Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการรักษาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพา

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการรักษาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพา

Published by สุธาสินี สีฤทธิ์, 2021-10-25 04:51:01

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการรักษาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพา

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการรักษาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพา

Search

Read the Text Version

9. แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยที่ 2 10. ใบงาน หน่วยท่ี 2 11. แบบฝึกหัด หนว่ ยที่ 2 12. กิจกรรมนำสู่อาเซียน หนว่ ยท่ี 2 13. กจิ กรรมบรู ณาการในชวี ติ ประจำวนั หน่วยท่ี 2 14. กิจกรรมบูรณาการ 3D หน่วยท่ี 2 15. แบบประเมินผู้เรยี นในชัน้ เรียน 16. แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยที่ 2 • ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง (จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี 3-4) 2. การเตรียมความพร้อมด้านการเตรียม วัสดุ อุปกรณ์นักศึกษาจะต้องกระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตาม ความสามารถของสมาชกิ ทกุ คน มกี ารจัดเตรียมสถานท่ี ส่ือ วสั ดุ อปุ กรณ์ไวอ้ ย่างพรอ้ มเพรยี ง 3. ความมเี หตมุ ีผลในการปฏิบตั งิ าน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง นกั ศกึ ษาจะต้องมีการใช้ เทคนิคที่แปลกใหม่ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอที่น่าสนใจนำวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ อยา่ งคมุ้ ค่าและประหยัด กจิ กรรมการเรียนการสอนหรอื การเรยี นรู้

ขัน้ ตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนร้หู รือกิจกรรมของนักเรยี น 1. ข้ันนำเข้าสู่บทเรียน (15 นาที ) 1. ข้นั นำเขา้ สู่บทเรยี น (15 นาที ) จัดใหน้ กั เรียนศึกษาคำศัพท์ในบทเรียน นกั เรียนศึกษาคำศัพท์ในบทเรยี น 4. ผู้สอนจัดเตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะนำ 4. ผู้เรียนเตรียมอุปกรณ์และ ฟังครูผู้สอนแนะนำ รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวธิ ีการเรียนเรื่อง การ รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง การ ประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอรแ์ ละการติดต้งั โปรแกรม ประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอรแ์ ละการติดต้ังโปรแกรม 5. ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของหน่วย 5. ผู้เรียนทำความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การ เรียนที่ 2 และขอให้ผู้เรียนร่วมกันทำกิจกรรมการ เรยี นของหนว่ ยเรยี นท่ี 2 และการให้ความร่วมมือในการ เรียนการสอน ทำกิจกรรม 6. ผู้สอนให้ผู้เรียนแสดงความรู้เกี่ยวกับ การ 6. ผู้เรียนแสดงความรู้ความรู้เกี่ยวกับ การ ประกอบเคร่ืองคอมพิวเตอร์และการตดิ ตัง้ โปรแกรม ประกอบเคร่อื งคอมพิวเตอรแ์ ละการตดิ ตงั้ โปรแกรม 2. ขน้ั ใหค้ วามรู้ (75 นาที) 2. ขัน้ ให้ความรู้ (75 นาที ) 4. ผู้สอนแนะนำวิธกี ารใช้บทเรยี นคอมพิวเตอร์ 1. ผ้สู อนแนะนำวิธกี ารใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย ชว่ ยสอน หนว่ ยที่ 2 การประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ สอน หน่วยที่ 2 การประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์และ และการติดตั้งโปรแกรม และให้ผู้เรียนศึกษาเอกสาร การติดตั้งโปรแกรม และให้ผู้เรียนศึกษาเอกสาร ประกอบการสอน การประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ ประกอบการสอน หลักการทำงานของอุปกรณ์ และการติดต้ังโปรแกรม หน่วยท่ี 2 หน้าที่ 33 - 59 คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง หน่วยที่ 2 หน้าที่ 33 - 59 5. ผู้สอนและผู้เรียนรว่ มกนั อธิบายเกยี่ วกบั การ 2.ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันอธิบายเกี่ยวกับ การ ประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์และการติดตั้งโปรแกรม ประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์และการติดตั้งโปรแกรม ตามทไ่ี ดศ้ กึ ษาจากบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน ตามท่ีไดศ้ ึกษาจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน 6. อาจารยผ์ ้สู อนคอยใหค้ ำแนะนำแกผ่ ู้เรยี น 3.อาจารย์ผ้สู อนคอยให้คำแนะนำแกผ่ ูเ้ รียน กจิ กรรมการเรียนการสอนหรอื การเรยี นรู้ ขน้ั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรหู้ รือกจิ กรรมของนักเรยี น

3. ขนั้ ประยุกต์ใช้ ( 105 นาที ) 3. ขั้นประยุกต์ใช้ ( 105 นาที ) 3. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัด หน่วยที่ 2 3. ผู้เรียนทำแบบฝึกหัด หน่วยที่ 2 หน้าที่ 54 หน้าที่ 54 เร่ือง การประกอบเครื่องคอมพวิ เตอร์และ เรื่อง การประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์และการติดตั้ง การติดตัง้ โปรแกรม โปรแกรม 4. ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นสบื ค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต 4. ผเู้ รยี นสืบค้นข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ นต็ 4. ข้นั สรุปและประเมนิ ผล ( 30 นาที ) 4. ขน้ั สรุปและประเมินผล ( 30 นาที ) 7. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียน 6. ผู้สอนและผเู้ รยี นร่วมกันสรปุ เนื้อหาท่ีไดเ้ รียนให้ เพื่อใหม้ ีความเข้าใจในทศิ ทางเดียวกัน มคี วามเข้าใจในทิศทางเดยี วกัน 8. ผเู้ รียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน้า 34-35 7. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน้า 9. ผเู้ รยี นทำใบงานและกิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ 34-35 ที่ 2 หนา้ 53-59 8. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำใบงานและกิจกรรมส่งเสริม 10. ใหผ้ ู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หนา้ 59 การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 2 หน้า 53-59 11. ผู้เรียนสลับกันตรวจแบบทดสอบหลังเรยี นด้วย 9. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหน้าท่ี ความซื่อสัตย์นำคะแนนที่ได้บันทึกลงในแบบ บันทึก 59 คะแนนการปฏิบัติกิจกรรมระหว่างเรียน พร้อม 10. ผู้สอนให้ผู้เรียนสลับกันตรวจแบบทดสอบหลัง เปรยี บเทยี บคะแนนของแบบทดสอบก่อนเรยี น และหลัง เรียนด้วยความซื่อสัตย์แล้วนำคะแนนที่ได้บันทึกลงใน เรียนว่ามีผลต่างกันอย่างไร เพื่อดูความก้าวหน้าของ แบบบนั ทกึ คะแนนการปฏิบตั ิกจิ กรรมระหว่างเรยี น ตนเอง 12. ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ด้วย (บรรลจุ ุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 1-2) บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนทจี่ ดั ทำขน้ึ (รวม 180 นาที หรอื 3 คาบเรียน) (บรรลุจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ 1-2) งานท่มี อบหมายหรือกิจกรรมการวัดผลและประเมนิ ผล ก่อนเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร สือ่ การเรียนการสอนหนว่ ยท่ี 2

2. ทำความเข้าใจเกีย่ วกับจุดประสงคก์ ารเรียนของหน่วยท่ี 2 และให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมใน หนว่ ยที่ 2 ขณะเรยี น 4. ปฏิบตั ิตามกิจกรรมหนว่ ยท่ี 2 5. ปฏบิ ตั ติ ามใบงาน 6. รว่ มกันสรุป “การประกอบเคร่อื งคอมพิวเตอร์และการติดตั้งโปรแกรม” หลงั เรยี น 3. ทำแบบประเมนิ การเรยี นรู้ 4. ทำแบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 2 ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสำเรจ็ ของผ้เู รยี น กจิ กรรมท่ี 2 เรื่อง การประกอบเครือ่ งคอมพิวเตอร์และการติดตง้ั โปรแกรม สมรรถนะท่ีพงึ ประสงค์ ผูเ้ รยี นสรา้ งความเข้าใจเกยี่ วกบั การประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอรแ์ ละการติดตงั้ โปรแกรม 5. วเิ คราะห์และตีความหมาย 6. ตงั้ คำถาม 7. อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ ระดมสมอง 8. การประยุกต์ความรูส้ งู่ านอาชีพ สมรรถนะการสร้างคา่ นิยม ปลกู ฝงั คณุ ธรรม จริยธรรม สมรรถนะการปฏิบตั งิ านอาชีพ 2. ประกอบเคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ ละตดิ ต้งั โปรแกรม สมรรถนะการขยายผล -

ส่ือการเรียนการสอน/การเรยี นรู้ สื่อสง่ิ พิมพ์ 4. เอกสารประกอบการสอนวชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละการบำรงุ รกั ษา (ใช้ประกอบการเรียนการสอน จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-2) 5. แบบฝึกหดั หน่วยที่ 2 เรือ่ ง การประกอบเครื่องคอมพิวเตอรแ์ ละการตดิ ตง้ั โปรแกรม (ใช้ ประกอบการเรียนการสอนข้นั ใหค้ วามรู้ เพ่ือให้บรรลจุ ดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-2) 6. แบบประเมนิ ผเู้ รียนในชน้ั เรียน ใชป้ ระกอบการสอนขั้นประยกุ ต์ใช้ ข้อ 1-2 สือ่ โสตทัศน์ (ถา้ ม)ี 2. บทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน เรอ่ื ง การประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอร์และการติดต้งั โปรแกรม สอื่ ของจริง 2. การประกอบเคร่ืองคอมพิวเตอร์และการติดตัง้ โปรแกรม (ใช้ประกอบการเรยี นการสอนจุดประสงค์ เชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 1-2) แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศกึ ษา 1. หอ้ งสมุดวิทยาลัยเทคนคิ สมุทรสาคร 2. หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ศึกษาหาข้อมลู ทางอินเทอรเ์ นต็

นอกสถานศึกษา - การบูรณาการ/ความสมั พันธ์กบั วชิ าอืน่ 5. บูรณาการกบั วิชาชวี ิตและวัฒนธรรมไทย ดา้ นการพูด การอ่าน การเขียน และการฝึกปฏิบัติตนทาง สังคมด้านการเตรียมความพร้อม ความรบั ผิดชอบ และความสนใจใฝร่ ู้ 6. บรู ณาการกับวิชาการบริหารการจดั ซื้อ ด้านการซ้ือ การแสวงหาผลิตภณั ฑ์ 7. บูรณาการกับวชิ ากฬี าเพือ่ พัฒนาสขุ ภาพและบุคลิกภาพ ด้านบุคลิกภาพในการนำเสนอหนา้ ชัน้ เรียน 8. บูรณาการกับวิชาหลกั เศรษฐศาสตร์ ด้านการเลอื กใชท้ รพั ยากรอย่างประหยดั การประเมินผลการเรียนรู้ • หลกั การประเมินผลการเรียนรู้ ก่อนเรยี น ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน

ขณะเรียน 3. ตรวจผลงานตาม แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 2 4. สงั เกตการทำงาน หลังเรียน 5. ตรวจแบบฝึกหัดทดสอบความเขา้ ใจ 6. ตรวจกจิ กรรม หน่วยท่ี 2 7. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน 8. สลับกันตรวจแบบทดสอบหลังเรียน คำถาม 4. CPU คอื 5. Main board หรอื Motherboard หน้าทค่ี อื 6. VGA Card หมายถงึ ผลงาน/ช้ินงาน/ผลสำเรจ็ ของผูเ้ รียน แบบฝกึ หัด หนว่ ยท่ี 2 เรอ่ื ง การประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอร์และการตดิ ต้งั โปรแกรม

รายละเอียดการประเมินผลการเรยี นรู้ • จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 1 เลือกใช้เครอ่ื งมือในการประกอบเคร่อื งคอมพิวเตอร์ ได้ 4. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 5. เครือ่ งมือ : แบบทดสอบ 6. เกณฑก์ ารให้คะแนน : เลอื กใช้เครอ่ื งมือในการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ จะได้ 1 คะแนน • จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 2 สามารถประกอบเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ตามขน้ั ตอน ได้ 4. วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ 5. เคร่อื งมือ : แบบทดสอบ 6. เกณฑก์ ารให้คะแนน : สามารถประกอบเครอ่ื งคอมพิวเตอรต์ ามขนั้ ตอน จะได้ 1 คะแนน • จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 3 การเตรียมความพรอ้ มด้านการเตรยี ม วสั ดุ อปุ กรณน์ กั ศกึ ษาจะตอ้ ง กระจายงานไดท้ ่วั ถงึ และตรงตามความสามารถของสมาชกิ ทกุ คน มกี ารจัดเตรยี มสถานที่ ส่อื วัสดุ อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรยี ง 4. วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 5. เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ 6. เกณฑ์การให้คะแนน : การเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณน์ ักศึกษาจะต้องกระจายงานได้ท่ัวถึง และตรงตาม ความสามารถของสมาชกิ ทกุ คน มีการจัดเตรียมสถานที่ สื่อ วัสดุ อุปกรณไ์ ว้ อย่างพร้อมเพรียง จะได้ 4 คะแนน • จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 4 ความมีเหตมุ ีผลในการปฏิบัตงิ าน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง นกั ศกึ ษาจะต้องมกี ารใช้ เทคนคิ ที่แปลกใหมใ่ ช้ส่อื และเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอท่นี ่าสนใจนำวสั ดุใน ทอ้ งถ่นิ มาประยุกตใ์ ช้ อย่างคมุ้ ค่าและประหยัด 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เคร่ืองมือ : แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม 3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ความมีเหตุมผี ลในการปฏิบัตงิ าน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงนกั ศึกษาจะตอ้ งมกี ารใช้ เทคนิคท่ีแปลกใหมใ่ ช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการนำเสนอทนี่ ่าสนใจนำ วัสดุในทอ้ งถน่ิ มาประยุกตใ์ ช้อยา่ ง ค้มุ คา่ และประหยัด จะได้ 2 คะแนน

แบบฝึกหัด หนว่ ยที่ 2 การประกอบเครอ่ื งคอมพิวเตอร์และการตดิ ตั้งโปรแกรม คำสงั่ จงทำเคร่ืองหมาย  หน้าข้อที่คิดวา่ ถูก และเคร่อื งหมาย X หน้าขอ้ ท่ีคดิ วา่ ผิด ........... 1. Monitor เป็นอปุ กรณ์ภายในของอุปกรณ์ในการประกอบเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ ........... 2. Main board ถอื เปน็ ศนู ยก์ ลางของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ........... 3. RAM ใช้สำหรับเกบ็ ข้อมูลท่ีจะนำไปประมวลผล ........... 4. Modem ใช้สำหรับเชอ่ื มต่อกบั เครื่องคอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งอนื่ โดยผ่านทางเครือข่ายท้องถน่ิ ........... 5. Monitor แบบ CRT จะมีลกั ษณะหนา้ จอแบนราย ขนาดบาง ........... 6. ข้ันตอนแรกของการประกอบเคร่อื งคอมพิวเตอร์ คือ เรม่ิ จากการตดิ ตัง้ CPU กอ่ น ........... 7. ในการประกอบเครอื่ งคอมพิวเตอร์ การด์ เสียง จะต้องเสียบลงไปในสล๊อต PCI ........... 8. ในการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ การด์ แสดงผล จะตอ้ งเสียบลงไปในสล๊อต AGP ........... 9. การเสยี บสาย Power Supply เข้ากับ Main board ไมค่ วรเสยี บใหป้ ลกั๊ ของสาย Power Supply ตรงล็อคกับข้วั ตอ่ บน Main board ........... 10. ขน้ั ตอนต่อจากการประกอบเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ คอื การทดสอบเครื่องคอมพวิ เตอร์ แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน

ช่อื กลมุ่ ……………………………………………ช้นั ………………………ห้อง........................... รายชือ่ สมาชกิ 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขท…ี่ …. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขท…่ี …. ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเหน็ 32 1 1 เนือ้ หาสาระครอบคลุมชดั เจน (ความรูเ้ กย่ี วกับเนื้อหา ความถกู ต้อง ปฏภิ าณในการตอบ และการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รปู แบบการนำเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลมุ่ 4 บคุ ลิกลักษณะ กิรยิ า ท่าทางในการพูด นำ้ เสียง ซึ่งทำใหผ้ ู้ฟังมีความ สนใจ รวม ผู้ประเมนิ ………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลมุ ชดั เจนถกู ต้อง 3 คะแนน = มีสาระสำคญั ครบถว้ นถกู ตอ้ ง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบถว้ น แตต่ รงตามจดุ ประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคญั ไมถ่ กู ตอ้ ง ไม่ตรงตามจดุ ประสงค์ 2. รปู แบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มรี ูปแบบการนำเสนอที่เหมาะสม มีการใชเ้ ทคนคิ ทีแ่ ปลกใหม่ ใชส้ ่ือและเทคโนโลยี ประกอบการ นำเสนอที่นา่ สนใจ นำวัสดใุ นทอ้ งถิ่นมาประยุกตใ์ ชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ และประหยดั คะแนน = มีเทคนิคการนำเสนอท่ีแปลกใหม่ ใชส้ ่ือและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอทนี่ า่ สน ใจ แต่ขาดการ ประยกุ ต์ใช้ วัสดใุ นท้องถน่ิ 1 คะแนน = เทคนคิ การนำเสนอไมเ่ หมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนมบี ทบาทและมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญม่ บี ทบาทและมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชกิ ส่วนน้อยมบี ทบาทและมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 4. ความสนใจของผู้ฟงั 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกวา่ ร้อยละ 90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมอื 2 คะแนน = ผ้ฟู งั รอ้ ยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ 1 คะแนน = ผฟู้ งั นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามร่วมมอื เฉลยแบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 2 การประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์และการติดต้ังโปรแกรม

คำสั่ง จงทำเครอ่ื งหมาย  หนา้ ขอ้ ที่คดิ วา่ ถกู และเคร่อื งหมาย X หน้าข้อทคี่ ิดว่าผิด ..... X... 1. Monitor เปน็ อุปกรณ์ภายในของอปุ กรณใ์ นการประกอบเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ ... .... 2. Main board ถือเป็นศูนยก์ ลางของเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ .... ... 3. RAM ใช้สำหรับเกบ็ ข้อมลู ที่จะนำไปประมวลผล .... X... 4. Modem ใชส้ ำหรบั เชอ่ื มต่อกับเครื่องคอมพิวเตอรเ์ ครอ่ื งอืน่ โดยผา่ นทางเครอื ขา่ ยท้องถน่ิ .... X... 5. Monitor แบบ CRT จะมลี ักษณะหนา้ จอแบนราย ขนาดบาง .... .... 6. ข้นั ตอนแรกของการประกอบเครอื่ งคอมพิวเตอร์ คือ เริม่ จากการติดต้งั CPU กอ่ น .... ... 7. ในการประกอบเคร่อื งคอมพิวเตอร์ การ์ดเสียง จะตอ้ งเสียบลงไปในสลอ๊ ต PCI .... .... 8. ในการประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ การด์ แสดงผล จะตอ้ งเสยี บลงไปในสลอ๊ ต AGP .... X... 9. การเสียบสาย Power Supply เข้ากับ Main board ไมค่ วรเสียบให้ปลก๊ั ของสาย Power Supply ตรงล็อคกับข้ัวต่อบน Main board ... .... 10. ขั้นตอนตอ่ จากการประกอบเครอื่ งคอมพิวเตอร์ คอื การทดสอบเครื่องคอมพวิ เตอร์ แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุม่ ชอื่ กลมุ่ ……………………………………………ชัน้ ………………………หอ้ ง...........................

รายชอ่ื สมาชิก 2……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. 1……………………………………เลขท่ี……. 3……………………………………เลขที่……. ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คดิ เหน็ 1 การกำหนดเปา้ หมายรว่ มกัน 321 2 การแบง่ หนา้ ทร่ี ับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัตหิ นา้ ทท่ี ไ่ี ด้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรบั ปรุงงาน รวม ผปู้ ระเมนิ ………………………………………………… วันท…ี่ ………เดอื น……………………..พ.ศ…………... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1. การกำหนดเปา้ หมายรว่ มกนั 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมสี ว่ นรว่ มในการกำหนดเป้าหมายการทำงานอย่างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชกิ สว่ นใหญ่มีสว่ นร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีสว่ นร่วมในการกำหนดเปา้ หมายในการทำงาน 2. การมอบหมายหน้าทร่ี บั ผิดชอบและการเตรียมความพรอ้ ม 3 คะแนน = กระจายงานได้ท่วั ถงึ และตรงตามความสามารถของสมาชกิ ทุกคน มกี ารจดั เตรยี มสถานที่ สอ่ื / อปุ กรณ์ไวอ้ ยา่ งพรอ้ มเพรียง 2 คะแนน = กระจายงานได้ท่ัวถงึ แตไ่ ม่ตรงตามความสามารถ และมีส่ือ / อปุ กรณไ์ ว้อย่างพรอ้ มเพรียง แตข่ าด การจัดเตรยี มสถานที่ 1 คะแนน = กระจายงานไมท่ ัว่ ถงึ และมีสื่อ / อุปกรณ์ไม่เพยี งพอ 3. การปฏบิ ตั หิ น้าทท่ี ่ไี ดร้ ับมอบหมาย 3 คะแนน = ทำงานไดส้ ำเรจ็ ตามเปา้ หมาย และตามเวลาท่ีกำหนด 2 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเปา้ หมาย แต่ช้ากวา่ เวลาทีก่ ำหนด 1 คะแนน = ทำงานไม่สำเร็จตามเปา้ หมาย 4. การประเมินผลและปรบั ปรงุ งาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรงุ งานเป็นระยะ 2 คะแนน = สมาชกิ บางสว่ นมสี ว่ นร่วมปรึกษาหารอื แต่ไม่ปรับปรงุ งาน 1 คะแนน = สมาชกิ บางส่วนไมม่ ีส่วนรว่ มปรกึ ษาหารือ และปรับปรงุ งาน บันทึกหลังการสอน หนว่ ยท่ี 2 การประกอบเคร่อื งคอมพิวเตอร์และการตดิ ตง้ั โปรแกรม ผลการใช้แผนการเรียนรู้

1. เนอ้ื หาสอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 2. สามารถนำไปใชป้ ฏบิ ัติการสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรียนการสอน 3. ส่ือการสอนเหมาะสมดี ผลการเรยี นของนักเรียน 1. นักศกึ ษาสว่ นใหญม่ ีความสนใจใฝ่รู้ เข้าใจในบทเรียน อภปิ รายตอบคำถามในกลุ่ม และร่วมกัน ปฏบิ ัตใิ บงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 2. นกั ศกึ ษากระตือรือร้นและรับผิดชอบในการทำงานกล่มุ เพ่อื ใหง้ านสำเรจ็ ทันเวลาทีก่ ำหนด ผลการสอนของครู 1. สอนเน้อื หาไดค้ รบตามหลักสูตร 2. แผนการสอนและวิธีการสอนครอบคลมุ เน้อื หาการสอนทำให้ผู้สอนสอนได้อยา่ งมัน่ ใจ 3. สอนไดท้ ันตามเวลาท่ีกำหนด

แผนการสอน/แผนการเรยี นรู้ภาคทฤษฎี หน่วยท่ี 3 สอนสัปดาหท์ ี่ 7- แผนการสอน/การเรยี นรู้ภาคทฤษฎี 9 ชื่อวชิ า การบำรุงรกั ษาคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณพ์ กพา คาบรวม 3 ช่ือหน่วย การบำรงุ รกั ษาและดแู ลอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ ชอ่ื เรื่อง การบำรงุ รักษาและดูแลอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ จำนวนคาบ 3 หัวข้อเร่ือง ด้านความรู้ 3. อธบิ ายการบำรงุ รกั ษาโดยทัว่ ๆ ไปได้ 4. ดแู ลรกั ษาคอมพิวเตอร์ ได้ ด้านทักษะ 9. บำรุงรกั ษาและดแู ลอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ได้ ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม 1. ความรับผดิ ชอบ 2. ความสนใจใฝ่รู้ สาระสำคญั ปัจจุบนั คอมพิวเตอรไ์ ด้เขา้ มามสี ่วนชว่ ยในการอำนวยความสะดวกต่อการทำงานในชีวิตประจำวันมากข้ึน เมือ่ มีการใชง้ านมาระยะหนง่ึ เครอ่ื งย่อมเกดิ อาการขัดข้องหรอื เสียหายขน้ึ ได้ เราจงึ จำเป็นต้องมกี ารบำรุงรักษาให้ เคร่ืองอยู่ในสภาพพร้อมที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่งึ ปญั หาท่ีเกดิ ขน้ึ กับเคร่ืองคอมพิวเตอร์นั้นจะมีตั้งแต่ เล็กๆนอ้ ยๆ ไปจนถงึ ความบกพรอ่ งอยา่ งร้ายแรงทจี่ ะทำให้งานทอี่ ุตส่าหท์ ำเป็นเดอื นๆ หายไปไดใ้ นพรบิ ตา หรือไม่ สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์นั้นได้อีกเลย วิธีการที่ดีที่สุดในการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์นั้นก็คือ ป้องกันกอ่ นท่ีจะเกิดขนึ้ การดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นวิธีที่ช่วยให้สามารถใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้นานขึ้น จึง จำเป็นต้องรู้จักปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เครื่องคอมพวิ เตอร์เกิดการขัดข้องหรือเสียหาย และวิธีการบำรุงรักษาเครื่อง คอมพิวเตอร์เบื้องตน้ สมรรถนะอาชพี ประจำหน่วย 3. บำรุงรกั ษาและดแู ลอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ได้ คำศัพท์สำคัญ

9. Hard Disk คือ อุปกรณ์ท่ีเก็บข้อมูลได้มาก สามารถเกบ็ ได้อย่างถาวรโดยไม่จำเปน็ ตอ้ งมีไฟฟา้ มาหลอ่ เลย้ี งตลอดเวลา เม่ือปิดเครือ่ งขอ้ มลู กจ็ ะไม่สญู หาย 10. Disk Drive คอื ฟลอปปดี้ สิ ก์ไดร์ฟ คะ มคี วามหมายเดียวกนั เปน็ อปุ กรณ์อ่าน-เขยี น (read-write) ขอ้ มูล บนแผ่นดสิ ก์ (หรอื ที่เรียกว่า ดิสก์เกตต์ หรือ ฟลอปป้ดี สิ ก)์ ผา่ นหัวอา่ นหรอื หวั บนั ทกึ (read/write head) ทำใหส้ ามารถนำขอ้ มลู ท่ีบนั ทกึ อย่ใู นจานบันทกึ มาประมวลผลได้ หากตอ้ งการจะบันทึกข้อมูลใหม่ ลงไป กส็ ามารถบนั ทกึ ได้เช่นเดยี วกนั 11. Mouse คือ อุปกรณ์ท่ที ำหนา้ ทปี่ ้อนข้อมูลอย่างหนงึ่ แตท่ ีเ่ ห็นการทำงาน โดยทวั่ ไปจะเป็นตวั ที่ใชค้ วบคมุ ลูกศรใหเ้ คล่ือนทไ่ี ปยังตำแหน่งต่างๆ บนจอภาพ เหมาะสำหรับใช้งานเม่อื ต้องเลือก หรอื เลอื่ นวัตถุต่างๆ บนจอ Mouse ตอ่ เขา้ กับคอมพิวเตอร์ได้ 2 แบบ ได้แก่ 9 Pin, Serial Port และ PS/2 (Personal System Version2) จุดประสงคก์ ารสอน/การเรียนรู้ • จุดประสงคท์ ่วั ไป / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 7. เพ่ือใหม้ ีความรูเ้ กีย่ วกบั การบำรุงรกั ษาและดูแลอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ (ด้านความรู)้ 8. เพือ่ ใหม้ ที ักษะการบำรุงรักษาและดูแลอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ (ดา้ นทักษะ) 9. เพอ่ื ให้มเี จตคติท่ีดตี ่อการเตรยี มความพรอ้ มด้าน วัสดุ อุปกรณ์ และการปฏบิ ตั งิ านอยา่ งถูกต้อง สำเร็จ ภายในเวลาทกี่ ำหนด มเี หตแุ ละผลตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม) • จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 14. อธิบายการบำรงุ รักษาทั่ว ๆ ไป ได้ (ด้านความรู)้ 15. บอกสาเหตุท่ีทำใหเ้ คร่อื งพซี เี กิดความเสยี หาย ได้ (ดา้ นทักษะ) 16. อธิบายการบำรงุ รักษา Hard diskได้ (ด้านความร้)ู 17. อธบิ ายการบำรงุ รักษา Disk Drive(ด้านความรู้) 18. อธิบายการบำรุงรกั ษา Monitor(ด้านความร้)ู 19. อธบิ ายการบำรงุ รักษา Keyboard(ดา้ นความรู)้ 20. อธบิ ายการบำรุงรักษา Mouse(ด้านความรู้) 21. อธบิ ายการบำรุงรักษา Injet & Dotmatrix Printer(ดา้ นความรู้) 22. อธิบายการบำรงุ รักษา Laser Printer (ด้านความร้)ู 23. การเตรยี มความพร้อมดา้ นการเตรียม วัสดุ อปุ กรณ์นักศึกษาจะต้องกระจายงานไดท้ วั่ ถึง และตรง ตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มกี ารจัดเตรยี มสถานที่ สื่อ วัสดุ อุปกรณไ์ วอ้ ยา่ งพรอ้ มเพรยี ง (ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง) 24. ความมเี หตุมีผลในการปฏบิ ตั งิ าน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นักศกึ ษาจะตอ้ งมีการใช้ เทคนคิ ทีแ่ ปลกใหม่ใชส้ ่อื และเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอที่นา่ สนใจนำวัสดุในทอ้ งถนิ่ มาประยุกตใ์ ช้ อยา่ งคุม้ ค่าและประหยดั (ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง)

เน้อื หาสาระการสอน/การเรยี นรู้ • ดา้ นความรู้(ทฤษฎ)ี

5. อธิบายการบำรงุ รักษาทวั่ ๆ ไป ได้ (จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ 1) 1. การบำรุงรักษาโดยท่ัว ๆ ไป • เครือ่ งจา่ ยไฟสำรอง (UPS) ถ้ามีงบประมาณเพยี งพอควรติดตง้ั ร่วมกับตวั เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ด้วยเพราะ UPS จะช่วยป้องกันและแกป้ ัญหาทางไฟฟา้ ไมว่ า่ จะเป็นไฟตกไฟเกนิ หรอื ไฟกระชาก อันเป็นสาเหตุทีจ่ ะทำให้เกิด ความเสยี หายของขอ้ มลู และชิ้นส่วนอ่ืนๆ • การตดิ ต้ังตัวเคร่ืองคอมพิวเตอรค์ วรตดิ ตงั้ ในห้องทมี่ ีเครื่องปรบั อากาศหรือถา้ มไี มม่ ีเครื่องปรบั อากาศ ควรเลอื กห้องทปี่ ลอดฝนุ่ มากท่ีสุดและการติดต้งั ตัวเครื่อง ควรจากผนังพอสมควรเพ่ือการระบายความร้อนที่ดี • การตอ่ สาย Cable ระหว่างเคร่อื งคอมพวิ เตอรก์ บั อปุ กรณ์ต่างๆเช่น Printer Modem Fax หรอื ส่วนอื่น จะต้องกระทำเม่ือ power off เทา่ นั้น • อยา่ ปิด - เปิดเครอื่ งบ่อยๆ เกนิ ความจำเปน็ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่โปรแกรมท่ีกำลังทำงาน อยู่ • ไมเ่ คลื่อนย้ายเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ขณะท่เี ครื่องทำงานอยู่ เพราะจะทำให้อุปกรณบ์ างตวั เกิดความเสียหาย ได้ • อยา่ เปดิ ฝาเคร่อื งขณะใชง้ านอยู่ ถ้าต้องการเปิดต้อง power off และถอดปล๊ักไฟก่อน

• ควรศึกษาจากคู่มือก่อนหรือการอบรมการใชง้ าน Software กอ่ นการใช้งาน • ตวั ถังภายนอกของเครอื่ งคอมพวิ เตอรส์ ่วนใหญเ่ ปน็ ส่วนประกอบของเหลก็ กับพลาสติกเมื่อใชน้ านๆจะมี ฝุ่นและคราบรอยนว้ิ มอื มาติดทำใหด้ ูไม่สวยงามและถ้าปลอ่ ยไว้นานๆจะทำความสะอาดยากจงึ ควรทำความสะอาด บ่อยๆอยา่ งนอ้ ย1-2เดือนตอ่ คร้ังโดยใช้ผ้าชบุ น้ำหมาดๆเช็ดที่ตวั เครอื่ ง หรอื ใชน้ ้ำยาทำความสะอาดเครอ่ื ง คอมพิวเตอรโ์ ดยเฉพาะ และที่สำคัญคือ ควรใช้ผ้าคลุมเครอ่ื งให้เรียบรอ้ ยหลงั เลกิ ใช้งานทุกคร้ังเพื่อปอ้ งกนั ฝุ่นผง ต่างๆ 6. บอกสาเหตุทที่ ำใหเ้ คร่ืองพซี ีเกดิ ความเสยี หาย ได้ (จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมข้อ 2) สาเหตุท่ที ำให้เครอื่ งพซี เี กดิ ความเสยี หาย 1. ความรอ้ น ความรอ้ นที่เป็นสาเหตทุ ำให้คอมพิวเตอร์มีปญั หาส่วนใหญเ่ กดิ จากความร้อนของอปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนิกสบ์ น เมนบอรด์ ของคอมพิวเตอรเ์ องวธิ ีแก้ปญั หาคือจะต้องรีบระบายความร้อนท่ีเกิดจากอุปกรณ์ตา่ งๆ ออกไปให้เรว็ ที่สุด วิธีแก้ปญั หา • พดั ลมระบายความร้อนทุกตัวในระบบต้องอย่ใู นสภาพดี 100 เปอร์เซ็นต์อุณหภมู ิทเ่ี หมาะสมที่สุดควรจะ อยู่ระหวา่ ง 60-70 องศาฟาเรนไฮต์ • ใช้เพาเวอรซ์ ัพพลาย ในขนาดท่ีถกู ตอ้ ง • ใชง้ านเครอื่ งในยา่ นอณุ หภูมิที่ปลอดภัย อย่าตัง้ อยใู่ นบริเวณทม่ี แี สงแดดส่องถึงเป็นเวลานานๆ

2. ฝนุ่ ผง เปน็ ที่ทราบกันดวี า่ ในอากาศมฝี ุน่ ผงกระจัดกระจายอยใู่ นทกุ ๆทีฝ่ ่นุ ผงที่เกาะติดอยูบ่ นแผงวงจรของ คอมพวิ เตอร์ทำหน้าที่เสมือนฉนวนปอ้ งกันความรอ้ น ทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในระบบไมส่ ามารถระบายออกสู่ สภาพแวดลอ้ มภายนอกนอกจากน้ีอาจไปอุดตันช่องระบายอากาศของเพาเวอร์ซพั พลายหรือฮาร์ดดสิ คห์ รอื อาจเขา้ ไปอยู่ระหวา่ งแผ่นดสิ คก์ บั หวั อ่าน ทำให้แผ่นดิสค์หรือหวั อ่านเกดิ ความเสียหายได้ วิธแี กไ้ ข • ควรทำความสะอาดภายในเครื่องทกุ 6 เดอื น หรอื ทุกคร้ังท่ถี อดฝาครอบ • ตัวถงั หรอื ชิน้ สว่ นภายนอกอาจใชส้ เปรย์ทำความสะอาด • วงจรภายในใหใ้ ชล้ มเปา่ และใชแ้ ปรงขนอ่อนๆ ปดั ฝนุ่ ออก • อยา่ สูบบุหรใี่ กล้เครื่องคอมพวิ เตอร์ 3. สนามแมเ่ หลก็ แมเ่ หล็กสามารถทำให้ข้อมูลในแผ่นดิสก์หรอื ฮารด์ ดสิ ก์ก็สูญหายได้อยา่ งถาวรแหลง่ ที่ใหก้ ำเนิด สนามแมเ่ หล็กในสำนกั งานมอี ยมู่ ากมาหลายประเภท อาทิเช่น • แมเ่ หลก็ ตดิ กระดาษบันทกึ บนตู้เก็บแฟม้ • คลปิ แขวนกระดาษแบบแม่เหลก็ • ไขควงหวั แมเ่ หลก็ • ลำโพง • มอเตอรใ์ นพรินเตอร์ • UPS วิธแี ก้ไข • ควรโยกย้ายอปุ กรณ์ท่ีมีกำลังแมเ่ หล็กมากๆ ให้หา่ งจากระบบคอมพิวเตอร์ 4. สญั ญาณรบกวนในสายไฟฟา้

สัญญาณรบกวนในสายไฟฟ้ามีหลายลกั ษณะ อาทิเช่น • แรงดันเกิน • แรงดันตก • ทรานเชียนต์ • ไฟกระเพ่อื ม แรงดันเกนิ ในกรณที ีเ่ คร่ืองของทา่ นได้รับแรงดนั ไฟฟ้าเกนิ จากปกตเิ ปน็ เวลานานกวา่ วินาที จะมีผลทำให้อปุ กรณ์ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ภายในเครือ่ งเกิดความเสียหายได้ แรงดนั ตก ในกรณีท่มี ีการใชไ้ ฟฟา้ กันมากเกินความสามารถในการจา่ ยพลงั งานไฟฟา้ จะมีผลทำให้เกิดเหตุการณ์ไฟตก ได้ไฟตกอาจทำใหก้ ารทำงานของเพาเวอร์ซพั พลายผิดพลาดไดเ้ นอ่ื งจากเพาเวอร์ซพั พลายพยายามจา่ ยพลงั งาน ให้กบั วงจรอยา่ งสม่ำเสมอโดยไปเพมิ่ กระแส แตก่ ารเพมิ่ กระแสทำใหต้ ัวนำเพาเวอร์ซพั พลายและอุปกรณ์ตา่ งๆร้อน ขนึ้ ซง่ึ มผี ลทำให้อปุ กรณต์ า่ งๆ เกดิ ความเสียหายได้ ทรานเชยี นต์ ทรานเชียนตห์ มายถงึ การทไี่ ฟฟา้ มแี รงดันสงุ (sags) หรือต่ำกวา่ ปกต(ิ surge)ในชว่ งระยะเวลาสั้นๆทราน เชียนตท์ ่เี กิดในบางครงั้ จะมคี วามถ่สี งู มากจนกระท่ังสามารถ เคล่อื นท่ีผ่านตัวเก็บประจไุ ฟฟ้าในเพาเวอร์ซัพพลาย เขา้ ไปทำความเสียหายให้แก่อุปกรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สไ์ ด้ ไฟกระเพือ่ ม ทกุ ครง้ั ทท่ี ่านเปิดเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าจะทำให้กำลงั ไฟเกิดการกระเพื่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตอ้ งการกระแสไฟฟา้ มากๆก็จะทำให้ความแรงของการกระเพอื่ มมคี ่ามากตามไปด้วย จากการศกึ ษาพบวา่ การเปิดใชง้ านเครื่องใชไ้ ฟฟา้ แตล่ ะครง้ั จะทำให้เกิดการกระเพือ่ มภายในเสี้ยววนิ าทกี ารกระเพอ่ื มจะมผี ลตอ่ ทุกๆส่วนภายในตัวเคร่อื ง รวมท้ัง หัวอ่านข้อมูลของฮาร์ดดสิ ค์ดว้ ย วิธแี กไ้ ข • ในกรณีไฟเกนิ ไฟตก และทรานเชยี นต์ แกไ้ ขได้โดยการใชเ้ ครื่องควบคุมกระแสไฟฟ้า หรือ ที่เรียกว่า Stabilizer • สว่ นไปกระเพื่อม แก้ไดโ้ ดยการลดจำนวนคร้งั ในการปิดเปดิ เคร่อื ง 5. ไฟฟา้ สถติ ย์

ไฟฟา้ สถติ ย์สามารถเกดิ ขึน้ ไดท้ กุ ฤดกู าลแต่ในสภาวะที่อากาศแห้งจะส่งผลให้ความเป็นฉนวนไฟฟา้ สงู ประจุ ของไฟฟา้ สถติ ย์จะสะสมอยู่เปน็ จำนวนมากและหาทางว่ิงผา่ นตัวนำไปยงั บริเวณท่มี ศี ักยไ์ ฟฟา้ ต่ำกว่าดงั นนั้ เม่ือท่าน ไปจบั อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ประจขุ องไฟฟ้าสถติ ย์จากตวั ทา่ นจะวิง่ ไปยังอุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ สเ์ หลา่ นน้ั ทำให้ อปุ กรณ์เกิดความเสียหายได้ แต่ในสภาวะทม่ี คี วามชื้นสงู ไฟฟา้ สถติ ย์ทีเ่ กิดขึน้ จะร่ัวไหลหายไปในระยะเวลาอันส้นั วิธีแก้ไข •ควรทำการคายประจไุ ฟฟา้ สถติ ย์ ดว้ ยการจับตอ้ งโลหะอ่นื ที่ไมใ่ ช้ตัวถังเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ กอ่ นจะสมั ผสั อปุ กรณ์ตา่ งๆ ในระบบคอมพวิ เตอร์ 6. นำ้ และสนิม น้ำและสนิมเป็นศัตรตู ัวร้ายของอปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ทุกชนิดสนิมที่พบในเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ มักจะเกดิ จากการร่ัวซึมของแบตเตอรบ่ี นเมนบอร์ดซ่งึ ถา้ เกิดปัญหานี้ขึน้ น่นั หมายความว่าทา่ นจะต้องควักกระเปา๋ ซ้อื เมนบอร์ดตัวใหมม่ าทดแทนตวั เกา่ ที่ต้องท้ิงลงถงั ขยะสถานเดียว วิธีแก้ไข • หลกี เลี่ยงการนำของเหลวทุกชนิดมาวางบนโตะ๊ คอมพิวเตอรข์ องทา่ น • กรณกี ารรั่วซึมของแบตเตอร่แี กไ้ ขได้โดยการเปลีย่ นแบตเตอร่ใี หม่ เมอื่ เครือ่ งของท่านมีอายกุ ารใช้งานได้ ประมาณ 1-2 ปี เป็นตน้ ไป วธิ กี ารดแู ลรักษาคอมพวิ เตอร์งา่ ยๆ 10 วธิ ดี ังน้ี 1.ทำความสะอาดคอมพิวเตอร์บ้าง : วธิ ีการทำความสะอาดคอมพวิ เตอรน์ ั้นไมย่ ากอยา่ งท่ีเราคิดครับ แต่ ก็ตอ้ งทำใหถ้ กู หลกั ด้วยนะครับ เริ่มจากการถอดปลกั๊ ไฟกอ่ น และทำความสะอาดโดยใช้ผา้ สะอาดชุบน้ำเปลา่ หรือ น้ำยาทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ เช็ดสว่ นตา่ งๆที่เปน็ ตัวเครอื่ งหรอื กรอบหนา้ จอ เมาส์ คีย์บอรด์ รวมถงึ สายไฟ คอมพวิ เตอร์ 2.เปา่ ฝุ่นหรอื กำจัดฝุน่ ทีอ่ ยบู่ นตัวเครอื่ ง : สำหรับวิธีน้ีแนะนำใหใ้ ช้แปลงทาสีทีม่ ีขนอ่อนๆ อาจจะเป็น แปรงดา้ มไม้ไผห่ าซอ้ื ไดต้ ามร้านวัสดกุ อ่ สร้างครับ เพราะหนา้ จอหรือตัวเครือ่ งบางรนุ่ หากใชแ้ ปรงท่ีมขี นหนาอาจทำ ใหเ้ ป็นรอยได้ อยา่ ลืมใสผ่ ้าปดิ จมูกกอ่ นทำความสะอาดนะครบั ถ้าใครมีเครือ่ งเป่าฝุ่นหรอื เปา่ ลม สามารถเปา่ เครอ่ื ง ได้นะครับเพอื่ ไล่ฝุ่นออกจากคอมพวิ เตอร์ 3.ตรวจเชค็ ความเรียบร้อยภายในตัวเคร่อื งคอมพิวเตอร์ : วธิ ีนีอ้ าจยุง่ ยากหน่อยสำหรับผู้ที่ไม่ถนดั ใน ด้านการช่างครับ เพราะต้องทำการเปิดฝาเครื่องคอมพวิ เตอร์ โดยจะต้องไขน็อตท่ลี อ็ กฝาข้างอยู่ ควรตรวจเช็คพัด

ลมระบายความรอ้ นและสายไฟท่อี ยู่ภายในครบั ว่ายงั อยใู่ นสภาพทใ่ี ช้งานไดด้ อี ยูห่ รือเปลา่ เพราะความรอ้ นกเ็ ปน็ อกี หนงึ่ สาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอรเ์ สียไดเ้ พราะอปุ กรณส์ กึ หรอ 4.จัดวางคอมพวิ เตอร์ใหถ้ ูกหลกั : สำหรับผู้ที่ใช้คอมพวิ เตอร์ตั้งโตะ๊ การจัดวางหนา้ จอคอมพิวเตอรค์ วร วางให้ห่างจากกำแพง หรอื มชี อ่ งวา่ งด้านหลังจอประมาณ 1 ไม้บรรทดั ครบั เพราะความร้อนท่กี ระจายออกมาจะได้ มกี ารระบายท่โี ลง่ และไม่เกิดอุณหภมู ิสูง รวมถงึ ตัวเคสคอมพิวเตอร์ก็ควรตง้ั ในทมี่ ีช่องระบายความร้อนใหล้ ม สามารถพดั เขา้ -ออกได้ ผู้ท่ีใช้โนต้ บคุ้ ก็เช่นเดยี วกันครับ ควรยกระดบั ดา้ นล่างของโน้ตบคุ้ ใหม้ ีช่องวา่ งระบาย อากาศดา้ นล่างดว้ ย เนอ่ื งจากโน้ตบคุ้ จะมีความรอ้ นทีส่ ูงกว่าคอมพิวเตอรท์ ว่ั ไป แนะนำใหห้ าพดั ลมตัวเลก็ ๆ หรือพดั ลมตั้งพน้ื เปา่ จะแนน่ อนสดุ ครับ เย็นทั้งคนและเครื่อง 5.เขา้ ศูนยห์ รอื ร้านซ่อมคอมใกล้บา้ น : วิธีน้สี ำหรับคนทไ่ี ม่สะดวกในการจดั การคอมพวิ เตอร์ก็ตอ้ งฝากให้ เป็นงานของชา่ งคอมพวิ เตอรช์ ่วยตรวจสอบกนั วา่ อปุ กรณต์ ่างๆยังอยูใ่ นสภาพดีไหม ก่อนตรวจเชค็ สอบถามราคาใน การดำเนินการกอ่ นนะครบั ^^ 6.จดั การไฟลท์ ่ีไมไ่ ด้ใชแ้ ลว้ หรอื ไม่สำคัญ : ไฟลต์ ่างๆทีเ่ ราดาวนโ์ หลดมาหรอื เกบ็ ไวใ้ นเครื่องคอมพวิ เตอร์หากไมไ่ ด้ ใชง้ านแล้ว หรือไม่สำคัญก็ควรลบทงิ้ จากเคร่ืองคอมพวิ เตอรค์ รบั เพราะจะทำใหไ้ มห่ นกั เครอ่ื งในสว่ นของ หนว่ ยความจำ จะไดพ้ ร้อมและมีทีว่างรบั ขอ้ มูลใหม่

7.จัดระเบยี บโฟลเดอร์ต่างๆ : ในส่วนนจี้ ะชว่ ยประหยดั ทงั้ เวลาและช่วยในเรอ่ื งการทำงานของเราได้เลยครับ เพราะหากเราจดั การไฟลแ์ ละโฟลเดอรต์ ่างๆใหเ้ ป็นระเบยี บเรียบร้อย เวลาท่หี าไฟล์ตา่ งๆกจ็ ะสะดวกมากข้ึน เครื่อง ก็จะทำงานไม่หนักครับ 8.กำจดั และสแกนไวรัสในคอมพวิ เตอร์ : วธิ ีน้อี าจตอ้ งใช้เวลาหน่อยครบั เพราะแน่นอนวา่ สำหรบั คนที่ใช้ คอมพวิ เตอรม์ านานขอ้ มลู ต่างๆรูปภาพไฟล์เพลง งานตา่ งๆมากมายที่อยูใ่ นเครือ่ งมาจากหลากหลายที่ ทำให้มีไวรัส แฝงตัวอยใู่ นโฟลเดอรต์ ่างทง้ั ท่ีเราไมร่ บู้ ้าง ยิ่งข้อมูลมากยง่ิ ใช้เวลาสแกนนานมากขึ้น ลองหาโปรแกรมสแกนไวรสั สัก ตวั อย่างเช่น nod32 เพื่อให้การใชง้ านคอมพิวเตอรไ์ ม่มีปัญหา 9.ลบโปรแกรมท่ไี ม่ไดใ้ ชง้ านท้ิง : หากเรารู้ว่าโปรแกรมไหนทเี่ ราไม่ได้ใชง้ านแลว้ หรอื เกมส์ต่างๆที่เราลงไว้ใน คอมพวิ เตอร์ไม่ได้เลน่ เราควรจะลบออกครบั เชน่ เดียวกับโฟลเดอรแ์ ละไฟล์ เพราะจะทำให้เครอื่ งคอมพวิ เตอรข์ อง เราไม่ทำงานหนักที่ตอ้ งเตรียมโปรแกรมตา่ งๆคอยเสิรฟ์ เวลาท่ีเราจะใช้งาน 10.หมน่ั หาวธิ หี รือการใชง้ านที่ถูกตอ้ ง : จรงิ ๆแล้ววธิ นี ้ีกค็ ือการใช้งานคอมพวิ เตอรใ์ หถ้ ูกตอ้ งตามพ้นื ฐานครับ เพราะถา้ เราไม่รู้หลักในการใช้งานแลว้ ต้ังแตข่ ้อ 9 จนถงึ 1 ท่กี ล่าวมากอ็ าจทำให้เราละเลยในการดูแลรกั ษา คอมพิวเตอร์จากการใชง้ านทไ่ี ม่ถูกตอ้ งได้ ไม่ยากครับเพยี งแคเ่ ราคอยเอาใจใส่ทั้งตวั เราและคอมพวิ เตอร์ ตอ้ งเร่ิม จากตัวเรากอ่ นครบั เพราะถา้ เราไม่ดูแลสุขภาพตวั เราก่อน เวลาทเ่ี ราจะดูแลคอมพิวเตอร์ก็จะมนี อ้ ยลงครับ ด้านทักษะ(ปฏบิ ัติ) (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 1-2) 17. แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยท่ี 3 18. ใบงาน หนว่ ยท่ี 3 19. แบบฝึกหัด หนว่ ยท่ี 3

20. กจิ กรรมนำสูอ่ าเซยี น หนว่ ยที่ 3 21. กิจกรรมบูรณาการในชีวติ ประจำวนั หน่วยท่ี 3 22. กิจกรรมบรู ณาการ 3D หนว่ ยท่ี 3 23. แบบประเมินผู้เรยี นในชนั้ เรียน 24. แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยท่ี 3 • ด้านคณุ ธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง (จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมข้อท่ี 3-4) 3. การเตรียมความพร้อมด้านการเตรยี ม วัสดุ อุปกรณ์นักศึกษาจะต้องกระจายงานได้ทัว่ ถึง และตรงตาม ความสามารถของสมาชิกทกุ คน มีการจดั เตรียมสถานท่ี ส่ือ วสั ดุ อปุ กรณไ์ วอ้ ย่างพรอ้ มเพรียง 4. ความมเี หตมุ ีผลในการปฏบิ ตั งิ าน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง นักศึกษาจะตอ้ งมีการใช้ เทคนิคที่แปลกใหม่ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอที่น่าสนใจนำวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ อย่างคุม้ ค่าและประหยัด กิจกรรมการเรยี นการสอนหรือการเรียนรู้ ขน้ั ตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขนั้ ตอนการเรียนร้หู รอื กิจกรรมของนักเรยี น 1. ขนั้ นำเข้าส่บู ทเรยี น (15 นาที ) 1. ข้นั นำเข้าสูบ่ ทเรยี น (15 นาที ) จดั ใหน้ กั เรยี นศึกษาคำศพั ท์ในบทเรยี น นักเรยี นศึกษาคำศัพท์ในบทเรยี น 7. ผู้สอนจัดเตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะนำ 7. ผู้เรียนเตรียมอุปกรณ์และ ฟังครูผู้สอนแนะนำ รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง การ รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง การ บำรุงรกั ษาและดแู ลอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ บำรงุ รกั ษาและดูแลอุปกรณค์ อมพิวเตอร์ 8. ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของหน่วย 8. ผู้เรียนทำความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การ เรียนท่ี 3 และขอให้ผู้เรียนร่วมกันทำกิจกรรมการ เรียนของหน่วยเรยี นที่ 3 และการให้ความร่วมมือในการ เรยี นการสอน ทำกจิ กรรม 9. ผู้สอนให้ผู้เรียนแสดงความรู้เกี่ยวกับ การ 9. ผู้เรียนแสดงความรู้ความรู้เกี่ยวกับ การ บำรุงรักษาและดแู ลอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ บำรุงรกั ษาและดแู ลอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ 2. ขัน้ ใหค้ วามรู้ (75 นาที) 2. ข้นั ใหค้ วามรู้ (75 นาที )

7. ผู้สอนแนะนำวิธกี ารใช้บทเรยี นคอมพิวเตอร์ 1. ผสู้ อนแนะนำวธิ กี ารใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วย ช่วยสอน หน่วยที่ 3 การบำรุงรักษาและดูแล สอน หน่วยที่ 3 การบำรุงรักษาและดูแลอุปกรณ์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และให้ผู้เรียนศึกษาเอกสาร คอมพิวเตอร์ และให้ผู้เรียนศึกษาเอกสารประกอบการ ประกอบการสอน การบำรุงรักษาและดูแลอุปกรณ์ สอน การบำรุงรักษาและดูแลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ หนว่ ยท่ี 3 หน้าท่ี 61 - 87 หนว่ ยที่ 3 หนา้ ท่ี 61 - 87 8. ผูส้ อนและผู้เรียนร่วมกนั อธิบายเกี่ยวกับ การ 2.ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันอธิบายเกี่ยวกับ การ บำรุงรักษาและดูแลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ตามที่ได้ บำรุงรักษาและดแู ลอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ ตามที่ได้ศึกษา ศกึ ษาจากบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน จากบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน 9. อาจารยผ์ สู้ อนคอยให้คำแนะนำแกผ่ ู้เรยี น 3.อาจารยผ์ ู้สอนคอยใหค้ ำแนะนำแก่ผเู้ รยี น กจิ กรรมการเรียนการสอนหรอื การเรยี นรู้ ขน้ั ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรยี นรูห้ รอื กิจกรรมของนกั เรยี น 3. ขั้นประยกุ ตใ์ ช้ ( 105 นาที ) 3. ขน้ั ประยุกตใ์ ช้ ( 105 นาที ) 5. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัด หน่วยที่ 3 5. ผู้เรียนทำแบบฝึกหัด หน่วยที่ 3 หน้าที่ 82 หน้าที่ 82 เรื่อง การบำรุงรักษาและดูแลอุปกรณ์ เรอื่ ง การบำรุงรักษาและดูแลอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ 6. ผ้เู รียนสบื คน้ ข้อมูลจากอินเทอรเ์ นต็ 6. ผสู้ อนให้ผเู้ รียนสืบคน้ ข้อมลู จากอินเทอรเ์ น็ต 4. ขัน้ สรุปและประเมินผล ( 30 นาที ) 4. ขนั้ สรุปและประเมินผล ( 30 นาที ) 11. ผสู้ อนและผ้เู รยี นรว่ มกันสรปุ เนอ้ื หาท่ไี ด้เรยี นให้ 13. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียน มีความเข้าใจในทิศทางเดยี วกัน เพื่อให้มีความเข้าใจในทศิ ทางเดียวกัน 12. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน้า 14. ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน้า 63-64 63-64 15. ผ้เู รยี นทำใบงานและกิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ 13. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำใบงานและกิจกรรมส่งเสริม ท่ี 3 หน้า 81-87 การเรียนรู้ หน่วยท่ี 3 หนา้ 81-87 16. ใหผ้ ู้เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หนา้ 87

14. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหน้าท่ี 17. ผู้เรียนสลับกันตรวจแบบทดสอบหลังเรยี นด้วย 87 ความซื่อสัตย์นำคะแนนที่ได้บันทึกลงในแบบ บันทึก 15. ผู้สอนให้ผู้เรียนสลับกันตรวจแบบทดสอบหลัง คะแนนการปฏิบัติกิจกรรมระหว่างเรียน พร้อม เรียนด้วยความซื่อสัตย์แล้วนำคะแนนที่ได้บันทึกลงใน เปรียบเทยี บคะแนนของแบบทดสอบก่อนเรยี น และหลัง แบบบนั ทกึ คะแนนการปฏิบตั กิ จิ กรรมระหว่างเรียน เรียนว่ามีผลต่างกันอย่างไร เพื่อดูความก้าวหน้าของ ตนเอง 18. ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ด้วย (บรรลจุ ดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อที่ 1-2) บทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนท่จี ัดทำขึน้ (รวม 180 นาที หรอื 3 คาบเรยี น) (บรรลจุ ดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 1-2) งานท่มี อบหมายหรือกิจกรรมการวดั ผลและประเมนิ ผล ก่อนเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร สอื่ การเรียนการสอนหน่วยท่ี 3 2. ทำความเข้าใจเกี่ยวกบั จุดประสงคก์ ารเรียนของหนว่ ยที่ 3 และให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมใน หนว่ ยท่ี 1 ขณะเรยี น 7. ปฏิบตั ิตามกิจกรรมหน่วยที่ 3 8. ปฏบิ ตั ิตามใบงาน 9. รว่ มกันสรปุ “การบำรุงรักษาและดแู ลอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์” หลังเรยี น 5. ทำแบบประเมินการเรยี นรู้ 6. ทำแบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 3 ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเรจ็ ของผเู้ รียน

กจิ กรรมที่ 3 เรื่อง การบำรุงรกั ษาและดูแลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สมรรถนะทีพ่ งึ ประสงค์ ผเู้ รียนสรา้ งความเข้าใจเกยี่ วกับ การบำรุงรกั ษาและดูแลอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ 9. วิเคราะหแ์ ละตคี วามหมาย 10. ต้งั คำถาม 11. อภิปรายแสดงความคดิ เห็นระดมสมอง 12. การประยกุ ต์ความรสู้ ูง่ านอาชีพ สมรรถนะการสรา้ งคา่ นยิ ม ปลกู ฝังคุณธรรม จริยธรรม สมรรถนะการปฏบิ ตั งิ านอาชีพ 3. บำรุงรกั ษาและดูแลอุปกรณ์คอมพิวเตอรไ์ ด้ สมรรถนะการขยายผล - สอ่ื การเรยี นการสอน/การเรยี นรู้ สื่อสง่ิ พิมพ์ 7. เอกสารประกอบการสอนวิชา คอมพิวเตอร์และการบำรงุ รักษา (ใชป้ ระกอบการเรยี นการสอน จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 1-2) 8. แบบฝึกหดั หน่วยที่ 3 เรื่อง การบำรงุ รกั ษาและดูแลอุปกรณค์ อมพิวเตอร์ (ใช้ประกอบการเรยี น การสอนข้ันให้ความรู้ เพื่อให้บรรลุจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อท่ี 1-2) 9. แบบประเมนิ ผู้เรียนในชนั้ เรียน ใช้ประกอบการสอนข้นั ประยุกตใ์ ช้ ขอ้ 1-2 ส่อื โสตทัศน์ (ถา้ ม)ี 3. บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน เรอ่ื ง การบำรงุ รกั ษาและดแู ลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์

สอื่ ของจริง 3. การบำรงุ รักษาและดูแลอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ (ใชป้ ระกอบการเรยี นการสอนจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อที่ 1-2) แหล่งการเรยี นรู้ ในสถานศึกษา 1. ห้องสมดุ วิทยาลยั เทคนคิ สมุทรสาคร 2. หอ้ งปฏบิ ตั ิการคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต นอกสถานศกึ ษา - การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธ์กับวชิ าอน่ื 9. บูรณาการกับวิชาชวี ติ และวัฒนธรรมไทย ด้านการพดู การอา่ น การเขียน และการฝกึ ปฏบิ ัติตนทาง สังคมดา้ นการเตรียมความพรอ้ ม ความรบั ผิดชอบ และความสนใจใฝร่ ู้ 10. บรู ณาการกบั วชิ าการบรหิ ารการจัดซื้อ ด้านการซ้อื การแสวงหาผลิตภณั ฑ์ 11. บรู ณาการกับวชิ ากฬี าเพอ่ื พฒั นาสุขภาพและบุคลิกภาพ ด้านบุคลกิ ภาพในการนำเสนอหน้าชัน้ เรียน 12. บูรณาการกับวิชาหลกั เศรษฐศาสตร์ ด้านการเลือกใช้ทรัพยากรอย่างประหยดั

การประเมินผลการเรยี นรู้ • หลกั การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน ขณะเรียน 5. ตรวจผลงานตาม แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 3 6. สังเกตการทำงาน หลังเรียน 9. ตรวจแบบฝึกหัดทดสอบความเขา้ ใจ 10. ตรวจกิจกรรม หน่วยท่ี 3 11. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน 12. สลบั กนั ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น คำถาม 7. UPS คือ 8. สาย Cable หมายถงึ 9. Handheld Vacuum Cleaner หมายถึง

ผลงาน/ชิน้ งาน/ผลสำเร็จของผ้เู รยี น แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 3 เรื่อง การบำรุงรกั ษาและดแู ลอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์

รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้ • จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อท่ี 1 อธิบายการบำรงุ รักษาทวั่ ๆ ไป ได้ 7. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ 8. เคร่อื งมอื : แบบทดสอบ 9. เกณฑ์การให้คะแนน : อธิบายการบำรงุ รักษาทั่ว ๆ ไป จะได้ 1 คะแนน • จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อท่ี 2 บอกสาเหตทุ ีท่ ำใหเ้ ครือ่ งพีซเี กิดความเสยี หาย ได้ 7. วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 8. เครือ่ งมือ : แบบทดสอบ 9. เกณฑก์ ารให้คะแนน : บอกสาเหตุที่ทำให้เครอ่ื งพีซีเกดิ ความเสียหาย จะได้ 1 คะแนน • จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ข้อท่ี 3 การเตรยี มความพร้อมดา้ นการเตรยี ม วัสดุ อุปกรณน์ กั ศกึ ษาจะตอ้ ง กระจายงานได้ทว่ั ถงึ และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มกี ารจดั เตรยี มสถานท่ี สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ไว้อย่างพรอ้ มเพรยี ง 7. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ 8. เครอื่ งมอื : แบบทดสอบ 9. เกณฑ์การให้คะแนน : การเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณน์ กั ศึกษาจะต้องกระจายงานไดท้ ว่ั ถึง และตรงตาม ความสามารถของสมาชกิ ทกุ คน มีการจัดเตรยี มสถานท่ี สือ่ วัสดุ อปุ กรณ์ไว้ อย่างพร้อมเพรียง จะได้ 4 คะแนน • จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อท่ี 4 ความมีเหตุมีผลในการปฏบิ ัตงิ าน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียง นกั ศึกษาจะต้องมีการใช้ เทคนิคที่แปลกใหม่ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอทน่ี ่าสนใจนำวสั ดุใน ท้องถ่ินมาประยกุ ต์ใช้ อย่างคุม้ ค่าและประหยดั 1. วธิ ีการประเมนิ : ตรวจผลงาน 2. เครือ่ งมอื : แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่ 3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัตงิ าน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งนกั ศึกษาจะตอ้ งมีการใช้ เทคนคิ ท่ีแปลกใหม่ใช้ส่อื และเทคโนโลยี ประกอบการนำเสนอท่ีนา่ สนใจนำ วสั ดใุ นท้องถ่นิ มาประยุกตใ์ ชอ้ ย่าง คมุ้ ค่าและประหยัด จะได้ 2 คะแนน

แบบฝึกหัด หน่วยท่ี 3 การบำรุงรักษาและดแู ลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ตอนท่ี 1 คำสั่ง ใหน้ ักศึกษาจับคอู่ ุปกรณ์คอมพิวเตอร์และการบำรุงรักษาให้มีความสมั พนั ธ์กัน ............. 1. UPS ก. ใช้นำ้ ยาลา้ งหัวอ่านทกุ เดือน ............. 2. Hard Disk ข. เรยี กใชโ้ ปรแกรม Screen Server ............. 3. Disk Drive ค. กรดี กระดาษไม่ให้ตดิ กนั ก่อนใส่เข้าไปในเครื่อง ............. 4. Monitor ง. เลอื กใช้โต๊ะทีแ่ ขง็ แรง ปอ้ งกนั การโยกไปมา ............. 5. Printer จ. แก้ปญั หาไฟตก ไฟกระชาก ตอนท่ี 2 คำส่ัง ให้นกั ศกึ ษาจับคู่สาเหตุที่ทำใหค้ อมพวิ เตอร์เสียหาย และแนวทางการแกไ้ ขใหม้ คี วามสัมพนั ธก์ นั ............. 1. ความร้อน ก. หลกี เลย่ี งการนำของเหลวทุกชนดิ มาวางบนโต๊ะคอมฯ ............. 2. ฝุ่นผง ข. ทำการคายประจุไฟฟา้ สถติ ............. 3. ไฟกระเพื่อม ค. ใช้ Power Supply ในขนาดทถ่ี ูกตอ้ ง ............. 4. น้ำและสนิม ง. ทำความสะอาดภายในคอมพวิ เตอร์ทกุ 6 เดอื น ............. 5. ไฟฟ้าสถิต จ. ลดจำนวนครั้งในการปดิ – เปิดเคร่อื งคอมพวิ เตอร์

แบบประเมนิ ผลการนำเสนอผลงาน ชือ่ กลมุ่ ……………………………………………ช้ัน………………………หอ้ ง........................... รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขท…่ี …. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขท…ี่ …. ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ข้อคิดเหน็ 32 1 1 เนอื้ หาสาระครอบคลมุ ชดั เจน (ความรูเ้ ก่ียวกบั เนอื้ หา ความถกู ต้อง ปฏภิ าณในการตอบ และการแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการนำเสนอ 3 การมสี ว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลุ่ม 4 บคุ ลกิ ลกั ษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้ำเสียง ซง่ึ ทำให้ผู้ฟังมีความ สนใจ รวม ผ้ปู ระเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เน้ือหาสาระครอบคลุมชดั เจนถกู ต้อง 3 คะแนน = มสี าระสำคญั ครบถ้วนถกู ต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบถว้ น แตต่ รงตามจดุ ประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคญั ไมถ่ กู ตอ้ ง ไม่ตรงตามจดุ ประสงค์ 2. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนำเสนอที่เหมาะสม มกี ารใชเ้ ทคนิคทแี่ ปลกใหม่ ใชส้ ื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นำเสนอที่น่าสนใจ นำวัสดุในท้องถนิ่ มาประยุกตใ์ ช้อย่างคมุ้ ค่าและประหยัด คะแนน = มเี ทคนิคการนำเสนอทีแ่ ปลกใหม่ ใชส้ ่อื และเทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอทนี่ า่ สน ใจ แตข่ าดการ ประยุกตใ์ ช้ วสั ดุในท้องถนิ่ 1 คะแนน = เทคนคิ การนำเสนอไมเ่ หมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนมีบทบาทและมีสว่ นร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชกิ สว่ นใหญ่มบี ทบาทและมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกล่มุ 1 คะแนน = สมาชิกสว่ นน้อยมบี ทบาทและมสี ว่ นรว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกวา่ รอ้ ยละ 90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ 2 คะแนน = ผ้ฟู ังรอ้ ยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ 1 คะแนน = ผู้ฟงั นอ้ ยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ

เฉลยแบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 3 การบำรงุ รกั ษาและดแู ลอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ ตอนท่ี 1 คำสัง่ ให้นักศกึ ษาจบั คู่อุปกรณ์คอมพวิ เตอรแ์ ละการบำรงุ รักษาใหม้ ีความสัมพนั ธ์กัน .....จ.... 1. UPS ก. ใชน้ ำ้ ยาล้างหัวอ่านทุกเดอื น .....ง... 2. Hard Disk ข. เรียกใช้โปรแกรม Screen Server ....ก... 3. Disk Drive ค. กรดี กระดาษไม่ใหต้ ิดกัน กอ่ นใสเ่ ขา้ ไปในเคร่ือง ....ข.... 4. Monitor ง. เลือกใช้โตะ๊ ท่แี ข็งแรง ป้องกันการโยกไปมา ....ค..... 5. Printer จ. แก้ปัญหาไฟตก ไฟกระชาก ตอนท่ี 2 คำสง่ั ใหน้ กั ศกึ ษาจบั คู่สาเหตุท่ีทำใหค้ อมพิวเตอรเ์ สียหาย และแนวทางการแก้ไขใหม้ ีความสมั พนั ธ์กนั ....ค... 1. ความรอ้ น ก. หลกี เล่ยี งการนำของเหลวทุกชนดิ มาวางบนโต๊ะคอมฯ ....ง... 2. ฝ่นุ ผง ข. ทำการคายประจไุ ฟฟ้าสถิต ....จ.... 3. ไฟกระเพื่อม ค. ใช้ Power Supply ในขนาดทีถ่ กู ต้อง ...ก.... 4. น้ำและสนมิ ง. ทำความสะอาดภายในคอมพวิ เตอร์ทุก 6 เดือน ....ข... 5. ไฟฟา้ สถติ จ. ลดจำนวนครัง้ ในการปดิ – เปิดเครือ่ งคอมพิวเตอร์

แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ ชอ่ื กลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………หอ้ ง........................... รายชือ่ สมาชิก 2……………………………………เลขท่ี……. 4……………………………………เลขท่ี……. 1……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขท่ี……. ท่ี รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 1 การกำหนดเปา้ หมายร่วมกัน 321 2 การแบ่งหน้าท่ีรบั ผิดชอบและการเตรียมความพรอ้ ม 3 การปฏบิ ัติหนา้ ทท่ี ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 4 การประเมนิ ผลและปรับปรงุ งาน รวม ผู้ประเมนิ ………………………………………………… วันท…่ี ………เดอื น……………………..พ.ศ…………... เกณฑก์ ารให้คะแนน 1. การกำหนดเปา้ หมายรว่ มกัน 3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายการทำงานอยา่ งชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกสว่ นใหญ่มีส่วนร่วมในการกำหนดเปา้ หมายในการทำงาน 1 คะแนน = สมาชกิ ส่วนนอ้ ยมีส่วนรว่ มในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 2. การมอบหมายหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบและการเตรยี มความพรอ้ ม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทัว่ ถงึ และตรงตามความสามารถของสมาชกิ ทุกคน มกี ารจดั เตรยี มสถานที่ สือ่ / อุปกรณไ์ วอ้ ยา่ งพรอ้ มเพรยี ง 2 คะแนน = กระจายงานไดท้ ั่วถึง แต่ไมต่ รงตามความสามารถ และมีสือ่ / อุปกรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรยี ง แต่ขาด การจดั เตรียมสถานท่ี 1 คะแนน = กระจายงานไมท่ ว่ั ถงึ และมสี อ่ื / อปุ กรณไ์ ม่เพยี งพอ 3. การปฏิบตั หิ น้าทที่ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย 3 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเปา้ หมาย และตามเวลาที่กำหนด 2 คะแนน = ทำงานไดส้ ำเรจ็ ตามเป้าหมาย แต่ชา้ กว่าเวลาทีก่ ำหนด 1 คะแนน = ทำงานไม่สำเร็จตามเป้าหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรงุ งาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนรว่ มปรกึ ษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรบั ปรงุ งานเปน็ ระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมสี ว่ นร่วมปรึกษาหารอื แตไ่ มป่ รบั ปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชกิ บางส่วนไม่มสี ว่ นร่วมปรึกษาหารือ และปรบั ปรงุ งาน บนั ทึกหลังการสอน

หน่วยท่ี 3 การบำรงุ รกั ษาและดูแลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ผลการใชแ้ ผนการเรียนรู้ 1. เนอ้ื หาสอดคลอ้ งกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 2. สามารถนำไปใช้ปฏบิ ัติการสอนได้ครบตามกระบวนการเรยี นการสอน 3. สือ่ การสอนเหมาะสมดี ผลการเรียนของนักเรยี น 1. นกั ศกึ ษาสว่ นใหญ่มคี วามสนใจใฝ่รู้ เข้าใจในบทเรยี น อภิปรายตอบคำถามในกลุ่ม และรว่ มกนั ปฏบิ ัตใิ บงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 2. นักศึกษากระตือรือร้นและรับผิดชอบในการทำงานกลุ่มเพ่ือใหง้ านสำเร็จทนั เวลาทีก่ ำหนด ผลการสอนของครู 1. สอนเน้ือหาไดค้ รบตามหลักสตู ร 2. แผนการสอนและวิธีการสอนครอบคลุมเนอื้ หาการสอนทำให้ผ้สู อนสอนได้อยา่ งมั่นใจ 3. สอนไดท้ ันตามเวลาท่กี ำหนด

แผนการสอน/แผนการเรียนรู้ภาคทฤษฎี หนว่ ยที่ 4 สอนสัปดาหท์ ี่ แผนการสอน/การเรียนรู้ภาคทฤษฎี 10-12 ชอ่ื วิชา การบำรงุ รักษาคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์พกพา คาบรวม 3 ชอ่ื หน่วย การตรวจและกำจัดไวรัส ชือ่ เรื่อง การตรวจและกำจดั ไวรสั จำนวนคาบ 3 หวั ข้อเรือ่ ง ดา้ นความรู้ 5. ความหมายของไวรสั ได้ 6. ประเภทของไวรสั ได้ ดา้ นทักษะ 10. ตรวจหาและกำจัดไวรัสได้ ด้านคุณธรรม จริยธรรม 1. ความรบั ผดิ ชอบ 2. ความสนใจใฝ่รู้ สาระสำคัญ ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือ โปรแกรมที่มนษุ ย์เขียนขึ้นมาแต่เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อกอ่ กวนการทำงาน ของระบบเลยทำลายแฟ้มข้อมูล โปรแกรมต่างๆที่มีอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์สาเหตุที่ได้มีการเรียกชื่อกันว่าไวรสั คอมพิวเตอร์เนื่องมาจากคำว่า ไวรัส มีความหมายว่าเป็นเชื้อโรคที่สามารถแพร่ระบาดและติดต่อได้อย่าง รวดเร็ว สามารถหลบซ่อนตัวไว้อยู่ในหน่วยความจำและจะอยู่ในหน่วยความจำตลอดจนกวา่ จะปิดเครื่องเม่ือมีการ นำแผ่นบนั ทึกอืน่ ๆมาใช้งานกับเคร่อื งคอมพวิ เตอรท์ ม่ี ีไวรัสหลบซ่อนอยู่ในหน่วยความจำแผ่นบนั ทึกแผ่นน้ันก็จะติด ไวรสั ไปด้วยกำเนดิ ของไวรสั คอมพิวเตอร์ สมรรถนะอาชพี ประจำหน่วย 4. ตรวจหาและกำจัดไวรัสได้

คำศัพท์สำคัญ 12. Hard Disk บูตเซกเตอรไ์ วรัส (boot sector virus)คอื ไวรัสคอมพวิ เตอร์ที่แพร่เขา้ สูเ่ ป้าหมายในระหวา่ งเร่มิ ทำ การบตู เครอื่ ง ส่วนมากมันจะติดตอ่ เขา้ สแู่ ผ่นฟลอปปี้ดสิ กร์ ะหว่างกำลงั สง่ั ปดิ เคร่ือง เมอ่ื นำแผน่ ทีต่ ิดไวรสั นไ้ี ปใช้กบั เครื่อง คอมพวิ เตอร์ เครอ่ื งอื่นๆไวรัสกจ็ ะเขา้ ส่เู คร่อื งคอมพวิ เตอร์ตอนเริม่ ทำงานทนั ที 13. ไฟล์ไวรัส (file virus) ใชเ้ รียกไวรสั ทต่ี ิดไฟลโ์ ปรแกรม เช่นโปรแกรมทด่ี าวนโ์ หลดจากอินเทอร์เน็ต นามสกลุ .exe โปรแกรมประเภทแชรแ์ วรเ์ ป็นต้น 14. มาโครไวรสั (macro virus) คือไวรสั ที่ติดไฟล์เอกสารชนิดต่างๆ ซง่ึ มคี วามสามารถในการใส่คำสงั่ มาโครสำหรบั ทำงาน อตั โนมตั ใิ นไฟล์เอกสารด้วย ตัวอย่างเอกสารทสี่ ามารถติดไวรสั ได้ เชน่ ไฟล์ไมโครซอฟท์เวริ ด์ ไมโครซอฟท์เอ็กเซล เปน็ ต้น จดุ ประสงค์การสอน/การเรียนรู้ • จุดประสงคท์ ่วั ไป / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 10. เพ่ือให้มคี วามรู้เกีย่ วกับ การตรวจและกำจัดไวรัส (ด้านความรู้) 11. เพื่อใหม้ ที ักษะการตรวจและกำจดั ไวรสั (ดา้ นทักษะ) 12. เพื่อใหม้ เี จตคตทิ ่ีดีต่อการเตรียมความพร้อมด้าน วสั ดุ อปุ กรณ์ และการปฏบิ ัตงิ านอยา่ งถูกต้อง สำเร็จ ภายในเวลาท่กี ำหนด มเี หตแุ ละผลตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม) • จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 25. แยกประเภทของไวรสั ได้ (ดา้ นความร)ู้ 26. ตรวจหาไวรัสบนเครื่องคอมพวิ เตอร์ได้ (ด้านทกั ษะ) 27. อธิบายความหมายของไวรสั ได้ 28. การแพรก่ ระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์ 29. อาการของเคร่ืองที่ตดิ ไวรัส 30. คำแนะนำการป้องกันไวรสั 31. การกำจดั ไวรัส 32. โปรแกรมปอ้ งกนั ไวรัส 33. การเตรยี มความพรอ้ มดา้ นการเตรียม วัสดุ อุปกรณน์ ักศึกษาจะตอ้ งกระจายงานไดท้ ว่ั ถึง และตรง ตามความสามารถของสมาชิกทกุ คน มกี ารจัดเตรียมสถานท่ี สื่อ วัสดุ อปุ กรณไ์ วอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง (ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง) 34. ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัตงิ าน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นกั ศึกษาจะตอ้ งมกี ารใช้ เทคนคิ ทแ่ี ปลกใหมใ่ ชส้ อื่ และเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอทน่ี ่าสนใจนำวสั ดใุ นทอ้ งถิ่นมาประยกุ ตใ์ ช้ อยา่ งคุ้มค่าและประหยดั (ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง) เนอื้ หาสาระการสอน/การเรยี นรู้

• ด้านความรู้(ทฤษฎ)ี 7. แยกประเภทของไวรสั ได้ (จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้อ 1) ประเภทของไวรัส 1. บตู เซกเตอร์ไวรัส (boot sector virus) บูตเซกเตอรไ์ วรสั คือไวรัสคอมพิวเตอร์ท่แี พร่เขา้ สูเ่ ป้าหมายในระหวา่ งเร่ิมทำการบตู เครื่อง สว่ นมากมันจะ ติดต่อเข้าสู่แผ่นฟลอปปีด้ ิสกร์ ะหว่างกำลังสัง่ ปดิ เครื่อง เมื่อนำแผ่นทีต่ ิดไวรัสนีไ้ ปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่อง อ่ืนๆไวรัสกจ็ ะเข้าสเู่ ครอื่ งคอมพิวเตอร์ตอนเรม่ิ ทำงานทันที บูตเซกเตอร์ ไวรัสจะติดต่อเข้าไปอยู่ส่วนหัวสุดของฮาร์ดดิสก์ที่มาสเตอร์บูตเรคคอร์ด (master boot record)และก็จะโหลดตัวเองเข้าไปสู่หน่วยความจำก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ทำให้เหมือนไม่มีอะไร เกดิ ข้ึน(อ้างองิ จาก http://www.ชา่ งคอม.com) 2. ไฟล์ไวรัส (file virus) ไฟล์ไวรัส (file virus) ใช้เรียกไวรัสที่ติดไฟล์โปรแกรม เช่นโปรแกรมที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต นามสกุล.exe โปรแกรมประเภทแชรแ์ วรเ์ ป็นต้น 3. มาโครไวรสั (macro virus) มาโครไวรัส (macro virus) คอื ไวรสั ที่ติดไฟลเ์ อกสารชนดิ ต่างๆ ซง่ึ มีความสามารถในการใสค่ ำสั่งมาโคร สำหรับทำงานอัตโนมัติในไฟลเ์ อกสารดว้ ย ตัวอยา่ งเอกสารทส่ี ามารถติดไวรัสได้ เชน่ ไฟล์ไมโครซอฟท์เวิรด์ ไมโครซอฟทเ์ อก็ เซล เป็นตน้

4. ม้าโทรจนั (Trojan House) ม้าโทรจัน คอื โปรแกรมที่ซอ่ นตวั อยู่ในฮาร์ดดิสก์ด้วยฝีมือของแฮคเกอร์ ท่อี าจส่งโค้ดแฝงมากับไฟล์แนบ ท้ายอีเมล การทำงานของโทรจันก็เหมือนกับเรื่องเล่าของกรีก ที่ว่าด้วยกลอุบายซ่อนทหารไว้ในม้าไม้ขนาดใหญ่ และนำไปมอบให้กับชาวเมืองทรอย (Trojans) พอตกกลางคืน ทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ก็ลอบออกมาเปิด ประตูเมอื งให้พวกของตนบุกเข้า ตีเมืองทรอยได้อย่างง่ายดาย เปรียบได้กับแฮคเกอรท์ ีส่ ่งโปรแกรมลึกลับ (ม้าโทร จัน) มาคอยดกั เก็บขอ้ มูลในพีซขี องคณุ แลว้ สง่ ออกไปโดยท่ีคุณไมร่ ู้ตวั น่ันเอง Trojan Horse เป็นโปรแกรมที่ถูกเขยี นขึ้นมาใหท้ ำตวั เหมอื นว่าเป็นโปรแกรมธรรมดาทั่ว ๆ ไป เพ่อื หลอก ลอ่ ผใู้ ช้ใหท้ ำการเรยี กขึ้นมาทำงาน แตเ่ มือ่ มันถกู เรยี กขึ้นมาแลว้ กจ็ ะเริ่มทำลายตามท่ีโปรแกรมมาทันที ม้าโทรจัน บางตัวถูกเขียนขึ้นมาใหม่ทั้งชุด โดยคนเขียนจะทำการตั้งชื่อโปรแกรมพร้อมชื่อรุ่นและคำ อธิบาย การใช้งานที่ดูสมจริง เพื่อหลอกให้คนที่จะเรียกใช้ตายใจ จุดประสงค์ของคนเขียนม้าโทรจันอาจจะ เช่นเดียวกับคนเขียนไวรสั คือ เข้าไปทำอันตรายต่อข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่อง หรืออาจมีจุดประสงค์เพื่อที่จะล้วงเอา ความลับของระบบคอมพิวเตอร์ ม้าโทรจันนี้อาจจะถือว่าไม่ใช่ไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนข้ึน มาโดด ๆ และจะไม่มีการเข้าไปตดิ ในโปรแกรมอืน่ เพือ่ สำเนาตัวเอง แต่จะใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใชเ้ ปน็ ตวั แพร่ระบาดซอฟต์แวร์ที่มี ม้าโทรจันอยู่ในนั้นและนับว่าเป็นหนึ่งในประเภทของโปรแกรมที่มีความอันตรายสูง เพราะยากที่จะตรวจสอบและสร้างขึ้นมาได้ง่าย ซึ่งอาจใช้แค่แบตซ์ไฟล์ก็สามารถโปรแกรม ประเภทม้าโทรจนั ได้

5. หนอน (Worm) หนอน เปน็ รูปแบบหนง่ึ ของไวรสั มีความสามารถในการทำลายระบบในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ สงู ทีส่ ุดในบรรดาไวรสั ทั้งหมด สามารถกระจายตัวไดร้ วดเร็วผ่านทางระบบอินเทอร์เนต็ ซ่ึงสาเหตทุ ่เี รียกว่าหนอน นั้นคงจะเป็นลกั ษณะของการกระจายและทำลายคล้ายกบั หนอนกนิ ผลไม้ ที่สามารถกระจายตัวไดม้ ากมาย รวดเร็ว และเมอ่ื ยิง่ เพม่ิ จำนวนมากขน้ึ ระดับการทำลายล้างยง่ิ สงู ขึ้น(อ้างอิงจาก http://www.ชา่ งคอม.com) 8. ตรวจหาไวรสั บนเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ได้ (จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อ 2)

การตรวจหาไวรัส 1. การสแกน โปรแกรมตรวจหาไวรัสทีใ่ ชว้ ธิ ีการสแกน (Scanning) เรียกว่า สแกนเนอร์ (Scanner) โดยจะมกี ารดึงเอา โปรแกรมบางสว่ นของตวั ไวรสั มาเก็บไวเ้ ปน็ ฐานขอ้ มูล สว่ นท่ดี งึ มานัน้ เราเรียกวา่ ไวรัสซกิ เนเจอร์ (VirusSignature)และเมื่อสแกนเนอร์ถูกเรยี กขึ้นมาทำงานก็จะเขา้ ตรวจหาไวรสั ในหนว่ ยความจำ บตู เซกเตอรแ์ ละ ไฟล์โดยใช้ ไวรัสซกิ เนเจอรท์ มี่ ีอยู่ ข้อดีของวธิ กี ารนก้ี ค็ ือ เราสามารถตรวจสอบซอฟแวร์ที่มาใหมไ่ ดท้ ันทีเลยว่าติดไวรสั หรือไม่ เพื่อป้องกนั ไม่ใหไ้ วรัสถกู เรียกข้นึ มาทำงานตงั้ แต่เร่ิมแรก แตว่ ิธนี ีม้ จี ุดออ่ นอยู่หลายขอ้ คือ 1. ฐานขอ้ มูลท่ีเก็บไวรสั ซกิ เนเจอรจ์ ะตอ้ งทนั สมยั อยู่เสมอ แลครอบคลมุ ไวรัสทุกตัว มากที่สดุ เท่าทจ่ี ะทำ ได้ 2. เพราะสแกนเนอร์จะไม่สามารถตรวจจบั ไวรัสท่ียังไมม่ ี ซกิ เนเจอร์ของไวรัสน้ันเก็บอยใู่ นฐานขอ้ มูลได้ 3. ยากทจ่ี ะตรวจจับไวรสั ประเภทโพลีมอรฟ์ กิ เนอ่ื งจากไวรัสประเภทนี้เปลี่ยนแปลง ตัวเองได้ 4. จึงทำให้ไวรัสซกิ เนเจอร์ที่ใชส้ ามารถนำมาตรวจสอบได้ก่อนทไี่ วรสั จะเปลี่ยนตัวเองเทา่ นั้น 5. ถา้ มีไวรสั ประเภทสทีลตไ์ วรัสติดอยู่ในเครื่องตวั สแกนเนอรอ์ าจจะไม่สามารถ ตรวจหาไวรสั น้ีได้ 6. ทั้งนข้ี นึ้ อยูก่ ับความฉลาดและเทคนคิ ที่ใชข้ องตวั ไวรัสและ ของตัวสแกนเนอร์เองวา่ ใครเกง่ กว่า 7. เนอื่ งจากไวรัสมีตวั ใหม่ ๆ ออกมาอย่เู สมอ ๆ ผู้ใช้จึงจำเปน็ จะตอ้ งหาสแกนเนอร์ ตวั ที่ใหม่ท่ีสดุ มาใช้ 8. มไี วรัสบางตัวจะเขา้ ไปตดิ ในโปรแกรมทันทที ่ีโปรแกรมน้นั ถูกอา่ น และถา้ สมมติ 9. ว่าสแกนเนอรท์ ใี่ ช้ไม่สามารถตรวจจับได้ และถ้าเคร่ืองมไี วรัสน้ีตดิ อยู่ เม่ือมกี าร 10. เรยี กสแกนเนอร์ข้นึ มาทำงาน สแกนเนอร์จะเขา้ ไปอ่านโปรแกรมทลี ะโปรแกรม เพอ่ื ตรวจสอบ 11. ผลก็คือจะทำใหไ้ วรัสตัวนเี้ ข้าไปติดอยู่ในโปรแกรมทุกตัวทีถ่ กู สแกนเนอร์นัน้ อ่านได้ 12. สแกนเนอร์รายงานผดิ พลาดได้ คือ ไวรัสซกิ เนเจอรท์ ใ่ี ช้บังเอญิ ไปตรงกับท่ีมี 13. อยู่ในโปรแกรมธรรมดาท่ไี ม่ไดต้ ิดไวรัส ซ่ึงมกั จะเกดิ ขนึ้ ในกรณีทไ่ี วรสั ซกิ เนเจอร์ ท่ใี ช้มีขนาดสนั้ ไป 14. กจ็ ะทำให้โปรแกรมดังกล่าวใช้งานไมไ่ ด้อกี ตอ่ ไป 2. การตรวจการเปล่ยี นแปลง การตรวจการเปล่ยี นแปลง คอื การหาค่าพิเศษอย่างหน่ึงท่เี รยี กวา่ เชค็ ซมั (Checksum) ซ่ึงเกิดจากการ นำเอาชุดคำส่ังและ ข้อมูลทีอ่ ยู่ในโปรแกรมมาคำนวณ หรอื อาจใช้ขอ้ มลู อื่น ๆ ของไฟล์ ได้แก่ แอตรบิ วิ ต์ วันและ เวลา เขา้ มารวมในการคำนวณดว้ ย เนอื่ งจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไมว่ ่าจะเปน็ คำส่ังหรือขอ้ มลู ทีอ่ ยู่ในโปรแกรม จะถูก แทนดว้ ยรหัสเลขฐานสอง เราจงึ สามารถนำเอาตวั เลขเหล่าน้ีมาผ่านขนั้ ตอนการคำนวณทางคณิตศาสตร์ได้ ซงึ่ วธิ ีการคำนวณเพือ่ หาค่าเช็คซัมนี้มีหลายแบบ และมีระดบั การตรวจสอบแตกต่างกันออกไป เมือ่ ตัวโปรแกรม ภายในเกิดการเปลยี่ นแปลง ไมว่ ่าไวรสั นน้ั จะใชว้ ิธกี ารแทรกหรือเขียนทับก็ตาม เลขท่ไี ดจ้ ากการคำนวณครัง้ ใหม่ จะเปลยี่ นไปจากที่คำนวณไดก้ อ่ นหนา้ น้ี ขอ้ ดีของการตรวจการเปลย่ี นแปลงก็คือ สามารถตรวจจับไวรัสใหม่ ๆ ได้ และยงั มีความสามารถในการ ตรวจจบั ไวรสั ประเภทโพลีมอรฟ์ กิ ไวรัสไดอ้ ีกดว้ ย แต่กย็ ังยากสำหรบั สทีลตไ์ วรสั ท้ังนขี้ น้ึ อยูก่ บั ความฉลาดของ

โปรแกรมตรวจหาไวรสั เองดว้ ยว่าจะสามารถถูกหลอกโดยไวรัสประเภทนีไ้ ด้หรือไม่ และมีวธิ กี ารตรวจการ เปล่ยี นแปลงน้จี ะตรวจจบั ไวรัสได้กต็ อ่ เม่อื ไวรสั ได้เข้าไปตดิ อย่ใู นเครือ่ งแลว้ เทา่ นนั้ และคอ่ นขา้ งเสี่ยงในกรณีท่ีเริม่ มี การคำนวณหาค่าเช็คซมั เปน็ ครง้ั แรก เคร่ืองท่ีใช้ต้องแนใ่ จวา่ บริสทุ ธ์ิพอ คอื ต้องไม่มีโปรแกรมใด ๆ ติดไวรัส มฉิ ะนน้ั คา่ ท่หี าไดจ้ ากการคำนวณท่ีรวมตัวไวรัสเขา้ ไปด้วย ซึง่ จะลำบากภายหลงั ในการท่จี ะตรวจหาไวรัสตัวนีต้ ่อไป 3. การเฝา้ ดู เพือ่ ท่ีจะให้โปรแกรมตรวจจบั ไวรัสสามารถเฝ้าดูการทำงานของเครอ่ื งได้ตลอดเวลานั้น จงึ ไดม้ ีโปรแกรม ตรวจจบั ไวรสั ที่ถกู สรง้ ขึน้ มาเป็นโปรแกรมแบบเรซเิ ดนท์หรือ ดไี วซ์ไดรเวอร์ โดยเทคนคิ ของการเฝ้าดนู น้ั อาจใช้ วธิ กี ารสแกนหรือตรวจการเปล่ียนแปลงหรือสองแบบรวมกนั ก็ได้ การทำงานโดยทัว่ ไปกค็ อื เม่ือซอฟแวร์ตรวจจบั ไวรสั ท่ใี ช้วธิ ีนีถ้ ูกเรยี กขึ้นมาทำงานก็จะเขา้ ไปตรวจใน หนว่ ยความจำของเครือ่ งกอ่ นวา่ มไี วรัสตดิ อยหู่ รือไม่โดยใช้ไวรัสซิกเนเจอร์ ท่มี ีอยู่ในฐานข้อมลู จากน้ันจงึ ค่อยนำ ตัวเองเข้าไปฝังอยใู่ นหนว่ ยความจำ และตอ่ ไปถา้ มีการเรียกโปรแกรมใดขนึ้ มาใชง้ าน โปรแกรมเฝา้ ดนู ก้ี ็จะเข้าไป ตรวจโปรแกรมนั้นกอ่ น โดยใช้เทคนคิ การสแกนหรือตรวจการเปลยี่ นแปลงเพือ่ หาไวรสั ถ้าไมม่ ปี ญั หา กจ็ ะอนุญาต ให้โปรแกรมนนั้ ข้นึ มาทำงานได้ นอกจากนโ้ี ปรแกรมตรวจจบั ไวรสั บางตวั ยงั สามารถตรวจสอบขณะทม่ี กี ารคดั ลอก ไฟล์ไดอ้ ีกด้วย ขอ้ ดขี องวธิ นี ้คี ือ เมอ่ื มกี ารเรียกโปรแกรมใดขึน้ มา โปรแกรมนนั้ จะถกู ตรวจสอบก่อนทกุ ครั้งโดยอัตโนมตั ิ ซ่ึงถา้ เปน็ การใช้สแกนเนอร์ จะสามารถทราบไดว้ ่าโปรแกรมใดติดไวรัสอยู่ ก็ต่อเมื่อทำการเรียกสแกนเนอร์นนั้ ข้นึ มาทำงานก่อนเทา่ นนั้ ขอ้ เสียของโปรแกรมตรวจจับไวรัสแบบเฝา้ ดูกค็ ือ จะมีเวลาที่เสียไปสำหรบั การตรวจหาไวรสั ก่อนทกุ คร้ัง และเน่อื งจากเป็นโปรแกรมแบบเรซเิ ดนทห์ รือดีไวซ์ไดรเวอร์ จงึ จำเป็นจะต้องใช้หนว่ ยความจำสว่ นหน่ึงของเคร่อื ง ตลอดเวลาเพอ่ื ทำงาน ทำใหห้ นว่ ยความจำในเครอ่ื งเหลอื นอ้ ยลง และเช่นเดยี วกบั สแกนเนอร์ ก็คือ จำเปน็ จะต้องมี การปรบั ปรงุ ฐานข้อมูลของไวรสั ซกิ เนเจอรใ์ หท้ ันสมยั อยเู่ สมอ คำแนะนำและการปอ้ งกนั ไวรสั • สำรองไฟลข์ อ้ มลู ท่ีสำคญั • สำหรับเคร่อื งทมี่ ฮี ารด์ ดสิ ก์ อยา่ เรยี กดอสจากฟลอปปีดิสก์ • ปอ้ งกันการเขียนใหก้ บั ฟลอปปีดิสก์ • อยา่ เรียกโปรแกรมที่ตดิ มากบั ดสิ ก์อ่ืน • เสาะหาโปรแกรมตรวจหาไวรสั ที่ใหมแ่ ละมากกวา่ หนงึ่ โปรแกรมจากคนละบรษิ ทั • เรยี กใช้โปรแกรมตรวจหาไวรัสเปน็ ชว่ ง ๆ • เรียกใช้โปรแกรมตรวจจบั ไวรัสแบบเฝ้าดทู กุ ครงั้ • เลือกคดั ลอกซอฟแวรเ์ ฉพาะท่ถี กู ตรวจสอบแล้วในบีบีเอส • สำรองข้อมลู ที่สำคญั ของฮาร์ดดิสก์ไปเกบ็ ในฟลอปปีดิสก์ • เตรยี มฟลอปปดี ิสก์ท่ไี ว้สำหรบั ให้เรยี กดอสขนึ้ มาทำงานได้ • เมื่อเครือ่ งติดไวรสั ให้พยายามหาท่ีมาของไวรัสนน้ั

ดา้ นทกั ษะ(ปฏิบัติ) (จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 1-2) 25. แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยที่ 4 26. ใบงาน หน่วยที่ 4 27. แบบฝึกหัด หน่วยที่ 4 28. กจิ กรรมนำสู่อาเซยี น หนว่ ยที่ 4 29. กิจกรรมบูรณาการในชวี ิตประจำวัน หน่วยที่ 4 30. กจิ กรรมบูรณาการ 3D หน่วยที่ 4 31. แบบประเมินผู้เรียนในชั้นเรียน 32. แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยที่ 4 • ด้านคณุ ธรรม/จรยิ ธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง (จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ที่ 3-4) 4. การเตรียมความพร้อมด้านการเตรยี ม วัสดุ อุปกรณ์นักศึกษาจะต้องกระจายงานได้ทัว่ ถึง และตรงตาม ความสามารถของสมาชกิ ทุกคน มีการจดั เตรียมสถานที่ สอ่ื วัสดุ อุปกรณ์ไวอ้ ยา่ งพรอ้ มเพรียง 5. ความมีเหตุมีผลในการปฏิบตั งิ าน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นักศึกษาจะต้องมีการใช้ เทคนิคที่แปลกใหม่ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอที่น่าสนใจนำวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ อย่างคมุ้ คา่ และประหยัด กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรยี นรู้ ข้ันตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนร้หู รอื กจิ กรรมของนกั เรยี น 1. ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน (15 นาที ) 1. ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรียน (15 นาที ) จดั ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาคำศพั ท์ในบทเรียน นักเรียนศกึ ษาคำศพั ทใ์ นบทเรียน 10. ผู้สอนจัดเตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะนำ 10. ผู้เรียนเตรียมอุปกรณ์และ ฟังครูผู้สอนแนะนำ รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวธิ ีการเรียนเรื่อง การ รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง การ ตรวจและกำจัดไวรสั ตรวจและกำจัดไวรสั

11. ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของหน่วย 11. ผู้เรียนทำความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การ เรียนที่ 4 และขอให้ผู้เรียนร่วมกันทำกิจกรรมการ เรยี นของหน่วยเรียนท่ี 4 และการให้ความร่วมมอื ในการ เรยี นการสอน ทำกจิ กรรม 12. ผู้สอนให้ผู้เรียนแสดงความรู้เกี่ยวกับ การ 12. ผู้เรียนแสดงความรู้ความรู้เกี่ยวกับ การตรวจ ตรวจและกำจดั ไวรัส และกำจัดไวรสั 2. ขั้นให้ความรู้ (75 นาที) 2. ขัน้ ให้ความรู้ (75 นาที ) 10. ผู้สอนแนะนำวิธกี ารใช้บทเรยี นคอมพิวเตอร์ 1. ผูส้ อนแนะนำวธิ ีการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย ช่วยสอน หนว่ ยที่ 4 การตรวจและกำจัดไวรสั และ สอน หน่วยที่ 4 การตรวจและกำจัดไวรสั และให้ผู้เรียน ให้ผู้เรียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน การตรวจ ศึกษาเอกสารประกอบการสอน การตรวจและกำจัด และกำจัดไวรสั หนว่ ยที่ 4 หนา้ ท่ี 89 - 115 ไวรสั หนว่ ยที่ 4 หนา้ ท่ี 89 - 115 11. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกนั อธิบายเก่ียวกับ การ 2.ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันอธิบายเกี่ยวกับ การ ตรวจและกำจัดไวรัส ตามที่ได้ศึกษาจากบทเรียน ตรวจและกำจัดไวรัส ตามที่ได้ศึกษาจากบทเรียน คอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน 3.อาจารยผ์ ้สู อนคอยใหค้ ำแนะนำแก่ผ้เู รียน 12. อาจารยผ์ ู้สอนคอยใหค้ ำแนะนำแก่ผู้เรียน กิจกรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ข้ันตอนการเรียนรู้หรือกิจกรรมของนกั เรยี น 3. ขัน้ ประยุกต์ใช้ ( 105 นาที ) 3. ขั้นประยกุ ตใ์ ช้ ( 105 นาที ) 7. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัด หน่วยที่ 4 7. ผู้เรียนทำแบบฝึกหัด หน่วยที่ 4 หน้าที่ 111 หน้าที่ 111 เร่ือง การตรวจและกำจดั ไวรัส เรอื่ ง การตรวจและกำจัดไวรัส 8. ผู้สอนให้ผ้เู รียนสบื ค้นข้อมลู จากอินเทอรเ์ นต็ 8. ผ้เู รียนสืบค้นข้อมลู จากอนิ เทอร์เนต็ 4. ข้นั สรปุ และประเมนิ ผล ( 30 นาที ) 4. ข้นั สรุปและประเมนิ ผล ( 30 นาที )

16. ผสู้ อนและผเู้ รียนรว่ มกนั สรปุ เนอ้ื หาทไี่ ดเ้ รียนให้ 19. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียน มีความเข้าใจในทิศทางเดยี วกนั เพ่อื ใหม้ คี วามเข้าใจในทิศทางเดยี วกัน 17. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน้า 20. ผู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน้า 91-92 91-92 21. ผ้เู รียนทำใบงานและกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ 18. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำใบงานและกิจกรรมส่งเสริม ที่ 4 หน้า 111-115 การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 4 หนา้ 111-115 22. ให้ผ้เู รียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน หนา้ 115 19. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหน้าที่ 23. ผู้เรียนสลับกันตรวจแบบทดสอบหลังเรียนด้วย 115 ความซื่อสัตย์นำคะแนนที่ได้บันทึกลงในแบบ บันทึก 20. ผู้สอนให้ผู้เรียนสลับกันตรวจแบบทดสอบหลัง คะแนนการปฏิบัติกิจกรรมระหว่างเรียน พร้อม เรียนด้วยความซื่อสัตย์แล้วนำคะแนนที่ได้บันทึกลงใน เปรียบเทียบคะแนนของแบบทดสอบกอ่ นเรยี น และหลัง แบบบนั ทึกคะแนนการปฏิบัตกิ จิ กรรมระหวา่ งเรียน เรียนว่ามีผลต่างกันอย่างไร เพื่อดูความก้าวหน้าของ ตนเอง 24. ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ด้วย (บรรลจุ ดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-2) บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอนที่จัดทำข้นึ (รวม 180 นาที หรือ 3 คาบเรียน) (บรรลจุ ดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-2) งานทมี่ อบหมายหรือกจิ กรรมการวัดผลและประเมนิ ผล ก่อนเรยี น 1. จัดเตรยี มเอกสาร สอ่ื การเรยี นการสอนหนว่ ยที่ 4 2. ทำความเข้าใจเก่ยี วกบั จดุ ประสงค์การเรยี นของหน่วยท่ี 4 และใหค้ วามร่วมมอื ในการทำกจิ กรรมใน หน่วยท่ี 1 ขณะเรียน 10. ปฏิบัตติ ามกิจกรรมหนว่ ยท่ี 4 11. ปฏบิ ตั ิตามใบงาน 12. ร่วมกันสรุป “การตรวจและกำจดั ไวรสั ”

หลงั เรยี น 7. ทำแบบประเมนิ การเรยี นรู้ 8. ทำแบบฝกึ หัด หนว่ ยที่ 4 ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสำเร็จของผเู้ รยี น กจิ กรรมที่ 4 เรือ่ ง การตรวจและกำจดั ไวรสั สมรรถนะทพี่ ึงประสงค์ ผูเ้ รียนสร้างความเขา้ ใจเกีย่ วกับ การตรวจและกำจดั ไวรสั 13. วเิ คราะหแ์ ละตีความหมาย 14. ตงั้ คำถาม 15. อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ ระดมสมอง 16. การประยกุ ตค์ วามรู้สูง่ านอาชีพ สมรรถนะการสรา้ งคา่ นิยม ปลกู ฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม สมรรถนะการปฏบิ ตั งิ านอาชีพ 4. ตรวจหาและกำจัดไวรสั ได้ สมรรถนะการขยายผล - สอื่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้ สอ่ื สง่ิ พิมพ์ 10. เอกสารประกอบการสอนวิชา คอมพวิ เตอร์และการบำรุงรักษา (ใช้ประกอบการเรียนการสอน จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 1-2) 11. แบบฝกึ หัด หนว่ ยท่ี 4 เรื่อง การตรวจและกำจัดไวรสั (ใช้ประกอบการเรียนการสอนขั้นให้ ความรู้ เพือ่ ใหบ้ รรลุจุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อที่ 1-2)

12. แบบประเมินผเู้ รยี นในชนั้ เรยี น ใช้ประกอบการสอนขั้นประยกุ ต์ใช้ ขอ้ 1-2 ส่ือโสตทศั น์ (ถา้ ม)ี 4. บทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน เร่อื ง การตรวจและกำจดั ไวรัส ส่ือของจรงิ 4. การตรวจและกำจดั ไวรัส (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 1-2) แหลง่ การเรยี นรู้ ในสถานศกึ ษา 1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั เทคนิคสมุทรสาคร 2. ห้องปฏิบตั กิ ารคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาข้อมูลทางอินเทอรเ์ น็ต นอกสถานศึกษา - การบูรณาการ/ความสมั พันธก์ ับวิชาอืน่

13. บรู ณาการกับวิชาชวี ติ และวฒั นธรรมไทย ดา้ นการพดู การอ่าน การเขยี น และการฝกึ ปฏิบัติตนทาง สงั คมด้านการเตรยี มความพรอ้ ม ความรบั ผิดชอบ และความสนใจใฝร่ ู้ 14. บรู ณาการกบั วิชาการบริหารการจัดซ้อื ด้านการซ้ือ การแสวงหาผลิตภณั ฑ์ 15. บรู ณาการกบั วิชากีฬาเพอ่ื พฒั นาสขุ ภาพและบุคลิกภาพ ดา้ นบคุ ลกิ ภาพในการนำเสนอหนา้ ชั้นเรียน 16. บูรณาการกบั วิชาหลักเศรษฐศาสตร์ ด้านการเลอื กใชท้ รพั ยากรอย่างประหยดั การประเมนิ ผลการเรียนรู้ • หลกั การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ขณะเรยี น 7. ตรวจผลงานตาม แบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 4 8. สังเกตการทำงาน หลังเรียน 13. ตรวจแบบฝกึ หัดทดสอบความเขา้ ใจ 14. ตรวจกจิ กรรม หนว่ ยท่ี 4

คำถาม 15. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น 16. สลบั กันตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น 10. macro virus คอื 11. Trojan House หมายถึง 12. การแพร่กระจายของไวรสั คอมพิวเตอร์ หมายถึง ผลงาน/ชนิ้ งาน/ผลสำเรจ็ ของผเู้ รยี น แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 4 เรือ่ ง การตรวจและกำจดั ไวรัส