Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติการตรวจเงินแผ่นดินไทย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

ประวัติการตรวจเงินแผ่นดินไทย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

Published by oaghrdi.km, 2018-02-20 21:21:20

Description: ประวัติการตรวจเงินแผ่นดินไทย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

Search

Read the Text Version

๐๕๑

 ๐๕๒ ประวัตศิ าสตร์การตรวจเงินแผ่นดินไทย

• ประกาศต้งั กรมตรวจเงนิ  แผ่นดิน เม่อื วนั ที ่ ๑๘ ๐๕๓กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๕๘ทมี่ า: สา� เนาภาพถ่ายจากราชกจิ จานเุ บกษา

สุนทรี เตียสมุทร (๒๕๑๓ : ๓๗ - ๔๒) และ เนตรทราย ต้ังขจรศักดิ์(๒๕๓๘ : ๑๐๘ - ๑๐๙) ซ่ึงสนใจศกึ ษาประวัตศิ าสตร์การตรวจเงนิ แผ่นดนิ ไทย ได้ตงั้ ข้อสงั เกตและสรปุ สาระส�าคญั ของการตรวจเงนิ แผ่นดนิ ในสมัยรัชกาลท่ี ๖ ไวว้ ่า ในแง่ของความเป็นอิสระนั้น กรมตรวจเงินแผ่นดิน ยังเป็นหน่วยงานหน่ึงของกระทรวงพระคลังมหาสมบตั ิเหมือนเดิม อย่างไรกด็ ี กรมตรวจเงินแผ่นดิน มคี วามเปน็ อสิ ระมากขนึ้ กวา่ เดมิ ในเรอื่ งการทา� งานตรวจสอบกระทรวงตา่ งๆ โดยไมต่ อ้ งขออนุญาตเสนาบดีกระทรวงนั้นๆ แต่ต้องรายงานผลการตรวจสอบเสนอ เสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ และไม่มีกฎหมายหรือบทบัญญัติใดก�าหนดให้น�าข้ึนทลู เกลา้ ฯ ถวายพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ใหท้ รงทราบ ดงั นนั้ จงึ ไมม่ หี ลกั ประกนัวา่ ขอ้ เสนอหรอื รายงานของกรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ จะไดร้ บั การพจิ ารณาจากผมู้ อี า� นาจอนุมตั เิ งนิ แผน่ ดนิ หรือไม่ ในเร่ืองอ�านาจหน้าที่ กรมตรวจเงินแผ่นดนิ มีอา� นาจตรวจการเงนิ เฉพาะบคุ คลที่มีตา� แหนง่ เกี่ยวขอ้ งกบั การรับจา่ ยเงนิ การเกบ็ รกั ษาเงนิ แผน่ ดนิ หรือเงินอย่างอ่ืนทร่ี บั ผดิ ชอบเทา่ นนั้ แตไ่ มม่ อี า� นาจเกยี่ วขอ้ งกบั งานของกรมนนั้ โดยการเขา้ ตรวจสอบกระทรวงต่างๆ ไม่จ�าเป็นต้องขออนุญาตเสนาบดีกระทรวงน้ันก่อน ผู้ตรวจสอบสามารถเลอื กให้ผรู้ ับตรวจช้ีแจงใดๆ ในหนา้ ท่ขี องผู้รบั ตรวจได้ ภายหลงั จากทมี่ กี ารสถาปนากรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ แลว้ ไดม้ ปี ระกาศกฎขอ้ บงั คบัอา� นวยการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ เพอื่ ขยายความอา� นาจหนา้ ทขี่ องกรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิตามความในขอ้ ๓ แห่งประกาศต้งั กรมตรวจเงนิ แผ่นดิน ลงวนั ที่ ๑๘ กนั ยายน พ.ศ.๒๔๕๘ ประกาศฉบับดังกล่าวมีท้ังหมด ๘ ข้อ โดยในข้อ ๓ บัญญัติให้กรมตรวจเงินแผ่นดนิ มีหนา้ ท่ี ๓ ประการ กล่าวคือ “(ก) ใหต้ รวจการงานของเจ้านา่ ทซ่ี ่งึ มีต�าแหน่งดงั ไดร้ ะบุไวใ้ นข้อ ๑ ใหเ้ หน็ ชัดวา่ ไดเ้ ดนิ ตามระเบยี บดังต้งั ไวใ้ นกฎหมาย พระราชบัญญัติ กฎข้อบังคับ หรือค�าส่งัของกรมของกระทรวง แลใหร้ ายงานตอ่ กระทรวงพระคลงั มหาสมบตั ติ ามทไ่ี ดต้ รวจเห็นนนั้ (ข) เมื่อเห็นว่าควรมกี ารเปลยี่ นแปลงอย่างใดในพแนกการเงนิ กใ็ ห้นา� ความเห็นนั้นขึ้นเสนอต่อเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ และ (ค) ให้กระท�าการไตส่ วนในทางการเงนิ เปนครง้ั เปนคราวตามแตเ่ สนาบดกี ระทรวงพระคลงั มหาสมบตั ิจะมีคา� ส่งั ” ดว้ ยเหตนุ ี้ ทงั้ สนุ ทรี (๒๕๑๓) และเนตรทราย (๒๕๓๘) จงึ ชใี้ หเ้ หน็ วา่ การตรวจเงินแผ่นดินในสมัยรัชกาลท่ี ๖ มีลักษณะของการตรวจสอบหลังจ่าย (Post Audit)มากกว่าการตรวจสอบก่อนจ่าย (Pre Audit) โดยการตรวจสอบทกุ ครง้ั ต้องก�าหนดวัตถุประสงค์ของการตรวจสอบไว้ว่า ให้ตรวจการงานของเจ้าหน้าที่ท่ีมีหน้าท่ีรบั จ่ายเก็บรกั ษาเงินแผ่นดนิ ว่าได้ปฏิบตั ติ ามกฎหมายหรือค�าสั่งของกรม กระทรวงประการใดหรือไม่ เชน่ เดยี วกนั กบั หนา้ ทใ่ี หมท่ เี่ พมิ่ ขน้ึ คอื การใหค้ า� แนะนา� กบั ผรู้ บั ตรวจ ซง่ึ ประกาศกฎข้อบงั คบั อ�านวยการตรวจเงินแผน่ ดิน ขอ้ ๕ บัญญัตไิ ว้ชัดเจนวา่ “เจ้าพนักงานกรมตรวจเงินแผ่นดินไม่มีอ�านาจเก่ียวข้องในวิธีการงานของกรมใดๆ ใหก้ ระทา� เฉภาะนา่ ทดี่ งั ทไ่ี ดก้ ลา่ วมาแลว้ แตเ่ มอ่ื เจา้ พนกั งานในกรมนน้ั หารอื ในข้อกฎหมาย แลกฎข้อบังคับเฉภาะทางการเงินไซร้ ให้เจ้าพนักงานกรมตรวจเงินแผน่ ดนิ แนะนา� ”๐๕๔ ประวตั ศิ าสตร์การตรวจเงนิ แผ่นดินไทย

  ๐๕๕

 ๐๕๖ ประวัตศิ าสตร์การตรวจเงินแผ่นดินไทย

  ๐๕๗

การจัดโครงสร้างของกรมตรวจเงินแผ่นดินในยุคเร่ิมแรกน้ัน กรมตรวจเงิน • ประกาศกฎข้อบังคบัแผ่นดินอยู่ภายใตก้ ารบังคบั บญั ชาของเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบตั ิ โดยมี อา� นวยการตรวจเงินอธิบดกี รมตรวจเงินแผ่นดินรบั ผดิ ชอบท่วั ไป แผ่นดนิ ทม่ี า : เนตรทราย ตัง้ ขจรศักด์ิ (๒๕๓๘ : ๑๐๙) ตั้งข้อสังเกตเรอื่ งการแตง่ ต้งั อธิบดี ส�าเนาภาพถา่ ยกรมตรวจเงินแผน่ ดินคนแรก คอื นายอีมิลโิ อ ฟลอริโอ ชาวอิตาลี ไว้ว่า สาเหตทุ ี่ จากราชกจิ จานเุ บกษาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายอี.ฟลอริโอ ชาวต่างชาติมาด�ารงต�าแหน่งอธิบดีกรมตรวจเงินแผ่นดินก็เพ่ือลดความ  ขัดแย้งระหว่างเสนาบดีกระทรวงต่างๆ ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาคร้ังหน่ึงสมัยท่ีพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั พระราชบดิ า มพี ระราชดา� รจิ ดั ตง้ั กรมสา� รวจ เพอ่ืตรวจตราการใช้จ่ายเงินของกระทรวงตา่ งๆ อยา่ งไรกด็ ี นายอี. ฟลอริโอ ตอ้ งพน้ จากตา� แหน่งอธบิ ดีกรมตรวจเงนิ แผน่ ดินไป หลังจากที่สยามประกาศสงครามกับเยอรมนี เม่ือวันท่ี ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ เนื่องจากนายอี. ฟลอริโอ เป็นชาวอิตาลีซึ่งเป็นคนในบังคับของออสเตรียฮังการี ท่อี ยู่ฝ่ายเยอรมนี หลังจากที่นายอี. ฟลอริโอ พ้นจากต�าแหน่งไปแล้ว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ เจ้าพระยาพลเทพ (เฉลิมโกมารกลุ ณ นคร) ซงึ่ ขณะนนั้ มบี รรดาศกั ดแิ์ ละราชทนิ นามเปน็ พระยาไชยยศสมบตั ิ(เฉลมิ โกมารกลุ ณ นคร) ดา� รงตา� แหนง่ อธบิ ดกี รมบาญชกี ลางเปน็ ผกู้ า� กบั ดแู ลกรมตรวจเงนิ แผ่นดิน (๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๐ - ๓๑ มนี าคม พ.ศ. ๒๔๖๓) ต่อมาพระยาไชยยศสมบัติ (เฉลิม โกมารกุล ณ นคร) ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิแ์ ละราชทนิ นามเป็น เจ้าพระยาพลเทพ (เฉลิม โกมารกลุ ณ นคร) และได้รบั พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหไ้ ปด�ารงตา� แหน่งเสนาบดกี ระทรวงเกษตราธิราช เมื่อต�าแหน่งว่างลง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระยาอนรุ กั ษร์ าชโกษา (ประเวศ อมาตยกลุ ) ขนึ้ ดา� รงตา� แหนง่ อธบิ ดีกรมบาญชีกลางและเป็นผู้ก�ากับดูแลกรมตรวจเงินแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๔๖๔ - ๑๗พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๙)๐๕๘ ประวตั ิศาสตรก์ ารตรวจเงนิ แผ่นดนิ ไทย

แผนภาพแสดงการควบคุมเงินงบประมาณของแผ่นดนิ ระหวา่ งปี พ.ศ. ๒๔๕๘ - ๒๔๖๙ (๑๐) พระบาทสมเดจ็ (๒) (๗) พระเจา้ อยหู่ ัว (๙) เสนาบดี กระทรวงพระคลงั มหาสมบัติ กรม (๖) (๑) กรม บัญชีกลาง (๕) ตรวจเงนิ แผ่นดนิ (๔) (๓) (๘) กรม พระคลัง ผเู้ บกิ มหาสมบตั ิ หรอื ผู้ส่งเงิน• ค�าอธบิ ายแผนภาพแสดง (๑) ผใู้ ชจ้ า่ ยเงนิ ของแผน่ ดนิ จะตอ้ งจดั ทา� งบประมาณยน่ื ตอ่ เสนาบดกี ระทรวงพระคลงั มหา-การควบคมุ เงนิ งบประมาณ สมบัติภายในเวลาก�าหนดของแผน่ ดนิ ระหวา่ งปี (๒) งบประมาณทเี่ สนาบดกี ระทรวงพระคลงั มหาสมบตั ไิ ดร้ บั ไวต้ าม (๑) เสนาบดกี ระทรวงพ.ศ. ๒๔๕๘ - ๒๔๖๙ พระคลงั มหาสมบตั จิ ะตอ้ งนา� ขนึ้ ทลู เกลา้ ฯ ถวายตามพระราชบญั ญตั วิ ธิ กี ารงบประมาณ และ เม่ือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แล้วจะต้องย่อรายการงบประมาณประกาศเป็นพระราช- บัญญัตงิ บประมาณประจ�าปี (๓) เม่ือมีการเบกิ จ่ายเงนิ แผ่นดนิ ผู้เบิกเงนิ ต้องทา� ฎกี าเบิกเงินยนื่ ขอต่อกรมบญั ชีกลาง (๔) เม่ือกรมบัญชีกลางได้รับฎีกาเบิกเงินและได้ท�าการตรวจสอบถูกต้องแล้ว จะสั่งให้ กรมพระคลังมหาสมบัตจิ ่ายเงินตามฎกี านั้น (๕) เมอื่ กรมพระคลงั มหาสมบตั ไิ ดร้ บั คา� สง่ั จา่ ยเงนิ จากกรมบญั ชกี ลางกจ็ ะจา่ ยเงนิ ตามฎกี า นน้ั ให้ผเู้ บกิ (๖) เมื่อกรมพระคลงั มหาสมบตั ไิ ดร้ บั เงินหรือจา่ ยเงินแผ่นดนิ ไปแล้ว ในเดอื นหน่ึงๆ และ ปหี นง่ึ ๆ จะตอ้ งทา� งบรายรบั รายจา่ ยเงนิ เสนอใหเ้ สนาบดกี ระทรวงพระคลงั มหาสมบตั ทิ ราบ (๗) เมอ่ื กรมบญั ชกี ลางไดร้ บั เงนิ หรอื จา่ ยเงนิ แผน่ ดนิ ไปแลว้ ในเดอื นหนงึ่ ๆ และในปหี นงึ่ ๆ จะตอ้ งทา� งบรายรบั รายจา่ ยเงนิ แผน่ ดนิ เสนอใหเ้ สนาบดกี ระทรวงพระคลงั มหาสมบตั ทิ ราบ (๘) เมื่อถึงเวลากรมตรวจเงินแผ่นดินจะได้ท�าการตรวจสอบบัญชีผู้ท�าการรับเงิน จ่ายเงิน หรือเก็บรักษาเงนิ ตามที่เสนาบดกี ระทรวงพระคลงั มหาสมบตั กิ �าหนด (๙) เมอื่ กรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ไดท้ า� การตรวจสอบหนว่ ยงานตา่ งๆ แลว้ ไดร้ บั ผลประการใด จะได้รายงานการตรวจให้เสนาบดกี ระทรวงพระคลังมหาสมบัติทราบ (๑๐) เสนาบดกี ระทรวงพระคลงั มหาสมบตั ิ เมอ่ื ไดร้ บั งบรายรบั รายจา่ ยเงนิ แผน่ ดนิ ประจา� ปี จากกรมบัญชกี ลางตาม (๗) แล้ว จะตอ้ งนา� ข้นึ ทลู เกลา้ ฯ ถวายในท่ปี ระชมุ เสนาบดี ๐๕๙

 ๐๖๐ ประวัตศิ าสตร์การตรวจเงินแผ่นดินไทย

• ประกาศต้งั ช่วงเริ่มต้นการสถาปนากรมตรวจเงินแผ่นดิน เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๘ สมัยท่ีนายอ.ี ฟลอริโอ นายอ.ี ฟลอรโิ อ เปน็ อธบิ ดกี รมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ มกี ารบนั ทกึ สถานทท่ี า� การตรวจเงนิเป็นอธบิ ดกี รมตรวจเงิน แผ่นดินแห่งแรกไว้ว่า ต้ังอยู่บริเวณวัดม่วงแค บางรัก ใกล้กรมไปรษณีย์โทรเลขแผน่ ดิน (ประยูร ศรียรรยงค์, ๒๕๑๘) ซึ่งบริเวณดังกล่าว คือ อาคารศุลกสถาน หรือทมี่ า : โรงภาษีซ่งึ ก่อสร้างตง้ั แตป่ ี พ.ศ. ๒๔๓๓ สมยั รชั กาลท่ี ๕สา� เนาภาพถ่ายจากราชกจิ จานเุ บกษา บรรพชนคนตรวจเงนิ แผ่นดนิ นายอมี ิลิโอ ฟลอรโิ อ อธิบดีกรมตรวจเงินแผน่ ดนิ คนแรก นายอีมลิ โิ อ ฟลอรโิ อ (Emilio Florio) หรอื นายอ.ี ฟลอริโอ เปน็ ชาวอิตาลที เ่ี ขา้ มารบั ราชการในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นายอี. ฟลอริโอเคยด�ารงต�าแหน่งส�าคัญหลายต�าแหน่ง เช่น เจ้ากรมตรวจแลสารบาญชี สมัยท่ีพระเจ้าลูกยาเธอพระองคเ์ จา้ กติ ยิ ากรวรลกั ษณ์ เปน็ อธบิ ดกี รมตรวจแลสารบาญชี นายอ.ี ฟลอรโิ อ นบั เปน็ บคุ คลสา� คญัทวี่ างรากฐานระบบบัญชีสากลให้เกิดขนึ้ ในสยาม นอกจากนี้ นายอี. ฟลอรโิ อ ยงั ไดร้ ับความไวว้ างใจในการตรวจสอบความผดิ ปกตทิ างบญั ชี เช่นการตรวจสอบกรณีการฉอ้ โกงแบงก์สยามกมั มาจล การตรวจสอบบญั ชที มี่ ณฑลภูเกต็ นายอ.ี ฟลอรโิ อ ไดร้ บั พระมหากรณุ าธคิ ณุ โปรดเกลา้ ฯ ใหด้ า� รงตา� แหนง่ อธบิ ดกี รมตรวจเงนิ แผน่ ดนิคนแรก ในชว่ งเรม่ิ ตน้ กรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ นายอ.ี ฟลอรโิ อ ไดว้ างรากฐานรายงานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิรายงานการตรวจสอบธนบัตรเลิกใช้ รายงานการตรวจอ�าเภอ และรายงานการตรวจสรรพากรจังหวดั อยา่ งไรกต็ าม หลงั จากที่สยามประกาศสงครามกบั เยอรมนี เมอื่ วนั ที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๐นายอี. ฟลอริโอ ซง่ึ เป็นคนในบังคับออสเตรีย ฮังการี ซ่งึ อยู่ฝ่ายเยอรมนี ทา� ใหน้ ายอี. ฟลอริโอ ต้องพน้ จากตา� แหนง่ ไป และถูกสง่ ตวั ไปอยทู่ ีป่ ระเทศอินเดีย นายอี. ฟลอรโิ อ ไดร้ บั พระราชทานเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณช์ า้ งเผือก ช้ันท่ี ๔ ภูษณาภรณ์ ๐๖๑

บรรพชนคนตรวจเงนิ แผ่นดิน เจา้ พระยาพลเทพ (เฉลมิ โกมารกลุ ณ นคร) อธบิ ดกี รมบาญชกี ลาง ผ้กู �ากับดูแลกรมตรวจเงนิ แผ่นดนิ มหาอา� มาตยเ์ อก เจา้ พระยาพลเทพ นามเดมิ ชติ (ภายหลังเปล่ียนเปน็ เฉลิม) (๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๐ - ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๙) เกิดในตระกูล ‘โกมารกุล ณ นคร’ เป็นบุตรของ พระยาศรสี รราชภักดี (หนเู ล็ก โกมารกลุ ณ นคร) กับ คณุ หญงิ เลก็ ศรสี รราชภกั ดี ท่านเรมิ่ ต้นศึกษา ข้ันแรกในส�านักเรยี น พระสาสนโสภณ (ออ่ น) วดั พิชยญาตกิ าราม ธนบรุ ี จนกระท่งั ปี พ.ศ. ๒๔๓๙ จงึ ได้ตามเสดจ็ สมเดจ็ พระราชปติ ลุ าบรมพงศาภมิ ุขฯ ไปศึกษาต่อ ณ ประเทศองั กฤษ ไดศ้ กึ ษาอยู่ เป็นเวลา ๕ ปี เดนิ ทางกลบั กรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๓ ในปีท่กี ลับถึงเมืองไทย ไดร้ ับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เขา้ รับราชการ ในกระทรวงพระคลังมหา- สมบตั ิ ในตา� แหนง่ ผชู้ ว่ ยนายเวร ในกรมตรวจแลสารบาญชี ตอ่ มาไดเ้ ลอ่ื นเปน็ นายเวรบญั ชคี ลงั หวั เมอื ง จนกระทัง่ ปี พ.ศ. ๒๔๔๕ ได้รับพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ยา้ ยไปรับราชการในต�าแหน่งขา้ หลวงส�ารวจ การพระคลงั มณฑลพายพั และออกไปปฏบิ ตั ริ าชการ ณ ที่นน้ั เกือบ ๕ ปี จงึ ยา้ ยกลับมากรุงเทพฯ เพ่ือรับตา� แหนง่ ผู้ช่วยอธบิ ดี กรมตรวจแลสารบาญชี ตอ่ มาในปี พ.ศ. ๒๔๕๔ ได้รับพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้เปน็ อธบิ ดกี รมเก็บ ในกระทรวงพระคลัง มหาสมบัติ จนเม่ือวันที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๘ ได้ย้ายมาเป็น อธิบดีกรมตรวจแลสารบาญชี (กรมตรวจแลสารบาญชี ต่อมาเปล่ยี นช่ือเปน็ กรมบาญชีกลาง) หลงั จากทน่ี ายอ.ี ฟลอรโิ อ พน้ จากต�าแหนง่ เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๔๖๐ เจา้ พระยาพลเทพ (ซงึ่ บรรดาศกั ดิ์ ขณะนนั้ คือ พระยาไชยยศสมบตั ิ) ได้เปน็ ผู้กา� กับดูแลกรมตรวจเงินแผ่นดนิ ดว้ ย ท่านได้รับราชการใน กระทรวงพระคลงั มหาสมบตั ิ มาด้วยความซื่อสัตยส์ จุ ริต และดว้ ยปรีชาสามารถ จนไดเ้ ปน็ กรรมการ สภาการคลัง และอธบิ ดกี รมพระคลังมหาสมบตั ิ ในปี พ.ศ. ๒๔๖๔ มพี ระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ใหย้ า้ ยไปด�ารงต�าแหนง่ เสนาบดีกระทรวง เกษตราธิการ๐๖๒ ประวัติศาสตรก์ ารตรวจเงินแผน่ ดนิ ไทย

• อาคารศุลกสถาน ที่ทา� การตรวจเงินแผน่ ดิน แห่งแรก สมัย นายอี. ฟลอรโิ อ

๐๖๔ ประวตั ิศาสตรก์ ารตรวจเงนิ แผ่นดินไทย

บทที่ ๔ การตรวจเงินแผ่นดินในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อย่หู ัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ สถาปนากรมตรวจเงินแผ่นดินโดยให้ข้ึนอยู่กับ กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ มีเสนาบดีกระทรวงพระคลัง มหาสมบัติเป็นผู้บังคับบัญชาและมีอธิบดีกรมตรวจเงินแผ่นดิน เปน็ ผูก้ �ากบั ดแู ลงานตรวจเงนิ แผ่นดิน อย่างไรก็ดี หลังจากท่ีนายอีมิลิโอ ฟลอริโอ หรือ นายอี. ฟลอริโอ พ้นจากต�าแหน่งเม่ือปี พ.ศ. ๒๔๖๐ พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อธิบดี กรมบาญชีกลางเป็นผู้ก�ากับดูแลกรมตรวจเงินแผ่นดินตั้งแต่สมัย ของเจ้าพระยาพลเทพ (เฉลิม โกมารกุล ณ นคร) และพระยา อนุรักษ์ราชโกษา (ประเวศ อมาตยกลุ )• พระบาทสมเดจ็ ตอ่ มาในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลพระปกเกล้าเจา้ อยหู่ วั ท่ี ๗ การตรวจเงินแผ่นดินไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกคร้ัง ซ่ึงภาพจาก : เนตรทราย ตัง้ ขจรศักดิ์ (๒๕๓๘ : ๑๐๙) แบง่ ชว่ งเวลาดงั กล่าวหอจดหมายเหตุแหง่ ชาติ ออกเป็น ๒ ระยะ กล่าวคอื ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๔๖๙ - ๒๔๗๕) ซึ่งอยู่ในระบอบการปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และระยะ ท่ี ๒ หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเม่ือวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕ จนสิน้ รัชกาล ๐๖๕

๔.๑ กรมตรวจเงนิ แผ่นดินสมทบเปน็ แผนกหน่ึง • เจ้าพระยาพลเทพ และ ของกรมบัญชกี ลาง พระยาอนรุ ักษ์ราชโกษา อดีตอธิบดีกรมบาญชีกลาง การควบคมุ เงนิ แผน่ ดนิ ระหวา่ งปี พ.ศ. ๒๔๙๖ - ๒๔๗๕ เกดิ การเปลย่ี นแปลง ท่กี �ากบั ดูแลกรมตรวจเงินคร้ังส�าคัญ เนื่องจากระบบการควบคุมเงินแผ่นดินได้รวมหน่วยงานในกระทรวง แผน่ ดิน ตงั้ แต่ป ี พ.ศ. พระคลงั มหาสมบตั ิ ๓ หนว่ ยงานเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั ทห่ี นว่ ยงานเดยี ว คอื กรมบญั ชกี ลาง ๒๔๖๐ - ๒๔๖๙ ภาพถา่ ยโดย : พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอยู่หัว มพี ระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ นายรฐั ธรรม ชวนเชยสมทบกรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ และกรมพระคลงั มหาสมบตั เิ ขา้ กบั กรมบาญชกี ลางเมอื่ และ นายโสมทตั นิธติ รรี ตั น์วันท่ี ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๙ แต่เดิมกรมบาญชีกลางท�าหน้าที่ควบคุมการรับจ่ายเงินแผ่นดินให้เป็นไปตามประมาณการ และจัดท�าบัญชีการรับจ่ายเงินแผ่นดินให้ถูกต้อง ขณะที่กรมตรวจเงินแผ่นดิน ท�าหน้าท่ีตรวจสอบการรับจ่ายการเก็บรักษาเงินแผ่นดินให้ถูกต้องตามระเบียบแบบแผน ส่วนกรมพระคลังมหา-สมบัติ ท�าหน้าท่ีรับจ่ายตัวเงินตามค�าสั่งกรมบาญชีกลาง และเก็บเงินรักษาเงินหรือทรัพยส์ นิ ของแผ่นดนิ มใิ ห้รั่วไหล (สนุ ทรี เตียสมุทร, ๒๕๑๓ : ๔๒) การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ยุบรวม ๓ หน่วยงานเข้าไว้ท่ีหน่วยงานเดียวเพือ่ ทา� หน้าท่คี วบคมุ เงนิ แผ่นดนิ ควบคมุ รบั จ่ายเงนิ การจัดทา� บัญชี การเกบ็ รักษาและตรวจสอบความถกู ต้องซ่งึ รวมท้งั หมดไวท้ ่กี รมบาญชีกลาง ทง้ั นเ้ี หตผุ ลทใี่ หส้ มทบกรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ เขา้ กบั กรมบาญชกี ลางกเ็ นอ่ื งจาก“กรมทงั้ สองนม้ี คี วามเกยี่ วพนั กนั มาก” ตอ่ มาพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วัทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ พระยาโกมารกุลมนตรี (ช่ืน โกมารกลุ ณ นคร) เปน็อธิบดีกรมบัญชีกลางและก�ากับควบคุมกรมตรวจเงินแผ่นดิน โดยหน้าที่ในการตรวจเงินแผน่ ดินถกู แบ่งออกเป็น ๓ แผนก ๑ สว่ น ได้แก่ แผนกพลเรอื น แผนกรฐัพาณิชย์ แผนกราชการทหาร และส่วนภูมภิ าค (เนตรทราย ตั้งขจรศักด,์ิ ๒๕๑๘ :๑๑๐) พระยาโกมารกลุ มนตรี (ชนื่ โกมารกลุ ณ นคร) ด�ารงต�าแหน่งอธบิ ดกี รมบญั ชีกลางและกา� กบั ควบคมุ กรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ตงั้ แตว่ นั ท่ี ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๙จนกระทง่ั ปี พ.ศ. ๒๔๗๒ หลงั จากนน้ั ไดร้ บั พระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหด้ �ารงตา� แหนง่เสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ โดยอธิบดีกรมบัญชีกลางล�าดับถัดมาคอื พระยาไชยยศสมบตั ิ (เสรมิ กฤษณามระ) ซง่ึ ดา� รงตา� แหนง่ ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. ๒๔๗๒ถึงชว่ งเวลาเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เม่ือวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕ แล้ว ต่อมาคณะกรรมการราษฎรไดเ้ ปล่ยี นแปลงหลักการควบคมุ เงินแผ่นดินเสียใหม่ โดยแยกกรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทร่ี วมอยใู่ นกรมบญั ชกี ลางออกไปเปน็ อสิ ระ และให้ ‘กรมตรวจเงินแผ่นดิน’ พ้นจากกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ และให้ไปข้ึนโดยตรงต่อ ‘คณะกรรมการราษฎร’ ตัง้ แตว่ นั ที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ จนถงึ ปี พ.ศ. ๒๔๗๖(ก่อนประกาศใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.๒๔๗๖) ซึง่ ทา� ใหก้ ารตรวจเงินแผ่นดนิ ไทยก้าวเข้าสู่ยคุ ระบอบประชาธปิ ไตย๐๖๖ ประวตั ิศาสตรก์ ารตรวจเงินแผ่นดินไทย

๐๖๗

๐๖๘ ประวตั ิศาสตรก์ ารตรวจเงนิ แผ่นดินไทย

แผนภาพแสดงการควบคุมเงนิ งบประมาณของแผ่นดนิ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๖๙ - ๒๔๗๕ประกาศสมทบ พระบาทสมเดจ็กรมตรวจเงนิ แผ่นดนิ พระเจา้ อยูห่ ัวเข้ากบั กรมบาญชีกลางท่ีมา : (๕) (๒)สา� เนาภาพจากราชกิจจานเุ บกษา เสนาบดี กระทรวงพระคลัง (๔) (๑) มหาสมบตั ิ กรม ผ้เู บกิ บญั ชกี ลาง (๓) หรือผ้สู ง่ เงิน• คา� อธบิ ายแผนภาพ (๑) ผู้ใช้จ่ายเงินของแผ่นดินหรือผู้ส่งเงินจะต้องจัดท�างบประมาณย่ืนต่อเสนาบดีกระทรวงแสดงการควบคุม พระคลงั มหาสมบตั ใิ นเวลาก�าหนดเงนิ งบประมาณของแผน่ ดนิ (๒) เสนาบดกี ระทรวงพระคลงั มหาสมบตั ติ อ้ งนา� งบประมาณทจ่ี ดั ทา� นนั้ ขน้ึ ทลู เกลา้ ฯ ถวายระหว่างป ี พ.ศ. ๒๔๖๙ - ตามพระราชบญั ญัตวิ ิธกี ารงบประมาณ เมอื่ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แล้วจงึ ประกาศเป็น๒๔๗๕ พระราชบัญญัติงบประมาณประจา� ปี (๓) เมื่อมกี ารเบิกเงนิ หรือนา� ส่งเงิน ตอ้ งทา� ฎกี าหรอื ใบนา� สง่ ยน่ื ตอ่ กรมบัญชกี ลาง ในกรณี การเบกิ เงิน เมื่อกรมบญั ชีกลางตรวจถูกตอ้ งแล้วก็สง่ั จา่ ยเงินให้ (๔) การรับการจ่ายเงินงบประมาณของแผ่นดิน กรมบัญชีกลางจะรวบรวมบัญชีแสดง การรับการจ่าย เสนอเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติให้ทราบเป็นประจ�าเดือนและ เมอื่ ถงึ รอบปี (๕) บัญชีรายรับรายจ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินท่ีกรมบัญชีกลางรวบรวมเป็นประจ�าปี เสนาบดีกระทรวงพระคลงั มหาสมบตั จิ ะตอ้ งรายงานต่อพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ๐๖๙

บรรพชนคนตรวจเงนิ แผน่ ดนิ พระยาโกมารกลุ มนตรี (ชน่ื โกมารกุล ณ นคร) อธิบดีกรมบัญชีกลางและก�ากบั ควบคุมกรมตรวจเงนิ แผ่นดิน พระยาโกมารกลุ มนตรี (ชนื่ โกมารกลุ ณ นคร) (๑๖ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ - ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๔) เปน็ บตุ รของนายพลพา่ ย (ชวน โกมารกลุ ณ นคร) และคุณจวง บุนนาค จบ การศึกษาช้ันต้นที่โรงเรียนสุขุมาลัย และท่ีโรงเรียนอุดมวิทยายน วัดอนงคาราม ได้เข้าฝึกราชการในกรมตรวจและสารบาญชี กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๕๒ ได้บรรจเุ ป็นเสมยี นในกรมตรวจและกรมสารบาญชี ปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ทา่ นยา้ ยไปรบั ราชการในตา� แหนง่ พนกั งานอยั การ สงั กดั กระทรวงยตุ ธิ รรม จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๖๒ ได้โอนกลบั มารับราชการในกระทรวงพระคลงั มหาสมบตั ิ ในปี พ.ศ. ๒๔๖๙ พระยาโกมารกุลมนตรไี ด้รับพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหด้ า� รงต�าแหน่ง อธิบดีกรมบัญชีกลางและก�ากับควบคุมกรมตรวจเงินแผ่นดิน หลังจากด�ารงต�าแหน่งอธิบดี กรมบัญชีกลางอยู่ประมาณ ๓ ปี ในปี พ.ศ. ๒๔๗๒ ท่านได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ร้ังต�าแหน่งเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ด�ารง ต�าแหนง่ เสนาบดพี ระคลังมหาสมบัติ เม่ือวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๓ กอ่ นจะกราบถวาย บังคมลาออกเมอื่ ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๖ พระยาโกมารกุลมนตรี ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งต้ังให้เป็น รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงเศรษฐการ ในรัฐบาลพันเอก พระยาพหลพลพยหุ เสนา๐๗๐ ประวัตศิ าสตร์การตรวจเงินแผน่ ดนิ ไทย

บรรพชนคนตรวจเงนิ แผ่นดนิ พระยาไชยยศสมบัติ (เสรมิ กฤษณามระ) อธบิ ดกี รมบัญชกี ลางและก�ากับควบคมุ กรมตรวจเงนิ แผ่นดนิ พระยาไชยยศสมบัติ (เสริม กฤษณามระ) เป็นบตุ รของอา� มาตยเ์ อกพระยาราชธนพิทกั ษ์ (สงั ข์กฤษณามระ) และคุณหญิงราชธนพิทักษ์ (แสง ศรัทธาคุ้ม) จบการศึกษาจากโรงเรียน ภ.ป.ร. ราช-วิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อจบการศึกษาจึงเข้ารับราชการที่กระทรวงพระคลังมหาสมบัติในปี พ.ศ. ๒๔๕๖ ตา� แหนง่ เสมยี นกรมทปี่ รกึ ษาการคลงั จากน้นั จงึ สอบชงิ ทุนไปศึกษาต่อทป่ี ระเทศอังกฤษ หลังจากนั้นกลับมาเข้ารับราชการท่ีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ และได้รับบรรจุในต�าแหน่งเสมียนอังกฤษ จนกระท่ังปี พ.ศ. ๒๔๖๕ ได้รับพระราชทานบรรดาศักด์ิเป็น หลวงกฤษณามระพัตต่อมาเข้าท�างานในกรมบัญชีกลาง ต�าแหน่งนายเวรช้ัน ๒ และโอนไปอยู่กรมตรวจเงินแผ่นดินในต�าแหน่งนายเวรชั้น ๑ ท่านรับราชการอยู่ในกรมตรวจเงินแผ่นดิน จนได้เล่ือนต�าแหน่งเป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมตรวจเงินแผ่นดิน ในปี พ.ศ. ๒๔๗๒ ก่อนจะโอนกลับมาท่ีกรมบัญชีกลางอีกครั้ง พร้อมตา� แหนง่ รกั ษาการอธบิ ดกี รมบญั ชกี ลาง และเขา้ รบั ตา� แหนง่ อธบิ ดกี รมบญั ชกี ลางพรอ้ มทง้ั กา� กบั ควบคมุกรมตรวจเงินแผ่นดิน ด้วยวยั เพียง ๓๒ ปี ท่านไดร้ ับพระราชทานบรรดาศักดเิ์ ป็น พระยาไชยยศสมบตั ิ หลงั จากเปลยี่ นแปลงการปกครองปี พ.ศ. ๒๔๗๕ ทา่ นไดร้ บั พระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตง้ั ใหด้ า� รงตา� แหนง่ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงการคลงัในรฐั บาลพนั เอก พระยาพหลพลพยหุ เสนา นอกจากน้ียงั เคยไดร้ ับการแตง่ ต้ังเป็นสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรในสภาผ้แู ทนราษฎรไทย (ผูแ้ ทนราษฎรชัว่ คราว พ.ศ. ๒๔๗๕) ๐๗๑

๔.๒ กรมตรวจเงินแผ่นดินภายใตค้ ณะกรรมการราษฎร • พระยามโนปกรณน์ ิตธิ าดา (ก้อน หุตะสงิ ห์) หลังเปลีย่ นแปลงการปกครอง เมื่อวันที่ ๒๔ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๔๗๕ ท�าให้เกดิ ประธานคณะกรรมการการเปล่ียนแปลงการควบคุมตรวจสอบเงินแผ่นดินครั้งส�าคัญ กล่าวคือ คณะ ราษฎร และนายกรฐั มนตรี กรรมการราษฎรเหน็ วา่ การตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทสี่ งั กดั อยใู่ นกรมบญั ชกี ลาง กระทรวง คนแรกภายหลังเปลย่ี นแปลงพระคลังมหาสมบัติน้ัน การตรวจตราตลอดจนการแสดงความเห็นส�าหรับผลแห่ง การปกครองการตรวจยอ่ มไมเ่ ปน็ ไปโดยอสิ ระ ดงั น้นั สมควรจะโอนกรมตรวจเงินแผ่นดนิ มาข้ึน ภาพจาก : วิกิพเี ดยี ไทยต่อคณะกรรมการราษฎร คณะกรรมการราษฎร (๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕ - ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๕) นับเปน็ คณะรฐั มนตรีชุดท่ี ๑ หลังเปลีย่ นแปลงการปกครอง ทงั้ น้ีหลังจากท่ีพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุมัติให้ใช้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ. ๒๔๗๕ เมื่อวันที่ ๒๗ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๔๗๕ แล้ว ต่อมาในวนั ที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕สภาผู้แทนราษฎรซึ่งประกอบด้วยสมาชิกคณะผู้รักษาพระนครฝ่ายทหารที่ตั้งขึ้นจ�านวน ๗๐ คน ได้ประชุมเปน็ ครง้ั แรก ณ พระทนี่ ่ังอนันตสมาคม ท้ังนี้เพ่ือให้เป็นไปตามธรรมนูญการปกครองแผ่นดินมาตรา ๓๓ ที่บัญญัติให้สภาเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผหู้ นง่ึ เปน็ ประธานกรรมการ และใหผ้ เู้ ปน็ ประธานนนั้ เลอื กสมาชิกในสภาอีก ๑๔ คนเพ่ือเป็นกรรมการ การเลือกนี้เมื่อได้รับความเห็นชอบของสภาแลว้ ให้ถือว่าผ้ไู ดร้ บั เลือกเปน็ กรรมการของสภา ในการน้ี สมาชิกได้เสนอให้มหาอ�ามาตย์โทพระยามโนปกรณ์นิติธาดา (ก้อนหุตะสิงห์) เป็นประธานคณะกรรมการราษฎร และประธานฯ ได้เสนอชื่อคณะกรรมการราษฎร จ�านวน ๑๔ คน ซึ่งคณะกรรมการราษฎรชุดนี้นับเป็นคณะรฐั มนตรีชุดแรกของประเทศไทย สนุ ทรี เตยี สมทุ ร (๒๕๑๓ : ๔๔) และ เนตรทราย ตง้ั ขจรศกั ด์ิ (๒๕๓๘ : ๑๑๑)ต้งั ข้อสังเกตคล้ายกันวา่ การเปลี่ยนแปลงการปกครองท�าให้กรมตรวจเงินแผ่นดินถกู โอนมาสงั กดั คณะกรรมการราษฎรนนั้ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความส�าคญั ของงานตรวจเงินแผ่นดินที่ต้องการความเปน็ อิสระในการทา� งานตรวจสอบ เนือ่ งจากในเวลานั้นคณะกรรมการราษฎรเปน็ คณะบคุ คลทม่ี อี �านาจสูงสุดในการบริหารประเทศ ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศโอนกรมตรวจเงินแผ่นดินไปขึ้นต่อคณะกรรมการราษฎร โดยมหี ลวงดา� รอิ ศิ รานวุ รรต (หมอ่ มหลวงดา� ริ อศิ รางกรู ณอยุธยา) เป็นผู้ท�าการแทนอธิบดีกรมตรวจเงินแผ่นดินจนถึงเดือนพฤศจิกายนพ.ศ. ๒๔๗๖ และให้ พระยานรนาถภกั ดี (ปยุ บุนนาค) เป็นผูช้ ว่ ยอธบิ ดกี รมตรวจเงินแผน่ ดนิ สา� หรบั อา� นาจหนา้ ทข่ี องกรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทแ่ี ยกออกมาจากกรมบญั ชกี ลางนั้น ปรากฏในบันทึกข้อตกลงระหว่างอธิบดีกรมบัญชีกลางกับผู้แทนอธิบดีกรมตรวจเงินแผ่นดิน โดยการตรวจงานแยกงานจากกรมบัญชีกลางเฉพาะงานตรวจในราชการบรหิ ารสว่ นกลางเทา่ นน้ั สว่ นงานตรวจสว่ นภมู ภิ าคใหอ้ ยใู่ นความรบั ผดิชอบของกรมบญั ชกี ลาง ตอ่ มาในเดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๗๕ กรมบญั ชกี ลางได้โอนการตรวจทางหวั เมอื งมาใหก้ รมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ รบั ผดิ ชอบ พรอ้ มโอนตา� แหนง่มาเพ่มิ อีก ๕๕ ต�าแหนง่๐๗๒ ประวัติศาสตรก์ ารตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ไทย

๐๗๓

• ประกาศใหโ้ อนกรมตรวจเงิน แผ่นดินมาขึ้นตรงกบั คณะ กรรมการราษฎร ท่มี า : สา� เนาภาพจาก ราชกจิ จานเุ บกษา๐๗๔ ประวัติศาสตร์การตรวจเงินแผน่ ดนิ ไทย

อา� นาจหน้าท่ขี องกรมตรวจเงินแผ่นดนิ หลังแยกออกจากกรมบญั ชกี ลาง มีบันทึกข้อตกลงระหว่างอธิบดีกรมบัญชีกลางกับผู้แทนอธิบดีกรมตรวจเงินแผ่นดินเกีย่ วกบั อา� นาจหนา้ ทีข่ องกรมตรวจเงินแผน่ ดินทีแ่ ยกออกจากกรมบญั ชกี ลาง ดงั นี้ (๑) การคมุ ยอดงบประมาณใหก้ รมบญั ชกี ลางคมุ (๒) กรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ คงตรวจปลดั บญั ชวี า่ ไดร้ บั เงนิ จากกรมบญั ชกี ลางไปเทา่ ใด และใช้จา่ ยไปถกู ต้องตามประเภททีเ่ บกิ หรือไม่ (๓) กรมตรวจเงินแผน่ ดินทา� การตรวจใบสา� คัญ ณ ส�านักงานกรมกองทีเ่ บกิ จา่ ย (๔) การตรวจการจ่ายเงินเดือนเป็นหน้าท่ีกรมตรวจเงินแผ่นดินจะตรวจสอบว่าได้จ่ายตามงบประมาณอนญุ าตและตามกระทรวงการคลงั ฯ ไดเ้ ห็นชอบดว้ ยแล้ว (๕) การข้ึนเงินเดือนทุกราย กระทรวงการคลังฯ จะส่งส�าเนาหนังสืออนุญาตไปให้กรมตรวจเงนิ แผน่ ดินด้วย (๖) ใบส�าคญั ตามหวั เมอื ง กรมกองต่างๆ ในช้นั น้ีใหภ้ าคตรวจไปตามเดมิ แต่ส่งรายงานการตรวจให้กรมตรวจเงินแผ่นดนิ ทราบ (๗) กรมบัญชีกลางแบ่งคนให้กรมตรวจเงินแผ่นดินไปประมาณ ๙๐ คน เฉพาะที่เคยทา� การตรวจใบส�าคัญและบัญชแี ล้ว (๘) กรมบญั ชกี ลางโอนเงินงบประมาณค่าใช้จา่ ยไปใหด้ ้วย (๙) งานที่ค้างอยใู่ ห้เสนอกรมบญั ชีกลาง ส่วนงานใหม่ฟังค�าสั่งคณะกรรมการราษฎร ๐๗๕

สา� หรบั วิธกี ารตรวจสอบ ประยูร ศรยี รรยงค์ (๒๕๑๘ : ๖๘) ได้อธบิ ายวธิ ีการ ท่ีมา :ตรวจสอบของกรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ไวว้ า่ ผตู้ รวจสอบยงั คงถอื ปฏบิ ตั กิ ารตรวจสอบ ส�าเนาภาพจากตามเดิมสมัยที่รวมกับกรมบัญชีกลาง แต่การตรวจใบส�าคัญน้ันพยายามรวบรัด ราชกจิ จานุเบกษาประสานงานกบั เจา้ หน้าทตี่ า่ งๆ ในกรมกองน้ันๆ ใหส้ ะดวกรวดเรว็ ย่งิ ขนึ้ แทนที่จะเรียกใบส�าคัญเข้ามาตรวจสอบในท่ีท�าการของกรมตรวจเงินแผ่นดิน แต่ได้ยกกองตรวจใบส�าคญั ไปประจ�าทกี่ รมกองเหล่าน้ัน เม่ือผูร้ ับตรวจตดิ ขัดไม่เขา้ ใจในเร่ืองใดกจ็ ะชีแ้ จงแนะน�าไดท้ นั ที ทา� ให้ไม่ตอ้ งต้ังทักทว้ งไวเ้ ปน็ แรมปี โครงสร้างกรมตรวจเงินแผ่นดินช่วงที่สังกัดกับคณะกรรมการราษฎรน้ันประกอบด้วย ๔ กอง ได้แก่ (๑) กองบัญชาการกลาง (๒) กองตรวจการบัญชี(๓) กองตรวจใบส�าคัญ และ (๔) กองตรวจการจงั หวัด โดยอัตรากา� ลังของกรมตรวจเงนิ แผน่ ดินเมอื่ ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ มที ง้ั ส้ิน ๑๔๕ อตั รา๐๗๖ ประวัตศิ าสตรก์ ารตรวจเงินแผน่ ดนิ ไทย

แผนภาพแสดงการควบคมุ เงินงบประมาณของแผ่นดิน ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๗๕ - พ.ศ.๒๔๗๖ (๒) สภาผแู้ ทนราษฎร คณะรัฐมนตรี (๖) หรอื คณะกรรมการ กรม ราษฎร ตรวจเงนิ แผ่นดนิ กระทรวงการคลงั (๕) (๔) (๑) ผู้เบกิ หรือผู้สง่ เงิน กรมบญั ชีกลาง (๓)• คา� อธบิ ายแผนภาพ (๑) หน่วยงานผู้มีหน้าที่เบิกเงินหรือส่งเงินงบประมาณ จะต้องจัดท�างบประมาณประจ�าปีแสดงการควบคุม ยน่ื ตอ่ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงการคลงั ภายในเวลากา� หนดเงินงบประมาณของแผ่นดิน (๒) เม่ือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรวบรวมงบประมาณแล้ว จัดท�าเป็นร่างพระราช-ระหว่างป ี พ.ศ. ๒๔๗๕ - บญั ญัติงบประมาณประจา� ปีเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพ่อื พจิ ารณาประกาศใชเ้ ป็นกฎหมาย๒๔๗๖ (๓) เมื่อมกี ารส่งเงินหรือเบิกเงนิ งบประมาณ ผู้เบิกหรอื ผสู้ ง่ เงินจะต้องทา� ฏกี าเบกิ เงนิ หรอื ทา� ใบนา� สง่ เงนิ ยน่ื ตอ่ กรมบญั ชกี ลาง เมอื่ กรมบญั ชกี ลางตรวจสอบเหน็ วา่ เปน็ การถกู ตอ้ งแลว้ ก็จะสงั่ จ่ายหรือสง่ั รบั เงินนัน้ (๔) การรับและการจ่ายเงนิ งบประมาณแผน่ ดนิ กรมบัญชกี ลางจะตอ้ งรายงานใหก้ ระทรวง การคลงั ทราบทุกๆ เดอื นและทกุ ๆ ปี (๕) การเบกิ เงนิ งบประมาณไปใชจ้ า่ ยกด็ ี หรอื การสง่ เงนิ รายไดแ้ ผน่ ดนิ ของผเู้ บกิ หรอื ผสู้ ง่ เงนิ ตาม (๓) กรมตรวจเงินแผ่นดินจะต้องท�าการตรวจสอบ เพ่ือทราบว่าการรับการจ่ายเงิน งบประมาณเป็นไปโดยถูกตอ้ งหรือไม่ (๖) ผลการตรวจสอบของกรมตรวจเงินแผ่นดิน ท่ีท�าการตรวจสอบการเบิก การจ่าย การรับเงินงบประมาณแผ่นดินมีเป็นประการใด กรมตรวจเงินแผ่นดินจะต้องรายงานให้ คณะกรรมการราษฎรทราบ ๐๗๗

๐๗๘ ประวตั ิศาสตรก์ ารตรวจเงนิ แผ่นดินไทย

บทที่ ๕ การตรวจเงินแผ่นดนิภายใต้พระราชบญั ญัตวิ า่ ด้วยคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดิน พ.ศ. ๒๔๗๖ ๕.๑ คณะกรรมการตรวจเงินแผน่ ดนิ• หลวงด�าริอิศรานุวรรต ภายหลงั เปลยี่ นแปลงการปกครองเมอื่ วนั ท่ี ๒๔ มถิ นุ ายน พ.ศ.ผชู้ ่วยอธบิ ดที �าการแทน ๒๔๗๕ กรมตรวจเงินแผ่นดินถูกโอนเข้าไปสังกัดคณะกรรมการอธิบดกี รมตรวจเงนิ แผ่นดนิ ราษฎร ซ่ึงสะท้อนให้เห็นความส�าคัญของการตรวจเงินแผ่นดินภาพถ่ายจากตน้ ฉบบั โดย : ท่ีตอ้ งการความเปน็ อสิ ระในการท�างานตรวจสอบนายรฐั ธรรม ชวนเชย และนายโสมทัต นธิ ติ รรี ัตน์ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๖ รัฐสภาได้ตราพระราชบัญญัติ ว่า ด้วยคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๔๗๖ ซ่ึงนับเป็น กฎหมายตรวจเงินแผ่นดินฉบับแรกหลังจากเปล่ียนแปลงการ ปกครองเปน็ ระบอบประชาธปิ ไตย กฎหมายตรวจเงนิ แผน่ ดินฉบับนมี้ ีทง้ั หมด ๑๒ มาตรา โดย มาตราที่ ๔ บญั ญตั ิ “ใหโ้ อนการงานและบรรดาพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ กรมตรวจเงนิ แผ่นดินไปสังกัดคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดนิ ” ดงั นัน้ การตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ภายใต้กฎหมายฉบบั นจี้ งึ กระทา� การโดยให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นผู้มีอ�านาจหน้าที่ ตามบทบญั ญตั ใิ นมาตรา ๕ ทก่ี ลา่ วถงึ อา� นาจหนา้ ทไ่ี ว้ ๗ ขอ้ ไดแ้ ก่ (๑) ตรวจสอบงบปีเงินรายรับรายจ่ายของแผ่นดิน หรืองบ แสดงฐานการเงินแผ่นดนิ ประจา� ปี ซ่ึงคณะรฐั มนตรีจะน�าเสนอตอ่ สภาผู้แทนราษฎร และแสดงความเห็นว่า รายการจ�านวนเงิน ๐๗๙

รบั และจา่ ยตามงบปนี นั้ ไดเ้ ปน็ ไปตามงบประมาณประจา� ปแี ละตามความจรงิ หรอื ไม่ (๒) ตรวจสอบบญั ชที นุ สา� รองเงนิ ตราประจา� ปี และแสดงความเหน็ วา่ การรบัและจ่ายเปน็ การถูกตอ้ ง และเปน็ ไปตามกฎหมายหรือไม่ (๓) ตรวจสอบงบบัญชีของทะบวงการเมืองใดๆ ที่นายกรัฐมนตรีจะได้สั่งให้ตรวจสอบเปน็ คร้ังคราวแลว้ ทา� รายงานเสนอตอ่ นายกรฐั มนตรี (๔) เมอ่ื ตรวจสอบบญั ชแี ละเอกสารใดๆ ปรากฏวา่ บญั ชไี มถ่ กู ตอ้ งและเปน็ การทจุ ริต ก็มอบคดใี หเ้ จ้าหนา้ ทฟี่ อ้ งผ้กู ระท�าผดิ ต่อศาลตามกฎหมาย (๕) ท�าการตรวจสอบบัญชีเอกสารและทรัพยส์ ินของทะบวงการเมอื ง (๖) เรียกพนักงานเจา้ หนา้ ทท่ี ะบวงการเมืองทร่ี ับตรวจมาเพอ่ื สอบสวน (๗) เรยี กบคุ คลใดๆ มาใหก้ ารเป็นพะยานในการตรวจสอบบญั ชี เอกสาร และทรัพยส์ ินของแผ่นดนิ อาจกลา่ วไดว้ า่ การปรบั ปรงุ กฎหมายการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๔๗๖นับเป็นการให้อ�านาจกับคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินในการท�างานตรวจสอบซงึ่ เน้นทกี่ ารตรวจสอบบัญชี เอกสาร และทรัพย์สนิ ของผรู้ ับตรวจ ทั้งนี้ตามมาตรา ๘ ของกฎหมายบัญญัติให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินประกอบด้วย (๑) ประธานคณะกรรมการ (๒) กรรมการ และ (๓) เลขาธิการ เนตรทราย ตัง้ ขจรศกั ด์ิ (๒๕๓๘ : ๑๑๓ - ๑๒๑) อธิบายถงึ การเปลี่ยนแปลงการตรวจเงินแผ่นดินคร้ังนี้ไว้ว่า การจัดองค์กรการท�างานโดยใช้ระบบคณะ-กรรมการตรวจเงินแผน่ ดนิ ซึง่ ประกอบด้วย ประธาน เลขาธิการ และกรรมการ นน้ัประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินมีต�าแหน่งเทียบเท่าอธิบดี เลขาธิการเทียบเท่ารองอธิบดี เป็นข้าราชการช้ันพิเศษ ส่วนกรรมการเป็นข้าราชการช้ันเอกระดบั หัวหนา้ กอง อย่างไรก็ดี เนตรทราย ตั้งข้อสังเกตไว้น่าสนใจว่า การจัดต้ังคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินตามกฎหมายตรวจเงินแผ่นดินปี พ.ศ. ๒๔๗๖ น้นั มวี ตั ถุประสงค์เพอ่ื จะพฒั นารปู แบบไปสศู่ าลบญั ชดี งั เชน่ ประเทศฝรง่ั เศส ซง่ึ รฐั บาลในขณะนนั้ โดยนายปรีดี พนมยงค์ หรือ หลวงประดษิ ฐ์มนูธรรม ตงั้ ใจที่จะตัง้ องค์กรประเภทหนึง่ข้ึนในประเทศเพื่อท�าหน้าที่พิจารณาข้อพิพาทระหว่างรัฐกับเอกชน ดังปรากฏในรายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ ๓๐/๒๔๗๖ โดยองค์กรดังกล่าวมลี กั ษณะคล้ายกบั Conseil d’ État ของฝรง่ั เศส ซงึ่ ความตอนหนง่ึ หลวงประดษิ ฐ์มนธู รรมไดแ้ ถลงเรอ่ื งดงั กลา่ วในสภาไวว้ า่ “เรอื่ งคณะกรรมการกฤษฎกี านเ้ี ปน็ เรอื่ งท่ีค้างมาตั้งแต่รัฐบาลที่ตั้งขึ้นภายหลังพระราชทานพระธรรมนูญแล้วว่าเราจะยกฐานะของกรมรา่ งกฎหมายใหม้ ีสภาพเป็นศาลปกครองอย่างทีเ่ ขาไดก้ ระทา� มาแลว้หลายประเทศ” ขณะเดยี วกนั การจดั ตงั้ คณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ กเ็ พอื่ พฒั นาไปสรู่ ปู แบบศาลบญั ชี สว่ นการจดั ตงั้ คณะกรรมการกฤษฎกี ากเ็ พอื่ พฒั นาไปสศู่ าลปกครองสงู สดุตามแบบอย่างฝร่ังเศสเชน่ กัน ดงั นั้น กล่าวไดว้ ่าเป็นความต้ังใจและการมองการณ์ไกลของรัฐบาลชุดน้นั ในเวลาต่อมาความต้ังใจในการพัฒนาองค์กรท่ีท�าหน้าท่ีพิจารณาข้อพิพาทระหว่างรัฐและเอกชนประสบผลส�าเร็จในการต้ังศาลปกครองเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๔๒แต่การผลักดันองค์กรตรวจเงินแผ่นดินไปสู่ศาลบัญชีน้ันยังไม่บรรลุผลตามเจตนารมณข์ องผู้ร่างกฎหมายตรวจเงินแผน่ ดิน พ.ศ. ๒๔๗๖๐๘๐ ประวัตศิ าสตร์การตรวจเงนิ แผ่นดินไทย

สำ� หรบั ตำ� แหนง่ ประธำนคณะกรรมกำรตรวจเงนิ แผน่ ดนิ นน้ั บญั ญตั ไิ วใ้ นมำตรำ๙ ของกฎหมำยตรวจเงนิ แผ่นดนิ พ.ศ. ๒๔๗๖ ว่ำ ประธำนคณะกรรมกำรตรวจเงนิแผน่ ดนิ เปน็ ผซู้ งึ่ ทรงพระกรณุ ำโปรดเกลำ้ ฯ ตงั้ ขน้ึ โดยทคี่ ณะรฐั มนตรไี ดเ้ ลอื กเสนอขอควำมเหน็ ชอบตอ่ สภำผแู้ ทนรำษฎรและตอ้ งไดร้ บั ควำมเหน็ ชอบจำกสภำแลว้ สำ� หรบัเลขำธกิ ำรและกรรมกำร ทรงพระกรณุ ำโปรดเกลำ้ ฯ ตง้ั ขนึ้ โดยมตขิ องคณะรฐั มนตรี พระบำทสมเดจ็ พระปกเกลำ้ เจ้ำอยู่หวั ทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำฯ ให้ต้งั หลวงด�ำริอิศรำนวุ รรต (หม่อมหลวงดำ� ริ อศิ รำงกูร) เป็นประธำนคณะกรรมกำรตรวจเงนิแผ่นดนิ คนแรก เมอ่ื วันท่ี ๒๔ กมุ ภำพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๖ พร้อมท้ังมปี ระกำศแจง้ ควำมตง้ั กรรมกำรตรวจเงนิ แผน่ ดนิ จำ� นวน ๑๘ คน ดงั นน้ั คณะกรรมกำรตรวจเงนิ แผน่ ดนิชดุ แรกจงึ มที ง้ั หมด ๑๙ คน มหี ลวงดำ� รอิ ศิ รำนวุ รรตเปน็ ประธำนคณะกรรมกำรตรวจเงนิ แผน่ ดนิ และหลวงวรพำกยพ์ ินจิ (วินท์ อศั วนนท)์ เปน็ กรรมกำรและเลขำธิกำร ๐๘๑

• ประกาศต้งั หลวงดา� รอิ ศิ รานุวรรต เปน็ ประธานคณะกรรมการ ตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทีม่ า : ส�าเนาภาพถ่ายจาก ราชกจิ จานุเบกษา๐๘๒ ประวัติศาสตร์การตรวจเงินแผ่นดินไทย

๐๘๓

๐๘๔ ประวตั ิศาสตรก์ ารตรวจเงนิ แผ่นดินไทย

• แจง้ ความตั้งกรรมการ ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินมีฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดตรวจเงินแผ่นดนิ ของคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ มอี า� นาจหนา้ ทใี่ นการควบคมุ ดแู ลกจิ การทงั้ หลายท่มี า : ของคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทงั้ นโี้ ครงสรา้ งของคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่สา� เนาภาพถา่ ยจาก ดินปรากฏในพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบราชการส�านักงานและกรมในส�านักราชกิจจานเุ บกษา นายกรฐั มนตรี พ.ศ. ๒๔๗๖ ซงึ่ เปน็ การจดั ระเบยี บราชการภายในส�านกั นายกรฐั มนตรี โดยมาตรา ๘ บัญญตั วิ ่า คณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ แบง่ ส่วนราชการ ดงั น้ี ๑. สา� นักงานเลขานุการ แบ่งเป็น ๒ แผนก คอื (๑) แผนกสารบรรณ (๒) แผนก คลัง (ขา้ ราชการสังกัดกระทรวงการคลัง) ๒. กองตรวจเงนิ แผ่นดินสว่ นกลาง แบ่งเป็น ๘ แผนก คอื (๑) แผนกกระทรวง กลาโหม (๒) แผนกกระทรวงการคลัง (๓) แผนกกระทรวงการต่างประเทศ สา� นัก นายกรฐั มนตรี และสา� นกั เลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร (๔) แผนกกระทรวงธรรมการ (๕) แผนกกระทรวงมหาดไทย (๖) แผนกกระทรวงยตุ ิธรรม (๗) แผนกกระทรวงวัง (๘) แผนกกระทรวงเศรษฐการ ๓. กองตรวจเงนิ แผน่ ดนิ สว่ นภมู ภิ าค แบง่ เปน็ ๖ แผนก คอื (๑) แผนกกลาง (๒) แผนกภาค ๑ (๓) แผนกภาค ๒ (๔) แผนกภาค ๓ (๕) แผนกภาค ๔ (๖) แผนก ภาค ๕ เนตรทราย ตั้งขจรศักด์ิ (๒๕๓๘ : ๑๑๙) กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าท่ีของ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินไว้ว่า การปฏิบัติงานอยู่ในรูปของการท�างานเป็น องค์คณะซ่ึงเป็นรูปแบบที่กรรมการไม่มีความรับผิดเฉพาะตัว ดังนั้น อ�านาจหน้าท่ี ของคณะกรรมการจึงถูกจ�ากัดไว้เพียงองค์กรวินิจฉัยและช้ีขาดในเรื่องต่างๆ ดังท่ี ปรากฏไวต้ ามมาตรา ๕ แหง่ พระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ พ.ศ. ๒๔๗๖ ทัง้ น้ีการลงมติของกรรมการใหถ้ อื เสยี งข้างมาก และต้องมีกรรมการ มาประชุมไม่น้อยกว่า ๕ คนจึงจะครบองค์ประชมุ ๐๘๕

๐๘๖ ประวตั ิศาสตรก์ ารตรวจเงนิ แผ่นดินไทย

• การแบ่งส่วนราชการครง้ั แรกของคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ในสงั กดั สา� นักนายกรฐั มนตรีที่มา :สา� เนาภาพจากราชกจิ จานเุ บกษา ๐๘๗

นบั ตั้งแตป่ ี พ.ศ. ๒๔๗๖ เปน็ ต้นมา คณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ไดป้ ฏิบตั ิ • รายงานแสดงกจิ การหน้าท่ีตรวจเงินแผ่นดินโดยมีวัตถุประสงค์การตรวจเงินแผ่นดิน ๔ ประการ กล่าว ของคณะกรรมการคอื (๑) รายจ่ายเป็นไปตามขอ้ บงั คบั หรือระเบยี บของกระทรวงการคลงั หรือไม่ (๒) ตรวจเงินแผ่นดิน ระหวา่ งรายรบั เปน็ ไปตามกฎหมายหรอื กฎขอ้ บงั คบั ใดๆ หรอื ไม่ (๓) ทง้ั รายรบั และรายจา่ ย ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ - ๒๔๘๐เปน็ ไปตามจริงและตามงบประมาณหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด และ (๔) ทรัพย์สนิ ท่ีมีอยู่ ถ่ายภาพจากตน้ ฉบับโดย :ถูกต้องเพยี งไร (รายงานแสดงกจิ การของคณะกรรมการตรวจเงินแผน่ ดิน ระหว่าง นายรัฐธรรม ชวนเชยปี พ.ศ. ๒๔๗๕ - ๒๔๘๐) และ นายโสมทัต นธิ ิตรรี ตั น์ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๙ คณะกรรมการ • การประกาศใช้ตรวจเงนิ แผน่ ดนิ เสนอรายงานของคณะกรรมการฯ เคร่อื งหมายราชการต่อสภาผู้แทนราษฎรเป็นคร้ังแรก โดยรายงาน แหง่ คณะกรรมการ ผลการตรวจงบปรี ายจา่ ยของแผน่ ดนิ ประจา� ปี พ.ศ. ตรวจเงินแผ่นดนิ ๒๔๗๖ เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ทม่ี า : ช่วงระยะเวลา ๕ ปีแรกของการก่อรา่ งสรา้ ง สา� เนาภาพถา่ ยจากกรม (พ.ศ. ๒๔๗๕ - ๒๔๘๐) หลวงด�ารอิ ิศรา- ราชกจิ จานุเบกษานวุ รรต หลวงวรพากยพ์ นิ จิ และกรรมการตรวจเงนิแผ่นดินได้ช่วยกันวางรากฐานการตรวจสอบโดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีและใบส�าคัญ โดยในปีพ.ศ. ๒๔๗๗ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเร่ิมต้นโครงการรับนักศึกษาฝึกหัดการตรวจสอบบัญชีภายในคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน โดยปแี รกทเี่ ปดิ รบั มนี กั ศกึ ษาจากมหาวทิ ยาลยั ธรรม-ศาสตร์มาฝึกหัดการตรวจสอบบัญชี จ�านวน๘๐ คน ซง่ึ ในเวลาตอ่ มาไดร้ บั บรรจเุ ปน็ ขา้ ราชการวิสามัญ ในปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ส�านกั นายกรฐั มนตรไี ดว้ างระเบยี บการแตง่ ตงั้ กรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ตามคา� สงั่ สา� นกั นายกรฐั มนตรี ที่ ๗๙/๘๐ เรอื่ งระเบยี บการแต่งต้ังกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ส่ังมาณ วันท่ี ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐ โดยแบ่งกรรมการตรวจเงินแผน่ ดินออกเป็น (๑) กรรมการตรวจเงินแผ่นดินช้ัน ๒ ซ่ึงเทียบเท่ากับต�าแหน่งหัวหน้าแผนกใหเ้ ลอื กจากขา้ ราชการพลเรอื นในคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ตงั้ แตช่ นั้ โทอนั ดบั๓ ขน้ึ ไป และไดผ้ า่ นการสอบสวนคณุ วฒุ ใิ นทป่ี ระชมุ คณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิโดยมติเอกฉันทข์ องกรรมการตรวจเงินแผ่นดินทีม่ าประชุม (๒) กรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ชนั้ ๑ ซงึ่ เทยี บเทา่ ตา� แหนง่ หวั หนา้ กอง ใหเ้ ลอื กตงั้จากขา้ ราชการพลเรอื นในคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ตง้ั แตช่ นั้ เอกขน้ึ ไป และได้เปน็ กรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดินชัน้ ๒ มาแล้วไม่นอ้ ยกวา่ ๓ ปี๐๘๘ ประวตั ศิ าสตร์การตรวจเงนิ แผน่ ดินไทย

๐๘๙

• การต้งั กรรมการตรวจเงนิ แผ่นดิน เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ทีม่ า : ส�าเนาภาพถา่ ยจาก ราชกจิ จานุเบกษา๐๙๐ ประวัติศาสตร์การตรวจเงินแผน่ ดินไทย

คณะกรรมการตรวจเงนิ แผ่นดินไดป้ รบั ปรงุ โครงสร้างเปน็ คร้ังท่ี ๒ เมอ่ื ปี พ.ศ.๒๔๘๕ ตามพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินในสังกดั สา� นกั นายกรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๔๘๕ โดยแบ่งส่วนราชการออกเปน็ ๑ ส�านกั๕ กอง ไดแ้ ก่ (๑) สา� นกั งานเลขานกุ าร (๒) กองตรวจเงนิ รฐั พาณชิ ยแ์ ละเงนิ ทนุ (๓)กองตรวจเงนิ ทหาร (๔) กองตรวจเงนิ พลเรอื นและอ่ืนๆ (๕) กองตรวจเงนิ เทศบาลและ (๖) กองตรวจเงินส่วนภูมภิ าค การปรบั ปรงุ สว่ นราชการใหมส่ ะทอ้ นใหเ้ หน็ การจดั การขอบเขตงานตรวจสอบใหท้ นั ต่อการเปล่ยี นแปลงของจา� นวนหน่วยรบั ตรวจท่เี พม่ิ ขนึ้ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง หลวงวรพากย์พินิจ(วินท์ อัศวนนท์) ด�ารงต�าแหน่งประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินต่อจากหลวงด�าริอิศรานุวรรต โดยหลวงวรพากย์พินิจเป็นข้าราชการรุ่นแรกที่บุกเบิกกอ่ รา่ งสรา้ งคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๔๗๖ และไดร้ บั พระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้ด�ารงต�าแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินคู่กับหลวงด�ารอิ ศิ รานุวรรตมาตง้ั แตย่ ุคเรมิ่ แรก ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้ัง นายเลื่อน ชุม่ กมลด�ารงต�าแหน่งประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินต่อจากหลวงวรพากย์พินิจนายเลื่อน นับเป็นข้าราชการกลุ่มแรกอีกเช่นกันที่ร่วมบุกเบิกก่อร่างสร้างคณะ-กรรมการตรวจเงินแผ่นดินจนเป็นปึกแผ่นโดยเฉพาะการได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลในการตรวจสอบเร่ืองส�าคัญ เช่น ในปี พ.ศ. ๒๔๙๓ คณะรัฐมนตรีได้รับรายงานจากคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเก่ียวกับเช็คท่ีเก็บเงินไม่ได้ ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มมี ตเิ มือ่ วนั ที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ กา� ชบั ให้ทกุ กระทรวง ทบวงกรม ระมัดระวังไม่ให้เจ้าหน้าที่ท่ีรับเช็คแล้วเก็บรักษาไว้นานจนเกินก�าหนดเป็นเหตุให้ข้ึนเงินไม่ได้ เพราะความบกพร่องหรือส่อไปในทางทุจริตของเจ้าหน้าท่ี และให้กระทรวงการคลังพจิ ารณาหาทางแกไ้ ขปรับปรุงระเบยี บให้รัดกุมยิง่ ขนึ้ถา่ ยภาพจากต้นฉบับโดย : นายเลอื่ น ชุม่ กมลนายรัฐธรรม ชวนเชย และนายโสมทัต นธิ ติ รีรตั น์ หลวงวรพากย์พินิจ ๐๙๑

๐๙๒ ประวตั ิศาสตรก์ ารตรวจเงนิ แผ่นดินไทย

บรรพชนคนตรวจเงนิ แผ่นดิน หลวงดา� ริอิศรานุวรรต ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินคนแรก หลวงดา� รอิ ศิ รานวุ รรต นามเดมิ หมอ่ มหลวงด�าริ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา เปน็ นกั เรยี นสยามรนุ่ แรกๆทศ่ี กึ ษาวชิ าการบญั ชี ณ ประเทศองั กฤษ โดยทา่ นสา� เรจ็ การศกึ ษาบญั ชหี ลกั สตู ร Institute of CharteredAccountants (A.C.A.) และเรม่ิ รบั ราชการครัง้ แรกในต�าแหน่งผชู้ ่วยปลดั กรมภายในกรมบญั ชีกลาง ต่อมาเม่ือปี พ.ศ. ๒๔๗๖ ท่านได้รับพระราชทานบรรดาศักด์ิเป็น หลวงด�าริอิศรานุวรรต หลังเปลย่ี นแปลงการปกครองเมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ คณะราษฎรโอนกรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ จากกรมบญั ชกี ลางให้ไปสังกัดคณะกรรมการราษฎร และหลวงด�าริฯ ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้ท�าการแทนอธิบดีกรมตรวจเงินแผ่นดนิ หลวงด�าริอิศรานุวรรตมีส่วนส�าคัญในการยกร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๔๗๖ ซึ่งเป็นกฎหมายตรวจเงินแผ่นดินฉบับแรกในยุคประชาธิปไตย หลังจากน้ันท่านได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ด�ารงต�าแหน่งประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินคนแรกเมอ่ื วันที่ ๒๔ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๔๗๖ หลวงด�าริฯ นับเป็นผู้วางรากฐานในงานตรวจเงินแผ่นดินโดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชี ในยุคบุกเบิกก่อร่างสร้างกรม ท่านได้จัดให้มีการฝึกอบรมและปรับปรุงการตรวจบัญชีให้มีความทันสมัยรวมทง้ั รเิ รมิ่ ใหม้ กี ารศกึ ษาวชิ าบญั ชใี นมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ หลวงดา� รอิ ศิ รานวุ รรตพน้ จากตา� แหนง่ประธานคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ในปี พ.ศ. ๒๔๘๘ รวมระยะเวลาทอ่ี ยูใ่ นต�าแหน่ง ๑๒ ปี ๐๙๓

๐๙๔ ประวตั ิศาสตรก์ ารตรวจเงนิ แผ่นดินไทย

• กรรมการตรวจเงินแผน่ ดนิในสมยั ทห่ี ลวงวรพากยพ์ ินิจ (วินท์ อัศวนนท์) เป็นประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผน่ ดนิถา่ ยภาพจากตน้ ฉบบั โดย :นายรฐั ธรรม ชวนเชยและ นายโสมทตั นิธิตรีรัตน์ ๐๙๕

บรรพชนคนตรวจเงินแผ่นดนิ หลวงวรพากย์พินจิ ประธานคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดินคนท่ี ๒ หลวงวรพากยพ์ นิ จิ นามเดมิ วนิ ท์ อศั วนนท์ ทา่ นสา� เรจ็ การศกึ ษาจาก South Lyn College East Born England และเข้าฝึกหัดงานตรวจบัญชีกับบริษัท Atkinson and Finch A.C.A of Rugby Warwickshire หลังจากกลับมาท่ีประเทศไทย ท่านเริ่มต้นชีวิตราชการในกองที่ปรึกษา กระทรวง การคลงั ต่อมาเลอ่ื นต�าแหน่งเป็นนายเวรชัน้ ๒ ทก่ี รมบญั ชีกลาง และเลอื่ นเปน็ ปลดั กรมบัญชกี ลางใน ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ หลวงวรพากยพ์ นิ จิ นบั เป็นหนง่ึ ในขา้ ราชการกลมุ่ แรก จา� นวน ๑๔๕ คน ทีโ่ อนจากกรม บัญชกี ลางมาสงั กดั กรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ในยคุ ที่ยา้ ยมาสงั กดั กับคณะกรรมการราษฎร ตอ่ มาในปี พ.ศ. ๒๔๗๖ หลงั จากทต่ี ราพระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ พ.ศ. ๒๔๗๖ ท่านได้รับแต่งต้ังให้เป็นเลขาธิการคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินท่ีมีหลวงด�าริอิศรานุวรรต เปน็ ประธาน หลงั จากทห่ี ลวงดา� รอิ ศิ รานวุ รรตพน้ จากตา� แหนง่ ประธานคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ในปี พ.ศ. ๒๔๘๘ หลวงวรพากย์พินิจ ได้รักษาราชการแทนจนกระท่ังได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหด้ �ารงตา� แหน่งประธานคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๑๐๙๖ ประวัตศิ าสตร์การตรวจเงนิ แผ่นดินไทย

• การประชมุ INCOSAI ๕.๒ ส�านักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดนิครัง้ ท่ ี ๒ ในป ี พ.ศ. ๒๔๙๙ โดยสา� นักงานคณะกรรมการ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินวางโครงสร้างการบริหารงานภายในตรวจเงินแผ่นดนิ สง่ ผู้แทน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๘๕ โดยเน้นไปท่กี ารตรวจสอบบญั ชีและใบสา� คัญท้งั หนว่ ยเข้ารว่ มประชุม ๒ คน รับตรวจท่ีอยู่ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ คณะ-ทม่ี าภาพจาก : กรรมการตรวจเงินแผ่นดินปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการภายในเป็นครั้งท่ีINTOSAI 50 Years (1953- ๓ ปรากฏตามพระราชกฤษฎกี าจดั วางระเบยี บราชการคณะกรรมการตรวจเงนิ2003) Page 40-41 แผ่นดิน พ.ศ. ๒๔๙๔ ซ่ึงแบ่งสว่ นราชการออกเปน็ ๑ ส�านัก ๖ กอง ไดแ้ ก่ (๑) สา� นกั งานเลขานุการ (๒) กองตรวจเงินรัฐพาณชิ ยแ์ ละเงินทนุ (๓) กองตรวจ• สา� นักงานคณะกรรมการ เงินทหาร (๔) กองตรวจเงินพลเรอื นและอ่นื ๆ (๕) กองตรวจเงนิ เทศบาล (๖)ตรวจเงนิ แผ่นดินยงั ไดจ้ ดั ทา� กองสารวัตรบญั ชี และ (๗) กองตรวจเงินสว่ นภูมภิ าครายงานกิจการประจ�าปขี น้ึเป็นครง้ั แรกเม่ือปี พ.ศ. ปตี อ่ มา คณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ไดเ้ ปลยี่ นชอ่ื เปน็ สา� นกั งานคณะ-๒๕๐๔ โดยรวบรวมสถติ ิ กรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ปรากฏตามมาตรา ๓ แหง่ พระราชกฤษฎกี าจดั วางขอ้ มลู ตา่ งๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ งกับ ระเบียบราชการส�านักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ในสังกัดส�านักนายกการตรวจสอบ ท้ังนเ้ี น้ือหาท่ี รฐั มนตรี พ.ศ. ๒๔๙๕ โดยยงั คงแบ่งส่วนราชการออกเปน็ ๑ สา� นัก ๖ กอง โดยในปรากฏในรายงานไมส่ ามารถ สว่ นของสา� นักงานเลขานุการ ไดเ้ พ่ิมแผนกขึ้น ๑ แผนก คอื แผนกสถิตแิ ละรวบรวมเผยแพรไ่ ด ้ โดยปกหลัง การปรับปรุงโครงสร้างของส�านักงานฯ ในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๙๔ - ๒๔๙๕รายงานประทบั ตราไว้วา่ ได้เพิ่มกองสารวัตรบัญชีเข้ามา ซึ่งในเวลาต่อมากองสารวัตรบัญชีได้พัฒนาเป็น‘เป็นความลบั ใชใ้ นราชการ’ กองตรวจสอบพเิ ศษเมอื่ ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ทา� หนา้ ทสี่ บื สวน สอบสวนทางการบญั ชแี ละภาพถ่ายโดย : การ เงนิ ตลอดจนตรวจสอบกรณที ุจรติ ทางการเงนินายรฐั ธรรม ชวนเชย ช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๙๕ - ๒๕๐๐ ส�านักงานคณะกรรมการตรวจเงินและนายโสมทตั นธิ ติ รรี ตั น์ แผ่นดินเร่ิมมีบทบาทในงานตรวจสอบมากขึ้น ส�านักงานฯ ได้ขยายไปสู่ภูมิภาค จากเดิมมี ๕ ภาค เปน็ ๙ ภาค ได้แก่ ภาค ๑ จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา ภาค ๒ จังหวัดพระนคร ภาค ๓ จังหวัดนครราชสีมา ภาค ๔ จังหวัดอุดรธานี ภาค ๕ จังหวดั เชยี งใหม่ ภาค ๖ จังหวดั พิษณโุ ลก ภาค ๗ จังหวัดนครปฐม ภาค ๘ จงั หวัด นครศรธี รรมราช และภาค ๙ จังหวดั สงขลา นอกจากนก้ี ารตรวจสอบของสา� นกั งานคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ มคี วาม หลากหลายข้ึนกว่าเดิมท่ีเน้นการตรวจสอบบัญชีและใบส�าคัญ ตรวจสอบงบเดือน ใบส�าคัญคู่จ่าย ต่อมาส�านักงานฯ ได้พัฒนาไปสู่การตรวจสอบเก่ียวกับการจัดจ้าง และจัดซือ้ การตรวจสอบคา� ร้องเรียนกล่าวโทษ (สุนทรี เตียสมทุ ร : ๒๕๑๓ : ๘๐) ในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ส�านักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเข้าเป็นสมาชิก องคก์ ารสถาบนั การตรวจสอบสงู สดุ ระหวา่ งประเทศ (International Organization of Supreme Audit Institutions) หรอื INTOSAI โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพ่อื ส่งเสรมิ การแลก เปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างสถาบันตรวจเงินแผ่นดินในประเทศ ต่างๆ ซึ่งจะน�าไปสู่การพัฒนางานตรวจเงินแผ่นดินในอนาคต และส�านักงานฯ ส่งผู้แทน ๒ ท่าน คือ หม่อมราชวงศ์ทองแท่ง ทองแถม และนายปรีชา ไทยอารี เข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดระหว่างประเทศ (International Congress of Supreme Audit Institutions: INCOSAI) คร้ังที่ ๒ ณ กรงุ บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ๐๙๗

อาจกลา่ วไดว้ า่ กฎหมายการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ฉบบั ปี พ.ศ. ๒๔๗๖ เปน็ กฎหมาย • กรรมการตรวจเงินแผ่นดินท่ีช่วยในการป้องปรามการทุจริตได้เป็นอย่างดี โดยอาศัยการตรวจเงินแผ่นดิน ในสมัยทีน่ ายเล่อื น ช่มุ กมล เป็นกลไกการป้องกันการทุจริต เนื่องจากการท�างานของส�านักงานคณะกรรมการ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ มกั ตรวจพบพฤตกิ ารณท์ จุ รติ อยเู่ สมอ ดงั นน้ั ในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ สมยั ตรวจเงนิ แผน่ ดินรฐั บาลจอมพลสฤษด์ิ ธนะรชั ต์ จงึ มอบหมายใหส้ า� นกั งานฯ ประมวลหาแนวทางการ ถา่ ยภาพจากตน้ ฉบบั โดย :ป้องกนั การทุจริต ซ่ึงส�านักงานฯ ได้เสนอแนวทางการปอ้ งปรามการทุจริตไว้ ๗ ขอ้ นายรัฐธรรม ชวนเชยปรากฏตามมตคิ ณะรฐั มนตรี เม่อื วนั ท่ี ๒๖ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๐๖ เร่ืองแนวทาง และ นายโสมทัต นธิ ิตรีรตั น์ควบคมุ ป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ ในหนว่ ยงานรัฐบาล ดังนี้ (๑) ควรพจิ ารณาใชก้ ฎหมายพเิ ศษ เชน่ ในตา่ งประเทศซง่ึ จะบงั คบั วา่ หนว่ ยงานใดเกดิ ทจุ รติ ผบู้ งั คบั บญั ชาหนว่ ยงานทค่ี วบคมุ นนั้ จะตอ้ งรว่ มรบั ผดิ ตกเปน็ จา� เลยรว่ มและกรณีมกี ารใช้เงนิ คืน ก็จะถือวา่ ผบู้ งั คับบัญชานนั้ บกพรอ่ งตอ่ หน้าที่ (๒) การบรรจุหัวหน้าหน่วยงานต้องสอบประวัติความเป็นมาในการท�างานความซื่อสัตย์สุจริต สมรรถภาพ และถ้าเป็นต�าแหน่งการเงินก็ควรมีการประกันพอสมควร๐๙๘ ประวตั ศิ าสตรก์ ารตรวจเงินแผ่นดนิ ไทย

(๓) ผู้ที่กระท�าการใดเกี่ยวข้องพัวพันการทุจริตมาก่อน ก็ให้มีหนังสือเวียนหนว่ ยงานต่างๆ ของรฐั บาลพรอ้ มพฤติการณเ์ พอ่ื ห้ามรบั เข้าทา� งาน (๔) ในกรณีท่ีมีการทุจริตในรัฐวิสาหกิจ ก็ให้ผู้บังคับบัญชารายงานคดีต่อคณะกรรมการรฐั วสิ าหกจิ กบั กระทรวงเจา้ สงั กดั ทราบและใหต้ ดิ ตามรายงานจนคดีถงึ ทสี่ ดุ (๕) ผู้บังคับบัญชาช้ันเหนือต้องคอยสอดส่องฐานะและความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาโดยเฉพาะเจ้าหน้าท่ีฝ่ายการเงิน การบัญชี การพัสดุ ว่าเป็นอยู่ควรแกฐ่ านะหรอื ไม่ หรอื ร�่ารวยผดิ ปกติ หรอื มหี นส้ี ินรุงรงั หรอื ชอบอบายมขุ (๖) วางระเบียบใหม้ ีการตรวจสอบเปน็ การภายในประจ�า (๗) ขอให้ผู้สอบบัญชีรายงานการตรวจสอบบัญชีอย่างกว้างขวางไปถึงการดา� เนินงานด้วย นายเลื่อน ชุ่มกมล ด�ารงต�าแหน่งประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินจนกระท่ังเกษียณอายุราชการ นับเป็นประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินที่ดา� รงตา� แหนง่ ยาวนานที่สุดเปน็ ระยะเวลา ๑๕ ปี (พ.ศ. ๒๔๙๓ - ๒๕๐๘) ตอ่ มา ในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ พระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ นายค�านงึ ชาญเลขา ดา� รงตา� แหน่ง ประธานคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดิน ส�านักงานคณะกรรมการตรวจเงิน แผ่นดินในสมัยของนายค�านึงมีความ ก้าวหน้าอยา่ งมาก โดยเฉพาะการขยาย บทบาทการตรวจสอบสัญญาการจัดซื้อ จัดจ้างของหน่วยงานราชการ เพราะ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมักมี ความเส่ียงที่จะเกิดการทุจริตและก่อให้ เกิดความเสียหายอยู่เสมอ นอกจากนี้ส�านักงานฯ ได้จัดท�า แนวทางพิจารณาประมวล ระเบียบข้อ บังคับต่างๆ เก่ียวกับการตรวจสอบ โดยจัดท�าในรูปแบบดัชนีล�าดับเรื่อง ประเภท หมวดหมู่ เพื่อประโยชน์ส�าหรบั ใชเ้ ปน็ คมู่ อื ตรวจสอบ ทกั ทว้ ง ตดิ ตามผล การทักท้วง ตลอดจนประเมินผลการ ทกั ทว้ ง ๐๙๙

บรรพชนคนตรวจเงินแผ่นดิน นายเล่ือน ชมุ่ กมล ประธานคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ คนท่ี ๓ นายเลื่อน ชุ่มกมล เริ่มรับราชการต�าแหน่งเสมียนกรมตรวจเงินแผ่นดินช่วงที่กรมตรวจเงิน แผน่ ดนิ สมทบเปน็ แผนกหนง่ึ ของกรมบญั ชกี ลาง ทา่ นเปน็ ผทู้ ม่ี คี วามวริ ยิ ะ อตุ สาหะ ประกอบกบั ความ ซ่อื สตั ย์สุจริต ท�าใหเ้ ปน็ ท่รี กั ของผบู้ งั คบั บญั ชาในขณะนนั้ คอื พระยานรนาถภกั ดี (ปยุ บุนนาค) ผ้ชู ว่ ย อธิบดกี รมบัญชีกลางและกา� กบั ดแู ลกรมตรวจเงนิ แผ่นดนิ หลงั เปลย่ี นแปลงการปกครองเมือ่ ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ นายเลื่อน ชมุ่ กมล คอื ขา้ ราชการกลมุ่ แรกท่ี โอนมาจากกรมบญั ชกี ลางเพอ่ื มาบกุ เบกิ กอ่ รา่ งสรา้ งกรมตรวจเงนิ แผน่ ดนิ และคณะกรรมการตรวจเงนิ แผ่นดนิ ในเวลาตอ่ มา ทา่ นได้รับเลอื กให้เปน็ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดนิ ชนั้ ๑ เม่อื ปี พ.ศ. ๒๔๘๕ และไดร้ บั แตง่ ตงั้ เปน็ เลขาธกิ ารคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ สมยั ทห่ี ลวงวรพากย-์ พินิจเปน็ ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผน่ ดิน หลังจากที่หลวงวรพากย์พินิจถึงแก่กรรมกะทันหัน นายเล่อื น ชุ่มกมล ข้นึ มารักษาราชการแทน จนไดร้ บั พระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ เปน็ ประธานคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ คนที่ ๓ เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ในยุคของประธานเล่ือน ท่านได้น�าส�านักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป็นสมาชิกสถาบันการ ตรวจสอบสงู สุดหรือ INTOSAI เม่อื ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ จากน้นั สง่ ผแู้ ทนเข้าร่วมประชุมที่ประชมุ สมชั ชา ใหญ่องค์การสถาบนั การตรวจสอบสงู สุด (การประชมุ INCOSAI) คร้ังท่ี ๒ ณ กรุงบรสั เซลส์ ประเทศ เบลเยยี ม นอกจากนใ้ี นปี พ.ศ. ๒๕๐๗ นายเลอื่ น ชมุ่ กมล คอื หนง่ึ ในคณะกรรมการสอบสวนทรพั ยส์ นิ ของรฐั ในกองมรดกของจอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์ ด้วย นายเลอ่ื น ชมุ่ กมล เปน็ ประธานคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทด่ี า� รงตา� แหนง่ ยาวนานทส่ี ดุ คอื ๑๕ ปี (พ.ศ. ๒๔๙๓ - ๒๕๐๘)๑๐๐ ประวัติศาสตร์การตรวจเงินแผน่ ดินไทย