รายงานการจดั กจิ กรรม การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง โครงการสง่ เสรมิ กระบวนการเรียนร้หู ลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการถ่ัวงอกคอนโด ประจาปีงบประมาณ 2566 วนั ท่ี 12 ธนั วาคม 2565 ณ เทศบาลตาบลหนองบวั หมทู่ ี่ 1 ตาบลหนองบวั อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบุรี ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี หนา้ 1
รายงานการจดั การศึกษาต่อเนอ่ื ง โครงการสง่ เสริมกระบวนการเรยี นรูห้ ลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง โครงการถ่วั งอกคอนโด ประจาปีงบประมาณ 2566 วนั ที่ 12 ธนั วาคม 2565 ณ เทศบาลตาบลหนองบัว หมทู่ ่ี 1 ตาบลหนองบวั อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จงั หวัดกาญจนบุรี อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จังหวัดกาญจนบุรี ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี Non-formal and Informal Education Centre หนา้ 2
คานา กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชนตามแนวคิดชัดการศึกษาเพ่ือการ พัฒนาที่ยัง่ ยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใชห้ ลักสตู รและการจดั กระบวนการเรียนร้แู บบบรู ณา การในรูปแบบของการฝึกอบรม การประชุมสัมมนา การจัดเวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้ การสร้างชุมชนนักปฏิบัติ การเรียนทางไกล และรูปแบบอน่ื ๆ ทีเ่ หมาะสมกบั กลุม่ เปา้ หมาย และบรบิ ทของชุมชนแต่ละพ้นื ท่ี โดยเน้นการ สร้างจติ สานกึ ความเปน็ ประชาธิปไตย ความเป็นพลเมอื งดี การส่งเสริมบทบาทสตรี การสรา้ งความเข้มแขง็ ของ เศรษฐกิจชุมชน การบริหารกองทุน การสร้างความมั่นคงดา้ นอาหาร การอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการน้า และการรองรับเข้าสู่ประชาคมอาเชี่ยน และหลักสูตรเชิงบูรณาการเพอ่ื การพัฒนาที่ย่ังยืนตามแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการ ดารงอยแู่ ละปฏิบัตขิ องประชาชนทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรฐั ทั้งในการพฒั นา และบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทาง สายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุค โลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบ ภมู ิคมุ้ กันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกดิ จากการเปลีย่ นแปลงท้ังภายนอกและภายใน ทัง้ นี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิงในการนาวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการ วางแผนและการดาเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดยี วกันจะต้องเสรมิ สรา้ งพื้นฐานจิตใจของคนในชุมชน ให้มี สานึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สจุ ริต และให้มีความรอบรู้ ท่ีเหมาะสมดาเนินชีวติ ดว้ ยความอดทน ความเพยี ร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว และ กว้างขวาง ท้ังด้านวัตถุ สงั คม ส่ิงแวดลอ้ ม และวฒั นธรรมจากโลกภายนอกได้เปน็ อยา่ งดี การพัฒนาโดยสง่ เสริมใหค้ นในชมุ ชนมีแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง จะทาให้กลุ่มเปา้ หมายมีความรู้ความ เข้าใจในวิถีชวี ิตท่ีควรเป็นและจะเป็นพลังสาคัญที่จะขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียงให้ขยายครอบคลมุ ทุก ครัวเรือน ซึ่งจะทาให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถพ่ึงตนเองได้อย่างยั่งยืนอนึ่งเพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุนโครงการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสงั คมและชุมชนตามแนวคิดการจดั การศึกษาเพื่อพัฒนาที่ยั่งยนื ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปีงบประมาณ 2566 ท่ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ทุกครัวเรือนนาปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี งไปปรับใช้ได้อยา่ งเหมาะสม และเกิดการปรบั เปลย่ี นทัศนคติ/ค่านิยมในการดารงชวี ิตและการ ปฏิบตั ิ กศน. อาเภอกาญจนบรุ ี จึงได้มกี ารจดั ทาโครงการดังกล่าวนข้ี นึ้ หนา้ 3
บทท่ี 1 บทนา นโยบาย และจุดเน้นการดาเนนิ งาน กศน. ข้อท่ี 1.3.3 มุ่งจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชนตามแนวคิดชัดการศึกษาเพ่ือการพัฒนาท่ี ยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการใน รูปแบบของการฝึกอบรม การประชมุ สัมมนา การจดั เวทีแลกเปล่ยี นเรียนรู้ การสรา้ งชมุ ชนนกั ปฏบิ ตั ิ การเรียน ทางไกล และรูปแบบอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชนแต่ละพื้นท่ี โดยเน้นการสร้าง จิตสานึกความเป็นประชาธิปไตย ความเป็นพลเมืองดี การส่งเสริมบทบาทสตรี การสร้างความเข้มแข็งของ เศรษฐกิจชมุ ชน การบริหารกองทุน การสร้างความม่ันคงดา้ นอาหาร การอนุรกั ษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการน้า และการรองรับเข้าสู่ประชาคมอาเชี่ยน และหลักสูตรเชิงบูรณาการเพ่ือ การพัฒนาท่ียั่งยืนตามแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการ ดารงอยูแ่ ละปฏิบัตขิ องประชาชนทกุ ระดับ ต้ังแต่ระดับครอบครวั ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนา และบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทาง สายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุค โลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบ ภมู คิ ุ้มกันในตวั ท่ดี ีพอสมควร ตอ่ การมีผลกระทบใด ๆ อนั เกิดจากการเปลยี่ นแปลงท้งั ภายนอกและภายใน ท้ังนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิงในการนาวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการ วางแผนและการดาเนินการทกุ ข้ันตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสรมิ สร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชุมชน ใหม้ ี สานึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สจุ ริต และให้มีความรอบรู้ ท่ีเหมาะสมดาเนินชีวิตดว้ ยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และ กวา้ งขวาง ทั้งด้านวตั ถุ สงั คม ส่งิ แวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกไดเ้ ป็นอยา่ งดี การพัฒนาโดยสง่ เสริมให้คนในชุมชนมแี นวคดิ เศรษฐกิจพอเพียง จะทาใหก้ ลุ่มเปา้ หมายมคี วามรู้ความ เข้าใจในวิถีชวี ิตท่ีควรเป็นและจะเป็นพลังสาคัญท่ีจะขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียงให้ขยายครอบคลมุ ทกุ ครัวเรือน ซ่ึงจะทาให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งตนเองได้อย่างย่ังยืนอน่ึงเพ่ือเป็นการส่งเสริม สนับสนุนโครงการจดั การศึกษาเพ่ือพัฒนาสงั คมและชุมชนตามแนวคิดการจัดการศกึ ษาเพ่ือพฒั นาที่ย่ังยืนตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หนา้ 4
บทท่ี 2 จุดเร่มิ ต้นแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพียง ผลจากการใชแ้ นวทางการพัฒนาประเทศไปสคู่ วามทันสมัย ได้กอ่ ใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลงแกส่ ังคมไทย อย่างมากในทกุ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกจิ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งกระบวนการ ของความเปล่ียนแปลงมีความสลับซับซ้อนจนยากที่จะอธิบายใน เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ได้ เพราะการ เปลี่ยนแปลงท้ังหมดต่างเป็นปัจจัยเช่ือมโยงซึ่งกันและกัน สาหรับผลของการพัฒนาในด้านบวกน้ัน ได้แก่ การ เพ่ิมขึ้นของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเจริญทางวัตถุ และสาธารณูปโภคต่าง ๆ ระบบสื่อสารท่ี ทันสมัย หรือการขยายปริมาณและกระจายการศึกษาอย่างทั่วถึงมากขึ้น แต่ผลด้านบวกเหล่าน้ีส่วนใหญ่ กระจายไปถึงคนในชนบท หรือผู้ด้อยโอกาสในสังคมน้อย แต่ว่า กระบวนการเปล่ียนแปลงของสังคมได้เกิดผล ลบติดตามมาดว้ ย เช่น การขยายตัวของรฐั เข้าไปในชนบท ได้ส่งผลให้ชนบทเกิดความอ่อนแอในหลายด้าน ท้ัง การต้องพึ่งพิงตลาดและพ่อค้าคนกลางในการส่ังสินค้าทุน ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ระบบ ความสัมพันธ์แบบเครือญาติ และการรวมกลุ่มกันตามประเพณีเพื่อการจัดการทรพั ยากรท่ีเคยมีอยู่แต่เดิมแตก สลายลง ภูมคิ วามรู้ท่เี คยใชแ้ กป้ ญั หาและสงั่ สมปรับเปลย่ี นกันมาถกู ลมื เลอื นและเรม่ิ สูญหายไป สิ่งสาคญั กค็ อื ความพอเพียงในการดารงชีวิต ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่ทาให้คนไทยสามารถพึ่งตนเอง และดาเนินชีวิตไปได้ อย่างมีศกั ดศ์ิ รภี ายใตอ้ านาจและความมอี ิสระในการกาหนด ชะตาชวี ติ ของตนเอง ความสามารถในการควบคุม และจดั การเพื่อให้ตนเองไดร้ ับการสนองตอบตอ่ ความต้อง การตา่ ง ๆ รวมทัง้ ความสามารถในการจัดการปญั หา ต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง ซ่ึงทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นศักยภาพพื้นฐานท่ีคนไทยและสังคมไทยเคยมีอยู่แต่ เดิม ต้องถูก กระทบกระเทือน ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจจากปัญหาฟองสบู่และปัญหาความอ่อนแอของชนบท รวมท้ังปัญหาอ่ืน ๆ ทีเ่ กดิ ขึ้น ล้วนแต่เปน็ ขอ้ พิสูจน์และยนื ยนั ปรากฏการณ์น้ไี ดเ้ ปน็ อยา่ งดี พระราชดารวิ ่าดว้ ยเศรษฐกจิ พอเพยี ง “...การพัฒนาประเทศจาเป็นต้องทาตามลาดับข้ัน ต้องสร้างพื้นฐานคือ ความพอมี พอกิน พอใช้ของ ประชาชนส่วนใหญ่เบ้ืองต้นก่อน โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ท่ีประหยัดแต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อได้ พ้ืนฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควร และปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญ และฐานะทาง เศรษฐกจิ ข้นั ท่ีสูงขนึ้ โดยลาดับต่อไป...” (18 กรกฎาคม 2517) “ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ” เปน็ แนวพระราชดาริใน พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว ทพี่ ระราชทานมานานกวา่ 30 ปี เป็นแนวคิดที่ตัง้ อยูบ่ นรากฐานของวัฒนธรรม ไทย เปน็ แนวทางการพัฒนาทตี่ ั้งบนพ้ืนฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท คานึงถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเอง ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรม เป็นพื้นฐานในการดารงชีวิต ท่ี สาคัญจะตอ้ งมี “ สติ ปัญญา และความเพียร ” ซ่ึงจะนาไปสู่ “ ความสุข ” ในการดาเนินชีวติ อย่างแทจ้ ริง หนา้ 5
“ ...คนอ่ืนจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา จะว่าเมืองไทยล้าสมัย ว่าเมืองไทยเชย ว่าเมืองไทยไม่มีสิ่งที่สมัยใหม่ แต่เรา อยู่พอมีพอกิน และขอให้ทุกคนมีความปรารถนาท่ีจะให้เมืองไทย พออยู่พอกิน มีความสงบ และทางานตั้งจิต อธษิ ฐานตงั้ ปณธิ าน ในทางนี้ทจ่ี ะใหเ้ มอื งไทยอยู่แบบพออยู่พอกิน ไมใ่ ช่ว่าจะรงุ่ เรอื งอย่างยอด แตว่ ่ามคี วามพอ อยู่พอกิน มีความสงบ เปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ถ้าเรารักษาความพออยู่พอกินน้ีได้ เราก็จะยอดย่ิงยวดได้ ... ” (4 ธันวาคม 2517 )พระบรมราโชวาทน้ี ทรงเห็นว่าแนวทางการพัฒนาท่ีเน้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ของประเทศเป็นหลักแต่ เพียงอย่างเดียวอาจจะเกิดปัญหาได้ จึงทรงเน้นการมีพอกินพอใช้ของประชาชน ส่วนใหญ่ในเบ้ืองต้นก่อน เมื่อมีพ้ืนฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควรแล้ว จึงสร้างความเจริญและฐานะทาง เศรษฐกิจให้สงู ข้ึน ซ่ึงหมายถึง แทนที่จะเน้นการขยายตวั ของภาคอุตสาหกรรมนาการพัฒนาประเทศ ควรทจ่ี ะ สร้างความม่ันคงทางเศรษฐกิจพื้นฐานก่อน นั่นคือ ทาให้ประชาชนในชนบทส่วนใหญ่พอมีพอกินก่อน เป็น แนวทางการพัฒนาที่เน้นการกระจายรายได้ เพ่ือสร้างพ้ืนฐานและความม่ันคงทางเศรษฐกิจโดยรวมของ ประเทศ ก่อนเน้นการพฒั นาในระดับสูงขึ้นไป ทรงเตอื นเรือ่ งพออยู่พอกนิ ต้งั แต่ปี 2517 คือ เม่อื 30 กว่าปที ่ี แล้วแต่ทิศทางการพัฒนามิได้เปล่ียนแปลง “ ...เม่ือปี 2517 วันนั้นได้พูดถึงว่า เราควรปฏิบัตใิ ห้พอมพี อกิน พอมพี อกนิ น้ีก็แปลวา่ เศรษฐกิจพอเพยี งน่ันเอง ถ้าแต่ละคนมีพอมพี อกิน กใ็ ช้ได้ ยิ่งถา้ ท้งั ประเทศพอมพี อกินก็ ย่ิงดี และประเทศไทยเวลานั้นก็เร่ิมจะเป็นไม่พอมีพอกิน บางคนก็มีมาก บางคนก็ไม่มีเลย... ” ( 4 ธันวาคม 2541 ) เศรษฐกิจพอเพียง “ เศรษฐกิจพอเพียง ” เป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน พระราชดาริชี้แนะแนวทาง การดาเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิด วกิ ฤตการณท์ างเศรษฐกจิ และเมอ่ื ภายหลังไดท้ รงเน้นย้าแนวทางการแก้ไขเพอื่ ให้รอดพน้ และสามารถดารงอยู่ ได้อย่างมนั่ คงและยั่งยนื ภายใตก้ ระแสโลกาภวิ ัฒนแ์ ละความ เปล่ยี นแปลงตา่ ง ๆ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาช้ีถึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกจิ เพือ่ ใหก้ ้าวทันต่อโลกยคุ โลกาภวิ ัฒน์ ความพอเพยี ง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการกระทบใด ๆ อันเกิด จากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในภายนอก ทั้งน้ี จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวัง อยา่ งยง่ิ ในการนาวิชาการตา่ ง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการ ทกุ ขน้ั ตอน และขณะเดียวกัน จะต้อง เสริมสร้างพ้ืนฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าท่ีของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มี สานึกในคุณธรรม ความซ่ือสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ทีเ่ หมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพยี ร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและ กว้างขวาง ท้ังด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี ความหมายของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง จึงประกอบดว้ ยคุณสมบัติ ดงั นี้ หนา้ 6
1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อ่ืน เช่น การผลิตและการบริโภคท่ีอยู่ในระดบั พอประมาณ 2. ความมเี หตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนนั้ จะตอ้ งเป็นไปอย่างมเี หตุผล โดย พิจารณาจากเหตปุ ัจจยั ทเี่ ก่ียวขอ้ ง ตลอดจนคานึงถึงผลท่ีคาดวา่ จะเกดิ ขึน้ จากการกระทาน้ัน ๆ อยา่ งรอบคอบ 3. ภมู ิคมุ้ กัน หมายถึง การเตรยี มตัวใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบและการเปลย่ี นแปลงดา้ นตา่ ง ๆ ทจี่ ะเกดิ ขึน้ โดย คานงึ ถงึ ความเป็นไปได้ของสถานการณต์ ่าง ๆ ทคี่ าดวา่ จะเกดิ ขึ้นในอนาคต โดยมี เงื่อนไข ของการตดั สนิ ใจ และดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยใู่ นระดบั พอเพียง 2 ประการ ดงั น้ี 1. เงื่อนไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรู้เกย่ี วกับวิชาการตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ยี วขอ้ งรอบด้าน ความรอบคอบทีจ่ ะนา ความรูเ้ หลา่ น้ันมาพิจารณาใหเ้ ช่อื มโยงกัน เพ่ือประกอบการวางแผนและความระมดั ระวังในการปฏบิ ัติ 2. เง่อื นไขคุณธรรม ที่จะตอ้ งเสริมสรา้ ง ประกอบด้วย มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มีความซ่ือสัตยส์ ุจริตและมี ความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต หนา้ 7
การจัดการเรยี นรู้ของศูนย์การเรียนรปู้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลักการและเหตผุ ล เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่ยึดหลักทางสายกลาง ท่ีชี้แนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติของ ประชาชนในทกุ ระดบั ให้ดาเนนิ ไปในทาง สายกลาง มีความพอเพยี ง และมีความพรอ้ มทจ่ี ะจัดการตอ่ ผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องอาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง ในการวางแผนและดาเนินการทุก ข้นั ตอน ท้ังน้ี เศรษฐกิจพอเพยี งเปน็ การดาเนินชวี ิตอยา่ งสมดลุ และยัง่ ยนื เพอ่ื ให้สามารถอย่ไู ดแ้ มใ้ นโลกโลกาภิ วัตน์ที่มีการแข่งขันสูงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ทรงปรับปรุงพระราชทานเป็นท่ีมาของนิยาม \"3 ห่วง 2 เงื่อนไข\" ที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ นามาใช้ในการรณรงค์เผยแพร่ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ อยู่ใน ปัจจุบัน ซ่ึงประกอบด้วยความ \"พอประมาณ มเี หตุผล มีภูมคิ ุ้มกนั \" บนเงือ่ นไข \"ความรู้\" และ \"คณุ ธรรม\" การ พัฒนาตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง ว่า เป็นการพัฒนาที่ตง้ั อยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคานึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัวตลอดจนการใช้ความรู้ ความ รอบคอบละคุณธรรมประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทาต่าง ๆ ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ท่ีไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อ่ืน เช่น การผลิตและการบริโภคที่ พอประมาณ ความมีเหตุผล หมายถึง การใช้หลักเหตุผลในการตัดสินใจเร่ืองต่าง ๆ โดยพิจารณาจากเหตุ ปัจจัยท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันท่ีดี หมายถึง การเตรียมตัวให้ พร้อมรับต่อผลกระทบท่ีเกิดขึ้นจากการเปล่ียนแปลงรอบตัว ปัจจัยเหล่าน้ีจะเกิดขึ้นได้น้ัน จะต้องอาศัยความรู้ และคุณธรรม เป็นเง่ือนไขพื้นฐาน กล่าวคือ เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความ ระมัดระวังในการดาเนินชีวิตและการประกอบการงาน ส่วนเง่ือนไขคุณธรรม คือ การยึดถือคุณธรรมต่าง ๆ อาทิ ความซ่อื สัตย์สจุ รติ ความอดทน ความเพียร การมุง่ ตอ่ ประโยชนส์ ่วนรวมและการแบ่งปัน ฯลฯ ตลอดเวลา ท่ีประยุกต์ใช้ปรัชญา แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็น \"ข้อเสนอในการดาเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตาม แนวทางของพุทธธรรมอย่างแท้จริง\" ทั้งน้ีเน่ืองจากในพระราชดารัสหน่ึง ได้ให้คาอธิบายถึง เศรษฐกิจพอเพียง ว่า \"คือความพอประมาณ ซื่อตรง ไม่โลภมาก และต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่น\"ระบบเศรษฐกิจพอเพียงมุ่งเน้นให้ บุคคลสามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน และใช้จ่ายเงินให้ได้มาอย่างพอเพียงและประหยัด ตามกาลังของ เงินของบุคคลน้ัน โดยปราศจากการกู้หนี้ยืมสิน และถ้ามีเงินเหลือ ก็แบ่งเก็บออมไว้บางส่วน ช่วยเหลือผู้อ่ืน บางส่วน และอาจจะใช้จ่ายมาเพ่ือปัจจัยเสริมอีกบางส่วน สาเหตุท่ีแนวทางการดารงชีวิตอย่างพอเพียง ได้ถูก กล่าวถึงอย่างกว้างขวางในขณะน้ี เพราะสภาพการดารงชีวิตของสังคมทุนนิยมในปัจจุบันได้ถูกปลูกฝัง สร้าง หรือกระตุ้น ให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเกินตัว ในเร่ืองท่ีไม่เกี่ยวข้องหรือเกินกว่าปัจจัยในการดารงชีวิต จนทาให้ ไม่มีเงินเพียงพอเพ่ือตอบสนองความต้องการเหล่านั้น ส่งผลให้เกิดการกู้หน้ียืมสิน เกิดเป็นวัฏจักรท่ีบุคคลหน่ึง ไมส่ ามารถหลุดออกมาได้ ถ้าไม่เปลี่ยนแนวทางในการดารงชีวติ หนา้ 8
วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้ผูเ้ รยี นมีความรู้ ความเข้าใจ ในเรอ่ื งเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. เพ่ือให้ผู้เรียนนาความรทู้ ่ไี ดร้ บั ไปใช้ในการดารงชีวิตตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เปา้ หมาย เชงิ ปริมาณ ประชาชนในอาเภอเมืองกาญจนบรุ ี อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จังหวัดกาญจนบรุ ี จานวน 31 คน เชิงคณุ ภาพ ประชาชนในพน้ื ทต่ี าบลบ้านเหนอื ตาบลบา้ นใต้ ตาบลปากแพรก ตาบลแกง่ เส้ยี น ตาบลหนองบัว ตาบลเกาะสาโรง และตาบลชอ่ งสะเดา ทงั้ สิน้ 34 คน รู้และเข้าใจการดาเนนิ ชวี ิตในแบบเศรษฐกิจพอเพียง ระยะเวลาดาเนินการ 12 ธนั วาคม 2565 สถานทด่ี าเนนิ การ ณ เทศบาลตาบลหนองบวั หมู่ที่ 1 ตาบลหนองบัว อาเภอเมอื งกาญจนบุรี จงั หวดั กาญจนบรุ ี วธิ ดี าเนนิ การ 1. ประชุมหารอื รว่ มกันระหว่างผู้เกยี่ วข้อง 2. จดั เตรียมรายละเอยี ด และเอกสารทเี่ กีย่ วขอ้ ง 3. จดั ทาโครงการเพ่อื ขออนมุ ตั โิ ครงการ 4. ประชุมช้ีแจงเพอื่ ทาความเข้าใจในรายละเอยี ดของโครงการ 5. ดาเนนิ การตามโครงการ 6. ตดิ ตามผลการปฏิบตั งิ าน 7. สรุปผลการดาเนนิ งาน หนา้ 9
เครือข่าย ชมรม กานัน ผู้ใหญบ่ า้ น ผู้นาชุมชนท้องถิน่ อสม. ผลลพั ธ์ 1. เปน็ การกระตุ้นแรงจงู ใจในการดาเนนิ งานเศรษฐกจิ พอเพียงของชาวบ้าน 2. ประชาชนเห็นคณุ คา่ ของการดาเนินชีวติ แบบเศรษฐกจิ พอเพียง 3. เกิดการกระตุ้นเศรษฐกจิ ในชุมชนใหด้ ีข้นึ และเพมิ่ รายไดข้ องคนในชมุ ชน 4. ประชาชนสามารถเรยี นรู้และเข้าใจการดาเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ตัวชว้ี ดั ผลสาเร็จของโครงการ ตวั ชี้วัดผลผลติ ร้อยละ 80 ของผู้เข้ารว่ มโครงการ มคี วามร้เู กย่ี วกับการเศรษฐกจิ พอเพียง การปุ๋ย หมกั จากมูลสัตว์ ตวั ชี้วดั ผลลัพธ์ ผูเ้ ข้าร่วมโครงการ มคี วามร้เู กยี่ วกบั การเศรษฐกจิ พอเพยี ง หนา้ 10
บทที่ 3 แผนการดาเนินงาน กจิ กรรมดาเนินงาน ปี พ.ศ.2565 ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย พ.ค ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. การเตรียมการ สารวจความตอ้ งการของชมุ ชนในเรื่อง ของความตอ้ งการให้ส่งเสริมอาชพี กาหนดอาชพี ใหต้ รงความตอ้ งการของ ชุมชน ติดตอ่ วทิ ยากร เขียนโครงการ ขออนมุ ตั โิ ครงการ การเตรยี มสถานท่ี การจดั เตรียมสถานที่ การเตรียมอปุ กรณ์ การดาเนินงาน ประชาสมั พันธ์หากลุ่มเปา้ หมายในตาบล ดาเนนิ การเรียนการสอน นิเทศการเรียนการสอน ประเมนิ สรปุ เม่อื ดาเนินการเรียนการ สอนตามระยะเวลาทกี่ าหนด เสนอแนวทางการพัฒนา หนา้ 11
บทที่ 4 การประเมินผลการจัดกจิ กรรม สรปุ แบบสอบถามความพึงพอใจ 12 มิถนุ ายน 2565 ณ ศูนย์เพาะเหด็ นางฟ้าภฐู าน หมทู่ ่ี 6 ตาบลปากแพรก อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบุรี ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทั่วไป เพศ ชาย 3 คน อายุ หญิง 28 คน ระดับการศึกษา อายุ15 - 39 ปี 4 คน ตาแหน่งทางสงั คม อายุ40 - 59 ปี 14 คน อายุ 60 ปี ขน้ึ ไป 13 คน ประถมศึกษา 6 คน ม.ตน้ 4 คน ม.ปลาย 5 คน ปวช ปวส. คน ปริญญาตรี คน อ่นื ๆ ระบ.ุ ...................... 12 คน 4 คน ประชาชนทัว่ ไป อสม. 27 คน เกษตรกร 1 คน ผูน้ าทอ้ งถน่ิ 2 คน 1 คน หนา้ 12
ภาพกิจกรรมการศึกษาเพอื่ โครงการส่งเสริมกระบวนการเรียนรหู้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง โครงการถ่ัวงอกคอนโด ประจาปีงบประมาณ 2566 ณ เทศบาลตาบลหนองบวั หมทู่ ี่ 1 ตาบลหนองบัว อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จังหวดั กาญจนบรุ ี วนั ที่ 12 ธนั วาคม 2565 หนา้ 13
ภาพกิจกรรมการศึกษาเพอื่ โครงการส่งเสริมกระบวนการเรียนรหู้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง โครงการถ่ัวงอกคอนโด ประจาปีงบประมาณ 2566 ณ เทศบาลตาบลหนองบวั หมทู่ ี่ 1 ตาบลหนองบัว อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จังหวดั กาญจนบรุ ี วนั ที่ 12 ธนั วาคม 2565 หนา้ 14
ภาพกิจกรรมการศึกษาเพอื่ โครงการส่งเสริมกระบวนการเรียนรหู้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง โครงการถ่ัวงอกคอนโด ประจาปีงบประมาณ 2566 ณ เทศบาลตาบลหนองบวั หมทู่ ี่ 1 ตาบลหนองบัว อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จังหวดั กาญจนบรุ ี วนั ที่ 12 ธนั วาคม 2565 หนา้ 15
ภาพกิจกรรมการศึกษาเพอื่ โครงการส่งเสริมกระบวนการเรียนรหู้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง โครงการถ่ัวงอกคอนโด ประจาปีงบประมาณ 2566 ณ เทศบาลตาบลหนองบวั หมทู่ ี่ 1 ตาบลหนองบัว อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จังหวดั กาญจนบรุ ี วนั ที่ 12 ธนั วาคม 2565 หนา้ 16
สรุปแบบสอบถามความพึงพอใจ วนั ที่ 12 ธนั วาคม 2565 ณ เทศบาลตาบลหนองบัว หมูท่ ่ี 1 ตาบลหนองบวั อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จังหวดั กาญจนบุรี ตอนท่ี 2 ดา้ นความพงึ พอใจของผูร้ บั บริการ สรุประดับความพึงพอใจ ลาดับ รายการ ค่าเฉล่ยี ความหมาย คิดเปน็ ร้อยละ 1 เน้ือหาวชิ าทจ่ี ัดที่เรียนรตู้ รงตามความต้องการของทา่ นเพยี งใด 4.00 ดี 80.00 2 วิทยากรมาให้ความรตู้ รงตามเวลา 3 วิทยากรมาใหค้ วามรคู้ รบตามหลักสูตรทกี่ าหนด 4.00 ดี 80.00 4 ความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ของวิทยากร 5 จานวนสือ่ /อปุ กรณก์ ารฝึกประกอบการเรียนเพยี งพอเพียงใด 4.00 ดี 80.00 6 ท่านได้รบั ความรูค้ วามสามารถฝกึ ทกั ษะไดต้ ามท่คี าดหวังมากนอ้ ยเพยี งใด 7 ความรูท้ ักษะท่ีได้ สามารถนาไปใชป้ ระกอบอาชีพได้เพยี งใด 4.00 ดี 80.00 8 สถานเรียนเหมาะสมเพียงใด 9 ท่านได้รับโอกาสในการเรยี นรู้เทา่ เทียมกันเพยี งไร 4.00 ดี 80.00 10 ระยะเวลาในการเรยี น/กจิ กรรมเหมาะสมเพยี งใด 11 ความรู้ทีไ่ ด้รบั คมุ้ คา่ เวลา และความต้ังใจเพยี งใด 4.00 ดี 80.00 12 ทา่ นพงึ พอใจตอ่ หลักสูตรนีเ้ พียงใด 4.00 ดี 80.00 4.00 ดี 80.00 4.00 ดี 80.00 4.00 ดี 80.00 4.00 ดี 80.00 4.00 ดี 80.00 จากผลแบบสอบถามความคดิ เหน็ และความพึงพอใจของผู้เรยี น/ผ้รู ับบริการดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรม และความพึงพอใจในคร้งั น้พี บวา่ - ด้านหลักสูตร 1. เนื้อหาวิชาท่ีจัดท่ีเรียนรู้ตรงตามความต้องการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็น ร้อยละ 80 ของผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ * โดยภาพรวมด้านหลักสตู รผู้รบั บริการมผี ลการประเมินในระดับดี คดิ เปน็ ร้อยละ 80.00 - ด้านวิทยากรหรือผ้สู อน 2. วิทยากรมาให้ความรู้ตรงตามเวลา มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้เข้าร่วม โครงการ หนา้ 17
3. วิทยากรมาให้ความรู้ครบตามหลักสูตรท่ีกาหนด มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็นร้อยละ 80 ของผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ * โดยภาพรวมดา้ นวิทยากรหรอื ผ้สู อน ผู้รับบรกิ ารมีผลการประเมนิ ในระดับดี คิดเปน็ ร้อยละ 80.00 - ด้านการจัดกิจกรรมหรือการเรยี นรู้ 4. ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ของวิทยากร มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้เขา้ ร่วมโครงการ * โดยภาพรวมดา้ นการจัดกิจกรรมหรอื การเรียนรู้ผู้รับบรกิ าร มีผลการประเมินในระดับดี คิดเป็นร้อย ละ 80.00 - สอื่ และวสั ดอุ ุปกรณ์ 5. จานวนส่อื /อปุ กรณก์ ารฝกึ ประกอบการเรียนเพียงพอเพียงใด มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็น รอ้ ยละ 80 ของผ้เู ขา้ ร่วมโครงการ * โดยภาพรวมด้านสื่อและอปุ กรณผ์ รู้ ับบรกิ ารมีผลการประเมนิ ในระดับดี คดิ เปน็ ร้อยละ 80.00 - ผลท่ไี ดร้ ับจากการเรยี นร้หู รือเขา้ รว่ มกจิ กรรม 6. ท่านได้รับความรูค้ วามสามารถฝึกทักษะไดต้ ามที่คาดหวังมากน้อยเพียงใด มีผลการประเมินอยู่ใน ระดับดคี ิดเปน็ รอ้ ยละ 80 ของผเู้ ข้าร่วมโครงการ 7. ความรู้ทักษะที่ได้ สามารถนาไปใช้ประกอบอาชีพได้เพียงใด มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็น รอ้ ยละ 80 ของผู้เข้ารว่ มโครงการ * โดยภาพรวมดา้ นผลทไ่ี ด้รบั จากการเรยี นรหู้ รอื เขา้ ร่วมกิจกรรม ผู้รบั บริการมีผลการประเมินในระดบั ดคี ดิ เปน็ ร้อยละ 80.00 - สถานทใ่ี ห้บริการ 8. สถานเรียนเหมาะสมเพียงใด มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้เข้าร่วม โครงการ * โดยภาพรวมดา้ นผลที่ได้รบั จากการเรียนรหู้ รือเข้าร่วมกิจกรรม ผู้รับบริการมีผลการประเมินในระดับดีขึ้นไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ 80.00 หนา้ 18
- ความพงึ พอใจต่อการใหบ้ รกิ าร 9. ท่านได้รับโอกาสในการเรยี นรู้เท่าเทียมกนั เพียงไร มีผลการประเมินอยู่ในระดบั ดคี ิดเป็นร้อยละ 80 ของผูเ้ ข้ารว่ มโครงการ 10. ระยะเวลาในการเรียน/กิจกรรมเหมาะสมเพียงใด มผี ลการประเมินอยู่ในระดบั ดคี ิดเปน็ ร้อยละ 80 ของผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการ 11. ความรูท้ ไ่ี ด้รับคมุ้ คา่ เวลา และความตั้งใจเพยี งใด มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็นร้อยละ 80 ของผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ 12. ท่านพึงพอใจต่อหลักสูตรน้ีเพียงใด มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีคิดเป็นร้อยละ 80 ของ ผเู้ ข้ารว่ มโครงการ * โดยภาพรวมด้านผลทไ่ี ด้รบั จากการเรยี นรูห้ รอื เขา้ รว่ มกจิ กรรม ผูร้ บั บรกิ ารมผี ลการประเมนิ ในระดับ ดี คิดเป็นร้อยละ 80.00 ۞โดยภาพรวมแล้วจากแบบสอบถามความคิดเห็นและความพึงพอใจของผู้เรียน/ผู้รับบริการ การจัดกจิ กรรมโครงการอบรมตามเศรษฐกิจพอเพียง มีผลการประเมนิ อยู่ในระดับดี คิดเปน็ ร้อยละ 80.00 หนา้ 19
หนา้ 20
หนา้ 21
หนา้ 22
คณะผ้จู ัดทา ทีป่ รึกษา นางสาวพนาวรรณ บญุ จีน รักษาการ ผอ.กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี ครูอาสาสมัครฯ กศน.อ.เมอื งฯ นายสชุ าติ สุกใส ผรู้ บั ผิดชอบโครงการ คณะผจู้ ดั ทา คณะทางาน นายณัฏฐเมศ เสริมสขุ นางสาวจารุณี สาราญวงศ์ หนา้ 23
ภาคผนวก หนา้ 24
แบบติดตามผู้เข้ารบั การฝกึ อบรมประชาชนหลงั จบหลกั สตู ร กศน.ตาบลหนองบวั กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวดั กาญจนบรุ ี ฝกึ อบรมหลกั สตู ร โครงการถัว่ งอกคอนโด ประจาปีงบประมาณ 2566 จานวน......1........ วัน ระหวา่ งวนั ท…่ี ...12 ธนั วาคม 2565................................................. ชอ่ื วิทยากร (ถา้ มี)................นายวัลลภ แปน้ เขยี ว............ คาชี้แจง แบบติดตามผ้เู ข้ารบั การฝกึ อบรมประชาชน มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พื่อศึกษาและรวบรวมขอ้ มลู เกีย่ วกับประโยชน์ท่ีผู้เขา้ รับการฝึกอบรมไดร้ บั หลังจากการฝกึ อบรมจบหลักสตู รแลว้ ชือ่ –นามสกุล การนาไปใชป้ ระโยชน์ ผู้เขา้ รบั การฝึกอบรม ที่ ลดรายจ่าย เพม่ิ รายได้ พฒั นา นาไปประกอบ อน่ื ๆ คุณภาพชวี ิต อาชีพ (ระบุ) ปากแพรก 1 นางประภัสสร เรอื งพยงุ กั ด์ิ ✓ ปากแพรก ปากแพรก 2 นายเสนอ อนิ ทรวฒั นา ✓ ปากแพรก ปากแพรก 3 นางกญั ญา กติ ยิ านนั ท์ ✓ บ้านเหนือ บา้ นเหนือ 4 นางสาวลดั ดา จงพพิ ฒั นว์ ณิช ✓ บ้านเหนอื บา้ นเหนอื 5 นางสาวประไพร เกศธรา ✓ แก่งเสี้ยน แก่งเส้ยี น 6 นางธารทอง ฉาหวียศพร ✓ แกง่ เสย้ี น แกง่ เสีย้ น 7 นางสาวสายวนิ ัส เกิดโรจน์ธิโอภาส ✓ เกาะสาโรง เกาะสาโรง 8 นางเอ้ือมพร ปั้นโอ้ ✓ เกาะสาโรง เกาะสาโรง 9 นางพเยาว์ จลุ สาราญ ✓ บา้ นใต้ บ้านใต้ 10 นางวีรนันท์ โรจนอ์ ภนิ ันท์ ✓ บา้ นใต้ 11 นางจาเนย รอดผา ✓ 12 นายอาทติ ย์ พง่ึ ดาเนิน ✓ 13 นางบัวผา จุรเุ ทยี บ ✓ 14 นางสาวนาวี คงอยู่ ✓ 15 นายธนั วา นอ้ มแนบ ✓ 16 นางชยานนั ท์ สุขพทิ ✓ 17 นางอนิ ธรรมย์ เรอื งรตั นพร ✓ 18 นางสมใจ พดุ นะ ✓ 19 นางสาวนวรัตน์ บวั วฒั นา ✓ 20 นางภสั สวรรณ์ สตั กาญจน์ ✓ ลงช่อื ..............................................................ครู กศน.ตาบล (นายณฏั ฐเมศ เสรมิ สุข) หนา้ 25
แบบตดิ ตามผ้เู ข้ารับการฝึกอบรมประชาชนหลงั จบหลกั สตู ร กศน.ตาบลหนองบวั กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวัดกาญจนบุรี ฝึกอบรมหลักสตู ร โครงการถั่วงอกคอนโด ประจาปงี บประมาณ 2566 จานวน......1........ วนั ระหวา่ งวันท…ี่ ...12 ธนั วาคม 2565................................................. ชื่อวทิ ยากร (ถ้าม)ี ................นายวัลลภ แปน้ เขียว............ คาช้ีแจง แบบตดิ ตามผู้เข้ารับการฝกึ อบรมประชาชน มวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มูล เกย่ี วกบั ประโยชนท์ ผ่ี ู้เข้ารับการฝึกอบรมไดร้ ับหลังจากการฝกึ อบรมจบหลกั สตู รแลว้ ชื่อ –นามสกุล การนาไปใช้ประโยชน์ ผู้เขา้ รับการฝกึ อบรม ที่ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ พฒั นา นาไปประกอบ อนื่ ๆ คณุ ภาพชีวติ อาชีพ (ระบุ) บ้านใต้ 21 นางอนาตมิ นั เจรญิ พมิ พ์ ✓ ช่องสะเดา ชอ่ งสะเดา 22 นางกลั ปย์ กร บุญเลย้ี ง ✓ ช่องสะเดา ชอ่ งสะเดา 23 นางอิงอร ทองประสม ✓ หนองบัว หนองบวั 24 นางไตรรงค์ ไกรเทพ ✓ หนองบวั หนองบวั 25 นางภัทรภณ บวั งาม ✓ หนองบวั หนองบัว 26 นางนิรมยั เพิม่ อุบล ✓ 27 นางฉวีวรรณ บญุ ไทย ✓ 28 นางยุพิน สตั กาญจน์ ✓ 29 นางจนั ทรเ์ พญ็ สตั กาญจน์ ✓ 30 นางเตม็ เดือน ไกรเทพ ✓ 31 นางสมแรม ปามรตั น ✓ หนา้ 26
หนา้ 27
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: