เอกสารความรู้การประชาสัมพันธ์และการเขีย

การประชาสัมพนั ธ์และการเขียนข่าวในองค์กร ศูนย์วทิ ยาศาสตร์และวฒั นธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอด็

การประชาสัมพันธ์และการเขยี นข่าวในองค์กร การประชาสัมพนั ธ์ แปลมาจากคาภาษาองั กฤษ Public Relations \"Public\" แปลวา่ ประชา \"Relations\" แปลวา่ สมั พนั ธห์ รือความผกู พนั ถา้ แปลตรงตามตวั อกั ษร การประชาสัมพนั ธ์ กค็ ือ การผกู พนั ที่เก่ียวขอ้ งกบั หมคู่ นนนั่ เอง ดงั น้นั การ ประชาสมั พนั ธ์ จึงหมายถึง การสร้างความสมั พนั ธ์ และความเขา้ ใจอนั ดีใหเ้ กิดกบั หน่วยงาน องคก์ ร หรือ สถาบนั ต่อกลมุ่ ประชาชนท่ีเกี่ยวขอ้ งในการที่ไดร้ ับความร่วมมือและสนบั สนุนจากประชาชน ลกั ษณะของการประชาสัมพนั ธ์ การประชาสมั พนั ธ์เป็นงานที่มีความเกี่ยวขอ้ งกบั หน่วยงาน องคก์ ร หรือสถาบนั ต่าง ๆ ท้งั ภาครัฐและเอกชน ในการติดต่อกบั ประชาชนเพ่ือเผยแพร่ขอ้ มลู ข่าวสาร และสร้าง ความสัมพนั ธ์ ท่ีดีต่อประชาชน เพ่อื ใหไ้ ดร้ ับความร่วมมือและสนบั สนุน ในขณะเดียวกนั หน่วยงาน องคก์ ร หรือ สถาบนั ก็ตอ้ งมีการติดตามความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อหน่วยงาน องคก์ รหรือสถาบนั ดงั น้นั การ ประชาสมั พนั ธ์ จึงมีลกั ษณะเป็นยคุ ลวธิ ีหรือการติดตอ่ สองทาง คือจากหน่วยงาน องคก์ ร หรือสถาบนั ไปยงั ประชาชน และฟังเสียงจากประชาชนยอ้ นกลบั มาใหห้ น่วยงาน องคก์ รหรือสถาบนั ไดท้ ราบถึงความนึกคดิ ของ ประชาชน ความสาคญั ของการประชาสัมพนั ธ์ การประชาสัมพนั ธม์ ีความสาคญั ต่อหน่วยงาน ดงั ต่อไปน้ี 1. เป็นการสร้างภาพที่ดีใหก้ บั หน่วยงาน เพราะการสร้างภาพพจนท์ ่ีดีจะทาใหไ้ ดร้ ับความร่วมมือเป็น อยา่ งดีจากประชาชน และทาใหม้ ีพฤติกรรมท่ีดีตอ่ ตอ่ หน่วยงานของเรา 2. เพือ่ ใหป้ ระชาชนรู้จกั หน่วยงานของเรา และเห็นวา่ หน่วยงานของเรามีคณุ คา่ เป็น ประโยชน์และ สมควรใหค้ วามร่วมมือและสนบั สนุน 3. เป็นการทาหนา้ ที่ในการแกไ้ ขภาพพจนห์ รือทศั นคติที่เป็นลบของประชาชนที่มีตอ่ หน่วยงานใหเ้ ป็น อยา่ งดี การเขยี นข่าวเพื่อการประชาสัมพนั ธ์ ข่าวสารนับเป็ นปัจจยั สาคญั อีกประการหน่ึง ต่อการบริหารงานประชาสัมพนั ธ์ การที่จะสร้างความ เขา้ ใจแก่ประชาชน จาเป็นตอ้ งมีข่าวสารที่ดีที่เกิดประโยชนต์ อ่ สังคม การเลือกขา่ วสาร สาหรับเผยแพร่จึงจะตอ้ ง กระทาดว้ ยความระมดั ระวงั ให้องค์กรไดร้ ับประโยชน์จากการเผยแพร่ ข่าวสารทุกครั้งขณะเดียวกนั ส่ิงท่ีควบคู่ กบั ข่าวสารก็คือเครื่องมือสื่อสารท่ีเหมาะสมตอ้ งมีการเลือกใหถ้ ูกตอ้ งเช่นกัน ข่าวสารท่ีมีมีคุณค่าต่อสังคม และ ใช้เทคนิคในการเขียนให้สอดคลอ้ งกันกับแบบฉบับของสื่อแต่ละประเภท ย่อมจะได้รับการเผยแพร่อย่าง ตอ่ เน่ือง

ข่าว คือ การรายงานขอเท็จจริงของเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ีน ตลอดจนความคิดเห็นของบุคคล สาคญั ซ่ึงเป็ น เรื่องราวท่ีน่าสนใจ ซ่ึงประชาชนให้ความสาคญั และสนใจรวมท้งั มีผลกระทบต่อ ผคู้ นจานวนมาก สาหรับนัก ประชาสัมพนั ธ์ ข่าวก็คือหัวใจของงานประชาสัมพนั ธ์ที่จะรายงาน ภารกิจความก้าวหน้าของหน่วยงานให้ สาธารณชนทราบ การเขียนข่าวเป็ นท้ังศาสตร์และศิลป์ และตอ้ งมีเทคนิคในการสร้างความเขา้ ใจและความ สนใจแก่ประชาชน ความสาเร็จหรือความ ลม้ เหลวของการประชาสัมพนั ธ์ยงั ข้ึนอยู่ความถี่ของผลงานข่าวที่ นาเสนอในสื่อต่างๆ คาว่า ข่าว (NEWS) มีความหมายวา่ มาจากทุกทิศ N หมายถึง North (ทิศเหนือ) E หมายถึง East (ทิศ ตะวนั ออก) W หมายถึง West (ทิศตะวนั ตก) S หมายถึง South (ทิศใต)้ ข่าวแบ่งออกเป็ นประเภทของส่ือได้ 4 ประเภท คือ 1. ข่าวหนงั สือพมิ พ์ เป็นขา่ วส้ัน กระชบั ไดใ้ จความสาคญั หวั ขา่ วใชค้ าสะดุดใจสะดุดตา และมี ภาพประกอบที่หนา้ สนใจ 2. ขา่ ววิทยกุ ระจายเสียง เป็นข่าวที่ใหร้ ายละเอียดไม่มากนกั มีความกระชบั ส้ัน ส่ือสารไดร้ วดเร็ว โดย ใชเ้ สียงในการส่ือสาร 3. ขา่ ววิทยโุ ทรทศั น์ ข่าวมีความกระชบั สามารถนาเสนอข่าวและภาพเคลื่อนไหวจากเหตุการณ์ที่ เกิดข้ึนจริง มีความน่าเช่ือถือมากกวา่ สื่ออ่ืนๆ 4. ขา่ วอินเตอร์เน็ต เป็นขา่ วที่นาเสนอเน้ือหาสาระท่ีหลากหลาย น่าสนใจ โดยการนาจุดเด่นของส่ือท้งั 3 ชนิดมานาเสนอ คือ มีตวั อกั ษร ภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง และเสียง ข่าวทีด่ คี วรมลี กั ษณะ ดงั น้ี 1. มีความถูกตอ้ งครบถว้ น ไมว่ ่าจะเป็นแหล่งขา่ ว ตาแหน่งหรือความคิดเห็นและขอ้ เท็จจริง 2. มีความเป็นธรรม ตอ้ งเสนอข่าวทุกแงม่ ุม เช่นถา้ เป็นเร่ืองขอ้ โตแ้ ยง้ กต็ อ้ งนาเสนอความคดิ เห็นของ ท้งั สองฝ่าย 3. มีความเท่ียงตรง นาเสนอข่าวอยา่ งตรงไปตรงมา ปราศจากอคติ 4. มีความกะทดั รัดชดั เจน ผอู้ ่านสามารถจาประเด็นไดเ้ ร็วดว้ ยการใชภ้ าษาท่ีเขา้ ใจง่าย 5. ความใหมส่ ดทนั ต่อเหตกุ ารณ์และเหมาะสมสถานการณ์ปัจจุบนั โครงสร้างของการเขียนข่าวเพ่ือการประชาสัมพนั ธ์ ประกอบด้วย “ 5 W 1 H ” ไดแ้ ก่ 1. ใคร ( Who) เป็นคาถามที่เกี่ยวกบั บคุ คล เช่น ใครทาอะไรที่เป็นความสนใจของผอู้ ่าน

2. ทาอะไร (What) เกิดอะไรข้ึนการกระทาหรือเหตุการณ์ท่ีเกิดข้นึ ในขา่ ว 3. ทไี่ หน (Where) การกระทาหรือเหตกุ ารณ์น้นั ๆ เกิดข้ึนท่ีไหน 4. เม่ือไหร่ (When) การกระทาหรือเหตุการณ์น้นั ๆ เกิดข้นึ วนั เวลาใด 5. ทาไมและอย่างไร (Why และ How) ทาไมการกระทาหรือเหตกุ ารณ์จึงเกิดข้ึนและเกิด อยา่ งไร ภาพประกอบข่าว ควรมีรายละเอียดท่ีสาคญั คือ ตอ้ งเป็นภาพท่ีส่ือความหมายไดท้ นั ที มี ความสมั พนั ธ์กบั ขา่ ว และตอ้ งเป็นภาพท่ีสามารถเล่าเร่ืองราวเหตุการณ์ได้ การเขียนคาบรรยายภาพประกอบข่าว ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ตวั บุคคล ควรมีรายละเอียดดงั น้ี คือ ภาพ ที่เก่ียวขอ้ งกบั ตวั บคุ คล ควรเป็นภาพที่บุคคลน้นั ทาอะไรอยู่ ถา้ มีบุคคลหลายคนใหอ้ ธิบายภาพจากซา้ ย ไปขวา และอธิบายใหช้ ดั เจนวา่ บุคคลน้นั เป็นใคร ทาอะไรและสาคญั อยา่ งไร