Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แฟชั่น

แฟชั่น

Published by kakatar.01, 2019-07-24 03:47:43

Description: แฟชั่น

Search

Read the Text Version

แฟชั่น จากวกิ ิพเี ดีย สารานุกรมเสรี ไปยงั การนาทางไปยงั การคน้ หา นางแบบบนเวทีเดินแบบในปี ค.ศ. 2014 ภาพ ฟอลโลว์อิงเดอะแฟช่ัน ในปี ค.ศ. 1794 แสดงการแต่งกายผหู้ ญิงยคุ สมยั น้นั

รสนิยมการแต่งกายในอดีต แฟช่ันหรือสมยั นิยม (องั กฤษ: fashion) ราชบณั ฑิตยสถาน นิยามวา่ \"สมยั นิยม, แบบหรือวธิ ีการท่ี นิยมกนั ทวั่ ไปในชว่ั ระยะเวลาหน่ึง.\" เป็นการยอมรับจนเกิดเป็นคา่ นิยม มีกระบวนการเกิดภาษาใหม่ ซ่ึงเป็น ช่วงเวลาหน่ึงเทา่ น้นั ประวตั ิ เส้ือผา้ เครื่องนุ่งห่มเป็ น 1 ในปัจจยั 4 ท่ีมุนษยต์ อ้ งการในการดารงชีวติ เพอื่ ปกปิ ดร่างกายและใหค้ วาม อบอุน่ ความเจริญของมนุษยท์ าใหเ้ ส้ือผา้ และเคร่ืองแตง่ กายเปลี่ยนแปลงไปตามยคุ สมยั เส้ือผา้ ยงั บ่งบอกถึง ลกั ษณะของผสู้ วมใส่ไดด้ ว้ ย เช่น ฐานะ, เช้ือชาติ, ฯลฯ การพฒั นาของแฟชน่ั ในแตล่ ะยคุ สมยั แตกต่างกนั มาก ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั หลายๆอยา่ ง เช่น การเมือง เศรษฐกิจ ภมู ิอากาศ ฯลฯ ในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 20 แฟชนั่ โลกเปล่ียนแปลงไปอยา่ งเห็นไดช้ ดั เจน โดยเฉพาะปี ค.ศ. 1920 - 1930 หรือเรียกวา่ ยคุ แฟลปเปอร์ (Flapper) ผหู้ ญิงสวมกระโปรงส้นั เป็ นคร้ังแรก และหลงั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่า ผหู้ ญิงตอ้ งออกจากบา้ นเพื่อทางานหาเล้ียงชีพ ดงั น้นั เส้ือผา้ ท่ี สวมใส่ยอ่ มเปล่ียนไปเพ่ือเอ้ือประโยชน์ในผสู้ วมใส่มากข้ึน กางเกงจึงเป็นที่นิยม ต้งั แต่ยคุ แฟลปเปอร์เป็น ตน้ มา แฟชนั่ ของโลกไดก้ า้ วเขา้ สู่ความเป็นสากล เพราะการติดตอ่ สื่อสารของโลกตะวนั ตกและตะวนั ออก เป็นไดเ้ ปิ ดกวา้ งมากข้ึน มีการไปมาหาสู่กนั แฟชนั่ ของโลกตะวนั ตกจึงเขา้ มามีบทบาทกบั โลกตะวนั ออก เช่น คนไทยรณรงคใ์ หส้ วมหมวก หรือ ผหู้ ญิงไทยเลิกสวมโจงกะเบน เพอื่ ความเป็นสากล ลกั ษณะหรือแบบแผนของเส้ือผา้ เครื่องแตง่ กายของแตล่ ะยคุ สมยั เรียกวา่ สไตล์ (Style) แตล่ ะคนมี สไตลก์ ารแตง่ ตวั ไม่เหมือนกนั เช่น บางคนชอบแต่งตวั สไตล์ พ้งั ค์ (Punk) หรือเด็กสาวๆชอบสไตลเ์ ซ็กซี่ ที่ ฝร่ังเรียกวา่ ราซ่ี (Racy or Provocative) ส่วนคาวา่ เทรนด์ (Trend) คือ แฟชนั่ ล่าสุดที่กาลงั เป็นที่นิยม

สไตลก์ ารแต่งตวั สามารถจาแนกไดเ้ ป็นประเภทนบั ไม่ถว้ น ตอ่ ไปน้ีเป็นสไตลเ์ ด่นๆ หลกั ๆ ที่เป็นท่ี นิยมในอดีตจนปัจจุบนั บางสไตลถ์ ือวา่ ลา้ สมยั ไปแลว้ ในปัจจุบนั บางสไตลถ์ ือวา่ เป็ นคลาสสิก เพราะแต่ง เม่ือไร กไ็ มถ่ ูกมองวา่ เชยหรือตกรุ่น อยา่ งไรก็ตามยงั มีบางสไตลท์ ่ีเคยลา้ สมยั ไปแลว้ อาจเวยี นกลบั มาเทรนด์ อีกคร้ัง 1. Western / Cowboy or Cowgirl คาวบอย / ตะวนั ตก 2. Punk พ้งั ค์ 3. Preppie เพรปป้ี 4. Futuristic อวกาศ / อนาคต 5. Hippie ฮิปป้ี 6. Mod มอ็ ด 7. Flapper แฟลปเปอร์ 8. Disco ดิสโก้ 9. New Wave นิวเวฟ+ 10. Goth / Gothic โกธิค 11. Equestrian / Fox Hunting / Jockey จอ็ คก้ี / พวกนิยมขี่มา้ 12. Biker นกั ซ่ิง / เดก็ แวน๊ (ของฝรั่ง) 13. Boho-Chic / Boho-Hippie โบโฮ 14. โลลิตา สาวนอ้ ยใสๆ สไตลญ์ ่ีป่ ุน 15. Eveningwear / Black Tie ชุดราตรี 16. Speed metal สปี ดเมทลั 17. Hip Hop ฮิปฮอป 18. fashion chestgiant volcanic แฟชน่ั หนา้ อกยกั ษภ์ ูเขาไฟ อุตสาหกรรมแฟชน่ั อุตสาหกรรมแฟชน่ั น้นั เป็นส่ิงท่ีเร่ิมข้ึนในแฟชนั่ เส้ือผา้ ยคุ ใหม่ โดยช่วงก่อนปี พ.ศ. 2500 การตดั เยบ็ เส้ือผา้ แฟชน่ั ส่วนใหญย่ งั เป็ นการสง่ั ตดั โดยแต่ละบุคคล ตดั เยบ็ โดยช่างตดั เส้ือ แต่หลงั จากน้นั เม่ือเร่ิมมี เครื่องจกั รเขา้ มาเกี่ยวขอ้ งในการตดั เยบ็ หรือ จกั รเยบ็ ผา้ และมีโลกเขา้ สู่ระบบทุนนิยม มีหา้ งสรรพสินคา้ มี การ ผลิตเส้ือผา้ ออกมาในรูปแบบจานวนมาก ขนาดเดียวกนั ราคาเดียวกนั ทาใหอ้ ุตสาหกรรมแฟชนั่ เร่ิมตน้ อยา่ งแทจ้ ริง อีกท้งั อุตสาหกรรมแฟชน่ั ยงั ไดร้ ับอิทธิพลจาก การส่ือสารท่ีมีการพฒั นาข้ึนพร้อมๆกนั ไม่วา่ จะ เป็นส่ือสิ่งพมิ พ์ หรือสื่อวทิ ยุ โทรทศั น์ จนถึงยคุ ปัจจุบนั ซ่ึงเป็นยคุ ของอินเทอร์เน็ต อยา่ งไรกต็ ามในยคุ

เริ่มแรกของ อุตสาหกรรมแฟชน่ั น้นั เร่ิมท่ีฝั่งยโุ รป ตอ่ มาที่ฝั่งอเมริกา จนมาถึงยคุ ปัจจุบนั อุตสาหกรรม แฟชน่ั น้นั เป็นออกแบบในประเทศใดประเทศหน่ึง แต่การผลิตและจาหน่าย น้นั ทาในอีกประเทศหน่ึง เช่น แฟชนั่ ท่ีผลิตโดยบริษทั แฟชนั่ ในสหรัฐอเมริกาออกแบบในประเทศ แตผ่ ลิตในจีนหรือเวยี ดนามหรือ ศรี ลงั กาแลว้ นากลบั มาในประเทศและกระจายขายสินคา้ ทวั่ โลกอีกคร้ัง แฟชน่ั ในประเทศไทย ลกั ษณะแฟชนั่ ในประเทศไทยน้นั โดยส่วนใหญป่ ระชากรน้นั ไดร้ ับอิทธิพลมาจากประเทศในแถบ เอเชียตะวนั ออกเสียส่วนใหญ่ เช่น วฒั นธรรมแฟชน่ั จากประเทศ จีน ญี่ป่ ุน เกาหลีใต้ ตวั อยา่ งแฟชนั่ ปัจจุบนั ในแถบเอเชียตะวนั ออก เนื่องดว้ ยหลากหลายเหตุผลเช่น ความคลง่ั ไคลศ้ ิลปิ น ราคาสินคา้ จากประเทศจีนที่ มีราคา ต่ากวา่ สินคา้ แฟชน่ั ในประเทศไทย กระแสวฒั ธรรมทางเทคโนโลยี เป็นตน้ วฒั นธรรมแฟชนั่ ใน ประเทศไทยน้นั ไมค่ อ่ ยไดร้ ับการพฒั นามากนกั เนื่องจากปัญหาแรงงานที่ขาดแคลน เนื่องจากมีราคาข้นั ต่าที่ สูงเกินกวา่ อุตสาหกรรมจะแขง่ กบั สินคา้ แฟชนั่ ท่ีทะลกั มาจากประเทศจีนได้ เม่ือมีสินคา้ ท่ีวฒั นธรรมจีนหรือ ญี่ป่ ุนหรือเกาหลีใตเ้ ขา้ มาเป็ นส่วนใหญ่ ทาให้แฟชน่ั ในประเทศไทยจึงมีลกั ษณะตามท่ีกล่าวมา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook