Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วัดสำคัญในพิษณุโลก

วัดสำคัญในพิษณุโลก

Published by Nun Kanyarat Thoopthong, 2021-08-24 14:49:57

Description: วัดสำคัญในพิษณุโลก

Search

Read the Text Version

วดั สำคญั ใน จงั หวดั พษิ ณุโลก

ประวตั เิ มืองพษิ ณุโลก สมัยกรุงสุโขทยั เมืองพิษณุ โลก เป็ นเมือง เมืองสองแคว (พษิ ณุโลก) ในรัชกำล พ่อขุนรำมคำแหง สำคญั เมืองหน่ึงของประเทศ อยใู่ นอำนำจของรำชวงศ์ มหำรำช จึงได้ยึดเมืองสอง ไทย ในประวัติศำสตร์เคย ผำเมือง แควซ่ึงเดิมเคยเป็ นส่วนหน่ึง เรี ยกช่ือว่ำ “เมืองสองแคว” ของอำณำ จกั รสุโขทยั หรือ “เมืองอกแตก” เพรำะมี แมน่ ้ำน่ำนผำ่ นกลำงตวั เมือง สมยั พระมหำ ธรรมรำชำที่ 1 (ลิไท) ไดเ้ สดจ็ มำประทบั ท่ีเมืองสองแคว พระองคท์ ่ำน ไดเ้ อำพระทยั ใส่ทำนุบำรุง นำควำมเจริญเป็นอยำ่ งยงิ่ ไดม้ ีกำรสร้ำง พระพทุ ธชินรำช พระพทุ ธชินศรี พระศรีศำสดำ เพ่อื ประดิษฐำนไวใ้ น พระวหิ ำร พระศรีรัตนมหำธำตุ

ประวตั เิ มืองพษิ ณุโลก (ต่อ) สมยั กรุงธนบุรี สมยั กรุงศรีอยธุ ยำ พิษณุโลกสมยั อยธุ ยำ มีควำมสำคญั ยง่ิ ทำงดำ้ น ศึกอะแซหวนุ่ ก้ี กำรเมือง กำรปกครองยทุ ธศำสตร์ เศรษฐกิจ ศำสนำ และศิลปวฒั นธรรม พษิ ณุโลกเป็นรำชธำนีในรัชสมยั https://www.youtube.com/watch?v=HeS_q2bAFbs สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนำถ ต้งั แต่ พ.ศ. 2000-2031 ในสมยั ของสมเดจ็ พระนเรศวรมหำรำช คร้ังดำรงตำแหน่งพระมหำอปุ รำช ณ เมืองพษิ ณุโลก ระหวำ่ ง พ.ศ.2112-2133 ไดท้ รงปลุกสำนึกใหช้ ำวพิษณุโลก เป็นนกั กอบกเู้ อกรำชเพื่อชำติไทย ทรงสถำปนำพษิ ณุโลกเป็นเมืองเอก เป็น กำรประสำนตอ่ ควำมเจริญรุ่งเรืองจำกอดีตมำจนถึงปัจจุบนั

ประวตั ิเมืองพษิ ณโุ ลก (ต่อ) สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมยั กรุงรัตนโกสินทร์ตอนตน้ น้นั ต้งั แตช่ ่วงพระบำทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ำจุฬำโลกจนถึง ก่อนปฏิรูปกำรปกครองในสมยั พระบำทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั เมืองพิษณุโลกมี ฐำนะเป็นเมืองเอกที่มีขนำดใหญท่ ี่สุดในหวั เมืองฝ่ ำยเหนือของประเทศไทยและมีเมืองตำ่ งๆ อยใู่ นอำนำจกำรปกครองดูแลหลำยหวั เมือง ประชำชนส่วนใหญ่ประกอบ อำชีพสำคญั คือ ทำนำ ทำไร่ หำของป่ ำ ทำไม้ เมืองพษิ ณุโลกไดพ้ ฒั นำและสืบสำนต้งั แตโ่ บรำณจนถึงปัจจุบนั

วดั สำคญั ทอี่ ยู่ภำยในเขตพระรำชวงั จันทร์เดมิ วดั วหิ ำรทอง เป็ นโบรำณสถำนวดั เก่ำแก่สำคญั ในอดีต ต้งั อยู่ทำงทิศ ใตข้ องพระรำชวงั จนั ทร์ โดยมีเจดียป์ ระธำนมีรู ปแบบ พระปรำงค์สมยั อยุธยำตอนตน้ สภำพในปัจจุบนั เหลือ เพียงส่วนฐำนเขียง และฐำนบัวลูกฟัก ทำงด้ำนทิศ ตะวนั ออกเฉียงเหนือของพระปรำงค์ เป็ นวิหำรขนำด ใหญ่ สันนิษฐำนว่ำเคยเป็ นที่ประดิษฐำนพระอฎั ฐำรส โดยเป็ นพระยืนสร้ำงดว้ ยทองสัมฤทธ์ิขนำดใหญ่ท่ีสุด ของไทยท่ีสร้ำงในสมยั สุโขทยั

วดั สำคญั ทอ่ี ยู่นอกเขตพระรำชวงั เดมิ วดั พระศรีมหำธำตุวรมหำวหิ ำร ไม่มีหลกั ฐำนว่ำสร้ำงข้ึนเม่ือใด สันนิษฐำนว่ำสร้ำงข้ึนก่อนสมยั สุโขทยั และเป็ นพระอำรำม หลวงมำแต่เดิมส่วนในพงศำวดำรเหนือกล่ำวไวว้ ำ่ “ ในรำวพทุ ธศกั รำช 1900 พระเจำ้ ศรีธรรมไตรปิ ฎก (พระมหำธรรมรำชำลิไท) ทรงเป็นพระมหำกษตั ริยค์ รองกรุงสุโขทยั พระองคไ์ ดท้ รงสร้ำงวดั พระศรี รัตนมหำธำตุ ในฝ่ังตะวนั ออกของแม่น้ำน่ำน เมื่อพ.ศ. 2458 พระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจำ้ อยู่หัว ทรงพระกรุณำโปรดเกลำ้ ฯใหย้ กข้ึนเป็นพระอำรำมหลวงช้นั เอก ชนิดวรมหำวิหำร ปัจจุบนั จึงมีชื่อเต็ม วำ่ วดั พระศรีรัตนมหำธำตุวรมหำวหิ ำร

โบรำณสถำนภำยในวดั 1. พระวหิ ำรหลวงพอ่ ประดิษฐำนพระพทุ ธชินรำช เป็นวหิ ำรทรงโรง พระพทุ ธชินรำชซ่ึงนบั ถือกนั วำ่ เป็นพระพทุ ธรูปองคง์ ำมองคห์ น่ึงในโลก ตวั พระวหิ ำรสร้ำงมำต้งั แต่สมยั สุโขทยั และไดร้ ับกำรบูรณะใหม้ ีสภำพดี มำตลอดจนถึงสมยั ปัจจุบนั 2. พระเหลือ พระยำลิไทรับสง่ั ใหช้ ่ำงนำเศษทองสมั ฤทธ์ิ ที่เหลือจำกกำรสร้ำงพระพทุ ธชินรำช พระพทุ ธชินสีห์ และพระศรีศำสดำ มำรวมกนั หลอ่ พระพทุ ธรูปปำงมำร วิชยั ขนำดเลก็ เรียกวำ่ พระเหลือ

โบรำณสถำนภำยในวดั (ต่อ) 3. หีบพระบรมศพ มีลกั ษณะเป็นหีบบรรจุพระบรมศพของพระพทุ ธเจำ้ ทำดว้ ยศิลำต้งั อยบู่ นจิตกำธำนประดบั ดว้ ยลวดลำยลงรักปิ ดทอง ที่ปลำย หีบมีพระบำทจำลองท้งั สองของพระพทุ ธเจำ้ ยน่ื ออกมำ มีสำวกคือพระ มหำกสั สปเถระนงั่ อยทู่ ำงดำ้ นพระบำทของพระพทุ ธเจำ้ และพระสำวก อ่ืนๆนง่ั นมสั กำรรอบพระบรมศพ 4. พระอฏั ฐำรส เป็นพระพทุ ธรูปยนื ปำงหำ้ มญำติดำ้ นหลงั พระวหิ ำร สูง 18 ศอก สร้ำงในสมยั เดียวกบั พระพทุ ธชินรำช รำว พ.ศ. 1800 เดิมประดิษฐำนอยใู่ นวหิ ำรใหญ่แตว่ ิหำรไดพ้ งั ไปจนหมด เหลือเพยี ง เสำที่ก่อดว้ ยศิลำแลงขนำดใหญ่ 3-4 ตน้ เรียกวำ่ “เนินวหิ ำรเกำ้ หอ้ ง”

วดั ศรีสุดต วดั ศรีสุดต ต้ังอยู่ภำยในกำแพงเมืองพิษณุโลกฝ่ัง ตะวนั ตกของแม่น้ำน่ำน และต้งั อยทู่ ำงทิศใตข้ องพระรำชวงั จนั ทน์ สิ่งก่อสร้ำงสำคญั ภำยในวดั ประกอบไปดว้ ย เจดีย์ พระประฐำนสี่เหล่ียมก่อดว้ ยอิฐ มีซุ้มจระนำประดิษฐำน พระพทุ ธรูปปำงมำรศรีวิชยั ปูนป้ันอยู่ 4 ดำ้ น ดำ้ นขำ้ งแต่ละ ซุ้มมีพระสำวกปูนป้ ั นในอิริ ยำบถประนมมือประทักษิณ โดยรอบฐำนเจดียอ์ งคเ์ จดียส์ ่วนยอดพงั จนหมด สันนิษฐำน วำ่ เดิมเป็นเจดียท์ รงระฆงั

วดั โพธ์ิทอง วดั โพธ์ิทอง ต้งั อยทู่ ิศตะวนั ตกเฉียงใตน้ อกกำแพง พระรำชวงั จนั ทน์ ประกอบดว้ ยเจดียป์ ระธำน ท่ีเหลือเพียง ส่วนฐำนเขียงสนั นิษฐำนวำ่ วดั โพธ์ิทองน่ำจะมีมำก่อน สมยั สมเดจ็ พระนเรศวรมหำรำช เจดียป์ ระธำนของวดั แห่ง น้ีแห่งน้ีเหลือร่องรอยเพยี งส่วนฐำนซ่ึงผำ่ นงำนบูรณะของ กรมศิลปำกร โดยมีเคำ้ วำ่ อำจเป็นส่วนฐำนของ เจดียท์ รง พมุ่ ขำ้ วบิณฑ์ หรือเจดียท์ รงดอกบวั ตูม

วดั นำงพญำ “วดั นำงพญำ” น้ัน สันนิษฐำนว่ำน่ำจะมำจำกชื่อของ พระวิสุทธิกษตั ริยต์ รี ซ่ึงปรำกฏ หลักฐำนว่ำทรงสถำปนำพระอำรำมแห่งน้ี ขณะดำรงพระอิสริ ยยศเป็ นแม่เมืองสองแคว วดั นำงพญำแห่งเดิมทีไม่มีพระอุโบสถ จะมีเพียงแต่พระวิหำรเป็ นอำคำรก่ออิฐถือปูนแบบทรง โรง มี 6 ห้องสถำปัตยกรรมศิลปะสมยั สุโขทยั จนกระทง่ั ในปี พ.ศ. 2515 พระครูบวร ชินรัตน์ (มว้ น) เจำ้ อำวำสวดั นำงพญำไดบ้ ูรณะพระวิหำรหลงั น้ีให้เป็ นพระอุโบสถ โดยกำรก่อสร้ำงข้ึน ใหม่หมดท้งั หลงั ภำยในวดั กม็ ีองคจ์ ำลองของ พระมหำธรรมรำชำ พระสุพรรณกลั ยำ สมเดจ็ พระนเรศวรมหำรำช และสมเดจ็ พระเอกำทศรถ https://www.youtube.com/watch?v=Sxz7VTjVSrs

วดั รำชบูรณะ ในประวตั ิวดั บนไมแ้ ผน่ ป้ำยของวดั มีควำมวำ่ “วดั รำชบูรณะเดิมไม่ปรำกฏชื่อ ก่อสร้ำงมำนำน ๑,๐๐๐ ปี เศษ ก่อนท่ีพระยำลิไทได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ ดงั น้ันวดั น้ีจึงไดช้ ่ือว่ำ “วดั รำชบูรณะ” รวมควำมยำวนำนถึง ปัจจุบนั ประมำณ ๑,000 ปี เศษ” พระยำลิไททรงสร้ำง พระพุทธชินรำช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศำสดำแลว้ ทองยงั เหลืออยจู่ ึงไดห้ ล่อพระเหลือข้ึน และทรงทอดพระเนตรเห็นวำ่ วดั น้ี ชำรุดทรุดโทรมมำก จึงไดบ้ ูรณะข้ึนมำ อีกคร้ังจึงได้ นำมวำ่ “รำชบูรณะ” โบรำณสถำนท่ียงั เหลืออยู่

วดั จนั ทร์ตะวนั ออก วดั จนั ทร์ตะวนั ออก ถึงแมจ้ ะเป็นวดั ที่สร้ำงข้ึนใหม่แต่กเ็ ป็นจุดท่ีเช่ือวำ่ พระยำจกั รี (สมเดจ็ พระพทุ ธ ยอดฟ้ำจุฬำโลกมหำรำช รัชกำลท่ี 1) เคยยกทพั และมำหยดุ พกั ท่ีวดั จนั ทนต์ ะวนั ออก วดั จนั ทร์ตะวนั ออก เคย เป็นจุดยทุ ธศำสตร์ท่ีสำคญั ของกองทพั ไทยนำ โดยพระเจำ้ ตำกสินมหำรำช ซ่ึงเป็นที่ต้งั กองทพั ของพระยำ นครสวรรคใ์ นกำรป้องกนั เมืองพิษณุโลกจำกพม่ำ ปัจจุบนั มี พระครูปริยตั ิกิจจำนุกรม เป็นเจำ้ อำวำสและเปิ ด สอนพระปริยตั ิธรรมท้งั แผนกธรรมและบำลี

วดั จนั ทร์ตะวนั ตก ประมำณปี พ.ศ. ๒๔๐๐ เดิมมีช่ือว่ำวดั รังเงิน เป็ นวดั เก่ำแก่มำกชำวบำ้ นแถบน้ำน่ำนตอนล่ำง จำกในเมือง พษิ ณุโลกส่วนใหญ่เป็นลำวอพยพมำจำกเวยี งจนั ทร์ อยหู่ ่ำงจำกแมน่ ้ำและเกิดไฟไหมท้ ำให้ เกิดแนวคิดสร้ำงวดั ริมแม่น้ำ นำยเทศและนำงทองคำมอบท่ีดินของตน ๑๖ ไร่ ๓ งำนและนิมนต์ หลวงพ่อเสือ “วดั รังเงิน” มำจำวดั และมีตน้ จนั ทร์ขนำดใหญ่ น้อยจึงต้งั ช่ือว่ำวดั จนั ทร์ (น่ำจะเป็ น ตน้ จนั ทร์ที่มีผลหอมจนั ทร์โอ,จนั ทร์แป้น) และไดว้ ิสุงคำมสีมำเม่ือ ๑๙ มีนำคม พ.ศ. ๒๔๙๐ วดั น้ีจึงได้ ชื่อวดั จนั ทร์ตะวนั ตกอยำ่ งสมบูรณ์

วดั จฬุ ำมณี เป็นโบรำณสถำนท่ีมีมำก่อนสมยั สุโขทยั แต่ไม่มีหลกั ฐำนปรำกฏว่ำใครเป็นผูส้ ร้ำงวดั จุฬำมณี วดั จุฬำมณีคงจะสร้ำงต้งั แต่เสียกรุงศรีอยธุ ยำ คร้ันถึงสมยั กรุงรัตโกสินทร์ ไดม้ ีกำรคน้ หำวดั จุฬำมณี โดยพบหลกั ฐำนสำคญั คือ ศิลำจำรึกท่ีมณฑปพระพทุ ธบำทจำลอง และส่ิงสำคญั ในวดั ซ่ึงเป็นส่ิงมีค่ำ สูงทำงศิลปะคือ ปรำงคแ์ บบขอม https://www.youtube.com/watch?v=tmrPsPV1uNA

วดั อรัญญิก เป็นวดั โบรำณสมยั กรุงสุโขทยั สร้ำงนอกกำแพงเมือง ประมำณ 1 กิโลเมตร ตำมควำมนิยม ของกำรสร้ำงวดั ในสมยั กรุงสุโขทยั ท่ีนิยมสร้ำงวดั ในป่ ำและใหช้ ่ือวำ่ “อรัญญิก” เป็นวดั เก่ำแก่ของ เมืองพิษณุโลกท่ียงั รักษำรูป แบบสถำปัตยกรรมในสมยั สุโขทยั ไวอ้ ยำ่ งดีเยยี่ ม ลกั ษณะสถำปัตยกรรม ของวดั เจดียอ์ งคป์ ระธำนเป็นทรงลงั กำ ฐำนกลม องคร์ ะฆงั เหลือคร่ึงซีกจนถึง บลั ลงั ก์ พบร่องรอย กำรบูรณะจึงมีรูปแบบผสมผสำน

จบกำรนำเสนอค่ะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook