กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๗ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยที่ ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชั่วโมง สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ขอบเขตเน้ือหา กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ถังขยะและขยะในโรงเรยี น 1. การตั้งค�ำ ถามเพือ่ คน้ หา ข้นั น�ำ 2. แผนภาพแสดง ค�ำ ตอบจากประเด็นท่สี นใจ 1. ครูนำ�นกั เรยี นสนทนาเก่ียวกับประโยชน์ของการรับประทานผักใบเขยี ว แลว้ ยกตวั อย่าง กระบวนการทางสถิติ 2. การเก็บรวบรวมข้อมลู สถานการณ์ว่า โรงเรยี นแหง่ หน่งึ มีการสอบถามความคดิ เห็นของนักเรยี นเกี่ยวกบั การรบั ประทาน 3. ใบกิจกรรม 6.6 ดว้ ย การสอบถามและการ ผกั ใบเขียว เพือ่ เป็นข้อมูลส�ำ หรบั การทำ�อาหารกลางวัน ได้ข้อมูลดงั น้ี 4. แบบฝึกหดั 6.7 สังเกต 3. การน�ำ เสนอขอ้ มูลดว้ ย จำ�นวนนกั เรยี นท่ีชอบรับประทานผักใบเขียว การประเมนิ แผนภมู ิรปู ภาพ ชอบรับประทานผกั ใบเขยี ว ไม่ชอบรบั ประทานผักใบเขียว 1. วธิ ีการ สาระสำ�คญั 1.1 สังเกตพฤติกรรม ให้ 1 รูป แทนจำ�นวนนักเรียน 20 คน การเรยี นรู้ ในการคน้ หาค�ำ ตอบโดยใช้ ครูตัง้ ถามให้นักเรียนอา่ นแผนภมู ริ ปู ภาพ เชน่ 1.2 ตรวจใบกิจกรรม วธิ กี ารทางสถติ นิ น้ั เรม่ิ ตน้ จาก - นกั เรียนท่ีชอบรับประทานผกั ใบเขยี วมีกี่คน (270 คน) 1.3 ตรวจแบบฝกึ หัด การมปี ระเดน็ ปญั หาทส่ี นใจ - นักเรียนท่ีไม่ชอบรับประทานผกั ใบเขยี วมกี คี่ น (50 คน) 2. เครื่องมอื แลว้ ตง้ั ค�ำ ถามทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั - มีนักเรียนชอบรบั ประทานผักใบเขยี วมากกวา่ หรอื น้อยกวา่ นักเรียนทไ่ี มช่ อบรบั ประทาน 2.1 ใบกจิ กรรม 6.6 ประเดน็ ปญั หานน้ั เมอ่ื ได้ ผักใบเขียวกีค่ น (มากกว่า 220 คน) 2.2 แบบฝึกหัด 6.7 ค�ำ ถามทค่ี าดหวงั วา่ จะมี 2.3 แบบประเมินทักษะ ค�ำ ตอบหลากหลาย กเ็ กบ็ ขั้นสอน และกระบวนการทาง รวบรวมขอ้ มลู เพอ่ื ตอบค�ำ ถาม 2. ครจู ัดกิจกรรมใหน้ กั เรยี นเหน็ กระบวนการเก็บและรวบรวมขอ้ มูล รวมถึงการน�ำ เสนอขอ้ มลู คณิตศาสตร์ ทต่ี ง้ั ไว้ ซง่ึ การเกบ็ รวบรวม โดยเขยี นสถานการณบ์ นกระดาน ดังนี้ 47 ขอ้ มลู ท�ำ ไดห้ ลายวธิ ี ขน้ึ อยกู่ บั ลกั ษณะของขอ้ มลู ทเ่ี กบ็ โรงเรยี นปลูกผักใบเขยี วไวท้ ำ�อาหารกลางวนั 3 ชนดิ ไดแ้ ก่ ผกั บ้งุ ผกั คะนา้ ตำ�ลึง ตามนโยบายในการทำ�อาหารกลางวนั ต้องมีผกั ใบเขียวอยู่ในอาหาร
48 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๗ ช้นั ป. ๓ เวลา ๑ ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ หน่วยที่ ๖ สถิต ิ 3. เกณฑ์ 3.1 ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง รวบรวม ตลอดจนความ ครูนำ�อภิปรายไปสปู่ ระเดน็ ของการเก็บและรวบรวมขอ้ มูล โดยอาจตัง้ คำ�ถาม เช่น ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 สะดวกของผเู้ กบ็ รวบรวม - หากโรงเรียนตอ้ งการทำ�อาหารด้วยผกั ใบเขยี วทนี่ กั เรยี นส่วนใหญร่ ับประทานได้ ทำ�อย่างไร 3.2 นกั เรยี นได้คะแนนรวม ขอ้ มลู เมอ่ื เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จึงจะทราบว่าโรงเรยี นควรเลือกผกั ชนิดใด (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจ เชน่ เก็บข้อมูลเพิ่มเตมิ ) ดา้ นทักษะและกระบวนการ ไดแ้ ลว้ กจ็ ดั จ�ำ แนกขอ้ มลู เพอ่ื - โรงเรยี นควรเกบ็ ขอ้ มูลของอะไร (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจ เช่น เก็บข้อมลู ผกั ใบเขยี วที่ ทางคณติ ศาสตรไ์ ม่น้อยกวา่ น�ำ เสนอดว้ ยแผนภมู ริ ปู ภาพ นกั เรยี นรับประทานได้) ครูเขียนบนกระดาน ร้อยละ 60 ใหผ้ อู้ น่ื ไดเ้ หน็ ค�ำ ตอบของ - โรงเรียนจะเกบ็ ขอ้ มูลอย่างไร (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจ เช่น เก็บรวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยการ ค�ำ ถามทต่ี ง้ั ไวใ้ นตอนตน้ สอบถามโดยใชแ้ บบสอบถาม) ครแู นะน�ำ วา่ ก่อนทน่ี กั เรียนจะเก็บข้อมูล ตอ้ งพิจารณาถงึ ประเดน็ ตา่ ง ๆ เหล่าน้ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ปญั หาทีส่ นใจ ปญั หา คือ โรงเรียนต้องการท�ำ อาหารดว้ ยผกั ใบเขยี วทีน่ ักเรียนสว่ นใหญ่รับประทานได้ ดา้ นความรู้ จงึ อยากทราบวา่ ผักชนดิ ใดที่นกั เรยี นรบั ประทานได้ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ 2) ข้อมลู ทีต่ อ้ งการเกบ็ 1. ตง้ั ค�ำ ถามจากประเดน็ ขอ้ มลู ท่ตี ้องการเกบ็ คือ ชนิดของผกั ใบเขียวที่นักเรียนส่วนใหญ่รับประทานได้ ทส่ี นใจ 3) วิธเี กบ็ ข้อมลู 2. เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เพอ่ื วิธเี ก็บขอ้ มลู คือ การสอบถาม ด้วยแบบสอบถาม ตอบค�ำ ถามดว้ ยวธิ กี ารท่ี ครูแนะน�ำ วา่ แบบสอบถามเป็นเครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ในเก็บขอ้ มลู เหมาะสม 3. น�ำ เสนอขอ้ มลู ทเ่ี กบ็ จากน้นั ครูถามว่า ในแบบสอบถามควรถามเร่ืองใดบา้ ง (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจ) เช่น รวบรวมไดใ้ นรปู แผนภมู ิ นกั เรยี นชอบรบั ประทานผักหรือไม่ นักเรียนชอบรบั ประทานผกั ชนิดใด แล้วร่วมกนั สรา้ ง รปู ภาพ แบบสอบถาม ซง่ึ อาจไดด้ งั น้ี
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๗ ชน้ั ป. ๓ หน่วยท่ี ๖ สถิติ เวลา ๑ ชว่ั โมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ แบบสอบถาม ทางคณติ ศาสตร์ นกั เรียนชอบรบั ประทานผักใบเขียวหรอื ไม่ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ ชอบ ไมช่ อบ 1. แกป้ ญั หา นกั เรยี นรบั ประทานผกั ใบเขยี วชนิดใดได้บ้าง 2. ใหเ้ หตผุ ล ผกั บงุ้ ผกั คะน้า ตำ�ลงึ 3. สอ่ื สารและสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ ครแู นะว่า เมอื่ เก็บขอ้ มลู และรวบรวมข้อมูลแล้ว จะได้ดังนี้ นักเรยี นชอบรบั ประทานผกั ใบเขียว 250 คน นกั เรยี นไมช่ อบรบั ประทานผักใบเขยี ว 50 คน นักเรยี นรบั ประทานผักบ้งุ ได้ 200 คน นกั เรียนรบั ประทานผกั คะนา้ ได้ 125 คน นกั เรียนรับประทานต�ำ ลึงได้ 150 คน จากนน้ั จึงน�ำ เสนอข้อมลู ด้วยแผนภมู ิรปู ภาพ ซึง่ จะได้ดงั นี้ จ�ำ นวนนกั เรยี นท่รี ับประทานผกั ใบเขยี วชนิดตา่ ง ๆ ผักบงุ้ ผกั คะน้า ต�ำ ลงึ ให้ แทนจำ�นวนนกั เรียน 50 คน 49
50 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๗ ช้ัน ป. ๓ หน่วยท่ี ๖ สถิติ เวลา ๑ ชวั่ โมง 3. ครจู ดั กิจกรรมให้นกั เรียนเก็บรวบรวมขอ้ มลู และน�ำ เสนอขอ้ มลู ในประเดน็ ปัญหาทีน่ กั เรยี น สนใจ ดงั นี้ - ครแู บง่ กล่มุ นกั เรยี นให้นกั เรยี นก�ำ หนดหวั ขอ้ ท่สี นใจ - ครใู ห้ตวั แทนนกั เรยี นแต่ละกลุม่ น�ำ เสนอหวั ขอ้ ทีก่ ลมุ่ สนใจ โดยครูเขยี นหัวขอ้ บนกระดาน เชน่ • ขยะในโรงเรยี น • นมรสชาตทิ ่ีนักเรยี นชอบ - ใหน้ กั เรยี นเลอื กหวั ขอ้ ทส่ี นใจ จากนน้ั รว่ มกนั ระบปุ ญั หา ค�ำ ถาม ขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการเกบ็ และวธิ ี เก็บขอ้ มลู แลว้ เขียนลงในใบกจิ กรรม 6.6 เช่น หวั ข้อ คือ ขยะในโรงเรียน ปัญหา เช่น จ�ำ นวนถงั ขยะไม่เพยี งพอท�ำ ใหป้ ริมาณขยะลน้ ถงั ขยะในทุกจดุ ของโรงเรยี น สง่ ผลใหส้ กปรกและมีกลิ่นเหม็น ค�ำ ถาม เชน่ 1) ในโรงเรยี นมีถงั ขยะท้ังหมดกใ่ี บ 2) จะลดปริมาณขยะในโรงเรยี นได้อยา่ งไร 3) ขยะในโรงเรียนมชี นดิ ใดบา้ ง ขอ้ มลู ท่ีต้องการเก็บ เช่น 1) จำ�นวนถังขยะแตล่ ะอาคาร 2) วธิ ีการลดปรมิ าณขยะในโรงเรียน 3) ปรมิ าณขยะแต่ละชนิดในโรงเรยี น
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๗ ชั้น ป. ๓ หนว่ ยที่ ๖ สถิติ เวลา ๑ ชัว่ โมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ วธิ ีเกบ็ ข้อมลู เชน่ 1) สำ�รวจจ�ำ นวนถงั ขยะแต่ละอาคาร โดยการสงั เกตและนบั จำ�นวน 2) สอบถามวิธกี ารลดปริมาณขยะในโรงเรียน โดยใช้แบบสอบถาม 3) ส�ำ รวจปรมิ าณขยะแตล่ ะชนดิ ในโรงเรยี น โดยการสังเกตและแยกขยะตามชนิด นำ�ไปชงั่ ขยะแต่ละชนดิ ไปช่ังเพื่อบอกน�ำ้ หนกั เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการเก็บและบนั ทึกขอ้ มลู 1) แบบบนั ทกึ การสังเกตจ�ำ นวนขยะแตล่ ะอาคาร 2) แบบสอบถามวิธกี ารลดปรมิ าณขยะในโรงเรยี น 3) แบบบันทกึ น้�ำ หนกั ขยะแต่ละชนิด - ครใู หน้ ักเรยี นเก็บรวบรวมข้อมลู นอกเวลาเรยี น แล้วนำ�เสนอเป็นแผนภมู ิรูปภาพ ข้นั สรปุ 4. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปวิธกี ารในการใช้วิธีการทางสถิตใิ นการหาคำ�ตอบ โดยเรมิ่ จากการ ต้ังคำ�ถามจากประเดน็ ปญั หาท่สี นใจ แล้วเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลโดยใชเ้ คร่ืองมอื และวธิ ีการทเี่ หมาะสม จากนน้ั จัดกระท�ำ ข้อมลู โดยการจ�ำ แนกออกเปน็ รายการ แลว้ นับจ�ำ นวนขอ้ มลู ในแต่ละรายการ เพ่อื นำ�ไปสกู่ ารนำ�เสนอข้อมูลดว้ ยแผนภมู ิรปู ภาพ ใหด้ ึงดูดใจผูอ้ ่าน และสามารถเข้าใจเกี่ยวกบั ข้อมลู ไดง้ ่าย ท้ังนี้การกำ�หนดรูปแทนจำ�นวนข้อมลู ขน้ึ อยู่กับจ�ำ นวนข้อมลู ในแตล่ ะรายการ 51
52 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๗ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยที่ ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชว่ั โมง สิ่งทอ่ี ยากรู้หรอื ข้อสงสยั คำ�ถาม การเก็บรวบรวมข้อมูล การสอบถาม การสังเกต การนำ�เสนอและวเิ คราะหข์ ้อมูล ให้นกั เรียนทำ�แบบฝกึ หดั 6.7
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๘ แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำ� สนทนาขอ้ มูลเก่ียวกับจ�ำ นวนนักเรยี นแต่ละสใี นงานกีฬาสีของโรงเรียนแหง่ หนง่ึ ข้ันสอน การอ่านตารางทางเดียว ข้นั สรุป การวัดและประเมนิ ผล ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปเกี่ยวกับการอ่านตารางทางเดียว แบบฝึกหัด 6.8 - ประเมินการตอบค�ำ ถาม และการท�ำ แบบฝึกหดั 6.8 - ประเมินจากการใหเ้ หตผุ ล การแกป้ ัญหา และการสือ่ สารและสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 53
54 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๘ ช้นั ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชั่วโมง สอื่ /แหลง่ เรียนรู้ ขอบเขตเนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั น�ำ 1. บัตรภาพตารางทางเดียว การอา่ นตารางทางเดยี ว 1. ครเู ขียนจำ�นวนนกั เรียนแตล่ ะสีในงานกีฬาสขี องโรงเรียนแหง่ หนงึ่ 2. แบบฝึกหดั 6.8 จ�ำ นวนนักเรยี นแตล่ ะสขี องงานกฬี าสี สาระส�ำ คัญ สฟี ้า 234 คน สีเหลอื ง 253 คน สชี มพ ู 216 คน การประเมนิ สีเขียว 229 คน สมี ่วง 281 คน สแี ดง 245 คน การน�ำ เสนอขอ้ มลู อาจ ครูสนทนาเก่ียวกบั การน�ำ เสนอข้อมูลขา้ งตน้ โดยอาจใช้ถามว่า 1. วิธีการ น�ำ เสนอดว้ ยตารางทางเดยี ว - นกั เรียนจะน�ำ เสนอข้อมลู น้ดี ว้ ยแผนภมู ิรปู ภาพไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใด (นกั เรยี นตอบตาม 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรม เปน็ การน�ำ เสนอขอ้ มลู ทช่ี ว่ ย ความเข้าใจ เชน่ นักเรียนอาจจะตอบวา่ ท�ำ ได้ เพราะทีเ่ รยี นผ่านมา เรยี นการน�ำ เสนอข้อมูลด้วย การเรยี นรู้ ในการจดั ขอ้ มลู ใหอ้ า่ นงา่ ย แผนภมู ิรูปภาพ หรอื นกั เรยี นอาจจะตอบว่าท�ำ ไม่ได้ เพราะจำ�นวนนกั เรยี นแต่ละสีมจี �ำ นวนมาก) 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด และเปน็ ระเบยี บมากยง่ิ ขน้ึ - ถ้าต้องการน�ำ เสนอขอ้ มูลนี้ดว้ ยแผนภมู ิรปู ภาพควรก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รูป แทนจ�ำ นวนนักเรียน 2. เคร่อื งมอื ก่ีคน (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ เช่น รปู 1 รปู แทน 2 คน) 2.1 แบบฝกึ หัด 6.8 ตารางทางเดยี วเปน็ ตาราง - ถา้ ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คน จะตอ้ งใชร้ ปู ในรายการสฟี า้ กร่ี ปู (117 รปู ) 2.2 แบบประเมนิ ทกั ษะ ทม่ี กี ารจ�ำ แนกรายการตาม การเขยี นรูป 117 รปู ในแผนภมู ริ ูปภาพเหมาะสมหรอื ไม่ (ไม่เหมาะสม เพราะจำ�นวนรูปมาก และกระบวนการทาง หวั เรอ่ื งเพยี งลกั ษณะเดยี ว เกนิ ไป) คณิตศาสตร์ เทา่ นน้ั - ถา้ ก�ำ หนดให้รปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนักเรียน 10 คน จะตอ้ งใชร้ ปู ในรายการสฟี า้ กีร่ ปู 3. เกณฑ์ (23 รปู กว่า ๆ) การเขยี นรปู 23 รปู กวา่ ๆ จะเขยี นอย่างไรและเหมาะสมหรอื ไม่ (ไมส่ ามารถ 3.1 ผลงานมีความถูกต้อง ตารางทางเดยี วประกอบ ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 ดว้ ย ชอ่ื ตาราง หวั ตาราง 3.2 นักเรยี นได้คะแนนรวม และรายละเอยี ดของขอ้ มลู ด้านทกั ษะและกระบวนการ ทางคณติ ศาสตร์ไม่นอ้ ยกว่า เขียนรปู 23 รูปกวา่ ๆ บนแผนภูมิรปู ภาพได้) ครูอาจเปลี่ยนข้อก�ำ หนดเป็นจำ�นวนอื่นเพ่ือให้ ร้อยละ 60 นักเรียนไดข้ อ้ สรปุ วา่ ไมส่ ามารถหาจำ�นวนท่เี หมาะสมมาเขยี นเปน็ ข้อกำ�หนดในแผนภูมริ ปู ภาพได้ ครูแนะน�ำ นกั เรยี นว่า นอกจากนำ�เสนอข้อมูลดว้ ยแผนภมู ิรปู ภาพแลว้ อาจน�ำ เสนอด้วย ตาราง ทางเดยี ว
กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ ชั้น ป. ๓ หนว่ ยที่ ๖ สถิติ เวลา ๑ ชว่ั โมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ จุดประสงค์การเรียนรู้ ขน้ั สอน 2. ครใู ห้นกั เรยี นพิจารณาขอ้ มูลขา้ งตน้ แลว้ ใช้คำ�ถามเพอื่ นำ�ไปสู่การน�ำ เสนอขอ้ มูลด้วยตาราง ดา้ นความรู้ ทางเดียว เชน่ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ - จากข้อมูล นกั เรียนร้ขู ้อมูลเกย่ี วกับอะไรบา้ ง (ทมี สีต่าง ๆ ในงานกฬี าสีและจำ�นวนนกั เรยี น อา่ นตารางทางเดยี ว ในแต่ละทมี ของสีต่าง ๆ) ครเู ขียนบนกระดาน ดังนี้ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ทมี สี จ�ำ นวนนกั เรียน ทางคณติ ศาสตร์ - ในงานกฬี าสีมสี ีอะไรบา้ ง และจ�ำ นวนนักเรียนกีค่ น ครูเขยี นคำ�ตอบของนักเรียนบนกระดาน เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ ทีมสี จำ�นวนนกั เรียน 1. แกป้ ญั หา สฟี า้ 234 คน 2. ใหเ้ หตผุ ล สเี หลอื ง 253 คน 3. สอ่ื สารและสอ่ื สีชมพู 216 คน ความหมายทางคณติ ศาสตร์ สเี ขียว 229 คน สีมว่ ง 281 คน สีแดง 245 คน ครเู ขยี นตารางแบง่ ชอ่ งรายการทีมสีและจำ�นวนนักเรยี น แลว้ แนะนำ�ว่า ทีมสี และ จำ�นวน นกั เรยี น เป็นหวั ตาราง และ ข้อมูลอื่นเปน็ รายละเอียดของขอ้ มลู ดังน้ี ทีมสี จ�ำ นวนนกั เรยี น หัวตาราง สีฟา้ 234 คน รายละเอยี ดของขอ้ มลู สีเหลอื ง 253 คน 55 สชี มพู 216 คน สีเขยี ว 229 คน สีมว่ ง 281 คน สแี ดง 245 คน
56 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ ช้นั ป. ๓ หน่วยท่ี ๖ สถิติ เวลา ๑ ช่ัวโมง ครูแนะน�ำ ว่าในหวั ตารางมคี ำ�วา่ “ทมี ส”ี ดงั นน้ั ในรายการไม่จ�ำ เปน็ ตอ้ งมคี �ำ วา่ “ส”ี กไ็ ด้ จากนั้นครูใหน้ ักเรียนสังเกตว่าจ�ำ นวนนักเรยี นแต่ละสีมหี นว่ ยเหมือนกัน จงึ ไมจ่ �ำ เป็นจะตอ้ งเขยี น หนว่ ยทุกรายการ ครแู นะน�ำ วา่ ให้เขียนหน่วยบนหวั ตาราง แลว้ ถามว่า จากตารางทางเดียวข้างต้นควรมชี ือ่ ตาราง วา่ อย่างไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ) ครูแนะน�ำ ว่า ชื่อตารางตอ้ งบอกให้ทราบวา่ ตารางนี้ แสดงขอ้ มูลเก่ยี วกับอะไร ดงั นน้ั ตารางนีค้ วรมชี ่ือว่า “จ�ำ นวนนักเรยี นแต่ละสใี นงานกฬี าสีของ โรงเรยี นแห่งหน่งึ ” ดงั น้ี จ�ำ นวนนักเรยี นแตล่ ะสีในงานกฬี าสขี องโรงเรียนแห่งหนึง่ ชอื่ ตาราง ทีมสี จ�ำ นวนนักเรยี น (คน) หวั ตาราง สฟี ้า 234 คน รายละเอยี ดของข้อมูล สเี หลือง 253 คน สชี มพู 216 คน สีเขียว 229 คน สมี ว่ ง 281 คน สแี ดง 245 คน ครูแนะน�ำ วา่ ตารางทางเดียวทน่ี �ำ เสนอข้างตน้ เปน็ การน�ำ เสนอขอ้ มลู ด้วยตารางทางเดียวใน แนวตง้ั ครแู นะน�ำ การเขยี นตารางทางเดยี วในแนวนอน ชอ่ื ตาราง หวั ตาราง รายละเอยี ดของขอ้ มลู ดงั น้ี
กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๘ ช้ัน ป. ๓ หนว่ ยที่ ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ช่ัวโมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ จ�ำ นวนนักเรียนแตล่ ะสใี นงานกีฬาสีของโรงเรยี นแห่งหน่ึง ชอื่ ตาราง หวั ตาราง ทมี สี ฟา้ เหลือง ชมพู เขยี ว ม่วง แดง จ�ำ นวนนักเรยี น 234 253 216 229 281 245 (คน) รายละเอียดของขอ้ มูล ให้นกั เรียนพิจารณาข้อมลู ในตารางทางเดยี วบนกระดาน ครถู ามคำ�ถามจากข้อมูลในตาราง ทางเดยี ว เชน่ - ตารางทางเดียวนี้แสดงขอ้ มูลของอะไร (จ�ำ นวนนักเรยี นแตล่ ะสใี นงานกีฬาสขี องโรงเรียน แหง่ หนง่ึ ) - ทมี สีใดมีจำ�นวนนกั เรียนมากที่สุด จำ�นวนกค่ี น (ทมี สมี ่วง จ�ำ นวน 281 คน) - เรียงลำ�ดับทมี สจี ากทมี สีท่มี จี �ำ นวนนกั เรยี นมากไปนอ้ ย (ทีมสมี ว่ ง, ทมี สีเหลือง, ทีมสแี ดง, ทมี สฟี ้า, ทมี สเี ขยี ว, ทีมสชี มพ)ู 3. ครูตดิ ตารางทางเดยี วแสดงจ�ำ นวนขยะที่พบในทะเลไทย 6 อันดบั แรก ในปี พ.ศ. 2560 จากกรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝงั่ (ทช.) บนกระดาน ดงั น้ี 57
58 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๘ ชนั้ ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ช่วั โมง จำ�นวนขยะทีพ่ บในทะเลไทย 6 อันดบั แรก ในปี พ.ศ. 2560 ประเภทขยะ จำ�นวนขยะ (ช้นิ ) ถ้วย/จาน (โฟม) 3,314 ขวดเครอื่ งด่มื (พลาสตกิ ) 6,998 ขวดเครือ่ งดื่ม (แกว้ ) 6,284 หลอดเครื่องด่มื 2,681 9,878 ถงุ พลาสตกิ 2,799 เชอื ก ทีม่ า : กรมทรพั ยากรทางทะลและชายฝั่ง สบื ค้นจาก http://tcc.dmcr.go.th/ thaicoastalcleanup/report ครถู ามคำ�ถามจากข้อมลู ในตารางทางเดยี ว - ตารางทางเดยี วน้แี สดงขอ้ มูลของอะไร (จ�ำ นวนขยะทพี่ บในทะเลไทย 6 อนั ดับแรก ในปี พ.ศ. 2560) - จากตารางทางเดยี วมขี ยะประเภทอะไรบ้าง (ถ้วย/จาน (โฟม), ขวดเครือ่ งด่มื (พลาสติก), ขวดเคร่อื งด่มื (แกว้ ), หลอดเครื่องดม่ื , ถงุ พลาสติก, เชือก) - ขยะประเภทใดพบในทะเลมากทีส่ ุด และมีจำ�นวนกีช่ ้นิ (ถงุ พลาสตกิ จ�ำ นวน 9,878 ชิน้ ) - ขยะประเภทใดพบในทะเลมากเป็นอนั ดบั ท่ี 5 และมีจำ�นวนกี่ช้นิ (เชือก จ�ำ นวน 2,799 ชิน้ ) - เรียงลำ�ดบั ประเภทขยะจากจ�ำ นวนมากไปน้อย (ถงุ พลาสตกิ , ขวดเครื่องดม่ื (พลาสตกิ ), ขวด เครอื่ งดืม่ (แก้ว), ถ้วย/จาน (โฟม), เชือก, หลอดเครอื่ งดมื่
กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๘ ชนั้ ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๖ สถิติ เวลา ๑ ชัว่ โมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ - จากขอ้ มลู นกั เรยี นจะมวี ธิ ลี ดขยะในทะเลไดอ้ ยา่ งไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ เชน่ ทง้ิ ขยะ เป็นที่หรือลดการใชพ้ ลาสตกิ หรือแยกขยะกอ่ นท้งิ หรือการนำ�ของกลับมาใชใ้ หม่) 59 - นกั เรยี นคดิ วา่ ขยะทพ่ี บในทะเลส่งผลกระทบต่อธรรมชาติทางทะเลอยา่ งไรบา้ ง (นักเรยี น ตอบตามความเข้าใจ สัตวใ์ นทะเลจะตายจากการกินขยะ แนวประการังจะไดร้ บั ผลกระทบจาก ขยะ และววิ ทวิ ทศั นท์ างทะเลถูกบดบัง) - ท�ำ ไมจึงใชต้ ารางทางเดียวในการนำ�เสนอขอ้ มลู (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจ เชน่ สำ�หรบั ขอ้ มูลท่มี ีจำ�นวนมาก ๆ นนั้ บางขอ้ มลู ไม่สามารถน�ำ เสนอขอ้ มลู ได้ด้วยแผนภมู ริ ปู ภาพ เราอาจใช้ การน�ำ เสนอข้อมูลดว้ ยตารางทางเดียวจึงจะเหมาะสม) ขน้ั สรปุ 4. ครถู ามค�ำ ถามเพื่อนำ�ไปสู่ขอ้ สรุป - ครถู ามนกั เรียนว่าตารางทางเดียวคืออะไร (ตารางทางเดียวคอื ตารางที่ใชใ้ นการนำ�เสนอ ขอ้ มลู ต่าง ๆ) - ตารางทางเดียวประกอบดว้ ยอะไรบ้าง (ชอ่ื ตาราง ตารางทีม่ ีหัวตาราง และรายละเอยี ดของ ข้อมูล) ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปสงิ่ ทไี่ ด้เรยี นรู้ ดังน้ี 1) การน�ำ เสนอข้อมลู อาจน�ำ เสนอดว้ ยตารางทางเดียวเปน็ การน�ำ เสนอขอ้ มลู ท่ชี ว่ ยในการจดั ข้อมลู ใหอ้ ่านงา่ ยและเป็นระเบยี บมากยิง่ ข้นึ 2) ตารางทางเดยี วเป็นตารางทมี่ กี ารจำ�แนกรายการตามหัวเร่อื งเพียงลักษณะเดยี วเท่านน้ั 3) ตารางทางเดียวประกอบด้วย ชือ่ ตาราง หัวตาราง และรายละเอยี ดของข้อมลู ใหน้ ักเรียนทำ�แบบฝึกหดั 6.8
60 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๙ แนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ น�ำ ทบทวนการอา่ นตารางทางเดยี วจากข้อมูลจำ�นวนนักเรียนตง้ั แต่ชั้น ป.1 – ป.6 ของโรงเรียนแหง่ หนง่ึ ขน้ั สอน การเขียนตารางทางเดยี ว ข้นั สรปุ ใบกจิ กรรม 6.7 ข้อ 1 การวดั และประเมินผล ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ เกี่ยวกับการเขียนตารางทางเดยี ว ใบกจิ กรรม 6.7 ข้อ 2 และแบบฝึกหัด 6.9 - ประเมนิ การตอบคำ�ถาม และการท�ำ ใบกิจกรรม 6.7 และท�ำ แบบฝึกหดั 6.9 - ประเมินจากการใหเ้ หตผุ ล และการส่อื สารและส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๙ ช้นั ป. ๓ หน่วยท่ี ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชัว่ โมง ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ขอบเขตเน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. บัตรภาพตารางทางเดยี ว การเขยี นตารางทางเดยี ว ข้ันนำ� 2. บตั รภาพข้อมูลแคลอรี่ 1. ครตู ดิ ตารางทางเดยี วบนกระดานและจัดกจิ กรรม โดยใชค้ �ำ ถาม ดงั น้ี ในอาหาร สาระสำ�คญั 3. ใบกจิ กรรม 6.7 จ�ำ นวนนักเรยี นต้งั แตช่ น้ั ป.1 – ป.6 ของโรงเรยี นแห่งหนง่ึ 4. แบบฝกึ หัด 6.9 การเขยี นตารางทางเดยี ว ข้อมลู ณ วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560 เปน็ การน�ำ เสนอขอ้ มลู ทช่ี ว่ ย การประเมิน ในการจดั ขอ้ มลู ใหอ้ า่ นงา่ ย ระดับช้นั ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 และเปน็ ระเบยี บมากยง่ิ ขน้ึ 1. วิธกี าร การเขยี นตารางทางเดยี ว จ�ำ นวนนักเรียน (คน) 346 336 354 368 348 342 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรม ประกอบดว้ ย ชอ่ื ตาราง การเรียนรู้ หวั ตาราง และรายละเอยี ด - ตารางทางเดียวแสดงขอ้ มูลเกยี่ วกับอะไร (จ�ำ นวนนักเรียนตั้งแต่ชัน้ ป.1 – ป.6 ของโรงเรียน 1.2 ตรวจใบกจิ กรรม ของขอ้ มลู โดยสามารถเขยี น แหง่ หน่ึง) 1.3 ตรวจแบบฝกึ หดั น�ำ เสนอตารางทางเดยี วใน - ตารางแสดงขอ้ มูล ณ วนั ที่เท่าไร (วนั ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560) หมายความอยา่ งไร 2. เครอื่ งมอื รปู แบบของแนวตง้ั หรอื (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ เชน่ ขอ้ มูลจำ�นวนนักเรยี นแต่ละระดบั ชัน้ ในวนั ที่ 20 มกราคม 2.1 แบบฝึกหดั 6.9 แนวนอนกไ็ ด้ พ.ศ. 2560) 2.2 แบบประเมินทักษะ ครแู นะน�ำ วา่ ข้อมูล ณ วันทใ่ี ดวันทีห่ นง่ึ เปน็ ข้อมลู ทเ่ี ก็บรวบรวมมาและน�ำ เสนอ ณ วนั ทที่ ร่ี ะบุ และกระบวนการทาง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เมื่อวนั เวลาเปล่ียนข้อมลู อาจจะเปลย่ี นแปลงไป คณติ ศาสตร์ - ณ วนั ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560 นักเรียนช้นั ใดมจี �ำ นวนนอ้ ยท่ีสุด จ�ำ นวนกี่คน (ชัน้ ป. 2 ดา้ นความรู้ จำ�นวน 336 คน) เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ - ณ วนั ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560 โรงเรียนแหง่ นี้มีนักเรียนช้นั ป.1 – ป.6 กค่ี น (2,094 คน) เขยี นตารางทางเดยี ว 61
62 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๙ ชนั้ ป. ๓ หน่วยท่ี ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชั่วโมง ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ - จากข้อมลู ในตาราง นักเรียนคดิ ว่าในปถี ัดไปจะมนี กั เรียนชัน้ ป.2 กี่คน เพราะเหตุใด 3. เกณฑ์ ทางคณติ ศาสตร์ (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น ในปีถดั ไปอาจจะมีจ�ำ นวนนกั เรียนชน้ั ป.2 มากกวา่ เทา่ กบั 3.1 ผลงานมีความถูกต้อง เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ หรอื น้อยกว่า 346 คน เนอื่ งจากปี พ.ศ. 2560 มจี �ำ นวนนักเรียนชน้ั ป.1 346 คน เมอ่ื นักเรียน ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 1. ใหเ้ หตผุ ล ป.1 เล่ือนช้นั ขนึ้ มาเปน็ ป.2 จะมีจ�ำ นวนเทา่ เดมิ มากกว่า หรอื นอ้ ยกว่าเดมิ ก็ได)้ 3.2 นักเรียนได้คะแนนรวม 2. สอ่ื สารและสอ่ื - การน�ำ เสนอข้อมูลดว้ ยตารางทางเดยี วตอ้ งประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง (ชื่อตาราง หัวตาราง และ ด้านทักษะและกระบวนการ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ รายละเอียดของข้อมลู ) ทางคณติ ศาสตรไ์ ม่น้อยกว่า ครูเขียนองคป์ ระกอบของการเขยี นตารางทางเดียวบนกระดาน ดงั น้ี รอ้ ยละ 60 จำ�นวนนกั เรียนตั้งแต่ชั้น ป.1 – ป.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ชื่อตาราง ขอ้ มูล ณ วนั ท่ี 20 มกราคม พ.ศ. 2560 หวั ตาราง ระดบั ชน้ั ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 จำ�นวนนกั เรียน (คน) 346 336 354 368 348 342 รายละเอียดของข้อมลู ขนั้ สอน 2. ครตู ดิ ขอ้ มลู จ�ำ นวนพลงั งานทร่ี า่ งกายไดร้ บั จากอาหารบนกระดาน ใหน้ กั เรยี นท�ำ ใบกจิ กรรม 6.7 ขอ้ 1 และน�ำ ข้อมูลใส่ในใบกิจกรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๙ ชั้น ป. ๓ หน่วยท่ี ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชว่ั โมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ท่มี า : doctor.or.th, Student chula.ac.th ครูให้นกั เรยี นเลือกอาหารที่นักเรียนช่นื ชอบ 5 อนั ดับแรก บันทกึ ลงในใบกิจกรรม 6.7 ข้อ 1 63
64 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๙ ช้ัน ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชัว่ โมง ครูและนักเรยี นสนทนารว่ มกนั เกีย่ วกับการเขียนตารางทางเดียว โดยครใู ช้คำ�ถาม เช่น - จากข้อมูลถ้าจะต้องท�ำ ตารางทางเดียวควรจะต้งั ชอื่ ตารางว่าอยา่ งไร (นักเรียนตอบตาม ความเข้าใจ เช่น จ�ำ นวนพลงั งานทีร่ ่างกายไดร้ บั จากอาหารชนิดต่าง ๆ) - จากขอ้ มูลจำ�นวนพลงั งานทรี่ า่ งกายไดร้ ับจากอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ การน�ำ เสนอตารางทางเดยี ว หวั ตารางต้องเขยี นอะไรบา้ ง (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ เช่น ตารางทางเดียวในแนวตง้ั หัวตารางด้านซา้ ยเขยี น “รายการอาหาร” และหัวตารางดา้ นขวาเขยี น “จำ�นวนพลงั งานทร่ี ่างกาย ไดร้ บั (กโิ ลแคลอร)่ี ” หรือ ตารางทางเดียวในแนวนอน หัวตารางจะอย่ดู ้านซา้ ยสุดของตาราง หวั ตารางดา้ นบนเขยี น “รายการอาหาร” และหวั ตารางดา้ นล่างเขียน “จำ�นวนพลังงานที่รา่ งกาย ไดร้ บั (กโิ ลแคลอร)ี่ ”) - ถา้ เลือกขา้ วหมูแดง จะต้องเขียน “ข้าวหมูแดง” ลงในช่องใด (ช่องรายการอาหาร) - จากขอ้ มูลข้าวหมูแดง มีจำ�นวนพลังงานทร่ี ่างกายไดร้ บั เท่าใด และเขยี นลงในช่องใด (ขา้ วหมแู ดง มจี �ำ นวนพลงั งานท่ีร่างกายไดร้ บั 540 กโิ ลแคลอรี่ และเขียน 540 ลงในชอ่ ง จำ�นวน พลังงานท่ีร่างกายไดร้ บั (กิโลแคลอร่)ี ) ครูให้นักเรียนลงมอื ทำ�ใบกิจกรรมให้เสรจ็ แล้วสมุ่ ตัวแทนนักเรียนออกมานำ�เสนอ ขั้นสรุป 3. ครูตรวจสอบความเข้าใจนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล โดยให้นักเรียนเขยี นตารางทางเดียวในใบ กจิ กรรม 6.7 ข้อ 2 เมอ่ื นักเรียนทำ�ใบกจิ กรรมเสรจ็ ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งพรอ้ มเฉลยค�ำ ตอบ 4. ครูถามค�ำ ถามเพ่อื นำ�ไปสขู่ ้อสรปุ - การเขียนตารางทางเดยี วตอ้ งประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจ เชน่ ตารางทางเดยี วประกอบด้วย ช่อื ตาราง หัวตาราง และรายละเอียดของข้อมลู )
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๙ ชน้ั ป. ๓ หน่วยที่ ๖ สถิติ เวลา ๑ ชว่ั โมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ - นักเรียนสามารถเขียนนำ�เสนอตารางทางเดยี วไดร้ ูปแบบใดบา้ ง (นักเรียนตอบตาม ความเข้าใจ เชน่ เขียนน�ำ เสนอตารางทางเดียวในรูปแบบของแนวตงั้ และแนวนอน) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิง่ ท่ไี ด้เรียนรู้ ดงั น้ี 1) การเขียนตารางทางเดียวเปน็ การน�ำ เสนอขอ้ มูลท่ชี ่วยในการจดั ขอ้ มลู ให้อา่ นง่ายและเป็น ระเบยี บมากยงิ่ ขึน้ 2) การเขียนตารางทางเดยี วประกอบด้วย ชือ่ ตาราง หวั ตาราง และรายละเอียดของขอ้ มลู โดยสามารถเขยี นน�ำ เสนอตารางทางเดียวในรปู แบบของแนวตัง้ หรือแนวนอนก็ได้ ให้นกั เรียนทำ�แบบฝกึ หดั 6.9 65
66 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ ขน้ั น�ำ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๐ ขน้ั สอน ขน้ั สรุป แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผล ครสู นทนากบั นักเรียนเก่ียวกบั ประเภทของสนิ ค้าในหา้ งสรรพสนิ ค้า เพอื่ นำ�ขอ้ มูลมาใชใ้ นการเขียนตารางทางเดยี ว การเขยี นตารางทางเดียว ใบกจิ กรรม 6.8 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ เกีย่ วกบั การเขียนตารางทางเดยี ว แบบฝกึ หัด 6.10 - ประเมนิ การตอบค�ำ ถาม และการทำ�ใบกิจกรรม 6.8 และท�ำ แบบฝึกหัด 6.10 - ประเมินจากการให้เหตุผล การแกป้ ัญหา และการสอ่ื สารและส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชั่วโมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ การเขยี นตารางทางเดียว ขน้ั น�ำ 1. บัตรภาพขอ้ มลู สนิ คา้ 1. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกบั ประเภทของสนิ ค้าในหา้ งสรรพสนิ คา้ โดยให้นกั เรียนยกตัวอยา่ ง ชนดิ ตา่ ง ๆ สาระส�ำ คัญ ประเภทสินค้าที่รจู้ ัก เช่น เคร่อื งเขยี น ของกิน ผลติ ภัณฑท์ �ำ ความสะอาด เครื่องดม่ื เครือ่ งใช้ไฟฟา้ 2. ใบกจิ กรรม 6.8 จากนั้นใหน้ กั เรยี นยกตัวอยา่ งสินค้าทอี่ ยู่ในประเภทเหลา่ นน้ั เชน่ ผลิตภัณฑ์ท�ำ ความสะอาด ได้แก่ 3. แบบฝกึ หดั 6.10 การเขยี นตารางทางเดยี ว ผงซักฟอก น�ำ้ ยาล้างจาน ยาสฟี นั แปรงสฟี ัน เปน็ การน�ำ เสนอขอ้ มลู ทช่ี ว่ ย การประเมิน ในการจดั ขอ้ มลู ใหอ้ า่ นงา่ ย ครูตดิ ข้อมูลสนิ คา้ ทีข่ ายได้ในหนึง่ วนั ของหา้ งสรรพสินคา้ แห่งหนง่ึ บนกระดาน ดงั น้ี และเปน็ ระเบยี บมากยง่ิ ขน้ึ 1. วิธีการ การเขยี นตารางทางเดยี ว 1.1 สังเกตพฤตกิ รรม ประกอบดว้ ย ชอ่ื ตาราง การเรียนรู้ หวั ตาราง และรายละเอยี ด 1.2 ตรวจใบกจิ กรรม ของขอ้ มลู โดยสามารถเขยี น 1.3 ตรวจแบบฝึกหดั น�ำ เสนอตารางทางเดยี วใน 2. เคร่อื งมอื รปู แบบของแนวตง้ั หรอื 2.1 ใบกจิ กรรม 6.8 แนวนอนกไ็ ด้ 2.2 แบบฝกึ หดั 6.10 2.3 แบบประเมินทักษะ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ และกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ ดา้ นความรู้ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ เขยี นตารางทางเดยี ว 67
68 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ ชัน้ ป. ๓ หน่วยท่ี ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชัว่ โมง ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ข้ันสอน 3. เกณฑ์ ทางคณติ ศาสตร์ 2. ครูแจกใบกิจกรรม 6.8 ใหน้ ักเรยี นเขยี นตารางทางเดยี วนำ�เสนอขอ้ มลู ประเภทของสนิ ค้าใน 3.1 ผลงานมีความถูกตอ้ ง เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ ห้างสรรพสนิ คา้ ลงในใบกจิ กรรม 6.8 จากน้ันครูและนกั เรียนรว่ มกันสนทนาเกยี่ วกบั การเขียน ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 1. ใหเ้ หตผุ ล ตารางทางเดยี ว โดยครูใช้คำ�ถาม เช่น 3.2 นักเรยี นไดค้ ะแนนรวม 2. แกป้ ญั หา - ตารางทางเดียวต้องประกอบด้วยอะไรบา้ ง (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจ เช่น ตาราง ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 3. สอ่ื สารและสอ่ื ทางเดียวประกอบดว้ ย ช่อื ตาราง หวั ตาราง และรายละเอยี ดของขอ้ มลู ) ทางคณิตศาสตร์ไมน่ อ้ ยกวา่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ - นักเรยี นสามารถเขยี นตารางทางเดียวไดร้ ปู แบบใดบ้าง (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจ เชน่ รอ้ ยละ 60 เขยี นตารางทางเดยี วในรปู แบบของแนวตั้งและแนวนอน) ครูใหน้ ักเรยี นทำ�ใบกิจกรรม 6.8 ขน้ั สรปุ 3. เมอื่ นักเรียนทำ�ใบกจิ กรรมเสร็จ ครูใหน้ ักเรียนอาสาสมัครออกมานำ�เสนอหรือส่มุ นกั เรยี นออก มาน�ำ เสนอตารางทางเดยี วและถามคำ�ถามของตนเองให้เพ่ือนในห้องช่วยกันตอบ ครแู ละนกั เรียน ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 4. ครูใช้ค�ำ ถามเพือ่ น�ำ ไปสขู่ อ้ สรปุ - การเขยี นตารางทางเดยี วตอ้ งประกอบด้วยอะไรบา้ ง (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ เชน่ ตารางทางเดยี วประกอบด้วย ชือ่ ตาราง หัวตาราง และรายละเอยี ดของขอ้ มลู ) - นกั เรยี นสามารถเขียนนำ�เสนอตารางทางเดยี วได้รูปแบบใดบา้ ง (นักเรยี นตอบตาม ความเข้าใจ เช่นเขยี นน�ำ เสนอตารางทางเดียวในรปู แบบของแนวตงั้ และแนวนอน)
กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ ชั้น ป. ๓ หนว่ ยที่ ๖ สถิติ เวลา ๑ ชัว่ โมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ - จากข้อมลู ทน่ี �ำ เสนอบนกระดานเม่ือน�ำ ขอ้ มลู มานำ�เสนอในรูปแบบของตารางทางเดียว นกั เรยี นมองเหน็ ความแตกตา่ งกันหรอื ไม่ และมคี วามแตกต่างกันอยา่ งไร (นกั เรยี ตอบตาม ความเข้าใจ เชน่ การน�ำ เสนอขอ้ มลู ดว้ ยตารางทางเดียวชว่ ยใหอ้ า่ นง่ายขึ้นข้อมูลมีความเป็น ระเบยี บ) ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปส่ิงทไ่ี ด้เรียนรู้ ดงั น้ี 1) การเขยี นตารางทางเดียวประกอบด้วย ชอื่ ตาราง หวั ตาราง และรายละเอยี ดของขอ้ มูล โดยสามารถเขยี นน�ำ เสนอตารางทางเดียวในรูปแบบของแนวตั้งหรอื แนวนอนก็ได้ 2) การเขียนตารางทางเดยี วเป็นการน�ำ เสนอข้อมูลทีช่ ว่ ยในการจดั ขอ้ มลู ใหอ้ า่ นง่ายและเป็น ระเบยี บมากยิ่งขน้ึ ให้นักเรียนทำ�แบบฝกึ หดั 6.10 69
70 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑๑ แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ น�ำ ครูจดั กิจกรรมสมุ่ หยบิ ถ่วั แดง เพื่อน�ำ ข้อมูลทไี่ ดไ้ ปใชใ้ นการเขียนแผนภมู ริ ปู ภาพหรือตารางทางเดยี ว ข้ันสอน ใหน้ กั เรยี นเลอื กวิธกี ารนำ�เสนอข้อมูลในขัน้ นำ�โดยการใชแ้ ผนภูมริ ูปภาพหรือตารางทางเดียว ใบกิจกรรม 6.9 ขนั้ สรุป ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ เก่ยี วกับการเลือกวิธกี ารน�ำ เสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิรปู ภาพหรอื ตารางทางเดยี ว แบบฝึกหัด 6.11 การวดั และประเมนิ ผล - ประเมนิ การตอบค�ำ ถาม และการทำ�ใบกิจกรรม 6.9 และท�ำ แบบฝกึ หดั 6.11 - ประเมนิ จากการใหเ้ หตผุ ล และการสอื่ สารและสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑๑ ชัน้ ป. ๓ หน่วยที่ ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชัว่ โมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ขอบเขตเนอื้ หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ การนำ�เสนอขอ้ มลู ด้วย ข้ันน�ำ 1. ถวั่ แดง แผนภมู ิรปู ภาพและตาราง 1.ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกลุม่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน จดั กจิ กรรมสุม่ หยิบถัว่ แดง โดยครูให้นักเรียนแต่ละ 2. ถว้ ยและชอ้ น ทางเดียว กลุม่ สง่ ตวั แทนนกั เรียน 1 คน ออกมาหยิบถัว่ ดว้ ยมอื ขา้ งที่ไมถ่ นัด เม่อื นักเรียนหยิบได้ ให้นักเรียน 3. บัตรข้อมลู ช่วยกนั นบั จ�ำ นวนถ่ัวแดงทหี่ ยิบ ครูเขียนจ�ำ นวนทไ่ี ดบ้ นกระดาน ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ ราย 4. กระดาษ A3 สาระสำ�คญั โดยใชก้ ารถาม – ตอบ ดงั นี้ 5. ปากกาส/ี ดนิ สอสี - จำ�นวนถั่วแดงทเี่ พอื่ นแตล่ ะกลมุ่ หยบิ ได้ ควรเขียนนำ�เสนอขอ้ มูลด้วยอะไร เพราะเหตุใด 6. ใบกิจกรรม 6.9 การใชว้ ธิ กี ารทางสถติ ิ (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ เชน่ 7. แบบฝึกหดั 6.11 ในการหาค�ำ ตอบ โดยเรม่ิ จาก นกั เรียนอาจจะตอบว่าสามารถน�ำ เสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิรปู ภาพ ในกรณมี จี �ำ นวนท่สี ามารถ การตง้ั ค�ำ ถามจากประเดน็ หารจำ�นวนถวั่ แดงไดล้ งตวั ทุกจ�ำ นวน จงึ ก�ำ หนด 1 รูป แทนจ�ำ นวนถว่ั แดงดว้ ยจ�ำ นวนนน้ั หรือ การประเมนิ ปญั หาทส่ี นใจ แลว้ เกบ็ สามารถน�ำ เสนอดว้ ยแผนภูมริ ูปภาพโดยก�ำ หนดให้ 1 รูปแทนจำ�นวนถั่วแดง 1 เม็ด เพราะการ รวบรวมขอ้ มลู โดยใชเ้ ครอ่ื งมอื นำ�เสนอขอ้ มลู ด้วยแผนภูมริ ูปภาพชว่ ยให้ข้อมูลอ่านเข้าใจงา่ ยและมีความนา่ สนใจหรอื นกั เรยี น 1. วธิ กี าร และวธิ กี ารทเ่ี หมาะสม จากนน้ั อาจจะตอบวา่ สามารถนำ�เสนอขอ้ มูลดว้ ยตารางทางเดยี ว เพราะจำ�นวนข้อมลู มีจำ�นวนมาก และ 1.1 สังเกตพฤตกิ รรม จดั กระท�ำ ขอ้ มลู โดยการ จำ�นวนขอ้ มูลมคี วามหลากหลาย การนำ�เสนอข้อมูลด้วยตารางทางเดียวชว่ ยให้อ่านง่ายขึ้นและ การเรยี นรู้ จ�ำ แนกออกเปน็ รายการ ขอ้ มลู มคี วามเป็นระเบียบ) 1.2 ตรวจใบกจิ กรรม แลว้ นบั จ�ำ นวนขอ้ มลู ในแตล่ ะ ขัน้ สอน 1.3 ตรวจแบบฝกึ หดั รายการ เพอ่ื น�ำ ไปสกู่ าร 2. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำ�เสนอข้อมลู ของจ�ำ นวนถั่วแดงลงในใบกิจกรรม 6.9 เม่อื นักเรยี นท�ำ 2. เคร่อื งมอื น�ำ เสนอขอ้ มลู ดว้ ยแผนภมู ิ ใบกจิ กรรมเสรจ็ ครสู ุม่ นกั เรียนสง่ ตวั แทนกลมุ่ ออกมานำ�เสนอขอ้ มลู หน้าชัน้ เรียน ครูและนกั เรียน 2.1 ใบกจิ กรรม 6.9 รปู ภาพ หรอื ตารางทางเดยี ว รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง 2.2 แบบฝกึ หดั 6.11 เพอ่ื ใหด้ งึ ดดู ใจผอู้ า่ น และ 2.3 แบบประเมนิ ทกั ษะ 71 สามารถเขา้ ใจเกย่ี วกบั ขอ้ มลู และกระบวนการทาง ไดง้ า่ ย คณติ ศาสตร์
72 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑๑ ช้ัน ป. ๓ หน่วยท่ี ๖ สถิติ เวลา ๑ ช่วั โมง การน�ำ เสนอขอ้ มลู ดว้ ย 3. ครูให้แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมาหยิบบัตรขอ้ มลู โดยใหน้ กั เรียนน�ำ เสนอข้อมูลที่ไดด้ ้วยแผนภมู ิ 3. เกณฑ์ แผนภมู ริ ปู ภาพเปน็ การใช้ รปู ภาพหรอื ตารางทางเดียวในกระดาษ A3 พรอ้ มตกแตง่ ให้สวยงามซ่ึงบัตรข้อมูล ดังนี้ 3.1 ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง รปู ภาพแสดงจ�ำ นวนของ การสำ�รวจผลไมท้ ีน่ กั เรียนชน้ั ป. 3/2 ช่นื ชอบ ปรากฏข้อมลู ดงั นี้ ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 สง่ิ ตา่ ง ๆ ซง่ึ อาจก�ำ หนดใหร้ ปู 3.2 นักเรียนไดค้ ะแนนรวม 1 รปู แทน 1 หนว่ ย 2 หนว่ ย ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 5 หนว่ ย หรอื 10 หนว่ ย ทางคณิตศาสตรไ์ มน่ ้อยกวา่ ขน้ึ อยกู่ บั ขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการ รอ้ ยละ 60 น�ำ เสนอ การเขยี นตารางทางเดยี ว ข้อมลู นักทอ่ งเที่ยวชาวตา่ งชาติแตล่ ะประเทศทอ่ งเทยี่ ว เปน็ การน�ำ เสนอขอ้ มลู ทช่ี ว่ ย จังหวัดกาญจนบรุ ใี นระหวา่ งเดือนตุลาคม-ธันวาคม ในการจดั ขอ้ มลู ใหอ้ า่ นงา่ ยและ พม่า 350 คน ญป่ี นุ่ 125 คน เปน็ ระเบยี บมากยง่ิ ขน้ึ เหมาะ ออสเตรเลยี 125 คน อังกฤษ 75 คน ส�ำ หรบั ขอ้ มลู ทม่ี คี วาม หลากหลายและมจี �ำ นวนมาก จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ เลอื กวธิ นี �ำ เสนอขอ้ มลู ดว้ ย แผนภมู ริ ปู ภาพและตาราง ทางเดยี ว
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๑๑ ช้นั ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๖ สถิติ เวลา ๑ ชัว่ โมง ขอ้ มลู ของสัตว์แต่ละชนดิ ตามจ�ำ แนกของสตั ว์ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ทางคณติ ศาสตร์ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ 1. ใหเ้ หตผุ ล 2. สอ่ื สารและสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ ข้อมลู นกั เรียนช้นั ป.3/5 ทชี่ น่ื ชอบไอศกรมี รสชาติตา่ ง ๆ ช็อกโกแลต ชาเขียว สตรอว์เบอร์รี มะนาว วานลิ ลา 73
74 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑๑ ชั้น ป. ๓ หน่วยท่ี ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชัว่ โมง ขอ้ มูลสภาพอากาศของกรุงเทพมหานครในเดือนมกราคมถงึ เดือนกมุ ภาพนั ธ์ เดือนมกราคม 1234567 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 เดอื นกุมภาพนั ธ์ 3 4 12 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 ทอ้ งฟา้ โปรง่ มีเมฆมาก มีเมฆบางส่วน ฝนตกเลก็ น้อย ฝนฟ้าคะนอง
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๑ ชน้ั ป. ๓ หน่วยที่ ๖ สถิติ เวลา ๑ ช่วั โมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กระดานส�ำ รวจกิจกรรมยามว่างของนักเรียนชั้น ป. 3/3 75 ว่ายน�ำ้ อ่านหนังสอื การต์ นู อ่านนิยาย วาดรปู ดูหนัง ดู YouTube วาดรปู เลน่ กตี าร์ เตะฟตุ บอล เลน่ ปิงปอง ดกู าร์ตนู อ่านหนงั สือการต์ ูน เตะฟตุ บอล อ่านนยิ าย เลน่ เกม อ่านนยิ าย เลน่ กตี าร์ เล่นเปยี โน ว่ายน�ำ้ เลน่ ดนตรี วาดรปู ดู YouTube เลน่ กตี าร์ เลน่ เปยี โน ดูหนงั เล่นกีตาร์ ตกี ลอง ดูหนัง เลน่ เทนนิส เตะฟตุ บอล เล่นปิงปอง ดูหนงั ว่ายนำ�้ ฟังเพลง ขั้นสรุป 4. เม่ือนกั เรียนทำ�กจิ กรรมเสรจ็ ครูให้นกั เรยี นอาสาสมัครออกมานำ�เสนอหรือสมุ่ นกั เรียนออกมา นำ�เสนอหนา้ ช้นั เรยี น ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 5. ครใู ชค้ ำ�ถามเพอ่ื นำ�ไปสขู่ ้อสรปุ - กระบวนการทไี่ ดม้ าซง่ึ การสรา้ งแผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียวตอ้ งทำ�อย่างไร (นักเรียน ตอบตามความเขา้ ใจ เชน่ หาข้อมลู ท่ีสนใจ หาวธิ กี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู เช่น การสอบถาม การ สังเกต จากน้ันนำ�ขอ้ มลู ท่ีไดม้ านำ�เสนอดว้ ยแผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว) - จากการเรียนเร่ืองการนำ�เสนอขอ้ มลู ด้วยแผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดียว นกั เรียนมีวิธี ในการเลอื กนำ�เสนอข้อมูลท่ีเหมาะสมอยา่ งไร (ชุดข้อมูลท่สี ามารถระบขุ อ้ กำ�หนดได้ อาจนำ�เสนอ ข้อมูลด้วยการเขยี นแผนภมู ิรูปภาพได้ แตถ่ า้ ขอ้ มูลท่ีมีจำ�นวนมากอาจเขียนดว้ ยตารางทางเดียว เพอื่ ความเปน็ ระเบียบเรียบร้อยและจดั ขอ้ มูลไว้อ่านง่าย)
76 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๑ ชั้น ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๖ สถิติ เวลา ๑ ชว่ั โมง ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ สิง่ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ ดงั นี้ 1) การใชว้ ิธีการทางสถิติในการหาคำ�ตอบ โดยเร่มิ จากการต้ังคำ�ถามจากประเดน็ ปัญหาที่ สนใจ แล้วเก็บรวบรวมขอ้ มูลโดยใชเ้ ครื่องมือและวิธีการท่ีเหมาะสม จากนนั้ จดั กระทำ�ขอ้ มลู โดย การจ�ำ แนกออกเปน็ รายการ แลว้ นับจ�ำ นวนขอ้ มลู ในแต่ละรายการ เพอ่ื นำ�ไปสูก่ ารน�ำ เสนอข้อมลู ด้วยแผนภมู ิรูปภาพ หรอื ตารางทางเดียว เพื่อให้ดงึ ดดู ใจผ้อู า่ น และสามารถเข้าใจเก่ยี วกบั ข้อมูล ได้งา่ ย 2) การน�ำ เสนอขอ้ มลู ดว้ ยแผนภมู ริ ปู ภาพเปน็ การใชร้ ปู ภาพแสดงจ�ำ นวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ ซง่ึ อาจ ก�ำ หนดใหร้ ูป 1 รปู แทน 1 หน่วย 2 หนว่ ย 5 หน่วย หรือ 10 หนว่ ย ขน้ึ อยกู่ บั ขอ้ มลู ที่ต้องการ น�ำ เสนอ 3) การเขยี นตารางทางเดียวเป็นการนำ�เสนอขอ้ มูลที่ชว่ ยในการจดั ขอ้ มลู ใหอ้ า่ นงา่ ยและเป็น ระเบียบมากยงิ่ ขนึ้ เหมาะสำ�หรับข้อมลู ทมี่ คี วามหลากหลายและมีจำ�นวนมาก
กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑๑ ชัน้ ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๖ สถติ ิ เวลา ๑ ชัว่ โมง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ส่ิงท่ีอยากรหู้ รอื ขอ้ สงสัย ค�ำ ถาม การเกบ็ รวบรวมข้อมลู การนำ�เสนอและวิเคราะห์ข้อมูล การสอบถาม การสังเกต แผนภูมริ ปู ภาพ ตารางทางเดยี ว ใหน้ กั เรยี นทำ�แบบฝกึ หัด 6.11 77
ภาคผนวก
ภาคผนวก กเฉลยแบบฝึกหดั สถิติหนว่ ยท่ี ๖ เฉลย
หน่วยท่ี ๖ สถติ ิ ฝ.๖.๑/ผ.๑ เฉลย แบบฝกึ หัด 6.1 พจิ ารณาแผนภมู ิรปู ภาพ และเขียนคำ�ตอบในช่องว่าง 1 เจา้ ของรา้ นของเล่นบันทกึ จ�ำ นวนของเล่นตา่ ง ๆ ท่ขี ายไดใ้ นหนึ่งเดอื น ดังนี้ จำ�นวนของเล่นต่าง ๆ ท่ขี ายไดใ้ นหนง่ึ เดือน ตุ๊กตา ตัวตอ่ เกมเศรษฐี หุ่นยนต์ รถของเล่น ก�ำ หนดให้ แทนจำ�นวนของเล่น 5 กลอ่ ง 1) แผนภมู ริ ูปภาพน้แี สดง จ ำ� น ว น ข อ ง เ ล ่น ตา่ ง ๆ ท่ขี ายได้ในหนึง่ เดือน 2) ของเล่นทข่ี ายไดม้ ากท่สี ุด 3 อันดบั ได้แก่ ตุ๊กตา, ตัวต่อ, หุ่นยนต์ 3) ร้าน ข อ ง เ ล ่น ข า ย เ ก ม เ ศ ร ษ ฐ ี ไ ด น้ ้อ ย ท สี่ ุด จ �ำ น ว น 2 5 กล่อง 4) ถา้ ขายรถของเลน่ กล่องละ 85 บาท เจ้าของร้านของเลน่ จะได้เงนิ ท้ังหมด 2 , 5 5 0 บาท 5) ถ้านกั เรยี นเป็นเจ้าของรา้ นของเล่นจากขอ้ มลู ในแผนภมู ริ ปู ภาพ นกั เรียนจะซ้ือ ของเล่นชนิดใดมาขายเพมิ่ ขึ้น เพราะเหตุใด ซอื้ ตุก๊ ตาหรอื ตวั ตอ่ เพิม่ ขน้ึ เพราะ จากขอ้ มลู บนแผนภูมิรปู ภาพในหนึง่ เดอื น ร้านของเลน่ ขายตุ๊กตาไดม้ ากที่สุดและรองลงมาคือตัวต่อ 80 ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับครูผสู้ อน) กลุม่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
หน่วยท่ี ๖ สถิติ ฝ.๔.๑/ผ.๑ 2 ขนมหวานตา่ ง ๆ ทน่ี กั เรยี นชัน้ ป.3 ชนื่ ชอบ มขี ้อมูลดงั น้ี จำ�นวนนักเรยี น ช้นั ป.3 ท่ชี น่ื ชอบขนมหวานตา่ ง ๆ ขนมเค้ก ไอศกรีม เยลลี่ ชอ็ กโกแลต ขนมปงั กำ�หนดให้ แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 10 คน 1 ) จากแผน ภูมิร ปู ภา พมีน ักเรยี นชน้ั ป. 3 ชื่นช อบช็อ กโกแล ต 3 5 คน 2 ) น ัก เร ยี น ช น้ั ป . 3 ช นื่ ช อ บ ไ อ ศ ก ร มี ม า ก ท ่ีส ุด แ ล ะ ข น ม ป งั น้อยทีส่ ุด 3 ) นกั เรยี น ทช่ี น่ื ชอบเ ยลล แ่ี ละ ข น ม ป งั มจี �ำ นวนเทา่ กบั นกั เรยี นทช่ี น่ื ชอบ ขนมเคก้ 4 ) น ัก เ ร ีย น ช น่ื ช อ บ ข น ม เ ค ้ก ม า ก ก ว ่า เ ย ล ล ี่ อยู่ 15 คน 5) ถา้ โรงเรยี นจะจดั ขนมหวานใหน้ กั เรยี นชน้ั ป.3 ควรจดั ขนมหวาน 3 อยา่ งน้ี ไดแ้ ก่ ไอศกรีม, ขนมเคก้ , ชอ็ กโกแลต เพราะ มีจ�ำ นวนนกั เรยี นชืน่ ชอบมากทสี่ ดุ เป็น 3 อันดบั แรก หมายเหตุ ค�ำ ตอบอยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของคร ู ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั ครูผสู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ (ฉบับปรับปรุง) 81
หน่วยท่ี ๖ สถติ ิ ฝ.๖๔.๒/ผ.๒ เฉลย แบบฝกึ หัด 6.2 พจิ ารณาแผนภมู ิรปู ภาพ และเขยี นคำ�ตอบในช่องวา่ ง 1 ศนู ย์จำ�หนา่ ยรถแห่งหนงึ่ ขายรถภายในสามเดอื น ได้ข้อมูลดงั นี้ จำ�นวนรถทศี่ ูนยจ์ �ำ หนา่ ยรถแหง่ หน่ึงขายได้ภายในสามเดือน รถกระบะ รถยนตแ์ บบ A รถยนต์แบบ B รถยนตแ์ บบ C ก�ำ หนดให้ แทนจ�ำ นวนรถ 30 คัน 1) แท นจ�ำ นวน รถ 3 0 คัน 2) ศ นู ย จ์ ำ� ห น ่า ย ร ถ ข า ย ร ถ ก ร ะ บ ะ ไ ด ้ 90 คันภายในสามเดือน 3) ศนู ยจ์ ำ�หน ่า ย ร ถ ข า ย รถยนต์แบ บ C ไ ด ้ม า ก ท สี่ ุด และขาย ร ถ ย นตแ์ บ บ B ไ ด น้ อ้ ยทส่ี ุด 4) ศ นู ย จ์ ำ� ห น ่า ย ร ถ ข า ย ร ถ ย น ต แ์ บ บ C ไ ด ม้ า ก ก ว า่ รถย นต ์แ บ บ A อ ย ู่ 1 5 คนั 5) ถ้าศนู ย์จำ�หน่ายรถขายรถยนตแ์ บบ B ได้เพิ่มอกี 45 คัน ในแผนภมู ิรปู ภาพ รถยนต แ์ บ บ B ต ้อ ง เ พ มิ่ จ �ำ น ว น 1 รูป และ 1 รปู 82 ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรบั ครูผสู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ (ฉบบั ปรับปรงุ )
หนว่ ยท่ี ๖ สถติ ิ ฝ.๔.๒/ผ.๒ 2 จ�ำ นวนสตั วป์ า่ ชนดิ ต่าง ๆ ในสวนสัตวแ์ ห่งหน่งึ มขี อ้ มลู ดงั น้ี จ�ำ นวนสตั วป์ ่าชนิดตา่ ง ๆ ในสวนสัตวแ์ หง่ หนึ่ง เสอื กระทิง หมี กวาง สงิ โต ก�ำ หนดให้ แทนจำ�นวนสัตว์ป่า 4 ตวั 1) สวนสตั ว์มีจ�ำ นวนสตั ว์ป่าชนดิ ใดมากท่สี ุดและมีจำ�นวนกีต่ วั จำ�นวนกระทงิ และกวางมากที่สุด มชี นิดละ 16 ตวั 2) สวนสัตวม์ ีจ�ำ นวนสัตว์ป่าชนิดใดน้อยท่สี ดุ และมจี ำ�นวนก่ตี วั จ �ำ นวนสงิ โตน้อยทส่ี ดุ มี 4 ตัว 3) สวนสตั วต์ อ้ งน�ำ สงิ โตมาเพม่ิ อกี กต่ี วั จงึ จะมจี �ำ นวนเทา่ กบั จ�ำ นวนเสอื และในแผนภมู ริ ปู ภาพจะต้องเพิม่ รปู กรี่ ูป สวนสตั ว์ตอ้ งน�ำ สิงโตมาเพ่ิมอกี 2 ตวั และในแผนภมู ิรปู ภาพของสวนสตั ว ์ จะต้องเพม่ิ รูป 1 รปู 4) สวนสัตวม์ จี �ำ นวนกวางมากกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ จ�ำ นวนหมอี ยเู่ ทา่ ไร จ �ำ นวนกวางมากกวา่ จำ�นวนหมอี ยู่ 4 ตวั 5) จากแผนภมู ิรูปภาพมจี �ำ นวนสัตว์ป่าในสวนสตั ว์ทง้ั หมดกี่ตัว มจี �ำ นวนสัตวป์ ่าในสวนสัตว์ท้งั หมด 54 ตวั ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 83
หนว่ ยท่ี ๖ สถิติ ฝ.๖๔.๓๒/ผ.๓๒ เฉลย แบบฝกึ หัด 6.3 พจิ ารณาข้อมลู ต่อไปน้ี และเขยี นคำ�ตอบในชอ่ งว่าง 1 จากการสอบถามนักเรียน 30 คนในชนั้ เรียนเก่ียวกบั ชนิดของปลาที่นกั เรยี น ตอ้ งการเลี้ยง คนละ 1 ชนิด เพือ่ ทจี่ ะนำ�มาเล้ียงไวท้ ี่มมุ วทิ ยาศาสตรห์ ลงั หอ้ งเรียน โดยแบง่ นักเรียนออกเปน็ 6 กลุม่ กลุ่มละ 5 คน ไดผ้ ลดังนี้ กลุ่มที่ 1 กล่มุ ท่ี 2 กลุม่ ท่ี 3 ต้องการเลีย้ ง ตอ้ งการเล้ียง ตอ้ งการเล้ียง - ปลาทอง 3 คน - ปลาทอง 2 คน - ปลากัด 2 คน - ปลานอี อน 2 คน - ปลาสายรุ้ง 2 คน - ปลาทอง 3 คน - ปลาการ์ตนู 1 คน กลุม่ ที่ 4 กลมุ่ ที่ 5 กลุ่มที่ 6 ตอ้ งการเลีย้ ง ตอ้ งการเลย้ี ง ต้องการเล้ยี ง - ปลาทอง 1 คน - ปลาทอง 3 คน - ปลาทอง 3 คน - ปลานอี อน 3 คน - ปลากดั 2 คน - ปลามา้ ลาย 2 คน - ปลามา้ ลาย 1 คน 84 ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ (ฉบับปรับปรงุ )
หน่วยท่ี ๖ สถติ ิ ฝ.๖.๓/ผ.๓ 1) เขียนชนดิ ของปลาและจ�ำ นวนนักเรียนที่ตอ้ งการเลย้ี งปลาท่ีได้จากการสอบถาม ชนดิ ปลา จำ�นวนนักเรยี น (คน) ปลาทอง 15 ปลานีออน 5 ปลาสายร้งุ 2 ปลาการต์ นู 1 ปลากดั 4 ปลามา้ ลาย 3 2) ใหน้ ักเรยี นท�ำ แบบสอบถามใหม่เพ่อื ส�ำ รวจความคดิ เหน็ ของเพ่ือนร่วมช้นั โดยสอบถามวา่ เพ่อื นเคยเลีย้ งปลานำ�้ เคม็ ไว้ดูเล่นหรือไม่ ถา้ ต้องการเลี้ยง จะเลย้ี งปลา ชนิดใด (กำ�หนดให้มปี ลานำ�้ เคม็ เพยี งสามชนดิ เทา่ นน้ั ) แบบสอบถามชนดิ ของปลานำ�้ เคม็ ที่นกั เรียนต้องการเล้ียงไวด้ เู ลน่ นกั เรยี นเคยเล้ยี งปลาน�ำ้ เค็มไว้ดเู ล่นหรือไม่ เคย ไม่เคย นักเรียนตอ้ งการเล้ยี งปลานำ�้ เคม็ ชนดิ ใดไวด้ ูเล่น ปลาการ์ตูน ปลาสิงโต ปลาแก้วปะการัง เ ขยี นชนิดของปลาและจ�ำ นวนนกั เรยี นทต่ี อ้ งการเล้ียงปลาที่ได้จากการสอบถาม ชนดิ ปลา จำ�นวนนกั เรยี น (คน) ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั ครูผูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 85
หนว่ ยท่ี ๖ สถิติ ฝ.๖๔.๒๓/ผ.๓๒ 2 พิจารณาสถานการณ์ และเขยี นค�ำ ตอบในชอ่ งวา่ ง โยเกริ ์ตทำ�มาจากนมที่น�ำ ไปหมกั ใหม้ รี สชาตเิ ปรย้ี ว มีประโยชน์ต่อรา่ งกาย ดังน้ี • โยเกริ ์ตเปน็ แหลง่ พลังงานชัน้ ดี มีโปรตนี มากกวา่ นม โยเกิร์ตหน่ึงถ้วยช่วยให้ อิ่มท้องมากกวา่ การด่มื นมหนึ่งกล่อง • โยเกริ ์ตมวี ิตามนิ และแรธ่ าตุ ท่ีชว่ ยสร้างเม็ดเลือดแดงและบ�ำ รงุ ระบบประสาท ทำ�ให้กลา้ มเนอ้ื แข็งแรง รวมทัง้ มแี คลเซยี มและฟอสฟอรสั ช่วยเสรมิ สร้าง กระดกู และฟันใหแ้ ข็งแรง • โยเกริ ต์ ช่วยท�ำ ใหข้ บั ถ่ายสะดวก ชว่ ยย่อยอาหาร ท�ำ ให้ร่างกาย ขบั ถา่ ยออกมาได้สะดวกมากข้ึน และช่วยบรรเทาอาการทอ้ งเสีย ใหน้ ักเรียนสอบถามเพื่อนร่วมชัน้ เก่ียวกบั ประสบการณใ์ นการรบั ประทานโยเกริ ต์ เพอื่ ใช้เป็นข้อมลู ให้ครซู อ้ื มาแจกในปดิ ภาคเรียน โดยใช้แบบสอบถามตอ่ ไปน้ี แบบสอบถามประสบการณ์ในการรับประทานโยเกิร์ต นกั เรียนเคยรับประทานโยเกริ ์ตหรือไม ่ เคย ไมเ่ คย นักเรยี นชอบรบั ประทานโยเกิรต์ หรือไม่ ชอบ ไมช่ อบ นักเรยี นชอบรบั ประทานโยเกิรต์ รสชาตใิ ด ผลไมร้ วม สตรอวเ์ บอรร์ ่ี อ่ืน ๆ วนุ้ มะพร้าว 86 ชดุ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ (ฉบับปรบั ปรงุ )
หนว่ ยที่ ๖ สถิติ 1) เขยี นรสชาตขิ องโยเกิร์ตและจ�ำ นวนนกั เรียนทีช่ อบโยเกิร์ตรสต่าง ๆ ที่ไดจ้ าก การสอบถาม รสชาตขิ องโยเกิรต์ จ�ำ นวนนกั เรยี น (คน) 2) มีนักเรยี นที่เคยรบั ประทานโยเกริ ์ต คน 3) มีนกั เรียนท่ไี มเ่ คยรบั ประทานโยเกิรต์ คน 4) มนี ักเรยี นทช่ี อบรบั ประทานโยเกิรต์ คน 5) มนี กั เรียนที่ไมช่ อบรบั ประทานโยเกิรต์ คน 6) นักเรียนชอบรับประทานโยเกริ ์ตรส มากทส่ี ุด มจี �ำ นวน คน ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั ครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 87
หนว่ ยที่ ๖ สถิติ ฝ.๔๖.๔๒/ผ.๒๔ เฉลย แบบฝึกหัด 6.4 1 จดั กลมุ่ ตน้ ไมต้ ามเกณฑ์ทีน่ กั เรยี นก�ำ หนด แลว้ เขียนเกณฑ์ ประเภทต้นไม้และ จำ�นวนตน้ ไม้แต่ละกลุม่ คณุ นายตนื่ สาย เดฟใบด่าง ตมุ้ หูนางฟา้ เดฟกระดุม หรอื โคมญป่ี นุ่ ไอวี่หรอื ตีนตกุ๊ แกฝร่งั แพงพวยเล้อื ย เดฟแตงโม เดฟหัวใจ บีโกเนีย ไอว่ีด่าง โกสน หนวดปลาหมกึ สาวน้อยประแป้ง ลิน้ มงั กร กะเพรา โหระพา หน้าววั ผักชี สะระแหน่ พรกิ 88 ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับครูผู้สอน) กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ (ฉบับปรบั ปรงุ )
หน่วยท่ี ๖ สถิติ ฝ.๖๔.๒๔/ผ.๔๒ เกณฑ์ ไม้ประดบั กบั ผกั สวนครวั ต้นไม้ จำ�นวนต้นไม้ (ต้น) ไม้ประดับมดี อก 5 ไมป้ ระดับไม่มดี อก 10 5 ผักสวนครวั หมายเหตุ คำ�ตอบข้ึนอย่ใู นดุลยพนิ ิจครู ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 89
หน่วยท่ี ๖ สถติ ิ ฝ.๔๖.๒๔/ผ.๒๔ 2 จำ�แนกอปุ กรณท์ ่ีใช้ในครัวเรอื น ตามเกณฑ์ทน่ี ักเรียนกำ�หนด แลว้ เขยี นเกณฑ์ เขยี นประเภทของอปุ กรณ์ และจ�ำ นวนอปุ กรณ์ในแต่ละกลมุ่ เกณฑ์ การใชง้ าน อุปกรณท์ ใ่ี ช้ในครัวเรือน จำ�นวนอปุ กรณ์ (ชนิ้ ) 6 ซักผ้า 5 4 รดี ผา้ ทำ�ความสะอาดบา้ น 90 ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ (ฉบบั ปรับปรงุ )
หนว่ ยท่ี ๖ สถิติ ฝ.๔๖.๒๕/ผ.๕๒ เฉลย แบบฝกึ หดั 6.5 1 พจิ ารณาขอ้ มูลท่ีกำ�หนด แล้วเขียนแผนภมู ิรปู ภาพ เพอ่ื นำ�เสนอขอ้ มูล จ�ำ นวนโดนัทท่รี า้ นแห่งหนง่ึ ขายได้ในแต่ละวนั ในหนง่ึ สปั ดาห์ วันอาทิตย์ ขายได ้ 20 โหล วันพฤหัสบดี ขายได้ 8 โหล วันจันทร ์ ขายได้ 10 โหล วันศุกร ์ ขายได ้ 13 โหล วนั อังคาร ขายได ้ 7 โหล วนั เสาร ์ ขายได้ 21 โหล วนั พุธ ขายได ้ 12 โหล ใหน้ กั เรยี นใช้ขอ้ มลู ข้างต้น สร้างแผนภมู ริ ูปภาพ โดยระบายสี ตาม ข้อก�ำ หนด จำ�นวนโดนทั ทรี่ ้านแห่งหน่งึ ขายได้ในแต่ละวนั ในหนึ่งสปั ดาห์ วนั อาทิตย์ วันจนั ทร์ วนั องั คาร วันพธุ วันพฤหัสบดี วนั ศกุ ร์ วนั เสาร์ ก�ำ หนดให้ แทนจำ�นวนโดนทั 2 โหล ชดุ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ (ฉบับปรับปรุง) 91
หน่วยที่ ๖ สถิติ ฝ.๖๔.๕๒/ผ.๒๕ 2 ใหน้ กั เรยี นส�ำ รวจเดอื นเกดิ ของเพอ่ื นรว่ มชน้ั แลว้ น�ำ เสนอดว้ ยแผนภมู ริ ปู ภาพ โดยก�ำ หนดให้ 1 รปู แทนจ�ำ นวนนักเรยี น 2 คน ช่ือแผนภูมิ จำ�นวนนกั เรยี นช้ัน ป.3/…... ท่เี กิดในเดือนต่าง ๆ มกราคม กุมภาพนั ธ์ มนี าคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม สงิ หาคม กนั ยายน ตุลาคม พฤศจกิ ายน ธันวาคม ก�ำ หนดให้ 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คน 92 ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ (ฉบับปรบั ปรงุ )
หน่วยที่ ๖ สถติ ิ ฝ.๖.๖/ผ.๖ เฉลย แบบฝกึ หดั 6.6 1 พจิ ารณาข้อมลู ท่กี ำ�หนดให้ แลว้ เขยี นแผนภูมริ ปู ภาพเพอ่ื นำ�เสนอข้อมลู รายไดท้ ี่รา้ นคา้ ปลกี แห่งหน่งึ ขายบะหมกี่ ง่ึ ส�ำ เรจ็ รปู ได้ในแต่ละสัปดาหข์ องเดือน สัปดาห์ที่ 1 ขายบะหมไี่ ด้ 115 บาท สปั ดาห์ที่ 2 ขายบะหมีไ่ ด้ 95 บาท สปั ดาหท์ ี่ 3 ขายบะหมไี่ ด ้ 80 บาท สปั ดาห์ที่ 4 ขายบะหมไ่ี ด้ 90 บาท ใหน้ กั เรียนใชข้ ้อมูลขา้ งต้น สรา้ งแผนภมู ิรปู ภาพโดยระบายสี ตามข้อกำ�หนด จำ�นวนเงนิ ที่ขายบะหมก่ี ึง่ ส�ำ เรจ็ รปู ได้ในแตล่ ะสปั ดาห์ สัปดาหท์ ่ี 1 สัปดาห์ท่ี 2 สัปดาหท์ ่ี 3 สปั ดาห์ท่ี 4 ก�ำ หนดให ้ แทนจำ�นวนเงิน 10 บาท ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครผู ูส้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ (ฉบับปรบั ปรงุ ) 93
หน่วยท่ี ๖ สถิติ ฝ.๖.๖/ผ.๖ 2 ให้นักเรียนเก็บรวบรวมขอ้ มลู จำ�นวนเงินทีเ่ พอ่ื น ๆ ในหอ้ งเหลอื กลบั บา้ น ในแต่ละวัน แล้วนำ�เสนอด้วยแผนภูมริ ูปภาพ จ�ำ นวนเงนิ ท่เี พอื่ น ๆ เหลอื กลับบ้านในแตล่ ะวนั วนั จันทร์ วันองั คาร วันพธุ วันพฤหสั บดี วันศกุ ร์ ก�ำ หนดให ้ แทนจำ�นวนเงนิ บาท 94 ชดุ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ (ฉบับปรบั ปรงุ )
หนว่ ยที่ ๖ สถิติ ฝ.๖.๗/ผ.๗ เฉลย แบบฝึกหัด 6.7 1 ใหน้ กั เรยี นก�ำ หนดหัวข้อทสี่ นใจศกึ ษา จากน้ันระบปุ ญั หาท่เี ก่ียวข้องกบั หวั ขอ้ ทส่ี นใจ แล้วต้ังค�ำ ถาม บอกขอ้ มูลที่ตอ้ งการเก็บ วธิ เี ก็บรวบรวมข้อมูล เครือ่ งมอื ที่ ใช้ในการเก็บและบันทึกข้อมลู พร้อมทง้ั ลงมือเก็บรวบรวมข้อมลู แลว้ น�ำ เสนอด้วย แผนภมู ริ ปู ภาพ โดยเขยี นค�ำ ตอบในช่องวา่ ง หวั ข้อท่ีสนใจศึกษา สถานทีท่ ี่นกั เรียนช้นั ป. 3/... ตอ้ งการไปทศั นศกึ ษา ปญั หา โรงเรยี นตอ้ งการจดั ทศั นศึกษาจงึ ต้องการทราบวา่ นักเรยี นระดับช้นั ป.3/... ตอ้ งการไปทศั นศกึ ษาท่ีใดบา้ ง ค�ำ ถาม 1. จ�ำ นวนวนั ทีน่ กั เรียนตอ้ งการไปทศั นศึกษา 2. สถานทท่ี ัศนศึกษาใดบา้ งทีนกั เรียนต้องการไป ขอ้ มลู ทีต่ อ้ งการเกบ็ จำ�นวนวันและสถานท่ที ี่นกั เรียนชน้ั ป.3/... สว่ นใหญต่ ้องการไปทศั นศกึ ษา วิธเี กบ็ รวบรวมขอ้ มลู การสอบถามนักเรียนชัน้ ป.3/... โดยใชแ้ บบสอบถาม ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั ครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ (ฉบับปรับปรุง) 95
หน่วยที่ ๖ สถิติ ฝ.๖.๗/ผ.๗ เครอื่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการเกบ็ และบันทึกขอ้ มูล แบบสอบถามสถานท่ที ศั นศึกษาทีน่ กั เรียนชัน้ ป.3/... ตอ้ งการไป นักเรียนตอ้ งการไปทัศนศกึ ษาก่ีวนั 1 วนั 2 วัน สถานทที่ ัศนศกึ ษาทนี่ กั เรยี นต้องการไป พพิ ิธภณั ฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล ศนู ย์การเรยี นรทู้ างการเกษตร หอศิลปวัฒนธรรม ศูนยว์ ทิ ยาศาสตรเ์ พือ่ การศึกษา แผนภูมริ ปู ภาพแสดงขอ้ มลู ที่เกบ็ รวบรวมไดเ้ ปน็ ดงั นี้ สถานท่ที ี่นกั เรียนชน้ั ป.3/... ต้องการไปทัศนศกึ ษาในสถานที่ต่าง ๆ พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์ทางทะเล หอศิลปวัฒนธรรม ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ ทางการเกษตร ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์ เพ่ือการศึกษา ก�ำ หนดให ้ แทนจำ�นวนนักเรียน 4 คน 96 ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำ�หรบั ครูผู้สอน) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ (ฉบับปรับปรงุ )
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136