อากรแสตมป์
ตราสารท่ีตอ้ งเสียอากรแสตมป์“ตราสาร” ตามประมวลรษั ฎากรหมายถงึ เอกสารทต่ี ้องเสียอากรแสตมป์ ตามทก่ี าหนดไว้ในบญั ชอี ัตรา อากรแสตมป์ ซงึ่ปจั จบุ นั มีทง้ั หมด 28 ลักษณะตราสาร เช่น ตราสารเชา่ ทกี่ ับโรงเรือน เชา่ ซอ้ื ทรัพย์สนิ จา้ งทาของ กู้ยมื เงิน ฯลฯ อากรแสตมป์เปน็ ภาษีอากรทจี่ ัดเก็บจากการกระทาตราสาร โดยคาวา่ กระทา หมายความว่า การลงลาย มือช่ือตามบทบัญญตั ิแห่งประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์
ผ้มู หี นา้ ท่เี สยี อากรแสตมป์
ผู้มีหน้าทีเ่ สยี อากรแสตมป์1. บุคคลตามทรี่ ะบุไวใ้ นช่องที่ 3 ของบญั ชีอตั ราอากรแสตมป์ เช่น ผู้ใหเ้ ช่าผโู้ อน ผ้ใู ห้กู้ ผู้รับประกนั ภัย ฯลฯ2. ถ้าตราสารทาขึ้นนอกประเทศ ใหเ้ ปน็ หนา้ ทีข่ องผูท้ รงตราสารคนแรกในประเทศเปน็ ผ้เู สยี อากรภายใน 30 วัน นับแต่วันทีไ่ ด้รับตราสารน้ัน
ผู้มหี น้าที่เสียอากรแสตมป์ ถา้ หากไมไ่ ดป้ ฏิบตั ติ ามความขา้ งต้น ผู้ทรงคนใดคนหนง่ึ ต้องเสยี อากรแลว้ จึงย่ืนตราสารเพ่อื ให้จา่ ยเงิน รบั รองสลักหลัง โอนหรอื ถอื เอาประโยชนไ์ ด้ ผ้ทู รงตราสารคนใด ไดต้ ราสารตามความข้างต้นไวใ้ นครอบครองกอ่ นพน้ กาหนด 30 วนั นบั แต่วันท่ีได้รบั ตราสารนน้ั จะเป็นผู้เสยี อากรกไ็ ดโ้ ดยมีสิทธิไล่เบยี้ จากผูท้ รงคนก่อนๆ
ผู้มีหนา้ ทเี่ สยี อากรแสตมป์3. ตั๋วเงินทย่ี ื่นใหช้ าระเงิน มิได้ปดิ แสตมปบ์ ริบูรณ์ ผู้รบั ต๋ัวจะเสยี อากรและใชส้ ทิ ธไิ ลเ่ บีย้ จาก ผูม้ หี นา้ ท่ีเสยี อากร หรือหักค่าอากรจากเงนิ ทีจ่ ะชาระกไ็ ด้4. ผมู้ หี นา้ ที่เสียอากร ตามทรี่ ะบุไวใ้ นบัญชีอัตราอากรแสตมป์ อาจตกลงใหค้ ูก่ รณีอีกฝา่ ยหน่ึง เปน็ ผเู้ สยี อากรแทนตนก็ได้ เว้นแต่กรณีตาม 2.
วิธกี ารเสียอากรวธิ กี ารเสียอากรแสตมปส์ าหรับการทาตราสาร เรยี กว่า “ปดิแสตมป์บรบิ รู ณ์” ซ่งึ หมายความว่า1. ในกรณแี สตมปป์ ิดทับ คือการไดเ้ สยี อากรโดยปิดแสตมป์ทับกระดาษกอ่ นกระทาหรือใน ทนั ทที ี่ทาตราสารเปน็ ราคาไม่นอ้ ยกว่าอากรทีต่ อ้ งเสยี และไดข้ ดี ฆา่ แสตมปน์ น้ั แลว้ หรอื2. ในกรณีแสตมปด์ ุน คือการไดเ้ สยี อากรโดยใชก้ ระดาษมีแสตมป์ดนุ เปน็ ราคาไมน่ อ้ ยกวา่ อากรท่ตี ้องเสีย และขดี ฆ่าแลว้ หรอื โดยยืน่ ตรา
วธิ ีการเสียอากร2. ในกรณแี สตมป์ดนุ คอื การไดเ้ สียอากรโดยใชก้ ระดาษมีแสตมป์ดนุ เปน็ ราคาไมน่ ้อยกวา่ อากรทต่ี ้องเสีย และขีดฆ่าแลว้ หรอื โดยย่ืนตราสารใหพ้ นกั งานเจ้าหนา้ ท่ีประทบั แสตมป์ดุน และชาระเงนิ เป็นจานวนไมน่ ้อยกวา่ อากรท่ตี อ้ งเสียและขีดฆา่ แลว้ หรือ
วธิ ีการเสยี อากร3. ในกรณีชาระเปน็ ตวั เงนิ คือการไดเ้ สยี อากรเป็นตัวเงนิเป็นราคาไม่น้อยกวา่ อากรทีต่ ้องเสยี ตาม บทบัญญตั ใิ นหมวดอากรแสตมป์ หรือตามระเบียบท่อี ธบิ ดจี ะไดก้ าหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี
วิธีการเสียอากรการปดิ แสตมปบ์ ริบูรณ์ตามขอ้ 1. และ 2. ดงั กล่าวขา้ งตน้อธบิ ดมี ีอานาจสัง่ ให้ปฏิบัติตาม ท่กี าหนดในขอ้ 3. แทนได้ คอืกาหนดให้เสยี อากรเปน็ ตวั เงิน เชน่ กรณีตวั๋ แลกเงนิ เช็ค ใบรบั รางวลั ฉลากกนิ แบง่ ใบรับเก่ยี วกบั อสังหารมิ ทรัพย์ ใบรับเกยี่ วกบั ยานพาหนะ ตราสารตวั๋ สัญญาใชเ้ งินเฉพาะทบ่ี รษิ ัทเงนิ ทุนหรอื บริษทั เครดติ ฟองซเิ อร์ เปน็ ผ้อู อกต๋ัว จ้างทาของเฉพาะทีร่ ัฐบาล องค์การของรฐั บาลเปน็ ผู้วา่ จา้ งและมสี นิ จ้างตั้งแต่ 200,000 บาทข้นึ ไป กยู้ ืมเงนิ หรอื การตกลงใหเ้ บกิ เงนิเกนิ บัญชีจากธนาคาร กรมธรรม์ประกนั ภยั ตั๋วสัญญาใช้เงนิเลตเตอรอ์ อฟเครดิต ฯลฯ
การขอเสยี อากรเปน็ ตัวเงนิ
การขอเสียอากรเป็นตัวเงินการขอเสยี อากรเป็นตวั เงนิ ก็เพอื่ ความสะดวกในการเสยีอากร ท่ีมคี า่ อากรแสตมปเ์ ปน็ จานวนมาก ไมส่ ะดวกในการใช้ดวงแสตมป์อากรปดิ บนตราสารหรือในกรณีไม่สะดวกในการชาระคา่ อากร โดยใชแ้ สตมปด์ นุ การขอเสียอากรเปน็ ตวั เงนิปฏิบัติดังนี้
การขอเสียอากรเปน็ ตัวเงนิ(1) การขอเสียอากรเปน็ ตัวเงิน ใช้แบบ อ.ส.4 (แบบขอและอนมุ ตั ใิ หเ้ สียอากรแสตมป์เปน็ ตวั เงนิ )ยน่ื ต่อพนักงานเจ้าหนา้ ทีอ่ ากรแสตมป์ โดยแนบตราสารทข่ี อเสยี อากรไปดว้ ยให้ยื่นต่อสานกั งานสรรพากรอาเภอ
การขอเสียอากรเป็นตัวเงนิ(2) สาหรบั ตราสารที่เปน็ (2.1) ตั๋วแลกเงินหรือตราสารทานองเดียวกนั ทใี่ ช้อยา่ งตั๋วแลกเงนิ เฉพาะที่ธนาคารประกอบกิจการ ในราชอาณาจกั รเปน็ ผู้ส่งั จ่าย ตามลกั ษณะแหง่ ตราสาร 9(1)และใบรบั ฝากเงินประเภท ประจาของธนาคารโดยมี ดอกเบ้ยีตามลักษณะแห่งตราสาร 13 (2.2) เช็คท่ีออกในราชอาณาจกั ร ตามลักษณะแห่งตราสาร 12
(2.3) เช็คสาหรบั ผเู้ ดนิ ทางท่อี อกหรือจาหน่ายในราชอาณาจักร ตามลกั ษณะแหง่ ตราสาร 15 มวี ธิ กี ารเสียอากรเปน็ ตัวเงินดังนี้ - ตราสารตามข้อ (2.1) ใหธ้ นาคารผสู้ ัง่ จ่ายหรือผรู้ ับฝาก แล้วแตก่ รณชี าระอากรเปน็ ตัวเงิน แทนการปดิแสตมป์ - ตราสารตามข้อ (2.2) และ (2.3) ให้ผูส้ ่งั จา่ ยหรือผูท้ รงคนแรกชาระอากรเปน็ ตวั เงนิ แทน การปิดแสตมป์โดยชาระไว้ตอ่ ธนาคาร
- ตราสารตามขอ้ (2.3) ที่ธนาคารเปน็ ผู้ออก ให้ธนาคารชาระอากรเป็นตวั เงินแทน การปิดแสตมป์ - ธนาคารผู้ชาระเงนิ หรือรับชาระเงนิ คา่ อากรทมี่ สี านกั งานต้ังอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร นาเงินคา่ อากรทม่ี ีหน้าทตี่ อ้ งชาระ หรอื ไดร้ บั ชาระไว้ไปยื่นขอชาระต่อพนักงานเจา้ หน้าที่ อากรแสตมป์ ณ สานักงานสรรพากรอาเภอ โดยใช้แบบ อ.ส.4ก (แบบขอเสียอากรแสตมปเ์ ป็นตวั เงินสาหรบั ตราสารเช็คหรอื ตั๋วแลกเงนิ ) พร้อมชาระเงนิ ส่วนธนาคารที่มีสานักงานต้ังอยใู่ นท้องท่ีนอกเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นชาระเงนิ ณ สานักงานสรรพากรอาเภอ หรอื ก่งิ อาเภอท้องท่ี
การขอเสียอากรเป็นตัวเงินการขอเสยี อากรเป็นตวั เงนิ ก็เพอื่ ความสะดวกในการเสยีอากร ท่ีมคี า่ อากรแสตมปเ์ ปน็ จานวนมาก ไมส่ ะดวกในการใช้ดวงแสตมป์อากรปดิ บนตราสารหรือในกรณีไม่สะดวกในการชาระคา่ อากร โดยใชแ้ สตมปด์ นุ การขอเสียอากรเปน็ ตวั เงนิปฏิบัติดังนี้
(4) ใบรับเงนิ รางวลั สลากกินแบง่ รฐั บาล กาหนดให้ชาระอากรเป็นตัวเงนิ ต่อสานักงานสลากกินแบง่ รัฐบาล
การขดี ฆา่ อากร
การขดี ฆา่ อากรคาว่า “ขดี ฆ่า” หมายความวา่ การกระทาเพอ่ื มใิ หใ้ ช้แสตมปไ์ ด้อกี โดยในกรณแี สตมปป์ ดิ ทบั ได้ลงลายมอื ชือ่ หรอื ลงช่ือห้างร้านบนแสตมป์ หรอื ขีดเส้นครอ่ มฆา่ แสตมป์ทป่ี ดิ ทบั กระดาษและลงวนั เดือน ปี ทีก่ ระทาสิ่งเหลา่ น้ีด้วย ในกรณีแสตมป์ดุนไดเ้ ขยี นบนตราสารหรอื ยนื่ ตราสารใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ที่ประทบั แสตมป์ดนุ ให้แสตมป์ปรากฏอยู่ในด้านหนา้ ของตราสารนน้ั
การยกเวน้ อากร
การยกเวน้ อากรยกเวน้ ตามพระราชกฤษฎกี า ได้แก่- ธนาคารแหง่ ประเทศไทย- ธนาคารอาคารสงเคราะห์- ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร- ผูป้ ระกอบการขนส่งเฉพาะการรับเงินทเ่ี ปน็ คา่ รบั ขนส่งคนโดยสาร- บรรษทั เงินทนุ อตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย
การยกเว้นอากร- ผคู้ า้ ประกัน เฉพาะการคา้ ประกันหนเ้ี นอ่ื งแต่การทธ่ี นาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตรให้กู้ยมื หรอื ใหย้ ืม- ผอู้ อกใบรบั เฉพาะการรบั เงินทธี่ นาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใหก้ ยู้ มื หรือใหย้ มื- การเคหะแห่งชาติ- ผู้โอน เฉพาะโอนหลักทรัพยจ์ ดทะเบียน หรือหลักทรัพยร์ บัอนุญาต ท่ตี ลาดหลกั ทรัพย์ แหง่ ประเทศไทย เป็นนายทะเบียนสาหรับการโอนหลักทรัพย์นัน้
การยกเว้นอากร- ผู้ทีต่ อ้ งเสยี อากรสาหรับตราสารที่ต้องเสยี คา่ อากรแสตมป์ไม่ถึงหนง่ึ บาท หรอื ตราสารท่ีคานวณ ค่าอากรแสตมปแ์ ลว้ต้องเสียอากรแสตมป์ต้งั แต่หนึ่งบาทขึน้ ไป เฉพาะสว่ นท่ีเปน็เศษของบาท- ผโู้ อน เฉพาะการโอนพันธบตั รธนาคารอาคารสงเคราะหท์ ี่ธนาคารแหง่ ประเทศไทยเปน็ นายทะเบียนสาหรับการโอนพนั ธบัตรน้ัน
การยกเวน้ อากร- ยกเวน้ อากรแสตมป์สาหรบั ตราสารใบรับ ซงึ่ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย และองค์การกศุ ล สาธารณะอ่ืนท่ีเปน็ นิตบิ คุ คล ซง่ึ มีวตั ถปุ ระสงคท์ านองเดียวกันเปน็ ผู้ออก- ผู้โอนห้นุ ในศนู ยซ์ ื้อขายหลักทรัพยต์ ามกฎหมายวา่ ด้วยหลักทรพั ย์และตลาดหลักทรัพย์- องคก์ ารเพ่ือการปฏริ ปู ระบบสถาบนั การเงิน- บรรษัทบริหารสนิ ทรพั ยส์ ถาบันการเงนิ
การยกเว้นอากร- ผ้ทู ตี่ ้องเสียอากร เฉพาะกรณีที่ต้องเสียอากรตามบัญชีอากรแสตมปส์ าหรับตราสารที่ทาข้นึ ระหว่าง นติ ิบคุ คลเฉพาะกจิ กบั บริษทั หรือห้างหนุ้ สว่ นนิตบิ คุ คล หรอื นติ ิบคุ คลอนื่ ท่ีเกิดข้นึ เนือ่ งจากการแปลงสนิ ทรัพย์หลักทรพั ย์ตามกฎหมายว่าดว้ ย นิติบุคคลเฉพาะกิจเพือ่ การแปลงสินทรพั ย์ ทงั้ น้ี ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเง่อื นไข ที่อธบิ ดกี รมสรรพากรประกาศกาหนด
การยกเวน้ อากร- กองทุนอสังหาริมทรพั ย์ กองทนุ รวมอสังหาริมทรัพยเ์ พื่อแกไ้ ขปญั หา ในระบบสถาบันการเงนิ และกองทุนรวมเพอ่ืแกไ้ ขปัญหาในระบบสถาบันการเงนิ ท่ีจัดต้ังขนึ้ ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์- บรรษัทตลาดรองสนิ เชื่อที่อยู่อาศยั- ผโู้ อน เฉพาะการโอนหลกั ทรัพย์จดทะเบยี นทบี่ คุ คลซ่ึงไดร้ บัอนญุ าต จากคณะกรรมการกากบั หลักทรพั ย์เป็น นายทะเบยี นหลักทรพั ย์สาหรบั การโอนหลักทรพั ย์นนั้
การยกเวน้ อากร- ผู้ประกอบกจิ การซง่ึ เป็นบริษทั มหาชนจากดั หรือบริษทัจากัด เฉพาะกรณีทีผ่ ้ปู ระกอบกิจการดงั กล่าวควบเขา้ กันหรือโอนกิจการทัง้ หมดใหแ้ ก่กัน ตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเง่อื นไขท่อี ธบิ ดีกรมสรรพากรประกาศกาหนด- รัฐวสิ าหกิจ เฉพาะการกระทาตราสารอันเนอ่ื งมาจากการนาทุนบางสว่ นหรือทงั้ หมดมาเปลยี่ นสภาพ เป็นของบริษัทจากัด หรือบริษทั มหาชน จากัด ตามกฎหมายว่าด้วยทุนรฐั วิสาหกจิ นน้ั
การยกเว้นอากร- อนุญาโตตุลาการ เฉพาะตราสารคาช้ีขาดของอนุญาโตตลุ าการ- สถาบนั พัฒนาองค์การชมุ ชน (องค์การมหาชน)- ผทู้ ตี่ อ้ งเสยี อากร เฉพาะตราสารที่ตอ้ งเสยี อากรแสตมปใ์ นกจิ การซ้อื หรือขายหลักทรพั ยโ์ ดยมีสญั ญาขายหรือซือ้ คืนเฉพาะในสว่ นของหลกั ทรพั ย์ตามกฎหมายวา่ ด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลกั ทรัพย์ ท้งั นี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงอ่ื นไขทอี่ ธบิ ดกี รมสรรพากรประกาศกาหนด
การยกเว้นอากร- กองทนุ บาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยกองทนุ บาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ เฉพาะการกระทาตราสารในการให้กู้ยืมเงินแก่สมาชิกต้งั แต่วนั ท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2545เปน็ ตน้ ไป- กองทนุ รวมอสงั หารมิ ทรัพยแ์ ละสทิ ธิเรียกร้องที่จดั ต้ังข้นึตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
การยกเว้นอากร- ผ้ขู าย เฉพาะการกระทาตราสารอนั เนอื่ งมาจากการขายอสงั หาริมทรพั ย์”ดังต่อไปน้ี(ก) บ้าน โรงเรอื น หรือสง่ิ ปลกู สร้างอน่ื ซง่ึ โดยปกติใช้ประโยชนเ์ พื่อเป็นทอี่ ยูอ่ าศัย(ข) อสงั หารมิ ทรัพย์ตาม (ก) พร้อมที่ดิน(ค) หอ้ งชุดสาหรบั การอยอู่ าศยั ในอาคารชดุ ตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชดุ
การยกเว้นอากรทั้งน้ี เฉพาะสาหรบั กรณกี ารทาสญั ญาซื้อขายอสังหารมิ ทรพั ย์ซง่ึ ผโู้ อนได้ใช้เปน็ ที่อยู่อาศยั อนั เปน็ แหล่งสาคญั โดยมีช่ืออย่ใู นทะเบียนบา้ นตามกฎหมายว่าดว้ ยการทะเบียนราษฎรเปน็ เวลาไม่นอ้ ยกวา่ หน่งึ ปนี บั แตว่ ันทไ่ี ดม้ าซึ่งกรรมสิทธิ์หรือสทิ ธคิ รอบครองในอสังหารมิ ทรพั ย์น้ัน ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขที่อธบิ ดีกรมสรรพากรกาหนด
การยกเว้นอากรการไดร้ ับยกเว้นตามวรรคหนึ่ง ตอ้ งปรากฏวา่ ภายในกาหนดเวลาหนงึ่ ปกี อ่ นหรอื นบั ตั้งแตว่ นั ท่ที าสัญญาซือ้ ขายอสังหารมิ ทรพั ย์ดงั กลา่ ว ผขู้ ายได้ทาสญั ญาซอ้ื ขายอสังหาริมทรพั ยแ์ ห่งใหมซ่ ่งึ มีลกั ษณะตาม (ก) (ข) หรือ (ค)เพอ่ื ใช้เป็นทอ่ี ยู่อาศัยของตน และใหไ้ ดร้ บั ยกเว้นเทา่ กับค่าอากรแสตมปท์ ่คี านวณได้จากจานวนมูลคา่ ของอสงั หาริมทรัพยด์ งั กลา่ ว แต่ไม่เกนิ จานวนมูลคา่ ของอสังหาริมทรัพยแ์ ห่งใหม่
การยกเวน้ อากร- ธนาคารอิสลามแหง่ ประเทศไทย เฉพาะการโอนกรรมสิทธิ์ในอสงั หารมิ ทรัพย์ใหแ้ ก่ผรู้ บั โอนเนือ่ งจากการให้เช่าซ้อือสังหารมิ ทรัพย์ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย”- ธนาคารพฒั นาวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารพฒั นาวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแหง่ ประเทศไทย ทั้งน้ี ตัง้ แต่วันที่20 ธนั วาคม พ.ศ. 2545 เปน็ ต้นไป
การยกเวน้ อากร- สถาบันคมุ้ ครองเงนิ ฝากตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคมุ้ ครองเงินฝาก- ยกเวน้ ภาษอี ากรตามประมวลรัษฎากร แกบ่ ุคคลตามข้อผูกพนั ทปี่ ระเทศไทยมีอยู่ตามสัญญา วา่ ดว้ ยความรว่ มมือทางเศรษฐกิจหรือทางเทคนคิ ระหวา่ งรฐั บาลไทยหรอื รัฐบาลตา่ งประเทศ
การยกเวน้ อากร- ยกเว้นบรรดารัษฎากรประเภทต่าง ๆ ที่เรยี กเก็บตามประมวลรัษฎากร ใหแ้ ก่(ก) องคก์ ารสหประชาชาติ ทบวงการชานัญพิเศษของสหประชาชาตแิ ละเจา้ หนา้ ที่ หรือผูเ้ ช่ยี วชาญ ขององค์การหรอื ทบวงการดงั กล่าว ซ่ึงปฏิบตั หิ น้าทีอ่ ย่ใู นประเทศไทย ในเมื่อประเทศไทย มีข้อผูกพนั ใหย้ กเว้นตามอนสุ ัญญา หรอืความตกลง
การยกเวน้ อากร(ข) สถานเอกอัคราชทูต สถานทูต สถานกงสลุ ใหญ่ สถานกงสลุ บคุ คลในคณะทตู บคุ คลในคณะกงสลุ และบคุ คลทถี่ อืว่าอยู่ในคณะทตู ตามความตกลง ท้งั น้ใี ห้เปน็ ไปตามหลกั ถ้อยทีถ้อยปฏบิ ัตติ ่อกัน
การลดอากรตามประกาศของคณะปฏิวัติ (ฉบบั ที่ 155) ลงวันท่ี 4มิถุนายน 2515 ลดคา่ อากรแสตมปส์ าหรบั ตราสารกรมธรรม์ประกนั ชีวติ โดยถ้าค่าอากรมีจานวนสูงกว่า 20 บาท ให้ลดเหลอื 20 บาท
ความรบั ผิดกรณีไมป่ ดิ แสตมปบ์ รบิ รู ณ์ และการไม่ออกใบรับ
ความรบั ผดิ ทางแพ่ง1.1 กรณียื่นตราสารขอเสยี อากรเอง ตราสารใดมไิ ด้ปดิแสตมป์บริบูรณ์ ผ้มู หี นา้ ท่เี สียอากร หรือผทู้ รงตราสาร หรอืผถู้ อื เอาประโยชน์ชอบท่ีจะย่นื ตราสารน้ัน ตอ่ พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ เพื่อขอเสียอากรได้ เมือ่ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้รบัตราสารแลว้ ให้อนมุ ตั ใิ ห้เสยี อากรภายในบังคบั แหง่ บทบญั ญตั ิตอ่ ไปน้ี
ความรบั ผดิ ทางแพ่ง ถ้าตราสารท่ีมิไดป้ ดิ แสตมปบ์ รบิ ูรณ์นน้ั เปน็ ตราสารที่กระทาขนึ้ ในประเทศไทย เมือ่ ผขู้ อเสยี อากร ไดย้ ื่นตราสารน้นัต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีเพือ่ เสยี อากรภายใน 15 วนั นับแตว่ ันที่ตอ้ ง ปดิ แสตมป์บรบิ รู ณ์ ก็ใหอ้ นุมัตใิ ห้เสยี เพียงอากรตามอัตราในบญั ชีทา้ ยหมวดอากรแสตมป์
ความรับผดิ ทางแพ่ง 1.2 กรณีปรากฎตอ่ พนักงานเจา้ หน้าทเ่ี ปน็ อย่างอนื่ ก็ให้อนมุ ตั ิใหเ้ สยี อากรและให้เรยี กเก็บ เงินเพ่ิมอากร ดงั ต่อไปน้ีอกี ด้วย (ก) ถ้าปรากฏต่อพนกั งานเจา้ หนา้ ทีว่ ่าตราสารมไิ ด้ปิดแสตมป์บริบูรณ์เปน็ เวลา ไม่พน้ กาหนด 90 วนั นบั แต่วันตอ้ งปดิ แสตมป์บริบรู ณ์ใหเ้ รียกเกบ็ เงนิ เพมิ่ อากรเปน็ 2เทา่ จานวน อากรหรือเป็นเงิน 4 บาท แลว้ แต่อย่างใดจะมากกวา่
ความรับผดิ ทางแพ่ง (ข) ถ้าปรากฎต่อพนกั งานเจ้าหนา้ ทีว่ า่ ตราสารมิได้ปิดแสตมปบ์ ริบรู ณเ์ ป็นเวลาพน้ กาหนด 90 วนั นบั แต่วนัตอ้ งปิดแสตมปบ์ ริบรู ณแ์ ลว้ ใหเ้ รียกเก็บเงินเพิ่มอากรเปน็ 5เท่าจานวน อากรหรอื เป็นเงิน 10 บาทแลว้ แตอ่ ยา่ งใดจะมากกวา่
ความรับผดิ ทางแพ่ง 1.3 กรณพี นักงานเจ้าหน้าทห่ี รือนายตรวจทาการตรวจพบ กลา่ วคอื เมอ่ืมเี หตสุ มควรพนักงาน เจ้าหน้าที่หรือนายตรวจมีอานาจเข้าไปในสถานการคา้ หรือสถานทท่ี ีเ่ ก่ยี วข้องระหว่าง พระอาทิตย์ขน้ึ พระอาทิตย์ตก หรอื ในเวลาทาการของสถานการคา้ หรอื สถานท่ีนนั้ เพ่อื ทาการตรวจสอบตราสารวา่ ได้ปดิ แสตมป์บรบิ ูรณ์ตาม ท่ีกาหนดในบัญชอี ตั ราอากรแสตมป์หรอื ไม่ หรือทาการตรวจสอบเพอื่ ทราบว่าได้ออกใบรับ หรอื ทาหรอื เก็บต้นขั้วสาเนาใบรบั หรือทาหรือเกบ็บันทึกตามท่ีกาหนดไว้ในหมวดอากรแสตมป์ หรอื ไมก่ ับมอี านาจ เรียกและยดึ ตราสาร หรือเอกสารและออกหมายเรยี กตวั ผ้มู หี นา้ ทเ่ี สยี อากร ผทู้ รงตราสารหรอื ผู้ถือเอาประโยชนแ์ หง่ ตราสารและพยานหลักฐานอืน่ อนั ควรแก่เรือ่ งมาไตส่ วน โดยการกลา่ วหาแจง้ ความของบคุ คลใด ไมว่ ่าจะเปน็ เจ้าพนกั งานรฐั บาลหรือมใิ ช่ก็ดี ถา้ปรากฎวา่
ความรับผิดทางแพ่ง(1) มิไดม้ ีการออกใบรับในกรณีทต่ี ้องออกใบรบั ตามข้อ 2ให้พนกั งานเจ้าหนา้ ทม่ี อี านาจเรียกเกบ็ เงินอากรจนครบ และเงินเพ่ิมอากรอีกเปน็ จานวน 6 เทา่ ของเงินอากรหรอื เป็นเงนิ25 บาท แลว้ แตอ่ ยา่ งใดจะมากกวา่(2) ตราสารมไิ ดป้ ดิ แสตมป์บรบิ รู ณ์ โดย
ความรับผิดทางแพง่(ก) มไิ ด้ปิดแสตมป์เลย ใหพ้ นักงานเจ้าหนา้ ที่มีอานาจเรยี กเกบ็ เงินอากรจนครบ และเงนิ เพมิ่ อากรอกี เป็นจานวน 6 เทา่ของเงนิ อากรที่ต้องเสยี หรอื เป็นเงิน 25 บาท แลว้ แตอ่ ยา่ งใดจะมากกวา่ (ข) ปิดแสตมปน์ ้อยกวา่ อากรท่ตี อ้ งเสีย ใหพ้ นักงานเจา้ หนา้ ทมี่ ีอานาจเรยี กเกบ็ เงิน อากรจนครบ และเงินเพ่มิ อกีเปน็ จานวน 6 เท่าของเงนิ อากรทข่ี าดหรอื เป็นเงิน 25 บาทแล้วแตอ่ ยา่ งใดจะมากกว่า
ความรับผดิ ทางแพง่ ในกรณีอ่นื ใหพ้ นักงานเจา้ หน้าทม่ี ีอานาจเรียกเกบ็ เงินเพ่มิอากรเป็นจานวน 1 เท่าของเงินอากร ทีต่ ้องเสียหรือเป็นเงิน25 บาท แล้วแตอ่ ยา่ งใดจะมากกว่า
ความรับผิดทางอาญา2.1 ผ้ใู ดมีหน้าที่เสยี อากร หรอื ขดี ฆ่าแสตมป์ เพิกเฉยหรอืปฏเิ สธไมเ่ สียอากรหรอื ไมข่ ดี ฆา่ แสตมป์ ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกนิ หา้ รอ้ ยบาท2.2 ผู้ใดออกใบรบั ไม่ถึง 10 บาท สาหรบั มูลคา่ ตงั้ แต่ 10บาทขึ้นไป หรอื แบง่ แยกมูลค่าที่ได้รบั ชาระนั้น เพอื่ หลกี เลย่ี งการเสียอากรก็ดี จงใจกระทาหรือทาตราสารใหผ้ ิดความจริงเพือ่ หลีกเลีย่ งไม่ปฏบิ ัตติ าม บทบญั ญัติแห่งหมวดน้ีกด็ ี มีความผดิ ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกินสองร้อยบาท
ความรับผดิ ทางอาญา2.4 ผ้ใู ดไม่ทาหรอื ไมเ่ กบ็ บนั ทึกตามมาตรา 105 ตรี หรอื ไม่ออกใบรับใหท้ ันทีทถ่ี ูกเรียกร้องตาม มาตรา 106 (ข้อ 2.2)หรอื ออกใบรับซ่ึงไม่ปดิ แสตมป์ตามจานวนอากรท่ตี ้องเสียตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ หา้ ร้อยบาท
ความรบั ผดิ ทางอาญา2.5 ผ้ใู ดโดยตนเองหรอื สมคบกับผอู้ น่ื ทาใหไ้ ม่มกี ารออกใบรบั หรือไมอ่ อกใบรบั ให้ทันทีทีร่ บั เงิน หรอื รบั ชาระราคาตามมาตรา 105 (ขอ้ 2.1) หรือออกใบรับเป็นจานวนเงนิ นอ้ ยกว่าท่รี บั เงนิ หรอื รบั ชาระราคาจริง ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ หา้ร้อยบาท หรือจาคุกไม่เกินหน่ึงเดือนหรอื ทัง้ ปรับทั้งจา
Search