๒๔๓ 24336 การวดั และการประเมินผล ส่งิ ท่ตี ้องการวดั /ประเมนิ วิธีการ เครื่องมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ประเมิน - อธิบายเกย่ี วกบั การเขยี น การอธิบายเกย่ี วกบั แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์คุณภาพ ชอื่ โนต้ สากลท่ีมี การเขียนช่ือโนต้ สากล ระดับ ๒ จาก ๓ ระดบั เคร่อื งหมายแปลงเสยี งได้ ที่มเี ครื่องหมาย แปลงเสยี ง ดา้ นทักษะ/กระบวนการ - ปฏบิ ัตกิ ารเขยี นชอื่ โนต้ ใบงาน แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์คุณภาพ สากลทีม่ เี คร่ืองหมาย ระดบั ๒ จาก ๔ ระดับ แปลงเสยี งไดถ้ ูกต้องและ คลอ่ งแคลว่ ด้านคณุ ลกั ษณะ - มีวินัย สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์คุณภาพ - ใฝ่เรียนรู้ ระดับ ๑ จาก ๔ ระดบั - มุ่งม่ันในการทางาน บนั ทกึ ผลการสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. .............................. ปัญหาและอปุ สรรค .................................................................................. ......................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ............................................................................................................................. .............................. ลงชื่อ............................................ผูส้ อน (............................................) วันท่ี..........เดอื น...................พ.ศ.......... คดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารหรือผูไ้ ดร้ ับมอบหมาย ............................................................................................................................. .............................. ลงช่อื ............................................ผู้ตรวจ (............................................) วันท.ี่ .........เดอื น...................พ.ศ..........
๒๔๔ 23474 ใบความรู้ เรอ่ื ง เคร่ืองหมายแปลงเสยี ง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ เรื่อง เคร่ืองหมายและสัญลกั ษณ์โน้ตดนตรี แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๒ รายวิชา ดนตรี รหสั วิชา ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ เครื่องหมายแปลงเสียง (Accidentals) เครื่องหมายแปลงเสยี ง เป็นสญั ลักษณท์ างดนตรที ี่ใชบ้ ันทกึ เพอื่ ให้ระดบั เสยี งของโนต้ ตวั นั้นเปลี่ยนแปลง ไปจากระดบั เสียงเดิม เครือ่ งหมายแปลงเสยี งมีอยู่ ๕ ชนดิ ไดแ้ ก่ ๑. ชารป์ (Sharp) เปลยี่ นระดบั เสียงของตัวโน้ตให้สูงขึน้ ครึง่ เสยี ง ๒. แฟล็ต (Flat) เปลย่ี นระดบั เสยี งของตัวโนต้ ใหต้ า่ ลงคร่ึงเสยี ง ๓. ดบั เบลิ ชาร์ป (Double Sharp) เปลย่ี นระดบั เสียงของตัวโน้ตใหส้ ูงขนึ้ ๑ เสยี ง ๔. ดบั เบลิ แฟลต็ (Double Flat) เปลย่ี นระดับเสยี งของตัวโนต้ ใหต้ า่ ลง ๑ เสียง ๕. เนเจอรลั (Natural) กาหนดให้ตวั โนต้ กลบั สรู่ ะดบั เสียงปกติ การบนั ทึกเครื่องหมายแปลงเสยี ง ต้องบนั ทกึ ไวใ้ นตาแหน่งดา้ นซา้ ยของตวั โน้ตท่ตี อ้ งการใหร้ ะดับเสียง เปล่ียนไป ทีม่ า https://sites.google.com/site/mrjisclassroom/thvsdi-not-khan-phun-than/-note-reading/- accidentals
23485 ๒๔๕ ใบความรู้ เร่ือง การรอ้ งโน้ตสากลท่ีมีเคร่ืองหมายแปลงเสยี ง หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒ รายวชิ า ดนตรี รหสั วิชา ศ๒๒๑๐๔ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ โด ดี เร รี มี ฟา ฟี ซอล ซี ลา ลี ที โด ที เท ลา เล ซอล เซ ฟา มี เม เร รา โด
๒๔๖ 23469 ใบงาน เรอ่ื ง การเขยี นช่ือโนต้ สากลทมี่ เี ครื่องหมายแปลงเสยี ง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เร่อื ง โน้ตนา่ รู้ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๒ รายวิชา ดนตรี รหสั วิชา ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ คาชี้แจง นักเรยี นเติมชือ่ โนต้ และชอ่ื เครือ่ งหมายแปลงเสียงต่อไปน้ีให้ถกู ต้อง ๑. ๒. ๓.
๒๔๗ 224470 ๔. ๕.
๒๔๘ 2481 แบบประเมินการอธิบายเก่ียวกับการเขียนช่ือโน้ตสากลท่ีมเี ครอ่ื งหมายแปลงเสยี ง ท่ี ชอื่ – สกลุ ระดบั คุณภาพ ๓๒๑ รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การพิจารณา อธบิ ายเกยี่ วกบั การเขยี น ๓ อธบิ ายเกี่ยวกับการเขยี นช่ือโน้ตสากลทีม่ เี ครื่องหมายแปลง ชอ่ื โน้ตสากลท่มี ี (ด)ี เสยี งได้ ๓ ประเดน็ ยกตัวอย่างประกอบได้ เครื่องหมายแปลงเสียง ๒ อธิบายเกี่ยวกับการเขยี นช่ือโน้ตสากลที่มเี ครื่องหมายแปลง (พอใช)้ เสียงได้ ๒ ประเด็น ๑ อธิบายเกยี่ วกบั การเขยี นชื่อโน้ตสากลทม่ี เี คร่ืองหมายแปลง (ควรปรบั ปรุง) เสียงได้ ๑ ประเด็น
แบบประเมินใบงานเรื่องการเขยี นชอ่ื โน้ตสากลท่ีมีเครือ่ งหมายแปลงเสียง ๒๔๙224429 ๑ ท่ี ชอื่ – สกลุ ระดับคุณภาพ ๔๓๒ รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา การเขยี นช่ือโนต้ สากลที่มี ๔ เขียนโน้ตสากลทม่ี ีเคร่ืองหมายแปลงเสยี งในแต่ละหอ้ ง เครอื่ งหมายแปลงเสียง ได้ถูกตอ้ งตามบทเพลง เขยี นชื่อโน้ตสากล และช่อื เครื่องหมาย (ดเี ยีย่ ม) แปลงเสยี งได้ถูกต้องตง้ั แต่ ๔ ขอ้ ข้ึนไป ๓ เขยี นโนต้ สากลท่ีมเี ครอ่ื งหมายแปลงเสยี งในแตล่ ะหอ้ งเพลง (ด)ี ได้ถูกต้องตามบทเพลง มจี ุดบกพร่องบา้ งเล็กน้อย เขียนช่ือโน้ตสากล และช่ือเคร่ืองหมายแปลงเสยี งได้ถูกต้อง ๒ ๓ ขอ้ (พอใช)้ เขยี นโนต้ สากลท่ีมเี ครื่องหมายแปลงเสียงในแตล่ ะหอ้ ง ๑ ได้ถูกต้องตามบทเพลง มีจดุ บกพร่องเป็นส่วนใหญ่ (ควรปรับปรงุ ) เขยี นชอ่ื โน้ตสากล และชื่อเคร่ืองหมายแปลงเสียงได้ถกู ต้อง ๒ ขอ้ เขยี นโนต้ สากลที่มีเครื่องหมายแปลงเสยี งในแตล่ ะห้อง ไม่ถูกตอ้ งตามบทเพลง เขยี นชือ่ โน้ตสากล และชอ่ื เครื่องหมาย แปลงเสยี งไดถ้ ูกต้อง ๑ ขอ้
๒๕๐ 224530 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรขู้ องนกั เรียน ด้านคุณลักษณะ มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งม่นั ในการ รวม สรุปผลการ ท่ี ชอื่ – สกุล ทางาน ประเมนิ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ผา่ น ไม่ผา่ น หมายเหตุ นกั เรียนได้ ๖ คะแนนขน้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา ๑. มีวินัย ๓ ปฏบิ ตั ติ นอย่ใู นข้อตกลงทีก่ าหนดใหร้ ว่ มกนั ทกุ ครัง้ (ดี) ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๒ ปฏิบัตติ นอยู่ในข้อตกลงที่กาหนดให้รว่ มกนั เปน็ ส่วนใหญ่ ๓. มุ่งมั่นในการทางาน (พอใช)้ ปฏิบัตติ นอยใู่ นข้อตกลงท่กี าหนดใหร้ ่วมกัน บางครั้งต้องอาศัย ๑ การแนะนา เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจอย่างสมเหตุสมผล (ควรปรบั ปรุง) ๓ เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ แตอ่ าจจะไม่สมเหตุสมผล (ดี) ในบางกรณี สรุปผลไมค่ ่อยถกู ตอ้ ง ๒ เสนอแนวคดิ ที่ไม่สมเหตสุ มผลในการตัดสนิ ใจ สรปุ ผลไม่ถกู ต้อง (พอใช้) ตรงต่อเวลา รบั ผิดชอบงานท่ีได้รับมอบหมายและปฏบิ ตั ิ ๑ เองจนเป็นนิสัย และชักชวนผู้อื่นปฏิบตั ิ ไม่ตรงต่อเวลาแต่ได้มกี ารตดิ ต่อชแ้ี จงอย่างมเี หตผุ ล (ควรปรบั ปรุง) รับฟังได้ รับผิดชอบในงานที่ไดร้ บั มอบหมายและปฏบิ ัติ ๓ จนเป็นนิสัย (ดี) สง่ งานช้ากวา่ กาหนด ปฏบิ ตั ิงานโดยต้องอาศยั การช้แี นะ ๒ และการตักเตือน (พอใช)้ ๑ (ควรปรับปรงุ )
๒๕๑24541 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ร้องเลน่ เปน็ เพลง รหัสวชิ า ศ๒๒๑๐๓ รายวิชาดนตรี กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ เวลา ๑๐ ช่ัวโมง ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ัด สาระที่ ๒ ดนตรี มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณ์ คณุ ค่า ดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดตอ่ ดนตรอี ยา่ งอิสระ ชื่นชมและ ประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวัน ตวั ช้วี ดั ม.๒/๔ รอ้ งเพลงและเล่นดนตรเี ด่ยี ว และรวมวง ม.๒/๕ บรรยายอารมณข์ องเพลงและความรสู้ ึกที่มตี อ่ บทเพลงที่ฟัง ม.๒/๖ ประเมินพัฒนาการทักษะทางดนตรีของตนเองหลงั จากการฝึกปฏบิ ตั ิ ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การรอ้ งเพลง การเลน่ ดนตรเี ดย่ี วและรวมวงเปน็ การแสดงออกทางศิลปะทเ่ี ช่อื มโยงทักษะต่าง ๆ ทีจ่ าเป็นตอ่ การเขา้ สงั คม อาทิ การพดู การกล้าแสดงออก ผู้ฝกึ ทกั ษะขับร้องและผ้บู รรเลงจาเป็นต้องมีความรู้ เก่ียวกับการถา่ ยทอด และการบรรยายอารมณ์ของบทเพลงเพอื่ เป็นประโยชนใ์ นการถ่ายทอดอารมณ์ ของบทเพลง อีกทง้ั ผฝู้ ึกทักษะทางดนตรีควรมคี วามรเู้ ก่ียวกบั การประเมนิ ทักษะทางดนตรขี องตนเอง หลงั จากการฝึกปฏิบัตเิ พื่อพัฒนาและต่อยอดใหม้ ีคุณภาพมากขึ้น ๓. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ - อธบิ ายเทคนิคการร้องและบรรเลงดนตรี วิเคราะห์อารมณ์ของบทเพลง ระบุหัวข้อ การประเมินความสามารถทางดนตรี ทักษะ/กระบวนการ - ขบั รอ้ งเพลง เล่นดนตรีเด่ยี วและรวมวง บรรยายอารมณแ์ ละความรู้สึกที่มตี ่อบทเพลง ประเมินทักษะทางดนตรขี องตนเอง เจตคติ - ตระหนักถงึ ความสาคัญของดนตรีโดยการแสดงออกอยา่ งสรา้ งสรรค์ ๔. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น ความสามารถในการสื่อสาร ๕. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้
๒๕๒25425 ๖. การประเมินผลรวบยอด ชิน้ งานหรือภาระงาน นาเสนอผลงานการสรา้ งสรรคด์ นตรี เกณฑ์การประเมินผลชน้ิ งานหรอื ภาระงาน ระดับคณุ ภาพ/คะแนน รายการประเมิน ๔ ๓ ๒ ๑ (๒๐ คะแนน) (๑๕ คะแนน) (๑๐ คะแนน) (๕ คะแนน) อารมณ์และ บรรยายอารมณ์ บรรยายอารมณ์ บรรยายอารมณ์ บรรยายอารมณ์ ความรู้สึกท่ีมีตอ่ บท และความรสู้ ึกที่มี และความรู้สึกที่มี และความรูส้ กึ ที่มี และความรูส้ ึกท่ีมี เพลง ต่อบทเพลง ตอ่ บทเพลง ต่อบทเพลง ตอ่ บทเพลง ทีเ่ พ่ือนนาเสนอ ทเี่ พื่อนนาเสนอ ท่ีเพื่อนนาเสนอ ทเี่ พื่อนนาเสนอ สอดคลอ้ ง ถกู ต้อง สอดคลอ้ ง ถกู ต้อง สอดคลอ้ ง ถกู ต้อง สอดคล้อง ถูกต้อง ๔ ประเดน็ ๓ ประเดน็ ๒ ประเด็น ๑ ประเดน็ ทกั ษะทางดนตรี สรา้ งสรรค์ผลงาน สรา้ งสรรค์ผลงาน สรา้ งสรรค์ผลงาน สรา้ งสรรค์ผลงานโดย โดยใช้เครอ่ื งดนตรี โดยใชเ้ ครอ่ื งดนตรี โดยใช้เครือ่ งดนตรี ใชเ้ คร่อื งดนตรี หรอื วัสดุ หรอื วสั ดุ หรือวัสดุ หรือวสั ดุ เทยี มเครื่องดนตรี เทียมเคร่ืองดนตรี เทียมเครื่องดนตรี เทียมเครื่องดนตรี ที่มีอยู่ตามท้องถนิ่ ที่มอี ย่ตู ามท้องถ่นิ ทมี่ อี ยู่ตามท้องถนิ่ ท่มี ีอยตู่ ามท้องถน่ิ ๔ ช้นิ ไดอ้ ยา่ ง ๓ ชน้ิ ได้อย่าง ๒ ชนิ้ ได้อย่าง ๑ ช้ิน ได้อยา่ ง เหมาะสม กลมกลืน เหมาะสม กลมกลนื เหมาะสม กลมกลนื เหมาะสม กลมกลืน สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ การรวมวงดนตรี มีกระบวนการ มกี ระบวนการ มีกระบวนการ มกี ระบวนการ รวมวงทเ่ี ป็นระบบ รวมวงท่ีเปน็ ระบบ รวมวงท่เี ป็นระบบ ทางานท่เี ป็นระบบ สมาชิกในวง สมาชกิ ในวง สมาชิกในวงบางสว่ น สมาชกิ ในวงส่วนน้อย ทุกคนชว่ ยเหลอื ส่วนใหญช่ ่วยเหลือ ช่วยเหลอื ช่วยเหลือ ซง่ึ กนั และกัน ซง่ึ กนั และกัน ซึ่งกนั และกัน ซึ่งกันและกัน ประเมนิ ตนเอง ประเมินตนเองตาม ประเมนิ ตนเองตาม ประเมินตนเองตาม ไม่ประเมินตนเอง หลกั การประเมิน หลกั การประเมนิ หลกั การประเมนิ ตามหลักการประเมิน ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ได้ ๓ หลกั เกณฑ์ ได้ ๒ หลักเกณฑ์ ได้ ๑ หลักเกณฑ์
225436 เกณฑ์การตดั สิน ๔ หมายถงึ ดมี าก ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั คุณภาพ ตงั้ แตร่ ะดบั ๒ เกณฑ์การผ่าน
๒๕๔ ๒๕๓ 24574 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๔ เรือ่ งร้องเล่นเปน็ เพลง เร่อื ง หลักและเทคนคิ การขบั รอ้ งเพลงไทย เวลา ๑ ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรียนร้ศู ิลปะ รายวิชา ดนตรี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ขอบเขตเน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ - หลกั และเทคนิคการขับร้องเพลง ข้ันนา ๑. วีดที ศั นก์ ารขบั ร้องเพลงเพลงไทยอัตราจังหวะ ไทย ๑. ครูเปิดวีดที ัศน์ การขับร้องเพลงของศลิ ปนิ ใดก็ไดใ้ หน้ ักเรียน สองช้ัน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ชม ๑ การแสดง แล้วใหน้ กั เรียนรว่ มแสดงความคิดเห็น เช่นนกั เรียนรู้จกั ๒. แผนภูมเิ พลงสร้อยลาปาง ด้านความรู้ นักร้องคนนี้หรือไม่ นกั ร้องคนน้ชี ่อื อะไร มเี สยี งเปน็ อยา่ งไร การร้องเพลง ภาระงาน/ช้ินงาน - อธิบายเทคนคิ การขับร้องเพลงไทย เป็นอย่างไร ถา่ ยทอดอารมณ์ของบทเพลงเปน็ อย่างไร และ นักเรียนร้สู กึ - ฝกึ ปฏบิ ัติการขบั รอ้ งเพลงสรอ้ ยลาปาง อย่างไรเมื่อไดช้ มการขับร้องของนักร้องคนนี้ ได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ ขัน้ สอน - รอ้ ง เล่นดนตรี เดี่ยว และรวมวง ๑. นักเรียนศึกษาใบความรู้เร่ือง หลักการขับร้องเพลงไทย โดยครูอธบิ าย ด้านคณุ ลักษณะ พร้อมต้ังคาถามกระตุ้น เป็นระยะๆ - ใฝเ่ รยี นรู้ ๒. ครนู าแผนภูมิเพลงสรอ้ ยลาปาง ให้นกั เรียนฝึกอา่ นเน้ือร้อง ฝกึ ออก เสียงพยัญชนะ และแปลความหมายของเพลง ฝกึ ลมหายใจตามหลักการ ฝกึการขฝบั ึกรข้อับงร้อง ๓. ครูสาธติ หรือให้นกั เรียนฟงั แถบบนั ทึกเสยี งขบั ร้องเพลงสรอ้ ยลาปาง ทีละวรรคแล้วให้นกั เรยี นร้องตามจบจบเพลง โดยครูเป็นผู้แนะนา และ ร้องเปน็ ตวั อยา่ งใหน้ ักเรยี นร้องตาม จนนกั เรียนขับร้องได้
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่องร้องเลน่ เป็นเพลง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑ ๒๕๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ เรือ่ ง หลักและเทคนิคการขับรอ้ งเพลงไทย เวลา ๑ ช่ัวโมง รายวิชา ดนตรี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ๔. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ละ ๕-๖ คนเพ่ือฝึกทักษะการขับร้องเพลงลาวดวง เดือนสองชั้น จนเกิดทักษะ และเตรียมการสอบปฏบิ ัตขิ ับร้องเปน็ กลุ่มใน ช่วั โมงต่อไป ขนั้ สรปุ ๑. ครสู รปุ ผลการปฏิบัติ 255 248
๒๕๖25496 การวดั และการประเมินผล สิ่งที่ต้องการวัด/ประเมิน วธิ ีการ เครื่องมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ แบบประเมนิ อธิบายเทคนิคการร้อง ใบงาน ผงั มโนทศั น์ ไดร้ ะดับคุณภาพ ดี ทุก และบรรเลงดนตรไี ด้ ( Maid Map Rubric ) รายการขน้ึ ไปถือวา่ ผา่ น ด้านทักษะและกระบวนการ ประเมนิ แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์คณุ ภาพระดับ ใชเ้ ทคนคิ ในการขบั รอ้ งและ ๒ ขน้ึ ไป เลน่ ดนตรีไดอ้ ย่างถูกวิธี ดา้ นคุณลกั ษณะ แบบบันทึก ผา่ นเกณฑ์คุณภาพระดบั ใฝ่เรียนรู้ สังเกต การสังเกต ๑ ขน้ึ ไป บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................. ............................................ ปัญหาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................. ......................................................................................................................................................................... .. ลงชือ่ ............................................ผสู้ อน (............................................) วันที.่ .........เดือน...................พ.ศ.......... ความคดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผู้ไดร้ บั มอบหมาย ............................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................. ............................................ ลงชื่อ............................................ผู้ตรวจ (............................................) วันท.ี่ .........เดอื น...................พ.ศ..........
250 ใบความรู้ เรอ่ื งทักษะการขับร้องและบรรเลงดนตรี หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๔ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ - ๒ เรื่อง หลกั และเทคนคิ การขบั ร้องเพลงไทย รายวิชา ดนตรี รหัสวิชา ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ จุดประสงค์ที่ ๑ อธิบายเทคนิคการขบั รอ้ งเพลงไทยได้ การขบั ร้องเพลงไทยเดมิ เทคนคิ การขบั ร้องเพลงไทย การขับร้องเพลงไทย เป็นศลิ ปะทีม่ ีความประณตี มากแขนงหนงึ่ มเี ทคนิคต่าง ๆ มากมายท่ี ผู้ร้องจะต้องเรียนรู้และฝึกปฏิบัติ เพื่อให้เสียงเพลงที่ออกมามีความไพเราะ น่าฟัง และสามารถ ถ่ายทอดความรู้สึกและอารมณ์ได้ถูกต้องตามบทเพลง อันจะทาให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์คล้อยตามไปกับ เสียงเพลงน้นั ในท่นี ีจ้ ะขอกลา่ วถงึ เพยี งเทคนคิ บางอยา่ งทใ่ี ช้กนั มากในการขับร้อง ดงั น้ี ๑. เอือ้ น หมายถึง การออกเสยี งเปน็ ทา� นองโดยไมม่ เี น้อื รอ้ ง เสียงเออื้ นเป็นเสียงท่ผี ่านออก มาจากล�าคอโดยตรง มอี ย่มู ากมายหลายเสยี ง และมีที่ใชต้ ่างกนั ในทนี่ จ้ี ะขอกล่าวถึงเพยี งบางเสียงที่ ใช้กันมาก ได้แก่ ๑) เสียงเออ เป็นเสียงสาคัญมาก มีหน้าที่เป็นเสียงน�า วิธีท�าเสียง “เออ” เผยอริมฝีปาก เลก็ นอ้ ย แลว้ เปลง่ เสยี งออกจากคอใหด้ งั พอสมควร บงั คบั เสยี งใหม้ นี า้� หนกั ทคี่ อแรงหนอ่ ยโดยไมต่ อ้ ง ขยบั คาง ๒) เสยี งเอย มที ใี่ ชใ้ นตอนสดุ วรรคหรอื หมดเอือ้ น หรอื หมดวรรคของเออื้ น จะขนึ้ บทรอ้ งวธิ ี ทา� เสยี ง “เอย” มวี ธิ ที า� เชน่ เดยี วกบั เสยี ง “เออ” แตเ่ มอ่ื จะใหเ้ ปน็ เสยี ง “เอย” กใ็ หเ้ นน้ ทม่ี มุ ปาก ออก เสยี งทา้ ยใหเ้ ป็นเช่นเดยี วกบั ตวั สะกดแมเ่ กยในภาษาไทยโดยให้ปลายลิ้นแตะฟันลา่ ง ๓) เสียงเอ๋ย เสียง “เอย๋ ” นี้ใช้ในการขับร้องทมี่ ลี ักษณะของบทรอ้ งเป็นบทชมหรอื บทเกีย้ ว หรือบทเพลงทีแ่ ตง่ เปน็ สรอ้ ย เชน่ ดอกเอ๋ย อกเอย๋ นอ้ งเอ๋ย ฯลฯ วิธีทาเสียง “เอ๋ย” เหมือนกับการ ท�าเสียง “เอย” แต่ผันเสียงให้สูงข้ึนโดยไม่หุบปาก เปลี่ยนน�้าเสียงในช่วงหางเสียงให้ไปทางนาสิก อย่างชา้ ๆ พร้อมกบั ทา� เสียง “หอื ” ตอ่ ท้าย ๔) เสียงหอื เสียง “หอื ” จะใชเ้ ฉพาะขบั ร้องในทางเสียงสงู มักจะใช้ในตอนสุดทา้ ยของวรรค หรอื ตอนของทานองเพลง หรอื ตามความตอ้ งการของผขู้ บั รอ้ งทจี่ ะใชห้ างเสยี งเพอื่ ใหเ้ กดิ ความไพเราะ ตามความเหมาะสม วิธีท�าเสียง “หือ” ใหเ้ ผยอริมฝีปากเล็กน้อย แลว้ เปล่งเสียงออกมาจากคอเบา ๆ พร้อมกบั ผันเสยี งขนึ้ ในทางสูงเรอื่ ยไป ใหเ้ สียงออกมาทางจมูกอย่างชา้ ๆ จนสุดหางเสียง ๕) เสยี งออื ใช้ในระหว่างรอจงั หวะ หรือสุดวรรคหรอื ลงสดุ ทา้ ยของเพลง วธิ ีทา� เสียง “ออื ” เผยอริมฝีปากออกเล็กน้อย เปล่งเสียงออกจากล�าคอแรงมาก ๆ โดยไม่ต้องขยับคาง ยกโคนล้ินขึ้น เล็กน้อยเพ่ือใหเ้ สยี งออกมาทัง้ ทางจมูกและทางปาก
251 ๒. ครั่น เปน็ วธิ ที �าให้เสยี งสะดดุ สะเทือนเพือ่ ความเหมาะสมกับทานองเพลงบางตอน วธิ ีทา� เสียง “ครน่ั ” เปลง่ เสียงออกจากลา� คอใหแ้ รงมาก ๆ จนเสียงทค่ี อเกดิ ความสะเทือนเป็นระยะ ๆ จะ มากหรอื น้อยขนึ้ อยกู่ ับผขู้ ับรอ้ งท่เี หน็ วา่ ไพเราะ น่าฟงั ๓. โปรย เสยี ง “โปรย” ใชไ้ ดท้ ง้ั การขบั รอ้ งและการดนตร ี คอื เมอ่ื รอ้ งจวนจะจบทอ่ นกโ็ ปรย เสยี งใหด้ นตรสี วมรบั และเมอื่ ดนตรรี บั จนจะจบทอ่ นกจ็ ะโปรยใหร้ อ้ งรบั ชว่ งไป คา� วา่ “โปรย” นค้ี ลา้ ย กบั ศัพทท์ างดนตรีวา่ “ทอด” นน่ั เอง เป็นการผอ่ นจงั หวะให้ช้าลงเม่อื จะจบเพลง หรือเมอ่ื จะให้ผขู้ ับ รอ้ งร้อง ๔. ปริบ เสยี ง “ปรบิ ” วธิ ที า� เหมอื นเสยี ง “ครนั่ ” แต่เบากวา่ ๕. เสยี งกรอก เสียง “กรอก” เปน็ ลักษณะท่เี กดิ จากการท�าเสียงท่คี อให้คล่องกลบั ไปกลับ มาเพื่อความเหมาะสมกับท�านองเพลงบางตอน วิธีท�าเสียง “กรอก” เผยอริมฝีปากเล็กน้อย เปล่ง เสยี งจากคอใหแ้ รงพอสมควรสลบั กบั เสยี งทางจมกู ทา� เสยี งใหก้ ลบั ไปกลบั มาระหวา่ งคอกบั จมกู 2–3 ครัง้ หรอื มากกวา่ ตามความเหมาะสม ๖. เสียงกลืน ใช้ในการร้องลงต�่า คือ เมื่อต้องการให้เสียงต�่าก็กลืนเสียงลงในลาคอ วิธีท�า เสยี ง “กลนื ” เผยอรมิ ฝปี ากเลก็ นอ้ ย เปลง่ เสยี งออกจากลา� คอใหแ้ รงพอสมควร ขยบั คอเลก็ นอ้ ย เพอื่ ใหก้ ลนื เสยี งลงไปในล�าคอไดส้ ะดวก จะกลนื เสียงมากนอ้ ยข้ึนอยู่กบั ผู้ขับรอ้ งจะเห็นสมควร ๗. หลบเสยี ง หลบเสียง หมายถงึ การรอ้ งท่ีด�าเนินทา� นองเปลีย่ นจากเสยี งสูงลงมาเป็นเสยี ง ตา�่ หรอื จากเสยี งตา่� เปน็ เสยี งสงู ในทนั ทที นั ใดการรอ้ งเพลงตอนใดทเ่ี สยี งไมส่ ามารถจะรอ้ งใหส้ งู ขน้ึ ไป ได้อกี แล้ว ก็ใหห้ ลบเสียงเปน็ เสียงต�า่ (เสยี งคูแ่ ปด) โดยการผอ่ นเสยี งเดมิ ให้คอ่ ย ๆ เบาลงมาหาเสียง ตา�่ หรอื ถา้ ตอนใดเสยี งรอ้ งนนั้ จะตอ้ งลงตา่� ตอ่ ไปอกี แตเ่ สยี งรอ้ งไมส่ ามารถจะตา�่ ลงไปไดอ้ กี กร็ อ้ งหกั เสยี งให้สูงข้นึ ด้วยวิธกี ารเช่นเดียวกนั เน่ืองจากการขับร้องเพลงไทยมีเทคนิคในการขับร้องท่ีสูงมาก ดังน้ันเทคนิคต่าง ๆ ในการ ร้องเพอ่ื ตบแต่งท�านองให้ไพเราะ น่าฟัง ดงั กล่าวแลว้ น้ ี อาจแตกตา่ งกันไปบา้ งตามสตปิ ัญญา ความ สามารถที่เห็นว่าไพเราะของแต่ละบุคคลซ่ึงลักษณะอย่างนี้เป็นการแสดงออกถึงความสามารถด้าน ความคดิ สรา้ งสรรคข์ องนกั รอ้ งเพลงไทยทสี่ ามารถประดษิ ฐท์ านองหรอื ทางในการรอ้ งได ้ โดยยดึ แกน รว่ มเดยี วกัน ในสว่ นของเพลงพน้ื บ้านนนั้ เทคนคิ ต่าง ๆ ในการร้องก็เชน่ เดียวกัน เพยี งแตว่ า่ การรอ้ ง กลอนเพลงพื้นบา้ น จะมีการรอ้ งเอ้ือน หรือรอ้ งคา� ซ้า ๆ เพอ่ื ชว่ ยยดื เวลาให้คิดกลอนไดท้ ัน สา� หรบั การร้องประกอบวงดนตรี การเออ้ื นหรอื เทคนิคต่าง ๆ ดงั กลา่ วจะเป็นแบบแผนมากข้นึ
๒๕๙225529 โอโ้เดอือ้เดนอื เนอยเอโอยเ้โดอือ้เดนอื ดนวดงวงางมงาม เพลงฟ้อนชมเดอื น โอเ้ ดอื นน้หี นอ ช่นื วิญญาไหนมาเทียมเทา่ คารอ้ ง : ลัดดา ศลิ ปบรรเลง สดุ สสุดวสสวยยเอเอยยรร่ืนืน่ รรววยยนนาารรี ี ทานอง : ลาวลาปาง นวลเดือนย่วั เย้า สอ่ งวาววามแลอรา่ มเวหา ช่างงามจรงิ หญิงเอยงามเดน่ ไป่ยอจนั ทรา โอแ้ สงจันทรเ์ จ้าคลายเศร้ารม่ เยน็ (ซ้า) ยามราตรมี ีจันทร์วันเพญ็ ใหส้ าวเริงเล่น หากเห็นฤทัยหวนไห้รญั จวน (ซ้า) เพลงฟ้อนชมเดือนน้ี ใช้ทานองลาวลาปาง เพลงท่ีมีสาเนียงลาวมักจะใช้รากับฟ้อน เนื้อเพลงกล่าวถึง การชมธรรมชาติ เช่น แสงเดือน ความงามของผู้หญิง และการแต่งกาย ท่าราได้พยายามเลียนแบบการฟ้อน ทางภาคเหนอื ทม่ี ลี ีลาออ่ นชอ้ ยงดงามน่าชม จงึ เรยี กการราแบบฝกึ นีว้ า่ \" ฟ้อนชมเดอื น\" ผงั ขับร้องเพลงฟ้อนชมเดอื น(ทานองสร้อยลาปาง ๒ ชน้ั ) ทอ่ นที่ ๑ โอ้ - - เดอื น เอย - - - - โอ้ - - เดอื น ดวงงาม -- - - -- - - ส่อง แวว - - วาม แล - - อรา่ ม เว - - หา -- - - -- - - นวล เดือน น่ี หนอ - - - - ไป่ ยอ จัน - - ทรา โอ้ - ช่นื - - - - ชวี า - - หา ไหน หนา เทียม - - เท่า โอ้ - - แสง จันทร์ เจา้ - - - - คลาย - - เศรา้ รม่ - - เยน็ - แสง จนั ทร์ เจา้ - - - - คลาย - - เศรา้ รม่ - - เย็น ทอ่ นท่ี ๒ สุด - - สวย - เอย - - - - ร่ืน รวย นา - - รี -- - - ยาม - รา - - ตรี มี - - จนั ทร์ วัน - - เพ็ญ -- - - นวล - - เดอื น ยว่ั เย้า - - - - ให้สาว เรงิ - - เลน่ -- - - งามจริง หญิง - งาม - - เด่น -- - - ชา่ ง - - - - ครา ใด หวล - - เอย - ใจ รัญ จวน เห็น - - - - ครา ใด หวล - - ไห้ - ใจ รญั จวน หาก - เห็น - - - - - ไห้ หาก -
๒๖๐ 225630 \"เพลงปา่ ดงพงพี\" ผู้ประพนั ธ์ คาร้อง: ฐะปะนีย์ นาครทรรพ ทานอง : สร้อยลาปาง ๒ ชน้ั \"ปา่ ดงพงพี ของไทยเรานี้ มเี กนิ พอ อยา่ มวั รีรอ ขอเชิญชว่ ยกนั ขมนั ขมี ถ่ินไทย นีแ้ ดน สุขสนั ต์ หลากพรรณ ไมง้ ามสดสี ตนื่ เถดิ เรา ยามเช้า มงุ าน ทันที จอบและเสยี มของเราก็มี สินทรพั ย์ทวี ด้วยกสิกรรม (ซา้ ) ป่า ดงพงพี ของไทยเรานี้ อดุ มครนั อยู่ ในไพรวัลย์ รักดินถิน่ ไทย ใจหรรษา แหลง่ ธาร นา้ ซา่ น หล่ังไหล หวา่ งไพร นี้งาม หนักหนา ถนิ่ แดนทองเรา น้ีควรปอง คุณค่า หมน่ั ขยันทุกวนั เวลา สนิ ทรพั ย์ได้มา ด้วยกสิกรรม (ซ้า)\" เพลงสร้อยลาปาง เป็นเพลงในอัตราจังหวะ ๒ ชั้น มีความไพเราะเพราะพร้ิงไม่แพ้เพลงลาวลาปางใหญ่ แต่สั้นกวา่ อาจารยฐ์ ะปะนีย์ นาครทรรพ จึงนาทานองสร้อยลาปางมาแต่งเปน็ เพลงให้เด็กประถมศึกษารอ้ ง ชื่อว่า \"เพลงป่าดงพงพี\" ตอ่ มานามาใชใ้ นการฝึกอบรมลกู เสือ
25641 ๒๖๑ ใบงาน เร่ือง เทคนคิ การขบั รอ้ งและเล่นดนตรี หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๓ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ รายวชิ า ดนตรี รหัสวิชา ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ช่ือ…………………………………………………………......................................................……….ชัน้ …………เลขที่…………… คาชี้แจง : ให้นักเรยี นอธบิ ายขัน้ ตอนเทคนิคการขบั ร้องเพลง หรือการเลน่ ดนตรี เทคนิคการขบั ร้อง และเล่นดนตรี
ท่ี ชือ่ – สกลุ แบบประเมนิ ใบงาน ๒๖๒ 26525 ๑ ระดับคุณภาพ ๔๓๒ รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา อธิบายเทคนิคการร้อง ๔ อธบิ ายเทคนิคการร้องและบรรเลงดนตรไี ด้ถูกต้อง ๔ ประเดน็ และบรรเลงดนตรีได้ ยกตวั อย่างประกอบได้สมเหตุผสมลผเลป็นเปตน็วั ตอวัยอา่ งยใ่าหง้เใพหื่อ้เพน่อื ไนดไ้ ด้ (ดเี ยีย่ ม) อธบิ ายเทคนิคการร้องและบรรเลงดนตรีได้ถูกต้อง ๓ ประเด็น ๓ ยกตวั อยา่ งประกอบได้สมเหตสุผมลผล (ดี) อธิบายเทคนิคการร้องและบรรเลงดนตรไี ด้ถูกต้อง ๒ ประเดน็ ๒ ยกตัวอย่างประกอบได้ (พอใช)้ อธบิ ายเทคนิคการร้องและบรรเลงดนตรีได้ ๑ ประเด็น ๑ (ควรปรบั ปรุง)
๒๖๓ 26536 แบบประเมินทักษะการใชเ้ ทคนิคการขับรอ้ งและเล่นดนตรี ชือ่ กลมุ่ ..................................................................... ๒2. ............................................................ สมาชกิ ในกลมุ่ ๑1. .................................................................. ๔4. ............................................................ ๓3. .................................................................. ๖6. ............................................................ ๕5. .................................................................. ที่ ชอื่ รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ ๑1 เสียงรอ้ ง ๔๓๒๑ ๒2 คารอ้ งและทานอง ๓3 อกั ขระ รวม ๔4 จังหวะและลีลาอารมณ์ ๕5 บคุ ลกิ ภาพ เกณฑก์ ารให้คะแนน ดีมาก = ๔4 ดี = 3๓ พอใช้ = ๒2 ปรับปรงุ = ๑1 เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คะแนน 1๑6๖–- 2๒0๐ ดีมาก 1๑0๐–- 1๑5๕ ดี 5๕–-9๙ พอใช้ 1๑--4๔ ปรับปรุง
๒๖๔25674 แบบประเมนิ ผังมโนทศั น์ ( Maid Map Rubric ) ช่อื กลมุ่ ...............................................................................................ชัน้ ............................ คะแนน พฤติกรรมทสี่ ังเกต ดมี าก ดี พอใช้ ควร ปรบั ปรงุ ๑. เนอื้ หา (Content) ๒. การนาเสนอผลงาน (Presentation) ๓. การออกแบบ (Design) รวม ลงชื่อ..............................................ผ้ปู ระเมนิ (.............................................) ........./........................./.......... ระดบั คุณภาพ ดีมาก ๑๐ - ๙ = ดี ๘-๖= พอใช้ ๕-๓= ควรปรบั ปรงุ ๒-๑= = ดมี าก ผลการประเมิน = ดี ๒๖ - ๓๐ = พอใช้ ๒๐ - ๒๕ = ควรปรบั ปรุง ๑๑ - ๑๙ ๐ - ๑๐
๒๖๕ 225685 เกณฑก์ ารประเมนิ ผังมโนทศั น์( Maid Map Rubric ) กจิ กรรม ดีมาก (๑๐-๙) ระดับคณุ ภาพ ควรปรบั ปรงุ รวม (Activity) ดี (๘-๖) พอใช้ (๕-๓) (๒-๑) แสดงความรู้ความ แสดงความรูค้ วาม แสดงความรู้ แสดงความรคู้ วาม เข้าใจในเน้ือหา เข้าใจในเนอื้ หา ความเข้าใจใน เขา้ ใจในเน้ือหา ท่คี น้ คว้ามาอยา่ งดี ท่ีค้นควา้ มาอย่างดี เน้ือหา ที่คน้ ควา้ ปานกลาง เนอื้ หา มาก มขี นั้ ตอน มขี น้ั ตอน ครบถว้ น ท่คี ้นควา้ ปาน ขาดข้นั ตอน และ (Content) รายละเอยี ด ไม่มี ครบถว้ น มีการสรปุ มีการสรุปความ กลาง ขาด การสรปุ ความ ความคิดเห็น คดิ เหน็ โดยใช้เหตุ ขั้นตอน และ โดยใชเ้ หตุผลได้ ผลไดอ้ ยา่ ง รายละเอยี ด มี คดิ เห็น อย่างสมเหตสุ มผล สมเหตุสมผล การสรุปความ คดิ เหน็ จดั ทาแผนภาพ จดั ทาแผนภาพ จัดทาแผนภาพ จัดทาแผนภาพ อย่างเป็นระบบ อย่างเป็นระบบ นาเสนอดว้ ย นาเสนอดว้ ยขอ้ มูล และนาเสนอดว้ ย และ นาเสนอดว้ ย ขอ้ มูลถูกต้อง แต่ ถูกต้องบางสว่ น การนาเสนอ ข้อมูลท่ีถูกต้อง ข้อมูลแบบที่ ไมค่ รอบคุลมใน ขาดบางประเด็น ผลงาน ครอบคลุมหัวขอ้ ถกู ต้อง หัวขอ้ สาคัญบาง สาคัญและขาด (Presentation) และรายละเอยี ดที่ ครอบคลุมหวั ขอ้ ประเดน็ และขาด รายละเอียด สาคญั สาคัญ รายละเอียด ขาดรายละเอียด ในบางหวั ขอ้ มกี ารใช้ รปู ภาพ มกี ารใช้ ตัวอกั ษร มกี ารใช้ ตวั อกั ษร ขาดการใช้ ตัวอักษรและสสี นั และสสี นั เร้า และสีสัน ตวั อกั ษรและสีสนั การออกแบบ เรา้ ความสนใจ มี ความสนใจ มี นา่ สนใจ ขาด มาตราสว่ นและ (Design) มาตราสว่ นและ มาตราส่วนและ มาตราสว่ นและ สมดลุ ของภาพ สมดุล สมดลุ ของภาพ สมดุลของภาพ ไมไ่ ดส้ ดั สว่ น ของภาพ
๒๖๖25696 แบบสังเกตพฤตกิ รรมคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ หนว่ ยที่ ๓ เร่ืองร้องเลน่ เป็นเพลง แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๑ รายวิชา ดนตรี รหัสวชิ า ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ระดับคณุ ภาพ ลาดบั ช่อื นักเรยี น ๓ ๒ ๑ ๐ สรปุ ผล (ดเี ยย่ี ม) (ดี) (ผา่ น) (ไมผ่ า่ น) เกณฑ์การประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ/พฤตกิ รรม รายการประเมนิ ๓ ๒ ๑ ๐ ไม่ผ่าน ดเี ย่ียม ดี ผ่าน ไม่ตง้ั ใจเรยี น เข้าเรยี นไม่ตรงเวลา ใฝเ่ รยี นรู้ เข้าเรียนตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา บอ่ ยครง้ั ทุกครง้ั ตงั้ ใจเรียน บอ่ ยครัง้ ตัง้ ใจเรยี น บางคร้ัง ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ เอาใจใส่ เอาใจใส่ มคี วามเพียร มคี วามเพยี ร มคี วามเพียร พยายาม พยายาม พยายาม ในการเรยี นรู้ ในการเรียนรู้ ในการเรียนรู้ มีสว่ นร่วม มสี ่วนรว่ ม มีสว่ นร่วม ในการเรียนรู้ ในการเรยี นรู้ ในการเรยี นรู้ ศึกษาคน้ ควา้ ศึกษาค้นควา้ หาความรจู้ าก หาความรจู้ าก แหล่งเรยี นรู้ตา่ ง ๆ แหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ เกณฑ์การผา่ น ตั้งแต่ระดับ ๒
๒๖๗ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ เรือ่ งร้องเล่นเป็นเพลง เรือ่ ง หลักและเทคนคิ การขับรอ้ งเพลงไทย เวลา ๑ ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ รายวิชา ดนตรี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ขอบเขตเน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ - หลกั และเทคนิคการขบั รอ้ งเพลง ขั้นนา ๑. แผนภมู เิ พลงสรอ้ ยลาปาง ไทย ๑. นักเรียนทบทวนการขับร้องเพลงสรอ้ ยลาปาง พร้อมๆ กันทั้งห้อง ภาระงาน/ชน้ิ งาน ขนั้ สอน ๑. ฝึกปฏิบตั กิ ารขับร้องเพลงสรอ้ ยลาปาง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นกั เรียนทบทวนฝึกทักษะการขับรอ้ งเพลงสร้อยลาปาง เป็นกลุ่ม โดยครู ดา้ นความรู้ ๒. สอบปฏบิ ตั ิการขับร้องเพลงสร้อยลาปาง - กาหนดให้ฝึกเปน็ เวลา ๑๐ นาที ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ๒. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ออกมาสอบปฏิบตั กิ ารขับร้องเพลง สรอ้ ยลาปาง - ร้อง เล่นดนตรี เดี่ยว และรวมวง หน้าชั้นเรียนทลี ะกล่มุ จนครบทกุ กลุ่ม โดยใหน้ ักเรยี นกลมุ่ ทไี่ ม่ไดส้ อบรว่ ม ดา้ นคณุ ลักษณะ ประเมนิ ผลการขับร้องกลมุ่ อื่น โดยครสู มุ่ นักเรียนเปน็ รายบคุ คล วิจารณ์ - ใฝ่เรยี นรู้ การขบั ร้องเพลงของกลุ่มที่สอบปฏบิ ตั ิในประเด็นเรื่อง เสียง คารอ้ งทานอง อักขระ ลีลาอารมณ์ และบุคลกิ ของผู้ขับรอ้ ง ข้ันสรปุ ๑. ครู และนกั เรียนร่วมสรปุ ผลการปฏบิ ัติการขบั ร้องเพลง โดยใช้ประเดน็ ถาม ตอบ ดังนี้ - การเอ้ือนเสียงมคี วามสาคัญต่อเพลงไทยอย่างไร - การขบั รอ้ งเดย่ี วควรมีการฝึกซ้อมอย่างไรบา้ งเพ่ือใหข้ ับร้องได้ - การควบคมุ คุณภาพเสยี งในการขับร้องมีความสาคญั อย่างไร - การฝกึ ลมหายใจสง่ ผลดตี ่อการขบั ร้องเพลงอยา่ งไร 226670
๒๖๘2681 การวัด และการประเมนิ ผล สิ่งทีต่ ้องการวัด/ประเมิน วธิ กี าร เครือ่ งมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ - -- - ดา้ นทักษะและ ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์คุณภาพระดบั กระบวนการ ๒ ขนึ้ ไป ใชเ้ ทคนิคในการขับร้อง และเล่นดนตรีได้อยา่ งถกู วธิ ี ดา้ นคุณลักษณะ สังเกต แบบบันทึก ผ่านเกณฑ์คุณภาพระดบั ใฝเ่ รยี นรู้ การสังเกต ๑ ขน้ึ ไป บันทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. .............................. .................................................................................................... ..................................................................... ปัญหาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................. .................................................................................................... ..................................................................... ลงชอื่ ............................................ผู้สอน (............................................) วนั ที่..........เดือน...................พ.ศ.......... ความคิดเหน็ ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผไู้ ด้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................. .............................. ......................................................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................ผ้ตู รวจ (............................................) วันที.่ .........เดือน...................พ.ศ..........
๒๖๙226629 แบบประเมนิ ทักษะการใช้เทคนิคการขบั ร้องและเลน่ ดนตรี ชอื่ กลุ่ม ..................................................................... ๒2. ............................................................ สมาชกิ ในกลมุ่ 1๑.................................................................... ๔4. ............................................................ 3๓.. .................................................................. ๖6. ............................................................ 5๕.. .................................................................. ท่ี ช่อื รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ๑1. เสยี งรอ้ ง ๔๓๒๑ ๒2. คารอ้ งและทานอง ๓3. อกั ขระ รวม ๔4. จงั หวะและลลี าอารมณ์ ๕5. บุคลกิ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดีมาก = 4๔ ดี = 3๓ พอใช้ = ๒2 ปรับปรงุ = ๑1 เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคะแนน 1๑6๖–- 2๒0๐ ดมี าก 1๑0๐–- 1๑5๕ ดี 5๕–- 9๙ พอใช้ 1๑--4๔ ปรบั ปรุง
๒๗๐26730 แบบสังเกตพฤติกรรมคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ หน่วยที่ ๔ เรื่องร้องเล่นเป็นเพลง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ รายวชิ า ดนตรี รหสั วชิ า ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ระดบั คณุ ภาพ ลาดับ ชอื่ นกั เรยี น ๓ ๒ ๑ ๐ สรุปผล (ดีเยยี่ ม) (ดี) (ผ่าน) (ไม่ผ่าน) เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ/พฤติกรรม รายการประเมิน ๓ ๒๑ ๐ ไมผ่ ่าน ดีเยยี่ ม ดี ผา่ น ไมต่ งั้ ใจเรยี น เข้าเรยี นไม่ตรงเวลา ใฝเ่ รียนรู้ เข้าเรยี นตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา บอ่ ยคร้ัง ทกุ ครั้ง ตงั้ ใจเรยี น บอ่ ยครั้ง ตัง้ ใจเรยี น บางครงั้ ต้งั ใจเรยี น เอาใจใส่ เอาใจใส่ เอาใจใส่ มคี วามเพียร มีความเพยี ร มีความเพยี ร พยายาม พยายาม พยายาม ในการเรยี นรู้ ในการเรยี นรู้ ในการเรียนรู้ มสี ่วนร่วม มสี ว่ นรว่ ม มสี ่วนร่วม ในการเรยี นรู้ ในการเรยี นรู้ ในการเรียนรู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ ศึกษาค้นคว้า หาความรจู้ าก หาความรจู้ าก แหลง่ เรียนร้ตู า่ ง ๆ แหล่งเรยี นรตู้ า่ ง ๆ เกณฑ์การผา่ น ตง้ั แต่ระดบั ๒
๒๗๑ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ เร่ืองทักษะดนตรีไทย เรื่อง การบรรเลงดนตรเี ด่ียว และรวมวง เวลา ๑ ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ รายวิชา ดนตรี ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ขอบเขตเนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ - การบรรเลงดนตรเี ดี่ยว และรวมวง ขั้นนา ๑.วีดิที ศั น์การเปา่ ขลยุ่ ของอาจารย์ธนศิ ร์ ศรีกลน่ิ ดี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนชมวดี ทิี ัศน์การเปา่ ขลยุ่ ของ อาจารยธ์ นิศร์ ศรีกล่นิ ดี พร้อม ๒. ใบความรู้ เรือ่ งขล่ยุ เพียงออ ดา้ นความรู้ ถามนักเรียนว่านักเรียนร้จู กั ศิลปนิ ท่านนี้หรือไม่ และมีชือ่ เสียงในดา้ นใด ๓. แผนภูมิแบบฝกึ หัดโนต้ เบ้ืองตน้ - อธิบายเทคนคิ การขับร้องเพลงไทย เสยี งบทเพลงท่ีไดย้ ินให้ความรู้สกึ อย่างไร นกั เรยี นมีศิลปินด้านดนตรที ่ี ภาระงาน/ชนิ้ งาน และบรรเลงดนตรเี ด่ียว และรวมวงได้ ชน่ื ชอบคือใคร เพราะเหตุ - ฝึกปฏบิ ัติขล่ยุ เพยี งออเบ้ืองตน้ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ขัน้ สอน - ร้อง เล่นดนตรี เด่ียว และรวมวง ๑. นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง ขลุ่ยเพยี งออ โดยครูอธบิ าย พร้อมตงั้ ดา้ นคณุ ลักษณะ คาถามกระตนุ้ เป็นระยะๆ (ลักษณะของขลุ่ยทั่วไป, - ใฝ่เรียนรู้ วิธกี ารดแู ลรักษาเครื่องดนตรขี ลยุ่ เพยี งออ, วธิ กี ารเป่าขลยุ่ เพยี งออ, วิธกี ารจับขลยุ่ เพียงออ, ลกั ษณะการวางน้วิ ๒. ครูสาธิตการฝึกทักษะเบื้องต้นการปฏิบัตขิ ลยุ่ เพยี งออ เพื่อให้ นกั เรียนปฏิบตั ติ าม โดยเร่มิ จากการไลเ่ สียงโน้ตดนตรไี ทย พร้อมๆ กัน จนถนัดและเกดิ ทักษะ ๓. ครตู ดิ แผนภูมิแบบฝึกหดั โนต้ เบือ้ งต้นสาหรบั ฝกึ ปฏิบตั ิขลุ่ยเพยี งออ บนกระดาน แล้วให้นักเรียนเป่าตามตัวโนต้ ที่ครชู ้ี โดยใหฝ้ กึ เปา่ พร้อมๆ กนั ทง้ั ห้อง เปา่ ทีละแถว จนนักเรยี นสว่ นใหญ่เป่าได้คลอ่ งข้ึน 27641
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๔ เรอ่ื งทักษะดนตรไี ทย แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๓ ๒๗๒ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ เรอื่ ง การบรรเลงดนตรเี ด่ียว และรวมวง เวลา ๑ ชั่วโมง รายวิชา ดนตรี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ขนั้ สรปุ ๑. ครูสรปุ ความรูเ้ บอ้ื งตน้ เก่ียวกบั การฝกึ ปฏบิ ตั ขิ ลยุ่ เพียงออ พร้อม เสนอแนะใหน้ ักเรยี นไดฝ้ ึกฝนการปฏบิ ตั ใิ หเ้ ป็นประจา พร้อมแจ้งเกณฑ์ การสอบปฏบิ ัติ การเป่าขล่ยุ เพียงออในแบบฝึกหดั โน้ตเบื้องตน้ 272 265
๒๗๓227636 การวดั และการประเมนิ ผล สิ่งทีต่ ้องการวัด/ประเมนิ วธิ กี าร เครอ่ื งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ อธบิ ายหลักการปฏบิ ตั ิ สรปุ หลกั การปฏบิ ตั ิ แบบประเมิน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ทกุ ขล่ยุ เพียงออได้ ขลุ่ยเพียงออ รายการข้นึ ไปถือว่า ผ่าน ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ปฏิบัติทกั ษะขลยุ่ เพลียงออ สอบปฏิบตั กิ ารขบั ร้อง แบบประเมนิ การขับร้อง ได้ระดบั คุณภาพ ๒ ทุก ในบทเพลงทีกาหนดได้ และบรรเลงดนตรี และบรรเลงดนตรี รายการขนึ้ ไปถือว่า ผ่าน ด้านคณุ ลกั ษณะ เหน็ คณุ คา่ การปฏบิ ัติขลยุ่ สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ได้ระดบั คณุ ภาพ ๒ ทกุ เพียงออ ด้านคุณลกั ษณะ รายการขึน้ ไปถือว่า ผา่ น บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................. ............................................ ปญั หาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................. ......................................................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................ผู้สอน (............................................) วันท.่ี .........เดือน...................พ.ศ.......... ความคดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผไู้ ดร้ บั มอบหมาย ............................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................. ............................................ ลงช่อื ............................................ผู้ตรวจ (............................................) วันท่ี..........เดอื น...................พ.ศ..........
๒๗๔27674 ใบความรู้ เรอ่ื งทกั ษะการขับร้องและบรรเลงดนตรี หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๔ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๓-๔ เรือ่ ง การปฏบิ ตั ขิ ลุ่ยเพยี งออ รายวชิ า ดนตรี รหสั วิชา ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ จุดประสงค์ท่ี ๒ ร้อง เลน่ ดนตรี เดย่ี ว และรวมวง ขลุย่ เพียงออ ขลุ่ยโดยท่วั ไป ทาจากไม้ไผ่ ซ่ึงเปน็ ไม้ไผเ่ ฉพาะพนั ธเ์ุ ท่านัน้ ปัจจบุ นั น้ีไม้ไผ่ท่ที าขล่ยุ ส่วนใหญม่ าจาก สระบุรี และนครราชสมี า นอกจากไมไ้ ผแ่ ล้วขลยุ่ อาจทาจากงาชา้ ง ไมช้ ิงชนั หรือไมเ้ น้ือแข็งอนื่ ๆ และปัจจุบันมี ผูน้ าพลาสตกิ มาทาขลยุ่ กันบ้างเหมอื นกนั ในเรื่อง คุณภาพน้ัน ขล่ยุ ที่ทาจากไมไ้ ผจ่ ะดกี วา่ ขลุย่ ทที่ าจากวัตถุอืน่ เน่ืองจากไม้ไผ่เป็นรกู ระบอกโดยธรรมชาติมีผวิ ท้ังดา้ นนอก ด้านในทาให้ ลมเดินสะดวก เมื่อถูกน้าสามารถ ขยายตัวได้ สมั พนั ธก์ บั ดากทาใหไ้ ม่แตกงา่ ย นอกจากนีผ้ ิวนอกของไม้ไผส่ ามารถตกแต่งลาย ให้สวยงามได้ เช่น ทา เป็นลายผ้าปมู ลายดอก ลายหนิ ลายเกร็ดเต่า เป็นตน้ อีกประการหนึ่งทีส่ าคญั คือ ไม้ไผ่มีขอ้ โดยธรรมชาติ ซงึ่ โดย ทว่ั ๆ ไป จะเห็น ว่าส่วนปลายของขลยุ่ ด้านที่ไม่ใช้เป่านน้ั มีขอ้ ตดิ อยู่ดว้ ยแตเ่ จาะเปน็ รสู าหรับปรบั เสยี งของน้ิว สุดทา้ ยให้ ไดร้ ะดับ ส่วนของข้อทเ่ี หลือ จะทาหนา้ ท่ี อุ้มลมและเสียง ใหเ้ สยี งขลุ่ยมีความกังวานไพเราะมากขึน้ ซ่ึง ถ้าเปน็ ขล่ยุ ที่ทาจากวัสดอุ ่ืนโดยการกลงึ ผ้ทู าอาจไมค่ านึงถงึ ข้อน้ีอาจทาให้ขลุ่ย ดอ้ ยคณุ ภาพไปได้ อีกประการหนง่ึ สว่ นของข้อนีจ้ ะชว่ ยป้องกนั มิให้ขลุ่ยแตกเมอื่ สภาพของไม้หรือ อากาศมีการเปลยี่ นแปลง ขลุ่ยเพียงออ เป็นเคร่ืองดนตรีไทย ประเภทเครื่องเป่าชนิดไม่มีล้ิน ทาจากไม้รวกปล้องยาวๆ ด้านหน้า เจาะรูเรียงกัน สาหรับปิดเปิดเพื่อเปล่ียนเสียง ตรงท่ีเป่าไม่มีล้ินแต่มีดาก ซึ่งทาด้วยไม้อุดเหลาเป็นท่อนกลมๆยาว ประมาณ ๒ น้ิว สอดลงไปอุดที่ปากของขลุ่ย แล้วบากด้านหนึ่งของดากเป็นช่องสี่เหล่ียมเล็กๆ เราเรียกว่า ปากนกแก้ว เพ่ือให้ลมส่วนหน่ึงผ่านเข้าออกทาให้เกิดเสียงขลุ่ยลมอีกส่วนจะว่ิงเข้าไปปลายขลุ่ยประกอบกับนิ้วที่ ปิดเปิดบงั คบั เสียงเกิดเปน็ เสยี งสงู ต่าตามตอ้ งการได้ปากนกแก้วลงมาเจาะ ๑ รู เรียกวา่ รูนิ้วค้า เวลาเป่าต้องใชห้ ัว แม่มือค้าปิดเปิดท่ีรูนี้ บางเลาด้านขวาเจาะเป็นรูเย่ือ ปลายเลาขลุ่ยมีรู ๔ รู เจาะตรงกันข้ามแต่เหลื่อมกันเล็กน้อย ใช้สาหรับร้อยเชือกแขวนเก็บหรือคล้องมอื จงึ เรียกว่า รูรอ้ ยเชือก รวมขลุ่ยเลาหนึ่งมี ๑๔ รูด้วยกัน รูปร่างของขลุ่ย เมือพิจารณาแล้วจะเป็นเครื่องดนตรีทเี่ ก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่ง จากหลักฐานที่พบขลุ่ยในหีบศพภรรยาเจ้าเมืองไทยท่ี รมิ ฝ่ังแม่นา้ ฮวงเหอ ซึ่งมีหลกั ฐานจารึกศกั ราชไวไ้ ม่ต่ากว่า ๒๐๐๐ ปี ปัจจุบันขลยุ่ มีราคาสูง เนอ่ื งจากไมร้ วกชนดิ ที่ ทาขลุ่ยมีน้อยลงและใช้เวลาทามากจึงใช้วัตถุอ่ืนมาเจาะรูซึ่งรวดเร็วกว่า เช่น ไม้เนื้อแข็ง ไม้ไผ่ ไม้ชิงชัน ไม้พยุง บางคร้ังอาจทาจากท่อพลาสติกแตค่ ุณภาพเสียงไม่ดีเทา่ ขลยุ่ ไม้ ขลุ่ยทมี่ ีเสียงไพเราะมากส่วนใหญ่จะเป็นขลุ่ยผิวไม้ แหง้ สนิท ปัจจุบนั ขลุย่ เป็นเครอ่ื งดนตรีทมี่ ีบทบาทสาคัญ วงดนตรหี ลายประเภทจึงขาดขลุ่ยไม่ได้เลยทีเดียว เชน่ วง มโหรี วงเคร่ืองสาย ชนิดตา่ งๆ วงป่ีพาทยไ์ มน้ วม วงปพ่ี าทดึกดาบรรพ์ เป็นตน้ เอกลักษณ์ที่สาคญั ของขลยุ่ ไทย คือ การทาลายบนเลาขลุ่ย ให้เป็น ลวดลายต่างๆ ซ่ึงการทาลายน้ันอาจมาจากใช้ความร้อนจากตะก่ัวที่หลอมละลาย หรือการลนไฟ เป็นต้น เพื่อให้ขลุ่ยมีความสวยงาม มากยิ่งข้ึน เช่น ลายน้าไหลลายหกคะเมน ลายหิน ลายผ้าปูม ลายดอกจิก เปน็ ตน้ แตถ่ า้ ผิวของไมไ้ ผท่ ่นี ามาทาขลยุ่ สวยอย่แู ล้วอาจ ไม่ตอ้ ง ทาลวดลายก็ได้
๒๗๕27685 ลกั ษณะขลุ่ยโดยทั่วไป ที่มา : https://sites.google.com/site/soundling14/ เลาขลุ่ย คือ ตัวขลยุ่ มีขนาดแตกต่างกนั ไปตามชนดิ ของขลุ่ย มกั นิยมประดษิ ฐ์ลวดลาย ต่าง ๆ ลงบนตวั ขลยุ่ เชน่ ลายดอกพิกลุ ลายหนิ และลายลูกระนาด เปน็ ต้น ถ้าเปน็ ขลุ่ยไม้ไผ่ นิยมจะทาลวดลายลงบนเลาขลยุ่ แต่ถา้ เปน็ ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไมช้ ิงชัน ไม้พยุง ไมง้ วิ้ ดา ฯลฯ จะไม่นิยมทาลายลงบนเลาขล่ยุ แตอ่ าจจะมกี ารลงรัก ประกอบมุก ประกอบงา แทน - ดาก คอื ไม้อุดปากขลยุ่ นิยมใช้ในไมส้ ักทอง เหลากลมให้คับแน่นกบั ร่องภายในของปากขลุ่ย ฝานให้เป็นช่องว่าง ลาดเอียงตลอดช้นิ ดาก ให้เปา่ ลมผ่านไปได้ - รูเปา่ เปน็ รสู าหรบั เปา่ ลมเขา้ ไป - รปู ากนกแก้ว เปน็ รทู เ่ี จาะร่องรบั ลม จากปลายดากภายในขลุ่ย อยู่ดา้ นเดยี วกับรเู ป่า อยสู่ ุด ปลายดากพอดี เป็นรปู สเ่ี หลีย่ มผืนผา้ รูปากนกแกว้ น้ที าใหเ้ กดิ เสยี ง เทียบไดก้ บั ล้ินของขลุย่ - รูเยอ่ื เปน็ รูสาหรับปิดวสั ดทุ ี่ทาให้เสียงสน่ั พริ้ว มักใช้เยือ่ ไมไ้ ผ่ หรอื เย่ือหวั หอมปิด อยู่ด้าน ขวามือ * ในปจั จบุ นั หาขลุ่ยที่มีรูเยือ่ ไม่ค่อยไดแ้ ล้ว - รูค้า หรอื รูน้ิวค้า เป็นรูสาหรบั ให้นวิ้ หวั แม่มอื ปดิ เพื่อบังคับเสยี ง และประคองเลาขลยุ่ ขณะเปา่ อยู่ด้านล่างเลาขลุ่ย ต่อจากรูปากนกแกว้ ไปทางปลายเลาขลยุ่ - รบู ังคับเสยี ง เป็นรทู ีเ่ จาะเรยี งอยู่ดา้ นบนของเลาขล่ยุ มอี ยู่ ๗ รู ดว้ ยกนั
๒๗๖27696 - รูรอ้ ยเชอื ก มี ๔ รู หรือ ๒ รกู ไ็ ด้ อยทู่ างส่วนปลายของเลาขลยุ่ โดยการเจาะทะลบุ น-ลา่ ง และ ซา้ ย-ขวา ใหเ้ ย้อื งกันในแตล่ ะคู่ ช่างบางคนไดก้ ลา่ วไวว้ า่ ความจรงิ จุดประสงค์หลักไม่ได้ไว้ร้อยเชือก ท่จี รงิ ทาเพ่ือใหเ้ สียงของขลุ่ยไดท้ ่ีน่ันเอง] การรักษาขล่ยุ ขลุย่ ถา้ ทิง้ ไว้นาน ๆ จะแห้ง ดากจะหดตวั ลง ทาใหเ้ ปา่ เสยี งไมใ่ ส การที่จะให้ขลุ่ยเสียงดีพระยาภูมเี สวินได้ ให้คาแนะนาว่าให้นาขลุ่ยแช่น้าผ้ึงให้ท่วมปากนกแก้ว น้าผึ้งจะช่วยให้ขลุ่ยชุ่มอยู่เสมอและขยายตัว ไม่มีช่องท่ีลม จะร่ัวได้ หรอื อีกวธิ หี นงึ่ ทาโดย นาขล่ยุ ไปแช่ในน้าตาลสดหรือน้าตาลเมาหลาย ๆ วนั จะทาให้เนอื้ ได้อยู่ตวั มอดไม่ รบกวน นอกจากน้ีควรระวังด้านอ่ืน ๆ คืออย่าให้ถูกความร้อนนาน ๆ ไม่ควรเอาไม้หรือวัสดุอื่นแหย่เข้าไปใน ปากนกแก้ว เพราะอาจทาให้แง่ของดากภายในบิ่น เสียงจะเสยี ไปได้ขลุ่ยเป็นเคร่ืองดนตรีที่ต้องใชป้ ากเป่าโดยตรง ฉะนั้นการรกั ษาความสะอาดจงึ เป็นเรอ่ื งทส่ี าคญั โดยมีวิธีการบารุงรกั ษาดงั น้ี ๑. ก่อนหรือหลงั เป่าขลยุ่ ควรทาความสะอาดโดยการขดั เช็ดทกุ ครง้ั แต่หา้ มนาไปล้างในอ่างนา้ หรือตาก แสงแดดโดยตรง เพราะจะทาใหเ้ กิดการยืดหรอื หดตัวได้ อันเป็นสาเหตทุ าใหเ้ สียงขล่ยุ เปล่ยี นไป ควรใช้ แอลกอฮอลเ์ ช็ดเพื่อฆา่ เชอ้ื บริเวณทเ่ี ป่าด้วย ๒. อยา่ ใช้ขลยุ่ ร่วมกบั ผอู้ ่นื เพราะอาจเปน็ แหลง่ แพรเ่ ช้อื ได้ ๓. อยา่ ให้ตกหลน่ เพราะขลุ่ยนท้ี าดว้ ยไมห้ รือพลาสติกอาจแตกหักได้ ๔. ถา้ ไม่มคี วามรู้จรงิ ๆ อย่าไปตกแตง่ รูขลยุ่ เพราะจะทาให้เสียงเพย้ี นได้ ๕. หลังการใช้ควรเกบ็ ใส่ถุงให้เรียบร้อยเพ่ือป้องกนั แมลงหรือสัตว์เล็กๆเขา้ ไปอาศัย วิธเี ป่าขลยุ่ เพียงออ ให้เผยอริมฝีปากด้านบนและล่างจรดลงบนรูปากเปา่ จดั เลาขล่ยุ ให้ตั้งได้มุมประมาณ ๔๕ องศา กับลาตัว โดยทอดแขนไวข้ ้างลาตัวพองาม(ไม่กางศอกมากจนเกินไป)เปา่ ลมใหเ้ หมาะสมไม่เบาและแรงจนเกนิ ไป ท่านั่งเป่าขล่ยุ เพยี งออ ที่มา : http://pirun.ku.ac.th/~b5411100453/learn.html
๒๗๗227770 การเลน่ เคร่ืองดนตรีไทยทุกชนิด นักดนตรีต้องสารวมกริ ิยามารยาทปฏิบัตใิ ห้เรียบรอ้ ย ให้ความเคารพต่อ ครูบาอาจารย์ เคร่ืองดนตรี ผู้ฟัง ตลอดจนนักดนตรีด้วยกันเอง การนั่งเป่าขล่ยุ ต้องน่ังตวั ตรงเพื่อให้ลมเดินสะดวก ไมน่ ั่งกม้ หนา้ ถา้ นงั่ กับพน้ื ควรนงั่ พบั เพยี บ ทา่ จับขลุ่ยเพยี งออ การจับขล่ยุ แบบไทยโดยประเพณีนิยมมาแตโ่ บราณจะจบั เอามอื ขวาอยขู่ ้างบนมอื ซา้ ย(แตถ่ ้าจับแบบสากล นิยมจบั เอามือซ้ายไว้ด้านบนมอื ขวาไวด้ ้านล่าง) ซึง่ สันนษิ ฐานว่าคนสว่ นใหญ่ถนัดมือขวามากกวา่ มือซา้ ย วธิ จี ับขลุ่ยเพียงออ มือบนจับเลาขล่ยุ ๓ รดู ้วยนิ้วช้ี น้วิ กลางและนิ้วนาง อยใู่ นลักษณะทพ่ี ร้อมจะปิด-เปิดรูบังคบั เสยี ง (ซง่ึ อยู่ ด้านบนของเลาขลุ่ย) เรียงลงมาตามลาดบั ตั้งแตร่ ูที่อยู่บนสุดถึงรทู ่ีสาม น้ิวหัวแม่มือปิดรคู ้าดา้ นหลังไว้ พรอ้ มทงั้ ใช้ นิ้วก้อยประคองด้านล่างของเลาขลุ่ยไวม้ ือล่างจับเลาขลยุ่ ส่วนล่าง ๔ รู ด้วยน้ิวชี้ นว้ิ นาง นว้ิ กลางและนิว้ ก้อย เรียง ลงมาตามลาดับน้ิวหัวแม่มือยันขลุ่ยด้านหลัง จับเลาขลุ่ยให้แขนส่วนปลายทั้งขวาและซ้ายได้ฉากกับเลาขลุ่ย พอประมาณ โดยกางข้อศอกพองาม ลกั ษณะการวางนิว้ ลักษณะการวางน้ิวของมือซ้ายและมือขวา ให้วางลักษณะขวางกับเลาขลุ่ยโดยน้ิวอยู่เหนือรูบังคับเสียง ประมาณ ๑ เซนติเมตรและใช้นวิ้ บริเวณผวิ หนังส่วนที่นูนใต้ปลายน้วิ เป็นส่วนที่ใช้ปิด-เปิดรูบังคับเสียง การวางน้ิว เพ่อื ปดิ รูบงั คบั เสียง ตอ้ งพยายามปดิ รูให้สนิท มิฉะนน้ั จะทาใหส้ ยี งขลยุ่ ท่ีเป่าออกมา ดงั ผดิ เพย้ี นโดยเฉพาะเสยี งโด (ด)เป็นเสียงที่เปา่ ยากที่สดุ ๒. ครผู สู้ อนอธบิ ายวิธีการเปิดนิ้ว ทมี่ า : http://pirun.ku.ac.th/~b5411100453/learn.html
๒๗๘2781 ที่มา : http://pirun.ku.ac.th/~b5411100453/learn.html
๒๗๙ 227729 ใบงาน เร่อื งทกั ษะการขับร้องและบรรเลงดนตรี หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๔ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓ เร่อื ง การปฏิบัตขิ ลยุ่ เพียงออ รายวชิ า ดนตรี รหสั วิชา ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ คาสง่ั ให้นกั เรียนฝึกเปา่ ขล่ยุ ไล่เสียง ในแบบฝกึ หัดโนต้ ต่อไปนี้ ---- ---ด ---- ---ร ---- ---ม ---- ---ซ ---- ---ร ---- ---ม ---- ---ซ ---- ---ล ---- ---ม ---- ---ซ ---- - - - -ล ---- ---ด ---- ---ซ ---- ---ล ---- ---ด ---- ---ร ---- ---ม ---- ---ร ---- ---ด ---- ---ล ---- ---ร ---- - - -ด ---- ---ล ---- ---ซ ---- ---ด ---- ---ล ---- ---ซ ---- ---ม ---- ---ล ---- ---ซ ---- ---ม ---- ---ร ---ด ---ร ---ม ---ซ ---ร ---ม ---ซ ---ล - - - ม - - - ซ - - - -ล ---ด ---ซ ---ล ---ด ---ร ---ม ---ร ---ด - - - -ล ---ร ---ด ---ล ---ซ - - - ด - - - -ล - - - ซ ---ม - - - -ล ---ซ ---ม ---ร -ด–ร -ม–ซ -ร-ม -ซ–ล -ม–ซ -ล–ด -ซ–ล -ด–ร - ม – ร - ด – ล - ร - -ด -ล–ซ -ด–ล -ซ–ฒ -ล–ซ -ม-ร
๒๘๐ 227830 แบบประเมินการปฏบิ ัตขิ ลยุ่ เพียงออ วิธกี าร ทานอง จงั หวะ รวม สรุปผลการ กลมุ่ ที่ ปฏิบัติ ประเมนิ เบือ้ งต้น ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ผา่ น ไม่ผ่าน หมายเหตุ นกั เรยี นได้ ๖ คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การพิจารณา ๑. วธิ ีการปฏบิ ัติ ๓ จับขลุ่ยไดถ้ ูกวธิ ี การวางนิว้ ถูกต้อง กางศอกไดเ้ หมาะสม เบอ้ื งตน้ (ด)ี สวยงาม ๒ จับขลยุ่ ไดถ้ ูกวิธี การวางนวิ้ ถูกต้อง กางศอกได้ยังไมเ่ หมาะสม (พอใช้) ๑ จับขลยุ่ ไม่ถูกวิธี การวางนิว้ ไม่ถกู ต้อง กางศอกไดย้ งั ไม่ (ควรปรับปรุง) เหมาะสม ๒. ทานอง ๓ ปฏิบตั ิตามทานองได้อย่างถูกต้อง จนจบเพลง (ด)ี ๒ ปฏิบัติตามทานองไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง มีผิดบางจดุ แตส่ ารมารถเปา่ (พอใช)้ ไดจ้ นจบเพลง ๑ ปฏิบัติตามทานองไดย้ ังไม่ถกู ต้องถูกต้อง และไม่จบเพลง (ควรปรับปรงุ ) ๓. จงั หวะ ๓ ปฏบิ ัตติ ามจงั หวะไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง จนจบเพลง (ด)ี ๒ ปฏบิ ตั ิตามจังหวะได้อย่างถกู ต้อง มีผิดบางจดุ แตส่ ารมารถเป่า (พอใช)้ ได้จนจบเพลง ๑ ปฏบิ ัติตามจงั หวะได้ยงั ไมถ่ ูกต้องถูกต้อง และไมจ่ บเพลง (ควรปรบั ปรงุ )
แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกล่มุ ๒๘๑ 27841 ๑ กลมุ่ .......................................................................................................... สมาชกิ ในกลุ่ม ๑. ...................................................................... ๒. ...................................................................... ๓....................................................................... ๔. ...................................................................... ๕....................................................................... ๖. ...................................................................... คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนทาเครื่องหมาย ในชอ่ งที่ตรงกับความเป็นจริง พฤติกรรมท่สี ังเกต คะแนน ๓๒ ๑. มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ ๒. มคี วามกระตือรือรน้ ในการทางาน ๓. รับผิดชอบในงานที่ได้รบั มอบหมาย ๔. มีข้ันตอนในการทางานอย่างเปน็ ระบบ ๕. ใชเ้ วลาในการทางานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมทีท่ าเป็นประจา ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมทที่ าเป็นบางครั้ง ให้ ๑ คะแนน พฤติกรรมทีท่ านอ้ ยคร้งั เกณฑ์การให้คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๓ – ๑๕ ดี ๘ – ๑๒ ปานกลาง ๕–๗ ปรับปรงุ
๒๘๒28725 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ หนว่ ยที่ ๓ เรื่องร้องเล่นเป็นเพลง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑ รายวิชา ดนตรี ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๒ ระดบั คุณภาพ ลาดบั ชอื่ นักเรียน ๓ ๒ ๑ ๐ สรุปผล (ดเี ย่ยี ม) (ด)ี (ผา่ น) (ไมผ่ า่ น) เกณฑก์ ารประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ/พฤติกรรม รายการประเมนิ ๓ ๒ ๑ ๐ ไม่ผ่าน ดีเยีย่ ม ดี ผ่าน ไม่ต้งั ใจเรยี น เขา้ เรยี นไม่ตรงเวลา ใฝเ่ รียนรู้ เข้าเรยี นตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา บอ่ ยคร้ัง ทกุ คร้งั ตั้งใจเรยี น บอ่ ยครง้ั ตง้ั ใจเรียน บางคร้งั ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ เอาใจใส่ เอาใจใส่ มคี วามเพยี ร มีความเพียร มคี วามเพียร พยายาม พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ ในการเรียนรู้ ในการเรยี นรู้ มีสว่ นรว่ ม มีสว่ นรว่ ม มีสว่ นรว่ ม ในการเรยี นรู้ ในการเรยี นรู้ ในการเรียนรู้ ศกึ ษาค้นควา้ ศึกษาค้นควา้ หาความรู้จาก หาความรจู้ าก แหลง่ เรียนรตู้ ่าง ๆ แหลง่ เรียนรตู้ ่าง ๆ เกณฑ์การผา่ น ต้งั แต่ระดบั ๒
๒๘๓ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๔ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๔ เรื่อง ทักษะดนตรไี ทย เร่อื ง การบรรเลงดนตรีไทยเดย่ี ว และรวมวง เวลา ๑ ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ รายวิชา ดนตรี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ - การบรรเลงดนตรีเด่ียว และรวมวง ขนั้ นา - แผนภูมิโน้ตเพลงสรอ้ ยลาปาง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. ครใู ห้นักเรียนทบทวนการปฏบิ ัตขิ ล่ยุ เพยี งออ แบบฝึกหัด การเป่า ภาระงาน/ช้นิ งาน - ปฏบิ ัติขลุย่ เพยี งออเพลงสรอ้ ยลาปาง ดา้ นความรู้ ขลุ่ยเพยี งออเบื้องต้นพร้อมๆ กันทง้ั ห้อง - อธบิ ายประวตั เิ พลง ความหมายของ ขนั้ สอน เพลง อารมณข์ องบทเพลงได้ ๑. ครตู ิดแผนภูมโิ น้ตเพลงสรอ้ ยลาปาง บนกระดาน แล้วอธบิ ายประวตั ิ ด้านทักษะ/กระบวนการ เพลง ความหมายของเพลง อารมณ์ของบทเพลง แล้วให้นักเรียนรอ้ ง - ร้อง เลน่ ดนตรี เด่ียว และรวมวง โน้ตเพลงลาวลาปาง ๒ เทยี่ ว จึงเปา่ ตามตวั โนต้ ทคี่ รชู ้ี โดยใหฝ้ กึ เปา่ ดา้ นคุณลกั ษณะ พรอ้ มๆ กันทัง้ ห้อง เปา่ ทลี ะแถว จนนกั เรียนส่วนใหญ่เปา่ ได้คลอ่ งขึน้ - ใฝเ่ รียนรู้ ๒. นักเรียนแบง่ กลุ่ม ๕-๖ คน ฝกึ ทักษะขลยุ่ เพยี งออโน้ตเพลงลาวลาปาง โดยครเู ป็นผู้คอยชีแ้ นะสาหรบั นักเรยี นที่ยงั ปฏิบตั ิไมถ่ ูกต้อง จนถนัด และเกิดทักษะ ๓. นกั เรียนทบทวน ฝึกทกั ษะขล่ยุ เพียงออเพลงลาวลาปางพร้อมๆ กนั ท้งั ห้อง ขน้ั สรปุ ๑. ครู และนักเรยี นรว่ มสรุป ผลการปฏิบตั ิขลุ่ยเพียงออเพลงลาวลาปาง อมเสนอแนะ ชืน่ ชมนักเรียนในการฝกึ ปฏิบตั ขิ ลยุ่ เพยี งออจนสามารถ บรรเลงเปน็ บทเพลงได้ 228736
๒๘๔27874 การวดั และการประเมนิ ผล ส่งิ ทีต่ ้องการวดั /ประเมิน วธิ กี าร เครื่องมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ อธบิ ายประวัติเพลง ทดสอบ แบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๕๐ ความหมายของเพลง อารมณ์ของบทเพลงได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ ปฏิบตั ทิ กั ษะขลุย่ เพลงออ สอบปฏบิ ัตกิ ารขบั ร้อง แบบประเมนิ การขับร้อง ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ทกุ ในบทเพลงทกี าหนดได้ และบรรเลงดนตรี และบรรเลงดนตรี รายการขึ้นไปถือวา่ ผ่าน ด้านคณุ ลักษณะ เหน็ คุณคา่ การปฏิบตั ขิ ลยุ่ สงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ทกุ เพียงออ ดา้ นคุณลักษณะ รายการขนึ้ ไปถือว่า ผ่าน บันทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................. ............................................ ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. .............................. .................................................................................................... ..................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................. ................................................................................................................................ ......................................... ลงช่อื ............................................ผ้สู อน (............................................) วันที่..........เดือน...................พ.ศ.......... ความคิดเห็นข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผ้ไู ดร้ ับมอบหมาย ........................................................................................................ ................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชอื่ ............................................ผูต้ รวจ (............................................) วนั ท่.ี .........เดือน...................พ.ศ..........
๒๘๕27885 ใบความรู้ เรือ่ งทกั ษะการขับรอ้ งและบรรเลงดนตรี หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๔ เรื่อง การปฏิบตั ขิ ลุ่ยเพียงออ รายวิชา ดนตรี รหัสวิชา ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ลาวลาปาง ลาวลาปาง เป็นเพลงทานองเก่าทางภาคเหนือ ประเภทหน้าทับลาว บางคนเรียกเพลงสร้อยลาปาง เนื้อ เพลงลาวลาปางเป็นเพลงท่ีมีลีลา สื่ออารมณ์เพลงไปในทางครุ่นคิด วิงวอน มีนักประพันธ์เพลงหลายท่านนา ทานองเพลงลาวลาปาง ไปประกอบเน้ือรอ้ ง เพื่อการขับร้องหรือเพ่ือการฟ้อนรา จานวนหลายเพลง เป็นที่รู้จักกัน ในวงการนาฏศลิ ป์ หรือการขบั ร้องโยทวาธติ ทว่ั ไป อาทิ เพลงฟอ้ นชมเดอื น คารอ้ ง : ลดั ดา ศลิ ปบรรเลง ทานอง : ลาวลาปาง โอเ้โดออื ้เดนือเอนยเอโอยเ้ โดอือเ้ ดนือดนวดงงวางมงาม สอ่ งสว่อางวววาาวมวแาลมอแรล่าอมรเา่ วมหเาวหา โอเ้ ดือนน้ีหนอ ไปย่ อจนั ทรา ชนื่ วญิ ญาไหนมาเทยี มเท่า โอแ้ สงจนั โอทแ้รสเ์ จงา้จคนั ลทารย์เเจศา้ รคา้ ลราม่ ยเยเศ็นร้า(ซร้า่ม)เยน็ (ซ้�ำ) สุดสดุ วสวยสเอยยเอรน่ืยร่ืนวยรนวยานรี ารี ยยามามรารตาตรีมรีมจีจันันททร์วร์วันนัเพเพญ็ ญ็ นวลเดอื นยัว่ เย้า ใหให้สส้ าาววเรเริงงิเลเลน่ ่น ชา่ งงามจริงหญงิ เอยงามเด่น หากเห็นฤทัยหวนไหร้ ญั จวน (ซา้ ) ภาพท่ี ๑ ฟ้อนชมเดือน ทีม่ า : https://sites.google.com
๒๘๖ 28769 เพลงฟ้อนชมเดือนนี้ ใช้ทานองลาวลาปาง เพลงท่ีมีสาเนียงลาวมักจะใช้รากับฟ้อน เน้ือเพลงกล่าวถึง การชมธรรมชาติ เช่น แสงเดือน ความงามของผู้หญิง และการแต่งกาย ท่าราได้พยายามเลียนแบบการฟ้อน ทางภาคเหนอื ที่มลี ลี าอ่อนช้อยงดงามน่าชม จึงเรยี กการราแบบฝกึ นีว้ ่า \" ฟอ้ นชมเดอื น\" ผังขับร้องเพลงฟ้อนชมเดอื น(ทานองสร้อยลาปาง ๒ ชนั้ ) ทอ่ นท่ี ๑ - - - - โอ้ - - เดือน เอย - - - - โอ้ - - เดอื น ดวงงาม -- - - สอ่ ง แวว - - วาม แล - - อรา่ ม เว - - หา - - - - นวล เดอื น นี่ หนอ - - - - ไป่ ยอ จัน - - ทรา -- - - ชนื่ - - - - ชวี า - - หา ไหน หนา เทยี ม - - เท่า โอ้ - - แสง จันทร์ เจา้ - - - - คลาย - - เศรา้ ร่ม - - เย็น โอ้ - - แสง จันทร์ เจา้ - - - - คลาย - - เศร้า ร่ม - - เย็น ทอ่ นที่ ๒ สุด - - สวย - เอย - - - - รื่น รวย นา - - รี -- - - ยาม - รา - - ตรี มี - - จันทร์ วัน - - เพญ็ -- - - นวล - - เดือน ยั่ว เยา้ - - - - ให้สาว เรงิ - - เลน่ -- - - งามจริง หญงิ - งาม - - เดน่ -- - - ชา่ ง - - - - ครา ใด หวล - - เอย - ใจ รญั จวน เหน็ - - - - ครา ใด หวล - - ไห้ - ใจ รญั จวน หาก - เหน็ - - - - - ไห้ หาก -
๒๘๗ 228870 \"เพลงป่าดงพงพี\" ผปู้ ระพนั ธ์ คารอ้ ง: ฐะปะนยี ์ นาครทรรพ ทานอง : สรอ้ ยลาปาง ๒ ช้ัน \"ปา่ ดงพงพี ของไทยเราน้ี มีเกินพอ อยา่ มวั รีรอ ขอเชิญชว่ ยกนั ขมัน ขมี ถิน่ ไทย นีแ้ ดน สุขสนั ต์ หลากพรรณ ไมง้ ามสดสี ตนื่ เถิดเรา ยามเช้า มุงาน ทันที จอบและเสียมของเราก็มี สินทรัพยท์ วี ดว้ ยกสกิ รรม (ซา้ ) ป่า ดงพงพี ของไทยเราน้ี อดุ มครัน อยู่ ในไพรวลั ย์ รกั ดินถนิ่ ไทย ใจหรรษา แหล่งธาร น้าซา่ น หลัง่ ไหล หวา่ งไพร น้งี าม หนักหนา ถ่ินแดนทองเรา น้คี วรปอง คุณค่า หมน่ั ขยันทกุ วันเวลา สินทรพั ยไ์ ด้มา ดว้ ยกสิกรรม (ซ้า)\" เพลงสร้อยลาปาง เป็นเพลงในอัตราจงั หวะ ๒ ชัน้ มคี วามไพเราะเพราะพรง้ิ ไม่ แพ้เพลงลาวลาปางใหญ่ แต่ส้ันกว่า อาจารย์ฐะปะนยี ์ นาครทรรพ จงึ นาทานองสร้อยลาปางมาแตง่ เปน็ เพลงใหเ้ ด็ก ประถมศกึ ษารอ้ ง ชื่อว่า \"เพลงป่าดงพงพ\"ี ต่อมานามาใช้ในการฝกึ อบรมลกู เสือ
๒๘๘2881 แบบฝึกทกั ษะ เรื่องทกั ษะการขบั ร้องและบรรเลงดนตรี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๔ เร่ือง การปฏิบัตขิ ลุ่ยเพียงออ (เพลงสร้อยลาปาง ๒2 ชั้น) รายวชิ า ดนตรี รหสั วชิ า ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ คาส่งั : ใหน้ กั เรยี น ขับร้องโน้ตเพลงและเดี่ยวขลุ่ยเพียงออ เพลงสรอ้ ยลาปาง ๒ ชน้ั โดยสังเกตบคุ ลกิ ท่าทางใน การขบั ร้องโนต้ เพลง และการเปา่ ขลุย่ จงั หวะ ทานอง ถกู ต้องหรือไม่ มีความไพเราะ นา่ ฟงั สอดคลอ้ งกับทานอง เพลงและอารมณเ์ พลง ทอ่ นท่ี ๑ -- -ซ โน้ตเพลงสร้อยลาปาง ๒ ช้ัน -ม-ด - ด -ด --- - - - - ด ---ด - ม - ร - ด - ร - - - - - - - ซ - - - ด ---ด - ม - ร - ด - ร - - - ม - - -ซ - - - - - ด -ร - ม -ร - ด- ซ - - - - - ด - ร - ม - ร - ด - ซ - - - - - - -ม - - - - - ซ - ล - ด - ร - ด - ล - - - ซ - - - ม - - - - - ด รม - ซ - ม - ร - ด - ร - ด - ล -ซ - ม - ซ - ล - ด --- - - ด รม -ซ-ม -ร-ด -ร-ด - ล -ซ -ม-ซ -ล-ด (กลับต้น) อตั รา ๒ ชน้ั หนา้ ทับลาว
๒๘22๙8829 แบบทดสอบ เร่อื งทกั ษะการขับรอ้ งและบรรเลงดนตรี หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๔ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๔ เร่ือง การปฏบิ ัตขิ ลุ่ยเพียงออ (เพลงสร้อยลาปาง ๒2 ชั้น) รายวิชา ดนตรี รหสั วิชา ศ๒๒๑๐๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ คาชี้แจง ให้นกั เรยี นเลอื กคาตอบที่ถูกทส่ี ดุ พยี งข้อเดียว ๑. เพลงลาวลาปาง สอื่ อารมณไ์ ปทางใด ก. สงบ สุขมุ ข. ครุ่นคดิ วงิ วอน ค. มีเสน่ห์ น่าตดิ ตาม ง. อิสระ เสรีภาพ ๒. เพลงลาวลาปาง เปน็ เพลงทานองเกา่ ของภาคใด ก. ภาคเหนือ ข. ภาคใต้ ค. ภาคกลาง ง. ภาคตะวันออก ๓. เพลงฟอ้ นชมเดือน มกั ใชค้ ู่กับการราแบบใด ก. รามโนราห์ ข. ราฟ้อน ค. ราเชญิ พระขวัญ ง. ราส่ีภาค ๔. ใครเป็นผ้แู ต่งคาร้องเพลง ฟอ้ นชมเดือน ก. มงคล อมาตยกุล ข. มนัส ปิติสานต์ ค. ลดั ดา ศลิ ปะบรรเลง ง. พยงค์ มกุ ดา ๕. เพลงใดที่ใช้ทานอง ลาวลาปาง ก. กล่อมนารี ข. บุหลนั ค. เขมรไทรโยค ง. ฟอ้ นชมเดือน
290 ๒2๙28๐930 ๒๙ ๖. เพลงป่าด๖ง.พงเพพี ลงใปช่า้ทดางนพองงพเพี ลใงชใดท้ านองเพลงใด ก. สรอ้ ยลาปกา.ง ส๒ร้อชยน้ัลาปาง ๒ ชัน้ ข. สร้อยลาปขา.ง ส๓รอ้ ชยน้ัลาปาง ๓ ชนั้ ค. สรอ้ ยลาปคา.ง ส๔ร้อชยั้นลาปาง ๔ ช้ัน ง. สรอ้ ยลาปงา.ง ส๕ร้อชย้นัลาปาง ๕ ชัน้ ๗. ใครเปน็ ผ๗้ปู .ระใพคนั รธเป์เพ็นลผงูป้ ประ่าพดงนั พธงเ์ พลี ง ปา่ ดงพงพี ก. เอ้อื สุนกท.รสเนอาอ้ื น สุนทรสนาน ข. สรุ พลโทณข.ะวณสรุ ิกพลโทณะวณกิ ค. ฐะปะนยี ค์ . นาฐคะรปทะรนรยีพ์ นาครทรรพ ง. นคร ถนงอ. มทนรคพั รย์ ถนอมทรพั ย์ ๘. เพลงปา่ ด๘ง.พงเพพี ลนงปาม่าาดใงชพ้ใงนพกีิจนกรารมมาใชดใ้ ขนอกงิจเกดร็กรปมรใะดถขมอศงึกเษดก็าประถมศึกษา ก. เดนิ พาเหกร.ด เดินพาเหรด ข. กฬี าสี ข. กีฬาสี ค. ลกู เสือ ค. ลกู เสือ ง. แข่งขนั วชิ งา.กาแรขง่ ขันวชิ าการ ๙. เพลงฟอ้ น๙ช. มเเดพือลนงฟ้อเนอ้ืชมเพเดลืองนกลา่ เวนถื้องึ เสพิ่งลใงดกล่าวถงึ สงิ่ ใด ก. เทคโนโลกย.ี เทคโนโลยี ข. สง่ิ กอ่ สร้าขง.สมสยั ง่ิใกห่อมส่ รา้ งสมัยใหม่ ค. อาคารบา้คน.เรอื นาคารบ้านเรอื น ง. ชมธรรมชงา.ติ ชมธรรมชาติ ๑๐. เพลงสร๑้อ๐ย.ลาเปพาลงงสมรอี ้อัตยรลาาจปังาหงวะมกีอ่ชี ัตน้ั ราจังหวะกีช่ ั้น ก. ๑ ช้ัน ก. ๑ ชนั้ ข. ๒ ชน้ั ข. ๒ ชัน้ ค. ๓ ช้ัน ค. ๓ ช้ัน ง. ๔ ช้นั ง. ๔ ช้ัน เฉลยแบบทดสเฉอลบยกแ่อบนบเทรียดนสอบก่อ่ นเรียี น ๑. ข ๒๑๑.. ขขก ๒.๒๓ก. กข๓. ข๓๔.. ๔.ขคค ๕.๔๕ง.. ง ค ๕. ง ๖. ก ๖๗๖... กคก ๗. ๘๗ค. คค๘. ค ๘๙..๙. คงง ๑๙๑๐.๐. .จ งจ ๑๐. จ
๒๙๑228941 แบบประเมินการปฏบิ ตั ขิ ลุย่ เพยี งออ กลุม่ ที่ วิธีการ ทานอง จงั หวะ รวม สรปุ ผลการ ปฏบิ ตั ิ ประเมิน เบือ้ งตน้ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ผา่ น ไมผ่ า่ น หมายเหตุ นักเรยี นได้ ๖ คะแนนขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา ๑. วิธีการปฏบิ ตั ิ ๓ จับขลยุ่ ได้ถูกวธิ ี การวางน้วิ ถูกต้อง กางศอกได้เหมาะสม เบื้องตน้ (ด)ี สวยงาม ๒ จบั ขลุ่ยได้ถูกวธิ ี การวางนิว้ ถูกต้อง กางศอกได้ยงั ไมเ่ หมาะสม ๒. ทานอง (พอใช้) จบั ขลุย่ ไมถ่ ูกวธิ ี การวางน้วิ ไม่ถกู ต้อง กางศอกได้ยังไม่ ๓. จังหวะ เหมาะสม ๑ ปฏบิ ัติตามทานองได้อย่างถกู ตอ้ ง จนจบเพลง (ควรปรับปรุง) ปฏิบัติตามทานองได้อย่างถกู ตอ้ ง มผี ดิ บางจดุ แตส่ ารมารถเปา่ ๓ ไดจ้ นจบเพลง (ด)ี ปฏบิ ตั ิตามทานองได้ยังไม่ถูกต้องถูกต้อง และไม่จบเพลง ๒ ปฏบิ ัตติ ามจังหวะไดอ้ ย่างถูกต้อง จนจบเพลง (พอใช)้ ปฏบิ ตั ิตามจงั หวะได้อย่างถูกต้อง มีผิดบางจุด แต่สารมารถเป่า ๑ ไดจ้ นจบเพลง (ควรปรบั ปรุง) ปฏบิ ตั ิตามจังหวะได้ยังไมถ่ ูกต้องถูกต้อง และไม่จบเพลง ๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้ ๑ (ควรปรับปรุง)
แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ๒๙๒ 28925 ๑ กลุ่ม .......................................................................................................... สมาชกิ ในกลุ่ม ๑. ...................................................................... ๒. ...................................................................... ๓....................................................................... ๔. ...................................................................... ๕....................................................................... ๖. ...................................................................... คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นทาเคร่ืองหมาย ในช่องทต่ี รงกบั ความเปน็ จรงิ พฤติกรรมทส่ี งั เกต คะแนน ๓๒ ๑. มีสว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเห็น ๒. มีความกระตือรือร้นในการทางาน ๓. รับผิดชอบในงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ๔. มีขั้นตอนในการทางานอย่างเป็นระบบ ๕. ใช้เวลาในการทางานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมท่ีทาเปน็ ประจา ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมทีท่ าเป็นบางครั้ง ให้ ๑ คะแนน พฤติกรรมทท่ี านอ้ ยคร้งั เกณฑ์การให้คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๓ – ๑๕ ดี ๘ – ๑๒ ปานกลาง ๕–๗ ปรับปรงุ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357