ไดอารี่ตำบลท่าขนอน ตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

DIARY ทาขตาํ นบล อน อาํ เ ภ อ คี รี รั ฐ นิ ค ม จั ง ห วั ด สุ ร า ษ ฎ ร ธ า นี นักศึกษาฝกประสบการณวิชาชีพทางรัฐประศาสนศาสตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎรธานี

คณะผจู ดั ทํา



ก คาํ นํา

ข คํานํา ก สารบญั ข สวนที่ 1 ขอ มลู พื้นฐาน 1-8 สว นที่ 2 โครงสรา งชมุ ชน 9-17 สวนที่ 3 โครงสรา งเศรษฐกจิ และอาชพี 18-25 สว นท่ี 4 สถานทต่ี า งๆ 26-32 สว นท่ี 5 การวเิ คราะหศกั ยภาพชุมชน 33-37 บรรณานุกรม 38 ภาคผนวก 39-40

สวนที่ 1 ขอมูลพ้ืนฐาน

1 ะ ั ิ า เ  า อ าํ11..11 ปปรร ววตตคควว มม ปปนนมม ขข งงตต บบลล

2 1.2 ขนาดที่ต้ังของตาํ บล (แผนพฒั นาทองถิน่ , 2561-2565) พื้นท่ที ัง้ หมด 172 ตร.กม. เนอื้ ที่ 107,500 ไร ตาํ บลทาขนอนหา งจากอําเภอ ครี ีรัฐนคิ ม 4กม. หางจากจังหวดั สุราษฎรธานปี ระมาณ 58 กม. เปนพ้นื ท่ีภเู ขาสูงทางทศิ ตะวันตกมพี น้ื ท่เี ขตรักษาพันธสุ ตั วป า คลองยนั แลว ลาด เอยี งมาทางทศิ ตะวนั ออกมีลําคลองสําคญั 3 สาย คอื คลองพุมดวง ไหลผา น ม.6 ม.5 ม.4 ม.1 ม.2 ม.10 คลองตยุ ไหลผาน ม.15 ม.8 ม.12 คลองกะเปา ไหลผา น ม.11 ม.13 ม.9 ม.6 โดยมอี าณาเขตติดตอกับตาํ บลตา งๆดังน้ี ทิศเหนือ : ตดิ ตอกับตําบลนํ้าหกั อาํ เภอคีรรี ฐั นคิ ม ทศิ ใต : ติดตอ กบั ตาํ บลยานยาว ตาํ บลกะเปา อําเภอครี ีรัฐนิคม ทศิ ตะวันออก : ตดิ ตอ กบั ตาํ บลบานยาง อําเภอคีรีรัฐนิคม ทศิ ตะวันตก : ตดิ ตอกบั ตาํ บลเขาพัง อาํ เภอบา นตาขนุ

3 สิง่ ตางๆ ท่ชี าวบานทาขนอนเราไดรับมาจากทรัพยากรธรรมชาติ สง่ิ เหลานี้ ชวยทําใหลูกหลานของเราสามารถดาํ รงอยไู ด และชวยทาํ ใหคุณภาพชีวติ ดีขน้ึ แตอ ยางไรกต็ าม ชาวบานเองกต็ อ งใชป ระโยชนจ ากทรพั ยากรธรรมชาตอิ ยา งมี สติ รวมท้ังตอ งมีการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตอิ ยางเปนระบบ เพอ่ื ใหเ ราไดใ ช ประโยชนไดท รพั ยากรเหลา น้ไี ดอ ยา งยง่ั ยนื (อาภรณ เผอื กภมู ,ิ 2564 : 4)

4 า ้ื ่ี แ ะ ั ะ ู ิ ะ เ อ าํ  า อ ส ภ พ พ น ท ล ล ก ษ ณ ภ ม ป ร ท ศ ข ง ต บ ล ท ข น น ส ว น ใ ห ญ เ ป น ท่ี ล า ด ชั น ต า ม ไ ห ล เ ข า แ ล ะ มี พ้ื น ที่ ร า บ บ า ง ซึ่ ง เ ห ม า ะ แ ก การทาํ นา ห ู ่ี ื้ ่ี  ให เ  ่ี า ั เห าะมท 8,11,12,13,14,15 พนทสวน ญ ปนทล ดชน ม แ ก ก า ร ป ลู ก ย า ง พ า ร า แ ล ะ ผ ล ไ ม ต า ง ๆ หมูท่ี 3,4,5,6,10,7 พ้ืนท่ีสวนใหญเปนท่ีราบลุมเหมาะกับ การทาํ นาและไมผลตางๆ

5 ลกั ษณะภมู ิอากาศ ลกั ษณะอากาศมลี ักษณะรอนช่นื อากาศเปล่ยี นแปลงไปตามฤดูซง่ึ มี 2 ฤดู ดังนี้ ฤดูรอ น เร่ิมตั้งแตกลางเดอื นกุมภาพนั ธไ ปจนถงึ กลางเดือนพฤษภาคมอากาศรอน และแหง แลงแตบ างคร้ังอาจมอี ากาศเยน็ บางครง้ั เกดิ พายฝุ นฟาคะนองและลม กระโชกแรงกอ ใหเกิดความเสียหายแกป ระชาชนทกุ ป ฤดฝู น เร่มิ ตั้งแตก ลางเดอื นพฤษภาคม ฝนตกมากในชว งเดอื น าพฤษภ คม- ตุลาคม แตอ าจเกิด ชวงฝนทิง้ ซ่งึ อาจนานประมาณ 1-2 สัปดาหหรอื บางป อาจเกิดขนึ้ รุนแรงและมีฝนนอยนานนบั เดือนในเดอื นกรกฎาคม แตในเขต อบต. ไมเ คยเกดิ อทุ กภัยรุนแรงมีฝนตกเฉล่ียประมาณ 900 มลิ ลเิ มตร ทีม่ า : (แผนพัฒนาทอ งถ่นิ , 2561-2565)

6 า เ ิ า า า11..55 กก รร ดดนนทท งง // กก รรคคมมนน คคมม า ห แ  ิ ห า เ ํา า อ อําเ อ ี ี ั ิท ง ลวง ผนดน ม ย ลข 4247 ต บลท ขน น ภ ครรฐนคม ั ห ั ุ า  า ีจง วดสร ษฎรธ น 84180

7 จัดการขนสง มวลชน 1. รถตโู ดยสารประจําทางสายคีรรี ัฐนิคม-สุราษฎรธ านี 2. รถไฟ (รฟท.) สาย คีรรี ัฐนคิ ม-พุนพนิ ปจจุบันมีไฟฟา ใชทุกครัวเรือน คิดเปน 1๐๐ % ปญหาคือไฟฟา สอ งสวา งทาง หรือที่สาธารณะยังไมส ามารถดาํ เนินการครอบคลมุ พ้นื ทไ่ี ดท้งั หมด เนอ่ื งจากพื้นท่ี ทมี่ คี วามตอ งการใหต ดิ ตัง้ ไฟฟา สอ งสวา งนั้นยังไมเ ปน ที่สาธารณะองคการบรหิ าร สวนตาํ บลจงึ ไมสามารถดาํ เนินการได เพอื่ ทีจ่ ะทําความเขาใจกับประชาชนใน พื้นท่แี ละวิธีการท่จี ะดาํ เนินการแกไ ขอยางไรทัง้ นอ้ี งคการบริหารสวนตําบลกไ็ ดตงั้ งบประมาณในสว นน้ีไวแลวและไดแจงประชาสมั พันธใ หประชาชนไดร บั ทราบถึง เหตุผลเพอื่ ท่ีจะไดช วยกนั แกไ ขปญหาใหกับประชาชน

8 การประปา อบต. มกี จิ การประปาเปนของ อบต. เองสามารถใหบ รกิ าร ไดค รอบคลุมทกุ หลงั คาเรอื น คิดเปน 1๐๐ % และมนี ํ้าใชต ลอดทั้งปปญหา คือมขี อ รอ งเรยี นเรอ่ื งนํ้าประปาขุนบอ ยคร้งั สาเหตเุ นื่องจากเปน ทอ ประปา เกาเกิดการตกตะกอนของนา้ํ และไมม ีแหลง นาํ้ ดบิ ในการผลติ ประปาตอง ขอใชจ ากพนื้ ทีอ่ ื่นทาํ ใหม ีคา ใชจายมาก ประปาของ อบต. ยงั ไมส ามรถทจ่ี ะ ผลิตเปนน้าํ ประปาสาํ หรับบรโิ ภคได ตองใชง บประมาณสูงมากในการ ดาํ เนินการ ปจ จบุ ัน อบต. ยังไมประสบปญ หาการขาดแคลนนา้ํ สามารถท่ี จะจดั หานํา้ ดบิ สาํ หรบั ผลติ ประปาใหห มูบานได การแกไ ขปญ หาคือ การ ลงพน้ื ทีด่ าํ เนนิ การแกไขตามจดุ ที่เกดิ ปญ หาในทันที (แผนพัฒนาทอ งถ่ิน, 2561-2565)

สวนท่ี 2 โครงสรางของสังคม

9 จํานวนหมบู าน 13 หมบู า น 1. หมทู ่ี 3 บานควน นางวนสิ ากร แสงจันทร ผใู หญบ าน 2. หมทู ่ี 4 บา นหาดหงึ นายวชิ ัย รกั กะเปา ผูใหญ บาน 3. หมูท่ี 5 บานกะเปาใต าน ยสมยศ ศักดา ผูใ หญบ า น 4. หมทู ี่ 6 บา นปา ยาง นายยงยทุ ธ เพช็ รชู ผใู หญบาน 5. หมทู ่ี7 บานคลองเกาะ (บางสวน) าน ยนภดล พิศนพุ งศ ผูใหญบาน 6. หมูท ี่ 8 บานโตนยาง นายทรงศกั ด์ิ ศรแี มน ผใู หญบ า น 7. หมทู ่ี 9 บานทรายแกว นายสมศกั ด์ิ วิมตั ิ ผูใหญบา น 8. หมูท่ี 10บา นสขุ สนั ต (อยูระหวา งการเลอื กตั้ง) ผูใหญ บาน 9. หมูที่ 11 บานทรายทอง นายอดิศักด์ิ สมบุญ กํานนั 10. หมูท ี่ 12 บานขนุนทอง นายสบุ รรชา จนั ทรปาน ผูใหญบาน 11. หมูท ี่ 13 บานยวนสาว าน ยนพพร ศกั ดา ผูใ หญบ า น 12. หมูท่ี 14 บานคลองนอย นายรัจรินทร พฒั นอ นิ ทร ผใู หญบา น 13. หมทู ี่ 15 บา นไทรงาม นายสายณั ย วิเชยี ร ผใู หญบาน

10 เขตการเลือกตัง้ องคการบรกิ ารสวนตําบลทาขนอนไดแบง เขตการเลือกต้ังนายก องคการบริหารสว นตาํ บล และสมาชิก สภาองคการ บรหิ าารสวนตาํ บล ออกเปน 13 เขตเลอื กต้ัง ดังน้ี เขตเลือกตั้งท่ี 1 หมทู ่ี 3 บานควน เขตเลือกตงั้ ท่ี 2 หมทู ่ี 4 บา นหาดหงึ เขตเลือกตง้ั ท่ี 3 หมทู ่ี 5 บา นกะเปาใต เขตเลือกตงั้ ท่ี 4 หมทู ี่ 6 บานปายาง เขตเลอื กตงั้ ที่ 5 หมทู ่ี 7 บา นคลองเกาะ เขตเลือกตั้งที่ 6 หมูที่ 8 บา นโตนยาง เขตเลอื กตง้ั ท่ี 7 หมทู ่ี 9 บานทรายแกว เขตเลือกตั้งที่ 8 หมทู ่ี 10 บานสขุ สนั ต เขตเลอื กตง้ั ที่ 9 หมูท ่ี 11 บา นทรายทอง เขตเลือกตง้ั ท่ี 10 หมูที่ 12 บา นขนนุ ทอง เขตเลือกต้ังท่ี 11 หมทู ี่ 13 บา นยวนสาว เขตเลือกตงั้ ที่ 12 หมทู ี่ 14 บา นคลองนอย เขตเลอื กตงั้ ที่ 13 หมทู ่ี 15 บา นไทรงาม

11 ขอมูลเกยี่ วกบั ประชากร หมายเหตุ : ขอ มลู จากสาํ นกั ทะเบยี นอาํ เภอครี รี ฐั นคิ ม ณ วนั ท่ี 20 ตุลาคม 2564

12 ขอมลู เกย่ี วกบั ประชากร หมายเหตุ : ขอมูลจากสาํ นกั ทะเบียนอาํ เภอครี ีรฐั นิคม ณ วันที่ 20 ตลุ าคม 2564 หมายเหตุ : ขอ มูลจากสํานกั ทะเบียนอําเภอครี ีรัฐนคิ ม ณ วันท่ี 20 ตลุ าคม 2564

13 2.3 ดานการศึกษา ศาสนา ัวฒนธรรม การศกึ ษา ศูนยพ ัฒนาเด็กเล็กกอนวยั เรยี นขององคก ารบรหิ ารสวนตาํ บลทา ขนอน จาํ นวน 3 แหง ศูนยพ ัฒนาเด็กเลก็ บา นยวนสาว ต้งั อยูหมทู ี่ 13 ศนู ยพ ฒั นาเด็กเล็กบา นกะเปาใต ตงั้ อยหู มูท่ี 5 ศูนยพฒั นาเด็กเลก็ บานไทรงาม ตัง้ อยหู มูที่ 15 โรงเรยี นสังกัดสํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน (สพฐ.) จํานวน 4 แหง โรงเรียนคีรีรฐั นคิ ม จดั การเรยี นการสอน ระดบั อนุบาล-ประถมศึกษาปท่6ี โรงเรยี นบา นปากโตน จดั การเรียนการสอน ระดับอนุบาล-ประถมศึกษาปที่6 โรงเรียนบานโตนยาง จัดการเรยี นการสอน ระดับอนุบาล-ประถมศกึ ษาปท่ี6 โรงเรียนบานทรายแกว จัดการเรียนการสอน ระดับอนุบาล-ประถมศึกษาปที่6 ี่ า ุ าทม : https://www.Thakhanoncity.com (2564 ตล คม 26)

14 2.3 ดานการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม ศาสนา ภมู ิปญ ญาทอ งถน่ิ - วิธีการทําเครื่องจักรสารใชส ําหรบั ในครัวเรือน - วธิ ีการรกั ษาโรคดวยหมอพืน้ บาน สว นมากประมาณ 90 % พดู ภาษาใต

15 ิ ั า เ  อ ู22..44 บบรรบบททสสงงคคมม//คควว มม ปปนน ยย

16 ทําบุญตักบาตรในวนั ปใหม มคี วามเชือ่ วาเปนการทาํ บญุ ปแ หงการเร่มิ ตน พุทธศกั ราชใหม เพื่อเปนสริ มิ งคลแกช ีวติ คดิ ดี ทําดี ปฏิบตั ดิ ี ในสมยั พทุ ธกาล ประเพณีทาํ บญุ ตกั บาตร เปน การใหทาน บริจาคทาน แกพระ ภิกษุสงฆทจี่ าํ อยูทว่ี ัด เปนการโปรดสตั วข ององคส มเด็จพระ สมั มาสัมพทุ ธเจาทจี่ ะตอ งปฏบิ ัตติ ามพุทธวินัยสงฆ สาํ หรบั วตั ถปุ ระสงคของการทาํ บุญตักบาตรในวนั ปใหมวัดปราการ งงานนสสงงกกรรานนตต เร่มิ จากวนั ท่ี 13 เมษายน และมกี ารเลนสนกุ สนาน ไปราว ๆ 2 วนั หรือกวาน้ัน แตไมเกิน สปั ดาห ระยะนี้จะมี การนํานา้ํ หอมเส้ือผาอาภรณไ ปรดน้าํ ผูใ หญ ญาติพนี่ องท่ี เคารพนับถอื และทางศาสนากจ็ ัดใหมกี ารบายศรพี ระสงฆ สมภารเจาวดั สรงนํ้าหลวงพอเชือ่ มพระพุทธรปู ศักด์สิ ทิ ธิ์ ประจาํ วดั ปราการ แหเทียนเขาพรรษา ในอดตี การหลอเทยี นเขา พรรษาถอื เปน พิธสี ําคญั ที่ชาวบานทา ขนอนจะมารวมตวั กนั นําข้ผี ึง้ มาหลอมรวมเปนแทงเทยี นเพ่อื ถวาย แกพระสงฆ แตในปจจบุ นั สวนใหญจะนิยมการซื้อหาเทียนพรรษา จากรา นสังฆภัณฑ โดยบางสวนมีการปรับเปล่ียนไปซื้ออปุ กรณ ไฟฟาทีใ่ หแ สงสวางถวายแกพ ระสงฆแ ทนดว ย ซ่ึงนับเปนการปรบั เปล่ยี นทไี่ ดป ระโยชนแกพ ระสงฆโดยตรง

17 งานบญุ เดอื นสบิ เปน ประเพณีสาํ คญั อยา งหนึง่ ท่ชี าวชุมชนทาขนอนไดป ฏบิ ัตสิ บื ตอ กนั มาแตละครง้ั โบราณจนถึงปจ จบุ ัน ทั้งนเ้ี นอื่ งมาจากความ เช่ือทางพุทธศาสนาวา ในปลายเดอื น 10 พอแม ปูย า ตายาย และญาตพิ ่ซี ง่ึ ลว งลับไปแลว โดยเฉพาะผทู ่มี บี าปตกนรกอยูซง่ึ เรยี กวา “ เปรต ” จะไดร บั การปลอ ยตัวจากพญายมใหขน้ึ มา พบลกู หลานและญาตพิ น่ี องของตนในเมอื งมนุษยในวนั แรม 1คา่ํ เดอื น 10 และใหกลบั ไปอยูเมืองนรกดังเดมิ ในวันแรม 15 คํ่า เดือน 10 า อ ะงง นนลล ยยกกรร ททงง องคการบรหิ ารสวนตําบลทา ขนอน ไดจดั งานประเพณี ลอยกระทง ประจาํ ป ในวนั ท่ี 12 เดือนพฤศจกิ ายน ของทกุ ๆป ณ องคการบริหารสวนตําบลนํา้ หัก หมูท ี่ 1 ต.ทา ขนอน อ.ครี ีรฐั นคิ ม จ.สรุ าษฎรธานี โดยมกี จิ กรรมการลอยกระทง ยงั คงรกั ษารูปแบบเดมิ เอาไวไดต ามสมควร เมอื่ ถงึ วนั เพ็ญ พระจันทรเ ตม็ ดวงในเดือน 1 2 ชาวบา นจะจดั เตรยี มทาํ กระทงจากวัสดุท่หี างา ยตามธรรมชาติ งงานนปปรระจจาํ ปปววัดดปปรรากการร งานประจาํ ปว ดั ปราการ จะจดั ข้นึ ในปลายเดือน มกราคมของทุก ๆ ป จดั ข้นึ เพื่อเปนงานบุญประจําป แด หลวงพอเชือ่ มทา นเปน พระผมู วี ิชาอาคมขลงั ซงึ่ จะกลา วถงึ อภนิ ิหารทเี่ ลา สบื ตอกนั มา เปนทเี่ ลาขานกนั ในหมผู เู คารพ ศรทั ธาและศษิ ยานุศิษยจ นถงึ ปจ จบุ นั ่ี า ุ าทม : https://www.govesite.com (2564 ตล คม 6)

สวนท่ี 3 โครงสรางเศรษฐกิจ และอาชีพ

3.1 แหลงทนุ ทางธรรมชาติ 18 แหลงนา้ํ มีแหลง น้ําที่ใชส าํ หรบั อุปโภค - บรโิ ภค จาํ นวน 5 แหง แหลงนํ้าทง้ั 5 แหง เคยเปนแหลง น้ําทเี่ กดิ ขน้ึ ตามธรรมชาตแิ ละองคก ารบรหิ ารสวนตําบลทาขนอนได ดาํ เนินการขุดลอกแหลง นา้ํ และกอสรา งฝายก้ันนาํ้ เพือ่ เพยี งพอกบั การอุปโภคบริโภค ของประชาชน ดงั น้ี ลําหว ย 3 แหง สระน้าํ 9 แหง หนองนํา้ 1 แหง บอนาํ้ ต้ืน - แหง ลาํ คลอง 4 แหง บอบาดาล 1 แหง บึง - แหง อางเก็บน้าํ - แหง แมน ้ํา - แหง ฝาย 4 แหง เหมือง 4 แหง อนื่ ๆ ( ระบุ ) - แหง แหลง อาหาร ความหลากหลายในสํารบั อาหารของชุมชนชาวบานทา ขนอนไดร ับ อทิ ธพิ ลจากอินเดยี ใต ทาํ ใหเกิดตาํ รบั อาหารใหมมากมาย ลว นผานวิธีการดดั แปลง ปรบั ปรุงเปน วฒั นธรรมอาหารการกนิ ที่ถายทอดมารุนสูรุน ลูกหลานในปจ จบุ นั ทาํ ใหม ี ลักษณะพิเศษแตกตา งจากทีอ่ นื่ ๆ อยางชัดเจนคือ รสชาติจัดและกลมกลอม เชน สะตอผัดเคย นา้ํ พริกตะไคร แกงสม ปลากดหนอไมด อง ค่วั ยาสมนุ ไพรไกบ า น หลาม ขา ว-ปลาบอก ตมลกู โยนใบชงิ และปลานํา้ จดื แดดเดยี ว ซงึ่ เปน พชื พืน้ บา นหาไดใน ทองถ่นิ (แผนพฒั นาตาํ บล, 2561-2565)

19 ชอ่ื ผลติ ภณั ฑ เคร่อื งจักรสานที่ทาํ จากไมไผ หมทู ่ี 12 ทอ่ี ยู กลุมแมบ า นเกษตรกรบา นขนนุ ทอง ชื่อผูใหข อมลู 89/7 หมทู ี่ 12 ตําบลทาขนอน อายุ อําเภอคีรรี ฐั นิคม จงั หวดั สุราษฎรธานี 84180 อาชพี นางนฤมล หนทู มิ เบอรโทรศัพท 42 ป เกษตรกร 094-0938195

20 คณุ คา ของภมู ิปญ ญาไทย ไดแก ประโยชน และความสําคญั ของ ภูมิปญญา ทบ่ี รรพบรุ ษุ ไทย ไดส รา งสรรค และสืบทอดมาอยา งตอ เนอ่ื ง จากอดีตสูปจ จบุ นั ทําใหคนในชาตเิ กดิ ความรัก และความภาคภูมใิ จ ท่ีจะรว มแรงรวมใจสบื สานตอ ไปในอนาคต เชน โบราณสถาน โบราณ วัตถุ สถาปตยกรรม ประเพณไี ทย การมีนํ้าใจ ศักยภาพในการ ประสานผลประโยชน เปน ตน ภูมปิ ญ ญาไทยจงึ มีคณุ คา สามารถปรับ ประยุกตหลกั ธรรมคําสอนทางศาสนาใชกับวถิ ีชีวิตไดอ ยา งเหมาะสม ห ู ิ(นฤมล นทม, 2564 : 19) ชื่อผลิตภัณฑ ผลิตภณั ฑจากเสนพลาสติก หมทู ่ี 13 กลมุ แมบา นเกษตรกรบานยวนสาว ท่อี ยู 61/3 หมูท่ี 13 ตาํ บลทา ขนอน อําเภอคีรรี ฐั นิคม จงั หวัดสุราษฎรธานี 84180 ช่อื ผูใหข อมลู นางประภาพร จนั ทรเ พญ็

21 51 ป คาขาย อายุ 098-5848144 อาชีพ เบอรโทรศัพท ผลิตภัณฑจากการสานเสน พลาสตกิ สว นใหญจะเปนกระเปาในรปู ทรงตาง ๆ กนั โดยมีการต้งั กลมุ ขึน้ ในตาํ บลทา ขนอน มสี มาชิกใน กลมุ ประมาณ 15 คน เมื่อผลิตสนิ คาไดจํานวนหนึ่งแลว กจ็ ะสง ขาย ออกไปยังประเทศมาเลเซยี (ประภาพร จนั ทรเพญ็ , 2564 : 20)

22 ชือ่ ผลิตภัณฑ ผลิตภณั ฑดอกไมจันทน หมทู ี่ 11 ทอี่ ยู กลมุ แมบ า นเกษตรกรบา นทรายทอง ช่อื ผใู หข อมูล 27/2 หมทู ่ี 11 ตาํ บลทาขนอน อายุ อําเภอคีรรี ฐั นิคม จงั หวดั สรุ าษฎรธานี 84180 อาชีพ นางกนกวรรณ รจุ ิตร เบอรโ ทรศัพท 34 ป แมบ า น 064-6055415

23 เปนอีกหนง่ึ อาชพี เสรมิ สรางรายไดท่แี รงดีไมมตี กจรงิ ๆ ของกลมุ พลังสตรีชุมชนบา นทรายทอง สําหรบั การประดิษฐดอกไมจ ันทน เพราะ ไมว า เศรษฐกิจจะดีหรอื ไม กไ็ มมีผล กระทบแตอยางใด \" ดอกไมจ นั ทน . . . แมจะเปน ดอกไมสําหรบั คนตาย แตด อกไม จันทนจะไมมีวนั ตาย เพราะสามารถขายไดต ลอด ท่ีสําคัญยังเปน สินคา ที่ไมมีวันเสีย ไมบูด ไมเ นา สามารถเกบ็ รกั ษาเพื่อรอจาํ หนายไดตลอด ทง้ั ป \" (กนกวรรณ รจุ ติ ร, 2564 : 22)

24 า เ11.. กก รร กกษษตตรร อ  า ิหา  าํ า อ ี ะ างคก รบร รสวนต บลท ขน น มปร ช กร ะ อ อา ี เ เ  ห ั ไ แ  า ําปร ก บ ชพ กษตรกรรม ปน ลก ด กก รท า า า  ํ้า ั า า แ ะ ู ื ไ สวนย งพ ร ปมน มน น ข ว ล ปลกพช ผล ม ตางๆ ใ เ อ  า ิหา  ํา า อน ขต งคก รบร รสวนต บลท ขน น ไ  ี า ะ เ  า ั า า า ิมมก รปร มง ปนก รจบปล ต มธรรมช ต ใ ิโ ใ ั เ อื า ู า เ า ้ันบร ภค นครว ร นต มฤดก ล ท นน า ุ ั ใ เ อ  า ิหา  ํา า อก รปศสตว น ขต งคก รบร รสวนต บลท ขน น เ  า ะ อ า ใ ั ะเ ี้ ใ ั เ ือ เ ปนก รปร ก บก ร นลกษณ ลยง นครว ร น ปน อาชีพหลกั และอาชพี เสริม เชน การเลยี้ งไก เปด ุสกร กระบอื เพอื่ จาํ หนา ยและบรโิ ภคเองในครัวเรอื น

25 รสี อรท จาํ นวน 1 แหง รา นอาหาร/คาราโอเกะ จํานวน - แหง 5. อตุ สาหกรรม เขตองคการบรหิ ารสว นตําบลทาขนอน ไมม ี อตุ สาหกรรมแตม กี ารประกอบโรงสี ขนาดเลก็ จาํ นวน 1 แหง องคกรกลุมอาชพี 1. กลุมแมบา น 2. กลุมพฒั นาสตรี 3. กลมุ เล้ยี งปลา หมทู ี่ 8 บานโตนยาง 4. กลุม เลี้ยงปลา หมูท่ี 6 บา นปา ยาง การพาณชิ ย 1 แหง ธนาคาร 2 แหง สถานบริการน้ํามัน 1 แหง บริษทั - แหง ศนู ยก ารคา /หางสรรพสินคา - แหง หา งหุนสวนจํากดั แหง อซู อ มรถ - แหง ตลาดสด - แหง รา นคา ตาง ๆ 25 แหง โรงฆาสตั ว - แหง ซุปเปอรมารเกต็ - (แผนพัฒนาทอ งถน่ิ , ๒๕๖๑-๒๕๖๕)

สวนที่ 4 สถานท่ีสําคัญ

26 ํา้ โ านน ตตกก ตตนนยย งง ้ั อ ู ่หี ู า อ อ ี ี ั ิ ุ า  า ี เ ตง ยท ม 14 ต.ท ขน น .ครรฐนคม จ.สร ษฎรธ น ปน าํ้ า เ ็ า ิอั เ ิ า อ า ํ้าใ อน ตกขน ด ลกธรรมช ต น กดจ กกฎข งส ยน สตล ด ลาํ ธาร บางแอง มกี ระแสนาํ้ ไหลแรง บางแอง กระแสน้ําไหลวนอยา ง ุนมนวล เหมาะแกการผอ นคลายกลา มเน้อื ้ํา านน ตตกกยยววนนสส วว ั้ อ ู ี่ห ู า อ อ ี ี ั ิ ุ า  า ีตง ยท ม 13 ต.ท ขน น .ครรฐนคม จ.สร ษฎรธ น พื้นทน่ี ลี้ าดหล่ันสูงตํ่าอยูเ ชิงเทือกเขาโดยสนั ปนนาํ้ ดา นหนึง่ ไห อ แ า ห ึ่  ้าํ ให ั อ า า อ อลลงคล ง สง ด น นงปนน กบคล งส ข ข งคล ง ั แ ะแ  ้ํา ุ โ ้าํ า  า้ํ ให ั อยน ล มน พมดวง ดยน ตกยวนส ว ปนน กบคล ง ะเ าแ  ไห ไ แ  ํา้ ุ โ อ แ  า้ํ ุก ป ลว ล ปลง มน พมดวง ดยตรงก น มน พมดวง ะไห า ั แ  า้ํ า  ่ี อ ุ ิ ุ า  า ีจ ลม บรรจบกบ มน ต ปท .พนพน จ.สร ษฎรธ น ้ํา ุ เ ีถถ สสขข สสยยบบ ั้ อ ู ี่ห ู า อ อ ี ี ั ิ ุ า  า ีตง ยท ม 14 ต.ท ขน น .ครรฐนคม จ.สร ษฎรธ น เปนถาํ้ ขนาดกลางซอ นตัวอยูในเขาหินปูน ณ หมบู านสุขสนั ต า ใ แ เ ภ ย น ยก ปน 3 คหู า คหู าหลักมีชอ่ื วา พอตาสุขเสียบ ซงึ่ เลา กันวาใครกต็ ามท่เี ดนิ ทางมาถงึ แลวไมสักการะเสอื จะตอ ง ปวด อ ุ เ ี อ เ า ั้ ึ ะหา า ห ั า า ึท งจก สยด ต งบวชสรวง ท นนจงจ ย ภ ย ลงช วบ นจง สรา งศาลเพียงตาไวหนา หินเสือน้ัน เพื่อความสะดวกในการใหชื่อ วา ทถ้าํ เมนและถํ้าคางคาว ตามช่ือสตั วทีเ่ ขา มาอยูอาศัยอยู

27 แหลงทองเที่ยว มหศั จรรยห นิ พัดสุราษฎรธานี ต้งั อยใู นพนื้ ท่ี ม.13 ต.ทาขนอน อ.คีรีรัฐนคิ ม จ.สรุ าษฎรธานี กอ นหนิ มหศั จรรยวมีลักษณะเปน หนิ ขนาดใหญท วี่ างทบั กนั โดยฐานไมแ นบสนทิ สามารถมองทะลุผา นไดซึง่ เปน ความแปลก ประหลาดอยา งมากความ สงู ประมาณ 5-6 เมตร มองดคู ลาย พดั ท่มี หศั จรรยคอื มฐี านกวา งประมาณ 30 เซนติเมตร เชือ่ กนั วา เกดิ ขึ้นมานบั พันป

28 า ั า าภ พ : วดปร ก ร ั า าวดปร ก ร ตงั้ อยูเลขที่ 85 หมทู ่ี 2 า า อบ นท ขน น ํา า อต บลท ขน น อาํ เภอครี ีรัฐนคิ ม ั ห ั ุ า  า ี ั ั ะ  หา ิ า ั า า ้ั เ ื่อ เ ิ ั แหจง วดสร ษฎรธ น สงกดคณ สงฆม นก ย วดปร ก รตง ม พ.ศ.2354 ดมวด ง นีม้ ีชอ่ื เรียกกันวา “วัดละมุ” เน่ืองจากต้ังอยูกลางหมบู า นละมุ ในป พ.ศ.2562 ไดเ ปล่ียน อ่ื เ  “ ั า า ” า ึ  ุ ั ไ  ั ิ ุ า ี า เ ือ่ ั ่ี ิ ุ าช ปน วดปร ก ร ม จนถงปจจบน ดรบวสงค มสม ม วนท 12 มถน ยน พ.ศ.2542 ู ะ ี ั ุปยช นวตถ ไดแก เจดยี บ รรจอุ ฐั อิ ดีตเจา อาวาส แ ะ ะ ิ า ู ห อล มณฑปปร ดษฐ นรป ล อดีตเจาอาวาส ท้งั 3 ูรป ซึ่งเปน พระเกจทิ ปี่ ระชาชนใหการนบั ถือ และมใี นคําขวัญ ประจาํ อาํ เ อ ี ี ั ิ ใ ั อ อื ะ ู ี ั า า เ  ั เี่ าแ  แ ั ีภ ครรฐนคม นสมยก น ค พร ครพจนกว วดปร ก ร ปนวดท ก ก ถมยงม โรงเรียนทีม่ ีอายุมากท่ีสดุ ในอาํ เภอครี รี ัฐนิคมอยูขา งวัด ือโ เ ี า า อค รง รยนบ นท ขน น

29 ดานการศกึ ษาในเขตองคก ารบริหารสวนตาํ บลทาขนอน มีการจดั การดา นการศกึ ษา โดยมีศูนยพัฒนาเด็กเลก็ ขององคการบริหารสวนตาํ บลทาขนอน จาํ นวน 3 แหง ตาม ขอมลู ดงั น้ี 1. ศูนยพัฒนาเดก็ เล็กบานยวนสาว ศนู ยพ ฒั นาเดก็ เล็กบานยวนสาว เปนสถานศกึ ษาทใี่ หก ารอบรมเลย้ี งดู จดั ประสบการณและสงเสริมพฒั นาการ การเรียนรูใ หเ ด็กเล็กทมี่ ีอายุตัง้ แต 2 – 5 ป ใหมีความพรอม ดานรา งกาย อารมณ จิตใจ สังคมและสติปญ ญา (ลาวัลย อนิ จนั ทร, 2564 : 28) 1 คน 2 คน - มคี รูผูด ูแลเดก็ จํานวน - มีผูช วยครูผูดแู ลเด็ก จํานวน 2. ศนู ยพ ฒั นาเด็กเล็กบา นกะเปาใต ศนู ยพฒั นาเดก็ เลก็ บา นกะเปาใตถ อื เปนพนื้ ท่ีสําคัญในการผลิตเด็กใหมกี าร เจริญเตบิ โตและพัฒนาการสมวัย ศูนยเดก็ เลก็ ยังมีบทบาทสําคญั ชวยคัดกรองคนหา เด็กๆที่มปี ญหาพัฒนาการลาชา ใหเขา สูก ารดูแลและกระตุน พัฒนาการจนกลบั มามี คณุ ภาพ (สกุ ัญญา รกั กะเปา, 2564 : 28) - มีครูผดู แู ลเด็ก จาํ นวน 1 คน - มีผูชวยครผู ูดแู ลเด็ก จาํ นวน 1 คน

30 ภาพ : ศูนยพ ัฒนาเด็กเลก็ บานกะเปาใต 3. ศูนยพ ัฒนาเด็กเล็กบา นไทรงาม - มีครูผูดแู ลเดก็ จํานวน 1 คน 1 คน - มีผูชวยครูผดู แู ลเด็ก จาํ นวน ภาพ : ศนู ยพฒั นาเด็กเล็กบา นไทรงาม ทมี่ า : https://www.google.com (2564 ตลุ าคม 31)

31 โ เ ี ี ี ั ิ1. รง รยนครรฐนคม ทตี่ ั้ง า อ อ ั าบ นคล งน ยพฒน เลขที่ 150 หมทู ี่ 14 ํา า อต บลท ขน น อําเภอ ี ี ั ิ ั ห ั ุ า  า ีครรฐนคม จง วดสร ษฎรธ น ูอาํ า า ึ า า ิ ิผ นวยก รสถ นศกษ น ยวมล จนตวร ุ า ําบคล กร จ นวน 14 คน ั เ ี าํนก รยน จ นวน 172 คน โ เ ี า า โ2. รง รยนบ นป ก ตน ทีต่ ้ัง ต้ังอยูหมทู ่ี า าํ า อ อําเ อ ี ี ั ิ ั ห ับ นควน ต บลท ขน น 3 ภ ครรฐนคม จง วด ุ า  า ีสร ษฎรธ น อู ํา า า ึ า า ึ อิ เผ นวยก รสถ นศกษ น งสมนก นทร ทพ ุ า าํบคล กร จ นวน 7 คน ั เ ี ํานก รยน จ นวน 14 คน

32 า โ เ ี า า โภ พ : รง รยนบ นป ก ตน โ เ ี า า แ 3. รง รยนบ นทร ย กว ทีต่ ั้ง ตัง้ อยูหมทู ี่ 14 า อ อ ั า ํา า อ อําเ อ ี ี ั ิบ นคล งน ยพฒน ต บลท ขน น ภ ครรฐนคม ั ห ั ุ า  า ีจง วดสร ษฎรธ น อู ํา า า ึ า า ิ า ั  ุ เ ีผ นวยก รสถ นศกษ น งวล วณย บญ พยง ุ า ําบคล กร จ นวน 10 คน ั เ ี ํานก รยน จ นวน 92 คน

33 โ เ ี า โ า4. รง รยนบ น ตนย ง ทีต่ ัง้ ตั้งอยูหมูท่ี 8 า โ าบ น ตนย ง าํ า อต บลท ขน น อาํ เภอครี รี ัฐนคิ ม ั ห ั ุ า  า ีจง วดสร ษฎรธ น อู ํา า า ึ า า  ิ   หา ัผ นวยก รสถ นศกษ น งปยธดด วงศม ชย ุ า าํบคล กร จ นวน 9 คน ั เ ี ํานก รยน จ นวน 134 คน

สวนที่ 5 การวิเคราะหศักยภาพชุมชน

34 ทรพั ยากรธรรมชาตสิ มบูรณส วยงามอยา งยิ่ง โดยเฉพาะ หินพดั นํา้ ตก ยวนสาว นา้ํ ตกโตนยางและถํ้าสุขเสียบ ตําบลมีศักยภาพในการพัฒนาใหเปนแหลงทองเทยี่ ว ผูนําชุมชน ผนู ํากลุม ตางๆ มคี วามรว มมือ และความสามคั คที ีจ่ ะชวยกนั พัฒนาใหนักทอ งเทย่ี ว รูจักเพิม่ มากขน้ึ งานวันสงกรานตคนในตาํ บลยังชว ยกนั อนรุ กั ษ ประเพณสี รงน้าํ หลวงพอ เชอ่ื มพระพทุ ธรปู ศักดส์ิ ิทธปิ์ ระจาํ วดั ปราการ ใหคงอยูจนถึงปจจบุ นั ถือวา เปนการรักษาวัฒนธรรมทอ งถ่นิ ดั้งเดิมเอาไว สบื ทอดไปยังเยาวชนรนุ หลัง ผนู ําชุมชนมีความสามคั คีปรองดอง ใหความรว มมือแกท างราชการเปนอยาง ดีเอ้ือตอการพฒั นาทอ งถน่ิ ตาํ บลทาขนอนมีการพัฒนาศักยภาพ ใหมคี วามพรอมครอบคลุมและเพียง พอตอการแกป ญหายาเสพติดและประสานงานพรอ มในตาํ บล อาหารประจาํ ทองถ่นิ ไดแก หลามขาว-ปลาบอกที่คนในตําบลทาํ เอง (สราวฒุ ิ กุลครี ,ี 2564 : 34)

35 ไมม ีสถานที่สําหรบั พกั คา งคนื สาํ หรับนักทองเทีย่ ว นักทอ งเทย่ี ว จะตองไปพักใน บรเิ วณใกลเคียง ซ่ึงจุดน้ีตําบลทา ขนอนสามารถ พัฒนาบานเรอื นใหเ ปนบา นพัก โฮมสเตยได เพอื่ เปนการเพมิ่ รายไดทางการทองเทยี่ วไดมากขึน้ การประชาสัมพนั ธแ กนกั ทอ งเท่ยี วยังไมแพรห ลายเขาถงึ นกั ทอ ง เทีย่ วเฉพาะ กลมุ เทาน้นั ประเพณีและวฒั นธรรมทอ งถนิ่ ยังไมเปน ทีร่ จู กั ของนักทองเทย่ี ว เชน ประเพณีงานประจําปวัดปราการ ตาํ บลทา ขนอนขาดการทํากจิ กรรมท่ใี ชเ วลาวางใหเ กิดประโยชน สนิ คา ที่ระลึกของตําบลมนี อย สว นใหญจะเปนสินคา ทเี่ ปน อาหารทข่ี ายในตาํ บลเทาน้นั อีกท้งั ยังไมม สี ินคา ทรี่ ะลึกทเ่ี ปน ของใชหรอื ของ ฝาก ชุมชนยงั ไมไ ดดึงความเปนอัตลักษณออกมา ไดช ดั เจน (สราวฒุ ิ กลุ ครี ี, 2564 : 35)

36 นโยบายของรัฐบาลใหค วามสาํ คญั ตอ การพฒั นาภาคเศรษฐกจิ ท สอดคลองกับการพัฒนาตําบล นโยบายของรัฐบาลในการสงเสริมการกระจายอํานาจการ ปกครองทอ งถิน่ โดยการสรา งดลุ ยภาพระหวา งการกาํ กบั ดแู ลและ ความเปน อสิ ระของทอ งถ่นิ ในการบริหารจดั การงบประมาณและ บคุ ลากรของทอ งถนิ่ มคี วามอดุ มสมบูรณในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและผลผลิต ทางการเกษตร นโยบายของรัฐบาลใหค วามสาํ คญั ตอ การจัดการสวัสดกิ ารสงั คม ภาพรวม (สราวุฒิ กลุ คีรี, 2564 : 36)

37 งบประมาณในการพฒั นาการทองเท่ียวยังมคี อนขา งจาํ กดั หนว ยงานภาครฐั ท่เี ขามาเปน พเ่ี ล้ยี งสวนใหญจะเปนการ เขา มาใหแคองคความรู เศรษฐกจิ ของประเทศสบื เนอ่ื งจากเศรษฐกิจของ ประเทศไทยที่เปน หน่งึ ใน เหตุผลในการตัดสินใจเดินทาง ทองเทย่ี ว ถาเศรษฐกจิ ดปี ระชาชนกจ็ ะเดนิ ทาง ทองเที่ยว มากขึ้น ถา เศรษฐกิจไมด กี ารเดนิ ทางกจ็ ะนอ ยซึง่ สง ผลกระ ทบตอ การ ทอ งเที่ยวคอนขา งมาก ภัยจากธรรมชาตแิ ละการเปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศ เชน หนา ฝน (สราวุฒิ กุลครี ,ี 2564 : 37)

38 (นายประไท หวั เมอื งแกว , 2564 : 1) (ประสทิ ธ์ิ หนูม,ี 2564 : 2) (อาภรณ เผอื กภูม,ิ 2564 : 3) (ลาวัลย อนิ จนั ทร, 2564 : 9) ุ ิ(กนกวรรณ รจตร, 2564 : 22) ห ู ิ(นฤมล นทม, 2564 : 19) (กัลยา หนไู กล, 2564 : 14) (สกุ ัญญา รกั กะเปา, 2564 : 15) (อนงค หนูทมิ , 2564 : 18) (สราวุฒิ กลุ คีร,ี 2564 : 35) (สเุ ชษฐ วิเชียร, 2564 : 24) (สมพร ถ่นิ หนองจกิ , 2564 : 26) (พัฒนพงศ อนิ ชอน, 2564 : 29) แผนพัฒนาทอ งถิ่นพ.ศ.2561-2565.[ออนไลน].2561,สืบคนเม่ือวนั ท2่ี 6 กนั ยายน เ า ึ ไ  า2564. ข ถง ดจ ก. https://www.thakhanon.go.th ผลติ ภัณฑชมุ ชน.[ออนไลน] .2561,สบื คน เมื่อวนั ที่25 กันยายน 2564.เขาถึงได าจ ก.https://www. govesite.com โครงสรา งของชุมชน.[ออนไลน].2562,สืบคนเม่อื วนั ท2่ี 5 กนั ยายน 2564.เขาถงึ ได าจ ก.https:// www.thakhanoncity.go.th สถานท่ีสาํ คัญของชมุ ชน.[ออนไลน].2564,สืบคน เมอ่ื วนั ท่ี26 กนั ยายน2564.เขาถงึ ไ  าดจ ก.https://www.ts-local.com

39

40