กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สาหรบั นกั เรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖
หนงั สือส่งเสรมิ การอา่ นจับใจความสาคญั นทิ านคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาหรับนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ เล่มที่ ๔ คาวเิ ศษณ์ นางละออง เพยี รสวสั ดิ์ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ โรงเรยี นสมบูรณป์ ระชาสรรค์ สังกัดสานักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาสรุ าษฎร์ธานี เขต ๓ สงั กัดสานักงานการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ก หลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ จะต้องผ่านการประเมินการอ่านจับใจความให้ได้ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากําหนด โดยสอดคล้องกับ สาระท่ี ๑ : การอ่าน ซ่ึงนับว่ามีความสําคัญอย่างย่ิงสําหรับนักเรียน เพราะการอ่านเป็นเคร่ืองมือใน การเรียนรู้ของทุกกลุ่มสาระ ทักษะการอ่านจึงมีความ จําเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องให้เด็กๆ ฝึกอ่านท้ังอ่านออกเสียง อ่านจับใจความ รวมถึงการคิด วิเคราะห์สารที่ได้รับ แสดงความคิดเห็น นําประโยชน์จากการอ่านไปใช้ได้อย่างเหมาะสม และใช้ในการแสวงหาความรู้ต่อไป ดังน้ัน ผู้จัดทําได้สร้างหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ ทังหมด เพ่ือพัฒนาทักษะการอ่านภาษาไทย และเป็นเครื่องมือท่ีช่วยให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะ การอ่านจับใจความสําคัญ และเนื้อหาที่มีความหลากหลาย ตลอดจนมีกิจกรรมท่ีครอบคลุม ตามสาระการเรียนร้ทู ก่ี าํ หนดตามช่วงวัย ผู้จัดทํามุ่งหวังว่า หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ นี้ จะอํานวยประโยชน์แก่ผู้รักการอ่าน นักเรียน และผู้สนใจ เพื่อใช้ประกอบการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ในชั้นเรียนวิชาภาษาไทย หรือใช้ส่งเสริมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ประสทิ ธผิ ล ละออง เพยี รสวสั ดิ์
ข สําหรับหนังสือส่งเสริมการอ่านนิทานภาษาไทย ชุด ชนิดของคําและสํานวน สุภาษิตไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ จาํ นวน ๘ เลม่ ดังนี้ เลม่ ที่ ๑ คาํ นาม เล่มที่ ๒ คําสรรพนาม เล่มที่ ๓ คาํ กริยา เลม่ ท่ี ๔ คําวเิ ศษณ์ เลม่ ท่ี ๕ คําสันธาน เลม่ ท่ี ๖ คําบุพบท เลม่ ท่ี ๗ คาํ อทุ าน เลม่ ที่ ๘ คําราชาศัพท์ สําหรับหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ คือ เล่ม ๑ คํานาม ประกอบด้วย สาระสําคัญ สาระการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน นิทานคําไทย ใบความรู้ เรื่อง คําวิเศษณ์ และสํานวนสุภาษิตไทย แบบฝึกทักษะท่ี ๑ – ๘ และแบบทดสอบหลังเรยี น กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ มจี าํ นวน ๘ กิจกรรม ประกอบดว้ ยดงั น้ี กจิ กรรมที่ ๑ เติมคาํ ลงในชอ่ งว่างของสาํ นวนไทย กจิ กรรมที่ ๒ ขดี เสน้ ใตค้ าํ จากขอ้ ความทกี่ ําหนดให้ กิจกรรมท่ี ๓ หาคาํ จากประโยคที่กาํ หนดให้ และจําแนกหนา้ ทขี่ องคาํ กิจกรรมที่ ๔ การอ่านจับใจความสําคัญจากนิทานคําไทย จากน้ันเติมคําตอบ ลงในชอ่ งวา่ ง กจิ กรรมท่ี ๕ วงกลมคาํ ในกล่องปริศนาอกั ษรไขว้
ค กจิ กรรมท่ี ๖ แตง่ ประโยคโดยใช้คาํ ทก่ี าํ หนดให้ กิจกรรมท่ี ๗ เติมสาํ นวน และความหมายให้ตรงกบั ภาพทกี่ ําหนด กิจกรรมที่ ๘ เลือกสํานวนสุภาษิตไทยที่ช่ืนชอบ บอกความหมาย เปรียบเทียบ และยกตวั อย่างการใชใ้ หถ้ กู ต้อง พร้อมท้ังวาดภาพประกอบ กจิ กรรมที่ ๑ – ๘ ทั้งหมดมีการกาํ หนดการใหค้ ะแนนในภาคผนวกไว้ชดั เจน แบบทดสอบยอ่ ยกอ่ นเรยี น และแบบทดสอบย่อยหลังเรียน เร่ือง คํานาม จํานวน ๑๐ ขอ้ ข้อละ ๑ คะแนน ถ้านกั เรียนตอบถกู จะได้ ๑ คะแนน ถ้าตอบผิด หรอื ไมไ่ ด้ตอบ จะได้ ๐ คะแนน เปน็ แบบปรนยั ซง่ึ มีตวั เลอื ก ๔ ตวั เลอื ก คือ ขอ้ ก, ข, ค และ ง รวมเป็น ๑๐ คะแนนเต็ม ทั้งน้ี หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ เป็นสื่อแบบ E-Book มีลักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถสแกนผ่าน QR-Code หรือเข้าผ่านลิงค์ เว็บไซด์ เพอื่ ใชง้ านตามปกติ พร้อมกับรปู เล่มจรงิ ตามภาพ QR-Code และลิงค์ออนไลน์ที่ แนบน้ี https://pubhtml๕.com/homepage/elli QR-Code
ง ๑. ศึกษาและทําความเข้าใจคู่มือการใช้และหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความ สําคัญนิทานคําไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๖ เลม่ น้ี ให้เขา้ ใจกอ่ นนําไปใช้งาน ๒. จัดเตรียมหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ หรือ อพั เดทระบบหนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ในเว็บไซตใ์ หเ้ รียบรอ้ ยกอ่ นให้นกั เรียนเข้าเรียนรู้ ๓. แนะนําการใช้งานหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อเิ ล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สําหรบั นักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ๔. ให้นักเรียนลงมือทําแบบทดสอบก่อนเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับ ใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับ นักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ ๕. เปิดโอการสให้นักเรียนศึกษาเน้ือหา หรือหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความ สาํ คัญนทิ านคาํ ไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ดว้ ยตนเอง ตามกระบวนการเรียนรู้ที่กําหนด ๖. ให้นักเรยี นทบทวนความรู้ ความเข้าใจด้วยการทํากิจกรรมฝึกทักษะให้ครบถว้ น ๗. ให้นักเรียนลงมือทําแบบทดสอบหลังเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับ ใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับ นักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ๘. นาํ นกั เรยี นตรวจคาํ ตอบและเฉลยคาํ ตอบทง้ั หมด เพือ่ บนั ทกึ คะแนน หมายเหตุ : หนังสือส่งเสริมการอ่านนิทานภาษาไทย ชุด ชนิดของคําและสํานวน สุภาษิตไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียน ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ นี้ นักเรียนสามารถกลับมาเรียนรู้และทบทวนได้ภายหลังจากที่เรียนเสร็จแล้ว หากนักเรียน ไมเ่ ขา้ ใจหรือต้องการทบทวนเน้ือหานอกเวลาเรียน สําหรับกิจกรรมระหว่างเรียนอาจมีท้ัง แบบเดี่ยวและกลุ่ม
จ ๑. ศึกษาและทําความเข้าใจคําชี้แจงหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญ นิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เล่มน้ี ใหเ้ ข้าใจก่อนนาํ ไปใช้งาน ๒. ฟังคําแนะนําการใช้งานหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทย แบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาํ หรับนกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๓. ทําแบบทดสอบก่อนเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทาน คําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถม- ศกึ ษาปีที่ ๖ ๔. เปิดโอการสให้นักเรียนศึกษาเน้ือหา หรือหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความ สาํ คญั นทิ านคําไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้น ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ดว้ ยตนเอง ตามกระบวนการเรียนรู้ทกี่ ําหนด ๕. นักเรียนทบทวนความรู้ ความเขา้ ใจด้วยการทํากิจกรรมฝกึ ทักษะให้ครบถว้ น ๖. ทําแบบทดสอบหลังเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญ นิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถม- ศกึ ษาปีท่ี ๖ ๗. นํานกั เรียนตรวจคาํ ตอบและเฉลยคาํ ตอบทง้ั หมด เพือ่ บันทึกคะแนน หมายเหตุ : หนังสือส่งเสริมการอ่านนิทานภาษาไทย ชุด ชนิดของคําและสํานวน สุภาษิตไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ น้ี นักเรียนสามารถกลับมาเรียนรู้และทบทวนได้ภายหลังจากท่ีเรียนเสร็จแล้ว หากนักเรียน ไม่เขา้ ใจหรือต้องการทบทวนเนื้อหานอกเวลาเรียน สําหรับกิจกรรมระหว่างเรียนอาจมีท้ัง แบบเด่ยี วและกลุ่ม
ฉ ขอ้ ควรระวังและปฏิบตั กิ ่อนการดาเนนิ การสอน ๑. ศึกษาแผนการจัดการเรยี นรู้อย่างละเอยี ด ๒. เตรียมอปุ กรณ์ ส่อื การเรยี นการสอนให้เรียบร้อย ๓. ศึกษารายละเอยี ดหนังสอื ส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคญั นิทานคําไทย แบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ กอ่ นการเรียนรู้ ๔. กําหนดบทบาทสมาชิในกลุ่มทราบถงึ การปฏิบตั ิตมบทบาทต่าง ๆ โดยสมาชิก ทุกคนในกลมุ่ ต้องไดท้ ําทุกบทบาท ๕. ครผู ้สู อนช้แี จงวิธีการใช้หนงั สือส่งเสรมิ การอ่านจับใจความสําคัญนทิ านคําไทย แบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และกจิ กรรมท่ีนักเรียนต้องปฏบิ ัติ ข้อควรระวงั และปฏบิ ตั ขิ ณะดาเนินการสอน ๑. ชีแ้ จงการใช้หนังสือสง่ เสริมการอ่านจบั ใจความสําคญั นทิ านคําไทยแบบ อิเลก็ ทรอนิกส์ให้นักเรยี นทุกคนทราบ ๒.ดาํ เนนิ กิจกรมตามแผนการจดั การเรียนรู้ เพ่อื ใหส้ อดคล้องกบั จุดประสงค์ การเรียนรู้ เน้ือหาและเวลาทก่ี าํ หนด ๓. ครูผู้สอนตอ้ งให้คาํ แนะนําและคอยดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชดิ ๔. ใหน้ ักเรยี นเรียนรจู้ ากหนังสือส่งเสรมิ การอ่านจบั ใจความสําคัญนิทานคาํ ไทย แบบอิเล็กทรอนกิ ส์ตามขน้ั ตอนอยา่ งเคร่งครัดและมคี วามซอื่ สตั ย์ตอ่ ตนเอง ๕. ตรวจสอบการทํางานของนกั เรียนและสรปุ บทเรียนร่วมกันนักเรยี น ขอ้ ควรระวงั และปฏบิ ัตเิ มือ่ ดาเนินการสอนสิ้นสุด ๑. ครูผู้สอนให้นกั เรียนทําแบบทดสอบหลังเรยี น ๒. ตรวจผลงานจากการทําแบบทดสอบและกจิ กรรมระหวา่ งเรียน ๓. ถ้านักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ท่ีระบุไว้ ครูควรให้นกั เรียนศึกษาและทบทวนเนือ้ หา ใหมอ่ ีกครั้งแล้วทําแบบทดสอบหลังเรียนใหผ้ ่านเกณฑ์ทกี่ ําหนดไว้
ช มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ช้ีวัด ๑. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง (ท ๑.๑ ป.๖/๑) ๒. อธิบายความหมายของคาํ ประโยค และสํานวนจากเร่ืองทอี่ ่าน (ท ๑.๑ ป.๖/๒) ๓. อ่านเรื่องสั้น ๆ ตามเวลาท่ีกาํ หนดและตอบคําถามจากเรื่องท่อี ่าน (ท ๑.๑ ป.๖/๓) ๔. สรปุ ความรู้และข้อคดิ จากเรือ่ งท่อี ่านเพื่อนําไปใช้ในชวี ติ ประจําวัน (ท ๒.๑ ป.๖/๖) ๕. ระบชุ นดิ และหนา้ ท่ขี องคําในประโยค (ท ๔.๑ ป.๖/๒) ๖. ใชพ้ จนานกุ รมคน้ หาความหมายของคาํ (ท ๔.๑ ป.๖/๓) ๗. แตง่ ประโยคไดถ้ กู ต้องตามหลกั ภาษา (ท ๔.๑ ป.๖/๔) ๘. แตง่ บทรอ้ ยกรองและคาํ ขวญั (ท ๔.๑ ป.๖/๕) ๙. บอกความหมายของสํานวน (ท ๔.๑ ป.๖/๖) สาระสาคญั คาวิเศษณ์ เป็นคําท่ีใช้ขยายคําอ่ืน เป็นการเพิ่มความหมายขึ้น เช่น บอกลักษณะ คุณภาพ ปริมาณ จํานวน เวลา สถานท่ี เช่น คําวิเศษณ์ขยายคํานาม ตึกใหญ่อยู่ปลาย เนิน / ผักสดอยู่ในตะกร้า / บ้านสามหลังสีเขียว / คําวิเศษณ์ขยายคําสรรพนาม เขาเอง บอกกบั ฉนั / ใครหนอเอาหนงั สือไป เป็นต้น ตัวอย่าง ความหมายสํานวนสุภาษิตไทย และการวิเคราะห์ เปรียบเทียบสํานวน ที่เปน็ คําพงั เพยและสุภาษติ ไทย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สามารถบอกความหมาย และประเภทของคําวิเศษณ์ และสาํ นวนสภุ าษติ ไทยได้ (K) ๒. สามารถจําแนกชนดิ ของคําวิเศษณ์ได้ (K)
ซ ๓. สามารถอธิบายหน้าทขี่ องคาํ วิเศษณไ์ ด้ (K) ๔. สามารถเลอื กใช้สํานวนสุภาษติ ไทยได้ถกู ตอ้ ง (P) ๕. สามารถเลือกใชค้ าํ วิเศษณไ์ ดถ้ ูกต้อง (P) ๖. สามารถวิเคราะห์ เปรียบเทียบสํานวนท่ีเป็นคาํ พังเพยและสุภาษิตไทยได้ (P) ๗. สามารถแต่งประโยคโดยใชค้ ําวิเศษณ์ และสํานวนสุภาษิตไทยทีก่ าํ หนดให้ได้ (P) ๘. ทาํ งานท่ีได้รับมอบหมาย สาระการเรียนรู้ ๑. ความหมายของคําวิเศษณ์ ๒. ประเภทของคําวิเศษณ์ ๓. หน้าทีข่ องคําวิเศษณ์ ๔. ลกั ษณะการใชค้ าํ วิเศษณ์แต่ละประเภท ๕. การแตง่ ประโยคจากคําวิเศษณ์ ๖. สํานวนสุภาษติ ไทย คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. ซื่อสัตยส์ จุ รติ ๓. มีวินัย ๔. ใฝเ่ รียนรู้ ๕. อย่อู ย่างพอเพยี ง ๖. ม่งุ มั่นในการทํางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจติ สาธารณะ สมรรถนะสาคัญ ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคิด
ฌ ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ภาระและช้นิ งาน ๑. หนังสอื สง่ เสริมการอ่านจบั ใจความสําคัญนิทานคาํ ไทยแบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรบั นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กิจกรรมท่ี ๑ เติมคําลงในช่องว่างของสาํ นวนไทย กจิ กรรมท่ี ๒ ขีดเส้นใตค้ าํ จากข้อความที่กําหนดให้ กจิ กรรมท่ี ๓ หาคําจากประโยคที่กาํ หนดให้ และจําแนกหน้าที่ของคาํ กิจกรรมท่ี ๔ การอ่านจับใจความสําคัญจากนิทานคําไทย จากน้ันเติมคําตอบ ลงในช่องว่าง กจิ กรรมที่ ๕ วงกลมคาํ ในกล่องปรศิ นาอกั ษรไขว้ กจิ กรรมที่ ๖ แต่งประโยคโดยใช้คําทกี่ าํ หนดให้ กิจกรรมท่ี ๗ เตมิ สํานวน และความหมายใหต้ รงกับภาพท่ีกําหนด กิจกรรมท่ี ๘ เลือกสํานวนสุภาษิตไทยที่ชื่นชอบ บอกความหมาย เปรียบเทียบ และยกตวั อยา่ งการใชใ้ หถ้ กู ตอ้ ง พร้อมทง้ั วาดภาพประกอบ ๒. แบบทดสอบยอ่ ยก่อนเรยี นและหลังเรียน เรื่อง คําวเิ ศษณ์
ญ ปกใน หน้า คํานาํ ก คาํ ช้แี จง ข หนงั สอื สง่ เสรมิ การอ่านนิทานภาษาไทย ชดุ ชนิดของคาํ และสํานวนสุภาษติ ไทย ค กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย สาํ หรบั นกั เรียน ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ สารบญั จ เล่มท่ี ๔ คําวเิ ศษณ์ ซ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ๑ นิทานสง่ เสริมคําวิเศษณ์ ๒ ใบความรู้ เร่อื ง คําวเิ ศษณ์ ๕ สาํ นวนสภุ าษิตไทย ๑๒ กจิ กรรมฝึกทกั ษะ ๑๔ ๒๑ กิจกรรมท่ี ๑ ๒๒ กจิ กรรมที่ ๒ ๒๓ กจิ กรรมท่ี ๓ ๒๔ กจิ กรรมที่ ๔ ๒๕ กจิ กรรมท่ี ๕ ๒๖ กจิ กรรมที่ ๖ ๒๘ กิจกรรมที่ ๗ ๒๙ กจิ กรรมที่ ๘ ๓๑
แบบทดสอบหลังเรยี น ฎ ภาคผนวก หน้า เฉลยกจิ กรรมที่ ๑ ๓๓ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๒ ๓๖ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๓ ๓๗ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๔ ๓๘ เฉลยกิจกรรมท่ี ๕ ๓๙ เฉลยกจิ กรรมที่ ๖ ๔๐ เฉลยกิจกรรมท่ี ๗ ๔๑ เฉลยกจิ กรรมที่ ๘ ๔๒ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น ๔๓ บรรณานุกรม ๔๕ ประวตั ิยอ่ ผู้จัดทาํ ๔๖ ๔๗ ๔๘
๑
๒ แบบทดสอบก่อนเรียน หนังสือส่งเสริมการอา่ นจับใจความสาคญั นทิ านคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ เล่มท่ี ๔ คาวเิ ศษณ์ คาชี้แจง ให้นักเรียนทําเครอ่ื งหมาย () กากบาททับหน้าคําตอบขอ้ ทีถ่ กู ต้องท่สี ุด ๑. “นกั รอ้ งคนสวยรอ้ งเพลงไพเราะมากทสี่ ุด” คําวิเศษณ์ในข้อใดขยายนาม ก. สวย ข. ไพเราะ ค. มาก ง. ทส่ี ดุ ๒. คาํ ว่า “หอม” ในขอ้ ใดเป็นคําวิเศษณ์ ก. แม่หอมแก้มน้อง ข. ตม้ ยาํ ต้องใส่หวั หอมด้วย ค. ต้นหอมเปน็ พืชผักสวนครัว ง. ดอกกุหลาบมีกลนิ่ หอมมาก ๓. คําวิเศษณ์ในข้อใดมีความหมายตรงกันขา้ ม ก. ใกล้ ไกล ข. ใหม่ สด ค. งาม สวย ง. ใกล้ ชดิ ๔. ขอ้ ใด มีคําวเิ ศษณข์ ยายวเิ ศษณ์ ก. คนแก่เดินช้า ข. กระตา่ ยวง่ิ เรว็ ค. คณุ แมท่ ําอาหารเกง่ มาก ง. ลกู คา้ ซ้อื ของกนั อย่างชุลมนุ
๓ ๕. “โปรดอย่าสง่ เสยี งดัง________โวยวายเดยี๋ วผอู้ ่ืนแตกตนื่ ” ควรเติมคาํ ในข้อใด ก. เกะกะ ข. เอะอะ ค. เบะบะ ง. เงอะงะ ๖. ประโยคในข้อใดไม่มคี าํ วเิ ศษณ์ ก. ฉันชอบกินไข่เจยี วร้อนๆ ข. น้อง ยหิ วาคิดเลขเกง่ มากๆ ค. พน่ี าวนิ เตะฟุตบอล ง. หมเู่ กาะสิมลิ นั มธี รรมชาติทสี่ วยงาม ๗. ข้อใดมคี ําวิเศษณบ์ อกกาลเวลา ก. เขามาโรงเรียนสาย ข. คุณแมท่ ําแกงสายบัว ค. น้าสายใจเป็นคนสวย ง. สายวดั เสน้ นี้เกา่ มากแล้ว ๘. ขอ้ ใด คอื ความหมายเปรียบเทยี บสุภาษิตไทยว่า “ย้อมแมว” ก. การสอนจระเขใ้ หว้ ่ายนํ้า ซงึ่ มนุษย์ไมม่ ีทางทจ่ี ะว่ายนํา้ ไดเ้ ก่งกวา่ จระเข้ ข. พอ่ คา้ หลายคนอุปถัมภค์ า้ํ ชู ก็ยังเทียบไม่ได้กับคนทีร่ ับราชการตาํ แหน่งใหญ่โต ค. การราํ ในสมยั ก่อน รําตามจังหวะป่ี จังหวะกลอง แต่นางราํ ร่ายรําไม่ตรงจงั หวะ จงึ โทษปห่ี รอื กลองนัน้ ตีผิดจังหวะ ง. คนในสมัยโบราณทีช่ อบเลี้ยงแมว และแต่งขนแมวดว้ ยสขี มิ้นเหลอื ง หรือสีปูน แดงเพื่อใหแ้ มวมสี ีสันตา่ งๆ
๔ ๙. ขอ้ ใด คือ ความหมายสุภาษิตไทยวา่ “รีดเลือดกับปู” ก. การบังคับขเู่ ข็ญเพอ่ื เอาผลประโยชนก์ ับผู้ท่ไี ม่มีความสามารถที่จะใหส้ งิ่ ท่ีต้องการได้ ข. คนที่ทําอะไรไม่จริงจงั ไม่ตง้ั ใจทาํ ใหถ้ งึ ท่ีสุด หรือเจออปุ สรรคนดิ หนอ่ ยกล็ ้มเลกิ และยอมแพง้ ่ายๆ ค. พ่อคา้ หลายคนอปุ ถัมภ์คํา้ ชู กย็ ังเทยี บไมไ่ ด้กบั คนทรี่ ับราชการตาํ แหนง่ ใหญ่โต เพียงคนเดียวที่เล้ียงดู ง. ตนเองทาํ ผิดแต่กลับไปโทษผอู้ ืน่ วา่ เป็นสาเหตุทที่ ําให้เกิดขอ้ ผิดพลาดข้ึน ทงั้ ๆ ที่ผู้อื่นนัน้ ไม่ไดเ้ ก่ียวขอ้ งในความผิดพลาดนั้นเลย ๑๐. ขอ้ ใด คอื ความหมายสภุ าษติ ไทยวา่ “สอนจระเข้ว่ายนํ้า” ก. การช้ีทางหรือสอนให้คนท่เี ก่ง หรือชํานาญเรอื่ งน้ันๆ อยูแ่ ลว้ ข. พอ่ คา้ หลายคนอปุ ถมั ภค์ ้ําชู กย็ ังเทียบไมไ่ ดก้ บั คนท่ีรับราชการตําแหนง่ ใหญ่โต ค. การรําในสมัยก่อน รําตามจังหวะป่ี จังหวะกลอง แต่นางราํ ร่ายรําไม่ตรงจงั หวะ จงึ โทษป่ีหรือกลองนน้ั ตผี ดิ จงั หวะ ง. การบงั คับขู่เข็ญเพอื่ เอาผลประโยชนก์ บั ผูท้ ีไ่ มม่ ีความสามารถทีจ่ ะใหส้ ง่ิ ที่ตอ้ งการได้ ขอใหโ้ ชคดีทกุ คนนะ คะแนนเตม็ คะแนนทไี่ ด้ เกณฑ์การประเมนิ ๑๐ __________ ๘
๕
๖ เชา้ ท่ีเรง่ ดว่ นวันหน่ึงฮะเกา๋ ต้องเรง่ รีบไป โรงเรยี น เพราะเขาตืน่ สายไม่ทนั รถรบั สง่ โรงเรียน ทข่ี ้นึ เปน็ ประจํา “ตายแล้ว!!!.... จะทันม้ยั เน้ียะเรา” ฮะเก๋าวงิ่ ไปบ่นไป เมือ่ มาถึงหนา้ โรงเรียนฮะเกา๋ เหน็ เพอื่ นๆ ท่ีมพี อ่ แมห่ รือผู้ปกครองมาสง่ ฮะเกา๋ รู้สกึ อิจฉา พวกเขาเหล่าน้นั พอฮะเก๋าหันไปเหน็ รนุ่ พ่คี นหน่ึง ทพี่ อ่ ของเขามาส่ง พ่อเขานน้ั เป็นทหาร แต่ชดุ เคร่ืองแบบทหารได้ดสู งา่ ผ่าเผยมาก ในสายตา ของฮะเก๋ารสู้ ึกว่า การเป็นทหารดูเท่หม์ ากเปน็ พเิ ศษ สายตาของฮะเกา๋ เอาแตม่ องตามพอ่ ของ รนุ่ พีค่ นนัน้ ไมห่ า่ ง จงึ เดินสะดดุ ขัน้ บันไดล้มลงไป พอ่ ของร่นุ พที่ ีเ่ ปน็ ทหารจึงเขามาชว่ ยพยุง “เปน็ อะไรมากม้ัยพอ่ หนมุ่ ”ฮะเก๋างง...... และ ตอบไปวา่ “เออ... คือผมไม่เปน็ ไรครับขอบคุณ ครบั ผม” แต่พอฮะเก๋าลุกข้ึนก็รสู้ ึกเจบ็ ที่ข้อเท้า อยา่ งมาก พ่อของรนุ่ พี่ “สงสัยจะขาแพงไปหอ้ งพยาบาลก่อนดีกว่าไป” พอสน้ิ เสยี งพดู พอ่ ของรนุ่ พี่กอ็ ุ้มฮะเก๋าข้นึ ไปส่งทหี่ อ้ งพยาบาล”
๗ ฮะเก๋ามาถึงหอ้ งพยาบาล จึงรีบพดู ขอบคุณ พอ่ ของรนุ่ พ่ีอย่างทันที เจ้าหนา้ ทต่ี ่างรบี ช่วยเหลอื ปฐมพยาบาลเบื้องตน้ ใหฮ้ ะเกา๋ ทนั ที ระหว่างนั้นพอ่ ของรุ่นพี่ก็เดนิ จากไป ฮะเกา๋ มองตามหลังอยา่ งไมล่ ะสายตาดว้ ย ความปลืม้ เหตกุ ารณน์ ีท้ ําใหฮ้ ะเก๋ายิ่งร้สู กึ ชอบ อาชีพทหารเป็นอยา่ งมาก เพราะทหารมีความ แข็งแรงและอดทน ขนาดฮะเก๋าตัวใหญก่ ็ยงั สามารถอุ้มไดส้ บายๆ หลงั จากที่ฮะเกา๋ อาการเจ็บขาดีขนึ้ จึงกลับ ไปทห่ี อ้ งเรียนเพอ่ื เรียนตามปกติ เม่ือถงึ ช่ัวโมงเรยี น วิชาแนะแนว อาจารย์ให้นักเรียนทุกคนเขียน เรยี งความหวั ขอ้ “อาชพี ในฝนั ” ของนกั เรยี นแตล่ ะ คนเพื่อนําไปพรีเซ้นทท์ ่หี น้าห้องใหเ้ พื่อนๆ และ อาจารย์ฟัง ฮะเก๋าไม่ลงั เลท่จี ะเขียนเรียงความเกี่ยวกบั อาชีพท่เี ขาชนื่ ชอบและร้สู ึกปลม้ื มากน้ันคอื “ทหาร” ฮะเกา๋ เขียนบรรยายความร้สู กึ ท่มี ีต่อ อาชพี ทหาร และเปรียบเทียบหนา้ ที่ทหารทุก หมเู่ หล่า ตา่ งมคี วามสําคัญดว้ ยกนั ทง้ั สนิ้
๘ เพราะทหารต่างมีทําหน้าทอ่ี ันยิ่งใหญ่ คอยเป็นรว้ั ของชาติบา้ นเมือง คอยดแู ลและ ปกป้องประชาชนเวลามีศึกสงคราม หรอื ภัย ก่อการรา้ ยตา่ งๆ เป็นตน้ ทหารเป็นผู้เสยี สละ และเปน็ ผูใ้ หญ่ ท่ียงิ่ ใหญ่ มุ่งม่นั ในงานท่ีทํา เพือ่ ประชาชน สงั คม และประเทศชาติ ทหารยังคอยใหค้ วามช่วยเหลอื ประชาชน เวลาประสบเคราะหภ์ ยั ธรรมชาติท้ังน้ําทว่ ม โคลน ถล่ม และแผ่นดินไหวอกี ดว้ ย นอกจากนฮ้ี ะเกา๋ ยัง ได้เล่าถึงเหตุการณ์ท่ีประทับใจ และซ้งึ ใจในความ มนี า้ํ ใจของทหารท่ีเกดิ ขนึ้ กบั ตัวเขาให้ทุกคนฟังอีก ดว้ ย น้จี ึงเป็นเพียงความประทบั ใจบางสว่ นของฮะ เก๋าเทา่ น้นั ที่ได้นาํ เสนอ ฮะเก๋าด้วยความชนื่ ชอบกับอาชพี ทหาร ตง้ั แตเ่ ขายงั เป็นเดก็ ๆ จนโตเป็นหน่มุ จนถึงทกุ วันน้ี เขาจงึ พรีเซน้ ท์ในวนั นไ้ี ด้น่าประทับใจและ สนุก เพ่ือนๆ และอาจารย์จงึ ชมเชยฮะเกา๋ กันใหญ่ ฮะเก๋าไดย้ นิ จึงรูส้ กึ ดใี จมาก ทําให้ฮะเกา๋ ภาคภมู ิใจและตั้งใจแน่แนว่ แลว้ ว่าเขาจะตอ้ งเป็น ทหารให้ได้ และจะตั้งใจใฝ่รใู้ ฝ่เรยี นให้สําเร็จ เพอื่ จะได้เปน็ ทหารรับใช้ชาติบ้านเมอื งประเทศไทยของเขา
๙ ใบความรู้ เร่ือง คาวเิ ศษณ์ ๑. ความหมายของคาวเิ ศษณ์ คําวเิ ศษณ์ คอื คําที่ใชข้ ยายคําอนื่ ๆ เปน็ การเพ่ิมความหมายข้นึ เช่น บอกลกั ษณะ บอกเวลา บอกสถานท่ี บอกปริมาณ ๒. ประเภทของคาวิเศษณ์ ๑. ลกั ษณวเิ ศษณ์ คือ คาํ วิเศษณบ์ อกลกั ษณะ ๒. กาลวเิ ศษณ์ คอื คําวิเศษณ์บอกเวลา ๓. สถานวิเศษณ์ คอื คาํ วิเศษณ์บอกสถานที่ ๔. ประมาณวิเศษณ์ คอื คําวเิ ศษณ์บอกปรมิ าณ หรอื จํานวน ๕. นยิ มวิเศษณ์ คือ คําวเิ ศษณบ์ อกความชเ้ี ฉพาะ ๖. อนยิ มวิเศษณ์ คือ คําวิเศษณ์บอกความไม่ชีเ้ ฉพาะ ๗. ปฤจฉาวิเศษณ์ คือ คาํ วิเศษณแ์ สดงคาํ ถาม ๘. ประติชญาวเิ ศษณ์ คือ คาํ วเิ ศษณ์แสดงคําขาน และรบั ๙. ประตเิ สธวิเศษณ์ คอื คําวเิ ศษณ์แสดงปฏเิ สธ ๓. หนา้ ที่ของคาวิเศษณ์ ๑. ลักษณวิเศษณ์ คือ คําวิเศษณท์ ่ีประกอบคาํ อนื่ เพ่ือบอกชนดิ ขนาด สัณฐาน สี เสยี ง รส สัมผัส อาการ ๒. กาลวิเศษณ์ คือ คาํ วิเศษณท์ ี่ใชป้ ระกอบคําอ่นื เพอ่ื บอกเวลา เชน่ เชา้ สาย บา่ ย เยน็ เทีย่ ง โบราณ เด๋ียวน้ี ๓. สถานวิเศษณ์ คอื คาํ วิเศษณท์ ่ีใช้ประกอบคาํ อื่น เพื่อบอกสถานท่ี เช่น บน ล่าง หา่ ง ไกล ใกล้ เหนอื ใต้
๑๐ ๔. ประมาณวิเศษณ์ คือ คาํ วเิ ศษณ์ที่ใช้ประกอบคําอน่ื เพอื่ บอกปรมิ าณ จํานวน แบ่งแยก หรือจํานวนนับ เชน่ ทง้ั หมด ท้ังหลาย หนึ่ง ท่หี น่ึง บ้าง เยอะแยะ นอ้ ย ๕. นิยมวเิ ศษณ์ คอื คําวิเศษณท์ ีใ่ ชป้ ระกอบคําอน่ื เพอ่ื บอกความแนน่ อนชดั เจน เชน่ นี่ น่ัน นนั้ โน่น โน้น ท้งั นี้ อย่างนนั้ ทีเดยี ว ๖. อนิยมวิเศษณ์ คือ คําวิเศษณท์ ีใ่ ช้ประกอบคาํ อ่ืน โดยไมบ่ อกกาํ หนดแนน่ อน ลงไป เช่น ไหน อะไร ใด ฉันใด เช่นไร อ่ืน ๗. ปฤจฉาวเิ ศษณ์ คอื วิเศษณท์ ใี่ ช้ประกอบคําอื่นเป็นคําถาม เช่น ไหน อะไร หรือ ฉันใด เช่นไร อยา่ งไร ทําไม เทา่ ไร ๘. ประตชิ ญาวิเศษณ์ คือ คาํ วิเศษณ์ทีใ่ ช้ประกอบคําพดู เช่น จะ๊ จ๋า คะ คะ่ ครบั โว้ย ๙. ประติเสธวเิ ศษณ์ คือ คําวเิ ศษณ์ที่บอกความหา้ มหรอื ไม่รบั รอง เช่น ไม่ อยา่ มใิ ช่ หามไิ ด้ มไิ ด้ ๔. ลักษณะการใช้คาวเิ ศษณ์แต่ละประเภท ๑. ลักษณวิเศษณ์ บอกชนดิ ดี เลว ออ่ น แก่ หนมุ่ สาว ไทย จีน ฝร่ัง บอกขนาด ใหญ่ เลก็ กว้าง ยาว ย่อม จว๋ิ บอกสณั ฐาน กลม รี แป้น สีเ่ หล่ียม สามเหล่ียม ปอ่ ง แฟบ บอกสี ดาํ แดง เขียว ขาว เหลือง ม่วง แสด ชมพู บอกเสียง ดงั เบา เพราะ เสนาะ เครือ แผ่ว แหบ ตํา่ บอกรส เปรย้ี ว เคม็ เผด็ ขม จดื หวาน มัน ขนื่ บอกสัมผัส ร้อน เยน็ ออ่ น นุม่ สาก ละเอียด บาง หนา บอกอาการ เรว็ ช้า เฉือ่ ย ว่องไว เข้มแขง็ ปราดเปรียว ตวั อยา่ ง วัยร่นุ ชอบขบั รถเร็ว (บอกอาการ) มะม่วงแกว้ มรี สเปรยี้ ว (บอกรส)
๑๑ ๒. กาลวิเศษณ์ นักเรียนต้งั ใจเรยี น - เขามาสาย นะ - เขาเป็นคนโบราณ - เวลาเช้า - นอนตืน่ สาย ๓. สถานวิเศษณ์ - บ้านของเขาอยใู่ กล้ - น่งั ขา้ งบน - เมืองเหนอื ๔. ประมาณวเิ ศษณ์ - แมว ๓ ตัว - ลูกคนทห่ี น่ึง - คนมาก - คนทง้ั หมด - บางคน ๕. นิยมวเิ ศษณ์ - เดก็ คนน้ัน - ภเู ขาเบ้อื งหน้าโน้น - เขาแหละเปน็ ตวั การ - เขาทําเชน่ นี้ ๖. อนิยมวิเศษณ์ - คนอ่ืนเขาตนื่ แล้ว - สิ่งใดไมส่ าํ คญั เท่าความดี - เธอจะเลอื กของขวัญช้นิ ไหนกไ็ ด้
๑๒ ๗. ปฤจฉาวิเศษณ์ - เขามาเม่อื ไร - หัวเราะทําไม - คนไหนพูด – ของนร้ี าคาเท่าไร ๘. ประตชิ ญาวิเศษณ์ - เชิญซคิ ะ - สวัสดจี ะ้ - มาแล้วขอรบั – คณุ พอ่ ขา ๙. ประตเิ สธวเิ ศษณ์ - ส่งิ น้ไี มใ่ ช่ของฉัน - ฉันจะไปกบั เขากใ็ ช่ที่ - เธออยา่ ไปกบั เขานะ ๕. ตัวอยา่ งการแตง่ ประโยคจากคาวิเศษณ์ ๑. เดก็ คนนั้น ๒. ภเู ขาเบ้อื งหนาโน้น ๓. เขาแหละเปน็ ตัวการ ๔. เขาทําเชน่ น้ี ๕. คนอ่ืนเขาตืน่ แลว ๖. สิ่งใด ไม่สําคญั เท่าความดี ๗. เธอจะเลือกของขวัญชิ้นไหนก็ได ๘. เขามาเม่ือไร ๙. หัวเราะทําไม ๑๐. คนไหนพดู
๑๓ สภุ าษิต หมายถึง คําพดู ที่พดู ออกมาเปน็ ทํานอง สํานวน โวหาร หรือคําพังเพย โดยมีเนื้อความ หรือความหมายทดี่ ีใช้เป็นคาํ ตักเตือนสงั่ สอน และสะกิดใจให้ระลกึ ถงึ และ ถกู หยิบยกมาเป็นตัวอย่างในการอบรมสัง่ สอนลกู หลานหรือผทู้ ี่มีอายุนอ้ ยกวา่ สานวน หมายถงึ ถ้อยคําทีเ่ รียบเรียงเปน็ ข้อความหรือคาํ พดู ทเ่ี ป็นช้นั เชงิ ทีม่ ี ลักษณะเฉพาะตัวมีความหมายเป็นนัยแฝงอยู่เป็นความหมายในเชงิ อุปมาเปรยี บเทียบ ใช้คําท่ไี พเราะคมคายสละสลวยตอ้ งอาศัยการตีความจงึ จะเข้าใจ คาพังเพย หมายถงึ ถ้อยคําทีม่ ีลักษณะเดียวกับสาํ นวนแตกตา่ งจากสํานวนตรง ท่ีมีจุดหมายเชิงสง่ั สอนแต่เป็นในทํานองเสียดสปี ระชดประชันส่วนมากมีลักษณะเป็นข้อคิด และมีความหมายลึกซ้ึงเนื้อความทส่ี ง่ั สอนน้นั ไม่ได้เปน็ ความจรงิ ความหมาย : นําของที่มตี ําหนิ หรอื มีค่านอ้ ยมา ตกแตง่ ปรบั ปรงุ ใหมใ่ ห้ดดู ีกว่าเดมิ และนําไปหลอกลวงให้ ผ้อู นื่ คิดวา่ เปน็ ของดีมคี ณุ ค่า เปรยี บเทยี บ : เปรียบเปรยถึงคนในสมัยโบราณ ทช่ี อบเลี้ยงแมว และนยิ มแตง่ ขนแมวดว้ ยสขี มน้ิ เหลือง หรือ สีปนู แดงเพื่อให้แมวมสี ีสนั ตา่ งๆ ตัวอยา่ งการใช้สุภาษติ : นสิ าได้ไปซ้อื มอื ถือใหมจ่ าก ร้านค้าแหง่ หน่งึ ด้วยความดีใจ นสิ าจงึ เอามอื ถือน้ัน ไปโชวส์ ุดาเพ่ือนสนิททันที นสิ า : “นี่ สดุ า เราเพิ่งซอ้ื มือถือมาใหม่ สวยไหม” สุดา : “สวยมากๆ นิสา เธอซอื้ มาจากไหน ของแทร้ เึ ปล่าจะ๊ ” นิสา : “เจา้ ของร้านเขาบอกว่า ของแท้ ๑๐๐% จา้ ” สุดา : “ไหน เราขอดูใกล้ๆ หน่อยนะ เอ๊ะ น่ีมันมีรอยขดี ขว่ นดา้ นหลังเครอื่ งน่ีจ๊ะ แล้วเขาเอาสตก๊ิ เกอร์มาปิดทับไว้ดูสิ” นสิ า : “โอ้ นเี่ ราโดนเจา้ ของรา้ นเอามือถือเกา่ มาย้อมแมวขายเหรอน่ี งัน้ เราเอาไป เปล่ยี นคืนทรี่ ้านก่อนนะ สุดาขอบใจเธอมากๆ ที่ช่วยดใู หเ้ รานะ”
๑๔ ความหมาย : การช้ที างหรือสอนใหค้ นท่ีเก่ง หรือชํานาญเรื่องนัน้ ๆ อย่แู ลว้ เปรียบเทียบ : เปรยี บเปรยถึงการสอนจระเขใ้ ห้วา่ ยน้ํา ซึง่ มนษุ ย์ไมม่ ที างทีจ่ ะว่าย นา้ํ ไดเ้ กง่ กว่าจระเข้ ตวั อยา่ งการใชส้ ภุ าษติ : คณุ พ่อกับลกู สาวกําลงั พูดคุยกัน เร่อื ง การทําพัดจาก ใบลาน เพ่ือนําไป ส่งครูที่สอนวชิ าการงานและอาชีพ ซงึ่ ลูกสาวพยายามจะทาํ แล้วแต่ ยงั ไม่สวย และยังไม่พอใจในผลงานของตัวเองเท่าไหรน่ กั คุณพ่อ : “ไหนดชู ิ ลูกกําลงั จะทําอะไรรึ” ลกู สาว : “กําลงั พยายามทําพดั จากใบลานค่ะคณุ พ่อ แตท่ าํ แล้วยงั ไม่ค่อยสวย เทา่ ไหร่คะ่ ” คุณพ่อ : “เอามาใหพ้ อ่ ดชู ิ เผื่อพ่อจะชว่ ยได้” ลูกสาว : “คุณพ่อทําเปน็ เหรอคะ มาหนจู ะบอกวิธกี ารทําก่อนนะคะ คุณพอ่ จะได้ ทําใหถ้ กู ขั้นตอน” คณุ พ่อ : “ไม่ตอ้ งมาสอนจระเข้ให้วา่ ยน้ําเลย สมัยที่ยังเป็นนกั เวียน พอ่ เป็นแชมป์ ทาํ พัดจากใบลานเชียว” ลูกสาว : “จรงิ เหรอคะคณุ พ่อ หนไู มเ่ คยรู้เรอื่ งนม้ี าก่อนเลยหนตู ้องขอโทษคุณพ่อ ดว้ ยนะคะ่ ที่วา่ คุณพอ่ ก่อนหนา้ นี้คะ่ ” คณุ พอ่ : “ไมเ่ ป็นไรหรอกลกู พ่อไม่ถอื โทษลกู นะ”
๑๕ ความหมาย : ตนเองทาํ ผิดแต่กลับไปโทษผอู้ ื่นว่าเป็นสาเหตทุ ่ีทาํ ให้เกดิ ข้อผิดพลาดขน้ึ ทัง้ ๆ ทีผ่ ู้อื่นนน้ั ไม่ไดเ้ กย่ี วข้องในความผิดพลาดน้นั เลย เปรยี บเทยี บ : เปรยี บเปรยถงึ การรําในสมัยก่อน ทตี่ ้องราํ ตามจงั หวะป่ี จังหวะกลอง แตน่ างราํ นางหนงึ่ ร่ายรําไม่ตรงจงั หวะเอง จงึ โทษว่าปี่หรอื กลองนัน้ ตีผิดจงั หวะ ตวั อย่างการใชส้ ภุ าษติ : น้องณดา นักเรียนชัน้ ป.๓ ได้รบั มอบหมายจากคุณครู ประจาํ ชัน้ ใหม้ าหดั คัดลายมือเพื่อไปสง่ เปน็ การบ้าน ขณะท่ีกําลงั คัดลายมืออยู่น้นั ดนิ สอ เกิดหกั เหลาเท่าไหร่ เมื่อนํามาเขียนกย็ ังหัก ณดาจึงหยุดคัดไทย แลว้ ไปนง่ั ดูทีวีแทนคุณ แม่เดินมา เหน็ จึงเข้ามาถาม คุณแม่ : อ้าว ณดา ทาํ ไมไม่หดั คัดลายมือตอ่ ละ่ ลูก นอ้ งณดา : ก็ดนิ สอไม่ดนี ค่ี ะ่ คณุ แม่ ณดาเขียนเมื่อไหร่ ก็ยังหกั เหมอื นเดมิ คุณแม่ : ลูกจา๋ หนูมีดินสอตั้งหลายแทง่ ทําไมไ่ มเ่ อาแท่งใหมม่ าเขียนล่ะลูก คณุ พ่อท่เี ดนิ เข้ามาสมทบจึงแกล้งพดู กบั คุณแม่ว่า “ทา่ ทางจะรําไม่ดโี ทษปโี่ ทษ กลองแลว้ มัง้ แม่” นอ้ งณดา : ราํ ไม่ดโี ทษป่โี ทษกลอง หมายถงึ อะไรเหรอคะคุณพ่อ คุณพอ่ : กห็ มายถงึ หนณู ดาของพอ่ อยากดทู วี ี แลว้ กข็ ี้เกียจคดั ลายมือ เลยไปโทษ ว่าดนิ สอไมด่ ี แล้วหยุดเขยี นมาน่งั ดทู ีวีซะเลยนะสิลูก
๑๖ ความหมาย : พ่อคา้ หลายคนอุปถมั ภ์ค้าํ ชู กย็ งั เทียบไมไ่ ดก้ บั คนทร่ี ับราชการ ตาํ แหน่งใหญโ่ ตเพยี งคนเดียวที่เลย้ี งดู เปรียบเทียบ : ในสมยั โบราณการรบั ราชการ เปน็ ขุนนางนน้ั ถือเป็นสิ่งท่ีดงี ามและหลายๆ คนอยาก เป็น เพราะมีความมั่นคงและมีเงินเดอื นทแ่ี นน่ อน โดยเฉพาะเมอ่ื มตี าํ แหน่งใหญ่โต กจ็ ะมีอาํ นาจบารมี ตามมาด้วย แตพ่ อ่ ค้าคนไทยสมยั กอ่ นนนั้ หากค้าขาย ไม่เก่ง กม็ ีความเสย่ี งท่ีจะหมดตัวได้ การท่มี คี ู่ครองเป็น คนท่รี ับราชการตําแหนง่ ดีๆ จึงน่าหมายปองกวา่ พอ่ คา้ ตัวอยา่ งการใช้สภุ าษิต : ช่วงปิดเทอมใหญ่ คุณแมพ่ านอ้ งภมู ิไปพกั กบั คณุ ยายทีบ่ า้ นสวนต่างจงั หวัด เม่อื ครบกําหนดเปดิ เทอมน้องภมู ิ จึงกราบลาคณุ ยายกลับ คณุ ยาย : เดินทางปลอดภัย และตัง้ ใจเรียนหนังสือ โตขึน้ จะไดเ้ ป็นเจ้าคนนายคน นอ้ งภมู ิ : ครบั คณุ ยาย ผมจะตงั้ ใจเรียนหนังสือให้เกง่ ๆ คณุ ยาย : น่ารักจริงๆ หลานยาย สมัยกอ่ น ถ้าใครเรียนหนังสอื เกง่ ๆ จะได้รับ ราชการมีอํานาจวาสนา รํ่ารวยเงนิ ทองต่อใหค้ ้าขายยงั ไงกไ็ ม่ส้รู ับราชการสภุ าษติ ไทยวา่ ไว้ “สบิ พ่อคา้ ไมเ่ ทา่ เจ้าพระยาเลี้ยง” นะหลาน ความหมาย : หมายถงึ การบงั คบั ข่เู ข็ญเพอื่ เอา ผลประโยชนก์ บั ผทู้ ีไ่ มม่ ีความสามารถทจ่ี ะให้สิง่ ทีต่ ้อง การได้ เช่น การรีดไถเงนิ จากคนท่มี ีฐานะยากจน เปรียบเทียบ : เปรียบเปรยถงึ การท่จี ะรีดเลอื ด จากตัวปู ซึ่งเปน็ ส่ิงทีเ่ ป็นไปไม่ได้ เนอื่ งจากปูเป็นสัตว์ทีม่ ี เลือดนอ้ ย ตัวอย่างกรใช้สภุ าษิต : ชว่ งเยน็ คุณพอ่ กับคุณแม่ พานอ้ งแหววไปตลาดเพ่อื ซ้ือกับข้าว ระหว่างท่ที ง้ั ๓ คน
๑๗ กาํ ลังซ้อื ผกั สด จากคณุ ยายท่ีมาน่ังขายข้างทาง กม็ ีชายคนหนึ่งมาเก็บคา่ เช่าพ้ืนที่จากคุณ ยาย แต่วนั นี้คณุ ยายยงั ชายไม่ได้จงึ ขอผัดผอ่ น ใหม้ าเก็บในช่วงคํ่าๆ แตช่ ายคนนน้ั ก็ไม่ยอม คุณแมน่ ้องแหวว เห็นใจคณุ ยาย จึงชว่ ยซอื้ ผักสด และเพมิ่ เงนิ ให้คุณยาย เพือ่ จ่ายคา่ เชา่ ให้คนที่มาเก็บ คุณแม่หันไปคยุ กับคณุ พ่อ : สงสารคณุ ยายนะคณุ ดูสิ แกยังขายของไม่ได้เลย ยงั จะมารีดเลือดกบั ปูอกี หนูแหววจึงหนั ไปถามคณุ แม่ : คณุ แมค่ ะ ทําไมถงึ เรียกวา่ รีดเลือดกบั ปคู ะ หนูแหววไมเ่ ขา้ ใจ คุณแม่ : คําว่ารีดเลอื ดกับปู ใชเ้ ป็นคาํ เปรยี บเทียบน่ะลกู วา่ มาเรยี กเก็บ ผลประโยชนห์ รือวา่ เงินทองจากคนทไี่ ม่มี เหมือนผชู้ ายคนนน้ั มาเก็บเงินจากคุณยายไงคะ ความหมาย : คนท่ที าํ อะไรไม่จรงิ จัง ไม่ตง้ั ใจทําให้ถึงที่สดุ หรือเจออปุ สรรคนิด หนอ่ ยกล็ ม้ เลกิ และยอมแพง้ ่ายๆ เปรยี บเทยี บ : คนสมัยโบราณเปรยี บคนชนดิ น้ีว่า ขนาดกองขี้ไก่ทม่ี ขี นาดเล็ก ยงั เหยยี บให้ฝ่อหรอื แบนไม่ไดแ้ ลว้ จะไปทาํ งานอะไรได้ ตัวอยา่ งการใชส้ ภุ าษติ : นางสาวดาวเป็นลูกสาวยายปลิก ได้เขา้ ไปเรียนหนงั สือ ในมหาวิทยาลัยแหง่ หนงึ่ ในกรงุ เทพฯ ในชว่ งปดิ เทอมนางสาวดาวได้กลับมาบ้าน แตไ่ ม่ได้ ช่วยยาย ปลกิ ทาํ ไร่ ทําสวน เอาแต่นอนดูทีวีอยู่บา้ นไม่ยอม ออกไปไหน เพราะกลวั แดดเผาทําให้ผิวเสยี ยายปลิก : “ดาวเอ้ย ออกไปรดน้ําผักท่สี วนหลังบ้านให้ แมท่ น่ี ะ แม่จะไปวดั ซะหน่อย” นางสาวดาว : “โห ไม่ไดห้ รอกแม่ เด๋ียวเล็บหนูดํา และ ผวิ เสยี หมด แมก่ ลบั มากไ็ ปทาํ เองแล้วกัน” ยายปลิก : “ไปอยกู่ รุงเทพฯ ไมเ่ ท่าไหร่ ทําเปน็ เหยียบขไ้ี กไ่ ม่ฝอ่ เลยนะแล้วแบบนี้ จะเอาตัวรอดได้มย้ั จะดแู ลตวั เองไดร้ ึเปล่า” ยายปลกิ รู้สกึ ผดิ หวังทีล่ ูกสาวกลายเปน็ คนแบบน้ี ได้แต่สายหนา้ แลว้ เดินถอื ตะกรา้ ใส่อาหารไปถวายพระที่วัด
๑๘ หนังสือสง่ เสริมการอา่ นจับใจความสาคัญ นิทานคาไทยแบบอิเล็กทรอนกิ ส์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย สาหรบั นักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖
๑๙ กิจกรรมที่ ๑ หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ของนกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เลม่ ที่ ๔ คาวเิ ศษณ์ คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเตมิ คาํ วเิ ศษณล์ งในชอ่ งวา่ งต่อไปนีใ้ ห้ถกู ตอ้ ง ตวั อย่าง ขนมช้นิ นี้ ฉันใหเ้ ธอ ๑. ววั _________ชอบกนิ หญา้ _________ ๒. คบคน_________ เป็นศรีแกต่ วั คบคน_________อัปราชัย ๓. ฉนั นอน_________ฉันจึงตื่น_________ ๔._________ฝนตกหนกั ๕. จากทศิ _________เขาล่องเรอื ไปทางทิศ_________ ๖. บ้านของสมหญิงอยู่_________ ๗. ฉันสอบได้ท_่ี ________ทุกภาคเรยี น ๘. ศราธรใช้เงนิ จน_________ ๙. บา้ น_________สุนัขดุ ๑๐. หนงั สอื ภาษาไทยเล่ม_________เปน็ ของฉัน คะแนนเต็ม คะแนนทไี่ ด้ เกณฑ์การประเมิน ๑๐ __________ ๘
๒๐ กจิ กรรมท่ี ๒ หนงั สอื ส่งเสรมิ การอา่ นจับใจความสาคัญนิทานคาไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ของนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เล่มที่ ๔ คาวิเศษณ์ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นขีดเสน้ ใตค้ าํ วเิ ศษณจ์ ากข้อความทกี่ ําหนดให้ ตวั อย่าง คุณยายทาํ ขนม เกง่ ๑. คนอะไรเรยี นเกง่ อย่างนี้ ๒. ถนนสายไหนก็ไม่สวยงามรม่ รืน่ เท่าสายน้ี ๓. ฉนั จะทาํ อะไรดี ๔. เธอหรือเปน็ ผ้เู ก็บสรอ้ ยคอได้ ๕. ความประพฤตเิ ชน่ นัน้ มสิ มควรเอาแบบอยา่ ง ๖. เขาวิง่ ไม่ได้เพราะเขาเจ็บ ๗. แดงจะ๊ มาหาพหี่ นอ่ ย ๘. คณุ ผชู้ ายครับผมกลับมาแล้วครับ ๙. เขาพูดจาหยาบคายซึ่งสุภาพชนเขาไมพ่ ดู กัน ๑๐. เขาเป็นคนฉลาดทีใ่ ครๆ ไมก่ ลา้ ดถู ูก คะแนนเต็ม คะแนนทไ่ี ด้ เกณฑ์การประเมิน ๑๐ __________ ๘
๒๑ กจิ กรรมท่ี ๓ หนังสือสง่ เสริมการอ่านจับใจความสาคญั นทิ านคาไทยแบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ของนกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เลม่ ที่ ๔ คาวิเศษณ์ คาชีแ้ จง ให้นักเรียนบอกชนิดคําวเิ ศษณ์และคําวิเศษณต์ ่อไปน้ี ชนดิ ของคาวเิ ศษณ์ คาวเิ ศษณ์ ตัวอย่าง น้าร้อนอย่ใู นกระติก ๐. ลกั ษณะวิเศษณ์ = ชนดิ ของคาวิเศษณ์ คาวเิ ศษณ์ ๑. = ๒. = ๓. = ๔. = ๕. =
๒๒ ชนิดของคาวิเศษณ์ คาวิเศษณ์ ๖. = ๗. = ๘. = ๙. = ๑๐. = ไมย่ ากเลยใช่ไหมค่ะ ตั้งใจเรียนรตู้ อ่ นะเดก็ ๆ คะแนนเต็ม คะแนนทไี่ ด้ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๐ __________ ๘
๒๓ กจิ กรรมท่ี ๔ หนงั สอื ส่งเสรมิ การอา่ นจับใจความสาคญั นทิ านคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เล่มท่ี ๔ คาวเิ ศษณ์ คาชี้แจง ให้นักเรยี นฝึกทกั ษะการอ่านจบั ใจความสําคญั จากนิทานคําไทย จากนน้ั เติมคําตอบลงในช่องวา่ ตอ่ ไปนี้ ระบตุ วั ละครหรือผู้ทีเ่ กีย่ วข้องได้ทัง้ หมด สง่ิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในเร่ือง เหตุผลทท่ี ําใหเ้ กิดเหตกุ ารณ์ สถานทีเ่ กิดเหตุในเร่ือง ประเด็นสาํ คญั และ ข้อคิดท่ไี ด้จากเรื่อง คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ เกณฑก์ ารประเมิน ๑๕ __________ ๑๒
๒๔ กิจกรรมที่ ๕ หนังสอื สง่ เสรมิ การอ่านจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ของนกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เล่มท่ี ๔ คาวเิ ศษณ์ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนวงกลมคําวิเศษณใ์ นกลอ่ งปรศิ นาอักษรไขว้ มนกขคงสวฬด เ ษด ค ต จ ง ส ม ร ณ์ อ ส น ย ฬ บบภฮ โ บ ร าณพฬ า ว ช้ ส ฑ ฒ อ เ ย ส ฬ ร ภ ว ส า ค์ ก ห ฦ ร็ ฬ น้ อ ย ส์ ฦ ใ ฑ ก์ ย ฬ ซ ว พ น า ส ห์ โ ก ง า ฮ ส ม ณ์ ง า ร ว ย ว ล้ ง ฑ ฬ อ า คุ ณ น ค ค์ ฬ ส ห ด ม ฉ ด มุ ส ก ส ส ค์ ห์ ส า ง ค ช คุ ณ ภ ถ ท อ เ อ่ ฬ ส า จ ม ค เ ภ า ย ห ลั ง ฬ ง มดดสภผฮหกทกฬฮ ก ม ฬ ม เ ห นื อ ว ว น ด ง
๒๕ ตวั อย่าง รวย คานามทีพ่ บมี__________คา ไดแ้ ก่ ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ตัง้ ใจทากิจกรรมนะ คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด้ เกณฑ์การประเมนิ ๑๐ __________ ๘
๒๖ กิจกรรมที่ ๖ หนังสอื ส่งเสริมการอา่ นจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ของนกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เล่มท่ี ๔ คาวิเศษณ์ คาชี้แจง ให้นักเรียนแตง่ ประโยคโดยใช้คําวิเศษณ์ทก่ี ําหนดให้ ตัวอย่าง สีแดง = โตะ๊ สีแดง อยูใ่ นห้อง ๑. น้อย =__________________________________ ๒. เยน็ =__________________________________ ๓. ครับ =__________________________________ ๔. สาย =__________________________________ ๕. ใด =__________________________________ ๖. ไม่ =__________________________________ ๗. เพราะ =__________________________________ ๘. นั้น =__________________________________ ๙. หนง่ึ =__________________________________ ๑๐. จุ =__________________________________ คะแนนเตม็ คะแนนท่ไี ด้ เกณฑ์การประเมิน ๑๐ __________ ๘
๒๗ กิจกรรมที่ ๗ หนงั สือส่งเสริมการอ่านจับใจความสาคัญนทิ านคาไทยแบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เล่มที่ ๔ คาวเิ ศษณ์ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นเตมิ สํานวน และความหมายใหต้ รงกบั ภาพทก่ี าํ หนดให้ ตวั อย่าง สาํ นวน เหยยี บขี้ไกไ่ มฝ่ อ่ ความหมาย คนที่ทาํ อะไรไมจ่ ริงจงั ไมต่ ัง้ ใจทาํ ให้ถึง ทสี่ ดุ หรอื เจออปุ สรรคนดิ หน่อยก็ลม้ เลกิ และยอมแพ้ ง่ายๆ สาํ นวน ____________________________ ความหมาย ____________________________ ________________________________________ ________________________________________ ______ สํานวน ____________________________ ความหมาย ____________________________ ________________________________________ ________________________________________ ______
๒๘ สาํ นวน ____________________________ ความหมาย ____________________________ ________________________________________ ________________________________________ ______ สาํ นวน ____________________________ ความหมาย ____________________________ ________________________________________ ________________________________________ ______ สํานวน ____________________________ ความหมาย ____________________________ ________________________________________ ________________________________________ ______ ขอใหต้ อบถูกทกุ ขอ้ นะ คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ เกณฑ์การประเมนิ ๑๐ __________ ๘
๒๙ กิจกรรมที่ ๘ หนังสอื สง่ เสรมิ การอา่ นจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๖ เลม่ ที่ ๔ คาวเิ ศษณ์ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเลือกสํานวนสภุ าษิตไทยทช่ี ื่นชอบ บอกความหมาย เปรียบเทยี บ และยกตวั อย่างการใชใ้ หถ้ ูกตอ้ ง พรอ้ มทั้งวาดภาพประกอบใหส้ วยงาม ตัวอย่าง เหยียบขีไ้ ก่ไม่ฝ่อ ความหมาย : คนทีท่ ําอะไรไมจ่ รงิ จงั ไม่ตงั้ ใจทําให้ถึงทีส่ ดุ หรอื เจออุปสรรค นดิ หนอ่ ยกล็ ้มเลิกและยอมแพง้ ่ายๆ เปรยี บเทียบ : คนสมยั โบราณเปรยี บคนชนดิ น้วี า่ ขนาดกองขไี้ กท่ ี่มขี นาดเล็ก ยงั เหยยี บให้ฝ่อหรือแบนไมไ่ ด้แลว้ จะไปทํางานอะไรได้ ตวั อย่างการใช้สภุ าษติ : นางสาวดาวเป็นลกู สาวยายปลกิ ได้เขา้ ไปเรียนหนงั สือ ในมหาวิทยาลัยแห่งหน่งึ ในกรงุ เทพฯ ในช่วงปดิ เทอมนางสาวดาวไดก้ ลับมาบ้าน แต่ไมไ่ ด้ ช่วยยาย ปลกิ ทําไร่ ทาํ สวน เอาแต่นอนดูทวี อี ยู่บ้านไม่ยอมออกไปใหน เพราะกลัวแดดเผา ทําใหผ้ ิวเสีย ยายปลิก : “ดาวเอย้ ออกไปรดนํา้ ผักทีส่ วนหลังบ้านใหแ้ ม่ทน่ี ะ แม่จะไปวดั ซะหน่อย”
๓๐ นางสาวดาว : “โห ไม่ได้หรอกแม่ เดี๋ยวเล็บหนดู าํ และผวิ เสียหมด แม่กลบั มากไ็ ป ทาํ เองแล้วกนั ” ยายปลกิ ได้ฟงั ดงั นน้ั ก็เกิดอาการโมโหลูกสาวทนั ที ยายปลิก : “ไปอยกู่ รุงเทพฯ ไม่เท่าไหร่ ทําเป็นเหยยี บขี้ไกไ่ มฝ่ อ่ เลยนะ สานวน ________________________________________________ ความหมาย ________________________________________________ ________________________________________________ เปรียบเทยี บ ________________________________________________ ________________________________________________ ยกตวั อย่างการใช้ ________________________________________________ คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด้ เกณฑ์การประเมนิ ๑๐ __________ ๘
๓๑ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนังสือส่งเสรมิ การอ่านจับใจความสาคัญนิทานคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย สาหรบั นกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เลม่ ที่ ๔ คาวิเศษณ์ คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนทําเครอ่ื งหมาย () กากบาททับหน้าคาํ ตอบข้อทถ่ี ูกต้องทีส่ ุด ๑. “นักร้องคนสวยร้องเพลงไพเราะมากท่ีสุด” คาํ วิเศษณ์ในข้อใดขยายนาม ก. มาก ข. ไพเราะ ค. สวย ง. ทสี่ ุด ๒. คําวา่ “หอม” ในขอ้ ใดเปน็ คาํ วิเศษณ์ ก. แม่หอมแก้มนอ้ ง ข. ต้มยําตอ้ งใส่หวั หอมด้วย ค. ดอกกุหลาบมีกล่ินหอมมาก ง. ต้นหอมเปน็ พืชผกั สวนครัว ๓. คําวิเศษณ์ในขอ้ ใดมีความหมายตรงกันข้าม ก. ใกล้ ชดิ ข. ใหม่ สด ค. งาม สวย ง. ใกล้ ไกล ๔. ขอ้ ใด มีคําวเิ ศษณ์ขยายวเิ ศษณ์ ก. คนแก่เดนิ ช้า ข. คุณแมท่ ําอาหารเก่งมาก ค. กระตา่ ยวิ่งเร็ว ง. ลูกค้าซือ้ ของกันอยา่ งชุลมนุ
๓๒ ๕. “โปรดอย่าสง่ เสยี งดัง________โวยวายเดี๋ยวผอู้ ื่นแตกตนื่ ” ควรเติมคาํ ในข้อใด ก. เอะอะ ข. เกะกะ ค. เบะบะ ง. เงอะงะ ๖. ประโยคในขอ้ ใดไมม่ ีคาํ วิเศษณ์ ก. พ่ีนาวนิ เตะฟตุ บอล ข. น้อง ยิหวาคดิ เลขเกง่ มากๆ ค. ฉันชอบกินไขเ่ จียวรอ้ นๆ ง. หมูเ่ กาะสิมิลนั มธี รรมชาตทิ สี่ วยงาม ๗. ข้อใดมีคําวิเศษณบ์ อกกาลเวลา ก. คณุ แมท่ าํ แกงสายบวั ข. เขามาโรงเรยี นสาย ค. น้าสายใจเปน็ คนสวย ง. สายวดั เส้นน้ีเกา่ มากแล้ว ๘. ข้อใด คือ ความหมายเปรียบเทยี บสภุ าษติ ไทยว่า “ย้อมแมว” ก. การสอนจระเขใ้ หว้ ่ายนํ้า ซ่งึ มนษุ ยไ์ มม่ ที างทจ่ี ะว่ายน้ําได้เก่งกว่าจระเข้ ข. พอ่ ค้าหลายคนอปุ ถัมภ์ค้ําชู ก็ยงั เทียบไมไ่ ดก้ ับคนท่ีรบั ราชการตาํ แหน่งใหญ่โต ค. คนในสมัยโบราณท่ชี อบเลย้ี งแมว และแต่งขนแมวดว้ ยสขี ม้นิ เหลือง หรอื สีปูน แดงเพือ่ ใหแ้ มวมสี ีสนั ต่างๆ ง. การรําในสมยั กอ่ น รําตามจังหวะป่ี จังหวะกลอง แตน่ างราํ ร่ายราํ ไมต่ รงจงั หวะ จงึ โทษปห่ี รอื กลองนน้ั ตีผิดจังหวะ
๓๓ ๙. ขอ้ ใด คอื ความหมายสุภาษติ ไทยวา่ “รดี เลือดกับปู” ก. คนท่ีทําอะไรไม่จรงิ จงั ไมต่ ัง้ ใจทําให้ถึงทส่ี ุด หรอื เจออปุ สรรคนิดหน่อยก็ล้มเลกิ และยอมแพ้ง่ายๆ ข. การบงั คบั ขู่เขญ็ เพื่อเอาผลประโยชน์กบั ผู้ทไ่ี มม่ คี วามสามารถทีจ่ ะใหส้ ง่ิ ท่ีตอ้ งการได้ ค. พอ่ คา้ หลายคนอปุ ถมั ภ์คํ้าชู ก็ยงั เทียบไม่ไดก้ บั คนทรี่ ับราชการตาํ แหนง่ ใหญ่โต เพียงคนเดยี วท่เี ลยี้ งดู ง. ตนเองทําผิดแตก่ ลับไปโทษผอู้ ่ืนวา่ เปน็ สาเหตุท่ที ําให้เกิดขอ้ ผิดพลาดข้ึน ทง้ั ๆ ท่ีผ้อู ืน่ นนั้ ไม่ได้เกยี่ วข้องในความผิดพลาดนนั้ เลย ๑๐. ข้อใด คือ ความหมายสภุ าษิตไทยว่า “สอนจระเข้วา่ ยนาํ้ ” ก. พ่อค้าหลายคนอุปถมั ภ์คาํ้ ชู ก็ยงั เทียบไม่ได้กบั คนท่ีรับราชการตาํ แหนง่ ใหญ่โต ข. การชี้ทางหรือสอนให้คนที่เกง่ หรอื ชํานาญเร่ืองนั้นๆ อย่แู ลว้ ค. การรําในสมัยก่อน รําตามจงั หวะปี่ จงั หวะกลอง แตน่ างราํ ร่ายราํ ไมต่ รงจงั หวะ จึงโทษป่ีหรอื กลองนัน้ ตีผิดจงั หวะ ง. การบังคบั ขูเ่ ข็ญเพอื่ เอาผลประโยชน์กบั ผทู้ ี่ไมม่ คี วามสามารถท่ีจะให้ส่งิ ที่ต้องการได้ ขอใหโ้ ชคดีทุกคนนะ คะแนนเตม็ คะแนนทีไ่ ด้ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๐ __________ ๘
๓๔
๓๕ เฉลยกจิ กรรมที่ ๑ หนังสอื สง่ เสรมิ การอา่ นจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนกั เรียนช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เล่มที่ ๔ คาวเิ ศษณ์ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเตมิ คาํ วเิ ศษณล์ งในช่องว่างตอ่ ไปน้ีให้ถกู ตอ้ ง ๑. วัว แก่ ชอบกนิ หญ้า อ่อน ๒. คบคน ดี เปน็ ศรีแก่ตัว คบคน ชัว่ อัปราชัย ๓. ฉันนอน ดกึ ฉนั จึงต่ืน สาย ๔. ตอนเช้า ฝนตกหนกั ๕. จากทิศ เหนอื เขาลอ่ งเรอื ไปทางทิศ ใต้ ๖. บา้ นของสมหญิงอยู่ ใกล้ / ไกล ๗. ฉนั สอบไดท้ ี่ หนึง่ ทกุ ภาคเรียน ๘. ศราธรใชเ้ งนิ จน หมด ๙. บา้ น นั้น, มี สุนัขดุ ๑๐. หนงั สอื ภาษาไทยเล่ม นี้ เปน็ ของฉัน ไม่ยากเลยใช่ไหมค่ะ
๓๖ เฉลยกิจกรรมที่ ๒ หนังสอื ส่งเสรมิ การอา่ นจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ของนักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เล่มที่ ๔ คาวเิ ศษณ์ คาชี้แจง ให้นกั เรียนขีดเส้นใต้คาํ วเิ ศษณจ์ ากขอ้ ความทก่ี ําหนดให้ ๑. คน อะไร เรียนเกง่ อย่างนี้ ๒. ถนนสาย ไหน กไ็ มส่ วยงามร่มรนื่ เทา่ สายน้ี ๓. ฉันจะทํา อะไร ดี ๔. เธอ หรอื เป็นผเู้ กบ็ สร้อยคอได้ ๕. ความประพฤตเิ ช่นนัน้ มิ สมควรเอาแบบอยา่ ง ๖. เขาวิ่ง ไม่ได้ เพราะเขาเจ็บ ๗. แดง จะ๊ มาหาพ่หี นอ่ ย ๘. คุณผ้ชู าย ครบั ผมกลับมาแล้ว ครับ ๙. เขาพดู จาหยาบคาย ซงึ่ สุภาพชนเขาไม่พดู กนั ๑๐. เขาเป็นคนฉลาด ท่ี ใคร ๆ ไมก่ ล้าดูถกู ตอบถกู ทุกข้อแน่ ๆ เลย
๓๗ เฉลยกิจกรรมที่ ๓ หนงั สอื สง่ เสริมการอ่านจับใจความสาคัญนทิ านคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ของนกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เลม่ ท่ี ๔ คาวิเศษณ์ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนบอกชนดิ คําวิเศษณ์และคาํ วเิ ศษณ์ตอ่ ไปนี้ ชนดิ ของคาวิเศษณ์ คาวเิ ศษณ์ ๑. ลกั ษณะวิเศษณ์ นํา้ เย็นแช่อยูใ่ นตู้ ๒. กาลวิเศษณ์ = ๓. สถานวิเศษณ์ ๔. ประมาณวิเศษณ์ เขามาโรงเรยี นสาย ๕. ปฏเิ สธวิเศษณ์ = ๖. ประติชญาวเิ ศษณ์ ๗. นยิ มวเิ ศษณ์ นกอยู่บนตน้ ไม้ ๘. อนยิ มวิเศษณ์ = ๙. ปฤจฉาวิเศษณ์ ๑๐. ประพนั ธ์วเิ ศษณ์ เขามีเงนิ ห้าบาท = เขามิได้มาคนเดียว = คณุ ครขู า สวัสดีคะ่ = เขาเปน็ คนขยันแนๆ่ = เธอจะมาเวลาใดกไ็ ด้ = เสอ้ื ตวั นร้ี าคาเท่าไร = เขาทาํ ความดี =
Search