Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนนรู้รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ

แผนการจัดการเรียนนรู้รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ

Published by สุธาสินี สีฤทธิ์, 2022-04-04 07:49:18

Description: แผนการจัดการเรียนนรู้รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะอาชพี และบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง การบูรณาการกับคุณลักษณะ 3 D แก่ผ้เู ขา้ รับการฝกึ อบรม วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชพี รหสั วิชา 30001-2001 หลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชีพชน้ั สงู (ปวส.) พทุ ธศักราช 2563 จดั ทำโดย นางสาวสุธาสนิ ี สฤี ทธิ์ ตำแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย แผนกวชิ า คอมพวิ เตอร์ธุรกิจ วทิ ยาลัยเทคนิคอ่างทอง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ

แผนการจดั การเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะอาชพี และบรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การบูรณาการกับคุณลกั ษณะ 3 D แกผ่ เู้ ขา้ รบั การฝึกอบรม วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ รหสั วชิ า 30001-2001 โดย นางสาวสุธาสนิ ี สฤี ทธิ์ แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

คำนำ แผนการจัดการเรยี นรู้ มุง่ เนน้ ฐานสมรรถนะ และบูรณาการค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ รหัสวิชา 3001–2001 เลม่ นไี้ ดจ้ ดั ทำขึ้นเพ่ือใช้เป็น คู่มือประกอบการสอน หรือเป็นแนวทางการสอนในรายวิชาเพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามหลักสูตร ประกาศ- นียบตั รวิชาชีพชน้ั สงู พทุ ธศักราช 2557 ประเภทวิชาบรหิ ารธุรกจิ สำนกั งานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ การจัดทำได้มีการพัฒนาเพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียน โดยแบ่งเนื้อหาเป็น 12 หน่วย การจัด กิจกรรมการเรียนการสอนยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ไว้ในหน่วยการเรียนรู้ตามความเหมาะสม สอดคล้องกับเนื้อหา มี แบบฝึกหัด แบบทดสอบหลังเรียน พร้อมเฉลย มีใบงาน และส่ือการเรียนการสอนต่าง ๆ เพื่อให้เกิด ประสทิ ธิผลแกผ่ ้เู รยี นมากยงิ่ ขน้ึ ผู้จัดทำหวังว่าแผนการจัดการเรียนรู้เล่มน้ีคงจะเป็นแนวทางและเป็นประโยชน์ต่อครู-อาจารย์ และนักศกึ ษา หากมีขอ้ เสนอแนะประการใด ผจู้ ัดทำยินดีน้อมรับไวเ้ พอ่ื ปรับปรงุ แกไ้ ขในครัง้ ต่อไป ลงชือ่ (สธุ าสินี สีฤทธ์ิ)

แผนการสอน รหสั วิชา 3001-2001 แผนกวิชา คอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ ชื่อรายวิชา เทคโนโลยีสารสนทศเพือ่ การจัดการอาชพี ระดับชัน้ ประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้ันสงู (ปวส.) จำนวนชว่ั โมงรวม 72 ชวั่ โมง ท–ป-น (2–2–3) จุดประสงค์รายวิชา 1. เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจเกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอรแ์ ละ สารสนเทศ การสืบคน้ และสือ่ สารข้อมูลสารสนเทศในงานอาชพี 2. เพ่อื ใหส้ ามารถสืบค้น จดั เก็บ คน้ คืน ส่งผ่าน จัดดำเนนิ การขอ้ มลู สารสนเทศ นำเสนอและ สือ่ สารข้อมูลสารสนเทศในงานอาชพี โดยใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม และ โปรแกรมสำเร็จรูปท่ีเกย่ี วขอ้ ง 3. เพ่ือให้มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการ อาชีพ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรเู้ กยี่ วกับหลกั การและกระบวนการสบื คน้ จัดดำเนินการและสอ่ื สารข้อมูล สารสนเทศในงานอาชีพ โดยใชค้ อมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม และโปรแกรมสำเร็จรูป ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง 2. ใชค้ อมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคมในการสืบคน้ และสื่อสารข้อมลู สารสนเทศผ่านระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ 3. จดั เกบ็ ค้นคืน ส่งผ่านและจัดดำเนินการข้อมูลสารสนเทศตามลกั ษณะงานอาชพี 4. นำเสนอและสือ่ สารข้อมูลสารสนเทศในงานอาชพี โดยประยกุ ต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรปู คำอธบิ ายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับ คอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณ์โทรคมนาคม ระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์และ สารสนเทศ การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศ การจัดเก็บ ค้นคืน ส่งผ่านและจัดดำเนินการข้อมูลสารสนเทศ การประยุกต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรปู ในการนำเสนอและสอ่ื สารข้อมลู สารสนเทศตามลักษณะงานอาชพี

หนว่ ยการสอนทฤษฎีและปฏิบัติ วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชีพ รหัส 3001 - 2001 ปฏิบัตริ วม 54 ทฤษฎีรวม 18 ชัว่ โมง ชวั่ โมง หนว่ ย สัปดาห์ เร่ือง จำนวนชัว่ โมง ท่ี ที่ ทฤษฎี ปฏิบัติ 1 1 ความรู้เบ้อื งต้นเกยี่ วกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม 13 2 2 ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ 13 3 3 การสบื ค้นข้อมูลบนอินเทอรเ์ นต็ 13 4 4 การประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรมสำเร็จรปู ด้านงานเอกสารด้วยโปรแกรม 1 3 Microsoft Word 5 5 - 6 การจัดการเอกสารและการนำเอกสารมาใช้งาน 26 6 7 การประยุกตใ์ ช้โปรแกรมด้านการคำนวณทางธรุ กิจด้วยโปรแกรม 1 3 Microsoft Excel 7 8 การจดั รูปแบบข้อมูล การแก้ไข ลบ คัดลอก เคลอ่ื นย้ายขอ้ มูล 13 9 สอบกลางภาค 13 8 10 การพมิ พข์ อ้ มูลจากโปรแกรมคำนวณและการประยกุ ต์ใชใ้ นการ 1 3 นำเสนอ 9 11-12 การประยุกต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปดา้ นการจดั การฐานขอ้ มลู 26 ทำงานด้วยโปรแกรม Microsoft Access 10 13-14 การสรา้ งรายงานจากโปรแกรมจดั การฐานข้อมลู และการดูแล 26 ขอ้ มลู 11 15 การประยุกต์ใช้โปรแกรมการนำเสนอผลงานและการผลติ ส่อื ผสม 1 3 ดว้ ยโปรแกรม Microsoft PowerPoint 12 16-17 การแก้ไข ตกแต่ง การฉายสไลดจ์ ากโปรแกรมการนำเสนอผลงาน 2 6 18 สอบปลายภาค 13 รวม 18 54

กำหนดการสอนรายวิชา เทคโนโลยีสารสนทศเพือ่ การจดั การอาชพี รหัสวิชา 3001-2001 หนว่ ยท่ี จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เนอ้ื หา 1. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นสามารถ ความรูเ้ บอื้ งตน้ เกีย่ วกับคอมพิวเตอร์และ 1. บอกความหมายของคอมพิวเตอร์และ อปุ กรณโ์ ทรคมนาคม อุปกรณโ์ ทรคมนาคมได้ 1. ความหมายของคอมพวิ เตอร์และ 2. อธบิ ายวธิ กี ารทำงานของคอมพวิ เตอร์และ อปุ กรณ์โทรคมนาคม อปุ กรณ์โทรคมนาคมไดถ้ ูกต้อง 2. หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์และ 3. บอกองคป์ ระกอบพ้ืนฐานและ อปุ กรณโ์ ทรคมนาคม สว่ นประกอบของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3. องคป์ ระกอบพนื้ ฐานของคอมพวิ เตอร์ 4. บอกความหมายและหนา้ ทข่ี องแปน้ พิมพ์ 4. ความหมายและหนา้ ท่ีของแปน้ พมิ พ์ ได้ถกู ตอ้ ง (Keyboard) 5. บอกความหมายและวิธีการใชเ้ มาส์ 5. ความหมายและวธิ ีการใชเ้ มาส์ (Mouse) ได้ (Mouse) 6. บำรุง ดแู ลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์และ 6. การบำรงุ รกั ษาเคร่ืองคอมพิวเตอร์ อปุ กรณโ์ ทรคมนาคมได้อย่างถูกวิธี และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม 2. เพื่อให้ผ้เู รยี นสามารถ ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์และ 1. บอกความหมายของระบบเครอื ข่าย เทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ได้ 1. ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2. บอกความหมายของเทคโนโลยี 2. เทคโนโลยีสารสนเทศ สารสนเทศได้ 3. บทบาทของระบบสารสนเทศ 3. อธบิ ายบทบาทของระบบสารสนเทศได้ 4. ระบบสารสนเทศท่ีใช้คอมพิวเตอร์ 4. บอกระบบสารสนเทศทีใ่ ช้คอมพิวเตอร์ 5. ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ ได้ 6. การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยี 5. อธิบายระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ สารสนเทศ ได้ 6. บอกวธิ กี ารประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยี สารสนเทศได

หนว่ ยที่ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม เน้อื หา 3. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นสามารถ การสืบคน้ ข้อมลู บนอินเทอรเ์ น็ต 1. บอกความหมายของอนิ เทอร์เน็ต 1. ความรเู้ บือ้ งต้นเกี่ยวกบั อนิ เทอร์เน็ต เบือ้ งตน้ ได้ 2. เว็บไซทแ์ ละโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ 2. บอกความหมายของเว็บไซทแ์ ละเวบ็ 3. วิธี ก าร สืบ ค้น ข้อ มู ลโด ยใช้ Web บราวเซอรไ์ ด้ Directory 3. บอกวธิ กี ารสบื คน้ ข้อมูลโดยใช้ Web 4. วิธีการสืบค้นข้อมูลโดยใช้ Search Directory ได้ Engine 4. บอกวิธีการสบื คน้ ข้อมลู โดยใช้ 5. ตัวอย่างเว็บไซท์ท่ีให้บริการสืบค้น Search Engine ได้ ข้ อ มู ล ท้ั ง ข อ ง ป ร ะ เท ศ ไท ย แ ล ะ 5. ยกตวั อย่างเวบ็ ไซท์ท่ีให้บรกิ ารสบื คน้ ต่างประเทศ ข้อมลู ทั้งของประเทศไทยและ ตา่ งประเทศได้ 4. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นสามารถ การประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรมสำเรจ็ รูปดา้ นการ 1. เลอื กขนั้ ตอนการเข้าสู่โปรแกรม จดั การเอกสาร ดว้ ย Microsoft Word Microsoft Word ได้ 1. ความร้เู บือ้ งต้นเก่ยี วกบั Microsoft 2. การเปิด ปดิ และใชง้ านแถบเครอ่ื งมอื ได้ Word 3. พมิ พเ์ อกสาร เลอื กขอ้ มูล คัดลอก 2. ความหมายและการใชค้ ำส่งั เคล่อื นยา้ ยข้อมูลและบันทึกข้อมูลได้ แถบเครอื่ งมือ (Toolbars) 4. พมิ พเ์ อกสาร เลือกข้อมูล คัดลอก และ 3. ข้ันตอนการเปิด - ปิด และบันทึก เคล่ือนยา้ ยขอ้ มูล ข้อมลู บนโปรแกรม Microsoft 5. จดั รปู แบบข้อมลู ตวั อักษรได้ Word 6. จัดเอกสารเป็นคอลัมนไ์ ด้ 4. การพมิ พเ์ อกสาร การเลือกข้อมูล 7. แทรกรูปภาพและอักษรศลิ ป์ลงบน คดั ลอก และเคล่ือนย้ายข้อมลู เอกสารได้ 5. การจัดรปู แบบตวั อกั ษร 8. สร้างและจัดการตารางบนเอกสารได้ 6. การจัดเอกสารเปน็ คอลมั น์ 7. การแทรกรปู ภาพและอกั ษรศลิ ป์ 8. การจัดการตารางบนเอกสาร

หนว่ ยท่ี จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม เนือ้ หา 5. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นสามารถ การจดั การเอกสารและการนำเอกสาร 1. ลำดบั ข้ันตอนการจัดเรียงลำดบั ข้อมลู ใน มาใชง้ าน ตารางเอกสารได้ 1. การจัดเรียงลำดบั ขอ้ มูลในตาราง 2. ลำดับขน้ั ตอนการแทรกเลขหนา้ หัว/ท้าย เอกสาร กระดาษได้ 2. การแทรกเลขหน้า หวั /ทา้ ย 3. ลำดบั ขั้นตอนการสร้างจดหมายเวยี น กระดาษ ซองจดหมายได้ 3. การสร้างจดหมายเวยี น ซอง 4. ปฏบิ ัติการพิมพเ์ อกสารออกทาง จดหมาย เคร่อื งพิมพ์ได้อยา่ งถกู ต้อง 6.การพมิ พ์เอกสารออกทาง เครื่องพมิ พ์ 6. เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถ การประยุกตใ์ ช้โปรแกรมสำเร็จรูปดา้ น 1. บอกขั้นตอนการเข้าส่โู ปรแกรม การคำนวณทางธุรกิจ ด้วย Microsoft Microsoft Excel ไดถ้ กู ต้อง Excel 2. บอกสว่ นประกอบของโปรแกรม 1. ความรเู้ บื้องต้นเก่ียวกบั โปรแกรม Microsoft Excel ไดถ้ ูกต้อง Microsoft Excel 3. อธบิ ายขัน้ ตอนการกำหนดขอบเขตขอ้ มลู 2. สว่ นประกอบของโปรแกรม ได้ Microsoft Excel 4. ปฏบิ ตั ิการคำนวณและเลือกใช้สูตรฟงั ก์ชนั 3. การกำหนดขอบเขตของข้อมูล ไดถ้ กู ตอ้ ง 4. การคำนวณและการใชส้ ูตรฟังกช์ นั 7. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนสามารถ ก าร จั ด รูป แ บ บ ข้ อ มู ล แ ก้ ไข ล บ 1. อธบิ ายรูปแบบขอ้ มูลแต่ละประเภทได้ คัดลอก และเคลื่อนย้ายข้อมูลบน 2. ปฏบิ ัติการแกไ้ ขข้อมูลบนเซลลไ์ ด้ โปรแกรม 3. ปฏิบัติการคดั ลอกเซลลไ์ ด้ 1. การจดั รปู แบบประเภทของขอ้ มูล 2. การแกไ้ ขข้อมูลบนเซลล์ 4. ปฏิบตั กิ ารเคล่ือนย้ายเซลล์ได้ 3. การคดั ลอกเซลล์ ลบ และ หน่วยท่ี จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม เคลือ่ นย้ายขอ้ มูล 8. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนสามารถ เน้อื หา 1. อธิบายวิธีการกำหนดรายละเอยี ดของ การพิมพ์ข้อมูลจากโปรแกรมคำนวณ และประยุกตใ์ ช้ในการนำเสนอ เอกสารก่อนพมิ พ์ออกทางเคร่อื งพิมพ์ได้ 1. การกำหนดรายละเอียดของเอกสาร 2. สรา้ งกราฟเปรียบเทยี บการนำเสนอข้อมลู ก่อนพมิ พอ์ อกทางเคร่อื งพมิ พ์ 2. การสรา้ งกราฟเปรียบเทียบการ ได้

3. บอกขนั้ ตอนการออกแบบและตกแตง่ กราฟ นำเสนอขอ้ มลู เปรียบเทยี บข้อมลู ได้ 3. การออกแบบและตกแต่งกราฟ เปรยี บเทียบข้อมลู 9. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นสามารถ การประยุกต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปด้าน 1. บอกความหมายและส่วนประกอบของ การจัดการฐานข้อมูล ดว้ ย โปรแกรม Microsoft Access ได้ Microsoft Access 2. อธิบายวิธีการสร้างตาราง (Table) บน 1. ความหมายและส่วนประกอบของ ฐานข้อมูล (Database) ได้ โปรแกรม Microsoft Access 3. กำหนดและออกแบบเขตข้อมลู สำหรับ 2. วิธีการสร้างตาราง (Table) บ น ตาราง ฐานขอ้ มูล (Database) 4. อธิบายวิธีการป้อนข้อมูล การเพม่ิ และการ 3. การกำหนดและออกแบบเขตข้อมูล แก้ไขข้อมลู ในตาราง (Table) สำหรับตาราง (Table) 4. การป้อนข้อมูล การเพ่ิมและการ แก้ไขข้อมูลในตาราง (Table) 10. เพอื่ ใหผ้ ูเ้ รียนสามารถ การสร้างรายงานจากโปรแกรมจัดการ 1. อธบิ ายวิธกี ารสรา้ งและบนั ทึกรายงาน ฐานข้อมลู และการดูแลฐานข้อมลู (Report) ได้ 1. การสร้างและบันทึกรายงาน 2. อธบิ ายขนั้ ตอนการสร้างรายงาน (Report) (Report) ดว้ ยเครอื่ งมือชว่ ยสร้างได้ 2. ตัวช่วยสรา้ งรายงาน (Report 3. สรา้ งรายงานอตั โนมตั แิ บบเรยี งเป็นแนวได้ Wizard) 4. สร้างรายงานอัตโนมตั แิ บบตารางได้ 3. รายงานอตั โนมัติแบบเรียงเปน็ แนว 5. อธิบายขั้นตอนการสรา้ งปุ่มคำสง่ั ในฟอร์ม (Auto Report : Columnar) ได้ 4. รายงานอัตโนมัตแิ บบตาราง (Auto 6. ปฏิบัติขนั้ ตอนการดแู ลฐานขอ้ มูลได้ Report : Tabular) 5. การสรา้ งปุม่ คำส่ังในฟอร์ม 6. การดูแลฐานขอ้ มลู

หน่วยที่ จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม เน้ือหา 11. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นสามารถ การประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรมสำเร็จรปู ด้าน 1. อธิบายวธิ ีการเข้าสู่โปรแกรม Microsoft นำเสนอผลงานและการผลติ สอ่ื ผสม PowerPoint ได้ ด้วย Microsoft PowerPoint 2. อธิบายสว่ นประกอบของโปรแกรมได้ 1. ความรพู้ นื้ ฐานโปรแกรม 3. บอกหลักการออกแบบงานนำเสนอไปใช้ Microsoft PowerPoint ในการจดั การขอ้ ความลงบนสไลด์ได้ 2. สว่ นประกอบของโปรแกรม 4. เลอื กมุมมองการนำเสนอผลงานไดอ้ ย่าง 3. หลกั การออกแบบงานนำเสนอ เหมาะสม กับการจัดการขอ้ ความลงบน 5. บอกวิธแี ละข้ันตอนการสรา้ งผลงานดว้ ย สไลด์ ตนเองได้ 4. การเลือกมุมมองการนำเสนอ ผลงาน 5. ข้นั ตอนวธิ ีการสรา้ งผลงานด้วย ตนเอง 12. เพื่อใหผ้ ู้เรียนสามารถ การแกไ้ ข ตกแต่ง การฉายสไลด์จาก 1. บอกวธิ ีการแกไ้ ขและลบรปู แบบสไลดไ์ ด้ โปรแกรมการนำเสนอผลงาน 2. อธิบายวิธกี ารเพม่ิ ฉากหลงั และตกแต่ง 1. การแกไ้ ขและลบรูปแบบสไลด์ สไลด์ได้ 2. การเพ่ิมฉากหลงั สไลด์ ตกแต่ง 3. บอกขัน้ ตอนการกำหนดสพี น้ื หลังสไลด์ สไลด์ ได้ 3. การกำหนดสีพื้นหลงั สไลด์ 4. อธิบายวิธีการกำหนดลกั ษณะของการ 4. การกำหนดลกั ษณะของการ เปล่ยี นแปลงภาพฉายสไลด์ได้ เปลี่ยนแปลงภาพฉายสไลด์ 5. อธิบายวิธีการข้อความและภาพให้ 5. การกำหนดขอ้ ความและภาพให้ เคลือ่ นท่แี บบกำหนดเองได้ เคลือ่ นทแ่ี บบกำหนดเอง 6. กำหนดเวลาในการฉายสไลด์ได้ 7. บอกข้ันตอนการสร้างแผนภมู ิองคก์ รได้ 6. การกำหนดเวลาในการฉายสไลด์ 7. การสร้างผงั องคก์ ร (Organization Chart) หมายเหตุ สัปดาห์ที่ 9 สอบกลางภาค สปั ดาห์ท่ี 18 สอบปลายภาค

เกณฑก์ ารวดั งานท่มี อบหมาย ชื่อชิน้ งาน แฟ้มสะสมงาน รายวิชา เทคโนโลยีสารสนทศเพอ่ื การจัดการอาชพี รหสั วชิ า 3001-2001 ลำดบั ท่ี ทักษะ/ผลงาน พฤติกรรมบง่ ช้ี เกณฑก์ ารวดั (Rubric) คะแนนท่ีได้ 2 1 รูปแบบของ รูปแบบของแฟม้ - รูปแบบแฟม้ สวยงาม 1 แฟ้ม สวยงาม มีความคิด มีความคิดสรา้ งสรรค์ 0 สรา้ งสรรค์ 2 ดมี าก 1 0 - รปู แบบแฟ้มสวยงาม 2 มีความคดิ สร้างสรรค์ 1 0 พอประมาณ - รปู แบบแฟม้ ไมส่ วยงาม ไม่มคี วามคิดสร้างสรรค์ 2 ความสมบูรณ์ แฟ้มมคี วามสมบรู ณ์ - แฟม้ มคี วามสมบรู ณ์ ของแฟ้ม ถูกต้อง ถูกต้องตามเกณฑ์ ทีก่ ำหนด - แฟม้ ขาดความสมบูรณ์ สว่ นใดส่วนหน่งึ ตาม เกณฑ์ทีก่ ำหนด - แฟม้ ขาดความสมบรู ณ์ ทุกสว่ นไมเ่ ขา้ เกณฑ์ท่ี กำหนด 3 ความสะอาด แฟ้มมีความสะอาด - แฟม้ มคี วามสะอาดและ ของแฟ้ม เปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย เปน็ อยา่ งดี - แฟ้มมีความสะอาดและ เปน็ ระเบียบเรยี บร้อย พอประมาณ - แฟ้มไมม่ คี วามสะอาด และไมเ่ ป็นระเบยี บ เรยี บรอ้ ย

เกณฑก์ ารวัดแฟม้ สะสมงาน รายวชิ า โปรแกรมสำเรจ็ รปู ในงานอาชพี รหัสวิชา 3000-0201 คะแนน ทไ่ี ด้ ลำดบั ทักษะ/ผลงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ เกณฑ์การวัด (Rubric) ที่ 2 - รปู แบบถูกต้องตามหลักการ 1 1 ความถกู ต้อง รูปแบบการพมิ พ์ถกู ตอ้ ง พิมพแ์ ละจัดหน้ากระดาษ ไดส้ วยงามดีมาก 0 ตามหลกั การพมิ พแ์ ละจดั - รูปแบบถูกต้อง ตามหลักการ 2 หน้ากระดาษได้สวยงาม พิมพ์ และจดั หนา้ กระดาษได้ สวยงามพอประมาณ 1 2 การนำเสนอ นำเสนอผลงานไดถ้ ูกตอ้ ง ผลงาน ชดั เจน เหมาะสมกับเน้อื - รปู แบบการพิมพ์ไมถ่ กู ตอ้ ง 0 เร่อื งที่นำเสนอ และจดั หน้ากระดาษ ไม่สวยงาม - นำเสนอผลงานไดถ้ กู ตอ้ ง ชัดเจน เหมาะสม สวยงาม ดมี าก - นำเสนอผลงานไดถ้ ูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม สวยงาม พอประมาณ - นำเสนอผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง ไม่เหมาะสมกบั เน้ือเรื่อง ไมส่ วยงาม 3 การตรงตอ่ ปฏบิ ตั ิงานเสร็จและสง่ ใน - ปฏิบัติงานเสร็จ และส่ง 2 เวลา เวลาท่ีกำหนด รายงานภายในเวลาทกี่ ำหนด 1 0 - ปฏิบัติงานเสร็จโดยสง่ ชา้ กวา่ กำหนด 1 วนั - ปฏิบัตงิ านไม่เสรจ็ หรอื ไม่ส่งงาน

เกณฑ์การประเมินผล ชอื่ รายวิชา เทคโนโลยีสารสนทศเพ่ือการจัดการอาชีพ รหัสวชิ า 3001-2001 ระดับชั้น ประกาศนยี บัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) แผนกวิชา คอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ หนว่ ยกิต 3 หนว่ ยกติ จำนวนชว่ั โมงรวม 72 ชัว่ โมง สดั สว่ นคะแนน หมายเหตุ รายการประเมิน (เป็น %) 1. แฟ้มสะสมงาน 20 ใบงานที่มอบหมาย 4. คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะ 20 จติ พสิ ยั อัน อันพึงประสงค์ 3. ทดสอบ - แฟม้ สะสมงาน 3.1 ทดสอบระหวา่ งภาค 10 3.2 ทดสอบกลางภาค 30 3.3 ทดสอบปลายภาค - 4. งานทม่ี อบหมาย 20 100 4.1 การพมิ พ์เอกสารตามใบงาน 4.2 การผลิตสอ่ื และการนำเสนอผลงานดว้ ย โปรแกรม Microsoft PowerPoint รวม

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1 หน่วยที่ 1 ชือ่ วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี (3001–2001) เวลาเรยี นรวม 72 คาบ ชอ่ื หน่วย ความรู้เบอ้ื งตน้ เกีย่ วกับคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์ สอนครัง้ ท่ี 1/18 โทรคมนาคม ช่อื เรอ่ื ง ความรเู้ บอื้ งต้นเกี่ยวกับคอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม จำนวน 4 คาบ หวั ข้อเรอื่ ง ปฏิบตั ิ ทฤษฎี 1.1 ความหมายของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ โทรคมนาคม 1.2 หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์ โทรคมนาคม 1.3 องคป์ ระกอบพน้ื ฐานของคอมพิวเตอร์ 1.4 ความหมายและหน้าที่ของแป้นพมิ พ์ 1.5 ความหมายและวิธกี ารใช้เมาส์ 1 .6 วิ ธีก ารใช้แล ะ ก ารบ ำรุงรัก ษ าเค รื่อ ง คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม สมรรถนะยอ่ ย แสดงความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ด้านความรู้ 1. บอกความหมายของคอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณ์โทรคมนาคมได้ 2. บอกหลักการทำงานของคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคมได้ 3. บอกองค์ประกอบพืน้ ฐานของคอมพวิ เตอร์ได้ 4. บอกความหมายและหน้าทข่ี องแป้นพิมพไ์ ด้ 5. บอกความหมายและวธิ กี ารใชเ้ มาส์ได้ 6. บอกวธิ ีการใชแ้ ละการบำรุงรักษาเครือ่ งคอมพวิ เตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคมได้ ด้านทักษะ ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการคา่ นิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ แสดงออกถึง การตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไมห่ ยดนิ่งทจี่ ะแก้ปญั หา ความซอ่ื สัตย์ ความ รว่ มมอื

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 1 วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชพี (3001– 2001) เนอื้ หาสาระ 1.1 ความหมายของคอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ คือ อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Device) ที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือช่วย ในการจดั การกบั ข้อมูลท่ีอาจเป็นได้ทั้งตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์อ่นื ท่ีใช้แทนความหมายในส่ิงต่าง ๆ โดย คุณสมบัติที่สำคัญของคอมพิวเตอร์ คือ การที่สามารถกำหนดชุดคำสั่งล่วงหน้าได้หรือโปรแกรมได้ (Programmable) น่ันคอื คอมพวิ เตอรส์ ามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ข้ึนอยู่กบั ชุดคำสั่งท่ีเลือกมาใช้งาน ทำใหส้ ามารถนำคอมพวิ เตอร์ไปประยุกต์ใชง้ านได้อย่างกว้างขวาง พจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ความหมายวา่ คอมพวิ เตอร์ หมายถงึ เคร่ือง คำนวณอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เสมือนสมองกลใช้สำหรับแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธที างคณติ ศาสตร์ 1.2 หลักการทำงานของคอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณ์โทรคมนาคม 1.3 องค์ประกอบพืน้ ฐานของคอมพิวเตอร์ 1.4 ความหมายและหน้าทข่ี องแปน้ พิมพ์ 1.5 ความหมายและวิธกี ารใชเ้ มาส์ 1.6 วธิ ีการใช้และการบำรุงรักษาเครอื่ งคอมพวิ เตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 1/18, คาบที่ 1–4/72) 1. ครูช้ีแจงรายละเอียดเกี่ยวกับจุดประสงค์ สมรรถนะและคำอธิบายรายวิชา การวัดผลและ ประเมินผลการเรียน คุณลกั ษณะนสิ ยั ทตี่ ้องการให้เกิดขนึ้ และขอ้ ตกลงในการเรยี น 2. ครูให้หนังสือเรียน เพื่อนกั ศกึ ษาได้ศึกษาภาพรวมของหนงั สือเรียนในเนื้อหาท่ีจะต้องเรยี นใน 1 ภาคเรยี น 3. ครูนำเข้าส่บู ทเรียน และครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี น 4. ครูสอนเนอื้ หาสาระขอ้ 1.1 – 1.6 5. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบหลงั หนว่ ยการเรียน และร่วมอภิปรายสรปุ บทเรยี น 6. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยท่ี 1 สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมืองไทย 2. แบบทดสอบหลังเรยี น 3. อินเตอรเ์ น็ต

การวดั และการประเมินผล การประเมนิ ผล (นำผลเทยี บกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย) การวัดผล (ใชเ้ คร่อื งมือ) เกณฑ์ผา่ น 60% 1. แบบสังเกตการทำงานกลมุ่ และนำเสนอผลงานกลมุ่ 2. ผลงานตามใบงานท่ี 1 และแบบประเมิน เกณฑผ์ า่ น 60% 2. แบบฝกึ หัดหน่วยที่ 1 เกณฑ์ผ่าน 50% 3. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หนว่ ยท่ี 1 เกณฑ์ผา่ น 50% 4. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผ่าน 60% แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชีพ (3001– 2001) งานทม่ี อบหมาย งานที่มอบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ให้ศึกษาข้อมูลความรู้เก่ียวกับการส่ือสารข้อมูลและการ ติดตง้ั โปรแกรมท่ีเกยี่ วข้อง ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสำเรจ็ ของผ้เู รยี น 1. คะแนนการทำแบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 1 2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หน่วยที่ 1 เอกสารอา้ งองิ สธุ ิดา ทะนนั ท.์ (2558). เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ (3001–2001). นนทบรุ ี : ศูนย์หนังสือเมืองไทย.

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 หนว่ ยท่ี 2 ชอื่ วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ (3001–2001) เวลาเรียนรวม 72 คาบ ช่อื หน่วย ระบบเครอื ขา่ ยและเทคโนโลยีสารสนเทศ สอนครั้งท่ี 2/18 ช่อื เรอ่ื ง ระบบเครอื ขา่ ยและเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 4 คาบ หวั ข้อเรอ่ื ง ปฏบิ ตั ิ ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ ทฤษฎี 2.1ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ 2.2เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2.3บทบาทของระบบสารสนเทศ 2.4ระบบสารสนเทศที่ใชค้ อมพิวเตอร์ 2.5 ระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการ สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความรูเ้ กีย่ วกับระบบเครอื ข่ายและเทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. ใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์โทรคมนาคมในการสืบค้นและสื่อสารข้อมลู สารสนเทศผา่ นระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ดา้ นความรู้ 1. บอกความหมายของระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 2. บอกความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ 3. บอกบทบาทและความสำคญั ของระบบสารสนเทศได้ 4. บอกระบบสารสนเทศทีใ่ ชค้ อมพวิ เตอร์ได้ 5. บอกระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การได้ 6. บอกการประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศได้ ดา้ นทักษะ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงออกถึงกิจนสิ ยั ที่ดีในการทำงาน ตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไม่หยดน่ิงทจ่ี ะแก้ปญั หา ความ ซ่ือสัตย์ ความร่วมมอื เนอื้ หาสาระ การสื่อสารข้อมูลเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึกจากคนหน่ึงไปสู่อีกคนหน่ึงโดยอาศัยส่ือ หรือเคร่ืองมือต่าง ๆ เป็น ช่องทางในการสื่อสาร เช่น การสื่อสารด้วย ท่าทาง ถ้อยคำ สัญลักษณ์ ภาพวาด

จดหมาย โทรเลข เปน็ ต้น ต่อมาการสอื่ สารข้อมูลไดพ้ ฒั นาและก้าวหน้าไปอย่างต่อเนอื่ ง มีการนำเทคโนโลยีด้าน เครือข่ายคอมพิวเตอร์มาประยกุ ต์ใชใ้ นการตดิ ตอ่ ส่ือสาร ทำให้การตดิ ต่อสือ่ สารเกิดความสะดวก รวดเร็ว รวมทั้ง ไดร้ บั ข่าวสารทันเหตกุ ารณ์อีกด้วย แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชีพ (3001– 2001) การส่ือสาร (Communications) มีที่มาจากรากศัพท์ภาษาลาตินว่า Communis หมายถึง ความ– เหมือนกันหรือร่วมกัน การส่ือสาร หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดข่าวสาร ข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ ความรู้สึก ความคิดเห็น ความตอ้ งการจากผู้สง่ สารโดยผ่านสอื่ ต่าง ๆ ท่ีอาจเป็นการพูด การเขียน สัญลักษณ์อื่น ใด การแสดงหรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไปยังผู้รับสาร ซึ่งอาจจะใช้กระบวนการสอื่ สารท่ีมีความแตกต่างกันไป ตามความเหมาะสมหรือความจำเป็นของตนเองและคู่ส่ือสาร โดยมีวัตถุประสงค์ให้เกิดการรับรู้ร่วมกันและมี ปฏกิ ิรยิ าตอบสนองตอ่ กัน บรบิ ททางการสอ่ื สารท่เี หมาะสมเปน็ ปัจจัยสำคญั ทีช่ ่วยให้การสอ่ื สารสัมฤทธ์ผิ ล เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ (Computer Network) คือ ระบบที่มีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยสองเครื่องเชอื่ มต่อ กันโดยใช้สื่อกลาง และสามารถส่ือสารข้อมูลกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง สามารถแลกเปลยี่ นข้อมลู ซ่งึ กนั และกันได้และใช้ทรัพยากรที่อย่ใู นเครือขา่ ย ร่วมกันได้ และทำใหป้ ระหยดั คา่ ใช้จา่ ยได้เป็นจำนวนมาก กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 2/18, คาบที่ 5–8/72) 1. ครูตรวจสอบความพรอ้ มและชีแ้ จงขอ้ มูลเกยี่ วกบั แนวทางกบั การเรยี นภาคปฏบิ ตั ิ 2. ครนู ำเข้าสู่บทเรยี น และครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี น 3. ครสู อนเน้อื หาสาระขอ้ 2.1 – 2.5 4. ครูและนักศกึ ษาร่วมอภปิ รายสรุปบทเรียน 5. ใหน้ ักศกึ ษาทำแบบฝึกหัดท้ายบท 6. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกันสรุปผล ประเมนิ ผลงานร่วมกัน และทำแบบทดสอบหลงั หนว่ ยการเรียน ที่ 2 ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมืองไทย 2. แบบทดสอบหลงั เรยี น 3. อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ เคร่ืองมอื และวสั ดุฝึก

การวัดและการประเมินผล การวัดผล การประเมินผล (ใชเ้ คร่ืองมือ) (นำผลเทียบกับเกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบสงั เกตการทำงานกลมุ่ และนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 60% 2. แบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 2 3. แบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนว่ ยที่ 2 เกณฑผ์ า่ น 50% เกณฑผ์ ่าน 50% 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑ์ผา่ น 60% งานที่มอบหมาย งานที่มอบหมายนอกเหนอื เวลาเรียน ทำใบงานให้ถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์ และศกึ ษาเร่อื งเทคโนโลยี สารสนเทศและการสบื ค้นขอ้ มูลสารสนเทศในงานอาชพี ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเร็จของผู้เรยี น 1. คะแนนการทำแบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 2 2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หนว่ ยท่ี 2 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชพี (3001– 2001) เอกสารอา้ งอิง สธุ ิดา ทะนันท.์ (2558). เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ (3001–2001). นนทบุรี : ศูนย์หนงั สอื เมอื งไทย.

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 3 หน่วยที่ 3 ช่ือวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ (3001–2001) เวลาเรียนรวม 72 คาบ ช่ือหนว่ ย 3 การสืบค้นข้อมลู บนอนิ เทอรเ์ นต็ สอนครั้งท่ี 3/18 ชอื่ เรื่อง 3 การสบื ค้นขอ้ มลู บนอนิ เทอร์เน็ต จำนวน 4 คาบ หวั ขอ้ เรอื่ ง ปฏบิ ตั ิ ทฤษฎี 3.1ความรูเ้ บ้อื งต้นเกยี่ วกับอินเทอรเ์ น็ต 3.2เวบ็ ไซต์และโปรแกรมเวบ็ เบราเซอร์ 3.3วธิ กี ารสืบค้นข้อมูลโดยใชส้ ารบบเว็บ 3.4วธิ ีการสืบค้นข้อมูลโดยใช้เครื่องมอื ชว่ ยคน้ 3.5ตวั อย่างเว็บไซต์ท่ีให้บริการสืบค้นข้อมูลทง้ั ของ ไทยและของตา่ งประเทศ สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรูเ้ กีย่ วกับการสืบคน้ ข้อมลู บนอินเทอร์เนต็ 2. ใชค้ อมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคมในการสบื คน้ และสื่อสารข้อมลู สารสนเทศผา่ นระบบ เครือข่ายคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศ จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ดา้ นความรู้ 1. บอกความหมายของอินเทอร์เนต็ ได้ 2. บอกความหมายของเว็บไซต์และโปรแกรมเวบ็ เบราเซอร์ได้ 3. อธิบายวิธีการสบื คน้ ขอ้ มูลโดยใชส้ าระบบเว็บได้ 4. อธบิ ายวธิ กี ารสืบค้นขอ้ มลู โดยใชเ้ ครอ่ื งมือช่วยคน้ ได้ 5. ยกตวั อยา่ งเว็บไซตท์ ีใ่ หบ้ รกิ ารสบื คน้ ข้อมูลทงั้ ของไทยและของต่างประเทศได้ ด้านทกั ษะ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการคา่ นยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงออกด้านความสนใจใฝ่รู้ การตรงต่อเวลา ความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย เคารพกฎ กติกา ความรว่ มมอื /ยอมรับความคดิ เห็นสว่ นใหญ่ เนอ้ื หาสาระ อินเทอร์เน็ตมีการใช้งานอย่างกว้างขวางและเป็นส่วนหน่ึงของสังคมปัจจุบันเป็นช่องทางในการ – ติดตอ่ สื่อสารได้รวดเร็ว เป็นแหลง่ ขอ้ มลู เปรยี บเสมอื นกับห้องสมดุ อิเลก็ ทรอนิกสข์ นาดใหญ่ทมี่ ีขอ้ มลู และข่าวสาร

จำนวนมาก ดงั นั้นหากต้องการค้นหาขอ้ มลู เรอื่ งใดเรอื่ งหนึง่ โดยไม่ทราบว่าขอ้ มูลดังกล่าวจัดเก็บอยู่ท่ใี ด จึงต้อง ใช้เคร่ืองมือท่ีเรียกว่า “โปรแกรมค้นหา” เข้ามาช่วยในการค้นหาข้อมูล ทำให้ได้ข้อมูลตรงกับความต้องการ ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีบทบาทในหลายสาขาอาชีพ เช่น ด้านการศึกษา ด้านธุรกิจอุตสาหกรรม ด้านการแพทย์ ดา้ นเศรษฐกิจ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฯลฯ ส่งผลให้คณุ ภาพชวี ติ ของบุคคลในสังคมปจั จุบันดีขึน้ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชพี (3001– 2001) ระบบสารสนเทศสรา้ งขึน้ มาเพอ่ื จุดมงุ่ หมายพน้ื ฐานประการหนงึ่ คอื การประมวลขอ้ มลู (Data) ใหเ้ ป็น สารสนเทศ (Information) และนำไปส่คู วามรู้ (Knowledge) ที่ช่วยแกป้ ัญหาในการดำเนินงาน 1. ความหมายของข้อมูล ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงเก่ียวกับเหตุการณ์ หรือข้อมูลดิบที่ยังไม่ผ่านการ ประมวลผล ยงั ไม่มีความหมายในการนำไปใช้งาน ข้อมูลอาจเปน็ ตัวเลข ตัวอักษร สญั ลักษณ์ รูปภาพ เสยี ง หรือ ภาพเคลอ่ื นไหว 2. ความหมายของสารสนเทศ สารสนเทศ คอื ข้อมูลที่ได้ผ่านการประมวลผลหรือจัดระบบแลว้ เพ่ือให้ มีความหมายและคุณค่าสำหรบั ผใู้ ช้ กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 3/18, คาบที่ 9–12/72) 1. ครูตรวจสอบความพรอ้ มนักศึกษาท้ังกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานชอ่ื และบรหิ ารสมอง รว่ มกัน 2. ครูนำเข้าสบู่ ทเรียน และครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียน 3. ครูสอนเนือ้ หาสาระขอ้ 3.1 – 3.5 4. ครแู ละนักศกึ ษาร่วมกนั อภิปรายเน้อื หาบทเรยี น 5. ครูจะสงั เกตการทำงานกลมุ่ และตรวจผลงาน 6. ใหน้ ักศึกษาทำความสะอาดบรเิ วณห้องเรยี นให้เรยี บร้อย 7. ครูใหน้ ักศกึ ษาร่วมกนั สรปุ ผล ประเมินผลงานรว่ มกัน และทำแบบทดสอบหลังหน่วยการเรียน ท่ี 3 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมืองไทย 2. แบบทดสอบหลังเรียน 3. อุปกรณเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ เครื่องมือ และวสั ดฝุ ึก การวดั และการประเมนิ ผล การวดั ผล การประเมินผล (ใชเ้ ครื่องมอื ) (นำผลเทียบกับเกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบสงั เกตการทำงานกล่มุ และนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 60% 2. แบบฝึกหัดหน่วยที่ 3 เกณฑ์ผ่าน 50%

3. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หนว่ ยที่ 3 เกณฑผ์ ่าน 50% 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑ์ผา่ น 60% งานที่มอบหมาย งานทีม่ อบหมายนอกเหนอื เวลาเรียน ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสำเรจ็ ของผูเ้ รียน 1. คะแนนการทำแบบฝกึ หัด 2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หน่วยท่ี 3 เอกสารอ้างองิ สุธดิ า ทะนันท.์ (2558). เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี (3001–2001). นนทบรุ ี : ศนู ย์หนงั สอื เมอื งไทย. แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี (3001– 2001)

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 หนว่ ยที่ 4 ชือ่ วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชีพ (3001–2001) เวลาเรียนรวม 72 คาบ ชือ่ หนว่ ย การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเร็จรูปด้านงานเอกสาร สอนครง้ั ที่ 4-6/18 ด้วยโปรแกรม Microsoft Word ชื่อเรือ่ ง จำนวน 12 คาบ หัวข้อเรือ่ ง ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 4.1ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับโปรแกรม Microsoft ใบงานที่ 4.1 การจดั รปู แบบการพมิ พเ์ อกสาร Word ใบงานที่ 4.2 การจัดรูปแบบการพมิ พเ์ อกสารให้ 4.2ความหมายและการใชค้ ำสัง่ แถบเคร่ืองมือ ข้อความชดิ ซา้ ย ใบงานที่ 4.3 การจัดระยะตวั เลขทศนิยมให้ตรงกัน 4.3ขั้นตอนการเปิด–ปิด และบันทึกข้อมูลบน ใบงานที่ 4.4 การแทรกสัญลกั ษณ์พเิ ศษ โปรแกรม Microsoft Word ใบงานท่ี 4.5 การจดั รปู แบบลำดับ ใบงานที่ 4.6 การสร้างกรอบขอ้ ความ แทรก 4.4การพิมพ์เอกสาร การเลือกข้อมูล คัดลอก และ รูปภาพ อักษณศิลป์ เคลื่อนยา้ ยขอ้ มลู ใบงานท่ี 4.7 การจัดระบบข้อความและกรอบ ข้อความ 4.5การจดั รปู แบบตวั อักษร ใบงานที่ 4.8 การจัดรปู แบบเอกสารเปน็ คอลมั ภ์ 4.6การจดั เอกสารเปน็ คอลัมน์ 4.7การแทรกรปู ภาพและอกั ษรศิลป์ 4.8การจัดการตารางบนเอกสาร ใบงานท่ี 4.9 การเลอื กใชเ้ ครอื่ งมือวาดภาพ ใบงานที่ 4.10 การสรา้ งตาราง สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรูเ้ กย่ี วกับการประยกุ ต์ใช้โปรแกรมสำเรจ็ รปู ด้านงานเอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2. จัดเกบ็ ค้นคืน ส่งผ่านและจัดดำเนนิ การขอ้ มลู สารสนเทศตามลักษณะงานอาชพี จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ดา้ นความรู้ 1. เรยี กใช้โปรแกรม Microsoft Word เปดิ –ปดิ และใชแ้ ถบเครอื่ งมือคำสง่ั ได้ 2. พิมพเ์ อกสาร เลอื กข้อมลู คดั ลอก เคลือ่ นยา้ ย และบันทกึ ขอ้ มลู ได้ 3. จดั รปู แบบตัวอกั ษรได้ 4. จดั เอกสารเป็นคอลมั นไ์ ด้ 5. แทรกรูปภาพและอกั ษรศิลปไ์ ด้ 6. สรา้ งและจัดการตารางบนเอกสารได้ ด้านทกั ษะ

1. สรา้ งเอกสาร ตกแตง่ จัดรปู และพมิ พข์ อ้ ความพเิ ศษได้ 2. สรา้ งเอกสาร และพิมพ์หนงั สือราชการได้ 3. สร้างเอกสาร ตกแต่ง จัดรปู และจดั ทำแผนธรุ กิจได้ 4. มคี วามคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ โดยใชค้ วามคิดหลากหลายในการแกป้ ญั หา แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชพี (3001– 2001) ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการค่านยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงออกถึงกิจนิสัยท่ีดีในการทำงาน ตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไม่หยดนิ่งที่จะแก้ปัญหา ซ่ือสตั ย์ เสียสละ อดทน ความร่วมมือ เนือ้ หาสาระ โปรแกรมด้านการจัดเอกสารเป็นโปรแกรมประยุกต์ท่ีใช้สำหรับการพิมพ์เอกสารต่าง ๆ สามารถ นำตัวอักษรมาเรียงต่อเป็นคำ ประโยค หรือย่อหน้าคล้ายกับการพิมพ์ข้อความด้วยเครื่องพิมพ์ดีด แต่ ต่างกันที่ตวั อักษรทพี่ ิมพ์หรือป้อนเขา้ ทางแผงแป้นอักขระเกบ็ อยู่ในหน่วยความจำของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ สามารถดัดแปลงได้งา่ ยภายใต้ขอ้ กำหนดของโปรแกรม ผู้ใชส้ ามารถกำหนดปรบั แต่งรูปแบบได้ตามความ ต้องการ เช่น การกำหนดเส้นกั้นหน้าและเส้นกั้นหลงั เส้นกั้นบนและเส้นก้ันล่าง เม่ือแกไ้ ขจนเป็นท่ีพอใจ แล้วสามารถสั่งพิมพ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพ์ได้หลายชุดตามความต้องการ เอกสารที่พิมพ์จาก เครอื่ งพิมพ์จะมีคณุ ภาพดีไม่มีรอยเป้อื น นอกจากน้ีไดจ้ ัดเกบ็ เอกสารเป็นแฟ้มในสื่อบันทึกเพื่อนำขอ้ มูลไป ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์อ่ืน แฟ้มเอกสารที่เก็บไว้แล้วสามารถเรียกมาแสดงผลบนจอภาพเพ่ือทำการ ดัดแปลงใหมไ่ ด้ ลกั ษณะของการใช้งานโปรแกรมประมวลคำเป็นการเตรียมเอกสารที่สามารถมองเห็นงานพิมพ์ ปรากฏท่ีจอภาพเม่ือพบข้อผิดพลาดและต้องการแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว ต้องเคล่ือนย้ายตัวชี้หรือตัว กระพริบบนจอภาพไปยังตำแหน่งนั้นเพื่อแก้ไข ผู้ใช้งานสามารถแทรกหรือลบอักษรได้ตลอดเวลาและ โปรแกรมจะคงรูปให้เป็นตามที่กำหนดไว้จึงทำให้ไม่เสียเวลาและสิ้นเปลืองเหมือนการพิมพ์เอกสารด้วย เครอ่ื งพิมพด์ ีด กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 4/18, คาบท่ี 13–16/72) 1. ครูตรวจสอบความพร้อมนักเรียนทั้งกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานชอื่ และบริหารสมอง รว่ มกนั 2. ครนู ำเขา้ สบู่ ทเรยี น และครูแจ้งจุดประสงค์การเรียน 3. ทดสอบกอ่ นเรยี น 4. ครูสอนเน้อื หาสาระขอ้ 4.1 – 4.3 5. ครูและนกั ศกึ ษาร่วมกนั อภปิ รายเนอ้ื หาบทเรยี น 6. ใหน้ ักศกึ ษาทำใบงานที่ 4.1 – 4.3

7. นักศึกษานำเสนอผลงาน 8. ใหน้ ักศึกษาทำความสะอาดบริเวณหอ้ งเรยี นให้เรยี บรอ้ ย กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ที่ 5/18, คาบที่ 17–20/72) 1. ครูตรวจสอบความพร้อมนักเรียนทง้ั กำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานช่อื และบริหารสมอง ร่วมกัน 2. ครนู ำเขา้ สบู่ ทเรียน และครแู จ้งจุดประสงคก์ ารเรียน 3. ครสู อนเนอ้ื หาสาระข้อ 4.4 – 4.5 4. ใหน้ ักศกึ ษาทำใบงานท่ี 4.4-4.7 ขณะนกั ศึกษาทำใบงาน ครูจะสังเกตการทำงานกลุม่ และ ตรวจผลงานภาคปฏิบัติ 6. ให้นักศกึ ษานำเสนอผลงาน แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชีพ (3001– 2001) กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 6/18, คาบที่ 21–24/72) 1. ครูตรวจสอบความพร้อมนักศึกษาทง้ั กำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานชอ่ื และบรหิ ารสมอง ร่วมกัน 2. ครูนำเข้าสูบ่ ทเรียน และครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียน 3. ครูสอนเนือ้ หาสาระขอ้ 4.6 – 4.8 4. ให้นักศกึ ษาทำใบงานที่ 4.8-4.10 ขณะนักเรียนทำใบงาน ครจู ะสังเกตการทำงานกลมุ่ และ ตรวจผลงานภาคปฏบิ ัติ 5. ใหน้ กั ศกึ ษานำเสนอผลงาน 6. ครใู หน้ ักเรยี นร่วมกันสรุปผล ประเมนิ ผลงานร่วมกนั และทำแบบทดสอบหลังหนว่ ยการเรยี น ที่ 4 ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมอื งไทย 2. แบบทดสอบหลงั เรยี น 3. อุปกรณเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี เคร่ืองมือ และวัสดฝุ ึก การวัดและการประเมนิ ผล การประเมนิ ผล (นำผลเทียบกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย) การวดั ผล (ใชเ้ ครอ่ื งมอื )

1. แบบสงั เกตการทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑ์ผา่ น 60% 2. ผลงานตามใบงานที่ 4.1 – 4.10 และแบบประเมนิ เกณฑ์ผา่ น 60% 2. แบบฝึกหัดหน่วยท่ี 4 เกณฑ์ผ่าน 50% 3. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยที่ 4 เกณฑ์ผา่ น 50% 4. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑผ์ ่าน 60% งานที่มอบหมาย งานท่มี อบหมายนอกเหนือเวลาเรยี น ทำใบงานใหถ้ กู ตอ้ ง สมบรู ณ์ ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเร็จของผูเ้ รียน 1. คะแนนการทำแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4 2. ผลการทำกจิ กรรมตามใบงานท่ี 4.1 – 4.10 3. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนว่ ยที่ 4 เอกสารอ้างอิง สธุ ิดา ทะนนั ท.์ (2558). เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ (3001–2001). นนทบรุ ี : ศูนยห์ นังสือเมอื งไทย. แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชพี (3001– 2001) บนั ทกึ หลังการสอน

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 หน่วยที่ 5 ชือ่ วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ (3001–2001) เวลาเรียนรวม 72 คาบ ชื่อหน่วย การจดั เอกสารและการนำเอกสารมาใชง้ าน สอนครัง้ ท่ี 7-8/18 ช่อื เรื่อง การจดั เอกสารและการนำเอกสารมาใชง้ าน จำนวน 8 คาบ หวั ข้อเร่ือง ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 5.1การจดั เรยี งลำดับขอ้ มลู ในตารางเอกสาร ใบงานท่ี 5.1 การสรา้ งตารางข้อมูลผ้รู บั หลายคน 5.2การแทรกเลขหน้า หัว/ท้ายกระดาษ ใบงานที่ 5.2 การพมิ พ์จดหมายเวียน 5.3การสร้างจดหมายเวยี นและซองจดหมาย 5.4การพิมพ์เอกสารออกทางเครือ่ ง พมิ พ์ สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรูเ้ ก่ยี วกบั การจดั เอกสารและการนำเอกสารมาใชง้ าน 2. จดั เกบ็ คน้ คนื สง่ ผ่านและจัดดำเนนิ การขอ้ มูลสารสนเทศตามลักษณะงานอาชีพ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ด้านความรู้ 1. ลำดบั ข้นั ตอนการจัดเรยี งลำดับขอ้ มลู ในตารางเอกสารได้ 2. ลำดับขั้นตอนการแทรกเลขหน้า หัว/ท้ายกระดาษได้ 3. ลำดับขั้นตอนการสร้างจดหมายเวียนและซองจดหมายได้ 4. พมิ พ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพ์ได้อยา่ งถกู ต้อง ดา้ นทกั ษะ 1. สร้างตารางและแก้ไขตารางได้ 2. พิมพ์ข้อมูลในตารางได้ 3. อธิบายและคำนวณค่าในตารางได้ 4. สรา้ งตารางและแก้ไขตารางได้ 5. พมิ พ์ข้อมูลในตารางได้ 6. อธบิ ายและปฏบิ ัตกิ ารปรับความกว้างของคอลมั น์ได้ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงถึงกิจนิสัยท่ีดีในการทำงาน มีความรอบคอบ เรียบร้อยและตระหนักถึงความปลอดภัยใน การปฏิบตั งิ าน การตรงต่อเวลา ความร่วมมือ/ยอมรบั ความคิดเหน็ ส่วนใหญ่

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ (3001– 2001) เน้ือหาสาระ การป้อนข้อมูลบนเอกสารนอกจากการปอ้ นขอ้ ความธรรมดาแลว้ สามารถปอ้ นขอ้ ความในรปู เเบบของตารางไดด้ ้วย ดังน้นั ผู้ใช้งานตอ้ งเรยี นร้วู ธิ กี ารสร้างตาราง การพมิ พข์ ้อมลู ในตาราง การเลือก เซลลห์ รอื คอลัมน์ การเพิ่มแถวหรือคอลัมน์ การลบแถวหรอื คอลมั น์ การปรบั ขนาดของตาราง การจัด ตำแหนง่ ของตาราง การผสานเซลล์ การแยกเซลล์ การใส่สลี งในตาราง การแตง่ เสน้ ขอบตาราง และการ สรา้ งจดหมายเวียน ทำใหไ้ ดเ้ อกสารที่มีรูปแบบทันสมยั สวยงามและเป็นระเบียบ วธิ กี ารสร้างตารางใน โปรแกรมMicrosoft Word 2010 ทำไดง้ ่ายไมย่ งุ่ ยาก สว่ นประกอบของตารางประกอบด้วย 3 สว่ น หลัก ๆ คอื 1. คอลมั น์ (Column) คือ ช่องข้อมูลในแนวตง้ั 2. แถว (Row) คือ ช่องข้อมูลในแนวนอน 3. เซลล์ (Cell) คือ ชอ่ งที่เกดิ จากจุดตัดของคอลัมน์และแถว กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 7/18, คาบท่ี 25–28/72) 1. ครูตรวจสอบความพร้อมนักเรียนท้ังกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานชื่อและทำกิจกรรม บรหิ ารสมองร่วมกัน 2. ครูนำเขา้ สบู่ ทเรยี น และครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียน 3. ให้นกั ศกึ ษาทดสอบก่อนเรียน 4. ครูสอนเนอื้ หาสาระขอ้ 5.1 – 5.2 5. ให้นักศึกษาทำแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 5 และใบงานที่ 5.1 ขณะนักศึกษาทำใบงาน ครจู ะสังเกต การทำงานกลุ่ม และตรวจผลงานภาคปฏบิ ตั ิ 5. นักศึกษานำเสนอผลงาน 6. รว่ มกันสรุปผล ประเมนิ ผลงานรว่ มกนั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 8/18, คาบท่ี 29–32/72)

1. ครูตรวจสอบความพร้อมทั้งกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานช่ือและทำกิจกรรมบริหาร สมองรว่ มกัน 2. ครนู ำเข้าสู่บทเรยี น แจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี น และสอนเน้ือหาสาระข้อ 5.3 – 5.4 3. ให้นักศึกษาทำแบบฝึกหัดหน่วยที่ 5 และใบงานที่ 5.2 ขณะนักศึกษาทำใบงาน ครจู ะสังเกต การทำงานกลุ่ม และตรวจผลงานภาคปฏิบัติ 4. นักศึกษานำเสนอผลงาน และร่วมกนั สรุปผล ประเมนิ ผลงานรว่ มกัน 5. ทำแบบทดสอบหลังหนว่ ยการเรยี นที่ 5 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชพี (3001– 2001) สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมอื งไทย 2. แบบทดสอบหลงั เรียน 3. อุปกรณเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชพี เครอ่ื งมอื และวสั ดุฝกึ การวัดผล การประเมนิ ผล (ใช้เครอ่ื งมือ) (นำผลเทียบกับเกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบสงั เกตการทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑ์ผา่ น 60% 2. ผลงานตามใบงานท่ี 5.1 – 5.2 และแบบประเมนิ 2. แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 5 เกณฑผ์ า่ น 60% 3. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หน่วยท่ี 5 เกณฑผ์ ่าน 50% 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑผ์ ่าน 50% เกณฑผ์ ่าน 60% งานที่มอบหมาย งานที่มอบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ทำใบงานให้ถูกต้อง สมบูรณ์ และศึกษาเรื่องการตกแต่ง เอกสาร ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเรจ็ ของผู้เรียน 1. คะแนนการทำแบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 5 2. ผลการทำกจิ กรรมตามใบงานท่ี 5.1 – 5.2 3. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หน่วยที่ 5 เอกสารอา้ งองิ

สธุ ดิ า ทะนนั ท.์ (2558). เทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชพี (3001–2001). นนทบรุ ี : ศนู ย์หนงั สอื เมอื งไทย. แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5 วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี (3001– 2001)

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 6 หน่วยที่ 6 ช่ือวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชพี (3001–2001) เวลาเรยี นรวม 72 คาบ ชือ่ หน่วย การประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรมคำนวณทางธรุ กิจด้วย สอนคร้ังท่ี 9-10/18 โปรแกรม Microsoft Excel ชอื่ เรอื่ ง จำนวน 8 คาบ หวั ข้อเรื่อง ทฤษฎี ปฏบิ ัติ 6.1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโปรแกรม Microsoft ใบงานท่ี 6.1 การใชส้ ูตรหาผลรวมและค่าเฉล่ีย Excel ใบงานท่ี 6.2 การใช้สตู รคำนวณคา่ ขอ้ มูล ใบงานที่ 6.3 การคำนวณขอ้ มูลราคาสนิ ค้า 6.2ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Excel ใบงานท่ี 6.4 การใชส้ ูตรคำนวณโดยใชฟ้ งั ก์ชนั IF 6.3การกำหนดขอบเขตของข้อมูล 6.4การคำนวณและการใชส้ ตู รฟังก์ชนั สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับการประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรมคำนวณทางธรุ กจิ ดว้ ยโปรแกรม Microsoft Excel 2. จดั เก็บ คน้ คนื ส่งผา่ นและจดั ดำเนินการข้อมลู สารสนเทศตามลกั ษณะงานอาชพี จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ด้านความรู้ 1. บอกข้นั ตอนการนำเขา้ สูโ่ ปรแกรม Microsoft Excel ได้อย่างถกู ตอ้ ง 2. บอกสว่ นประกอบของโปรแกรม Microsoft Excel ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3. อธบิ ายขัน้ ตอนการกำหนดขอบเขตข้อมลู ได้ 4. คำนวณและการใช้สตู รฟงั กช์ ันได้อย่างถกู วิธี ด้านทกั ษะ 1. ใชส้ ตู รหาผลรวมและคา่ เฉลี่ย 2. ใช้สูตรคำนวณค่าขอ้ มลู 3. คำนวณข้อมูลราคาสนิ คา้ 4. การใช้สตู รคำนวณโดยใชฟ้ ังก์ชนั IF ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการค่านยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ แสดงออกถึงกิจนิสัยที่ดีในการทำงาน ตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไม่หยดน่ิงท่ีจะแก้ปัญหา ความซ่ือสตั ย์ ความรว่ มมอื ตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงาน

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี (3001– 2001) เนอื้ หาสาระ รูปแบบของโปรแกรม Microsoft Excel จะคลา้ ยกบั โปรแกรมโลตัส (Lotus) โดยจะมีลักษณะเป็น โปรแกรมท่ีรูปแบบเป็นตาราง 2 มิติ และเป็นตารางท่ีมีขนาดใหญ่มาก จนไม่สามารถท่ีจะปรากฏบน จอภาพได้ทงั้ หมดใน 1 จอภาพ ประกอบดว้ ย แถวในแนวนอน เรียกว่า แถว (Row) และแถวตามแนวตั้ง เรียกว่า คอลัมน์ (Column) โดยแถวตารางแนวนอน (Row) จะแบ่งได้ทั้งหมด 65,536 แถว ในแต่ละ แถวจะใส่ตัวเลขได้ต้ังแต่ 1–65,536 เป็นเลขกำกับแถว ส่วนแถวคอลัมน์ตามแนวต้ังจะแบ่งได้ทั้งหมด 256 แ ถ ว แต่ละแถวจะใช้ตัวอักษร A, B, C, …, Aa, Ab, …, Ba, …, Iv เป็นอักษรกำกับแถว แต่จะไม่สามารถ กำหนดจำนวน Cell ท่ีแสดงผลบนจอภาพได้ว่า สามารถแสดงได้จำนวนเท่าไร ข้นึ อยกู่ ับขนาดและความ กว้างของ Cell แต่ละ Cell ด้วยตำแหน่งท่ีคอลัมน์ (Column) และแถว (Row) ตัดกัน เรียกว่า เซลล์ (Cell) ซึง่ จะสังเกตเหน็ เซลล์ทก่ี ำลงั ทำงานอยู่ ซ่ึงเรียกเซลล์ทีม่ ลี ักษณะนี้ว่า ตวั ชี้ตำแหน่ง (Cell Pointer) ส่วนนี้จะเป็นตัวบอกตำแหน่งที่กำลังทำงานอยู่กับเซลล์นั้น ๆ สามารถเลอื่ นไปยังท่ใี ดก็ได้บนกระดาษทำ การ (Worksheet) มีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมสีดำ ขอบเข้มและหนา ล้อมกรอบเซลล์นั้นๆ อยู่ไม่ว่า เซลลน์ ้ันจะมขี นาดเท่าไรก็ตาม กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 9/18, คาบที่ 33–36/72) 1. ครตู รวจสอบความพร้อมนักศึกษาท้ังกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานชื่อและทำกิจกรรม บรหิ ารสมองรว่ มกัน 2. ครนู ำเข้าสบู่ ทเรียน และครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียน 3. ใหน้ กั ศึกษาทดสอบกอ่ นเรยี น 4. ครูสอนเน้ือหาสาระขอ้ 6.1 – 6.4 5. ให้นักศึกษาทำแบบฝึกหัดหน่วยที่ 6 และใบงานที่ 6.1 ขณะนักศึกษาทำใบงาน ครจู ะสังเกต การทำงานกลมุ่ และตรวจผลงานภาคปฏบิ ตั ิ 5. นักศกึ ษานำเสนอผลงาน 6. ร่วมกันสรุปผล ประเมินผลงานรว่ มกัน กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ี่ 10/18, คาบที่ 37–40/72) 1. ครูตรวจสอบความพร้อมท้ังกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานช่ือและทำกิจกรรมบริหาร สมองร่วมกนั 2. ครูนำเข้าส่บู ทเรียน แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี น 3. ให้นักศึกษาทำใบงานท่ี 6.2-6.4 ขณะนักศึกษาทำใบงาน ครูจะสังเกตการทำงานกลุ่ม และ ตรวจผลงานภาคปฏิบัติ 4. นักศึกษานำเสนอผลงาน และรว่ มกนั สรปุ ผล ประเมินผลงานร่วมกัน

5. ทำแบบทดสอบหลังหนว่ ยการเรยี นท่ี 6 ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมอื งไทย 2. แบบทดสอบหลงั เรยี น 3. อปุ กรณเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี เครอ่ื งมือ และวัสดฝุ กึ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6 วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชพี (3001– 2001) การวัดและการประเมินผล การวดั ผล การประเมนิ ผล (ใชเ้ ครอ่ื งมอื ) (นำผลเทยี บกับเกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบสงั เกตการทำงานกลุม่ และนำเสนอผลงานกลมุ่ 2. ผลงานตามใบงานท่ี 6.1 – 6.4 และแบบประเมนิ เกณฑผ์ า่ น 60% 3. แบบฝึกหัดหน่วยท่ี 6 เกณฑ์ผา่ น 60% 4. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยที่ 6 เกณฑ์ผ่าน 50% 5. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑผ์ า่ น 50% เกณฑผ์ ่าน 60% งานทม่ี อบหมาย งานที่มอบหมายนอกเหนอื เวลาเรยี น ทำใบงานให้ถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์ ผลงาน/ชนิ้ งาน/ความสำเร็จของผเู้ รียน 1. คะแนนการทำแบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 6 2. ผลการทำกจิ กรรมตามใบงานที่ 6.1 – 6.4 3. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หนว่ ยที่ 6 เอกสารอ้างองิ สธุ ิดา ทะนันท.์ (2558). เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ (3001–2001). นนทบรุ ี : ศนู ยห์ นังสอื เมอื งไทย. แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ (3001– 2001)

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 หนว่ ยที่ 7 ชอื่ วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี (3001–2001) เวลาเรยี นรวม 72 คาบ ชอ่ื หน่วย การจดั รูปแบบข้อมูล การแก้ไข ลบ คัดลอก และ สอนครงั้ ที่ 11- เคล่อื นยา้ ยขอ้ มูล 12/18 ชือ่ เรอื่ ง จำนวน 8 คาบ หัวข้อเรอ่ื ง ทฤษฎี ปฏิบัติ 7.1การจดั รูปแบบประเภทของข้อมูล ใบงานท่ี 7.1 การสร้างเวิรก์ ชีทและจดั รูปแบบขอ้ มลู ใบงานท่ี 7.2 การจดั รปู แบบข้อมลู ตัวเลข 7.2การแกไ้ ขข้อมลู บนเซลล์ ใบงานท่ี 7.3 การการจัดรูปแบบขอ้ มลู และคำนวณ 7.3การคัดลอกเซลล์ ลบ และเคลือ่ นยา้ ยข้อมลู ขอ้ มลู ในเวิร์กชีท สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความรเู้ ก่ียวกบั การจัดรูปแบบข้อมูล การแก้ไข ลบ คัดลอก และเคลือ่ นย้ายข้อมลู 2. จัดเกบ็ ค้นคืน ส่งผา่ นและจัดดำเนินการข้อมูลสารสนเทศตามลักษณะงานอาชีพ จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ดา้ นความรู้ 1. อธบิ ายการจัดรูปแบบข้อมลู แต่ละประเภทได้ 2. แก้ไขขอ้ มูลได้ 3. คัดลอกเซลล์ ลบเซลล์ และเคลือ่ นย้ายเซลลไ์ ด้ ดา้ นทกั ษะ 1. สร้างเวริ ก์ ชีทและจดั รูปแบบข้อมูล 2. จดั รูปแบบขอ้ มูลตวั เลข 3. จดั รปู แบบข้อมลู และคำนวณข้อมูลในเวริ ์กชีท ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงออกถึงการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไม่หยดน่ิงท่ีจะแก้ปัญหา ความซ่ือสัตย์ ความ ร่วมมือช่วยเหลือเก้อื กูล เนอื้ หาสาระ การป้อนข้อมูลลงในกระดาษทำการบนโปรแกรม Microsoft Excel ได้แบ่งข้อมูลเป็นหลาย ประเภทจงึ ตอ้ งเข้าใจประเภทของรูปแบบข้อมูลทแ่ี ตกต่างกัน การปอ้ นขอ้ มูลแตล่ ะประเภทยงั สามารถ จัดรปู แบบเซลล์ แก้ไขเซลล์ ลบเซลล์ คัดลอกเซลล์ และการเคลอื่ นย้ายเซลล์

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ (3001– 2001) กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 11/18, คาบที่ 41–44/72) 1. ครูตรวจสอบความพร้อมนักศึกษาท้ังกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานช่ือและทำกิจกรรม บริหารสมองร่วมกัน 2. ครูนำเข้าสบู่ ทเรยี น และครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียน 3. ใหน้ ักศกึ ษาทดสอบก่อนเรียน 4. ครสู อนเนอ้ื หาสาระข้อ 7.1 – 7.3 5. ให้นักศึกษาทำแบบฝึกหัดหน่วยที่ 7 และใบงานท่ี 7.1 ขณะนักศึกษาทำใบงาน ครูจะสังเกต การทำงานกลุ่ม และตรวจผลงานภาคปฏบิ ตั ิ 5. นกั ศึกษานำเสนอผลงาน 6. ร่วมกันสรปุ ผล ประเมินผลงานรว่ มกนั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ่ี 12/18, คาบท่ี 45–48/72) 1. ครูตรวจสอบความพร้อมท้ังกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานชื่อและทำกิจกรรมบริหาร สมองรว่ มกัน 2. ครูนำเข้าส่บู ทเรียน แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียน 3. ให้นักศึกษาทำใบงานท่ี 7.2-7.3 ขณะนักศึกษาทำใบงาน ครูจะสังเกตการทำงานกลุ่ม และ ตรวจผลงานภาคปฏิบตั ิ 4. นักศึกษานำเสนอผลงาน และร่วมกนั สรุปผล ประเมนิ ผลงานร่วมกนั 5. ทำแบบทดสอบหลังหนว่ ยการเรียนท่ี 7 สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมอื งไทย 2. แบบทดสอบหลงั เรียน 3. อุปกรณเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ เครอื่ งมือ และวสั ดุฝึก การวัดและการประเมนิ ผล การวัดผล การประเมินผล (ใช้เคร่ืองมอื ) (นำผลเทียบกบั เกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบสงั เกตการทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 60% 2. ผลงานตามใบงานที่ 7.1 – 7.3 และแบบประเมิน 3. แบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 7 เกณฑ์ผ่าน 60% เกณฑ์ผ่าน 50%

4. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หนว่ ยที่ 7 เกณฑผ์ า่ น 50% 5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผา่ น 60% งานท่มี อบหมาย งานทีม่ อบหมายนอกเหนอื เวลาเรียน ทำใบงานใหถ้ ูกตอ้ ง สมบรู ณ์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 7 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ (3001– 2001) ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสำเรจ็ ของผู้เรยี น 1. คะแนนการทำแบบฝึกหัดหน่วยที่ 7 2. ผลการทำกิจกรรมตามใบงานที่ 7.1 – 7.3 3. คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หนว่ ยท่ี 7 เอกสารอา้ งอิง สุธดิ า ทะนนั ท.์ (2558). เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชพี (3001–2001). นนทบรุ ี : ศนู ยห์ นังสือเมอื งไทย.

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 8 หน่วยท่ี 8 ชื่อวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชพี (3001–2001) เวลาเรียนรวม 72 คาบ ช่อื หน่วย การพมิ พ์ข้อมลู จากโปรแกรมคำนวณและการ สอนครั้งที่ 13/18 ประยุกต์ใชใ้ นการนำเสนอ ช่อื เรอ่ื ง จำนวน 4 คาบ หัวข้อเรอื่ ง ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 8.1การกำหนดรายละเอียดของเอกสารก่อนพิมพ์ ใบงานท่ี 8.1 การสร้างตารางเปรยี บเทียบขอ้ มูลดว้ ย ออกทางเครอ่ื งพิมพ์ กราฟแทง่ 8.2การสรา้ งกราฟเปรียบเทียบการนำเสนอขอ้ มูล ใบงานท่ี 8.2 การสรา้ งตารางเปรยี บเทียบขอ้ มูลด้วย 8.3การออกแบบและตกแตง่ กราฟเปรยี บเทียบ กราฟแทง่ และกราฟวงกลม ข้อมูล สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความรู้เก่ยี วกบั การพมิ พข์ ้อมลู จากโปรแกรมคำนวณและการประยกุ ตใ์ ช้ในการนำเสนอ 2. จดั เก็บ คน้ คืน สง่ ผา่ นและจดั ดำเนนิ การขอ้ มลู สารสนเทศตามลกั ษณะงานอาชพี จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ดา้ นความรู้ 1. อธบิ ายวิธกี ารกำหนดรายละเอยี ดของเอกสารก่อนพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพไ์ ด้ 2. สร้างกราฟเปรียบเทยี บการนำเสนอขอ้ มูลได้ 3. บอกขั้นตอนการออกแบบและตกแต่งกราฟเปรยี บเทียบขอ้ มูลได้ ดา้ นทักษะ 1. สรา้ งตารางเปรยี บเทยี บข้อมูลด้วยกราฟแท่ง 2. สรา้ งตารางเปรยี บเทียบขอ้ มลู ดว้ ยกราฟวงกลม ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไม่หยดนิ่งท่ีจะแก้ปัญหา ความซ่ือสัตย์ ความ รว่ มมอื เนอ้ื หาสาระ การกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ ของเอกสารท่ีต้องการพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของกระดาษ ลกั ษณะการพมิ พ์ ระยะขอบกระดาษ การกำหนดส่วนหัว/ท้ายกระดาษ แสดงข้อความที่ต้องการการพมิ พ์ การสร้างกราฟหรือแผนภูมิเปรยี บเทียบขอ้ มูล สามารถชว่ ยใหก้ ารสรุปหรือวเิ คราะหข์ ้อมลู มีความสะดวก

และง่ายข้ึน อีกท้ังยังสามารถคาดเดาแนวโน้มของข้อมูลว่าจะไปในทิศทางใด เพ่ิมข้ึนหรือลดลง เป็นประโยชนต์ อ่ ผู้ทตี่ อ้ งการวิเคราะหข์ ้อมลู เป็นอยา่ งมาก แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ (3001– 2001) กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 13/18, คาบที่ 49–52/72) 1. ครตู รวจสอบความพร้อมนักศึกษาทั้งกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานช่ือและทำกิจกรรม บรหิ ารสมองร่วมกนั 2. ครูนำเข้าสู่บทเรียน และครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี น 3. นกั ศกึ ษาทำแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยท่ี 8 3. ครูสอนเนื้อหาสาระขอ้ 8.1 – 8.3 4. ให้นักศกึ ษาทำตามใบงานที่ 8.1 – 8.2 ขณะนักศึกษาทำใบงาน ครูจะสังเกตการทำงานกลุ่ม และตรวจผลงานภาคปฏิบตั เิ พ่มิ เตมิ 5. นักศกึ ษานำเสนอผลงาน และรว่ มกนั สรุปผล ประเมนิ ผลงานร่วมกัน 6. นักศกึ ษาทำแบบทดสอบหลังหน่วยการเรียนท่ี 8 สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมอื งไทย 2. แบบทดสอบหลังเรียน 3. อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ เครื่องมือ และวัสดฝุ กึ การวดั และการประเมินผล การวดั ผล การประเมินผล (ใชเ้ ครอ่ื งมอื ) (นำผลเทยี บกับเกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบสงั เกตการทำงานกล่มุ และนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 60% 2. ผลงานตามใบงานที่ 8.1 – 8.2 และแบบประเมนิ เกณฑผ์ ่าน 60% 3. แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 8 เกณฑ์ผ่าน 50% 4. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หน่วยที่ 8 เกณฑ์ผา่ น 50% 5. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑผ์ า่ น 60% งานทีม่ อบหมาย งานท่มี อบหมายนอกเหนอื เวลาเรียน ทำใบงานให้ถูกตอ้ ง สมบูรณ์ ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเร็จของผเู้ รียน

1. คะแนนการทำแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 8 2. ผลการทำกิจกรรมตามใบงานท่ี 8.1 – 8.2 3. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยท่ี 8 เอกสารอ้างองิ สธุ ิดา ทะนนั ท.์ (2558). เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ (3001–2001). นนทบุรี : ศนู ยห์ นังสอื เมืองไทย. แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 8 วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี (3001– 2001)

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 9 หนว่ ยท่ี 9 ชอื่ วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ (3001–2001) เวลาเรียนรวม 72 คาบ ชื่อหน่วย การประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมจัดการฐานขอ้ มลู ด้วย สอนครัง้ ที่ 14/18 โปรแกรม Microsoft Access ช่อื เร่ือง จำนวน 4 คาบ หวั ข้อเร่ือง ทฤษฎี ปฏบิ ัติ 9.1ความหมายและส่วนประกอบของโปรแกรม ใบงานท่ี 9 การสรา้ งฐานขอ้ มลู Microsoft Access 9.2วิธกี ารสรา้ งตารางบนฐานขอ้ มูล 9.3การกำหนดและออกแบบเขตข้อมูลสำหรับ ตาราง 9.4การป้อนข้อมูล การเพ่ิมและการแก้ไขข้อมูลใน ตาราง สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้โปรแกรมจัดการฐานข้อมูลด้วยโปรแกรม Microsoft Access 2. จัดเก็บ คน้ คืน สง่ ผ่านและจดั ดำเนนิ การข้อมลู สารสนเทศตามลกั ษณะงานอาชีพ จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ด้านความรู้ 1. บอกความหมายและสว่ นประกอบของโปรแกรม Microsoft Access ได้ 2. อธิบายวธิ กี ารสรา้ งตารางบนฐานข้อมลู ได้ 3. กำหนดและออกแบบเขตข้อมูลสำหรับตารางได้ 4. อธิบายวิธกี ารปอ้ นขอ้ มูล การเพม่ิ และการแก้ไขข้อมลู ในตารางได้ ดา้ นทกั ษะ สร้างฐานข้อมลู ตามขอ้ มลู ทีก่ ำหนดให้ได้ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการค่านยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงออกถึงกิจนิสัยที่ดีในการทำงาน ตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไม่หยุดนิ่งท่ีจะแก้ปัญหา ความซอื่ สตั ย์ ความร่วมมือรว่ มมือ เนอ้ื หาสาระ Microsoft Access เป็นโปรแกรมทใ่ี ช้จดั การฐานข้อมูล ในฐานขอ้ มลู จะมองแฟ้มข้อมูลเปน็ แบบ ตาราง (Table) สามารถเก็บขอ้ มูลได้มากกวา่ 1 ตาราง ในแตล่ ะตารางประกอบดว้ ย เขตขอ้ มลู (Field) หรือคอลัมน์ ระเบียน (Record) หรอื แถว สามารถเชอ่ื มโยงความสัมพันธร์ ะหว่างตารางได้ แต่ตารางน้นั

ๆ ตอ้ งมกี ารระบุข้อมูลหลัก (Primary Key) ท่ีเหมือนกัน จงึ จะเชือ่ มโยงตาราง 2 ตาราง หรือมากกว่าได้ เพอื่ จะนำมาใช้งานต่อไป แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชพี (3001– 2001) กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 14/18, คาบท่ี 53–56/72) 1. ครตู รวจสอบความพร้อมนักศึกษาท้ังกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานชื่อและทำกิจกรรม บริหารสมองร่วมกนั 2. ครูนำเขา้ ส่บู ทเรียน และครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียน 3. นักศกึ ษาทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยท่ี 9 3. ครสู อนเนอื้ หาสาระข้อ 9.1 – 9.4 4. ให้นักศึกษาทำตามใบงานท่ี 9 ขณะนักศึกษาทำใบงาน ครูจะสังเกตการทำงานกลุ่ม และ ตรวจผลงานภาคปฏบิ ัติเพม่ิ เติม 5. นกั ศกึ ษานำเสนอผลงาน และรว่ มกันสรปุ ผล ประเมนิ ผลงานรว่ มกัน 6. นักศกึ ษาทำแบบทดสอบหลังหน่วยการเรยี นท่ี 9 สือ่ และแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมอื งไทย 2. แบบทดสอบหลงั เรยี น 3. อุปกรณเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชพี เครอื่ งมอื และวัสดุฝกึ การวดั และการประเมนิ ผล การวดั ผล การประเมินผล (ใช้เครอื่ งมอื ) (นำผลเทยี บกับเกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบสังเกตการทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงานกลมุ่ 2. ผลงานตามใบงานที่ 9 และแบบประเมิน เกณฑผ์ า่ น 60% 3. แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 9 เกณฑ์ผา่ น 60% เกณฑ์ผ่าน 50% 4. แบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หน่วยที่ 9 5. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑผ์ า่ น 50% เกณฑ์ผา่ น 60% งานท่มี อบหมาย งานที่มอบหมายนอกเหนือเวลาเรยี น ทำใบงานใหถ้ ูกตอ้ ง สมบรู ณ์ ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเร็จของผู้เรียน

1. คะแนนการทำแบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 9 2. ผลการทำกจิ กรรมตามใบงานท่ี 9 3. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยที่ 9 เอกสารอ้างองิ สธุ ดิ า ทะนนั ท์. (2558). เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชพี (3001–2001). นนทบุรี : ศนู ย์หนงั สอื เมืองไทย. แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชีพ (3001– 2001)

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 10 หน่วยที่ 10 ช่ือวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชพี (3001–2001) เวลาเรยี นรวม 72 คาบ ชอ่ื หน่วย การสรา้ งรายงานจากโปรแกรมจัดการฐานข้อมูล สอนครง้ั ที่ 15/18 และการดแู ลฐานขอ้ มูล ช่ือเรื่อง จำนวน 4 คาบ หัวขอ้ เรอ่ื ง ทฤษฎี ปฏบิ ัติ 10.1 การสร้างและบนั ทึกรายงาน ใบงานท่ี 10 การสร้างฐานข้อมูลและรายงานอตั โนมตั ิ 10.2 ตัวช่วยสรา้ งรายงาน 10.3 รายงานอตั โนมตั ิแบบเรยี งเป็นแนว 10.4 รายงานอตั โนมตั ิแบบตาราง 10.5 การสรา้ งปมุ่ คำสง่ั ในฟอร์ม 10.6 การดแู ลฐานขอ้ มลู สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความรู้เกย่ี วกับการสร้างรายงานจากโปรแกรมจดั การฐานข้อมูลและการดูแลฐานข้อมลู 2. จดั เก็บ ค้นคนื สง่ ผา่ นและจัดดำเนินการขอ้ มูลสารสนเทศตามลักษณะงานอาชพี จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ด้านความรู้ 1. อธบิ ายวธิ ีการสรา้ งและบนั ทกึ รายงานได้ 2. อธบิ ายข้นั ตอนการสร้างรายงานดว้ ยตัวชว่ ยสรา้ งรายงานได้ 3. สรา้ งรายงานอตั โนมัติแบบเรยี งเป็นแนวได้ 4. สร้างรายงานอตั โนมัติแบบตารางได้ 5. อธบิ ายขนั้ ตอนการสรา้ งปุม่ คำสัง่ ในฟอรม์ ได้ 6. ปฏบิ ัติขนั้ ตอนการดแู ลฐานข้อมลู ได้ ด้านทกั ษะ 1. สร้างฐานขอ้ มูลและรายงานอตั โนมัติได้ ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการคา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไม่หยดนิ่งท่ีจะแก้ปัญหา ความซ่ือสัตย์ ความ รว่ มมือ เน้ือหาสาระ การสร้างรายงาน (Report) เปน็ การสร้างหนา้ ต่างหรอื รูปแบบสำหรับการแสดงข้อมูลจากตาราง (Table) และแบบสอบถาม (Query) ออกมาเป็นรายงาน โดยสามารถกำหนดรูปแบบได้ตามความ

ตอ้ งการ ท้งั ที่เปน็ วธิ ีการบนั ทกึ รายงานเองและสร้างรายงานดว้ ยเคร่ืองมอื ชว่ ยสร้าง (Report Wizard) การสร้างปมุ่ ในฟอร์มและการดแู ลฐานขอ้ มูลนั้นทำให้ผใู้ ชง้ านงา่ ยขึน้ สามารถใช้โปรแกรมไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพมากข้ึน แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 10 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ (3001– 2001) กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 15/18, คาบที่ 57–60/72) 1. ครตู รวจสอบความพร้อมนักศึกษาทั้งกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานช่ือและทำกิจกรรม บรหิ ารสมองร่วมกัน 2. ครนู ำเข้าส่บู ทเรยี น และครแู จ้งจุดประสงคก์ ารเรียน 3. นักศกึ ษาทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยท่ี 10 3. ครสู อนเน้อื หาสาระขอ้ 10.1 – 10.6 4. ให้นักศึกษาทำตามใบงานท่ี 10 ขณะนักศึกษาทำใบงาน ครูจะสังเกตการทำงานกลุ่ม และ ตรวจผลงานภาคปฏบิ ัตเิ พม่ิ เติม 5. นกั ศึกษานำเสนอผลงาน และรว่ มกนั สรปุ ผล ประเมินผลงานรว่ มกนั 6. นกั ศึกษาทำแบบทดสอบหลงั หนว่ ยการเรยี นท่ี 10 สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมอื งไทย 2. แบบทดสอบหลงั เรียน 3. อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ เครื่องมอื และวัสดฝุ กึ การวัดและการประเมนิ ผล การวดั ผล การประเมนิ ผล (ใช้เครอื่ งมอื ) (นำผลเทียบกับเกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบสงั เกตการทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงานกลมุ่ 2. ผลงานตามใบงานท่ี 10 และแบบประเมิน เกณฑ์ผ่าน 60% 3. แบบฝกึ หัดหน่วยที่ 10 เกณฑผ์ ่าน 60% 4. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หน่วยท่ี 10 เกณฑผ์ า่ น 50% เกณฑ์ผา่ น 50% 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑ์ผ่าน 60% งานทีม่ อบหมาย -

ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสำเรจ็ ของผู้เรียน 1. คะแนนการทำแบบฝึกหัดหน่วยที่ 10 2. ผลการทำกจิ กรรมตามใบงานท่ี 10 3. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยท่ี 10 เอกสารอ้างอิง สุธิดา ทะนนั ท.์ (2558). เทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชพี (3001–2001). นนทบรุ ี : ศนู ย์หนงั สือเมอื งไทย. แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 10 วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ (3001– 2001)

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 11 หนว่ ยท่ี 11 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี (3001–2001) เวลาเรียนรวม 72 คาบ ช่อื หนว่ ย การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมการนำเสนอผลงานและ สอนครั้งที่ 16/18 การผลิตส่อื ผสมดว้ ยโปรแกรม Microsoft PowerPoint ชือ่ เรื่อง จำนวน 4 คาบ หัวข้อเร่อื ง ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 11.1 ค ว า ม รู้ พ้ื น ฐ า น โ ป ร แ ก ร ม Microsoft ใบงานท่ี 11.1 การเลือกรปู แบบนำเสนอข้อมลู ใบงานท่ี 11.2 การจดั รูปแบบนำเสนอข้อมลู PowerPoint 11.2 ส่วน ประก อบ ของโป รแก รม Microsoft PowerPoint 11.3 หลักการออกแบบงานนำเสนอกับการจัดการ ข้อความลงบนสไลด์ 11.4 การเลอื กมมุ มองการนำเสนอผลงาน 11.5 ขนั้ ตอนการสรา้ งผลงานดว้ ยตนเอง สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความรู้เกย่ี วกบั การประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมการนำเสนอผลงานและการผลติ สือ่ ผสมดว้ ย โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2. นำเสนอและสอื่ สารขอ้ มูลสารสนเทศในงานอาชีพโดยประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมสำเร็จรูป จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ดา้ นความรู้ 1. อธบิ ายวิธกี ารเข้าสูโ่ ปรแกรม Microsoft PowerPoint ได้ 2. อธิบายสว่ นประกอบของโปรแกรม Microsoft PowerPoint ได้ 3. บอกหลักการออกแบบงานนำเสนอไปใช้ในการจัดการขอ้ ความลงบนสไลดไ์ ด้ 4. เลอื กมมุ มองการนำเสนอผลงานไดอ้ ย่างเหมาะสม 5. บอกข้นั ตอนการสรา้ งผลงานด้วยตนเองได้ ดา้ นทกั ษะ 1. เลือกรปู แบบนำเสนอขอ้ มูลได้ 2. จัดรูปแบบนำเสนอข้อมูลได้ ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการคา่ นิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ

แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไม่หยดนิ่งท่ีจะแก้ปัญหา ความซื่อสัตย์ ความ ร่วมมอื แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 11 วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชพี (3001– 2001) เน้ือหาสาระ โปรแกรม Microsoft PowerPoint เป็นโปรแกรมที่นิยมใช้สำหรับนำเสนอผลงาน โดยจะนำ ขอ้ มลู ที่เป็นตัวเลข รปู ภาพ กราฟ ตาราง แผนภมู ิ หรอื ขอ้ มลู อื่นใดมาจัดให้อยู่ในรปู ของสไลด์ ในการ สร้างข้อความ การจัดการข้อความ ข้ันตอนวิธีการสร้างผลงานด้วยตนเอง เพื่อประโยชน์ในการ น ำ ไ ป ใ ช้ แ ส ด ง ผ ล ง า น ตามความต้องการของผู้ใช้ ข้ันตอนการทำงานท่ีง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะทางด้าน ศลิ ปะมากนกั ก็สามารถสรา้ งงานด้วยโปรแกรม Microsoft PowerPoint ได้ กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 16/18, คาบที่ 61–64/72) 1. ครูตรวจสอบความพร้อมนักศึกษาท้ังกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานชื่อและทำกิจกรรม บริหารสมองร่วมกนั 2. ครูนำเขา้ สบู่ ทเรยี น และครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียน 3. นกั ศกึ ษาทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 11 3. ครูสอนเน้อื หาสาระข้อ 11.1 – 11.5 4. ให้นักศึกษาทำตามใบงานท่ี 11.1-11.2 ขณะนักศึกษาทำใบงาน ครูจะสังเกตการทำงาน กลุม่ และตรวจผลงานภาคปฏบิ ัติเพิม่ เตมิ 5. นักศึกษานำเสนอผลงาน และรว่ มกนั สรุปผล ประเมินผลงานรว่ มกัน 6. นักศึกษาทำแบบทดสอบหลงั หนว่ ยการเรียนท่ี 11 สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมอื งไทย 2. แบบทดสอบหลงั เรยี น 3. อุปกรณเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี เครือ่ งมือ และวสั ดุฝกึ การวัดและการประเมนิ ผล การวดั ผล การประเมินผล (ใชเ้ ครอื่ งมอื ) (นำผลเทียบกบั เกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบสงั เกตการทำงานกล่มุ และนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 60%

2. ผลงานตามใบงานที่ 11.1-11.2 และแบบประเมิน เกณฑผ์ ่าน 60% 3. แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 11 เกณฑ์ผา่ น 50% 4. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หนว่ ยท่ี 11 เกณฑผ์ ่าน 50% 5. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑผ์ า่ น 60% งานท่ีมอบหมาย - แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 11 วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ (3001– 2001) ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสำเร็จของผู้เรยี น 1. คะแนนการทำแบบฝึกหัดหน่วยที่ 11 2. ผลการทำกิจกรรมตามใบงานท่ี 11.1-11.2 3. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หน่วยที่ 11 เอกสารอ้างอิง สุธดิ า ทะนนั ท.์ (2558). เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชพี (3001–2001). นนทบุรี : ศนู ย์หนงั สอื เมืองไทย.

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 12 หน่วยที่ 12 ชื่อวิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชพี (3001–2001) เวลาเรยี นรวม 72 คาบ ชือ่ หนว่ ย การแก้ไข ตกแต่ง และการฉายสไลด์จากโปรแกรม สอนครั้งท่ี 17/18 การนำเสนอผลงาน ชื่อเรอื่ ง จำนวน 4 คาบ หวั ข้อเร่อื ง ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 12.1 การแกไ้ ขและลบรปู แบบสไลด์ ใบงานท่ี 12.1 การสร้างผังองคก์ รในการนำเสนอ 12.2การเพิม่ ฉากหลังสไลด์ ตกแตง่ สไลด์ ขอ้ มูล 12.3การกำหนดสีพืน้ หลงั สไลด์ ใบงานท่ี 12.2 การสรา้ งเทคนิคการเคล่ือนไหวในการ 12.4การกำหนดลักษณะของการเปลี่ยนแปลงภาพ นำเสนอข้อมลู ฉายสไลด์ 12.5การกำหนดขอ้ ความและภาพใหเ้ คลื่อนที่แบบ กำหนดเอง 12.6 การกำหนดเวลาในการฉายสไลด์ 12.7การสร้างผงั องคก์ ร (Organization Chart) สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับการแก้ไข ตกแต่ง และการฉายสไลด์จากโปรแกรมการนำเสนอผลงาน 2. นำเสนอและสอื่ สารข้อมูลสารสนเทศในงานอาชพี โดยประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูป จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ดา้ นความรู้ 1. แก้ไขและลบรปู แบบสไลด์ได้ 2. เพมิ่ ฉากหลังสไลด์ ตกแต่งสไลดไ์ ด้ 3. กำหนดสีพ้ืนหลังสไลดไ์ ด้ 4. กำหนดลักษณะของการเปล่ยี นแปลงภาพฉายสไลดไ์ ด้ 5. กำหนดขอ้ ความและภาพให้เคลอื่ นทแี่ บบกำหนดเองได้ 6. กำหนดเวลาในการฉายสไลด์ได้ 7. สร้างผงั องค์กร (Organization Chart) ได้ ดา้ นทกั ษะ 1. เลอื กรูปแบบนำเสนอขอ้ มลู ได้

2. จดั รูปแบบนำเสนอขอ้ มลู ได้ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการค่านิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไม่หยดน่ิงท่ีจะแก้ปัญหา ความซ่ือสัตย์ ความ รว่ มมือ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 11 วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี (3001– 2001) เนอ้ื หาสาระ ในการสร้างงานการนำเสนอผลงาน (Presentation) นอกจากการป้อนข้อมูล รูปภาพ กราฟ หรือสิ่งอ่ืนใดลงบนสไลด์แล้ว ยังสามารถทำการแก้ไข ลบรูปแบบสไลด์ เพ่ิมฉากหลังสไลด์ ตกแต่ง สไลด์ กำหนดสีพ้ืนหลังสไลด์ กำหนดลักษณะของการเปลี่ยนแปลงภาพฉายสไลด์ กำหนดข้อความ และภาพให้เคล่ือนท่ีแบบกำหนดเอง กำหนดเวลาในการฉายสไลด์ การสร้างผังองค์กรให้มีลักษณะ หรือสีที่แตกตา่ งกนั ออกไปตามลักษณะการใช้งาน กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ี่ 17/18, คาบที่ 65–68/72) 1. ครตู รวจสอบความพร้อมนักศึกษาท้ังกำลังกายและกำลังใจ ด้วยการขานชื่อและทำกิจกรรม บรหิ ารสมองร่วมกัน 2. ครนู ำเข้าสบู่ ทเรียน และครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี น 3. นกั ศึกษาทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยท่ี 12 3. ครสู อนเนอ้ื หาสาระขอ้ 12.1 – 12.7 4. ให้นักศึกษาทำตามใบงานที่ 12.1-12.2 ขณะนักศึกษาทำใบงาน ครูจะสังเกตการทำงาน กลมุ่ และตรวจผลงานภาคปฏบิ ตั ิเพ่มิ เตมิ 5. นักศกึ ษานำเสนอผลงาน และร่วมกนั สรปุ ผล ประเมินผลงานร่วมกัน 6. นกั ศึกษาทำแบบทดสอบหลงั หน่วยการเรียนท่ี 12 ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือ เมืองไทย 2. แบบทดสอบหลังเรยี น 3. อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชพี เคร่ืองมอื และวัสดฝุ กึ