Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนหน่วยที่ 2 ภาคเรียนที่1

แผนหน่วยที่ 2 ภาคเรียนที่1

Published by sumaphorn p, 2021-05-25 15:45:51

Description: แผนหน่วยที่ 2 ภาคเรียนที่1 วิชาภาษาไทย ป.6

Search

Read the Text Version

- เฉลย - ช่อื – สกลุ ...................................................................................เลขท.่ี ........................ คาช้แี จง ให้นักเรยี นเขียนคาอา่ นจากคาทกี่ าหนดให้อยา่ งถกู ต้อง ๑. ทรมาน ทอ – ระ – มาน ๒. ปฏบิ ตั ิ ปะ – ติ – บดั ๓. อรา่ ม อะ – หรา่ ม ๔. เกษตรกรรม กะ-เสด-ตฺระ-กํา ๕. ปรญิ ญา ปะ-รนิ -ยา ๖. อนุญาต อะ-นุ-ญาต ๗. เบญจมาศ เบน – จะ – มาด ๘. ธรรมชาติ ทาํ – มะ – ชาด ๙. เกสร ๑๐. พยกั พเยดิ เก-สอน พะ-ยกั -พะ-เยดิ

คำชี้แจง แบบประเมินกำรอ่ำนออกเสียง ประเมินพฤติกรรมของนักเรยี นในการอ่านออกเสียงและให้คะแนนลงในช่องท่ีตรงกับ พฤติกรรม ของนักเรียน เลขที่ ชื่อ - สกุล สรุปผล๑. กำร ัจบห ันง ืสอ พ ิลกห ันง ืสอ ท่ำทำง กำรประเมิน๒. ่อำน ูถกต้องตำม ัอกขรวิ ีธ ๓. เ ้วนวรรคตอนถูกต้อง ๔. ่อำนเ ีสยง ัดงและ ้นำเ ีสยงเหมำะกับเรื่องที่ ่อำน ๕. ไ ่ม ่อำน ้ขำม ไ ่ม ่อำนเ ่ิพม ไ ่ม ู่ตคำ รวม รวม ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๕ ผำ่ น ไม่ผ่ำน 1 เด็กชายธนายุทธ รอดแจม่ 2 เดก็ หญงิ ปรัชญา สารชยั 3 เด็กชายศรศี กั ด์ิ น้อยนาดี 4 เดก็ ชายธานินทร์ โอปาก 5 เดก็ ชายทนิ ภทั ร กอนศรี 6 เดก็ ชายชยั โย พลสามารถ 7 เดก็ หญงิ ขวัญฤทัย ทองทุ้ย 8 เด็กหญิงชุตนิ นั ท์ อนิ หลา้ 9 เดก็ หญิงองุ่น อินทร์เรืองศรี 10 เดก็ หญิงศยามล กจิ เชอื้ 11 เด็กชายธนโชค สันปา่ แก้ว 12 เด็กชายภทั รวตั ศริ ไิ พบูลย์ 13 เด็กหญิงกาญจนา 14 เด็กหญิงสิรินภา อ่องโสภา 15 เด็กหญิงณัฐชา คมพิทักษ์ 16 เดก็ หญิงสุกานดา ผวิ ขาว 17 เดก็ หญงิ มนี า อารกั วิรยิ ะ 18 เด็กชายววิ ัฒน์ ไตรรัตน์ 19 เด็กชายบวรศักดิ์ สระบวั ทอง

20 เดก็ หญิงปภาวี พานเมือง 21 เด็กชายธนวฒั น์ จาปาศรี 22 เด็กหญิงเกวลนิ นาขมนิ้ 23 เดก็ ชายธนากร ฟกั ใส 24 เดก็ หญิงวรญั ญาพร ขารกั 25 เด็กหญงิ ปาณิสรา สุวรรณ์ฉวี 26 เดก็ หญิงปิยดา สริ ิ 27 เด็กหญิงปยิ นดั สิริ 28 เด็กหญงิ สธุ ิดา แว่นศลิ า เกณฑก์ ำรประเมิน รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป (๙ คะแนนขน้ึ ไป) ๑๓ – ๑๕ คะแนน ระดบั ดี ๙ – ๑๒ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ – ๘ คะแนน ระดบั ปรับปรุง ลงชอื่ ................................................ผ้ปู ระเมิน (นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง)

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ประเดน็ การประเมนิ ๓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๑ ๑. การจับหนังสือ/พลิก ลกั ษณะท่าทาง ๒ ลักษณะท่าทาง การวาง หนังสือ/ทา่ ทางในการ การวางและการจบั และการจับหนงั สือไม่ อ่านถูกตอ้ ง หนังสือถูกตอ้ ง ลักษณะทา่ ทาง การวาง ถกู ต้อง ๒ อยา่ ง ขึ้นไป และการจบั หนังสือไม่ ถกู ต้อง ๑ อยา่ ง ๑. การจบั หนังสอื /พลกิ ลักษณะทา่ ทาง ลักษณะท่าทาง การวาง ลักษณะท่าทาง การวาง และการจับหนงั สือไม่ ตามอักขรวิธีออกเสยี ง หนงั สือ/ท่าทางในการ การวางและการจับ ถูกต้อง ๑ อยา่ ง และการจบั หนงั สือไม่ ถกู ต้อง ๒ อยา่ ง ขึ้นไป อ่านถูกตอ้ ง หนงั สอื ถูกต้อง ๒. อ่านถกู ต้องตาม อา่ นถูกตอ้ งตามอักขรวธิ ี อ่านถูกต้องตามอกั ขรวธิ ี อา่ นถูกต้องตามอักขรวิธี อักขรวิธี ออกเสยี ง ร และคาควบ ออกเสยี ง ร และคาควบ ออกเสียง ร และคาควบ กลา้ ร ล ว ชดั เจน กลา้ ร ล ว ไม่ถูกต้อง กล้า ร ล ว ไม่ถกู ต้อง ๒ ตาแหน่ง เกนิ ๒ ตาแหนง่ ๓. การเวน้ วรรคตอน อ่านเว้นวรรคตอนได้ อ่านเวน้ วรรคตอนผดิ อ่านเวน้ วรรคตอนผดิ ถกู ต้อง ถกู ต้องตลอดทง้ั เรื่อง ๒ ครัง้ เกนิ ๒ ครงั้ ตั้งแตต่ น้ จนจบเร่ือง ๔. อ่านเสยี งดงั และ อ่านเสยี งดงั ชัดเจน อา่ นเสียงดัง ชัดเจน แต่ อ่านเสียง ไมช่ ดั เจน น้าเสียงเหมาะสมกบั เรื่อง น้าเสียงเหมาะสมกับเร่ือง น้าเสยี งไมเ่ หมาะสมกบั นา้ เสยี งไมเ่ หมาะสมกับ ทีอ่ ่าน ท่ีอ่าน เรอ่ื งที่อ่าน เร่ืองท่ีอา่ น ๕. ไม่อา่ นขา้ ม/อ่านเพ่ิม อ่านออกเสยี งได้ถกู ต้อง อา่ นออกเสยี งไม่ถูกต้อง อ่านออกเสยี งไม่ถกู ต้อง /ตคู่ า ชัดเจนทกุ คา ทุกข้อความ ชดั เจน มีการเพ่ิมคาและ ไม่ชดั เจน อา่ นข้ามคา ทกุ ประโยค ตูค่ า ๒ ตาแหน่ง อ่านเพิ่มคาและตู่คาเกิน ๒ ตาแหนง่

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกลุ่ม คำชีแ้ จง ครูประเมินพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลมุ่ และให้คะแนนลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤตกิ รรม เลขท่ี ชอื่ - สกลุ 1. คณะทำงำน รวม สรปุ 2. ควำมรับผิดขอบต่อห ้นำท่ี ผลกำรประเมิน 3. ้ัขนตอนกำรทำงำน 4. ควำมร่วม ืมอในกำรทำงำน 5. กำรปฏิบัติงำนอย่ำง ีมควำม ุสข 6. เวลำ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผำ่ น ไม่ผ่ำน 1 เดก็ ชายธนายุทธ รอดแจม่ 2 เด็กหญิงปรชั ญา สารชยั 3 เด็กชายศรศี ักด์ิ นอ้ ยนาดี 4 เดก็ ชายธานินทร์ โอปาก 5 เดก็ ชายทินภัทร กอนศรี 6 เดก็ ชายชัยโย พลสามารถ 7 เด็กหญงิ ขวัญฤทยั ทองทุย้ 8 เด็กหญงิ ชุตนิ นั ท์ อินหลา้ 9 เด็กหญิงองุ่น อินทรเ์ รอื งศรี 10 เด็กหญงิ ศยามล กิจเช้อื 11 เด็กชายธนโชค สนั ปา่ แก้ว 12 เด็กชายภัทรวตั ศริ ิไพบูลย์ 13 เด็กหญิงกาญจนา 14 เด็กหญงิ สิรนิ ภา อ่องโสภา 15 เด็กหญิงณัฐชา คมพิทักษ์ 16 เดก็ หญิงสกุ านดา ผิวขาว 17 เด็กหญิงมนี า อารกั วริ ยิ ะ 18 เดก็ ชายววิ ฒั น์ ไตรรัตน์ 19 เดก็ ชายบวรศักดิ์ สระบัวทอง 20 เด็กหญิงปภาวี พานเมอื ง 21 เด็กชายธนวฒั น์ จาปาศรี 22 เด็กหญิงเกวลิน นาขมิน้ 23 เด็กชายธนากร ฟักใส

24 เด็กหญิงวรญั ญาพร ขารัก 25 เดก็ หญงิ ปาณิสรา สวุ รรณ์ฉวี 26 เดก็ หญิงปิยดา สิริ 27 เดก็ หญิงปยิ นดั สริ ิ 28 เดก็ หญิงสธุ ดิ า แวน่ ศิลา เกณฑ์กำรประเมิน ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป (๑๑ คะแนนข้นึ ไป) ๑๕ – ๑๘ คะแนน ระดบั ดี ๑๑ – ๑๔ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ – ๑๐ คะแนน ระดับ ปรับปรงุ ลงชือ่ ................................................ผ้ปู ระเมิน (นางสาวพชิ ามญชุ์ นาถมทอง)

รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมินพฤติกรรมกลมุ่ ประเดน็ การประเมนิ ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๑. คณะทางาน มปี ระธาน เลขานกุ าร ๒ ขาดองค์ประกอบ ๒ อย่าง ๒. ความรบั ผดิ ชอบ ผู้นาเสนอ ผ้รู ว่ มงาน ขาดองค์ประกอบ ๑ อย่าง ข้นึ ไป ตอ่ หนา้ ท่ี สมาชกิ มคี วามรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความ ๓.ขน้ั ตอนการทางาน และปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีของตนจน และปฏิบัติหน้าท่ขี องตนไม่ รบั ผิดชอบ และปฏบิ ัติ สาเรจ็ ทกุ คน สาเร็จ เป็นบางคน หน้าทข่ี องตนไมส่ าเร็จ ๑) คัดเลอื กเรือ่ งตาม ขาดขัน้ ตอน ๑ ขั้นตอน ขาดข้ันตอน ๒ ขัน้ ตอนขนึ้ ความสนใจของกลุ่ม หรือไมช่ ดั เจน ไปหรือไมช่ ัดเจน ๒) มกี ารวางแผน ๓) เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ ๔) ปฏิบัตติ ามแผน และพัฒนางาน ๔. ความร่วมมือ สมาชิกมีสว่ นร่วมทุกคน สมาชกิ มีสว่ นร่วมทกุ คน แต่ สมาชกิ มีส่วนรว่ มเป็นบาง ในการทางาน และให้ความรว่ มมอื ในการ ทางานอย่างเตม็ ท่ี มีบางคนให้ความรว่ มมือใน คนและให้ความรว่ มมือใน ๕. การปฏบิ ตั ิงาน อยา่ งมีความสุข สมาชิกร่วมกนั ปฏบิ ัตงิ าน การทางานไม่เต็มท่ี การทางานไม่ครบทุกคน ๖. เวลา อยา่ งมีความสุขทุกคน สมาชกิ บางคนไมม่ ีความสุข สมาชกิ ทกุ คนไม่มีความสุข งานเสรจ็ ตามกาหนดเวลา ในการปฏิบตั ิงาน และมีคุณภาพ ในการปฏบิ ตั ิงาน งานเสร็จไมท่ ันตาม งานเสร็จไมท่ ันตาม กาหนดเวลาแตง่ านมี กาหนดเวลาและงานไม่มี คณุ ภาพ คณุ ภาพ

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชแี้ จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ ง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน ๓๒๑ ๑. รักชาติ ศาสน์ ๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ กษัตรยิ ์ ๑.๒ เข้าร่วมกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็น ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ๑.๓ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏบิ ตั ิตามหลกั ศาสนา ๑.๔ เข้ารว่ มกิจกรรมทเี่ กีย่ วกบั สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ตามที่ โรงเรยี นจดั ขึน้ ๒. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ ๒.๑ ใหข้ อ้ มูลที่ถูกตอ้ ง และเปน็ จริง ๒.๒ ปฏิบัตใิ นสง่ิ ท่ถี ูกต้อง ๓. มีวินัย ๓.๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครัว รบั ผดิ ชอบ มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ ใน ชวี ติ ประจาวนั ๔. ใฝเ่ รยี นรู้ ๔.๑ รจู้ กั ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ิได้ ๔.๒ รู้จักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม ๕. อยู่อย่าง ๔.๓ เช่อื ฟังคาสง่ั สอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้ พอเพียง ๔.๔ ต้ังใจเรยี น ๕.๑ ใช้ทรัพยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด ๖. ม่งุ ม่ันในการ ๕.๒ ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และร้คู ณุ คา่ ทางาน ๕.๓ ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงนิ ๖.๑ มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทางานที่ได้รบั มอบหมาย ๖.๒ มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคเพ่ือใหง้ านสาเร็จ ๗. รกั ความเป็นไทย ๗.๑ มีจิตสานึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย ๘. มจี ิตสาธารณะ ๘.๑ รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน ๘.๒ รูจ้ กั การดูแล รักษาทรัพย์สมบตั ิและสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรียน โรงเรียน ลงชอื่ ..................................................... ผู้ ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรม คะแนน คะแนน ความหมาย อย่างสม่าเสมอ ๓ บ่อยครง้ั ๒ ๔๖-๖๐ ดี บางคร้ัง ๑ ๓๐-๔๕ พอใช้ ตา่ กวา่ ๓๐ ปรับปรุง

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๕ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ภาคการเรยี นที่ ๑ ปี ๒๕๖4 รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๖๑๐๑ เวลา ๙ ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่ือง ควาย ขา้ วและชาวนา เวลา ๑ ชั่วโมง เร่ือง การอา่ นเสรมิ บทเรยี น โรงเรียนชุมชนวัดบางขัน ผ้สู อน นางสาวพิชามญช์ุ นามทอง ๑. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านเสริมบทเรียน ทาให้ผู้อ่านได้รับความรู้ ความบันเทิงและข้อคิดจากการอ่าน และสามารถ เลือกหนังสอื อา่ นไดต้ รงตามความต้องการ นอกจากน้ีที่สาคัญ คอื สามารถนาความรู้ท่ีได้รับจากการอ่านมาปรับ ใชใ้ หเ้ ป็นประโยชน์ในชีวติ ประจาวนั ได้ ๒. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชวี้ ัด สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคดิ เพ่ือนาไปตดั สินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่าน ตัวช้วี ัด ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากเรอื่ งทีอ่ า่ น ท ๑.๑ ป.๖/๙ มีมารยาทในการอา่ น ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อ่านและจบั ใจความสาคัญของเรื่องที่อ่านได้ ๒. วเิ คราะห์สรุปเน้อื หาจากเร่อื งที่อา่ นได้ ๓. มมี ารยาทในการอา่ น ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (K) - การอา่ นบทเรยี นเสรมิ เร่อื ง ประเพณีลงแขกทานา ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - สรุปใจความสาคัญเน้ือหา เจตคติ (A) - ตระหนกั และเห็นคุณค่าของภาษาไทย - รกั ความเป็นไทย ใชภ้ าษาแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเอง - มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด ๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

- กระบวนการทางานกลมุ่ - กระบวนการปฏบิ ัติ ๖. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - มวี ินยั - ใฝ่เรียนรู้ - ม่งุ มนั่ การทางาน - รกั ความเปน็ ไทย ๗. ชนิ้ งาน/ภาระงาน - ใบงาน คาถามทา้ ยบท “ประเพณลี งแขกทานา” ๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นา ๑. ครูเชอ่ื มโยงเข้าส่บู ทเรยี น เร่ือง ประเพณีลงแขกทานา ขน้ั สอน ๓. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๖ คน โดยใช้กลุ่มเดิม แต่เลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ ใหม่ ไม่ซา้ เดมิ ๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านในใจบทอ่านเสริม “ประเพณีลงแขกทานา” หน้า ๒๖ แล้วต้ังคาถาม คาตอบ อภิปรายแล้วสรปุ ใจความสาคัญท่ไี ด้จากการอา่ น ๕. ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอสรปุ ใจความสาคัญหนา้ ชัน้ เรียน โดยครเู ปน็ ผตู้ รวจสอบและเพ่มิ เติม ๖. ครูให้นักเรียนชมวีดีทัศน์ เพลง เต้นการาเคียว ซึ่งเป็นมรดกการละเล่นพื้นบ้าน และเป็นการ ปลูกฝงั จติ สานกึ ให้รกั ความเป็นไทย ๗. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ทาใบงาน เรื่อง คาถามทา้ ยบท ประเพณลี งแขกเก่ยี วข้าว ๘. ครูและนักเรยี นร่วมกนั เฉลยใบงาน ขัน้ สรปุ ๙. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปสาระสาคัญ เรอ่ื ง ประเพณีลงแขกทานา ซงึ่ เปน็ การแสดงความมีน้าใจ การช่วยเหลือกัน ๙. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. หนังสือเรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๒. วดี ีทศั น์ เรอ่ื ง เต้นรากาเคียว ๓. ใบงาน เรอ่ื ง คาถามท้ายบท “ประเพณีลงแขกทานา” แหล่งการเรียนรู้ https://www.youtube.com/watch?v=EJBM-kY0PEc

๑๐. การวดั และการประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์ ตรวจใบงาน คาถามท้ายบท “ประเพณีลง ใบงาน คาถามท้ายบท “ประเพณีลง รอ้ ยละ ๖๐ ขน้ึ ไป แขกทานา” แขกทานา” ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนรว่ ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ร้อยละ ๖๐ ข้ึนไป ในกิจกรรมกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมินคุณลักษณะ ผ่านเกณฑร์ ะดับพอใช้ และมุ่งมั่นการทางาน อันพึงประสงค์ ขึน้ ไป

บนั ทกึ หลังสอน ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรียนจานวน.........................................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้โู ดยรวม......................คน คดิ เป็นร้อยละ.............................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรโู้ ดยรวม..................คน คิดเป็นร้อยละ.............................. ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษ/นกั เรียนเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นักเรยี นทไ่ี ม่ผ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านความรู้ (K) จานวน............................คน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………นักเรียน ที่ไม่ผา่ นการประเมนิ จุดประสงคด์ ้านทักษะ (P) จานวน.............................คน ไดแ้ ก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………นกั เรียน ทีไ่ ม่ผา่ นการประเมินจุดประสงคด์ ้านเจตคติ (A) จานวน............................คน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ (จากปญั หาอปุ สรรค) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.....................................ครผู ้สู อน (นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง) ตาแหน่ง ครู …………./……………./…………

สื่อการเรยี นรู้และแบบประเมนิ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่ือง ควาย ขา้ วและชาวนา แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรื่อง การอา่ นเสรมิ บทเรยี น

วดี ที ัศน์ | เต้นรากาเคียว ตวั อยา่ งวีดีทศั น์ เพลงเต้นรากาเคยี ว จากรายการคุณพระช่วย ทีม่ า https://www.youtube.com/watch?v=EJBM-kY0PEc

สมาชกิ เลขที่ …….. ประธาน ๑. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. รองประธาน ๒. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. เลขานกุ ารกลุ่ม ๓. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชิก ๔. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชิก ๕. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชิก ๖. ……………………………………………………………………… คาชี้แจง นกั เรยี นอา่ นในใจเพื่อจบั ใจความสาคัญของเรื่อง แล้วตอบคาถามใหถ้ ูกต้อง ๑. จงบอกถึง ประเพณลี งแขกทานา ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ประเพณีลงแขกทานา มีข้อดีอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ประเพณีลงแขกทานา “แขก” เปรียบไดก้ บั สงิ่ ใด ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. จงบอกประโยชนข์ องการรอ้ งเพลงพนื้ บ้านขณะลงแขกทานา ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ปัจจัยใดที่ทาให้ประเพณีลงแขกทานาในปัจจบุ นั ลดลง ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………

- เฉลย - สมาชิก เลขท่ี …….. ประธาน ๑. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. รองประธาน ๒. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. เลขานุการกลุ่ม ๓. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชกิ ๔. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชกิ ๕. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชกิ ๖. ……………………………………………………………………… คาช้แี จง นักเรยี นอา่ นในใจเพ่ือจับใจความสาคัญของเรื่อง แลว้ ตอบคาถามให้ถูกต้อง ๑. จงบอกถึง ประเพณลี งแขกทานา ประเพณีลงแขกทานา บา้ นใดต้องการแรงงานมาช่วยทานาชว่ งเวลาใด จะบอกกล่าว ตอ่ กันไป เจา้ ของนานาธงมาปักทน่ี าของตน เพื่อนบ้านจะมาช่วยงานจนเสร็จ(ดุลยพนิ ิจครผู ู้สอน) ๒. ประเพณีลงแขกทานา มขี ้อดีอย่างไร การช่วยเหลือซึ่งกันและกนั ความมีน้าใจของคนไทย สรา้ งความสมคั รสมานสามัคคี กันในหม่บู า้ นได้อกี ดว้ ย (ดุลยพินิจครูผู้สอน) ๓. ประเพณีลงแขกทานา “แขก” เปรียบได้กบั สงิ่ ใด คนทีม่ าชว่ ยงานเก่ียวข้าว ใหเ้ จ้าของนา ๔. จงบอกประโยชน์ของการร้องเพลงพื้นบ้านขณะลงแขกทานา การละเลน่ รอ้ งเพลงเกีย่ วขอ้ งระหวา่ งหนมุ่ สาว เปน็ ท่สี นุกสนานและเพลดิ เพลนิ เพ่ือ คลายความเหน็ดเหนื่อยได้ ๕. ปจั จัยใดทที่ าให้ประเพณลี งแขกทานาในปจั จุบนั ลดลง ดลุ ยพนิ จิ ครผู สู้ อน

แบบสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม คำชแ้ี จง ครปู ระเมินพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่มและให้คะแนนลงในช่องที่ตรงกบั พฤตกิ รรม เลขท่ี ชอื่ - สกลุ 1. คณะทำงำน รวม สรปุ 2. ควำมรับผิดขอบต่อห ้นำท่ี ผลกำรประเมนิ 3. ้ัขนตอนกำรทำงำน 4. ควำมร่วม ืมอในกำรทำงำน 5. กำรปฏิบัติงำนอย่ำง ีมควำม ุสข 6. เวลำ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผ่ำน ไม่ผำ่ น 1 เด็กชายธนายทุ ธ รอดแจ่ม 2 เดก็ หญงิ ปรชั ญา สารชัย 3 เดก็ ชายศรศี กั ด์ิ น้อยนาดี 4 เด็กชายธานินทร์ โอปาก 5 เด็กชายทนิ ภทั ร กอนศรี 6 เดก็ ชายชยั โย พลสามารถ 7 เดก็ หญิงขวญั ฤทยั ทองท้ยุ 8 เด็กหญงิ ชตุ นิ นั ท์ อินหลา้ 9 เดก็ หญิงองนุ่ อินทรเ์ รอื งศรี 10 เดก็ หญงิ ศยามล กิจเชื้อ 11 เด็กชายธนโชค สันปา่ แกว้ 12 เด็กชายภทั รวตั ศริ ไิ พบูลย์ 13 เด็กหญิงกาญจนา 14 เดก็ หญงิ สริ ินภา ออ่ งโสภา 15 เด็กหญิงณฐั ชา คมพทิ ักษ์ 16 เด็กหญงิ สกุ านดา ผิวขาว 17 เดก็ หญงิ มีนา อารกั วิรยิ ะ 18 เด็กชายววิ ัฒน์ ไตรรตั น์ 19 เดก็ ชายบวรศกั ดิ์ สระบัวทอง 20 เด็กหญิงปภาวี พานเมอื ง 21 เด็กชายธนวัฒน์ จาปาศรี 22 เด็กหญงิ เกวลนิ นาขม้ิน

23 เด็กชายธนากร ฟกั ใส 24 เดก็ หญงิ วรญั ญาพร ขารกั 25 เดก็ หญงิ ปาณิสรา สุวรรณ์ฉวี 26 เด็กหญงิ ปิยดา สริ ิ 27 เดก็ หญงิ ปยิ นดั สิริ 28 เดก็ หญิงสุธิดา แว่นศลิ า เกณฑก์ ำรประเมิน รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป (๑๑ คะแนนข้นึ ไป) ๑๕ – ๑๘ คะแนน ระดับ ดี ๑๑ – ๑๔ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ – ๑๐ คะแนน ระดบั ปรับปรุง ลงชือ่ ................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง)

รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมินพฤติกรรมกลมุ่ ประเดน็ การประเมนิ ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๑. คณะทางาน มปี ระธาน เลขานกุ าร ๒ ขาดองค์ประกอบ ๒ อย่าง ๒. ความรบั ผดิ ชอบ ผู้นาเสนอ ผ้รู ว่ มงาน ขาดองค์ประกอบ ๑ อย่าง ข้นึ ไป ตอ่ หนา้ ท่ี สมาชกิ มคี วามรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความ ๓.ขน้ั ตอนการทางาน และปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีของตนจน และปฏิบัติหน้าท่ขี องตนไม่ รบั ผิดชอบ และปฏบิ ัติ สาเรจ็ ทกุ คน สาเร็จ เป็นบางคน หน้าทข่ี องตนไมส่ าเร็จ ๑) คัดเลอื กเรือ่ งตาม ขาดขัน้ ตอน ๑ ขั้นตอน ขาดข้ันตอน ๒ ขัน้ ตอนขนึ้ ความสนใจของกลุ่ม หรือไมช่ ดั เจน ไปหรือไมช่ ัดเจน ๒) มกี ารวางแผน ๓) เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ ๔) ปฏิบัตติ ามแผน และพัฒนางาน ๔. ความร่วมมือ สมาชิกมีสว่ นร่วมทุกคน สมาชกิ มีสว่ นร่วมทกุ คน แต่ สมาชกิ มีส่วนรว่ มเป็นบาง ในการทางาน และให้ความรว่ มมอื ในการ ทางานอย่างเตม็ ท่ี มีบางคนให้ความรว่ มมือใน คนและให้ความรว่ มมือใน ๕. การปฏบิ ตั ิงาน อยา่ งมีความสุข สมาชิกร่วมกนั ปฏบิ ัตงิ าน การทางานไม่เต็มท่ี การทางานไม่ครบทุกคน ๖. เวลา อยา่ งมีความสุขทุกคน สมาชกิ บางคนไมม่ ีความสุข สมาชกิ ทกุ คนไม่มีความสุข งานเสรจ็ ตามกาหนดเวลา ในการปฏิบตั ิงาน และมีคุณภาพ ในการปฏบิ ตั ิงาน งานเสร็จไมท่ ันตาม งานเสร็จไมท่ ันตาม กาหนดเวลาแตง่ านมี กาหนดเวลาและงานไม่มี คณุ ภาพ คณุ ภาพ

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในช่อง ทตี่ รงกับระดับคะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงคด์ ้าน ๓๒๑ ๑. รักชาติ ศาสน์ ๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ กษัตริย์ ๑.๒ เข้าร่วมกจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ๑.๓ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา ๑.๔ เขา้ ร่วมกิจกรรมทีเ่ กย่ี วกบั สถาบันพระมหากษตั ริย์ตามที่ โรงเรยี นจัดข้นึ ๒. ซ่อื สตั ย์ สุจริต ๒.๑ ให้ข้อมลู ท่ีถูกตอ้ ง และเป็นจริง ๒.๒ ปฏิบัติในสิง่ ทีถ่ ูกตอ้ ง ๓. มวี ินัย ๓.๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของครอบครัว รับผิดชอบ มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆ ใน ๔. ใฝ่เรียนรู้ ชวี ิตประจาวนั ๔.๑ รู้จกั ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัติได้ ๔.๒ รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม ๔.๓ เชอ่ื ฟังคาสง่ั สอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง ๔.๔ ต้งั ใจเรียน ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใช้ทรัพย์สนิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด พอเพียง ๕.๒ ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คณุ ค่า ๕.๓ ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงนิ ๖. ม่งุ มั่นในการ ๖.๑ มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานที่ได้รบั มอบหมาย ทางาน ๖.๒ มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสาเร็จ ๗. รักความเปน็ ไทย ๗.๑ มีจติ สานึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย ๘. มีจิตสาธารณะ ๘.๑ รูจ้ ักช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน ๘.๒ รจู้ กั การดแู ล รกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละส่ิงแวดล้อมของหอ้ งเรียน โรงเรยี น ลงชือ่ ................................................... ผู้ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรม คะแนน คะแนน ความหมาย อยา่ งสม่าเสมอ ๓ บ่อยครง้ั ๒ ๔๖-๖๐ ดี บางครงั้ ๑ ๓๐-๔๕ พอใช้ ต่ากว่า ๓๐ ปรบั ปรุง

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๖ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ภาคการเรยี นท่ี ๑ ปี ๒๕๖4 รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท ๑๖๑๐๑ เวลา ๙ ชวั่ โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรื่อง ควาย ข้าวและชาวนา เวลา 2 ชวั่ โมง เรือ่ ง อกั ษร ๓ หมู่ และคาเปน็ คาตาย โรงเรียนชุมชนวดั บางขนั ผสู้ อน นางสาวพชิ ามญช์ุ นาถมทอง ๑. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด พยัญชนะ หมายถึงตัวอักษรหรือตัวหนังสือ พยัญชนะที่ใช้ในภาษาไทยมี ๔๔ ตัว ซ่ึงพยัญชนะทั้งหมด จะมีระดับเสียงที่แบ่งเป็น ๓ ระดับ เรียกว่าอักษรสามหมู่ หรือไตรยางค์ เพื่อสะดวกแก่การผันเสียงวรรณยุกต์ อักษรสามหมู่ ได้แก่ อักษรสูง อักษรกลางและอักษรต่า และในภาษาไทยจะมีคาที่มีเสียงยาว ซ่ึงเรียกว่า คา เป็น และคาทม่ี ีเสียงสน้ั ซ่งึ เรยี กว่า คาตาย อยมู่ ากมาย ควรเรยี นรเู้ รื่องนใ้ี ห้เข้าใจและนาไปใช้ให้ถูกต้องจึงจะ สามารถใชภ้ าษาสื่อไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ๒. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ัด สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของ ภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้ เป็นสมบัตขิ องชาติ ตวั ช้ีวดั ท ๔.๑ ป.๖/๑ วเิ คราะหช์ นิดและหน้าท่ีของคาในประโยค ๓. จุดระสงค์การเรียนรู้ ๑. แยกพยัญชนะทเ่ี ป็นอกั ษรสงู อกั ษรกลางและอักษรต่าได้ ๒. บอกลักษณะของคาเปน็ คาตายได้ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (K) ๑. หลักเกณฑ์ของอักษร ๓ หมู่ ๒. คาเปน็ คาตาย ทักษะ/กระบวนการ (P) ๑. แยกอักษรสงู อกั ษรกลางและอักษรตา่ ๒. แยกคาเป็น คาตาย เจตคติ (A) 1. ตระหนกั และเหน็ คุณคา่ ของภาษาไทย 2. รักความเปน็ ไทย ใช้ภาษาแสวงหาความรู้เพ่ือพัฒนาตนเอง 3. มมี ารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด

๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต - กระบวนการทางานกลุ่ม - กระบวนการปฏบิ ตั ิ ๖. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - มีวนิ ยั - ใฝเ่ รียนรู้ - มงุ่ มั่นการทางาน ๗. ช้นิ งาน/ภาระงาน ๑. ใบงาน เรอื่ ง อกั ษร ๓ หมู่ ๒. ใบงาน เรอ่ื ง คาเปน็ คาตาย ๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๘.๑ ชว่ั โมงที่ ๑ ขน้ั นา ๑. ครูยกตัวอย่างคา แล้วให้นักเรียนตอบว่าคาเหล่านั้นเป็นอักษรสูง กลาง หรือต่า ตัวอย่างคา ได้แก่ เจบ็ ปวด แข็งขัน ศึกษา ทบทวน ปฏิบตั ิ เรียบรอ้ ย สอดไส้ (แข็งขนั สอดไส้ ศึกษา - อกั ษรสงู , เจ็บปวด ปฏบิ ัติ - อกั ษรกลาง, เรยี บรอ้ ย ทบทวน - อักษรตา่ ) ขั้นสอน ๒. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกันตอบคาถาม ดังนี้ - อกั ษรกลาง มีทัง้ หมดก่ตี วั ได้แกอ่ ะไรบ้าง อกั ษรกลาง พ้ืนเสยี งเป็นเสียงสามญั มี ๙ ตัว ได้แก่ ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ - อักษรสูง มที ้งั หมดกีต่ ัว ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง อักษรสงู พน้ื เสียงเปน็ เสยี งจัตวา มี ๑๑ ตัว ได้แก่ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห - อักษรต่า มีทงั้ หมดก่ีตวั ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง อักษรตา่ มที ั้งหมด ๒๔ ตวั ๓. ครูอธิบายอักษรต่าแบ่งเป็น อักษรคู่และอักษรเดี่ยว โดยอักษรคู่ พ้ืนเสียงสามัญคู่กับอักษรสูง มี ๑๔ ตัว จัดได้ ๗ คู่ ได้แก่ ค ฅ ฆ ช ซ ฌ ฑ ฒ ท ธ พ ฟ ภ ฮ และอักษรเดี่ยวพื้นเสียงเป็นสามัญไม่มีเสียงคู่กับ อักษรสงู มี ๑๐ ตัว ไดแ้ ก่ ง ญ ณ น ม ย ร ล ว ฬ ๔. นกั เรียนแบง่ กล่มุ กล่มุ ละ ๖ คน โดยใช้กลมุ่ เดิม แต่เลือกประธาน รองประธานและเลขานุการกลุ่ม ใหม่ ไม่ใหซ้ า้ เดิม แลว้ จับคเู่ พื่อทาใบงาน เร่อื ง อกั ษร ๓ หมู่ - คูท่ ี่ ๑ พยัญชนะต้นท่มี อี ักษรสูง

- คทู่ ่ี ๒ พยญั ชนะตน้ ท่ีมอี กั ษรกลาง - คูท่ ่ี ๓ พยญั ชนะตน้ ทีม่ อี ักษรต่า ๕. นักเรียนแต่ละคู่นาผลงานจากการทาใบงานที่คู่ตนเองรับผิดชอบ อธิบายให้สมาชิกภายในกลุ่มฟัง โดยสมาชิกในกลุ่มช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง ๖. ตัวแทนกล่มุ นาเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรียน ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบ ๗. นกั เรียนแกไ้ ขคาตอบท่ีถูกต้องลงในใบงานและครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซกั ถาม ขัน้ สรปุ ๘. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุป เรอ่ื ง อักษร ๓ หมู่ ๘.๒ ชว่ั โมงที่ ๒ ขน้ั นา ๑. ครูเขยี นบนกระดานดา ฝง่ั ซ้ายมือคาเปน็ ฝ่ังขวามือคาตาย แล้วถามช่ือเลน่ ของนกั เรียน โดยครู เปน็ ผ้แู ยกว่าชือ่ เล่นของนักเรียนเปน็ คาเปน็ หรอื คาตาย แลว้ เขยี นบนกระดานดา ๒. ครใู หน้ กั เรียนบอกถงึ ความแตกตา่ งจากช่ือเลน่ ทถ่ี ูกแยกไว้บนกระดาน ขน้ั สอน ๓. ครูอธบิ ายลกั ษณะคาเปน็ และคาตาย คาเป็นจะเป็นคาทีป่ ระสมดว้ ยสระเสียงยาว คาท่มี ตี ัวสะกดใน แม่ กง กน กม เกย เกอว ส่วนคาตาย คาที่ประสมด้วยสระเสียงสัน้ คาที่มีตวั สะกด ในแม่ กก กด กบ โดย ใช้สอื่ PowerPoint ประกอบการสอน ๔. ครูให้นักเรียนแยกคาเป็น คาตาย โดยให้นักเรียนมีส่วนร่วมบอกช่ือผลไม้ พร้อมระบุชื่อผลไม้ท่ี นกั เรยี นยกตวั อย่างน้ันเปน็ คาเปน็ หรือ คาตาย ๕. ครูใหน้ กั เรียนแยกคาเปน็ คาตาย จากคาทคี่ รูบอก ดังนี้ หมวดของสตั ว์ : หมา (คาเปน็ ) แมว (คาเปน็ ) นก(คาตาย) สุนขั (คาตาย) หมวดของสี : เขียว (คาเปน็ ) ฟ้า (คาเปน็ ) แดง(คาเป็น) ส้ม(คาเป็น) แสด (คาตาย) น้าเงิน (คาเปน็ ) ทัว่ ๆ ไป : สวย (คาเปน็ ) ชอ้ น (คาเป็น) จาน(คาเป็น) ครก(คาตาย) สาก(คาตาย) ๖. ครูให้นักเรยี นดูภาพจาก PowerPoint แล้วใหร้ ะบุว่าคาไหนคือคาเป็น หรือ คาตาย ๗. นกั เรียนแตล่ ะคนทาใบงาน เร่ือง คาเปน็ คาตาย ๘. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันเฉลย แล้วใหน้ ักเรยี นแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง ๙. ครูตรวจสอบความรู้ของนักเรียนรายบุคคล โดยให้บอกชื่อจริงของตนเองแล้วระบุชื่อจริงข้ึนต้น ด้วยพยัญชนะอักษรสูง กลางหรือต่า พร้อมระบุว่าชื่อประกอบด้วยคาเป็นหรือคาตาย เช่น ดาวิกา มีอั กษร กลางเปน็ พยัญชนะต้น ดา - คาเป็น วิ – คาตาย กา - คาเปน็ ขน้ั สรปุ ๑๐. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ เรอ่ื ง อักษร ๓ หมู่ และคาเปน็ คาตาย

๙. สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ๒. PowerPoint : คาเปน็ คาตาย.pptx ๓. ใบความรู้ เร่อื ง อกั ษร ๓ หมู่ ๔. ใบความรู้ เรอื่ ง คาเป็น คาตาย ๕. ใบงาน เรอื่ ง อกั ษร ๓ หมู่ ๖. ใบงาน เรื่อง คาเปน็ คาตาย แหล่งการเรยี นรู้ http://www.dlit.ac.th คลงั สือ่ การเรียนรู้ (DLIT Resources) สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน ๑๐. การวัดและการประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ วธิ ีการ ใบงาน เร่ือง อักษร ๓ หมู่ รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป ตรวจใบงาน เร่ือง อักษร ๓ หมู่ ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงาน เรอ่ื ง คาเปน็ คาตาย ใบงาน เรอ่ื ง คาเป็น คาตาย ร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป สงั เกตพฤติกรรมการมีส่วนรว่ ม ในกิจกรรมกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มั่นการทางาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินคุณลักษณะ ผา่ นเกณฑร์ ะดบั พอใช้ อันพึงประสงค์ ขึน้ ไป

บนั ทกึ หลังสอน ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรียนจานวน.........................................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้โู ดยรวม......................คน คดิ เป็นร้อยละ.............................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรโู้ ดยรวม..................คน คิดเป็นร้อยละ.............................. ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษ/นกั เรียนเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นักเรยี นทไ่ี ม่ผ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านความรู้ (K) จานวน............................คน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………นักเรียน ที่ไม่ผา่ นการประเมนิ จุดประสงคด์ ้านทักษะ (P) จานวน.............................คน ไดแ้ ก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………นกั เรียน ทีไ่ ม่ผา่ นการประเมินจุดประสงคด์ ้านเจตคติ (A) จานวน............................คน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ (จากปญั หาอปุ สรรค) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.....................................ครผู ้สู อน (นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง) ตาแหน่ง ครู …………./……………./…………

สอ่ื การเรยี นรู้และแบบประเมนิ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง ควาย ข้าวและชาวนา แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๕ เรื่อง อกั ษร ๓ หมู่ และคาเปน็ คาตาย

PowerPoint | คาเปน็ คาตาย. pptx

ท่มี า ภาษาไทย ป.6 คาเป็น คาตาย ครูศรีอมั พร ประทุมนันท์ จากโครงการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ DLIT (Distance Learning Information Technology)

อกั ษร อกั ษร อกั ษรตา่ อกั ษรตา่ เดี่ยว กลาง สงู คู่ พยญั ชนะไทยมี ๔๔ ตวั แบง่ เป็นกลุ่มตามลักษณะการผนั อักษรได้ ๓ กลุ่ม เรียกว่าอักษร ๓ หมู่ ดังนี้ ๑. อกั ษรกลาง มี ๙ ตวั ได้แก่ ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ ไก่ ( ก ) จิก ( จ ) เดก็ ( ด ฎ ) ตาย ( ต ฏ ) บน ( บ ) ปาก ( ป ) โอ่ง ( อ ) ๒. อกั ษรสูง มี ๑๑ ตวั ได้แก่ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห ผี ( ผ ) ฝาก ( ฝ ) ถุง (ฐ ถ ) ขา้ ว ( ฃ ข ) สาร ( ศ ษ ส ) ให้ ( ห ) ฉัน ( ฉ )

๓. อักษรต่า มี ๒๔ ตัว สาหรบั อกั ษรต่าสามารถแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คอื อกั ษรคู่และอักษรเดีย่ ว ๓.๑ อักษรคู่ คือ อกั ษรต่าท่ีมีเสยี งค่กู บั กับอักษรสงู เช่น ข กับ ค พ กับ ผ มี ๑๔ ตวั ได้แก่ ค ฅ ฆ ช ซ ฌ ฑ ฒ ท ธ พ ฟ ภ ฮ พ่อ ( พ ภ ) ค้า ( ค ฅ ) ฟัน ( ฟ ) ทอง ( ฒ ฑ ท ธ ) ซ้ือ ( ซ ) ชา้ ง ( ช ) ฮ่อ (ฮ ) ๓.๒ อกั ษรเดี่ยว มี ๑๐ ตวั ไดแ้ ก่ ง ญ ณ น ม ย ร ล ว ฬ งู ( ง ) ใหญ่ ( ญ ) นอน ( น ) อยู่ ( ย ) ณ( ณ ) รมิ ( ร ) วัด ( ว ) โม ( ม ) ฬี ( ฬ ) โลก ( ล )

คาเปน็ และคาตาย มลี กั ษณะตา่ งกัน ดงั ตอ่ ไปนี้ คาเปน็ คาตาย ๑. คาท่ีประสมดว้ ยสระเสยี งสนั้ ไมม่ ีตวั สะกด ๑. คาทปี่ ระสมด้วย สระเสียงยาว ไม่มตี ัวสะกด ๒. คาทมี่ ีตวั สะกด ในแม่ กก กด กบ ๒. คาท่ีมีตวั สะกดในแม่ กง เกกนอวกม เกย เกอว ๓. คาท่ปี ระสมด้วยสระ อา ใ_ ไ_ เ_ า

สมาชิก ประธาน ๑. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. รองประธาน ๒. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. เลขานกุ ารกลุ่ม ๓. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชิก ๔. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชิก ๕. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชิก ๖. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. คาชี้แจง อ่านคาทีก่ าหนดให้ และสังเกตพยญั ชนะตน้ แลว้ เขียนจดั กลุ่มตามหมู่ อักษรที่กาหนดให้ ธงชาติ ทบทวน เจ็บปวด สอดไส้ ฉกุ เฉนิ ภาคภูมิ ป้องกัน กตกิ า ตกใจ แขง็ ขนั ปฏิบัติ ฝึกฝน ศึกษา เฒา่ ชรา เรียบรอ้ ย

ชอื่ – สกุล ………………………………………………………………… เลขท่ี ………………. ตอนท่ี ๑ ให้นักเรยี นบอกช่ือภาพท่เี หน็ และวิเคราะห์วา่ เปน็ คาเปน็ หรอื คาตาย ๑ ๒๓ …………….…. เป็น …………….…. เป็น ๕ …………….…. เป็น คาํ คาํ คาํ ๔ …………….…. เป็น …………….…. เป็น ตอนท่ี ๒ คาํ คาํ ให้นักเรียนบอกวา่ คาต่อไปนี้เปน็ คาเป็นหรอื คาตาย ตัวอยา่ ง บ้านทรายทอง เปน็ เป็น เป็น ๑. รกั เกดิ ในตลาดสด ๒. ขอใจแลกเบอร์โทร ๓. ลกู ผู้ชายไม้ตะพด ๔. ตุ๊กแกรกั แป้งมาก ๕. ฟรีแลนซ์ ห้ามปว่ ย หา้ มพกั หา้ มรักหมอ

- เฉลย - สมาชกิ ประธาน ๑. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. รองประธาน ๒. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. เลขานุการกลุ่ม ๓. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชกิ ๔. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชกิ ๕. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชกิ ๖. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. ตอนที่ ๑ อ่านคาที่กาหนดให้ และสังเกตพยญั ชนะต้นแลว้ เขียนจดั กลุ่มตามหมู่ อักษรท่ีกาหนดให้ ธงชาติ ทบทวน เจ็บปวด สอดไส้ ฉุกเฉนิ ภาคภมู ิ ป้องกัน กตกิ า ตกใจ แขง็ ขนั ปฏิบัติ ฝกึ ฝน ศึกษา เฒ่าชรา เรยี บร้อย แขง็ ขนั ฉุกเฉิน สอดไส้ ฝึกฝน ศกึ ษา ตกใจ เจบ็ ปวด ปฏบิ ตั ิ ป้องกนั กตกิ า เรยี บรอ้ ย ทบทวน ธงชาติ เฒา่ ชรา ภาคภมู ิ

- เฉลย - ช่อื – สกุล ………………………………………………………………… เลขท่ี ………………. ตอนท่ี ๑ ให้นกั เรียนบอกชอื่ ภาพที่เหน็ และวิเคราะหว์ ่าเป็นคาเปน็ หรอื คาตาย ๑ ๒๓ ….หม…ู . เป็นคาํ ….. ….พรกิ …. เป็นคาํ …. ….มด…. เป็นคาํ …. ตาย เป็น ๔ ตาย ๕ ….ชา้ ง…. เป็นคาํ …. …เพชร…. เป็นคาํ …. ตอนท่ี ๒ เป็น ตาย ให้นักเรยี นบอกวา่ คาต่อไปนเี้ ป็นคาเปน็ หรือคาตาย ตวั อย่าง บา้ นทรายทอง เปน็ เปน็ เป็น ๑. รักเกิดในตลาดสด ตาย ตาย เปน็ ตาย ตาย ตาย ๒. ขอใจแลกเบอรโ์ ทร เปน็ เป็น เป็น ตาย เปน็ เป็น ๓. ลูกผูช้ ายไมต้ ะพด ตาย เปน็ เป็น เปน็ ตาย ตาย ๔. ตุ๊กแกรกั แปง้ มาก ตาย เปน็ ตาย เปน็ ตาย ๕. ฟรีแลนซ์ หา้ มป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ เปน็ เปน็ เปน็ เป็น เปน็ ตาย เป็น ตาย เปน็

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกลุ่ม คำชีแ้ จง ครูประเมินพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลมุ่ และให้คะแนนลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤตกิ รรม เลขท่ี ชอื่ - สกลุ 1. คณะทำงำน รวม สรปุ 2. ควำมรับผิดขอบต่อห ้นำท่ี ผลกำรประเมิน 3. ้ัขนตอนกำรทำงำน 4. ควำมร่วม ืมอในกำรทำงำน 5. กำรปฏิบัติงำนอย่ำง ีมควำม ุสข 6. เวลำ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผำ่ น ไม่ผ่ำน 1 เดก็ ชายธนายุทธ รอดแจม่ 2 เด็กหญิงปรชั ญา สารชยั 3 เด็กชายศรศี ักด์ิ นอ้ ยนาดี 4 เดก็ ชายธานินทร์ โอปาก 5 เดก็ ชายทินภัทร กอนศรี 6 เดก็ ชายชัยโย พลสามารถ 7 เด็กหญงิ ขวัญฤทยั ทองทุย้ 8 เด็กหญงิ ชุตนิ นั ท์ อินหลา้ 9 เด็กหญิงองุ่น อินทรเ์ รอื งศรี 10 เด็กหญงิ ศยามล กิจเช้อื 11 เด็กชายธนโชค สนั ปา่ แก้ว 12 เด็กชายภัทรวตั ศริ ิไพบูลย์ 13 เด็กหญิงกาญจนา 14 เด็กหญงิ สิรนิ ภา อ่องโสภา 15 เด็กหญิงณัฐชา คมพทิ ักษ์ 16 เดก็ หญิงสกุ านดา ผิวขาว 17 เด็กหญิงมนี า อารกั วริ ยิ ะ 18 เดก็ ชายววิ ฒั น์ ไตรรัตน์ 19 เดก็ ชายบวรศักดิ์ สระบัวทอง 20 เด็กหญิงปภาวี พานเมอื ง 21 เด็กชายธนวฒั น์ จาปาศรี 22 เด็กหญิงเกวลิน นาขมิน้ 23 เด็กชายธนากร ฟักใส

24 เด็กหญิงวรญั ญาพร ขารัก 25 เดก็ หญงิ ปาณิสรา สวุ รรณ์ฉวี 26 เดก็ หญิงปิยดา สิริ 27 เดก็ หญิงปยิ นดั สริ ิ 28 เดก็ หญิงสธุ ดิ า แวน่ ศิลา เกณฑ์กำรประเมิน ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป (๑๑ คะแนนข้นึ ไป) ๑๕ – ๑๘ คะแนน ระดบั ดี ๑๑ – ๑๔ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ – ๑๐ คะแนน ระดับ ปรับปรงุ ลงชือ่ ................................................ผ้ปู ระเมิน (นางสาวพชิ ามญชุ์ นาถมทอง)

รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมินพฤติกรรมกลมุ่ ประเดน็ การประเมนิ ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๑. คณะทางาน มปี ระธาน เลขานกุ าร ๒ ขาดองค์ประกอบ ๒ อย่าง ๒. ความรบั ผดิ ชอบ ผู้นาเสนอ ผ้รู ว่ มงาน ขาดองค์ประกอบ ๑ อย่าง ข้นึ ไป ตอ่ หนา้ ท่ี สมาชกิ มคี วามรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความรบั ผิดชอบ สมาชิกไม่มีความ ๓.ขน้ั ตอนการทางาน และปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีของตนจน และปฏิบัติหน้าท่ขี องตนไม่ รบั ผิดชอบ และปฏบิ ัติ สาเรจ็ ทกุ คน สาเร็จ เป็นบางคน หน้าทข่ี องตนไมส่ าเร็จ ๑) คัดเลอื กเรือ่ งตาม ขาดขัน้ ตอน ๑ ขั้นตอน ขาดข้ันตอน ๒ ขัน้ ตอนขนึ้ ความสนใจของกลุ่ม หรือไมช่ ดั เจน ไปหรือไมช่ ัดเจน ๒) มกี ารวางแผน ๓) เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ ๔) ปฏิบัตติ ามแผน และพัฒนางาน ๔. ความร่วมมือ สมาชิกมีสว่ นร่วมทุกคน สมาชกิ มีสว่ นร่วมทกุ คน แต่ สมาชกิ มีส่วนรว่ มเป็นบาง ในการทางาน และให้ความรว่ มมอื ในการ ทางานอย่างเตม็ ท่ี มีบางคนให้ความรว่ มมือใน คนและให้ความรว่ มมือใน ๕. การปฏบิ ตั ิงาน อยา่ งมีความสุข สมาชิกร่วมกนั ปฏบิ ัตงิ าน การทางานไม่เต็มท่ี การทางานไม่ครบทุกคน ๖. เวลา อยา่ งมีความสุขทุกคน สมาชกิ บางคนไมม่ ีความสุข สมาชกิ ทกุ คนไม่มีความสุข งานเสรจ็ ตามกาหนดเวลา ในการปฏิบตั ิงาน และมีคุณภาพ ในการปฏบิ ตั ิงาน งานเสร็จไมท่ ันตาม งานเสร็จไมท่ ันตาม กาหนดเวลาแตง่ านมี กาหนดเวลาและงานไม่มี คณุ ภาพ คณุ ภาพ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น ๓๒๑ ๑. รักชาติ ศาสน์ ๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ กษตั ริย์ ๑.๒ เข้าร่วมกจิ กรรมท่สี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็น ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ๑.๓ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตามหลักศาสนา ๑.๔ เข้าร่วมกจิ กรรมที่เกย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามที่ โรงเรยี นจัดข้นึ ๒. ซือ่ สัตย์ สจุ รติ ๒.๑ ให้ขอ้ มลู ทถี่ ูกต้อง และเปน็ จริง ๒.๒ ปฏิบตั ิในสง่ิ ทถี่ ูกตอ้ ง ๓. มวี นิ ัย ๓.๑ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของครอบครวั รับผดิ ชอบ มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่างๆ ใน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ชีวติ ประจาวัน ๔.๑ รจู้ กั ใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ิได้ ๔.๒ รูจ้ กั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม ๔.๓ เช่ือฟงั คาส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง ๔.๔ ตัง้ ใจเรียน ๕. อยู่อยา่ ง ๕.๑ ใชท้ รพั ย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั พอเพียง ๕.๒ ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และร้คู ณุ คา่ ๕.๓ ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเก็บออมเงิน ๖. มุ่งม่นั ในการ ๖.๑ มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย ทางาน ๖.๒ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสาเร็จ ๗. รกั ความเป็นไทย ๗.๑ มจี ิตสานกึ ในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย ๘. มีจติ สาธารณะ ๘.๑ รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน ๘.๒ ร้จู กั การดแู ล รกั ษาทรัพย์สมบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของห้องเรียน โรงเรยี น ลงชอ่ื ................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรม คะแนน คะแนน ความหมาย อยา่ งสมา่ เสมอ ๓ บอ่ ยคร้ัง ๒ ๔๖-๖๐ ดี บางคร้งั ๑ ๓๐-๔๕ พอใช้ ตา่ กวา่ ๓๐ ปรับปรงุ

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๗ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภาคการเรียนท่ี ๑ ปี ๒๕๖๒ รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๖๑๐๑ เวลา ๙ ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เร่ือง ควาย ข้าว และชาวนา เวลา ๑ ชัว่ โมง เร่ือง การผนั วรรณยกุ ต์ โรงเรยี นชุมชนวดั บางขนั ผสู้ อน นางสาวพชิ ามญชุ์ นาถมทอง ๑. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การสะกดคาน้ัน จาเป็นต้องรู้จักการผันวรรณยุกต์ ซึ่งการผันวรรณยุกต์ให้ถูกต้องจะต้องเข้าใจเรื่อง ไตรยางค์ และคาเป็น คาตาย ๒. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั สาระที่ ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของ ภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทย ไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ ตัวชี้วดั ท ๔.๑ ป.๖/๑ วิเคราะห์ชนิดและหน้าท่ีของคาในประโยค ๓. จดุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. ผันวรรณยุกตไ์ ด้ ๒. บอกเสยี งวรรณยุกตใ์ นคาต่างๆได้ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (K) - การผนั วรรณยุกต์ ทักษะ/กระบวนการ (P) - ผนั วรรณยุกตจ์ ากคาที่ใช้อักษรกลาง อักษรสงู อักษรต่า เจตคติ (A) - ตระหนกั และเหน็ คุณค่าของภาษาไทย - รักความเป็นไทย ใช้ภาษาแสวงหาความรูเ้ พื่อพฒั นาตนเอง - มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดู และการพดู ๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

- กระบวนการทางานกลุ่ม - กระบวนการปฏบิ ัติ ๖. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - มวี นิ ยั - ใฝเ่ รยี นรู้ - มุ่งมน่ั การทางาน ๗. ชน้ิ งาน/ภาระงาน - ใบงาน เร่อื ง การผนั วรรณยุกต์ ๘. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ๑. ครูทบทวนความรเู้ ดิม เรื่องอักษร ๓ หมู่ โดยการท่องจาอักษร ๓ หมู่ อกั ษรกลาง คอื ไก่จกิ เด็กตายเฎ็กฏายบนปากโอ่ง อกั ษรสงู คอื ผีฝากถุงขา้ วสารให้ฉันศกึ ษาฐานฃวด อักษรต่าเดี่ยว คอื งใู หญ่นอนอยู่ ณ ริมวัดโมฬีโลก อกั ษรตา่ คู่ คอื พ่อค้าฟนั ทองซ้ือช้างฮ้อ ๒. ครใู หน้ กั เรียนบอกลกั ษณะคาเปน็ คาตาย - คาเปน็ คือ คาท่ีประสมดว้ ยสระเสยี งยาว และไม่มตี วั สะกด หรอื คาทีส่ ะกดในมาตราแม่กง แม่ กม แม่กน แม่เกย แม่เกอว รวมทง้ั คาในสระ อา ไอ ใอ เอา - คาตาย คือ คาทีป่ ระสมสระเสียงสัน้ ไม่มตี ัวสะกด หรือคาทส่ี ะกดในมาตราแม่กก กบ กด ๓. ครแู นะนาบทเรยี น เรื่อง การผนั วรรณยกุ ต์ ข้นั สอน ๔. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ ๖ คน โดยใชก้ ลุ่มเดมิ แต่ให้เลือกประธาน รองประธาน เลขานกุ ารกลมุ่ ใหม่ ไม่ให้ซา้ เดิม ๕. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ศกึ ษาความรู้ เร่อื ง การผนั วรรณยุกต์ จากหนงั สอื เรยี นภาษาพาทีและใบ ความรู้ เรื่อง การผนั วรรณยุกต์ โดยให้สมาชิกในกลมุ่ จบั คู่เพอ่ื ศึกษาความรูด้ งั น้ี - ค่ทู ี่ ๑ การผนั วรรณยกุ ต์คาทมี่ ีพยญั ชนะตน้ เปน็ อักษรกลาง - คู่ท่ี ๒ การผนั วรรณยุกต์คาทมี่ ีพยญั ชนะต้นเปน็ อักษรสงู - คทู่ ่ี ๓ การผันวรรณยุกต์คาทีม่ ีพยัญชนะต้นเป็นอักษรต่า หลังจากน้นั นาความรู้ที่ได้อธบิ ายใหส้ มาชิกในกล่มุ แลกเปลยี่ นความคิดเห็น เพ่ือให้มคี วามเข้าใจที่ ตรงกนั ๖. นักเรียนแต่ละกลุ่มทาใบงาน เรือ่ ง การผนั วรรณยกุ ต์ ๗. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยใบงาน โดยครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ และเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นได้ซักถาม

ขั้นสรปุ ๘. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่อง คาเป็น คาตาย และหลักเกณฑ์การผันอักษร ๓ หมู่ จะผันได้ไม่ เหมือนกัน เช่น อักษรกลางจะสามารถผันได้ครบห้าเสียง เช่น กา ก่า ก้า ก๊า ก๋า ส่วนอักษรสูงและ อักษรต่าจะผันได้เพียงสามเสียง คา ค่า ค้า ภาษาไทยจะมีเสียงวรรณยุกต์ ซ่ึงสามารถผันหรือการทาให้มี ระดับเสียงแตกต่างกันไปและจะทาให้ความหมายเปล่ียนไปด้วยซึ่งเป็นประโยชน์ในการเรียนรู้คาและนาไปใช้ ๙. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวิต ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๒. ใบความรู้ เร่ือง การผนั วรรณยุกต์ ๓. ใบงาน เรื่อง การผันวรรณยุกต์ ๑๐. การวดั และการประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ วิธกี าร ใบงาน เรือ่ ง การผนั วรรณยกุ ต์ รอ้ ยละ ๖๐ ขึน้ ไป ตรวจใบงาน เร่อื ง การผันวรรณยุกต์ แบบประเมินคุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ อนั พึงประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมความมีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ ผา่ นเกณฑร์ ะดับพอใช้ และม่งุ มั่นการทางาน ขึน้ ไป

บนั ทกึ หลังสอน ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรียนจานวน.........................................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้โู ดยรวม......................คน คดิ เป็นร้อยละ.............................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรโู้ ดยรวม..................คน คิดเป็นร้อยละ.............................. ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษ/นกั เรียนเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นักเรยี นทไ่ี ม่ผ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านความรู้ (K) จานวน............................คน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………นักเรียน ที่ไม่ผา่ นการประเมนิ จุดประสงคด์ ้านทักษะ (P) จานวน.............................คน ไดแ้ ก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………นกั เรียน ทีไ่ ม่ผา่ นการประเมินจุดประสงคด์ ้านเจตคติ (A) จานวน............................คน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ (จากปญั หาอปุ สรรค) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.....................................ครผู ้สู อน (นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง) ตาแหน่ง ครู …………./……………./…………

สื่อการเรยี นรู้และแบบประเมนิ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เรื่อง จากผาแต้ม...สู่อียิปต์ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๗ เรอ่ื ง การผนั วรรณยกุ ต์

การผนั วรรณยกุ ต์ ๑. คาที่มีพยัญชนะต้นเปน็ อักษรกลาง ผนั ได้ ๒ วธิ ี คอื ๑) อักษรกลางคาเปน็ พ้ืนเสียงเป็นเสยี งสามญั ผันได้ครบท้ัง ๔ เสียง เช่น กา กา่ กา้ กา๊ ก๋า ๒) อักษรกลางคาตายพน้ื เสียงเป็นเสยี งเอก ผันได้ครบทัง้ โทตรีจตั วา เชน่ จะ จ้ะ จ๊ะ จ๋ะ ๒. คาท่ีมีพยัญชนะต้นเป็นอักษรสูง ผันได้ ๒ วิธี คือ ๑) อกั ษรสงู คาเปน็ พ้ืนเสียงเปน็ เสียงจตั วา ผันดว้ ยไม้เอกและไม้โท ไดเ้ สยี งเอกและ เสยี งโทตามลาดับ เช่น ขา ขา่ ข้า / ฉาย ฉ่าย ฉ้าย ๒) อกั ษรสูงคาตายพนื้ เสียงเปน็ เสียงเอก ผนั ด้วยไมโ้ ท ได้เสยี งโท เชน่ ขะ ขะ้ / ผัก ผกั้ ฯลฯ ๓. คาที่มีพยัญชนะตน้ เปน็ อกั ษรตา่ ผนั ได้ ๓ วธิ ี คือ ๑) อกั ษรต่าคาเปน็ พ้นื เสยี งเปน็ เสยี งสามญั ผนั ด้วยไมเ้ อกได้เสียงโท ผันด้วยไม้โท ได้เสยี งตรี เชน่ คา ค่า ค้า / เพงิ เพ่งิ เพิ้ง ๒) อักษรตา่ คาตายเสยี งส้นั พน้ื เสยี งเป็นเสยี งตรี ผันดว้ ยไม้เอกได้ เสยี งโท เช่น คะ คะ่ / รัก รก่ั ๓) อกั ษรต่าคาตายเสียงยาวพน้ื เสยี งเป็นเสยี งโท ผนั ด้วยไม้โทไดเ้ สยี งตรี เชน่ นาก น้าก



สมาชกิ เลขที่ …….. ประธาน ๑. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. รองประธาน ๒. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. เลขานกุ ารกลุ่ม ๓. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชกิ ๔. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชกิ ๕. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชิก ๖. ……………………………………………………………………… คาช้แี จง ลากเสน้ การผันวรรณยุกตจ์ ากวลหี รือประโยคที่กาหนด คา แมค่ า้ ขายไก่ เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เอก สามญั แม่ ค้า ขาย ไก่

๑ จก๊ิ เปน็ เพ่ือนกบ เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท ………….…… ……………… คา เอก ……………..… สามญั ……………… …………….… ๒ ฝนรักโอค่ะ เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เอก …………….… ………….…… คา……………… ……………..… สามญั ………………

๓ ปยิ ะพรว่ายนา้ เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เอก สาม…ญั …………… …………….… ………….…… คา……………… ……………..… ๔ นนทเ์ กี่ยวขา้ วแล้วหรอื เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เอก …………….… ………….…… ……………… คา สามญั ……………..… ………………

๕ กระแสชลวนเชี่ยว เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เอก ……………… คา สามญั ……………..… ๖ ……………ผ…ิดเพยี งเพ…้อ…เผ…ล…อ…พ.…ลดั พราก………….…… เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา ตรี โท เอก …………….… ………….…… ……………… คา สามญั ……………..… ………………


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook