Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ 2563

แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ 2563

Published by sukvit, 2020-07-01 02:22:23

Description: กลุ่มนโยบายและแผน

Search

Read the Text Version

51 7. สถำนศกึ ษำทกุ แหง่ มขี ้อมลู ผ้เู รียนรำยบคุ คลท่ีสำมำรถเชือ่ มโยงกบั ขอ้ มูลต่ำง ๆ นำไปสู่กำรวิเครำะหเ์ พ่ือวำงแผนกำรจัดกำรเรยี นร้สู ผู่ เู้ รียนไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธภิ ำพ ( Big Data Technology) 8. สถำนศกึ ษำ สำนักงำนเขตพืน้ ทก่ี ำรศึกษำ และสำนักงำนสว่ นกลำง มแี พลตฟอร์ม ดจิ ิทัล (Digital Platform) เพ่ือสนับสนุนภำรกจิ ด้ำนบริหำรจัดกำรศึกษำ 9. สถำนศกึ ษำทุกแห่งมีระบบข้อมูลสำรสนเทศทส่ี ำมำรถใช้ในกำรวำง แผนกำรจัดกำร ศึกษำได้อย่ำงมีประสิทธภิ ำพ มำตรกำรและแนวทำงกำรดำเนนิ กำร 1. ให้สถำนศกึ ษำ หรอื กล่มุ สถำนศึกษำ มีควำมเป็นอสิ ระในกำรบรหิ ำรจัด กำรศกึ ษำ เป็นมำตรกำรกระจำยอำนำจให้สถำนศกึ ษำ หรือกล่มุ สถำนศึกษำมีควำมเป็นอิสระ ในกำรบริหำรและจัดกำรศึกษำครอบคลมุ ด้ำนกำรบริหำรวิชำกำร ด้ำนกำรบรหิ ำรงบประมำณด้ำนกำร บรหิ ำรงำนบุคคล และด้ำนกำรบริหำรงำนทว่ั ไป โดยดำเนินกำรเปน็ รำยสถำนศึกษำหรือกลุ่ม สถำนศกึ ษำ อำจดำเนินกำรเป็นรำยด้ำนหรอื ทุกดำ้ นได้ โดยมีแนวทำงกำรดำเนินกำร ดงั นี้ (1) สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน และสำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำ ศึกษำ วเิ ครำะห์ หลักเกณฑ์ รูปแบบ หน้ำที่ อำนำจ และโครงสรำ้ งกำรกำกบั ดูแลของสถำนศึกษำหรือ กลุ่มสถำนศึกษำ (2) สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พ้ืนฐำน และสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ ศกึ ษำ วิเครำะห์ หน้ำท่ีและอำนำจ องคป์ ระกอบ จำนวนกรรมกำร คุณสมบตั ิ หลกั เกณฑ์และวธิ ีกำรสรร หำกำรเลอื กประธำนและกรรมกำร คณะกรรมกำรสถำนศึกษำของสถำนศึกษำหรอื ของกลุม่ สถำนศึกษำ โดยใหค้ ำนงึ ถงึ หลักธรรมำภิบำลและควำมเปน็ อสิ ระของสถำนศึกษำหรือกลุ่มสถำนศึกษำ ให้มีควำม หลำกหลำยและควำมแตกต่ำงของสถำนศึกษำรวมถึงควำมต้องกำรและขอ้ จำกัดของแตล่ ะพ้ืนท่ี (3) สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน และสำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำ ส่งเสริม สนบั สนนุ ใหส้ ถำนศึกษำ หรอื กลุ่มสถำนศึกษำจดั หำเจำ้ หนำ้ ที่เพื่อปฏบิ ัติหนำ้ ทีส่ นบั สนนุ งำน ดำ้ นธุรกำร ดำ้ นกำรเงิน กำรบญั ชแี ละพสั ดุ และดำ้ นบรหิ ำรงำนบคุ คล เพือ่ มิให้งำนดังกล่ำวเป็นภำระที่ เกินสมควรแก่ครู ผูป้ ฏบิ ตั ิหนำ้ ทกี่ ำรจัดกำรเรียนรใู้ หแ้ ก่ผู้เรียน (4) สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขน้ั พืน้ ฐำน และสำนักงำนเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำ ศึกษำ วิเครำะห์ ปรบั ปรุงกฎหมำย ระเบียบ ข้อปฏิบตั ิให้สอดคล้องกบั กำรกระจำยอำนำจให้ สถำนศกึ ษำหรือกลุม่ สถำนศกึ ษำมคี วำมเป็นอิสระในกำรบริหำรและจดั กำรศึกษำ (5) สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำน และสำนักงำนเขตพนื้ ที่กำรศึกษำ จัดทำแผนปฏิบัตกิ ำรและดำเนินกำรสง่ เสริม สนับสนุน และพัฒนำสถำนศึกษำหรือกล่มุ สถำนศึกษำใหม้ ี ควำมเปน็ อสิ ระในกำรบริหำรจดั กำรศึกษำ (6) สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขั้นพ้ืนฐำน และสำนักงำนเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำ สง่ เสรมิ สนบั สนุน ให้โรงเรียนขนำดเล็ก ใหม้ รี ะบบกำรบริหำรจดั กำรที่หลำกหลำย เชน่ กำรบรหิ ำร จัดกำรแบบกลุ่มโรงเรยี น กำรสอนแบบบูรณำกำรคละช้ัน เปน็ ต้น

52 (7) สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขน้ั พืน้ ฐำน และสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ ยกระดบั สถำนศกึ ษำให้เปน็ แหลง่ เรียนรู้ตลอดชีวติ ของทกุ คนในชุมชน เปน็ ศูนย์กลำงในกำรพฒั นำทักษะ อำชพี และทักษะชีวิต (8) สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พน้ื ฐำน และสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำนำ ผลกำรประกันคณุ ภำพกำรศึกษำมำใช้ในกำรวำงแผนกำรปฏิบตั ิกำรตรวจสอบติดตำมเพ่ือกำรปรับปรงุ พฒั นำสถำนศึกษำให้มคี ุณภำพและเป็นไปตำมมำตรฐำนกำรศกึ ษำ (9) สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พืน้ ฐำน และสำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำ ส่งเสริม สนับสนุนใหม้ กี ำรศึกษำ วเิ ครำะห์ ออกแบบ และพัฒนำรปู แบบกำรระบบบริหำรจดั กำรศึกษำ ใหส้ อดคล้องกับกำรพัฒนำให้สถำนศกึ ษำมีอิสระในกำรบริหำรจดั กำรศกึ ษำ (10) สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพืน้ ฐำน และสำนกั งำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำ จดั อบรม พฒั นำผบู้ ริหำรสถำนศึกษำใหม้ ีคุณสมบัติ สมรรถนะ และควำมรคู้ วำม เช่ยี วชำญ ประสบกำรณ์ที่จำเปน็ สำหรบั กำรปฏิบตั ิหน้ำท่ี (11) สถำนศกึ ษำ หรือกล่มุ สถำนศึกษำไดร้ บั กำรกระจำยอำนำจใหอ้ ย่ำงเปน็ อสิ ระใน กำรบริหำรและจัดกำรศึกษำครอบคลุม ดำ้ นกำรบริหำรวชิ ำกำร ดำ้ นกำรบริหำรงบประมำณด้ำนกำร บริหำรงำนบคุ คล และด้ำนกำรบริหำรงำนท่ัวไป โดยดำเนินกำรเปน็ รำยสถำนศึกษำหรือกล่มุ สถำนศึกษำ อำจดำเนินกำรเป็นรำยด้ำนหรือทุกดำ้ นได้ (12) สถำนศกึ ษำ หรือกลมุ่ สถำนศึกษำ มคี ณะกรรมกำรสถำนศึกษำของสถำนศกึ ษำ เพอื่ ทำหน้ำท่ีสง่ เสริม สนับสนุน กำกับดูแลกจิ กำรและกำรประกนั คุณภำพของสถำนศึกษำ 2. พัฒนำสำนกั งำนสว่ นกลำง และสำนกั งำนเขตพ้ืนทีก่ ำรศึกษำ เปน็ หนว่ ยงำนมคี วำมทนั สมัยอย่ำง มปี ระสิทธภิ ำพ เปน็ มำตรกำรในกำรเพมิ่ ประสทิ ธภิ ำพกำรบริหำรงำนของสำนกั งำนทัง้ ระดบั สำนักงำน สว่ นกลำง และสำนักงำนเขตพืน้ ทก่ี ำรศกึ ษำ ใหเ้ ปน็ หนว่ ยงำนทที่ ันสมยั พร้อมที่จะปรบั ตัวใหท้ นั ต่อกำร เปลีย่ นแปลงของโลกอยตู่ ลอดเวลำ มีควำมโปร่งใส ปลอดกำรทุจริต และประพฤติมชิ อบบริหำรจดั กำร ตำมหลกั ธรรมำภิบำล เปน็ หนว่ ยงำนทมี่ ีหนำ้ ทีส่ นบั สนนุ สง่ เสริม ตรวจสอบ ตดิ ตำมเพื่อใหส้ ถำนศกึ ษำ สำมำรถจดั กำรศึกษำได้อย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ โดยมีแนวทำงกำรดำเนนิ กำร ดังนี้ (1) ศกึ ษำ วเิ ครำะห์ ปรับปรุง และพฒั นำสำนักงำนส่วนกลำง และสำนกั งำนเขตพ้นื ท่ี กำรศึกษำ ให้เปน็ หน่วยงำนท่ีทันสมยั มีหน้ำท่ี สนับสนนุ กำกับ ตดิ ตำม ตรวจสอบและประเมนิ ผล สถำนศกึ ษำ เพอ่ื กำรบริหำรจัดกำรที่มีประสทิ ธิภำพ โดยยึดหลกั ธรรมำภบิ ำล (2) สง่ เสริม สนบั สนนุ ให้สำนกั งำนสว่ นกลำง และสำนักงำนเขตพนื้ ทก่ี ำรศึกษำใช้ ระบบกำรบรหิ ำรจดั กำรท่ีมุ่งเนน้ คุณธรรมและควำมโปร่งใสในกำรทำงำนตำมหลกั กำรประเมินคุณธรรม และควำมโปรง่ ใสในกำรดำเนินงำนของหน่วยงำนภำครัฐ ( Integrity & Transparency Assessment : ITA) (3) ส่งเสริม สนับสนนุ ให้สำนักงำนส่วนกลำง และสำนักงำนเขตพนื้ ทีก่ ำรศึกษำนำ นวัตกรรม และเทคโนโลยีดิจทิ ัล (Digital Technology) มำใช้ในกำรบริหำรงำน

53 (4) สง่ เสรมิ กำรบริหำรจดั กำรเขตพน้ื ที่กำรศึกษำโดยใช้พ้ืนทเ่ี ปน็ ฐำน (Area-based Management) รปู แบบกำรบริหำรแบบกระจำยอำนำจ “CLUSTERs” (5) ส่งเสริม กำรมีสว่ นร่วม จัดทำแผนบรู ณำกำรจัดกำรศึกษำในระดับพื้นที่ (6) สรำ้ งควำมเขม้ แขง็ ในกำรยกระดับคุณภำพกำรศึกษำรูปแบบเครอื ข่ำย เชน่ เครอื ข่ำยส่งเสริมประสทิ ธิภำพกำรจัดกำรศึกษำ ศนู ยพ์ ฒั นำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สหวทิ ยำเขต กล่มุ โรงเรียน ฯลฯ (7) สง่ เสรมิ ใหท้ ุกภำคสว่ นของสงั คมมสี ว่ นรว่ มในกำรจดั กำรศึกษำแบบบูรณำกำรท่ี ตอบสนองควำมต้องกำรของประชำชนและพืน้ ท่ี (8) ส่งเสริม สนับสนนุ ผู้ปกครอง ชมุ ชน สังคม และสำธำรณชน ใหม้ ีควำมรู้ ควำม เขำ้ ใจ และมีสว่ นร่วมรับผดิ ชอบ (Accountability) ในกำรบริหำรจัดกำรศกึ ษำ (9) ส่งเสริมใหท้ ุกภำคสว่ นของสังคมเข้ำมำมีส่วนร่วมสนับสนุนทรพั ยำกรเพื่อกำรศกึ ษำ 3. ปฏริ ูปกำรคลงั ดำ้ นกำรศึกษำ เพือ่ เพ่ิมคณุ ภำพและประสทิ ธภิ ำพกำรจดั กำรศึกษำโดยกำรจัดสรร งบประมำณตรงสผู่ ้เู รียน และสถำนศกึ ษำ เปน็ มำตรกำรท่ีเน้นกำรนำเทคโนโลยีดิจทิ ัล (Digital Technology) มำใชใ้ นกำร จดั สรรงบประมำณอุดหนนุ ผเู้ รียนทกุ คน สอดคล้องกบั ยุทธศำสตรช์ ำตทิ ่ีตอ้ งกำรปฏิรปู กำรคลงั โดยกำร จัดสรรงบประมำณตรงไปยังผูเ้ รยี น เทคโนโลยีดจิ ิทลั (Digital Technology) จะเป็นเคร่ืองมือสำคญั ใน กำรดำเนนิ กำรเพ่ือให้บรรลุเป้ำประสงคด์ ังกลำ่ ว โดยสำมำรถพสิ จู น์ตวั ตนของผ้เู รยี นท่รี บั จดั สรร งบประมำณได้อยำ่ งถกู ต้อง ลดควำมซ้ำซ้อนในกำรจดั สรรงบประมำณอดุ หนนุ ผูเ้ รียน สำมำรถกำหนด เงือ่ นไขกำรจดั สรรงบประมำณให้แกผ่ ู้เรยี นกลุ่มตำ่ ง ๆ ได้อยำ่ งถูกต้อง และสำมำรถเช่อื มโยงข้อมูลกบั ระบบธนำคำร ในกำรจัดสรรงบประมำณตรงไปยังผู้เรียนได้อยำ่ งมีประสิทธิภำพ โดยมแี นวทำงกำรดำเนินกำร ดงั นี้ (1) ศึกษำ วเิ ครำะห์ ออกแบบ และพฒั นำระบบกำรบรหิ ำรจัดกำรงบประมำณอดุ หนุน ผู้เรียนและสถำนศึกษำโดยตรง (2) พัฒนำแพลตฟอร์มดจิ ิทลั (Digital Platform) เพื่อพัฒนำระบบกำรบริหำรจัดกำร งบประมำณอดุ หนนุ ผู้เรยี นและสถำนศึกษำโดยตรง (3) พฒั นำและประยกุ ต์ใช้ ระบบไบโอเมทริกซ์ (Biometric) ในกำรพิสจู นต์ ัวตนของ ผู้เรยี น เพอื่ ลดควำมซ้ำซ้อนในกำรจัดสรรงบประมำณ โดยจะทำกำรแลกเปลีย่ นข้อมลู นักเรียนรำยบคุ คล กับกระทรวงมหำดไทย (4) พฒั นำระบบเบิกจำ่ ยงบประมำณอุดหนุนตรงไปยังผู้เรียน และสถำนศึกษำ โดย ผำ่ นระบบธนำคำร

54 4. พัฒนำนวัตกรรม เทคโนโลยดี จิ ิทัล (Digital Technology) และระบบกำรทำงำนท่ีเป็นดจิ ทิ ัล เข้ำมำประยกุ ต์ใชอ้ ย่ำงค้มุ ค่ำและเกดิ ประโยชนส์ งู สดุ เปน็ มำตรกำรในกำรประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ิทัล (Digital Technology) มำใช้ในกำร เพิ่มประสทิ ธิภำพกำรบริหำรอย่ำงเปน็ ระบบ นำไปสู่กำรนำเทคโนโลยีกำรวิเครำะห์ขอ้ มูลขนำดใหญ่(Big Data Technology) เพอ่ื เชื่อมโยงข้อมูลด้ำนต่ำง ๆ ตั้งแต่ข้อมูลผูเ้ รยี น ขอ้ มลู ครู ข้อมลู สถำนศึกษำ ขอ้ มูลงบประมำณ และข้อมูลอืน่ ๆ ทจ่ี ำเป็น มำวิเครำะหเ์ พอ่ื ใหส้ ถำนศึกษำสำมำรถจดั กำรเรียนรเู้ พ่ือ พฒั นำผเู้ รียนเปน็ รำยบคุ คลตำมสมรรถนะ และควำมถนัด และสำมำรถวิเครำะห์เป็นข้อมูลในกำรวำง แผนกำรพฒั นำทรพั ยำกรมนุษยข์ องประเทศ นำ Cloud Technology มำใหบ้ รกิ ำรแก่หน่วยงำนทุก ระดับท้งั ระดบั IaaS PaaS และ SaaS และพฒั นำแพลตฟอร์มดิจิทลั (Digital Platform) ระบบ บรหิ ำรงำนสำนักงำน เช่น ระบบแผนงำนและงบประมำณ ระบบบญั ชี ระบบพัสดุ ระบบสำรบรรณ เป็น ตน้ เพ่อื เจ้ำหนำ้ ทสี่ ำมำรถใชใ้ นกำรปฏิบตั ิงำนได้อยำ่ งมีประสิทธิภำพ เช่ืองโยงกันทง้ั องค์กร โดยมแี นวทำงกำรดำเนินกำร ดังนี้ (1) ศกึ ษำ วเิ ครำะห์ นำ Cloud Technology มำให้บรกิ ำรหนว่ ยงำนในสังกัดทุก ระดับทัง้ ในรปู แบบ Private Cloud Hybridge Cloud และ public Cloud ท้งั ในระดับ IaaS Paas และ SaaS (2) ศึกษำ วเิ ครำะห์ นำ Big Data Technology มำใช้ในกำรเชือ่ มโยงข้อมลู ของ นกั เรยี นในฐำนข้อมลู ตำ่ ง ๆ เพื่อนำมำวเิ ครำะห์ คุณภำพของผูเ้ รียนในมิติต่ำง ๆ (3) พัฒนำแพลตฟอร์มดิจิทลั (Digital Platform) เพ่ือสนบั สนุนภำรกจิ ด้ำนบริหำรจดั กำรศึกษำทง้ั ระบบพรอ้ มใหบ้ รกิ ำร (Services) เช่ือมโยงขอ้ มลู เพือ่ แลกเปลี่ยนและบูรณำกำรข้อมลู ภำครัฐทงั้ ภำยในและนอกสงั กัดอีกทง้ั ยังเป็นระบบกลำงสำหรบั ใชใ้ นกำรพิสูจน์ ยนื ยนั ตวั ตนเดียวและ รองรบั กำรทำงำนร่วมกบั แพลตฟอร์มดิจิทลั ตำ่ ง ๆ (4) พฒั นำระบบฐำนข้อมลู ทรัพยำกรมนุษยด์ ำ้ นกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน ทีส่ ำมำรถ เชอื่ มโยง และบูรณำกำรข้อมูลด้ำนกำรพัฒนำทรัพยำกรมนุษย์ระหว่ำงกระทรวง หนว่ ยงำนท่ีเกีย่ วข้อง โดยกำรเชอื่ มโยงข้อมลู รำยบุคคลที่เกย่ี วกับกำรศกึ ษำ กำรพัฒนำตนเอง สขุ ภำพและกำรพัฒนำอำชีพใน ตลอดช่วงชีวิต เปน็ ฐำนข้อมลู กำรพฒั นำทรพั ยำกรมนุษย์ของประเทศไทยที่มปี ระสิทธิภำพและ ประสทิ ธผิ ล สำมำรถประเมินจุดอ่อน จุดแขง็ และศักยภำพบคุ คลของประเทศ นำไปส่กู ำรตดั สินใจ ระดบั นโยบำยและระดับปฏบิ ัติ (5) พฒั นำแพลตฟอร์มดจิ ิทลั (Digital Platform) ด้ำนกำรเรยี นรู้ของผเู้ รียนและ บุคลำกรทำงกำรศึกษำ ด้ำนกำรบริหำรงำน เชื่อมโยงถงึ กำรพัฒนำครู เพอื่ ใหส้ อดคล้องกับ ควำมกำ้ วหน้ำในอำชพี ตลอดจน พฒั นำ ระบบข้อมลู สำรสนเทศของผเู้ รียนเปน็ รำยบุคคลต้ังแต่ระดบั ปฐมวัย จนจบกำรศกึ ษำขัน้ พื้นฐำน ทส่ี ำมำรถเช่ือมโยงกับหนว่ ยงำนท่เี ก่ยี วข้องนำไปสู่กำรพฒั นำ ฐำนขอ้ มูลประชำกรดำ้ นกำรศกึ ษำของประเทศ

55 กำรวเิ ครำะหส์ ภำพแวดล้อมองค์กรและบริบทของเขตพื้นท่กี ำรศึกษำ กำรวเิ ครำะหส์ ภำพแวดลอ้ มภำยนอก ภำยใน ของสำนักงำนเขตพน้ื ท่กี ำรศึกษำประถมศึกษำ พจิ ิตร เขต 1 ไดด้ ำเนนิ กำรวิเครำะห์ SWOT โดยใชห้ ลกั กำร 7S Model และหลกั กำร PEST/STEPAnalysis เพ่ือจดั ทำแผนพัฒนำกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน ประจำปี พ.ศ. 2563-2565 และ แผนปฏิบัตกิ ำรประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2563 สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำพจิ ติ ร เขต 1 เพอ่ื ใช้กำหนดทิศทำงและเป้ำหมำยของกำรจัดกำรศึกษำให้บรรลุเป้ำหมำยที่วำงไว้ ปรำกฏผลกำร วเิ ครำะหส์ ภำพแวดล้อมในดำ้ นตำ่ ง ๆ สรุปไดด้ งั นี้ ผลกำรวิเครำะหส์ ภำพแวดล้อมภำยนอก ปรำกฏวำ่ มี “อุปสรรค” มำกกวำ่ “โอกำส” โดยสรปุ คือ โอกำส (Opportunities : O) อุปสรรค (Threats : T) 1.กำรปรับโครงสร้ำงกำรบริหำรงำนในหน่วยงำน 1.นโยบำย ระเบียบกฎหมำยมีกำรเปลีย่ นแปลงสู่ กำรกระจำยอำนำจของหนว่ ยงำนต้นสงั กัด และ กำรปฏิบัตมิ ำกเกินไป กำรดำเนินงำนทย่ี ึดหลกั ธรรมำภิบำล ทำใหก้ ำร กำรดำเนนิ กำรดำ้ นกฎหมำยมีควำมลำ่ ช้ำ บรหิ ำรจดั กำรมีควำมชัดเจน และมีควำมคล่องตวั รวดเรว็ โปร่งใส 2.กำรได้รับสนับสนุนจำกหนว่ ยงำนต้นสังกัด/ 2.กำรจัดสรรงบประมำณจำกสว่ นกลำงล่ำชำ้ ไม่ หนว่ ยงำนเอกชน/ภำคีเครือข่ำยมสี ว่ นรว่ มในกำร เปน็ ไปตำมกรอบงบประมำณท่ีเปน็ จรงิ ขำดควำม บรหิ ำรจดั กำรศกึ ษำอย่ำงต่อเนอ่ื ง และมีควำม คลอ่ งตวั ในกำรบรหิ ำรจดั กำรงบประมำณ คล่องตัวมำกขึ้น 3.ควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยี ช่วยให้นำไปเป็น 3.กำรมสี ว่ นรำชกำร ไดแ้ ก่ ศธจ.ทำใหก้ ำร สื่อในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ผู้เรียนสำมำรถ ปฏิบตั งิ ำนลำ่ ช้ำ เกิดควำมซำ้ ซอ้ น มกี ระบวนกำร เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และหน่วยงำนสำมำรถ และขน้ั ตอนมำก ต้องเวลำในปฏิบัตริ ำชกำรนำน ประยุกต์ใชใ้ นกำรจดั กำรศกึ ษำ 4.มีระบบเทคโนโลยีท่ีทันสมัย เข้ำถึงง่ำย มี 4.เยำวชนใชอ้ ินเตอรเ์ นต็ ในทำงที่ไมพ่ ึงประสงค์ ประสิทธิภำพ มีช่องทำงกำรสื่อสำรที่หลำกหลำย เช่น ดูหนังเวลำทำงำน เลน่ หุน้ เลน่ เกม หนังลำมก เผยแพรข่ อ้ มลู ขำ่ วสำรไดร้ วดเรว็ ก่อใหเ้ กดิ อำชญำกรรม เกดิ กำรเลียนแบบ พฤติกรรมที่ไมเ่ หมำะสม 5.นโยบำยกำรควบรวมโรงเรียนขนำดเล็ก ทำให้ 5.เศรษฐกิจไมด่ ีทำให้กำรพฒั นำทกุ ดำ้ นไมเ่ กิด โรงเรียนขนำดเล็กมีกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ ประโยชน์ ไมค่ ล่องตัวค่ำใช้จำ่ ยในเรื่อง ค่ำอปุ โภค ท่สี ูงข้ึน บรโิ ภค ไมเ่ พยี งพอ รำคำสนิ ค้ำ กำรเงินของ ผูป้ กครองทำให้ส่งเสริมกำรจัดกำรศึกษำน้อยลง

56 โอกำส (Opportunities : O) อุปสรรค (Threats : T) 6.ภูมิปัญญำท้องถ่ิน ประเพณีและวัฒนธรรมทำ 6.ระบบเทคโนโลย/ี ควำมเร็วยังต้องพฒั นำให้มี ให้เด็กรักและภูมิใจในถ่ินกำเนิด และส่งผลให้มี ควำมเสถยี ร เครือข่ำยอินเตอร์เนต็ ยงั ไม่ ขำด โอกำสในกำรเรียนรู้ อุปกรณ์และกำรคิดค้นพฒั นำดำ้ นเทคโนโลยี 7.อตั รำกำรเตบิ โตประชำกรกำรเคลอ่ื นยำ้ ยถิ่นฐำน ทำใหป้ ระชำกรวัยเรยี นลดลง กำรเกิดน้อยลงสง่ ผล ใหแ้ นวโนม้ โรงเรียนขนำดเลก็ มำกข้ึน 8.ควำมตอ้ งกำรของผูป้ กครองมีค่ำนิยมนำลกู หลำน เข้ำเรยี นในเมือง เรยี นตำ่ งจังหวดั ขำดกำรสง่ ผเู้ รียนเข้ำศกึ ษำในสถำนศกึ ษำใกลบ้ ำ้ น สังคมขำด ควำมเช่อื มนั่ ในคุณภำพกำรศึกษำในชุมชน ผลกำรวเิ ครำะหส์ ภำพแวดล้อมภำยใน ผลกำรวิเครำะหส์ ภำพแวดล้อมภำยใน ปรำกฏว่ำมี “จดุ แขง็ ” มำกกว่ำ “จดุ ออ่ น” โดยสรปุ ดงั นี้ จดุ แขง็ (Strengths : S) จดุ อ่อน (Weaknesses : W) 1.จดั ทำโครงสรำ้ งสำยกำรบงั คับบญั ชำโดยแบง่ 1.บุคลำกรขำดกำรศึกษำคมู่ ือและกรอบงำนกำร มอบภำรกจิ และกำรบังคบั บญั ชำเปน็ ระดบั ช้นั ปฏิบตั ิงำนของตนเอง ให้เกดิ ควำมเขำ้ ใจในเชงิ ลึก ขำดควำมเขำ้ ใจในทิศทำงของแผนงำนขององค์กร และบทบำทหนำ้ ท่ี และกำรตระหนักรูใ้ นกำร ทำงำนเป็นทีมให้ไดม้ ำตรฐำน 2.มีนโยบำยของ สพฐ.และ สพป.นำมำกำหนดเปน็ 2.บคุ ลำกรมีจำนวนไมเ่ พียงพอตำมกรอบกำลงั วสิ ัยทัศน์พันธกิจเปำ้ ประสงค์และกลยุทธ์ งำนประจำมีจำนวนมำก ซำ้ ซ้อน ทำให้ขำด สมรรถนะ และทกั ษะในกำรสรำ้ งสรรคน์ วัตกรรม ใหม่ ๆ 3.นำผลกำรกำหนดวสิ ยั ทศั น์พันธกจิ เป้ำประสงค์ 3.บุคลำกรขำดแรงจูงใจ ควำมรกั ควำมสำมัคคี และกลยุทธม์ ำจัดทำเปน็ แผนงำนโครงกำรของ ควำมเปน็ หน่งึ เดียว ไม่อทุ ิศเวลำใหก้ บั รำชกำร สำนกั งำน ขำดกำรประสำนงำน เกี่ยงงำน ไมม่ งุ่ ผลสมั ฤทธิ์ ทำแตง่ ำนเฉพำะกิจ ขำดกำรนำค่ำนิยมขององค์กร ไปปฏบิ ตั ิ และมีจดุ ยืนของตัวเองมำกเกินไป

57 จดุ แขง็ (Strengths : S) จดุ อ่อน (Weaknesses : W) 4.บคุ ลำกรทุกคนจดั ทำคูม่ ือปฏบิ ัติงำนตำม มำตรฐำน 4.บุคลำกรขำดผู้นำในกำรปฏิบัติงำน ไม่เป็น แบบอยำ่ งท่ีดี ขำดกำรสอื่ สำรขอ้ มูลกำรตัดสนิ ใจ ไมด่ ี ไม่สรำ้ งศรทั ธำใหเ้ จำ้ หน้ำที่ ทำใหไ้ มไ่ ดร้ บั ควำมรว่ มมือ บุคลำกร ไมย่ อมรบั วัฒนธรรมและ ค่ำนิยมรว่ ม 5.อำนำจกำรตัดสินใจของผูบ้ ังคับบญั ชำได้มีกำร มอบอำนำจใหก้ ับรองผอ. สพป. เป็นบำงเรือ่ งแต่ ในบำงเร่อื งให้เสนอให้ ผอ. สพป. เป็นผูต้ ัดสินใจ 6.พัฒนำงำนของบุคลำกรโดยนำกลยทุ ธ์ของ ผอ. สพป.พจิ ติ รเขต 1 ปีมำถือปฏบิ ตั ิ 7.พฒั นำสมรรถนะของบุคลำกรใหต้ รงตำม มำตรฐำนตำแหน่งและควำมรับผดิ ชอบ 8.นำเทคโนโลยเี ข้ำมำร่วมปฏิบตั ิโดยให้บคุ ลำกรได้ จัดทำคู่มือปฏิบตั งิ ำนมำตรฐำนกำรปฏิบัติงำนและ รำยงำนผลกำรปฏบิ ตั งิ ำนสู่ระบบฐำนข้อมูลกลำง ระบบ cloud center ของสำนักงำน 9.ผบู้ รหิ ำรหนว่ ยงำนสรำ้ งแรงจงู ใจตอ่ ผูใ้ ต้บงั คับบัญชำทุกคนเพ่ือเป็นขวัญและกำลังใจ 10.นำรปู แบบกำรบรหิ ำรงำน รปู แบบใหม่มำ พัฒนำระบบกำรบรหิ ำรงำนโดย ผอ. สพป. พจิ ติ ร เขต 1 มีภำวะผู้นำทสี่ ำคญั ตอ่ องค์กร และสรำ้ ง ค่ำนิยมขององค์กร คือ ไปดว้ ยกัน ไปได้ไกล เพ่อื ให้บคุ ลำกรมคี วำมรัก สมัครสมำน สำมคั คี ในหมคู่ ณะ 11.พฒั นำควำมรบู้ ุคลำกรเพ่อื ให้เกิดทักษะควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติงำนและกำรใหบ้ ริกำร ท่ดี สี ่งผลต่อผลสมั ฤทธ์ิขององคก์ ร

58 จำกผลกำรวเิ ครำะห์สภำพแวดล้อมทง้ั ภำยนอก/ภำยใน (SWOT) ของสำนักงำนเขตพน้ื ท่ี กำรศึกษำประถมศึกษำพิจติ ร เขต 1 นั้น เพือ่ สง่ เสรมิ พัฒนำจดุ แข็งและโอกำส แกไ้ ขปรับปรุงจุดอ่อน และอปุ สรรค ซ่ึงจะสง่ ผลใหก้ ำรบรหิ ำรจดั กำรตำมภำรกจิ ของสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำให้มีคุณภำพ สงู ขึ้นมปี ระสทิ ธิภำพและประสทิ ธผิ ลสงู สดุ สำนักงำนเขตพ้นื ท่ีกำรศกึ ษำประถมศึกษำพจิ ติ ร เขต 1 จึงได้ร่วมกันกำหนดทิศทำงกำรพฒั นำ ดงั น้ี วิสัยทศั น์ (Vision) จดั กำรศึกษำเพือ่ ควำมม่นั คง และยง่ั ยืน สร้ำงทนุ มนุษย์ ด้วยหลักธรรมำภิบำล พันธกจิ (Mission) 1. จดั กำรศกึ ษำเพื่อเสรมิ สร้ำงควำมมั่นคงของสถำบนั หลักของชำติและกำรปกครอง ในระบอบประชำธปิ ไตยอนั มีพระมหำกษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ 2. พฒั นำศกั ยภำพและคณุ ภำพผู้เรยี นใหม้ สี มรรถนะตำมหลกั สตู รและคุณลักษณะในศตวรรษที่ 21 3. สง่ เสรมิ สนบั สนุนกำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำใหป้ ระชำกรวยั เรียนทกุ คน ไดร้ บั กำรศึกษำอยำ่ งท่ัวถึง เทำ่ เทียม มคี ณุ ภำพ 4. สง่ เสริมสนบั สนุนใหค้ รูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำได้รบั กำรพัฒนำสมรรถนะอย่ำงมี ประสิทธภิ ำพ 5. ประสำนสง่ เสริมกำรพฒั นำคณุ ภำพสถำนศึกษำขน้ั พ้นื ฐำนใหเ้ ป็นองค์กำรแห่งกำรเรยี นรู้สู่ เป้ำหมำยคุณภำพผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21 6. พัฒนำประสทิ ธิภำพกำรบริหำรสำนกั งำนเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำตำมหลกั ธรรมำภิบำล และ ขบั เคลอ่ื นกำรจดั กำรศกึ ษำข้ันพ้ืนฐำน สู่ควำมเป็นเลศิ ด้วยวงจรคณุ ภำพมำตรฐำนเปน็ ฐำน (SPDCA) กำรวิจัย นวตั กรรมและเทคโนโลยี บนพนื้ ฐำนของควำมพอเพยี ง เปำ้ ประสงค์(Goals) 1. ผู้เรยี นทกุ คนได้รบั โอกำสในกำรพฒั นำ มีทัศนคตทิ ีด่ ีต่อบำ้ นเมืองเป็นบุคคลแห่งกำรเรยี นรู้มี ทักษะชวี ติ ทกั ษะอำชีพและมีคณุ ลักษณะของผูเ้ รยี นในศตวรรษที่ 21 เป็นพลเมืองและพลโลกทดี่ ี 2. ครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำมีจิตวญิ ญำณควำมเปน็ ครู รูท้ นั โลก มสี มรรถนะตำมมำตรฐำน วิชำชีพ เปน็ ผู้เชีย่ วชำญและนวตั กร (Experts & Innovators)ทที่ ำหนำ้ ท่ี ที่ปรึกษำ(Mentors & Coach) สำมำรถสร้ำงสถำนกำรณ์และร่วมพัฒนำกำรเรียนรู้ เป็นผู้นำแหง่ กำรเรยี นรู้ และเป็นผสู้ รำ้ ง แรงบนั ดำลใจใหผ้ ู้เรียน 3. สถำนศึกษำสำมำรถจดั กำรศึกษำอย่ำงมคี ุณภำพ เปน็ องค์กรแห่งกำรเรยี นรู้ 4 ห้องเรียนทกุ ห้องเป็นห้องเรยี นแหง่ ควำมสุข มีจัดกำรเรียนรูผ้ ่ำนกำรปฏิบตั ิ (Active learning) กำรใช้ STEM ศกึ ษำ และส่งเสรมิ ควำมสำมำรถด้ำนดิจิทัล (Digital literacy) ตอบโจทย์ ควำมตอ้ งกำรของผ้เู รยี น ชุมชน สงั คมไทยและสังคมโลกไดอ้ ย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ

59 5. สำนกั งำนเขตพื้นทีก่ ำรศกึ ษำบรหิ ำรและขบั เคล่ือนกำรจัดกำรศึกษำขน้ั พื้นฐำนอย่ำงมี ประสทิ ธิภำพ ด้วยวงจรคุณภำพมำตรฐำนเปน็ ฐำน (SPDCA) ตำมหลักธรรมำภบิ ำล ส่คู วำมเป็นเลิศ ด้วยฐำนวจิ ัย นวตั กรรมและเทคโนโลยี กลยทุ ธ์ (Strategy) กลยุทธท์ ี่ 1 เร่งรัดกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำนเพอ่ื ควำมมัน่ คง ม่ังค่ังและยั่งยืน กลยทุ ธท์ ี่ 2 กำรสรำ้ งโอกำสในกำรเขำ้ ถงึ บรกิ ำรกำรศึกษำทีม่ ีคณุ ภำพ มมี ำตรฐำนและลดควำม เหลอ่ื มล้ำทำงกำรศึกษำ กลยุทธท์ ี่ 3 ส่งเสรมิ และพัฒนำสมรรถนะ ทักษะกำรจดั กำรเรยี นรู้ของครแู ละบุคลำกรทำงกำร ศึกษำบนพืน้ ฐำนควำมสำมำรถ(Competency Based Development ) กลยทุ ธท์ ี่ 4 พัฒนำคุณภำพของสถำนศกึ ษำโดยใช้ฐำนควำมรู้และระบบกำรคิดในลกั ษณะ สหวทิ ยำกำรเพ่ือบรรลุเป้ำหมำยโลกเพื่อกำรพฒั นำอยำ่ งย่ังยนื (SDGs) บนพื้นฐำนควำมพอเพียง กลยุทธ์ท่ี 5 พฒั นำระบบกำรบรหิ ำรจัดกำรองคก์ รสู่ควำมเปน็ เลิศด้วยวงจรคุณภำพมำตรฐำน เป็นฐำน (SPDCA) นวัตกรรมและเทคโนโลยี แนวทำงกำรพัฒนำสำนักงำนเขตพืน้ ทีก่ ำรศกึ ษำ 1 ใชห้ ลักกำร กำรบริหำรและกำรจดั กำรด้วยหลกั ธรรมำภิบำล ตำมยทุ ธศำสตรช์ ำติ นโยบำย กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร นโยบำยสำนักงำนคณะกรรมกำรศึกษำขน้ั พ้นื ฐำนฯลฯ เปำ้ หมำยคุณภำพ 5 ดี คือ นักเรยี นดี ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำดี ห้องเรยี นดี โรงเรยี นดแี ละสำนกั งำนเขตพนื้ ท่ีกำรศกึ ษำดี 2. ดำเนินกำร 5 ภำรกิจ ตำมแนวทำงดงั นี้ 1) กำหนดกลยุทธก์ ำรเปล่ยี นแปลง ขบั เคลื่อนคณุ ภำพ และประสิทธภิ ำพกำรบรหิ ำร สำนักงำนเขตพืน้ ที่กำรศึกษำ คณุ ภำพ 5 ดี โดยบคุ ลำกรทกุ คนพัฒนำงำนบนมำตรฐำน ใช้ฐำนกำรวิจัย กำรใช้และพฒั นำนวตั กรรม เทคโนโลยี 2) สง่ เสรมิ กำรใชก้ ระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ หลำกหลำยเช่น Active learning จิตศกึ ษำ PBL กำรเรยี นรู้ Coding กำรเรยี นรู้ผำ่ นสื่อ DLTV กำรพัฒนำตำมหลักสูตรท่ีทำใหช้ วี ิตประสบ ควำมสำเรจ็ EF และพฒั นำทักษะอำชพี โดยศนู ย์พัฒนำอจั ฉริยะอำชพี ในสถำนศกึ ษำ เพ่ือพัฒนำ ศกั ยภำพผเู้ รยี น ดำ้ นสุขภำวะ ทกั ษะชีวติ และทักษะอำชพี 3) พัฒนำศกั ยภำพครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ ด้วยกระบวนกำรทห่ี ลำกหลำยเช่นกำรใช้ กระบวนกำร PLC กำรสร้ำงระบบพเ่ี ลย้ี งและท่ปี รึกษำ กำรเรยี นร้ตู ำมอัธยำศยั กำรเรียนรู้ในกำร ทำงำน กำรเข้ำรับกำรอบรม ฯลฯ 4) พัฒนำคณุ ภำพสถำนศึกษำ ให้จดั กำรเรยี นรแู้ บบ Active learning สนับสนนุ กำร ขบั เคลอ่ื นเชิงวิชำกำร ใหส้ ำมำรถจัดทำหลักสตู รและจัดกำรเรียนรูต้ อบโจทย์นักเรยี น ชุมชน สังคม เช่น หลักสตู รโครงงำนฐำนวิจยั หลักสูตรฐำนสมรรถนะ หลกั สูตรพฒั นำทักษะฐำนดจิ ิทัล ดว้ ยกำรสร้ำงระบบ เครือข่ำยและพ่เี ลยี้ งทำงวชิ ำกำรให้กบั สถำนศกึ ษำ ส่งเสรมิ กำรจดั กำรเรียนรสู้ ูก่ ำรประกอบอำชีพ ดว้ ย กำรจัดตัง้ ศูนย์พฒั นำอจั ฉริยะอำชพี ข้ึนในสถำนศึกษำ 5) กำรพัฒนำเครอื ขำ่ ยควำมรว่ มมือ ดว้ ยกำรจัดตัง้ Core team ในระดบั เขตพื้นท่ี และระดับ สถำนศึกษำ ทมี่ ีควำมเขำ้ ใจในบทบำทกำรมีสว่ นร่วมและกำรเป็นกลไกกำรจดั กำรศึกษำดว้ ยกำรสรำ้ ง

60 เปำ้ หมำยร่วม มีกำรวำงแผนกำรขบั เคลือ่ นใหเ้ กิดพื้นที่กำรเรียนร(ู้ Learning Space)ครอบคลมุ ทัง้ เขต พืน้ ที่ รว่ มคดิ ร่วมทำ รว่ มรับผิดชอบอยำ่ งสรำ้ งสรรค์ กลยทุ ธ์ที่ 1 เร่งรดั กำรบริหำรและกำรจดั กำรศกึ ษำข้นั พื้นฐำน เพือ่ ควำมมั่นคง ม่ังคง่ั และย่งั ยนื เปำ้ ประสงค์ 1. ผูเ้ รียนทกุ คนทม่ี ีพฤตกิ รรมท่ีแสดงออกถงึ ควำมรักในสถำบันหลักของชำติ ยดึ มัน่ กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ 2. ผู้เรยี นทุกคนมที ัศนคติที่ดีตอ่ บำ้ นเมือง มหี ลักคดิ ที่ถกู ต้อง เป็นพลเมืองดีของชำติ มีคุณธรรม จริยธรรม มีค่ำนิยมที่พึงประสงค์ มจี ิตสำธำรณะ มจี ิตอำสำ รบั ผิดชอบตอ่ ครอบครวั ผอู้ ื่น และสงั คม โดยรวม ซอื่ สัตย์ สุจริต มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอำรี มีวนิ ัย และรักษำศีลธรรม 3. ผู้เรียนทกุ คนมีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ และมีควำมพร้อมสำมำรถรบั มือกับภยั คุกคำมทุกรูปแบบ ทมี่ ผี ลกระทบต่อควำมมัน่ คง เช่น ภยั จำกยำเสพติด ควำมรุนแรง กำรคุกคำมในชวี ติ และทรพั ยส์ ิน กำรค้ำมนุษย์ อำชญำกรรมไซเบอร์ และภัยพิบตั ติ ่ำง ๆ เปน็ ตน้ 4. ผูเ้ รียนมสี ขุ ภำวะท่ีดี ทักษะชวี ติ ทักษะอำชีพ ทกั ษะและคณุ ลักษณะผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21 ตัวชว้ี ดั 1. ร้อยละของผเู้ รยี นทีม่ ีพฤติกรรมท่แี สดงออกถึงควำมรักในสถำบันหลกั ของชำตยิ ดึ ม่นั กำร ปกครองระบอบประชำธปิ ไตยอันมีพระมหำกษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ 2. รอ้ ยละของผเู้ รยี นท่มี ีพฤติกรรมทแ่ี สดงออกถึงกำรมที ัศนคตทิ ดี่ ีต่อบ้ำนเมือง มหี ลักคิดท่ี ถกู ต้องเปน็ พลเมอื งดขี องชำติ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม มีค่ำนิยมท่ีพึงประสงค์ มคี ุณธรรมอัตลักษณ์ มีจติ สำธำรณะ มจี ติ อำสำ รบั ผดิ ชอบตอ่ ครอบครวั ผู้อ่ืน และสงั คมโดยรวม ซอื่ สตั ย์ สุจรติ มัธยสั ถ์ อดออม โอบออ้ มอำรี มีวินัย และรักษำศีลธรรม 3. รอ้ ยละของผ้เู รียนมคี วำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ และมีควำมพร้อมสำมำรถรบั มือกับภยั คกุ คำมทกุ รปู แบบท่ีมผี ลกระทบต่อควำมมนั่ คง เชน่ ภัยจำกยำเสพติด ควำมรนุ แรง กำรคุกคำมในชวี ิตและ ทรัพย์สนิ กำรค้ำมนษุ ย์ อำชญำกรรมไซเบอร์ และภัยพิบตั ิต่ำง ๆ เป็นตน้ 4. ร้อยละของผ้เู รียนมีสขุ ภำวะท่ีดี ทักษะชีวติ ทกั ษะอำชีพ ทักษะและคุณลักษณะผู้เรยี น ในศตวรรษท่ี 21 5. ผ้เู รียนทุกระดบั มีสมรรถนะสำคญั ตำมหลักสตู ร มีทักษะกำรเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3R8C) 6. รอ้ ยละของผู้เรยี นช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ 3 ที่มคี ะแนนผลกำรทดสอบควำมสำมำรถพ้นื ฐำน ระดบั ชำติ (NT) ผ่ำนเกณฑท์ ี่กำหนด 7. รอ้ ยละของผเู้ รียนท่ีมีคะแนนผลกำรทดสอบทำงกำรศกึ ษำระดับชำติข้ันพน้ื ฐำน (O-NET) มำกกวำ่ ร้อยละ 50 ในแตล่ ะวิชำเพ่ิมขน้ึ จำกปีกำรศึกษำท่ีผำ่ นมำ 8. รอ้ ยละผู้เรียนทจี่ บกำรศกึ ษำช้ันประถมศึกษำปีท่ี 6 ช้นั มธั ยมศึกษำปที ่ี 3 มีทกั ษะกำรเรียนรู้ ทีเ่ ช่ือมโยงสอู่ ำชีพและกำรมงี ำนทำ ตำมควำมถนดั และควำมต้องกำรของตนเอง มีทักษะอำชีพท่ี สอดคล้องกบั ควำมตอ้ งกำรของประเทศ วำงแผนชีวติ และวำงแผนทำงกำรเงนิ ที่เหมำะสมและนำไป ปฏิบตั ไิ ด้

61 มำตรกำรและแนวทำงกำรดำเนนิ กำร 1. พฒั นำผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ พลเมืองดขี องชำตแิ ละเป็นพลโลกที่ดี เปน็ มำตรกำรในกำรพฒั นำ ผู้เรยี นใหม้ ีควำมรกั ในสถำบันหลักของชำติ ยดึ มน่ั ในกำรปกครองระบอบประชำธปิ ไตยอันมี พระมหำกษัตริยท์ รงเป็นประมขุ มที ัศนคติท่ีดีตอ่ บ้ำนเมือง มีหลักคดิ ท่ีถกู ต้อง เป็นพลเมืองดีของชำติ และพลเมืองโลกทดี่ ี มีคุณธรรม จริยธรรม มคี ำ่ นยิ มที่พึงประสงค์มีคุณธรรมอัตลักษณ์ มีจิตสำธำรณะ มี จิตอำสำ รับผิดชอบต่อครอบครัว ชมุ ชน และสังคมและประเทศชำติซ่ือสัตย์ สุจริต มธั ยัสถ์ อดออม โอบ ออ้ มอำรี มวี ินัย และรกั ษำศลี ธรรม โดยมแี นวทำงกำรดำเนินกำร ดังน้ี 1.1 สำนกั งำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ 1) ส่งเสริม สนบั สนุน กำกบั ติดตำม และประเมินสถำนศึกษำตำมมำตรกำร ท่กี ำหนด 2) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ให้สถำนศึกษำจัดกำรศึกษำพฒั นำผู้เรียนให้มีพฒั นำกำร ทส่ี มวยั ในทุกด้ำนทง้ั ทำงด้ำนรำ่ งกำย จิตใจ อำรมณ์ สงั คม และสติปัญญำ ให้มีคณุ ลักษณะ - เป็นไปตำมหลกั สูตร - มีทกั ษะกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 - มีทักษะกำรเรยี นรู้ทเี่ ชอื่ มโยงสอู่ ำชีพและกำรมงี ำนทำสอดคล้องกบั ควำม ต้องกำรของประเทศ - มีควำมรู้ และทักษะด้ำนวทิ ยำศำสตรน์ ำไปสู่กำรพัฒนำนวตั กรรม - มีควำมรูค้ วำมสำมำรถด้ำนดิจทิ ัล (Digital) และใช้ดจิ ทิ ลั เปน็ เคร่อื งมอื ใน กำรเรยี นรูไ้ ด้อย่ำงมีประสิทธิภำพ - มที ักษะทำงด้ำนภำษำไทย เพอ่ื ใช้เปน็ เคร่อื งมือในกำรเรียนรู้ มีนิสัยรกั กำร อ่ำน มีทักษะสอื่ สำรภำษำอังกฤษ และภำษำที่ 3 1.2 สถำนศึกษำ 1) พัฒนำหลกั สตู รของสถำนศึกษำ โดยนำพระบรมรำโชบำยดำ้ นกำรศึกษำ ของพระบำทสมเดจ็ พระปรเมนทรรำมำธบิ ดศี รสี นิ ทร มหำวชริ ำลงกรณฯ พระวชิรเกลำ้ เจ้ำอยู่หวั และ หลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงไปบรู ณำกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรูเ้ พื่อพฒั นำผเู้ รียนมีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ตำมท่กี ำหนด 2) สถำนศึกษำ พฒั นำหลักสูตรสถำนศึกษำ ให้สอดคลอ้ งกับหลักสตู ร แกนกลำง เนน้ กำรพฒั นำผเู้ รียนเปน็ รำยบุคคล (หลกั สตู รเชิงสมรรถนะ) และปรบั เปล่ยี นกำรจดั กำร เรียนรใู้ หต้ อบสนองตอ่ ควำมต้องกำรของผู้เรียนและบริบทของพื้นที่ 3) จดั บรรยำกำศสงิ่ แวดลอ้ ม และจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ให้ผเู้ รียนแสดงออก ถงึ ควำมรักในสถำบนั หลกั ของชำติ ยึดมน่ั กำรกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ มีทัศนคติท่ีดตี ่อบ้ำนเมือง มีหลักคดิ ท่ีถกู ต้อง เปน็ พลเมอื งดีของชำติ และพลเมอื งโลกท่ดี ี มี คุณธรรม จริยธรรม มคี ่ำนิยมทพี่ ึงประสงค์ มีคณุ ธรรมอตั ลักษณ์ มีจติ สำธำรณะ มจี ติ อำสำ รบั ผิดชอบ

62 ต่อครอบครวั ชมุ ชน สังคม และประเทศชำติ ซอ่ื สัตย์ สุจริต มธั ยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอำรี มีวนิ ยั และ รักษำศลี ธรรม 2. พฒั นำผู้เรียนมีทกั ษะพ้ืนฐำนในกำรดำรงชวี ติ สำมำรถดำรงชวี ิตอยใู่ นสังคมได้อยำ่ งมี ควำมสขุ มีควำมยืดหยุน่ ทำงด้ำนควำมคดิ สำมำรถทำงำนร่วมกบั ผู้อืน่ ได้ ภำยใตส้ งั คมที่เปน็ พหุวฒั นธรรม ใหม้ ีควำมพรอ้ มสำมำรถรบั มือกับภยั คุกคำมทุกรูปแบบ ทุกระดบั ควำมรุนแรง ทมี่ ี ผลกระทบต่อควำมมั่นคงของประเทศเปน็ มำตรกำรในกำรพัฒนำผู้เรยี นใหม้ ีทักษะพืน้ ฐำนในกำร ดำรงชวี ติ สำมำรถดำรงชีวติ อยูใ่ นสงั คมได้อยำ่ งมีควำมสุข มคี วำมยืดหย่นุ ทำงดำ้ นควำมคดิ สำมำรถ ทำงำนรว่ มกับผู้อนื่ ได้ ภำยใต้สังคมทีเ่ ปน็ พหวุ ฒั นธรรมมคี วำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรรับมือกับภยั คุกคำม รูปแบบใหม่ทุกรูปแบบ ทกุ ระดับควำมรุนแรง เชน่ ภยั จำกยำเสพติด ภัยจำกควำมรุนแรง กำรคกุ คำมในชีวติ และทรัพย์สิน กำรคำ้ มนุษย์ อำชญำกรรมไซเบอร์ และภัยพบิ ตั ติ ่ำง ๆ เป็นต้น ควบคู่ ไปกับกำรปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหำทมี่ ีอยู่ในปจั จุบัน และที่อำจจะเกิดขึน้ ในอนำคต โดยมแี นวทำงกำรดำเนินกำร ดังน้ี 2.1 สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำสง่ เสรมิ สนับสนนุ กำกบั ติดตำม และประเมิน สถำนศึกษำตำมมำตรกำรที่กำหนด 2.2 สถำนศึกษำ (1) พัฒนำหลักสตู รสถำนศึกษำ และจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ให้ผู้เรยี นมคี วำมรู้ ควำม เข้ำใจเกย่ี วกับภัยคกุ คำมท่ีมผี ลกระทบต่อควำมม่นั คง ภยั จำกยำเสพติด ควำมรนุ แรง กำรคกุ คำมในชวี ติ และทรัพยส์ นิ กำรค้ำมนุษย์ อำชญำกรรมไซเบอร์ ภัยพบิ ัติและภำวะฉกุ เฉิน และภัยคุกคำมรปู แบบใหม่ ตลอดจนรู้จักวธิ ีกำรป้องกัน และแก้ไขหำกได้รับผลกระทบจำกภยั ดังกล่ำว (2) มีมำตรกำรและแนวทำงกำรป้องกนั ยำเสพติดในสถำนศึกษำและชุมชน (3) จัดสภำพแวดล้อมภำยในสถำนศกึ ษำใหม้ ีควำมม่ันคงปลอดภัย (4) มีระบบกำรดูแล ติดตำม และชว่ ยเหลือผ้เู รียน ในกำรแก้ปญั หำตำ่ ง ๆ ไดร้ บั คำปรกึ ษำช้แี นะและควำมชว่ ยเหลอื อยำ่ งทนั กำรณ์ ทนั เวลำ รวมท้ังกำรอบรมบ่มนสิ ยั 3. ผเู้ รียนมสี ุขภำวะท่ดี ี ทักษะชวี ิต ทักษะอำชีพ ทักษะและคณุ ลักษณะผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 เปน็ มำตรกำรพฒั นำคุณภำพผู้เรียนเตม็ ตำมศักยภำพ ผ้เู รียนทกุ คนมศี กั ยภำพในกำรจัดกำรสุขภำวะของ ตนเองให้มีสุขภำวะท่ดี ี สำมำรถดำรงชีวติ อย่ำงมีควำมสขุ ทั้งด้ำนร่ำงกำยและจติ ใจ นำไปสูค่ วำมเป็นเลิศ ดำ้ นวิชำกำรตำมควำมสำมำรถ ควำมสนใจ มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 สรำ้ งขดี ควำมสำมำรถตำม ควำมถนดั และควำมสนใจ นำไปสู่กำรพฒั นำทักษะวชิ ำชพี เป็นนกั คดิ เป็นผูส้ รำ้ งนวัตกรรม เป็นนวตั กร โดยมีแนวทำงดำเนินกำร ดงั น้ี 1. สำนกั งำนเขตพื้นทีก่ ำรศกึ ษำ 1.1 ศึกษำวิเครำะห์ วจิ ยั และพัฒนำเครื่องมือวัดแวว และรวบรวมเคร่อื งมือวดั แววจำก หนว่ ยงำนต่ำง ๆ ท่ีเกย่ี วข้องทั้งภำครัฐและเอกชน 1.2 ส่งเสริมสนบั สนุน ให้สำนักงำนเขตพ้นื ท่ีกำรศึกษำ ดำเนนิ กำรวัดแววควำมถนัด ทำงกำรเรยี นของนักเรียนระดับมธั ยมศกึ ษำตอนต้นของโรงเรียนในเขตพ้ืนทก่ี ำรศกึ ษำ จัดกจิ กรรมแนะ

63 แนวให้ผู้เรยี นคน้ หำตนเอง นำไปส่กู ำรพัฒนำผูเ้ รียนใหม้ ีควำมพร้อมทจ่ี ะพฒั นำตอ่ ยอดไปสู่ควำมเปน็ เลศิ ด้ำนทักษะอำชพี ท่ีตรงตำมควำมต้องกำรและควำมถนัดของผ้เู รยี น 1.3 สง่ เสริมสนับสนุนให้ สถำนศึกษำจัดทำแผนงำน โครงกำร และกิจกรรม เพ่มิ ศกั ยภำพผเู้ รียนตำมควำมถนัด ควำมสนใจและควำมต้องกำรพัฒนำ ทงั้ ดำ้ นวชิ ำกำร ดำ้ นอำชพี และ กิจกรรมเสริมหลักสตู ร ต้ังแต่ระดับสถำนศึกษำ เขตพนื้ ทก่ี ำรศกึ ษำ จังหวดั ภูมภิ ำค ระดับประเทศ และ ระดบั นำนำชำติ 1.4 กำกับ ติดตำม และให้ควำมช่วยเหลือสถำนศกึ ษำ พร้อมทงั้ รำยงำนผลกำร ดำเนนิ งำนต่อกระทรวงศกึ ษำธกิ ำรและหน่วยงำนท่เี กย่ี วขอ้ ง 2. สถำนศกึ ษำ 2.1 ดำเนนิ กำรวดั แววผเู้ รยี น และพัฒนำขดี ควำมสำมำรถของผูเ้ รียนตำมศกั ยภำพ และควำมถนัด โดยจดั กำรเรยี นรู้ผ่ำนกจิ กรรมกำรปฏบิ ตั จิ รงิ (Active Learning) เช่น กำรจดั กำรเรียนรู้ ตำมกระบวนกำร 5 ข้ันตอนหรือบนั ได 5 ขัน้ (Independent Study : IS) กำรเรยี นร้เู ชงิ บูรณำกำร แบบสหวิทยำกำร เชน่ สะเต็มศึกษำ (Science Technology Engineering and Mathematics Education : STEM Education) เป็นต้น โดยสง่ เสริมใหค้ รูจดั กิจกรรมกำรเรยี นรเู้ พ่ือพัฒนำผูเ้ รียนให้ ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองผ่ำนระบบดจิ ทิ ัล (Digital Learning Platform) 2.2 ปรับเปล่ียนอัตลักษณ์ของสถำนศึกษำใหม้ งุ่ เนน้ กำรจดั กำรเรียนรใู้ ห้ผเู้ รยี นมีควำม เป็นเลศิ ทำงวชิ ำกำรตำมควำมถนดั ควำมสำมำรถ ควำมสนใจของผู้เรยี น และจัดกจิ กรรมเพอื่ พัฒนำสุข พลำนำมยั ให้เป็นคนที่สมบรู ณแ์ ข็งแรงทงั้ ร่ำงกำยและจิตใจ 2.3 สถำนศึกษำ พัฒนำหลกั สตู รและกำรจดั กิจกรรมกระบวนกำรเรียนรเู้ พอ่ื พฒั นำ ผเู้ รียนใหม้ ีควำมเป็นเลิศทำงวิชำกำรตำมควำมสนใจ และควำมถนดั เต็มตำมศักยภำพ 2.4 สง่ เสริม สนับสนนุ ใหค้ รูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ ไดร้ บั กำรพฒั นำเพ่ือ ปรบั เปล่ยี นกระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้ให้แก่ผู้เรยี นโดยเน้นกำรจดั กำรเรียนรู้ให้แก่ผ้เู รียนเป็นรำยบุคคล ตำมควำมต้องกำร และควำมถนดั ของผูเ้ รียน 2.5 จดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ให้ผูเ้ รียนมีควำมเป็นเลิศในทกั ษะส่อื สำรภำษำไทย ภำษำอังกฤษ และภำษำที่ 3 เพิม่ เติมอย่ำงน้อย 1 ภำษำ 2.6 ปรบั เปล่ียนวิธกี ำรวดั ประเมิน ผลกำรเรียนของผู้เรยี น โดยมงุ่ เน้นกำรวดั ประเมิน ตำมสมรรถนะรำยบคุ คล โดยกำรใหม้ ีกำรวดั ประเมินจำกส่วนกลำงในชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 และ ชัน้ มธั ยมศึกษำปีที่ 6 2.7 สรปุ และรำยงำนผลกำรดำเนินงำนต่อสำนักงำนเขตพื้นท่กี ำรศึกษำและหนว่ ยงำน ทเ่ี กย่ี วข้อง กลยุทธ์ท่ี 2 กำรสร้ำงโอกำสในกำรเขำ้ ถึงบริกำรกำรศึกษำทมี่ คี ุณภำพ มีมำตรฐำนและ ลดควำมเหลอ่ื มลำ้ ทำงกำรศึกษำ เป้ำประสงค์ 1. สถำนศึกษำจดั กำรศึกษำเพอ่ื ให้บรรลุเป้ำหมำยโลกเพ่ือกำรพัฒนำอยำ่ งยง่ั ยนื (Global Goals for Sustainable Development)

64 2. สถำนศกึ ษำกับองค์กรปกครองท้องถ่นิ ภำคเอกชน และหน่วยงำนท่ีเกย่ี วข้องในระดับพืน้ ที่ รว่ มมอื ในกำรจัดกำรศกึ ษำ 3. สถำนศึกษำมีคุณภำพ และมีมำตรฐำนตำมบริบทของพ้นื ที่ 4. นำเทคโนโลยดี ิจิทลั (Digital Technology) มำเป็นเครื่องมือใหผ้ เู้ รยี นได้มโี อกำสเข้ำถึง บริกำรด้ำนกำรศึกษำได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ 5. พัฒนำระบบกำรติดตำม สนบั สนนุ และประเมินผลเพ่ือสรำ้ งหลักประกนั สทิ ธกิ ำรได้รบั กำรศกึ ษำท่ีมีคุณภำพของประชำชน ตัวช้ีวดั 1. ผู้เรียนทุกคนสำมำรถเขำ้ เรียนในสถำนศึกษำที่มีคุณภำพเปน็ มำตรฐำนเสมอกนั 2. สถำนศึกษำนำเทคโนโลยดี ิจทิ ลั (Digital Technology) มำใช้เปน็ เครื่องมือในกำรจัด กิจกรรมกำรเรียนรู้ให้แก่ผ้เู รยี นได้อยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพ 3. สถำนศึกษำไดร้ ับกำรพฒั นำใหม้ ีมำตรฐำนอยำ่ งเหมำะสมตำมบริบท ดำ้ นประเภท ขนำด และพน้ื ที่ 4. สถำนศึกษำมีระบบกำรดแู ลชว่ ยเหลอื และคุม้ ครองนักเรียนและกำรแนะแนวที่มี ประสิทธภิ ำพ 5. สถำนศกึ ษำทีม่ ีระบบฐำนข้อมลู ประชำกรวยั เรยี นและสำมำรถนำมำใชใ้ นกำรวำงแผนจัดกำร เรียนรู้ใหแ้ ก่ผ้เู รียนได้อยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ มำตรกำรและแนวทำงกำรดำเนินกำร 1. สรำ้ งควำมร่วมมอื กบั องคก์ รปกครองระดับท้องถ่นิ ภำคเอกชน หนว่ ยงำนท่ีเกีย่ วข้องในกำร จัดกำรศกึ ษำให้สอดคล้องกบั บรบิ ทของพื้นท่ี โดยมีแนวทำงกำรดำเนินกำร ดงั นี้ 1.1 สำนกั งำนเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำ (1) ส่งเสริม สนับสนุนใหม้ คี วำมรว่ มมือกบั องค์กรปกครองระดับท้องถนิ่ ภำคเอกชน หน่วยงำนทเี่ กี่ยวขอ้ งในกำรจัดกำรศึกษำใหส้ อดคล้องกับบริบทของพื้นท่ี ตลอดจนกำร กำกับ ติดตำม และประเมนิ ผล (2) จดั ทำฐำนขอ้ มูลประชำกรวยั เรียน เพอ่ื เกบ็ รวบรวม เชอ่ื มโยงขอ้ มลู ศึกษำ วเิ ครำะห์ เพื่อวำงแผนกำรจดั บรกิ ำรกำรเรยี นรู้ให้แก่ผ้เู รียน 1.2 สถำนศึกษำ (1) รว่ มกบั องค์กรปกครองระดบั พน้ื ที่ หนว่ ยงำนที่เก่ยี วขอ้ ง และภำคเอกชน วำงแผนกำรจัดกำรศึกษำให้สอดคล้องเหมำะสมกับบริบทของพืน้ ทร่ี ับผิดชอบ (2) ร่วมมือกับองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน ชุมชน เอกชน และหนว่ ยงำน ที่เกี่ยวข้องระดบั พนื้ ที่ จดั ทำแผนกำรรบั นักเรยี นทุกระดบั ต้ังแตร่ ะดับปฐมวยั ประถมศึกษำ และ มัธยมศึกษำ

65 (3) ร่วมกับองค์กรปกครองระดบั พ้ืนท่ี จัดทำสำมะโนประชำกรวัยเรียน (อำยุ 0-6 ปี) เพือ่ ในไปใช้ในกำรวำงแผนกำรจัดกำรศึกษำ (4) รว่ มกบั องค์กรปกครองระดบั พื้นที่ ตดิ ตำม ตรวจสอบ เด็กวยั เรียนได้ เขำ้ ถงึ บริกำรกำรเรยี นรู้ได้อย่ำงทั่วถึงครบถว้ น (5) ร่วมมือกับองค์กรปกครองระดับพ้ืนท่ี ชุมชน ภำคเอกชน และทกุ ภำคสว่ น บริหำรจัดกำรทรัพยำกรในชุมชนให้สำมำรถใชร้ ว่ มกับไดอ้ ย่ำงมีประสทิ ธิภำพ (6) ร่วมมือกบั องค์กรปกครองระดับพนื้ ที่ จดั อำหำร อำหำรเสริม (นม) ให้ ผเู้ รียนอย่ำงเพียงพอ มีคุณภำพ (7) รว่ มมือกับองค์กรปกครองระดับพนื้ ที่ สนับสนุนใหผ้ ู้เรยี นทีอ่ ย่หู ่ำงไกล ไดเ้ ดินทำงไปเรียนอยำ่ งปลอดภยั ทงั้ ไปและกลบั 2. กำรยกระดบั สถำนศึกษำในสังกดั ทุกระดับและทุกประเภท ใหม้ คี ณุ ภำพและมำตรฐำนตำมบรบิ ท ของพ้นื ที่ โดยมแี นวทำงกำรดำเนนิ กำร ดังน้ี (1) สำนกั งำนเขตพืน้ ท่ีกำรศกึ ษำ จดั ทำมำตรฐำนสถำนศึกษำให้มีคุณภำพในด้ำนต่ำง ๆ เชน่ 1) มำตรฐำนดำ้ นโครงสรำ้ งพ้ืนฐำนและสงิ่ อำนวยควำมสะดวก 2) มำตรฐำนดำ้ นครูและบคุ ลำกร ทำงกำรศึกษำ 3) มำตรฐำนด้ำนระบบควำมปลอดภัยของสถำนศึกษำ 4) มำตรฐำนดำ้ นเทคโนโลยีดจิ ิทัล Digital Technology เป็นตน้ กำรกำหนดมำตรฐำนสถำนศึกษำดำ้ นต่ำง ๆ ดงั กลำ่ วให้พิจำรณำตำม บรบิ ทของสภำพทำงภมู ิศำสตร์ ประเภท และขนำดของสถำนศกึ ษำ เปน็ สำคญั (2) สำนกั งำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำ ส่งเสรมิ สนับสนนุ พัฒนำสถำนศึกษำระดับตำบล ระดับ อำเภอ โรงเรียนขนำดเล็ก และสถำนศึกษำประเภทอ่ืน ใหม้ ีคณุ ภำพ และตำมมำตรฐำนที่กำหนด โดย เนน้ สถำนศกึ ษำระดับตำบล โรงเรยี นขนำดเลก็ ในพ้ืนท่ีห่ำงไกล และโรงเรยี นขนำดเล็กตำมโครงกำร พิเศษ (3) สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำ สง่ เสริม สนบั สนุน กำร ตดิ ตำม ตรวจสอบ ประเมนิ สถำนศึกษำในทุกมติ ิ (4 )สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศกึ ษำ สง่ เสริม สนับสนนุ ใหส้ ถำนศกึ ษำจัดทำแผนงบประมำณ กำรศกึ ษำอยำ่ งอิสระ โดยรับฟงั ควำมคิดเห็นของผู้เก่ียวขอ้ งในพนื้ ท่ีประกอบกำรจดั ทำแผนงบประมำณ กอ่ นเสนอหนว่ ยงำนต้นสงั กดั (5) สำนักงำนเขตพนื้ ที่กำรศกึ ษำ ประสำนควำมร่วมมอื กบั กองทนุ ควำมเสมอภำคทำงกำรศึกษำ เพอ่ื จดั สรรงบประมำณใหเ้ ด็กวยั เรียนกลุม่ ขำดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อลดควำมเหลื่อมลำ้ ทำงกำรศึกษำ (6) สำนักงำนเขตพืน้ ที่กำรศึกษำ สง่ เสริม สนบั สนนุ กระบวนกำรจัดทำแผนงบประมำณ และ ตดิ ตำม กำกับกำรใช้จำ่ ยงบประมำณของสถำนศึกษำให้มปี ระสทิ ธภิ ำพและมคี วำมโปร่งใส 3. กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั (Digital Technology) เป็นเคร่ืองมอื ในกำรพฒั นำคุณภำพ ของผู้เรียน

66 โดยมีแนวทำงกำรดำเนินกำร ดงั นี้ (1) สำนกั งำนเขตพืน้ ท่ีกำรศึกษำ สง่ เสรมิ สนับสนุนใหส้ ถำนศึกษำมีระบบโครงขำ่ ยสื่อสำร โทรคมนำคมทีม่ ีประสิทธิภำพ และมีควำมปลอดภยั สงู (2) สำนกั งำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำ สง่ เสริม สนับสนุน ให้สถำนศกึ ษำมรี ะบบคอมพวิ เตอร์ และ อุปกรณ์ทีใ่ ช้เป็นเครื่องมือในกำรพัฒนำทักษะด้ำนกำรร้ดู ิจิทัล (Digital Literacy) แก่ผเู้ รยี น (3) สำนักงำนเขตพน้ื ท่ีกำรศกึ ษำ สง่ เสริม สนับสนนุ ให้สถำนศกึ ษำปรับปรงุ พัฒนำห้องเรียนให้ เปน็ ห้องเรยี นทีป่ ระยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจทิ ัล (Digital Technology) ในกำรจดั กำรเรียนรู้แกผ่ เู้ รยี น (4) สำนกั งำนเขตพืน้ ท่ีกำรศึกษำ ส่งเสริม สนบั สนนุ อปุ กรณด์ ิจทิ ลั (Digital Device) สำหรับ ผูเ้ รียนทุกระดบั ต้งั แต่ระดบั ปฐมวัย ประถมศึกษำ และมธั ยมศึกษำอยำ่ งเหมำะสม เพ่ือเป็นเครื่องมือใน กำรพัฒนำกำรเรยี นรู้ของตนเองนำไปสู่กำรสรำ้ งกำรเรียนรูอ้ ย่ำงต่อเน่อื งตลอดชีวิต (5) สำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำ สง่ เสรมิ สนบั สนนุ อุปกรณด์ จิ ทิ ัล (Digital Device) และ พัฒนำกำรสอนทักษะดิจิทัล (Digital Pedagogy) สำหรับครูอยำ่ งเหมำะสม เพ่อื เปน็ เครื่องมือในกำรจัด กระบวนกำรเรียนร้เู พื่อพัฒนำผู้เรียนไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพ (6) สำนกั งำนเขตพ้นื ท่ีกำรศกึ ษำ สง่ เสรมิ สนับสนนุ ใหส้ ถำนศึกษำใช้เทคโนโลยกี ำรเรยี นกำร สอนทำงไกล เพ่ือพัฒนำคณุ ภำพผเู้ รยี น (Distance Learning Technology: DLT) กลยทุ ธ์ท่ี 3 ส่งเสรมิ และพัฒนำสมรรถนะ ทักษะกำรจดั กำรเรยี นรู้ของครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ บนพน้ื ฐำนควำมสำมำรถ(Competency Based Development ) เปำ้ ประสงค์ 1. ครู เปลี่ยนบทบำทจำก “ครผู สู้ อน” เป็น “Coach” ผ้ใู หค้ ำปรึกษำข้อเสนอแนะกำรเรยี นรู้ หรอื ผอู้ ำนวยกำรกำรเรียนรู้ 2. ครู มีควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน และเปน็ แบบอยำ่ งด้ำนคณุ ธรรมและ จรยิ ธรรม ตัวช้วี ัด 1. ครู มกี ำรเปลยี่ นบทบำทจำก “ครูผสู้ อน” เปน็ “Coach” ผ้ใู หค้ ำปรกึ ษำข้อเสนอแนะกำร เรยี นรู้หรอื ผูอ้ ำนวยกำรกำรเรียนรู้ 2. ครจู ัดกำรเรียนรทู้ ีใ่ หผ้ ู้เรียนไดเ้ รยี นร้ผู ำ่ นกจิ กรรมกำรปฏิบตั ิจรงิ (Active Learning) 3. ครูจดั กำรเรยี นร้ตู ำมกระบวนกำร 5 ขน้ั ตอน หรือบันได 5 ขัน้ (Independent Study : IS) 4. ครูจัดกำรเรียนรอู้ ย่ำงเปน็ ระบบมงุ่ เนน้ กำรใช้ฐำนควำมรู้และระบบควำมคิดในลกั ษณะ สหวทิ ยำกำร (STEAM Education) เชน่ - ควำมรทู้ ำงวิทยำศำสตร์และกำรต้ังคำถำม - ควำมเขำ้ ใจและควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี - ควำมรทู้ ำงวศิ วกรรม และกำรคิดเพื่อหำทำงแกป้ ัญหำ - ควำมรูแ้ ละทักษะในดำ้ นศิลปะ - ควำมรดู้ ้ำนคณิตศำสตร์และระบบคดิ ของเหตผุ ลและกำรหำควำมสมั พนั ธ์

67 มำตรกำรและแนวทำงกำรดำเนินกำร กำรพฒั นำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ เปน็ มำตรกำรท่สี ำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำ ขัน้ พ้นื ฐำน จะต้องดำเนินกำรเพ่อื ให้ครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำตระหนักถงึ ควำมสำคัญในอำชพี และ หนำ้ ท่ีของตน โดยพฒั นำใหเ้ ป็นครู เปน็ ครยู ุคใหม่ ปรบั บทบำทจำก “ครูผสู้ อน” เปน็ “Coach” หรือ “ผอู้ ำนวยกำรกำรเรียนรู้” ปรับวิธสี อน ให้เดก็ สำมำรถแสดงควำมคดิ เห็น แลกเปล่ยี นเรียนรู้ และ ทำกจิ กรรมในชั้นเรยี น ทำหน้ำทก่ี ระตนุ้ สรำ้ งแรงบันดำลใจ แนะนำวิธีเรยี นร้แู ละวิธจี ัดระเบยี บกำรสร้ำง ควำมรู้ ออกแบบกิจกรรม และสร้ำงนวตั กรรมกำรเรยี นรูใ้ ห้ผ้เู รียน มบี ทบำทเปน็ นักวิจัยพฒั นำ กระบวนกำรเรยี นรู้เพื่อผลสมั ฤทธิ์ของผ้เู รียน โดยมีแนวทำงกำรดำเนินกำร ดงั น้ี (1) สำนกั งำนเขตพน้ื ทกี่ ำรศึกษำ 1.1 ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ใหค้ รู ศกึ ษำวิเครำะห์ ควำมต้องกำรจำเปน็ ในกำรพัฒนำตนเอง (Need Assessment) เพ่ือวำงแผนกำรพฒั นำอย่ำงเปน็ ระบบและครบวงจร 1.2 สำนกั งำนเขตพ้นื ท่ีกำรศึกษำ จดั ใหม้ หี ลักสตู รและกรอบแนวทำงในกำรพฒั นำครู ทเ่ี ชอ่ื มโยงกบั ควำมก้ำวหนำ้ ในวิชำชีพ (Career Path) 1.3 สำนักงำนเขตพน้ื ที่กำรศึกษำ ประสำนควำมร่วมมือกับสถำบนั กำรศึกษำ สถำบันคุรุ พัฒนำ หรือหน่วยงำนอนื่ ๆ เพ่ือให้ครูได้เขำ้ รบั กำรพัฒนำตำมหลักสูตรกำรพัฒนำครแู ละบุคลำกร ทำงกำรศึกษำที่ตรงตำมควำมต้องกำรและควำมขำดแคลน 1.4 สำนกั งำนเขตพืน้ ที่กำรศึกษำ สนบั สนนุ ให้ครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำวำงแผนและ เขำ้ รับกำรพฒั นำตำมหลักสูตรที่กำหนดทเ่ี ช่ือมโยงควำมก้ำวหน้ำในวิชำชีพ (Career Path) 1.5 สำนกั งำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำ ส่งเสริมและพัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำใน รปู แบบชุมชนแหง่ กำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ (Professional Learning Community: PLC) 1.6 สำนกั งำนเขตพ้นื ที่กำรศึกษำ ส่งเสริม และพัฒนำครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ ให้มี ควำมรูท้ ักษะด้ำนกำรร้ดู จิ ิทลั (Digital Literacy) กำรสอนดิจทิ ลั (Digital Pedagogy) ทักษะสื่อสำร ภำษำองั กฤษ ทักษะส่ือสำรภำษำที่ ๓ สอดคล้องกับภำรกิจและหนำ้ ทีข่ องตน 1.7 สำนักงำนเขตพืน้ ท่ีกำรศึกษำ สง่ เสรมิ พัฒนำ และยกระดบั ควำมรู้ภำษำอังกฤษของ ครูที่สอนภำษำอังกฤษ โดยใชร้ ะดับกำรพฒั นำทำงด้ำนภำษำ (Common European Framework of Reference for Languages : CEFR) ตำมเกณฑ์ที่กำหนด 1.8 สำนักงำนเขตพ้นื ที่กำรศึกษำ ส่งเสรมิ และพัฒนำครูให้สำมำรถออกแบบกำรเรียนรู้ กำรจดั กำรเรียนรใู้ หส้ อดคล้องกบั กำรวัดประเมินผลท่เี น้นทักษะกำรคิดขนั้ สงู (Higher Order Thinking) ผำ่ นกิจกรรมกำรปฏบิ ัตจิ ริง (Active Learning) 1.9 สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำ สง่ เสรมิ และพฒั นำครูให้มีควำมรูแ้ ละทกั ษะในกำร จัดกำรเรยี นรสู้ ำหรับผู้เรียนท่ีมีควำมแตกตำ่ ง (Differentiated Instruction) 1.10 สำนักงำนเขตพ้นื ทกี่ ำรศกึ ษำ ส่งเสริมและพัฒนำครูใหม้ ีควำมรแู้ ละทกั ษะในกำร สรำ้ งเคร่ืองมือกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ดำ้ นทักษะกำรคดิ ขัน้ สูง (Higher Order Thinking) 1.11 สำนกั งำนเขตพื้นทก่ี ำรศกึ ษำ ส่งเสริมและพัฒนำครู ให้มคี วำมรคู้ วำมสำมำรถ จัดกำรเรียนรู้ในโรงเรียนขนำดเล็กได้อย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ

68 1.12 สำนกั งำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศึกษำ ส่งเสริมและพัฒนำครใู นกำรจัดกำรเรียนรสู้ ำหรับ ผเู้ รยี นทีม่ คี วำมต้องกำรจำเป็นพเิ ศษ ตำมศักยภำพของผเู้ รียนแตล่ ะบคุ คล และตำมสภำพและประเภท ของควำมพิกำร 1.13 สำนักงำนเขตพ้นื ท่ีกำรศกึ ษำ ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ พฒั นำตนเองผ่ำนระบบ Online และแบบ Face - to - Face Training 1.14 สำนักงำนเขตพืน้ ที่กำรศึกษำ ปรบั ปรงุ ระบบตรวจสอบ ตดิ ตำม และประเมิน ประสิทธภิ ำพและประเมินประสทิ ธผิ ลครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ ให้สอดคลอ้ งกับควำมมงุ่ หมำย และหลกั กำรจดั กำรศึกษำขอ้ กำหนดด้ำนคุณภำพ และแผนกำรศึกษำแหง่ ชำติ 1.15 สำนักงำนเขตพนื้ ทกี่ ำรศึกษำ นำเทคโนโลยีดิจิทลั (Digital Technology) มำเปน็ เครื่องมอื ในกำรบรหิ ำรจดั กำรครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำท้งั ระบบ ตงั้ แต่กำรจัดทำฐำนข้อมลู ครแู ละ บุคลำกรทำงกำรศึกษำ จนถึงกำรพฒั นำครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ โดยมแี นวทำงกำรดำเนนิ กำร ดงั นี้ 1) พฒั นำรปู แบบกำรพัฒนำครูผำ่ นระบบดิจิทลั เพ่ือใชใ้ นกำรพฒั นำผู้บริหำร ครแู ละ บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำทุกประเภททงั้ ระบบ 2) พัฒนำหลักสูตร เนื้อหำดิจิทลั (Digital Content) ในสำขำทีข่ ำดแคลน เชน่ กำร พัฒนำทักษะกำรคิดข้นั สงู กำรจดั กำรศึกษำสำหรบั ผู้เรียนที่มคี วำมต้องกำรจำเป็นพเิ ศษ และผู้เรยี นทมี่ ี ควำมแตกต่ำง เป็นต้น 3) สง่ เสริม สนบั สนนุ ใหผ้ ู้บริหำร ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำทกุ ประเภทพัฒนำ ตนเองอยำ่ งต่อเนือ่ งผ่ำนระบบดิจิทัล 4) พฒั นำแพลตฟอร์มดิจทิ ลั ระบบบริหำรจดั กำรผูบ้ รหิ ำร ครูและบุคลำกรทำงกำร ศึกษำทุกประเภทท้ังระบบ 5) พฒั นำครูให้มีควำมชำนำญในกำรสอนภำษำอังกฤษ และคอมพวิ เตอร์ (Coding)มำตรกำรและแนวทำงกำรดำเนินกำร 2 สถำนศึกษำ (1) สง่ เสรมิ ครใู หจ้ ัดกำรเรยี นรทู้ ใ่ี ห้ผู้เรยี นได้เรียนรผู้ ำ่ นกจิ กรรมกำรปฏบิ ัตจิ ริง (Active Learning) (2) สง่ เสริมครูใหจ้ ัดกำรเรียนรตู้ ำมกระบวนกำร 5 ข้นั ตอน หรือบนั ได 5 ขนั้ (Independent Study : IS) (3) ส่งเสรมิ สนับสนนุ ครใู หจ้ ัดกำรเรยี นรอู้ ย่ำงเป็นระบบมุ่งเนน้ กำรใช้ฐำนควำมรูแ้ ละระบบ ควำมคิดในลักษณะสหวทิ ยำกำร (STEAM Education) เช่น ควำมรทู้ ำงวิทยำศำสตร์และกำรตัง้ คำถำม - ควำมเขำ้ ใจและควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี - ควำมรู้ทำงวิศวกรรม และกำรคดิ เพ่ือหำทำงแก้ปัญหำ - ควำมรแู้ ละทักษะในด้ำนศิลปะ - ควำมรูด้ ้ำนคณิตศำสตรแ์ ละระบบคิดของเหตุผลและกำรหำควำมสัมพันธ์

69 กลยุทธ์ท่ี 4 พัฒนำคุณภำพของสถำนศกึ ษำโดยใชฐ้ ำนควำมรูแ้ ละระบบกำรคดิ ในลักษณะ สหวทิ ยำกำรเพ่ือบรรลุเป้ำหมำยโลกเพ่ือกำรพัฒนำอย่ำงย่ังยืน (SDGs) บนพ้ืนฐำน ควำมพอเพียง เป้ำประสงค์ 1. สถำนศกึ ษำ หรือกลมุ่ สถำนศึกษำ มคี วำมเปน็ อิสระในกำรบรหิ ำรและจดั กำรศกึ ษำ ครอบคลุม ดำ้ นกำรบริหำรวชิ ำกำร ด้ำนกำรบริหำรงบประมำณ ด้ำนกำรบรหิ ำรงำนบุคคล และด้ำนกำร บริหำรงำนทวั่ ไป 2. หน่วยงำนสว่ นกลำง และสำนักงำนเขตพ้ืนท่กี ำรศึกษำ ต้องปรับเปลี่ยนใหเ้ ป็นหน่วยงำนใหม้ ี ควำมทนั สมยั พร้อมทีจ่ ะปรับตวั ใหท้ ันต่อกำรเปลีย่ นแปลงของโลกอยตู่ ลอดเวลำ เปน็ หน่วยงำนทมี่ ี หน้ำทีส่ นบั สนุน สง่ เสรมิ ตรวจสอบ ติดตำม เพ่อื ให้สถำนศึกษำสำมำรถจดั กำรศึกษำได้อยำ่ งมี ประสิทธภิ ำพ 3. หนว่ ยงำนทกุ ระดบั มีควำมโปร่งใส ปลอดกำรทุจรติ และประพฤติมิชอบบรหิ ำรจัดกำรตำม หลักธรรมำภบิ ำล 4. หนว่ ยงำนทุกระดบั มีกระบวนกำร และกำรวธิ งี บประมำณดำ้ นกำรศกึ ษำ เพ่ือเพ่ิมคุณภำพ และประสิทธภิ ำพกำรจัดกำรศึกษำ โดยกำรจัดสรรงบประมำณตรงสผู่ ูเ้ รยี น 5. หน่วยงำนทกุ ระดบั พัฒนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีดจิ ิทลั (Digital Technology) มำใช้ใน กำรเพิ่มประสทิ ธิภำพกำรบริหำรและกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนอยำ่ งเป็นระบบ ตัวชีว้ ดั 1. สถำนศกึ ษำไดร้ ับกำรกระจำยอำนำจกำรบรหิ ำรจดั กำรศึกษำอย่ำงเป็นอิสระ 2. สถำนศึกษำ ไดร้ บั กำรพฒั นำใหเ้ ป็นหน่วยงำนทม่ี ีควำมทันสมยั ยืดหยนุ่ คล่องตวั สงู พรอ้ มที่ จะปรับตัวให้ทนั ต่อกำรเปล่ียนแปลงของโลกอยูต่ ลอดเวลำ สำมำรถจดั กำรศกึ ษำได้อย่ำงมปี ระสิทธิภำพ ครอบคลุมทุกตำบล 3. สถำนศกึ ษำ นำนวตั กรรม และเทคโนโลยดี จิ ิทัล (Digital Technology) มำใช้ในกำรบริหำร จดั กำรและตัดสินใจ ทั้งระบบ 4. สถำนศกึ ษำ มีควำมโปร่งใส ปลอดกำรทจุ ริต และประพฤติมชิ อบ บรหิ ำรจัดกำรตำมหลกั ธรรมำภบิ ำล 5. สถำนศึกษำ ผ่ำนกำรประเมนิ คุณธรรมและควำมโปรง่ ใสในกำรดำเนนิ งำนของหนว่ ยงำน ภำครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) 6. สถำนศึกษำทกุ แหง่ มรี ะบบฐำนข้อมูลสำรสนเทศวิชำกำร ผเู้ รยี น ครู บุคลำกรทำงกำรศึกษำ 7. สถำนศกึ ษำทุกแห่งมขี ้อมลู ผเู้ รียนรำยบุคคลทส่ี ำมำรถเชอื่ มโยงกบั ขอ้ มูลต่ำง ๆ นำไปสู่กำร วิเครำะหเ์ พ่ือวำงแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้สผู่ ูเ้ รียนได้อย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ (Big Data Technology) 8. สถำนศกึ ษำทุกแห่งมีระบบข้อมลู สำรสนเทศท่ีสำมำรถใชใ้ นกำรวำงแผนกำรจัดกำรศึกษำได้ อยำ่ งมปี ระสทิ ธิภำพ

70 มำตรกำรและแนวทำงกำรดำเนนิ กำร 1. ใหส้ ถำนศึกษำ หรือ กลุ่มสถำนศกึ ษำ มีควำมเป็นอิสระในกำรบริหำรจดั กำรศึกษำ เป็น มำตรกำรกระจำยอำนำจใหส้ ถำนศึกษำ หรอื กล่มุ สถำนศึกษำมีควำมเป็นอิสระในกำรบริหำรและจดั กำรศกึ ษำครอบคลุม ดำ้ นกำรบริหำรวชิ ำกำร ด้ำนกำรบริหำรงบประมำณ ดำ้ นกำรบริหำรงำนบุคคล และดำ้ นกำรบรหิ ำรงำนทว่ั ไป โดยดำเนินกำรเปน็ รำยสถำนศึกษำหรือกลุ่มสถำนศึกษำ อำจดำเนนิ กำร เป็นรำยด้ำนหรือทุกดำ้ นได้ โดยมแี นวทำงกำรดำเนนิ กำร ดังนี้ (1) สำนกั งำนเขตพืน้ ทีก่ ำรศกึ ษำ 1.1 ศึกษำ วเิ ครำะห์ หลักเกณฑ์ รปู แบบ หนำ้ ท่ี อำนำจ และโครงสรำ้ งกำร กำกบั ดูแลของสถำนศึกษำ หรอื กลมุ่ สถำนศึกษำ 1.2 ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหส้ ถำนศึกษำ หรือกลุ่มสถำนศึกษำจัดหำเจำ้ หน้ำท่ี เพอ่ื ปฏบิ ัตหิ น้ำท่สี นับสนุนงำนดำ้ นธรุ กำร ดำ้ นกำรเงนิ กำรบญั ชแี ละพสั ดุ และด้ำนบริหำรงำนบุคคล เพ่ือมิใหง้ ำนดังกล่ำวเปน็ ภำระทเี่ กนิ สมควรแก่ครู ผปู้ ฏบิ ตั หิ นำ้ ท่กี ำรจัดกำรเรียนรู้ใหแ้ ก่ผู้เรยี น 1.3 จัดทำแผนปฏิบัตกิ ำรและดำเนินกำรส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนำ สถำนศึกษำหรอื กลมุ่ สถำนศึกษำใหม้ คี วำมเปน็ อสิ ระในกำรบรหิ ำรจดั กำรศกึ ษำ 1.4 สง่ เสรมิ สนับสนนุ ใหโ้ รงเรียนขนำดเลก็ ใหม้ ีระบบกำรบริหำรจัดกำรที่ หลำกหลำย เช่น กำรบริหำรจัดกำรแบบกลมุ่ โรงเรยี น กำรสอนแบบบูรณำกำร คละช้นั เรยี นรวม 1.5 ยกระดับสถำนศกึ ษำให้เปน็ แหล่งเรยี นร้ตู ลอดชวี ติ ของทกุ คนในชมุ ชน เปน็ ศูนยก์ ลำงในกำรพฒั นำทักษะอำชพี และทักษะชีวติ 1.6 นำผลกำรประกันคณุ ภำพกำรศึกษำมำใช้ในกำรวำงแผนกำรปฏิบัตกิ ำร ตรวจสอบตดิ ตำมเพ่อื กำรปรับปรุงพัฒนำสถำนศึกษำให้มีคณุ ภำพและเปน็ ไปตำมมำตรฐำนกำรศึกษำ 1.7 ส่งเสริม สนับสนนุ ใหม้ ีกำรศึกษำ วิเครำะห์ ออกแบบ และพัฒนำรูปแบบ กำรระบบบรหิ ำรจดั กำรศึกษำให้สอดคล้องกับกำรพฒั นำให้สถำนศกึ ษำมีอิสระในกำรบริหำรจดั กำรศกึ ษำ 1.8 จดั อบรม พัฒนำผูบ้ รหิ ำรสถำนศึกษำใหม้ ีคุณสมบัติ สมรรถนะ และ ควำมรู้ควำมเช่ียวชำญ ประสบกำรณ์ทีจ่ ำเปน็ สำหรับกำรปฏบิ ัตหิ น้ำท่ี 1.9 สถำนศึกษำ หรอื กลุ่มสถำนศึกษำไดร้ ับกำรกระจำยอำนำจให้อย่ำงเป็น อิสระในกำรบริหำรและจัดกำรศกึ ษำครอบคลมุ ดำ้ นกำรบรหิ ำรวิชำกำร ด้ำนกำรบริหำรงบประมำณ ดำ้ นกำรบริหำรงำนบุคคล และดำ้ นกำรบรหิ ำรงำนทัว่ ไป โดยดำเนนิ กำรเป็นรำยสถำนศกึ ษำหรอื กลุ่ม สถำนศึกษำ อำจดำเนนิ กำรเป็นรำยดำ้ นหรอื ทุกดำ้ นได้ 1.10 สถำนศกึ ษำ หรือกลมุ่ สถำนศึกษำ มีคณะกรรมกำรสถำนศึกษำของ สถำนศกึ ษำ เพื่อทำหนำ้ ท่สี ง่ เสรมิ สนบั สนนุ กำกับดูแลกจิ กำรและกำรประกันคุณภำพของสถำนศึกษำ

71 2. พฒั นำสำนกั งำนเขตพ้นื ท่ีกำรศกึ ษำ เป็นหน่วยงำนมคี วำมทันสมยั อย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพเปน็ มำตรกำรในกำรเพมิ่ ประสิทธิภำพกำรบรหิ ำรงำนของสำนักงำนเขตพืน้ ที่กำรศกึ ษำ ใหเ้ ป็นหน่วยงำนที่ ทันสมัย พรอ้ มที่จะปรับตวั ให้ทันต่อกำรเปลี่ยนแปลงของโลกอย่ตู ลอดเวลำ มีควำมโปรง่ ใส ปลอดกำร ทุจริต และประพฤตมิ ชิ อบบริหำรจดั กำรตำมหลกั ธรรมำภิบำล เป็นหน่วยงำนท่มี หี นำ้ ท่ีสนบั สนุน สง่ เสริม ตรวจสอบ ตดิ ตำม เพอื่ ให้สถำนศึกษำสำมำรถจดั กำรศึกษำได้อย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ โดยมีแนวทำงกำรดำเนินกำร ดังนี้ (1) ศึกษำ วิเครำะห์ ปรับปรงุ และพัฒนำสำนักงำนเขตพื้นท่กี ำรศึกษำ ใหเ้ ปน็ หน่วยงำนทีท่ ันสมัย มีหน้ำท่ี สนับสนุน กำกับ ตดิ ตำม ตรวจสอบ และประเมินผล สถำนศกึ ษำ เพือ่ กำร บรหิ ำรจัดกำรท่ีมีประสิทธภิ ำพ โดยยดึ หลกั ธรรมำภบิ ำล (2) ใชร้ ะบบกำรบริหำรจัดกำรท่มี งุ่ เนน้ คุณธรรมและควำมโปร่งใสในกำรทำงำนตำม หลักกำรประเมินคุณธรรมและควำมโปร่งใสในกำรดำเนนิ งำนของหนว่ ยงำนภำครฐั (Integrity & Transparency Assessment : ITA) (3) นำนวตั กรรม และเทคโนโลยีดจิ ิทลั (Digital Technology) มำใชใ้ นกำรบริหำรงำน (4) บริหำรจดั กำรเขตพ้นื ทกี่ ำรศกึ ษำโดยใช้พื้นทเ่ี ป็นฐำน (Area-based Management) รูปแบบกำรบรหิ ำรแบบกระจำยอำนำจ “CLUSTERs” (5) ส่งเสรมิ กำรมสี ่วนร่วม จัดทำแผนบูรณำกำรจดั กำรศึกษำในระดับพืน้ ท่ี (6) สร้ำงควำมเขม้ แขง็ ในกำรยกระดับคณุ ภำพกำรศึกษำรูปแบบเครอื ข่ำย เชน่ เครอื ข่ำยสง่ เสรมิ ประสิทธิภำพกำรจัดกำรศึกษำ ศนู ย์พัฒนำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สหวทิ ยำเขต กลุ่ม โรงเรยี น ฯลฯ (7) ส่งเสรมิ ให้ทุกภำคสว่ นของสงั คมมีส่วนร่วมในกำรจดั กำรศึกษำแบบบูรณำกำร ทตี่ อบสนองควำมต้องกำรของประชำชนและพื้นที่ (8) ส่งเสริม สนับสนุน ผู้ปกครอง ชมุ ชน สังคม และสำธำรณชน ใหม้ คี วำมรู้ ควำม เขำ้ ใจ และมสี ่วนรว่ มรับผดิ ชอบ (Accountability) ในกำรบรหิ ำรจัดกำรศกึ ษำ (9) สง่ เสรมิ ใหท้ ุกภำคส่วนของสังคมเข้ำมำมสี ่วนรว่ มสนับสนุนทรัพยำกรเพ่ือกำรศกึ ษำ กลยทุ ธ์ที่ 5 พัฒนำระบบกำรบรหิ ำรจดั กำรองค์กรสคู่ วำมเปน็ เลศิ ดว้ ยวงจรคณุ ภำพมำตรฐำน เป็นฐำน (SPDCA) นวัตกรรมและเทคโนโลยี เปำ้ ประสงค์ 1. สำนกั งำนเขตพน้ื ท่กี ำรศกึ ษำมคี วำมเปน็ อสิ ระในกำรบริหำรและจดั กำรศึกษำครอบคลมุ ดำ้ นกำรบรหิ ำรวชิ ำกำร ด้ำนกำรบริหำรงบประมำณ ดำ้ นกำรบรหิ ำรงำนบคุ คล และด้ำนกำรบรหิ ำรงำน ทั่วไป 2. สำนักงำนเขตพ้นื ทกี่ ำรศกึ ษำ ปรบั เปล่ียนใหเ้ ปน็ หน่วยงำนใหม้ ีควำมทันสมัย พร้อมท่ีจะ ปรับตวั ให้ทนั ตอ่ กำรเปลี่ยนแปลงของโลกอยูต่ ลอดเวลำ เป็นหน่วยงำนที่มีหน้ำท่สี นบั สนุน ส่งเสรมิ ตรวจสอบ ตดิ ตำม เพ่ือใหส้ ถำนศึกษำสำมำรถจัดกำรศึกษำได้อย่ำงมีประสทิ ธิภำพ 3. มคี วำมโปร่งใส ปลอดกำรทจุ ริตและประพฤตมิ ชิ อบ บริหำรจัดกำรตำมหลักธรรมำภิบำล

72 4. มกี ระบวนกำร และกำรจดั กำรข้อมูลสำรสนเทศดำ้ นกำรศกึ ษำ ทีม่ ีคุณภำพและ ประสิทธภิ ำพ 5. พฒั นำนวัตกรรม และเทคโนโลยีดจิ ิทลั (Digital Technology) มำใชใ้ นกำรเพิ่ม ประสิทธิภำพกำรบริหำรและกำรจัดกำรเรียนกำรสอนอยำ่ งเป็นระบบ ตัวชี้วัด 1. สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศกึ ษำ ได้รบั กำรพฒั นำให้เปน็ หน่วยงำนที่มีควำมทนั สมัย ยืดหย่นุ คล่องตัวสูง พร้อมที่จะปรับตัวให้ทนั ตอ่ กำรเปลย่ี นแปลงของโลกอยูต่ ลอดเวลำ เป็นหน่วยงำนทีม่ ีหน้ำที่ สนบั สนุน สง่ เสริม ตรวจสอบ ตดิ ตำม เพ่ือให้สถำนศึกษำสำมำรถจัดกำรศึกษำได้อย่ำงมีประสทิ ธิภำพ ครอบคลุม 2. สำนกั งำนเขตพ้ืนท่กี ำรศึกษำ นำนวตั กรรม และเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั (Digital Technology) มำ ใชใ้ นกำรบริหำรจดั กำรและตัดสนิ ใจ ทง้ั ระบบ 3. สำนกั งำนเขตพ้นื ท่กี ำรศกึ ษำ มีควำมโปรง่ ใส ปลอดกำรทจุ ริต และประพฤติมชิ อบ บรหิ ำร จดั กำรตำมหลกั ธรรมำภิบำล ผำ่ นกำรประเมนิ คณุ ธรรมและควำมโปร่งใสในกำรดำเนินงำนของ หน่วยงำนภำครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) 4. สำนักงำนเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำ มีระบบฐำนขอ้ มลู สำรสนเทศวชิ ำกำร ผู้เรยี น ครู บคุ ลำกร ทำงกำรศกึ ษำ สถำนศึกษำ หนว่ ยงำนในสังกัด 5. มีข้อมลู ผู้เรยี นรำยบุคคลที่สำมำรถเชื่อมโยงกบั ข้อมูลตำ่ ง ๆ นำไปสู่กำรวิเครำะห์เพือ่ วำง แผนกำรจัดกำรเรียนรสู้ ผู่ เู้ รียนไดอ้ ย่ำงมีประสทิ ธิภำพ (Big Data Technology) 6. มีแพลตฟอรม์ ดจิ ิทลั (Digital Platform) เพ่ือสนับสนุนภำรกิจด้ำนบริหำรจดั กำรศึกษำ 7. มีระบบข้อมลู สำรสนเทศท่ีสำมำรถใช้ในกำรวำงแผนกำรจดั กำรศกึ ษำไดอ้ ย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ มำตรกำรและแนวทำงกำรดำเนินกำร 1. พฒั นำสำนกั งำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ เปน็ หน่วยงำนมีควำมทันสมยั อย่ำงมีประสิทธภิ ำพ เป็นมำตรกำรในกำรเพ่ิมประสิทธภิ ำพกำรบรหิ ำรงำนของสำนักงำนทัง้ ระดบั สำนักงำน สว่ นกลำง และสำนกั งำนเขตพ้นื ที่กำรศึกษำ ให้เปน็ หนว่ ยงำนทที่ นั สมัย พร้อมทจี่ ะปรบั ตัวใหท้ นั ต่อกำร เปล่ยี นแปลงของโลกอยตู่ ลอดเวลำ มีควำมโปร่งใส ปลอดกำรทุจริต และประพฤติมชิ อบ บรหิ ำรจดั กำร ตำมหลกั ธรรมำภิบำล เป็นหนว่ ยงำนทม่ี ีหนำ้ ทส่ี นับสนุน ส่งเสริม ตรวจสอบ ติดตำม เพ่ือให้สถำนศึกษำ สำมำรถจัดกำรศกึ ษำได้อย่ำงมีประสทิ ธิภำพ โดยมแี นวทำงกำรดำเนนิ กำร ดงั นี้ (1) ศึกษำ วเิ ครำะห์ ปรบั ปรุง และพัฒนำสำนักงำนเขตพ้นื ท่ีกำรศึกษำ ให้เปน็ หนว่ ยงำนที่ ทนั สมยั มีหนำ้ ท่ี สนับสนนุ กำกบั ตดิ ตำม ตรวจสอบ และประเมนิ ผล สถำนศึกษำ เพอื่ กำรบริหำร จัดกำรท่มี ปี ระสิทธิภำพ โดยยึดหลักธรรมำภิบำล (2) ใชร้ ะบบกำรบรหิ ำรจัดกำรท่ีมงุ่ เนน้ คุณธรรมและควำมโปร่งใสในกำรทำงำนตำมหลกั กำร ประเมินคุณธรรมและควำมโปร่งใสในกำรดำเนนิ งำนของหน่วยงำนภำครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA)

73 (3) สำนกั งำนเขตพน้ื ที่กำรศกึ ษำนำนวัตกรรม และเทคโนโลยดี จิ ิทัล (Digital Technology) มำ ใชใ้ นกำรบรหิ ำรงำน (4) สง่ เสริมกำรบริหำรจดั กำรเขตพน้ื ทก่ี ำรศึกษำโดยใชพ้ ื้นท่ีเป็นฐำน (Area-based Management) รูปแบบกำรบรหิ ำรแบบกระจำยอำนำจ “CLUSTERs” (5) ส่งเสริม กำรมสี ว่ นร่วม จัดทำแผนบูรณำกำรจัดกำรศกึ ษำในระดับพน้ื ท่ี (6) สร้ำงควำมเข้มแข็งในกำรยกระดับคุณภำพกำรศึกษำรูปแบบเครอื ขำ่ ย เชน่ กลุม่ โรงเรยี น เครือข่ำยสง่ เสรมิ ประสิทธิภำพกำรจดั กำรศึกษำ ศูนย์พัฒนำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ (7) สง่ เสรมิ ให้ทุกภำคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมในกำรจดั กำรศึกษำแบบบูรณำกำรทตี่ อบสนอง ควำมต้องกำรของประชำชนและพืน้ ท่ี (8) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ผูป้ กครอง ชมุ ชน สงั คม และสำธำรณชน ให้มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ และมี ส่วนร่วมรับผดิ ชอบ (Accountability) ในกำรบรหิ ำรจัดกำรศกึ ษำ (9) สง่ เสรมิ ให้ทุกภำคส่วนของสังคมเข้ำมำมสี ่วนรว่ มสนบั สนนุ ทรพั ยำกรเพ่ือกำรศึกษำ 2. พฒั นำนวตั กรรม เทคโนโลยีดจิ ิทลั (Digital Technology) และระบบกำรทำงำนทเี่ ป็น ดจิ ิทัลเข้ำมำประยุกต์ใชอ้ ยำ่ งคุ้มคำ่ และเกิดประโยชน์สูงสดุ เปน็ มำตรกำรในกำรประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทลั (Digital Technology) มำใช้ ในกำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรบริหำรอย่ำงเปน็ ระบบ นำไปสู่กำรนำเทคโนโลยกี ำรวิเครำะห์ข้อมลู ขนำด ใหญ่ (Big Data Technology) เพื่อเชอื่ มโยงข้อมูลด้ำนต่ำง ๆ ตง้ั แตข่ ้อมลู ผู้เรยี น ข้อมูลครู ขอ้ มลู สถำนศึกษำ ข้อมลู งบประมำณ และข้อมูลอ่นื ๆ ท่ีจำเปน็ มำวเิ ครำะหเ์ พื่อใหส้ ถำนศึกษำสำมำรถจดั กำร เรียนรูเ้ พ่อื พฒั นำผเู้ รยี นเปน็ รำยบคุ คลตำมสมรรถนะ และควำมถนดั และสำมำรถวเิ ครำะหเ์ ป็นข้อมูล ในกำรวำงแผนกำรพัฒนำทรัพยำกรมนุษย์ของประเทศ นำ Cloud Technology มำใหบ้ รกิ ำร แกส่ ถำนศึกษำในสงั กดั และพัฒนำแพลตฟอร์มดจิ ทิ ัล (Digital Platform) ระบบบริหำรงำนสำนักงำน เช่น ระบบแผนงำนและงบประมำณ ระบบบัญชี ระบบพัสดุ ระบบสำรบรรณ เป็นตน้ เพ่ือเจ้ำหน้ำท่ี สำมำรถใช้ในกำรปฏิบัตงิ ำนไดอ้ ย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ เชอื่ งโยงกนั ทง้ั องค์กร โดยมีแนวทำงกำรดำเนนิ กำร ดงั นี้ (1) ศึกษำ วิเครำะห์ นำ Cloud Technology มำให้บริกำรหน่วยงำนในสังกัดทุกระดับท้งั ใน รปู แบบ Private Cloud Hybridge Cloud และ public Cloud (2) ศึกษำ วิเครำะห์ นำ Big Data Technology มำใชใ้ นกำรเชือ่ มโยงข้อมลู ของนักเรียนใน ฐำนขอ้ มูลต่ำง ๆ เพ่ือนำมำวิเครำะห์ คุณภำพของผ้เู รยี นในมติ ติ ำ่ ง ๆ (3) พัฒนำแพลตฟอร์มดิจทิ ลั (Digital Platform) เพอื่ สนบั สนนุ ภำรกิจดำ้ นบรหิ ำรจดั กำรศกึ ษำท้งั ระบบพรอ้ มให้บรกิ ำร (Services) เช่ือมโยงข้อมูล เพ่ือแลกเปล่ียนและบูรณำกำรข้อมลู ภำครฐั ทัง้ ภำยในและนอกสังกัด (4) พัฒนำระบบฐำนข้อมลู ทรัพยำกรบุคคลทีส่ ำมำรถเชอ่ื มโยง และบรู ณำกำรข้อมูลดำ้ นกำร พัฒนำทรัพยำกรมนุษยร์ ะหว่ำงกระทรวงหนว่ ยงำนทเ่ี กย่ี วขอ้ ง โดยกำรเช่ือมโยงข้อมลู รำยบคุ คลที่ เกี่ยวกบั กำรศกึ ษำ กำรพฒั นำตนเอง ทมี่ ีประสทิ ธิภำพ

74 ส่วนท่ี 3 รำยละเอยี ดโครงกำร กจิ กรรม งบประมำณ ปงี บประมำณ พ.ศ. 2563 สำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำพจิ ติ ร เขต 1 ไดร้ บั จัดสรรงบประมำณ ซ่ึงสำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พืน้ ฐำนไดจ้ ัดสรรงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปีงบประมำณ พ.ศ.2563 (งบประมำณปี พ.ศ. 2562 ไปพลำงกอ่ น) เพื่อกำรบรหิ ำรสำนกั งำนเขต พืน้ ทกี่ ำรศกึ ษำ คร้งั ท่ี 1 จำนวน 1,500,000 บำท และงบประมำณท่ีคำดวำ่ จะไดร้ ับกำรจัดสรร ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2563 จำนวน 5,000,000 บำท จำแนกกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณประจำปี พ.ศ. 2563 เปน็ รำยไตรมำศดังนี้ งบประจำ แผนกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณประจำปี พ.ศ. 2563 รวม หมำย ไตรมำส 1 ไตรมำส 2 ไตรมำส 3 ไตรมำส 4 เหตุ ท่ี รำยกำร 270,000 300,000 300,000 300,000 1,170,000 1 ค่ำสำธำรณปู โภค 20,000 30,000 30,000 40,000 120,000 2 ค่ำซอ่ มแซมครภุ ณั ฑก์ ลำง 3,000 12,000 15,000 3 ค่ำต่อพ.ร.บ.รถยนตร์ ำชกำร 20,000 20,000 4 คำ่ ซอ่ มแซมยำนพำหนะและขนส่ง 10,000 50,000 50,000 110,000 5 ค่ำวัสดุกลำงและวสั ดกุ จิ กรรมวนั สำคญั 15,000 15,000 15,000 15,000 60,000 6 ค่ำเบ้ียประชุมคณะกรรมกำร กตปน. 50,000 50,000 7 สนบั สนนุ ประสบภัยธรรมชำติ ของโรงเรยี น 35,000 35,000 8 สนับสนุนประสิทธิภำพกำรดำเนนิ งำน 149,680 200,000 97,500 117,835 565,015 ของสถำนศึกษำ 180,000 300,000 300,000 300,000 1,080,000 9 คำ่ ใช้จำ่ ยในกำรบริหำรจดั กำร สพป. พิจติ ร เขต 1 (งบกลำง) 10,000 10,000 24,000 24,000 50,000 50,000 10 ค่ำใช้จ่ำยอืน่ ๆ ตำมควำมจำเป็น 50,000 50,000 -คำ่ จำ้ งลูกจำ้ งช่วั ครำวจำนวน 6 คน 10,000 30,000 11 ค่ำเช่ำพ้นื ท่ีเวป็ ไซต์ 50,000 150,000 12 ค่ำนำ้ มันเชือ้ เพลิง 752,680 905,000 852,500 968,835 3,479,015 13 คำ่ ซอ่ มรถยนต์ 14 คำ่ ใช้จ่ำยในกำรไปรำชกำรของ ขำ้ รำชกำร รวม โครงกำร

75 ที่ โครงกำร แผนกำรใชจ้ ำ่ ยงบประมำณประจำปี พ.ศ. 2563 รวม หมำย 1 ศลิ ปหตั ถกรรมนักเรยี น คร้งั ท่ี 69 ไตรมำส 1 ไตรมำส 2 ไตรมำส 3 ไตรมำส 4 470,920 เหตุ 470,920 100,000 ปีกำรศึกษำ 2562 100,000 2 กำรแข่งขันกีฬำ-กรฑี ำนกั เรยี น 155,000 50,000 35,000 35,000 35,000 50,000 สำนักงำนเขตพ้ืนทก่ี ำรศึกษำ 50,000 ประถมศึกษำพิจติ ร เขต 1 11,080 ปกี ำรศึกษำ 2562 11,080 300,000 3 โครงกำรนเิ ทศเพื่อพัฒนำกำรบรหิ ำร 39,600 องค์กรสู่ควำมเป็นเลศิ ดวยวงจรคณุ ภำพ 300,000 มำตรฐำนเป็นฐำน (SPDCA) 5,100 4 ประชุมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ำรกำรจัดทำ 13,200 13,200 13,200 4,800 แผนพัฒนำกำรศกึ ษำ 3 ปี (พ.ศ. 2563- 5,100 10,000 2565) และแผนปฏบิ ัติกำรประจำปี 21,600 งบประมำณ พ.ศ. 2563 สำนกั งำน 10,000 3,600 1,200 เขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศกึ ษำพจิ ติ ร 21,600 26,200 เขต 1 1,194,300 5 รำยงำนผลตำมแผนปฏิบัตกิ ำรประจำปี 692,000 351,800 54,500 26,200 งบประมำณ 2562 96,000 6 กำรจัดงำนชมุ นมุ ลูกเสอื สำมญั สำนกั งำนเขตพื้นทกี่ ำรศกึ ษำ ประถมศึกษำพจิ ติ ร เขต 1 7 สง่ เสริมกำรมีรำยไดร้ ะหว่ำงเรียน “นัดนเ้ี พอ่ื น้อง 8 นเิ ทศโรงเรียนเครอื ขำ่ ยลูกเสอื สำนกั งำนเขตพื้นทกี่ ำรศึกษำ ประถมศกึ ษำพจิ ติ ร เขต 1 9 พฒั นำเสรมิ สรำ้ งควำมเขม้ แข็งระบบ กำรดูแลช่วยเหลือนักเรยี น 10 กำรจัดงำนวันสมเดจ็ พระมหำธีรรำชเจำ้ ประจำปี 2562 11 พธิ ีมอบเครือ่ งรำชอสิ รยิ ำภรณข์ อง ข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกร ในสังกัด สำนักงำนเขตพ้นื ท่ีกำรศึกษำ ประถมศึกษำพจิ ติ ร เขต 1 12 ประชมุ ชแ้ี จงสวสั ดิกำรข้ำรำชกำรครู และบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ ยอดยกไป ที่ โครงกำร แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณประจำปี พ.ศ. 2563 รวม หมำย ไตรมำส 1 ไตรมำส 2 ไตรมำส 3 ไตรมำส 4 เหตุ

76 ยอดยกมำ 692,000 351,800 54,500 96,000 1,194,300 13 ประเมินสัมฤทธผิ ลกำรปฏิบตั งิ ำนใน 1,785 10,420 6,415 10,420 6,415 24,900 4,760 หนำ้ ที่ผูอ้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำที่บรรจุ 4,215 34,090 5,400 12,830 และแตง่ ต้ังใหมใ่ น สำนักงำนเขตพน้ื ท่ี 698,000 19,400 2,240 10,400 6,545 กำรศกึ ษำประถมศกึ ษำพจิ ติ ร เขต 1 21,040 14 ประเมินประสิทธิภำพผลกำรดำเนนิ งำน 4,215 4,215 1,600 34,090 ของโรงเรยี นในสังกัด สำนกั งำนเขตพ้ืนที่ 426,340 112,295 4,230 กำรศึกษำประถมศกึ ษำพิจติ ร เขต 1 123,405 19,400 15 บริหำรอัตรำกำลงั ข้ำรำชกำรครูและ 10,400 บุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ ประจำปี งบประมำณ พ.ศ. 2563 ของ สำนักงำน 24,900 เขตพน้ื ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศึกษำพจิ ิตร 5,400 เขต 1 2,240 16 พฒั นำผอู้ ำนวยกำรสถำนศึกษำทบ่ี รรจุ 22,640 และแต่งตง้ั ใหม่ ในสงั กดั สำนกั งำน 16,875 เขตพนื้ ทกี่ ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำพจิ ิตร 1,360,040 เขต 1 โดยทมี ที่ปรึกษำและพีเ่ ลี้ยง (Coaching Team) 17 กำรพจิ ำรณำกำรยำ้ ยขำ้ รำชกำรครแู ละ บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ 18 ส่งเสริมและยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ ข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำร ศกึ ษำ ในสงั กดั สำนักงำนเขตพน้ื ที่ กำรศกึ ษำประถมศกึ ษำพจิ ติ ร เขต 1 19 ประชมุ เชงิ ปฏบิ ัติกำรและปฐมนเิ ทศกำร เตรยี มควำมพรอ้ มและพัฒนำอย่ำงเข้ม ตำแหน่งครผู ู้ช่วยบรรจุใหม่ 20 พฒั นำศักยภำพพ่เี ลย่ี งเด็กพิกำร 21 กำรส่งเสริมและพฒั นำระบบประกนั คณุ ภำพกำรศกึ ษำภำยในสถำนศกึ ษำ ปี 2563 22 พฒั นำประสทิ ธภิ ำพกำรปฏบิ ตั งิ ำนดำ้ น งบประมำณ 23 ประชมุ ผบู้ ริหำรสถำนศกึ ษำและ ผู้บรหิ ำรสำนกั งำน สำนักงำนเขตพื้นท่ี กำรศกึ ษำประถมศึกษำพจิ ติ ร เขต 1 ยอดยกไป

77 ท่ี โครงกำร แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณประจำปี พ.ศ. 2563 รวม หมำย ยอดยกมำ ไตรมำส 1 ไตรมำส 2 ไตรมำส 3 ไตรมำส 4 เหตุ 698,000 426,340 112,295 123,405 1,360,040 24 เสรมิ สร้ำงประสทิ ธิภำพมำตรฐำน 3,125 สำนักงำนเขตพน้ื ท่กี ำรศกึ ษำและกำร 1,562 1,563 ปฏบิ ัติงำนตำมคำรับรองกำรปฏิบตั ิ 8,000 8,000 รำชกำร KRS 18,720 18,720 28,600 25 พฒั นำกำรบรหิ ำรองค์กรสคู่ วำมเป็นเลศิ 28,600 ดว้ ยวงจรคณุ ภำพมำตรฐำนเปน็ ฐำน (SPDCA) 26 ประเมินสัมฤทธผิ ลกำรปฏบิ ตั ิงำนใน หน้ำทผ่ี ู้อำนวยกำรสำนกั งำนเขตพน้ื ที่ กำรศกึ ษำประถมศกึ ษำและกำรประเมิน มำตรฐำนสำนักงำนเขตพนื้ ทกี่ ำรศกึ ษำ 27 วิจัยการพฒั นาการปฏบิ ตั งิ านของ บุคลากรทางการศึกษาในสงั กัด สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษา ประถมศกึ ษาพิจิตร เขต 1 28 โครงกำรค่ายภาษาองั กฤษสาหรับนกั เรยี น 102,500 102,500 ตามแนวทาง Boot Camp รวมท้ังส้ิน 753,320 427,902 214,795 124,968 1,520,985

78 สว่ นที่ 4 กำรบรหิ ำรแผนสู่กำรปฏบิ ัติ กำรจดั ทำแผนปฏบิ ัติกำรประจำงบประมำณ พ.ศ. 2563 เป็นเครื่องมือสำคัญกำรปฏิบตั ิงำน เพ่ือให้ บรกิ ำรกำรศึกษำท่เี ช่อื มโยงสอดคล้องกบั นโยบำยรัฐบำล กระทรวงศึกษำธิกำร สำนักงำน คณะกรรมกำร กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน และหนว่ ยงำนทเี่ ก่ียวขอ้ ง ดำเนนิ กำรตำมแผนเกดิ ประสทิ ธภิ ำพ และประสทิ ธิผล บรรลุตำมเป้ำหมำยท่ีกำหนด สำนกั งำนเขตพนื้ ที่กำรศกึ ษำประถมศึกษำพิจิตร เขต 1 สำมำรถใชแ้ ผนเป็นเครื่องมือในกำรบรหิ ำรจัดกำรขบั เคล่ือนนโยบำยสกู่ ำรปฏิบัติ ดงั น้ี 1. กำรสร้ำงควำมตระหนกั ให้บุคลำกรท่ีเก่ียวข้องทุกฝ่ำยทุกระดับ เกิดควำมตระหนักและเห็น ควำมสำคญั ของกำรจดั ทำแผน โดยกระบวนกำรจดั ทำเอกสำรประชำสมั พันธแ์ ละกำรประชมุ ชแ้ี จง 2. พัฒนำศกั ยภำพบคุ ลำกร ดำ้ นกำรจัดทำแผนฯ ให้แก่ผบู้ ริหำรโรงเรยี นตลอดจนบุคลำกรที่ รับผดิ ชอบในกำรจัดทำแผนฯทุกระดับให้มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจในกระบวนกำรวำงแผน และกำรจดั ทำ แผนปฏบิ ัติกำรประจำปีงบประมำณ พ.ศ.2563 โดยกำรจดั ทำเอกสำรเผยแพร่และจัดประชุมสัมมนำกำร จัดทำแผนแก่บุคลำกรที่เกีย่ วข้อง 3. กำรจดั ทำแผนปฏิบัติกำรประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2563 โดยกระบวนกำรมีส่วนรว่ มจำก ระดบั เขตพื้นท่ีกำรศึกษำ ระดับสถำนศกึ ษำ เพ่ือให้เกิดควำมตระหนัก และกำรมสี ว่ นร่วม 4. กำรนำเสนอแผนปฏิบัติกำรประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2563 เพื่อขอควำมเห็นชอบต่อ ศกึ ษำธกิ ำรจงั หวดั ได้พจิ ำรณำควำม เหมำะสมและควำมเปน็ ไปไดข้ องแผน 5. กำรสร้ำงควำมเขำ้ ใจ และกำรเผยแพร่ประชำสัมพนั ธ์แผนฯ เพ่อื ใหเ้ กดิ ควำมเขำ้ ใจ และ ใหค้ วำมรว่ มมือสนับสนนุ จำกทุกภำคสว่ น รวมถงึ กำรส่งแผนปฏบิ ัติกำรประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2563 ให้หน่วยงำน,เครือขำ่ ยคณุ ภำพกำรศกึ ษำและสถำนศกึ ษำใช้เป็นกรอบแนวทำงในกำรดำเนินกำร 6. กำรแตง่ ต้ังผรู้ ับผดิ ชอบในกำรขบั เคล่อื นแผนงำนโครงกำรตำมแผนปฏิบัตกิ ำรประจำปี งบประมำณ พ.ศ. 2563 โดยมีผรู้ ่วมรบั ผิดชอบทงั้ ระดบั เขตพืน้ ที่กำรศกึ ษำ และระดับสถำนศึกษำ ตลอดจน มีผู้แทนจำกภำคสว่ นต่ำง ๆ เขำ้ มำมสี ่วนร่วมในกำรขับเคล่อื นแผนสู่กำรปฏบิ ตั ิ 7. กำรนเิ ทศ ติดตำม กำกับ กำรดำเนนิ กำรตำมแผน โดยต้ังคณะนิเทศ ติดตำม กำกับกำร ดำเนนิ กำรจำกภำคส่วนตำ่ ง ๆ เพอื่ ติดตำมควำมก้ำวหนำ้ และให้คำแนะนำกำรดำเนินกำร ตลอดจน เสนอแนะแนวทำงในกำรพฒั นำ ปรับปรุงและแกไ้ ขปญั หำในกำรดำเนนิ กำร 8. กำรรำยงำนผลกำรดำเนนิ กำร เพื่อใหก้ ำรขับเคลื่อนแผนมีควำมต่อเนือ่ ง จึงใหม้ ีกำรรำยงำน ผล กำรจดั ทำเอกสำรรำยงำนสรปุ ผลกำรดำเนนิ กำรตำมแผนปฏิบัติกำรประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2563 เพอ่ื สรปุ ผลกำรดำเนินกำรท้ังหมดท้ังทเี่ ป็นจุดเด่น จดุ ดอ้ ย ปัญหำ อปุ สรรค ข้อเสนอแนะเพอ่ื ใช้ เป็น แนวทำงในกำรวำงแผนในปตี ่อไป

79 นำงผกำภรณ์ พลำยสงั ข์ ท่ีปรกึ ษำ นำงสำวบญุ ครอง กลุ ดี ผูอ้ ำนวยกำรสำนักงำนเขตพ้นื ที่กำรศึกษำประถมศึกษำพจิ ิตร เขต 1 เขต 1 รองผ้อู ำนวยกำรสำนกั งำนเขตพืน้ ที่กำรศึกษำประถมศึกษำพจิ ิตร 1. นำยสุเทพ บุญวัฒน์ คณะทำงำน 2. นำงจันจิรำ แพทองคำ 3. นำงรจนำ เจรญิ สุข ผอู้ ำนวยกำรกล่มุ นโยบำยและแผน 4. นำงสำววัชรี บุญโสภำ นกั วิชำกำรศกึ ษำชำนำญกำรพิเศษ 5. นำงสำววริ ยิ ำ มไี ชโย นักวิเครำะห์นโยบำยและแผนชำนำญกำรพิเศษ นักวิเครำะห์นโยบำยและแผนปฏิบัติกำร เจ้ำพนักงำนธุรกำรปฏบิ ตั งิ ำน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook