แบบการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ประเดน็ ระดบั คะแนน นา้ หนกั การประเมิน จดุ เน้น 4 32 11. มีวินัย 1 ปฏบิ ัติตาม ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง ไมป่ ฏิบัตติ าม2. ใฝเ่ รียนรู้ ขอ้ ตกลง จนเป็น จนเป็นนิสัย ตรงตอ่ ตรงต่อเวลา ข้อตกลง ในการทา 1 นิสัย ตรงตอ่ เวลา เวลา รบั ผดิ ชอบ รับผิดชอบทางาน กิจกรรมตา่ ง ๆ3. ม่งุ มนั่ รบั ผดิ ชอบทางาน ทางานด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง แตต่ อ้ ง 1ในการทางาน ดว้ ยตนเอง แต่ต้องเตอื นเปน็ เตือนบ่อยครง้ั ศึกษาหาความรูเ้ ป็น บางครั้ง บางครั้ง 14. มคี วาม สนใจศึกษาหารับผิดชอบ ความรู้อยา่ ง สนใจศกึ ษาหา สนใจศกึ ษาหา ทางานตามที่ไดร้ ับ 1 สมา่ เสมอและ ความรอู้ ยา่ ง ความรู้อยา่ ง มอบหมาย5.รกั ษส์ ิ่งแวดล้อม สรุปองค์ความรู้ สม่าเสมอและ สรุป สมา่ เสมอ เผยแพรแ่ ก่ผู้สนใจ องคค์ วามรู้ ทางานตามทีไ่ ดร้ บั ตงั้ ใจทางานด้วย มอบหมาย ส่งงานไม่ ความขยัน อดทน ตั้งใจทางานดว้ ย ตง้ั ใจทางาน งาน ครบ และไม่ส่งตาม งานสาเร็จตาม ความขยัน อดทน สาเร็จตามเปา้ หมาย กาหนดเวลา เป้าหมายและเปน็ งานสาเร็จตาม แบบอยา่ งท่ีดี เปา้ หมาย ใชพ้ ลังงานอยา่ งไม่ ทางานตามทีไ่ ดร้ บั ประหยดั และไม่ มอบหมายอยา่ งมี ทางานตามท่ีได้รับ ทางานตามทไี่ ด้รับ คมุ้ ค่า คณุ ภาพ ครบทกุ มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี ช้นิ และสง่ ตาม คณุ ภาพ ครบทุกช้นิ คุณภาพ ขาดเพียง กาหนดเวลา แต่ไม่สง่ ตาม บางชิ้น และไมส่ ่ง ใช้พลังงานอยา่ ง กาหนดเวลา ตามกาหนดเวลา ประหยัดและ ใชพ้ ลังงานอยา่ ง ใช้พลงั งานอยา่ ง คุ้มคา่ มีการนา ประหยดั และคุม้ ค่า ประหยัดและคุ้มค่า กลบั มาใช้ใหม่ มี มกี ารนากลบั มาใช้ การประยกุ ต์ใช้ ใหม่ วสั ดทุ ี่มีในทอ้ งถ่ินเกณฑ์การตดั สิน/ระดับคุณภาพ คะแนน 16 – 20 หมายถึง ดมี าก คะแนน 12 – 15 หมายถึง ดี คะแนน 10 – 11 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 9 หมายถงึ ปรับปรุงเกณฑ์การผ่าน ตงั้ แต่ระดบั พอใช้ขนึ้ ไป
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าส่กู ารเรียน 1) ครพู บนักเรียนสนทนา ซักถามเกี่ยวกับการเรียนรู้ เรื่อง การเผยแพร่ผลงานสูส่ าธารณะทผ่ี ่านมา ว่านกั เรียนเรียนรู้อะไรมาบ้างและนาความรทู้ ่ีได้ไปใชอ้ ย่างไรบ้าง 2) ครบู ันทึกเวลาเรยี นและการประเมินผลการเรยี นรู้ 3) ครแู จง้ ผลการเรียนรู้ ภาระงาน และวิธกี ารประเมนิ ผลการเรยี นรใู้ หน้ ักเรียนทราบ ข้นั ศึกษาเรยี นรู้ 4) ใหน้ ักเรยี นทางาน ตามใบภาระงานที่ 4.2 เรื่อง การเผยแพร่ผลงานสสู่ าธารณะ 5) นกั เรียนนาเสนอผลงาน ขัน้ สรุป 6) ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปสาระสาคญั จากสาระการเรียนรทู้ ี่ศกึ ษา 7) ครูแทรกคุณธรรม เร่ือง การใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และความมุ่งม่ันในการทางาน การมีจิตสาธารณะ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ 1) ระบบการจัดการช้นั เรียนออนไลน์ (ClassStart) จดั ทาโดย นางสาวพฤทธวิ รรณ ช่วงพทิ ักษ์ 2) ใบภาระงานที่ 4.2 เรอื่ ง การเผยแพรผ่ ลงานสสู่ าธารณะ 3) เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ 4) เครือ่ งฉายโปรเจคเตอร์ 5) เครอ่ื งขยายเสียงและไมโครโฟน แหล่งเรยี นรู้ 1) ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ โรงเรียนชลกนั ยานกุ ูล 2) เว็บไซต์ www.chonkanya.ac.th เว็บไซต์ โรงเรียนชลกันยานกุ ลู 3) เว็บไซต์ที่เก่ยี วขอ้ งกบั วิชาการส่ือสารและการนาเสนอ 4) หอ้ งสมุดโรงเรียนชลกนั ยานุกูลกจิ กรรมเสนอแนะ ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเก่ียวกับการเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ จากสื่อเว็บไซต์www.google.com
การบูรณาการ การนาความรู้เร่ืองการกาหนดหัวข้อการเขียนรายงานทางวิชาการไปใช้ในการจัดทารายงานวิชาอ่ืน ๆ ที่นักเรียนได้รับมอบหมาย และนาความรู้จากศึกษาค้นคว้าเทคโนโลยีของแต่ละชาติในอาเซียน และการนามาใช้อานวยความสะดวกในการส่ือสารแลกเปล่ียนในอาเซียน และเปรียบเทียบความเหลื่อมล้าทางด้านเทคโนโลยีเฉพาะภายในประเทศสมาชิกแต่ละชาติและระหว่างประเทศสมาชกิ ไปใช้ในรายวิชาอื่น ๆ ด้วย และอาจมีการกาหนดหวั ขอ้ การศึกษาเกีย่ วกับพืชศึกษาในกิจกรรมงานพชื สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นก็ไดเ้ ชน่ กัน
ใบภาระงานที่ 4.2วิชา การนาความรูไ้ ปใชใ้ นการบริการสงั คม รหัสวชิ า I30203 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4เรอ่ื ง การเผยแพร่ผลงานสสู่ าธารณะ เวลา 2 ชว่ั โมงผลการเรยี นรูท้ ่คี าดหวัง เผยแพรผ่ ลงานสู่สาธารณะ โดยใชก้ ารสนทนา วพิ ากษผ์ ่านสอื่ อิเลก็ ทรอนิกส์ เช่นe-conference, social media onlineเนอ้ื หาสาระวชิ า 1. การเผยแพร่ผลงานสูส่ าธารณะ ดว้ ยการทาเป็นสือ่ อิเล็กทรอนิกส์ ในเครอื ข่ายออนไลน์ไดแ้ ก่ Facebook, Twitter, Line, YouTube, Instagram, Google Site, Web site, Blog, ,Social media onlineงานทีม่ อบหมาย 1. ใหน้ กั เรยี นจดั ทาส่ือ VDO เกยี่ วกบั หัวข้อท่ีนกั เรยี นเสนอ ความยาวไมเ่ กิน 5 นาที 2. ใหน้ กั เรยี นอัปโหลดไฟล์ VDO ทจี่ ัดทาข้นึ ท่เี วบ็ ไซด์ของ YouTube โดยตง้ั ชอ่ื วา่“CN_IS2_กลุ่มท.ี่ ..-ชือ่ เรื่อง” เชน่ “CN_IS2_กลุ่มที่1-เรือ่ งเกาะสีชัง” และนาไปเผยแพร่สู่สาธารณะ3. ให้นกั เรยี นนาเสนอผลงานกาหนดการส่งงานนักเรียนมีเวลาในการทางานตามใบภาระงานที่ 4.2 เป็นเวลา 2 ชั่วโมงการประเมนิ ผล1. นักเรยี นทางานเสรจ็ ตามเวลาที่กาหนด2. นักเรยี นจัดทาชน้ิ งานและนาเสนอได้ถกู ต้องตามที่กาหนด
บนั ทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้ส่วนที่ 1 ผลการเรียนรูข้ องนักเรียนและแนวทางการแก้ปัญหา 1.1 ผลการประเมนิ ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนท้งั หมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเป็นร้อยละ............. ไม่ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นรอ้ ยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนินกำรแก้ไขปัญหำนกั เรียนที่ไม่ผำ่ นเกณฑ์โดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ผลการประเมินด้านทกั ษะ/กระบวนการ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด………..…..คน ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............. ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเปน็ ร้อยละ………….…… ครไู ด้ดำเนนิ กำรแก้ไขปญั หำนกั เรียนทไี่ ม่ผ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 ผลการประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทั้งหมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............. ไม่ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นร้อยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนนิ กำรแกไ้ ขปญั หำนกั เรยี นทีไ่ มผ่ ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………สว่ นท่ี 2 ข้อเสนอแนะในการพฒั นานักเรียน 2.1 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.4 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ …………………………………..……………………… ผู้สอน (นำงสำวพฤทธวิ รรณ ช่วงพทิ ักษ์) ……………/………………/………………
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..……………..…… (นำยสทุ ธศิ กั ด์ิ เคลือบสงู เนิน) หวั หนำ้ กลุม่ สำระกำรเรยี นรูก้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยีข้อเสนอแนะของฝ่ำยวิชำกำร (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………….………………..…… (นำงจนั ทร์ษำ ชยั วฒั นธรี ำกร) รองผู้อำนวยกำรโรงเรียนกลุ่มบรหิ ำรงำนวิชำกำรขอ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของหัวหนำ้ สถำนศึกษำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ …………………………………..………………..…… (นำงสำวเฉิดเฉลำ แก้วประเคน) ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียนชลกนั ยำนกุ ูล
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 17หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง การเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ รหัสวิชา I30203รายวชิ า การนาความรูไ้ ปใช้ในการบรกิ ารสังคม กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยีระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 2 ชั่วโมงโรงเรียนชลกันยานุกลู ผสู้ อน นางสาวพฤทธิวรรณ ชว่ งพิทกั ษ์=========================================================มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ เผยแพรผ่ ลงานสู่สาธารณะ โดยใชก้ ารสนทนา วพิ ากษ์ผ่านสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์เชน่ e-conference, social media onlineสาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ ด้วยการทาเปน็ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ในเครือข่ายออนไลน์ ได้แก่Facebook, Twitter, Line, YouTube, Instagram, Google Site, Web site, Blog, , Socialmedia online เป็นการนาสาระเนื้อ โดยปรับรปู แบบการนาเสนอเปน็ ส่อื ทีส่ ามารถนาเสนอในส่ือสาธารณะได้สาระการเรียนรู้ ความรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง การเผยแพร่ผลงานสสู่ าธารณะ ด้วยการทาเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในเครือข่ายออนไลน์ได้แก่ Facebook, Twitter, Line, YouTube, Instagram, Google Site, Web site, Blog, ,Social media online ทักษะ/กระบวนการ 1) ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการทางานร่วมกัน ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี 2) กระบวนการคิด : การคดิ วเิ คราะห์ การสรปุ ความรู้ กระบวนการกลุ่ม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 1) ความสามารถในการคดิ 2) ความสามารถในการสอ่ื สาร 3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ 1) มีวินยั 2) ใฝเ่ รยี นรู้ 3) มุง่ ม่นั ในการทางาน 4) มคี วามรับผิดชอบ 5) รักษ์ส่ิงแวดล้อม คา่ นยิ ม 12 ประการ 1) มีศลี ธรรม รักษาความสัตย์ 2) รูจ้ กั ดารงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3) คานึงถงึ ประโยชน์ของสว่ นรวมมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเองชิน้ งาน/ภาระงาน ช้ินงาน/ภาระงานระหวา่ งเรียน 1) สรุปองค์ความรเู้ กยี่ วกับการเผยแพร่ผลงานผา่ นสื่อส่สู าธารณะ 2) สือ่ เผยแพรผ่ ลงานสู่สาธารณะการวัดและการประเมินผล วิธีการ 1) การซักถาม 2) การสังเกต 3) การตรวจผลงาน เคร่ืองมือการวดั ผล 1) แบบประเมินผลงาน เกณฑ์ 1) ระดบั พอใช้ข้นึ ไป
แบบการประเมนิ การนาเสนอ ประเดน็ ระดบั คะแนน นาหนักการประเมิน จดุ เนน้ 4 32 11. เนอื้ หาสาระ 5 รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของ 52. กระบวนการ เนอ้ื หา ถกู ตอ้ ง เนื้อหา ถกู ตอ้ ง เน้ือหา ถกู ต้อง เนอื้ หาไมค่ รบถ้วนทางาน ครบถ้วนลกึ ซ้งึ ครบถว้ นลึกซึง้ ครบถ้วนแตไ่ ม่ และไม่ชดั เจน 5 ชัดเจนครอบคลุม ชดั เจน ชัดเจนเท่าทีค่ วร เท่าทค่ี วร3. การนาเสนอ หวั ข้อ ทีก่ าหนด 5 มกี ารวเิ คราะหง์ าน มกี ารวิเคราะห์งาน มีการวิเคราะห์งาน มกี ารวเิ คราะห์งาน4. คุณประโยชน์ วางแผนในการ วางแผนในการ วางแผนในการ วางแผนในการ ทางาน ปฏบิ ัติตาม ทางาน ปฏบิ ตั ิตาม ทางาน ปฏบิ ัติตาม ทางาน แตไ่ ม่ปฏิบตั ิ แผนทว่ี างไว้ มกี าร แผนท่ีวางไว้ มกี าร แผนทีว่ างไว้ ตามแผนท่ีวางไว้ ประเมินผลการ ประเมินผลการ ทางานและนาผล ทางาน การจัดพิมพค์ า จากการประเมนิ ไป ถูกตอ้ ง การสะกดคา ปรบั ปรงุ งานให้ การใชส้ านวนภาษา การจดั พมิ พ์คา และไวยากรณ์ สมบูรณ์ย่ิงขนึ้ ดี ถูกตอ้ ง การสะกด ถูกตอ้ ง การสะกดคา ถกู ต้องพอใช้ การใช้สานวนภาษาดี คาและไวยากรณ์ และไวยากรณ์ ถูกตอ้ ง การสะกดคา ถกู ต้อง รูปแบบ ถูกต้อง สอื่ มีคุณประโยชน์ และไวยากรณ์ น่าสนใจ ต่อการเรียนรู้ น้อย ถกู ตอ้ ง ความสวยงาม นาเสนอเน้อื หาได้ รปู แบบน่าสนใจ พอใช้ ความสวยงาม การ สอื่ มคี ณุ ประโยชน์ สือ่ มคี ุณประโยชน์ ใช้ภาพประกอบ ตอ่ การเรียนรู้ ตอ่ การเรียนรู้ เหมาะสม นาเสนอเนอ้ื หาได้ดี นาเสนอเนื้อหาได้ดี ส่อื มีคณุ ประโยชนต์ อ่ เหมาะสมกบั ผูเ้ รยี น การเรยี นรู้ นาเสนอ เนือ้ หาไดด้ เี หมาะสม กบั ผเู้ รียน สามารถ นาไปใช้งานไดอ้ ย่าง ดีเกณฑ์การตดั สิน/ระดับคุณภาพ คะแนน 61 – 80 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 41 – 60 หมายถึง ดี คะแนน 21 – 40 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 20 หมายถึง ปรบั ปรุงเกณฑ์การผา่ น ตั้งแต่ระดบั พอใชข้ น้ึ ไป
แบบการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ประเดน็ ระดบั คะแนน นา้ หนกั การประเมิน จดุ เน้น 4 32 11. มีวินัย 1 ปฏบิ ัติตาม ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง ไมป่ ฏิบัตติ าม2. ใฝเ่ รียนรู้ ขอ้ ตกลง จนเป็น จนเป็นนิสัย ตรงตอ่ ตรงต่อเวลา ข้อตกลง ในการทา 1 นิสัย ตรงตอ่ เวลา เวลา รบั ผดิ ชอบ รับผิดชอบทางาน กิจกรรมตา่ ง ๆ3. ม่งุ มนั่ รบั ผดิ ชอบทางาน ทางานด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง แตต่ อ้ ง 1ในการทางาน ดว้ ยตนเอง แต่ต้องเตอื นเปน็ เตือนบ่อยครง้ั ศึกษาหาความรูเ้ ป็น บางครั้ง บางครั้ง 14. มคี วาม สนใจศึกษาหารับผิดชอบ ความรู้อยา่ ง สนใจศกึ ษาหา สนใจศกึ ษาหา ทางานตามที่ไดร้ ับ 1 สมา่ เสมอและ ความรอู้ ยา่ ง ความรู้อยา่ ง มอบหมาย5.รกั ษส์ ิ่งแวดล้อม สรุปองค์ความรู้ สม่าเสมอและ สรุป สมา่ เสมอ เผยแพรแ่ ก่ผู้สนใจ องคค์ วามรู้ ทางานตามทีไ่ ดร้ บั ตงั้ ใจทางานด้วย มอบหมาย ส่งงานไม่ ความขยัน อดทน ตั้งใจทางานดว้ ย ตง้ั ใจทางาน งาน ครบ และไม่ส่งตาม งานสาเร็จตาม ความขยัน อดทน สาเร็จตามเปา้ หมาย กาหนดเวลา เป้าหมายและเปน็ งานสาเร็จตาม แบบอยา่ งท่ีดี เปา้ หมาย ใชพ้ ลังงานอยา่ งไม่ ทางานตามทีไ่ ดร้ บั ประหยดั และไม่ มอบหมายอยา่ งมี ทางานตามท่ีได้รับ ทางานตามทไี่ ด้รับ คมุ้ ค่า คณุ ภาพ ครบทกุ มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี ช้นิ และสง่ ตาม คณุ ภาพ ครบทุกช้นิ คุณภาพ ขาดเพียง กาหนดเวลา แต่ไม่สง่ ตาม บางชิ้น และไมส่ ่ง ใช้พลังงานอยา่ ง กาหนดเวลา ตามกาหนดเวลา ประหยัดและ ใชพ้ ลังงานอยา่ ง ใช้พลงั งานอยา่ ง คุ้มคา่ มีการนา ประหยดั และคุม้ ค่า ประหยัดและคุ้มค่า กลบั มาใช้ใหม่ มี มกี ารนากลบั มาใช้ การประยกุ ต์ใช้ ใหม่ วสั ดทุ ี่มีในทอ้ งถ่ินเกณฑ์การตดั สิน/ระดับคุณภาพ คะแนน 16 – 20 หมายถึง ดมี าก คะแนน 12 – 15 หมายถึง ดี คะแนน 10 – 11 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 9 หมายถงึ ปรับปรุงเกณฑ์การผ่าน ตงั้ แต่ระดบั พอใช้ขนึ้ ไป
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าส่กู ารเรียน 1) ครพู บนักเรียนสนทนา ซักถามเกี่ยวกับการเรียนรู้ เรื่อง การเผยแพร่ผลงานสูส่ าธารณะทผ่ี ่านมา ว่านกั เรียนเรียนรู้อะไรมาบ้างและนาความรทู้ ่ีได้ไปใชอ้ ย่างไรบ้าง 2) ครบู ันทึกเวลาเรยี นและการประเมินผลการเรยี นรู้ 3) ครแู จง้ ผลการเรียนรู้ ภาระงาน และวิธกี ารประเมนิ ผลการเรยี นรใู้ หน้ ักเรียนทราบ ข้นั ศึกษาเรยี นรู้ 4) ใหน้ ักเรยี นทางาน ตามใบภาระงานที่ 4.2 เรื่อง การเผยแพร่ผลงานสสู่ าธารณะ 5) นกั เรียนนาเสนอผลงาน ขัน้ สรุป 6) ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปสาระสาคญั จากสาระการเรียนรทู้ ี่ศกึ ษา 7) ครูแทรกคุณธรรม เร่ือง การใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และความมุ่งม่ันในการทางาน การมีจิตสาธารณะ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ 1) ระบบการจัดการช้นั เรียนออนไลน์ (ClassStart) จดั ทาโดย นางสาวพฤทธวิ รรณ ช่วงพทิ ักษ์ 2) ใบภาระงานที่ 4.2 เรอื่ ง การเผยแพรผ่ ลงานสสู่ าธารณะ 3) เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ 4) เครือ่ งฉายโปรเจคเตอร์ 5) เครอ่ื งขยายเสียงและไมโครโฟน แหล่งเรยี นรู้ 1) ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ โรงเรียนชลกนั ยานกุ ูล 2) เว็บไซต์ www.chonkanya.ac.th เว็บไซต์ โรงเรียนชลกันยานกุ ลู 3) เว็บไซต์ที่เก่ยี วขอ้ งกบั วิชาการส่ือสารและการนาเสนอ 4) หอ้ งสมุดโรงเรียนชลกนั ยานุกูลกจิ กรรมเสนอแนะ ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเก่ียวกับการเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ จากสื่อเว็บไซต์www.google.com
การบูรณาการ การนาความรู้เร่ืองการกาหนดหัวข้อการเขียนรายงานทางวิชาการไปใช้ในการจัดทารายงานวิชาอ่ืน ๆ ที่นักเรียนได้รับมอบหมาย และนาความรู้จากศึกษาค้นคว้าเทคโนโลยีของแต่ละชาติในอาเซียน และการนามาใช้อานวยความสะดวกในการส่ือสารแลกเปล่ียนในอาเซียน และเปรียบเทียบความเหลื่อมล้าทางด้านเทคโนโลยีเฉพาะภายในประเทศสมาชิกแต่ละชาติและระหว่างประเทศสมาชกิ ไปใช้ในรายวิชาอื่น ๆ ด้วย และอาจมีการกาหนดหวั ขอ้ การศึกษาเกีย่ วกับพืชศึกษาในกิจกรรมงานพชื สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นก็ไดเ้ ชน่ กัน
ใบภาระงานที่ 4.2วิชา การนาความรูไ้ ปใชใ้ นการบริการสงั คม รหัสวชิ า I30203 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4เรอ่ื ง การเผยแพร่ผลงานสสู่ าธารณะ เวลา 2 ชว่ั โมงผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง เผยแพรผ่ ลงานสู่สาธารณะ โดยใชก้ ารสนทนา วพิ ากษผ์ ่านสอื่ อิเลก็ ทรอนิกส์ เช่นe-conference, social media onlineเนอ้ื หาสาระวชิ า 1. การเผยแพร่ผลงานสูส่ าธารณะ ดว้ ยการทาเป็นสือ่ อิเล็กทรอนิกส์ ในเครอื ข่ายออนไลน์ไดแ้ ก่ Facebook, Twitter, Line, YouTube, Instagram, Google Site, Web site, Blog, ,Social media onlineงานทีม่ อบหมาย 1. ใหน้ ักเรยี นจดั ทาส่ือ VDO เกยี่ วกบั หัวข้อท่ีนกั เรยี นเสนอ ความยาวไมเ่ กิน 5 นาที 2. ใหน้ ักเรยี นอัปโหลดไฟล์ VDO ทจี่ ัดทาข้นึ ท่เี วบ็ ไซด์ของ YouTube โดยตง้ั ชอ่ื วา่“CN_IS2_กลมุ่ ที.่ ..-ชือ่ เรื่อง” เชน่ “CN_IS2_กลุ่มที่1-เรือ่ งเกาะสีชัง” และนาไปเผยแพร่สู่สาธารณะ3. ให้นกั เรยี นนาเสนอผลงานกาหนดการส่งงานนักเรยี นมีเวลาในการทางานตามใบภาระงานที่ 4.2 เป็นเวลา 2 ชั่วโมงการประเมนิ ผล1. นักเรียนทางานเสรจ็ ตามเวลาที่กาหนด2. นักเรยี นจัดทาชน้ิ งานและนาเสนอได้ถกู ต้องตามที่กาหนด
บนั ทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้ส่วนที่ 1 ผลการเรียนรูข้ องนักเรียนและแนวทางการแก้ปัญหา 1.1 ผลการประเมนิ ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนท้งั หมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเป็นร้อยละ............. ไม่ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นรอ้ ยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนินกำรแก้ไขปัญหำนกั เรียนที่ไม่ผำ่ นเกณฑ์โดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ผลการประเมินด้านทกั ษะ/กระบวนการ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด………..…..คน ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............. ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเปน็ ร้อยละ………….…… ครไู ด้ดำเนนิ กำรแก้ไขปญั หำนกั เรียนทไี่ ม่ผ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 ผลการประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทั้งหมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............. ไม่ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นร้อยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนนิ กำรแกไ้ ขปญั หำนกั เรยี นทีไ่ มผ่ ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………สว่ นท่ี 2 ข้อเสนอแนะในการพฒั นานักเรียน 2.1 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.4 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ …………………………………..……………………… ผู้สอน (นำงสำวพฤทธวิ รรณ ช่วงพทิ ักษ์) ……………/………………/………………
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..……………..…… (นำยสทุ ธศิ กั ด์ิ เคลือบสงู เนิน) หวั หนำ้ กลุม่ สำระกำรเรยี นรูก้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยีข้อเสนอแนะของฝ่ำยวิชำกำร (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………….………………..…… (นำงจนั ทร์ษำ ชยั วฒั นธรี ำกร) รองผู้อำนวยกำรโรงเรียนกลุ่มบรหิ ำรงำนวิชำกำรขอ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของหัวหนำ้ สถำนศึกษำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ …………………………………..………………..…… (นำงสำวเฉิดเฉลำ แก้วประเคน) ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียนชลกนั ยำนกุ ูล
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 18หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรือ่ ง ประโยชน์และคณุ ค่าของการสรา้ งสรรคง์ าน รหสั วิชา I30203รายวิชา การนาความรไู้ ปใชใ้ นการบริการสังคม กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยีระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 2 ชั่วโมงโรงเรียนชลกันยานกุ ูล ผสู้ อน นางสาวพฤทธิวรรณ ช่วงพทิ ักษ์=========================================================มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ เหน็ ประโยชนแ์ ละคณุ ค่าการสร้างสรรค์งานและถา่ ยทอดส่งิ ท่เี รียนรใู้ หเ้ ป็นประโยชน์สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การสรปุ ประโยชน์และคุณค่าของการสรา้ งสรรค์ผลงานจากการศึกษาคน้ คว้า เป็นการเพ่ิมพูนความรู้ ประสบการณ์ ฝึกทักษะในการอ่าน การใช้เทคโนโลยี ซึ่งสามารถนาความรู้ท่ไี ด้มาใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ิต และการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ได้สาระการเรียนรู้ ความรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง การสรปุ ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของการสรา้ งสรรค์ผลงานจากการศกึ ษาคน้ คว้า ทักษะ/กระบวนการ 1) ทักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการทางานร่วมกัน ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี 2) กระบวนการคดิ : การคดิ วเิ คราะห์ การสรุปความรู้ กระบวนการกลุม่ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 1) ความสามารถในการคิด 2) ความสามารถในการสอื่ สาร 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1) มวี ินยั 2) ใฝเ่ รยี นรู้ 3) มุ่งมั่นในการทางาน 4) มคี วามรับผดิ ชอบ 5) รักษ์ส่งิ แวดล้อม คา่ นยิ ม 12 ประการ 1) มศี ีลธรรม รักษาความสตั ย์ 2) ร้จู กั ดารงตนอยู่โดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3) คานึงถงึ ประโยชน์ของสว่ นรวมมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเองช้นิ งาน/ภาระงาน ชิน้ งาน/ภาระงานระหว่างเรียน 1) สรุปองค์ความรเู้ กย่ี วกบั ประโยชน์และคุณค่าของการสร้างสรรค์งาน 2) ผลการนาส่ือเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะการวัดและการประเมินผล วิธีการ 1) การซักถาม 2) การสงั เกต 3) การตรวจผลงาน เครื่องมอื การวัดผล 1) แบบประเมินผลงาน เกณฑ์ 1) ระดับพอใชข้ ้นึ ไป
แบบการประเมนิ ชิน้ งานการสรปุ องค์ความรู้ ประเดน็ ระดับคะแนน นาหนกั การประเมิน จดุ เน้น ๔ ๓๒ ๑๑. เน้อื หาสาระ ๕ รายละเอยี ดของ รายละเอียดของ รายละเอียดของ รายละเอยี ดของ๒. การสรปุ เปน็ เน้อื หา ถกู ต้อง เน้อื หา ถกู ตอ้ ง เนือ้ หา ถกู ต้อง เน้อื หาไม่ครบถว้ นความเรยี งขั้นสูง ครบถว้ นลกึ ซึ้ง ครบถว้ นลกึ ซึ้ง ครบถว้ นแต่ไม่ และไม่ชดั เจน ชดั เจนครอบคลุม ชัดเจน ชดั เจนเท่าท่คี วร เทา่ ทค่ี วร๓. การจัดพมิ พ์ หัวขอ้ ท่กี าหนด การสรุปเนือ้ หา ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง ไมป่ ฏบิ ัตติ าม ๕ ถูกตอ้ ง กระชบั จนเปน็ นิสัย ตรงต่อ ตรงตอ่ เวลา ข้อตกลง ในการทา ชัดเจน มีการ เวลา รบั ผดิ ชอบ รับผดิ ชอบทางาน กจิ กรรมตา่ ง ๆ อา้ งองิ แหล่งขอ้ มลู ทางานด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง แตต่ อ้ ง แต่ตอ้ งเตือนเปน็ เตือนบอ่ ยครงั้ มขี ้อผดิ พลาดในการ ๕ การจดั พิมพค์ า บางคร้ัง จดั พมิ พค์ อ่ นข้างมาก ถูกต้อง ขนาด การจดั พมิ พ์คา ตัวอักษร และ การจดั พิมพค์ า ถกู ตอ้ ง จัดรปู แบบหวั ข้อ ถกู ตอ้ ง ขนาด ได้เหมาะสม ตวั อักษรเหมาะสมเกณฑ์การตดั สิน/ระดับคุณภาพ คะแนน ๔๖ – ๖๐ หมายถึง ดมี าก คะแนน ๓๑ – ๔๕ หมายถึง ดี คะแนน ๑๖ – ๓๐ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๑ – ๑๕ หมายถึง ปรับปรุงเกณฑ์การผา่ น ตง้ั แตร่ ะดับพอใชข้ ึน้ ไป
แบบการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ประเดน็ ระดบั คะแนน นา้ หนกั การประเมิน จดุ เน้น 4 32 11. มีวินัย 1 ปฏบิ ัติตาม ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง ไมป่ ฏิบัตติ าม2. ใฝเ่ รียนรู้ ขอ้ ตกลง จนเปน็ จนเป็นนสิ ัย ตรงตอ่ ตรงต่อเวลา ข้อตกลง ในการทา 1 นิสัย ตรงตอ่ เวลา เวลา รบั ผดิ ชอบ รับผิดชอบทางาน กิจกรรมตา่ ง ๆ3. ม่งุ มนั่ รบั ผดิ ชอบทางาน ทางานด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง แตต่ อ้ ง 1ในการทางาน ดว้ ยตนเอง แต่ต้องเตือนเปน็ เตือนบ่อยครง้ั ศึกษาหาความรูเ้ ป็น บางครั้ง บางครั้ง 14. มคี วาม สนใจศึกษาหารับผิดชอบ ความรอู้ ยา่ ง สนใจศกึ ษาหา สนใจศกึ ษาหา ทางานตามที่ไดร้ ับ 1 สมา่ เสมอและ ความรอู้ ยา่ ง ความรู้อยา่ ง มอบหมาย5.รกั ษส์ ิ่งแวดล้อม สรุปองค์ความรู้ สม่าเสมอและ สรุป สมา่ เสมอ เผยแพรแ่ ก่ผู้สนใจ องคค์ วามรู้ ทางานตามทีไ่ ดร้ บั ตงั้ ใจทางานด้วย มอบหมาย ส่งงานไม่ ความขยัน อดทน ตั้งใจทางานดว้ ย ตง้ั ใจทางาน งาน ครบ และไม่ส่งตาม งานสาเร็จตาม ความขยัน อดทน สาเร็จตามเปา้ หมาย กาหนดเวลา เป้าหมายและเปน็ งานสาเร็จตาม แบบอยา่ งท่ีดี เปา้ หมาย ใชพ้ ลังงานอยา่ งไม่ ทางานตามทีไ่ ดร้ บั ประหยดั และไม่ มอบหมายอยา่ งมี ทางานตามท่ีได้รับ ทางานตามทไี่ ด้รับ คมุ้ ค่า คณุ ภาพ ครบทกุ มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี ช้นิ และสง่ ตาม คณุ ภาพ ครบทุกช้นิ คุณภาพ ขาดเพียง กาหนดเวลา แต่ไม่สง่ ตาม บางชิ้น และไมส่ ่ง ใช้พลังงานอยา่ ง กาหนดเวลา ตามกาหนดเวลา ประหยัดและ ใชพ้ ลังงานอยา่ ง ใช้พลงั งานอยา่ ง คุ้มคา่ มีการนา ประหยดั และคุม้ ค่า ประหยัดและคุ้มค่า กลบั มาใช้ใหม่ มี มกี ารนากลบั มาใช้ การประยกุ ต์ใช้ ใหม่ วสั ดทุ ี่มีในทอ้ งถ่ินเกณฑ์การตดั สิน/ระดับคุณภาพ คะแนน 16 – 20 หมายถึง ดมี าก คะแนน 12 – 15 หมายถึง ดี คะแนน 10 – 11 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 9 หมายถงึ ปรับปรุงเกณฑ์การผ่าน ตงั้ แต่ระดบั พอใช้ขึน้ ไป
กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเข้าสูก่ ารเรียน 1) ครูพบนักเรยี นสนทนา ซักถามเก่ยี วกับการเรยี นรู้ เร่ือง การเผยแพรผ่ ลงานสสู่ าธารณะท่ผี ่านมา วา่ นกั เรียนเรยี นรูอ้ ะไรมาบ้างและนาความรทู้ ี่ไดไ้ ปใชอ้ ย่างไรบ้าง 2) ครบู นั ทึกเวลาเรยี นและการประเมินผลการเรียนรู้ 3) ครูแจ้งผลการเรยี นรู้ ภาระงาน และวธิ กี ารประเมินผลการเรยี นรู้ให้นักเรยี นทราบ ขั้นศึกษาเรียนรู้ 4) ผู้สอนนาเสนอความรู้ โดยใช้สอ่ื PowerPoint: unit5.1 เรื่อง ประโยชนแ์ ละคุณค่าของการสรา้ งสรรค์งาน 5) นกั เรียนศึกษาความรู้ จากใบความรูท้ ่ี 5.1 เรือ่ ง ประโยชน์และคุณคา่ ของการสรา้ งสรรค์งาน จากระบบการจัดการชัน้ เรยี นออนไลน์ (ClassStart) วชิ า การสอื่ สารและการนาเสนอตามความถนัดและความสนใจของนักเรยี น 6) ให้นักเรียนทางาน ตามใบภาระงานท่ี 5.1 เรอ่ื ง ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของการสร้างสรรค์งาน 7) สรุปองค์ความรู้ ประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ของการสร้างสรรค์งาน ข้นั สรุป 8) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ สาระสาคัญจากสาระการเรียนรู้ทศ่ี ึกษา 9) ครูแทรกคุณธรรม เร่ือง การใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และความมุ่งม่ันในการทางาน การมีจิตสาธารณะ ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 1) ส่ือ PowerPoint: unit5.1 เร่อื ง ประโยชน์และคุณค่าของการสร้างสรรค์งาน 2) ระบบการจัดการชั้นเรยี นออนไลน์ (ClassStart) จัดทาโดย นางสาวพฤทธวิ รรณ ชว่ งพิทกั ษ์ 3) ใบความรทู้ ่ี 5.1 เร่ือง ประโยชน์และคณุ คา่ ของการสรา้ งสรรค์งาน 4) ใบภาระงานท่ี 5.1 เรอ่ื ง ประโยชนแ์ ละคุณค่าของการสรา้ งสรรคง์ าน 5) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ 6) เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์ 7) เครื่องขยายเสยี งและไมโครโฟน
แหล่งเรียนรู้ 1) ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โรงเรยี นชลกันยานกุ ูล 2) เวบ็ ไซต์ www.chonkanya.ac.th เว็บไซต์ โรงเรยี นชลกันยานุกลู 3) เวบ็ ไซต์ทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับ วิชาการส่ือสารและการนาเสนอ 4) ห้องสมดุ โรงเรียนชลกนั ยานุกูลกจิ กรรมเสนอแนะ ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติมเกี่ยวกับประโยชน์และคุณค่าของการสร้างสรรค์งานจากส่ือเวบ็ ไซต์ www.google.comการบรู ณาการ การนาความรู้เรื่องการกาหนดหัวข้อการเขียนรายงานทางวิชาการไปใช้ในการจัดทารายงานวิชาอื่น ๆ ที่นักเรียนได้รับมอบหมาย และนาความรู้จากศึกษาค้นคว้าเทคโนโลยีของแต่ละชาติในอาเซียน และการนามาใช้อานวยความสะดวกในการส่ือสารแลกเปลี่ยนในอาเซียน และเปรียบเทียบความเหลื่อมล้าทางด้านเทคโนโลยีเฉพาะภายในประเทศสมาชิกแต่ละชาติและระหว่างประเทศสมาชิกไปใช้ในรายวิชาอื่น ๆ ด้วย และอาจมีการกาหนดหัวข้อการศึกษาเกย่ี วกับพืชศึกษาในกิจกรรมงานพชื สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นกไ็ ด้เช่นกัน
222ส่ือ PowerPoint : unit5.1รหสั วชิ า I30202 วชิ า การนําความรู้ไปใช้ในการ ประโยชนข องการสรา งสรรคผ ลงาน บริการสังคม 1. ไดรับความสขุ สนุกกับการทํางานเรือง ประโยชนแ์ ละคุณค่าของการสร้างสรรคง์ าน 2. ไดทาํ งานตามความถนัด และความสนใจของตนเอง 3. ไดร ูจกั วธิ ีแสวงหาความรู ขอ มูล ไดฝ ก ทักษะกระบวนการทํางานดว ยตนเอง หรือรวมทาํ งานเปนกลุม 4. ไดฝกความกลาในการแสดงออกและกลา คิด 5. พัฒนาความคดิ รเิ ร่มิ สรา งสรรค 6. ไดฝกทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรโดย ครพู ฤทธวิ รรณ ชว งพิทกั ษ ประโยชนของการสรา งสรรคผ ลงาน7. สรางความรบั ผิดชอบตอตนเองและ8. ไดฝก การวางแผนการทาํ งานอยา ง9. นาํ ความรูที่ไดไปใชไ ดในชีวิตจริง10. ไดใ ชเวลาวางใหเปน ประโยชน11. ศึกษา คน ควา และแกป ญ หาจากการทํางาน12. ใชเปนสิ่งยืนยนั วาเปนผูมีความรูความสามารถและประสบการณในการทาํ โครงงานท่แี ทจ ริง
ใบภาระงานท่ี 5.1วิชา การนาความรไู้ ปใชใ้ นการบริการสังคม รหสั วชิ า I30203 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4เรือ่ ง ประโยชนแ์ ละคุณค่าของการสร้างสรรคง์ าน เวลา 2 ชั่วโมงผลการเรียนรู้ที่คาดหวงัเหน็ ประโยชน์และคณุ ค่าการสร้างสรรค์งานและถา่ ยทอดสิ่งที่เรยี นรใู้ หเ้ ป็นประโยชน์เนอื้ หาสาระวชิ า 1. การสรปุ ประโยชนแ์ ละคุณค่าของการสรา้ งสรรคผ์ ลงานจากการศึกษาคน้ ควา้งานทีม่ อบหมาย 1. ใหน้ ักเรียนศกึ ษาใบความรู้ที่ 5.1 วิชา การสอ่ื สารและการนาเสนอ เร่ือง การจัดทาส่อืนาเสนอ โดยสามารถศึกษาได้ทห่ี น้าจอคอมพิวเตอร์ของนกั เรยี น 2. ใหน้ ักเรยี นสรุปองค์ความรู้เกีย่ วกบั การจัดทาสอื่ นาเสนอ และนักเรยี นสง่ คาตอบทางจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ตามเวลาทค่ี รกู าหนดกาหนดการสง่ งาน นักเรยี นมเี วลาในการทางานตามใบภาระงานที่ 5.1 เปน็ เวลา 2 ชว่ั โมง เมอ่ื สรปุ องค์ความรู้เสรจ็ แลว้ ส่งคาตอบทางจดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์การประเมนิ ผล1. นกั เรยี นทางานเสรจ็ ตามเวลาทก่ี าหนด2. นกั เรียนสรปุ องค์ความร้ไู ด้ถูกต้อง ครบถ้วน อย่างน้อยร้อยละ 80
บนั ทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้ส่วนที่ 1 ผลการเรียนรูข้ องนักเรียนและแนวทางการแก้ปัญหา 1.1 ผลการประเมนิ ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนท้งั หมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเป็นร้อยละ............. ไม่ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นรอ้ ยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนินกำรแก้ไขปัญหำนกั เรียนที่ไม่ผำ่ นเกณฑ์โดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ผลการประเมินด้านทกั ษะ/กระบวนการ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด………..…..คน ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............. ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเปน็ ร้อยละ………….…… ครไู ด้ดำเนนิ กำรแก้ไขปญั หำนกั เรียนทไี่ ม่ผ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 ผลการประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทั้งหมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............. ไม่ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นร้อยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนนิ กำรแกไ้ ขปญั หำนกั เรยี นทีไ่ มผ่ ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………สว่ นท่ี 2 ข้อเสนอแนะในการพฒั นานักเรียน 2.1 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.4 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ …………………………………..……………………… ผู้สอน (นำงสำวพฤทธวิ รรณ ช่วงพทิ ักษ์) ……………/………………/………………
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..……………..…… (นำยสทุ ธศิ กั ด์ิ เคลือบสงู เนิน) หวั หนำ้ กลุม่ สำระกำรเรยี นรูก้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยีข้อเสนอแนะของฝ่ำยวิชำกำร (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………….………………..…… (นำงจนั ทร์ษำ ชยั วฒั นธรี ำกร) รองผู้อำนวยกำรโรงเรียนกลุ่มบรหิ ำรงำนวิชำกำรขอ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของหัวหนำ้ สถำนศึกษำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ …………………………………..………………..…… (นำงสำวเฉิดเฉลำ แก้วประเคน) ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียนชลกนั ยำนกุ ูล
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 19หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรือ่ ง ประโยชน์และคณุ ค่าของการสรา้ งสรรคง์ าน รหสั วิชา I30203รายวิชา การนาความรไู้ ปใชใ้ นการบริการสังคม กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยีระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 2 ชั่วโมงโรงเรียนชลกันยานกุ ูล ผสู้ อน นางสาวพฤทธิวรรณ ช่วงพทิ ักษ์=========================================================มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ เหน็ ประโยชนแ์ ละคณุ ค่าการสร้างสรรค์งานและถา่ ยทอดส่งิ ท่เี รียนรใู้ หเ้ ป็นประโยชน์สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การสรปุ ประโยชน์และคุณค่าของการสรา้ งสรรค์ผลงานจากการศึกษาคน้ คว้า เป็นการเพ่ิมพูนความรู้ ประสบการณ์ ฝึกทักษะในการอ่าน การใช้เทคโนโลยี ซึ่งสามารถนาความรู้ท่ไี ด้มาใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ิต และการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ได้สาระการเรียนรู้ ความรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง การสรปุ ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของการสรา้ งสรรค์ผลงานจากการศกึ ษาคน้ คว้า ทักษะ/กระบวนการ 1) ทักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการทางานร่วมกัน ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี 2) กระบวนการคดิ : การคดิ วเิ คราะห์ การสรุปความรู้ กระบวนการกลุม่ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 1) ความสามารถในการคิด 2) ความสามารถในการสอื่ สาร 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1) มวี ินยั 2) ใฝเ่ รยี นรู้ 3) มุ่งมั่นในการทางาน 4) มคี วามรับผดิ ชอบ 5) รักษ์ส่งิ แวดล้อม คา่ นยิ ม 12 ประการ 1) มศี ีลธรรม รักษาความสตั ย์ 2) ร้จู กั ดารงตนอยู่โดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3) คานึงถงึ ประโยชน์ของสว่ นรวมมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเองช้นิ งาน/ภาระงาน ชิน้ งาน/ภาระงานระหว่างเรียน 1) สรุปองค์ความรเู้ กย่ี วกบั ประโยชน์และคุณค่าของการสร้างสรรค์งาน 2) ผลการนาส่ือเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะการวัดและการประเมินผล วิธีการ 1) การซักถาม 2) การสงั เกต 3) การตรวจผลงาน เครื่องมอื การวัดผล 1) แบบประเมินผลงาน เกณฑ์ 1) ระดับพอใชข้ ้นึ ไป
แบบการประเมินการนาเสนอ ประเด็น ระดับคะแนน นาหนกัการประเมนิ จุดเน้น 4 32 11. เน้ือหาสาระ 5 รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของ 52. กระบวนการ เน้อื หา ถกู ต้อง เน้อื หา ถกู ต้อง เนื้อหา ถกู ต้อง เนอื้ หาไม่ครบถ้วนทางาน ครบถ้วนลกึ ซงึ้ ครบถว้ นลึกซง้ึ ครบถว้ นแตไ่ ม่ และไมช่ ดั เจน 5 ชัดเจนครอบคลุม ชัดเจน ชดั เจนเท่าทค่ี วร เทา่ ท่ีควร3. การนาเสนอ หัวขอ้ ทีก่ าหนด 5 มีการวิเคราะหง์ าน มีการวเิ คราะหง์ าน มีการวิเคราะหง์ าน มีการวเิ คราะห์งาน4. คุณประโยชน์ วางแผนในการ วางแผนในการ วางแผนในการ วางแผนในการ ทางาน ปฏบิ ัติตาม ทางาน ปฏบิ ตั ิตาม ทางาน ปฏบิ ัตติ าม ทางาน แตไ่ ม่ปฏบิ ัติ แผนท่ีวางไว้ มกี าร แผนทวี่ างไว้ มกี าร แผนทีว่ างไว้ ตามแผนท่ีวางไว้ ประเมินผลการ ประเมนิ ผลการ ทางานและนาผล ทางาน การจัดพมิ พ์คา จากการประเมนิ ไป ถกู ต้อง การสะกดคา ปรบั ปรงุ งานให้ การใชส้ านวนภาษา การจดั พิมพค์ า และไวยากรณ์ สมบรู ณย์ ิง่ ขนึ้ ดี ถกู ตอ้ ง การสะกด ถูกต้อง การสะกดคา ถูกตอ้ งพอใช้ การใชส้ านวนภาษาดี คาและไวยากรณ์ และไวยากรณ์ ถูกตอ้ ง การสะกดคา ถกู ตอ้ ง รปู แบบ ถกู ต้อง ส่อื มีคุณประโยชน์ และไวยากรณ์ นา่ สนใจ ตอ่ การเรยี นรู้ นอ้ ย ถูกตอ้ ง ความสวยงาม นาเสนอเนือ้ หาได้ รูปแบบนา่ สนใจ พอใช้ ความสวยงาม การ สือ่ มคี ณุ ประโยชน์ ส่ือมีคุณประโยชน์ ใช้ภาพประกอบ ต่อการเรียนรู้ ตอ่ การเรยี นรู้ เหมาะสม นาเสนอเน้อื หาไดด้ ี นาเสนอเนอ้ื หาไดด้ ี ส่ือมคี ุณประโยชนต์ ่อ เหมาะสมกบั ผู้เรียน การเรยี นรู้ นาเสนอ เนื้อหาไดด้ เี หมาะสม กับผเู้ รียน สามารถ นาไปใช้งานไดอ้ ยา่ ง ดีเกณฑ์การตดั สนิ /ระดบั คุณภาพ คะแนน 61 – 80 หมายถึง ดีมาก คะแนน 41 – 60 หมายถึง ดี คะแนน 21 – 40 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 20 หมายถึง ปรบั ปรุงเกณฑ์การผา่ น ตัง้ แตร่ ะดบั พอใช้ข้นึ ไป
แบบการประเมินการทาแบบฝกึ หัด/การทดสอบ ระดบั คุณภาพ ระดับคะแนน4 (ดีมาก) ได้คะแนนการทดสอบ 8-10 คะแนน3 (ดี) ได้คะแนนการทดสอบ 7 คะแนน2 (พอใช้) ไดค้ ะแนนการทดสอบ 6 คะแนน1 (ปรับปรุง) ไดค้ ะแนนการทดสอบ 0-5 คะแนนเกณฑ์การผ่าน ต้งั แต่ระดบั คุณภาพพอใชข้ ึน้ ไป แบบการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ประเดน็ ระดับคะแนน น้าหนัก การประเมิน จดุ เนน้ 4 32 11. มีวินยั 1 ปฏบิ ัติตาม ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ไมป่ ฏิบตั ติ าม2. ใฝ่เรยี นรู้ ขอ้ ตกลง จนเป็น จนเปน็ นิสัย ตรงตอ่ ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ในการทา 1 นิสัย ตรงต่อเวลา เวลา รบั ผดิ ชอบ รบั ผดิ ชอบทางาน กิจกรรมตา่ ง ๆ3. มุ่งมนั่ รับผิดชอบทางาน ทางานด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง แต่ตอ้ ง 1ในการทางาน ด้วยตนเอง แต่ตอ้ งเตอื นเป็น เตอื นบ่อยคร้งั ศกึ ษาหาความรูเ้ ป็น บางคร้ัง บางครัง้ 14. มคี วาม สนใจศกึ ษาหา สนใจศึกษาหา สนใจศึกษาหารับผิดชอบ ความรอู้ ยา่ ง ความรู้อยา่ ง ความรู้อยา่ ง ทางานตามทไ่ี ดร้ ับ สมา่ เสมอและ สม่าเสมอและ สรุป สม่าเสมอ มอบหมาย สรปุ องคค์ วามรู้ องคค์ วามรู้ เผยแพรแ่ ก่ผสู้ นใจ ทางานตามท่ไี ด้รบั ตั้งใจทางานดว้ ย ต้งั ใจทางานดว้ ย ตัง้ ใจทางาน งาน มอบหมาย ส่งงานไม่ ความขยนั อดทน ความขยัน อดทน สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย ครบ และไม่สง่ ตาม งานสาเร็จตาม งานสาเรจ็ ตาม กาหนดเวลา เป้าหมายและเปน็ เปา้ หมาย แบบอยา่ งท่ดี ี ทางานตามท่ไี ด้รบั ทางานตามท่ไี ดร้ บั ทางานตามทีไ่ ดร้ ับ มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี คุณภาพ ครบทุก คณุ ภาพ ครบทกุ ชนิ้ คณุ ภาพ ขาดเพียง ช้นิ และสง่ ตาม แตไ่ มส่ ่งตาม บางชิ้น และไมส่ ่ง กาหนดเวลา กาหนดเวลา ตามกาหนดเวลา
ประเดน็ ระดับคะแนน นา้ หนกั การประเมิน จุดเน้น 4 32 15.รักษ์ส่งิ แวดล้อม 1 ใช้พลังงานอย่าง ใช้พลงั งานอยา่ ง ใชพ้ ลงั งานอย่าง ใชพ้ ลงั งานอยา่ งไม่ ประหยัดและ ประหยัดและคมุ้ คา่ ประหยดั และคุ้มคา่ ประหยัดและไม่ คมุ้ ค่า มีการนา มกี ารนากลบั มาใช้ คุม้ คา่ กลับมาใช้ใหม่ มี ใหม่ การประยกุ ตใ์ ช้ วสั ดทุ ม่ี ใี นท้องถิน่ เกณฑ์การตัดสิน/ระดบั คุณภาพ คะแนน 16 – 20 หมายถึง ดมี าก คะแนน 12 – 15 หมายถงึ ดี คะแนน 10 – 11 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 9 หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ต้ังแตร่ ะดบั พอใช้ขึ้นไปกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าส่กู ารเรยี น 1) ครพู บนักเรยี นสนทนา ซักถามเก่ยี วกบั การเรียนรู้ เร่ือง การเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะทผี่ า่ นมา ว่านกั เรียนเรียนรอู้ ะไรมาบา้ งและนาความรทู้ ่ีไดไ้ ปใช้อยา่ งไรบ้าง 2) ครบู ันทึกเวลาเรียนและการประเมินผลการเรยี นรู้ 3) ทาแบบทดสอบหลังเรยี น 4) ครูแจ้งผลการเรียนรู้ ภาระงาน และวิธีการประเมินผลการเรยี นรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ ขน้ั ศกึ ษาเรียนรู้ 5) ให้นกั เรยี นทางาน ตามใบภาระงานที่ 5.2 เรอื่ ง ประโยชน์และคุณคา่ ของการสร้างสรรค์งาน 6) นักเรยี นนาเสนอผลงาน ข้นั สรปุ 7) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสาระสาคญั จากสาระการเรยี นรทู้ ศี่ ึกษา 8) ครูแทรกคุณธรรม เรื่อง การใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และความมุ่งมั่นในการทางาน การมีจิตสาธารณะ
ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ 1) ระบบการจัดการชน้ั เรียนออนไลน์ (ClassStart) จดั ทาโดย นางสาวพฤทธวิ รรณ ชว่ งพทิ ักษ์ 2) ใบภาระงานที่ 5.1 เรอ่ื ง ประโยชน์และคุณคา่ ของการสรา้ งสรรคง์ าน 3) เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ 4) เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ 5) เคร่ืองขยายเสยี งและไมโครโฟน แหลง่ เรยี นรู้ 1) ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ โรงเรยี นชลกันยานุกูล 2) เวบ็ ไซต์ www.chonkanya.ac.th เว็บไซต์ โรงเรียนชลกนั ยานกุ ลู 3) เว็บไซต์ทเ่ี กย่ี วข้องกบั วชิ าการส่อื สารและการนาเสนอ 4) ห้องสมุดโรงเรียนชลกนั ยานกุ ูลกิจกรรมเสนอแนะ ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติมเก่ียวกับประโยชน์และคุณค่าของการสร้างสรรค์งานจากส่ือเวบ็ ไซต์ www.google.comการบูรณาการ การนาความรู้เร่ืองการกาหนดหัวข้อการเขียนรายงานทางวิชาการไปใช้ในการจัดทารายงานวิชาอื่น ๆ ที่นักเรียนได้รับมอบหมาย และนาความรู้จากศึกษาค้นคว้าเทคโนโลยีของแต่ละชาติในอาเซียน และการนามาใช้อานวยความสะดวกในการสื่อสารแลกเปลี่ยนในอาเซียน และเปรียบเทียบความเหล่ือมล้าทางด้านเทคโนโลยีเฉพาะภายในประเทศสมาชิกแต่ละชาติและระหว่างประเทศสมาชกิ ไปใช้ในรายวิชาอนื่ ๆ ด้วย และอาจมีการกาหนดหวั ขอ้ การศึกษาเก่ยี วกับพืชศึกษาในกิจกรรมงานพืชสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นกไ็ ดเ้ ชน่ กัน
ใบภาระงานท่ี 5.2วิชา การนาความรู้ไปใชใ้ นการบริการสังคม รหสั วชิ า I30203 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4เร่อื ง ประโยชน์และคณุ ค่าของการสรา้ งสรรคง์ าน เวลา 2 ชั่วโมงผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงัเห็นประโยชนแ์ ละคณุ ค่าการสร้างสรรคง์ านและถ่ายทอดส่ิงทเ่ี รยี นรใู้ ห้เปน็ ประโยชน์เนอื้ หาสาระวชิ า 1. การสรุปประโยชน์และคุณคา่ ของการสรา้ งสรรคผ์ ลงานจากการศึกษาค้นคว้างานท่มี อบหมาย 1. ให้นกั เรียนจัดทาส่ือการนาเสนอ (PowerPoint) มานาเสนอเกีย่ วกบั ประโยชนข์ องการสรา้ งสรรค์ผลงานทน่ี ักเรียนได้จดั ทาขน้ึ หน้าชนั้ เรยี นกาหนดการส่งงาน นักเรียนมเี วลาในการทางานตามใบภาระงานที่ 5.1 เป็นเวลา 2 ชวั่ โมง เม่ือสรุปองค์ความรู้เสรจ็ แล้วสง่ คาตอบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์การประเมนิ ผล1. นกั เรยี นทางานเสร็จตามเวลาที่กาหนด2. นักเรียนนาเสนอได้ถูกต้องตามท่กี าหนด
แบบทดสอบรหัสวชิ า I30202 รายวิชา การสื่อสารและการนาเสนอกลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4เวลาสอบ 30 นาที โรงเรยี นชลกันยานุกลู ผ้อู อกข้อสอบ นางสาวพฤทธิวรรณ ชว่ งพิทกั ษ์***************************************************************************คาสง่ั จงเลือกคาตอบทถ่ี กู ท่สี ดุ เพยี งข้อเดียวและทาเครอ่ื งหมาย X ลงในกระดาษคาตอบผลการเรียนรู้ สามารถเขยี นโครงรา่ งรายงานตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวธิ ีการเขียนโครงรา่ ง1. การใชป้ ระโยคในการเขียนโครงรา่ งวชิ าการ ข้อใดไม่ถูกต้องก. ใช้ประโยคที่กระชับ ข. ใช้ประโยคที่ไมก่ ากวมค. ใช้ประโยคซ้อนประโยค ง. ใช้ประโยคส้นั ๆ ไมย่ ดื ยาด2. การกาหนดหัวข้อหลักและหวั ข้อยอ่ ยมปี ระโยชนอ์ ย่างไรก. สะดวกและงา่ ยต่อการอา่ น ข. จับใจความสาคัญไดง้ า่ ยค. เป็นการเนน้ รายละเอียด ง. จบั ใจความที่เขยี นต่อเน่ืองกนั3. ข้อใดกลา่ วถูกต้องทส่ี ดุก. บทความภาษาอังกฤษใหใ้ ชศ้ ัพท์เทคนิค ข. เนอ้ื หาต้องเป็นปัจจุบนัค. ศพั ทเ์ ทคนคิ ต้องยดึ ตามพจนานกุ รม ง. ขอ้ ความต้องไม่เชอื่ มโยงกัน4. ขอ้ ใดเรียงลาดับในการเขยี นบทความวชิ าการไดถ้ ูกตอ้ งก. ชื่อเรอ่ื ง ช่ือผู้แต่ง บทคัดยอ่ บทนา วธิ ีการ บทสรปุ เอกสารอ้างอิงข. ชือ่ เร่ือง ชอื่ ผูแ้ ต่ง บทคดั ย่อ บทนา กรอบแนวคดิ บทสรปุค. ชือ่ เรอ่ื ง ช่ือผ้แู ตง่ บทคดั ยอ่ บทนา กรอบแนวคดิ ข้อเสนอแนะง. ชือ่ เร่ือง ช่ือผแู้ ตง่ บทคัดย่อ บทนา วธิ กี าร อภปิ รายผล บทสรุป เอกสารอา้ งอิง5. การจดั ลาดบั โครงเรื่องข้อใดไม่ถูกต้องก. ควรแตกเปน็ ประเดน็ ย่อย ๆ จะทาใหไ้ ม่ยุ่งยากในการเขยี นบทความข. ควรใชต้ ัวเลขกากับหวั ข้อประเด็นต่าง ๆ ไมค่ วรใช้เคร่ืองหมายขดี ส้นัค. ทกุ ประเดน็ ตอ้ งมนี า้ หนักสมดลุ กนั เป็นลาดับขน้ั อย่างเปน็ ระบบง. ทุกข้อที่กลา่ วมา6. “การกาหนดหวั ข้อค้นควา้ ” ตรงกับข้อใดก. Research Question ข. Research Introductionค. Research Development ง. Research Conclusion
2377. ข้อใดคือสว่ นประกอบของคานาก. ลาดบั เนือ้ หาเป็นหัวข้อตามธรรมชาตขิ องเน้ือหาข. ลาดบั เนือ้ หาตามรปู แบบท่ถี ูกต้องค. ระบหุ วั ขอ้ ค้นควา้ ให้ชัดเจนง. ลาดบั ความคิดหลกั และความคดิ รอง8. การวางโครงรา่ งเร่อื งการเขียนรายงานวิชาการจะตอ้ งแสดงส่วนใดเป็นสว่ นแรกก. ช่อื ผคู้ ้นคว้า ข. วตั ถุประสงค์ของการค้นคว้าค. เอกสารอา้ งอิง ง. ชอื่ รายงาน9. ข้อใดทสี่ ะท้อนใหเ้ หน็ ภาพของผลงานก. ความสาคญั ข. ช่อื เร่อื งค. วัตถปุ ระสงค์ ง. ประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับผลการเรยี นรู้ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชงิ วชิ าการเป็นภาษาไทย ความยาว 4,000 คา หรือ ภาษาอังกฤษ ความยาว 2,000 คา10. หัวข้อเรือ่ ง : ความไมส่ นใจในการเรยี นเร่ืองการสื่อสารและการนาเสนอ” ควรใช้หัวข้อค้นคว้าในข้อใดก. องคป์ ระกอบสาคัญที่ทาใหเ้ กดิ ความไมส่ นใจในการเรยี นเรือ่ งการสื่อสารและการนาเสนอข. ศกึ ษาและวเิ คราะหส์ าเหตคุ วามไมส่ นใจในการเรียนเรื่องการสื่อสารและการนาเสนอและแนวทางแกไ้ ขค. การศกึ ษาผลกระทบของความไมส่ นใจในการเรียนเรอ่ื งการส่ือสารและการนาเสนอและแนวทางแก้ไขง. ศกึ ษาและวิเคราะหผ์ ลกระทบของความไมส่ นใจในการเรียนเรื่องการสื่อสารและการนาเสนอและแนวทางแก้ไข11. ขอ้ ใดไม่ใช่ความหมายของบทความทางวชิ าการก. ความเรยี งท่ีแตง่ ข้ันจากจนิ ตนาการข. ความเรยี งทีเ่ ขียนขึ้นเพื่อนาเสนอข้อเท็จจรงิค. ความเรยี งทน่ี าเสนอความรู้ ความคิดเห็นง. ความเรียงที่นาเสนอความรู้ ความคิดเหน็ โดยมีหลักฐาน12. ข้อใดกล่าวไม่ถูกตอ้ งก. ชอ่ื เรื่องใชภ้ าษาทเี่ ป็นทางการ ข. ชื่อเร่ืองครอบคลมุ ประเดน็ ของเรื่องค. ผเู้ ขียนตอ้ งใช้ช่อื จริง ง. ผเู้ ขียนต้องใชน้ ามแฝง
23813. ข้อใดคอื สว่ นประกอบของบทคดั ย่อก. ชัดเจน ตรงไปตรงมา ครอบคลุมข. ชอื่ เร่อื ง แนวทางแก้ไข สรุปค. เกร่ินนา ส่งิ ท่ที า สรุปผลสาคญั ที่ได้ง. สาระสาคญั คาสาคัญ สรุปผลสาคัญทไี่ ด้14. “เขียนกระชับ ตรงประเด็น ไมย่ ดื เยื้อ” คือส่วนประกอบใดของโครงสร้างการเขียนบทความวิชาการก. ช่ือเร่ือง ข. บทคัดย่อค. บทนา ง. เนือ้ เรอื่ ง15. การเขียนเน้ือเรือ่ งทางวชิ าการ ข้อควรคานงึ มากที่สดุ คือข้อใดก. มคี วามเป็นเหตุเป็นผลทีน่ ่าเช่ือถือข. มวี ตั ถปุ ระสงค์ ทมี่ าของบทความค. มคี าสาคัญท่ีต้องเขียนเป็นส่งิ สดุ ท้ายหลังจากเขยี นส่วนอื่น ๆง. ใหป้ ระเด็นท้ิงทา้ ยกระต้นุ ให้ผอู้ า่ นไปแสวงหาความรู้ คดิ ค้นพฒั นาเร่ืองน้นั ต่อไป16. จากคาตอบข้อ 15 ข้อใดคือบทสรปุ ของสว่ นประกอบโครงสร้างการเขียนบทความก. ขอ้ ก ข. ข้อ ข ค. ขอ้ ค ง. ขอ้ ง17. ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ ูกตอ้ งก. รายงานทางวิชาการเปน็ การนาเสนอเรื่องราวทางวชิ าการข. รายงานทางวชิ าการมกี ารวิเคราะห์อยา่ งมีเหตผุ ลค. รายงานทางวชิ าการจะต้องสอดแทรกความคดิ เหน็ ของผู้เขียนง. รายงานเปน็ สว่ นหน่ึงของการประเมนิ ผลการศึกษา18. ข้อใดคอื ลักษณะของรายงานทางวิชาการท่ีไมถ่ ูกต้องก. มกี ารนาทฤษฎีมาใช้อยา่ งเหมาะสมข. แสดงแนวทางแก้ปญั หาตอ่ ยอดจากผ้ทู เ่ี คยทามาก่อนแล้วค. อา้ งองิ ทมี่ าและแหลง่ ค้นคว้าถูกต้องง. การเขยี นรายงานจะต้องมีความชดั เจนในดา้ นลาดบั การนาเสนอ19. รายงานทางวิชาการมีโครงสร้างมาตรฐานกบี่ ทก. 3 บท ข. 4 บท ค. 5 บท ง. 6 บท
23920. ข้อใดคอื สว่ นประกอบทา้ ย รายงานทางวชิ าการ ก. บรรณานุกรม ภาคผนวก อภธิ านศพั ท์ ข. สรุปผล อภปิ รายผล บรรณานกุ รม ค. บรรณานุกรม สรปุ ผล อภธิ านศัพท์ ง. ภาคผนวก บรรณานกุ รม อภิปรายผลผลการเรียนรู้ นาเสนอข้อคน้ พบ ขอ้ สรุปจากประเดน็ ที่เลือกในรปู แบบ เด่ียว (Oral Individual) หรือกลมุ่ (Oral panel presentation) โดยใชส้ อ่ื เทคโนโลยที ีห่ ลากหลาย21. ภาพโปสเตอรม์ จี ุดประสงคเ์ พื่อให้เตะตาผดู้ ูและส่ือสารขอ้ มูล คาวา่ “เตะตา” ใช้คาในข้อใดแทนได้เหมาะสมท่สี ุดก. เหมาะสม ข. สะดุดตา ค. ตอ้ งตา ง. จบั ตา22. โปสเตอรท์ ่ีใช้ในการประชาสมั พนั ธ์ มีจุดประสงค์ตรงกับขอ้ ใดก. ใหผ้ ู้ดเู หน็ข. ให้ผู้ดูปฏบิ ตั ติ ามค. สง่ เสริมการขายสินค้าง. บอกกล่าวเผยแพร่23. โปสเตอร์เหมาะสมกับบุคคลในขอ้ ใดก. เด็ก ข. ผ้ใู หญ่ค. นกั ศึกษา ง. ทุกขอ้ ท่ีกลา่ วมา24. การใช้สีในการทาโปสเตอร์ควรใช้อย่างไรก. สีตดั กนั ข. สกี ลมกลืนกัน ค. สเี ดียวกัน ง. ใช้ได้ทุกสี25. ถ้านักเรียนต้องการให้สีที่ทาโปสเตอรเ์ จือจางลง นกั เรียนควรใช้สีใดก. สีดา ข. สีขาว ค.สเี หลือง ง. สนี ้าเงนิ26. คาในข้อใดมีความหมายตรงกับคาว่า “การนาเสนอ”ก. Project ข. Proposalค. Presentation ง. Suggestion27. การนาเสนอควรมีวตั ถุประสงค์อยา่ งไรก. เฉพาะเจาะจง ข. หลากหลายดา้ นค. ม่งุ ผลประโยชน์ ง. มุง่ ความสนใจผฟู้ งั
24028. ในการนาเสนอขอ้ มูลเพื่อการพิจารณา ใชก้ ารนาเสนออย่างไรดีทส่ี ุดก. ใช้ตวั เลข ข. ใช้ตารางค. ใช้ขอ้ ความ ง. ใช้บทความ29. ในการนาเสนอ ผู้นาเสนอจะตอ้ งพจิ ารณาถงึ หลกั การที่จะใชเ้ ปน็ ข้อยดึ ถือ คือข้อใดก. เนือ้ หาไมย่ าว ข. เน้อื หานา่ ฟังค. ส่อื สารชดั เจน ง. มคี วามถกู ต้องเหมาะสม30. เน้ือหาที่จะนาเสนอ ควรจะมีลักษณะตรงกบั ขอ้ ใดก. สมบรู ณ์ ครบถว้ น ข. ชัดเจน กะทดั รัดค. เฉพาะเจาะจง ถูกต้อง ง. ทกุ ขอ้ ทีก่ ลา่ วมา
บนั ทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้ส่วนที่ 1 ผลการเรียนรูข้ องนักเรียนและแนวทางการแก้ปัญหา 1.1 ผลการประเมนิ ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนท้งั หมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเป็นร้อยละ............. ไม่ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นรอ้ ยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนินกำรแก้ไขปัญหำนกั เรียนที่ไม่ผำ่ นเกณฑ์โดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ผลการประเมินด้านทกั ษะ/กระบวนการ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด………..…..คน ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............. ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเปน็ ร้อยละ………….…… ครไู ด้ดำเนนิ กำรแก้ไขปญั หำนกั เรียนทไี่ ม่ผ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 ผลการประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทั้งหมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............. ไม่ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นร้อยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนนิ กำรแกไ้ ขปญั หำนกั เรยี นทีไ่ มผ่ ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………สว่ นท่ี 2 ข้อเสนอแนะในการพฒั นานักเรียน 2.1 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.4 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ …………………………………..……………………… ผู้สอน (นำงสำวพฤทธวิ รรณ ช่วงพทิ ักษ์) ……………/………………/………………
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..……………..…… (นำยสทุ ธศิ กั ด์ิ เคลือบสงู เนิน) หวั หนำ้ กลุม่ สำระกำรเรยี นรูก้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยีข้อเสนอแนะของฝ่ำยวิชำกำร (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………….………………..…… (นำงจนั ทร์ษำ ชยั วฒั นธรี ำกร) รองผู้อำนวยกำรโรงเรียนกลุ่มบรหิ ำรงำนวิชำกำรขอ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของหัวหนำ้ สถำนศึกษำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ …………………………………..………………..…… (นำงสำวเฉิดเฉลำ แก้วประเคน) ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียนชลกนั ยำนกุ ูล
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240