ชนดิ ของการใหอ้ อกซเิ จน อปุ กรณ์ใหก้ า๊ ซออกซเิ จนระบบความเขม้ ขน้ สงู (High flow system) 1. Venturi mask ( Mask without bag) 2. Tent - Face tent - Croupette tent - Hood or Oxygen box or Hut tents 3. Oxygen T - Piece 4. Tracheostomy collar 51
การพยาบาลผปู้ ่ วยทีไดร้ บั ออกซเิ จนทางnasal cannular • เป็ นการใหอ้ อกซเิ จนทางจมกู โดยการใชท้ อ่ พลาสตกิ (vinyl plastic) มคี ณุ สมบตั อิ อ่ นนุ่ม ไมท่ ําอนั ตรายตอ่ จมกู ไมม่ กี ลิน ลกั ษณะของทอ่ จะมี 2 เขียว สอดเขา้ รจู มกู ทังสอง ยาวประมาณ ¼ -1/2 และมสี ายคลอ้ งกบั ใบหู 2 ขา้ ง หรอื รอบศรี ษะ **อตั ราการไหลของกา๊ ซออกซเิ จน 1 – 6 ลติ ร/นาที **ความเขม้ ขน้ ของกา๊ ซออกซเิ จนทีไดร้ ับ (%O2) 24 – 44 52
อตั ราการไหลและความเขม้ ขน้ ของออกซเิ จน Flow(LPM) Percentage 1 21-24 2 24-28 3 28-32 4 32-36 5 36-40 6 40-44 53
การพยาบาลผปู้ ่ วยทีไดร้ บั ออกซเิ จนทาง nasal cannular • ขอ้ ดี 1. ไมย่ งุ่ ยาก สะดวก ใชบ้ อ่ ย ผปู ้ ่ วยพอใจ 2. พดู คยุ ได ้ ดืมนํา หรอื รับประทานอาหารได ้ 3. กรณีผปู ้ ่ วยหายใจทางปากกา๊ ซออกซเิ จนผา่ นระบบ ทางเดนิ หายใจได ้ 4. ใชไ้ ดก้ บั ผปู ้ ่ วยโรคปอกอดุ กันเรือรัง (Chronic obstructive pulmonary disease) ไดแ้ ก่ โรค หลอดลมอดุ กันเรือรังและถงุ ลมโป่ งพอง 54
การพยาบาลผปู้ ่ วยทีไดร้ บั ออกซเิ จนทาง nasal cannular • ขอ้ เสยี 1. ระคายเคอื งชอ่ งจมกู กรณีชอ่ งจมกู อดุ ตนั ใชไ้ มไ่ ด ้ 2. การใหม้ ากกวา่ 5 – 6 ลติ รตอ่ นาที ความเขม้ ขน้ ของกา๊ ซ ออกซเิ จนในโพรงจมกู จะเกนิ ความพอดที ําใหป้ วดโพรง จมกู เลอื ดกําเดาออก ปวดแกว้ หู กลอ่ งเสยี งหดเกร็ง ควร เลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ชนดิ อืน 55
ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการดแู ลผปู้ ่ วยทีไดร้ บั ออกซเิ จนทางnasal cannular 1. ตอ่ cannular เขา้ กบั ทอ่ นําออกซเิ จน เปิดออกซเิ จนไว ้ 2-4 ลติ ร เพือชว่ ยใหผ้ ปู ้ ่ วยไดร้ ับออกซเิ จนทนั ทที ีสวมเขียวในรจู มกู ทัง 2 ขา้ ง 2. สวมเขียวเขา้ ในชอ่ งจมกู ทัง 2 ขา้ ง คลอ้ งสายกบั ใบหู 2 ขา้ ง ปรับ สายใหพ้ อดบี รเิ วณใตค้ างเพือใหอ้ ยตู่ ําแหน่งถกู ตอ้ งป้องกนั การ เลือนหลดุ 3. ปรับอตั ราการไหลของออกซเิ จนใหไ้ ดท้ ังปรมิ าณทีตอ้ งการเพราะ ถา้ ออกซเิ จนนอ้ ยเกนิ ไป ผปู ้ ่ วยจะไดร้ ับออกซเิ จนไมเ่ พยี งพอ ปรมิ าณมากเกนิ ไปจะทําใหเ้ ยือบชุ อ่ งจมกู แหง้ เกดิ การระคายเคอื ง และมอี าการปวดในโพรงจมกู 4. ถอด cannular เพือทําความสะอาดทอ่ รจู มกู ทกุ 8 ชัวโมง เพือให ้ ชอ่ งจมกู โลง่ ได ้ O2ปรมิ าณถกู ตอ้ งมากทีสดุ เพราะการให ้ cannular ตดิ ตอ่ กนั นานๆ จะทําใหเ้ ยือบใุ นจมกู มอี าการระคาย เคอื ง และมนี ําคดั หลังอดุ ตนั ทอ่ ได ้ 56
การพยาบาลผปู้ ่ วยทีไดร้ บั ออกซเิ จนทาง mask • เป็ นอปุ กรณ์ทําดว้ ยพลาสตกิ ใส เบา รปู แบคลา้ ยหนา้ กาก สําหรับครอบปากและจมกู มสี ายยางยดึ ใหพ้ อดรี อบ ศรี ษะ ดา้ นขา้ งหนา้ กากมรี รู ะบายอากาศทีหายใจออกและให ้ อากาศจากภายนอกเขา้ มาผสมไดใ้ นขณะหายใจเขา้ แบง่ เป็ น 3 ชนดิ คอื 1. Simple face mask ( Mask without bag) ชนดิ ไมม่ ถี งุ 2. partial rebreathing mask 3. Non- rebreathing mask 57
1.Simple face mask ( Mask without bag) • เป็ นอปุ กรณ์ทําดว้ ยพลาสตกิ ใส เบา คลา้ ยหนา้ กากสําหรับ ครอบปากและจมกู มสี ายยางยดึ ใหพ้ อดรี อบศรี ษะ ดา้ นขา้ ง หนา้ กากมรี รู ะบายอากาศทีหายใจออกและใหอ้ ากาศจาก ภายนอกเขา้ มาผสมไดใ้ นขณะหายใจเขา้ อปุ กรณ์ชนดิ นีไมม่ ถี งุ สํารองกา๊ ซชอ่ งวา่ งของหนา้ กากเป็ นทีเก็บออกซเิ จนเพิมเตมิ จากโพรงจมกู ทําให ้ FiO2 สงู กวา่ Nasal Cannular 58
1.Simple face mask ( Mask without bag) ขอ้ ดี 1. ไมร่ ะคายเคอื งเยือบชุ อ่ งจมกู 2. ความเขม้ ขน้ ของกา๊ ซออกซเิ จนทีไดร้ ับคอ่ นขา้ งสงู ขอ้ เสยี 1. ผปู ้ ่ วยไมส่ ขุ สบาย อดึ อดั 2. ไมส่ ามารถดืมนําและรับประทานอาหารไดส้ ะดวก ตอ้ งถอด หนา้ กาก 3. การใหก้ า๊ ซออกซเิ จนปรมิ าณมากทําใหก้ า๊ ซออกซเิ จนไหลออก รดู า้ นขา้ ง ระคายเคอื งเยือบนุ ัยนต์ า ตาแหง้ 4. อตั ราการไหลของกา๊ ซออกซเิ จนเขา้ สู่ mask ตอ้ งไมต่ ํากวา่ 5 ลติ ร/นาทเี พือไลC่ O2ในลมหายออกไดท้ นั มฉิ ะนันเกดิ การคัง กา๊ ซ ออกซเิ จนในเลอื ดแดง 5. ไมค่ วรใชพ้ น่ Aerosal เพราะละอองยาระบายออกไมท่ นั คัง คา้ งอยใู่ นหนา้ กาก 59
1.Simple face mask ( Mask without bag) **อตั ราการไหลของกา๊ ซออกซเิ จน 5 – 10 ลติ ร/นาที **ความเขม้ ขน้ ของกา๊ ซออกซเิ จนทีไดร้ ับ (%O2) 40 – 60 Flow(LPM) Percentage 5-6 40 6-7 50 7-8 60 60
2.Partial rebreathing mask • เป็ นอปุ กรณ์คลา้ ย Simple face mask ตา่ งกนั ทีสว่ นปลายของ Partial rebreathing mask มถี งุ สํารองแกส๊ ความจุ 600 – 800 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ทําใหเ้ กบ็ ออกซเิ จนไดเ้ พิมเตมิ จากโพรงจมกู (anatomical reservoir) และหนา้ กาก (mask) ขณะหายใจออก ปรมิ าณอากาศ 1 ใน 3 จากทางเดนิ หายใจสว่ นตน้ จะแทรกเขา้ สถู่ งุ ทําใหถ้ งุ โป่ ง 2 ใน 3 ของอากาศจะระบายออกทางชอ่ งเปิด ดา้ นขา้ งหนา้ กาก 61
2.Partial rebreathing mask • ขอ้ ดี เหมาะสําหรับผปู ้ ่ วยทีดรี ับการเคลือนยา้ ยจากสถานทีหนึง เพราะถงุ จะสํารองกา๊ ซออกซเิ จนได ้ • ขอ้ เสยี 1. ผปู ้ ่ วยไมส่ ขุ สบาย อดึ อดั 2. ควรเปิด Flow meter ไมต่ ํากวา่ 6 ลติ รตอ่ นาทเี พือให ้ ถงุ โป่ งตลอดเวลาทังชว่ งหายใจเขา้ และออกไมใ่ หม้ ี CO2 คัง **อตั ราการไหลของกา๊ ซออกซเิ จน 6 – 10 ลติ ร/นาที **ความเขม้ ขน้ ของกา๊ ซออกซเิ จนทีไดร้ ับ (%O2 ) 60 – 80 62
อปุ กรณใ์ หก้ า๊ ซออกซเิ จน A. Venturi mask B. . Tent – 1. Face tent – 2. Croupette tent – 3. Hood ( Oxygen box ) – 4. Oxygen T-Piece 63
A.Venturi mask (Mask without bag) • เป็ นอปุ กรณ์คลา้ ย Simple face mask แตม่ ที อ่ พลาสตกิ ขนาดใหญข่ ดเป็ นงวง ยาวประมาณ 6 นิว ปลายตอ่ ออกจากตวั หนา้ กากปลายทอ่ อกี ขา้ งหนึงตอ่ กบั ตวั ปรบั (jet adaptor) พลาสตกิ ซึงตอ่ กบั ทอ่ นํา O2 ขนาดเล็ก มชี อ่ งเปิดดา้ นขา้ ง ใหอ้ ากาศภายนอกไหลผสมกบั O2 ที ผปู ้ ่ วยหายใจเขา้ ตวั ปรบั มี 3 ขนาด ได ้ ความเขม้ ขน้ ของแกส๊ ออกซเิ จน 24% , 25% และ35% กลไกการทํางานขณะ O2 พงุ่ ผา่ นทอ่ แคบ ๆ แรงดนั จะสงู สว่ น แรงดนั ผวิ ทอ่ ขณะนันตําทําใหอ้ ากาศ โดยรอบหอ้ ง ไหลเขา้ รผู วิ ทอ่ ได ้ มาก ความเขม้ ขน้ ของ O2 ทีไดต้ ํา 64
A.Venturi mask (Mask without bag) • ขอ้ ดี 1. ควบคมุ ความเขม้ ขน้ O2 ไดแ้ น่นอน เหมาะกบั ผปู ้ ่ วยหนักประเภท ventilatory failure การหายใจตืน ไมส่ มําเสมอ 2. ใชใ้ นผปู ้ ่ วยโรคปอดอกุ กันเรือรังได ้ • ขอ้ เสยี ไมแ่ พรห่ ลาย **อตั ราการไหลของกา๊ ซออกซเิ จน 4 – 10 ลติ ร/นาที ความเขม้ ขน้ ของกา๊ ซออกซเิ จนทีไดร้ บั 24% – 50% 65
B. Tent 1. Face tent หนา้ กากขนาดใหญก่ วา่ mask • ขอ้ ดี 1. ใชก้ บั ผปู ้ ่ วยบาดเจ็บบรเิ วณใบหนา้ 2. ไมก่ ดทบั ใบหนา้ • ขอ้ เสยี ความเขม้ ขน้ ของ O2 ทีไดไ้ มแ่ น่นอน 66
2. Croupette tent • เป็ นอปุ กรณ์ให ้ O2 ทีครอบตวั ผปู ้ ่ วยเด็กลกั ษณะคลา้ ย เต็นท์ ประกอบดว้ ยมงุ ้ พลาสตกิ มซี ปิ เปิด – ปิด ครอบบนโครง โลหะดา้ นหลงั กลอ่ งใสน่ ําแข็งทําใหอ้ ากาศในมงุ ้ มคี วามชืน สงู มที อ่ ระบายนําทิงทีเกดิ จากนําแข็งละลาย มที อ่ นํา O2 ไหลเขา้ มงุ ้ 1 ทอ่ ทอ่ ให ้ CO2 ไหลออกจากมงุ ้ 1 ทอ่ 67
2. Croupette tent • ขอ้ ดี 1. ชว่ ยลดไข ้ ขบั เสมหะ 2. ทําใหผ้ ปู ้ ่ วยสขุ สบาย • ขอ้ เสยี 1. ทางดา้ นจติ ใจ ผปู ้ ่ วยมคี วามรสู ้ กึ เหมอื นถกู ทอดทิง 2. พยาบาลไมส่ ามารถสงั เกตอาการผปู ้ ่ วยได ้ 3. การพยาบาลผปู ้ ่ วยแตล่ ะครังตอ้ งเปิดซปิ ทําให ้ O2 รัว ไดเ้ ป็ นผลใหค้ วบคมุ ความเขม้ ขน้ ของ O2 ไดไ้ มด่ ี **อตั ราการไหลของกา๊ ซออกซเิ จน 8 – 10 ลติ ร/นาที **ความเขม้ ขน้ ของกา๊ ซออกซเิ จนทีไดร้ ับ (%O2) 60% 68
3. Hood ( Oxygen box ) เป็ นอปุ กรณ์ใหก้ า๊ ซออกซเิ จนใชค้ รอบบรเิ วณศรี ษะและไหลผ่ ปู ้ ่ วย เด็ก ลกั ษณะเป็ นกระโจมหรอื กลอ่ งพลาสตกิ ให ้ O2 มที อ่ นําO2 เขา้ ภายใน 69
3. Hood ( Oxygen box ) • ขอ้ ดี 1. เหมาะกบั เด็กเล็กๆ 2. การรัวของกา๊ ซออกซเิ จน นอ้ ยกวา่ แบบ Croupette tent ใหก้ ารพยาบาลไดส้ ะดวกกวา่ • ขอ้ เสยี 1. ไมป่ ิดบรเิ วณคอ 2. กา๊ ซออกซเิ จนรัวบรเิ วณรอบๆคอผปู ้ ่ วย **อตั ราการไหลของกา๊ ซออกซเิ จน 10 – 12 ลติ ร/นาที **ความเขม้ ขน้ ของกา๊ ซออกซเิ จนทีไดร้ ับ (%O2 ) 60 - 70% 70
4.Oxygen T-Piece • เป็ นอปุ กรณ์ให ้ O2 ผปู ้ ่ วยทีมที อ่ ทางเดนหายใจทําดว้ ยพลาสตกิ เบา เพือไมใ่ หด้ งึ รังทอ่ เจาะหลอดลมคอหลดุ เลือน ลกั ษณะเป็ น สายลกู ฟกู (corrugated tube) สวมยดึ ตดิ กบั ทอ่ เจาะหลอดลม คอใหค้ วามชืนสงู ไอนําอาจเกาะเป็ นหยดนําไหลสทู่ อ่ หลอดลม คอได ้ ทอ่ ทางหายใจออกความยาวประมาณไมเ่ กนิ 6 นิว เพือ ไมใ่ ห ้ CO2 จากลมหายใจออกคา้ งภายในทอ่ 71
4.Oxygen T-Piece • ขอ้ ดี เหมาะสําหรบั ผปู ้ ่ วยทีมที อ่ ทางเดนิ หายใจ เชน่ Tracheostomy tube ชนดิ พลาสตกิ Endotracheal tube • ขอ้ เสยี อปุ กรณ์อาจดงึ รังทอ่ เจาะหลอดลมคอ เคลือนผดิ ตําแหน่ง 72
5.Tracheostomy collar • เป็ นอปุ กรณ์คลา้ ยหนา้ กากคลอ้ งไวก้ บั คอครอบบนทอ่ เจาะ หลอดลมคอ O2 จะไหลเขา้ ทางรเู ปิดขณะหายใจเขา้ มที อ่ ลกู ฟกู (corrugated tube) เพือใหไ้ ดค้ วามชืนสงู ตอ่ กบั เครือง ควบคมุ ความชืนแบบละอองฝอย (jet nubulizer) O2 ทีใหจ้ ะไม่ แหง้
5.Tracheostomy collar • ขอ้ ดี เหมาะกบั ผปู ้ ่ วยทีมที อ่ เจาะหลอดลมคอ • ขอ้ เสยี 1. การผา่ นเขา้ ออกของ O2 และ CO2 ไมส่ ะดวก 2. เกดิ การอดุ ตนั ภายในทอ่ ลกู ฟกู งา่ ยจากเสมหะ 3. ทําความสะอาดยาก 74
ขอ้ ปฏบิ ตั ผิ ปู้ ่ วยทีใสT่ racheostomy collar 1. ดดู เสมหะออกกอ่ นเพือให ้ O2 ไหลผา่ นทอ่ เจาะหลอดลมคอ สะดวก ไมม่ กี ารอดุ ตนั 2. ตอ่ สาย T – piece ครอบทอ่ เจาะหลอดลมคอ จัดสายไมใ่ หเ้ กดิ ภาวะดงึ รัง 3. กรณีผปู ้ ่ วยทีไดร้ บั ยาในรปู การสดู ละอองยาเขา้ ทางเดนิ หายใจ โดยตรง (aerosol therapy) ควรปรบั อตั ราการไหลของกา๊ ซออกซเิ จน 6 – 8 ลติ รตอ่ นาที โดย ใชห้ ลกั อตั ราการไหลของกา๊ ซสงู ขึนให ้ aerosol มขี นาดอนุภาค เล็กลง 4. ลงบนั ทกึ เกียวกบั การพยาบาลทีใหก้ า๊ ซ ออกซเิ จน ไดแ้ ก่ อาการ สญั ญาณชพี ผปู ้ ่ วย ปรมิ าณกา๊ ซออกซเิ จนทีให ้ อปุ กรณ์ทีให ้ ปฏกิ ริ ยิ าผปู ้ ่ วยเมือไดร้ ับ กา๊ ซออกซเิ จน รวมทังการประเมนิ ผล 75
ข ันตอนกจิ กรรมการพยาบาล 1. ลา้ งมอื ใหส้ ะอาดเพือป้องกนั เชือเขา้ สผู่ ปู ้ ่ วย 2. ตรวจสอบสณั ญาณชพี และระดบั ความรสู ้ กึ ตวั ประเมนิ อาการ ผปู ้ ่ วย 3. สวม flow meter กบั แหลง่ ออกซเิ จนทีผนัง/ถงั ใหถ้ กู ตอ้ งและ แน่นพอดี ออกซเิ จนไมร่ ัว 4. ตอ่ กระบอกความชืนทีใสน่ ํากลันปลอดเชือ ระดบั ถกู ตอ้ งไมม่ าก ขดี maximum ป้องกนั ไมใ่ ห ้ flow meter เสยี หรอื นอ้ ยกวา่ ขดี minimum ทําใหร้ ะคายเคอื งเยือเมอื กในชอ่ งจมกู และคอ 5. ปรับลกั ษณะนําตามความเหมาะสม เชน่ ละอองโต ละอองฝอย เพือทําใหเ้ ยือบหุ ายใจชมุ่ ชืน ไมเ่ กดิ การระคายเคอื งตอ่ หลอดลม 76
ข ันตอนกจิ กรรมการพยาบาล 5. สวมทอ่ สายยางของ อปุ กรณ์ใหอ้ อกซเิ จนกบั ทอ่ ของเครือง ปรับความชืน เตรยี มการใหอ้ อกซเิ จนพรอ้ มความชืน 6. หมนุ ป่ มุ เปิด Flow meter ปรับอตั ราการไหลของออกซเิ จน ทิง ไวป้ ระมาณ 1 – 2 นาทกี อ่ น สวมอปุ กรณ์ทกุ ชนดิ ใหผ้ ปู ้ ่ วยตาม แผนการรักษา เพือทดสอบวา่ ออกซเิ จนไหลผา่ นไดด้ ี และให ้ ไดป้ รมิ าณตามแผนการรกั ษา 77
ตารางเปรยี บวธิ กี ารใหอ้ อกซเิ จนแบบตา่ งๆ วธิ กี ารให้ อตั ราการให้ เปอรเ์ ซนตอ์ อกซเิ จน Catheter 1 23 2 28 Canular 3 32 Mask with reservoir bag 4 36 5 40 Simple mask 6 44 Oxygen tent Hood tent or box 1-2 23-30 Croupette 3-5 30-40 6 42 6 60 7 70 8 80 9 80+ 10 80+ 5-6 40 6-7 50 7-8 60 10-12 60-70 8-10 60 78
อนั ตรายจากการไดร้ บั ออกซเิ จน 1. กรณีใหโ้ ดยไมผ่ า่ นนํา ทําใหเ้ กดิ การระคายคอ ไดใ้ น 24 ชัวโมง โดยเฉพาะอตั ราการไหลของออกซเิ จนความเขม้ ขน้ สงู 2. เมือใหอ้ อกซเิ จนความเขม้ ขน้ สงู กวา่ รอ้ ยละ 60 เป็ นเวลา ตดิ ตอ่ กนั 1-2 วนั จะเกดิ อนั ตรายตอ่ เนือเยือปอดได ้ 3. หยดุ หายใจ(Apnea) มกั เกดิ ในผปู ้ ่ วยโรคปอดอดุ กันเรือรัง (COPD) ทีไดร้ ับออกซเิ จนความเขม้ ขน้ สงู 4. สมองสว่ นคอรเ์ ท็กซถ์ กู กด พบในผปู ้ ่ วยทีมภี าวะขาดออกซเิ จน เชน่ ในราย Chronic emphysema ผปู ้ ่ วยมอี าการสบั สน (confusion) งว่ ง งง หรอื หมดสตหิ ลงั ไดร้ ับออกซเิ จนบรสิ ทุ ธิ 79
การดดู เสมหะ(suctioning) • หมายถงึ การเอาเสมหะออกจากทางเดนิ หายใจในผปู ้ ่ วยทีไอ ออกเองไมไ่ ดโ้ ดยการใสส่ ายยางดดู เสมหะ (suction catheter) ผา่ นเขา้ ไปใสทอ่ หลอดลมเทยี ม และบางรายผา่ นชอ่ งทางเดนิ หายใจสว่ นบน เชน่ ผา่ นทางจมกู ปาก และดดู เสมหะออก 80
กจิ กรรมพยาบาล การดดู เสมหะผปู้ ่ วย 1. ใหก้ ารพยาบาลผปู ้ ่ วยแบบองคร์ วม ทังดา้ นรา่ งกายและจติ ใจ อธบิ าย ใหผ้ ปู ้ ่ วยทราบถงึ วตั ถปุ ระสงคข์ องการดดู เสมหะทกุ ครัง รวมทัง ผปู ้ ่ วยไมร่ สู ้ กึ ตวั ถา้ ผปู ้ ่ วยรสู ้ กึ ตวั ดี ขณะดดู เสมหะบอกใหห้ ายใจเขา้ ลกึ ๆ และไอกอ่ นดดู เสมหะ 2. คํานงึ ถงึ ความสขุ สบายของผปู ้ ่ วย • บรรเทาความเจ็บปวดจากการดดู เสมหะ • จัดทา่ ผปู ้ ่ วยใหส้ ะดวกในการใสส่ ายดดู เสมหะและป้องกนั ผปู ้ ่ วยสําลกั (semi-fowler’s position) 81
กจิ กรรมพยาบาล การดดู เสมหะผปู้ ่ วย 3. ใหก้ ารพยาบาลเพือป้ องกนั การเกดิ ภาวะแทรกซอ้ นดงั นี • การดดู เสมหะทกุ ครังใชเ้ ทคนคิ ปลอดเชือ (aseptic technique ) • การดดู เสมหะแตล่ ะครัง ผใู ้ หญใ่ ชเ้ วลาไมเ่ กนิ 10 วนิ าที ในเด็ก ไมเ่ กนิ 5-10 วนิ าที กอ่ นใสส่ ายดดู ซําใหผ้ ปู ้ ่ วยหายใจนาน 3-5 ครัง เพราะการดดู เสมหะทีใชเ้ วลานานทําให ้vagus nerve ซึงมี ตวั รับ (receptor) อยมู่ ากตลอดหลอดลมถงึ carina ถกู กระตนุ ้ ทําใหห้ วั ใจเตน้ ชา้ หวั ใจเตน้ ผดิ ปกติ ความดนั โลหติ ลดลงเป็ น ชว่ งๆ เกดิ การระคายเคอื งของหลอดลมทําใหไ้ อ ผปู ้ ่ วยจะ เหนือย เจ็บหนา้ อก เกดิ หลอดลมหดเกร็ง (bronchospasm) ทําใหเ้ กดิ ภาวะพรอ่ งออกซเิ จน การดดู เสมหะตดิ ตอ่ กนั นาน 15- 30 วนิ าที ทําใหผ้ ปู ้ ่ วยถงึ แกค่ วามตายได ้ 82
กจิ กรรมพยาบาล การดดู เสมหะผปู้ ่ วย 3. ใหก้ ารพยาบาลเพือป้ องกนั การเกดิ ภาวะแทรกซอ้ นดงั นี • ในรายทีใชเ้ ครืองชว่ ยหายใจทีใช ้self inflating bag นาน 2-3 ครัง เพือปองกนั ไมใ่ หแ้ รงดนั กา๊ ซออกซเิ จน ( Pa O2) ลดลง แต่ ถา้ มเี สมหะอยสู่ ว่ นบนทอ่ หลอดลมคอหา้ มบบี self inflating bag จะทําใหเ้ สมหะถกู ดนั ลกึ ลงทางเดนิ หายใจ ถา้ ดดู เสมหะแลว้ ผปู ้ ่ วย ยงั คงกระสบั กระสา่ ย อตั ราการเตน้ ของหวั ใจชา้ ลง ตอ้ งหยดุ ดดู เสมหะ แสดงวา่ ขาดกา๊ ซออกซเิ จน ใหก้ า๊ ซออกซเิ จน 100% เขา้ กบั self inflating bag บบี จนอาการดขี ึน 83
กจิ กรรมพยาบาล การดดู เสมหะผปู้ ่ วย • 3. ใหก้ ารพยาบาลเพือป้ องกนั การเกดิ ภาวะแทรกซอ้ นดงั นี • หยดุ ดดู เสมหะทนั ที ถา้ ผปู ้ ่ วยมกี ารหายใจไมด่ ี เชน่ หายใจ ลําบาก อาการเขยี ว หนา้ นิวคิวขมวด เป็ นตน้ • ขณะใสส่ ายดดู เสมหะเขา้ ทอ่ หลอดลมหรอื ทอ่ เจาะหลอดลมคอ อยา่ ใหม้ แี รงดดู จากเครือง เพราะแรงดดู จะดดู อากาศและกา๊ ซ ออกซเิ จนออกจากทอ่ ทางเดนิ หายใจ • ปรับแรงดดู เครืองดดู เสมหะใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม ดงั นี - ผใู ้ หญแ่ รงดนั ไมเ่ กนิ 80-120 มม.ปรอท - เด็กโต 80-100 มม.ปรอท - เด็กเล็ก 60-100 มม.ปรอท - ทารกแรกเกดิ 2-5 มม.ปรอท 84
กจิ กรรมพยาบาล การดดู เสมหะผปู้ ่ วย 85
กจิ กรรมพยาบาล การดดู เสมหะผปู้ ่ วย 3. ใหก้ ารพยาบาลเพือป้ องกนั การเกดิ ภาวะแทรกซอ้ นดงั นี • เลอื กใชส้ ายดดู เสมหะขนาดพอเหมาะ สายดดู เสมหะควรมี ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ ½ หรอื ไมเ่ กนิ ½ ของทอ่ หลอดลมคอชันนอก หรอื ผใู ้ หญใ่ ชเ้ บอร์ 14-16 Fr. เด็กเบอร์ 8-10 Fr. การใชส้ ายดดู เสมหะขนาดใหญท่ ําใหม้ ชี อ่ งวา่ งไม่ เพยี งพอสําหรับอากาศจากภายนอกเขา้ ไปแทนทีอากาศทีดดู ออกมา ทําใหป้ อดแฟบได(้lung collapse) 86
อปุ กรณ์ ทีใชก้ ารดดู เสมหะผปู้ ่ วย • Stetoscope ฟังเสยี งเสมหะภายในปอด • เครืองดดู เสมหะ • กลอ่ งบรรจสุ ายดดู เสมหะทีสะอาดปราศจากเชือ • ภาชนะปิดฝาปลอดเชือภายใน ใสถ่ งุ มอื ปราศจากเชือ • ขวดนําตม้ สกุ 1 ขวด สําหรับลา้ งสายยางทีใชด้ ดู เสมหะ • อบั สําลปี ิดฝาปลอดเชือ ภายในบรรจสุ ําลปี ราศจากเชือ • Alcohol 70% 1 ขวด 87
อปุ กรณ์ ทีใชก้ ารดดู เสมหะผปู้ ่ วย • กรณีผปู ้ ่ วยเสมหะเหนยี ว เตรยี ม syringe ขนาด 2 ซซี ี บรรจุ NSS. 0.9% ชว่ ยละลายเสมหะ อปุ กรณ์ทกุ ชนดิ ปราศจากเชือ • กรณีผปู ้ ่ วยใสท่ อ่ หลอดลมและทอ่ เจาะหลอดลมคอชนดิ พลาสตกิ ที มกี ระเปาะลกู โป่ ง เตรยี ม syringe ปราศจากเชือขนาด 5-10 ซซี .ี 1 เครือง เพือเอาลมออกกอ่ นดดู เสมหะ และใสล่ มเขา้ กระเปาะขนาด เหมาะสม หลงั ดดู เสมหะ (อาจไมท่ ํากไ็ ด)้ 88
ปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลดดู เสมหะตามข ันตอน อยา่ งถกู วธิ ี 1. ประเมนิ เสยี งหายใจของผปู ้ ่ วยโดยใชก้ ารฟังเสยี งดว้ ยหู หรอื stetoscope เพือประเมนิ ปรมิ าณของเสมหะในทางเดนิ หายใจ 2. บอกผปู ้ ่ วยใหท้ ราบเพือลดความวติ กกงั วล และใหค้ วามรว่ มมอื ในการพยาบาล 3. จดั ทา่ ผปู ้ ่ วยใหเ้ หมาะสม 4. ลา้ งมอื เพือลดการตดิ เชือ 5. ใชส้ ําลชี บุ Alcohol 70% เชด็ บรเิ วณปลายหลอดแกว้ รปู ตวั วาย หรอื finger tipทีตอ่ จากสายดดู เสมหะของเครืองดดู เสมหะ และ ระวงั ไมใ่ หส้ ายถกู contaminate ป้องกนั การตดิ เชือ 89
ปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลดดู เสมหะตามข ันตอน อยา่ งถกู วธิ ี 6. เตรยี มสายยางพรอ้ มใชง้ านอยา่ งถกู วธิ ี aseptic technique โดยใช ้ มอื ฉกี ตามรอยปรขุ องถงึ หมุ ้ พลาสตกิ ชันนอก อยา่ ใหโ้ ดยถงุ หมุ ้ ดา้ น ใน วางพาดไมใ่ หถ้ งุ หมุ ้ ดา้ นในถกู contaminate 7. หยบิ สายไมใ่ ห ้ contaminate โดยมอื ขา้ งถนัด สวมถงุ มอื สะอาด ปราศจากเชือ มอื อกี ขา้ งจับถงุ พลาสตกิ ดา้ นนอกทีหมุ ้ สายยาง ใชม้ อื ขา้ งทีสวมถงุ มอื หยบิ ถงุ พลาสตกิ ดา้ นในออก จากนันใชม้ อื อกี ขา้ ง ชว่ ยจับถงุ พลาสตกิ ดา้ นในเพือฉกี ถงุ และใชม้ อื ขา้ งทีสวมถงุ มอื ปราศจากเชือ คอ่ ยๆ หยบิ สายยางออกใหพ้ น้ ถงึ และรวบปลายสายไว ้ ในมอื จากนันใชม้ อื ขา้ งทีไมไ่ ดส้ วมถงุ มอื จับสายทีตอ่ กบั เครืองดดู เสมหะ มอื ขา้ งทีสวมถงุ มอื จับปลายสายดดู เสมหะตอ่ เขา้ กบั สายจาก เครือง ระวงั ไมใ่ หส้ ายดดู เสมหะ contaminate ใชม้ อื ทีไมส่ วมถงุ มอื เปิดเครืองดดู เสมหะ ปรับใหไ้ ดแ้ รงดนั ทีเหมาะสม กรณีสวมถงุ มอื ทัง 2 ขา้ ง ยดึ หลกั aseptic technique 90
ปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลดดู เสมหะตามข ันตอน อยา่ งถกู วธิ ี 8. กรณีผา่ นเขา้ ทอ่ หลอดลมหรอื ทอ่ เจาะหลอดลมคอ หา้ มใสข่ ณะ ผปู ้ ่ วยกาํ ลงั กลนื เพราะสายยางดดู เสมหะอาจเขา้ หลอดอาหาร สอด สายดดู เสมหะอยา่ ง 9. กรณีผา่ นชอ่ งจมกู (nasopharynx) เพือดดู เสมหะออกจากชอ่ ง ทางเดนิ หายใจสว่ นบน โดยกะระยะความยาวของสายจากปลายจมกู ถงึ ติงหู หรอื ประมาณ 13 ซม.ในผใู ้ หญ่ 8-12 ซม.ในเด็กโต 4-8 ซม. ในเด็กเล็ก ใชน้ ิวมอื ขา้ งสวมถงึ มอื ทําเครืองหมายไว ้ หลอ่ ลืนสายดว้ ย นํากลันหรอื นําเกลอื ปลอดเชือกอ่ น เพือลดการระคายเคอื งชอ่ งจมกู และสอดสายไดส้ ะดวก สอดสายขณะหายใจเขา ใหช้ ดิ ผนังจมกู ดา้ นลา่ ง ป้องกนั การชน nasal turbinates 91
ปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลดดู เสมหะตามข ันตอน อยา่ งถกู วธิ ี 10. กรณีผา่ นทางปาก (oropharynx) สอดสายดดู เสมหะเขาทางขา้ งๆ ปาก จนถงึ oropharynx เพือป้องกนั ไมใ่ หผ้ ปู ้ ่ วยขยอ้ น (gagging) สอดสาย เขา้ 11. เริมดดู เสมหะโดยใชน้ ิวหวั แมม่ อื ขา้ งทีไมส่ วมถงุ มอื ปิดปลายหลอดแกว้ รปู ตัววายหรอื ทอ่ พลาสตกิ ถา้ เป็ นชนดิ ไมม่ แี รงดดู สญุ ญากาศ ปลอ่ ยมอื ทีหักหรอื พับสาย ขณะเดยี วกนั มอื ขา้ งทีสวมถงุ มอื หมนุ สายยางลกั ษณะ 360 องศา ขณะคอ่ ยๆ ถงึ สายยางขึน เพือใหก้ ารดดู เหมหะมี ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ ใชเ้ วลาในการดดู แตล่ ะครังอยา่ งถกู ตอ้ ง เพือ ป้องกนั ไมใ่ หป้ อดขาด O2 เนืองจากการดดู ใชค้ วามดนั ลบ ในแตล่ ะครัง ไมค่ วรดดู เสมหะเกนิ 3 ครัง หรอื ไมเ่ กนิ 5 นาที 92
ปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลดดู เสมหะตามข ันตอน อยา่ งถกู วธิ ี 12. ขณะดแู สมหะสงั เกตสี ลกั ษณะ จํานวน ของเสมหะ และอาการ แสดงของผปู ้ ่ วย เชน่ อาการกระสบั กระสาย ปลายมอื ปลายเทา้ เขยี ว เป็ นตน้ 13. หลงั เลกิ ดดู เสมหะ ลา้ งสายเครืองดดู เสมหะเพือไมใ่ หเ้ สมหะ อดุ ตนั สายยาง และป้องกนั การแพรก่ ระจายของเชือโรคโดยวธิ ี ดดู นําสะอาดในขวดทีเตรยี มไว ้ จากนันปิดเครืองดดู ปลดสาย ยางและถอดถงุ มอื อยา่ งถกู วธิ ี ใสภ่ าชนะทีเตรยี มไว ้ 14. เชด็ ทําความสะอาดหลอดแกว้ รปู ตวั วายหรอื ทอ่ พลาสตกิ ดว้ ย สําลชี บุ alcohol 70% 15. เก็บอปุ กรณ์ และบนั ทกึ ปรมิ าณและลกั ษณะ สี กลินเสมหะ 93
การประเมนิ ผลการดดู เสมหะ (evaluation for suctioning) 1. ผปู ้ ่ วยหายใจเสยี งปกติ ทรวงอกขยายเทา่ กนั ทัง 2 ขา้ ง ไมไ่ ดย้ นิ เสยี งเสมหะภายในปอด 2. สญั ญาณชพี ปกติ อตั ราการหายใจปกตสิ มําเสมอ อตั ราชพี จรปกติ สมําเสมอ ความดนั โลหติ ปกติ มกี ารศกึ ษาพบวา่ การดดู เสมหะได ้ 5 ซซี ี ทําใหค้ วามดนั โลหติ เปลียน 5 มม.ปรอท 3. ผวิ หนังสปี กติ ไมม่ ภี าวะ cyanosis 4. สหี นา้ ทา่ ทางผปู ้ ่ วยสขุ สบาย 5. ลกั ษณะเสมหะไมม่ ภี าวะตดิ เชือ เชน่ สใี ส ไมม่ กี ลิน จํานวนไมม่ าก 6. แผลผา่ หลอดลมคอ ไมม่ กี ารตดิ เชือ แผลไมม่ ลี กั ษณะบวม แดง 94
95
Search