แบบบตั รประจำตวั เจ้ำหนำ้ ที่ป่ำชุมชน (กรณสี มำชิกปำ่ ชุมชน) ทำ้ ยประกำศกระทรวงทรัพยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อม เร่ือง กำรกำหนดแบบบัตรประจำตัว กรรมกำรจัดกำรป่ำชุมชน เจำ้ หนำ้ ท่ปี ำ่ ชมุ ชน และพนกั งำนเจ้ำหนำ้ ท่ีตำมกฎหมำยว่ำด้วยปำ่ ชุมชน (ด้ำนหน้ำ) บัตรประจำตัวเจำ้ หนำ้ ทป่ี ำ่ ชุมชน ตำมพระรำชบญั ญัตปิ ่ำชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕.๔ ซม. เลขท่ี .../.... ประจำปำ่ ชมุ ชน ....................................... จงั หวัด........................................... วนั ออกบัตร ......../......../........ วนั บตั รหมดอำยุ ......../......../........ ๘.๔ ซม. (ดำ้ นหลัง) ๕.๔ ซม. รปู ถา่ ย เลขประจาตัวประชาชนของผ้ถู อื บัตร ขนาด ................................................................. ๒.๕ X ๓.๐ ซม. ชอ่ื ........................................................... เป็นเจา้ หนา้ ทป่ี า่ ชมุ ชน .......................... ตามพระราชบญั ญัติปา่ ชุมชน พ.ศ. ๒๕๖๒ ลายมอื ช่ือผ้ถู อื บตั ร หม่โู ลหติ .......... ........................................ ตาแหนง่ ประธานกรรมการปา่ ชมุ ชน ประจาจงั หวดั ........................... ผู้ออกบัตร ๘.๔ ซม. 97
แผนผังประกำศกระทรวงทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม เรื่อง กำรกำหนดแบบบตั รประจำตวั กรรมกำรจัดกำรป่ำชมุ ชน เจ้ำหนำ้ ที่ป่ำชุมชน และพนกั งำนเจำ้ หนำ้ ท่ีตำมกฎหมำยวำ่ ด้วยป่ำชุมชน พ.ศ. 2563 (ตำมมำตรำ ๗๑ พ.ร.บ.ปำ่ ชุมชน พ.ศ. 2562) กรรมกำรจัดกำรป่ำชุมชน พนักงำนเจ้ำหนำ้ ที่ เจา้ หน้าท่ปี ่าชุมชน ผ้วู ่ำรำชกำรจงั หวดั เจ้ำหนำ้ ที่ในสังกัดกรมปำ่ ไม้ (ขอ้ 2) หัวหน้าสว่ นราชการต้งั แต่ เจา้ หน้าท่หี น่วยงานของรฐั ที่เกี่ยวข้อง ระดับกรมขึน้ ไปหรือเทียบเท่า (ขอ้ 4) (ข้อ 3) ยนื่ คาขอมบี ัตรประจาตวั พรอ้ มแนบรปู ถา่ ยขนาด ๒.๕ x ๓.๐ เซนตเิ มตร (ข้อ 5) ครงึ่ ตัว หนา้ ตรง ถา่ ยไม่เกนิ 6 เดือน ก่อนวนั ยื่นคาขอมีบตั ร แตง่ เคร่ืองแบบปกตขิ าว เครือ่ งแบบปฏิบตั ิราชการ หรือชุดสภุ าพ จานวน ๒ รูป ประธำนกรรมกำรปำ่ ชมุ ชน ปลัดกระทรวง อธบิ ดีกรมป่ำไม้ ประจำจังหวัด ทรัพยำกรธรรมชำติและ หรอื ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมำย ส่งิ แวดล้อม ออกบตั รประจาตัว บัตรประจำตัว กรรมกำรจดั กำรปำ่ ชุมชน เจ้ำหนำ้ ทปี่ ่ำชุมชน และพนกั งำนเจำ้ หนำ้ ที่ ทอี่ อกตำมประกำศน้ี (ขอ้ 6) (ข้อ 7) (ขอ้ 7 วรรคสอง) อำยุบตั ร กรณีบัตร หมดอำยุ สญู หำย กรณที เ่ี ปล่ียน ถกู ทำลำย หรอื ชำรุด ชอื่ ตัว ช่อื สกลุ ระยะเวลาการใชบ้ ตั ร ใช้ไดต้ าม ในสำระสำคญั หรือชอื่ ตัวและชือ่ สกุล ระยะเวลาท่ีกาหนดไวใ้ นบัตร ใหย้ นื่ คาขอมบี ัตรใหม่หรือ กรณที เี่ ปลยี่ นช่ือตวั ชือ่ สกุล แต่ตอ้ งไมเ่ กนิ หา้ ปีนับแต่ ขอเปลี่ยนบัตรแทนบตั รเดิม หรือช่อื ตัวและชือ่ สกุล วันออกบัตร เวน้ แต่กรณตี อ้ งโอน ภายในสามสิบวัน ใหย้ ื่นคาขอมบี ัตรใหม่ หรือ หรือย้ายไปปฏิบตั ิหน้าท่ี ขอเปลยี่ นบตั รแทนบตั รเดมิ ในจังหวัดอืน่ หรือพน้ จากตาแหนง่ ภายในสามสิบวนั กอ่ นวันบตั รหมดอายุ ให้ถือว่าบตั รนั้นหมดอายุก่อน วันหมดอายุที่กาหนดในบัตรนัน้ ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๑๙๑ ง ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๓ 98 สำนักจัดกำรป่ำชุมชน กรมปำ่ ไม้
เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๒๑ ง หน้า ๓ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๓ ราชกจิ จานุเบกษา ระเบียบกรมปา่ ไม้ วา่ ดว้ ยการจดแจ้งเปน็ เครือขา่ ยป่าชมุ ชนระดบั จงั หวดั พ.ศ. 2562 โดยท่ีเป็นการสมควรกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจดแจ้งการเป็นเครือข่ายป่าชุมชน ระดับจังหวัด เพ่ือรองรับสถานะเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดให้มีความชัดเจนขึ้นในทางกฎหมาย และเพ่ือประโยชน์ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ และ แลกเปล่ียนประสบการณ์ ในการจัดการป่าชุมชน รวมท้ังช่วยเหลือและสนับสนุนการดาเนินโครงการ หรอื กิจกรรมของป่าชุมชนระดับจังหวดั อนั นาไปสกู่ ารจดั การป่าชุมชนร่วมกนั อยา่ งยั่งยืน อาศัยอานาจตามความในบทนิยามคาว่า “เครือข่ายป่าชุมชน” ในมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติ ปา่ ชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๖๒ อธิบดีกรมป่าไม้ออกระเบยี บไว้ ดงั ต่อไปน้ี ขอ้ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการจดแจ้งเป็นเครือข่ายป่าชุมชน ระดบั จงั หวดั พ.ศ. 2562” ข้อ ๒ ระเบียบนใ้ี หใ้ ช้บังคบั ตง้ั แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป ขอ้ ๓ บรรดาระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ และคาส่ังอื่นใดในส่วนท่ีกาหนดไว้แล้ว ในระเบียบน้ี หรอื ซ่ึงขดั หรือแยง้ กบั ระเบียบน้ี ใหใ้ ชร้ ะเบียบนีแ้ ทน ขอ้ ๔ ในระเบยี บน้ี “ป่าชุมชน” หมายความว่า ป่าชุมชนที่ได้รับอนุมัติให้จัดต้ังเป็นป่าชุมชนตามพระราชบัญญัติ ปา่ ชุมชน พ.ศ. ๒๕๖๒ “เครือข่ายป่าชุมชนระดับอาเภอ” หมายความว่า การรวมตัวกันของคณะกรรมการจัดการ ป่าชุมชนหรือสมาชิกป่าชุมชนของป่าชุมชนต่าง ๆ ที่อยู่ในอาเภอเดียวกัน โดยมีเป้าหมายร่วมกัน เพื่อเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ และแลกเปล่ียนประสบการณ์ เพื่อนาไปสู่การจัดการป่าชุมชนระดับอาเภอ รว่ มกันอย่างยงั่ ยนื “เครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวดั ” หมายความวา่ การรวมตวั กันของเครือขา่ ยป่าชุมชนระดบั อาเภอท่ีอยู่ในจังหวัดเดียวกัน โดยมีเป้าหมายร่วมกัน เพ่ือเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ และแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ เพื่อนาไปสกู่ ารจัดการปา่ ชุมชนระดบั จังหวดั รว่ มกนั อยา่ งยง่ั ยนื “คณะกรรมการเครือขา่ ยป่าชมุ ชนระดบั อาเภอ” หมายความว่า คณะบคุ คลซ่งึ คณะกรรมการ จัดการป่าชุมชนหรือสมาชิกป่าชุมชนของป่าชุมชนต่าง ๆ ท่ีอยู่ในอาเภอเดียวกันยอมรับให้เป็นตัวแทน เพ่อื ทาหนา้ ท่สี ง่ เสริม สรา้ งความเข้าใจ และประสานการทางานระหว่างปา่ ชุมชนภายในอาเภอน้ัน “เจา้ หน้าท่ี” หมายความวา่ เจา้ หน้าทีก่ รมป่าไม้ท่อี ธิบดีมอบหมาย 99
เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๑ ง หน้า ๔ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา ขอ้ ๕ คณะกรรมการเครอื ข่ายป่าชมุ ชนระดับจงั หวัดในจังหวดั หนงึ่ ประกอบดว้ ย ประธาน เครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด รองประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด และกรรมการเครือข่าย ปา่ ชมุ ชนระดับจงั หวดั ให้คณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับอาเภอทุกเครือข่ายในจังหวัดเลือกผู้แทนเครือข่าย ป่าชุมชนระดับอาเภอของเครือข่ายตนเองในจานวนที่เท่ากันทุกเครือข่ายแต่ตอ้ งไม่นอ้ ยกว่าเครือข่ายละ หนง่ึ คน เพื่อเปน็ กรรมการเครอื ขา่ ยป่าชุมชนระดับจงั หวัด ให้ผู้แทนเครือข่ายป่าชุมชนระดับอาเภอท่ีได้รับเลือกเป็นกรรมการเครือข่ายป่าชุมชน ระดับจังหวัดตามวรรคสอง จัดให้มีการประชุมโดยให้ผู้มีอาวุโสสูงสุดในที่ประชุมทาหน้าท่ีประธาน ในท่ีประชุม เพ่ือดาเนินการเลือกประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดและรองประธานเครือข่าย ป่าชุมชนระดบั จงั หวัด จากกรรมการเครอื ข่ายป่าชุมชนระดบั จงั หวัด และให้ประธานเครอื ข่ายป่าชุมชน ระดับจังหวัดหรือกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดซึ่งท่ีประชุมมีมติมอบหมายเป็นตัวแทน ในการยนื่ คาขอจดแจง้ เปน็ เครือข่ายป่าชุมชนระดบั จงั หวดั การประชุมกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่า กงึ่ หนง่ึ ของจานวนกรรมการท้งั หมด จึงจะเปน็ องค์ประชุม การลงมติของท่ีประชุมให้ถือคะแนนเสียงข้างมาก กรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด คนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้น อกี เสยี งหน่ึงเป็นเสยี งชีข้ าด ข้อ ๖ ให้ประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดหรือกรรมการเครือข่ายป่าชุมชน ระดับจังหวัดซึ่งท่ีประชุมมีมติมอบหมายให้เป็นตัวแทนเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดตามข้อ ๕ ยื่นคาขอจดแจง้ เปน็ เครือขา่ ยป่าชุมชนระดับจงั หวดั ตามแบบ คนช. 1-1 ท้ายระเบยี บน้ี ต่อเจ้าหนา้ ท่ี พรอ้ มด้วยเอกสารและหลักฐาน ดังต่อไปน้ี (1) บัญชีรายช่ือคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด ตามแบบ คนช. 1-2 ทา้ ยระเบียบน้ี (2) สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับอาเภอครั้งท่ีมีการเลือก ผู้แทนระดับอาเภอเขา้ ไปเปน็ กรรมการเครอื ขา่ ยปา่ ชมุ ชนระดบั จังหวดั (๓) สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดคร้ังที่มีการเลอื ก ประธานเครือข่ายปา่ ชมุ ชนระดับจงั หวดั และรองประธานเครือขา่ ยปา่ ชุมชนระดบั จงั หวดั การยนื่ คาขอจดแจง้ ตามวรรคหนึ่ง ให้ย่ืน ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้ (๑) สานกั จัดการทรัพยากรป่าไม้แห่งทอ้ งท่ที ่รี ับผิดชอบ (๒) สถานท่ีอืน่ ตามที่อธิบดปี ระกาศกาหนด ขอ้ ๗ เม่ือได้รับคาขอจดแจ้งเป็นเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดแล้ว ให้เจ้าหน้าท่ี ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของคาขอ เอกสารและหลักฐานต่าง ๆ หากไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถว้ น 100
เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๑ ง หน้า ๕ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๓ ราชกจิ จานเุ บกษา ให้แจ้งผู้ขอจดแจ้งแก้ไขเพ่ิมเติมคาขอหรือจัดส่งเอกสาร หลักฐานให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลา ที่เจา้ หนา้ ทกี่ าหนด ในกรณีท่ีผู้ขอจดแจ้งไม่แก้ไขเพิ่มเติมคาขอหรือไม่จัดส่งเอกสาร หลักฐานให้ถูกต้อง และครบถ้วนภายในระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าคาขอจดแจ้งนั้นเป็นอันยกเลิกนับแต่วันที่ พน้ กาหนดระยะเวลาดังกลา่ ว และใหเ้ จา้ หน้าท่แี จ้งเปน็ หนังสอื ใหผ้ ู้ยื่นคาขอจดแจ้งทราบ ข้อ ๘ เม่ือคาขอเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ถูกต้องครบถ้วน ให้เจ้าหน้าที่รับจดแจ้ง มหี นังสอื แจง้ ใหผ้ ้ขู อจดแจ้งทราบภายในสบิ ห้าวันนับแต่วันท่รี ับจดแจง้ ข้อ ๙ ให้เจ้าหน้าที่มีหนังสือแจ้งการจดแจ้งเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดให้ผู้ว่าราชการ จังหวัดในจังหวัดที่เครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดน้ันได้รับการจดแจ้งทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ี ได้จดแจ้ง รวมท้งั มหี นงั สอื แจ้งขอ้ มลู ของเครือขา่ ยป่าชุมชนระดับจงั หวดั ท่ไี ดม้ กี ารจดแจ้งให้สานกั จดั การ ทรัพยากรป่าไม้แห่งท้องที่ทราบ เพื่อท่ีสานักจัดการทรัพยากรป่าไม้แห่งท้องท่ีจะได้รวบรวมข้อมูล ดังกล่าวแจ้งต่อกรมป่าไม้ ให้ดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลการจดแจ้งเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด ในสารบบของกรมป่าไมต้ อ่ ไป ในการนี้ ให้เจ้าหน้าที่และสานักจัดการทรัพยากรป่าไม้แห่งท้องท่ีปิดประกาศการจดแจ้ง เครือข่ายปา่ ชมุ ชนระดบั จังหวดั ไว้ในทีเ่ ปดิ เผย ณ สานักงานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมจงั หวัด สานักจัดการทรัพยากรป่าไม้แห่งท้องท่ี และศาลากลางจังหวัดแห่งจังหวัดท่ีเครือข่ายป่าชุมชน ระดับจังหวัดน้ันได้รับการจดแจ้ง รวมทั้งให้สานักจัดการป่าชุมชนหรือส่วนราชการภายในกรมป่าไม้ ท่ีอธบิ ดีมอบหมาย เผยแพร่การจดแจ้งผ่านระบบเครือขา่ ยสารสนเทศของกรมป่าไม้ด้วย ขอ้ ๑๐ ในกรณีที่มีการแก้ไข เพ่ิมเติม หรือเปล่ียนแปลงประธานเครือข่ายป่าชุมชน ระดับจังหวัด รองประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด กรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด หรอื ผูป้ ระสานงานหลักของคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจงั หวดั ให้ประธานเครือขา่ ยปา่ ชุมชน ระดับจังหวัดหรือกรรมการเครอื ข่ายป่าชุมชนระดบั จังหวัดซึ่งท่ีประชุมคณะกรรมการเครือขา่ ยป่าชมุ ชน ระดับจังหวัดมีมติมอบหมายเป็นตัวแทนในการย่ืนคาขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลเครือข่ายป่าชุมชนระดับ จงั หวัดตามแบบ คนช. 1-3 ทา้ ยระเบยี บนี้ ตอ่ เจ้าหน้าที่ ณ สถานท่ที ีก่ าหนดตามข้อ ๖ พร้อมดว้ ย เอกสารและหลักฐาน ดังต่อไปน้ี (๑) บัญชีรายช่ือคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดตามแบบ คนช. 1-2 ทา้ ยระเบยี บน้ี (๒) สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการเครือขา่ ยปา่ ชมุ ชนระดับจังหวดั กรณีท่ีมีการเลอื ก ประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด รองประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด หรือกรรมการ เครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด เพ่ือแก้ไข เพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลง หรือกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง ผ้ปู ระสานงานหลกั ของคณะกรรมการเครอื ขา่ ยป่าชุมชนระดับจังหวัด 101
เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๑ ง หน้า ๖ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา (๓) สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับอาเภอครั้งท่ีมีการเลือก ผแู้ ทนระดบั อาเภอเข้าไปเปน็ กรรมการเครอื ขา่ ยป่าชมุ ชนระดบั จังหวดั ให้นาความในข้อ ๗ ข้อ ๘ และข้อ ๙ มาใช้บังคับแก่การพิจารณาคาขอแก้ไข เพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดตามวรรคหน่ึง และการแก้ไขข้อมูลในสารบบ ของกรมป่าไม้ โดยอนุโลม ข้อ ๑๑ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดาเนินงานของเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดที่ได้ จดแจ้งต่อกรมป่าไม้ อธิบดีอาจประกาศกาหนดแนวทางการดาเนินงานให้คณะกรรมการเครือข่าย ป่าชุมชนระดบั จังหวัดปฏบิ ัติตามกไ็ ด้ ขอ้ 1๒ ในวาระเร่ิมแรก ให้คณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดแต่ละจังหวัด ท่ีมีอยู่เดิมตามแนวทางการส่งเสริมเครือข่ายป่าชุมชนของกรมป่าไม้ เป็นคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชน ระดับจังหวัดตามระเบียบนี้ และให้ดาเนินการจดแจ้งเป็นเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดตามแบบ คนช. ๑-๑ ท้ายระเบียบนี้ ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่ตามข้อ ๖ พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐาน ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) บัญชีรายช่ือคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดตามแบบ คนช. 1-2 ทา้ ยระเบยี บน้ี (2) สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการเครอื ข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดคร้ังท่ีมีการเลือก ประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด หรือหนังสือรับรองการเป็นคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชน ระดบั จงั หวดั จากสานกั จัดการทรพั ยากรปา่ ไม้แห่งท้องท่ี ให้คณะกรรมการเครอื ข่ายปา่ ชุมชนระดับจังหวัดตามวรรคหนึ่งดาเนินการให้เป็นไปตามข้อ ๕ และข้อ ๑๐ ให้แล้วเสร็จภายในสองปี นับแต่วันท่ีระเบียบน้ีใช้บังคับ หากดาเนินการไม่แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลาทีก่ าหนด ให้การจดแจ้งเครอื ข่ายปา่ ชุมชนระดบั จงั หวดั ในจงั หวัดน้นั เป็นอนั ถูกยกเลกิ ขอ้ ๑๓ ให้อธิบดีกรมป่าไม้รักษาการตามระเบียบน้ี และให้มีอานาจออกประกาศหรือคาส่ัง เพ่อื ประโยชนใ์ นการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้อธิบดีกรมป่าไม้เป็นผู้วินิจฉัยช้ีขาด คาวินจิ ฉยั น้นั ให้เป็นที่สุด ประกาศ ณ วนั ท่ี 4 ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕62 อรรถพล เจรญิ ชนั ษา อธิบดกี รมป่าไม้ 102
คนช. ๑-1 แบบคำขอจดแจง้ เปน็ เครือข่ำยป่ำชุมชนระดับจงั หวัด เขยี นท.ี่ ............................................................... วนั ที.่ ........... เดอื น................................. พ.ศ. .... ข้าพเจ้า ชื่อ.................................................... นามสกุล............................................... หมายเลขบัตรประจาตัวประชาชน................................................................................................... ....... อยู่บ้านเลขท่ี.................................. หมู่ท่ี................... ตรอก/ซอย....................................... .................... ถนน...................................... ตาบล/แขวง............................................ อาเภอ/เขต.................... .......... จังหวัด................................................ รหัสไปรษณีย์............................ โท รศัพท์.................................. โทรสาร.............................................. e-mail address : ....................................................................... เป็นตวั แทนในการย่ืนขอจดแจ้งเป็นเครือข่ายป่าชมุ ชนระดับจังหวดั โดยมีรายละเอียด ดังตอ่ ไปน้ี ๑. ช่ือเครือข่ายป่าชมุ ชนจงั หวัด...................................................................................... ๒. จานวนกรรมการ ............................ คน ๓. ผปู้ ระสานงานหลักของคณะกรรมการเครือขา่ ยป่าชมุ ชนระดบั จังหวัด ๓.๑ ชื่อ.................................................... นามสกุล............................................... ตาแหน่ง ประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด รองประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด กรรมการเครอื ข่ายปา่ ชมุ ชนระดบั จงั หวัด หมายเลขบัตรประจาตัวประชาชน.................................................. อยู่บ้านเลขท่ี.................................. หมู่ที่................... ตรอก/ซอย.................................................... ถนน...................................... ตาบล/แขวง.............................................................. อาเภอ/เขต............................................ .... จังหวัด................................................ รหัสไปรษณีย์............................ โทรศัพท์.................... .............. โทรสาร.............................................. e-mail address : ....................................................................... ๓.๒ ช่ือ.................................................... นามสกุล............................................... ตาแหน่ง ประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด รองประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด กรรมการเครอื ขา่ ยป่าชมุ ชนระดับจงั หวัด หมายเลขบัตรประจาตัวประชาชน.................................................. อยู่บ้านเลขที่.................................. หมู่ท่ี................... ตรอก/ซอย.................................................... ถนน...................................... ตาบล/แขวง.............................................................. อาเภอ/เขต............................................ .... จังหวัด................................................ รหัสไปรษณีย์............................ โทรศัพท์.................... .............. โทรสาร.............................................. e-mail address : ....................................................................... 103
พร้อมนี้ไดแ้ นบเอกสารและหลกั ฐานมาเพื่อประกอบการพจิ ารณาด้วย ดงั นี้ บัญชีรายชอ่ื คณะกรรมการเครือขา่ ยป่าชุมชนระดบั จังหวัด สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับอาเภอคร้ังที่ มกี ารเลอื กผ้แู ทนระดบั อาเภอเขา้ ไปเปน็ กรรมการเครือขา่ ยปา่ ชุมชนระดบั จังหวัด สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดคร้ังที่ มีการเลือกประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดและรองประธานเครือข่าย ปา่ ชมุ ชนระดับจังหวัด เอกสารและหลักฐานอ่ืน...................................................................................... (ลงชอื่ ) ..................................................... ผู้ย่นื คาขอจดแจ้ง (....................................................) คาส่ังเจา้ หน้าที่ ............................................................................................ ........................................ ........................................................................................................... ..................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชือ่ ) ................................................................ (...................................................... ........) ตาแหนง่ 104
คนช. ๑-2 รำยชอื่ คณะกรรมกำรเครือข่ำยป่ำชมุ ชนระดบั จงั หวดั .................................................. ตำแหน่งใน ตวั แทนจำก ลำดบั ชื่อ - สกลุ คณะกรรมกำรเครอื ขำ่ ย เลขประจำตวั ประชำชน ท่ีอยู่และเบอรโ์ ทรศัพท์ เครือขำ่ ยป่ำชุมชน ปำ่ ชุมชนระดับจังหวดั ระดบั อำเภอ 105 (ลงชื่อ) .................................................................. (ประธำนเครือขำ่ ยปำ่ ชุมชนระดบั จงั หวดั ………) (ลงวนั ท)ี่ ................................................................
คนช. 1-3 แบบคำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลเครือขำ่ ยป่ำชุมชนระดบั จังหวดั เขียนที่................................................................ วนั ท.่ี ........... เดอื น................................. พ.ศ. .... ข้าพเจ้า ชื่อ.................................................... นามสกุล............................................... หมายเลขบัตรประจาตัวประชาชน........................................................... ............................................... อยู่บ้านเลขที่.................................. หมู่ท่ี................... ตรอก/ซอย......................................... .................. ถนน...................................... ตาบล/แขวง............................................ อาเภอ/เขต.............................. จังหวัด................................................ รหัสไปรษณีย์............................ โทรศัพท์.................... .............. โทรสาร.............................................. e-mail address : ....................................................................... ได้รับมอบหมายจากเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด.............................................................................. ประสงคจ์ ะขอแกไ้ ขเปลี่ยนแปลงขอ้ มูลเครือข่ายป่าชมุ ชนระดับจงั หวดั โดยมรี ายละเอียดดงั ต่อไปนี้ ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................................................................. .............................. .................................................................................................... ............................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................... . ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................... ................................................................................................. ............................................................................................................................. ......................... ................................................................................................................................................................ พรอ้ มนไี้ ด้แนบเอกสารและหลักฐานมาเพ่ือประกอบการพจิ ารณาด้วย ดงั นี้ บญั ชรี ายช่อื คณะกรรมการเครือขา่ ยปา่ ชมุ ชนระดับจงั หวดั สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดกรณี ท่ีมีการเลือกประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดหรือรองประธานเครือข่าย ป่าชุมชนระดับจังหวัด เพ่ือแก้ไข เพ่ิมเติม หรือเปล่ียนแปลง หรือกรณีที่มีการ เปลี่ยนแปลงผปู้ ระสานงานหลกั ของเครือขา่ ยป่าชมุ ชนระดับจังหวดั เอกสารและหลักฐานอนื่ ...................................................................................... (ลงช่ือ) ................................................... ผ้ยู น่ื คาขอเปล่ยี นแปลงข้อมูล (...................................................) 106
(ด้านหลงั ) คาส่ังเจา้ หน้าท่ี ............................................................................................................................. ....... ........................................................................................................................... ..................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชือ่ ) ................................................................ (..............................................................) ตาแหน่ง 107
แผนผงั ระเบียบกรมป่ำไม้ วำ่ ด้วยกำรจดแจ้งเปน็ เครอื ขำ่ ยปำ่ ชมุ ชนระดับจังหวัด พ.ศ. 2562 (ตำมมำตรำ 4 พ.ร.บ. ป่ำชุมชน พ.ศ. 2562) ผู้แทนเครือข่ำยปำ่ ชมุ ชน ย่นื คำขอจดแจง้ / แกไ้ ข/ เพิ่มเตมิ / เปลี่ยนแปลงขอ้ มูล ณ ศนู ยป์ ่ำไมแ้ หง่ ทอ้ งที่ที่ตง้ั เครอื ขำ่ ย เจ้ำหน้ำท่ีตรวจสอบควำมถกู ต้อง ถูกตอ้ ง/ครบถว้ น ไมถ่ กู ต้อง/ไมค่ รบถว้ น ศูนย์ปำ่ ไมแ้ ห่งท้องท่ี รำยงำนกำรจดแจง้ ผู้ขอจดแจง้ แกไ้ ข/เพ่ิมเติม ท่ตี งั้ เครือขำ่ ย ตามเวลากาหนด - ผวู้ า่ ราชการจังหวดั และ - ผ้ขู อจดแจ้ง ภายใน 15 วัน สำนักจัดกำร จดั ทำประกำศและ ไมแ่ ก้ไข/ไมจ่ ดั สง่ เอกสาร แกไ้ ข ทรัพยำกรปำ่ ไม้ ปดิ ประกำศ ณ ตามกาหนดเวลา เสร็จตำม กำหนดเวลำ - ศาลากลางจังหวัด คำขอจดแจง้ - สานกั งานทรัพยากรธรรมชาติ เป็นอนั ยกเลกิ และสง่ิ แวดล้อมจังหวัด - สานักจัดการทรัพยากรปา่ ไม้ แจง้ สำนักจัดกำรปำ่ ชมุ ชน รวบรวมข้อมลู ลงใน เจ้าหนา้ ท่ีแจ้งเป็น กรมปำ่ ไม้ สารบบของกรมป่าไม้ หนงั สือใหผ้ ูย้ ื่น และเผยแพรผ่ า่ นระบบ คาขอจดแจ้งทราบ เครอื ขา่ ยสารสนเทศ ประกำศในรำชกจิ จำนเุ บกษำ เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๑ ง ๒๘ มกรำคม ๒๕๖๓ 108 สำนักจดั กำรปำ่ ชมุ ชน กรมป่ำไม้
เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๑ ง หน้า ๗ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๓ ราชกจิ จานุเบกษา ระเบยี บกรมป่าไม้ ว่าดว้ ยการจดแจ้งเป็นองคก์ รภาคประชาสงั คม พ.ศ. 2562 โดยท่ีเป็นการสมควรกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจดแจ้งการเป็นองค์กรภาคประชาสังคม เพื่อประโยชน์ในการสง่ เสริมการมีสว่ นร่วมขององค์กรภาคประชาสงั คมในการจดั การป่าชมุ ชน อนั นาไปสู่ การอนุรักษ์ ฟื้นฟู จัดการ บารุงรักษา ตลอดจนใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชวี ภาพอย่างสมดลุ และยั่งยืน อาศัยอานาจตามความในบทนิยามคาว่า “องค์กรภาคประชาสังคม” ในมาตรา ๔ แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ า่ ชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๖๒ อธบิ ดกี รมปา่ ไมอ้ อกระเบยี บไว้ ดังตอ่ ไปน้ี ขอ้ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการจดแจ้งเป็นองค์กร ภาคประชาสงั คม พ.ศ. 2562” ขอ้ ๒ ระเบยี บน้ีใหใ้ ช้บังคับตงั้ แต่วนั ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป ข้อ ๓ ในระเบียบนี้ “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า เจ้าหน้าที่สานักจัดการป่าชุมชน เจ้าหน้าที่สานักจัดการ ทรพั ยากรป่าไมแ้ หง่ ทอ้ งที่ หรือเจ้าหนา้ ทีก่ รมป่าไม้ซง่ึ อธิบดีมอบหมาย ขอ้ ๔ องค์กรที่ประสงค์จะยื่นคาขอจดแจ้งเป็นองค์กรภาคประชาสังคม ต้องมีลักษณะ ดังต่อไปน้ี (๑) องคก์ รเอกชนทเี่ ปน็ นิติบคุ คล (ก) มีวตั ถุประสงค์ด้านการคมุ้ ครองส่ิงแวดล้อมและอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ (ข) ไมม่ ่งุ หาผลกาไรหรือรายไดม้ าแบง่ ปนั กนั (๒) องค์กรเอกชนทไ่ี ม่ไดเ้ ปน็ นิตบิ ุคคล (ก) ต้องมีผลงานด้านการคุ้มครองส่ิงแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อยา่ งต่อเน่อื งเปน็ ที่ประจักษ์ หรอื มีผลงานทีผ่ ่านมาไม่นอ้ ยกว่า 3 ผลงาน (ข) ไมม่ งุ่ หาผลกาไรหรือรายได้มาแบ่งปันกนั ขอ้ ๕ องค์กรตามข้อ ๔ ที่มีความประสงค์จะจดแจ้งเป็นองค์กรภาคประชาสังคม ให้ยื่น คาขอจดแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตามแบบคาขอจดแจ้ง คนช. 2-1 ท้ายระเบียบนี้ พร้อมด้วยเอกสารและ หลักฐาน ดังต่อไปน้ี (๑) หลักฐานแสดงการจดทะเบยี นนิตบิ ุคคล (๒) สาเนาหลกั ฐานทีแ่ สดงถงึ วตั ถุประสงค์ ข้อบังคบั ระเบียบ หรือหลักเกณฑข์ ององคก์ ร (๓) รายชือ่ คณะกรรมการหรอื คณะทางานขององค์กร และผมู้ ีอานาจทาการแทนองค์กร (๔) หลกั ฐานแสดงการเปน็ ผมู้ ีอานาจกระทาการแทนองคก์ รในการยื่นคาขอจดแจ้ง 109
เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๒๑ ง หน้า ๘ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๓ ราชกิจจานุเบกษา (๕) หลักฐานแสดงกิจกรรมหรือแผนงานด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ การยน่ื คาขอจดแจ้งตามวรรคหนงึ่ ใหย้ ื่น ณ สถานท่ีหรอื วิธีการ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) กรุงเทพมหานคร ให้ย่ืน ณ กรมป่าไม้ (๒) จังหวัดอ่ืน ให้ย่ืน ณ สานักจัดการทรัพยากรป่าไม้แห่งท้องที่ที่รับผิดชอบ หรือสถานที่อื่น ตามทอี่ ธบิ ดปี ระกาศกาหนด (๓) ย่นื โดยวธิ ีการทางอิเลก็ ทรอนกิ สต์ ามหลักเกณฑท์ ี่อธิบดีประกาศกาหนด ข้อ ๖ เมื่อได้รับคาขอจดแจ้งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ความถูกต้องครบถ้วนของคาขอ เอกสารและหลักฐานต่าง ๆ หากไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนให้แจ้ง ผู้ขอจดแจ้งแก้ไขเพ่ิมเติมคาขอหรือจัดส่งเอกสาร หลักฐานให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลา ทเี่ จา้ หนา้ ท่ีกาหนดซึ่งต้องไม่นอ้ ยกว่าสามสิบวัน ในกรณีที่ผู้ขอจดแจ้งไม่แกไ้ ขเพ่มิ เติมคาขอหรอื ไม่จัดสง่ เอกสารหรอื หลกั ฐานใหถ้ กู ต้องครบถว้ น ภายในระยะเวลาตามวรรคหนง่ึ ให้ถือว่าคาขอจดแจ้งนั้นเปน็ อนั ยกเลิกนับแตว่ ันทพี่ ้นกาหนดระยะเวลา ดงั กล่าว และใหเ้ จ้าหน้าท่ีแจง้ เปน็ หนังสือให้ผยู้ น่ื คาขอจดแจ้งทราบ ขอ้ ๗ เม่ือคาขอ เอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ถูกต้องครบถ้วน ให้เจ้าหน้าที่รับจดแจ้ง มีหนังสือแจ้งผู้ขอจดแจ้งทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่รับจดแจ้ง รวมท้ังแจ้งให้สานักจัดการป่าชุมชน หรือส่วนราชการภายในกรมป่าไม้ที่อธบิ ดมี อบหมายทราบ เพ่ือดาเนนิ การเก็บรวบรวมข้อมูลการจดแจง้ เป็นองค์กรภาคประชาสังคมในสารบบของกรมป่าไม้ พร้อมท้ังเผยแพร่การจดแจ้งเปน็ องค์กรภาคประชาสงั คม ผ่านระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมป่าไม้ด้วย ขอ้ ๘ ในกรณีท่ีมีการเปลี่ยนแปลงข้อมลู การจดแจง้ เป็นองค์กรภาคประชาสังคม ให้องคก์ ร ภาคประชาสังคมนนั้ ย่นื คาขอตอ่ เจา้ หนา้ ที่ ณ สถานที่หรือวธิ กี ารที่กาหนดตามข้อ ๕ เพ่อื เปลี่ยนแปลง ข้อมูลตามแบบคาขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล คนช. 2-2 ท้ายระเบียบนี้ พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐาน ดังตอ่ ไปนี้ (๑) หลักฐานแสดงการจดทะเบยี นนิตบิ คุ คล กรณที ่มี ีการเปล่ียนแปลงขอ้ มลู ดังกล่าว (๒) สาเนาหลักฐานที่แสดงถึงวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ขององค์กร กรณที ี่มกี ารเปลี่ยนแปลงขอ้ มลู ดังกล่าว (๓) รายชื่อคณะกรรมการหรือคณะทางานขององค์กร และผู้มีอานาจทาการแทนองค์กร กรณีทม่ี ีการเปล่ยี นแปลงข้อมูลดงั กลา่ ว (๔) หลักฐานแสดงการเปน็ ผมู้ อี านาจกระทาการแทนองค์กรในการย่ืนคาขอ ให้นาความในข้อ ๖ และข้อ ๗ มาใช้บังคับแก่การพิจารณาคาขอเปล่ียนแปลงข้อมูลการจดแจ้ง การแก้ไขข้อมูลในสารบบของกรมป่าไม้ และการเผยแพร่การเปลี่ยนแปลงข้อมูลการจดแจ้งเป็นองค์กร ภาคประชาสงั คม โดยอนุโลม 110
เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๒๑ ง หน้า ๙ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๓ ราชกจิ จานุเบกษา ข้อ ๙ ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอานาจยกเลิกการจดแจ้งเป็นองค์กร ภาคประชาสงั คมได้ ในกรณดี งั ตอ่ ไปน้ี (๑) องค์กรภาคประชาสังคมย่ืนคาขอยกเลิกการจดแจ้งเป็นองค์กรภาคประชาสังคม ต่อเจ้าหนา้ ท่ี ณ สถานทีห่ รือวธิ ีการท่ีกาหนดตามขอ้ ๕ ตามแบบคาขอยกเลิกการจดแจ้ง คนช. 2-3 ทา้ ยระเบยี บนี้ พร้อมด้วยหลักฐานแสดงการเป็นผ้มู ีอานาจกระทาการแทนองค์กรในการยน่ื คาขอยกเลิก การจดแจ้ง (๒) เม่ือปรากฏหลักฐานอย่างชัดแจ้งว่า องค์กรภาคประชาสังคมที่จดแจ้งกับกรมป่าไม้ ไมม่ ีลักษณะความเปน็ องค์กรทีค่ รบถ้วนตามข้อ ๔ อกี ตอ่ ไป เมื่อยกเลิกการจดแจ้งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมตามวรรคหน่ึงแล้ว ให้จาหน่ายชื่อองค์กร ภาคประชาสังคมออกจากสารบบ และมีหนังสือแจ้งให้องค์กรภาคประชาสังคมท่ีถูกยกเลิกการจดแจ้ง ทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ยกเลิกการจดแจ้ง รวมท้ังแจ้งให้สานักจัดการป่าชุมชนหรือส่วนราชการ ภายในกรมป่าไมท้ อี่ ธบิ ดีมอบหมายทราบ เพอื่ ดาเนินการแก้ไขขอ้ มลู การจดแจ้งองค์กรภาคประชาสังคม ในสารบบของกรมป่าไม้ พร้อมท้ังเผยแพร่การยกเลิกการจดแจ้งเปน็ องค์กรภาคประชาสังคมผ่านระบบ เครือข่ายสารสนเทศของกรมปา่ ไม้ดว้ ย ข้อ ๑๐ ให้อธิบดีกรมป่าไม้รักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอานาจออกประกาศหรือคาสั่ง เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัตติ ามระเบียบนี้ ในกรณีท่ีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้อธิบดีกรมป่าไม้เป็นผู้วินิจฉัยช้ีขาด คาวินจิ ฉัยนนั้ ให้เปน็ ทสี่ ุด ประกาศ ณ วนั ที่ 4 ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕62 อรรถพล เจรญิ ชนั ษา อธิบดกี รมปา่ ไม้ 111
คนช. 2-1 แบบคำขอจดแจ้งเป็นองค์กรภำคประชำสังคม เขยี นท่.ี ............................................................... วันท่.ี ........... เดือน................................. พ.ศ. .... ข้าพเจ้า ชื่อ.................................................... นามสกุล............................................... หมายเลขบัตรประจาตัวประชาชน................................................................................. ......................... อยู่บ้านเลขที่.................................. หมู่ท่ี................... ตรอก/ซอย........................................................... ถนน...................................... ตาบล/แขวง............................................ อาเภอ/เขต.. ............................ จังหวัด................................................ รหัสไปรษณีย์............................ โทรศัพท์.................................. โทรสาร.............................................. e-mail address : ....................................................................... เปน็ ผ้มู อี านาจกระทาการแทนองค์กร (ระบุชอ่ื องค์กร)................................................................................. ..................................................................................................................................................................... ประสงค์จะขอจดแจง้ เป็นองค์กรภาคประชาสังคมตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ ๑. สถานท่ตี ง้ั องคก์ ร เลขท่ี................................. หมู่ท่ี.............. ตรอก/ซอย.................... ....................... ถนน...................................... ตาบล/แขวง............................................ อาเภอ/เขต.. ............................ จังหวัด................................................ รหัสไปรษณีย์............................ โทรศัพท์.. ................................ โทรสาร............................................... ๒. สถานที่ติดต่อ เลขท่ี................................. หมู่ที่.............. ตรอก/ซอย.................... ....................... ถนน...................................... ตาบล/แขวง............................................ อาเภอ/เขต.............................. จังหวัด................................................ รหัสไปรษณีย์............................ โทรศัพท์.. ................................ โทรสาร............................................... ๓. สถานภาพขององคก์ ร เปน็ นติ บิ คุ คล ประเภท มลู นิธิ สมาคม อน่ื ๆ (ระบ)ุ .................. ไมเ่ ป็นนติ ิบุคคล ๔. องค์กรจัดต้งั เมื่อวันที่.................................................................. ........................... ๕. วตั ถุประสงคก์ ารจัดต้งั องค์กร .......................................................................................... ..................................... ....................................................................................... ......................................................................... ........................................................................................................... ..................................................... ........................................................................................................... ..................................................... ........................................................................................................... ..................................................... ..................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 112
๖. แผนงานด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยสรปุ ........................................................................................ ....................................... .................................................... ....................................................... ..................................................... ........................................................................................................... ..................................................... ........................................................................................................... ..................................................... ................................................................................. ............................................................................... ........................................................................................................... ..................................................... ........................................................................................................... .......................................................... ..................................................................................................................................................................... ๗. ผลการดาเนินกิจกรรมด้านการคุ้มครองส่ิงแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างต่อเน่อื งเปน็ ทป่ี ระจักษ์ โดยสรุป ................................................................................ ............................................... ........................................................................................................... ..................................................... ............................................... ............................................................ ..................................................... ........................................................................................................... ..................................................... ........................................................................................................... ..................................................... ............................................................................ .................................................................................... ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ พรอ้ มนีไ้ ดแ้ นบเอกสารและหลักฐานมาเพ่ือประกอบการพิจารณาดว้ ย ดงั น้ี หลักฐานแสดงการจดทะเบียนนิตบิ ุคคล สาเนาหลักฐานท่ีแสดงถึงวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ของ องค์กร รายชือ่ คณะกรรมการหรือคณะทางานขององค์กร และผูม้ อี านาจทาการแทนองค์กร หลักฐานแสดงการเป็นผู้มีอานาจกระทาการแทนองค์กรในการยื่นคาขอจดแจ้ง เช่น หนังสือมอบอานาจ สาเนารายงานการประชุมท่ีมีมติแต่งต้ังให้เป็นตัวแทน องค์กรในการยื่นคาขอจดแจง้ หลักฐานแสดงกิจกรรมหรือแผนงานด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ เอกสารและหลักฐานอน่ื .................................................................... .................. (ลงชอื่ ) ................................................ ผู้ยนื่ คาขอจดแจง้ (....................................................) 113
(ด้านหลงั ) คาสง่ั เจ้าหน้าที่ ................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ) ................................................................ (..............................................................) ตาแหน่ง 114
คนช. 2-2 แบบคำขอเปล่ียนแปลงข้อมูลกำรจดแจ้งเป็นองค์กรภำคประชำสงั คม เขยี นท.่ี ............................................................... วนั ที่............ เดือน................................. พ.ศ. .... ข้าพเจ้า ช่ือ.................................................... นามสกุล................... ............................ หมายเลขบัตรประจาตัวประชาชน................................................................................. ......................... อยู่บ้านเลขท่ี.................................. หมู่ที่................... ตรอก/ซอย....................... .................................... ถนน...................................... ตาบล/แขวง............................................ อาเภอ/เขต.. ............................ จังหวัด................................................ รหัสไปรษณีย์............................ โทรศัพท์.. ................................ โทรสาร.............................................. e-mail address : ....................................................................... เปน็ ผู้มีอานาจกระทาการแทนองค์กร (ระบุชื่อองค์กร)................................................................................. ..................................................................................................................................................................... ประสงค์จะขอเปลี่ยนแปลงข้อมลู องค์กรภาคประชาสงั คม เปลี่ยนแปลงชื่อองคก์ ร เปลี่ยนแปลงสถานทตี่ ั้งองค์กร เปลยี่ นแปลงสถานที่ติดต่อองค์กร เปลย่ี นแปลงวัตถปุ ระสงค์ ขอ้ บังคบั ระเบยี บ หรือหลกั เกณฑข์ ององคก์ ร เปลี่ยนแปลงรายชื่อคณะกรรมการหรือคณะทางานขององค์กร และผู้มีอานาจทาการ แทนองคก์ ร อนื่ ๆ (ระบุ)............................................................................ .............................. โดยมรี ายละเอียด ดงั ตอ่ ไปนี้ ........................................................................................................... ..................................................... ........................................................................................................... ..................................................... ......................................... .................................................................. ..................................................... ........................................................................................................... ..................................................... ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ........................................................................................................... ........................................... ................................................................................................................................................................ 115
พรอ้ มนีไ้ ดแ้ นบเอกสารและหลกั ฐานมาเพ่ือประกอบการพิจารณาด้วย ดังน้ี หลกั ฐานแสดงการจดทะเบียนนิติบคุ คล กรณีที่มีการเปล่ยี นแปลงขอ้ มูลดังกล่าว สาเนาหลักฐานท่ีแสดงถึงวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ของ องค์กร กรณที มี่ ีการเปล่ยี นแปลงขอ้ มูลดังกลา่ ว รายช่ือคณะกรรมการหรือคณะทางานขององค์กร และผู้มีอานาจทาการแทน องคก์ ร กรณีทีม่ ีการเปลยี่ นแปลงขอ้ มูลดงั กล่าว หลักฐานแสดงการเป็นผู้มีอานาจกระทาการแทนองค์กรในการย่ืนคาขอจดแจ้ง เช่น หนังสือมอบอานาจ สาเนารายงานการประชุมที่มีมติแต่งต้ังให้เป็นตัวแทน องคก์ รในการยืน่ คาขอจดแจ้ง เอกสารและหลกั ฐานอื่น...................................................................................... (ลงช่อื ) ................................................... ผู้ย่ืนคาขอเปลย่ี นแปลงข้อมลู (....................................................) 116
(ด้านหลงั ) คาสัง่ เจ้าหนา้ ท่ี .................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชอ่ื ) ................................................................ (..............................................................) ตาแหน่ง 117
คนช. 2-3 คำขอยกเลกิ กำรจดแจ้งเป็นองค์กรภำคประชำสงั คม เขยี นท.ี่ ............................................................... วันที.่ ........... เดือน................................. พ.ศ. .... ข้าพเจ้า ชื่อ.................................................... นามสกุล............................................... หมายเลขบัตรประจาตัวประชาชน................................................................................................... ....... อยู่บ้านเลขท่ี.................................. หมู่ที่................... ตรอก/ซอย....................................................... .... ถนน...................................... ตาบล/แขวง............................................ อาเภอ/เขต.................... .......... จังหวัด................................................ รหัสไปรษณีย์............................ โทรศัพท์.................... .............. โทรสาร.............................................. E-mail address : ....................................................................... เปน็ ผ้มู อี านาจกระทาการแทนองค์กร (ระบชุ อ่ื องคก์ ร)................................................................................. .......................................................................................... ..................................................................... ประสงคจ์ ะขอยกเลิกการจดแจง้ เป็นองคก์ รภาคประชาสังคมตามพระราชบัญญตั ิป่าชุมชน พ.ศ. ๒๕๖๒ เนอ่ื งจาก ……………………………………………………………………………………………….............................………..… พรอ้ มน้ไี ดแ้ นบเอกสารและหลักฐานมาเพ่ือประกอบการพิจารณาด้วย ดังน้ี หลักฐานแสดงการเป็นผู้มีอานาจกระทาการแทนองค์กรในการย่ืนคาขอยกเลิก การจดแจ้ง เช่น หนังสือมอบอานาจ สาเนารายงานการประชุมท่ีมีมติแต่งต้ัง ใหเ้ ป็นตัวแทนองค์กรในการยน่ื คาขอยกเลิกการจดแจง้ เอกสารและหลกั ฐานอนื่ ...................................................................................... (ลงชอื่ ) ................................................ ผ้ยู ื่นคาขอยกเลิกการจดแจ้ง (....................................................) 118
(ดา้ นหลงั ) ความเห็นเจ้าหนา้ ที่ .................................................................................................................................... ............................................................................................................ .................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชอื่ ) ................................................................ (........................................................... ...) ตาแหน่ง คาสัง่ .................................................................................................................................... ................................................................................................................ ................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอ่ื ) ................................................................ (........................................................... ...) ตาแหน่ง 119
แผนผังระเบียบกรมป่ำไม้ วำ่ ดว้ ยกำรจดแจ้งเป็นองคก์ รภำคประชำสังคม พ.ศ. 2562 (ตำมมำตรำ 4 พ.ร.บ. ป่ำชุมชน พ.ศ. 2562) ย่นื คำขอจดแจ้ง/ เปลี่ยนแปลงขอ้ มูล/ ยกเลกิ สำนกั จดั กำรทรัพยำกรป่ำไมท้ ้องที่ หรอื ศนู ย์ป่ำไม้ 76 จงั หวัด เจ้ำหน้ำทตี่ รวจสอบควำมถกู ตอ้ ง ถูกต้อง/ครบถ้วน ไม่ถกู ตอ้ ง/ไม่ครบถ้วน ศนู ยป์ ำ่ ไม้จังหวัด ผู้ขอจดแจง้ แก้ไข/เพ่มิ เตมิ 76 จงั หวัด ตามเวลากาหนด สำนกั จัดกำร (ไม่นอ้ ยกวา่ 30 วัน) ทรัพยำกรป่ำไม้ แจง้ ผู้ขอจดแจง้ ไมแ่ ก้ไข/ไมจ่ ัดส่งเอกสาร แก้ไข ภำยใน 7 วนั ตามกาหนดเวลา เสรจ็ ตำม นบั แตว่ นั ท่ีจดแจง้ กำหนดเวลำ แจ้งสำนักจัดกำรป่ำชุมชน รวบรวมขอ้ มลู ลงใน คำขอจดแจง้ ยกเลิก กรมป่ำไม้ สารบบของกรมป่าไม้ แจง้ เป็นหนงั สอื และเผยแพร่ผ่านระบบ ใหท้ รำบ เครอื ขา่ ยสารสนเทศ เจ้าหน้าทแ่ี จ้งเปน็ หนงั สือใหผ้ ้ยู ่นื คาขอจดแจ้งทราบ ประกำศในรำชกจิ จำนเุ บกษำ เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๑ ง ๒๘ มกรำคม ๒๕๖๓ 120 สำนกั จดั กำรปำ่ ชมุ ชน กรมป่ำไม้
หน้า ๑ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๑๖๗ ง ราชกจิ จานุเบกษา ระเบียบกรมป่าไม้ วา่ ดว้ ยการจัดทาแผนที่แสดงแนวเขตปา่ ชุมชน พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยท่ีเป็นการสมควรกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทาแผนท่ีแสดงแนวเขตป่าชุมชน เพ่ือให้การจัดทาแนวเขตของป่าชุมชนท่ีขอจัดตั้งมีความชัดเจนซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ความเหมาะสมและปอ้ งกันการทับซ้อนของพ้นื ทที่ ี่จะนามาขอจดั ต้งั เป็นปา่ ชุมชน อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญตั ปิ ่าชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๖๒ อธิบดีกรมปา่ ไม้ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบน้ีเรยี กว่า “ระเบยี บกรมป่าไม้ วา่ ด้วยการจดั ทาแผนท่ีแสดงแนวเขตปา่ ชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๖๓” ขอ้ ๒ ระเบยี บนใ้ี ห้ใช้บงั คับต้งั แต่วนั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ต้นไป ขอ้ ๓ ในระเบยี บน้ี “เจ้าหนา้ ท่ี” หมายความวา่ เจ้าหน้าท่ีสานกั จัดการทรพั ยากรปา่ ไม้แหง่ ท้องที่ หรือเจา้ หนา้ ท่ี กรมปา่ ไม้ซึ่งอธบิ ดมี อบหมาย “เจ้าหน้าทร่ี ังวัด” หมายความวา่ เจ้าหนา้ ท่สี านักจดั การทรพั ยากรป่าไมแ้ หง่ ท้องท่ซี งึ่ มคี ณุ วฒุ ิ ด้านการรังวัดหรือการจัดทาแนวเขต เจ้าหน้าท่ีกรมป่าไม้ท่ีผ่านการอบรมหลักสูตรดา้ นการสารวจรังวดั และทาแผนท่ี เจ้าหน้าท่ีกรมป่าไม้ซ่ึงมีประสบการณ์และสามารถทางานด้านการสารวจรังวัดและทาแผนท่ี หรือเจ้าหน้าท่ีของหน่วยงานราชการอ่ืนและเจ้าหน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซ่ึงมีคุณวุฒิ ด้านการรังวัดหรือการจัดทาแนวเขต และให้หมายความรวมถึงบุคคลหรือนิติบุคคลท่ีได้รับใบอนุญาต เป็นช่างรังวัดเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยช่างรังวัดเอกชน ซึ่งอธิบดีกรมป่าไมม้ อบหมายให้มีหน้าท่ีรงั วัด ที่ดินทจี่ ะนามาจัดตงั้ เปน็ ปา่ ชมุ ชนหรือขยายเขตป่าชุมชน “ผู้นาตรวจ” หมายความว่า ผู้ยื่นคาขอจัดต้ังป่าชุมชน หรือประธานกรรมการจัดการป่าชุมชน ในกรณกี ารขอขยายเขตปา่ ชมุ ชน “ข้อมูลในระบบดิจิทัล” หมายความว่า ข้อมูลที่จัดเก็บโดยใช้เทคโนโลยีที่ใช้วิธีการนา สัญลักษณ์ศูนย์และหน่ึงหรือสัญลักษณ์อื่นมาแทนค่าส่ิงท้ังปวง เพ่ือใช้สร้าง หรือก่อให้เกิดระบบต่าง ๆ เพือ่ การนาไปใช้ประโยชน์ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการซึ่งทาหน้าท่ีในการตรวจสอบกล่ันกรอง ใหค้ าแนะนาและข้อเสนอแนะในการจัดทาแผนท่แี สดงแนวเขตปา่ ชุมชนท่ีขอจดั ตงั้ หรือขอขยายเขต ข้อ ๔ เมื่อได้รับคาขอจัดตั้งป่าชุมชนหรือคาขอขยายเขตป่าชุมชนแล้วให้เจ้าหน้าท่ีรังวัด และผนู้ าตรวจ รว่ มกันตรวจสอบและรงั วดั พื้นที่ที่ขอจดั ตั้งป่าชมุ ชนหรือขอขยายเขตปา่ ชุมชน 121
หน้า ๒ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๖๗ ง ราชกจิ จานุเบกษา การรังวัดพื้นที่ท่ีขอจัดต้ังป่าชุมชนหรือพื้นที่ท่ีขอขยายเขตป่าชุมชน ให้เป็นไปตามมาตรฐาน การรังวัดบนแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ ที่คณะกรรมการกาหนดมาตรฐานระวางแผนที่และแผนที่ รปู แปลงทด่ี ินในทีด่ ินของรัฐกาหนด หรือให้เปน็ ไปตามที่กรมปา่ ไม้กาหนด ข้อ ๕ เมื่อทาการตรวจสอบและรังวัดพื้นท่ีที่ขอจัดตั้งป่าชุมชนหรือพ้ืนที่ที่ขอขยาย เขตป่าชุมชนแล้ว ให้เจ้าหน้าท่ีจัดทาแผนที่แสดงแนวเขตป่าชุมชนท่ีขอจัดตั้งหรือแผนที่แสดงแนวเขต ป่าชุมชนทข่ี อขยายเขตซึง่ ต้องประกอบดว้ ย (๑) แผนท่ีแสดงแนวเขตของป่าชุมชนที่ขอจัดตั้งหรือแผนท่ีแสดงแนวเขตป่าชุมชนท่ีขอขยายเขต มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ หรือมาตราส่วนอื่น ๆ ที่เหมาะสม และต้องแสดงค่าพิกัดฉากยูทีเอ็มกากบั โดยให้แสดงบริเวณพ้นื ท่ีใกลเ้ คียงพอสังเขปเพือ่ ใหท้ ราบตาแหนง่ ท่ตี ้ังของแนวเขตของป่าชุมชนท่ขี อจดั ตงั้ หรือที่ต้ังของแนวเขตปา่ ชุมชนท่ีขอขยายเขตไดอ้ ย่างชัดเจน พร้อมทั้งระบลุ าดับชุดและหมายเลขระวาง แผนทีภ่ มู ิประเทศมาตราสว่ น ๑ : ๕๐,๐๐๐ ของกรมแผนทีท่ หารทใี่ ชป้ ระกอบการจดั ทาแผนทด่ี ังกล่าว (๒) แผนท่ีภาพถ่ายทางอากาศโครงการออร์โธสีเชิงเลข ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ หรือมาตราสว่ นอื่น ๆ ท่เี หมาะสม (๓) รายละเอยี ดของแนวเขตทอ้ งท่กี ารปกครองซ่งึ ต้องจัดทาเปน็ ข้อมูลปจั จุบันของกรมการปกครอง และหากมีจุดยึดโยงที่สาคัญบริเวณใกล้เคียงกับแนวเขตป่าชุมชนท่ีขอจัดต้ังหรือที่ขอขยายเขตป่าชุมชน เช่น บ้าน วัด สถานที่ราชการ หรือทางหลวงแผ่นดิน ให้ระบุรายละเอียดเครื่องหมายของจุดยึดโยง ดังกล่าวไวใ้ นแผนที่ดว้ ย เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบแนวเขตของป่าชุมชนที่ขอจัดตั้งหรือแนวเขตของป่าชุมชน ในส่วนทข่ี ยายแนวเขต ใหจ้ ัดทาแผนที่เป็นขอ้ มูลในระบบดจิ ิทัลเกบ็ ไวท้ ่สี ว่ นราชการภายในของกรมปา่ ไม้ ตามทอี่ ธิบดกี าหนด ขอ้ 6 ในกรณีพื้นท่ีท่ีขอจัดตั้งป่าชุมชนหรือขอขยายเขตป่าชุมชนมีบริเวณใดเป็นพื้นที่ดังต่อไปนี้ การจัดทาแผนที่ให้แสดงเคร่ืองหมายพน้ื ที่กันออกไว้ด้วย (๑) เขตป่าอนรุ กั ษ์ (๒) ที่ดินท่บี ุคคลไดม้ าตามประมวลกฎหมายท่ดี ิน (๓) พน้ื ที่ท่สี ่วนราชการ รัฐวิสาหกจิ หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลใดได้รบั อนญุ าตเข้าทาประโยชน์ (๔) พ้นื ท่ที ่ีกรมป่าไมใ้ ช้หรือจัดการหรือประกาศเปน็ พ้นื ที่วจิ ัยหรอื จดั การใด ๆ (๕) ที่ดินท่ีอยู่ในความครอบครองดูแลตามกฎหมายของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรอื หนว่ ยงานของรฐั ในกรณีพ้ืนที่ท่ีขอจัดต้ังป่าชุมชนหรือขอขยายเขตป่าชุมชนมีบริเวณใดทับซ้อนกับพื้นที่ เช่น พื้นท่ีที่บุคคลอยู่ระหว่างยื่นคาขอทาประโยชนต์ ามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ กฎหมายว่าด้วยปา่ สงวน แห่งชาติ หรือกฎหมายอ่ืน พื้นท่ีเตรียมการกาหนดเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือเขตหา้ มลา่ สัตว์ป่าตามกฎหมายวา่ ด้วยอทุ ยานแหง่ ชาติหรอื กฎหมายวา่ ดว้ ยการสงวนและคุม้ ครองสตั ว์ป่า 122
หน้า ๓ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๖๗ ง ราชกิจจานุเบกษา หรือพื้นที่ที่รัฐมีแผนหรือโครงการท่ีจะพัฒนาพ้ืนที่ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม สังคม หรือด้านอ่ืน ๆ การจัดทาแผนท่ีให้แสดงเครื่องหมายพน้ื ที่ทับซ้อนในแผนที่ท่ีขอจดั ตง้ั ปา่ ชุมชนหรือขอขยายเขตป่าชุมชน และเม่ือคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชนหรือคณะกรรมการป่าชุมชนประจาจังหวัดแล้วแ ต่กรณีมีมติ ใหก้ ันพน้ื ทท่ี ับซอ้ นออกจากพน้ื ทท่ี ีจ่ ะอนุมัตใิ ห้จัดตง้ั ป่าชมุ ชนหรือขอขยายเขตปา่ ชุมชน การจัดทาแผนท่ี ให้แสดงเครือ่ งหมายพนื้ ทีก่ ันออก ออกจากพื้นท่ีทขี่ อจัดตั้งปา่ ชุมชนหรือขอขยายเขตป่าชุมชนไว้ดว้ ย ขอ้ 7 ให้ผู้อานวยการสานักจดั การทรพั ยากรปา่ ไมแ้ ห่งทอ้ งทแ่ี ตง่ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ แผนท่แี สดงแนวเขตปา่ ชมุ ชนท่ขี อจดั ต้งั หรือท่ีขอขยายเขต จานวนไม่นอ้ ยกว่าหา้ คน โดยมผี ู้อานวยการ สานักจัดการทรัพยากรป่าไม้แห่งท้องท่ีเป็นประธานกรรมการ และมีเจ้าหน้าที่สานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ แห่งทอ้ งท่ีซ่งึ มคี ุณวฒุ ิด้านการรงั วัดหรือการจดั ทาแนวเขต อย่างนอ้ ยหนึ่งคนเปน็ คณะกรรมการ ขอ้ ๘ การประชุมของคณะกรรมการตามข้อ 7 ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่า กงึ่ หน่งึ ของจานวนกรรมการทงั้ หมดจึงจะเปน็ องคป์ ระชมุ การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือคะแนนเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่ง ในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานออกเสียงเพ่ิมข้นึ อีกเสียงหนึ่งเปน็ เสยี งช้ขี าด ขอ้ 9 ให้ประธานกรรมการและเจ้าหน้าท่ีรังวัดตามข้อ ๔ ลงนามรับรองแผนที่แสดง แนวเขตป่าชมุ ชนทขี่ อจัดตั้งหรือทข่ี อขยายเขต ข้อ 10 การจัดทาแผนท่ีแสดงแนวเขตป่าชุมชนแนบท้ายประกาศอนุมัติจัดต้ังป่าชุมชน ตามมาตรา ๔๐ วรรคหนง่ึ การจัดทาแผนที่แสดงแนวเขตป่าชุมชนที่ขยายเขตแนบท้ายประกาศอนุมัติ ขยายเขตปา่ ชมุ ชนตามมาตรา ๔๘ วรรคสอง และการจดั ทาแผนที่แสดงแนวเขตป่าชมุ ชนทถ่ี กู เพกิ ถอน แนบท้ายประกาศการเพิกถอนป่าชุมชนบางส่วนตามมาตรา ๗๘ ให้นาหลักเกณฑ์การจัดทาแผนท่ี แสดงแนวเขตปา่ ชุมชนตามระเบยี บนีไ้ ปใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลม ขอ้ 11 ให้อธิบดีกรมป่าไม้รักษาการตามระเบียบน้ี และให้มีอานาจออกประกาศหรือคาสั่ง เพ่อื ประโยชน์ในการปฏบิ ตั ิตามระเบยี บน้ี ในกรณีท่ีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้อธิบดีกรมป่าไม้เป็นผู้วินิจฉัยช้ีขาด คาวินจิ ฉัยนนั้ ให้เป็นทีส่ ุด ประกาศ ณ วนั ท่ี 17 มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕63 อรรถพล เจรญิ ชนั ษา อธบิ ดีกรมป่าไม้ 123
ระเบียบกรมปา่ ไม้ วา่ ด้วยการจดั ทาแผนทแี่ สดงแนวเขตป่าชุมชน พ.ศ. 2563 ( ตามมาตรา 35 วรรคสาม พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ. 2562) อธิบดกี รมปา่ ไม้ มอบหมาย เจ้าหนา้ ที่ (ข้อ 3) เจ้าหน้าทีร่ งั วัด ทาหนงั สือแจ้งกอ่ น • เจ้าหนา้ ท่ขี อง สจป. ท่ีมคี ณุ วุฒิดา้ นการงั วัด ทาการรงั วัด • เจา้ หน้าที่ของ สจป. ทม่ี ีประสบการณ์และ ไมน่ ้อยกว่า 15 วนั สามารถทางานดา้ นรงั วดั ได้ • เจา้ หน้าทข่ี องหนว่ ยงานราชการอน่ื ๆ เจ้าของพน้ื ท่ที ่ีดินติดกับ ปา่ ชมุ ชน เพ่ือรบั รองแนวเขต ทมี่ คี ุณวุฒิดา้ นการรงั วัง • บคุ คลหรือนิตบิ คุ คลทีไ่ ด้รบั ในอนญุ าต เป็นชา่ งรงั วัดเอกชน (ข้อ 3) ตรวจสอบและรงั วดั พ้ืนท่ีตามคาขอ ผ้นู าตรวจ และตามมาตรฐานการรังวัดบนแผนท่ี ภาพถา่ ยทางอากาศ ตามรูปแบบ กมร. พ.ศ. 2550 (ขอ้ 4) จดั ทาแผนทแี่ สดงแนวเขตปา่ ชมุ ชน ผอ.สจป. เปน็ ประธาน กรรมการ เจ้าหนา้ ท่ี แผนที่ 1:50,000 และ 1: 4,000 เจ้าหนา้ ที่สานกั จดั การ พร้อมรายละเอียดตา่ งๆ (ข้อ 5) ทรพั ยากรปา่ ไม้แหง่ ท้องท่ีซง่ึ มคี ุณวฒุ ิด้าน คณะกรรมการตรวจสอบแผนท่แี สดงแนวเขตปา่ ชุมชนพน้ื ทท่ี ี่ ขอจัดตง้ั ปา่ ชุมชนหรือพ้ืนท่ที ี่ขอขยายเขต การรงั วัดหรอื การจดั ทาแนวเขต ปา่ ชมุ ชนประจาสานักจดั การทรัพยากรป่าไม้แหง่ ท้องท่ี อยา่ งนอ้ ย 1 คน ตรวจสอบและพจิ ารณาความถูกต้องของแผนที่ เปน็ กรรมการ (ข้อ 7) ประธานกรรมการและเจ้าหน้าที่รังวัดสานกั จดั การทรัพยากรป่าไม้ แหง่ ท้องที่ (ตามขอ้ 4) ลงนามรับรองในแผนท่ีแนวเขตปา่ ชุมชน ทีข่ อจัดตง้ั หรอื ท่ีขอขยายเขต (ขอ้ 9) ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๖๗ ง ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ 124 สานักจัดการปา่ ชุมชน กรมป่าไม้
หน้า ๑ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๓ เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๐๐ ง ราชกิจจานเุ บกษา ระเบยี บคณะกรรมการสรรหา วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑ์ วธิ กี ารสรรหา และการเสนอรายช่อื บุคคลเปน็ กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิ ในคณะกรรมการนโยบายปา่ ชุมชน พ.ศ. 2563 โดยท่ีเป็นการสมควรกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการสรรหา และการเสนอรายช่ือบุคคล เปน็ กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิในคณะกรรมการนโยบายปา่ ชมุ ชน อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๒ วรรคสาม แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ ่าชุมชน พ.ศ. ๒๕๖๒ คณะกรรมการสรรหาจึงออกระเบยี บไว้ ดงั ต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการสรรหา ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการสรรหา และการเสนอรายชือ่ บคุ คลเป็นกรรมการผ้ทู รงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการนโยบายป่าชมุ ชน พ.ศ. 2563” ขอ้ ๒ ระเบยี บนใ้ี ห้ใช้บังคับต้งั แต่วนั ถดั จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป ข้อ ๓ ในระเบยี บน้ี “คณะกรรมการสรรหา” หมายความว่า คณะกรรมการที่ทาหน้าท่ีในการสรรหาบุคคล ซงึ่ สมควรได้รับการแตง่ ตงั้ เปน็ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิในคณะกรรมการนโยบายป่าชมุ ชนตามมาตรา ๑๑ “กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ” หมายความว่า กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบาย ป่าชุมชน “องค์กรภาคประชาสังคม” หมายความว่า องค์กรที่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลท่ีมี วัตถุประสงค์ด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ หรือองค์กรอ่ืนที่ไม่ได้เป็น นิติบุคคลแต่มีผลงานด้านการคุ้มครองส่ิงแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างต่อเนื่องเป็นท่ีประจักษ์ ทงั้ น้ี โดยมิได้มกี ารหาผลกาไรหรอื รายไดม้ าแบ่งปนั กนั และได้มีการจดแจ้งเป็นองค์กรภาคประชาสังคม ตอ่ กรมป่าไมต้ ามระเบียบที่อธิบดกี าหนด “เครือขา่ ยป่าชุมชนระดบั จังหวดั ” หมายความวา่ เครือขา่ ยป่าชมุ ชนระดับจังหวัดทไ่ี ดจ้ ดแจง้ เปน็ เครือข่ายปา่ ชุมชนระดบั จังหวดั กบั กรมปา่ ไม้ ข้อ ๔ การสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้คัดเลือกจากบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีผลงาน และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดต้ังป่าชุมชน ในแตล่ ะกล่มุ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) กลุ่มผู้ซ่ึงมีความรู้ ความเช่ียวชาญ มีผลงาน และประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม หรอื มนุษยศาสตร์หรือสงั คมศาสตร์ (๒) กลุม่ ผแู้ ทนองค์กรภาคประชาสงั คม (๓) กลุ่มผูแ้ ทนประธานเครือข่ายป่าชมุ ชนระดบั จงั หวดั 125
หน้า ๒ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๓ เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๑๐๐ ง ราชกิจจานเุ บกษา ข้อ ๕ การสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากกลุ่มผู้ซ่ึงมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีผลงาน และประสบการณ์เก่ียวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือมนุษยศาสตร์หรือ สังคมศาสตร์ ใหด้ าเนินการ ดงั ต่อไปน้ี (๑) ให้คณะกรรมการสรรหาประกาศรับสมัครหรือรับการเสนอช่ือบุคคลท่ีมีความรู้ ความเช่ียวชาญ ผลงาน และประสบการณเ์ ก่ยี วกับการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม หรือ มนุษยศาสตร์หรือสังคมศาสตร์ ซ่ึงมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๐ เพื่อเข้ารับ การสรรหาเปน็ กรรมการผทู้ รงคุณวุฒิ โดยปิดประกาศรบั สมัครหรอื รบั การเสนอชื่อ ณ กรมปา่ ไม้ และ ประกาศในเวบ็ ไซตข์ องกรมป่าไมไ้ ม่นอ้ ยกวา่ สามสบิ วันตดิ ตอ่ กนั และในกรณีมีความจาเปน็ เพือ่ ประโยชน์ ในการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการสรรหาอาจขยายระยะเวลาในการสมัครหรือรับ การเสนอชือ่ ออกไปอกี คราวละไมเ่ กินสิบหา้ วนั นบั แตว่ ันพน้ กาหนด โดยเผยแพรป่ ระชาสัมพันธ์การขยาย ระยะเวลาการรับสมัครหรือรับการเสนอช่ือให้ทราบโดยท่ัวกันในช่องทางเดียวกับการประกาศรับสมัคร หรอื รบั การเสนอชือ่ ในการประกาศรับสมัครหรือรับการเสนอชื่อตามวรรคหน่ึง ต้องกาหนดวัน เวลา สถานที่ และรายละเอียดเกย่ี วกบั การสมัครหรือการเสนอช่อื พร้อมดว้ ยใบสมัครตามแบบ คนช. 3-๑ ใบเสนอ ช่ือบุคคลตามแบบ คนช. 3-๒ หนังสือยินยอมของผู้ถูกเสนอชื่อตามแบบ คนช. 3-๓ และใบแสดง ประวัติ ผลงาน และประสบการณ์ของผู้ถูกเสนอชื่อตามแบบ คนช. 3-๔ ท้ายระเบยี บน้ี (๒) ให้คณะกรรมการสรรหาหรือผู้ซ่ึงคณะกรรมการสรรหามอบหมายมีหนังสือแจ้งประกาศ รับสมัครหรือรับการเสนอช่ือตาม (๑) ไปยังหน่วยงานราชการ สถาบันอุดมศึกษา หรือองค์กรอ่ืน ที่มีวัตถุประสงค์หรือดาเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ มนุษยศาสตร์หรือสังคมศาสตร์ ในทุกจังหวัด ตามท่ีคณะกรรมการสรรหาเห็นสมควร เพื่อให้เสนอ รายช่ือผ้แู ทนของแต่ละหน่วยงานเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิ (๓) ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องย่ืนใบสมัคร พร้อมด้วยประวัติ ผลงาน และประสบการณ์ เอกสารหลกั ฐานประกอบการสมคั รตามแบบ คนช. 3-๑ ทา้ ยระเบียบน้ี (๔) การเสนอชื่อผู้เข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องยื่นใบเสนอช่ือบุคคล ตามแบบ คนช. 3-๒ หนังสือยินยอมของผู้ถูกเสนอชื่อตามแบบ คนช. 3-๓ และใบแสดงประวัติ ผลงาน และประสบการณ์ของผูถ้ ูกเสนอชื่อตามแบบ คนช. 3-๔ ทา้ ยระเบียบน้ี ขอ้ ๖ การสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากกลุ่มผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคมให้ดาเนินการ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) ให้คณะกรรมการสรรหาประกาศรับการเสนอชื่อกลุ่มผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคม ซง่ึ มคี ุณสมบตั แิ ละไมม่ ลี ักษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๑๐ เพือ่ เข้ารับการสรรหาเปน็ กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิ ในการประกาศรับการเสนอชื่อตามวรรคหน่ึง ต้องกาหนดวัน เวลา สถานท่ี และ รายละเอียดเกี่ยวกับการเสนอชื่อ พร้อมด้วยใบเสนอช่ือบุคคลตามแบบ คนช. 3-๒ หนังสือยินยอม 126
หน้า ๓ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๓ เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๐๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ของผู้ถูกเสนอช่ือตามแบบ คนช. 3-๓ และใบแสดงประวัติ ผลงาน และประสบการณ์ของผู้ถูกเสนอ ช่ือตามแบบ คนช. 3-๔ ท้ายระเบียบน้ี และให้นาหลักเกณฑ์ในการประกาศรับการเสนอชื่อตาม ข้อ ๕ (๑) วรรคหน่ึง มาใช้บังคับแก่การประกาศรับการเสนอช่ือกลุ่มผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคม ดว้ ยโดยอนโุ ลม (๒) ให้คณะกรรมการสรรหาหรือผู้ซ่ึงคณะกรรมการสรรหามอบหมายมีหนังสือแจ้งประกาศ รับการเสนอชื่อตาม (๑) ไปยังองค์กรภาคประชาสังคมในทุกจังหวัด เพื่อให้เสนอรายชื่อผู้แทนองค์กร ของตนเข้ารบั การสรรหาเปน็ กรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิ (๓) การเสนอช่ือผู้เข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องย่ืนใบเสนอชื่อบุคคล ตามแบบ คนช. 3-๒ หนังสือยินยอมของผู้ถูกเสนอช่ือตามแบบ คนช. 3-๓ และใบแสดงประวัติ ผลงาน และประสบการณข์ องผู้ถกู เสนอชอ่ื ตามแบบ คนช. 3-๔ ท้ายระเบียบนี้ ข้อ ๗ การสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากกลุ่มผู้แทนประธานเครือข่ายป่าชุมชน ระดบั จังหวดั ให้ดาเนนิ การ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) ให้คณะกรรมการสรรหาประกาศรับการเสนอชื่อประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัด ของจังหวัดต่าง ๆ ท่ีอยู่ในภาคเดียวกัน ซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๐ และ ได้รับการรับรองจากประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดของจังหวัดที่อยู่ในภาคเดียวกันเกินกึ่งหนง่ึ เพื่อเข้ารับการสรรหาเปน็ กรรมการผูท้ รงคณุ วุฒิ จานวนภาคละไม่เกนิ ๔ คน ในการประกาศรับการเสนอชอื่ ตามวรรคหนง่ึ ตอ้ งกาหนดวัน เวลา สถานที่ และรายละเอียด เกี่ยวกับการเสนอชื่อ พร้อมด้วยรายช่ือจังหวัดที่อยู่ในภาคต่าง ๆ รวม ๔ ภาค ตามที่สานักจัดการ ป่าชุมชน กรมป่าไม้ กาหนด ใบแสดงประวัติ ผลงาน และประสบการณ์ของผู้ถูกเสนอชื่อตามแบบ คนช. 3-๔ และหนังสือรับรองจากประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดับจังหวัดตามแบบ คนช. 3-๕ ท้ายระเบียบนี้ และให้นาหลักเกณฑ์ในการประกาศรับการเสนอช่ือตามข้อ ๕ (๑) วรรคหนึ่ง มาใช้บังคับ แก่การประกาศรบั การเสนอชอื่ กลุ่มผแู้ ทนประธานเครอื ขา่ ยป่าชุมชนระดบั จังหวดั ด้วยโดยอนโุ ลม (๒) ให้คณะกรรมการสรรหาหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการสรรหามอบหมายมีหนังสือแจ้งประกาศ รับการเสนอชื่อตาม (๑) ไปยังเครือข่ายป่าชุมชนประจาจังหวัดในทุกจังหวัด เพ่ือให้เสนอรายช่ือ ประธานเครือข่ายป่าชุมชนระดบั จังหวัดของจงั หวัดตา่ ง ๆ ท่อี ยู่ในภาคเดยี วกัน จานวนภาคละไมเ่ กิน ๔ คน เข้ารบั การสรรหาเปน็ กรรมการผูท้ รงคุณวฒุ ิ (๓) การเสนอช่ือผเู้ ข้ารับการสรรหาเปน็ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องยื่นใบแสดงประวัติ ผลงาน และประสบการณ์ ของผู้ถูกเสนอช่ือตามแบบ คนช. 3-๔ และหนังสือรับรองจากประธานเครือข่าย ปา่ ชุมชนระดับจงั หวัดตามแบบ คนช. 3-๕ ทา้ ยระเบยี บน้ี ข้อ ๘ ให้สานักจัดการป่าชุมชนหรือหน่วยงานท่ีอธิบดีกรมป่าไม้มอบหมายรวบรวมรายช่ือ ผู้สมัครและผู้ได้รับการเสนอรายชื่อเพ่ือเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมท้ังประวัติ ผลงาน ประสบการณ์ และเอกสารหรือหลักฐานท่ีเก่ียวข้อง และทาการตรวจสอบคุณสมบัติและ 127
หน้า ๔ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๓ เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๐๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ลักษณะต้องห้าม แล้วจัดทาบัญชีรายชื่อผู้มีคุณสมบัติที่จะเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยแยกบัญชีตามประเภทของแต่ละกลุ่ม เสนอต่อคณะกรรมการสรรหา ภายในระยะเวลาสิบห้าวัน นับแต่การรบั สมคั รสิน้ สุดลง ข้อ ๙ เพ่ือประโยชน์ในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่จะได้รับการสรรหาเป็นกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการสรรหาอาจเชิญผู้สมัครหรือผู้ได้รับการเสนอรายช่ือเพื่อเข้ารับการสรรหา เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมาแสดงความรู้ แนวคิด หรือแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมหรือป่าชมุ ชนกไ็ ด้ ข้อ 10 ให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาคัดเลือกบุคคลตามรายชื่อท่ีสานักจัดการป่าชุมชน หรือหน่วยงานท่ีอธิบดีกรมป่าไม้มอบหมาย โดยคณะกรรมการสรรหาต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน สามสิบวันนับแต่ได้รับการเสนอรายช่ือจากสานักจัดการป่าชุมชนหรือหน่วยงานท่ีอธิบดีกรมป่าไม้ มอบหมาย ซึ่งพิจารณาจากประวัติการศึกษา ประวัติการทางาน ความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ผลงาน ประสบการณ์ที่เก่ียวข้องกบั กิจกรรมที่สอดคล้องกับวตั ถุประสงค์ของการจัดตั้งป่าชุมชนอันเปน็ ที่ประจักษ์ และกรณีที่คณะกรรมการสรรหากาหนดให้ผู้สมัครและผู้ได้รับการเสนอรายช่ือแสดงแนวคิด และวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมหรือป่าชุมชน ให้คณะกรรมการ สรรหานาแนวคดิ และวิสัยทัศนท์ ่ไี ดร้ บั ฟังมาประกอบการพจิ ารณาด้วย ข้อ 11 การประชุมของคณะกรรมการสรรหาต้องมีกรรมการสรรหามาประชุมไม่น้อยกว่า กึง่ หนึ่งของจานวนกรรมการสรรหาทงั้ หมดจงึ จะเป็นองคป์ ระชุม การประชุมของคณะกรรมการสรรหา ถ้าประธานกรรมการสรรหาไม่มาประชุมหรือไม่อาจ ปฏิบัติหน้าท่ีได้ ใหก้ รรมการสรรหาทีม่ าประชมุ เลือกกรรมการสรรหาคนหนง่ึ เป็นประธานในท่ปี ระชมุ การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือคะแนนเสียงข้างมาก กรรมการสรรหาคนหนึ่งให้มี เสยี งหน่งึ ในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสยี งเทา่ กนั ใหป้ ระธานออกเสียงเพ่มิ ขน้ึ อกี เสียงหนง่ึ เปน็ เสียงชขี้ าด ข้อ 12 เม่ือคณะกรรมการสรรหาดาเนินการสรรหาผู้สมควรได้รับแต่งต้ังให้เป็นกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ให้จัดทาบัญชีรายช่ือผู้ได้รับการสรรหาแยกตามประเภทของแต่ละกลุ่มตามข้อ ๔ โดยเรียงลาดับคะแนนจากมากไปหาน้อยเป็นจานวนสองเท่าของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละกลุ่ม เสนอประธานกรรมการนโยบายป่าชุมชนเพ่ือพิจารณาเลือกเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากบัญชีรายช่ือ ผู้ได้รับการสรรหาแยกตามประเภทของแต่ละกลมุ่ ร า ย ชื่ อ ข อ ง ผู้ ที่ ป ระ ธา นก รร มก าร นโ ย บา ย ป่ าชุ ม ชน มิไ ด้ เ ลื อก เ ป็นก ร รม กา รผู้ ท รงคุณวุฒิ ให้จัดทาบัญชีรายช่ือสารองแยกตามประเภทของแต่ละกลุ่มตามข้อ ๔ โดยขึ้นบัญชีรายช่ือสารองไว้ จนกว่าจะมกี ารสรรหากรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิใหม่ กรณีที่ไม่สามารถแตง่ ตงั้ ผไู้ ดร้ บั การสรรหาเปน็ กรรมการผ้ทู รงคณุ วฒุ ไิ ดเ้ นือ่ งจากไม่มีรายช่ือของ ผู้ได้รับการสรรหาซ่ึงมีคุณสมบัตคิ รบถ้วนเหลืออยู่ในบัญชีรายช่ือบัญชีใด ให้ดาเนินการสรรหากรรมการ ผ้ทู รงคณุ วุฒิเฉพาะในกลมุ่ เดยี วกบั บญั ชีรายชื่อนัน้ ใหมต่ ามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการที่กาหนดในระเบียบนี้ 128
หน้า ๕ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๓ เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๑๐๐ ง ราชกจิ จานเุ บกษา ข้อ ๑3 ในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่จะได้รับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เก่ียวข้อง ท้ังน้ี เพอื่ ใหก้ ารสรรหาเป็นไปอยา่ งบริสทุ ธ์ิ ยุติธรรม เปดิ เผย และโปร่งใสตามระบบคณุ ธรรม ข้อ ๑๔ ในกรณีท่ีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตาแหน่งก่อนวาระ ให้อธิบดีกรมป่าไม้ เสนอรายช่ือผู้ได้รับการสรรหาท่ีข้ึนบัญชีรายชื่อสารองในกลุ่มเดียวกัน ต่อประธานกรรมการนโยบาย ป่าชุมชนเพื่อพิจารณาแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตาแหน่งที่ว่าง และให้ผู้ได้รับการแต่งต้ัง เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตาแหน่งท่ีว่าง อยู่ในตาแหน่งเท่ากับวาระท่ีเหลืออยู่ของกรรมการ ผูท้ รงคุณวุฒซิ ึ่งได้แตง่ ตัง้ ไวแ้ ล้ว เวน้ แต่วาระของกรรมการผ้ทู รงคณุ วฒุ ิเหลอื อยไู่ ม่ถงึ เก้าสิบวัน ประธาน กรรมการจะไม่แต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนก็ได้ และในระหว่างที่ยังไม่มีการแต่งต้ังกรรมการ ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิใหค้ ณะกรรมการนโยบายปา่ ชุมชนประกอบด้วยกรรมการเท่าทเี่ หลอื อยู่ ข้อ ๑๕ ให้ประธานกรรมการสรรหารักษาการตามระเบียบน้ี และให้มีอานาจออกประกาศ หรือคาส่ังเพอ่ื ประโยชน์ในการปฏิบตั ติ ามระเบียบน้ี ในกรณีมีปัญหาเก่ียวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัยชข้ี าด คาวินจิ ฉัยนัน้ ใหเ้ ป็นท่สี ุด ประกาศ ณ วนั ท่ี 5 มนี าคม พ.ศ. ๒๕63 พงศ์บณุ ย์ ปองทอง รองปลดั กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ประธานกรรมการสรรหา 129
คนช. 3-๑ ใบสมคั ร เพ่อื เข้ารบั การสรรหาเปน็ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ใิ นคณะกรรมการนโยบายปา่ ชุมชน รูปถา่ ย ๑. ประวตั สิ ่วนตัว ชือ่ - สกลุ (นาย/นาง/นางสาว) ...............................................นามสกลุ ..................................................... สญั ชาติ ................................ เกดิ วันที่ ........... เดือน ................................ พ.ศ. ................ อายุ ........... ปี ศาสนา .................................. เลขประจําตัวประชาชน ............................................................................... ท่ีอยู่ปัจจบุ นั เลขท่ี ................. หมู่ท่ี ....... ถนน ..................................... ตําบล/แขวง ................................ อาํ เภอ/เขต ............................................. จังหวดั .................................... รหัสไปรษณยี ์ ........................... โทรศพั ท์เคล่ือนท่ี .................................... E-mail address ....................................................................... อาชีพ ...................................................... ตําแหนง่ ..................................................................................... สถานทป่ี ระกอบอาชีพ .......................................................................... โทรศพั ท์ ...................................... ๒. ประวตั กิ ารศกึ ษา ปีท่ีสาํ เร็จ สาขาวิชา การศึกษา ระดบั การศกึ ษา ชื่อสถานศึกษา/จงั หวัด/ประเทศ ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ตอนตน้ มัธยมศึกษา ตอนปลาย/ปวช. ปวส./อนปุ รญิ ญา ปริญญาตรี ปริญญาโท ปรญิ ญาเอก การศกึ ษาพิเศษอ่นื ๆ นอกเหนือจากขา้ งต้น 130
๒ ๓. ประวตั กิ ารทาํ งาน ตําแหน่ง/ลกั ษณะงานทป่ี ฏิบตั ิ ชว่ งเวลา ระยะเวลา ชอื่ สถานท่ที าํ งาน/องคก์ ร ทด่ี าํ รงตาํ แหนง่ (ป/ี เดอื น) (ระบุเดือน พ.ศ.) ๔. การฝึกอบรม ดงู าน ชอื่ สถาบนั /ประเทศ ช่วงเวลา ระยะเวลา ชือ่ หลกั สูตร ทีอ่ บรม ดูงาน (ปี/เดือน) (ระบุเดอื น พ.ศ.) ๕. ความรคู้ วามเชีย่ วชาญและประสบการณท์ ี่แสดงว่าเปน็ ผ้มู คี วามรู้ดา้ นใดด้านหนึ่งอย่างแท้จรงิ การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม มนษุ ยศาสตรห์ รอื สงั คมศาสตร์ ระดับ ความรู้ความเชย่ี วชาญ ช่วงเวลา ระยะเวลา และประสบการณ์ (ระบุเดือน พ.ศ.) (ป/ี เดอื น) ทอ้ งถ่นิ /หน่วยงาน/ องค์กร/สถาบันเอกชน ประเทศ ภมู ิภาค/นานาชาติ 131
๓ ๖. เคยเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ/คณะกรรมการ/คณะอนุกรรมการ/ผู้เชี่ยวชาญ/คณะทํางาน/สมาชิก ในสมาคม/ชมรม/มหาวทิ ยาลยั /องคก์ รภาครฐั /องคก์ รภาคเอกชน/องค์กรอิสระ/อนื่ ๆ สถานท/ี่ องค์กร ตําแหนง่ ทป่ี ฏบิ ตั ิ ชว่ งเวลา (ระบุเดอื น พ.ศ.) ๗. ผลงานเดน่ /งานวิจัย ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ๘. ความสามารถดา้ นอืน่ ๆ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ๙. ข้าพเจ้ามีความประสงค์สมัครเพ่ือเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบาย ป่าชุมชน และขอรับรองว่าข้าพเจ้าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศรับสมัครของกรมป่าไม้ อีกท้ังข้อความข้างต้นตลอดจนข้อความในเอกสารหลักฐานที่แนบกับใบสมัครเป็นจริงทุกประการ และข้าพเจ้ายินยอมให้เปิดเผยข้อมูลตามใบสมัคร หากข้อความท่ีช้ีแจงแม้เพียงบางส่วนไม่เป็นความจริง ข้าพเจ้ายินยอมให้คณะกรรมการสรรหาถือเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะไม่พิจารณาต่อไปหรือยกเลิก ที่พจิ ารณาไวแ้ ลว้ ทง้ั หมด ลายมอื ชอ่ื ผสู้ มคั ร .......................................................................... (.......................................................................) วนั ท่ี .........../............................/............... 132
๔ เอกสารหลักฐานท่ตี ้องแนบพร้อมกบั ใบสมัคร ๑. รูปถา่ ยหน้าตรง ไม่สวมหมวกและไม่สวมแวน่ ตาดํา ขนาด ๑.๕ × ๒ น้วิ โดยถา่ ยไมเ่ กนิ ๑ ปี (นบั ถงึ วนั ปิดรับสมคั ร จาํ นวน ๒ รูป) ๒. สําเนาหลักฐานแสดงวุฒิการศึกษาระดับสูงสุดฉบับสมบูรณ์ ยกเว้นกรณีจบการศึกษาระดับปริญญาโท/ ปรญิ ญาเอก ให้แนบหลักฐานแสดงวุฒกิ ารศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรมี าด้วย ๓. สาํ เนาหลักฐานแสดงการฝกึ อบรม/ดงู าน (ถ้าม)ี ๔. เอกสารอื่น ๆ ทีอ่ าจเปน็ ประโยชน์ต่อการพจิ ารณาคดั เลือก 133
คนช. 3-๒ ใบเสนอชอื่ บุคคล เพ่อื เข้ารบั การสรรหาเป็นกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการนโยบายปา่ ชุมชน กลุ่มผซู้ ่ึงมีความรู้ ความเช่ียวชาญ มผี ลงาน และประสบการณเ์ ก่ียวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ ม หรือมนษุ ยศาสตร์หรอื สังคมศาสตร์ กลมุ่ ผแู้ ทนองค์กรภาคประชาสงั คม เขยี นท่ี ................................................................. ................................................................. .................................................................. วนั ที่ ............................................................. ข้าพเจ้า (ชื่อหน่วยงาน/ชื่อองค์กร/ชื่อสถาบัน/ชื่อคณะบุคคล/ช่ือบุคคล ผ้เู สนอ)................ ........................................................................................................................................................................... ทีอ่ ยปู่ จั จบุ นั เลขที่ ................. หมทู่ ่ี ....... ถนน ..................................... ตาํ บล/แขวง ...................................... อาํ เภอ/เขต ............................................. จังหวดั .................................... รหัสไปรษณยี ์ ................................. โทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ี .................................... E-mail address ............................................................................. ขอเสนอให้ (ช่อื - นามสกลุ ) .................................................................................................. ตําแหน่ง ............................................................................................................................................................ เป็นผู้เขา้ รบั การสรรหาเพือ่ เปน็ กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒใิ นคณะกรรมการนโยบายปา่ ชมุ ชน ลงชอื่ .......................................................................... (.......................................................................) ตาํ แหน่ง ........................................................................... 134
คนช. 3-๓ หนังสอื ยินยอม กรณีเปน็ ผไู้ ดร้ บั การเสนอชื่อให้เขา้ รับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิ ในคณะกรรมการนโยบายปา่ ชมุ ชน เขยี นที่ ................................................................. ................................................................. .................................................................. วันท่ี ............................................................. ข้าพเจา้ (นาย/นาง/นางสาว) ............................................................................................... สญั ชาติ ..................................... เกดิ วันที่ ........... เดอื น ................................ พ.ศ. ................ อายุ ........... ปี ศาสนา ....................................... เลขประจาํ ตวั ประชาชน .............................................................................. ท่อี ยปู่ ัจจุบนั เลขท่ี ................. หมู่ท่ี ....... ถนน ..................................... ตาํ บล/แขวง ...................................... อาํ เภอ/เขต ............................................. จังหวัด .................................... รหัสไปรษณยี ์ ................................. โทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ี .................................... E-mail address ............................................................................. ยิ น ย อ ม เป็ น ผู้ ถู ก เส น อ ช่ื อ ใน ก า ร เข้ า รั บ ก า ร ส ร ร ห า เพ่ื อ เป็ น ก ร ร ม ก า ร ผู้ ท ร ง คุ ณ วุ ฒิ ในคณะกรรมการนโยบายปา่ ชุมชน กลุ่มผู้ซึ่งมีความรู้ ความเช่ียวชาญ มีผลงาน และประสบการณ์เก่ียวกับการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม หรอื มนุษยศาสตรห์ รือสังคมศาสตร์ กลมุ่ ผแู้ ทนองคก์ รภาคประชาสงั คม โดย (ช่ือหน่วยงาน/ช่ือองค์กร/ชอ่ื สถาบัน/ชือ่ คณะบุคคล/ชื่อบคุ คล ผเู้ สนอ).......................................................... ........................................................................................................................................................................... ลงชื่อ .......................................................................... (.......................................................................) ตําแหน่ง ........................................................................... 135
คนช. 3-๔ ใบแสดงประวตั ิ ผลงาน และประสบการณ์ ของผู้ได้รบั การเสนอชอ่ื เพ่อื เขา้ รบั การสรรหาเป็นกรรมการผูท้ รงคณุ วุฒิ ในคณะกรรมการนโยบายปา่ ชุมชน เป็นผไู้ ดร้ บั การเสนอชื่อเข้ารบั การสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รปู ถา่ ย กลมุ่ ผซู้ งึ่ มคี วามรู้ ความเชย่ี วชาญ มผี ลงาน และประสบการณ์เกย่ี วกับ การจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม หรือมนษุ ยศาสตร์หรือสังคมศาสตร์ กลมุ่ ผแู้ ทนองคก์ รภาคประชาสงั คม กลุม่ ผแู้ ทนประธานเครอื ข่ายปา่ ชมุ ชนระดบั จังหวัด ๑. ประวตั สิ ่วนตวั ชอ่ื - สกลุ (นาย/นาง/นางสาว) ...............................................นามสกลุ ..................................................... สญั ชาติ ................................ เกิดวนั ที่ ........... เดือน ................................ พ.ศ. ................ อายุ ........... ปี ศาสนา .................................. เลขประจําตัวประชาชน ............................................................................... ที่อยปู่ จั จุบนั เลขที่ ................. หม่ทู ี่ ....... ถนน ..................................... ตาํ บล/แขวง ................................ อําเภอ/เขต ............................................. จังหวดั .................................... รหสั ไปรษณยี ์ ........................... โทรศัพทเ์ คลื่อนที่ .................................... E-mail address ....................................................................... อาชพี ...................................................... ตําแหน่ง ..................................................................................... สถานทป่ี ระกอบอาชพี .......................................................................... โทรศพั ท์ ...................................... ๒. ประวตั ิการศึกษา ระดับการศกึ ษา ช่ือสถานศกึ ษา/จงั หวดั /ประเทศ ปีทีส่ าํ เรจ็ สาขาวชิ า การศึกษา ประถมศกึ ษา มธั ยมศึกษา ตอนตน้ มัธยมศกึ ษา ตอนปลาย/ปวช. ปวส./อนปุ ริญญา ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก การศกึ ษาพเิ ศษอืน่ ๆ นอกเหนอื จากขา้ งต้น 136
๒ ๓. ประวัติการทาํ งาน ตาํ แหน่ง/ลกั ษณะงานทป่ี ฏิบัติ ช่วงเวลา ระยะเวลา ชื่อสถานทท่ี ํางาน/องคก์ ร ท่ดี ํารงตาํ แหนง่ (ปี/เดอื น) (ระบุเดอื น พ.ศ.) ๔. การฝกึ อบรม ดูงาน ช่ือสถาบนั /ประเทศ ช่วงเวลา ระยะเวลา ชอ่ื หลกั สูตร ท่อี บรม ดูงาน (ป/ี เดอื น) (ระบุเดือน พ.ศ.) ๕. ความรู้ความเชย่ี วชาญและประสบการณท์ ่แี สดงว่าเป็นผูม้ ีความรู้ดา้ นด้านหนึง่ อยา่ งแทจ้ รงิ (เชน่ ด้านการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ด้านมนษุ ยศาสตร์หรอื สังคมศาสตร์) ระดับ ความรคู้ วามเช่ยี วชาญ ชว่ งเวลา ระยะเวลา และประสบการณ์ (ระบเุ ดอื น พ.ศ.) (ป/ี เดือน) ทอ้ งถ่นิ /หน่วยงาน/ องค์กร/สถาบนั เอกชน ประเทศ ภูมภิ าค/นานาชาติ 137
๓ ๖. เคยเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ/คณะกรรมการ/คณะอนุกรรมการ/ผู้เช่ียวชาญ/คณะทํางาน/สมาชิก ในสมาคม/ชมรม/มหาวิทยาลยั /องคก์ รภาครัฐ/องคก์ รภาคเอกชน/องคก์ รอิสระ/อ่นื ๆ สถานท/่ี องค์กร ตําแหน่งทป่ี ฏบิ ัติ ช่วงเวลา (ระบเุ ดอื น พ.ศ.) ๗. ผลงานเดน่ /งานวิจัย ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ๘. ความสามารถด้านอน่ื ๆ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ๙. ข้าพเจ้ามีความประสงค์จะเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบาย ป่าชุมชน และขอรับรองว่าข้าพเจ้าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศรับการเสนอช่ือของกรมป่าไม้ อีกท้ังข้อความข้างต้นตลอดจนข้อความในเอกสารหลักฐานที่แนบกับใบแสดงประวัติ ผลงาน และประสบการณ์เป็นจริงทุกประการ และข้าพเจ้ายินยอมให้เปิดเผยข้อมูลตามใบแสดงประวัติ หาก ข้อความท่ีช้ีแจงแม้เพียงบางส่วนไม่เป็นความจริง ข้าพเจ้ายินยอมให้คณะกรรมการสรรหาถือเป็นเหตุผล เพียงพอท่ีจะไมพ่ ิจารณาตอ่ ไปหรือยกเลิกทพี่ จิ ารณาไว้แลว้ ทัง้ หมด ลงช่ือ ......................................................................... (.......................................................................) วันท่ี .........../............................/............... 138
๔ เอกสารหลักฐานทตี่ อ้ งแนบพรอ้ มกบั ใบสมคั ร ๑. รูปถา่ ยหนา้ ตรง ไม่สวมหมวกและไม่สวมแวน่ ตาดํา ขนาด ๑.๕ × ๒ น้ิว โดยถา่ ยไมเ่ กิน ๑ ปี (นบั ถงึ วันปิดรับการเสนอชือ่ จํานวน ๒ รูป) ๒. สําเนาหลักฐานแสดงวุฒิการศึกษาระดับสูงสุดฉบับสมบูรณ์ ยกเว้นกรณีจบการศึกษาระดับปริญญาโท/ ปรญิ ญาเอก ให้แนบหลักฐานแสดงวุฒิการศึกษาระดบั ปริญญาตรีมาด้วย ๓. สาํ เนาหลักฐานแสดงการฝึกอบรม/ดูงาน (ถ้าม)ี ๔. เอกสารอื่น ๆ ท่อี าจเปน็ ประโยชนต์ อ่ การพิจารณาคัดเลอื ก 139
คนช. 3-๕ หนงั สือรับรองจากประธานเครอื ข่ายป่าชมุ ชนระดบั จังหวดั เขยี นที่ ................................................................. ................................................................. .................................................................. วันที่ ............................................................. หนังสือฉบบั น้ีให้ไว้เพ่อื รบั รองว่า (นาย/นาง/นางสาว) ............................................................................................................. สญั ชาติ ..................................... เกิดวนั ที่ ........... เดอื น ................................ พ.ศ. ................ อายุ ........... ปี ศาสนา ....................................... เลขประจาํ ตัวประชาชน .............................................................................. ทีอ่ ย่ปู จั จุบันเลขที่ ................. หมูท่ ่ี ....... ถนน ..................................... ตําบล/แขวง ...................................... อําเภอ/เขต ............................................. จังหวดั .................................... รหัสไปรษณีย์ ................................. โทรศพั ท์เคลื่อนที่ .................................... E-mail address ............................................................................. เป็นประธานเครือข่ายป่าชุมชนจังหวัด................................................................... ซึ่งเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน กลุม่ ผู้แทนประธานเครือขา่ ยป่าชุมชนระดับจงั หวดั ในนามภาค ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ภาคกลาง ภาคใต้ ลายมอื ช่อื ผรู้ ับรองจากประธานเครอื ขา่ ยป่าชุมชนระดับจงั หวัดของจงั หวัดทอี่ ยใู่ นภาคเดยี วกนั ลงช่อื ...................................................................... ลงชือ่ ...................................................................... (.....................................................................) (.....................................................................) ประธานเครอื ข่ายปา่ ชุมชน ประธานเครอื ข่ายปา่ ชุมชน จังหวดั ........................................................ จงั หวดั ........................................................ ลงชือ่ ...................................................................... ลงช่ือ ...................................................................... (.....................................................................) (.....................................................................) ประธานเครือข่ายปา่ ชมุ ชน ประธานเครอื ข่ายปา่ ชมุ ชน จงั หวดั ........................................................ จงั หวัด........................................................ 140
๒ ลงชือ่ ...................................................................... ลงชอื่ ...................................................................... (.....................................................................) (.....................................................................) ประธานเครือขา่ ยปา่ ชมุ ชน ประธานเครือขา่ ยป่าชุมชน จังหวดั ........................................................ จงั หวัด........................................................ ลงชื่อ ...................................................................... ลงชื่อ ...................................................................... (.....................................................................) (.....................................................................) ประธานเครอื ขา่ ยป่าชมุ ชน ประธานเครอื ขา่ ยปา่ ชมุ ชน จงั หวดั ........................................................ จังหวดั ........................................................ ลงช่ือ ...................................................................... ลงชอ่ื ...................................................................... (.....................................................................) (.....................................................................) ประธานเครือข่ายป่าชุมชน ประธานเครือข่ายป่าชุมชน จงั หวัด........................................................ จงั หวัด........................................................ ลงชอ่ื ...................................................................... ลงชอื่ ...................................................................... (.....................................................................) (.....................................................................) ประธานเครือข่ายปา่ ชุมชน ประธานเครอื ขา่ ยป่าชุมชน จังหวดั ........................................................ จงั หวดั ........................................................ ลงช่อื ...................................................................... ลงช่ือ ...................................................................... (.....................................................................) (.....................................................................) ประธานเครอื ข่ายปา่ ชุมชน ประธานเครือขา่ ยป่าชมุ ชน จังหวดั ........................................................ จงั หวดั ........................................................ ลงชื่อ ...................................................................... ลงชื่อ ...................................................................... (.....................................................................) (.....................................................................) ประธานเครือขา่ ยปา่ ชุมชน ประธานเครือข่ายปา่ ชมุ ชน จงั หวัด........................................................ จงั หวัด........................................................ 141
แผนผงั ระเบียบคณะกรรมการสรรหา ว่าด้วยหลกั เกณฑ์ วิธกี ารสรรหา และการเสนอรายชื่อ บุคคลเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิ ในคณะกรรมการนโยบายป่าชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๖๓ (ตามมาตรา 12 วรรคสาม พ.ร.บ. ปา่ ชมุ ชน พ.ศ. 2562) คณะกรรมการสรรหา (ข้อ ๓) มหี นา้ ท่สี รรหาผูท้ รงคุณวุฒิ จาก 3 กลุม่ ดงั น้ี ๑. กล่มุ ผมู้ ีความรู้ ความเชีย่ วชาญ (2 คน) ๒. กลุม่ ผู้แทนองค์กรภาคประชาสงั คม (2 คน) ๓. กลมุ่ ผู้แทนประธานเครือข่ายปา่ ชมุ ชน ระดับจังหวดั (4 คน) ประกาศรบั สมัคร/ มคี ณุ สมบตั แิ ละไมม่ ลี กั ษณะ (ข้อ ๔) รับการเสนอช่อื บคุ คล ต้องหา้ มตามมาตรา 10 - ปดิ ประกาศ ณ กรมปา่ ไม้ ไมน่ ้อยกวา่ 30 วัน - Website กรมป่าไม้ และอาจขยายระยะเวลาได้ - มหี นังสอื แจง้ ประกาศไปยงั หนว่ ยงานตา่ งๆ คราวละไม่เกนิ 15 วัน การสมคั ร/การเสนอชอื่ (ขอ้ ๕) (ขอ้ ๖) (ขอ้ ๗) กลุม่ ผู้มคี วามร้ฯู กลุ่มผ้แู ทนองคก์ ร กล่มุ ผ้แู ทนประธาน - ภาคละไมเ่ กนิ 4 คน ยืน่ ใบสมัครฯ ตามแบบ คนช. 3-1 เครือข่ายป่าชมุ ชน - ได้รับการรบั รองจาก ยืน่ ใบเสนอช่อื บคุ คล ภาคประชาสงั คม ประธานเครือข่าย ย่ืนใบเสนอชือ่ บคุ คล ทอ่ี ยใู่ นภาคเดียวกัน ตามแบบ คนช. 3-2 , 3-3 , 3-4 ยน่ื ใบเสนอชือ่ บคุ คล ตามแบบ เกินก่ึงหนึง่ ตามแบบ คนช. 3-๔ , 3-๕ คนช. 3-2 , 3-3 , 3-4 สจช./หน่วยงานที่ อปม.มอบหมาย - รวบรวมรายชือ่ ผูส้ มคั ร/ผไู้ ดร้ บั การเสนอรายชื่อ (ข้อ ๘) - ตรวจสอบคุณสมบัตแิ ละลักษณะต้องห้าม - จดั ทาบญั ชรี ายชื่อแยกตามแต่ละกลุม่ เสนอ ภายใน 15 วัน นับแต่การรับสมคั รสิน้ สุดลง คณะกรรมการสรรหา - พิจารณาใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายใน 30 วนั 1. กลมุ่ ผูม้ คี วามรู้ ความเช่ยี วชาญ (4 คน) นบั แตไ่ ด้รับการเสนอรายช่ือฯ (ขอ้ 10 ) 2. กลุ่มผู้แทนองคก์ รภาคประชาสังคม (4 คน) - จดั ทาบญั ชีรายช่อื แยกตามประเภท 3. กลุ่มผแู้ ทนประธานเครือขา่ ยป่าชมุ ชน จานวน 2 เท่า ของผู้ทรงคณุ วฒุ ิในแต่ละกลุม่ (ข้อ 12) ระดับจงั หวัด (8 คน) เสนอ ประธาน คนช. เพ่ือพจิ ารณาเลอื ก ๑. กลมุ่ ผู้มีความรู้ ความเช่ียวชาญ (2 คน) ผู้ที่ประธาน คนช. ไม่ไดเ้ ลอื ก ๒. กลุม่ ผูแ้ ทนองค์กรภาคประชาสงั คม (2 คน) จะถกู ข้ึนบัญชีสารองไว้ ๓. กลุม่ ผ้แู ทนประธานเครือขา่ ยปา่ ชมุ ชน จนกวา่ จะมกี ารสรรหาใหม่ (ขอ้ ๑๒) ระดบั จังหวดั (4 คน) (ขอ้ ๑๒ วรรคสอง) หมายเหตุ : กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิ มีวาระการดารงตาแหน่ง คราวละ 3 ปี แตจ่ ะดารงตาแหนง่ เกนิ สองวาระติดตอ่ กนั ไมไ่ ด้ ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๑๐๐ ง ๒๙ เมษายน ๒๕๖๓ 142 สานักจัดการป่าชมุ ชน กรมปา่ ไม้
คำนิยาม ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญตั ิป่าชุมชน พ.ศ. 2562 “ป่าชุมชน” หมายความว่า ป่านอกเขตป่าอนุรักษ์หรือพื้นที่อื่นของรัฐนอกเขตป่าอนุรักษ์ ที่ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งเป็นป่าชุมชน โดยชุมชนร่วมกับรัฐในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู จัดการ บำรุงรักษา ตลอดจนใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพ ในปา่ ชมุ ชน อยา่ งสมดลุ และย่งั ยืนตามพระราชบัญญัตินี้ “ชมุ ชน” หมายความวา่ กลุ่มประชาชนทร่ี วมตวั กนั โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์หรือผลประโยชนร์ ว่ มกัน เพื่อทำกิจกรรมอันชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งช่วยเหลือหรือสนับสนุนการดำเนินการใดๆอันเป็นประโยชน์ ร่วมกันของประชาชนในชุมชนนั้น โดยมีการรวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง มีระบบบริหารจัดการ ในรูปของ คณะบคุ คลและมีการแสดงเจตนาแทนชมุ ชนได้ “เขตป่าอนุรักษ์” หมายความว่า เขตอุทยานแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าหรือ เขตพื้นที่อื่นใดที่มีคุณค่าทางธรรมชาติหรือคุณค่าอื่นอันควรแก่การอนุรักษ์หรือรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตามทีก่ ำหนดในกฎกระทรวง “ไม้” หมายความว่า ไม้ทุกชนิดทั้งที่เป็นต้น กอ หรือเถา ไม่ว่ายังยืนต้นหรือล้มลงแล้ว ทั้งที่มี ชีวิตหรือไม่มีชีวิต และให้หมายความรวมถึงราก ปุ่ม ตอ หน่อ กิ่ง ตา หัว เหง้า เศษ ปลาย หรือสว่ นหนง่ึ ส่วนใดของไม้ ไมว่ ่าจะถูกตดั ฟนั เลือ่ ย ผ่า ถาก ทอน ขดุ หรือกระทำโดยวิธกี ารอ่นื ใด “ใช้ประโยชน์จากไม้” หมายความว่า ตัด ฟัน กาน โค่น ลิด เลื่อย ผ่า ถาก ทอน ขุด หรอื ชักลากไม้ทมี่ อี ย่ใู นปา่ ชุมชน หรอื นำไมท้ ีม่ อี ยใู่ นป่าชมุ ชนออกจากปา่ ชุมชนด้วยประการใด ๆ “ไม้ทรงคุณคา่ ” หมายความว่า ไม้หวงหา้ มตามกฎหมายวา่ ด้วยปา่ ไม้ และใหห้ มายความรวมถึง ไม้อืน่ ใดท่ีควรค่าแกก่ ารอนุรักษใ์ หค้ งอยตู่ ่อไปตามลกั ษณะหรือชนิดที่กำหนดในกฎกระทรวง “ของป่า” หมายความวา่ สิ่งต่าง ๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ หรอื มอี ยูใ่ นป่าชุมชน เป็นต้นวา่ (๑) ฟืน ถ่านไม้ ไม้ไผ่ เปลือกไม้ ใบไม้ ดอกไม้ เมล็ด ผลไม้ หนอ่ ไม้ ชนั และยางไม้ (๒) หญ้า ออ้ พง แขม ปรอื คา กก กระจดู กูด เหด็ และพืชอื่น (๓) ครั่ง รังผ้ึง น้ำผง้ึ ขีผ้ ้ึง มูลค้างคาว (๔) สัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์ปีก แมลง รวมทั้งไข่ของแมลงที่ไม่ใช่สัตว์ป่าสงวน หรือสัตวป์ ่าค้มุ ครองตามกฎหมายว่าดว้ ยการสงวนและค้มุ ครองสัตว์ป่า (๕) ดิน หนิ กรวด และทราย ทไ่ี ม่ใชแ่ รต่ ามกฎหมายว่าด้วยแร่ “ฟืน” หมายความว่า เศษไม้ ปลายไม้ หรือไม้ล้มขอนนอนไพรตามธรรมชาติ อันมีลักษณะ และคณุ ภาพเหมาะสมท่ีจะใช้เปน็ เชอื้ เพลิงยง่ิ กวา่ ใช้ประโยชน์อย่างอ่ืน “ความหลากหลายทางชีวภาพ” หมายความว่า ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตทั้งมวลและ ให้หมายความรวมถึงความหลากหลายทางพันธุกรรม ทางชนิดพันธุ์ และทางระบบนิเวศอันเป็น ถ่ินกำเนดิ ของสิ่งมีชีวติ เหลา่ นนั้ “สมาชกิ ป่าชมุ ชน” หมายความว่า สมาชกิ ของปา่ ชมุ ชนทไ่ี ด้จดั ตัง้ ตามพระราชบญั ญตั ินี้
“เครือข่ายป่าชุมชน” หมายความว่า การรวมตัวกันของคณะกรรมการจัดการป่าชุมชนหรือ สมาชิกป่าชุมชนของป่าชุมชนต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายร่วมกัน เพื่อเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อนำไปสู่การจัดการป่าชุมชนร่วมกันอย่างยั่งยืนและได้มีการจดแจ้ง การเปน็ เครือข่ายป่าชมุ ชนตอ่ กรมป่าไม้ตามระเบียบทีอ่ ธบิ ดกี ำหนด “ทรัพย์สินส่วนกลาง” หมายความว่า เงินและทรัพย์สินที่ได้มาเพื่อใช้ในการจัดการป่าชุมชน ไมท้ ่สี มาชกิ ปา่ ชุมชนร่วมกนั ปลูกในบริเวณเพ่อื การใชป้ ระโยชน์ และทรพั ย์สินท่ีสมาชกิ ป่าชุมชนร่วมกัน จัดทำในการจดั การป่าชมุ ชน “องค์กรภาคประชาสังคม” หมายความว่า องค์กรที่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลที่มี วัตถุประสงค์ด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ หรือองค์กรอื่นที่ไม่ได้ เป็นนิติบุคคลแต่มีผลงานด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ประจักษ์ ทั้งนี้ โดยมิได้มีการหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน และได้มีการจดแจ้งเป็นองค์กร ภาคประชาสงั คมตอ่ กรมปา่ ไมต้ ามระเบยี บท่อี ธิบดกี ำหนด “คณะกรรมการนโยบาย” หมายความว่า คณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน “เจ้าหนา้ ที่ปา่ ชุมชน” หมายความว่า ผู้ซึ่งคณะกรรมการปา่ ชมุ ชนประจำจังหวดั แตง่ ตัง้ จากสมาชิก ป่าชุมชนซ่งึ ได้รบั การเสนอช่อื โดยคณะกรรมการจดั การปา่ ชุมชน หรอื แตง่ ตั้งจากเจ้าหน้าทข่ี องกรมป่าไม้ หรือหน่วยงานของรัฐท่ีเกย่ี วข้อง ใหเ้ ป็นเจา้ หน้าที่ป่าชมุ ชนเพอื่ ปฏบิ ตั ิการตามพระราชบัญญัตนิ ี้ “พนักงานเจา้ หนา้ ท”่ี หมายความว่า ผ้ซู ่งึ รัฐมนตรีแต่งตัง้ ใหป้ ฏิบตั ิการตามพระราชบัญญัติน้ี “อธิบด”ี หมายความวา่ อธบิ ดกี รมปา่ ไม้ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รฐั มนตรผี ้รู ักษาการตามพระราชบัญญัตนิ ้ี พระราชบัญญตั ปิ า่ ชุมชน พ.ศ. 2562 อนบุ ญั ญตั ิ เล่มท่ี 1
จดั ทำโดย สำนกั จดั การปา่ ชุมชน กรมป่าไม้ ท่ปี รึกษา อธิบดกี รมปา่ ไม้ รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายอดิศร นชุ ดำรงค์ ผู้อำนวยการกล่มุ นิติการ นายจิระศกั ดิ์ ชคู วามดี นายวจิ ารณ์ เสนสกลุ คณะผูจ้ ดั ทำ บณุ ยานนั ต์ ผอู้ ำนวยการสำนกั จดั การป่าชมุ ชน เอกศริ ิพงษ์ ผอู้ ำนวยการส่วนนโยบายและกฎหมายปา่ ชมุ ชน นางนนั ทนา เกษมพันธ์กุล หัวหนา้ ฝ่ายกฎหมายปา่ ชมุ ชน นายพิชัย ณ ตะกวั่ ทงุ่ นติ กิ ร นายวรากร เดชนอ้ ย นติ กิ ร นางสาวมญั ฑกา นางสาวศศยิ าพร ปที ี่พิมพ์ พุทธศักราช 2564 ส่วนนโยบายและกฎหมายปา่ ชุมชน สำนกั จดั การป่าชุมชน กรมป่าไม้ 61 ถ.พหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทรศัพท์ : 0-2561-4292-3 ตอ่ 5639 โทรสาร : 0-2579-7585
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150