Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore จัดทำโดย (1)

จัดทำโดย (1)

Published by pasreenchumnun, 2019-09-25 05:17:57

Description: จัดทำโดย (1)

Search

Read the Text Version

วสั ดใุ นชวี ติ ประจาํ วนั จดั ทําโดย ด.ญ. พชั รนิ ทร์ ชุมนวน ม.2/4 เลขที 28

คํานาํ หนงั สอื เล่มนีเปนรายวชิ า สว่ นหนงึ ของวชิ า การ ออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 โดยเนอื หาภายใน เล่มนีวา่ ด้วย เรอื ง วสั ดใุ น ชวี ติ ประจาํ วนั ผจู้ ดั ทําหวงั วา่ หนงั สอื เล่มนีจะเปน ประโยชนต์ ่อผอู้ ่าน หาก ผดิ พลาดประการใดต้อง ขออภัย ณ ทีนีด้วย

สารบญั 1.ไม้ 2.โลหะ 3.ยาง

ไม้ เปนวสั ดเุ นอื แขง็ ทีเกิดขนึ จาก กระบวนการธรรมชาติ โดยเปน ทรพั ยากรสาํ คัญทีสง่ อิทธพิ ลต่อ มนษุ ยท์ กุ ปจจยั อาทิ งานโครงสรา้ ง สถาปตยกรรม งานตกแต่ง เฟอรน์ เิ จอรส์ นิ ค้า การแพทยแ์ ละการ รกั ษา การผลิตเชอื เพลิง เพอื สรา้ ง พลังงาน ไม้ เปนทรพั ยากรคณุ ค่าทีมนษุ ย์ นยิ มใชง้ านตังแต่ครงั อดตี เนอื งจาก แปรรปู ไดห้ ลากหลาย ยดื หยุน่ จาํ นวน มหาศาล สามารถพบเหน็ ไดต้ ามเขต พนื ทีทัวไป แบง่ ออกเปนหลายประเภท เชน่

ไม้ เปนวสั ดเุ นอื แขง็ ทีเกิดขนึ จากกระบวนการ ธรรมชาติ โดยเปนทรพั ยากรสาํ คัญทีสง่ อิทธพิ ลต่อ มนษุ ยท์ กุ ปจจยั อาทิ งานโครงสรา้ งสถาปตยกรรม งานตกแต่งเฟอรน์ เิ จอรส์ นิ ค้า การแพทยแ์ ละการรกั ษา การผลิตเชอื เพลิง เพอื สรา้ งพลังงาน ไม้ เปนทรพั ยากรคณุ ค่าทีมนษุ ยน์ ยิ มใชง้ านตังแต่ครงั อดตี เนอื งจากแปรรปู ไดห้ ลากหลาย ยดื หยุน่ จาํ นวน มหาศาล สามารถพบเหน็ ไดต้ ามเขตพนื ทีทัวไป แบง่ ออกเปนหลายประเภท เชน่

กล่มุ ไมเ้ นอื แกรง่ ลักษณะกายภาพเนอื แขง็ วงปถี มอี ายุไมต่ ํากวา่ 70 ป เหมาะสาํ หรบั ทําเปนโครงสรา้ ง เชน่ ไมม้ ะค่าโมง แดง พยุง ชงิ ชนั เต็ง ตะเคียน กล่มุ ไมเ้ นอื แขง็ ลักษณะกายภาพเนอื ไม้ มรี ขู นาดเล็ก-ใหญ่ ผวิ หยาบ เชน่ ไมป้ ระดู่ ตะแบก เสลา มะเกลือ เคียม หลมุ พอ บุนนาค กรนั เกรา กล่มุ ไมเ้ นอื อ่อน ลักษณะกายภาพเนอื ไม้ ไรร้ พู รนุ ผวิ เนยี นสวย ยดื หยุน่ เชน่ ไมโ้ อ๊ค สน ยางแดง ยางพารา จาํ ปาปา กระบาก สกั ทอง อินทนลิ พะยอม พญาไม้ กะบาก กระเจา (หลายคนอาจเขา้ ใจผดิ วา่ ไมส้ กั เปนไมเ้ นอื แขง็ แท้จรงิ แล้วไมส้ กั ถกู จดั ในกล่มุ ไมเ้ นอื อ่อนทีมคี ณุ สมบตั ิแขง็ แรงทนทาน)

โลหะ คือ วสั ดทุ ีประกอบ ดว้ ยธาตโุ ลหะทีมอี ิเล็กตรอน อิสระอยูม่ ากมาย นนั คือ อิเล็กตรอนเหล่านไี มไ่ ดเ้ ปน ของอะตอมใดอะตอมหนงึ โดยเฉพาะ ทําใหม้ คี ณุ สมบตั ิ พเิ ศษหลายประการ เชน่

•เปนตัวนาํ ไฟฟาและนาํ ความรอ้ นไดด้ ี มาก •ไมย่ อมใหแ้ สงผา่ น •ผวิ ของโลหะทีขดั เรยี บจะมลี ักษณะ เปนมนั วาว •มจี ุดเดอื ดและ จุดหลอมเหลวสงู สว่ น ใหญม่ สี ถานะเปนของแขง็ (ยกเวน้ ปรอทซงึ มสี ถานะเปนของเหลว) •โลหะมคี วามแขง็ และเหนยี ว จงึ สามารถแปรรปู ไดจ้ งึ ถกู ใชง้ านใน ดา้ นโครงสรา้ งอยา่ งกวา้ งขวาง[1] [2]

วสั ดปุ ระเภทโลหะ แบง่ ออกได้เปน 2 ประเภท คือ 1. วสั ดโุ ลหะประเภทเหล็ก เปนโลหะทีมเี หล็กเปนฐาน โดยจะนยิ มใชก้ ันมากใน วงการอุตสาหกรรม ตัวอยา่ งวสั ดโุ ลหะประเภทนี ก็ คือ เหล็กกล้า เหล็กเหนยี วและเหล็กหล่อ เปนต้น ทีสาํ คัญวสั ดปุ ระเภทนี ก็สามารถนาํ มาปรบั ปรงุ คณุ ภาพ ใหม้ คี วามแขง็ ทนยงิ ขนึ และสามารถ เปลียนแปลงรปู ทรงไดห้ ลายวธิ อี ีกดว้ ย โดยวธิ ที ีนยิ ม ใชเ้ พอื การเปลียนแปลงรปู ทรงสว่ นใหญน่ นั ก็คือการ กลึง การหล่อและการอัดรดี ขนึ รปู เปนต้น

2.วสั ดโุ ลหะประเภทไมใ่ ชเ่ หล็ก เปนวสั ดโุ ลหะทีไมม่ เี หล็กเปนสว่ นผสมเลย แถมโลหะบางชนดิ ก็มรี าคาสงู กวา่ เหล็กอีก ดว้ ย ซงึ โลหะประเภทนกี ็ไดแ้ ก่ ดบี ุก สงั กะสี ทองแดง ทองคํา เงิน แมกนเี ซยี ม ตะกัว เปนต้น โดยโลหะประเภทนกี ็สามารถนาํ มา ใชใ้ นงานอุตสาหกรรมบางประเภท อยา่ ง เชน่ ดบี ุกกับงานทีต้องการความทนต่อการ กัดกรอ่ น ทองแดงกับงานไฟฟาและอลมู เิ นยี ม กับงานทีต้องใชน้ าํ หนกั เบาอีกดว้ ย

ยาง คือวสั ดพุ อลิเมอรท์ ีประกอบ ดว้ ยไฮโดรเจนและคารบ์ อน ยาง เปนวสั ดทุ ีมคี วามยดื หยุน่ สงู ยาง ทีมตี ้นกําเนดิ จากธรรมชาติจะมา จากของเหลวของพชื บางชนดิ ซงึ มลี ักษณะเปนของเหลวสขี าว คล้ายนาํ นม มสี มบตั ิเปนคอลลอยด์ อนภุ าคเล็ก มตี ัวกลางเปนนาํ ยาง ในสภาพของเหลวเรยี กวา่ นาํ ยาง ยางทีเกิดจากพชื นเี รยี กวา่ ยาง ธรรมชาติ ในขณะเดยี วกันมนษุ ย์ สามารถสรา้ งยางสงั เคราะหไ์ ดจ้ าก ปโตรเลียม

ยางแบง่ ออกได้เปน2ประเภทได้แก่ 1. ยางธรรมชาติ (NR) คือ ยางทีมาจากต้นยางพารา โดยตรง ไมผ่ า่ นกรรมวธิ กี ารใด ๆ คณุ สมบตั ิของยางยางธรรมชาติ NR •ทนการเสยี ดสี •รบั แรงกระแทก •ยดื หยุน่ ตัวดี •ทนความรอ้ นได้ -20°C ถึง 80°C

2 ยางสงั เคราะห์ ยางสงั เคราะห์ คือ ยางวทิ ยาศาสตรเ์ ปนยางที มนุษยผ์ สมขนึ มาเอง คณุ สมบตั ิของยาง •การใชง้ านคล้ายยาง NR •ทนการเสยี ดสี •ต้านทานไฟฟาไดด้ ี •ทนความรอ้ นได้ -20°c ถึง 80°c

พลาสติก เปนสารประกอบอินทรยี ท์ ี สงั เคราะหข์ นึ ใชแ้ ทนวสั ดธุ รรมชาติ บางชนดิ เมอื เยน็ ก็แขง็ ตัว เมอื ถกู ความรอ้ นก็อ่อนตัว บางชนดิ แขง็ ตัว ถาวร มหี ลายชนดิ เชน่ ไนลอน ยาง เทียม ใชท้ ําสงิ ต่าง ๆ เชน่ เสอื ผา้ ฟล์ม ภาชนะ สว่ นประกอบของยานพาหนะ

ประเภทของพลาสติกม2ี ประเภทได้แก่ 1เทอรโ์ มพลาสติก (Thermoplastic) หรอื เรซนิ เปนพลาสติกทีใชก้ ันแพรห่ ลายทีสดุ ในโลก ไดร้ บั ความรอ้ นจะอ่อนตัว และ เมอื เยน็ ลงจะแขง็ ตัว สามารถเปลียนรปู ได้ พลาสติกประเภทนโี ครงสรา้ งโมเลกลุ เปนโซต่ รงยาว มกี ารเชอื มต่อระหวา่ งโซ่ พอลิเมอรน์ อ้ ย มาก จงึ สามารถหลอมเหลว หรอื เมอื ผา่ นการอัดแรงมากจะไมท่ ําลาย โครงสรา้ งเดมิ

1)เทอรโ์ มเซตติงพลาสติก (Thermosetting plastic) เปน พลาสติกทีมสี มบตั ิพเิ ศษ คือทนทานต่อการเปลียนแปลงอุณหภมู ิ และทนปฏิกิรยิ าเคมไี ดด้ ี เกิดคราบและรอยเปอนไดย้ าก คงรปู หลังการผา่ นความรอ้ นหรอื แรงดนั เพยี งครงั เดยี ว เมอื เยน็ ลง จะแขง็ มาก ทนความรอ้ นและความดนั ไมอ่ ่อนตัวและเปลียน รปู รา่ งไมไ่ ด้ แต่ถ้าอุณหภมู สิ งู ก็จะแตกและไหมเ้ ปนขเี ถ้าสดี าํ พลาสติกประเภทนโี มเลกลุ จะเชอื มโยงกันเปนรา่ งแหจบั กันแนน่ แรงยดึ เหนยี วระหวา่ งโมเลกลุ แขง็ แรงมาก จงึ ไมส่ ามารถนาํ มา หลอมเหลวได้ กล่าวคือ เกิดการเชอื มต่อขา้ มไปมาระหวา่ งสาย โซข่ องโมเลกลุ ของพอลิเมอร์ (cross linking among polymer chains) เหตนุ หี ลังจาก พลาสติกเยน็ จนแขง็ ตัวแล้ว จะไมส่ ามารถ ทําใหอ้ ่อนไดอ้ ีกโดยใชค้ วามรอ้ น หากแต่จะสลายตัวทันทีที อุณหภมู สิ งู ถึงระดบั การทําพลาสติกชนดิ นใี หเ้ ปนรปู ลักษณะต่าง ๆ ต้องใชค้ วามรอ้ นสงู และโดยมากต้องการแรงอัดดว้ ย เทอรโ์ ม เซตติงพลาสติก






Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook