Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชกรณียกิจด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ร.9

พระราชกรณียกิจด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ร.9

Published by nootchaba59, 2017-11-14 13:04:10

Description: พระราชกรณียกิจด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9

Keywords: พระราชกรณียกิจ ร.9

Search

Read the Text Version

พระราชกรณียกจิ ด้านความสมั พันธ์กบั ต่างประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั รชั กาลที่ ๙นางสาวธีรนาฏ ทบั ทมิ รหัสนสิ ติ 60661119นางสาวธีรานันท์ หอมตา รหสั นสิ ิต 60661126นางสาวนันทกาญจน์ เกวี รหัสนิสติ 60661164นางสาวนุจรี สดี านชุ รหัสนสิ ติ 60661225นางสาวนุชบา อนิ แปลง รหสั นิสติ 60661232นางสาวใบเตย แสงเสงย่ี ม รหสั นสิ ิต 60661263นางสาวปานชีวา กีพงษ์ รหสั นิสติ 60661355นายพงศภ์ คั จนิ า รหัสนิสติ 60661423นางสาวพนิตตา ต้นแพง รหสั นสิ ติ 60661447โครงการฉบับนเี้ สนอเปน็ สว่ นหนึง่ ของรายวชิ า 001221 สารสนเทศศาสตร์เพื่อการศกึ ษาคน้ คว้า ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2560 มหาวิทยาลยั นเรศวร

พระราชกรณียกจิ ด้านความสมั พันธ์กบั ต่างประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั รชั กาลที่ ๙นางสาวธีรนาฏ ทบั ทมิ รหัสนสิ ติ 60661119นางสาวธีรานันท์ หอมตา รหสั นสิ ิต 60661126นางสาวนันทกาญจน์ เกวี รหัสนิสติ 60661164นางสาวนุจรี สดี านชุ รหัสนสิ ติ 60661225นางสาวนุชบา อนิ แปลง รหสั นิสติ 60661232นางสาวใบเตย แสงเสงย่ี ม รหสั นสิ ิต 60661263นางสาวปานชีวา กีพงษ์ รหสั นิสติ 60661355นายพงศภ์ คั จนิ า รหัสนิสติ 60661423นางสาวพนิตตา ต้นแพง รหสั นสิ ติ 60661447โครงการฉบับนเี้ สนอเปน็ สว่ นหนึง่ ของรายวชิ า 001221 สารสนเทศศาสตร์เพื่อการศกึ ษาคน้ คว้า ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2560 มหาวิทยาลยั นเรศวร

กิตติกรรมประกาศ โครงงานเรื่องพระราชกรณียกิจด้านความสมั พันธก์ บั ต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวัรชั กาลที่ ๙ เปน็ อีกโครงการใหท้ ีช่ ว่ ยใหน้ สิ ติ เกิดทักษะการสืบค้นสารสนเทศ จากแหล่งท่ีมาต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนิสติ จะสามารถนาประสบการณน์ ีไ้ ปปรบั เปลีย่ นใช้ในชวี ิตประจาวันได้ต่อไป การจัดทาโครงการในคร้ังน้ี สาเรจ็ ลลุ ่วงไปไดด้ ้วยดี ด้วยได้รับความอนุเคราะห์และการสนบั สนนุ ดว้ ยดีจากอาจารยป์ ระจารายวชิ าสารสนเทศศาสตร์เพอ่ื การศึกษาคน้ ควา้ ทุกทา่ นท่ีใหค้ าปรึกษา พร้อมกับชี้แนะแนวทางในการสบื คน้ ข้อมูล รวมถงึ วิธีการจดั ทารายงานท่ีเป็นส่วนสาคัญท่ที าให้รายงานฉบับน้ีสมบรู ณ์ยง่ิ ข้นึและขอขอบคุณเจ้าหนา้ ที่ ท่สี านักหอสมุด มหาวทิ ยาลยั นเรศวรทกุ คน ที่ชว่ ยชแ้ี นะแหล่งขอ้ มูลท่ีมปี ระโยชน์ตอ่ การทาโครงการ ในคร้งั น้ี คณะผจู้ ัดทา

บทคดั ยอ่ ในปจั จบุ ันภาพโดยรวมของประเทศไทยนน้ั ประชาชนชาวไทยอยู่กันอยา่ งความสงบสุข มกี ารตดิ ต่อกับต่างประเทศหลายๆประเทศด้วยการเดนิ ทางไปยังตา่ งประเทศและดว้ ยวิทยาการเทคโนโลยีตา่ งๆทไี่ ด้พัฒนาขึน้ มาให้มีความสะดวกสบาย รวดเร็วและเจรญิ ก้าวหน้ากวา่ ในอดีตแตก่ ระน้ันในบางจุดยังมีปัญหาความขัดแยง้ ภายในประเทศ ท่ียงั ไมส่ ามารถแกไ้ ขได้ แลว้ การที่เกดิ ความขดั แยง้ เหลา่ นบี้ ุคคลเหล่านั้นอาจหลงลมื ไปวา่ กวา่ ประเทศไทยของเราจะเกิดเป็นดัง่ เชน่ ทุกวนั นี้ มนั มาจากนา้ พักน้าแรงของกษัตรยิ ์ท่ที รงยิง่ ใหญ่พระองค์หนึ่ง พระนามน่ันคือพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดชฯรชั กาลท่ี ๙ ดว้ ยพระปรีชาสามารถและพระอัจฉรยิ ภาพของพระองค์ท่ีทรงปฏิบตั ิพระราชกรณียกจิ ด้านความสมั พนั ธ์กบั ต่างประเทศ ดว้ ยเหตผุ ลดังกลา่ วทางคณะผู้จดั ทาจงึ ไดจ้ ดั ทารายงายเร่ืองพระราชกรณียกิจด้านความสัมพันธ์กบัตา่ งประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั รชั กาลที่ ๙ เพอ่ื ใหผ้ ู้อ่าน ผู้ทสี่ นใจหรือประชาชนชาวไทยทีไ่ ด้เหน็ รายงายฉบับนีไ้ ดต้ ระหนักและเหน็ คุณค่าของประเทศไทยพรอ้ มกบั ระลึกถึงพระกรุณาธคิ ุณของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ซ่ึงทางคณะผจู้ ัดทาได้จดั ทารูปแบบการนาเสนอไว้หลากหลายทาง อาทิเชน่การจดั ทาเปน็ รปู เล่มโครงงาน การนาเสนอในรปู แบบ power point และการจัดทาเป็น E-book ทเ่ี ผยแพร่แบบสาธารณะ ซ่ึงทาใหบ้ ุคคลท่วั ไปทส่ี นใจสามารถนามาอ่านไดอ้ ย่างสะดวก และรวดเร็วยิ่งขน้ึ

คานา โครงงานฉบบั นเี้ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของรหัสวชิ า 001221 สารสนเทศศาสตรเ์ พ่ือการศึกษาคน้ คว้าในระดับชนั้ ปริญญาตรชี ้ันปที ่ี1 โดยมีจดุ ประสงค์เพื่อใหค้ วามรู้เก่ียวกับเรือ่ งพระราชกรณยี กิจด้านความสมั พันธ์กับต่างประเทศ และเพ่ือให้ผู้อ่าน ผู้ทีส่ นใจหรือประชาชนชาวไทยทไ่ี ด้เห็นรายงายฉบบั น้ี ได้ตระหนกั และเหน็ คุณค่าของประเทศไทย พรอ้ มกบั ระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ท้ังน้ี ในรายงานฉบับน้ีมเี น้ือหาซ่งึ ประกอบดว้ ยความร้เู ก่ยี วกบั 1. การเสดจ็ พระราชดาเนินของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ทไี่ ปเยือนประเทศตา่ งๆ 2. การสง่ สาส์นต่อประมุขตา่ งประเทศ 3. การยกระดบั ความสัมพนั ธ์กับประเทศท่ไี มไ่ ด้ใกลช้ ดิ กบั ประเทศไทย 4. การกระชับความสัมพันธท์ ี่แนบแน่นกบั ประเทศที่สัมพนั ธ์ดีกับไทย เปน็ ต้นผจู้ ัดทาเลือกหัวข้อน้ีในการทารายงาน เนื่องจากเป็นเรือ่ งที่นา่ สนใจและเปน็ สง่ิ ทเี่ ราไม่ควรหลงลมื ไปเพื่อการดารงอย่ขู องธงชาติไทยต่อไป ทางคณะผ้จู ดั ทาต้องขอขอบคุณอาจารยป์ ระจารายวิชาสารสนเทศศาสตรเ์ พ่ือการศึกษาค้นคว้าทกุ ทา่ นท่ใี ห้คาปรึกษา พรอ้ มกับชี้แนะแนวทางในการสืบคน้ ขอ้ มูล รวมถงึ วิธีการจัดทารายงานที่เป็นสว่ นสาคญั ท่ีทาให้รายงานฉบบั น้สี มบรู ณย์ ่ิงข้ึน หวังวา่ รายงานฉบับนจ้ี ะให้ความรู้ และเป็นประโยชนแ์ กผ่ ้อู ่านทุกๆทา่ น หากมขี ้อเสนอแนะประการใด คณะผจู้ ัดทาขอรับไวด้ ้วยความขอบพระคุณย่ิง คณะผูจ้ ัดทา กลมุ่ ท่ี 8

สารบญั เรื่อง หนา้คานา 1สารบัญ 2สารบญั รูปภาพ 2บทท่ี 1 บทนา 3บทท่ี 2 เอกสารทเี่ ก่ยี วข้อง 4 5 ด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ 7  ประเทศเวยี ดนามใต้ 9  สาธารณรฐั อินโดนเี ซีย 10  สหภาพพมา่ 10  สหรัฐอเมรกิ า 10  ประเทศอังกฤษ 10  สหพันธ์สาธารณรฐั เยอรมนั 11  สาธารณรฐั โปรตุเกส 11  ประเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์ 11  ประเทศเดนมาร์ก 11  ประเทศนอร์เวย์ 11  ประเทศสวเี ดน 11  สาธารณรฐั อติ าลี 11  นครรฐั วาติกัน 11  ประเทศเบลเยยี ม 11  สาธารณรัฐฝรั่งเศส 12  ประเทศลักเซมเบิร์ก 12  ประเทศเนเธอร์แลนด์ 14  ประเทศสเปน  สาธารณรฐั อสิ ลามปากีสถาน  สหพันธรัฐมลายา  ประเทศนิวซีแลนด์

 ประเทศออสเตรเลีย 14  ประเทศญีป่ ่นุ  สาธารณรฐั จนี 14  สาธารณรฐั ฟลิ ิปปนิ ส์  สาธารณรัฐเยอรมนั (ครงั้ ท่ีสอง) 20  สาธารณรัฐออสเตรีย (คร้ังท่ีสอง)  ประเทศอิหร่าน 22  สหรฐั อเมรกิ า (ครั้งท่สี อง)  ประเทศแคนาดา 22  ประเทศลาวการส่งพระราชสาส์นตอ่ ประมุขต่างประเทศ 24การยกระดบั ความสมั พันธ์กบั ประเทศทไ่ี ม่ได้ใกล้ชิดกับประเทศไทยการกระชับความสัมพนั ธท์ ีแ่ นบแนน่ กบั ประเทศทีส่ ัมพันธ์ดีกับไทย 25บทที่ 3 วธิ ีการดาเนนิ งานบทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน 27บทท่ี 5 บทสรุปภาคผนวก 28บรรณานกุ รมประวตั ิของผจู้ ดั ทารายงาน 29 30 31 32 34 35 36 37 40 41

สารบัญรูปภาพ รปู หนา้รปู ท่ี ๑.๑ 2รูปท่ี ๑.๒ 2รูปท่ี ๑.๓ 2รูปท่ี ๒ 3รูปที่ ๓ 6รูปท่ี ๔ 6รูปที่ ๕ 7รปู ที่ ๖ 8รปู ท่ี ๗.๑ 8รปู ท่ี ๗.๒ 8รปู ที่ ๘ 10รปู ที่ ๙ 11รปู ที่ ๑๐ 15รปู ที่ ๑๑ 15รูปที่ ๑๒ 16รูปท่ี ๑๓ 16รูปท่ี ๑๔ 17รปู ท่ี ๑๕ 17รูปท่ี ๑๖ 18รปู ที่ ๑๗ 18รูปท่ี ๑๘ 19รปู ที่ ๑๙ 20รูปท่ี ๒๐ 20รูปท่ี ๒๑ 21รูปท่ี ๒๒ 30รูปท่ี ๒๓ 31

บทท่ี 1 บทนำที่มาและความสาคญั ในปัจจบุ นั ภาพโดยรวมของประเทศไทยน้ัน ประชาชนชาวไทยอยู่กันอยา่ งความสงบสขุ มีการติดต่อกับตา่ งประเทศหลายๆประเทศ ไม่วา่ จะเป็นประเทศเพื่อนบา้ นหรอื ประเทศทางฝง่ั ยุโรป ดว้ ยการเดนิ ทางไปยงัต่างประเทศและดว้ ยวิทยาการเทคโนโลยีต่างๆท่ไี ด้พฒั นาขึ้นมาให้มีความสะดวกสบาย รวดเร็วและเจรญิ ก้าวหน้ากว่าในอดตี แต่กระนน้ั ในบางจดุ ยังมปี ัญหาความขดั แย้งภายในประเทศ ท่ียงั ไม่สามารถแก้ไขได้แลว้ การทเี่ กิดความขดั แย้งเหล่านี้บุคคลเหลา่ น้นั อาจหลงลืมไปวา่ กวา่ ประเทศไทยของเราจะเกิดเป็นด่งั เช่นทุกวันน้ี มนั มาจากนา้ พกั น้าแรงของกษตั รยิ ท์ ่ที รงยงิ่ ใหญ่พระองคห์ น่ึง พระนามนั่นคือพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั ภมู ิพลอดุลยเดชฯรัชกาลที่ ๙ ด้วยพระปรชี าสามารถและพระอจั ฉริยภาพของพระองค์ที่ทรงปฏิบตั ิพระราชกรณียกจิ ดา้ นความสัมพันธ์กบั ตา่ งประเทศ การอยู่ในสงั คมนนั้ การผกู ไมตรที ดี่ ตี อ่ กันเป็นสง่ิ จาเป็นอยา่ งยิ่ง การไปมาหาสู่และพบปะกนั เป็นส่อืสัมพนั ธ์ท่กี ระชับแนน่ ทท่ี าใหเ้ กดิ ความรัก ความสามัคคี การชว่ ยเหลอื ซงึ่ กนั และกัน จะผ่อนคลายปญั หาความไมเ่ ข้าใจ ความผิดพ้องหมองใจกัน ซง่ึ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัว ทรงเหน็ ประโยชน์ของการผูกไมตรกี ับนานาประเทศ เพ่ือความเจริญกา้ วหนา้ มั่นคงของประเทศชาติบา้ นเมอื ง พระองค์จึงได้เสดจ็ ฯเยือนมิตรประเทศตา่ งๆทว่ั โลก แม้พระองค์ทรงเหนอ่ื ยแค่ไหนกม็ เิ คยบ่นใหป้ ระชาชนได้ยนิ ได้แต่ย้ิมรับสหู้ น้าประชาชนของพระองค์เท่าน้ัน แตป่ ระชาชนชาวไทยกลบั ขดั แย้งกันเองภายในประเทศ แมจ้ ะเป็นเร่ืองเลก็ ๆน้อยๆก็ตามโดยไม่คานึงถงึ ผลทีจ่ ะตามมาและไมเ่ คยคานึงถงึ วา่ ใครท่ีคอยทาทุกอย่างเพอ่ื ประชาชนชาวไทยทกุ คนให้อยู่รว่ มกันอย่างมีความสขุ ท่ีปราศจากการรกุ รานจากต่างประเทศและมอบความสงบสุขนี้ให้ ซ่ึงกวา่ จะมาเปน็ประเทศไทยท่ีก้าวหนา้ และทันสมยั อย่างทุกวนั น้ไี ดเ้ ป็นเพราะใครกนั ดว้ ยเหตุผลดงั กลา่ วทางคณะผู้จัดทาจงึ ไดจ้ ัดทารายงายเรื่องพระราชกรณียกจิ ด้านความสมั พนั ธก์ ับต่างประเทศของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว รชั กาลท่ี ๙ เพ่ือให้ผ้อู ่าน ผูท้ ีส่ นใจหรอื ประชาชนชาวไทยทไ่ี ด้เห็นรายงายฉบบั น้ไี ด้ตระหนักและเหน็ คุณค่าของประเทศไทย พร้อมกับระลึกถึงพระกรุณาธิคณุ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั รชั กาลที่ ๙ และช่วยกนั รักษาประเทศไทยให้สงบสขุ ม่ันคงสืบตอ่ ไปวตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื ให้ความร้เู กย่ี วกบั เรอื่ งพระราชกรณียกิจด้านความสัมพันธ์กบั ต่างประเทศของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ ัว รัชกาลที่ ๙ 2. เพื่อให้ผูอ้ า่ น ผู้ทส่ี นใจหรือประชาชนชาวไทยที่ได้เห็นโครงงานฉบับนไ้ี ดต้ ระหนักและเหน็ คณุ ค่า ของประเทศไทย พร้อมกบั ระลึกถึงพระกรุณาธิคณุ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั รชั กาลท่ี ๙

บทท่ี 2 เอกสารทเ่ี ก่ยี วข้องพระราชกรณยี กิจดา้ นความสัมพนั ธ์กบั ต่างประเทศของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วัรัชกาลท่ี ๙ การอยูใ่ นสังคมบ้าน สงั คมเมือง และสงั คมประเทศ การผกู ไมตรีที่ดีตอ่ กนั เป็นส่ิงจาเปน็ อย่างยิ่งการไปมาหาสู่ การพบปะกนั เป็นสอ่ื สัมพนั ธท์ ่ีกระชบั แน่นท่ีทาให้เกิดความรกั ความสามัคคี การช่วยเหลือซง่ึ กันและกัน จะผ่อนคลายปัญหาความไมเ่ ขา้ ใจ ความผดิ พ้องหมองใจกัน ซงึ่ อาจกลายเป็นเร่ืองใหญ่ให้กลบัเป็นเร่อื งเล็กน้อย ผ่อนหนักเป็นเบาได้ และการผกู มิตรไมตรีต่อกันไม่ว่าสงั คมบ้าน สังคมเมอื งและสงั คมประเทศต่างๆท่ัวโลก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นประโยชน์ของการผูกไมตรีกบั นานาประเทศเพ่อื ความเจรญิ ก้าวหน้าม่นั คงของประเทศชาติบ้านเมือง พระองคจ์ งึ ไดเ้ สดจ็ ฯเยือนมติ รประเทศต่างๆทัว่ โลกดง่ั พระราชดารัสเนือ่ งในการเสด็จพระราชดาเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและยุโรป เมอื่ วันที่ ๑๓ มิถุนายนพทุ ธศกั ราช ๒๕๐๓ ตอนหนึง่ ว่า “…การผูกน้าใจกนั ไวน้ นั้ ธรรมดาญาติพ่ีนอ้ งก็ไปเยีย่ มถามทกุ ข์สุขกันละกัน แต่สาหรบั ประเทศน้ันประชาชนนบั แสนนับล้านจะไปเย่ยี มกนั กย็ าก เขาจึงยกใหเ้ ปน็ หน้าท่ขี องประมุข ในการเยย่ี มประเทศตา่ งๆข้าพเจ้าก็จะแสดงตอ่ ประชาชนของประเทศเหลา่ น้นั วา่ ประชาชนชาวไทยมีมิตรจิตมติ รใจตอ่ เขาเพื่อใหฝ้ า่ ยเขารจู้ กั เมอื งไทย และใหเ้ กิดมีนา้ ใจต่อชาวไทย…”รูปที่ ๑.๑ รปู ที่ ๑.๒ รปู ที่ ๑.๓ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั ไดส้ รา้ งความสัมพนั ธก์ ับนานาประเทศดว้ ยดเี สมอมา ตลอดระยะเวลาของการขึน้ ครองราชย์ โดยในระหวา่ งปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ถงึ ๒๕๑๐ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว พร้อมด้วยสมเดจ็ พระนางเจ้าสริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชินนี าถ ไดเ้ สด็จพระราชดาเนนิ เยือนประเทศตา่ งๆ ทั้งในทวปี เอเชยียโุ รป และอเมริกา รวม ๒๗ ประเทศ เพ่ือเป็นการเจริญพระราชไมตรีกบั บรรดามิตรประเทศเหลา่ นน้ั ให้มี

ความสมั พนั ธ์แนน่ แฟน้ ยงิ่ ข้ึนและเพื่อนาความปรารถนาดีของประชาชนชาวไทยไปมอบใหก้ ับประชาชนในประเทศต่างๆ โดยรายช่ือประเทศต่างๆ ท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั เสด็จพระราชดาเนนิ เยอื นมตี ามลาดับดงั น้ี • ประเทศเวียดนามใต้ (ซ่งึ ในสมัยนนั้ เวยี ดนาม ยังแบ่งออกเป็น ๒ ประเทศ คือ เวยี ดนามเหนือและเวียดนามใต้ ก่อนทจ่ี ะรวมเปน็ ประเทศเดยี วกนั ในปีพ.ศ. ๒๕๑๙ ) ระหวา่ งวนั ที่ ๑๘ – ๒๑ ธันวาคมพ.ศ. ๒๕๐๒ ในการเสด็จฯ เยือนครั้งนน้ั มีประชาชนและนักเรียนชาวเวียดนามโบกธงชาติท้งั สองประเทศเฝ้าฯรบั เสด็จดว้ ยความยนิ ดี ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวไดพ้ ระราชทานหีบเครอื่ งเขียนถมทองแก่ประธานาธบิ ดี และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถ ได้พระราชทานผา้ ไหมแก่ มาดาม โง ดนิ ห์ นยูเปน็ ทีร่ ะลกึ และมหาวิทยาลัยไซง่ อ่ น ได้ทลู เกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบณั ฑติ กติ ติมศักด์ิ ดา้ นกฎหมายแด่พระองค์ท่านด้วย โดยมรี ายละเอยี ดการเสดจ็ ฯเยือนเวียดนามอยา่ งเปน็ ทางการ ดงั นี้ การเสด็จฯ เยอื นเวียดนามในคราน้ัน อยใู่ นชว่ งทร่ี ะบอบคอมมวิ นิสตก์ าลังแผ่อิทธพิ ลเข้ามายงั เอเชยีตะวันออกเฉยี งใต้ ซง่ึ เวยี ดนามทางตอนเหนือกไ็ ด้เป็นสว่ นหนึง่ ของระบอบคอมมิวนสิ ต์ไปแล้ว ณ เวลาน้ันสหรัฐอเมริกาเข้ามามีบทบาทต่อการต่อตา้ นระบบคอมมิวนสิ ต์ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้อยา่ งมาก รวมถงึฯพณฯ จอมพล สฤษด์ิ ธนะรัชต์ ซึ่งเปน็ นายกรฐั มนตรใี นขณะนน้ั ก็ไดม้ นี โยบายต่อตา้ นระบอบคอมมิวนิสต์อย่างชัดเจน แต่พระองค์กท็ รงยืนยันทจ่ี ะเสดจ็ ฯ เยือนเวยี ดนามตามคากราบบังคมทลู เชิญของ ประธานาธบิ ดีโง ดนิ ห์ เดียม ในครั้งน้ันเสดจ็ ฯ ไปเยือนเพียงเวียดนามใต้ท่ียงั ปกครองดว้ ยระบอบประชาธปิ ไตยเทา่ น้นั ดังพระราชดารัสบางส่วนของพระองค์ท่ีวา่ “…ในการมาเยือนประเทศท่านครัง้ น้ี เราได้นาเอาไมตรีจิตและความปรารถนาดขี องประชาชนของเรามาด้วย ความรสู้ ึกอันนแ้ี สดงให้เหน็ ถงึ มติ รภาพท่ีมีมาอย่างผาสกุระหวา่ งประเทศของเราทั้งสองมาแตเ่ กา่ ก่อน การที่ ฯพณฯ ได้เคยไปเยอื นประเทศของข้าพเจา้ นัน้ ยังจากันได้อยา่ งชดั เจนและได้อย่างน่าช่ืนชมความมีน้าใจและความเข้าใจอนั ดขี องทา่ น ทาให้การไปเยอื นของทา่ นครง้ั นนั้เป็นผลสาเรจ็ อันยิ่งใหญ่ ข้าพเจ้ารูส้ ึกแน่ใจว่า การไปเยือนประเทศไทยของข้าพเจ้าคร้ังน้ี จะชว่ ยกระชับสมั พันธไมตรีอันมีมาแตเ่ กา่ ก่อนนใ้ี ห้ยงั่ ยนื สถาพรสบื ไป…” รูปที่ ๒ การเสด็จฯ ไปวางพวงมาลาที่ Bach Thao Park

จากน้ันได้พระองคไ์ ด้ประทบั รถยนต์พระที่นง่ั จากสนามบนิ ไปยงั ทป่ี ระทบั ตลอดสองข้างทางซึ่งรวมระยะทางกว่า ๑๐ กโิ ลเมตร เต็มไปด้วยซุม้ รบั เสดจ็ ไมต่ ่ากว่า ๒๐ ซุม้ ในซมุ้ มีทั้งภาษาไทยและเวียดนามอยา่ งเชน่ “ขอพระราชวงศ์จักรจี งสถาพร” “ขอให้สัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับเวยี ดนามจงเจริญ”พรอ้ มท้ังมีธงชาติไทยประดับคธู่ งชาตเิ วียดนามตลอดเสน้ ทาง ตลอดจนมีประชาชนมาเฝา้ ฯ รบั เสด็จอยา่ งเนืองแนน่สถานที่ท่ีทางรัฐบาลเวยี ดนามได้จดั ไว้ให้ประทบั ระหวา่ งวันที่ ๑๘ - ๑๙ ธนั วาคม ๒๕๐๒ อย่างเนอื งแนน่สถานท่ีที่ทางรัฐบาลเวยี ดนามได้จัดไวใ้ ห้ประทบั ระหว่างวนั ที่ ๑๘ - ๑๙ ธันวาคม ๒๕๐๒ อยทู่ ี่ “ดินห์ เจียลอง” ซง่ึ เดมิ เปน็ พระราชวงั ของกษตั รยิ เ์ วยี ดนามและในวนั ท่ี ๒๐ ได้จัดทป่ี ระทับใหเ้ ปน็ พระราชวังทเี่ มืองดาลดั • สาธารณรฐั อินโดนีเซยี ระหวา่ งวนั ที่ ๘ – ๑๖ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชินนี าถ หลงั จากทรงเสด็จฯเยือนเวยี ดนามแลว้ ไดเ้ สดจ็ ฯเยือนประเทศสาธารณรฐั อินโดนเี ซีย ตามคากราบบงั คมทูลเชญิ ของประธานาธบิ ดซี ูการ์โน ด้วยพระราชปณิธานอันแน่วแนท่ ่ีจะทรงผูกมติ รไมตรีกับนานาประเทศในฐานะตวั แทนของปวงชนชาวไทยและรฐั บาลไทย เพื่อเพ่ิมพนู และกระชบั สัมพันธไมตรี เพือ่ การแลกเปล่ียนความรูค้ วามเขา้ ใจและความรว่ มมอื อนั ดตี อ่ กนั เพื่อหระโยชนส์ ขุ ร่วมกนั สองประเทศ ซ่ึงนบั ว่าประชานชนชาวไทยและประเทศไทยไดร้ ับประโยชน์อย่างมาก จากการทพ่ี ระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเสด็จฯไปเยอื นประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซยี ทาให้ความสัมพนั ธ์ระหว่างประเทศทั้งสองมคี วามใกล้ชิดสนทิสนมและม่นั คงยงิ่ ข้ึน และดว้ ยพระราชจริยาวัตรอนั งดงาม ออ่ นโยนตลอดจนพระราชอัธยาศยัพระอจั ฉรยิ ภาพของทัง้ สองพระองค์ทท่ี รงแสดงออกถงึ ความปรารถนาดตี ่อเพือ่ นมนุษยชาตใิ นการทจ่ี ะให้ความอุดหนุนเก้ือกูลต่อกนั และกัน เพอื่ ความเจริญรุง่ เรืองเพอ่ื ความผาสุกและสนั ตสิ ุขของทัง้ สองประทศ ตลอดเวลาท่ีทั้งสองพระองค์ประทับอยใู่ นพระราชวังเนการาซง่ึ รัฐบาลอินโดนีเซียจัดถวายทรงไดร้ บั การตอ้ นรบั อย่างอบอุ่น ซ่งึ ประชาชนทงั้ สองประเทศมีความผูกพันกนั ทางเช้ือชาติ ศาสนาขนบธรรมเนียมประเพณี วฒั นธรรม สังคม การเมือง และเศรษฐกจิ มสี ว่ นคลา้ ยคลึงกนั เป็นการปพู น้ื ฐานความรว่ มมือเพื่อการอยรู่ ว่ มกันในฐานะเพื่อนบ้านท่ีดี วนั ที่ ๙ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๓ ประธานาธบิ ดซี ูการโ์ น จัดงานเลยี้ งพระกระยาหารคา่ถวายเปน็ พระเกยี รตยิ ศ ทีว่ งั เมอร์เดกา ประธานาธิบดีกราบถวายบงั คมทูลว่า “ ประชาชนชาวอนิ โดนีเซีย ต่างชืน่ ชมยินดที ่ไี ด้มีโอกาสรับเสด็จฯการเสดจ็ ฯมาเยียนของทัง้สองพระองค์ ไมเ่ พียงแตจ่ ะทาใหม้ ิตรภาพของประเทศทัง้ สองเปน็ มิตรภาพที่คงอยู่ชั่วนริ ันดร หากแต่เป็นการกระชับมติ รภาพนั้นให้แน่นแฟ้นย่งิ ขึ้นด้วย ” พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว มพี ระราชดารัสตอบขอบใจและทรงกล่าวถึงความสมั พันธร์ ะหว่างทั้งสองประเทศอันแสดงถึงพระปรีชาญาณอนั สุขุมคัมภีรภาพ มคี วามตอนหน่ึงว่า

“ ชาวเอเชยี ได้หันมาพ่งึ พาซ่งึ กนั และกัน ดงั น้ันในความพยายาม ควรจะให้ประชาชนทั้งสองประเทศมีความใกลช้ ดิ กันมากยิ่งขน้ึ ดว้ ยมติ รภาพและความมั่นใจซึง่ กนั และกนั ดว้ ยเจตนารมณ์ที่ดตี ่อกันประเทศของทา่ นซ่ึงมีความอดุ มสมบูรณด์ ว้ ยทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรมนุษยแ์ ละเหมืองแร่จะสามารถทางานร่วมกันบนพื้นฐานของมิตรภาพ และการเคารพซึ่งกันและกัน เพอ่ื ใหช้ าติของเรามคี วามเป็นอยู่ดขี ึ้น และเจริญรุ่งเรืองขน้ึ ข้าพระเจ้าเช่อื ว่าความสัมพันธ์อนั ผาสกุ ระหว่างประเทศของเราท้งั สองจะเจรญิ งอกงามข้ึนอย่างแข็งแกร่ง และกอ่ ใหเ้ กดิ เอกภาพ และความเขา้ ใจซ่งึ กนั และกนั โดยถอ่ งแท้ขอให้ท่านประธานาธิบดีเช่อื ม่ันวา่ ความพยายามใดๆท้งั ส้นิ ทขี่ า้ พเจา้ จะได้กระทานั้นเปน็ การมุ่งไปสู่จดุ หมายน้ี ซ่ึงในการเสด็จฯ เยือนได้ทรงพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณช์ ั้นสูงให้แกป่ ระธานาธิบดีซกู าร์โนประธานาธิบดคี นแรกของอินโดนเี ซยี และรัฐมนตรีคนสาคญั ๆของอินโดนีเซยี ทางมหาวทิ ยาลยั กัดจาห์มาดาเมืองจ๊อกจาการต์ า ซ่งึ เปน็ มหาวทิ ยาลัย ทโ่ี ดง่ ดงั มชี ือ่ เสยี งมาก ได้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดษุ ฎีกิตตมิ ศักดิ์แด่พระองคท์ า่ น • สหภาพพมา่ ระหวา่ งวันที่ ๒ – ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั และสมเด็จพระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ ีนาถ เสดจ็ ฯเยอื นประเทศสหภาพพมา่ ซ่ึงประเทศไทยกับประเทศสหภาพพม่ามีความสัมพนั ธท์ างการทูตอันราบรน่ื ต่อกันมาตงั้ แต่ปีพุทธศักราช ๒๔๙๑ การเสดจ็ ฯในคร้ังนี้ถือได้วา่ เป็นเหตกุ ารณอ์ ันสาคัญอยา่ งยิง่ ทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยและพม่า เปน็ การสรา้ งความสมั พันธไมตรรี ะหวา่ งประชาชนชาวไทยกบั ประชาชนชาวพม่า ในฐานะที่พระองค์ทรงทาหนา้ ท่ีแทนปวงชนชาวไทย แม้การเสดจ็ เยือนพม่าจะมีเวลาส้ันเพียง ๔ วนั แตก่ ็เป็นประโยชนอ์ ย่างมากในแงท่ ่ีเป็นการวางรากฐานความสมั พันธฉ์ ันท์พ่นี ้องของท้ังสองประเทศ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงประชาชนทัง้ สองประเทศตา่ งนบั ถือพระพุทธศาสนา และยดึ มน่ั เลื่อมใสศรัทธาในสัจธรรมของพุทธศาสนาอย่างเคร่งครดั รวมท้ังมคี วามยึดม่ันในสนั ติและเสรีภาพ ตลอดจนการใหค้ วามร่วมมือต่อกันตลอดมา นอกจากนั้นการเสดจ็ ฯเยือนประเทศสหภาพพมา่ ของทง้ั สองพระองคย์ ังเป็นการกระชบั สายสัมพนั ธ์ของทง้ั สองประเทศใหห้ นักแน่นมนั่ คงทั้งในด้านความสามัคคี ขนบธรรมเนยี มประเพณวี ฒั นธรรม และศาสนาพทุ ธ วิถชี ีวขิ องทงั้ สองประเทศคล้ายคลึงกนั ประชาชนไปมาติดตอ่ กัน อนั นาไปส่คู วามสงบสุข ความเขา้ ใจอนั ดตี ่อกันและการให้ความร่วมมือกันเพื่อก่อใหเ้ กิดความสันตสิ ขุ ในภมู ิภาคนี้ ในการเสด็จฯ เยือนประเทศสหภาพพมา่ ครั้งนนั้ ทาใหป้ ระชาชนชราพมา่ ร้จู ักประเทศไทยดียิ่งขน้ึตา่ งก็พากันซาบซง้ึ ทปี่ ระเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ทที่ รงมีพระราชจริยาวัตรอันงดงาม ทรงมพี ระราชอัธยาศัยอันเปยี่ มล้นดว้ ยคุณธรรม ทรงมีพระราชปฏภิ าณอนั สุขุมลา้ เลิศ ทรงเปน็ ที่รักและเป็นศนู ย์รวมศรทั ธาของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ และย่ิงไปกวา่ นั้น ท้งั สองพระองคเ์ ป็นที่ประทบั ใจแกป่ ระชาชนชาวพม่าเป็นอยา่ งย่งิ หนังสือพิมพ์ The Nation ของพมา่ ได้กล่าวคาที่เป็นภาพลกั ษณส์ ะท้อนความคิดไวอ้ ยา่ งลึกซง้ึ วา่

“ ประมาณหน่งึ ศตวรรษที่ผ่านไปน้ี พมา่ กม็ ีกษัตริยด์ ว้ ยเหมือนกันทเี่ มืองมัณฑะเลย์มอี นุสาวรียพ์ ระมหากษัตริย์อยพู่ ระองค์หนึ่งซงึ่ ประทบั อยู่บนบลั ลังกย์ ูงทอง แต่ทว่าโอกาสท่พี มา่ จะมีกษัตริย์อยา่ งประเทศไทยอกี นัน้ ดจู ะเป็นความหวังทห่ี ่างไกลเหลือเกิน” ในการเสด็จฯ ในคร้ังนั้นไดร้ ับการต้อนรบั อย่างดี ยิ่งใหญ่ที่สุดเทา่ ท่ีเคยมมี า ซ่ึงยังไมเ่ คยมีแขกบ้านแขกเมืองใดได้รบั เกียรติไดเ้ ท่าพระองค์ รปู ที่ ๓ หลังจากนั้นทั้งสองพระองค์ได้เสดจ็ ฯไปยงั ทาเนยี บประธานาธิบดพี มา่ ซึ่งทางฝา่ ยรฐั บาลพมา่ ได้จัดไว้เปน็ ทปี่ ระทับ และเสด็จฯ ไปยังหอ้ งรับแขกเพอื่ ให้ประธานาธิบดอี ู วิน หม่อง ได้เข้าเฝา้ ฯ ทลู เกล้าฯ ถวายเครื่องราชอิสริยาภรณช์ น้ั สงู สดุ ของพมา่ ทีช่ อ่ื ว่า “อคั รมหาสิริสุธรรมา” แดพ่ ระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช พระองค์ทา่ นก็ได้พระราชทานเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณป์ ฐมจลุ จอมเกลา้ เปน็ การตอบแทนหลงัจากนัน้ เสด็จฯ ไปทรงวางพวงมาลา ทส่ี ุสานอาซานี หรือสุสานวรี ชน ที่บรรจศุ พวรี ชนของชาติซ่งึ เสยี ชวี ิตเมือ่ครง้ั พม่าไดร้ บั เอกราชใหม่ๆ อาทิ อู อองซาน บดิ าออง ซาน ซจู ี วนั รงุ่ ขน้ึ คือวันท่ี ๓ มนี าคม ๒๕๐๓ ทัง้ สองพระองคฉ์ ลองพระองค์ตามแบบราชประเพณีไทยเพื่อเสด็จฯ ไปยงั มหาเจดยี ช์ เวดากอง รูปที่ ๔

ซงึ่ ทงั้ สามประเทศท่ีไปเยือนล้วนเปน็ เพอ่ื นบา้ นกับไทยทงั้ สิ้น จากน้นั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวภูมิพลอดุลยเดช เสดจ็ พระราชดาเนิน ตามพระราชภารกิจ อันยง่ิ ใหญ่ ทใ่ี ชร้ ะยะเวลานานถงึ ๖ เดือน พระองคจ์ ึงมีกระแสพระราชดารสั อาลาประชาชนชาวไทยดว้ ยความหว่ งใย เม่ือวันท่ี ๑๓ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๐๓ ความว่า “ประชาชนชาวไทยท้ังหลาย เมือ่ ปใี หม่ข้าพเจ้าได้แจง้ ใหท้ ราบ แลว้ ว่า ประเทศต่างๆ ไดเ้ ชิญให้ไปเยี่ยมเป็นราชการ บดั นถี้ ึงกาหนดทข่ี ้าพเจา้ และพระราชนิ จี ะไปประเทศเหลา่ นน้ั พรุง่ นี้จะออกเดินทางจากกรงุ เทพฯ ไปยงั สหรัฐอเมริกาก่อน แล้วจะไปประเทศอ่นื ๆ ในยุโรปอีก ๑๓ ประเทศด้วยกนั การไปต่างประเทศคราวนี้ กไ็ ปเป็นราชการแผน่ ดิน เปน็ การทาตามหน้าที่ของข้าพเจา้ ในฐานะเปน็ ประมขุ ของประเทศ เปน็ ท่ีทราบกนั อยแู่ ลว้ วา่ ในสมยั น้ปี ระเทศต่างๆ ไม่ว่าใหญ่หรอื เลก็ ตา่ งตอ้ งพ่งึ พาอาศยั กันอยู่เสมอ จะวา่ ชนทกุ ชาติเป็นญาติพ่ีน้องกันกว็ า่ ได้ จึงควรพยายามให้รูจ้ ักนิสยั ใจคอกัน ทง้ั ต้องผูกน้าใจกนั ไว้ให้ดดี ้วย การผกู น้าใจกันไว้นนั้ ธรรมดาญาตพิ ีน่ ้องก็ไปเย่ียมถามทกุ ขส์ ุขซ่งึ กนั และกัน แต่สาหรบั ประเทศน้นั ประชาชนนบั แสนล้าน จะไปเยี่ยมกันก็ยาก เขาจึงยกใหเ้ ป็นหนา้ ทข่ี องประมขุ ในการไปเยีย่ มประเทศตา่ งๆ ขา้ พเจ้าก็จะแสดงต่อประชาชนของประเทศเหลา่ น้ันว่า ประชาชนชาวไทยมีมิตรจติ มิตรใจตอ่ เขา และขา้ พเจา้ จะพยายามเตม็ ทเี่ พอื่ ใหฝ้ า่ ยเขารูจ้ กั เมืองไทย และให้เกิดมีน้าใจดีตอ่ ชาวไทย ข้าพเจ้าจะลาท่านไปเป็นเวลาราว ๖ เดือน กเ็ ป็นธรรมดาท่ีนึกห่วงใยบ้านเมือง จึงใคร่จะตักเตอื นทา่ นทงั้ หลายว่า ขอใหต้ ัง้ หนา้ ทาการงานของทา่ นใหเ้ ต็มที่ในทางที่ชอบท่ีควร ตั้งตัวต้ังใจใหอ้ ยู่ในความสงบจะไดเ้ กิดผลดีแก่ตวั ทา่ นเอง และแกบ่ ้านเมอื งซง่ึ เปน็ ของเราดว้ ยกันทกุ คนขออวยพรใหม้ ีความสขุ สวสั ดีท่วั กัน” • สหรฐั อเมริกา ระหวา่ งวันท่ี ๑๔ มิถนุ ายน – ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ เม่อื ๕๓ ปีก่อน พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั และสมเดจ็ พระบรมราชินนี าถเสด็จเยอื นสหรฐั อเมรกิ าพร้อมพระราชโอรส พระราชธิดา และผเู้ สดจ็ ตามอีกหลายท่าน โดยเมอื งแรกทเี่ สดจ็ ถึงคือเกาะฮาวายและทรงประทับทโี่ รงแรมรอยัลฮาวายเอยี น ต้งั แต่วันที่ ๑๔ – ๑๘ มถิ นุ ายน ตอ่ มาเสด็จไปยังลอสแอนเจลิสประทับที่พระตาหนัก Orange Oak Ranch ต้ังแตว่ นั ที่ ๑๘-๒๗ มถิ นุ ายน และเสดจ็ ไปทอดพระเนตรโรงถ่ายหนงั บริษัทพาราเมาวนซ์ ึ่งขณะน้ันกาลังถา่ ยทาภาพยนตร์เรื่องG.I. Blues รูปท่ี ๕

วนั ตอ่ มาเสดจ็ ฯไปท่ดี ิสนียแ์ ลนด์พรอ้ มพระราชโอรสพระราชธิดา โดยมนี ายวอลทด์ ิสนีย์ รบั เสด็จฯต่อมาวันที่ ๒๗ มถิ นุ ายน เสด็จไปพิตสเบิก เพนซลิ เวเนีย และวันท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน – ๒ กรกฎาคมเสดจ็ ฯถงึ กรงุ วอชงิ ตัน ด.ี ซีและมสิ ซิสไอเซน็ เฮาวจ์ ดั ถวาย รปู ที่ ๖ ตอ่ มาเสด็จฯไปบา้ น จอรจ์ วอชงิ ตนั ประธานาธบิ ดคี นแรกของอเมรกิ าท่ีตาบลเวอร์จเิ นีย และวนั ที่๒ – ๔ กรกฎาคม เสดจ็ ถงึ วลิ เล่ียมสเบกิ เวอร์จเิ นยี ในวันท่ี ๔-๗ กรกฎาคม เสดจ็ ถงึ นครนวิ ยอรก์ ทรงประทบับนรถยนต์ในขบวนแห่Ticker Tape ทา่ มกลางประชาชนมากมายที่มาเขา้ เฝ้ารับเสดจ็ ฯและปากระดาษสายรุ้งจากตกึ ต้อนรับ รายงานจากหนงั สือพิมพใ์ นตอนนน้ั กลา่ วว่า มีผู้คนมาเขา้ เฝ้าตามท้องถนนถงึ ๗ แสนคนขณะท่ีผสู้ อ่ื ข่าวในมหานครนิวยอร์ก กล่าวถงึ พธิ กี ารถวายการต้อนรบั ไว้วา่ “ขบวนแหท่ ี่มีการโปรยลกู ปาและสายรงุ้ซ่ึงจดั ถวายพระมหากษัตรยิ ์ไทย เปน็ การแสดงการต้อนรับทอี่ บอุ่นและถวายเกยี รตยิ ศสูงสุดคร้งั หน่ึงทชี่ าวนวิ ยอร์กไดเ้ คยจัดตอ้ นรับอาคนั ตุกะผู้มีเกียรติ”รูปที่ ๗.๑ รูปท่ี ๗.๒

และวันท่ี ๗ – ๘ กรกฎาคม เสดจ็ ฯถงึ บอสตนั แมสสาชูเสตต์ พระองค์ได้เสดจ็ ฯไปมหาวิทยาลยั ฮาร์เวดิที่สมเด็จพระราชบิดาเคยทรงศึกษาแพทยศาสตร์ทรงพระราชทานพระฉายาลักษณส์ มเด็จพระราชบิดาใหท้ างมหาวิทยาลยั ในสมัยประธานาธิบดี ดไวต์ ดี ไอเซนฮาวร์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ได้พระราชทานเคร่อื งราชอสิ ริยาภรณม์ หาจกั รีบรมวงศ์ อันเปน็ เครอ่ื งพระราชทานเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์สูงสุดแด่ประธานาธบิ ดี ไอเซนฮาวร์ และเสดจ็ ฯ ไปทรงเย่ยี มสถานทท่ี ่ีพระองค์ทรงพระราชสมภพ ณ โรงพยาบาลเมาท์ ออเบริ น์ เมืองบอสตนั รัฐแมสซาชูเชตต์ ท้ังยังพระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหศ้ ลิ ปินช่ือดงัอยา่ งเอลวสิ เพรสลยี ์ เขา้ เฝ้าฯ และได้พระราชทานสัมภาษณแ์ ก่ส่ือมวลชน นครลอสแอนเจลลสิเมื่อวันท่ี ๒๑ มถิ นุ ายน พ.ศ.๒๕๐๓ ความวา่ “การเสด็จมาเยือนสหรฐั อเมรกิ า คราวน้ีเปน็ การเสด็จเยย่ี มทางราชการประเทศไทยกบั สหรฐั อเมริกามีสมั พันธไมตรตี อ่ กนั มายาวนานกว่าร้อยปแี ล้ว ประชาชนชาวไทยทม่ี ีอยู่ ๒๔ ลา้ นคน ไม่อาจจะมาแสดงสนั ทวไมตรตี ่อสหรัฐอเมริกาถึงที่น่ไี ด้ทุกคน ข้าพเจ้าจึงได้มาในฐานะผแู้ ทนของเขา เพ่ือจะได้พบปะวสิ าสะกบั ประชาชนชาวอเมริกัน” • ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ โดยสมเดจ็ พระราชินีนาถอลซิ าเบธท่ี ๒ ได้ถวายเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์รอยลั วกิ ตอเรยี แด่พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั ซ่งึ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั มกี ระแสพระราชดารสั สดุดีรัฐสภาองั กฤษว่า “เป็นปอ้ มปราการอันสาคัญแหง่ เสรภี าพและประชาธปิ ไตย” ในวาระเสร็จส้นิ การเสด็จพระราชดาเนินเยือนประเทศอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั ยงั มีพระราชหัตถเลขาต่อสมเดจ็ พระราชินีนาถ อลิซาเบธที่ ๒ ความตอนหนึ่งว่า “พระราชนิ แี ละหม่อมฉันไม่สามารถท่ีจะจากประเทศอังกฤษไป โดยมิได้แสดงความรสู้ ึกซาบซ้งึในพระมหากรุณาธคิ ุณและความชื่นชมยนิ ดตี ่อพระบาท ความเปน็ มติ รท่ฝี า่ พระบาทและดยุกแห่งเอดนิ บะระตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์และพสกนิกรชาวอังกฤษ ได้ทรงแสดงตอ่ หมอ่ มฉันและพระราชินีนน้ัเปน็ ท่ีประทบั ใจยิง่ และคงอยใู่ นความทรงจาเสมอมลิ มื เลือน” “การแสดงออกซง่ึ ความรสู้ ึกฉันมิตรเช่นนม้ี าจากประชาชนอังกฤษเองโดยพร้อมเพรยี งกันเป็นการตอบสนองความปรารถนาดีของประชาชนชาวไทย หม่อมฉันตระหนักในพระมหากรุณาธิคณุ อย่างสดุ ซงึ้และไม่ลมื ท่จี ะแจ้งให้ประชาชนของหม่อมฉันได้ทราบ หม่อมฉันมัน่ ใจว่าการเดนิ ทางมายังประเทศองั กฤษนั้นจะชว่ ยให้ประเทศของเราท้ังสองและพระราชวงศ์ทัง้ สองมีความใกลช้ ิดสนทิ สนมกนั มากข้ึน เพอ่ื ผลประโยชน์รว่ มกัน”

• สหพันธส์ าธารณรฐั เยอรมัน ระหวา่ งวนั ที่ ๒๕ กรกฎาคม – ๒ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ ในการเสดจ็ เยอื นประเทศเยอรมนี อนั เป็นการถวายการต้อนรบั ซึ่งเป่ียมด้วยไมตรีจติ ตอ่ ท้ังสองพระองค์อยา่ งมาก เมื่อชาวเยอรมนั ตา่ งพากนั มาเฝา้ อยา่ งล้นหลาม รอ้ งถวายพระพรกันอย่างกกึ กอ้ งแมเ้ ม่ือเสด็จฯ เข้าท่ีประทับก็ยงั ไม่ยอมกลบั จนท้ังสองพระองค์ต้องเสดจ็ ฯ ออกให้ผ้ทู เ่ี ฝ้ารอไดช้ ่ืนชมพระบารมีกนั อีก ถึง 3 คร้งั ดังท่ีสมเด็จพระนางเจา้ สริ ิกติ ์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ ทรงตรัสไว้วา่ “ขา้ พเจา้ นึกไม่ถึงจริงๆ ที่ชาวเยอรมนั จะสนใจต่อเราขนาด ไมน่ ึกถงึ ความสบายสว่ นตวั ยอมอดหลับอดนอนทรมานรา่ งกายรอเราอยู่เป็นชัว่ โมงๆ เพ่ือทจ่ี ะไดเ้ ห็นเราเพียงครู่เดียว เป็นเหตุการณท์ ีน่ า่ ประทบั ใจท่ีสุด ซ่งึ พระเจา้ อยหู่ ัวและข้าพเจา้ จะลมื เสียมิได้ นึกถึงครัง้ ใดจะต้องปลาบปลมื้ และอบอุ่นในใจเสมอมา” ในการเสด็จเยือนประเทศเยอรมัน พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ภมู ิพลอดลุ ยเดช ไดท้ อดพระเนตรการต่อเรือเร็ว เนอื่ งจากทรงเลง็ เหน็ วา่ ในขณะน้นั ประเทศไทยต้องการเรือเรว็ ขนาดเล็กทมี่ คี วามคล่องตัวสูงเปน็ พเิ ศษ เพ่ือใช้ลาดตระเวนชายฝ่ัง รักษาความม่นั คงของประเทศ เมอื่ ทรงเสดจ็ กลับพระนคร จึงมีรับสัง่ ให้ต่อเรอื เร็วรักษาชายฝงั่ ข้ึน จนเป็นผลสาเรจ็ ในปีต่อมา คือ เรือ ต. 91 หลงั จากนน้ั ก็ได้มรี ับสง่ั กรมอู่ทหารเรือให้ตอ่ เรือตรวจการใกลฝ้ ง่ั และเรอื รบที่ใช้ในราชการ ซงึ่ เป็นเรือทสี่ ง่ั จากต่างประเทศ ดังนั้นการทสี่ ามารถตอ่ เรือราชการได้เองเชน่ นี้ นบั เปน็ ความเจริญก้าวสาคญั ของกองทัพเรือ รูปที่ ๘ • สาธารณรัฐโปรตุเกส ระหว่างวันท่ี ๒๒ – ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ • ประเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์ ระหวา่ งวันที่ ๒๙ – ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ • ประเทศเดนมาร์ก ระหว่างวันที่ ๖ – ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๓ ซึง่ พระเจ้าเฟรเดรคิ กบัพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความสมั พันธใ์ กล้ชิดกันมาก ในตอนทเ่ี สด็จเยือนประเทศเดนมารค์ ทง้ั สองพระองค์ไดเ้ สด็จพระราชดาเนนิ ไปยังฟาร์มปศสุ ัตว์และได้ทอดพระเนตรชมเครื่องท่นุ แรงทางการเกษตร และโคนมพนั ธแ์ุ ทข้ องเดนมารค์ ต่อมากจิ การฟาร์มโคนมไทย-เดนมารค์ จึงได้ถอื กาเนิดขึน้ ทอ่ี าเภอมวกเหลก็ จงั หวดั สระบุรี

รูปที่ ๙ • ประเทศนอรเ์ วย์ ระหวา่ งวันท่ี ๑๙ – ๒๑ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๐๓ • ประเทศสวีเดน ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๓ • สาธารณรฐั อิตาลี ระหวา่ งวนั ที่ ๒๘ กันยายน – ๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๐๓ • นครรฐั วาตกิ ัน เม่ือวนั ที่ ๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๐๓ • ประเทศเบลเยียม ระหวา่ งวนั ท่ี ๔ – ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ พระเจ้าโบดวง ทรงมคี วามรักใครส่ นิทสนมกับพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั เม่อื ทรงทราบข่าวว่าพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวเสดจ็ ฯมายุโรปจะทรงโทรศัพท์ ทูลเชญิ ให้ไปประทับเป็นแขกส่วนพระองค์ท่ีกรงุ บลสั เซลสเ์ สมอ • สาธารณรัฐฝรงั่ เศส ระหว่างวนั ที่ ๑๑ – ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ • ประเทศลักเซมเบริ ์ก ระหว่างวนั ท่ี ๑๗ ตลุ าคม – ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ ประเทศลักเซมเบริ ์กแม้จะเป็นประเทศเล็กก็จรงิ แตป่ ระชานชนมีน้าใจไมตรอี นั ดยี ง่ิ ต่อราชอาคนั ตุกะทม่ี าเยอื น • ประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๔ – ๒๗ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๐๓ พระราชินีจเู ลยี น่าแหง่ เนเธอร์แลนดืถวายการต้อนรบั อยา่ งสมพระเกยี รติ • ประเทศสเปน ระหวา่ งวันที่ ๓ – ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๓

• สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ระหวา่ งวนั ท่ี ๑๑ – ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ ีนาถ เสดจ็ ฯเยอื นสาธารณรฐัอสิ ลามปากสี ถาน ตามคากราบบงั คมทลู เชญิ ของประธานาธบิ ดีจอมพลโมฮมั เม็ด อายบุ ข่าน และรฐั บาลปากีสถาน ประเทศปากีสถานเปน็ เป็นประเทศใหม่ซึ่งแยกตัวออกมาจากอินเดยี ไดเ้ พียง ๑๔ ปกี บั ๗ เดือนเทา่ นัน้ แต่ความสัมพนั ธ์ระหว่างประเทศปากสี ถานกบั ประเทศไทยฝงั รากลกึ มายาวนานก่อนหน้านน้ั แลว้ประเทศปากสี ถาน แม้จะเปน็ ประเทศเกดิ ใหม่ แตม่ ีความม่ันคงข้ึนเรื่อยมา ด้วยปณิธานร่วมกนั ในด้านต่างๆทัง้ ในด้านเศรษฐกจิ การศาสนาและวฒั นธรรม จะเหน็ ไดจ้ ากสนธสิ ญั ญามติ รภาพ ซ่งึ ลงนามร่วมกนั ในเดือนธนั วาคม พุทธศักราช ๒๕๐๓ การเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ และองค์การสนธิสัญญาเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้หรอื ซโี ต้ (SEATO) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ ีนาถ เสดจ็ ฯเยอื นประเทศปากสี ถานในครั้งน้ี เพื่อประสานประโยชน์แนวความคดิ ที่จะอยู่รว่ มกันดว้ ยท้ังสองประเทศมีลกั ษณะที่คล้ายคลึงกนั ในด้านดารรกั ความสงบในธรรมชาติ ไมต่ ้องการรุกรานผู้ใด โดยเฉพาะอย่างย่ิงขณะน้นั ประเทศปากสี ถานกาลงั เกิดความสบั สน และลดความมุ่งมัน่ ในการเปน็ สมาชกิ องค์การสนธสิ ัญญาเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ซงึ่ เป็นผลเสยี ต่อความหวังในความม่ันคงและสนั ติสขุ ตลอดจนความเจริญก้าวหน้าในภมู ภิ าคน้ีโดยเฉพาะประเทศไทยในทสี่ ุดได้ การเสด็จฯเยอื นประเทศปากีสถานของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชนิ ีนาถ ทางรฐั บาลปากสี ถานได้ถวายการต้อนรับอย่างมโหฬารสมพระเกียรติ ประชาชนชาวปากสี ถานต่างมารอคอยเฝา้ รบั เสด็จฯอย่างเนืองแน่นตามเส้นทางเสด็จพระราชดาเนนิ ผ่าน ท้งั สองพระองค์ทรงสร้างประทับใจและความเข้าใจอนั ดี ดว้ ยพระราชจริยาวัตรอนั นุม่ นวลออ่ นโยน เม่ือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ ีนาถ เสดจ็ ฯถงึ สนามบนิ การาจี ประธานาธิบดี อายบุ ข่านมารับเสด็จฯไปยังทาเนียบประธานาธบิ ดี ซง่ึ รัฐบาลปากสี ถานจดั ถวายเปน็ ทป่ี ระทบั ในระหวา่ งเสด็จฯเยือนประเทศปากีสถาน ณ ท่ีประทับน้นั มพี ิธรี บั เสด็จฯจัดถวายพระเกียรติยศโดยมีข้าราชการผใู้ หญ่ฝ่ายปากสี ถานและขา้ ราชการผใู้ หญฝ่ า่ ยไทยรวมอยู่ดว้ ย • สหพันธรัฐมลายา ระหว่างวันท่ี ๒๐ – ๒๗ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๐๕ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั และสมเด็จพระนางเจา้ ฯพระบรมราชินนี าถ เสดจ็ ฯเยอื นประเทศสหพันธรัฐมลายาเปน็ ทางการ (ปัจจบุ ันคอื ประเทศมาเลเซยี ) พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ทรงมคี วามเช่อื ม่นัในมิตรไมตรอี ันดีตอ่ กนั ระหว่างประเทศทั้งสองซงึ่ มมี าเป็นเวลาชา้ นาน ประเทศไทยกับประเทศสหพันธรฐัมลายา มคี วามคล้ายคลงึ ในด้านลักษณะสภาพภมู ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรมประเพณีตลอดจนอุปนสิ ัย อดุ มการณ์ประชาธิปไตย การรักความสงบสันติและความเจริญก้าวหน้าของภมู ิภาคเอเชียและของโลก อีกทัง้ ประเทศสหพนั ธรัฐมลายาเปน็ สมาชกิ องคก์ ารสนธิสญั ญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสมาคมเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ด้วย จึงทาให้ท้งั สองประเทศมีความผูกพันกันอย่างแนน่ แฟ้นและมีความ

ใกลช้ ดิ สนิทสนมกนั อย่างแนบแนน่ โดยเฉพาะความสัมพนั ธ์เกย่ี วกบั พระราชวงศข์ องท้ังสองประเทศและผู้นาของรฐั บาล การเสด็จฯเยอื นประเทศสหพันธรฐั มลายาของล้นเกล้าฯท้ังสองพระองค์ ได้รบั การต้อนรับจากประชาชนชาวมลายาอย่างมโหฬารอยา่ งไมเ่ คยมีมาก่อน ในวนั ทที่ ้งั สองพระองค์เสด็จฯถงึ ประชาชนชาวมลายาแสดงความช่นื ชมยินดี ต่างพากนั รอคอยรบั เสด็จฯอย่างลน้ หลาม ต่างโหร่ อ้ งถวายพระพรตลอดระยะทางที่เสดจ็ ฯจนถงึ ทป่ี ระทบั ณ วงั เตตามู หนงั สือพิมพ์ในกัวลาลัมเปอร์ พาดหัวข่าวการเสดจ็พระราชดาเนนิ พรอ้ มลงภาพพระบรมฉายาลกั ษณ์ พระราชประวตั ิ ละพระราชจริยาวตั รของทั้งสองพระองค์อยา่ งละเอียด ทาใหป้ ระชาชนชาวมลายาร้จู ักประเทศไทยดยี ่ิงขึ้น วันท่ี ๒๐ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๐๕ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัวและสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ ีนาถ เสด็จพระราชดาเนนิ โดยเคร่อื งบนิ พระทน่ี งั่ ถงึ อากาศยานเมืองกวั ลาลัมเปอร์ ทรงไดร้ บัการตอ้ นรบั อยา่ งสมพระเกยี รติ กษตั ริยแ์ ห่งสหพันธรฐั มลายา ยัง ดี เปอตวน อากง พระราชินปี ระไหมสุหรีพรอ้ มด้วย ตวนกู อบั ดุล ราห์มาน นายกรฐั มนตรี ข้าราชการช้ันผู้ใหญ่ เอกอัครราชทตู ไทยประจาสหพันธรฐั มลายาและครอบครวั ประชาชนชาวมลายาทีถ่ วายการต้อนรับเปล่งเสยี งถวายพระพรเสียงดงั สนัน่ ธงชาตไิ ทยกบั ธงชาตมิ ลายาโบกสะบัดปลวิ ไสวนบั รอ้ ยนบั พัน กษตั ริย์แหง่ สหพันธรัฐมลายากล่าวรับเสด็จฯวา่ประชาชน ชาวมลายาทุกคนมคี วามปติ ิยินดเี ป็นอย่างยิ่ง ในการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินนี าถเสด็จฯเยย่ี มประเทศสหพนั ธรฐั มลายาในคร้งั นี้นบั ตง้ั แต่สหพนั ธรัฐมลายาได้รับเอกราช เป็นตน้ มา กไ็ ด้มโี อกาสรบั เสด็จฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วัและสมเด็จพระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ นี าถ แหง่ ประเทศไทย ซงึ่ เปน็ ประเทศเพอื่ นบ้านและมติ รที่ดขี องสหพันธรัฐมลายาเปน็ ครัง้ แรกและทรงหวงั ว่าทง้ั สองพระองคจ์ ะทรงเกษมสาราญ และขอได้ทรงตระหนกัในความรสู้ กึ อันเปน็ มิตรโดยบรสิ ทุ ธ์ิใจท่ีสหพันธรัฐมลายามีต่อทั้งสองพระองค์ ตลอดจนประเทศไทยและประชาชนชาวไทยด้วย ตอ่ จากนน้ั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวและกษัตรยิ แ์ ห่งสหพันธรฐั มลายา ประทบั รถยนต์พระทีน่ ่งัร่วมกนั หนงึ่ คนั ส่วนสมเด็จพระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ นี าถกบั พระราชินีประไหมสหุ รี เสดจ็ ฯอกี คนั หน่ึง ยงั ดี เปอตวน อากง กษัตรยิ แ์ ห่งสหพนั ธรฐั มลายาและพระราชินี ทรงจดั งานเลย้ี งพระกระยาหารคา่ถวายเป็นพระเกียรติ และมีพระราชดารสั แสดงความยินดีท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดาเนนิ มาเยอื น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัว มพี ระราชดารสั ตอบพระทัยกษัตริยแ์ หง่ สหพนั ธรัฐมลายาตอนหนงึ่ ว่า “…ประเทศของเราทั้งสองได้สร้างสัมพนั ธภาพฉนั ท์มิตรมาเป็นเวลานาน นอกจากจะเป็นเพอ่ื นบ้านท่ีดแี ละใกลช้ ดิ กนั แล้วยงั จะยึดถอื ในส่งิ ทีเ่ ป็นผลประโยชน์ของชาติเหมือนกนั หลายประการ ประเทศทงั้ สองนี้ต่างอยใู่ นภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ และอยู่ในจุดยทุ ธศาสตรข์ องภมู ิภาคเชน่ กันเมื่อเหตุการณ์สาคญัอันหนง่ึ เกดิ ขน้ึ แกป่ ระเทศหนึ่งย่อมมผี ลต่ออีกประเทศหนึง่ ดว้ ย ประเทศของเราทงั้ สองต่างภคภูมิใจในการ

มีวฒั นธรรมและธรรมเนียมประเพณเี ป็นของตนเองและในขณะที่ต้องปรบั ตัวให้เข้ากบั การสมยั เราควรสามารถสงวนรักษาธาตุแท้ท่ีสาคญั ของเราไวไ้ ด้โดนการนี้ประชาชนของเราทง้ั สองจึงมคี วามรสู้ ึกว่ามีบรรพบรุ ษุ ร่วมกันซง่ึ เป็นที่ก่อให้เกิดความรู้สึกกลมเกลยี วกันและเขา้ ใจกนั …” วันที่ ๒๖ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๐๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั และสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินนี าถ ทรงเปน็ เจา้ ภาพเลี้ยงพระกระยาหารค่า แบบบุฟเฟ่ถวายเพื่อเป็นเกียรตแิ ดป่ ระมุขแห่งสหพนั ธรฐั มลายาและพระราชินี ณ สถานเอกอคั รราชทตู ไทยประจาสหพันธรฐั ลายา ในระหว่างงานเลย้ี งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั ทรงกลา่ วคาปราศรัย ทรงขอบพระทัยกษัตริย์แหง่ สหพนั ธรฐั มลายา ท่ใี ห้การต้อนรบั อยา่ งอบอุ่นดว้ ยไมตรีจติ มิตรภาพอย่างดียิง่ ทรงช่นื ชมความเจรญิ กา้ วหนา้ ของสหพันธรฐั มลายาและทรงยกย่องนายกรฐั มนตรี ตวนกู อบั ดลุ ราห์มาน ว่าเป็นคนทีม่ คี วามสามารถและมองการณไ์ กลโดยเฉพาะอยา่ งยิ่งไดม้ ีส่วนก่อตงั้ สมาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพ่ือท่จี ะธารงรกั ษามติ รภาพอันใกล้ชิดกบั ประเทศไทยทรงยา้ ถึงความร่วมมือกันระหว่างประเทศท้งั สองใหม้ ากขึ้นและใกลช้ ดิ กนั ยิ่งขึ้น เพอื่ ความสงบสขุ ในภมู ภิ าคนี้ • ประเทศนวิ ซแี ลนด์ ระหวา่ งวันท่ี ๑๘ – ๒๖ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ ซ่ึงรับเสด็จฯอยา่ งดเี ยยี่ มทโ่ี ตรังก้า ชาวพนื้ เมืองเผ่าเมารี มาเฝา้ รับเสดจ็ ฯตามประเพณีพืน้ เมือง • ประเทศออสเตรีย ระหว่างวนั ที่ ๒๖ สงิ หาคม – ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๕ ซง่ึ เปน็ ประเทศท่ีมีชอ่ื เสียงทางดนตรี สถาบนั ดนตรีและศิลปธแหง่ กรุงเวียนนา ได้ทลู เกล้าฯถวายประกาศนียบัตรรับพระองคเ์ ข้าเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ สมาชิกกิตติมศักดข์ิ องสถาบนั น้ีมปี ระมาณ ๑๐ คนซ่ึงเปน็ นักดนตรเี อกของโลกท้ังสน้ิ ในจานวนน้มี ี โยฮัน สเตราส์ รวมอยู่ดว้ ยผหู้ นง่ึ วงออเครสตา้ ของกรงุ เวยี นนาได้เล่นเพลงพระราชนิพนธ์ในกรแสดงดนตรกี ารกุศล โดยใชน้ ักรอ้ งโอเปรา่ รอ้ งเพลงพระราชนพิ นธส์ ายฝนและเพลงพระราชนพิ นธอ์ ืน่ ๆอีก ปรากฏวา่ ร้องได้ไพเราะมาก คนท่ีไปฟงั ปรบมือกึกก้องให้เกียรตแิ ก่วงดนตรีและผูท้ รงพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัวทรงลกุ ขึน้ น้อมพระเศยี รรบั เสยี งปรบมือ • ประเทศญป่ี ุ่น ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม – ๕ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั และสมเด็จพระนางเจา้ ฯพระบรมราชินีนาถไดเ้ สดจ็ พระราชดาเนินเยือนประเทศญปี่ ่นุ อยา่ งเป็นทางการตามคากราบบงั คมทลู เชญิ ของสมเดจ็ พระจักรพรรดิและรฐั บาลของญี่ปนุ่ในฐานะผ้แู ทนของปวงชนชาวไทยทงั้ มวล ทรงนามิตรไมตรีและความปรารถนาดขี องประชาชนชาวไทยไปมอบใหแ้ ก่ประชาชนชาวญปี่ ุ่น เพื่อกระชบั ความสัมพันธใ์ หแ้ นน่ แฟ้นย่ิงข้นึ และเพือ่ ความเข้าใจอันดรี ะหวา่ งราชวงศ์ไทยกบั ราชวงศ์ญี่ปุ่น ตลอดจนรฐั บาลและประชาชนของท้ังสองประเทศให้มคี วามใกลช้ ิดสนทิ สนมกันมากยง่ิ ขนึ้ และเพอ่ื ความรว่ มมือกันในด้านการค้า เศรษฐกิจ วัฒนธรรม โดยเฉพาอย่างยิ่งเพ่ือความสงบสขุ และเพ่อื ใหเ้ กดิ สันตภิ าพข้นึ ในโลก สมดังกระแสพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวท่ีทรงมแี ด่

สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งประเทศญปี่ นุ่ ในงานจดั เลี้ยงถวายพระกระยาหารคา่ เป็นทางการณ พระบรมมหาราชวงั ในกรุงโตเกียว เมือ่ วันท่ี ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ ความตอนหนึง่ ว่า “…ขอเนน้ ถงึ ความสาคญั ของความตง้ั ใจของเราในฐานะที่เปน็ ชาตใิ นทวปี เอเชยี ด้วยกนั ทจ่ี ะส่งเสริมเสถียรภาพในทางเศรษฐกิจของภูมภิ าคนี้ และทีจ่ ะรักษาความเข้าใจอันดรี ะหว่างประเทศของเราทง้ั สองซง่ึ หมอ่ มฉันเชือ่ วา่ จะเป็นปจั จัยอยา่ งหนง่ึ ทีจ่ ะช่วยดารงสนั ติภาพของโลกด้วย ดงั น้ันหมอ่ มฉนั จงึ รู้สกึ มั่นใจวา่การมาเยือนญปี่ นุ่ คร้ังนี้ แมจ้ ะเป็นช่วั ระยะเวลาอันส้ันก็คงจะก่อใหเ้ กิดประโยชน์อย่างยิ่งเปน็ แน่…” การเสด็จฯเยอื นญ่ีปุน่ คร้ังน้ี รัฐบาลและประชาชนชาวญปี่ ุ่นมคี วามกระตือรือรน้ เอาใจใสใ่ นการเตรียมการรับเสด็จฯได้อย่างเรยี บร้อยสมพระเกียรตยิ ศและถา่ ยทอดภาพข่าวการรบั เสด็จฯมาถงึ ประเทศไทยดว้ ยความรวดเร็ว หนงั สอื พิมพ์กรงุ โตเกยี วไดล้ งขา่ วเกีย่ วกับการเสดจ็ ฯของสองพระองค์อย่างละเอียด วนั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินนี าถ เสดจ็ พระราชดาเนินโดยเครือ่ งบนิ พระทนี่ งั่ ศรสี รุ โิ ยทัยซงึ่ เป็นเครอ่ื งบนิ ไอพ่นแบบคอนแวร์990 ถึงท่าอากาศยานอินเตอร์เนชัน่ แนล กรงุ โตเกียว (Tokyo International Airport)โดยสมเด็จพระเจา้จักรพรรดิฮิโรฮโิ ตและสมเดจ็ พระจักรพรรดนิ นี างาโกะ พร้อมทง้ั พระบรมวงศานวุ งศท์ ูตานทุ ูตและขา้ ราชการช้นั ผู้ใหญ่ของญ่ปี ุ่นมารอรบั เสด็จฯ รปู ที่ ๑๐ ทีม่ า : https://chillchilljapan.com/king-bhumibol-and-japan-part-1/ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๖ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั และสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชนิ ีนาถเสด็จพระราชดาเนินไปยังพระราชวังอิมพีเรยี ล (Imperial Palace) โดยขบวนรถมา้พระทีน่ ั่ง เมื่อเสดจ็ พระราชดาเนินถึงพระราชวังแลว้ ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณร์ ว่ มกับสมเดจ็ พระเจ้าจักรพรรดิ และสมเด็จพระจกั รพรรดนิ ีญ่ีปนุ่ (รูปท่ี ๑๑)

ในโอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ได้ถวายเคร่ืองราชอิสรยิ าภรณอ์ นั เป็นมงคลยิ่งราชมิตราภรณ์แดส่ มเดจ็ พระเจา้ จักรพรรดิ และเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณม์ หาจกั รบี รมราชวงศแ์ ด่สมเด็จพระจักรพรรดินีในชว่ งบ่าย พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดาเนินไปทอดพระเนตรละครคาบูกิ ณ โรงละครคาบูกิ (Kabuki Theatre) หลังจากนน้ั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหน้ ายกเทศมนตรี นครโตเกยี วเฝ้าทลู ละอองธุลีพระบาท รูปที่ ๑๒เวลา ๑๙.๓๐ น. สมเดจ็ พระเจ้าจักรพรรดิทรงจดั งานเล้ยี งพระกระยาหารค่าถวายเป็นเกียรตแิ ด่พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวและสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถ ณ พระราชวังอมิ พีเรยี ล วันท่ี ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปยงัโรงงานผลิตกล้องถ่ายรูปแคนนอน ท่ที ามากาวา (Tamagawa Plant) ทอดพระเนตรการผลิตกล้องถา่ ยรูปและเครื่องเจยี ระไนเลนส์ เสด็จพระราชดาเนนิ ทอดพระเนตรกจิ การของบริษัทนิปปอน อเี ลก็ ทริค(Nippon Electric Co., Ltd.) ทอดพระเนตรการทดลองแพร่ภาพออกอากาศโทรทศั น์สี ทอดพระเนตรการประดิษฐ์เครื่องโทรคมนาคม และวทิ ยุทรานซสิ เตอร์ของบริษัท รปู ท่ี ๑๓ ท่ีมา : https://chillchilljapan.com/king-bhumibol-and-japan-part-1/

เชา้ วันเดียวกัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ เสด็จฯ ทอดพระเนตรสวนในบริเวณที่ประทบั เกฮนิ คงั ทอดพระเนตรการจัดดอกไม้แบบญ่ปี ุน่ และยงั เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปยังสถานเลยี้ งเด็กของโรงพยาบาลสภากาชาดญ่ีป่นุ พระราชทานเงนิ บารุงสภากาชาดญป่ี ุ่น เป็นจานวนเงินสี่หม่นื บาท รูปที่ ๑๔ หลังจากน้ันได้เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปทรงเยย่ี มสถานเล้ียงเดก็ อ่อนอาโอยามา ทอดพระเนตรกิจการต่างๆ และการแสดงซึ่งทางโรงเรยี นไดจ้ ดั ถวาย พระราชทานเงนิ บารุงสถานเลย้ี งเด็กแหง่ นจี้ านวนห้าพันบาทและในเวลา ๑๓.๐๐ น. พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั และสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดาเนินมายังสถานเอกอัครราชทูตไทย วนั ท่ี ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๖ เสด็จพระราชดาเนนิ ยงั ท่าอากาศยานโตเกยี ว อินเตอร์เนชัน่ แนล(Tokyo International Airport) เพ่ือเสดจ็ พระราชดาเนินโดยเครื่องบนิ พระท่นี ่ังไปยังสนามบินอติ ามิ(Itami Airport) เมอื งโอซากา (Osaka) เสดจ็ พระราชดาเนินถงึ สนามบนิ อติ ามิ จากนนั้ เสดจ็ ฯ ไปพระราชทานพระบรมราโชวาทแกน่ กั เรยี นไทย รปู ที่ ๑๕

เสด็จฯไปทอดพระเนตรโรงงานอิบรางึของบริษทั อตุ สาหกรรมไฟฟา้ มัตสุชติ า อีเลก็ ทริค (Ibaragic FactoryOfMatsushita Electric Industry Co., Ltd.) แลว้ เสดจ็ ฯไปยังพระราชวงั โอมยิ า เมืองเกียวโต ในตอนค่าเสด็จฯไปเสวยพระกระยาหารค่าแบบญ่ปี ่นุ ท่ีภัตตาคารซรึ ายา วนั ท่ี ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดาเนินโดยรถยนต์พระท่ีน่ังไปยงั วัดไบโอโดอิน เมืองนารา แล้วเสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปสวนโทบฮิ ิโนะและพระราชทานอาหารให้กวาง จากนั้นเสด็จพระราชดาเนินไปเสวยพระกระยาหารกลางวัน ณ โรงแรมนารา หลงั จากเสวยพระกระยาหารกลางวนั แล้ว เสดจ็ ฯไปเย่ียมวดั โทไดจิ เมืองนาราทรงนมัสการพระพทุ ธรูป เสด็จฯมายังอุทยานแหง่ วังเซนโตะ ในพระราชวงั โอมิยาและในงานเลยี้ งรบั รองถวายพระกระยาหารค่า โดยคณะพ่อคา้ คหบดีของสมาคมการค้าไทย-ญีป่ ่นุ ณ โรงแรมมิยาโกะ รูปท่ี ๑๖ วนั ท่ี ๑ มถิ ุนายน พ.ศ.๒๕๐๖ ในช่วงเช้า พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินนี าถ เสด็จฯไปยังอุทยานพระราชวงั โอมยิ า ทอดพระเนตการแสดงฟุตบอล เคมารีณ เฉลยี งพระตาหนัก รูปที่ ๑๗

เวลา ๑๐.๐๐ น. เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปยงั พระราชวังอิมพีเรียล กรงุ โตเกียว เวลา ๑๑.๐๐ น. เสด็จพระราชดาเนนิ ไปพระราชวงั ซกู าคูอนิ หรือพระราชวงั ไกลกังวล เวลา ๑๖.๐๐ น. เสดจ็ พระราชดาเนินออกจากโรงแรมไปทอดพระเนตรโรงงานทอผ้าไหม วนั ที่ ๒ มิถนุ ายน พ.ศ.๒๕๐๖ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว และสมเด็จพระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ ีนาถ เสด็จพระราชดาเนนิ จากทีป่ ระทับไปยงั วดั คินคาคุจิ เสด็จฯจากพระราชวังโอมยิ าไปยังสถานีรถไฟเกียวโต แล้วเปล่ียนสายเปน็ สถานีรถไฟนาโกยา แลว้ เสด็จพระราชดาเนนิ ไปยังวดั นิทไทจิ เมืองกิฟูเพ่อื ทอดพระเนตรการจับปลาแบบโบราณ ทางการได้จดั พระกระยาหารคา่ ถวายบนเรือ วันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๖ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ จากเมืองนาโกยาโดยขบวนรถไฟพระทีน่ งั่ ไปยงั เมืองโตเกียว แล้วเสด็จฯ ถึงเมอื งโตเกียว และได้ทรงโปรดเกล้าฯ ใหผ้ ูแ้ ทนหนงั สือพิมพ์และชา่ งภาพเข้าเฝา้ ฯ อย่างเป็นกนั เอง ณ ทป่ี ระทับเกฮินคงั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั และสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ ทรงจดั งานเลย้ี งถวายตอบแดส่ มเด็จพระเจา้ จกั รพรรดแิ ละสมเด็จพระจักรพรรดินี ณ โครแิ มนช่นั วันท่ี ๔ มถิ นุ ายน พ.ศ.๒๕๐๖ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว เสด็จฯ ทอดพระเนตรโรงงานทานาฬิกาไซโก ต่อจากนน้ั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั เสด็จพระราชดาเนนิ ทอดพระเนตรกจิ การโทรเลข โทรศัพท์และโทรคมนาคมทีบ่ ริษทั โคคูไซ เดนชินเดนวา ซงึ่ ได้มอบเครือ่ งส่งภาพข่าวการเสดจ็ ฯ เยือนประเทศญป่ี ่นุใหแ้ กป่ ระเทศไทย รูปท่ี ๑๘ในเวลาเดยี วกนั สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ เสด็จฯ ทอดพระเนตรการแสดงแบบเสอ้ื ณ ห้องโถงบรเิ วณทป่ี ระทับ และในเวลา ๑๗.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสดจ็ ฯ ไปยงั โครแิ มนชั่น ในงานรบั รอง

รปู ท่ี ๑๙ วันที่ ๕ มถิ ุนายน พ.ศ.๒๕๐๖ เสดจ็ พระราชดาเนนิ ถึงท่าอากาศยานกรงุ โตเกียว สมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินี เสดจ็ ฯ มาสง่ พร้อมด้วยมงกฎุ ราชกุมาร พระบรมวงศานุวงศ์นายกรฐั มนตรี และข้าราชการชั้นผใู้ หญ่ เมอ่ื ทรงลาบรรดาผู้มเี กยี รตทิ ่ีมาส่งเสด็จ แลว้ เสดจ็ พระราชดาเนินประทบั เคร่ืองบินพระที่นัง่ เพ่ือเสด็จพระราชดาเนนิ ต่อไปยังสาธารณรัฐจนี • สาธารณรัฐจนี ระหว่างวนั ท่ี ๕ – ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๖ วันที่ ๕ มถิ นุ ายน พ.ศ.๒๕๐๖ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว และสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสดจ็ พระราชดาเนินโดยเครื่องบนิ พระที่น่ัง จากกรุงโตเกยี วถงึ ท่าอากาศยานซงซานนครไทเป ฯพณฯ ประธานาธิบดี และมาดามเจยี ง ไคเช็ค(Chiang Kai Shek) พรอ้ มดว้ ยรองประธานาธบิ ดีซง่ึ ดารงตาแหนง่ นายกรฐั มนตรี กบั มาดามเฉนิ เจิง้ (Chen Cheng) และคณะทูตต่างประเทศเฝ้าฯ รับเสด็จต่อจากน้นั ประธานาธิบดแี ละมาดามนาเสด็จพระราชดาเนินขน้ึ ประทบั บนแทน่ พธิ ีรับการถวายความเคารพจากทหารกองเกยี รติยศ ปนื ใหญ่ยิงสลุตถวายความเคารพ ๒๑ นัด รูปท่ี ๒๐ หลังจากมพี ระราชปฏสิ นั ถารกับผ้มู ารับเสดจ็ แลว้ ประธานาธิบดีและมาดาม ทูลเชิญเสด็จพระราชดาเนินประทับรถยนต์พระทน่ี ั่งเพ่ือเสด็จฯ ออกจากทา่ อากาศยานซงซานไปยงั โรงแรมท่ีประทบั พระองคท์ รงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้รองประธานาธบิ ดี ซง่ึ ดารงตาแหนง่ นายกรัฐมาตรี และมาดามเฉนิ เจิง้

กบั รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการต่างประเทศ และมาดามเฉิน จางฮวน (Shen Chang-Huan)เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ณ ที่ประทับ ณ ทาเนียบประธานาธบิ ดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถเสด็จพระราชดาเนนิ เย่ยี มประธานาธบิ ดีและมาดามเจียง ไคเชค็ มพี ระราชปฏิสนั ถารและพระราชทานเครอื่ งราชอิสรยิ าภรณร์ าชมิตราภรณแ์ ก่ประธานาธิบดีและพระราชทานเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณป์ ฐมจุลจอมเกล้า แกม่ าดามเจยี ง ไคเช็ค วันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปยังอนุสาวรยี ์วรี บรุ ุษ ต่อจากน้ัน รองประธานาธบิ ดเี ฉนิ เจิง้ นาเสดจ็ พระราชดาเนนิ ทอดพระเนตรพิพิธภณั ฑ์มณฑลไตห้ วันแล้วเสดจ็ พระราชดาเนนิ ทอดพระเนตรเขื่อนซเี มน โดยมนี ายเฉิน เจิง้ รองประธานาธบิ ดเี ปน็ ผนู้ าเสด็จพระราชดาเนนิ วิศวกรและเจา้ หนา้ ท่ีช้ันผู้ใหญ่เข้าเฝ้าทลู ละอองธลุ ีพระบาท กราบบังคมทลู ถวายคาช้ีแจงการดาเนินการสร้างเข่ือน แลว้ เสด็จพระราชดาเนินไปยังบรเิ วณทีด่ าเนนิ การก่อสรา้ ง เวลา ๑๐.๐๐ น. มาดามเฉิน เจ้ิง นาเสดจ็ พระราชดาเนิน สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินนี าถเยย่ี มสถานสงเคราะหเ์ ด็กกาพรา้ หวั ชิง ตอ่ จากนน้ั เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปทรงเยยี่ มสันนิบาตสตรีจนี เสดจ็ ฯทอดพระเนตรผลิตภณั ฑ์หัตถกรรมซึ่งสมาชกิ สันนิบาตสตรีจีนเป็นผูผ้ ลติ แลว้ เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปยงั อาคารสถานสงเคราะห์ครอบครัวทหาร ตอ่ จากนน้ั เสดจ็ พระราชดาเนินไปยงั ศนู ยส์ ง่ เสรมิ หตั ถกรรมไตห้ วนัทอดพระเนตรผลิตภัณฑห์ ัตถกรรมของไต้หวนั รูปท่ี ๒๑หลังจากเสวยพระกระยาหารค่าซ่งึ รองประธานาธบิ ดแี ละมาดามเฉิน เจง้ิ จัดถวาย ณ สโมสรทหารแลว้ไดน้ าเสด็จพระราชดาเนนิ ทอดพระเนตรอปุ รากรจนี หรอื ทเ่ี รยี กวา่ งิว้ วนั ท่ี ๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๖ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชนิ ีนาถ เสด็จพระราชดาเนนิ โดยเครอ่ื งบินพระท่ีนั่งจากเมืองไทเปไปยังเมืองไถจงเพอ่ื เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปยังอากาศซงซาน ทั้งสองพระองค์ได้เสดจ็ ฯจากฐานทัพอากาศมายงั ที่ทาการมณฑลไต้หวัน เสวยพระกระยาหารกลางวัน ณ ตกึ รับรองของที่ทาการมณฑลน้ี

จากนั้นพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัวและสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดาเนินโดยรถยนตพ์ ระทน่ี ่งั ไปยังพิพธิ ภัณฑแ์ หง่ ชาติ เพอื่ ทอดพระเนตรศิลปวัตถโุ บราณอนั มคี า่ สมัยตา่ งๆ เวลา ๒๐.๐๐ น. ณ ท่ีประทับ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว และสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชนิ ีนาถ พระราชทานเล้ยี งอาหารค่าเปน็ เกยี รติแก่ประธานาธิบดี และมาดามเจียง ไคเชค็ วนั ที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๖ ณ ทีป่ ระทบั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเรอื โท ไสว ศรีผดงุเอกอคั รราชทูตไทย ประจาไต้หวนั นาขา้ ราชการสถานทูตเฝ้าทูลละอองธลุ ีพระบาท หลงั จากน้นั เสด็จฯจากบ้านพักประธานาธิบดี ตรงไปยงั ท่าอากาศยานซงซาน เมืองไทเป ฯพณฯ ประธานาธิบดี มาดามเจียง ไคเช็ค รองประธานาธิบดี และมาดามเฉิน เจง้ิ สง่ เสด็จ ทัง้ สองพระองค์ทรงสมั ผัสพระหตั ถ์กับผู้มาสง่ เสดจ็ แลว้เสดจ็ พระราชดาเนินขน้ึ เครื่องบินพระท่ีนง่ั ตอ่ จากนน้ั เคร่ืองบพิ ระทนี่ ่งั ศรสี ุริโยทยั ก็เคลือ่ นออกจากท่าอากาศยานซงซาน เสด็จนิวัตกรงุ เทพมหานคร • สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างวันท่ี ๙ – ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชนิ นี าถไดเ้ สด็จพระราชดาเนินเยือนประเทศสาธารณรฐั ฟลิ ิปปินส์อยา่ งเป็นทางการ นบั เป็นพระมหากษัตรยิ ์ตา่ งประเทศพระองค์แรกที่เสดจ็พระราชดาเนินเยือนประเทศนี้ ตามคากราบบงั คมทูลเชญิ เสดจ็ ฯ ของประธานาธบิ ดมี าคาปากัลป์และภริยาเพอื่ กระชับสมั พนั ธไมตรีส่งเสริมความมนั่ ใจและความร่วมมืออนั ดรี ะหวา่ งประเทศไทยกบั ประเทศสาธารณรฐัฟิลิปปินสอ์ นั มรมาแต่โบราณ ดว้ ยความผูกพันกันในฐานะท่ี ท้ังสองประเทศเป็นสมาชกิ ขององคก์ ารสหประชาชาติ และองคก์ ารสนธิสัญญาปอ้ งกนั เอเชียตะวันออกเฉยี งใตร้ ว่ มกนั ประเทศทัง้ สองมีความปรารถนาละอดุ มการณร์ ่วมกันในการธารงรักษาไว้ซึง่ สันติภาพและความปลอดภัย ตลอดจนความมนั่ คงระหวา่ งประเทศในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้และต่อโลกด้วย นอกจากนย้ี งั ใหค้ วามรว่ มมือกันระหว่างประเทศในการที่จะแก้ไขปญั หา และสรา้ งความเจริญกา้ วหน้าทางเศรษฐกจิ สังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรมดงั กระแสพระราชดารัสท่ีพระราชทานในงานเล้ียงพระกระยาหารค่า ซ่งึ ประธานาธบิ ดีมาคาปากลั ป์จัดถวายเป็นพระเกียรติยศ ณ พระราชวงั มาลากันยัง เมอื่ วนั ที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ มีความตอนหน่งึ วา่ “…มติ รภาพของเรา เปน็ มติ รภาพท่ีมมี าเปน็ เวลานาน มีหลกั ฐานปรากฏให้เห็นว่า ความสัมพนั ธ์ทางการค้าระหวา่ งประเทศไทยกับประเทศฟลิ ปิ ปนิ สน์ ้นั มีมาต้ังแตส่ มัยครสิ ต์ศตวรรษที่ ๑๔ และในกลางศตวรรษที่ ๑๖ พระมหากษตั ริยข์ องเราพระองคห์ นงึ่ ไดส้ ง่ เคร่ืองราชบรรณาการมายังกรุงมนิลาอันประกอบดว้ ยชา้ งสองเชือก ซึ่งมาถงึ โดยสวสั ดภิ าพจากการเดนิ ทางอันยาวนาน และเต็มไปดว้ ยภยันตรายจากกรงุ ศรีอยุธยาอดีตราชธานีของเรา และในปัจจุบนั นี้ความสัมพันธข์ องเราได้กระชับข้ึนกวา่ แตก่ ่อนเนือ่ งจากทปี่ ระชาชนของเราทง้ั สอง ต่างเลือกอิสระที่จะเคียงข้างกันในโลกท่ีกาลงั อยใู่ นสภาวะแห่งความยุ่งยาก เราต่างเปน็ สมาชกิ ขององค์การสหประชาชาติ องค์การสนธิสญั ญาป้องกันเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้และสมาคมเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใตด้ ว้ ยกนั อนั ทจี่ รงิ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศไทยกับประเทศฟลิ ปิ ปินส์ได้

ฝังรากลึกอยู่แล้ว สมั พนั ธภาพของเราลว้ นมพี ้ืนฐานท่ีม่นั คง ท้งั ดว้ ยสภาพทางภมู ิศาสตร์ ทางสังคมทางเชื้อชาติ และทางประวตั ิศาสตร์ จงึ เปน็ หนา้ ท่ีของเราท่ีจะสรา้ งสัมพันธภาพฉนั ทม์ ิตรนน้ั ใหค้ งอยู่ต่อไปเพ่อื ประกนั ความสงบสขุ ความกา้ วหน้าและความรงุ่ เรืองอันบงั เกดิ ขน้ึ ในอนาคตแกป่ ระชานชนของเรา…” หนงั สอื พิมพ์ชั้นนาหลายฉบับในประเทศสาธารณรัฐฟิลิปปินสต์ า่ งลงบทความถวายการรับเสด็จฯดว้ ยความช่ืนชมยนิ ดี พร้อมกับตีพิมพ์พระบรมฉายาลักษณข์ องทั้งสองพระองค์ ในบทความและการลงขา่ วของหนงั สือพิมพ์ดงั กลา่ ว การเสด็จฯเยือนสาธารณรัฐฟิลปิ ปินส์จะนามาซางมติ รไมตรีอนั แน่นแฟ้น และจะทาให้บรรลุจุดหมายในอันท่จี ะทาให้ประชาชนทง้ั สองประเทศมีความใกล้ชดิ สนทิ สนมกันมากย่ิงขึน้อย่างไมต่ ้องสงสัยและจะมีความเขา้ ใจให้ความร่วมมือซงึ่ กนั และกัน อีกท้ังจะทาให้เกิดเอกภาพในความเพยี รพยายามของทั้งสองประเทศใหเ้ กดิ ความเขม้ แข็งยง่ิ ข้นึ การเสด็จฯทรงเยือนประเทศสาธารณรัฐฟิลิปปนิ สใ์ นครง้ั น้ี รัฐบาลสาธารณรัฐฟิลิปปินส์และประชาชนตา่ งมคี วามปล้ืมปิติยนิ ดี มีความกระตอื รือรน้ ในการเตรียมการรับเสด็จฯ สานักขา่ วยูพีไอ ในกรุงมนิลาฉบับวันที่ ๙ กรกฎาคม ลงขา่ วว่า ไมเ่ คยมีประชาชนชาวฟลิ ปิ ปนิ ส์มาคอยต้อนรบั แขกเมืองทมี่ าเยอื นฟลิ ปิ ปินส์เปน็ ทางการจานวนมากอยา่ งน้ีมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ สองขา้ งถนนสายตา่ งๆจากสนามบินไปจนถึงพระราชวังมาลากันยงั มปี ระชาชนจานวนมากกว่าลา้ นคนยืนคอยรับเสด็จฯ และเฝ้าชมพระบารมขี องพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยองค์แรกที่เสดจ็ ฯมาเยือนประเทศของตน นอกจากนัน้ เจ้าหน้าท่ตี ารวจและนักขา่ วหนังสอื พิมพ์พดู อย่างสอดคล้องต้องกันวา่ สองขา้ งถนนทีร่ ถยนต์พระท่ีนั่งแล่นผ่านไป มีประชาชนเบยี ดเสยี ดเยยี ดยดั กนั มือฟ้ามวั ดิน ซ่ึงพวกเขาไมเ่ คยเห็นมาก่อนเลย แม้แต่ตอนที่นายพลแม็คอาเธอร์กลบั มาเยือนฟิลิปปินส์กไ็ ม่มปี ระชากรล้นหลามอย่างน้ี พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั และสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินนี าถได้เสดจ็ พระราชดาเนนิ โดยเครอ่ื งบนิ พระทนี่ ั่งถึงทา่ อากาศยานกรุงมนิลา ทางประธานาธบิ ดมี าคาปากัลปแ์ ละภรยิ าพร้อมดว้ ยข้าราชการและคณะทูตานุทูต รอรับเสด็จฯ พธิ ีการถวายการรับเสด็จฯ เป็นไปอยา่ งสมพระเกียรติยิ่งพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัวทรงมีพระราชดารสั ถงึ การเสดจ็ ฯ มาในครงั้ น้ี ความตอนหนงึ่ วา่ “…ไดน้ ามติ รภาพและการเคารพนบั ถืออย่างสงู สุดจากประชาชนชาวไทยมายงั ประชาชนชาวฟิลิปปินส์และเพอื่ เปน็ การยนื ยันอีกคร้ังหนง่ึ ภายในอาณาเขต และอาณาจักรของเรานน้ั มีประชากรซึ่งปรารถนาสันตสิ ขุ และความเจรญิ รงุ่ เรอื งสาหรับภาคพืน้ เอเชียตะวนั ออกเฉยี งใตท้ ั้งมวลเช่นเดียวกับชาวฟลิ ิปปนิ ส์ คนไทยและคนฟลิ ิปปินสม์ คี วามคลา้ ยคลงึ กัน รูปรา่ งหนา้ ตา ลักษณะ ท่าทาง ซึง่ บรรพบุรษุ อาจมาจากตระกลู เดียวกัน คนฟิลิปปนิ ส์และคนไทยมีความสมั พันธใ์ กลช้ ดิ ดว้ ยการเป็นสมาชกิ องค์การสนธิสญั ญาป้องกันเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ (หรอื ซีโต) เพ่ือความร่วมมือป้องกันสันติภาพเพ่ือการมชี ีวิตทด่ี ใี นการอยู่รว่ มกันในภมู ภิ าคนี้…” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวทรงขอบใจประธานาธบิ ดีและภริยา รวมทัง้ ประชาชนชาวฟิลิปปินส์ทงั้ มวลท่ีใหก้ ารต้อนรบั อยา่ งอบอุ่นในระหว่างเยือนสาธารณรฐั ฟลิ ปิ ปนิ ส์ ประธานาธบิ ดีมาคาปากลั ป์ กราบบงั คมทลู ตอนหนง่ึ วา่ “การท่ีท้งั สองพระองค์เสด็จฯ มาเยือนสาธารณรฐั ฟิลปิ ปนิ ส์ในวันน้จี ะตอ้ งจารกึ ไว้ใน

ประวตั ิศาสตร์ของฟิลิปปนิ ส์ตลอดไป ” และกราบบังคมทูลถึงความสัมพันธ์แหง่ ประเทศไทยกบั ประเทศฟิลิปปินส์ว่า ไม่เพยี งแตส่ นิทสนมกนั ฉันท์พี่น้องมาเป็นเวลานับศตวรรษเท่านนั้ ประเทศท้งั สองยงั มีอุดมการณ์และปฏบิ ตั ิเพื่อประโยชนแ์ ละสนั ติสขุ ในอาณาบริเวณของเอเชียและของโลกด้วย ในตอนหนึง่ ท่ปี ระธานาธบิ ดีไดก้ ลา่ วอ้างถงึ บทนาของหนังสือพมิ พ์ในกรงุ มนลิ าฉบับหนงึ่ ถงึ คากราบบงั คมทลู ว่า “…ข้าพระพุทธเจ้ามีความปล้มื ปิติเปน็ ล้นพน้ ทห่ี นังสือพิมพก์ ลา่ วว่าบุตรชายคนเลก็ ของข้าพระพุธเจา้มคี วามละมา้ ยคลา้ ยกลบั สมเดจ็ เจา้ ฟา้ ชายวชริ าลงกรณซ์ ึง่ กรณีนีน้ า่ จะเป็นการเทียบใหเ้ ห็นวา่ ประชาชนคนไทยกับคนฟิลิปปินส์มคี วามละม้ายคล้ายคลงึ กันมากทีเ่ ดยี ว ดังนน้ั การเสดจ็ ฯ มาเยือนฟิลิปปนิ ส์คร้งั น้ีจะเปน็การส่งเสริมประชาชนทัง้ สองประเทศซ่ึงเสมือนหนงึ่ พน่ี ้องน้นั ใหไ้ ด้มีความสนทิ สนมกนั ใกล้ชดิ ย่ิงขึ้น…” ตอ่ จากน้นั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั มีพระราชดารสั ตอบขอบใจประธานาธิบดีและประชานชนชาวฟิลปิ ปนิ ส์พรอ้ มได้พระราชทานพวงมาลัยแก่ประธานาธิบดี หลงั จากน้นั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั มีพระราชดารสั เกย่ี วกบั การท่ีประเทศไทยและประเทศสาธารณรฐั ฟิลปิ ปินส์ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีในองค์การสหประชาชาติ และการจดั ตังสมาคม “อาสา” ขน้ึเพือ่ รว่ มมอื กันอยา่ งใกลช้ ดิ ในด้านเศรษฐกจิ และวัฒนธรรม ประธานาธบิ ดแี ละภริยา ไดจ้ ัดงานเลยี้ งพระกระยาหารค่าถวายพระเกียนติ หลงั จากทพ่ี ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชนิ นี าถ เสด็จฯถงึ กรุงมนลิ า ๓ ช่ัวโมง จากนน้ั ประธานาธิบดีได้ทูลเกลา้ ฯถวายเคร่ืองพระราชอสิ รยิ าภรณ์ชนั้ สงู สดุ แดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว ในฐานะท่พี ระองค์ทรงปฏิบตั ิพระราชกรณยี กิจดีเดน่ เปน็ พิเศษ เปน็ ต้นว่า พระราชกรณียกจิ ทุกอย่างที่พระองคท์ รงปฏบิ ตั ิ เพอื่ สนั ติสขุ และความเป็นอสิ ระในเอเชียและเพื่อสนั ติสขุ ของโลก เช่น ทรงส่งเสริมความสมั พนั ธไมตรีและความร่วมมือกนั ในระหว่างประเทศต่างๆ ทรงสนพระราชหฤทยั อย่างจริงจังในเรื่องสวสั ดภิ าพและความกา้ วหนา้ ของประชาชนคนไทยและฟลิ ปิ ปินส์ ทรงพยายามไมห่ ยุดยงั้ เพื่อกระชบั สมั พันธภาพกนั ฉันท์มติ รของทัง้ สองประเทศใหแ้ น่นแฟน้ ย่ิงข้นึ ทรงอุทศิ เวลาเพ่อื ศิลปะวทิ ยาการ ทรงมีเจตนาที่จะใช้เปน็ เครอ่ื งสง่ เสรมิ ความเข้าใจอันดตี อ่ กันอย่างพี่อย่างนอ้ ง จากนั้นประธานาธบิ ดีได้ทลู เกล้าฯถวายเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ ORDER OF SIKATUNA ชัน้ สูงสดุ(RAJA) แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และทูลเกลา้ ฯถวายเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์ GOLDEN HEARTPRESIDENTIAL AWARD แดส่ มเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินนี าถ เพอื่ เป็นการยกยอ่ งสรรเสรญิ ในการปฏบิ ตั ิพระราชกรณยี กิจช่วยเหลือประชาชนในด้านการสงั คมสงเคราะห์ดว้ ยดตี ลอดมาและทรงมีบทบาทสาคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริม ปรับปรุงสวสั ดิภาพขิงประชาชนในสาขาตา่ งๆใหด้ ีขน้ึ ทัง้ ในดา้ นเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะทพี่ ระองคท์ รงเปน็ องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย พระราชกรณยี กิจของพระองค์ในด้านน้ไี ด้เจรญิ กา้ วหนา้ ไปอย่างมากและเปน็ ท่ตี ระหนักเป็นทอ่ี ยา่ งดีในหม่ปู ระชาชนชาวฟิลิปปินส์ ทรงมสี ว่ นชว่ ยเหลอืในการสถาปนาความสมั พันธ์ทางสังคม และศีลธรรม อนั ก่อให้เกิดอดุ มการณ์ความสัมพันธ์ทางสงั คม ในการท่ีจะใชช้ วี ติ อยรู่ ่วมกนั ไมเ่ ลอื กชนั้ วรรณะ และนอกจากนน้ั พระองคย์ งั ไดท้ รงสนบั สนุนสง่ เสริมมาตรฐานการครอง

ชีพของประชาชนสว่ นใหญใ่ ห้สงู ข้นึ ท้งั ในด้านเศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม วฒั นธรรม ของท้งั สองประเทศและของโลกด้วย • สาธารณรัฐเยอรมนั ระหว่างวนั ท่ี ๒๒ – ๒๘ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๐๙ (เป็นการเสด็จพระราชดาเนนิ เยอื นครง้ั ที่สอง) • สาธารณรัฐออสเตรยี ระหวา่ งวันที่ ๒๙ กนั ยายน – ๒ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๐๙ (เป็นการเสด็จพระราชดาเนนิ เยอื นครงั้ ทีส่ อง) • ประเทศอิหรา่ น ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ ีนาถได้เสด็จพระราชดาเนนิเยือนประเทศอิหร่านอยา่ งเป็นทางการ นบั วา่ เปน็ คร้งั แรกตั้งแตก่ ลางคริสตวรรษที่ ๑๗ ในรัชสมัยของสมเดจ็พระนารายณ์มหาราชแหง่ กรุงศรีอยุธยาและสมัยของพระเจ้าชาห์ สุไลมาน ทมี่ กี รได้สร้างความสมั พันธท์ างการทูตระหว่างประเทศไทยและประเทศอหิ รา่ น มีการแลกเปล่ียนคณะทตู ไปประจาในประเทศทั้งสองเปน็ ต้นมาการเสด็จฯเยือนประเทศอิหร่าน ในฐานะราชอาคันตกุ ะของพระจักรพรรดิ ชาร์ โมฮัมหมัด เรชา ปาหเ์ ลวีเปน็ การเสด็จฯไปเพ่ือพฒั นาสัมพนั ธภาพระหวา่ งทัง้ สองประเทศ ซึ่งไดว้ า่ งเว้นมาเป็นเวลานาน พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัวทรงปรารถนาให้ประเทศท้ังสอง ซง่ึ ตา่ งมเี จตนารมณร์ ว่ มกันอยตู่ ลอดมาคอื การดารงเอกราชและเสรีภาพให้ยนื ยง มีความสมั พนั ธ์อันใกลช้ ดิ และความรว่ มมอื อันดีต่อกันตลอดไปพระจักรพรรดแิ ห่งอหิ รา่ นก็ทรงหวังว่า การทพี่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั และสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จฯเยือนประเทศอิหร่านอยา่ งเปน็ ทางการในครั้งน้ีจะอานวยคุณค่าอยา่ งย่ิงแกป่ ระเทศทงั้ สอง เพ่อื เฉลมิ พระเกยี รตยิ ศในโอกาสทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จฯเยือนประเทศอหิ ร่าน สภาสูงแห่งอิหรา่ นได้ลงมติเปน็ เอกฉันท์ ใหส้ ัตยาบันสนธิสัญญามติ รภาพไทย-อิหร่าน ท่ีไดล้ งนามกนั ท่ีกรุงเทพมหานคร เม่ือวนั ที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๐สนธิสัญญาดังกล่าวครอบคลมุ ถงึ การทปี่ ระเทศทง้ั สองจะมีมติ รภาพต่อกันเป็นการถาวร และมีสัมพันธภาพทางการทตู และทางกงสลุ ตอ่ กัน และยงั ระบวุ า่ ทั้งสองประเทศมีพนั ธะที่จะพิจารณาการทตู ทางกงสลุ ตอ่ กันทัง้ ยงั ระบวุ ่าทั้งสองประเทศพันธะทจี่ ะพิจารณาลงนามในความตกลงวา่ ดว้ ยการพาณชิ ย์ การเดินเรือสิทธทิ างกงสุลและเอกสิทธิตา่ งๆ และความสัมพนั ธท์ างวฒั นธรรมการส่งผู้รา้ ยข้ามแดน ตลอดจนเร่ืองอ่ืนๆทเ่ี กยี่ วกับผลประโยชน์รว่ มกันของทงั้ สองประเทศ ในการเสด็จฯเยือนประเทศอิหรา่ นอยา่ งเปน็ ทางการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั และสมเดจ็พระนางเจ้าฯพระบรมราชนิ ีนาถ ทัง้ สองพระองค์ทรงได้รับการต้อนรับอย่างมโหฬารสมพระเกยี รติ พิธีการถวายการรบั เสด็จฯ ท่สี นามบินกรุงเตหะราน สมเดจ็ พระเจ้าจกั รพรรดแิ ห่งอหิ ร่านและสมเด็จพระราชนิ พี ร้อม

ด้วยเจา้ หนา้ ทีช่ นั้ ผใู้ หญ่ คณะทูตานุทตู ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตไทยประจาประเทศอิหรา่ น และนักเรียนไทยทีไ่ ด้ต้ังแถวรอรบั เสดจ็ ฯพร้อมกับโบกธงชาติไทย ธงชาตอิ ิหรา่ น ปลิวไสวอยา่ งนา่ ประทบั ใจอยา่ งย่งิ ตามเสน้ ทางถนนสายต่างๆเน่ืองแนน่ ไปดว้ ยประชาชนชาวอิหรา่ นหลายหมืน่ คน ยืนเรียงรายรับเสดจ็ ฯโปรยดอกไมแ้ ละโห่รอ้ งถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชนิ นี าถ โดยเฉพาะที่เมืองชรี าช ซงึ่ เป็นเมืองที่ไดร้ ับการขนานนามวา่ เป็นเมืองแหง่ กวีดอกกหุ ลาบและนกไนติงเกล ประชาชนชาวอหิ ร่านนอ้ มเกลา้ ฯ ถวายแกะและววั แดพ่ ระบาทสมเดจ็พระเจา้ อยหู่ วั และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชนิ ีนาถ ตามประเพณขี องชาวเมือง ลน้ เกล้าฯ ทั้งสองพระองคไ์ ดเ้ สด็จฯทรงเยย่ี มชมสถานทส่ี าคญั เป็นทภี่ าคภมู ิใจของชาวอิหร่านเป็นอย่างมาก ทุกแห่งท่ีล้นเกล้าฯทัง้ สองพระองค์เสดจ็ ฯ พระจักรพรรดิและสมเดจ็ พระราชินีได้เสด็จฯด้วยสมเด็จพระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ นี าถ ไดท้ รงบนั ทกึ ไว้ว่า “การไปอหิ รา่ นในคร้งั นน้ั ทาให้เราทง้ั สองกับพระเจ้าชาห์ และสมเดจ็ พระราชินฟี าราห์ได้พบปะกนัอย่างใกล้ชดิ สนิทสนม มโี อการแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ ของกนั และกนั ได้พบคนสาคัญของอิหร่าน ไดเ้ ห็นอารยธรรม และวัฒนธรรมของเขา ต้งั แต่กีพ่ ันปลี งมาจนถึงการพฒั นาประเทศและความกา้ วหน้าของอหิ รา่ นในปัจจุบัน ซึง่ นา่ สนใจอยา่ งยิ่งนัก” วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๐ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั และสมเด็จพระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ นี าถพร้อมดว้ ยพระจักรพรรดิและพระราชินีแหง่ อิหร่านได้เสด็จฯออกจากสนามบนิ กรงุเตหะรานไปยังจตุรัสเฟอรด์ ูซี กรงุ เตหะราน นายกเทศมนตรีทลู เกลา้ ฯถวายกุญแจทองคา(ซงึ่ เปน็ กุญแจเมืองตามประเพณีการต้อนรบั แขกเมืองระดบั ผบู้ ริหารหรืประมุขของประเทศ) จากนน้ั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั มพี ระราชดารสั ขอบพระทัยพระจกั รพรรดิและพระราชนแิ ห่งอหิ รา่ นในการรบั เสด็จฯอยา่ งดีย่งิทรงขอบใจนายกเทศมนตรกี รุงเตหะรานและประชาชนชาวอหิ ร่านท่ีรบั เสด็จฯอย่างฉนั ท์มิตรและมีพระราชดารัสตอนหน่ึงว่า ได้ทรงนาความปรารถนาดขี องประชาชนชาวไทยมาดว้ ยและทรงยนิ ดีทไ่ี ด้เสดจ็ ฯมาเยอื น อหิ รา่ น ทรงหวังวา่ จะชว่ ยกระชับมิตรไมตรีที่ดตี ่อกนั ของท้งั สองประเทศใหแ้ นน่ แฟน้ ดียิง่ ข้นึ พระจักรพรรดทิ รงจดั งานเล้ยี งพระกระยาหารค่าถวายเพื่อเปน็ เกยี รตแิ ด่พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วัและสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชนิ ีนาถ ในคืนวนั นนั้ พระจักรพรรดแิ ละพระราชนิ ีแห่งอิหรา่ นได้ถวายพรมเปอร์เซยี ถักด้วยไหมแด่ล้นเกล้าฯทั้งสอลพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวและสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถถวายเครื่องพระสธุ ารสทองคาและเคร่อื งอัญมณีมีค่าของไทยแด่พระจักรพรรดแิ ละพระราชนิ เี ปน็ การตอบแทนในพระราชไมตรี วันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๐ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั เสด็จพระราชดาเนินไปทรงวางพวงมาลา ณ สถานทบ่ี รรจุศพพระเจ้าเรซา ชาห์ พระบิดาของพระจักรพรรดแิ ห่งอหิ รา่ น ซ่ึงเปน็ ผทู้ รงสถาปนาราชวงศ์ปาห์เลวี ณ เมอื งเรย์ ซงึ่ อย่ทางตอนใตข้ องกรุงเตหะราน ต่อจากนน้ั ทัง้ สองพระองคท์ รงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯให้คณะทตู านทุ ูตประเทศตา่ งๆในกรงุ เตหะรานและภรยิ าเข้าเฝ้าทูลละอองธุลพี ระบาทณ ทอ้ งพระโรงกระจก ในพระราชวงั ท่ีประทบั

วนั ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๐ ทรงมีหมายกาหนดการต่างกนั โดยพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวัเสดจ็ ฯเย่ยี มชมโรงงานอุตสาหกรรมแห่งชาตซิ ่งึ ประกอบด้วยอตุ สาหกรรมหลายประเภทรวมทัง้ การสร้างภาพยนตร์ดว้ ย ส่วนสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชนิ นี าถเสด็จฯเยี่ยมโรงเรยี นช่างเทคนคิ ฟาราห์ ปาหเ์ ลวีซงึ่ เปน็ สถาบันสว่ นหนึ่งของสภากาชาดอิหรา่ นและเสด็จฯเยย่ี มพิพิธภณั ฑโ์ บราณคดี โรงพยาบาล เป็นต้น ในวันเดียวกนั นี้ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวและสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ นี าถ ทรงจัดงานเลย้ี งพระกระยาหารค่าเป็นเกียรตแิ ก่พระจักรพรรดิ พระราชินีแห่งอหิ รา่ นและพระราชวงศ์ มขี า้ ราชการช้นั ผใู้ หญ่ฝ่ายอหิ รา่ นไดร้ บั เชิญไปรว่ มด้วยประมาณ ๒๕๐ คน วนั ที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๐ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชนิ นี าถ และพระจักรพรรดิและพระราชินี ฟาราห์ เสดจ็ พระราชดาเนนิ จากท่าอากาศยานกรุงเตหะรานไปยังนครอิสฟาฮนั ซึ่งเปน็ เมืองโบราณที่มชี ่ือเสยี งในนยิ ายอาหรบั ราตรีอยทู่ างตอนใตก้ รุงเตหะรานประมาณ ๒๔๒ กโิ ลเมตร ล้นเกล้าฯท้ังสองพระองค์ได้เสดจ็ ฯทอดพระเนตรโบสถ์ทส่ี รา้ งขันตามสถาปตั ยกรรมอารเ์ มเนยี น มสั ยดิ อันมีชือ่ เสียงทางประวตั ิศาสตร์ ในเวลาตอ่ มา พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวและสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชินีนาถ ทรงจัดงานเลี้ยงอาหารคา่ พระราชทานแก่คณะกรรมการจดั การต้อนรับ ทงั้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายอหิ รา่ นและฝ่ายไทย ต่อมา ลน้ เกลา้ ฯ ท้งั สองพระองค์ เสด็จพระราชดาเนินเยี่ยมนครเตหะราน มีพระราชปฏสิ ันถารกบันายกรฐั มนตรีแห่งอหิ รา่ นและภริยา และมีพระราชปฏิสนั ถารเป็นการส่วนพระองค์กับพระจักรพรรดแิ ละพระราชินแี หง่ อหิ รา่ น แลว้ ล้นเกลา้ ฯทง้ั สองพระองค์เตรยี มเสดจ็ ฯนวิ ตั กรงุ เทพมหานคร พระจักรพรรดแิ ละพระราชนิ ีแห่งอิหร่านเสด็จฯมารอสง่ เดจ็ ฯทีส่ นามบินเตหะราน พิธสี ง่ เสดจ็ ฯจดั ได้อย่างสมพระเกยี รติยศยิง่ นับเปน็ ความสาเรจ็ อยา่ งยง่ิ ใหญ่ในการท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชินีนาถ เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปทรงเยือนประเทศอหิ รา่ นในครง้ั น้ี นอกจากจะเป็นการกระชับสมั พันธไมตรีอย่างสนิทสนมระหวา่ งองคป์ ระมุขและราชวงศข์ องทงั้ สองประเทศแลว้ ยังทรงนามิตรไมตรีและความปรารถนาดีของประชาชนชาวไทยไปยังประชานชนชาวอหิ รา่ นท้งั มวล ตลอดจนกระชับมติ รภาพระหว่างรฐั บาลของทัง้ สองประเทศให้แน่นแฟน้ ยิง่ ข้นึ ช่วยให้เกิดความราบร่ืนในความร่วมมอื ในด้านตา่ งๆอีท้งั ยงั เปน็ผลให้เกิดความรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั วฒั นธรรมของประเทศอิหร่านและของไทย ซึง่ ลน้ เกลา้ ฯทัง้ สองพระองค์ได้ทลู เชญิ พระจักรพรรดิและพระราชนิ ฟี าราหแ์ ห่งอหิ ร่าน เสด็จฯมาเยอื นประเทศไทยในฐานะราชอาคนั ตกุ ะของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เม่ือวนั ที่ ๒๒-๒๙ มกราคมพ.ศ. ๒๕๑๑ หลังจากล้นเกลา้ ฯ ทัง้ สองพระองค์เสด็จฯนวิ ตั พระนครเพยี งปเี ดียวเท่าน้นั • สหรฐั อเมรกิ า ระหว่างวันที่ ๖ มถิ ุนายน – ๒๐ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๑๐ (เปน็ การเสดจ็ พระราชดาเนินเยือนครัง้ ท่สี อง) ในคร้ังน้ัน พระองค์ไดเ้ สดจ็ ฯ เยอื นเมืองโฮโนลลู ู มลรฐั ฮาวาย เป็นครง้ั ที่ ๒ เพื่อทรงประกอบพิธีเปดิศาลาไทยในบรเิ วณ East-West Center มหาวิทยาลัยฮาวาย และเสด็จฯ มลรฐั แมสซาชูเซตส์และ

พระราชทานพระบรมราชานุญาตใหว้ ทิ ยาลยั Williams College ทูลเกล้าฯ ถวายปรญิ ญาดุษฎบี ณั ฑิตกิตติมศักดิ์ ดา้ นนติ ิศาสตร์ จากนนั้ เสดจ็ ฯ ตอ่ ไปยงั นครนวิ ยอร์กและกรุงวอชงิ ตัน และได้พระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหป้ ระธานาธิบดี Lyndon B. Johnson เข้าเฝ้าฯ ด้วย และอีกเหตุการณ์สาคญั คือในการเสดจ็ ฯ เยือนสหรฐั เปน็ ครั้งที่ ๒ เมือ่ พ.ศ. ๒๕๑๐ นั้น อันเป็นปีที่ชาวอเมริกันเดินขบวนและหนังสอื พิมพล์ งขา่ วโจมตีรัฐบาล เรอ่ื งการส่งทหารมาช่วยรบและเสียชีวิตมากมายในเวยี ดนามใต้ ในภาวะอันวิกฤตนี้ทรงเกรงวา่ รฐั บาลสหรฐั จะลม้ เลิกนโยบาลช่วยเหลอื เอเชียอาคเนย์ ซ่ึงจะเปน็อันตรายต่อความมนั่ คงของไทย จึงเสด็จฯ ไปทรงเจรญิ สัมพันธไมตรี แตก่ ็ทรงเส่ยี งที่จะเผชญิ กบั การต่อตา้ นจากกล่มุ นักศึกษาที่ไมส่ นบั สนนุ การส่งกาลังทหารของสหรัฐไปยังเวยี ดนาม ในการนจ้ี ะทรงไดร้ ับปริญญากิตติมศักด์จิ ากมหาวิทยาลยั วิลเลียมส์ และจะต้องมีพระราชดารสั ตอบแต่ปรากฏว่า ก่อนจะถึงงาน ๑ วนั กรรมการมหาวิทยาลยั มากราบทูลวา่ อาจจะมีการแจกใบปลิวหรือเดินออกจากพิธีบา้ ง ขออยา่ ตกใจ เพราะในสหรัฐทุกคนมีสิทธเิ สรีภาพในการแสดงความคดิ เหน็ ในบทพระราชนพิ นธ์ เรื่อง “ความทรงจาในการตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ” ของสมเดจ็พระนางเจา้ สิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ ตอนหนึง่ ทรงเล่าเหตุการณใ์ นวันต่อมาไว้วา่ “พิธใี นวนั จรงิ จบลงอย่างเรียบรอ้ ยเกินคาด กรรมการมหาวทิ ยาลัยกราบทูลพระองค์ว่า “ท่นี ักศึกษาไมท่ าเช่นนั้นก็เพราะพระเจา้ อยู่หัวทรงปรบพระหตั ถใ์ ห้เป็นเกยี รติแกน่ ักศึกษาทง้ั ๓ คน เขาเห็นวา่ ทรงยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อนื่เขาจงึ อยากแสดงวา่ เขาเองกย็ ินดรี ับฟังความคดิ เหน็ ของพระองค์ทา่ นเชน่ กัน” คร้ันกลับมาแลว้ สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนิ นี าถไดท้ ลู ถามว่า ทาไมจงึ ทรงปรบพระหัตถ์ให้ ท้งั ๆ ที่หลายคนก็ไมไ่ ด้ปรบมอื พระองค์ท่านทรงรับสั่งตอบวา่ “ไม่รดู้ อกหรือว่าบทความเหลา่ นั้นเป็นบทความท่เี ขาได้รบั รางวัลทางด้านภาษา เขาพดู เกง่ ใชภ้ าษาทถ่ี ูกต้อง ไม่ใช่รางวลั ด้านนโยบาย กน็ ่าปรบมอื ให้เพราะวา่ เขาเขียนภาษาได้ไพเราะเพราะพริง้ มากกว่า ในหนงั สือพระราชนิพนธด์ ังกล่าว ระบพุ ระราชดารัสย่อของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัวไว้ว่า “โลกปจั จบุ นั น้ีเต็มไปด้วยโฆษณาชวนเช่ือ ฉะนัน้ ก่อนที่คนเราจะปักใจเชื่ออะไรลงไป ควรพิจารณาดูเหตุผลใหถ้ อ่ งแท้เสียก่อน แม้แต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยงั ทรงแนะใหม้ นุษย์ใชส้ ตแิ ละปัญญาศกึ ษาค้นคว้า และไตรต่ รองใหท้ ราบแน่วา่ คาสงั่ สอนนั้นเปน็ ความจรงิ ทเี่ ชอ่ื ไดห้ รือไม่ ไม่ใหส้ กั แตว่ ่าเชอ่ื เพราะวา่มผี บู้ ญั ญัตไิ ว้” • ประเทศแคนาดา ระหวา่ งวันท่ี ๒๑ – ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวและสมเดจ็ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสดจ็ ฯเยือนประเทศแคนาดาอย่างเปน็ ทางการ ตามคากราบบังคมทลู เชญิ ของนาย Danial Roland Michener ผูส้ าเร็จราชการแคนาดา วันท่ี ๒๐ มิถนุ ายน พ.ศ.๒๕๑๐ มีผูส้ าเร็จราชการแคนาดา และภริยา พรอ้ มดว้ ยเจ้าหน้าทร่ี ะดับสูงของประเทศแคนาดาและประชาชนชาวไทยในประเทศแคนาดา รอรบั เสด็จฯไปยังทาเนยี บรัฐบาล ซง่ึ ทางการประเทศแคนาดาจัดถวายเป็นทปี่ ระทบั

วนั ที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๐ เสดจ็ ฯไปเย่ยี มเทศบาลกรุงออตตาวา โดยมนี ายกเทศมนตรกี รุงออตตาวาเฝา้ ทูลละอองธุลพี ระบาทรบั เสด็จฯ และได้ถวายของทร่ี ะลกึ จากน้นั ได้เสดจ็ พระราชดาเนินไปทรงเย่ียมรฐั สภากรุงออตตาวา เสดจ็ ฯไปเยย่ี มชมกิจการของ Nation Capital Commission Centre และเสด็จฯไปเย่ียมสถานีรถไฟทไี่ ปยงั นครมอนทรอี อล โดยประทบั รถไฟพระทนี่ ัง่ พิเศษ วนั ที่ ๒๒ มถิ ุนายน พ.ศ.๒๕๑๐ Commissioner General ของงานแสดงสนิ คา้ นานาชาติประจาปี ค.ศ.๑๙๖๗ กราบบังคับทลู รับเสดจ็ ฯไปทอดพระเนตรศาลาไทย วนั ที่ ๒๓ มิถนุ ายน พ.ศ.๒๕๑๐ เสด็จฯไปยงั ควิเบก โดยเครือ่ งบินพระท่นี งั่ พร้อมดว้ ยนายกฯและภรยิ ามณฑลควเิ บก และได้ถวายของท่ีระลกึ ให่แกน่ ายกฯมณฑลควิเบก จากนนั้ เสด็จฯไปในงานเล้ียงรบั รองณ ทาเนยี บรัฐบาล มณฑลควเิ บก วนั ท่ี ๒๔ มถิ นุ ายน พ.ศ.๒๕๑๐ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั พระราชทานของขวัญแก่นครควเิ บกไว้เป็นที่ระลึก และได้ลงพระนามาภิไธยในสมดุ เยย่ี ม พรอ้ มกับได้ทรงอาลาผูท้ ีม่ าเฝ้าทูลละอองธลุ พี ระบาทส่งเสดจ็ ฯ ก่อนประทับเคร่ืองบินพระท่ีนั่ง เพื่อกลบั ไปยังสหรัฐอเมริกา จากนนั้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั กม็ ิไดเ้ สด็จพระราชดาเนนิ เยอื นต่างประเทศอีก เพราะทรงเห็นวา่ พระราชภารกจิ ภายในประเทศนนั้ มมี ากมาย อย่างไรก็ตาม หากประมุขหรือรฐั บาลของประเทศใดกราบบังคมทลู เชิญใหเ้ สด็จฯ ไปเยี่ยมเยือน พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัวจะทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมให้พระราชโอรส หรือพระราชธิดา เสดจ็ พระราชดาเนนิ แทนพระองค์ เพ่ือเจริญสมั พันธไมตรีรวมท้งั เพ่ือทอดพระเนตรวทิ ยาการ และศิลปวัฒนธรรมของชาตนิ นั้ ๆจนกระทัง่ วนั ท่ี ๘ – ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวได้เสด็จพระราชดาเนนิ เยอื นประเทศลาว พร้อมดว้ ยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชนิ ีนาถ และสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ ซึง่ นับเปน็การเสด็จพระราชดาเนินเยอื นตา่ งประเทศอีกครั้ง หลังจากที่ว่างเวน้ มาเป็นเวลานานกว่า ๓๐ ปี ภายหลังทรงเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแหง่ ท่ี ๑ รว่ มกับ ฯพณฯ หนูฮัก พูมสะหวัน ประธานประเทศ สปป.ลาว และใน ได้เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรกิจการโรงเรยี นวัฒนธรรมเดก็ กาพรา้ แขวงเวียงจันทน์หลกั ๖๗ ดว้ ย ซ่ึงเป็นการเสดจ็ พระราชดาเนินเยือนเมืองนอกอกี ครั้ง หลังวา่ งเว้นมาเกือบ ๓๐ ปี และนับเปน็การเสดจ็ ประพาสตา่ งแดนครั้งสดุ ทา้ ยของพระองค์ มหาราชันผู้ทรงเป่ียมดว้ ยไมตรีทโี่ ลกไม่มวี นั ลืม สาหรบั ประเทศลาวแลว้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวภมู ิพลอดุลยเดช ทรงมีบทบาทสาคัญอยา่ งยง่ิในการพฒั นาความสมั พันธร์ ะหว่างไทยกับลาวให้มคี วามแน่นแฟ้นตลอดรัชสมัย ๗๐ ปีแหง่ การครองราชยข์ องพระองค์ พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคณุ อย่างหาทส่ี ดุ มิได้แกช่ าวลาว โดยพระองคท์ รงจัดต้ังโครงการในพระราชดาริข้ามพรมแดนเข้ามาในลาวเกอื บ ๑๐ โครงการ โดยโครงการแรกเกิดขนึ้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ คอืโครงการศูนย์พัฒนาและบริการดา้ นการเกษตรห้วยซอน-หว้ ยซวั้ (หลัก ๒๒ ) ที่บา้ นนายาง เมอื งนาซายทองหา่ งจากนครหลวงเวยี งจันทน์ไปทางเหนือราว ๒๒ กโิ ลเมตร เปน็ ศูนย์การเรยี นรู้ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง

ใหก้ บั ประชาชนใน สปป.ลาว โดยแบง่ ออกเปน็ ๓ สว่ น คือ แปลงเกษตรสาธติ แปลงนาสาธิต และแปลงเล้ียงสัตว์สาธิต โดยมีเข่ือนกักเก็บนา้ ได้ประมาณ ๒ ลา้ นลูกบาศก์เมตร ขณะนี้ไดข้ ยายโครงการตวั อยา่ งเพิ่มเตมิ ในอกี ๙ แขวงในพนื้ ท่ี สปป. ลาว เชน่ แขวงพงสาลี แขวงน้าทา และแขวงหลวงพระบาง เปน็ ตน้ นอกจากน้ี ยงั เสด็จเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ๑ เมอื่ เดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๓๗ ซึง่ เปน็ สะพานประวัตศิ าสตรเ์ ปดิ เสน้ ทางคมนาคมระหวา่ งสองประเทศ โดยเชื่อมเสน้ ทางระหวา่ งจงั หวดั หนองคายของไทยกบั นครหลวงเวียงจันทน์ สร้างความปลาบปลม้ื ปิติให้แก่ชาวลาวอย่างล้นพ้นต่อพระมหากรุณาธคิ ณุ ของพระองค์เช่นกนั พระราชกรณยี กจิ ด้านการตา่ งประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวน้ัน รวมไปถงึ การเสดจ็พระราชดาเนินออกให้การต้อนรับราชอาคันตุกะจากประเทศต่างๆ ทีเ่ ดนิ ทางมาเยอื นประเทศไทยทงั้ ยังทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหบ้ รรดาทูตานทุ ูตเข้าเฝ้าทลู ละอองธลุ ีพระบาทถวายสาส์นตราตัง้ ในการเขา้ มารับตาแหน่งในประเทศไทย และถวายบังคมทูลลาเม่ือครบวาระอีกด้วยการส่งพระราชสาสน์ ตอ่ ประมขุ ต่างประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ทรงมพี ระราชสาสน์ ์ต่อประมุข–ผนู้ ารัฐต่างประเทศ ซึง่ มีทง้ัพระราชสานแ์ สดงความยนิ ดี และพระราชสาสน์แสดงความเสยี ใจ ในโอกาสตา่ งๆ ทีเ่ กดิ ขึ้นนับเปน็ การสร้างและกระชับความสมั พนั ธอ์ ันดีระหว่างประเทศ รูปที่ ๒๒ เม่ือวันท่ี ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั มพี ระราชสาส์นถึงนายบารัคฮุสเซน โอบามา ที่กาลงั จะเข้ารับตาแหน่งประธานาธิบดีแหง่ สหรัฐอเมริกาคนที่ ๔๔ โดยมีขอ้ ความว่า“ในโอกาสทท่ี ่านเข้าดารงตาแหน่งประธานาธิบดีแหง่ สหรฐั อเมรกิ า ขา้ พเจ้ามีความยินดีขอสง่ คาอวยพรและความปรารถนาดีอยา่ งจรงิ ใจมา เพ่ือทา่ นประธานาธบิ ดปี ระสบความสาเรจ็ และความสุขสวัสด์ิ ท้ังเพ่ือความเจรญิ กา้ วหนา้ ของประชาชน และความรงุ่ เรืองไพบูลย์ยิง่ ขึ้นของสหรฐั อเมรกิ า ข้าพเจา้ เชือ่ มน่ั วา่

ความสัมพนั ธ์ฉนั มิตรและความร่วมมืออนั ใกล้ชิดระหวา่ งประเทศและประชาชนของเราท้ังสองจะกระชับแนน่ แฟ้นยิง่ ข้ึนต่อไปในภายภาคหน้า”การต้อนรับการมาเยือนของพระราชอาคนั ตกุ ะ รูปที่ ๒๓ การต้อนรับการมาเยือนของประมขุ และผู้นาประเทศต่างๆ ในฐานะพระราชอาคนั ตกุ ะของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งสมพระเกยี รตนิ น้ั นอกจากเป็นการเผยแพร่ศิลปวฒั นธรรมและประวตั ศิ าสตร์อนั ยาวนานของประเทศอนั ล้าค่าสสู่ ายตาต่างประเทศ ยังเปน็ การสรา้ งความประทบั ใจและการกระชบั ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งประเทศอีกด้วยพระราชพิธฉี ลองสิรริ าชสมบัติครบ ๖๐ ปี ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ท่ีผา่ นพน้ ไป ได้มกี ารต้อนรบั การเสดจ็ เยือนไทยของพระราชอาคันตุกะ ๒๕ ประเทศ การมาเยือนของพระราชอาคนั ตุกะยังสง่ ผลดีต่อภาพรวมของประเทศในหลายด้าน ท้ังในด้านการค้า การท่องเทยี่ วและการลงทนุนอกจากผลดีในด้านเศรษฐกจิ แล้ว การมาเยอื นของพระราชอาคันตุกะเป็นการแสดงใหเ้ ห็นวา่ สถาบนั กษตั ริย์แต่ละประเทศต่างใหเ้ กยี รติกันและกัน และตอ้ งการรักษาความสัมพันธร์ ะหวา่ งประเทศ สง่ ผลดีต่อการยกระดับความสมั พันธท์ างการทตู ในระดับตา่ งๆการยกระดับความสมั พันธ์กับประเทศทไ่ี มไ่ ด้ใกล้ชดิ กับประเทศไทย ผู้นาจากบางประเทศที่ไม่ไดเ้ ยือนประเทศไทยมาเป็นเวลานานแลว้ หรือไมเ่ คยมาเยือนอย่างเปน็ทางการ การได้มาเขา้ ร่วมงานนี้เสมือนประกาศความสมั พันธ์ระดบั ของราชวงศ์เปน็ ครัง้ แรก อาทิ ประเทศเลโซโททแ่ี มม้ ีการสถาปนาความสัมพันธท์ างการทูตตงั้ แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๓๒ แต่ไม่เคยมีการมาเยอื นอยา่ งเป็นทางการของพระประมขุ ประเทศลกิ เตนสไตนท์ ่สี ถาปนาความสมั พนั ธ์ทางการทูตกบั ไทยไดเ้ พียง ๙ ปีและไมม่ ีการแต่งตง้ั เอกอัครราชทูตในไทย แต่ใชว้ ธิ ีการมอบหมายให้เอกอัครราชทตู จนี ท่ีมเี ขตครอบคลมุประเทศไทยด้วย

การกระชบั ความสมั พันธท์ ีแ่ นบแนน่ กับประเทศที่สมั พนั ธด์ ีกับไทย หลายประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีกบั ไทยท้ังในมิติของความสัมพันธ์ระหวา่ งราชวงศ์ต่อราชวงศ์ความสัมพันธร์ ะหว่างรฐั บาล ความสัมพนั ธท์ างการทตู และความสมั พันธท์ างการค้าระหว่างประเทศการมาคร้ังนจ้ี ึงเป็นการแสดงไมตรีจติ และยนื ยันความสมั พันธท์ ี่อาจนาไปสู่การสานต่อความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทนุ เช่น ประเทศคูเวตทมี่ ีความสมั พันธท์ างการค้าและแรงงานท่ีดีกบั ไทยตลอดมาประเทศญป่ี ุน่ ท่มี ีความสัมพนั ธท์ างราชวงศท์ ีด่ ตี ่อกันเหน็ ได้จากการเสด็จเยือนกันและกนั มาโดยตลอดประเทศมาเลเซียท่ีแสดงออกอย่างชัดเจนในความสัมพนั ธท์ ่ีดีโดยการปลอ่ ยตวั คนไทยท่ีกระทาความผดิ๑๒๑ คนกลับสมู่ าตภุ ูมิ นอกจากนผ้ี ู้นาของประเทศอ่ืนทไ่ี ม่มีพระมหากษัตรยิ ต์ ่างร่วมแสดงความยินดี ยกย่องและแสดงทา่ ทียนื ยันสถาปนาความสัมพันธร์ ะหว่างประเทศใหย้ นื นาน อาทิ การส่งสาสนถ์ วายพระพรชัยมงคลจากผู้นาประเทศจนี ฟลิ ปิ ปนิ ส์ เม็กซโิ ก รวมถึงข้อมตริ ว่ มของรฐั สภาสหรัฐอเมริกาที่ ๔๐๙ และหนังสอื จากประธานาธบิ ดปี ระเทศสิงคโปร์ ท่ยี นื ยนั ทจี่ ะสานสัมพนั ธ์ทดี่ ีกับไทยใหย้ ืนนาน การมารวมตัวกันของราชวงศ์ทวั่ โลกนบั ว่าไม่ใชเ่ ร่ืองธรรมดา สง่ิ เหลา่ นไ้ี ม่ไดเ้ กิดข้ึนเพียงชั่วขา้ มคนื แตล่ ้วนเป็นผลจากพระราชกรณียกิจทใ่ี นหลวงไดท้ รงตรากตราทางานมาตลอดการครองราชย์ พระปรชี าสามารถและพระอัจฉรยิ ภาพของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวภมู ิพลอดลุ ยเดชฯ ปรากฏเปน็ ทป่ี ระจกั ษ์แกช่ าวไทยและชาวโลก อนั นามาสูก่ ารทูลเกลา้ ทลู กระหม่อมถวายรางวัลและเกยี รติยศระดบันานาชาติมากมาย มากมายกว่าร้อยรางวลั อันเน่ืองมาจากพระราชกรณยี กิจและพระราชอัธยาศยั ในการแสวงหาความรู้ของพระองค์ ที่สาคัญได้แก่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๑๘ ประธานและสมาชิกรัฐสภายโุ รปร่วมกันทลู เกลา้ ฯ ถวาย เหรียญรัฐสภายุโรปณ กรงุ บรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเย่ยี ม ๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๕ เหรยี ญประกาศเกยี รติคุณดา้ นสงิ่ แวดล้อม ในฐานะทรงบาเพ็ญพระราชกรณยี กิจดเี ดน่ เปน็ ท่ียอมรับของนานประเทศ เกย่ี วกบั การอนุรักษธ์ รรมชาติและส่งิ แวดล้อม ของโครงการส่ิงแวดล้อมแหง่ สหประชาชาติกรุงไนโบรี สาธารณรัฐเคนยา ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๕ ผูอ้ านวยการใหญอ่ งค์การอนามยั โลก (WHO) นครเจนีวา สมาพนั ธรัฐสวิสทลู เกล้าฯ ถวาย เหรยี ญทองสาธารณสุขเพื่อมวลชน ๒๖ มกราคม ๒๕๓๖ คณะกรรมการสมาคมนิเวศวทิ ยาเชงิ เคมีสากล รับฟลอริดา สหรัฐอเมรกิ าทลู เกล้าถวายฯ เหรียญสดุดีพระเกยี รติคณุ ดา้ นการสงวนรกั ษาความหลากหลายทางชวี ภาพ

๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๗ ผู้อานวยการบรหิ ารของยเู อ็นดีซีพี (UNDCP) แห่งสหประชาชาติ ทลู เกล้าถวายฯเหรยี ญทองคาสดุดีพระเกยี รติคณุ ด้านการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ๒ ธนั วาคม ๒๕๓๘ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ทูลเกลา้ ถวายฯ เหรียญสดดุ พี ระเกียรตคิ ุณในดา้ นการพฒั นาการเกษตร (เหรยี ญแอกริโคลา) ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๔๙ สานักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) นครนวิ ยอรก์สหรัฐอเมรกิ า ทูลเกล้าฯ ถวายฯ รางวัลความสาเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ จากการทพี่ ระองคท์ รงทุ่มเทพระวรกายและทรงพระวริ ิยะอตุ สาหะในการปฏิบตั ิพระราชกรณยี กิจนอ้ ยใหญ่นานัปการ เพ่อื ยังประโยชน์และความเจรญิ อยา่ งย่ังยนื มาสู่ประชาชนชาวไทยทงั้ ประเทศมาโดยตลอด

บทท่ี 3 วิธกี ารดาเนินงาน ในการจัดทาโครงงานในหัวข้อเร่อื งพระราชกรณยี กิจด้านความสมั พันธ์กบั ตา่ งประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว รชั กาลท่ี ๙ คณะผจู้ ดั ทาได้ทาโครงงานตามข้นั ตอน ดังน้ี3.1 วสั ดุ อุปกรณ์ โปรแกรมที่ใชใ้ นการทางาน 3.1.1 โปรแกรมท่ใี ชใ้ นการตัดตอ่ วิดโี อ Adobe Premier Pro cc 2017 3.1.2 โปรแกรมสาหรบั นาเสนอ Power Point 3.1.3 โปรแกรมสาหรบั ทารูปเล่มรายงาน Microsoft Word 3.1.4 เครื่องคอมพิวเตอร์สาหรับทางาน3.2 ขัน้ ตอนการดาเนินงาน 3.2.1 ประชมุ งานกลมุ่ เพื่อแบง่ งานให้กบั สมาชกิ แตล่ ะคน 3.2.2 ศึกษาและคน้ ควา้ เก่ียวกับงานท่ีได้รบั มอบหมาย คือ เรื่องพระราชกรณียกจิ ด้านความสัมพนั ธ์กับต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั รัชกาลที่ ๙ มีการจดบันทกึ และพิมพ์เก็บไว้เพ่ือใช้ในการรวมรปู เลม่ 3.2.3 ศึกษาการตดั ต่อวิดโี อจากโปรแกรม Adobe Premier Pro cc 2017 3.2.4 ศึกษาวิธกี ารทา E-book เพมิ่ เติมเพื่อใชใ้ นการทารูปเล่มโครงงานให้อยใู่ นรปู หนงั สอือเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เพ่อื ให้ง่ายตอ่ การพกพาและสะดวกยิง่ ข้ึน 3.2.5 รวบนรวมขอ้ มลู จากสมาชกิ กลุม่ ตามท่ีได้แบ่งหน้าท่ี แลว้ ตอ่ ข้อมลู ให้ฝา่ ยที่ทา Power Point 3.2.6 จดั ทารปู เล่มโครงงานและจัดทารปู แบบการนาเสนอ Power Point และตรวจสอบความ ถกู ต้อง 3.2.7 เมือ่ ทา Power Point เสรจ็ แลว้ สง่ ต่อให้ผนู้ าเสนอต่อเพ่ือให้ผู้นาเสนอทาความเข้าใจและเตรียมตัวกอ่ นนาเสนอ

บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน การจดั ทาโครงงานเรื่องพระราชกรณยี กิจดา้ นความสมั พนั ธก์ บั ตา่ งประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั รชั กาลท่ี ๙ นี้ มวี ตั ถปุ ระสงค์เพ่ือใหค้ วามรูเ้ กีย่ วกบั เรื่องพระราชกรณยี กจิ ดา้ นความสัมพนั ธก์ ับต่างประเทศและเพ่ือใหผ้ อู้ ่าน ผู้ท่สี นใจหรือประชาชนชาวไทยทไี่ ด้เหน็ โครงงานฉบับนไี้ ดต้ ระหนกั และเหน็คุณคา่ ของประเทศไทย พร้อมกับระลกึ ถงึ พระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว รชั กาลที่ ๙เพอ่ื ใหผ้ จู้ ดั ทาสามารถนามาประยกุ ต์ใช้ใหเ้ ข้ากบั การเรยี นรู้ของตนยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถตดิ ต่อสื่อสารกนั ได้ระหวา่ งครู เพ่ือนและผสู้ นใจท่วั ไป ซ่งึ มีผลการดาเนนิ งาน ดังนี้ผลการดาเนนิ งาน การจดั ทาโครงงานเรอ่ื งพระราชกรณียกิจดา้ นความสมั พนั ธ์กบั ต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั รัชกาลท่ี ๙ น้ี ผ้จู ัดทาไดเ้ ร่ิมดาเนินงานตามขนั้ ตอนการดาเนินงานท่เี สนอในบทท่ี 3 แล้ว สิ่งทีไ่ ด้ออกมา คือ ข้อมลู ที่เกย่ี วขอ้ งกบั พระราชกรณียกจิ ด้านความสัมพนั ธก์ บั ต่างประเทศของรชั กาลที่ ๙ มากมายและหลากหลายแหลง่ ท่ีมาของข้อมูล ซง่ึ ทางคณะผู้จัดทาได้เรียบเรียงข้อมูลและนาเสนอในรปู แบบหลายๆรปู แบบ เชน่ รูปเล่มโครงงาน การนาเสนอแบบ Power Point และการเสนอในรปู ของ E-book ซง่ึ อยู่ในรูปของหนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ท่ีเปน็ การเผยแพร่แบบสาธารณะ เพื่อความสะดวกในการพกพาและสามารถอา่ นได้รวดเรว็ เวลาใดก็ได้

บทท่ี 5 บทสรปุ พระราชกรณยี กจิ ดา้ นความสัมพันธก์ บั ต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัว รัชกาลที่ ๙ นั้นพระองค์ได้เสด็จฯเยือนประเทศตา่ งๆมากถึง ๒๗ ประเทศท้งั ประเทศในทวีปยโุ รปและประเทศเพ่ือนบา้ นในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ซึง่ ทกุ ๆประเทศท่ีพระองค์ไดเ้ สดจ็ ฯไปเยือนนั้น มจี ดุ มงุ่ หมายเพื่อการกระชบัสมั พันธไ์ มตรีกบั ประเทศต่างๆให้มีความใกล้ชิดสนิทสนมและแน่นแฟ้นย่งิ ข้ึน รวมไปถึงเปน็ การหาพันธมติ รเพอื่ สรา้ งความร่วมมืออนั ดีต่อกนั ระหว่างประเทศท้งั ในด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง ศาสนาขนบธรรมเนยี มประเพณีและวัฒนธรรม เปน็ ต้น ในการเสด็จฯเยอื นตา่ งประเทศน้นั พระองค์ได้ทรงมจี ริยาวัตรทสี่ งา่ งาม และแสดงถึงพระปรีชาสามารถในด้านตา่ งๆไมว่ ่าจะเป็นในท่ปี ระชมุ หรือจะเป็นการพบปะกบั บุคคลสาคญั ของประเทศนั้นๆ ทาให้เปน็ ท่ีรักใคร่ และเป็นทน่ี ่าเคารพนบั ถือของเหล่าประชาชนท้งั ในและตา่ งประเทศ ซ่ึงพระราชกรณียกจิ ในด้านความสมั พนั ธก์ บั ต่างประเทศนี้ของพระองค์ ทาใหป้ ระเทศไทยเป็นที่ร้จู กั มากขน้ึ และเป็นรากฐานแห่งความสงบสุข ความเจริญก้าวหนา้ ของประเทศ พรอ้ มทั้งเกิดความสนั ตสิ ุขระหวา่ งประชาชนชาวไทยและชาวตา่ งประเทศ นอกจากประโยชน์ท่กี ล่าวไว้ข้างตน้ แลว้ การเยือนในแต่ละครงั้ พระองค์ก็ได้นาแนวคิดท่ีเปน็ประโยชน์มาใช้และปรบั ปรงุ ใหเ้ ข้ากับสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นการการต่อเรือเร็ว (ซ่ึงในขณะนัน้ ประเทศไทยต้องการเรอื เร็วขนาดเลก็ ทีม่ ีความคล่องตัวสงู เป็นพเิ ศษ เพื่อใช้ลาดตระเวนชายฝงั่ รกั ษาความมั่นคงของประเทศ จึงเกิดเป็นเรือรบท่ีใชใ้ นราชการ และนบั เป็นความเจริญกา้ วสาคญั ของกองทัพเรือ) ,การถือกาเนิดของกจิ การฟาร์มโคนม ไทย-เดนมารค์ ขึน้ ทอ่ี าเภอมวกเหล็ก จังหวดั สระบรุ ี และวิทยาการเทคโนโลยตี า่ งๆที่พระองค์ไดเ้ สดจ็ ฯไปเย่ยี มชมด้วย ดว้ ยพระปรชี าสามารถและพระอจั ฉริยภาพของสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดชฯรัชกาลท่ี ๙ทาให้ประเทศไทยของเรามคี วามสงบรม่ เยน็ ปราศจากภัยจากต่างประเทศ รวมทั้งมีความเจริญกา้ วหน้าทางดา้ นวทิ ยาการและเทคโนโลยตี า่ งๆ แล้วยงั เป็นการแสดงใหค้ นทัง้ โลกได้เห็นว่า ประเทศไทยน้ันโชคดมี ากแคไ่ หนที่มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงทาทุกอย่างเพ่ือประชาชนชาวไทย แมว้ ่ามันจะลาบากเท่าใดกต็ าม

ภาคผนวกการปรกึ ษาหารอื เกี่ยวกับหัวขอ้ เรอ่ื งทไ่ี ด้รบั และการแบ่งหนา้ ท่กี นั การคน้ หาข้อมูลสารสนเทศจากหนงั สือและอินเตอรเ์ น็ต

การค้นหาข้อมลู สารสนเทศจากหนังสือและอนิ เตอร์เนต็ แลว้ เรยี บเรยี งขอ้ มูล การทากราฟฟิกและวดิ โี อ

การทาส่อื นาเสนอในรแู บบ Power Point และ E-book การตรวจสอบผลงานกอ่ นการนาเสนอ

บรรณานุกรม_____. (2534). การเสด็จพระราชดาเนนิ เยอื นประเทศอังกฤษ พุทธศักราช2503 และพทุ ธศกั ราช2509. กรงุ เทพฯ:ด่านสทุ ธาการพิมพ์._____. (2537). การเสด็จพระราชดาเนินเยอื นสหรฐั อเมริกาและประเทศแคนาดาเปน็ ทางการ ระหว่างวนั ที่ 6-29 มถิ นุ ายน พทุ ธศักราช 2510. กรุงเทพฯ:อมรนิ ทร์พรน้ิ ตงิ้ แอนดพ์ ับลิชช่ิง จากดั (มหาชน)._____. (2542). พระเกียรติเกรกิ ไกรในสหรัฐฯ Indelible Impressions of A Royal Visit. (พมิ พ์ครง้ั ท่ี1). กรุงเทพฯ:อมรินทรพ์ ริ้นตง้ิ แอนด์พบั ลชิ ช่งิ จากัด (มหาชน).ฝา่ ยประชาสัมพนั ธแ์ ละเผยแพร่ สานักพระราชวงั . (2546). เสด็จฯเยือน ไต้หวนั (ประเทศจนี ) พ.ศ.๒๕๐๖. (พมิ พค์ รั้งท่ี1). กรุงเทพฯ:อมรินทรพ์ รนิ้ ต้ิงแอนด์พบั ลิชชงิ่ .ฝ่ายประชาสัมพนั ธ์และเผยแพร่ สานักพระราชวัง. (2546). เสดจ็ ฯเยือน ประเทศญี่ปนุ่ พ.ศ.๒๕๐๖. (พมิ พ์ครง้ั ที่1). กรุงเทพฯ:อมรินทร์พรน้ิ ตง้ิ แอนด์พับลิชชง่ิ .สุธรี ์ ธีระปัญญาพงษ.์ (2540). ความเรียงร้อยแก้วเฉลิมพระเกยี รติฉบับชนะการประกวดรางวัลที่๓ พระราช ประวัตแิ ละพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวภูมพิ ลอดุลยเดช. กรุงเทพฯ:คุรุสภาลาดพรา้ ว._____. (2559). เมือ่ ในหลวงทรงปรบพระหัตถ์ เปลี่ยนใจผตู้ ่อตา้ นให้ยอมรับ. สบื ค้นเมื่อ 23 ตลุ าคม 2560, จาก https://www.posttoday.com/kingbhumibol/news/461249._____. (ม.ป.ป.). พระราชกรณยี กิจด้านความสมั พนั ธ์ระหว่างประเทศ. สืบคน้ เม่ือ 23 ตุลาคม 2560, จาก http://www.chaoprayanews.com/.โพสต์ทูเดย์. (2559). ตามรอยเสด็จฯเยอื นสหรัฐอเมรกิ า เมือ่ ปี พ.ศ.2503. สืบคน้ เมอ่ื 21 ตุลาคม 2560. จาก https://m.posttoday.com/world/news/460946.ไทยรฐั ออนไลน.์ (2559). ตามรอยพ่อหลวงครง้ั เสดจ็ ฯเยือนเจรญิ สัมพนั ธไมตรมี ติ รอาเซียน. สืบค้นเมือ่ 21 ตุลาคม 2560. จาก https://thairath.co.th/content/772737.ช่อมณี ม่วงมงคล. (2558). ตามรอยพระบาท วันนเ้ี มือ่ ในอดตี . สืบคน้ เมอ่ื 23 ตลุ าคม 2560, จาก http://thaiembdc.org/th/2015/07/18/1960-1967-2/.นพรัตน์ นรสิ รานนท์. (2552). พระราชกรณียกจิ ด้านความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ. สบื คน้ เม่ือ 23 ตุลาคม 2560, จาก http://www.thaihealth.or.th/.มลู นิธิยุวทูตความดี ในพระบรมราชปู ถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี.(2013). ผู้สรา้ งสายธารแหง่ พระราชไมตรีกบั นานาประเทศ. สบื คน้ เม่อื 23 ตลุ าคม 2560, จาก http://www.yavf.or.th/th/article/97/1954/.

ประวัติผจู้ ดั ทาโครงงาน ชอื่ นางสาวธรี นาฎ ทบั ทมิ ภูมลิ าเนา 199/74ม.6 ต.สันนาเม็ง อ.สนั ทราย จ.เชยี งใหม่ ประวัติการศกึ ษา - จบมธั ยมศึกษาจากโรงเรียนดาราวิทยาลัย - ปัจจบุ ันกาลงั ศึกษาในระดบั ปรญิ ญาตรชี น้ั ปที ี่ 1 สาขากายภาพบาบัด คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร E-mail : [email protected] ช่ือ นางสาวธรี านนั ท์ หอมตา ภมู ลิ าเนา 51 หม1ู่ ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ประวตั กิ ารศกึ ษา -จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวทิ ยาลัยนเรศวร -ปจั จุบันกาลังศึกษาในระดับปริญญาตรีชนั้ ปีท1ี่ สาขาทัศนมาตร ศาสตร์ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร Email : [email protected] ช่ือ นางสาวนันทกาญจน์ เกวี ภูมิลาเนา 75 ม.5 ต.แมต่ าว อ.แม่สอด จ.ตาก ประวัตกิ ารศกึ ษา -จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนมธั ยมจากโรงเรียนสรรพวิทยาคม -ปจั จุบันกาลงั ศกึ ษาในระดับปรญิ ญาตรชี นั้ ปที ี่ 1สาขากายภาพบาบัด คณะสหเวชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร E-mail : [email protected]

ช่ือ นางสาวนุจรี สีดานชุ ภมู ิลาเนา 643/17 ถ.เจริญสุข ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กาแพงเพชร ประวตั กิ ารศกึ ษา - จบระดับมธั ยมศึกษา จากโรงเรยี นกาแพงเพชรพิทยาคม -ปจั จบุ ันกาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีชนั้ ปีท่ี 1 สาขากายภาพบาบดัคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร Email : [email protected] ช่อื นางสาวนชุ บา อินแปลง ภูมิลาเนา 16 หมู่ 13 ต.ห้วยหมา้ ย อ.สอง จ.แพร่ ประวตั ิการศึกษา -จบระดบั มัธยมศกึ ษาจากโรงเรียนสองพิทยาคม -ปจั จบุ ันกาลงั ศกึ ษาในระดับปรญิ ญาตรีชน้ั ปีท่ี 1สาขากายภาพบาบัด คณะสหเวชศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร Email : [email protected] ช่อื นางสาวใบเตย แสงเสงี่ยม ภูมิลาเนา 161/1 ม.1 ต.ผาจกุ อ.เมอื ง จ.อตุ รดิตถ์ ประวัติการศึกษา -จบระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอุตรดิตถ์ดรณุ ี -ปจั จุบนั กาลงั ศกึ ษาในระดับปริญญาตรชี ้ันปีที่1 สาขาทัศนมาตรศาสตร์ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร Email : [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook