Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มันหวาน 01

มันหวาน 01

Published by mam.yugun, 2020-05-19 23:37:03

Description: มันหวาน 01

Search

Read the Text Version

มันเทศ (Sweet potato) ช่อื วทิ ยาศาสตร์: Ipomoea batatas สายพนั ธ์ุท่เี หนือกว่า: สกลุ อโิ ปโมเอีย ชนั้ : สปีชีส์ มนั จะมอี ยดู่ ้วยกนั 2 ชนิด คอื ชนิดหวาน และชนิดไมห่ วาน โดยชนิดหวานเราจะเรียกวา่ “มนั เทศ” (Sweet potato) สว่ นชนิดไมห่ วานเราจะเรียกว่า “มนั ฝรั่ง” (Irish potato)

วิธีการปลกู การเลือกพืน้ ท่แี ละการเตรียมดินปลกู มนั เทศ 1.ถ้าเป็นท่นี าควรเลอื กทสี่ งู และระบายนา้ ได้ดี 2.ถ้าเป็นไปได้ไมค่ วรปลกู มนั เทศมาก่อน หากมีความ จาเป็นต้องปลกู ซา้ ท่เี ดิม ต้องทาการกาจดั แมลงในดินก่อน 3.สาหรับทีด่ อนและท่รี าบทวั่ ๆ ไปนนั้ สว่ นใหญ่จะปลกู ได้ เฉพาะฤดฝู น สว่ นทีอ่ ยใู่ นเขตการชลประทานสามารถจะ ปลกู มนั เทศได้ตลอดปี 4.การเตรียมดินควรไถให้ลกึ ประมาณ 25-30 เซนติเมตร 5.ตากดินไว้ 7-10 วนั และพรวนดิน 1-2 ครัง้ เพ่ือกาจดั วชั พืช และทาให้ดนิ มีสภาพร่วนซยุ แล้วจงึ ปรับระดบั เนือ้ ที่ ปลกู ให้เรียบสม่าเสมอกนั ควรใสป่ ๋ ยุ คอก หรือป๋ ยุ หมกั จากนนั้ จงึ พรวนดนิ เพื่อให้คลกุ เคล้าเข้ากนั 6.เม่ือเตรียมดินเสร็จเรียบร้อยแล้วกย็ กร่องหา่ งกนั 75-100 ซม. ยกร่องรูปสามเหล่ยี มขนึ ้ มา และทาการปลกู บนสนั ร่อง นนั้ ๆ

การเตรียมพนั ธ์ุปลูก การใช้ลาต้นหรือเถาปลกู สว่ นใหญ่ใช้ลาต้นท่ีแก่หลงั จาก เก็บเกี่ยวแล้ว โดยตดั เถาให้ยาวประมาณ 25-30 เซนติเมตร หรือมีข้อประมาณ 6-8 ข้อ การใช้เถานีน้ ิยมใช้สว่ นยอด มากกวา่ สว่ นอ่นื ๆ เพราะเจริญเติบโตและออกรากรวดเร็ว และไมเ่ ป็นทอี่ าศยั ของแมลงปีกแขง็ ทจี่ ะทาให้หวั มนั เทศ อาจมีไข่/ตวั ออ่ นแมลงอาศยั อยไู่ ด้

การปลูก ปลกู ทามมุ ประมาณ 45 องศากบั พืน้ ดนิ โดยใช้จอบสบั บนสนั ร่อง วางเถาบนรอยสบั ทามมุ ประมาณ 45 องศา ให้สว่ นปลายโผลเ่ หนือ ดนิ 3-4 ใบ การให้นา้ : ถ้าปลกู ฤดฝู น การให้นา้ เป็ นส่ิงท่ไี มจ่ าเป็ นแตต่ ้องระวงั เร่ืองการระบายนา้ โดยอยา่ ให้นา้ ทว่ ม และขงั อยู่ ถ้าหากปลกู ในฤดู แล้ง การให้นา้ เป็ นสงิ่ ทีจ่ าเป็ นระยะแรก 10-15 วนั ตอ่ ครัง้ และ ระยะหลงั 20-30 วนั ตอ่ ครัง้ โดยทาการปลอ่ ยให้นา้ ไหลเอ่อเข้าตาม ร่องในแปลงปลกู โดยให้ระดบั นา้ สงู 2 ใน 3 ของร่อง ปลอ่ ยนา้ ทงิ ้ ไว้ ในร่องสกั 1 คืน รีบระบายออกทงิ ้ เสีย การพรวนดนิ และกาจัดวัชพชื โดยเฉพาะการกาจดั วชั พืช จะต้องกระทาโดยเร็วท่สี ดุ เทา่ ท่ี จะทาได้ ถ้าหากเนือ้ ท่ปี ลกู มีขนาดเลก็ หลงั จากกาจดั วชั พืช แล้วควรพนู โคนด้วย ถ้าหากเนือ้ ทีม่ ีขนาดใหญ่ก็สามารถ กระทาได้โดยไถผา่ นระหว่างแถว การกระทาเชน่ นีจ้ ะทาได้ หลงั จากปลกู แล้ว 1 เดอื น การใสป่ ๋ ยุ : ควรใสป่ ๋ ยุ คอก หรือป๋ ยุ หมกั ลงในแปลงหลงั ไถ ตากดนิ ไว้และพรวนหรือคราดกลบ

การตัดแต่งและกลบเถามนั เทศ เม่ือมนั เทศเจริญเตบิ โต (อายุ 2 ถึง 2 เดอื นคร่ึง หลงั ปลกู ) มนั จะ ทอดยอดออกไปนอกแปลง ทาให้ข้อตดิ กบั ดนิ เกิดรากหยงั่ ลงดินและ เกิดหวั ได้ ทาให้หวั ทีเ่ กิดจากสว่ นท่เี กิดจากสว่ นที่ฝ่ังดนิ อยกู่ ่อนแล้ว เจริญเตบิ โตไมเ่ ต็มท่ี ควรมีการตอนหรือตดั ออกบ้าง แล้วตลบเถาที่ ทอดยอดออกไปนนั้ ไว้บนหลงั แปลง

การดูแลรักษามันเทศ การให้นา้ แม้วา่ มนั เทศจะเป็ นพืชทีป่ ลกู งา่ ยและทนแล้งได้ดี แตถ่ ้ามนั เทศขาดนา้ จนเถาเห่ยี วเฉาแล้ว จะมผี ลทาให้หวั ไมส่ มบรู ณ์ ดงั นนั้ ควรให้นา้ ให้ชืน้ อยเู่ สมอ นอกจากในฤดฝู น การให้นา้ แก่มนั เทศจะไม่ จาเป็ น ในระยะกอ่ นการเก็บเกี่ยวประมาณ 3-4 สปั ดาห์ ควรงดการ ให้นา้ ทงั้ นกี ้ ารเก็บเก่ียวจะสะดวกในสภาพดินแห้ง การให้ป๋ ยุ ป๋ ยุ ท่ีใช้กบั มนั เทศควรมีสดั สว่ นของไนโตรเจน : ฟอสฟอรัส : พอแตสเซียม = 1.5:1:2-2.5 เชน่ ป๋ ยุ สตู ร 10-10-20 ในอตั รา ประมาณ 50-100 กิโลกรัมตอ่ ไร่ นอกจากนคี ้ วรใช้ป๋ ยุ ยเู รีย และ แอมโมเนียมไนเตรด ร่วมด้วยในอตั รา 10-15 กิโลกรัมตอ่ ไร่ ป๋ ยุ สตู ร นคี ้ วรแบ่งใสเ่ ป็ นป๋ ยุ รองพืน้ กอ่ นปลกู คร่ึงหนง่ึ และอีกคร่ึงหนงึ่ ใสข่ ้าง แถวเม่ือมนั อายไุ ด้ 30 วนั หลงั จากปลกู แล้วพรวนดนิ กลบ ป๋ ุย ไนโตรเจน ก็ควรแบ่งใส่ 2 ครัง้ เชน่ กนั คอื ใสแ่ บบโรยข้างแถวเมอ่ื มนั อายุ 14 วนั และ 30 วนั ในดนิ ทรายควรใช้ป๋ ยุ มากกวา่ ในดนิ เหนยี ว หากดนิ มไี นโตรเจนมากเกินไป มนั เทศจะเจริญทางใบมากและจะทา ให้หวั เล็กผอม ความสาคญั ของธาตโุ ปแตสเซียมก็คือ จะทาให้มนั มี หวั สนั้ อ้วน ธาตโุ บรอม (B) มคี วามสาคญั ตอ่ มนั เทศเช่นกนั คอื ใน หวั มนั เทศที่ขาดธาตโุ บรอนนนั้ ตรงกลางหวั จะมีรอยแตกและเกิดสดี า การพรวนดินกาจดั วชั พืช ในระยะแรกทเี่ ถามนั เริ่มเจริญเติบโต ควร ปฏิบตั บิ อ่ ยๆ การพรวนดนิ เพื่อกาจดั วชั พืชนนั้ ควรพรวนดินกลบเถา มนั ด้วย เพื่อให้เถามนั ลงหวั ได้ดี และเมอ่ื เถามนั เร่ิมลงหวั แล้ว ก็ควร หยดุ การพรวนดนิ เพราะจะทาให้หวั มนั ได้รับความกระทบกระเทือน

การเกบ็ เก่ยี ว การเก็บเก่ียว : เมอื่ มนั เทศลงหวั หรือครบอายกุ ารเก็บเกี่ยวแล้ว ต้อง รีบเก็บเกี่ยวทนั ที หากทงิ ้ ไว้ในแปลงนานๆ จะถกู แมลงในดินเข้า ทาลายเสยี หายได้ การที่จะทราบว่าหวั มนั เทศพอทจ่ี ะเก็บเกี่ยวได้ หรือไมน่ นั้ ขนึ ้ อยกู่ บั ปัจจยั ดงั นี ้ 1.โดยดจู ากดนิ บริเวณโคนต้น จะแตกแยกอกเป็ นร่อง 2.สมุ่ ขดุ ขนึ ้ มาดปู ระมาณ 2-3 ต้น และใช้มดี ตดั หวั มนั เทศดู ถ้าแก่ จะมียางไหลซมึ ออกมาตรงบริเวณรอยตดั และจะแห้งไปอยา่ งรวดเร็ว 3.อายกุ ารเก็บเกี่ยวแตล่ ะพนั ธ์ุ ปกตจิ ะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในอายุ ประมาณ 90-150 วนั หลงั ปลกู วธิ ีการเกบ็ เก่ยี ว เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้เก็บเก่ียว (ขดุ ) ได้ผลดนี นั้ ก็คือ จอบ เสยี ม โดยระวงั อยา่ ให้หวั มนั เทศเป็ นแผล แตกหรือชา้ ได้เพราะจะทาให้ราคาตก และเก็บ ไว้ได้ไมน่ าน ก่อนเก็บเก่ียว (ขดุ ) ควรตดั เถา และใบมนั เทศออกไป ก่อนเพื่อให้สะดวกในการเก็บเกี่ยว และเปอร์เซ็นต์การสญู เสยี ก็จะ ลดลง

สรรพคุณของมนั เทศ หวั 1. หวั มนั เทศมีสรรพคณุ ช่วยลดไขมนั ในเลอื ดได้ ด้วยการนาผลมา ปรุงเป็ นอาหารรับประทาน 2. หวั ใช้ชงกบั นา้ ดมื่ ช่วยแก้กระหายนา้ แก้เมาคล่ืน 3. หวั มสี รรพคณุ เป็ นยาแก้บิด 4. หวั ใช้ชงกบั นา้ ดม่ื ช่วยบารุงม้ามไต 5. นา้ คนั้ จากหวั ใช้เป็ นยาทาแก้แผลไฟไหม้ได้ 6. ตารายาไทยจะใช้หวั นามาตาให้ละเอยี ดใช้พอกแผล รักษาเริม และงสู วดั 7. หวั ใช้ตาพอกเป็ นยาถอนพิษรักษาแผล ชว่ ยเร่งการสมานแผล ใบ 8. ใบใช้ตาพอกรักษาฝี ได้ หรือจะใช้ใบตาผสมกบั เกลอื ใช้พอกฝี ก็ได้ สว่ นตารับยาพืน้ บ้านล้านนาจะใช้ยอดและใบมนั เทศนามาตาผสมกบั ยอดและใบผกั ขมใบแดงเป็ นยาพอกฝี (ยอดและใบ) 9. ยอดออ่ นนามาแกงให้สตรีหลงั คลอดบตุ รรับประทานจะช่วยทาให้ มีนา้ นม (ยอดออ่ น) 10. ทงั ้ ต้นและหวั มีฤทธิ์ฆา่ เชือ้ แบคทีเรียและเชือ้ รา (ทงั้ ต้น,หวั ) 11. เถาใช้ต้มกบั นา้ ดืม่ เป็ นยาแก้ไขข้ออกั เสบ (เถา) 12. รากมีสรรพคณุ เป็ นยาระบาย (ราก)

ประโยชน์ของมนั เทศ เป็ นแหลง่ รวมของคาร์โบไฮเดรตชนั้ ดีซง่ึ เป็ นสารอาหารท่ีให้พลงั งานท่ี ไมก่ ่อพิษตอ่ ร่างกายเหมือนอาหารทถ่ี กู แปรรูปมาจากแป้ งและนา้ ตาล จึงเหมาะในการนามาบริโภคแทนข้าวได้ มนั เทศ 100 กรัม ประกอบ ไปด้วย พลงั งาน 86 กิโลแคลอรี โปรตีน 1.6 กรัม และแป้ ง 12.7 กรัม ยอดออ่ นสามารถรับประทานเป็ นผกั โดยปรุงใสใ่ นแกงส้ม หรือลวกจิม้ กินกบั นา้ พริกก็ได้เชน่ กนั ยอดออ่ นมนั เทศปริมาณ 100 กรัม ประกอบไปด้วย พลงั งาน 48 แคลอรี โปรตนี 3.6 กรัม แป้ ง 9.2 กรัม นา้ 85 กรัม ไขมนั 0.7 กรัม แคโรทีน 6,000 หนว่ ย วิตามนิ บี 1 0.12 มลิ ลกิ รัม วิตามินบี2 0.24 มิลลิกรัม วิตามนิ บี3 0.09 มลิ ลิกรัม และวิตามนิ ซี 27 มิลลกิ รัม

ประโยชน์ของมันเทศ เนอื ้ สเี หลือง หรือสีส้ม มีสารเบต้าแคโรทีน เมอื่ รับประทานเข้าไปจะ ยอ่ ยสลายกลายเป็ นวิตามนิ เอมสี ว่ นสาคญั ช่วยบารุงสายตา ชว่ ยการ มองเหน็ ตอนกลางคนื และลดความเสอื่ มของลกู ตาได้ เนอื ้ สีมว่ ง มสี ารแอนโทไซยานินสงู จดั เป็ นสารอาหารท่ีมีคณุ สมบตั ิ เป็ นสารต้านอนมุ ลู อิสระ ช่วยชะลอความเสอ่ื มของเซลล์ มีวิตามนิ ซี มากจงึ มีสว่ นชว่ ยในการชะลอวยั ช่วยบารุงผิวพรรณให้มสี ุขภาพดี และช่วยให้ผิวพรรณเปลง่ ปลง่ั สดใส มีไฟเบอร์ หรือเส้นใยอาหารมาก ดงั นนั้ เม่อื รับประทานเข้าไปจะทาให้รู้สกึ อิ่มเร็วและอ่มิ ได้นาน จงึ ถือ เป็ นอาหารท่ีเหมาะสาหรับผ้ตู ้องการควบคมุ นา้ หนกั หรือผ้ทู ี่ต้องการ ลดนา้ หนกั การศกึ ษาในหนพู บว่า มนั เทศมีสว่ นช่วยในการลดระดบั ไขมนั ใน เลือดได้ แตเ่ ร่ืองนยี ้ งั คงต้องการการศกึ ษาเพิ่มเติม ด้านอตุ สาหกรรม ได้มีการนามาใช้ประโยชน์ในการทาแป้ ง เส้นก๋วยเต๋ียว กาว ขนมขบ เคยี ้ ว อาหารบรรจกุ ระป๋ อง เหล้า แอลกอฮอล์ กาว และสว่ นผสมท่ี ใสใ่ นอาหารเด็ก เป็ นต้น ตามข้อมลู ของสมาคมเภสชั และอายรุ เวชโบราณแหง่ ประเทศไทยมี การระบไุ ว้วา่ มนั เทศมสี ว่ นชว่ ยในการกระต้นุ ภมู คิ ้มุ กันในร่างกาย ช่วยระบายท้อง ป้ องกนั อาการท้องผกู ลดระดบั นา้ ตาล ช่วยขบั พิษ บารุงผิว ชว่ ยในการชะลอวยั และช่วยรักษาโรคตาทีท่ าให้มองไมเ่ ห็น ในที่มืด

ขอขอบคณุ ข้อมลู และภาพประกอบ https://sites.google.com/site/mild56141010 117/khing


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook