หน่วยที่ 1 ประวัติความเปน็ มา วิวัฒนาการของตัวอักษรไทย ตัวอักษรอังกฤษ ในรัชกาลที่ ๖ พระองคท์ รงได้เสนอ ” นารูปแบบอักขรวธิ ีแบบตะวันตกมาประยุกตโ์ ดยวางสระ ประสมกันไม่ตรงเสียง วางตัวพยัญชนะติดกันเปน็ พืดไม่เว้นวรรค ไม่มีสระกากับการออกเสียง แต่ไม่ได้ใช้เป็นราชการ พ.ศ. ๒๔๘๕ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ใช้อานาจผู้นาเปลี่ยนแปลงอักขระวธิ ีไทย โดยตัดตัวอักษรที่มีเสียงซ้าออกไป ๑๓ ตัว ตัดสระ ออกไป ๕ ตัว ประกาศให้เป็นตัวหนังสือของทางราชการ และเลกิ ใช้เมื่อหมดอานาจในปี พ.ศ. ๒๔๘๗ หลังจากนั้น อักขรวิธีไทยกเ็ ข้าสู่รูปแบบปัจจุบัน
หน่วยที่ 1 ประวัติความเปน็ มา ววิ ัฒนาการของตัวอักษรไทย ตัวอักษรอังกฤษ
หน่วยที่ 1 ประวัติความเปน็ มา วิวัฒนาการของตัวอักษรไทย ตัวอักษรอังกฤษ ตารางการเปรยี บเทียบรูปแบบตวั อักษรไทยทเี่ ปลี่ยนแปลงไปในสมัยต่างๆ
หน่วยที่ 1 ประวัติความเปน็ มา วิวัฒนาการของตัวอักษรไทย ตัวอักษรอังกฤษ ตารางการเปรยี บเทียบรูปแบบตวั อักษรไทยทเี่ ปลี่ยนแปลงไปในสมัยต่างๆ
หน่วยที่ 1 ประวัติความเปน็ มา วิวัฒนาการของตัวอักษรไทย ตัวอักษรอังกฤษ ตารางการเปรยี บเทียบรูปแบบตวั อักษรไทยทเี่ ปลี่ยนแปลงไปในสมัยต่างๆ
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 1. ตัวอักษรตวั พมิ พ์ 1.1 ตัวอักษรแบบมีเชิง เป็นอักษรที่มีเส้นยื่นของฐานและปลายตัวอักษรในทางราบที่ เรียกว่า Serif ลักษณะตัวอักษรจะมีเส้นตัวอักษรเป็นแบบหนาบางไม่เท่ากัน ตัวอักษรแบบนี้ บราวเซอร์หลายชนิดจะใช้ ตัวอักษรแบบนี้เป็นหลัก เช่น Times New Roman,Garamond, Georgia และ New Century Schoolbook ตัวอักษรประเภทนีเ้ หมาะจะใช้เป็นรายละเอียด เนอื้ หา แต่ตัวอักษรประเภทนี้ไม่ค่อยเหมาะจะใช้กับตัวหนา (bold)
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 1. ตัวอกั ษรตัวพมิ พ์ 1.1 ตัวอักษรแบบมีเชิง
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 1. ตัวอกั ษรตัวพิมพ์ 1.2 ตัวอักษรแบบไม่มีเชิง (Sans Serif) เปน็ ลักษณะของตวั อักษรอีกแบบหน่ึงท่รี ปู แบบ เรียบงา่ ย เปน็ ทางการ ไมม่ ีเชิง หมายถึงไม่มเี ส้นย่ืนออกมาจากฐาน และปลายของตัวอักษร ในทางราบ ได้แก่ Arial, Helvetica, Verdana, Geneva และ Univers ตัวอักษร ประเภทนี้เหมาะทจี่ ะใช้กับหัวขอ้ หรือ ตัวอักษรขนาดใหญ่ แต่ไม่เหมาะสมกับลกั ษณะเอียง
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 1. ตัวอกั ษรตัวพิมพ์ 1.2 ตัวอักษรแบบไม่มีเชงิ
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 1. ตัวอกั ษรตัวพมิ พ์ 1.3 ตัวอักษรแบบตัวเขยี น (Script) ตัวอักษรแบบนี้เน้นให้ตัวอักษรมีลักษณะ คลา้ ยกับการเขียนด้วยลายมือ ซ่ึงมหี างโยง ต่อเนื่องระหวา่ งตวั อักษร มีขนาดเส้นอักษร หนาบางแตกต่างกัน นิยมทาให้เอยี ง เลก็ น้อย
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 1. ตัวอกั ษรตัวพมิ พ์ 1.4 ตัวอักษรแบบตัวอาลักษณ์ (Text Letter) เปน็ ตัวอักษรแบบโรมันแบบ ตัวเขียนอีกลักษณะหน่ึง มีลกั ษณะเป็นแบบ ประดิษฐ์มีเส้นตัง้ ดาหนา ภายในตัวอักษรมี เส้นหนาบางคล้ายกบั การเขียนด้วยพกู่ ัน หรอื ปากกาปลายตดั
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 1. ตัวอกั ษรตัวพิมพ์ 1.5 ตัวอักษรแบบประดษิ ฐ์ (Display Type) หรือตัวอักษรตัวพมิ พข์ นาดใหญ่ มี ลักษณะเด่น คอื การออกแบบตกแต่ง ตัวอักษรให้สวยงามเพื่อดงึ ดูดสายตา มี ขนาดความหนาของเส้นอักษรหนากวา่ แบบ อื่นๆ จงึ นยิ มใช้เปน็ หัวเร่ือง
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 1. ตัวอกั ษรตัวพิมพ์ 1.6. ตัวอักษรแบบสมัยใหม่ (Modern Type) เปน็ ตัวอักษรทปี่ ระดษิ ฐ์ข้นึ มี ลักษณะเรียบงา่ ย
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 2. โครงสร้างตัวอักษรไทย 2.1 หัวตัวอักษร หัว เหมือนกันทุกตัว มยี กเว้นอยู่ 2 ตัว คอื ก ธ และส่วนหัวของตัวอักษร จะอยู่ในตาแหน่งท่แี ตกต่างกนั สามารถแยกเป็นกลุ่มได้ดงั นี้ 1)หัวอยสู่ ่วนบนแต่หันหวั ออก ได้แก่ ข ฃ ฆ ง ช ท ฑ น บ ป พ ฟ ม ษ ห ฬ 2) หัวอยดู่ ้านบนแต่หันเขา้ ได้แก่ ย ผ ฝ 3) หัวอยดู่ ้านลา่ งหันออก ได้แก่ ภ ฎ ฏ ร ว 4) หัวอยดู่ ้านลา่ งหันเข้า ได้แก่ ถ ณ ล ส ญ ฌ 5) หัวอยสู่ ่วนกลางหันหัวออก ได้แก่ จ ฐ ฉ ด ต ฒ 6) หัวอยตู่ รงกลางหันหัวเข้า ได้แก่ ค ศ ฅ อ ฮ
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 2. โครงสร้างตัวอักษรไทย 2.2 หลังคาตัวอักษรตัวอักษรไทยจานวนหน่ึงจะมสี ่วนขา้ งบน ที่เรียกได้ว่าเปน็ “หลังคา” แยก ได้ดังนี้ 1) ตัวอักษรกลุ่มมีหลงั คา ประกอบด้วยตัว กคฅจฉฌญฏฎฐฒณดตถธภรลวศสอฮ 2) ตัวอักษรกลุ่มไม่มีหลงั คา ประกอบด้วย ขฃฆงชซฑทนบปผฝพฟมยษหฬ
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 3. การแบง่ กลุ่มตัวอกั ษร แบ่งเปน็ กลุ่มตามลักษณะโครงสรา้ งทางทัศนะธาตทุ คี่ ลา้ ยกัน ได้ดังนี้ กลุ่มอักษร ก ถ ภ ฎ ฏ ฌ ณ ญ ฤ ฦ (ฤ ฦ เปน็ สระแต่มีรปู แบบคล้ายพยัญชนะ) กลุ่มอักษร ข ช ซ (โครงสร้างตัวอกั ษรเหมือนกันต่างกันเฉพาะส่วนหาง) กลุ่มอักษร จ ว (โครงสร้างตวั อักษรโดยรวมเหมอื นกัน) กลุ่มอักษร ค ศ ด (มลี ักษณะเหมือนกันที่หลังคา) กลุ่มอักษร ฅ ต ฒ (มีลักษณะเหมือนกันท่หี ลงั คา) กลุ่มอักษร บ ป ษ (โครงสร้างตวั อักษรโดยรวมเหมอื นกัน) กลุ่มอักษร ฃ ช ฆ ฑ (มลี ักษณะเหมอื นกันที่หัว)
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 3. การแบง่ กลุ่มตัวอกั ษร แบ่งเปน็ กลมุ่ ตามลักษณะโครงสร้างทางทศั นะธาตุท่คี ล้ายกนั ได้ดังนี้ กลุ่มอักษร ร ธ ฐ (มีลักษณะเหมอื นกันท่หี ลงั คา) กลุ่มอักษร พ ฟ ฬ (โครงสร้างตัวอกั ษรเหมอื นกันต่างกันเฉพาะส่วนหาง) กลุ่มอักษร ผ ฝ (โครงสร้างตวั อักษรเหมือนกันต่างกันเฉพาะส่วนหาง) กลุ่มอักษร ฉ น ณ (เหมือนกันส่วนล่าง) กลุ่มอักษร ฌ ณ ญ ฒ (มีลักษณะสองส่วน) กลุ่มอักษร ง ห ย (ลักษณะพเิ ศษไม่เหมอื นอักษรกลุ่มใด)
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 3. การแบง่ กลุ่มตัวอกั ษร 3.1. การแบ่งโดยอาศัยหัวอักษรเป็นเกณฑ์ กลุ่มที่ ลักษณะหวั ตวั อกั ษร ตัวอยา่ งตัวอกั ษร 1 ไม่มหี ัวกลม กธ 2 มีหัวกลมสองชนั้ จากเสน้ นอนบนและหวั หนั ออก ขฃช 3 มีหัวสองหยกั ซฆฑ 4 มีหัวกลมเรมิ่ จากเสน้ นอนบนและหันหวั ออก งบปพฟทหฬษมน 5 มีหัวกลมเรมิ่ จากเสน้ นอนบนและหันหวั เขา้ ผฝย 6 มีหัวกลมเรม่ิ จากกง่ึ กลางบรรทัดและหนั หวั ไปทางขาวมอื ค ฅ ศ อ ฮ 7 มีหัวกลมเรม่ิ จากกึ่งกลางบรรทดั และหันหัวไปทางซา้ ยมอื จ ฉ ฐ ด ต 8 มีหัวกลมเรมิ่ จากดา้ นลา่ งบรรทดั และหันหวั เขา้ ญณฌถลสฤ 9 มีหัวกลมเรมิ่ จากดา้ นลา่ งบรรทดั และหันหวั ออก ภรฎฏวฦ
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 3. การแบง่ กลุ่มตัวอกั ษร 3.2 การแบ่งโดยอาศัยทางเดินของเส้นเป็นเกณฑ์ กลุ่มที่ ลักษณะเสน้ ตัวอักษร ตัวอยา่ งตวั อกั ษร 1. เส้นนอน ได้แก่ เส้นนอนบนและเสน้ นอนลา่ ง กขญย 2. เส้นตงั้ ได้แก่ เส้นทลี่ ากขนึ้ หรอื ลากลงในแนวด่ิง พยัญชนะ ร จ ธ น บ ป ม จะมีเสน้ ตงั้ หลกั อยา่ งน้อย 1 เส้น ยกเวน้ สระและตวั เลขบางตวั 3. เส้นทแยง ได้แก่ เส้นทแยงวา้ ยหรือเสน้ ทแยงขวา งฉทฑงพฟฅตฒหฬ หรือทแยงทงั้ ซา้ ยและขวา
3. การแบง่ กลุ่มตัวอกั ษร หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร กลุ่มที่ ลักษณะเสน้ ตัวอักษร 1. ขนาดตัวแคบ 3.3 การแบ่งโดยอาศัยขนาดความกว้างของตัวอักษรเปน็ เกณฑ์ 2. ขนาดตัวกวา้ งปานกลาง 3. ขนาดตัวกวา้ งมาก ตัวอยา่ งตวั อกั ษร ข ฃ ง จ ช ซ ร อะ เอ กคดตถบผอนมธ ฌณญฒ อักษรตวั แคบ อักษรกวา้ งปานกลาง อักษรตวั กวา้ งมาก
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 3. การแบง่ กลุ่มตัวอกั ษร 3.3 การแบ่งโดยอาศัยขนาดความกว้างของตัวอักษรเปน็ เกณฑ์ กลุ่มที่ ลักษณะเสน้ ตัวอักษร ตัวอยา่ งตวั อกั ษร 1. ขนาดสงู เกนิ ระดับเสน้ บรรทดั อักษร ปฝฟศสโไใ 2. ขนาดสงู ระดบั เสน้ บรรทดั อักษร กคดตถบผอนมร 3. ขนาดห้อยต่ากวา่ ระดบั เสน้ บรรทดั อักษร ฐญฎฏฤฦๆ
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 4.ประเภทของตัวอักษร 4.1 ตัวอักษรแบบมาตรฐานหรือแบบราชการ ตัวอักษรแบบนมี้ ีลักษณะเรียบง่าย มีระเบียบ มีหัวอกั ษร ที่เรียกว่าเป็นแบบมาตรฐานหรอื แบบราชการเพราะ ได้รับการรับรองโดยทางราชกสร มีลักษณะเป็นแบบตัวเรียงพมิ พใ์ นระบบงานพิมพ์ หรอื แบบตัวอักษรในเคร่ือง พิมพ์ดีด มีทัง้ แบบตัวธรรมดา ตัวหนา ตัวบาง และตัวเอน มักนยิ มใช้ในลักษณะของข้อความรายละเอียด ตัวอักษรที่มีขนาดเลก็ เอกสารทางราชการ และงานสื่อส่ิงพมิ พ์ทวั่ ๆไป รูปลักษณข์ องแบบตัวอักษรประเภทนกี้ ็มี มากมาย แต่ละรูปแบบจะมีลักษณะและรายละเอียดทแี่ ตกต่างกันไป นักออกแบบอาจประดษิ ฐ์ให้เกดิ จดุ เด่นที่ หัวตัวอกั ษร ที่หลังคาตัวอักษรที่รูปร่างตัวอกั ษร หรือที่สัดสว่ นของตัวอักษร เป็นต้น
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 4.ประเภทของตัวอักษร 4.1 ตัวอักษรแบบมาตรฐานหรือแบบราชการ 13 ฟอนท์ ที่ ครม. ประกาศให้หน่วยงานรฐั นาไปใช้ 1. TH Sarabun PSK วิชาการออกแบบตัวอักษร 2.TH Chamonman วิชาการออกแบบตัวอักษร 3.TH Krub วิชาการออกแบบตวั อกั ษร 4.TH Srisakdi วชิ าการออกแบบตัวอกั ษร 5.TH Niramit วิชาการออกแบบตัวอกั ษร 6. TH Charm of AU วชิ าการออกแบบตัวอักษร
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 4.ประเภทของตัวอักษร 4.1 ตัวอักษรแบบมาตรฐานหรือแบบราชการ 13 ฟอนท์ ที่ ครม. ประกาศให้หน่วยงานรฐั นาไปใช้ 7. TH Kodchasal วชิ าการออกแบบตวั อักษร 8. TH K2D July8 วชิ าการออกแบบตวั อกั ษร 9. TH Mali Grade 6 วชิ าการออกแบบตวั อักษร 10. TH Chakra Petch วชิ าการออกแบบตัวอักษร 11. TH Baijam วิชาการออกแบบตวั อักษร 12. TH KoHo วชิ าการออกแบบตัวอกั ษร 13.TH Fah kwang วชิ าการออกแบบตัวอักษร
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 4.ประเภทของตัวอักษร 4.2 ตัวอักษรแบบคัดลายมอื หรือตัวเขยี น ตัวอักษรประเภทนีเ้ กดิ จากากรคัดหรอื เขียนดว้ ยวัสดหุ รอื ปากกาประเภทต่างๆ อาจเปน็ การเขียนโดย อิสระ หรอื อาจมีเคร่ืองมือประกอบบ้างกไ็ ดเ้ ม่ือต้องการเน้นความประณตี ความแตกต่างของรปู แบบ ตัวอักษร ส่วนหนึ่งจึงเป็นแบบอักษรสาหรบั งานเฉพาะกิจ ความสวยงามของตวั อักษร จงึ เกิดจาก ความพอดีขององคป์ ระกอบต่างๆและความแม่นยาในการเขยี นแบ่งออกเป็น 4 ลักษณะด้วยกัน คอื
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 4.ประเภทของตัวอักษร 4.2 ตัวอักษรแบบคัดลายมือหรือตัวเขยี น 1. แบบตัวอาลักษณ์
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 4.ประเภทของตัวอักษร 4.2 ตัวอักษรแบบคัดลายมอื หรือตัวเขยี น 1.2 แบบตัวรบิ บนิ้
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 4.ประเภทของตัวอักษร 4.2 ตัวอักษรแบบคัดลายมือหรอื ตัวเขยี น 1.3 แบบตัวเขียนอสิ ระหรอื ตวั เขียนหวัด
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 4.ประเภทของตัวอักษร 4.3ตัวอักษรแบบประดษิ ฐ์ (ตัวอักษรแฟนซ)ี เปน็ การสร้างสรรค์ขน้ึ เพอ่ื ใช้งานโดยเฉพาะ มรี ูปแบบที่แตกต่างไปจากแบบทั่วไป แต่ยังมเี ค้าโครงสรา้ งตัวอกั ษรตามโครงสร้างเดมิ การประดษิ ฐ์รปู แบบตัวอักษรจึง ไม่มีกฎใดๆที่แน่นนอน อาจมีหวั ตัวอักษรหรอื ไม่ก็ได้ บางครัง้ เป็นการเนน้ ขอบ บางคร้งั เป็นการใส่ลวดลายลงบนตวั อักษร หรือใส่เงาตัวอกั ษร การเน้นเส้นหนา บาง ฯลฯ การประดิษฐช์ ่วยให้สามารถที่จะเน้นให้เกิดความดึงดูดใจ น่าสนใจ และ ประทับใจ ตวั อักษรแบบประดษิ ฐ์นยิ มนาไปใช้ในงานหัวเร่ือง ชื่อหนังสือ ชอื่ สนิ คา้ หรือผลติ ภัณฑ์ใหม่ หัวเรื่องงานโฆษณา หัวเร่ืองปา้ ยนิเทศ ตลอดจนปา้ ยโฆษณา เป็นต้น
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 4.ประเภทของตัวอักษร 4.3ตัวอักษรแบบประดิษฐ์ (ตัวอักษรแฟนซ)ี
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 5. ชนดิ ของตัวอกั ษร ตัวอักษร แบ่งเป็นชนดิ ใหญ่ๆตามลกั ษณะโครงสร้างตวั อักษรท่เี ขียนหรือออกแบบได้ 4 ชนดิ ดังน้ี 5.1 ตัวตรง (Stand) โครงสร้างตัวอักษรมีเส้นตง้ั อยู่ในลักษณะเส้นด่ิงหรอื ตัง้ ฉาก ตัวอักษร 5.2 ตัวเอน (OBLIQUE) โครงสร้างตวั อักษรมีเส้นตง้ั อย่ใู นแนวเอียง หรอื เฉยี ง ตวั อักษร
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 5. ชนดิ ของตัวอกั ษร 5.3 ตัวอักษรจดุ รวมสายตา (Perspective) โครงสร้างตัวอักษรเป็นแบบ Perspective
หน่วยที่ 2 รูปแบบตัวอักษร 5. ชนิดของตัวอกั ษร 5.4. ตัวอสิ ระ( Free Form) โครงสร้างตัวอักษรอิสระ ไม่แน่นอน
หน่วยที่ 3 เคร่ืองมือพน้ื ฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 1.กระดาษ (Peper) ประเภทของกระดาษแบ่งออกเปน็ 2 ประเภทตามลกั ษณะของผวิ กระดาษคอื 1.กระดาษเคลือบผวิ (Coated paper) โดยส่วนมากเราจะรจู้ ักในทช่ือกระดาษอารต์ เคลือบมัน กับ เคลอื บด้าน
หน่วยที่ 3 เครื่องมือพน้ื ฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 1.กระดาษ (Peper) ประเภทของกระดาษแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามลกั ษณะของผิวกระดาษคือ 2. กระดาษแบบไม่เคลือบผวิ ได้แก่ กระดาษปอนด์ หรอื กระดาษวาดเขียน กระดาษทเี่ หมาะใน การเขยี นภาพระบายสี มีแบบกระดาษปอนด์เรียบ เหมาะสาหรับใช้กบั สีโปสเตอร์ และสีไม้ ทาให้ ไม่ซมึ ซับน้ามากและเร็วเกนิ ไป และกระดาษปอนด์หยาบมคี ุณสมบัตดิ ูดซึมน้าอย่างรวดเร็ว เหมาะสาหรับใช้กบั สีน้าภาพเขียนท่อี อกมาจะดูชมุ่ นา้ กระดาษท่ใี ช้ควรหลีกเลยี่ งความชนื้ และการ ม้วนกระดาษทาให้กระดาษเกดิ รอยยับ และแตกหักเสียหายได้มักใช้สาหรบั วาดภาพ มีหลาย ขนาด เรมิ่ จาก 80 ปอนด์ ขน้ึ ไป
หน่วยที่ 3 เคร่ืองมือพ้ืนฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 1.กระดาษ (Peper) ประเภทของกระดาษแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามลกั ษณะของผิวกระดาษคือ 2. กระดาษแบบไม่เคลือบผวิ กระดาษวาดเขียน
หน่วยที่ 3 เคร่ืองมอื พนื้ ฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 1.กระดาษ (Peper) ประเภทของกระดาษแบ่งออกเปน็ 2 ประเภทตามลกั ษณะของผวิ กระดาษคือ 2. กระดาษแบบไม่เคลอื บผิว - กระดาษปอนด์ ใช้สาหรับทาสมุดบันทึก พิมพ์นติ ยสารมักใช้นาด 100-120 แกรม
หน่วยที่ 3 เคร่ืองมอื พนื้ ฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 2. ดินสอดา (Pencil) ดินสอดาเป็นเครอ่ื งเขียนขั้นพื้นฐานอย่างหน่ึงที่มไี ส้ทาด้วยแกรไฟท์ ผสมดนิ เหนียว ใช้ในการ ออกแบบทั่ว ๆ ไปแบ่งออกได้ดังนี้ - ดนิ สอชนดิ หุ้มด้วยไม้ ( Drafting Wood ) มีต้งั แต่ไส้แขง็ ไปจนถึงไส้อ่อน ได้แก่ HB B 2B 3B 4B 5B 6B และEE ตามลาดับ
หน่วยที่ 3 เคร่ืองมือพืน้ ฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 2. ดินสอดา (Pencil) ดนิ สอดาเปน็ เครอื่ งเขียนขั้นพ้นื ฐานอย่างหนึ่งที่มไี ส้ทาด้วยแกรไฟท์ ผสมดินเหนียว ใช้ในการ ออกแบบทั่ว ๆ ไปแบ่งออกได้ดังนี้ - ดนิ สอชนดิ บรรจุไส้ ( Merchanical pencil )
หน่วยที่ 3 เครื่องมอื พ้ืนฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 3. ยางลบ (Eraser) เป็นวัสดทุ าด้วยยางหรือพลาสตกิ ส่วนใหญ่ทาเปน็ แท่งมี 2 ประเภทคอื - ยางลบทาด้วยยาง ( Rubber ) ยางลบท่ที ามาจาก “ยาง” ถอื ว่าเป็นชนดิ ทเี่ ปน็ จุดกาเนิด ของยางลบ จะมีเนื้อสัมผัสท่คี อ่ นข้างแข็งกว่าแบบแรกทาให้ลบแล้วไม่คอ่ ยมีขีย้ างลบช่วยยืดอายุ การใช้งานได้นาน แต่ข้อเสียคือลบยากต้องออกแรงในการถูถึงจะทาความสะอาดได้หมดจด นอกจากนี้หากโดน แสงแดดมาก ๆ ประสทิ ธิภาพอาจเส่ือมลง ดังนน้ั คนที่จะซือ้ ยางลบประเภทน้ี จึงควรเลอื กขนาดที่กะว่าใช้หมดได้ในระยะเวลาไม่นาน
หน่วยที่ 3 เครื่องมอื พน้ื ฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 3. ยางลบ (Eraser) เป็นวัสดุทาด้วยยางหรอื พลาสตกิ ส่วนใหญ่ทาเปน็ แท่งมี 2 ประเภทคือ - ยางลบทาด้วยยาง ( Rubber )
หน่วยที่ 3 เคร่ืองมอื พืน้ ฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 3. ยางลบ (Eraser) เป็นวัสดุทาด้วยยางหรอื พลาสติก ส่วนใหญ่ทาเป็นแท่งมี 2 ประเภทคือ - ยางลบทาด้วยพลาสตกิ ( Plastic ) คณุ สมบัตขิ องยางลบพลาสตกิ ยางลบพลาสติกทา มาจาก Vinyl chloride ถอื เป็นประเภทที่พบเหน็ กันได้งา่ ยแทบจะทกุ ร้านเครอ่ื งเขียน เพราะ มีให้เลือกหลากหลายรุ่น มีทั้งแบบเนอ้ื นิ่มลบง่าย ขีย้ างลบจับตัวกนั ง่ายหรอื แบบเน้ือแข็งหน่อย อย่างไรก็ตาม ขอ้ เสียของประเภทนี้ คอื หมดเรว็ เพราะเน้อื น่ิม และด้วยความทเี่ ปน็ พลาสติกถ้า ไม่ได้ใช้นาน เนอ้ื ยางลบจะเหนียวติดตามที่ตา่ ง ๆ ได้ การเก็บรักษาเมื่อใช้เสรจ็ แล้ว ควรทาควา สะอาดยางลบโดยถูกับกระดาษท่สี ะอาด แล้วเกบ็ ใส่กล่องพร้อมกับดินสอ
หน่วยที่ 3 เครื่องมอื พนื้ ฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 3. ยางลบ (Eraser) เป็นวัสดุทาด้วยยางหรือพลาสติก ส่วนใหญ่ทาเป็นแท่งมี 2 ประเภทคือ - ยางลบทาด้วยพลาสตกิ ( Plastic )
หน่วยที่ 3 เครื่องมือพื้นฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 4. ไม้บรรทดั (Ruler)
หน่วยที่ 3 เครื่องมือพ้นื ฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 5.ปากกา (Pen) - แบบที่มีหมกึ ในตวั (Pigma) ทาจากโฟมหรือสักหลาด และมีสาลีอัดแท่ง เป็นไส้หมกึ ปากกาชนิดนีใ้ ช้ ไม่คอ่ ยทน หมึกหมดกท็ ิ้ง ไม่นยิ มนามาเตมิ หมึก หรืออีกชนิดหน่ึงคือแบบที่หัวเป็นโลหะ ไส้หมึกเป็น หลอดพลาสติกสามารถเตมิ หมกึ ได้ หัวปากกามีความคงทน
หน่วยที่ 3 เคร่ืองมอื พ้ืนฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 5.ปากกา (Pen) - ปากกาเขยี นแบบ ปากกาเขียนแบบและหมึก ปากกาเขียนแบบ เป็นเครื่องมอื ที่ใช้สาหรับการ ขีดเขียนเส้นลงในกระดาษไข ลักษณะคล้าย ปากกาหมึกซึม เส้นที่เขียนจะได้ความหนาของ เส้นตามมาตรฐาน มีหลายขนาดตัง้ แต่ 0.10, 0.18, 0.25, 0.35, 0.5, 0.7, 1.0, 1.4 และ 2.0 มลิ ลเิ มตร
หน่วยที่ 3 เคร่ืองมือพ้ืนฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 5.ปากกา (Pen) - ปากกาปลายแหลมจุ่มเขยี น เหมาะสาหรับ งานวาดเส้นและงานออกแบบ - ปากกาสปดี บอล เหมาะสาหรับงานเขียน น้าหนักและเขยี นตัวอักษร
หน่วยที่ 3 เคร่ืองมือพ้นื ฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 6.หมกึ ( Ink ) 6.1 หมกึ จุ่มเขียน ได้แก่หมึกที่ใช้พ่กู ันหรือปากกา จุ่มเขียน เช่น อินเดียอ้ิงค์ สีหมกึ เป็นต้น เหมาะกบั การเขียนแบบและระบายนา้ หนัก บรเิ วณกวา้ ง ๆ
หน่วยที่ 3 เคร่ืองมือพ้ืนฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 6.หมกึ ( Ink ) 6.2 หมึกซึม เปน็ หมกึ ทใี่ ช้กับปากกาเขียนแบบ โดยเฉพาะ ใช้เตมิ เข้าไปในหลอดปากกาเขียน แบบนอกจากนี้ยังมีหมึกท่บี รรจุหลอดสาเรจ็ รูป สามารถใช้กับปากกา เขียนแบบได้ทันที ชว่ ย ให้งานเขียนแบบมีความคล่องตัวย่ิงขน้ึ เม่ือใช้ แล้วตอ้ งปิดฝาให้สนทิ
หน่วยที่ 3 เครื่องมอื พืน้ ฐานที่ใช้ในการออกแบบตัวอักษร 7. วงเวียน (Compass) 8. ไม้ที (T - Square)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156