นางคมคาย ชมพูน้อย

คำนำ เอกสารฉบับน้ี เป็นเอกสารการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ด้วยปริศนาอักษรไขว้ เรื่อง ศาสนา อสิ ลามสำหรบั นักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกลา้ อตุ รดติ ถ์ เป็นผลงานการปฏิบตั ทิ ีเ่ ป็น เลิศ (Best Practice) เพ่ือเปรียบเทยี บผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของนักเรยี นหลงั เรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 80 ด้วยปรศิ นา อักษรไขว้ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 และเพือ่ ศึกษาความพงึ พอใจทมี่ ีต่อกิจกรรมปรศิ นาอกั ษรไขว้ ผู้นำเสนอหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ผลงานการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 ด้วยปริศนาอักษรไขว้ เร่ือง ศาสนาอิสลามสำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนเตรียม อุดมศึกษาน้อมเกล้า อุตรดิตถ์ จะเป็นประโยชน์ต่อครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และสามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี นใหส้ งู ขน้ึ ขอขอบคุณคณะครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า อุตรดิตถ์ทุกท่าน ท่ีส่งเสริมและสนับสนุนในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ ให้ความอนเุ คราะห์ ช่วยเสนอแนะในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ช่วยกระตนุ้ สนบั สนุนการ ทำงาน จนทำให้การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ด้วยปริศนาอักษรไขว้ เรื่อง ศาสนาอิสลามสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า อุตรดิตถ์ สำเร็จลุล่วง ด้วยดี อนั สง่ ผลใหก้ ารดำเนิน กิจกรรมนี้ประสบผลสำเร็จในระดับที่น่าพึงพอใจเปน็ อยา่ งยงิ่ นางคมคาย ชมภนู อ้ ย ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการพิเศษ โรงเรยี นเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า อตุ รดิตถ์

สารบญั หนา้ ก เร่ือง ข คำนำ 1 สารบัญ 1 1. ข้อมูลผู้สง่ ผลงานการปฏบิ ตั ิท่เี ป็นเลิศ (Best Practice) 2 2. บทสรุปหรอื บทคดั ยอ่ 3 3. ความเป็นมาและความสำคัญของผลงาน 4 4. วตั ถุประสงค์และเป้าหมายของผลงาน 6 5. กระบวนการพฒั นาผลงานหรือขั้นตอนการดำเนินงาน 7 6. ผลการดำเนนิ การ / ผลสัมฤทธิ์ / ประโยชน์ทไ่ี ด้รับ 7 7. ปัจจัยความสำเร็จ 8 8. บทเรียนที่ไดร้ บั (Lesson Learned) 9 9. การเผยแพร่ / การได้รบั การยอมรับ / รางวัลทไี่ ด้รับ 10 10. บรรณานุกรม ภาคผนวก - กจิ กรรมการเรียนการสอนในหอ้ งเรียน - ตวั อย่างแผนการจดั การเรียนร้เู ร่อื ง Appearance

รายงานเสนอผลงานการปฏบิ ัติทเี่ ป็นเลิศ (Best Practice) 1. ข้อมูลผู้สง่ ผลงานการปฏบิ ัติที่เป็นเลศิ (Best Practice) ประกอบดว้ ย 1) ชือ่ ผลงานการปฏบิ ัตทิ ่เี ปน็ เลิศ (Best Practice) การพฒั นากระบวนการเรยี นรูใ้ นศตวรรษท่ี 21 ด้วยปริศนาอักษรไขว้ เรื่อง ศาสนาอสิ ลาม สำหรบั นักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 2) ผนู้ ำเสนอผลงานการปฏบิ ตั ทิ ี่เป็นเลศิ (Best Practice) นางคมคาย ชมภนู อ้ ย . ตำแหน่ง ครู ค.ศ.3 โทรศพั ทเ์ คลื่อนที่ 081-9710635 . กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม . 3) ข้อมลู สถานศึกษา ช่ือสถานศึกษา โรงเรียนเตรียมอุดมศกึ ษาน้อมเกล้า อตุ รดิตถ์ เลขท่ี 227 หมทู่ ี่ 1 ตำบล ผาจุก อำเภอ เมอื ง จงั หวดั อุตรดิตถ์ รหัสไปรษณีย์ 53000 โทรศัพท์ 055-479933 โทรสาร 055-479933 2. บทสรปุ หรือบทคัดย่อ การพัฒนากระบวนการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 ดว้ ยปรศิ นาอักษรไขว้ เรอื่ ง ศาสนาอิสลาม สำหรับนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6 มวี ตั ถุประสงค์เพอ่ื พฒั นากจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยใช้ปริศนาอกั ษรไขว้ สำหรบั นักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 สง่ เสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในกลุ่มรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจท่ีมตี ่อกจิ กรรมปริศนา อกั ษรไขว้ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากกล่มุ ตัวอยา่ งทีเ่ ป็นนักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 6/4 โรงเรยี นเตรยี ม อดุ มศึกษานอ้ มเกล้า อตุ รดิตถ์ จำนวน 30 คน เครื่องมือท่ีใชใ้ นการพฒั นา ได้แก่ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ด้วยปริศนาอกั ษรไขว้ เร่ือง ศาสนาอสิ ลาม และวเิ คราะห์ขอ้ มลู โดยการเปรยี บเทียบคะแนนเฉลยี่ ระหวา่ ง ก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้สถิตทิ ดสอบทแี บบไม่อสิ ระ (t-test Dependent) แล้วนำค่าเฉลี่ยของคะแนน หลังเรยี นมาเปรียบเทยี บเกณฑ์โดยใช้สถิติทดสอบทีแบบหนงึ่ กล่มุ (t-test One Sample) ผลการพัฒนาพบวา่ กจิ กรรมการเรยี นโดยใชป้ ริศนาอกั ษรไขว้ สำหรบั นกั เรียนชัน้ มธั ยม ศึกษาปที ่ี 6 โรงเรยี นเตรียมอดุ มศึกษาน้อมเกล้า อุตรดติ ถ์ มีประสิทธภิ าพของชดุ กจิ กรรม E1/E2 เทา่ กับ 90.42/84.65 ซงึ่ สงู กวา่ เกณฑ์ และหลังจากจัดการเรยี นรู้โดยใชก้ จิ กรรมการเรียนโดยใชป้ ริศนาอักษรไขว้ มีคะแนนหลังเรยี นสงู กว่าคะแนนก่อนเรียน และมคี วามพึงพอใจต่อใบกิจกรรมปริศนาอกั ษรไขว้มากทสี่ ุด อยา่ งมนี ัยสำคัญทางสถติ ิท่ีระดบั .05

3. ความเปน็ มาและความสำคัญของผลงาน โลกในยคุ ศตวรรษที่ 21 เป็นยุคที่ความรแู้ ละข้อมูลขา่ วสารมีการเปล่ียนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เนื่องมาจากการใช้เทคโนโลยเี พ่อื เชือ่ มโยงขอ้ มูลต่างๆ ของทุกภูมิภาค ของโลกด้วยกนั ทำให้เกิดเคร่ืองมือทห่ี ลากหลายในการเข้าถึงองค์ความรู้ตา่ งๆ ท้งั ในเชิงวชิ าการและบันเทงิ การพัฒนาเครือ่ งมอื การเขา้ ถึงเน้ือหาดังกลา่ ว สง่ ผลให้เยาวชนท่อี ยู่ในวยั ศกึ ษาเล่าเรยี นเปลี่ยนแปลงวธิ ีการ ดำเนนิ ชีวิตและการเรียน ซงึ่ แตกต่างไปจากเยาวชนในยคุ กอ่ นอยา่ งมาก การพฒั นาประเทศสคู่ วามสมดลุ และยั่งยืนจะตอ้ งใหค้ วามสำคัญกบั การพฒั นาคนในประเทศใหเ้ ข้มแข็งพร้อมรับกบั การเปลยี่ นแปลงของโลก ในยคุ ศตวรรษท่ี 21 การศกึ ษาจงึ จำเป็นต้องมีการเปลีย่ นแปลงไปตามยุตสมยั เพอื่ สอดคล้องกบั โลกทีเ่ ป็นจรงิ ทง้ั ในปัจจุบนั และในอนาคต ผู้เรยี นจงึ ต้องมที กั ษะการเรียนรู้ นวัตกรรม ทกั ษะสารสนเทศ ส่ือและเทคโนโลยี ทกั ษะชวี ติ และการทำงาน พระราชบญั ญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 และแก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 หมวด 4 แนวการจัดการศึกษา มาตรา 22 กำหนดไว้ว่า “การจดั การศึกษาต้องยึดหลกั ว่าผู้เรียนทุกคนมีความ สามารถในการจัดการเรียนรู้และพฒั นาตนเองได้ และถอื วา่ ผูเ้ รียนสำคัญท่สี ุด กระบวนการจดั การศกึ ษาต้อง สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศกั ยภาพ”(กระทรวงศึกษาธิการ, 2545) และตามหลกั สูตร การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2544 กำหนดหลกั การ ข้อ 3 ไวว้ า่ “สง่ เสริมใหผ้ ู้เรียนได้พฒั นาและเรยี นรู้ดว้ ย ตนเองอย่างตอ่ เนือ่ งตลอดชีวติ โดยถอื ว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเตม็ ตามศกั ยภาพ (กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2545) จากพระราชบญั ญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 และแก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2545 และการเปลยี่ นไปของโลกในศตวรรษท่ี 21 จงึ เป็นแนวคิดสะทอ้ นกลับสู่มมุ มองของโรงเรียนเตรยี มอุดมศึกษา นอ้ มเกล้า อตุ รดติ ถ์ ซึ่งเปน็ โรงเรียนท่ีอย่ไู มไ่ กลจากตัวเมือง สภาพแวดลอ้ มในชมุ ชนเป็นสังคมเกษตรกรรม นกั เรยี นสว่ นใหญ่ยากจน แตด่ ้วยศกั ยภาพของสถานศึกษา มคี วามพรอ้ มดา้ น IT มกี ารถงึ เทคโนโลยี สารสนเทศ อยา่ งพอเพยี ง สง่ เสรมิ ให้ครูจัดการเรยี นรู้อยา่ งหลากหลาย การจัดการเรยี นรใู้ นกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ยังจำกดั อย่แู ตเ่ พียงในห้องเรยี นและความสำคัญองการเรยี นการสอนยังคงให้ความสำคัญ กับครูเปน็ สำคัญ จงึ สรา้ งความเบ่อื หนา่ ยให้กับนักเรยี น ผ้เู รียนไม่สามารถกา้ วทันต่อการเปลีย่ นแปลงกับสังภาย นอก จึงมองเหน็ ปญั หา คดิ หาแนวทางแก้ไขเพ่อื สง่ เสรมิ ทกั ษะกระบวนการเรียนรใู้ ห้มีความหลากหลายและ สง่ เสริมผู้เรียนให้เปน็ ไปตามพระราชบัญญตั ิการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 หมวด 4 การจัดการศกึ ษาตอ้ งยดึ หลกั วา่ ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถในการจัดการเรียนรู้และพฒั นา ตนเองได้ และถือวา่ ผเู้ รยี นสำคัญท่ีสดุ กระบวนการจดั การศกึ ษาต้องส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นสามารถพัฒนาตาม ธรรมชาติและเต็มศกั ยภาพ” และทันต่อการเปลยี่ นแปลงทเ่ี กดิ ข้นึ ในศตวรรษที่ 21 ประกอบกบั จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำใหก้ ารจัดการเรยี นการสอนไมส่ ามารถดำเนนิ การไดอ้ ย่างตอ่ เนือ่ ง ด้วยบริบทของโรงเรยี นเตรยี มอดุ มศึกษานอ้ มเกล้า อตุ รดิตถ์ รวมไปถงึ สภาพปัญหาและ บรรยากาศในการจัดการเรียนการสอนในการกลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ท่ีจะชว่ ย ให้นกั เรียนเกดิ ทักษะในการทำงานเปน็ กลมุ่ สามารถนำความรู้ ทกั ษะค่านิยม และเจตคติทีไ่ ดร้ บั การอบรมบม่ นสิ ัยมาใช้ในการแกป้ ัญหาต่าง ๆ ทเี่ กิดขน้ึ ในชวี ิตประจำวันของผ้เู รยี นได้ เมือ่ มองในภาพรวมแล้วพบว่า ความ

สำคัญของกล่มุ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรมน้ัน นอกจากจะช่วยใหผ้ ู้เรียนมีความรูเ้ รือ่ งตา่ งๆ ทเ่ี ก่ียวข้องกบั สภาพแวดลอ้ มทง้ั ทางธรรมชาติและสังคม วัฒนธรรมแล้วยงั มีทกั ษะและกระบวนการต่าง ๆ ท่ีจะ สามารถนำไปใช้ประกอบการในการตัดสินใจได้อย่างรอบคอบในการดำเนินชวี ติ และการมสี ่วนร่วมในสังคมท่ี มกี ารเปล่ยี นแปลงตลอดเวลา ในฐานะพลเมืองดีตลอดจนนำความรู้ทางศาสนามาพัฒนาตนเอง และสังคมทำ ให้สามารถดำรงชีวติ ในสงั คมได้อยา่ งมีความสุข (กระทรวงศึกษาธิการ. 2551 : 4) ในการแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอนในรายวชิ าสงั คมศึกษาระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/4 ซึ่งเปน็ ห้องเรียนทมี่ ีระดับผลการเรียนต่ำกวา่ เกณฑ์มาตรฐานของโรงเรียน ซึง่ มีพฤตกิ รรมการเรยี นท่ีขาดความ ใสใ่ จในการเรียน ขาดความรบั ผิดชอบ ขาดเรยี นบอ่ ย จึงได้คดิ หาแนวทางการจัดการเรยี นการสอนที่สามารถ ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกดิ ความสนใจในการเรียนมากขึ้น มีชิ้นงานส่งตามกำหนด สรา้ งลักษณะนิสัยในการทำงานท่ีดี มกี ิจกรรมที่หลากหลายที่จะทำให้ผู้เรยี นไมเ่ กิดความเบอ่ื หนา่ ยกบั การเรยี นการสอน โดยออกแบบใบกิจกรรม ท่ีเน้นทกั ษะการคดิ ผสมกับเกมส์ปริศนาอกั ษรไขว้ เพอื่ ฝึกการคิดคล่อง คดิ หลากหลายได้ ไม่เบอื่ กบั กิจกรรม กระตนุ้ ความคิดไดด้ ี สนกุ ไปกบั ข้อคำถาม ข้าพเจา้ จงึ ได้นำปริศนาอกั ษรไขว้มาปรับใช้ในการจัดกิจกรรมการ เรยี นการสอนนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 รายวิชาศาสนาเปรยี บเทยี บ ซ่ึงรายวชิ าดังกล่าวเป็นวิชาทอี่ าศยั หลักการทอ่ งจำ เน้อื หามากเกนิ ท่ีจะทำความเข้าใจ จึงไดน้ ำเกมมาประยกุ ตใ์ ช้ใหส้ อดคล้องกบั เนอื้ หาและ สังคมยคุ แห่งข้อมูลข่าวสาร โลกไร้พรมแดน สังคมออนไลน์ ส่ิงเหลา่ น้ที ำให้สงั คมแหง่ การเรียนรู้ของผเู้ รยี นมี การเปลยี่ นแปลงไปจากเดมิ ทำให้เกดิ ปญั หาทางสงั คมมากขึ้น ผู้เรยี นมภี าวะความเครยี ดสงู ไมม่ ีสมาธใิ น การเรยี น ขาดความสนใจ ขาดความรับผิดชอบ ส่งผลให้ ไมอ่ ยากเรียนหนังสอื แตก่ ลับให้ความสนใจกับ IT แทน ขาดทกั ษะกระบวนการคิดและการควบคุมอารมณ์ ทำใหเ้ ดก็ บางคนไมส่ ามารถปฏิบตั ิตนเปน็ ต้นแบบ ทดี่ ี รู้จกั อารมณข์ องตนและผ้อู ่นื ประกอบกบั จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรสั โควดิ -19 ทำให้ การจัดการเรียนการสอนไม่สามารถดำเนินการไดอ้ ยา่ งต่อเนือ่ ง การสอนระบบออนไลนจ์ งึ มาแทนท่ี ขา้ พเจ้าจึง ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส พฒั นาตอ่ ยอดกระบวนการพัฒนาการเรียนให้เอือ้ กบั การเรยี นด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยพัฒนาปรศิ นาอักษรไขว้ให้สามารถใช้ในโทรศัพทเ์ คล่อื นทีไ่ ด้ 4. จดุ ประสงคแ์ ละเป้าหมายดำเนินการ 4.1 จุดประสงค์ 1. เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรยี นรู้โดยใชป้ ริศนาอกั ษรไขว้ สำหรบั นักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรยี นเตรียมอุดมศกึ ษาน้อมเกลา้ อุตรดติ ถ์ 2. เพอ่ื เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรยี น หลังเรียนกับเกณฑร์ อ้ ยละ 80 ดว้ ยปรศิ นา อักษรไขว้ ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 3. เพอื่ ศึกษาความพงึ พอใจที่มีตอ่ กิจกรรมปรศิ นาอกั ษรไขว้ 4.2 เปา้ หมายการดำเนนิ งาน นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษานอ้ มเกลา้ อุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 30 คน

5. กระบวนการพฒั นาผลงานหรือขนั้ ตอนดำเนนิ งาน 5.1 การออกแบบผลงาน/นวตั กรรม การพฒั นาคณุ ภาพการจัดการเรียนการสอนรายวิชาศาสนาเปรียบเทยี บ เรือ่ ง ศาสนาอิสลาม สำหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้ปรศิ นาอักษรไขว้ในรูปแบบออนไลน์ โดยนักเรียนสามารถทำ กจิ กรรมบนโทรศพั ทเ์ คล่ือนทไี่ ด้ และนำหลักการ ขัน้ ตอนตามแนวคิดของเดมม่งิ (Damming) ตามวงจร คุณภาพ PDCA ประกอบดว้ ย การวางแผน (Plan) การปฏิบตั ิ (Do) การตรวจสอบ (Check) และการแกไ้ ข ปรับปรุง (Act) ดังน้ี 1. ขนั้ วางแผน (Plan) 1.1 ครูเตรียมความพร้อมโดยการศกึ ษาศกึ ษาหลักสตู ร เน้ือหาสาระในการเรยี นการสอน ศกึ ษาลกั ษณะนิสยั การเรียนของผเู้ รียนในระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6 1.2 ครูจดั ทำแผนการจัดการเรยี นรู้ในรายวิชาศาสนาเปรียบเทียบ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 โดยเพ่มิ เตมิ การนำเกมปริศนาอกั ษรไขว้มาใช้เป็นเคร่อื งมือในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน การจัด กจิ กรรม การสร้างผลงานการเรยี นรู้ และการรวบรวมผลงานทั้งของครูและของนักเรยี น 1.3 ครกู ำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ และจัดทำใบกิจกรรมเป็นเกมปริศนาอักษรไขว้ 1.4 ครูช้ีแจง ทำความเขา้ ใจกับนกั เรยี นเก่ียวกบั การจดั การเรียนการสอน 1.5 ครูแนะนำให้นักเรยี นวางแผนการเรยี นรู้ของตนเอง กำหนดเปา้ หมายการเรยี นรขู้ อง ตนเองและใหม้ อบหมายใหน้ ักเรียนทำแบบสอบถามก่อนการเรียน (Pretest) 2. ขนั้ ปฏบิ ัติตามแผน (Do) 2.1 ครูดำเนินการจดั กิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ทีเ่ ตรยี มไว้ 2.2 นำรปู การพฒั นาทีอ่ อกแบบไปใช้กับผเู้ รียนในระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 2.3 นำใบกจิ กรรมมาปรบั ปรงุ ภาษา โจทย์ใหช้ ดั เจน เข้าใจง่าย 2.4 นำใบกิจกรรมปริศนาอักษรไขว้ไปใชจ้ ริงกับนักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/4 3. ขน้ั ตรวจสอบ (Check) 3.1 ประเมนิ ผลการเรยี นโดยดจู ากคะแนนใบกิจกรรม 3.2 นักเรียนทำแบบสอบถามหลังการเรยี นรู้ (Posttest) คะแนนแบบทดสอบ 3.3 ประเมินผล สรุปผลขอ้ มูลท่ไี ด้จากแบบสอบถาม ได้แก่ ขอ้ มูลพน้ื ฐาน ผลงานที่เกิดข้ึน 4. ข้นั ปรบั ปรุง พัฒนา (Act) 4.1 จัดทำสรปุ รายงานผลการดำเนนิ งาน 4.2 ดำเนนิ การปรบั ปรุงแก้ไขการพฒั นาคุณภาพการจดั การเรียนการสอนรายวิชาศาสนา เปรยี บเทียบ เร่อื ง ศาสนาอสิ ลาม สำหรับนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้ปริศนาอักษรไขว้ ใหม้ ีประสทิ ธิภาพ มากย่งิ ขน้ึ และพัฒนาต่อยอดให้สามารถใช้ในรปู แบบออนไลน์ ทำกิจกรรมบนโทรศพั ท์เคลือ่ นท่ีได้

PLAN 1. ครูเตรยี มความพร้อมโดยการศึกษาศึกษาหลักสูตร เน้อื หาสาระใน การเรยี นการสอน ศกึ ษาลกั ษณะนสิ ัยการเรยี นของผู้เรยี น 2. จัดทำแผนการจดั การเรียนรู้ โดยนำเกมปริศนาอักไขว้มาใช้ 3. ครกู ำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ 4. ครชู ี้แจง ทำความเข้าใจกับนกั เรยี น ใหน้ กั เรยี นวางแผนการเรียนร้ขู อง ตนเอง และ ให้นกั เรยี นทำแบบสอบถามกอ่ นการเรียน (Pretest) ACT นวตั กรรม : การพัฒนากิจกรรม DO การจัดการเรยี นการสอน 1. จัดทำสรุป รายงานผลการ รายวิชาศาสนาเปรียบเทยี บ 1. ครูดำเนินการสอนนักเรียนใน ดำเนนิ งาน เรือ่ ง ศาสนาอสิ ลาม สำหรับ รายวิชาที่ตนเองรับผิดชอบ 2. ดำเนนิ การปรบั ปรุงแก้ไข 2. นำรูปการพัฒนาทีอ่ อกแบบ นวตั กรรมการพฒั นาการจดั นักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ไปทดลองใช้กับผเู้ รยี น ปรับปรงุ กจิ กรรมการเรยี นรูร้ ายวิชา โดยใชป้ ริศนาอักษรไขว้ ภาษา โจทยใ์ ห้ชดั เจน เขา้ ใจง่าย ศาสนาเปรียบเทียบ ให้มี 3. นำใบกิจกรรมปรศิ นาอกั ษร ประสทิ ธิภาพมากย่งิ ขน้ึ ไขว้ไปใช้จริงกบั นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6/4 CHECK 1. ประเมนิ ผลการเรียนโดยดจู ากคะแนนใบกจิ กรรม 2. นกั เรยี นทำแบบสอบถามหลังการเรียนรู้ (Posttest) คะแนนแบบทดสอบ 3. ครปู ระเมินผล สรปุ ผลข้อมูลท่ไี ด้จากแบบสอบถาม ได้แก่ ข้อมูล พน้ื ฐาน ผลงานท่ีเกิดขึน้ ความพงึ พอใจ ประโยชน์ทเ่ี กดิ ขน้ึ ต่อครู ต่อนักเรยี น แผนภาพ 1 แสดงการหลักการพฒั นานวตั กรรมการพฒั นากจิ กรรมการจัดการเรยี นการสอนรายวิชา ศาสนาเปรียบเทยี บ เร่อื ง ศาสนาอิสลาม สำหรบั นักเรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้ ปรศิ นาอักษรไขว้

6. ผลการดำเนินการ/ผลสมั ฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รบั ผลจากการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนรายวิชาศาสนาเปรียบเทียบ เร่อื ง ศาสนา อสิ ลาม สำหรับนกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 โดยใช้ปรศิ นาอกั ษรไขว้ พบวา่ จากการศึกษาการนำเกมปริศนา อกั ษรไขว้มาใช้ประโยชน์ในการจดั การเรยี นการสอน เป็นการสนบั สนนุ ส่งเสริมการปฏวิ ตั กิ ารเรยี นรขู้ องเด็ก ได้อย่างแท้จริง นกั เรยี นสว่ นใหญใ่ ห้ความสนใจ และกระตอื รือร้นในการเรียนรดู้ ้วยตนเองอย่างสรา้ งสรรค์ ฝกึ ใหเ้ ปน็ คนมสี มาธิมากขนึ้ มคี วามรบั ผิดชอบในงานทีม่ อบหมายและงานเสรจ็ สมบรู ณ์ตามทกี่ ำหนดไว้ 6.1 ผลท่ีเกดิ ข้ึนตามวัตถปุ ระสงค์ 1) กิจกรรมการเรียนโดยใช้ปรศิ นาอกั ษรไขว้ สำหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นเตรยี มอดุ มศึกษาน้อมเกลา้ อุตรดติ ถ์ มีประสทิ ธิภาพของชุดกิจกรรม E1/E2 เท่ากับ 90.42/84.65 ซง่ึ สงู กว่าเกณฑ์ 2) นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6/4 หลงั จากจดั การเรยี นรู้โดยใชก้ จิ กรรมการเรยี น โดยใช้ปริศนาอกั ษรไขว้มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนกอ่ นเรียน และมคี วามพงึ พอใจต่อใบกิจกรรมปริศนา อกั ษรไขวม้ ากทสี่ ุดอยา่ งมนี ัยสำคญั ทางสถติ ิท่รี ะดับ .05 3) นักเรยี นมีความคิดเหน็ ต่อสอื่ การจัดการเรยี นรู้กิจกรรมการเรียนโดยใช้ปริศนา อักษรไขว้ในภาพรวมมีความพงึ พอใจอยู่ในระดับมากทีส่ ดุ มคี า่ เฉล่ียเท่ากบั 4.57 และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน เทา่ กับ 0.26 6.2 ผลสมั ฤทธิข์ องงานที่เกดิ ข้ึนกบั ผู้เรียน กิจกรรมการเรียนโดยใชป้ ริศนาอักษรไขว้ มีประสทิ ธิภาพระหว่างเรียน/หลังเรยี นเท่ากบั 90.42/84.65 หมายความว่านกั เรียนได้คะแนนเฉล่ยี จากการเรียนรูโ้ ดยใช้ชดุ กจิ กรรม คิดเป็นรอ้ ยละ 90.42 และคะแนนหลงั จากการเรียนรู้ โดยใช้ชุดกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ 84.65 ถือว่านกั เรยี นสามารถพฒั นาตนเอง ในการเรยี นรู้ไดด้ ขี ้ึน ท้ังน้ีเน่ืองจากกิจกรรมการเรยี นโดยใชป้ ริศนาอกั ษรไขว้ ได้พัฒนาใหม้ กี ารออกแบบเน้อื หา เรียงลำดบั จากเรือ่ งทีเ่ ปน็ ความรู้พ้นื ฐานที่จำเปน็ จากง่ายไปหายาก เน้ือหามีความตอ่ เนือ่ งสมั พนั ธก์ นั มคี วาม เชอ่ื มโยงความรูใ้ นการเรยี นรู้ 6.3 ประโยชนอ์ น่ื ๆ 1) ได้กิจกรรมการเรยี นรู้โดยใชป้ ริศนาอักษรไขว้ สำหรบั นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศกึ ษาน้อมเกลา้ อตุ รดติ ถ์ ท่ีมีประสทิ ธิภาพ 2) มีสอ่ื การสอนท่หี ลากหลาย 3) สามารถประยุกต์ใช้ทรพั ยากรทม่ี อี ย่อู ยา่ งเหมาะสม คมุ้ ค่าสอดคล้องกับบรบิ ท ของสถานศึกษา 4) ผ้เู รียนมีเจตคตทิ ดี่ ีตอ่ วชิ าสงั คมศึกษา และมคี วามกระตอื รอื รน้ ในการเรียน ใฝ่เรยี นรู้ รา่ เริงแจม่ ใส 5) ประหยัดกระดาษ

7. ปัจจัยความสำเร็จ ฝา่ ยบริหาร 1. นโยบายการบรหิ ารจดั การ สง่ เสริมการเรยี นรู้ของโรงเรยี นเตรยี มอดุ มศกึ ษานอ้ มเกลา้ อุตรดิตถ์ ทส่ี ง่ เสริมให้ครผู ู้สอนได้มีการพฒั นานวัตกรรมการจดั การเรยี นร้ทู ่เี หมาะสมกบั วชิ า และกล่มุ สาระ รวมท้ัง สนับสนนุ ดา้ นการศกึ ษาคน้ คว้า การใหค้ วามรจู้ ากวทิ ยากรท่ีมีความรู้ ความชำนาญ 2. ผู้บรหิ ารรับทราบและยอมรับแนวทางการพัฒนาของกลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและ วฒั นธรรม 3. ความร่วมมือของคณะครภู ายในกลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ครู 1. ครูจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนโดยยึดตามนโยบายการจัดการศึกษาของโรงเรยี น จดั กิจกรรม ทีเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ 2. มีส่ือประกอบการเรียนการสอนในรปู แบบออนไลน์ นักเรียน 1. การมสี ว่ นรว่ มในการทำกิจกรรมของนักเรยี นดว้ ยปริศนาอักษรไขว้บนโทรศัพทเ์ คลอื่ นท่ี นกั เรยี นทกุ คนสามารถปฏบิ ัตกิ ิจกรรมท่ีกำหนด ไดอ้ ย่างมีความสุข สนกุ สนาน และส่งผลให้นักเรียนมี คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงคท์ ีด่ ี 2. ผเู้ รยี นมีการเชือ่ มโยงกระบวนการเรยี นรู้ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่อื สารซงึ่ เป็นทักษะทจ่ี ำเป็นในศตวรรษท่ี 21 8. บทเรยี นท่ีได้รับ การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ปริศนาอักษรไขว้ เป็นการสร้างแรงกระตุน้ การทำงาน ใหก้ บั นักเรียน โดยยึดนกั เรียนเป็นศนู ยก์ ลางทางความคิด กระตุ้นความอยากรู้องผเู้ รยี นผ่านสื่อที่ผู้สอนสรา้ ง สง่ิ เรา้ ทด่ี ใี นการสืบคน้ เนื้อหาด้วยตนเอง และสร้างผลงานท่มี คี วามสร้างสรรค์ ผู้เรยี นเกดิ ความอยากรู้ปนสนกุ ปรศิ นาอกั ษรไขว้สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้เป็นกจิ กรรมการแข่งขันทักษะการเรยี นรู้(Learning skills) และทักษะดา้ นคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing & ICT Literacy) ท่ีจำเป็นในศตวรรษท่ี 21

9. การเผยแพร่/การไดร้ บั การยอมรับ/รางวลั ที่ได้รับ - กจิ กรรม PLC นำเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เพื่อนครูในกลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม - เผยแพร่ผลงานแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ผ่านเวป็ ไซตโ์ รงเรียนเตรียมอดุ มศึกษานอ้ มเกลา้ อุตรดิตถ์ www.tunu.ac.th ลงชื่อ...........................................................ผูส้ ่งผลงาน (นางคมคาย ชมภนู ้อย) ตำแหนง่ ครู ค.ศ.3 ลงช่อื ..........................................................ผู้รับรองผลงาน (นายวีระพันธุ์ ดอนทว้ ม) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศกึ ษานอ้ มเกล้า อุตรดิตถ์

บรรณานกุ รม ศึกษาธกิ าร, กระทรวง. ตัวช้ีวดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551. ศกึ ษาธกิ าร, กระทรวง. หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ชุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จำกดั .(2561). ราชกิจจานุเบกษา. (2545), พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 ที่แกไ้ ขเพิ่มเตมิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. ฉบับกฤษฎกี า, 116 (ตอนท่ี 74 ก).

ภาคผนวก

ตารางที่ 1 แสดงข้อมลู การหาประสิทธิภาพของชดุ กจิ กรรม เรือ่ ง ศาสนาอสิ ลาม ตามเกณฑม์ าตรฐาน 80/80 ปีการศกึ ษา 2565 จำนวนนกั เรียน 30 คน คะแนนระหวา่ งเรยี น ทดสอบหลงั เรียน รวมคะแนน(X) 615 288 คะแนนเฉลี่ย (X) 36.18 7.78 คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ (X%) 90.42 84.65 จากตารางที่ 1 พบวา่ การเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม เร่อื ง ศาสนาอสิ ลาม โดยภาพรวมนกั เรยี น ไดค้ ะแนนระหวา่ งเรียนคดิ เปน็ คา่ เฉลี่ยรอ้ ยละ 90.42 และได้คะแนนทดสอบหลังเรยี นคดิ เปน็ ค่าเฉลีย่ ร้อยละ 84.65 จะเห็นได้ว่าชุดกจิ กรรม เร่ือง ศาสนาเปรียบเทียบ มีประสิทธภิ าพ E1/E2 เท่ากับ 90.42/84.65 ซึง่ เป็น ไปตามเกณฑ์มาตรฐานท่กี ำหนดคือ 80/80 ตารางที่ 2 แสดงผลการทดสอบก่อนและหลงั เรียนของนกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/4 กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาศาสนาเปรยี บเทียบ ทเี่ รยี น โดยใช้ปริศนาอักษรไขว้ เรอ่ื ง ศาสนาอสิ ลาม จำนวนนักเรยี น 30 คน คะแนนทดสอบ คะแนนทดสอบ ผลการพัฒนา กอ่ นเรียน หลังเรียน รวมคะแนน(X) 223 288 65 คะแนนเฉลีย่ (X) 3.82 คะแนนเฉล่ยี รอ้ ยละ (X%) 13.12 20.57 17.40 65.59 84.65 จากตารางท่ี 2 พบว่า นักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6/4 มีคะแนนทดสอบก่อนและ หลังเรียนคิดเปน็ ค่าเฉลย่ี รอ้ ยละ 65.59 และมคี ะแนนทดสอบหลงั เรยี นเฉล่ียร้อยละ 84.65 ซ่งึ มผี ลการพฒั นาคดิ เปน็ คา่ เฉลยี่ รอ้ ยละ 17.40 จะเห็นว่า นกั เรียนมคี ะแนนทดสอบหลังเรยี น สูงกว่ากอ่ นเรยี น

กจิ กรรมการเรียนการสอนในห้องเรยี น

ผลงานนักเรยี น

การพัฒนาตอ่ ยอดนวัตกรรม การพัฒนานวตั กรรมลงใน Liveworksheet เพื่อใหส้ ามารถทำกิจกรรม

ในระบบออนไลนบ์ นโทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ไี ด้