ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง.d

ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะหล์ กู จ้าง วา่ ดว้ ยการจา่ ยเงินสงเคราะห์ อตั ราเงินทจ่ี ะจ่ายและระยะเวลาการจา่ ย (ฉบบั แรก) พ.ศ. ๒๕๖๐ แก้ไขเพม่ิ เติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกาศราชกิจจานเุ บกษา ประกาศราชกิจจานุเบกษา ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา ๒๐ กันยายน ๒๕๖๐ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๔ ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการ ขอ้ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการกองทุน ข้อ 1 ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการกองทุน กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ สงเคราะห์ลูกจ้างว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อัตราเงินที่จะ สงเคราะห์ลกู จ้างว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อตั ราเงินท่ีจะ อตั ราเงนิ ที่จะจา่ ยและระยะเวลาการจ่าย พ.ศ. ๒๕๖๐” จ่ายและระยะเวลาการจ่าย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564” จา่ ยและระยะเวลาการจ่าย (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔” ข้อ ๒ ระเบียบนใ้ี ห้ใช้บงั คับต้ังแต่วันถัดจากวนั ประกาศ ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศใน ข้อ 2 ระเบียบนี้ใหใ้ ช้บังคับต้ังแต่วันถดั จากวันประกาศใน ในราชกิจจานุเบกษา เปน็ ตน้ ไป ราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป ราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ตน้ ไป ขอ้ ๓ ให้ยกเลิก (๑) ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างว่า ด้ ว ย ก า ร จ่ า ย เ งิ น ส ง เ ค ร า ะ ห์ อั ต ร า เ งิ น ท่ี จ ะ จ่ า ย แ ล ะ ระยะเวลาการจ่าย พ.ศ. ๒๕๔๖ (๒) ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลกู จ้างว่า ด้ ว ย ก า ร จ่ า ย เ งิ น ส ง เ ค ร า ะ ห์ อั ต ร า เ งิ น ที่ จ ะ จ่ า ย แ ล ะ ระยะเวลาการจ่าย (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒ ขอ้ ๔ ในระเบยี บน้ี “เงินสงเคราะห์” หมายความว่า เงินจากกองทุน สงเคราะห์ลูกจ้างท่ีจ่ายให้แก่ลูกจ้างเพื่อบรรเทาความ เดือดรอ้ น “คําขอ” หมายความว่า คําขอรับเงินสงเคราะห์ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการ กองทุนสงเคราะหล์ ูกจ้าง “อธิบดี” หมายความวา่ อธิบดผี ู้รกั ษาการตามระเบียบน้ี 1

ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลกู จ้าง ว่าด้วยการจ่ายเงนิ สงเคราะห์ อัตราเงนิ ทจี่ ะจ่ายและระยะเวลาการจา่ ย (ฉบบั แรก) พ.ศ. ๒๕๖๐ แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ แกไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ ข้อ ๕ ให้อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รกั ษาการตามระเบียบน้ี หมวด ๑ หลักเกณฑก์ ารจา่ ยเงินสงเคราะห์ ขอ้ ๖ การจา่ ยเงินสงเคราะห์ตามระเบยี บน้ี ใหจ้ า่ ยจาก กองทนุ สงเคราะหล์ กู จา้ งในส่วนที่มใิ ชเ่ งินสะสม เงินสมทบ และดอกผลจากเงินดังกลา่ ว ข้อ ๗ ลูกจ้างมีสิทธิขอรับเงินสงเคราะห์ได้ในกรณี ยกเลิกความใน (2) ของวรรคหนึ่ง ของข้อ 7 และให้ใช้ ยกเลกิ ความใน (1) ของข้อ 7 และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนแ้ี ทน ดังตอ่ ไปนี้ ความต่อไปนีแ้ ทน “ข้อ ๗ (๑) นายจ้างเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ยกเลิกโดย (ฉบับที่ ๓) (๑) นายจ้างเลิกจ้างโดยไม่จ่าย “ข้อ ๗ (2) นายจ้างไม่จ่ายเงินอ่ืนนอกจาก (1) ได้แก่ โดยพนักงานตรวจแรงงานมีคําส่ังให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชย ค่าชดเชย โดยพนักงานตรวจแรงงานมีคําส่ังให้นายจ้าง ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทํางานในวันหยุดและค่าล่วงเวลาใน ดังกล่าว คําสั่งน้ันเป็นท่ีสุด หรือนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่จ่าย จ่ายค่าชดเชยดังกล่าว และคําสั่งนั้นเป็นที่สุด วันหยุดตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ค่าชดเชยเพราะเหตุท่ีนายจ้างไม่สามารถดําเนินกิจการต่อไป ยกเลิกโดย (ฉบับท่ี ๒) (๒) นายจา้ งไม่จ่ายเงนิ อืน่ นอกจาก พ.ศ. 2541 ค่าจ้างตามกฎกระทรวงว่าด้วยการคุ้มครอง โดยพนักงานตรวจแรงงานมีคําสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชย (๑) ได้แก่ ค่าจ้างเฉพาะที่จ่ายเป็นค่าตอบแทนในการ แรงงานในงานประมงทะเล ค่าตอบแทนตามพระราชบัญญัติ ดังกลา่ วแม้คําสง่ั น้ันไม่เปน็ ท่สี ดุ ” ทํางาน ค่าล่วงเวลา ค่าทํางานในวันหยุด ค่าล่วงเวลาใน คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 หลักประกันการทํางานหรือ เพมิ่ ความตอ่ ไปนีเ้ ป็น (3) ของขอ้ 7 วันหยุด เงินประกันการทํางานเฉพาะที่นายจ้างหักจาก หลักประกันความเสียหายในการทํางานเฉพาะที่เป็นเงินสด “ข้อ ๗ (๓) กรณีตาม (1) หรือ (2) นายจ้างได้นําคดีไปสู่ศาล ค่าจ้ าง แ ละค่ าจ้ างแทนกา รบ อกกล่า วล่ วงหน้า ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน และศาลมีคําส่ังไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาการวางเงิน โดยพนักงานตรวจแรงงานมีคําส่ังให้นายจ้างจ่ายเงิน พ.ศ. 2541 เงินตามมาตรา 75 แห่งพระราชบัญญตั คิ มุ้ ครอง ต่อศาลตามมาตรา 125 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติ ดังกล่าว และคาํ ส่ังนั้นเปน็ ที่สดุ แรงงาน พ.ศ. 2541 และค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ไม่ว่านายจ้างจะได้ย่ืนอุทธรณ์ ตามมาตรา 17/1 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน คําส่งั ดงั กล่าว หรอื ไม่กต็ าม” ลูกจ้างท่ีได้รับเงินสงเคราะห์ตาม (๑) แล้ว ไม่มีสิทธิ พ.ศ. 2541 โดยพนักงานตรวจแรงงานมีคําส่ังให้นายจ้าง ได้รับเงินสงเคราะห์ตาม (๒) เฉพาะกรณีนายจ้างไม่จ่าย คา่ จา้ งแทนการบอกกลา่ วลว่ งหนา้ จา่ ยเงนิ ดงั กล่าว และคาํ สงั่ น้ันเป็นที่สดุ ” วรรคสาม... 2

ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจา้ ง วา่ ด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อัตราเงินทีจ่ ะจา่ ยและระยะเวลาการจ่าย (ฉบบั แรก) พ.ศ. ๒๕๖๐ แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ เพ่มิ ความต่อไปน้เี ปน็ วรรคสาม ของขอ้ 7 “ข้อ ๗ วรรคสาม คําสั่งเป็นท่ีสุดตามวรรคหน่ึง หมายความว่า คําสั่งพนักงานตรวจแรงงานที่ส่ังให้นายจ้าง จา่ ยคา่ ชดเชยหรือเงิน อน่ื ให้แก่ลูกจ้างโดยนายจา้ งมิได้ปฏบิ ัติตาม และไมไ่ ดน้ ําคดไี ปส่ศู าลภายในระยะเวลากาํ หนด” ขอ้ ๗ /๑... เพม่ิ ความตอ่ ไปนเ้ี ป็นข้อ 7/1 “ข้อ 7/1 สิทธิในการขอรับเงินสงเคราะห์ตามข้อ 7 ยอ่ มสนิ้ สุดลงดว้ ยเหตอุ ย่างหนึ่งอย่างใด ดงั ต่อไปนี้ (1) นายจ้างนําคดีไปสู่ศาลและได้วางเงินต่อศาลตาม มาตรา 125 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (2) ลูกจ้างนําคดีไปสู่ศาลตามมาตรา 125 วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัตคิ ุ้มครองแรงงานพ.ศ. 2541 หรือลูกจ้าง นําคําส่ังพนักงานตรวจแรงงานซึ่งเป็นที่สุดไปฟ้องศาลเพื่อให้ นายจ้างปฏิบตั ิตามคําสั่งและได้มีการทําสัญญาประนีประนอม ยอมความท่ีไม่ได้แสดงข้อความไว้ชัดแจ้งว่าให้ถือบังคับตาม คําฟ้องหากคู่กรณีไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอม ความดงั กลา่ ว 3

ระเบยี บคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ว่าด้วยการจา่ ยเงินสงเคราะห์ อัตราเงนิ ทจี่ ะจ่ายและระยะเวลาการจา่ ย (ฉบับแรก) พ.ศ. ๒๕๖๐ แก้ไขเพม่ิ เติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ แก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ (3) นายจ้างได้นําเงินตามคําสั่งพนักงานตรวจแรงงาน มาวางต่อพนักงานตรวจแรงงานแล้วหรือนายจ้างได้จ่ายเงิน ตามคาํ สั่งพนกั งานตรวจแรงงาน หรือตามคาํ พพิ ากษาของศาล หรือตามสัญญาประนีประนอมยอมความหรือข้อตกลงใดๆ ให้แก่ลูกจ้างก่อนท่ีกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างจะได้จ่ายเงิน สงเคราะห์แก่ลูกจ้าง และเป็นเงินจํานวนไม่น้อยกว่าอัตราเงิน สงเคราะหท์ ี่ลูกจา้ งพงึ มีสทิ ธิได้รับตามระเบยี บนี้ (4) ลูกจ้างเคยได้รับเงินสงเคราะห์จากกรณีนายจ้างไม่ จ่ายเงินอ่ืนนอกจากค่าชดเชยตาม ข้อ 7 (2) หรือข้อ ๗ (๓) ภายในหน่ึงปีนับแต่วันที่ลูกจ้างได้รับเงินสงเคราะห์ ท้ังนี้ เฉพาะกรณนี ายจา้ งรายเดิม กรณีลูกจ้างมีสิทธิขอรับเงินสงเคราะห์จากกรณีนายจ้าง เลิกจา้ งโดยไม่จ่ายค่าชดเชยตามข้อ 7 (1) หรือตามขอ้ ๗ (๓) และได้ย่ืนคําขอตามข้อ 8 แล้ว แต่ภายหลังพนักงาน ตรวจแรงงานพบข้อเท็จจริงว่า สิทธิของลูกจ้างสิ้นสุดลงด้วย เหตุตามวรรคหนง่ึ ให้พนกั งานตรวจแรงงานจาํ หน่ายคําขอนั้นเสีย และใหร้ ายงานต่อผูม้ ีอํานาจอนมุ ตั เิ พ่ือทราบ กรณีลูกจ้างมีสิทธิขอรับเงินสงเคราะห์จากกรณนี ายจ้างไม่ จ่ายเงินอื่นนอกจากค่าชดเชยตามข้อ 7 (2) หรือข้อ ๗ (๓) และได้ยื่นคําขอตาม ข้อ 8 แล้ว แต่ภายหลังพนักงานตรวจ แรงงานพบข้อเท็จจริงว่าสิทธิของลูกจ้างส้ินสุดลงด้วยเหตุ อย่างหน่ึงอย่างใดตามวรรคหน่ึง ให้พนักงานตรวจแรงงาน จําหน่ายคําขอนั้นเสีย และให้รายงานต่อผู้มีอํานาจอนุมัติ เพื่อทราบ กรณีท่ีคณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้จ่ายเงิน สงเคราะห์ตามคําขอน้ันแล้ว ให้รายงานคณะกรรมการทราบ ตอ่ ไป ” 4

ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลกู จา้ ง วา่ ดว้ ยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อตั ราเงนิ ที่จะจา่ ยและระยะเวลาการจ่าย (ฉบบั แรก) พ.ศ. ๒๕๖๐ แกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ แก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ ยกเลิกโดย(ฉบับที่ ๓) ข้อ ๘ ให้ลูกจ้างท่ีประสงค์จะใช้ ยกเลกิ ความใน ขอ้ 8 และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนแี้ ทน สทิ ธิตามข้อ ๗ ยื่นคําขอตามแบบท่ีอธิบดีประกาศกําหนด “ข้อ 8 ลูกจ้างที่ประสงค์จะใช้สิทธิตามข้อ 7 ให้ยื่นคําขอ ต่อพนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ีท่ีมีคําส่ังให้นายจ้าง ภายในสองปีนับแต่วันที่คําสั่งพนักงานตรวจแรงงานเป็นที่สุด จ่ายค่าชดเชยหรือเงินอื่น พร้อมแสดงบัตรประจําตัว โดยยื่นคําขอต่อพนักงานตรวจแรงงานตามแบบที่อธิบดี ประชาชนหรือหลักฐานอื่นท่ีทางราชการออกให้ซึ่งแสดง กําหนดหรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอ่ืนใดตามที่ ไดว้ า่ ระบุถงึ ตวั ผนู้ ้นั อธิบดีประกาศกาํ หนด” การย่ืนคําขอตามวรรคหน่ึง ให้ลูกจ้างยื่นคําขอภายใน หน่ึงปีนบั แต่วนั ที่คําสั่งพนักงานตรวจแรงงานดังกล่าวเป็น ทส่ี ุด ยกเลิกโดย(ฉบับท่ี ๒) ข้อ ๙ เม่ือพนักงานตรวจแรงงาน ยกเลิกความในขอ้ 9 และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน ได้รับคําขอตามข้อ ๘ แล้ว ให้ดําเนินการสอบสวน “ข้อ 9 เม่ือพนักงานตรวจแรงงานได้รับคําขอตามข้อ 8 แล้ว ขอ้ เท็จจรงิ ดงั ต่อไปนี้ ใหด้ าํ เนินการสอบสวนข้อเทจ็ จรงิ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ลกู จ้างมีสิทธขิ อรับเงนิ สงเคราะหต์ ามข้อ ๗ (1) ลูกจ้างมีสิทธิขอรับเงินสงเคราะหต์ ามข้อ 7 (๒) ลูกจ้างได้รับความเดือดร้อนทางการเงินจนไม่ (2) ลูกจ้างได้รับความเดือดร้อนทางการเงินจากการท่ี สามารถดํารงชีพไดต้ ามอัตภาพ นายจา้ งไม่จา่ ยเงนิ ตามคาํ สั่งพนักงานตรวจแรงงาน (๓) ขณะย่ืนคําขอ นิติสัมพันธ์ระหว่างลูกจ้างและ ให้พนักงานตรวจแรงงานบันทึกข้อมูลตาม (2) ลงใน นายจ้างได้สิน้ สุดลงแลว้ แบบแจ้งข้อมูลความเดือดร้อนในการดํารงชีพตามท่ีอธิบดี ให้พนักงานตรวจแรงงานบันทึกข้อมูลตาม (๒) ลงใน กาํ หนด พรอ้ มทง้ั จัดทาํ สรุปความเดอื ดร้อนในภาพรวม” แบบแจ้งข้อมูลความเดือดร้อนในการดํารงชีพตามท่ีอธิบดี กําหนด พรอ้ มทัง้ จดั ทําสรุปความเดอื ดรอ้ นในภาพรวม 5

ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะหล์ กู จ้าง ว่าด้วยการจ่ายเงนิ สงเคราะห์ อัตราเงินท่จี ะจ่ายและระยะเวลาการจ่าย (ฉบับแรก) พ.ศ. ๒๕๖๐ แก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ แกไ้ ขเพ่มิ เติม (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ หมวด ๒ ขั้นตอนการพจิ ารณาคาํ ขอ และอัตราการจา่ ยเงนิ สงเคราะห์ (กรณีนายจา้ งไม่จา่ ยค่าชดเชย) ยกเลิกโดย(ฉบับที่ ๓) ข้อ ๑๐ กรณีท่ีลูกจ้างใช้สิทธิตาม ยกเลิกความในขอ้ 10 และให้ใช้ความต่อไปนแี้ ทน ข้อ ๗ (๑) เมื่อพนักงานตรวจแรงงานได้ดําเนินการตามข้อ ๙ “ข้อ 10 กรณีที่ลูกจ้างใช้สิทธิขอรับเงินสงเคราะห์ แล้ว ให้พนักงานตรวจแรงงานเสนอคําขอและเอกสารที่ จากกรณีนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยตาม ข้อ ๗ (๑) เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยความเห็นต่อผู้มีอํานาจอนุมัติการ หรือข้อ ๗ (๓) เม่ือพนักงานตรวจแรงงานได้ดําเนินการตาม จ่ายเงินสงเคราะห์ตามข้อ ๑๔ ภายในเจด็ วันทาํ การนับแต่ ข้อ ๙ แล้วให้พนักงานตรวจแรงงานเสนอคําขอและเอกสารท่ี วนั ทไ่ี ด้รบั คําขอดังกล่าว เก่ียวข้อง พร้อมด้วยความเห็นต่อผมู้ ีอํานาจอนุมตั ิการจา่ ยเงิน สงเคราะห์ตามข้อ ๑๔ ภายในเจ็ดวันทําการนับแต่วันท่ีได้ รบั คาํ ขอดังกลา่ ว” ยกเลิกโดย(ฉบับท่ี ๓) ้ข้อ ๑๑ อัตราการจ่ายเงิน ยกเลิกความในวรรคหนึ่ง ของข้อ 11 และให้ใช้ความ สงเคราะห์ กรณตี ามขอ้ ๗ (๑) ให้จ่ายในอตั รา ดงั ต่อไปน้ี ต่อไปนีแ้ ทน (๑) สามสิบเท่าของอัตราค่าจ้างขั้นต่ํารายวันตาม “ขอ้ 11 อัตราการจา่ ยเงนิ สงเคราะห์จากกรณนี ายจา้ งเลิก ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างข้ันต่ํา จ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยตามข้อ ๗ (๑) หรือข้อ ๗ (๓) ให้จ่าย สําหรับลูกจ้างซ่ึงทํางานติดต่อกันครบหนึ่งร้อยย่ีสิบวันแต่ ในอตั รา ดังตอ่ ไปน้ี ไม่ครบสามปี (๑) สามสิบเท่าของอัตราค่าจ้างข้ันต่ํารายวันตามประกาศ (๒) ห้าสิบเท่าของอัตราค่าจ้างขั้นตํ่ารายวันตาม คณะกรรมการค่าจ้างเก่ียวกับอัตราค่าจ้างข้ันตํ่า สําหรับลูกจ้าง ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเก่ียวกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ํา ซ่ึงทํางานตดิ ต่อกันครบหนงึ่ รอ้ ยยีส่ บิ วันแต่ไม่ครบสามปี สาํ หรับลกู จา้ งซึ่งทาํ งานตดิ ตอ่ กันครบสามปีแตไ่ ม่ครบสิบปี (๒) ห้าสิบเท่าของอัตราค่าจ้างขั้นต่ํารายวันตามประกาศ ๓) เจ็ดสิบเท่าของอัตราค่าจ้างข้ันต่ํารายวันตาม คณะกรรมการค่าจ้างเก่ียวกับอัตราค่าจ้างขั้นตํ่า สําหรับ ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างขั้นตํ่า ลูกจ้างซง่ึ ทาํ งานตดิ ต่อกนั ครบสามปีแตไ่ ม่ครบสบิ ปี สาํ หรบั ลกู จ้างซึ่งทาํ งานติดตอ่ กนั ครบสบิ ปีขนึ้ ไป (๓) เจ็ดสิบเท่าของอัตราค่าจ้างขั้นต่ํารายวันตามประกาศ ให้จ่ายเงินสงเคราะห์แก่ลูกจ้างในคราวเดียวกันท้ัง คณะกรรมการค่าจ้างเก่ียวกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ํา สําหรับ จํานวน แตไ่ ม่เกนิ กว่าจํานวนเงนิ ค่าชดเชยที่พนกั งานตรวจ ลกู จ้างซ่ึงทาํ งานติดตอ่ กันครบสบิ ปขี นึ้ ไป” แรงงานมคี าํ ส่ังใหน้ ายจ้างจา่ ย 6

ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลกู จ้าง ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อตั ราเงินท่ีจะจ่ายและระยะเวลาการจา่ ย (ฉบบั แรก) พ.ศ. ๒๕๖๐ แกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ หมวด ๓ ขนั้ ตอนการพจิ ารณาคําขอ และอัตราการจ่ายเงนิ สงเคราะห์ (กรณนี ายจ้างไมจ่ ่ายเงินอ่ืนนอกจากคา่ ชดเชย) ยกเลิกโดย(ฉบับท่ี ๓) ข้อ ๑๒ กรณีที่ลูกจ้างใช้สิทธิตาม ยกเลิกความในวรรคหนึ่ง ของข้อ 12 และให้ใช้ความ ข้อ ๗ (๒) เมื่อพนักงานตรวจแรงงานได้ดําเนินการตาม ตอ่ ไปน้ีแทน ข้อ ๙ แล้ว ให้พนักงานตรวจแรงงานส่งคําขอรับเงิน สงเคราะห์และเอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง พร้อมด้วยความเห็นต่อ “ข้อ 12 กรณีท่ีลูกจ้างใช้สิทธิขอรับเงินสงเคราะห์จาก คณะกรรมการภายในเจ็ดวันทําการนับแต่วันท่ีได้รับคาํ ขอ กรณีนายจ้างไม่จ่ายเงินอ่ืนนอกจากค่าชดเชยตามข้อ 7 (2) ดังกล่าว หรือข้อ ๗ (๓) เมื่อพนักงานตรวจแรงงานได้ดําเนินการ ตามข้อ ๙ แล้วให้พนักงานตรวจแรงงานส่งคําขอรับเงิน เมื่อคณะกรรมการได้รับคําขอตามวรรคหน่ึงแล้ว สงเคราะห์และเอกสารท่ีเก่ียวข้อง พร้อมด้วยความเห็นต่อ ให้พิจารณาและมมี ติโดยไมช่ กั ชา้ คณะกรรมการภายในเจ็ดวันทําการนับแต่วันที่ได้รับคําขอ ดงั กลา่ ว” กรณคี ณะกรรมการมีมติเหน็ ชอบให้จ่ายเงินสงเคราะห์ ให้พนักงานตรวจแรงงานเสนอคําขอเอกสารที่เกี่ยวข้อง และมติคณะกรรมการ พร้อมด้วยความเห็นต่อผู้มีอํานาจ อนุมัติการจ่ายเงินสงเคราะห์ตามข้อ ๑๔ ภายในเจ็ดวันทําการ นับแต่วันที่คณะกรรมการมมี ติ ก ร ณี ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร มี ม ติ ไ ม่ เ ห็ น ช อ บ ใ ห้ จ่ า ย เ งิ น สงเคราะห์ ให้สํานักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรุงเทพมหานครพ้ืนท่ีหรือสํานักงานสวัสดิการและ คมุ้ ครองแรงงานจังหวัดมีหนังสือแจ้งมตดิ ังกล่าวแก่ลูกจ้าง ด้วยวิธีการท่ีกําหนดไว้ตามมาตรา ๑๔๓ แห่งพระราชบัญญัติ คมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ภายในห้าวันนับแต่วันท่ีได้ รบั ทราบมตดิ ังกล่าว 7

ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะหล์ กู จา้ ง ว่าด้วยการจา่ ยเงินสงเคราะห์ อตั ราเงนิ ที่จะจ่ายและระยะเวลาการจา่ ย (ฉบับแรก) พ.ศ. ๒๕๖๐ แกไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ ยกเลิกโดย(ฉบับที่๓) ข้อ ๑๓ อตั ราการจ่ายเงนิ สงเคราะห์ ยกเลิกความในวรรคหน่ึง ของข้อ ๑๓ และให้ใช้ความ กรณีตามข้อ ๗ (๒) ให้จ่ายในอัตราไม่เกินหกสิบเท่าของ ตอ่ ไปนี้แทน อัตราค่าจ้างขั้นต่ํารายวันตามประกาศคณะกรรมการ คา่ จา้ งเก่ียวกบั อตั ราคา่ จ้างขนั้ ตาํ่ “ข้อ13 อัตราการจ่ายเงินสงเคราะห์จากกรณีนายจ้างไม่ จ่ายเงินอ่ืนนอกจากค่าชดเชยตามข้อ7 (2) หรือข้อ๗ (๓) ให้จ่ายเงินสงเคราะห์แก่ลูกจ้างในคราวเดียวกันทั้ง ให้จ่ายในอัตราไม่เกินหกสิบเท่าของอัตราค่าจ้างข้ันต่ํารายวัน จํานวน แต่ไม่เกินกว่าจํานวนเงินอื่นนอกจากค่าชดเชยที่ ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเก่ยี วกบั อตั ราคา่ จ้างข้นั ตาํ่ ” พนักงานตรวจแรงงานมคี ําสัง่ ใหน้ ายจา้ งจา่ ย หมวด ๔ ผมู้ ีอาํ นาจอนมุ ตั ิ และระยะเวลาการจา่ ยเงนิ สงเคราะห์ ข้อ ๑๔ ให้บุคคลต่อไปน้ีเป็นผู้มีอํานาจอนุมัติการ จา่ ยเงนิ สงเคราะห์ (๑) อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย สําหรับกรณีที่ ลูกจ้างได้ย่ืนคําขอตามข้อ ๘ ต่อพนักงานตรวจแรงงาน ซงึ่ ปฏิบตั ิงานอยใู่ นราชการบรหิ ารสว่ นกลาง (๒) ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด มอบหมาย สําหรับกรณีที่ลูกจ้างได้ย่ืนคําขอตามข้อ ๘ ต่อพนักงานตรวจแรงงานซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในราชการ บรหิ ารส่วนภูมิภาค ให้ผู้มีอํานาจอนุมัติการจ่ายเงินสงเคราะห์ตามวรรค หน่งึ พจิ ารณาคาํ ขอใหแ้ ลว้ เสร็จภายในเจ็ดวนั ทําการนบั แต่ วันที่ไดร้ บั การเสนอจากพนกั งานตรวจแรงงานตามข้อ ๑๐ หรือข้อ ๑๒ แลว้ แตก่ รณี 8

ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะหล์ กู จา้ ง วา่ ดว้ ยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อตั ราเงนิ ทจ่ี ะจ่ายและระยะเวลาการจา่ ย (ฉบับแรก) พ.ศ. ๒๕๖๐ แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ แก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ ข้อ ๑๕ ให้สํานักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพ่มิ ความต่อไปน้ีเปน็ วรรคสี่ ของขอ้ ๑๕ กรุงเทพมหานครพื้นท่ีหรือสํานักงานสวัสดิการและ “ข้อ ๑๕ วรรคส่ี การระงับสิ้นไปของสิทธิในการรับเงิน คุ้มครองแรงงานจังหวัดท่ีลูกจ้างได้ยื่นคําขอตามข้อ ๘ สงเคราะห์ตามวรรคสาม ไมเ่ ป็นการตัดสิทธิของลูกจ้างในการ แล้วแต่กรณี มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาของบุคคลตาม ใช้สิทธิยื่นคําขอรับเงินสงเคราะห์ตามข้อ 7 ใหม่ ภายใน ข้อ ๑๔ แก่ลกู จ้างด้วยวิธีการท่กี ําหนดไวต้ ามมาตรา ๑๔๓ กําหนดเวลาตามขอ้ 8” แหง่ พระราชบญั ญัติคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ภายใน ห้าวันนบั แตว่ นั ทไ่ี ดร้ ับทราบผลการพิจารณาดังกล่าว กรณีตามวรรคหนึ่ง หากผลการพิจารณาของบุคคล ดังกล่าวอนุมตั ิให้จ่ายเงินสงเคราะห์แก่ลูกจ้างใหล้ ูกจ้างมา รับเงินสงเคราะห์ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ แจง้ ผลการพจิ ารณาดังกล่าว กรณีลูกจ้างไม่มารับเงินสงเคราะห์ภายในระยะเวลา ตามวรรคสอง ให้สิทธิในการรับเงินสงเคราะห์ดังกล่าว ระงบั สนิ้ ไป เพ่มิ วรรคสี่... “ข้อ 16 ... เพิ่มความตอ่ ไปนี้เป็นขอ้ 16 “ข้อ 16 กรณีลูกจ้างได้รับเงินสงเคราะห์จากกองทุน สงเคราะห์ลูกจ้างแล้ว แต่ในภายหลังพบว่าลูกจ้างเป็นผู้ไม่มี สิทธิตามข้อ 7 ให้พนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องท่ีท่ีมีคําสั่งให้ นายจ้างจ่ายค่าชดเชยหรือเงินอ่ืนมีหนงั สือแจ้งให้ลูกจ้างนําเงิน ดังกล่าวพร้อมดอกเบ้ียมาคืนแก่กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างด้วย วิธีการท่ีกําหนดไว้ตามมาตรา 143 แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ภายในหกสิบวันนับแตว่ นั ที่ได้รับ แจ้งเป็นหนังสอื ดังกลา่ ว” 9

ระเบยี บคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจา้ ง วา่ ดว้ ยการจา่ ยเงินสงเคราะห์ อัตราเงนิ ท่จี ะจ่ายและระยะเวลาการจา่ ย (ฉบบั แรก) พ.ศ. ๒๕๖๐ แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ แก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ บรรดาคําส่ังพนักงานตรวจแรงงานใดที่ออกก่อนระเบียบ บรรดาคําขอท่ีได้ย่ืนก่อนวันท่ีระเบียบฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ให้บังคับตามระเบียบคณะกรรมการ ให้บังคับตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อัตรา ว่าด้วยการจ่ายเงนิ สงเคราะห์ อตั ราเงินทีจ่ ะจ่ายและระยะเวลา เงนิ ทจ่ี ะจา่ ยและระยะเวลาการจ่าย พ.ศ. 2560 การจ่าย พ.ศ. 2560 และระเบียบคณะกรรมการกองทุน สงเคราะห์ลูกจ้างว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์อัตราเงินที่จะ จ่ายและระยะเวลาการจ่าย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. 2564 เรียบเรียงโดย ทวศี กั ด์ิ โพธิสม นกั วชิ าการแรงงาน สํานกั งานสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงาน จงั หวัดมหาสารคาม 10