Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มี.ค. 2562 ฉบับที่ 02

มี.ค. 2562 ฉบับที่ 02

Published by cancan2547, 2021-11-22 06:20:05

Description: มี.ค. 2562 ฉบับที่ 02

Search

Read the Text Version

สถานที่พักผ่อนลับสุดยอด สิบอันดับเคล็ดลับการเดินทาง survey สำรวจทริปชายหาดเหล่านี้ที่ไม่แพงและไม่พลุกพล่าน เรียนรู้เคล็ดลับการท่องเที่ยวเหล่านี้จากนักเดินทางสุด โปรดของเรา พ.ค2547 ฉบับที่ 02

เมืองคอง

ฉันรู้จักชื่อนี้มานานหลายปี จากการเดินทางไปเที่ยวบ้านระเบียงดาวเพราะต้องโดยสารรถ เชียงดาว-เมืองคองเพื่อมาเที่ยว ตอนนั้นคิดว่า เมืองคองคงอยู่ไกลมากเพราะต้องนั่งรถ ต่อไปอีกจนสุดสาย ได้ยินชาวบ้านเมืองคองที่นั่งรถมาด้วยกัน บอกว่าต้องข้ามเขาไปอีก ประมาณ 1 ชม แต่เมืองคองสวย ไว้ลองมาเที่ยวสิ มีหมอกเหมือนกันน่ะ ตอนนั้นฉันได้แค่ ยิ้มเบาๆคิดในใจว่าคงไม่ไปตอนนี้แน่ ขนาดนั่งรถมาบ้านระเบียงดาวยังโค้งไปหลายรอบ แล้วถ้าไปถึงเมืองคองจะขนาดไหน อีกอย่างเมืองคองตอนนั้นยังไม่ได้โปรโมทเป็นที่เที่ยว ด้วย ยังไม่เคยเห็นภาพสวยๆของเมืองคองซักที ไม่รู้ไปแล้วจะมีอะไรบ้างทำให้ยังไม่มีแรง จูงใจอยากไปเท่าใดนัก และแล้วฉันก็ลืมชื่อเมืองคองไป จนเวลาผ่านพ้นไป ชื่อเมืองคอง พร้อมภาพกระท่อมโฮมสเตย์ริมทุ่งนา บรรยากาศบ้านๆ ก็ปรากฎขึ้น เห็นแล้วมันใช่เลย สายรักธรรมชาติอย่างฉันจะพลาดได้ยังไง ไปเถอะ ไปเมืองคองกันเมืองคอง ชุมชนเล็กๆ ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเชียงดาว ซึ่งอยู่ด้านหลังของดอยหลวง เชียงดาว เส้นทางเดียวกับบ้านนาเลาใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านระเบียงดาว แต่จะขึ้นลงเขา ต่อไปอีกประมาณ 24 กม. หากมาเที่ยวแถวบ้านนาเลาใหม่สามารถไปเที่ยวเมืองคองต่อได้ เมื่อก้าวเข้าสู่เมืองคองความรู้สึกแรก คือ เป็นชุมชนที่ยังคงมีความเป็นพื้นบ้าน อากาศ บริสุทธิ์ และเงียบสงบมาก ชาวบ้านที่นี่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาป่าไม้ ส่ง ผลทำให้ เมืองคอง อุดมไปด้วย ปลา ผักป่า และสมุนไพรนานาชนิด ภายในชุมชนสามารถ พึ่งตัวเองได้จากทรัพยากรที่มีอยู่ มีลำน้ำสายเล็ก ๆ ชื่อว่า แม่น้ำคอง ไหลผ่านทั่วหมู่บ้าน หากมาเที่ยวในช่วงฤดูทำนาก็จะได้พบกับความเขียวขจีของนาข้าวตลอดสองข้างถนนด้วย ความเป็นชุมชนที่มีขนาดเล็ก ชาวบ้านจึงอยู่อาศัยร่วมกันอย่างสงบสุข ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่ง กันและกัน เพราะฉะนั้นเมื่อมาถึงเมืองคอง เราจะสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตร ซึ่งทุกครัว เรือนรู้จักกันเกือบทั้งหมด แม้กระทั่งที่พักโฮมสเตย์ต่างๆ ก็ทำบ้านพักแบบช่วยเหลือเกื้อ หนุนกัน แต่ละบ้านก็จะมีการจักสานตะกร้าไม้ไผ่ หน้าบ้านก็จะมีตระกร้าวางอยู่ โดยจะมีรถ มารับไปส่งขายยังที่ต่างๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งรายได้เสริมในครัวเรือน

ดอยม่อนจอง

อยู่ในอำเภอนันทบุรี ในความดูแลของหน่วยมูเซอ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย จุด เริ่มต้นของการมาเที่ยวม่อนจองมีหลายแบบจะเดินทางมาด้วยตัวเองก็เริ่มตั้งแต่ ติดต่อขออนุญาติกับทางหน่วย ฯ แจ้งความจำนง จำนวนคน จำนวนลูกหาบ และ รถโฟร์วิว จัดเตรียมอาหารเครื่องดื่มทุกอย่างให้พร้อม สำหรับคณะของฉันเลือกใช้ บริการของทัวร์เดินป่าซึ่งมีให้บริการหลายเจ้า ทางทัวร์จัดการทุกอย่างให้หมดตั้งแต่ ติดต่อเจ้าหน้าที่ อาหารกิน เต้นท์ ถุงนอน ฯลฯ สำหรับจุดเริ่มเดินทาง ต้องนั่งรถ โฟร์วิวจากจุดจอดรถ ผ่านเส้นทางถนนดินแดง ทางขรุขระ ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าก็ มาถึงจุดเริ่มเดินทางไปยังดอยม่อนจอง จัดการสัมภาระและรับประทานข้าวกลางวัน ให้เรียบร้อย หากถามว่าจะขับรถขึ้นมาเองได้มั้ย ตอบได้เลยว่าไม่แนะนำอย่างยิ่ง เพราะจุดเริ่มเดินเท้าอยู่เป็นป่าลึกไม่มีคนคอยดูแลรถให้ อีกอย่างเส้นทางไม่ใช่ง่ายๆ ถ้าไม่ชำนาญทางก็อย่าเสี่ยงค่ะ เพราะข้างทางบางช่วงเป็นหุบลึก วิธีที่ดีที่สุด คือ จอดรถไว้ที่หน่วยมูเซอ แล้วใช้บริการรถโฟร์วิวของชาวบ้านจะปลอดภัยกว่า11.00 น. เริ่มสตาร์ทพร้อมลุยจากจุดเดินเท้าไปยัง ดอยม่อนจอง ระยะทาง 4.5 ก.ม. ใช้ เวลาเดินประมาณ 3-4 ชั่วโมง สำหรับฉันเส้นทางแค่นี้ถือว่าเป็นการเดินป่าที่ไม่โหด มาก เพราะเคยผ่านการเดินที่หนักกว่านี้มาแล้วหลายครั้ง แต่อาจเหนื่อยตรงที่เส้น ทางส่วนใหญ่ในช่วงแรกจะขึ้นเขาตลอดทางราบค่อนข้างน้อยเนื่องจากตั้งอยู่ใน อำเภออมก๋อยหรือนันทบุรีที่ห่างไกลสุดชายแดนเป็นอำเภอที่ได้ชื่อว่าหนาวที่สุดอีก อำเภอหนึ่งของเชียงใหม่ และตั้งอยู่ในที่สูง ทำให้ตลอดการเดินทางขึ้นสู่ ดอยม่อน จอง เย็นสบายจนถึงขั้นหนาวแบบไม่น่าเชื่อ เดินท่ามกลางแดดเปรี้ยงแต่เหงื่อแทบ ไม่ออก เดินมาซักพักและเจอเจ้าหินสูงใหญ่ก้อนนี้ ตั้งตระหง่านอยู่ เรียกว่า ภูหินช่อ นั่นหมายความว่าเราได้เดินมาถึงครึ่งทางแล้วเร็วดีแท้ มาถึงแล้วก็ต้องปีนขึ้นไปชม วิวข้างบนซักหน่อย หินก้อนนี้ไม่แนะนำสำหรับคนกลัวความสูงและใจไม่กล้าพอเพราะ เสียวมาก

บ่อเกลือ

อีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดฮิตของจังหวัดน่าน บ่อเกลือ คือ อำเภอเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงใน ด้านการทำเกลือบนภูเขาที่ไม่มีที่ใดทั้งเพื่อบริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง รวมถึงวิวทิวทัศน์ ที่สวยงามโอบล้อมด้วยขุนเขา วิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงเรียบ ง่ายดั้งเดิม มีอากาศเย็นสบาย ทำให้บ่อเกลือเหมาะสำหรับเดินทางมาพักผ่อน สูด อากาศบริสุทธิ์ซัก 1 คืนถึงแม้การเดินทางมาบ่อเกลือนั้นเส้นทางจะคดเคี้ยว และไกล ออกมาจากตัวเมืองน่านพอสมควร แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาในการเดินทาง เพราะหากมา จากตัวเมืองน่าน โดยใช้เส้นทางสันติสุข บ่อเกลือ ระหว่างทางนั้นจะได้มองเห็นวิว ภูเขาที่สวยงาม เส้นทางนี้เรียกกันว่า ถนนลอยฟ้า ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นถนนที่สวยงามอัน ดับต้นๆ ของเมืองไทย ยิ่งมาเที่ยวในฤดูฝน มันก็จะเขียวขจี และบางช่วงก็จะมีหมอก หน่อยๆให้เราได้ชมด้วย ทำให้เพลิดเพลิน จำเริญใจ ไปกับมองวิวเรามาถึงบ่อเกลือ ประมาณเที่ยงกว่าๆ ซึ่งได้เวลาทานอาหารกลางวันพอดี สำหรับมื้อนี้ฝากท้องไว้ที่บ่อ เกลือวิว รีสอร์ท ซึ่งให้บริการในส่วนของร้านอาหารด้วย เราเลือกทานที่นี่เพราะติดใจ ในรสชาติอาหาร จากการที่เคยได้ทานเมื่อครั้งก่อน อร่อยทุกเมนู แทบร้านอาหารก็ บรรยากาศดีมาก ด้วยโลเคชั่นที่ตั้งอยู่บนจุดสูง ทำให้มองเห็นวิวของชุมชนชาวบ่อ เกลือที่อยู่ข้างล่าง เมนูอาหารแนะนำของ บ่อเกลือวิว ที่ต้องสั่ง เริ่มจาก ขาหมูทอดกรอบ ยำผักกูด สลัดผัก ตัมยำปลา น้ำพริก 3 แบบ ไข่เจียวโหระพา ผัดกะหล่ำปลีน้ำปลา เสริฟมาใน จานใหญ่ที่ค่อนข้างใหญ่ ทานกันจนอิ่มท้อง ส่วนรสชาติ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ระดับ เกินห้าดาว ตั้งแต่วัตถุดิบที่ใช้ โดยเฉพาะผักที่ใช้ ทราบมาว่าสั่งมาจากศูนย์ภูฟ้า มี ความสดกรอบอร่อยมาก

ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ

ห่างจากที่ทำการอำเภอขุนยวม 25 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทาง ธรรมชาติอีก แห่งหนึ่งของ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีลักษณะเป็นทิวเขาเขียว สูงขึ้นสลับด้วยทิวทุ่งดอกบัวตอง เหลืออร่ามทั่วพื้นเขา มีพื้นที่ประมาณ 500 กว่าไร่ เมื่อเดินขึ้น ไปยังดอยแม่อูคอแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถชม วิวได้ทั่ว มีศาลาชมวิวที่ สร้างขึ้นไว้รองรับนักท่องเที่ยวอยุ่หลายแห่ง ซึ่ง จากศาลาชมวิว สามารถมองเห็นทุ่งดอกบัวตองได้ 360 องศา นอกจาก นี้ในระหว่างทา่งชมทุ่งดอกบัวตอง ตรงจุดพักรถข้างทางใกล้หมู่บ้านก่อน ถึง ดอยแม่อูคอประมาณ 2 กิโลเมตรนักท่องเที่ยว

เมืองปัว

ตั้งอยู่ในจังหวัดน่าน โดยห่างจากตัวอำเภอเมืองน่าน 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า คำว่า ปัว เพี้ยนมาจาก พลัว ปัว เป็นเมืองสีเขียวในหุบที่ เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติแสนงดงาม เป็นที่อยู่ของ ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งคนไทลื้อ ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง เมี่ยน และลัวะ แต่ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทลื้อที่มีประเพณีและวัฒนธรรมเป็นของตนเองโดยเฉพาะ อย่างยิ่งเรื่องการแต่งกายแบบพื้นบ้านอย่างเช่น ผ้าทอไทลื้อ ที่สร้างชื่อมาช้านาน กลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของอำเภอนี้ ในช่วงฤดูทำนาเราจะได้เห็นไร่นาเขียวขจี ห้อมล้อมด้วยขุนเขาพร้อมสายหมอกบาง ในฤดูหนาวก็จะได้สัมผัสกับอากาศหนาว เย็น สองฟากถนนสายหลักเป็นกลุ่มบ้านไม้ริมถนนรวมถึงซอกซอยที่เชื่อมถึงกัน หมดที่ต่างซุกซ่อนชีวิตเรียบง่ายและเป็นหนึ่งเดียวกัน

สถานที่พักผ่อนลับสุดยอด สิบอันดับเคล็ดลับการเดินทาง สำรวจทริปชายหาดเหล่านี้ที่ไม่แพงและไม่พลุกพล่าน เรียนรู้เคล็ดลับการท่องเที่ยวเหล่านี้จากนักเดินทางสุด โปรดของเรา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook