การคํานวนหาว่าหัวใจเต้นกี่ครั้งในหนึ่งนาที โดยวิธี Sequence methodใช้เฉพาะคนที่หัวใจเต้นเป็นจังหวะสมํ่าเสมอเท่านั้นวิธีการ Sequence method ทําตามนี้1.-นับจํานวน “ช่องใหญ”่ จาก R ถึง R ว่ามีกี่ช่องใหญ่2.-เอาเลข 300 เป็นตัวตั้ง หารด้วยจํานวน ช่องใหญ่3.-จากตัวอย่างข้างบน ระยะจาก R ถึง R = 5 ช่องใหญ่4.-เอาเลข 300 ตั้งแล้วหารด้วย5.- จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 60ดังนั้น คําตอบก็คือ หัวใจของคนนี้ เต้น 60ครั้งต่อนาที
การอ่านคลื่นไฟฟ้าในหัวใจ ต้องอาศัย ความรู้ และประสบการณ์จากการฝึกหัดและปฎิบัติบ่อยๆคุณสามารถอ่านได้หลายวิธี แต่ต้องอ่านให้เป็นระบบ ผมแนะนําขั้นตอนการอ่านเป็น 9steps ที่จะได้กล่าวต่อไป
Step ที่ 1- ดูว่า Rhythm เป็น Regular Rhythm หรือเป็น Irregular Rhythm-ดูว่าไฟฟ้ามาจากไหนที่ทําให้เกิดคลื่น ทั้ง wave ที่เกิดขึ้นที่ Atrium และ Ventricle-คลื่นที่เกิดที่ Atrium ดูที่ P wave คลื่นที่เกิดที่ Ventricle ดูที่ QRS complex-จังหวะคลื่นใน Atrium และ Ventricle เป็นจังหวะที่สมํ่าเสมอหรือไม่ โดยดูระยะของ Pwave ถึง P wave และ R wave ถึง R wave เป็น Regular หรือ Irregular
Use sequence method or 6 second method to determineatrial and ventricular heart rate from ECG waveform.Step 2. - คํานวนหาว่า หัวใจเต้นกี่ครั้งในหนึ่งนาที--ถ้าหัวใจเต้นน้อยกว่า 60 ครั้งในหนึ่งนาทีเรียกว่า BRADYCARDIA-ถ้าหัวใจเต้นมากกว่า 100 ครั้งในหนึ่งนาทีเรียกว่า TACHYCARDIA
Step 3.- ดูว่ามี P wave หรือไม่- P wave ทุกตัวมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันหรือเปล่า- P wave เกิดขึ้นในจังหวะสมํ่าเสมอหรือไม่- P wave ใน Lead II, III, aVF เป็น Positive or Negative Deflection.- ดูว่า ทุกๆ P wave ที่เกิดขึ้น มี QRS complex เกิดขึ้นตามมาหรือเปล่า
– ดู PR interval- ว่ามีระยะเวลาเป็นปกติหรือไม่ ( ปกติ PR = 0.12 – 0.20 second )- PR interval ทุกตัวมีระยะเวลาเท่ากันหรือไม่
Step 5. – ดู QRS complexes ว่ามีระยะ และขนาดปกติหรือไม่ -- ดู QRS complex ทุกตัวว่ามีขนาดและรูปร่างเหมือนกันหรือเปล่า -- ดู QRS complex ทุกตัวว่าเกิดขึ้นตามหลัง P wave หรือไม่
Step 6. – ดู ST Segment ว่าอยู่ในระดับปกติ ระดับเดียวกับ Isoelectric line หรือไม่ -- ดู ST Segment ว่า elevation or depression หรือไม่
ปกติ QT interval จะสั้นกว่า ครึ่งหนึ่งของระยะ R ถึง RNormal QT Interval = 0.36 - 0.44 second
Step 9 - ดู wave ที่แปลกประหลาด อย่างเช่น PVC และรวมถึงดู U wave ด้วย
Step 10.-ผมเพิ่มอีก step หนึ่งนะ ที่จริงควรจัดไว้เป็น step แรก คือดูคลื่นไฟฟ้าของหัวใจที่บ่งบอกว่าเป็นสัญญาณอันตรายที่มีผลต่อผู้ป่วย ซึ่งจําเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเฉียบพลันไม่ต้องเสียเวลาไปวิเคราะห์ เพราะคุณอาจจะไม่มีผู้ป่วยคนนี้ให้ดูแลอีกต่อไปเมื่อคุณเห็น ECG ที่บ่งบอกว่าผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิกฤติเหล่านี้ ซึ่งเราจะได้เรียนในบทต่อๆไป คุณจะต้องเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยทันที อย่ามัวมานั่งอ่านคลื่นไฟฟ้าของหัวใจทั้ง 9 steps นะ เพราะถ้าผู้ป่วยมีคลื่นไฟฟ้าของหัวใจเหล่านี้ และไม่ได้รับการรักษาทันที คุณอาจจะไม่ต้องโทรศัพท์ถึงหมอ แต่โทรถีงพระแทน ให้มาช่วยสวดส่งบุญให้กับผู้ป่วย
คําว่า Arrhythmia เป็นคําศัพท์ที่ใช้สําหรับคลื่นไฟฟ้าที่ผิดปกติ เช่นหัวใจเต้นช้าหรือไวผิดปกติ( น้อยกว่า 60 หรือมากกว่า 100 ครั้งในหนึ่ง ), หรือไฟฟ้าที่ส่งออกมาด้วยจังหวะไม่สม่ำเสมอ, หรือคลื่นไฟฟ้าที่เกิดมาจากแหล่งกําเนิดไฟฟ้าในหัวใจที่เกิดมาจากแหล่งกําเนืดอื่นที่ไม่ใช่แหล่งกําเนิดปกติ ( SA node ), หรือทางเดินของไฟฟ้าจากข้างบนลงมาข้างล่างมีอุปสรรคขวางกั้น ( block ), หรือทางเดินของไฟฟ้าจากข้างบนลงมาข้างล่างมาโดยเส้นทางอื่นที่ไม่ใช่ทาง AV node และ bundle branchesคลื่นไฟฟ้าที่ผิดปกตินี้อาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวหรือสองสามครั้งแล้วกลับคืนเป็นปกติ หรือ อาจเกิดขึ้นได้หลายครั้งและต่อเนื่องกัน
Arrhythmia หัวใจเต้นผิดปกติมีผลต่อบุคคลอย่างไร ?หัวใจที่เต้นผิดปกติบางอย่าง ไม่มีผลเสียหายต่อบุคคล อย่างเช่นหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ แต่ไม่มีผลทําให้จํานวนเลือดที่หัวใจปั้มออกมาไม่เพียงพอก็ไม่เป็นอันตรายต่อบุคคลนั้นแต่ก็มีการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติหลายๆอย่างที่มีผลเป็นอันตรายต่อบุคคลได้ ซึ่งจําเป็นที่ต้องได้รับการดูแลแก้ไข ซึ่งจะกล่าวถึงการเต้นผิดปกติของหัวใจเหล่านี้ในบทเรียนต่อๆไป
สาเหตุที่ทําให้หัวใจเต้นผิดปกติ Arrhythmia มีหลายอย่าง เช่น Hypoxia, Ischemia,Sympathetic nervous system/parasympathetic nervous system ( Automaticnervous system ), Drugs, Electrolytes imbalances, Bradycardia, and Stretch ซึ่งจะพูดถึงในแต่ละเรื่องใน slide ต่อๆไปH = Hypoxia เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจได้รับอ๊อกซิเจนไปเลี้ยงไม่เพียงพอ กล้ามเนื้อเซลของหัวใจจะอยู่ในภาวะระคายเคือง (irritable) จึงทําให้หัวใจเต้นผิดปกติ
I = Ischemia and irritabilityกล้ามเนื้อหัวใจตาย myocardial infarction และการอักเสบของกล้ามเนื้อของหัวใจmyocardial inflammation เป็นสาเหตุที่ทําให้เกิดการเต้นผิดปกติของหัวใจ arrhythmias
S = Sympatheticเมื่อ Autonomic nervous system ทั้ง sympathetic และparasympathetic ถูกกระตุ้น ก็ทําให้หัวใจเต้นผิดปกติได้กระตุ้น sympathetic nervous system ทําให้หัวใจเต้นไวกระตุ้น parasympathetic nervous system ทําให้หัวใจเต้นช้า
D = DRUGS.ยาหลายๆอย่างโดยเฉพาะยาที่ใช้รักษาหัวใจที่เต้นผิดปกติเองก็เป็นสาเหตุที่ทําให้หัวใจเต้นผิดปกติ
ระดับสาร Electrolyes ในเลือดที่ผิดปกติ ที่มีมากไปหรือมีน้อยไป เช่น Potassium,Magnesium, Calcium ก็อาจจะทําให้หัวใจเต้นผิดปกติ arrhythmia ได้
หัวใจที่เต้นช้า Bradycardia ก็เป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทําให้เกิดการเต้นของหัวใจผิดปกติ(Arrhythmia ) ได้ อย่างเช่นพวก escape beat ที่เกิดขึ้นโดยไฟฟ้าที่มาจากที่อื่นที่ไม่ใช่มาจากแหล่งกําเนิดไฟฟ้าตามปกติ ( Sinus node )
หัวใจที่ใหญ่โตกว่าปกติ รวมทั้งการใหญ่โตของกล้ามเนื้อหัวใจและการขยายกว้างของห้องหัวใจก็เป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทําให้หัวใจเต้นผิดปกติ arrhythmia
บ่อยครั้งที่หัวใจเต้นผิดปกติ Arrhythmia เกิดขึ้นโดยผู้ป่วยไม่รู้สึกหรือไม่มีอาการผิดปกติเกิดขึ้นหัวใจเต้นผิดปกติที่ทําให้ผู้ป่วยรู้สึกได้เช่นในภาวะที่หัวใจเต้นไวมากๆ palpitation หรือหัวใจเต้นผิดปกติที่ทําให้เกิดอาการของการมีเลือดออกจากหัวใจมาเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายไม่เพียงพอ ( low cardiac output ) เช่นมีเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอก็จะเกิดอาการ มึนเวียนศรีษะ หน้ามืดเป็นลม หรือถ้ามีเลือดออกไปเลี้ยงตัวหัวใจเองไม่เพียงพอก็จะทําให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก หรือหัวใจปั้มเลือดออกมาไม่ได้ดีเนื่องจากภาวะการเต้นผิดปกติก็จะทําให้จํานวนเลือดเหลือคั้งค้างในปอดทําให้เกิดการหายใจที่ผิดปกติแต่ก็มีหลายๆครั้งที่หัวใจเต้นผิดปกติแล้วผู้ป่วยไม่มีความรู้สึกอันใด เนื่องจากผู้ป่วยได้เสียชีวิตอย่างฉับพลัน ( sudden death )
Question:- Basic ECG # 1 C and D are 6 second strip
Answer:- Basic ECG # 180 BPM 0.16 sec 0.10 sec 0.40 sec 80 BPM 0.20 sec 0.08 sec 0.32 sec 0.40 sec110 BPM No PRI 0.12 sec 0.56 C and D are 6 second strip sec50 BPM No PRI 0.08 sec
Question:- Basic ECG # 2
Answer:- Basic ECG # 2
Practice ECG # A 4
Answer : Practice ECG # A 4
Practice ECG # A 5
Answer: Practice ECG # A 5
88
Search