Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คอนกรีต

คอนกรีต

Published by pile_1207, 2017-09-21 06:08:57

Description: (unit3)

Search

Read the Text Version

คอนกรีตเทคโนโลยีคอนกรีต นายอคั เนตร ยศสมบตั ิ หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพชนั้ สงู

125 ใบความรู้ หนว่ ยท่ี 3ชอ่ื วชิ า คอนกรตี เทคโนโลยี สอนครั้งที่ 13ชอื่ หนว่ ย คอนกรตี จานวนชัว่ โมง 2จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพื่อให้มีความร้คู วามเข้าใจเก่ียวกบั คอนกรีต 2. เพือ่ ใหส้ ามารถอธบิ ายผสมคอนกรีต 3. เพื่อใหส้ ามารถหาการยบุ ตัวของคอนกรตี 4. เพื่อให้สามารถวเิ คราะหห์ าหนว่ ยน้าหนักของคอนกรีต 5. เพื่อให้สามารถทดสอบหาระยะการก่อตัวของคอนกรีต 6. เพอื่ ใหส้ ามารถค้านวณหาความต้านแรงอัดของคอนกรีต 7. เพื่อให้สามารทดสอบหาคา่ ความต้านแรงดึงของคอนกรีตหวั ข้อเรอ่ื ง 1. คอนกรตี 2. ปฏภิ าคสว่ นผสมคอนกรีต 3. การทดสอบการยบุ ตวั ของคอนกรีต 4. การทดสอบหาหนว่ ยนา้ หนัก (ความหนาแน่น) ปรมิ าณท่ีไดแ้ ละปริมาณอากาศ 5. การทดสอบระยะการก่อตัวของคอนกรีต 6. การทดสอบความต้านแรงอดั ของคอนกรตี 7. การทดสอบหาคา่ ความต้านแรงดึงของแท่งตัวอยา่ งคอนกรีตสาระสาคญั คอนกรีตเป็นวัสดกุ อ่ สร้างท่ใี ช้กันมานาน ในอดีตการที่จะใช้คอนกรีตส้าหรบั งานก่อสร้างนัน ผ้รู บั เหมาจะตอ้ งเรมิ่ จาก การสัง่ ซือ หิน ทราย ปูนซเี มนต์ และนา้ ยาผสมคอนกรีต จากนนั จะตอ้ งจัดการหาเคร่ืองผสมและทีมงาน แตใ่ นปจั จุบันคอนกรตี ผสมเสรจ็ ซึ่งคือคอนกรีตท่ผี สมเสร็จเรยี บร้อยจากโรงงาน และล้าเลียงใสร่ ถเพอื่ จัดส่งใหห้ นว่ ยงานก่อสรา้ ง ไดเ้ ขา้ มาทดแทนการใชค้ อนกรตี ผสมโม่เล็กดว้ ยเหตุผลทสี่ ้าคัญคือ

126 ใบความรู้ ช่อื วิชา คอนกรีตเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 3 ช่ือหนว่ ย คอนกรตี สอนครงั้ ท่ี 13 ช่ือเรือ่ ง คอนกรีต จานวนชัว่ โมง 2สาระการเรยี นรู้ คอนกรีต เป็นวัสดุที่รู้จักและใช้กันในวงการก่อสร้างมานานนับ 1,00 ปี และใช้ได้เป็นอย่างดี สามารถท้าส่วนของอาคารได้คงทนถาวร ท้าให้เกิดวิวัฒนาการในวงการก่อสร้างไปมากต่อมาในสมัยที่กรีซรุ่งเรืองนันอาคารท่ีมีชื่อเสียงไปท่ัวโลกในด้านความงามวิจิตรตระการตานันท้าด้วยหินอ่อนและใช้ระบบการก่อสร้างแบบเสากับคาน เพราะคานใช้สลักจากหินอ่อนธรรมชาติ จึงไมส่ ามารถหาแท่งยาวมาก ๆ ได้ และเสาก็ตอ้ งใช้ถี่ เพ่ือใหม่ระยะทค่ี านจะพาดไดถ้ งึ คอนกรีต เป็นวัสดุเปรียบเสมือนหินที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึนมาใช้งานเป็นโครงสร้าง ทราบกันดีว่าได้จากการผสมซีเมนต์ซ่ึงเป็นวัสดุประสาน กับทราย หินหรือกรวดซ่ึงเป็นวัสดุผสมและกับน้าซ่ึงจะท้าปฏิกิริยากับซเี มนต์ท้าใหไ้ ด้ซเี มนต์เพสท์มีคณุ สมบตั ิเป็นตวั ประสานแทรกตามเม็ดทรายและก้อนหนิ รวมตวั กันเป็นคอนกรีตในแบบหล่อ และจะแขง็ ตัวเม่ืออายปุ ระมาณ 24 ชั่วโมง ทนแรงอัดไดด้ ขี นึ เรื่อยๆ คอนกรีตใช้เป็นวัสดุโครงสร้างได้ดีกว่าวัสดุชนิดอื่นๆ (เช่น อิฐ ไม้หรือเหล็ก) เพราะสามารถสร้างให้มีรูปร่างลักษณะและขนาดได้ตามต้องการ ไม่ต้องถูกจ้ากัดเหมือนวัสดุอ่ืน โครงสร้างคอนกรีตที่เห็นกันอยู่ท่ัวไปได้แก่ พืน คาน เสาของอาคาร พืนถนน สะพาน ท่อระบายน้า อัฒจันทร์ดูกีฬา หลังคาที่คลุมพืนท่ีกว้างๆ ไม่มีเสาเกะกะในลักษณะคอนกรตี เปลอื กบาง และ เขอื่ นกันนา้ ซง่ึ เปน็ งานคอนกรีตหนา เปน็ ตน้ ในเนือคอนกรีตอาจแยกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือ ซีเมนต์เพสท์ (Cement Paste) และวัสดุผสม(Aggregates) คอนกรีตธรรมดาท่ัวไปที่ไม่ใช้สารกระจายกักฟองอากาศจะมีปริมาตรของซีเมนต์เพสท์ประมาณ24 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแยกเป็นปริมาตรของปูนซีเมนต์ 7 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ นา้ 14 ถึง 21 เปอร์เซ็นต์ และฟองอากาศที่แรกอยู่ในช่องว่างอากาศประมาณ 0.5 ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นปริมาตรของวัสดุผสมสา้ หรับคอนกรีตทใี่ ชส้ ารกระจายกักฟองอากาศ จะมีปรมิ าตรของฟองอากาศแทรกอยูถ่ ึง 8 เปอรเ์ ซน็ ต์ ซีเมนต์เพสท์หรือท่ีเรียกว่าเพสท์ ประกอบด้วย ปูนซีเมนต์ น้าและฟองอากาศ เป็นส่วนที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างปูนซีเมนต์กับน้า ท้าหน้าท่ีเป็นตัวประสาน (คล้ายกาว) โดยจะแทรกไปตามช่องว่างของหนิ และทราย และเคลือบหรอื หุ้มเม็ดทรายและหินทงั หมดให้เกาะรวมตัวจับกันเปน็ ก้อน ท้าให้คอนกรีตสดลื่นเหลว และท้าให้คอนกรีตท่ีแข็งตัวแล้วมีก้าลังรับแรงตามต้องการความแข็งแรงของคอนกรีตจะขึนอยู่กับคุณภาพของซีเมนต์เพสท์คุณภาพของซีเมนต์เพสท์ ขึนอยู่กับส่วนประกอบของปูนซีเมนต์ อัตราส่วนของน้าต่อซีเมนต์ (Water – Cement Ratio) ท่ีใช้ในส่วนผสม และการท้าปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างปูนซีเมนต์กับน้า ที่เรียกว่าปฏิกิริยาไฮเดรชัน (Hydration) ปฏิกิริยาทางเคมีดังกล่าวจะเกิดขึนอย่างรวดเร็วในตอนแรกๆ ท้าให้คอนกรีตเกิดการก่อตัวและแข็งตัวตามมาการท้าปฏิกิริยาทางเคมีจะช้าลงในตอนหลังๆ ภายใต้สภาวะที่เหมาะสม ซงึ่ ขนึ อยู่กบั เวลา อณุ หภูมิและความชืน ในส่วนผสมอาจต้องใช้ปริมาณนา้ ท่ีมากกวา่ ที่ตอ้ งการเพอ่ื ให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีอย่างสมบูรณ์ เพ่ือให้คอนกรีตนุ่มเหลว ท้างานง่าย แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของคอนกรีตตลอดจนความทนทานต่อลม ฟ้า อากาศ จะลดลง ดงั นันจงึ ต้องใชอ้ ตั ราสว่ นระหว่างนา้ ต่อซเี มนตใ์ ห้พอเหมาะพอดี

127 ใบความรู้ช่ือวิชา คอนกรตี เทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 3ชอ่ื หน่วย คอนกรตี สอนคร้งั ท่ี 13ช่อื เร่อื ง คอนกรตี จานวนชว่ั โมง 21. วัสดุทใี่ ช้ผสมคอนกรีต 1.1 ปูนซีเมนต์ ท้าหน้าท่ีประสานมวลในคอนกรีต เช่น หินและทรายให้ติดกัน ปูนซีเมนต์ท้าหน้าท่ีคล้ายกับกาว และมีใช้ต่าง ๆ กันตามวัตถุประสงค์ของการท้าคอนกรีต เช่น คอนกรีตท่ีต้องการแข็งตัวเร็วก็ใช้ปนู ซเี มนต์ประเภทหน่งึ คอนกรตี ท่หี ล่อในทะเลซึ่งเปน็ น้าเค็มกใ็ ชป้ นู ซีเมนต์อีกประเภทหนึ่ง 1.2 มวลรวมละเอียดหรือวสั ดุผสมย่อยอยา่ งละเอยี ดและมวลรวมหยาบหรือวสั ดผุ สมย่อยอยา่ งหยาบ วัสดุผสม หากแบ่งตามขนาดจะได้เป็นสองพวก คือ วัสดุผสมละเอียด และ วัสดุผสมหยาบ วัสดุผสมละเอียด (Fine Aggregates) หมายถงึ วัสดทุ ่มี ีขนาดเล็กสามารถร่อนผา่ นตะแกรงร่อนมาตรฐานเบอร์ 4 ได้ ซึ่งได้แก่ ทราย ส่วนวัสดุผสมหยาบ (Coarse Aggregates) หมายถึง วัสดุผสมที่มีก้อนโตไม่สามารถร่อนผ่านตะแกรงร่อนมาตรฐาน เบอร์ 4 ได้แก่ หินย่อยหรือกรวด การเลือกใช้วัสดุผสมนับว่ามีความส้าคัญอย่างย่ิงเนื่องจากในเนือคอนกรีตมีวัสดุผสมอยู่ประมาณ 60 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของปริมาตร ทังหมด ซ่ึงจะมีผลกระทบตอ่ คุณภาพและราคาของคอนกรีต วัสดุผสมที่จะใช้เป็นส่วนผสมของคอนกรีต ต้องแข็งแรงอัดได้ดี ทนทาน ไม่ขยายตัวมาก และสะอาดโดยไม่มีสารจ้าพวกที่จะท้าให้เกิดการเสื่อมคุณภาพต่อคอนกรีต นอกจากนีวัสดุผสมต้องมีส่วนขนาดคละ (Gradation) ที่ดี เพ่ือช่วยให้ได้คอนกรีตที่มีเนือแน่นสม่้าเสมอมีช่องว่าง (vold) น้อย ซ่ึงจะท้าใหเ้ ปลอื งซเี มนตเ์ พสท์น้อยลง และราคาของคอนกรตี ก็จะถูกลง 1.3 สารผสมเพมิ่ ในเนือคอนกรีตอาจมีสารผสมเพิ่ม (Admixture) เช่น สารเคมีผสมเพิ่ม (Chemical Admixture)หรือสารผสมเพิ่มแบบแร่ธาตุ (Mineral Admixture) ท่ีใช้เติมลงในส่วนผสมเพื่อปรับปรุงให้คอนกรีตสดหรือคอนกรีต ท่ีแข็งตัวแล้วมีคุณสมบัติอ่ืนท่ีต้องการ เช่น ท้าให้คอนกรีตสดมีความสามารถเทได้ดีขึน หรือก่อตัวช้าลง เป็นต้น แต่ทังนตี ้องใชส้ ารผสมเพิ่มในอัตราที่พอเหมาะตามค้าแนะน้าของผู้ผลิต มิฉะนนั จะก่อให้เกิดผลเสียหรือเกดิ ผลในทางตรงกนั ข้าม 1.4 นา้ นา้ ท่ีใช้ผสมคอนกรีตนันจะต้องเปน็ นา้ ที่สะอาด ซงึ่ ในการก่อสร้างสว่ นมากมักระบุว่าต้องเป็นน้าสะอาดท่ีใช้ดื่มได้ เช่น น้าประปา แต่ในการก่อสร้างบางท้องถ่ินอาจไม่สามารถหาน้าประปาได้ ต้องใช้น้าในคลอง ในหว้ ย ซง่ึ ก็สามารถใชไ้ ด้ แต่ต้องระวังอย่าใหม้ ีอินทรยี วัตถเุ จือปน เช่น ตะไคร่ จอก แหน เพราะจา้ ทา้ ใหค้ อนกรีตเส่ือมก้าลงั ในบางท่ตี ้องใชน้ า้ บาดาลซง่ึ อาจจะมีสารทีไ่ มเ่ หมาะสมทใี่ ช้ประปนอยู่ เชน่ อาจมีสารจา้ พวกเกลอื ซึ่งท้าให้คอนกรีตเสยี กา้ ลังหรือน้าที่มสี ารจา้ พวกนา้ ตาลเจือปน เช่น น้าในบริเวณที่ไหลหรือใกลโ้ รงงานนา้ ตาล ถ้ามีปริมาณน้าตาลมากอาจท้าให้คอนกรีตไม่แข็งตัวได้ ฉะนันถ้าไม่แน่ใจในคุณภาพของน้า ควรน้าไปทดสอบในหอ้ งปฏิบตั กิ ารทางเคมเี พ่อื ให้ทราบคณุ สมบัติของน้าเสยี ก่อนวา่ ใช้ไดห้ รือไม่

128 ใบความรู้ชื่อวชิ า คอนกรตี เทคโนโลยี หนว่ ยที่ 3ชอ่ื หนว่ ย คอนกรตี สอนคร้งั ที่ 13ชื่อเร่อื ง คอนกรีต จานวนชัว่ โมง 22. การเกบ็ และกองวัสดทุ ่ีใช้ในงานคอนกรีต การเก็บและกองวัสดุท่ใี ชใ้ นงานคอนกรีตเป็นเรือ่ งที่ส้าคัญอยา่ งหนง่ึ เพราะถ้าเกบ็ หรอื กองไม่ถูกวธิ อี าจท้าให้วสั ดุนนั ๆ เสียหาย ใช้การไม่ได้ ทา้ ใหเ้ สยี ทังเวลาและทรัพยส์ ิน วธิ ที ถี่ กู ต้องมดี ังนี 2.1 การเกบ็ ปนู ซเี มนต์ การเกบ็ ปนู ซเี มนต์ ควรเก็บในลกั ษณะท่ีกนั ฝน กนั นา้ หรือกันความชนื เพราะถา้ ปนู ซเี มนต์เปยี กหรือชืนเสียกอ่ นน้ามาผสม จะก่อตัวเปน็ ก้อนแข็ง ทา้ ใหเ้ ส่ือมคุณภาพได้ ฉะนนั ควรเกบ็ ในถังเหล็กที่มีฝาปดิ ป้องกนันา้ หรอื ความชืนได้ ก้นถงั ควรหมุนใหพ้ ้นจากระดบั พนื ดิน ถ้าตอ้ งการเกบ็ เป็นจ้านวนมากอาจเกบ็ ในไซโลซึง่บริษัทผผู้ ลิตจะน้ามาตดิ ตงั ให้ ตามปกตปิ นู ซเี มนต์บรรจุในถุงซึ่งทา้ จากกระดาษดราฟตห์ ลายชันปอ้ งกันความชนืไดด้ อี ยู่แล้ว นา้ หนักตอ่ ถุงคือ 50 กิโลกรัมก็สามารถยกได้โดยคนงานคนเดียว ฉะนนั การเกบ็ ปนู ซเี มนต์ท่ีบรรจุมาในถงุ กระดาษชนิดนมี ักเกบ็ กองซ้อนกนั ในโรงซึ่งมหี ลงั คาและมฝี ากันฝนได้ 2.2 การเกบ็ วัสดผุ สมอย่างละเอยี ด การเก็บวัสดุผสมอย่างละเอยี ด ตัวอยา่ งเช่น ทราย ควรกองแยกกนั เช่น ทรายหยาบ ทราบละเอยี ดอย่าใหก้ องใกล้กนั จนอาจเกิดความสับสนแต่คนงานในการน้าไปใชไ้ ด้ 2.3 การเก็บวัสดุผสมย่อยอย่างหยาบ การเกบ็ วสั ดุผสมย่อยอย่างหยาบ ตัวอยา่ งเชน่ หนิ ควรกองใหแ้ ยกขนาดกัน และไม่ควรกองในซ่ึงอาจถกู ปนโดยสารเคมีหรือนา้ มันซึ่งอาจกระเด็นมาถึงกองได้ 2.4 การเก็บสารผสมเพิม่ การเก็บสารผสมเพิ่ม ต้องป้องกันการระเหยหรือเสื่อมคุณภาพซึ่งอาจมาจากความร้อน ความชืนการละลายตัว ต้องพยายามป้องกันไม่ให้มีการเปล่ียนอุณหภูมิมากแตกต่างกัน ฉะนันควรเก็บในท่ีซึ่งมีหลังคาคลุมและระวังเกบ็ รักษาและใชต้ ามค้าแนะน้าของบรษิ ัทผผู้ ลติ3. การผสมคอนกรีต อตั ราส่วนผสมของคอนกรีตจะไดจ้ ากการออกแบบหาปฏิภาคส่วนผสม เพ่ือให้ได้คอนกรตี ท่ีมีความข้นเหลวง่ายในการท้างาน ท้าให้คอนกรีตที่แข็งมีก้าลังรับแรงและความคงทนและในราคาท่ีประหยัด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะใช้สัดส่วนการผสมให้ดีเพียงใด ถ้าการผสม การล้าเลียง การเท การท้าให้ตามที่ต้องการ อัตราส่วนผสมของคอนกรีตจะได้จากออกแบบหาปฏิภาคส่วนผสม เพื่อให้ได้คอนกรีตท่ีมีความข้นเหลวง่ายในการท้างาน ท้าให้คอนกรีตท่ีแข็งตัวมีก้าลังแรงและความคงทนตามที่ต้องการและในราคาประหยัด อย่างไรก็ตามถงึ แม้ว่าจะใช้สัดส่วนการผสมให้ดีเพียงใด ถา้ การผสม การล้าเลียง การเท การท้าให้คอนกรีตแน่นตัวตลอดจนการบ่มคอนกรีตท้าได้ไม่ดีพอ ก็จะไม่ได้คอนกรีตท่ีมีคุณภาพตามต้องการ การผสมต้องผสมให้ทั่ว พอที่จะกระจายวัสดุต่าง ๆ อย่างสม่้าเสมอและกระจายซีเมนต์เพสท์ไปบนผิวของวัสดุผสมโดยท่ัวถึง การล้าเลียง การเท และการสั่นหรือเขยา่ คอนกรีต กต็ ้องพยายามไม่ให้เกดิ การแยกตัว เพราะมีผลต่อก้าลังและความทนทานของคอนกรีต ในการสน่ั หรือเขยา่ ควรทา้ ใหท้ ว่ั ถงึ เพื่อท้าให้คอนกรตี ไหลลงไปเตม็ ทุกส่วนของแบบ

129 ใบความรู้ชื่อวชิ า คอนกรีตเทคโนโลยี หน่วยที่ 3ชื่อหนว่ ย คอนกรตี สอนคร้งั ท่ี 13ช่ือเรื่อง คอนกรตี จานวนช่วั โมง 22. การเก็บและกองวัสดทุ ่ีใช้ในงานคอนกรีต การเก็บและกองวัสดุทใี่ ชใ้ นงานคอนกรีตเป็นเร่อื งท่สี ้าคญั อยา่ งหน่งึ เพราะถ้าเกบ็ หรอื กองไม่ถูกวธิ ีอาจท้าให้วสั ดุนนั ๆ เสียหาย ใช้การไม่ได้ ทา้ ใหเ้ สียทังเวลาและทรพั ยส์ ิน วิธีทถี่ ูกต้องมีดังนี 2.1 การเก็บปนู ซเี มนต์ การเกบ็ ปูนซีเมนต์ ควรเก็บในลักษณะท่กี นั ฝน กันนา้ หรอื กันความชืน เพราะถา้ ปนู ซเี มนตเ์ ปยี กหรอืชืนเสียก่อนน้ามาผสม จะก่อตัวเปน็ ก้อนแข็ง ทา้ ให้เส่ือมคุณภาพได้ ฉะนนั ควรเกบ็ ในถังเหลก็ ทีม่ ีฝาปดิ ป้องกนันา้ หรอื ความชืนได้ กน้ ถงั ควรหมุนใหพ้ ้นจากระดบั พืนดนิ ถ้าต้องการเกบ็ เปน็ จ้านวนมากอาจเก็บในไซโลซึง่บริษัทผู้ผลิตจะน้ามาตดิ ตงั ให้ ตามปกตปิ ูนซีเมนต์บรรจุในถุงซ่ึงทา้ จากกระดาษดราฟตห์ ลายชนั ปอ้ งกันความชนืไดด้ อี ยู่แลว้ น้าหนักตอ่ ถงุ คือ 50 กโิ ลกรัมก็สามารถยกไดโ้ ดยคนงานคนเดยี ว ฉะนนั การเกบ็ ปนู ซเี มนต์ท่ีบรรจมุ าในถงุ กระดาษชนดิ นีมกั เก็บกองซ้อนกนั ในโรงซึ่งมหี ลังคาและมฝี ากันฝนได้ 2.2 การเก็บวัสดผุ สมอยา่ งละเอียด การเกบ็ วสั ดุผสมอย่างละเอยี ด ตัวอย่างเช่น ทราย ควรกองแยกกนั เช่น ทรายหยาบ ทราบละเอียดอย่าใหก้ องใกล้กนั จนอาจเกิดความสับสนแตค่ นงานในการน้าไปใช้ได้ 2.3 การเกบ็ วัสดุผสมย่อยอย่างหยาบ การเกบ็ วสั ดผุ สมย่อยอย่างหยาบ ตวั อย่างเชน่ หิน ควรกองให้แยกขนาดกนั และไม่ควรกองในซง่ึ อาจถกู ปนโดยสารเคมหี รือน้ามันซึ่งอาจกระเดน็ มาถงึ กองได้ 2.4 การเกบ็ สารผสมเพ่ิม การเก็บสารผสมเพิ่ม ต้องป้องกันการระเหยหรือเส่ือมคุณภาพซึ่งอาจมาจากความร้อน ความชืนการละลายตัว ต้องพยายามป้องกันไม่ให้มีการเปล่ียนอุณหภูมิมากแตกต่างกัน ฉะนันควรเก็บในที่ซึ่งมีหลังคาคลุมและระวังเก็บรกั ษาและใช้ตามคา้ แนะน้าของบริษัทผผู้ ลติ3. การผสมคอนกรีต อตั ราส่วนผสมของคอนกรีตจะได้จากการออกแบบหาปฏิภาคส่วนผสม เพ่ือให้ได้คอนกรีตทมี่ ีความข้นเหลวง่ายในการท้างาน ท้าให้คอนกรีตท่ีแข็งมีก้าลังรับแรงและความคงทนและในราคาท่ีประหยัด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะใช้สัดส่วนการผสมให้ดีเพียงใด ถ้าการผสม การล้าเลียง การเท การท้าให้ตามท่ีต้องการ อัตราส่วนผสมของคอนกรีตจะได้จากออกแบบหาปฏิภาคส่วนผสม เพ่ือให้ได้คอนกรีตที่มีความข้นเหลวง่ายในการท้างาน ท้าให้คอนกรีตท่ีแข็งตัวมีก้าลังแรงและความคงทนตามที่ต้องการและในราคาประหยัด อย่างไรก็ตามถงึ แม้ว่าจะใช้สัดส่วนการผสมให้ดีเพียงใด ถ้าการผสม การล้าเลียง การเท การท้าให้คอนกรีตแน่นตัวตลอดจนการบ่มคอนกรีตท้าได้ไม่ดีพอ ก็จะไม่ได้คอนกรีตที่มีคุณภาพตามต้องการ การผสมต้องผสมให้ท่ัว พอที่จะกระจายวัสดุต่าง ๆ อย่างสม่้าเสมอและกระจายซีเมนต์เพสท์ไปบนผิวของวัสดุผสมโดยท่ัวถึง การล้าเลียง การเท และการสัน่ หรอื เขยา่ คอนกรีต กต็ ้องพยายามไม่ใหเ้ กิดการแยกตัว เพราะมีผลต่อก้าลังและความทนทานของคอนกรีต ในการส่นั หรือเขยา่ ควรทา้ ใหท้ ่ัวถงึ เพอื่ ท้าให้คอนกรีตไหลลงไปเต็มทุกสว่ นของแบบ

130 ใบความรู้ชื่อวชิ า คอนกรีตเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 3ชื่อหน่วย คอนกรีต สอนครง้ั ท่ี 13ชื่อเรือ่ ง คอนกรตี จานวนชว่ั โมง 2เพอื่ ขบั ไล่ฟองอากาศและเพื่อไมใ่ หห้ ินรวมกันเปน็ กระจุก ซึ่งจะทา้ ให้การยึดเหนย่ี วระหว่างคอนกรตี กับเหล็กเสริมหรือคอนกรีตใกล้ ๆ ดขี นึ การบม่ หรือบ้ารุงคอนกรตี ควรกระท้าต่อเนือ่ งกนั ใหน้ านที่สุดเท่าที่จะนานได้ ซึง่ จะท้าให้คอนกรีตมีก้าลังสูงมากขนึ ตามอายุส้าหรบั งานทใี่ ช้ท่วั ๆ ไป อัตราสว่ นผสมตา่ ง ๆ อาจใช้ตัวเลขดงั ตารางต่อไปนีเปน็ แนวทางในการท้างานตารางท่ี 3.1 อัตราส่วนของนา้ กบั ปนู ซีเมนต์คอนกรีต ลักษณะหิน ปรมิ าตรที่ใช้1:3: 6 แหง้ 32 ลิตรต่อปนู ซเี มนต์ 1 ถงุ (50 กก.)1: 3: 6 ชืน 28 ลติ รตอ่ ปนู ซเี มนต์ 1 ถุง (50 กก.)1: 2: 4 แหง้ 26 ลิตรตอ่ ปูนซเี มนต์ 1 ถุง (50 กก.)1: 2: 4 ชืน 23 ลิตรต่อปูนซเี มนต์ 1 ถงุ (50 กก.) วิธที ดสอบงา่ ย ๆ ว่าจา้ นวนน้าในคอนกรตี เหมาะสมหรือไม่ ท้าโดยน้าคอนกรีตทผ่ี สมแล้วมาวางบนฝ่ามอื แล้วก้ามือให้แน่น เมื่อคลายมืออก หากคอนกรีตเป็นกอ้ นตามทีก่ ้ามอื หมายความวา่ คอนกรตี นนั ไมเ่ หลวเกินไป วิธีทดสองดคู วามเหลวของคอนกรตี ตามหลักวิชาการอีกวิธีหนึ่งคอื ดูความยบุ ตัวของคอนกรตี เรียกวา่การทดสอบการยุบ (Slump Test) ซึง่ วธิ กี ารนีจะกล่าวถึงในสว่ นของการปฏิบตั ติ ่อไป4. ส่วนผสมของคอนกรตี ส่วนผสมของวสั ดตุ า่ ง ๆ ในคอนกรีตเปน็ เร่ืองส้าคัญท่ตี ้องระมดั ระวัง คอนกรตี จะมีคุณสมบัตดิ ีได้นนัจะตอ้ งระมัดระวังเกยี่ วกับความสะอาดของวสั ดุ คณุ สมบัติของวัสดุ ชนิดของปนู ซเี มนต์ อัตราสว่ นระหวา่ งน้ากับปนู ซีเมนต์ เพื่อไมใ่ ห้คอนกรีตข้นหรอื เหลวเกนิ ไป การผสมให้วสั ดุตา่ ง ๆ เขา้ กันจนเปน็ เนือเดยี ว อตั ราส่วนผสมของวสั ดนุ ันอาจใช้ได้ 2 วิธีคือ 4.1 อัตราส่วนผสมโดยน้าหนักของวสั ดุผสมชนิดต่าง ๆ 4.2 อตั ราส่วนผสมโดยปริมาตรของวัสดุผสม ในการผสมโดยคิดตามนา้ หนักของวัสดุนนั จะตอ้ งทราบนา้ หนกั ของวัสดุแตล่ ะชนดิ ท่ีนา้ มาผสมเสียกอ่ นปูนซีเมนต์ทบ่ี รรจมุ าจา้ หน่ายเป็นถุงกระดาษสีนา้ ตาลนัน 1 ถุงมีน้าหนกั 50 กิโลกรมั ทราย 1 ลกู บาศกเ์ มตรหนักประมาณ 1,650 กิโลกรัม และหินย่อย 1 ลกู บาศกเ์ มตรหนักประมาณ 1,600 กิโลกรัม (เหตทุ ี่หนิ ใน 1 ลูกบาศก์เมตรหนกั นอ้ ยกวา่ ทราย เพราะใน 1 ลูกบาศกเ์ มตร หินมีชอ่ งวา่ งระหวา่ งมวลมากกว่าทราย) ส้าหรับคอนกรีต 1 : 2 : 4 ท่ีต้องการให้รับก้าลังอัดประลัยได้ประมาณ 140 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร (จากแท่งทดสอบรูปทรงกระบอกท่ีหล่อแล้วได้ 28 วัน) และอัตราส่วนระหว่างน้ากับปูนซีเมนต์เป็น0.68 นัน ในคอนกรีต 1 ลูกบาศก์เมตรจะต้องใช้วัสดุผสมดังต่อไปนี ปูนซีเมนต์ 262 กิโลกรัม ทราย 657กโิ ลกรัม หนิ ยอ่ ย 1,274 กิโลกรมั และนา้ 180 กโิ ลกรัม

131 ใบความรู้ชื่อวิชา คอนกรตี เทคโนโลยี หน่วยที่ 3ช่ือหน่วย คอนกรีต สอนครง้ั ที่ 13ช่อื เร่อื ง คอนกรตี จานวนชว่ั โมง 2ส้าหรบั คอนกรตี 1 : 2 : 4 ท่ีตอ้ งการใหร้ ับก้าลังอดั ประลัยได้ประมาณ 140 กโิ ลกรมั ต่อตารางเซนตเิ มตร (จากแท่งทดสอบรปู ทรงกระบอกที่หล่อแล้วได้ 28 วัน) และอัตราส่วนระหว่างน้ากับปนู ซเี มนตเ์ ป็น 0.68 นัน ในคอนกรีต 1 ลกู บาศกเ์ มตรจะต้องใช้วสั ดุผสมดงั ต่อไปนี ปูนซเี มนต์ 262 กโิ ลกรัม ทราย 657 กโิ ลกรมั หนิ ยอ่ ย1,274 กโิ ลกรมั และนา้ 180 กโิ ลกรัมในการคิดสว่ นผสมตามปริมาตรนัน ส้าหรบั คอนกรีตทีม่ คี ุณภาพ ถ้าใชป้ นู ซีเมนต์ 1 ถงึ ซงึ มปี ริมาตร0.038 ลกู บาศกเ์ มตร จะตอ้ งใช้สว่ นผสมดังนี ปนู ซเี มนต์ 0.038 ลกู บาศกเ์ มตร ทราย 0.05 ลูกบาศก์เมตร หินย่อย 0.10 ลูกบาศกเ์ มตร และนา้ 0.03 ลกู บาศก์เมตรสา้ หรบั งานคอนกรตี เสริมเหล็กโดยท่ัวๆ ไป มสี ว่ นผสมคอื ปูนซเี มนต์ : ทราย : หนิ ย่อยหรือกรวดหรอืวสั ดุผสมยอ่ ยหยาบอืน่ ๆ ซ่งึ ตวงโดยปรมิ าตรดงั นีอัตราส่วน 1 : 1 ๑/๒ : ๓ ใชใ้ นกรณที ีห่ ล่อเสาและส่วนของโครงสรา้ งอาคารทต่ี ้องการใหแ้ น่นกบั น้าอตั ราสว่ น 1 : 2 : 4 ใช้ในกรณที ่ตี ้องการคอนกรตี เสริมเหลก็ ทีเ่ ปน็ โครงสรา้ งทวั่ ไป เช่น พืน คาน บันไดอตั ราส่วน 1 : 3 : 5 ใช้ในกรณีทหี่ ล่องานคอนกรตี ขนาดใหญ่ เชน่ ฐานรากขนาดใหญ่ หรอื ผนังหนา ๆ5. การเตรยี มแบบหล่อคอนกรีต คอนกรีตเป็นของเหลว จะมาป้ันเป็นรูปร่างอย่างดินเหนียวไม่ได้ แต่จะท้าแบบหล่อเพ่ือให้คอนกรีตเป็นไปตามรูปร่างของคานหรือเสาตามท่ีต้องการ แบบหล่องานขนาดเล็กๆ เช่น บ้านที่พักอาศัย แบบหล่อมักจะท้าด้วยไม้กระบากซ่ึงเป็นท่ีถูกความชืนแล้วไม่บิดเบียวหรืองอ และประกบด้วยไม้ยาง เมื่อท้าแบบเสร็จแล้วก่อนหล่อจะต้องตรวจดูดภายในแบบให้สะอาดปราศจากเศษตะปู ลวดผูกเหล็ก ผง ฯลฯ เพราะสิ่งเหล่านีเม่ือถอดแบบออกมาแล้วจะท้าให้คอนกรีตเสียความงาม สิ่งที่ส้าคัญอีกอย่างหน่ึงจะต้องไม่ให้มีร่องหรือรูปที่น้าร่ัวออกได้ เพราะคอนกรีตมีน้าเป็นส่วนผสม ถ้ามีรูหรือร่อง น้าปูนจะไหลออกไป ท้าให้วัสดุผสมย่อยไม่ติดกันหรือท้าให้เป็นโพรงได้ ซ่ึงจะท้าให้คอนกรีตนันขาดความแข็งแรงไปมาก หากมีเหล็กหรือนอตส้าหรับยึดส่วนกอ่ สรา้ งอ่นื ก็จะตอ้ งเตรียมฝังก่อนทจ่ี ะเทคอนกรีต6. การเทคอนกรตี การเทคอนกรตี นันจะต้องระวงั อยา่ ให้ส่วนผสมแยกออกจากนั จะท้าใหค้ อนกรีตเสยี ก้าลงั เช่น ในกรณที ี่เทคอนกรีตในระยะที่สูงมากๆ อาจท้าให้วสั ดผุ สมแยกตัวกนั ตามปกตใิ นเสาขนาดใหญ่นัน ถา้ การเทสูงกว่า 2เมตร จะต้องทา้ ทอ่ สา้ หรบั ล้าเลยี งลงไป แตใ่ นงานขนาดเลก็ เช่น บ้านพกั อาศยั ซึง่ เสาขนาดไมใ่ หญม่ ากและต้องเทเสาสูงเกือบ 3 เมตร ก็อนุโลมใหเ้ ทได้โดยไมต่ ้องใชท้ ่อ เพ่อื ให้คอนกรตี แทรกตัวเขา้ ในแบบหลอ่ ได้ทั่วถงึ และแนน่ ขณะเทจะต้องใช้เคร่ืองเขยา่ คอนกรตี ท่ีเรยี กวา่ เคร่อื งสั่น (Vibrator) การใชเ้ ครอื่ งนจี ะต้องใหส้ นั่ พอสมควร ถา้ สั่นมากจะท้าให้น้าปูนลอยขึนมาหนา้ ผิวคอนกรีต และการส่ันจะต้องระวงั อย่าให้ไปถูกเหล็กเสริมเข้า ในการเทคอนกรีตถนน คสล. ใชว้ ธิ ตี ิดเครอ่ื งสั่นสะเทือนไว้ทส่ี ่วนบนของไม้เกรียงยาวท่ีปากคอนกรีตใหเ้ ข้าทก่ี ็มี

132 ใบความรู้ชอื่ วิชา คอนกรีตเทคโนโลยี หน่วยที่ 3ชื่อหนว่ ย คอนกรตี สอนครง้ั ท่ี 13ชอื่ เรือ่ ง คอนกรีต จานวนช่วั โมง 2การหยุดการเทในแต่ละวัน ก็เป็นเรื่องส้าคัญ เพราะในงานก่อสร้าง บางครังส่วนโครงสร้างมีระยะยาวและไม่สามารถเทให้แล้วเสร็จในวันเดียวได้ จะต้องหยุดและเทต่อในวันรุ่งขึน ในการก่อสร้างบางครังเราจะเห็นการหยุดหล่อที่ข้างๆ เสาและรอยหยุดท้าลาดเปน็ แบบที่เรียกว่า ปากฉลาม ซ่ึงเปน็ การไม่ถูกต้อง ต้าแหน่งท่ีจะหยุดเทคอนกรีตในคานนัน อยู่ที่ต้าแหนง่ ซ่ึงมีแรงเฉือนต้่าสุดคือที่ก่งึ กลางคาน และแนวหยุดเป็นแนวตังฉากกับแนวคาน การที่ท้าดังนีเพ่ือให้คอนกรีตที่มาเทต่อในวันรุ่งขึนประสานกันดีและรับแรงอัดได้เต็มที่ การเทต่อในวันรุ่งขึนจะต้องท้าความสะอาดหน้าตัดที่เว้นหยุดไว้ให้สะอาด แล้วทาด้วยปูนซีเมนต์ผสมน้าอย่างข้น หรือทาด้วยสารเคมสี ้าหรบั ตอ่ คอนกรีตบางชนดิ ทม่ี จี า้ หนา่ ยในทอ้ งตลาดกไ็ ด้7 .การบ่มคอนกรตี การบ่มคอนกรตี เป็นวธิ ีป้องกนั ไม่ใหค้ อนกรตี แตกร้าวและเสยี ก้าลังได้ การบ่มปกตสิ ้าหรับปูนซีเมนตซ์ ิลิกาหรือท่ีเรียกว่าปูนซีเมนต์ผสมที่น้ามาใช้ผสมคอนกรีตนัน หลังจากเทคอนกรีตแล้วต้องการระยะเวลา 14 วันจึงจะแข็งตวั ดี ฉะนันจงึ ต้องบม่ อยปู่ ระมาณ 14 วนั การบ่มอาจทา้ ได้โดยวธิ ีตา่ งๆ ดังตอ่ ไปนี 7.1 ใชก้ ระสอบป่าน เชน่ กระสอบขา้ วสารชบุ นา้ ให้ชุ่มใช้คลุมและรดน้าอยา่ ให้กระสอบแห้งได้ ในกรณีทีเ่ ป็นเสาหรือคาน คสล. 7.2 แบบไม้ถ้าไม่จ้าเป็นๆ ไม่ต้องรดี ถอด เพราะแบบไมเ้ ป็นเคร่อื งป้องกนั ความร้อนไดเ้ ป็นอยา่ งดี 7.3 ถ้าเปน็ พนื หรือถนน อาจใช้ดนิ เหนียวปนั้ ตังเป็นขอบโดยรอบ แลว้ ขงั น้าไว้บนพืนหรอื ถนนนนั 7.4 ถา้ เป็นพนื หรือถนน อาจใชข้ ีเลื่อยหรอื ทรายเกลยี่ ใหท้ ว่ั ผวิ หนา้ และรดนา้ ชมุ่ ตลอดเวลาทีบ่ ม่ 7.6 ถ้าเป็นเสาหรือคานที่ไมม่ ีกระสอบคลุม อาจใช้วิธีฉีดนา้ วันละหลายๆ ครังเพื่อให้คอนกรีตภายนอกชมุ่ ชืนอย่เู สมอ ระยะเวลาในการบม่ คอนกรีตนันขึนอยู่กับประเภทของปูนซีเมนต์และลกั ษณะการใชง้ านของโครงสรา้ งนนั ๆ ซึง่ อาจก้าหนดโดยประมาณดังตารางนีตารางที่ 3.2 ตารางการกาหนดระยะเวลาโดยประมาณของการบ่มคอนกรีต งาน คอนกรีตท่ีใช้ ปนู ซเี มนตต์ รา เอราวัณ พญานาค 7เสา คาน กา้ แพง ปนู ซเี มนต์ตรา ปนู ซเี มนตต์ ราพนื ถนนในบริเวณบา้ น เสอื งเู ห่า นกอินทรี ช้าง พญานาค เพชร เศยี ร สามเพชรถนนชัน 1 ลานว่งิ เครอ่ื งบนิเสาเขม็ 7 วัน 7 วัน 4 วนัแผ่นพืนบางๆ 8 วัน 8 วนั 4 วนั 7 วัน - 14 วนั 7 วนั 21 วนั 14 วัน 7 วัน 14 วนั 14 วนั

133 ใบความรู้ช่อื วิชา คอนกรีตเทคโนโลยี หน่วยที่ 3ชอ่ื หนว่ ย คอนกรีต สอนครงั้ ที่ 13ชื่อเรื่อง คอนกรีต จานวนชว่ั โมง 28. การถอดแบบหล่อคอนกรีตระยะเวลาในการถอดแบบคอนกรีตเสริมเหล็กหลังจากเทคอนกรีตเข้าไปในแบบหล่อเสร็จ เรียบร้อยแล้วนัน จะใช้เท่าใดขึนอยู่กับชนิดของปูนซีเมนต์ที่ใช้และส่วนของโครงสร้างท่ีหล่อด้วยคอนกรีต ซ่ึงอาจประมาณได้ดังตารางต่อไปนีตารางที่ 3.3 การกาหนดระยะเวลาโดยประมาณของการถอดแบบหลอ่ คอนกรตีชนดิ ของอาคารคอนกรีตที่ควร ปูนซีเมนตซ์ ลิ ิกา ปูนซีเมนตแ์ ขง็ ตัวเร็ว ปูนซีเมนตป์ อร์ตแลนด์ถอดแบบ ใหร้ ับน้าหนักตัวเองได้ มีปนู ซเี มนต์ใน ปนู ซเี มนต์ใน ปูนซเี มนตใ์ น 1 ลบ.ม. 1 ลบ.ม. คอนกรตีคอนกรตี เสรมิ เหล็ก 1 ลบ.ม. คอนกรตี คอนกรีต(หล่อในทก่ี อ่ สร้าง) 300- 375- 450-เช่น คาน คง 350 425 500 250- 350- 425- 300- 350- 425-คา้ ยนั กา้ แพงกนั ดิน กก. กก. กก. 325 400 500 350 400 500คอนกรีตเสริมเหล็กชนิดบาง วนั วัน วนั กก. กก. กก. กก. กก. กก.บนพืนคอนกรีต วัน วัน วนั วนั วัน วนัโครงทรี่ ับน้าหนักบดิ 21 21 15เช่น บนั ได 15 10 7 853คอนกรตี ที่ไมม่ ีเหล็กเสริม 21 21 21ส่วนที่ส้าคญั หรือคอนกรตี 18 14 10 12 7 5เสรมิ เหล็กทต่ี ้องรับก้าลงั 28 28 28อยา่ งแรง เช่น เข็ม 21 21 15 14 10 79. คอนกรตี ผสมเสร็จ คอนกรีตผสมเสร็จผลิตโดยบริษัทที่ผลิตปูนซีเมนต์เพ่ือบริการลูกค้า คอนกรีตชนิดนีมีคุณภาพดีกว่าที่ผสมที่ก่อสร้าง เพราะการผสมคอนกรีตนีใช้เคร่ืองผสมที่ดีได้มาตรฐาน การกองแยกวัสดุย่อยแยกกันไม่ปะปนกนั และคณุ ภาพของวัสดุผสมย่อยได้มาตรฐาน ASTM แมแ้ ต่นา้ ท่ีใชผ้ สมกใ็ ช้ตามาตรฐานทถี่ ูกต้อง ปูนซเี มนต์ใช้ตามมาตรฐานของ สมอ. บริษัทผู้ผลิตได้ผลิตคอนกรีตนีหลายอย่างด้วยกัน โดยก้าหนดคุณสมบัติในการต้านแรงอัดต่างๆ กันตามความประสงค์ของผู้ใช้ ซ่ึงคุณสมบัติของแรงอัดนีได้ทดสอบจากแท่งคอนกรีตแบบขนาด 15×15×15เซนติเมตร หรือขนาดรูปทรงกระบอกเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 เซนติเมตร สูง 30 เซนติเมตร เมื่อหล่อแล้วได้ 28วนั ดังตารางท่ี 4 โดยก้าหนดชันคุณภาพกา้ กับไว้เพื่อสะดวกในการสง่ั ซือ

134 ใบความรู้ หนว่ ยที่ 3 ช่อื วชิ า คอนกรตี เทคโนโลยี สอนครง้ั ที่ 13 ชอ่ื หนว่ ย คอนกรตี จานวนชั่วโมง 2 ชอ่ื เร่ือง คอนกรีตตารางที่ 3.4 คุณสมบัติในการต้านแรงอดั ของคอนกรตีชันคณุ ภาพ คา่ การต้านแรงอัดเมื่อคอนกรีตอายุ 28 วัน (กก./ตร.ซม.) 140 ชนดิ รูปลกู บาศก์ 15×15×15 ชนดิ ทรงกระบอก Ø 15 ซม. สูง 30 ซม. 180 210 140 100 240 180 140 280 210 180 320 240 210 350 280 240 380 320 280 400 350 300 380 320 400 350 โครงสร้างคอนกรีตท่ีใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน มีทังชนิดท่ีหล่อกับท่ี (Cast in situ) ซ่ึงใช้กันไม่น้อยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นแบบท่ีสะดวกและคุ้นเคยกันมากเพราะท้าได้ง่าย เพียงแต่ผสมคอนกรีตจากวัสดุท่ีเตรยี มไว้แล้วไปเทลงไปในแบบหลอ่ ทเี่ ตรยี มไว้ เม่ือคอนกรตี ได้อายกุ ็ถอดแบบหล่อออก แล้วบ่มคอนกรีตดว้ ยน้าอีกเป็นเวลาพอสมควร ก็ใช้เป็นโครงสร้างรับน้าหนักบรรทุกตามที่ออกแบบไว้ได้ อีกแบบหนึ่ง ได้แก่คอนกรีตหล่อส้าเร็จรูป (Precast Concrete) ซ่ึงผลิตจากโรงงาน เช่นระบบพืนอาคาร พืนสะพาน เสาเข็มคอนกรีตส้าหรบั ฐานรากคอนกรตี ทีใ่ ชเ้ ปน็ โครงสร้างอาจแบ่งเปน็ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. คอนกรีตล้วน (Plain Concrete) ใช้แต่คอนกรีตอย่างเดียวล้วน ๆ ไม่มีวัสดุอ่ืนมาเสริมหรือร่วมดว้ ยเลย ได้แก่ โครงสรา้ งที่มีแต่แรงอดั กระท้าอย่างเดียว เชน่ ฐานเครอ่ื งจักรทห่ี นามาก ๆ หรอื เขื่อนกันดินแบบท่ีใช้น้าหนักของตวั เขือ่ นตา้ นแรงดันของดิน (Gravity Wall) ทีส่ งู ไม่เกนิ 1.00 เมตร เปน็ ตน้ 2. คอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforced Concrete) ใช้เหล็กเส้นเสริมร่วมกับคอนกรีตโดยหล่ออยู่ในเนือคอนกรีต เป็นโครงสร้างท่ีมีแรงอัดและแรงดึงกระท้าซ่ึงเกิดจากโมเมนต์ดัด ส่วนใดของรูปตัดที่ต้องรับแรงอัดก็ให้คอนกรีตท้าหน้าที่ต้านทานแรงอัด และส่วนใดที่ต้องรับแรงดึงก็ใช้เหล็กเสริมท้าหน้าท่ีต้านแรงดึงทังนีเพราะคอนกรีตมีคุณสมบัติต้านทานแรงดึงและแรงอัดได้ดี ประกอบกับเหล็กเสริมและคอนกรีตมีสัมประสิทธิ์การยืดหดตัวใกล้เคียงกัน จึงช่วยกันรับและถ่ายแรงได้ดี โครงสร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็กจึงมีความแข็งแรงมากกว่าโครงสรา้ งแบบคอนกรตี ล้วน จึงเป็นท่นี ยิ มมากในปัจจุบัน 3. คอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรง (Prestressed Concrete) เป็นคอนกรีตท่ีถูกอัดแรงไว้ก่อนใช้งานโดยใช้ลวดเหล็กท่ีทนแรงดึงสูง เป็นแบบท่ีเอาคอนกรีตมาใช้ประโยชน์หมดทังรูปตัด ดีกว่าคอนกรีตเสริมเหล็กชว่ ยใหป้ ระหยดั ขึน ใชก้ บั งานสะพาน และ อาคาร เชน่ ในระบบพืน เปน็ ต้น

135 ใบความรู้ชอ่ื วิชา คอนกรตี เทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 3ช่ือหนว่ ย คอนกรตี สอนคร้ังที่ 13ชื่อเร่อื ง คอนกรีต จานวนชัว่ โมง 2 จากท่ีได้กล่าวข้างต้น จะเห็นว่าเม่ือจะน้าคอนกรีตไปใช้เป็นโครงสร้างจ้าเป็นต้องรู้จักคุณสมบัติท่ีส้าคัญและที่มีประโยชน์ของวัสดุคอนกรีต ต้องรู้จักวิธีด้าเนินการเพ่ือให้ได้คอนกรีตท่ีดี ท่ีจะช่วยให้เทคอนกรีตได้สะดวก ไม่เป็นโพรง และได้คอนกรีตท่ีมีก้าลังความแข็งแรงและความทนทานตามที่พึงประสงค์ ในราคาท่ีประหยัด รูปท่ี 1.1 แสดงปัจจัยต่าง ๆ ท่ีควรได้รับการพิจารณาเพื่อท้าให้ได้คอนกรีตที่ดี มีคุณภาพและความคงทนตามต้องการ และในราคาที่ประหยัด ในแต่ละปัจจัยท่ีแสดงในรูปนีมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันหากสามารถดา้ เนนิ การควบคุมและตรวจสอบให้เกิดการเหมาะสมกันดีก็อาจเรียกขบวนการท้าหรือผลิตคอนกรีตนันว่ามคี วามสมบูรณแ์ ละเหมาะสม (Balance) คอนกรีตท่ดี ี (Good Concrete) การคดั เลือกวสั ดุ การควบคมุ การผลิต คณุ ภาพท่ตี อ้ งการ ราคา (Selection of Material) (Control of Production) (Desirable Properties) (Cost) ชนดิ หรอื ประเภททจ่ี ะใช้  การชง่ั ตวงส่วนผสม  ความสามารถเทได้  ค่าวัสดุ ปริมาณทตี่ อ้ งการ  การผสม  ความสมา้่ เสมอ  คา่ แรง ความสมา้่ เสมอ  การล้าเลยี ง  ก้าลังต้านทาน  ค่าอุปกรณ์  การเท  ความทนทาน  การตกแตง่ ผวิ  ความทบึ นา้ และเคร่อื งมอื  การบม่  ความคงตวั  หนว่ ยนา้ หนกั การควบคุมและตรวจสอบ รปู ท่ี 3.1 ปัจจัยในการทาคอนกรีตทีด่ ี

136


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook