Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ม.2

ม.2

Published by chaiyanbk, 2020-01-14 00:39:14

Description: ม.2

Search

Read the Text Version

ข้อสอบมาตรฐานปลายภาค /รายปี ชุดที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม วชิ าพระพุทธศาสนา ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 จานวน 50 ข้อ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกตอ้ งท่สี ุดหรือเหมาะสมทส่ี ุดเพยี งคาตอบเดียว 1. เพราะเหตุใดพระพทุ ธศาสนาในประเทศมาเลเซียจึงเส่ือมความนิยมลง ก. เกิดสงครามกลางเมืองบ่อยคร้งั ข. การเขา้ มาเผยแผศ่ าสนาอื่นของมิชชนั นารี ค. ไม่มีการสร้างวดั หรือพทุ ธสถานใหป้ ฏบิ ตั ิศาสนกิจ ง. ผปู้ กครองนบั ถือศาสนาอื่น แลว้ ใหป้ ระชาชนหนั มานบั ถอื ตามอยา่ ง 2. ประเทศอินโดนีเซียมีศาสนาอิสลามเป็ นศาสนาประจาชาติ แต่ยงั คงใหค้ วามสาคญั กบั พระพทุ ธศาสนาเห็น ไดช้ ดั จากสิ่งใด ก. นิยมใหล้ ูกชายบวชเรียน ข. ส่งเสริมการสรา้ งวดั อยา่ งจริงจงั ค. จดั กิจกรรมสงั ฆทานเป็นประจาทุกปี ง. รัฐบาลกาหนดใหว้ นั วสิ าขบูชาเป็นวนั หยดุ ราชการ 3. ประเทศใดริเร่ิมนาเทคโนโลยมี าช่วยในการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา ก. ประเทศลาว ข. ประเทศสิงคโปร์ ค. ประเทศเวยี ดนาม ง. ประเทศอินโดนีเซีย 4. หลกั ธรรมขอ้ ใดของหลกั สาราณียธรรมทน่ี ามาใชท้ างการทตู ไดเ้ ด่นชดั ที่สุด ก. อตั ถจริยา ข. สมานตั ตตา ค. เมตตาวจกี รรม ง. เมตตามโนกรรม 5. การคิดสร้างเขอื่ นในลาน้าโขงควรพจิ ารณาใชห้ ลกั ธรรมใดมาเป็นลาดบั แรก ก. เมตตากายกรรม ข. เมตตามโนกรรม ค. มีความคดิ เห็นตรงกบั ประเทศอ่ืน ง. การแบ่งปันผลประโยชนท์ ีเ่ กิดข้นึ 1

6. หลกั ธรรมขอ้ ใดมีความสอดคลอ้ งกบั หลกั การดาเนินงานขององคก์ ารสหประชาชาติมากท่สี ุด ก. เมตตาวจกี รรม ข. เมตตามโนกรรม ค. หลกั การประพฤตเิ สมอมิตรประเทศ ง. หลกั การแบ่งปันผลประโยชน์ที่เกิดข้ึน 7. ภาษาไทยซ่ึงเป็นสญั ลกั ษณ์ของชาติไทยเก่ียวขอ้ งกบั พระพทุ ธศาสนาอยา่ งไร ก. ภาษาไทยเป็นตน้ กาเนิดของภาษาบาลี-สนั สฤต ข. ภาษาไทยหลายคามีรากฐานมาจากภาษาบาลี-สนั สกฤต ค. พระพทุ ธศาสนามีการใชภ้ าษาไทยในการเผยแผศ่ าสนา ง. คาในภาษาไทยทกุ คาดดั แปลงมาจากภาษาบาลี-สนั สกฤต 8. หลกั พรหมวหิ าร 4 ในพระพทุ ธศาสนามีผลตอ่ ลกั ษณะใดของคนไทยเด่นชดั ที่สุด ก. คนไทยรกั สงบ ข. คนไทยรักอิสระ ค. คนไทยมีความเมตตากรุณา ง. คนไทยไม่มีการยดึ มน่ั ถือมน่ั 9. พระพทุ ธศาสนาเกี่ยวขอ้ งกบั วงจรกาลเวลาของสงั คมไทยอยา่ งไร ก. การจดั ทาปฏทิ นิ ประจาปี ข. การกาหนดวนั หยดุ ราชการ ค. การคานวณจากฤดูกาลตา่ งๆ ง. เวลาของประเพณีและเทศกาลประจาปี ต่างๆ 10. พระสงฆท์ ่ีมีบทบาทสาคญั ในการพฒั นาชุมชนในจงั หวดั เชียงใหม่ และยงั คงเป็ นท่ีนบั ถือศรทั ธามาจนถึง ปัจจบุ นั คือขอ้ ใด ก. ครูบาศรีวชิ ยั ข. พระพทุ ธทาส ค. พระปัญญานนั ทภกิ ขุ ง. พระพะยอม กลั ยาโณ 11. พระพทุ ธศาสนามีส่วนช่วยจดั ระเบยี บสงั คมไดอ้ ยา่ งไร ก. ใหว้ ดั เป็นสถานที่ขดั เกลาคนทาผดิ ข. ใชห้ ลกั ธรรมเป็นขอ้ กฎหมายปกครองประเทศ ค. กาหนดบทลงโทษผทู้ าผดิ จากหลกั ธรรมคาสอน ง. สอนใหค้ นเคารพตนเอง เกรงกลวั และละอายต่อการทาผดิ 2

12. การศึกษาพทุ ธประวตั ใิ หป้ ระโยชน์ตอ่ ผเู้ รียนอยา่ งไร ก. เป็ นการเผยแผพ่ ทุ ธประวตั ิ ข. เป็นแบบอยา่ งการทาความดี ค. เป็ นการเผยแผห่ ลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา ง. เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวทางพระพทุ ธศาสนา 13. พระพทุ ธรูปปางมารวิชยั มาจากเหตุการณ์พทุ ธประวตั ิในตอนใด ก. ตอนที่พระพทุ ธเจา้ ทรงบาเพญ็ ตบะ ข. ตอนทีพ่ ระพทุ ธเจา้ ทรงฝึกปฏบิ ตั ิโยคะ ค. ตอนที่พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ แสดงธรรมแก่ปัญจวคั คที ้งั 5 ง. ตอนท่พี ระพทุ ธเจา้ ทรงสมาธิแลว้ ปราบพญามารท่ีรงั ควาญ 14. จากพทุ ธประวตั ิตอน ผจญมาร พระแม่ธรณีในทางภาษาธรรมเปรียบไดก้ บั ส่ิงใด ก. อิทธิบาท 4 ข. บารมีท้งั 10 ค. กุศลกรรมบถ ง. สาราณียธรรม 15. พระพทุ ธเจา้ ทรงใชว้ ิธีทางใดในการตรัสรู้ ก. ทรงบาเพญ็ ตบะ ข. ทรงฝึกปฏิบตั ิโยคะ ค. ทรงบาเพญ็ ทกุ รกิริยา ง. ทรงบาเพญ็ เพยี รทางจิต 16. พทุ ธสาวกทา่ นใดที่ไดร้ ับแตง่ ต้งั จากพระพทุ ธองคเ์ ป็ นอคั รสาวกเบ้ืองขวา ก. พระจุนทะ ข. พระอสั สชิ ค. พระสารีบตุ ร ง. พระโมคคลั ลานะ 17. วธิ ีแกง้ ่วงท่ีพระพทุ ธเจา้ บอกแก่พระโมคคลั ลานะไว้ ถา้ ลุกข้นึ ลา้ งหนา้ แลว้ ยงั ไม่หายใหป้ ฏิบตั ติ ่อไป อยา่ งไร ก. ใหล้ ุกข้ึนเดิน ข. ใหน้ ึกถึงแสงสวา่ ง ค. ใหห้ าอะไรมาแยงหู ง. ใหอ้ ่านขอ้ ความดงั ๆ 3

18. พระมหาธรรมราชาลิไทยทรงพระราชนิพนธ์วรรณกรรมทางพระพทุ ธศาสนาเรื่องใด ก. นวโกวาท ข. ธรรมวภิ าค ค. ธรรมวิจารณ์ ง. ไตรภมู ิพระร่วง 19. จากชาดกเรื่องมิตตวนิ ทกุ ะตรงกบั ศาสนสุภาษติ ขอ้ ใดมากท่ีสุด ก. เห็นกงจกั รเป็นดอกบวั ข. ธรรมะยอ่ มชนะอธรรม ค. คบคนพาลพาลพาไปหาผดิ ง. สตั วโ์ ลกยอ่ มเป็ นไปตามกรรม 20. บทพระธรรมคุณทีก่ ล่าววา่ “สวากขาโต ภควตา ธมั โม” มีความหมายตรงกบั ขอ้ ใด ก. พระธรรมน้ีผปู้ ฏบิ ตั ติ ามจะเห็นไดด้ ว้ ยตนเอง ข. พระธรรมเป็นคาสอนท่พี สิ ูจนไ์ ด้ เพราะเป็นของท่ีจริง ค. พระธรรมเป็นคาสอนท่คี วรนอ้ มนาใจเพอ่ื ยดึ ถือเป็นหลกั ปฏบิ ตั ิ ง. พระธรรมเป็นคาสอนอนั พระผมู้ ีพระภาคเจา้ ตรสั ไวด้ ีแลว้ เป็นความจริงแท้ เป็นหลกั ครองชีวิต อนั ประเสริฐ 21. เมื่อนกั เรียนสอบไดค้ ะแนนสูงสุด เวทนาใดจะเกิดข้ึน ก. สุข ข. ทุกข์ ค. เฉยๆ ง. ตกใจ 22. ขอ้ ใดจดั เป็นอายตนะภายใน ก. รูป ข. ใจ ค. เสียง ง. สมั ผสั 23. พระวนิ ยั ปิ ฎกแบง่ เป็ น 3 หมวด อะไรบา้ ง ก. ธาตกุ ถา กถาวตั ถุ ปัฏฐาน ข. สุตตวภิ งั ค์ ขนั ธกะ ปริวาร ค. สิกขาบท เทศนาบท อธิบายบท ง. ทีฑนิกาย มชั ฌมิ นิกาย ขทุ ทกนิกาย 4

24. การอธิบายหลกั ธรรมโดยยกธรรมข้นึ มาเป็ นคู่ เช่น กศุ ล-อกุศล อยใู่ นพระไตรปิ ฎกหมวดใด และขอ้ ใด ก. พระวนิ ยั ปิ ฎก ขอ้ ขนั ธกะ ข. พระอภิธรรมปิ ฎก ขอ้ ยมก ค. พระอภิธรรมปิ ฎก ขอ้ ปัฏฐาน ง. พระสุตตนั ตปิ ฎก ขอ้ ทฆี นิกาย 25. พทุ ธสุภาษิตท่ีวา่ “กมฺมุนา วตฺตตี โลโก” มีความหมายตรงกบั ขอ้ ใดมากท่สี ุด ก. เห็นกงจกั รเป็นดอกบวั ข. วา่ แต่เขาอิเหนาเป็ นเอง ค. บวั ไม่ใหช้ ้า น้าไม่ใหข้ ่นุ ง. หวา่ นพชื เช่นไรไดผ้ ลเช่นน้นั 26. นิพนธไ์ ปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทยเป็นประจาทุกปี การปฏิบตั ิตนอยา่ งน้ีสอดคลอ้ งกบั พทุ ธศาสน- สุภาษติ ใดมากท่ีสุด ก. กมฺมุนา วตฺตตี โลโก ข. สุโข ปญุ ฺญสฺส อุจฺจโย ค. ปูชโก ลภเต ปูช วนฺทโก ปฏิวนฺทน ง. กลฺยาณการี กลฺยาณ ปาปการี จ ปาปก 27. การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาของพระสงฆท์ าไดห้ ลายวธิ ี ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. การทานายฝัน ข. การปาฐกถาธรรม ค. การใชช้ ีวติ เรียบง่าย ง. การฟังเทศน์ ฟังธรรม 28. ขอ้ ใดจดั เป็ นการแสดงตนเป็ นพทุ ธมามกะไดอ้ ยา่ งแทจ้ ริง ก. แจง้ ไวใ้ นทะเบยี นบา้ น ข. นบั ถือตามอยา่ งบิดามารดา ค. ใหพ้ ระภกิ ษทุ าพธิ ีรดน้ามนต์ ง. ประกาศตนวา่ เป็นผยู้ อมรบั นบั ถือพระพทุ ธศาสนา 29. ขณะเดินไปโรงเรียน ถา้ พระสงฆเ์ ดินสวนทางมาควรปฏิบตั ิอยา่ งไร ก. เดินกม้ หนา้ ไม่สบตาท่าน ข. หนั หลงั กลบั แลว้ เดินไปทางอ่ืน ค. หลีกไปทางซา้ ยมือ พร้อมยกมือไหวเ้ มื่อทา่ นเดินผา่ น ง. หยดุ เดินแลว้ ยนื รอใหท้ ่านเดินผา่ นไปก่อนจากน้นั จึงยกมือไหว้ 5

30. ปฏิสนั ถารมีความหมายตรงกบั คาใด ก. การกล่าวทกั ทาย ข. การแสดงความมีน้าใจต่อผอู้ ื่น ค. การใหท้ ีพ่ กั แก่ญาติมิตรทม่ี าเยย่ี ม ง. ถูกทุกขอ้ 31. ขอ้ ใดเป็นการปฏบิ ตั ิอาสนทานท่ถี ูกตอ้ ง ก. ใชค้ าแทนพระสงฆว์ า่ พระคุณเจา้ ข. ยนื ในท่าเรียบร้อยเพอ่ื พระสงฆเ์ ดินผา่ น ค. ถา้ ตอ้ งนงั่ แถวเดียวกบั พระสงฆ์ ควรนงั่ ทางซา้ ยมือท่านเสมอ ง. ถา้ ตอ้ งนง่ั แถวเดียวกบั พระสงฆ์ ควรนงั่ ทางขวามือท่านเสมอ 32. ขอ้ ใดมใิ ช่องคป์ ระกอบของจาตุรงคสนั นิบาต ก. พระพทุ ธองคท์ รงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ข. พระสงฆม์ าประชุมพร้อมกนั โดยมิไดน้ ดั หมาย ค. พระสาวกท่มี าประชุมลว้ นเป็นเอหิภิกขอุ ุปสมั ปทา ง. มีพระอรหนั ตสาวกมาประชุมจานวน 1,250 องค์ ณ กรุงเวสาลี 33. การเทศนาลกั ษณะใดที่ทาใหผ้ ฟู้ ังเกิดมีความหวงั และเบิกบานใจ ก. สนั ทสั สนา ข. สมาทปนา ค. สมั ปหงั สนา ง. สมุตเตชนา 34. หลกั ธรรมสาคญั ทีเ่ ก่ียวเนื่องในวนั วสิ าขบชู า คือหลกั ธรรมใด ก. หลกั อริยสจั 4 ข. หลกั เบญจศลี ค. หลกั กุศลกรรมบถ ง. หลกั พรหมวหิ าร 4 35. บคุ คลประเภทเนยยะ ตอ้ งใชว้ ธิ ีการใดถึงจะสามารถเขา้ ใจในสจั ธรรมได้ ก. เพยี งไดฟ้ ังธรรมแลว้ ก็สามารถเขา้ ใจไดท้ นั ที ข. เมื่อไดฟ้ ังธรรม ไม่วา่ จะพากเพยี รเทา่ ใดก็ไม่สามารถเขา้ ใจได้ ค. เม่ือไดฟ้ ังธรรมแลว้ ถา้ ไดจ้ าแนกขยายความออกไปก็สามารถเขา้ ใจได้ ง. เมื่อไดฟ้ ังธรรมแลว้ หากเอาใจใส่ พากเพยี ร ตริตรอง สอบถาม ก็สามารถเขา้ ใจในธรรมได้ 6

36. ของหอมในเคร่ืองไทยธรรมหมายถึงขอ้ ใด ก. สบู่ ข. น้าหอม ค. มาลยั ดอกไมส้ ด ง. ธูปเทียนบชู าพระ 37. หากตอ้ งการไปเที่ยวชมงานประเพณีตกั บาตรดอกไมข้ องจงั หวดั สระบุรี ควรไปในวนั ใด ก. วนั วสิ าขบูชา ข. วนั เขา้ พรรษา ค. วนั ออกพรรษา ง. วนั ธรรมสวนะ 38. การเปิ ดโอกาสใหพ้ ระภิกษสุ งฆว์ า่ กล่าวตกั เตือนกนั เก่ียวกบั ธรรมวนิ ยั ทีค่ วรประพฤตปิ ฏิบตั ิ ในวนั ออก พรรษาน้นั เรียกวา่ อยา่ งไร ก. การทาวตั ร ข. การปัณรสี ค. การปวารณา ง. การอาราธนา 39. พธิ ีทางศาสนาพธิ ีใดมีเวลาเป็นตวั กาหนด ก. การกรวดน้า ข. การทอดกฐิน ค. การทอดผา้ ป่ า ง. การถวายสงั ฆทาน 40. “อิมงั สูปะพะยญั ชะนะสมั ปันนงั ...” เป็ นคากล่าวเร่ิมของบทสวดใด ก. บทถวายสงั ฆทาน ข. บทลาขา้ วพระพทุ ธ ค. บทถวายผา้ อาบน้าฝน ง. บทถวายขา้ วพระพทุ ธ 41. การบริหารจิตตามหลกั อานาปานสติควรใชท้ ่านง่ั แบบใดในการปฏบิ ตั ิ ก. นง่ั ทา่ เทพธิดา ข. ทา่ นงั่ ขดั สมาธิ ค. ทา่ นง่ั พบั เพยี บ ง. นงั่ บนเกา้ อ้ี ปล่อยขาตามสบาย 7

42. ขอ้ ใดไม่จดั เป็นประโยชน์ของการบริหารจติ ก. ทาใหด้ ูอ่อนเยาวล์ ง ข. ช่วยใหน้ อนหลบั ง่าย ค. ช่วยใหท้ าขอ้ สอบไดด้ ีข้นึ ง. ช่วยใหข้ บั รถไดด้ ีในขณะมึนเมา 43. ขอ้ ใดเป็นหลกั การทีส่ าคญั ทสี่ ุดของการกาหนดลมหายใจ เพอ่ื ฝึกสมาธิตามหลกั อานาปานสติ ก. การควบคุมจติ ใหส้ งบนิ่ง ข. การฝึกอบรมจติ ใหส้ ะอาด ค. การฝึกใหม้ ีสติอยกู่ บั ตวั เรา ง. การตดั กงั วลทุกอยา่ งใหห้ มดสิ้น 44. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะการคดิ แบบโยนิโสนมสิการ ก. การคดิ ดี ข. การคดิ เพอ่ื คนอ่ืน ค. การคิดสร้างสรรค์ ง. การคดิ เพอื่ พฒั นาปัญญา 45. การคดิ แบบสร้างสรรค์ จดั เป็นการคิดแบบใดในโยนิโสมนสิการ ก. คิดแบบแกป้ ัญหา ข. คดิ แบบอยใู่ นปัจจบุ นั ค. คดิ แบบปลุกเรา้ คุณธรรม ง. คิดแบบแยกแยะส่วนประกอบ 46. การบริหารจิตตามหลกั อานาปานสติ เป็นการฝึกสมาธิโดยใหจ้ ิตต้งั มน่ั กบั ส่ิงใด ก. คาพดู ข. อากาศ ค. วญิ ญาณ ง. ลมหายใจ 47. เมื่อบริหารจิตแลว้ เหตุใดจงึ ตอ้ งมีการแผเ่ มตตา ก. เพอื่ ใหจ้ ติ ใจรู้สึกผอ่ นคลาย ข. เพอ่ื ใหจ้ ติ ใจคอ่ ยๆ รู้สึกสงบ ค. เพอ่ื ให้ร่างกายหายปวดเม่ือย ง. เพอื่ ส่งความปรารถนาดีไปยงั ผอู้ ื่น 8

48. ทรพั ยท์ างพระพทุ ธศาสนาหมายถึงขอ้ ใด ก. อภทิ รพั ย์ ข. อริยทรพั ย์ ค. ทรัพยส์ มบตั ิ ง. ทรัพยภ์ ายนอก 49. คุณใหญเ่ ล่ือนตาแหน่งใหเ้ รยาเพราะเป็นเพอื่ นสนิท การกระทาของคณุ ใหญเ่ กิดจากอคตขิ อ้ ใด ก. ภยาคติ ข. โทสาคติ ค. ฉนั ทาคติ ง. โมหาคติ 50. หลกั ธรรมใดมีส่วนช่วยส่งเสริมความสามคั คขี องคนในสงั คมมากทสี่ ุด ก. สงั คหวตั ถุ 4 ข. วฑุ ฒิธรรม 4 ค. พรหมวหิ าร 4 ง. สาราณียธรรม 6 เฉลยข้อสอบมาตรฐานปลายภาค /รายปี วชิ าพระพทุ ธศาสนา ม.2 ชุดที่ 1 1. ง. 11. ง. 21. ก. 31. ค. 41. ข. 2. ง. 12. ข. 22. ข. 32. ง. 42. ง. 3. ข. 13. ง. 23. ง. 33. ค. 43. ค. 4. ค. 14. ข. 24. ข. 34. ก. 44. ข. 5. ง. 15. ง. 25. ง. 35. ค. 45. ค. 6. ค. 16. ค. 26. ข. 36. ง. 46. ง. 7. ข. 17. ข. 27. ก. 37. ข. 47. ง. 8. ค. 18. ง. 28. ง. 38. ค. 48. ข. 9. ง. 19. ก. 29. ค. 39. ข. 49. ค. 10. ก. 20. ง. 30. ง. 40. ง. 50. ง. 9

แนวเฉลยละเอยี ดข้อสอบมาตรฐานปลายภาค /รายปี วิชาพระพทุ ธศาสนา ม.2 ชุดที่ 1 1. ตอบ ง. ในรชั สมยั ของพระเจา้ ปรเมศวรแห่งอาณาจกั รมะละกา พระองคห์ นั ไปนบั ถือศาสนา อิสลาม และ ต่อมาในสมยั สุลตา่ นมลั โมชาหพ์ ระองคท์ รงเล่ือมใสและศรทั ธาในศาสนา อิสลามมาก ไดท้ าลายศาสนสถานของพระพทุ ธศาสนาและใหป้ ระชาชนหนั มานบั ถือ ศาสนาอิสลามตามอยา่ งพระองค์ พระพทุ ธศาสนาจงึ เสื่อมความนิยมลง 2. ตอบ ง. ถึงแมว้ า่ อินโดนีเซียจะมีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจาชาติ แตท่ างรฐั บาลไดร้ ับรอง ศาสนาพทุ ธเป็นศาสนาหน่ึงของประเทศดว้ ย และยงั ไดก้ าหนดใหว้ นั วสิ าขบชู าเป็ น วนั หยดุ ราชการ นอกจากน้ียงั สนบั สนุนการจดั งานร่วมกบั เครือข่ายองคก์ รพทุ ธเป็ นประจา ทกุ ปี และมีการจดั งานฉลองเนื่องในวนั วิสาขบูชาเป็นเวลา 1 เดือน 3. ตอบ ข. ศูนยป์ ฏิบตั พิ ทุ ธสมาธิแห่งประเทศสิงคโปร์ไดร้ ิเริ่มทา e-book สาหรบั เผยแผห่ ลกั ธรรมใน อินเทอร์เน็ต เช่น เรื่อง “ขมุ ทรัพยแ์ ห่งความจริงพระธรรมบทมีภาพประกอบ” หรือเรื่อง “ธรรมชาตขิ องชีวติ และความตาย” และเรื่อง “มงคลสูงสุด” 4. ตอบ ค. เมตตาวจีกรรม เป็นหลกั ธรรมท่มี ีการกระทาทางวาจาทแ่ี สดงออกถึงความปรารถนาดีตอ่ มิตรประเทศ เช่น ไม่กล่าวตเิ ตยี น ใหร้ ้าย หรือกล่าวโจมตตี อ่ มิตรประเทศ และปัญหาขอ้ พพิ าทต่างๆ น้นั สามารถยตุ ไิ ดด้ ว้ ยการเจรจาทางการทตู 5. ตอบ ง. เพราะลาน้าโขงเป็นลาน้าท่ีมีประเทศต่างๆ ใชป้ ระโยชนร์ ่วมกนั อยหู่ ลายประเทศ หากคิด สรา้ งเขอื่ นทล่ี าน้าโขงอาจมีผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ ดว้ ย จงึ ควรใชห้ ลกั การแบง่ ปัน ผลประโยชนท์ เ่ี กิดข้ึนหรือไดม้ าโดยชอบธรรมแก่มิตรประเทศมาใชพ้ จิ ารณาก่อน โดยไม่ ก่อใหเ้ กิดผลเสียตอ่ ประเทศอื่นๆ 6. ตอบ ค. หลกั ความประพฤติเสมอกบั มิตรประเทศ และไม่ทาตนใหเ้ ป็ นทีน่ ่ารงั เกียจของประเทศอื่น เป็นหลกั การหน่ึงของสาราณียธรรมซ่ึงสามารถนามาประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นแนวทางสรา้ ง สมั พนั ธไมตรีระหวา่ งประเทศ เช่น การเคารพหลกั อธิปไตยของประเทศอ่ืน เป็นตน้ ซ่ึง สอดคลอ้ งกบั หลกั การขององคก์ ารสหประชาชาติ 10

7. ตอบ ข. ภาษาไทยไดร้ ับอิทธิพลมาจากภาษาบาลี-สนั สกฤต ซ่ึงเป็นภาษาสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา คาในภาษาไทยหลายคามีรากศพั ทม์ าจากภาษาบาลี-สนั สกฤต เช่น คาท่มี ี ศ ษ เป็ น ส่วนประกอบ เช่นคาวา่ ศาสนา เอกลกั ษณ์ ภิกษุ เป็ นตน้ 8. ตอบ ค. พรหมวหิ าร 4 เป็ นหลกั ธรรมที่มีความเมตตากรุณาเป็นประธาน ซ่ึงมีส่วนสาคญั ท่ีทาใหค้ น ไทยมีความเมตตากรุณา เห็นอกเห็นใจคนอ่ืน มีน้าใจตอ่ ทกุ คน 9. ตอบ ง. ประเพณีและเทศกาลต่างๆ ของไทย ลว้ นใชเ้ วลาจากทางจนั ทรคติซ่ึงเป็นการนบั เวลาทาง พระพทุ ธศาสนา เช่น วนั วสิ าขบูชา ที่กาหนดโดยเป็ นวนั ข้นึ 15 ค่าเดือน 6 หรือเทศกาลลอย กระทงกก็ าหนดจากวนั ข้ึน 15 ค่าเดือน 12 เป็นตน้ 10. ตอบ ก. ครูบาศรีวชิ ยั เป็นพระนกั พฒั นาและเป็นผนู้ าทางความคดิ ที่สาคญั ของจงั หวดั เชียงใหม่ โดยเฉพาะการนาใหช้ าวบา้ นสรา้ งทางข้นึ ดอยสุเทพ ปัจจุบนั อนุสาวรียค์ รูบาศรีวชิ ยั ต้งั อยู่ บริเวณทางข้ึนพระบรมธาตุ ดอยสุเทพ จงั หวดั เชียงใหม่ 11. ตอบ ง. ในทกุ สงั คมจาเป็ นตอ้ งมีระเบียบเพอื่ อาศยั อยรู่ ่วมกนั ไดอ้ ยา่ งสงบสุข ระเบียบทใี่ ชใ้ นสังคม คอื กฎหมาย ขอ้ บงั คบั ต่างๆ ทตี่ อ้ งปฏบิ ตั ิร่วมกนั หากผใู้ ดละเมิดกจ็ ะมีบทลงโทษ การทท่ี กุ คนจะไม่ทาผดิ ตอ้ งเคารพในกฎหมายและทสี่ าคญั คือการเคารพตนเอง ทางพทุ ธศาสนาเห็น วา่ การเคารพตนเองน้นั มีความสาคญั กวา่ หากคนเคารพตนเอง โดยมีความกลวั ท่ีจะทาผดิ และละอายต่อความผดิ หากในสงั คมมีหลกั ธรรมขอ้ น้ีแลว้ กจ็ ะไม่มคี นทท่ี าผดิ 12. ตอบ ข. การศกึ ษาพทุ ธประวตั ิมีจดุ ประสงคท์ ีส่ าคญั เพอื่ เป็ นแบบอยา่ งการทาความดีตามทพ่ี ระพทุ ธ องคท์ รงบาเพญ็ เพยี รมา 13. ตอบ ง. ปางมารวชิ ยั หรือปางผจญมาร เป็นปางนงั่ สมาธิ พระหตั ถว์ างบนพระเพลา ช้ีพระดรรชนีลง บนพ้นื ดิน จากตอนทพ่ี ระพทุ ธองคท์ รงนงั่ สมาธิวปิ ัสสนา แลว้ พญามารมารังควาญ บอกให้ พระองคล์ ุกออกจากอาสนะ โดยอา้ งวา่ อาสนะน้ีเป็นของตน พระองคท์ รงแยง้ วา่ อาสนะเป็ น ของพระองค์ พญามารจงึ ถามหาพยาน พระองคท์ รงเหยยี ดพระดรรชนีลงยงั พ้นื ดินและตรสั วา่ “ขอใหพ้ ระแม่ธรณีจงเป็ นพยาน” แลว้ พระแม่ธรณีกผ็ ดุ ข้นึ มาจากพน้ื ดิน บบี มวยผม บนั ดาลใหก้ ระแสน้ามาท่วมทบั พญามารพา่ ยไป 11

14. ตอบ ข. บารมีท้งั 10 การอา้ งพระแม่ธรณี กค็ ือการอา้ งถึงพระบารมีท่ที รงบาเพญ็ มา เป็ นกาลงั ให้ ต่อสูก้ บั อานาจของกิเลส 15. ตอบ ง. พระองคท์ รงตระหนกั วา่ แนวทางทีท่ รงประพฤติมาเป็นแนวทางทผี่ ดิ และทรงคน้ พบทาง สายใหม่ คอื ทางสายกลางหรือมชั ฌมิ าปฏปิ ทา พระองคท์ รงบาเพญ็ เพยี รทางจติ จนคน้ พบ หาสาเหตขุ องการเกิดทกุ ข์ และทางแห่งการดบั ทุกขค์ ือ อริยสจั 16. ตอบ ค. พระสารีบุตรไดร้ บั แต่งต้งั เป็ น องคอ์ คั รสาวกเบ้อื งขวา และยงั เป็นเอตทคั คะ คอื เป็นเลิศ กวา่ ผอู้ ่ืนในทางปัญญา 17. ตอบ ข. ถา้ เอาน้าลา้ งหนา้ แลว้ ยงั ไม่หายง่วง ใหค้ านึงถึงอาโลกสญั ญา คือ วาดภาพถึงแสงสวา่ งความ งว่ งกจ็ ะหาย 18. ตอบ ง. ไตรภูมิพระร่วงเป็นวรรณกรรมทางพระพทุ ธศาสนาทส่ี าคญั เร่ืองหน่ึง มีเน้ือหากล่าวถึง ศลี ธรรม จริยธรรม นรก สวรรค์ พระมหาธรรมราชาลิไทยทรงอธิบายและยกตวั อยา่ ง เพอื่ ใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจไดอ้ ยา่ งแจ่มแจง้ 19. ตอบ ก. มิตตวนิ ทุกะมีตณั หาความโลภมากทาใหเ้ ขาเห็นกงจกั รท่ีกาลงั บดศรี ษะของผเี ปรตอยเู่ ป็ น ดอกบวั ดอกใหญ่ท่ปี ระดบั อยบู่ นศีรษะของเทพบตุ ร จึงไดร้ อ้ งขอดอกบวั น้นั จึงตรงกบั ศาสนสุภาษิต “เห็นกงจกั รเป็นดอกบวั ” 20. ตอบ ง. ธรรมคุณบทน้ีมีความหมายวา่ พระธรรมเป็นคาสอนอนั พระผมู้ ีพระภาคตรัสไวด้ ีแลว้ เป็น ความจริงแท้ เป็นหลกั ครองชีวติ อนั ประเสริฐ 21. ตอบ ก. เมื่อนกั เรียนสอบไดค้ ะแนนสูงสุดแลว้ จะเกิดความรูส้ ึกสบายใจหรือทีเ่ รียกวา่ สุขเวทนา 22. ตอบ ข. อายตนะภายในประกอบดว้ ย ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 23. ตอบ ง. พระวนิ ยั ปิ ฎก คือ ส่วนท่วี า่ ดว้ ยสิกขาบท หรือศีลของพระภิกษแุ ละพระภิกษณุ ี แบ่ง ออกเป็น 3 หมวด คอื สุตตวภิ งั ค์ ขนั ธกะ และปริวาร 12

24. ตอบ ข. พระอภธิ รรมปิ ฎก คมั ภีร์ยมก คอื คมั ภรี ์ทยี่ กธรรมข้ึนเป็นคูๆ่ แลว้ อธิบายโดยวธิ ีถามตอบ 25. ตอบ ง. พทุ ธสุภาษิต “กมฺมุนา วตฺตตี โลโก” หมายถึง สตั วโ์ ลกยอ่ มเป็ นไปตามกรรม กล่าวคือ คนเราจะมีชีวติ เป็ นอยา่ งไรน้นั ข้ึนอยกู่ บั กรรมหรือการกระทาของเรา 26. ตอบ ข. “สุโข ปญุ ฺญสฺส อุจฺจโย” หมายถึง การสง่ั สมบุญนาสุขมาให้ การบริจาคโลหิตเป็นการ ทาบญุ ดว้ ยการให้ และไดน้ าไปเพอื่ ช่วยเหลือผอู้ ื่นไดอ้ ีก 27. ตอบ ก. การทานายฝันจดั เป็ นการกระทานอกรีตนอกรอยของพระภิกษุสามเณร ท่เี รียกวา่ “อุปปถ กิริยา” ในขอ้ อนาจาร คอื การประพฤติทไี่ ม่ดี ไม่งาม ไม่เหมาะสมแก่ภาวะของการเป็น บรรพชิต 28. ตอบ ง. การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ คือ การประกาศตนวา่ เป็นผยู้ อมรับนบั ถือพระพทุ ธศาสนา และเพอ่ื ใหเ้ กิดความซาบซ้ึงในพระพทุ ธศาสนาจึงไดม้ ีการจดั กิจกรรมการแสดงตนเป็ น พทุ ธมามกะข้นึ 29. ตอบ ค. หากพระสงฆเ์ ดินสวนทางมาควรหลีกไปทางซา้ ยมือของท่าน พรอ้ มยกมือไหวเ้ มื่อทา่ นเดิน ผา่ น 30. ตอบ ง. การปฏิสนั ถารหรือการตอ้ นรับ ทางพระพทุ ธศาสนาถือเป็ นพน้ื ฐานสาคญั ของการใชช้ ีวติ ทาไดห้ ลายวธิ ี คือ การปฏิสนั ถารดว้ ยวาจา การใหท้ ่พี กั อาศยั การแสดงน้าใจตอ่ กนั 31. ตอบ ค. อาสนทาน หมายถึง การใหท้ นี่ ง่ั ใชใ้ นเวลาทีพ่ ระสงฆม์ าในพธิ ีถา้ ตอ้ งนงั่ แถวเดียวกบั พระสงฆ์ ควรนงั่ ทางซา้ ยมือทา่ นเสมอ 32. ตอบ ง. จาตุรงคสนั นิบาต เป็นการประชุมทีพ่ ระอรหนั ตสาวกประชุมพรอ้ มกนั ท่ี เวฬวุ นั มหาวหิ าร กรุงราชคฤห์ 33. ตอบ ค. สมั ปหงั สนา คอื ปลอบชโลมใจใหส้ ดชื่นรื่นเริง เป็ นการบารุงจติ ใหแ้ ช่มช่ืน เห็น คุณประโยชนท์ จ่ี ะไดร้ บั 13

34. ตอบ ก. หลกั ธรรมทีเ่ กี่ยวเนื่องในวนั วสิ าขบูชา คอื หลกั อริยสจั 4 เพราะเป็นหวั ใจสาคญั ของการ 35. ตอบ ค. เนยยะ ไดแ้ ก่ บุคคลทย่ี งั พอแนะนาได้ เม่ือไดฟ้ ังธรรมแลว้ ยงั ไม่เขา้ ใจ แตเ่ ม่ือเอาใจใส่ พากเพยี ร สอบถาม ตริตรอง กส็ ามารถรู้ซ้ึงถึงธรรมได้ เปรียบเหมือนดอกบวั ทอ่ี ยใู่ ตผ้ วิ น้า มีโอกาสเจริญงอกงามข้นึ มาได้ 36. ตอบ ง. เครื่องไทยธรรม หมายถึงสิ่ง ของตา่ งๆ ท่ีจะถวายเป็นทานแด่พระสงฆ์ จาแนกเป็ น 10 อยา่ ง ของหอมกเ็ ป็นเครื่องไทยธรรมอยา่ งหน่ึง หมายถึงธูปเทยี นบูชาพระ 37. ตอบ ข. งานประเพณีตกั บาตรดอกไมข้ องจงั หวดั สระบุรี จดั ข้ึนท่ีวดั พระพทุ ธบาทราชวรมหาวหิ าร ในวนั เขา้ พรรษาของทกุ ปี 38. ตอบ ค. เม่ือถึงวนั ข้นึ 15 ค่าเดือน 11 ซ่ึงเป็ นวนั ออกพรรษา พระภิกษุทุกรูปตอ้ งทาการปวารณาโดย เป็ นการเปิ ดโอกาสใหพ้ ระภิกษุสงฆว์ า่ กล่าวตกั เตอื นกนั โดยมีจดุ มุ่งหมายใหภ้ กิ ษุดว้ ยกนั น้นั ปราศจากมลทนิ เป็ นการปฏบิ ตั ดิ ว้ ยความเอ้ืออาทรตอ่ กนั ของพระภิกุสงฆท์ ี่จาพรรษาอยู่ ในอาวาสเดียวกนั 39. ตอบ ข. การทอดกฐิน มีระยะเวลากาหนด คอื เริ่มต้งั แตว่ นั แรม 1 ค่า เดือน 11 ไปถึงวนั ข้นึ 15 ค่า เดือน 12 จะทอดก่อนหรือหลงั จากน้ีไมไ่ ด้ 40. ตอบ ง. “อิมงั สูปะพะยญั ชะนะ สาลีนงั ...” มาจากบทสวดถวายขา้ วพระพทุ ธที่วา่ “อิมงั สูปะพะยญั ชะนะ สาลีนงั โอทะนงั สะอุทะกงั วะรงั พทุ ธสั สะ ปเู ชมิ” 41. ตอบ ข. ทา่ นง่ั ขดั สมาธิ มี 2 ลกั ษณะคอื นง่ั ขดั สมาธิราบ และ นงั่ ขดั สมาธิเพชร 42. ตอบ ง. ประโยชน์ของการบริหารจติ น้นั ทาใหเ้ กิดสมาธิ จติ ใจผอ่ นคลาย ซ่ึงก่อใหเ้ กิดประโยชน์ มากมาย แตก่ ารบริหารจิตไม่สามารถช่วยไดห้ ากอยใู่ นขณะมึนเมาซ่ึงทาใหข้ าดสตสิ มั ปะ ชญั ญะ 14

43. ตอบ ค. หลกั การสาคญั ที่สุดของการกาหนดลมหายใจ เพ่อื ฝึกสมาธิตามหลกั อานาปานสติ คือ การ ฝึกใหม้ ีสตอิ ยกู่ บั ตวั เราทุกขณะ เพราะขณะใดทีส่ ติอยกู่ บั ตวั จิตจะตอ้ งเป็ นสมาธิอยเู่ สมอ 44. ตอบ ข. การคดิ แบบโยนิโสมนสิการ เป็ นการคิดอยา่ งเป็ นระบบ มีการตีความ วเิ คราะห์ขอ้ มูล เพอ่ื นาไปใชต้ อ่ ไป เป็ นการคดิ ที่เป็ นการพฒั นาปัญญาอยา่ งหน่ึง 45. ตอบ ค. การคิดแบบสรา้ งสรรคน์ ้นั เปรียบไดก้ บั การคดิ แบบปลุกเรา้ คุณธรรม คอื การใชเ้ หตุผลหรือ อุบายเพอื่ ใหเ้ กิดการกระทาท่ีเป็นกศุ ล หรือการคิดเร่ืองอะไรกไ็ ด้ แต่วธิ ีคดิ จะตอ้ งนาไปสู่ การกระทาทดี่ ี 46. ตอบ ง. อานาปานสตหิ มายถึงวธิ ีการกาหนดลมหายใจ 47. ตอบ ง. การแผเ่ มตตา เป็ นการส่งความปรารถนาดีไปยงั ผอู้ ่ืน และสรรพสตั วท์ ้งั หลาย จะสวดเป็ น ภาษาบาลีหรือเป็ นภาษาไทยก็ได้ 48. ตอบ ข. อริยทรพั ย์ หรือทรพั ยภ์ ายใน หมายถึง คุณสมบตั ทิ ่ฝี ังแน่นอยใู่ นจติ ใจ เป็ นทรัพยอ์ นั ประเสริฐ 49. ตอบ ค. ฉนั ทาคติ คือ ความลาเอียงเพราะชอบ หมายถึง กระทาสิ่งทไ่ี ม่ควรดว้ ยความชอบพอรักใคร่ 50. ตอบ ง. สาราณียธรรม หมายถึง ธรรมหรือสิ่งทเ่ี ป็นเหตุใหร้ ะลึกถึงกนั เป็นหลกั การอยรู่ ่วมกนั ที่ดี จุดมุ่งหมายเพอื่ ตอ้ งการสอนใหค้ นสมคั รสมานสามคั คีกนั มี 6 ประการ คอื เมตตากายกรรม เมตตาวจกี รรม เมตตามโนกรรม สาธารณโภคี สีลสามญั ญตา และทฏิ ฐิสามญั ญาตา 15


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook