Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผน Internet

แผน Internet

Published by Puttiwan Chuangpitak, 2017-10-29 23:42:47

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา การค้นคว้าอิสระ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคการเรียนที่ 2

Search

Read the Text Version

คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้เล่มน้ี จัดทาข้ึนเพ่ือใช้เป็นแผนประกอบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาการศึกษาค้นคว้าอินเทอร์เน็ต (Internet) ซ่ึงรายวิชาดังกล่าวเป็นรายวิชาที่เปิดสอนในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ตามหลักสูตรการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน โรงเรียนชลกันยานกุ ูล การดาเนินการ ผู้จัดทาได้ศึกษา วเิ คราะห์หลักสูตรการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนชลกันยานุกูล และหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล ศึกษาคาอธิบายรายวิชา มาตรฐานและผลการเรียนรู้ จัดทาโครงสร้างสาระการเรียนรู้ของรายวิชา และหน่วยการเรียนรู้ จากน้ัน ได้ศึกษา ค้นคว้า เนื้อหาความรู้เกี่ยวกับสาระการเรียนรู้ จากหนังสือเอกสาร บทความ เว็บไซต์ต่าง ๆ ศึกษาหลักการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ ความแตกต่างระหว่างบุคคล และหลักการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง จากน้ัน ได้จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดผลประเมินผล ตามหลักการ ทฤษฎี และความรู้ที่ได้ศึกษาค้นคว้า โดยกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้นักเรียนใช้นวัตกรรมการศึกษาท่ีประกอบดว้ ยส่ือทหี่ ลากหลายชนดิ ทผ่ี ูส้ อนจดั ทาข้ึน เพ่ือใช้เป็นส่ือหลักให้ผูเ้ รียนไดศ้ ึกษา ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า แผนการจัดการเรียนรู้ เล่มน้ี จะเป็นประโยชน์สาหรับครู และผูส้ นใจศกึ ษา เพื่อใช้เปน็ แนวทางในการจัดทาแผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาอน่ื ๆ ต่อไป พฤทธิวรรณ ชว่ งพิทักษ์

สารบญั หนา้ 1เนื้อหา 1ประมวลรายวิชา 2วิสัยทัศน์ พันธกิจ กลยทุ ธ์ 3สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ 4คุณภาพผู้เรยี น 4คาอธิบายรายวชิ า 5ผลการเรียนรู้ 6สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 7คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คา่ นยิ มไทย ๑๒ ประการ 8หนว่ ยการเรยี นรู้ 9โครงสร้างรายวชิ า 9สาระการเรยี นรู้ 10กระบวนการจัดการเรียนรู้ 12การวัดผลและประเมินผล 13การเรียนรู้/สอ่ื การเรยี นรู้ 23แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 32แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 41แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3ภาคผนวก

ประมวลรายวชิ า รายวชิ า การศกึ ษาค้นควา้ อินเทอร์เน็ต (Internet) รหัสวิชา - กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี โรงเรยี นชลกนั ยานกุ ลู จังหวัดชลบรุ ีวสิ ัยทัศน์ ส่งเสรมิ การเรียนรูส้ ูอ่ าชีพ ฝึกทักษะและการบูรณาการ พัฒนางานดา้ นเทคโนโลยีมีมาตรฐานสู่สากลพนั ธกจิ 1. พัฒนาทกั ษะและความรู้ด้านอาชีพแก่ผู้เรยี น 2. พัฒนาผเู้ รียนให้มีคุณธรรมนาความรสู้ ูค่ วามพอเพยี ง 3. ส่งเสริมและเผยแพร่ภมู ิปัญญาอาชีพของท้องถนิ่ 4. จัดให้มเี ทคโนโลยที ที่ นั สมัยเอ้อื ต่อการเรยี นรู้ 5. พฒั นาศักยภาพของครใู ห้พร้อมต่อการจดั การเรียนรู้ 6. พัฒนาการจดั การเรียนการสอนใหม้ มี าตรฐานสากลกลยุทธ์ 1. ห้องเรยี นคุณภาพ 2. คณุ ธรรมนาความรู้สคู่ วามพอเพียง 3. สนบั สนนุ ใหม้ กี ารจัดการเรียนการสอนเทียบเคยี งมาตรฐานสากล 4. บริหารงานโดยใชโ้ รงเรียนเป็นฐาน 5. สร้างเครอื ขา่ ยการเรียนรโู้ ดยความร่วมมือจากคณะบุคคล ชมุ ชน องคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ

2 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระและมาตรฐานการเรียนรู้สาระท่ี 1 : การดารงชวี ติ และครอบครัว มาตรฐาน ง 1.1 เขา้ ใจการทางาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทกั ษะการทางานร่วมกนั และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรมและลักษณะนิสัยในการทางาน มจี ิตสานึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ ม เพื่อการดารงชวี ติ และครอบครัวสาระท่ี 2 : การออกแบบและเทคโนโลยี มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจเทคโนโลยแี ละกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสงิ่ ของเครื่องใชห้ รอื วิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยอี ยา่ งมีความคิดสรา้ งสรรค์ เลอื กใช้เทคโนโลยีในทางสรา้ งสรรคต์ ่อชวี ติ สังคม ส่งิ แวดลอ้ มและมีสว่ นร่วมในการจัดการเทคโนโลยีที่ย่ังยนืสาระที่ 3 : เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคณุ คา่ และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสืบคน้ ข้อมลู การเรยี นรู้ การส่ือสาร การแกป้ ญั หา การทางานและอาชพี อย่างมีประสทิ ธิภาพ ประสิทธิผล และมคี ุณธรรมสาระท่ี 4 : การอาชพี มาตรฐาน ง 4.1 : เข้าใจ มที ักษะที่จาเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยีเพื่อพฒั นาอาชีพ มีคุณธรรม และมเี จตคติท่ดี ีต่ออาชีพท่มี า : หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กระทรวงศึกษาธิการ

3คุณภาพผ้เู รียนคุณภาพนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เมือ่ จบชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 มดี ังนี้ 1. เขา้ ใจวธิ กี ารทางานเพอื่ การดารงชวี ติ สรา้ งผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์มที กั ษะการทางานร่วมกนั ทักษะการจัดการ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา และทักษะการแสวงหาความรู้ ทางานอย่างมีคณุ ธรรม และมีจิตสานึกในการใช้พลงั งานและทรัพยากรอยา่ งคุ้มค่าและย่ังยืน 2. เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างเทคโนโลยีกบั ศาสตร์อนื่ ๆ วเิ คราะห์ระบบเทคโนโลยีมีความคดิ สร้างสรรค์ในการแก้ปญั หาหรอื สนองความต้องการ สร้างและพัฒนาส่ิงของเครือ่ งใชห้ รือวธิ กี าร ตามกระบวนการเทคโนโลยีอยา่ งปลอดภยั โดยใช้ซอฟทแ์ วรช์ ว่ ยในการออกแบบหรอื นาเสนอผลงาน วิเคราะหแ์ ละเลือกใชเ้ ทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมกับชีวิตประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์ต่อชีวิต สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม และมกี ารจดั การเทคโนโลยีดว้ ยวธิ ีการของเทคโนโลยสี ะอาด 3. เขา้ ใจองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ องคป์ ระกอบและหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ ระบบส่ือสารข้อมูลสาหรบั เครือข่ายคอมพิวเตอร์ คุณลกั ษณะของคอมพวิ เตอร์ และอปุ กรณ์ต่อพ่วง และมีทักษะการใชค้ อมพวิ เตอรแ์ ก้ปญั หา เขยี นโปรแกรมภาษา พฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอร์ ใช้ฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟต์แวร์ ตดิ ต่อสือ่ สารและคน้ หาข้อมลู ผ่านอินเทอร์เน็ต ใช้คอมพวิ เตอร์ในการประมวลผลขอ้ มูลให้เปน็ สารสนเทศเพ่ือการตดั สินใจ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศนาเสนองาน และใชค้ อมพวิ เตอร์สร้างช้ินงานหรือโครงงาน 4. เขา้ ใจแนวทางสู่อาชีพ การเลือกและใช้เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมกบั อาชีพมีประสบการณ์ในอาชพี ท่ีถนัดและสนใจ และมีคณุ ลักษณะท่ดี ตี ่ออาชพีทีม่ า : หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 กระทรวงศึกษาธกิ าร

4 คาอธิบายรายวชิ ารายวชิ า การศกึ ษาคน้ คว้าอินเทอร์เน็ต รหัสวชิ า -กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6จานวน - หนว่ ยกติ เวลา 40 ชั่วโมง ภาคเรยี นที่ 2========================================================= ศึกษาวิธีการสืบค้นขอ้ มูลและสารสนเทศจากอินเทอร์เน็ต ด้วยเครื่องมือหรือโปรแกรมสบื ค้นดาเนินการศึกษาค้นคว้าในหัวข้อเรื่องที่สนใจ สรุป เรียบเรียงสาระความรู้จากการค้นคว้า และจัดทาสื่อนาเสนอเน้ือหาด้วยความคิดอย่างสร้างสรรค์ เพ่ือถ่ายทอดความรู้ เกี่ยวกับเน้ือหาวิชาต่าง ๆ ในการเตรียมการทดสอบความรู้ ONET GAT PAT หรือ 9 วิชาสามัญ โดยใช้โปรแกรมนาเสนอท่ีน่าสนใจ มีการนาเสนอผลงานในรูปแบบเด่ียว (Oral Individual) หรือกลุ่ม (Oral panelpresentation) ในช้ันเรียน โดยใช้สื่อเทคโนโลยีท่ีหลากหลายในการนาเสนอผลงาน และเผยแพร่สู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดทกั ษะในการศกึ ษาค้นควา้ ทักษะการใช้เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ผลงาน และทักษะการส่ือสารท่ีมีประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งท่ีเรยี นรูใ้ ห้เกิดประโยชน์แก่สาธารณะผลการเรยี นรู้ 1. สามารถศึกษาค้นคว้าข้อมูลและสารสนเทศจากอนิ เทอร์เนต็ ได้ 2. สามารถสรปุ เนอ้ื หาและจัดทาสอ่ื นาเสนอผลงานได้ 3. สามารถส่อื สารนาเสนอผลงานในรปู แบบเด่ยี ว (Oral Individual) หรือกลมุ่ (Oral panelpresentation) โดยใช้ส่ือเทคโนโลยีท่หี ลากหลายได้ 4. สามารถจัดทาสือ่ เผยแพรผ่ ลงานสูส่ าธารณะ โดยใชส้ ื่อเทคโนโลยที ่หี ลากหลายได้ 5. เห็นประโยชนแ์ ละคุณค่าการศกึ ษาคน้ คว้า การสรา้ งสรรคผ์ ลงานและถ่ายทอดสง่ิ ทเี่ รียนรู้ใหเ้ ปน็ ประโยชน์แกส่ าธารณะ

5สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น ในการพฒั นาผู้เรียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน ม่งุ พฒั นาผ้เู รยี นให้มีสมรรถนะสาคัญ 5 ประการ ดังน้ี 1. ความสามารถในการสื่อสาร เปน็ ความสามารถในการรับและสง่ สาร มวี ฒั นธรรมในการใชภ้ าษาถ่ายทอดความคดิ ความร้คู วามเขา้ ใจ ความรสู้ ึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมลู ข่าวสารและประสบการณอ์ นั จะเปน็ ประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้งั การเจรจาต่อรองเพื่อขจดั และลดปัญหาความขดั แย้งตา่ ง ๆ การเลือกรับหรอื ไมร่ บั ขอ้ มลู ข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลอื กใชว้ ิธกี ารสอื่ สาร ทมี่ ีประสทิ ธภิ าพ โดยคานงึ ถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การคิดสงั เคราะห์การคิดอยา่ งสรา้ งสรรค์ การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพื่อนาไปส่กู ารสรา้ งองค์ความรหู้ รอื สารสนเทศเพ่ือการตัดสินใจเกยี่ วกบั ตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เปน็ ความสามารถในการแก้ปญั หาและอุปสรรค ต่าง ๆท่เี ผชิญได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมบนพ้นื ฐานของหลักเหตุผล คณุ ธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการปอ้ งกันและแก้ไขปญั หา และมีการตัดสนิ ใจทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพ โดยคานงึ ถึงผลกระทบท่เี กิดข้ึนต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การเรยี นรู้อยา่ งต่อเน่ือง การทางาน และการอยู่ร่วมกนั ในสังคมด้วยการสรา้ งเสริมความสมั พนั ธ์อนั ดรี ะหวา่ งบุคคล การจัดการปญั หาและความขดั แยง้ ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวใหท้ ันกบั การเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมและการรจู้ ักหลกี เล่ยี งพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ที่สง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อนื่ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยีด้านตา่ ง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพฒั นาตนเองและสงั คม ในดา้ นการเรยี นรู้การสอื่ สารการทางาน การแก้ปัญหา อยา่ งสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม

6คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ในการพฒั นาผเู้ รียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน มุ่งพฒั นาผ้เู รียนใหม้ ีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เพื่อใหส้ ามารถอย่รู ว่ มกบั ผอู้ ืน่ ในสังคมได้อย่างมคี วามสุข ทง้ั ในฐานะพลเมอื งไทยและพลโลก ดงั นี้ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซอ่ื สัตยส์ ุจริต 3. มีวินัย 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มีจติ สาธารณะคา่ นยิ มไทย 12 ประการ 1. มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ 2. ซ่อื สตั ย์ เสียสละ อดทน 3. กตัญญตู ่อพอ่ แม่ ผูป้ กครอง ครบู าอาจารย์ 4. ใฝ่หาความรู้ หมน่ั ศึกษาเล่าเรยี นทั้งทางตรง และทางอ้อม 5. รกั ษาวัฒนธรรมประเพณีไทย 6. มศี ีลธรรม รกั ษาความสัตย์ 7. เข้าใจเรียนรกู้ ารเปน็ ประชาธิปไตย 8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผู้นอ้ ยรูจ้ กั การเคารพผ้ใู หญ่ 9. มสี ติรู้ตวั รู้คดิ รทู้ า 10. รจู้ กั ดารงตนอยู่โดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 11. มีความเข้มแข็งทง้ั ร่างกาย และจิตใจ ไมย่ อมแพ้ต่ออานาจฝ่ายตา่ 12. คานงึ ถึงผลประโยชน์ของสว่ นรวมมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง

7หน่วยการเรียนรู้ การจัดการเรียนรูแ้ บ่งสาระการเรียนรู้ออกเปน็ 3 หน่วยการเรียนรู้ ดงั น้ี

8 โครงสร้างรายวิชา รายวชิ า การศกึ ษาค้นคว้าอินเทอร์เนต็ รหสั วชิ า - ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน - หน่วยกิต ภาคเรยี นท่ี 2ช่อื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนักการเรียนรู้ ช.ม. คะแนน1.การสบื คน้ 1.สามารถศกึ ษาคน้ คว้าข้อมูลและ ศึ กษ าวิธีการสื บ ค้ น ข้อ มู ล แ ล ะ 8 20อินเทอรเ์ นต็ สารสนเทศจากอินเทอรเ์ นต็ ได้ สารสนเทศจากอินเทอร์เน็ต ด้วย 2.สามารถสรุปเนอ้ื หาและจดั ทา เคร่ืองมื อห รือโป รแกรม สืบ ค้ น สอ่ื นาเสนอผลงานได้ การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า เชงิ วิชาการ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ชื่อเรือ่ ง ผจู้ ัดทา บทคดั ยอ่ บทนา จุดประสงค์ นิยามศพั ท์ วิธีการดาเนินงาน ผลการดาเนินงาน สรุปอภิปรายผล กติ ติกรรมประกาศและบรรณานุกรม2.การจดั ทาส่ือ 3.สามารถสื่อสารนาเสนอผลงาน การรายงานผลการดาเนินงาน 20 50นาเสนอผลงาน ในรูปแบบเดยี่ ว (Oral ในการนาเสนอ สามารถจดั ใน Individual) หรือกลมุ่ (Oral รูปแบบผลงานประกอบการบรรยาย panel presentation) โดยใชส้ อ่ื หรอื ใช้สือ่ เทคโนโลยีในการนาเสนอ เทคโนโลยีที่หลากหลายได้ ผลงาน ได้แก่ ส่อื PowerPoint, Web site ฯลฯ3.การจดั ทาส่ือ 4.สามารถจัดทาส่ือเผยแพรผ่ ลงาน การเผยแพรผ่ ลงานสสู่ าธารณะ ดว้ ย 8 30เผยแพรส่ ู่ สู่สาธารณะ โดยใช้สอ่ื เทคโนโลยที ่ี การทาเปน็ สอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ในสาธารณะ หลากหลายได้ เครือข่ายออนไลน์ ไดแ้ ก่ YouTube, Facebook, Twitter, Line, Web site, Blog, Skype, etc. การวดั ผลการเรยี นรู้ (การทดสอบ/ชนิ้ งาน) 4 40 100 รวมท้ังส้ิน

9สาระการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง การสบื คน้ อนิ เทอรเ์ นต็ ศึกษาวิธีการสืบค้นข้อมูลและสารสนเทศจากอินเทอร์เน็ต ด้วยเครื่องมือหรือโปรแกรมสืบค้น การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการ ซ่ึงประกอบด้วย ช่ือเรื่อง ผู้จัดทา บทคัดย่อบทนา จุดประสงค์ นิยามศัพท์ วิธีการดาเนินงาน ผลการดาเนินงาน สรุปอภิปรายผลกิตติกรรมประกาศ และบรรณานุกรม หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง การจัดทาสื่อนาเสนอผลงาน การรายงานผลการดาเนินงานในการนาเสนอ สามารถจัดในรูปแบบผลงานประกอบการบรรยายหรือใช้ส่ือเทคโนโลยีในการนาเสนอผลงาน ได้แก่ สื่อ PowerPoint, Web site ฯลฯ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื ง การจัดทาสือ่ เผยแพร่ส่สู าธารณะ การเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ ด้วยการทาเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในเครือข่ายออนไลน์ได้แก่ YouTube, Facebook, Twitter, Line, Web site, Blog, Skype ฯลฯกระบวนการจัดการเรียนรู้ 1. ครูพูดคุย ซักถาม เกี่ยวกับเรอ่ื งที่จะเรียนเพ่ือเตรียมความพร้อม หรือให้นักเรยี นศกึ ษาสื่อตวั อยา่ ง แลว้ แจ้งผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวังใหน้ ักเรียนทราบ ทดสอบก่อนเรยี น 2. ครบู รรยายหลักการ ทฤษฎี ดว้ ยสอ่ื PowerPoint นักเรียนศกึ ษาดว้ ยตนเอง จากสอ่ื ประสมอิเลก็ ทรอนิกส์ ซงึ่ เป็นส่ือการเรียนรู้ในระบบ LMS ที่อยู่ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เนต็ จัดทาโดยนายสทุ ธศิ ักด์ิ เคลอื บสูงเนนิ (ใช้ทกั ษะการแสวงหาความรู้ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ) 3. นกั เรยี นปฏบิ ัตงิ านตามใบมอบหมายงานของหน่วยการเรียนรู้ ได้แก่ การสรุปองค์ความรู้การจัดทาชน้ิ งาน สง่ ให้ครูตรวจ และวัดผลระหวา่ งเรยี น (ใช้ทักษะการคิด การปฏบิ ตั ิ และกระบวนการทางาน) 4. นกั เรยี นวางแผนและจัดทาชิ้นงาน โดยครคู อยให้คาปรกึ ษาช้ีแนะ และสนบั สนนุ การทางาน(ใช้ทกั ษะกระบวนการคดิ วิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ การแก้ปญั หา และกระบวนการกลุ่ม) 5. นักเรียนนาเสนอผลงาน ครแู ละเพื่อนร่วมชั้น ประเมนิ ผลงาน นกั เรียนนา ข้อเสนอแนะไปปรับปรงุ ผลงาน และจดั สง่ ช้ินงานทีส่ มบูรณ์ (ใช้ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ การแกป้ ัญหา และกระบวนการกลมุ่ ) 6. ใหน้ ักเรยี นสรุปผลการเรียนรู้ ครใู หข้ อ้ เสนอแนะการนาไปใช้ (ใช้ทกั ษะการคดิ สังเคราะห์) 7. ทดสอบหลังเรียน

10การวดั ผลและประเมินผล 1. อัตราสว่ นคะแนนในการวัดผลการเรียนรู้ ระหว่างภาค : ปลายภาค คอื 80 : 20 รวม 100 คะแนน กอ่ นกลางภาค : กลางภาค : หลงั กลางภาค : ปลายภาค คอื 30 : 20 : 30 : 20 รวม 100 คะแนน 2. การวัดผลการเรียนรู้ การสงั เกตการเรียนรู้ การมอบหมายชนิ้ งาน การตรวจผลงาน การทดสอบตามผลการเรียนรู้ (การวดั ผลการเรียนร้เู นน้ การวดั ผลและประเมินผลตามสภาพจรงิ ) 3. การประเมนิ ช้นิ งาน/ภาระงาน ในการประเมนิ ชิน้ งาน กาหนดเกณฑใ์ นการประเมินชิ้นงานตามระดบั คุณภาพและแนวการให้คะแนนผลงาน ดงั น้ี

11 แบบการประเมนิ ช้ินงาน การสรุปองค์ความรูแ้ ละการนาเสนอผลงานประเดน็ ระดบั คะแนน นา้ หนัก จดุ เนน้การประเมิน 4 3 2 1 51. เนื้อหาสาระ รายละเอยี ดของ รายละเอียดของ รายละเอยี ดของ รายละเอียดของ เนื้อหา ถกู ต้อง เนอ้ื หา ถกู ต้อง เน้ือหา ถกู ต้อง เน้ือหาไมค่ รบถว้ น 5 ครบถว้ นลกึ ซง้ึ ครบถว้ นลกึ ซ้งึ ครบถ้วนแตไ่ ม่ และไมช่ ดั เจน ชัดเจนครอบคลุม ชัดเจน ชดั เจนเทา่ ทคี่ วร เทา่ ท่คี วร 5 หัวข้อ ทีก่ าหนด มกี ารออกแบบ สสี นั 102. องคป์ ระกอบด้าน มกี ารออกแบบ มกี ารออกแบบ สสี ัน มีการออกแบบ สีสนั ขนาดตัวอกั ษรกราฟกิ สสี นั ขนาด ขนาดตวั อกั ษร ขนาดตัวอกั ษร ภาพประกอบ และ ตวั อกั ษร ภาพประกอบ และ ภาพประกอบ และ มลั ตมิ เี ดียท่ีพอใช้ ภาพประกอบ และ มลั ติมีเดยี ทีด่ ี มลั ติมเี ดยี ทีค่ อ่ นข้างดี มลั ติมเี ดียท่ีดีเยีย่ ม ดาเนนิ การโดยไมม่ ี เหมาะสม การวางแผน มีความ รว่ มมือกันในการ3. กระบวนการ มกี ารวางแผนการ มกี ารวางแผนการ ดาเนินการโดยไม่มี ทางานนอ้ ยการทางาน ทางาน ดาเนินการ ทางาน ดาเนินการ การวางแผน มคี วาม ตามแผนท่ีกาหนด ตามแผนทีก่ าหนด มี รว่ มมือกนั ในการ การพูดนาเสนอไม่ มีความร่วมมือกัน ความรว่ มมือกันใน ทางาน นา่ สนใจ ส่อื ความ ในการทางานอยา่ ง การทางาน เน้ือหาไม่ชดั เจน ดี ครอบคลุมตามหัวข้อ และขาดความมน่ั ใจ4.การพูดนาเสนอ การพดู นาเสนอ การพดู นาเสนอ การพูดนาเสนอ ในการนาเสนอ นา่ สนใจ สือ่ ความ น่าสนใจ สอ่ื ความ นา่ สนใจ สอ่ื ความ เน้อื หาชัดเจน เน้ือหาชัดเจน เนื้อหาชัดเจน ครอบคลมุ ตาม ครอบคลุมตามหวั ข้อ ครอบคลุมตามหัวขอ้ หวั ข้อ และมคี วาม และมคี วามมัน่ ใจใน และมีความม่ันใจใน ม่นั ใจในการ การนาเสนอดี การนาเสนอพอใช้ได้ นาเสนอดมี ากเกณฑ์การตดั สนิ /ระดบั คุณภาพ คะแนน 76 – 100 หมายถึง ดีมาก คะแนน 51 – 75 หมายถงึ ดี คะแนน 26 – 50 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 25 หมายถึง ปรบั ปรงุเกณฑ์การผ่าน ต้ังแต่ระดับคุณภาพพอใชข้ น้ึ ไป

12 แบบการประเมินชน้ิ งาน ส่ือ VDO Clip ประเด็น ระดับคะแนน นา้ หนกั การประเมนิ จุดเน้น 4 32 11. เนอื้ หาสาระ 5 รายละเอียดของ รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของ รายละเอียดของ2. องคป์ ระกอบด้าน เนอ้ื หา ถกู ตอ้ ง เน้ือหา ถกู ตอ้ ง เนื้อหา ถกู ตอ้ ง เน้ือหาไม่ครบถ้วน 5กราฟกิ ครบถ้วนลกึ ซงึ้ ครบถ้วนลกึ ซ้งึ ครบถว้ นแต่ไม่ และไมช่ ัดเจน ชัดเจนครอบคลมุ ชัดเจน ชดั เจนเทา่ ทคี่ วร เท่าที่ควร 53. กระบวนการ หัวข้อ ทก่ี าหนดการทางาน มีการออกแบบ มีการออกแบบ สสี นั มกี ารออกแบบ สสี ัน มกี ารออกแบบ สสี ัน สสี นั ขนาด ขนาดตวั อกั ษร ขนาดตัวอกั ษร ขนาดตวั อกั ษร ตวั อักษร ภาพประกอบ และ ภาพประกอบ และ ภาพประกอบ และ ภาพประกอบ และ มัลติมเี ดยี ท่ดี ี มลั ติมีเดียทีค่ อ่ นข้างดี มัลตมิ ีเดียที่พอใช้ มัลตมิ ีเดียที่ดีเย่ยี ม เหมาะสม มีการวางแผนการ ดาเนินการโดยไม่มี ดาเนินการโดยไมม่ ี มกี ารวางแผนการ ทางาน ดาเนินการ การวางแผน มคี วาม การวางแผน มีความ ทางาน ดาเนนิ การ ตามแผนทกี่ าหนด มี ร่วมมือกันในการ ร่วมมอื กันในการ ตามแผนท่กี าหนด ความรว่ มมอื กันใน ทางาน ทางานนอ้ ย มีความรว่ มมือกนั การทางาน ในการทางานอย่าง ดีเกณฑ์การตัดสนิ /ระดับคุณภาพ คะแนน 46 – 60 หมายถึง ดีมาก คะแนน 31 – 45 หมายถึง ดี คะแนน 16 – 30 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 15 หมายถึง ปรบั ปรงุเกณฑ์การผ่าน ตัง้ แต่ระดบั คุณภาพพอใชข้ ้นึ ไป

134. เกณฑ์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ระดบั ผลการเรยี นรู้ การตดั สนิ ผลการเรยี นแบง่ เป็น 8 ระดับ ดงั นี้ 4.0 เกณฑก์ ารประเมินผลการเรียนรู้ 3.5 3 คะแนนการวัดผลระหว่าง 80 ถึง 100 2.5 คะแนนการวดั ผลระหวา่ ง 76 ถึง 79 2 คะแนนการวัดผลระหวา่ ง 70 ถงึ 75 1.5 คะแนนการวดั ผลระหว่าง 66 ถึง 69 1 คะแนนการวดั ผลระหว่าง 60 ถึง 65 0 คะแนนการวัดผลระหวา่ ง 56 ถึง 59 ร คะแนนการวัดผลระหวา่ ง 50 ถงึ 55 มส คะแนนการวัดผลระหว่าง 0 ถึง 49 ไมส่ ง่ ผลงานหรือไม่ได้วัดผลในส่วนทีส่ าคัญ เวลาเรยี นนอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80การเรยี นร้/ู สอื่ การเรยี นรู้ 1. สอ่ื การเรียนรู้ 1) ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ โรงเรยี นชลกนั ยานุกูล 2) เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ 3) เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์ 4) เครือ่ งขยายเสยี งและไมโครโฟน 2. แหลง่ เรยี นรู้ 1) ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โรงเรยี นชลกนั ยานกุ ูล 2) เว็บไซต์ www.chonkanya.ac.th เว็บไซต์ โรงเรยี นชลกันยานุกลู 3) ห้องสมดุ โรงเรยี นชลกนั ยานุกูล

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่อื ง การสบื คน้ อินเทอรเ์ น็ต รายวชิ า การศกึ ษาคน้ ควา้ อินเทอรเ์ นต็รหัสวิชา - กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6เวลา 2 ชั่วโมง โรงเรียนชลกนั ยานุกูล ผสู้ อน นางสาวพฤทธิวรรณ ชว่ งพิทกั ษ์=========================================================มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ 1. สามารถศึกษาค้นคว้าข้อมลู และสารสนเทศจากอินเทอรเ์ นต็ ได้ 2. สามารถสรปุ เนื้อหาและจัดทาสื่อนาเสนอผลงานได้สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ศึกษาวิธีการสืบค้นข้อมูลและสารสนเทศจากอินเทอร์เน็ต ด้วยเคร่ืองมือหรือโปรแกรมสืบค้นการเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการ ซ่ึงประกอบด้วย ช่ือเร่ือง ผู้จัดทา บทคัดย่อ บทนาจุดประสงค์ นิยามศัพท์ วิธีการดาเนินงาน ผลการดาเนินงาน สรุปอภิปรายผล กิตติกรรมประกาศและบรรณานุกรมสาระการเรียนรู้ ความรู้ ศึกษาวิธีการสืบค้นข้อมูลและสารสนเทศจากอินเทอร์เน็ต ด้วยเครื่องมือหรือโปรแกรมสืบค้นการเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการ ซ่ึงประกอบด้วย ช่ือเรื่อง ผู้จัดทา บทคัดย่อ บทนาจุดประสงค์ นิยามศัพท์ วิธีการดาเนินงาน ผลการดาเนินงานสรุปอภิปรายผล กิตติกรรมประกาศและบรรณานุกรม ทักษะ/กระบวนการ 1) ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ทกั ษะการทางานรว่ มกนั ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี 2) กระบวนการคิด : การคิดวิเคราะห์ การสรปุ ความรู้ กระบวนการกลุ่ม สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 1) ความสามารถในการคดิ 2) ความสามารถในการสอื่ สาร 3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

15 คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1) มวี นิ ยั 2) ใฝเ่ รียนรู้ 3) มงุ่ มน่ั ในการทางาน 4) มีความรับผดิ ชอบ 5) รักษ์สิ่งแวดล้อม ค่านยิ ม 12 ประการ 1) มศี ีลธรรม รักษาความสตั ย์ 2) ร้จู ักดารงตนอยูโ่ ดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3) คานึงถึงประโยชนข์ องส่วนรวมมากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเองชน้ิ งาน/ภาระงาน ช้ินงาน/ภาระงานระหวา่ งเรยี น 1) ค้นควา้ ความรู้จากอนิ เทอร์เน็ต 2) สรุปองค์ความรจู้ ากการค้นควา้ 3) จดั ทาสื่อนาเสนอองค์ความรู้ ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) สรุปองคค์ วามรู้ 2) สอื่ นาเสนอองค์ความรู้การวัดและการประเมนิ ผล วธิ ีการ 1) การซักถาม 2) การสงั เกต 3) การตรวจผลงาน เครอื่ งมอื การวัดผล 1) แบบประเมินผลงาน เกณฑ์ 1) ระดับพอใชข้ ้นึ ไป

16 เกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งาน สรุปองค์ความรู้จากการค้นคว้า ประเด็น ระดบั คะแนน นา้ หนกั การประเมิน จดุ เน้น 4 32 11. เนื้อหาสาระ 5 รายละเอยี ดของ รายละเอียดของ รายละเอยี ดของ รายละเอียดของ2. การสรุปเปน็ เนื้อหา ถกู ต้อง เน้อื หา ถกู ต้อง เนื้อหา ถกู ตอ้ ง เน้ือหาไม่ครบถว้ น 5ความเรยี งขัน้ สูง ครบถว้ นลึกซึ้ง ครบถ้วนลกึ ซ้งึ ครบถ้วนแตไ่ ม่ และไม่ชดั เจน ชดั เจนครอบคลุม ชดั เจน ชัดเจนเทา่ ที่ควร เท่าท่ีควร 53. กระบวนการการ หวั ขอ้ ที่กาหนดทางาน การสรุปเน้อื หา ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ไม่ปฏิบัตติ าม ถูกต้อง กระชับ จนเปน็ นิสัย ตรงตอ่ ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ในการทา ชดั เจน มกี าร เวลา รบั ผิดชอบ รับผิดชอบทางาน กจิ กรรมตา่ ง ๆ อา้ งองิ แหล่งข้อมลู ทางานด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง แต่ต้อง แตต่ ้องเตอื นเป็น เตือนบอ่ ยครั้ง ดาเนนิ การโดยไมม่ ี มกี ารวางแผนการ บางครั้ง การวางแผน มีความ ทางาน ดาเนนิ การ ดาเนนิ การโดยไมม่ ี ร่วมมือกันในการ ตามแผนท่ีกาหนด มีการวางแผนการ การวางแผน มคี วาม ทางานนอ้ ย มีความร่วมมอื กัน ทางาน ดาเนนิ การ ร่วมมือกนั ในการ ในการทางานอยา่ ง ตามแผนที่กาหนด มี ทางาน ดี ความรว่ มมือกนั ใน การทางานเกณฑ์การตัดสนิ /ระดบั คุณภาพ คะแนน 46 – 60 หมายถึง ดมี าก คะแนน 31 – 45 หมายถงึ ดี คะแนน 16 – 30 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 15 หมายถึง ปรับปรุงเกณฑ์การผ่าน ตงั้ แต่ระดบั คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป

17 เกณฑ์การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ประเด็น ระดบั คะแนน น้าหนกั การประเมนิ จุดเน้น 4 32 11. มวี นิ ัย 1 ปฏบิ ัตติ าม ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง ไม่ปฏิบัติตาม2. ใฝ่เรียนรู้ ขอ้ ตกลง จนเปน็ จนเป็นนสิ ัย ตรงตอ่ ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ในการทา นสิ ยั ตรงต่อเวลา เวลา รบั ผิดชอบ รับผิดชอบทางาน กจิ กรรมต่าง ๆ3. มุ่งม่ัน รบั ผิดชอบทางาน ทางานด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง แต่ตอ้ งในการทางาน ด้วยตนเอง แตต่ ้องเตือนเป็น เตอื นบ่อยคร้ัง บางครั้ง4. มคี วาม สนใจศึกษาหารบั ผิดชอบ ความรู้อยา่ ง สนใจศกึ ษาหา สนใจศกึ ษาหา ศกึ ษาหาความรเู้ ป็น 1 สม่าเสมอและ ความรู้อยา่ ง ความรู้อยา่ ง บางครัง้5.รักษ์ส่งิ แวดลอ้ ม สรุปองคค์ วามรู้ สมา่ เสมอและ สรุป สม่าเสมอ เผยแพร่แก่ผสู้ นใจ องคค์ วามรู้ ตั้งใจทางานดว้ ย ความขยนั อดทน ตงั้ ใจทางานด้วย ตงั้ ใจทางาน งาน ทางานตามท่ไี ด้รบั 1 งานสาเร็จตาม ความขยัน อดทน สาเรจ็ ตามเป้าหมาย มอบหมาย เปา้ หมายและเป็น งานสาเร็จตาม แบบอยา่ งทด่ี ี เปา้ หมาย ทางานตามที่ได้รับ มอบหมายอยา่ งมี ทางานตามท่ีไดร้ ับ ทางานตามทไ่ี ด้รบั ทางานตามทไี่ ดร้ ับ 1 คณุ ภาพ ครบทกุ มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี มอบหมาย สง่ งานไม่ 1 ชนิ้ และส่งตาม คุณภาพ ครบทุกชิน้ คุณภาพ ขาดเพียง ครบ และไม่สง่ ตาม กาหนดเวลา แตไ่ ม่สง่ ตาม บางชิ้น และไมส่ ่ง กาหนดเวลา ใชพ้ ลังงานอยา่ ง กาหนดเวลา ตามกาหนดเวลา ประหยดั และ ใชพ้ ลงั งานอยา่ ง ใชพ้ ลงั งานอย่าง ใชพ้ ลงั งานอย่างไม่ คุม้ ค่า มกี ารนา ประหยัดและคมุ้ คา่ ประหยัดและคุ้มค่า ประหยดั และไม่ กลับมาใชใ้ หม่ มี มกี ารนากลบั มาใช้ คุ้มคา่ การประยกุ ต์ใช้ ใหม่ วัสดุท่มี ใี นทอ้ งถ่นิเกณฑ์การตดั สนิ /ระดับคุณภาพ คะแนน 16 – 20 หมายถึง ดีมาก คะแนน 12 – 15 หมายถงึ ดี คะแนน 10 – 11 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 9 หมายถงึ ปรับปรงุเกณฑ์การผา่ น ตั้งแตร่ ะดบั คุณภาพพอใช้ขนึ้ ไป

18กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเข้าสกู่ ารเรยี น 1) ครูพบนักเรยี น สอบถามความรูต้ ่างๆทน่ี ักเรียนได้ศกึ ษามาแลว้ 2) จัดทาบัญชีรายชือ่ นักเรียนดว้ ยโปรแกรมประมวลผลการเรยี น เพ่ือบันทึกเวลาเรียนและการประเมินผลการเรยี นรู้ 3) ครแู นะนาเกีย่ วกับ รายวชิ าการศึกษาค้นคว้าอินเทอรเ์ น็ต และวธิ ีเรียนรดู้ ้วยตนเองโดยการศึกษาจากเวบ็ ไซต์ การใช้ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 4) ครูแจ้งผลการเรียนรู้ ภาระงาน และวิธกี ารประเมินผลการเรยี นรใู้ ห้นักเรยี นทราบ ขั้นศึกษาเรียนรู้ 5) นกั เรียนศึกษาใบความรู้ท่ี 1 เรอื่ ง การสบื ค้นจากอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ทหี่ น้าจอคอมพวิ เตอร์ของตนเอง 6) ใหน้ ักเรยี นทางาน ตามใบมอบหมายงานที่ 1 เร่ือง การสบื ค้นอินเทอร์เนต็ โดยศึกษาค้นควา้ จากอนิ เทอรเ์ น็ต และกาหนดหัวเร่อื งตามความถนดั และความสนใจของนักเรยี น แลว้ แจ้งหวั ข้อกับครู ข้ันสรปุ 7) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปสาระสาคัญจากสาระการเรียนรูท้ ี่ศึกษา 8) ครูแทรกคุณธรรม เรื่อง การใฝ่รู้ การรับผดิ ชอบสอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ ส่ือการเรียน 1) ใบความรู้ท่ี 1 เร่อื ง การสบื ค้นจากอินเทอรเ์ น็ต 2) ใบมอบหมายงานที่ 1 เรือ่ ง การสืบคน้ อินเทอรเ์ น็ต 3) เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 4) เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์ 5) เครือ่ งขยายเสยี งและไมโครโฟน แหลง่ เรยี นรู้ 1) ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ โรงเรยี นชลกนั ยานุกลู 2) เว็บไซต์ www.chonkanya.ac.th เวบ็ ไซต์ โรงเรียนชลกนั ยานกุ ูล 3) หอ้ งสมุดโรงเรยี นชลกนั ยานุกูล

19กิจกรรมเสนอแนะ ให้ผ้เู รยี นศึกษาคน้ คว้าเพ่ิมเติมเกีย่ วกบั การศกึ ษาคน้ ควา้ อินเทอร์เน็ต การสรุปองคค์ วามรู้และการจัดทาสื่อนาเสนอ จากสอ่ื เว็บไซต์ www.google.com โดยใชค้ าสบื คน้ ว่า โปรแกรมสบื ค้นการเขยี นรายงาน บทความทางวชิ าการ วารสารวิชาการ การจัดทาส่อื นาเสนอ หรอื การใช้โปรแกรม PowerPoint

ใบความรู้ที่ 1.1วิชา การศึกษาคน้ คว้าอนิ เทอรเ์ นต็ รหัสวชิ า - ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6เรือ่ ง การสบื คน้ อินเทอร์เนต็ เวลา 2 ชั่วโมง===================================================================การสืบค้นขอ้ มูลบนอนิ เทอรเ์ นต็ ในโลกไซเบอร์มีข้อมูลมากมายมหาศาล การที่จะค้นหาข้อมูลจานวนมากมายอย่างน้ีเราไม่อาจจะคลิกเพื่อค้นหาข้อมูลพบได้ง่ายๆ จาเป็นจะต้องอาศัยการค้นหาข้อมูลด้วยเคร่ืองมือค้นหาที่เรียกว่า SearchEngine เข้ามาช่วยเพ่ือความสะดวกและรวดเร็ว เว็บไซต์ท่ีให้บริการค้นหาข้อมูลมีมากมายหลายท่ีท้ังของคนไทยและ ถา้ เราเปดิ ไปทีละหนา้ จออาจจะต้องเสียเวลาในการคน้ หา และอาจหาขอ้ มลู ทเี่ ราต้องการไมพ่ บ การท่ีเราจะค้นหาข้อมูลให้พบอย่างรวดเร็วจึงต้องพึ่งพา Search Engine Site ซ่ึงจะทาหน้าท่ีรวบรวมรายชื่อเว็บไซต์ต่างๆ เอาไว้ โดยจัดแยกเป็นหมวดหมู่ ผู้ใช้งานเพียงแต่ทราบหัวข้อท่ีต้องการค้นหาแล้วป้อน คาหรือข้อความของหัวข้อน้ันๆ ลงไปในช่องที่กาหนด คลิกปุ่มค้นหา เท่าน้ัน รอสักครู่ข้อมูลอย่างย่อๆ และรายชื่อเวบ็ ไซตท์ ่ีเกย่ี วขอ้ งจะปรากฏให้เราเขา้ ไปศึกษาเพ่มิ เติมได้ทนั ทีการคน้ หาข้อมลู มี 2 วธิ ี คือ1. การค้นหาในรปู แบบ Index Directory2. การค้นหาในรูปแบบ Search Engineการค้นหาในรูปแบบ Index Directory วิธีการค้นหาข้อมูลแบบ Index น้ีข้อมูลจะมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่าการค้นหาข้อมูลด้วยวิธีของ Search Engine โดยมันจะถูกคัดแยกข้อมูลออกมาเป็นหมวดหมู่ และจัดแบ่งแยก Site ต่างๆออกเป็นประเภท สาหรับวิธใี ช้งาน คุณสามารถที่จะ Click เลือกข้อมูลที่ต้องการจะดูได้เลยใน Web Browser จากนั้นท่ีหน้าจอก็จะแสดงรายละเอียดของหวั ข้อปลกี ย่อยลึกลงมาอีกระดับหนึ่ง ปรากฏข้ึนมาให้เราเลือกอีก ส่วนจะแสดงออกมาให้เลือกเยอะแค่ไหนอันน้ีก็ข้ึนอยู่กับขนาดของฐานข้อมูลใน Index ว่าในแต่ละประเภทจัดรวบรวมเก็บเอาไว้มากน้อยเพียงใด เม่ือคุณเข้าไปถึงประเภทย่อยที่คุณสนใจแล้ว ที่เว็บเพจจะแสดงรายชือ่ของเอกสารท่ีเกี่ยวข้องกับ ประเภทของข้อมูลนั้นๆออกมา หากคุณคิดว่าเอกสารใดสนใจหรือต้องการอยากท่ีจะดู สามารถ Click ลงไปยัง Link เพ่ือขอเช่ือมต่อทางไซต์ก็จะนาเอาผลของข้อมูลดังกล่าวออกมาแสดงผลทันที นอกเหนือไปจากน้ี ไซต์ท่ีแสดงออกมานั้นทางผู้ให้บริการยังได้เรียบเรียงโดยนาเอาไซด์ท่ีมีความเกี่ยวข้องมากท่สี ดุ เอามาไว้ตอนบนสุดของรายชือ่ ทแ่ี สดง

21การคน้ หาในรปู แบบ Search Engine วิธีการอีกอยา่ งท่ีนยิ มใช้การค้นหาขอ้ มลู คือการใช้ Search Engine ซึง่ ผใู้ ช้ส่วนใหญก่ ว่า 70% จะใช้วธิ กี ารค้นหาแบบนี้ หลักการทางานของ Search Engine จะแตกต่างจากการใช้ Indexลักษณะของมันจะเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่มหาศาลทก่ี ระจดั กระจายอยู่ท่ัวไปบน Internet ไม่มีการแสดงข้อมูลออกมาเป็นลาดับข้ันของความสาคัญ การใช้งานจะเหมือนการสืบค้นฐานข้อมูล อ่ืนๆคือ คุณจะต้องพิมพ์คาสาคัญ (Keyword) ซ่ึงเป็นการอธิบายถึงข้อมูลที่คุณต้องการจะเข้าไป ค้นหานั้นๆเข้าไป จากนั้น Search Engine ก็จะแสดงข้อมูลและ Site ต่างๆท่เี ก่ยี วขอ้ งออกมาข้อแตกต่างระหวา่ ง Index และ Search Engine วิธีในการค้นหาข้อมูลแบบ Index เค้าจะใช้คนเป็นผู้จัดรวบรวมและทาระบบฐานข้อมูลขึ้นมา ส่วนแบบSearch Engine น้ันระบบฐานข้อมูลของมันจะได้รับการจัดสร้างโดยใช้ Software ท่ีมี หน้าท่ีเกี่ยวกับงานทางด้านนี้โดยเฉพาะมาเป็นตัวควบคมุ และจัดการ ซ่งึ เจา้ Software ตวั นจ้ี ะมี ช่อื เรียกวา่ Spiders การทางานข้องมันจะใช้วิธีการเดินลัดเลาะไปตามเครือข่ายต่างๆที่เช่ือมโยงถึง กันอยู่เต็มไปหมดใน Internet เพ่ือค้นหาWebsite ที่เกิดขึ้นมาใหม่ๆ รวมท้ังยังสามารถตรวจสอบหาความเปลี่ยนแปลงของ ข้อมูลใน Site เดิมที่มีอยู่ว่าที่ใดถูกอัพเดตแล้วบ้าง จากนั้นมันก็จะนาเอาข้อมูลทั้งหมดท่ีสารวจเข้ามา ได้เก็บใส่เข้าไปในฐานข้อมูลของตนอัตโนมัติ ยกตัวอย่างของผู้ให้บริการประเภทนี้เช่น Excite , Lycos Infoserch เป็นต้น การค้นหาด้วยวิธีSearch Engine น้ันมักจะไดผ้ ลลพั ธ์ออกมากว้างๆช้เี ฉพาะเจาะจงไดย้ าก บางครง้ั ขอ้ มูลท่ี คน้ หามาได้อาจมีถึงเป็นร้อยเป็นพัน Site แล้วมีใครบ้างหละที่อยากจะมาน้ังค้นหาและอ่านดทู ่ีจะเพจ ซ่ึงคง ต้องเสียเวลาเป็นวนั ๆแน่ ซึ่งก็ไม่รับรองด้วยว่าคุณจะได้ข้อมูลที่คุณต้องการหรือไม่ ดังน้ันจิงมีหลักในการค้น หา เพ่ือให้ได้ข้อมูลใกลเ้ คยี งความเปน็ จริงมากทสี่ ุด ซึ่งจะขอกลา่ วในตอนหลงัประเภทของ Search Engine Search Engine แต่ละแห่งมีวิธีการและการจัดเก็บฐานข้อมูลที่แตกต่างกันไปตามประเภทของ SearchEngine ที่แต่ละเว็บไซต์นามาใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ดังน้ันการที่คุณจะเข้าไปหาข้อมูลหรือเว็บไซต์ โดยวิธีการSearch น้ัน อย่างน้อยคุณจะต้องทราบว่า เว็บไซต์ที่คุณเข้าไปใช้บริการ ใช้วิธีการหรือ ประเภทของ SearchEngine อะไร เน่ืองจากแต่ละประเภทมีความละเอียดในการจัดเก็บข้อมูลต่างกันไป ท่ีนี้เราลองมาดูซิว่าSearch Engine ประเภทใดทเ่ี หมาะกับการค้นหาขอ้ มลู ของคุณ 1. Keyword Index เป็นการค้นหาข้อมูล โดยการค้นจากข้อความในเว็บเพจท่ีได้ผ่านการสารวจมาแลว้ จะอา่ นขอ้ ความ ขอ้ มลู อย่างนอ้ ยๆ ก็ประมาณ 200-300 ตัวอักษรแรกของเว็บเพจนนั้ ๆ โดยการอ่านน้ีจะหมายรวมไปถึงอ่านข้อความท่ีอยู่ในโครงสร้างภาษา HTML ซ่ึงอยู่ในรูปแบบของข้อความที่อยู่ในคาส่ัง alt

22ซ่ึงเป็นคาสั่งภายใน TAG คาสังของรูปภาพ แต่จะไม่นาคาสั่งของ TAG อื่นๆ ในภาษา HTML และคาส่ังในภาษา JAVA มาใช้ในการค้นหา วิธีการค้นหาของ Search Engine ประเภทน้ีจะให้ความสาคัญกับการเรียงลาดับข้อมูลก่อน-หลัง และความถ่ีในการนาเสนอข้อมูลน้ัน การค้นหาข้อมูล โดยวิธีการเช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่มีความละเอียดในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่ได้คานึงถึงรายละเอียดของเน้ือหาเท่าท่ีควร แต่หากว่าคุณต้องการแนวทางด้านกว้างของข้อมูล และความรวดเร็วในการคน้ หา วธิ ีการน้ีกใ็ ชไ้ ดผ้ ลดี 2. Subject Directories การจาแนกหมวดหมู่ข้อมูล Search Engine ประเภทน้ี จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เน้ือหา รายละเอียด ของแต่ละเว็บเพจ ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่งแบบนี้จะใช้แรงงานคนในการพิจารณาเว็บเพจ ซ่ึงทาให้การจัดหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัดหมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บข้อมูลนั้นๆ อยู่ในเครือข่ายข้อมูลอะไร ดังน้ันฐานข้อมูลของ Search Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเน้ือหาก่อน แล้วจึงนามาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป การค้นหาค่อนข้างจะตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และมีความถูกต้องในการค้นหาสงู เป็นต้นว่า หากเราต้องการหาข้อมูลเก่ียวกับเว็บไซต์ หรือเว็บเพจท่ีนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ Search Engine ก็จะประมวลผลรายช่ือเว็บไซต์ หรือเว็บเพจท่ีเกยี่ วกบั คอมพิวเตอรล์ ้วนๆ มาให้คุณ 3. Metasearch Engines จุดเด่นของการค้นหาด้วยวิธีการนี้ คือ สามารถเช่ือมโยงไปยัง SearchEngine ประเภทอ่ืนๆ และยังมีความหลากหลายของข้อมูล แต่การค้นหาด้วยวิธีน้ีมีจุดด้อย คือ วิธีการนี้จะไม่ให้ความสาคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษร และมักจะผ่านเลยคาประเภท Natural Language (ภาษาพดู ) ดังนั้น หากคุณจะใช้ Search Engine แบบน้ีละก็ ขอใหต้ ระหนกั ถงึ ขอ้ บกพร่องเหล่านีด้ ้วยหลกั การคน้ หาขอ้ มูลของ Search Engine สาหรับหลักในการค้นหาข้อมูลของ Search Engine แต่ละตัวจะมีลักษณะท่ีแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กบั วา่ ทางศูนย์บริการต้องการจะเก็บข้อมูลแบบไหน แตโ่ ดยส่วนใหญแ่ ลว้ จะมีกลไกใน การค้นหาทใี่ กล้เคียงกันหากจะแตกต่างก็คงจะเป็นเร่ืองประสิทธิภาพเสียมากกว่า ว่าจะมีข้อมูล เก็บรวบรวมไว้อยู่ในฐานข้อมูลมากน้อยขนาดไหน และพอจะนาเอาออกมาบริการให้กับผู้ใช้ ได้ตรงตามความต้องการหรือเปล่า ซึ่งลักษณะของปัจจยั ท่ีใชค้ ้นหาโดยหลกั ๆจะมดี งั น้ี 1. การค้นหาจากชื่อของตาแหนง่ URL ใน เว็บไซต์ตา่ งๆ 2. การค้นหาจากคาท่ีมีอยู่ใน Title (ส่วนที่ Browser ใช้แสดงชื่อของเว็บเพจอยู่ทางด้าน ซ้ายบนของหนา้ ต่างที่แสดง 3. การคน้ หาจากคาสาคญั หรอื คาส่ัง keyword (อยใู่ น tag คาส่งั ใน html ทม่ี ชี ือ่ วา่ meta) 4. การคน้ หาจากสว่ นท่ีใช้อธิบายหรอื บอกลกั ษณะ site

23 5. ค้นหาคาในหน้าเว็บเพจด้วย Browser ซึ่งการค้นหาคาในหน้าเว็บเพจน้ันจะใช้สาหรับกรณีท่ีคุณเขา้ ไปค้นหาขอ้ มูลทเ่ี ว็บ เพจใด เว็บเพจหนงึ่ แล้วภายในมขี อ้ ความปรากฏอยู่เต็มไปหมด จะน่งั ไล่ดูทีละบรรทัดคงไม่สะดวก ในลักษณะน้ีเราใช้ใช้ browser ช่วยค้นหาให้ ขึ้นแรกให้คุณนา mouse ไป click ท่ี menu Editแล้วเลอื กบรรทัดคาสงั่ Find in Page หรอื กดป่มุ Ctrl + F ที่ keyboard ก็ได้ จากนั้นใสค่ าที่ตอ้ งการคน้ หาลงไปแล้วก็กดปุ่ม Find Next โปรแกรมก็จะวิ่งหาคาดังกล่าว หากพบมันก็จะกระโดดไปแสดงคาน้ันๆ ซึ่งคุณสามารถกดปมุ่ Find Next เพอ่ื ค้นหาตอ่ ได้ อกี จนกว่าคณุ จะพบขอ้ มลู ท่ีต้องการเทคนคิ 11 ประการที่ควรร้ใู นการคน้ หาขอ้ มูล ในการคน้ หาข้อมลู ด้วย Search Engine สว่ นใหญแ่ ล้วปญั หาทผ่ี ู้ใช้งานทัว่ ไปมักจะพบเห็น หรอื ประสบอยู่เสมอๆก็คงจะหนีไปไม่พน้ ข้อมูลที่ค้นหาไดม้ ีขนาดมากจนเกนิ ไป ดงั นนั้ เพื่อ ความสะดวกในการใช้งานคณุจึงนา่ ทจ่ี ะเรียนรเู้ ทคนคิ ต่างๆเพือ่ ชว่ ยลดหรอื จากัดคาท่ีคน้ หาใหแ้ คบลงและตรงประเด็นกบั เรามากทส่ี ุด ดังวิธกี ารตอ่ ไปนี้ 1. เลือกรูปแบบการค้นหาให้ตรงกับส่ิงท่ีคุณต้องการมากท่ีสุด (อย่างท่ีบอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่ามีอยู่ 2แบบ) ส่วนจะเลือกใช้วิธีไหนก็ตามแต่จะเห็นว่า เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการจะค้นหาข้อมูลที่มีลกั ษณะทว่ั ไป ไม่ชี้ เฉพาะเจาะจง ก็ควรเลือกบรกิ ารสบื คน้ ขอ้ มลู แบบ Index อยา่ งของ yahoo เพราะ โอกาสท่ีจะเจอนน้ั เปอร์เซน็ ต์สูงกวา่ จะมาน่ังสมุ่ หาโดยใชว้ ธิ ีแบบ Search Engine 2. ใช้คามากกว่า 1 คาที่มีลักษณะเก่ียวข้องกันช่วยค้นหา เพราะจะได้ผลลัพธ์ท่ีมีขนาด แคบลงและช้เี ฉพาะมากขน้ึ (ยอ่ มจะดีกวา่ หาคาเดยี วโดดๆ) 3. ใช้บรกิ ารของผู้ใหบ้ ริการเฉพาะด้าน เช่นการคน้ หาข้อมูลเกี่ยวกับเร่ืองราวของ ภาพยนตรก์ น็ ่าท่ีจะเลอื กใช้ Search Engine ท่ใี ห้บริการใกล้เคียงกบั เรือ่ งพวกนี้ เพราะผลลพั ธ์ทีไ่ ด้นา่ จะเปน็ ทีน่ า่ พอใจกว่า 4. ใส่เคร่ืองหมายคาพูดครอบคลุมกลุ่มคาท่ีต้องการ เพ่ือบอกกับ Search Engine ว่าเรา ต้องการผลการค้นหาท่มี คี าในกลมุ่ นนั้ ครบและตรงตามลาดบั ทเ่ี ราพมิ พท์ ุกคา เชน่ \"free shareware\" เปน็ ต้น 5. การขึน้ ตน้ ของตวั อักษรตัวเล็กเทา่ กันหมด Search Engine จะเขา้ ใจวา่ เราต้องการ ใหม้ นั ค้นหาคาดังกล่าวแบบไม่ต้องสนใจวา่ ตัวอักษรที่ได้จะมีขนาดเลก็ หรือใหญ่ ดังนั้นหากคุณต้องการอยากท่ีจะให้มันคน้ หาคาตรงตามแบบทเี่ ขียนไว้ก็ให้ใช้ ตวั อักษรใหญ่แทน 6. ใช้ตวั เชอื่ มทาง Logic หรือตรรกศาสตรเ์ ข้ามาชว่ ยคน้ หา มอี ยู่ 3 ตวั ดว้ ยกนั คือ - AND สั่งใหห้ าโดยจะต้องมีคานั้นๆมาแสดงด้วยเท่าน้ัน! โดยไม่จาเป็นว่าจะต้องติดกัน เช่น phonelink AND pager เป็นต้น -OR ส่ังให้หาโดยจะต้องนาคาใดคาหน่ึงท่ีพิมพ์ลงไปมาแสดง - NOT สั่งไม่ให้เลือกคาน้ันๆมาแสดง เช่น food

24and cheese not butter หมายความว่า ให้ทาการหาเว็บที่เกี่ยวข้องกับ food และ cheese แต่ต้องไม่มีbutter เป็นตน้ 7. ใช้เคร่ืองหมายบวกลบคัดเลือกคา + หน้าคาที่ต้องการจริงๆ - (ลบ)ใช้นาหน้าคาที่ไม่ต้องการ ()ช่วยแยกกลุม่ คา เช่น (pentium+computer) cpu 8. ใช้ * เป็นตัวร่วม เช่น com* เป็นการบอกให้หาคาท่ีมีคาว่า com ขึ้นหน้าส่วนด้านท้ายเป็น อะไรไม่สนใจ *tor เปน็ การให้หาคาท่ลี งทา้ ยด้วย tor ดา้ นหนา้ จะเป็นอะไรไม่สนใจ 9. หลีกเลี่ยงการใช้ตัวเลข พยายามเลี่ยงการใช้คาค้นหาที่เป็นคาเด่ียวๆ หรือเป็นคาท่ีมีตัวเลขปนแต่ถ้าเลย่ี งไมไ่ ด้ คณุ ก็อยา่ ลมื ใส่เครอ่ื งหมายคาพูด (\" \") ลงไปดว้ ย เช่น \"windows 8\" 10. หลกี เล่ียงภาษาพูด หลีกเลยี่ งคาประเภท Natural Language หรือเรียกงา่ ยๆ ว่าคาหรอื ข้อความที่เป็นภาษาพูด หรือเป็นประโยค คุณควรสรุปเป็นเพียงกลุ่มคาหรือวลี ที่มีความหมายรวมท้ังหมดไว้Advanced Search อย่าลืมที่จะใช้ Advanced Search เพราะจะมีส่วนช่วยคุณได้มาก ในการบีบประเด็นหวั ข้อ ใหแ้ คบลง ซ่ึงจะทาให้คณุ ได้รายชื่อเว็บไซต์ ท่ีตรงกบั ความตอ้ งการของคณุ มากขน้ึ 11. อยา่ ละเลย Help ซึ่งในแตล่ ะเว็บ จะมี ปุม่ help หรอื Site map ไวค้ อยชว่ ยเหลอื คณุ แตค่ นส่วนใหญ่มักจะมองข้าม ซึ่ง help/site map จะมีประโยชน์มากในการอธิบาย option หรือการใช้งาน/แผนผังปลกี ย่อยของแตล่ ะเวบ็ ไซต์

25 ใบมอบหมายงานที่ 1หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรื่อง การสืบคน้ อินเทอรเ์ นต็ รหสั วชิ า -รายวชิ า การศกึ ษาค้นคว้าอินเทอร์เน็ต กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยีระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 เวลา 2 ชั่วโมงโรงเรียนชลกนั ยานกุ ลู ผ้สู อน นางสาวพฤทธิวรรณ ช่วงพิทกั ษ์==============================================================ชน้ิ งาน/ภาระงาน1) สรุปองคค์ วามรู้2) สื่อนาเสนอองค์ความรู้คาสง่ั 1) ให้นกั เรยี นเลอื กหวั ขอ้ ศึกษา เก่ียวกับเน้ือหาวชิ าต่าง ๆ ในการเตรียมการทดสอบความรู้O-Net GAT PAT หรอื 9 วิชาสามัญ ตามความสนใจ แล้วแจง้ หัวขอ้ กับครู 2) ศกึ ษาค้นคว้าเนื้อหาตามหัวข้อท่กี าหนดจากอินเทอร์เน็ตและสรปุ องค์ความรู้กาหนดสง่ ชิ้นงาน 1) สง่ สรุปองคค์ วามรู้ และส่อื นาเสนอองคค์ วามรู้ (สามารถพิมพ์เอกสารจากตัวสอ่ื นาเสนอได)้ 2) กาหนดการสง่ ระยะเวลาภายในเดือนพฤศจิกายนการวดั ผล 1) การสรปุ องคค์ วามรู้ 20 คะแนน

บนั ทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้ส่วนที่ 1 ผลการเรียนรูข้ องนักเรียนและแนวทางการแก้ปัญหา 1.1 ผลการประเมนิ ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนท้งั หมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเป็นร้อยละ............. ไม่ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นรอ้ ยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนินกำรแก้ไขปัญหำนกั เรียนที่ไม่ผำ่ นเกณฑ์โดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ผลการประเมินด้านทกั ษะ/กระบวนการ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด………..…..คน ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............. ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเปน็ ร้อยละ………….…… ครไู ด้ดำเนนิ กำรแก้ไขปญั หำนกั เรียนทไี่ ม่ผ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 ผลการประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทั้งหมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............. ไม่ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นร้อยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนนิ กำรแกไ้ ขปญั หำนกั เรยี นทีไ่ มผ่ ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………สว่ นท่ี 2 ข้อเสนอแนะในการพฒั นานักเรียน 2.1 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.4 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ …………………………………..……………………… ผู้สอน (นำงสำวพฤทธวิ รรณ ช่วงพทิ ักษ์) ……………/………………/………………

ข้อเสนอแนะของหัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ …………………………………………..……………..…… (นำยสุทธศิ กั ดิ์ เคลือบสงู เนนิ ) หวั หน้ำกลมุ่ สำระกำรเรียนรูก้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยีข้อเสนอแนะของฝ่ำยวชิ ำกำร (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………….………………..…… (นำงอุไร ปมู่ ะณี) รองผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ำรงำนวิชำกำรขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะของหวั หนำ้ สถำนศึกษำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………..………………..…… (นำงสำวเฉิดเฉลำ แก้วประเคน) ผู้อำนวยกำรโรงเรียนชลกันยำนกุ ูล

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง การจดั ทาสือ่ นาเสนอผลงานรายวิชา การศึกษาค้นควา้ อินเทอร์เนต็ รหสั วิชา -กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6เวลา 2 ช่ัวโมง โรงเรียนชลกันยานกุ ูล ผู้สอน นางสาวพฤทธิวรรณ ช่วงพิทกั ษ์=========================================================มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ 1. สามารถส่อื สารนาเสนอผลงานในรูปแบบเด่ียว (Oral Individual) หรือกล่มุ (Oral panelpresentation) โดยใช้สอ่ื เทคโนโลยีที่หลากหลายได้สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การรายงานผลการดาเนินงานในการนาเสนอ สามารถจัดในรูปแบบผลงานประกอบการบรรยายหรือใช้ส่อื เทคโนโลยใี นการนาเสนอผลงาน ได้แก่ ส่อื PowerPoint, Website ฯลฯสาระการเรยี นรู้ ความรู้ การรายงานผลการดาเนินงานในการนาเสนอ สามารถจัดในรูปแบบผลงานประกอบการบรรยายหรอื ใชส้ ื่อเทคโนโลยใี นการนาเสนอผลงาน ไดแ้ ก่ ส่ือ PowerPoint, Website ฯลฯ ทกั ษะ/กระบวนการ 1) ทักษะการแสวงหาความรู้ ทกั ษะการทางานรว่ มกัน ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี 2) กระบวนการคดิ : การคดิ วเิ คราะห์ การสรุปความรู้ กระบวนการกล่มุ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1) ความสามารถในการคดิ 2) ความสามารถในการสอื่ สาร 3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

27 คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ 1) มวี ินัย 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มุ่งม่นั ในการทางาน 4) มีความรบั ผิดชอบ 5) รักษ์สิ่งแวดล้อม คา่ นิยม 12 ประการ 1) มีศลี ธรรม รักษาความสตั ย์ 2) ร้จู ักดารงตนอย่โู ดยใชห้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3) คานึงถึงประโยชนข์ องสว่ นรวมมากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเองชนิ้ งาน/ภาระงาน ชิน้ งาน/ภาระงานระหวา่ งเรยี น 1) การจัดทาส่ือนาเสนอองคค์ วามรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) สอ่ื นาเสนอองค์ความรู้ 2) การนาเสนอผลงานการวัดและการประเมินผล วิธีการ 1) การซักถาม 2) การสงั เกต 3) การตรวจผลงาน เคร่อื งมือการวดั ผล 1) แบบประเมนิ ผลงาน เกณฑ์ 1) ระดับพอใช้ขนึ้ ไป

28เกณฑ์การประเมินชน้ิ งาน สื่อการนาเสนอองค์ความรแู้ ละการนาเสนอผลงาน ประเด็น ระดบั คะแนน น้าหนกั การประเมิน จุดเน้น 4 32 11. เนอื้ หาสาระ 5 รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของ รายละเอียดของ รายละเอยี ดของ2. องค์ประกอบ เนือ้ หา ถกู ตอ้ ง เนือ้ หา ถกู ต้อง เน้อื หา ถกู ต้อง เน้อื หาไมค่ รบถว้ น 5ด้านกราฟิก ครบถ้วนลึกซึง้ ครบถว้ นลึกซ้ึง ครบถ้วนแตไ่ ม่ และไม่ชัดเจน ชดั เจนครอบคลุม ชัดเจน ชดั เจนเทา่ ทค่ี วร เทา่ ทคี่ วร 53. กระบวนการการ หวั ขอ้ ทกี่ าหนดทางาน มกี ารออกแบบ มีการออกแบบ สีสัน มีการออกแบบ สีสัน มกี ารออกแบบ สีสนั 10 สีสัน ขนาด ขนาดตัวอกั ษร ขนาดตวั อกั ษร ขนาดตัวอกั ษร4.การพดู นาเสนอ ตัวอกั ษร ภาพประกอบ และ ภาพประกอบ และ ภาพประกอบ และ ภาพประกอบ และ มลั ติมีเดยี ท่ดี ี มลั ติมีเดยี ท่ีคอ่ นขา้ ง มัลตมิ ีเดยี ท่ีพอใช้ มัลตมิ ีเดียที่ดเี ยีย่ ม ดี เหมาะสม ดาเนนิ การโดยไม่มี มีการวางแผนการ มีการวางแผนการ ดาเนินการโดยไม่มี การวางแผน มีความ ทางาน ดาเนินการ ทางาน ดาเนินการ การวางแผน มคี วาม ร่วมมือกนั ในการ ตามแผนทีก่ าหนด ตามแผนทีก่ าหนด มี ร่วมมอื กนั ในการ ทางานน้อย มีความรว่ มมอื กนั ความร่วมมอื กนั ใน ทางาน ในการทางานอย่าง การทางาน การพดู นาเสนอไม่ ดี น่าสนใจ สอ่ื ความ การพดู นาเสนอ การพูดนาเสนอ การพดู นาเสนอ เนือ้ หาไมช่ ดั เจน น่าสนใจ สอื่ ความ นา่ สนใจ สื่อความ นา่ สนใจ ส่ือความ ครอบคลมุ ตามหวั ข้อ เนอ้ื หาชดั เจน เนอ้ื หาชดั เจน เนื้อหาชัดเจน และขาดความม่ันใจ ครอบคลมุ ตาม ครอบคลุมตามหวั ขอ้ ครอบคลมุ ตามหัวขอ้ ในการนาเสนอ หัวข้อ และมคี วาม และมคี วามมน่ั ใจใน และมคี วามมนั่ ใจใน มัน่ ใจในการ การนาเสนอดี การนาเสนอพอใชไ้ ด้ นาเสนอดมี ากเกณฑ์การตัดสนิ /ระดบั คุณภาพ คะแนน 76 – 100 หมายถึง ดมี าก คะแนน 51 – 75 หมายถงึ ดี คะแนน 26 – 50 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 25 หมายถึง ปรบั ปรุงเกณฑ์การผา่ น ต้งั แตร่ ะดบั คุณภาพพอใช้ข้ึนไป

29 เกณฑ์การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ประเด็น ระดบั คะแนน น้าหนกั การประเมนิ จุดเน้น 4 32 11. มวี นิ ัย 1 ปฏบิ ัตติ าม ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง ไม่ปฏิบัติตาม2. ใฝ่เรียนรู้ ขอ้ ตกลง จนเปน็ จนเป็นนสิ ัย ตรงตอ่ ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ในการทา นสิ ยั ตรงตอ่ เวลา เวลา รบั ผิดชอบ รับผิดชอบทางาน กจิ กรรมต่าง ๆ3. มุ่งม่ัน รบั ผิดชอบทางาน ทางานด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง แต่ตอ้ งในการทางาน ด้วยตนเอง แตต่ ้องเตือนเป็น เตอื นบ่อยคร้ัง บางครั้ง4. มคี วาม สนใจศกึ ษาหารบั ผิดชอบ ความรูอ้ ยา่ ง สนใจศกึ ษาหา สนใจศกึ ษาหา ศกึ ษาหาความรเู้ ป็น 1 สม่าเสมอและ ความรู้อยา่ ง ความรู้อยา่ ง บางครัง้5.รักษ์ส่งิ แวดลอ้ ม สรุปองคค์ วามรู้ สมา่ เสมอและ สรุป สม่าเสมอ เผยแพร่แกผ่ สู้ นใจ องคค์ วามรู้ ตั้งใจทางานดว้ ย ความขยนั อดทน ตงั้ ใจทางานด้วย ตงั้ ใจทางาน งาน ทางานตามท่ไี ด้รบั 1 งานสาเร็จตาม ความขยัน อดทน สาเรจ็ ตามเป้าหมาย มอบหมาย เปา้ หมายและเป็น งานสาเร็จตาม แบบอยา่ งทีด่ ี เปา้ หมาย ทางานตามที่ได้รับ มอบหมายอยา่ งมี ทางานตามท่ีไดร้ ับ ทางานตามทไ่ี ด้รบั ทางานตามทไี่ ดร้ ับ 1 คณุ ภาพ ครบทกุ มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี มอบหมาย สง่ งานไม่ 1 ชนิ้ และสง่ ตาม คุณภาพ ครบทุกชิน้ คุณภาพ ขาดเพียง ครบ และไม่สง่ ตาม กาหนดเวลา แตไ่ ม่สง่ ตาม บางชิ้น และไมส่ ่ง กาหนดเวลา ใชพ้ ลังงานอยา่ ง กาหนดเวลา ตามกาหนดเวลา ประหยดั และ ใชพ้ ลงั งานอยา่ ง ใชพ้ ลงั งานอย่าง ใชพ้ ลงั งานอย่างไม่ คุ้มค่า มกี ารนา ประหยัดและคมุ้ คา่ ประหยัดและคุ้มค่า ประหยดั และไม่ กลับมาใชใ้ หม่ มี มกี ารนากลบั มาใช้ คุ้มคา่ การประยกุ ต์ใช้ ใหม่ วัสดุท่มี ใี นทอ้ งถ่นิเกณฑ์การตดั สนิ /ระดับคุณภาพ คะแนน 16 – 20 หมายถึง ดีมาก คะแนน 12 – 15 หมายถงึ ดี คะแนน 10 – 11 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 9 หมายถงึ ปรับปรงุเกณฑ์การผา่ น ตั้งแตร่ ะดบั คุณภาพพอใช้ขนึ้ ไป

30กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเข้าส่กู ารเรยี น 1) ครพู บนักเรยี นสนทนา ซักถามเกีย่ วกบั การค้นคว้าหาข้อมลู ทผ่ี า่ นมา 2) ครบู ันทึกเวลาเรียนและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ 3) ครูแจ้งผลการเรียนรู้ ภาระงาน และวิธีการประเมนิ ผลการเรยี นร้ใู ห้นกั เรยี นทราบ ขั้นศกึ ษาเรียนรู้ 4) ครูแนะนาขั้นตอนในการนาเสนอผลงานแก่นักเรียนและจับสลากผู้นาเสนอผลงาน 5) นักเรียนดาเนินกิจกรรม การนาเสนอผลงานตามใบมอบหมายงานที่ 2 เรื่อง การจัดทาสอื่ นาเสนอผลงาน จากการสรปุ การศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยโปรแกรม PowerPoint หรือโปรแกรมท่สี นใจ 6) ครใู หก้ าลงั ใจ คาแนะนา หลังจากนักเรยี นนาเสนอผลงานเสรจ็ ส้ิน ขัน้ สรุป 7) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปความรูท้ ไี่ ดร้ บั จากการนาเสนอผลงานและแสดงความขอบคุณผู้นาเสนอผลงาน 8) ครูแทรก เรื่อง ความมวี ินัย ความรบั ผดิ ชอบส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ สอื่ การเรยี น 1) ใบมอบหมายงานท่ี 2 เรอ่ื ง การจดั ทาสอื่ นาเสนอผลงาน 2) เคร่อื งคอมพิวเตอร์ 3) เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์ 4) เครื่องขยายเสียงและไมโครโฟน แหล่งเรยี นรู้ 1) ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โรงเรียนชลกันยานกุ ลู 2) เว็บไซต์ www.chonkanya.ac.th เว็บไซต์ โรงเรยี นชลกนั ยานุกูล 3) หอ้ งสมดุ โรงเรียนชลกนั ยานุกูลกจิ กรรมเสนอแนะ ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการนาเสนอให้น่าสนใจ จากส่ือเว็บไซต์www.google.com โดยใช้คาสบื คน้ ว่า การนาเสนองาน เทคนิคการนาเสนอ วธิ กี ารนาเสนอ และการนาเสนอใหน้ ่าสนใจ

31 ใบมอบหมายงานท่ี 2หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรื่อง การสืบคน้ อินเทอร์เนต็ รหัสวชิ า -รายวชิ า การศึกษาคน้ ควา้ อินเทอร์เน็ต กลุ่มสาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยีระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 เวลา 2 ช่ัวโมงโรงเรยี นชลกันยานกุ ลู ผ้สู อน นางสาวพฤทธิวรรณ ช่วงพิทักษ์==============================================================ชิน้ งาน/ภาระงาน 1) ส่อื นำเสนอองค์ควำมรู้ 2) กำรนำเสนอผลงำนคาสง่ั 1) จดั ทำสอ่ื นำเสนอองคค์ วำมรู้ ดว้ ยโปรแกรมสอ่ื นำเสนอที่ถนัดหรอื สนใจ 2) นักเรยี นนำเสนอผลงำน เวลำ 15 นำทีกาหนดส่งช้ินงาน 1) ส่งสอื่ ท่ใี ชใ้ นกำรนำเสนอ 2) กำหนดกำรสง่ ระยะเวลำภำยในเดอื นธันวำคมการวดั ผล 1) สือ่ ท่ใี ชใ้ นกำรนำเสนอ 30 คะแนน

บนั ทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้ส่วนที่ 1 ผลการเรียนรูข้ องนักเรียนและแนวทางการแก้ปัญหา 1.1 ผลการประเมนิ ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนท้งั หมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเป็นร้อยละ............. ไม่ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นรอ้ ยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนินกำรแก้ไขปัญหำนกั เรียนที่ไม่ผำ่ นเกณฑ์โดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ผลการประเมินด้านทกั ษะ/กระบวนการ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด………..…..คน ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............. ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเปน็ ร้อยละ………….…… ครไู ด้ดำเนนิ กำรแก้ไขปญั หำนกั เรียนทไี่ ม่ผ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 ผลการประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทั้งหมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............. ไม่ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นร้อยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนนิ กำรแกไ้ ขปญั หำนกั เรยี นทีไ่ มผ่ ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………สว่ นท่ี 2 ข้อเสนอแนะในการพฒั นานักเรียน 2.1 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.4 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ …………………………………..……………………… ผู้สอน (นำงสำวพฤทธวิ รรณ ช่วงพทิ ักษ์) ……………/………………/………………

ข้อเสนอแนะของหัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ …………………………………………..……………..…… (นำยสุทธศิ กั ดิ์ เคลือบสงู เนนิ ) หวั หน้ำกลมุ่ สำระกำรเรียนรูก้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยีข้อเสนอแนะของฝ่ำยวชิ ำกำร (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………….………………..…… (นำงอุไร ปมู่ ะณี) รองผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ำรงำนวิชำกำรขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะของหวั หนำ้ สถำนศึกษำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………..………………..…… (นำงสำวเฉิดเฉลำ แก้วประเคน) ผู้อำนวยกำรโรงเรียนชลกันยำนกุ ูล

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง การจัดทาส่อื เผยแพรส่ ู่สาธารณะรายวชิ า การศึกษาคน้ คว้าอินเทอรเ์ น็ต รหสั วิชา -กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6เวลา 2 ชั่วโมง โรงเรียนชลกันยานกุ ูล ผ้สู อน นางสาวพฤทธิวรรณ ชว่ งพทิ ักษ์=========================================================มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ 1. สามารถจัดทาสื่อเผยแพร่ผลงานสสู่ าธารณะ โดยใชส้ ื่อเทคโนโลยีทห่ี ลากหลายได้สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ ด้วยการทาเป็นส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ในเครือข่ายออนไลน์ ได้แก่YouTube, Facebook, Twitter, Website, Blog, หรืออน่ื ๆสาระการเรียนรู้ ความรู้ การเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ ด้วยการทาเป็นส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ในเครือข่ายออนไลน์ ได้แก่YouTube, Facebook, Twitter, Website, Blog, หรอื อนื่ ๆ ทักษะ/กระบวนการ 1) ทักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการทางานร่วมกัน ทักษะการใช้เทคโนโลยี 2) กระบวนการคิด : การคิดวเิ คราะห์ การสรุปความรู้ กระบวนการกลุม่ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 1) ความสามารถในการคิด 2) ความสามารถในการสื่อสาร 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

33 คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1) มีวินัย 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) ม่งุ มนั่ ในการทางาน 4) มีความรับผดิ ชอบ 5) รักษส์ ่ิงแวดล้อม ค่านิยม 12 ประการ 1) มศี ลี ธรรม รักษาความสตั ย์ 2) รจู้ ักดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3) คานงึ ถึงประโยชน์ของส่วนรวมมากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเองช้ินงาน/ภาระงาน ชน้ิ งาน/ภาระงานระหวา่ งเรียน 1) การจัดทาส่ือ VDO Clip ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) สื่อ VDO Clipการวัดและการประเมินผล วิธีการ 1) การซักถาม 2) การสงั เกต 3) การตรวจผลงาน เครอ่ื งมือการวัดผล 1) แบบประเมนิ ผลงาน เกณฑ์ 1) ระดบั พอใชข้ นึ้ ไป

34 เกณฑ์การประเมนิ ชิ้นงาน สื่อ VDO Clip ประเดน็ ระดับคะแนน น้าหนัก การประเมนิ จุดเน้น 43 2 11. เนื้อหาสาระ 5 รายละเอียดของ รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของ2. องคป์ ระกอบ เนื้อหาไม่ 5ดา้ นกราฟิก เนื้อหา ถกู ต้อง เนอื้ หา ถกู ตอ้ ง เน้ือหา ถูกตอ้ ง ครบถ้วนและไม่ ชัดเจนเท่าท่ีควร 53. กระบวนการ ครบถว้ นลึกซง้ึ ครบถว้ นลกึ ซง้ึ ครบถ้วนแต่ไม่การทางาน มกี ารออกแบบ ชัดเจน ชดั เจน ชดั เจนเท่าท่คี วร สีสัน ขนาด ตัวอักษร ครอบคลมุ ภาพประกอบ และมลั ติมเี ดียที่ หวั ข้อ ท่ี พอใช้ กาหนด ดาเนินการโดยไม่ มกี ารวางแผน มี มกี ารออกแบบ มกี ารออกแบบ มีการออกแบบ ความร่วมมือกนั ในการทางาน สีสัน ขนาด สสี นั ขนาด สสี ัน ขนาด น้อย ตัวอักษร ตัวอักษร ตวั อกั ษร ภาพประกอบ ภาพประกอบ ภาพประกอบ และมลั ตมิ เี ดยี ท่ี และมลั ติมเี ดียทด่ี ี และมลั ติมเี ดยี ที่ ดเี ยย่ี ม คอ่ นข้างดี เหมาะสม มกี ารวาง มกี ารวางแผนการ ดาเนนิ การโดยไม่ แผนการทางาน ทางาน มกี ารวางแผน มี ดาเนินการตาม ดาเนินการตาม ความรว่ มมอื กัน แผนท่ีกาหนด มี แผนท่กี าหนด มี ในการทางาน ความร่วมมือกนั ความร่วมมือกัน ในการทางาน ในการทางาน อย่างดีเกณฑ์การตัดสิน/ระดบั คุณภาพ คะแนน 46 – 60 หมายถึง ดีมาก คะแนน 31 – 45 หมายถึง ดี คะแนน 16 – 30 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 15 หมายถึง ปรับปรุงเกณฑ์การผ่าน ต้ังแตร่ ะดับคุณภาพพอใช้ขึน้ ไป

35 เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ประเด็น ระดบั คะแนน น้าหนกั การประเมนิ จุดเน้น 4 32 11. มวี นิ ัย 1 ปฏบิ ัตติ าม ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง ไม่ปฏิบัติตาม2. ใฝ่เรียนรู้ ขอ้ ตกลง จนเปน็ จนเป็นนสิ ัย ตรงตอ่ ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ในการทา นสิ ยั ตรงตอ่ เวลา เวลา รบั ผิดชอบ รับผิดชอบทางาน กจิ กรรมต่าง ๆ3. มุ่งม่ัน รบั ผิดชอบทางาน ทางานด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง แต่ตอ้ งในการทางาน ด้วยตนเอง แตต่ ้องเตือนเป็น เตอื นบ่อยคร้ัง บางครั้ง4. มคี วาม สนใจศกึ ษาหารบั ผิดชอบ ความรูอ้ ยา่ ง สนใจศกึ ษาหา สนใจศกึ ษาหา ศกึ ษาหาความรเู้ ป็น 1 สม่าเสมอและ ความรู้อยา่ ง ความรู้อยา่ ง บางครัง้5.รักษ์ส่งิ แวดลอ้ ม สรุปองคค์ วามรู้ สมา่ เสมอและ สรุป สม่าเสมอ เผยแพร่แกผ่ สู้ นใจ องคค์ วามรู้ ตั้งใจทางานดว้ ย ความขยนั อดทน ตงั้ ใจทางานด้วย ตงั้ ใจทางาน งาน ทางานตามท่ไี ด้รบั 1 งานสาเร็จตาม ความขยัน อดทน สาเรจ็ ตามเป้าหมาย มอบหมาย เปา้ หมายและเป็น งานสาเร็จตาม แบบอยา่ งทีด่ ี เปา้ หมาย ทางานตามที่ได้รับ มอบหมายอยา่ งมี ทางานตามที่ไดร้ ับ ทางานตามทไ่ี ด้รบั ทางานตามทไี่ ดร้ ับ 1 คณุ ภาพ ครบทกุ มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี มอบหมาย สง่ งานไม่ 1 ชนิ้ และสง่ ตาม คุณภาพ ครบทุกชิน้ คุณภาพ ขาดเพียง ครบ และไม่สง่ ตาม กาหนดเวลา แตไ่ ม่สง่ ตาม บางชิ้น และไมส่ ่ง กาหนดเวลา ใชพ้ ลังงานอยา่ ง กาหนดเวลา ตามกาหนดเวลา ประหยดั และ ใชพ้ ลงั งานอยา่ ง ใชพ้ ลงั งานอย่าง ใชพ้ ลงั งานอย่างไม่ คุม้ ค่า มกี ารนา ประหยัดและคมุ้ คา่ ประหยัดและคุ้มค่า ประหยดั และไม่ กลับมาใชใ้ หม่ มี มกี ารนากลบั มาใช้ คุ้มคา่ การประยกุ ต์ใช้ ใหม่ วัสดุท่มี ใี นทอ้ งถ่นิเกณฑ์การตดั สนิ /ระดับคุณภาพ คะแนน 16 – 20 หมายถึง ดีมาก คะแนน 12 – 15 หมายถึง ดี คะแนน 10 – 11 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 9 หมายถึง ปรับปรงุเกณฑ์การผา่ น ตั้งแตร่ ะดบั คุณภาพพอใช้ขนึ้ ไป

36กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนาเข้าสูก่ ารเรยี น 1) ครพู บนักเรียนสนทนา ซักถามเก่ยี วกับการจัดทาสอ่ื เสนอผลงานที่ผา่ นมา 2) ครูบนั ทึกเวลาเรยี นและการประเมินผลการเรยี นรู้ 3) ครแู จง้ ผลการเรยี นรู้ ภาระงาน และวิธีการประเมินผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ ขน้ั ศึกษาเรียนรู้ 4) ครแู นะนาแนวทางในการจดั ทา VDO Clip แก่นกั เรยี น 5) นักเรียนดาเนิน วางแผนและลงมือจัดทา VDO Clip การสรุปการศึกษาค้นคว้า ด้วยโปรแกรมทสี่ นใจ ตามใบภาระงานท่ี 3 6) ครใู ห้กาลังใจ คาแนะนาระหวา่ งที่นกั เรียนปฏบิ ตั ิงาน 7) นักเรียนสง่ ผลงานใหค้ รตู รวจสอบ 8) นักเรียนอัพโหลด ไฟล์ VDO ไปยงั YouTube, Facebook, Website, Blog หรืออ่ืนๆ ขน้ั สรปุ 9) ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปความร้ทู ไี่ ดร้ บั จากการนาเสนอผลงานและแสดงความขอบคุณผนู้ าเสนอผลงาน 10) ครูแทรก เรือ่ ง ความมวี นิ ัย ความรบั ผดิ ชอบสือ่ /แหลง่ เรยี นรู้ สื่อการเรียน 1) ใบภาระงานท่ี 3 เรอื่ ง การจดั ทาสอื่ เผยแพร่ส่สู าธารณะ 2) ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ โรงเรียนชลกนั ยานกุ ลู 3) เครอื่ งคอมพิวเตอร์ 4) เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์ 5) เคร่ืองขยายเสยี งและไมโครโฟน แหลง่ เรยี นรู้ 1) ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ โรงเรยี นชลกนั ยานุกูล 2) เว็บไซต์ www.chonkanya.ac.th เวบ็ ไซต์ โรงเรยี นชลกันยานุกลู 3) หอ้ งสมดุ โรงเรียนชลกนั ยานกุ ลูกิจกรรมเสนอแนะ ให้ผู้เรยี นปรบั ปรงุ ผลงาน ส่ือนาเสนอองคค์ วามรู้ ใหม้ คี วามสมบูรณ์ ด้านเน้ือหา กราฟกิ สสี ันและเตรยี มตวั การพดู นาเสนอผลงาน เพอ่ื จดั ทาสื่อเผยแพร่สสู่ าธารณะในเรยี นครงั้ ต่อไป

37 ใบมอบหมายงานที่ 3หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรื่อง การจัดทาส่ือเผยแพรส่ ูส่ าธารณะ รหสั วิชา -รายวิชา การศกึ ษาค้นควา้ อินเทอร์เนต็ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยีระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 เวลา 2 ช่ัวโมงโรงเรียนชลกันยานกุ ูล ผู้สอน นางสาวพฤทธิวรรณ ช่วงพิทกั ษ์==============================================================ชนิ้ งาน/ภาระงาน1) ส่อื VDO Clipคาสง่ั 1) จดั ทำสื่อ VDO Clip เกย่ี วกับเน้ือทน่ี กั เรียนสนใจ 2) นักเรยี นอัพโหลด VDO Clip ในเครอื ขำ่ ยออนไลน์ ได้แก่ YouTubeกาหนดส่งช้ินงาน 1) อัพโหลด VDO Clip ในเครือข่ำยออนไลน์ 2) กำหนดกำรสง่ ระยะเวลำภำยในเดอื นมกรำคมการวัดผล 1) VDO Clip 30 คะแนน

บนั ทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้ส่วนที่ 1 ผลการเรียนรูข้ องนักเรียนและแนวทางการแก้ปัญหา 1.1 ผลการประเมนิ ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนท้งั หมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเป็นร้อยละ............. ไม่ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นรอ้ ยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนินกำรแก้ไขปัญหำนกั เรียนที่ไม่ผำ่ นเกณฑ์โดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ผลการประเมินด้านทกั ษะ/กระบวนการ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด………..…..คน ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............. ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเปน็ ร้อยละ………….…… ครไู ด้ดำเนนิ กำรแก้ไขปญั หำนกั เรียนทไี่ ม่ผ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 ผลการประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทั้งหมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............. ไม่ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นร้อยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนนิ กำรแกไ้ ขปญั หำนกั เรยี นทีไ่ มผ่ ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………สว่ นท่ี 2 ข้อเสนอแนะในการพฒั นานักเรียน 2.1 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.4 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ …………………………………..……………………… ผู้สอน (นำงสำวพฤทธวิ รรณ ช่วงพทิ ักษ์) ……………/………………/………………

ข้อเสนอแนะของหัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ …………………………………………..……………..…… (นำยสุทธศิ กั ดิ์ เคลือบสงู เนนิ ) หวั หน้ำกลมุ่ สำระกำรเรียนรูก้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยีข้อเสนอแนะของฝ่ำยวชิ ำกำร (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………….………………..…… (นำงอุไร ปมู่ ะณี) รองผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ำรงำนวิชำกำรขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะของหวั หนำ้ สถำนศึกษำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………..………………..…… (นำงสำวเฉิดเฉลำ แก้วประเคน) ผู้อำนวยกำรโรงเรียนชลกันยำนกุ ูล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook