื งจาก 1 × 60 = 60 กบั อีก 90 – 60 = 30 นาที 90 นาที เทา่ กับ 1 ชั่วโมง 30 นาที จะไดว้ ่า คุณพอ่ ลา้ งรถใชเ้ วลา 1 ชว่ั โมง 30 นาที และ คณุ แมท่ �ำ งานบา้ นใช้เวลา 1 ชวั่ โมง 40 นาที จากนน้ั เปรยี บเทียบเวลาทีค่ ุณพ่อใชล้ า้ งรถ กับคุณแม่ใชท้ ำ�งานบา้ น จะได้วา่ เปรียบเทียบจ�ำ นวนชวั่ โมงได้ 1 ชวั่ โมงเทา่ กนั พิจารณาที่จ�ำ นวนนาทีจะได้ว่า 30 นอ้ ยกวา่ 40 ดังน้ัน 1 ชั่วโมง 30 นาที น้อยกว่า 1 ชั่วโมง 40 นาที หรอื 1 ช่วั โมง 40 นาที มากกว่า 1 ชัว่ โมง 30 นาที ดังนน้ั คุณแม่ใชเ้ วลาทำ�งานมากกวา่ คุณพอ่ 65

66 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ ชั้น ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง 2) ปอนเล่นฟตุ บอลใช้เวลา 2 ช่ัวโมง 25 นาที พฒุ เลน่ บาสเกตบอลใช้เวลา 145 นาที ครถู ามว่า - ใครใชเ้ วลาเลน่ กฬี ามากกว่ากนั (ตอบตามความเขา้ ใจ) - มีแนวคดิ ในการหาค�ำ ตอบอยา่ งไร (ตอบตามความเขา้ ใจ) แนวคดิ ท่ี 1 เปล่ยี นหนว่ ยเวลาจากช่วั โมงและนาทเี ป็นนาที ปอนเล่นฟตุ บอลใชเ้ วลา 2 ชวั่ โมง 25 นาที คดิ เปน็ 60 + 60 + 25 = 145 นาที พุฒเลน่ บาสเกตบอลใชเ้ วลา 145 นาที ดังนัน้ ปอนใช้เวลาเล่นกฬี าเทา่ กับพุฒ แนวคิดที่ 2 เปลย่ี นหน่วยเวลาจากนาทเี ป็นชวั่ โมงและนาที พุฒเลน่ บาสเกตบอลใชเ้ วลา 145 นาที 2 × 60 = 120 คดิ จาก × 60 = 145 3 × 60 = 180 (มากกว่า 145) เน่อื งจาก 2 × 60 = 120 กับอกี 145 – 120 = 25 นาที 145 นาที เทา่ กบั 2 ชัว่ โมง 25 นาที จะได้วา่ พฒุ เลน่ บาสเกตบอลใช้เวลา 2 ชวั่ โมง 25 นาที และ ปอนเล่นฟตุ บอลใช้เวลา 2 ช่วั โมง 25 นาที ดังนัน้ ปอนใช้เวลาเลน่ กฬี าเท่ากบั พฒุ

กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ ชัน้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขัน้ สรุป 5. ครตู วจสอบความเข้าใจของนักเรียนเป็นรายบคุ คล โดยใหน้ กั เรียนท�ำ ใบกิจกรรม 4.5 เมื่อนกั เรียนทำ�เสร็จแล้ว ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยและตรวจสอบความถกู ต้อง และรว่ มกัน สรปุ วา่ การเปรียบเทียบระยะเวลา - ถ้าระยะเวลามหี น่วยเดยี วกันให้น�ำ หน่วยเดียวกนั มาเปรียบเทียบกนั - ถา้ ระยะเวลามหี นว่ ยตา่ งกนั ตอ้ งเปลย่ี นหนว่ ยเวลาใหเ้ ปน็ หนว่ ยเดยี วกนั กอ่ น แลว้ น�ำ เวลา มาเปรยี บเทยี บกนั จากนนั้ ให้นกั เรยี นท�ำ แบบฝึกหดั 4.8 67

68 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ขั้นน�ำ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๙ ขั้นสอน ขั้นสรปุ แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การวดั และประเมินผล สนทนากับนักเรียนเก่ยี วกับกจิ กรรมที่นกั เรียนท�ำ ใน 1 วนั ครจู ดั กิจกรรมการอา่ นและเขยี นบันทกึ กจิ กรรมท่รี ะบเุ วลา ใบกจิ กรรม 4.6 ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยสุ่มนกั เรียน นำ�เสนอบนั ทกึ กิจกรรมในใบกิจกรรม 4.6 แบบฝกึ หัด 4.9 - ประเมินจากการตอบคำ�ถาม การท�ำ ใบกิจกรรม 4.6 และการท�ำ แบบฝกึ หัด 4.9 - ประเมินจากการสอื่ สารและสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการเชื่อมโยง

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๙ ช้นั ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ การอา่ นและเขียนบนั ทกึ ข้นั น�ำ 1. ใบกิจกรรม 4.6 กิจกรรมทรี่ ะบุเวลา 1. ครูและนักเรยี นสนทนาเกีย่ วกบั กิจกรรมที่นกั เรยี นทำ�ใน 1 วัน โดยครตู ั้งค�ำ ถาม และบนั ทกึ 2. แบบฝึกหดั 4.9 คำ�ตอบของนักเรียนบนกระดาน เชน่ สาระสำ�คญั - ต่ืนนอนเวลาใด (เช่น 6.00 น. 6.30 น. 7.00 น.) การประเมิน - รับประทานอาหารเช้าเวลาใด (เช่น 6.30 น. 7.00 น. 7.15 น.) บันทกึ กิจกรรมเปน็ การ - ออกจากบ้านไปโรงเรียนเวลาใด (เช่น 6.30 น. 7.00 น. 7.15 น.) 1. วิธีการ บันทึกเหตกุ ารณ์หรือกจิ กรรม - เลน่ ในสนามเวลาใด (เชน่ 7.30 น. 12.00 น. 15.00 น.) 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรม ทเี่ กดิ ขึ้นในแตล่ ะวนั หรอื - กลบั ถงึ บา้ นเวลาใด (เช่น 15.30 น. 16.00 น. 17.00 น.) การเรยี นรู้ แต่ละชว่ งเวลา - รับประทานอาหารเย็นเวลาใด (เช่น 18.00 น. 18.30 น. 19.00 น.) 1.2 ตรวจใบกจิ กรรม - บนั ทึกกจิ กรรมประกอบ - ทำ�การบา้ นเวลาใด (เชน่ 17.30 น. 18.00 น. 19.00 น.) 1.3 ตรวจแบบฝึกหดั ดว้ ย ชอ่ื เรอ่ื งที่บนั ทึก ชือ่ - เขา้ นอนเวลาใด (เชน่ 20.00 น. 20.30 น. 21.00 น.) 2. เคร่อื งมือ ผู้บันทึก วัน เดือน ปี ท่บี ันทกึ ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ วา่ นักเรยี นแต่ละคนท�ำ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ไมเ่ หมือนกนั และทำ�กจิ กรรม 2.1 ใบกิจกรรม 4.6 ซ่ึงจะอยู่สว่ นบน และราย ในเวลาที่ตา่ งกัน 2.2 แบบฝกึ หดั 4.9 ละเอียดของกจิ กรรมทีบ่ ันทึก ครถู ามเพมิ่ เตมิ 2.3 แบบประเมนิ ทกั ษะ จะอยสู่ ่วนล่าง - เมอื่ วานเวลา 10.00 น. นกั เรียนทำ�อะไร และกระบวนการ - รายละเอยี ดของกจิ กรรม - เม่ือวันอาทิตยท์ ่ีผ่านมานกั เรยี นทำ�อะไรบ้าง ทางคณติ ศาสตร์ ทบี่ ันทึก ด้านซ้ายระบเุ วลา จากนัน้ ร่วมกยั อภปิ รายวา่ นกั เรียนบางคนอาจจะจ�ำ ไมไ่ ดว้ ่าเมอ่ื วานหรือวันอาทิตยท์ ผี่ า่ นมา 3. เกณฑ์ เริม่ ตน้ ของกจิ กรรม ด้านขวา ทำ�อะไรบา้ ง เนื่องจากไม่ได้จดบนั ทกึ กิจกรรมทีท่ �ำ ไว้ 3.1 ผลงานมีความถกู ตอ้ ง ระบุกิจกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิ ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 ในเวลานนั้ 69

70 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๙ ช้ัน ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ช่ัวโมง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ขนั้ สอน 3.2 คะแนนรวม ด้าน 2. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเขยี นบนั ทกึ กจิ กรรมในเวลา 1 วัน ของ ด.ญ.นำ�้ ตาล ใจแข็ง บนกระดาน ทักษะและกระบวนการ ดา้ นความรู้ โดยครูกำ�หนดกจิ กรรมใหน้ กั เรียนบอกเวลาหรือเลอื กเวลาจากท่ีนกั เรียนบอกในขอ้ 1 มาเขยี น ทางคณิตศาสตร์ ไม่นอ้ ยกว่า เพื่อให้นกั เรียนสามารถ ลงในตาราง เชน่ ร้อยละ 60 อ่านและเขียนบนั ทกึ กิจกรรม ท่ีระบเุ วลา บันทึกกจิ กรรมของ ด.ญ.นำ�้ ตาล ใจแขง็ ด้านทักษะและกระบวนการ วนั เสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ทางคณติ ศาสตร์ 6.00 น. ตนื่ นอน เพื่อให้นักเรยี นสามารถ 1. ส่อื สาร และสอ่ื 6.30 น. รบั ประทานอาหารเชา้ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. เชือ่ มโยง 7.00 น. ออกจากบา้ นไปโรงเรียน 12.00 น. เล่นในสนาม 16.00 น. กลบั ถงึ บา้ น 18.30 น. รับประทานอาหารเย็น 19.00 น. ทำ�การบ้าน 20.00 น. เข้านอน ครใู ชค้ �ำ ถามเพ่ือใหน้ กั เรียนอ่านบนั ทกึ กจิ กรรม เช่น - บันทึกน้ีเป็นของใคร (ด.ญ.น�ำ้ ตาล ใจแขง็ ) - กิจกรรมในบันทึกนีเ้ กดิ ขน้ึ เม่อื ใด (25 กรกฎาคม พ.ศ. 2563)

กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๙ ชัน้ ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ - ด.ญ.น�้ำ ตาล ออกจากบ้านไปโรงเรียนเวลาใด (7.00 น.) - เวลา 19.00 น. ด.ญ.น้ำ�ตาล ท�ำ กจิ กรรมใด (ทำ�การบา้ น) - ถา้ ด.ญ.น�้ำ ตาล ใช้เวลาเล่นในสนามท่โี รงเรยี น 50 นาที เขาเลน่ เสรจ็ เวลาใด (12 นาฬิกา 50 นาที) - ถา้ ด.ญ.น้�ำ ตาล ท�ำ การบ้านถึงเวลา 19.40 น. เขาใชเ้ วลาทำ�การบ้านนานเทา่ ใด (40 นาท)ี ครูให้นกั เรยี นบอกรายละเอยี ดว่าบนั ทกึ กจิ กรรมน้ีประกอบด้วยอะไรบ้าง (ตอบตามความเขา้ ใจ) เชน่ - ผทู้ ี่บันทึก - วนั เดือน ปี ท่บี ันทึก - มีเวลาดา้ นซา้ ย - ดา้ นขวาเป็นกิจกรรมท่ีปฏบิ ัตใิ นเวลานัน้ ครแู นะน�ำ ว่า การบันทกึ กจิ กรรมของ ด.ญ.น้�ำ ตาล ใจแข็ง เปน็ การบนั ทกึ กจิ กรรมประจ�ำ วัน ท่รี ะบเุ วลาเร่มิ ตน้ ซึ่งประกอบดว้ ย ชื่อผู้บันทกึ วันเดือนปีทบ่ี ันทกึ และรายการบนั ทกึ แบ่งเป็น 2 ด้าน ด้านซ้ายของบนั ทึกระบุเวลา ด้านขวาของบนั ทกึ ระบกุ จิ กรรมทีท่ �ำ ในเวลานนั้ 71

72 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๙ ชั้น ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง บันทึกกจิ กรรมเข้าคา่ ยลูกเสอื ของ ด.ช.กนั ต์ เก่งเรียน วันจันทร์ท่ี 7 ธนั วาคม พ.ศ. 2563 9.30 น. ถึงคา่ ยลกู เสอื 10.00 น. พธิ ีเปิดคา่ ย 10.30 น. กจิ กรรมฐานความรู้ 13.00 น. กิจกรรมผจญภัย 18.45 น. กิจกรรมรอบกองไฟ 22.00 น. นอน 3. ครตู ิดบันทกึ กิจกรรมของ ด.ช.กันต์ เก่งเรยี น บนกระดาน ดงั น้ี วันองั คารท่ี 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563 6.15 น. ออกก�ำ ลังกาย 8.00 น. เข้าแถวเคารพธงชาติ 9.15 น. เดินทางไกล 13.30 น. พธิ ีปดิ ค่าย 14.20 น. เดินทางกลบั ครถู ามว่า - ด.ช.กันต์ บนั ทึกกิจกรรมเกีย่ วกบั อะไร (บนั ทกึ กิจกรรมเขา้ คา่ ยลกู เสือ)

กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๙ ชั้น ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ - ด.ช.กนั ต์ ท�ำ กจิ กรรมฐานความร้ใู นวนั ท่ีเทา่ ใด เวลาใด (วนั จนั ทร์ท่ี 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 10.30 น.) - ด.ช.กนั ต์ ทำ�กจิ กรรมเดินทางไกลในวันท่ีเทา่ ใด เวลาใด (วนั องั คารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 9.15 น.) - วนั องั คารที่ 8 ธนั วาคม ด.ช.กนั ต์ ท�ำ กจิ กรรมใดบา้ ง (ออกก�ำ ลังกาย เขา้ แถวเคารพธงชาติ เดินทางไกล พิธีปดิ ค่าย เดินทางกลับ) - ด.ช.กนั ต์ ท�ำ กิจกรรมฐานความรู้เสรจ็ ที่เวลา 12.00 น. เขาใชเ้ วลาทำ�กจิ กรรมฐานความรู้ นานเท่าใด (1 ช่วั โมง 30 นาที) - ถ้าจดั กิจกรรมรอบกองไฟเป็นเวลา 3 ช่วั โมง กจิ กรรมรอบกองไฟเสร็จสิ้นเวลาใด (21.45 น.) - วันองั คารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ด.ช.กนั ต์ ตื่นนอนเวลา 6.00 น. เขาใชเ้ วลานอนกี่ชวั โมง (8 ชว่ั โมง) - ด.ช.กันต์ ทำ�กจิ กรรมเดินทางไกลเสร็จที่เวลา 12.00 น.เขาใชเ้ วลาเดินทางไกลนานเท่าใด (2 ชว่ั โมง 45 นาท)ี - ใช้เวลาเดนิ ทางกลบั 2 ช่วั โมง 30 นาที ด.ช.กนั ต์ ถึงโรงเรยี นเวลาใด (16.50 น.) 4. ใหน้ ักเรยี นจบั คู่ท�ำ ใบกจิ กรรม 4.6 โดยเลือกเขยี นกจิ กรรมตา่ ง ๆ และเวลา จากการทศั นศกึ ษา ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตรเ์ พอ่ื การศกึ ษา (ท้องฟ้าจ�ำ ลองกรงุ เทพ) 73

74 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๙ ชนั้ ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ข้ันสรุป 5. ครูสมุ่ ตัวแทนนักเรยี นออกมานำ�เสนอใบกิจกรรม 4.6 และรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั ร่วมกนั สรุปว่า บนั ทกึ กจิ กรรมเปน็ การบนั ทกึ เหตกุ ารณห์ รอื กจิ กรรมทเ่ี กดิ ขน้ึ ในแตล่ ะวนั หรอื แตล่ ะชว่ งเวลา - บันทึกกจิ กรรมประกอบดว้ ย ชื่อเรื่องท่ีบันทกึ ชอ่ื ผบู้ นั ทกึ วัน เดอื น ปี ท่บี นั ทกึ ซง่ึ จะอยู่ สว่ นบน และรายละเอียดของกิจกรรมที่บนั ทึกจะอยสู่ ่วนล่าง - รายละเอียดของกิจกรรมที่บนั ทึก ดา้ นซ้ายระบุเวลาเริ่มต้นของกจิ กรรม ด้านขวาระบุ กิจกรรมทปี่ ฏบิ ตั ใิ นเวลานั้น จากนั้นใหน้ ักเรียนท�ำ แบบฝึกหดั 4.9

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขนั้ น�ำ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑๐ ขน้ั สอน ขน้ั สรปุ แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผล จดั กิจกรรม “รวมเวลา” จดั กิจกรรมแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวกและการลบเก่ยี วกบั เวลาและระยะเวลา (1) ครูตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล เกีย่ วกับการแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวกและการลบเก่ยี วกับเวลาและระยะเวลา ใบกจิ กรรม 4.7 และ แบบฝกึ หัด 4.10 - ประเมินจากการตอบค�ำ ถามและการท�ำ ใบกิจกรรม 4.7 และแบบฝกึ หดั 4.10 - ประเมนิ จากการแก้ปัญหา และการส่อื สารและสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 75

76 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑๐ ช้นั ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ช่ัวโมง สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ ขอบเขตเนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นำ� 1. บตั รบอกเวลาเป็นนาที โจทยป์ ัญหาการบวกและ 1. ครูจดั กิจกรรม “รวมเวลา” โดยใช้ความสัมพันธ์ 60 นาที เท่ากับ 1 ชว่ั โมง ดังน้ี 2. บตั รโจทย์ การลบเกย่ี วกบั เวลาและระยะ 1) ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลมุ่ ครแู จกบตั รบอกเวลาเป็นนาทใี ห้นกั เรียนกลุ่มละ 1 ชดุ 3. แถบโจทยป์ ัญหา เวลา (1) ประกอบด้วย 4. ใบกิจกรรม 4.7 60 นาที 60 นาที 5. แบบฝกึ หดั 4.10 สาระสำ�คัญ 30 นาที 30 นาที การประเมิน การแกโ้ จทยป์ ญั หาท�ำ ได้ โดยอา่ นท�ำ ความเขา้ ใจปญั หา 15 นาที 15 นาที 1. วิธีการ วางแผนแกป้ ญั หา หาค�ำ ตอบ 1.1 สงั เกตพฤติกรรม และตรวจสอบความสมเหตุ 10 นาที 10 นาที การเรยี นรู้ สมผลของค�ำ ตอบ 1.2 ตรวจใบกจิ กรรม 2) ครเู ตรียมบัตรโจทย์ 1 ชดุ ประกอบด้วย 1.3 ตรวจแบบฝึกหัด จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2. เครอ่ื งมอื ดา้ นหนา้ ดา้ นหลัง ด้านหนา้ ดา้ นหลงั 2.1 ใบกิจกรรม 4.7 ดา้ นความรู้ 85 นาที 1 ช่วั โมง 25 นาที 100 นาที 1 ชัว่ โมง 40 นาที 2.2 แบบฝึกหัด 4.10 เพ่ือให้นกั เรยี นสามารถ 105 นาที 1 ชั่วโมง 45 นาที 95 นาที 1 ช่วั โมง 35 นาที 2.3 แบบประเมนิ ทักษะ แกโ้ จทยป์ ัญหาการบวก 120 นาที 115 นาที 1 ช่ัวโมง 55 นาที และกระบวนการ การลบเกยี่ วกบั เวลาและ 2 ช่ัวโมง ทางคณิตศาสตร์ ระยะทาง 3) ครชู บู ตั รโจทย์ครัง้ ละ 1 ใบ โดยอาจชูดา้ นหน้าหรือดา้ นหลงั ก็ได้ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม ชว่ ยกันรวมบตั รบอกเวลาเปน็ นาทใี ห้ไดเ้ ท่ากบั เวลาที่ครกู �ำ หนด เช่น

กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๑๐ ชั้น ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ด้านทกั ษะและกระบวนการ ครชู ูบัตร ตวั อยา่ งบัตรบอกเวลาเป็นนาทที ่ีนักเรียนรวมได้ 3. เกณฑ์ ทางคณติ ศาสตร์ 3.1 ผลงานมีความถูกต้อง เพ่ือใหน้ ักเรียนสามารถ 120 นาที 60 นาที 60 นาที ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 1. แกป้ ัญหา หรือ 3.2 คะแนนรวมดา้ นทกั ษะ 2. ส่ือสาร และสื่อ 60 นาที 30 นาที 30 นาที และกระบวนการทาง ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 2 ชว่ั โมง คณิตศาสตร์ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60 4) ครูตรวจสอบความถกู ต้องของคำ�ตอบทกุ ครัง้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปว่า การเปลีย่ นหนว่ ยเวลาใช้ความสัมพันธ์ 1 ชั่วโมง เท่ากับ 60 นาที ข้ันสอน 2. ครจู ดั กิจกรรมการแก้โจทย์ปญั หาการบวกและการลบเก่ยี วกบั เวลา โดยตดิ แถบโจทยป์ ัญหา บนกระดาน และใช้ค�ำ ถาม ดังนี้ 1) ตอนเช้าพอ่ ค้าใช้เวลาขายของ 3 ชวั่ โมง 35 นาที ตอนเย็นใชเ้ วลา 4 ช่วั โมง 40 นาที พ่อคา้ ขายของทั้งตอนเชา้ และตอนเย็นใชเ้ วลาเท่าไร - โจทย์ถามอะไร (พ่อค้าขายของทั้งตอนเชา้ และตอนเยน็ ใช้เวลาเท่าไร) - โจทยบ์ อกอะไร (ตอนเช้าพอ่ คา้ ใชเ้ วลาขายของ 3 ช่ัวโมง 35 นาที ตอนเย็นใชเ้ วลา 4 ชั่วโมง 40 นาที) 77

78 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑๐ ชัน้ ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง - เขยี นแผนภาพแสดงแนวคดิ ในการหาคำ�ตอบได้อย่างไร (ตอบตามความเข้าใจ) ครูเขียนแผนภาพนำ�เสนอแนวคิด ดังน้ี ตอนเชา้ ใชเ้ วลา 3 ช่วั โมง 35 นาที ตอนเยน็ ใชเ้ วลา 4 ชวั่ โมง 40 นาที เวลาท่ีใชท้ ัง้ หมด............ชั่วโมง............นาที - หาค�ำ ตอบได้อยา่ งไร (ใช้การบวก) ครูเขียนแสดงวิธที �ำ บนกระดาน ดังน้ี วธิ ีท�ำ ชั่วโมง นาที ตอนเชา้ ขายของใช้เวลา 3 35 75 = 60 + 15 ตอนเยน็ ขายของใชเ้ วลา 4 40 + 60 นาที เท่ากบั 1 ชั่วโมง 75 นาที เท่ากับ 1 ชั่วโมง 15 นาที ตอนเชา้ และตอนเย็นขายของใชเ้ วลา 7 75 หรอื 8 15 - ค�ำ ตอบสมเหตุสมผลหรือไม่ (สมเหตุสมผล เพราะ 4 ชว่ั โมง 40 นาที ใกลเ้ คียง 5 ชั่วโมง รวมกับ 3 ช่วั โมง 35 นาที คำ�ตอบจงึ ควรใกล้เคยี ง 8 ชั่วโมง 35 นาที) - สรปุ คำ�ตอบได้อยา่ งไร (พอ่ ค้าขายของทั้งตอนเชา้ และตอนเยน็ ใช้เวลา 8 ชวั่ โมง 15 นาท)ี ครูเขียนสรปุ คำ�ตอบบนกระดาน ดงั น้ี ตอบ พอ่ คา้ ขายของท้ังตอนเช้าและตอนเยน็ ใช้เวลา ๘ ชั่วโมง ๑๕ นาที

กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑๐ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชวั่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ 2) พิมพท์ ำ�ว่าวใชเ้ วลา 3 ช่วั โมง 40 นาที เพชรทำ�วา่ วขนาดเดียวกนั ใชเ้ วลาน้อยกวา่ พิมพ์ 55 นาที เพชรใชเ้ วลาทำ�วา่ วเท่าไร - โจทยถ์ ามอะไร (เพชรใช้เวลาทำ�ว่าวเท่าไร) - โจทยบ์ อกอะไร (พิมพท์ �ำ ว่าวใชเ้ วลา 3 ชัว่ โมง 40 นาที เพชรทำ�ว่าวใชเ้ วลาน้อยกว่าพมิ พ์ 55 นาที) - เวลาท่ีเพชรใชท้ ำ�ว่าวมากกว่าหรอื นอ้ ยกว่า 3 ชั่วโมง 40 นาที (นอ้ ยกวา่ ) - เขยี นแผนภาพแสดงแนวคิดในการหาคำ�ตอบได้อย่างไร (ตอบตามความเขา้ ใจ) ครูเขยี นแผนภาพนำ�เสนอแนวคิด ดงั นี้ พมิ พใ์ ช้เวลา 3 ชั่วโมง 40 นาที เพชรใชเ้ วลา ................... 55 นาที - หาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร (ใช้การลบ) ครูเขียนแสดงวธิ ีท�ำ บนกระดาน ดงั นี้ วิธที �ำ ชัว่ 32โม ง 1น40า00ที_ กระจาย 3 ชม. มา 1 ชม. พิมพ์ทำ�ว่าวใช้เวลา 55 หรอื 60 นาที รวมกบั 40 นาที เพชรใชเ้ วลาน้อยกวา่ พมิ พ์ เป็น 100 นาที เพชรทำ�วา่ วใชเ้ วลา 2 45 - คำ�ตอบสมเหตุสมผลหรือไม่ (สมเหตสุ มผล เพราะ 55 นาที ใกลเ้ คียง 1 ช่ัวโมง และ 3 ชั่วโมง 40 นาที ลบด้วย 1 ชว่ั โมง จะได้ 2 ช่วั โมง 40 นาที ดงั นั้นค�ำ ตอบควรใกล้เคียง 2 ช่วั โมง 40 นาที) 79

80 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑๐ ชั้น ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง - สรุปคำ�ตอบไดอ้ ย่างไร (เพชรทำ�ว่าวใชเ้ วลา 2 ชัว่ โมง 45 นาท)ี ครูเขียนสรุปคำ�ตอบบนกระดาน ดงั น้ี ตอบ เพชรทำ�ว่าวใชเ้ วลา ๒ ชั่วโมง ๔๕ นาที 3) ตนู กับก้อยตอ้ งการเดินทางจากกรงุ เทพฯ ไปนครราชสีมา ตูนโดยสารรถไฟใช้เวลา 5 ชัว่ โมง 9 นาที กอ้ ยไปรถยนตใ์ ช้เวลานอ้ ยกวา่ ตูน 1 ชัว่ โมง 55 นาที กอ้ ยใชเ้ วลาเดนิ ทางเท่าไร - โจทยถ์ ามอะไร (ก้อยใชเ้ วลาเดนิ ทางเท่าไร) - โจทย์บอกอะไร (ตูนกบั ก้อยตอ้ งการเดินทางจากกรงุ เทพฯ ไปนครราชสีมา ตูนโดยสารรถไฟใช้เวลา 5 ชวั่ โมง 9 นาที ก้อยไปรถยนต์ใช้เวลาน้อยกว่าตนู 1 ชั่วโมง 55 นาท)ี - ก้อยใช้เวลาเดินทางมากกวา่ หรือน้อยกว่า 5 ชว่ั โมง 9 นาที (นอ้ ยกวา่ ) - เขียนแผนภาพแสดงแนวคิดในการหาค�ำ ตอบได้อย่างไร (ตอบตามความเขา้ ใจ) ครเู ขยี นแผนภาพน�ำ เสนอแนวคิด ดงั นี้ ตนู ใชเ้ วลาเดินทาง 5 ช่วั โมง 9 นาที กอ้ ยใช้เวลาเดินทาง........ ชว่ั โมง ........ นาที 1 ช่ัวโมง 55 นาที - หาค�ำ ตอบไดอ้ ย่างไร (ใช้การลบ) ครูเขยี นแสดงวิธีท�ำ บนกระดาน ดงั นี้

กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๐ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ วิธีท�ำ ชั่ว54โม ง น6า99ที _ กระจาย 5 ชม. มา 1 ชม. 1 55 หรอื 60 นาที รวมกับ 9 นาที ตูนใชเ้ วลาเดินทาง 3 14 เปน็ 69 นาที ก้อยใชเ้ วลาเดนิ ทางน้อยกวา่ ตนู กอ้ ยใชเ้ วลาเดนิ ทาง - คำ�ตอบสมเหตุสมผลหรือไม่ (สมเหตุสมผล เพราะ 1 ช่วั โมง 55 นาที ใกล้เคียง 2 ชั่วโมง และ 5 ชั่วโมง 9 นาที ลบดว้ ย 2 ช่ัวโมง จะได้ 3 ช่วั โมง 9 นาที ดงั นนั้ คำ�ตอบควรใกล้เคยี ง 3 ชั่วโมง 9 นาที) - สรปุ ค�ำ ตอบไดอ้ ย่างไร (กอ้ ยใชเ้ วลาเดินทาง 3 ชัว่ โมง 14 นาที) ครเู ขยี นสรปุ คำ�ตอบบนกระดาน ดงั นี้ ตอบ ก้อยใช้เวลาเดนิ ทาง ๓ ช่วั โมง ๑๔ นาที ขั้นสรุป 3. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล โดยให้นกั เรยี นท�ำ ใบกิจกรรม 4.7 เม่อื นกั เรียนท�ำ เสรจ็ แล้วครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยและตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนน้ั รว่ มกนั สรปุ ว่า การแก้โจทย์ปญั หาท�ำ ไดโ้ ดยอา่ นทำ�ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา หาคำ�ตอบ และ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของค�ำ ตอบ จากนัน้ ให้นกั เรียนทำ�แบบฝึกหัด 4.10 81

82 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ข้ันน�ำ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๑ ขน้ั สอน ขัน้ สรุป แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผล ทบทวนเรอ่ื ง เส้นจำ�นวนเกี่ยวกับเวลา ใบกิจกรรม 4.8 ขอ้ 1 จัดกิจกรรมแก้โจทย์ปญั หาการบวกและการลบเกีย่ วกับเวลาและระยะเวลา (2) ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล โดยให้แกโ้ จทย์ปัญหาการบวกและการลบเกย่ี วกบั เวลาและระยะเวลาในใบกิจกรรม 4.8 ขอ้ 2 แบบฝกึ หัด 4.11 - ประเมินจากการตอบคำ�ถาม การท�ำ ใบกิจกรรม 4.8 และการท�ำ แบบฝึกหดั 4.11 - ประเมินจากการแกป้ ัญหา และการสือ่ สารและส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์

กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑๑ ชัน้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขอบเขตเนอื้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. แถบโจทย์ปญั หา โจทย์ปญั หาการบวกและ ข้ันนำ� 2. ใบกจิ กรรม 4.8 การลบเกย่ี วกบั เวลาและระยะ 1. ครทู บทวนเก่ียวกับการบอกระยะเวลาบนเสน้ จ�ำ นวน โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนท�ำ ใบกจิ กรรม 3. แบบฝกึ หดั 4.11 เวลา (2) 4.8 ขอ้ 1 เม่อื นักเรียนท�ำ เสร็จแลว้ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจความถูกตอ้ ง การประเมนิ สาระส�ำ คัญ ขน้ั สอน 2. ครูจัดกิจกรรมการแก้โจทย์ปญั หาเก่ยี วกับเวลาและระเวลา โดยครตู ิดแถบโจทยป์ ญั หา ดงั นี้ 1. วธิ ีการ การแก้โจทยป์ ญั หาทำ�ได้ 1) นกั ว่งิ มาราธอนเรม่ิ ว่งิ เวลา 5 นาฬกิ า 20 นาที ใชเ้ วลาวิง่ 2 ชวั่ โมง 15 นาที 1.1 สังเกตพฤตกิ รรม โดยการอ่านทำ�ความเขา้ ใจ การเรยี นรู้ ปญั หา วางแผนแก้ปญั หา จงึ ถงึ เส้นชยั นักวง่ิ มาราธอนถึงเส้นชัยเวลาใด 1.2 ตรวจใบกจิ กรรม หาคำ�ตอบ และตรวจสอบ โจทยถ์ ามอะไร (นักวง่ิ มาราธอนถงึ เส้นชัยเวลาใด) 1.3 ตรวจแบบฝกึ หัด ความสมเหตุสมผลของ โจทย์บอกอะไร (เรมิ่ ว่งิ เวลา 5 นาฬิกา 20 นาที ใช้เวลาวงิ่ 2 ช่วั โมง 15 นาที จงึ ถึงเส้นชยั ) 2. เครื่องมอื คำ�ตอบ ครูเขียนเสน้ จ�ำ นวนเวลาน�ำ เสนอแนวคิดดังน้ี 2.1 ใบกจิ กรรม 4.8 2.2 แบบฝึกหัด 4.11 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1 ชม. 1 ชม. 15 นาที 2.3 แบบประเมนิ ทกั ษะ และกระบวนการ ดา้ นความรู้ วธิ ที �ำ 5.20 น. 6.20 น. 7.20 น. 7.35 น. ทางคณติ ศาสตร์ เพือ่ ให้นกั เรียนสามารถ จากเวลา 5.20 น. ใชเ้ วลา 2 ชัว่ โมง เปน็ เวลา 7.20 น. แก้โจทยป์ ัญหาการบวก จากเวลา 7.20 น. ใช้เวลา 15 นาที เป็นเวลา 7.35 น. การลบเกย่ี วกับเวลาและ ระยะเวลา 83

84 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ ชัน้ ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชวั่ โมง ดา้ นทักษะและกระบวนการ ดงั น้นั จากเวลา 5.20 น. ใช้เวลา 2 ชว่ั โมง 15 นาที เป็นเวลา 7.35 น. 3. เกณฑ์ ทางคณิตศาสตร์ ตอบ นักวิ่งมาราธอนถึงเสน้ ชยั เวลา ๗ นาฬิกา ๓๕ นาที 3.1 ผลงานมีความถูกตอ้ ง คำ�ตอบสมเหตสุ มผลหรือไม่ (สมเหตุสมผล) เพราะอะไร (5 นาฬกิ า ถึง 7 นาฬิกา เวลา ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 เพื่อให้นักเรยี นสามารถ ต่างกัน 2 ช่วั โมง) 3.2 คะแนนรวมดา้ นทกั ษะ 1. แกป้ ัญหา และกระบวนการทาง 2. สือ่ สาร และส่ือ 2) รถตอู้ อกจากท่ารถเวลา 9 นาฬิกา 35 นาที ถงึ ปลายทางเวลา 12 นาฬิกา 17 นาที คณติ ศาสตรไ์ มน่ อ้ ยกวา่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ รถตูใ้ ช้เวลาเดินทางนานเทา่ ใด รอ้ ยละ 60 โจทยถ์ ามอะไร (รถตูใ้ ชเ้ วลาเดินทางนานเท่าใด) โจทยบ์ อกอะไร (รถตู้ออกจากท่ารถเวลา 9 นาฬิกา 35 นาที ถงึ ปลายทางเวลา 12 นาฬกิ า 17 นาที) ครเู ขยี นเสน้ จำ�นวนน�ำ เสนอแนวคดิ ดงั น้ี 1 ชม. 1 ชม. 25 นาที 17 นาที 9.35 น. 10.35 น. 11.35 น. 12.00 น. 12.17 น. วิธที �ำ รถตอู้ อกจากท่ารถ 9 นาฬิกา 35 นาที รถตู้ถงึ ปลายทาง 12 นาฬิกา 17 นาที

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๑๑ ช้นั ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ จากเวลา 9.35 น. ถึง 10.35 น. ใชเ้ วลา 1 ชัว่ โมง จากเวลา 10.35 น. ถึง 11.35 น. ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากเวลา 11.35 น. ถึง 12.00 น. ใชเ้ วลา 25 นาที จากเวลา 12.00 น. ถงึ 12.17 น. ใช้เวลา 17 นาที ดงั นั้น จากเวลา 9.35 น. ถึง 12.17 น. ใชเ้ วลา 2 ช่ัวโมง 42 นาที ตอบ รถตู้ใช้เวลาเดนิ ทาง ๒ ชวั่ โมง ๔๒ นาที คำ�ตอบสมเหตุสมผลหรือไม่ (สมเหตสุ มผล) เพราะอะไร (จากเวลา 9 นาฬิกา ถงึ เวลา 12 นาฬิกา ใชเ้ วลา 3 ชวั่ โมง ดงั น้ันรถตู้ใชเ้ วลา 2 ชว่ั โมง 42 นาที จงึ เป็นคำ�ตอบทีส่ มเหตุสมผล) 3) พมิ พ์เลกิ เรียนดนตรีเวลา 17 นาฬิกา 25 นาที ใช้เวลาเรียน 3 ชั่วโมง 20 นาที พมิ พเ์ ร่มิ เรยี นดนตรีเวลาเท่าใด โจทย์ถามอะไร (พมิ พ์เริ่มเรยี นดนตรเี วลาเท่าใด) โจทย์บอกอะไร (เลกิ เรียนดนตรเี วลา 17 นาฬกิ า 25 นาที ใช้เวลาเรียน 3 ช่ัวโมง 20 นาที) ครูเขียนเสน้ จ�ำ นวนน�ำ เสนอแนวคิด โดยเรม่ิ จากเวลาส้ินสุด 20 นาที 1 ชั่วโมง 1 ช่วั โมง 1 ชว่ั โมง 14.05 น. 14.25 น. 15.25 น. 16.25 น. 17.25 น. 85

86 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑๑ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง วธิ ที ำ� จากเวลา 17.25 น. นบั ถอยหลงั ไป 3 ชัว่ โมง เปน็ เวลา 14.25 น. จากเวลา 14.25 น. นับถอยหลังไป 20 นาที เป็นเวลา 14.05 น. ดงั นั้น จากเวลา 17.25 น. นับถอยหลงั ไป 3 ชั่วโมง 20 นาที เปน็ เวลา 14.05 น. ตอบ พมิ พเ์ รมิ่ เรียนดนตรี เวลา ๑๔ นาฬกิ า ๕ นาที ค�ำ ตอบสมเหตุสมผลหรอื ไม่ (สมเหตสุ มผล) เพราะอะไร (จากเวลา 14 นาฬิกา ถึงเวลา 17 นาฬกิ า เวลาตา่ งกัน 3 ช่วั โมง) ข้ันสรปุ 3. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนเป็นรายบุคคล โดยให้นักเรียนท�ำ ใบกิจกรรม 4.8 ขอ้ 2 เมือ่ นกั เรยี นท�ำ เสร็จแลว้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยและตรวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั รว่ มกนั สรุปวา่ การแกโ้ จทย์ปัญหาทำ�ได้โดยการอา่ นทำ�ความเข้าใจปญั หา วางแผนแกป้ ัญหา หาคำ�ตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของค�ำ ตอบ ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 4.11

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขน้ั นำ� แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑๒ ขั้นสอน ข้นั สรปุ แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล ทบทวนการคณู ด้วยกิจกรรม หาผลคณู จดั กิจกรรมแกโ้ จทยป์ ญั หาการคณู เกีย่ วกับเวลาและระยะเวลา ใบกิจกรรม 4.9 ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล โดยนำ�เสนอวิธีการแก้โจทยป์ ญั หาการคณู เกี่ยวกบั เวลาและระยะเวลาในใบกิจกรรม 4.9 แบบฝกึ หดั 4.12 - ประเมินจากการตอบค�ำ ถาม การท�ำ ใบกิจกรรม 4.9 และการท�ำ แบบฝกึ หัด 4.12 - ประเมนิ จากการแกป้ ัญหา และการสื่อสารและส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 87

88 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๒ ชัน้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชั่วโมง ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ ขอบเขตเน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. บตั รโจทยก์ ารคูณ โจทย์ปัญหาการคูณ ขัน้ น�ำ 2. แถบโจทยป์ ัญหา เก่ยี วกบั เวลาและระยะเวลา 1. ครูจดั กิจกรรมแขง่ ขนั “หาผลคูณ” มกี ตกิ า ดังน้ี 3. ใบกจิ กรรม 4.9 1.1 ครูชูบัตรโจทย์การคูณใหน้ ักเรียนท้งั ห้องชว่ ยกันบอกผลคณู 4. แบบฝึกหัด 4.12 สาระสำ�คัญ 1.2 ให้นักเรยี นส่งตวั แทนกลมุ่ 1 คน ออกมาหนา้ ห้องเมอ่ื ครูชบู ัตรโจทย์การคณู ใหแ้ ขง่ กัน บอกผลคณู ใครบอกกอ่ นและถูกต้องเปน็ ผชู้ นะได้ 1 คะแนน การประเมิน การแกโ้ จทย์ปัญหาท�ำ ได้ 1.3 ครจู ดั กจิ กรรมเชน่ น้ี 5 – 6 ครง้ั โดยอา่ นท�ำ ความเขา้ ใจ 1. วธิ กี าร ปัญหา วางแผนแก้ปัญหา ขน้ั สอน 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรม หาค�ำ ตอบ และตรวจสอบ 2. ครูจดั กิจกรรมการแกโ้ จทยป์ ญั หาการคณู เกีย่ วกับเวลาและระยะเวลา โดยครตู ิดแถบโจทย์ การเรยี นรู้ ความสมเหตสุ มผลของ ปัญหา ดังน้ี 1.2 ตรวจใบกจิ กรรม คำ�ตอบ 1) นกั เรยี นเรยี นภาษาอังกฤษ 4 สปั ดาห์ สปั ดาหล์ ะ 2 ชว่ั โมง 1.3 ตรวจแบบฝกึ หดั นักเรยี นเรยี นภาษาอังกฤษทงั้ หมดก่ีชั่วโมง 2. เคร่ืองมอื จุดประสงค์การเรยี นรู้ โจทยถ์ ามอะไร (นักเรยี นเรียนภาษาองั กฤษท้ังหมดกี่ชวั่ โมง) 2.1 ใบกจิ กรรม 4.9 โจทยบ์ อกอะไร (นกั เรียนเรยี นภาษาอังกฤษ 4 สัปดาห์ สัปดาหล์ ะ 2 ชวั่ โมง) 2.2 แบบฝกึ หัด 4.12 ด้านความรู้ 2.3 แบบประเมนิ ทกั ษะ เพ่ือใหน้ ักเรยี นสามารถ ครูเขียนแผนภาพน�ำ เสนอแนวความคิด ดังน้ี และกระบวนการ แก้โจทยป์ ญั หาการคณู 2 ชม. 2 ชม. 2 ชม. 2 ชม. ทางคณิตศาสตร์ เกย่ี วกบั เวลาและระยะเวลา สัปดาห์ท่ี 1 สัปดาหท์ ี่ 2 สปั ดาห์ท่ี 3 สัปดาหท์ ่ี 4

กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๒ ช้ัน ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชั่วโมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ดา้ นทักษะและกระบวนการ แนวคิด ใช้การคณู 3. เกณฑ์ ทางคณติ ศาสตร์ วธิ ที ำ� 3.1 ผลงานมีความถกู ต้อง เรยี นภาษาอังกฤษ 4 สปั ดาห์ ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 เพือ่ ใหน้ กั เรยี นสามารถ สปั ดาหล์ ะ 2 ชวั่ โมง 3.2 คะแนนรวมดา้ นทกั ษะ 1. แกป้ ญั หา เรียนภาษาอังกฤษท้งั หมด 4 × 2 = 8 ชั่วโมง และกระบวนการทาง 2. สื่อสาร และสอื่ ตอบ นักเรยี นใช้เวลาเรยี นภาษาอังกฤษทั้งหมด ๘ ชั่วโมง คณิตศาสตรไ์ ม่น้อยกวา่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ คำ�ตอบถกู ต้องหรอื ไม่ (ถูกต้อง) เพราะเหตุใด (ถา้ เรียนภาษาองั กฤษ สัปดาหล์ ะ 2 ชัว่ โมง ร้อยละ 60 เปน็ เวลา 4 สปั ดาห์ ระยะเวลา 8 ช่ัวโมง คดิ จาก 2 + 2 + 2 + 2 = 8 เปน็ ค�ำ ตอบทถ่ี ูกตอ้ ง) 2) คนงานทาสรี ั้วเปน็ เวลา 3 วนั วนั ละ 7 ช่ัวโมง 30 นาที คนงานใชเ้ วลาทาสีรั้วทงั้ หมดเทา่ ใด โจทย์ถามอะไร (คนงานใชเ้ วลาทาสรี ้วั ทง้ั หมดเทา่ ใด) โจทยบ์ อกอะไร (คนงานทาสรี ัว้ เป็นเวลา 3 วัน วนั ละ 7 ชัว่ โมง 30 นาที) ครเู ขยี นแผนภาพน�ำ เสนอแนวความคิด ดงั น้ี 7 ชั่วโมง 30 นาที 7 ช่ัวโมง 30 นาที 7 ชว่ั โมง 30 นาที วนั ที่ 1 วนั ที่ 2 วันที่ 3 89

90 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๑๒ ชน้ั ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง วิธีท่ี 1 หาเวลารวมเปน็ ชวั่ โมงและนาที หาเวลารวมเปน็ ชว่ั โมงได ้ 7 + 7 + 7 หรอื 3 × 7 = 21 ชั่วโมง หาเวลารวมเป็นนาทไี ด ้ 30 + 30 + 30 หรอื 3 × 30 = 90 นาที หรือ 1 ชัว่ โมง 30 นาที ดังนั้น คนงานใชเ้ วลาท้งั หมด 21 ช่ัวโมง รวมกบั 1 ชั่วโมง 30 นาที เปน็ 22 ชว่ั โมง 30 นาที วิธีที่ 2 ใช้การคูณในแนวตัง้ วธิ ที ำ� ชัว่ โมง นาที ทาสรี ้วั วันละ 7 303 × วนั ทาสีร้วั เปน็ เวลา 90 = 60 + 30 60 เท่ากับ 1 ช่วั โมง คนงานใชเ้ วลาทาสีรั้วทัง้ หมด 21 90 90 เทา่ กับ 1 ชั่วโมง 30 นาที หรอื 22 30 ตอบ คนงานใช้เวลาทาสรี ้ัวทง้ั หมด ๒๒ ชวั่ โมง ๓๐ นาที คำ�ตอบสมเหตสุ มผลหรอื ไม่ เพราะเหตุใด (สมเหตุสมผล เนอื่ งจาก ถา้ ทาสวี ันละ 7 ชวั่ โมง เปน็ เวลา 3 วนั ใช้เวลา 21 ชว่ั โมง ดงั นัน้ 22 ชัว่ โมง 30 นาที ใกล้เคียง 21 ช่ัวโมง จงึ เป็นค�ำ ตอบ ที่สมเหตุสมผล) 3. ครูจดั กจิ กรรมการแก้โจทยป์ ญั หาการคูณเกย่ี วกับเวลาและระยะเวลา โดยใหน้ กั เรียนทำ� ใบกิจกรรม 4.9 คณุ แมอ่ บคัพเคก้ ครัง้ ละหนง่ึ ถาด ถาดละ 25 นาที คุณแม่ทำ�คพั เคก้ 8 ถาด คณุ แม่ใช้เวลาอบคัพเคก้ ก่ชี วั่ โมง กี่นาที

กลุม่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑๒ ชัน้ ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขน้ั สรปุ 4. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล โดยให้ตวั แทนนกั เรยี นออกมาน�ำ เสนอ แนวคดิ จากโจทยป์ ญั หาในใบกจิ กรรม 4.9 ดงั น้ี คณุ แมอ่ บคัพเคก้ ครัง้ ละหนึ่งถาด ถาดละ 25 นาที คณุ แม่ท�ำ คพั เคก้ 8 ถาด คณุ แมใ่ ช้เวลาอบคพั เค้กกช่ี ่ัวโมง กี่นาที แผนภาพนำ�เสนอแนวความคดิ 25 นาที 25 นาที 25 นาที 25 นาที 25 นาที 25 นาที 25 นาที 25 นาที ประโยคสญั ลักษณ์ 8 × 25 = วธิ ีท�ำ อบคพั เค้กถาดละ 2 5 × นาที อบเค้ก 8 ถาด ใชเ้ วลาอบคพั เคก้ ทง้ั หมด 2 0 0 นาที หาว่า 200 นาที เปน็ กี่ช่วั โมง กน่ี าที แนวคดิ ท่ี 1 จาก 200 นาที เท่ากบั 60 + 60 + 60 + 20 นาที และ 60 นาที เท่ากับ 1 ชว่ั โมง ดังนน้ั 200 นาท ี เท่ากบั 3 ชวั่ โมง 20 นาที 91

92 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑๒ ชน้ั ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง 2 × 60 = 120 3 × 60 = 180 แนวคดิ ท่ี 2 ใชค้ วามสมั พันธก์ ารคณู และการหาร 4 × 60 = 240 (มากกว่า 200) คดิ จาก × 60 = 200 เน่อื งจาก 3 × 60 = 180 กบั อกี 200 – 180 = 20 นาที ดงั น้ัน 200 นาที เทา่ กับ 3 ช่วั โมง 20 นาที ตอบ คุณแมใ่ ช้เวลาอบคพั เคก้ ๓ ชวั่ โมง ๒๐ นาที คำ�ตอบสมเหตุสมผลหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (สมเหตุสมผล เนื่องจาก ถา้ อบคพั เค้กครัง้ ละ 30 นาที 2 ครั้ง ใชเ้ วลา 1 ชว่ั โมง 4 ครัง้ ใช้เวลา 2 ชวั่ โมง 6 ครั้ง ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 8 คร้ัง ใช้เวลา 4 ชั่วโมง คุณแม่ใช้เวลาอบคัพเค้ก 3 ชว่ั โมง 20 นาที จึงเป็นคำ�ตอบท่สี มเหตุสมผล) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ วา่ การแกโ้ จทยป์ ญั หาท�ำ ไดโ้ ดยอา่ นท�ำ ความเขา้ ใจปญั หา วางแผน แกป้ ญั หา หาคำ�ตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของค�ำ ตอบ จากนนั้ ให้นักเรยี นท�ำ แบบฝกึ หัด 4.12

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ข้ันน�ำ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๓ ขนั้ สอน ขั้นสรุป แนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล ทบทวนหาผลหารดว้ ยกจิ กรรม “หาผลหาร” จัดกจิ กรรมแกโ้ จทย์ปญั หาการหารเกย่ี วกับเวลาและระยะเวลา ใบกจิ กรรม 4.10 ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนเป็นรายบุคคลโดย น�ำ เสนอวิธกี ารแก้โจทย์ปัญหาการหารเก่ยี วกบั เวลาและระยะเวลาในใบกิจกรรม 4.10 แบบฝกึ หดั 4.13 - ประเมนิ จากการตอบคำ�ถาม การท�ำ ใบกจิ กรรม 4.10 และการท�ำ แบบฝึกหดั 4.13 - ประเมินจากการแก้ปญั หา และการสือ่ สารและสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ 93

94 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๑๓ ช้นั ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชั่วโมง ขอบเขตเนอื้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ โจทยป์ ญั หาการหาร ขน้ั น�ำ 1. บตั รโจทย์การหาร เกี่ยวกบั เวลาและระยะเวลา 1. ครูจดั กจิ กรรมแขง่ ขัน “หาผลหาร” มกี ตกิ า ดังน้ี 2. แถบโจทย์ปัญหา 1.1 ครชู ูบัตรโจทย์การหารใหน้ กั เรยี นทัง้ หอ้ งชว่ ยกันหาผลหาร 3. ใบกิจกรรม 4.10 สาระสำ�คัญ 1.2 นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทน 1 คน ออกมาหน้าหอ้ ง เม่อื ครชู บู ัตรโจทย์การหาร 4. แบบฝึกหดั 4.13 ให้แขง่ กันบอกผลหาร ใครบอกก่อนและถกู ตอ้ งเปน็ ผ้ชู นะได้ 1 คะแนน การแก้โจทยป์ ญั หาทำ�ได้ 1.3 ครูจดั กิจกรรมเชน่ น้ี 5 – 6 ครง้ั การประเมิน โดยการอ่านท�ำ ความเขา้ ใจ ปญั หา วางแผนแก้ปัญหา ข้นั สอน 1. วิธกี าร หาค�ำ ตอบ และตรวจสอบ 2. ครจู ดั กจิ กรรมการแกโ้ จทยป์ ญั หาการหารเกย่ี วกบั เวลาและระยะเวลา โดยครตู ดิ แถบโจทยป์ ญั หา 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรม ความสมเหตุสมผลของ ดงั นี้ การเรยี นรู้ คำ�ตอบ 1) ครูสอนนกั เรยี น 36 ช่ัวโมง ในเวลา 4 สัปดาห์ 1.2 ตรวจใบกิจกรรม 1.3 ตรวจแบบฝึกหัด จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ครูใช้เวลาสอนเทา่ ๆ กนั ทกุ สัปดาห์ ครสู อนสปั ดาหล์ ะก่ชี ว่ั โมง 2. เคร่อื งมือ โจทย์ถามอะไร (ครูสอนสัปดาหล์ ะก่ีช่วั โมง) 2.1 ใบกจิ กรรม 4.10 ดา้ นความรู้ โจทย์บอกอะไร (ครูสอนนกั เรยี น 36 ชวั่ โมง ในเวลา 4 สปั ดาห์ ครใู ชเ้ วลาสอนเทา่ ๆ กัน 2.2 แบบฝึกหัด 4.13 เพอ่ื ให้นกั เรียนสามารถ ทกุ สปั ดาห)์ 2.3 แบบประเมนิ ทกั ษะ แก้โจทย์ปัญหาการหาร ครเู ขยี นแผนภาพน�ำ เสนอแนวความคดิ ดงั น้ี และกระบวนการ เกี่ยวกบั เวลาและระยะเวลา ทางคณิตศาสตร์ 36 ช่ัวโมง .........ชว่ั โมง .........ชัว่ โมง .........ช่วั โมง .........ช่ัวโมง 1 สัปดาห์ 1 สปั ดาห์ 1 สปั ดาห์ 1 สปั ดาห์

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๓ ช้นั ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ - หาคำ�ตอบไดอ้ ยา่ งไร (ใช้การหาร) 3. เกณฑ์ ทางคณิตศาสตร์ - เขียนประโยคสัญลกั ษณ์ได้อย่างไร (36 ÷ 4 = ) ครเู ขยี นประโยคสัญลกั ษณ์ 3.1 ผลงานมีความถกู ตอ้ ง เพอ่ื ใหน้ ักเรียนสามารถ บนกระดาน ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 1. แก้ปัญหา - หาผลหารไดอ้ ยา่ งไร (หาวา่ 4 คณู จ�ำ นวนใดเทา่ กบั 36) ครเู ขยี นวธิ กี ารหาผลหารบนกระดาน 3.2 คะแนนรวมดา้ นทักษะ 2. สอ่ื สาร และสอ่ื 36 ÷ 4 = และกระบวนการทาง ความหมายทางคณิตศาสตร์ ใช้ความสัมพนั ธก์ ารคูณและการหาร จะได้ 4 × = 36 คณิตศาสตรไ์ มน่ อ้ ยกวา่ จาก 4 × = 36 รอ้ ยละ 60 เนือ่ งจาก 4 × 9 = 36 ดังนั้น 36 ÷ 4 = 9 ครูเขยี นวธิ ีท�ำ บนกระดาน ดงั น้ี วิธีท�ำ ครูสอนนักเรียน 36 ชั่วโมง 4 × = 36 ใชเ้ วลา 4 สปั ดาห์ 4 × 9 = 36 ครสู อนสัปดาหล์ ะ 36 ÷ 4 = 9 ชั่วโมง ตอบ ครูสอนสปั ดาหล์ ะ ๙ ชว่ั โมง - คำ�ตอบถูกตอ้ งหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (ถูกตอ้ ง เพราะสอนหนงั สอื 4 สปั ดาห์ สัปดาหล์ ะ 9 ช่ัวโมง ใชเ้ วลาสอนหนงั สือทงั้ หมด 4 × 9 = 36 ช่วั โมง) 95

96 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๑๓ ชัน้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง 2) เครอื่ งถักผา้ พนั คออัตโนมตั ิ ถักผา้ พันคอแตล่ ะผืนใช้เวลาถกั เท่า ๆ กัน ผ้าพนั คอ 9 ผนื ใช้เวลา 1 ชัว่ โมง 30 นาที ผ้าพนั คอแต่ละผืนใชเ้ วลาถักก่นี าที โจทยถ์ ามอะไร (ผ้าพนั คอแตล่ ะผืนใช้เวลาถกั กน่ี าที) โจทยบ์ อกอะไร (ผา้ พนั คอ 9 ผนื ใช้เวลา 1 ช่ัวโมง 30 นาท)ี ครถู ามวา่ 1 ช่วั โมง 30 นาที เปน็ ก่นี าที (90 นาที คิดจาก 1 ช่ัวโมง 30 นาที เท่ากับ 60 + 30 = 90 นาที) ครเู ขียนแผนภาพน�ำ เสนอแนวความคิด ดังน้ี 90 นาที 123456789 - หาคำ�ตอบไดอ้ ย่างไร (ใช้การหาร) - เขียนประโยคสญั ลกั ษณไ์ ด้อย่างไร (90 ÷ 9 = ) ครเู ขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ บนกระดาน - หาผลหารไดอ้ ยา่ งไร (หาวา่ 9 คณู จ�ำ นวนใดเทา่ กบั 90) ครเู ขยี นวธิ กี ารหาผลหารบนกระดาน 90 ÷ 9 = ใชค้ วามสัมพันธ์การคูณและการหาร จะได้ 9 × = 90 จาก 9 × = 90 เน่ืองจาก 9 × 10 = 90 ดังนน้ั 90 ÷ 9 = 10