Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือนกในอุทยานแห่งชาติไทรทอง

คู่มือนกในอุทยานแห่งชาติไทรทอง

Published by saithongnp077, 2023-06-18 08:57:20

Description: คู่มือนก1806

Search

Read the Text Version

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 1

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 2

คู่มือค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง นกในอุทยานแห่งชาติ ไทรทอง 3

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ตัวเลขใตร้ ปู นก หมายถึง เลขหน้า ที่แสดงนกในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 4

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 111 112 113 114 115 116 113 114 115 116 117 118 5

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 119 120 121 122 123 124 125 126 127 128 129 130 131 132 133 134 135 136 137 138 139 140 141 142 143 144 145 146 147 148 149 150 151 152 153 154 155 156 157 158 159 160 6

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 161 162 163 164 165 166 167 168 169 170 171 172 173 174 175 176 177 178 179 180 181 182 183 184 185 186 187 188 189 190 191 7

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ส า ร บั ญ บทนา 10 รจู้ กั อุทยานแห่งชาติ 11ไทรทอง เส้นทางเพ่ือการดูนก แนะนาการดูนก ในอุทยานแห่งชาติ 19 18ไทรทอง 33 วธิ กี ารใชค้ ู่มือ นกในอุทยานแห่งชาติ 192ดัชนีชอ่ื นก ไทรทอง ภาษาไทย 35 บรรณานุกรม 8 ดัชนีชอื่ นก 198 195ภาษาอังกฤษ

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 9

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง บทนา ก า ร ดู น ก (Bird watching) เ ป็ น กิ จ ก ร ร ม ห น่ึ ง ใ น ก า ร อ นุ รัก ษ์ ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ ส่ิงแวดล้อม นอกจากจะทาให้เกิดความเพลิดเพลินสนุกสนาน และผ่อนคลาย ความรูส้ ึกตึงเครยี ดจากการงาน ยังมีส่วนชว่ ยให้ผู้ดูนกมีความรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับนก และประชาชนของนก รวมถึงความรคู้ วามเขา้ ใจต่อธรรมชาติและสภาพแวดล้อม ในปัจจุบัน การดูนกเป็นกิจกรรมในธรรมชาติที่ได้รบั ความนิยม โดยเฉพาะ เด็กและเยาวชน เห็นได้จากในอุทยานแห่งชาติ เขตรกั ษาพันธุส์ ัตว์ป่า และเขตห้าม ล่าสัตวป์ ่า หลายแห่งในประเทศไทย มีผู้คนเข้าไปดูนกจานวนมากขน้ึ อุ ทย า น แ ห่ ง ช า ติ ไ ทร ทอ ง เ ป็ น พ้ื น ที่ อ นุ ร ัก ษ์ อี ก แ ห่ ง ห นึ่ ง ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย โดยมีนกไม่ต่ากว่า 100 ชนิด ท้ังน้ีเน่ืองจากอุทยานแห่งชาติมีความหลากหลายของ ระบบนิเวศน์ ส่งผลให้ความหลากหลายของนกมากข้ึนตามไปด้วย เพื่อเป็นประโยชน์ ต่อนักดูนก ประกอบกับเป็นการส่งเสรมิ กิจกรรมการดูนกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ไทรทอง เป็นประโยชน์ต่อธรรมชาติและสภาพแวดล้อม อุทยานแห่งชาติไทรทองจงึ ได้ดาเนินการจัดทา “คู่มือนกในอุทยานแห่งชาตไทรทอง” ข้ึนเพ่ือให้รายละเอียด และความรูเ้ กี่ยวกับนกชนิดต่างๆ ที่พบในอุทยานแห่งชาติไทรทอง อีกทั้งเพ่ือเป็น เครอ่ื งมือศึกษาพฤติกรรมของนกในธรรมชาติอีกประการหนึ่งด้วย ค ณะผู้ จัดทาห วัง ว่าห นั ง สื อเล่ มน้ี จ ะเป็นปร ะโยชน์ สาห รับนั กดูนก โดยเฉพาะอย่างย่ิงเด็กและเยาวชนท่ีสนใจ และกาลังสนใจในการดูนก โดยเลือก พื้ น ที่ อุ ท ย า น แ ห่ ง ช า ติ ไ ท ร ท อ ง เ ป็ น ส ถ า น ที่ ฝึ ก ฝ น แ ล ะ เ ร ีย น รู ้ก า ร ดู น ก เ บ้ื อ ง ต้ น ซงึ่ กิจกรรมดังกล่าวเป็นการนาไปสู่การพัฒนาและการส่งเสรมิ ให้นักดูนก โดยเฉพาะ อย่างย่ิงเด็กและเยาวชน มีความรกั และเข้าใจธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม อันเป็นการ อนุรกั ษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมให้คงอยู่อย่าง 10

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง รจู้ กั อุทยานแห่งชาติ ไทรทอง อุทยานแห่งชาติไทรทอง 11

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง อุทยานแห่งชาติไทรทอง เป็นอุทยานแห่งชาติลาดับท่ี 77 ของประเทศไทย ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นอุทยานแห่งชาติเม่ือวันท่ี 30 ธันวาคม พ.ศ. 2535 เป็นอุทยานแห่งชาติท่ีเกิดจากแนวคิดท่ีจะอพยพราษฎรลงจากบนเขาออกมาจัด ระเบียบชุมชนให้ด้านล่าง ตามโครงการจดั หมู่บ้านป่าไม้ และฟ้ ืนฟูสภาพป่าท่ีเสื่อม โทรมให้กลับคืนมาเป็น ป่าต้นนา้ ลาธารเหมือนเดิม ดาเนินการประกาศพื้นที่ให้เป็นอุทยานแห่งชาติก็ดาเนินการจนเสรจ็ ส้ิน จึงมีพระราชกฤษฎีกากาหนดบรเิ วณท่ีดินเทือกเขาพังเหยและ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่านายางกลัก ในท้องที่ตาบลท่าใหญ่ ตาบลถ้าวัวแดง อาเภอหนองบัวแดง ตาบลบ้านเจียง ตาบลเจาทอง ตาบลวังทอง อาเภอภักดีชุมพล ตาบลห้วยแย้ ตาบลวังตะเฆ่ อาเภอหนองบัวระเหว ตาบลโป่งนก อาเภอเทพสถิต จงั หวัดชยั ภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติไทรทอง ตั้งอยู่ระหว่างเส้นละติจูดที่ 15º 52' 45\" N และ 101º 30' 80\" E มีเนื้อท่ี 319 ตารางกิโลเมตร หรอื 199,375 ไร่ ลกั ษณะทางภมู ิประเทศ สภาพภูมิประเทศบรเิ วณอุทยานแห่งชาติไทรทอง พ้ืนทีส่ ่วนใหญโ่ ดยทว่ั ไป ของอุทยานแห่งชาติไทรทองตั้งอยู่ระดับความสูงระหว่าง 250 – 1,008 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง สัณฐานทางธรณีเป็นแนวสันเขาหินทราย ซึ่งถูกดันตัวจาก แนวเขาหินปูนจากทางทิศตะวันตก ให้ยกตัวข้ึนสูงเป็นที่ราบสูงอีสานยาวจากด้าน ทิศใต้ไปทางทิศเหนือส้ินสุดที่แม่น้าชตี ัดผ่านระหว่างเทือกเขาพังเหยกับเทือกเขา ภูแลนคา เกิดแนวหน้าผาสูงชันและสวยงามขวางกับแนวการพัดของลมมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้ท่ีหอบไอน้าจากทะเลอันดามันและอ่าวไทยจงึ มีเมฆหมอกปกคลุม ยอดเขาในชว่ งฤดูฝนเป็นปัจจยั ท่ที าให้เกิดชนิดปา่ ไม้ทห่ี ลากหลายตามสภาพดินและ ความชนื้ ลกั ษณะทางภูมอิ ากาศ ลักษณะภูมิอากาศบรเิ วณอุทยานแห่งชาติไทรทอง อุณหภูมิเฉล่ียตลอดปี มีค่าเท่ากับ 27.6 องศาเซลเซยี ส โดยเดือนที่มีค่าอุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือนสูงสุดคือ เดือนเมษายน และต่าสุดในเดือนธนั วาคม ปรมิ าณน้าฝนรายปีมีค่าเฉลี่ยประมาณ 98.1 มิลลิเมตร เดือนท่ีมีปรมิ าณน้าฝนมากท่ีสุดคือเดือน กันยายน และน้อยท่ีสุด 12

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง คือ ธนั วาคม มีค่าเฉลี่ยประมาณ 240.8 และ 5.1 มิลลิเมตร ตามลาดับ ส่วนเดือนท่ี มีปรมิ าณน้าฝนรายวันสูงสุดมากที่สุดคือเดือน มีนาคม มีค่าเฉล่ียประมาณ 162.5 มิลลิเมตร/วนั ลกั ษณะทางอทุ กวทิ ยา ลุ่มน้าหลักของอุทยานแห่งชาติไทรทอง คือ ลุ่มน้าชี และอยู่ในลุ่มน้าสาขา คือ ลุ่มน้าห้วยแย้, ลาห้วยยาง, ลาน้าเจา, ลาน้าเจยี ง, ลาห้วยโป่งขุนเพชร การจดั ชน้ั คุณภาพลุ่มนา้ บรเิ วณอุทยานแห่งชาติไทรทอง ส่วนใหญ่ประกอบด้วยชนั้ คุณภาพลุ่ม นา้ ท่ี 1A คิดเป็นรอ้ ยละ 59.49 รองลงมาคือ ชน้ั คุณภาพลุ่มน้าที่ 3A ครอบคลุมพื้นที่ อุทยานฯ คิดเป็นรอ้ ยละ 16.48 ลักษณะลาคลองบรเิ วณอุทยานแห่งชาติไทรทองส่วนใหญ่เป็น ลาคลอง สั้นๆ/ยาว ไหลในทิศทางจากตะวนั ตกเฉียงเหนือไปตะวันออกเฉียงใต้ แหล่งน้าผิวดินอ่ืนๆ ท่ีสาคัญอยู่บรเิ วณใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติ ไทรทองคือ อ่างเก็บน้าวงั น้าเขยี ว และอ่างเก็บนา้ หนองปล้อง ทรพั ยากรทางชวี ภาพ ทรพั ยากรป่าไม้ จากข้อมูลแผนการจัดการอุทยานแห่งชาติไทรทอง โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทปา่ ใหญ่ๆ ดังน้ี 1. ปา่ เบญจพรรณ อยู่ทางทิศเหนือและทิศตะวันออกของอุทยานฯ มีเน้ือท่ี 29.05% ประกอบด้วย กระพรจ้ี นั่ มะค่าโมง และประดู่ เป็นต้น 2. ป่าดิบแล้ง พบป่าชนิดน้ีบริเวณทิศใต้ในพ้ืนที่อุทยานฯ 14.96 % ประกอบด้วย ลาดวน ชมพู่น้า และมะพรา้ วนกกก เปน็ ต้น 3. ป่าเต็งรงั พบกระจายอยู่ในพ้ืนที่อุทยานแห่งชาติฯ ส่วนใหญ่อยู่ทางทิศ ตะวนั ตกของอุทยานแห่งงชาติฯ คิดเป็น 25.37% ประกอบด้วย เต็ง เหียง และประดู่ เป็นต้น ทรพั ยากรสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติไทรทองเป็นพื้นท่ีผืนใหญ่ ประกอบกับมีลักษณะ ทางภูมิประเทศ ภูมิอากาศที่เหมาะสม ทาให้มีความหลากหลายของระบบนิเวศ ทา ให้พบสัตว์ป่าหลายประเภท คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์สะเทินน้าสะเทินบก สัตวเ์ ล้ือยคลาน และนก 13

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง การเดินทางเขา้ สอู่ ทุ ยานแหง่ ชาติไทรทอง อุทยานแห่งชาติไทรทองเป็นอุทยานแห่งชาติท่ีมีการเดินทางเข้าถึงสะดวก มากพอสมควรโดยมีเส้นทางสายหลักผ่านอุทยานแห่งชาติไทรทอง จานวน 1 เส้นทาง คือทางหลวงหมายเลข 225 (ชยั ภูมิ-นครสวรรค์) 1) หากเดินทางจากกรงุ เทพฯ สามารถใชเ้ ส้นทางสาคัญ ได้ 2 เส้นทาง ได้แก่ - ใชท้ างหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธนิ ) ผ่านรงั สิต วังน้อย จนถึงจงั หวดั สระบุรี ไปม่วงค่อม ลานารายณ์ เข้าสู่อาเภอเทพสถิต ผ่านทางเข้าอุทยานแห่งชาติ ป่าหินงาม ไปบ้านนายางกลัก เล้ียวซา้ ยตู้ยาม นายางกลัก ผ่านบ้านสะพานยาว ถึงบ้าน ซบั มงคล เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 225 ถึงบ้านท่าโป่ง เลี้ยวซา้ ยที่ตู้ยาม ท่าโป่ง ตรงไปที่ทาการอุทยานแห่งชาติไทรทอง รวมระยะทาง 300 กิโลเมตร หรอื จาก จงั หวัดสระบุรตี รงไปท่ีอาเภอศรเี ทพ อาเภอวิเชยี รบุรี ถึงอาเภอบึงสามพันเล้ียวขวาที่ส่ี แยกราหุลไปตามทางหลวงหมายเลข 225 (ชยั ภูมิ-นครสวรรค์) ผ่านอาเภอภักดีชุมพล ถึงบ้านท่าโป่ง เล้ียวซ้ายท่ีตู้ยามท่าโป่ง ตรงไปที่ทาการอุทยานแห่งชาติไทรทอง ระยะทางประมาณ 330 กิโลเมตร - ใชท้ างหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธนิ ) ผ่านรงั สิต วังน้อย จนถึงจงั หวัด สระบุรี เลี้ยวซา้ ยใชท้ างหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ผ่านอาเภอแก่งคอย อาเภอ มวกเหล็ก อาเภอปากชอ่ ง ถึงอาเภอสีค้ิวเล้ียวซา้ ยไปตามทางหลวงหมายเลข 201 ผ่าน อาเภอด่านขุนทด ตาบลหนองบัวโคก ถึงอาเภอจตั ุรสั เล้ียวซา้ ยไปอาเภอหนองบวั ระเหว แล้วเล้ียวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 225 (ชยั ภูมิ - นครสวรรค์) ถึงบ้านท่าโป่ง เล้ียวขวา ท่ตี ู้ยามท่าโป่ง ตรงไปท่ที าการอุทยานแห่งชาติไทรทอง ระยะทางประมาณ 350 กิโลเมตร 2) จากจงั หวัดนครราชสีมา ใชเ้ ส้นทางหลวงหมายเลข 205 เล้ียวขวาเข้า ทางหลวงหมายเลข 201 (หนองบวั โคก - ชยั ภูมิ) ถึงอาเภอจตั ุรสั เลี้ยวซา้ ยไปอาเภอ หนองบัวระเหว แล้วเล้ียวซา้ ยไปตามทางหลวงหมายเลข 225 (ชยั ภูมิ - นครสวรรค์) ถึงบ้านท่าโป่ง เล้ียวขวาที่ตู้ยามท่าโป่ง ตรงไปท่ีทาการอุทยานแห่งชาติไทรทอง ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร 3) จากจังหวัดขอนแก่น ใชท้ างหลวงหมายเลข 229 ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร ถึงจังหวัดชยั ภูมิ ใชท้ างหลวงหมายเลข 225 (ชยั ภูมิ - นครสวรรค์) 14

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ผ่านอาเภอบา้ นเขว้า ผ่านอาเภอหนองบวั ระเหว ถึงกิโลเมตรที่ 122 ตู้ยามบา้ นท่าโป่ง เล้ียวขวาเข้าทีท่ าการอุทยานแห่งชาติไทรทอง ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร สง่ิ อานวยความสะดวก ในอุทยานแห่งชาติไทรทองมีส่ิงอานวยความสะดวกเพ่ือการท่องเที่ยว ดังน้ี 1. บา้ นพัก 1.1 บ้านไทรทอง 101 จานวน 9 คน ราคา 2,400 บาท/คืน 1.2 บา้ นไทรทอง 102 จานวน 9 คน ราคา 2,700 บาท/คืน 1.3 บา้ นไทรทอง 103 จานวน 9 คน ราคา 2,700 บาท/คืน 1.4 บ้านไทรทอง 106 จานวน 9 คน ราคา 2,000 บาท/คืน 2. ค่ายพักแรม 2.1 ค่ายเยาวชน จานวน 13 ห้อง ราคา 400 บาท/คืน 3. สถานทก่ี างเต็นท์ 3.1 ลานกางเต็นทห์ น้าศูนย์บรกิ ารฯ 3.2 ลานกางเต็นทผ์ าพ่อเมือง 4. รา้ นจาหน่ายอาหาร เครอื่ งด่ืม และของทรี่ ะลึก 4.1 รา้ นอาหารสวัสดิการ อุทยานแห่งชาติไทรทอง 15

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 16

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 17

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง เสน้ ทางเพอื่ การดนู ก ในอทุ ยานแหง่ ชาติไทรทอง อุทยานแห่งชาติไทรทองเป็นแหล่งท่ีพบนกได้มากกว่า 100 ชนิด จงึ เป็นแหล่งดูนก และผู้ที่สใจดูนกโดยท่ัวไปสาหรบั เส้นทางเพื่อการดูนกในอุทยานแห่งชาติไทรทองที่แนะนา นั้นมีอยู่หลายเส้นทาง ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางเดินป่าระยะส้ันท่ีทางอุทยานแห่งชาติไทรทอง มีอยู่แล้ว ประกอบกับเส้นทางอ่ืนๆท่นี ่าสนใจ ดังต่อไปน้ี 1) เส้นทางดูนกหมายเลข 1 (อ่างเก็บน้าหนองปล้อง) : เรม่ิ ต้นจากโครงการพัฒนาป่า ไม้ตามแนวพระราชดารปิ ่านายางกลักไปรอบอ่างเก็บน้าหนองปล้อง โดยผ่านด่านตรวจ หนองปล้อง มีความยาวประมาณ 1,300 เมตร 2) เส้นทางดูนกหมายเลข 2 (อ่างเก็บน้าวงั นา้ เขียว) : ถ้าเรม่ิ จากบ้านพักนักท่องเทย่ี ว ไทรทอง 101 ไปยังบ้านพักนักท่องเท่ียวไทรทอง 103 รมิ อ่างเก็บน้าวังน้าเขียว มีความยาว ประมาณ 600 เมตร 3) เส้นทางดูนกหมายเลข 3 (ศาลารมิ น้า) : เรม่ิ จากหน้าศูนย์บรกิ ารนักท่องเท่ียว ไปยังศาลารมิ น้าและรมิ อ่างเก็บน้าวังน้าเขียวอีกมุมหนึ่งได้ มีความยาวประมาณ 100 เมตร แต่สามารถนั่งซุม่ ดูนกได้สะดวก 4) เส้นทางดูนกหมายเลข 4 (น้าตกไทรทอง) : เรม่ิ ต้นจากลานจอดรถน้าตกไทรทอง ไปจนถึงน้าตกไทรทอง และผ่านต้นไม้ปี มีความยาวประมาณ 1,300 เมตร 5) เส้นทางดูนกหมายเลข 5 (ผาพ่อเมือง-ทุ่งบัวสวรรค์) : เรม่ิ ต้นจากลานกางเต็นท์ ผาพ่อเมือง ผ่านผาหาหด ไปจนถึงทงุ่ บวั สวรรค์ มีความยาวประมาณ 2,100 เมตร 18

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 18 12 แนะนาการดนู ก 17 3 4 16 15 5 14 6 13 12 11 7 24 98 19 10 20 21 23 22 รปู รา่ งและสว่ นตา่ งๆ ของนก 1. หน้าผาก 2. กระหม่อม 3. คอด้านบน 4. หลัง 5. ตะโพก 6. หาง 7. สีข้าง 8. ต้นขา 9. แข้ง 10. น้ิว 11. เล็บ 12. ทอ้ ง 13. อก 14. คอหอย 15. คาง 16. ปาก 17. ตา 18. วงรอบเบ้าตา 19. ขนคลุมปกี 20. ขนปีกน้อย 21. ขนปลายปีก 22. ขนกลางปกี 23. ขนโคนปีก 24. ก้น 19

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง โครงสรา้ งของนก โครงสรา้ งของนกเป็นส่ิงจาเป็นอย่างย่ิงทน่ี ักดูนกจะต้องเรม่ิ ศึกษาและเรยี นรูก้ ่อนจะ ไปดูนกในสถานท่ีธรรมชาติ โดยเฉพาะลักษณะภายนอกของนกเนื่องจากลักษณะภายนอก ของนกเป็นส่ิงแรกที่นักสังเกตเห็นเป็นอันดับแรกลักษณะภายนอกของนกเป็นส่วนท่ีชว่ ยใน การจาแนกกลุ่มและชนิดของนก รวมทั้งทราบระบบนิเวศวิทยา พฤติกรรมและอุปนิสัยต่างๆ ของนก เชน่ ปากยาว คอยาว ขายาว ทราบว่านกชนิดน้ันอาศัยหากินอยู่ในบรเิ วณแหล่งน้า เป็นต้น และจาแนกจากหัวไปยังท้ายหรอื หางของนก สามารถจาแนกลักษณะภายนอกของ นกได้ 7 ส่วน คือ ปาก หัว คอ ลาตัว ปีก หาง และขา ซงึ่ อธบิ ายพอสังเขปได้ดังนี้ ปาก (bill or beak) ปากมีลักษณะคล้ายกระดูก ประกอบด้วย 2 อันประกบกัน คือ ขากรรไกรบน (maxilla) และขากรรไกรล่าง (mandible) ปากของนกแข็งแรง มีรูปรา่ งและ ขนาดแตกต่างกัน ทาให้ทราบถึงนิเวศวิทยา พฤติกรรมและอุปนิสัยต่างๆของนก เชน่ พวก นกกินเน้ือ ปากจะมีลักษณะหนาและแข็งแรงเป็นแบบปากขอ พวกกินเมล็ดพืช ปากจะหนา แข็งแรงและส้ันเป็นแบบปากกรวย พวกกินปลาและสัตว์น้า และพวกกินน้าหวานปาก ทรงกระบอกเรยี วเล็ก ยาว แหลม และโค้ง หัว (head) หัวของนกมีขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ บรเิ วณหัวด้านบน ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ หน้าผาก(forehead) อยู่หน้าสุดติดกับโคนขากรรไกรบน กระหม่อม (crown) อยู่ตรงกลางหัวหรอื บนสุดของหัวถัดจากหน้าผาก ท้ายทอย(occiput) อยู่ท้ายสุด ของหัวระหว่างกระหม่อมกับคอบรเิ วณด้านล่าง คอ (neck) ลักษณะรูปทรงกระบอก อยู่ระหว่างหัว และลาตัว นกส่วนใหญ่จะเห็นคอ ไม่เด่นชดั สามารถจาแนกกลุ่มและชนิดได้ นอกจากน้ียังทราบถึงทางนิเวศวิทยา พฤติกรรม และอุปนิสัยบางอย่างของนกได้ เชน่ นกคอยาว ทราบว่าอาศัยบรเิ วณแหล่งน้า เป็นต้น คอของนกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ คอด้านบน (nape or nuchal area) และคอด้านล่าง (jugulum) สาหรบั นกท่ีคอไม่เด่นชดั จะแยกไม่ออกระหว่างคอด้านล่างกับบรเิ วณใต้คาง จงึ เรยี กรวมกันว่า คอหอย (throat) ลาตัว (trunk) ลาตัวของนกเป็นรูปไข่ (oval shape) เรยี วจากหัวไปหาง ลาตัวของ นกด้านบน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ หลัง(back) เป็นส่วนท่ีติดกับคอลงมา มีพ้ืนที่ 2 ส่วนใน 3 ส่วนของลาตัวด้านบน และตะโพก (rump) เป็นส่วนที่ต่อจากหลังจนถึงโคนหาง มีพื้นที่ 20

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 1 ส่วนใน 3 ส่วน ของลาตัวส่วนบน ลาตัวด้านล่างแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ อก(breast) บรเิ วณ ตอนหน้าสุดของลาตัวส่วนล่างติดกับคอ มีลักษณะกลมนูน ท้อง(belly or abdomen) บรเิ วณที่ต่อจากอกถึงรูก้นสีข้าง(flank) นกส่วนใหญ่จะมองไม่เห็น เน่ืองจากมีปีกของนกปก คลุมอยู่ แต่เห็นชดั เจนขณะนกบิน หรอื กางปีก ก้น(vent) บรเิ วณรอบๆ อวัยวะขับถ่ายและ ขนคลุมโคนขนหาง ปีก (wings) เป็นรยางค์คู่หน้า (anterior appendix) ยื่นยาวออกจากข้างลาตัว ใชส้ าหรบั บนิ มีขนปกคลุมแบง่ เป็นขนโคนปกี (tertiary feathers) ขนกลางปีก (secondary feathers) และขนปลายปีก (primary feathers) ขน 3 ส่วนนี้จะมีขนปกคลุมอีกได้แก่ ขนคลุมขนปีก (coverts) เป็นขนที่ปกคลุมหลายชั้น เช่น ขนคลุมกลางปีกแถบกลาง (median secondary coverts) ขนคลุมกางปีกแถบใน (lesser secondary coverts) และขนคลุมขอบปีก(marginal coverts) จะคลุมขอบปีกด้านบนของปีก และขนปีกน้อย (alula) อยู่บรเิ วณขอ้ ต่อระหวา่ งด้านบนของขนกลางปีกและขนปลายปกี เป็นต้น หาง (tail) หางที่แท้จรงิ ของนกเปน็ กระดูกทย่ี ื่นยาวออกจากกระดูกสันหลังของลาตัว ทางด้านท้ายแล้วมีขนยื่นยาวออกมา ซงึ่ เรยี กว่า ขนหาง (tectrices) และขนคลุมโคนหาง (tail covert) แบง่ เปน็ ขนคลุมโคนขนหางด้านบน(Tupper-tail coverts) และขนคลุมโคน ขนหางด้านล่าง (under-tail coverts) ขนหางของนกมีประโยชน์ต่อการทรงตัว และบังคับ ทศิ ทางขณะบิน ข า (legs or feet) ข า เ ป็ น ร ย า ง ค์ คู่ ห ลั ง (posterior appendix) ท่ี ย่ื น ย า ว ออกจากลาตัวด้านขา้ ง มีหน้าที่ในการเกาะ เดิน ยืน จบั เหยื่อ ว่งิ หรอื พยุงตัว ขาของนกมีส่วน สาคัญในการจาแนกชนิด และทราบถึงนิเวศวิทยา พฤติกรรมและอุปนิสัยต่างๆ เชน่ การจบั เหย่ือ และการหาอาหาร เป็นต้น ขาของนกประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ต้นขา (thigh) เป็นส่วนบนสุดติดกับสะโพก ปกติจะมองไม่เห็น เนื่องจากซ่อนอยู่ ภายในลาตัว น่อง (crus or tibia) เป็นส่วนทต่ี ่อจากต้นขาลงมา มองเห็นชดั เจน และมีขนปกคลุม จานวนมาก 21

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง แข้ง (tarsus) เป็นส่วนที่ต่อจากน่องลงมา มองเห็นชดั เจน นกส่วนใหญ่ไม่มีขนปก คลุมแต่จะมีเกล็ดปกคลุม บางชนิดมีขนปกคลุม เชน่ นกแก็ก นกเค้าและเหย่ียวบางชนิด เป็นต้น น้ิว (toe) เป็นส่วนที่ต่อจากแข้งลงมา นกส่วนใหญ่มีน้า 4 น้ิว แผ่กางออก แต่มีนก บางชนิดมีน้ิวเพียง 3 น้ิว เชน่ นกหัวโต และนกคุ้มอืด เป็นต้น และเล็บ เป็นส่วนที่อยู่ปลาย น้ิวของนก มีขนาดสั้น ยาว รูปรา่ งโค้ง ปลายแหลม หรอื เป็นซหี่ วี เพ่ือชว่ ยในการจบั เหย่ือและ ใชเ่ กาะต้นไม้ เปน็ ต้น 22

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ขอ้ สงั เกต สาหรบั การดนู ก จากการเรียนรูโ้ ครงสรา้ งของนกในส่วนที่แล้ว พอจะทราบว่านกประกอบด้วย ส่วนต่างๆ อะไรบ้าง ซึ่งนับว่าเป็นความสาคัญสาหรบั พื้นฐานในการดูนก การดูนกใน ธรรมชาติจะต้องเป็นคนชา่ งสังเกตอย่างละเอียด ต้ังแต่ ปาก หัว คอ ลาตัว ปีก หางและขา ว่ามีลักษณะรูปรา่ ง ขนาดเป็นอย่างไร รวมทั้งสังเกตสภาพแวดล้อมท่ีพบเห็นนก และนกท่ี พบเห็นนั้นเป็นกลุ่มไหน ชนิดไหนนั้นจะต้องอาศัยคู่มือดูนกประกอบในการตัดสินใจซ่งึ ลักษณะท่ีสังเกตเห็นนั้นสามารถจาแนก หรอื พิจารณาก่อนว่าเป็นนกขนาดเท่าไหร่ อยู่ใน กลุ่มไหน และรูปรา่ งลักษณะภายนอกของนก เชน่ สีสัน และลักษณะพิเศษต่างๆ เป็นต้น โดยสามารถจาแนกตามลักษณธทีส่ ังเกตเห็นได้ ดังนี้ ขนาดของนก (size) ขนาดของนกเป็นส่วนหน่ึงในการตัดสินใจว่าเปน็ นกขนาดใด อยู่ ในกลุ่มไหน หรอื ชนิดใด เป็นอันดับแรกในการสังเกตเห็น ว่ามีขนาดอ้วนป้อม หรอื เรยี วเล็ก เป็นต้น ขนาดของนกส่วนใหญ่จะวัดจากปลายปากจนถึงปลายหาง แต่เป็นการยากต่อการวัด ขนาดเม่ือพบเห็นในธรรมชาติ ดังนั้นจาเป็นต้องใช้ขนาดของนกที่พบเห้นบ่อยเป็นตัว เปรียบเทียบว่า ขนาดใหญ่กว่า หรือขนาดเท่ากัน หรือขนาดเล็กกว่า ชนิดของนกที่ เปรยี บเทียบได้ดังน้ี ขนาดใหญ่มาก (very large) ความยาวต้ังแต่ 81 เซนติเมตรข้ึนไป เทียบกับห่าน หรอื โตกว่าห่าน เชน่ นกกระสานวล นกตะกรมุ และนกตระกราม เป็นต้น ขนาดใหญ่ (large) ความยาวต้ังแต่ 51-80 เซนติเมตร เทียบกับเป็ดบ้าน เช่น นกกานา้ ใหญ่ นกยางเปีย และนกปากพล่ัว เป็นต้น ขนาดกลาง (medium) ความยาวต้ังแต่ 31-50 เซนติเมตร เทียบกับอีกา เช่น นกเปด็ ปากสั้น นกกระปูดใหญ่ นกยางไฟ และนกแก๊ก เป็นต้น ขนาดเล็ก (Small) ความยาวตั้งแต่ 16-30 เซนติเมตร เทียบกับนกเอ้ียงสารกิ า เชน่ นกเขาใหญ่ นกเอ้ียงด่าง นกพรกิ และนกกวกั เป็นต้น 23

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ขนาดเล็กมาก (very small) ความยาวน้อยกวา่ 15 เซนติเมตร เทียบกับ นกกระจอกบ้าน เชน่ นกกระต๊ิดขี้หมู นกกระจาบ และนกกินปลี เปน็ ต้น ลั กษณะเฉพ าะข อ ง นก นกแ ต่ ละชนิ ดมี รูปร่าง เฉพ าะแ ตกต่ าง จ ากชนิ ดอื่ น ลักษณะเฉพาะของนกน้ันเมื่อพบเห็นก็สามารถจาแนกชนิดได้เลย ลักษณะรูปรา่ งเฉพาะท่ี แตกต่างของนก มีลักษณะสาคัญในการจาแนกชนิดสามารถพิจารณาได้ดังนี้ 1. ปาก (bill) ปากของนกมีลักษณธรูปรา่ งหลายแบบ รูปรา่ ง และขนาดของปากมี ส่วนชว่ ยในการจาแนกกลุ่มและชนิดของนกได้ ได้แก่ ปากตรง (straight) มีรูปรา่ งยาวเรยี วและตรง ขนาดเล็กหรอื ขนาดใหญ่ ได้แก่ นกยาง นกซอ่ มทะเล และนกทะเลขาแดงเปน็ ต้น ปากโ ค้ ง ( decurved) มี รูปร่าง เรีย วแ ห ลม แ ละโค้ ง งอ มี ข นาดเล็ ก หรอื ขนาดปานกลาง ได้แก่ นกกินปลี นกจาบคา นกอีก๋อย และนกปลีกล้วย เป็นต้น ป า ก แ บ น ข้ า ง ( compressed) ป า ก มี รู ป ร่า ง ตร ง เรีย ว แ ต่ แ บ นข้ าง และความหนาของปากมากกวา่ ส่วนกวา้ ง เชน่ ปากนกกระเต็น เปน็ ต้น ปากแบน (depressed) ปากมีลักษณะแบนด้านบนและด้านล่าง หรอื ความ หนาน้อยกว่าส่วนกว้าง มีขนาดค่อนข้างสั้น ได้แก่ นกเปด็ น้าต่างๆ เปน็ ต้น ปากกร วย ( conical) ปากสั้ นเ รีย ว โ ค นปากห นา ปล าย ปากแหลม คล้ายกรวย ได้แก่ นกกระจอก นกจาบปีกอ่อน และนกกระจาบเปน็ ต้น ปากชอ้ น (spoonbill) ปากยาว บรเิ วณปลายปากแบนแผ่ออกด้านข้าง คล้ายชอ้ น ได้แก่ นกปากชอ้ น เปน็ ต้น ปากขอ (hooked) ปากสั้นมีลักษณะคล้ายกรวย ปลายขากรรไกรล่างคล้าย ตะขอ ใชส้ าหรบั จกิ ฉีกอาหาร ได้แก่ เหย่ียว นกอีเสือ นกเค้าและนกแก้ว เป็นต้น ปากแหลม (acute) รูปรา่ งเล็กเรยี วตรง จากโคนปากถึงปลายปากยาว เทา่ กับหัวหรอื ส้ันกวา่ หัวเล็กน้อยได้แก่ นกกางเขนบ้าน นกกระจด๊ิ และนกกระจอ้ ย เป็นต้น ปากแอ่น (recurved) ปากยาวเรยี วเล็กแต่ปลายปากแอ่นข้ึนไปข้างบน ได้แก่ นกปากแอ่น และนกปากงอน เป็นต้น 2. หาง (tail) หางของนกเป็นส่วนทขี่ นงอกจากกระดูกข้อสุดทา้ ยของลาตัว ซง่ึ อาจะมี ขนหาง ขนคลุมโคนขนหาง หางนกมีลักษณะที่แตกต่างกันไป ทาให้สามารถท่ีจะนามาก 24

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง จะแนกชนิดได้รวมท้ังทราบถึงสภาพทางนิเวศวิทยา พฤติกรรมต่างๆได้ ดังน้ันรูปแบบของ หางจาแนกได้เปน็ หางตัด (square) หางที่มีขนหางทุกคู่ยาวเท่ากันหมดและตรง ได้แก่ นกตบยุง นกปรอดสวน นกกก และนกมูม เปน็ ต้น หางเว้า ขนหางคู่ในสุดสั้นที่สุด และจะค่อยๆยาวลดหล่ันกันตามลาดับ จนถึงคู่นอกสุด ซงึ่ มีรูปรา่ ง 2 แบบ ได้แก่ หางเว้าต้ืน (notched) ขนหางคู่กลางสั้นกว่าคู่ อ่ืนๆ เล็กน้อยดูเหมือนเว้าบรเิ วณกลางหาง ได้แก่ เหย่ียวดา นกแอ่นกินรงั เปน็ ต้น หางเว้าลึก (fork) ขนหางคู่กลางสั้นที่สุดแล้วค่อยยาวขึ้นมาตามลาดับ จนถึงคู่นอกสุดยาวมาก ได้แก่ นกแซงแซวหางปลา นกกางเขนน้า และนกนางแอ่นบ้าน เป็นต้น หางบ่วง (racket) หางที่มีปลายหางแบบปลายหางตัด ปลายหางเว้า แต่หางคู่นอกสุด มีก้านขนยื่นยาวออกมามาก ได้แก่ นกแซงแซวหางบ่วงใหญ่ และนก แซงแซวหางบว่ งเล็ก เปน็ ต้น หางแฉก (elongated outer feather) ขนหางคู่ในสุดสั้นท่ีสุดแล้วจะ ค่อยๆ ยาวออกตามลาดับจนถึงคู่นอกสุดจะยาวมาก และขนจะโค้งออกเล็กน้อย ได้แก่ นกนางนวลแกลบดา และนกนางแอ่นตะโพกแดง เปน็ ต้น หางมน (round) หางคู่ในสุดยาวที่สุด และค่อยๆ ส้ันทีละน้อยลดหลั้น ตามลาดับไปยังคู่นอก และตรง ขอบหางดูโค้งมน ได้แก่ นกอีวาบตั๊กแตน และนกนางนวล ธรรมดา เปน็ ต้น หางเข็ม (elongated central feather) หางท่ีมีรูปเข็มแหลมตรงกลาง หางยื่นยาวออกมา คือ ขนคู่กลางยาวคู่อ่ืนมาก และขนคู่นอกจะส้ันสุดลดหลั่นกันไป จากคู่ รองในสุด และขนคู่กลางจะซอ้ นทับกันเป็นเส้นเดียวกัน เชน่ นกจาบคาเล็ก นกกะลิง และ นกเขาเปล้าบางชนิด เปน็ ต้น หางแพนและหางพลั่ว (fan and wedge shape) รูปรา่ งหางคล้ายหาง มนแต่ปลายขนหางแต่ละคู่ แผ่ออกด้านนอกเพียงเล็กน้อยเป็นหางพลั่ว หรอื แผ่ออก ด้านขา้ งมาก เชน่ นกอีแพรด และนกยอดขา้ ว เป็นต้น หางบั้ง (graduated) ขนหางจะยาวลดหลั่นกันเป็นชน้ั จากคู่ในท่ีสุดซง่ึ ยาว ที่สุดจนถึงคู่นอกสุดโดยคู่นอกส้ันท่ีสุด และจะซ้อนทับกันทุกคู่ เช่น นกบั้งรอก และนก ขุนแผน เปน็ ต้น 25

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง สภาพท่ีอยู่อาศัย นกมีวิวัฒนาการและพัฒนาการให้มีความแตกต่างกัน ทางด้านสรรี ะวิทยา พฤติกรรม โดยมีปัจจยั ทางส่ิงแวดล้อมเป็นหลัก ทาให้มีการกระจายไป ตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้สามารถดารงชวี ิตและแพรพ่ ันธ์ุให้คงอยู่ตลอดไป โดยการปรบั ตัว ให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป เชน่ ชายน้า ป่าดิบ ทุ่งหญ้า และป่าสน เป็นต้น นก ในปา่ ดิบมีการแบง่ การหากินระดับตามแนวด่ิง ได้ดังนี้ บรเิ วณพื้นดิน ได้แก่ นกกระทา นกคุ้ม ไก่ปา่ และไก่ฟ้า เป็นต้น บรเิ วณพุ่มไม้เต้ียหรอื ก่ิงไม้ระดับต่า ได้แก่ นกจบั แมลง นกกะรางหัวหงอก และนกมุ่นรก เป็นต้น บรเิ วณก่ิงไม้ระดับกลาง ได้แก่ นกหัวขวาน นกปรอด นกเปล้า และนก โพระดก เป็นต้น บรเิ วณเรอื นยอดไม้ ได้แก่ นกพญาไฟ และนกกก เปน็ ต้น บรเิ วณเหนือเรอื นยอดไม้ ได้แก่ เหยี่ยว และนกนางแอ่น เป็นต้น ขณะเดียวกันนกในระบบนิเวศอ่ืน จะหากินหรอื อาศัยบรเิ วณอาศัยบรเิ วณ แหล่งอ่ืน เชน่ บรเิ วณท่งุ หญา้ หรอื ทล่ี ุ่มน้าขังหนองบงึ ท่มี ีพืชน้าข้นึ หนาแน่น ได้แก่ นกกระจบิ นกพงหญ้า นกยอดหญ้าและนกยางไฟ เป็นต้น บรเิ วณป่าในเมืองหรอื สวนผลไม้ ได้แก่ นกปรอดสวน นกกางเขนบ้านและนกสีชมพูสวน เป็นต้น บรเิ วณทุ่งนาหรอื ท่ีมีน้าขัง โล่ง หรอื พันธไุ์ ม้น้าบ้าง ได้แก่ นกยาง นกกระสา และนกกวัก เป็นต้น บรเิ วณชายน้าที่มีดินเลน ป่าชายเลน หรอื ชายหาด ได้แก่ นกหัวโต และนกชายเลนอื่นๆ เป็นต้น และบรเิ วณในทะเล ได้แก่ นกโจรสลัด และนกนางนวลแกลบ เป็นต้น 26

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง อุปกรณ์ในการดนู ก การศึกษาดูนกในธรรมชาตินั้น จาเป็นต้องมีการใชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยในการดูนก เนื่องจาก นกในธรรมชาติมีขนาดเล็ก และมีพฤติกรรมท่ตี กใจง่าย ทาให้บนิ หนี นักดูนกจงึ ไม่สามารถที่ จะเข้าไปใกล้ได้เลย ดังน้ันจาเป็นต้องมีการใชอ้ ุปกรณ์ในการดูนกชว่ ย เชน่ กล้องสองตา หนังสือคู่มือดูนกและสมุดบันทึก เป็นต้น ดังนั้นจาเปน็ อย่างย่ิงทน่ี ักดูนกจะต้องมี คือ กล้องสองตา (binoculars) กล้องสองตามีหลายขนาดให้เลือกใชต้ ามแต่ความถนัด ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม แ ต่ ล ะ บุ ค ค ล ก ล้ อ ง ท่ี ใ ช้ กั น ส า ห รับ ดู น ก ส่ ว น ใ ห ญ่ จ ะ มี ข น า ด 7x35,7x50,8x30,8x40 และ10x50 เป็นต้น ตัวเลขตัวแรกจะบ่งบอกถึงกาลังขยายของ กล้อง เป็น เท่า เชน่ 7x หมายความว่า กาลังขยาย 7 เท่า และเลขตัวหลังหมายถึง ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลางของเลนส์หน้ากล้อง (objective lens) เป็นมิลลิเมตร ย่ิงเลนส์กว้าง เท่าไหร่ ก็จะทาให้แสงเข้ามากขึ้น กล้องสองตาท่ีดีจะต้องเบา พกพาสะดวก และมี ประสิทธภิ าพสูง การดูแลกล้องสองตา สาหรบั นกดูนกมือใหม่ จะต้องระมัดระวังในการใช้กล้อง โดยหลีกเล่ียงการตกหล่น โดนน้า หรอื วางในท่ีชนื้ มากๆ หรอื การเชด็ เลนส์ต้องระวังรอยขีด ขว่ น เพราะอาจทาให้กล้องเกิดการชารุดหรอื ส่องนกไม่คมชดั ข้อห้ามสาหรบั การใชก้ ล้องสองตา คือ ห้ามนากล้องไปส่องดวงอาทิตย์ หรอื วัตถุที่มี แสงจา้ มาก เพราะกล้องสองตาจะรวมแสงจนทาให้แสงส่องเข้าดวงตามมากเกินไป อาจทาให้ ตาฟ่า หรอื ตาบอดได้ ก ล้ อ ง โ ท ร ท ร ร ศ น์ (telescope) เ ป็ น ก ล้ อ ง ท่ี มี เ ล น ส์ เ พี ย ง เ ล น ส์ เ ดี ย ว แต่มีประสิทธภิ าพสูง คือสามารถดูนกท่ีอยู่ระยะไกลๆได้และเห้นรายละเอียดของนกชดั เจน มักใชก้ รณีที่กล้องสองตามองไม่เห็นรายละเอียด และอยู่ไกล เชน่ นกน้า เป็นต้น กล้องชนิด นี้มีกาลังขยายสูงกว่ากล้องสองตา คือมีกาลังขยาย ต้ังแต่ 15x ถึง 60x เป็นกล้องที่มีความ คมชดั สูง แต่ต้องมีการติดต้ังกับขาต้ัง ราคาแพงมาก การหาตาแหน่งของนกค่อนข้างยาก 27

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง การใช้และการดูแลกล้องตาเดียว จะคล้ายกับการใช้กล้องสองตา แต่ต่างกันที่ จะต้องดูด้วยตาเดียวที่เราถนัด แต่จะหาตาแหน่งนกที่ค่อนข้างยาก และมีจุดปรบั เพียงจุด เดียว หนังสือคู่มือดูนก (bird guide) หนังสือคู่มือนกในประเทศไทย ปัจจุบันหนังสือเล่มน้ี ได้บรรยายลักษณะของวงศ์ (Family) และวงศ์ย่อย (Subfamily) ชื่อไทย(ช่ือท้องถ่ิน) ชอื่ สามัญ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ภาพวาดและได้บรรยายลักษณะต่างๆของนก ลักษณะเด่น ขนาด แหล่งท่ีอยู่อาศัย สถานภาพ อาหาร และดัชนีรายชอ่ื ไทย สามัญและวิทยาศาสตร์ เรยี งตาม อักษรไว้เพื่อสะดวกในการค้นหา โดยมีจานวนนกทพ่ี บในประเทศไทย มีจานวน 1,011 ชนิด ส มุ ด บั น ทึ ก (notebook) ใ น ก า ร ดู น ก น้ั น นั ก ดู น ก ที่ ดี จ ะ ต้ อ ง มี ก า ร จ ด บั นทึก รายละเอียดต่างๆ ท่พี บเห็นควรมีรายละเอียดต่างๆทจ่ี ะต้องบันทกึ คือ 1. วนั เดือน ปี และเวลาทพี่ บเห็นนก 2. สถานที่พบเห็น ว่าเป็นสถานท่ีใด เชน่ อุทยานแห่งชาติต่างๆ และรวมถึงสภาพ พ้ืนที่ เชน่ ชายเลน ท่งุ นา ป่าละเมาะ ปา่ ชนิดต่างๆ หรอื ชายนา้ เป็นต้น 3. ชอ่ื นก อาจบันทึกชอื่ พื้นเมือง ชอื่ สามัญ หรอื ชอื่ วิทยาศาสตรอ์ ย่างใดอย่างหน่ึง หรอื มากกว่า 1 ชอ่ื ก็ได้ 4. ลักณะเด่นที่พบเห็นของนกชนิดนั้น เป็นการบันทึกลักษณะเฉพาะ ท่ีเห็นว่าเด่น และแตกต่างจากนกชนิดอ่ืนๆ อาจมีการวาดภาพและระบายสีประกอบการบรรยาย เป็นต้น 5. พฤติกรรม/อุปนิสัย เป็นการบันทึกกิจกรรมหรอื อุปนิสัยท่ีนกแสดงให้เห็น เชน่ ว่ายน้า บิน จบั เหย่ือ เก้ียวพาราสี และเกาะตามก่ิงไม้ เป็นต้น หรอื พบเห็นในระดับเรอื นยอด ไม้หรอื พื้นดิน เป็นต้น 6. สถานะ พบเปน็ คู่ หรอื เปน็ กลุ่ม หรอื เป็นเพศผู้ หรอื เพศเมียหรอื ตัวไม่เต็มวยั 7. จานวน เปน็ การระบุจานวนทพี่ บวา่ นกจานวนกี่ตัว กล้องถ่ายภาพ (camera) การถ่ายภาพนกเป็นการเก็บรวบรวมภาพนกเพ่ือสามารถ นากลับมาศึกษารายละเอียดเพ่ือนาไปเผยแพร่ แต่การถ่ายภาพนกในธรรมชาตินั้นจะต้องใช้ อุปกรณ์ไม่เหมือนกันกับการถ่ายภาพคนปกติ เนื่องจากนกอยู่ห่างไกล มีขนาดเล็กและตกใจ ง่าย จานวนเป็นต้องมีเลนส์พิเศษท่ีสามารถดึงภาพเข้ามาใกล้ ขนาดที่นิยมใช้ 300- 1,000 มิลลิเมตร ซงึ่ มีราคาแพงมาก ในการถ่ายภาพนกในธรรมชาติต้องมีการต้ังซุม้ หรอื 28

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง กระโจมที่กลมกลืนกับธรรมชาติบรเิ วณนั้นเพื่อท่ีจะไม่ให้นกตกใจและได้ภาพท่ีชัดเจน การถ่ายภาพนกนั้นจะต้องมีความอดทนในการรอคอยสูงเพ่ือจะได้ภาพทสี่ วยงามและคมชดั เครอ่ื งบันทึกเสียง (tape recorder) การบันทึกเสียงมีความสาคัญต่อการศึกษา ชวี วิทยาของนก และให้ความเพลิดเพลิน เนื่องจากนกมีเสียงอันไพเราะ และเสียงเฉพาะของ นกแต่ละชนิด ในการบันทึกเสียงของนกนั้นจะต้องมีอุปกรณ์ท่ีมีไมโครโฟนท่ีไวโดยมี เครอื่ งรบั และรวมเสีงให้บันทึกชดั เจน แต่เครอื่ งบันทึกเสียงมีราคาแพง จงึ ไม่จาเป็นสาหรบั นักดูนกสมัครเล่น 29

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง การเตรยี มตัว ก่อนดนู กในธรรมชาติ การเตรยี มตัว่อนจะออกไปดูนกในธรรมชาติน้ัน ประการแรกควรปฏิบัติคือ การแต่ง กายต้องกลมกลืนกับธรรมชาติ ที่จะเดินทางไปดูนกในสถานท่ีนั้น ไม่แต่งกายสีฉูดฉาด เชน่ สีขาว สีแดง หรอื สีแสด เป็นต้น เพราะจะทาให้นกในธรรมชาติตกใจและคิดว่าเป็นศัตรู จึงทาให้บินหนีไป ดังน้ันควรสวมเส้ือผ้าสีเขียวเข้ม เทา หรอื น้าตาล และจะต้องมีการแต่ง กายท่ีรดั กุม คือ ใส่เสื้อสีขาว กางเกงขายาว เพื่อป้องกันการขีดข่วน รองเท้าท่ีใส่จะต้อง กระชบั และเหมาะกับเทา้ การเตรยี มอุปกรณ์สาหรบั ดูนก โดยเฉพาะกล้องสองตา หนังสือคู่มือนก และสมุด บันทึกเป็นต้น เน่ืองจากอุปกรณ์เหล่าน้ีเป็นส่ิงที่สาคัญที่สุดสาหรบั การดูนกในธรรมชาติ โดยเฉพาะกล้องสองตาจะได้มีการเตรยี มทาความสะอาด ตรวจเชค็ ความคมชดั อยู่ในสภาพ ท่ีพร้อมดูนก และกระเป๋าที่ใส่อุปกรณ์อื่น เช่น หนังสือ สมุดบันทึก จะต้องไม่ใหญ่มาก สะพายสะดวก เชน่ กระเป๋าสะพาย หรอื เปแ้ ละสามารถปอ้ งกันอุปกรณ์จากน้าได้ ขอ้ ควรปฏิบตั ิ ในการดนู กในธรรมชาติ เป้าหมายในการดูนกน้ันคือ จะต้องพบนกจานวนมากท่ีสุด พบเห็นง่าย และความ เพลิดเพลิน โดยจะต้องมีการปฏิบัติดังนี้ เวลาในการออกดูนกในธรรมชาติ ควรเร่มิ ตั้งแต่เช้าตรู่ หรอื เม่ือพระอาทิตย์เรม่ิ ส่องแสง เพราะเวลาน้ันนกเรม่ิ ออกจากท่ีหลบซ่อน เพื่อหาอาหาร หรอื ทากิจกรรมต่างๆ ในเชา้ วันใหม่ และชว่ งเวลาที่ไม่เหมาะแก่การดูนก คือ ในชว่ งสายถึงบ่าย เนื่องจากอากาศรอ้ น ทาให้นกหลบซอ่ นหรอื ปา่ ทบึ 30

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง จานวนคนในการดูนก ควรแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 2-5 คน ซงึ่ เหมาะสม หากเป็นกลุ่ม ใหญ่จะทาให้นกตกใจ และหาตัวยาก แต่ในกลุ่มคนน้อยจะทาให้พบเห็นนกได้ง่ายกว่า สามารถจาแนกชนิดได้น้อยกว่า และควรจะไปดูนกกับผู้เชยี่ วชาญเรอื่ งนก ขณะทีด่ ูนกในธรรมชาติ จะมองหานกทุกระดับตามแนวด่ิง ตั้งแต่พ้ืนดิน จนถึงปลาย เรอื นยอดไม้ ขณะเดียวกันทาตัวให้เงียบที่สุด เม่ือพบเห็นนกแล้ว ควรส่งกล้องและยืนดูอย่างสงบ พยายามสังเกตลักษณะเด่นของ โครงสรา้ งของนก และจดจารายละเอียดต่างๆ ท่ีเห็นให้มากที่สุด เชน่ รูปทรงของลาตัว ลักษณะของการเกาะ สีสัน ลวดลายต่างๆ หัว คอ ท้อง และหาง เป็นต้น รวมท้ังพฤติกรรม ต่างๆ ท่นี กแสดงออกมา หากไปดูนกเป็นกลุ่มใหญ่ ควรบอกตาแหน่งของนกท่ีเกาะอยู่ให้ผู้อ่ืนได้เห็นกันแบบ ต่อๆกันไป โดยไม่ส่งเสียงดังหรอื ไม่ทาให้นกตกใจ ไม่แสดงความตื่นเต้น หรอื แบ่งกันดูใน กรณีใชก้ ล้องโทรทศั น์ ถ้ามีการซุ่มดูนกในธรรมชาติ ควรจะมีการสรา้ งบังไพร หรอื ซุ้มเพ่ือหลบซ่อนตัว บังไพรจะต้องกลมกลืนกับส่ิงแวดล้อมน้ัน เพ่ือให้นกไม่ตกใจกลัว และนักดูนกจะต้องเข้าไป อยู่ในบังไพรก่อนทนี่ กจะปรากฏตัว นักดูนกควรปฏิบตั ิโดยไม่รบกวนนกเปน็ อันขาด โดยเฉพาะในชว่ งฤดูผสมพันธวุ์ างไข่ ของนก เพราะจะทาให้นกต่ืนกลัวและท้ิงรงั ของนกไปได้ ดังนั้นการดูนกในธรรมชาติที่ดี จะต้องไม่ทาลายแหล่งท่อี ยู่อาศัยของนกหรอื ส่งเสียงรบกวานแก่นกเปน็ อันขาด 31

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง การจาแนกชนิดของนก นักดูนกรุน่ ใหม่ หรอื ผู้ที่เรม่ิ ดูนก เม่ือพบเห็นนกจะคิดว่าเป็นชนิดใหม่ๆ ตลอดเวลา เม่ือเปดิ ดูในหนังสือแล้วจาแนกไม่ได้ว่าเปน็ นกชนิดใด ดังน้ันจาเปน็ ต้องศึกษาโครงสรา้ งของ นกให้เข้าใจ ฝึกเปิดหนังสือทุกหน้าพรอ้ มทาความรูจ้ ัก จดจาลักษณะเด่นของนกแต่ละชนิด ซ่ึงเป็นการฝึกความคุ้นเคยในการในการใช้หนังสือด้วย ดังนั้นในการดูนกในธรรมชาติมี ขั้นตอนในการพิจารณาดังนี้ 1. ขนาดของนก มีขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรอื ขนาดใหญ่ เป็นอันดับแรก รูปรา่ ง คล้ายกันกลุ่มไหน เชน่ ขนาล็กใกล้เคียงกับนกกระจอกบา้ น หรอื อีกา หรอื เปด็ บ้าน เป็นต้น 2. รูปรา่ งเป็นอ้วนป้อม หรอื เล็กเรยี ว พรอ้ มทั้งสังเกตลักษณะภายนอกได้แก่ ปาก หัว คอ ลาตัว ปกี หางและขา รูปรา่ งลักษณะภายนอกเปน็ แบบใด สังเกตขนาด สีสัน ลวดลาย หรอื ลักษณะเด่นท่ีมองเห็น 3. การเกาะ การเดิน การบิน การกินอาหาร เป็นแบบใด เช่น การเกาะบนก่ิงไม้ การกระดกหางขนึ้ ลง เป็นต้น 4. สีสันและลวดลาย เป็นการสังเกตสีและลวดลายของขนนกท่ีปกคลุมรา่ งกายนก เน่ืองจากนกแต่ละชนิดมีสีสัน ลวดลายแตกต่างกันออกไป โดยมีการพิจารณาบรเิ วณ ปาก หัว (หน้าผาก กระหม่อม ท้ายทอย แก้ม คาง เป็นต้น) คอ ลาตัว (อก ท้อง ก้น หลัง และ ตะโพก เป็นต้น) หาง และขา 5. พฤติกรรมเป็นส่วนสาคัญในการจาแนกกลุ่มหรอื ชนิดของนก คือกรยิ าท่าทางที่ พบเห็น ได้แก่ - การเกาะพัก นกจะต้ังตัวตรงหรอื ขนานกับก่ิงไม้ และเกาะน่ิงหรอื หันไปมา - ทา่ ขยับหาง เป็นพฤติกรรมของนกบางชนิด แกวง่ ไปมาขนึ้ ลง เป็นต้น - การไต่ไม้ เปน็ การไต่แบบหัวชข้ี ึ้น หรอื หัวชลี้ ง เป็นต้น - การบิน เป็นการบินแบบข้ึนๆ ลงๆ บินตรง การรอ่ น การโฉบเฉ่ียวอาหาร บินเรว็ และบินชา้ เป็นต้น 6. เสียงรอ้ ง เสียงรอ้ งของนกแต่ละชนิดมีเสียง และจงั หวะของเสียง หรอื สาเนียง เฉพาะ ทาให้มีการฟัง และจาแนกได้วา่ เป็นนกชนิดใด 7. ถ่ินที่อยู่อาศัย นกแต่ละชนิดมีท่ีอยู่อาศัยแตกต่างกันไป เชน่ บางชนิดอาศยในป่า ดงดิบ ทุ่งหญ้า ชายน้า ทะเล เป็นต้น และแหล่งอาศัยของนกสามารถที่จะจาแนกกลุ่มของ นกได้ 32

ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง วธิ กี ารใชค้ ่มู อื ดนู ก ในอุทยานแหง่ ชาติไทรทอง อุทยานแห่งชาติไทรทอง เป็นแหล่งธรรมชาติท่ีมีความหลากหลายของระบบนิเวศ ได้แก่ ป่าเต็งรงั ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ ตลอดถึงลาห้วย ลาธาร ที่มีส่ิงมีชวี ิตท่ี หลากหลาย อาศัยดารงชวี ิตอยู่ ทาให้มีความหลากหลายชนิดพืช และสัตว์ โดยเฉพาะนกใน อุทยานแห่งชาติไทรทอง สาหรบั คู่มือดูนกในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ฉบับน้ีใช้ในการเรยี งลาดับนกตาม Sibley and moroe (1990) และ Inskipp et al. (1996) อย่างไรก็ตาม ผู้อ่ านสามารถ ค้นหานกแต่ละชนิดได้จากดัชนีรายชอื่ นกท้ายเล่มซง่ึ มีชอื่ ภาษาไทย และชอื่ ภาษาอังกฤษ โดยชอื่ ภาษาไทยเรยี งลาดับตัวอักษรไทย ส่วนชอื่ ภาษาอังกฤษเรยี งตามอักษรภาษาอังกฤษ เชน่ นกกก มีชอื่ ภาษาอังกฤษว่า Great Hornbill จะปรากฎในดัชนีชอ่ื นกภาษาอังกฤษดังนี้ Hornbill , Great การบรรยายเกี่ยวกับนกแต่ละชนิดประกอบด้วย 1. ชอื่ ภาษาไทย เป็นชอ่ื ที่บุคคลทั่วไปใชเ้ รยี กหรอื อาจกล่าวได้ว่าเป็น “ชอ่ื พ้ืนเมือง” ของนกชนิดน้ันๆ 2. ชอ่ื ภาษาอังกฤษ หรอื “ชอื่ สามัญ” เป็นชอ่ื ภาษาอังกฤษของนกแต่ลชนิด 3. ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ประกอบด้วยชอ่ื สกุล (Genus) และชอ่ื ชนิด (Species) 4. วงศ์ เป็นการบรรยายให้ทราบถึงวงศ์ หรอื family ของนกแต่ละชนิด 5. ลักษณะท่ัวไป เป็นการบรรยายลักษณะต่างๆ ทางกายภาพของนก อน่ึง นกท่ี นาเสนอชนิดละ 1 หน้า คือ นกเด่นหรอื ที่พบได้บอ่ ยทีส่ ุดในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 6. ที่อยู่อาศัย เป็นส่วนท่ีบรรยายถึงสถานท่ีพบในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ประกอบด้วยป่าชนิดต่างๆ คือ ป่าเต็งรงั ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพพรรณ และการบรรยายของ ระดับต่างๆของปา่ ว่าพบนกบรเิ วณระดับใด เชน่ พื้นดิน เรอื นยอดไม้ บรเิ วณพุ่มไม้เตี้ย 7. อาหาร เป็นการบรรยายกว้างถึงชนิดอาหารของนก เชน่ เมล็ดพืช ผลไม้ หนอน แมลง และสัตว์ขนาดเล็ก 8. ทารงั (nest and nesting) เป็นการบรรยายถึงการสรา้ งรงั และวางไข่ รวมถึง รปู ทรงของรงั และวัสดุท่สี รา้ งรงั 33

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง 9. ลักษณะเด่น เปน็ การบรรยายถึงลักษณะเด่นของนกแต่ละชนิด ใชเ้ พ่ือจาแนกชนิด ของนกด้เรว็ ย่ิงขึน้ 10. สถานภาพ เป็นการบรรยายเก่ียวกับสถานภาพตามฤดูกาลของนกแต่ละชนิดใน อุทยานแห่งชาติไทรทอง ว่าเปน้ นกประจาถ่ินหรอื นกอพยพ ก. นกประจาถ่ิน (resident) เป็นนกท่ีอาศัย หาอาหาร สรา้ งรงั วางไข่ และเล้ียงลูก อ่อนอยู่ในประเทศไทยตลอดปี เชน่ นกกะรางหัวหงอก นกหัวขวานป่าไผ่ นกกก และนก กางเขน เปน็ ต้น ข. นกอพยพ (visitor) เป็นนกท่ีเข้ามาอาศัยบรเิ วณอุทยานฯ บางฤดูกาลเท่าน้ัน คือ นกอีเสือสีนา้ ตาล นกเขนน้อยไซบเี รยี เป็นต้น นกอพยพในหนังสือเล่มน้ีรวมถึงนกท่ีอาศัยเพียงระยะเวลาอันส้ันแล้วก็อพยพผ่าน ไปยังที่อื่นต่อไป เรยี กว่า อพยพผ่าน (passage) รวมถึงอพยพมาสรา้ งรงั วางไข่ ในบรเิ วณ อุทยานแห่งชาติไทรทอง คือ ฤดูวางไข่และเม่ือลูกโตก็จะอพยพกลับ นอกจากจะบรรยายถึงสถานภาพของนกตามฤดูกาลแล้ว ยังบรรยายถึงสถานภาพ ของนกทางการอนุรกั ษ์ด้วยว่า เป้นสัตว์ป่าสงวนหรอื สัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2537) ซงึ่ ออกตาม ความในพระราชบัญญัติดังกล่าว และยังบรรยายว่าเป็นสัตว์ป่าที่ถูกคุกคามหรอื ไม่ในแต่ละ ประเภท โดยอ้างตามสานักงานนโยบายและแผนส่ิงแวดล้ม (พ.ศ. 2540) และจัดตาม IUCN (1994) 11. พฤติกรรม เปน็ การบรรยายพฤติกรรมเด่นต่างๆ ของนกแต่ละชนิด 34

ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง นกในอุทยานแหง่ ชาติ วงศ์เหยย่ี วและอินทรี ไทรทอง ACCIPITRIDAE เหยย่ี วก้ิงก่าสีดา Black Baza Aviceda leuphotes Family ACCIPITRIDAE ลักษณะท่ัวไป : หงอนยาว หัวและลาตัวดา อกและท้องขาวมีลายขวางสีดา และน้าตาลแกมแดง ปีกมีแถบขาวและน้าตาลแดง ขณะบินปีกสั้น กลางปีกโป่ง ออกและสอบเรยี วไปทางปลายปีก ขนคลุมใต้ปีกดาตัดกับขนปีกบินและหางเทา ขนกลางปีกเทาเกือบดา ปลายปกี ดา ท่ีอยู่อาศัย : ปา่ เบญจพรรณ ป่าดงดิบและปา่ รุน่ พบบรเิ วณเรอื น ยอดไม้และเหนือเรอื นยอดไม้ อาหาร : สัตวข์ นาดเล็ก ทารงั : ทารงั แบบหยาบ ๆ บนต้นไม้ด้วยการวางก่ิงไม้ซอ้ นกัน หลาย ๆ ชนั้ บนง่ามไม้ ทาตรงกลางให้เปน็ แอ่ง และนา ใบไม้สดมาวางไวเ้ พื่อรองรบั ไข่ ลักษณะเด่น : มีหงอนขนยาวสีดา หัวหลัง ปกี และหางดา อกสีขาวและมี แถบสีดาพากลาง ขณะบินปลายปีกสีขาวใหญ่ ขนหาง ด้านล่างสีขาว สถานภาพ : นกประจาถ่ิน/สัตวป์ ่าคุ้มครอง พฤติกรรม : บินรอ่ นในอากาศ เกาะเด่นบนเรอื นยอดไม้ มักบินเหนือ เรอื นยอดเล็กน้อย อ้างอิงรปู ภาพ : http://www.lowernorthernbird.com 35

วงศ์เหยย่ี วและอินทรี ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACCIPITRIDAE เหยย่ี วขาว Black-winged Kite Elanus caeruleus Family ACCIPITRIDAE ลักษณะท่ัวไป : หัวและลาตัวด้านล่างขาว ตาแดง แถบตาดา ลาตัวด้านบนเทา อ่อน เห็นแถบปีกดาตรงจากหัวไหล่ชดั เจน แข้งและตีนเหลือง ขณะบินปีกยาวปลาย แหลม หัวไหล่ดา ขนปลายปีกด้านล่างดา ปลายขนกลางปีกอาจดาหรอื เทาเข้ม มัก พบกระพือปีกอยู่กับที่เพ่ือมองหาเหยื่อ นกวัยอ่อน : ขนลาตัวแกมน้าตาล หัวมีลาย ขีดสีคล้า ลาตัวด้านบนมีลายเกล็ดจากขอบปลายขนสีนา้ ตาลอ่อน ท่ีอยู่อาศัย : พื้นท่ีโล่ง ทุ่ง ไม้พุ่ม ระดับเรอื ยยอดไม้ อาหาร : สัตว์ขนาดเล็ก ทารงั : ใชก้ ่ิงไม้วางซอ้ นกันบนง่ามไม้ รปู แบบรงั คล้ายถ้วยขนาดใหญ่ ลักษณะเด่น : หน้าผาก กระหม่อม ทา้ ยทอย หลังสีเทา หัวไหล่มีแถบหน้า และยาวสีดา ปกี ยาวแหลม ปลายสีดา สถานภาพ : นกประจาถ่ิน/สัตวป์ า่ คุ้มครอง พฤติกรรม : เกาะลาต้นต้ังตรงเด่นบนก่ิงไม้แห้งหรอื สายไฟฟ้า เวลาเย็น ๆ จะบินอยู่กับท่กี ลางอากาศดูคล้ายวา่ วลอยอยู่ในอากาศ 36

วงศ์เหยยี่ วและอินทรี ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACCIPITRIDAE เหยย่ี วดา Black Kite Milvus migrans Family ACCIPITRIDAE ลักษณะทัว่ ไป : หางเวา้ เป็นแฉก ปกี ยาว ขนลาตัวนา้ ตาลเข้มเกือบดา อกมีลาย สีเขม้ แซมแต่เห็นไม่ชดั นัก ขณะบนิ ใต้ปกี เห็นแถบสีขาวเล็ก ๆ บรเิ วณโคนขนปลาย ปีก ปีกด้านบนมีแถบน้าตาลอ่อนบรเิ วณ ขนคลุมปกี หนังคลุมจมูก แข้งและตีนสี เหลือง นกวยั อ่อน ลาตัวด้านล่างมีลายขดี สีขาวแกมน้าตาล ลาตัวด้านบนมีลายจาก ขนสีอ่อน ท่ีอยู่อาศัย : ป่าเปดิ ปา่ รมิ แหล่งนา้ พบบรเิ วณเรอื นยอดไม้และ เหนือเรอื นยอดไม้ อาหาร : สัตว์ขนาดเล็ก ทารงั : ใชก้ ่ิงไม้มาวางซอ้ นกันบนง่ามไม้ของต้นไม้รงั เป็นแบบรูปถ้วย ลกั ษณะเดน่ : หางเว้า ขณะบินกลางปีกสีขาว ปลายปกี สีดา สถานภาพ : นกประจาถ่ิน/สัตว์ปา่ คุ้มครอง ใกล้สูญพันธุ์ พฤตกิ รรม : บนิ รอ่ นไปมา เกาะเด่นบนเรอื นยอดไม้ อ้างอิงรปู ภาพ : http://www.lowernorthernbird.com 37

วงศ์เหยยี่ วและอินทรี ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACCIPITRIDAE เหยยี่ วดาใหญ่ Black-eared Kite Milvus lineatus Family ACCIPITRIDAE ลักษณะท่ัวไป : เป็นนกขนาดกลาง ขนาดลาตัวประมาณ 60 - 66 เซนติเมตร ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะเหมือนกันคือ ลาตัวสีน้าตาลเข้มอมเหลืองท้ังด้านบนและ ด้านล่าง ปีกสีน้าตาลเข้ม หางเป็นแฉกตื้น ๆ มองดูคล้ายง่าม ปากสั้นดาแหลมคม ปลายปากเป็นขอ หัวค่อนข้างใหญ่ คอส้ัน ปีกยาว ส่วนนกท่ียังไม่โตเต็มที่ ลาตัวจะ เปน็ สีน้าตาลอ่อน พรอ้ มกับมีขดี สีเหลืองอ่อนทว่ั ทงั้ ตัว ท่ีอยู่อาศัย : ทุ่งนา พ้ืนที่เกษตรกรรม และพ้ืนท่ีเปิดโล่งต่าง ๆ มักพบใกล้ พื้นที่ชมุ่ น้า อาหาร : ปลา ลูกนก เป็ดไก่ หนู กระต่าย กบ เขียด แมลง ทารงั : ทารงั รวมกันเปน็ กลุ่มบนต้นไม้สูง ท้ังตัวผู้และตัวเมียจะชว่ ยกัน สรา้ งรงั ด้วยก่ิงไม้เล็ก ๆ ลักษณะเด่น : หัวค่อนขา้ งใหญ่ คอส้ันปีกยาว หางยาว ปานกลาง ปลายหาง เว้าด้ืน สีสันของรา่ งกายท่วั ๆ ไปเป็นสีน้าตาลดา บรเิ วณหัวและ ปลายปกี มักจะจางกว่าบรเิ วณอ่ืนๆ สถานภาพ : นกอพยพ/สัตว์ป่าคุ้มครอง ใกล้สูญพันธุ์ พฤตกิ รรม : หากินเวลากลางวัน ชอบบินอยู่ตามทโี่ ล่งชายป่า ตามรมิ ฝ่ ัง ทะเล หรอื ตามแม่นา้ ลาคลองต่าง ๆ เพ่ือหาอาหาร อ้างอิงรปู ภาพ : http://www.lowernorthernbird.com/checklist.php? cat_id=30&c_id=635 38

วงศ์เหยยี่ วและอินทรี ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACCIPITRIDAE เหยย่ี วแดง Brahminy Kite Haliastur indus Family ACCIPITRIDAE ลักษณะทั่วไป : ขนลาตัวน้าตาลแดงสดใส ตัดกับหัวและอกขาวมีลายขีดดา ขณะบินปีกกว้างปลายปีกแยก ขนคลุมใต้ปีกน้าตาลแดงเข้ม ขนปีกบินสีอ่อนกว่า มี แถบใหญ่สีน้าตาลแกมเหลืองจากโคนขนปลายปีก ปลายปีกดา หนังคลุมจมูก แข้ง และตีนเหลือง นกวยั อ่อน : คล้ายเหยี่ยวดาแต่หางมน ขนลาตัวนา้ ตาลแกมดา มีลาย ขดี ท่ีหัวและอก ขณะบินใต้ปีกมีแถบขาวแกมนา้ ตาลจากโคนขนปลายปีกบนิ ที่อยู่อาศัย : ป่าเปดิ ป่ารมิ แหล่งน้า พบบรเิ วณเรอื นยอดไม้และเหนือ เรอื นยอดไม้ อาหาร : ปลา กบ เขยี ด งู และค้างคาว ทารงั : นาก่ิงไม้ต่าง ๆ มาวางซอ้ น ทบั กันตามก่ิงหรอื ง่ามของต้นไม้ ทาตรงกลางให้เปน็ แอ่งเพ่ือรองรบั ไข่ ลักษณะเด่น : ขณะบนิ จะเห็นหางแผ่กว้าง ปลายหางค่อนขา้ งกลมชดั เจน สถานภาพ : นกประจาถ่ิน/สัตว์ปา่ คุ้มครอง พฤติกรรม : บนิ รอ่ นไปมา เกาะเด่นบนเรอื นยอดไม้ อ้างองิ รปู ภาพ : http://www.lowernorthernbird.com 39

วงศ์เหยย่ี วและอินทรี ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACCIPITRIDAE เหยยี่ วนกเขาชคิ รา Shikra Accipiter badius Family ACCIPITRIDAE ลักษณะทั่วไป : ตัวผู้ ตาแดง หัวและลาตัวด้านบนเทาแกมฟ้า ลาตัวด้านล่าง ขาว คอขาวมีเส้นกลางคอสีเข้ม อกและท้องมีลายขวางถ่ีสีส้มแกมน้าตาลแดง หางเทามีลายขวางสีเข้มไม่ชดั เจน ขณะบินปีกตอนในค่อนข้างกว้าง ขนคลุมใต้ปีก มีลายส้มแกมน้าตาล ขนปีกบินขาวมีลายยาวสีคล้า ปลายปีกดา ตัวเมีย ขนาดใหญ่ ตาเหลือง ลาตัวด้านบนแกมน้าตาลมากกว่าตัวผู้ ลายขวางท่ีอกหนาแกมน้าตาล นกวัยอ่อน หัวและลาตัวน้าตาลเข้มมีลายจากขอบขนสีขาว เส้นกลางคอชัดเจน อกมีลายขีดรูปหยดน้ายาวสีน้าตาลเข้ม สีข้างเป็นลายขวาง หางน้าตาลมีแถบสีเข้ม 5 แถบ ท่ีอยู่อาศัย : ป่าโปรง่ บางครงั้ พบตามสวนผลไม้และสวนสาธารณะที่ราบถึง ความสูง 1,650 เมตร อาหาร : สัตวข์ นาดเล็ก ทารงั : ใชก้ ่ิงไม้มาวางซอ้ นกันบนง่ามก่ิงไม้ รงั เปน็ รปู ถ้วย ลักษณะเดน่ : กระหม่อม หลัง ปกี และหางสีเทา อก ท้องและกันมีลายขีด สีนา้ ตาลแดงพาดตามขวางลาตัว สถานภาพ : นกประจาถ่ิน/สัตว์ปา่ คุ้มครอง พฤตกิ รรม : เกาะเด่นบนก่ิงไม้ ขณะบนิ จะกระพือปีกเรว็ 40

วงศ์เหยยี่ วและอินทรี ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACCIPITRIDAE เหยย่ี วนกเขาพนั ธจุ์ นี Chinese Sparrowhawk Accipiter soloensis Family ACCIPITRIDAE ลักษณะท่ัวไป : ตัวผู้ ตาแดง หนังคลุมจมูกส้มแกมเหลืองสดกว่าชนิดอ่ืน ไม่มี เส้นกลางคอ หัวและลาตัวด้านบนเทาแกมฟ้าเข้มกว่าเหยี่ยวนกเขาชเิ ครา ลาตัว ด้านล่างขาว อกสีส้มอ่อนดูเรยี บหรอื มีลายขวางจางๆ ขณะบินใต้ปีกขาว ปลายปีกดา ใหญ่ชดั เจน ขนคลุมใต้ปีกส้มจางๆ ตัวเมีย ตาเหลือง ขนาดใหญ่กว่า มีเส้นกลางคอ จางๆ หัวและลาตัวด้านบนแกมน้าตาลมากกว่าตัวผู้ อกมีลายเข้มกวา่ นกวัยอ่อน หัว และลาตัวเทาเข้ม ลาตัวด้านบนน้าตาลเข้ม ลายขีดท่ีคอและอกน้าตาลแดงเข้ม หาง มีแถบ 4 แถบ ขณะบินใต้หางเห็น 3 แถบ ขนคลุมใต้ปีกนา้ ตาลส้มไม่มีลาย ขนปีกบนิ ด้านในมีลายตามยาว 2 แถบ ปลายปกี ดาหรอื เทาเข้ม ที่อยู่อาศัย : ป่าโปรง่ บางครงั้ พบตามสวนผลไม้หรอื สวนสาธารณะท่ีราบถึง ความสูง 2,135 เมตร อาหาร : สัตว์และแมลงต่าง ๆ และนกขนาดเล็ก ทารงั : ใชก้ ่ิงไม้มาวางซอ้ นกันบนง่ามก่ิงไม้ รงั เปน็ รูปถ้วย ลักษณะเด่น : ด้านบนลาตัวสีเทาถึงเทาเข้ม คอหอยสีขาวไม่มีลายใด ๆ สถานภาพ : นกอพยพ/สัตว์ปา่ คุ้มครอง พฤตกิ รรม : บินรอ่ นในอากาศ จอ้ งหาเหยื่อตามต้นไม้ อ้างองิ รปู ภาพ : http://www.lowernorthernbird.com 41

วงศ์เหยยี่ วและอินทรี ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACCIPITRIDAE เหยย่ี วนกเขาหงอน Crested Goshawk Accipiter trivirgatus Family ACCIPITRIDAE ลักษณะทั่วไป : ตัวผู้ ตาเหลืองหรอื ส้ม ท้ายทอยมีหงอนส้ันๆ แต่ปกติราบไปกับ หัว แตกต่างจากลาตัวด้านบนสีนา้ ตาลแกมเทา คอขาว เส้นกลางคอดา มีแถบหนวด จางๆสีดา อกมีลายใหญ่รูปหยดน้าเรยี งกันเป็นขีดหนาสีน้าตาลแดง ต่อกับลายขวาง ที่อกด้านล่างและท้อง หางด้านบนมีแถบกวา้ ง 3 แถบ ขณะบินปีกด้านหลังกว้าง ตัว เมีย ขนาดใหญ่กว่า ตาเหลือง หัวเทาแกมน้าตาล ลายที่อกและท้องสีน้าตาล นกวัย อ่อน คล้ายนกเต็มวยั แต่ตาเหลืองซดี ขา้ งหัวและลาตัวด้านบนนา้ ตาลกวา่ ขนคลุมหู มีลายขีดจาง ๆ กระหม่อม ท้ายทอย และลาตัวด้านบนมีลายจากขอบขนสี น้าตาล อ่อน ลาตัวด้านล่างขาวแกมน้าตาลอ่อน มีลายขีดยาวสีน้าตาลเข้มจากคอถึงท้อง ลายขวางมีเฉพาะสีขา้ งและท้องด้านล่าง ที่อยู่อาศัย : ป่าเบญจพรรณและป่าดงดิบ พบบรเิ วณเรอื นยอดไม้และเหนือ เรอื นยอดไม้ อาหาร : สัตวข์ นาดเล็ก ทารงั : ใชก้ ่ิงไม้วางทับกันเป็นรูปถ้วยเพ่ือวางไข่ ลักษณะเด่น : หงอนขนส้ันสีดา อกมีลายจุดประสีน้าตาลแดง สถานภาพ : นกประจาถ่ิน/สัตว์ปา่ คุ้มครอง พฤตกิ รรม : บินรอ่ นในอากาศ และเกาะเด่นบนเรอื นยอดไม้สูง อา้ งอิงรปู ภาพ :ThaiRaptorGroup.TRG/photos/a.766975686696898/ 951018238292641/?type=3&_rdc=1&_rdr 42

วงศ์เหยย่ี วและอินทรี ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACCIPITRIDA เหยย่ี วปกี แดง Rufous-winged Buzzard Butastur liventer Family ACCIPITRIDAE ลักษณะท่ัวไป : ตัวผู้ คล้ายเหยี่ยวหน้าเทา ตาเหลือง หนังคลุมจมูกเหลืองส้ม สด หัวและลาตัวเทา ลาตัวด้านบนนา้ ตาลแดงสดใส แขง้ ยาวสีเหลืองส้ม ขณะบนิ ขน ปีกบินและหางน้าตาลแดงชดั เจน ขนคลุมใต้ปีกขาว นกวัยอ่อน ค้ิวขาว แคบ ๆ หัว และลาตัวด้านล่างนา้ ตาล ลาตัวด้านบนแกมน้าตาลแดง แถบกลางปีกน้าตาลแดง ท่ีอยู่อาศัย : ป่าเต็งรงั ปา่ โปรง่ พ้ืนท่เี กษตรกรรมเปดิ โล่งใกล้ป่า อาหาร : หนู นกขนาดเล็ก งู ก้ิงก่า กบ ปู ตั๊กแตน และสัตว์ขนาดเล็ก อ่ืน ๆ ทารงั : ก่ิงไม้ขนาดเล็ก ๆ มาวางซอ้ นทับกัน ตามง่ามหรอื ก่ิงก้านของ ต้นไม้ ลักษณะเด่น : ปลายหางตัดในขณะท่ีบินจะเห็นขนคลุมโคนขนหางด้านล่าง สีขาว ในขณะทขี่ นคลุมปีกสีน้าตาลแดง หางมีลายแถบชดั เจน สถานภาพ : นกประจาถ่ิน/สัตวป์ า่ คุ้มครอง พฤตกิ รรม : บนิ รอ่ นในอากาศ และเกาะเด่นบนเรอื นยอดไม้สูง อ้างอิงรปู ภาพ : https://www.birdsofthailand.org/photo/3526 43

วงศ์เหยยี่ วและอินทรี ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACCIPITRIDAE เหยยี่ วผ้ึง Oriental Honey-buzzard Pernis ptilorhynchus Family ACCIPITRIDAE ลักษณะทั่วไป : ตัวผู้สีอ่อน ตาน้าตาลแดง หางด้านล่างเห็นแถบขาวกว้างมาก ปลายดากว้างกว่าตัวเมีย ส่วนใหญ่หัวและหน้าเทา ลาตัวด้านล่างขาวแกมน้าตาล- น้าตาลแดง คอขาวมีเส้นดารอบ อาจมีเส้นกลางคอ ขนคลุมใต้ปีกน้าตาลเหลือง- น้าตาลแดง มีลายตามยาวสีเข้ม ขนปีกบินขาวหรือเทา ปลายปีกและขอบปีก ด้านหลังดากว้างกว่าตัวเมีย มีลายตามยาวที่ขนปีกบินด้านใน 2 แถบ ตัวเมียสีอ่อน ตาเหลือง แถบขาวใต้หางแคบกว่า เห็นเป็นแถบดา 4 แถบ แถบปลายหางและแถบ ขอบปีกด้านหลังแคบกว่าตัวผู้ นกเต็มวัยสีเขม้ ขนลาตัวและขนคลุมใต้ปกี นา้ ตาลเข้ม คออาจมีสีอ่อน นกวัยอ่อน : มักมีหัวลาตัวด้านล่างสีจางออกขาว ลายใต้ปีกจางกว่า และลายใต้หางมี 3 - 4 แถบ ที่อยู่อาศัย : ป่าดงดิบและป่าเบญจพรรณ พบบรเิ วณเรอื นยอดไม้และเหนือ เรอื นยอดไม้ อาหาร : สัตว์ขนาดเล็ก ทารงั : ทารงั ขนาดใหญ่ ใชก้ ่ิงไม้มาวางซอ้ นกันตรงกลางเปน็ แอน่ คล้าย รปู ถ้วย ลกั ษณะเดน่ : ขณะบิน ขอบปีกและปลายหางสีดา กลางปีกสีขาว สถานภาพ : นกประจาถ่ินและนกอพยพ/สัตว์ปา่ คุ้มครอง พฤตกิ รรม : บนิ รอ่ นไปมา และเกาะเด่นบนต้นไม้สูง อ้างองิ รปู ภาพ : http://www.lowernorthernbird.com/ checklist.php?cat_id=30&c_id=217 44

วงศ์เหยยี่ วและอินทรี ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACCIPITRIDAE เหยย่ี วรงุ้ Crested Serpent Eagle Spilornis cheela Family ACCIPITRIDAE ลักษณะท่ัวไป : หนังรอบตาและหนังคลุมจมูกเหลือง ปลายปากดา ท้ายทอยมี หงอนส้ันๆ ปลายแต้มจุดขาวปกติราบไปกับหัว หัวและลาตัวน้าตาลเข้ม ลาตัว ด้านล่างสีอ่อนกว่า มีจุดขาวขอบดากระจาย ขณะบินลาตัวด้านล่างและขนคลุมใต้ปกี น้าตาลเขม้ มีลายจุดขาวกระจาย ขนปีกบนิ ดามีแถบขาวใหญ่พาดกลาง หางดามีแถบ ขาวใหญพ่ าดกลาง ที่อยู่อาศัย : ปา่ ดงดิบ ปา่ เบญจพรรณ พบบรเิ วณระดับเรอื นยอดไม้และ บินอยู่บนฟ้า อาหาร : สัตวข์ นาดเล็ก นก ทารงั : เปน็ รงั ขนาดใหญ่ใชก้ ่ิงไม้สรา้ งทบั กันเปน็ รปู ถ้วยบนต้นไม้สูง จากพื้นดิน 6-30 ม. ลักษณะเด่น : โคนปากและหัวตาเป็นหนังสีเหลือง คอหอยและอกสีน้าตาลไหม้ ท้ อ ง แ ล ะ ก้ น สี น้ า ต า ล ไ ห ม้ จ า ก มี ล า ย จุ ด สี ข า ว ส ลั บ ด า โ ค น ห า ง สีขาว ขณะบนิ ขนปีก และกลางหาง มีแถบสีขาวเหลืองหนา สถานภาพ : นกประจาถ่ิน/สัตว์ป่าคุ้มครอง พฤตกิ รรม : เกาะเด่นบนก่ิงไม้ บนิ รอ่ นอยู่ในอากาศสูงและส่งเสียงรอ้ ง แหลม ขณะรอ่ นปีกยกสูงกวา่ ลาตัวเล็กน้อย คล้ายตัววี อ้างอิงรปู ภาพ : https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%84% E0%B8%A5%E0%B8% %8C/48281 45

วงศ์เหยย่ี วและอินทรี ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACCIPITRIDAE เหยยี่ วหน้าเทา Grey-faced Buzzard Butastur indicus Family ACCIPITRIDAE ลักษณะทั่วไป : ตัวผู้ ตาและขนคลุมจมูกเหลือง หัวเทาอาจมีค้ิวขาว ทา้ ยทอยมี ลายขีดขาวเป็นแถบ คอขาว มีเส้นกลางคอและมีแถบหนวดเป็นขอบด้านข้างสีเทา เข้มเกือบดา อกน้าตาลมีลายขีดยาวสีเข้ม อกตอนล่างและท้องมีลายขวางส้ันๆ ต่อ กันเป็นลายยาว ลาตัวด้านบนนา้ ตาลแกมเทา แขง้ ยาวสีเหลือง ขณะบินคล้ายเหย่ียว สกุล Accipiter แต่ปกี ยาวเรยี วกว่า ปลายค่อนขา้ งแหลม ขนปีกบนิ น้าตาลแกมแดง ใต้ปีกขาวปลายปีกดา ขนคลุมใต้ปีกมีลายขีดสีน้าตาลเล็ก ๆ หนาแน่น ขนปีกบินมี ลายเทาดาจาง ๆ หางมีแถบดา 3 แถบ ตัวเมีย ค้ิวขาว ชดั เจนกว่า หัวน้าตาลกว่า อก มีลายขวางสีขาวมากกวา่ ท่ีอยู่อาศัย : ป่ารุน่ พื้นท่เี พาะปลูกและสวน พบบรเิ วณเรอื นยอดไม้และ เหนือเรอื นยอดไม้ อาหาร : สัตว์ขนาดเล็ก ทารงั : ไม่ปรากฎทารงั ในประเทศไทย ลักษณะเด่น : หน้าสีเทา คอหอยสีขาว ท้องมีลายแถบสีน้าตาลแดงขณะบิน ขนปกี ด้านล่างสีขาว อกสีนา้ ตาล สถานภาพ : นกอพยพ/สัตว์ป่าคุ้มครอง พฤตกิ รรม : บินรอ่ นไปในอากาศ และเกาะน่ิงบรเิ วณรม่ ไม้ อ้างอิงรปู ภาพ : https://www.birdsofthailand.org/sites/default/files/photo/buzzard%20 grey%20faced%2020121027%20kds.jpg 46

วงศ์นกพง ค่มู อื นก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ACROCEPHALIDAE นกพงใหญพ่ ันธญุ์ ป่ี นุ่ Oriental Reed Warbler Acrocephalus orientalis Family ACROCEPHALIDAE ลักษณะท่ัวไป : ปากล่างสีเนื้อแกมส้มปลายคล้า ค้ิวยาวสีขาว แถบคาดตาดา ขนลาตัวด้านบนน้าตาลแกมเขียวไพล คอและลาตัวด้านล่างขาว อกมีขีดสีเทาจาง ๆ สีข้างและก้นน้าตาลแกมเหลืองเข้ม ปลายหางมีแต้มขาวหรอื ขาวแกมน้าตาล ขณะ เกาะขนปลายปีกยาวกว่านกพงใหญ่พันธอุ์ ินเดียเม่ือเทียบกับปลายขนโคนปกี ท่ีอยู่อาศัย : ป่ากก ป่าหญา้ ปา่ ละเมาะ และท่งุ โล่ง อาหาร : แมลง และหนอน ทารงั : ไม่ปรากฏทารงั ในประเทศไทย ลักษณะเด่น : ลาตัวสีนา้ ตาล ค้ิวสีเนื้อ บรเิ วณหัวตาสีเนื้อ สถานภาพ : นกอพยพ/สัตว์ปา่ คุ้มครอง พฤติกรรม : มักจะกระโดดไปมาระหว่างพุ่มหญา้ หรอื กก หรอื พืชต่าง ๆ ท่ีค่อนขา้ งรกทึบ อ้างอิงรูปภาพ : http://www.lowernorthernbird.com 47

วงศ์นกขม้ินน้อย ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง AEGITHIDAE นกขม้นิ น้อยธรรมดา Common Iora Aegithina tiphia Family AEGITHIDAE ลักษณะทั่วไป : ปากสีเทา ตัวผู้ หัวและลาตัวด้านบนเขียวแกมเหลือง ลาตัว ด้านล่างเหลืองสดกว่า หางดา ปีกมีแถบขาว 2 แถบ ชนิดย่อย horizoptera ชว่ ง ผสมพันธุ์หัวและหลังดาชดั ตัวเมีย รอบตาเหลือง สีซีดกว่า ปีกคล้า แถบขาวไม่ เด่นชดั เท่าตัวผู้ ทอ่ี ยอู่ าศัย : ป่าท่ัวไป พบบรเิ วณก่ิงไม้ระดับกลางถึงเรอื นยอดไม้ อาหาร : หนอนและแมลง ทารงั : ทารงั เปน็ รูปถ้วยอยู่ระหว่างก่ิงไม้ ลกั ษณะเด่น : มีแถบสีขาวหนาทีห่ ัวไหล่ 2 แถบ ลาต้นด้านล่างสีเหลืองสด ด้านหลังสีเขยี วอ่อน สถานภาพ : นกประจาถ่ิน/สัตวป์ า่ คุ้มครอง พฤตกิ รรม : เต้นไปมาบนก่ิงไม้ และบางครงั้ หอ้ ยโหนตามดงไม้เพื่อจกิ หา อาหาร อา้ งอิงรปู ภาพ : http://www.lowernorthernbird.com 48

วงศ์นกจาบฝน ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ALAUDIDAE นกจาบฝนปกี แดง Indochinese Bushlark Mirafra erythrocephala Family ALAUDIDAE ลักษณะทั่วไป : ลาตัวอวบหนากว่านกจาบฝนชนิดอื่น คล้ายนกจาบฝนเสียงใส มาก แต่ขณะบนิ สีน้าตาลแดงท่ีปีกมากกวา่ หางส้ันและไม่มีสีขาวท่ขี อบหาง หน้าและ ขนคลุมหูสีน้าตาลมีขอบสีเข้ม ลายที่อกเป็นจุดใหญ่ค่อนข้างหนาสีดาเรยี งกันเป็น แถวตามยาว ที่อยู่อาศัย : ทุ่งหญา้ พื้นท่โี ล่งและแห้งแล้ง พ้ืนท่เี กษตรกรรมในที่ราบ อาหาร : เมล็ดพืช เมล็ดหญา้ ตัวหนอน และแมลงต่าง ๆ ทารงั : ทารงั เปน็ รปู กระโจมด้วยกอหญา้ แห้ง ตามพ้ืนดิน หรอื โคน กอหญา้ ลกั ษณะเดน่ : ด้านบนลาตัวสีนา้ ตาลมีลายขดี สีเข้มชดั เจน คอหอยสีออกขาว สถานภาพ : นกประจาถ่ิน/สัตว์ป่าคุ้มครอง พฤติกรรม : ชว่ งฤดูผสมพันธมุ์ ักจะเห็นตัวผู้บนิ ขน้ึ ไปกลางอากาศสูง ประมาณ 10 เมตร แล้วท้ิงตัวด่ิงลงมา ด้วยการกางปีกเปน็ รปู ตัววี (V) พรอ้ มส่ิงเสียงรอ้ ง เป็นการเกี้ยวพาราสีตัวเมีย อ้างอิงรปู ภาพ : http://www.lowernorthernbird.com/checklist.php? c_id=559 49

วงศ์นกกะเต็น ค่มู ือนก ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ALAUDIDAE นกกะเตน็ อกขาว White-throated Kingfisher Halcyon smyrnensis Family ALCEDINIDAE ลักษณะทั่วไป : นกขนาดเล็ก (28 ซม.) เท่ากับนกเอี้ยงสาลิกา ปากหนาเรยี ว ยาวแหลมสีแดง หัวโต ลาตัวป้อม หางสั้น หน้าผากกระหม่อม ท้ายทอย หน้าท้อง และก้นสีน้าตาลไหม้ คอหอยและอกสีขาว หลัง ตะโพกสีน้าเงิน ปีก หาง สีน้าเงิน เหลือบ หัวไหล่สีนา้ ตาลไหม้ ขาสั้นสีแดง ที่อยู่อาศัย : ทงุ่ โล่งหรอื ใกล้แหล่งนา้ พื้นทีเ่ กษตรกรรม อาหาร : แมลงและสัตว์ขนาดเล็ก ทารงั : ขุดรูทารงั ในดินตามตล่ิงสูง รมิ แหล่งนา้ ลักษณะเด่น : คอหอยและอกสีขาว หัว ทา้ ยทอยและทอ้ งสีน้าตาลไหม้ ปากสีแดงยาว ตัดกับหลัง หางและปกี สีนา้ เงิน สถานภาพ : นกประจาถ่ิน/สัตว์ป่าคุ้มครอง พฤติกรรม : เกาะเด่นบนก่ิงไม้แห้งรมิ แหล่งน้าหรอื เสาไฟฟ้าบนิ โฉบจบั อาหารในนา้ จนกระเพื่อม แล้วบินกลับมาเกาะกินอาหาร บรเิ วณฬกล้เคียง 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook