Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-07-23-หน่วยที่ 4 คู่มือครู ป.2 คณิต

64-07-23-หน่วยที่ 4 คู่มือครู ป.2 คณิต

Published by elibraryraja33, 2021-07-23 04:27:02

Description: 64-07-23-หน่วยที่ 4 คู่มือครู ป.2 คณิต

Search

Read the Text Version

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจดั ก�รเรียนร้ทู ี่ ๕ 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรู้คณิตศ�สตร์ ชนั้ ป.๒ หน่วยท่ี ๔ แบบรปู เวล� ๑ ช่วั โมง ใบกจิ กรรมท่ี 4.2 1 6 5 7 90 “I am designer” 1. ออกแบบสรอ้ ยคอต�มจนิ ตน�ก�รให้มีลักษณะเปนแบบรปู ซ�ำ้ โดยว�ดรูปและระบ�ยสี ตกแตง่ ให้สวยง�ม สรอยคอเปน แบบรูปซา้� โดยชุดที่ซ้�ามีสมาชิก ....3.... รูป คือ หรือ 22 ๔๓

๔๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรคู้ ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ท่ี ๕ ชัน้ ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๔ แบบรูป เวล� ๑ ช่ัวโมง ครสู มุ นกั เรยี น 1-2 คอู อกมานา� เสนอผลงาน จากนนั้ รว มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ ง และนา� ผลงาน ของนกั เรยี นแตละกลมุ ติดไวท ีก่ ระดานแสดงผลงาน แลว ใหน ักเรียนเดนิ ดูผลงานของเพอ่ื นในเวลาวา ง ขัน้ สรปุ 5. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ วา การสรา งแบบรปู ซา�้ ของรปู เรขาคณติ และรปู อนื่ ๆ ใหก า� หนดสมาชกิ ในชุดท่ีซ้า� กอน จากน้ันน�าชดุ ทซี่ �้ามาวางเรียงตอ กนั ไปเรื่อย ๆ 5 47 22

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ท่ี ๖ 1 6 5 7 902 แนวก�รจดั กิจกรรมก�รเรียนรู้ 2 ขัน้ น�ำ แบบรปู ทีเ่ พ่มิ ข้นึ ครง้ั ละเทา ๆ กนั ขน้ั สอน แบบรปู ของจ�านวนท่ีเพิ่มขน้ึ ทลี ะ 2 และลดทลี ะ 2 แบบฝกึ หดั 4.5 ขนั้ สรปุ ครูและนกั เรยี นรวมกันสรุปเกยี่ วกบั - แบบรูปของจา� นวนท่เี พ่มิ ข้ึนทลี ะ 2 และลดทีละ 2 - การหาจา� นวนถดั ไปหรือจา� นวนที่หายไปในแบบรปู ของจา� นวน 2 - ประเมินจากการตอบค�าถามและการท�าแบบฝกึ หดั 4.5 ก�รวัดและประเมนิ ผล - ประเมนิ จากการใหเหตผุ ล การส่ือสารและการสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร และการเชอ่ื มโยง ๔๕

๔๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูค้ ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรทู้ ่ี ๖ ชั้น ป.๒ 01 9 หนว่ ยที่ ๔ แบบรูป เวล� ๑ ชั่วโมง ขอบเขตเนอ้ื ห� กจิ กรรมก�รเรยี นรู้ สื่อ / แหล่งก�รเรยี นรู้ แบบรูปของจ�านวนท่ีเพิ่มข้ึน ข้ันนำ� ทลี ะ 2 และลดทลี ะ 2 1. บัตรภาพ 1. ครตู ิดบัตรภาพบนกระดาน ดังน้ี 2. แบบฝกึ หดั 4.5 ส�ระส�ำ คญั รปู ที่ 1 รูปที่ 2 รปู ท่ี 3 รูปท่ี 4 ก�รประเมิน 1. ชุ ด ข อ ง จ� า น ว น ท่ี มี 1. วิธกี �ร 5 47 ความสัมพันธกันอยางตอเน่ือง 1) สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู ในลักษณะของการเพ่ิมข้ึนหรือ 2) ตรวจแบบฝกึ หัด 4.5 ลดลงทลี ะเทา ๆ กัน เปนแบบรูป ของจา� นวน 2. เคร่ืองมือ 1) แบบฝกึ หดั 4.5 - แบบรูปของจ�านวนที่ 2) แบบประเมินทักษะและ เพม่ิ ขึน้ ทีละ 2 เปนชดุ ของจา� นวน ท่ีมีความสัมพันธกันอยางตอเนื่อง กระบวนการทางคณิตศาสตร ในลักษณะของการเพ่ิมข้ึนทีละ 3. เกณฑ์ 2 เทา ๆ กัน 1) ผลงานมีความถูกตอง 2 - แบบรูปของจ�านวนที่ ไมน อยกวา รอ ยละ 80 2ลดลงทีละ 2 เปนชุดของจา� นวน ครถู ามวา 2) คะแนนรวมดานทักษะ - ภาพท่คี รตู ดิ บนกระดานเปนรปู อะไร (ตอบตามความเขาใจ เชน วงกลม วงกลมหลาย ๆ กอง) - รปู ที่ 1 กับ รปู ท่ี 2 ตางกันอยา งไร (ตอบตามความเขาใจ เชน จา� นวนไมเทา กนั รปู แบบการวาง ตา งกัน รปู ที่ 2 มีจ�านวนวงกลมมากกวา รูปท่ี 1) - แตละรูปท่คี รูตดิ มจี า� นวนเทาใด (รปู ท่ี 1 มีวงกลม 3 รปู รูปท่ี 2 มวี งกลม 5 รปู รปู ที่ 3 มวี งกลม 7 รูป รูปท่ี 4 มวี งกลม 9 รูป) ครเู ขยี นตวั เลขแสดงจา� นวนวงกลมใตรูปดังนี้ รูปที่ 1 รูปท่ี 2 รปู ที่ 3 รปู ที่ 4 ที่มีความสัมพันธกันอยางตอเนื่อง กระบวนการทางคณิตศาสตร ไมนอ ยกวา รอ ยละ 60 ในลักษณะของการลดลงทีละ 3 5 7 9 2 เทา ๆ กัน

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นร้คู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนร้ทู ี่ ๖ 2 2 หนว่ ยท่ี ๔ แบบรปู ช้นั ป.๒ 2. การหาจ�านวนถัดไปหรือ - รปู ท่ี 2 มวี งกลมมากกวารูปท่ี 1 อยกู ่รี ปู (2 รูป) เวล� ๑ ชั่วโมง 1 6 5 7 90 จ�านวน ที่หายไปในแบบรูปของ - รูปท่ี 3 มวี งกลมมากกวารูปที่ 2 อยกู ี่รูป (2 รปู ) จ�านวน ใหหาความสัมพันธของ - รูปท่ี 4 มีวงกลมมากกวา รปู ท่ี 3 อยูก่ีรูป (2 รปู ) 2 แบบรปู กอ นแลว จงึ หาจา� นวนนน้ั - รูปท่ี 5 ควรมีวงกลมจ�านวนเทาใด เพราะเหตุใด (ตอบตามความเขาใจ ซึ่งนักเรียนควรจะตอบ ไดว า วงกลม 11 รปู เพราะจ�านวนวงกลมในแตล ะรูปเพม่ิ ขึ้นครัง้ ละ 2 รปู ) จดุ ประสงคก์ �รเรียนรู้ - รปู แบบการวางวงกลมในรปู ท่ี 5 ควรเปนอยา งไร (ตอบตามความเขา ใจ ซ่งึ นกั เรยี นควรจะตอบ ด้�นคว�มรู้ ไดวา วางวงกลมเพ่ิมในแถวลาง 1 รูป และแถวบน 1 รปู ) ครเู ฉลยคา� ตอบโดยการตดิ ภาพบนกระดาน ดงั นี้ เพื่อใหนักเรยี นสามารถ 1. บอกความสมั พนั ธและหา รูปท่ี 1 รูปที่ 2 รูปท่ี 3 รปู ที่ 4 รูปท่ี 5 จา� นวนถดั ไปในแบบรปู ของจา� นวน ทเี่ พม่ิ ขน้ึ หรือลดลงทีละ 2 35 7 9 11 2. หาจ�านวนท่ีหายไปใน แบบรูปของจ�านวนท่ีเพิ่มข้ึน ครูถามตอ วา หรือลดลงทลี ะ 2 - วงกลมในรูปถัดไปมีจา� นวนเทา ไร เพราะเหตุใด ( 13 เพราะเพ่มิ ขึ้นคร้ังละ 2 ) ครเู ขยี นชดุ จา� นวนและความสมั พนั ธบนกระดาน ดงั น้ี ด�้ นทกั ษะและกระบวนก�ร ท�งคณิตศ�สตร์ เพ่ิมข้ึน 2 เพิ่มขนึ้ 2 เพม่ิ ขึ้น 2 เพ่มิ ขนึ้ 2 เพิ่มขนึ้ 2 เพ่ือใหนกั เรียนสามารถ 3 5 7 9 11 13 1. ใหเ หตผุ ล ๔๗ 2. ส่ือสารและสื่อความหมาย ทางคณิตศาสตร 3. เชื่อมโยง

๔๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูค้ ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู้ ่ี ๖ ชนั้ ป.๒01 9 หนว่ ยที่ ๔ แบบรูป เวล� ๑ ชัว่ โมง ขน้ั สอน 2 5 47 2. ครูจดั กิจกรรมหาจา� นวนถัดไปในแบบรูป โดยเขยี นชดุ จ�านวนบนกระดาน ดงั นี้ 1) 12 14 16 18 20 ครใู หน กั เรียนอา นจ�านวนที่ครเู ขียนบนกระดาน และถามวา - จา� นวนถัดไปควรเปนจ�านวนใด (22) - ทราบไดอ ยา งไร (นกั เรียนตอบตามความเขา ใจ เชน แนวคดิ ท่ี 1 สงั เกตจ�านวนท่ีอยตู ิดกันตา งกันอยู 2 โดย 14 มากกวา 12 อยู 2 16 มากกวา 14 อยู 2 18 มากกวา 16 อยู 2 20 มากกวา 18 อยู 2 แนวคิดท่ี 2 นับเพ่ิมจาก 12 ถงึ 14 จะได 13 14 นบั เพมิ่ จาก 14 ถึง 16 จะได 15 16 นบั เพมิ่ จาก 16 ถึง 18 จะได 17 18 นบั เพ่ิมจาก 18 ถึง 20 จะได 19 20 2 จะเห็นวา จ�านวนทางขวาเพ่มิ ข้นึ จากจ�านวนทางซายอยู 2

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุม่ ส�ระก�รเรยี นรูค้ ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรู้ที่ ๖ 2 2 หน่วยที่ ๔ แบบรปู ช้นั ป.๒ แนวคิดที่ 3 สงั เกตจากจา� นวนทอ่ี ยตู ดิ กนั โดยจา� นวนทางขวามากกวา จา� นวนทางซา ย จงึ นา� จา� นวน เวล� ๑ ช่วั โมง1 6 5 7 90 ทางขวาลบดว ยจ�านวนทางซายทอ่ี ยูต ดิ กัน ซึ่งอาจคิดไดจ าก 14 – 12 = 2 16 – 14 = 2 18 - 16 = 2 20 - 18 = 2 จะเห็นวาจ�านวนที่อยูติดกันทุกจ�านวน จ�านวนทางขวามากกวา 2 จ�านวนทางซา ยอยู 2 - ชดุ ของจ�านวนบนกระดานมีความสมั พนั ธกันอยา งไร (เพ่ิมข้นึ ทลี ะ 2 เทา ๆ กนั ) ครูเขยี นค�าตอบบนกระดาน พรอ มทงั้ เขยี นความสมั พันธ ดังนี้ เพ่ิมข้ึน 2 เพม่ิ ขึน้ 2 เพ่มิ ขนึ้ 2 เพิ่มข้นึ 2 เพ่มิ ขึ้น 2 12 14 16 18 20 22 ครูแนะน�าการเขยี นแสดงความสมั พันธแบบเพม่ิ ขน้ึ ทลี ะ 2 โดยเขียนเปน +2 ดงั น้ี +2 +2 +2 +2 +2 12 14 16 18 20 22 ดังนน้ั ชุดของจ�านวนน้มี คี วามสมั พันธแบบเพม่ิ ขึ้นทลี ะ 2 หรอื ชุดของจ�านวนนเ้ี ปนแบบรปู ของจ�ำ นวนทีเ่ พมิ่ ข้ึนทีละ 2 ๔๙

๕๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรู้คณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู้ ่ี ๖ ช้ัน ป.๒01 9 หนว่ ยที่ ๔ แบบรูป เวล� ๑ ชวั่ โมง 2) 61 63 65 67 69 2 5 47 ครูใหน กั เรยี นอานจ�านวนท่ีครเู ขยี นบนกระดาน และถามวา - จ�านวนถัดไปควรเปน จา� นวนใด (71) - ทราบไดอ ยา งไร (นักเรยี นตอบตามความเขาใจ เชน แนวคิดที่ 1 สงั เกตจ�านวนท่ีอยตู ดิ กันตางกนั อยู 2 โดย 63 มากกวา 61 อยู 2 65 มากกวา 63 อยู 2 67 มากกวา 65 อยู 2 69 มากกวา 67 อยู 2 แนวคิดที่ 2 นบั เพ่มิ จาก 61 ถงึ 63 จะได 62 63 นบั เพมิ่ จาก 63 ถงึ 65 จะได 64 65 นับเพ่ิมจาก 65 ถงึ 67 จะได 66 67 นบั เพมิ่ จาก 67 ถงึ 69 จะได 68 69 จะเหน็ วาจ�านวนทางขวาเพมิ่ ขนึ้ จากจา� นวนทางซายอยู 2 แนวคิดท่ี 3 สงั เกตจากจา� นวนทอ่ี ยตู ดิ กนั โดยจา� นวนทางขวามากกวา จา� นวนทางซา ย จงึ นา� จา� นวน ทางขวาลบดว ยจา� นวนทางซา ยทอี่ ยตู ดิ กนั ซึ่งอาจคดิ ไดจ าก 63 – 61 = 2 65 – 63 = 2 2 67 - 65 = 2 69 - 67 = 2 จะเห็นวาจา� นวนทอ่ี ยตู ิดกนั ทกุ จ�านวน จา� นวนทางขวามากกวา จา� นวนทางซา ยอยู 2 - ชุดของจ�านวนบนกระดานมีความสัมพนั ธก นั อยา งไร (เพ่ิมขน้ึ ทลี ะ 2 เทา ๆ กัน) - ชุดจ�านวนน้ีเปนแบบรูปของจ�านวนหรือไม เพราะเหตุใด (เปนแบบรูปของจ�านวน เพราะมี ความสัมพนั ธแ บบเพิม่ ขนึ้ ทีละ 2)

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นรคู้ ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นร้ทู ่ี ๖ 2 2 หน่วยท่ี ๔ แบบรูป ชัน้ ป.๒ ครูเขียนค�าตอบบนกระดาน พรอมทง้ั เขยี นความสัมพนั ธ ดังน้ี เวล� ๑ ชัว่ โมง1 6 5 7 90 +2 +2 +2 +2 +2 2 ๕๑ 61 63 65 67 69 71 ดงั นนั้ ชุดของจ�านวนนมี้ ีความสมั พนั ธแ บบเพิม่ ขึ้นทีละ 2 หรือ ชดุ ของจา� นวนนเี้ ปน แบบรูปของจำ�นวนทีเ่ พิม่ ข้ึนทีละ 2 3) 91 89 87 85 83 … ครใู หนักเรียนอา นจา� นวนท่คี รเู ขยี นบนกระดาน และถามวา - จา� นวนถัดไปควรเปนจ�านวนใด (81) - ทราบไดอยางไร (นกั เรยี นตอบตามความเขาใจ เชน แนวคดิ ท่ี 1 สงั เกตจา� นวนทอี่ ยตู ดิ กนั ตา งกนั อยู 2 โดย 89 นอ ยกวา 91 อยู 2 87 นอ ยกวา 89 อยู 2 85 นอยกวา 87 อยู 2 83 นอยกวา 85 อยู 2 แนวคิดท่ี 2 นบั ถอยหลังจาก 91 ถงึ 89 เปน 90 89 นับถอยหลังจาก 89 ถงึ 87 เปน 88 87 นับถอยหลังจาก 87 ถึง 85 เปน 86 85 นบั ถอยหลงั จาก 85 ถงึ 83 เปน 84 83 จะเห็นวา จ�านวนทางขวาลดลงจากจ�านวนทางซายอยู 2

๕๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรู้คณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นร้ทู ี่ ๖ ช้นั ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๔ แบบรูป เวล� ๑ ช่ัวโมง แนวคดิ ที่ 3 สงั เกตจากจา� นวนทอ่ี ยตู ดิ กนั โดยจา� นวนทางขวานอ ยกวา จา� นวนทางซา ย จงึ นา� จา� นวน 2 ทางซายลบดวยจ�านวนทางขวาที่อยูติดกัน ซ่ึงอาจคิดไดจาก 91 – 89 = 2 89 – 87 = 2 87 - 85 = 2 85 – 83 = 2 จะเห็นวาจ�านวนท่ีอยูติดกันทุกจ�านวน จ�านวนทางขวานอยกวา จา� นวนทางซา ยอยู 2 - ชดุ ของจ�านวนบนกระดานมีความสัมพันธก นั อยางไร (ลดลงทลี ะ 2 เทา ๆ กัน) ครเู ขยี นค�าตอบบนกระดาน พรอมทัง้ เขยี นความสมั พันธ ดังนี้ ลดลง 2 ลดลง 2 ลดลง 2 ลดลง 2 ลดลง 2 5 47 91 89 87 85 83 81 ครูแนะนา� การเขียนแสดงความสมั พันธแ บบลดลงทลี ะ 2 โดยเขยี นเปน -2 ดังนี้ –2 –2 –2 –2 –2 91 89 87 85 83 81 2 ดงั นนั้ ชุดของจา� นวนน้มี คี วามสมั พันธแ บบลดลงทลี ะ 2 หรือ ชุดของจา� นวนนเ้ี ปน แบบรปู ของจำ�นวนท่ีลดลงทีละ 2

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรู้คณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรูท้ ่ี ๖ 2 2 หน่วยท่ี ๔ แบบรปู ชั้น ป.๒ 4) 555 553 551 549 547 …….. …….. เวล� ๑ ช่ัวโมง 1 6 5 7 90 ครูใหน กั เรยี นอา นจา� นวนท่ีครูเขยี นบนกระดาน และถามวา - ชุดจ�านวนน้ีเปนแบบรูปของจ�านวนหรือไม เพราะเหตุใด (เปนแบบรูปของจ�านวน เพราะมี 2 ความสมั พนั ธแบบลดลงทลี ะ 2) ครูเขียนความสัมพันธบ นชดุ จ�านวน ดงั นี้ ลดลง 2 ลดลง 2 ลดลง 2 ลดลง 2 555 553 551 549 547 - สองจ�านวนถัดไปควรเปนจ�านวนใด และหาไดอยางไร (545 และ 543 นักเรียนตอบตาม ความเขาใจ เชน หาไดโ ดย แนวคดิ ที่ 1 จาก 547 นับลดลงไป 2 จะได 545 และ จาก 545 นบั ลดลงไป 2 จะได 543 แนวคดิ ท่ี 2 จาก 547 ลบดว ย 2 จะได 547 - 2 = 545 และ 545 – 2 = 543) ครเู ขียนค�าตอบบนกระดาน พรอ มท้งั เขยี นความสัมพนั ธ ดังน้ี ลดลง 2 ลดลง 2 ลดลง 2 ลดลง 2 ลดลง 2 ลดลง 2 555 553 551 549 547 545 543 ๕๓

๕๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรู้คณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ที่ ๖ ช้ัน ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๔ แบบรูป เวล� ๑ ชวั่ โมง 3. ครจู ัดกจิ กรรมหาจา� นวนท่ีหายไปในแบบรปู โดยเขยี นชุดจ�านวนบนกระดาน ดังนี้ 2 5 47 1) 189 191 …….. 195 197 199 ครูใหนกั เรยี นอา นจา� นวนทค่ี รเู ขยี นบนกระดาน และถามวา - แบบรูปของจา� นวนนี้มีความสัมพันธก ันอยางไร (มคี วามสมั พนั ธแ บบเพม่ิ ขนึ้ ทีละ 2) - ทราบไดอ ยางไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจ เชน แนวคิดที่ 1 สงั เกตจา� นวนท่อี ยูตดิ กนั ตา งกนั อยู 2 โดย 191 มากกวา 189 อยู 2 197 มากกวา 195 อยู 2 199 มากกวา 197 อยู 2 แนวคดิ ท่ี 2 นบั เพิม่ จาก 189 ถึง 191 จะได 190 191 นบั เพ่มิ จาก 195 ถงึ 197 จะได 196 197 นบั เพม่ิ จาก 197 ถึง 199 จะได 198 199 จะเหน็ วาจ�านวนทางขวาเพมิ่ ข้ึนจากจ�านวนทางซา ยอยู 2 แนวคิดท่ี 3 สงั เกตจากจา� นวนทอ่ี ยตู ดิ กนั โดยจา� นวนทางขวามากกวา จา� นวนทางซา ย จงึ นา� จา� นวน ทางขวาลบดว ยจา� นวนทางซายทอ่ี ยูติดกนั ซึ่งอาจคิดไดจ าก 191 – 189 = 2 197 – 195 = 2 199 - 197 = 2 จะเห็นวาจ�านวนที่อยตู ิดกนั ทุกจา� นวน จ�านวนทางขวามากกวาจ�านวนทางซา ยอยู 2 - จ�านวนท่ีหายไปคอื จา� นวนใด (193) 2 - นักเรียนทราบไดอ ยา งไร (นกั เรยี นตอบตามความเขาใจ เชน แนวคิดที่ 1 นับเพิม่ จาก 191 ไปอกี 2 จะได 193 แนวคดิ ท่ี 2 จาก 191 บวกเพมิ่ อีก 2 จะได 191 + 2 = 193 แนวคดิ ที่ 3 เนื่องจากจา� นวนทางขวามากกวา จ�านวนทางซายท่อี ยูติดกนั อยู 2 จึงนา� จ�านวนทาง ขวาลบดว ย 2 จะได 195 – 2 = 193) แนวคดิ ที่ 4 นับลดจาก 195 ไป 2 จะได 193

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรียนรู้คณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรูท้ ่ี ๖ 2 2 หน่วยท่ี ๔ แบบรูป ช้นั ป.๒ ครเู ขยี นค�าตอบบนกระดาน พรอ มทงั้ เขียนความสัมพนั ธของแบบรปู จ�านวน ดงั น้ี เวล� ๑ ชว่ั โมง1 6 5 7 90 +2 +2 +2 +2 +2 2 189 191 193 195 197 199 –2 2) 701 ……. 697 695 693 691 ครูใหนกั เรียนอานจ�านวนทคี่ รูเขยี นบนกระดาน และถามวา - แบบรูปของจา� นวนน้มี คี วามสมั พนั ธกนั อยา งไร (มีความสมั พนั ธแ บบลดลงทีละ 2) - ทราบไดอ ยางไร (นกั เรยี นตอบตามความเขาใจ เชน แนวคิดท่ี 1 สังเกตจา� นวนทอี่ ยตู ิดกันตา งกันอยู 2 โดย 695 นอ ยกวา 697 อยู 2 693 นอยกวา 695 อยู 2 691 นอยกวา 693 อยู 2 แนวคิดท่ี 2 นบั ถอยหลงั จาก 697 ถึง 695 เปน 696 695 นบั ถอยหลังจาก 695 ถงึ 693 เปน 694 693 นบั ถอยหลังจาก 693 ถงึ 691 เปน 692 691 จะเห็นวา จ�านวนทางขวาลดลงจากจ�านวนทางซายอยู 2 ๕๕

๕๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กล่มุ ส�ระก�รเรียนร้คู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ที่ ๖ ชน้ั ป.๒01 9 หน่วยที่ ๔ แบบรปู เวล� ๑ ชั่วโมง แนวคิดท่ี 3 สงั เกตจากจา� นวนทอ่ี ยตู ดิ กนั โดยจา� นวนทางขวานอ ยกวา จา� นวนทางซา ย จงึ นา� จา� นวน 2 5 47 ทางซายลบดวยจ�านวนทางขวาที่อยูติดกัน ซึ่งอาจคิดไดจาก 697 – 695 = 2 695 – 693 = 2 693 - 691 = 2 จะเหน็ วาจ�านวนท่อี ยูติดกันทุกจ�านวน จา� นวนทางขวานอยกวาจา� นวนทางซายอยู 2 - จ�านวนทห่ี ายไปคอื จา� นวนใด (699) - นักเรียนทราบไดอยา งไร (นกั เรียนตอบตามความเขา ใจ เชน แนวคดิ ที่ 1 นบั ลดจาก 701 ไป 2 จะได 699 แนวคิดที่ 2 จาก 701 ลบดว ย 2 จะได 701 - 2 = 699 แนวคิดท่ี 3 เนอ่ื งจากจ�านวนทางขวานอยกวาจ�านวนทางซา ยทอี่ ยตู ิดกนั อยู 2 จึงนา� จา� นวนทาง ขวาบวกดว ย 2 จะได 697 + 2 = 699) ครูเขยี นคา� ตอบบนกระดาน พรอมทั้งเขียนความสมั พนั ธของแบบรปู จา� นวน ดงั นี้ –2 –2 –2 –2 –2 701 699 697 695 693 691 2 +2 ครูใหน กั เรียนท�าแบบฝกึ หดั 4.5

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ที่ ๖ 2 กล่มุ ส�ระก�รเรียนรคู้ ณิตศ�สตร์ ชนั้ ป.๒ หนว่ ยที่ ๔ แบบรูป เวล� ๑ ชว่ั โมง ข้นั สรปุ 2 1 6 5 7 90 4. ครูและนักเรยี นรว มกนั สรปุ วา - ชุดของจ�านวนท่ีมีความสัมพันธกันอยางตอเน่ืองในลักษณะของการเพ่ิมขึ้นหรือลดลงทีละ เทา ๆ กัน เปน แบบรูปของจา� นวน • แบบรูปของจ�านวนที่เพ่ิมขึ้นทีละ 2 เปนชุดของจ�านวนที่มีความสัมพันธกันอยางตอเน่ืองใน ลักษณะของการเพ่มิ ขน้ึ ทลี ะ 2 เทา ๆ กัน • แบบรูปของจ�านวนที่ลดลงทีละ 2 เปนชุดของจ�านวนที่มีความสัมพันธกันอยางตอเนื่องใน ลกั ษณะของการลดลงทลี ะ 2 เทา ๆ กนั - การหาจ�านวนถัดไปหรือจ�านวนท่ีหายไปในแบบรูปของจ�านวน ใหหาความสัมพันธของแบบรูป กอ นแลว จงึ หาจา� นวนน้ัน 2 ๕๗

๕๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนก�รจัดก�รเรียนรทู้ ี่ ๗ 01 9 แนวก�รจดั กจิ กรรมก�รเรียนรู้ ขั้นน�ำ แบบรปู ที่เพิ่มข้ึนครงั้ ละเทา ๆ กนั ขั้นสอน แบบรปู ของจ�านวนทีเ่ พิม่ ข้นึ ทีละ 5 และลดลงทีละ 5 5 47 แบบฝกึ หัด 4.6 ขน้ั สรปุ ครแู ละนักเรยี นรว มกนั สรุปเก่ยี วกบั - แบบรูปของจา� นวนทเ่ี พ่มิ ขนึ้ ทลี ะ 5 และลดลงทีละ 5 - การหาจ�านวนถดั ไปหรือจา� นวนท่หี ายไปในแบบรปู ของจา� นวน 2 - ประเมินจากการตอบค�าถามและการทา� แบบฝึกหดั 4.6 2 ก�รวัดและประเมนิ ผล - ประเมนิ จากการใหเ หตผุ ล การสือ่ สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร และการเชอ่ื มโยง

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรู้คณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท้ ี่ ๗ 2 2 หน่วยท่ี ๔ แบบรูป ชั้น ป.๒ เวล� ๑ ช่ัวโมง ขอบเขตเนอ้ื ห� กจิ กรรมก�รเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ 1 6 5 7 90 แบบรูปของจ�านวนที่เพ่ิมข้ึน ขน้ั นำ� ทีละ 5 และลดลงทีละ 5 1. บัตรภาพ 1. ครตู ิดบัตรภาพบนกระดาน ดังน้ี 2. แบบฝกึ หดั 4.6 ส�ระส�ำ คัญ รปู ท่ี 1 รูปที่ 2 รปู ที่ 3 รปู ที่ 4 ก�รประเมิน 1. ชุ ด ข อ ง จ� า น ว น ท่ี มี ครถู ามวา 1. วิธกี �ร 2 ความสมั พนั ธก นั อยา งตอ เนอื่ งใน - ภาพที่ครตู ดิ บนกระดานเปน รูปอะไร (ตอบตามความเขา ใจ เชน รปู สเ่ี หล่ยี ม แทง สีเ่ หล่ียม) 1) สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู ลักษณะของการเพ่ิมข้ึนหรือลด - รูปท่ี 1 กับ รปู ท่ี 2 ตา งกนั อยา งไร (ตอบตามความเขาใจ เชน จ�านวนไมเทากัน รูปแบบการวาง 2) ตรวจแบบฝกึ หดั 4.6 ลงทีละเทา ๆ กัน เปนแบบรูป ตางกนั รปู ท่ี 2 มจี �านวนมากกวารปู ท่ี 1 ) ของจา� นวน - แตละรูปทคี่ รตู ดิ มีจ�านวนเทา ใด (รูปท่ี 1 มีรูปสีเ่ หล่ียม 3 รูป รูปที่ 2 มีรูปสี่เหลี่ยม 8 รูป รูปที่ 3 2. เครอื่ งมือ มีรปู สเ่ี หลี่ยม 13 รูป รปู ที่ 4 มรี ปู ส่เี หล่ยี ม 18 รูป) ครูเขยี นตัวเลขแสดงจ�านวนใตร ูปดังน้ี 1) แบบฝกึ หดั 4.6 - แบบรูปของจ�านวนที่ 2) แบบประเมนิ ทกั ษะและ เพิ่มข้ึนทีละ 5 เปนชุดของ รปู ที่ 1 รูปท่ี 2 รปู ที่ 3 รปู ที่ 4 จา� นวนทมี่ คี วามสมั พนั ธก นั อยา ง กระบวนการทางคณติ ศาสตร ตอเน่ืองในลักษณะของการเพ่ิม 3. เกณฑ์ ขึ้นทลี ะ 5 เทา ๆ กัน 1) ผลงานมีความถูกตอง - แบบรูปของจ�านวนที่ ไมนอ ยกวารอ ยละ 80 ลดลงทลี ะ 5 เปน ชุดของจ�านวน ที่ มี ค ว า ม สั ม พั น ธ  กั น อ ย  า ง 2) คะแนนรวมดานทักษะ ตอ เนอ่ื งในลกั ษณะของการลดลง กระบวนการทางคณิตศาสตร ทีละ 5 เทา ๆ กนั ไมนอ ยกวา รอยละ 60 ๕๙ 38 13 18

๖๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุม่ ส�ระก�รเรียนร้คู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท้ ่ี ๗ ช้ัน ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๔ แบบรูป เวล� ๑ ช่วั โมง 2. การหาจ�านวนถัดไปหรือ - รูปท่ี 2 มีรูปสี่เหล่ียมมากกวารูปท่ี 1 อยกู ่ีรูป (5 รปู ) 2 จ�านวนท่ีหายไปในแบบรูปของ - รูปที่ 3 มรี ูปสเ่ี หลย่ี ม มากกวา รูปที่ 2 อยกู ่รี ูป (5 รปู ) จ�านวน ใหหาความสัมพันธของ - รปู ท่ี 4 มรี ูปสีเ่ หล่ียม มากกวา รูปที่ 3 อยกู ร่ี ูป (5 รูป) แบบรปู กอ นแลว จงึ หาจา� นวนนน้ั - รปู ท่ี 5 ควรมรี ปู สเี่ หลย่ี มจา� นวนเทา ใด เพราะเหตใุ ด (ตอบตามความเขา ใจ ซง่ึ นกั เรยี นควรจะตอบ ไดวา รปู ส่เี หล่ียม 23 รูป เพราะจ�านวนรูปส่เี หลยี่ มในแตล ะรูปเพ่ิมขึ้นครั้งละ 5 รปู ) - รูปแบบการวางรูปส่ีเหลี่ยมในรูปท่ี 5 ควรเปนอยางไร (ตอบตามความเขาใจ ซ่ึงนักเรียนควรจะ 5 47 ตอบไดว า วางรปู สี่เหลี่ยมเพิ่มในแถวลา ง 4 รปู ) ครูเฉลยค�าตอบโดยการตดิ ภาพบนกระดาน ดังนี้ รปู ท่ี 1 รปู ที่ 2 รปู ที่ 3 รปู ที่ 4 รปู ท่ี 5 38 13 18 23 2 ครูถามตอวา - รปู ส่ีเหลย่ี มในรปู ถดั ไปมีจ�านวนเทาไร เพราะเหตุใด ( 28 เพราะเพ่มิ ขึ้นครั้งละ 5 ) ครูเขยี นชุดจ�านวนและความสมั พันธบ นกระดาน ดงั นี้ เพ่ิมขึน้ 5 เพิม่ ขึน้ 5 เพิ่มข้นึ 5 เพ่มิ ข้ึน 5 เพ่มิ ขน้ึ 5 3 8 13 18 23 28

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรูค้ ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรทู้ ี่ ๗ 2 2 หนว่ ยที่ ๔ แบบรูป ช้นั ป.๒ ขนั้ สอน เวล� ๑ ชัว่ โมง1 6 5 7 90 2. ครูจดั กิจกรรมหาจา� นวนถดั ไปในแบบรปู โดยเขยี นชุดจ�านวนบนกระดาน ดงั นี้ 2 1) 25 30 35 40 45 ๖๑ ครูใหน กั เรียนอา นจา� นวนทค่ี รเู ขียนบนกระดาน และถามวา - จ�านวนถัดไปควรเปนจ�านวนใด (50) - ทราบไดอ ยา งไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจ เชน แนวคิดที่ 1 สงั เกตจา� นวนทีอ่ ยตู ิดกันตา งกนั อยู 5 โดย 30 มากกวา 25 อยู 5 35 มากกวา 30 อยู 5 40 มากกวา 35 อยู 5 45 มากกวา 40 อยู 5 แนวคดิ ท่ี 2 นับเพิม่ จาก 25 ถึง 30 จะได 26 27 28 29 30 นับเพ่ิมจาก 30 ถึง 35 จะได 31 32 33 34 35 นับเพม่ิ จาก 35 ถงึ 40 จะได 36 37 38 39 40 นับเพิ่มจาก 40 ถึง 45 จะได 41 42 43 44 45 จะเห็นวา จา� นวนทางขวาเพ่มิ ข้ึนจากจ�านวนทางซายอยู 5 แนวคิดท่ี 3 สังเกตจากจ�านวนท่ีอยูติดกัน โดยจ�านวนทางขวามากกวาจ�านวนทางซาย จึงน�า จ�านวนทางขวาลบดวยจา� นวนทางซายทอ่ี ยตู ดิ กนั ซ่งึ อาจคดิ ไดจาก 30 – 25 = 5 35 – 30 = 5 40 - 35 = 5 45 - 40 = 5 จะเห็นวาจ�านวนทอี่ ยูติดกนั ทกุ จ�านวน จา� นวนทางขวามากกวาจา� นวน ทางซายอยู 5 - ชดุ ของจ�านวนบนกระดานมีความสัมพนั ธกนั อยา งไร (เพิ่มขนึ้ ทีละ 5 เทา ๆ กนั )

๖๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นร้คู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรูท้ ี่ ๗ ชนั้ ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๔ แบบรปู เวล� ๑ ชั่วโมง ครูเขียนค�าตอบบนกระดาน พรอมทัง้ เขียนความสัมพนั ธ ดงั นี้ 2 5 47 เพ่ิมข้นึ 5 เพม่ิ ขนึ้ 5 เพิม่ ขน้ึ 5 เพิ่มขน้ึ 5 เพม่ิ ขนึ้ 5 25 30 35 40 45 50 ครแู นะนา� การเขียนแสดงความสมั พันธแ บบเพม่ิ ข้นึ ทีละ 5 โดยเขียนเปน +5 ดังนี้ +2 +2 +2 +2 +2 25 30 35 40 45 50 ดังนัน้ ชุดของจ�านวนนม้ี คี วามสมั พนั ธแบบเพม่ิ ขนึ้ ทีละ 5 หรอื ชดุ ของจา� นวนน้ีเปน แบบรูปของจ�ำ นวนทเ่ี พม่ิ ขึน้ ทีละ 5 2) 122 127 132 137 142 …. ครูใหน กั เรยี นอา นจา� นวนที่ครูเขยี นบนกระดาน และถามวา - จา� นวนถัดไปควรเปน จ�านวนใด (147) - ทราบไดอ ยางไร (นักเรยี นตอบตามความเขา ใจ เชน แนวคดิ ที่ 1 สังเกตจา� นวนทีอ่ ยตู ิดกันตา งกันอยู 5 โดย 122 มากกวา 127 อยู 5 132 มากกวา 2 127 อยู 5 137 มากกวา 132 อยู 5 142 มากกวา 137 อยู 5 แนวคิดท่ี 2 นับเพิม่ จาก 122 ถึง 127 จะได 123 124 125 126 127 นับเพิม่ จาก 127 ถึง 132 จะได 128 129 130 131 132 นบั เพิม่ จาก 132 ถึง 137 จะได 133 134 135 136 137 นับเพ่มิ จาก 137 ถงึ 142 จะได 138 139 140 141 142 จะเห็นวาจ�านวนทางขวาเพิม่ ขึน้ จากจ�านวนทางซายอยู 5

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรียนรคู้ ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท้ ่ี ๗ 2 2 หนว่ ยท่ี ๔ แบบรูป ชั้น ป.๒ แนวคดิ ที่ 3 สังเกตจากจ�านวนท่ีอยูติดกัน โดยจ�านวนทางขวามากกวาจ�านวนทางซาย จึงน�า เวล� ๑ ช่วั โมง1 6 5 7 90 จ�านวนทางขวาลบดวยจ�านวนทางซายที่อยูติดกัน ซึ่งอาจคิดไดจาก 127 – 122 = 5 132 – 127 = 5 137 - 132 = 5 142 - 137 = 5 จะเหน็ วาจา� นวนทอี่ ยตู ดิ กนั ทกุ จา� นวน 2 จ�านวนทางขวามากกวา จา� นวนทางซา ยอยู 5 ๖๓ - ชดุ ของจา� นวนบนกระดานมีความสัมพันธก นั อยางไร (เพ่มิ ขึน้ ทีละ 5 เทา ๆ กนั ) - ชุดจ�านวนนี้เปนแบบรูปของจ�านวนหรือไม เพราะเหตุใด (เปนแบบรูปของจ�านวน เพราะมี ความสัมพันธแบบเพิม่ ข้นึ ทีละ 5) ครเู ขยี นค�าตอบบนกระดาน พรอ มทง้ั เขยี นความสมั พันธ ดงั นี้ +5 +5 +5 +5 +5 122 127 132 137 142 147 ดงั นัน้ ชดุ ของจ�านวนนีม้ คี วามสมั พนั ธแ บบเพ่ิมขึ้นทีละ 5 หรอื ชุดของจา� นวนน้ีเปน แบบรปู ของจ�ำ นวนที่เพิ่มขึ้นทลี ะ 5 3) 170 165 160 155 150 …. ครใู หนักเรยี นอานจา� นวนทค่ี รเู ขียนบนกระดาน และถามวา - จ�านวนถัดไปควรเปนจ�านวนใด (145) - ทราบไดอ ยา งไร (นกั เรยี นตอบตามความเขาใจ เชน แนวคิดท่ี 1 สงั เกตจา� นวนท่ีอยตู ิดกนั ตา งกนั อยู 5 โดย 165 นอ ยกวา 170 อยู 5 160 นอยกวา 165 อยู 5 155 นอ ยกวา 160 อยู 5 150 นอ ยกวา 155 อยู 5

๖๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรูค้ ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรู้ท่ี ๗ ชัน้ ป.๒01 9 หนว่ ยที่ ๔ แบบรปู เวล� ๑ ชัว่ โมง แนวคดิ ท่ี 2 นบั ถอยหลงั จาก 170 ถึง 165 เปน 169 168 167 166 165 2 5 47 นบั ถอยหลังจาก 165 ถึง 160 เปน 164 163 162 161 160 นับถอยหลังจาก 160 ถึง 155 เปน 159 158 157 156 155 นบั ถอยหลงั จาก 155 ถงึ 150 เปน 154 153 152 151 150 จะเห็นวาจา� นวนทางขวาลดลงจากจา� นวนทางซายอยู 5 แนวคดิ ท่ี 3 สงั เกตจากจา� นวนทอี่ ยตู ดิ กนั โดยจา� นวนทางขวานอ ยกวา จา� นวนทางซา ย จงึ นา� จา� นวน ทางซา ยลบดว ยจา� นวนทางขวาที่อยตู ดิ กัน ซงึ่ อาจคดิ ไดจ าก 170 – 165 = 5 165 – 160 = 5 160 - 155 = 5 155 – 150 = 5 จะเหน็ วา จา� นวนทีอ่ ยตู ดิ กนั ทุกจา� นวน จา� นวนทางขวานอยกวา จ�านวนทางซายอยู 5 - ชุดของจ�านวนบนกระดานมีความสมั พนั ธก ันอยางไร (ลดลงทลี ะ 5 เทา ๆ กัน) ครูเขียนคา� ตอบบนกระดาน พรอ มทั้งเขียนความสมั พันธ ดังน้ี ลดลง 5 ลดลง 5 ลดลง 5 ลดลง 5 ลดลง 5 170 165 160 155 150 145 2 ครูแนะน�าการเขยี นแสดงความสัมพนั ธแ บบลดลงทีละ 5 โดยเขียนเปน -5 ดงั น้ี –5 –5 –5 –5 –5 170 165 160 155 150 145 ดงั นนั้ ชุดของจ�านวนนม้ี คี วามสัมพนั ธแบบลดลงทีละ 5 หรอื ชุดของจ�านวนนี้เปนแบบรปู ของจ�ำ นวนทล่ี ดลงทีละ 5

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรู้คณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูท้ ่ี ๗ 2 2 หน่วยท่ี ๔ แบบรปู ชน้ั ป.๒ 4) 426 421 416 411 406 …….. …….. เวล� ๑ ชวั่ โมง1 6 5 7 90 ครใู หน กั เรียนอานจา� นวนทีค่ รูเขียนบนกระดาน และถามวา - ชุดจ�านวนน้ีเปนแบบรูปของจ�านวนหรือไม เพราะเหตุใด (เปนแบบรูปของจ�านวน เพราะมี 2 ความสัมพันธแบบลดลงทลี ะ 5) ครเู ขียนความสมั พันธบ นชดุ จ�านวน ดงั นี้ ลดลง 5 ลดลง 5 ลดลง 5 ลดลง 5 426 421 416 411 406 - สองจ�านวนถัดไปควรเปนจ�านวนใด และหาไดอยางไร (401 และ 396 นักเรียนตอบตาม ความเขาใจ เชน หาไดโ ดย แนวคิดที่ 1 จาก 406 นบั ลดลงไป 5 จะได 401 และ จาก 401 นับลดลงไป 5 จะได 396 แนวคิดท่ี 2 จาก 406 ลบดวย 5 จะได 406 - 5 = 401 และ 401 – 5 = 396) ครเู ขยี นค�าตอบบนกระดาน พรอมทั้งเขียนความสัมพันธ ดังน้ี ลดลง 5 ลดลง 5 ลดลง 5 ลดลง 5 ลดลง 5 ลดลง 5 426 421 416 411 406 401 396 ๖๕

๖๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นร้คู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นร้ทู ี่ ๗ ช้นั ป.๒01 9 หน่วยที่ ๔ แบบรปู เวล� ๑ ชว่ั โมง 3. ครจู ดั กิจกรรมหาจา� นวนทหี่ ายไปในแบบรูป โดยเขยี นชดุ จ�านวนบนกระดาน ดังน้ี 2 5 47 1) 699 704 …….. 714 719 724 ครใู หนักเรยี นอา นจ�านวนทค่ี รูเขยี นบนกระดาน และถามวา - แบบรปู ของจ�านวนน้ีมคี วามสมั พนั ธกันอยางไร (มีความสมั พนั ธแ บบเพิม่ ขึน้ ทีละ 5) - ทราบไดอ ยา งไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา ใจ เชน แนวคิดที่ 1 สังเกตจ�านวนที่อยูติดกันตางกันอยู 5 โดย 704 มากกวา 699 อยู 5 719 มากกวา 714 อยู 5 724 มากกวา 719 อยู 5 แนวคดิ ท่ี 2 นับเพ่มิ จาก 699 ถึง 704 จะได 700 701 702 703 704 นับเพม่ิ จาก 714 ถึง 719 จะได 715 716 717 718 719 นบั เพิม่ จาก 719 ถงึ 724 จะได 720 721 722 723 724 จะเหน็ วา จ�านวนทางขวาเพม่ิ ข้นึ จากจา� นวนทางซายอยู 5 แนวคิดท่ี 3 สงั เกตจากจา� นวนทอ่ี ยตู ดิ กนั โดยจา� นวนทางขวามากกวา จา� นวนทางซา ย จงึ นา� จา� นวน ทางขวาลบดว ยจ�านวนทางซา ยท่อี ยูติดกัน ซ่งึ อาจคดิ ไดจาก 704 – 699 = 5 719 – 714 = 5 2 724 - 719 = 5 จะเห็นวา จา� นวนท่ีอยูต ิดกันทุกจ�านวน จ�านวนทางขวามากกวา จ�านวนทางซายอยู 5 - จา� นวนทห่ี ายไปคือจ�านวนใด (709) - นกั เรยี นทราบไดอยางไร (นักเรยี นตอบตามความเขาใจ เชน แนวคดิ ที่ 1 นับเพิม่ จาก 704 ไปอีก 5 จะได 709 แนวคดิ ที่ 2 จาก 704 บวกเพมิ่ อกี 5 จะได 704 + 5 = 709

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุม่ ส�ระก�รเรยี นรูค้ ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรู้ท่ี ๗ 2 2 หน่วยที่ ๔ แบบรูป ชั้น ป.๒ แนวคดิ ท่ี 3 เนอ่ื งจากจ�านวนทางขวามากกวา จา� นวนทางซายทอ่ี ยูตดิ กนั อยู 5 จงึ น�าจ�านวนทาง เวล� ๑ ช่ัวโมง 1 6 5 7 90 ขวาลบดว ย 5 จะได 714 – 5 = 709) 2 แนวคิดท่ี 4 นบั ลดจาก 714 ไป 5 จะได 709 ครเู ขียนค�าตอบบนกระดาน พรอ มท้ังเขียนความสมั พันธข องแบบรปู จา� นวน ดงั นี้ +5 +5 +5 +5 +5 699 704 709 714 719 724 –5 อยู 5 ๖๗ 2) 888 883 878 873 ……. 863 ครูใหน ักเรียนอานจา� นวนที่ครเู ขียนบนกระดาน และถามวา - แบบรูปของจ�านวนน้ีมคี วามสัมพนั ธกนั อยา งไร (มีความสัมพันธแบบลดลงทีละ 5) - ทราบไดอ ยางไร (นกั เรยี นตอบตามความเขาใจ เชน แนวคิดที่ 1 สังเกตจ�านวนที่อยูติดกันตางกันอยู 5 โดย 883 นอยกวา 888 878 นอ ยกวา 883 อยู 5 873 นอ ยกวา 878 อยู 5 แนวคดิ ท่ี 2 นับถอยหลงั จาก 888 ถึง 883 เปน 887 886 885 884 883 นับถอยหลังจาก 883 ถงึ 878 เปน 882 881 880 879 878 นบั ถอยหลงั จาก 878 ถงึ 873 เปน 877 876 875 874 873 จะเหน็ วาจา� นวนทางขวาลดลงจากจ�านวนทางซายอยู 5

๖๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรคู้ ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรทู้ ่ี ๗ ช้ัน ป.๒01 9 หน่วยที่ ๔ แบบรูป เวล� ๑ ชั่วโมง แนวคิดท่ี 3 สังเกตจากจ�านวนท่ีอยูติดกัน โดยจ�านวนทางขวานอยกวาจ�านวนทางซาย จึงน�า 2 5 47 จา� นวนทางซา ยลบดว ยจา� นวนทางขวาทอ่ี ยตู ดิ กนั ซงึ่ อาจคดิ ไดจ าก 888 – 883 = 5 883 – 878 = 5 878 - 873 = 5 จะเห็นวา จ�านวนท่อี ยตู ิดกนั ทุกจา� นวน จา� นวนทางขวานอยกวา จ�านวนทางซายอยู 5 - จ�านวนที่หายไปคอื จ�านวนใด (868) - นักเรยี นทราบไดอ ยางไร (นกั เรยี นตอบตามความเขาใจ เชน แนวคดิ ท่ี 1 นับลดจาก 873 ไป 5 จะได 868 แนวคิดที่ 2 จาก 873 ลบดว ย 5 จะได 873 - 5 = 868 แนวคดิ ที่ 3 เน่ืองจากจ�านวนทางขวานอ ยกวาจ�านวนทางซายที่อยูตดิ กันอยู 5 จงึ น�าจา� นวนทาง ขวาบวกดว ย 5 จะได 863 + 5 = 868) ครูเขยี นค�าตอบบนกระดาน พรอมท้ังเขียนความสัมพันธข องแบบรปู จ�านวน ดงั น้ี –5 –5 –5 –5 –5 888 883 878 873 868 863 2 +5 ครใู หนักเรยี นทา� แบบฝึกหัด 4.6

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู้ ่ี ๗ 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นรู้คณิตศ�สตร์ ช้นั ป.๒ หน่วยที่ ๔ แบบรปู เวล� ๑ ชั่วโมง ขัน้ สรปุ 2 1 6 5 7 90 4. ครแู ละนกั เรียนรว มกนั สรุปวา - ชดุ ของจา� นวนทม่ี คี วามสมั พนั ธก นั อยา งตอ เนอ่ื งในลกั ษณะของการเพม่ิ ขนึ้ หรอื ลดลงทลี ะเทา ๆ กนั เปนแบบรปู ของจา� นวน • แบบรปู ของจ�านวนทเ่ี พม่ิ ขึ้นทีละ 5 เปนชุดของจ�านวนทีม่ ีความสัมพันธกันอยา งตอ เนอื่ งใน ลักษณะของการเพ่มิ ขึน้ ทลี ะ 5 เทา ๆ กนั • แบบรูปของจ�านวนท่ลี ดลงทลี ะ 5 เปน ชดุ ของจา� นวนทมี่ คี วามสัมพนั ธกนั อยางตอเน่ืองใน ลักษณะของการลดลงทลี ะ 5 เทา ๆ กนั - การหาจ�านวนถัดไปหรือจ�านวนที่หายไปในแบบรูปของจ�านวน ใหหาความสัมพันธของแบบรูป กอ นแลว จงึ หาจา� นวนนนั้ 2 ๖๙

๗๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนก�รจัดก�รเรียนรทู้ ี่ ๘ 01 9 แนวก�รจัดกิจกรรมก�รเรยี นรู้ ขนั้ น�ำ ทบทวนแบบรปู ของจ�านวน ข้นั สอน แบบรูปของจา� นวนทีเ่ พมิ่ ขน้ึ ทีละ 10 ทลี ะ 100 และลดลงทีละ 10 ทลี ะ 100 5 47 แบบฝึกหดั 4.7 ขัน้ สรุป ครแู ละนักเรยี นรว มกันสรปุ เกีย่ วกับ - แบบรูปของจ�านวนที่เพ่มิ ขึน้ ทีละ 10 ทลี ะ 100 และลดลงทีละ 10 ทีละ 100 - การหาจ�านวนถัดไปหรือจา� นวนท่หี ายไปในแบบรปู ของจ�านวน 22 - ประเมินจากการตอบค�าถามและการทา� แบบฝึกหัด 4.7 ก�รวัดและประเมินผล - ประเมนิ จากการใหเ หตุผล การสือ่ สารและการสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร และการเช่อื มโยง

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นร้คู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูท้ ่ี ๘ 2 2 หน่วยท่ี ๔ แบบรูป ช้ัน ป.๒ เวล� ๑ ชั่วโมง ขอบเขตเนอื้ ห� กจิ กรรมก�รเรียนรู้ ใบที่ 5 ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ 1 6 5 7 90 ขัน้ น�ำ แบบรูปของจ�านวนท่ีเพิ่มขึ้น 1. บัตรภาพ ทลี ะ 10 ทีละ 100 และลดลง 1. ครทู บทวนแบบรูปของจา� นวนโดยจดั กจิ กรรม “รปู ถัดไป” ดังนี้ 2. แบบฝกึ หัด 4.7 ทลี ะ 10 ทลี ะ 100 - แบง กลมุ นกั เรยี น กลมุ ละ 3 - 4 คน ใหนกั เรียนแขงขันกันยกมอื ตอบค�าถาม ก�รประเมนิ - ครตู ิดบัตรแบบรูปบนกระดานจา� นวน 5 ใบ 1. วธิ กี �ร ส�ระสำ�คัญ ใบท่ี 1 ใบท่ี 2 ใบท่ี 3 ใบที่ 4 1) สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู 1. ชุ ด ข อ ง จ� า น ว น ท่ี มี - ครเู ปดบัตรภาพทลี ะใบ จา� นวน 3 ใบ ใบที่ 4 ใบที่ 5 2) ตรวจแบบฝึกหดั 4.7 ความสัมพันธกันอยางตอเนื่อง ใบท่ี 1 ใบท่ี 2 ใบที่ 3 2. เครื่องมือ ในลักษณะของการเพ่ิมข้ึนหรือ 1) แบบฝกึ หดั 4.7 ลดลงทลี ะเทา ๆ กนั เปน แบบรปู - ครถู ามวา บัตรภาพใบท่ี 1 2 และ 3 แสดงจ�านวนใดบาง (5 7 9) ครูเขยี นตวั เลขแสดงจา� นวน 2) แบบประเมินทักษะและ 2 ของจา� นวน ใตบัตรภาพใบท่ี 1 2 3 ตามลา� ดบั กระบวนการทางคณติ ศาสตร 3. เกณฑ์ - แบบรูปของจ�านวนท่ี ใบที่ 1 ใบที่ 2 ใบที่ 3 ใบท่ี 4 ใบท่ี 5 1) ผลงานมีความถูกตองไม เพ่ิมขึ้นทีละ 10 เปนชุดของ นอ ยกวารอยละ 80 จา� นวนทม่ี คี วามสมั พนั ธก นั อยา ง 2) คะแนนรวมดานทักษะ ตอเน่ืองในลักษณะของการเพิ่ม กระบวนการทางคณิตศาสตร ข้นึ ทลี ะ 10 เทา ๆ กัน ไมน อยกวา รอ ยละ 60 ๗๑ 5 79

๗๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรู้คณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ท่ี ๘ ช้นั ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๔ แบบรปู เวล� ๑ ชวั่ โมง - แบบรูปของจ�านวนที่ - ครูใหส ัญญาณนกั เรยี นยกมอื ตอบคา� ถามทลี ะคา� ถาม แลว รวมกันตรวจสอบความถูกตอ ง ดังนี้ 2 ลดลงทลี ะ 10 เปน ชดุ ของจา� นวน • ครูถามวา รปู ถดั ไปเปน จ�านวนใด เพราะเหตุใด (11 เพราะเพมิ่ ข้นึ ทีละ 2) ท่ีมีความสัมพันธกันอยาง • รูปถัดไปมลี กั ษณะใด (ตอบตามความเขา ใจ) ตอ เนอ่ื งในลกั ษณะของการลดลง - จากนนั้ ครเู ปด บัตรภาพใบท่ี 4 พรอ มเขยี นตวั เลขแสดงจา� นวนใตบตั รภาพ ทีละ10 เทา ๆ กัน - แบบรูปของจ�านวนท่ี ใบที่ 1 ใบท่ี 2 ใบที่ 3 ใบที่ 4 ใบท่ี 5 เพ่ิมข้ึนทีละ 100 เปนชุดของ 5 47 จ�านวนที่มีความสัมพันธกัน อยางตอเน่ืองในลักษณะของ 5 7 9 11 การเพ่ิมข้ึนทีละ 100 เทา ๆ กัน - ครูใหส ญั ญาณนักเรยี นยกมอื ตอบคา� ถามทลี ะค�าถาม แลว รว มกันตรวจสอบความถกู ตอง ดังน้ี - แบบรูปของจ�านวนที่ • ครถู ามวา รูปถัดไปเปนจ�านวนใด เพราะเหตุใด (13 เพราะเพิ่มข้นึ ทีละ 2) ลดลงทีละ 100 เปนชุดของ • รูปถดั ไปมีลักษณะใด (ตอบตามความเขา ใจ) จ�านวนที่มีความสัมพันธกัน - จากนั้นครูเปด บตั รภาพใบที่ 5 พรอ มเขียนตัวเลขแสดงจา� นวนใตบ ตั รภาพ อยางตอเน่ืองในลักษณะของ ใบที่ 1 ใบท่ี 2 ใบท่ี 3 ใบท่ี 4 ใบที่ 5 2 การลดลงทีละ 100 เทา ๆ กนั 5 7 9 11 13 2. การหาจ�านวนถัดไปหรือ จ�านวนที่หายไปในแบบรูปของ จ�านวน ใหหาความสัมพันธของ แบบรปู กอ นแลว จงึ หาจา� นวนนนั้ - ครถู ามวาจ�านวนใตบ ตั รภาพมีความสัมพนั ธก ันอยางไร (เปน แบบรปู ของจ�านวนทเี่ พ่มิ ขึ้นทีละ 2) ครจู ดั กจิ กรรมในลักษณะเดยี วกนั อกี 1-2 ความสมั พนั ธ

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูค้ ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ท่ี ๘ 2 2 หนว่ ยท่ี ๔ แบบรูป ชนั้ ป.๒ จดุ ประสงคก์ �รเรียนรู้ 2. ครตู ิดบัตรแบบรูปบนกระดานจ�านวน 5 ใบ ใบท่ี 4 ใบที่ 5 เวล� ๑ ช่วั โมง1 6 5 7 90 ด้�นคว�มรู้ ใบท่ี 1 ใบท่ี 2 ใบท่ี 3 ใบท่ี 4 ใบท่ี 5 2 เพอื่ ใหนกั เรยี นสามารถ - ครูเปดบัตรภาพทลี ะใบ จ�านวน 3 ใบ 1. บอกความสัมพันธและ ใบที่ 1 ใบที่ 2 ใบที่ 3 หาจ�านวนถัดไปในแบบรูปของ จ� า น ว น ที่ เ พ่ิ ม ข้ึ น ห รื อ ล ด ล ง ทีละ 10 ทลี ะ 100 2 หาจ�านวนท่ีหายไปใน แบบรปู ของจา� นวนทเี่ พมิ่ ขน้ึ หรอื ลดลงทลี ะ 10 ทลี ะ 100 ด�้ นทกั ษะและกระบวนก�ร - ครถู ามวา บตั รภาพใบท่ี 1 2 และ 3 เปน จา� นวนใดบา ง (24 34 44) ครเู ขยี นตวั เลขแสดงจา� นวน ท�งคณิตศ�สตร์ ใตบ ตั รภาพใบท่ี 1 2 3 ตามลา� ดบั เพือ่ ใหนักเรียนสามารถ ใบท่ี 1 ใบที่ 2 ใบท่ี 3 ใบที่ 4 ใบที่ 5 1. ใหเหตผุ ล 2. ส่ือสารและส่ือความหมาย 24 34 44 ทางคณิตศาสตร 3. เชือ่ มโยง ๗๓

๗๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนร้คู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรทู้ ี่ ๘ ช้ัน ป.๒01 9 หน่วยที่ ๔ แบบรูป เวล� ๑ ชว่ั โมง - ครใู หสญั ญาณนกั เรยี นยกมือตอบค�าถาม แลว รวมกันตรวจสอบความถูกตอ ง ดงั นี้ 2 • รูปถดั ไปเปน จ�านวนใด เพราะเหตใุ ด (54 เพราะเพ่มิ ขนึ้ ทลี ะ 10) - จากนัน้ ครูเปด บัตรภาพใบที่ 4 พรอ มเขียนตัวเลขแสดงจา� นวนใตบ ตั รภาพ ใบท่ี 1 ใบที่ 2 ใบท่ี 3 ใบท่ี 4 ใบท่ี 5 24 34 44 55 5 47 - ครใู หส ญั ญาณนกั เรียนยกมือตอบคา� ถาม แลวรวมกนั ตรวจสอบความถูกตอง ดงั นี้ • ครถู ามวารปู ถัดไปเปน จ�านวนใด เพราะเหตใุ ด (64 เพราะเพม่ิ ขน้ึ ทีละ 10) - จากนั้นครูเปดบัตรภาพใบที่ 5 พรอมเขียนตวั เลขแสดงจา� นวนใตบ ตั รภาพ ใบที่ 1 ใบที่ 2 ใบท่ี 3 ใบที่ 4 ใบที่ 5 2 24 34 44 55 64

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรียนรู้คณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู้ ่ี ๘ 2 2 หนว่ ยท่ี ๔ แบบรูป ชน้ั ป.๒ ข้ันสอน 1 6 5 7 90เวล� ๑ ชั่วโมง 3. ครูจดั กจิ กรรมหาจา� นวนถัดไปในแบบรูป โดยเขียนชุดจา� นวนบนกระดาน ดังน้ี … 2 1) 51 61 71 81 91 … ครใู หนักเรยี นอา นจา� นวนทีค่ รูเขยี นบนกระดาน และถามวา - ชุดของจ�านวนบนกระดานมีความสมั พันธกันอยา งไร (มีความสมั พันธแ บบเพิ่มขึน้ ทลี ะ 10) - จา� นวนถดั ไปควรเปน จา� นวนใด เพราะเหตุใด (101 เพราะ 91 เพิม่ อกี 10 เปน 101) 2) 139 239 339 439 539 … ครูใหน กั เรยี นอา นจา� นวนที่ครเู ขยี นบนกระดาน และถามวา - จ�านวนถดั ไปควรเปน จ�านวนใด เพราะเหตใุ ด (639 เพราะ 539 เพ่มิ อีก 100 เปน 639) - ทราบไดอ ยางไร (นักเรียนตอบตามความเขา ใจ เชน แนวคิดที่ 1 สังเกตจ�านวนท่ีอยูติดกันตางกันอยู 100 โดย 239 มากกวา 139 อยู 100 339 มากกวา 239 อยู 100 439 มากกวา 339 อยู 100 … แนวคิดท่ี 2 นับเพิม่ จาก 139 ไปอีก 100 จะได 239 นับเพิม่ จาก 239 ไปอกี 100 จะได 339 ๗๕ จะเหน็ วา จา� นวนทางขวาเพ่มิ ขนึ้ จากจา� นวนทางซายอยู 100

๗๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรู้คณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ท่ี ๘ ช้นั ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๔ แบบรปู เวล� ๑ ชวั่ โมง แนวคิดท่ี 3 สงั เกตจากจา� นวนทอ่ี ยตู ดิ กนั โดยจา� นวนทางขวามากกวา จา� นวนทางซา ย จงึ นา� จา� นวน 2 5 47 ทางขวาลบดว ยจ�านวนทางซายทอ่ี ยตู ิดกัน ซ่ึงอาจคิดไดจ าก 239 – 139 = 100 339 – 239 = 100 439 - 339 = 100 จะเหน็ วา จา� นวนท่ีอยูติดกนั ทกุ จา� นวน จ�านวนทางขวามากกวา จ�านวนทางซาย อยู 100 - ชุดจ�านวนนี้เปนแบบรูปของจ�านวนหรือไม เพราะเหตุใด (เปนแบบรูปของจ�านวน เพราะมี ความสมั พันธแ บบเพม่ิ ขึ้นทลี ะ 100) ครเู ขยี นคา� ตอบบนกระดาน พรอ มทัง้ เขียนความสัมพันธ ดงั น้ี +100 +100 +100 +100 +100 139 239 339 439 539 639 ดงั นัน้ ชดุ ของจา� นวนนม้ี คี วามสัมพนั ธแ บบเพม่ิ ข้ึนทลี ะ 100 หรือ ชุดของจา� นวนนี้เปน แบบรูปของจำ�นวนที่เพิ่มขึน้ ทีละ 100 2 3) 247 237 227 217 207 … ครูใหนักเรยี นอานจ�านวนท่ีครูเขยี นบนกระดาน และถามวา - จา� นวนถดั ไปควรเปนจ�านวนใด เพราะเหตุใด (197 เพราะ 207 ลดลง 10 เปน 197) - ชุดจ�านวนนี้เปนแบบรูปของจ�านวนหรือไม เพราะเหตุใด (เปนแบบรูปของจ�านวน เพราะมี ความสมั พันธแบบลดลงทีละ 10)

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุม่ ส�ระก�รเรียนรู้คณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ที่ ๘ 2 2 หน่วยท่ี ๔ แบบรปู ชั้น ป.๒ ครเู ขยี นค�าตอบบนกระดาน พรอมท้งั เขยี นความสมั พนั ธ ดังน้ี เวล� ๑ ช่ัวโมง 1 6 5 7 90 ลดลง 10 ลดลง 10 ลดลง 10 ลดลง 10 ลดลง 10 2 247 237 227 217 207 197 ครแู นะนา� การเขยี นแสดงความสมั พันธแบบลดลงทลี ะ 10 โดยเขยี นเปน -10 ดงั น้ี –10 –10 –10 –10 –10 247 237 227 217 207 197 ดังนน้ั ชุดของจา� นวนนม้ี ีความสมั พันธแ บบลดลงทีละ 10 หรือ ชดุ ของจา� นวนนเี้ ปนแบบรปู ของจำ�นวนท่ีลดลงทีละ 10 ๗๗ 4) 985 885 785 685 585 …….. …….. ครูใหน กั เรยี นอา นจ�านวนท่ีครูเขยี นบนกระดาน และถามวา - ชุดจ�านวนนี้เปนแบบรูปของจ�านวนหรือไม เพราะเหตุใด (เปนแบบรูปของจ�านวน เพราะมี ความสัมพนั ธแบบลดลงทลี ะ 100) ครเู ขยี นความสมั พันธบ นชุดจ�านวน ดงั นี้ ลดลง 100 ลดลง 100 ลดลง 100 ลดลง 100 ลดลง 100 985 885 785 685 585

๗๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรคู้ ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรู้ที่ ๘ ช้นั ป.๒01 9 หน่วยที่ ๔ แบบรปู เวล� ๑ ชัว่ โมง - สองจ�านวนถัดไปควรเปนจ�านวนใด และหาไดอยางไร (485 และ 385 นักเรียนตอบตาม 2 5 47 ความเขา ใจ เชน หาไดโดย แนวคิดที่ 1 จาก 585 นับลดลงไป 100 จะได 485 และ จาก 485 นับลดลงไป 100 จะได 385 แนวคิดท่ี 2 จาก 585 ลบดว ย 100 จะได 585 - 100 = 485 และ 485 – 100 = 385) ครูเขยี นคา� ตอบบนกระดาน พรอ มทั้งเขยี นความสัมพนั ธ ดงั นี้ ลดลง 100 ลดลง 100 ลดลง 100 ลดลง 100 ลดลง 100 ลดลง 100 985 885 785 685 585 485 385 3. ครูจดั กิจกรรมหาจ�านวนทีห่ ายไปในแบบรปู โดยเขยี นชุดจา� นวนบนกระดาน ดงั น้ี 1) 240 340 440 540 ........ 740 ครใู หน กั เรียนอา นจา� นวนท่ีครเู ขยี นบนกระดาน และถามวา - ชุดจ�านวนท่ีเปนแบบรูปของจ�านวนหรือไม เพราะเหตุใด (เปนแบบรูปของจ�านวน เพราะมี ความสมั พันธแบบเพ่ิมขึน้ ทลี ะ 100) - จา� นวนที่หายไปคือจา� นวนใด (640) 2 - นักเรยี นทราบไดอยา งไร (นกั เรียนตอบตามความเขา ใจ เชน แนวคิดที่ 1 นบั เพ่มิ จาก 540 ไปอีก 100 จะได 640 แนวคิดท่ี 2 จาก 540 บวกเพิม่ อีก 100 จะได 540 + 100 = 640 แนวคิดท่ี 3 เน่ืองจากจ�านวนทางขวามากกวาจ�านวนทางซายท่ีอยูติดกันอยู 100 จึงน�าจ�านวน ทางขวาลบดว ย 100 จะได 740 – 100 = 640) แนวคดิ ท่ี 4 นบั ลดจาก 740 ไป 100 จะได 640

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรู้คณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ท่ี ๘ 2 2 หน่วยที่ ๔ แบบรปู ช้นั ป.๒ ครเู ขยี นค�าตอบบนกระดาน พรอ มทง้ั เขียนความสัมพันธของแบบรปู จา� นวน ดังนี้ เวล� ๑ ชวั่ โมง1 6 5 7 90 +100 +100 +100 +100 +100 2 ๗๙ 240 340 440 540 640 740 –100 2) 621 611 …….. 591 581 571 ครใู หน กั เรียนอานจ�านวนทีค่ รเู ขียนบนกระดาน และถามวา - ชุดจ�านวนท่ีเปนแบบรูปของจ�านวนหรือไม เพราะเหตุใด (เปนแบบรูปของจ�านวน เพราะมี ความสัมพนั ธแ บบลดลงทลี ะ 10) - จ�านวนทห่ี ายไปคือจ�านวนใด (601) - นกั เรียนทราบไดอยา งไร (นกั เรียนตอบตามความเขา ใจ เชน แนวคิดที่ 1 นบั ลดจาก 611 ไป 10 จะได 601 แนวคิดท่ี 2 จาก 611 ลบดว ย 10 จะได 611 - 10 = 601 แนวคดิ ท่ี 3 เนอื่ งจากจา� นวนทางขวานอ ยกวา จา� นวนทางซา ยทอ่ี ยตู ดิ กนั อยู 10 จงึ นา� จา� นวนทาง ขวาบวกดวย 10 จะได 591 + 10 = 601) ครเู ขยี นค�าตอบบนก–1ร0ะดาน –พ1ร0อ มทั้ง–เข1ยี0นคว–า1ม0สมั พัน–ธ1ข0องแบบรปู จา� นวน ดงั นี้ 621 611 601 591 581 571 +10 +10 +10 ครูใหนักเรยี นท�าแบบฝึกหัด 4.7

๘๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุม่ ส�ระก�รเรยี นรู้คณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรู้ท่ี ๘ ช้ัน ป.๒01 9 หน่วยที่ ๔ แบบรูป เวล� ๑ ช่ัวโมง ขนั้ สรุป 4. ครูและนกั เรยี นรว มกันสรปุ วา - ชดุ ของจา� นวนทมี่ คี วามสมั พนั ธก นั อยา งตอ เนอื่ งในลกั ษณะของการเพม่ิ ขนึ้ หรอื ลดลงทลี ะเทา ๆ กนั เปน แบบรูปของจา� นวน • แบบรูปของจ�านวนท่ีเพิ่มข้ึนทีละ 10 เปนชุดของจ�านวนท่ีมีความสัมพันธกันอยางตอเนื่องใน ลกั ษณะของการเพ่มิ ขนึ้ ที 10 เทา ๆ กนั • แบบรปู ของจา� นวนทล่ี ดลงทลี ะ 10 เปน ชดุ ของจา� นวนทมี่ คี วามสมั พนั ธก นั อยา งตอ เนอ่ื งในลกั ษณะ ของการลดลงครง้ั ละ 10 เทา ๆ กนั 5 47 • แบบรูปของจ�านวนท่ีเพิ่มขึ้นทีละ 100 เปนชุดของจ�านวนที่มีความสัมพันธกันอยางตอเนื่องใน ลักษณะของการเพิ่มข้นึ ครง้ั ละ 100 เทา ๆ กนั • แบบรูปของจ�านวนท่ีลดลงทีละ 100 เปนชุดของจ�านวนที่มีความสัมพันธกันอยางตอเน่ืองใน ลักษณะของการลดลงครง้ั ละ 100 เทา ๆ กนั - การหาจ�านวนถัดไปหรือจ�านวนท่ีหายไปในแบบรูปของจ�านวน ใหหาความสัมพันธของแบบรูป กอนแลวจึงหาจ�านวนนน้ั 2 2

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 2 ขัน้ นำ� แผนก�รจัดก�รเรียนรู้ที่ ๙ 1 6 5 7 90 แนวก�รจดั กจิ กรรมก�รเรียนรู้ ทบทวนแบบรปู ของจ�านวนท่เี พมิ่ ขึน้ และลดลงทลี ะ 2 ทีละ 5 ทลี ะ 10 ทลี ะ 100 ขั้นสอน กจิ กรรม “จา� นวนที่หายไปไขรหัสลับ” แบบฝกึ หัด 4.8 ขน้ั สรุป ครูและนกั เรยี นรว มกนั สรุปเกี่ยวกับ แบบรปู ของจ�านวนและการหาจ�านวนถดั ไปหรอื จา� นวนทหี่ ายไปในแบบรูปของจ�านวน 22 - ประเมินจากการตอบคา� ถาม การท�าใบกิจกรรม 4.3 และแบบฝึกหัด 4.8 ก�รวัดและประเมนิ ผล - ประเมินจากการใหเหตุผล การสอ่ื สารและการส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร ๘๑

๘๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนร้คู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรทู้ ่ี ๙ ช้นั ป.๒ 01 9 หนว่ ยท่ี ๔ แบบรูป เวล� ๑ ชวั่ โมง ขอบเขตเนอ้ื ห� กิจกรรมก�รเรยี นรู้ ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ แบบรปู ของจา� นวนทเี่ พมิ่ ขน้ึ ขน้ั น�ำ 1. แถบแบบรูปของจ�านวน และลดลงทลี ะ 2 ทลี ะ 5 ทลี ะ 10 1. ครจู ัดกจิ กรรม “ฟงใหด.ี ..มคี ะแนน” เพ่ือทบทวนแบบรูปของจ�านวน ดังน้ี ทลี ะ 100 - ครตู ิดแถบแบบรูปของจา� นวนบนกระดาน 5 ขอ ดังนี้ แถบแสดงความสัมพันธและ แถบแสดงค�าตอบ ส�ระส�ำ คัญ 1. 451 456 …… 466 471 476 2. 414 412 410 …….. 406 404 2. ใบกิจกรรม 4.3 3. แบบฝึกหดั 4.8 1. ชุ ด ข อ ง จ� า น ว น ท่ี มี 3. 914 814 714 614 …….. 414 4. …… 424 434 444 454 464 ความสมั พนั ธก นั อยา งตอ เนอ่ื งใน 5 47 ลักษณะของการเพิ่มข้ึนหรือ ก�รประเมิน ลดลงทลี ะเทา ๆ กนั เปน แบบรปู ของจา� นวน 1. วธิ ีก�ร 1) สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู 2. การหาจ�านวนถัดไปหรือ จ�านวนที่หายไปในแบบรูปของ 2) ใบกจิ กรรม 4.3 จ�านวน ใหหาความสัมพันธของ 3) ตรวจแบบฝึกหัด 4.8 2 2แบบรปู กอ นแลว จงึ หาจา� นวนนน้ั 2. เครือ่ งมอื 5. 432 422 412 ……. 392 382 1) ใบกจิ กรรม 4.3 - ครสู มุ หยบิ แถบแสดงความสมั พันธแ ละค�าตอบแบบรูปของจ�านวนทีละใบ แลว อา นขอความ ดงั นี้ 2) แบบฝกึ หดั 4.8 เปน แบบรูปของจ�านวนท่ีเพ่ิมขน้ึ ทีละ 5 จ�านวนทห่ี ายไป คอื 461 เปน แบบรปู ของจา� นวนท่ลี ดลงทีละ 2 จา� นวนที่หายไป คอื 408 เปน แบบรปู ของจา� นวนท่ลี ดลงทีละ 100 จา� นวนที่หายไป คือ 514 เปน แบบรูปของจ�านวนที่เพมิ่ ข้นึ ทลี ะ 10 จา� นวนทห่ี ายไป คอื 414 3) แบบประเมินทักษะและ กระบวนการทางคณติ ศาสตร เปนแบบรปู ของจ�านวนทีล่ ดลงทลี ะ 10 จา� นวนที่หายไป คือ 402

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรูค้ ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรู้ที่ ๙ 2 2 หนว่ ยที่ ๔ แบบรปู ชน้ั ป.๒ เวล� ๑ ชวั่ โมง จุดประสงคก์ �รเรียนรู้ - หากนักเรียนทราบค�าตอบใหยกมือแลวบอกวาขอความนั้นเปนค�าตอบของขอใด จากน้ันครูและ 3. เกณฑ์ 1 6 5 7 90 ด้�นคว�มรู้ นักเรียนรวมกันตรวจสอบความถกู ตอง แลว นา� แถบดังกลา วตดิ บนกระดาน ดงั นี้ 1) ผลงานมีความถูกตองไม เพ่ือใหน กั เรียนสามารถ 1. 451 456 …… 466 471 476 นอยกวารอยละ 80 1. บอกความสัมพันธและ 2) คะแนนรวมดานทักษะ หาจ�านวนถัดไปในแบบรูปของ เปน แบบรูปของจ�านวนท่เี พมิ่ ขึ้นทลี ะ 5 จ�านวนที่หายไป คือ 461 จ�านวนท่ีเพิ่มขึ้นและลดลงทีละ กระบวนการทางคณิตศาสตรไม 2 ทลี ะ 5 ทีละ 10 ทีละ 100 2. 414 412 410 …….. 406 404 นอ ยกวา รอยละ 60 2. หาจ�านวนท่ีหายไปใน แบบรปู ของจา� นวนทเี่ พม่ิ ขน้ึ และ เปน แบบรูปของจา� นวนท่ลี ดลงทลี ะ 2 จ�านวนท่หี ายไป คอื 408 ลดลงทีละ 2 ทีละ 5 ทีละ 10 ทีละ 100 3. 914 814 714 614 …….. 414 ด�้ นทกั ษะและกระบวนก�ร เปน แบบรปู ของจา� นวนที่ลดลงทีละ 100 จา� นวนทหี่ ายไป คือ 514 ท�งคณิตศ�สตร์ 4. …… 424 434 444 454 464 2 เพื่อใหนักเรียนสามารถ 1. ใหเ หตผุ ล เปน แบบรูปของจา� นวนทีเ่ พิม่ ขนึ้ ทีละ 10 จา� นวนท่ีหายไป คือ 414 2. สอ่ื สารและสอื่ ความหมาย ทางคณติ ศาสตร 5. 432 422 412 ……. 392 382 เปนแบบรปู ของจ�านวนที่ลดลงทีละ 10 จา� นวนท่ีหายไป คอื 402 ๘๓

๘๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นร้คู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ที่ ๙ ชนั้ ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๔ แบบรปู เวล� ๑ ช่ัวโมง ข้นั สอน 2 2. ครูจัดกิจกรรมใหนักเรียนหาจ�านวนทีห่ ายไปในแบบรปู ของจา� นวน ดงั น้ี ตวั อย่�ง 231 241 251 271 281 - จา� นวนทีหายไปคือจา� นวนใด (261) - มีวธิ ีการหาจา� นวนทีห่ ายไปอยา งไร (ตอบตามความเขาใจ เชน 5 47 • หาความสมั พันธแบบรูปของจา� นวนกอ น ซึ่งไดว า เปน แบบรปู ของจ�านวนทเี่ พ่มิ ขึ้นทีละ 10 • หาจา� นวนทีห่ ายไปโดยน�า 251 บวกดวย 10 จะได 261 หรือ นา� 271 ลบดว ย 10 ได 261) ครูเขยี นวิธคี ิดบนกระดาน ดังน้ี วิธีคดิ 251 + 10 = 261 271 – 10 = 261 2 231 241 251 261 271 281 ชุดของจ�านวนเปน แบบรปู ที่ เพม่ิ ขึ้น ทลี ะ 10

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นรคู้ ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรู้ที่ ๙ 2 2 หนว่ ยที่ ๔ แบบรปู ช้นั ป.๒ จากนน้ั ครใู หน กั เรยี นจบั คู ทา� ใบกจิ กรรม 4.3 “จา� นวนทหี่ ายไปไขรหสั ลบั ” โดยครแู จกใบไขรหสั ลบั เวล� ๑ ชว่ั โมง1 6 5 7 90 ใหนกั เรยี นคูละ 1 ใบ จากนน้ั ครูติดแถบแบบรปู ของจา� นวนทีละขอ บนกระดาน ดังน้ี 2 ขอที่ 1. 22 32 42 62 72 ใหนักเรียนแตละคูชว ยกนั หาจา� นวนทห่ี ายไปในแบบรูปที่ก�าหนด โดยใชเ วลาไมเ กนิ 2 นาที เม่ือได ค�าตอบแลว ใหเขียนรหัสที่ตรงกบั ค�าตอบลงในตารางไขรหัสลับ เชน ขอที่ 1. 22 32 42 52 62 72 จ�านวนที่หายไปคือ 52 ซง่ึ ตรงกบั รหสั ลับ W จึงเขยี น W ในชองท่ี 1 ดังตัวอยา ง “มาชว ยกนั คน หาตวั อกั ษรทเ่ี ปน คา� ตอบ แลว นา� ไปเตมิ ใน กนั เถอะ” 5w2 2T61 4V48 9E8 6O69 4L2 5S55 6M33 1A2 6H76 3E65 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. ๘๕ w

๘๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นร้คู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรู้ท่ี ๙ ช้นั ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๔ แบบรปู เวล� ๑ ชว่ั โมง ท�ากจิ กรรมทา� นองนจี้ นครบท้งั 11 ขอ ดังน้ี 2 5 47 ขอที่ 2. 108 106 104 102 100 …… (98) ขอ ท่ี 3. 37 …… 47 52 57 62 (42) ขอ ที่ 4. 969 869 769 …… 569 469 (669) ขอที่ 5. 444 446 …… 450 452 454 (448) ขอที่ 6. 380 375 370 …… 360 355 (365) ขอท่ี 7. 673 663 653 643 …… 623 (633) ขอ ที่ 8. …… 112 212 312 412 512 (12) 2 ขอ ท่ี 9. 251 256 …… 266 271 276 (261) ขอ ท่ี 10. 747 737 727 717 707 …… (697) ขอ ท่ี 11. 551 553 …… 557 559 561 (555)

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรียนร้คู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู้ ี่ ๙ 2 2 หน่วยท่ี ๔ แบบรปู ช้ัน ป.๒ 3. ครแู ละนักเรียนรว มกนั ตรวจสอบความถูกตอ งของรหสั ท่ีได ดงั นี้ เวล� ๑ ช่ัวโมง 1 6 5 7 90 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 2 wE LOV E MA T H S ครูใหน กั เรยี นทา� แบบฝกึ หดั 4.8 ข้ันสรปุ 4. ครแู ละนักเรียนรว มกันสรุปวา - ชดุ ของจา� นวนทม่ี คี วามสมั พนั ธก นั อยา งตอ เนอื่ งในลกั ษณะของการเพมิ่ ขนึ้ หรอื ลดลงทลี ะเทา ๆ กนั เปน แบบรูปของจา� นวน - การหาจา� นวนถดั ไปหรอื จา� นวนทห่ี ายไปในแบบรปู ของจา� นวน ใหห าความสมั พนั ธข องแบบรปู กอ น แลว จงึ หาจ�านวนน้ัน ๘๗

๘๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูท้ ี่ ๑๐ 01 9 แนวก�รจัดกิจกรรมก�รเรียนรู้ ข้นั น�ำ ทบทวนแบบรูปที่เพิม่ ขน้ึ หรอื ลดลงทีละ 2 ทลี ะ 5 ทีละ 10 ทลี ะ 100 ขน้ั สอน - การสรางแบบรูปท่ีเพิม่ ขน้ึ หรอื ลดลงทีละ 2 ทลี ะ 5 ทีละ 10 โดยใชตารางรอ ย 5 47 - การสรางแบบรูปทเ่ี พิ่มขน้ึ หรอื ลดลงทีละ 100 ใบกจิ กรรม 4.3 และ แบบฝกึ หัด 4.9 ข้นั สรุป ครูและนักเรยี นรวมกันสรปุ เกย่ี วกับแบบรูปของจา� นวน และการสรางแบบรูปทเ่ี พ่มิ ข้ึนหรือลดลงทลี ะเทา ๆ กัน 2 - ประเมนิ จากการตอบค�าถาม การท�าใบกจิ กรรม 4.4 และแบบฝึกหดั 4.9 2 ก�รวดั และประเมนิ ผล - ประเมินจากการใหเ หตผุ ล การสอ่ื สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร การคิดสรางสรรค

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรคู้ ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู้ที่ ๑๐ 2 2 หน่วยที่ ๔ แบบรูป ชน้ั ป.๒ เวล� ๑ ช่ัวโมง ขอบเขตเน้ือห� กจิ กรรมก�รเรยี นรู้ สื่อ / แหล่งก�รเรียนรู้ 1 6 5 7 90 ขนั้ น�ำ การสรา งแบบรปู ของจา� นวน 1. ปายคา� ถามกจิ กรรม 1. ครูตดิ ปายคา� ถามบนกระดาน ดงั รปู ท่ีเพมิ่ ข้ึนหรือลดลงทีละ 2 ทลี ะ “เปดปา ยมหาสนุก” 5 ทีละ 10 ทีละ 100 2. ใบกจิ กรรม 4.4 3. แบบฝกึ หดั 4.9 ส�ระส�ำ คัญ ค�ำ ถ�มหลังป� ย ก�รประเมิน 1. แบบรูปของจ�านวน เปน 23 25 27 29 80 75 70 60 55 220 200 190 180 170 1. วธิ ีก�ร ชุดของจ�านวนท่ีมีความสัมพันธ 71 81 1) สังเกตพฤติกรรม กันอยางตอเนื่องในลักษณะของ 101 111 121 334 434 534 634 2 ก า ร เ พิ่ ม ข้ึ น ห รื อ ล ด ล ง ที ล ะ การเรียนรู เทา ๆ กนั 2) ใบกจิ กรรม 4.4 3) ตรวจแบบแบบฝึกหัด 4.9 2. การสรางแบบรูปของ จ�านวนท�าไดโดยก�าหนดจ�านวน 2. เคร่อื งมอื เริ่มตนและความสัมพันธของ 1) ใบกจิ กรรม 4.4 จ�านวนในแบบรูปท่ีมีลักษณะ 2) แบบฝึกหัด 4.9 เพิ่มข้ึนหรือลดลงทีละเทา ๆ 3) แบบประเมินทักษะและ กนั กระบวนการทางคณิตศาสตร ๘๙

๙๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรคู้ ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นร้ทู ่ี ๑๐ ชนั้ ป.๒ 01 9 หน่วยที่ ๔ แบบรปู เวล� ๑ ชั่วโมง จุดประสงค์ก�รเรียนรู้ ครจู ัดกลุมนกั เรยี น กลุมละ 4-5 คน รวมกจิ กรรม “เปด ปา ยมหาสนุก” โดยมีกตกิ าดงั น้ี 3. เกณฑ์ ด้�นคว�มรู้ 1) ครูสมุ นกั เรียนเลือกปา ยค�าถาม แลวใหนักเรยี นอานพรอมกัน 1) ผลงานมีความถูกตอง 2) ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันหาจ�านวนถัดไปหรือจ�านวนท่ีหายไปในแบบรูป จากนั้นครูให เพ่ือใหนักเรียนสามารถสราง สัญญาณนักเรียนแตละกลุมยกมือแขงขันกันตอบค�าถาม กลุมใดยกมือไดเร็วและพรอมเพรียงกันที่สุด ไมนอยกวา รอ ยละ 80 แบบรปู ของจา� นวนทเ่ี พม่ิ ขน้ึ หรอื จะไดต อบคา� ถาม ดังน้ี 2) คะแนนรวมดานทักษะ ลดลงทีละ 2 ทีละ 5 ทีละ 10 ตัวอย�่ ง ทีละ 100 กระบวนการทางคณิตศาสตร ไมนอยกวา รอยละ 60 ด�้ นทกั ษะและกระบวนก�ร 23 25 27 29 5 47 ท�งคณิตศ�สตร์ - จา� นวนที่หายไปคือจ�านวนใด (31) - ทราบไดอ ยางไร (เปนแบบรปู ของจา� นวนท่เี พิ่มขึน้ ทีละ 2 ดงั น้ันจ�านวนถัดไปเปน 29 + 2 = 31) เพือ่ ใหน กั เรยี นสามารถ 3) ครเู ขียนจา� นวนตามที่นกั เรยี นบอกบนกระดาน และรว มกนั ตรวจสอบความถกู ตอง 1. ใหเหตผุ ล 2. สอื่ สารและสอื่ ความหมาย ครจู ดั กิจกรรมทา� นองเดียวกนั จนครบทกุ ปา ย ทางคณิตศาสตร 2 3. คิดสรางสรรค ขน้ั สอน 2. ครูจัดกจิ กรรมใหน กั เรียนสรา งแบบรูปของจา� นวนจากตารางรอย โดยมขี น้ั ตอนดังตอ ไปน้ี 1) ครูติดภาพตารางรอยบนกระดาน จากนั้นครูสุมนักเรียนเลือกจ�านวนในตารางรอย 1 จ�านวน 2 เชน 12 ครูเขยี นวงลอม 12 ในตารางรอยบนกระดาน 2) ครกู า� หนดเงือ่ นไขในการสรา งแบบรปู ของจ�านวน เชน แบบรปู ของจ�านวนทเี่ พม่ิ ขึน้ ทีละ 10 3) สุมนักเรียนบอกจ�านวนถดั ไปตามเงือ่ นไขของแบบรูปที่ครูก�าหนด จะได 22 ครเู ขียนวงลอม 22 ในตารางรอยบนกระดาน

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นรู้คณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ 2 2 หนว่ ยท่ี ๔ แบบรปู ชัน้ ป.๒ - ครสู ุมเลือกนักเรยี นอีก 3 คน บอกจา� นวนถดั ไป ซง่ึ จะได 32 42 52 ครเู ขยี นวงลอ มจา� นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง1 6 5 7 90 ในตารางรอยบนกระดาน ดงั นี้ 2 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 ๙๑

๙๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กล่มุ ส�ระก�รเรยี นร้คู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ ชัน้ ป.๒01 9 หนว่ ยที่ ๔ แบบรูป เวล� ๑ ชว่ั โมง 3. ครูแจกใบกิจกรรม 4.4 ใหนักเรียนแตละคนท�ากิจกรรมในขอ 1 โดยระบายสีเพ่ือสรางแบบรูป 2 5 47 ของจ�านวนตามเงอ่ื นไขทกี่ �าหนด 4. ครใู หน ักเรยี นท�าใบกิจกรรม 4.4 ขอ 2 เปนกลุม กลมุ ละ 3 คน โดยครูกา� หนดจา� นวนและเงอ่ื นไข ดังน้ี ขอที่ 1) จา� นวนแรกของแบบรูป คอื 215 ขอท่ี 2) จา� นวนท่ี 3 ของแบบรูป คือ 310 ขอ ที่ 3) จา� นวนที่ 3 ของแบบรูป คือ 465 ขอที่ 4) จา� นวนที่กา� หนดให คือ 528 ใหนกั เรียนเปนผกู า� หนดตา� แหนงของ 528 ครสู มุ นกั เรยี นออกมานา� เสนอหนา ชนั้ เรยี น 2-3 กลมุ ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ ง จากน้ันใหน ักเรียนท�าแบบฝกึ หัด 4.9 ขั้นสรุป 5. ครแู ละนกั เรียนรว มกนั สรุปวา 2 - แบบรูปของจ�านวน เปนชุดของจ�านวนท่ีมีความสัมพันธกันอยางตอเนื่องในลักษณะ ของการเพ่มิ ขน้ึ หรือลดลงทลี ะเทา ๆ กัน - การสรางแบบรูปของจ�านวน ท�าไดโดยก�าหนดจ�านวนเริ่มตนและความสัมพันธของจ�านวน ในแบบรปู ทมี่ ลี กั ษณะเพม่ิ ขน้ึ หรือลดลงทีละเทา ๆ กัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook