64-07-23-หน่วยที่ 5 คู่มือครู ป.2 คณิต

โครงการสวนพระองคส มเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มูลนธิ ิการศกึ ษาทางไกลผานดาวเทียม ในพระบรมราชปู ถัมภ สาํ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน พืน ฐาน สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

ชุดเอกส�รสื่อ ๖๐ พรรษ� สมเด็จพระเทพรัตนร�ชสุด� ฯ สย�มบรมร�ชกุม�รี ลิขสิทธิ์ของ สํานักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พิมพครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๖๒ จํานวน ๒๒,๐๐๐ เลม จัดพิมพโดย โรงพิมพชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย จํากัด ๗๙ ถนนงามวงศวาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ๑๐๙๐๐ โทร. ๐-๒๕๖๑-๔๕๖๗ โทรสาร ๐-๒๕๗๙-๕๑๐๑ นายโชคดี ออสุวรรณ ผูพิมพผูโฆษณา

คำ�นำ� ตามท่ี สํานักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ไดจัดทําชุดการเรียนรู สําหรับใชในโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็กที่ขาดครู มีครูไมครบช้ันหรืออยูในพื้นที่หางไกลทุรกันดารซ่ึงประกอบดวย ชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู (สําหรบั ครูผสู อน) และชุดกิจกรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นักเรยี น) หลงั จากทมี่ ีการนําไปใช พบวา ส่อื ดงั กลา วชว ยพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาของโรงเรียนขนาดเลก็ ไดเ ปน อยางดี สาํ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษา ขั้นพ้ืนฐาน จึงเห็นควรมีการนาํ เอาสื่อดงั กลา ว มาใชใ นโรงเรยี นประถมศกึ ษาขนาดเลก็ และโรงเรียนขยายโอกาสทกุ โรง เพอื่ ชว ยพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษาใหด ยี งิ่ ขน้ึ ประกอบกบั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ไดป ระกาศใชม าตรฐาน การเรียนรู และตัวช้ีวัดกลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร วิทยาศาสตร และสาระภูมิศาสตร ในกลุมสาระการเรียนรู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคําสั่ง กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ.๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน จึงไดปรบั ปรุงชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู ูสอน) เพื่อใหสอดคลองกับการประกาศใชมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด และเพ่ือใหสะดวกตอการนําไปใช โดยจัดแยก เปน รายชัน้ (ประถมศึกษาปท ่ี ๑ - ๖) และเปนรายภาค (ภาคเรียนท่ี ๑ และ ๒) ทง้ั ๕ กลมุ ประกอบดว ย - ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู (สําหรบั ครูผูสอน) กลุมสาระการเรียนรภู าษาไทย ประถมศึกษาปท ี่ ๑ - ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ และ ๒ - ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครูผสู อน) กลุมสาระการเรยี นรูวิทยาศาสตร ประถมศกึ ษาปท่ี ๑ - ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ และ ๒ - ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู (สําหรบั ครผู สู อน) กลุมสาระการเรยี นรูคณิตศาสตร ประถมศึกษาปท ี่ ๑ - ๖ ภาคเรียนที่ ๑ และ ๒ - ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู (สําหรับครูผสู อน) กลุมสาระการเรยี นรภู าษาตา งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ประถมศึกษาปท่ี ๑ - ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ และ ๒ - ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรับครผู ูสอน) กลมุ บูรณาการ ประถมศึกษาปท ี่ ๑ - ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ และ ๒ การนําชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรูไปใช ครูผูสอนตองศึกษาเอกสาร คูมือการใชชุดการจัดกิจกรรม การเรยี นรู และศกึ ษาคาํ ชแ้ี จงในเอกสาร ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) ใหเ ขา ใจเพราะจะทาํ ใหท ราบ ถึงแนวคิดการจัดกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู การเตรียมตัวของผูสอน ส่ือการจัดกิจกรรมการเรียนรู ลักษณะ ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู แผนการจัดการเรียนรู สัญลักษณที่ใช แนวทางการวัดและประเมินผลของแตละ หนวยการเรียนรู หวังวาชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู (สําหรับครูผูสอน) และชุดกิจกรรมการเรียนรู (สําหรับนักเรียน) ฉบับปรับปรุงน้ี จะเปนประโยชนตอการจัดกิจกรรมการเรียนรูของผูสอน อันจะสงผลตอการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ระดบั ประถมศึกษาตอ ไป ขอขอบคุณ ผูทรงคุณวุฒิ ผูบริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก ครู อาจารย และทุกทานที่มีสวนเก่ียวของกับ การปรับปรงุ และจัดทําเอกสารมา ณ โอกาสนี้ สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน



คำ�ชแี้ จง ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู (สาํ หรับครูผูส อน) หนวยที่ ๕ เวลา เลมน้ี เปน ๑ ใน ๘ เลม ของชดุ การจัด กจิ กรรมการเรยี นรู กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ใชก บั นกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๒ ซง่ึ ผา นการวเิ คราะหม าตรฐาน และตัวชี้วัด กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ เมอื่ สอนครบทง้ั ๘ เลม นกั เรยี นจะไดเ รยี นรคู รบถว นครอบคลมุ ทกุ มาตรฐานและตัวช้ีวัดของหลักสูตร ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู (สําหรับครูผูสอน) หนวยท่ี ๕ เวลา เลมน้ี เปนเอกสารท่ีนําเสนอแนวทาง ในการจัดการเรยี นรคู ณิตศาสตร เร่ืองเวลาใหก ับนักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปท ี่ ๒ ประกอบดวย (๑) คําแนะนาํ สาํ หรบั ผสู อน (๒) โครงสรา งชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู (๓) กาํ หนดการสอนคณิตศาสตร ชั้นประถมศึกษาปที่ ๒ (๔) โครงสรางหนว ยการเรียนรู หนวยท่ี ๕ เวลา (๕) มาตรฐานการเรยี นรแู ละตวั ชวี้ ัดของหนว ยการเรยี นรู หนวยที่ ๕ เวลา (๖) แผนการจัดการเรียนรู จํานวน ๑๖ แผน (๗) เฉลยแบบฝก หัดของนกั เรยี น (๘) เฉลยใบกิจกรรม (๘) แบบประเมินทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร กอนการสอนเรอ่ื งเวลา ครผู สู อนควรศึกษาแผนการจดั การเรียนรูจากเอกสารเลม น้ีอยางละเอยี ด จะทําใหรูว า ตอ งสอนแตล ะเนอื้ หาอยา งไร และตอ งเตรยี มสอ่ื /อปุ กรณป ระกอบการสอนอะไรบา ง ซงึ่ จะทาํ ใหก ารจดั การเรยี นรขู องครู มปี ระสทิ ธิภาพ สงผลใหน ักเรยี นมคี วามรูความเขาใจในเนือ้ หาทส่ี อน คณะผูจัดทําหวังเปนอยางยิ่งวา ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู (สําหรับครูผูสอน) หนวยที่ ๕ เวลา เลมน้ี จะเปนประโยชนตอครูผูสอนในการนําไปใชจัดการเรียนรู เรื่องเวลา ใหกับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปท่ี ๒ เพื่อเพิ่ม ประสทิ ธิภาพการจดั การเรยี นรูของครแู ละการเรียนรขู องนกั เรียนใหสงู ข้นึ สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร



ส�รบญั ๑ ๕ • คาํ แนะนาํ สําหรับครูผูสอน ๖ • โครงสรา งชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู ๗ • กําหนดเวลาการสอนคณิตศาสตร ชัน้ ประถมศึกษาปที่ ๒ ๘ • โครงสรางหนว ยการเรียนรูที่ ๕ เวลา ๙ • มาตรฐานการเรยี นรแู ละตัวชวี้ ัดของหนว ยการเรยี นรู หนว ยที่ ๕ เวลา ๑๑ • แผนการจัดการเรียนรู ๑๖ ๑๙ แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๑ ๒๗ แผนการจดั การเรียนรทู ่ี ๒ ๓๓ แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๓ ๓๘ แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ ๔ ๔๓ แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๕ ๔๘ แผนการจัดการเรียนรทู ่ี ๖ ๕๔ แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๗ ๖๐ แผนการจัดการเรียนรทู ่ี ๘ ๖๕ แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๙ ๗๐ แผนการจัดการเรียนรูที่ ๑๐ ๗๕ แผนการจดั การเรียนรทู ่ี ๑๑ ๗๙ แผนการจดั การเรียนรูท ่ี ๑๒ ๘๔ แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๑๓ ๙๒ แผนการจัดการเรียนรทู ี่ ๑๔ แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ ๑๕ แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๑๖

• ภาคผนวก ๙๗ ภาคผนวก ก เฉลยแบบฝกหัด ๙๙ ภาคผนวก ข เฉลยใบกจิ กรรม ๑๓๗ ภาคผนวก ค แบบประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร ๑๔๑

1 6 5 7 90 22 22 ค�ำ แนะน�ำ ส�ำ หรับผูสอน ๑. แนวคดิ หลัก การจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตรมุงใหผูเรียนมีความสามารถดานการสื่อสารและการคิดอยางเปนระบบ สามารถตง้ั ขอ สนั นษิ ฐาน สบื เสาะและเลอื กสรรสารสนเทศ ใหเ หตผุ ล แกป ญ หาโดยเลอื กใชย ทุ ธวธิ ตี า ง ๆ การจดั กจิ กรรม จงึ ควรเนน การเรียนรรู วมกนั เปนกลุม ซงึ่ เปนการเปด โอกาสใหผูเรียนไดรวมกันคดิ ปรึกษาหารือ อภปิ ราย แกป ญ หา แสดงความคิดเห็นและสะทอ นความคดิ (reflective thinking) ชว ยใหผ ูเ รียนไดพัฒนาความรู ทกั ษะและกระบวนการ ทางคณิตศาสตร และคณุ ธรรม จริยธรรม ในการจดั กลมุ อาจจัดเปนกลมุ ๒ คน หรือกลมุ ๓ - ๔ คน หรอื อาจจดั กจิ กรรมรวมกนั ท้ังชัน้ ทง้ั น้ีขน้ึ อยูกบั วัตถุประสงคข องการจดั กจิ กรรมการเรยี นรนู น้ั ๆ ในการดําเนินกิจกรรมการเรียนการสอนคณิตศาสตร สิ่งสําคัญท่ีผูสอนควรคํานึงถึงเปนอันดับแรกคือ ความรูพ้ืนฐานของผูเรียน ผูสอนอาจทบทวนโดยใชคําถามหรือยุทธวิธีตาง ๆ เพ่ือนําไปสูการเรียนรูเน้ือหาใหม ข้นั การสอนเนอื้ หาใหม ผสู อนอาจกาํ หนดสถานการณท ่ีเชื่อมโยงกบั เรอ่ื งราวในขัน้ ทบทวนความรู และใชยทุ ธวิธตี า ง ๆ ท่ีชวยใหผูเรียนสามารถสรุปหรือเขาใจหลักการ แนวคิด กฎ สูตร สัจพจน ทฤษฎีบท หรือบทนิยามดวยตนเอง ในขณะท่ีผูเรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรม ผูส อนควรใหอ สิ ระทางความคิดกบั ผูเรียน โดยผูส อนคอยสังเกต ตรวจสอบความเขา ใจ และใหค าํ แนะนําอยางใกลชิด ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ผสู อนควรใหผ เู รยี นแตล ะคนหรอื แตล ะกลมุ ไดน าํ เสนอแนวคดิ เพราะผเู รยี น มีโอกาสแสดงแนวคิดเพิ่มเติมรวมกัน ซักถาม อภิปรายขอขัดแยงดวยเหตุและผล ผูสอนมีโอกาสเสริมความรู ขยายความรหู รอื สรปุ ประเดน็ สาํ คญั ของสาระทน่ี าํ เสนอนน้ั ทาํ ใหก ารเรยี นรขู ยายวงกวา งและลกึ มากขน้ึ สามารถนาํ ไป ประยุกตใชในชีวิตจริงได นอกจากนี้ยังทําใหผูเรียนเกิดเจตคติที่ดี มีความภูมิใจในผลงาน เกิดความรูสึกอยากทํา กลาแสดงออก และจดจําสาระท่ีตนเองไดออกมานําเสนอไดนาน รวมท้ังฝกการเปนผูนํา ผูตาม รับฟงความคิดเห็น ของผอู ่ืน การจัดกิจกรรมการเรียนรูสําหรับชั้นประถมศึกษา ผูสอนควรใหผูเรียนไดเรียนรูจากการปฏิบัติ ฝกทักษะ การสังเกต ฝก ใหเหตผุ ลและหาขอสรุปจากส่ือรูปธรรมหรือแบบจาํ ลองตาง ๆ กอน แลวขยายวง ความรสู ูน ามธรรม ตามความสามารถของผเู รยี น สาํ หรบั บางเนอ้ื หาทยี่ ากตอ การทาํ ความเขา ใจของนกั เรยี นบางคน ผสู อนควรหายทุ ธวธิ ตี า ง ๆ ท่ีเหมาะสมกับผูเรียนในการอธิบาย เชน ใชวิธีลดรูปของปญหา หรือเลือกใชสื่อ เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อชวยให การเรยี นรงู ายข้นึ และเพอ่ื ใหผเู รียนตระหนกั ในคุณคา ของคณิตศาสตร ผสู อนควรใชสถานการณท เ่ี กย่ี วขอ งกบั ชีวิตจรงิ เปนตัวอยางในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู 1 6 5 4 7 9 0ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๑

01 9 5 47 22 ๒. กระบวนก�รจัดก�รเรียนรู การนําชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรไู ปใช ครูควรเตรียมตัวลวงหนา ดงั นี้ ๑. ศกึ ษาโครงสรางชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู เพือ่ ใหท ราบวา ตลอดท้ังปก ารศกึ ษา นกั เรียนตอ งเรียนรู ทง้ั หมดกหี่ นว ย แตละหนว ยมหี นว ยยอยอะไรบาง ใชเ วลาสอนก่ชี ว่ั โมง และมีก่แี ผน ๒. ศึกษาโครงสรา งหนวยการเรียนรู วาแตล ะหนวยการเรยี นรูมเี นื้อหาอะไรบาง เน้อื หาละกชี่ ว่ั โมง ซ่ึงจะ ชว ยใหครูผูสอนมองเห็นภาพรวมของการสอนในหนว ยดังกลา วไดอยางชัดเจน ๓. ศึกษาแนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู ซึ่งอยูหนาแผนแตละแผน เปนการสรุปแนวการจัดกิจกรรมใน แตล ะขัน้ ตอนการสอน ทําใหครูมองเหน็ ภาพรวมของการจดั การเรยี นรูในช่วั โมงนั้น ๆ ๔. ศึกษาแผนการจัดการเรียนรู ตามหัวขอตอไปน้ี ๔.๑ ขอบเขตเนอ้ื หา เปน เนอ้ื หาที่นกั เรียนตอ งเรยี นรูในแผนทก่ี ําลังศกึ ษา ๔.๒ สาระสําคัญ เปนความคิดรวบยอดหรือหลักการที่นักเรียนควรจะไดหลังจากไดเรียนรูตามแผนท่ี กําหนด ๔.๓ จดุ ประสงคการเรียนรู แบงเปน ดา นความรู และดานทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร ๔.๔ กจิ กรรมการเรยี นรู แบง เปน ขน้ั นาํ ขน้ั สอน และขนั้ สรปุ ซงึ่ แตล ะขน้ั ครผู สู อนควรศกึ ษาทาํ ความเขา ใจ อยา งละเอยี ด นอกจากนค้ี รคู วรพจิ ารณาดวยวา ในแตละขั้นตอนการสอน ครูจะตอ งศึกษาวา มี ส่ือ/อปุ กรณอะไรบาง ๔.๕ สอ่ื /แหลงเรยี นรู เปน การบอกรายการสอ่ื อปุ กรณ และแหลง เรียนรทู ีต่ องใชในการจดั กิจกรรม การเรยี นรใู นชว่ั โมงนั้น ๔.๖ การประเมนิ เปน การบอกทงั้ วธิ กี าร เครอื่ งมอื และเกณฑก ารประเมนิ สาํ หรบั เครอื่ งมอื การประเมนิ ในชดุ การจัดกิจกรรมการเรยี นรฯู นี้ ไดจดั เตรยี มไวใหครูผูสอนเรียบรอยแลว ๓. ส่อื ก�รจดั ก�รเรียนรู กลุม่ ส�ระก�รเรยี นรูค ณติ ศ�สตร์ ช้นั ประถมศึกษ�ปท่ี ๒ ส่อื การจัดการเรียนรู กลุมสาระการเรียนรคู ณิตศาสตร ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ ประกอบดว ย ๓.๑ แผนการจดั การเรียนรู สําหรบั ครูใชเ ปนแนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูใหกบั นกั เรียน ๓.๒ แบบฝกหัด สาํ หรับนกั เรยี นใชฝกทักษะหลังจากทาํ ความเขาใจบทเรยี น แนวคดิ และความคิดรวบยอด ท่ีสาํ คญั ในบทเรยี นเรอ่ื งนน้ั ๆ ไปแลว ๓.๓ ใบกิจกรรม สําหรับนักเรียนใชฝ ก ทกั ษะปฏบิ ัติ หรอื สรางความคิดรวบยอดในบทเรยี น ๓.๔ แบบทดสอบ เปน การวัดความรูค วามเขาใจตามตัวช้ีวัดท่ีกาํ หนดไวในหลักสูตร แบบฝกหัด ใบกิจกรรมและแบบทดสอบของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปท่ี ๒ ไดมีการกําหนดสัญลักษณ รูปดาว ๕ แฉกจํานวน ๑ ดวง และแถบสชี มพู โดย 1 6 5 4 7 9 0๒ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

16 5 7 90 ฝ. หมายถึงแบบฝก หัด ก. หมายถึงใบกิจกรรม ท. หมายถงึ แบบทดสอบ ผ. หมายถึงแผนการจดั การเรียนรู 22 22เชน ฝ.๑.๖ / ผ.๔ เปน แบบฝก หัดหนวยท่ี ๑ ลําดบั ท่ี ๖ อยใู นแผนการจัดการเรียนรูท่ี ๔ ฝ.๓.๗ / ผ.๖ เปน แบบฝกหดั หนว ยที่ ๓ ลําดับที่ ๗ อยใู นแผนการจัดการเรียนรูที่ ๖ ก.๒.๑ / ผ.๓ เปนใบกิจกรรมหนว ยที่ ๒ ลําดับท่ี ๑ อยูในแผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๓ ท.๑.๒ / ผ.๖ เปน แบบทดสอบหนวยที่ ๑ ลาํ ดับที่ ๒ อยใู นแผนการจดั การเรียนรูที่ ๕ หมายเหตุ ลาํ ดับทขี่ องแบบฝกหดั ใบกิจกรรม และแบบทดสอบจะเรยี งตอกันจนครบทกุ แผนในแตล ะหนว ย เม่ือข้นึ หนว ยใหมล ําดบั ท่ขี องแบบฝกหัด ใบกิจกรรม และแบบทดสอบจะเริ่มตน ใหม ๔. ลกั ษณะชดุ ก�รจัดกิจกรรมก�รเรียนรู กลุ่มส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษ�ปที่ ๒ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๒ จดั ทาํ เปน หนว ยการเรยี นรู (Learning Unit) โดยผา นการวเิ คราะหม าตรฐานและตวั ชว้ี ดั กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ มาจัดทําเปนหนว ยการเรยี นรูในแตละภาคเรียน ดังน้ี ภาคเรยี นท่ี ๑ ประกอบดวย หนวยการเรยี นรู ๕ หนว ย ดงั นี้ หนว ยท่ี ๑ จาํ นวน หนว ยที่ ๒ การดําเนินการของจาํ นวน หนวยยอยที่ ๒.๑ การบวก การลบ (ไมเกนิ ๑,๐๐๐) หนว ยที่ ๓ เรขาคณติ หนว ยท่ี ๔ แบบรูป หนวยท่ี ๕ เวลา 1 6 5 4 7 9 0ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๓

01 9 5 47 22 ภาคเรียนที่ ๒ ประกอบดว ย ๓ หนวย ดงั น้ี หนวยที่ ๒ การดําเนินการของจาํ นวน หนว ยยอยที่ ๒.๒ การคูณ การหาร หนว ยท่ี ๖ การวดั หนวยยอ ยที่ ๖.๑ การวัดน้าํ หนัก หนวยยอยที่ ๖.๒ การวัดความยาว หนวยยอยท่ี ๖.๓ การวัดปรมิ าตร หนว ยที่ ๗ สถติ ิ ๕. แผนก�รจดั ก�รเรยี นรู กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูค ณติ ศ�สตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษ�ปท่ี ๒ การจัดทําแผนการจัดการเรียนรู กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร ช้ันประถมศึกษาปที่ ๒ กําหนดให สอดคลองกบั หนวยการเรยี นรู แตละหนว ยการเรยี นรูประกอบดว ยแผนการจดั การเรยี นรหู ลายแผน แผนละ ๑ ชว่ั โมง โดยมีองคป ระกอบของแผนการจัดการเรียนรคู ือ ขอบเขตเนอ้ื หา สาระสาํ คญั จดุ ประสงคการเรียนรซู ง่ึ มีทง้ั ดา นความรู และดานทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร กิจกรรมการเรียนรู ส่ือ/แหลงเรียนรู และการประเมิน สําหรับ แผนการจัดการเรียนรูทุกแผนจะมีแนวการจัดกิจกรรมการเรียนรูอยูหนาแผนทุกแผนซึ่งเปนการสรุปภาพรวมของ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรูในชั่วโมงนั้น ๆ ในทกุ ข้นั ตอนการสอนต้งั แตข้นั นํา ขนั้ สอน ขั้นสรุป และการประเมินผล 1 6 5 4 7 9 0๔ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

1 6 5 7 90 22 22โครงสร� งชุดก�รจัดกิจกรรมก�รเรยี นรู กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรูคณติ ศ�สตร์ ชั้นประถมศกึ ษ�ปท ่ี ๒ หนว่ ยที่ ๗ หน่วยที่ ๑ หนว่ ยท่ี ๒ สถติ ิ จ�ำ นวน ก�รดำ�เนนิ ก�ร (๑๘ ชัว่ โมง) ของจำ�นวน (๘ ช่ัวโมง) (๗๔ ชัว่ โมง) หนว่ ยท่ี ๖ ป.๒ ก�รวัด หน่วยที่ ๓ (๓๖ ช่วั โมง) ๒๐๐ ชว่ั โมง/ป เรข�คณติ (๑๑ ช่ัวโมง) หนว่ ยที่ ๕ หนว่ ยที่ ๔ เวล� แบบรูป (๑๐ ชั่วโมง) (๑๖ ชั่วโมง) หม�ยเหตุ เวลารวมของทุกหนว ยเปน ๑๗๓ ชั่วโมง รวมกบั การวดั ผลประเมนิ ผล และกิจกรรมเสรมิ การเรยี นรคู ณิตศาสตรเ ปน ๒๐๐ ช่ัวโมง/ป 1 6 5 4 7 9 0ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๕

01 9 5 47 22 ก�ำ หนดเวล�ก�รสอนคณิตศ�สตร์ ช้ันประถมศึกษ�ปท ี่ ๒ ภ�คเรียนท่ี ๑ จ�ำ นวน ภ�คเรียนท่ี ๒ จ�ำ นวน ชัว่ โมง ช่วั โมง หน่วยก�รเรียนรู ๑๘ หน่วยก�รเรยี นรู ๔๗ ๒๗ หนว่ ยที่ ๑ จ�ำ นวน หนว่ ยท่ี ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของ ๓๖ หน่วยท่ี ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจำ�นวน ๑๑ จำ�นวน ๘ หนวยยอยท่ี ๒.๑ ๑๐ หนวยยอ ยที่ ๒.๒ ๙ การบวก การลบ (ไมเกิน ๑,๐๐๐) ๑๖ การคูณ การหาร หน่วยที่ ๓ เรข�คณิต ๑๘ หน่วยท่ี ๖ ก�รวัด ๑๐๐ หนว่ ยท่ี ๔ แบบรูป หนว่ ยท่ี ๗ สถติ ิ หน่วยท่ี ๕ เวล� กจิ กรรมเพ่มิ เตมิ ส�ำ หรบั โรงเรยี น กิจกรรมเพมิ่ เติมสำ�หรับโรงเรยี น รวม ๑๐๐ รวม 1 6 5 4 7 9 0๖ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

1 6 5 7 90 22 22โครงสร�งหนว่ ยก�รเรียนรู หน่วยที่ ๕ เวล� กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูคณติ ศ�สตร์ ช้ันประถมศึกษ�ปท่ี ๒ ทบทวนก�รบอก ก�รบอกและ ชว่ งเวล�และก�รบอก แสดงเวล�เปน ระยะเวล�อย่�งง�่ ย น�ฬก�และน�ที (๖ ช่ัวโมง) (๒ ชัว่ โมง) ก�รบอกระยะเวล� หน่วยท่ี ๕ ก�รอ่�นปฏิทิน: (๒ ช่ัวโมง) เวล� วนั สปั ด�ห์ เดือน ป (๑๖ ชว่ั โมง) (๓ ช่ัวโมง) โจทยป์ ญห� กิจกรรมร่วมคิด เก่ียวกบั เวล� รว่ มท�ำ (๒ ชัว่ โมง) “เวล�นีเ้ ร�ทำ�อะไร” (๑ ช่วั โมง) 1 6 5 4 7 9 0ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๗

01 9 5 47 22 ม�ตรฐ�นก�รเรียนรูแ ละตัวช้วี ดั ของหนว่ ยก�รเรยี นรู หนว่ ยท่ี ๕ เวล� กลุ่มส�ระก�รเรยี นรคู ณติ ศ�สตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษ�ปท ี่ ๒ ส�ระที่ ๒ ก�รวัดและเรข�คณิต ม�ตรฐ�น ค ๒.๑ เข�ใจพ้นื ฐ�นเกย่ี วกบั ก�รวัด วัดและค�ดคะเนขน�ดของสิง่ ที่ตองก�รวดั และนำ�ไปใช ตัวชี้วัด ค ๒.๑ ป.๒/๑ แสดงวธิ ีหาคําตอบของโจทยป ญ หาเกยี่ วกบั เวลาท่มี ีหนว ยเดย่ี วและหนว ยเดียวกนั ทักษะและกระบวนก�รท�งคณติ ศ�สตร์ ๑. การแกป ญหา ๒. การใหเหตุผล ๓. การสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร ๔. การเชือ่ มโยง ๕. การคดิ สรางสรรค 1 6 5 4 7 9 0๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

22 1 6 5 7 90 22 แผนการจัดการเรยี นรู หนว่ ยท่ี ๕ เวล� 1 6 5 4 7 9 0ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๙

01 9 5 47 22 1 6 5 4 7 9 0๑๐ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 1 6 5 7 902 2 แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ่ี ๑ แนวก�รจดั กจิ กรรมก�รเรียนรู ข้นั น�ำ ครเู ลานทิ านเร่ือง “เวลาเปนของมคี า ” ข้นั สอน การบอกชว งเวลากลางวนั และกลางคนื และการบอกชว งเวลาระหวา งวนั เชา สาย เทยี่ ง บา ย และเยน็ แบบฝก หัด 5.1 ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรยี นรวมกนั สรปุ เกี่ยวกบั การบอกชว งเวลากลางวนั กลางคนื และการบอกชวงเวลาระหวางวนั (เชา สาย เทย่ี ง บา ย เย็น) 2 - ประเมินจากการตอบคําถามและการทําแบบฝก หดั 5.1 - ประเมนิ จากการสือ่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร ก�รวดั และประเมนิ ผล ๑๑

๑๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรทู ่ี ๑ ชนั้ ป.๒ 01 9 หนว่ ยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ชว่ั โมง ขอบเขตเนอ้ื ห� กิจกรรมก�รเรียนรู ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู 1. ชว งเวลา กลางวนั กลางคนื ขนั้ น�ำ 1. บตั รคาํ กลางวนั บตั รคาํ กลางคนื 2. ชวงเวลาระหวางวัน เชา 1. ครูเลา นทิ านเกีย่ วกับเวลาเพ่อื ใหนักเรยี นเห็นความสาํ คัญของเวลาดงั นี้ 2. บตั รภาพกจิ กรรมหรอื เหตกุ ารณ สาย เที่ยง บา ย เย็น ในแตละชว งเวลาของวนั นิทาน เร่ือง “เวล�เปนของมคี ่�” 3. แบบฝกหัด 5.1 ส�ระสำ�คญั 1. เวลาแตล ะวนั แบง ออกเปน 2 ชวงใหญ ๆ คือ กลางวันและ กลางคนื โดยสงั เกตจากดวงอาทติ ย 2. เชา สาย เทีย่ ง บา ย เยน็ เปนคําท่ีใชบอกชวงเวลาตาง ๆ ใน 1 วัน จดุ ประสงคก์ �รเรียนรู ด�นคว�มรู 2 2เพื่อใหนักเรียนสามารถบอก ชว งเวลาระหวางวนั และบอกได วากิจกรรมหรือเหตุการณน้ัน กระทาํ หรอื เกดิ ขนึ้ ในชว งเวลาใด ครอบครัวหนึ่งประกอบดวยพอ แม และลูกสองคน คือ เอยกับอ๋ัน ทุกวันทํางานในตอนเชา ก�รประเมนิ 5 47 แมจะปลุกลูกท้ังสองคนเพ่ือใหเตรียมตัวไปโรงเรียนแตเชา เชาวันหนึ่งแมไดเรียกลูกทั้งสองคน ใหต่ืนไปโรงเรียนจากนั้นแมก็ลงไปเตรียมอาหารและรีบออกไปทํางาน ปรากฏวาอ๋ันไมต่ืนตามเวลา 1. วิธีก�ร ที่แมเรียก เม่ือเขาต่ืนขึ้นมาก็ปรากฏวาไมพบใครในบานแลว เขาจึงไปถามคนขางบานแตพบวา 1.1 สังเกตพฤติกรรม ทุกคนไปทํางานและไปโรงเรียนกันหมดแลว เขาจึงรีบไปโรงเรียนปรากฏวาไปถึงโรงเรียนสาย ทําให ถูกตําหนิ ในชวงกลางวัน ปกติอ๋ันจะเลนจนถึงเวลาที่เพื่อนบอกวาตองไปเรียน แตวันน้ีเพื่อนไมได การเรียนรู มาเรยี ก ทําใหเขาหองเรยี นชาจึงถูกตาํ หนิ ทุกเยน็ อ๋ันจะไปเลน กบั เพือ่ นทีส่ นามเดก็ เลน เมือ่ เห็นรถพอ 1.2 ตรวจผลงานจาก แลน ผานกจ็ ะรบี วง่ิ กลับบาน วนั นีร้ ถของพอ เสียทําใหพอ ตอ งกลบั บานดว ยรถประจาํ ทาง อ๋นั จึงไมเหน็ รถพอ เขาจึงเลนเพลินไปเรื่อย ๆ ทุกคนกลับบานกันหมด เม่ือไปถึงบานทุกคนรับประทานอาหาร แบบฝกหัด เรยี บรอยแลว แมถ ามอนั๋ วา ทําไมมาชา อนั๋ บอกวา ไมรูเ วลาจงึ ทําใหมาชา และเมอื่ เชาเขาก็ไปโรงเรียน 2. เครือ่ งมือ สายเพราะวา ไมรวู า ทตี่ ื่นมาสายมากแลว 2.1 แบบฝกหดั 5.1 ครูถามนักเรียนวานักเรียนไดขอคิดอะไรจากเร่ืองท่ีไดฟง (เวลาเปนเร่ืองท่ีสําคัญมาก ถานักเรียน 2.2 แบบประเมิน สามารถอานเวลาไดก ็จะทาํ ใหนักเรียนสามารถทาํ ทุกอยา งไดตามเวลา) ความสามารถดานการส่ือสาร และส่ือความหมาย ทางคณิตศาสตร

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจดั ก�รเรียนรทู ี่ ๑ 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรูค ณิตศ�สตร์ ช้นั ป.๒ หนว่ ยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ชวั่ โมง ด� นทกั ษะและกระบวนก�ร ข้นั สอน 3. เกณฑ์ 1 6 5 7 90 ท�งคณิตศ�สตร์ 3.1 ผลงานมีความถูกตอง 2. ครูแนะนําการแบงชวงเวลาระหวางกลางวันและกลางคืนโดยครูและนักเรียนรวมกันอภิปราย เ พื่ อ ใ ห  นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ ความแตกตางระหวา งกลางวันและกลางคืนวา สามารถสงั เกตจากดวงอาทิตย โดยในกรณีปกติ นักเรียน ไมน อ ยกวารอ ยละ 80 สื่อสาร และสื่อความหมาย จะเหน็ แสงของดวงอาทติ ยห รอื แสงแดดในเวลากลางวนั ทาํ ใหเ รามองเหน็ สงิ่ ตา ง ๆ ทอี่ ยรู อบตวั ไดช ดั เจน 3.2 คะแนนรวมดานทักษะ ทางคณติ ศาสตร เราจึงทาํ กิจกรรมสว นใหญในเวลากลางวนั เชน เรยี นหนงั สือ เลนกบั เพอ่ื นที่สนามเดก็ เลน สว นกลางคืน จะไมเห็นแสงของดวงอาทติ ย ทําใหมืด มองส่ิงตา งๆรอบตัวไมเ หน็ หรอื เห็นไมช ัด เราจึงใชเวลากลางคืน และกระบวนการทางคณิตศาสตร สาํ หรบั พักผอน ครแู นะนํากิจกรรมทสี่ มั พันธก บั ชีวิตจรงิ โดยแบงพื้นที่กระดานออกเปน 2 สว น สว นท่ี 1 ไมนอยกวารอ ยละ 60 ตดิ บตั รคํากลางวนั พรอมรปู ดวงอาทิตย และสว นท่ี 2 ตดิ บตั รคาํ กลางคนื พรอ มรปู ดวงจนั ทรบนกระดาน 2 2 ครูชูบัตรเหตุการณตาง ๆ ให แลวใหนักเรียนบอกวาเหตุการณในบัตรภาพเกิดข้ึนในชวงกลางวัน หรอื กลางคนื จากนน้ั นาํ บตั รภาพไปตดิ ทกี่ ระดาน เชน ภาพการไปโรงเรยี น ภาพการนอน ภาพการเรยี น หนังสือ ภาพการไปเท่ียวสวนสนุก ภาพคุณพอคุณแมเลานิทานกอนนอน ภาพการดูดาว เปนตน จากนน้ั ครใู หนักเรียนยกตัวอยางเหตุการณที่เกิดข้นึ ในเวลากลางวันและกลางคนื เพิ่มเตมิ ๑๓

๑๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูที่ ๑ ช้นั ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ช่ัวโมง 3. ครูแนะนําเร่ืองชวงเวลาระหวางวันซ่ึงไดแก เชา สาย เที่ยง บาย และเย็น โดยครูติดบัตรคําลง 2 5 47 บนกระดาน ใหน กั เรยี นรวมกนั บอกกจิ กรรมหรือเหตกุ ารณท เี่ กิดขน้ึ ในแตล ะชวงดังน้ี เช� เปน ชว งเวลาทด่ี วงอาทติ ยเ รม่ิ ขน้ึ ทางทศิ ตะวนั ออก กจิ กรรมทนี่ กั เรยี นทาํ ในชว งน้ี เชน ตนื่ นอน แปรงฟน อาบนํ้าตอนเชา รับประทานอาหารเชา ไปโรงเรียน หรือเหตุการณที่เกิดข้ึนในชวงนี้ เชน พระสงฆออกบณิ ฑบาตรตอนเชา นกบินออกจากรงั ไปหากนิ ส�ย เปน ชวงเวลาที่ดวงอาทติ ยข นึ้ มาไดระยะหน่งึ ดวงอาทิตยส อ งแสงจาขึ้น กจิ กรรมท่ีนักเรียนทาํ ในชวงน้ี เชน การเคารพธงชาติ การเรยี นหนังสอื การพักด่ืมนม เที่ยง เปนชวงเวลาท่ีดวงอาทิตยอยูตรงกับศีรษะของนักเรียนพอดี กิจกรรมที่นักเรียนทําในชวงนี้ ไดแก พักรับประทานอาหารกลางวัน เวลาที่นักเรียนเลนท่ีสนามเด็กเลนหลังจากรับประทาน อาหารกลางวัน บ�่ ย เปนชวงเวลาท่ดี วงอาทติ ยเริ่มเคล่อื นทีไ่ ปทางทิศตะวนั ตก กจิ กรรมที่นักเรียนทําในชว งน้ี เชน กลับมาเรมิ่ เรียนอีกคร้ัง นกั เรียนบางคนอาจนอนในชวงตอนบา ยหรอื รบั ประทานอาหารวา ง เย็น เปนชวงเวลาท่ีดวงอาทิตยใกลจะตกทางทิศตะวันตก กิจกรรมที่นักเรียนทําในชวงนี้ เชน 2 เลกิ เรยี น เตรยี มตวั กลบั บาน ทาํ การบา น เลน รับประทานอาหารเยน็ จากนน้ั แบงกลมุ นกั เรยี น แลวแจกบตั รภาพกจิ กรรมหรอื เหตกุ ารณใ หน กั เรยี นแตละกลมุ เรยี งลาํ ดบั กิจกรรมหรือเหตุการณตามชวงเวลาระหวางวัน เชา สาย เท่ียง บาย เย็น แลวรวมกันอภิปรายสรุป เก่ยี วกับชว งเวลาในหนง่ึ วนั

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูท่ี ๑ 2 กลุม่ ส�ระก�รเรียนรูคณิตศ�สตร์ ชัน้ ป.๒ หน่วยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ช่ัวโมง 4. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายกิจกรรมหรือเหตุการณที่เกิดขึ้นในชวงเวลากลางคืน เชน ดูดาว 1 6 5 7 90 อานนิทานกอนนอน นอน จากนั้นใหน กั เรยี นทาํ แบบฝก หดั ท่ี 5.1 ขัน้ สรปุ 5. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปวา - เวลาแตล ะวนั แบงออกเปน 2 ชวงใหญ ๆ คอื กลางวนั และกลางคนื โดยสังเกตจากดวงอาทติ ย - เชา สาย เท่ียง บา ย เยน็ เปน คาํ ท่ใี ชบอกชวงเวลาตาง ๆ ใน 1 วนั 22 ๑๕

๑๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนก�รจัดก�รเรียนรูท่ี ๒ 01 9 แนวก�รจดั กจิ กรรมก�รเรยี นรู ขนั้ นำ� กจิ กรรมความรูส กึ นานไมนาน ขัน้ สอน การบอกระยะเวลาอยางงา ย 5 47 ขนั้ สรปุ ครแู ละนักเรยี นรว มกันสรปุ เกี่ยวกับการบอกระยะเวลาอยา งงาย 2 ก�รวดั และประเมินผล - ประเมนิ จากการตอบคาํ ถามและพฤตกิ รรมการเรียนรู 2 - ประเมินจากการสอื่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูที่ ๒ 2 2 หน่วยที่ ๕ เวล� ช้ัน ป.๒ เวล� ๑ ชั่วโมง ขอบเขตเน้ือห� กจิ กรรมก�รเรยี นรู สื่อ/แหล่งเรยี นรู 1 6 5 7 90 ขน้ั น�ำ การบอกระยะเวลาอยางงา ย 1. ลูกบอล 1. ครใู หน กั เรยี นทกุ คนนง่ั นงิ่ และหลบั ตา จนกวา ครบู อกใหเ ปด ตาไดค ะ (ทกุ คนพรอ มนะคะ เรมิ่ หลบั ตาคะ ) 2. ตะกรา ส�ระสำ�คัญ ครบู อกใหน กั เรยี นเปด ตาได (หลงั จากหลบั ตา 1 - 2 นาท)ี ครถู ามนกั เรยี นวา เวลาทนี่ กั เรยี นนง่ั หลบั ตา เปน เวลานานหรอื ไมน าน (นกั เรยี นตอบไมน านหรอื นาน) นกั เรยี นบอกไดห รอื ไมว า นง่ั หลบั ตานานเทา ใด ก�รประเมนิ การทํากิจกรรมใดกิจกรรม (นกั เรยี นตอบตามความจรงิ ) หนึ่งเปนเวลานาน ไมนาน เร็ว 1. วิธกี �ร หรือชา ขึ้นอยูกับความรูสึกของ ครูสรุปวา นักเรียนบางคนบอกวานาน บางคนบอกไมนาน ขึ้นอยูกับความรูสึกของนักเรียน สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู แตละคน แตถาตองการรูวา แตละคน แตนกั เรียนยงั บอกไมไดว าใชเ วลานั่งหลบั ตานานเทา ใด กิจกรรมที่ทําน้ันเปนเวลานาน 2. เครื่องมือ เทาใด สามารถใชเคร่ืองมือ ขั้นสอน แบบประเมินความสามารถ อยางงายสําหรับการบอกระยะ เวลา เชน การปรบมอื การจดุ ธปู 2. ครูใหนักเรียนเลนเกมสงบอล โดยแบงนักเรียนเปน 5 ทีม ทีมละเทา ๆ กัน นักเรียนแตละทีม ดา นการสอ่ื สารและสอ่ื ความหมาย การจมของกะลาเจาะรู เขาแถวใหม รี ะยะหา งเทา กัน นกั เรยี นคนแรกสงบอลขามศรี ษะไปยงั เพ่อื นที่ยนื ถดั ไปจนคนสดุ ทา ยแลว ของคณติ ศาสตร ใหน่ังลงถือวาสงบอลเสร็จ ครูจัดอันดับทีมสงบอลเสร็จเปนที่ 1, 2, 3, 4, 5 ครูถามนักเรียนวา 3. เกณฑ์ นักเรียน แตละทีมใชเวลาท่ีสงบอลเทากันหรือไม (ไมเทากัน) อยางไร (บางทีมใชเวลานอย บางทีม 2 ใชเวลามาก) ทีมไหนใชเ วลานอยทส่ี ดุ (นกั เรียนตอบตามความจริง) ทราบไดอยา งไร (สงบอลเสร็จเรว็ คะแนนรวมดานทักษะและ ทส่ี ดุ ) ทมี ไหน ใชเ วลามากทสี่ ุด (นกั เรียนตอบตามความจรงิ ) ทราบไดอ ยา งไร (สง บอลเสร็จชาท่สี ดุ ) กระบวนการทางคณิตศาสตร ไมนอ ยกวา รอ ยละ 60 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปวา ทีมท่ีสงบอลเสร็จเร็วที่สุดใชเวลานอยท่ีสุด ทีมท่ีสงบอลเสร็จชาสุด ใชเ วลามากทส่ี ดุ แตนักเรียนยงั บอกไมไดวาแตล ะทีมใชเ วลานานเทา ใด ๑๗

๑๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุม่ ส�ระก�รเรยี นรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ี่ ๒ ชั้น ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ชัว่ โมง จดุ ประสงคก์ �รเรียนรู 3. ครูใหนักเรียนเลนเกมสงบอลอีกครั้ง โดยครูปรบมือ 20 ครั้ง เปนสัญญาณของการเร่ิมตน ด� นคว�มรู และสิน้ สุดของการสงบอล ครูใหนกั เรยี นแตละกลมุ เขา แถวใหม รี ะยะหา งเทา กัน นักเรียนคนแรกหยบิ และสงบอลขามศรีษะไปยังเพ่ือนที่ยืนถัดไปจนคนสุดทายแลวใหนักเรียนคนสุดทายวางบอลในตะกรา 5 47 เพื่อใหนักเรียนสามารถบอก ทําเชนนี้อยางตอเน่ือง เม่ือครูปรบมือครบ 20 คร้ัง ใหนักเรียนหยุดสงบอลแลวชวยกันนับและบอก ระยะเวลาโดยไมใชนาฬกาได จํานวนบอลในตะกรา ครูเขียนจํานวนบอลของแตละกลุมบนกระดาน ครูจัดอันดับจากจํานวนบอล ในตะกราของแตละกลุม ครูถามนักเรียนวา นักเรียนแตละทีมใชเวลาทส่ี ง บอลเทากนั หรือไม (เทา กนั ) ด� นทกั ษะและกระบวนก�ร รไู ดอยา งไร (แตละทมี ใชเวลาในการสง บอลเทากบั เวลาที่ครูใชป รบมือ 20 คร้ัง) ท�งคณติ ศ�สตร์ ครูแนะนําวา ระยะเวลาท่ีครูใชปรบมอื 20 ครงั้ เปนการบอกระยะเวลาอยา งงา ย นอกจากนยี้ ังมวี ิธี เ พื่ อ ใ ห  นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ บอกระยะเวลาอยา งงา ยอกี หลายแบบ เชน ส่ือสารและสื่อความหมายทาง คณิตศาสตร - ระยะเวลาของการตมไข นานเทากับระยะเวลาท่ีใชพลิกนาฬกาทราย 2 รอบ (ขึ้นอยูกับขนาด ของนาฬก าทราย) - ระยะเวลาของการน่ึงขนมเทียน นานเทากับระยะเวลาท่ีจุดธูปไหมหมด 1 ดอก (ขึ้นอยูกับ ความยาวของธูป) - ระยะเวลาของการชกมวยทะเล 1 ยก นานเทากับระยะเวลาที่กะลาเจาะรูลอยอยูบนน้ําแลว 2 กะลาจม 1 ครัง้ ข้ันสรุป 2 4. ครูและนักเรยี นรว มกันสรุปเก่ียวกบั การบอกระยะเวลาอยางงาย ดังนี้ - การทาํ กจิ กรรมใดกจิ กรรมหนง่ึ เปน เวลานาน ไมน าน เรว็ หรอื ชา ขน้ึ อยกู บั ความรสู กึ ของแตล ะคน แตถ าตองการรวู ากิจกรรมที่ทาํ นัน้ เปนเวลานานเทาใด สามารถใชเคร่ืองมอื อยางงา ยสาํ หรบั การบอก ระยะเวลา เชน การปรบมือ การจดุ ธูป การจมของกะลาเจาะรู

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )22 แผนก�รจัดก�รเรยี นรูท ่ี ๓ แนวก�รจดั กิจกรรมก�รเรียนรู 1 6 5 7 90 ขนั้ น�ำ สนทนาเก่ยี วกับการบอกระยะเวลาอยา งงา ย และการบอกชว งเวลาระหวา งวัน ขน้ั สอน แนะนํานาิกาแบบตาง ๆ สว นประกอบของนากิ าแบบเขม็ การบอกและการแสดงเวลาเปน นากิ า (ชว งกลางวัน) แบบฝก หดั 5.2 ข้นั สรปุ ครูและนกั เรยี นรว มกันสรุปเกีย่ วกบั นาิกาและการบอกเวลาในชว งกลางวัน 2 ก�รวัดและประเมินผล - ประเมนิ จากการตอบคําถามและการทําแบบฝกหดั 5.2 2 - ประเมินจากการส่อื สารและการส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร ๑๙

๒๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรทู ่ี ๓ ช้นั ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ชว่ั โมง ขอบเขตเนอื้ ห� กิจกรรมก�รเรียนรู สื่อ/แหลง่ เรยี นรู 1. นาฬกาแบบตาง ๆ และ ข้ันนำ� 1. นาฬกา สว นประกอบของนาฬกาแบบเข็ม 1. ครูสนทนากับนักเรียนเก่ียวกับการบอกระยะเวลา เชน นักเรียนใชเวลาทําการบานนานหรือไม 2. นาฬกาจําลองชนิดหนาปด 2. การบอกเวลาและการแสดง (บางคนบอกวาใชเ วลาทาํ การบา นนาน บางคนบอกวาใชเ วลาทาํ การบา นไมนาน) แตเ ราก็ยงั บอกไมไ ด สองชัน้ เวลาเปน นาฬกาในชวงกลางวนั วาเราใชเวลาทําการบานนานแคไหน และเราจะทราบไดอยางไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจ) เราจะใชเ ครอ่ื งมอื อะไรในการบอกระยะเวลา (นักเรียนตอบตามความเขาใจ) 3. บตั รภาพนาฬก า 5 47 ส�ระส�ำ คัญ 2. ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกยี่ วกบั การบอกชว งเวลาระหวา งวนั เชา สาย เทยี่ ง บา ย เยน็ เชน นกั เรยี น 4. หนาปดนาฬกาจําลองชนิด ทุกคนตื่นนอนตอนเชา ตอนเชาของนักเรียนคนหน่ึงอาจจะไมตรงกับตอนเชาของนักเรียนอีกคนหน่ึง เขยี นและลบได 1. นาฬกาเปนเครื่องมือที่ใช หรือทุกคนกินขาวตอนเย็น เราก็ไมสามารถบอกไดวาใครกินขาวกอนกัน จากน้ันครูถามนักเรียนวา 5. แบบฝกหัด 5.2 บอกเวลา ซ่ึงมีทั้งแบบเข็มและ แบบตวั เลข สาํ หรบั นาฬก าแบบเขม็ บนหนา ปด นาฬก าจะมเี ขม็ ชบี้ อก เวลา เรียกวา เข็มสนั้ และเขม็ ยาว มีชองใหญเทา ๆ กัน 12 ชอง และมีตัวเลข 1 ถงึ 12 2. เข็มยาวหมุนไป 1 รอบ 2 2เขม็ สน้ั จะเคลอื่ นทไี่ ป 1 ชอ งใหญ ถาเราจะบอกเวลาใหตรงกัน เราจะใชเครื่องมืออะไรในการบอกเวลา (นักเรียนตอบตามความเขาใจ/ ก�รประเมนิ นาฬก า) 1. วธิ กี �ร ขน้ั สอน 1.1 สังเกตพฤติกรรม 3. ครใู ชคําถามเพ่อื อภปิ รายเกย่ี วกบั นาฬกาแบบตา ง ๆ เชน การเรียนรู - นกั เรยี นเคยเหน็ นาฬกาท่ีไหนบาง (เชน ท่บี า น ที่โรงเรียน ทข่ี อมอื นกั เรยี น) - นาฬกาท่นี กั เรียนเหน็ มลี ักษณะอยา งไร (เชน มีตัวเลขและมเี ขม็ มแี ตต วั เลขไมม เี ข็ม) 1.2 ตรวจแบบฝกหัด จากนนั้ ครแู นะนําใหนกั เรียนรูจกั นาฬกา นาฬก าแบบแขวน นาฬกาต้ังโตะ นาฬก าขอมือ โดยใช 2. เคร่ืองมือ เปนระยะเวลา 1 ชั่วโมง หรือ ของจรงิ หรือใชบ ตั รภาพนาฬกาแทนในกรณีที่ไมม นี าฬก าของจรงิ 2.1 แบบฝก หัด 5.2 เวลาผานไป 1 ชว่ั โมง 2.2 แบบประเมินทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรทู ี่ ๓ 2 2 หนว่ ยท่ี ๕ เวล� น�ฬก�แบบแขวนผนงั ช้ัน ป.๒ 3. เวลาในชวงกลางวันเร่ิม นาฬก าแบบเข็ม เชน น�ฬก�แบบแขวนผนงั เวล� ๑ ชั่วโมง 1 6 5 7 90 ต้ังแตเ วลา 6 นาฬกา ถงึ กอน 18 3. เกณฑ์ นาฬกา 3.1 ผลงานมีความถูกตอง ไมน อ ยกวารอยละ 80 4. การอานเวลาหลัง 12 3.2 คะแนนรวมดานความ นาฬกา (ชวงกลางวัน) ทําได สามารถ สื่อสารและส่ือความ โดยนาํ ตวั เลขทเ่ี ขม็ สน้ั ชไ้ี ปบวกกบั หมายทางคณิตศาสตรไมนอย 12 เชน 13 นาฬก า คอื 12 + 1 กวารอยละ 60 จุดประสงคก์ �รเรียนรู น�ฬก �ตง้ั โตะ น�ฬก�ขอ มอื 2 ด�นคว�มรู นาฬกาแบบตัวเลข เชน น�ฬก�ขอมือ เพ่ือใหนกั เรียน น�ฬก �ต้งั โตะ 1. บอกลักษณะและสวน ๒๑ ประกอบของนาฬกาแบบเขม็ 2. บอกเวลาเปนนาฬกา ในชว งกลางวนั ด� นทกั ษะและกระบวนก�ร ท�งคณติ ศ�สตร์ เพ่ือใหนักเรียนสามารถ ส่ือสาร และส่ือความหมาย ทางคณิตศาสตร

๒๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กล่มุ ส�ระก�รเรียนรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรูที่ ๓ ชั้น ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ช่วั โมง 4. ครใู หน กั เรยี นสงั เกตสว นประกอบของนาฬก าแบบเขม็ และบอกวา มอี ะไรบา ง ซงึ่ บนหนา ปด นาฬก า 2 ประกอบดวย เข็มชี้บอกเวลา ไดแก เขม็ สั้นและเข็มยาว มชี อ งใหญเ ทา ๆ กัน 12 ชอ ง และมตี ัวเลข 1 ถงึ 12 กํากับ ครูสาธิตการเคล่ือนท่ีของเข็มโดยหมุนเข็มยาวแลวใหนักเรียนสังเกตดูการเคลื่อนท่ีของเข็มสั้น เมอ่ื หมนุ ครบ 1 รอบ ซงึ่ จะเหน็ วา เขม็ สน้ั และเขม็ ยาวมกี ารเคลอ่ื นทต่ี ลอดเวลา โดยเมอ่ื เขม็ ยาวเคลอื่ นท่ี ครบ 1 รอบ เขม็ ส้นั กจ็ ะเคลื่อนท่ไี ปได 1 ชอ งใหญ 11 12 1 11 12 1 5 47 10 2 10 2 93 93 84 84 765 765 2 5. ครูแนะนําการอานเวลาในชวงกลางวัน (เร่ิมต้ังแต 6 นาฬกา ถึงกอน 18 นาฬกา) โดยแบง การอานเวลาชวงกลางวนั ออกเปน 2 ชวง คือการอานเวลาชวง 6 นาฬก า ถงึ 12 นาฬกาและการอา น เวลาชวง 13 นาฬกา ถึง 18 นาฬกา โดยครูใชนาฬกาจําลองจัดเข็มนาฬกาใหเข็มสั้นช้ีที่ตัวเลข 6 , 7 , 8 , 9 , 10 , 11 , 12 และเข็มยาวช้ีตัวเลข 12 พรอมทั้งแนะนําการอานเวลา ดงั นี้

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูที่ ๓ 2 2 หน่วยท่ี ๕ เวล� ช้นั ป.๒ เข็มสัน้ ช้ีตวั เลข เขม็ ย�วชตี้ ัวเลข อ�่ นว�่ เวล� ๑ ชวั่ โมง1 6 5 7 90 6 12 หกนาฬก า 7 12 เจด็ นาฬกา 2 8 12 แปดนาฬก า 9 12 เกานาฬก า 10 12 สบิ นาฬก า 11 12 สิบเอด็ นาฬก า 12 12 สบิ สองนาฬกา ขณะท่ีฝกอานเวลาครูควรถามนักเรียนวาในเวลาดังกลาวนักเรียนกําลังทํากิจกรรมอะไร เชน นกั เรียนทาํ อะไรในเวลา 6 นาฬกา เวลา 8 นาฬกา และเวลา 10 นาฬก า จากนน้ั ครหู มนุ เขม็ ช้ีบอก เวลาเพ่อื แสดงเวลาชว งกลางวนั ใหนักเรยี นชวยกันบอกเวลา เชน 1011 12 1 2 93 87 6 54 ๒๓ แสดงเวลา 8 นาฬกา

๒๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูที่ ๓ ช้ัน ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ช่ัวโมง 6. ครูแนะนําการอา นเวลาตัง้ แตเวลา 12 นาฬก าเปน ตน ไป โดยนาํ เสนอดวยนาฬก าจําลองชนดิ หนา 5 47 ปดสองช้ันดังรูป ครูหมุนเข็มนาฬกาไปที่ 12 นาฬกา และใหนักเรียนสังเกตวาเข็มสั้นและเข็มยาวจะ ตรงกันพอดี ครูหมุนเข็มยาวไปจนครบ 1 รอบ เข็มสั้นจะเคลอื่ นท่ีไปช้ีตวั เลข 1 ครอู ธิบายวา เขม็ ยาว เคลื่อนที่ไป 1 รอบ แสดงวาเวลาผานไป 1 ช่ัวโมง หรือเปนเวลาเลยเที่ยงวันมาแลว 1 ช่ัวโมง การบอกเวลาจึงไดมาจากการนํา 12 ไปบวกกับตัวเลขท่ีเข็มสั้นชี้ 12 + 1 คือ 13 นาฬกา ครูหมุนเข็มยาวตอไปอีก 1 รอบ เปนเวลา 14 นาฬกา ซ่ึงเปนเวลาที่เลยเท่ียงวัน หรือ 12 นาฬกา มาแลว 2 ชวั่ โมง ทาํ เชน เดยี วกนั นเี้ พอ่ื แสดงเวลา 15 นาฬก า ทาํ แบบนไี้ ปเรอื่ ย ๆ จนถงึ เวลา 18 นาฬก า แลวแนะนําวาตั้งแตเวลา 6 นาฬกา ถึงกอน 18 นาฬกาเปนเวลากลางวัน เม่ือถึงเวลา 18 นาฬกา จะเปนเวลากลางคืน ขณะทฝี่ ก อา นเวลาครคู วรถามนกั เรยี นวา ในเวลาดงั กลา วนกั เรยี นกาํ ลงั ทาํ กจิ กรรมอะไร เชน นกั เรยี น ทําอะไรเวลา 13 นาฬกา เวลา 15 นาฬกา และเวลา 17 นาฬกา จากนั้นครูหมุนเข็มชี้บอกเวลา 2 เพ่ือแสดงเวลาหลัง 12 นาฬก า ใหน กั เรยี นชวยกนั บอกเวลา เชน 2 แสดงเวลา 17 นาฬก า

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ่ี ๓ 2 2 หน่วยที่ ๕ เวล� ชั้น ป.๒ 7. ครูแจกนาฬกาจําลองใหนักเรียนทุกคน แลวกําหนดเวลาในชวงกลางวันต้ังแต 6 นาฬกา ถึงกอน เวล� ๑ ชัว่ โมง1 6 5 7 90 18 นาฬก า ใหน กั เรยี นทกุ คนหมนุ เขม็ นาฬก าแสดงเวลาทค่ี รกู าํ หนด จากนน้ั ใหท กุ คน ชหู นา ปด นาฬก า ใหครูตรวจสอบ เชน หมนุ เขม็ นาฬก าแสดงเวลา 8 นาฬก า จะไดดงั น้ี 2 ๒๕ 1011 12 1 2 93 87 6 54 นาฬก าแสดงเวลา 8 นาฬกา จดั กิจกรรมทํานองเดียวกนั อีก 3 - 4 ตัวอยาง เชน แสดงเวลา 6 นาฬกา 9 นาฬก า 12 นาฬก า 13 นาฬก า 16 นาฬก า 8. ครูแจกหนา ปด นาฬก าจาํ ลองชนิดเขยี นและลบไดใหน ักเรยี นทกุ คน จากนั้นครูกาํ หนดเวลา ในชว ง กลางวนั ตง้ั แต 6 นาฬก า ถงึ กอ น 18 นาฬก า ใหน กั เรยี นทกุ คนเขยี นเขม็ นาฬก าแสดงเวลาทคี่ รกู าํ หนด เมอ่ื เขยี นเสรจ็ แลว ใหท กุ คนชหู นา ปด นาฬก าใหค รตู รวจสอบ เชน เขยี นเขม็ นาฬก าแสดงเวลา 16 นาฬก า 11 12 1 10 2 93 84 765 ตัวอยา งหนาปดนาฬกาจําลอง

๒๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูคณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรทู ่ี ๓ ชัน้ ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ชว่ั โมง จัดกจิ กรรมทาํ นองเดียวกนั อีก 3 - 4 ตัวอยา ง เชน แสดงเวลา 7 นาฬกา 10 นาฬกา 5 47 17 นาฬก า 18 นาฬก า จากนั้นใหน ักเรยี นทาํ แบบฝก หดั 5.2 ขัน้ สรุป 9. ครูและนักเรยี นรว มกนั สรปุ ดังน้ี - นาฬกาเปนเคร่ืองมือท่ีใชบอกเวลา ซึ่งมีทั้งแบบเข็มและแบบตัวเลข สําหรับนาฬกาแบบเข็ม บนหนา ปด นาฬกาจะมเี ข็มชบี้ อกเวลา เรยี กวาเข็มสั้นและเขม็ ยาว มีชอ งใหญเ ทา ๆ กนั 12 ชอ ง และ มีตัวเลข 1 ถงึ 12 - เม่ือเข็มยาวหมุนไป 1 รอบ เข็มส้ันจะเคล่ือนที่ไป 1 ชองใหญ เปนระยะเวลา 1 ชั่วโมง หรือ เวลาผา นไป 1 ช่วั โมง - เวลาในชวงกลางวันเริม่ ตั้งแตเวลา 6 นาฬกา ถงึ กอ น 18 นาฬกา - การอานเวลาหลัง 12 นาฬกา (ชวงกลางวัน) ทําไดโดยนําตัวเลขที่เข็มส้ันช้ีไปบวกกับ 12 เชน 13 นาฬก า คอื 12 + 1 22

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 1 6 5 7 902 2 แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท่ี ๔ แนวก�รจัดกิจกรรมก�รเรียนรู ข้ันนำ� ทบทวนการอานเวลา ตั้งแตเวลา 12 นาิกา ถงึ 18 นาิกา ขน้ั สอน การบอกและแสดงเวลาเปน นาิกา (ชวงกลางคืน) แบบฝกหัด 5.3 ขน้ั สรปุ ครูและนักเรยี นรว มกันสรุปเก่ียวกบั การบอกเวลาชวงกลางคืน 2 ก�รวัดและประเมินผล - ประเมินจากการตอบคําถามและการทาํ แบบฝกหัด 5.3 - ประเมนิ จากการสือ่ สารและสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร ๒๗

๒๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรทู ่ี ๔ ชนั้ ป.๒ 01 9 หน่วยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ช่วั โมง ขอบเขตเนอ้ื ห� กจิ กรรมก�รเรยี นรู ส่ือ/แหลง่ เรียนรู การบอกเวลาและแสดงเวลา ข้นั น�ำ 1. นาฬก า เปนนาฬก าในชวงกลางคืน 1. ครทู บทวนการบอกเวลาในชว งกลางวนั ตง้ั แตเ วลา 6 นาฬก า ถงึ กอ น 18 นาฬก า โดยใชน าฬก า 2. บตั รภาพนาฬกา จําลองชนดิ หนาปดสองชั้น (ดังรูป) 3. นาฬกาจําลองชนิดหนาปด ส�ระส�ำ คญั สองชัน้ 1. การบอกเวลาแบงเปน 4. หนาปดนาฬกาจําลองชนิด 2 ชว ง คอื กลางวันและกลางคนื เขยี นและลบได กลางวนั เรม่ิ ตง้ั แตเ วลา 6 นาฬก า 5. แบบฝกหัด 5.3 ถงึ กอ น 18 นาฬก า และกลางคนื ครหู มนุ เขม็ นาฬก าแสดงเวลา 17 นาฬก า แลว ถามนกั เรยี นวา “นาฬก าแสดงเวลาใด” (17 นาฬก า) 5 47 เริ่มตั้งแตเวลา 18 นาฬกา ถึง “ทราบไดอยางไร” (เน่ืองจากเข็มสั้นช้ีที่ตัวเลข 5 นั่นคือ เวลานี้ผาน 12 นาฬกามาแลว 5 ช่ัวโมง ก�รประเมนิ กอน 6 นาฬก า จงึ เปน 12+5 หรือ 17 นาฬกา) “เวลา 17 นาฬกาเปน เวลาในชว งกลางวนั หรือกลางคืน” (กลางวัน) 1. วธิ กี �ร 2. การอา นเวลาหลงั เทยี่ งวัน จากน้ันครูหมุนเข็มยาวไปอีก 1 รอบ แลวถามนักเรียนวา “นาฬกาแสดงเวลาใด” (18 นาฬกา) 1.1 สังเกตพฤติกรรมการ กจ็ ะนบั เพม่ิ ขน้ึ จาก 12 ไปทลี ะ 1 “ทราบไดอยางไร” (เน่ืองจากเข็มสั้นช้ีที่ตัวเลข 6 นั่นคือ เวลานี้ผาน 12 นาฬกามาแลว 6 ช่ัวโมง เรยี นรู จนกระทั่งถึงเวลา 24 นาฬกา จึงเปน 12+6 หรือ 18 นาฬก า) “เวลา 18 นาฬก าเปนเวลาในชวงกลางวันหรือกลางคืน” (กลางคืน) 1.2 ตรวจแบบฝกหัด ก็จะเร่ิมตนวันใหม อีกครั้ง จากนน้ั ครแู นะนาํ นักเรยี นวากอ นเวลา 18 นาฬก าเปน เวลากลางวันเมอ่ื ถงึ เวลา 18 นาฬกา จะเปน 2. เคร่ืองมือ 2 ดังนั้น 1 วัน จึงมี 24 ช่วั โมง เวลากลางคนื 22.1 แบบฝก หดั 5.3 3. เวลา 24 นาฬกาเปนเวลา ข้ันสอน 2.2 แบบประเมินทักษะและ เที่ยงคืน ซ่ึงเปนเวลาส้ินสุดของ 2. ครชู ใ้ี หน กั เรยี นสงั เกตวา นาฬก าแสดงเวลา 18 นาฬก า ครหู มนุ เขม็ ยาวตอ ไปอกี 1 รอบ ใหน กั เรยี น กระบวนการทางคณิตศาสตร วันและเปนเวลาเริ่มตนของ สังเกตวาเข็มสั้นชี้ท่ีตัวเลข 7 ครูแนะนําวาเวลาน้ีเปนเวลาที่ผานเที่ยงวันหรือ 12 นาฬกามาแลว วันใหมที่ 0 นาฬก า ดังน้นั เวลา 7 ช่วั โมงจึงเปน 12 + 7 หรอื 19 นาฬก า ครูจดั กิจกรรมเชน เดียวกนั น้เี พอื่ แสดงเวลา 20 , 21 , 22 , 24 นาฬก า หรือ 0 นาฬกา เปน 23 และ 24 นาฬก า เวลาเดียวกนั

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ่ี ๔ 2 2 หน่วยที่ ๕ เวล� ช้นั ป.๒ เวล� ๑ ชว่ั โมง จุดประสงค์ก�รเรียนรู 3. ครแู นะนาํ การอา นเวลาในชว งกลางคนื โดยจดั เขม็ นาฬก าใหบ อกเวลา 18 นาฬก า ใหน กั เรยี นอา น 3. เกณฑ์ 1 6 5 7 90 ด�นคว�มรู เวลาพรอ มกนั ครจู ัดเข็มนาฬก าใหเ ข็มส้นั ช้ีที่ตัวเลข 7 , 8 , 9 , 10 , 11 , 12 และเข็มยาวช้ตี ัวเลข 3.1 ผลงานมีความถูกตอง 12 พรอ มทง้ั แนะนําการอา นเวลาดงั น้ี เ พ่ื อ ใ ห  นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ ไมนอยกวารอยละ 80 บอกและแสดงเวลาเปนนาฬกา เขม็ ส้นั ชตี้ วั เลข เข็มย�วช้ตี วั เลข อ�่ นว�่ 3.2 คะแนนรวมดานทักษะ ในชวงเวลากลางคนื 12 สบิ แปดนาฬก า 6 12 สิบเกานาฬกา และกระบวนการทางคณิตศาสตร ด� นทกั ษะและกระบวนก�ร 7 12 ยี่สบิ นาฬกา ไมน อ ยกวารอยละ 60 ท�งคณิตศ�สตร์ 8 12 ยี่สิบเอด็ นาฬกา 9 12 ยส่ี บิ สองนาฬก า เ พื่ อ ใ ห  นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ 10 12 ยส่ี บิ สามนาฬกา สื่อสาร และส่ือความหมายทาง 11 12 ยสี่ บิ สีน่ าฬกา คณติ ศาสตร 12 ครูแนะนําวา 24 นาฬกา เปนเวลาเท่ียงคืน ซ่ึงเปนเวลาส้ินสุดของวัน ดังนั้น 1 วันมี 24 ชั่วโมง 2 และเวลา 24 นาฬก าเปนเวลาเดียวกนั กบั 0 นาฬกา ซึง่ เปนเวลาเร่ิมตนของวันใหม ๒๙ จากเวลา 24 นาฬกา หรือ 0 นาฬกา ครูหมุนเข็มยาวไปอีก 1 รอบ เข็มสั้นจะเคล่ือนไปช้ีท่ี ตวั เลข 1 เวลานเ้ี ปนเวลาหลงั จากเทีย่ งคืนหรือ 0 นาฬกามาแลว 1 ชัว่ โมง จึงเรมิ่ นบั เปนชั่วโมงที่ 1 ของวันใหมแ ละอานเวลาเปน 1 นาฬกา ครหู มุนเข็มยาวตอไปอีก 1 รอบ เพ่ือแสดงเวลาและแนะนาํ การอา นเวลา 2 นาฬกา ครูเนน ยา้ํ วา ทเี่ วลา 2 นาฬกา เปนเวลาหลงั จาก 0 นาฬกามาแลว 2 ชัว่ โมง ทาํ เชน เดยี วกนั นี้เพ่อื แสดงเวลา 3 , 4 และ 5 นาฬก า ครูถามวา 7 นาฬก า เปนเวลาหลงั จาก 0 นาฬกามาแลวก่ีชว่ั โมง (7 ช่วั โมง)

๓๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรูท่ี ๔ ชน้ั ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ชั่วโมง 4. ครูหมุนเข็มนาฬกาไปยัง 20 นาฬกา ถามนักเรียนวาในเวลากลางคืนนาฬกาน้ีแสดงเวลาใด 2 5 47 (20 นาฬกา) และเวลาน้ีนักเรียนกําลังทําอะไร (เขานอน) ครูเขียนบนกระดานวา “ในชวงกลางคืน นักเรียนเขานอนเวลา 20 นาฬกา” 5. ครตู ดิ บัตรภาพนาฬก า พรอมกาํ หนดชว งเวลาวาเปน กลางวนั หรอื กลางคืน ใหนักเรยี นบอกเวลาให ถูกตอง เชน 11 12 1 10 2 93 84 765 ในเวลากลางวันแสดงเวลา 7 นาฬกา ในเวลากลางคืนแสดงเวลา 19 นาฬก า 1011 12 1 2 2 93 84 765 ในเวลากลางวนั แสดงเวลา 12 นาฬกา ในเวลากลางคืนแสดงเวลา 24 นาฬก า หรือ 0 นาฬก า จดั กจิ กรรมทาํ นองเดยี วกันอีก 3 - 4 ตวั อยา ง

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรูคณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรูท ่ี ๔ 2 2 หนว่ ยท่ี ๕ เวล� ช้นั ป.๒ 6. ครูแจกนาฬกาจาํ ลองใหนกั เรียนทุกคน แลว กําหนดเวลาในชวงกลางคนื ตัง้ แต 18 นาฬก า ถงึ กอ น เวล� ๑ ชั่วโมง 1 6 5 7 90 6 นาฬก า ใหน ักเรียนทุกคนหมุนเข็มนาฬก าแสดงเวลาที่ครูกาํ หนด จากน้นั ใหท กุ คนชหู นาปด นาฬก า ใหครูตรวจสอบ เชน หมนุ เขม็ นาฬกาแสดงเวลา 5 นาฬก า จะไดด ังน้ี 2 ๓๑ 1011 12 1 2 93 87 6 54 นาฬกาแสดงเวลา 5 นาฬกา จัดกิจกรรมทํานองเดียวกันอีก 3 -4 ตัวอยาง เชน แสดงเวลา 1 นาฬกา 3 นาฬกา 18 นาฬกา 20 นาฬก า 0 นาฬกา 7. ครูแจกหนาปดนาฬกาจําลองชนิดเขียนและลบไดใหนักเรียนทุกคน จากน้ันครูกําหนดเวลาในชวง กลางวันและชวงกลางคืน ใหน กั เรยี นทุกคนเขียนเข็มนาฬกาแสดงเวลาท่คี รกู าํ หนด เมอ่ื เขยี นเสรจ็ แลว ใหทุกคนชูหนาปดนาฬกาใหครูตรวจสอบ เชน เขียนเข็มนาฬกาแสดงเวลา 6 นาฬกา 8 นาฬกา 12 นาฬกา 13 นาฬก า 18 นาฬกา 20 นาฬก า 22 นาฬกา 24 นาฬกา 1011 12 1 2 93 87 6 54 ตัวอยางหนา ปด นาฬกาจาํ ลอง จากนน้ั ใหนักเรยี นทาํ แบบฝก หัด 5.3

๓๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรทู ่ี ๔ ชั้น ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ชั่วโมง ขน้ั สรปุ 5 47 8. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปดังนี้ - การบอกเวลาแบงเปน 2 ชวง คือ กลางวนั และกลางคืน กลางวันเริ่มตง้ั แตเวลา 6 นาฬกา ถึงกอน 18 นาฬกา และกลางคนื เริม่ ต้งั แตเ วลา 18 นาฬก า ถงึ กอ น 6 นาฬกา - การอานเวลาหลังเท่ียงวันก็จะนับเพ่ิมข้ึนจาก 12 ไปทีละ 1 จนกระทั่งถึงเวลา 24 นาฬกา กจ็ ะเร่ิมตนวันใหมอ ีกครง้ั ดงั น้นั 1 วันจึงมี 24 ชั่วโมง - เวลา 24 นาฬกาเปนเวลาเท่ียงคืน ซึ่งเปนเวลาสิ้นสุดของวันและเปนเวลาเร่ิมตนของวันใหม ท่ี 0 นาฬกา ดงั น้นั เวลา 24 นาฬก า หรอื 0 นาฬก า เปน เวลาเดียวกัน 22

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 1 6 5 7 902 2 แผนก�รจัดก�รเรยี นรูท ี่ ๕ แนวก�รจัดกจิ กรรมก�รเรียนรู ขน้ั นำ� ทบทวนการบอกเวลาเปนนาิกาชวงเวลากลางวนั และกลางคืน ขั้นสอน การบอกเวลาเปนนากิ าและนาที (5 นาที) ในเวลากลางวัน แบบฝกหดั 5.4 ข้นั สรุป ครแู ละนกั เรียนรว มกันสรปุ เก่ยี วกบั การบอกเวลาเปน นากิ าและนาที (5 นาที) ในเวลากลางวัน 2 ก�รวดั และประเมินผล - ประเมนิ จากการตอบคาํ ถามและการทําแบบฝกหดั 5.4 - ประเมนิ จากการสอ่ื สารและสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร ๓๓

๓๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูท ี่ ๕ ชนั้ ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๕ เวล� เวล� ๑ ชวั่ โมง ขอบเขตเนื้อห� กิจกรรมก�รเรียนรู สอื่ /แหลง่ เรยี นรู การบอกเวลา เปน นาฬก าและ ขนั้ นำ� 1. นาฬก า นาที (5 นาที) ในเวลากลางวนั 1. ครูทบทวนการบอกเวลาเปนนาฬกาในเวลากลางวันและกลางคืนโดย สนทนากับนักเรียนวา 2. บตั รภาพนาฬกา 3. แบบฝก หัด 5.4 ส�ระส�ำ คัญ การบอกเวลาเปน 2 ชว ง คือ กลางวนั และกลางคนื นนั้ ในเวลากลางวนั เร่มิ ตัง้ แต 6 นาฬก า ถึงกอ น 5 47 18 นาฬก า และในเวลากลางคนื เริ่มตั้งแต 18 นาฬกา ถึงกอน 6 นาฬก า ก�รประเมิน 1. เราบอกเวลาเปนนาฬกา ครูเขียนบนกระดานหรืออาจทําเปนบตั รภาพ ดงั นี้ และนาที 1. วธิ ีก�ร ในเวลากลางวัน เรมิ่ ตง้ั แต 6 นาฬก า ถงึ กอน 18 นาฬกา 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู 2. เขม็ ยาวบอกเวลาเปน นาที ในเวลากลางคนื เริ่มตง้ั แต 18 นาฬกา ถงึ กอน 6 นาฬก า 1.2 ตรวจแบบฝกหดั เข็มส้ันบอกเวลาเปนชั่วโมง ดงั นนั้ ถา เขม็ นาฬก าชที้ ต่ี วั เลข 1 และเขม็ ยาวชท้ี ตี่ วั เลข 12 ในเวลากลางวนั จะตรงกบั เวลา 13 นาฬก า เม่ือเข็มยาวเดิน 1 ชองใหญ และในเวลากลางคืนจะตรงกบั เวลา 1 นาฬกา 2. เคร่อื งมอื จะเปนเวลา 5 นาที และเมื่อ 2.1 แบบฝก หัด 5.4 เข็มยาวเดินได 12 ชองใหญ 2. ครตู ดิ บัตรภาพนาฬก าพรอ มระบุชวงเวลาใหนกั เรียนบอกเวลา เชน 2.2 แบบประเมินทักษะและ เปน เวลา 60 นาที นน่ั คอื 1 ชว่ั โมง กระบวนการทางคณิตศาสตร มี 60 นาที 11 12 1 3. เกณฑ์ 2 10 2 2 3. การอานเวลาเปนนาฬกา 93 3.1 ผลงานมีความถูกตอง และนาทีในเวลากลางวันใหดูที่ 84 ไมนอ ยกวา รอยละ 80 เข็มส้ันกอนเพ่ือบอกเวลาเปน 765 3.2 คะแนนรวมดานทักษะ นาฬกา แลวจึงดูเข็มยาวเพื่อ ในเวลากลางวนั แสดงเวลา 8 นาฬก า และกระบวนการทางคณิตศาสตร บอกเวลาเปนนาที ไมนอยกวารอ ยละ 60 ในเวลากลางคืนแสดงเวลา 20 นาฬกา

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูที่ ๕ 2 2 หน่วยท่ี ๕ เวล� ชนั้ ป.๒ จุดประสงคก์ �รเรียนรู 11 12 1 เวล� ๑ ชว่ั โมง1 6 5 7 90 ด� นคว�มรู 10 2 93 2 เ พ่ื อ ใ ห  นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ 84 บอกเวลาเปนนาฬกาและนาที (5 นาที) ในเวลากลางวนั 765 ด� นทกั ษะและกระบวนก�ร ในเวลากลางวนั แสดงเวลา 6 นาฬกา ท�งคณิตศ�สตร์ ในเวลากลางคืนแสดงเวลา 18 นาฬกา ข้ันสอน เ พื่ อ ใ ห  นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ 3. ครใู หน กั เรยี นดนู าฬก าของจรงิ แลว รว มกนั อภปิ รายรายละเอยี ดบนหนา ปด นาฬก าจนไดข อ สรปุ วา สื่อสาร และส่ือความหมายทาง บนหนา ปดนาฬกาแบงเปน 12 ชองใหญ 1 ชอ งใหญแ บงเปน 5 ชองเล็ก ครูแนะนาํ วา เข็มยาวบอก คณติ ศาสตร เวลาเปน นาที เข็มสัน้ บอกเวลาเปน ชวั่ โมง ครูหมนุ เข็มนาฬกาไปท่ี 8 นาฬกา พรอ มท้งั แนะนําวา เขม็ ยาวเดนิ ไป 1 ชอ งเลก็ เปน เวลา 1 นาที เขม็ ยาวเดนิ ไป 5 ชองเลก็ หรอื 1 ชอ งใหญเ ปนเวลา 5 นาที จากน้ันครหู มุนเขม็ ยาวไปทลี ะ 1 ชองใหญ แลว ใหนกั เรียนบอกเวลาทุก 5 นาที ไดแ ก 8 นาฬก า 5 นาที 8 นาฬก า 10 นาที 8 นาฬกา 15 นาที 8 นาฬก า 20 นาที ... 8 นาฬก า 55 นาที 8 นาฬกา 60 นาที ครูใหน กั เรยี นพจิ ารณาเวลาที่ 8 นาฬก า 60 นาที พบวา เขม็ สน้ั ช้ีตวั เลข 9 เข็มยาวช้ตี วั เลข 12 ซง่ึ เปน เวลา 9 นาฬกา 5 5 50 55 60 5 11 12 1 11 12 1 10 45 11 12 1 10 10 2 11 12 1 10 2 15 10 2 15 93 10 2 93 93 84 93 84 84 84 20 40 765 20 765 765 35 30 25 765 ๓๕ 30 25

๓๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กล่มุ ส�ระก�รเรียนรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู ี่ ๕ ช้นั ป.๒01 9 หน่วยที่ ๕ เวล� เวล� ๑ ชว่ั โมง จากนน้ั ครแู นะนาํ วา เมอ่ื เขม็ ยาวเดิน 12 ชอ งใหญ หรอื ครบ 1 รอบเปน เวลา 60 นาที เขม็ สั้นจะ 2 5 47 เดินได 1 ชอ งใหญ ซ่งึ แสดงเวลา 1 ชั่วโมง ครแู นะนําวา 1 ชัว่ โมงมี 60 นาที 4. ครูหมนุ เข็มนาฬกาใหเ ข็มสั้นชไ้ี ปทต่ี ัวเลข 6 และเข็มยาวช้ีไปทตี่ วั เลข 12 ครูถามวา “ถาขณะน้เี ปน เวลากลางวนั นาฬก านแ้ี สดงเวลาใด” (6 นาฬกา) ครหู มุนเขม็ นาฬก าไปที่ 6 นาฬกา 5 นาที 6 นาฬกา 10 นาที 6 นาฬกา 20 นาที และ 6 นาฬกา 30 นาที แลวถามนักเรียนวา “ขณะน้ีนาฬกาแสดง เวลาใด” (6 นาฬกา 30 นาที) ครูแนะนําวาเม่ือเข็มยาวช้ีท่ีตัวเลข 6 น่ันคือเวลาผานไป 30 นาที และเม่ือมองที่เข็มส้ันก็จะอยูตรงกลางระหวางตัวเลข 6 กับ 7 เม่ือเข็มยาวเคลื่อนท่ีไปชี้ท่ีตัวเลข 12 อีกคร้ังหนึ่งหรือเคลื่อนท่ีไปครบ 1 รอบ จะเปนเวลา 60 นาที เข็มส้ันก็จะเคล่ือนที่ไปชี้ตัวเลข 7 ซง่ึ เปนเวลา 7 นาฬก า ครูเนนยํ้าวาเมอ่ื เข็มยาวเคลือ่ นท่ี เข็มส้ันกจ็ ะคอย ๆ เคลอื่ นที่ตามเชนกัน 5. ครูหมุนเข็มนาฬก าแสดงเวลากลางวนั ใหนักเรียนบอกเวลาเปน นาฬก าและนาที (ชว ง 5 นาท)ี เชน 11 12 1 แสดงเวลา 10 นาฬก า 30 นาที 10 2 93 84 765 2 11 12 1 10 2 93 84 แสดงเวลา 8 นาฬก า 45 นาที 765

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรูคณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรูท ่ี ๕ 2 2 หน่วยที่ ๕ เวล� ชั้น ป.๒ 11 12 1 แสดงเวลา 14 นาฬกา 5 นาที เวล� ๑ ช่วั โมง1 6 5 7 90 10 2 93 2 84 765 11 12 1 แสดงเวลา 8 นาฬกา 55 นาที 10 2 93 84 765 ๓๗ จากนน้ั ใหน ักเรยี นทําแบบฝก หัด 5.4 ขั้นสรุป 6. ครูและนักเรยี นรวมกนั สรปุ วา - เราบอกเวลาเปนนาฬก าและนาที - เข็มยาวบอกเวลาเปนนาที เข็มส้ันบอกเวลาเปนชั่วโมง เม่ือเข็มยาวเดิน 1 ชองใหญจะเปนเวลา 5 นาที และเมือ่ เขม็ ยาวเดินได 12 ชองใหญ เปนเวลา 60 นาที นัน่ คือ 1 ชั่วโมง มี 60 นาที - การอานเวลาเปนนาฬกาและนาทีในเวลากลางวันใหดูที่เข็มสั้นกอนเพ่ือบอกเวลาเปนนาฬกา แลว จงึ ดูเข็มยาวเพ่ือบอกเวลาเปน นาที

๓๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนก�รจัดก�รเรียนรูท ี่ ๖ 01 9 แนวก�รจดั กจิ กรรมก�รเรยี นรู ขัน้ นำ� ทบทวนการบอกและแสดงเวลาเปนนาิกากบั นาทีในเวลากลางวัน ขัน้ สอน การบอกเวลาเปน นาิกาและนาที (5 นาที) ในเวลากลางคืน 5 47 แบบฝก หัด 5.5 ขนั้ สรุป ครแู ละนกั เรยี นรวมกนั สรปุ เก่ยี วกับ การบอกเวลาเปนนากิ าและนาทีในเวลากลางคนื 2 ก�รวัดและประเมนิ ผล - ประเมินจากการตอบคําถามและการทําแบบฝกหดั 5.5 2 - ประเมนิ จากการส่อื สารและการสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรูที่ ๖ 2 2 หนว่ ยท่ี ๕ เวล� ชน้ั ป.๒ เวล� ๑ ชัว่ โมง ขอบเขตเนอ้ื ห� กิจกรรมก�รเรียนรู สือ่ /แหล่งเรียนรู 1 6 5 7 90 ขัน้ นำ� การบอกเวลาเปน นาฬก าและ 1. นาฬกา นาที (5 นาท)ี ในเวลากลางคืน 1. ครทู บทวนการบอกเวลาเปน นาฬก ากบั นาที (ชว ง 5 นาท)ี โดยแจกบตั รคาํ บอกเวลาใหน กั เรยี น คนละ 2. บัตรคําบอกเวลา 1 บตั ร ครหู มนุ เขม็ นาฬก าแสดงเวลา 14 นาฬก า และคอ ยหมนุ เขม็ ยาวไปทลี ะ 5 นาที จนถงึ เวลา 15 นาฬก า 3. แบบฝก หัด 5.5 ส�ระสำ�คัญ ใหน กั เรียนที่ถือบัตรคําบอกเวลาตรงตามทค่ี รแู สดง ยนื ขึ้นแลว ชบู ตั รพรอ มบอกเวลาดังกลา ว ตวั อยา งบตั รคําบอกเวลาตั้งแตเวลา 14 นาฬกา ถงึ 15 นาฬกาดงั นี้ ก�รประเมิน การอา นเวลาเปน นาฬก าและ นาทีในเวลากลางคืนใหดูท่ีเข็มส้ัน 14 นาฬกา 14 นาฬกา 5 นาที 14 นาฬก า 10 นาที 1. วธิ ีก�ร กอนเพ่ือบอกเวลาเปนนาฬกา 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู แลวจึงดูเข็มยาวเพ่ือบอกเวลา 14 นาฬก า 15 นาที 14 นาฬก า 20 นาที 14 นาฬกา 25 นาที 1.2 ตรวจแบบฝกหดั เปน นาที 14 นาฬก า 30 นาที 14 นาฬกา 35 นาที 14 นาฬก า 40 นาที 2. เครอื่ งมอื 2.1 แบบฝกหดั 5.5 14 นาฬก า 45 นาที 14 นาฬกา 50 นาที 15 นาฬกา 2.2 แบบประเมินทักษะและ จดุ ประสงคก์ �รเรียนรู ขั้นสอน กระบวนการทางคณติ ศาสตร ด�นคว�มรู 3. เกณฑ์ 2. ครูหมนุ เข็มนาฬก าแสดงเวลา 19 นาฬกา 15 นาที ครูใหนักเรยี นสังเกตเข็มสน้ั และเขม็ ยาวพรอม เพอื่ ใหน กั เรียนสามารถบอก ถามวา “เขม็ สนั้ ชที้ ตี่ วั เลขใด” (เลข 7) “ในเวลากลางคนื แสดงเวลาใด” (19 นาฬก า) “ทราบไดอ ยา งไร” 3.1 ผลงานมีความถูกตอง เวลาเปน นาฬก าและนาที (5 นาท)ี (เปนเวลาหลังเท่ียงวนั ดังนั้นตอ งนํา 7 ไปบวก 12 ได 19) “เขม็ ยาวชี้ทต่ี ัวเลขใด และแสดงเวลาใด” ไมน อ ยกวารอยละ 80 2 ด� นทกั ษะและกระบวนก�ร (เข็มยาวชี้ตัวเลข 3 แสดงเวลา 15 นาที) “นักเรียนทราบไดอยางไร” (นับทีละ 5 จากตัวเลข 1 ท�งคณติ ศ�สตร์ ไปตวั เลข 3 จะได 5 10 15 ) ครหู มนุ เข็มนาฬก าประกอบการอธิบายและแนะนาํ ใหนักเรียนสังเกต 3.2 คะแนนรวมดานทักษะ เพอ่ื ใหน กั เรยี นสามารถสอื่ สาร ท่ีเข็มส้ัน จะพบวาเข็มสั้นอยูระหวางตัวเลข 7 กับ 8 ครูเนนยํ้าวาเมื่อเข็มยาวเคลื่อนที่ เข็มส้ัน และกระบวนการทางคณิตศาสตร และสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร ก็จะคอย ๆเคลอื่ นท่ีดวยเชนกนั ไมนอ ยกวารอ ยละ 60 ๓๙

๔๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูท ี่ ๖ ชั้น ป.๒01 9 หนว่ ยที่ ๕ เวล� เวล� ๑ ชั่วโมง ครถู ามนกั เรียนวา “ถา เปนกลางคนื นาฬก านแ้ี สดงเวลาใด” (19 นาฬก า 15 นาท)ี 2 11 12 1 10 2 93 84 765 ในเวลากล�งคนื แสดงเวลา 19 นาฬกา 15 นาที 5 47 3. ครตู ดิ บตั รภาพนาฬก าแสดงเวลาเปน นาฬก าและนาที (ชว ง 5 นาท)ี แลว ถามวา “จากนาฬก าทแี่ สดง ใหนกั เรียนดู ถา เปนกล�งคืน นาฬกานีแ้ สดงเวลาใด” จากนน้ั ครเู ขียนเวลาบนกระดานแลวใหน กั เรียน อา นตามพรอมกนั ดงั นี้ 1011 12 1 2 93 87 6 54 “ในเวลากล�งคืน แสดงเวลา 21 นาฬก า” 2 11 12 1 10 2 93 84 765 “ในเวลากล�งคืน แสดงเวลา 21 นาฬกา 15 นาที”

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ี่ ๖ 2 2 หนว่ ยที่ ๕ เวล� ชน้ั ป.๒ 1011 12 1 2 “ในเวลากล�งคนื แสดงเวลา 21 นาฬก า 30 นาท”ี เวล� ๑ ช่วั โมง1 6 5 7 90 93 “ในเวลากล�งคนื แสดงเวลา 21 นาฬกา 45 นาที” 87 6 54 2 11 12 1 10 2 93 84 765 ๔๑ 4. ครูติดภาพนาฬกาแสดงเวลา ใหนักเรียนบอกเวลาเปนนาฬกาและนาที (5 นาที) ท้ังในเวลากลางวัน และในเวลากลางคืน ดงั นี้ 11 12 1 10 2 93 84 765 ในเวลากล�งวัน แสดงเวลา 7 นาฬก า 35 นาที ในเวลากล�งคนื แสดงเวลา 19 นาฬก า 35 นาที

๔๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรทู ี่ ๖ ชั้น ป.๒01 9 หนว่ ยที่ ๕ เวล� เวล� ๑ ชว่ั โมง 11 12 1 10 2 2 5 47 93 84 765 ในเวลากล�งวัน แสดงเวลา 15 นาฬก า 10 นาที ในเวลากล�งคืน แสดงเวลา 3 นาฬก า 10 นาที 1011 12 1 2 93 87 6 54 ในเวลากล�งวนั แสดงเวลา 12 นาฬก า 55 นาที 2 ในเวลากล�งคนื แสดงเวลา 0 นาฬก า 55 นาที จากนัน้ ใหนักเรยี นทาํ แบบฝกหัดท่ี 5.5 ข้ันสรปุ 5. ครูและนักเรียนชวยกันสรุปการอานเวลาเปนนาฬกาและนาทีในเวลากลางคืนใหดูท่ีเข็มสั้นกอน เพอ่ื บอกเวลาเวลาเปน นาฬก า แลวจึงดเู ข็มยาวเพ่ือบอกเวลาเปนนาที