all62-2

94 นิ สิ ต คิ ด ว่ า ชื่ อ เ ช็ ก อิ น Central World ชอื่ ท่ี 2 มขี อ้ บกพรอ่ งอยา่ งไร ทําไมจึงไมค่ วรใช้ ........................................................ ........................................................ . คาํ วา่ FIRST ............................................................................................................ 3. ตัวสะกดเป็น หลกั เกณฑ์ตามทรี่ าชบัณฑติ ฯ กาํ หนด (ต่อ) พยญั ชนะซ้อน ศัพทท์ ่ัวไปเขียนแค่ตัวเดยี ว เช่น football = ฟุตบอล (double letter) ศัพท์เฉพาะทาง/ชือ่ เฉพาะ เขียนครบทุกตวั ใส่ทัณฑฆาตที่ ตวั ทา้ ย เช่น cell=เซลล์ James Watt=เจมส์ วัตต์ 4. คําคุณศัพท์ ให้ทับศัพท์ในรูปคํานามช่ือประเทศ เช่น Swedish เกี่ยวกบั ชนชาติ people = คนสวีเดน Hungarian dance = ระบาํ ฮงั การี ยกเว้นช่ือที่เคยใช้นานแล้ว เช่น ประเทศเยอรมนี แต่ใช้ว่า ภาษาเยอรมัน, ประเทศสวิตเซอรแ์ ลนด์ แตใ่ ช้ว่า สวสิ เชน่ ผ้าสวิส สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนอื ใช้ องั กฤษ เชน่ คนอังกฤษ สหรัฐอเมรกิ า ใช้วา่ อเมริกัน 5. ชอื่ ตัวอกั ษรใหใ้ ช้วา่ ... (เขียนทับเหมอื นเวลาออกเสยี ง) A = เอ B = บี C = ซี D = ดี E = อี F = เอฟ G = จี H = เอช I = ไอ J = เจ K = เค L = แอล M = เอม็ N = เอ็น O = โอ P = พี Q = ควิ R = อาร์ S = เอส T = ที U = ยู V = วี X = เอกซ์ Y = วาย W = ดบั เบิลยู Z = แซด

95 6. การเขยี นตัวยอ่ ตัวย่อท่ีอ่านแบบเรียงตัวอักษรให้เขียนโดยไม่ต้องใส่จุด และไมเ่ ว้นชอ่ งไฟ เชน่ BBC = บบี ีซี FBI = เอฟบีไอ คําย่อที่อ่านรวมเสมือน 1 คํา ให้เขียนตามเสยี งทีอ่ อกและ ไม่ต้องใส่จุด เชน่ UNESCO = ยเู นสโก ASEAN = อาเซียน ตัวย่อช่ือบุคคล ให้เขียนโดยใสจ่ ุด และเว้นช่องไฟระหว่าง ช่อื กับนามสกลุ เช่น G.H.D. Cold = จ.ี เอช.ด.ี โคลด์ 7. พยัญชนะ ถอดเป็นพยัญชนะไทยตามท่ีราชบัณฑิตกําหนด ยึดตาม เสยี งและความเหมาะสม พยัญชนะส่วนมาก นิสิตทราบอย่แู ล้ววา่ ออกเสยี งอย่างไร จะใช้พยญั ชนะไทย ตวั ใดแทน แต่!!! มบี างตัวทนี่ สิ ิตจาํ เปน็ ต้องจํา เพราะอาจสบั สน และเขยี นผดิ ได้ sz c เม่อื เป็น พ.ต้นเดี่ยว ซ ซ ซ ตําแหน่งอน่ื ๆ ส พยัญชนะไทย ตัวอยา่ ง Search = เซิร์ช Zone = โซน Cell = เซลล์ Scan = สแกน Quiz = ควิซ Facebook = เฟซบุก๊ Cheese = ชีส คาํ ว่า Size จงึ ตอ้ งเขียนวา่ p t k/c พยัญชนะไทย เมือ่ เปน็ พ.ตน้ ท่ี พ ท ค ไม่ได้ตามหลงั S ตาํ แหนง่ อื่น ๆ ป ต ก นิสิตอาจคิดทํานองเดียวกับคนไทยจํานวนหน่ึงว่าควรกําหนดให้ใช้พยัญชนะไทย ตัวใดตัวหน่งึ ได้ทุกตําแหน่งมากกวา่ แตห่ ากนสิ ติ มคี วามเข้าใจเร่อื งการจัดกล่มุ เสียงของ

96 แต่ละภาษา นิสิตจะทราบว่าการกําหนดใช้พยัญชนะไทย 2 ตัวในตําแหน่งต่าง ๆ กัน แทนพยัญชนะภาษาอังกฤษ 1 ตัว ใน 3 ตัวน้ีเป็นการกําหนดที่สมเหตุสมผลจริง ๆ จึง ขอนาํ ความรู้ทางสัทศาสตร์มาเช่อื มโยงอธิบายใหน้ ิสิตได้เขา้ ใจในหัวข้อถดั ไปนี้ การจดั กลุม่ เสียง จากภาพจะเหน็ วา่ ในแตล่ ะภาษามีเสยี งที่ใชส้ ื่อสารกนั จาํ นวนมาก จงึ จาํ เป็นต้อง จัดกลุ่มให้กับเสียงเหล่านั้น โดยคัดเลือกเสียงท่ีในแต่ละภาษาตัดสินว่าเป็นเสียงท่ี คล้ายกันมาไว้ในกลมุ่ เดยี วกัน (แต่ละภาษาอาจตัดสนิ เหมือนกันหรอื ไม่เหมอื นกนั กไ็ ด)้ ทาํ ใหเ้ กิดกลมุ่ เสียงกลุม่ ตา่ ง ๆ ในภาษา ในแต่ละกล่มุ เสยี งจะประกอบไปดว้ ย 1. เสียง [ ] เสียงท่ีใช้งานจริง อาจมีแค่ 1 เสียง หรือมากกว่า ทุกเสียงทเี่ ป็น สมาชิกของกลุม่ เดยี วกันจะมีคา่ เท่ากัน สามารถอออกเสียงแทนกันได้โดยท่ีความหมาย ไม่เปลี่ยนไป 2. หนว่ ยเสียง / / ตวั แทนเสยี งของกลมุ่ ถือว่าเปน็ หัวหนา้ กลมุ่ ถัดไปเราจะมาทําความเข้าใจกันว่า เหตุใดราชบัณฑิตฯ จึงกําหนดหลักการ เขียนทับศัพท์พยัญชนะภาษาอังกฤษ p, t, k/c ตามรายละเอียดข้างต้น โดยนําความรู้ เร่ืองการจดั กลุ่มเสยี งขา้ งต้นมาเชอ่ื มโยง

97 พยญั ชนะ p ตารางระบบเสียงทจ่ี ําแนกรายละเอียดตามการออกเสียงจริง ภาษาอังกฤษ จัดเปน็ หน่วยเสยี ง… เสยี ง ภาษาไทย จดั เป็นหนว่ ยเสยี ง… พยญั ชนะต้น พยัญชนะทา้ ย (สัทอักษร) พยัญชนะต้น พยัญชนะท้าย /p/ /ป/ ออกเสียง [p][ป] [p] [ป] /p/ /ป/ ถา้ ตามหลัง s /p/ /ป/ /p/ /ป/ /p/ /ป/ ออกเสียง [ph][พ] [ph] [พ] /ph/ /พ/ ในตําแหนง่ อ่นื ๆ /b/ /บ/ [b] [บ] /b/ /บ/ 1) เราจะเขียนทับศัพท์คาํ วา่ Post ไดว้ ่าอยา่ งไร 2) เราจะเขียนทับศัพทค์ ําวา่ Sport ได้วา่ อย่างไร 3) เราจะเขียนทับศพั ทค์ ําว่า Application ได้ว่าอยา่ งไร 4) เราจะเขยี นทับศพั ทค์ าํ วา่ Cap และคาํ ว่า Cab ไดว้ า่ อยา่ งไร ราชบัณฑิตฯ กําหนดให้ใช้พยัญชนะไทย 2 ตัว ต่อการทับศัพท์พยัญชนะภาษาอังกฤษ 1 ตัว เมื่อเป็น p เพราะภาษาไทยมีตัวอักษรแทนเสียงเหล่านี้ครบทุกเสียง ไม่จําเป็นต้องใช้ ตัวอกั ษรซ้ํากัน (t, k/c กเ็ ช่นกนั ดังในตารางเสยี งทจี่ ําแนกตามการออกเสียงจริงถัดไปน้ี)

98 พยัญชนะ t ตารางระบบเสียงทจ่ี ําแนกรายละเอยี ดตามการออกเสยี งจริง ภาษาอังกฤษ จดั เปน็ หนว่ ยเสยี ง… เสยี ง ภาษาไทย จัดเป็นหน่วยเสียง… พยัญชนะต้น พยญั ชนะทา้ ย (สทั อกั ษร) พยัญชนะตน้ พยญั ชนะทา้ ย /t/ /ต/ ออกเสยี ง [t][ต] [t] [ต] /t/ /ต/ ถ้าตามหลัง s /t/ /ต/ /t/ /ต/ /t/ /ต/ ออกเสียง [th][ท] [th] [ท] /th/ /ท/ ในตาํ แหน่งอ่นื ๆ /d/ /ด/ [d] [ด] /d/ /ด/ 1) เราจะเขยี นทบั ศัพทค์ ําว่า Tart ได้ว่าอยา่ งไร 2) เราจะเขียนทับศัพทค์ ําวา่ Start ได้ว่าอย่างไร 3) เราจะเขียนทับศพั ทค์ ําว่า Internet ไดว้ ่าอยา่ งไร

99 พยญั ชนะ k/c ตารางระบบเสียงทีจ่ าํ แนกรายละเอยี ดตามการออกเสียงจรงิ ภาษาอังกฤษ จดั เป็นหน่วยเสียง… เสยี ง ภาษาไทย จดั เป็นหนว่ ยเสยี ง… พยัญชนะตน้ พยญั ชนะท้าย (สทั อกั ษร) พยญั ชนะตน้ พยัญชนะท้าย /k/ /ก/ ออกเสียง [k][ก] [k] [ก] /k/ /ก/ ถ้าตามหลงั s /k/ /ก/ /k/ /ก/ /kh/ /ค/ ออกเสยี ง [kh][ค] [kh] [ค] /kh/ /ค/ ในตาํ แหนง่ อ่ืนๆ /g/ /ก/ [g] [ก] /k/ /ก/ 1) เราจะเขียนทบั ศพั ท์คําว่า Kick ไดว้ า่ อยา่ งไร 2) เราจะเขียนทบั ศพั ท์คําว่า Skill ได้วา่ อย่างไร 3) เราจะเขยี นทับศพั ท์คาํ วา่ Rock ได้ว่าอยา่ งไร 4) เราจะเขียนทบั ศพั ท์คําว่า Cubic ได้ว่าอย่างไร ให้นิสิตเขียน/เลือกรูปคําทับศัพท์ให้ถูกต้อง (หากไม่แน่ใจว่าออกเสียง อยา่ งไร ให้เปิดพจนานุกรมภาษาองั กฤษประกอบ) Carrot Youtube Celebrity Graphic Notebook Like Click Smartphone Strawberry (วงดนตรี) เคยแู บนด์ – เคยแู บรนด์ ชาร์จแบต – ชารต์ แบต

เดตไลน์ – เดดไลน์ 100 มาสค์หน้า – มาสกห์ นา้ สีโอลดโ์ รส – สโี อรส เวบ็ ไซด์ – เว็บไซต์ (เช่อื มโยง) ลงิ ก์ – ลงิ ค์ ซรี ยี เ์ กาหลี – ซีรสี เ์ กาหลี Black Chocolate (ไสก้ รอก) บกิ๊ ไบต์ – บกิ๊ ไบก์ ปักครอสสตติ ช์ – ปักครอสติส Power Point สเต๊กไก่ – สเต๊คไก่ – เสต็กไก่ – เสตก็ ไก่ Set / Resort Digital Cheese Sandwich

101 นิสิตอาจพบว่ามีบางคําไม่ได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ข้างต้น เช่น คําว่า การ์ด (Card) คอมพิวเตอร์ (Computer) เทคโนโลยี (Technology) กิโลกรัม (Kilogram) นน่ั เป็นเพราะวา่ เป็นรูปคาํ ท่ใี ช้กนั มานานแล้ว จึงได้รบั การยกเวน้ ส่วนรูปคําทับศัพท์ของคําว่า Piano ท่ีถูกต้อง คือต้องเขียนว่า เปียโน ไม่ใช่ เพียโน สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะว่าคนไทยใช้กันมานานจึงได้รับการ ยกเว้น แต่เป็นเพราะคําว่า Piano เป็นคําศัพท์ในภาษาอิตาลี ซ่ึงราชบัณฑิตฯ กําหนดให้ใช้ ป แทน p เพราะ p ในภาษาอิตาลีออกเสียงเป็น ป ไม่ว่าปรากฏ ตรงไหนของคาํ (คําศัพท์เฉพาะทางดนตรีส่วนมากเปน็ ภาษาอิตาลี) การถอดเสยี งภาษาไทยดวยอักษรโรมัน ภาษาที่วางระบบการเขียนอักษรโรมันเอาไว้แล้วคนในชาติมักจะ ถอดคําในภาษาของตนเป็นอักษรโรมันอย่างเป็นระบบ แต่ละคนมักเขียน เหมือนๆกัน แตกต่างจากภาษาที่ไม่มีการวางระบบการถอดอักษรโรมันไว้

102 หรือภาษาที่มีระบบการถอดอักษรโรมันแต่คนในชาติไม่สนใจ ซ่ึงในกรณี เช่นน้ีคนในชาติมักถอดอักษรโรมันตามใจชอบ เช่นในกรณีของประเทศไทย คําวา่ “วิภาวดี (รงั สิต)” พบว่ามกี ารเขยี นหลากหลายดังนี้ Viphavadi (ป้ายชื่อถนน) Vibhavadi (โรงพยาบาล) Wiphawadi (สาขาธนาคารไทยพาณชิ ย)์ Vibhawadi (สาขาศูนย์ Porsche) อันท่ีจริงราชบัณฑิตยสภาได้กําหนดหลักเกณฑ์ในการถ่ายเสียง ภาษาไทยเปน็ อักษรโรมนั ไวแ้ ล้ว แตค่ นไทยมักไม่ทราบว่ามหี ลกั เกณฑ์ วธิ ี นี้ใช้ได้กับคําไทยแท้และคําทุกคําที่คนไทยเอามาใช้จนกลายเป็นส่วนหน่ึง ของภาษาไทยไม่ต้องคํานึงถึงท่ีมาว่าจริงๆเป็นคําภาษาอะไร และเป็นการ ถา่ ยเสียงโดยไมส่ นใจรูปเขียนหรือการสะกด พยญั ชนะต้น เสียงของพยัญชนะ ใช้ตวั โรมนั เชน่ ก k กา ka ไก่ kai ขฃคฅฆ kh ขอ kho โค kho ป p ไป pai ปลา pla ผ พ ภ ph ผา pha พงศ์ phong ฏ ต t ปฏมิ า patima ฐ ฒ ฑ ในบางคํา ถ ท ธ th ฐาน than ทอง thong จฉชฌ ch จนี chin ชิน chin ง ng งาม ngam ญ ย y ยก yok หญงิ ying

103 เสยี งของพยัญชนะ ใชต้ วั โรมัน เช่น ฎ ด และ ฑ ในบางคาํ d ฎีกา dika บณั ฑติ bandit ณ น n น้อย noi เณร nen บ b ใบ bai บาป bap ฝ ฟ f ฝ่ัง fang ฝึก fuek ม m มอญ mon แมวmaeo ร r รอ้ ย roi ร้อน ron ล ฬ l ลาน lan กฬี า kila ว w วาย wai วง่ิ wing ศ ษ ส ซ ทร ในบางคาํ s ทราย sai สงฆ์ song ห ฮ h หา ha ฮา ha นสิ ติ พบข้อบกพรอ่ งในการถ่ายเสียงพยญั ชนะตน้ เปน็ อักษรโรมันหรอื ไม่ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ พยัญชนะทา้ ย แมต่ ัวสะกด ใชต้ วั โรมัน เช่น กก k นก nok สุข suk เมฆ mek กง ng วาง wang วง่ิ wing กน n กุล kun กญุ kun กม m ล้ม lom จาํ cham กด t จด chot สิทธ์ิ sit กบ p ภาพ phap กราบ krap

104 แมต่ วั สะกด ใช้ตวั โรมัน เช่น เกย i เลย loei ตาย tai เกอว o ดาว dao เลว leo นสิ ิตพบข้อบกพรอ่ งในการถ่ายเสียงพยัญชนะทา้ ยเปน็ อักษรโรมนั หรอื ไม่ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ สระ เสยี งของสระ ใช้ตวั โรมัน เชน่ อะ อา a การ kan กรรม kam กับ kap อิ อี i ฤทธ์ิ rit พ่ี phi อุ อู u คณุ khun หมู mu เอะ เอ e เลน่ len เด็ก dek โอะ โอ เอาะ ออ o พร phon พบ phop โปรด prot เอยี ะ เอยี ia เล้ยี ว liao เลียบ liap อัวะ อวั ua ชวน chuan ถั่ว thua แอะ แอ ae แพะ phae แพง phaeng เออะ เออ oe เพลิน phloenเชย choei อึ อือ ue นกึ nuek คืน khuen เออื ะ เอือ uea เหมือน muean เรอื่ ง rueang เสยี ง ไอ ใอ คอื เสยี งเดยี วกบั อัย (สระอะ+แม่เกย) ดงั น้ันจึงใช้ ai เสียง เอา คือเสียงสระอะ+แมเ่ กอว ดังน้ันจงึ ใช้ ao ฤ ฤๅ คือเสยี ง ร+สระ ดังนนั้ จึงใช้ rue ri roe ในคําว่าฤๅษี ฤทธ์ิ ฤกษ์

105 ฦ ฦๅ คอื เสยี ง ล+สระอึ/อือ ดังนั้นจึงใช้ lue นสิ ติ พบข้อบกพร่องในเกณฑ์การถา่ ยสระเป็นอักษรโรมนั หรือไม่ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ให้นิสิตลองเขียนคําเหลา่ นดี้ ้วยอักษรโรมนั แบบถอดเสยี งตามวิธี ของราชบัณฑิตยสภา เกษตรศาสตร์ ............................................................... อําเภอกําแพงแสน ............................................................... จังหวดั นครปฐม ............................................................... สร้างเมอื ง ............................................................... ดวงแกว้ ............................................................... ลอยกระทง ............................................................... ศึกษาศาสตร์ ............................................................... ร่มนนทรี ............................................................... เดือนเพ็ญ ............................................................... สมมตุ ิว่ามคี นสง่ กระดาษทเ่ี ขียนชอื่ “กรกฎ” มาให้นสิ ติ แลว้ ขอให้ นสิ ิตถา่ ยเสียงของชอ่ื น้เี ปน็ อักษรโรมนั ตามวธิ ขี องราชบัณฑิตยสภา นสิ ิตจะ เขียนได้ทนั ทหี รือไม่ เขยี นอย่างไร และเพราะเหตุใด ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ เรือ่ งตลกต่อไปนน้ี าํ การถ่ายเสียงภาษาไทยเปน็ อักษรโรมันแบบไม่ มาตรฐานมาลอ้ เลน่ ขอใหน้ ิสิตลองเขียนข้ึนมาใหใ้ ห้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ (ตวั อยา่ งน้ใี ชเ้ พ่ือการศึกษา ไม่ได้มเี จตนาในทางไมส่ ุภาพใดๆ)

106 ช: สวสั ดีครบั ญ : Sawasdee kha ........................................................ ช: พมิ พไ์ ทยไม่ได้เหรอครบั ญ : pim Thai mai tanad ka ........................................... ช : sonjai show kuay mai? ............................................... ญ : ไอ้โรคจิต สารเลว ช: กูแค่ถามว่า “สนใจเฉาก๊วยไหม” กูขายเฉาก๊วยเว้ย! การเขียนภาษาบาลสี นั สกฤตดว ยอกั ษรโรมนั 1. การเขียนคําบาลี/สนั สกฤตว่า “พล” “รตั น์” “เกษตร” ฯลฯ เปน็ การทับ ศพั ทห์ รอื ไม่ .................................................................................................. ...................................................................................................................... 2. เวลาคนเรายืมคําภาษา A ไปใช้ในภาษา B เรามักจะออกเสียงเพ้ียนไป (เช่น คนไทยยืมคําอังกฤษ ”simple” แล้วออกเสียง “ซิมเป้ิน” หรือคน อเมริกันยืมคําว่า “ต้มยํา” แล้วออกเสียงเป็น “ทอมยาม”) นิสิตคิดว่าคน ไ ท ย อ อ ก เ สี ย ง คํ า บ า ลี สั น ส ก ฤ ต เ พี้ ย น จ า ก สํ า เ นี ย ง อิ น เ ดี ย ห รื อ ไ ม่ ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... 3. จงเดาว่า “ทศ” (10) คําว่า “นที” (แมน่ าํ้ ) ออกเสยี งในสาํ เนียงอินเดยี แทๆ้ ได้ว่าอย่างไร ...................................................................

107 ภาษาบาลี สันสกฤต เป็นภาษาโบราณของประเทศอินเดีย คนไทย เรารับเอาภาษาบาลีและสันสกฤตมาใช้เป็นคํายืมในภาษาไทยตั้งแต่ก่อนยุค สุโขทัย ภาษาสันสกฤตในประเทศอินเดียใช้ตัวอักษรท่ีเรียกว่าเทวนาครี ส่วนภาษาบาลีไม่มีตัวอักษรของตนเอง ภาพต่อไปน้ีเป็นหนังสือพิมพ์ภาษา ฮินดีในปัจจุบัน ซ่ึงเป็นภาษาท่ีใช้อักษรเทวนาครีเขียนเช่นเดียวกับภาษา สันสกฤต ก่อนท่ีจะมีอักษรไทย คนไทยใช้ตัวอักษรเขมรเขียนภาษาไทยและ ภาษาบาลีสันสกฤต แต่เม่ือมีตัวอักษรไทยก็นิยมใช้อักษรไทยในการเขียน (แต่ปจั จุบันก็ยังมีความนยิ มใชอ้ กั ษรเขมรเขียนภาษาบาลี เชน่ ในยนั ต์ต่างๆ) จากหัวข้อท่ีผ่านมา เราไดท้ ราบว่าการถา่ ยเสยี งภาษาไทยเปน็ อักษร โรมันคือการใช้อักษรโรมันเขียนตามการออกเสียงภาษาไทยของคนไทย จริงๆโดยไม่คํานึงถึงรูปเขียน (รูปเขียนกับเสียงอ่านในคําไทยจํานวนมากไม่

108 ตรงกัน) ในการทบั ศพั ท์ภาษาบาลี/สนั สกฤตดว้ ยตัวอักษรโรมนั ก็เช่นกนั ก็ คือการใช้อักษรโรมันเขียนตามการออกเสียงภาษาบาลี/สันสกฤตของคน อนิ เดียจริงๆ ท่ีแตกต่างกันอยู่บ้างก็คือตัวเขียนกับเสียงในภาษาบาลี/สันสกฤต ตรงกันเสมอ ดังนั้นแม้เราจะมุ่งเขียนทับศัพท์สันสกฤตเป็นอักษรโรมันตาม การออกเสยี ง แต่ผลที่ออกมาก็คือการทับศัพทน์ ั้นกจ็ ะตรงกับการเขียนด้วย ทําให้ง่ายสําหรับคนไทยเพราะแม้เราจะไม่เคยได้ยินคนอินเดียออกเสียงคํา บาลี/สันสกฤต แต่เมื่อมองจากรูปเขียนเราก็ทราบได้วา่ คนอินเดียออกเสียง คาํ นนั้ อย่างไร แลว้ เรากเ็ ขยี นอกั ษรโรมนั ไปตามเสียงนัน้ ข้อควรจําในการทับศพั ทภ์ าษาบาล/ี สนั สกฤตด้วยอักษรโรมัน 1. คนอนิ เดยี ออกเสยี งทุกตัวทเ่ี ขยี น อินเดียไม่มีการตัดเสียงออก ไม่มีเครื่องหมายทัณฑฆาต ในขณะที่ คนไทยเมอ่ื ยมื คาํ มาจากอนิ เดีย มักเกบ็ รปู เขยี นไว้ แตไ่ ม่ออกเสยี งบางตัว (ใน ตารางต่อไปน้ีนิสิตจะพบว่านอกจากมีการตัดเสียงออกไปท้ังๆที่ยังคงรูป เขียน ก็ยังมีการเปล่ียนแปลงเสียงด้วย แต่ขอให้นิสิตสนใจแค่ประเด็นการ ตัดเสียงออกไปกอ่ น การเปล่ยี นแปลงเสียงจะกล่าวถึงต่อไป) อินเดยี ไทย อกั ษรเทวนาครี เสียงอ่าน อกั ษรไทย เสยี งอา่ น ने netra เนตร (ไม่ออกเสียง ) सामथ samarth สามารถ (ไม่ออกเสยี ง ) आदय aditya อาทิตย์ (ไม่ออกเสยี ง ) शू य shunya ศนู ย์ (ไม่ออกเสียง ) ल शन lakshana ลักษณ์ (ไม่ออกเสียง )

109 2. สระอะในภาษาสันสกฤตไมม่ รี ปู (ไม่เห็นรูปสระใดๆคอื สระอะ) ภาษาไทยมักใข้รูปวิสัญชนีย์ (-ะ) แทนเสียงสระอะ แต่ในภาษา สันสกฤตไม่มีรูปวิสัญชนีย์ และในภาษาสันสกฤตสระอะก็เป็นสระที่ไม่มีรูป แต่คนไทยมักเติมเสียงสระโอะ สระเอาะ ให้กับภาษาสันสกฤต (ทําตาม อกั ขรวธิ ีไทยทีส่ ระโอะ+พยญั ชนะท้ายเปน็ สระไร้รปู เช่น คน ฝน ฯลฯ) อินเดีย ไทย อกั ษรเทวนาครี เสยี งอ่าน อกั ษรไทย เสยี งอา่ น रस ras รส रथ rath รถ कर kar กร बल bal พล फल phal ผล 3. คนไทยออกเสียงภาษาสนั สกฤตเพีย้ นหลายตวั อนิ เดีย ไทย อักษรเทวนาครี เสยี งอา่ น อกั ษรไทย เสียงอา่ น आदय aditya อาทิตย์ ( -> ) नदी nadi นที ( -> ) बल bal พล ( -> ) भूमी bhumi ภมู ี ( -> ) गु guru คุรุ ( -> )

110 4. พ (b) และ ว (v) ในภาษาบาลี/สันสกฤตอาจใช้สลับกันได้ใน บางคาํ หูของคนแต่ละชาติไม่เหมือนกัน บางชาติรู้สึกว่าเสียงบางเสียง คลา้ ยกนั มากจนแยกแทบไม่ได้ แตบ่ างชาติกลบั รู้สึกวา่ เสยี งเหล่านั้นต่างกัน มาก ดังน้ันคนไทยไม่ควรแปลกใจที่คนอินเดียโบราณรู้สึกว่า พ (b) และ ว (v) มีความคล้ายกันจนใช้สลับกันได้ในบางคํา คนบางชาติก็รู้สึกแปลกใจ เชน่ กันทค่ี นไทยรู้สึกว่า ร (r) และ ล (l) คล้ายกันจนพดู สลบั กันบ่อยๆ ภาษาในปัจจุบันท่ีเสียง v และ b แทนกันได้มีอีกหลายภาษา อาทิ ภาษาสเปน เสียง b เสยี ง v รูป b bobo (โง่) basta (เพยี งพอ) babucha (รองเทา้ แตะ) bello (สวย) รปู v uva (องนุ่ ) vello (ขน) vale (โอเค) vino (ไวน์) vivir (live) b-v beber (drink) b-v เปน็ ท่ีนา่ สงั เกตวา่ ถา้ ใชไ้ ด้ท้งั พ (b) และ ว (v) คนอนิ เดยี จะนยิ มใช้ ว (v) มากกว่า ในขณะที่คนไทยใช้ทั้งสองแบบ (แต่อาจจะใช้ในความหมาย ต่างกัน) อินเดยี ไทย vพ ว jIv ชีวะ/ชวี ิต dravya (ไม่พบ) vacan พจน์

อินเดีย 111 v ไทย bhAva พว dev สภาพ / ภาพ var viœeŒ เทวะ/ เทวดา vayu พร/พระ vistar vajra วิเศษ พายุ vicarB พิสดาร vedya, vejja เพชร, พัชรา พิจารณา viruB เวทย์, เวช วรณุ , วิรุณ คนไทยเริ่มทับศัพท์ภาษาบาลี/สันสกฤตด้วยอักษรไทยมาต้ังแต่ยุค สุโขทยั ทําให้การจะเอาอกั ษรไทยตวั ไหนมาแทนเสียงบาล/ี สันสกฤตตัวไหน (ซึ่งก็คือแทนรูปพยัญชนะด้วย เพราะในภาษาบาลี/สันสกฤต รูป = เสียง) ข้ึนกับเสียงของอักษรไทยตวั นั้นในยุคโบราณ ไม่ใชเ่ สียงในยุคนี้ ในท่ีนีจ้ ะยกตวั อยา่ งเพยี งตวั เดียวคอื द द เปน็ พยญั ชนะที่มีเสยี ง d เม่ือคนไทยโบราณรับคําทีม่ ีตัวอักษร น้ีมาใช้ในภาษาไทย คนไทยโบราณก็หาตัวอักษรท่ีเสียงตรงกันกับตัวน้ีเพื่อ ใช้เขียนทับศัพท์ ในยุคน้ันตัวอักษรไทยท่ีมีเสียง d คือ ท ดังนั้นคํา สันสกฤตท่ีมีรูปเขียน द (และออกเสียง d) ทุกคําจึงเขียนทับศัพท์ด้วย ท

112 เชน่ दनdin (ทนิ ) दु ख dukkh (ทกุ ข์) दबे deb (เทพ) ฯลฯ คน ไทยในยุคน้ันก็ออกเสียงคํายืมเหล่าน้ีด้วยเสียง d รวมทั้งคําไทยแท้ๆ เช่น ทา ทาง ทาย ทกุ ทัก ฯลฯ ก็ออกเสียงเปน็ d ด้วย ต่อมาภาษาไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางเสียงอย่างมากมาย (ตามท่ี เรียนแล้วในหัวข้อวรรณยุกต์) แต่รูปเขียนยังคงเดิม ดังนั้นตัวอักษร ท ใน ภาษาไทยก็ไม่ได้ออกเสยี ง d อีกต่อไป แต่ออกเสียงเปน็ th ปจั จุบนั คาํ ว่า ทิน ทุกข์ เทพ ทา จึงเขียนเหมือนเดิมแต่ออกเสียงเป็น thin thuk thep tha ตามลาํ ดับ สว่ นในประเทศอินเดียทัง้ เสียงและรปู เขยี นยงั คงเดิม อินเดีย ไทย รปู เสยี ง รปู เสียง दd โบราณ ท d ปัจจุบนั th ถ้าคนไทยในปัจจุบันไปพูดคําว่า दन (แปลว่า วัน หรือ day) ท่ี ประเทศอินเดีย เราจึงต้องออกเสียงตามสาํ เนียงอินเดียว่า din จึงจะทําให้ คนอินเดียเข้าใจ เวลาเขียนทับศัพท์ไม่ว่าด้วยอักษรอะไรก็เขียนแบบดั้งเดมิ คือ din (อักษรโรมัน) และ ทิน (อักษรไทย) เช่น ในคําว่า ปฏิทิน, สุทิน, ทินกร ฯลฯ แต่ในการออกเสียงเพื่อส่ือสารกันเองในหมู่คนไทย เรา สามารถออกเสียงว่า thin ตามสําเนียงที่นิยมในปัจจุบัน (คงจําได้ว่าการทับ ศพั ท์เก่ียวกบั การเขยี น แต่ไมเ่ ก่ียวกบั การออกเสียง)

113 วิธกี ารจําตารางพยัญชนะ 1. เร่มิ จากตารางพยญั ชนะวรรค 33 ตวั กขคฆง ห จ ฉ ชฌญย ศ ฏ ฐ ฑฒณ ร ษ ตถท ธ นลส ปผพภม 2. มอี ยู่ 16 ตวั ท่เี สยี งไทยปจั จุบัน = ไทยโบราณ = สันสกฤต จงเติมอกั ษรโรมันลงไปใน 15 ช่องน้ี (โปรดสงั เกตว่าหายไป 1 ช่อง) กข ห ฉย ร ตถ นลส ปผ ม 3. อีก 1 ตวั อักษรทเ่ี สียงไทยปัจจุบนั = ไทยโบราณ = สนั สกฤต คือ จ แต่ราชบัณฑิตยสภาออกกฏการทับศัพท์ภาษาไทยที่ผิดพลาดไป บางส่วนทําให้ในระบบราชบัณฑิตเสียง ใช้ ch แทน จ แทนที่จะเป็น ……. แตใ่ นระบบสากลสําหรับทบั ศพั ทส์ ันสกฤตเป็นไปอยา่ งท่ีมันควรจะเปน็ 4. ในภาษาไทยเราออกเสียงบรรทัดที่ 3 (ฏ ฐ ฑ ...) เหมือนกับ บรรทัดที่ 4 (ต ถ ท...) ทงั้ ๆทต่ี วั เขยี นต่างกัน ในภาษาสนั กฤตรูปตา่ งเสียง ก็ต่าง แม้จะต่างเล็กน้อยก็ถือว่าต่าง ดังนั้นเราจะต้องทําให้บรรทัดที่ 3

114 เขียนเป็นอักษรโรมันแตกต่างจากบรรทัดท่ี 4 เล็กน้อยด้วยการเติมจุดไป ดา้ นลา่ ง กข ห จฉ ย ฏฐ ณร ตถ นลส ปผ ม 5. ในภาษาไทยเราออกเสียง ศ ษ ส เหมือนกัน แต่ในภาษาสันกฤต สามตัวนี้ต้องมีเสียงแตกต่างกันอย่างแน่นอนเพราะรูปเขียนต่างกัน โดยมี การเตมิ จดุ เตมิ ขดี เลก็ นอ้ ยจาก s ของ ส 6. ว ในระบบทับศัพท์ของสันสกฤตใช้แตกต่างจากราชบัณฑิต คือ ใช้ ..... แทนทีจ่ ะเป็น w 7. คอลัมน์ที่ 5 เป็นเสียงข้ึนจมูกทั้งหมด สัญลักษณ์ที่มักใช้แทน เสียงข้ึนจมูกคือ n (บางทีก็ m) ในเมื่อเรามี n ใช้แทนเสียง น แล้ว เราก็จะ เติมจดุ และขดี เพื่อบง่ บอกว่าเสยี งแตกต่างออกไปเล็กน้อย กข งห จฉ ญย ศ ฏฐ ณร ษ ตถ นลส ปผ มว

115 8. สองคอลัมน์ท่ีเหลือ (คอลัมน์ท่ี 3 และ 4) คือเสียงก้องของสอง คอลัมนแ์ รก นิสติ ทราบหรือไมว่ า่ ควรใชอ้ ักษรโรมันอะไร (สามารถใช้ความรู้ เกี่ยวกับตัวอกั ษรในภาษาอังกฤษมาประยกุ ต์ได)้ เสยี งกอ้ งของ k คอื ............... เสยี งกอ้ งของ c คือ j เสยี งกอ้ งของ t คอื .............. เสียงก้องของ p คือ .................. กขคฆง ห จ ฉ ช ฌญย ศ ฏ ฐ ฑฒณร ษ ตถทธ นลส ปผพภมว จากตารางพยัญชนะสันสกฤตน้ี หากนิสิตนํามาแรเงาตามลักษณะ ของเสยี ง นิสิตจะพบวา่ มีความสอดคลอ้ งกับเรื่องอักษรสามหมู่ของไทยอย่าง น่าประหลาดใจ อักษรตํา่ (กอ้ ง) คอลมั นท์ ี่ 3, 4 เป็นเสียงกอ้ งตามทกี่ ล่างไปในข้นั ตอนการจาํ ท่ี 8 เสียงขน้ึ จมกู ก้องทุกตวั เสยี ง y r l w (v) ก็กอ้ ง ก k ข kh ค g ฆ gh ง N หh จ c ฉ ch ช j ฌ jh ญ G ย y ศ œ ฏ T ฐ Th ฑ D ฒ Dh ณ B ร r ษ Œ ต t ถ th ท d ธ dh น n ล l ส s ป p ผ ph พ b ภ bh ม m ว v

116 อกั ษรสูง (ไมก่ ้อง มลี ม) เสยี ง ศ ษ ส เปน็ เสียงลมเสยี ดแทรก h คอื สัญลกั ษณแ์ ทนเสียงลม งN หh ญG ยy ศœ ก k ข kh ค g ฆ gh ณB รr ษŒ จ c ฉ ch ช j ฌ jh นn ล l สs ฏ T ฐ Th ฑ D ฒ Dh ต t ถ th ท d ธ dh มm วv ป p ผ ph พ b ภ bh อักษรกลาง (ไมก่ ้อง ไม่มีลม) ก k ข kh ค g ฆ gh ง N หh จ c ฉ ch ช j ฌ jh ญ G ย y ศ œ ฏ T ฐ Th ฑ D ฒ Dh ณ B ร r ษ Œ ต t ถ th ท d ธ dh น n ล l ส s ป p ผ ph พ b ภ bh ม m ว v จากตารางจะสังเกตได้ว่าภาษาบาลี/สันกฤตไม่มีตัวอักษร ฎ ด บ อักษรสามตัวน้ีมีเฉพาะในภาษาไทย แต่ด้วยเหตุผลบางประการ คนไทย โบราณเม่ือยืมคําบาลี/สันสกฤตที่มีตัวอักษร ฏ ต ป เข้ามาใช้ในภาษาไทย เรากลับเปล่ียนเสียง/รูปมาใช้ ฎ ด บ ในบางครั้งและบางคํา เช่น

117 อินเดยี ไทย ไม่เปลีย่ นเสียง เปล่ียนเสียง เสยี ง ความหมาย รูป เสียง รูป เสยี ง tArA ดาว ไมพ่ บ pApa สง่ิ เลวรา้ ย ไม่พบ puG สิง่ ดี ไม่พบ pitA พ่อ ไม่พบ tejA ไฟ, อํานาจ ไม่พบ ananta ไมม่ ที สี่ น้ิ สุด paripada สภาพแวดล้อม ไม่พบ tri สาม สระ อะ a อา ā อิ i อี ī เอ e อุ u อู ū โอ o อํ aM ฤ ri ไอ อัย ai ay เอา au ในภาษาไทยเราออกเสียง ฤ หลากหลายมาก เชน่ ฤทัย ออกเสียง รึ เปน็ ruethai ฤทธ์ิ ออกเสียง ริ เป็น rit ฤกษ์ ออกเสยี ง เรอ เป็น roek ฤาษี ออกเสียง รือ เปน็ ruesi

118 แตท่ ่ีอนิ เดียทุกตัวออกเสยี งเปน็ ri เทา่ นน้ั เช่น กฤษฎา ออกเสยี งว่า krisTA ฤาษี ออกเสยี งวา่ riœI อํ ในภาษาต้นฉบับก็ไม่ได้ออกเสียงเป็น อัง แต่เป็น aM เช่น พุทฺธํ ออกเสยี งวา่ buddhaM การใช้ รร (ร หัน) ไม่มีในภาษาบาลี/สันสกฤตต้นฉบับ จริงๆเป็น การเขียนของไทยเองในสมัยโบราณ คอื สมัยก่อนท่จี ะประดิษฐ์ไม้หันอากาศ ขึ้น คนไทยใช้วิธีเขียนพยัญชนะท้ายสองตัวเทียบเท่ากับสมัยนี้เขียนไม้หัน อากาศ + พยญั ชนะทา้ ย ดงั น้ัน ตวว = ตัว อนน = อัน ปัจจุบันคนไทยเปล่ียนมาใช้ไม้หันอากาศแทนวิธีนี้แล้ว เหลือเพียง ใช้เขียนในคํายืมสันสกฤตแบบที่ต้นฉบับมีพยัญชนะท้ายสองตัว (ร + อะไร อีกตวั ) ทย่ี งั ใช้วธิ โี บราณ dharma -> ธัรม -> ธรรม karma -> กรั ม -> กรรม sarva -> สัรพ -> สรรพ varna -> วรั ณ -> วรรณ ถ้าเป็นคํายืมสันสกฤตแบบท่ีต้นฉบับมีพยัญชนะท้ายสองตัว แต่ ไมใ่ ช่ ร + อะไรอื่น ก็จะใช้ไม้หันอากาศตามวิธกี ารใหม่ vadhna -> วัฒน -> วฒฒน cakra -> จกั ร -> จกกร ถา้ ไมส่ ะดวกในการเขียนจุดหรอื ขีด ในกรณีของพยัญชนะและสระที่มีจุดหรือขีด หากไม่สะดวกท่ีจะ พิมพ์สามารถตัดออกได้ แต่ก็อาจจะทําให้เกิดความกํากวม เช่น นามสกุล “สิงหเสนี” ถ้าเขยี นตรงตามมาตรฐานตอ้ งเขียนวา่ siNhaseni แต่เมื่อ

119 เขียนแบบน้ีจะลําบากต่อการใช้ในชีวิตประจําวัน จึงมักใช้กันว่า sinhaseni ทาํ ใหม้ ผี ้เู ขา้ ใจผิดว่านามสกุลจรงิ ๆคือ “สินหเสนี” หรอื บาง คนก็เข้าใจผิดว่าเจ้าของนามสกุลเขียนนามสกุลตัวเองผิด (คิดว่าตกตัว g) สระท่ีตดั ขีดบอกความยาวออกก็อาจจะทําใหส้ บั สนกับสระเสียงส้นั นอกจากการตัดจุดหรือขีดออกแล้ว ปัจจุบันยังพบว่ามีผู้ใช้จํานวน หนง่ึ ในประเทศอินเดียที่เร่มิ เขยี นอกั ษรโรมนั เพ้ียนออกจากมาตรฐาน ดังน้ี ศ, ษ มีผูใ้ ชเ้ ป็น sh แทนท่จี ะเป็น ś หรอื ṣ (พบมาก) จ มีผ้ใู ชเ้ ปน็ ch แทนที่จะเปน็ c (พบมาก) ว มผี ู้ใช้เปน็ w แทนทจี่ ะเปน็ v (พบน้อย) ฉ มผี ู้ใช้เป็น cch แทนท่ีจะเป็น ch (พบนอ้ ย) กจิ กรรม ช่ือคน/สง่ิ ตา่ งๆในประเทศอินเดียต่อไปน้ี ควรเขียนทบั ศัพท์เปน็ อักษรไทย อย่างไรเพื่อใหค้ นไทยเข้าใจความหมาย gangA ............................................................................................. nanditA ............................................................................................. padma Lakshmi .................................................................... krishna Abhishek ................................................................ vishesh bhatt ............................................................................ balraj .................................................................................................... Meghalaya ....................................................................................

120 vrikshasana ................................................................................ shavasana .................................................................................... ชื่อคน/สถานท่ีในประเทศไทยต่อไปนี้เป็นภาษาสันสกฤต เราควรเขียนทับ ศัพท์เปน็ อกั ษรโรมันอย่างไรเพื่อใหค้ นทว่ั โลกท่มี ีความรภู้ าษาสันสกฤตเข้าใจ ความหมาย สุวรรณภมู ิ ................................................................................................... ราชภัฏ ........................................................................................................ ราชมงคล ...................................................................................................... ราชินี ........................................................................................................ สเุ ทพ ........................................................................................................ อินทริ า ........................................................................................................ อดลุ ย์ ........................................................................................................ ปรเมศวร์ ........................................................................................................ สมทุ ร ........................................................................................................ มธรุ ส ........................................................................................................ สาคร ........................................................................................................

121 เกษตร ........................................................................................................ บางครั้งเราสามารถเลือกเขียนช่ือเฉพาะแบบผสมผสานเพื่อให้ สมดุลกันระหวา่ งเสียงในภาษาไทยและความหมาย เชน่ ภูมิพล ........................................................................................................ วชิราลงกรณ์ ................................................................................................ ทีปงั กรรศั มีโชติ .............................................................................................. เทพศิรินทร์ ................................................................................................... ให้นสิ ติ พิจารณาว่าคาํ /ช่ือตอ่ ไปน้ีควรจะเขยี นเป็นอักษรโรมนั อย่างไร -หา้ งดงั ท่บี างส่วนของช่อื แปลวา่ “ดอกบัว” Thetko Lotat Tesco Lotus -คาํ ว่า “บาป” ในเรียงความภาษาอังกฤษเรอ่ื งหลักธรรมพทุ ธศาสนา papa bap - ช่ือเทพเจ้า “วิษณุ” ในเรียงความภาษาอังกฤษเร่ืองเก่ียวกับคณะ วิศวกรรมศาสตร์ Vishnu Witsanu -ชอื่ คนไทย “วิษณุ” Vishnu Witsanu -ช่อื มหาวิทยาลัย Kasetsat Kasetsart Ksheshtrashastra - อธิบายชอื่ มหาวทิ ยาลัยวา่ “เกษตร” มาจากคาํ ยมื ภาษาสันสกฤตวา่ อะไร

122 Kaset Ksheshtra -คนชอ่ื “ทองดี” Thongdi Dongti -คนช่อื “เด่นจันทร์” Tenchandra Dencan Denchandra ให้นิสติ พิจารณาว่าคาํ ยมื ภาษาสันสกฤตทีพ่ บในประเทศเพ่ือนบ้านเหลา่ นี้ คอื คาํ ว่าอะไรเมอื่ ทบั ศพั ท์ด้วยตวั อักษรไทย - Rasa ………………………………………………………………………………………………. - Sukabumi ……………………………………………………………………………………. - Wanita …………………………………………………………………………………………. - Bayu ……………………………………………………………………………………………. - Dwibahasa ………………………………………………………………………………….. - Bangsa …………………………………………………………………………………………. - Negara …………………………………………………………………………………………. - Bahaya ………………………………………………………………………………………… - Singapura …………………………………………………………………………………….

123 การจบั ใจความสาํ คั โดย อาจารยป ท มา เหมอื นสมยั การจับใจความสําคัญ เป็นการวิเคราะห์ให้ได้ว่าผู้ส่งสารต้องการบอกข้อมลู หรอื มีเจตนาอะไรเปน็ สําคัญ ท้ังนี้รูปภาษาอาจไมบ่ อกใจความสาํ คัญตรงไปตรงมา สังเกตเห็นได้ว่าส่วนหนึ่งของการส่ือสารท่ีไม่มีประสิทธิภาพเกิดข้ึนจากการ ทผี่ รู้ ับสารจับใจความสําคญั ผิดประเด็นไปจากเนอ้ื หาสาระทีแ่ ทจ้ รงิ ทาํ ใหบ้ างคร้งั กลายเป็นการส่ือสารแบบ “คนละเร่ืองเดียวกัน” (ดูผิวเผินเหมือนตรงประเด็น แต่จรงิ ๆ ไม่ตรงประเดน็ ) ดงั เช่นตัวอยา่ งต่อไปนี้ ชาวเนต็ คนหนง่ึ แสดงความคดิ เหน็ วา ขาวหมากเปนอาหาร ไมใ ชสุรา ไมอ ยู ในอาํ นาจสรรพสามติ ทีจ่ ะทาํ การใด ๆ ใหไปฟอง 157 ปฏิบัติหนาท่ีโดยมิ ชอบไดเ ลย

124 หัวเรอื่ ง (Topic) – ใจความสาํ คญั (Main idea) ผูร้ บั สารต้องหา ใจความสาํ คญั (M) ให้ เจอ มใิ ช่ทราบแค่ว่าเปน็ หัวเรอ่ื ง (T) ใด 1. ข้อใดตอบไม่ตรงประเดน็ กบั คาํ ถามที่ว่า “ทาํ ไมบุพเพสันนวิ าสถึงดังเปรย้ี ง!!! คะ” ก. พลอตเรอ่ื งสนุก มีการเพิม่ ความตลกเขา้ ไปจงึ ถูกใจคนไทย ข. ผมสังเกตว่าตอนนี้เมอื งเก่าอยุธยาเรม่ิ คกึ คักข้นึ จากนักท่องเทีย่ วไทยอกี แล้ว ค. ไมม่ ชี อ่ งไหน คา่ ยไหนเคยทาํ แบบนี้ไงครบั ง. ไม่มีขอ้ ใดตรงประเด็น จ. ตรงประเด็นทุกขอ้ 2. ข้อใดตอบตรงประเด็นกับคาํ ถามที่ว่า “หมูกรอบ มีประวัตคิ วามเปน็ มาอยา่ งไรครบั ” ก. ทานบอ่ ยบอ่ ยไม่ดตี ่อสุขภาพนะครบั ข. หมกู รอบนายไซ เปดิ ตํานานความกรอบมานานกว่า 30 ปี ค. นา่ จะเกิดจากทาํ นํ้ามนั หมูเม่อื ก่อน ท่ีเอาหมูสามชน้ั ไปทอดเพื่อเอานาํ้ มนั ไว้ใช้ ง. ไม่มีข้อใดตรงประเด็น จ. ตรงประเด็นทุกขอ้ ใจความสาํ คญั ในยอ หนา ูรปแบบย่อห ้นา

125 เมอ่ื เป็นผู้เขยี น การเขียนย่อหน้าท่ีถูกต้อง ไม่ได้หมายถึงแค่การเว้นช่องว่างจากซ้ายสุดของ กระดาษเข้ามาประมาณ 0.5 น้ิว (กริยา) เท่าน้ัน แต่หมายรวมถึงการนําประโยค หลายๆ ประโยคมาเรียงต่อกัน ร่วมกันนําเสนอประเด็นสําคัญประเด็นเดียวกัน (ประกอบด้วยประโยคใจความสําคัญ และส่วนขยายความ เพื่อไม่ให้เนื้อความ ห้วน ขาดความชดั เจน แต่ก็ไม่ควรขยายความมากเกินไป) 1. ใจความสําคญั ของยอ่ หน้า (ความคิดท่ตี ้องการนาํ เสนอ) ผู้เขียนควรคํานึงถึงเสมอว่ากําลังกล่าวถึงประเด็นใดของหัวเร่ืองนั้น เมื่อ เปลยี่ นประเดน็ กจ็ ําเป็นตอ้ งเปลย่ี นยอ่ หนา้ 2. ประโยคท่ีอยู่ในยอ่ หนา้ - ประโยคใจความสาํ คัญ เป็นประโยคหลักของย่อหน้า จึงต้องเขียนให้เปน็ ประโยคบอกเล่าที่ส่อื ความสมบรู ณ์ ชดั เจน ก. เหด็ มีประโยชน์ ข. เห็ดมีประโยชนน์ านัปการ ค. เหด็ ดจี ริง ๆ หรือ - ส่วนขยายความ ทําหน้าที่ให้รายละเอียดเพ่ิมเติม เพ่ือให้ผู้รับสารเข้าใจ ประโยคใจความสาํ คัญได้งา่ ย ชดั เจนมากยิง่ ข้ึน ย่อหน้าน้ขี ยายความดว้ ยวิธีใด เพ่ือนเป็นบุคคลท่ีมีความสําคัญต่อชีวิตมากทีเดียว คนท่ีได้ดีเพราะมีเพื่อนดีก็มี มาก และคนที่กลายเป็นคนช่ัวเพราะเพ่ือนก็มีไม่น้อย การคบคนก็เช่นเดียวกับการซื้อ เสื้อผา้ คือต้องดูกันให้ถ่ถี ว้ นก่อน เพราะถา้ เราไดเ้ พอ่ื นดี ก็อาจทําใหเ้ ราพลอยได้ดิบไดด้ ี ไปด้วย หรืออย่างน้อยก็ไม่ทําให้ต้องตกไปสู่ความช่ัวนานาชนิด แต่หากคบคนช่ัวเป็น มิตรแลว้ ของเรากต็ อ้ งพลอยตกตา่ํ ไปดว้ ย

126 ใหข้ ้อมูลเทา่ ทจ่ี ําเปน็ ตรงประเด็น ในปริมาณท่ีไม่มากและไมน่ อ้ ยจนเกนิ ไป #อยา่ เขียนเนือ้ หา โดยไมน่ กึ ถงึ ความเชอื่ มโยง ตรงประเดน็ 1. ข้อใดไม่ควรใช้ขยายความประโยคใจความสําคัญที่ว่า “สีสันของอาหารส่งผลต่อ ความอยากอาหาร” ก. สีแดงแสดงถึงความอันตราย สมองเข้าใจว่าอาหารที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ ปลอดภยั และไมน่ ่ารบั ประทาน ข. สเี หลืองสดทําใหร้ ้สู ึกวา่ น่าอร่อย ค. ขนมชนั้ สีมว่ งทําจากดอกอญั ชนั ส่วนสเี ขียวทาํ จากใบเตย ง. สีผสมอาหารแต่ละชนิด หรอื แต่ละสนี นั้ จะมสี ว่ นผสมของโลหะหนักอยู่ จ. ขนมสีเหลอื ง เชน่ ทองหยอด ฝอยทอง สอ่ื ความหมายถึงมงคล 2. ข้อใดไม่ควรใช้ขยายความประโยคใจความสําคัญที่ว่า “สาว ๆ สามารถอ่อนวัยได้ ด้วยอะโวคาโด” ก. อะโวคาโดเป็นผลไม้ชนิดทีม่ เี มลด็ เดียว ข. ใบและเปลือกตน้ เป็นพษิ ตอ่ สตั วท์ ้ังหลาย เช่น หมา แพะ ค. เราสามารถปลูกอะโวคาโดไดท้ ั้งแบบลงดินและลงนาํ้ ง. 2-3 ปมี าน้ี อะโวคาโดราคาพ่งุ สงู ข้ึน 20 บาท/กิโล จ. นําอะโวคาโด 1 ลูกมาบดละเอียดแล้วขดั วนทว่ั ใบหนา้ หน้าจะเนยี น ฉ. เม่ือสุก ผลจะนม่ิ หรือเปลย่ี นสี เม่ือเปน็ ผู้อา่ น ผู้อ่านต้อง ประโยคใจความสําคญั เป็นประโยคที่ หากไม่แน่ใจว่าเป็นประโยคใด ก็ต้องเปรียบเทียบความหมายดูว่า ประโยคใดส่ือ ความหมายถึงใจความสาํ คญั ได้ชดั เจนมากกวา่ แต่!!! ถา้ เจอยอ่ หน้าทไ่ี มม่ ีประโยค ใจความสําคญั ผูอ้ า่ นต้อง

127 รปู แบบย่อหน้า ช่ ว ง นี้ ก ร ะ แ ส แ ฟ ชั่ น บรโิ ภคตับห่านกําลงั อนิ เทรนด์ในบ้านเรา แต่เบอ้ื งหลงั การผลติ ตบั ห่านละ่ มีใครบ้าง ท่ีรู้ว่าห่านพวกน้ีจะถูกบังคับ feed อาหารด้วยเครื่องอัดอาหาร วิธีการคือสอดท่อ เข้าไปในลําคอห่านแล้วอัดอาหารลงท้องในปริมาณที่มาก ทําเช่นน้ีวันละหลายๆ รอบ เพ่ือให้ตับของมนั มขี นาดใหญโ่ ตจนผิดปกติจากหา่ นท่ัวไป ห่านหลายตัวทนรบั อาหารในปริมาณท่ีมากไม่ไหว บ้างก็สํารอกอาหารออกมา บ้างก็ขาดใจตายคาท่อ ขณะอัดอาหาร บางตวั ก็ปากฉีก ปากหกั จนเลือดออก ตดู แตกก็มี ประโยคใดคือประโยคใจความสาํ คัญ ไมเคิล แจ็กสันเป็นศิลปินที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น King of Pop ผู้ปฏิวัติ วงการเพลงอยู่ตลอดเวลา บทเพลงของเขามีเสน่ห์บางอย่างที่เข้าถึงกลุ่มผู้ฟังได้ หลากหลายรูปแบบ จนต้องเรียกประเภทดนตรีว่า ‘สไตล์ไมเคิล แจ็กสัน’ อย่างเช่น เพลง The Way You Make Me Feel จากอัลบั้ม Bad ในปี 1987 ทไ่ี มเคิลรงั สรรคก์ บั โปรดิวเซอร์คู่บุญควินซี โจนส์ (Quincy Jones) อัลบั้มน้ีมีการผสมผสานซาวด์ป๊อป*, อารแ์ อนดบ์ ี, โซล และฟังก์เขา้ ด้วยกันอย่างลงตัว (*เขียนทับศพั ทต์ ามต้นฉบบั ) รูปแบบของย่อหนา้ นีค้ ือ ฉบับที่แล้วผมได้เล่าให้ท่านผู้อ่านฟังว่า อาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมันดู เท่ ได้ไปเท่ียวตา่ งประเทศ และรายได้ดีมากก็จริง แต่ความโหดร้ายทกุ ขร์ ะทมหลงั ฉากมี อยู่นานัปการ เชน่ เสยี่ งตอ่ การถูกแฟนนอกใจอย่างมาก เพราะตวั ไมค่ อ่ ยอยูบ่ า้ น แถม ยังนอนไม่เป็นเวลา นอนไม่พอ ต้องอดนอนข้ามคืนบ่อยๆ ร่างกายขาดภูมิคุ้มกัน เจบ็ ป่วยได้งา่ ย เวลาลงถงึ พ้ืนแลว้ อารมณเ์ สียง่าย ท้องอืดทอ้ งเฟ้อ ท้องไส้ป่นั ป่วนตลอด ต้องทนรับประทานอาหารที่ไม่ถกู ปาก รา่ งกายผจญอากาศรอ้ นจดั หนาวจัด รูปแบบของย่อหน้าน้ีคอื

128 1. ขอ้ ความต่อไปนเี้ ปน็ ยอ่ หนา้ รปู แบบใด เอกลักษณ์ในการทําอาหารของเจไ๊ ฝคือเตาถ่าน เจ๊ไฝใช้เตาถ่านในการผัดอาหาร จรงิ ๆ แล้วมีร้านอาหารเกา่ แก่อกี จาํ นวนหน่ึงทีย่ งั คงใช้เตาถา่ น และปฏเิ สธเด็ดขาดท่ีจะ ใช้เตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า เพราะเสน่ห์ของกลนิ่ ไหม้ช่างหาสิ่งแทนได้ยากเหลือเกิน การ ใช้เตาถ่านทําให้อาหารที่ผัดมีความหอม โดยเฉพาะข้าวผัดหรือเส้นก๋วยเตี๋ยวที่หากใช้ เตาถ่านก็จะทําให้กลิ่นติดเม็ดข้าวและเส้น เพิ่มสุนทรีในการกินอีกระดับ และไม่แปลก ใจที่รายละเอียดเล็กนอ้ ยเช่นน้คี งเป็นหน่ึงในหลายสว่ นท่ีทาํ ใหร้ า้ นเจไ๊ ฝได้ดาวมิชลนิ ก. ประโยคใจความสําคัญ + ส่วนขยายความ ข. สว่ นขยายความ + ประโยคใจความสาํ คญั + สว่ นขยายความ ค. ประโยคใจความสําคญั + ส่วนขยายความ + ประโยคใจความสําคญั ง. ส่วนขยายความ 2. จากยอ่ หน้าขา้ งตน้ ผู้เขยี นขยายความดว้ ยวิธีใด ก. การใหค้ ําจาํ กดั ความ + การให้เหตผุ ล ข. การเปรยี บเทียบ + การให้เหตผุ ล ค. การให้รายละเอยี ดเพมิ่ เติม + การใหเ้ หตุผล ง. การใหร้ ายละเอยี ดเพม่ิ เติม + การยกตวั อยา่ ง ลกั ษณะของย่อหนา้ ที่ดี สิ่งทีถ่ ูกตอ้ ง ขอ้ บกพร่อง 1 ย่อหน้า นาํ เสนอมากกว่า 1 ใจความสําคญั เขียนไม่ตรงประเด็น ไม่มสี ัมพันธภาพ เนื้อหากาํ กวม

129 จังหวัดปทุมธานีเป็นเมืองน่าเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ อุดมไปด้วยอาหารการกิน ธรรมชาติและชุมชนริมน้ํา เดิมชื่อว่า “เมืองสามโคก” ตั้งขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาใน แผ่นดินของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เม่ือปี พ.ศ. 2358 พระบาทสมเด็จพระพุทธ เลิศหล้านภาลัยได้เสดจ็ ประพาสเมืองสามโคก มีพสกนกิ รจํานวนมากสาํ นกึ ในพระมหา กรุณาธิคุณนําดอกบัวหลวงขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเมืองใหม่เพ่ือให้เป็นสิริมงคลว่า “ประทุมธานี” และต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเปล่ียนการสะกดนามจังหวัดเป็น “ปทุมธานี” ข้อบกพร่องคือ ความจริงแล้วพืชผักต่าง ๆ ท่ีเรานําเอามาทําอาหารน้ัน ท่านว่าเป็นยาบํารุง กะหลํ่าปลดี ิบ ๆ ถ้ากินอยู่เสมอจะแกโ้ รคกระเพาะอาหารไดด้ ี ด้วยเหตนุ ้ีคนตา่ งจังหวัด ทกี่ ินผักดิบเปน็ ประจําจงึ ไมค่ อ่ ยเป็นโรค นอกจากกะหล่ําปลี ผกั กระถนิ กส็ ามารถเอามา กินดิบ ๆ แล้วทําให้โรคหัวใจหายได้ มะขามดิบ ๆ กินให้เป็นประจําก็แก้โรคความดัน โลหติ สูงได้เหมือนกัน ขี้เหล็กกเ็ อามาแกงได้ อร่อยแล้วยงั ชว่ ยให้นอนหลบั สบายอกี ด้วย ข้อบกพรอ่ งคือ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่สามารถเลือกทางเดินของชีวิตคือเลือกที่จะทําความดี หรือความชัว่ ได้ เราเลอื กเกิดไมไ่ ด้แตเ่ ราตอ้ งดาํ รงชวี ิตอย่ใู นสังคมซ่งึ เราสามารถเลือกได้ ว่าเราจะทําความดีหรือความชั่ว เพราะการเลือกทําความดีเป็นส่ิงท่ีเราเลือกได้ ไม่ เหมือนการเกิดเป็นสิ่งที่เราเลือกไม่ได้ เราต้องต่อสู้เพื่อการดํารงชีวิตอยู่ในสังคมและ เลอื กด้วยวา่ เราจะทําความดีหรอื ความช่วั ขอ้ บกพรอ่ งคือ

130 สตาร์บัคส์ลยุ กลยุทธ์ Premiumization สู้ศึกโลคอลคอฟฟ่ีแบรนด์ตีขนาบ ซึ่งว่า กันว่าพบกาแฟคร้ังแรกที่ประเทศเอธิโอเปีย ผลของกาแฟจะมีขนาดเล็ก สีแดงเหมือน เชอร์รี และถ้าถามวา่ กาแฟพนั ธ์ุใดคือพันธุ์ทีด่ ีทส่ี ดุ ก็ตอ้ งบอกเลยว่า อาราบิก้าเทา่ นน้ั ข้อบกพร่องคือ ตอนผมอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 5 ผมได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักกีฬาเทควันโด เป็น ตัวแทนประเทศไทยไปแข่งกีฬาเทควันโดชิงแชมป์โลกที่ประเทศอินโดนีเซยี ซึ่งผมก็ได้ เหรียญกลับมา นับเป็นประสบการณ์ท่ียิ่งใหญ่สําหรับผมท่ีได้สร้างช่ือเสียงให้กับ ประเทศไทย สิ่งที่ผมอยากทาํ ต่อไปกค็ ือ การเปน็ โค้ชเทควันโด ผมอยากสอนให้ลูกศษิ ย์ ติดทีมชาติให้เหมือนท่ีผมเคยทํา อยากถ่ายทอดส่งิ ทเ่ี คยฝึกฝน เคยทุ่มเท ให้คนรุ่นหลัง ได้ทําตามได้ ข้อบกพร่องคอื ใจความสาํ คญั ในเร่ืองเลา บางสถานการณ์ผ้รู ับสารอาจจะต้องจับใจความสาํ คญั ด้วยการต้งั คําถาม 5W1H แล้วหาคําตอบจากเนื้อเร่ือง โดยจะต้องหาคําตอบให้ได้อย่างน้อย 2 คาํ ตอบว่า ใคร ทําอะไร ให้นสิ ติ วิเคราะหว์ า่ ขอ้ ใดบอกใจความสาํ คญั ไดถ้ กู ต้อง ครบถ้วนมากทสี่ ุด เมอื่ วันท่ี 25 เมษายน 2560 ผสู้ ่อื ขา่ วรายงานวา่ นางสาวเหมือนฝัน (นามสมมตุ )ิ ได้เขา้ แจง้ ผูส้ ื่อขา่ วหลังจากไดซ้ อ้ื แกงไกห่ นอ่ ไมด้ องจากตลาดสดในเมือง จ. กําแพงเพชร แต่พบซากจ้ิงเหลนยาวกว่า 3 น้ิวอยู่ข้างใน นางสาวเหมือนฝันเล่าว่า ช่วงเชา้ ของวนั เธอได้ไปซื้อแกงทต่ี ลาดเชา้ แหง่ หน่ึงในเขตเทศบาลเมอื งกาํ แพงเพชร

131 โดยซื้อแกงหน่อไม้ดอง ซึ่งแม่ค้าตักใส่ถุงวางไว้แล้ว หลังจากกลับมารับประทานที่ ทํางาน กินจนเกือบจะหมดถุง ตักข้ึนมาตอนแรกคิดว่าเป็นปลาดุก แต่เม่ือสังเกตดู ชัดๆ ก็เห็นเป็นหัวจิ้งเหลนจึงรีบวางช้อนทันที เมื่อเขี่ยดูก็พบว่าเป็นจิ้งเหลนทั้งตัว แต่ตัวไม่ใหญ่มาก วัดความยาวจากหวั ถึงหางประมาณ 3 นิ้ว และเม่ือเห็นชัดเจนวา่ เป็นจงิ้ เหลนทง้ั ตวั จึงวิ่งเข้าห้องน้ําอาเจียนออกมาจนหมด แล้วนําแกงไปเทท้ิง พรอ้ ม กับบอกเพื่อนร่วมงานว่า เข็ดแล้วแกงถุง ต่อไปซื้อกับข้าวมาทํากินเองที่บ้านดีกว่า จากน้นั จงึ ถ่ายรูปโพสต์ลงเฟซบ๊กุ ปรากฏวา่ มีคนเข้ามาสอบถามกนั มาก ก. อวสานข้าวเช้า สาวกําแพงเพชรกินแกงหน่อไม้ดองเกือบหมด เหลือบไปเห็นก้น ถ้วยถงึ กบั ขนลุกซู่ วิ่งไปอ้วกแทบไม่ทนั ข. สาวกําแพงเพชรสุดทน โพสตแ์ ฉแมค่ ้าข้าวแกงเลว จ.กําแพงเพชร ค. สาวกาํ แพงเพชรเป็นลมหลงั รูว้ ่าซอื้ แกงหน่อไม้ดองท่ีซอ้ื มาใสจ่ ้ิงเหลน ง. เอ๊ิก! แกงหนอ่ ไมใ้ ส่จ้ิงเหลน สาวคดิ ว่าปลาดกุ อว้ กพุ่งหลังกนิ เกอื บหมด Keyword บอกใจความสาํ คญั ได แต่ !!! การอา่ นขา่ ว หากอ่านแต่พาดหวั ขา่ วอย่างเดียวกอ็ าจจับประเดน็ ผดิ ได้

132 จากรายงานการเฝ้าระวังคุณภาพของแม่นํ้าสายหลักโดยกรมอนามัย กระทรวง สาธารณสุขประจําปี 2539 พบว่า แม่น้ําเจ้าพระยาซ่ึงเป็นแม่น้ําสายสําคัญของ ประเทศมีสภาพเส่ือมโทรมลงมาก ดังจะเห็นได้จากบริเวณที่ทําการเฝ้าระวังท้ัง 35 จุด ซ่ึงปรากฏว่าคุณภาพนํ้าต่ํากว่าเกณฑ์มาตรฐานของคุณภาพแหล่งนํ้าท่ี กาํ หนดไวใ้ นทุกช่วง คดิ เหน็ อย่างไรกบั คนท่ีลาพักรอ้ นคร่งึ วันบ่าย ทุกวันที่1และ16 ผมอยากทราบว่าเพื่อนๆชาวพนั ทปิ มีความคดิ เหน็ อย่างไรตอ่ คนที่อาจจะเป็นลูกน้อง หรือหัวหนา้ หรอื เพือ่ นร่วมงานของคณุ ถา้ เกิดว่าเขาหรือเธอคนน้นั ได้ลาพักรอ้ นโดยลาคร่งึ วันตอนบา่ ยในทุกๆวันที1่ และ16 ของทุกเดือน และลาถูกต้องโดยลาล่วงหน้า 5-7 วันตลอดเลย ไม่เคยลาฉุกเฉินเลย และในการลาอื่นๆในวันอ่ืนๆก็แทบจะไม่มีเลย เช่นอาจมีลาป่วย2-3วันต่อปี หรือ อาจไมม่ ีเลยท้งั ปี และประสิทธภิ าพการทาํ งานของเขาหรอื เธอคนน้ันกอ็ ยู่ในเกณฑ์ที่ ปกติดี ไม่ไดแ้ ย่จนเกินไป อยากทราบมุมมองท่ีมีต่อเขาหรือเธอคนนั้น ทั้งในมุมที่คุณเป็น 1. หัวหน้างาน 2. ลูกนอ้ ง 3. เพอื่ นร่วมงาน ของเขาหรือเธอคนนนั้ ครับ ***กระท้เู พยี งตั้งข้ึนเพื่ออยากทราบมมุ มองของหลายๆทา่ นนะครบั ไม่ไดม้ เี จตนาจะ พาดพงิ หรือยุยงหรอื ปลุกปน่ั หรอื ส่งเสรมิ ใดๆนะครบั https://pantip.com/topic/38954871 ตคี วามเพื่อรูใ จความสําคญั การทราบความหมายตามรูปภาษาอาจไม่เพียงพอต่อการจับใจความสําคญั เพราะในการส่ือสารจริง ผู้ส่งสารอาจพูดอ้อมค้อม มีเจตนาบางอย่างท่ีไม่ ตรงไปตรงมาตามที่รูปภาษาปรากฏ ผู้รับสารจําเป็นต้องตีความ โดยพิจารณา ปรบิ ท เชน่ ผู้พูดเปน็ ใคร สถานที่ กาลเทศะ ร่วมดว้ ย เพือ่ ใหท้ ราบเจตนาท่ีแท้จริง

133 แก ๆ เพอื่ นรกั แกเดินมาโนน อะ (ตรง) (อ้อม) ลูกคา : เดย๋ี วเดนิ มาดใู หมน ะคะ (ตรง) (อ้อม) ไปไหนมาอะ (ตรง) (อ้อม) รไู หมฉนั ลกู ใคร (ตรง) (อ้อม) นานแลว นะทเ่ี ราไมไ ดไ ปเยย่ี มคณุ แมข องคณุ (ระหวา่ งดฮู ปิ โปท่ีสวนสัตว์) (ระหว่างดินเนอร์ใตแ้ สงเทียน) คดิ ดี ๆ วา ตรงประเด็นไหม หมอ : คณุ พ่อเปน็ มะเรง็ ที่ไหนครับ คนไข้ : ชยั ภมู ิคา่ เฌอปราง : เยน็ นี้ไปกนิ ชาบดู ้วยกนั ไหม เจนนิษฐ์ : นดั อาจารยท์ ่ปี รกึ ษาไว้อะ เจา้ ชะตา : อยากร้เู รอ่ื งงานค่ะ ชอบมีปญั หา คนชอบหาหนูเขา้ ใจยาก แมห่ มอ : ชว่ งน้เี รอื่ งงาน จะเป็นแบบนน่ั น่ี..... เออ่ ... “แลว้ ตอนนีท้ ําอะไรอยูค่ ะ ??” เจา้ ชะตา : ตอนนห้ี รอคะ ดดู วงละน่ังดูทวี ีไปดว้ ยคะ่ กรรมการ : คณุ จะอธิบายถึงประเพณีลอยกระทงใหน้ กั ท่องเท่ยี วไดเ้ ขา้ ใจวา่ อยา่ งไร นางงาม : กอ็ ยากให้พ่นี ้องชาวไทยทกุ คนและชาวตา่ งชาติไดล้ อยลอยกระทง ณ ที่น้ี พิธีกร : หากต้องแนะนําผลไม้ไทย 2 ชนิดให้ผู้เข้าประกวดท่านอ่นื ๆ จากชาตอิ ื่น ๆ ไดร้ จู้ ัก คุณจะแนะนาํ อะไร เพราะอะไร นางงาม : ไพลนิ ชอบกินกลว้ ย กับสับปะรดค่ะ

134 พิธีกร : คณุ มวี ิธีรณรงคใ์ หค้ นไทยประหยัดนา้ํ ไดอ้ ยา่ งไร นางงาม : ไมท่ ง้ิ ขยะลงในแม่นา้ํ สงิ่ ที่อยากให้อนรุ ักษ์คือน้ําใจคะ่ น้ําใจย่ิงให้ยง่ิ ได้ ปญ หาทที่ าํ ใหจ บั ใจความสาํ คญั ไมต รงประเดน็ 1. ผู้รบั สารไม่ทําความเข้าใจสาร 2. สารท่สี ง่ มาขาดความชดั เจน หากครูสงั่ แม่คา้ ว่า “ตําไทย ถั่วแหลก ๆ” นิสติ คิดว่าจะไดส้ ม้ ตาํ หนา้ แบบใด ? (-- ชมภาพได้ในชัน้ เรยี น --) ----------- กจิ กรรม ----------- 1. เพลง Made in Thailand ของวงคาราบาวส่ือความถึงอะไร ใจความสาํ คญั คือ แตกต่างกบั เพลง Made in India หรอื ไม่ อย่างไร

135 2. ขอใดเปน คาํ ตอบที่ตรงประเดน็ กับคาํ ถามตอไปน้ี ผมสงสยั เร่ืองการดืม่ กาแฟกบั เครือ่ งด่มื ชูกําลงั ครับ ระหว่างดื่มทีเดียวหมดกับด่มื เรอ่ื ยๆ ออกฤทธ์ติ ่างกนั ไหมครบั คือ ผมสงสัยมานานแล้ว หาขอ้ มลู ใน google กไ็ มเ่ จอ เช่น เราซ้ือเครื่องด่ืมชูกําลังหรือกาแฟมาแก้วนึงแล้วเราดื่มทีเดียวหมดเลย กับค่อยๆ ด่ืมเรอ่ื ยๆ อาจจะคร่ึงวนั ถงึ จะหมด อยากรวู้ ่าการออกฤทธิม์ ันต่างกนั ไหมครับ... ก. เคยกินสองอยา่ งพรอ้ มกนั ในวันเดยี ว แทบตายยย ข. ถ้าด่ืมกาแฟต้องค่อยๆ จิบถงึ จะอร่อย สว่ นเครอ่ื งด่มื ชูกําลงั ไมร่ ู้เหมอื นกาแฟไหม ค. ตอบตามรู้สึกของคนสว่ นมาก คดิ ว่ากินกาแฟดูปลอดภยั กวา่ เครอ่ื งดื่มชูกําลัง ง. เคยอ่านเจอ.. คอ่ ยๆ จิบกาแฟ จะไดร้ บั พลังงานมากและนานกวา่ ดม่ื รวดเดยี วหมด 3. ขอใดเปนคําตอบท่ีไมตรงประเด็นกับคําถามท่ีวา “ทําไมเวลากินวาซาบิถึง รูสึกเหมือนโดนกระชากหนังศีรษะพรอมกับมีตะเกียบมาเสียบไวที่รูจมูกในเวลา เดียวกนั ?” ก. คนนยิ มนาํ วาซาบมิ ารับประทานคกู่ บั ปลาดบิ หรือข้าวป้นั ข. วาซาบมิ ีสรรพคณุ ทางยาที่นําไปประยกุ ตเ์ ป็นส่วนผสมของยาสีฟนั ปอ้ งกันฟันผไุ ด้ ค. ตรงประเดน็ ท้งั ก. และ ข. ง. ไมต่ รงประเดน็ ท้ัง ก. และ ข. 4. ประโยคขยายความขอ ใดไมจ ําเปน กับยอ หนาทีป่ ระโยคใจความสาํ คญั คือ “เกาะเกร็ดเปนแหลง ทอ งเท่ยี วทม่ี ีประวตั ิความเปน มานาสนใจ” ก. เกาะเกรด็ เกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่นํา้ เจา้ พระยา ข. ในสมยั สมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ทา้ ยสระเรยี กเกาะเกร็ดว่าคลองลดั เกร็ดน้อย ค. ของกนิ ขึ้นชอื่ ของเกาะเกร็ดคอื ข้าวแช่ อาหารชาวมอญทส่ี บื ทอดสตู รกนั มายาวนาน ง. เดมิ เปน็ ทีอ่ ยู่อาศยั ของชาวไทยเชอื้ สายมอญ 5. นิสิตคดิ วา การสนทนาตอไปนเ้ี ปนการสอ่ื สารท่ตี รงประเด็นหรือไม อยา งไร ก. ปัญ : ไม่เข้าใจบางคนที่ถ่ายรูปคนไม่ใสช่ ุดดําล้วนมาประจานใน social จริง ๆ คน น้ันเขาอาจจะหาซ้ือเส้อื ไมไ่ ดก้ ไ็ ด้นะ ไม่ใช่วา่ เขาไม่รักในหลวง อร : เราชอบใส่ชดุ ดาํ ล้วน เพราะทาํ ใหด้ ูผอม จึงไม่มีปญั หาเร่อื งหาซ้อื เส้ือดาํ ไมไ่ ด้

136 ข. มิวสคิ : เพลงน้ีเพราะมากเลยหรอ ถงึ เปดิ เสียงดงั ขนาดนี้ ไขม่ ุก : ทาํ นองต๊ึดดี เนื้อเพลงกโ็ ดนใจ ค. เฌอปราง : เมนูขา้ วราดแกงทค่ี ณุ ๆ ชอบส่งั ทานคอื อะไรคะ ทราย : อยากใหท้ ุกรา้ นเลิกใช้ข้าวแข็ง มนั ทําใหเ้ สยี อรรถรสในการกินมาก 6. อา นยอ หนา ตอ ไปน้แี ลว ตอบคําถาม ชว่ งนแี้ ฟนตดิ ชานมไข่มกุ มากครับ ผลลัพธ์คือแมค่ ุณอว้ นขนึ้ จนผมอดปากไม่ไหว ต้องร้องทักแล้วสุดท้ายก็เปิดศึกบ้านแทบแตก อยากถามคุณผู้หญิงว่าชานมไข่มุกมัน อรอ่ ยตรงไหนครับ ?? หรือคนอืน่ ๆ ทชี่ อบกนิ กไ็ ดค้ รบั ผมเคยลองแลว้ รู้สึกว่าหวานมาก หรือมเี คล็ดลบั สตู รเด็ด รา้ นดงั อะไรยังไงไหมครับ หรอื ต้องสงั่ ดว้ ยโค้ดพิเศษ อยา่ งเช่น \"ชานมไข่มุก แก้วใหญ่ เย็น น้ําแข็งเศษหนึ่งส่วนสาม เรกูลาร์ นอนแฟต นมพร่องมัน เนย คาราเมลไซรัป เอ็กซ์ตราบับเบิ้ล เอาแบบหนึบๆ เพิ่มวิปครีม ไม่ใส่น้ําตาล\" ถ้ามันเป็นของดี ของเด่นท่ีผมมองข้ามไปจริงๆ ผมจะได้ซ้ือไปกินเป็นเพื่อนแฟน สยบดรามา่ ในบ้าน...สั่งสอนผมด้วยเถอะ ประเดน็ สําคัญของเจา ของกระทูคอื คําตอบของชาวเน็ตท่ีวา “ของเราทะเลาะกนั เร่อื งทีเ่ ราชอบกนิ ครัวซองทท่ีขายใน เซเวน คือบับ.....” ตรงประเด็นหรอื ไม 7. ธรรมชาติของไส้เดือนเม่ือเกดิ ขึ้นมาในโลกมีแต่สร้างประโยชน์ให้แกโ่ ลก มันช่วยพรวน ดินให้ต้นไม้ ต้นหญ้าไดง้ อกงาม ไส้เดือนเป็นสัตว์ทอ่ี ยู่ในดินกจ็ ริง แต่เม่ือมันจะตาย มันจะ ขึ้นมาตายบนพื้นดนิ เป็นประโยชน์แกไ่ ก่ แก่นกได้จิกกนิ เป็นอาหาร แต่ก่อนทีม่ ันจะตายยงั ได้เขียนร่องรอยเอาไวอ้ กี ร่องรอยอันนี้แหละคือจดหมายที่มันเขียนฝากเอาไวใ้ ห้กบั มนุษย์ เพ่ือมนุษยจ์ ะไดอ้ า่ น ไดศ้ ึกษาเร่อื งราวของชีวิต ผูพูดมเี จตนากลา วถึงสง่ิ ใด 8. การอย่ใู กลค้ นฉลาดนั้น แมจ้ ะอย่ใู นนรกกย็ งั ดกี วา่ อยู่ร่วมกับคนโงบ่ นสวรรค์ เพราะคน ฉลาดยอ่ มแสวงหาความสขุ ไดแ้ ม้ในเรื่องหรือเหตกุ ารณท์ น่ี า่ จะเปน็ ทกุ ข์ มองในมมุ กลบั คนโงย่ ่อมประสบความทกุ ข์แมใ้ นเรอ่ื งทีน่ า่ จะสุข ผูพ ูดมเี จตนากลา วถงึ ประเด็นใด

137 แบบฝก หดั ทบทวน สาํ หรบั สอบปลายภาค 1. “ไม้” มีรูปสระสัน้ หรอื ยาว และเป็นพยางค์แบบใด ก. สระยาว พยางคเ์ ปน็ ข. สระสน้ั พยางคเ์ ป็น ค. สระยาว พยางค์ตาย ง. สระสัน้ พยางคต์ าย 2. ข้อใดสะกดด้วยแม่ ก กา ก. ไป ข. เอา ค. เป็นแม่ ก กาทง้ั สองข้อ ง.ไมใ่ ชแ่ ม่ ก กาทงั้ สองข้อ 3. อกั ษรต่ําคอื อะไร ก. อกั ษรไดแ้ ก่ ข ผ ส ห ฉ ฝ ข. อักษรเชน่ ง ย ว ช ล ฯลฯ ค. อกั ษรทใี่ นอดีตเป็นเสียงก้อง ง. อักษรท่ีในอดตี เป็นเสียงไม่กอ้ งไม่มีลม 4. ข้อใดในปจั จุบนั ไม่สามารถจาํ แนกจากกนั ได้ด้วยการฟัง ก. อกั ษรตํ่าเด่ยี วกบั อักษรตํ่าคู่ ข. อักษรต่ํากบั อกั ษรสูง ค. อกั ษรสูงกับอักษรกลาง ง. อกั ษรกลางกับอักษรตํา่ 5. “เธย้ี บ” มีเสียงวรรณยุกต์ใด ก. สามญั - เหลือง ข. เอก \\ ฟา้ ค. โท ^ แดง ง. ตรี / เขยี ว จ. จัตวา V ชมพู 6. ขอ้ ใดเปน็ พยางค์ท่ีไม่มจี ริงในภาษาไทย (เพราะผิดอักขรวธิ ีด้าน วรรณยุกต)์

138 ก. ปา๊ ม ข. ฆุ้ ค. อยวั ง. ม่ับ 7. “พระแกว้ ” เขียนถา่ ยเสยี งเป็นอักษรโรมันตามเกณฑ์ของราชบัณฑติ ย สภาไดว้ ่าอยา่ งไร ก. phra kaeo ข. pra kaeo ค. phra kaew ง. pra kaew 8. “สิงหเสนี” เขียนถา่ ยเสียงเปน็ อกั ษรโรมันตามเกณฑ์ของราชบณั ฑติ ย สภาไดว้ ่าอย่างไร ก. sinhasenee ข. singhasenee ค. singhaseni ง. sinhaseni 9. นสิ ิตเขียนอเี มลตอบเพื่อนชาวอินเดยี ทีถ่ ามมาว่านิสิตอยากไปเท่ยี วชม อะไรบา้ งทป่ี ระเทศอนิ เดีย ถ้านิสิตอยากไปชมแมน่ ้ําคงคา นสิ ิตควรเขียน ตอบไปอย่างไร ก. Ganga nadi ข. Gangga nadi ค. Khongkha nathi ง. Khonkha nathi 10. นิสิตเขียนบทความวิชาการเป็นภาษาอังกฤษ นิสิตควรเขียนช่ือนางเอก ของเร่อื งเกยี รติอ์ ยา่ งไร ก. Sita ข. Sīdā ค. Sītā ง. Sida 11. ชายชาว.............ขบั จักรยานยนตต์ ัด.............กลบั รถ รถต้พู ุ่งชนอยา่ งจงั ก. อเมรกิ นั / ยูเทริ ์น ข. อเมรกิ ัน / ยเู ทริ์น ค. อเมริกา / ยูเทริน์ ง. อเมรกิ า / ยเู ทิรน์ 12. ฉนั ชอบกนิ ..................................แต่ไม่ชอบกนิ .................................. ก. บรอ็ กโครี / แครอท ข. บรอกโคลี / แคร์รอต ค. บรอกโครี / แคร์รอท ง. บรอ็ คคอลี / แครอต 13. ปราณสี ่ง..................................มาแจง้ ขอเปล่ียน................................เสอื้

139 ก. เมซเซจ / ไสส์ ข. เมซเสจ / ไซส์ ค. เมสเซจ / ไซซ์ ง. เมสเสจ / ไซส์ 14. หากจะเขยี นช่ือ William Henry Gates ดว้ ยอักษรไทยแบบย่อชื่อตน้ และช่อื กลาง ตอ้ งเขยี นอย่างไร ก. ดับบลวิ . เอช. เกตส์ ข. ดบั บลิว. เอช. เกตซ์ ค. ดบั เบิล้ ย.ู เอช. เกทส์ ง. ดบั เบลิ ยู. เอช. เกตส์ 15. ยอ่ หน้าต่อไปน้ีมีขอ้ บกพร่องหรอื ไม่ อยา่ งไร หิ่งหอยเปนแมลงท่ีมีประโยชนอยางยิ่งตอการแพทย เพราะเปนแมลง ขนาดเล็กถึงกลางที่สามารถผลิตแสงได ซ่ึงเปนแสงแบบชีวภาพ โดยจะกระพริบ แสงใหเหน็ ชดั เจนในเวลากลางคืน ก. ขยายความไมต่ รงประเดน็ ข. เรยี งลําดับส่วนขยายความไมเ่ หมาะสม ค. เนอ้ื ความกํากวม/ยา่ํ อยกู่ ับที่ ง. เปน็ ย่อหนา้ ทไี่ มม่ ีข้อบกพร่อง 16. ขอ้ ใดเปน็ คาํ ตอบที่ตรงประเด็นกับคาํ ถามที่วา่ “ผูหญงิ ใชผลติ ภณั ฑ For Men ไดไ หมคะ” ก. เคยดสู ารคดีวา่ ผลิตภณั ฑเ์ ฉพาะผู้ชายหรอื ผ้หู ญงิ ไม่มจี ริง ข. ผมใช้โฟมล้างหนา้ ของแม่กห็ อมดนี ะครับ ค. ตรงประเด็นทงั้ ก. และ ข. ง. ไมต่ รงประเดน็ ทง้ั ก. และ ข. 17. ข้อความตอ่ ไปนเ้ี ป็นย่อหนา้ รูปแบบใด Tekkonkinkreet เปนหนังที่สะทอนใหเห็นถึงปญหาของสังคมใน หลายเรื่อง อยางเชนเรื่องการเขา มาของนายทนุ ตางชาตทิ ่ีดภู ายนอกเหมอื นกับวา

140 จะเปนการเขามาสรางประโยชนใหกับยานชุมชนนั้น ๆ พัฒนาใหเมืองน้ันมีแต ความเจรญิ แตแ ททจ่ี รงิ แลวกลบั เขา มาเพ่ือหวังผลประโยชนใ นทางธรุ กจิ ตา งหาก ซึ่งหนังเรื่องนี้นาํ เสนอประเด็นกิเลสของมนุษยไดคอนขางดีทีเดียว อีกทั้งยังเนน ไป ทีป่ ญ หาเด็กกําพรา เด็กทีถ่ ูกทอดทงิ้ ชีวิตและความเปนอยูข องสังคมชนชน้ั ลางเปน สวนใหญ ซง่ึ สะทอ นกลบั มาท่สี งั คมปจจุบนั ไดด ี ก. ประโยคใจความสาํ คญั +ส่วนขยายความ ข. ส่วนขยายความ+ประโยคใจความสาํ คัญ ค. ส่วนขยายความ+ประโยคใจความสาํ คัญ+สว่ นขยายความ ง. ส่วนขยายความ 18. จากยอ่ หน้าในขอ้ ที่ 17 ผ้เู ขียนขยายความดว้ ยวธิ ใี ด ก. การใหค้ าํ จํากดั ความ+การใหเ้ หตผุ ล ข. การเปรยี บเทยี บ+การใหเ้ หตผุ ล ค. การให้รายละเอียดเพิ่มเติม+การใหเ้ หตุผล ง. การให้รายละเอียดเพ่ิมเติม+การยกตวั อย่าง เฉลย 1. ข 2. ง 3. ค 4. ง 5. ง 6. ข 7. ก 8. ค 9. ก 10. ค 11. ก 12. ข 13. ค 14. ง 15. ก 16. ก 17. ก 18. ง

141 1. ตอบ ข. “ไม้” มีรูปสระ ไ- ซึ่งเป็นรูปส้ัน และเป็นพยางค์เป็นเพราะ เสยี งสดุ ทา้ ยคอื “ย” (แม่เกย) ซ่ึงมคี วามกังวาน ลากเสยี งไดย้ าว 2. ตอบ ง. “ไป” เป็นแม่เกย เพราะเสียงสุดท้ายคือ “ย” เหมือนคําว่า “ปาย” ส่วน “เอา”เป็นแม่เกอว เพราะเสียงสุดท้ายคือ “ว” เหมือนในคํา ว่า “อาว” 3. ตอบ ค. เสียงท่ีก้องทําให้ระดับเสียงต่ํา อักษรตํ่าคืออักษรที่ในอดีตเป็น เสยี งกอ้ ง 4. ตอบ ง. ในปัจจุบันอักษรกลางกับอักษรต่ํามีพื้นเสียงเดียวกันคือเสียง สามญั ต้องใชก้ ารท่องจาํ เพอ่ื จาํ แนกออกจากกัน 5. ตอบ ง. “เธ้ียบ” เป็นพยางค์ตํ่าตายยาว เม่ือมีรูปวรรณยุกต์โทจะมีเสียง วรรณยกุ ตต์ รีเหมอื นคาํ วา่ “โคก้ ” 6. ตอบ ข. “ฆุ้” เปน็ พยางคต์ าํ่ ตายสัน้ ซงึ่ ใชร้ ปู ไม้โทไม่ได้ 7. ตอบ ก. คําว่าพระแก้วถ้าถอดเสียงตามเกณฑ์ของราชบัณฑิตยสภาก็จะ ได้ว่า phra kaeo เพราะ ph แทนเสียง ผ/พ ae แทนสระแอ และใช้ o แทนเสยี ง ว ท่ีเปน็ พยญั ชนะท้าย 8. ตอบ ค. “สิงหเสนี” อ่านว่า สิง-หะ-เส-นี ดังน้ันถ้าถอดเสียงตามเกณฑ์ ของราชบณั ฑติ ยสภาก็จะได้ว่า singhaseni 9. ตอบ ก. แม่นํ้า (นที) มีเสียงต้นฉบับว่า nadi ส่วนชื่อ คงคา ก็มีเสียง ตน้ ฉบับวา่ ganga 10. ตอบ ค. นางสีดา เป็นช่ือท่ีมาจาก สีตา หรือ Sītā ในกรณีของเอกสาร วิชาการเราควรเขียนรูปเต็ม มีเครื่องหมายจุด ขีดต่างๆให้ชัดเจน ไม่ควรตัด ออกเป็น Sita

142 11. ตอบ ก. เพราะ 1. American เป็นชนชาติท่ีได้รับการยกเว้นไม่ต้องทับ ศัพท์เป็นชื่อประเทศว่า “อเมริกา” (ตามความคุ้นชินของคนไทย) 2. Uturn ต้องใส่ทัณฑฆาตท่ี ร เพราะ –r เป็นตัวสะกดที่ไม่ออกเสียงตาม สําเนยี งไทย และใส่พนิ ทุ์อิ บน ท เพอ่ื เปน็ ส่วนหน่ึงของเสยี งสระ เออะ 12. ตอบ ง. (broccoli / carrot) เพราะถอดอักษรตามเสียงถูกต้องและ ครบทุกตัว โดยเฉพาะเม่ือตัวสะกดเป็น –c –t เป็นพยัญชนะท้าย ต้องทับ ด้วย –ก –ต ไม่ใช่ –ค –ท และไม่ต้องใส่ไม้ไต่คู้ในพยางค์แรกของคําว่า บรอกโคลี เพราะแม้จะออกเสียงสระส้ัน เอาะ แต่เป็นคําใหม่ และไม่ใส่ก็ไม่ ซํา้ กับคาํ ไทยอ่ืน 13. ตอบ ค. (message / size) ขอ้ นีส้ อบถามเกี่ยวกับการทบั ศพั ท์ตัว s และ z ซงึ่ เป็นตวั ที่นสิ ิตจาํ เป็นต้องจําเพราะอาจสบั สนและเขยี นผดิ ได้ s ท่ีเปน็ พยัญชนะต้นเดี่ยว แทนด้วย ซ– สว่ น s ท่เี ปน็ ตัวสะกด แทนดว้ ย –ส สว่ น z แทนด้วย ซ ทุกกรณี 14. ตอบ ง. เพราะ 1. W (William) เขยี นทบั ตามเสยี งว่า ดับเบลิ ยู (ไม่ต้อง ใส่วรรณยุกต์) 2. Gates ถอดอักษรตามเสียงถูกต้อง ครบทุกตัว และใส่ เคร่ืองหมายทัณฑฆาตบน ส์ เพราะเป็นตัวสะกดท่ีไม่ออกเสียงตามสําเนียง ไทย 15. ตอบ ก. เพราะประโยคแรกสื่อประเด็นสําคัญ “ประโยชน์ของหิ่งห้อย” แต่ประโยคถัดมาท้ังหมดส่ือประเด็นสําคัญ “ลักษณะท่ัวไปของหิ่งห้อย” จงึ เปน็ ย่อหน้าทีป่ ระโยคใจความสําคัญกับสว่ นขยายความส่ือคนละประเดน็

143 16. ตอบ ก. ตอบตรงประเด็นว่า “ใช้ผลิตภัณฑ์ของเพศตรงข้ามได้หรือไม่” ส่วน ข. แค่บอกประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ของเพศตรงข้าม ไม่ตรง ประเดน็ 17. ตอบ ก. เนื้อหาประโยคแรกโดดเด่น กล่าวว่า “หนังเร่ืองน้ีสะท้อน ปัญหาสังคม” ครอบคลุมความหมายประโยคอ่ืนที่ส่ือความหมายแคบ บอก รายละเอยี ดปลกี ย่อยถึงปัญหาสงั คมทป่ี รากฏในหนงั 18. ตอบ ง. สังเกตไดง้ ่ายจากคาํ เช่ือม 1. เช่น ใชเ้ ม่ือขยายความยกตวั อย่าง 2. ซึ่ง ใชเ้ มื่อขยายความบอกรายละเอยี ดปลีกย่อย