Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมรรถนะสำคัญ 25-2-62ล่าสุด

สมรรถนะสำคัญ 25-2-62ล่าสุด

Description: สมรรถนะสำคัญ 25-2-62ล่าสุด

Search

Read the Text Version

การสืบสอบทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตร์ เป็ นความสามารถในการใช้วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ เพ่อื การแสวงหาความรู้ หรือคาถามท่ตี ้องการ อาจมีการใช้และสร้างแบบจาลองเพ่อื ความเข้าใจเร่ืองราว ในธรรมชาติ มีการใช้เหตุผลเพ่อื สนับสนุนหรือคัดค้านสู่การตดั สินใจ ได้คาตอบ ตลอดจนสร้างนวัตกรรมเพ่อื แก้ปัญหาชีวติ ประจาวันด้วยการเป็ นผู้สนใจใฝ่ รู้ มเี หตุผล รวมทงั้ มีจนิ ตนาการ ๓.การสืบสอบทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตร์ (Scientific Inquiry and Scientific Mind)

ภาษาองั กฤษเพ่อื การส่อื สาร เป็ นความสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการรับสาร และการส่งสาร การมีปฏิสัมพนั ธ์ มกี ลยุทธ์ในการตดิ ต่อส่ือสาร สามารถส่ือสารได้ถูกต้อง เหมาะสมกบั บริบททางสังคมและวฒั นธรรม มีเจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรู้และ การใช้ภาษาอังกฤษ สามารถส่ือสารแลกเปล่ียนและถ่ายทอดความคดิ ประสบการณ์ และวัฒนธรรมไทยไปยังสังคมโลกได้อย่างสร้างสรรค์ ม่ันใจ ๔ ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่ือสาร (English for Communication)

ทกั ษะชีวติ และความเจริญแห่งตน ทกั ษะชีวติ เป็ นความสามารถท่จี าเป็ นในการใช้ชีวติ อย่างมีประสทิ ธิภาพและมคี วามสุข โดยการน้อมนาหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้สร้างความสมดุลและพอดใี นการใช้ชีวติ มีการรู้จกั ตนเองทงั้ จุดเด่น และจุดบกพร่องและนามาใช้ในการ กาหนดเป้ าหมายของชีวติ กนิ อยู่ ดู ฟังเป็ นมีสตสิ มั ปชัญญะบริหารจดั การ และ ดาเนินชีวติ สู่เป้ าหมาย มีการน้อมนาหลกั ศาสนา ท่ตี นนับถอื มาเป็ นเคร่ืองยดึ เหน่ียวในการดารงชีวติ มกี ารเรียนรู้ด้วยความสุขอย่างต่อเน่ืองตลอดชีวติ มีการแสวงหาความรู้ แบ่งปันความรู้ ตระหนักในความสาคญั ของการเรียนรู้ท่สี ่งผลต่อการพฒั นาตนเอง พร้อมเผชญิ ปัญหา ปรับตัวและพัฒนาตนเอง อย่างต่อเน่ือง มีการปรับตวั และฟื้นคืนสภาพอย่างรวดเร็วเม่ือเผชญิ กบั ปัญหา และความเปล่ยี นแปลง สามารถป้ องกนั และ หลกี เล่ยี งจากภยั ต่างๆสร้างปฏสิ ัมพนั ธ์ท่ดี ี พร้อมเกือ้ กูลช่วยเหลอื เพ่อื น ครอบครัว และผู้เก่ยี วข้องเพ่อื ความสุขในการอยู่ร่วมกนั ปฏบิ ตั หิ น้าท่ตี ่อสังคมได้เหมาะสมกบั บทบาทและหน้าท่ี ความเจริญแห่งตน เป็ นการพฒั นาตนเองให้มชี ีวติ อย่างสมดุลทกุ ด้านทงั้ ทางด้านร่างกายจติ ใจอารมณ์สังคมสตปิ ัญญาและ สุนทรียะ มคี วามพงึ พอใจในการใช้ชีวติ นับถอื ตนเอง พ่งึ พาตนเองและพัฒนาตนเองให้มสี ุขภาวะท่ดี ี มีสุนทรียภาพช่ืนชมความ งามของธรรมชาตแิ ละศลิ ปวฒั นธรรม เหน็ ความสาคญั มสี ่วนร่วมในการรักษาสบื ทอดส่งต่อทะนุบารุงรักษาวฒั นธรรมให้ดารงสบื ทอดต่อไปได้ ๕. ทักษะชีวติ และความเจริญแห่งตน (Life Skills and Personal Growth)

ทกั ษะอาชีพและการเป็ นผู้ประกอบการ เป็ นความสามารถของบุคคลท่มี ุ่งเน้นการสร้างความพร้อมสาหรับการทางานการประกอบอาชีพ และเป็ น ผู้ประกอบการท่เี กอื้ กูลสงั คม โดยบุคคลต้องรู้จักความถนัด และความสนใจของตนเอง และนาสู่การเลอื กอาชีพท่เี หมาะสมกบั ตนเอง การพัฒนาทกั ษะในการทางาน การทางานด้วยการพ่งึ พาตนเอง ยึดหลักการบริหารจัดการ และการนาหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งในการปฏบิ ตั งิ านด้านการเงนิ เป็ นการประกอบการท่เี น้นนวตั กรรม การสร้างผลติ ภณั ฑ์เชิงสร้างสรรค์ท่มี ี คุณภาพสงู มีจรรยาบรรณพร้อมรับผิดชอบสังคม ความรอบรู้ทางการเงนิ เป็ นความรู้ ทกั ษะ และทศั นคตขิ องบคุ คลในการจัดการการเงนิ และ การสร้างทศั นคตทิ าง การเงนิ โดยอาศัยความรู้ ข้อมูล และสารสนเทศอย่างครบถ้วนจนสามารถจดั การการเงนิ ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพทงั้ การสร้างรายได้ การควบคุมการใช้จ่าย การเกบ็ ออม การแปลงเงนิ ออมเป็ นทรัพย์สนิ การลงทนุ เพ่ือสร้างรายได้และการเพ่มิ มลู ค่าของทรัพย์สนิ ๖. ทกั ษะอาชีพ และการเป็ นผู้ประกอบการ (Career Skills and Entrepreneurship)

ทกั ษะการคดิ เป็ นความสามารถในการดาเนินการคดิ เพ่อื ให้ได้คาตอบหรือผลลัพธ์ท่ตี ้องการ เม่ือบุคคลได้รับส่ิงเร้าหรือข้อมูลต่างๆ เข้ามา สมอง จะมีกระบวนการในการจัดกระทาต่อส่ิงเร้านัน้ ในลักษณะต่างๆ กัน เกดิ เป็ นกระบวนการคิดท่หี ลากหลายซ่งึ จดั กระทาต่อส่ิงเร้าในลักษณะต่างๆ กัน เกิดเป็ น กระบวนการการคิดท่หี ลากหลาย ซ่ึงจดั จาแนกได้เป็ นกลุ่มสาคัญ ๓ กลุ่ม ๑. ทกั ษะการคิดพนื้ ฐาน เช่น ทกั ษะการจา การเก็บความรู้ การดงึ ความรู้มาใช้ การ อธิบาย ๒. ทกั ษะการคิดท่เี ป็ นแกนสาคญั เช่นทกั ษะการสังเกต การเปรียบเทยี บ การจัดกลุ่ม จดั ประเภท การแปลความ ขยายความ การเช่ือมโยง การสรุป ๓. ทกั ษะการคิดขนั้ สูง เช่น ทกั ษะการนิยาม การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การหาแบบแผน การจดั ระบบ โครงสร้าง การสร้าง การคิดอย่างมี วจิ ารณญาณ ทกั ษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ เป็ นกระบวนการคิดท่มี ุ่งไปท่กี ารตรวจสอบความถกู ต้องของข้อมูล เหตผุ ล และหลักฐานของเร่ืองท่พี จิ ารณาว่ามี ความน่าเช่ือถือเพยี งใด มีประเดน็ อะไรท่เี ป็ นจุดอ่อน สามารถโต้แย้งได้โดยมหี ลักฐานสนับสนุน ซ่ึงผลการวพิ ากษ์และประเมินข้อมลู นีจ้ ะเป็ นข้อมูลสาคัญท่ี นาไปพจิ ารณาร่วมกับข้อมูลด้านอ่นื ๆ เช่นความเหมาะสมตามหลักกฎหมาย ศีลธรรม คุณธรรม ค่านิยม ความเช่ือและบรรทดั ฐานทางสังคมและวัฒนธรรม อันจะนาไปสู่การตดั สินใจอย่างมีวจิ ารณญาณ ทกั ษะการแก้ปัญหา เป็ นกระบวนการคิดท่มี ุ่งไปท่คี วามเข้าใจเหตุและผลของปัญหา การแก้ปัญหาให้ได้ผลจะต้องหาต้นเหตุของปัญหานัน้ และขจัด ท่เี หตุซ่ึงต้องอาศยั วิธกี ารท่เี หมาะสม เม่ือได้วธิ ีการท่นี ่าจะดที ่สี ุดแล้ว ก็ต้องวางแผนดาเนินการแก้ไขปัญหานัน้ อย่างเป็ นลาดบั ขัน้ ตอน และลงมือทาตามแผน นัน้ เก็บและวิเคราะห์ข้อมูล สรุปผล ปรับปรุง จนบรรลุผลตามเป้ าหมายท่ตี ้องการ ทกั ษะการคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ เป็ นกระบวนการคิดท่ตี ้องอาศัยจนิ ตนาการ และทกั ษะพนื้ ฐานด้านการคดิ คล่อง คดิ ยืดหยุ่น คิดหลากหลาย รวมทงั้ การคิดวิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพ่อื ให้ได้ส่ิงใหม่ท่แี ตกต่างไปจากเดมิ ดกี ว่า มีประโยชน์ มคี ุณค่ามากกว่าเดมิ การคิดริเร่ิมอาจเป็ นการปรับหรือประยุกต์ ของเดมิ ให้อยู่ในรูปแบบใหม่ หรืออาจเป็ นการต่อยอดจากของเดมิ หรือเป็ นการริเร่ิมส่ิงใหม่ขนึ้ มาเลยก็ได้ ๗ ทกั ษะการคดิ ขัน้ สูงและนวัตกรรม (Higher-order Thinking Skills and Innovation)

การรู้เท่าทนั ส่ือ สารสนเทศ และดจิ ทิ ลั เป็ นความสามารถในการเข้าถงึ เข้าใจสร้างและใช้ส่ือสารสนเทศและเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั เพ่ือการเรียนรู้และใช้เป็ น เคร่ืองมอื ในการเปล่ียนแปลงสงั คมอย่างรู้เท่าทนั ตนเองรู้เท่าทนั ส่ือและรู้เท่าทนั สังคมโดยเฉพาะส่ือซ่งึ มีการพฒั นาอย่างซับซ้อน กลายเป็ นส่ือหลอมรวม (Convergence) สามารถจาแนกสมรรถนะของผู้เรียนตามช่องทางและลักษณะของส่ือได้๓ประการคือ การรู้เท่าทนั ส่ือ (Media Literacy) เป็ นความสามารถในการอ่านส่ือให้ออกมที กั ษะในการเข้าถงึ ส่ือวเิ คราะห์ส่อื ตีความ เนือ้ หาของส่ือประเมนิ คณุ ค่าและเข้าใจผลกระทบของส่อื และสามารถใช้ส่อื ให้เกดิ ประโยชน์ได้ การรู้เท่าทนั สารสนเทศ (Information Literacy) เป็ นความสามารถในการประเมนิ เลือกใช้และส่อื สารข้อมูลใน หลากหลายรูปแบบได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพเพ่อื การเรียนรู้ด้วยตนเองและเรียนรู้ตลอดชีวติ การรู้เท่าทนั ดจิ ทิ ลั (Digital Literacy) เป็ นความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั เคร่ืองมอื ส่อื สารส่ือออนไลน์ต่างๆ เพ่ือค้นหาข้อมลู ประมวลผลและสร้างสรรค์ข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ ๘. การรู้เท่าทนั ส่ือสารสนเทศและดจิ ทิ ลั (Media, Information and Digital Literacy)

การทางานแบบรวมพลัง เป็ นทมี และมีภาวะผู้นา การทางานแบบร่วมมือรวมพลังนัน้ เป็ นการร่วมกันทางานตามบทบาทเพ่ือให้บรรลุเป้ าหมายท่กี าหนดร่วมกัน อีกทงั้ ส่งเสริม บ่มเพาะความสัมพันธ์ทางบวก โดยผู้เก่ียวข้องตระหนักในการสนับสนุน แบ่งปัน แลกเปล่ียนความรู้ และ ความคิด พร้อมสนับสนุนเกือ้ กูลกันทุกด้าน นอกจากนีต้ ้อง ใส่ใจในการประสานความคิด ประนีประนอม เสนอทางเลือก และแนวปฏิบัตทิ ่ีทกุ ฝ่ ายยอมรับ สร้างและรักษาความสัมพนั ธ์ทางบวกกับสมาชกิ ภาวะผู้นา เป็ นคุณลักษณะของบุคคลท่ีสามารถแก้ปัญหาและใช้มนุษยสัมพันธ์ท่ีดีเพ่ือชีแ้ นะแนวทางให้ไปสู่ เป้ าหมายและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่ืนได้พัฒนาตนเองและนาจุดเด่นของแต่ละคนมาใช้ปฏิบัตงิ านในฐานะสมาชกิ กลุ่มท่ีดี เพ่ือให้บรรลุผลสาเร็จร่วมกัน ๙. การทางานแบบรวมพลัง เป็ นทมี และมีภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork & Leadership)

การเป็ นพลเมืองต่ืนรู้ท่มี ีสานึกสากล เป็ นพลเมืองท่ีตระหนักในศักยภาพของตนเอง ศรัทธาและเช่ือเร่ืองศักด์ศิ รีความเป็ นมนุษย์ การอย่รู ่วมกัน ท่ามกลางความหลากหลายมีความรู้ความสามารถเชงิ การเมืองท่ีเอือ้ ให้สามารถอยู่ร่วมกันและปกครองกันเองภายใต้ ระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข ตระหนักในบทบาทและหน้าท่ี สิทธิและเสรีภาพ ความเท่าเทียมและเป็ นธรรม มีความเป็ นเหตเุ ป็ นผล มีสานึกการเป็ นเจ้าของประเทศ ร่วมกันปรึกษาหารือเพ่ือแสวงหา แนวทางการแก้ปัญหา/ความขัดแย้งด้วยสันตวิ ธิ ี หรือพัฒนาสร้างสรรค์สังคมโดยรวมร่วมกันในระดับต่างๆ ได้แก่ ชุมชน ท้องถ่นิ ประเทศชาติ อาเซียนและโลก เหน็ ความเก่ียวเน่ืองเช่ือมโยงท่สี ่งผลถงึ กันและกันทงั้ หมด ๑๐. การเป็ นพลเมืองต่ืนรู้ท่ีมีสานึกสากล (Active Citizens with Global Mindedness

ตวั อยา่ งกรอบสมรรถนะหลกั ของผเู้ รยี นระดับการศึกษาขนั้ พื้นฐาน กรอบสมรรถนะหลักของผ้เู รียนระดบั ประถมศกึ ษาตอนต้น ( ป.๑ – ๓ ) ทกั ษะชีวิตและความเจริญแห่งตน (Life Skills and Personal Growth) ระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ระดับประถมศึกษาตอนตน้ ( ป. ๑ – ๓ ) คาอธบิ าย คาอธิบาย รู้จกั ตนเอง พงึ่ ตนเอง และดาเนนิ ชวี ิตตามหลกั ปรชั ญา รู้จักตนเอง พงึ่ ตนเองและดแู ลตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั ของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถบริหารจัดการเร่ืองของ มสี ุขนิสยั ในการทากิจวตั รประจาวนั สามารถปอ้ งกัน ตนเองไดอ้ ย่างสมดลุ ทงั้ ทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ตนเองจากภยั ตา่ ง ๆ ควบคุมอารมณ์ของตนได้ และ สังคม และสติปญั ญา มสี ุขภาพแขง็ แรง เป็นคนดี มวี นิ ัย ปรบั ตนให้เล่น เรียน และทากิจกรรมตา่ ง ๆ ร่วมกบั มีสนุ ทรยี ภาพ ชน่ื ชมในความงามรอบตัว มีความมน่ั คง เพื่อน ๆ ได้ มสี มั มาคารวะ และปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ นื่ ไดอ้ ย่าง ทางอารมณ์ มีบุคลิกความเปน็ ไทยผสานความเปน็ สากล เหมาะสมกบั บทบาทของตน ปฏบิ ตั ิตามกฎ ระเบียบ และ ทะนุบารุงรักษาศลิ ปวัฒนธรรมของชาติ และธารง ขอ้ ตกลงของครอบครัว และโรงเรียน รับผิดชอบในหนา้ ท่ี เอกลักษณ์ความเป็นไทย สรา้ งและรกั ษาความสมั พันธ์ ของตน สามารถคิดหาวธิ ีแกป้ ญั หาท่ีเกดิ ข้นึ กับตน และ อันดกี บั บคุ คลอน่ื รับผิดชอบในบทบาทหน้าทข่ี องตนทีม่ ี ลองแกป้ ญั หาด้วยตนเอง มีสุนทรยี ภาพในความงาม ต่อครอบครัวและสงั คม พรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลง รอบตัว และเข้ารว่ มในกิจกรรมทางศลิ ปวัฒนธรรมของ สามารถเผชิญปญั หา แก้ปัญหา ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ ขึน้ และ สังคม ฟื้นคนื สภาพจากปญั หาไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ รวมทง้ั สามารถ นาตนเองในการเรยี นรู้ พฒั นาตนเองและพัฒนาชวี ติ ให้มี ความสขุ ความเจริญ กา้ วหน้าอยา่ งย่งั ยนื

ตวั อยา่ ง กรอบสมรรถนะหลักของผ้เู รยี นระดบั การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน กรอบสมรรถนะหลกั ของผเู้ รยี นระดบั ประถมศึกษาตอนตน้ ( ป.๑ – ๓ ) ทกั ษะชีวิตและความเจริญแห่งตน (Life Skills and Personal Growth) ระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน ระดบั ประถมศกึ ษาตอนต้น ( ป. ๑ – ๓ ) สมรรถนะ สมรรถนะ ๑.ร้จู กั ตนเอง พง่ึ ตนเอง และกาหนดเป้าหมายชวี ิตตามความสามารถและความถนัดของตน ๑.รู้จกั ตนเอง บอกสง่ิ ทส่ี ามารถทาได้ และสิ่งท่ีทาไมไ่ ด้ บอกได้ว่าตนชอบ วางแผนและดาเนนิ ชวี ติ ตามหลกั ของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอพียงเพ่ือไปสูเ่ ป้าหมาย ไม่ชอบอะไร บอกความคิด ความรสู้ กึ ความต้องการ และปญั หาของตนได้ ๒.มีวนิ ยั ในการดูแลจดั การตนเองให้มสี ขุ ภาวะทางกายท่ดี อี ยา่ งสมดุลกับ ๒.มวี ินยั ในการปฏิบตั ิตามสขุ บญั ญัติ ทากจิ วัตรประจาวนั ท้ังการกิน เลน่ เรยี น สุขภาวะดา้ นอน่ื ๆโดยมีสขุ ภาพแข็งแรง กนิ อยู่ ดู ฟงั เปน็ ปกปอ้ งตนเองให้ปลอดภัยจากภัย ชว่ ยทางาน พกั ผอ่ น นอนหลบั อย่างพอดี พอเหมาะกับวัย ตา่ ง ๆ ทั้งโรคภยั อบุ ัติภัย ภัยธรรมชาติ ภยั ทางเพศ ภยั จากสง่ิ เสพติดและอบายมขุ ตา่ ง ๆ ๓.ระมัดระวงั ตนเองจากภัยต่าง ๆ บอก หรือถามครู หรือผใู้ หญใ่ นเรอ่ื งท่ไี ม่รู้ ไม่ รวมทง้ั ภัยจากส่ือ สารสนเทศ และเทคโนโลยี แนใ่ จ กอ่ นตัดสนิ ใจ ๓. ควบคุมอารมณ์ ความคดิ และพฤตกิ รรมใหแ้ สดงออกอยา่ งเหมาะสม รกั ษาบคุ ลิกภาพ ๔.ควบคุมอารมณ์ ปรับตวั รว่ มเลน่ และเรียนกบั เพ่ือนๆได้ รูจ้ ักแบง่ ปัน ความเป็นไทยผสานกบั สากลอย่างกลมกลนื สามารถแก้ปัญหาดว้ ยสนั ตวิ ิธี ๔.เป็นคนดี สามารถแยกแยะสง่ิ ดีชั่วถูกผดิ มีความกลา้ หาญเชงิ จรยิ ธรรม ยืนหยัดในการทา ๕.ปฏิบตั ติ ามกฎ ระเบียบและขอ้ ตกลงของครอบครวั และโรงเรยี น รวมทั้งมี สง่ิ ที่ถกู ต้อง นอ้ มนาหลักศาสนาทตี่ นยดึ ถือมาเป็นเครือ่ งยึดเหน่ียวในการดารงชวี ิต สมั มาคารวะตอ่ ผู้ใหญ่และปฏิบตั ิตนตอ่ ผู้อน่ื ได้อยา่ งเหมาะสม ๕.รักษาระเบียบวินยั ของสงั คม สร้างและรักษาความสมั พนั ธอ์ ันดีกบั ผูอ้ ่นื รบั ผดิ ชอบใน ๖.ละเวน้ การกระทาทีไ่ มค่ วรทา และต้งั ใจทาความดี หรือชว่ ยคนในครอบครัว บทบาทหน้าทข่ี องตนทมี่ ตี ่อครอบครวั และสังคม และผู้อน่ื ๖.มีสนุ ทรยี ภาพ ชนื่ ชมความงามในธรรมชาติ ศลิ ปวัฒนธรรมและรักษาเอกลักษณ์ความเปน็ ๗.เขา้ ร่วมในกจิ กรรมทางศิลปะ นาฏศลิ ป์ ดนตรี นนั ทนาการ กีฬา รวมทง้ั การ ไทยให้ธารงต่อไป ชนื่ ชมธรรมชาติรอบตวั และการเข้ารว่ มในกิจกรรมทางศลิ ปวฒั นธรรม ๗. พรอ้ มรับความเปลีย่ นแปลง สามารถปรับตัว เผชิญปญั หา แก้ปัญหา ยอมรับผลท่เี กิดขนึ้ และฟืน้ คนื สภาพจากปัญหาไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ๘.สรา้ งแรงจูงใจและนาตนเองในการเรยี นรู้ เรยี นรูว้ ิธกี ารเรยี นรู้ โดยใช้ทักษะการเรียนรู้ หลากหลาย ทงั้ ทกั ษะการเรยี นรู้ ทักษะการสืบค้นข้อมูล ทกั ษะการสืบสอบ ทักษะการสร้าง ความรแู้ ละนวัตกรรม รวมทง้ั ทกั ษะการประยกุ ตใ์ ช้ความรู้เพื่อพัฒนาตนเองและชวี ติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook