Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการจัดการเรียนรู้

Published by ครูณัฐดนัย ศรีศิริ, 2021-07-16 08:33:02

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแก้ปญั หาโดยใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะ เวลา 8 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชวี ิตจรงิ อยา่ งเปน็ ข้นั ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้ การทำงานและการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ว 4.2 ป.6/1 ใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหาทพี่ บใน ชวี ติ ประจำวนั 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 1) การแก้ปัญหาอย่างเป็นข้ันตอนจะชว่ ยให้แก้ปญั หาได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 2) การใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะเปน็ การนำกฎเกณฑ์ หรอื เงื่อนไขที่ครอบคลุมทกุ กรณีมาใชพ้ จิ ารณาใน การแก้ปัญหา 3) แนวคดิ ของการทำงานแบบวนซำ้ และเง่ือนไข 4) การพิจารณากระบวนการทำงานท่ีมีการทำงานแบบวนซำ้ และเงอื่ นไขเปน็ วิธกี ารที่จะชว่ ยให้ การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาเป็นไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 5) ตวั อยา่ งปญั หา เชน่ การคน้ หาเลขหนา้ ท่ีต้องการให้เรว็ ทส่ี ุด การทายเลข 1-1,000,000 โดยตอบ ให้ถกู ภายใน 20 คำถาม การคำนวณเวลาในการเดนิ ทาง โดยคำนงึ ถึงระยะทาง เวลาจุดหยดุ พัก 2.2 สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน (พิจารณาตามหลกั สูตรสถานศึกษา) 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกับการแก้ปัญหา เปน็ การนำหลักการ กฎเกณฑห์ รือเงื่อนไขท่ีครอบคลุมทุก กรณมี าใชเ้ พอ่ื ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลหรือพจิ ารณาความเปน็ ไปได้ของการมงุ่ หาคำตอบและแก้ปัญหา แนวคิดในการแก้ปัญหา คือแนวคิดที่ใช้ในการพิจารณากระบวนการทำงานหรือการแก้ปัญหา ต่าง ๆ อย่างเป็นขั้นตอน ช่วยให้การทำงานและการแก้ปัญหาสามารถทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ โดย แนวคิดในการแก้ปัญหามี 3 รูปแบบคือ แนวคิดการทำงานแบบลำดับ แนวคิดการทำงานแบบวนซ้ำ และ แนวคิดการทำงานแบบมีเงอื่ นไข เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 1

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี นและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวินยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. มุง่ มัน่ ในการทำงาน 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง การแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ 6. การวดั และการประเมนิ ผล รายการวดั วิธวี ัด เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน 6.1 การประเมินก่อนเรียน ประเมนิ ตามสภาพจรงิ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น กอ่ นเรยี น ก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เรื่อง การแกป้ ัญหาโดยใช้ - ตรวจใบงานที่ 1.1.1 - แบบประเมนิ การทำ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เหตผุ ลเชิงตรรกะ 6.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั เรื่อง ตอ่ ยอดการ ใบงานที่1.1.1 เร่ือง กจิ กรรม 1) การแก้ปัญหาใน แก้ปญั หาด้วยเหตุผล ต่อยอดการแกป้ ญั หา ชีวติ ประจำวันโดยใช้ เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ เชิงตรรกะ ดว้ ยเหตผุ ลเชิงตรรกะ - ตรวจกจิ กรรมฝกึ - กจิ กรรมฝกึ ทักษะท่ี ทกั ษะที่ 1 เรื่องจบั คู่ 1 เรื่อง จบั ครู่ ำวง รำวงมาตรฐาน มาตรฐาน - ตรวจกจิ กรรมฝึก - กิจกรรมฝกึ ทกั ษะที่ 2 ทกั ษะที่ 2 เชยี ร์กีฬา เชยี รก์ ีฬา พาเพลิน พาเพลนิ - แบบประเมินการ - ประเมินการนำเสนอ นำเสนอ เร่ือง การใช้ เร่ือง การใช้เหตุผลเชิง เหตผุ ลเชิงตรรกะใน ตรรกะในชวี ติ ประจำวัน ชีวิตประจำวัน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 2

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ รายการวัด วธิ ีวดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 2) กระบวนการทำงานหรือ - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ - แบบประเมินการทำ ผา่ นเกณฑ์ การแกป้ ัญหา โดยใช้ ท่ี 3 เรอ่ื ง ตามตดิ ชวี ติ ลุง กจิ กรรมฝึกทกั ษะที่ แนวคดิ แบบตา่ ง ๆ พล ระดับคุณภาพ 2 3 เรือ่ ง ตามติดชีวติ ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ ลงุ พล ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ท่ี 3 เร่ือง ตามตดิ ชวี ิต ลุงพล - แบบประเมนิ การ - ประเมนิ การนำเสนอ นำเสนอ เร่ือง เรือ่ ง แนวคิดการ แนวคิดการทำงาน ทำงานแบบตา่ ง ๆ ที่ แบบต่าง ๆ ที่ใช้ ใช้อธบิ ายสถานการณ์ อธิบายสถานการณ์ ในชวี ิตประจำวนั ในชีวิตประจำวัน 3) คณุ ลักษณะ - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน อันพงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมั่น คณุ ลักษณะ ในการทำงาน อันพึงประสงค์ 6.3 การประเมินหลังเรียน 1) แบบทดสอบหลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หลงั เรียน หลังเรียน เร่ือง การแกป้ ญั หาโดยใช้ เหตุผลเชิงตรรกะ 2) การประเมินช้ินงาน/ - ตรวจช้นิ งาน/ - แบบประเมนิ ชนิ้ งาน/ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์ เร่อื ง การแก้ปญั หาโดยใช้ เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 3

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ เรือ่ งท่ี 1 : เหตุผลเชงิ ตรรกะกบั การแก้ปญั หา เวลา 4 ชวั่ โมง วธิ ีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) วิธกี ารสอนแบบกระบวนการกลุม่ เทคนิคตามแนวคดิ เชงิ คำนวณ ข้นั นำ (15 นาท)ี กระตุ้นความสนใจ 1. ครูใหน้ ักเรียนทำกจิ กรรมลองทำดู ในแบบฝึกหัดรายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 หน้า 2 เพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดมิ กอ่ นเขา้ สู่ บทเรยี น 2. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภิปรายถงึ วิธกี ารแก้ปัญหาของกจิ กรรมลองทำดู จนได้ข้อสรุปว่าใช้ เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหา 3. ครใู หน้ ักเรียนเปดิ หนงั สือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หนา้ 2-3 จากนั้น ครถู ามคำถามประจำหนว่ ยการเรียนรู้กบั นักเรียนวา่ เหตผุ ลเชิงตรรกะชว่ ยในการแกป้ ัญหาได้อยา่ งไร แนวคำตอบ: เหตผุ ลเชงิ ตรรกะชว่ ยในการแก้ปญั หาได้ เชน่ เข้ามาชว่ ยในการพจิ ารณาสาเหตขุ อง ปัญหา วธิ กี ารแก้ปัญหา การตรวจสอบการแก้ปญั หา 4. ครูถามคำถามสำคัญประจำหัวขอ้ กบั นักเรียนว่า เหตุผลเชงิ ตรรกะสามารถนำไปใช้ใน ชีวติ ประจำวนั ได้อยา่ งไร จากน้นั ใหน้ กั เรียนลองยกตวั อย่างการใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะใน ชีวิตประจำวนั ของนักเรยี น ขัน้ สอน (45 นาท)ี สำรวจคน้ หา 1. ครใู หน้ ักเรยี นจับกล่มุ 3-4 คน เพอ่ื ศึกษาและสงั เกตสถานการณ์ตัวอย่างจากหนังสอื เรียนรายวชิ า พืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 หน้า 3-7 เกย่ี วกับ ผลการแข่งขนั ตอบปัญหาภาษาอังกฤษ โดยใหน้ ักเรยี นอ่านบทสมั ภาษณ์ของตัวแทนนกั เรยี นแต่ ละคน 2. นกั เรียนรว่ มกนั วิเคราะหบ์ ทสัมภาษณ์และพิจารณาตัดสิง่ ทีเ่ ปน็ ไปไมไ่ ด้ออกตามหนังสือ จนได้ ขอ้ สรุปวา่ ตวั แทนนักเรียนแต่ละคนแข่งขนั ไดล้ ำดับท่เี ท่าไร เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 4

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ 3. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ พิจารณาสถานการณต์ ัวอย่างในหนังสอื เรียนอีกคร้งั เพ่อื ถอด กระบวนการ แนวคิด หรอื วธิ กี ารแกป้ ัญหาของสถานการณ์ จากน้ันเขียนแนวคิดหรือวิธกี าร แกป้ ญั หาและตอบคำถามลงในใบงานท่ี 1.1.1 เร่อื ง ต่อยอดการแก้ปัญหาดว้ ยเหตผุ ลเชงิ ตรรกะ อธิบายความรู้ 4. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอผลงานจากการทำใบงานที่ 1.1.1 เรอ่ื ง ต่อยอดการ แกป้ ญั หาดว้ ยเหตผุ ลเชงิ ตรรกะ โดยแสดงถงึ วิธีการพิจารณาสถานการณ์ เง่ือนไขตา่ ง ๆ แนวคดิ หรอื วธิ ีการแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะตามท่ีแตล่ ะกลุ่มไดร้ ะดมความคิดเหน็ รว่ มกนั ในการ ทำกิจกรรมกลุ่ม 5. ครูและนักเรียนร่วมกนั อภปิ รายถึงแนวคิดหรือวธิ ีการแกป้ ัญหา และการตอบคำถามของนักเรียน แต่ละกลมุ่ ว่ามีความแตกตา่ งกันอยา่ งไร และหาข้อสรปุ ร่วมกนั 6. ครมู อบหมายงานให้นักเรียนทำกจิ กรรมฝึกทักษะ Com Sci ในหนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หน้า 8 เป็นการบ้าน โดย เขยี นใส่สมดุ และสง่ ในช่วั โมงถัดไป ชั่วโมงที่ 2 ขัน้ สอน (60 นาท)ี อธิบายความรู้ 1. ครแู ละนกั เรียนทบทวนความรู้เดิมทีเ่ รียนในชัว่ โมงทแ่ี ลว้ เรอื่ งการแกป้ ัญหาด้วยเหตผุ ลเชงิ ตรรกะ 2. ครสู ุม่ นกั เรียน 2-3 คน เพ่อื อธิบายแนวคิดหรอื วธิ กี ารแก้ปัญหาของกิจกรรมฝึกทักษะ Com Sci ทสี่ ง่ั เป็นการบ้าน และลงข้อสรปุ รว่ มกัน จากน้นั ใหน้ กั เรยี นส่งการบ้าน ขยายความเขา้ ใจ 3. ครูบอกกบั นกั เรยี นว่า ในช่ัวโมงทแี่ ลว้ ครไู ด้ใหน้ กั เรียนใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาการ ตอบปัญหาภาษาอังกฤษไปแลว้ ในวันนเี้ รามาลองใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในสถานการณ์อน่ื ๆ ดบู า้ ง 4. ครูถามนักเรียนวา่ รูจ้ ักรำวงมาตรฐานหรอื ไม่ รำวงมาตรฐานเปน็ การแสดงท่ีมวี วิ ฒั นาการมาจาก รำโทน ซ่งึ เปน็ การร้องและการรำของชาวบ้าน มีผ้รู ำทัง้ ชายและหญิง 5. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละกลุม่ (กลุ่มเดิม) อา่ นสถานการณ์และเง่ือนไขในกจิ กรรมฝกึ ทักษะท่ี 1 เรอ่ื ง จับค่รู ำวงมาตรฐาน ในแบบฝึกหดั รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หน้า 10 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 5

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ 6. นักเรียนในกล่มุ ร่วมกันจบั ค่ผู ู้รำฝา่ ยชายและฝา่ ยหญิงตามสถานการณ์และเงื่อนไขที่กำหนด และ ตอบคำถามลงในกจิ กรรมฝกึ ทักษะท่ี 1 7. ครถู ามนักเรียนวา่ จากสถานการณท์ ก่ี ำหนดให้ นกั เรียนคิดว่าเพราะเหตุใด จึงต้องใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หานี้ จากนน้ั ครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภิปรายจนไดข้ ้อสรปุ ร่วมกัน 8. ครมู อบหมายงานใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัด เรื่องเหตผุ ลเชงิ ตรรกะกับการแก้ปญั หาในแบบฝกึ หัด รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 หนา้ 3-5 เพ่อื ทบทวนความรู้ ชว่ั โมงที่ 3 ข้ันสอน (60 นาท)ี ขยายความเข้าใจ 1. ครูและนักเรียนทบทวนความรู้เดิมที่เรียนในช่ัวโมงที่แล้ว เร่ืองการแก้ปัญหาด้วยเหตุผลเชิง ตรรกะ 2. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยเห็นกองเชียร์นักกีฬาท่ีนั่งอยู่บนอัฒจันทร์หรือไม่ จากนั้นครูเปิด วดี ทิ ศั น์การแปลอักษรบนอัฒจันทรใ์ หน้ ักเรียนดู 3. ครูให้นกั เรียนนง่ั ตามกลุ่มเดิมและสมมตบิ ทบาทใหน้ กั เรยี นเปน็ ผคู้ ุมกองเชียร์ โดยให้นักเรียนแต่ ละกลุ่มร่วมกนั อา่ นสถานการณ์ในกิจกรรมฝึกทักษะท่ี 2 เร่ืองเชยี รก์ ฬี า พาเพลนิ ในแบบฝกึ หดั รายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หนา้ 12 4. นักเรียนในกลุ่มร่วมกันทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะท่ี 2 เร่ืองเชยี รก์ ฬี า พาเพลนิ โดยนกั เรียนจะต้อง ระบายสีลง ในตารางให้ถกู ต้องตามเงื่อนไข และทายวา่ รูปที่อยู่ในตารางคอื รปู อะไร โดยตาราง เปรยี บเสมือนกองเชยี ร์ที่น่ังอยู่บนอัฒจนั ทร์และสีทร่ี ะบายเปรยี บเสมือนปา้ ยที่นักเรยี นบน อัฒจันทรช์ ขู น้ึ เพ่อื แสดงตวั อกั ษรหรือรูปต่าง ๆ 5. ครูถามนักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ว่านกั เรยี นทน่ี ัง่ อยู่บนอฒั จันทร์กำลังชปู ้ายเพื่อแสดงตวั อกั ษรหรือรปู อะไร และสุ่มถามนักเรียน 1 กล่มุ วา่ นกั เรยี นใชแ้ นวคดิ หรือวิธีการใดในการแก้ปญั หา 6. ครูถามนักเรยี นกลมุ่ อนื่ ๆ วา่ นักเรียนมีแนวคดิ หรือวิธีการแก้ปญั หาเหมือนหรอื แตกตา่ งกันกับ เพื่อนกลมุ่ ท่ีแล้วหรือไม่ หากมีกลมุ่ ทแ่ี ตกตา่ ง ครูให้นกั เรียนกลุ่มนนั้ อธิบายถงึ ความแตกต่าง 7. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มทำกิจกรรมเร่ือง การใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในชีวิตประจำวนั โดยนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ จะต้องหากิจกรรมที่มปี ญั หาเก่ยี วขอ้ งกบั ชีวติ ประจำวนั และใช้เหตุผลเชิง ตรรกะในการแกป้ ัญหามา 1 กิจกรรม และใหน้ ักเรียนนำเสนอกจิ กรรมในชว่ั โมงถัดไป โดยต้องให้ เพื่อนกลุม่ อนื่ รว่ มแกป้ ัญหาในกิจกรรมของกลุ่มเราดว้ ย มีเวลานำเสนอกลมุ่ ละ 7-10 นาที เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 6

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ ช่วั โมงที่ 4 ขั้นส8อ.น (50 นาที) ตรวจสอบผล 1. ครูบอกนักเรียนว่า จากชั่วโมงท่ีแลว้ ครไู ด้มอบหมายงานให้นักเรยี นทำกจิ กรรมเรื่อง การใช้เหตผุ ลเชิง ตรรกะในชีวิตประจำวัน ในช่ัวโมงนี้ครูจะให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอกิจกรรมและพาเพ่ือน กลุม่ อื่น ทำกิจกรรมของเราด้วย โดยครใู ห้เวลาในการนำเสนอกลุ่มละ 7-10 นาที 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอและพาเพื่อนทำกิจกรรมเรอ่ื งการใช้เหตุผลเชิงตรรกะใน ชีวติ ประจำวัน 3. ครูสอบถามนักเรียนแต่ละกลุ่มว่า ชอบกิจกรรมของกลุ่มไหนมากที่สุด และนอกจากกิจกรรมที่กลุ่ม ของเราหรือของเพื่อน ๆ นำมาแล้ว นักเรียนมีปญั หาอ่ืน ๆ ท่ีตอ้ งใช้แนวคิดเชิงตรรกะในการแกป้ ญั หา อกี หรอื ไม่ ขั้นสรุป (10 นาที) ตรวจสอบผล 4. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความร้ทู ี่เรยี นมาทั้งหมดเกีย่ วกับการแกป้ ัญหาดว้ ยเหตุผลเชิงตรรกะ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 7

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ เรอื่ งที่ 2 : แนวคดิ ในการแก้ปัญหา เวลา 4 ชั่วโมง วธิ ีการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) วธิ กี ารสอนแบบกระบวนการกลุ่ม เทคนิคตามแนวคิดเชงิ คำนวณ ขน้ั นำ (10 นาท)ี กระตุ้นความสนใจ 1. ครใู หน้ ักเรยี นดูภาพจำนวน 3 คู่ โดยเปน็ ภาพท่แี สดงถึงแนวคดิ การทำงานแบบลำดับ 1 คู่ ภาพที่ แสดงถงึ แนวคดิ การทำงานแบบวนซำ้ 1 คู่ และภาพท่ีแสดงถึงแนวคดิ การทำงานแบบเงือ่ นไข 1 คู่ แต่ครูไมต่ ้องบอกนกั เรยี นวา่ ภาพแต่ละคู่เปน็ การทำงานแบบใด ตัวอย่างภาพท่ีแสดงถึงแนวคิดการทำงานแบบลำดบั 1) ภาพการตกแต่งหน้าเค้ก โดยมีการอบขนมเค้ก > ทาครีมปิดเน้ือเค้ก > บีบครีมบนเค้ก > ใสผ่ ลไม,้ คุกกเ้ี พอ่ื ตกแต่งหน้าเค้ก 2) ภาพการซักผ้าโดยมีการเปิดน้ำใส่กะละมัง > ใส่ผงซักฟอก > นำผ้าใส่ในกะละมังแล้วขย้ี ผา้ > ล้างผ้าดว้ ยน้ำสะอาด > บดิ ผ้า > ตากผ้า ตวั อยา่ งภาพทแี่ สดงถงึ แนวคดิ การทำงานแบบวนซ้ำ 1) ภาพการรดนำ้ ตน้ ไม้จำนวนหลาย ๆ ต้น โดยรดนำ้ ตน้ ไม้ทลี ะต้น จนหมด 2) ภาพการหยิบหนังสอื วางใสช่ น้ั วางหนังสือ โดยหยบิ หนังสือทลี ะเล่ม จนหมด ตัวอยา่ งภาพทีแ่ สดงถึงแนวคดิ การทำงานแบบเง่ือนไข 1) ภาพการกรอกน้ำส่ขวดโดยใช้ตู้น้ำหยอดเหรียญ ที่มีปุ๋มสแี ดงให้กดหยุดน้ำ โดยตรวจสอบ วา่ น้ำเตม็ ขวดหรอื ยัง หากยังให้รอจนน้ำเตม็ ขวด หากเต็มขวดแลว้ ใหก้ ดป่มุ สแี ดง 2) ภาพคนกำลังตรวจสอบแต้มสะสมในบัตรสมาชิก เพ่ือลดราคาสินค้า โดยหากมีแต้ม จำนวนหนง่ึ จะไดร้ บั ส่วนลด 5% หากมแี ตม้ อกี จำนวนหนึง่ จะไดร้ ับส่วนลด 10% 2. ครูให้นักเรียนพิจารณาว่า ภาพแต่ละคู่มีอะไรท่ีซ้ำกัน และเปรียบเทียบภาพท้ัง 3 คู่ว่ามีความ แตกตา่ งกันอยา่ งไร ขั้นสอน (50 นาที) สำรวจคน้ หา 3. ครูถามคำถามประจำเรื่องในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการ คำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 หน้า 9 ว่าแนวคิดในการแกป้ ญั หามีความสำคญั อย่างไร เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 8

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ 4. นักเรียนศึกษาข้อมูลเบ้ืองต้น เร่ืองแนวคิดการทำงานแบบลำดับ ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หน้า 9 เรื่องแนวคิดการ ทำงานแบบเง่ือนไขในหนังสือเรียนหน้า 12 และเรื่องแนวคิดการทำงานแบบวนซ้ำ ในหนังสือ เรียนหน้า 15 อธบิ ายความรู้ 5. ครูและนักเรียนร่วมกันตอบคำถามเกี่ยวกับเร่ืองแนวคิดการทำงานแบบลำดับตามที่นักเรียนได้ ศกึ ษามาแล้วในหนงั สอื เรยี น ประเด็นคำถาม 1) ห้องของปูมีองค์ประกอบอะไรบ้าง (คำตอบ: หน้าต่าง, ชั้นวางของ, เตียงนอน และตู้ เสือ้ ผ้า) 2) ปูกำลังจะทำอะไร (คำตอบ: ทำความสะอาดหอ้ งนอน) 3) ปูมีข้ันตอนในการทำความสะอาดห้องอย่างไร (กวาดหยากไย่บนเพดาน > ทำความ สะอาดตู้ > เช็ดหน้าต่าง > ทำความสะอาดชั้นวางของ > เปล่ียนผ้าปูท่ีนอน > กวาด และถพู ้นื ) 4) เพราะเหตุใด ปจู ึงเลอื กทำความสะอาดในบรเิ วณท่ีอยสู่ ูงก่อน แล้วจึงไล่ลงมาบริเวณทต่ี ่ำ ที่สดุ (แนวคำตอบ: เพราะถ้าหากทำความสะอาดพนื้ หรอื ส่ิงที่อยขู่ ้างล่างก่อน แล้วไปทำ ความสะอาดสิง่ ท่ีอยู่สงู กว่า จะทำให้เศษฝนุ่ หรือเศษขยะต่าง ๆ หล่นลงมาที่พ้ืน และตอ้ ง ทำความสะอาดพน้ื อกี รอบ) 5) ห ากปู ไม่มี การวางแผน ห รือไม่มีแน วคิดใน การแก้ปั ญ ห า จะเกิดอะไรขึ้น (แนวคำตอบ: จะทำใหก้ ารทำงานซำ้ ซอ้ นและมีหลายขน้ั ตอนมากย่ิงขึ้น) 6. ครูถามนักเรยี นเพ่ิมเติมอีกว่า หากนักเรียนต้องทำความสะอาดห้องนอนของปู นักเรียนจะเริ่มทำ อะไรก่อน เพราะเหตุใด มีนักเรียนคนใดที่มีวิธีการทำความสะอาดแตกต่างจากปูบ้าง ครูให้ นักเรียนอธิบายถึงความแตกต่าง จากน้ันครูบอกกับนักเรียนว่าการแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่ง สามารถมไี ดม้ ากกวา่ 1 วิธีกไ็ ด้ 7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการทำความสะอาดห้องนอนของปู โดยได้ข้อสรุปร่วมกันว่า การทำงานดังกล่าวเป็นการทำงานที่มีลำดับก่อน-หลังอย่างชัดเจน โดยต้องทำงานในขั้นแรกให้ สำเร็จก่อน จึงจะเข้าสู่ข้ันตอนถัดไปได้ ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้เรียกว่า การทำงานแบบลำดับ ซงึ่ เปน็ แนวคิดในการแกป้ ัญหาแนวคดิ หนงึ่ 8. ครูสุ่มนักเรียน 3-4 คน เพื่อถามคำถามท้าทายความคิดขั้นสูงในหนังสือเรียนหน้า 10 ว่า เพราะ เหตุใด เราจึงไม่ควรใส่รองเท้าก่อนสวมเสื้อและกางเกง (แนวคำตอบ: เพราะหากใส่รองเท้าก่อน อาจจะทำใหเ้ ราใส่กางเกงไมส่ ะดวก และกางเกงอาจเปือ้ นได้) เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 9

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ 9. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตอบคำถามเกี่ยวกับเร่อื งแนวคิดการทำงานแบบเงื่อนไขตามที่นักเรียนได้ ศกึ ษามาแลว้ ในหนังสือเรยี น ประเด็นคำถาม 1) นักเรียนเคยสังเกตไหมว่า ถังขยะท่ีเราเคยเห็นอยู่ตามท่ีต่าง ๆ มีหลายสี แต่ละสีมีความ แตกต่างกันอย่างไร (แนวคำตอบ: สีของถังขยะ บ่งบอกถึงประเภทของขยะท่ีควรท้ิงลง ไปในถังน้ัน เช่น ถงั ขยะสีนำ้ เงินต้องใส่ชยะประเภทรไี ซเคิล) 2) หากเรามีขยะประเภทเศษอาหาร เราควรท้ิงลงถังขยะสีอะไรเพราะเหตุใด (แนวคำตอบ: ควรทิ้งลงถังชยะใบสีเขียว เพราะเป็นถังที่ใส่ขยะแบบย่อยสลายได้ ซึ่งเศษอาหารเป็น ขยะทีย่ อ่ ยสลายได้) 3) หากเราไม่ทราบหรือไม่เข้าใจเง่ือนไขในการท้ิงขยะ เราจะท้ิงขยะได้ถูกต้องตามประเภท หรือไม่ และหากเราทิ้งขยะผิดประเภท จะส่งผลอะไร (แนวคำตอบ: ไม่ถูกต้อง โดยหาก ท้ิงขยะผิดประเภทจะส่งผลต่อความยากลำบากในการกำจัดขยะ และขยะที่มีพิษอาจจะ ไปปนเปอ้ื นกับขยะทีส่ ามารถนำไปรไี ซเคลิ ได้) 10. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ว่าการทำงานในลักษณะนี้เป็นการทำงานแบบมีเง่ือนไข ซึ่งเรา จะต้องเข้าใจเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ชัดเจนก่อน และต้องใช้เหตุผลเชิงตรรกะมาช่วยพิจารณาด้วย เพอื่ ใหไ้ ดค้ ำตอบหรอื ผลลัพธ์ตามเงือ่ นไขท่ีกำหนด ชั่วโมงท่ี 2 ขั้นส1อ.น (60 นาท)ี อธบิ ายความรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เดิมท่ีเรียนในช่ัวโมงท่ีแล้วว่า เราได้รู้จักแนวคิดในการ แก้ปัญหามาแล้ว 2 แนวคิด ได้แก่ แนวคิดการทำงานแบบลำดับ และแนวคิดการทำงานแบบ เงอื่ นไข 2. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ตอบคำถามเกย่ี วกบั เร่ืองแนวคดิ การทำงานแบบวนซำ้ ตามที่นักเรียนได้ ศกึ ษามาแลว้ ในหนังสือเรยี น ประเด็นคำถาม 1) ให้นักเรียนดูภาพตัวอย่างแรกในหนังสือเรียน แล้วพิจารณาว่า มีการเขียนแนวคิดแบบใด และมีข้ันตอนทั้งหมดเทา่ ไร (คำตอบ: แนวคิดแบบลำดบั / 5 ขัน้ ตอน) 2) นักเรยี นลองสงั เกตท่ภี าพตัวอยา่ งอกี ครัง้ ว่ามีข้ันตอนใดทซี่ ำ้ กนั หรือไม่ 3. ครูและนักเรียนร่วมกันถามตอบ จนได้ข้อสรุปร่วมกันว่าในการทำงานท่ีต้องทำหลายครั้งเหมือน ๆ กัน เราสามารถเขียนรวมเป็นข้ันตอนเดียวกันได้ ซึ่งเราเรียกการทำงานแบบน้ีว่าการทำงาน แบบวนซ้ำ โดยการทำงานแบบวนซ้ำมี 2 แบบคือการทำงานแบบวนซ้ำท่ีมีจำนวนครั้งแน่นอน กบั การทำงานแบบวนซ้ำท่ีมจี ำนวนคร้งั ไม่แนน่ อน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 10

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ 4. ครูชี้ให้นักเรียนเห็นว่าตัวอย่างแรกเร่ืองการวิ่งแข่ง เป็นการทำงานแบบวนซ้ำที่มีจำนวนคร้ัง แนน่ อนเพราะมีการบอกจำนวนรอบในการวิ่งทแ่ี น่นอน จากนน้ั ครูยกตัวอยา่ งการทำงานแบบวน ซ้ำที่มีจำนวนครั้งไม่แน่นอน โดยให้นักเรียนดูภาพตวั อย่างการใช้ขนั ตักน้ำเพื่ออาบน้ำ ในหนังสือ เรยี นรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หน้า 16 โดยครูถามนักเรียนว่า โดยปกติแล้ว เวลาเราอาบน้ำโดยใช้ขัน มีใครเคยนับจำนวนคร้ังท่ีเรา ตักน้ำบ้าง หากเราไม่ได้นับ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรต้องหยุดอาบน้ำ (แนวคำตอบ: จนกว่า รา่ งกายจะสะอาด, จนกวา่ จะพอใจ) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเรื่องการใช้ขันอาบน้ำจนได้ข้อสรุปว่า การทำงานในลักษณะน้ี เปน็ แนวคิดการทำงานแบบวนซำ้ ที่มีจำนวนคร้ังไม่แนน่ อน โดยจะมีการทำซ้ำไปเร่ือย ๆ จนกว่า จะมีเง่อื นทส่ี ่ังใหห้ ยุด 6. ครูให้ความรเู้ พิ่มเติมเรื่องแนวคิดการทำงานแบบวนซ้ำกับนักเรียน ในมุม Com Sci ตามหนังสือ เรยี นรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 หน้า 16 7. ครูมอบมายงานให้นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะ Com Sci ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หน้า 11 เร่ืองการ เรยี งลำดบั ขั้นตอนการผูกเชือกรองเทา้ และหนา้ 14 เร่อื งการทำงานแบบเง่อื นไข เปน็ การบ้าน 8. หลังจากที่นักเรียนได้เรียนรู้แนวคิดครบท้ังหมดแล้ว ครูและนักเรียนสรุปร่วมกันอีกคร้ังว่า แนวคดิ ในการแก้ปญั หามีทั้งหมด 3 รูปแบบ ไดแ้ ก่ - แนวคิดการแก้ปัญหาแบบลำดับ - แนวคิดการแก้ปัญหาแบบวนซำ้ -แนวคดิ การแกป้ ัญหาแบบมเี ง่ือนไข 9. ครูถามคำถามเช่ือมโยงไปถึงรูปภาพ ที่เปิดให้นักเรียนดูในต้นชั่วโมงท่ีแล้วว่า แต่ละรูปภาพใช้ แนวคิดการทำงานแบบใด 10. ครนู ำใบงานที่ 1 เร่ืองต่อยอดการแก้ปัญหาเชิงตรรกะ ทีน่ ักเรียนเคยไดท้ ำไว้ (ในแผนทีแ่ ล้ว) โดย นำวิธีการแก้ปัญหาเรื่องการตอบปัญหาภาษาอังกฤษท่ีนักเรียนได้เขียนไว้มาฉายลงบนโปรเจก เตอร์ หรือเขียนลงบนกระดาน เพ่ือให้นักเรียนพิจารณาว่า วิธีการแก้ปัญหาที่นักเรียนเคยเขียน ใชแ้ นวคดิ ใดในการแกป้ ญั หา ตัวอย่างวิธีการแก้ปัญหาของนักเรียน เรื่องการตอบปัญหาภาษาอังกฤษ โดยครูอาจเลือก ใบงานทมี่ กี ารเขียนวธิ กี ารแก้ปญั หาท่ดี หี รอื สมบูรณ์ที่สุดมาให้นักเรยี นพิจารณา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 11

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ 11. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายว่าตัวอย่างท่ีครูให้นักเรียนดู ได้ใช้แนวคิดใดบ้าง โดยได้ข้อสรุป ร่วมกันว่า ใช้แนวคิดทั้ง 3 แนวคิด โดยข้อ 1-7 ใช้แนวคิดการทำงานแบบลำดับ โดยจะมีการ ทำงานแบบวนซ้ำและมีเงื่อนไขซ่อนอยู่ นน่ั คือข้อ 4, 5, 6 และ 7 ซึง่ ใชแ้ นวคิดการทำงานแบบวน ซ้ำและแบบมีเง่ือนไขผสมกัน เพราะ หากตรวจสอบข้อความในข้อ 6 แล้วพบว่ายังได้คำตอบไม่ ครบ จะต้องวนซ้ำกลับไปท่ีข้อ 4 และ 5 เพื่ออ่านเงื่อนไข และตัดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ออกอีกครั้ง และวนซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้คำตอบครบ (แนวคำตอบอื่น ๆ ข้ึนอยู่กบั ตัวอย่างท่ีครูยกมาให้ เด็กพจิ ารณา) 12. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะ Com Sci ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หน้า 17 เร่ืองการทำงานแบบ วนซ้ำ และแบบฝึกหัดเร่ือง แนวคิดในการแก้ปัญหา ในแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หน้า 6 เป็นการบ้าน เพื่อทบทวน ความรูท้ ไี่ ด้เรยี นมาท้ังหมด ชัว่ โมงที่ 3 ขั้นส1อ.น (60 นาที) ขยายความรู้ 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ทบทวนความร้เู ดิมท่ีเคยเรียนในช่ัวโมงท่แี ล้ว เรือ่ งแนวคดิ ในการแกป้ ัญหา 2. ครูถามนักเรียนว่า ในชีวติ ประจำวันของนักเรียนมีกจิ กรรมใดบ้าง ทีส่ ามารถอธบิ ายโดยใช้แนวคิด การทำงานแบบต่าง ๆ ได้ (แนวคำตอบ: การเดินทางไปโรงเรียนด้วยรถยนต์ แล้วรถติดอยู่ท่ี 4 เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 12

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ แยก โดยมีสัญญาณไฟจราจร 3 สี คอื แดง เหลือง เขียว ซึง่ เราจะตอ้ งทราบเงื่อนไขก่อนว่าแต่ละ สหี มายถึงอะไร แลว้ จงึ ทำตามเงื่อนไขนน้ั ได้) 3. ครบู อกนักเรียนว่า วันน้ีครูจะให้นักเรียนตามติดชีวิตของลุงคนหนึ่ง เขามีชื่อว่าลุงพล เรามาดูกัน ดีกว่าว่าใน 1 วัน ลุงพลต้องทำอะไรบ้าง แล้วให้นักเรียนช่วยวิเคราะห์ว่ามีช่วงใดบ้าง ที่เรา สามารถใชแ้ นวคิดการทำงานแบบตา่ ง ๆ ในการอธบิ ายได้ 4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3-4 คน จากน้ันครูอ่านสถานการณ์ในกิจกรรมฝึกทักษะท่ี 3 ใน แบบฝกึ หดั รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 หน้า 14 ใหน้ ักเรียนฟงั และใหน้ กั เรียนนกึ ภาพตาม 5. ครูถามนักเรยี นวา่ จากสถานการณท์ ่ีครูอา่ นให้ฟัง มีช่วงใดบ้างท่ีสามารถใช้แนวคดิ การทำงานแบบ ต่าง ๆ ในการอธบิ ายได้ โดยครใู ห้นักเรยี นในกลมุ่ ชว่ ยกนั วิเคราะหแ์ ละเขียนตอบลงในแบบฝึกหัด 6. ครูเรียกนักเรียนแต่ละกลุ่มให้ออกมานำเสนอหน้าช้ันเรียนว่า สามารถใช้แนวคิดแบบต่าง ๆ อธิบายเหตุการณใ์ นชว่ งใดได้บา้ ง และลงข้อสรปุ รว่ มกนั ตรวจสอบผล 7. ครูถามนักเรียนว่า แล้วในชีวิตประจำวันของนักเรียน มีเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ใดบ้าง ท่ี สามารถใช้แนวคิดการทำงานแบบต่าง ๆ ในการอธิบายได้ 8. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมเรื่อง แนวคิดการทำงานแบบต่าง ๆ ที่ใช้อธิบายสถานการณ์ใน ชีวิตประจำวัน โดยครูให้นักเรียนระดมความคิดร่วมกันภายในกลุ่ม และให้นักเรียนแต่ละคน ร่วมกันเสนอสถานการณ์หรือเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันของตนเอง และช่วยกันเลือกเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ท่ีดีท่ีสุดของกลุ่มเพื่อมานำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยแต่ละกลุ่ม ห้ามใช้เหตุการณ์ หรอื สถานการณ์ท่ซี ำ้ กนั 9. ครูแจกกระดาษฟลิปชาร์ท และปากกาสีต่าง ๆ เพ่ือให้นักเรียนช่วยกันวาดภาพหรือเขียน ข้อความเพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์นั้น ๆ หากทำไม่ทันในชั่วโมงน้ี ให้นักเรียนนำ กลับไปทำเปน็ การบา้ น และนำเสนอในช่วั โมงถดั ไป ช่ัวโมงท่ี 4 ขัน้ ส1อ.น (40 นาที) 1. ครูบอกนกั เรียนว่า จากช่ัวโมงท่ีแล้วครไู ด้มอบหมายงานให้นักเรียนทำกิจกรรมเรื่อง แนวคิดการ ทำงานแบบต่าง ๆ ที่ใช้อธิบายสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ในชั่วโมงนี้ครูจะให้นักเรียนแต่ละ กลุ่มนำกระดาษท่ีได้วาดรูปหรือเขียนไว้ ออกมานำเสนอโดยต้องอธิบายถึงแนวคิดต่าง ๆ ให้ ชัดเจน โดยครูใหเ้ วลาในการนำเสนอกลุม่ ละ 7-10 นาที 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอกิจกรรมเรอ่ื ง แนวคิดการทำงานแบบตา่ ง ๆ ทใ่ี ชอ้ ธบิ าย สถานการณใ์ นชวี ติ ประจำวนั เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 13

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ 3. ครูสอบถามนักเรียนแต่ละกลุ่มว่า สถานการณ์ของกลุ่มใด ที่มีการนำแนวคิดในการแก้ปัญหา แบบต่าง ๆ มาอธบิ ายได้ชัดเจนที่สุด และนอกจากสถานการณ์ของกลุม่ เราหรอื ของเพื่อน ๆ แล้ว ยงั มสี ถานการณอ์ ื่น ๆ อกี หรือไม่ ขั้นสรปุ (20 นาที) 1. ครูให้นักเรียนตรวจสอบตนเองจากการเรียนเน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องการแก้ปัญหา โดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการ คำนวณ) หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 หน้า 18 2. ครูและนักเรียนสรุปความรู้ประจำหน่วยร่วมกัน โดยดูแผนผังสรุปสาระสำคัญท้ายหน่วย ใน หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หน้า 19 3. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนทำกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้ ในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 หน้า 20-21 เป็นการบ้าน 4. ครมู อบหมายงานใหน้ ักเรียนทำชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เปน็ การบา้ น 5. ครใู หน้ กั เรยี นเลน่ เกมทางของฉัน ในกิจกรรมเลน่ เกมกับ Com Sci ตามหนังสอื เรียนรายวชิ า พน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 หน้า 18 6. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 14

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง การแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ 2) หนังสอื แบบฝึกหดั รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง การแก้ปัญหาโดยใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะ 3) ใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง ต่อยอดการแก้ปญั หาดว้ ยเหตุผลเชิงตรรกะ 4) วีดิทัศนเ์ รอ่ื งการแปลอักษรจาก https://www.youtube.com/watch?v=M4xp926Q4O8 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องคอมพวิ เตอร์ 2) อินเทอร์เนต็ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 15

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 คำชี้แจง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. เหตผุ ลเชงิ ตรรกะช่วยในการแกป้ ญั หาได้อยา่ งไร 6. หากนกั เรยี นได้รบั มอบหมายให้จดั โตะ๊ อาหาร โดยต้องวางจาน ก. ช่วยเพ่ิมเงื่อนไขในการแกป้ ญั หา ข. ชว่ ยป้องกนั ปญั หาไมใ่ หเ้ กดิ ข้ึนอีก วางช้อนส้อม ตกแตง่ โต๊ะอาหาร และปูผา้ ปูโตะ๊ นกั เรยี นควรเลือก ค. ช่วยเพิ่มความซับซ้อนในการแก้ปัญหา ง. ชว่ ยตรวจสอบความสมเหตุสมผลในการแก้ปัญหา ทำส่งิ ใดก่อน จึงจะประหยดั เวลามากทีส่ ดุ 2. ปมุ้ ปู ปลา เปรย้ี ว เป็นพี่น้องกนั เปรี้ยวบอกวา่ เขามพี ี่หนง่ึ คน ก. วางชอ้ นส้อมเพอ่ื ความสะดวกในการตกั อาหาร มีนอ้ งสองคน ปบู อกวา่ เขามีพสี่ ามคน ปลาบอกว่า เขามนี ้อง หนึ่งคน ใครอายุมากท่สี ุด ข. ปูผา้ คลุมโต๊ะ เพอ่ื คลมุ หนา้ โต๊ะ ปอ้ งกันรอยขีดข่วนต่าง ๆ ก. ปมุ้ ข. ปู ค. ตกแตง่ โต๊ะอาหาร เพอ่ื สรา้ งบรรยากาศในการ ค. ปลา ง. เปรยี้ ว รับประทานอาหาร 3. บาส บอล เบล และบีม หลงทางอย่ใู นปา่ เบลจำไดว้ ่า ง. วางจานเพอื่ เป็นการกำหนดตำแหนง่ ของผนู้ ่งั รบั ประทาน ทางออกต้องผ่านแมน่ ำ้ แตไ่ มผ่ า่ นถำ้ และศาลา บาสจำได้ ว่ามถี ้ำอยูเ่ สน้ ทางที่ 1 และ 4 บอลจำได้ว่าเสน้ ทางที่ 2, 3 อาหารให้แน่นอน และ 4 มีแม่น้ำไหลผา่ น บีมจำไดว้ า่ มศี าลาอยูเ่ ส้นทางที่ 3 ทางออกคือเส้นทางใด 7. ขอ้ ใดเปน็ การทำงานแบบวนซำ้ ที่มีจำนวนครัง้ แนน่ อน ก. เส้นทางท่ี 1 ข. เส้นทางที่ 2 ก. ปยุ รบั ประทานยาตามท่ีหมอส่งั จนกว่าจะหายป่วย ค. เส้นทางที่ 3 ง. เส้นทางที่ 4 ข. บอลวิ่งออกกำลังกายรอบสนามไปเรือ่ ย ๆ 4. แนวคิดในการแก้ปัญหามคี วามสำคัญ ยกเวน้ ขอ้ ใด จนกระทั่งเหน่อื ย ก. ช่วยใหแ้ ก้ปญั หาได้อย่างเป็นข้ันตอน ข. ช่วยสร้างเงอ่ื นไขให้กบั ปัญหาต่าง ๆ ค. แดนโดนทำโทษใหเ้ ก็บขยะในสนามไปเร่ือย ๆจนครบ100 ชิ้น ค. ชว่ ยออกแบบกระบวนการแก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งชดั เจน ง. ชว่ ยให้การแก้ปัญหาสามารถทำไดง้ ่ายและมปี ระสิทธิภาพ ง. แบมเกบ็ เงินวนั ละ 10บาทไปเร่ือย ๆจนกวา่ จะพอซื้อหนังสือ 5. ข้อใดบอกขนั้ ตอนการทำพิซซ่าไดถ้ กู ตอ้ ง การต์ ูน ก. นวดแปง้ > ทำใหแ้ ป้งเป็นแผ่น > อบพิซซา่ > ตกแต่งหน้าพซิ ซ่า 8. ฝนกนิ ขนมจำนวน 3 ชน้ิ สามารถเขยี นการทำงานแบบวนซำ้ ทีม่ ี ข. นวดแป้ง > ตกแต่งหนา้ พซิ ซ่า > ทำใหแ้ ปง้ เป็นแผน่ > อบพิซซ่า จำนวนครั้งแน่นอนไดอ้ ยา่ งไร ค. นวดแปง้ > ทำใหแ้ ป้งเป็นแผน่ > ตกแตง่ หน้าพิซซ่า> อบพซิ ซ่า ก. เร่ิมตน้ > กินขนม > หยุดกิน ง. ทำใหแ้ ปง้ เปน็ แผ่น > นวดแป้ง > ตกแต่งหนา้ พซิ ซา่ > อบพซิ ซ่า ข. เริม่ ตน้ > กินขนม 3 ชน้ิ > หยดุ กนิ เฉลย ค. เรมิ่ ต้น > กินขนมชิน้ ท่ี 1 > กนิ ขนมช้ินท่ี 3 > หยดุ กนิ 1. ง 2. ก 3. ข 4. ข 5. ค ง. เรม่ิ ตน้ > กินขนมชน้ิ ท่ี 1 > กินขนมชนิ้ ท่ี 2 > กนิ ขนม ชิ้นที่ 3 > หยดุ กนิ 9. งานใดเหมาะกับการใช้แนวคิดการทำงานแบบเงอื่ นไขมาก ทสี่ ุด ก. การทำขนมเค้ก ข. การอาบน้ำโดยใชข้ ัน ค. การรดนำ้ ต้นไมจ้ ำนวน 10 ตน้ ง. การตรวจสอบคะแนนสะสมในบตั รสมาชกิ 10. ปมู ีนดั ส่งของใหล้ กู คา้ เวลา 15.00 น. หากปูเดินทางโดย รถจักรยานยนต์จะใชเ้ วลา 15 นาที หากเดนิ ทางโดยรถยนต์ จะใช้เวลา 40 นาที ถ้าขณะน้ีเปน็ เวลา 14.30 น. ปคู วร เดนิ ทางด้วยวธิ ใี ด จงึ จะสง่ ของให้ลูกคา้ ทัน ก. รถยนต์ ข. รถจกั รยานต์ยนต์ ค. ทนั ท้งั 2 วธิ ี ง. ไมท่ ันทั้ง 2 วิธี 6. ข 7. ข 8. ข 9. ง 10. ข เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 16

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ี 1 คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. เหตผุ ลเชงิ ตรรกะช่วยในการแก้ปญั หาได้ ยกเว้นข้อใด 6. หากนกั เรียนไดร้ ับมอบหมายใหเ้ ปลย่ี นผ้าปูทีน่ อน กวาดพ้ืน ถพู นื้ และกวาดหยากไยบ่ นเพดาน นกั เรียนควรเลอื กทำสิง่ ใด ก. ชว่ ยพจิ ารณาสาเหตุของปญั หา ก่อน จึงจะประหยัดเวลามากทส่ี ุด ก. เปลย่ี นผ้าปูทน่ี อน เพราะเปน็ ทก่ี ักเก็บฝนุ่ มากท่ีสดุ ข. ช่วยเพ่ิมเงอ่ื นไขในการแกป้ ัญหา ข. ถูพื้น เพราะระหว่างรอใหพ้ ้ืนแหง้ จะได้ไปทำความสะอาด บริเวณอื่น ค. ช่วยพิจารณาความเปน็ ไปไดข้ องการแกป้ ัญหา ค. กวาดพ้ืน เพราะหากพ้ืนสะอาดแล้วจะทำให้การทำ ความสะอาดบริเวณอื่น ๆ สะดวกมากข้นึ ง. ช่วยตรวจสอบความสมเหตสุ มผลในการแกป้ ัญหา ง. กวาดหยากไย่บนเพดาน เพราะหยากไยจ่ ะได้ตกลงมา ที่บริเวณท่ีต่ำกว่า และทำความสะอาดตามลำดับ 2. เมอื งพอดีอยเู่ หนือเมืองพอใจ เมืองพอใจอยู่ใต้เมือง 7. เจนแจกใบปลวิ ประชาสัมพันธง์ านวนั ลอยกระทงไปเรื่อย ๆ พอเพยี ง เมอื งพอเพียงอยู่เหนือเมืองพองาม และเมอื ง จนหมด จัดเปน็ แนวคิดการทำงานแบบใด พอดีอยูใ่ ตเ้ มอื งพองาม เมืองอะไรอยู่เหนอื สดุ ก. การทำงานแบบลำดบั ข. การทำงานแบบมเี งื่อนไข ก. เมืองพอดี ค. การทำงานแบบวนซำ้ ท่มี ีจำนวนครัง้ แนน่ อน ง. การทำงานแบบวนซำ้ ที่มจี ำนวนคร้ังไม่แน่นอน ข. เมืองพอใจ 8. แฟงปลกู ตน้ ไม้จำนวน 3 ต้น สามารถเขยี นการทำงานแบบ วนซ้ำทม่ี จี ำนวนครง้ั แน่นอนได้อยา่ งไร ค. เมืองพอเพียง ก. เรมิ่ ตน้ > ปลูกตน้ ไม้ > หยดุ ปลูก ข. เริม่ ต้น > ปลูกตน้ ไม้ 3 ต้น > หยดุ ปลกู ง. เมืองพองาม ค. เริม่ ตน้ > ปลูกต้นที่ 1 > ปลูกตน้ ที่ 3 > หยุดปลูก ง. เรม่ิ ตน้ > ปลูกต้นท่ี 1 > ปลูกตน้ ที่ 2 > ปลูกต้นท่ี 3 3. ปมุ้ ปู ปลา เปร้ียว เป็นพ่ีนอ้ งกัน เปรยี้ วบอกวา่ เขามพี ี่ > หยดุ ปลกู หนงึ่ คน มีน้องสองคน ปูบอกวา่ เขามีพ่สี ามคน ปลาบอก 9. งานใดเหมาะกับการใช้แนวคิดการทำงานแบบเงื่อนไขมากทสี่ ุด ว่าเขามีนอ้ งหนงึ่ คน ใครอายมุ ากทส่ี ุด ก. การแต่งตวั ไปโรงเรียน ข. การร้อยลกู ปัดเพือ่ ทำสรอ้ ยคอ ก. ปมุ้ ข. ปู ค. การสังเกตไฟจราจรก่อนข้ามถนน ง. การแจกนมใหน้ ักเรยี นในตอนเช้า ค. ปลา ง. เปรย้ี ว 10. ครูมานะกำหนดเงื่อนไขในการสอบวิชาภาษาไทย โดยหาก นักเรียนได้คะแนนตำ่ กว่า 10 คะแนนถือวา่ สอบตก ถา้ ปลา 4. แนวคดิ ในการแกป้ ัญหามคี วามสำคญั อย่างไร ไดค้ ะแนนสอบ 10 คะแนน และเอ๋ไดค้ ะแนนสอบ 17 คะแนน หมายความว่าอย่างไร ก. ชว่ ยสรา้ งเง่อื นไขให้กบั ปญั หาต่าง ๆ ก. ปลาและเอ๋สอบผ่าน ข. ปลาและเอ๋สอบตก ค. ปลาสอบตก เอ๋สอบผา่ น ง. ปลาสอบผา่ น เอ๋สอบต ข. ช่วยกำหนดขอบเขตของวธิ กี ารแกป้ ญั หา 6. ง 7. ง 8. ข 9. ค 10. ก ค. ชว่ ยออกแบบกระบวนการแก้ปญั หาให้มคี วาม ซับซอ้ น ง. ชว่ ยใหก้ ารแก้ปญั หาสามารถทำได้ง่ายและมี ประสิทธิภาพ 5. ข้อใดบอกข้ันตอนการหงุ ข้าวได้ถูกตอ้ ง ก. ตวงขา้ วสาร > ตวงนำ้ ใหเ้ หมาะสม > หงุ ขา้ ว > ล้างขา้ วให้สะอาด ข. ตวงข้าวสาร > ตวงน้ำให้เหมาะสม > ล้างขา้ วสาร ใหส้ ะอาด > หุงขา้ ว ค. ตวงขา้ วสาร > หงุ ข้าว > ตวงนำ้ ใหเ้ หมาะสม > ล้างข้าวสารใหส้ ะอาด ง. ตวงขา้ วสาร > ลา้ งขา้ วสารให้สะอาด > ตวงน้ำให้เหมาะสม > หุงข้าว เฉลย 1. ข 2. ค 3. ก 4. ง 5. ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 17

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกบั การแก้ปัญหา แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ เวลา 8 ช่ัวโมง เรื่อง เหตผุ ลเชิงตรรกะกบั การการแกป้ ัญหา เวลา 4 ชั่วโมง รายวิชาวิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม ตัวช้ีวัด ป.6/1 ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบ วิธีการแก้ปัญหาท่ีพบใน ชีวติ ประจำวนั 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ออกแบบการแก้ปญั หาในชวี ติ ประจำวนั ได้ โดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ (K,P) 2. ยกตวั อยา่ งการแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในชีวติ ประจำวันได้ (A) 3. สาระสำคัญ เหตุผลเชิงตรรกะกับการแก้ปัญหา เป็นการนำหลักการ กฎเกณฑ์หรือเง่ือนไขท่ีครอบคลุมทุกกรณีมา ใชเ้ พอื่ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลหรือพิจารณาความเปน็ ไปได้ของการมุ่งหาคำตอบและแกป้ ัญหา 4. สาระการเรยี นรู้ เหตุผลเชงิ ตรรกะกบั การแกป้ ัญหา 5. รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน 1. วธิ กี ารสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) 2. วธิ ีการสอนแบบกระบวนการกล่มุ 3. เทคนิคตามแนวคดิ เชิงคำนวณ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 18

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกบั การแก้ปญั หา 6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทกั ษะ 4 Cs  ทักษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking)  ทักษะการทำงานร่วมกัน (Collaboration Skill)  ทกั ษะการส่ือสาร (Communication Skill) ทักษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) 8. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ซ่อื สตั ย์ สจุ ริต  รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์  ใฝเ่ รยี นรู้  มีวนิ ัย  มงุ่ ม่นั ในการทำงาน  อยู่อย่างพอเพียง  มีจติ สาธารณะ  รกั ความเปน็ ไทย 9. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ข้นั นำ (15 นาที) 1. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน กระตุ้นความสนใจ 2. ครูใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมลองทำดู ในแบบฝึกหัดรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 หน้า 2 เพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมก่อนเขา้ สู่ บทเรียน 3. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายถึงวธิ กี ารแก้ปัญหาของกิจกรรมลองทำดู จนได้ขอ้ สรปุ ว่าใช้ เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 19

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกบั การแกป้ ัญหา 4. ครใู ห้นักเรยี นเปดิ หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 หน้า 2-3 จากนัน้ ครถู ามคำถามประจำหน่วยการเรียนรกู้ บั นกั เรยี นวา่ เหตุผลเชิงตรรกะช่วยในการแกป้ ญั หาได้อย่างไร แนวคำตอบ: เหตผุ ลเชิงตรรกะช่วยในการแก้ปญั หาได้ เชน่ เขา้ มาช่วยในการพจิ ารณาสาเหตุของ ปญั หา วิธกี ารแกป้ ญั หา การตรวจสอบการแก้ปัญหา 5. ครถู ามคำถามสำคัญประจำหัวขอ้ กับนักเรยี นวา่ เหตผุ ลเชงิ ตรรกะสามารถนำไปใช้ใน ชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งไร จากน้ันใหน้ กั เรียนลองยกตวั อยา่ งการใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะใน ชวี ติ ประจำวนั ของนักเรยี น ขั้นสอน (45 นาที) สำรวจคน้ หา 6. ครใู ห้นักเรียนจับกลุ่ม 3-4 คน เพื่อศึกษาและสังเกตสถานการณ์ตัวอย่างจากหนงั สอื เรยี นรายวชิ า พน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 หนา้ 3-7 เก่ยี วกบั ผลการแข่งขนั ตอบปัญหาภาษาองั กฤษ โดยให้นักเรียนอ่านบทสมั ภาษณ์ของตวั แทนนักเรยี นแต่ ละคน 7. นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะหบ์ ทสัมภาษณแ์ ละพจิ ารณาตดั ส่งิ ทเ่ี ปน็ ไปไม่ได้ออกตามหนังสือ จนได้ ขอ้ สรปุ ว่าตวั แทนนักเรียนแต่ละคนแข่งขันไดล้ ำดบั ท่เี ทา่ ไร 8. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มพจิ ารณาสถานการณต์ ัวอย่างในหนังสือเรยี นอีกคร้ัง เพ่ือถอด กระบวนการ แนวคิด หรือวิธีการแกป้ ัญหาของสถานการณ์ จากนั้นเขียนแนวคิดหรือวิธกี าร แก้ปัญหาและตอบคำถามลงในใบงานท่ี 1.1.1 เรื่อง ต่อยอดการแก้ปัญหาด้วยเหตผุ ลเชิงตรรกะ อธบิ ายความรู้ 9. ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานจากการทำใบงานท่ี 1.1.1 เรอ่ื ง ต่อยอดการ แก้ปญั หาด้วยเหตผุ ลเชงิ ตรรกะ โดยแสดงถงึ วิธีการพิจารณาสถานการณ์ เง่ือนไขต่าง ๆ แนวคดิ หรือวธิ กี ารแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะตามทแี่ ต่ละกลุ่มได้ระดมความคิดเห็นรว่ มกนั ในการ ทำกิจกรรมกลมุ่ 10. ครูและนกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายถึงแนวคดิ หรือวธิ ีการแกป้ ัญหา และการตอบคำถามของนักเรียน แต่ละกลุ่ม ว่ามีความแตกตา่ งกนั อย่างไร และหาข้อสรปุ รว่ มกนั 11. ครูมอบหมายงานใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมฝกึ ทักษะ Com Sci ในหนังสือเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 หนา้ 8 เปน็ การบ้าน โดย เขยี นใสส่ มุดและส่งในช่วั โมงถัดไป เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 20

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกับการแกป้ ัญหา ชวั่ โมงที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) (60 นาที) อธบิ ายความรู้ 1. ครูและนกั เรยี นทบทวนความรูเ้ ดิมท่เี รียนในช่วั โมงท่ีแลว้ เร่อื งการแก้ปญั หาด้วยเหตุผลเชิงตรรกะ 2. ครสู มุ่ นกั เรยี น 2-3 คน เพ่อื อธิบายแนวคดิ หรอื วิธกี ารแก้ปัญหาของกิจกรรมฝึกทักษะ Com Sci ที่สั่ง เปน็ การบา้ น และลงขอ้ สรุปร่วมกัน จากนัน้ ให้นักเรียนสง่ การบา้ น ขยายความเข้าใจ 3. ครบู อกกบั นักเรียนวา่ ในช่ัวโมงทแี่ ลว้ ครไู ด้ใหน้ ักเรียนใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหาการตอบ ปัญหาภาษาองั กฤษไปแล้ว ในวันน้เี รามาลองใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในสถานการณอ์ ื่น ๆ ดูบ้าง 4. ครูถามนักเรียนวา่ รู้จกั รำวงมาตรฐานหรอื ไม่ รำวงมาตรฐานเป็นการแสดงที่มวี ิวฒั นาการมาจากรำ โทน ซึ่งเปน็ การร้องและการรำของชาวบา้ น มผี ู้รำท้ังชายและหญงิ 5. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกล่มุ (กลุ่มเดมิ ) อา่ นสถานการณแ์ ละเงื่อนไขในกิจกรรมฝกึ ทกั ษะที่ 1 เรอื่ งจับครู่ ำ วงมาตรฐาน ในแบบฝกึ หดั รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ย การเรียนร้ทู ี่ 1 หนา้ 10 6. นกั เรียนในกลุ่มรว่ มกันจับคู่ผู้รำฝ่ายชายและฝา่ ยหญิงตามสถานการณ์และเงื่อนไขที่กำหนด และตอบ คำถามลงในกิจกรรมฝกึ ทักษะที่ 1 7. ครูถามนักเรียนว่าจากสถานการณ์ที่กำหนดให้ นักเรียนคิดว่าเพราะเหตุใด จึงตอ้ งใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ในการแกป้ ัญหาน้ี จากนน้ั ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายจนได้ข้อสรุปรว่ มกัน 8. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนทำแบบฝึกหดั เรื่องเหตุผลเชิงตรรกะกับการแก้ปญั หา ในแบบฝกึ หดั รายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 หน้า 3-5 เพื่อ ทบทวนความรู้ ชวั่ โมงท่ี 3 ขั้นสอน (ต่อ) (60 นาที) ขยายความเขา้ ใจ 1. ครูและนักเรียนทบทวนความรเู้ ดมิ ท่เี รยี นในช่วั โมงท่ีแลว้ เรอ่ื งการแก้ปญั หาดว้ ยเหตผุ ลเชงิ ตรรกะ 2. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยเห็นกองเชียร์นักกีฬาท่ีน่ังอยู่บนอัฒจันทร์หรือไม่ จากนั้นครูเปิด วีดิทศั น์การแปลอักษรบนอฒั จันทร์ใหน้ ักเรียนดู เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 21

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกบั การแกป้ ัญหา 3. ครใู หน้ กั เรยี นนัง่ ตามกลุ่มเดมิ และสมมติบทบาทให้นกั เรยี นเปน็ ผ้คู มุ กองเชยี ร์ โดยใหน้ กั เรยี นแต่ ละกล่มุ รว่ มกันอ่านสถานการณใ์ นกจิ กรรมฝกึ ทักษะที่ 2 เร่ืองเชยี รก์ ีฬา พาเพลิน ในแบบฝกึ หัด รายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หน้า 12 4. นกั เรยี นในกลุ่มร่วมกนั ทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะท่ี 2 เร่ืองเชยี ร์กฬี า พาเพลิน โดยนักเรยี นจะต้อง ระบายสีลง ในตารางให้ถกู ต้องตามเงื่อนไข และทายว่ารปู ท่ีอยใู่ นตารางคือรูปอะไร โดยตาราง เปรยี บเสมอื นกองเชยี ร์ทีน่ ่งั อยูบ่ นอัฒจันทร์และสที ี่ระบายเปรียบเสมือนป้ายท่ีนักเรยี นบน อฒั จันทร์ชขู น้ึ เพอ่ื แสดงตัวอกั ษรหรอื รูปตา่ ง ๆ 5. ครถู ามนักเรยี นแต่ละกลุ่มว่านักเรียนท่ีน่ังอยู่บนอัฒจันทร์กำลงั ชูปา้ ยเพื่อแสดงตัวอกั ษรหรือรูป อะไร และสมุ่ ถามนักเรียน 1 กลุม่ ว่านกั เรียนใช้แนวคิดหรือวิธีการใดในการแก้ปัญหา 6. ครูถามนักเรยี นกลุ่มอ่ืน ๆ วา่ นกั เรยี นมแี นวคิดหรือวิธีการแก้ปัญหาเหมือนหรือแตกตา่ งกันกับ เพอ่ื นกลมุ่ ท่แี ลว้ หรือไม่ หากมีกลมุ่ ท่แี ตกตา่ ง ครูให้นักเรียนกลุม่ นนั้ อธบิ ายถึงความแตกต่าง 7. ครมู อบหมายงานใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ ทำกิจกรรมเรอื่ ง การใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในชวี ติ ประจำวัน โดยนกั เรียนแต่ละกลมุ่ จะต้องหากิจกรรมท่ีมีปัญหาเกีย่ วขอ้ งกับชีวติ ประจำวนั และใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หามา 1 กจิ กรรม และให้นกั เรียนนำเสนอกจิ กรรมในชั่วโมงถดั ไป โดยต้องให้ เพอ่ื นกลุม่ อ่นื ร่วมแก้ปัญหาในกจิ กรรมของกลุม่ เราดว้ ย มเี วลานำเสนอกลุ่มละ 7-10 นาที ชว่ั โมงที่ 4 ขั้นสอน (ต่อ) (50 นาที) ตรวจสอบผล 1. ครูบอกนักเรียนว่า จากชั่วโมงท่แี ล้วครไู ด้มอบหมายงานให้นักเรียนทำกิจกรรมเรื่อง การใช้เหตผุ ลเชิง ตรรกะในชีวิตประจำวัน ในชั่วโมงน้ีครูจะให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอกิจกรรมและพาเพื่อน กลุ่มอื่น ทำกิจกรรมของเราดว้ ย โดยครใู หเ้ วลาในการนำเสนอกลุ่มละ 7-10 นาที 2. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอและพาเพื่อนทำกิจกรรมเร่ืองการใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะใน ชีวิตประจำวัน 3. ครูสอบถามนักเรียนแต่ละกลุ่มว่า ชอบกิจกรรมของกลุ่มไหนมากท่ีสุด และนอกจากกิจกรรมท่ีกลุ่ม ของเราหรือของเพื่อน ๆ นำมาแล้ว นักเรียนมีปญั หาอ่นื ๆ ท่ีต้องใช้แนวคดิ เชิงตรรกะในการแก้ปัญหา อีกหรือไม่ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 22

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เหตผุ ลเชิงตรรกะกับการแกป้ ญั หา ขนั้ สรปุ (10 นาที) ตรวจสอบผล 4. นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรุปความรทู้ ี่เรียนมาท้ังหมดเกีย่ วกับการแกป้ ัญหาด้วยเหตผุ ลเชิงตรรกะ 10. สื่อแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 2. แบบฝึกหัดรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 3. ใบงานท่ี 1.1.1 เรอ่ื ง ตอ่ ยอดการแก้ปญั หาด้วยเหตุผลเชิงตรรกะ 4. วีดิทศั นเ์ รื่องการแปลอักษรจาก https://www.youtube.com/watch?v=M4xp926Q4O8 11. การวดั และการประเมนิ ผล 11.1 การประเมนิ ระหว่างการจัดกจิ กรรม จดุ ประสงค์ วธิ ีการประเมนิ เครอ่ื งมอื การประเมิน เกณฑ์การประเมิน แบบประเมินการทำใบ สามารถออกแบบการ ออกแบบการแก้ปัญหาใน ตรวจใบงานท่ี 1.1.1 งานที1่ .1.1 เรอ่ื ง ต่อยอด แกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ล การแก้ปัญหาดว้ ยเหตุผล เชิงตรรกะ ระดับคณุ ภาพ ชีวติ ประจำวนั ได้ โดยใช้ เรอ่ื ง ตอ่ ยอดการ เชิงตรรกะ พอใช้ขึ้นไป เหตผุ ลเชิงตรรกะ (K,P) แก้ปัญหาดว้ ยเหตุผลเชิง ตรรกะ ยกตวั อยา่ งการแก้ปัญหา ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะท่ี กิจกรรมฝกึ ทักษะท่ี 1 สามารถแก้ปัญหาได้ โดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ 1 เรื่องจบั ค่รู ำวง เรื่องจบั ครู่ ำวงมาตรฐาน ถกู ต้องตามเงอื่ นไข 60% ในชีวติ ประจำวนั ได้ (A) มาตรฐาน ข้ึนไป ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะที่ กิจกรรมฝกึ ทกั ษะท่ี 2 สามารถแก้ปญั หาได้ 2 เชยี ร์กฬี า พาเพลนิ เชียร์กฬี า พาเพลิน ถกู ต้องตามเงอื่ นไข 60% ขึน้ ไป ประเมินการนำเสนอ แบบประเมินการนำเสนอ สามารถนำเสนอ เรื่อง เรอื่ ง การใชเ้ หตุผลเชงิ เรื่อง การใช้เหตุผลเชงิ การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ ตรรกะในชีวติ ประจำวนั ตรรกะในชีวิตประจำวัน ในชวี ติ ประจำวนั ระดับ คณุ ภาพระดบั พอใช้ขึน้ ไป เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 23

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 เหตผุ ลเชิงตรรกะกบั การแกป้ ัญหา 11.2 การประเมนิ ใบงานที่ 1.1.1 เรอ่ื ง ต่อยอดการแกป้ ญั หาดว้ ยเหตุผลเชงิ ตรรกะ แบบประเมนิ การทำใบงาน ประเดน็ ทปี่ ระเมนิ 3 ระดบั คะแนน 1 1. ความถกู ต้องของเนื้อหา แนวคิดหรือวธิ กี าร 2 แนวคิดหรอื วิธีการ แก้ปัญหามีความถูกต้อง แก้ปัญหามีความถูกต้อง ตรงตามเงื่อนไขทุกกรณี แนวคิดหรือวธิ ีการ แต่ตรงตามเงอ่ื นไขน้อยกว่า แก้ปัญหามีความถูกต้อง 50% แต่ตรงตามเงอ่ื นไข 50% ข้นึ ไป 2. ออกแบบแนวคิดหรือ สามารถออกแบบแนวคิด สามารถออกแบบแนวคิด สามารถออกแบบแนวคดิ วิธกี ารแก้ปัญหาอย่างเป็น หรือวธิ ีการแกป้ ัญหาได้ หรือวิธกี ารแกป้ ัญหาได้ หรือวิธกี ารแกป้ ญั หาได้ แต่ ลำดบั ข้นั ตอน อยา่ งเปน็ ลำดับขัน้ ตอนที่ อย่างเป็นลำดับข้นั ตอน แต่ ยังไมเ่ ปน็ ลำดบั ขนั้ ตอน ชัดเจน ยงั ไมช่ ดั เจน 3. การใหเ้ หตุผล อธบิ ายแนวคดิ หรอื วธิ กี าร อธบิ ายแนวคิดหรือวธิ ีการ อธบิ ายแนวคดิ หรอื วิธีการ ประกอบการอธบิ าย แกป้ ญั หาได้พร้อมท้ังให้ แกป้ ญั หาได้ พร้อมทั้งให้ แกป้ ญั หาพร้อมได้ แต่ไม่ให้ แนวคดิ หรอื วธิ ีการ เหตุผลประกอบอยา่ ง เหตผุ ลประกอบ โดยเหตผุ ล เหตุผลประกอบ แกป้ ญั หา สมเหตสุ มผลทุกประเดน็ มคี วามสมเหตสุ มผล มากกว่า 50% ข้นึ ไป เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 8-9 ดี 5-7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 24

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกบั การแก้ปญั หา 11.3 การประเมินการนำเสนอกลุ่ม แบบประเมนิ การนำเสนอกลุม่ ลำดับท่ี รายการประเมนิ คณุ ภาพผลงาน 4321 1 กิจกรรมการแก้ปัญหาเชงิ ตรรกะในชวี ิตประจำวนั มีความน่าสนใจ 2 อธิบายวธิ ีการเลน่ กจิ กรรมของกลมุ่ ตนเองได้อยา่ งเขา้ ใจ 3 ควบคมุ เวลาในการนำเสนอได้อย่างเหมาะสม 4 การมีสว่ นร่วมของสมาชกิ ในกล่มุ 5 การรับฟงั ความคดิ เหน็ ของสมาชิกกลมุ่ อนื่ รวม เกณฑ์การให้คะแนน ดมี าก = 4 ดี = 3 พอใช้ = 2 ปรบั ปรงุ = 1 เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กว่า 10 ปรับปรงุ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 25

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เหตผุ ลเชิงตรรกะกบั การแก้ปญั หา ใบงานท่ี 1.1.1 เรอื่ ง ต่อยอดการแก้ปัญหาดว้ ยเหตผุ ลเชงิ ตรรกะ คำช้ีแจง : ให้นักเรียนอ่านสถานการณ์เร่ืองผลการแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษในหนังสือ เรยี น แล้วตอบคำถามต่อไปน้ี 1. นักเรยี นมแี นวคดิ หรือวธิ ีการแกป้ ญั หาจากสถานการณท์ ีก่ ำหนดให้อย่างไร จงอธิบาย อยา่ งละเอยี ดโดยใชภ้ าพ สัญลกั ษณ์ หรอื ขอ้ ความ ตัวอยา่ งการอธิบายการแกป้ ญั หาด้วยข้อความอย่างคร่าว ๆ เร่ิมต้น > อ่านเงอื่ นไข > ตรวจสอบเงอื่ นไข > แสดงผลการแข่งขนั > จบการทำงาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 26

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เหตผุ ลเชิงตรรกะกบั การแกป้ ญั หา 2. เมือ่ นักเรยี นอา่ นและพจิ ารณาเงอ่ื นไขครบทง้ั หมดแลว้ เพยี ง 1 รอบ นกั เรียนสามารถรู้ ผลการแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษไดเ้ ลยหรอื ไม่ เพราะเหตุใด .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 3. จากสถานการณ์ท่ีกำหนดให้ นักเรียนคิดว่าเพราะเหตุใด จึงต้องใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ในการแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… .............................................................................................................................................. 4. หากสถานการณ์ทก่ี ำหนด ขาดเง่อื นไข “ตน้ กลา้ ไดค้ ะแนนนอ้ ยกว่ากา้ น” นกั เรยี นคดิ วา่ เราจะสามารถแกป้ ญั หาได้หรือไม่ เพราะเหตใุ ด ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… .............................................................................................................................................. เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 27

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกบั การแก้ปญั หา ใบงานท่ี 1.1.1 เฉลย เรือ่ ง ต่อยอดการแก้ปัญหาด้วยเหตุผลเชิงตรรกะ คำช้ีแจง : ให้นักเรียนอ่านสถานการณ์เร่ืองผลการแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษในหนังสือ เรียน แลว้ ตอบคำถามต่อไปน้ี 1. นกั เรยี นมแี นวคิดหรอื วธิ กี ารแกป้ ญั หาจากสถานการณ์ที่กำหนดให้อย่างไร จงอธบิ าย อย่างละเอียดโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ ตัวอยา่ งการอธบิ ายการแกป้ ญั หาด้วยข้อความอย่างคร่าว ๆ เรม่ิ ตน้ > อ่านเงือ่ นไข > ตรวจสอบเงอ่ื นไข > แสดงผลการแขง่ ขัน > จบการทำงาน ตวั อย่างวิธีการแกป้ ญั หาโดยใช้ข้อความ 1. เร่ิมต้น 2. อ่านเงอ่ื นไขทัง้ หมด 3. เขียนแนวทางท่ีเป็นไปได้ทัง้ หมดลงในตาราง 4. อ่านเงื่อนไขอกี ครั้ง 5. ตัดสิ่งทเ่ี ป็นไปไม่ไดอ้ อก 6. ตรวจสอบว่าได้คำตอบครบหรือยงั หากยังไม่ครบใหก้ ลับไปอา่ น เง่อื นไขในขอ้ 4 และตัดสงิ่ ที่เปน็ ไปไมไ่ ดอ้ อกในขอ้ 5 และมา ตรวจสอบอีกครั้ง หากครบแลว้ ให้สรปุ ผลการแข่งขัน 7. สรุปผลการแขง่ ขัน 8. จบการทำงาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 28

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกบั การแกป้ ัญหา 2. เมอ่ื นกั เรยี นอา่ นและพจิ ารณาเงื่อนไขครบท้งั หมดแล้วเพยี ง 1 รอบ นักเรยี นสามารถรู้ ผลการแข่งขันตอบปญั หาภาษาองั กฤษไดเ้ ลยหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ....ไ.ม...ส่ ..า..ม..า..ร..ถ...ร..ูผ้ ..ล..ไ..ด..้ท...ัน...ท..ี..เ.พ...ร..า.ะ...เ.ม..ื่อ...อ..่า..น...เ.ง..่อื ..น...ไ.ข...ค..ร..ัง้..แ..ร..ก...จ..ะ..ท...ร..า..บ..ผ...ล..เ.พ...ีย..ง..ผ..ูท้...่ีไ..ด..้ล..ำ..ด...ับ..ท...ี่.1..... ....แ..ล..ะ...ล..ำ..ด..บั...ท...่ี .5....ค..ือ..แ...พ..ร..ไ..ห...ม..แ..ล...ะ..ต..น้...ก..ล...า้ ...ท...ำ..ใ.ห...ต้ ..้อ..ง..อ...่า..น..เ.ง..อื่...น..ไ..ข..ซ..ำ้..อ...ีก..ค...ร..งั้ ............................ ...โ..ด..ย..เ..ง.ื่อ...น..ไ..ข..ท...จี่..ะ..ห...า..ล..ำ..ด...บั ..อ...่ืน....ๆ...ไ..ด..้ค...อื ....ก..า้..น..ไ..ด..ค้...ะ..แ..น...น..ร..อ...ง..จ..า..ก..แ...พ..ร..ไ..ห...ม...1....ล..ำ..ด...ับ...แ...ส..ด..ง..ว..า่.... ...ก...้า..น..ไ..ด..้ล..ำ..ด...บั ..ท...่ี.2....เ.พ...ร..า..ะ..แ..พ...ร..ไ..ห..ม...ไ.ด...้ล..ำ..ด..ับ...ท...่ี .1....จ..า..ก..น...้ัน..จ...ะ..เ.ห...็น..ต...ำ..แ..ห...น..่ง..ว..่า..ง..อ..กี....2...ล...ำ..ด..บั...ค..อื... ...ล...ำ.ด...บั ..ท...่ี..3...แ..ล...ะ...4....โ.ด...ย..เ.ม...ือ่ ..อ...า่ .น...เ.ง..ื่อ...น..ไ..ข...น...้ำ..เ.พ...ช..ร..ช...น..ะ..พ...ล..อ...ย..ใ..ส...แ...ต..่ไ..ม..่ไ..ด..ท้...่ี .1....ก..็จ..ะ..ส...า..ม..า..ร..ถ..... ...ท...ร..า..บ..ไ..ด..เ้..ล..ย..ว..า่..น...้ำ..เ.พ...ช..ร..ไ..ด..้ล..ำ..ด...ับ..ท...่ี.3....แ..ล...ะ..แ..พ...ร..ไ.ห...ม...ไ.ด..ล้...ำ..ด..บั...ท..่ี..4............................................ .............................................................................................................................................. 3. จากสถานการณ์ที่กำหนดให้ นักเรียนคิดว่าเพราะเหตุใด จึงต้องใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ในการแกป้ ญั หา ……เ…พ…รา…ะ…ส…ถา…น…ก…าร…ณ…ม์ …ีเ…งือ่ …น…ไข…ม…า…ให…้ เ…ร…าจ…ึง…ตอ้…ง…ใช…้เ…หต…ุผ…ล…เช…งิ …ตร…ร…ก…ะม…า…ช…ว่ ย…พ…จิ …า…รณ…า…เง…ื่อ…น…ไข ……เ…พ…่อื …ตร…ว…จ…สอ…บ…ค…ว…าม…ส…ม…เห…ต…ุส…มผ…ล…แ…ล…ะ…พ…จิ …าร…ณ…า…คว…า…ม…เป…็น…ไป…ไ…ด…ข้ อ…ง…ก…าร…แ…ก…ป้ ัญ……หา………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… .............................................................................................................................................. 4. หากสถานการณท์ ก่ี ำหนด ขาดเง่ือนไข “ตน้ กล้าไดค้ ะแนนน้อยกว่ากา้ น” นักเรยี นคดิ ว่าเราจะสามารถแกป้ ญั หาไดห้ รือไม่ เพราะเหตใุ ด ……แ…ก…ป้ …ญั …ห…าไ…ม…ไ่ ด…้ เ…พ…รา…ะ…ห…าก…ข…า…ดเ…ง่อื…น…ไ…ขต…น้ …ก…ล…้าไ…ด…ค้ …ะแ…น…น…น…อ้ …ยก…ว…า่ ก…า้ …น…จ…ะ…ไม…่ส…า…มา…ร…ถ…… ……ท…ร…าบ…ไ…ด…เ้ ล…ย…ว่า…ต…น้ …ก…ล…้าอ…ย…ู่ล…ำด…ับ…ท…ีเ่ ท…่า…ไ…ร …ซ…ึง่ ห…า…ก…ไม…ท่ …ร…าบ…ล…ำ…ด…บั ข…อ…ง…ต้น…ก…ล…า้ …ก…็จ…ะไ…ม…่ …… ……ส…า…มา…ร…ถ…ตดั…แ…น…ว…ทา…ง…ท…เี่ ป…น็ …ไป…ไ…ม…ไ่ ด…อ้ …อ…ก…แ…ละ…แ…ก…ป้ …ัญ…ห…าต…อ่ …ไม…่ไ…ด…้ ………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… .............................................................................................................................................. เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 29

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ ) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกับการแกป้ ัญหา ....... 12. ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชือ่ ( ตำแหน่ง 13. บนั ทกึ ผลหลังการสอน  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)  ด้านอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤตกิ รรมทม่ี ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 30

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 แนวคดิ ในการแกป้ ัญหา แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2 เวลา 8 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 การแก้ปญั หาโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ เรอ่ื ง แนวคดิ ในการแกป้ ัญหา เวลา 4 ชั่วโมง รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทันและมีจริยธรรม ตัวช้ีวัด ป.6/1 ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบ วิธีการแก้ปัญหาท่ีพบใน ชวี ิตประจำวนั 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายกระบวนการทำงานหรือการแก้ปัญหา โดยใชแ้ นวคิดแบบต่าง ๆ ได้ (K) 2. ออกแบบกระบวนการทำงานหรอื การแก้ปัญหา โดยใชแ้ นวคิดแบบต่าง ๆ ได้ (P) 3. ยกตวั อย่างการแก้ปญั หาโดยใช้แนวคดิ การทำงานแบบต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวนั ได้ (A) 3. สาระสำคญั แนวคิดในการแก้ปัญหา คือแนวคิดที่ใช้ในการพิจารณากระบวนการทำงานหรือการแก้ปัญหาต่าง ๆ อยา่ งเป็นข้ันตอน ช่วยให้การทำงานและการแกป้ ัญหาสามารถทำไดง้ ่ายและมปี ระสทิ ธิภาพ โดยแนวคดิ ในการ แก้ปัญหามี 3 รูปแบบคือ แนวคิดการทำงานแบบลำดับ แนวคิดการทำงานแบบวนซ้ำ และแนวคิดการทำงาน แบบมเี งอ่ื นไข 4. สาระการเรียนรู้ แนวคดิ ในการแก้ปัญหา 5. รูปแบบการสอน/วิธีการสอน 1. วธิ ีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) 2. วธิ กี ารสอนแบบกระบวนการกล่มุ 3. เทคนิคตามแนวคดิ เชงิ คำนวณ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 31

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 แนวคิดในการแก้ปัญหา 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. ทกั ษะ 4 Cs  ทกั ษะการคดิ วจิ ารณญาณ (Critical Thinking)  ทกั ษะการทำงานร่วมกนั (Collaboration Skill)  ทกั ษะการส่ือสาร (Communication Skill) ทักษะความคดิ สร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ซือ่ สตั ย์ สจุ รติ  รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์  ใฝ่เรียนรู้  มีวินยั  มงุ่ ม่นั ในการทำงาน  อยู่อย่างพอเพยี ง  มีจิตสาธารณะ  รักความเป็นไทย 9. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ขน้ั นำ (10 นาที) กระต้นุ ความสนใจ 1. ครูใหน้ ักเรียนดูภาพจำนวน 3 คู่ โดยเป็นภาพท่แี สดงถึงแนวคิดการทำงานแบบลำดับ 1 คู่ ภาพที่ แสดงถึงแนวคดิ การทำงานแบบวนซ้ำ 1 คู่ และภาพที่แสดงถงึ แนวคิดการทำงานแบบเง่ือนไข 1 คู่ แตค่ รูไม่ตอ้ งบอกนกั เรียนว่าภาพแต่ละคเู่ ปน็ การทำงานแบบใด ตัวอยา่ งภาพทแ่ี สดงถงึ แนวคิดการทำงานแบบลำดับ 1) ภาพการตกแต่งหน้าเค้ก โดยมีการอบขนมเค้ก > ทาครีมปิดเนื้อเค้ก > บีบครีมบนเค้ก > ใส่ผลไม,้ คกุ กีเ้ พือ่ ตกแตง่ หน้าเคก้ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 32

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 แนวคดิ ในการแกป้ ัญหา 2) ภาพการซักผ้าโดยมีการเปิดน้ำใส่กะละมัง > ใส่ผงซักฟอก > นำผ้าใส่ในกะละมังแล้วขย้ี ผ้า > ล้างผา้ ดว้ ยนำ้ สะอาด > บดิ ผ้า > ตากผ้า ตวั อยา่ งภาพท่แี สดงถงึ แนวคดิ การทำงานแบบวนซ้ำ 1) ภาพการรดนำ้ ต้นไม้จำนวนหลาย ๆ ต้น โดยรดน้ำต้นไม้ทีละตน้ จนหมด 2) ภาพการหยิบหนังสือวางใสช่ ้นั วางหนังสือ โดยหยิบหนังสอื ทีละเลม่ จนหมด ตวั อย่างภาพที่แสดงถงึ แนวคดิ การทำงานแบบเงื่อนไข 1) ภาพการกรอกน้ำส่ขวดโดยใช้ตู้น้ำหยอดเหรียญ ที่มีปุ๋มสีแดงให้กดหยุดน้ำ โดยตรวจสอบ ว่านำ้ เต็มขวดหรอื ยงั หากยงั ให้รอจนนำ้ เตม็ ขวด หากเตม็ ขวดแล้วให้กดปุ่มสีแดง 2) ภาพคนกำลังตรวจสอบแต้มสะสมในบัตรสมาชิก เพื่อลดราคาสินค้า โดยหากมีแต้ม จำนวนหน่ึงจะไดร้ บั ส่วนลด 5% หากมีแตม้ อกี จำนวนหน่ึงจะไดร้ ับสว่ นลด 10% 2. ครูให้นักเรียนพิจารณาว่า ภาพแต่ละคู่มีอะไรที่ซ้ำกัน และเปรียบเทียบภาพทั้ง 3 คู่ว่ามีความ แตกตา่ งกนั อยา่ งไร ขนั้ สอน (50 นาท)ี สำรวจคน้ หา 3. ครูถามคำถามประจำเรื่องในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการ คำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 หน้า 9 ว่าแนวคดิ ในการแก้ปญั หามีความสำคัญอยา่ งไร 4. นักเรียนศึกษาข้อมูลเบ้ืองต้น เร่ืองแนวคิดการทำงานแบบลำดับ ในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หน้า 9 เร่ืองแนวคิดการ ทำงานแบบเง่ือนไขในหนังสือเรียนหน้า 12 และเรื่องแนวคิดการทำงานแบบวนซ้ำ ในหนังสือ เรียนหน้า 15 อธบิ ายความรู้ 5. ครูและนักเรียนร่วมกันตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องแนวคิดการทำงานแบบลำดับตามที่นักเรียนได้ ศึกษามาแลว้ ในหนังสือเรยี น ประเด็นคำถาม 1) ห้องของปูมีองค์ประกอบอะไรบ้าง (คำตอบ: หน้าต่าง, ช้ันวางของ, เตียงนอน และตู้ เสือ้ ผา้ ) 2) ปูกำลงั จะทำอะไร (คำตอบ: ทำความสะอาดห้องนอน) 3) ปูมีข้ันตอนในการทำความสะอาดห้องอย่างไร (กวาดหยากไย่บนเพดาน > ทำความ สะอาดตู้ > เช็ดหน้าต่าง > ทำความสะอาดช้ันวางของ > เปลี่ยนผ้าปูท่ีนอน > กวาด และถพู ้นื ) เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 33

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 แนวคดิ ในการแกป้ ญั หา 4) เพราะเหตใุ ด ปจู ึงเลือกทำความสะอาดในบริเวณที่อยสู่ ูงกอ่ น แลว้ จึงไล่ลงมาบริเวณท่ตี ่ำ ท่สี ุด (แนวคำตอบ: เพราะถ้าหากทำความสะอาดพื้น หรอื ส่ิงท่ีอยขู่ ้างล่างก่อน แลว้ ไปทำ ความสะอาดสง่ิ ท่อี ยู่สูงกว่า จะทำให้เศษฝ่นุ หรือเศษขยะตา่ ง ๆ หล่นลงมาทพี่ ื้น และต้อง ทำความสะอาดพืน้ อกี รอบ) 5) ห ากปู ไม่มี การวางแผน ห รือไม่มีแน วคิดใน การแก้ปั ญ ห า จะเกิดอะไรขึ้น (แนวคำตอบ: จะทำให้การทำงานซ้ำซอ้ นและมีหลายขนั้ ตอนมากย่ิงขน้ึ ) 6. ครูถามนักเรียนเพ่ิมเติมอีกว่า หากนักเรียนต้องทำความสะอาดห้องนอนของปู นักเรียนจะเร่ิมทำ อะไรก่อน เพราะเหตุใด มีนักเรียนคนใดท่ีมีวิธีการทำความสะอาดแตกต่างจากปูบ้าง ครูให้ นักเรียนอธิบายถึงความแตกต่าง จากน้ันครูบอกกับนักเรียนว่าการแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่ง สามารถมไี ด้มากกว่า 1 วิธกี ไ็ ด้ 7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเก่ียวกับการทำความสะอาดห้องนอนของปู โดยได้ข้อสรุปร่วมกันว่า การทำงานดังกล่าวเป็นการทำงานที่มีลำดับก่อน-หลังอย่างชัดเจน โดยต้องทำงานในขั้นแรกให้ สำเร็จก่อน จึงจะเข้าสู่ข้ันตอนถัดไปได้ ซ่ึงการทำงานในลักษณะนี้เรียกว่า การทำงานแบบลำดับ ซงึ่ เปน็ แนวคิดในการแก้ปญั หาแนวคิดหนึ่ง 8. ครูสุ่มนักเรียน 3-4 คน เพื่อถามคำถามท้าทายความคิดขั้นสูงในหนังสือเรียนหน้า 10 ว่า เพราะ เหตุใด เราจึงไม่ควรใส่รองเท้าก่อนสวมเสื้อและกางเกง (แนวคำตอบ: เพราะหากใส่รองเท้าก่อน อาจจะทำให้เราใส่กางเกงไมส่ ะดวก และกางเกงอาจเป้ือนได)้ 9. ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตอบคำถามเก่ยี วกบั เร่อื งแนวคิดการทำงานแบบเง่ือนไขตามท่นี กั เรยี นได้ ศกึ ษามาแลว้ ในหนังสือเรยี น ประเด็นคำถาม 1) นักเรียนเคยสังเกตไหมว่า ถังขยะท่ีเราเคยเห็นอยู่ตามท่ีต่าง ๆ มีหลายสี แต่ละสีมีความ แตกต่างกันอย่างไร (แนวคำตอบ: สีของถังขยะ บ่งบอกถึงประเภทของขยะท่ีควรท้ิงลง ไปในถงั น้ัน เช่น ถังขยะสีนำ้ เงนิ ตอ้ งใส่ชยะประเภทรีไซเคิล) 2) หากเรามีขยะประเภทเศษอาหาร เราควรทิ้งลงถังขยะสีอะไรเพราะเหตุใด (แนวคำตอบ: ควรท้ิงลงถังชยะใบสีเขียว เพราะเป็นถังที่ใส่ขยะแบบย่อยสลายได้ ซ่ึงเศษอาหารเป็น ขยะทย่ี ่อยสลายได)้ 3) หากเราไม่ทราบหรือไม่เข้าใจเง่ือนไขในการท้ิงขยะ เราจะทิ้งขยะได้ถูกต้องตามประเภท หรือไม่ และหากเราท้ิงขยะผิดประเภท จะส่งผลอะไร (แนวคำตอบ: ไม่ถูกต้อง โดยหาก ทิ้งขยะผิดประเภทจะส่งผลต่อความยากลำบากในการกำจัดขยะ และขยะท่ีมีพิษอาจจะ ไปปนเป้ือนกบั ขยะทสี่ ามารถนำไปรไี ซเคิลได้) 10. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ว่าการทำงานในลักษณะนี้เป็นการทำงานแบบมีเงื่อนไข ซึ่งเรา จะต้องเข้าใจเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ชัดเจนก่อน และต้องใช้เหตุผลเชิงตรรกะมาช่วยพิจารณาด้วย เพอื่ ใหไ้ ด้คำตอบหรอื ผลลัพธ์ตามเง่ือนไขท่ีกำหนด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 34

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 แนวคิดในการแก้ปัญหา ช่ัวโมงที่ 2 ข้ันสอน (ตอ่ ) (60 นาท)ี อธบิ ายความรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เดิมที่เรียนในชั่วโมงที่แล้วว่า เราได้รู้จักแนวคิดในการ แก้ปัญหามาแล้ว 2 แนวคิด ได้แก่ แนวคิดการทำงานแบบลำดับ และแนวคิดการทำงานแบบ เง่อื นไข 2. ครูและนักเรยี นรว่ มกันตอบคำถามเก่ียวกบั เร่ืองแนวคิดการทำงานแบบวนซ้ำตามทีน่ ักเรียนได้ ศกึ ษามาแลว้ ในหนังสอื เรียน ประเด็นคำถาม 1) ให้นักเรียนดูภาพตัวอย่างแรกในหนังสือเรียน แล้วพิจารณาว่า มีการเขียนแนวคิดแบบใด และมีขั้นตอนท้ังหมดเทา่ ไร (คำตอบ: แนวคดิ แบบลำดับ/ 5 ขนั้ ตอน) 2) นกั เรียนลองสังเกตท่ีภาพตวั อย่างอีกคร้ังวา่ มีข้นั ตอนใดทซ่ี ้ำกันหรอื ไม่ 3. ครูและนักเรียนร่วมกันถามตอบ จนได้ข้อสรุปร่วมกันว่าในการทำงานท่ีต้องทำหลายครั้งเหมือน ๆ กัน เราสามารถเขียนรวมเป็นข้ันตอนเดียวกันได้ ซ่ึงเราเรียกการทำงานแบบน้ีว่าการทำงาน แบบวนซ้ำ โดยการทำงานแบบวนซ้ำมี 2 แบบคือการทำงานแบบวนซ้ำที่มีจำนวนคร้ังแน่นอน กบั การทำงานแบบวนซ้ำท่ีมีจำนวนครัง้ ไม่แน่นอน 4. ครูช้ีให้นักเรียนเห็นว่าตัวอย่างแรกเรื่องการว่ิงแข่ง เป็นการทำงานแบบวนซ้ำท่ีมีจำนวนครั้ง แน่นอนเพราะมีการบอกจำนวนรอบในการว่ิงท่ีแน่นอน จากนัน้ ครูยกตัวอยา่ งการทำงานแบบวน ซำ้ ที่มจี ำนวนคร้ังไม่แน่นอน โดยให้นักเรียนดูภาพตวั อยา่ งการใช้ขนั ตักน้ำเพ่ืออาบน้ำ ในหนังสือ เรยี นรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 หน้า 16 โดยครูถามนักเรียนว่า โดยปกติแล้ว เวลาเราอาบน้ำโดยใช้ขัน มีใครเคยนับจำนวนคร้ังที่เรา ตักน้ำบ้าง หากเราไม่ได้นับ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรต้องหยุดอาบน้ำ (แนวคำตอบ: จนกว่า ร่างกายจะสะอาด, จนกวา่ จะพอใจ) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเรื่องการใช้ขันอาบน้ำจนได้ข้อสรุปว่า การทำงานในลักษณะน้ี เปน็ แนวคิดการทำงานแบบวนซำ้ ทีม่ ีจำนวนครั้งไม่แน่นอน โดยจะมีการทำซ้ำไปเร่ือย ๆ จนกว่า จะมีเงอ่ื นทีส่ ่งั ใหห้ ยุด 6. ครูให้ความรูเ้ พ่ิมเติมเร่ืองแนวคิดการทำงานแบบวนซ้ำกับนักเรียน ในมุม Com Sci ตามหนังสือ เรยี นรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 หน้า 16 7. ครูมอบมายงานให้นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะ Com Sci ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หน้า 11 เรื่องการ เรยี งลำดับขนั้ ตอนการผกู เชอื กรองเท้า และหนา้ 14 เรือ่ งการทำงานแบบเง่ือนไข เปน็ การบา้ น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 35

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 แนวคิดในการแกป้ ัญหา 8. หลังจากท่ีนักเรียนได้เรียนรู้แนวคิดครบทั้งหมดแล้ว ครูและนักเรียนสรุปร่วมกันอีกคร้ังว่า แนวคิดในการแก้ปญั หามีทงั้ หมด 3 รูปแบบ ได้แก่ - แนวคดิ การแกป้ ัญหาแบบลำดับ - แนวคิดการแกป้ ญั หาแบบวนซ้ำ -แนวคิดการแก้ปญั หาแบบมีเง่ือนไข 9. ครูถามคำถามเชื่อมโยงไปถึงรูปภาพ ที่เปิดให้นักเรียนดูในต้นช่ัวโมงที่แล้วว่า แต่ละรูปภาพใช้ แนวคิดการทำงานแบบใด 10. ครูนำใบงานที่ 1 เรื่องต่อยอดการแกป้ ัญหาเชิงตรรกะ ทีน่ ักเรียนเคยได้ทำไว้ (ในแผนท่แี ล้ว) โดย นำวิธีการแก้ปัญหาเร่ืองการตอบปัญหาภาษาอังกฤษท่ีนักเรียนได้เขียนไว้มาฉายลงบนโปรเจก เตอร์ หรือเขียนลงบนกระดาน เพื่อให้นักเรียนพิจารณาว่า วิธีการแก้ปัญหาท่ีนักเรียนเคยเขียน ใช้แนวคดิ ใดในการแกป้ ัญหา ตัวอย่างวิธีการแก้ปัญหาของนักเรียน เร่ืองการตอบปัญหาภาษาอังกฤษ โดยครูอาจเลือก ใบงานท่มี กี ารเขียนวธิ กี ารแกป้ ญั หาที่ดีหรอื สมบูรณ์ที่สุดมาให้นกั เรยี นพิจารณา 11. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายว่าตัวอย่างท่ีครูให้นักเรียนดู ได้ใช้แนวคิดใดบ้าง โดยได้ข้อสรุป ร่วมกันว่า ใช้แนวคิดท้ัง 3 แนวคิด โดยข้อ 1-7 ใช้แนวคิดการทำงานแบบลำดับ โดยจะมีการ ทำงานแบบวนซ้ำและมีเงอ่ื นไขซ่อนอยู่ นน่ั คือข้อ 4, 5, 6 และ 7 ซึ่งใช้แนวคดิ การทำงานแบบวน ซ้ำและแบบมีเงื่อนไขผสมกัน เพราะ หากตรวจสอบข้อความในข้อ 6 แล้วพบว่ายังได้คำตอบไม่ ครบ จะต้องวนซ้ำกลับไปท่ีข้อ 4 และ 5 เพื่ออ่านเง่ือนไข และตัดส่ิงที่เป็นไปไม่ได้ออกอีกคร้ัง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 36

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 แนวคดิ ในการแก้ปญั หา และวนซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกวา่ จะได้คำตอบครบ (แนวคำตอบอืน่ ๆ ขึ้นอยู่กับตัวอยา่ งที่ครยู กมาให้ เดก็ พจิ ารณา) 12. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะ Com Sci ในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 หน้า 17 เร่ืองการทำงานแบบ วนซ้ำ และแบบฝึกหัดเรื่อง แนวคิดในการแก้ปัญหา ในแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หน้า 6 เป็นการบ้าน เพ่ือทบทวน ความรทู้ ีไ่ ดเ้ รยี นมาทัง้ หมด ชัว่ โมงท่ี 3 ข้นั สอน (ตอ่ ) (60 นาท)ี ขยายความรู้ 1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันทบทวนความรู้เดิมที่เคยเรียนในช่ัวโมงทแ่ี ลว้ เรื่องแนวคิดในการแกป้ ัญหา 2. ครถู ามนักเรียนวา่ ในชีวติ ประจำวนั ของนักเรียนมีกจิ กรรมใดบ้าง ทีส่ ามารถอธบิ ายโดยใชแ้ นวคิด การทำงานแบบต่าง ๆ ได้ (แนวคำตอบ: การเดินทางไปโรงเรียนด้วยรถยนต์ แล้วรถติดอยู่ที่ 4 แยก โดยมีสัญญาณไฟจราจร 3 สี คอื แดง เหลอื ง เขียว ซึ่งเราจะตอ้ งทราบเงื่อนไขก่อนว่าแต่ละ สหี มายถึงอะไร แล้วจงึ ทำตามเง่ือนไขนน้ั ได้) 3. ครบู อกนักเรียนว่า วนั น้ีครูจะให้นักเรียนตามติดชีวิตของลุงคนหนึ่ง เขามีชื่อว่าลุงพล เรามาดูกัน ดีกว่าว่าใน 1 วัน ลุงพลต้องทำอะไรบ้าง แล้วให้นักเรียนช่วยวิเคราะห์ว่ามีช่วงใดบ้าง ที่เรา สามารถใชแ้ นวคิดการทำงานแบบต่าง ๆ ในการอธบิ ายได้ 4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3-4 คน จากนั้นครูอ่านสถานการณ์ในกิจกรรมฝึกทักษะที่ 3 ใน แบบฝึกหดั รายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 หน้า 14 ใหน้ ักเรียนฟังและให้นกั เรียนนกึ ภาพตาม 5. ครูถามนักเรยี นวา่ จากสถานการณ์ทคี่ รูอา่ นให้ฟัง มีช่วงใดบ้างท่สี ามารถใช้แนวคิดการทำงานแบบ ต่าง ๆ ในการอธบิ ายได้ โดยครใู หน้ ักเรยี นในกลมุ่ ชว่ ยกนั วเิ คราะห์และเขยี นตอบลงในแบบฝกึ หัด 6. ครูเรียกนักเรียนแต่ละกลุ่มให้ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนว่า สามารถใช้แนวคิดแบบต่าง ๆ อธบิ ายเหตกุ ารณ์ในชว่ งใดได้บ้าง และลงข้อสรุปร่วมกนั ตรวจสอบผล 7. ครูถามนักเรียนว่า แล้วในชีวิตประจำวันของนักเรียน มีเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ใดบ้าง ท่ี สามารถใชแ้ นวคดิ การทำงานแบบตา่ ง ๆ ในการอธบิ ายได้ 8. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมเรื่อง แนวคิดการทำงานแบบต่าง ๆ ท่ีใช้อธิบายสถานการณ์ใน ชีวิตประจำวัน โดยครูให้นักเรียนระดมความคิดร่วมกันภายในกลุ่ม และให้นักเรียนแต่ละคน ร่วมกันเสนอสถานการณ์หรือเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันของตนเอง และช่วยกันเลือกเหตุการณ์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 37

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 แนวคิดในการแกป้ ญั หา หรือสถานการณ์ท่ีดีท่ีสุดของกลุ่มเพ่ือมานำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยแต่ละกลุ่ม ห้ามใช้เหตุการณ์ หรอื สถานการณ์ทซ่ี ้ำกัน 9. ครูแจกกระดาษฟลิปชาร์ท และปากกาสีต่าง ๆ เพ่ือให้นักเรียนช่วยกันวาดภาพหรือเขียน ข้อความเพ่ืออธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์น้ัน ๆ หากทำไม่ทันในชั่วโมงน้ี ให้นักเรียนนำ กลบั ไปทำเปน็ การบ้าน และนำเสนอในชั่วโมงถัดไป ชว่ั โมงที่ 4 ขัน้ สอน (ตอ่ ) (40 นาที) 1. ครูบอกนักเรยี นว่า จากช่ัวโมงที่แล้วครูได้มอบหมายงานให้นักเรียนทำกิจกรรมเร่ือง แนวคิดการ ทำงานแบบต่าง ๆ ท่ีใช้อธิบายสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ในช่ัวโมงน้ีครูจะให้นักเรียนแต่ละ กลุ่มนำกระดาษท่ีได้วาดรูปหรือเขียนไว้ ออกมานำเสนอโดยต้องอธิบายถึงแนวคิดต่าง ๆ ให้ ชดั เจน โดยครใู ห้เวลาในการนำเสนอกลมุ่ ละ 7-10 นาที 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอกิจกรรมเร่ือง แนวคิดการทำงานแบบตา่ ง ๆ ที่ใช้อธบิ าย สถานการณ์ในชีวิตประจำวัน 3. ครูสอบถามนักเรียนแต่ละกลุ่มว่า สถานการณ์ของกลุ่มใด ท่ีมีการนำแนวคิดในการแก้ปัญหา แบบต่าง ๆ มาอธิบายไดช้ ัดเจนท่ีสดุ และนอกจากสถานการณ์ของกล่มุ เราหรอื ของเพื่อน ๆ แล้ว ยังมสี ถานการณ์อนื่ ๆ อีกหรอื ไม่ ข้นั สรุป (20 นาท)ี 4. ครูให้นักเรียนตรวจสอบตนเองจากการเรียนเนื้อหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ืองการแก้ปัญหา โดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการ คำนวณ) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 หนา้ 18 5. ครูและนักเรียนสรุปความรู้ประจำหน่วยร่วมกัน โดยดูแผนผังสรุปสาระสำคัญท้ายหน่วย ใน หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หนา้ 19 6. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนทำกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้ ในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 หนา้ 20-21 เปน็ การบ้าน 7. ครมู อบหมายงานให้นักเรยี นทำชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เปน็ การบ้าน 8. ครใู ห้นักเรยี นเล่นเกมทางของฉนั ในกิจกรรมเล่นเกมกบั Com Sci ตามหนังสอื เรยี นรายวชิ า พน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 หนา้ 18 9. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 38

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 แนวคดิ ในการแกป้ ัญหา 10. ส่ือแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 2. แบบฝกึ หัดรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.6 11. การวัดและการประเมินผล 11.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกจิ กรรม จดุ ประสงค์ วิธกี ารประเมิน เครอ่ื งมอื การประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน อธบิ ายกระบวนการ ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ แบบประเมนิ การทำ สามารถอธิบาย ทำงานหรอื การแก้ปัญหา ท่ี 3 เร่ือง ตามตดิ ชีวติ ลุง กิจกรรมฝึกทักษะที่ 3 กระบวนการทำงาน หรือ โดยใชแ้ นวคิดแบบต่าง ๆ พล เรือ่ ง ตามตดิ ชวี ิตลุงพล การแก้ปัญหา โดยใช้ ได้ (K) แนวคดิ แบบตา่ ง ๆ ระดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ออกแบบกระบวนการ ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะ แบบประเมนิ การทำ สามารถออกแบบ ทำงานหรือการแกป้ ัญหา ที่ 3 เร่อื ง ตามติดชีวิตลุง โดยใชแ้ นวคดิ แบบตา่ ง ๆ พล กจิ กรรมฝึกทักษะที่ 3 กระบวนการทำงาน หรอื ได้ (P) เรอ่ื ง ตามตดิ ชีวติ ลุงพล การแก้ปัญหา โดยใช้ แนวคดิ แบบต่าง ๆ ระดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ยกตวั อย่างการแก้ปญั หา ประเมินการนำเสนอ แบบประเมนิ การนำเสนอ สามารถนำเสนอ เรื่อง โดยใช้แนวคดิ การทำงาน เรอ่ื ง แนวคิดการทำงาน แบบต่าง ๆ ใน แบบตา่ ง ๆ ท่ใี ช้อธิบาย เรื่อง แนวคิดการทำงาน แนวคดิ การทำงานแบบ ชวี ติ ประจำวนั ได้ (A) สถานการณ์ใน ชีวิตประจำวัน แบบต่าง ๆ ทใี่ ช้อธิบาย ตา่ ง ๆ ทีใ่ ชอ้ ธิบาย สถานการณ์ใน สถานการณ์ใน ชีวติ ประจำวัน ชวี ติ ประจำวัน ระดับ คณุ ภาพระดบั พอใช้ขึ้น ไป เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 39

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 แนวคิดในการแก้ปัญหา 11.2 การประเมนิ การทำกิจกรรมฝึกทักษะที่ 3 เรือ่ ง ตามติดชวี ติ ลุงพล แบบประเมนิ การทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะท่ี 3 ประเด็นทีป่ ระเมิน 3 ระดบั คะแนน 1 2 1. ความถกู ต้องของเนื้อหา กระบวนการทำงาน กระบวนการทำงานหรือ กระบวนการทำงานหรือ หรือการแก้ปญั หามี การแกป้ ัญหามคี วาม การแก้ปัญหามีความ ความถกู ต้อง 80% ขนึ้ ถูกต้อง 50% ข้ึนไป ถกู ต้องน้อยกว่า 50% ไป 2. กระบวนการทำงานหรอื ออกแบบกระบวนการ ออกแบบกระบวนการ ออกแบบกระบวนการ การแก้ปัญหามีความเปน็ ทำงานตามสถานการณ์ ทำงานตามสถานการณท์ ่ี ทำงานตามสถานการณ์ท่ี ลำดับขนั้ ตอน ที่กำหนดได้อยา่ งเปน็ กำหนดได้อย่างเปน็ ลำดับ กำหนดได้ แตย่ ังไมเ่ ป็น ลำดบั ขัน้ ตอนที่ชดั เจน ขน้ั ตอน แตย่ ังไม่ชัดเจน ลำดบั ขน้ั ตอน 3. การอธบิ ายโดยใชแ้ นวคิด สามารถวิเคราะห์และ สามารถวเิ คราะหแ์ ละใช้ สามารถวเิ คราะห์ แนวคิดแบบลำดบั แบบ สถานการณ์ทกี่ ำหนดใหไ้ ด้ แบบตา่ ง ๆ ใช้แนวคิดแบบลำดับ วนซ้ำ และแบบเง่ือนไขใน แตใ่ ชแ้ นวคิดการทำงาน การอธิบายสถานการณ์ท่ี แบบต่าง ๆ ในการอธบิ าย แบบวนซำ้ และแบบ กำหนดให้ได้อย่าง ไมค่ รบท้ัง 3 แนวคดิ สมเหตสุ มผลเพียง เง่ือนไขในการอธิบาย บางสว่ น สถานการณ์ที่ กำหนดให้ได้อย่าง สมเหตุสมผลทงั้ หมด เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 8-9 ดี 5-7 ต่ำกวา่ 5 พอใช้ ปรับปรงุ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 40

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 แนวคิดในการแกป้ ญั หา 11.3 การประเมนิ การนำเสนอกล่มุ แบบประเมนิ การนำเสนอกลุ่ม ลำดบั ที่ รายการประเมิน คณุ ภาพผลงาน 4321 1 สถานการณ์ทน่ี ำเสนอมีความนา่ สนใจ 2 อธิบายแนวคดิ การทำงานแบบต่าง ๆ ได้อย่างเข้าใจ 3 ควบคุมเวลาในการนำเสนอได้อย่างเหมาะสม 4 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ ในกลุ่ม 5 การรับฟงั ความคดิ เห็นของสมาชกิ กล่มุ อนื่ รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน ดมี าก = 4 ดี = 3 พอใช้ = 2 ปรับปรุง = 1 เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 41

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 แนวคิดในการแก้ปัญหา 11.4 แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คำชีแ้ จง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่อง ทีต่ รงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 32 1 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติและร้องเพลงชาตไิ ด้ กษตั รยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ รา้ งความสามัคคีปรองดองและเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรียน 1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา 1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมทีเ่ กีย่ วกบั สถาบันพระมหากษตั ริย์ตามทโ่ี รงเรยี นจดั ขนึ้ 2. ซอื่ สตั ย์ สจุ ริต 2.1 ใหข้ ้อมลู ท่ถี ูกตอ้ งและเปน็ จรงิ 2.2 ปฏบิ ัติในสง่ิ ทถี่ ูกตอ้ ง 3. มีวินยั รับผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของครอบครวั มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รจู้ ักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชนแ์ ละนำไปปฏิบัติได้ 4.2 ร้จู ักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชอ่ื ฟงั คำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้ 4.4 ต้งั ใจเรยี น 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และร้คู ุณคา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ 6. มงุ่ มั่นในการทำงาน 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพอ่ื ให้งานสำเรจ็ 7. รักความเปน็ ไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รู้จกั ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 8.2 รู้จกั การดูแลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละส่ิงแวดล้อมของห้องเรยี น และโรงเรียน ลงชอื่ ..................................................ผ้ปู ระเมนิ ............/.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 51-60 ดมี าก พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ชิ ัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 41-50 ดี พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั บิ างครัง้ 30-40 พอใช้ ปรับปรุง ตำ่ กว่า 30 เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 42

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 แนวคิดในการแกป้ ัญหา 11.5 แบบประเมินช้นิ งาน/ภาระงานรวบยอด รายการ เกณฑ์การประเมินคุณภาพ(ระดับคุณภาพ) ประเมิน 3 21 1. ความถูกต้องของเน้ือหา แนวคิดหรอื วิธีการแก้ปัญหา แนวคดิ หรอื วธิ กี าร แนวคิดหรอื วธิ ีการ มคี วามถูกต้อง ตรงตาม แกป้ ัญหามีความถูกต้อง แกป้ ัญหามีความถูกต้อง เงอื่ นไข 80% ขน้ึ ไป ตรงตามเง่ือนไข 50% ตรงตามเง่ือนไขน้อยกว่า ชึ้นไป 50% 2. ความครบถว้ นของเนื้อหา ใส่ขอ้ มูลที่กำหนดให้ใน ใสข่ ้อมูลที่กำหนดให้ใน ใส่ขอ้ มูลท่ีกำหนดให้ใน ตารางได้ครบถว้ น80% ขน้ึ ตารางได้ครบถว้ น 50% ตารางได้ครบถ้วนน้อย ไป ข้นึ ไป กวา่ 50% 3. การออกแบบแนวคิดหรือ ออกแบบแนวคิดหรือวิธกี าร ออกแบบแนวคิดหรือ ออกแบบแนวคิดหรอื วธิ กี ารแก้ปญั หา แกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งเปน็ ลำดบั วธิ กี ารแกป้ ัญหาได้อยา่ ง วธิ ีการแกป้ ัญหาได้ แต่ ข้นั ตอนที่ชดั เจน เข้าใจงา่ ย เปน็ ลำดับขน้ั ตอน แต่ยงั ยงั ไม่เป็นลำดบั ข้นั ตอน ไม่ชัดเจน 4. การให้เหตผุ ลประกอบการ อธิบายแนวคดิ หรือวธิ ีการ อธบิ ายแนวคิดหรอื อธบิ ายแนวคดิ หรอื อธบิ ายแนวคดิ หรอื วธิ กี าร แกป้ ัญหาโดยใชแ้ นวคดิ การ วิธีการแก้ปญั หาโดยใช้ วิธีการแกป้ ัญหาโดยใช้ แกป้ ญั หา ทำงานแบบต่าง ๆ ได้ พร้อม แนวคดิ การทำงานแบบ แนวคดิ การทำงานแบบ ท้ังใหเ้ หตผุ ลประกอบอย่าง ต่าง ๆ ได้ พร้อมทั้งให้ ต่าง ๆ ได้ แต่ไม่ให้ สมเหตสุ มผลทกุ ประเด็น เหตผุ ลประกอบ โดยมี เหตุผลประกอบ ความสมเหตุสมผล 50% ข้ึนไป เกณฑ์การการตัดสิน ระดับคุณภาพ คะแนน 10 - 12 หมายถงึ ดี คะแนน 6 - 9 หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า 6 หมายถงึ ปรบั ปรุง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 43

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 แนวคดิ ในการแกป้ ญั หา ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ คำช้ีแจง: ใหน้ กั เรยี นอ่านเง่อื นไขทีก่ ำหนดให้ แลว้ ตอบคำถามลงในตารางให้ถกู ต้อง จากนัน้ ให้นกั เรียน เขยี นแนวคิดในการแกป้ ญั หา โดยอาจเขยี นบอกเล่า วาดภาพ หรอื ใชส้ ัญลกั ษณ์ พร้อมทง้ั บอกด้วยวา่ นกั เรียนใชแ้ นวคดิ ใดในการแก้ปญั หา เงอ่ื นไข 1. บ้าน 4 หลังอยู่ติดกนั แตล่ ะหลังมีเจา้ ของบ้านชอ่ื นวล โอม กล้า และตน้ โดยทชี่ ื่อเจ้าของบ้านไม่ เรียงตามลำดับก่อน-หลัง และบ้านแตล่ ะหลงั จะทาสีบา้ น เล้ยี งสัตว์ และปลูกต้นไม้หน้าบ้านอย่าง ใดอย่างหนึ่ง ไมซ่ ำ้ กนั 2. สตั วเ์ ลยี้ งทง้ั 4 ชนิด มสี ุนัขและกระรอกรวมอยู่ด้วย 3. นวลอยู่บา้ นหลงั ท่ี 2 และปลูกตน้ โมกไวห้ นา้ บา้ น ส่วนต้นอยูบ่ า้ นติดกบั นวลและทาสีบ้านเป็นสฟี า้ 4. คนท่ีอยูบ่ า้ นสีเหลืองออ่ นจะปลกู ตน้ จำปไี วห้ นา้ บ้าน และเลย้ี งแมว สว่ นคนที่อยูบ่ า้ นสีขาว มักจะ มาเลน่ กบั กระรอกท่ีหนา้ บา้ นทุกเช้าและเย็น 5. กล้าอยบู่ ้านสีขาวหลงั สุดท้าย ปลกู ตน้ มะยมไว้หนา้ บ้าน สว่ นตน้ เลี้ยงนก และแขวนกรงนกไว้ใต้ ตน้ มะม่วง 6. โอมอยู่บ้านหลังแรกท่ีมีสเี หลืองอ่อน ซึ่งอย่ตู ดิ กับบ้านสชี มพูที่มตี ้นโมกปลกู ไวห้ นา้ บา้ น จากเง่ือนไขด้านบน สามารถนำขอ้ มลู มาใสใ่ นตารางเพ่ือตามหาลกั ษณะเฉพาะของบ้านแต่ละหลงั ไดด้ ังน้ี เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 44

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 แนวคดิ ในการแกป้ ญั หา 1. นกั เรยี นมแี นวคดิ หรอื วิธีการแก้ปัญหาจากสถานการณท์ ่กี ำหนดใหอ้ ย่างไร จงอธิบายอยา่ งละเอียดโดย การเขยี นบอกเลา่ วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์ 2. แนวคดิ หรือวิธีการแกป้ ัญหาทนี่ ักเรยี นเขยี น เป็นแนวคิดการทำงานแบบใด จงอธิบาย .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 45

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 แนวคดิ ในการแก้ปัญหา ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย เรอ่ื ง การแกป้ ญั หาโดยใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ คำชแ้ี จง: ใหน้ ักเรียนอ่านเง่อื นไขทีก่ ำหนดให้ แล้วตอบคำถามลงในตารางใหถ้ กู ต้อง จากนัน้ ใหน้ กั เรียน เขยี นแนวคดิ ในการแกป้ ญั หา โดยอาจเขียนบอกเล่า วาดภาพ หรอื ใช้สัญลกั ษณ์ พร้อมท้งั บอกดว้ ยวา่ นักเรียนใช้แนวคิดใดในการแก้ปญั หา เงอ่ื นไข 1. บา้ น 4 หลังอยู่ติดกัน แตล่ ะหลงั มเี จ้าของบ้านชอื่ นวล โอม กล้า และต้น โดยทช่ี ่ือเจ้าของบ้านไม่ เรยี งตามลำดบั ก่อน-หลัง และบา้ นแตล่ ะหลังจะทาสีบ้าน เลี้ยงสตั ว์ และปลูกตน้ ไม้หน้าบ้านอย่าง ใดอย่างหน่ึง ไม่ซ้ำกนั 2. สัตว์เล้ยี งท้งั 4 ชนิด มสี นุ ขั และกระรอกรวมอย่ดู ้วย 3. นวลอยู่บา้ นหลงั ท่ี 2 และปลูกตน้ โมกไว้หนา้ บ้าน สว่ นตน้ อยบู่ า้ นตดิ กบั นวลและทาสีบ้านเป็นสีฟ้า 4. คนที่อยู่บา้ นสีเหลืองอ่อนจะปลูกตน้ จำปีไวห้ น้าบ้าน และเล้ยี งแมว สว่ นคนท่ีอยู่บ้านสีขาว มักจะ มาเล่นกบั กระรอกท่หี นา้ บา้ นทุกเช้าและเยน็ 5. กล้าอย่บู า้ นสีขาวหลังสุดท้าย ปลูกตน้ มะยมไว้หน้าบ้าน ส่วนตน้ เลี้ยงนก และแขวนกรงนกไว้ใต้ ตน้ มะม่วง 6. โอมอยบู่ า้ นหลังแรกทม่ี ีสีเหลืองอ่อน ซึ่งอยตู่ ดิ กับบ้านสีชมพทู ี่มีตน้ โมกปลกู ไว้หนา้ บ้าน จากเงอ่ื นไขด้านบน สามารถนำขอ้ มูลมาใสใ่ นตารางเพือ่ ตามหาลกั ษณะเฉพาะของบ้านแต่ละหลงั ไดด้ ังน้ี บา้ นหลงั ที่ 1 2 3 4 ช่อื เจา้ ของบา้ น โอม นวล ตน้ กลา้ สบี า้ น เหลอื งอ่อน ชมพู ฟ้า ขาว สตั วเ์ ล้ยี ง แมว สุนัข นก กระรอก ต้นไม้ จำปี ต้นโมก ต้นมะมว่ ง ตน้ มะยม เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 46

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 แนวคิดในการแก้ปญั หา 1. นกั เรยี นมแี นวคดิ หรอื วิธีการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ที่กำหนดใหอ้ ยา่ งไร จงอธิบายอย่างละเอียดโดย การเขยี นบอกเล่า วาดภาพ หรอื ใช้สัญลักษณ์ ตัวอย่างการเขียนแนวคดิ การทำงานโดยการเขียนบอกเลา่ 1. เร่มิ ตน้ 2. อ่านเง่ือนไข 3. ใส่ขอ้ มูลในตาราง 4. ตรวจสอบวา่ ข้อมูลในตารางครบหรือไม่ ถา้ ไม่ครบให้กลับไปอ่านเงื่อนไขและใส่ข้อมูล ในตารางอีก ถา้ ครบแล้วใหจ้ บการทำงาน 5. จบการทำงาน 2. แนวคิดหรอื วิธีการแก้ปญั หาทน่ี ักเรยี นเขียน เปน็ แนวคิดการทำงานแบบใด จงอธิบาย ...ก...า.ร..แ..ก...ป้ ..ัญ...ห...า.ด...งั .ก...ล..า่ ..ว...ส..า..ม..า..ร..ถ..อ..ธ..บิ...า..ย..ไ.ด...โ้ .ด..ย..ใ..ช..แ้..น...ว..ค..ดิ..ก..า..ร..ท...ำ..ง.า..น..แ...บ..บ...ว..น..ซ..้ำ...แ...ล..ะ..แ..บ...บ..ม..ีเ..ง.่อื...น..ไ.ข...................... ...เ.ร..ิม่...ต..น้ ..จ..า..ก...ก..า..ร.อ...า่ ..น..เ.ง..อื่ ..น...ไ.ข..แ..ร..ก....แ..ล..ะ..ใ..ส..ข่ ..้อ..ม...ลู ..ใ.น...ต..า..ร..า.ง....จ..า..ก..น..ัน้...ท..ำ..ก..า..ร..ต..ร..ว..จ..ส..อ...บ..เ.ง..่ือ..น...ไ.ข..ว..่า..ข..อ้..ม...ลู ..................... ...ใ..น..ต..า..ร..า..ง..ค..ร..บ..ห...ร..ือ..ย..งั...ห..า..ก...ย..งั .ใ..ห..้ว..น...ซ..ำ้..ก..ล..บั...ไ.ป...อ..่า..น..เ.ง..่ือ..น...ไ.ข..อ...ีก..ค..ร..ั้ง...โ.ด...ย..จ..ะ..ต..ร..ว..จ..ส..อ...บ..ไ..ป..เ.ร..่ือ..ย....ๆ............................ ...จ..น...ก..ว..่า..ข..อ้..ม...ลู ..ใ.น...ต..า..ร..า.ง..จ..ะ..เ..ต..ม็ ...จ...งึ .จ..ะ...จ..บ..ก..า..ร..ท...ำ.ง..า..น.......................................................................................... ............................................................................................................................................................... เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 47

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ ) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 แนวคิดในการแกป้ ญั หา ....... 12. ความเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศึกษาหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ( ตำแหนง่ 13. บนั ทึกผลหลังการสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน  ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์  ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)  ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทม่ี ีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแก้ไข เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 48

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 การออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่าง่าย เวลา 16 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาทพี่ บในชีวติ จรงิ อย่างเป็นข้นั ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทำงานและการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม ว 4.2 ป.6/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย เพอื่ แกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวัน ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรมและแก้ไข 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 1) การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขียนเป็นข้อความหรือผังงาน 2) การออกแบบโปรแกรมทมี่ ีการใชต้ วั แปร การวนซำ้ การตรวจสอบเงอื่ นไข 3) หากมขี ้อผดิ พลาดใหต้ รวจสอบการทำงานทลี ะคำสั่ง เม่ือพบจุดที่ทำใหผ้ ลลัพธ์ไม่ถูกต้อง ใหท้ ำการแกไ้ ขจนกวา่ จะไดผ้ ลลัพธท์ ถ่ี กู ต้อง 4) การฝกึ ตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของผู้อนื่ จะช่วยพฒั นาทักษะการหาสาเหตุของปญั หา ได้ดียง่ิ ขึ้น 5) ตวั อย่างโปรแกรม เชน่ โปรแกรมเกม โปรแกรมหาคา่ ค.ร.น. เกมฝึกพมิ พ์ 6) ซอฟต์แวร์ท่ีใชใ้ นการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, logo 2.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลักสตู รสถานศึกษา) 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การออกแบบโปรแกรม เปน็ การอธิบายการทำงานของโปรแกรมอย่างเป็นลำดับข้ันตอน โดย การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้ทั้งการเขียนข้อความ และการเขียนผังงาน การออกแบบโปรแกรมด้วยการเขยี นข้อความ เปน็ การอธิบายการทำงานของโปรแกรมท่ีใช้ ภาษาพดู ทเ่ี ข้าใจง่าย การออกแบบโปรแกรมดว้ ยการเขียนผงั งาน เปน็ การอธิบายการทำงานของโปรแกรมดว้ ยการ ใชส้ ัญลกั ษณแ์ ทนความหมายตา่ ง ๆ แนวคดิ การเขียนผังงาน (Flowchart) มีหลกั การง่าย ๆ 3 ขอ้ คือ 1. การทำงานแบบลำดบั 2. การทำงานแบบทางเลือก 3. การทำงานแบบทำซ้ำ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 49


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook