Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนหน่วยที่ 2 ภาคเรียนที่1

แผนหน่วยที่ 2 ภาคเรียนที่1

Published by sumaphorn p, 2021-05-25 15:45:51

Description: แผนหน่วยที่ 2 ภาคเรียนที่1 วิชาภาษาไทย ป.6

Search

Read the Text Version

- เฉลย - สมาชิก ๑. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. ประธาน ๒. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. รองประธาน ๓. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. เลขานกุ ารกลุ่ม …๔…. …………………………………………………….………………………………….…………………………………………เลขท่ี …………….. ……..…สม…า…ชิก………..… ๕. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชิก ๖. ……………………………………………………………………….………………………………….…………… …เล…ข…ท…่ี ………….. ……สม…า…ช…กิ ..… คาชี้แจง ลากเสน้ การผันวรรณยุกตจ์ ากวลีหรอื ประโยคทีก่ าหนด คา แม่ค้าขายไก่ เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เอก สามญั แม่ ค้า ขาย ไก่

๑ จิ๊กเป็นเพื่อนกบ เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เป็น เพอ่ื น กบ คา เอก โอ ค่ะ คคาา สามญั จก๊ิ ๒ ฝนรักโอคะ่ เสียงวรรณยกุ ต์ จจตัตั ววาา ตตรรี ี โโทท รกั เเออกก สสาามมญญัั ฝน

๓ ปยิ ะพรวา่ ยนา้ เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เอก สามญั ยะ พร วา่ ย น้ํา คา ปิ แลว้ หรอื คา ๔ นนท์เก่ยี วข้าวแล้วหรอื เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เอก สามญั เกย่ี ว ขา้ ว นนท์

๕ กระแสชลวนเช่ยี ว เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เอก สามญั แส ชล วน เชย่ี ว คา กระ พลดั พราก คา เผล ๖ ผดิ เพยี งเพ้อเผลอพลัดพราก อ เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เอก สามญั เพยี เพอ้ ผดิ ง

แบบสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม คำชแ้ี จง ครปู ระเมินพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่มและให้คะแนนลงในช่องที่ตรงกบั พฤตกิ รรม เลขท่ี ชอื่ - สกลุ 1. คณะทำงำน รวม สรปุ 2. ควำมรับผิดขอบต่อห ้นำท่ี ผลกำรประเมนิ 3. ้ัขนตอนกำรทำงำน 4. ควำมร่วม ืมอในกำรทำงำน 5. กำรปฏิบัติงำนอย่ำง ีมควำม ุสข 6. เวลำ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผ่ำน ไม่ผำ่ น 1 เด็กชายธนายทุ ธ รอดแจ่ม 2 เดก็ หญงิ ปรชั ญา สารชัย 3 เดก็ ชายศรศี กั ด์ิ น้อยนาดี 4 เด็กชายธานินทร์ โอปาก 5 เด็กชายทนิ ภทั ร กอนศรี 6 เดก็ ชายชยั โย พลสามารถ 7 เดก็ หญิงขวญั ฤทยั ทองท้ยุ 8 เด็กหญงิ ชตุ นิ นั ท์ อินหลา้ 9 เดก็ หญิงองนุ่ อินทรเ์ รอื งศรี 10 เดก็ หญงิ ศยามล กิจเชื้อ 11 เด็กชายธนโชค สันปา่ แกว้ 12 เด็กชายภทั รวตั ศริ ไิ พบูลย์ 13 เด็กหญิงกาญจนา 14 เดก็ หญงิ สริ ินภา ออ่ งโสภา 15 เด็กหญิงณฐั ชา คมพทิ ักษ์ 16 เด็กหญงิ สกุ านดา ผิวขาว 17 เดก็ หญงิ มีนา อารกั วิรยิ ะ 18 เด็กชายววิ ัฒน์ ไตรรตั น์ 19 เดก็ ชายบวรศกั ดิ์ สระบัวทอง 20 เด็กหญิงปภาวี พานเมอื ง 21 เด็กชายธนวัฒน์ จาปาศรี 22 เด็กหญงิ เกวลนิ นาขม้ิน

23 เด็กชายธนากร ฟกั ใส 24 เดก็ หญงิ วรญั ญาพร ขารกั 25 เดก็ หญงิ ปาณิสรา สุวรรณ์ฉวี 26 เด็กหญงิ ปิยดา สริ ิ 27 เดก็ หญงิ ปยิ นดั สิริ 28 เดก็ หญิงสุธิดา แว่นศลิ า เกณฑก์ ำรประเมิน รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป (๑๑ คะแนนข้นึ ไป) ๑๕ – ๑๘ คะแนน ระดับ ดี ๑๑ – ๑๔ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ – ๑๐ คะแนน ระดบั ปรับปรุง ลงชือ่ ................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง)

รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมินพฤติกรรมกลมุ่ ประเดน็ การประเมนิ ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๑. คณะทางาน มปี ระธาน เลขานกุ าร ๒ ขาดองค์ประกอบ ๒ อย่าง ๒. ความรบั ผดิ ชอบ ผู้นาเสนอ ผ้รู ว่ มงาน ขาดองค์ประกอบ ๑ อย่าง ข้นึ ไป ตอ่ หนา้ ท่ี สมาชกิ มคี วามรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความ ๓.ขน้ั ตอนการทางาน และปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีของตนจน และปฏิบัติหน้าท่ขี องตนไม่ รบั ผิดชอบ และปฏบิ ัติ สาเรจ็ ทกุ คน สาเร็จ เป็นบางคน หน้าทข่ี องตนไมส่ าเร็จ ๑) คัดเลอื กเรือ่ งตาม ขาดขัน้ ตอน ๑ ขั้นตอน ขาดข้ันตอน ๒ ขัน้ ตอนขนึ้ ความสนใจของกลุ่ม หรือไมช่ ดั เจน ไปหรือไมช่ ัดเจน ๒) มกี ารวางแผน ๓) เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ ๔) ปฏิบัตติ ามแผน และพัฒนางาน ๔. ความร่วมมือ สมาชิกมีสว่ นร่วมทุกคน สมาชกิ มีสว่ นร่วมทกุ คน แต่ สมาชกิ มีส่วนรว่ มเป็นบาง ในการทางาน และให้ความรว่ มมอื ในการ มีบางคนให้ความรว่ มมือใน คนและให้ความรว่ มมือใน ๕. การปฏบิ ตั ิงาน อยา่ งมีความสุข ทางานอย่างเตม็ ท่ี การทางานไม่เต็มท่ี การทางานไม่ครบทุกคน ๖. เวลา สมาชิกร่วมกนั ปฏบิ ัตงิ าน สมาชกิ บางคนไมม่ ีความสุข สมาชกิ ทกุ คนไม่มีความสุข อยา่ งมีความสุขทุกคน ในการปฏิบตั ิงาน ในการปฏบิ ตั ิงาน งานเสรจ็ ตามกาหนดเวลา งานเสร็จไมท่ ันตาม งานเสร็จไมท่ ันตาม และมีคุณภาพ กาหนดเวลาแตง่ านมี กาหนดเวลาและงานไม่มี คณุ ภาพ คณุ ภาพ

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทตี่ รงกับระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ดา้ น ๓๒๑ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ ๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ กษัตริย์ ๑.๒ เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ีสรา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเป็น ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ๑.๓ เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา ๑.๔ เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีเก่ียวกบั สถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ามท่ี โรงเรยี นจดั ขึ้น ๒. ซ่ือสัตย์ สจุ รติ ๒.๑ ให้ข้อมูลทถี่ ูกต้อง และเปน็ จริง ๒.๒ ปฏบิ ัตใิ นสงิ่ ท่ีถูกตอ้ ง ๓. มวี นิ ยั ๓.๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว รบั ผิดชอบ มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรมต่างๆ ใน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ชวี ิตประจาวัน ๔.๑ รู้จักใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ิได้ ๔.๒ รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม ๔.๓ เชอ่ื ฟังคาสัง่ สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง ๔.๔ ตั้งใจเรยี น ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด พอเพียง ๕.๒ ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยดั และรูค้ ุณคา่ ๕.๓ ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน ๖. ม่งุ มัน่ ในการ ๖.๑ มีความตั้งใจและพยายามในการทางานที่ได้รบั มอบหมาย ทางาน ๖.๒ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสาเรจ็ ๗. รกั ความเป็นไทย ๗.๑ มีจติ สานึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย ๘. มีจติ สาธารณะ ๘.๑ รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน ๘.๒ รู้จกั การดูแล รักษาทรัพยส์ มบตั แิ ละสิง่ แวดล้อมของหอ้ งเรียน โรงเรยี น ลงช่อื ................................................... ผปู้ ระเมิน ............... /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรม คะแนน คะแนน ความหมาย อย่างสม่าเสมอ ๓ บอ่ ยคร้งั ๒ ๔๖-๖๐ ดี บางครง้ั ๑ ๓๐-๔๕ พอใช้ ตา่ กว่า ๓๐ ปรับปรงุ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๘ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภาคการเรียนที่ ๑ ปี ๒๕๖4 รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๖๑๐๑ เวลา ๙ ชวั่ โมง หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เร่ือง ควาย ข้าว และชาวนา เวลา ๑ ช่วั โมง เรือ่ ง ความหมายของคา โรงเรยี นชมุ ชนวัดบางขัน ผูส้ อน นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง ๑. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ความหมายตรงและความหมายเปรียบเทียบ หรือความหมายแฝง และคาพ้องหรือคาไวพจน์ มี ประโยชน์ในการเขียนและการพูด ผู้เขียนผู้พูดต้องเลือก คานามาใช้ให้ถูกต้องเหมาะสมกับการสื่อสาร ผู้ที่จะ เลอื กใชค้ าใหถ้ ูกต้องเหมาะสมไดนน้ั จะต้องมคี วามรูเรอื่ งความหมายของคา หน้าทข่ี องคา และความเหมาะสม ในเลอื กใชค้ าเปน็ อยา่ งดี เพ่ือใหส้ ามารถนาไปใช้สื่อสารได้ถูกตอ้ ง ๒. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของ ภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้ เปน็ สมบัติของชาติ ตวั ช้วี ัด ท ๔.๑ ป.๖/๑ วเิ คราะหช์ นิดและหนา้ ทีข่ องคาในประโยค ๓. จดุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. ใช้คาที่มีความหมายตรงและความหมายแฝงได้ ๒. ร้จู ักคาและความหมายของคาพ้องความ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (K) - ความหมายตรงและความหมายแฝง - คาพ้องความ หรือคาไวพจน์ ทักษะ/กระบวนการ (P) - การเลอื กใช้คาได้ถูกต้องเหมาะสมกับการสอ่ื สาร เจตคติ (A) - ตระหนกั และเห็นคุณค่าของภาษาไทย - รกั ความเป็นไทย ใชภ้ าษาแสวงหาความรู้เพื่อพฒั นาตนเอง - มมี ารยาทในการอ่าน การเขียน การฟงั การดู และการพูด ๕. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดวิเคราะห์

๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ - กระบวนการทางานกลมุ่ - กระบวนการปฏิบตั ิ ๖. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๗. มวี นิ ยั ๘. ใฝ่เรยี นรู้ ๙. มุ่งม่ันการทางาน ๗. ชน้ิ งาน/ภาระงาน - ใบงาน ความหมายตรง ความหมายแฝง ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นา ๑. ครูยกตัวอย่างประโยค “เขาฝึกโดดร่ม” กับ “อาร์ท วันนี้เราโดดร่มไปเที่ยวเดอะมอลล์กันดีกว่า” ครูใหน้ ักเรยี นแสดงความคดิ เห็นคาว่า โดดร่ม จากทงั้ สองประโยคน้ตี า่ งกนั อย่างไร ๒. ครูอธิบาย “เขาฝึกโดดร่วม” โดดร่ม เป็นคากริยาตัวลงจากเคร่ืองบินโดยมีร่มชูชีพ แต่ “อาร์ท วันนเ้ี ราโดดรม่ ไปเทย่ี วเดอะมอลลก์ นั ดีกวา่ ” โดดร่ม หมายถงึ หนีงาน ๓. ครูเช่ือมโยงเข้าสบู่ ทเรียน คา ประกอบด้วย รูป เสียง และความหมาย ในส่วนของความหมายของ คาน้นั จะมอี ยู่ ๒ แบบ ความหมายตรง และความหมายเปรียบเทียบ ขัน้ สอน ๔. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๖ คน โดยใช้กลุ่มเดิม แต่เลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ กลุ่มใหม่ ไมใ่ ห้ซา้ เดมิ ๕. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มหาความหมายตรงและความหมายเปรียบเทยี บของคาต่อไปนี้ และแตง่ ประโยค ประกอบ โดยศึกษาจากหนังสือเรียน ภาษาพาที และใบความรู้ เร่ือง ความหมายตรง ความหมายแฝงและคา ไวพจน์ จงู จมูก คอยฝน ก้นบาตร ข้าวแดงแกงร้อน สซี อให้ควายฟัง ๖. ตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน โดยครูและนักเรียนช่วยกันสรุป อภิปราย แสดงความ คดิ เห็นจากสมาชกิ ของกลุ่มท่อี อกมานาเสนอรายงานหนา้ ชน้ั เรียน และเตมิ เตม็ ในสว่ นทไ่ี มส่ มบูรณ์ ๗. ครูอธิบายความหมายของคาไวพจน์ (คาพ้องความ) คือ คาท่ีมีความหมายเหมือนกันแต่มีรูป ต่างกนั เชน่ นา้ - ชล วารี นทีสาคร คงคา ชลาลยั ชลธาร ชลธี อทุ ก ธารา พระอาทิตย์ - สรุ ยิ า สุริยะ ทิพากร ทินกร รวี ตะวัน สุริยน คาพดู - วาจา วจี พจนา ถอ้ ย ๘. ครูอธิบายเพม่ิ เติมในการใช้คาไวพจน์ ต้องใชใ้ หเ้ หมาะกับกาลเทศะและบุคคลเชน่

- พระอาทติ ยส์ ่องแสงให้ความสวา่ งแก่ผืนโลก (ใช้ในภาษาท่ัวไป) - ทนิ กรรอ้ นแรงสาดแสงจา้ (ใชใ้ นคาประพนั ธ)์ ๙. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรียนได้ซกั ถามขอ้ สงสัย ๑๐. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงาน เรือ่ ง ความหมายตรง ความหมายแฝง และคาไวพจน์ ข้นั สรุป ๗. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปบทเรียน เร่ือง คาท่ีมีความหมายตรง ความหมายแฝง และคาไวพจน์ เน้นใหน้ ักเรยี นนาไปใชใ้ นใหถ้ ูกตอ้ งในชีวิตประจาวนั ๙. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรยี น ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ๒. ใบความรู้ เร่ือง ความหมายตรง ความหมายแฝง และคาไวพจน์ ๓. ใบงาน เรอ่ื ง ความหมายตรง ความหมายแฝง และคาไวพจน์ ๑๐. การวดั และการประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์ วิธีการ แบบประเมินใบงานคาทีม่ ี รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป ตรวจใบงานคาที่มคี วามหมายตรง ความหมายตรง ความหมายแฝง ผา่ นเกณฑ์ ความหมายแฝง และคาไวพจน์ และคาไวพจน์ สงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนรว่ ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป ผา่ น ในกิจกรรมกลมุ่ สังเกตพฤตกิ รรมความมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ เกณฑ์ และมุง่ ม่ันการทางาน แบบประเมินคณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ อันพงึ ประสงค์ ขนึ้ ไป

บนั ทกึ หลังสอน ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรียนจานวน.........................................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้โู ดยรวม......................คน คดิ เป็นร้อยละ.............................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรโู้ ดยรวม..................คน คิดเป็นร้อยละ.............................. ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษ/นกั เรียนเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นักเรยี นทไ่ี ม่ผ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านความรู้ (K) จานวน............................คน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………นักเรียน ที่ไม่ผา่ นการประเมนิ จุดประสงคด์ ้านทักษะ (P) จานวน.............................คน ไดแ้ ก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………นกั เรียน ทีไ่ ม่ผา่ นการประเมินจุดประสงคด์ ้านเจตคติ (A) จานวน............................คน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ (จากปญั หาอปุ สรรค) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.....................................ครผู ้สู อน (นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง) ตาแหน่ง ครู …………./……………./…………

สื่อการเรยี นรู้และแบบประเมิน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๒ เรอ่ื ง ควาย ข้าวและชาวนา แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๘ เรอ่ื ง ความหมายของคา

คา ประกอบด้วยเสียง และความหมาย เมื่อพิจารณาด้านความหมายพบว่า ความหมายของคามีอยู่ ๒ แบบ คือ ความหมายตรง และความหมายเปรียบเทียบหรือ ความหมายแฝง ความหมายตรง ความหมายเปรียบเทียบ (แฝง) เสอื เสอื เป็นสตั วก์ นิ เนื้ออาศยั อยใู่ นปา่ ดาว คนื นี้ไม่มีเมฆฝน เรามองเห็นดาว เสือใบเปน็ โจรท่ดี ุรา้ ย เธอเปน็ ดาวเด่นของโรงเรียน สุกสวา่ งในทอ้ งฟา้ ซูโม่ ผมชอบดกู ารแขง่ ขนั ของซโู ม่ พช่ี ายของฉันตวั อ้วนใหญเ่ ปน็ ซโู ม่ คาบางคาเขียนตา่ งกนั แตม่ ีความหมายเหมอื นกนั หรอื ใกล้เคียงกนั มาก เช่น คน - มนุษย์ พระจันทร์ - ศศิธร ตาย - เสยี ชีวติ กิน - รับประทาน คาพูด - วจี คาเหล่านี้เรียกว่า คาพ้องความ หรือคาไวพจน์ เมื่อจะใช้คาเหล่านี้ควรเลือกใช้ให้ เหมาะกบั กาลเทสะ และบุคคล โดยพิจารณากลมุ่ คาข้างเคยี ง หรือบริบทในประโยค เชน่ พระจนั ทร์มแี สงนวลเยน็ ตา (ใชใ้ นภาษาทว่ั ไป) ศศิธรแจม่ กระจา่ งกลางนภา (ใช้ในคาประพนั ธ์) เจา้ พระยาเปน็ ชอ่ื แมน่ ้าสายสาคัญของประเทศไทย (ใช้ในภาษาทั่วไป) หากตราบใดสายนทยี ังรไ่ี หล (ใชใ้ นคาประพนั ธ)์ เด็กๆกาลงั กนิ ข้าวทโี่ รงอาหาร (ใช้ในภาษาพูดทว่ั ไป) วนั นี้คณุ ย่ารับประทานอาหารไดม้ าก (ใช้ในภาษาสภุ าพ)

ชื่อ – สกุล ………………………………………………………………… เลขที่ ………………. ตอนที่ ๑ ใหน้ ักเรยี นบอกความหมายตรง ความหมายแฝงและแต่งประโยคให้สมบูรณ์ คา ความหมายตรง ความหมายแฝง มอื ขวา มือข้างขวา ลูกน้องคนสาคัญที่เจานายไวใจให้ ทางานสาคัญแทน ประโยค มดถูกมีดบาดมือขวา คมกฤชเปน็ มือชวาของกานัน ๑. จบั มอื …………………………………………….. ………………………………………………… ประโยค ……………………………………………… …………………………………………………. …………………………………………….. ………………………………………………… ……………………………………………… …………………………………………………. ๒. แมพ่ มิ พ์ …………………………………………….. ………………………………………………… ประโยค ……………………………………………… …………………………………………………. …………………………………………….. ………………………………………………… ……………………………………………… …………………………………………………. ๓. นางฟ้า …………………………………………….. ………………………………………………… ประโยค ……………………………………………… …………………………………………………. …………………………………………….. ………………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………….

คา ความหมายตรง ความหมายแฝง ๔. เข้าหู …………………………………………….. ………………………………………………… ประโยค ……………………………………………… …………………………………………………. …………………………………………….. ………………………………………………… ……………………………………………… …………………………………………………. ๕. ปลาซิว …………………………………………….. ………………………………………………… ประโยค ……………………………………………… …………………………………………………. …………………………………………….. ………………………………………………… ……………………………………………… …………………………………………………. ตอนท่ี ๒ ใหน้ ักเรียนนาคาพ้องที่กาหนดจบั กลุ่มให้ถูกต้อง ๑. นที นที ไพรี ภูผา ผกา ๒. ไพรี บหุ งา ครี ี พนาวนั คงคา ๓. ภผู า วารี ไพรสณั ฑ์ บรรพต บุษบา ๔. ผกา มาลา สงิ ขร พนา ชลธาร สาคร พงพี ไศล มาลี

- เฉลย - ชือ่ – สกุล ………………………………………………………………… เลขที่ ………………. ตอนที่ ๑ ใหน้ กั เรียนบอกความหมายตรง ความหมายแฝงและแต่งประโยคให้สมบูรณ์ คา ดุลยพนิ จิ ครผู ้สู อน มอื ขวา ความหมายตรง ความหมายแฝง ประโยค มอื ขา้ งขวา ลกู นอ้ งคนสาคัญที่เจานายไวใจให้ ทางานสาคัญแทน มดถูกมดี บาดมือขวา คมกฤชเปน็ มือชวาของกานนั ๑. จบั มือ …………………………………………….. ………………………………………………… ประโยค ……………………………………………… …………………………………………………. …………………………………………….. ………………………………………………… ……………………………………………… …………………………………………………. ๒. แมพ่ มิ พ์ …………………………………………….. ………………………………………………… ประโยค ……………………………………………… …………………………………………………. …………………………………………….. ………………………………………………… ……………………………………………… …………………………………………………. ๓. นางฟ้า …………………………………………….. ………………………………………………… ประโยค ……………………………………………… …………………………………………………. …………………………………………….. ………………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………….

คา ความหมายตรง ความหมายแฝง ๔. เขา้ หู …………………………………………….. ………………………………………………… ประโยค ……………………………………………… …………………………………………………. …………………………………………….. ………………………………………………… ……………………………………………… …………………………………………………. ๕. ปลาซิว …………………………………………….. ………………………………………………… ประโยค ……………………………………………… …………………………………………………. …………………………………………….. ………………………………………………… ……………………………………………… …………………………………………………. ตอนที่ ๒ ใหน้ กั เรยี นนาคาพ้องท่ีกาหนดจับกลมุ่ ให้ถูกต้อง ๑. นที นที ไพรี ภผู า ผกา ๒. ไพรี บหุ งา ครี ี พนาวัน คงคา ๓. ภผู า วารี ไพรสณั ฑ์ บรรพต บษุ บา ๔. ผกา มาลา สิงขร พนา ชลธาร สาคร พงพี ไศล มาลี คงคา วารี ชลธาร สาคร พนาวัน ไพรสณั ฑ์ พนา พงพี คีรี บรรพต สงิ ขร ไศล บหุ งา บุษบา มาลา มาลี

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกลุ่ม คำชีแ้ จง ครูประเมินพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลมุ่ และให้คะแนนลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤตกิ รรม เลขท่ี ชอื่ - สกลุ 1. คณะทำงำน รวม สรปุ 2. ควำมรับผิดขอบต่อห ้นำท่ี ผลกำรประเมิน 3. ้ัขนตอนกำรทำงำน 4. ควำมร่วม ืมอในกำรทำงำน 5. กำรปฏิบัติงำนอย่ำง ีมควำม ุสข 6. เวลำ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผำ่ น ไม่ผ่ำน 1 เดก็ ชายธนายุทธ รอดแจม่ 2 เด็กหญิงปรชั ญา สารชยั 3 เด็กชายศรศี ักด์ิ นอ้ ยนาดี 4 เดก็ ชายธานินทร์ โอปาก 5 เดก็ ชายทินภัทร กอนศรี 6 เดก็ ชายชัยโย พลสามารถ 7 เด็กหญงิ ขวัญฤทยั ทองทุย้ 8 เด็กหญงิ ชุตนิ นั ท์ อินหลา้ 9 เด็กหญิงองุ่น อินทรเ์ รอื งศรี 10 เด็กหญงิ ศยามล กิจเช้อื 11 เด็กชายธนโชค สนั ปา่ แก้ว 12 เด็กชายภัทรวตั ศริ ิไพบูลย์ 13 เด็กหญิงกาญจนา 14 เด็กหญงิ สิรนิ ภา อ่องโสภา 15 เด็กหญิงณัฐชา คมพทิ ักษ์ 16 เดก็ หญิงสกุ านดา ผิวขาว 17 เด็กหญิงมนี า อารกั วริ ยิ ะ 18 เดก็ ชายววิ ฒั น์ ไตรรัตน์ 19 เดก็ ชายบวรศักดิ์ สระบัวทอง 20 เด็กหญิงปภาวี พานเมอื ง 21 เด็กชายธนวฒั น์ จาปาศรี 22 เด็กหญิงเกวลิน นาขมิน้ 23 เด็กชายธนากร ฟักใส

24 เด็กหญิงวรญั ญาพร ขารัก 25 เดก็ หญงิ ปาณิสรา สวุ รรณ์ฉวี 26 เดก็ หญิงปิยดา สิริ 27 เดก็ หญิงปยิ นดั สริ ิ 28 เดก็ หญิงสธุ ดิ า แวน่ ศิลา เกณฑ์กำรประเมิน ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป (๑๑ คะแนนข้นึ ไป) ๑๕ – ๑๘ คะแนน ระดบั ดี ๑๑ – ๑๔ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ – ๑๐ คะแนน ระดับ ปรับปรงุ ลงชือ่ ................................................ผ้ปู ระเมิน (นางสาวพชิ ามญชุ์ นาถมทอง)

รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมินพฤติกรรมกลมุ่ ประเดน็ การประเมนิ ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๑. คณะทางาน มปี ระธาน เลขานกุ าร ๒ ขาดองค์ประกอบ ๒ อย่าง ๒. ความรบั ผดิ ชอบ ผู้นาเสนอ ผ้รู ว่ มงาน ขาดองค์ประกอบ ๑ อย่าง ข้นึ ไป ตอ่ หนา้ ท่ี สมาชกิ มคี วามรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความ ๓.ขน้ั ตอนการทางาน และปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีของตนจน และปฏิบัติหน้าท่ขี องตนไม่ รบั ผิดชอบ และปฏบิ ัติ สาเรจ็ ทกุ คน สาเร็จ เป็นบางคน หน้าทข่ี องตนไมส่ าเร็จ ๑) คัดเลอื กเรือ่ งตาม ขาดขัน้ ตอน ๑ ขั้นตอน ขาดข้ันตอน ๒ ขัน้ ตอนขนึ้ ความสนใจของกลุ่ม หรือไมช่ ดั เจน ไปหรือไมช่ ัดเจน ๒) มกี ารวางแผน ๓) เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ ๔) ปฏิบัตติ ามแผน และพัฒนางาน ๔. ความร่วมมือ สมาชิกมีสว่ นร่วมทุกคน สมาชกิ มีสว่ นร่วมทกุ คน แต่ สมาชกิ มีส่วนรว่ มเป็นบาง ในการทางาน และให้ความรว่ มมอื ในการ ทางานอย่างเตม็ ท่ี มีบางคนให้ความรว่ มมือใน คนและให้ความรว่ มมือใน ๕. การปฏบิ ตั ิงาน อยา่ งมีความสุข สมาชิกร่วมกนั ปฏบิ ัตงิ าน การทางานไม่เต็มท่ี การทางานไม่ครบทุกคน ๖. เวลา อยา่ งมีความสุขทุกคน สมาชกิ บางคนไมม่ ีความสุข สมาชกิ ทกุ คนไม่มีความสุข งานเสรจ็ ตามกาหนดเวลา ในการปฏิบตั ิงาน และมีคุณภาพ ในการปฏบิ ตั ิงาน งานเสร็จไมท่ ันตาม งานเสร็จไมท่ ันตาม กาหนดเวลาแตง่ านมี กาหนดเวลาและงานไม่มี คณุ ภาพ คณุ ภาพ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น ๓๒๑ ๑. รักชาติ ศาสน์ ๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ กษตั ริย์ ๑.๒ เข้าร่วมกจิ กรรมท่สี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็น ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ๑.๓ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา ๑.๔ เข้าร่วมกจิ กรรมที่เกย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามที่ โรงเรยี นจัดข้นึ ๒. ซือ่ สัตย์ สจุ รติ ๒.๑ ให้ขอ้ มลู ทถี่ ูกต้อง และเปน็ จริง ๒.๒ ปฏิบตั ิในสง่ิ ทถี่ ูกตอ้ ง ๓. มวี นิ ัย ๓.๑ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของครอบครวั รับผดิ ชอบ มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่างๆ ใน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ชีวติ ประจาวัน ๔.๑ รจู้ กั ใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ิได้ ๔.๒ รูจ้ กั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม ๔.๓ เช่ือฟงั คาส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง ๔.๔ ตัง้ ใจเรียน ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใชท้ รพั ย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั พอเพียง ๕.๒ ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และร้คู ณุ คา่ ๕.๓ ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเก็บออมเงิน ๖. มุ่งม่นั ในการ ๖.๑ มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย ทางาน ๖.๒ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสาเร็จ ๗. รกั ความเป็นไทย ๗.๑ มจี ิตสานกึ ในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย ๘. มีจติ สาธารณะ ๘.๑ รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน ๘.๒ ร้จู กั การดแู ล รกั ษาทรัพย์สมบตั แิ ละสิง่ แวดลอ้ มของห้องเรียน โรงเรยี น ลงชอ่ื ................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรม คะแนน คะแนน ความหมาย อยา่ งสมา่ เสมอ ๓ บอ่ ยคร้ัง ๒ ๔๖-๖๐ ดี บางคร้งั ๑ ๓๐-๔๕ พอใช้ ตา่ กวา่ ๓๐ ปรับปรุง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๙ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ภาคการเรยี นที่ ๑ ปี ๒๕๖4 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๖๑๐๑ เวลา ๙ ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เร่ือง ควาย ขา้ ว และชาวนา เวลา ๑ ช่วั โมง เร่ือง การเขยี นส่ือสาร โรงเรยี นชมุ ชนวัดบางขนั ผ้สู อน นางสาวพชิ ามญช์ุ นาถมทอง ๑. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเขียนเพื่อสื่อสารความรู ความคิด ความเข้าใจ และความต้องการ ผู้เขียนควรรูจักการเลือกใช้ ภาษาและรปู แบบของการเขยี นทีส่ อดคลองเหมาะสมกบั จุดประสงค์การเขียน การใช้ภาษานัน้ ตอ้ งใชค้ าถูกต้อง ตรงตามความหมาย เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล ๒. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนสอ่ื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียน เร่อื งราวในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาค้นควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ตวั ช้ีวัด ท ๒.๑ ป.๖/๒ เขยี นสอื่ สารโดยใช้คาไดถ้ ูกต้องชดั เจน และเหมาะสม ๓. จุดระสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกหลกั การเขียนสือ่ สารได ๒. เลือกใช้คาได้ถกู ต้องเหมาะสม ๔. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (K) - การเขียนสือ่ สาร ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - การเลอื กใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร เจตคติ (A) - ตระหนักและเห็นคุณค่าของภาษาไทย - รกั ความเป็นไทย ใช้ภาษาแสวงหาความรู้เพื่อพฒั นาตนเอง - มมี ารยาทในการอา่ น การเขยี น การฟงั การดู และการพูด ๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคดิ วิเคราะห์ ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

- กระบวนการทางานกลุ่ม - กระบวนการปฏบิ ตั ิ ๖. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - มีวินัย - ใฝเ่ รยี นรู้ - มุง่ มนั่ การทางาน ๗. ชนิ้ งาน/ภาระงาน ๑. ใบงาน เรื่อง การเขียนส่ือสาร ๒. ใบงาน เรอ่ื ง คาขวญั ๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนา ๑. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๖ คน โดยใชก้ ลุม่ เดมิ แตเ่ ลือกประธาน รองประธานและเลขานกุ าร กลุ่มใหม่ ไม่ใหซ้ า้ เดิม ขนั้ สอน ๒. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มทาใบงาน เรื่อง การเขยี นส่อื สาร โดยบอกถงึ จดุ ประสงค์ การใช้ภาษาและ รูปแบบการเขยี น โดยศึกษาความรูจ้ ากหนงั สอื เรยี น ยกตวั อยา่ งเชน่ ตวั อย่างรูปแบบงานเขียน จุดประสงค์ เขยี นบอกถงึ เวบ็ ไซต์ sanook สามารถตรวจสอบผลแอดมชิ ช่นั ได้ การใช้ภาษา กระชับเขา้ ใจง่าย รูปแบบการเขียน โฆษณาเชญิ ชวน ๓. ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลงาน โดยครูเปน็ ผตู้ รวจสอบและอธิบายเพม่ิ เติม ๔. ครยู กตัวอยา่ งคาขวัญวนั เด็ก ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๒ พล.อ. ประยทุ ธ์ จนั ทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ไว้เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ๒๕๖๒ ว่า “เดก็ ดี หมน่ั เพยี ร เรียนรู้ สอู่ นาคต” ๕. ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกนั บอกถึงลักษณะของคาขวัญ ๖. ครูอธิบายเพิ่มเติม คาขวัญ คือข้อความท่ีเรียบเรียงข้ึนด้วยสานวนภาษา ที่กะทัดรัด เพื่อ เสริมสรา้ งกาลังใจหรอื ชแ้ี นะใหเ้ ห็นสิ่งทีถ่ กู ตอ้ ง ดงี ามเพื่อให้ผู้อ่านไดป้ ฏิบัติตามในคาเชิญชวนนน้ั ๆ ๗. นักเรียนแต่งคาขวัญรณรงค์ลดภาวะลดโลกร้อน ลงในใบงาน เรื่อง คาขวัญ แล้วนาเสนอหน้าชั้น เรียน

ขน้ั สรปุ ๘. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเรื่องการเขียนสื่อสาร เพ่ือให้ถูกต้องตามกาลเทศะและบุคคลและ นาไปใช้ในชีวิตประจาวันให้ถูกต้องเหมาะสม และการเขียนคาขวัญ เป็นการเขียนส่ือสารโดยใช้ ถ้อยคาหรือ ข้อความ ท่ีแต่งข้ึนเพ่ือเป็นเคร่ืองเตือนใจ แสดงอุดมคติ หรือเป้าหมายของกลุ่มหรือองค์กรนั้นๆ เช่น คาขวัญ วันเด็ก คาขวัญประจาโรงเรียน เป็นต้น หรือถ้อยคาหรือข้อความ ที่แต่งขึ้นมาเพื่อบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ คณุ สมบตั ิ ความโดดเด่น เช่น คาขวญั ประจาจงั หวัด ๙. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพอื่ ชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๒. ใบงาน เรื่อง การเขียนสื่อสาร ๓. ใบงาน เร่อื ง คาขวัญสอื่ สาร ๑๐. การวดั และการประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์ วธิ กี าร ใบงาน เรือ่ ง การเขียนสื่อสาร รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป ตรวจใบงาน เรือ่ ง การเขยี นสื่อสาร ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานา เร่ือง คาขวัญ แบบประเมนิ คาขวญั เพ่ือการส่อื สาร ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป สงั เกตพฤติกรรมการมีส่วนรว่ ม ในกิจกรรมกล่มุ ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมความมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มน่ั การทางาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ระดับพอใช้ อนั พงึ ประสงค์ ขึ้นไป

บนั ทกึ หลังสอน ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรียนจานวน.........................................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้โู ดยรวม......................คน คดิ เป็นร้อยละ.............................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรโู้ ดยรวม..................คน คิดเป็นร้อยละ.............................. ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษ/นกั เรียนเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นักเรยี นทไ่ี ม่ผ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านความรู้ (K) จานวน............................คน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………นักเรียน ที่ไม่ผา่ นการประเมนิ จุดประสงคด์ ้านทักษะ (P) จานวน.............................คน ไดแ้ ก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………นกั เรียน ทีไ่ ม่ผา่ นการประเมินจุดประสงคด์ ้านเจตคติ (A) จานวน............................คน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ (จากปญั หาอปุ สรรค) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.....................................ครผู ้สู อน (นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง) ตาแหน่ง ครู …………./……………./…………

สื่อการเรียนรู้และแบบประเมนิ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ เรื่อง จากผาแตม้ ...สู่อยี ิปต์ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๙ เรื่อง การเขียนส่ือสาร

สมาชกิ เลขท่ี …….. ประธาน ๑. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. รองประธาน ๒. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. เลขานกุ ารกลุ่ม ๓. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชกิ ๔. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชิก ๕. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชกิ ๖. ……………………………………………………………………… คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนบอกถึงจุดประสงค์ การใชภ้ าษาและรปู แบบการเขียน จากตวั อยา่ ง งานเขียนที่กาหนดให้ จดุ ประสง เขยี นบอกถงึ เวบ็ ไซต์ sanook ตรวจสอบผลแอดมชิ ชนั่ ได้ ค์ กระชบั เขา้ ใจงา่ ย การใช้ภาษา รปู แบบการ โฆษณาเชญิ ชวน เขียน

๑. จดุ ประสง ……………….…………............................................................... ค์ ............. การใช้ภาษา …………….…………............................................................ ................ รปู แบบการ …………….…………............................................................. เขียน ....................

๒. จดุ ประสง ……………….…………............................................................... ค์ ............. การใช้ภาษา …………….…………............................................................ ................ รปู แบบการ …………….…………............................................................. เขียน ....................

๓. จดุ ประสง ……………….…………............................................................... ค์ ............. การใช้ภาษา …………….…………............................................................ ................ รปู แบบการ …………….…………............................................................. เขียน ....................

ช่ือ – สกลุ ………………………………………………………………… เลขท่ี ………………. คาชีแ้ จง ให้นักเรียนแต่งคาขวัญเขยี นรณรงค์ลดภาวะลดโลกรอ้ น

- เฉลย - -- สมาชิก เลขท่ี …….. ประธาน ๑. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. รองประธาน ๒. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. เลขานุการกลุ่ม ๓. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชกิ ๔. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชกิ ๕. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชิก ๖. ……………………………………………………………………… คาชีแ้ จง ให้นักเรียนบอกถงึ จุดประสงค์ การใชภ้ าษาและรูปแบบการเขียน จากตัวอย่าง งานเขยี นที่กาหนดให้ จดุ ประสง เขยี นบอกถงึ เวบ็ ไซต์ sanook ตรวจสอบผลแอดมชิ ชนั่ ได้ กคาร์ ใช้ภาษา กระชบั เขา้ ใจงา่ ย รปู แบบการ โฆษณาเชญิ ชวน เขียน

๑. จดุ ประสง เขยี นบอกถงึ การเรม่ิ ตน้ ฤดูฝน ปี ๒๕๕๘. ค์ การใช้ภาษา ภาษาทางการสอดคลอ้ งกบั ประกาศราชการ รปู แบบการ ประกาศราชการ เขียน

๒. จดุ ประสง เขยี นเลา่ เรอ่ื งเมนูอาหารสาํ หรบั เดก็ ทร่ี บั ประทานอาหารยาก ค์ การใช้ภาษา ใชภ้ าษาไมเ่ ป็นทางการ รปู แบบการ บทความ... เขียน

๓. จดุ ประสง เขยี นใหค้ วามรผู้ ลงานวจิ ยั การใชแ้ บบฝึกทกั ษะ ป.๕ ค์ การใช้ภาษา ภาษาทางการ รปู แบบการ บทความวชิ าการ เขียน

คาชแี้ จง แบบประเมนิ การเขยี นคาขวัญเพ่อื การส่อื สาร ครปู ระเมินพฤติกรรมของนักเรียนและใหค้ ะแนนลงในช่องทต่ี รงกบั พฤติกรรม เลขที่ ชอื่ - สกุล ๑. เนื้อหาสาระ รวม สรปุ ๒. การใ ้ชภาษา ผลการประเมนิ ๓. ัอกขรวิ ีธ ๔. ความ ิคดสร้างสรรค์ ๕. ความสะอาดเรียบร้อย ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๕ ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 เดก็ ชายธนายทุ ธ รอดแจ่ม 2 เดก็ หญิงปรัชญา สารชยั 3 เดก็ ชายศรีศักดิ์ น้อยนาดี 4 เด็กชายธานนิ ทร์ โอปาก 5 เด็กชายทนิ ภัทร กอนศรี 6 เด็กชายชัยโย พลสามารถ 7 เด็กหญิงขวญั ฤทยั ทองทุ้ย 8 เด็กหญิงชุตินันท์ อนิ หลา้ 9 เด็กหญงิ องนุ่ อนิ ทรเ์ รืองศรี 10 เด็กหญิงศยามล กิจเชอ้ื 11 เด็กชายธนโชค สนั ป่าแกว้ 12 เดก็ ชายภัทรวตั ศิรไิ พบลู ย์ 13 เดก็ หญิงกาญจนา 14 เดก็ หญิงสิรนิ ภา ออ่ งโสภา 15 เด็กหญงิ ณัฐชา คมพิทกั ษ์ 16 เด็กหญงิ สกุ านดา ผิวขาว 17 เดก็ หญงิ มนี า อารกั วริ ิยะ 18 เดก็ ชายววิ ัฒน์ ไตรรตั น์ 19 เด็กชายบวรศักดิ์ สระบวั ทอง 20 เด็กหญิงปภาวี พานเมอื ง 21 เด็กชายธนวัฒน์ จาปาศรี 22 เด็กหญิงเกวลนิ นาขม้นิ

23 เดก็ ชายธนากร ฟกั ใส 24 เด็กหญิงวรญั ญาพร ขารัก 25 เดก็ หญิงปาณิสรา สวุ รรณฉ์ วี 26 เด็กหญิงปิยดา สิริ 27 เดก็ หญิงปิยนดั สิริ 28 เดก็ หญงิ สธุ ดิ า แวน่ ศิลา เกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป (๙ คะแนนขึน้ ไป) ๑๓ – ๑๕ คะแนน ระดับ ดี ๙ – ๑๒ คะแนน ระดบั พอใช้ ๐ – ๘ คะแนน ระดับ ปรับปรงุ ลงชอื่ ................................................ผปู้ ระเมิน (นางสาวพชิ ามญชุ์ นาถมทอง) รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมินการเขียนคาขวญั เพ่ือการสอ่ื สาร ประเดน็ การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๑. เน้อื หาสาระ ๒. การใชภ้ าษา ๓ ๒๑ ๓. อักขรวธิ ี ถกู ต้องชัดเจนน่าสนใจมาก ถกู ต้องชดั เจนนา่ สนใจพอใช้ ไมช่ ดั เจนและน่าสนใจ ๔. ความคิดสร้างสรรค์ ใช้ภาษาถอ้ ยคาได้ถูกต้อง ตามหลักวิชาการ ใชภ้ าษาถ้อยคาได้ถูกต้องแต่ ใชภ้ าษาถ้อยคาบกพร่อง ๕. ความสะอาดเรียบร้อย ถูกต้องตามอักขรวธิ ีทกุ คา ไมเ่ ป็นไปตามหลกั วิชาการ อยู่บ้าง มีความคดิ สรา้ งสรรค์ในการ ไมถ่ ูกต้องตามอักขรวิธี ไมถ่ ูกต้องตามอกั ขรวิธี อา่ นทแ่ี ปลกใหม่ไม่เหมือน ๑-๒ คา ๓ คาข้ึนไป ใคร มีความคดิ สร้างสรรค์ในการ มีการปรับปรุงการอ่าน สะอาดไมม่ รี อยขูด ขีดฆ่า และรอบคอบ อา่ นแตกต่างจากคนทั่วไป จากการอา่ นทวั่ ไป และ สร้างสรรค์เพ่ิมเติมใหด้ ีขน้ึ เล็กน้อย สะอาดไม่มรี อยขีดฆ่า มรี อย สะอาดไมม่ รี อยขีดฆ่า ลบ ๑ - ๒ แหง่ มีรอยลบมากกว่า ๒ แห่ง

แบบสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม คำชแ้ี จง ครปู ระเมินพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่มและให้คะแนนลงในช่องที่ตรงกบั พฤตกิ รรม เลขท่ี ชอื่ - สกลุ 1. คณะทำงำน รวม สรปุ 2. ควำมรับผิดขอบต่อห ้นำท่ี ผลกำรประเมนิ 3. ้ัขนตอนกำรทำงำน 4. ควำมร่วม ืมอในกำรทำงำน 5. กำรปฏิบัติงำนอย่ำง ีมควำม ุสข 6. เวลำ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผ่ำน ไม่ผำ่ น 1 เด็กชายธนายทุ ธ รอดแจ่ม 2 เดก็ หญงิ ปรชั ญา สารชัย 3 เดก็ ชายศรศี กั ด์ิ น้อยนาดี 4 เด็กชายธานินทร์ โอปาก 5 เด็กชายทนิ ภทั ร กอนศรี 6 เดก็ ชายชยั โย พลสามารถ 7 เดก็ หญิงขวญั ฤทยั ทองท้ยุ 8 เด็กหญงิ ชตุ นิ นั ท์ อินหลา้ 9 เดก็ หญิงองนุ่ อินทรเ์ รอื งศรี 10 เดก็ หญงิ ศยามล กิจเชื้อ 11 เด็กชายธนโชค สันปา่ แกว้ 12 เด็กชายภทั รวตั ศริ ไิ พบูลย์ 13 เด็กหญิงกาญจนา 14 เดก็ หญงิ สริ ินภา ออ่ งโสภา 15 เด็กหญิงณฐั ชา คมพทิ ักษ์ 16 เด็กหญงิ สกุ านดา ผิวขาว 17 เดก็ หญงิ มีนา อารกั วิรยิ ะ 18 เด็กชายววิ ัฒน์ ไตรรตั น์ 19 เดก็ ชายบวรศกั ดิ์ สระบัวทอง 20 เด็กหญิงปภาวี พานเมอื ง 21 เด็กชายธนวัฒน์ จาปาศรี 22 เด็กหญงิ เกวลนิ นาขม้ิน

23 เด็กชายธนากร ฟกั ใส 24 เดก็ หญงิ วรญั ญาพร ขารกั 25 เดก็ หญงิ ปาณิสรา สุวรรณ์ฉวี 26 เด็กหญงิ ปิยดา สริ ิ 27 เดก็ หญงิ ปยิ นดั สิริ 28 เดก็ หญิงสุธิดา แว่นศลิ า เกณฑก์ ำรประเมิน รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป (๑๑ คะแนนข้นึ ไป) ๑๕ – ๑๘ คะแนน ระดับ ดี ๑๑ – ๑๔ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ – ๑๐ คะแนน ระดบั ปรับปรุง ลงชือ่ ................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง)

รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมินพฤติกรรมกลมุ่ ประเดน็ การประเมนิ ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๑. คณะทางาน มปี ระธาน เลขานกุ าร ๒ ขาดองค์ประกอบ ๒ อย่าง ๒. ความรบั ผดิ ชอบ ผู้นาเสนอ ผ้รู ว่ มงาน ขาดองค์ประกอบ ๑ อย่าง ข้นึ ไป ตอ่ หนา้ ท่ี สมาชกิ มคี วามรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความ ๓.ขน้ั ตอนการทางาน และปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีของตนจน และปฏิบัติหน้าท่ขี องตนไม่ รบั ผิดชอบ และปฏบิ ัติ สาเรจ็ ทกุ คน สาเร็จ เป็นบางคน หน้าทข่ี องตนไมส่ าเร็จ ๑) คัดเลอื กเรือ่ งตาม ขาดขัน้ ตอน ๑ ขั้นตอน ขาดข้ันตอน ๒ ขัน้ ตอนขนึ้ ความสนใจของกลุ่ม หรือไมช่ ดั เจน ไปหรือไมช่ ัดเจน ๒) มกี ารวางแผน ๓) เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ ๔) ปฏิบัตติ ามแผน และพัฒนางาน ๔. ความร่วมมือ สมาชิกมีสว่ นร่วมทุกคน สมาชกิ มีสว่ นร่วมทกุ คน แต่ สมาชกิ มีส่วนรว่ มเป็นบาง ในการทางาน และให้ความรว่ มมอื ในการ มีบางคนให้ความรว่ มมือใน คนและให้ความรว่ มมือใน ๕. การปฏบิ ตั ิงาน อยา่ งมีความสุข ทางานอย่างเตม็ ท่ี การทางานไม่เต็มท่ี การทางานไม่ครบทุกคน ๖. เวลา สมาชิกร่วมกนั ปฏบิ ัตงิ าน สมาชกิ บางคนไมม่ ีความสุข สมาชกิ ทกุ คนไม่มีความสุข อยา่ งมีความสุขทุกคน ในการปฏิบตั ิงาน ในการปฏบิ ตั ิงาน งานเสรจ็ ตามกาหนดเวลา งานเสร็จไมท่ ันตาม งานเสร็จไมท่ ันตาม และมีคุณภาพ กาหนดเวลาแตง่ านมี กาหนดเวลาและงานไม่มี คณุ ภาพ คณุ ภาพ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น ๓๒๑ ๑. รักชาติ ศาสน์ ๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ กษตั ริย์ ๑.๒ เข้าร่วมกจิ กรรมท่สี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็น ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ๑.๓ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตามหลักศาสนา ๑.๔ เข้าร่วมกจิ กรรมที่เกย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามที่ โรงเรยี นจัดข้นึ ๒. ซือ่ สัตย์ สจุ รติ ๒.๑ ให้ขอ้ มลู ทถี่ ูกต้อง และเปน็ จริง ๒.๒ ปฏิบตั ิในสง่ิ ทถี่ ูกตอ้ ง ๓. มวี นิ ัย ๓.๑ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของครอบครวั รับผดิ ชอบ มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่างๆ ใน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ชีวติ ประจาวัน ๔.๑ รจู้ กั ใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ิได้ ๔.๒ รูจ้ กั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม ๔.๓ เช่ือฟงั คาส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง ๔.๔ ตัง้ ใจเรียน ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใชท้ รพั ย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั พอเพียง ๕.๒ ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และร้คู ณุ คา่ ๕.๓ ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเก็บออมเงิน ๖. มุ่งม่นั ในการ ๖.๑ มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย ทางาน ๖.๒ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสาเร็จ ๗. รกั ความเป็นไทย ๗.๑ มจี ิตสานกึ ในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย ๘. มีจติ สาธารณะ ๘.๑ รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน ๘.๒ ร้จู กั การดแู ล รกั ษาทรัพย์สมบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของห้องเรียน โรงเรยี น ลงชอ่ื ................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรม คะแนน คะแนน ความหมาย อยา่ งสมา่ เสมอ ๓ บอ่ ยคร้ัง ๒ ๔๖-๖๐ ดี บางคร้งั ๑ ๓๐-๔๕ พอใช้ ตา่ กวา่ ๓๐ ปรับปรงุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook