Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มที่ 8 ทักษะการวางแผนชีวิตด้วยหลักการทรงงาน บูรณาการกับแผนที่ชีวิต

เล่มที่ 8 ทักษะการวางแผนชีวิตด้วยหลักการทรงงาน บูรณาการกับแผนที่ชีวิต

Published by พวงทอง เพชรโทน, 2019-12-22 14:07:52

Description: เล่มที่ 8 ทักษะการวางแผนชีวิตด้วยหลักการทรงงาน บูรณาการกับแผนที่ชีวิต

Search

Read the Text Version

โครงการพัฒนาทักษะการคิดสาํ หรับผู้เรียนในศตวรรษที 21 (ภายใต้โครงการบูรณาการยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ ตลอดชีวิตสาํ หรับการเรียนรู้ในศตวรรษที 21) ทั ก ษ ะ ก า ร ว า ง แ ผ น ชี วิ ต ด้ ว ย ห ลั ก ก า ร ท ร ง ง า น บู ร ณ า ก า ร กั บ แ ผ น ที ชี วิ ต “THE ROOTS OF EDUCATION ARE BITTER, BUT THE FRUIT IS SWEET.” – ARISTOTLE คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุ ดรธานี



1 รายงานผลการอบรมเชิงปฏบิ ัติการ “ทกั ษะการวางแผนชวี ิตด้วยหลักการทรงงาน บรู ณาการกบั แผนท่ีชวี ติ ” โครงการพัฒนาทักษะการคิดสาหรบั ผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21 (ภายใตโ้ ครงการบรู ณาการยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาและ การเรียนรู้ตลอดชีวิตสาหรบั การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21) จัดทาโดย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั อดุ รธานี

ก คานา รายงานผลการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ทักษะการวางแผนชีวิตด้วยหลักการทรงงาน บูรณาการกับ แผนท่ีชีวิต”ของโครงการพัฒนาทักษะการคิดสาหรับผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 (ภายใต้โครงการบูรณาการ ยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสาหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21) เล่มน้ีจัดทาขึ้น เพ่ือรายงานผลการอบรมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว ซ่ึงเป็นกิจกรรมท่ีพัฒนาทักษะการคิด การวางแผนของ ผู้เรียน และได้น้อมนาหลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 9 เข้ามาเป็นแนวทางใน การพฒั นาผเู้ รยี น คณะทางาน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้จัดทารายงานประเมินผลโครงการ พัฒนาทักษะการคิดสาหรบั ผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ฉบับนี้เพ่ือเป็นการประเมนิ ผลการดาเนินโครงการเพ่ือ ได้ทราบแนวทางในการปรับปรุงการดาเนินงาน และข้อเสนอแนะในการจัดโครงการ ในรายงานศึกษา คณะผู้จดั ทาหวังเป็นอย่างยิ่งวา่ รายงานฉบบั นี้จะเปน็ ประโยชน์ในการจัดการโครงการอบรมในครงั้ ต่อไป คณะผ้จู ัดทา โครงการพฒั นาทักษะการคิดสาหรบั ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏอุดรธานี พฤษภาคม 2562

ข บทสรปุ สาหรับผู้บรหิ าร คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ดาเนินการการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ทักษะการ วางแผนชีวิตด้วยหลักการทรงงาน บูรณาการกับแผนที่ชีวิต” ตามโครงการพัฒนาทักษะการคิดสาหรับ ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (ภายใต้โครงการบูรณาการยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต สาหรับการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21) มีวัตถุประสงค์ดังน้ี 1) เพื่อพัฒนาความสามารถในการวางแผนชีวิต ด้วยหลักการทรงงาน บูรณาการกับแผนที่ชีวิตของนักเรียน 2) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน และ 3) เพ่ือแนวทางจัดการเรียนการสอนด้วยกิจกรรมการวางแผนชีวติ ด้วยหลักการทรงงาน บูรณาการกบั แผนทชี่ วี ิต จากผลการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ “ทักษะการวางแผนชีวิตด้วยหลักการทรงงาน บูรณาการกับแผน ท่ีชีวิต” พบว่า 1) ความสามารถในการวางแผนชีวิตด้วยหลักการทรงงาน บูรณาการกับแผนท่ีชีวิตของ นกั เรียน ในภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับชัดเจนมาก นักเรียนจัดทาแผนท่ีชวี ิตได้ครอบคลุมทกุ องคป์ ระกอบ โดย มีการระบุจุดเริ่มต้นชีวิตและจุดส้ินสุดของชีวิต กาหนดช่วงเวลา ระบุเหตุการณ์สาคัญในอดีต ระบุ เหตุการณ์ภาพ ณ. ปัจจุบัน ระบุเหตุการณ์สาคัญ สิ่งที่คาดหวังในอนาคต ระบุตัวเลขกากับตามเหตุการณ์ สาคัญ กาหนดสัญญาลักษณ์หรือรูปวาดประกอบเหตุการณ์สาคัญ ระบุบุคคลท่ีสาคัญ ท่ีมีบทบาต่อชีวิต และ ระบุสถานที่สาคัญ ที่มีผลต่อชีวิต โดยแผนที่ชีวิตที่นักเรียนสร้างข้ึนมีการวางเป้าหมายชีวิตที่มีความ เฉพาะเจาะจง (การเรียน การงาน ครอบครัว การดาเนนิ ชีวิต) เห็นภาพแผนการเปลี่ยนแปลงชีวิตทุกด้าน การเรียน การงานการเงนิ ครอบครวั ความรัก การใชช้ วี ติ ทั่วไป เหน็ ภาพทิศทาง เส้นทางการดาเนินชีวิต เป้าหมายชีวิตท่ีกาหนดไว้สามารถวัดและตรวจสอบได้ในช่วงเวลา และสามารถปฏิบัติได้ หรือทาให้ บรรลุผลได้ 2) ผลการประเมินทักษะการคิดในศตวรรษที่ 21 ของนกั เรยี น ในภาพรวมมีทักษะการคิดในศตวรรษท่ี 21 อยู่ ในระดับสูงกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะการคิดวิเคราะห์ และการคิดสร้างสรรค์ มีคุณภาพอยู่ในระดับสูงกว่า มาตรฐาน ส่วนการคิดเชงิ ระบบ มคี ณุ ภาพอยูใ่ นระดับสูงกว่ามาตรฐาน ซ่งึ ผลการประเมนิ สะท้อนใหเ้ ห็นว่า นักเรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์และการคิดเชิงระบบที่ได้มาตรฐาน ซ่ึงเป็นทักษะการคิดท่ี จาเป็นในการดาเนินชีวิตในศตวรรษที่ 21 จากการถอดบทเรียนสะท้อนให้เห็นว่านักเรียนได้บูรณาการ หลักการทรงงานไปใชใ้ นการปฏบิ ัติตามแผนที่ชีวิต นักเรียนส่วนใหญ่นาหลกั การเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ใน การพัฒนาตนเอง ใช้หลักการอดทน-มุ่งมั่น และความต้ังใจจริงและมีความเพียร มาใช้ในการกากับใน การดาเนินชีวติ ตามแผนที่ชีวิต 3) แนวทางจัดการเรียนการสอนด้วยกิจกรรมการวางแผนชีวติ ด้วยหลักการ ทรงงานบูรณาการกับแผนท่ีชีวิต เป็นนวัตกรรมหน่ึงที่สามารถนาไปพัฒนาทักษะชีวิต และทักษะการคิด ของนักเรยี น โดยสามารถจัดเป็นกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน หรอื บูรณาการในรายวิชาพื้นฐาน หรอื รายวชิ าเพ่ิม ร่วมถึง นักศึกษาครู สามารถจัดเป็นกิจกรรมปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ หรือบรรจุเป็นรายวิชาการเรียนการ สอนสาหรบั นักศกึ ษาครไู ดเ้ รียนสาหรับไปออกแบบการสอน บทสรุปการพัฒนา“ทักษะการวางแผนชีวิตด้วยหลกั การทรงงาน บูรณาการกับแผนท่ีชีวิต” ครั้งน้ี มีประสิทธิผลและสามารถนาไปใช้ได้จริง สามารถนากิจกรรมนี้ไปใช้พัฒนาทักษะชีวิตทักษะการคิดใน ศตวรรษท่ี 21 ของนกั เรียนได้

ค ปัญหาอุปสรรคในการดาเนินงาน การพัฒนา“ทักษะการวางแผนชีวิตดว้ ยหลกั การทรงงาน บูรณาการกับแผนทชี่ ีวิต”อปุ สรรคในการ ดาเนนิ งานเป็นเร่ืองของกระบวนการนเิ ทศตดิ ตามผล เน่อื งจากเวลาระหว่างโรงเรียน ครู และคณะทางาน ไม่สอดคลอ้ งกนั จึงทาใหก้ ารนิเทศติดให้คาปรึกษาไม่ครอบคลมุ

ง สารบญั คานา.................................................................................................................................................. ก บทสรปุ ผู้บริหาร .................................................................................................................................ข ส่วนที่ 1 บทนา ..................................................................................................................................1 1. กาหนดการโครงการพฒั นาทักษะการคิดสาหรับผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21.................................. 1 สว่ นท่ี 2 ระเบยี บและวิธกี ารประเมนิ ผล ............................................................................................. 4 ส่วนท่ี 3 ผลการศึกษา …………………………………………………………..…………..…….………..…..…………. 6 ภาคผนวก ………………………………………………………………………………………..………………….………….. 22 1. แบบฟอรม์ ท่ีใชใ้ นการประเมนิ ……………………………………………………………………………. 23 2. ตัวอยา่ งสาเนาเอกสารหนงั สือต่าง ๆ ท่ีใชใ้ นโครงการ .................................................... 28 3. ตัวอยา่ งผลงานแผนท่ชี ีวิต …………………………………………………………………………………. 43 4. ประมวลภาพกจิ กรรม ………………………………………………………………………………………. 64

จ สารบัญตาราง ตารางที่ 1 คา่ เฉล่ยี และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ผลประเมนิ ทกั ษะการวางแผนชีวติ ด้วยการทา แผนทีช่ ีวิตของนักเรยี น ......................................................................................................... 6 ตารางท่ี 2 ค่าเฉลยี่ และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน ผลประเมินทักษะการคิดในศตวรรษท่ี 21 ผ่านชิ้นงาน แผนที่ชีวิตของนกั เรียน ........................................................................................................... 8

1 สว่ นที่ 1 ระเบยี บและวิธีการประเมนิ ผล การอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ “ทักษะการวางแผนชีวิตดว้ ยหลักการทรงงาน บรู ณาการกบั แผนที่ชีวิต” มีข้ันตอนการดาเนนิ งาน ดังน้ี 1. กลุม่ เปา้ หมาย 2. เครอ่ื งมอื ท่ีใช้ในการพฒั นา 3. วิธีดาเนินการพฒั นา กลุม่ เปา้ หมาย การอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ“ทักษะการวางแผนชีวิตด้วยหลกั การทรงงาน บรู ณาการกับแผนท่ชี ีวิต”ได้แก่ นกั เรยี นระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 5 โรงเรียนเจด็ สีวิทยาคาร อาเภอเซกา จังหวดั บงึ กาฬ จานวน 98 คน เครื่องมอื ทีใ่ ช้ในการพฒั นา เครือ่ งทใี่ ชใ้ นการพัฒนา ชดุ กิจกรรม“ทักษะการวางแผนชีวิตดว้ ยหลักการทรงงาน บูรณาการกบั แผนท่ีชีวิต” เป็นกิจกรรมการจัด คา่ ย เครอื่ งมอื เก็บข้อมูล 1. แบบประเมนิ แผนที่ชวี ิตของนักเรียน 2. แบบประเมนิ ทกั ษะการคิดในศตวรรษที่ 21 ผ่านชนิ้ งานแผนทีช่ ีวติ ของนกั เรยี น 3. แบบสอบถาม สาหรบั ถอดบทเรยี น /สะท้อนบทเรยี น วธิ ีดาเนนิ การพัฒนา 1. เตรียมวทิ ยากรผ้ชู ว่ ย โดยการจัดอบรมเชิงปฏิบตั ิการการจดั ทาแผนทชี ีวติ ใหแ้ กน่ ักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลกั สูตรครุศาสตรบัณฑติ สาขาวชิ าภาษาไทย 2. จัดทาหลักสูตรกิจกรรมทักษะการวางแผนชีวิตดว้ ยหลักการทรงงาน บรู ณาการกับแผนท่ีชีวติ 3. เตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์ ในการจัดกิจกรรมทกั ษะการวางแผนชวี ิตด้วยหลกั การทรงงาน บูรณาการกับแผน ที่ชีวิต 4. ประชมุ คณะครเู พ่ือสรา้ งความเขา้ ใจในหลักสูตรกจิ กรรมทักษะการวางแผนชวี ิตดว้ ยหลักการทรงงาน บูรณาการกับแผนทช่ี ีวิต ร่วมกนั กาหนดกลุ่มเป้าหมาย และปฏทิ ินในการพัฒนานักเรียน 5. จดั อบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ ทกั ษะการวางแผนชีวิตดว้ ยหลักการทรงงาน บรู ณาการกับแผนท่ีชวี ติ ให้ กลุ่มเป้าหมาย 6. คณะทางานและครรู ่วมกันประเมินชิ้นงาน แผนที่ชีวิตนักเรียน 7. นกั เรียนนาความรู้ไปสกู่ ารปฏิบัติ โดยคณะทางานดาเนินการนเิ ทศ ติดตาม

5 8. จดั กจิ กรรมถอดบทเรียน 9. สรุปรายงาน

6 ส่วนท่ี 2 ผลการศกึ ษา การอบรมเชิงปฏิบัติการ “ทักษะการวางแผนชีวิตด้วยหลักการทรงงาน บูรณาการกับแผนท่ีชีวิต” มีผล การวเิ คราะห์และนาเสนอเป็น 3 ตอน ประกอบดว้ ย ตอนท่ี 1 ผลการพฒั นาทกั ษะการวางแผนชีวติ ด้วยการทาแผนท่ีชีวติ ของนักเรยี น 1.1 ผลการประเมินความสามารถในการจดั ทาแผนทีชวี ติ ของนกั เรียน 1.2 ผลการประเมินทักษะการคิดในศตวรรษท่ี 21 ผา่ นชิน้ งานแผนท่ชี วี ิตของนักเรียน ตอนท่ี 2 ผลการตดิ ตามนาแผนทช่ี ีวิตไปสกู่ ารปฏบิ ัติ ผลการถอดบทเรยี นของผู้เรียน ตอนท่ี 3 แนวทางจัดการเรยี นการสอนดว้ ยกจิ กรรมการวางแผนชีวิตด้วยหลักการทรงงานบรู ณาการกับ แผนที่ชีวิต ตอนท่ี 1 ผลการพัฒนาทักษะการวางแผนชีวติ ด้วยการทาแผนทชี่ วี ติ ของนกั เรยี น 1.1 ผลการประเมินทกั ษะการวางแผนชีวติ ด้วยการทาแผนที่ชวี ิต ของนักเรยี น ได้จากการประเมินช้ินงานแผนท่ีชีวิตของนักเรียนท่ีผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ทักษะการ วางแผนชีวติ ด้วยหลกั การทรงงาน บูรณาการกบั แผนท่ีชวี ิต” จานวน 98 คน โดยมีชิ้นงาน จานวน 98 ชนิ้ ผลการ วเิ คราะหข์ อ้ มลู รายละเอยี ดปรากฏดังตารางที่ 1 ตารางท่ี 1 แสดงค่าเฉล่ีย และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ผลประเมินทกั ษะการวางแผนชีวิตดว้ ยการทา แผนทชี่ ีวติ ของนกั เรียน รายการ ระดับคุณภาพ (N=98) องคป์ ระกอบแผนท่ีชีวิต  S.D. แปลผล 1. ระบุจดุ เริม่ ตน้ ชีวิตและจุดสิน้ สดุ ของชีวิต 2.99 0.16 ชดั มาก 2. กาหนดชว่ งเวลา 3.00 0.00 ชัดเจนมาก 3. ระบุเหตุการณส์ าคญั ในอดีต 3.00 0.00 ชดั เจนมาก 4. ระบเุ หตกุ ารณภ์ าพ ณ. ปจั จบุ นั 3.00 0.00 ชดั เจนมาก 5. ระบุเหตกุ ารณ์สาคัญส่ิงที่คาดหวังในอนาคต 3.00 0.00 ชัดเจนมาก 6. ระบุตวั เลขกากับตามเหตุการณส์ าคัญ 3.00 0.00 ชัดเจนมาก 3.00 0.00 ชัดเจนมาก

7 ตารางท่ี 1 แสดงคา่ เฉล่ีย และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ผลประเมนิ แผนทชี่ ีวติ ของนักเรียน (ต่อ) รายการ ระดับคุณภาพ (N=98)  S.D. แปลผล 7. กาหนดสัญลักษณห์ รือรูปวาดประกอบเหตุการณส์ าคัญ 3.00 0.00 ชดั เจนมาก 8. ระบบุ คุ คลทีส่ าคญั ทม่ี ีบทบาทตอ่ ชวี ิต 3.00 0.00 ชัดเจนมาก 9. ระบุสถานทส่ี าคัญ ท่มี ผี ลตอ่ ชีวติ 3.00 0.00 ชดั เจนมาก 10. มกี ารบรรยายขยายความ ในเหตกุ ารณ์สาคัญ 2.86 0.48 ชัดเจนมาก การวางแผนชวี ิตด้วยการทาแผนทช่ี ีวิต 2.85 0.95 ชัดเจนมาก 1. เป้าหมายชวี ิตมคี วามเฉพาะเจาะจง 3 0.00 ชดั เจนมาก 2. เป้าหมายชีวิตสามารถวัดและตรวจสอบไดใ้ นช่วงเวลา 2.95 0.49 ชัดเจนมาก 3. เปา้ หมายชวี ติ สามารถปฏิบตั ิได้ หรือทาให้บรรลุผลได้ 2.78 0.49 ชัดเจนมาก 4. เป้าหมายชีวิตเก่ียวข้องกบั ชีวิต /อยบู่ นพื้นฐานความเปน็ จริง 2.89 0.35 ชดั เจนมาก 5. เป้าหมายชีวิตมีขอบเขตของเวลาในการปฏบิ ัติแตล่ ะเปา้ หมาย 2.90 0.30 ชดั เจนมาก 6. การเรียงลาดบั ความสาคัญของแต่ละเปา้ หมาย 2.82 0.48 ชัดเจนมาก 7. เหน็ ภาพแผนการเปลี่ยนแปลงของชีวิตสู่เปา้ หมายตามลาดับ 2.92 0.28 ชดั เจนมาก 8. เหน็ ภาพแผนการเปล่ียนแปลงชวี ติ ทกุ ดา้ น การเรียน การงาน 3 0.00 ชดั เจนมาก การเงิน ครอบครวั ความรัก การใช้ชีวติ ท่วั ไป 2.96 0.20 ชดั เจนมาก 9. เหน็ ภาพทศิ ทาง/เส้นทางการดาเนนิ ชวี ิต 2.33 0.95 ชดั แจน 10. มแี ผนสารองในการดาเนินชีวิต 2.92 0.35 ชัดแจน รวมเฉลี่ย มาก จากตารางท่ี 1 พบว่า ทกั ษะการวางแผนชีวติ ดว้ ยการทาแผนทชี่ วี ิตของนักเรยี นในภาพรวมมีคุณภาพอยู่ใน ระดับชัดเจนมาก (  =2.92) พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับชัดเจนมาก ท้ัง 2 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบแผนท่ี ชวี ติ ( =2.99 ) ค่าเฉลย่ี มากทส่ี ุด รองลงมา คอื การวางแผนการทาแผนทีช่ วี ิต(  =2.85) เม่อื พิจารณาเปน็ รายขอ้ ตามองค์ประกอบโดยเรยี งจากองค์ประกอบทม่ี ีคา่ เฉล่ียสูงสุด คอื ด้านองค์ประกอบแผนที่ชีวิต พบว่า มีคะแนนเฉล่ียอยู่ในระดับชัดเจนมาก 9 รายการ คือ มีการระบุ จุดเร่ิมต้นชีวิตและจุดส้ินสุดของชีวิต กาหนดช่วงเวลา ระบุเหตุการณ์สาคัญในอดีต ระบุเหตุการณ์ภาพ ณ. ปัจจุบัน ระบุเหตุการณ์สาคัญสิ่งท่ีคาดหวังในอนาคต ระบุตัวเลขกากับตามเหตุการณ์สาคัญ กาหนดสัญลักษณ์หรือรูปวาด ประกอบเหตุการณ์สาคัญ ระบุบุคคลที่สาคัญ ท่ีมีบทบาทต่อชีวิต และ ระบุสถานท่ีสาคัญ ท่ีมีผลต่อชีวิต มีค่าเฉล่ีย เท่ากัน ( =3.00) ดา้ นการวางแผนการดว้ ยการทาแผนท่ชี วี ติ พบว่า คะแนนเฉลี่ยอย่ใู นระดับชดั เจนมาก 9 รายการ คือ มี ค่าเฉล่ียสูงสุด คือ เป้าหมายชีวิตมีความเฉพาะเจาะจง และ เห็นภาพแผนการเปลี่ยนแปลงชีวิตทุกด้าน การเรียน การงานการเงิน ครอบครัว ความรัก การใช้ชีวิตท่ัวไป มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน (  =3.00) รองลงมา คือ เห็นภาพ ทิศทาง/เส้นทางการดาเนินชีวิต ( =2.96) เป้าหมายชีวิตสามารถวัดและตรวจสอบได้ในช่วงเวลา ( =2.95)

8 เหน็ ภาพแผนการเปล่ียนแปลงของชวี ติ ส่เู ป้าหมายตามลาดับ ( =2.92) เหน็ ภาพแผนการเปล่ยี นแปลงของชีวิตสู่ เป้าหมายตามลาดับ ( =2.90) เป้าหมายชีวิตเกี่ยวข้องกับชีวิต /อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ( =2.89) การ เรียงลาดับความสาคัญของแตล่ ะเปา้ หมาย ( =2.82) และ เป้าหมายชวี ิตสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ หรอื ทาให้บรรลผุ ลได้ ( =2.78) 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะการคดิ ในศตวรรษที่ 21 ผา่ นชน้ิ งานแผนท่ีชีวิตของนกั เรยี น ไดจ้ ากการประเมนิ ชิ้นงานแผนท่ีชีวติ ของนักเรยี นท่ีผา่ นการอบรมเชิงปฏิบตั ิการ “ทักษะการ วางแผนชวี ิตดว้ ยหลักการทรงงาน บูรณาการกับแผนท่ีชวี ติ ” จานวน 98 คน โดยมีชิน้ งาน จานวน 98 ช้ิน ผลการ วเิ คราะหข์ ้อมูล รายละเอยี ดปรากฏดังตารางท่ี 2 ตารางที่ 2 แสดงค่าเฉลย่ี และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน ผลประเมินทกั ษะการคิดในศตวรรษท่ี 21 ผา่ นช้ินงาน แผนท่ีชีวิตของนกั เรียน รายการ ระดับคณุ ภาพ (N=98)  S.D. แปลผล การคิดสร้างสรรค์ 3.69 0.56 สูงกวา่ มาตรฐาน 1. สร้างแนวคดิ ใหม่และมีความสาคัญทัง้ ทเี่ ป็นแนวคดิ ในเชิง 3.69 0.66 สูงกว่ามาตรฐาน การปรับปรงุ และการเปลีย่ นแปลง 2. ให้รายละเอียด วิเคราะห์และประเมินแนวคดิ ตนเองเพอ่ื ใช้ 3.65 0.00 สงู กว่ามาตรฐาน ปรบั ปรุงและเพิม่ ขยายเชิงสรา้ งสรรค์ 3. แสดงให้เหน็ ถงึ ความรเิ ร่ิมและความสร้างสรรคใ์ นงานและเข้าใจ 3.72 0.45 สูงกวา่ มาตรฐาน ถึงข้อจากัดในการใชแ้ นวคิดใหม่ตามความเป็นจรงิ ของตน 3.78 0.49 สูงกวา่ มาตรฐาน การคดิ วเิ คราะห์ 3.81 0.40 สงู กวา่ มาตรฐาน 4. แจกแจงองคป์ ระกอบแผนทีช่ วี ติ ครอบคลุม 10 องค์ประกอบ 3.78 0.42 สูงกว่ามาตรฐาน 5. แสดงความสมั พันธ์ของเปา้ หมาย เหตกุ ารณ์ สถานที่ บคุ คล 3.74 0.44 สูงกว่ามาตรฐาน เวลา 6. แสดงจดั ลาดับเหตกุ ารณ์ สะท้อนเชิงเหตผุ ล

9 ตารางท่ี 2 แสดงคา่ เฉล่ยี และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน ผลประเมนิ ทกั ษะการคิดในศตวรรษท่ี 21 ผา่ นช้ินงาน แผนท่ชี วี ิตของนกั เรยี น (ต่อ) รายการ ระดับคณุ ภาพ (N=98)  S.D. แปลผล การคดิ เชงิ ระบบ 3.49 0.78 ไดม้ าตรฐาน 7. จาแนกองค์ประกอบ แผนทช่ี วี ติ เป็นระบบ (ระยะเรม่ิ ตน้ ระยะ 3.51 0.78 สูงกวา่ มาตรฐาน กลาง และระยะส้นิ สดุ ) 3.49 0.75 ไดม้ าตรฐาน 8. เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของส่วนตา่ งๆ ท่ีเปน็ องค์ประกอบของ 3.43 0.80 ได้มาตรฐาน แผนทช่ี วี ิต 3.54 0.80 สูงกว่ามาตรฐาน 9. แสดงวัฏจักรของเหตปุ จั จัย และการสง่ ผลย้อนกลบั 10. แสดงกระบวนการเปลยี่ นแปลง และปัจจัยตา่ งๆ ที่เอื้อตอ่ 3.64 0.64 สูงกวา่ มาตรฐาน ระบบ รวมเฉล่ีย จากตารางที่ 2 พบว่า ประเมนิ ทักษะการคิดในศตวรรษท่ี 21 ผ่านชิน้ งานแผนทีช่ ีวติ ของนกั เรยี น ใน ภาพรวมมคี ุณภาพอยู่ในระดับสูงกวา่ มาตรฐาน ( =3.64 ) พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดบั สงู กวา่ มาตรฐาน ท้ัง 2 ทักษะ คอื การคดิ วิเคราะห์ ( = 3.78 ) การคดิ สร้างสรรค์ (  =3.69) สว่ นการคิดเชงิ ระบบ มีคา่ เฉล่ียอยู่ในระดับ ได้มาตรฐาน (  =3.49) เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายข้อตามองค์ประกอบโดยเรียงจากองค์ประกอบท่ีมีค่าเฉลีย่ สงู สดุ คือ ด้านการคิดวิเคราะห์ พบว่า มีคะแนนเฉล่ียอยู่ในระดับสูงกว่ามาตรฐานทุกรายการ โดย เรียงจากค่าเฉล่ีย สูงสุด ได้แก่ แจกแจงองค์ประกอบแผนท่ีชีวิต ครอบคลุม 10 องค์ประกอบ (  = 3.81 ) แสดงความสัมพันธ์ของ เปา้ หมาย เหตุการณ์ สถานท่ี บุคคล เวลา ( = 3.78 ) แสดงจัดลาดับเหตุการณ์ สะทอ้ นเชิงเหตุผล ( = 3.74 ) ดา้ นการคิดสร้างสรรค์ พบวา่ มีคะแนนเฉลย่ี อยูใ่ นระดับสงู กว่ามาตรฐานทกุ รายการ โดย เรียงจากค่าเฉลีย่ สูงสุด ได้แก่ แสดงให้เห็นถึงความริเร่ิมและความสร้างสรรค์ในงานและเข้าใจถึงข้อจากัดในการใช้แนวคิดใหม่ตาม ความเป็นจริงของตน ( = 3. 78) สรา้ งแนวคดิ ใหม่และมีความสาคัญท้ังที่เป็นแนวคิดในเชิงการปรับปรุงและการ เปล่ียนแปลง ( = 3.69) ให้รายละเอียด วิเคราะห์และประเมินแนวคิดตนเองเพ่ือใช้ปรับปรุงและเพ่ิมขยายเชิง สร้างสรรค์ ( = 3.65) ด้านการคิดเชงิ ระบบ พบว่า มคี ะแนนเฉล่ียอยใู่ นระดบั สงู กว่ามาตรฐาน 1 รายการ คอื แสดง กระบวนการเปลี่ยนแปลง และปจั จยั ตา่ งๆ ทีเ่ อื้อตอ่ ระบบ ( = 3.54 ) รองลงมาคือได้ค่าเฉลี่ยอยใู่ นระดบั ได้ มาตรฐาน เช่อื มโยงความสัมพันธข์ องสว่ นต่างๆ ทเ่ี ปน็ องค์ประกอบของแผนท่ีชีวิต ( = 3.49 ) แสดงวฏั จักรของ เหตปุ ัจจัย และการสง่ ผลย้อนกลบั ( = 3.43 )

10 ตอนที่ 2 ผลการติดตามนาแผนที่ชวี ิตไปสู่การปฏิบตั ิ ผลการถอดบทเรยี นของผู้เรยี น ไดจ้ ากการถอดบทเรียนจากตัวแทนนกั เรยี นท่ีผา่ นการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการ “ทักษะการวางแผน ชีวิตด้วยหลกั การทรงงาน บรู ณาการกับแผนทีช่ ีวติ ” จานวน 25 คน และคณะครู 15 คน โดยสรุปผลการสะท้อน การเรียนรู้ดงั นี้ จากการสะท้อนผลของนักเรียนที่ผ่านการเรียนการพัฒนา “ทักษะการวางแผนชีวิตด้วยหลักการ ทรงงาน บูรณาการกับแผนที่ชีวิต” นักเรียนแสดงความคิดเห็น ดังนี้ (วันท่ี 24 กรกฎาคม 2562) โดยนาเสนอ ประเด็น 1.ประสบการณเ์ รียนรู้ นักเรยี นสว่ นใหญก่ ล่าวได้สอดคลอ้ งกันว่า 1.1 ได้ประสบการณใ์ นการวางแผนชวี ิต ทาใหม้ องเหน็ วา่ ส่ิงใดสาคญั ตอ่ ตัวเอง รู้วิธีการ วางแผนชีวิตทมี่ ที ิศทางและจะทาตามเป้าหมายหมายท่ีตั้งไว้ อย่างน้อยการกาหนดเปา้ หมายต้องชดั เจน สามารถ นาไปปฏิบัติได้ บนพน้ื ฐานความสามารถของตนเอง 1.2 ไดป้ ระสบการณ์ในทาแผนท่ีชวี ติ วาดภาพเสน้ ทางชวี ติ 1.3 ได้มุมมองเกี่ยวกบั คณุ ค่าความสาคัญของตั้งเปา้ หมายชีวิต ทงั้ การเรียน การปฏบิ ัติตน ครอบครัว ความรัก และสุขภาพ 1.4 ได้รบั ประสบการณแ์ ปลงใหมจ่ ากแผนทีช่ ีวิตเพ่ือนๆ และเข้าใจเพอื่ นมากขนึ้ 1.5 ไดป้ ระสบการณใ์ นการวิเคราะห์ภาพตัวเองในอดีต ปัจจบุ ัน และอนาคต 1.6 ไดแ้ นวคิดจากพี่ๆ คณุ ครใู นนาหลักการทรงงานมาใชใ้ นการกากบั ชีวิต (จากแบบสอบถาม) 2. การเรยี นรู้ส่ิงใหม่ นักเรยี นสว่ นใหญ่สะท้อนวา่ ไดร้ ับความรเู้ ก่ยี วกบั ทา “แผนทีช่ ีวิต” 2.1 ไดร้ ูว้ ิธกี ารกาหนดเปา้ หมายในชวี ิตที่ถูกตอ้ ง 2.2 ได้รบั รู้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การเรยี นต่อจากรุ่นพี่ 2.3 ได้ออกแบบ เสน้ ทางชีวติ ด้วยตัวเอง ครง้ั แรก 2.4 ไดฝ้ กึ การคดิ วางแผน ไดว้ เิ คราะห์ตวั เองวา่ อยา่ งเป็นอะไร ทาอะไร ในอนาคต 2.5 ได้ร่วมแลกเปลยี่ นวิธคี ิดการวางอนาคตกับเพอื่ น และพ่ีๆ ชีวติ ท่ชี ัดเจน 3. การนาไปใชป้ ระโยชน์ อนาคต นักเรยี นสว่ นใหญเ่ หน็ วา่ ตนเองนาไปใชป้ ระโยชน์ดังน้ี 3.1 ใชเ้ ปน็ เครื่องในการวางแผนชวี ติ ตนเอง ท้ังด้านการเรยี น การงาน ครองครวั และการใช้ 3.2 ใช้ทบทวน และตรวจสอบตนเองเกี่ยวกับสิ่งให้ควรทา ส่ิงไหนไม่ควรทาให้อดีตและ 3.3 เป็นข้อมูลในการทาความเขา้ ใจกบั พอ่ แม่ คุณครู เพ่ือนและตนเอง 3.5 เปน็ เคร่อื งมอื ทาให้รจู้ ักตนเองมากขนึ้ รู้ความสามารถตนเอง

11 3.6 ฝึกการสรา้ งระเบยี บวนิ ยั ให้ตนเอง 3.7 การทาแผนท่ชี ีวิตทาใหเ้ ห็นภาพอนาคตตนเองก่อให้เกดิ แรงบันดาลใจ ให้ตัวเอง 3.8. เปน็ แนวทางในการแสวงหาวธิ กี ารไปสู่เปา้ หมาย ครผู สู้ อน ครไู ด้แผนที่ชวี ติ ของนกั เรยี นนาไปใช้ประโยชนด์ ังนี้ 1. ใช้เปน็ ข้อมูลพื้นฐานในการแนะแนว การเรยี น อาชีพและอ่นื ๆ สาหรับนักเรียน 2. ใช้เป็นข้อมลู ในการสอื่ สารทาความเขา้ ใจกบั ผเู้ รียน 3. ใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ในการสร้างความร่วมมอื ระหวา่ งนักเรยี นกับครใู นการกาหนด เปา้ หมายในการเรยี น การดาเนินชีวติ และการแกป้ ญั หา ผลจากการปฏิบตั ติ ามแผนทชี่ ีวติ ของนกั เรยี น นกั เรียน 008 : “……ผมตงั้ เปา้ หมายในแผนท่ีชวี ิตวา่ จะลดการเทย่ี วตอนกลางคนื …. ผมทา ได้ผมลดการเที่ยวตอนกลางคืนลงและเพื่อนท่ีเป็นด้วยกันก็ทาได้เช่นกัน…พ่อแม่...ดีใจ….กับการลดการเท่ียวของ ผม” นักเรียน 025 : “…..หนูต้ังเป้าหมายไว้ในเรื่องการใช้เงิน เน้นความพอเพียง...เดิมหนูอยาก ซื้ออะไรหนูก็ซ้ือตามความอยากได้...หนูตั้งเป้าไว้ว่าหนูจะใช้เงินซ้ือของกินของใช้ตามความจาเ ป็น….ตอนนี้หนูลด การใชเ้ งนิ ไดม้ าก หนูจะซอ้ื ของใช้ ของเกนิ เทา่ ทจ่ี าเป็น และตอนนี้จะซ้ืออะไรหนจู ะตรวจสอบดูวา่ ...แม่มีเงนิ หรอื มี ส่ิงท่ตี อ้ งใชอ้ ะไรหรือไม่...หนูดีใจ..ภูมใิ จ..กับตนเอง..” นักเรยี น 043 : “…. แตก่ ่อนหนูไม่ได้ใส่ใจเร่ืองเวลาในแตล่ ะวันเท่าไหร่ พอหนูไดว้ างแผนใน การอ่านหนังสือเพ่อื ไปสอบเรยี นต่อมหาวิทยาลยั ใหต้ นเอง ปรากฏกวา่ หนจู ัดการเวลาไม่ถูกต้องจงึ ทาให้หนูหาเวลา อ่านหนังสือเพ่ือการเตรียมตัวไม่ได้ ….หนูจึงหันกลับมาวางแผนเวลาเรียน เวลาช่วยงานบ้าน เวลาทาการบ้านใหม่ ..ทาให้หนูเห็นการวางแผนชีวิตต้องวางแผนเวลา และหาวิธีใหไ้ ปถึงเป้าหมายด้วย ทาให้การจัดการชวี ิตที่บ้านและ โรงเรยี นด้วย...” นักเรียน 077 : “…. จากการเข้าอบรม..ช่วงทาแผนที่ชีวิตได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับพ่ีๆ ….ทา ใหเ้ ห็นรูปแบบการเรียนของพๆ่ี ….ลองนาไปใช้ดู….ปรากฏวา่ ผม ไม่ค้างงานคณุ ครูสกั วชิ าเลย.....” นักเรียน 082 : “......หนูชอบการทาแผนทชี่ วี ิต ...ทาใหห้ นเู ห็นสง่ิ ท่ีหนูต้องทาก่อนหลงั และ ทาให้หนูรู้ว่าวางแผนไว้ต้องทาทันที ถึงจะทาให้สาเร็จ....เช่นหนูจะไม่เล่นโทรศัพท์ก่อนทาการบ้าน...หนูทาได้...แม่ ชม..” นักเรียน 084 : “.....การทาแผนท่ีชีวิต...หนูเห็นว่าต้องมองความต้องการและความพร้อม ของครอบครัวด้วย เพราะหนูวางแผนในแผนท่ีว่าจะเข้ามหาวิทยาลัย...มาคุยกับพ่อแม่.. แผนท่ีชีวิตหนูก็ ปรับเปลี่ยนไป..แตก่ ็เปน็ สิ่งทดี่ ี เพราะได้ทาร่วมกับพอ่ แม่....” ผลการประเมนิ ดังกล่าวแสดงให้เหน็ ว่า การพฒั นา“ทกั ษะการวางแผนชีวติ ด้วยหลกั การทรงงาน บรู ณา การกับแผนท่ีชีวิต” ครั้งนี้มีประสิทธิผลและสามารถนาไปใช้ได้จริง สามารถนากิจกรรมน้ีไปใช้พัฒนาทักษะชีวิต ทักษะการคิดในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนได้ ดูจากผลการประเมินทักษะการวางแผนชีวิตด้วยการทาแผนท่ีชีวิต ของนักเรียนในภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับชัดเจนมาก ประเมินทักษะการคิดในศตวรรษท่ี 21 ผ่านช้ินงานแผนท่ี

12 ชีวิตของนักเรียน ในภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับสูงกว่ามาตรฐาน สะท้อนให้เห็นว่านักเรียนมีทักษะการคิด วิเคราะห์ คิดสรา้ งสรรคแ์ ละการคิดเชิงระบบ ซง่ึ เปน็ ทักษะการคิดท่ีจาเปน็ ในการดาเนนิ ชีวติ ในศตวรรษท่ี 21 นอกจากนี้ยงั สะท้อนใหเ้ ห็นว่านักเรียนไดบ้ รู ณาการหลกั การทรงงานไปใช้ในการปฏิบตั ติ ามแผนที่ชีวิต นักเรียนส่วนใหญ่นาหลักการเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา การพัฒนาในด้านต่างๆ ต้องเข้าใจตนเอง บริบทของตนเอง ศกั ยภาพตนเอง เขา้ ใจหลกั ปฏบิ ัติตามเป้าหมายทีต่ นเองวางแผนไว้ รว่ มถงึ การยดึ หลักการดาเนนิ ชีวิตทั้งด้านการ เรียนด้วยความเพียร มีความมุ่งมั่นและความมีความต้ังใจในการทางาน อดทน-มุ่งม่ัน ให้รู้จักการอดทน ทาจน เป็นนิสัย ความตั้งใจจริงและมีความเพียร ทางานต้องมีความตั้งใจ อย่าทางานไปวันๆ ตั้งใจทางานจะทาให้มี แรง มีกาลงั ใจ และต้องขยันหม่ันเพยี ร งานบางอยา่ งยาก แตก่ ็ต้องฟันฝา่ ไปใหไ้ ด้ ตอนที่ 3 แนวทางจดั การเรียนการสอนด้วยกิจกรรมการวางแผนชีวติ ดว้ ยหลักการทรงงานบรู ณาการ กบั แผนที่ชวี ิต การพัฒนา“ทกั ษะการวางแผนชีวิตดว้ ยหลกั การทรงงาน บรู ณาการกบั แผนทีช่ วี ิต” คณะทางานเห็น ว่ากิจกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นนวัตกรรมหนึ่งที่ใช้เป็นแนวทางในการเรียนการสอนหรือเสริมสร้างทักษะชีวิตและ ทกั ษะการคิดในศตวรรษท่ี 21 ได้ โดยมีแนวทางการนาไปใช้ดงั นี้ กลุ่มเป้าหมายท่ใี ชใ้ นการพฒั นา 1. นักเรียนระดับการศึกษาขน้ั พื้นฐาน 2. นกั ศกึ ษาครู เป้าหมายในการพัฒนา (ทักษะที่ตอ้ งการพัฒนา) 1. พฒั นาทกั ษะชีวติ ฝึกการวางแผนชีวิต ดว้ ยแผนทชี่ ีวิต ทั้ง ระยะสนั้ ระยะกลาง ระยะยาว 2. พฒั นาทกั ษะกาคิดในศตวรรษท่ี 21 คอื ทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ คดิ เชงิ ระบบ และทักษะการส่อื สาร การจดั กจิ กรรรมพฒั นา โรงเรยี นระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ควรนากจิ กรรมดงั กลา่ วไปจัดการเรียนการสอน 1. จดั ในกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น เช่น กจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมนักเรียนคอื ชุมนุม/ชมรม 2. จัดทาเป็นกิจกรรมในรายวิชาเพ่มิ เตมิ 3. จดั กจิ กรรมบูรณาการในวิชาพนื้ ฐาน กลุม่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาพลศึกษา หรือ กลุ่มสาระ การเรียนรกู้ ารงานอาชพี หรือ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม คณะครศุ าสตร์ ควรนากิจกรรมดงั กล่าวไปจัดการเรียนการสอน ท้งั นเ้ี พื่อพฒั นาใหน้ กั ศึกษา 1. บรรจุเป็นกจิ กรรมปฐมนเิ ทศนักศึกษาใหม่ เพ่อื ให้นักศึกษาใหม่ได้เรยี นรู้การวางแผนชีวติ เพื่อเพิ่มทักษะชีวิต ตลอดการเรยี นร้ใู นมหาวิทยาลยั หรอื 2. บรรจใุ นรายวิชาวิชาชีพครู เช่น รายวชิ าออกแบบการเรยี นการสอน สาหรบั เป็นบทเรียนให้ นกั ศกึ ษาได้เรียนรูเ้ พอื่ นาไปจัดกิจกรรมสาหรบั นักเรียน หรือ 3. จัดอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ ารตามความเหมาะสมหรอื โอกาส

13 เนอื้ หาการพฒั นา 1. หน่วยการเรียนรู้ วางแผนชวี ติ 2. หน่วยการเรยี น แผนท่ีชวี ิต 3. หน่วยการเรียนรู้ หลักการทรงงานกบั การดาเนนิ ชวี ิต การวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ช้ินงาน แผนทช่ี วี ติ 2. ประเมินทกั ษะการคิด ผ่านชิ้นงานแผนที่ชวี ิต 3. สมั ภาษณ์ หรอื ถอดบทเรียน

22 ภาคผนวก ▪ แบบฟอรม์ ประเมนิ ▪ ตัวอยา่ งสาเนาเอกสารหนังสือตา่ ง ๆ ที่จาเป็นสาหรบั การจดั โครงการ ▪ ตวั อยา่ งผลงานผูเ้ ขา้ รว่ มการอบรม ▪ ประมวลภาพกจิ กรรม

23 แบบประเมินแผนที่ชีวิตของนักเรยี น “ทกั ษะการวางแผนชวี ติ ดว้ ยหลกั การทรงงาน บรู ณาการกบั แผนทช่ี วี ติ ” ของโครงการพฒั นาทกั ษะการคดิ สาหรบั ผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 ภายใตโ้ ครงการบรู ณาการยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาและการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ สาหรบั การเรยี นรใู้ น ศตวรรษท่ี 21 คำชี้แจง แบบประเมนิ แผนทช่ี วี ติ ของนกั เรยี นฉบบั เป็นแบบประเมนิ สาหรบั ครหู รอื ทมี วจิ ยั ใชใ้ นการ ประเมนิ ชน้ิ งานการจดั ทาแผนทชี วี ติ (Roadmap) ของนกั เรยี น โดยพจิ ารณาตามรายงการประเมนิ โปรด ทาเครอ่ื งหมาย  ลงในชอ่ งวา่ งทต่ี รงกบั ระดบั ความคดิ เหน็ ของท่านมากทส่ี ดุ ไดค้ ะแนน 3 หมายถงึ ชดั เจนมาก (คลอบคลมุ องคป์ ระกอบ สมบรู ณ์ มองเหน็ ปฏบิ ตั ไิ ด้ เป็นรปู ธรรม ไดค้ ะแนน 2 หมายถงึ ชดั เจนบางส่วน (ครอบคลมุ องคป์ ระกอบ มองเป็นการปฏบิ ตั ไิ ม่ ชดั เจน) ไดค้ ะแนน 1 หมายถงึ ตอ้ งปรบั ปรงุ (ลกั ษณะกาหนดไดไ้ มค่ รอบคลุมองคป์ ระกอบ) รำยกำรประเมิน ระดบั ควำมคิดเหน็ 321 องคป์ ระกอบแผนที่ชีวิต 1. ระบุจดุ เรมิ่ ตน้ ชวี ติ และจดุ สน้ิ สุดของชวี ติ 2. กาหนดช่วงเวลา 3. ระบเุ หตุการณ์สาคญั ในอดตี 4. ระบเุ หตุการณ์ภาพ ณ. ปัจจุบนั 5. ระบุเหตุการณ์สาคญั สง่ิ ทค่ี าดหวงั ในอนาคต 6. ระบตุ วั เลขกากบั ตามเหตุการณ์สาคญั 7. กาหนดสญั ญาลกั ษณ์หรอื รปู วาดประกอบเหตุการณ์ สาคญั 8. ระบุบคุ คลทส่ี าคญั ทม่ี บี ทบาทต่อชวี ติ

24 รำยกำรประเมิน ระดบั ควำมคิดเหน็ 321 9. ระบุสถานทส่ี าคญั ทม่ี ผี ลต่อชวี ติ 10. มกี ารบรรยายขยายความ ในเหตุการณ์สาคญั สำระของแผนท่ีชีวิต 1. เป้าหมายชวี ติ มคี วามเฉพาะเจาะจง 2. เป้าหมายชวี ติ สามารถวดั และตรวจสอบไดใ้ นช่วงเวลา 3. เป้าหมายชวี ติ สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ หรอื ทาใหบ้ รรลผุ ลได้ 4. เป้าหมายชวี ติ เกย่ี วขอ้ งกบั ชวี ติ /อยบู่ นพน้ื ฐานความ เป็นจรงิ 5. เป้าหมายชวี ติ มิ ขี อบเขตของเวลาในการปฏบิ ตั แิ ต่ละ เป้าหมาย 6. การเรยี งลาดบั ความสาคญั ของแต่ละเป้าหมาย 7. เหน็ ภาพแผนการเปลย่ี นแปลงของชวี ติ ส่เู ป้าหมาย ตามลาดบั 8. เหน็ ภาพแผนการเปลย่ี นแปลงชวี ติ ทกุ ดา้ น การเรยี น การงานการเงนิ ครอบครวั ความรกั การใชช้ วี ติ ทวั่ ไป 9. เหน็ ภาพทศิ ทาง/เสน้ ทางการดาเนนิ ชวี ติ 10. เหน็ แผนสารองในการดาเนินชวี ติ ควำมสรำ้ งสรรคข์ องผลงำน ข้อคิดเหน็ อื่น …………………………………………………………………………………………………………………….. ................................................………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………….……………………………………

25 แบบประเมินทกั ษะกำรคิดในศตวรรษท่ี 21 ผา่ นชน้ิ งานแผนท่ีชีวิตของนักเรยี น “ทกั ษะการวางแผนชวี ติ ดว้ ยหลกั การทรงงาน บรู ณาการกบั แผนทช่ี วี ติ ” ของโครงการพฒั นาทกั ษะการคดิ สาหรบั ผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 ภายใตโ้ ครงการบรู ณาการยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาและการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ สาหรบั การเรยี นรใู้ น ศตวรรษท่ี 21 คำชี้แจง แบบประเมินทกั ษะกำรคิดในศตวรรษที่ 21 ผา่ นชิน้ งานแผนท่ีชีวิตของนักเรยี น ฉบบั น้ี เป็นแบบประเมนิ สาหรบั ครหู รอื ทมี วจิ ยั ใชใ้ นการประเมนิ ทกั ษะการคดิ ผา่ นชน้ิ งานการจดั ทา แผนทชี วี ติ (Roadmap) ของนกั เรยี น โดยพจิ ารณาตามรายงการประเมนิ โปรดทาเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องวา่ งทต่ี รงกบั ระดบั ความคดิ เหน็ ของท่านมากทส่ี ุด ระดบั คณุ ภำพ รำยกำรประเมิน 4321 กำรคิดสร้ำงสรรค์ สงู กว่า ได้ ใกล้ ไม่ได้ มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน 1.สรา้ งแนวคดิ ใหมแ่ ละมคี วามสาคญั ทงั้ ทเ่ี ป็นแนวคดิ ใน เชงิ การปรบั ปรงุ และการเปลย่ี นแปลง 2. ใหร้ ายละเอยี ด วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ แนวคดิ ตนเอง เพ่อื ใชป้ รบั ปรงุ และเพมิ่ ขยายเชงิ สรา้ งสรรค์ 3. แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความรเิ รม่ิ และความสรา้ งสรรคใ์ นงาน และเขา้ ใจถงึ ขอ้ จากดั ในการใชแ้ นวคดิ ใหมต่ ามความเป็น จรงิ ของตน กำรคิดวิเครำะห์ 4. แจกแจงองคป์ ระกอบแผนทช่ี วี ติ ครอบคลมุ 10 องคป์ ระกอบ 5. แสดงความสมั พนั ธข์ องเป้าหมาย เหตุการณ์ สถานท่ี บคุ คล เวลา

รำยกำรประเมิน 26 6. แสดงจดั ลาดบั เหตุการณ์ สะทอ้ นเชงิ เหตุผล ระดบั คณุ ภำพ 7. จาแนกองคป์ ระกอบ แผนทช่ี วี ติ เป็นระบบ (ระยะ เรมิ่ ตน้ ระยะกลาง และระยะสน้ิ สุด) 4321 กำรคิดเชิงระบบ สงู กวา่ ได้ ใกล้ ไม่ได้ 7. จาแนกองคป์ ระกอบ แผนทช่ี วี ติ เป็นระบบ (ระยะ มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน เรม่ิ ตน้ ระยะกลาง และระยะสน้ิ สดุ ) 8. เชอ่ื มโยงความสมั พนั ธข์ องสว่ นต่างๆ ทเ่ี ป็น องคป์ ระกอบของแผนทช่ี วี ติ 9. แสดงวฏั จกั รของเหตุปัจจยั และการสง่ ผลยอ้ นกลบั แสดงกระบวนการเปลย่ี นแปลง และปัจจยั ต่างๆ ทเ่ี ออ้ื ต่อระบบ ข้อคิดเหน็ อ่ืน …………………………………………………………………………………………………………………….. ................................................………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………….…………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………….……………………………………………………………… ……………………………………………………………

27 ข้อคำถำมสำหรบั ถอดบทเรียน การพฒั นา“ทกั ษะการวางแผนชวี ติ ดว้ ยหลกั การทรงงาน บรู ณาการกบั แผนทช่ี วี ติ ” ของโครงการพฒั นาทกั ษะการคดิ สาหรบั ผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 ภายใตโ้ ครงการบรู ณาการยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาและการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ สาหรบั การเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 คำชี้แจง ผดู้ าเนินการถอดบทเรยี นดาเนินการตงั้ คาถามกบั ผรู้ ว่ มถอดบทเรยี น หรอื ใหผ้ รู้ ว่ มถอดบทเรยี น ตอบขอ้ คาถาม 1. คณุ คดิ วา่ ”ประสบการณ์เรยี นร”ู้ ทท่ี ่านไดร้ บั ครงั้ น้เี ป็นอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………… 2. คุณเหน็ วา่ “การเรยี นรใู้ หมท่ เ่ี กดิ ขน้ึ ในครงั้ น้สี าหรบั ท่านมอี ะไรบา้ ง” …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………… 3. คณุ ไดน้ าความรแู้ ละแผนทช่ี วี ติ ทไ่ี ดจ้ ดั ทาในการอบรมครงั้ น้ี เกดิ ประประโยชน์อะไรต่อคุณ …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………… 4. อ่นื ๆ …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………

28 เอกสารประกอบการอบรม หลกั กำรทรงงำน ในหลวงรชั กาลที่ 9 ทรงเป็นพระมหากษตั ริย์ท่นี อกจากจะทรงด้วยทศพิธราชธรรมแล้ว ทรงยังเป็น พระราชาทเี่ ป็นแบบอย่างในการดาเนินชวี ติ และการทางานแก่พสกนกิ รของพระองค์และนานาประเทศอีกดว้ ย ผ้คู นตา่ งประจักษ์ถึงพระอจั ฉรยิ ภาพของพระองค์ และมีความสานกึ ในพระมหากรุณาธิคุณเป็นลน้ พ้นอนั หาท่สี ดุ มไิ ด้ ซึ่งแนวคิดหรือหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีความน่าสนใจท่ีสมควรนามาประยุกต์ใช้กบั ชวี ติ การ ทางานเปน็ อยา่ งย่งิ

29 หลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั เปน็ องค์ความรู้ดา้ นเทคนคิ กระบวนการพฒั นาตามวิธี ทรงงานของพระองค์ เรียกว่า หลักการทรงงาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ซ่ึงประกอบด้วยวิธีการทรง 23 วิธี จา แตกเป็นหลักการทรงงาน 3 ขัน้ ตอนหลัก คอื หลกั คดิ 1. ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เป็นแนวทางการดาเนนิ ชวี ิต เพ่อื สรา้ งความเข้มแข็งหรือภูมิคมุ้ กนั ทุก ดา้ น 2. ภูมิสังคม ต้องคานึงถึงภมู ปิ ระเทศของบรเิ วณน้ัน และสังคมวทิ ยาของคนทีน่ ั่น 3. องค์รวม มวี ธิ คี ิดอยา่ งองคร์ วม มองอยา่ งครบวงจร และมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแนวทางแก้ไขอยา่ ง เช่ือมโยง 4. ยึดประโยชน์ส่วนรวม การทาเพือ่ สว่ นรวม ไม่ใช่เป็นการทาใหแ้ ต่เพียงผูอ้ ่ืนเท่านน้ั แต่เป็นการทาเพอ่ื ตนเองให้สามารถอยรู่ ่วมกบั สังคมที่อาศัยอยู่ได้ 5. การมีส่วนร่วม รู้จักเปดิ กวา้ ง รับฟังความคิดเห็นจากผู้อน่ื แมก้ ระท่ังคาวพิ ากษ์วจิ ารณ์และนามาปรบั ใช้ อย่างฉลาด 6. เข้าใจความต้องการของประชาชน การใหค้ วามช่วยเหลือประชาชน ต้องช่วยเขาเพื่อให้เขาสามารถ ช่วยตนเองได้ 7. รบั ฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ ่ืนและเคารพความคิดที่แตกตา่ ง ใชว้ ิธีท่เี รียบงา่ ยและตรงไปตรงมาในการ ทางาน รับฟงั ความคิดเห็นและความต้องการของผทู้ จ่ี ะได้รับประโยชนแ์ ละผู้ทีต่ ้องเสยี ประโยชน์ 8. การพ่ึงตนเอง ตอ้ งแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อใหแ้ ขง็ แรงพอทจี่ ะดารงชีวิตได้ตอ่ ไป และพฒั นาให้ สามารถอยู่ในสังคมไดต้ ามสภาพแวดลอ้ ม และพง่ึ ตนเองได้ในทสี่ ุด 9. พออยู่พอกนิ ตอ้ งทาให้ตนเอง “พออยูพ่ อกนิ ” เสียกอ่ น แล้วจึงคอ่ ยขยบั ขยายให้มีขีดสมรรถนะท่ี ก้าวหน้าตอ่ ไป 10. ปลกู ป่าในใจคน การท่ีจะฟ้นื ฟูทรพั ยากรธรรมชาตใิ ห้กลบั คืนมาจะต้องปลูกจิตสานกึ ให้คนรัก ธรรมชาตเิ สยี กอ่ น 11. รู้-รกั -สามคั คี เพ่ือทางานใหส้ าเร็จและเพื่อการคบหาสมาคมกนั การเอื้อเฟ้ือซึง่ กันและกัน สงั คมใดกต็ าม ถ้ามคี วามเอื้อเฟือ้ เกือ้ กูลกัน ดว้ ยความมุ่งดีมุ่งเจริญตอ่ กนั สงั คมนน้ั ย่อมเต็มไปดว้ ยไมตรีจิต มติ รภาพ มคี วามร่มเย็นเป็นสุขน่าอยู่ 12. ความซื่อสัตย์ สจุ ริต จริงใจต่อกัน ผู้ทม่ี คี วามสจุ ริตและบริสุทธใ์ิ จ แมจ้ ะมีความรูน้ ้อยกย็ ่อม ทาประโยชน์ให้แกส่ ่วนรวมได้ มากกว่าผทู้ ่มี ีความรู้มากแต่ไมม่ คี วามสุจรติ ไม่มีความบรสิ ทุ ธใิ์ จ 13. สง่ เสรมิ คนดีและคนเก่ง ควรให้การสนับสนนุ สง่ เสรมิ ผูป้ ฏบิ ตั งิ าน เพราะคนดี คนเก่ง จะเป็น กาลังสาคญั ในการพัฒนาความเจริญในด้านตา่ งๆ ไดเ้ ปน็ อย่างดี หลกั วชิ า 1. ทางานอยา่ งผรู้ ู้จรงิ ให้ศึกษางานทีจ่ ะทาให้ดี อย่าผลผี ลาม ความรู้จะหยดุ น่ิงไม่ได้ ต้องขวนขวาย ตอ้ งเก็บ บันทึกไว้ แล้วนากลับมาใช้ประโยชน์ “ความรู้” ต้องพัฒนาอยเู่ ร่ือยๆ ตอ้ งรูห้ มดและ รูอ้ ยา่ งแทจ้ ริง 2. ไม่ตดิ ตารา ไมผ่ ูกมัดกบั วชิ าการและเทคโนโลยีที่ไมเ่ หมาะสมกับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ท่ีแทจ้ ริง 3. ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ ในบางครง้ั หากตอ้ งการแกไ้ ขธรรมชาติ อาจใชธ้ รรมชาตเิ ข้าชว่ ยเหลือ

30 โดยให้ธรรมชาตเิ ป็นผูแ้ ก้ไขและฟ้ืนเอง ตามกาลเวลา 4. ใชอ้ ธรรมปราบอธรรม นาความจริงในเรือ่ งความเปน็ ไปแห่งธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของธรรมชาติมา เป็นหลักการ และแนวปฏบิ ตั ิทสี่ าคัญในการแก้ปญั หาและปรบั ปรงุ เปลี่ยนแปลงสภาวะทีไ่ มป่ กติเขา้ สรู่ ะบบท่ีเปน็ ปกติ เชน่ การใช้ผกั ตบชวาบาบัดน้าเสียโดยดดู ซึมสิง่ สกปรกปนเป้อื นในนา้ หลักปฏิบตั ิ 1. เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา การพัฒนาในดา้ นตา่ งๆ ต้องเข้าใจภูมิประเทศ เข้าใจคน เขา้ ใจหลกั ปฏิบัติ และที่สาคัญ เราเขา้ ใจเขาและจะต้องทาอย่างไรให้เขาเขา้ ใจเราดว้ ย 2. ประหยัด เรยี บงา่ ย ไดป้ ระโยชน์สูงสุด การแก้ไขปัญหาให้ยดึ หลัก ความเรียบงา่ ยและประหยัด ทาได้เอง หาไดใ้ นท้องถ่นิ และประยุกตใ์ ชส้ ิ่งทมี่ ีอยูใ่ นชุมชนนัน้ ๆ มาแก้ไขปัญหา โดยไม่ตอ้ งลงทุนสูง หรือใช้ เทคโนโลยที ่ไี ม่ย่งุ ยากนกั 3. อ่อนน้อม ถ่อมตน และประหยัด มคี วามอ่อนนอ้ ม ถ่อมตนรู้จักใชข้ องใหค้ มุ้ คา่ และเกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ 4. ทาให้ง่าย ทาสงิ่ ยากใหก้ ลายเปน็ ง่าย ทาส่ิงทสี่ ลบั ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย 5. พิจารณาตามลาดบั การพัฒนาตอ้ งเริ่มจากพัฒนาในสง่ิ ที่มคี วามจาเป็นสูงสดุ ก่อน และค่อยพจิ ารณา เร่อื งอ่นื ตามมาเป็นลาดับ 6. บริการท่จี ดุ เดยี ว“ศูนยศ์ ึกษาการพัฒนาอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ” ทง้ั 6 แห่ง เป็นต้นแบบ ในการบริหารรวมทจ่ี ดุ เดยี ว เพอ่ื ประโยชนต์ อ่ ประชาชนทจี่ ะมาใช้บริการ จะได้ประหยัดเวลาและคา่ ใชจ้ า่ ย โดยมี หนว่ ยงานราชการตา่ งๆ มารว่ มดาเนินการและให้บริการประชาชน ณ ทีแ่ หง่ เดียว 7. แกป้ ญั หาทจี่ ุดเลก็ มองปัญหาในภาพรวมก่อนเสมอ แต่การแก้ปญั หาจะเรม่ิ จากจุดเล็กๆ คือ การแก้ไขปญั หาเฉพาะหนา้ ท่ีคนมกั จะมองข้าม 8. กาแฟตน้ เดยี ว : กา้ วแรกทก่ี ล้าก้าว เปน็ ตัวอยา่ งหน่ึงของการพฒั นาชาวเขา เพราะเมือ่ มีการปลกู กาแฟแทนการปลกู ฝิน่ มีเพียงกาแฟต้นเดยี วเทา่ น้ันท่รี อด แต่ถือวา่ เปน็ ส่งิ ดี ที่อย่างนอ้ ยก็มี 1 ต้นท่รี อด ซง่ึ สิ่งที่ ตอ้ งทาต่อไป คือ ทาอย่างไรให้กาแฟรอดมากกวา่ 1 ต้น คือ ต้องมคี วามมานะพยายามจนผลสดุ ทา้ ยความเพยี ร สามารถปลกู กาแฟขายได้เงินจานวนมาก 9. ขาดทุนคอื กาไร หลกั การคือ “การให”้ และ “การเสยี สละ” เป็นการกระทาอันมีผลเปน็ กาไร คอื ความอยดู่ มี สี ุข 10. ความเพยี ร มีความมุ่งม่นั และความมีความตัง้ ใจในการทางาน 11. อดทน-มุ่งมัน่ ให้รจู้ ักการอดทน ทาจนเปน็ นสิ ยั ไม่วา่ ส่ิงดีๆ ท่เี ขา้ มา ทุกข์ที่เขา้ มา สขุ ที่เข้ามา เราก็รบั ดว้ ยใจสงบ ไม่ต่ืนเตน้ หรอื กงั วลกบั สงิ่ ที่เกิดขึน้ กบั ตัวเรา 12. ความตั้งใจจรงิ และมีความเพียร ทางานต้องมีความต้งั ใจ อย่าทางานไปวนั ๆ ต้งั ใจทางานจะ ทาให้มแี รง มกี าลงั ใจ และต้องขยันหมนั่ เพยี ร งานบางอย่างยาก แต่ก็ต้องฟันฝา่ ไปให้ได้ 13. ทางานอยา่ งมคี วามสุข การทางานให้มีความสุข ควรเรมิ่ จากตนเองท่ีจะตอ้ งมคี วามสุขกับ งานทที่ า และจะทาใหผ้ ูอ้ ืน่ รสู้ ึกมีความสุขไปด้วยที่ได้ทางานร่วมกบั เรา

31 สรุปแนวคดิ สามารถนาหลกั การทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั มาเปน็ แนวทางในการปฏิบตั ิงานไดด้ ังน้ี เป็นแนวทางในการดาเนินชีวิตประจาวัน ให้สามารถอยู่ร่วมกับคนในหน่วยงานได้อย่างมีความสุข ยึด ความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายท่ีไม่จาเป็น ลดความฟุ่มเฟือย รู้จักคาว่า “พอ” โดยไม่เบียดเบียนท้ังตนเอง และผู้อืน่ มคี วามสุขและความพอใจกับงานทปี่ ฏิบตั ิ กับชวี ิตท่พี อเพยี ง ยึดทางสายกลางในการดาเนินชีวิต พยายามใช้ทรัพยากรที่เกย่ี วข้องกบั การปฏิบัตงิ าน และชีวิตประจาวนั อย่างประหยัด เพื่อให้เกดิ ประโยชน์มาก ทีส่ ดุ ควรมีการวางแผนการทางานประจาวันให้ดี โดยพิจารณาถึงงานท่ีค้างจากวันก่อน งานท่ียังไม่เสร็จใน วันนี้ และงานท่ีต้องทาในวนั ตอ่ ไป โดยให้มีการเขียนรายการของงานที่ต้องปฏบิ ัติลงในแผน่ กระดาษ หรือสมุด บันทกึ ประจาวัน ทง้ั นีค้ วรระบุใหช้ ัดเจน วา่ มีงานอะไรบา้ งท่ตี ้องทาใหว้ ันนั้นๆ ควรมีการบริหารเวลาโดยจดั ลาดับความสาคัญของงาน ซง่ึ ในแต่ละวันมีงานหลายอย่าง ดังนัน้ ควร จดั ลาดบั ความสาคญั ของงานวา่ จะทาอะไร กอ่ น – หลงั เพื่อใหม้ ีความเหมาะสมกับเวลา หลักการทรงงานบูรณาการกระบวนการคิดเชิงออกแบบทีเ่ นน้ ชุมชนเป็นฐาน เปน็ ขั้นตอนที่นักเรยี นประยกุ ต์ความรู้เก่ยี วกบั หลักการทรงงาน ในการ“ออกแบบชีวติ ” “ออกแบบ ชุมชน” “ออกแบบผลติ ภณั ฑ์”โดยยึดหลักการทรงเป็นตวั กากับแนวคิด หลักการปฏบิ ตั ิงานตามข้ันตอน กระบวนการคดิ เชงิ ออกแบบ (Design Thinking) และลงพ้ืนที่ปฏิบัติจริงในโรงเรยี นและชมุ ชน แนวคิดของรปู แบบ 1. ใช้การพฒั นานักเรยี นไดโ้ ดยตรงในลักษณะการจัดกจิ กรรม ทัง้ ในและนอกเวลาเรียน 2. เปน็ รปู แบบกิจกรรมที่เน้นให้ผูเ้ รยี นไดเ้ รียนร้ผู า่ น กิจกรรม สถานการณ์ ปญั หาท่ีเกิดขึน้ ใน ชุมชนอนั เป็นวิถีชีวิตของเขาเองเปน็ บทเรียน (เน้นลงภาคสนาม โดยลงชุมชน) 3. เปน็ รูปแบบกิจกรรมท่เี นน้ ให้ผู้เรยี นการใช้ Design Thinking ในการแกป้ ญั หา การการ

32 ออกแบบนวัตกรรม ผ่านการเขา้ ใจปญั หาให้ถกู ตอ้ ง, การคิดแบบไม่มกี รอบ และ การเรียนรู้ผ่านการทดลองลง มอื ทาโดยใช้หลักการทรงงานเปน็ ตวั กากับการเรียนรู้ การทางาน ใช้ Thinking Tools ในการชี้นาการคดิ ข้ันตอนการพฒั นาทกั ษะการคดิ เชงิ ออกแบบ (Design thinking) ด้วย DT by King’s work principle ขน้ั ที่ 1 เขา้ ใจ เป็นกระบวนการที่นักเรยี นทาความเข้าใจบริบทโรงเรยี น ชมุ ชน สถานที่ สภาพแวดลอ้ มอยา่ งแทจ้ รงิ เรม่ิ จากการทาข้อตกลง รวบรวมขอ้ มูลที่เกี่ยวข้อง รว่ มท้ังบุคคล สภาพแวดลอ้ ม เพื่อ นาขอ้ มลู มาวเิ คราะห์ วนิ ิจฉยั ทง้ั นี้เพ่ือหาประเดน็ ปัญหา ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย กอ่ นจะเข้าไปนาข้อมูล ความต้องการมา“ออกแบบชีวิต” “ออกแบบชุมชน” “ออกแบบผลิตภณั ฑ์” ท่ีสอดคล้องกบั ความต้องการขอ้ ง กลุม่ เปา้ หมาย ข้ันน้ี นกั เรยี นนาหลักการทรงงานมาใชใ้ นการกากับการปฏบิ ัติงานในการเขา้ ใจบรบิ ทของโรงเรียน คือ “หลกั คดิ ” ไดแ้ ก่ ศึกษาข้อมูลอยา่ งเป็นระบบ ภมู ิสังคม คิดอย่างองค์รวม เข้าใจความตอ้ งการของประชาชน รบั ฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืนและเคารพความคิดทแ่ี ตกตา่ ง 1.1 เข้าใจปญั หา (Empathize ) เป็นการลงพ้ืนทีศ่ ึกษา ค้นหา เกบ็ รวบรวมข้อมลู จากผู้ที่ เกี่ยวขอ้ งโดยเฉพาะกล่มุ เป้าหมาย เพอื่ ให้เข้าใจเกยี่ วกับสภาพ ปญั หา ความต้องการ ความจาเปน็ ในการดาเนิน ชีวิต การประกอบอาชีพ การท่องเทย่ี ว การคา้ ขายเปน็ ต้น รวมถงึ สภาพสงั คม สภาพทางภูมศิ าสตร์ของโรงเรียน และชุมชนประกอบเพื่อให้ได้ปัญหาและความตอ้ งการท่ีถูกตอ้ ง ดว้ ยวิธีการ สอบถาม สมั ภาษณ์ สังเกตพฤติกรรม 1.2 ระบุความต้องการ (Define) เปน็ การตคี วามวิเคราะหน์ าข้อมลู ที่ไดเ้ รียนรจู้ ากขัน้ ตอน การทาความเขา้ ใจปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย เพ่ือระบุปญั หาความต้องการท่ีแท้จริงคอื อะไร โดยใช้ขอ้ มลู ภาพรวม และมมุ มองของกลมุ่ เป้าหมายมาจดั กลุ่มและหาความสัมพันธใ์ นแต่ละกล่มุ กอ่ น เพื่อให้ง่ายตอ่ การวิเคราะห์ จึงทา สรุปปัญหาหรือความต้องการที่สาคัญเก่ียวกบั สาระการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรียนรู้ ศาสตรพ์ ระราชา เพอ่ื นาไปหาแนว ทางการ“ออกแบบชวี ิต” “ออกแบบชมุ ชน” “ออกแบบผลิตภณั ฑ์” ข้นั ที่ 2 เขา้ ถึง เป็นขั้นตอนการวิเคราะหป์ ัญหาและความต้องการของกลุ่มเปา้ หมาย และผทู้ ่ี เกย่ี วขอ้ งมสี ว่ นร่วมในกระบวน การพฒั นามากที่สุด ข้นั นี้นกั เรยี นนาหลักการทรงงานมาใช้ในการกากับการ ปฏบิ ตั ิงานในการเข้าถงึ แนวคิด วิธกี ารออกแบบพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเพ่มิ เติมศาสตร์พระราชา คือ “หลักวชิ า” ไดแ้ ก่ ทางานอยา่ งผ้รู จู้ รงิ ไม่ตดิ ตารา ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ และใช้อธรรมปราบอธรรม โดยขัน้ ตอนดังนี้ 2.1 หาแนวทางแก้ปญั หา (Ideate) เปน็ การระดมแนวคิด วิธีการ“ออกแบบชวี ติ ” “ออกแบบ ชมุ ชน” “ออกแบบผลติ ภณั ฑ์” จากหลากหลายแนวทาง เพือ่ ให้ทีมงานไดเ้ หน็ และนามาจดั กลมุ่ ความคิด และ รว่ มกันเลือกส่ิงท่ที มี งานคดิ ว่านาไปส่กู ารสร้างต้นแบบ“ออกแบบชวี ติ ” “ออกแบบชุมชน” “ออกแบบ ผลติ ภัณฑ์” ในขั้นตอ่ ไป ข้นั ท่ี 3 พฒั นา เปน็ ข้นั ตอนการลงมือกระทา การ“ออกแบบชีวติ ” “ออกแบบชุมชน” “ออกแบบ ผลิตภณั ฑ์” ขน้ั น้ีนักเรยี นนาหลกั การทรงงานมาใช้ในการกากบั การปฏิบตั งิ านใน 2 หลกั ควบคู่กนั คอื “หลกั วชิ า” และ”หลักปฏิบัติ” หลกั วิชา ไดแ้ ก่ ทางานอย่างผ้รู ู้จริง ไม่ตดิ ตารา ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ และใช้อธรรม ปราบอธรรมและ หลกั ปฏบิ ตั ิ ได้แก่ ประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสดุ พิจารณาตามลาดบั บรกิ ารทจี่ ดุ เดยี ว แก้ปัญหาทจ่ี ดุ เล็ก ขาดทุนคือกาไร ความเพยี ร อดทน-ม่งุ มน่ั ความตง้ั ใจจริงและมีความเพยี ร และทางานอยา่ งมี ความสขุ 3.1 พฒั นาต้นแบบ (Prototype) เปน็ การนาแนวคิดและวิธกี ารทีไ่ ด้มาพจิ ารณาเลือก แนวคิด รูปแบบ องคป์ ระกอบ วสั ดอุ ุปกรณ์ วิธกี ารพัฒนา “ออกแบบชวี ติ ” “ออกแบบชมุ ชน” “ออกแบบผลติ ภณั ฑ์”

33 ทสี่ อดคล้องเหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย พร้อมลงมือดาเนนิ การยกร่าง“ออกแบบชวี ิต” “ออกแบบชมุ ชน” “ออกแบบผลติ ภณั ฑ์” ตามองค์ประกอบ และนาไปตรวจสอบคณุ ภาพเบ้ืองตน้ โดยผ้รู ูห้ รือผู้เชี่ยวชาญ หรือ กลมุ่ เปา้ หมาย ก่อนนาไปศึกษาความเปน็ ไปไดโ้ ดยการทดลองในขั้นต่อไป 3.2 ทดสอบ (Test) เป็นการนาตน้ แบบ “ออกแบบชวี ติ ” “ออกแบบชุมชน” “ออกแบบ ผลิตภณั ฑ์” ท่สี ร้างขน้ึ ไปใชก้ ับกลมุ่ เป้าหมายเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ หลังการทดลอง นาขอ้ มลู มาพิจารณา ข้อบกพร่องของต้นแบบหลกั สูตรและนามาปรบั ปรุงแก้ไขต้นแบบ“ออกแบบชีวิต” “ออกแบบชุมชน” “ออกแบบ ผลติ ภัณฑ์” เพ่ือให้ได้หลักสูตรที่สมบูรณ์

พัฒนาทักษะการคดิ เชิงออกแบบ (Design t principle หลักคิด - สัมภาษณ์ – สอบถาม - สังเกตการณ์ - มีส่วนรว่ ม - ไม่ตดั สนิ -ตงั้ คาถามท่ีถกู ต้อง EMPATHIZE IDEA เข้าใจปัญหา หาแน เข้าถึงผู้คน แก้ป และพ้นื ท่ี DEFINE - กาหนดกรอบปัญหาสาคญั ระบุความต้องการ - กาหนกลมุ่ เปา้ หมาย - มองเห็นความสัมพนั ธ์ หลกั คิด - ระบุความต้องการ - หลกั ปฏิบ

thinking) ดว้ ย DT by King’s work 34 e. หลักวิชา - แลกเปล่ยี นแนวคดิ - - ทุกแนวคิดมีค่า ATE - คดิ ตา่ ง คดิ เหมือน -สรา้ งแบบจาลอง นวทาง - คิดตา่ งจากแนวคดิ เดมิ ปัญหา – เรยี บง่าย หลักวิชา - ประหยดั - ทาได้จรงิ หลกั ปฏบิ ตั ิ PROTOTYPE พฒั นาต้นแบบ - เข้าใจการนาไปใช้ TEST ทดสอบ – งานอะไรบ้าง - ปรบั แก้ทนั ที บตั ิ - ระบคุ วามต้องการ - สอบถามกลุ่มเปา้ หมาย

35 กำรวำงแผนชีวิตด้วยแผนที่ชีวิต การควบคมุ หรอื วางแผนชวี ติ ของตวั เองนนั้ ถอื วา่ เป็นกา้ วสาคญั อกี กา้ วหน่ึงของชวี ติ เลยกว็ ่าได้ เพราะ มนั คอื การทค่ี ณุ ตดั สนิ ใจในสงิ่ ทต่ี วั เองตอ้ งการ และมองหาว่าสง่ิ ใดสาคญั ต่อตวั คุณ รวมถงึ วางแผนทจ่ี ะทา ตามเป้าหมายทต่ี งั้ ไวจ้ นทาใหค้ ณุ สามารถใชช้ วี ติ ของตวั เองไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ี ถา้ เป็นอยา่ งงนั้ คุณลองมาเรยี นรู้ วธิ กี ารวางแผนชวี ติ ของตวั เองดสู ิ คุณจะไดส้ ามารถทาตามเป้าหมายและความตอ้ งการของตวั เองได้ วิธีกำรสร้ำงแผนชีวิตให้ตวั เอง 1. 1. เขียนแผนชีวิตออกมำ แผนชวี ติ คอื แผนทม่ี หี ลกั การและถกู เขยี นออกมาเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ซง่ึ คุณ สามารถนาไปใชเ้ พอ่ื วางแผนใหก้ บั ดา้ นต่างๆ ของชวี ติ ได้ ไมว่ า่ จะเป็นในเรอ่ื งของอาชพี การงาน สถานทๆ่ี คณุ อาศยั อยู่ คนทค่ี ุณเกย่ี วขอ้ งดว้ ย และวธิ กี ารใชเ้ วลาของตวั เอง ซง่ึ การเขยี นแผนชวี ติ นนั้ จะชว่ ยทาใหค้ ณุ สามารถระบไุ ดว้ ่ามดี า้ นไหนของชวี ติ ตวั เองบา้ งทค่ี ณุ ตอ้ งการจะเปลย่ี นแปลง หรอื ตอ้ งการทจ่ี ะทาใหบ้ รรลุ เป้าหมาย • แผนชวี ติ อาจจะชว่ ยทาใหค้ ุณมองเหน็ ชวี ติ ตวั เองในทางทแ่ี ตกต่างออกไป และการไดเ้ หน็ มุมต่างๆ ของสง่ิ เหล่านนั้ จากแผ่นกระดาษอาจจะชว่ ยคุณจดั ลาดบั ความสาคญั และปรบั ปรงุ ไอเดยี ต่างๆ ของ ตวั เองได้ • การเขยี นแผนชวี ติ ของตวั เองลงกระดาษนนั้ อาจจะชว่ ยใหค้ ุณมองเหน็ เป้าหมายต่างๆ ทม่ี คี วาม คลา้ ยกนั และมองเหน็ ความตอ้ งการทต่ี วั เองมี หรอื แกไ้ ขปรบั ปรุงสงิ่ ทไ่ี มเ่ หมาะหรอื ไมเ่ ขา้ กบั แผน ชวี ติ ของตวั เองได้

36 2. ดวู ่ำคณุ ต้องกำรจะปรบั เปลี่ยนส่วนไหนของชีวิตตวั เอง การมแี ผนชวี ติ ของตวั เองนนั้ ไมไ่ ด้ หมายความว่า คุณจะตอ้ งเปลย่ี นแปลงทกุ ดา้ นของชวี ติ ไปซะเดยี๋ วนนั้ เลย แต่จรงิ ๆ แลว้ มนั หมายถงึ จดุ เรม่ิ ตน้ ทจ่ี ะ เปลย่ี นแปลงสง่ิ ต่างๆ ต่างหาก ซง่ึ บางทอี าจจะมหี ลายดา้ นในชวี ติ คณุ ทค่ี ณุ พอใจแลว้ เชน่ สถานทๆ่ี คณุ อาศยั อยู่ แต่กอ็ าจจะยงั มบี างดา้ นของชวี ติ ทค่ี ุณตอ้ งการจะปรบั เปลย่ี น เช่น การหาอาชพี ทต่ี รงใจของตวั เอง มากกวา่ เดมิ และนอกจากน้ีกอ็ าจจะมอี กี หลายดา้ นของชวี ติ ทค่ี ณุ ตอ้ งการจะวางแผนอกี แต่ถา้ หากคุณ อยากจะเรมิ่ ตน้ ปรบั เปลย่ี นบางอย่าง ใหค้ ุณพยายามเลอื กสว่ นทด่ี สู าคญั สาหรบั ตวั คณุ ทส่ี ุดมา 1 อยา่ งกพ็ อ • ตดั สนิ ใจวา่ ดา้ นไหนของชวี ติ ทค่ี ุณตอ้ งการจะเรมิ่ ต้นปรบั เปลย่ี น เช่น อาชพี กลมุ่ สงั คม งานอดเิ รก หรอื อ่นื ๆ ซง่ึ ตวั อยา่ งของดา้ นต่างๆ ในชวี ติ ทค่ี ุณอาจจะอยากเปลย่ี นกอ็ าจจะมที งั้ ในดา้ นการงาน การศกึ ษา หรอื รายไดแ้ ละการวางแผนทางการเงนิ หรอื อาจจะเป็นในดา้ นของทศั นคติ มุมมองชวี ติ การสรา้ งสรรคส์ งิ่ ต่างๆ หรอื เป้าหมายของการพกั ผ่อน หรอื ไมก่ อ็ าจจะเป็นในดา้ นของครอบครวั และ เพอ่ื น การวางแผนสาหรบั ลกู ๆ การสนบั สนุนทางสงั คมทม่ี อี ยา่ งแน่นหนา หรอื การเป็นอาสาสมคั ร ใหก้ บั กจิ กรรมทม่ี งุ่ เน้นการช่วยเหลอื คนอ่นื หรอื บางทกี อ็ าจจะเป้าหมายดา้ นรา่ งกายและสขุ ภาพก็ ได้ • ถามตวั เองวา่ จะมอี ะไรดๆี ตามมาบา้ งหากคุณปรบั เปลย่ี นดา้ นหน่งึ ของชวี ติ ตวั เองไป คณุ จะได้ ชดั เจนกบั ตวั เองว่าทาไมคณุ ถงึ เลอื กทจ่ี ะเปลย่ี นแปลงดา้ นนนั้ ของชวี ติ • ถามตวั เองวา่ การเปลย่ี นแปลงในดา้ นไหนเป็นสง่ิ ทย่ี ากทส่ี ดุ สาหรบั คุณ เมอ่ื คุณรแู้ ลว้ ว่าส่ิงไหนเป็น สง่ิ ทย่ี ากทส่ี ดุ คณุ กจ็ ะสามารถเตรยี มความพรอ้ มใหต้ วั เองเมอ่ื คุณตอ้ งพบเจอกบั ความยากลาบาก เหล่านนั้ ได้ ตวั อยา่ งเช่น สาหรบั ตวั คุณ ส่วนทย่ี ากทส่ี ุดของการปรบั เปลย่ี นดา้ นหน่ึงของชวี ติ กค็ อื การเรมิ่ ตน้ นนั่ เอง และถา้ หากคณุ รแู้ ลว้ ว่าน่คี อื สง่ิ ทย่ี ากทส่ี ดุ สาหรบั คุณ คณุ กจ็ ะสามารถขอแรง สนบั สนุนจากคนอ่นื ใหม้ าช่วยคณุ เรม่ิ ตน้ อกี แรงได้

37 3. รวบรวมแรงสนับสนุนและข้อมลู ต่ำงๆ การมเี ครอื ขา่ ยสนบั สนุนหรอื มคี นคอยช่วยคณุ เมอ่ื คณุ ตอ้ งการนนั้ เป็นสง่ิ ทส่ี าคญั มาก เมอ่ื ใดกต็ ามทค่ี ุณกาลงั พยายามทจ่ี ะปรบั เปลย่ี นชวี ติ ตวั เอง ซง่ึ ส่วนหน่งึ ของ การวางแผนปรบั เปลย่ี นชวี ติ กค็ อื ตอ้ งรวู้ า่ ใครทค่ี ณุ จะสามารถขอความช่วยเหลอื หรอื ขอการสนบั สนุนเมอ่ื ตอ้ งเจอกบั ความยากลาบาก ดงั นนั้ บอกกบั คนทค่ี ุณสนิททส่ี ุดเกย่ี วกบั แผนชวี ติ คณุ และบอกกบั พวกเขาวา่ คุณตอ้ งการจะปรบั เปลย่ี นอะไร โดยใหเ้ ขยี นลสิ ตช์ อ่ื คนรจู้ กั ของคุณทค่ี ณุ คดิ ว่าตวั เองสามารถพง่ึ พาไดห้ าก ตอ้ งเจอกบั อุปสรรคบางอยา่ ง • รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั สงิ่ ทค่ี ณุ จะปรบั เปลย่ี นในชวี ติ ใหเ้ ยอะทส่ี ดุ เท่าทจ่ี ะทาได้ โดยใหค้ ุณลองฟัง เรอ่ื งราวความสาเรจ็ จากคนอ่นื หรอื มสี ว่ นรว่ มในกลุ่มทม่ี เี ป้าหมายในการพฒั นาตนเองและพฒั นา ความสาเรจ็ และถามคนอ่นื ๆ วา่ พวกเขาใชว้ ธิ กี ารอะไรในการวางแผนหรอื ปรบั เปลย่ี นชีวติ และ ถามพวกเขาว่าตวั คุณเองควรจะเตรยี มการตงั้ รบั ต่ออุปสรรคแบบไหนไว้

38 4. วิเครำะหแ์ หล่งข้อมูลและวำงแผนกำรแต่ละขนั้ สาหรบั แผนชวี ติ บางแผนและการปรบั เปลย่ี นในบาง สงิ่ บางอย่างนนั้ คุณจาเป็นต้องมแี หล่งขอ้ มลู เพ่อื ทค่ี ณุ จะไดเ้ รม่ิ ตน้ ทาแผนการแต่ละขนั้ ใหส้ าเรจ็ ตาม เป้าหมายได้ ซง่ึ บางทคี ุณอาจจะตอ้ งซอ้ื หนงั สอื ตงั้ งบประมาณ เรยี นรทู้ กั ษะใหมๆ่ หรอื อาสาชว่ ยคนอ่นื ๆ และนอกจากน้คี ณุ อาจจะตอ้ งหาวธิ ที จ่ี ะเอาชนะอุปสรรคบางอุปสรรคดว้ ย ซง่ึ หลงั จากทค่ี ณุ ไดว้ เิ คราะหแ์ ลว้ ว่าตวั เองตอ้ งการทจ่ี ะเรม่ิ ตน้ จากตรงไหนบา้ ง ใหค้ ณุ วางแผนขนั้ ตอนต่างๆ ทจ่ี ะนาพาคุณไปยงั แผนชวี ติ อยา่ งทต่ี งั้ ใจไว้ • ตวั อยา่ งเชน่ หากในแผนชวี ติ ของคุณนนั้ มเี รอ่ื งของการมสี ขุ ภาพทด่ี ี ขนั้ ตอนแรกทค่ี ุณอาจจะตอ้ งทา กค็ อื ศกึ ษาเกย่ี วกบั อาหารหรอื วธิ กี ารทาอาหารทม่ี ผี ลดตี ่อสขุ ภาพ จากนัน้ กต็ ดั สนิ ใจกนิ ผกั อยา่ งใด อยา่ งหน่งึ ใหไ้ ดท้ ุกวนั โดยคุณจะตอ้ งเรม่ิ ทาตามเป้าหมายไปอยา่ งชา้ ๆ ก่อน เพอ่ื ท่ีคณุ จะไดไ้ มห่ มด เรย่ี วแรงและรสู้ กึ ตนั • อกี ตวั อยา่ งหน่งึ กค็ อื หากคณุ อยากจะมแี ผนชวี ติ ทส่ี ง่ ผลทาใหค้ ุณกนิ อาหารทด่ี ตี ่อสขุ ภาพมากขน้ึ คุณจะตอ้ งวเิ คราะหแ์ หล่งขอ้ มลู ทค่ี ณุ ตอ้ งใชใ้ นการบรรลุเป้าหมายนนั้ อยา่ งเชน่ หนงั สอื ทเ่ี กย่ี วกบั โภชนาการอาหาร การจดั งบสาหรบั ไวซ้ อ้ื ของต่างๆ จากรา้ นขายของ และทส่ี าคญั ช่วยเหลอื ครอบครวั ของตวั เองดว้ ย เพราะการปรบั เปลย่ี นการซอ้ื ของในรา้ นขายของนนั้ ตอ้ งมผี ลกระทบต่อ พวกเขาอยแู่ ลว้

39 5. รบั มอื เมอ่ื ชีวิตไมไ่ ด้เป็นไปตำมแผนที่วำงไว้ การวางแผนชวี ติ นนั้ เป็นวธิ ที ด่ี ใี นการสรา้ งความชดั เจน ใหก้ บั สงิ่ ทต่ี วั เองตอ้ งการและวธิ กี ารทค่ี ุณจะไดม้ นั มา แต่กม็ บี อ่ ยครงั้ ทเ่ี ราไมส่ ามารถคาดเดาชวี ติ ได้ และมนั กไ็ มย่ อมเป็นไปตามแผนทว่ี างไว้ ดงั นนั้ คณุ จาเป็นตอ้ งฝึกทกั ษะการรบั มอื เอาไว้ คณุ จะไดม้ คี วามสามารถ ในการรบั มอื กบั สงิ่ ทผ่ี ดิ พลาดและตงั้ ตน้ เดนิ ทางเขา้ หาเป้าหมายอกี ครงั้ ได้ • คุณอาจจะลองใชก้ ารมงุ่ แกไ้ ขปัญหา (problem-focused coping) ดกู ไ็ ด้ ซง่ึ น่จี ะเกย่ี วขอ้ งกบั ความสามารถในการมองสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ อย่างไมม่ อี คติ และเขา้ ใจว่าส่วนไหนทม่ี ปี ัญหา และ จากนนั้ กว็ างแผนแกป้ ัญหาทต่ี วั เองเจอ ซง่ึ ในกระบวนการน้จี ะรวมไปถงึ การทค่ี ณุ รตู้ วั เลอื กทต่ี วั เอง มี การรวบรวมขอ้ มลู การควบคุมสถานการณ์ และลงมอื ทาแผนการทว่ี างไวใ้ หเ้ ป็นผล • ตวั อยา่ งเช่น หากคุณกาลงั ทาใหต้ วั เองเป็นคนมสี ขุ ภาพดตี ามแผนทไ่ี ดว้ างเอาไว้ แต่หลงั จากนนั้ กลบั มผี ลวนิ จิ ฉัยออกมาวา่ คุณเป็นโรคเบาหวาน คุณกเ็ ลยตดั สนิ ใจใชก้ ารมงุ่ แกไ้ ขปัญหาเพอ่ื ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั สถานการณ์ใหมน่ ้ี และกศ็ กึ ษาเกย่ี วกบั โรคเบาหวาน อาหารการกนิ และเครอ่ื งมอื ตรวจสอบอาการของโรคเพ่อื ทจ่ี ะช่วยใหค้ ณุ ดาเนินแผนชวี ติ เดมิ ต่อไปได้ • อกี วธิ หี น่งึ ทใ่ี ชไ้ ดก้ ค็ อื การมุง่ ปรบั อารมณ์ (emotion-focused coping) ซง่ึ น่เี ป็นสงิ่ ทท่ี าใหค้ ุณ สามารถรบั มอื กบั ผลกระทบทางอารมณ์ทเ่ี กดิ จากสถานการณ์ทไ่ี มไ่ ดค้ าดการณ์เอาไว้ • ตวั อยา่ งเชน่ การไดร้ วู้ ่าตวั เองเป็นโรคเบาหวานอาจจะทาใหค้ ุณมกี ารตอบสนองในทางอารมณ์ อยา่ งเชน่ กลวั รอ้ นใจ หรอื โมโห ซง่ึ การรบั มอื กบั อารมณ์เหลา่ น้กี อ็ าจะเป็น การปรกึ ษากบั เพ่อื น หรอื คนในครอบครวั การลดความเครยี ดดว้ ยการจากดั ภาระงานของตวั เอง และจดบนั ทกึ ความรสู้ กึ ของตวั เองเพอ่ื ทจ่ี ะไดเ้ ขา้ ใจสง่ิ ต่างๆ มากขน้ึ วิธีกำรตงั้ เป้ำหมำย

40 1. เรยี นร้คู วำมสำคญั ในกำรตงั้ เป้ำหมำย การวางเป้าหมายเป็นทกั ษะสาคญั ทค่ี นทป่ี ระสบความสาเรจ็ หลายคนนามาใชใ้ นการสรา้ งแรงผลกั ดนั ใหก้ บั ตวั เอง การตงั้ เป้าหมายนนั้ จะเปิดโอกาสใหค้ ุณโฟกสั อยกู่ บั การทางานบางอย่างใหส้ าเรจ็ ในขณะเดยี วกนั กช็ ว่ ยทาใหค้ ณุ สามารถจดั ระเบยี บสงิ่ ต่างๆ ทค่ี ุณตอ้ งใช้ เพ่อื ทจ่ี ะทาเป้าหมายของตวั เองใหส้ าเรจ็ ได้ • หน่งึ ในสว่ นทด่ี ที ส่ี ุดของการตงั้ เป้าหมายและทาเป้าหมายใหส้ าเรจ็ ไดก้ ค็ อื การทค่ี ณุ รสู้ กึ มนั่ ใจใน ตวั เองมากขน้ึ และรบั รคู้ วามสามารถของตวั เองเมอ่ื ใดกต็ ามทค่ี ณุ ไดท้ าเป้าหมายของตวั เองใหล้ ลุ ว่ ง ได้

41 L 2 ใช้วิธีกำรตงั้ เป้ำหมำยแบบ SMART การตงั้ เป้าหมายนนั้ เป็นวธิ ที ด่ี ที จ่ี ะชว่ ยส่งเสรมิ แผนชวี ติ ของคุณ และทาใหค้ ณุ สามารถทาเป้าหมายหรอื กา้ วต่างๆ ใหม้ คี วามเฉพาะเจาะจง (S = specific) สามารถวดั ผลได้ (M = measurable) สามารถทาใหบ้ รรลุผลได้ (A = assignable) ตงั้ อยบู่ นพน้ื ฐานของความเป็นจรงิ (R = realistic) และมขี อบเขตของเวลา (T = time bound) ซง่ึ การใชว้ ธิ กี ารตงั้ เป้าหมายแบบ SMART เพอ่ื ทจ่ี ะไดเ้ ขา้ ใจวา่ คณุ อย่ใู กลห้ รอื ไกลจากเป้าหมายแค่ไหนแลว้ นนั้ ถอื ว่าเป็นสงิ่ สาคญั ในการวางเป้าหมาย • หากเป้าหมายของคุณคอื การทาใหส้ ุขภาพดขี น้ึ อยา่ พดู แคว่ ่าฉนั จะกนิ ผกั ใหเ้ ยอะๆ แต่ใหค้ ณุ ทา เป้าหมายนนั้ ใหเ้ ป็นไปตามหลกั การวางเป้าหมายแบบ SMART ดว้ ยการพดู วา่ ฉนั จะกนิ ผกั สองถาด ต่อวนั เป็นเวลา 30 วนั โดยจะเรม่ิ ตน้ จากวนั จนั ทรท์ จ่ี ะถงึ น้ี • น่จี ะทาใหเ้ ป้าหมายมคี วามเฉพาะเจาะจง และทาใหค้ ณุ มแี นวทางในการทาตามเป้าหมายของตวั เอง นอกจากน้มี นั ยงั สามารถนามาวดั ผลไดด้ ว้ ย เพราะว่าคุณรวู้ ่าตวั เองกาลงั พยายามจะตงั้ เป้าหมายไป ทอ่ี ะไรอยู่ นอกจากน้ี เป้าหมายพวกนนั้ กส็ ามารถทาใหเ้ กดิ ไดจ้ รงิ ดว้ ย แถมคุณยงั มกี าหนดขอบเขต ของเวลาทแ่ี น่นอนใหก้ บั ตวั เองอกี

42 3. ทำเป้ำหมำยให้เป็นรปู ธรรม. มบี างวธิ ที ค่ี ณุ สามารถใชเ้ พอ่ื ทาใหเ้ ป้าหมายเป็นรปู ธรรมและเกดิ ขน้ึ จรงิ ได้ ซง่ึ วธิ กี ค็ อื ใหเ้ ขยี นเป้าหมายลงบนกระดาษเปลา่ ดว้ ยวธิ นี ้คี ุณจะสามารถทาเป้าหมายใหด้ สู มจรงิ ได้ มากกว่าการทค่ี ุณเกบ็ เป้าหมายพวกนนั้ เอาไวใ้ นหวั และทส่ี าคญั ใหด้ ดู ว้ ยวา่ คณุ ทาเป้าหมายเหล่านนั้ ใหม้ ี ความเฉพาะเจาะจงหรอื ยงั เพราะถา้ หากคณุ อยากจะสรา้ งเป้าหมายใหช้ วี ติ ตามหลกั SMART คณุ ควรจะมี เป้าหมายทม่ี คี วามเฉพาะเจาะจงเอาไวด้ ว้ ย • กาหนดเป้าหมายของคณุ ดว้ ยคาพดู ในเชงิ บวก เช่น หากคุณอยากจะลดน้าหนกั คุณควรจะพดู กบั ตวั เองว่า “จงกนิ อาหารทม่ี ปี ระโยชน์ และลดน้าหนกั ใหไ้ ดส้ กั 2 กโิ ลกรมั ” แทนการพูดวา่ “หยดุ กนิ อาหารขยะซะ และหยดุ อว้ นไดแ้ ลว้ ” • เรยี งลาดบั ความสาคญั ของแต่ละเป้าหมายดว้ ยหากตวั เองมหี ลายเป้าหมาย และจาไวว้ า่ คุณไมม่ ที าง ทจ่ี ะทาทุกอยา่ งไดภ้ ายในครงั้ เดยี วแน่ๆ ดงั นนั้ ใหต้ ดั สนิ ใจวา่ อะไรทจ่ี ะตอ้ งทาใหส้ าเรจ็ ตอนน้ี อะไร ทร่ี อได้ และอะไรทอ่ี าจจะตอ้ งใชเ้ วลานาน • คุณควรทาใหเ้ ป้าหมายใหเ้ ลก็ พอทค่ี ณุ จะสามารถทาใหส้ าเรจ็ ไดด้ ว้ ยระยะเวลาทเ่ี หมาะสม แทนท่ี จะตอ้ งใชเ้ วลาเป็นปีๆ ในการทาสง่ิ นนั้ หากคุณมเี ป้าหมายทย่ี งิ่ ใหญ่ ใหค้ ณุ แบง่ ออกเป็นเป้าหมาย ยอ่ ยๆ ก่อน คณุ จะไดส้ ามารถบรรลุเป้าหมายต่างๆ และรสู้ กึ ถงึ ความสาเรจ็ ของตวั เองได้ ข้อมลู อ้ำงอิง : https://th.wikihow.com/

43 ตวั อยา่ งผลงานผูเ้ ข้ารว่ มการอบรม ตวั อย่างผลงานของนักเรยี นในกิจกรรมการจัดทาแผนที่ชีวติ – ตนเอง

ตวั อยา่ งผลงานของนกั เรียนในกจิ กรรมการจัดทาแผนท่ชี ีวิต – ตนเอง

45 ตวั อยา่ งผลงานของนักเรยี นในกจิ กรรมการจัดทาแผนท่ชี ีวติ – ตนเอง

ตวั อยา่ งผลงานของนกั เรียนในกจิ กรรมการจัดทาแผนท่ชี ีวิต – ตนเอง

47 ตวั อยา่ งผลงานของนักเรยี นในกจิ กรรมการจัดทาแผนท่ชี ีวติ – ตนเอง

ตวั อยา่ งผลงานของนกั เรียนในกจิ กรรมการจัดทาแผนท่ชี ีวิต – ตนเอง

49 ตวั อยา่ งผลงานของนักเรยี นในกจิ กรรมการจัดทาแผนท่ชี ีวติ – ตนเอง

ตวั อยา่ งผลงานของนกั เรียนในกจิ กรรมการจัดทาแผนท่ชี ีวิต – ตนเอง

51 ตวั อยา่ งผลงานของนักเรยี นในกจิ กรรมการจัดทาแผนท่ชี ีวติ – ตนเอง

ตวั อยา่ งผลงานของนกั เรียนในกจิ กรรมการจัดทาแผนท่ชี ีวิต – ตนเอง