Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตอนที่3ส่วนที่1

ตอนที่3ส่วนที่1

Published by ems2512, 2020-06-22 13:43:30

Description: ตอนที่3ส่วนที่1

Search

Read the Text Version

ตอนท่ี ๓ เอกสาร/ความรู้เสรมิ สาำ หรับครู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา้ ที่พลเมือง ๑–๒ ม. ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สว่ นที่ ๑ แบบทดสอบและกิจกรรม/ใบงาน ส่วนที่ ๒ เฉลยแบบทดสอบและกจิ กรรม/ใบงาน สว่ นที่ ๓ แบบทดสอบกลางภาค/ปลายภาค ส่วนที่ ๔ เฉลยแบบทดสอบกลางภาค/ปลายภาค ส่วนท่ี ๕ ใบความรู้ สว่ นท่ี ๖ แบบบนั ทกึ และแบบประเมนิ ส่วนท่ี ๗ ความรู้เสริม

สว่ นที่ ๑ แบบทดสอบและกิจกรรม/ใบงาน รายวิชาเพ่มิ เตมิ หน้าท่พี ลเมือง ๑--๒ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑

๑หน�วยการเรย� นรูทŒ ี่ ความเปนš ไทย • แบบทดสอบกอนเรยี น • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๑ เรอื่ ง มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๒ เรื่อง มารยาทไทยในการสนทนา • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓ เรือ่ ง มารยาทไทยในการแตงกาย • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๔ เร่ือง การมีสมั มาคารวะ • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๕ เรอ่ื ง ความเอื้อเฟอ เผ่ือแผแ ละความเสียสละตอ สงั คม • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๖ เรื่อง ซอื่ สตั ยส ุจรติ ขยันหม่นั เพียร และอดทน • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๗ เรอ่ื ง ใฝหาความรู • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๘ เรื่อง ต้ังใจปฏบิ ัตหิ นาท่แี ละยอมรับผลที่เกดิ จากการกระทาํ ของตนเอง • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๙ เรอ่ื ง ขนบธรรมเนียมประเพณีและศลิ ปวฒั นธรรม • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๐ เรื่อง ภมู ิปญ ญาไทย • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๑ เรอ่ื ง ทบทวนความรู • แบบทดสอบหลงั เรียน

210 คมู อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพมิ่ เติม หนาทพ่ี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ แบบทดสอบกอ นเรียน หนว ยการเรยี นรทู ี่ ๑ คำชี้แจง เลือกคำตอบทีถ่ กู ต้องทีส่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว ๑. มารยาทไทยข้อใดเราควรอนรุ ักษไว้ ๕. ๑ ลาํ้ นาํ สมยั ก การไหว ๒ สะอาด ข การจูบลา ๓ หรหู รา ราคาแพง ค การสวมกอด ๔ สภุ าพเรียบร้อย ง การทกั ทายดวยการจบั มอื ๕ ถกู กาลเทศะ การมีมารยาทในการแต่งกาย เราควร ๒. การไหว้พระสงฆกบั พอ่ แมต่ า งกัน คาํ นึงถงึ หลักการตามขอ้ ใดมากที่สุด ชดั เจนในเร่ืองอะไร ก ๑, ๒, ๓ ก การกม ศรี ษะ ข ๒, ๔, ๕ ข การยกมอื ประนม ค ๓, ๔, ๕ ค จํานวนครั้งท่ีไหว ง ๑, ๓, ๕ ง ตาํ แหนงปลายนว้ิ ช้ี ๖. “สาํ เนยี งสอ่ ภาษา กริ ยิ าสอ่ สกลุ ” สภุ าษติ ๓. “ชายนงั่ ทา่ เทพบตุ ร หญงิ นง่ั ทา่ เทพธดิ า” ไทยนต้ี อ้ งการสอนใหเ้ ราเปน คนอยา่ งไร เปน ลกั ษณะของท่านั่งทใ่ี ชก้ ราบใคร ก มีสัมมาคารวะ ก พอ แม ข รจู ักรักษาชอ่ื เสยี ง ข พระสงฆ ค ใชส าํ เนียงการพูดใหถ กู ตอง ค ครอู าจารย ง รจู กั กาลเทศะในการพดู และการกระทาํ ง ญาตผิ ูใ หญ ๗. ใครแสดงออกถึงความเอื้อเฟ„อเผื่อแผ่ ๔. ถา้ เราคยุ สนทนากับครอู าจารย ข้อใดที่ ตามพระบรมราโชวาททวี่ า่ “ใหเ้ พอ่ื ให”้ เราควรหลกี เล่ียง ก นกใหเ ส้อื กันหนาวกอ ยเพราะสงสาร ก พูดเสียงดังฟง ชดั ข นํ้าใหสมดุ กง่ิ เพราะอยากเปนเพ่ือน ข ขณะสนทนามองหนาครู กบั กง่ิ ค พดู ใหครูรวู าความคดิ เห็นของตน ค แนนใหกระเปา แกว เพราะเปน เพื่อน นาสนใจ กนั มานาน ง ชวนครพู ูดถงึ เรอื่ งคนอ่ืนที่ไมไ ดรวม ง นนุ ใหปากกากงุ เพราะอยากใหกงุ สนทนาดวย สอนการบา น

คมู ือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพมิ่ เตมิ หนา ทพี่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 211 ๘. “ช่างสงสัย” นําไปสู่การปฏิบัติตนให้มี ๙. ถ้าเราตอ้ งการฝƒกตนเองใหม้ คี วาม วินัยในเรอ่ื งใด ซื่อสตั ยส จุ รติ เราควรปฏบิ ตั ิตนอย่างไร ก การใฝห าความรู ก มีความอดทน ข ความซ่อื สตั ยสุจริต ข ต้งั ใจปฏบิ ตั ิหนา ท่ี ค ความขยนั หมน่ั เพยี รและอดทน ค พูดจรงิ ทาํ จรงิ และรักษาคาํ พูด ง การยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทํา ง ยอมรับผลทีเ่ กิดจากการกระทาํ ของตนเอง ของตนเอง ๑๐. ขนบธรรมเนยี มประเพณขี อ้ ใดเราควรเห็นคุณค่าและอนุรักษไ ว้ ก การกราบไหวผใู หญ ข การสรางสรรคง านศลิ ปะ ค การชน่ื ชมวฒั นธรรมทางสุนทรียะ ง การฟน ฟแู ละพฒั นาภูมิปญ ญาทอ งถนิ่

212 คูม อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนา ทพี่ ลเมือง ๑-๒ ม.๑ กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ ผลการเรียนรู้ ๑. มสี ว นรวมในการอนุรกั ษมารยาทไทย ๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปน ผมู ีวนิ ัยในตนเอง คำช้แี จง ทำกจิ กรรมตอ ไปน้ี ๑. พจิ ารณาสถานการณ แลว เขยี นเครอื่ งหมาย 3 ลงในชอ งตารางใหส มั พนั ธก บั บคุ คลและวธิ กี าร แสดงความเคารพดวยการไหวตามภาพ กอ นออกจากบา น นชุ รแี ละสชุ าติ สองพน่ี อ งแสดงความเคารพคณุ พอ และคณุ แม ระหวา ง เดินทางมาโรงเรียน สองพี่นองไดพบคุณปาขางบานกำลังยืนรอใสบาตรจึงหยุดแสดงความ เคารพและทกั ทาย เมอื่ เดนิ เขา มาในซอยขา งวดั ทางทจ่ี ะไปโรงเรยี น กพ็ บพระภกิ ษสุ ามเณรเดนิ บิณฑบาตมา จึงหยุดแสดงความเคารพ แลว ใหพระภิกษุสามเณรเดนิ ผา นไป เมือ่ มาถึงประตู โรงเรียน พบคณุ ครูยนื อยู จงึ หยดุ แสดงความเคารพ และเดนิ คอมตวั ผา นไปหองเรยี น วิธแี สดงความเคารพด้วยการไหว้ บุคคล คณุ พ่อ คุณแม่ 3 คุณปา‡ ข้างบ้าน 3 พระภิกษสุ ามเณร 3 คุณครู 3

คูมอื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนาทพี่ ลเมือง ๑-๒ ม.๑ 213 ๒. ดภู าพแลว ตอบคำถามและแสดงความคดิ เหน็ ๑) ภาพตอ ไปนใ้ี ชแสดงความเคารพใคร และใชใ นสถานการณใ ด แสดงความเคารพพระสงฆขณะนัง่ กับพน้ื ยืนถวายความเคารพพระมหากษตั รยิ แ ละพระบรมราชนิ นี าถ หมอบถวายความเคารพพระมหากษตั ริย พระบรมราชนิ ีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ ๒) เราจะมีสวนรวมในการอนรุ กั ษมารยาทไทยในการแสดงความเคารพไดอ ยา งไรบา ง แนวคาํ ตอบ ๑) ศึกษาใหเ ห็นคุณคา และวิธกี ารแสดงความเคารพบุคคลในระดับตาง ๆ ๒) นําไปปฏิบตั ิในชีวติ ประจําวนั ใหถูกตองและเหมาะสม ๓) จดั กจิ กรรมประกวดการแสดงความเคารพตามมารยาทไทย ๔) ต้งั ชมรมอนุรักษม ารยาทไทย ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชน้ั โรงเรยี น

214 คมู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนา ที่พลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กิจกรรม/ใบงานท่ี ๒ เรอื่ ง มารยาทไทยในการสนทนา ผลการเรยี นรู้ ๑. มีสวนรว มในการอนรุ กั ษมารยาทไทย ๑๐. ปฏิบัตติ นเปน ผูมีวินัยในตนเอง คำชีแ้ จง ทำกิจกรรมตอ ไปน้ี ๑. สำรวจลักษณะการพูดและการใชคำพดู ตอ ไปน้ีวา ขอ ใดเปนมารยาทในการสนทนา ใหเ ขียน เครื่องหมาย 3 ลงใน หนา ขอความ 3 พูดเสยี งดงั ฟงชัด และมีจงั หวะ เม่ือไมเห็นดว ยแลวรีบแยงทนั ที ไมมองหนา คสู นทนา มองไปทางอน่ื พดู เรอื่ งนา รงั เกยี จหรอื หวาดเสยี ว ขณะรบั ประทานอาหาร 3 สนทนาใหม รี สชาติและนา สนใจ 3 กลา วคำขอโทษทกุ ครง้ั ทขี่ อ 3 ใชคำสภุ าพและเหมาะสมกับเรื่อง ขดั จงั หวะในการสนทนา พดู เรอื่ งสว นตวั โออ วดสรรพคณุ ไมเขาใจตรงไหนถามแทรกขึ้นมาเลย และกลา วรายผูอ่ืน 3 กลา วขอบคณุ ผทู กั ทว งดว ยความ จรงิ ใจ

คมู ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา ที่พลเมือง ๑-๒ ม.๑ 215 ๒. แสดงความคดิ เห็นในประเด็นตอ ไปน้ี • เราจะมีสว นรวมในการอนุรกั ษม ารยาทไทยในการสนทนาไดอ ยา งไร แนวคาํ ตอบ ๑) ไมใ ชค าํ หยาบ คําสอเสียด คาํ เพอเจอ คําดหู ม่นิ เหยยี ดหยาม ๒) ปฏบิ ตั ิตนเปน แบบอยา งทดี่ ีในการสนทนา ๓) ใชค าํ พดู หรือขอ ความตามหลักภาษาไทย ๔) จัดกิจกรรมวันรักภาษาไทย ๓. อา นบทสนทนาตอไปน้ี แลว แกไ ขใหถ กู ตอ งตามหลกั ภาษาไทย • คำหรอื ขอ ความทีต่ องแกไข เลขที่ แนวคําตอบ • ทาํ อะไรอย?ู • อา นหนังสอื อยจู ะ • ขยนั จังเลย • แนน อนอยแู ลว ชอ่ื นามสกลุ ชนั้ โรงเรยี น

216 คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพ่ิมเติม หนาท่พี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓ เรอ่ื ง มารยาทไทยในการแต่งกาย ผลการเรียนรู้ ๑. มสี วนรว มในการอนุรักษม ารยาทไทย ๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผูมวี ินยั ในตนเอง คำชแี้ จง เลอื กภาพศาสนสถานทกี่ ำหนดให ๑ ภาพ และเลอื กสถานการณ ๑ สถานการณ โดยเขยี น เครอ่ื งหมาย 3 ลงใน ใตภ าพและสถานการณ จากนนั้ เขยี นมารยาทในการแตง กาย ใหถ กู ตอ งเหมาะสมกับศาสนสถานและสถานการณน น้ั ๆ ตัวอยางคําตอบ 3 การแตงกายไปงานทาํ บุญ 3 การแตงกายไปงานทําบุญ ขน้ึ บา นใหม อฐั ิ

คมู ือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพม่ิ เตมิ หนา ท่ีพลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 217 ศาสนสถาน สถานการณ • วัด • งานทาํ บุญขึน้ บานใหม ๑) สวมใสเ สือ้ ผาสีออน ๑) แตงกายโดยยดึ หลกั ความสะอาด สภุ าพ ๒) ผหู ญงิ ไมค วรนงุ กระโปรงสน้ั หรอื ใสเ สอ้ื ผา เรยี บรอย ถกู ตอ งตามกาลเทศะ รัดรปู สวนผชู ายควรแตงกายใหเรียบรอ ย ๒) ควรใสกางเกงขายาว เสอื้ เชิต้ แขนสั้นหรอื ไมปลอ ยชายเสื้อ ยาวก็ได โดยใสชายเสือ้ ไวในกางเกง ๓) ควรหวผี มใหเรยี บรอย ๓) ใสเ ส้ือผาสีเรยี บ ไมฉูดฉาด ชอื่ นามสกลุ เลขท่ี ชนั้ โรงเรยี น

218 คูมือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพม่ิ เติม หนา ทพ่ี ลเมือง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๔ เร่อื ง การมสี ัมมาคารวะ ผลการเรยี นรู้ ๑. มสี ว นรว มในการอนุรักษม ารยาทไทย ๑๐. ปฏิบัตติ นเปนผูมวี นิ ยั ในตนเอง คำชแ้ี จง ทำกิจกรรมตอไปน้ี ๑. แสดงความคิดเห็นในประเด็นวา นักเรียนจะมีสวนรวมในการปฏิบัตติ นเปนผมู ีสัมมาคารวะ ที่บา นและที่โรงเรียนอยา งไร ใหเ ขียนบันทกึ ลงในกรอบทีก่ ำหนดให แนวคาํ ตอบ ทบ่ี ้าน ทีโ่ รงเรียน ๑) แสดงความเคารพพอแมและญาติ ๑) ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บของโรงเรยี น ผใู หญอ ยางถูกตองเหมาะสม อยา งเครงครดั ๒) เดิน กิน น่ัง นอน แตงกายให ๒) แสดงความเคารพครูอาจารยอยาง ถูกตองเหมาะสม ถูกตอ งเหมาะสม ๓) พดู จาสุภาพ ไพเราะ ออนหวาน ๓) พดู จาสุภาพ ไพเราะ ออนหวาน ดวยใบหนาย้ิมแยมแจมใส ๔) มีมารยาทในขณะทํางานกลุมและ ๔) มนี าํ้ ใจตอ สมาชกิ ในครอบครวั และ ขณะครูกําลังสอน เพอื่ นบาน ๒. เขียนคำขวัญเพือ่ ใหเด็กและเยาวชนในปจ จุบนั มีสมั มาคารวะ แนวคาํ ตอบ • ความรูสรา งความออ นนอ มถอมตน ความโงเ ขลาสรา งความเยอหยง่ิ • ออนนอมไวเ ถิดประเสริฐกวาแข็งกระดาง ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น

คูม ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพ่มิ เติม หนา ท่ีพลเมือง ๑-๒ ม.๑ 219 กจิ กรรม/ใบงานที่ ๕ เร่ือง ความเอื้อเฟอ„ เผ่อื แผ่และความเสยี สละตอ่ สงั คม ผลการเรียนรู้ ๒. แสดงออกถึงความเออื้ เฟอ เผื่อแผ และเสียสละตอ สังคม ๑๐. ปฏิบัติตนเปน ผูมีวนิ ัยในตนเอง คำชีแ้ จง ทำกิจกรรมตอ ไปน้ี ๑. สาํ รวจพฤตกิ รรมทแี่ สดงออกถงึ ความเออื้ เฟอ เผอื่ แผแ ละความเสยี สละตอ ผอู น่ื และตอ สงั คม ของคนในปจจบุ ันทีต่ นไปพบเหน็ มา แลวบันทึกผล แนวคําตอบ ๑) ชวยจงู คณุ ยายขามถนน ๒) เสียสละท่ีนั่งบนรถโดยสารประจํา ทางใหเดก็ นักเรียน ๓) มจี ติ อาสาชวยเหลอื ผูประสบภัย ๔) คอยปลอบใจและอยใู กลเ พอื่ นเมอ่ื เพ่ือนไมส บาย ๕) เก็บขยะที่ตกอยบู นทางเทาทิง้ ลง ในถังขยะ ๒. สาํ รวจตนเองวาเคยมพี ฤติกรรมอะไรบางที่ตรงกับพฤติกรรมท่ไี ดสํารวจมา แนวคาํ ตอบ ๑) เคยจงู คุณยายขา มถนน ๒) เคยลกุ ใหทนี่ ่ังแกคนชราบนรถโดยสารประจําทาง ๓) เคยดแู ลเพ่อื นเม่อื เพ่ือนไมสบาย

220 คมู ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หนา ทพ่ี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ ๓. พิจารณาสถานการณที่กําหนดใหวาเปนพฤติกรรมที่เหมาะสมหรือไมเหมาะสม โดยเขียน เครอื่ งหมาย 3 ลงใน ในกรณที ่ีตอบไมเ หมาะสมใหอ ธบิ ายเหตผุ ลประกอบ ชายหนมุ คนหนง่ึ นงั่ อยทู เ่ี บาะดา นหนา หญงิ สาวคนหนงึ่ เหน็ คณุ ยายกาํ ลงั จะ ขา งประตู เมอ่ื เห็นเดก็ นกั เรียนชัน้ ป. ๑ คน ขา มถนนไปวดั ฝงตรงกนั ขา ม แตค ณุ ยายก็ หนงึ่ ขน้ึ มาบนรถโดยสารประจาํ ทาง เขาแกลง ขามไปไมได เพราะมีรถจํานวนมาก และ ทําเปนหลับ ทําใหเด็กนักเรียนคนดังกลาว บรเิ วณดงั กลา วกไ็ มม ที างมา ลายหรอื สะพาน ตองเดินเลยไปที่เบาะน่ังดานหลังของรถ ลอย เธอจงึ เดนิ จงู คณุ ยายขา มถนนไปยงั วดั อยา งทุลกั ทุเล โดยสวัสดภิ าพ พฤติกรรมทเ่ี หมาะสม 3 พฤตกิ รรมทีเ่ หมาะสม 3 พฤติกรรมที่ไมเ หมาะสม พฤติกรรมที่ไมเหมาะสม เพราะ เพราะ ไมมีนา้ํ ใจ ไมเอ้อื เฟอ เผ่อื แผ และเสยี สละตอผูอ ่ืน ๔. แสดงความคดิ เหน็ วา จะมวี ธิ กี ารใดบา งทจ่ี ะปลกู ฝง ใหค นในสงั คมมคี วามเออ้ื เฟอ เผอ่ื แผแ ละ เสยี สละตอ สงั คม แนวคําตอบ ๑) ปฏบิ ัตติ นเปนแบบอยา งทีด่ ใี นเรื่องความเอ้อื เฟอเผอ่ื แผแ ละความเสียสละ ๒) ชีใ้ หเ หน็ คุณคา และประโยชนข องความเออื้ เฟอเผอ่ื แผและความเสยี สละ ๓) จัดต้งั ชมรมจติ อาสาข้ึนในโรงเรยี นและชุมชน ชอื่ นามสกลุ เลขที่ ชนั้ โรงเรยี น

คมู ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพ่มิ เติม หนาทพี่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 221 กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๖ เรอื่ ง ซ่ือสตั ยสุจรติ ขยันหมัน่ เพียร และอดทน ผลการเรยี นรู้ ๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปน ผมู วี ินยั ในตนเอง คำช้ีแจง ทำกิจกรรมตอไปน้ี ๑. ยกตวั อยา งพฤตกิ รรมของคนทซ่ี อ่ื สตั ยส จุ รติ และระบวุ ธิ กี ารฝก ตนเองใหม คี วามซอื่ สตั ยส จุ รติ โดยเขยี นลงในผังมโนทศั นท ก่ี ําหนดให พูดความจริง ปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย ทําตามสญั ญาทใ่ี หได ตัวอยา่ งพฤตกิ รรมของ ไมนําของคนอื่นหรือ มงุ ทําแตค วามดี คนทซ่ี อื่ สัตยสจุ รติ ของสว นรวมมาเปน ของตน ความซื่อสัตยส ุจรติ วิธีการฝƒกตนเอง ต้งั ใจทาํ งาน ใหม้ ีความซ่ือสัตย มคี วามจรงิ ใจ มวี าจาสัตย ตงั้ ใจทาํ ตามหนา ที่

222 คมู อื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพิม่ เติม หนา ทพ่ี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ ๒. รวบรวมสํานวน สุภาษิต และคําพังเพยที่สอนใหเราเปนคนขยันหม่ันเพียรและอดทนลงใน แบบบนั ทึกอยางนอย ๑๐ คํา แบบบนั ทึกสาํ นวน สภุ าษติ และคําพงั เพยท่สี อนให้เราเปนคนขยนั หมัน่ เพียรและอดทน แนวคาํ ตอบ ๑) ฝนทงั่ ใหเปน เข็ม ๒) เข็นครกขึน้ ภูเขา ๓) อดเปรี้ยวกินหวาน ๔) ความพยายามอยทู ่ไี หน ความสาํ เร็จอยทู ่ีน่นั ๕) งานหลวงไมใ หขาด งานราษฎรไมใหเสยี ๖) อาบน้าํ ตางเหงือ่ ๗) ตัวเปนเกลียว ๘) บุกปาฝาดง ๙) พกหนิ ๑๐) อยบู านทา นอยาน่ิงดดู าย ปนวัวปนควายใหล กู ทานเลน ๓. แสดงความคิดเห็น • นักเรยี นมหี ลกั ปฏิบตั อิ ะไรบางที่จะทาํ ใหก ารดาํ เนนิ ชวี ติ ประสบความสําเรจ็ แนวคาํ ตอบ ๑) มีความซ่อื สตั ยส จุ รติ ๒) มคี วามขยันหม่นั เพียรและอดทน ๓) มีการใฝหาความรู ๔) ตั้งใจปฏบิ ัตหิ นา ที่ ๕) ยอมรบั ผลท่เี กิดจากการกระทาํ ของตนเอง ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชนั้ โรงเรยี น

คมู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพม่ิ เติม หนา ท่ีพลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 223 กิจกรรม/ใบงานที่ ๗ เรอ่ื ง ใฝห† าความรู้ ผลการเรยี นรู้ ๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผูมวี นิ ัยในตนเอง คำช้ีแจง วเิ คราะหผลทีไ่ ดรบั จากการฝกปฏิบตั ติ นเปนผใู ฝห าความรดู ว ยวธิ ตี อไปน้ี แนวคาํ ตอบ • มขี อ มูลและประสบการณใ หม ๆ ฝกสังเกต ฝก ใหมีนสิ ยั รักการอา น • มีขอ มลู มากทาํ ใหทันตอ เหตกุ ารณ • ชวยใหเ ขาใจบทเรยี น ฝกทักษะการใช • รบั รขู าวสารมากมาย เปน ประโยชนต อ การเรยี นรู อินเทอรเน็ต • พฒั นาความรูและความสามารถของตน เลอื กรบั สอ่ื ทมี่ ี • ชวยใหท ันเหตุการณ สาระประโยชน • เพมิ่ พนู ความรแู ละประสบการณ เขารว มกิจกรรม ทีใ่ หค วามรู ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชนั้ โรงเรยี น

224 คูม ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพ่ิมเตมิ หนา ที่พลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กิจกรรม/ใบงานท่ี ๘ เร่อื ง ตงั้ ใจปฏบิ ัติหนา้ ท่แี ละยอมรับผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑๐. ปฏิบัตติ นเปนผมู ีวนิ ยั ในตนเอง คำชีแ้ จง ทำกจิ กรรมตอ ไปนี้ ๑. ถานักเรียนอยูในสถานการณตอไปนี้ นักเรียนจะปฏิบัติตนอยางไรจึงจะไดชื่อวาต้ังใจปฏิบัติ หนา ที่ แนวคําตอบ สถานการณ การปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ • ชวยพอรดนํ้าดวยความตั้งใจ พอ รดน้ําตน ไมอ ยูข า งบา น หองนอนไมม คี นอยู แตเปด ไฟท้ิงไว • ปดไฟกอ นออกจากหองนอน เพือ่ ชว ยกัน ประหยดั พลงั งานและคา ไฟฟาภายในบาน เพอื่ นกาํ ลงั อภปิ รายอยูห นา หอ ง • ต้ังใจฟง • ไมเ ลน กัน ไมพ ูดคุยกัน • ต้ังใจอา นหนงั สือ ทบทวนบทเรียน ใกลถ ึงวันสอบประจาํ ภาคเรียน • เขา รว มกจิ กรรมอยา งพรอ มเพรยี ง โรงเรยี นจดั กจิ กรรมกฬี าสี

คมู ือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนา ทีพ่ ลเมือง ๑-๒ ม.๑ 225 ๒. พิจารณาสถานการณต อไปน้ี แลว ตอบคาํ ถามวา ถา เปนเราจะทาํ อยา งไร แนวคาํ ตอบ สถานการณ ถาเปนเรา • ยอมรบั ผิด และกลาวคาํ ขอโทษเพ่อื แสดง ความรับผิดชอบการกระทาํ ของตน • เม่อื รวู าตนเองทําผิด • ปรบั ปรุงตวั รบี มาโรงเรยี นแตเชา เพือ่ ใหท ันเขา แถวเคารพธงชาติ • มาโรงเรียนสาย ไมทนั เขา แถวเคารพธงชาติ • มผี ลการเรยี นตาํ่ กวา • ปรับปรุงตัว ขยันหม่ันเพยี รใหมากข้ึน ภาคเรยี นท่ีแลว ทบทวนบทเรยี น ทําการบาน สง งานตามกาํ หนด และใหค รบถว น ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น

226 คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนา ที่พลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานที่ ๙ เรอ่ื ง ขนบธรรมเนยี มประเพณีและศิลปวัฒนธรรม ผลการเรียนรู้ ๓. เห็นคณุ คา และอนรุ กั ษข นบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรม และ ภูมิปญ ญาไทย ๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปน ผมู วี นิ ัยในตนเอง คำชี้แจง ทำกจิ กรรมตอไปน้ี ๑. พจิ ารณาภาพตอ ไปนี้ แลว ตอบคำถามวา ภาพใดเปน ขนบธรรมเนยี ม ประเพณไี ทย โดยเขยี น เครือ่ งหมาย 3 ลงใน ขางภาพ แนวคําตอบ 33 3 3

คูมอื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพิ่มเตมิ หนา ท่พี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 227 ๒. พิจารณาภาพตอ ไปน้ี วา เปนศลิ ปวัฒนธรรมหรอื ไม โดยเขยี นเครอื่ งหมาย 3 ลงใน พรอ มบอกเหตุผลและความสำคัญของศลิ ปวัฒนธรรมดงั กลา ว 3 เปน ไมเปน เพราะ เปน นาฏศลิ ป ความสาํ คัญ เปน ศลิ ปะที่มเี อกลักษณ และมคี วามงดงาม 3 เปน ไมเปน เพราะ เปน วัฒนธรรมทางวัตถุ ความสําคญั เปน ๑ ในปจจยั ๔ ทจี่ ําเปน เบื้องตนในชีวติ ๓. ตอบคำถาม การอนุรักษขนบธรรมเนียมประเพณีและศิลปวัฒนธรรมไทย ตองอาศัยความ รวมมือของคนไทยทุกคน ในฐานะที่นักเรียนเปนคนไทยคนหนึ่ง จะมีวิธีอนุรักษขนบ- ธรรมเนียมประเพณแี ละศลิ ปวัฒนธรรมไทยอยางไร แนวคาํ ตอบ ๑) ศึกษาเรยี นรขู นบธรรมเนยี มประเพณีและศิลปวฒั นธรรมไทยใหเขา ใจและเหน็ คณุ คา ๒) นาํ ขนบธรรมเนยี มประเพณแี ละศลิ ปวฒั นธรรมไทยมาปรับใชใหเหมาะสม ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น

228 คูมือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพิม่ เตมิ หนา ทพี่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๑๐ เร่อื ง ภมู ิป˜ญญาไทย ผลการเรยี นรู้ ๓. เหน็ คุณคา และอนุรักษขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และ ภมู ิปญ ญาไทย ๑๐. ปฏบิ ัติตนเปนผูม วี นิ ยั ในตนเอง คำชี้แจง พิจารณาภาพท่ีกำหนดให แลว บอกวา เปน ภูมิปญ ญาไทยดา นใด และเปน ภาพอะไร ภูมปิ ญ ญาไทยดาน คตธิ รรม ความคดิ ความเช่อื ภาพน้ีเปน ภาพ การบวชปา ภูมปิ ญญาไทยดาน ศลิ ปวฒั นธรรมและ ขนบธรรมเนยี มประเพณี ภาพนี้เปนภาพ การสรา งวัด ชอื่ นามสกลุ เลขที่ ชน้ั โรงเรยี น

คูมือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพิม่ เติม หนาทีพ่ ลเมือง ๑-๒ ม.๑ 229 กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๑ เร่อื ง ทบทวนความรู้ ผลการเรียนรู้ ๑. มสี ว นรว มในการอนรุ กั ษมารยาทไทย ๒. แสดงออกถึงความเอ้อื เฟอ เผือ่ แผ และเสยี สละตอสงั คม ๓. เหน็ คณุ คา และอนุรกั ษขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และ ภมู ิปญ ญาไทย ๑๐. ปฏิบัตติ นเปน ผมู วี ินยั ในตนเอง คำช้ีแจง ศึกษาและสืบคนขอมูลเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และ ภมู ิปญ ญาไทย แลว ตอบคำถาม ๑ ๒๓ ๑. ภาพ ๑ เปน ประเพณไี ทยเกยี่ วกบั ผีตาโขน ๒. ภาพ ๒ เปนศิลปะไทยเก่ยี วกบั หตั ถกรรมไทย ๓. ภาพ ๓ เปนภมู ปิ ญ ญาไทยเกย่ี วกับ อาหารการกิน ๔. เรามีวิธกี ารอนรุ ักษขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวฒั นธรรมไทย และภมู ปิ ญ ญาไทยอยางไร บาง แนวคําตอบ ๑) ศึกษาเรยี นรูใหเ ขาใจและเหน็ คุณคา ๒) นาํ มาปรบั ใช ฟน ฟู และพัฒนาใหเหมาะสม ๓) ถายทอดใหแ กคนรนุ ตอ ๆ ไป ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชนั้ โรงเรยี น

230 คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพ่ิมเติม หนาที่พลเมือง ๑-๒ ม.๑ แบบทดสอบหลังเรียน หนว ยการเรยี นรูท ี่ ๑ คำช้ีแจง เลือกคำตอบท่ีถกู ต้องทสี่ ุดเพียงคำตอบเดยี ว ๑. มารยาทในขอ้ ใดไมใ ช มารยาทไทย ๖. คนทมี่ สี มั มาคารวะเปน คนทม่ี พี ฤตกิ รรม ก การไหว สอดคล้องกบั สุภาษติ ขอ้ ใด ข การกราบ ก ขวานผาซาก ค การโคงคาํ นบั ข ยกตนขม ทาน ง การทักทายดวยการสวมกอด ค ฟา สงู แผน ดนิ ตาํ่ ๒. “ปลายนว้ิ ชอี้ ยู่ระหว่างควิ้ และปลายนิว้ ง โคแกช อบกินหญา ออน หัวแม่มอื อยู่ทป่ี ลายจมกู ” เปน ลักษณะ การไหว้ใคร ๗. “คิดถึงคนอ่ืนบ้าง ไม่คิดถึงแต่ตัวเอง ก พอแม เห็นแกต่ ัวอยา่ งเดยี วอยไู่ มร่ อด” ถา้ เรา ข พระสงฆ นําข้อคิดจากข้อความน้ีไปปฏิบัติแสดง ค บคุ คลทั่วไป วา่ เรามคี ุณธรรมข้อใด ง พระมหากษัตริย ก ความอดทน ๓. การกราบพระสงฆควรนงั่ ทา่ ใด ข ความซอ่ื สัตยส จุ รติ ก น่งั กระโหยง ค ความขยนั หมั่นเพยี ร ข น่งั พบั เพยี บ ง ความเอือ้ เฟอ เผือ่ แผ ค นง่ั ขดั สมาธิ ง นง่ั คกุ เขา ทาเทพบตุ ร–ทาเทพธดิ า ๘. คนทีพ่ ดู จริงทาํ จริง มีความจรงิ ใจ และ ๔. การพูดตามสํานวนข้อใดมีความหมาย มุ่งทําแต่ความดี เปนคนที่ปฏิบัติตนมี แสดงถึงการมมี ารยาทในการสนทนา วินยั ในตนเองข้อใด ก ยุใหร าํ ตาํ ใหร วั่ ก ซือ่ สตั ยสุจริต ข ชกั ใบใหเ รือเสยี ข ตั้งใจปฏบิ ตั หิ นาท่ี ค นา้ํ ทวมทุง ผกั บุงโหรงเหรง ค ขยันหม่นั เพยี รและอดทน ง พูดไปสองไพเบ้ยี น่ิงเสยี ตาํ ลึงทอง ง ยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทาํ ตนเอง ๕. ในการแตง่ กายอยา่ งมมี ารยาท นอกจาก ความสะอาดและสภุ าพเรยี บรอ้ ยแลว้ ยงั ๙. “รบั ผดิ ชอบ” พฤตกิ รรมนเี้ กดิ จากความ ตอ้ งคํานงึ ถงึ เรื่องอะไรอีก มวี ินัยในตนเองขอ้ ใด ก หรหู รา ค ลาํ้ นาํ สมยั ก การใฝหาความรู ข ราคาแพง ง ถกู กาลเทศะ ข การตง้ั ใจปฏิบัตหิ นาท่ี ค ความขยนั หมั่นเพยี รและอดทน ง การยอมรบั ผลที่เกิดจากการกระทาํ ของตนเอง

คมู ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพิม่ เติม หนาทพี่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 231 ๑๐. ความสมั พนั ธร ะหว่างคนกับธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม เปน ลักษณะสําคญั ทท่ี าํ ให้เกิดภมู ิปญ˜ ญาไทยในขอ้ ใด ก ศาสนา ข การประกอบอาชพี ค ภาษาและวรรณกรรม ง ขนบธรรมเนียมประเพณี

๒หน�วยการเร�ยนรทŒู ี่ รักชาติ ยึดมนั� ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรย�  • แบบทดสอบกอนเรยี น • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๑๒ เรือ่ ง การปฏิบตั ิตนทีแ่ สดงออกถึงความรักชาติ • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๓ เรอ่ื ง การปฏิบัติตนทแี่ สดงออกถงึ การยดึ มัน่ ในศาสนา • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๔ เรอ่ื ง จะแสดงออกถึงการเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย อยางไร • กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๕ เรื่อง การแสดงออกถึงการเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๖ เร่อื ง ทบทวนความรู • แบบทดสอบหลงั เรียน

คมู ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพิม่ เติม หนา ทพี่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 233 แบบทดสอบกอ นเรียน หนว ยการเรยี นรูที่ ๒ คำชี้แจง เลอื กคำตอบท่ถี ูกตอ้ งทีส่ ดุ เพียงคำตอบเดยี ว ๑. ภาพยนตรเร่ืองใดกระตุ้นให้คนดูเกิด ๔. ใครปฏบิ ตั ติ นเปน แบบอยา่ งทแ่ี สดงออก ความรู้สกึ รกั ชาติ ถงึ ความรักชาติ ก ตมยาํ กงุ ก ชยั ใชเครื่องปรบั อากาศประหยดั ไฟ ข บางระจัน เบอร ๕ ค ครบู านนอก ข ชิดเขา รว มกิจกรรมคายอาสาพัฒนา ง รกั สยามเทา ฟา โรงเรยี น ค โชตบิ รจิ าคเงนิ และเสอื้ ผา ใหก บั มลู นธิ ิ ๒. เมื่อเราได้ยินเพลงชาติ เราควรปฏิบัติ การกุศล ตนอยา่ งไรจึงจะเปน แบบอยา่ งทด่ี ี ง โชคทําสารคดเี รอื่ ง ทหารกลาร้วั ของ ก เดนิ ตามปกติ ชาติ สงอาจารย ข ยืนตรงและทําความเคารพ ค หยุดยืนตรงจนกวา เพลงจะจบ ๕. เมอื่ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี า่ งจาก ง รบี วิง่ เพ่อื ใหพนจากบรเิ วณท่ไี ดยนิ ศาสนาท่ีตนนับถือ เราควรปฏิบัติตน เพลงชาติ อย่างไรจึงจะเหมาะสม ก ทาํ ไปเทาทจ่ี ะทาํ ได ๓. ใครแสดงออกถงึ ความรกั ชาตไิ ดถ้ กู ตอ้ ง ข ชักชวนใหห ันมานบั ถือศาสนาทต่ี น เหมาะสมทีส่ ุด นับถอื ก ปุมประดบั ธงชาติไวทีห่ นา บาน ค พยายามมองหาขอ เสียของกจิ กรรม ข โปง รอ งเพลงชาตทิ กุ วนั ทง้ั เชา และเยน็ ท่ีเขา รวม ค แปง ปฏบิ ตั ิตามกฎหมายอยา ง ง ทาํ กจิ กรรมตา ง ๆ ของศาสนาดว ย เครง ครดั ความเคารพและใหเ กียรติ ง ปอมตัง้ ชอ่ื ลกู ทุกคนสอดคลอ งกับ สธี งชาติ ๖. การปฏิบตั ติ นที่แสดงออกถึงการยดึ ม่ันในศาสนาในขอ้ ใดถกู ตอ้ งเหมาะสมที่สุด ก ตง้ั ใจศึกษาหลักคําสอนและนาํ ไปปฏบิ ตั ิ ข เขารว มกจิ กรรมทางศาสนาเทาทีโ่ อกาสจะอาํ นวย ค บริจาคเงนิ คา นํ้า คา ไฟฟา สาํ หรบั บาํ รุงศาสนสถาน ง ทําพิธีบูชาในศาสนสถานเปน ประจําเพอ่ื ขอใหมีโชคลาภ

234 คูม ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพมิ่ เตมิ หนาทีพ่ ลเมือง ๑-๒ ม.๑ ๗. การปฏิบัติตนในข้อใดแสดงออกถึงการ ๙. “รูปที่มีทุกบ้าน” คําว่า “รูป” ในเนื้อ เทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ไ ดอ้ ยา่ ง เพลงที่ขับร้องโดยธงไชย แมคอินไตย ถูกตอ้ งเหมาะสมมากท่ีสุด หมายถึงข้อใด ก เรยี นรพู ระราชกรณยี กิจ ก พอแม ข รอ งเพลงสรรเสริญพระบารมที ุกวนั ข พระพทุ ธรูป ค นอมนาํ พระบรมราโชวาทมาปฏบิ ตั ิ ค ดารานักรองทีช่ ื่นชอบ ง เขา รว มกจิ กรรมแสดงความจงรกั ภกั ดี ง พระบาทสมเดจ็ พระเจาอยหู วั ๕ ธันวามหาราช ๑๐. ผทู้ น่ี าํ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๘. การปฏิบัตติ นเพือ่ แสดงออกถึงการ มาปฏิบัติจะมีลักษณะการดําเนินชีวิต เทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริยค วร อยา่ งไร เข้าร่วมกจิ กรรมใดต่อไปน้ี ก หรหู รา ก จุดเทยี นชัยถวายพระพร ข ทนั สมัย ข จัดนิทรรศการวนั สงิ่ แวดลอม ค ฟุม เฟอ ย ค รวมทําความสะอาดและปลกู ปา ง พออยู พอกิน ในชุมชน ง เขารว มกิจกรรมจิตอาสาเพ่อื พัฒนา โรงเรยี น

คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนาที่พลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 235 กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๒ เรือ่ ง การปฏิบัตติ นท่ีแสดงออกถงึ ความรักชาติ ผลการเรยี นรู้ ๔. เปน แบบอยา งของความรกั ชาติ ยดึ มน่ั ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหา- กษตั รยิ  ๑๐. ปฏิบตั ิตนเปน ผมู ีวนิ ัยในตนเอง คำชี้แจง ทำกจิ กรรมตอ ไปนี้ ๑. บอกวาเราจะแสดงออกถงึ ความรกั ชาติไดดวยวธิ ใี ดบา ง แนวคําตอบ เรียนรูความเปนมาของชาติ ยนื ตรงและเคารพธงชาติ เขารวมและมีสว นรวมในวันสาํ คัญของชาติ รองเพลงชาติและเพลงปลุกใจใหรักชาติ เปนพลเมืองดขี องชาติ รณรงคใชส นิ คาไทยและสินคา ท่ไี มล ะเมิดลิขสิทธ์ิ ผลิตและเผยแพรส ่อื หนงั สน้ั สารคดี เพลง งานศลิ ปะแสดงความรกั ชาติ

236 คูมอื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนาท่ีพลเมือง ๑-๒ ม.๑ ๒. สาํ รวจพฤตกิ รรมตอ ไปนี้ แลว ระบวุ า พฤตกิ รรมใดแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ใหว าดรปู  ลงในชอ งตาราง และพฤตกิ รรมใดไมใ ชว ธิ แี สดงออกถงึ ความรกั ชาติ ใหว าดรปู  ลงในชอ ง ตาราง พฤตกิ รรม ใช่/ไมใ่ ช่ ๑. ภาคภูมใิ จในความเปน เอกราชของชาตไิ ทย  ๒. เดินผา นสถานท่ที ีม่ กี ารเชญิ ธงชาตแิ ละรองเพลงชาติ โดยไมหยุดยนื ตรง ๓. รอ งเพลงไทยสากลซึ้ง ๆ เศรา ๆ  ๔. ประดบั ธงชาติหนาบา นในวันรัฐธรรมนญู ๑๐ ธันวาคม  ๕. เขารว มโครงการอนรุ ักษท รพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอม  ๖. แตง กายดวยผา ไทยไปทำงานในวันศกุ ร  ๗. ซื้อแผน CD เพลงทีเ่ ปน แผนผีซดี ีเถื่อนมาฟง  ๘. จัดนิทรรศการเกี่ยวกบั ภาพถายของชางภาพทมี่ ีช่อื เสยี งของไทย  ๙. รูสกึ สนกุ เมื่อไดด ูสารคดเี รื่อง วถิ ชี วี ิตสตั วป า  ๑๐. รว มมอื รวมใจกันประหยดั น้ำและไฟฟา 

คูม ือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพ่มิ เติม หนาท่พี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 237 ๓. ตรวจสอบวา วิธีการแสดงออกถึงความรักชาติตอไปน้ีสะทอนถึงความมีวินัยในตนเองใน เรอ่ื งใด โดยนําหมายเลขหนาขอความมีวินัยในตนเองเขียนลงใน ดานขวามือ (แตล ะกรอบตอบไดมากกวา ๑ ขอ ) แนวคาํ ตอบ ๑ ความซ่อื สตั ยส จุ รติ ๒ ความขยนั หม่นั เพียร ๓ ความอดทน ๔ การใฝ†หาความรู้ ๕ การตง้ั ใจปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี ๖ การยอมรบั ผลที่ เกิดจากการกระทาํ ของตนเอง เรียนรูค วามเปน มาของชาติ ๔ ยนื ตรงและเคารพธงชาติ ๑, ๕ รอ งเพลงชาติและเพลงปลกุ ใจใหรักชาติ ๑, ๕ เขา รว มและมสี ว นรวมในวันสำคญั ของชาติ ๒. ๓, ๕ เปน พลเมืองดีของชาติ ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, ๖ รณรงคใชส นิ คาไทยและสินคาทีไ่ มละเมดิ ลิขสทิ ธ์ิ ๑, ๕, ๖ ๒, ๕ ผลิตและเผยแพรส ่ือ หนังส้ัน สารคดี เพลง เลขที่ งานศลิ ปะแสดงความรักชาติ ชอื่ นามสกลุ ชน้ั โรงเรยี น

238 คูมือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนา ทพี่ ลเมือง ๑-๒ ม.๑ กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๓ เรอื่ ง การปฏิบตั ิตนท่ีแสดงออกถึงการยึดมนั่ ในศาสนา ผลการเรยี นรู้ ๔. เปน แบบอยา งของความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ  ๑๐. ปฏิบตั ติ นเปนผูมวี นิ ยั ในตนเอง คำชี้แจง ทำกิจกรรมตอไปน้ี ๑. ดูภาพแผนผงั Infographic น้ีแลว ตอบคําถาม การปฏิบตั ิตน แสดงออกถงึ การยึดมน�ั ในศาสนา • เเปรนšย� ศนาร•สŒคู นปวิกาฏชมบิ นสตั ทำิต่ีดคนแีญั ลตแะาลเมปะหšนหตลลัวกั ักอคคยำา‹ำสงสอทอน่ีดนขีขขออองงศงศศาาสาสนสนิกนาชาน• เ Œขาร‹วม ิกจกรรมทางศาสนา • เราจงยดึ ม�ันและปฏิบัติตามหลักศาสนาทตี่ นนบั ถือ ๑) Infographic นก้ี ลา วถงึ เรอ่ื งอะไร การปฏิบตั ิตนทแี่ สดงออกถึงการยดึ มนั่ ในศาสนา ๒) “ศาสนาทุกศาสนามีหลักคําสอนที่มุงสอนศาสนิกชนของตนใหเปนคนดี” ขอความน้ี สอดคลอ งกบั เรอื่ งอะไรในแผนผัง Infographic เรียนรคู วามสาํ คญั และหลกั คําสอนของศาสนา ๓) “ศาสนิกชน” ในขอความวา “เปนศาสนิกชนที่ดีและเปนตัวอยางท่ีดีของศาสนิกชน...” หมายถงึ ใคร คนท่ีนับถือศาสนา เชน ถาเปนศาสนิกชนของพระพุทธศาสนา เรียกวา ชาวพุทธ พทุ ธศาสนกิ ชน ถา เปนศาสนกิ ชนของศาสนาอสิ ลาม เรียกวา มุสลิม หรืออิสลามกิ ชน

คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนาที่พลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 239 ๔) “เขารวมกจิ กรรมทางศาสนา” ไดแ กก จิ กรรมอะไรบา ง การทําบุญตักบาตรของพระพุทธศาสนา การละหมาดของศาสนาอิสลาม การถือศีล มหาสนิทของคริสตศาสนา และการบูชาเทพเจาของศาสนาพราหมณ-ฮนิ ดู ๒. ปฏิบัติตนท่ีแสดงออกถึงการยึดม่ันในศาสนา เปนเวลา ๑ สัปดาห บันทึกผล แลวนํามา แลกเปล่ียนเรียนรูกับเพอื่ น ๆ ในชนั้ เรยี น แนวคาํ ตอบ การปฏิบตั ติ น ผลทเี่ กดิ จากการนำไปปฏิบัติ ๑. เรยี นรคู วามสำคญั และหลกั คำสอน ๑) เขา ใจจดุ มงุ หมายของหลกั ศาสนา ของศาสนา ๒) รูและเขาใจหลกั คําสอน ๒. ปฏิบตั ิตนตามหลักคำสอนของศาสนา ๑) มีความสุขกาย สบายใจ ๒) อยรู ว มกบั ผูอนื่ ไดอ ยางมคี วามสขุ ๓) ไดร บั การยกยอ ง ๓. เปนศาสนกิ ชนที่ดีและเปน ตัวอยางท่ดี ี ๑) ทําใหศ าสนาเจรญิ และแผขยายกวา งออกไป ของศาสนิกชน ๒) เปนแบบอยา งทด่ี ี ๓) ไดร บั การยกยอ งสรรเสรญิ ๔. เขารว มกจิ กรรมทางศาสนา ๑) มีความสขุ กาย สบายใจ ๒) เปนแบบอยา งท่ีดี ๓) ชวยสบื ทอดและเผยแผศ าสนา

240 คมู อื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพม่ิ เติม หนา ทพ่ี ลเมือง ๑-๒ ม.๑ ๓. การปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ การยดึ มนั่ ในศาสนาแสดงใหเ หน็ ถงึ ความมวี นิ ยั ในตนเองในเรอ่ื ง อะไรบา ง (เขยี นเครอ่ื งหมาย 3 ลงใน หนา ขอความ) แนวคาํ ตอบ 3 ความซอ่ื สัตยสุจรติ 3 ความขยันหม่นั เพยี ร 3 ความอดทน 3 การใฝห าความรู 3 การตงั้ ใจปฏิบัตหิ นา ท่ี 3 การยอมรับผลทเ่ี กดิ จากการกระทําของตนเอง ๔. หาภาพถายการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงการยึดม่ันในศาสนาของตนเอง ๑ ภาพ ติดลงใน กรอบทกี่ ําหนดให ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชนั้ โรงเรยี น

คูมือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพ่ิมเติม หนา ทพ่ี ลเมือง ๑-๒ ม.๑ 241 กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๔ เรอ่ื ง จะแสดงออกถึงการเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ อ ยา่ งไร ผลการเรยี นรู้ ๔. เปนแบบอยางของความรกั ชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ  ๑๐. ปฏิบตั ติ นเปน ผูมวี ินยั ในตนเอง คำชี้แจง ทำกิจกรรมตอไปน้ี ๑. เขียนอธบิ ายสน้ั ๆ ใหส อดคลอ งกับภาพและขอความ แนวคําตอบ • เรยี นรูความสาํ คญั ของสถาบนั พระมหากษัตรยิ  ทรงเปนผูนําในการพัฒนาชาติทุก ๆ ดาน หากไมม พี ระมหากษตั รยิ ใ นอดตี ทยี่ อมเสยี สละ เลือดเน้ือและชีวิตเพื่อปกปอง คุมครอง และ ดํารงรักษาชาติไว เราคงไมมีชาติไทยท่ีเปนอยู ในปจ จบุ นั น้ี เราเปน คนไทยจงึ ตอ งเรยี นรคู วาม สาํ คญั ของสถาบันพระมหากษัตรยิ  • เรยี นรูพ ระราชกรณียกิจ พระราชกรณยี กจิ ทงั้ หลายทพี่ ระมหากษตั รยิ  ทรงปฏิบัติลวนมุงบําบัดทุกขบํารุงสุขและแก ปญหาความเดือดรอนของพสกนิกรของพระ องค เราเปน พสกนกิ รของพระองคจึงตองเรียน รพู ระราชกรณียกจิ ของพระองค

242 คูม ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพ่มิ เติม หนา ทพ่ี ลเมือง ๑-๒ ม.๑ • รอ งเพลงสรรเสรญิ พระบารมี เพลงสรรเสริญพระบารมีเปนสัญลักษณ ประการหนึ่งของสถาบันพระมหากษัตริยไทย เปนเพลงท่ีบรรเลงเพื่อสรรเสริญพระบารมีของ พระองค เราเปน คนไทยจงึ ตอ งรอ งเพลงสรรเสรญิ พระบารมีใหได เพลงสรรเสริญพระบารมี • รอ งเพลงพระราชนพิ นธ เพลงพระราชนิพนธเปนเพลงท่ีพระบาท สมเด็จพระเจาอยูหัวพระราชนิพนธ มีท้ังสิ้น ๔๘ เพลง เชน เพลงแสงเทยี น ยามเย็น ความ ฝน อนั สงู สดุ เราควรฝก รอ งเพลงพระราชนพิ นธ และเขารวมกิจกรรมที่มีการรองเพลงพระราช นพิ นธ เพลงพระราชนพิ นธ • เคารพพระบรมฉายาลกั ษณ พระบรมฉายาลักษณ คือ รูปถายของ พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว เราเปนคนไทย ตองเคารพพระบรมฉายาลักษณของพระองค รวมท้ังพระบรมสาทิสลักษณ (รูปวาดหรือรูป เขียนเหมอื นบคุ คลจริง) ของพระองค

คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพ่มิ เตมิ หนาที่พลเมือง ๑-๒ ม.๑ 243 ๒. เลอื ก ๑ หวั ขอ โดยเขยี นเครอ่ื งหมาย 3 ลงใน หนา ขอ ความ นาํ ไปปฏบิ ตั แิ ลว บนั ทกึ ผล แนวคําตอบ เรียนรูความสําคญั ของสถาบันพระมหากษตั ริย เรยี นรพู ระราชกรณียกิจ ยืนตรงและรอ งเพลงสรรเสริญพระบารมี รอ งเพลงพระราชนิพนธ 3 เคารพพระบรมฉายาลักษณ ๑) ผลท่ีไดรบั จากการปฏบิ ัติ ๑) รูส กึ สบายใจและมคี วามสุขทีไ่ ดท ําความเคารพพระบรมฉายาลกั ษณ รวมทั้ง พระบรมสาทิสลักษณของในหลวง ๒) ไดร ับความช่นื ชมจากผทู พ่ี บเหน็ ๒) ความรูทไี่ ดรบั จากการปฏิบตั ิ พระบรมฉายาลกั ษณ คือ รปู ถายของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูห ัว แตถา เปนรูปวาด หรือรปู เขยี นเหมอื นบุคคลจรงิ ของพระองค เราเรียกวา พระบรมสาทิสลักษณ ๓) ส่งิ ท่ตี อ งปฏบิ ัตเิ พม่ิ เตมิ นอกจากพระบรมฉายาลกั ษณห รอื พระบรมสาทสิ ลกั ษณแ ลว เราเปน คนไทยยงั ตอ งเคารพ พระฉายาลกั ษณห รอื พระสาทสิ ลกั ษณข องสมเดจ็ พระนางเจา ฯ พระบรมราชนิ นี าถ และพระบรม- วงศานวุ งศ ชอื่ นามสกลุ เลขท่ี ชนั้ โรงเรยี น

244 คูม อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพ่ิมเติม หนาท่ีพลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๑๕ เรอื่ ง การแสดงออกถึงการเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย ผลการเรยี นรู้ ๔. เปน แบบอยางของความรกั ชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย ๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเปนผมู วี นิ ัยในตนเอง คำชี้แจง ทำกิจกรรมตอไปน้ี ๑. ดแู ผนภูมิปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง แลว อธิบายสั้น ๆ พรอมท้งั บอกวธิ นี ําไปปฏบิ ัติหรือ ประยกุ ตใ ชใ นชวี ิตประจาํ วนั แนวคําตอบ กคาํารอพธัฒิบานยาคนปรซัชึง่ ญสาามขอารงถเศนราํ ษมฐาปกิรจะพยอกุ เพตีใยชงกขบัอกงพารรปะฏบบิาทตั สิตมนเไดด็จใ พนรทะุกเจราะอดยับูหัวโเดปยนเนแนน วกคาริดปสฏําคิบัญัตบิ ในน ทางสายกลางอยา งเปนขั้นตอน ยึดหลกั ๓ หวง คือ พอประมาณ มีเหตุผล และมภี ูมคิ มุ กันในตวั ที่ดี และ ๒ เง่ือนไข คือ เงือ่ นไขความรแู ละเง่ือนไขคณุ ธรรม เราสามารถนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติหรือประยุกตใชในชีวิตประจําวัน ได โดยยดึ หลกั ๓ พอ คอื พออยู พอกนิ และพอใช รวมทงั้ ควรดาํ เนนิ ชวี ติ อยา งประหยดั ประกอบ อาชีพที่สุจริต ตั้งสติใหม่ันคง มีสติ ไมประมาท ใชปญญาและรักษาสุขภาพใหแข็งแรงท้ังกาย และใจ

คมู อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพ่ิมเติม หนาทพี่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 245 ๒. อานหลักการทรงงานนแี้ ลว ตอบคําถาม “...สาํ คัญทส่ี ดุ จะตอ งหดั ทาํ ใจใหกวา งขวาง หนักแนน รจู ักรบั ฟง ความคิดเห็น แมก ระทงั่ ความวพิ ากษว จิ ารณจ ากผอู น่ื อยา งฉลาด เพราะการรจู กั รบั ฟง อยา งฉลาดนนั้ แทจ ริงคือ การระดมสตปิ ญ ญาและประสบการณอนั หลากหลาย มาอํานวยการปฏบิ ตั ิ บรหิ ารงานใหประสบความสาํ เรจ็ ท่ีสมบรู ณน่ันเอง...” ๑) หลกั การทรงงานน้ีกลาวถึงเรอื่ งอะไร การนาํ “ประชาพิจารณ” มาใชใ นการบรหิ ารงาน ๒) เราควรนอมนาํ หลักการทรงงานน้ไี ปปฏิบตั ใิ นเร่อื งอะไรบาง เราควรนอมนาํ หลกั การทรงงานนมี้ าเปนแนวทางในการปฏบิ ตั ติ นในชีวิตประจําวนั โดย เฉพาะในเรอ่ื งการทํางานกลมุ และการทาํ งานเพ่อื สว นรวม เราตอ งใจกวา ง หนกั แนน รจู ักรับฟง ความคิดเหน็ และคาํ วพิ ากษว จิ ารณจ ากผูอืน่ ๓. เขยี นเครอื่ งหมาย 3 ลงใน หนา กจิ กรรมท่แี สดงออกถงึ ความจงรักภกั ดตี อ พระบาท สมเดจ็ พระเจา อยูหัว 3 จดุ เทียนชัยถวายพระพร 3 เขารว มกิจกรรมสานสายใย เพ่อื ผลิตภณั ฑส ายใจไทย 3 จัดกิจกรรมเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๗ พรรษา มหาราชา วงิ่ มาราธอนการกุศล เพ่ือชวยเหลือผูประสบอทุ กภัย สวดมนตไ หวพระขา มป เพ่ือความเปน สริ ิมงคลแกชวี ิต

246 คมู ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพมิ่ เตมิ หนา ทีพ่ ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ ๔. สืบคนขอมูลเก่ียวกับหนังส้ัน ภาพยนตร เพลง งานศิลปะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย แลวบันทกึ ผลลงในตาราง ตวั อยางคาํ ตอบ หนังสั้น ภาพยนตร เพลง ๑) รวมใจภักด์ิ รกั ในหลวง ๑) ความฝนอนั สงู สดุ ๑) ทรงพระเจริญ ๒) ตน กลา ของพอ ๒) ปด ทองหลังพระ ๒) ตนไมของพอ ๓) ใตร มยุติธรรม ๓) เรารกั พระเจาอยูหวั ๓) ของขวัญจากกอนดิน ๔) พิกัดที่เท่ยี งตรง ๔) เร่อื งเดียวกนั ๔) ภูมแิ ผนดิน นวมินทร ๕) การตดั สนิ ใจคร้งั สดุ ทา ย ๕) เหรยี ญของพอ ๖) สวรรคของสธุ ี ๖) คนลาเมฆ มหาราชา ๗) โรงเรยี นบานนอยลา ง ๗) แผน ดินของเรา ๕) พอ แหงแผน ดนิ ๘) โชคดที ีโ่ ชครา ย ๘) ราชประชานเุ คราะห ๖) รูปท่มี ที ุกบา น ๙) วิลแชร เรสซ่งิ ๙) จากฟา สดู ิน ๗) ตามรอยพระราชา ๑๐) ทวง ๑๐) อามา ๘) ผปู ด ทองหลงั พระ ๑๑) บานของบญุ เหมน็ ๑๑) ราชาแหงราชนั ๙) โชคดที มี่ ใี นหลวง ๑๒) ศลี ๑๐) พระมหากษัตรยิ ท่ดี ีท่สี ุด ในโลก ๑) งานศลิ ปเฉลมิ พระเกยี รติ “พอ แหงง าแนผศนลิดปินะ” ๒) งานนิทรรศการ “เพราะเรามใี นหลวงองคเ ดยี วกัน” ๓) งานนิทรรศการ “พอ” ศิลปนแหง แผนดนิ ๔) งานนทิ รรศการ “สรา งศิลปถ น่ิ ใต เทิดไทองคร าชนั ๘๗ พรรษา” ๕) พทุ ธศลิ ปแหงรชั กาลที่ ๙ “ชมพระ สองพระ สอ งใจ” ชอื่ นามสกลุ เลขท่ี ชนั้ โรงเรยี น

คูม อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพม่ิ เติม หนาท่ีพลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 247 กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๖ เรือ่ ง ทบทวนความรู้ ผลการเรียนรู้ ๔. เปนแบบอยางของความรกั ชาติ ยดึ มั่นในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบัน พระมหากษัตริย ๑๐. ปฏบิ ัติตนเปนผูม ีวินยั ในตนเอง คำชแี้ จง เขียนเครอ่ื งหมาย 3 หนาขอทีถ่ กู และเขยี นเคร่ืองหมาย 7 หนา ขอทีผ่ ดิ 3 ๑. ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริยเปน สถาบนั หลกั ของสังคมไทย 3 ๒. ชาติไทยเปน ชาติทีเ่ กา แก ไมเ คยตกเปนเมอื งขึ้นของประเทศใด ๆ 7 ๓. “สยามานสุ สต”ิ เปนเพลงพระราชนิพนธของรัชกาลที่ ๖ 7 ๔. การซ้อื สนิ คา ที่ละเมิดลขิ สทิ ธช์ิ วยประหยัดคา ใชจายและไมผ ดิ กฎหมาย 3 ๕. ศาสนาทกุ ศาสนามหี ลกั คาํ สอนทม่ี งุ สอนศาสนกิ ชนของตนใหเ ปน คนดี โดยละเวน ความช่ัว ทําแตความดี 3 ๖. เรานบั ถอื ศาสนาอะไร ควรหาโอกาสเขา รว มกจิ กรรมทางศาสนาตามความเหมาะสม 3 ๗. พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวทรงเปนพระประมุขของประเทศและเปนศูนยรวม จิตใจของคนในชาติ 7 ๘. “แสงเทยี น” เปน เพลงสรรเสริญพระบารมี 3 ๙. หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเปนทางสายกลาง ประกอบดว ย ๓ หวง และ ๒ เง่อื นไข 7 ๑๐. การเขารว ม “กจิ กรรม Long Live the King” เปน การแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ชอื่ นามสกลุ เลขท่ี ชน้ั โรงเรยี น

248 คมู ือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพ่มิ เตมิ หนาที่พลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ แบบทดสอบหลังเรยี น หนว ยการเรียนรูที่ ๒ คำช้แี จง เลือกคำตอบทีถ่ กู ตอ้ งท่ีสดุ เพียงคำตอบเดียว ๑. “บางระจัน” เปนภาพยนตรท่ีต้องการ ๕. ใครแสดงออกถึงการยึดมั่นในศาสนา กระต้นุ ใหค้ นดเู กดิ ความรู้สึกอยา่ งไร ถูกต้องเหมาะสมทีส่ ุด ก รักชาติ ก ออยตกั บาตรทกุ วันพระ ข ยึดมั่นในศาสนา ข อยุ อานคัมภรี อ ลั กรุ อาน ค เปนพลเมอื งดขี องชาติ ค อมิ่ สวมสายสรอ ยไมกางเขน ง เทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย ง อนุ ศกึ ษาหลกั คาํ สอนของศาสนาทต่ี น นับถอื และนําไปปฏิบัติ ๒. “หยุดยืนตรงจนกว่าเพลงจะจบ” เปน ขอ้ ปฏิบตั ทิ ี่ควรใชใ้ นกรณีใด ๖. ถ้ามีคนปฏบิ ัติตอ่ ศาสนาที่ตนนบั ถอื ก ไดยินเพลงชาติ ไมถ่ ูกต้อง เราควรปฏิบตั ิต่อเขาอย่างไร ข ไดยนิ เพลงไทยสากล จึงจะเหมาะสม ค ไดยินเพลงพระราชนพิ นธ ก แจง เจาหนาทตี่ ํารวจจับกมุ ง ไดย นิ เพลงปลกุ ใจใหร กั ชาติ ข อธบิ ายใหเขาเขาใจอยา งมเี หตผุ ล ค ดูหมนิ่ ศาสนาของคนน้ันและยกยอง ๓. การแสดงออกที่ดีท่ีสุดในการรักชาติคือ ศาสนาของตน ขอ้ ใด ง แสดงความไมพอใจและตําหนิการ ก สะสมธงชาตไิ วทุกรุนทกุ แบบ กระทําของผูน นั้ ข อานหนงั สอื ประวัตศิ าสตรไทย ค รอ งเพลงชาตแิ ละเพลงปลกุ ใจทกุ วัน ๗. ข้อใดกล่าวถึงความสําคัญของสถาบัน ง ต้ังใจศึกษาเลาเรียนเพื่อนําความรูมา พระมหากษตั รยิ ไ มถูกตอง พฒั นาชาติ ก เปน สถาบนั หลกั ของสงั คมไทย ข ทรงเปนองคอ คั รศาสนปู ถัมภก ๔. “นา้ํ ไฟ ใช้ประหยัด อนุรกั ษพลังงาน” ค ทรงเปน ผูก ําหนดนโยบายในการ ผู้ที่ปฏิบัติตามคําขวัญน้ีเปนแบบอย่าง บริหารประเทศ ในการแสดงออกถงึ เรอ่ื งอะไร ง ทรงเปน ศูนยรวมจิตใจและเปน ก ความรักชาติ มง่ิ ขวัญของคนในชาติ ข การยดึ มัน่ ในศาสนา ค การเคารพในประชาธิปไตย ง การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย

คมู ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิม่ เติม หนา ท่ีพลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 249 ๘. กิจกรรมใดท่ีควรเข้าร่วมเพ่ือแสดงออก ๙. เม่ือเราได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี ถงึ การเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตริย เราควรปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะถูกต้อง ก ว่ิงมาราธอนการกศุ ล เหมาะสม ข ปลูกปา เฉลิมพระเกยี รติ ก ยืนตรงแสดงความเคารพ ค รว มสรางฝายชะลอนา้ํ ในหมูบา น ข นง่ั คุกเขาและถวายบงั คม ง รวมกจิ กรรม “คืนความสวยงามให ค ยืนตรงและรองเพลงตาม ชุมชน” ง นั่งพบั เพียบและหมอบกราบ ๑๐. เรียนรู้ความเปน มาของชาติ เรียนรู้ความสาํ คัญของศาสนา เรียนรู้ พระราชกรณยี กจิ ” เปน กจิ กรรมทส่ี ะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ ความมวี นิ ยั ใน ตนเองข้อใด ก การใฝหาความรู ค ความขยันหม่ันเพยี ร ข ความซื่อสัตยส ุจรติ ง การต้ังใจปฏบิ ัติหนา ที่

๓หนว� ยการเรย� นรทŒู ี่ พระบรมราโชวาทและหลกั การทรงงาน • แบบทดสอบกอนเรยี น • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๑๗ เรื่อง ความมีเหตผุ ล • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๘ เรื่อง ความรอบคอบ • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๑๙ เรอ่ื ง หลักการทรงงาน • กิจกรรม/ใบงานที่ ๒๐ เรอื่ ง ทบทวนความรู • แบบทดสอบหลังเรียน

คมู อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพ่มิ เติม หนา ที่พลเมือง ๑-๒ ม.๑ 251 แบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรยี นรูท ่ี ๓ คำชแ้ี จง เลือกคำตอบทถี่ ูกต้องท่ีสดุ เพียงคำตอบเดียว ๑. ข้อใดกล่าวถึง “ความมเี หตผุ ล” ถูกตอ้ ง ก เปน ทางสายกลาง ค เปน เงอ่ื นไขคณุ ธรรม ข เปนเงอ่ื นไขความรู ง เปน คณุ ลกั ษณะหนงึ่ ของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๒. ในฐานะนักเรียนสามารถนอ้ มนาํ พระบรมราโชวาทเรื่อง “ความมีเหตผุ ล” มาใช้ในเรอ่ื งใด ไดด้ ที ส่ี ุด ก การว่งิ เลน ค การเรยี นหนังสือ ข การเลนเกม ง การทาํ งานหารายได อ่านพระบรมราโชวาทต่อไปน้ี แลว้ ตอบคาํ ถามขอ้ ๓–๔ “...ทุกคนจําเปนตองหมั่นใชปญญาพิจารณาการกระทําของตนใหรอบคอบอยูเสมอ ระมัดระวังทําการทุกอยางดวยเหตุผล ดวยความมีสติ และความรูตัว เพื่อเอาชนะความ ชั่วรายท้ังมวลใหไ ดโ ดยตลอด และสามารถกาวไปถงึ ความสําเรจ็ ที่แทจริง ทง้ั การทาํ งานและ การครองชวี ติ ....”

252 คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพ่ิมเติม หนา ที่พลเมือง ๑-๒ ม.๑ ๓. พระบรมราโชวาทน้ีไมได กล่าวถึงเร่ือง ๘. “โครงการศกึ ษาวจิ ยั และพฒั นาสงิ่ แวด- อะไร ลอ้ มแหลมผกั เบยี้ อันเน่อื งมาจาก ก ความมีสติ พระราชดาํ ริจงั หวดั เพชรบรุ ”ี เปน โครงการ ข การใชป ญ ญา หน่งึ ทใี่ ช้ระบบพชื และหญ้ากรองน้ําเสีย ค ความมเี หตุผล ดาํ เนนิ การตามหลกั การทรงงานข้อใด ง ความขยันหมน่ั เพยี ร ก ปลูกปาในใจคน ข ใชธ รรมชาติชวยธรรมชาติ ๔. ความมีเหตุผลก่อให้เกิดผลดีต่อไปน้ี ค ศึกษาขอ มูลอยา งเปนระบบ ยกเวน ข้อใด ง ประหยดั เรยี บงา ย ไดป ระโยชนส งู สดุ ก อยูเ หนอื คนอื่น ข เอาชนะความชัว่ ได ๙. หลกั การทรงงานเรอ่ื ง “ปลกู ปา† ในใจคน” ค อยรู ว มกบั ผูอ ่ืนอยา งมคี วามสขุ มจี ุดมุง่ หมายสาํ คญั ตามข้อใด ง ประสบความสาํ เร็จในหนา ทก่ี ารงาน ก ปลกู จิตสาํ นกึ คนใหรักผืนปา ข กระตนุ ใหคนรวมใจกันปลกู ปา ๕. คนท่มี คี วามรอบคอบจะเปนคนอย่างไร ค รณรงคใ หค นเหน็ คณุ คา และประโยชน ก ประหยัด ของปา ข ย้ําคิดยาํ้ ทํา ง สรา งความตระหนกั ใหคนเห็นความ ค ไมป ระมาท สําคัญของปา ง ไมเ กรงกลัวใคร ๑๐. คนทน่ี าํ หลกั การทรงงานเร่อื ง “ปลกู ป†า ๖. ในการทํางานถ้าเราขาดความรอบคอบ ในใจคน” มาปรับใชจ้ ะมีลักษณะตาม จะเกิดผลอยา่ งไร ข้อใดเปนอนั ดับแรก ก งานไมเ สร็จ ก รักและหวงแหนปา ไม ข งานไมเรยี บรอ ย ข ใชประโยชนจากปาไมอ ยางคุมคา ค งานมปี ระสทิ ธิภาพ ค เขา ใจและแกป ญ หาที่เกดิ กบั ปา ไม ง งานเกิดความผิดพลาด อยางถกู วิธี ง ชอบเขา รว มกิจกรรมปลูกปา ตาม ๗. ขอ้ ใดเกดิ จากหลกั การทรงงานเรอื่ ง “การ โครงการตา ง ๆ ใชธ้ รรมชาตชิ ว่ ยธรรมชาต”ิ ก การปลกู ปาในใจคน ข การปลูกปา โดยไมต องปลูก ค การปลูกปาบรเิ วณฝายชะลอน้ํา ง การปลูกปาชายเลนเฉลิมพระเกียรติ

คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพมิ่ เติม หนา ท่ีพลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 253 กจิ กรรม/ใบงานที่ ๑๗ เรื่อง ความมีเหตผุ ล ผลการเรียนรู้ ๕. ประยกุ ตแ ละเผยแพรพ ระบรมราโชวาท และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปนผูม ีวนิ ยั ในตนเอง คำชแี้ จง ทำกิจกรรมตอไปน้ี ๑. สบื คน พระบรมราโชวาทและพระราชดาํ รัส อยา งละ ๑ องค แลวบนั ทกึ ผล พระบรมราโชวาท “...ผหู นกั แนน ในสจั จะ พดู อยา งไรทาํ อยา งนนั้ จงึ จะไดร บั ความสาํ เรจ็ พรอ มทงั้ ความศรทั ธา เชื่อถือและความยกยองสรรเสริญจากคนทุกฝาย การพูดแลวทํา คือพูดจริงทําจริง จึงเปนปจจัย สําคัญในการสงเสริมเกียรติคณุ ของบุคคลใหเดนชัด” พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานปริญญาบตั รของจุฬาลงกรณมหาวทิ ยาลัย ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๐ พระราชดาํ รัส “...ภายใน ๑๐ ป เมอื งไทยนา จะเจรญิ ขอ สาํ คญั คอื ตอ งหยดุ การทจุ รติ ใหส าํ เรจ็ และไมท จุ รติ เสยี เอง...” พระราชดาํ รสั พระราชทานแกคณะผวู า ราชการจังหวดั แบบบูรณาการในโอกาสเขาเฝาถวายสตั ยป ฏิญาณ ๘ ตุลาคม ๒๕๔๖

254 คูมือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิม่ เตมิ หนาท่พี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ ๒. อา นพระบรมราโชวาทตอไปนี้ แลวตอบคําถาม “...การทจี่ ะอบรมสนบั สนนุ อนชุ นใหไ ดผ ลตามความมงุ หมายของการศกึ ษานนั้ ขา พเจา เหน็ วา การฝก ฝนและปลกู ฝง ความรจู กั เหตผุ ล ความรจู กั ผดิ ชอบชว่ั ดเี ปน สงิ่ จาํ เปน ไมน อ ยกวา การใชว ชิ าการ เพราะการรจู กั พิจารณาใหเห็นเหตเุ หน็ ผล ใหรจู กั จําแนกส่งิ ผิดชอบช่วั ดไี ดโดย กระจา งแจง ยอมทําใหมองบุคคล มองสง่ิ ตา ง ๆ ไดล ึกลงไปจนเห็นความจริงในบคุ คลและ ในสิ่งนั้น ๆ เม่ือไดมองเห็นความจริงแลวก็จะสามารถใชความรูและวิชาการ ปฏิบัติงานทุก อยา งไดดแี ละถกู ตองยิง่ ขน้ึ เปน ประโยชนแกตนเองแกผอู ืน่ ไดมากข้ึน...” พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานปริญญาบัตรของวทิ ยาลยั วิชาการศกึ ษา วนั ที่ ๒๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๑๖ ๑) พระบรมราโชวาทนี้มสี าระสาํ คญั กลา วถงึ อะไร แนวคาํ ตอบ การฝกฝนและปลูกฝงความรูจักเหตุผลและความรูจักผิดชอบช่ัวดีใหแกอนุชนเปนส่ิง จําเปนไมนอยกวาการใชวิชาการ เพราะความรูจักเหตุผลและความรูจักผิดชอบช่ัวดีจะทําให มองบคุ คลและสงิ่ ตา ง ๆ ไดล ึกลงไปจนเห็นความจรงิ เมอ่ื มองเหน็ ความจริงก็จะสามารถใช ความรูแ ละวิชาการปฏิบตั ิงานทกุ อยางไดดแี ละถกู ตอ ง ๒) เราจะนาํ ขอ คิดจากพระบรมราโชวาทนี้ไปปรบั ใชอ ยางไรบา ง แนวคาํ ตอบ ขอ คดิ จากพระบรมราโชวาทนี้ คอื เราควรฝก ฝนใหเ ปน คนรจู กั เหตผุ ลและรจู กั ผดิ ชอบ ช่ัวดี ซ่ึงขอคิดดังกลาวน้ีสามารถนําไปปรับใชในการศึกษาเลาเรียนและการทํางาน ตลอดจน การดําเนนิ ชวี ติ ในเร่ืองตาง ๆ ชอื่ นามสกลุ เลขท่ี ชนั้ โรงเรยี น

คูมอื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพ่ิมเติม หนาท่พี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ 255 กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๘ เรื่อง ความรอบคอบ ผลการเรยี นรู้ ๕. ประยกุ ตแ ละเผยแพรพ ระบรมราโชวาท และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑๐. ปฏิบัตติ นเปนผมู ีวินัยในตนเอง คำช้แี จง อา นพระบรมราโชวาทตอ ไปน้ี แลว ตอบคำถาม “...อยา ทะนงตัววาวเิ ศษกวาผอู ่ืน อยา อวดเกงเกินไป จะทาํ การส่งิ ใดจงไตรตรองให รอบคอบ...” พระบรมราโชวาท ในพิธพี ระราชทานปริญญาบตั รของจฬุ าลงการณม หาวิทยาลยั ๕ กรกฎาคม ๒๕๐๕ ๑. พระบรมราโชวาทนี้ หมายความวาอยางไร แนวคําตอบ ไมว าจะทําการสิ่งใด เชน การศึกษาเลา เรียน การทาํ งาน การดําเนนิ ชีวติ เราอยาทะนงตน หรอื อวดเกงเกินไปวาตนเองวเิ ศษกวาผูอื่น และกอ นจะทาํ การสงิ่ ใดจงไตรต รองใหด ี ใหร อบคอบ ๒. เราจะนาํ ขอ คดิ จากพระบรมราโชวาทนม้ี าใชใ นเรอ่ื งอะไรบา ง ใหน กั เรยี นเขยี นเครอื่ งหมาย 3 ลงใน หนา ขอ ความ (ตอบไดม ากกวา ๑ ขอ ) แนวคาํ ตอบ 3 การทาํ รายงาน 3 การทาํ การบา น 3 การทาํ กิจกรรมกลุม 3 การใชจ าย ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชนั้ โรงเรยี น

256 คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพ่ิมเตมิ หนา ทพ่ี ลเมอื ง ๑-๒ ม.๑ กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๑๙ เรอ่ื ง หลักการทรงงาน ผลการเรยี นรู้ ๕. ประยกุ ตแ ละเผยแพรพ ระบรมราโชวาท และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเปน ผมู ีวินยั ในตนเอง คำชี้แจง แบง กลมุ กลมุ ละ ๔–๖ คน ศกึ ษาหลกั การทรงงานเรอ่ื ง การใชธ รรมชาตชิ ว ยธรรมชาติ และการปลกู ปา ในใจคน แลวรว มกันแสดงความคดิ เหน็ ในประเด็นวา เราจะประยกุ ต ใชห ลกั การทรงงานดังกลาวนี้อยางไร และบันทกึ ผล แนวคาํ ตอบ การใช้ธรรมชาติชว่ ยธรรมชาติ การปลูกป†าในใจคน การประยกุ ตใ ชม้ แี นวปฏิบตั ดิ ังน้ี การประยุกตใช้มีแนวปฏบิ ตั ิดงั นี้ ๑) รวมปลกู ปาตามหลักการทรงงาน ๑) ปลกู ตนไม โดยปลูกปา ๓ อยา ง ประโยชน ๔ อยาง ๒) เขารวมกิจกรรมปลูกปา ๒) นํามาทําระบบบําบัดนํ้าเสียในชุมชน ๓) รวมรณรงคแ ละปองกันการบกุ รุก เชน ทําบอพักนํ้าเสีย โดยเก็บกักน้ําเสียจาก ทําลายปา บา นเรอื น แลว ปลกู หญา เพอื่ ชว ยในการบาํ บดั กลมุ่ ท่ี สมาชกิ ๑. ๔. ๒. ๕. ๓. ๖.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook