Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มคู่มือการนิเทศ2564-w

เล่มคู่มือการนิเทศ2564-w

Published by Supervusor_CMI, 2021-06-01 04:08:17

Description: เล่มคู่มือการนิเทศ2564-w

Search

Read the Text Version

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ เอกสารทางวิชาการลําดับที 7/2564 ค่มู อื นิเทศการศึกษา ประจาํ ปงบประมาณ พ.ศ.2564 กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผล ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า สาํ นักงาน กศน.จังหวัดเชยี งใหม่

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ คํานํา สํานักงาน กศน.จังหวัดเชียงใหม่ โดยกลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา ได้จัดทํา คู่มือนเิ ทศภายในสําหรับสถานศึกษา ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ผู้นิเทศภายใน สถานศกึ ษาได้นาํ ไปใช้เปน็ แนวทางในการนิเทศภายในสาํ หรบั สถานศึกษา โดยเนอื้ หาในเล่มนี้ประกอบไปดว้ ย บทที่ 1 บทนาํ บทท่ี 2 การนเิ ทศภายในสถานศกึ ษา บทท่ี 3 แนวทางการดําเนนิ การนเิ ทศภายในสถานศึกษา บทที่ 4 การสร้างเคร่ืองมอื นเิ ทศ บทที่ 5 การสรุปผลและการรายงานผลการนเิ ทศ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือนิเทศภายในสําหรับสถานศึกษา ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เล่มนี้ จะชว่ ยใหผ้ นู้ เิ ทศภายในของสถานศกึ ษา สามารถปฏบิ ัติหน้าทไี่ ดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพต่อไป กลุ่มนิเทศ ตดิ ตาม และประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา สํานกั งาน กศน.จังหวัดเชยี งใหม่  

สารบญั สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่เร่ือง หน้า 1 บทท่ี 1 บทนํา 1 ความเปน็ มาและความสําคัญ 3 3 หลักการและแนวคิดในการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา 4 ประโยชน์ของการนิเทศภายในสถานศกึ ษา บทที่ 2 การนเิ ทศภายในสถานศกึ ษา 4 ความหมายของการนเิ ทศ 5 การนเิ ทศภายในสถานศกึ ษา 6 จุดมงุ่ หมายของการนิเทศงานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย (กศน.) 7 หลักการนเิ ทศภายในสถานศกึ ษา 8 บทบาท/หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของผู้นิเทศภายในสถานศึกษา 9 บุคลิก/คุณลักษณะของผู้นิเทศที่พงึ ประสงค์ 10 10 บทที่ 3 แนวทางการดาํ เนนิ การนิเทศภายในสถานศึกษา 10 การนิเทศการศึกษานอกโรงเรียน 13 รปู แบบการนิเทศ 15 กระบวนการนิเทศภายในสถานศึกษา 15 ข้อควรคํานงึ ในการนิเทศภายใน 18 เทคนคิ วิธกี ารนิเทศ 18 18 บทที่ 4 การสร้างเครือ่ งมือนิเทศ 18 ความหมายของเครือ่ งมือการนิเทศการศกึ ษา 19 ความสาํ คัญของเครือ่ งมือนิเทศเพ่อื พัฒนาคุณภาพงาน กศน. 21 ชนิดของเครอื่ งมือ 22 หลกั การ แนวการสร้าง และการใชเ้ ครือ่ งมือการนิเทศ 23 ข้ันตอนการสร้างเครือ่ งมือนเิ ทศ 23 การวิเคราะหผ์ ล 23 24 บทที่ 5 การสรปุ ผลและการรายงานผลการนเิ ทศ 25 การรายงานผลการนเิ ทศ 72 ขอ้ ควรคํานงึ ถงึ ในการเขยี นรายงานการนิเทศ บรรณานกุ รม ภาคผนวก คณะผู้จดั ทาํ  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 1   บทที่ 1 บทนาํ ความเป็นมาและความสาํ คัญ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 47 กําหนดให้มีระบบการประกันคุณภาพ เพ่ือพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับแนว ทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจําเป็นต้องอาศัยกระบวนการปฏิบัติอย่างหลากหลายซึ่งประกอบด้วย กระบวนการที่สําคัญ คือกระบวนการบริหารจัดการ กระบวนการจัดการเรียนรู้และกระบวนการนิเทศ ติดตาม ประเมินผล และการนิเทศภายในมีกําหนดไว้ในกฎกระทรวงว่าด้วยระบบหลักเกณฑ์ และวิธีการประกัน คุณภาพภายในสถานศึกษา พ.ศ. 2542 ซึ่งกําหนดการกํากับ ติดตามการจัดการศึกษาของผู้บริหารไว้อย่าง ชัดเจน นอกจากนี้ เกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอกของสํานักงานรับรองมาตรฐานและประกันคุณภาพ การศึกษา (สมศ.) ได้กําหนดให้การนิเทศภายในเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การประเมินเพื่อให้บริหารสถานศึกษา ไดต้ ระหนักถงึ ความสําคัญ และนาํ ไปปฏิบตั ิในสถานศึกษาให้มีประสทิ ธภิ าพและไดผ้ ลอยา่ งเปน็ รปู ธรรม การนิเทศการศึกษา เป็นส่ิงจําเป็นสําหรับหน่วยงานทุกระดับ ดังน้ัน ภารกิจท่ีสําคัญประการหนึ่งของ ผู้บริหารก็คือ การนิเทศ โดยเฉพาะการนิเทศการสอนของครูให้มีการพัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ให้ บรรลุวัตถุประสงค์ การนิเทศมีความสําคัญต่อการเรียนการสอนเป็นอย่างย่ิง ในบางคร้ังแม้ครูจะได้ใช้ ความสามารถในการจดั กจิ กรรมตามที่วางแผนไว้แล้วก็ตาม อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างขาดตกบกพร่องทําให้การ สอนขาดความสมบูรณ์ ดังน้ัน หากมีบุคคลอ่ืนได้ช้ีแนะ แนะนํา ให้ความช่วยเหลือ ก็ย่อมเกิดผลดี การนิเทศจึง เปรียบเหมือนกระจกเงาที่คอยส่องใหเ้ หน็ ภาพการสอนของครูและเป็นกระบวนการท่ีเสริมสร้างการสอนของครู ใหม้ ีประสิทธิภาพเพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนในการพัฒนาการศึกษาการสร้างสื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้ให้ เหมาะสมในการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้ถูกต้องตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรสถานศึกษาโดยเน้นผู้เรียน เป็นสําคัญและยังเป็นการสร้างความตระหนักให้กับครูถึงปัญหาเก่ียวกับการจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้สามารถ แก้ไขปัญหาได้และสร้างขวัญกําลังใจให้กับครูผู้สอนอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมุ่งให้เกิดความร่วมมือและ ประสานงานกันเป็นอย่างดีภายใต้ระบบการบริหารงานของสถานศึกษา เพื่อควบคุมมาตรฐานและพัฒนางาน ด้านการสอนให้มีประสิทธิภาพย่ิงข้ึน กล่าวโดยรวมก็คือ การจัดการนิเทศการศึกษาก็เพ่ือหาแนวทางปรับปรุง พัฒนาการปฏิบัติงานด้านการสอนของครู การทํางานเป็นทีมการสร้างเจตคติท่ีดีในการทํางานความร่วมมือใน การแกป้ ัญหา (สรุ ศักดิ์ ปาเฮ. 2545: 25 – 27) การนิเทศการศึกษา นับว่ามีบทบาทสําคัญต่อการพัฒนาครูให้สามารถจัดกิจกรรมและกระบวนการ เรียนรู้ให้บรรลุผลตามจุดหมายของหลักสูตรได้ แต่ในสภาพปัจจุบันมีข้อจํากัดหลายประการท่ีทําให้ไม่สามารถ ปฏิบัติการนิเทศการศึกษาได้ครบบถ้วน จึงทําให้ไม่สะดวกในการปฏิบัติงานนิเทศ และบุคลากรศึกษานิเทศก์มี น้อย นอกจากน้ี ในสภาพปัจจุบันสถานศึกษาบางแห่ง มีบุคลากรส่วนหน่ึงท่ีมีความรู้ความสามารถในการ จัดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเป็นผู้รู้และเข้าใจสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการของสถานศึกษา และชุมชนและมีความใกลช้ ิดครู รจู้ ุดเดน่ จดุ ดอ้ ยได้ดีกว่า ดังนัน้ ระบบการนเิ ทศการศึกษาท่ีเหมาะสมก็คือ การ นิเทศภายในสถานศึกษา และสามารถดําเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสงัด อุทรานันท์ (2530: 116) กล่าวถึง ความจําเป็นของการนิเทศภายในสถานศึกษาว่า เดิมการนิเทศการศึกษาเป็นหน้าที่ของศึกษานิเทศก์และ ผู้บริหารการศึกษาครูเป็นผู้ได้รับการนิเทศ แต่ปัจจุบันงานนิเทศการศึกษามีความสําคัญมากขึ้นบุคลากรใน สถานศึกษาต้องช่วยเหลือซ่ึงกันและกันเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนการสอนให้สูงขึ้นอันเนื่องมาจาก ศึกษานิเทศก์มีจํานวนจํากัด จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการทางการนิเทศการศึกษาของสถานศึกษา ได้  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 2   อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังไม่รู้สภาพปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของสถานศึกษา การสนองตอบความต้องการ จึงเป็นไปได้ยาก และจากสภาพปัจจุบัน บุคลากรในสถานศึกษาส่วนใหญ่มีความรู้ ความสามารถ มีความ ชํานาญเฉพาะสาขา จึงควรใช้ทรัพยากรเหล่านี้ให้ตรงความสามารถและเกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังเป็นการ สร้างการยอมรับซึ่งกันและกัน ส่วนศึกษานิเทศก์จะเป็นเพียงผู้นิเทศติดตาม การดําเนินงานของผู้บริหาร และ คณะกรรมการนเิ ทศของสถานศึกษา โดยใหค้ วามชว่ ยเหลอื ทางด้านวชิ าการ ตามทส่ี ถานศกึ ษาขอความรว่ มมือ การนิเทศภายในสถานศึกษาเป็นวิธีการสําคัญอย่างหน่ึงในการบริหารการศึกษาท่ีมีผลต่อการพัฒนา คุณภาพนักเรียนให้สูงขึ้น เพราะเป็นกิจกรรมท่ีช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานภายในสถานศึกษาสามารถปฏิบัติงานใน ขอบเขตที่ตนเองรับผิดชอบประสบผลสําเร็จไปตามมาตรฐานและสอดคล้องกับระเบียบวิธีการดําเนินงานท่ี กําหนดไว้การนิเทศภายในสถานศึกษาจึงเป็นยุทธวิธีที่ผู้เก่ียวข้องควรหาแนวทางดําเนินการให้เป็นไปอย่างมี ประสทิ ธิภาพ ดังน้ันการนิเทศภายในสถานศึกษาจึงจําเป็นต้องพัฒนากระบวนการทํางานของผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายในฐานะผู้นิเทศ ในการพัฒนาคุณภาพและเปล่ียนแปลงการทํางานของครูและบุคลากร ภายในสถานศึกษา เพ่ือให้ได้มาซ่ึงสัมฤทธ์ิผลสูงสุดในด้านการเรียนของผู้เรียน หากสถานศึกษามีระบบการ นิเทศภายใน ท่ีเข้มแข็ง มีการดําเนินการอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเน่ือง และสม่ําเสมอจนกลายเป็น วฒั นธรรมองค์กรอันจะส่งผลให้คุณภาพของสถานศึกษา ผลการเรียนรู้ของผู้เรียนพัฒนาเปล่ียนแปลงไปในทาง ที่ดีข้ึน จึงเป็นหน้าท่ีของผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรทุกฝ่ายในสถานศึกษาท่ีจะต้องร่วมมือร่วมใจกัน ดําเนินการพัฒนางานทุกด้านในสถานศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวิชาการซ่ึงเป็นงานท่ีเกี่ยวกับการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ การนําหลักสูตรไปใช้ให้บรรลุตามจุดประสงค์ของหลักสูตร ตลอดจนมีคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ และมีสมรรถนะสําคัญตามที่กําหนดไว้ในหลักสูตร ดังนั้นเพื่อให้การพัฒนาสถานศึกษาให้ได้ มาตรฐานและคณุ ภาพ ผู้บริหารจะต้องมีความตระหนักในความเป็นผนู้ าํ ทนั เหตุการณ์ ปรบั เปล่ียนพฤติกรรมได้ ตลอดเวลา มีการปรับเปล่ียนแนวคิดวิธีการทํางานที่เน้นกระบวนการกลุ่มมีการบริหารงานแบบเป็นทีม มี ศักยภาพ ครูจะเป็นผู้ส่งเสริมและให้โอกาสผู้เรียนในการแสวงหาความรู้คอยให้ความช่วยเหลือ แนะนํา แก้ไข ปัญหา และให้กําลังใจ รวมถึงการจัดบรรยากาศแห่งการเรียนรู้แก่ผู้เรียนเพ่ือให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ อย่างเตม็ ศกั ยภาพ สํานักงาน กศน.จังหวัดเชียงใหม่ ตระหนักถึงความสําคัญของการนิเทศภายในจึงได้ดําเนินการพัฒนา รปู แบบและระบบการนเิ ทศภายในสถานศึกษา เพื่อสร้างความรู้ให้แก่ผู้บริหารและผู้นิเทศของสถานศึกษา โดย ได้ระดมความคิดจากศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษาผู้บริหารการศึกษาจัดทําเอกสารคู่มือการนิเทศภายใน สถานศึกษา ฉบับนี้ข้ึนเพื่อให้สถานศึกษานําไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการดําเนินการนิเทศภายใน สถานศึกษา อันจะทําให้สถานศึกษามีรูปแบบและกระบวนการนิเทศภายในท่ีเป็นระบบชัดเจน เกิดการ เปลีย่ นแปลงทั้งในดา้ นประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ลในการปฏบิ ตั งิ านครสู ามารถจัดการเรยี นการสอนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และผู้เรยี นมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นเพิ่มขน้ึ  

3   หลกั การและแนวคดิ ในการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา กระบวนการนิเทศเปน็ กระบวนการหนง่ึ ทส่ี ่งผลต่อการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา ดังนี้ กระบวนการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา กระบวนการบรหิ าร สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่สภาพปจั จุบันกระบวนการจัดกิจกรรมผลผลิตที่พงึ ปญั หาและความ การเรยี นรู้ ปรารถนาใน ต้องการ อนาคต กระบวนการนเิ ทศ ประโยชนข์ องการนเิ ทศภายในสถานศึกษา 1. มีการใช้ทรพั ยากรบุคคลในแต่ละหนว่ ยงานให้เกิดประโยชนส์ ูงสุด เป็นการสนับสนุนหลักการพัฒนา เพื่อการพ่งึ พาตนเอง 2. บุคลากรผู้นิเทศภายในเป็นผู้ท่ีรู้ปัญหาจริงมากกว่าผู้นิเทศภายนอก ทําให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ รวดเรว็ ทนั ตอ่ เหตุการณ์ 3. เปน็ การเสรมิ ขวัญกําลงั ใจให้กบั ผปู้ ฏบิ ัติงานท่ที าํ งานรว่ มกันเปน็ ทมี ของหน่วยงาน  

4   บทที่ 2 การนเิ ทศภายในสถานศึกษา ความหมายของการนเิ ทศ การนิเทศ (Supervision) คือ การช่วยเหลือ แนะนํา ปรับปรุง บริการ การให้ความร่วมมือและการ ประสานงานให้บุคคลทปี่ ฏิบัตงิ านของแตล่ ะหน่วยงานทาํ งานไดด้ ีขึ้น การนิเทศสามารถนําไปใช้กับงานที่ต้องอาศัยผู้ดูแล ตรวจตรา ให้คําแนะนํา คอยช่วยเหลือบริการและ บริหารงานเพ่ือให้งานสําเร็จลุล่วงไปตามวัตถุประสงค์ท่ีวางไว้หากมองตามรูปศัพท์SUPERVISION ชารี มณีศรี (2538, 14 – 15) สรปุ จากศัพทภ์ าษาอังกฤษไว้นา่ สนใจว่า สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ Support การสนับสนนุ S Share การมีส่วนรว่ ม การบรกิ าร Service Unity ความสามัคคี U Understanding ความเข้าใจ Upgrade การยกฐานะ Planning การวางแผน P Promotion การเลอื่ นขน้ั Problem-Solving การแก้ปัญหา Education การศกึ ษาหาความรู้ E Experiment การทดลอง Evaluation การวัดผล Research การวิจัย R Report การรายงาน Record การบนั ทึก Visiting การเยยี่ มเยียน V Value การรคู้ ุณคา่ การมคี ณุ ธรรม Virtue Improvement การปรบั ปรุง I Information การให้ขา่ วสาร Inservice-training การฝกึ อบรม  

5   Objective จุดประสงค์ Observation การสงั เกต O Organization การจัดรูปงาน Needs ความตอ้ งการ N Negotiation การประนีประนอม Necessity ความจาํ เปน็ สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ จากความหมายท่ีใช้คําภาษาอังกฤษเรียบเรียงคําศัพท์ท่ีมีความหมายคล้ายคลึงใกล้เคียงกัน ลักษณะ งานการนิเทศท่ีใช้ท่ัวๆ ไป ผู้ทําหน้าท่ีนิเทศจะต้องมีความรู้ ประสบการณ์และเข้าใจงานของงานดี จึงจะทําหน้ าท่ีนิเทศผู้อ่ืนได้ คําศัพท์ดังกล่าวข้างต้นจึงบอกถึงลักษณะงานของการนิเทศได้อย่างดี ชารี มณีศรี (2538, 15) ไดส้ รปุ ความหมายตามที่ Plundelt ไดใ้ ห้ไว้ ดงั น้ี Supervise แนะนําการใช้ทรัพยากรมนษุ ย์ใหเ้ กิดประโยชนสูงสุด Utilize ใช้มวลทรัพยากรท้งั ท่ีมชี วี ิตและไมม่ ชี วี ติ โดยประหยดั Plan วางแผนการทาํ งานโดยต้ังวตั ถปุ ระสงค์และการส่อื ความหมายทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพ Enforce ควบคมุ นโยบาย กฎระเบียบ และมาตรฐานการทาํ งาน Relate สรา้ งความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานทง้ั กล่มุ และบุคคล Validate ดูแลใหค้ วามเป็นธรรมตอ่ ผูใ้ ต้บังคับบัญชา Instruct สอนกลวธิ ีและทกั ษะประสบการณ์ Show แสดงลักษณะความเปน็ ผนู้ ํา Organize จดั ระบบงานและประสานการทาํ งาน Regulate วางหลกั ปฏิบตั ิในการทํางาน การนเิ ทศภายในสถานศกึ ษา ตามพระราชบญั ญัติการศกึ ษาแห่งชาติ พุทธศกั ราช 2542 และท่แี กไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 2) พุทธศักราช 2545 กําหนดให้สถานศึกษาต้องดําเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐาน ตัวบ่งชี้ที่กําหนด ซึ่งการ นิเทศภายในเปน็ กิจกรรมหลักกิจกรรมหนึ่งของระบบการประกันคุณภาพ ซึ่งกิจกรรมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย และมีการดําเนินงานอยู่ในทุกสภาพพื้นท่ี และสภาพ สังคมทแี่ ตกต่างกัน รวมทั้ง ครู กศน.ในสังกัด มีหลายประเภท ทั้งที่ผ่านการอบรม และไม่ผ่านการอบรม ดังน้ัน การนิเทศจะสามารถช่วยพัฒนาศักยภาพครูให้เป็นมืออาชีพ ซึ่งสํานักงาน กศน. ได้กําหนดให้การนิเทศภายใน เปน็ นโยบายและจุดเน้นให้มีการนเิ ทศ กาํ กบั ติดตามและประเมนิ ผล โดยสง่ เสริมและพัฒนาการนิเทศท้ังระบบ การนิเทศภายใน เป็นส่วนหน่ึงของการบริหารจัดการ และระบบการประกันคุณภาพ ที่สถานศึกษา ต้องดําเนินการอย่างต่อเน่ือง ซึ่งผลการนิเทศจะสะท้อนการปฏิบัติงานท่ีจะนําไปสู่การพัฒนาสถานศึกษาตาม ระบบประกันคุณภาพการศึกษา การนิเทศภายใน หมายถึง การนิเทศโดยบุคลากรภายในหน่วยงาน หรือภายในหน่วยปฏิบัติของ หน่วยงานนั้น ๆ ผู้นิเทศอาจเป็นผู้บริหาร หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างาน หรือผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะผู้ทําการ นิเทศภายในหนว่ ยงานนน้ั ๆ การนิเทศภายใน เป็นกระบวนการทํางานร่วมกันระหว่างผู้บริหารผู้ทําการนิเทศ และผู้ปฏิบัติงานใน หน่วยงานเดียวกัน ร่วมพิจารณาปัญหา แสวงหาแนวทางในการแก้ปัญหา หาทางในการทํางานร่วมกัน  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 6   จัดระบบนิเทศท่ีมปี ระสิทธภิ าพ เพือ่ ให้มีการพัฒนาเจตคติและคุณภาพของบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน ซ่ึงจะส่งผลไป ถงึ คุณภาพของงาน ขวัญกําลงั ใจของผปู้ ฏิบัติงาน และความพงึ พอใจของประชาชนทีร่ บั บรกิ าร การนิเทศภายในสถานศึกษา มีความสําคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยมีการนิเทศในลักษณะ ของการช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน และการนิเทศแบบมีส่วนร่วม โดยใช้กระบวนการ PDCA เป็นแนวทางการ นิเทศ ตั้งแต่การวางแผนร่วมกัน การช้ีแจงคณะกรรมการนิเทศและผู้เก่ียวข้อง การอบรมพัฒนาศักยภาพและ สร้างความเข้าใจแก่บุคลากร การจัดทําเคร่ืองมือนิเทศ การกําหนดบทบาทหน้าท่ีของผู้นิเทศ ซ่ึงประกอบด้วย คณะกรรมการนิเทศภายในสถานศึกษา และเครือข่ายนิเทศในพืน้ ท่ี ผู้นิเทศภายในสถานศึกษา กศน. ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรของสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศกึ ษา คณะกรรมการ กศน.ตาํ บล อาสาสมคั ร กศน. และหรอื ภาคีเครือขา่ ย จดุ มุ่งหมายของการนิเทศงานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จุดมุ่งหมายสําคัญของการนิเทศโดยท่ัวไป เพื่อให้เกิดผลงานที่ดี มีคุณภาพสูง เป็นการพัฒนางาน พัฒนาคน ประสานงานและประสานความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เก่ียวข้อง และสร้างขวัญและกําลังใจในการ ปฏบิ ตั งิ านของบุคลากร (อทุ ัย บญุ ประเสรฐิ และชโลมใจ ภิงควัฒน.์ 2528 : 3) การนเิ ทศงาน กศน. เป็นภารกิจท่เี กีย่ วข้องกับการพฒั นาครูเพ่ือให้มีผลกระทบไปถึงผู้เรียน ย่ิงบุคคลท่ี จะต้องพัฒนานั้นเป็นครูที่จะต้องไปพัฒนาผู้เรียนท่ีเป็นผู้อยู่นอกระบบสถานศึกษาด้วยแล้ว งานนิเทศยิ่งเป็นสิ่ง ที่ละเอียดอ่อนและสลับซับซ้อน จึงควรกําหนดจุดมุ่งหมายของการนิเทศงานการศึกษากศน.ให้ชัดเจน เนื่องจากจุดมุ่งหมายการนิเทศงานการศึกษานอกสถานศึกษาเป็นเสมือนแนวทางหรือทิศทางที่ผู้ปฏิบัติจะต้อง ดําเนินการไปในทิศทางน้ัน การนิเทศงานการศึกษานอกสถานศึกษามีจุดมุ่งหมาย 4 ประการ คือ (กรมการ ศกึ ษานอกสถานศกึ ษา.2535 : 3-4) 1. เพื่อพัฒนาผสู้ อน/วทิ ยากรใหม้ คี ุณภาพสูงข้นึ ให้สามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพและสามารถทํางานรว่ มกนั ระหว่างผนู้ ิเทศ ผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เพ่ือให้ มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยมีการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด และเทคนิควิธีการซึ่งกันและกัน อันเป็น กระบวนการพฒั นาคณุ ภาพของคนในแนวทางการศึกษานอกระบบดว้ ย 2. เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการศึกษานอกสถานศึกษาให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ ตามเกณฑ์ มาตรฐานเนอื่ งจากการนเิ ทศงานการศกึ ษานอกสถานศึกษา จะสง่ เสริมให้บคุ ลากรทปี่ ฏบิ ตั ิงาน มีความเขา้ ใจใน นโยบาย ปรชั ญา และหลักการของงานการศึกษานอกสถานศึกษา ตลอดจนเทคนิค วิธีการทํางานท่ีสอด คล้อง สัมพันธ์กับหลักการดังกล่าว โดยการทํางานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ และผู้มีประสบการณ์ ซ่ึงมีผลพลอยได้ที่สําคัญ จากการพัฒนาคน คือ การทําให้ผลงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการเร่งรัดงานให้ดําเนินไปสู่ จุดหมายโดยรวดเรว็ อกี ทางหนึ่ง 3. เพ่ือการสร้างขวัญและกําลังใจ เพราะการนิเทศงานการศึกษานอกสถานศึกษาจะส่งเสริมการ ทาํ งานเปน็ ทีม โดยทีผ่ ้นู เิ ทศ ผูป้ ฏิบตั ิงานและประชาชนกล่มุ เปา้ หมายมีการแลกเปล่ยี นขอ้ มูล ความรู้ ความคดิ ซ่ึงกันและกัน สนับสนุนความเป็นผู้นําภายในกลุ่มด้วยกันเอง รวมท้ังการสร้างเครือข่ายข้อมูลท่ีมีประสิทธิภาพ ตอ่ การพัฒนาตนเอง และพัฒนาคุณภาพของงานด้วย ซ่ึงจะเป็นผลให้เกิดการเสริมสร้างขวัญและกําลังใจให้กับ ผู้ปฏบิ ัตงิ านเป็นอย่างยิ่ง 4. เพื่อการประเมินภาพรวมงานการศึกษานอกสถานศึกษาของหน่วยงาน ท้ังด้านปริมาณและ คุณภาพเพื่อการวินิจฉัยส่ังการของผู้บริหาร และกําหนดนโยบายในอันที่จะตัดสินใจส่งเสริม พัฒนา เผยแพร่ หรอื ปรับปรุงงานในความรบั ผิดชอบต่อไป  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 7   นอกจากนี้ สาย ภานรุ ตั น์ (2517 : 5) ได้กลา่ วถึงวัตถุประสงค์เฉพาะของการนเิ ทศไว้อยา่ งน่าสนใจ ดงั นี้ 1. ช่วยให้ครูเห็นและเข้าใจถ่องแท้ในวัตถุประสงค์ของการศึกษา และหน้าท่ีโดยเฉพาะของ สถานศึกษาทีจ่ ะดําเนินงานไปส่วู ตั ถปุ ระสงคข์ องการศึกษานัน้ 2.ช่วยให้ครูเห็นและเข้าใจในความต้องการของผู้เรียน และปัญหาต่างๆ ของผู้เรียนและช่วยจัด สนองความตอ้ งการของผูเ้ รียนอย่างดที สี่ ดุ ที่จะทาํ ได้ ตลอดจนชว่ ยแก้ไขและปอ้ งกนั สงิ่ อันพึงจะมแี ก่ผ้เู รยี น 3. ชว่ ยสรา้ งครใู หม้ ีคณุ ลักษณะแหง่ ความเปน็ ผนู้ าํ 4. ช่วยส่งเสริมขวัญและกําลังใจของคณะครูให้อยู่ในสภาพท่ีดีและเข้มแข็ง และรวมหมู่คณะ ให้ เปน็ ทมี ทจี่ ะปฏบิ ัติงานร่วมกันดว้ ยกําลงั สติปัญญาอนั สูง เพื่อบรรลุจดุ ประสงคเ์ ดยี วกนั 5. ช่วยพิจารณาความเหมาะสมของงานให้ถูกต้องกับความสามารถของครูแต่ละคนและ ช่วย ประคับประคองให้ครูใช้ความสามารของตนปฏิบตั ิงานใหก้ ้าวหนา้ อยู่เสมอ 6. ชว่ ยให้ครูพฒั นาการสอนของตนเอง 7. ชว่ ยฝึกครใู หมใ่ ห้เขา้ ใจในงานสถานศึกษาและงานของอาชีพ 8. ช่วยประเมนิ ผลงานของครูโดยอาศัยพฒั นาการของผ้เู รียน ไปตามแนวทางท่ีไดว้ างกนั ไว้ 9. ช่วยให้ครูรู้จักค้นหาจุดยากลําบากในการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคน และช่วยครูวางแผนการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ใหเ้ หมาะสม 10. ช่วยสร้างความสัมพนั ธท์ ่ดี ีระหวา่ งบคุ คลในการทาํ งานร่วมกันเก่ียวกับการนิเทศการสอน การนิเทศการศึกษา มีจุดมุ่งหมายท่ีจะพัฒนาคน พัฒนาครู ช่วยเหลือครูให้มีความสามารถในการ พัฒนางานด้านหลักสูตร การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ช่วยประสานงานและความร่วมมือเพ่ือให้เกิดความเข้าใจ อนั ดรี ะหวา่ งหน่วยงานต่าง ๆ ในสถานศึกษา และหน่วยงานท่เี ก่ียวขอ้ ง อกี ทงั้ ยงั จะสรา้ งความมนั่ คงในอาชีพครู สรา้ งสรรค์กําลงั ใจใหแ้ ก่ครู เพ่ือจะได้ร่วมมือพฒั นาผู้เรียนให้เกดิ การพัฒนาตามความมงุ่ หมายของการศกึ ษา หลกั การนิเทศภายในสถานศกึ ษา การนิเทศภายในสถานศึกษา มีหลักการ ดังนี้ (ชัด บุญญา. ออนไลน์, 2553. สุชิน สวนศรี. 2543 : 7, ไพฑรู ย์ ทพิ ยสุข. ออนไลน์, 2553.) 1. ดําเนินการนิเทศภายในโดยยึดความถูกต้องตามหลักวิชาการ การนิเทศจะต้องดําเนินการตาม กระบวนการอย่างเป็นระบบ เป็นข้ันเป็นตอนอย่างต่อเนื่อง สามารถตรวจสอบเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่กําหนด ไว้ 2. เป็นกระบวนการพัฒนาและส่งเสริมให้ครูและผู้เกี่ยวข้องทุกคนมีส่วนร่วมในการระดมความคิดเห็น ร่วมปฏิบัติ และร่วมรับผิดชอบ เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งข้ึนสร้างความเช่ือมั่น ให้มที ศั นคตแิ ละอุดมการณ์ในการสอน 3. มีความเป็นวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูจน์ได้ถึงเหตุและผล รวมทั้งข้อเท็จจริงต่าง ๆ มีการเก็บ รวบรวมข้อมูลและรองรับดว้ ยขอ้ มลู สารสนเทศ มกี ารสรุปผล สามารถอา้ งอิงได้และมคี วามน่าเชอื่ ถือ 4. มีความยืดหยุ่น สามารถที่จะปรับปรุงเปล่ียนแปลงกระบวนการ วิธีนิเทศให้สอดคล้องกับ สภาพแวดล้อมตา่ ง ๆ เพอื่ ใหก้ ารดําเนนิ งานไปสเู่ ป้าหมายทต่ี ง้ั ไว้มากท่สี ุด 5. เป็นกจิ กรรมทเ่ี คารพในความแตกต่างระหว่างบุคคลของผรู้ ับการนิเทศ 6. เปน็ กจิ กรรมที่ดงึ ศักยภาพของผู้รับการนเิ ทศมาใชแ้ ละใหก้ ารยกย่อง 7. กิจกรรมการนิเทศตรงกับความต้องการจาํ เปน็ ในการพัฒนาครู  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 8   8. จัดสภาพแวดล้อมและแหล่งวิทยาการให้เอื้อต่อการทํางาน ตลอดจนบรรยากาศท่ีเป็นกันเองมี กระบวนการทาํ งานเปน็ ทีม 9. มีมนษุ ยสัมพันธท์ ี่ดีที่จะสร้างความคนุ้ เคย และเสรมิ สร้างขวัญกาํ ลงั ใจแก่ครู บทบาท/หน้าทีค่ วามรบั ผิดชอบของผนู้ ิเทศภายในสถานศกึ ษา ผนู้ ิเทศภายในซึ่งเป็นบุคลากรท่ีอยู่ในสถานศึกษาสามารถกําหนดภารกิจที่จะปฏิบัติงานในสถานศึกษา ได้ตรงกับสภาพปัญหาและความต้องการได้มากข้ึน โดยพิจารณาจากแนวคิดของ กวินน์ (Gwynn, อ้างถึงใน แสวง เอยี่ มองค.์ ม.ป.ป. : 7-8) ทไ่ี ดก้ ล่าวถงึ งานหลกั (Major Tasks) ของผนู้ ิเทศไว้ 10 ประการ คือ 1. ช่วยเหลือครูและผู้บริหารให้เข้าใจเก่ียวกับผู้เรียนได้ดีขึ้น เช่น ความต้องการ ความพร้อม และการ พฒั นาการของผเู้ รียนวยั ตา่ ง ๆ 2. ช่วยเหลือครูในด้านการพัฒนาและปรับปรุงตนเอง ตลอดจนช่วยให้เกิดความร่วมมือของคณะครูใน สถานศกึ ษา 3. สง่ เสรมิ ใหค้ รูจดั ทําและใช้อุปกรณป์ ระกอบการสอน 4. ชว่ ยใหค้ รูปรบั ปรงุ การสอนของตนใหด้ ขี ้นึ 5. ส่งเสริมและให้โอกาสครูที่เช่ียวชาญตามสาขาวิชาท่ีมีอยู่ในสถานศึกษา ได้ช่วยเหลือเพ่ือนครูตาม ความรู้ความสามารถของตน 6. ใหค้ วามช่วยเหลือครูในดา้ นการประเมนิ ผลพฒั นาการของผูเ้ รียนได้อย่างถกู ตอ้ ง 7. ส่งเสริม ย่ัวยุ ใหค้ รรู ้จู กั ประเมนิ ผลโครงการปฏิบัติงานและความกา้ วหนา้ ของตนเอง 8. ชว่ ยให้ครูประสบความสําเร็จ รู้สกึ มน่ั คงในการปฏบิ ัตงิ านและการดํารงชวี ิตในสังคม 9. ส่งเสริมให้มีการปรับปรุงหลักสูตรและนําผลไปพัฒนา ทําให้ครูเข้าใจ สามารถนําไปใช้ในการจัด กิจกรรมการสอนได้จรงิ 10. ช่วยใหผ้ ู้บริหาร ครู ผูเ้ รียน และประชาชนไดร้ บั ทราบผลงานและความก้าวหน้าของสถานศกึ ษา ภารกจิ ของผู้นิเทศที่จะตอ้ งปฏบิ ตั ิเพอ่ื ชว่ ยพฒั นาครู (สทุ ธนู ศรไี สย์. ม.ป.ป.: 11) ดงั นี้ 1. ใหค้ วามช่วยเหลอื โดยตรงกับครู (Direct Assistance) 2. ช่วยพฒั นาหลักสตู ร (Curriculum Development) 3. ให้บริการเสรมิ วิชาการ (In-service Education or In-service Training) 4. ชว่ ยพัฒนากลมุ่ (Group Development) 5. สนับสนนุ ครูให้ทาํ วจิ ยั เชิงปฏิบัติการ (Action Research) ภารกิจดังกล่าวนี้ จะเป็นส่วนสําคัญของงานนิเทศการศึกษา ซ่ึงสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร (Organizational Goals) และความตอ้ งการของครผู ู้สอน (Teacher Needs) ซงึ่ ผลทไ่ี ดร้ บั ทงั้ หมดจะมีอทิ ธิพล ยิ่งใหญ่ต่อการปรับปรุงการเรียนรู้ของผู้เรียน (Improving Student Learning) และจากแนวคิดของ นักวิชาการดังกล่าว จะเห็นได้ว่า ผู้นิเทศภายในสถานศึกษา มีภารกิจหน้าท่ีต้องทํางานร่วมกับครูในลักษณะ ของการเป็นทีมงานเดียวกัน เป็นคนกระตุ้นให้เกิดการใช้กระบวนการกลุ่มในการแก้ปัญหาและพัฒนางาน โดย ไม่นําบทบาทและหน้าที่ในฐานะของผู้บริหาร ส่ังการตรวจสอบหรือประเมินผลโดยเด็ดขาด ต้องสร้าง บรรยากาศในการทาํ งานให้เป็นบรรยากาศทางวิชาการ สรุปได้ ดงั นี้ 1. วางแผนการดําเนินการนเิ ทศภายใน เน้นการทาํ งานแบบมีสว่ นรว่ ม (เปน็ ทีม) 2. ปฏิบัติการนิเทศตามแผนการนิเทศภายในสถานศึกษา และเปิดโอกาสให้ครูมีส่วนร่วมในการ ดําเนนิ งานนเิ ทศภายในสถานศกึ ษา  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 9   3. ให้คําปรึกษาแนะนําเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และส่งเสริมให้ครูได้รับการพัฒนาความรู้ ตามท่ีตอ้ งการพฒั นา 4. ปฏิบัตงิ านวิชาการอื่น ๆ ตามท่ีได้รบั มอบหมาย บคุ ลิก/คุณลักษณะของผนู้ เิ ทศทพ่ี งึ ประสงค์ ศึกษานิเทศก์เป็นผู้ทําหน้าท่ีช่วยเหลือ แนะนํา ครูให้เกิดการปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนที่มี ประสทิ ธิภาพ ซงึ่ กระบวนการนเิ ทศต้องทาํ งานรว่ มกันระหวา่ งผู้บริหาร ศกึ ษานเิ ทศก์ และครผู ู้สอน เพื่อร่วมมือ กันเปล่ียนแปลง ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ ดังนั้น ผู้ทําหน้าท่ีนิเทศภายในจึงจําเป็นต้องมี บคุ ลกิ ลกั ษณะทดี่ ี เพ่อื ใหเ้ กิดศรทั ธายอมรบั ของผรู้ บั การนิเทศดงั นี้ 1. เป็นผมู้ ภี ูมิรู้ ภูมิธรรม ภมู ฐิ าน - ภูมิรู้ มีความรู้บทบาทหน้าที่ของตน มีความรู้เชิงวิชาการ มีความรู้ในการจัดกิจกรรม กศน. มีความสามารถในการสือ่ สาร เปน็ ผู้ใฝ่รู้ ใฝเ่ รยี น เปน็ ที่ปรกึ ษาที่ดี - ภูมิธรรม มีเมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้กําลังใจแก่ผู้รับการนิเทศ มีความอดทน มั่นคงใน อารมณ์ - ภูมิฐาน ศึกษานิเทศก์ ตอ้ งแต่งกายดี สะอาด พดู จาไพเราะ มีมนุษยสมั พนั ธ์ดี 2. มภี าวะผ้นู ํา เป็นผู้มีความสามารถทํางานเป็นทีม มีระบบในการทํางาน ยอมรับความคิดเห็นของผู้อ่ืน เป็นผู้นํา และผ้ตู ามทีด่ ี มคี วามจริงใจ และมวี ิสยั ทัศน์ 3.มีสว่ นรว่ มกับสงั คม เป็นผเู้ ข้าใจเขา้ ถงึ ชุมชน การมสี ่วนรว่ ม มีมนษุ ย์สัมพนั ธ์ท่ีดี มีจติ บรกิ าร เปน็ นักประสานทดี่ ี  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 10   บทที่ 3 แนวทางการดาํ เนินการนเิ ทศภายในสถานศึกษา การนิเทศการศึกษานอกโรงเรียน การนเิ ทศการศกึ ษานอกโรงเรยี น แบง่ ได้ 2 ลักษณะ คือ 1. การนิเทศภายนอก (External Supervision) เป็นการนิเทศโดยบุคลากรท่ีไม่ได้อยู่ในหน่วยงาน เดียวกัน เช่น การนิเทศของศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารอื่น ๆ ภายนอกสํานักงาน กศน.จังหวัด เป็นการมองงาน และพฒั นางานจากบคุ คลภายนอก 2. การนิเทศภายใน (Internal Supervision) เปน็ การนิเทศโดยบุคลากรที่อยู่ในหน่วยงานเดียวกันเป็น การมองงานและพัฒนางานโดยผู้ร่วมปฏิบัติงานด้วยกัน ซ่ึงสามารถช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที และ สามารถพัฒนางานให้ดีขึ้น เพราะได้รับความช่วยเหลือจากผู้บริหารระดับจังหวัด อําเภอ ลดช่องว่างระหว่าง ผู้บริหารและผู้ปฏิบตั งิ านได้ รูปแบบการนเิ ทศ รูปแบบการนิเทศ เป็นแบบแผนของการดําเนินงานนิเทศด้วยความสัมพันธ์เชิงระบบ เพื่อประโยชน์ใน การดําเนินงานนิเทศให้บรรลุวัตถุประสงค์ ซึ่งมีหลายรูปแบบให้ยึดเป็นหลักในการปฏิบัติ งานการศึกษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ทนี่ ยิ มใช้กัน ไดแ้ ก่ 1. รปู แบบการนิเทศ PIDRE 2. รูปแบบการนเิ ทศวงจรคณุ ภาพ PDCA 3. รปู แบบการนิเทศ IPO 4. รูปแบบการนเิ ทศแบบคลินิก 1. รปู แบบการนิเทศ PIDRE สงัด อทุ รานนั ท์ (2527 : 4-5) ได้นําเอากระบวนการนิเทศการศึกษามาใช้ในการนิเทศการศึกษาของ ไทยซ่งึ ประกอบไปดว้ ยขน้ั ตอนดงั ต่อไปน้ี ขั้นที่ 1 การวางแผนการนิเทศ (P-Planning) ข้ันน้ีผู้นิเทศจะประชุมปรึกษาหารือ เพ่ือให้ได้มาซึ่ง ปญั หา ความตอ้ งการ ความจาํ เป็นของสิ่งที่จะตอ้ งมกี ารนเิ ทศ รวมท้ังวางแผนถึงขนั้ ตอนการปฏิบัติงานเกี่ยวกับ การนเิ ทศท่จี ะจัดขน้ึ อกี ดว้ ย ข้ันท่ี 2 ให้ความรู้ในส่ิงที่จัดทํา (I-Informing) เป็นข้ันตอนของการให้ความรู้ความเข้าใจถึงส่ิงที่จะ ดําเนนิ การวา่ จะต้องอาศัยความรู้ ความสามารถอยา่ งไรบา้ ง จะมขี ้ันตอนในการดําเนินการอย่างไรบ้าง และจะ ทาํ อยา่ งไรจงึ จะทําให้ผลงานออกมาอยา่ งมีคุณภาพ ขนั้ น้จี ําเปน็ ทุกครง้ั สําหรับการเริ่มการนิเทศท่ีจัดขึ้นใหม่ไม่ วา่ จะเปน็ เร่อื งใดก็ตาม และมีความจําเป็นสําหรบั งานนิเทศท่ีเปน็ อย่างไม่ได้ผล หรือได้ผลยังไม่ถึงข้ันท่ีพอใจ ซึ่ง จําเป็นจะต้องทําการทบทวนให้ความรู้ในการปฏบิ ัตงิ านทถ่ี ูกต้องอีกคร้งั หนงึ่ ขั้นท่ี 3 การปฏิบัติงาน (D-Doing) การปฏิบตั งิ านประกอบดว้ ย 3 ลกั ษณะ คอื 3.1 การปฏิบัติงานของผู้รับการนิเทศ เป็นข้ันท่ีผู้รับการนิเทศลงมือปฏิบัติงานตามความรู้ ความสามารถทไ่ี ด้รับมาจากการดําเนนิ การในข้นั ท่ี 2 3.2 การปฏิบัติงานของผู้ให้การนิเทศ ขั้นน้ีผู้ให้การนิเทศจะทําการนิเทศและควบคุมคุณภาพ ใหง้ านสาํ เร็จออกมาทันตามกาํ หนดเวลาและมีคุณภาพสูง 3.3 การปฏิบัติงานของผู้สนับสนุนการนิเทศ ผู้บริหารจะให้บริการสนับสนุนในเร่ืองวัสดุ อปุ กรณ์ ตลอดจนเคร่อื งใชต้ ่าง ๆ ท่ีจะชว่ ยใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านเปน็ ไปอยา่ งได้ผล  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 11   ขัน้ ท่ี 4 การสรา้ งขวญั และกําลังใจ (R-Reinforcing) ข้นั นีเ้ ป็นขัน้ ของการเสรมิ แรงของผู้บริหาร เพ่ือให้ ผู้รับการนิเทศมีความม่ันใจและบังเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน ข้ันนี้อาจดําเนินการไปพร้อม ๆ กัน ขณะท่ผี รู้ บั การนิเทศกาํ ลังปฏิบตั งิ านหรือการปฏิบัตงิ านได้เสรจ็ สน้ิ ลงไปแล้วกไ็ ด้ ข้นั ที่ 5 ประเมินผลและกระบวนการดําเนินงาน (E-Evaluation) ผู้นิเทศจะทําการประเมินผลงานและ ประเมินผลการดําเนินงานที่ผ่านไปแล้วว่าเป็นอย่างไร หลังจากการประเมินผลการนิเทศได้พบว่า มีปัญหาหรือ อุปสรรคอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทําให้การดําเนินงานไม่ได้ผล ก็สมควรจะต้องทําการปรับปรุงแก้ไข อาจทําโดยให้ ความรู้ในส่ิงที่ทํามาคร้ังหน่ึง ถ้าผลงานออกมาไม่ถึงข้ันที่พอใจ ควรดําเนินการปรับปรุงวิธีการดําเนินงาน ท้ังหมด สําหรับกรณีท่ีกระบวนการดําเนินงานเป็นไปไม่ได้ผล ถ้าหากการประเมินผลงานและการดําเนินงาน ไดผ้ ลดสี ามารถดาํ เนินการตอ่ ไปได้ 2. รูปแบบการนเิ ทศ PDCA กระบวนการนิเทศการศึกษา ได้ใช้กระบวนการ PDCA ในการดําเนินการมีข้ันตอนของการวางแผน การนิเทศเปน็ สว่ นสาํ คัญ ดังน้ี ขั้นตอนท่ี 1ดําเนินการวางแผน เป็นขั้นเตรียมการนิเทศ โดยศึกษาข้อมูลสารสนเทศ ประมวลสภาพ ปัญหาและความต้องการในการพัฒนาการศึกษา กําหนดจุดมุ่งหมายการนิเทศ จัดทําแผนการนิเทศ กําหนด เน้ือหาการนิเทศ ออกแบบการนิเทศ สื่อนิเทศ จัดเตรียมเครื่องมือนิเทศ กําหนดกรอบการประเมิน วิธีการ ตดิ ตามและการรายงานผลการนิเทศ และขออนุมัติโครงการ งบประมาณ ขั้นตอนที่ 2 ดําเนินการตามแผนนิเทศ โดยประชุมเพื่อทบทวนจุดมุ่งหมายการนิเทศ แบ่งหน้าท่ี ภารงานในการนิเทศ ประสานงานบคุ คลทเี่ กีย่ วข้อง และนิเทศตามแผนดว้ ยรูปแบบ เทคนคิ วธิ ีการทกี่ าํ หนด ขั้นตอนท่ี 3 ดําเนินการตรวจสอบและประเมินผล เพ่ือประเมินผลการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตาม จุดมุ่งหมายหรือไม่ และมีสภาพการจัดการเรียนการสอนที่ครูปฏิบัติจริง ปัญหา อุปสรรค ท่ีเป็นข้อมูล สารสนเทศท่ตี ้องตรวจสอบดูใหม่ แล้วปรับปรุงการนเิ ทศตอ่ ไป ข้ันตอนท่ี 4 การนําผลการประเมินมาปรับปรุง เมื่อส้ินสุดผลการนิเทศแต่ละครั้ง ควรรายงานผลให้ ผู้บังคับบัญชาทราบโดยทําเป็นบันทึกข้อความ หรือแบบรายงานที่กําหนดไว้ในหัวข้อประเด็นต่าง ๆ เช่น ผู้นิเทศ ผู้รับการนิเทศ วันเดือนปีท่ีนิเทศ กิจกรรมที่นิเทศ เนื้อหาสาระท่ีนิเทศ การประเมินผลของผู้รับการ นเิ ทศ และข้อควรพัฒนา กระบวนการนิเทศการศึกษา ได้ใช้กระบวนการ PDCA ในการดําเนินการมีข้ันตอนของการวาง แผนการนเิ ทศ เปน็ สว่ นสําคัญ ดงั นี้  

  12 จัดระบบข้อมูลสารสนเทศ ผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษา กาํ หนดจดุ พฒั นาการนิเทศ ปญั หาการดําเนินการนิเทศ จดั ทําแผนการนเิ ทศ ความต้องการในการพัฒนา จดั ทาํ โครงการนเิ ทศ นโยบายจากหน่วยงานเจา้ สงั กัด พ.ร.บ.การศกึ ษาแห่งชาติ สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่การวางแผนกระบวนการนเิ ทศ (Plan) ภายในสถานศกึ ษา การปฏิบัติงาน ตามแผน (Do) การนําผลการประเมินมา การตรวจสอบและ ปรบั ปรุง (Action) ประเมนิ ผล (Check) จัดทาํ รายงานผลการนเิ ทศ วเิ คราะหข์ ้อมูล เสนอผลงาน เสนอผลการนเิ ทศและเผยแพร่ พัฒนาตอ่ เนื่อง จากกรอบแนวคิดการดําเนนิ งานในการวางแผนการนิเทศการศึกษา กาํ หนดเปน็ ข้ันตอนทนี่ าํ ไปใชใ้ นการ ดาํ เนนิ งานนิเทศภายในสถานศกึ ษา 3. รปู แบบวธิ กี ารเชิงระบบ (System approach) เป็นกระบวนการท่ีทําให้การนิเทศบรรลุผลสําเร็จอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อผลลัพธ์ที่ กําหนดอยู่บนพื้นฐานหลักการความต้องการเป็นรูปแบบหน่ึงของการแก้ปัญหาเชิงตรรกวิทยา ซึ่ง ประกอบด้วย สิ่งทีป่ อ้ นเขา้ ไป (Input) กระบวนการหรือการดําเนินงาน (Process) ผลผลิตหรือการประเมินผล (Output) ในการดําเนินงานนิเทศภายใน ดังนี้ 1. สิ่งทีป่ อ้ นเข้าไป (Input) เป็นขัน้ ตอนการเตรยี มการสง่ิ ต่าง ๆ ท่จี ําเป็นต้องใช้ในกระบวน การนิเทศ ภายใน ดังนี้ 1) กําหนดเกณฑใ์ นการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนตามนโยบายสํานักงาน กศน.โดยวิธี วิเคราะห์ ตีความตามนโยบายของสํานักงาน กศน.กําหนดพฤติกรรมท่ีสนองนโยบาย กําหนดเกณฑ์ (ระดับ) ของ พฤติกรรมข้นั ตํ่าทบี่ รรลเุ ปา้ หมาย 2) สภาพปัจจุบัน อาจสรุปจากข้อมูลท่ีมีอยู่ เช่น ผลการเรียน หรือโดยการสร้าง เคร่ืองมือวัดตาม ประเดน็ และนํามากาํ หนดเปน็ เกณฑ์ เกบ็ รวบรวมข้อมลู จากกลุ่มตัวอยา่ งต่าง ๆ ท่เี หมาะสม  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 13   3) ประเมินสภาพความต้องการจําเป็นของสถานศึกษา โดยเปรียบเทียบข้อมูล สถานศึกษากับเกณฑ์ จัดลาํ ดับความสาํ คัญของปญั หาและวเิ คราะห์สาเหตขุ องปญั หา 4)กําหนดเป้าหมายเพ่ือแก้ปัญหาโดยศึกษาจากแหล่งวิทยาการต่าง ๆ ศึกษาข้อจํากัดต่าง ๆ เพื่อ กําหนดเปน็ เปา้ หมาย (นโยบายระดบั สถานศกึ ษา)ทงั้ ดา้ นคุณภาพ/ด้านปริมาณ 5)วางแผนการแก้ปัญหา (หาทางเลือก) ศึกษาสภาพปัญหาและศึกษาวิธีการแก้ปัญหาจากแหล่งต่าง ๆ เช่นจากเอกสาร การศึกษาดูงาน การเชิญวิทยากร การเชิญผู้เชี่ยวชาญ หรือการระดมพลังสมอง เพ่ือหาทาง เลอื กและประเมนิ ทางเลอื กโดยพจิ ารณาจากทรัพยากรและข้อจํากัดต่าง ๆ และเลือกทางเลือกท่ีเหมาะสมท่ีสุด เชน่ การวิจัย ผลติ สือ่ การจดั อบรมใหก้ ําหนดกิจกรรมและทําแผนปฏบิ ตั ิการ (เขยี นโครงการ) 2. กระบวนการหรือการดําเนนิ งาน (Process) เป็นการนําเอาส่ิงท่ีป้อนเข้าไปมาจัดกระทํา เพื่อให้เกิดผลบรรลุตามวัตถุประสงค์ท่ีต้องการ โดย ดําเนินการตามแผน โดยการประชุมคณะทํางานดําเนินการนิเทศตามแผนติดตามและประเมินตามแผนท่ีได้ ดาํ เนนิ การ 3. ผลผลติ หรือการประเมินผล (Output) เป็นผลที่ได้จากการกระทําในขั้นท่ีสอง เป็นสภาพการดําเนินงานของสถานศึกษา ท้ังเชิงปริมาณ เชงิ คุณภาพ สภาพปญั หา และแนวทางการพัฒนาปรับปรงุ ให้มีคณุ ภาพ การติดตามและประเมินผลได้กําหนดเคร่ืองมือในการติดตามและประเมินผลตามเกณฑ์เครื่องมือใน การตดิ ตามและประเมินผลกระบวนการและกําหนดกระบวนการในการตดิ ตามและประเมินผล กระบวนการการนิเทศภายในสถานศกึ ษา กระบวนการนิเทศภายในสถานศึกษา มี 2 ลกั ษณะ คือ 1. นิเทศแบบเป็นทางการ มีการวางแผนการนิเทศอย่างเป็นระบบ ประชุมสร้างความเข้าใจ การ ทํางานเป็นทีม มีความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน การพูดคุยระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ การแลกเปลี่ยน ความคดิ เหน็ และใหข้ ้อเสนอแนะเกย่ี วกับการนเิ ทศภายในรวมทัง้ การรายงานผลการนเิ ทศ 2. การนิเทศแบบไม่เป็นทางการ เป็นการนิเทศในระหว่างการจัดกิจกรรมนอกแผนที่กําหนด การ พดู คยุ แบบไมเ่ ป็นทางการ และมกี ารใชเ้ ครอื ข่ายร่วมนเิ ทศ เชน่ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้นาํ ท้องถิ่น องค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และหรอื นักศกึ ษาท่รี ่วมนิเทศ กระบวนการนเิ ทศ มขี ัน้ ตอนทส่ี ําคัญ ดังน้ี 1. ศึกษาสภาพปัญหาหรือศึกษาหาความจาํ เป็นของการนิเทศ ผู้บริหารหรือผู้นิเทศภายในมักจะถามตนเองว่าทําไมจึงต้องนิเทศงานน้ัน ๆ เรามักจะได้คําตอบว่า เพราะงานน้ันยังมีปัญหาอุปสรรคในการดําเนินงาน หรือการจัดการเรียนการสอนยังไม่มีประสิทธิภาพ ผู้นิเทศอาจศึกษาจากรายงานการปฏิบัติงาน หรือผลการเรียนของนักศึกษา หรือจากการสํารวจ ติดตาม สัมภาษณ์ ทาํ ให้เราสามารถทราบว่าจะวางแผนแกป้ ญั หาหรือพัฒนางานได้อย่างไร 2. การวางแผนการนเิ ทศ ผลจากการศึกษาปัญหาข้างต้น ทําให้เราต้องวางแผนแก้ปัญหาหรือพัฒนางานนั้น ๆ โดยการวาง แผนการนิเทศร่วมกับผู้บริหารและผู้นิเทศภายใน โดยมีจุดประสงค์การกําหนดแผนการทํางาน วิธีการ เครือ่ งมอื ส่ือ การประสานงานบคุ คลทเี่ ก่ียวขอ้ ง การจัดสรรงบประมาณ และการประเมินผล  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 14   การวางแผนการนิเทศเป็นการเตรียมการเพ่ือปฏิบัติการนิเทศอย่างมีระบบ แผนการนิเทศเป็น แผนพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะแผนนิเทศด้วยการเรียนการสอน ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการจัด กิจกรรมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย แผนนิเทศท่ดี ตี อ้ งประกอบดว้ ย 1. การสํารวจสภาพปัญหาและความตอ้ งการของการนิเทศ 2. การวางแผนการนเิ ทศ 3. สร้าง/เลอื กเครือ่ งมือและเทคนคิ การนเิ ทศ 4. การปฏบิ ัตติ ามแผน 5. การสรปุ รายงานผลการนเิ ทศ 3. การเตรยี มการนิเทศ การเตรียมการนิเทศเพื่อสามารถปฏิบัติการนิเทศให้บรรลุเป้าหมายโดยเตรียมการอนุมัติโครงการ งบประมาณ การประสานงานบุคคลที่เก่ียวข้อง กําหนดเนื้อหาในการนิเทศ จัดเตรียมเครื่องมือ/ส่ือนิเทศ วธิ ีการนิเทศ วธิ ีการติดตามผลและการรายงานผลการนิเทศ 4. การปฏบิ ัตกิ ารนเิ ทศ การปฏิบัติการนิเทศ แบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ การนิเทศใน กศน.อําเภอ และการนิเทศใน กศน. ตําบล โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี 1.การนเิ ทศการบรหิ ารจดั การใน กศน.อาํ เภอ สามารถดําเนินการไดด้ ังน้ี - จัดการประชุมเป็นรายสัปดาห์/รายเดือน เพื่อติดตามผลการดําเนินการตามแผนการปฏิบัติงาน และ ซักซ้อมความเข้าใจ ให้คําปรึกษา แนะนําเพ่ือแก้ปัญหาการปฏิบัติงานของกลุ่มงาน/ฝ่ายต่าง ๆ ตามโครงสร้าง สถานศกึ ษา - ติดตามความก้าวหน้า ผลการปฏิบัติงาน ปัญหา อุปสรรค และให้คําปรึกษา แนะนํา ช่วยเหลือ เพื่อ แก้ปัญหาเป็นกรณแี ตล่ ะกลุ่มงาน โดยการพดู คยุ สอบถาม สอนงาน ใชส้ ื่ออิเล็กทรอนิกส์ - อบรม/ประชุมปฏิบตั กิ าร เพอื่ แกป้ ญั หาหรอื เสริมความร้เู ฉพาะดา้ นแกผ่ ู้ปฏิบตั งิ าน - มอบหมายให้ข้าราชการครู ครู อาสาสมัคร กศน. ทําหน้าที่เป็นพี่เล้ียง สอนงาน ให้คําปรึกษา แนะนาํ การปฏิบตั ิงานแก่ครู กศน.ตาํ บล - สรุปและบันทึกผลการนิเทศจากร่องรอย หลักฐานผลการนิเทศในแบบบันทึกการนิเทศ เพ่ือการ พฒั นาปรบั ปรงุ การปฏบิ ัตงิ าน 2.การนเิ ทศ กศน.ตําบล สามารถดําเนนิ การได้ดังนี้ การนิเทศ กศน.ตําบล จะต้องมีการเตรียมการนิเทศตามระยะเวลาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใน กศน. ตําบล ตลอดจนวางแผนและประสานผู้รับการนิเทศ ปฏิบัติการนิเทศตามแผนที่กําหนด ในบางกรณีอาจนิเทศ นอกเหนือจากแผนที่กําหนด โดยเป็นการนิเทศตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย หรือนิเทศเร่งด่วนตาม สถานการณ์ ดังน้ี 2.1 การนิเทศการบรหิ ารจดั การ กศน.ตําบล - ศึกษาวิเคราะห์แผนการปฏิบัติงาน แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาว่าเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ กําหนดและมคี วามเปน็ ปัจจุบัน - นิเทศสภาพทั่วไป บริบท สถานท่ี สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ ข้อมูลพ้ืนฐานของชุมชน ข้อมูลการจัดกิจกรรม ขอ้ มูลแหล่งเรียนรู้ ภูมปิ ญั ญา มุมสง่ เสรมิ อาชีพ มุมแนะแนว ฯลฯ ตามเกณฑ์มาตรฐาน กศน.ตาํ บล 2.2 การนิเทศกจิ กรรม กศน. ใน กศน.ตําบล เป็นการนิเทศกิจกรรมตามโครงสร้างการปฏิบัติงาน ได้แก่ การศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเน่ือง การศึกษาตามอัธยาศัย การส่งเสริมการรู้หนังสือ การจัดกิจกรรม  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 15   การศึกษาร่วมกับภาคีเครือข่ายและอื่น ๆ ตามภารกิจท่ีได้รับมอบหมาย โดยให้เป็นไปตามมาตรฐาน ตัวบ่งชี้ คณุ ภาพ กศน. และการนิเทศ กศน.ตาํ บลตามบทบาทท่ไี ด้รบั มอบหมายในการเป็นศูนย์ขา่ วสารของชุมชน ศูนย์ สร้างโอกาสการเรียนรู้ ศูนย์การเรียนชุมชน และศูนย์ชุมชน ซ่ึงผู้นิเทศภายในควรดําเนินการนิเทศให้ ครอบคลุมทกุ ภารกิจและทกุ กจิ กรรม 5. การประเมนิ ผลและปรับปรงุ การนิเทศ เมื่อปฏิบัติการนิเทศแล้วควรจะมีการประเมินผลการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ผล การนิเทศเป็นอย่างไร หากมีปัญหาคงต้องตรวจสอบดูใหม่ แล้วปรับปรุงการนิเทศ และประเมินผลอีกคร้ัง เม่ือ พอใจแล้วจึงถอื ว่าการนิเทศนนั้ ประสบผลสําเรจ็ 6. การรายงานผลการนิเทศ เมื่อสิ้นสุดผลการนิเทศแต่ละคร้ัง ควรรายงานผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบ โดยทําเป็นบันทึกข้อความ หรอื แบบรายงาน ทกี่ ําหนดไว้ในหัวข้อประเด็นตา่ ง ๆ เชน่ - ผนู้ ิเทศ (ใครคือผนู้ เิ ทศ) - ผู้รับการนิเทศ - วันเดือนปที ่ีนเิ ทศ - กจิ กรรมทีน่ ิเทศ - เนอื้ หาสาระทีน่ ิเทศ - การประเมินผลของผ้รู ับการนเิ ทศ ข้อควรคาํ นงึ ในการนิเทศภายใน การจดั การนเิ ทศภายใน มีสง่ิ ที่ควรคํานึงถงึ บางประการ คอื 1. ผู้บริหารของหน่วยงานต้องเห็นความสําคัญ ความจําเป็น และสนับสนุนให้มีการนิเทศภายในของ หน่วยงานอยา่ งเขม้ แข็ง โดยสนบั สนุนทั้งนโยบาย ทรัพยากรบคุ คล วัสดอุ ปุ กรณ์ ยานพาหนะ และเวลา 2. การนเิ ทศภายในตอ้ งทาํ งานเป็นทมี ใหท้ ุกงาน ทุกฝา่ ยมสี ว่ นรว่ มในทมี งานดว้ ย ผลงานที่เกิดข้ึนเป็น ผลงานรวมของหน่วยงานทที่ ุกคนทุกฝา่ ยตอ้ งรบั ผิดชอบรว่ มกัน 3. บุคลากรผนู้ เิ ทศภายในหนว่ ยงาน ต้องเสียสละ อดทน ทํางานหนกั ข้นึ ตอ้ งแสวงหาความรู้ ใหม่ ๆ อยตู่ ลอดเวลา มที ักษะในการถ่ายทอด ทักษะในการทํางาน 4. บรรยากาศของการทํางานต้องให้เกียรติ ยกย่อง เคารพนับถือ ทุกฝ่าย เน้นให้ทุกคน มีความสําคัญ เท่าเทียมกัน พร้อมท่ีจะร่วมมือกันปฏิบัติงานให้เป็นผลสําเร็จรู้จักการเป็นผู้นําและผู้ตามได้ตามโอกาสที่ เหมาะสม เทคนิควธิ ีการนเิ ทศ การนิเทศเป็นท้ังศาสตร์และศิลปะของผู้นิเทศ จุดมุ่งหมายของการนิเทศคือ ผู้รับการนิเทศมีการ เปล่ียนแปลงทางพฤติกรรมท่ีดีข้ึนและส่งผลต่อการปฏิบัติงาน ผู้นิเทศจึงจําเป็นที่จะต้องรู้เทคนิคหรือวิธีการ นิเทศเพื่อนํามาใช้ได้อย่างเหมาะสมกับผู้รับการนิเทศ การนิเทศไม่ใช่เป็นการไปจับผิดแต่เป็นการไปช่วยกันให้ งานบรรลุวัตถุประสงค์ การนิเทศเป็นการป้องกันไม่ให้การทํางานเกิดการผิดพลาดของผู้รับการนิเทศ การ นิเทศเป็นการก่อให้เกิดความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ในการปฏิบัติงาน และการนิเทศเป็นการแก้ปัญหาท่ีเกิดขึ้น การนิเทศจึงเป็นศาสตร์และศิลปะที่ผู้นิเทศจะต้องศึกษาใฝ่หาความรู้ตลอดเวลา เพื่อนํามาใช้ในการนิเทศให้ เกิดประโยชน์สูงสดุ ตอ่ ผรู้ บั การนิเทศ การนิเทศงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยต่างจากการนิเทศในระบบสถานศึกษา ท้ังในด้านดําเนินการ วิธีการปฏิบัติ และผู้รับบริหารผู้นิเทศงานการศึกษานอกสถานศึกษา จึงต้องมีเทคนิค  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 16   วิธีการเป็นปัจจัยสําคัญที่ช่วยให้การนิเทศบรรลุวัตถุประสงค์ สร้างความเข้าใจและสัมพันธภาพท่ีดีระหว่างผู้ นิเทศกับผู้รับการนิเทศจะต้องเลือกใช้อย่างเหมาะสมกับการนิเทศแต่ละกิจกรรม เทคนิคการนิเทศงาน การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ทนี่ ิยมใชก้ ัน ได้แก่ 1. การบรรยาย เป็นวิธีการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจของศึกษานิเทศก์หรือผู้นิเทศ ไปยังผู้รับการ นิเทศโดยการบรรยาย อาจจัดได้ในลักษณะท่ีมีผู้บรรยายเป็นกลุ่ม ลักษณะการบรรยายอาจบรรยายปากเปล่า ซึ่งผู้บรรยายจะต้องมีความรู้ ความสามารถในเร่ืองที่บรรยายเป็นอย่างดีและมีเทคนิคการพูดที่จูงใจให้ผู้ฟังได้ ความรู้ความเข้าใจและสนใจฟังตลอดเวลาดังน้ันการบรรยายที่ได้ผลดีจึงมักเลือกใช้วิธีบรรยายที่ใช้ส่ือประกอบ เช่น สไลด์ แผ่นโปร่งใส แผนภูมิ ฯลฯ อันจะช่วยให้ผู้ฟังมีความสนใจมากยิ่งขึ้นและเกิดความรู้ ความเข้าใจง่าย ขึ้น 2. การสัมภาษณ์ เปน็ วิธีการนิเทศท่ีศึกษานิเทศก์หรอื ผูน้ ิเทศมกั ใชเ้ สมอเพราะเป็นวิธกี ารนิเทศทีท่ ําให้ ผู้นิเทศจะต้องสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้รับการนิเทศ เพื่อให้ผู้รับการนิเทศกล้าแสดงความคิดเห็นและ ความรู้สึกออกมามากที่สุดและแสดงด้วยความจริงใจ ซึ่งจะทําให้ได้ข้อมูลต่าง ๆ ตามท่ีต้องการ ในขณะที่กําลัง สนทนา ผู้รับการนิเทศอาจมองเห็นทางแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง ดังน้ันวิธีการนิเทศด้วยการสัมภาษณ์ ศกึ ษานเิ ทศก์หรือผูน้ เิ ทศจะตอ้ งมีกลวธิ ีในการสนทนาท่ีจะยว่ั ยุให้ผู้รับการนิเทศระบายข้อคับข้องใจ สาเหตุแห่ง ปัญหาเพื่อการนําไปสู่แนวทางในการแก้ปัญหา หากผู้รับการนิเทศยังมองไม่เห็นทางแก้ปัญหา ศึกษานิเทศก์ หรอื ผนู้ ิเทศกจ็ ะให้ความช่วยเหลือแนะนําต่อไป 3. การเยี่ยมเยียน เป็นวิธีการนิเทศที่มุ่งในการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้รับการนิเทศ โดยตรง แต่แทนที่จะเป็นการตรวจหรือการสั่งการ เพื่อจับผิดเป็นการสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้นิเทศกับผู้รับ การนเิ ทศ โดยผ้นู เิ ทศมงุ่ ให้คาํ ปรึกษา ช่วยเหลือ แนะนํา อนั จะเป็นการเสริมสร้างขวัญและกําลังใจ แก่ผู้รับการ นิเทศเป็นอย่างมาก การไปเย่ียมเยียนแต่ละครั้งศึกษานิเทศก์หรือผู้นิเทศจะต้องมีเป้าหมาย จุดประสงค์และมี การบันทึกผลการเย่ียมเยียนทุกคร้ังด้วย การนิเทศโดยการเย่ียมเยียนน้ี งานการศึกษานอกสถานศึกษามีความ จําเป็น ทั้งนี้เพ่ือให้ความช่วยเหลือแนะนํา ให้กําลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานให้ปฏิบัติงานไปด้วยความมีประสิทธิภาพ และประสทิ ธิผล 4. การประชุมนิเทศเป็นการนิเทศเชิงเน้นวัตถุประสงค์ ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างผู้นิเทศและ ผู้รับการนิเทศ โดยช้ีแจงวัตถุประสงค์ของการนิเทศแต่ละครั้ง เป็นลักษณะของการสร้างความเข้าใจและเจต คติท่ีดีต่อการทํางานแก่ผู้รับการนิเทศ ซึ่งอาจจะเป็นการสอบถามสภาพการดําเนินงาน การหาแนวทางแก้ไข ปัญหาร่วมกันระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ โดยมีลักษณะของการระดมความคิด มีการแลกเปล่ียนความ คดิ เห็นแล้วรวบรวมความคิดเหล่าน้ี เพอ่ื เปน็ ขอ้ เสนอในการนําไปปฏิบตั งิ าน 5. การประชุมปฏิบัติการ เป็นการนิเทศเชิงพัฒนาเพ่ือให้ผู้รับการนิเทศได้เข้าใจในเรื่องใดเรื่องหน่ึงที่ ต้องร่วมกันหาทางออกเพ่ือหาแนวทางในการดําเนินงาน ซึ่งจะมีการระดมความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติ และฟัง ความรู้จากผู้รู้ ทั้งนี้จะช่วยให้ทั้งนักวิชาการและนักปฏิบัติเข้าใจสภาพปัญหาท่ีแท้จริงและหาทางออกที่ เหมาะสมเป็นแนวปฏิบัติต่อไป 6. การประชุมอบรม เป็นการนิเทศเชิงพัฒนาเพื่อให้ผู้รับการนิเทศได้รับความรู้ความเข้าใจและมี เจตคติท่ีดีต่อการปฏิบัติงาน เช่น จัดอบรมให้ครู กศน.ตําบลให้มีความรู้เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอน จัดอบรมให้ผ้นู ิเทศภายในมีความร้เู กย่ี วกับเทคนิคการนเทศ เปน็ ตน้ 7. การสาธิตการสอน เป็นการนิเทศเชิงพัฒนาเพื่อให้ผู้รับการนิเทศเข้าใจและมีทักษะในการสอนหรือ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมากขึ้น ทั้งนี้ผู้นิเทศสาธิตการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในการพบกลุ่ม จริง เพื่อให้ผู้รับการนิเทศเข้าใจเทคนิคการจัดกิจกรรมการสอนหลากหลายวิธีมากข้ึน หากไม่เข้าใจก็สามารถ  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 17   สอบถามไขข้อข้องใจได้ ผู้นิเทศจะต้องจัดเตรียมการสาธิต หรือต้องมีความเช่ือมั่นสูง และมีความเชี่ยวชาญ ดา้ นการเรียนการสอน 8. การศึกษาจากเอกสารทางวิชาการหรือสื่อโสตทัศนูปกรณ์ เป็นการนิเทศเพ่ือให้ผู้รับการนิเทศ ได้รับความรู้ความเข้าใจเรื่องนั้น ๆ ดีขึ้น ซ่ึงผู้นิเทศ เป็นจัดหาเอกสารหรือวีดิทัศน์ ภาพยนตร์ โปรแกรม คอมพวิ เตอร์ในเรื่องทผี่ รู้ ับการนิเทศยังไม่เข้าใจดีพอ ถือเป็นการถา่ ยทอดความรูจ้ ากการศึกษาจากสื่อต่าง ๆ ซ่ึง อาจจะเป็นประเมินผลโดยการสอบถามพดู คุย หรือสมั ภาษณผ์ ้รู บั การนเิ ทศเก่ียวกับเน้ือหาท่ีมอบหมายให้ศึกษา 9. การศึกษาดงู าน เป็นการนิเทศเชงิ พฒั นาผู้รับการนิเทศใหไ้ ด้เรียนรูป้ ระสบการณใ์ หม่ ๆ ทงั้ น้คี วร กําหนดจดุ ประสงค์ของการดงู าน สถานท่ี และสรปุ แนวคดิ ทไี่ ดจ้ ากการศึกษาดูงานเชิงวิชาการด้วย 10. การจัดนิทรรศการหรือการแสดงผลงาน เป็นการนิเทศโดยเรียนรู้จากเพื่อนครูที่มีประสบการณ์ หรือผลงานหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ มาให้ดูเพื่อเกิดแนวคิดในการปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของ ตน ท้ังนี้ควรกําหนดหัวข้อของนิทรรศการ หรือวัตถุประสงค์ของการนําเสนอผลงานเหล่าน้ีว่า ต้องการให้ผู้รับ การนิเทศเรยี นร้ใู นเรอื่ งใด 11. การเชิญวทิ ยากรหรือผู้นเิ ทศภายนอกมาให้ความรู้ เป็นกิจกรรมนิเทศที่จัดข้ึนให้ครูหรือผู้รับการ นิเทศได้รับความรู้ใหม่ ๆ หรือเข้าใจแนวนโยบาย แนวปฏิบัติท่ีถูกต้องซึ่งสามารถจัดเป็นกลุ่มใหญ่หรือกลุ่ม ย่อยก็ได้ ตามความต้องการของผ้รู บั การนิเทศและปัญหาทเ่ี กิดจาการปฏบิ ัตงิ าน 12. การสังเกตการณ์จัดกิจกรรมการเรียนการสอน เป็นการนิเทศการเรียนการสอนเพ่ือปรับปรุงการ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครู ซ่ึงท้ังผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศหรือเพ่ือนครูต้องร่วมกันกําหนด วัตถุประสงค์หรือหัวข้อที่จะกําหนด โดยมีเคร่ืองมือหรือแบบสังเกตที่ยอมรับร่วมกัน นําผลการสังเกตมา ปรึกษาและปรับปรุงแกไ้ ขรว่ มกนั เป็นการชว่ ยครพู ฒั นาการจดั การเรียนการสอน 13. การปฐมนิเทศ เป็นการนิเทศเพ่ือให้ผู้ปฏิบัติงานใหม่ได้มีโอกาสปรับตัวและเข้าใจวิธีการจัด กิจกรรมการเรียนการสอน การปฏิบัติงาน และนโยบายของสํานักงาน กศน. ตลอดจนเกิดเจตคติท่ีดีต่อการ ทํางาน 14. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ เป็นการนิเทศเชิงวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาด้านใดด้านหนึ่ง โดยเฉพาะ ซึ่งจะต้องดําเนินงานเป็นโครงการ มีการนิเทศติดตามเป็นระยะ ๆ เพ่ือสามารถแก้ไขปัญหาได้ ถูกตอ้ ง โดยเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เพ่ือนาํ มาวเิ คราะห์และสรุปการศกึ ษา 15. การนิเทศเสมือนจริง(นิเทศออนไลน์)การนิเทศออนไลน์เกิดขึ้นหลังจากการเปลี่ยนแปลงของ สังคมโลกอย่างรวดเร็ว ระบบการสื่อสารไร้พรมแดน สังคมเปลี่ยนเป็นสังคมยุคดิจิทัลปัจจัยเหล่าน้ีส่งผลต่อ รูปแบบการใช้ชีวิตของบุคคลและวิถีการทํางานของบุคคล เพ่ือมุ่งตอบสนองความต้องการที่รวดเร็ว ทันเวลา ขจัดปัญหาและอุปสรรคในเร่ืองเวลา และระยะทางอันจะส่งผลต่อความสําเร็จของงาน จุดเด่นของการ ติดต่อส่ือสารผ่านระบบดิจิทัลท่ีสามารถทําได้เพียงเส้ียววินาที ทําให้เกิดรูปแบบการทํางานแบบใหม่ๆและ เกิดข้ึนในหลากหลายสาขาวิชา อาทิเช่น ทางด้านการศึกษาก็มีการนําระบบการส่ือสารสารสนเทศเข้ามาใช้ใน การจัดการเรยี นการสอนทางไกล โดยใช้ขอ้ มลู รว่ มกัน รูปแบบการนิเทศออนไลน์ ขจัดปัญหาในเรื่องระยะเวลาในการเดินทางของผู้นิเทศที่จะต้องเดินทางไป ณ สถานศึกษาที่ครูอยู่ในท้องถ่ินต่างๆ ทั่วประเทศ และยังสามารถควบคุมเวลาในการเร่ิมต้นทําการนิเทศได้ ดีกว่าการเดินทางไปยังพ้ืนท่ีจริง นอกจากน้ีการนิเทศออนไลน์ยังลดความกดดันครูผู้สอนในขณะสอนเนื่องจาก สภาพในห้องเรียนของครูจะเสมือนปกติทุกอย่าง ปราศจากบุคคลภายนอกเข้าไปนั่งในห้อง ซึ่งส่งผลต่อสภาวะ ความกดดันของครทู าํ ใหค้ วามกดดันลดลง ทาํ ให้ความต่นื เต้นลดลงและลดปญั หาเรอ่ื งความสนใจของผู้เรียนที่มี ตอ่ บคุ คลภายนอกท่ีเข้ามาในหอ้ งหรอื มแี ขกมาเยอื นห้องเรยี น  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 18   บทท่ี 4 การสรา้ งเครื่องมอื การนิเทศการศึกษา การนิเทศเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษานอกสถานศึกษาน้ันต้องมีวัตถุประสงค์ที่แน่นอนว่า การนิเทศ จะทําเพื่อแก้ปัญหาเร่ืองใด จะทําการนิเทศเม่ือไร นิเทศอย่างไรและร่วมกับใคร ต้องทําให้การนิเทศมีระบบที่ดี มีความต่อเน่ืองและสามารถนิเทศได้อย่างตรงจุดอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ผลได้ อย่างครอบคลมุ และแม่นยํา ความหมายของเคร่ืองมอื การนเิ ทศการศึกษา เคร่ืองมือการนิเทศการศึกษา หมายถึง ส่ิงที่ช่วยให้ได้มาซ่ึงข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการนิเทศ โครงการ/กิจกรรม เพ่ือแก้ปัญหาและพิจารณาการทํางานของครู/บุคลากร เพ่ือตรวจสอบผลการดําเนินงาน โครงการ/กิจกรรม ว่าผลการปฏิบตั งิ านเปน็ อยา่ งไร บรรลจุ ดุ มุ่งหมาย/วัตถุประสงคท์ ว่ี างไวห้ รือไม่ ระดับใดเม่ือ เทียบกับเกณฑ์ ทราบปรมิ าณและคณุ ภาพของงาน ข้อมูลท่ีได้น้ีใช้ในการตัดสินใจของผู้นิเทศว่า จะต้องปรับปรุง แก้ไข ส่งเสริม สนับสนุนการดําเนินงาน โครงการ/กิจกรรม อย่างไร โดยพิจารณาจากท่ีมา สาเหตุของปัญหา ความต้องการ เพ่ือการวางแผนแก้ปัญหา ได้ถูกตอ้ ง สดุ ทา้ ยคือ ทําให้การปฏิบัติงานของผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศประสบผลสําเร็จตามวัตถุประสงค์และ เป้าหมายทกุ ประการ ความสาํ คญั ของเคร่อื งมอื นเิ ทศเพื่อพฒั นาคุณภาพงาน กศน. เครอื่ งมือนเิ ทศเพอ่ื พัฒนาคณุ ภาพงาน กศน. มีความสําคัญตอ่ การนเิ ทศ คอื 1. ช่วยใหก้ ารนิเทศเป็นระบบและเป็นวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ 2. ช่วยให้รู้ว่างาน กศน. ท่ีดําเนินอยู่น้ันเป็นอย่างไรและจะทําต่อเน่ืองอย่างไรจึงจะได้ผลสมบูรณ์มี คุณภาพ 3. ช่วยให้ทราบคุณภาพของงาน กศน. สาเหตุของปัญหา อันจะเป็นประโยชน์ในการหาแนวทางแก้ไข ส่งเสริม สนบั สนนุ งาน กศน. ใหต้ รงกับความจรงิ 4. เป็นส่ือกลางนําความมุ่งหวัง นําประเด็นเชิงคุณภาพลงไปในพ้ืนที่ กระตุ้นให้เกิดการอภิปรายเพื่อ เกิดความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับองค์ประกอบของคุณภาพด้านการจัดกิจกรรม กศน. โดยเฉพาะการเรียนการ สอน 5. ชว่ ยสนบั สนนุ กระบวนการนเิ ทศ ติดตาม การพัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษาสังกัด สํานักงาน กศน. ให้สามารถจัดการศึกษาตามมาตรฐานตัวบ่งช้ีการประกันคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะการ เรียนการสอนไดค้ ณุ ภาพตามเกณฑ์ที่กาํ หนดไวแ้ ละในอัตราท่ีสงู ขึน้ ชนดิ ของเคร่อื งมือ เคร่ืองมอื การนิเทศ จําแนกตามลกั ษณะใชง้ านได้ 2 ชนดิ คอื 1. เครอื่ งมือสําหรบั ตรวจสอบคุณภาพการศกึ ษา เช่น 1.1แบบทดสอบ เป็นเคร่ืองมือท่ีจัดทําข้ึนเพื่อตรวจสอบความพร้อมความรู้พ้ืนฐานทางด้านการ เรียนของนักเรยี น หรอื แบบทดสอบครูผสู้ อนเกีย่ วกับเรื่องหลักสตู รการเรยี นการสอน 1.2แบบสอบถาม แบบสํารวจ แบบประเมิน เป็นเคร่ืองมือท่ีใช้รวบรวมข้อมูลและรายละเอียดท่ี ต้องการ เชน่ ขอ้ มลู ส่วนตวั ความคดิ เห็น เจตคติ ซึ่งอาจใช้สอบถามครูผ้สู อน และบคุ ลากรที่เก่ยี วขอ้ ง 1.3 แบบสังเกต เปน็ เคร่อื งมอื ท่ใี ช้สงั เกตการสอนของครู ใช้สงั เกตการณ์จัดกิจกรรมการเรียนการ สอนของครูผู้สอน  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 19   2. เครือ่ งมอื สาํ หรับสง่ เสริมคุณภาพการศกึ ษา ใช้ในการนเิ ทศการศกึ ษาเพื่อ พฒั นาด้านการเรียนการ สอน ผู้นิเทศจําเป็นต้องใช้เครื่องมือ เพ่ือให้ผู้รับการนิเทศมองเห็นทางเลือกท่ีเหมาะสมกับตน ปรับปรุงแก้ไข ปญั หาการทํางานของตนให้มปี ระสิทธิภาพย่ิงข้นึ เช่น 2.1 เอกสารหลักสูตร 2.2 เอกสารเสริมการเรียนการสอน 2.3 เอกสารคมู่ ือครู หลักการ แนวการสร้าง และการใช้เครอ่ื งมือการนิเทศ ควรคาํ นงึ ถึงหลกั การต่าง ๆ เหล่าน้ี 1. ตัดสินใจว่าจะเลือกใช้เครื่องมือใดบ้าง โดยพิจารณาจากข้อมูลการศึกษาสภาพปัจจุบัน กลุ่มเป้าหมายที่ให้ข้อมูล ปัญหา และความต้องการว่ามีปัญหาเรื่องใด ควรปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ปัญหามี สาเหตมุ าจากอะไร แลว้ จึงเลือกเคร่ืองมือให้เหมาะสมกบั ความตอ้ งการ 2. ศึกษารายละเอียดของเครื่องมือ ที่พิจารณาเลือกไว้ในข้อแรกว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยจุดเด่น จดุ ด้อย อะไร 3. ดําเนินการสรา้ งเครอื่ งมอื โดยมเี กณฑว์ า่ ต้องตรวจสอบได้ ตามมาตรฐาน และต้องคํานึงถึงเร่ือง ต่าง ๆ ดังน้ี 3.1 กาํ หนดวัตถปุ ระสงค์ 3.2 กาํ หนดขอบข่าย/กรอบเนือ้ หา 3.3 การดาํ เนนิ การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 3.4 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู 3.5 การนาํ ข้อมูลไปใช้/การรายงานผล 4. การทดลองใช้เคร่ืองมือทุกชนิดที่สร้างข้ึนทุกคร้ัง ก่อนนําไปใช้ต้องนําไปทดลองใช้กับกลุ่ม ตัวอย่างเพือ่ หาข้อบกพร่อง 5. การประเมนิ ผล การใช้เครอ่ื งมือควรคาํ นึงถงึ การนําผลท่ไี ดไ้ ปปรับปรุง พฒั นางาน การทจ่ี ะนําเคร่อื งมอื ประเภทใดมาใชน้ ้ัน จะตอ้ งพจิ ารณาถงึ จดุ มุ่งหมายและเป้าหมายของโครงการ นิเทศและกิจกรรมนิเทศทวี่ างไว้ เช่น 1. แบบสอบถาม เป็นชุดของคําถามหรือข้อความ เพ่ือให้ผู้ถูกสอบถามตอบคําถาม มักจะถาม เก่ียวกับข้อเท็จจริง ความคิดเห็นหรือความชอบของผู้ถูกสอบถาม ซ่ึงอาจใช้ถามผู้รับผิดชอบงานผู้รับบริการ ตลอดจนผู้เก่ียวข้อง แบบสอบถาม เหมาะสมสําหรับใช้กับบุคคลมาก ๆ เพราะสะดวกและประหยัดใช้เวลา น้อย ผู้ตอบไม่จําเป็นต้องลงชื่อก็ได้ ซ่ึงเป็นผลดีต่อความรู้สึกของผู้ตอบและจะได้ข้อมูลท่ีถูกต้องตรงกับความ เป็นจริงมากขึ้น แต่จะมีข้อเสียอยู่บ้างเล็กน้อยในแง่ของผู้ตอบ บางคนตอบแบบสอบถามไม่ครบทุกข้อและ บางครั้งคําตอบอาจขาดคุณภาพเพราะผู้ตอบอาจรีบเร่งหรือตอบไม่จริงใจ ชนิดของคําถามของแบบสอบถาม มี 2 ชนดิ คําถามแบบปิดและแบบเปิด 1.1 คําถามแบบปิด เป็นการให้ผู้ตอบตอบจากคําตอบท่ีให้ไว้ อาจเป็นการตรวจสอบรายการ ใช่ ไม่ใช้ ปฏิบัติ ไม่ปฏิบตั ิ หรือแบบมาตราสว่ นประมาณคา่ ส่วนเสียของการตอบแบบน้ีคอื ผูต้ อบไม่มีโอกาสให้ เหตุผลของคาํ ตอบแต่ละคําตอบได้ สว่ นดี คอื ง่ายต่อการสรปุ 1.2 คาํ ถามแบบเปดิ เปน็ คาํ ถามท่ีเปิดโอกาสใหผ้ ู้ตอบไดเ้ ขียนบรรยายแสดงความคิดเห็นให้ เหตุผล ขอ้ ดี คอื ทําให้ทราบความคิดเหน็ ทราบเหตผุ ลของผู้ตอบและผตู้ อบตอบไดเ้ ต็มที่ ขอ้ เสีย คือ ยากต่อการสรุป 2. แบบสังเกต วิธีการสังเกต นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในการหาข้อมูลบางอย่าง ซึ่งวิธีการอ่ืน ทําได้ค่อนข้างยาก เช่น การสังเกตการณ์ทํางานของผู้จัดกิจกรรมกศน. การสังเกตผู้รับบริการหรือสังเกต  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 20   สถานการณ์ สังเกตสิ่งแวดล้อม บรรยากาศการเรียนการสอน เป็นต้น ในการรวบรวมข้อมูลอาจสังเกตด้วย ตนเองแต่ในบางสถานการณ์อาจจะต้องอาศัยผู้อื่นร่วมสังเกตด้วย ข้อมูลที่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของ ผู้สังเกตในการรับรู้และรายงานอย่างเป็นปรนัย ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับการสังเกตน้ัน จัดทําโดยการ บันทึกพฤติกรรมที่เก่ียวข้อง ฉะน้ันในการสังเกตจะต้องกําหนดว่า พฤติกรรมท่ีเราต้องการสังเกตคืออะไร ดงั นน้ั ผู้สงั เกตจะตอ้ งดําเนินการ คือ 1) รจู้ ุดประสงค์ของพฤตกิ รรมทีส่ งั เกตอยา่ งแน่นอน 2) หมวดหมขู่ องพฤติกรรมท่ีจะสงั เกตต้องชัดเจน 3) ใชเ้ คร่ืองมือประกอบการสังเกต 4) สามารถวิเคราะห์พฤตกิ รรมทีจ่ ะสงั เกต ข้อดี ของการสังเกต คือ เราสามารถศึกษาพฤติกรรมในสถานการณ์จริงและในขณะที่ พฤติกรรมเหลา่ น้นั กาํ ลังเกิดขึ้น พฤตกิ รรมแบบน้ีไมส่ ามารถใชเ้ ครื่องมอื อย่างอนื่ เกบ็ รวบรวมได้ ข้อเสีย หากผู้ที่เราสังเกต รู้ตัวว่ากําลังถูกสังเกต อาจจะเปล่ียนแปลงพฤติกรรมไปในทางดีหรือ เลวกไ็ ด้ ทําใหไ้ ม่เปน็ ธรรมชาตแิ ละการสงั เกตก็จะตอ้ งใชเ้ วลานานและอาจสังเกตในแต่ละเร่ืองหลายครงั้ 3. แบบสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์เป็นวิธีการที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงและต้องใช้เวลามาก แต่บางคร้ัง ก็จําเป็นท่ีจะต้องใช้วิธีสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์โดยท่ัวไปมักจะถามในเร่ืองที่ต้องการคําตอบที่ลึกซ้ึง ต้องการ ความคิดเห็น การสัมภาษณ์จะได้ผลมากน้อย ข้ึนอยู่กับทักษะและความสามารถของผู้สัมภาษณ์ การสัมภาษณ์ แบ่งออกเป็น 2 แบบ คอื การสมั ภาษณแ์ บบมีโครงสรา้ ง และแบบไม่มีโครงสร้าง 1) การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง การสัมภาษณ์แบบน้ีจะต้องมีแบบสัมภาษณ์ที่กําหนด คําถามไว้ก่อนอย่างชัดเจน ผู้ถูกสัมภาษณ์ทุกคนจะต้องตอบคําถามเดียวกันในลักษณะเดียวกัน การกล่าวนํา การพูดจะต้องเหมือนกันทุกอย่าง ข้อดี ของการสัมภาษณ์นี้ คําตอบที่ได้จากทุกคนสามารถนํามาวิเคราะห์ ร่วมกนั ได้ ขอ้ เสีย คอื ไม่สามารถทีจ่ ะถามได้ลึกซึ้งตามท่ตี ้องการ 2) การสัมภาษณแ์ บบไม่มีโครงสร้าง การสัมภาษณ์แบบน้ี จะมีแบบสัมภาษณ์ทีก่ าํ หนดคาํ ถาม ให้มีความยืดหยุ่น ถึงแม้ว่าจะมีการเตรียมคําถามไว้ก่อนแล้วก็ตามแต่เวลาสัมภาษณ์จริง ๆ ก็สามารถ เปลี่ยนแปลงให้เข้ากับสภาพการณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ได้ ข้อดี คือ ผู้ถูกสัมภาษณ์มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ของตนเองได้เต็มที่สามารถถามได้ลึกซึ้งข้อเสีย คือ การวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ถูกสัมภาษณ์หลาย ๆ คน คอ่ นขา้ งยากและซับซ้อน แบบสมั ภาษณ์ ผ้ใู ห้สมั ภาษณค์ วรปฏบิ ตั ิดังนี้ 1) เม่ือถงึ เวลาสัมภาษณ์จรงิ ๆ ควรจะไดส้ ร้างความคนุ้ เคยกับผูถ้ ูกสมั ภาษณ์เสยี กอ่ น 2) ช้ีแจงให้ผู้สัมภาษณ์เข้าใจว่าไม่ต้องวิตก กังวลในเร่ืองคําตอบว่าจะถูกหรือผิด ให้ตอบไปตามที่ คดิ และตรงกับสภาพความเปน็ จริง เพราะคําตอบไมม่ ีผลกระทบกระเทือนใด ๆ ทัง้ สนิ้ 3) ถามครง้ั ละ 1 คาํ ถาม ทบทวนคําถาม จนแน่ใจวา่ ผถู้ กู สมั ภาษณเ์ ข้าใจคําถามจริง ๆ 4) ฟงั คําตอบอยา่ งตั้งใจ อยา่ สอดแทรกออกมากอ่ น 5) ไม่ควรแสดงอารมณ์อยา่ งหนึ่งอยา่ งใดออกมา เมือ่ ไดร้ บั คําตอบทีไ่ ม่คาดคิด  

 สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 21 ข้ันตอนการสรา้ งเคร่อื งมือนเิ ทศ - กาํ หนดสิ่งทตี่ อ้ งการจะทําการนเิ ทศ/ กาํ หนดวตั ถุประสงค์ ขอ้ มลู ท่ตี อ้ งการจากการนิเทศ กําหนดขอบขา่ ยเนื้อหา - กาํ หนดขอ้ มูลที่จะทําการรวบรวม ประเด็น/พฤติกรรม - เลือกเครอ่ื งมือและวิธีการท่ีเหมาะสม กาํ หนดรปู แบบเคร่ืองมือ - รา่ งรายละเอียดของเครือ่ งมือทจี่ ะใช้ กําหนดหวั ขอ้ คําถาม เพ่อื ใหไ้ ดม้ าซ่ึงขอ้ มลู - ทดลองใช้เคร่ืองมือกบั บุคคลหรอื สถานการณ์ทใ่ี กลเ้ คยี ง ทดลองใช้/ปรับปรงุ - นาํ เครือ่ งมอื ท่มี นั่ ใจวา่ มปี ระสทิ ธภิ าพไปใช้ นาํ เครือ่ งมอื ไปใช้  

22   การวิเคราะหผ์ ล เม่อื ได้ข้อมูลมาแล้วก็จะมีการวิเคราะห์ข้อมูล ร่วมกันระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ ถ้าจะให้ดีควร มีผู้บริหารด้วยแล้วร่วมกันหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขให้การดําเนินงานของผู้รับการนิเทศเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพและก่อให้เกิดคุณภาพกับงานต่อไปโดยการนําข้อมูลท่ีได้จากการนําเครื่องมือไปใช้ในการปฏิบัติ การนเิ ทศมาวเิ คราะหผ์ ล ทั้งเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณมาวิเคราะห์ และสังเคราะห์เป็นสารสนเทศเพ่ือนํา ไป ใชใ้ นการประเมนิ ผลและรายงานผลการนิเทศ การวิเคราะหข์ ้อมูลเชงิ คณุ ภาพเปน็ การวเิ คราะหข์ ้อมลู ทไี่ ดจ้ ากการเขียนบรรยายสภาพ ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่าง ๆ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ส่วนมากใช้สถิติพ้ืนฐานในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อทําให้สามารถ เข้าใจได้ง่าย หรือสามารถนําไปใช้เทียบกับเกณฑ์ที่กําหนดได้ สถิติที่ใช้ เช่น ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วน เบย่ี งเบนมาตรฐาน เป็นต้น สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 23   บทที่ 5 การสรปุ ผล และการรายงานผลการนเิ ทศ การสรุปผล และการรายงานผลการนิเทศ เป็นสิ่งที่สําคัญมาก ต้องสรุปผลการจากการวิเคราะห์ข้อมูล ที่ได้จากเครื่องมือท่ีนําไปใช้ในการปฏิบัติการนิเทศ ส่วนการรายงานผล ต้องรายงานผลตามวัตถุประสงค์ของ การนิเทศในกิจกรรม/โครงการ นั้น ๆ รวมท้ังควรนําเสนอจุดเด่น จุดที่ต้องพัฒนา จึงจะทําให้การนิเทศนั้นมี ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล โดยรายงานผลให้ผู้ท่ีเก่ียวข้องทราบ เพ่ือนําไปใช้ในการวางแผนการพัฒนา การศกึ ษาตอ่ ไป การรายงานผลการนิเทศ ผู้นิเทศต้องดําเนินการสรุปทุกครั้งหลังการนิเทศ และควรสรุปในภาพรวมรายไตร มาส รายครึ่งปี และรายปี เพื่อรายงานผู้เก่ียวข้องทั้งระดับสถานศึกษา และหน่วยงานต้นสังกัด เพ่ือนําข้อสรุป จากการนเิ ทศไปประกอบการตัดสนิ ใจพัฒนา หรือปรับปรงุ งานใหม้ ีคณุ ภาพและมีประสิทธภิ าพ ข้อควรคํานงึ ถึงในการเขยี นรายงานการนเิ ทศ 1.กําหนดประเด็นการนิเทศใหช้ ดั เจน 2. สรปุ ผลการนิเทศตามประเดน็ ให้กระชับ รดั กุม สื่อความหมายไดต้ รงประเด็น 3. มขี ้อเสนอจากการนิเทศ 3.1 จดุ เดน่ 3.2 จุดท่คี วรพัฒนา 4. สาระการนําเสนอในรายงาน ต้องสร้างสรรค์ จูงใจ หรือกระตุ้นให้ผู้เกี่ยวข้องนําผลการนิเทศไปใช้ ในการพฒั นางาน 5. ความยาวในการสรุปหน้าบันทึกผลการนิเทศ ไม่ควรเกิน 2 หน้ากระดาษบันทึก ส่วยรายละเอียด ในการรายงานผลการนเิ ทศท่ีเปน็ เอกสารแนบรายงานผลการนิเทศ รายไตรมาส รายคร่ึงปี และรายปี  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 24   บรรณานุกรม การศึกษานอกสถานศกึ ษา, กรม. การพัฒนาบคุ ลากรผู้ทาํ หนา้ ทน่ี ิเทศภายในของสถานศกึ ษา ต้นสังกดั กรมการศกึ ษานอกสถานศึกษา. กรงุ เทพมหานคร : หน่วยศึกษานิเทศก,์ 2542. การศกึ ษานอกสถานศกึ ษา, กรม. การพฒั นาระบบนิเทศการศกึ ษานอกสถานศกึ ษา.กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พค์ ุรุสภา, 2543. กรองทอง จิรเดชากลุ . คูม่ ือการนิเทศภายในสถานศึกษา. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท สํานกั พมิ พธ์ าร อักษรจาํ กัด, 2550 . คณะกรรมการการประถมศึกษาแหง่ ชาต,ิ สํานักงาน. คู่มือผูบ้ ริหารสถานศึกษา : การดาํ เนนิ การ นิเทศภายในสถานศึกษาประถมศึกษา. เอกสาร ศน. ที่ 56/2534 , 2534 . ผศ.ดร.สทุ ธพิ รรณ ธรี พงศ์, ผศ.ดร.สุทธิพรรณ ธรี พงศ์, ผอ.วีระพันธ์ ชมภูแดง, ผู้ ทิพสดุ า คิดเลศิ , และ ดร.เอ้ืออารี จันทร. การนเิ ทศเสมอื นจรงิ \"นิเทศออนไลน์ 1 ถึง 2\" มีนาคม 9, 2564, จาก การนิเทศเสมอื น จริง “นิเทศออนไลน์ 1 ถงึ 2” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. วิไลรตั น์ บญุ สวัสดิ์. หลกั การนเิ ทศการศึกษา . ภาควชิ าบริหารการศึกษา คณะครศุ าสตรจ์ ุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย , 2530 . ศกึ ษานเิ ทศก์, หนว่ ย. กรมการศึกษานอกสถานศกึ ษา. ค่มู อื การนเิ ทศภายใน. กรงุ เทพมหานคร : สาํ นกั พิมพ์เสมาธรรม, ม.ป.ป. สชุ าติ ศรีสุวรรณ . การจดั การนเิ ทศภายในสถานศกึ ษา สงั กัดสาํ นักงานการประถมศึกษาจังหวัด : การศกึ ษาเฉพาะกรณีจังหวดั เลย .วิทยานิพนธป์ ริญญามหาบณั ฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั , 2528 . สนุ ทร ไคลมี . การจัดการนเิ ทศภายในสถานศึกษา สงั กดั สาํ นกั งานการประถมศึกษาจังหวัด : การศึกษาเฉพาะกรณจี งั หวดั กาญจนบรุ ี , วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญามหาบัณฑติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , 2528 . สรุ ศกั ด์ิ ปาเฮ . “การนเิ ทศภายในหัวใจของการปฏริ ปู การเรียนรใู้ นสถานศกึ ษา”วารสารวชิ าการ. ปี ท่ี 5 ฉบับที่ 8 สงิ หาคม 2545 . สมเกยี รติ รัตนวิฑรู ย์ . การจดั งานวชิ าการภายในสถานศกึ ษาประถมศกึ ษา สงั กดั สาํ นักงานการ ประถมศึกษาจังหวดั : การศกึ ษาเฉพาะกรณีจงั หวัดนา่ ,วทิ ยานพิ นธป์ ริญญามหาบณั ฑติ จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลยั , 2530 . เพ็ญพักตร์ ลิมประพันธ์, การดาํ เนนิ การนเิ ทศภายในศนู ยก์ ารศกึ ษานอกสถานศึกษาจังหวัด. กรงุ เทพมหานคร : หน่วยศกึ ษานิเทศก์ กรมการศกึ ษานอกสถานศึกษา, 2543. สงดั อทุ รานนั ท์. การนิเทศการศกึ ษา หลกั การ ทฤษฎีและปฏิบัต.ิ กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพม์ ิตร สยาม, 2530. หน่วยศึกษานิเทศก,์ สํานักงาน กศน. สรปุ รายงานผลการนิเทศ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัย ปีงบประมาณ 2553. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ์รังษกี ารพิมพ์, 2553. Horm.Oxford advanced Learner” sDictionnary of current English. Third Edition. London,OxfordUniversisty Press,1974.  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 25   ภาคผนวก เครอื่ งมือการนเิ ทศ  

26   แบบบันทึกการนเิ ทศผลการดําเนนิ งาน เร่ือง น้อมนําพระบรมราโชบายด้านการศกึ ษาสกู่ ารปฏบิ ัติ คําช้ีแจง ให้ผู้รับผิดชอบการนิเทศ สอบถาม สัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบการดําเนินงาน ครูผู้สอนและหรือผู้เรียน/ ผู้เก่ียวข้อง สังเกตสภาพจริง สถานที่ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ตรวจเอกสารโครงการ หลักสูตร สื่อ ฯลฯ แล้ว บันทึก สภาพที่พบ (จุดเด่น – จุดที่ควรพัฒนา) และข้อนิเทศ พร้อมท้ังข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาลงในแบบ บนั ทกึ การนิเทศ กศน.ตาํ บล/ศศช................................................................................................................................. สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผู้รับการนิเทศ............................................................................................................................................... ประเดน็ การนเิ ทศ สภาพทพ่ี บ ข้อนิเทศ 1. สถานศกึ ษาจัดใหบ้ คุ ลากรและผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจพระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาของ ในหลวงรชั กาลที่ 10 1.1 มีทศั นคติทถ่ี ูกต้องต่อบา้ นเมือง (กจิ กรรม/ โครงการประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย) 1) มีความรคู้ วามเข้าใจต่อบา้ นเมอื ง 2) ยึดม่นั ในศาสนา 3) มนั่ คงในสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ 4) มีความเอื้ออาทรต่อครอบครัวและ ชมุ ชนของตน 1.2 มพี น้ื ฐานชวี ติ ทีม่ นั่ คง – มีคณุ ธรรม 1) รจู้ กั แยกแยะส่ิงทผี่ ดิ –ชอบ/ช่ัว-ดี 2) ปฏบิ ตั ิแต่สง่ิ ท่ีชอบ สิง่ ทดี่ งี าม 3) ปฏิเสธสงิ่ ทผี่ ิด ส่ิงท่ชี ่ัว 4) ชว่ ยกนั สรา้ งคนดใี ห้แก่บา้ นเมือง 1.3 มงี านทาํ – มีอาชีพ 1) การเลีย้ งดลู กู หลานในครอบครวั หรือ การฝกึ ฝนอบรมในสถานศกึ ษาต้องมุ่งให้เด็กและ เยาวชนรกั งาน ส้งู าน ทาํ จนงานสําเร็จ 2) การฝกึ ฝนอบรมท้งั ในหลกั สตู รและ นอกหลักสูตรตอ้ งมจี ดุ ม่งุ หมายให้ผู้เรยี นทํางาน เป็นและมงี านทาํ ในท่ีสุด 3) สถานศกึ ษามีวิธีการสนบั สนุนผู้สําเรจ็ หลกั สูตร มอี าชพี มงี านทาํ จนสามารถเลี้ยงตวั เอง และครอบครัว 1.4 เปน็ พลเมอื งดี (ศูนย์สง่ เสริมประชาธิปไตย ประจําตาํ บล) 1) การเปน็ พลเมืองดี เป็นหน้าทขี่ องทกุ คน 2) ครอบครัว สถานศกึ ษาและสถาน ประกอบการต้องส่งเสริมให้ทกุ คนมีโอกาสทาํ  

  สภาพทพ่ี บ 27 ข้อนเิ ทศ ประเดน็ การนเิ ทศ หนา้ ท่เี ปน็ พลเมืองดี 3) การเป็นพลเมอื งดี “เหน็ อะไรทีจ่ ะทํา เพ่ือบา้ นเมอื งไดก้ ต็ อ้ งทาํ ” เช่น กิจกรรมจติ อาสา เราทําความดดี ้วยหวั ใจ ตามพระบรมราโชบายของ ในหลวงรัชกาลที่ 10 งานอาสาสมัคร งานบาํ เพ็ญ ประโยชน์ งานสาธารณกศุ ล ให้ทําดว้ ยความมี นา้ํ ใจ และความเอือ้ อาทร 2. สถานศกึ ษาไดด้ าํ เนนิ การตามพระบรมรา โชบายของในหลวงรชั กาลที่ 10 หรือไม่ และมี กระบวนการขน้ั ตอนการดาํ เนนิ งานอยา่ งไร 3. สถานศึกษามกี ารติดตามผลการดาํ เนนิ งาน ตามพระบรมราโชบายของ ในหลวงรัชกาลที่ 10 4. ผลการปฏบิ ตั งิ านทสี่ ะทอ้ นถงึ ผลการพัฒนา ด้านพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของใน หลวงรชั กาลท่ี 10 (ผลผลติ /ผลลพั ธ)์ สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผลการปฏบิ ัตทิ ่เี ปน็ เลศิ (Best Practice) ผลงานดเี ด่น/รางวัลทไี่ ด้รับ/แนวปฏิบัตทิ ี่ด/ี ปัจจยั ที่ส่งผลตอ่ ความสาํ เร็จ (ถา้ ม)ี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะเพ่ือการพัฒนา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ...................................................ผ้นู ิเทศ (........................................................) ................../............/...............  

28   แบบบันทกึ การนิเทศผลการดาํ เนนิ งาน เรอื่ ง สง่ เสริมการจดั การศกึ ษาและการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ สําหรบั ประชาชนทเ่ี หมาะสมกับทกุ ช่วงวยั คําชี้แจง ให้ผู้ทําหน้าที่นิเทศ นิเทศ ติดตาม หน่วยงาน/สถานศึกษาที่ดําเนินการจัดกิจกรรม/โครงการ โดยใช้ วิธีการสอบถาม สัมภาษณ์ สังเกตตามสภาพจริง หรือวิธีการอ่ืน ๆ แล้วบันทึกสภาพท่ีพบ พร้อมให้ข้อนิเทศ เพือ่ แกไ้ ขพัฒนาตลอดจนยกตวั อยา่ งผลการปฏิบัตทิ ่ีเปน็ เลิศลงในแบบนิเทศ กศน.ตําบล/ศศช. ............................................................................................................................... ผรู้ บั การนเิ ทศ............................................................................................................................................... สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ประเดน็ การนเิ ทศ สภาพทพ่ี บ ข้อนิเทศ 1. ขนั้ เตรียมการ 1.1 การขอใช้พ้นื ทีโ่ รงเรยี นสังกัด สพฐ. 1.2 การจัดเตรียมแผนงบประมาณในการปรับปรุง ซ่อมแซม 1.3 แตง่ ตั้งผู้รบั ผดิ ชอบ 1.4 พัฒนาระบบสารสนเทศในระดับชมุ ชน 1.5 ศกึ ษาขอ้ มลู ชมุ ชน 2. ข้นั ดาํ เนนิ การ 2.1 จัดทําประชาคมร่วมกับชุมชนในการพัฒนา แผนงาน โครงการ ความต้องการการเรียนรู้ของ ประชาชน 2.2 พัฒนากิจกรรม/โครงการ ท่ีเหมาะสมกับ กลุ่มเป้าหมาย เพื่อการบูรณาการวิถีชีวิต การ ทํางาน และการเรียนรใู้ นชมุ ชน 2.3 ใชศ้ นู ย์การเรียนรสู้ ําหรบั ทกุ ชว่ งวัยเป็นฐาน โดยประสานภาคีเครือขา่ ยรว่ มดําเนนิ การ 2.4 ส่งเสริมให้คนในชมุ ชนใช้ศูนย์การเรียนรู้ทุก ช่วงวัย ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนเวที แลกเปล่ียนเรียนรู้ 2.5 ประสานความร่วมมือภาคีเครือขา่ ยในการพัฒนา คุณภาพการเรียนรู้ ดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ศูนยซ์ ่อมสร้าง ช่างชนบท อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน อาชีพ กจิ กรรมสาํ หรบั เยาวชนและผู้สูงอายุ และ กิจกรรมตามความสนใจอื่น 3. ขน้ั ผลการดาํ เนนิ งาน 3.1 รายงานสรุปผลการดําเนินงาน “ศูนย์การ เรียนรู้สําหรบั ทกุ ชว่ งวยั กศน.” 3.2 ความพึงพอใจของประชาชนผู้รบั บริการ  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 29   ผลการปฏบิ ตั ทิ เ่ี ปน็ เลศิ (Best Practice) ผลงานดเี ด่น /รางวลั ท่ีไดร้ ับ/แนวปฏบิ ตั ทิ ี่ดี /ปัจจยั ที่สง่ ผลต่อ ความสาํ เร็จ (ถา้ มี) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอเพ่อื การพัฒนา ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ...............................................ผนู้ ิเทศ (............................................) ................../................../............  

30   แบบบนั ทึกการนิเทศผลการดําเนนิ งาน เร่อื ง บรู ณาการความรว่ มมือในการสง่ เสรมิ สนับสนนุ และจดั การศกึ ษา และการเรียนรใู้ ห้กบั ประชาชนอยา่ งมคี ณุ ภาพ คําชี้แจง ให้ผู้ทําหน้าท่ีนิเทศ นิเทศ ติดตาม หน่วยงาน/สถานศึกษาท่ีดําเนินการจัดกิจกรรม/โครงการ โดยใช้ วิธีการสอบถาม สัมภาษณ์ สังเกตตามสภาพจริง หรือวิธีการอ่ืน ๆ แล้วบันทึกสภาพที่พบ พร้อมให้ข้อนิเทศ เพ่ือแกไ้ ขพฒั นาตลอดจนยกตัวอยา่ งผลการปฏบิ ัตทิ ่เี ป็นเลศิ ลงในแบบนเิ ทศ กศน.ตาํ บล/ศศช. ............................................................................................................................... สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผ้รู บั การนเิ ทศ............................................................................................................................................... ประเดน็ การนเิ ทศ สภาพทพี่ บ ข้อนเิ ทศ ร่วมมอื กับภาคีเครือขา่ ยท้งั ภาครัฐ เอกชน ประชา สังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ รวมทงั้ ส่งเสรมิ และสนบั สนุนการมสี ว่ นร่วมของชุมชน อาทิ กิจกรรมการฝกึ อาชพี ท่เี ป็นอตั ลักษณแ์ ละบรบิ ทของ ชุมชน เปน็ ตน้ 1.1 มีภาคเี ครอื ขา่ ยในระดบั พื้นทีใ่ นการร่วมจดั สง่ เสริม และสนับสนุนการจัดการเรยี นรตู้ ลอดชวี ิต ของ กศน.ตาํ บล อย่างตอ่ เน่อื ง หรือ ไม่ ดาํ เนินการ อย่างไร 1.2 มีอาสาสมคั ร กศน.ตําบล อาสาสมคั รสง่ เสรมิ การอ่านและอ่ืน ๆ เพอ่ื สง่ เสรมิ และสนบั สนุนการ จดั การเรยี นรู้ของ กศน. ตาํ บล หรือ ไม่ ดําเนนิ การ อย่างไร 1.3 มีส่วนร่วมในการทํา MOU ของสถานศึกษา ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ หรอื ไม่ ดําเนนิ การอยา่ งไร ผลการปฏบิ ัตทิ เ่ี ปน็ เลิศ (Best Practice) ผลงานดีเดน่ /รางวลั ท่ีได้รับ/แนวปฏิบัติทีด่ ี /ปัจจัยทส่ี ่งผลต่อ ความสาํ เรจ็ (ถา้ ม)ี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอเพ่อื การพัฒนา ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงช่อื ...............................................ผู้นเิ ทศ (............................................) ................../................../............  

31   แบบบันทกึ การนเิ ทศผลการดําเนนิ งาน เรื่อง พฒั นาศกั ยภาพและประสิทธภิ าพในการทาํ งานของบุคลากร กศน. คําชี้แจง ให้ผู้ทําหน้าท่ีนิเทศ นิเทศ ติดตาม หน่วยงาน/สถานศึกษาที่ดําเนินการจัดกิจกรรม/โครงการ โดยใช้ วิธีการสอบถาม สัมภาษณ์ สังเกตตามสภาพจริง หรือวิธีการอ่ืน ๆ แล้วบันทึกสภาพที่พบ พร้อมให้ข้อนิเทศ เพื่อแก้ไขพัฒนาตลอดจนยกตัวอยา่ งผลการปฏบิ ตั ทิ ่เี ปน็ เลิศลงในแบบนเิ ทศ กศน.ตาํ บล/ศศช. ............................................................................................................................... ผู้รบั การนิเทศ............................................................................................................................................... สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ประเดน็ การนเิ ทศ สภาพทพ่ี บ ข้อนเิ ทศ 1. ข้นั เตรียมการ 1) มีแผนงาน/โครงการพฒั นาครู โดยเน้นทักษะ การจัดการเรียนการสอนการผลิตส่ือการเรยี นรู้ เพื่อฝึกทักษะการคดิ วิเคราะห์อย่างเป็นระบบและ มเี หตผุ ล 2) มีการสาํ รวจ ข้อมูล ความตอ้ งการพัฒนาของ ครูผู้สอน 3) มีการสง่ เสรมิ สนบั สนุน และประสานให้ ครูผู้สอนเขา้ รบั การพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง 4) ครผู ู้สอน จดั ทาํ แผนพฒั นาตนเองรายปี 5) มกี ารส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหบ้ คุ ลากรทุกประเภทมี การพฒั นาศักยภาพและทกั ษะความสามารถดา้ น เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั (Digital Literacy & Digital Skills) 6) มกี ารสง่ เสรมิ สนบั สนุนใหค้ รู กศน. มีการ พฒั นาทักษะความรู้ ความชํานาญในการใช้ ภาษาองั กฤษ 7) มกี ารสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหบ้ คุ ลากรทกุ ประเภท มกี ารพัฒนาเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการทาํ งานอยา่ ง ต่อเนอ่ื ง 8) มกี ารสง่ เสรมิ ใหบ้ ุคลากรทกุ ประเภทมกี ารจดั ทาํ ส่ือ คู่มือ เอกสารวิชาการ ท่ีหลากหลาย ทันสมยั สอดคล้องกบั ความต้องการ 2. ข้นั ดาํ เนนิ การ 1) ครูและบคุ ลากร เข้ารบั การอบรมพฒั นาตาม แผนงาน/โครงการกําหนด 2) ครูและบคุ ลากร มกี ารพัฒนาตนเองตามแผน อยา่ งต่อเนื่อง 3) ครูและบุคลากร ได้ศกึ ษาคน้ คว้าข้อมลู เพ่ือ สร้างส่อื คูม่ ือ เอกสารทางวชิ าการ นวตั กรรม เพอื่ ความกา้ วหน้าทางวิชาการอยา่ งตอ่ เน่อื ง  

  สภาพทพี่ บ 32 ข้อนเิ ทศ ประเดน็ การนเิ ทศ สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 4) ครูและบคุ ลากร เขา้ รว่ มกิจกรรมชุมชนแห่งการ เรยี นร/ู้ มีการแลกเปลยี่ นเรียนรูก้ ับบคุ ลากรทัง้ ภายในและภายนอกอยา่ งสมํ่าเสมอ (PLC / KM) 5) ครแู ละบคุ ลากร ได้รบั การพฒั นา สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั การดแู ลช่วยเหลอื แนะแนวผ้เู รยี น ผู้รบั บริการ เพ่ือการศึกษาและ อาชพี 6) ครูและบคุ ลากร ไดร้ ับการพัฒนาจรรยาบรรณ ทางวชิ าชีพ 7) ครแู ละบุคลากร ไดป้ ฏิบตั ิตนตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง 3. ข้นั ผลการดําเนนิ งาน 1) ครแู ละบุคลากร มคี วามพงึ พอใจในการเขา้ ร่วม กจิ กรรมต่าง ๆ 2) ครูและบคุ ลากร มผี ลงานหรอื แฟม้ สะสมงาน อย่างเป็นระบบ 3) ครแู ละบคุ ลากร เก็บรวบรวมข้อมูล บนั ทกึ รายงานในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมตา่ ง ๆ 4) ครูและบคุ ลากร มีผลการพฒั นา สื่อ คมู่ อื เอกสารทางวชิ าการ นวตั กรรม ทสี่ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทและสภาพการจดั การศึกษาในพืน้ ทแี่ ละการ ปฏิบัติงาน ผลการปฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ เลศิ (Best Practice) ผลงานดเี ดน่ /รางวลั ท่ีได้รับ/แนวปฏบิ ัติท่ีดี /ปจั จัยท่สี ่งผลต่อ ความสําเรจ็ (ถา้ ม)ี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอเพ่อื การพฒั นา ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ...............................................ผนู้ ิเทศ (............................................) ................../................../............  

33   แบบบนั ทกึ การนเิ ทศผลการดําเนนิ งาน เรอื่ ง ปรบั ปรงุ และพฒั นาโครงสรา้ งและระบบบริหารจัดการองค์กร ปจั จยั พนื้ ฐานในการจัดการศกึ ษา และการประชาสัมพนั ธส์ รา้ งการรบั รตู้ ่อสาธารณะชน คําช้ีแจง ใหผ้ ทู้ าํ หน้าท่นี ิเทศ นเิ ทศ ติดตาม หน่วยงาน/สถานศกึ ษาทดี่ าํ เนนิ การจดั กิจกรรม/โครงการ โดยใช้ วิธกี ารสอบถาม สัมภาษณ์ สงั เกตตามสภาพจริง หรือวธิ ีการอ่ืน ๆ แลว้ บนั ทกึ สภาพท่พี บ พรอ้ มใหข้ ้อนิเทศ เพ่ือแกไ้ ขพัฒนาตลอดจนยกตัวอย่างผลการปฏิบัตทิ เี่ ป็นเลศิ ลงในแบบนิเทศ กศน.ตาํ บล /ศศช. .............................................................................................................................. สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผรู้ บั การนเิ ทศ.............................................................................................................................................. ประเดน็ การนเิ ทศ สภาพทพี่ บ ข้อนเิ ทศ 1.การนาํ นวตั กรรมและเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั มาใชใ้ น การบรหิ ารจดั การ พฒั นาระบบการทาํ งาน และ ข้อมูลสารสนเทศดา้ นการศกึ ษาที่ทนั สมัย รวดเรว็ และสามารถใช้งานได้ทนั ที 1) การนาํ เทคโนโลยีดิจิทลั และนวัตกรรม มาใช้ในการบรหิ ารจดั การท้ัง 4 ด้าน ใน สถานศึกษาได้แก่ ดา้ นวิชาการ ด้านงบประมาณ บุคลากร การบรหิ ารงานทัว่ ไป 2) ข้อมลู สารสนเทศท่ีเปน็ ปัจจบุ นั ใน DMIS การบรหิ ารงานงบประมาณ(เบกิ จา่ ย) การ บริหารงานพสั ดุ โปรแกรมสารสนเทศทรัพยากร บุคคล ฯลฯ 2.พัฒนา ปรบั ปรงุ ซ่อมแซม ฟ้ืนฟอู าคารสถานที่ และสภาพแวดลอ้ มโดยรอบของสถานศึกษา และ แหลง่ เรียนรทู้ กุ แห่ง ให้สะอาด ปลอดภัย พร้อม ใหบ้ ริการ 3.ประชาสัมพนั ธ/์ สรา้ งการรบั รู้ใหก้ ับประชาชน 1) รปู แบบการประชาสัมพนั ธ์งาน กศน. ผา่ นสอื่ ต่าง ๆ ทหี่ ลากหลายเหมาะสมกบั กลุม่ เปา้ หมายที่มคี วามแตกตา่ งกัน 2) ชอ่ งทางการแลกเปล่ยี นเรยี นรรู้ ะหว่าง สถานศึกษา ผูเ้ รียน และประชาชนทว่ั ไป  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 34   ผลการปฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ เลศิ (Best Practice) ผลงานดีเดน่ /รางวลั ที่ได้รับ/แนวปฏิบตั ิท่ีดี /ปจั จยั ทีส่ ่งผลตอ่ ความสําเรจ็ (ถา้ ม)ี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอเพือ่ การพฒั นา ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................ผู้นิเทศ (............................................) ................../................../............  

35   แบบบันทกึ การนเิ ทศผลการดาํ เนนิ งานการศกึ ษานอกระบบขน้ั พน้ื ฐาน เร่ือง หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 คําช้ีแจง ให้ผู้รับผิดชอบการนิเทศ สอบถาม สัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบการดําเนินงาน ครูผู้สอนและหรือผู้เรียน/ ผู้เกี่ยวข้อง สังเกตสภาพจริง สถานที่ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ตรวจเอกสารโครงการ หลักสูตร สื่อ ฯลฯ แล้ว บันทึก สภาพท่ีพบ (จุดเด่น – จุดที่ควรพัฒนา) และข้อนิเทศ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาลงในแบบ บันทึกการนเิ ทศ กศน.ตําบล/ศศช. .............................................................................................................................. สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผ้รู ับการนเิ ทศ............................................................................................................................................... ประเดน็ การนเิ ทศ สภาพทพี่ บ ขอ้ นิเทศ 1.การพฒั นาหลกั สตู ร 1.1 หลกั สตู รสถานศึกษาสะท้อนเอกลกั ษณ์ของ สถานศกึ ษา และผา่ นความเหน็ ชอบของ คณะกรรมการสถานศกึ ษา 1.2 มกี ารจัดทาํ หรอื พัฒนาหลกั สตู รรายวชิ าเลอื กท่ี สอดคลอ้ งกับสภาพ บรบิ ท ความต้องการ ปญั หา ฯลฯ ของชมุ ชนทอ้ งถิ่น (ระบ)ุ 1.3 กระบวนการพฒั นาหลักสูตรรายวชิ าเลือก o ผมู้ สี ว่ นได้เสยี มสี ว่ นรว่ มในการพัฒนา หลกั สตู ร (มผี เู้ ชยี่ วชาญด้านหลกั สตู ร /ดา้ นเน้อื หา) o เน้ือหาของหลักสูตรสอดคล้องกับบรบิ ท สภาพความต้องการ ความจาํ เป็นของชุมชน และ ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาจงั หวัด/ท้องถิ่น o เนือ้ หาหลกั สูตรมคี วามทนั สมยั กับ สถานการณ์ปัจจุบนั o องค์ประกอบของหลกั สูตรครบถ้วน ถูกตอ้ ง o กระบวนการพัฒนาหลักสตู รเป็นไปตาม ข้ันตอนของการพฒั นาหลักสตู ร มีความน่าเชอ่ื ถือ มกี ารศกึ ษาวเิ คราะหข์ ้อมลู /ร่างหลกั สูตร/ ตรวจสอบคุณภาพและการนาํ หลักสตู รไปใช้) 1.4 มกี ารจัดหาหรอื จัดทําสื่อประกอบหลักสูตรที่ พัฒนาอย่างมีคุณภาพและสอดคล้องกับหลักสูตร 1.5 กระบวนการนาํ หลักสตู รไปใชม้ กี ารสรา้ ง ความรู้ ความเข้าใจแกผ่ ู้เกีย่ วข้อง (มกี ารประชุม ช้ีแจง/อบรมคร/ู จัดทาํ คมู่ อื การใช้หลักสูตร) 1.6 การประเมนิ หลักสูตรสถานศกึ ษา o มกี ารประเมนิ หลักสตู รสถานศกึ ษา ผลการประเมนิ หลกั สูตรสถานศึกษาเป็นอยา่ งไร และ นาํ ไปใชใ้ นการพฒั นาหลกั สตู รอยา่ งตอ่ เนื่อง  

  สภาพทพ่ี บ 36 ขอ้ นเิ ทศ ประเดน็ การนเิ ทศ สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่2. การจัดกระบวนการเรียนรู้ 2.1 การจดั ทําแผนการเรยี นรู้ o มีการจดั ทาํ ข้อมลู สารสนเทศผู้เรียนรายบุคคล (สภาพ ความสามารถ ความตอ้ งการ เป้าหมายการ เรยี น การประกอบอาชพี จุดเดน่ จดุ ดอ้ ย ฯลฯ) o มีการนาํ ข้อมูลสารสนเทศของผูเ้ รียนไปใช้ใน การจัดทาํ แผนการเรยี น o มกี ารจดั ทําแฟม้ ขอ้ มูลรายบุคคลใหผ้ ูเ้ รยี น ทราบสถานะ/ความก้าวหนา้ ในการเรียน (ผลการ เรียน /กพช./การประเมินคุณธรรม /N-Net ฯลฯ) o มีการวิเคราะห์หลกั สตู ร และนําไปสกู่ าร จดั ทําแผนการจดั กระบวนการเรียนรู้ o มกี ารจดั ทาํ แผนการเรียนร้รู ายภาคเรียน และแผนรายสปั ดาห์ o มกี ารออกแบบการจัดกระบวนการเรยี นรู้ สอดคล้องตามสภาพธรรมชาติวิชาและสภาพผู้เรียน มีการใช้ Stem และ E-learning o มีการจัดกระบวนการเรยี นรผู้ า่ น Google classroom และ Application เพอื่ การศึกษา ผา่ นช่องทางออนไลนต์ ่าง ๆ เช่น line Facebook QR Code เปน็ ตน้ o มีกจิ กรรมการเรยี นรสู้ ง่ เสรมิ การอา่ น การ เขยี น ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการส่ือสาร การ ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจําวนั การแก้ปญั หาและพฒั นา คุณภาพชีวิตอยา่ งสร้างสรรค์ 2.2 การจดั กระบวนการเรยี นรู้ o ครจู ดั กระบวนการเรียนรู้ตามแผน o มกี ารใชส้ ะเตม็ ศกึ ษา /E-learning/ทักษะการ คดิ วิเคราะห์ และเทคนิคการเรยี นรอู้ ่ืนๆ ในการจดั กระบวนการเรียนรู้ o มกี ารใช้ Google classroom และ Application เพ่ือการศกึ ษา o ครมู ีการดูแลชว่ ยเหลือผ้เู รียนอย่างเป็น ระบบ และมีผลการดําเนินงานเป็นอยา่ งไร  

  สภาพทพ่ี บ 37 ขอ้ นเิ ทศ ประเดน็ การนเิ ทศ สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ o มกี ารบนั ทึกหลงั สอนท่ีเนน้ ปญั หาจากการ จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ และมกี ารนําผลไปปรับปรุง แก้ไข o การวจิ ัยในชนั้ เรยี นมคี วามสอดคลอ้ งกบั สภาพปัญหาเชอ่ื มโยงกับบันทึกหลงั สอน และชว่ ย พัฒนาคณุ ภาพการเรยี นการสอน o การจดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น สง่ เสริมการ พัฒนาทักษะการเรียนรขู้ องผู้เรียน 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 ส่ือทีใ่ ช้มีความหลากหลาย เหมาะสม กบั เนื้อหา ทันสมัย กระตนุ้ ความสนใจผูเ้ รียน 3.2 ส่อื ทใ่ี ช้ (Google classroom / สอ่ื ออนไลน์ /Clip /สือ่ แบบเรียน/ผูร้ ู้ ฯลฯ) เหมาะสม กับกิจกรรมการเรียนรู้/กลมุ่ ผเู้ รียน ท่ีหลากหลาย 4. การวดั ผลและประเมนิ ผล 4.1 สถานศกึ ษามีการประกาศหลกั เกณฑ์ การวดั ผล ประเมินผลตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา 4.2 มกี ารออกแบบวธิ กี ารวดั ผล ประเมินผลด้วยวธิ ีการท่หี ลากหลาย ตามธรรมชาติ วิชา ตรงตามจดุ ประสงค์การเรียนรทู้ กี่ ําหนด 4.3 จํานวนผู้เรยี นเข้าสอบปลายภาคคดิ เปน็ รอ้ ยละเท่าใดเทยี บกบั จาํ นวนผลู้ งทะเบียนของ ครูแต่ละคน 4.4 จาํ นวนผเู้ รียนมผี ลสมั ฤทธท์ิ างการ เรยี นเฉลีย่ 2.00 ในรายวิชาบงั คับต่อภาคเรียน คดิ เปน็ ร้อยละเท่าใดเทยี บกับจํานวนผลู้ งทะเบียน 4.5 ผู้เรยี นเขา้ สอบ N-Net/ E-Exam คิด เปน็ ร้อยละเทา่ ใดเทียบกับจํานวนผมู้ ีสิทธ์สิ อบ 4.6 ครนู ําผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของ ผู้เรยี นมาวเิ คราะหแ์ ละวางแผนแก้ปญั หา และ พฒั นาอย่างต่อเนอื่ ง โดยเน้นกระบวนการวิจัย 4.7 ครมู กี ระบวนการและหลกั ฐานการ ประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผู้เรียน 4.8 ครจู ัดทําเอกสารและหลกั ฐาน การศกึ ษาครบถ้วนถกู ต้องทกุ ภาคเรยี น  

  สภาพทพ่ี บ 38 ขอ้ นิเทศ ประเดน็ การนเิ ทศ 5. สถานศกึ ษามกี ารสรปุ รายงานผลการสํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ดําเนนิ งานเมอื่ สิ้นสดุ ภาคเรยี น และนําสรปุ รายงานผลของครูมาศึกษา วเิ คราะหแ์ ละกาํ หนด แนวทางการแกไ้ ข ปรบั ปรุง พฒั นาหรอื ไม่ อยา่ งไร 6. การยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของ ครเู พือ่ การยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา 6.1 มีการอบรมดิจิทัลพ้ืนฐานให้ครูและ บุคลากร กศน. เพ่ือใช้ในการจัดการเรียนรู้ และ การสร้างกระบวนการเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง (DIY) 6.2 มีการพัฒนาครู กศน.ต้นแบบการ เรียนรภู้ าษาองั กฤษเพือ่ การส่อื สาร 6.3 มีการพัฒนาครูและผู้เรียนในการใช้ เทคโนโลยีทางการศึกษา Google classroom/ E- learning MOOC 6.4 มีการนิเทศ ติดตามผลการดําเนินงาน อยา่ งต่อเนื่อง 6.5 มีการนําผลจากการนิเทศไปปรับปรุง พฒั นา ผลการปฏบิ ตั ทิ เ่ี ปน็ เลิศ (Best Practice) ผลงานดีเดน่ /รางวลั ท่ไี ดร้ ับ/แนวปฏบิ ัติท่ดี ี /ปจั จยั ทส่ี ่งผลตอ่ ความสาํ เรจ็ (ถา้ มี) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอเพอื่ การพัฒนา ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ...............................................ผูน้ ิเทศ (............................................) ................../................../............  

39   แบบบันทึกการนเิ ทศผลการดาํ เนนิ งานการศกึ ษานอกระบบขน้ั พนื้ ฐาน เรื่อง การสง่ เสริมการรหู้ นังสือไทย คําช้ีแจง ให้ผู้รับผิดชอบการนิเทศ สอบถาม สัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบการดําเนินงาน ครูผู้สอนและหรือผู้เรียน/ ผู้เกี่ยวข้อง สังเกตสภาพจริง สถานท่ี กระบวนการจัดการเรียนรู้ ตรวจเอกสารโครงการ หลักสูตร ส่ือ ฯลฯ แล้ว บันทึก สภาพที่พบ (จุดเด่น – จุดที่ควรพัฒนา) และข้อนิเทศ พร้อมท้ังข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาลงในแบบ บนั ทึกการนิเทศ กศน.ตําบล/ศศช. ............................................................................................................................... สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผู้รบั การนิเทศ............................................................................................................................................... ประเดน็ การนเิ ทศ สภาพทพ่ี บ ขอ้ นิเทศ 1. การสํารวจผไู้ ม่รู้หนงั สอื และจํานวนผไู้ ม่รู้ หนังสอื หรอื ไม่ ดําเนินการอย่างไร 2. การจดั ทําขอ้ มูลสารสนเทศของผ้ไู มร่ หู้ นงั สือ รายบุคคล หรอื ไม่ อย่างไร 3. มกี ารประเมนิ สภาพการร้หู นงั สอื กอ่ นจดั การ เรยี นรู้ หรอื ไม่ ดาํ เนินการอย่างไร 4. หลกั สตู รทใ่ี ช้ในการจดั การส่งเสริมการรหู้ นังสอื ไทย และ/หรอื มกี ารพฒั นาหลกั สตู ร หรอื ไม่ ดาํ เนนิ การอย่างไร 5. การจัดทําแผนการเรียนรู้ มหี รอื ไมม่ ี และ เหมาะสมหรอื ไมอ่ ยา่ งไร 6. ผรู้ ับผดิ ชอบในการจัดการเรียนรู้ และจดั กระบวนการเรียนรู้อย่างไร เหมาะสมกบั สภาพ ผู้เรยี นหรือไม่ 7. เครือข่ายเข้ามามสี ว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรม สง่ เสรมิ การร้หู นงั สือ มี หรอื ไม่ ดําเนนิ การอย่างไร 8. การใชส้ ่อื เหมาะสมกับสภาพและพ้นื ทขี่ อง กลมุ่ เปา้ หมายในการจดั การเรียนรู้ หรอื ไม่อย่างไร 9. เครือ่ งมอื และเกณฑ์ที่ใช้การวดั ผลประเมินผล มี หรือไม่มี และเหมาะสมหรอื ไมอ่ ย่างไร 10. การออกวุฒบิ ัตรให้กบั ผผู้ ่านการวัดและ ประเมินผล (ผจู้ บหลักสตู ร) มี หรือไม่ ดาํ เนินการ อยา่ งไร 11. มีการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ ปอ้ งกันการลมื หนงั สอื อยา่ งต่อเนื่อง มหี รือไม่ ดําเนนิ การอยา่ งไร 12. มีการส่งเสริมการเรยี นรู้อน่ื ๆ แก่ผผู้ ่านการวัด และประเมินผล หรือไม่ อย่างไร 13. ครูมกี ารใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัล เพอ่ื เป็น เครอ่ื งมือในการสง่ เสรมิ การเรยี นร้ตู ลอดชวี ิตแก่ กลมุ่ เป้าหมายหรอื ไม่ อยา่ งไร  

  สภาพทพี่ บ 40 ขอ้ นิเทศ ประเดน็ การนเิ ทศ 14. มกี ารสรปุ รายงานผลการดาํ เนินงานเมอ่ื ส้นิ สดุ การจัดการเรียนรู้ และสถานศึกษา มกี ารนํา ผลมาศึกษา หรอื ไม่ อย่างไร 15. วเิ คราะห์และกําหนดแนวทางการแก้ไข ปรับปรุง พฒั นา หรอื ไม่ อยา่ งไร 16. ปัญหาอปุ สรรคในการสง่ เสรมิ การรูห้ นังสอื ไทย และการดาํ เนนิ การแก้ไขปัญหาอปุ สรรค สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผลการปฏิบัตทิ ่เี ปน็ เลศิ (Best Practice) ผลงานดเี ดน่ /รางวัลทีไ่ ดร้ ับ/แนวปฏบิ ัตทิ ด่ี ี /ปัจจัยท่สี ง่ ผลต่อ ความสาํ เรจ็ (ถา้ ม)ี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอเพื่อการพัฒนา ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ...............................................ผนู้ ิเทศ (............................................) ................../................../............  

41   แบบบันทกึ การนเิ ทศผลการดําเนนิ งานการศึกษาต่อเน่อื ง เร่ือง จดั การศกึ ษาอาชพี เพ่อื การมีงานทาํ อย่างยงั่ ยนื (ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน) คําชี้แจง ให้ผู้รับผิดชอบการนิเทศ สอบถาม สัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบการดําเนินงาน ครูผู้สอนและหรือผู้เรียน/ ผู้เกี่ยวข้อง สังเกตสภาพจริง สถานที่ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ตรวจเอกสารโครงการ หลักสูตร สื่อ ฯลฯ แล้ว บันทึก สภาพที่พบ (จุดเด่น – จุดท่ีควรพัฒนา) และข้อนิเทศ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาลงในแบบ บันทึกการนเิ ทศ กศน.ตาํ บล/ศศช. ............................................................................................................................... สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผรู้ บั การนิเทศ............................................................................................................................................... ประเดน็ การนเิ ทศ สภาพทพี่ บ ข้อนเิ ทศ 1.1 ปัจจัยป้อน (Input) 1) หลกั สูตรมอี งค์ประกอบครบถว้ นตาม กระบวนการพัฒนาหลักสูตร 2) หลกั สตู รทใี่ ชใ้ นการสอนไดพ้ ัฒนาขึน้ เองหรอื นํามาจากแหลง่ อน่ื (ระบุแหลง่ ทม่ี า) 3) เน้อื หาหลักสตู รมกี ารบรู ณาการสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการของผ้เู รยี นชมุ ชนและแนวโนม้ การ พฒั นา 4) หลกั สตู รทดี่ ําเนนิ การสอดคล้องตามหลักการ 5) มแี ผนงาน/ โครงการ / กจิ กรรมเพอ่ื ส่งเสริม การเรียนรทู้ ี่สอดคล้องกับความตอ้ งการของ ประชาชนและตลาดแรงงาน 6) มีแผนการจดั การเรียนรตู้ ามหลกั สตู ร ใครเปน็ ผู้ดําเนนิ การจดั ทาํ 7) มกี ารประชมุ ชแี้ จง /อบรมเทคนิควธิ กี าร ถ่ายทอดความรูแ้ ก่วิทยากรกอ่ นดาํ เนินการ 8) มกี ารจดั ทําฐานข้อมูลหลกั สตู ร ภูมิปัญญาและวิทยากร 9) วิทยากรมคี วามรคู้ วามสามารถตามเนอื้ หา หลักสตู ร 10) วทิ ยากรได้รับการพฒั นาเทคนิคการ ถ่ายทอดองค์ความรู้ 11) วัสดุ อปุ กรณ์ มีเพยี งพอและสถานทมี่ คี วาม เหมาะสม 12) มีการประเมนิ หลกั สูตรหรือไม่ ดาํ เนินการ อยา่ งไร  

  สภาพทพี่ บ 42 ข้อนเิ ทศ ประเดน็ การนเิ ทศ สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 1.2 การจัดกระบวนการเรยี นรู้ (Process) 1) วทิ ยากร มคี วามรคู้ วามสามารถและ มีเทคนคิ การถา่ ยทอดเหมาะสม 2) วิทยากร จดั การเรียนรูต้ ามแผนทก่ี าํ หนด 3)ในกระบวนการจัดการเรยี นรูม้ มี าตรการ ป้องกนั การแพร่ระบาดของโควิด-19 4) มกี ารใชส้ ่อื แหลง่ เรยี นรู้ /ภูมิปัญญาท้องถน่ิ ประกอบการสอน 5) มีการประยกุ ตใ์ ช้ “สะเตม็ ศกึ ษา”(STEMa Education) ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 6) มีการใช้สื่อออนไลน์ หรือ Digital learning Platform ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 7) มีการวัดและประเมินผลการเรียนรูส้ อดคล้อง ตามหลกั สตู ร และมีเครื่องมอื วัดและประเมินผล 8) มีการประเมินความพึงพอใจของผเู้ รียนทุก หลักสตู ร 9) มีการอนุมตั ิการจบหลักสตู ร 10) มกี ารจดั ทาํ รายงานผลการปฏบิ ัตงิ านเมื่อ สิน้ สุดโครงการ 1.3 ผลผลติ (Output) 1) ผจู้ บหลักสูตรมคี ุณภาพมาตรฐานเป็นท่ี ยอมรับ สอดรบั กับความต้องการของตลาดแรงงาน สามารถนําความรไู้ ปประกอบอาชีพ มงี านทําอยา่ ง ยั่งยนื 2) มีการสร้างความเขม้ แข็งให้กับศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชนโดยสง่ เสรมิ การรวมกลมุ่ วิสาหกจิ ชมุ ชน 3) มีการพัฒนาหนึ่งตาํ บลหน่งึ อาชีพเดน่ สร้าง ดพี รเี มี่ยมแบรนด์ กศน. 4) ผจู้ บหลกั สตู รมชี ่องทางการจําหนา่ ยสนิ ค้า หรอื ได้รบั การจ้างงานอย่างย่ังยืน ผลการปฏิบัตทิ ีเ่ ปน็ เลศิ (Best Practice) ผลงานดีเด่น /รางวลั ทไี่ ด้รับ/แนวปฏิบตั ทิ ี่ดี /ปัจจัยทส่ี ่งผลต่อ ความสําเรจ็ (ถา้ ม)ี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................  

สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ 43   ข้อเสนอเพือ่ การพฒั นา ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ...............................................ผนู้ ิเทศ (............................................) ................../................../............  

44   แบบบนั ทึกการนิเทศผลการดําเนนิ งานการศกึ ษาต่อเนื่อง เรอื่ ง จดั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาทักษะชีวติ คําช้ีแจง ให้ผู้รับผิดชอบการนิเทศ สอบถาม สัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบการดําเนินงาน ครูผู้สอนและหรือผู้เรียน/ ผู้เก่ียวข้อง สังเกตสภาพจริง สถานที่ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ตรวจเอกสารโครงการ หลักสูตร สื่อ ฯลฯ แล้ว บันทึก สภาพที่พบ (จุดเด่น – จุดท่ีควรพัฒนา) และข้อนิเทศ พร้อมท้ังข้อเสนอแนะเพ่ือการพัฒนาลงในแบบ บนั ทกึ การนเิ ทศ กศน.ตาํ บล/ศศช. ............................................................................................................................... สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผรู้ บั การนิเทศ............................................................................................................................................... ประเดน็ การนเิ ทศ สภาพทพี่ บ ขอ้ นเิ ทศ 1.1 ปัจจยั ป้อน (Input) 1) โครงการ /กจิ กรรมดาํ เนนิ การโดยจัด กระบวนการเรียนรู้เพอ่ื เสริมสร้างความสามารถ ของบคุ คลเพอื่ ให้จัดการกับตนเองและส่ิงแวดลอ้ ม เพือ่ ให้มีความสุขตามอตั ภาพและความสุขความ ปลอดภัยในสงั คม โดยเฉพาะคนพกิ ารผู้สูงอายุ โดยกจิ กรรมทมี่ เี นอ้ื หาสาํ คัญ เช่นการอบรมจติ อาสาการให้ความรเู้ พอ่ื ป้องกันการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโคโรนา่ 2019 (Covid-19) การอบรม พัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจติ การอบรม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม การป้องกันยาเสพติด เพศศึกษาการสรา้ งคา่ นิยมทพ่ี ่ึงประสงคค์ วาม ปลอดภยั ในชีวิตและทรัพย์สนิ ฯลฯ 2) โครงการ /กจิ กรรม ทีด่ ําเนนิ การ เหมาะสม สอดคลอ้ งกบั สภาพ ความต้องการของประชาชน และชมุ ชน 3) โครงการ / กจิ กรรม ท่ีดําเนินการใชร้ ปู แบบ กลุม่ สนใจ ฝกึ อบรม หรืออืน่ ๆ เพราะเหตใุ ด 1.2 การจัดกระบวนการเรยี นรู้ (Process) 1) วิทยากรมีความร้คู วามสามารถและเทคนคิ การถ่ายทอดเหมาะสม 2) มกี ารใช้ส่อื เทคโนโลยี แหล่งเรยี นรู้ ภมู ิ ปญั ญาท้องถ่ินประกอบการจดั กิจกรรม 3) มีการประเมินผลการจัดกจิ กรรม 4) มกี ารจดั ทํารายงานผลการจัดโครงการ / กจิ กรรม เมื่อสนิ้ สุดโครงการ 5) มกี ารติดตามผลการนําความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์  

  สภาพทพ่ี บ 45 ข้อนเิ ทศ ประเดน็ การนเิ ทศ 6.3 ผลผลติ (Output) 1) ประชาชนทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการ/กจิ กรรม มี ความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การป้องกนั ตนเองจาก โรคภยั ตา่ ง ๆ การดาํ รงชวี ิตของตนเองในสงั คมได้ อยา่ งมีความสุข 2) ประชาชนทีเ่ ขา้ ร่วมโครงการ/กจิ กรรม มี ความตระหนกั ในการเสริมสรา้ งสุขภาพกาย สขุ ภาพจิต มคี ณุ ธรรมจริยธรรม หลกี เลยี งจากสงิ่ เสพติด 3) มีกิจกรรมผา่ นการเรยี นรใู้ นรูปแบบการ อบรมเขา้ คา่ ยใหค้ วามรู้และนาํ ไปใช้ใน ชีวติ ประจําวนั ได้ สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผลการปฏิบตั ทิ เ่ี ปน็ เลศิ (Best Practice) ผลงานดเี ดน่ /รางวลั ที่ได้รบั /แนวปฏิบัตทิ ่ดี ี /ปัจจยั ทีส่ ง่ ผลต่อ ความสาํ เร็จ (ถา้ ม)ี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอเพอื่ การพัฒนา ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ...............................................ผู้นิเทศ (............................................) ................../................../............  

46   แบบบันทึกการนิเทศผลการดาํ เนนิ งานการศกึ ษาตอ่ เนื่อง เรื่อง จดั การศกึ ษาเพือ่ พฒั นาสังคมและชมุ ชน คําชี้แจง ให้ผู้รับผิดชอบการนิเทศ สอบถาม สัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบการดําเนินงาน ครูผู้สอนและหรือผู้เรียน/ ผู้เกี่ยวข้อง สังเกตสภาพจริง สถานท่ี กระบวนการจัดการเรียนรู้ ตรวจเอกสารโครงการ หลักสูตร ส่ือ ฯลฯ แล้ว บันทึก สภาพท่ีพบ (จุดเด่น – จุดท่ีควรพัฒนา) และข้อนิเทศ พร้อมท้ังข้อเสนอแนะเพ่ือการพัฒนาลงในแบบ บนั ทกึ การนิเทศ กศน.ตาํ บล/ศศช. ............................................................................................................................... สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผูร้ บั การนิเทศ............................................................................................................................................... ประเดน็ การนเิ ทศ สภาพทพ่ี บ ขอ้ นเิ ทศ 6.1 ปัจจัยป้อน (Input) 1) โครงการ /กจิ กรรมดาํ เนินการโดยมงุ่ ให้ ความรูเ้ ก่ียวกบั การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตท่ีเปน็ มิตรกับสงิ่ แวดล้อม การปอ้ งกันผลกระทบ การ ป้องกันภัยพบิ ัติธรรมชาติและสภาพภูมอิ ากาศ การ ลดความสูญเสยี ในการผลิตและใช้เทคโนโลยที ่ีเป็น มิตรกับส่งิ แวดล้อมและการคาํ นึงถึงส่วนรวม (เชน่ การบริหารจัดการขยะและมลพิษในชมุ ชน/การ ปอ้ งกนั ภัยพิบัติธรรมชาติและสภาพภมู ิอากาศ) 2) โครงการ /กจิ กรรม ทีด่ าํ เนินการเหมาะสม สอดคลอ้ งกับสภาพความต้องการของประชาชน และชุมชน 3) โครงการ / กจิ กรรม ทดี่ าํ เนินการใช้รูปแบบ กล่มุ สนใจ ฝกึ อบรมหรอื อนื่ ๆ เพราะเหตใุ ด 4) มกี ารจดั ทาํ ขอ้ มูลสารสนเทศท่ีเกย่ี วข้อง (สภาพภูมิอากาศ /แนวโนม้ ความเสยี่ ง/สถิตกิ าร เกิดภัยพบิ ตั ิ /การคดิ ดี ทําด)ี 6.2 การจดั กระบวนการเรียนรู้ (Process) 1) วทิ ยากรมีความรคู้ วามสามารถและเทคนิค การถา่ ยทอดเหมาะสม 2) มกี ารใชส้ อ่ื เทคโนโลยแี หลง่ เรยี นรูภ้ มู ิ ปัญญาทอ้ งถ่นิ ประกอบการจัดกิจกรรม 3) มกี ารประเมินผลการจัดกจิ กรรม 4) มีการจัดทาํ รายงานผลการดาํ เนนิ งาน โครงการ / กิจกรรม เมอ่ื สน้ิ สดุ โครงการ(ราย กจิ กรรม/รายไตรมาส/สรุปผลประจําป)ี และมีการ ติดตามผลการนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ 5) โครงการกิจกรรมทดี่ ําเนนิ การมคี วาม สอดคลอ้ งกบั กับสถานการณป์ ัจจบุ นั (การแพร่ ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา่ 2019)  

  สภาพทพ่ี บ 47 ขอ้ นิเทศ ประเดน็ การนเิ ทศ 6.3 ผลผลติ (Output) 1) ประชาชนทีเ่ ข้าร่วมโครงการ/กิจกรรม มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั การป้องกนั ผลกระทบและปรับตัวต่อการเปล่ยี นแปลงสภาพ ภูมิอากาศ และภยั พิบตั ธิ รรมชาติ 2) ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ/กจิ กรรม เกิดความตระหนกั ในการร่วมกันพฒั นาสงั คม ชุมชนไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง สรา้ งสรรค์อย่างต่อเน่ือง 3) มีกิจกรรมเก่ียวกับการรว่ มกนั พฒั นาสงั คม ชุมชน ในแตล่ ะชมุ ชนอย่างสมา่ํ เสมอ สํา ันกงาน กศน.จังหวัดเ ีชยงใหม่ ผลการปฏิบัตทิ ี่เปน็ เลิศ (Best Practice) ผลงานดีเด่น /รางวัลที่ได้รับ/แนวปฏิบตั ทิ ีด่ ี /ปจั จัยทสี่ ง่ ผลต่อ ความสาํ เรจ็ (ถา้ ม)ี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอเพอ่ื การพฒั นา ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................ผู้นเิ ทศ (............................................) ................../................../............  


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook