35. ส่ีเหลี่ยมใดบา งที่มเี สนทแยงมมุ ตั้งฉากกนั ก. สเ่ี หลยี่ มจตั ุรสั , สีเ่ หลี่ยมผืนผา ข. สเ่ี หลย่ี มผืนผา , สีเ่ หล่ียมขนมเปยกปนู ค. สเ่ี หลยี่ มรูปวาง , สี่เหล่ียมขนมเปย กปนู ง. สี่เหลี่ยมรูปวา ง , สีเ่ หลีย่ มผืนผา 36. ตองการปูกระเบ้อื งพนื้ ท่ี 6 ตารางวา โดยทีค่ ิดคาจางตารางฟุตละ 24 บาท จะตองจา ยเงินทั้งหมดกี่ บาท ก. 1,296 บาท ข. 1,200 บาท ค. 864 บาท ง. 846 บาท 37. จงหาพื้นทผ่ี วิ เอยี งของพีระมดิ สี่เหลย่ี มจัตุรสั มฐี านยาวดา นละ 6 เซนติเมตร สงู 4 เซนติเมร ก. 20 ตารางเซนตเิ มตร ข. 24 ตารางเซนติเมตร ค. 40 ตารางเซนติเมตร ง. 60 ตารางเซนตเิ มตร 38. ขวดรปู ทรงกระบอกใบหนึง่ มีพ้ืนรอบทกี่ น ขวด 12 เซนติเมตร ขวดสงู 11 เซนติเมตร จะมีปริมาตรก่ี ลูกบากศกเซนตเิ มตร ก. 113 ลูกบาศกเซนติเมตร ข. 126 ลกู บาศกเ ซนตเิ มตร ค. 132 ลูกบาศกเซนตเิ มตร ง. 264 ลกู บาศกเ ซนติเมตร 39. กรวยตน อันหนึง่ วดั เสน ผานศนู ยก ลางภายในได 42 เซนตเิ มตร และสงู เทากับ 20 เซนติเมตร กรวยม้ี ี พื้นทผ่ี ิวกี่ตารางเซนติเมตร ก. 3,386 ตารางเซนตเิ มตร ข. 3,310 ตารางเซนตเิ มตร ค. 3,240 ตารางเซนตเิ มตร ง. 3,300 ตารางเซนติเมตร คู่มือการเรียน...รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ม.ตน้ 101
40. ทรงกลมมพี ้นื ท่ผี วิ 1,386 ตารางนว้ิ จะมีปริมาตรกลี่ ูกบาศกนว้ิ ก. 4,800 ข. 4,851 ค. 4,158 ง. 5,841 41. กาํ หนด (x, 4) = (y ,u) ตีเสน x + y มคี าเทา ใด ก. 7 ข. 8 ค. 9 ง. 10 42. พีชกบั แพทมสี มรวมกัน 20 ผล พีชมีสมมากกวา แพท 6 ผล คอู ันดบั จาํ นวนสมของพีชกบั จาํ นวนสม ของแพทเทากบั ขอ ใด ก. (13 , 7) ข. (14 , 6) ค. (15 , 5) ง. (16 , 4) ทางปลิวบันทกึ การเดนิ ทางจากบานเขาไปยงั ตวั เมืองเปน กราฟดงั นี้ จากรูป ใชต อบคําถามในขอ 43 – 44 ค่มู อื การเรียน...รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ม.ต้น 102
43. ทองปลิวเดทิ างไดกกี่ โิ ลเมตร จึงหยดุ พัก ก. 4 ข. 5 ค. 6 ง. 7 44. ถา ทองปลิวใชเวลาเดนิ ทาง 6 ชัว่ โมงถงึ ตัวเมือง บานของทางปลวิ หางจากตวั เมอื งก่ีกิโลเมตร ก. 8 ข. 10 ค. 12 ง. 14 45. ขอ ใดไมเ ขาพวก ก. ข. ค. ง. คมู่ ือการเรยี น...รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ม.ต้น 103
46. รปู เลขาคณติ สามมิตทิ ี่กาํ หนดให ถา มองดา นขางจะเปน รปู อะไร ก. วงกลม ข. วงรี ค. ส่เี หลี่ยมผนื ผา ง. ส่ีเหลีย่ มฐานโคง 47. ภาพใดเปน ภาพดา นหนา ของรูปเรขาคณติ สามมิตทิ ่ปี ระกอบข้ึนจากลูกบาศก ก. ข. ค. ง. 48. ขอใดถือวา เปน ขอ มลู สถิติ ก. ชยั ยศหนกั 70 กิโลกรัม ข. วภิ าพร มสี ว นสดั เปน 32 – 24 – 34 ค. รายไดโดยเฉล่ยี ของคนในจังหวดั เชยี งใหมเปน 38,000 บาทตอป ง. คน 10 คน เปน ชาย 5 คน หญิง 5 คน อยใู นบา นสรุ นิ ทร 49. แผนภูมแิ สดงสดั สวนของจาํ นวนครู กศน. ใน กศน.จงั หวดั แหง หนงึ่ ปก ารศึกษา 2552 แยกตาม คุณวุฒิเปน การดาํ เนนิ งานทางสถติ ทิ เ่ี รียกวา อะไร ก. การเก็บรวบรวมขอมูล เอก อนื่ ๆ ข. การนาํ เสนอขอมูล ค. การวเิ คราะหขอมลู เอกการศกึ ษา ง. การตคี วามหมายของขอมลู คู่มือการเรียน...รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ม.ตน้ 104
50 ในการเลือกตั้งประธานนกั ศึกษาโดยเฉลย่ี แลว นกั ศกึ ษาเลอื ก “ปญ ญา” จากขอความน้เี ฉลี่ยหมายถึงคา กลางชนิดใด ก. ฐานนยิ ม ข. มัธยฐาน ค. คาเฉลยี่ เลขคณติ ง. สรปุ ไมไ ด 51. ตอ ไปนีเ้ ปน น้าํ หนกั ของนักเรียน 5 คน คอื 40 , 45 , 39 , 60 และ 53 กิโลกรัม นํ้าหนักเฉลย่ี ของ นักเรยี นมีคา เทาใด ก. 45.0 กิโลกรัม ข. 46.3 กิโลกรมั ค. 47.4 กิโลกรมั ง. 49.5 กโิ ลกรมั 52. นักเรียนชนั้ ม. 3 กลมุ หน่ึงอายุ 14 , 15 , 13 , 15 , 16 อีก 4 ปขางหนา มัธยธานอายขุ องนกั เรยี นกลมุ น้ี เทากับเทา ไร ก. 15 ข. 17 ค. 18 ง. 19 53. ขอ มลู 74 76 80 73 75 80 78 91 56 98 78 66 83 54 69 65 86 82 61 นาํ มา สรางตารางเรขาคณติ และความถี่ไดอ ันตาภาคชัน้ แรกเทา กับ 53 – 60 จะมกี ีอ่ นั ตรภาคชัน้ ก. 5 ข. 6 ค. 7 ง. 8 54. อันตรภาคชัน้ 7.50 – 9.49 มีความกวาวอันตรภาคชน้ั เทา กบั ขอใด ก. 1 ข. 1.90 ค. 1.99 ง. 2 คู่มือการเรียน...รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ม.ต้น 105
55. ในป พ.ศ. 2530 ในมหาวิทยาลยั แหง หนงึ่ มีนกั ศกึ ษา ดงั นี้ คณะศกึ ษาศาสตร 2,400 คน คณะสื่อสารมวลชน 3,000 คน คณะวิทยาศาสตร 1,200 คน ขอ ใดกลา วไดถ ูกตอง ก. ขนาดของมุมท่ีจุดศนู ยกลางของคณะศลิ ปศาสตรและคณะวิทยาศาสตรเ ทา กับ 196 องศา ข. ขนาดของมุมที่จดุ ศนู ยกลางของคณะศลิ ปศาสตรกับคณะส่อื สารมวลชนเทา กับ 350 องศา ค. ขนาดของมมุ ที่จุดศูนยกลางของคณะสอ่ื สารมวลชนนอ ยกวาคณะศกึ ษาศาสตรแ ละคณะ วทิ ยาศาสตร 60 องศา ง. ขนาดของมุมทจ่ี ุดศนู ยกลางของคณะวทิ ยาศาสตรเ ทากับ 18.18 องศา และคณะสอื่ สารมวลชน เทา กับ 45 องศา .............................................................................................................................................. เมอ่ื ทาํ แบบทดสอบแลว ใหตรวจคว ามถูกตอ งจากคาํ เฉลยสวนที่ 3 แลว กรอกคะแนนท่ไี ดใ นแบบบนั ทกึ คะแ นนใตคาํ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น ค่มู ือการเรยี น...รายวชิ าคณิตศาสตร์ ม.ต้น 106
สว นที่ 3 เฉลยแบบทดสอบตนเองกอ นเรียน-หลังเรยี นและกิจกรรมการเรียนทา ยบท 1) เฉลยแบบทดสอบกอน/หลังเรียน 1. ค 2. ง 3. ก 4. ง 5. ข 6. ง 7. ก 8. ก 9. ค 10. ก 11. ค 12. ง 13. ง 14. ข 15. ค 16. ข 17. ข 18. ข 19. ข 20. ค 21. ง 22. ข 23. ข 24. ข 25. ก 26. ก 27. ง 28. ง 29. ก 30. ค 31. ก 32. ง 33. ค 34. ค 35. ค 36. ก 37. ง 38. ข 39. ง 40. ข 41. ข 42. ก 43. ค 44. ข 45. ข 46. ค 47. ข 48. ค 49. ข 50. ก 51. ค 52. ง 53. ข 54. ง 55. ก เฉลยแบบทดหลังเรียน 1. ค 2. ง 3. ก 4. ง 5. ข 6. ง 7. ก 8. ก 9. ค 10. ก 11. ค 12. ง 13. ง 14. ข 15. ค 16. ข 17. ข 18. ข 19. ข 20. ค 21. ง 22. ข 23. ข 24. ข 25. ก 26. ก 27. ง 28. ง 29. ก 30. ค 31. ก 32. ง 33. ค 34. ค 35. ค 36. ก 37. ง 38. ข 39. ง 40. ข 41. ข 42. ก 43. ค 44. ข 45. ข 46. ค 47. ข 48. ค 49. ข 50. ก 51. ค 52. ง 53. ข 54. ง 55. ก คะแนนแบบทดสอบกอ นเรียน คะแนน * ใหนกั ศกึ ษากรอกคะแนนท่ที าํ ได คะแนนเต็ม 55 คะแนน ทําได คะแนน คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น * ใหนกั ศึกษากรอกคะแนนท่ที ําได คะแนนเต็ม 55 คะแนน ทาํ ได คู่มอื การเรยี น...รายวชิ าคณิตศาสตร์ ม.ตน้ 107
เฉลยวชิ าคณติ ศาสตร บทท่ี 1 จาํ นวนและการดาํ เนนิ การ กจิ กรรมที่ 1 1. จาํ นวนเตม็ บวก ประกอบดว ย 4 2 จาํ นวนเตม็ ลบ ประกอบดว ย −1, − 3, − 500 250 จํานวนเตม็ ประกอบดว ย −1, 4 , 0, − 3, − 500 2 250 2. 1) -4 < 3 2) -4 < -3 3) -2 > -5 4) 4 > -2 5) 4 > -8 3. 1) -20, -15, -8, -7, -4, -2 2) -17, -8, -2, 0, 4, 16 กจิ กรรมที่ 2 คา สมั บูรณข อง 3 1. 1) คาสัมบรู ณของ (-3) เทา กับ จาํ นวนตรงขา มของ 4 จาํ นวนตรงขามของ (-5) 2) จํานวนตรงขา มของ (-4) มากกวา คา สัมบรู ณของ (-A) เมอ่ื A เปนจาํ นวนใดๆ 3) จาํ นวนตรงขา มของ 5 นอ ยกวา จํานวนตรงขา มของ (-A) เมือ่ A เปน จํานวนใดๆ 4) คาสัมบูรณของ A เทา กับ 5) จํานวนตรงขามของ A นอยกวา 2. 1) - (-5) = 5 2) จาํ นวนตรงขา มของ 8 < 8 3) จํานวนตรงขา มของ (-8) > (-8) 4) − 25 = − 25 5) − 20 > (− 20)
6) − 25 > − 5 7) จํานวนตรงขา มของ (-2) < จาํ นวนตรงขา มของ (-7) 8) จํานวนตรงขา มของ 32 > จาํ นวนตรงขามของ 77 กจิ กรรมท่ี 3 1. 1) 3 + 2 = 5 2) (-3) + (-2) = ‐5 3) 2 + 1 = 3 4) (-2) + (-1) = ‐3 5) (-4) + (-2) = ‐6 6) (-5) + 3 = ‐2
2. 1) (−12) − 7 = (−12) + (− 7) = (−19) 2) 7 − (−12) = 7 +12 = 19 3) (− 8) − (− 5) = (− 8) + 5 = (− 3) 4) (− 5) − (− 8)=(− 5) + 8 = 3 5) {8 − (− 2)}− 6 = (8 + 2) − 6 = 10 − 6 = 4 6) 8 − {(− 2) − 6} = 8 − {(− 2) + (− 6)} = 8 − (− 8) = 8 + 8 = 16 3. 1) {(− 3)× (− 5)}× (− 2) = 15× (− 2) = − 30 2) {4 × (− 3)}× (−1) = (−12)× (−1) = 12 3) 4 ×{(− 3)× (−1)} = 4 × 3 = 12 4) {(− 5)× (− 6)}+{(− 5)× (− 6)} = (− 30) + 30 = 0 5) (− 5)×{6 + (− 6)} = (− 5)× 0 = 0 6) {(− 7)× (− 5)}+ {(− 7)× 2} = 35 + (−14) = 21 7) (− 7)×{(− 5) + 2} = (− 7)× (− 3) = 21 8) {5× (− 7)}+ {5× 3} = (− 35) +15 = (− 20) 9) 5×{(− 7) + 3} = 5× (− 4) = (− 20) 4. 1) 17 ÷17 = 1 2) 23 ÷ 23 = − 1 3) 15 ÷ (− 3) = − 5 4) (− 72) ÷ 9 = − 8 5) {(− 42) ÷ (−17)}÷ {15 ÷ (− 5)} = 6 ÷ (− 3) = − 2 6) {(− 72) ÷ 9}÷ {16 ÷ (− 2)} = (− 8) ÷ (− 8) = 1
กจิ กรรมที่ 4 1. 1) (−13) + 5 = 5 + (−13) 2) (− 4)× (− 5) = (− 5)× (− 4) 3) {7 + (− 9)}+ (− 4) = 7 + {(− 9) + (− 4)} 4) {6 × (− 3)}×12 = 6 ×{(− 3)×12} 5) 17 + {8 + (− 9)} = 17 + {(− 9) + 8} 6) {24 + (−12)}+ (− 5) = 24 + {(− 5) + (−12)} 7) 13 + (−13) = 0 8) (−13) +13 = 0 9) (−13) + (− 26) = −13 10) {(− 3)×8}+ {(− 3)×12} = (− 3)× (8 +12) 2. ac + bd = (8 × 3) + {(10)× (− 6)} a+b 8 + 10 = 24 + (− 60) = − 36 = 2 18 18
บทที่ 2 เศษสว นและทศนิยม กจิ กรรมท่ี 1 1. 2. 1) 0.6 2) 0.12 3) 0.357 4) 0.123 กจิ กรรมที่ 2 1. 1) 9 = 9 × 25 = 225 = 2.25 4 4 25 100 2) 1 3 = 7 × 25 = 175 = 1.75 21 4 25 100 3) 39 = 39 × 25 = 975 = 0.975 40 40 25 1,000 4) 7 = 7 × 4 = 28 = 0.28 25 25 4 100 5) 1 = 1 × 125 = 125 = 0.125 8 8 125 1,000 6) 8 = 8 × 8 = 64 = 0.064 125 125 8 1,000 2. 1) 0.9 2) 3.142857 3) 0.4375 4) 5 = 1.25 5) 0.83 6) 8.6 4
กจิ กรรมที่ 3 2) 3 = 15 1. 1) 1 = 9 4 20 2 18 4) 2 = 16 3) 7 = 21 5 40 12 36 6) 20 = 5 5) 14 = 56 100 25 9 36 8) 2 = 16 7) 9 = 3 5 40 12 4 2. 1) 1 > 1 2) 2 < 3 56 34 3) 5 < 6 4) 3 < 1 67 10 3 5) 3 > 1 6) 7 > 9 86 34 7) 5 < 7 8) 11 > 7 12 16 15 10 9) 11 = 22 10) 7 < 5 48 32 3. 1) -0.500 < 0.501 2) 103.012 > -0.501 3) 5.28 < 5.82 4) -5.28 = -5.28 5) 8.354 = 8.354 6) -8.544 > -8.534 7) -13.06 < 13.06 8) 103.012 > -103.012 9) -5.125 = -5.1250 10) -7.10 < -7.01 4. 1) -2.000 , -1.738 , -1.724 , 0.832 2) -31.170 , -31.107 , -30.710 , 30.017 3) -138.500 , -83.001 , -38.000 , 83.000 4) -45.50 , -41.54 , -39.62 , -37.40 , -34.50
กิจกรรมท่ี 4 2) 1 1. 1) 6 2 3) 2 5) 1 4) 16 6 11 2. 1) 1 2 6) 1 5 12 3) 1 7 2) 1 7 8 10 3. 1) 2 4 4) 4 2 5 11 3) 11 2 2) 2 3 3 5) 4 4) 1 6) 48 7 675 4. 1) 1 7 2) 4 25 11 3) 3 4) 4 1 4 2 5) 2 1 6) 1 4 2 5. 1) 2 2) 5 5 4) 16 3) 4 2 3
กิจกรรมท่ี 5 1. ตองมีเงิน 320 บาท ∴ซ้ือรองเทา 2 ของเงนิ ทั้งหมด คดิ เปน เงนิ 2 × 320 = 128 บาท 55 เหลือเงิน 320 - 128 = 192 ∴ซ้อื เส้ือ 5 ของเงนิ ทเ่ี หลอื คิดเปน เงนิ 5 ×192 = 60 บาท 16 16 2. หอ งประชมุ กวาง 4 2 ของความสงู = 22 × 7 = 77 เมตร 5 52 5 ยาว 3 3 ของความกวา ง = 15 × 77 = 231 เมตร 4 45 4 ดังน้ัน หอ งประชมุ มีปรมิ าตร = 7 × 77 × 231 = 124,509 ตารางเมตร 25 4 40 โดยเฉล่ียนกั เรยี นคนหนงึ่ มอี ากาศหายใจ = 124,509 ÷ 462 40 = 124,509 × 1 40 462 = 6.7375 ลูกบาศกเ มตร 3. สเ่ี หล่ยี มผนื ผา กวาง 64 เมตร ยาว 10 1 = 21 เมตร 22 พ้นื ที่สี่เหลย่ี มผนื ผา = 64 × 21 = 641 ตารางเมตร 2 เสียคาจา งคนปลูกหญา ตารางเมตรละ 45 บาท ∴เสียเงิน = 45 × 641 = 28,845 บาท 4. โทรทัศนเ ครอ่ื งหนง่ึ ลดราคาลง 1 ของราคาทป่ี ก ไว 4 ∴ลดราคา 1 บาท 4 ราคาท่ลี ดแลว เหลอื 1− 1 = 3 บาท 44 ขายใหเ พือ่ นลดใหอ กี 1 ของราคาที่ประกาศลด = 1 × 3 = 3 5 5 4 20
∴ขายไปจริง 3 − 3 = 15 − 3 = 12 = 3 บาท 4 20 20 20 5 3 คิดเปน เงนิ 4,200 บาท 5 1 คดิ เปนเงนิ 4,200 × 5 = 7,000 บาท 3 ดงั นนั้ เดมิ ตดิ ราคาไวขาย 7,000 บาท 5. เสยี คาใชจ า ยคา ทพ่ี กั 2 ของคาใชจา ยท้ังหมด = 2 × 1 = 2 บาท 5 55 เสียคา ใชจายคา เดนิ ทาง 1 ของคาใชจ า ยทง้ั หมด = 1 × 1 = 1 บาท 4 44 รวมคาทีพ่ ักและคา เดนิ ทาง = 2 + 1 = 13 บาท 5 4 20 ∴เปนคา ใชจ ายอ่ืนๆ = 1− 13 = 7 บาท 20 20 7 คดิ เปน เงนิ 1,470 บาท 20 1 คดิ เปนเงนิ 1,470 × 20 = 4,200 บาท 7 ดังน้นั คาใชจ า ยท้ังหมด 4,200 บาท กจิ กรรมที่ 6 2) (-0.8) + 0.7 = -0.1 1. 1) 0.81 + 0.18 = 0.9 4) 54.82 -4.73 = 50.09 6) -78.04 – (-14.102) = -63.938 3) (-15.2) + (-1.5) = -16.7 8) -8.673 – (-12.000) = 3.327 5) (-30) - 20.1 = -50.1 7) 8.763 – 12.000 = -3.237 2. 1) -1240 2) -10.1802 3) -12.596 4) 24.5746 5) 4.04
กจิ กรรมท่ี 7 1. เชอื กยาว 17.25 เมตร นําเชอื กยาว 5.2 เมตร มาผูกตอกันทําใหเ สยี เชอื กรายตอ 0.15 เมตร ดงั นั้น เชอื กยาว = 17.25 + 5.2 – 0.15 = 22.3 เมตร นาํ มาวางเปน รปู สี่เหลยี่ มผืนผาใหด า นกวา ง ดานละ 1.5 เมตร ดงั นัน้ ดานกวา งมี 2 ดา น = 1.5 ×2 = 3 เมตร เหลอื เชือกเปน ดา นยาว = 22.3 – 3 = 19.3 เมตร แตด า นยาวมี 2 ดาน คดิ เปน ดานยาวยาวดา นละ 19.3 ÷2 = 9.65 เมตร ดานยาว ยาวดา นละ 9.65 เมตร 2. น้ําตาล 1 ถงุ หนกั 9.35 กิโลกรัม นาํ้ ตาล 16 ถุง หนัก 9.35 × 16 = 149.6 กโิ ลกรมั ใชนาํ้ ตาลวนั ละ = 4.4 กโิ ลกรมั ดังนัน้ จะใชน าํ้ ตาลหมดใน = 149.6 ÷4.4 = 34 วนั 3. หองรูปสเ่ี หล่ยี มผนื ผากวาง 4.8 เมตร = 4.8 × 100 เซนติเมตร = 480 เซนตเิ มตร ยาว 9.6 เมตร = 9.6 × 100 เซนติเมตร = 960 เซนติเมตร หอ งน้ีมีพ้นื ที่ = 480 × 960 ตารางเซนติเมตร ดงั น้ัน จะตองใชก ระเบ้อื งทง้ั หมด = 480 × 960 = 14,400 แผน 32 4. ทองคาํ แทงหนัก 12.04 กรมั ซื้อเพม่ิ อกี 25.22 กรมั ทองคําหนกั = 12.04 + 25.22 = 37.26 กรัม นาํ ไปทําแหวนทองหนกั วงละ 3.45 กรัม คิดเปน = 5 × 3.45 = 17.25 กรมั ดงั น้นั เนอ้ื ทอง = 37.26 – 16.04 – 17.25 กรัม = 3.97 กรัม
บทที่ 3 เลขยกกาํ ลงั กจิ กรรมท่ี 1 1. 1) 25 = 5 c 5 = 52 มี 5 เปน ฐาน 2 เปน เลขชก้ี าํ ลัง 2) 64 = 8 × 8 = 82 มี 8 เปน ฐาน 2 เปน เลขชกี้ าํ ลงั 3) 169 2. 1) 28 = 2 × 2 × 2 × 2 × 2 × 2 × 2 × 2 = 256 2) (-3)4 = (-3)(-3)(-3)(-3) = 81 3) (0.02)6 = (0.02) (0.02) (0.02) (0.02) (0.02) (0.02) = 0.000000000064 4) ⎛⎜ 2 ⎟⎞3 = ⎛⎜ 2 ⎞⎟⎛⎜ 2 ⎟⎞⎛⎜ 2 ⎞⎟ = 8 ⎝ 7 ⎠ ⎝ 7 ⎠⎝ 7 ⎠⎝ 7 ⎠ 343 5) (0.5)6 = (0.5) (0.5) (0.5) (0.5) (0.5) (0.5) = 0.015625 กิจกรรมท่ี 2 1. 1) 4 × 105 2) 2.3 × 1010 3) 6.39 × 108 4) 2.475 × 1011 2. 1.43 × 109 3. 1) 2 × 106 = 2 × 1,000,000 = 2,000,000 2) 4.03 × 109 = 4.03 × 1,000,000,000 = 4,030,000,000 3) 9.125 × 105 = 9.125 × 100,000 = 912.500
กจิ กรรมท่ี 3 1. 1) 22 × 23 × 27 = 22 + 3 + 7 = 212 2) (-3)3 × (-3) × (-3)5 = (-3)3 + 1 + 5 = (-3)9 3) 5 × 54 × 25 = 5 × 54 × 52 = 51+4+2 = 57 4) 113 × 11 × 112 = 113+1+2 = 116 5) (-3)4 × (-3)3 × (-3)7 = (-3)4+3+7 = (-3)14 2. 1) 29 – 2 = 27 = 128 2) 36 – 1 = 35 = 243 3) 113 – 6 = 11-3 = 1 = 1 113 1331 4) ⎜⎛ 1 ⎞⎟4−2 = ⎛⎜ 1 ⎞⎟2 = 1 ⎝ 5 ⎠ ⎝ 5 ⎠ 25 5) (0.8)5 ÷ (0.8)7 = (0.8)5 – 7 = (0.8)-2 = 1 = 1 = 1.5625 0.64 (0.8)2 6) (0.03)5 - 4 = (0.03)1 = 0.03 7) 53 + 4 ÷ 57 = 57-7 = 50 = 1 8) 76+1-4 = 73 = 343 9) 132 × 134 – 5 = 132 × 13-1 = 132 × 1 = 13 3 10) m6 – 7× m+4 = m-1 × m+4 = 1 × m4 = m4-1 = m3 m 3. 1) 1 2) 30 = 1 5 4) 25 3) 1 6) 1 47 x3 5) 1 8) 1 1.5 m2 7) 1 a
บทท่ี 4 อตั ราสว น และรอ ยละ กิจกรรมที่ 1 1. 1) จํานวนที่ถกู รางวลั ที่ 1 ตอ ทงั้ หมด = 1 : 1,000,000 2) จาํ นวนท่ถี กู รางวลั เลขทา ย 2 ตัว ตอ ทง้ั หมด = 10,000 : 1,000,000 3) จาํ นวนท่ถี กู รางวลั เลขทาย 3 ตัว ตอทง้ั หมด = 4,000 : 1,000,000 4) อัตราสว นของสลากทีถ่ ูกรางวัลเลขทา ย 2 ตัว ตอ สลากที่ถกู เลขทาย 3 ตวั = 10,000 : 4,000 2. 1) อตั ราสวนจาํ นวนลูกกวาดสีแดงตอลูกกวาดทง้ั หมด = 3 : 10 2) อตั ราสว นของจํานวนลกู กวาดสีแดงตอลกู กวาดสีเหลือง = 3 : 5 3) ลกู กวาดสเี หลือง 1 มากทสี่ ดุ เนือ่ งจากลกู กวานที่จดั 10 เม็ดมสี ีเหลอื งมากที่สุด คอื 5 เมด็ 3. 1) อตั ราสวนที่นายก ก ทาํ งาน ตอ เวลาทน่ี าย ข ทาํ งาน เทากับ 2 × 24 ชัว่ โมง : 10 ชว่ั โมง เทา กบั 48 ชว่ั โมง : 10 ชั่วโมง หรือ เทา กับ 24 : 5 2) อัตราสวนของระยะทางบา นไปตลาด ตอ ระยะทางจากบานไปโรงเรยี น เทากบั 200 เมตร : 1.5 ×1,000 เมตร เทา กบั 200 เมตร : 1,500 เมตร หรือ เทา กับ 2 : 15 4. 1) อัตราสวนจาํ นวนเงนิ ทลี่ ูกคนโตไดรบั ตอ ลูกคนเลก็ = 5 : 2 2) อตั ราสวนจาํ นวนเงนิ ท่ลี กู คนเล็กไดรบั ตอ ลูกคนกลาง = 2 : 3 3) อตั ราสว นจาํ นวนเงินทลี่ ูกคนเลก็ ไดร ับตอ เงินทงั้ หมด = 2 : 10 หรือ 1 : 5 5. อัตราสวนเงินภรรยาตอ เงนิ บุตรชาย เทากบั 1 : 2 เทากับ 2 : 4 อตั ราสว นเงนิ ของระยะตอ บตุ รหญงิ เทา กบั 2 : 1 ดงั นน้ั อัตราสว นของภรรยาตอ บุตรชายตอบุตรหญงิ เทากบั 2 : 4 : 1
กจิ กรรมที่ 2 1. 1) A = 12 2) B = 4 5 2. ขายมะละกอ จะไดเ งนิ 250 บาท 3. นักศึกษา ชาย จาํ นวน 150 คน นกั ศึกษา หญงิ จาํ นวน 250 คน 4. ลูกคนโตไดร บั สว นแบง 140,000 บาท ลูกคนเลก็ ไดร บั สวนแบง 60,000 บาท กิจกรรมที่ 3 1. 1) 90 2) 48 3) 7% 4) 25% 5) 600 6) 0.5 กจิ กรรมที่ 4 1. 125 คน 2. จาํ นวนนกั เรียนหญิง 1,200 คน นกั เรียนชายทไี่ มไ ดม าจากตา งจังหวดั 320 คน 3. สินคาคิดราคา 1,250 บาท 4. 100,000 ตารางเมตร 5. นกนอ ยจะมเี งนิ ในบัญชี 10,516.50 บาท 6. วรี ะมเี งนิ เหลอื จากการเลน หุนเพยี ง 192,000 บาท
บทที่ 5 การวัด กจิ กรรมท่ี 1 1. 1) 4 มลิ ลิเมตร 2) 16.5 เซนตเิ มตร ยาว 24 เซนติเมตร หนา 4 มลิ ลิเมตร 3) 1,600 กิโลเมตร 4) กวา ง 45 เมตร ยาว 90 เมตร 1 กโิ ลเมตร 5) กวา ง 9 เซนติเมตร 6) 630 ตารางเซนติเมตร ยาว 9.4 เซนตเิ มตร หนา 3 มลิ ลเิ มตร 7) 80 ตารางเมตร 8) 2,000 ตารางกิโลเมตร 2. 1) 1,600 ตารางเมตร 2) 170,000 ตารางเซนติเมตร 3) 7 ไร 3 งาน 19 ตารางเมตร 4) 5 ตารางฟตุ 5) 1,072 ตารางเมตร ลงุ สอนไดร บั เงิน 938,000 บาท ราคาไรล ะ 1,400,000 บาท 3. 1) พนื้ ที่ 1,600 ตารางเมตร เทา กับ 1 ไร พน้ื ท่ี 4,800 ตารางเมตร เทา กบั 1× 4,800 = 3 ไร 1,600 ดงั น้นั คดิ เปน พื้นที่ 3 ไร 2) 1 ฟุต = 30 เซนติเมตร 1 ตารางฟุต = 30×30 ตารางเซนตเิ มตร 25 ตารางฟุต = 30×30×25 ตารางเซนตเิ มตร = 22,500 ตารางเซนตเิ มตร ดงั นั้น พนื้ ที่ 25 ตารางฟุตเทา กับ 22,500 ตารางเซนตเิ มตร
3) สมเกยี รติซอื้ โลหะแผนชนดิ หน่ึง 3 ตารางเมตร ราคา 456 บาท ดงั น้ัน โลหะแผน 1 เมตร ราคา 456 = 152 บาท 3 สมนกึ ซือ้ โลหะชนดิ เดยี วกนั 4 ตารางหลา ราคา 576 บาท 1 หลา = 90 เซนติเมตร 1 ตารางหลา = 90×90 ตารางเซนตเิ มตร 4 ตารางหลา = 90×90×4 ตารางเซนติเมตร 100×100 ตารางเซนตเิ มตร = 1 ตารางเมตร ดงั นน้ั 90× 90× 4 ตารางเซนตเิ มตร = 90× 90× 4 ตารางเมตร 100 ×100 โลหะ 3.24 ตารางเมตร ราคา 567 บาท โลหะ 1 ตารางเมตร ราคา 567 = 177.78 บาท 3.24 ดังนั้น สมเกยี รติซ้ือไดถ ูกกวา = 177.78 – 152 บาท = 25.78 บาท ตอบ ถูกกวา ตารางเมตรละ 25.78 บาท กจิ กรรมที่ 2 1. 1) พท. Δ = 150 ตารางหนวย 2) พท. Δ = 25 ตารางหนว ย 2. สูง 15 เซนติเมตร 3. พื้นท่สี วนทแ่ี รเงา = 135 ตารางนิ้ว 4. 1) พน้ื ทีส่ เี่ หลยี่ มจัตรุ สั = 64 ตารางเซนติเมตร 2) พ้ืนท่สี เี่ หลย่ี มจัตุรัส = 72 ตารางเซนติเมตร 3) พืน้ ทส่ี ีเ่ หลย่ี มผนื ผา = 28 ตารางเซนติเมตร 4) พืน้ ทสี่ เ่ี หลย่ี มดา นขนาน = 96 ตารางเมตร 5) พื้นท่สี ่ีเหลย่ี มคางหมู = 48 ตารางเมตร 6) พ้นื ทส่ี เ่ี หลย่ี มขนมเปย กปูน = 48 ตารางเมตร 7) พ้ืนทสี่ ี่เหลยี่ มรปู วา ว = 40 ตารางเมตร 8) พ้ืนทสี่ ่ีเหลย่ี มใดๆ = 60 ตารางเมตร
5. 1) พน้ื ทีแ่ รเงา = 52 ตารางเซนติเมตร 2) พ้นื ทวี่ งกลม = 38.5 ตารางเซนติเมตร 3) พื้นที่แรเงา = 42 ตารางเซนตเิ มตร 4) พ้นื ท่แี รเงา = 14 ตารางหนว ย 5) พ้นื ท่แี รเงา = 26 ตารางหนว ย 6) พืน้ ท่แี รเงา = 21 ตารางหนว ย กจิ กรรมที่ 3 1. เสยี คา ใชจา ยทงั้ หมด 2,000 บาท 2. ตอ งใชผ า 0.47 ตารางเมตร กจิ กรรมท่ี 4 1. 1) 5.00 นาฬกิ า 2) 12.00 นาฬกิ า 3) เดือนธนั วาคม – กมุ ภาพนั ธ 2. 1) ข. 15 เซนตเิ มตร 2) ข. 1 กโิ ลกรมั 3) ก. 4 ×5×12 เซนติเมตร3 4) 4.1) ค. 1 ตนั 4.2) ก. 160 เซนติเมตร 4.3) ข. 5 เมตร 4.4) ข. 1,600 มิลลเิ มตร 5) 5.1) ข. 40 ×50×80 เซนติเมตร3 5.2) ก. 10 กิโลกรัม
บทท่ี 6 ปรมิ าตร และพน้ื ทีผ่ วิ กจิ กรรมที่ 1 1. 1) พ้นื ทผี่ วิ = 312 ตารางหนว ย ปริมาตร = 60 ลูกบาศกห นว ย 2) พื้นทผี่ ิว = 312 ตารางหนว ย ปรมิ าตรของปริซมึ = 264 ลกู บาศกหนวย กิจกรรมท่ี 2 1. ปริมาตรของทรงกระบอก = 1,540 ลกู บาศกเ ซนตเิ มตร พื้นท่ีผิวท้ังหมด = 748 ตารางเซนติเมตร 2. ปริมาตรทรงกระบอก = 192.5 ลกู บาศกนิว้ 3. ปรมิ าตรทรงกระบอก = 138.6 ลกู บาศกเ มตร พ้นื ท่ผี ิวทั้งหมด = 148.92 ตารางเมตร กิจกรรมท่ี 3 1. 1) ปรมิ าตรพรี ะมดิ = 512 ลกู บาศกเซนตเิ มตร พน้ื ท่ผี วิ ทั้งหมด = 576 ตารางเซนตเิ มตร 2) พน้ื ทีผ่ วิ เอียง = 90 ตารางเซนตเิ มตร 3) ปรมิ าตรพรี ะมดิ = 16 3 ลูกบาศกเ ซนติเมตร 2. 1) ปริมาตรกรวย = 1,232 ลูกบาศกเ ซนติเมตร พ้นื ทีผ่ วิ ทั้งหมด = 704 ตารางเซนตเิ มตร 2) ปริมาตรกรวย = 16π ลกู บาศกเ ซนตเิ มตร พ้ืนท่ีผวิ ทั้งหมด = 36π ตารางเซนติเมตร 3) ปริมาตรท้ังหมด = 5,236 ลกู บาศกเ ซนตเิ มตร 3. 1) ปรมิ าตรทรงกลม = 1,437.3 ลูกบาศกเซนติเมตร พ้ืนทีผ่ วิ ทรงกลม = 616 ตารางเซนตเิ มตร
2) รศั มี = 21 เซนตเิ มตร พน้ื ที่ผิวทรงกลม = 616 ตารางเซนตเิ มตร 3) ปรมิ าตรของทรงกลม= 1,437.33 ลกู บาศกเ ซนตเิ มตร 4) ปริมาตรเนอื้ โลหะ = 37,370.67 ลกู บาศกเ ซนตเิ มตร กิจกรรมที่ 4 1. 50 นาที 2. 198 แผน 3. 35 วนั 4. 8,000 สวน 5. 360 แกลลอน กิจกรรมท่ี 5 1. จะเสียคา ทาสี 3,080 บาท 2. ตองกลกึ หนิ ออกไป 4.41 ลูกบาศกเมตร 3. จะหลอมลกู ปน ได 105 ลกู
บทที่ 7 คูอันดบั และกราฟ กิจกรรมท่ี 1 1. 1) (1,-1),(2,-2),(3,-3),(4,-4) 2) (1,c),(2,b),(3,a),(4,d) 3) (1,0),(2,-1),(3,-2),(4,-3),(5,-4) 2. 1) x = 4 ; y = 3 2) x = 2 ; y = 2 3) x = 6 , y = 0 4) x = 4 , y = 4 5) x = 3 , y = 2 กจิ กรรมท่ี 2 1. 1) A(1,3) , B(-1,2) , C(-4,-2) , D(1,-1) 2) A(0,2) , B(-3,1) , C(4,0) , D(3,-4) 2. 1) (1, 2), (-2, 4), (3, 6), (4, 0)
2) (0, 0), (2, 4), (3, 0), (0, -6) กจิ กรรมที่ 3 1. อนุวัฒนอ อกเดินทางกอ นอนุพนั ธ 2 ชั่วโมง 2. อนุพนั ธใชเวลา 3 ชัว่ โมง จึงเดนิ ทางทนั อนวุ ฒั น 3. ทง้ั สองเดินทางทันกบั เพอื่ เดนิ ทางได 320 กิโลเมตร 4. อนุวัฒนเ ดินทางได 2 ช่วั โมง จึงหยดุ พัก 5. ตาํ แหนงทอ่ี นวุ ัฒนห ยุดหา งจากตาํ แหนง ทอ่ี นพุ ันธอ อกเดินทาง 160 กโิ ลเมตร
บทที่ 8 ความสัมพันธร ะหวา งรูปเรขาคณติ สองมติ แิ ละสามมติ ิ กิจกรรมท่ี 1 1. 1) พรี ะมิดฐานสามเหล่ยี ม 2) ปรีซึมสี่เหลีย่ มหรอื ทรงสีเ่ หล่ยี มมุมฉาก 3) พรี ะมดิ ฐานหกเหลี่ยม 4) ปรีซึมหกเหลี่ยม 2. 1) 2) 3) 4) 5)
กจิ กรรมท่ี 2
กจิ กรรมที่ 3 1. 1) ค 2) ก 3) ข 4) จ 5) ง 2.
บทที่ 9 สถิติ กจิ กรรมที่ 1 2) ไมเปน 1. 1) ไมเปน 4) ไมเ ปน 6) เปน 3) เปน 8) เปน 5) ไมเ ปน 10) เปน 7) ไมเ ปน 2) ปริมาณ 9) ไมเ ปน 4) คณุ ภาพ 2. 1) คุณภาพ 3) ปริมาณ 3. 1) แหลง ทตุ ยิ ภูมิ 2) แหลง ปฐมภูมิ 3) แหลงทตุ ยิ ภมู ิ 4) แหลงปฐมภูมิ 5) แหลงทตุ ยิ ภมู ิ กิจกรรมที่ 2 1. 1) รายไดจ ากแผนกเครอื่ งเขยี น แบบเรยี น = 35,000 บาท คิดเปน 20.11% 2) แผนกทม่ี ีรายไดน อ ยท่สี ุด คือแผนกเครอ่ื งสําอางและคิดเปน รอยละ 12.83 ของรายไดจ ากแผนกที่ รายไดมากทสี่ ดุ 3) รายไดจ ากแผนกเสอ้ื ผาสตรี คิดเปน รอยละ 51.43 ของรายไดจากแผนกเคร่อื งเขยี น แบบเรียน 4) รายไดจ ากแผนกเคร่อื งเขยี น แบบเรียน คดิ เปน 20.11% ของรายไดท ้ังหมด
2. จากการสอบถามงบประมาณท่แี ตล ะกลุมสาระการเรียนรูไดมาจากการจดั สรรงบประมาณของทาง โรงเรียน เปน ดงั น้ี กลุมสาระการเรยี นรู งบประมาณ จาํ นวนเปอรเ ซน็ ต ขนาดของมมุ ท่ีจุดศูนยกลาง (บาท) ของรูปวงกลม (องศา) คณติ ศาสตร 35,000 35,000 ×100 = 10.29 วิทยาศาสตร 340,000 35,000 × 360 = 37.06 ภาษาตา งประเทศ 100,000 340,000 ภาษาไทย 29.41 ศิลปะ 105.88 การงานอาชีพและเทคโนโลยี สุขศกึ ษาและพลศึกษา 48,000 14.12 50.82 สังคมศึกษา ศาสนา และ วฒั นธรรม 34,500 10.15 36.53 รวม 18,500 5.44 19.59 40,500 11.91 42.88 29,500 8.68 31.24 34,000 10.0 36.0 340,000 100 360
3. 1) พ.ศ.2529, พ.ศ. 2531 และ พ.ศ. 2533 2) พ.ศ.2529 และแตกตางกนั ประมาณ 28,000 ลูกบาศกเมตร 3) ปรมิ าณไมส ัก และไมประดทู ี่ผลิตไดมลี ักษณะการเปลีย่ นแปลงคือลดลงเร่อื ยๆ และปรมิ าณไมป ระดู มีการเปล่ยี นแปลงมากกวา 4) ป พ.ศ. 2532 ปริมาณไมสักทีผ่ ลติ ไดคิดเปน 76% ของปรมิ าณไมประดูท ี่ผลติ ได 5) 47,000 ลกู บาศกเ มตร 4. จากตาราง นําเสนอขอ มูลดว ยกราฟเสน ไดด งั น้ี
กจิ กรรมท่ี 3 1. คา เฉลี่ยเลขคณติ = 7 ฐานนยิ ม = 6 มัธยฐาน = 6 เรยี งขอมูลจากมากไปหานอ ย = 16, 13, 6, 6, 5, 2, 1 หรือ จากมากไปหานอ ย = 1, 2, 5, 6, 6, 13, 16 2. เรยี งขอมลู จากมากไปหานอย = 36, 36, 28, 28, 24, 16, 12, 7, 2 คา เฉล่ยี เลขคณติ = 21 มัธยฐาน = 24 ฐานนิยม = 28 และ 36 3. เรียงขอ มูลจากนอ ยไปหามาก = 4.5, 8.4, 10.1, 13.8, 15.6, 18.6 คาเฉลย่ี เลขคณิต = 11.83 มัธยฐาน = 11.95 ฐานนิยม = ไมม ี กิจกรรมท่ี 4 จาํ นวน (คน) ความถ่สี ะสม 4 4 1. 7 11 10 21 นํา้ หนัก (กโิ ลกรมั ) 15 36 42 6 42 43 8 50 44 50 45 46 47 รวม 2. ฐานนยิ ม = 45 มธั ยฐาน = 45
3. 1) นา้ํ หนกั (กโิ ลกรัม) ความถี่ ความถ่สี ะสม 20 - 24 1 1 25 – 29 2 3 30 – 34 9 12 35 – 39 11 23 40 – 44 13 36 45 - 49 8 44 50 – 54 7 51 55 – 59 6 57 60 - 64 3 60 รวม 60 นาํ้ หนกั × จาํ นวนคน 168 2) ฐานนยิ มของนํา้ หนกั อยใู นชวง 40 – 44 301 3) โดยสว นใหญน ักศึกษาหนกั อยใู นชวง 40 -44 440 4) มธั ยฐานอยรู ะหวา งนํ้าหนกั ของคนที่ 30 และ คนที่ 31 675 5) มธั ยฐานของนํา้ หนกั อยูในชวง 40 - 44 276 376 4. นํ้าหนกั (กโิ ลกรมั ) จํานวน (คน) 2,236 42 4 43 7 44 10 45 15 46 6 47 8 รวม 50 คาเฉลย่ี เลขคณิต = 44.72
5. น้าํ หนกั (กโิ ลกรัม) ความถี่ ความถ่สี ะสม 20 - 24 1 1 25 – 29 2 3 30 – 34 9 12 35 – 39 11 23 40 – 44 13 36 45 - 49 8 44 50 – 54 7 51 55 – 59 6 57 60 - 64 3 60 รวม 60 คา เฉล่ยี เลขคณติ = 43.08
บทที่ 10 ความนาจะเปน กิจกรรมที่ 1 1. 1) อาจได “หวั ” หรือ “กอย” 2) อาจไดห ัวทง้ั สองเหรยี ญ หรอื หัวหน่ึงเหรยี ญ และกอยหนงึ่ เหรียญ หรือไดกอ ยทง้ั สองเหรียญ 3) อาจไดสเี หลอื งทัง้ คู หรือไดลกู บอลสีเหลอื ง 1 ลูก สแี ดง 1 ลกู 2. (1,H) , (1,T) , (2,H) , (2,T) 3. 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20 4. 1) 1, 2, 3, 4, 5, 6 2) 1, 2, 3, 4, 5 3) 3, 6 5. 1) (1,1) , (1,2) , (1,3) , (1,4) , (1,5) , (1,6) , (2,1) , (2,2) , (2,3) , (2,4) , (2,5) , (2,6) , (3,1) , (3,2) , (3,3) , (3,4) , (3,5) , (3,6) , (4,1) , (4,2) , (4,3) , (4,4) , (4,5) , (4,6) , (5,1) , (5,2) , (5,3) , (5,4) , (5,5) , (5,6) , (6,1) , (6,2) , (6,3) , (6,4) , (6,5) , (6,6) , 2) (2,6) , (6,2) , (3,5) , (5,3) , (4,4) 3) (4,6) , (6,4) , (5,5) , (5,6) , (6,5) , (6,6) 4) (1,1) , (1,2) , (2,1) 5) (1,1) , (1,3) , (1,5) , (2,2) , (2,4) , (2,6) , (3,1) , (3,3) , (3,5) , (4,2) , (4,4) , (4,6) , (5,1) , (5,3) , (5,5) , (6,2) , (6,4) , (6,6) 6. 1) สขี าว สฟี า , สีขาว สชี มพู , สขี าว สเี ขียว , สีขาว สเี หลอื ง , สฟี า สชี มพู , สีฟา สีเขยี ว , สฟี า สีเหลือง , สีชมพู สเี ขยี ว , สชี มพู สเี หลือง , สเี ขียว สเี หลือง 2) สีขาว สีฟา , สขี าว สชี มพู , สีฟา สีชมพู , สฟี า สีเขยี ว , สฟี า สเี หลอื ง , สีชมพู สเี ขียว , สีชมพู สี เหลอื ง
กจิ กรรมท่ี 2 1. 5 หรอื 1 10 2 2. 1 6 3. 4. 4 หรอื 1 52 13 5. 13 หรือ 1 52 4 6. 6 หรอื 1 36 6 7. 0 8. 100 ใบ 9. 1 4 10. 3 หรือ 1 62 กจิ กรรมท่ี 3 1. ไมมีใครไดเปรยี บเสียเปรียบ 2. ผูเลน คนที่สองไดเปรยี บ
คาํ ส่ัง สํานักงานสงเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ท่ี 220 / 2553 เรอ่ื ง แตงต้ังคณะทํางานจดั ทําคมู อื การเรียนรดู วยตนเอง สือ่ ประกอบชุดการเรียนและส่อื เสรมิ เพ่อื รองรบั การเรียนการสอน หลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ภาคเรยี นที่ 2/2553 ตามท่ี สํานักงานสงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กําหนดให สถานศึกษาทุกแหงในสังกัดเปดการเรียนการสอนหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในภาคเรียนท่ี 2/2553 และกําหนดใหเปดรายวิชาบังคับในภาคเรียน 2/2553 ระดับ มัธยมศึกษาตอนตน จํานวน 4 รายวิชา และระดับมัธยมตอนปลาย จํานวน 4 รายวิชา ดังนั้นเพื่อการ ดําเนินงานอยางตอเนื่องและรองรับการเรียนการสอนวิธีเรียนทางไกล ของสถาบันการศึกษาทางไกล ใน เรอ่ื งการจดั ทาํ คมู ือการเรยี นรูด วยตนเอง สอ่ื ประกอบชุดการเรียนและสื่อเสริม เพื่อรองรับการเรียนการสอน หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 จึงขอแตงตง้ั คณะทํางาน ดังน้ี ทีป่ รกึ ษา 1. นายบญุ สง ควู รากลุ ผูอาํ นวยการสถาบนั การศึกษาทางไกล 2. นางอมรรตั น คงสาํ รวย รองผอู าํ นวยการสถาบันการศึกษาทางไกล คณะทํางาน รายวชิ าคณติ ศาสตร ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1. นายอรา ม คมุ ทรัพย ขา ราชการบํานาญ 2. นางจารุพร พุทธวริ ยิ ากร ศนู ยเ ทคโนโลยที างการศึกษา รายวิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน และรายวิชาชองทางการขยายอาชีพ ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1. นางสาวบุษบงค รักเรียน สถาบันการศกึ ษาทางไกล 2. นางอรณุ ี ญาณวรรณ ศูนยสงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัย สําหรบั กลมุ เปา หมายพเิ ศษ 3. นางสาวมาลี วรวทิ ยส ุรวัฒนา สถาบนั การศกึ ษาทางไกล 4. นางสาวสิริรตั น เสรฐิ พรรนึก ศนู ยว ิทยาศาสตรเ พอ่ื การศกึ ษา (รังสิต) /3. รายวชิ า...
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141