Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ม.2

ม.2

Published by Bunkaeo Koetkhwamsuk, 2019-06-22 01:01:01

Description: ม.2

Search

Read the Text Version

51 คาถามที่ 5 “ ลูกผูช้ ายต้องกลา้ ยอมรบั ผิดในการกระทาของตนทุก ครั้ง” นักเรียนคดิ เหน็ อย฽างไรกับคาํ พูดขา฾ งตน฾ ทําไมจงึ คดิ เช฽นน้ัน ให฾ใช฾เหตุผลประกอบ คําอธิบาย 1. ให฾นักเรียนเลือกทําเคร่ืองหมายวงกลม ลอ฾ มรอบข฾อความขา฾ งลา฽ งนี้ เพยี ง 1 ขอ฾ ความ ความคิดเหน็ คล้อยตาม ความคดิ เหน็ โต้แยง้ ความคดิ เหน็ คลอ้ ยตามและโต้แย้ง 2. ใหน฾ ักเรยี นเขยี นอธบิ ายเหตุผล จํานวน 2 ข฾อ ที่สอดคล฾องความคิดการเลือกในขอ฾ 1 ความคดิ เหน็ คล฾อยตาม ความคิดเหน็ โตแ฾ ย฾ง 1. ............................................................. 1. ............................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. 2.................................................................. 2.................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. ..................................................................

52 แบบฝึกการอา่ นรู้เร่อื งและสอ่ื สารได้ตามแนวการประเมินผลนานาชาติ (PISA) สาหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 สถานการณ์ท่ี 13 คาชี้แจง ใหน฾ ักเรียนอา฽ นถอ฾ ยความ และตอบคําถามตอ฽ ไปนี้ บทสนทนา “ทัวรไ์ หวพ้ ระ 9 วัดอยธุ ยา” ลกู ทัวร์ : สวสั ดคี ฽ะ ใชบ฽ ริษัทพาเทยี่ วไทยแลนดไแ หมคะ ? ไกด์ : ใช฽ค฽ะ ลกู ทวั ร์ : ดฉิ ันอยากจะเทีย่ ววดั ในจังหวดั พระนครศรีอยุธยาอะ฽ คะ฽ แต฽ไม฽ร฾จู ะไปท่ไี หน ไกด์ : ดฉิ ันขอแนะนาํ ใหเ฾ ปน็ วดั ทา฽ การ฾อง ท่จี ังหวัดพระนครศรีอยธุ ยานะคะ ซง่ึ ใกลแ฾ ละ การเดนิ ทางไปกส็ ะดวกสบาย ลกู ทวั ร์ : งน้ั กไ็ ดค฾ ะ฽ แล฾วมนั อยู฽ทไ่ี หนคะ ไกด์ : เดี๋ยวดิฉันจะบอกแผนทีน่ ะคะ ลูกทวั ร์ : ค฽ะ ไกด์ : วัดนต้ี ัง้ อย฽ทู ่ี ถนนทางหลวง 3469 ตาํ บลบา฾ นปอู ม อําเภอพระนครศรอี ยธุ ยา จ. พระนครศรอี ยุธยา ค฽ะ ลูกทวั ร์ : งั้นดิฉนั ขอนดั วนั นะคะ ไกด์ : คณุ สะดวกวันไหนคะ? ลกู ทัวร์ : งัน้ ดิฉนั ขอเป็นวนั อาทติ ยแ ท่ี 2 พฤศจกิ ายน นะคะ เวลา 09.00 น. ค฽ะ ไกด์ : ได฾คะ฽ ไว฾เจอกันวนั เดนิ ทางนะคะ ลกู ทวั ร์ : ค฽ะ ขอบคุณค฽ะ ไกด์ : ค฽ะ ขอบคุณและยนิ ดีให฾บริการค฽ะ

53 ณ วันเดินทาง วันอาทติ ย์ ท่ี 2 พฤศจิกายน ไกด์ : สวัสดคี ฽ะ ใชล฽ ูกทวั รแท่ีนัดไว฾ไหมคะ ลกู ทวั ร์ : ใช฽คะ฽ ไกด์ : เดี๋ยวดฉิ ันจะแนะนําสถานที่และประวัติของวดั ให฾พวกคณุ ฟงใ นะคะ ลูกทัวร์ : ค฽ะ ไกด์ : ประวตั ิวัดนีน้ ะคะ วดั ทา฽ การอ฾ ง ซง่ึ สันนิษฐานตามพุทธลักษณะและซากปรกั หกั พงั น฽าจะ สรา฾ งขึ้นในสมยั รัชกาลที่ 1 (สมเดจ็ พระชยั ราชา) ประมาณปีพทุ ธศกั ราช 2076 หรอื 474 ปีเศษ มาแล฾ว เพราะมีทา฽ นํ้ากัน้ วัด ชว฽ งนน้ั แผ฽นดนิ ค฽อนข฾างสงบพระพทุ ธศาสนาเจริญรงุ฽ เรืองดี อกี ทั้ง วดั น้ียงั ใช฾เป็นทปี่ ระทับพกั ผ฽อน เพือ่ เผยแพร฽ศาสนาของลทั ธิลงั กาวงศอแ ีกด฾วย แตไ฽ มป฽ รากฏ หลกั ฐานที่ชัดเจนว฽าผู฾ใดเป็นผูส฾ รา฾ ง เพราะอยน฽ู อกเขตพระบรมมหาราชวัง สนั นิษฐานวา฽ คงจะ เปน็ วดั ท่ีราษฎรสร฾างขน้ึ เพราะไม฽ปรากฏรายชื่อพระอารามหลวงสมัยอยุธยา แต฽จากการสังเกต เม็ดมะยม รอบกําแพงพระอโุ บสถ จงึ สนั นษิ ฐานว฽านา฽ จะมีการบูรณปฏิสงั ขรณแขึ้นมาใหมใ฽ น สมยั รัตนโกสนิ ทรแ ช฽วงรัชกาลพระนง่ั เกลา฾ เจา฾ อยห฽ู ัวและพระจอมเกล฾าเจา฾ อย฽ูหัว (รัชกาลท่ี 3 - 4 ) จากหลกั ฐาน ทางโบราณคดใี นการสาํ รวจ ของพระยาโบราณราชธานินทแพรเดชะคปุ ตแ ซ่ึงทําแผนที่การสํารวจวัดและโบราณสถานในสมยั รัชกาลท่ี 5 ระบชุ ่ือที่คล฾ายกับวัดท฽าการอ฾ งไว฾ 2 ชอื่ คือวัดทา฽ กับวดั การ฾อง ซ่ึงอยู฽ใกลก฾ ัน วัดท฽านัน้ อยต฽ู รงหวั มมุ ท่ีแมน฽ ํ้าเจา฾ พระยาหกั เล้ยี วลงสู฽ ดา฾ นตะวนั ตกของเกาะเมอื ง ฝ่งใ ตรงข฾ามกับวัดปุาพลู ที่ปากคลองมหานาคทุ฽งลุมพลี สว฽ นวดั ทา฽ การอ฾ งนน้ั อยู฽ถัดเขา฾ มาเกือบถึงหลงั วดั ธรรมาราม แต฽ไม฽ทราบช฽วงเวลาใดที่ 2 วัดน้รี วมเข฾า ด฾วยกนั เป็นวดั ท฽าการ฾อง เดีย๋ วดิฉนั จะพาพวกคณุ ไปดสู ถานท่ตี า฽ งๆในวดั และจะพาไปไหว฾พระใน อุโบสถและพาเดินเทยี่ วตลาดนาํ้ กรุงเก฽านะคะ ลกู ทวั ร์ : งน้ั ไปกนั เถอะคะ฽ ไกด์ : รอ฾ นกันไหมคะ? ลกู ทวั ร์ : นิดหนอ฽ ยคะ฽ ไกด์ : ถึงอโุ บสถแล฾วคะ฽ ลกู ทวั ร์ : โอโ฾ ห! สวยจังเลยคะ฽ ไกด์ : ใชค฽ ฽ะ ในอโุ บสถนม้ี พี ระพทุ ธรตั นมงคลหรอื ทเ่ี รยี กกนั วา฽ หลวงพอ฽ ยมิ้ ท่ีมีความงดงามมาก ไปไหวห฾ ลวงพอ฽ ยิ้มกนั เถอะคะ฽ ลูกทัวร์ : ค฽ะ

54 ไกด์ : เดี๋ยวดฉิ ันจะพาไปเดนิ ตลาดนาํ้ กรงุ เก฽านะคะ ลกู ทัวร์ : ค฽ะ ไกด์ : ถึงแล฾วคะ฽ ตลาดนํา้ กรุงเกา฽ ลกู ทัวร์ : ค฽ะ วนั น้ีขอบคุณไกดแมากๆเลยนะคะ ท่ีมาแนะนําสถานทีใ่ หก฾ ับพวกเรา ไกด์ : ค฽ะ ยินดมี ากๆคะ฽ โอกาสหน฾าอย฽าลืมเรียกใช฾บริษทั พาเทย่ี วไทยแลนดอแ กี นะคะ ขอบคุณคะ฽ **************************** http://th49.ilovetranslation.com/Fm37iZpwNuZ=d/ คาถามที่ 1 ถอ฾ ยความน้ี ผูแ฾ ตง฽ ตอ฾ งการนําเสนอเร่ืองใดมากทส่ี ดุ 1. ธุรกิจการทอ฽ งเที่ยว 2. เทยี่ วเมอื งไทยไม฽ไปไม฽ร฾ู 3. โฆษณาบรษิ ทั นาํ เท่ียว 4. ไหวพ฾ ระ 9 วัดท่ีอยธุ ยา คาถามท่ี 2 ข฾อใดไมถ฽ กู ตอ฾ ง โบสถแ เปน็ ภาษาไม฽เป็นทางการ 1. อโุ บสถ เปน็ ภาษาทางการ ม้ยั เปน็ ไมเ฽ ป็นทางการ ไกดแ เปน็ ภาษาระดบั กันเอง 2. ไหม เปน็ ภาษาทางการ ง้ัน เปน็ ภาษาระดบั กันเอง 3. มัคคุทศกแ เป็นภาษาทางการ 4. อยา฽ งน้ัน เปน็ ภาษาทางการ

55 คาถามที่ 3 จากถ฾อยความขา฾ งตน฾ ข฾อความตอ฽ ไปน้ีเปน็ ความจรงิ หรอื ไม฽เปน็ ความจริง ขอ฾ ความเปน็ ความจริง จงเขียนเคร่อื งหมาย x ในชอ฽ ง “ใช฽” ขอ฾ ความไม่เป็นความจริง จงเขียนเครื่องหมาย x ในชอ฽ ง “ไมใ฽ ช฽” ขอ้ ความ ใช่ ไมใ่ ช่ 1. วัดท฽า กบั วดั ท฽าการอ฾ งคอื วดั เดียวกนั 2. วดั ท฽าการอ฾ งสนั นิษฐานว฽าสร฾างขน้ึ ในสมยั รัชกาลท่ี 2 3. “หลวงพอ฽ ย้มิ ” คือพระพุทธรตั นมงคล 4. เกอื บ 500 กว฽าปีมาแล฾ว วดั ท฽าการ฾องใช฾เป็นสถานทเ่ี ผยแพรศ฽ าสนา ของลัทธิลังกาวงศแ 5. ตลาดน้ํากรุงเก฽าอย฽หู ฽างไกลกบั วัดท฽าการ฾อง 6. วดั ท฽าการอ฾ งเป็นวดั พระอารามหลวงในสมัยอยธุ ยา 7. บริษัทพาเท่ยี วไทยแลนดแตั้งอยท฽ู ่ีจังหวดั พระนครศรีอยุธยา 8. พระยาโบราณราชธานินทพแ รเดชะคปุ ตแเป็นผบู฾ ูรณปฏสิ งั ขรณวแ ัดท฽าการ฾อง 9. วัดท฽าการ฾องอยต฽ู ดิ กับแมน฽ ้าํ เจา฾ พระยา 10. ลกู ไกดแท่ีมาเที่ยวบรษิ ัทพาเทีย่ วไทยแลนดแ ในวันอาทิตยแที่ 2 พฤศจกิ ายน เวลา 09.00 น. มีเพยี งหนง่ึ คน

56 คาถามท่ี 4 จากถอ฾ ยความขา฾ งตน฾ “ซากปรกั หกั พังและพทุ ธลักษณะสามารถบอกยุคสมัย ทีส่ รา้ งวัดได้หรอื ไม่” ให฾เลอื กวงกลมล฾อมรอบขอ฾ ความ “ได”฾ “ไม฽ได”฾ ทก่ี ําหนดใหแ฾ ลว฾ บอกเหตุผล จํานวน 2 ข฾อ ใหใ฾ ชข฾ อ฾ มลู จากเนอื้ เร่ืองสนบั สนนุ คาํ ตอบของนักเรียน ได้ ไม่ได้ 1....................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................ 2....................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................

คาถามที่ 5 57 ถา้ ท่านตอ้ งการเท่ียว 9 วดั ทา่ นตอ้ งไปที่ จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยาเทา่ นั้นนะขอรบั นักเรยี นคดิ อย฽างอยา฽ งไรกับคาํ พูดข฾างต฾น ทาํ ไมจึงคิดเช฽นนนั้ ให฾ใช฾เหตุผลประกอบ คาํ อธบิ าย 1.ให฾นักเรียนเลือกทําเครื่องหมาย วงกลมล฾อมรอบข฾อความขา฾ งล฽างนีเ้ พยี ง 1 ขอ฾ ความ ความคิดเหน็ คล้อยตาม ความคิดเหน็ โต้แยง้ ความคิดเห็นคล้อยตามและโต้แย้ง 2. นักเรยี นเขียนอธิบายเหตุผล จาํ นวน 2 ข฾อ ที่สอดคลอ฾ งความคดิ การเลอื กในขอ฾ 1 ความคิดเห็นคล้อยตาม ความคดิ เห็นโตแ้ ย้ง 1………………………………………………………………... 1………………………………………………………………... …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… 2………………………………………………………………... 2………………………………………………………………... …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… ……………………………………………………………………

58 แบบฝึกการอ่านรู้เรอ่ื งและสอื่ สารไดต้ ามแนวการประเมินผลนานาชาติ (PISA) สาหรบั นักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 สถานการณ์ที่ 14 คาชแ้ี จง ใหน฾ ักเรียนอ฽านถ฾อยความ และตอบคาํ ถามต฽อไปนี้ “ดภู าพยนตรแ์ ลว้ ยอ้ นดูตวั เรา” หลายปมี าแลว฾ ผมและลูกชายไปดูหนังเรื่อง Lord of the ring เม่ือหนังจบผมไดพ฾ ดู คยุ กับลูกขณะกลบั บา฾ นวา฽ ; พ่อ: ลกู ร฾ูไหมวา฽ ทําไมคนจํานวนมากจึงชอบหนังเรอื่ งน้มี าก ลูก: ใช฽ ไมเ฽ ฉพาะคนไทยเท฽าน้นั ที่ชอบ คนอเมริกนั ยโุ รป เอเซีย ทั้งโลกชอบหมดเลย พ่อ: มหี นงั เร่ืองอะไรอกี บา฾ ง ทคี่ นชอบแบบเร่ืองน้ี ลกู : มอี กี เรอ่ื งท่นี ึกออก Harry Potter ไงพอ฽ (ลกู ชายผมชอบดหู นงั มาก) พอ่ : เพราะอะไรคนทงั้ โลก ไมว฽ ฽าภาษา ศาสนา เชอื้ ชาติ วฒั นธรรม ทําไมจึงชอบหนงั สองเรอื่ งนี้เหมือนกันหมด ลกู : กราฟฟคิ เทคนคิ ฉาก เสยี ง การถา฽ ยทํา ฯลฯ ทกุ คนชอบมาก พ่อ: หนงั อกี หลายเรอ่ื งเทคนคิ การถา฽ ยทําดีไม฽แพ฾ทง้ั สองเรื่องนี้ แตค฽ นกไ็ ม฽ชอบเทา฽ สอง เร่อื งน้ี มนั ตอ฾ งมีเหตผุ ลอืน่ ทที่ าํ ใหค฾ นชอบหนงั สองเรื่องนีเ้ หมือนกนั ลูกลองคิดดวู ฽าหนงั สองเรื่อง น้ีมอี ะไรเหมือนกันและคนทงั้ โลกชอบ ลกู : ผมถามพ฽อก็แลว฾ กันวา฽ เหตผุ ลนนั้ คืออะไร พ่อ: พอ฽ คิดว฽าหนังสองเร่อื งนีช้ ถี้ งึ สง่ิ ท่คี นท้งั โลกแสวงหาคอื อาํ นาจ ความย่ิงใหญ฽ และ สะท฾อนความโลภและเหน็ แกต฽ ัวของคนท่โี ดนใจคนทง้ั โลก ในทางกลับกนั หนงั ท้งั สองเรือ่ งยงั ให฾ สิง่ ทค่ี นทั้งโลกอยากได฾ แตห฽ าแทบไมไ฽ ดใ฾ นโลกปจใ จบุ นั ลูก: อะไรคือส่ิงที่คนท้ังโลกอยากได฾ แต฽หาไมไ฽ ด฾

59 พ่อ: สง่ิ ทีค่ นทง้ั โลกขาดและโหยหาในปจใ จุบนั คือ ความรกั แท฾ มิตรภาพ ความกลา฾ หาญ ความเสียสละ ความมงุ฽ มัน่ อดทน และคณุ ธรรมความถกู ตอ฾ ง เนอ้ื หาของหนงั ท้ังสองเร่อื งล฾วน เกย่ี วกับ\"หลกั การ\"เหลา฽ น้ีที่คนทง้ั โลกอยากเห็นอยากได฾ แต฽หาไมไ฽ ด฾ คนทงั้ โลกจึงชอบหนงั ท้งั สองเรอื่ งนเ้ี หมือนกนั ลูก: ผมวา฽ ส่งิ ที่พ฽อพูด มันคือ ผน฾ู ําทม่ี คี ณุ ธรรม ใช฽หรือไม฽ พอ่ : มนั เปน็ คําถามทีล่ ูกต฾องหาคําตอบด฾วยตัวเอง และยงั มอี ีกหลายคาํ ถามที่ลูกตอ฾ งคดิ เอง ค฾นหาเอง และตอบเอง เพราะพอ฽ ไมส฽ ามารถมีชีวติ ช฽วยต้งั คําถามและใหค฾ ําตอบลูกได฾ ตลอดไป น่ีคอื บทสนทนาของพอ฽ ลกู เม่ือไปดูหนงั ดว฾ ยกนั หลายปกี ฽อน เป็นบทสนทนาท่ที ้ังพ฽อและ ลกู จะไมม฽ วี ันลมื ตลอดชีวิตครบั ************************************* https://www.facebook.com/permalink.php?id=109167605809018&story คาถามที่ 1 ถ฾อยความน้ีต฾องการนาํ เสนอเร่อื งใดมากที่สุด 1. สัมพันธภาพท่ีดีระหว฽างพ฽อกบั ลูก 2. อํานาจและความย่ิงใหญ฽สยบไดด฾ ฾วยผน฾ู าํ ท่ีมีคณุ ธรรม 3. ภาพยนตรแท่ีคนทัง้ โลกชอบดคู ือเรือ่ ง Lord of the ring และ Harry Potter 4. ทุกคนภาพยนตรแท่ีเทคนคิ การถา฽ ยทําดี คาถามที่ 2 ขอ฾ ใดไม฽ใช฽คาํ ท่ีมาจากภาษาต฽างประเทศ 1. กราฟฟคิ 2. โลภ 3. วัฒนธรรม 4. โหยหา

60 คาถามท่ี 3 จากถอ฾ ยความข฾างต฾น ขอ฾ ความต฽อไปน้ีเป็นความจริงหรอื ไมเ฽ ปน็ ความจรงิ ขอ฾ ความเปน็ ความจรงิ จงเขียนเครอ่ื งหมาย x ในช฽อง “ใช฽” ข฾อความไม่เป็นความจริง จงเขียนเคร่อื งหมาย x ในช฽อง “ไมใ฽ ช฽” ขอ้ ความ ใช่ ไม่ใช่ 1. ภาพยนตรแท่คี นทั้งโลกชอบดูคือเรอ่ื ง Lord of the ring และ Harry Potter 2. อาํ นาจ ความยงิ่ ใหญ฽ ความโลภและเห็นแก฽ตวั จะมีอยูใ฽ นเรือ่ ง Lord of the ring และ Harry Potter 3. พอ฽ สามารถตอบคําถามลกู ได฾ทกุ เรอ่ื ง 4. ความรกั มติ รภาพ ความกล฾าหาญ เป็นส่ิงท่ีคนท้ังโลกอยากเหน็ อยากได฾ 5. ภาพยนตรแทกุ เรือ่ งให฾ทั้งข฾อคิดและความบนั เทงิ 6. คณุ ธรรม มิตรภาพ ปใจจบุ ัน เปน็ คําท่มี าจากภาษาต฽างประเทศ 7. พอ฽ และลูกเป็นคนที่มีเหตุผล 8. กราฟฟิค เทคนิค เป็นคาํ ศัพทบแ ญั ญัติ 9. ภาพยนตรแทเ่ี ทคนคิ การถ฽ายทํา ฉาก กราฟฟคิ และเสียงดี ทุกเร่ือง เป็นภาพยนตรแท่ีคนท้งั โลกชอบ 10. อํานาจและความย่ิงใหญ฽เป็นสงิ่ ที่คนทงั้ โลกแสวงหา

61 คาถามที่ 4 จากถอ฾ ยความขา฾ งต฾น “ผู้มีคณุ ธรรมสามารถตอ่ สู้กับอานาจ ความยิง่ ให ่ไดห้ รอื ไม่” ใหเ฾ ลือกวงกลมล฾อมรอบขอ฾ ความ “ได”฾ “ไม฽ได”฾ ที่กาํ หนดให฾แลว฾ บอกเหตผุ ล จาํ นวน 2 ข฾อ ใหใ฾ ช฾ข฾อมลู จากเนือ้ เรือ่ งสนบั สนุนคําตอบของนักเรยี น ได้ ไมไ่ ด้ 1....................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ 2....................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ คุณธรรมนอ฾ มนําใจ

62 คาถามท่ี 5 อา่ นหนังสือนยิ ายได้อรรถรส ครบถว้ นกว่าการชมภาพยนตร์ นักเรยี นคิดอย฽างอย฽างไรกบั คําพดู ข฾างตน฾ ทําไมจงึ คิดเช฽นน้นั ให฾ใชเ฾ หตุผลประกอบ คาํ อธิบาย 1. ให฾นักเรยี นเลือกทําเคร่ืองหมายวงกลม ลอ฾ มรอบข฾อความขา฾ งล฽างนี้เพยี ง 1 ข฾อความ ความคิดเห็นคล้อยตาม ความคดิ เหน็ โต้แย้ง ความคดิ เหน็ คลอ้ ยตามและโตแ้ ยง้ 2. นักเรยี นเขยี นอธบิ ายเหตุผล จํานวน 2 ขอ฾ ท่สี อดคล฾องความคดิ การเลือกในข฾อ 1 ความคิดเห็นคล้อยตาม ความคิดเหน็ โต้แย้ง 1………………………………………………………………... 1………………………………………………………………... …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… 2………………………………………………………………... 2………………………………………………………………... …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… …………………………………………………………………… ……………………………………………………………………

63 แบบฝึกการอา่ นรเู้ รื่องและสอื่ สารไดต้ ามแนวการประเมนิ ผลนานาชาติ (PISA) สาหรบั นกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 สถานการณ์ท่ี 15 สร้างรายได้ออนไลนแ์ บบติดหน่วยโฆษณาออนไลน์ คาชแ้ี จง ใหน฾ กั เรยี นอา฽ นถ฾อยความและตอบคาํ ถามตอ฽ ไปนี้ https://www.google.co.th/search?q= โฆษณา&biw คาถามที่ 1 ถอ฾ ยความน้ี ผ฾ูเขยี นตอ฾ งการนําเสนอเรื่องใดมากท่ีสดุ 1. การขายสนิ คา฾ อา฽ นและทาํ ความเขา฾ ใจ 2. การแนะนาํ วธิ กี ารขายออนไลนแ กอ฽ นตอบคาํ ถามนะคะ..... 3. การบรกิ ารกระจายหน฽วยโฆษณา 4. การบรกิ ารตดิ ตอ฽ ระหว฽างผู฾ขายกบั ลกู ค฾า

64 คาถามท่ี 2 ถ฾อยความในข฾อใดคือคําทับศพั ทแ ทั้งหมด 1. โฆษณา พันธมิตร 2. พันธมติ ร เวบ็ ไซตแ 3. เวบ็ ไซตแ โปรแกรม 4. คอมมิชชน่ั พนั ธมิตร คาถามที่ 3 จากถอ฾ ยความข฾างตน฾ ข฾อความตอ฽ ไปน้ีเปน็ ความจริงหรอื ไมเ฽ ป็นความจรงิ ขอ฾ ความเป็นความจรงิ จงเขยี นเครอ่ื งหมาย x ในชอ฽ ง “ใช฽” ใช฽ ไม฽ใช฽ ข฾อความไม่เป็นความจริง จงเขยี นเครือ่ งหมาย x ในช฽อง “ไม฽ใช฽” ข฾อความ 1. ผูใ฾ ห฾บริการคอื ผจู฾ าํ หน฽ายสินคา฾ 2. “คลิก” เป็นลกั ษณะอาการที่แสดงออกดา฾ นความพงึ พอใจ 3. “โฆษณา” เปน็ คาํ ยมื ที่มาจากภาษาสันสกฤต 4. “คอมมิชช่ัน” หมายถึง ค฽าตอบแทน หรือผลตอบแทนจากการทํางาน 5. ถ฾อยความที่ว฽า “เว็บไซตแพันธมติ ร” หมายถึงเครอื ขา฽ ยในการทํางาน 6. “โปรแกรม” เป็นคําทับศัพทแภาษาอังกฤษ 7. โคด฾ หนว฽ ยโฆษณา หมายถงึ รหสั สินค฾าท่จี ําหนา฽ ย 8. การส฽งลิงคแ คือ การส฽งข฾อมูลหรือรายละเอียด 9. ผ฾ูใหบ฾ ริการกระจายหน฽วยโฆษณาในปจใ จุบันคอื อินเตอรเแ น็ต 10. เวบ็ ไซตแคือแหลง฽ ข฾อมูลทใ่ี หบ฾ รกิ ารกระจายหนว฽ ยโฆษณา เราต฾องไปใหถ฾ ึงจดุ หมายทตี่ ัง้ ไว฾

65 คาถามท่ี 4 จากถ฾อยความขา฾ งตน฾ นักเรยี นหารายไดเ้ สริมโดยระบบออนไลน์ดว้ ยตนเองได้หรือไม่ ใหเ฾ ลือกวงกลมล฾อมรอบข฾อความ “ได”฾ “ไม฽ได”฾ ทก่ี าํ หนดให฾แล฾วบอกเหตผุ ลจํานวน 2 ขอ฾ ใหใ฾ ช฾ข฾อมลู จากเน้อื เรือ่ งสนบั สนุนคําตอบของนักเรียน ได้ ไม่ได้ 1....................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ 2....................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ ฝึกการใหเ฾ หตผุ ลในการสนับสนนุ แนวความคดิ ในการตอบคําถามนะคะ

คาถามท่ี 5 66 ระบบออนไลน์สร้างรายไดแ้ บบไมร่ ู้ตัว นักเรยี นคดิ เหน็ อย฽างไรกบั คําพดู ขา฾ งตน฾ ทําไมจึงคิดเช฽นนั้น ให฾ใช฾เหตผุ ลประกอบ คาํ อธบิ าย 1. ใหน฾ ักเรยี นเลือกทําเครื่องหมายวงกลมลอ฾ มรอบขอ฾ ความข฾างล฽างนี้ เพียง 1 ขอ฾ ความ ความคิดเหน็ คลอ้ ยตาม ความคิดเหน็ โต้แย้ง ความคิดเหน็ คล้อยตามและโต้แย้ง 2. ใหน฾ ักเรยี นเขียนอธิบายเหตผุ ล จาํ นวน 2 ข฾อ ที่สอดคล฾องความคิดการเลือกในขอ฾ 1 ความคิดเห็นคลอ฾ ยตาม ความคิดเหน็ โตแ฾ ย฾ง 1. ............................................................. 1. ............................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. 2.................................................................. 2.................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. ..................................................................

67 แบบฝึกการอ่านรเู้ รื่องและสอื่ สารไดต้ ามแนวการประเมนิ ผลนานาชาติ (PISA) สาหรบั นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 สถานการณท์ ี่ 16 เพลง..อกหักไมอ่ ยากรับสาย คาช้ีแจง ใหน฾ กั เรยี นอา฽ นถอ฾ ยความและตอบคําถามต฽อไปนี้ ศิลปน อู้ลัลลา จะเปดิ เครอ่ื งไว฾กลัวคนหลายใจโทรหา ใครมีธุระตอ฾ งขออภัย ตอนน้ี ตดิ ตอ฽ ไมไ฽ ด฾ นา้ํ ตาไม฽ยอมหยุดไหล ขอเวลานอนรอ฾ งไห฾ ฮือ้ ฮ้อื ขอปิดเคร่ืองหนีหนา฾ คนหลายใจสักพัก ตอนน้กี ําลงั อกหักอยา฽ ถือ ให฾ใจ เธอไปกบั มอื แต฽ท่ตี อบแทนมาหรอื คอื การที่เธอไม฽ซ่อื ตอ฽ ใจ ใครทโี่ ทรหาในเวลาน้ตี อ฾ งขออภยั หมายเลขท่ีคุณเรียกไม฽สามารถติดตอ฽ ได฾ในขณะนี้ หากคดิ ถงึ อยากโทรหา อยากบอกวา฽ ให฾โทรอกี ทีในตอนนี้กาํ ลงั ชารแตแบตให฾หัวใจอยู฽ เพิ่งจะอกหักมามีธุระฝากไวน฾ ะขอ฾ ความในสาย เลขหมายนี้เจ็บพอแล฾ว จากการหลงรกั คนหลายใจ หยุดรอ฾ งไหจ฾ ะโทรหา ต฾องขอโทษที http://www.rsonlinemusic.com/song.php?song_id=029420 คาถามที่ 1 ถ฾อยความนี้ ผปู฾ ระพนั ธแเนือ้ ร฾องต฾องการนําเสนอเร่ืองใดมากท่ีสุด 1. ผ฾ูหญงิ กําลังอกหัก 2. ผห฾ู ญิงร฾องไห฾ 3. อกหักอย฽าถอื โทรศัพทแ เพอื่ นๆตอ฾ งใช฾โทรศพั ทแให฾ 4. หวั ใจกาํ ลังชารตแ แบต เกิดประโยชนมแ ากทสี่ ดุ นะ คาถามท่ี 2 คาํ ทอี่ อกเสียง “ฮือ้ ฮื้อ” คอื คาํ ประเภทใด 1. คําสันธาณ 2. คาํ บุพบท 3. คาํ วิเศษณแ 4. คาํ อุทาน

68 คาถามที่ 3 จากถอ฾ ยความข฾างตน฾ ขอ฾ ความต฽อไปนี้เปน็ ความจริงหรือไมเ฽ ป็นความจรงิ ขอ฾ ความเป็นความจริง จงเขยี นเครือ่ งหมาย x ในชอ฽ ง “ใช฽” ใช฽ ไมใ฽ ช฽ ข฾อความไม่เป็นความจริง จงเขียนเครื่องหมาย x ในชอ฽ ง “ไม฽ใช฽” ข฾อความ 1. ผูห฾ ญิงทอี่ กหักทกุ คนมักจะตอ฾ งนอนรอ฾ งไห฾ (ฮือ้ ฮ้ือ....) 2. ผู฾หญงิ โดยทว่ั ไปส฽วนมากขนานนามผชู฾ ายว฽า “คนหลายใจ” 3. “ชารตแ แบต” เปน็ คําทับศัพทภแ าษาอังกฤษ 4. “ขอปิดเคร่อื งหนหี น฾าคนหลายใจสกั พกั ” เป็นอาการของการเกลียดชงั 5. “หากคิดถึงอยากโทรหา อยากบอกว฽าให฾โทรอกี ที” ถ฾อยความน้ีแสดงถงึ ความอาลัยอาวรณแกันอยู฽ 6. ถอ฾ ยความท่ีกล฽าวว฽า “ใหใ฾ จเธอไปกับมอื ” เป็นสุภาษติ คาํ พงั เพย 7. เมอ่ื ผห฾ู ญิงมอบใจให฾ สิ่งทตี่ อบแทนคือความซอ่ื สตั ยแ ความกตญั โู รู฾คุณคน 8. หากโทรศัพทแไมต฽ ดิ ให฾กดหมายเลขนัน้ ซํ้าๆและกดโทรอีกครั้ง 9. หากไมส฽ ามารถติดต฽อหมายเลขทีต่ ฾องการได฾แสดงว฽าปดิ เครอื่ งโทรศัพทแ 10. “ใครทโ่ี ทรหาในเวลาน้ีตอ฾ งขออภยั ” เป็นการแสดงออกซึ่งความรบั ผิดชอบ ในการกระทําของตนเอง ท่ีใดมรี ักที่นน่ั ย฽อมมที กุ ขแ

69 คาถามที่ 4 จากถ฾อยความข฾างต฾น นกั เรยี นอกหกั จะต้องนอนรอ้ งไห้ ใหเ฾ ลือกวงกลมล฾อมรอบข฾อความ “ใช”฽ “ไมใ฽ ช฽” ทกี่ ําหนดให฾ แล฾วบอกเหตุผล จาํ นวน 2 ขอ฾ ให฾ใชข฾ ฾อมูลจากเน้ือเรื่องสนับสนนุ คําตอบของนักเรียน ใช่ ไม่ใช่ 1. ............................................................................................................................. ................................................................................................................................. 2. ............................................................................................................................. ................................................................................................................................. ชนใดไมม฽ ดี นตรีกาล ในสันดานเปน็ คนชอบกลนัก เพื่อนๆ มคี วามคดิ เห็นแตกตา฽ งจากน้ีไหมครบั ......

70 คาถามที่ 5 เวลาอกหกั จะตอ้ งปดเครอ่ื งโทรศพั ท์ทุกครั้ง นักเรยี นคดิ เหน็ อย฽างไรกับคาํ พูดขา฾ งตน฾ ทําไมจงึ คิดเชน฽ น้ัน ให฾ใช฾เหตุผลประกอบ คาํ อธบิ าย 1. ใหน฾ ักเรียนเลอื กทําเคร่ืองหมายวงกลม ลอ฾ มรอบข฾อความขา฾ งลา฽ งนี้ เพียง 1 ข฾อความ ความคดิ เห็นคล้อยตาม ความคดิ เห็นโต้แยง้ ความคิดเหน็ คล้อยตามและโต้แย้ง 2. ให฾นักเรยี นเขยี นอธิบายเหตผุ ล จํานวน 2 ขอ฾ ที่สอดคล฾องความคดิ การเลือกในข฾อ 1 ความคิดเห็นคลอ฾ ยตาม ความคิดเห็นโต฾แยง฾ 1................................................................ 1................................................................ .................................................................. .................................................................. 2................................................................... 2............................................................... .................................................................. ..................................................................

71 แบบฝึกการอ่านรู้เรอื่ งและสอื่ สารได้ตามแนวการประเมนิ ผลนานาชาติ (PISA) สาหรบั นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 สถานการณ์ท่ี 17 นทิ านอีสป เรื่อง จระเข้กับเต่ายักษ์ คาชแ้ี จง ให฾นกั เรยี นอ฽านถ฾อยความและตอบคําถามต฽อไปนี้ กาลครั้งหนงึ่ นานมาแล฾ว บรเิ วณทา฽ น้ําแห฽งหนึ่งมจี ระเข฾ตวั โต มันกาํ ลังหิวโซมาก มันว฽าย นาํ้ วนไปมาอยู฽นาน มันพยายามหาสัตวแเล็กมาเป็นอาหาร แตท฽ ง้ั วัน มันก็ไม฽สามารถหาอาหาร ได฾ มันมองเห็นขอนไมเ฾ ขา฾ มันดใี จนกึ ว฽าเป็นพวกแมวนํ้าหรอื พวกกวางนอ฾ ยลอยมาตดิ ท่ที า฽ นํ้า มนั รีบ อา฾ ปากคาบกินเข฾าไปทันที

72 แต฽ไม฽ทันไดถ฾ ึงท฾อง มนั ตอ฾ งร฾องเพราะทนเจ็บปวดไมไ฽ หว มนั รอ฾ งเรียกสัตวแตวั อ่ืนให฾ชว฽ ย เข฾าไปเอาขอนไม฾ออกจากลาํ คอใหม฾ ันหน฽อยจะมรี างวัลให฾ แตก฽ ไ็ ม฽มสี ตั วตแ ัวไหนกลา฾ พอทีจ่ ะเขา฾ ไป เพราะร฾ดู วี า฽ ถ฾าเข฾าไปแลว฾ คงไมม฽ ีโอกาสได฾ออกมาแน฽ ผา฽ นไปไม฽นานกม็ ีเตา฽ ยักษแผา฽ นมามนั ร฾องข้นึ ว฽า “เจ฾าเตา฽ ยกั ษแ ชว฽ ยอะไรข฾าสกั อย฽างได฾ไหม เจา฾ ช฽วยคลานเข฾าไปในปากของข฾า แล฾วช฽วยเอาขอนไมท฾ ตี่ ดิ ลําคอของข฾าออกให฾ด฾วยข฾าจะมี รางวลั อย฽างงามใหแ฾ กท฽ ฽าน” เมือ่ เต฽ายักษแไดย฾ นิ เช฽นน้ันมันตอบทนั ทวี ฽า “ถ฾าข฾าเข฾าไปแล฾วคงไมม฽ ี โอกาสไดร฾ ับรางวลั จากทา฽ นแน฽ เพราะขา฾ คงเป็นอาหารให฾ทา฽ นเปน็ แน฽ ขนาดขอนไม฾แท฾ๆ ท฽าน ยงั คดิ จะกนิ เปน็ อาหารเลย แล฾วเตา฽ ยักษอแ ยา฽ งขา฾ คงไมเ฽ หลือเป็นแน฽” จากนัน้ เต฽ายกั ษแกเ็ ดินจากไป จระเขร฾ อ฾ งเรียกเจา฾ เตา฽ ยกั ษแ ขอร฾องใหก฾ ลับมาช฽วยมนั ดว฾ ย เพราะมันเจบ็ ปวดทรมานมาก จะให฾มันทําอะไรก็ยอมทกุ อยา฽ งเพยี งแคช฽ ฽วยเอาขอนไม฾ออกจาก ลาํ คอใหเ฾ ทา฽ นนั้ มนั จะไมล฽ ืมบุญคณุ ครงั้ นเี้ ลย เตา฽ ยักษสแ งสารจงึ หนั กลับมาชว฽ ยจระเข฾ แตก฽ ฽อน เขา฾ ไป เตา฽ ยกั ษไแ ดใ฾ ห฾จระเข฾สาบานไวว฾ า฽ “จะไมท฽ ําร฾ายหรือคิดทีจ่ ะกินเตา฽ อย฽างขา฾ เปน็ อาหาร” เจา฾ จระเข฾รบี สาบานทันที เต฽ายักษแค฽อย ๆ คลานเขา฾ ไปในปากของจระเข฾แล฾วใช฾หัวของมันดัน ขอนไม฾ ให฾หลุดออกจากลําคอ ไมน฽ านเศษไม฾กห็ ลุดออก แทนที่เจา฾ จระเขจ฾ ะกล฽าวคําขอบคุณ แต฽กลับพูดจาไมด฽ ีตอ฽ เต฽ายกั ษแ “เจ฾านีช้ ัง่ ทาํ อะไรชักช฾า ขา฾ ตอ฾ งทนเจบ็ ปวดอยน฽ู านเพราะเจ฾าแทๆ฾ เจ฾ายังจะมายืนทําอะไรอย฽ูอีก รบี หลกี ไปให฾พน฾ นะ เดยี่ วขา฾ จับเอาเจ฾าเปน็ อาหารม้ือนแี้ ลว฾ จะหา ว฽าขา฾ ใจร฾ายไมไ฽ ด฾นะ” จากนัน้ เจ฾าจระเขก฾ ็คลานลงน้ําหายไป… นทิ านอีสปเร่ืองน้ีสอนใหร฾ ู฾ว฽า : “การไม฽รู฾จักบญุ คณุ คน มนี ิสยั และสันดานทหี่ ยาบคาย เปน็ คณุ สมบตั ิของคนพาล” https://www.google.co.th/#q=นทิ านอสี ป

73 คาถามที่ 1 ถอ฾ ยความขา฾ งต฾น ผเู฾ ขยี นตอ฾ งการนําเสนอเรอ่ื งใดมากทส่ี ดุ 1. ความเมตตา 2. การไม฽รู฾จกั บุญคณุ คน 3. คณุ สมบัติของคนพาล 4. การชว฽ ยเหลอื เก้อื กูล คาถามที่ 2 จากถ฾อยความข฾างต฾น จระเข฾พูดว฽า “เจ฾าน้ีชง่ั ทําอะไรชกั ช฾า ขา฾ ต฾องทนเจบ็ ปวด อย฽ู นานเพราะเจ฾าแทๆ฾ เจา฾ ยังจะมายืนทาํ อะไรอยูอ฽ กี รีบหลกี ไปใหพ฾ น฾ นะ เดีย่ วขา฾ จบั เอาเจ฾าเป็น อาหารมอ้ื นี้ แล฾วจะหาว฽าขา฾ ใจรา฾ ยไม฽ได฾นะ” จระเข฾พูดแบบน้แี สดงว฽าจระเข฾มนี สิ ยั อย฽างไร 1. ข฽มเขาโคขืนใหก฾ ินหญา฾ 2. คนดเี ห็นนาน คนพาลเห็นเร็ว 3. บุญคุณต฾องทดแทนแค฾นต฾องชาํ ระ 4. พดู จาเหลาะแหละ ไม฽รกั ษาคําพูด

74 คาถามท่ี 3 จากถ฾อยความข฾างตน฾ ข฾อความตอ฽ ไปน้ีเป็นความจรงิ หรอื ไม฽เป็นความจริง ข฾อความเปน็ ความจริง จงเขียนเครอื่ งหมาย x ในช฽อง “ใช฽” ข฾อความไม่เปน็ ความจริง จงเขียนเครอ่ื งหมาย x ในช฽อง “ไมใ฽ ช฽” ข฾อความ ใช฽ ไม฽ใช฽ 1. แมวน้าํ หรอื พวกกวางน฾อยเป็นอาหารจานโปรดของจระเข฾ 2. เตา฽ ยักษแช฽วยจระเข฾เพราะจระเข฾บังคับให฾ช฽วย 3. ความฉลาดก฽อใหเ฾ กิดความเสียหายอยู฽เสมอ 4. จระเขเ฾ ปน็ คาํ ท่อี อกเสยี งผิดเพย้ี นมาจากคําวา฽ จะเข฾ 5. เม่ือเจา฾ เตา฽ ยกั ษแชว฽ ยจระเข฾ไดแ฾ ลว฾ เจา฾ จระเขก฾ ค็ ดิ จะกนิ เจา฾ เตา฽ ยักษเแ ปน็ อาหาร 6. สัตวแต฽างๆไม฽เขา฾ ไปชว฽ ยเพราะรดู฾ วี ฽าถา฾ เข฾าไปชว฽ ยแล฾วคงไมม฽ โี อกาสรอดแน฽ 7. การไม฽ร฾ูจกั บุญคุณคน มนี ิสยั และสนั ดานทหี่ ยาบคาย เปน็ คุณสมบัติ ของคนพาล 8. จระเขร฾ อ฾ งเรียกสตั วแตวั อื่นใหช฾ ว฽ ยเขา฾ ไปเอาเต฽ายักษแออกจากลาํ คอใหห฾ นอ฽ ย เจ฾าจระเข฾จะมรี างวัลให฾ 9. การกระทําทเี่ ชอื่ งช฾ามกั จะทําใหผ฾ ู฾อนื่ เดอื ดรอ฾ นอยเ฽ู สมอ 10. “ทรมาน” เป็นคาํ ไทยแทท฾ ่ยี มื มาจากภาษาสนั สกฤต อ฽านออก อ฽านรูเ฾ รื่อง คือเครอ่ื งมอื การอา฽ นแบบวิเคราะหแ

75 คาถามที่ 4 จากถอ฾ ยความข฾างตน฾ คนฉลาดสามารถใชค้ าพูดเป็นอาวุธได้ ให฾เลือกวงกลมล฾อมรอบขอ฾ ความ “ได”฾ “ไม฽ได”฾ ที่กาํ หนดให฾ แล฾วบอกเหตผุ ล จํานวน 2 ขอ฾ ใหใ฾ ชข฾ อ฾ มลู จากเนอ้ื เรือ่ งสนบั สนนุ คําตอบของนกั เรียน ได้ ไม่ได้ 1. ............................................................................................................................... .................................................................................................................................. 2. ............................................................................................................................... .................................................................................................................................. อนาคตของเราขึ้นอยูก฽ ับการปรุงแตง฽ ของตัว เราเอง

คาถามที่ 5 76 คนโงย่ อ่ มเป็นเหย่ือของคนฉลาด นกั เรียนคดิ เห็นอย฽างไรกบั คาํ พูดข฾างตน฾ ทําไมจงึ คิดเชน฽ น้ัน ให฾ใช฾เหตุผลประกอบ คําอธบิ าย 1. ให฾นกั เรยี นเลอื กทําเครื่องหมายวงกลม ล฾อมรอบข฾อความขา฾ งลา฽ งน้ี เพยี ง 1 ข฾อความ ความคิดเห็นคลอ้ ยตาม ความคดิ เห็นโต้แยง้ ความคดิ เหน็ คลอ้ ยตามและโตแ้ ย้ง 2. ให฾นกั เรยี นเขยี นอธบิ ายเหตผุ ล จาํ นวน 2 ขอ฾ ท่สี อดคลอ฾ งความคดิ การเลอื กในข฾อ 1 ความคิดเห็นคล฾อยตาม ความคิดเหน็ โต฾แยง฾ 1............................................................... 1............................................................... .................................................................. .................................................................. ………………………………………………………… …………………………………………………………... 2............................................................... 2............................................................... .................................................................. .................................................................. ………………………………………………………… …………………………………………………………

77 แบบฝกึ การอ่านรเู้ รื่องและสอื่ สารไดต้ ามแนวการประเมินผลนานาชาติ (PISA) สาหรับนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 สถานการณท์ ี่ 18 คาชีแ้ จง ใหน฾ ักเรยี นอา฽ นถ฾อยความและตอบคําถามต฽อไปนี้ อัครศิลปน เมือ่ วนั ท่ี 24 กมุ ภาพนั ธแ พุทธศักราช 2529 คณะกรรมการ วฒั นธรรมแห฽งชาติ สํานักงานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห฽งชาติ กระทรวงศึกษาธกิ าร ไดน฾ ฾อม เกล฾าน฾อมกระหมอ฽ มถวายพระราชสมญั ญา”อคั รศิลปนิ ” แด฽พระบาทสมเด็จพระเจา฾ อยห฽ู ัวใน รัชกาลปจใ จบุ นั ณ พระตาํ หนกั จิตรดารโหฐานพระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจา฾ อย฽ูหัว รชั กาลปจใ จุบนั ทรงเปน็ เลศิ ในศลิ ปะหลายสาขา เปน็ ต฾น ว฽า ดุริยางคศลิ ป฼ ทัศนศลิ ป฼ และนฤมติ ศลิ ป฼ เป็นต฾น ทรงไดร฾ บั การยกยอ฽ งสดดุ ีในพระเกียรติคุณเปน็ ที่ ประจกั ษแชดั บรรดาศลิ ปนิ ต฽างตระหนกั ในพระปรีชาสามารถอย฽างหาท่เี ปรยี บไมไ฽ ด฾ จึงพร฾อมใจ กันเทิดทนู พระเกียรติยศ ใหเ฾ ป็นท่ีปรากฏแกช฽ าวโลก โดยขอพระราชทานถวายพระราชสมญั ญา อนั เปน็ พระคุณนามพิเศษแด฽พระองคแ ดา฾ นดุรยิ างคศลิ ป฼ เป็นทป่ี ระจักษแกันท่วั ไปทงั้ ในและนอกประเทศว฽า ทรงดนตรีได฾หลาย ชนดิ และทรงได฾พระราชนิพนธแเพลงเปน็ จํานวนมาก จนสถาบนั ดนตรีตา฽ งประเทศยกย฽องว฽าทรง เป็นเอกในทางดนตรีพระองคแหนึ่ง นอกจากนนั้ ยงั ทรงสง฽ เสรมิ เพลงไทยโดยพระราชทานเงนิ จาํ นวนหนึง่ แกก฽ รมศิลปากรใหร฾ วบรวมเพลงไทย พิมพอแ อกจําหนา฽ ยแก฽นักศกึ ษาและประชาชนท่ี สนใจ และทรงพระกรุณาโปรดเกล฾าฯ ให฾สมเด็จพระเจ฾าลกู เธอ เจ฾าฟูาอุบลรัตนรแ าชกัญญา และ สมเด็จพระเจา฾ ลูกเธอ เจา฾ ฟูาสริ ินธรเทพรัตนราชสดุ า (สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า เจ฾าฟาู มหา จกั รสี ิรนิ ธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี) ทรงเรียนซอสามสายและซอด฾วง ตั้งแต฽ คร้ังยงั ทรงพระเยาวแ

78 ดา฾ นทัศนศิลป฼กป็ รากฏวา฽ ทรงชาํ นาญท้ังการถา฽ ยรูปและการเขยี นภาพสีนาํ้ มนั มีผลงาน เป็นจาํ นวนมาก นอกจากงานศลิ ปะแขนงต฽างๆ ดงั กลา฽ วแล฾ว ยังทรงพระปรชี าสามารถในการ ออกแบบและทรงก฽อสรา฾ งเรอื ใบด฾วยฝพี ระหัตถแ ทัง้ ทรงร฽วมแขง฽ ขนั ในกฬี าแหลมทองครง้ั ที่ 4 พุทธศักราช 2510 ปรากฏว฽าทรงชนะเปน็ ท่ื 1 ประเภทโอเค เรอื ใบที่ทรงใช฾ในการขา฽ งขันท้งั ของ พระองคแและของสมเด็จพระเจา฾ ลกู เธอ เจ฾าฟาู อุบลรัตนรแ าชกัญญา กส็ ําเรจ็ ดว฾ ยฝีพระหตั ถแ จาก โรงต฽อเรอื ในพระราชวงั จิตรดารโหฐาน คาํ วา฽ “อัครศิลปนิ ” แปลตามศพั ทแวา฽ ผม฾ู ีศลิ ปะอันเลอเลิศ หรอื จะหมายเอาว฽า ผูเ฾ ป็น ใหญใ฽ นศิลปิน กไ็ ด฾ เพราะพระบาทสมเดจ็ พระเจา฾ อยู฽หัว นอกจากจะทรงเป็นเลิศในศลิ ปะท้งั ปวง แล฾ว ก็ยงั มคี ณุ ูปการไดท฾ รงอุปถมั ภศแ ิลปนิ ทงั้ หลายมาโดยตลอดอีกดว฾ ย *********************************** คาถามที่ 1 จากถอ฾ ยความทอ่ี า฽ น “อัครศิลปิน” หมายถงึ ขอ฾ ใด 1. พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล฾าเจ฾าอยห฽ู ัว 2. พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา฾ เจ฾าอยห฽ู ัว 3. พระบาทสมเด็จ พระเจ฾าอยูห฽ ัวอานันทมหิดล 4. พระบาทสมเด็จ พระเจ฾าอยห฽ู ัวภูมพิ ลอดุลยเดช คาถามที่ 2 จากถ฾อยความทอี่ า฽ น เพราะเหตใุ ดพระบาทสมเด็จ พระเจ฾าอยูห฽ วั ภมู ิพลอดุลยเดชจงึ ได฾รับสมญั ญาว฽า “อคั รศิลปิน” 1. เพราะทรงเป็นเลิศในศลิ ปะทั้งปวง 2. เพราะทรงเปน็ เลิศในดา฾ นทัศนศิลป฼ 3. เพราะทรงเป็นเลศิ ในด฾าน นฤมิตศลิ ป฼ 4. เพราะทรงเปน็ เลิศในด฾านดุริยางคศลิ ป฼

79 คาถามท่ี 3 จากถ฾อยความท่ีอ฽าน ข฾อความต฽อไปน้เี ปน็ ความจริงหรอื ไมเ฽ ปน็ ความจริง ขอ฾ ความเป็นจรงิ จงเขียนเครอ่ื งหมาย x ในช฽อง “ใช”฽ ขอ฾ ความไม฽เป็นจริง จงเขียนเครื่องหมาย x ในชอ฽ ง “ไม฽ใช฽” ข฾อความ ใช฽ ไม฽ใช฽ 1. ดุรยิ างคศลิ ป฼ คอื ศิลปะของการบรรเลงเครือ่ งดรุ ิยางคแ 2. ภาพจติ รกรรม ภาพพิมพแ งานประติมากรรม งานสถาปใตยกรรม ท้งั หมด เป็นทศั นศิลป฼ 3. การถ฽ายรูปไม฽จดั วา฽ เป็นทศั นศลิ ป฼ 4. “พระบาทสมเด็จพระเจ฾าอยูห฽ ัวทรงดนตรไี ด฾หลายชนิดและทรงได฾พระ ราชนพิ นธเแ พลงเป็นจํานวนมาก” เปน็ ประโยคความรวม 5. “พระบาทสมเด็จพระเจา฾ อยห฽ู ัวทรงไดร฾ ับการยกย฽องสดุดีในพระเกยี รติ คุณท่บี รรดาศลิ ปนิ ตา฽ งตระหนกั ในพระปรีชาสามารถ” เปน็ ประโยคความ ซ฾อน 6. ฝีพระหตั ถแ หมายถงึ ความรู฾ 7. พระมหากษัตริยจแ าํ เปน็ ตอ฾ งทรงพระปรีชาสามารถเหมอื นกัน 8. พระบาทสมเดจ็ พระเจา฾ อย฽ูหวั ทรงเป็นด่ังเช฽นเทวดา 9. พระมหากษัตรยิ แทุกพระองคแทรงเป็นอคั รศิลปิน 10. พระบาทสมเด็จพระเจ฾าอย฽หู ัวทรงสง฽ เสรมิ เฉพาะด฾านดนตรี

80 คาถามท่ี 4 จากถ฾อยความขา฾ งตน฾ “พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ทรงทานาได้หรือไม่” ใหเ฾ ลอื กวงกลมล฾อมรอบข฾อความ “ได”฾ “ไม฽ได”฾ ที่กําหนดให฾แลว฾ บอกเหตผุ ล จาํ นวน 2 ข฾อ ใหใ฾ ชข฾ ฾อมลู จากเนอื้ เรอื่ งสนบั สนนุ คําตอบของนักเรยี น ได้ ไม่ได้ 1....................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ 2....................................................................................................................................... ........................................................................................................................................

81 คาถามที่ 5 “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปรียบเสมอื นเทพบนดนิ ” นกั เรียนคิดเห็นอย฽างไรกบั คําพดู ข฾างต฾น ทําไมจึงคดิ เช฽นน้ัน ให฾ใช฾เหตุผลประกอบ คาํ อธิบาย 1. ใหน฾ กั เรียนเลอื กทําเคร่ืองหมายวงกลมล฾อมรอบขอ฾ ความขา฾ งล฽างน้ี เพยี ง 1 ข฾อความ ความคิดเหน็ คล้อยตาม ความคิดเห็นโต้แย้ง ความคดิ เหน็ คลอ้ ยตามและโตแ้ ย้ง 2. ใหน฾ กั เรยี นเขียนอธิบายเหตุผล จาํ นวน 2 ข฾อ ที่สอดคลอ฾ งความคิดการเลือกในขอ฾ 1 ความคดิ เหน็ คล฾อยตาม ความคิดเหน็ โตแ฾ ย฾ง 1. ............................................................. 1. ............................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. 2.................................................................. 2.................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. ..................................................................

82 แบบฝกึ การอา่ นรเู้ ร่ืองและสอื่ สารได้ตามแนวการประเมนิ ผลนานาชาติ (PISA) สาหรับนกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 สถานการณ์ท่ี 19 คาช้แี จง ให฾นกั เรยี นอา฽ นถอ฾ ยความและตอบคําถามตอ฽ ไปนี้ “จติ วิ าณแห่งประเพณีอุ้มพระดาน้า” เม่อื กล฽าวถงึ “ประเพณีอุ฾มพระดาํ นํา้ ” เพชรบูรณแ ทกุ คนยอ฽ มนกึ ถงึ ตาํ นานมหัศจรรยแ การพบพระพทุ ธรปู “พระพทุ ธมหาธรรมราชา” ที่คนหาปลาชอ่ื หลวงตาดอ฽ นกบั เมียไดพ฾ บขณะ ทอดแหจบั ปลากลางแม฽นํา้ ปาุ สกั ท฽ามกลางอิทธิปาฏิหารยิ แและความเชอื่ ต฽างๆ มากมาย จนกระทง่ั พระพทุ ธรูปองคแน้ีไดก฾ ลายเป็นพระพุทธรปู ค฽บู า฾ นคเ฽ู มอื งของชาวเพชรบูรณแ และ กอ฽ กาํ เนิดเป็นประเพณคี วามเช่อื ท่ีสืบทอดกนั มาหลายยคุ สมยั กว฽า 400 ปี โดยเจา฾ เมืองใน อดีตจนถงึ ปจใ จุบันต฾องอัญเชญิ พระพทุ ธมหาธรรมราชาไปประกอบพิธีกรรมดําน้ํากลางแม฽นาํ้ ปุา สกั ณ วังมะขามแฟบ หรอื ท฽านํ้าวดั โบสถชแ นะมาร อ.เมืองเพชรบูรณแ คาํ ท่ีกลา฽ ววา฽ “มีพระประจาํ เมือง เหมอื นมีธรรมะประจาํ ใจ” ท่ีสะท฾อนถงึ จติ วิญญาณ แห฽งประเพณีและพลงั แห฽งศรทั ธา ไดก฾ ลายเป็นคตเิ ตือนใจคนเพชรบูรณใแ ห฾นอ฾ มนาํ เอาหลัก ธรรมะมาเปน็ แนวทางในการดําเนนิ ชีวติ และยดึ มัน่ ในสิ่งท่ีถูกต฾องดงี ามมาโดยตลอด จติ วญิ ญาณแห฽งประเพณีอ฾ุมพระดํานํ้า ทีแ่ ฝงไว฾ด฾วยภมู ปิ ใญญา และกุศโลบายอันชาญ ฉลาดของบรรพชน ท่กี ําหนดให฾เจ฾าเมอื งตอ฾ งอญั เชิญพระพุทธรปู แหแ฽ หนไปรอบเมอื งเพชรบรู ณแ และอัญเชญิ แห฽ทางน้าํ ไปประกอบพธิ ีกรรมอนั ศักด์ิสิทธ์ิ ในวันแรม 15 คํ่าเดือน 10 ของทกุ ๆ ปี มีนยั สาํ คญั หลายๆด฾าน ท้ังดา฾ นการเมอื งการปกครอง การสบื ทอดและทํานบุ ํารุงพระศาสนา การดแู ลรักษาสงิ่ แวดล฾อม การรักษาความมีระเบียบเรียบร฾อยของบ฾านเมืองและการมุ฽งเนน฾ สร฾าง ความสามัคคใี นหมูค฽ ณะประชาชน ดงั คําส่ังสอนสบื ทอดกนั มาของบรรพบุรษุ ชาวเพชรบูรณแ ดงั น้ี ด฾านการเมอื งการปกครอง “ประเพณนี ้ีใชศ฾ าสนาและพธิ ีกรรมมาเปน็ ศูนยกแ ลางและเปน็ สิง่ จงู ใจ เพ่อื ให฾เกดิ ความรัก ความสามคั คี ความเปน็ นํา้ หนึง่ ใจเดยี วกนั อันก฽อให฾เกดิ ความฮกึ เหิมในการร฽วมกนั ปกปอู งดแู ลรักษาบ฾านเมือง ยามทบี่ ฾านเมอื งมีเภทภัยสงครามเข฾ามา”

83 ด฾านการรักษาส่งิ แวดล฾อม “ทําให฾ราษฎรไพรฟ฽ าู เกิดความตื่นตัวร฽วมกันดูแลรักษา บ฾านเมอื ง การท่ีเจา฾ เมอื งอญั เชิญพระพทุ ธรปู อันศกั ดสิ์ ิทธแิ์ หแ฽ หนรอบเมืองทั้งทางบกและทางนํ้า ราษฎรตอ฾ งดูแลบ฾านเมืองใหม฾ ีระเบยี บเรียบร฾อย และต฾องช฽วยกันดูแลแมน฽ ํ้าปาุ สกั ซ่งึ เปรยี บเสมือนสายเลือดใหญ฽ทหี่ ล฽อเลยี้ งชาวเพชรบูรณแ เพื่อไมใ฽ หส฾ กปรกจนเป็นบอ฽ เกดิ แหง฽ โรคภัยไข฾เจบ็ และ โรคระบาด” ด฾านการสรา฾ งการมีสว฽ นร฽วม “ประเพณีน้ีเป็นศูนยกแ ลาง ของกิจกรรมทท่ี ุกคนอยากมาร฽วมงาน โดยผ฾ทู ่ีร฽วมงานนี้ต฽างมาเพราะใจเชอ่ื ว฽า หลังการมสี ฽วน รว฽ มในพิธกี รรมอันศกั ดิ์สิทธนิ์ ้ี จะเกิดความสิริมงคลข้ึนในชวี ิตและหนา฾ ท่ีการงาน” ดา฾ นการสร฾างความศรัทธา สบื ทอด ทาํ นบุ ํารุงในพระศาสนา “ทุกคนต฽างเชื่อว฽า หลงั จากประกอบพิธีกรรมแลว฾ นา้ํ ในแมน฽ ้ําปาุ สักจะกลายเปน็ น้ําพระพุทธมนตแอันศกั ดิ์สทิ ธ์ิและ จะพากนั ตักใสภ฽ าชนะทีจ่ ัดเตรยี มมานาํ กลับบ฾านไปไว฾เพื่อเป็นสิรมิ งคล ในขณะท่ีข฾าวของเครอื่ ง บชู าและเครือ่ งเซ฽นสังเวยในพธิ กี รรมก็จะถูกประชาชนทีม่ าร฽วมพิธีกรรมนํากลับไปจนหมดเกลี้ยง ส่ิงเหลา฽ นีห้ มายถึงความศรัทธาที่เปี่ยมล฾นต฽อพธิ กี รรมและองคแพระพทุ ธมหาธรรมราชา”ด฾านการ สร฾างความเปน็ น้ําหนง่ึ ใจเดยี วกนั ของคนเพชรบูรณแ “แมบ฾ างชว฽ งบา฾ นเมอื งเกิดภาวะวิกฤต อาจจะทาํ ให฾ผ฾ูนําหรือผคู฾ นใหค฾ วามสําคญั กบั ประเพณนี ้นี อ฾ ยไปบ฾างกต็ าม แต฽ทา฾ ยทสี่ ุดศรัทธาแหง฽ ประเพณอี มุ฾ พระดาํ น้ําและบารมีของพระพทุ ธมหาธรรมราชา ยังทาํ ให฾ภาพของพระพุทธรูป คบ฽ู า฾ นคเู฽ มือง อกี ท้ังพธิ กี รรมแห฽งความเช่ือและศรัทธา กลบั เข฾ามาอย฽ใู นดวงใจของชาว เพชรบูรณแทุกคน” ********************************************** ท่ีมา หนังสอื “ปลูกจติ สานบุญ มงุ่ ศรทั ธา มหาพทุ ธานุสรณ์บนแผ่นดนิ เพชรบรู ณ์ พระพทุ ธมหาธรรม ราชาเฉลิมพระเกยี รติฯ “หนึ่งเดียวในไทย ร่วมถวายองค์ราชนั ” ที่ระลกึ เนื่องในโอกาสสมเดจ็ พระเทพร รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสดจ็ พระราชดาเนินทรงบรรจพุ ระบรมสารรี ิกธาตุและเบกิ เนตรพระ พุทธมหาธรรมราชาเฉลมิ พระเกยี รตฯิ วันที่ 26 กนั ยายน 2554 ณ พทุ ธอทุ ยานเพชรบุระ อาเภอเมืองเพชรบรู ณ์ จงั หวัดเพชรบูรณ์

84 คาถามท่ี 1 ถ฾อยความน้ีต฾องการนําเสนอเร่อื งใดมากท่สี ุด 1. มหศั จรรยแการพบพระพทุ ธรปู 2. สิง่ ทไ่ี ดจ฾ ากประเพณอี ฾ุมพระดาํ นํา้ 3. สืบสานตาํ นานอ฾มุ พระดํานาํ้ 4. ความรกั ความศรัทธา คาถามที่ 2 ขอ฾ ใดเปน็ คาํ ภาษาบาลี 1. ศรัทธา 2. วกิ ฤต 3. ราษฎร 4. มหศั จรรยแ

คาถามที่ 3 จากถอ฾ ยความข฾างตน฾ ข฾อความตอ฽ ไปนี้เป็นความจริงหรือไม฽เปน็ ความจรงิ 85 ขอ฾ ความเปน็ ความจรงิ จงเขียนเครอ่ื งหมาย x ในชอ฽ ง “ใช฽” ไมใ่ ช่ ขอ฾ ความไมเ่ ป็นความจริง จงเขียนเครื่องหมาย x ในช฽อง “ไมใ฽ ช฽” ขอ้ ความ ใช่ 1. ประเพณีอ฾มุ พระดํานา้ํ มีส฽วนในการรักษาสงิ่ แวดล฾อม 2. ตามความเชือ่ ของชาวเพชรบูรณหแ ลังพิธีอ฾ุมพระดําน้าํ นาํ้ ในแม฽น้ําปุาสัก จะเป็นนํ้าพระพทุ ธมนตศแ ักดิส์ ทิ ธ์ิ 3. พธิ ีอ฾ุมพระดํานํา้ จะจดั ขึน้ ในวนั ขน้ึ 15 ค่ํา เดอื น 10 ของทกุ ปี 4. การแห฽แหนพระพทุ ธมหาธรรมราชารอบเมืองจัดขึ้นเพื่อให฾ประชาชน ไดส฾ กั การะพระพทุ ธรปู อย฽างถว฾ นหน฾า 5. ประเพณอี ุ฾มพระดํานํา้ ปฏิบตั ิสบื ทอดกันมาประมาณ 400 ปี 6. แม฽นาํ้ ที่สกปรกเป็นบ฽อเกิดของโรคภยั ไข฾เจบ็ 7. ศาสนาและพธิ ีกรรมไม฽สามารถทําให฾เกดิ ความรักและความสามคั คี ในหม฽ูคณะได฾ 8. ยามเกิดภาวะวกิ ฤต เจ฾าเมืองเพชรบูรณแจะเป็นผู฾สรา฾ งความเป็น อนั หนง่ึ อนั เดยี วกนั ของประชาชน 9. การแห฽แหนพระพทุ ธมหาธรรมราชาจัดข้ึนเฉพาะทางบกเท฽าน้ัน 10. ยามมเี ภทภยั สงครามพระพุทธมหาธรรมราชาจะเปน็ ศูนยกแ ลาง ความสามคั คแี ละสรา฾ งความฮึกเหิม

86 คาถามที่ 4 จากถ฾อยความขา฾ งตน฾ “ยามมีทุกขห์ รอื มีปั หา ใหน้ าหลกั ธรรมมาช่วย แก้ปั หา” ใหเ฾ ลอื กวงกลมล฾อมรอบข฾อความ “ได”฾ “ไมไ฽ ด฾” ท่ีกําหนดให฾ แล฾วบอกเหตุผล จํานวน 2 ข฾อ ได้ ไมไ่ ด้ 1...................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ 2...................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ คาถามที่ 5 มีพระประจาเมือง เหมือนมีธรรมะประจาใจ นักเรียนคดิ อยา฽ งอย฽างไรกับคาํ พดู ข฾างต฾น ทําไมจึงคดิ เช฽นนน้ั ให฾ใชเ฾ หตผุ ลประกอบ คาํ อธิบาย 1. ให฾นักเรียนเลือกทําเครื่องหมาย วงกลมลอ฾ มรอบ ข฾อความข฾างล฽างน้ีเพียง 1 ขอ฾ ความ ความคดิ เห็นคล้อยตาม ความคิดเหน็ โต้แยง้ ความคิดเหน็ คลอ้ ยตามและโตแ้ ยง้ 2. นักเรยี นเขยี นอธบิ ายเหตุผล จาํ นวน 2 ข฾อ ท่ีสอดคลอ฾ งความคดิ การเลอื กในขอ฾ 1 ความคดิ เห็นคล้อยตาม ความคิดเห็นโตแ้ ยง้ 1……………………………………………………………….. 1…………………………………………………………… ………………………………………………………………… ……………………………………………………………… 2……………………………………………………………….. 2…………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………

87 แบบฝึกการอ่านรเู้ รือ่ งและสอ่ื สารไดต้ ามแนวการประเมินผลนานาชาติ (PISA) สาหรบั นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 สถานการณท์ ี่ 20 คาชแี้ จง ให฾นักเรียนอา฽ นถ฾อยความและตอบคาํ ถามตอ฽ ไปน้ี พดู ดี มีเสน่ห์ แจงเป็นเดก็ หญงิ อายุ 13 ปี อยูก฽ บั พ฽อแม฽ พีช่ ายและน฾องสาว ในบ฾านหลังเล็กๆ ทปี่ ลูก อย฽ู ในบริเวณเดยี วกันกบั บ฾านของคณุ ยาย และบ฾านของปูาวมิ ลอกี 1 หลัง คุณยายมีลูกสาว 2 คน คือปูาวมิ ลและวภิ าแม฽ของแจง แจงรกั คณุ ยายและชอบคุยกบั คณุ ยายมาก ไม฽ว฽าแจงจะคดิ จะทําอะไร แจงจะไปเล฽า ไปปรึกษา และขอความเห็นจากคณุ ยายเสมอ วนั นีท้ าํ การบา฾ นเสร็จ แลว฾ อยากคุย กบั คุณยาย จึงไปหาคุณยายทีบ่ ฾าน แจง : สวัสดีคะ฽ คุณยาย คุณยาย : จะ฾ สวัสดี นย่ี ายทาํ ลอดชอ฽ งของชอบของแจงพอดเี ลย มากนิ เสยี ซิ แจง : ขอบคณุ ค฽ะ วันน้แี จงมเี ร่อื งของแก฾วมาเลา฽ ให฾คุณยายฟใง คุณยาย : เดย๋ี วคอ฽ ยเล฽าก็ได฾ กนิ ขนมใหเ฾ สร็จเสยี ก฽อน แจง : คะ฽ แจงตน่ื เตน฾ นะคะ อยากให฾คุณยายรูจ฾ กั แก฾ว คณุ ยาย : เร่อื งของแกว฾ นี่ ดหี รอื รา฾ ยจ฿ะ แจง : เรือ่ งดคี ฽ะ ดีมากๆ ด฾วย แก฾วเขาได฾รบั เลอื กใหเ฾ ปน็ นักเรียนดีเด฽นของโรงเรยี นปีนี้ ค฽ะ คุณยาย : แจงคงชอบแก฾วมาก จึงดใี จกบั เขา สนทิ กบั เขามากหรอื แจง : ค฽ะ คุณยาย สนิทกนั เพราะตอนเย็นเรากลับบา฾ นด฾วยกนั ทกุ วัน แจงกบั แก฾วชอบ อะไรเหมอื นๆ กนั คุณยาย : ชอบอะไรบ฾างล฽ะ ที่เหมอื นกนั แจง : เราชอบนุง฽ กางเกงยีนสแแต฽ไมช฽ อบสวมเสือ้ ยดื เหมือนกนั ชอบดูกีฬาแต฽ไม฽ชอบเล฽น เหมอื นกัน และก็ชอบดูหนังฟใงเพลงเหมือนกันค฽ะ ท่ตี า฽ งกันกม็ นี ะคะ฽ คอื แจงพดู อะไรตรงๆ แบบทคี่ ุณยายว฽า ขวานผ฽าซาก แตแ฽ กว฾ เขาระวงั เขาไมว฽ ฽าใครเลย พูดก็เพราะ คณุ ยายคงเดา ไดน฾ ะคะว฽าเพ่อื นๆ ตอ฾ งชอบแก฾วมากกว฽าแจง

88 คุณยาย : แล฾วนักเรยี นดีเดน฽ นี่ เขาเลอื กด฾วยเกณฑแอะไรละ฽ จะ฿ แจง : อาจารยใแ หญบ฽ อกว฽า แก฾วเป็นคนทีม่ มี ารยาทดี มีม นุษยสัมพันธแดี มีใจเออื้ เฟ้ือเผอ่ื แผแ฽ ละใส฽ใจการเรียนดีเยย่ี มด฾วยคะ฽ แกว฾ พดู จาอ฽อนหวานไพเราะ กบั ทุกคนไม฽ว฽าคนน้นั จะเป็นใคร เวลามคี นมาชมกิจการของโรงเรยี น แกว฾ มักไดร฾ ับเลอื กเป็น ผูน฾ าํ ชมค฽ะ แลว฾ เวลาทเ่ี ขาจะกลบั มกั ชมแกว฾ ให฾ใครๆไดย฾ ินว฽าแกว฾ พดู เพราะ พดู เกง฽ และพดู ชัด แก฾วกจ็ ะตอบว฽า ขอบพระคุณคะ฽ คุณยาย : ยายก็สอนแจงบ฽อยๆไม฽ใชห฽ รือวา฽ การพูดเป็นสิ่งสําคญั เราตอ฾ งพดู ให฾เพราะ และพดู ให฾ชดั เกง฽ หรือไมเ฽ กง฽ ก็เปน็ อีกเรือ่ งหนึ่ง แจง : แก฾วเขาเปน็ คนมนี ้ําใจดว฾ ยค฽ะ เวลามีเพือ่ นเข฾ามายมื อปุ กรณแวาดรูป เครอ่ื งมอื ทํางานแก฾วกใ็ ห฾ยืม ทั้งๆ ท่ตี ฾องใช฾เหมอื นกัน และพูดดีกบั เพ่ือนทกุ ครง้ั เลย ไมเ฽ คยบน฽ ว฽าอะไร เลย คุณยาย : ใจดดี ว฾ ยนะ แก฾วคนนี้ แจง : ค฽ะ ทแี่ จงชอบแกว฾ มากอกี เร่อื งหนึ่ง คือ เวลามีเพอื่ นมาเลา฽ เรื่องไม฽ดขี องเพ่ือนคน อนื่ ใหฟ฾ งใ แกว฾ จะไม฽พูดตอ฽ เลยคะ฽ แลว฾ ไม฽ให฾แจงวิพากษวแ จิ ารณดแ ฾วย ท้ังแก฾วทัง้ แจงจงึ ไมม฽ ีเร่ือง ผิดใจกับเพ่อื นคนไหนเลยค฽ะ คุณยาย : อย฽างน้ีเรียกว฽า เป็นคนไม฽นินทาว฽าร฾ายใคร แจง : กับคนอ่ืนแกว฾ กพ็ ูดดีนะคะ฽ เวลาไปเดนิ ในร฾านขายหนงั สือใกลโ฾ รงเรยี นด฾วยกัน พนกั งานขายมกั จะยม้ิ ใหแ฾ ก฾วเพราะแก฾วจะขอบคุณเขาทุกครง้ั ที่เขาพาไปหาหนังสือที่เราสนใจ หรอื ไปหยบิ หนังสือมาให฾เรา แจงเสียอกี ล้ินแข็ง ไม฽ค฽อยพดู ขอบคุณเขา บางทีดเู หมือนตวั เองออกจะหยิง่ นะคะ ชอบคิดวา฽ เขามีหนา฾ ทบ่ี รกิ ารก็ตอ฾ งบริการแต฽ ตอนน้แี จงคดิ ได฾แล฾วค฽ะ แจงจะทาํ ตามอย฽างแกว฾ จะได฾มีเพอ่ื นมากๆ ดไี หมคะคุณยาย คุณยาย : ดี ลกู แจง : คุณยายเอาใจชว฽ ยแจงนะคะ คุณยาย : จะ฿ ยายกช็ อบมหี ลานเปน็ คนพูดดี มีคนรกั คนชอบเหมอื นกัน วา฽ แตว฽ ฽าพูด เหนอ่ื ยหรือยังจะ฿ ยายว฽าหยดุ คุยแล฾วกนิ ลอดช฽องของโปรดของแจงเสยี กอ฽ นดไี หม แจง : ดคี ฽ะ ขอบพระคณุ ค฽ะ แจงรักคณุ ยายมากท่ีสดุ ในโลกเลยคะ฽ http://khetsarin42.blogspot.com/2013/05/2-2-2.html

89 คาถามที่ 1 วพิ ากษแและวจิ ารณแ มีความหมายทีเ่ หมือนกนั หรือแตกตา฽ งกัน 1. เหมือนกัน เพราะเป็นคําเดียวกัน 2. เหมอื นกัน เพราะเป็นสรอ฾ ยคาํ 3. แตกต฽างกัน เพราะความหมายไม฽เหมือนกนั 4. แตกตา฽ งกนั เพราะความหมายคลอ฾ ยตามกนั คาถามท่ี 2 สํานวนเปรียบเทยี บในถ฾อยความใดทม่ี ีความหมายคลอ฾ ยตามกนั 1. ใชน฾ ้ําเยน็ เข฾าลบู ชักแม฽นํ้าทงั้ หา฾ 2. ชักใบให฾เรือเสยี ใช฾นํา้ เยน็ เข฾าลูบ 3. ขวานผ฽าซาก ปากว฽าตาขยิบ 4. ขวานผา฽ ซาก ปากหวานก฾นเปรี้ยว

90 คาถามที่ 3 จากถอ฾ ยความข฾างต฾น ขอ฾ ความตอ฽ ไปนี้เปน็ ความจรงิ หรอื ไม฽เปน็ ความจรงิ ข฾อความเปน็ ความจรงิ จงเขียนเครอ่ื งหมาย x ในช฽อง “ใช฽” ข฾อความไมเ่ ป็นความจริง จงเขยี นเครื่องหมาย x ในชอ฽ ง “ไม฽ใช฽” ขอ฾ ความ ใช฽ ไมใ฽ ช฽ 1. สชุ าดาเป็นคนชอบพูดตรงๆ จนเพือ่ นๆไมช฽ อบคยุ ดว฾ ย สชุ าดาเป็นคนคดในขอ฾ งอในกระดูก 2. การพูดลักษณะขวานผ฽าซากเป็นการพดู คลา฾ ยๆกับพดู แบบมะนาวไม฽มีนาํ้ 3. แจงเป็นเดก็ ลิน้ แขง็ เพราะแจงมีอาการของผ฾ูที่เป็นอมั พฤก อมั พาต 4. แก฾วมักไดร฾ บั คําชมเพราะแก฾วพดู เก฽งและพดู ชดั พูดจาฉะฉาน 5. การวิจารณแ หมายถงึ การให฾คาํ ตัดสนิ สง่ิ ทเ่ี ป็นศลิ ปกรรมหรอื วรรณกรรม ๖. 6. คนที่ต฾องพบปะพดู คุยเก่ยี วขอ฾ งสัมพนั ธแในกจิ กรรมเป็นคนในครอบครวั เทา฽ นัน้ 7. ลอดชอ฽ งคือของหวานประเภทหน่งึ ทคี่ นไทยนิยมนํามาเปน็ ขนมหวานใช฾ใน เทศกาลงานบญุ ต฽างๆ เท฽าน้ัน 8. การวิพากษแผลงานเป็นการพจิ ารณาตดั สินผลงานนนั้ ๆ ว฽าเป็นเชน฽ ไร 9. แจงเปน็ คนพูดตรงๆ ตรงกบั สํานวนทวี่ ฽า พูดขวานผ฽าซาก 10. การแนะนาํ ตวั ของคนไทยไมว฽ ฽าโอกาสใดๆมักจะมีคาํ ขน้ึ ต฾นด฾วยคําวา฽ “สบายดี”

91 คาถามท่ี 4 จากถอ฾ ยความข฾างต฾น พดู ไปสองไพเบ้ยี นิ่งเสียตาลึงทอง นกั เรยี นนําไปใช฾ไดห฾ รอื ไม฽ ให฾เลือกวงกลมล฾อมรอบข฾อความ “ได”฾ “ไมไ฽ ด”฾ ที่กาํ หนดให฾ แลว฾ บอกเหตุผล จาํ นวน 2 ข฾อ ให฾ใชข฾ อ฾ มลู จากเนอื้ เรอ่ื งสนบั สนุนคาํ ตอบของนักเรียน ได้ ไมไ่ ด้ 1.............................................................................................................................. ............................................................................................................................. 2.............................................................................................................................. ............................................................................................................................. หากทกุ คนมีความรกั ใหก฾ นั และกนั จะทําใหเ฾ กดิ ความสามคั คใี นหม฽คู ณะ

คาถามที่ 5 92 “ชมคนดว้ ยวาจา มีคา่ มากกว่ามอบไขม่ กุ เปน็ ของขวั ทารา้ ยคนดว้ ยวาจา สาหสั ย่งิ กว่าท่มิ แทงดว้ ยหอกดาบ” นักเรยี นคิดเห็นอย฽างไรกับคาํ พูดขา฾ งต฾น ทําไมจึงคิดเช฽นนัน้ ใหใ฾ ช฾เหตผุ ลประกอบ คาํ อธิบาย 1. ใหน฾ ักเรยี นเลือกทําเครื่องหมายวงกลม ลอ฾ มรอบขอ฾ ความข฾างล฽างนี้ เพียง 1 ขอ฾ ความ ความคิดเหน็ คลอ้ ยตาม ความคิดเหน็ โต้แยง้ ความคิดเห็นคลอ้ ยตามและโต้แย้ง 2. ใหน฾ ักเรยี นเขยี นอธิบายเหตผุ ล จาํ นวน 2 ขอ฾ ที่สอดคลอ฾ งความคิดการเลือกในขอ฾ 1 ความคดิ เห็นคล้อยตาม ความคิดเห็นโต้แย้ง 1. .............................................................. 1. .............................................................. .................................................................. .................................................................. 2............................................................... 2............................................................... .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. วนั นมี้ ีสานวนสภุ าษติ มาฝากเพอื่ นๆคะ่ คาวา่ “มะกอกสามตะกร้าปาไมถ่ ูก” หมายถึง พดู จาตลบตะแลงพลิกแพลงไปมาจนจบั คาพดู ไมท่ ัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook