Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตอนที่3ส่วนที่1

ตอนที่3ส่วนที่1

Published by ems2512, 2020-07-15 02:46:09

Description: ตอนที่3ส่วนที่1

Search

Read the Text Version

ตอนท่ี ๓ เอกสาร/ความรเู้ สรมิ สำาหรบั ครู รายวชิ าเพ่ิมเติม หน้าทพ่ี ลเมอื ง ๓-๔ ม. ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส่วนท่ี ๑ แบบทดสอบและกจิ กรรม/ใบงาน ส่วนท่ี ๒ เฉลยแบบทดสอบและกจิ กรรม/ใบงาน ส่วนที่ ๓ แบบทดสอบกลางภาค/ปลายภาค ส่วนที่ ๔ เฉลยแบบทดสอบกลางภาค/ปลายภาค ส่วนท่ี ๕ ใบความรู้ ส่วนท่ี ๖ แบบบันทึกและแบบประเมิน ส่วนที่ ๗ ความรู้เสริม

ส่วนที่ ๑ แบบทดสอบและกิจกรรม/ใบงาน รายวิชาเพ่มิ เตมิ หน้าท่พี ลเมือง ๓--๔ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒

๑หน�วยการเร�ยนรูทŒ ่ี ความเปšนไทย • แบบทดสอบกอนเรยี น • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง การแสดงความเคารพตามสถานการณ • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒ เรื่อง การสนทนา • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๓ เรื่อง การแตงกายตามความเหมาะสม • กิจกรรม/ใบงานที่ ๔ เร่อื ง เราเปน คนดีมีสมั มาคารวะ • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๕ เรื่อง การเสยี สละเพือ่ สังคม • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๖ เรอ่ื ง เราเปน คนดีมีวินยั ในตนเอง • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๗ เรื่อง ความมวี ินัยในตนเอง • กิจกรรม/ใบงานที่ ๘ เรื่อง ขนบธรรมเนยี มประเพณแี ละศลิ ปวฒั นธรรมไทย • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๙ เรื่อง ภูมิปญ ญาไทยที่ฉันรูจกั • กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๐ เรือ่ ง ทบทวนความรู • แบบทดสอบหลงั เรียน

198 คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพมิ่ เติม หนาท่ีพลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ แบบทดสอบกอ นเรยี น หนวยการเรยี นรูที่ ๑ คำชแ้ี จง เลอื กคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว ๑. ใครปฏิบัติตนในการแสดงความเคารพ ๕. ข้อใดเปนการกระทำที่ไมใช การเสียสละ ไมเหมาะสม เพ่ือสงั คม ก จริ ะวางพระพทุ ธรูปไวท ่ีหง้ิ พระบนตู ก ชว ยครูถอื ของไปสงท่ีรถ ข หวานนัง่ ประนมมอื เวลาฟง พระเทศน ข บรจิ าคโลหิตแกโ รงพยาบาล ค แบมสวมแวน ตาดำระหวา งการเขา แถว ค บรจิ าควตั ถหุ รอื สงิ่ ของใหผ ปู ระสบภยั ที่สนามโรงเรยี น ง ใหความรวมมือในการสรางสาธารณ- ง ตุก ประนมมอื ระหวางทป่ี ระธาน ประโยชน ในทปี่ ระชุมกำลังจดุ ธูปเทยี นบชู า พระรัตนตรยั ๖. ข้อใดเปนลักษณะของคนที่มีความขยัน หมัน่ เพียร ๒. ข้อใดไมใ ช สิ่งที่ทำใหบ้ ุคลกิ ภาพไมด่ ี ก ถามครูเมือ่ ไมเ ขาใจบทเรียน ในระหวา่ งการสนทนา ข พักผอนแลว จึงคอยทำงานบาน ก กมหนา ค ทำการบา นของเมอ่ื วานในตอนเชา กอ น ข พูดตดิ อา ง สง ครู ค เดนิ ไปเดินมา ง เม่ืองานยากเกินไป จึงเปลี่ยนไปทำ ง มองตาคูสนทนา อยางอ่นื ท่ีงายกวา ๓. ข้อใดเปนเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับ ๗. เพราะเหตุใดเม่ือเราทำผิด จึงต้องรู้จัก การเข้ารว่ มการฟง˜ ธรรมท่สี ุด ทจ่ี ะยอมรับผดิ ก กางเกงยีนส ก เพ่ือใหม ีช่ือเสียง ข กระโปรงสน้ั ข เพ่อื ใหมคี นช่นื ชม ค เส้อื เชต้ิ สีขาว ค เพอื่ ลดปญหาในการทะเลาะเบาะแวง ง เสื้อยืดเอวลอย ง เพื่อใหเราตระหนักไดวาไมควรทำผิด ซำ้ อีก ๔. ขอ้ ใดกล่าวไมถ ูกตอ งเก่ยี วกบั การมี สมั มาคารวะ ก พูดจามหี างเสียง ข แสดงความรูข องตนกบั ผูใหญ ค ไมม ีหลักเกณฑที่ชดั เจนตายตวั ง การวางตวั ใหเหมาะสมกบั โอกาส

คมู อื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพ่มิ เติม หนาทพี่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ 199 ๘. ขอ้ ใดเปน ความหมายของคำวา่ “ประเพณ”ี ๙. ข้อใดจัดเปน ศิลปะไทยดา้ นจติ รกรรม ก งานสรา งสรรคค วามงามใหร บั รไู ดด ว ย ก เจดียภ เู ขาทอง การดู ข ภาพวาดขรัวอนิ โขง ข สง่ิ ทคี่ นในสงั คมหนง่ึ ๆ นยิ มประพฤติ ค พระท่นี งั่ อภเิ ษกดุสิต ปฏบิ ัติตอ เน่อื งกนั มา ง รปู ปน นนู ตำ่ ชาวสุโขทยั ค ความรู ความสามารถ และทักษะของ คนไทยทเ่ี กดิ จากการสง่ั สมประสบการณ ๑๐. ขอ้ ใดเปน วฒั นธรรมการแตง่ กายของไทย ง ลักษณะที่แสดงถึงความเจริญอันเปน ก การนงุ ผาซนิ่ แบบแผนประพฤติปฏิบัติของคนใน ข การสวมถงุ มอื สงั คมเดียวกนั ค การสวมหมวก ง การนงุ กระโปรงยาว

200 คมู อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพมิ่ เตมิ หนา ทพ่ี ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง การแสดงความเคารพตามสถานการณ ผลการเรียนรู้ ๑. มสี วนรว มและแนะนำผูอนื่ ใหอ นรุ กั ษมารยาทไทย ๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปน ผูมวี นิ ยั ในตนเอง คำชแี้ จง เลือกคำท่ีกำหนดใหเติมในชอ งวา งในประโยคใหส ัมพนั ธกนั ที่สงู หนา บาน ถอด ประนมมอื ถอื ของ สวม วางของ กราบเบญจางคประดษิ ฐ ๑. เมอื่ เราเขาไปยังสถานทท่ี มี่ กี ารจัดโตะหมบู ูชา เราตอ งทำความเคารพโดย การ ___________________________ เปน อันดบั แรก ๒. เราเห็นผูใหญทร่ี จู กั เดินมา โดยทเ่ี ราถือของอยู เราควร ____________ แลวยกมือไหว ๓. เราตอง ______________ หมวกทุกครง้ั เมอ่ื แสดงความเคารพผูอ าวุโส ๔. เราควร _________________________ ระหวา งทน่ี ั่งฟง ธรรมในวัด ๕. ถา เราไดรบั รปู เคารพมา เราตอ งวางรูปเคารพไว _________________ ชอ่ื นามสกุล เลขท่ี ชน้ั โรงเรยี น

คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพมิ่ เติม หนาท่ีพลเมือง ๓–๔ ม. ๒ 201 กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒ เรือ่ ง การสนทนา ผลการเรยี นรู้ ๑. มีสวนรว มและแนะนำผูอ ื่นใหอ นุรักษมารยาทไทย ๑๐. ปฏบิ ัติตนเปน ผมู วี ินยั ในตนเอง คำชแ้ี จง เขียนเลาประสบการณท่ีนักเรียนมีสวนรวมในการสนทนาตามหัวขอท่ีระบุลงในกรอบ ทีก่ ำหนดให ลักษณะท่ดี ขี องผสู้ นทนา การปฏิบตั ติ นของนกั เรียน ที่นักเรยี นเคยร่วมสนทนาดว้ ย ในวงสนทนา ช่อื นามสกุล เลขที่ ช้ัน โรงเรยี น

202 คมู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพม่ิ เติม หนาทพี่ ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓ เร่ือง การแตง่ กายตามความเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. มีสว นรวมและแนะนำผูอ ื่นใหอ นรุ ักษมารยาทไทย ๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเปน ผมู ีวนิ ัยในตนเอง คำช้แี จง วาดภาพเครื่องแตงกายลำลองท่ีสุภาพเรียบรอย และเขียนแสดงสรุปหลักสำคัญ ในการแตงกายลงในกรอบท่กี ำหนดใหสัมพนั ธก บั ภาพ ความสะอาด ความสภุ าพเรียบรอ้ ย ชื่อ นามสกลุ ความเหมาะสม โรงเรยี น เลขที่ ชน้ั

คมู ือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพิม่ เติม หนาท่พี ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ 203 กิจกรรม/ใบงานท่ี ๔ เรอ่ื ง เราเปนคนดมี สี ัมมาคารวะ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีสวนรวมและแนะนำผอู ่นื ใหอนรุ กั ษมารยาทไทย ๑๐. ปฏบิ ัติตนเปน ผูมวี นิ ยั ในตนเอง คำช้แี จง เขยี นบอกเลา ประสบการณข องตนเองทแ่ี สดงออกถงึ ความเปน ผมู สี มั มาคารวะตอ ผอู น่ื ช่ือ นามสกุล เลขท่ี ชั้น โรงเรยี น

204 คูม อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพมิ่ เตมิ หนา ที่พลเมือง ๓–๔ ม. ๒ กิจกรรม/ใบงานที่ ๕ เรือ่ ง การเสียสละเพอ่ื สังคม ผลการเรยี นรู้ ๒. แสดงออกและแนะนำผอู น่ื ใหม คี วามเออื้ เฟอ เผอ่ื แผ และเสยี สละตอ สงั คม ๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปน ผมู ีวินัยในตนเอง คำชแ้ี จง หาภาพขา วทแ่ี สดงถงึ ความเสยี สละตอ สงั คมแลว เขยี นบรรยายเนอ้ื หาในขา ว พรอ มทง้ั บอกวาบุคคลที่อยูในขา วมคี วามเสียสละตอสงั คมอยางไร ขา่ ว ส่งิ ท่แี สดงใหเ้ หน็ ถึงความเสียสละต่อสงั คม ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชนั้ โรงเรียน

คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนาทีพ่ ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ 205 กิจกรรม/ใบงานท่ี ๖ เรื่อง เราเปนคนดีมีวนิ ัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเปน ผมู ีวนิ ยั ในตนเอง คำชีแ้ จง ตอบคำถาม ๑. หากคนในสงั คมขาดคณุ ธรรมเรอื่ งความซื่อสัตยสุจรติ จะเกดิ อะไรข้ึน ๒. ความซ่ือสตั ยสจุ ริตมแี นวทางการปฏิบตั อิ ยา งไร

206 คมู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา ทีพ่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ ๓. ความขยันหมน่ั เพียรสามารถกระทำไดอ ยา งไร ๔. ถาเราเปน ผูทมี่ ีความอดทนจะสงผลดีแกเราอยา งไร ชือ่ นามสกลุ เลขที่ ชั้น โรงเรียน

คมู ือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพ่มิ เติม หนา ท่พี ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ 207 กิจกรรม/ใบงานท่ี ๗ เรือ่ ง ความมวี ินยั ในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปนผมู วี ินัยในตนเอง คำชีแ้ จง เขยี นความมวี ินัยทีส่ ามารถกระทำไดในฐานะทเ่ี ปนนักเรียนและเปน คนไทย หนา้ ท่ใี น ฐานะทีเ่ ปน นกั เรยี น หน้าทีใ่ น ฐานะที่เปน คนไทย ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชนั้ โรงเรยี น

208 คมู อื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพ่มิ เติม หนาที่พลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ กิจกรรม/ใบงานท่ี ๘ เรอ่ื ง ขนบธรรมเนียมประเพณแี ละศลิ ปวฒั นธรรมไทย ผลการเรียนรู้ ๓. เหน็ คณุ คา อนรุ กั ษ และสบื สานขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภูมิปญญาไทย ๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผมู ีวนิ ัยในตนเอง คำช้ีแจง ติดภาพและเขียนชื่อขนบธรรมเนียมประเพณีและศิลปวัฒนธรรมที่นักเรียนเคยมี สว นรวม พรอ มบรรยายส้ัน ๆ ขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม ชอื่ นามสกุล เลขที่ ช้ัน โรงเรยี น

คูมอื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพิม่ เติม หนา ทพ่ี ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ 209 กิจกรรม/ใบงานที่ ๙ เร่ือง ภูมปิ ญ˜ ญาไทยที่ฉันรู้จัก ผลการเรยี นรู้ ๓. เหน็ คณุ คา อนรุ กั ษ และสบื สานขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ญ ญาไทย ๑๐. ปฏิบัติตนเปนผมู ีวนิ ยั ในตนเอง คำช้ีแจง หาภาพถายภูมปิ ญ ญาไทยท่ีนักเรยี นรจู ักแลวเขยี นอธิบายในประเดน็ ทก่ี ำหนดให ชื่อภมู ปิ ญ˜ ญา รายละเอยี ดของภูมปิ ˜ญญาทเี่ ลอื ก คณุ คา่ และวธิ ีการอนรุ กั ษภ มู ปิ ญ˜ ญาน้ี ช่อื นามสกลุ เลขที่ ชั้น โรงเรียน

210 คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพ่มิ เตมิ หนา ท่พี ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๑๐ เร่อื ง ทบทวนความรู้ ผลการเรียนรู้ ๑. มีสว นรว มและแนะนำผอู นื่ ใหอนุรกั ษมารยาทไทย ๒. แสดงออกและแนะนำผอู นื่ ใหม คี วามเออ้ื เฟอ เผอื่ แผ และเสยี สละตอ สงั คม ๓. เหน็ คณุ คา อนรุ กั ษ และสบื สานขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภูมิปญญาไทย ๑๐. ปฏิบตั ติ นเปน ผมู วี นิ ัยในตนเอง คำช้แี จง เขยี นเรยี งความเรื่อง “สิง่ ท่ฉี นั ไดร ับจากการเรยี นเรือ่ ง ความเปนไทย” ลงในกรอบท่ี กำหนดใหแลวครคู ัดเลือกผลงานเพอื่ จดั ปายนเิ ทศ ชอ่ื นามสกุล เลขท่ี ชั้น โรงเรยี น

คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพมิ่ เตมิ หนาที่พลเมือง ๓–๔ ม. ๒ 211 แบบทดสอบหลังเรยี น หนว ยการเรยี นรูท ่ี ๑ คำชแี้ จง เลอื กคำตอบท่ถี กู ต้องที่สุดเพียงคำตอบเดยี ว ๑. ข้อใดเรียงลำดับการแสดงความเคารพ ๔. การกระทำในข้อใดแสดงออกถึงการมี ในทีป่ ระชมุ ถูกตอ้ ง สมั มาคารวะ ก เคารพประธาน > เคารพพระพุทธรูป ก เดินตัวตรงผา นผใู หญ > เคารพพระบรมฉายาลักษณ ข กลา วคำวา ขอโทษเมอ่ื ตอ งเดนิ ตดั แถว ข เคารพประธาน > เคารพพระบรม- ค เมอ่ื เพอ่ื นแสดงความคดิ เหน็ ไมต รงกบั ฉายาลักษณ > เคารพพระพทุ ธรูป เรา ตองรีบแยง ทนั ที ค เคารพพระบรมฉายาลักษณ > เคารพ ง พูดแสดงความคิดเห็นของตนเอง ประธาน > เคารพพระพทุ ธรูป ระหวา งท่ผี ใู หญสนทนากัน ง เคารพพระพทุ ธรปู > เคารพพระบรม- ฉายาลกั ษณ > เคารพประธาน ๕. ขอ้ ใดเปนการเสยี สละเพื่อสงั คม ก ชว ยคณุ ลงุ ทาสบี า น ๒. ข้อใดไมใช กิริยาในการสนทนาอย่างมี ข แบง ขนมใหน องสาว มารยาท ค ทำขนมมาใหเ พื่อน ๆ ก ยนื พิงผนัง ง บรจิ าคเสอ้ื ผา ทไ่ี มไดใ ชแ ลว ใหมลู นธิ ิ ข ยมิ้ แยม แจมใส ค พดู ไพเราะกับทุกคน ๖. ขอ้ ใดไมใช ความซ่ือสัตยส ุจรติ ง รบั ฟง คนทีส่ นทนาดวย ก ความจรงิ ใจ ข ความถูกตอง ๓. ข้อใดเปนการแต่งกายท่ีเหมาะสมกับ ค การรกั ษาคำพดู สถานการณ ง การกลบเกลือ่ นความผดิ ก สวมเสื้อสีดำไปงานวนั เกดิ คุณลุง ข นุง กางเกงขาสั้นไปโรงเรยี นวันหยุด ๗. ใครปฏิบัติตนด้านความมีวินัยในตนเอง ค สวมเสอ้ื เชิ้ตและชดุ สทู เขา รว มประชมุ ไดเ้ หมาะสมที่สดุ ง สวมเส้ือยืดกางเกงขายาวเม่ือมาสอน ก หลินปวดทองแตอ ดทนไว นกั เรียนทโี่ รงเรยี น ข บอสสารภาพกับครูวาทำแจกันของครู แตก ค ดาวหาคำตอบของการบานจาก อินเทอรเนต็ ง เนมรีบทำการบา นเพอื่ ทจ่ี ะใหเพ่อื น ๆ ลอกในตอนเชา

212 คูมอื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพมิ่ เตมิ หนา ท่พี ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ ๘. “เครอ่ื งถมทอง” เปน ศลิ ปะไทยทางดา้ นใด ๙. ข้อใดเปนขนบประเพณี ก ดานดนตรี ก การไหว ข ดานจิตรกรรม ข กฎหมาย ค ดานประณตี ศลิ ป ค การทักทาย ง ดานประตมิ ากรรม ง การนับถือบรรพบุรษุ ๑๐. ขอ้ ใดไมใ ช ภูมิปญ˜ ญาไทย ก การด่มื นำ้ ชา ข การตำน้ำพรกิ ค สมนุ ไพรรักษาโรค ง การปนเครอ่ื งปน ดนิ เผา

๒หน�วยการเรย� นรŒูท่ี รกั ชาติ ยึดมน�ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั รย�  • แบบทดสอบกอ นเรยี น • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๑๑ เร่อื ง เหรยี ญกษาปณ • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๒ เร่อื ง พพิ ธิ ภณั ฑหรรษา • กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๓ เรอ่ื ง ศาสนสถาน • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๑๔ เร่อื ง เพลงสรรเสรญิ พระบารมี • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๑๕ เรือ่ ง เพลงพระราชนพิ นธ • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๖ เรื่อง ทบทวนความรู • แบบทดสอบหลงั เรยี น

214 คมู อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพมิ่ เติม หนาทพี่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ แบบทดสอบกอ นเรียน หนวยการเรียนรูท ี่ ๒ คำชีแ้ จง เลอื กคำตอบทถี่ กู ตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว ๑. ข้อใดไมใช ลักษณะสำคัญของสังคมไทย ๔. ข้อใดเปนหน้าทขี่ องพลเมอื งดขี องชาติ ในปจ˜ จบุ นั ก เสียภาษีเกินอัตราทีก่ ำหนด ก มศี าสนาเปนเครือ่ งยดึ เหนยี่ วจติ ใจ ข ไมเ ขา เรยี นวิชาภาษาตา งประเทศ ข คนในสงั คมเทดิ ทนู สถาบนั ค ใชส ินคา ทผ่ี ลติ ขน้ึ ในประเทศไทย พระมหากษตั ริย ง ขอใชส ทิ ธเิ ลอื กตงั้ กอ นอายุ ๑๘ ป ค เปนสงั คมทมี่ คี วามเกอ้ื กูลถอ ยที บรบิ รู ณ ถอ ยอาศยั กนั ง ยังคงมีการแบงช้ันตามระบบศักดินา ๕. สถาบนั ศาสนามคี วามสำคญั อย่างไร เหมือนในสมัยอยธุ ยา ก เปนท่พี ึ่งยดึ เหนยี่ วทางจิตใจ ข เปน แหลงผลติ ประชากรทมี่ ีคุณภาพ ๒. “บรรพบุรุษของไทยแตโ่ บราณ ค เปน ศูนยรวมคตคิ วามเชอื่ ของคน ปกบ้านปอ‡ งเมืองค้มุ เหยา้ ในทองถ่นิ เสียเลือดเสียเน้อื มใิ ช่เบา ง เปนสถาบันหลอหลอมความรสู ึก หน้าที่เรารักษาสืบไป” นึกคิดของคนในชาติ ข้อความนี้แสดงถงึ สงิ่ ใด ก ความเกงกาจของบรรพบุรษุ ๖. สถาบนั ใดทำหนา้ ทแ่ี ทนทกุ สถาบนั ในสงั คม ข ความแตกแยกของสังคมไทย ก สถาบันชาติ ค ความเสียสละของคนในสมัยกอน ข สถาบนั ศาสนา ง ความไมส งบสขุ ของชาตบิ านเมอื ง ค สถาบันเศรษฐกจิ ง สถาบันพระมหากษตั รยิ  ๓. ใครไมไดปฏิบัติตนท่ีแสดงออกถึงความ รกั ชาติ ๗. ข้อใดเปนวิธีการแสดงออกถึงการยึดม่ัน ก พมิ ลรองเพลงชาติไทยไดคลอ งแคลว ในศาสนาทเี่ หมาะสมทีส่ ดุ ข กนกหาซื้อของโบราณหายากมาเก็บไว ก เขา รว มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ที่บาน ข เลือกคบเฉพาะผูท่ีนับถือศาสนาเดียว ค สมพลชอบอานหนังสือประวัติศาสตร กับตน ชาติไทย ค ศึกษาหลักคําสอนของทุกศาสนาจน ง นภาเขา เยย่ี มชมโบราณสถานทุกครง้ั แตกฉาน ท่มี โี อกาส ง นำหลักคำสอนของศาสนาที่ตนนับถือ มาปฏบิ ัตใิ นชวี ิตประจำวนั

คูมอื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพม่ิ เติม หนาทีพ่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ 215 ๘. ขอ้ ใดไมใ ช สญั ลกั ษณทเ่ี กยี่ วกับ ๙. คำกล่าวในข้อใดมีความสอดคล้องกับ พระมหากษัตริย สถาบนั พระมหากษตั รยิ  ก ธงมหาราช ก ศนู ยร วมจติ ใจของคนไทยท้งั ชาติ ข ธงชาตไิ ทย ข เคร่อื งหลอหลอมใหค นไทยมี ค พระบรมฉายาลกั ษณ อัตลักษณเ ปนหน่งึ เดยี ว ง เพลงสรรเสริญพระบารมี ค มีอำนาจควบคุมใหบคุ คลปฏบิ ตั ิ ตามกฎเกณฑข องสังคม ง ชวยเสรมิ สรางความมัน่ คงและ ความสามคั คีของคนในชาติ ๑๐. ผทู้ น่ี ำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาเปน แนวทางในการดำเนนิ ชวี ติ จะมีลกั ษณะอย่างไร ก มีความเปน อยูทด่ี แี ละมฐี านะร่ำรวย ข ประกอบอาชีพทางดา นเกษตรกรรม ค ใชจา ยเงินอยา งประหยัดและเหมาะสม ง ดำเนนิ ชวี ิตอยไู ดโดยไมต อ งพงึ่ พาผอู ่ืน

216 คูม อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนาท่พี ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๑ เรือ่ ง เหรยี ญกษาปณ ผลการเรยี นรู้ ๔. เปนแบบอยางและแนะนำผูอ่ืนใหมีความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และ เทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ  ๑๐. ปฏิบัติตนเปนผูม วี ินัยในตนเอง คำชแี้ จง สำรวจรายละเอียดตาง ๆ ในเหรียญ แลว เขยี นสิง่ ท่เี หน็ ลงในกรอบทีก่ ำหนด เหรียญกษาปณช นิดราคา ดานหนา ดานหลัง ช่อื นามสกุล เลขท่ี ชน้ั โรงเรยี น

คมู อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพิ่มเติม หนาท่พี ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ 217 กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๒ เรือ่ ง พิพิธภัณฑห รรษา ผลการเรยี นรู้ ๔. เปนแบบอยางและแนะนำผูอื่นใหมีความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และ เทดิ ทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ  ๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปนผมู วี ินัยในตนเอง คำชแี้ จง แบงกลุม กลุมละ ๔–๖ คน อานนิทานเร่ือง พิพิธภัณฑหรรษา และรวมกันอภิปราย ในประเด็นทกี่ ำหนดให พิพธิ ภัณฑหรรษา “พอ ครบั วนั นวี้ นั หยดุ เสาร– อาทติ ย พอ จะพาโจไปเทยี่ วไหนครบั ” ลกู ชายวยั ๑๐ ขวบรบเรา พอ ของเขา “แลว วันนี้โจอยากไปเทยี่ วไหนละ ” พอถาม “โจอยากไปสวนสตั วครบั ” ลูกบอกกบั พอ “พอวาสวนสัตวมันนาเบื่อแลวนะ เอาเปนวาวันนี้พอจะพาลูกไปชมพิพิธภัณฑดีกวา” พอ กลาว “ก็ดเี หมือนกันครบั แตทน่ี น่ั มันเปน ยงั ไงครบั ” ลกู ถามดว ยความสงสัย “ท่ีนั่นมีคนในสมัยกอนมากมายเลย แตลูกรูไหมคนที่อยูท่ีน้ันนะเปนบุคคลสำคัญใน ประวตั ิศาสตร เปน รปู ปนดว ยฝม อื คนไทยนะ” พอ บอกโจ “ผมชักอยากจะไปแลว ซคิ รบั เราไปกันสองหนุมหลอ นะครับ เพราะแมจ ะไปเยี่ยมเพือ่ น” ลูกชายพูดกบั พอ ดว ยสีหนาทร่ี า เรงิ ประมาณบายสี่โมงเย็นเมื่อสองพอลูกยางกรายเขาสูพิพิธภัณฑก็รูสึกวาบรรยากาศดูวังเวง ผคู นทเ่ี ขาชมดบู างตา แมแ ตเ จาหนาทก่ี ็ยงั ไมออกมาตอ นรับ ซ่ึงผิดกับพพิ ิธภณั ฑอนื่ ทวั่ ไป สรา ง ความงงงวยใหกับสองพอลูกเปน อยา งมาก แตก เ็ ดินดไู ปเรอื่ ย ๆ “พอ ครบั นัน่ คนใสโจงกระเบน” ลูกถามดวยความสงสยั “นนั่ คนสมยั สุโขทัยไงลูกเขาแตงกายกันแบบน้ี” พอบอกลกู ใหค ลายความสงสยั “พอครับ ผมขอเดนิ ไปดูรอบ ๆ พิพธิ ภัณฑนะครับ” ลูกบอกพอกอนเดนิ จากไป แตผเู ปน พอไมไดยินที่ลูกบอก เม่ือไมเห็นลูกเขาก็มีความคิดวาลูกคงเดินลวงหนาไปดูสิ่งตาง ๆ ท่ีอยูใน พพิ ธิ ภณั ฑกอนเดี๋ยวก็เจอกัน โจเดินชา ๆ มองหุนแตละตัวในพิพธิ ภัณฑ “เจาเปน ใคร เขา มาทีน่ ีไ่ ดอ ยา งไร” เสยี งดังกองขน้ึ โจหันไปมองกไ็ มเ ห็นมใี คร มแี ตน กั รบ สมัยสโุ ขทยั ทำใหเขาคดิ วาเขาคงหูแวว ไปเอง

218 คมู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หนาท่ีพลเมือง ๓–๔ ม. ๒ ทนั ใดนนั้ เองโจกม็ องเหน็ ตลาดทมี่ ผี คู นวนุ วาย เดนิ จบั จา ยซอื้ ของ ทำใหเ ขาคดิ และรำพงึ วา “ท่ีนี่มนั ทีไ่ หนกนั แน พูดกบั ใครไมเห็นมีใครพดู กบั เราสกั คน เราหลงมาอยูท่ไี หนนี่ อยาก เจอพอ อยากกลบั บาน” เมื่อโจเดนิ ไปอีกหอ งหน่งึ ก็เห็นทหารไทยกำลังตอสกู บั ทหารพมาเหมอื นในสงครามไมม ีผดิ เพ้ียน “วาว นีเ่ ราฝน หรอื เร่ืองจรงิ นี่ พอ...พอ ครา บ” โจเรยี กหาพอ “พอไปไหนนะ เหนื่อยแลวนะ หรือวาที่ไมมีคนมาเท่ียวที่นี่ เพราะมีผีอยูที่น่ี ผีแนแน” โจคิดเองในใจ “เจา เด็กนอยเจาไมตองคิดในใจอยา งน้ันหรอก เราทหารนกั รบ” ทหารไทยโบราณคนหนง่ึ กลา ว “โจหยกิ ตวั เอง เพราะคดิ วา มนั คงเปน แคค วามฝน มนั ไมใ ชเ รอ่ื งจรงิ แน ๆ คนในพพิ ธิ ภณั ฑ แหงนจ้ี ะมีชีวติ ไดอ ยางไร “โจเจาเด็กนอย เจาไมไดฝนไปหรอก หุนรูปปนในพิพิธภัณฑแหงนี้มันจะมีชีวิตในตอน กลางคนื เราเปนทหารสมยั สโุ ขทยั และเปน ผูค วบคมุ อยูทน่ี ่”ี ทหารกลา กลา ว “พวกทา นไมใชผ ีแนน ะ ทำไมพวกทานเปนหนุ แลวถึงมชี วี ติ ไดค รับ” โจเกิดความสงสัย “ในเมื่อเจาอยากรู ขากจ็ ะเลาใหเจา ฟง ท่ีนแี่ ตก อนพวกเราก็เปนหนุ ธรรมดาไมมีชวี ิตหรอก แตม คี นแอบเอาหนงั สอื เวทมนตม าอา นปลกุ เสก ทำใหพ วกเรากลบั มามชี วี ติ ในตอนกลางคนื อกี ครง้ั เจา เดก็ นอยในเมือ่ เจารูอยางน้แี ลวเจาตอ งชวยพวกขานะ” ทหารกลา เลา ใหโ จฟง “ทานจะใหผ มทำอยา งไรครบั ” โจถาม นายทหารไดห ยิบหนังสอื ที่จะถอนเวทมนตทต่ี นมอี ยมู าอธบิ ายข้นั ตอนใหแ กเ ด็กนอยฟง “การท่ีเราจะถอนเวทมนตมันมีกฎอยูวา ตองอานคำแกคำสาปตอนพระอาทิตยกำลังจะ ตกดิน แลวพวกเราจะกลายเปนหุน เหมือนเดิม” นายทหารอธิบายขัน้ ตอนใหโ จเดก็ นอยฟง “ทำไมทา นไมอ านเองละ” โจถามดว ยความสงสัย “ไมได มนั มขี อแมอยูวาตองเปน เด็กอายุ ๑๐ ขวบ และท่ีพวกขาอยากเปนหนุ เหมือนเดมิ ก็เพราะพวกขาจะมชี ีวิตเฉพาะในตอนกลางคืนจะทำอะไรกไ็ มได ท่ีสำคัญขา ออกจากทีพ่ ิพธิ ภณั ฑ แหง นี้ไมไ ด ถาออกขา จะกลายเปน เถา ธลุ ีดินไปเลย” ทหารกลาบอก “กไ็ ด ผมจะทำตามทที่ า นบอก แตผ มอยากถามวา ในอดตี ความเปน อยขู องทา นเปน อยา งไร บา ง สะดวกสบายเหมอื นในปจ จบุ นั หรอื เปลา และในสงั คมของทา นวนุ วายเหมอื นกบั ผมหรอื เปลา ” โจถามดวยความสงสยั “สมยั ขา นะในนำ้ มปี ลาในนามีขา ว ผคู นพ่ึงพาอาศัยชว ยเหลอื กันและกันมคี วามสามคั คกี นั เจา รไู หมเวลาทเ่ี ราไดร บั ความเดอื ดรอ น เรากส็ ามารถไปสน่ั กระดง่ิ รอ งทกุ ขไ ด เรามขี นบธรรมเนยี ม ประเพณที ด่ี งี าม ทำใหส งั คมของขา อยกู นั อยา งรม เยน็ เปน สขุ ทสี่ ำคญั คนไทยรกั ประเพณวี ฒั นธรรม และหวงแหนความเปน ชาติเปนทีส่ ดุ แคน้เี จาเขาใจแลวหรือยัง” ทหารกลาอธบิ าย

คมู อื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนา ทีพ่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ 219 “แตทำไมสมัยผมคนถึงไมคอยจะสามัคคีปรองดองกันเทาไร สังคมก็วุนวายทำใหผมเบื่อ ชีวติ นีเ้ ปน อยางมาก อยากไปอยูอยางทา นจงั ” โจบอกดวยความเบ่ือหนาย “เจา จะไปอยไู ดอยางไรสงิ่ ทผ่ี า นไปแลวมนั ก็เปนอดีต สง่ิ ที่เจาจะทำไดใหดีขน้ึ กค็ อื เรมิ่ จาก ตวั เจา เจาตองดำเนนิ ชีวิตดว ยความซ่ือสัตยส จุ รติ และเปน คนมีคณุ ธรรม ตอ งรักและหวงแหน ความเปน ชาติ เพ่ือใหเกิดความสงบสุขเหมอื นในอดีตไง” ทหารสอน กอนที่พระอาทิตยจะตกดิน โจก็ไดอานแกเวทมนต ทันใดนั้นเองก็มีลำแสงออกมา จากพพิ ธิ ภณั ฑ เมือ่ อา นจบลำแสงน้นั กห็ ายไปแลว ทกุ อยา งกลับคืนสูสภาพเดมิ หลงั จากทอ่ี าน แกเวทมนตเสร็จ โจก็นึกขอบคุณทหารในยุคสมัยสุโขทัยที่ทำใหเขานึกรักประเทศไทยและรูสึก ภาคภูมิใจทเี่ กดิ เปน คนไทย ซึ่งมพี ระมหากษัตริยเปน ศนู ยกลางยดึ เหนย่ี วจติ ใจคนท้ังชาติ “ผมสญั ญาวา ผมจะทำตามเพอ่ื ใหเ มอื งไทยเปน เมอื งทน่ี า อยเู หมอื นในอดตี ตลอดไป” โจให คำสัญญา หลังจากที่โจอานเสร็จ โจก็นึกข้ึนไดวาตองพิสูจนใหเห็นวาถอนเวทมนตไดผลหรือเปลา โจเดนิ ยอ นกลบั เขา ไปในหองทเ่ี ดนิ ผา นมาแลว ปรากฏวา ไมม ีหนุ ตวั ใดเคลือ่ นไหวเลย โจไดแตย ิ้ม ดว ยความรสู กึ โลงใจและไดพบกับพอ ซึ่งยนื รออยู หลงั จากนนั้ พิพิธภัณฑแหงนก้ี ไ็ มวังเวงตอ ไป เพราะมผี ูเขา ชมมากข้นึ เม่ือถงึ วันหยดุ ไมได ไปโรงเรยี นโจก็จะแวะเวียนมาท่ีนเ่ี สมอ ท่มี า: ดร.พนม พงษไ พบลู ย และคณะ. นทิ านวิถปี ระชาธปิ ไตย ดอต คอม เลม ๑

220 คมู อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพ่มิ เติม หนา ทพี่ ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ ๑. พิพธิ ภณั ฑม คี วามสำคัญอยา งไร ๒. นกั เรียนไดค วามรูอะไรบางเกีย่ วกบั ความเปน มาของชาติไทย ๓. นักเรียนคิดวา ความรูที่ไดสามารถนำไปใชประยุกตใชในชวี ิตประจำวนั ไดห รือไม อยางไร

คมู ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา ทีพ่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ 221 ๔. รวบรวมรายชือ่ พพิ ธิ ภัณฑสถานแหง ชาติในภมู ภิ าคทนี่ ักเรยี นอาศยั อยูล งในตาราง รายช่อื พพิ ธิ ภัณฑ จังหวัดท่ีตั้ง กลุม่ ที่ สมาชิก ๑. ๔. ๒. ๕. ๓. ๖.

222 คูมอื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพ่ิมเตมิ หนาท่พี ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๓ เรือ่ ง ศาสนสถาน ผลการเรยี นรู้ ๔. เปนแบบอยางและแนะนำผูอื่นใหมีความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และ เทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย ๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเปน ผมู ีวินัยในตนเอง คำชแ้ี จง แบง กลมุ กลมุ ละ ๔–๖ คน รว มกนั อภปิ รายถงึ สงิ่ ตา ง ๆ ทพี่ บเหน็ ในศาสนสถานทไ่ี ป ศกึ ษา แลว บนั ทึกผล ชื่อศาสนสถาน สงิ่ ตาง ๆ ท่พี บเห็น การปฏบิ ตั ติ นทแี่ สดงออกถงึ การยดึ มน่ั ในศาสนา กลุ่มท่ี สมาชกิ ๑. ๔. ๒. ๕. ๓. ๖.

คูมือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา ท่พี ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ 223 กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๔ เรอ่ื ง เพลงสรรเสรญิ พระบารมี ผลการเรยี นรู้ ๔. เปนแบบอยางและแนะนำผูอื่นใหมีความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และ เทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั รยิ  ñð. »¯ÔºµÑ Ôµ¹à»š¹¼ÁŒÙ ÇÕ ¹Ô ÂÑ ã¹µ¹àͧ คำชแี้ จง ศึกษาขอมลู เร่อื ง เพลงสรรเสรญิ พระบารมี แลว ตอบคำถาม เพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว ทรงโปรด- เกลาฯ ใหมีการแตงเพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้น โดยในครั้งแรกเพ่ือใชในพระราชพิธีลงสรง ของพระบรมโอรสาธิราช เจาฟามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร และไดใชเปนเพลง ชาติ ระหวา ง พ.ศ. ๒๔๓๑–๒๔๗๕ ดวย โดยมผี ูแ ตง เพลงสรรเสริญพระบารมถี วายหลาย เพลง ทงั้ นพี้ ระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา เจา อยหู วั รชั กาลที่ ๕ ไดโ ปรดเพลงทส่ี มเดจ็ พระเจา บรมวงศเธอ เจา ฟา กรมพระยานรศิ รานุวดั ติวงศ ทรงนพิ นธคำรอง และนายปโยตร ชูรอฟ- สก้ี (Pyotr Schurovsky) นักดนตรี นักแตง เพลงชาวรสั เซยี ไดประพันธท ำนองถวาย โดยมี เน้อื รองดังน้ี “ขาวรพุทธเจา เอามโนและศริ ะกราน นบพระภมู ิบาล บญุ ดิเรก เอกบรมจกั รนิ พระสยามนิ ทร พระยศยิง่ ยง เย็นศริ ะเพราะพระบรบิ าล ผลพระคุณ ธ รักษา ปวงประชาเปนสุขศานต ขอบันดาล ธ ประสงคใ ด จงสฤษด์ดิ ัง หวังวรหฤทยั ดุจถวายชัย ฉะน”้ี ตอมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา เจาอยูหัว รชั กาลที่ ๖ ไดโ ปรดเกลา ฯ ให แกไขชวงทา ยของเพลงสรรเสรญิ พระบารมี จาก “ดุจถวายชยั ฉะน”้ี เปน “ดจุ ถวายชัย ชโย” และยังใชกนั มาอยจู นถึงปจจบุ ันนี้ ทม่ี า: พลเรอื โท ทวีวุฒิ พงพพิ ฒั น. นาวกิ ศาสตร.

224 คูม ือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา ที่พลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ ๑. นักเรยี นไดย ินเพลงสรรเสรญิ พระบารมีเมอ่ื ใดบา ง ๒. เราควรปฏิบัติตนอยา งไรเมือ่ ไดยินเพลงสรรเสริญพระบารมี ๓. นกั เรียนคดิ วาเพลงสรรเสริญพระบารมีความสำคญั อยา งไร ๔. เพลงสรรเสริญพระบารมมี ีความหมายวาอยางไร ช่ือ นามสกลุ เลขที่ ชั้น โรงเรยี น

คมู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนา ท่ีพลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ 225 กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๕ เร่ือง เพลงพระราชนพิ นธ ผลการเรยี นรู้ ๔. เปนแบบอยางและแนะนำผูอ่ืนใหมีความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตรยิ  ๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผมู วี นิ ัยในตนเอง คำช้แี จง แบงกลุม กลุมละ ๔–๖ คน ชวยกันเลือกเพลงพระราชนิพนธในพระบาทสมเด็จ พระเจา อยหู วั ที่ช่ืนชอบกลุมละ ๑ เพลง แลว บันทึกผลในประเด็นที่กำหนดให ๑. เขยี นบอกชื่อเพลงและคำรองเพลงพระราชนิพนธท ่รี วมกนั เลอื ก ๒. เหตผุ ลท่ีเลือกเพลงนี้ ๓. ชอ่ื เพลงพระราชนพิ นธท ่ีเพอื่ นกลมุ อืน่ คดั เลือกมามอี ะไรบาง

226 คูมอื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนา ท่พี ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ ๔. พระบรมราโชวาทดังกลา วนี้มีความหมายวา อยา งไร “...เลน ดนตรีเพอ่ื ใหเ ปนศลิ ปะท่ีดีเปน ทนี่ ิยมของประชาชน และเพอ่ื ใหประชาชน ไดมีความบันเทงิ ใหป ระชาชนไดร ูจ กั วาดนตรีคอื อะไร...” พระบรมราโชวาท พระราชทานแกชาวคณะสนุ ทราภรณ เนอื่ งในวาระครบ ๓๐ ป วงดนตรีสุนทราภรณ ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐาน วันท่ี ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๒ ๕. นอกจากพระปรีชาสามารถทางดานดนตรีแลว นักเรียนทราบหรือไมวา พระบาทสมเด็จ พระเจาอยูหัวทรงพระปรชี าสามารถทางดา นใดอีกบา ง กลุ่มท่ี สมาชิก ๑. ๔. ๒. ๕. ๓. ๖.

คมู ือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพ่มิ เตมิ หนาทพี่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ 227 กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๖ เรื่อง ทบทวนความรู้ ผลการเรยี นรู้ ๔. เปนแบบอยางและแนะนำผูอื่นใหมีความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และ เทดิ ทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ  ๑๐. ปฏิบัติตนเปนผูมวี ินัยในตนเอง คำชี้แจง ตอบคำถาม ๑. บอกวิธกี ารปฏิบัติตนท่แี สดงออกถงึ ความรักชาติในรูปแบบของตนเอง ๒. นกั เรยี นคิดวา สิ่งใดที่บง บอกความเปนชาตไิ ทยบา ง

228 คมู ือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพิม่ เติม หนา ทพี่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ ๓. นกั เรียนเปน ศาสนกิ ชนทีด่ หี รอื ไม อยางไร ๔. หลงั จากเรยี นรพู ระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา อยหู วั แลว นกั เรยี นคดิ วา จะนอ มนำ มาเปนแบบอยางในการดำเนินชีวิตอยา งไร ๕. นักเรียนและสมาชิกในครอบครัวมีสวนรวมแสดงความจงรักภักดีตอสถาบันพระมหากษัตริย อยา งไรบา ง ช่อื นามสกุล เลขที่ ชั้น โรงเรียน

คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา ท่ีพลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ 229 แบบทดสอบหลงั เรยี น หนวยการเรียนรูท่ี ๒ คำช้แี จง เลอื กคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว ๑. ข้อใดไมเกีย่ วขอ งกบั สังคมไทย ๔. ขอ้ ใดเปน วธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นเปน พลเมอื งดี ก ประกอบดวย ๓ สถาบันหลัก ของชาติในฐานะนักเรียน ข มสี ถาบนั ศาสนาเปนที่พง่ึ ทางจติ ใจ ก บริจาคทรพั ยสินเงินทองใหก บั ค มีสถาบันเศรษฐกิจเปนองคประกอบ หนวยงานของรัฐ สำคัญ ข ศกึ ษาประวตั คิ วามเปน มาของชาตไิ ทย ง คนในชาตติ างเทดิ ทูนสถาบนั พอสังเขป พระมหากษตั ริย ค ไมใชสินคาทผ่ี ลติ หรือนำเขา จาก ตางประเทศโดยเดด็ ขาด ๒. ข้อใดเปนการกระทำที่ให้ความสำคัญต่อ ง เปน แกนนำจดั นทิ รรศการเพอื่ บอกเลา สัญลกั ษณเ กย่ี วกับชาติ ความเปน มาของของชาติไทย ก นิดาใชธ นบตั รของไทยซื้อของทีต่ ลาด ข พรี ะสอนนอ งทำการบา นวชิ าภาษาไทย ๕. เพราะอะไรเราจงึ ต้องปฏิบัติตนตามหลกั ค วิทยาติดแสตมปที่ซองจดหมายกอน ของศาสนาท่ตี นนับถอื นำสง ก เปนขอ บังคบั ทางสงั คม ง ดนัยรวมรองเพลงชาติหนาเสาธงกับ ข เปนขอบงั คับท่ีมีผลทางกฎหมาย เพอื่ น ๆ ค คำสอนของศาสนามงุ หวงั ใหเ รา ประพฤติดี ๓. ข้อใดไมควรเปนข้อสรุปหลังจากศึกษา ง ปรารถนาใหตนเองสขุ สบาย เน้อื รอ้ งเพลงศึกบางระจนั ในภายภาคหนา ก ชาวบานบางระจนั มคี วามกลา หาญ ข ชาวบานบางระจันรักชาติมากกวาชีวิต ๖. ข้อใดเปนแนวทางการปกปอ‡ งและ ของตน ค้มุ ครองศาสนาให้ม่ันคง ค ชาวบา นบางระจันมีความเช่ียวชาญ ก เก็บสะสมวตั ถโุ บราณท่ีล้ำคาและ การศึกสงคราม หายาก ง ชาวบา นบางระจนั ยอมเสียสละชีวิต ข วาดภาพเรอ่ื งราวเกยี่ วกบั ศาสนา เพื่อรักษาแผน ดินเกดิ ทีผ่ นงั บา น ค ไปวดั ในวนั หยุดแทนการไปพักผอ น ตางจงั หวดั ง สนใจศกึ ษาหลกั ธรรมและนำไปปฏบิ ตั ิ ใหถกู ตอ ง

230 คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนาที่พลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ ๗. ใครไมได ปฏิบตั ติ นทแ่ี สดงออกถึง ๙. เมอ่ื ไดย้ นิ คำวา่ “กษตั รยิ ผ มู้ คี วามเพยี ร” การยึดม่ันในศาสนา เราจะนึกถงึ อะไร ก มานะงดบริโภคเนือ้ สัตวในวนั พระ ก พระมโหสถ ข สมยั ชอบอา นนทิ านธรรมะเพราะสนกุ ดี ข พระมหาชนก ค ฤทัยไปทำบุญตักบาตรท่ีวัดในวันเกิด ค พระเวสสนั ดร ของตน ง พระสุวรรณสาม ง ทศยกมอื ไหวพ ระพทุ ธรปู ทปี่ ระดษิ ฐาน ในวัด ๑๐. ข้อใดคือผลที่ได้รับจากการดำเนินชีวิต ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๘. ข้อใดเปนการปฏิบัติตนท่ีแสดงออกถึง ก อยไู ดโดยไมต องพ่ึงพาคนอื่น ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหา- ข มคี วามรใู นดานการเกษตรเพม่ิ ขน้ึ กษัตรยิ ท่เี หมาะสม ค ใชจ า ยอยา งมเี หตผุ ลและมเี งนิ เกบ็ ออม ก รองเพลงพระราชนิพนธไ ดทุกเพลง ง รเู ทา ทันการเปลีย่ นแปลงทางดา น ข ติดตามชมขาวในพระราชสำนักทุกวัน เศรษฐกจิ ไมเคยขาด ค เก็บสะสมพระบรมฉายาลักษณของ พระมหากษตั รยิ ทุกพระองค ง ศกึ ษาพระราชกรณยี กจิ แลว นอ มนำมา เปนแบบอยางในการดำเนินชีวติ

๓หนว� ยการเรย� นรูŒที่ เราเปนš พลเมอื งดีในระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษตั รย� ท รงเปนš ประมขุ • แบบทดสอบกอ นเรยี น • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๑๗ เร่ือง การมสี ติ • กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๘ เรือ่ ง เปาหมายในชีวติ • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๑๙ เรอื่ ง ภมู สิ งั คม • กิจกรรม/ใบงานที่ ๒๐ เรื่อง ขาดทนุ คอื กาํ ไร • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๒๑ เรื่อง ทบทวนความรู • แบบทดสอบหลงั เรียน

232 คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพิ่มเตมิ หนา ที่พลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ แบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูท่ี ๓ คำชแี้ จง เลอื กคำตอบทถี่ กู ตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว ๑. พระบรมราโชวาทหมายถึงอะไร ๕. การกระทำของใครถือวา่ เปน ความอดทน ก คำส่ังของพระมหากษตั ริย ก นภาสวดมนตกอ นเขานอนทกุ วัน ข คำพูดของพระมหากษตั รยิ  ข ธารารับจางทำการบานแทนเพื่อน ค คำสอนของพระมหากษตั ริย ค แกว ไมโ กรธแมว า เพอ่ื นจะลอ วา ไมส วย ง คำกลา วตกั เตือนของพระมหากษตั ริย ง วรี ะตน่ื แตเ ชา เพอื่ มาใหท นั เขา แถวหนา เสาธง ๒. ขอ้ ใดไมใช ผลทเ่ี กดิ จากการมีสติ ๖. ขอ้ ใดไมสัมพนั ธ กบั คำวา่ “ความขยนั ก ทำงานไดผลดี อดทน” ข แกไขปญ หาท่ีเกิดขน้ึ ได ก เอาชนะ ค ความมงุ ม่นั ค มักไมเ กดิ ความผิดพลาด ข อตุ สาห ง เพียรพยายาม ง ทำใหผูอ น่ื ไดร บั เดือดรอน ๗. การพัฒนาท่ีสอดคล้องกับภูมิสังคมเปน อยา่ งไร ๓. การกระทำของใครถอื ไดว้ า่ เปน คนทม่ี สี ติ ก การยดึ ความคดิ ของคนในสงั คม ก เจย๊ี บหนั ไปถามปอวา เมอื่ สกั ครคู รถู าม ข การทำตามความตอ งการของคนในสงั คม วา อะไร ค การคำนึงถึงสภาพความเปนจริงของ ข แตว เดนิ ไปดทู ห่ี อ งนำ้ วา ปด กอ กนำ้ แลว สงั คม หรือยัง ง การใชหลักการเดียวกันทุกภาคสวน ค ปองยืมยางลบเพื่อนเพราะลืมนำมา ในสงั คม จากบาน ๘. ขอ้ ใดเปน ลกั ษณะของการดำเนนิ งานตาม ง ใหมต้ังใจเรียนเพราะรูวาถาไมฟงครู หลกั การทรงงาน “ภมู สิ ังคม” จะทำการบา นไมไ ด ก รับฟง ความคิดเห็นของผอู ่ืน ข มีความสันโดษไมยงุ เก่ยี วกับใคร ๔. คำวา่ “อดทน” มคี วามหมายว่าอะไร ค ยึดมั่นและทำในสิ่งท่ีตนเองคิดวา ก ไมป ลอ ยปละละเลย ถูกตอ ง ข ทำการงานอยา งแขง็ ขัน ง เช่ือฟงและปฏิบัติตามคำสั่งของผูนำ ค ประพฤตเิ ปน ปกติสม่ำเสมอ ง ยอมรบั สภาพความยากลำบาก ชุมชน

คมู ือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพ่ิมเตมิ หนาทพ่ี ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ 233 ๙. หลกั การทรงงาน “ขาดทนุ คือกำไร” ๑๐. ผู้ท่ีดำเนินชีวิตโดยยึดหลักการทรงงาน สอดคลอ้ งกับคำกล่าวในข้อใด “ขาดทนุ คือกำไร” จะเปน คนเชน่ ไร ก การหวา นพชื หวังผล ก มีความเสียสละ ข การเห็นแกประโยชนสวนรวม ข มีความกลา หาญ เปนสำคัญ ค มีความขยันอดทน ค การหวงั ผลกำไรทมี่ ากเกินไป ง มคี วามละเอียดรอบคอบ มกั จะขาดทุน ง การคำนงึ ถึงประโยชนส ว นรวม ไมเปน ผลดตี อผูปฏิบัติ

234 คูม อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพ่มิ เติม หนาทพ่ี ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๑๗ เรือ่ ง การมีสติ ผลการเรียนรู้ ๕. ประยกุ ตแ ละเผยแพรพ ระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง ๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปนผมู ีวินยั ในตนเอง คำชี้แจง แบง กลมุ กลมุ ละ ๔–๖ คน ศกึ ษาตวั อยา งเรอ่ื ง การมสี ติ แลว ตอบคำถาม (ขอ ๑–๔) จากนน้ั ศกึ ษาเกย่ี วกบั พระบรมราโชวาท แลว ตอบคำถาม (ขอ ๕–๖) ๑. นักเรยี นเคยเหน็ ผทู ี่ขาดสติอันเกิดจากการดม่ื เครือ่ งดองของมึนเมาหรือไม อยา งไร ๒. อะไรเปน สาเหตุทท่ี ำใหเ ขาตองเปน เชนนัน้ ๓. เพราะอะไรคนที่ดม่ื เคร่อื งดองของมนึ เมาจึงมกั มเี รื่องทะเลาะวิวาทหรือชกตอยกัน ๔. หากมคี นชักชวนใหน ักเรยี นดม่ื เครือ่ งดองของมึนเมา นกั เรียนจะทำอยางไร เพราะอะไร

คูม อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพ่ิมเติม หนาทีพ่ ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ 235 “...การพจิ ารณานน้ั เปน การหยดุ ยงั้ ชง่ั ใจกอ นทจ่ี ะปฏบิ ตั กิ ารใดลงไป เสมอื นกบั ไดป รกึ ษา กับตนเองกอน ถาหากทำสง่ิ ใดโดยมิไดพิจารณาแลว กอ็ าจจะตกเปน เหย่ือแหงอารมณบ งั เกิด ความประมาทข้ึนอันจะเปนผลเสียหายแกกิจการน้ัน ๆ ได ฉะนั้นขอใหทุกคนจงใชความ พจิ ารณาใหร อบคอบ กอ นทจี่ ะประกอบกจิ การใด ๆ แมแ ตถ อ ยคำทขี่ า พเจา ไดก ลา วมาแลว นน้ั กค็ วรจะไดรับการพจิ ารณาเชนเดยี วกันดว ย...” พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานประกาศนยี บัตรนักเรยี นวชริ าวธุ วิทยาลยั วันท่ี ๑๕ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๐๑ ๕. ใจความสำคญั ของพระบรมราโชวาทกลาวถึงเรอ่ื งอะไร ๖. นกั เรียนจะนอ มนำพระบรมราโชวาทนม้ี าเปนแนวทางในการดำเนนิ ชีวิตอยางไร กลมุ่ ที่ สมาชกิ ๑. ๔. ๒. ๕. ๓. ๖.

236 คูม ือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพิ่มเติม หนา ทพี่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ กิจกรรม/ใบงานที่ ๑๘ เรอ่ื ง เป‡าหมายในชีวติ ผลการเรยี นรู้ ๕. ประยกุ ตแ ละเผยแพรพ ระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๑๐. ปฏิบัตติ นเปนผูมีวินัยในตนเอง คำชแ้ี จง เขียนเปาหมายในชีวิตของตัวเอง พรอ มบอกวิธกี ารหรอื แนวทางที่จะทำใหประสบผล สำเร็จตามเปา หมายทต่ี ั้งไว เปา‡ หมายในชีว�ต ว�ธก� ารหรอ� แนวทางท่ีจะทาํ ใหปŒ ระสบผลสาํ เร็จ ช่อื นามสกลุ เลขที่ ชัน้ โรงเรยี น

คมู อื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพิ่มเตมิ หนา ท่ีพลเมือง ๓–๔ ม. ๒ 237 กจิ กรรม/ใบงานที่ ๑๙ เรื่อง ภูมสิ ังคม ผลการเรยี นรู้ ๕. ประยกุ ตแ ละเผยแพรพ ระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง ๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผูมวี ินัยในตนเอง คำชแี้ จง แบง กลมุ กลมุ ละ ๔–๖ คน รว มกนั อภปิ รายถงึ ภมู ปิ ระเทศทางภมู ศิ าสตรแ ละภมู ปิ ระเทศ ทางสงั คมศาสตรข องจงั หวดั ทอ่ี าศยั อยู และสรปุ วา จะนำหลกั การทรงงาน “ภมู สิ งั คม” มาปรบั ใชอ ยางไร จังหวดั ทีอ่ าศยั อยู คำขวัญประจำจังหวดั ภมู ปิ ระเทศทางภูมศิ าสตร ภมู ิประเทศทางสังคมศาสตร

238 คมู ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หนา ทีพ่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ ทรัพยากรธรรมชาตทิ ส่ี ำคญั ของจังหวดั การนำหลกั การทรงงาน “ภมู ิสังคม” มาปรบั ใช การพฒั นาจังหวดั โดยยึดหลกั การหลกั การทรงงาน “ภูมิสังคม” กลุ่มที่ สมาชิก ๑. ๔. ๒. ๕. ๓. ๖.

คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนาท่พี ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ 239 กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๐ เร่อื ง ขาดทุนคือกำไร ผลการเรยี นรู้ ๕. ประยกุ ตแ ละเผยแพรพ ระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียง ๑๐. ปฏิบตั ติ นเปนผมู วี ินัยในตนเอง คำช้ีแจง แบง กลมุ กลมุ ละ ๔–๖ คน รว มกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ทกี่ ำหนดให ๑. “ขาดทนุ คือกำไร” มคี วามหมายวา อยา งไร ๒. เราสามารถนำหลักการทรงงาน “ขาดทนุ คอื กำไร” มาใชใ นชวี ิตประจำวนั ไดอ ยางไรบา ง ๓. นกั เรยี นคดิ วา จะนำหลกั การทรงงานดงั กลา วไปเผยแพรห รอื แนะนำแกบ คุ คลอนื่ หรอื ไม อยา งไร กลมุ่ ที่ สมาชกิ ๑. ๔. ๒. ๕. ๓. ๖.

240 คูมอื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนา ทพี่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ กจิ กรรม/ใบงานที่ ๒๑ เรอื่ ง ทบทวนความรู้ ผลการเรียนรู้ ๕. ประยกุ ตแ ละเผยแพรพ ระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียง ๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปนผูมวี นิ ยั ในตนเอง คำชี้แจง ตอบคำถาม ๑. พระบรมราโชวาทหมายถงึ อะไร ๒. การมีสติมผี ลดีอยางไร ๓. ความขยนั อดทนหมายถึงอะไร และมีผลดีตอผปู ฏบิ ตั อิ ยางไร ๔. หลกั การทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจา อยูหวั มลี กั ษณะอยางไร ช่อื นามสกุล เลขท่ี ช้นั โรงเรียน

คมู อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนา ท่พี ลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ 241 แบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูท ่ี ๓ คำช้แี จง เลอื กคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว ๑. โอวาทหรือคำสอนของพระเจ้าแผ่นดิน ๕. ป˜จจัยใดมีผลต่อการประสบความสำเร็จ เรียกว่าอะไร ในชวี ติ ดา้ นการงานมากทีส่ ุด ก พระราชดำริ ก การคบเพื่อนดี ข พระราชดำรสั ข การตรงตอเวลา ค พระบรมราโชวาท ค ความขยนั อดทน ง พระบรมราชโองการ ง ความประหยดั อดออม ๒. นกั เรยี นควรนำความรเู้ รอื่ งการมสี ตมิ าใช้ ๖. การทำงานอย่างแข็งขันโดยไม่ย่อท้อต่อ ในเร่ืองใดมากท่ีสดุ ความยากลำบากตรงกบั สำนวนไทยในขอ้ ใด ก การเรียน ก ฝนทัง่ ใหเ ปนเขม็ ข การเลน กบั เพื่อน ข สบิ รไู มเทาชำนาญ ค การใชคอมพวิ เตอร ค ชา เปนการ นานเปน คุณ ง การทำงานหารายได ง รูม ากยากนาน รนู อยพลอยรำคาญ ๓. “ผ้ทู ี่มีสติจะร้วู า่ ตนเองกำลังทำอะไร ๗. ขอ้ ใดไมใ ช แนวคดิ สำคญั ของการพฒั นา พูดอะไร และคิดอะไร” จากข้อความนี้ ตามหลกั การทรงงาน “ภมู ิสงั คม” มีผลดอี ยา่ งไร ก เนนการพงึ่ ตนเอง ก ทำใหม ีผลการเรียนดีขึน้ ข เรยี บงายและประหยดั ข หลีกเลยี่ งการทะเลาะวิวาท ค ใชเทคนิควชิ าการสมยั ใหม ค มีคนอยากคบคาสมาคมดวย ง เปน ไปตามลำดับความจำเปน ง ไดร บั คำยกยองจากคนรอบขาง ๘. ข้อใดเปนการพัฒนาทส่ี อดคลอ้ งกบั ๔. “ปดหูซ้ายขวา ปดตาสองข้าง ปดปาก หลักการทรงงาน “ภมู ิสังคม” เสยี บา้ ง นอนนง่ั สบาย” ขอ้ ความนี้เปน ก สรา งสะพานลอยใหน กั เรยี นทโี่ รงเรยี น คำกล่าวทส่ี อนในเรอ่ื งใด ชายแดน ก การมสี ติ ข ใหความรูดา นการทำประมงแกชาวเขา ข ความอดทน ในภาคเหนอื ค การอยูอยา งสันโดษ ค เรงรัดแกปญหาแหลงเก็บกักน้ำกอน ง ความรับผดิ ชอบตอ สว นรวม พัฒนาถนนลูกรงั ง สง เสรมิ การปลกู ไรช าเขยี วในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ

242 คมู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพิม่ เตมิ หนาที่พลเมอื ง ๓–๔ ม. ๒ ๙. หลกั การทรงงาน “ขาดทนุ คอื กำไร” ๑๐. ใครนำหลกั การทรงงาน “ขาดทนุ คอื กำไร” เปนแนวปฏิบตั ใิ นเรอื่ งใด มาเปน แนวทางในการดำเนนิ ชีวติ ก การเสยี สละ ก มติ รขายสนิ คา ราคาถกู จงึ ทำใหข าดทนุ ข ความรบั ผดิ ชอบ ข ดำรงติดต้ังเคร่ืองบำบัดน้ำเสียไวรอบ ค การไมย ดึ มน่ั ถือมัน่ โรงงาน ง ความขยนั หมนั่ เพยี ร ค ศักดิ์จดรายการส่ิงของท่ีจะซื้อทุกครั้ง กอ นไปตลาด ง นพพลจายคาจางคนงานตามเกณฑที่ กฎหมายกำหนด

๔หน�วยการเรย� นรทŒู ่ี พลเมอื งดีในระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษตั รย� ทรงเปนš ประมขุ • แบบทดสอบกอ นเรยี น • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๒๒ เร่อื ง พลเมืองดีตามวิถีประชาธปิ ไตย • กิจกรรม/ใบงานที่ ๒๓ เร่อื ง การติดตามขาวสารบา นเมือง • กจิ กรรม/ใบงานที่ ๒๔ เรื่อง ความกลาหาญทางจริยธรรม • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๕ เรอ่ื ง คนดมี คี วามกลา หาญทางจริยธรรม • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๒๖ เรอื่ ง คณุ สมบัติของผนู าํ ทดี่ ี • กิจกรรม/ใบงานที่ ๒๗ เรื่อง บทบาทและหนา ท่ีของสมาชิกท่ดี ี • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๒๘ เรื่อง การมีสว นรว มในการตดั สินใจ • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๒๙ เรอื่ ง การตรวจสอบขอ มูล • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๓๐ เรื่อง การรทู นั ขา วสาร • กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๑ เรอ่ื ง ความมีวนิ ยั ในตนเองในการเปนพลเมอื งดี ในระบอบประชาธปิ ไตย • กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๓๒ เรื่อง ทบทวนความรู • แบบทดสอบหลงั เรยี น

244 คมู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพม่ิ เติม หนา ทพี่ ลเมือง ๓–๔ ม. ๒ แบบทดสอบกอ นเรยี น หนว ยการเรียนรทู ่ี ๔ คำชีแ้ จง เลอื กคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว ๑. หากพบเห็นโทรศัพทสาธารณะชำรุด ๕. ผูน้ ำท่ดี ีควรเปนคนอยา่ งไร เราควรทำอย่างไร ก มีความคดิ ริเรม่ิ ก แจงเจาหนาทดี่ ำเนินการซอ มแซม ข นิ่งเฉย ไมก ระตอื รือรน ข หา มผูอน่ื ใชโ ทรศัพทส าธารณะน้นั ค เหน็ แกตนเองและพวกพอ ง ค ดุดาวากลา วผทู ี่ทำใหเกิดความชำรดุ ง ถือตวั ไมสนทิ สนมกบั คนอ่นื งา ยนัก ง ไมต อ งสนใจ เพราะไมใ ชห นา ทข่ี องเรา ๖. เม่อื อยใู่ นหอ้ งเรียน เราควรเข้ารว่ ม ๒. เราควรตดิ ตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างไร กิจกรรมใด ก เลอื กรบั ขาวทเ่ี ราชอบ ก ชวนเพอื่ นหนีเรยี น ข เลือกรับขาวอยางหลากหลาย ข เลือกตง้ั หัวหนา หอง ค เลือกรับขาวจากสอ่ื เพียงแหลง เดยี ว ค เลอื กตัง้ ครูประจำชัน้ ง เลือกรับขาวจากสื่อภายในประเทศ ง เลน ฟุตบอลกบั เพอื่ น เทาน้นั ๗. ใครมีสทิ ธิแสดงความคิดเหน็ ในการ ๓. ใครติดตามข่าวสารบ้านเมืองได้อย่าง ประชมุ ของโรงเรียน ถูกตอ้ ง ก ครู ก แอมเช่อื ทุกขา วท่ตี นอา น ข นกั เรยี น ข นชุ ไตรตรองขา วกอ นเช่ือทกุ ครั้ง ค คณะกรรมการนกั เรยี น ค ปน ไมเชอ่ื ขา วที่มาจากหนังสือพมิ พ ง สมาชกิ ทุกคนของโรงเรียน ง พัชอานเฉพาะขาวจากหนังสือพิมพ ภาษาอังกฤษ ๘. เราควรรับขอ้ มูลทีม่ ีลักษณะอยา่ งไร ก มีเนื้อหามาก ๔. ใครมคี วามกล้าหาญทางจริยธรรม ข มีความเปนกลาง ไมมีอคติแอบแฝง ก เอรับจา งทำการบานใหเพื่อน ค ใชเ ทคนคิ การนำเสนอเนอื้ หาทที่ นั สมยั ข วรรณตักเตือนเพ่ือนไมใหหนเี รยี น และนา สนใจ ค เกงชกตอยกบั เพือ่ นทช่ี อบลอ เลยี น ง มีเนื้อหาเปนไปในแนวทางเดียวกับ ตนเอง ความคิดเห็นของตนเอง ง ฟางกลวั เพอื่ นถกู ครลู งโทษ จงึ ไมบ อก ครเู ร่ืองเพ่อื นแอบดมื่ สรุ า


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook