หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านหมากแขง้ พุทธศักราช 2563 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 | 51 ตวั ช้ีวดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 รายวชิ ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบา้ นหมากแขง้ สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 ท่ี รหสั วชิ า รายวชิ า เวลาเรยี น หนว่ ยกิต 1 พ 23101 รายวิชาสขุ ศึกษา 5 20 0.5 2 พ 23103 รายวชิ าสุขศกึ ษา 6 20 0.5 3 พ 23102 รายวิชาพลศึกษา 5 20 0.5 4 พ 23104 รายวิชาพลศึกษา 6 20 0.5 โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอุดรธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหมากแขง้ พทุ ธศักราช 2563 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | 52 ตัวชวี้ ดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน รหสั วิชา พ 23101 วชิ าสุขศกึ ษา 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรู้เกี่ยวกับการเจริญเติบโตแต่ละช่วงวัย รู้จักเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปญั ญา แต่ละช่วงวัยของชีวิต วิเคราะห์อิทธิพลและความคาดหวังของสงั คมตอ่ การ เปลย่ี นแปลงของวัยรนุ่ สื่อโฆษณาทม่ี อี ิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวยั รนุ่ อธิบายอนามัยแม่และ เด็ก การวางแผนครอบครัวและวิธีปฏิบัติตนที่เหมาะสม ปัจจัยที่ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ สาเหตุและเสนอ แนวทางป้องกนั และแก้ไขความขัดแย้งในครอบครัว โดยใหผ้ เู้ รยี นเขา้ กลุ่มเพื่อศึกษาความรเู้ พ่ิมเติม เพือ่ แลกเปล่ียนความคิดเหน็ นำขอ้ มลู มาใชว้ เิ คราะหอ์ ย่าง มีเหตุผล ออกแบบหรือสร้างทางเลือกที่จะนำไปสู่การทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเน้นการลงมือทำจริงจนเกิดเป็น ความรทู้ ีเ่ กดิ อยใู่ นตวั ผ้เู รียน ให้ผเู้ รยี นไดแ้ สดงออก เพอื่ ผลในการเจรญิ งอกงามก้าวหน้าขึน้ และสามารถนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวนั ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เหน็ คณุ คา่ และความสำคญั ของการดูแลสุขภาพ การรจู้ ักดำรงตนอยใู่ นสังคมโดยใชห้ ลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำไปเป็นแนวทางการปฏบิ ัติตนในชีวติ ประจำวนั เพื่อใช้ในการดูแลรักษา และสร้างเสริมสุขภาพของตนเอง ครอบครวั ชุมชนและสงั คมในชีวติ ประจำวัน รหสั ตัวชี้วัด พ 1.1 ม3/1 , ม3/2 , ม3/3 พ 2.1 ม3/1 , ม3/2 , ม3/3 รวม 6 ตวั ชี้วดั โรงเรียนบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมอื งอดุ รธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหมากแข้ง พุทธศกั ราช 2563 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 | 53 ตัวช้ีวดั และสาระการเรียนร้แู กนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน รหสั วชิ า พ 23103 วชิ าสุขศึกษา 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษารวบรวมข้อมูลและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาสุขภาพชุมชน รู้วิธีกำหนดรายการอาหารที่เหมาะสม กบั วัยต่างๆ โดยคำนงึ ถงึ ความประหยดั และคุณค่าทางโภชนาการ เสนอแนวทางป้องกันโรคทเ่ี ปน็ สาเหตุสำคัญของ เจ็บป่วยและการตายของคนไทย รวบรวมข้อมูลและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชน วางแผนและจัด เวลาในการออกกำลังกาย การพักผ่อนและการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย ทดสอบสมรรถภาพทางกายและ พัฒนาได้ตามความแตกต่างระหว่างบุคคล วิเคราะหป์ ัจจัยเสี่ยงและพฤติกรรมเสี่ยงที่มีผลตอ่ สุขภาพและแนวทาง ป้องกัน หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและชักชวนเพื่อนให้หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในการแกป้ ญั หา วิเคราะห์ อิทธพิ ลของสือ่ ตอ่ พฤตกิ รรมสุขภาพและความรุนแรง วิเคราะหค์ วามสัมพนั ธ์ของการดื่มเคร่อื งดมื่ ท่มี ีแอลกอฮอลต์ ่อ สขุ ภาพและการเกิดอุบัติเหตุ แสดงวิธีการช่วยฟื้นคนื ชีพดอย่างถูกวธิ ี โดยให้ผู้เรียนเข้ากลุ่ม เพื่อศึกษาความรู้เพิ่มเติม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ อยา่ งมีเหตุผล ออกแบบหรือสรา้ งทางเลือกท่ีจะนำไปสู่การทำให้ดีข้ึนกว่าเดิม โดยเนน้ การลงมือทำจริงจนเกิดเป็น ความรู้ที่เกดิ อยูใ่ นตวั ผ้เู รยี น ใหผ้ ู้เรียนไดแ้ สดงออก เพ่อื ผลในการเจริญงอกงามก้าวหน้าข้ึนและสามารถนำไปใช้ใน ชวี ิตประจำวันได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ เห็นคุณคา่ และความสำคญั ของการดูแลสุขภาพ การร้จู กั ดำรงตนอยู่ในสงั คมโดยใชห้ ลกั เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติตนในชีวติ ประจำวนั เพื่อใช้ในการดูแลรกั ษา และสร้างเสริมสุขภาพของตนเอง ครอบครวั ชุมชนและสังคมในชีวิตประจำวัน รหสั ตวั ชี้วัด พ 4.1 ม3/1 , ม3/2 , ม3/3 , ม3/4 , ม3/5 พ 2.1 ม3/1 , ม3/2 , ม3/3 , ม3/4 , ม3/5 รวม 10 ตัวชว้ี ดั โรงเรยี นบ้านหมากแข้ง อำเภอเมอื งอดุ รธานี จังหวดั อุดรธานี สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านหมากแข้ง พุทธศกั ราช 2563 ระดบั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 | 54 ตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นร้แู กนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน รหัสวิชา พ 23102 วิชาพลศึกษา 5 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาประวัติกีฬาเซปัคตะกร้อทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงกฎ กติกามารยาทในการเล่นเซปัคตะกร้อ ปฏิบัติทักษะพื้นฐานการเล่นเซปัคตะกร้อ เช่น การเล่นลูกตะกร้อด้วยข้างเท้าดา้ นใน การเล่นด้วยหลังเท้า เข่า ศีรษะ เป็นต้น โดยนักเรียนสามารถนำเอาความรู้ในการเรียนเซปัคตะกร้อในทักษะพื้นฐานไปต่อยอดในการเรียน ทักษะชั้นสูงได้ ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายการงาน เพื่อพัฒนาทักษะและ กระบวนการเรยี นทีไ่ ดไ้ ปใช้ในการเรียนรสู้ ่งิ ต่างๆ ฝกึ ปฏบิ ัตทิ ัง้ แบบเดีย่ วและแบบกล่มุ มกี ารบันทึกผลการปฏิบัติเพื่อนำขอ้ มูลมาวิเคราะห์และออกแบบหรือ สร้างทางเลือก เพื่อนำไปพัฒนาการปฏิบัติให้ดีขึ้นกว่าเดิม เกิดความรู้ติดตามผู้เรียนไป สามารถ นำไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวันและเผ่อื แผไ่ ปยังผอู้ นื่ ชุมชน เห็นคุณค่าและความสำคญั ของการเล่นกีฬา หรือการทำกิจกรรนนันทนาการในยามวา่ งทีม่ ีผลตอ่ สุขภาพ ร่างกายและจิตใจ เกิดเป็นค่านยิ มและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ติดตัวผูเ้ รียนในการนำไปเป็นแนวทางสร้างเสริม สุขภาพของตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน และสงั คม รหสั ตัวชี้วดั พ 3.1 ม3/1 , ม3/2 พ 3.2 ม3/1 , ม3/4 พ 4.1 ม3/5 รวม 5 ตวั ช้ีวัด โรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมืองอดุ รธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหมากแขง้ พทุ ธศกั ราช 2563 ระดบั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 | 55 ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลุม่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน รหสั วิชา พ 23104 วิชาพลศกึ ษา 6 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวร่างกาย หลักการออกกำลังกาย การทดสอบ สมรรถภาพทางกาย ทักษาเบื้องต้นกีฬาบาสเกตบอล การเล่นเป็นทีม ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน ปลอดภัย การออกกำลังกาย การพักผ่อน และนันทนาการ กฎ กติกา ในการเล่นกีฬา วิธีการรุกและการ ป้องกันในการแขง่ ขันกีฬา การควบคุมตนเอง การมีน้ำใจนักกีฬา การทำงานเป็นทีม การวางแผนสมรรถภาพ ทางกาย สมรรถภาพทางจติ การบรหิ ารจิต เหน็ คณุ ค่าของการออกกำลงั กาย การออกกำลงั กายและการเล่นกีฬา ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสนุกสนานปลอดภยั ชื่นชมและเห็นคุณค่าของการออกกำลังกาย เคารพกฎ กติกาการ แข่งขัน มนี ้ำใจนักกฬี า และให้ความรว่ มมือในการทำงานเป็นทีม โดยให้ผู้เรียนเข้ากลุ่ม เพื่อศึกษาความรู้เพิ่มเติม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ อย่างมีเหตุผล ออกแบบหรอื สรา้ งทางเลือกที่จะนำไปสู่การทำให้ดีข้ึนกว่าเดิม โดยเน้นการลงมือทำจริงจนเกิดเป็น ความร้ทู เ่ี กิดอย่ใู นตวั ผู้เรียน ให้ผู้เรียนได้แสดงออก เพื่อผลในการเจริญงอกงามก้าวหนา้ ข้นึ และสามารถนำไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ เหน็ คณุ ค่าและความสำคญั ของการดูแลสุขภาพ การรจู้ กั ดำรงตนอยใู่ นสังคมโดยใช้หลกั เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำไปเป็นแนวทางการปฏบิ ัติตนในชีวติ ประจำวนั เพื่อใช้ในการดูแลรักษา และสร้างเสริมสุขภาพของตนเอง ครอบครัว ชมุ ชนและสงั คมในชีวติ ประจำวัน รหัสตวั ชี้วัด พ 3.1 ม3/1 , ม3/2 พ 4.1 ม3/2 , ม3/3 รวม 4 ตัวชี้วดั โรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ อำเภอเมืองอุดรธานี จงั หวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง พทุ ธศกั ราช 2563 ระดับมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 | 56 ตัวช้ีวัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอุดรธานี จังหวดั อุดรธานี สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านหมากแข้ง พทุ ธศักราช 2563 ระดบั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 | 57 ตัวชี้วดั และสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 รายวิชากล่มุ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรียนบา้ นหมากแข้ง สำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ท่ี รหสั วิชา รายวชิ า เวลาเรยี น หนว่ ยกติ 1 ศ 23101 รายวชิ าศลิ ปะ 5 20 0.5 2 ศ 23103 รายวชิ าศิลปะ 6 20 0.5 3 ศ 23102 รายวชิ าดนตรี - นาฏศิลป์ 5 20 0.5 4 ศ 23104 รายวิชาดนตรี - นาฏศลิ ป์ 6 20 0.5 โรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหมากแขง้ พุทธศักราช 2563 ระดบั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 | 58 ตัวชว้ี ัดและสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางกลุม่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา ศ 23101 รายวชิ าศลิ ปะ 5 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรียน 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาและฝึกทักษะเก่ียวกับทศั นธาตุ หลักการออกแบบในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ เทคนิค วิธีการของศิลปินในการสร้างงานทัศนศิลป์ วิธีการใช้ทัศนธาตุและหลักการออกแบบในการสร้างงานทัศนศิลป์ การสร้างงานทัศนศลิ ป์ทัง้ ไทยและสากล การใช้หลักการออกแบบในการสร้างงานสื่อผสม การสร้างงานทัศนศิลป์แบบ 2 มิติ และ 3 มิติ เพ่ือถา่ ยทอดประสบการณ์ และจินตนาการ การประยุกตใ์ ชท้ ศั นธาตุและหลกั การออกแบบสร้าง งานทัศนศิลป์ การวิเคราะห์รูปแบบ เนื้อหา และคุณค่า ในงานทัศนศิลป์ การใช้เทคนิค วิธีการที่หลากหลายสรา้ ง งานทัศนศิลปเ์ พ่อื สอ่ื ความหมาย การประกอบอาชีพทางทัศนศิลป์ การจัดนิทรรศการ งานทศั นศิลป์กับการสะท้อน คณุ คา่ ของวัฒนธรรม ความแตกต่างของงานทศั นศิลป์ในแตล่ ะยคุ สมัยของวัฒนธรรมไทยและสากล บรรยายสงิ่ แวดลอ้ ม และงานทัศนศิลปท์ ี่เลือกมาโดยใช้ความรู้เรือ่ งทัศนธาตุ และหลักการออกแบบ ระบุ และบรรยายเทคนคิ วิธีการ ของศิลปินในการสร้างงาน ทัศนศิลป์ วิเคราะห์ และบรรยายวธิ ีการใช้ ทัศนธาตุ และหลักการออกแบบในการสรา้ งงานทศั นศลิ ปข์ องตนเองให้มคี ุณภาพ มีทกั ษะในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์อย่างน้อย 3 ประเภท มีทักษะในการผสมผสานวัสดุต่าง ๆ ในการสร้างงานทัศนศิลป์โดยใช้หลักการออกแบบ สร้างงาน ทศั นศลิ ป์ ทัง้ 2 มติ ิ และ 3 มติ ิ เพ่อื ถา่ ยทอดประสบการณ์และจนิ ตนาการ สรา้ งสรรค์งานทัศนศิลป์สื่อความหมาย เป็นเรื่องราว โดยประยุกต์ใช้ทัศนธาตุ และหลักการออกแบบ วิเคราะห์และอภิปรายรปู แบบ เนื้อหาและคุณค่าใน งานทัศนศิลป์ ของตนเอง และผู้อืน่ หรือของศิลปนิ สรา้ งสรรค์งานทัศนศิลปเ์ พ่ือบรรยาย เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ โดยใช้ เทคนิค ที่หลากหลาย ระบุอาชีพที่เกี่ยวข้องกบั งานทัศนศิลป์และทักษะทีจ่ ำเป็นในการประกอบอาชีพนัน้ ๆ เลือก งานทัศนศิลป์โดยใช้เกณฑ์ที่กำหนดขึ้นอย่างเหมาะสม และนำไป จัดนิทรรศการ ศึกษาและอภิปรายเกี่ยวกับงาน ทัศนศิลป์ ที่สะท้อนคุณค่าของวัฒนธรรม เปรียบเทียบความแตกต่างของงานทัศนศิลป์ในแต่ละยุคสมัยของ วฒั นธรรมไทยและสากล สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า งานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เข้าใจ ความสัมพันธร์ ะหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า งานทัศนศิลป์ท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท้องถิน่ ภมู ปิ ญั ญาไทย และสากล รหัสตวั ชี้วดั ศ 1.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 ,ม.3/4 ,ม.3/5, ม.3/6 ,ม.3/7 ,ม.3/8 ,ม.3/9 ,ม.3/10 ,ม.3/11 ศ 1.2 ม.3/1 ,ม.3/2 รวมท้ังหมด 13 ตัวช้วี ัด โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ อำเภอเมืองอุดรธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ พุทธศกั ราช 2563 ระดับมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 | 59 ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรูแ้ กนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ศ 23103 รายวิชาศิลปะ 6 กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลาเรียน 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเกี่ยวกับทัศนธาตุ หลักการออกแบบในสง่ิ แวดลอ้ ม และงานทัศนศิลป์ เทคนิค วิธกี ารของศลิ ปินในการสร้างงานทัศนศิลป์ วธิ กี ารใช้ทัศนธาตุและหลักการออกแบบในการสรา้ งงานทัศนศิลป์ การ สร้างงานทัศนศิลป์ทั้งไทยและสากล การใช้หลักการออกแบบในการสร้างงานสื่อผสม การสร้างงานทัศนศิลป์แบบ 2 มิติ และ 3 มิติ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ และจินตนาการ การประยุกต์ใช้ทัศนธาตุและหลักการออกแบบสร้าง งานทัศนศิลป์ การวิเคราะห์รูปแบบ เนื้อหา และคุณค่า ในงานทัศนศิลป์ การใช้เทคนิค วิธีการที่หลากหลายสรา้ ง งานทศั นศลิ ป์เพอื่ สอื่ ความหมาย การประกอบอาชพี ทางทัศนศิลป์ การจดั นทิ รรศการ งานทศั นศลิ ป์กับการสะท้อน คุณค่า ของวฒั นธรรม ความแตกต่างของงานทัศนศลิ ป์ในแตล่ ะยุคสมัยของวฒั นธรรมไทยและสากล บรรยายส่ิงแวดล้อม และงานทศั นศิลปท์ ่ีเลอื กมาโดยใชค้ วามรู้เรอื่ งทัศนธาตุ และหลักการออกแบบ ระบุ และบรรยายเทคนิค วิธีการ ของศิลปินในการสร้างงาน ทัศนศิลป์ วิเคราะห์ และบรรยายวิธีการใช้ ทัศนธาตุ และหลกั การออกแบบในการสรา้ งงานทศั นศลิ ปข์ องตนเองให้มคี ุณภาพ มที กั ษะในการสรา้ งงานทัศนศิลป์อย่างน้อย 3 ประเภท มีทักษะในการผสมผสานวัสดุต่าง ๆ ในการสร้างงานทัศนศิลป์โดยใช้หลักการออกแบบ สร้างงาน ทศั นศิลป์ ท้งั 2 มติ ิ และ 3 มติ ิ เพอื่ ถา่ ยทอดประสบการณ์และจินตนาการ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์สื่อความหมาย เป็นเรื่องราว โดยประยุกต์ใช้ทัศนธาตุ และหลักการออกแบบ วิเคราะห์และอภิปรายรูปแบบ เนื้อหาและคุณคา่ ใน งานทัศนศิลป์ ของตนเอง และผูอ้ ืน่ หรอื ของศลิ ปิน สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์เพ่ือบรรยาย เหตุการณ์ต่าง ๆ โดยใช้ เทคนิค ที่หลากหลาย ระบุอาชีพที่เกี่ยวข้องกับงานทัศนศิลปแ์ ละทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพนัน้ ๆ เลือก งานทัศนศิลป์โดยใช้เกณฑ์ที่กำหนดขึ้นอย่างเหมาะสม และนำไป จัดนิทรรศการ ศึกษาและอภิปรายเกี่ยวกับงาน ทัศนศิลป์ ที่สะท้อนคุณค่าของวัฒนธรรม เปรียบเทียบความแตกต่างของงานทัศนศิลป์ในแต่ละยุคสมัยของ วัฒนธรรมไทยและสากล สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า งานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เข้าใจ ความสัมพันธร์ ะหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า งานทัศนศิลป์ท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ภูมปิ ัญญาไทย และสากล รหสั ตัวช้ีวดั ศ 1.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 ,ม.3/4 ,ม.3/5 ,ม.3/6 ,ม.3/7 ,ม.3/8 ,ม.3/9 ,ม.3/10 ,ม.3/11 ศ 1.2 ม.3/1 ,ม.3/2 รวมทัง้ หมด 13 ตัวชวี้ ัด โรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ อำเภอเมอื งอดุ รธานี จังหวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหมากแข้ง พทุ ธศกั ราช 2563 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 | 60 ตวั ชี้วดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางกล่มุ สาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วิชา ศ 23102 รายวิชาดนตรี - นาฏศิลป์ 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเกี่ยวกับการเปรยี บเทียบองค์ประกอบในงานศิลปะ เทคนคิ และการแสดงออก ในการขับร้องและบรรเลงดนตรีเด่ียวและรวมวง อัตราจังหวะ 2 และ 4 4 4 การประพันธ์เพลงในอัตราจังหวะ 2 และ 4 4 4 การเลือกใชอ้ งค์ประกอบในการสร้างสรรค์บทเพลง การเปรียบเทียบความแตกต่างของบทเพลง อิทธิพลของดนตรี การจัดการแสดงดนตรีในวาระต่าง ๆ ประวัติดนตรี ไทยยุคสมัยต่าง ๆประวัติดนตรีตะวนั ตกยุคสมัยต่าง ๆ ปจั จัยท่ีทำให้งานดนตรีได้รบั การยอมรับ องค์ประกอบของ บทละคร ภาษาท่าหรือภาษาทางนาฏศิลป์ รูปแบบการแสดง การประดิษฐ์ท่ารำและท่าทางประกอบการแสดง องคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์ วิธีการเลอื กการแสดง ละครกบั ชวี ติ การออกแบบและสรา้ งสรรคอ์ ุปกรณ์และเครื่องแต่งกาย เพื่อการแสดงนาฏศลิ ป์ ความสำคัญและบทบาทของนาฏศลิ ป์ และการละครในชวี ติ ประจำวัน การอนุรกั ษน์ าฏศิลป์ เปรียบเทียบองค์ประกอบท่ีใช้ในงานดนตรแี ละงานศิลปะอนื่ รอ้ งเพลง เลน่ ดนตรเี ด่ยี ว และรวมวง โดยเน้นเทคนิคการร้อง การเล่น การแสดงออก และคุณภาพสียง แต่งเพลงสั้น ๆ จังหวะง่าย ๆ อธิบายเหตุผลใน การเลอื กใช้องค์ประกอบดนตรใี นการสร้างสรรค์ งานดนตรีของตนเองเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างงานดนตรี ของตนเองและผู้อื่น อธิบายเกี่ยวกับอิทธิพลของดนตรีที่มีต่อบุคคลและสังคม นำเสนอหรือจัดการแสดงดนตรีที่ เหมาะสมโดยการบูรณาการกับสาระ การเรียนรู้อื่นในกลุ่มศิลปะ บรรยายวิวัฒนาการของดนตรีแต่ละ ยุคสมัย อภิปรายลกั ษณะเดน่ ท่ีทำให้งานดนตรนี ั้นไดร้ ับการยอมรับ ระบุโครงสรา้ งของบทละครโดยใชศ้ พั ท์ทางการละคร ใช้ นาฏยศัพท์หรอื ศัพท์ทางการละคร ทเ่ี หมาะสมบรรยายเปรียบเทียบการแสดงอากัปกริ ิยาของผู้คนในชีวิตประจำวัน และในการแสดง มที กั ษะในการใช้ความคิดในการพฒั นารปู แบบการแสดง มีทักษะในการแปลความและการสื่อสาร ผ่านการแสดง วิจารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศิลป์ ที่มีความแตกต่างกันโดยใช้ความรู้ เรื่ององค์ประกอบนาฏศิลป์ ร่วมจัดงานการแสดงในบทบาทหน้าที่ต่าง ๆ นำเสนอแนวคิดจากเนื้อเรื่องของการแสดงที่สามารถนำไปปรับใช้ใน ชีวิตประจำวัน ออกแบบ และสร้างสรรค์อุปกรณ์ และเครื่องแต่งกาย เพื่อแสดงนาฏศิลป์และละครที่มาจาก วฒั นธรรมต่าง ๆ อธบิ ายความสำคัญและบทบาทของนาฏศลิ ปแ์ ละการละครในชีวิตประจำวนั แสดงความคิดเห็นใน การอนรุ กั ษ์ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรีถ่ายทอด ความร้สู กึ ความคดิ ตอ่ ดนตรีอย่างอิสระ ช่นื ชม และประยุกต์ใช้ ในชีวติ ประจำวนั เข้าใจความสมั พันธ์ระหว่างดนตรี ประวตั ศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณคา่ ของดนตรีทเ่ี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ ภมู ิปัญญาไทยและ สากล เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวันเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตรแ์ ละวัฒนธรรม เห็นคุณคา่ ของนาฏศลิ ป์ท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปัญญาไทย และสากล โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอุดรธานี จงั หวดั อุดรธานี สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง พุทธศักราช 2563 ระดบั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 | 61 ตวั ชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกล่มุ สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 รหสั ตวั ช้ีวัด ศ 2.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 ,ม.3/4 ,ม.3/5 ,ม.3/6 ,ม.3/7 ศ 2.2 ม.3/1 ,ม.3/2 ศ 3.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 ,ม.3/4 ,ม.3/5 ,ม.3/6 ,ม.3/7 ศ 3.2 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 รวมทงั้ หมด 19 ตัวชี้วัด โรงเรียนบา้ นหมากแขง้ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหมากแขง้ พทุ ธศักราช 2563 ระดับมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 | 62 ตวั ชวี้ ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 คำอธิบายรายวชิ า รหสั วิชา ศ 23104 รายวิชาดนตรี - นาฏศิลป์ 6 กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลาเรยี น 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเกี่ยวกับการเปรียบเทยี บองค์ประกอบในงานศิลปะ เทคนิคและการแสดงออก ในการขบั รอ้ งและบรรเลงดนตรีเดีย่ วและรวมวง อตั ราจงั หวะ 2 และ 4 4 4 การประพนั ธ์เพลงในอัตราจังหวะ 2 และ 4 4 4 การเลือกใชอ้ งคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรค์บทเพลง การเปรียบเทียบความแตกต่างของบทเพลง อิทธิพลของดนตรี การจัดการแสดงดนตรีในวาระต่าง ๆ ประวัติดนตรี ไทยยุคสมัยตา่ ง ๆประวัติดนตรีตะวนั ตกยุคสมัยต่าง ๆ ปัจจัยทท่ี ำให้งานดนตรีได้รบั การยอมรับ องค์ประกอบของ บทละคร ภาษาท่าหรือภาษาทางนาฏศิลป์ รูปแบบการแสดง การประดิษฐ์ท่ารำและท่าทางประกอบการแสดง องคป์ ระกอบนาฏศิลป์ วิธกี ารเลือกการแสดง ละครกบั ชีวติ การออกแบบและสร้างสรรคอ์ ปุ กรณ์และเครื่องแต่งกาย เพอื่ การแสดงนาฏศิลป์ ความสำคญั และบทบาทของนาฏศลิ ป์ และการละครในชวี ิตประจำวนั การอนรุ กั ษน์ าฏศิลป์ เปรยี บเทยี บองค์ประกอบที่ใชใ้ นงานดนตรแี ละงานศิลปะอน่ื รอ้ งเพลง เล่นดนตรเี ดย่ี ว และรวมวง โดยเน้นเทคนิคการร้อง การเล่น การแสดงออก และคุณภาพสียง แต่งเพลงสั้น ๆ จังหวะง่าย ๆ อธิบายเหตุผลใน การเลอื กใช้องค์ประกอบดนตรีในการสรา้ งสรรค์ งานดนตรขี องตนเองเปรียบเทยี บความแตกตา่ งระหว่างงานดนตรี ของตนเองและผู้อื่น อธิบายเกี่ยวกับอิทธิพลของดนตรีที่มีต่อบุคคลและสังคม นำเสนอหรือจัดการแสดงดนตรีท่ี เหมาะสมโดยการบูรณาการกับสาระ การเรียนรู้อื่นในกลุ่มศิลปะ บรรยายวิวัฒนาการของดนตรีแต่ละ ยุคสมัย อภิปรายลักษณะเดน่ ทที่ ำใหง้ านดนตรีนั้นไดร้ ับการยอมรับ ระบโุ ครงสร้างของบทละครโดยใช้ศัพท์ทางการละคร ใช้ นาฏยศัพทห์ รือศพั ท์ทางการละคร ที่เหมาะสมบรรยายเปรียบเทยี บการแสดงอากัปกริ ิยาของผู้คนในชีวิตประจำวัน และในการแสดง มีทกั ษะในการใชค้ วามคิดในการพัฒนารปู แบบการแสดง มีทกั ษะในการแปลความและการส่ือสาร ผ่านการแสดง วิจารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศิลป์ ที่มีความแตกต่างกันโดยใช้ความรู้ เรื่ององค์ประกอบนาฏศิลป์ ร่วมจัดงานการแสดงในบทบาทหน้าที่ต่าง ๆ นำเสนอแนวคิดจากเนื้อเรื่องของการแสดงท่ีสามารถนำไปปรับใช้ใน ชีวิตประจำวัน ออกแบบ และสร้างสรรค์อุปกรณ์ และเครื่องแต่งกาย เพื่อแสดงนาฏศิลป์และละครที่มาจาก วัฒนธรรมตา่ ง ๆ อธิบายความสำคญั และบทบาทของนาฏศิลป์และการละครในชวี ิตประจำวัน แสดงความคดิ เห็นใน การอนรุ ักษ์ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรีถ่ายทอด ความรสู้ กึ ความคิดต่อดนตรอี ย่างอิสระ ชนื่ ชม และประยกุ ต์ใช้ ในชวี ิตประจำวนั เข้าใจความสมั พันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณค่าของดนตรที ี่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมปิ ญั ญาไทยและ สากล เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวันเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัตศิ าสตรแ์ ละวัฒนธรรม เหน็ คุณคา่ ของนาฏศิลป์ทเ่ี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ภมู ิปัญญาไทย และสากล โรงเรียนบ้านหมากแข้ง อำเภอเมอื งอดุ รธานี จงั หวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง พุทธศักราช 2563 ระดบั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 | 63 ตวั ชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกล่มุ สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 รหสั ตวั ช้ีวัด ศ 2.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 ,ม.3/4 ,ม.3/5 ,ม.3/6 ,ม.3/7 ศ 2.2 ม.3/1 ,ม.3/2 ศ 3.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 ,ม.3/4 ,ม.3/5 ,ม.3/6 ,ม.3/7 ศ 3.2 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 รวมทงั้ หมด 19 ตัวชี้วัด โรงเรียนบา้ นหมากแขง้ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านหมากแข้ง พุทธศักราช 2563 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | 64 ตัวช้วี ัดและสาระการเรียนรูแ้ กนกลางกลมุ่ สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ โรงเรียนบ้านหมากแข้ง อำเภอเมอื งอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ พทุ ธศกั ราช 2563 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 65 ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 รายวิชากลุม่ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรยี นบ้านหมากแข้ง สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ท่ี รหสั วิชา รายวชิ า เวลาเรยี น หน่วยกติ 1 ง 23101 รายวชิ าการงานอาชพี 5 20 0.5 2 ง 23102 รายวชิ าการงานอาชีพ 6 20 0.5 โรงเรียนบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมืองอดุ รธานี จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง พทุ ธศักราช 2563 ระดับมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 | 66 ตัวช้วี ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน รหสั วชิ า 23101 วชิ าการงานอาชพี 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ------------------------ ศึกษาวิเคราะห์ปฏิบัติเกี่ยวกับการทํางานอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสามารถทํางานตามลําดับขั้นตอน และสามารถทํางานสาํ เรจ็ ตามเป้าหมายทีว่ างไว้ เช่น การซัก ตาก พบั เก็บเสื้อผา้ ที่ตอ้ งดูแลอย่างประณีต พร้อมท้ัง เตรยี มการประกอบอาหารประเภทสาํ รับ พร้อมทง้ั สรา้ ง-ประดิษฐ์บรรจภุ ณั ฑจ์ ากวัสดธุ รรมชาติ การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในโรงเรียนหรือท้องถิ่น อีกทั้งยังสามารถจัดระบบงานและระบบคน เพื่อให้งานสําเร็จตาม เปา้ หมายอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รหสั ตวั ช้ีวดั ง1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 รวม 3 ตวั ชี้วดั โรงเรียนบา้ นหมากแขง้ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวดั อุดรธานี สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านหมากแข้ง พุทธศกั ราช 2563 ระดบั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 | 67 ตัวชว้ี ดั และสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน รหัสวชิ า 23103 วชิ าการงานอาชีพ 6 กลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ------------------------ ศึกษาวิเคราะห์ปฏิบัติเกี่ยวกับการทํางานอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสามารถทํางานตามลําดับขั้นตอน และสามารถทํางานสําเร็จตามเป้าหมายท่วี างไว้ มงุ่ เน้นให้ผ้เู รยี นไดม้ ีความรู้ความเข้าใจงานธรุ กิจเพื่อชีวิต งานช่าง พน้ื ฐาน ฝึกปฏิบตั ิงานและฝึกการแก้ปัญหาในความรู้เบื้องตน้ เก่ยี วกับการตดิ ต้ังและประกอบผลติ ภัณฑ์ วสั ดอุ ปุ กรณ์ สาํ หรับงานช่าง ความปลอดภัยในการทํางาน เคร่ืองมือเคร่ืองใช้ในบ้าน ทักษะงานช่าง การวางแผนปฏิบัติงานตาม แบบ ทักษะการจัดการเกี่ยวกับการขยายพันธพ์ ืช การหางานหรือตำแหน่งที่ว่าง แนวทางเขา้ ส่อู าชีพ การประเมิน ทางเลือกอาชีพเพื่อใหม้ ีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาและนําความรู้ ทักษะกระบวนการที่ไดจ้ ากการเรียน มาปฏิบัติ ให้เกิดเปน็ ช้ินงานอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ สามารถนําไปใช้ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ รหสั ตัวชี้วัด ง1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 รวม 3 ตัวช้ีวดั โรงเรียนบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมอื งอุดรธานี จงั หวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นหมากแขง้ พุทธศักราช 2563 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | 68 ตัวช้วี ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ โรงเรียนบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมอื งอดุ รธานี จงั หวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านหมากแข้ง พุทธศกั ราช 2563 ระดับมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 69 ตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 รายวชิ ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหมากแขง้ สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 ท่ี รหสั วิชา รายวิชา เวลาเรียน หนว่ ยกิต 1 อ 23101 รายวชิ าภาษาองั กฤษ 5 60 1.5 2 อ 23102 รายวิชาภาษาองั กฤษ 6 60 1.5 3 อ 23201 รายวิชาภาษาองั กฤษเพิม่ เติม 5 40 1.0 4 อ 23202 รายวชิ าภาษาอังกฤษเพิม่ เติม 6 40 1.0 โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอุดรธานี จังหวดั อุดรธานี สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านหมากแข้ง พุทธศักราช 2563 ระดับมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 | 70 ตวั ชีว้ ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน รหัสวิชา อ 23101 วิชาภาษาอังกฤษ 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี3 ภาคเรยี นที่1 เวลา 60 ชัว่ โมง จำนวน1.5 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ปฏิบัตติ ามใช้คำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำชแี จง และคำอธบิ าย อา่ นออกเสียง ระบหุ ัวขอ้ เรอ่ื ง ใจความ สำคัญ รายละเอียด แสดงความคดิ เห็น ขอและใหข้ ้อมูล อธิบาย เปรยี บเทยี บเกย่ี วกับเรือ่ งทฟ่ี ังและอ่าน ตีความภาพ ตาราง แผนภูมิ เขียนประโยค ขอ้ ความบรรยาย และสนทนาเก่ยี วกับตวั เอง ครอบครัว การศึกษาและอาชพี เส้อื ผ้า สุขภาพลอาการบาดเจ็บ เวลาว่างละนันทนากร อาชญากรรม สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม การท่องเที่ยว การ บริการ สถานท่ี วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประสบการณ์ เหตุการณ์ และประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม รวมทั้งบอกความต้องการ ความรู้สึก ความคิดเห็น สรุปใจความสำคัญจากการวิเคราะห์เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ์โดย เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง กิริยาท่าทางเหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา อธิบาย เปรียบเทียบความเหมือนและความต่างระหว่างการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษษอังกฤษกบั ภาษาไทย รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ ประเพณีและวัฒนธรรรมของเจ้าของภาษา ค้นคว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มูลเก่ียวกับสาระ การเรียนรู้อื่น การศึกษาและการประกอบอาชีพ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียนและชุมชนเป็น ภาษาอังกฤษ โดยใชแ้ นวความคดิ การสอนภาษาเพ่อื การสือ่ สาร ( CLT ) กระบวนการสอนทกั ษะทางภาษา และจัด กระบวนการกลุ่ม การอภิปราย สถานการณ์จริง สถานการณจำลอง การแสดงความคิดเห็น การวิเคราะห์เรื่อง/ เหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม เพื่อให้ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารระหว่างบุคคล และแลกเปลี่ยน เรียนรกู้ ับชมุ ชนและสงั คมโลกไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รวมทง้ั เข้าใจความเหมอื นและความต่างของวัฒนธรรม รหสั ตัวชี้วดั ต 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4 ต 1.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5 ต 1.3 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3 ต 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3 ต 2.2 ม.3/1 ,ม.3/2 ต 3.1 ม.3/1 ต 4.1 ม.3/1 ต 4.2 ม.3/1, ม.3/2 รวม 21 ตัวชวี้ ัด โรงเรียนบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมอื งอุดรธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านหมากแขง้ พทุ ธศักราช 2563 ระดับมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 71 ตัวชว้ี ัดและสาระการเรียนร้แู กนกลางกลุม่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน รหสั วชิ า อ 23102 วิชาภาษาองั กฤษ 6 กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน1.5 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ปฏิบัติตามใช้คำขอร้อง คำแนะนำ คำชีแจง และคำอธิบาย อ่านออกเสียง ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความ สำคัญ รายละเอยี ด แสดงความคิดเหน็ ขอและให้ขอ้ มลู อธบิ าย เปรยี บเทยี บเก่ยี วกับเร่ืองทฟี่ งั และอ่าน ตีความภาพ ตาราง แผนภมู ิ เขยี นประโยค ขอ้ ความบรรยาย และสนทนาเกย่ี วกบั ตัวเอง ครอบครัว การศึกษาและอาชีพ เส้อื ผ้า สุขภาพลอาการบาดเจ็บ เวลาว่างละนันทนากร อาชญากรรม สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม การท่องเที่ยว การ บริการ สถานท่ี วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประสบการณ์ เหตุการณ์ และประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม รวมทั้งบอกความต้องการ ความรู้สึก ความคิดเห็น สรุปใจความสำคัญจากการวิเคราะห์เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ์โดย เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง กิริยาท่าทางเหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา อธิบาย เปรียบเทียบความเหมือนและความต่างระหว่างการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษษอังกฤษกบั ภาษาไทย รวมท้งั ชวี ติ ความเปน็ อยู่ ประเพณแี ละวฒั นธรรรมของเจ้าของภาษา ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูลเก่ียวกับสาระ การเรียนรู้อื่น การศึกษาและการประกอบอาชีพ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียนและชุมชนเปน็ ภาษาอังกฤษโดยใช้แนวความคิดการสอนภาษาเพื่อการส่ือสาร ( CLT ) กระบวนการสอนทกั ษะทางภาษา และจัด กระบวนการกลุ่ม การอภิปราย สถานการณ์จริง สถานการณจำลอง การแสดงความคิดเห็น การวิเคราะห์เรื่อง/ เหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคมเพื่อให้ผู้เรยี นใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารระหว่างบุคคล และแลกเปลี่ยน เรียนร้กู ับชุมชนและสงั คมโลกได้อย่างเหมาะสม รวมท้งั เข้าใจความเหมอื นและความตา่ งของวัฒนธรรม รหสั ตวั ชี้วัด ต 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4 ต 1.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5 ต 1.3 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3 ต 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3 ต 2.2 ม.3/1 ,ม.3/2 ต 3.1 ม.3/1 ต 4.1 ม.3/1 ต 4.2 ม.3/1, ม.3/2 รวม 21 ตัวช้ีวดั โรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ อำเภอเมืองอุดรธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านหมากแขง้ พทุ ธศักราช 2563 ระดบั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 | 72 ตัวชีว้ ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 คำอธิบายรายวิชาเพ่มิ เติม รหสั วชิ า อ23201 วิชา ภาษาอังกฤษฟัง-พูด 5 กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาเกย่ี วกับการปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชีแ้ จง และคำอธิบายท่ฟี ังและการอ่านออก เสียง ข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน การเลือก/ระบุหัวขอ้ เรื่อง ใจความ สำคัญรายละเอียดสนับสนุนและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งให้ เหตุผลและยกตัวอยา่ งประกอบการสนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อย่ใู นความสนใจของสงั คมและสื่อสารอย่างตอ่ เนือ่ งและเหมาะสม การใช้คำขอร้อง ใหแ้ นะนำ คำช้ีแจง และค าอธิบายอย่างเหมาะสมแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือตอบรับและ ปฏิเสธการให้ความ ช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม พูดให้ข้อมูล การอธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกบั เรื่องที่ฟงั หรอื อ่านอย่างเหมาะสม พูดบรรยายความรู้สกึ และความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผล ประกอบอย่างเหมาะสม การพูดบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์/ขา่ ว/เหตุการณ/์ เรือ่ ง/ประเดน็ ตา่ ง ๆ ท่อี ยู่ในความสนใจของสังคมการพดู สรปุ ใจความสำคัญ/ แก่นสาระ หัวขอ้ เรอ่ื งท่ีไดจ้ ากการวเิ คราะห์ เรอื่ ง/ข่าว/เหตุการณ์/สถานการณ์ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสังคม การพูด แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับ กจิ กรรมประสบการณ์ และเหตุการณพ์ ร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผลประกอบเลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา การอธิบาย เกย่ี วกบั ชวี ิตความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของภาษาเปรียบเทยี บและอธิบายความเหมือนและ ความแตกต่างระหว่างการ ออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำ ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย การ คน้ คว้า รวบรวม สรปุ ข้อมูล/ข้อเท็จจริงท่เี กยี่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน จากแหล่งการเรียนรู้และนำเสนอ ด้วยการใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลอง ที่เกิดขึ้นใน ห้องเรียนสถานศึกษา ชุมชนและสังคมการใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความรู้/ ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและ แหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบโดยใช้กระบวนการฝึกทักษะทาง ภาษา คือ การฟัง พูด อ่าน เขียนสื่อสารตามหัวเรื่องเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัวโรงเรียนเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจ ให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริงรวบรวม สรุป ความรโู้ ดยใช้ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คอื 3R ได้แกอ่ ่านออก, เขียน ได้ และคดิ เลขเปน็ และ 8C ได้แก่ ทกั ษะ ดา้ นการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา, ทกั ษะดา้ น การสร้างสรรค์ และนวตั กรรม, ทักษะด้าน ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ , ทักษะด้านความเข้า ใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์, ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ, ทักษะด้าน คอมพิวเตอร์ และการสื่อสาร, ทักษะอาชีพ และ ทักษะการเรยี นรู้ และทักษะการเปลี่ยนแปล เห็นคุณค่าของภาษาและวัฒนธรรม มีเหตุผล มีวิจารณญาณ มีความ ม่ันใจในการใชภ้ าษาเพอ่ื การ สื่อสาร ใช้ภาษาไดอ้ ย่างมมี ารยาท ถูกต้อง ตามกาลเทศะและบุคคล มีประสทิ ธภิ าพใน การสื่อความ มีความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ มีสุนทรียภาพทางภาษา มีนิสัยรักการอ่านมีสมรรถนะ 5 ด้าน มี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ คุณลักษณะสำหรับศตวรรษที่ 21 คือ คุณลักษณะด้านการทำงาน ได้แก่ การ โรงเรียนบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอดุ รธานี จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านหมากแข้ง พุทธศกั ราช 2563 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | 73 ตวั ช้ีวัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ปรับตัว ความเป็นผู้นำคุณลักษณะ ด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง คุณลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความ เคารพผู้อืน่ ความซื่อสตั ย์ ความสำนึกพลเมอื ง ผลการเรียนรู้ 1. ฟงั พดู บทสนทนา แสดงบทบาทสมมติเก่ียวกับการใช้ภาษาเพ่อื การสอ่ื สารในสถานการณต์ ่าง ๆ ทเ่ี กยี่ วกับ ชวี ิตประจำวนั และส่งิ แวดล้อมซ่งึ อยใู่ กลต้ นได้ 2. อา่ นข้อความ บทอา่ น บทสนทนาแล้วสรปุ ใจความสำคัญและ/หรือตอบคำถามได้ 3. ตอบคำถามหรอื มีเหตผุ ลในการพูดโต้ตอบจากเรอ่ื งท่ี ฟงั พดู อา่ น โดยอิสระได้ 4. มีความมั่นใจในการใช้ภาษาองั กฤษไดถ้ กู ต้องตามกาลเทศะและบคุ คล 5. ใชภ้ าษาองั กฤษเป็นเครือ่ งมือในการเรียนรู้สาระอนื่ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รวม 5 ผลการเรยี นรู้ โรงเรียนบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอดุ รธานี จังหวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านหมากแขง้ พุทธศักราช 2563 ระดบั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 | 74 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลุม่ สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 คำอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม รหัสวิชา อ23202 วิชา ภาษาอังกฤษฟงั -พูด 6 กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาเกี่ยวกบั การปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธบิ ายทฟ่ี งั และการอ่านออก เสียง ข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน การเลือก/ระบุหัวขอ้ เรือ่ ง ใจความ สำคัญรายละเอียดสนับสนุนและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งให้ เหตุผลและยกตัวอยา่ งประกอบการสนทนาและเขียนโตต้ อบขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องทีอ่ ยู่ในความสนใจของสงั คมและส่ือสารอย่างต่อเนอ่ื งและเหมาะสม การใช้คำขอร้อง ให้แนะนำ คำชี้แจง และค าอธิบายอย่างเหมาะสมแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือตอบรับและ ปฏิเสธการให้ความ ช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม พูดให้ข้อมูล การอธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องทีฟ่ งั หรอื อ่านอย่างเหมาะสม พูดบรรยายความรู้สกึ และความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผล ประกอบอย่างเหมาะสม การพูดบรรยายเกี่ยวกับ ตนเอง ประสบการณ์/ข่าว/เหตุการณ/์ เรอื่ ง/ประเด็น ต่าง ๆ ท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คมการพดู สรปุ ใจความสำคัญ/ แกน่ สาระ หวั ขอ้ เรอ่ื งท่ีได้จากการวเิ คราะห์ เรอื่ ง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/สถานการณ์ทอี่ ยู่ในความสนใจของสงั คม การพูด แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ กิจกรรมประสบการณ์ และเหตุการณพ์ รอ้ มท้ังให้เหตุผลประกอบเลือกใชภ้ าษา นำ้ เสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา การอธิบาย เกยี่ วกับชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของภาษาเปรยี บเทยี บและอธิบายความเหมือนและ ความแตกต่างระหว่างการ ออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำ ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย การ คน้ ควา้ รวบรวม สรปุ ขอ้ มลู /ข้อเท็จจริงที่เกยี่ วข้องกบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อื่น จากแหล่งการเรียนรู้และนำเสนอ ด้วยการใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลอง ที่เกิดขึ้นใน ห้องเรียนสถานศึกษา ชุมชนและสังคมการใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความรู้ /ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและ แหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบ โดยใช้กระบวนการฝึกทักษะทาง ภาษา คือ การฟัง พูด อ่าน เขียนสื่อสารตามหัวเรื่องเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัวโรงเรียนเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจ ให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริงรวบรวม สรุป ความรโู้ ดยใช้ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือ 3R ไดแ้ ก่อ่านออก, เขยี น ได้ และคดิ เลขเปน็ และ 8C ได้แก่ ทกั ษะ ดา้ นการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ และทกั ษะในการแก้ปญั หา, ทักษะด้าน การสร้างสรรค์ และนวัตกรรม, ทักษะด้าน ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ , ทักษะด้านความเข้า ใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์, ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ, ทักษะด้าน คอมพิวเตอร์ และการสื่อสาร, ทักษะอาชีพ และ ทักษะการเรยี นรู้ และทักษะการเปลี่ยนแปล เห็นคุณค่าของภาษาและวัฒนธรรม มีเหตุผล มีวิจารณญาณ มีความ มัน่ ใจในการใชภ้ าษาเพอื่ การ สอ่ื สาร ใช้ภาษาได้อยา่ งมมี ารยาท ถกู ตอ้ ง ตามกาลเทศะและบคุ คล มีประสทิ ธิภาพใน การสื่อความ มีความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ มีสุนทรียภาพทางภาษา มีนิสัยรักการอ่านมีสมรรถนะ 5 ด้าน มี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ คุณลักษณะสำหรับศตวรรษที่ 21 คือ คุณลักษณะด้านการทำงาน ได้แก่ การ โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ อำเภอเมืองอดุ รธานี จังหวดั อุดรธานี สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง พทุ ธศกั ราช 2563 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 75 ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ปรับตัว ความเป็นผู้นำคุณลักษณะ ด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง คุณลักษณะด้านศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความ เคารพผอู้ ่ืน ความซอื่ สัตย์ ความสำนกึ พลเมือง ผลการเรียนรู้ 1. ฟงั พดู บทสนทนา แสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกบั การใชภ้ าษาเพอ่ื การสอ่ื สารในสถานการณต์ ่าง ๆ ท่ีเก่ียวกับ ชวี ติ ประจำวันและส่ิงแวดล้อมซง่ึ อยู่ใกล้ตนได้ 2. อา่ นข้อความ บทอา่ น บทสนทนาแลว้ สรปุ ใจความสำคญั และ/หรือตอบคำถามได้ 3. ตอบคำถามหรือมเี หตุผลในการพูดโต้ตอบจากเรอ่ื งท่ี ฟัง พดู อา่ น โดยอิสระได้ 4. มคี วามมน่ั ใจในการใชภ้ าษาอังกฤษไดถ้ ูกต้องตามกาลเทศะและบุคคล 5. ใช้ภาษาองั กฤษเปน็ เครือ่ งมือในการเรียนรสู้ าระอ่ืนอยา่ งมีประสิทธิภาพ รวม 5 ผลการเรียนรู้ โรงเรียนบ้านหมากแข้ง อำเภอเมืองอดุ รธานี จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง พุทธศกั ราช 2563 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 | 76 ตัวช้วี ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 INDEPENDENT STUDY : IS ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ โรงเรียนบ้านหมากแขง้ อำเภอเมืองอดุ รธานี จงั หวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านหมากแข้ง พุทธศักราช 2563 ระดบั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 77 ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 รายวชิ ากล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ท่ี รหสั วชิ า รายวชิ า เวลาเรยี น หนว่ ยกติ 1 I 20201 รายวิชาINDEPENDENT STUDY 1 20 0.5 2 I 20202 รายวชิ าINDEPENDENT STUDY 2 20 0.5 3 I 20203 รายวชิ าINDEPENDENT STUDY 3 -- โรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมืองอดุ รธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านหมากแขง้ พทุ ธศกั ราช 2563 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 78 ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรูแ้ กนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติมตามหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล รหัสวชิ า I20201 วิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง 1 (IS1) สาระการเรยี นรู้การศกึ ษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษา วเิ คราะห์ ฝึกทกั ษะต้งั ประเด็นปัญหา/คำถามในเร่อื งที่สนใจโดยเร่มิ จากตนเอง เชือ่ มโยงกับ ชุมชน ท้องถิ่น และประเทศ ต้ังสมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้ความรู้จากศาสตร์สาขาต่าง ๆ ค้นคว้าแสวงความรู้ เกี่ยวกับสมมติฐานที่ตั้งไว้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ออกแบบวางแผนรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์โดยใช้วิธีการที่ เหมาะสม ทำงานบรรลุผลตามเป้าหมายภายในกรอบการดำเนินงานทกี่ ำหนด โดยการกำกับดูแล ชว่ ยเหลือของครู อย่างต่อเนื่อง สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้และร่วมกันเสนอ วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ด้วยกระบวนการคิด การบวนการสบื ค้นขอ้ มูล กระบวนหารแก้ปัญหา กระบวนการปฏิบัติและกระบวนการกลุ่มในการวิพากษ์ เพื่อใหเ้ กดิ ทกั ษะในการค้นคว้าแสวงหาความรู้ เปรียบเทียบเชือ่ มโยงองค์ความรู้ สังเคราะห์สรปุ อภปิ ราย เพอ่ื ใหเ้ ห็นประโยชน์ และคุณคาํ ของการศึกษาด้วยตนเอง ผลการเรยี นรู้ 1. ตง้ั ประเด็นปัญหา/คำถามในเรื่องท่สี นใจโดยเริ่มจากตนเอง เชอ่ื มโยงกับชมุ ชน ท้องถ่นิ และประเทศ 2. ตง้ั สมมติฐานประเด็นปัญหาที่ตนเองสนใจ 3. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนกวนการรวบรวมขอ้ มลู อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 4. ศกึ ษา คน้ คว้า แสวงหาความรูเ๎ กี่ยวกับประเดน็ ท่เี ลือกจากแหล่งเรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย 5. ตรวจสอบความนาํ เช่ือถอื ของแหล่งท่ีมาของข้อมูลได้ 6. วิเคราะหข์ ้อค้นพบด้วยสถิติท่อี ยาํ งเหมาะสม 7. สังเคราะห์สรุปองคค์ วามรู้ดว้ ยวิธีการกลุ่ม 8. เสนอแนวคดิ การแก๎อยาํ งเปน็ ระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ 9. เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง รวม 9 ผลการเรยี นรู้ โรงเรียนบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมืองอดุ รธานี จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง พุทธศกั ราช 2563 ระดบั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 79 ตัวชี้วัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลางกลมุ่ สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติมตามหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล รหสั วชิ า I20202 วิชาการศึกษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง 2 (IS2) สาระการเรยี นรู้การศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา เรียบเรยี ง และถา่ ยทอดความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบจากข้อมลู องคค์ วามรู้จากการศกึ ษา คน้ คว้า ในรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู๎ (Research and Knowledge Formation) โดยเขียน โครงรําง บทนำ เนือ้ เรื่อง สรปุ ในรูปของรายงานเชิงวิชาการโดยใช้คำ 2,500 คำ จำนวนมกี ารอ้างอิงแหล่งความรู้ ที่เช่อื ถือได้ อยา่ งหลากหลาย เรียบเรียงและถ่ายทอดความคดิ อย่างชัดเจน เป็นระบบมกี ารนำเสนอในรู้ (Oral individual) หรอื กลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สื่อประกอบที่หลากหลาย และเผยแพรํผลงานสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิด ทักษะ ในการเขียนรายง เชิงวิชาการ และทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์และคุณคําในการ สร้างสรรคง์ านและถ่ายทอดส่งิ ท่เี รียนรู้ใหเ้ ป็นประโยชน์แก่สาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. วางโครงราํ งการเขียนตามหลกั เกณฑ์ องค์ประกอบและวธิ ีการเขียนโครงร่าง 2. เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชงิ วชิ าการภาษาไทย ความยาว 2,500 คำ 3. นำเสนอขอ้ ขน้ พบ ข้อสรปุ จากประเดน็ ทเ่ี ลือกในรปู แบบเด่ยี ว (Oral individual) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) 4. โดยใชส้ ่อื อุปกรณใ์ นการนำเสนอได้อยา่ งเหมาะสม 5. เผยแพรํผลงานสู่สาธารณะ 6. เห็นประโยชน์และคณุ ค่าในการสร้างสรรคง์ านและถ่ายทอดส่ิงท่เี รียนรู้แกส่ าธารณะ รวม 6 ผลการเรียนรู้ โรงเรียนบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านหมากแข้ง พุทธศักราช 2563 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 80 ตัวชว้ี ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 คำอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เติมตามหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล รหัสวชิ า I20203 วิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง 3 (IS3) สาระการเรยี นรกู้ ารศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เป็นกจิ กรรมที่นำความรู้ หรือประยกุ ต์ใช้ความรู้จากส่ิงทศ่ี ึกษาค้นคว้าและเรยี นรู้จากรายวชิ า (IS1,IS2) ไปสู่ การปฏบิ ตั ิ ในการสร้างสรรค์ โครงงานโครงการต่าง ๆ ทีก่ ่อใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อสาธารณะหรอื สังคม ชุมชน ประเทศ หรือสังคมโลก มรการกำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ วางแผนการทำงาน และตรวจสอบ ความก้าวหน้า วิเคราะห์ วจิ ารณผ์ ลทไ่ี ด้จากการปฏิบัติกจิ กรรมหรือโครงการ โครงงานโดยใช้กระบวนการกลุ่ม เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีทักษะการคิด สร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมจิตอาสาที่ไม่มีค่าจ้างตอบแทนเป็นกิจกรรม ตระหนักรู้ มีสำนึกความรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม เปา้ หมายการดำเนินกจิ กรรม 1. วิเคราะห์องค์ความร๎จู ากการเรียนIS1และ IS2 เพื่อก าหนดแนวทางไปสู่การปฏบิ ตั ิให้เกดิ ประโยชน์ต สงั คม (Public service) 2. เขยี นเป้าหมาย/วัตถุประสงค์ เคา้ โครง กจิ กรรม/โครงงานและแผนปฏิบัติงานรม/โครงการ 3. ปฏบิ ตั ติ ามแผนและตรวจสอบความก้าวหน้าทางการปฏิบัติโครงงาน/โครงการ 4. รว่ มแสดงความคิดเห็น วเิ คราะห์วพิ ากษ์ การปฏบิ ัตโิ ครงงาน/โครงการ 5. สรุปผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม/โครงงาน/โครงการ และแสดงความรูส๎ ึก ความคิดเห็น ตอ่ ผลการปฏิบัติ หรอื กจิ กรรม ซ่ึงแสดงถงึ การตระหนักรู้ มสี ำนึกความรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม โรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ อำเภอเมืองอดุ รธานี จังหวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ พุทธศักราช 2563 ระดับมธั ยมศึกษาปีที่ 3 | 81 ตัวช้วี ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 กจิ กรรมแนะแนว ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ โรงเรยี นบ้านหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านหมากแขง้ พทุ ธศกั ราช 2563 ระดับมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 | 82 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 กจิ กรรมแนะแนว ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนบ้านหมากแขง้ สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 ท่ี รหัสวิชา รายวิชา เวลาเรยี น 1 ก 23901 กิจกรรมแนะแนว 5 20 2 ก 23904 กจิ กรรมแนะแนว 6 20 โรงเรยี นบ้านหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นหมากแขง้ พุทธศกั ราช 2563 ระดับมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 | 83 ตัวชี้วัดและสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางกล่มุ สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 คำอธิบายรายวิชา รหัสวชิ า ก 23901 วิชาแนะแนว 5 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (กิจกรรมแนะแนว) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรียน 20 ชั่วโมง จำนวน 1 ชั่วโมง/ สปั ดาห์ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา ฝึกทักษะกระบวนการในสาระตอ่ ไปน้ี ศึกษาและวิเคราะห์เพ่ือให้เกดิ การตระหนักรู้ในตนเรื่องความถนดั ความสนใจ ความสามารถทาง วชิ าการ ศกั ยภาพพิเศษเฉพาะด้านการสร้างจุดมุ่งหมายทางการศึกษาเพ่ืออาชีพ องค์ประกอบในการตดั สินใจเลือก อาชพี การสัมภาษณ์บคุ คลในอาชีพท่ีนกั เรยี นสนใจ การใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื สืบค้นขอ้ มูลสารสนเทศทางการศึกษาและ อาชีพ ทัศนคติและคํานิยมที่เหมาะสมทางอาชีพทักษะการคิดและการตัดสินใจแก้ปัญหา การพัฒนาจิตสำนึกเพอ่ื สังคมจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่ม โดยกำหนดรูปแบบจำนวนสมชิกกลุ่มให้เหมาะสมกับ ลักษณะและวัตถุประสงค์ของกิจกรรม การใช้สถานการณ์จำลอง บทบาทสมมุติ เพื่อพัฒนาทักษะการทำงาน กระบวนการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์และการสื่อสารปฏิสัมพันธ์เพือ่ มุ่งให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ รู้จัก เข้าใน รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น สามารถวางแผนการเรียน อาชีพ รวมทั้งการดำเนินชีวิตและสังคม สามารถปรับตัวได้อยา่ งเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อืน่ ได้อยา่ งมีความสขุ ผลการเรียนรู้ 1. สามารถตระหนักรูค๎ วามถนดั ความสนใจ ความสามารถทางวิชาการ และศักยภาพพิเศษเฉพาะด้าน ของตนเอง 2. สามารถสมั ภาษณ์บุคคลในอาชพี ทน่ี กั เรยี นสนใจ 3. สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อน่ื ได้อยา่ งมคี วามสขุ รวม 3 ผลการเรียนรู้ โรงเรียนบา้ นหมากแขง้ อำเภอเมอื งอุดรธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านหมากแขง้ พทุ ธศักราช 2563 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 | 84 ตวั ชว้ี ัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลุม่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวชิ า ก 23904 วิชาแนะแนว 6 กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น (กิจกรรมแนะแนว) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรยี น 20 ชั่วโมง จำนวน 1 ช่วั โมง/ สปั ดาห์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา ฝกึ ทักษะกระบวนการในสาระต่อไปน้ี แลกเปลยี่ นเรียนรู้ข้อมูลสารสนเทศทางอาชีพ การวางแผนเลือกวิชาเอกให้สอดคล้องกับศักยภาพ เฉพาะตน การประเมินและการรบั รู้ระดับสติปัญญา ระดับความฉลาดทางอารมณ์ ความรู้เร่อื งการพัฒนาความฉลาด ทางอารมณ์ การเสริมสร้างวุฒิภาวะทางอารมณ์ ความรู๎และการพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสาร การลด ความเครียดและความขัดแย้งใจ การปูองกันและการลดภาวะเสียงในวัยรุ่น การศึกษาโครงสร้างหลักสูตรระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย การสัมภาษณ์นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายวิชาเอกต่าง ๆ ที่นักเรียนสนใจ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของเยาวชนรุ่นใหม่ การพัฒนาความคิดเชิงบวก จัดประสบการณ์การเรียนรู๎โดยใช้ กระบวนการกลุ่ม โดยกำหนดรูปแบบจำนวนสมชกิ กลุ่มใหเ้ หมาะสมกับลักษณะและวัตถุประสงค์ของกิจกรรม การ ใชส้ ถานการณจ์ ำลอง บทบาทสมมุติ เพอ่ื พัฒนาทักษะการท างาน กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ อย่างสร้างสรรค์ และการสื่อสารปฏิสัมพันธ์ เพื่อมุ่งให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ รู้จัก เข้าใน รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น สามารถวางแผนการเรียน อาชีพ รวมท้งั การดำเนนิ ชวี ิตและสงั คม สามารถปรับตัวได้อยํางเหมาะสม และอยู่รว่ มกับ ผู้อน่ื ได้อย่างมคี วามสขุ ผลการเรียนรู้ 1. สามารถการวางแผนเลอื กแผนการเรยี นให้สอดคล้องกบั ศักยภาพเฉพาะตน 2. สามารถพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ การเสรมิ สร้างวุฒภิ าวะทางอารมณ์ ความรู้และการพฒั นา ทกั ษะชีวติ 3. สามารถทราบโครงสร้างหลักสูตรระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย รวม 3 ผลการเรยี นรู้ โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ อำเภอเมืองอดุ รธานี จังหวดั อุดรธานี สำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านหมากแข้ง พทุ ธศักราช 2563 ระดับมธั ยมศึกษาปีที่ 3 | 85 ตวั ช้ีวดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น แนวการเขียนการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของโรงเรียน 3 ลักษณะ แบ่งเป็นตามหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ได้แก่ 1) กจิ กรรมแนะแนว 2) กิจกรรมนกั เรยี น 3) กิจกรรมเพ่อื สังคมและ สามาธารณประโยชน์ ในแต่ละกิจกรรมให้ระบแุ นวการจัดกิจกรรมเวลาการจัดกิจกรรม และแนวทาง การประเมิน กิจกรรมที่โรงเรียนกิจกรรมตัวอย่างกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนกำหนดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเปน็ กิจกรรมทีม่ ุ่งให้ผ้เู รียน พัฒนาตนเอง ตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรมจริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการ ประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจดั การตนเองได้และอยู่ร่วมกบั ผู้อน่ื อยาํ งมคี วามสขุ โรงเรยี นบ้านหมากแข้ง ได้จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยแบง่ ออก 3 ลกั เป็นษณะ ดังนี้ 1. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพฒั นานักเรียนให้รู้จกั ตนเองรู้จักส่ิงแวดล้อมสามารถ ตดั สินใจ คดิ แกป้ ัญหา กำหนดเปูาหมาย วางแผนชีวิตท้งั ด้านการเรียนและอาชพี สามารถปรับตน ได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยัง ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียนโดยคำนึงถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ด้วยกระบวนการทางจิตวิทยาการ แนะแนวทั้ง ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาแก่ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้อง ครอบคลุม ดา้ นการศึกษา อาชพี ส่วนตวั และสังคม กจิ กรรมสำคัญในการพฒั นา ได้แก่ กจิ กรรมการรู้จัก เข้าใจและ ในตนเองและผู้อื่น กิจกรมการปรับตัวและดำรงชีวิต กิจกรรมแสวงหาและใช้ข้อมูลสารสนเทศ กิจกรรมการ ตดั สนิ ใจและแก้ปญั หา เป็นต้น นักเรียนทกุ คนต้องเขา้ ร่วมกิจกรรมแนะแนว 40 ชั่วโมง/ต่อปี แนวทางในการจัดกิจกรรมแนะแนว 40 ชั่วโมง/ต่อปี จัดให้นักเรียนได้เรียนวิชาแนะแนวในตารางสอน 1 ชั่วโมง/ สัปดาห์จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และประเมินผลเป็นภาคเรียน โดยม ผลการ ประเมินเป็น ผ และ มผ 2. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหาการตัด สินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือ แบ่งปันกัน สมานฉันท์โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียนให้นักเรียนได้ ปฏิบัติด้วย ตนเองในทุกขน้ั ตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏบิ ัติตาประเมนิ และปรบั ปรุงการแผนทำงาน เน้นการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียนบริบทของสถานศึกษา ทอ้ งถ่ิน กิจกรรมนักเรยี นประกอบด้วย 2.1 กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ 40 เนตรนารีชั่วโมง /ปีการศึกษา (20 ชั่วโมง/ภาคเรียน) แนวทางการจัดกิจกรรมลกู เสือ เนตรนารี จัดให้นักเรียนได้เรียนวิชาลูกเสือ - เนตรนารี ในตารางสอน 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนให้เป็นไปตาม วตั ถุประสงค์ และประเมินผล เปน็ ภาคเรียน โดยมผี ลการประเมินเป็น ผ และ มผ 2.2 กิจกรรมชุมนุม นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 20 ชั่วโมง/ ภาคเรียน โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอุดรธานี จังหวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านหมากแขง้ พทุ ธศักราช 2563 ระดบั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 86 ตัวชี้วดั และสาระการเรียนร้แู กนกลางกล่มุ สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 แนวทางการจัดกิจกรรมกิจกรรมชุมนุม จัดให้นักเรียนได้เรียนกิจกรรมชุมนมุ ในตารางสอน 1 ชั่วโมง/ สัปดาห์ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และประเมินผลเป็นภาคเรียน โดยมีผลการ ประเมนิ เป็น ผ และ มผ 2.3 กจิ กรรมชุมนุม นักเรยี นทกุ ระดับชน้ั ท่ีมีความสนใจในการจัดกิจกรรมอย่างใดอย่างหนง่ึ ร่วมกันให้ รวมกลุ่มกัน 20 - 30 คน โดยจดั หาครูที่ปรึกษาและดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปตามแผนการทวี่ างไว๎ใน 1 ภาคเรียน แนวทางการจัดกิจกรรมกิจกรรมชมรม นักเรียนจะรวมกลุ่มกัน อาจใช้เวลาหลังเลิกเรียน - หรือเสาร์ อาทิตย์ ดำเนินกิจกรรม ร่วมกันเปน็ กลุ่ม และสร้างสรรคผ์ ลงานของกลุ่ม และรายงานผลการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ ภาคเรยี นละ 1 ครัง้ (เป็นกจิ กรรมใหน้ ักเรยี นได้เลอื กตามทเี่ ปดิ ให้เลือก) 3. กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน์ เปน็ กิจกรรมท่ีส่งเสรมิ และพัฒนานักเรียนให้ผู้เรียนบำเพ็ญ ตนให้เป็นระโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และ ท้องถิ่นตามความสนใจ ความ สามารถ ความถนัดในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดี งาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตใจมุ่งทำประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชนและ สังคมกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การบำเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม กิจกรรมดำรงรักษา สืบสานศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม กิจกรรม พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสังคม เป็นต้น การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ สามารถนำไปสอดแทรก หรือบูรณาการ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ผูบ้ ำเพญ็ ประโยชน์ ได้ตามความเหมาะสม ทง้ั นกี้ ารทำกจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ใหผ้ รู้ ายงานแสดง การเขา้ ร่วมกจิ กรรมและมีผู้รบั รองผลการเข้าร่วมกจิ กรรมด้วย โดยสถานศึกษาจดั เวลาเรยี นให ผู้เรยี นดงั นี้ นกั เรยี นทกุ คนต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ระดบั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 จำนวน 20 ชวั่ โมง/ปี แนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ 1. นกั เรียนระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ทุกคนต้องเข้าร่วมกจิ กรรมทเ่ี กี่ยวข้องกับหวั ข้อตอ่ ไปนี้ 1.1 กจิ กรรมสิง่ แวดล้อม 1.2 คา่ ยต่าง ๆ 1.3 กจิ กรรมขนบธรรมเนยี ม ประเพณีและวัฒนธรรม 1.4 กิจกรรมทเ่ี ก่ยี วกบั ศาสนา 1.5 กิจกรรมประชาธิปไตย 1.6 นนั ทนาการและทศั นศึกษา 1.7 บรกิ ารสงั คม นกั เรยี นอาจเข้าร่วมกจิ กรรมทีโ่ รงเรียนจดั ให้ หรืออาจเขา้ ร่วมกจิ กรรมกับชุมชนท้องถนิ่ หรือภายนอกโดยมีเอกสาร รองรบั 2. เมื่อนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว นักเรียนทุกคนต้องบันทึกการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อ สังคมและสาธารณะประโยชน์ โดยมีครูประจำชั้นและอาจารย์ผู้ควบคุมกิจกรรมเป็นผู้กำหนดชั่วโมงและ การเข้า รว่ มกิจกรรม โรงเรียนบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอดุ รธานี จังหวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง พุทธศกั ราช 2563 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 | 87 ตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 3. เมอื่ จบภาคเรยี น นักเรียนต้องรวบรวมผลการเข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน์ โดยระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต้องเข้าร่วมกิจกรรมไม่ต่ำ 15 ชั่วโมง/ปีการศึกษา ส่งครูประจำชั้นเพื่อประเมินผล (ผ และ มผ) 4. ครูท่ีปรึกษา/ครปู ระจำชนั้ ส่งผลการบันทกึ การเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์ สง่ ฝ่ายงานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการเพื่อบนั ทึกผลลงในใบ ปพ.1 โรงเรียนบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมอื งอุดรธานี จงั หวดั อุดรธานี สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านหมากแขง้ พุทธศกั ราช 2563 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 | 88 ตัวช้วี ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เกณฑ์การจบการศึกษา ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหมากแขง้ โรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ อำเภอเมืองอุดรธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านหมากแขง้ พุทธศักราช 2563 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | 89 ตัวชว้ี ัดและสาระการเรยี นร้แู กนกลางกลมุ่ สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 โรงเรียนมาตรฐานสากล (World – Class Standard School) เป็นนวัตกรรมการจัดการศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นำมาใช้เป็นมาตรการ เร่งด่วนในการยกระดับการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐานการศึกษาเทียบเท่าสากล ผู้เรียนมีศักยภาพและ ความสามารถแข่งขันทดั เทยี มกับ ผเู้ รียนนานาประเทศ ในการเรียนร๎ภู าษายคุ ดิจิทลั การฝึกทักษะความสามารถใน การสอื่ สารภาษาต่างประเทศการสนบั สนุนส่งเสรมิ ให้ผเู้ รยี นมกี ารคิดประดษิ ฐแ์ ละสร้างสรรคง์ าน สามารถผลิตงานท่ี มีคุณภาพสูง ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทุกโรงเรียนจึงมีการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา โดยเพิ่มเติมความเป็นสากล 4 สาระ ได้แก่ทฤษฎีความรู้ (Theory of Knowledge) การเขียนความเรียงชั้นสูง ( Extended-Essay) กิจกรรม โครงงานสร้างสรรค์ (CAS : Creativity, Action , Service) และโลกศกึ ษา (Global Education) และใหค้ วามสำคัญ ในการจดั ผู้เรยี นได้เรยี นภาษาตํางประเทศท่ี 2 อีกหนง่ึ ภาษา รวมทงั้ ฝึกทักษะภาษาอังกฤษอยํางเข้มข้น เพอ่ื ตอ่ ยอด ความรู้จากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ความรู้พื้นฐานในยุคดิจิทัล (Digital-Age Literacy) ได้แก่ 1. มคี วามรู้พน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี 2. รู้ภาษา ข้อมูล และทศั นภาพ (Visual & Information Literacies) 3. รู้พหุวัฒนธรรมและมคี วามตระหนักสำนกึ ระดับโลก (Multicultural Literacy & Global Awareness) ทฤษฎคี วามรู๎ (Theory of Knowledge) เป็นสาระการสอนท่มี ีวัตถุประสงค์ เพื่อปลกู ฝงั ทกั ษะการค้นคว้า แสวงหาความรู๎เพิ่มเติม ต่อยอดความรู้ให้ลึกซึ้งในประเด็นความรู๎ (Knowledge issues) ได้เรียนรู้จากการเรียน สาระการเรียนรู้พน้ื ฐาน 8 กลมุ่ สาระ ผเู้ รยี นต้องค้นคว้าหาความรู้เพื่อนำมาแสดงให้เหน็ ว่า “เรารู้ได้อยํางไร : How do we know ” และครูผู้สอนจะเป็นผู้ชี้แนะ ชี้นำวิธีการแสวงหาความรู๎การเขียนความเรียงชั้นสูง (Extended- Essay) เป็นสาระมีวัตถุประสงค์ ให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการศึกษาค้นคว้าอยํางอิสระ (Independent Study/Research) ในเรอ่ื งท่ีตนสนใจ เขียนรายงานสงิ่ ที่ค้นพบจากการค้นคว้าเป็นความเรยี งเชิงวิชาการโลกศึกษา (Global Education) เปน็ สาระการเรียนรู้มงุ่ ใหผ้ ้เู รียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจในสถานการณ์ของโลก สามารถวิเคราะห์ เหตุการณโ์ ลกและสามารถมองเห็นช่องทางและวิธกี ารในการแก้ปญั หาอย่างชาญฉลาด หวังให้ผู้เรียน “คดิ เป็น แก่ ปัญหาเป็น” มีทักษะการคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) และทักษะการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ (Critical Thinking) กิจกรรมโครงงานสร้างสรรค์ (CAS : Creativity, Action , Service) เป็นกิจกรรมที่มวี ัตถปุ ระสงค์เพื่อมุ่ง พัฒนาผู้เรียนให้ได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพอย่างรอบด้าน ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพ่ือ สงั คม จัดการตนเองได้ และอยู่รว่ มกบั ผู้อน่ื อย่างมคี วามสุข เป็นการจดั กจิ กรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการสร้างสรรค์ โครงงานและปฏบิ ัตจิ รงิ 3 กจิ กรรมหลกั ประกอบด้วย การสร้างสรรคโ์ ครงงาน (Creativity) โดยใช้ความรู้จากสาระ การเรียนรู้พื้นฐาน การปฏิบัติกิจกรรมตามโครงงานที่สร้างขึ้น (Action) และเข้าร่วมกิจกรรมโครงงานสาธารณะ ประโยชน์ (Service) โรงเรยี นบ้านหมากแข้ง อำเภอเมอื งอุดรธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านหมากแขง้ พทุ ธศกั ราช 2563 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 90 ตวั ชี้วดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 มุ่งพฒั นาผู้เรยี นให้มี คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และ ความร๎คู วามสามารถในสมรรถนะ 5 สมรรถนะ ได้แก่ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนมาตรฐานสากล มุ่งสะท้อน คุณภาพของ ผเู้ รยี นต่อยอดจากสมรรถนะ และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้เรียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยคุณลักษณะและคุณภาพของผู้เรียนในโรงเรยี นมาตรฐานสากล มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีศักยภาพ เป็นพลโลก ได้แก่ 1. เป็นเลศิ วิชาการ 2. สอื่ สารสองภาษา 3. ล้ำหน้าทางความคดิ 4. ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ 5. ร่วมกันรับผิดชอบสังคมโลก โรงเรียนบ้านหมากแข้ง อำเภอเมอื งอดุ รธานี จังหวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง พุทธศักราช 2563 ระดบั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 | 91 ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 โครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นมาตรฐานสากล สาระพน้ื ฐาน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ - ภาษาไทย - คณิตศาสตร์ - วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม - สุขศึกษาและพลศึกษา - ศลิ ปะ - การงานอาชพี - ภาษาต่างประเทศ สาระเพ่มิ เตมิ ตามจุดเนน้ หลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล - INDEPENDENT STUDY กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ พุทธศกั ราช 2563 ระดับมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 | 92 ตวั ช้วี ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลมุ่ สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน ต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการคือการ ประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบ ผลสำเร็จนั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวช้ีวัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อน สมรรถนะสำคัญ และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องผู้เรียนซึ่งเปน็ เป้าหมายหลกั ในการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ การวัดและ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพฒั นาคุณภาพผู้เรยี นโดยใช้ผลการประเมินเปน็ ขอ้ มลู และสารสนเทศทแี่ สดง พัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรยี นของผู้เรยี น ตลอดจนข้อมลู ที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รียนเกิดการพฒั นาและเรยี นรู้อยา่ งเต็มตามศกั ยภาพ การวัดและประเมินผลเพื่อตัดสินผลการเรียน เป็นการประเมินสรุปผลการเรียนรู้ (Summative assessment) ซ่งึ มหี ลายระดับ ไดแ้ ก่ เมื่อเรยี นจบหน่วยการเรียน จบรายวชิ าเพือ่ ตัดสินให้คะแนนหรือให้ระดับผล การเรียน ให้การรับรองความรู้ความสามารถว่าผ่านรายวิชาหรือไม่ ควรได้รับการเลื่อนชั้นหรือไม่ หรือสามารถจบ หลักสตู รหรอื ไม่ การประเมินเพ่ือตดั สนิ ผลการเรียนต้องใหโ้ อกาสผ้เู รยี นแสดงออกความรูค้ วามสามารถดว้ ยวิธีการที่ หลากหลายและตัดสินบนพื้นฐานของเกณฑ์ผลการปฏิบัติมากกว่าใช้เปรียบเทียบระหว่างนักเรียน การวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ แบง่ ออกเป็น 4 ระดับ ไดแ้ ก่ ระดับช้ันเรยี น ระดบั สถา นศึกษาระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และ ระดับชาติ มีรายละเอยี ด ดังน้ี 1. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอนดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เชน่ การซกั ถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมนิ โครงงาน การประเมนิ ช้ินงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การใชแ้ บบทดสอบ ฯลฯ โดยผูส้ อนเปน็ ผู้ประเมนิ เองหรือเปิดโอกาส ใหผ้ ้เู รียนประเมินตนเอง เพ่ือนประเมินเพื่อน ผปู้ กครองร่วมประเมนิ ในกรณที ่ไี ม่ผ่านตัวชี้วัดให้มี การสอนซ่อมเสรมิ การประเมินระดับชั้นเรยี นเป็นการตรวจสอบ ว่าผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้ อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และ มากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับการพฒั นาปรับปรุงและส่งเสริมในด้านใด นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ ปรับปรงุ การเรียนการสอนของตนด้วย ท้ังนี้โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวดั 2. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินที่สถานศึกษาดำเนินการเพื่อตัดสินผล การ เรยี นของผู้เรียนเป็นรายป/ี รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนีเ้ พื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษา ของสถานศึกษาว่าส่งผลต่อการเรียนรู้ ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนำผลการเรียนของผู้เรียนใน สถานศกึ ษาเปรียบเทียบกับเกณฑร์ ะดบั ชาติ ผลการประเมินระดับสถานศกึ ษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือการ ปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนาคณุ ภาพ การศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัดการศึกษาต่อ คณะกรรมการสถานศกึ ษา สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง และชมุ ชน โรงเรยี นบ้านหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง พทุ ธศักราช 2563 ระดบั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 | 93 ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 3. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศกึ ษา เปน็ การประเมนิ คุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นท่กี ารศึกษาตามมาตรฐานการเรยี นรู้ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมินคุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานท่ี จัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรือด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด ในการดำเนินการจัด สอบ นอกจากนี้ยงั ได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมนิ ระดบั สถานศกึ ษาในเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา 4. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน สถานศึกษาต้องจดั ให้ผเู้ รยี นทกุ คนทเี่ รียน ในชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 เขา้ รับการประเมิน ผลจาก การประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพการศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนยกระดับ คุณภาพการจดั การศึกษา ตลอดจนเป็นขอ้ มลู สนบั สนุน การตัดสนิ ใจในระดบั นโยบายของประเทศ โรงเรียนบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอดุ รธานี จังหวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านหมากแข้ง พทุ ธศักราช 2563 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 94 ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางกล่มุ สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 แนวปฏิบตั กิ ารวัดและประเมินผลการเรียนรู้ หลกั การดำเนนิ การวัดประเมินผลตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นบ้านหมากแข้ง พทุ ธศักราช 2563 การวดั และประเมินผล เป็นกระบวนการเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ตคี วามผลการเรียนรู้ และพฒั นาการด้าน ต่าง ๆ ของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้วี ัดของหลกั สูตร นำผลไปปรบั ปรงุ พฒั นาการจัดการเรยี นรู้ และใช้ เป็นข้อมูลสำหรับการตดั สินผลการเรียน สถานศึกษาจึงควรกำหนดหลกั การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อเป็น แนวทางในการตัดสินใจเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลการเรียนรู๎ตามหลักสูตรสถานศึกษา โดยเปิดโอกาสให้ ผู้เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งพิจารณาจากพฒั นาการของผู้เรียน ความประพฤติ พฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรม และการทดสอบควบคู่กันไป มีจุดมุ่งหมาย เพื่อปรับปรุงพัฒนาผู้เรียน พัฒนาการจัดการเรยี น และตดั สนิ ผลการเรียน โดยมีหลกั การดำเนนิ การ ดังน้ี 1. สถานศกึ ษาเป็นผู้รับผิดชอบการวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยเปดิ โอกาสให้ผู้ที่ เก่ียวขอ้ งมีส่วนร่วม 2. การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ มีจดุ มงุ่ หมายเพื่อพฒั นาผู้เรยี น และตดั สินผลการเรยี น 3. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ต้องสอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้ีวัด ตามกลุ่ม สาระการเรียนรู้ที่กำหนดในหลักสูตรสถานศึกษา และจัดให้มีการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตลอดจนกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น 4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องดำเนินการด้วย เทคนิควิธีการที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถวัดและประเมินผลผู้เรียนได้อย่างรอบด้านทั้งด้านความรู้ ความคิด กระบวนการ พฤติกรรมและเจตคติ เหมาะสมกับสิ่งทีต่ ้องการวัด ธรรมชาติวิชาและระดับช้ันของผู้เรยี น โดยตั้งอยู่ บนพื้นฐานของความเทยี่ งตรง ยุติธรรม และเชอ่ื ถอื ได้ 5. การประเมินผู้เรยี นพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรียน ความประพฤติ การสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ การร่วมกิจกรรมและการทดสอบ ควบคูํไปในกระบวนการเรียนการสอน ตามความเหมาะสมของแต่ละระดับและ รปู แบบการศึกษา 6. เปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นและผู้มสี ่วนเก่ยี วข้องตรวจสอบผลการประเมนิ ผลการเรียนรู้ 7. ใหม้ กี ารเทยี บโอนผลการเรียนระหว่างสถานศึกษาและระหว่างรูปแบบการศึกษาต่าง ๆ 8. ให้สถานศึกษาจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษา เพื่อเป็นหลักฐานการประเมินผลการเรียนรู้รายงานผล การเรียน แสดงวฒุ ิการศกึ ษา และรับรองผลการเรียนของผู้เรียน องคป์ ระกอบของการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น สถานศกึ ษาต้องดำเนนิ การวดั และประเมนิ ผลให้ครบองค์ประกอบทั้ง 4 ดา้ น คือ 1. กลมุ่ สาระการเรยี นร๎ู 8 กลมุ่ สาระการเรียนร๎ู 2. การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน 3. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 4. กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอุดรธานี จงั หวดั อุดรธานี สำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นหมากแขง้ พทุ ธศกั ราช 2563 ระดับมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 95 ตวั ชีว้ ัดและสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางกลุม่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 1. การวดั และประเมินผลการเรยี นรตู้ ามกล่มุ สาระการเรียนรู้ 1.1 เป็นการประเมินผลการเรียนตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ ภาษาไทย , คณิตศาสตร์ , วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี , สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม , สุขศึกษาและพลศึกษา , ศิลปะ , การงานอาชพี และเทคโนโลยี และ ภาษาต่างประเทศ 1.2 ประเมินผลการเรยี นเปน็ รายวิชา โดยคดิ เป็นหน่วยกติ ดงั น้ี เวลาเรียน 1 คาบ / 1 สปั ดาห์ ตลอดภาคเรียน 20 คาบ มีคํา 0.5 หน่วยกติ เวลาเรียน 2 คาบ / 1 สปั ดาห์ ตลอดภาคเรียน 40 คาบ มีคาํ 1.0 หน่วยกิต เวลาเรยี น 3 คาบ / 1 สปั ดาห์ ตลอดภาคเรียน 60 คาบ มีคํา 1.5 หน่วยกิต เวลาเรยี น 4 คาบ / 1 สัปดาห์ ตลอดภาคเรียน 80 คาบ มีคาํ 2.0 หน่วยกติ เวลาเรียน 5 คาบ / 1 สัปดาห์ ตลอดภาคเรียน 100 คาบ มีคํา 2.5 หน่วยกิต เวลาเรียน 6 คาบ / 1 สัปดาห์ ตลอดภาคเรยี น 120 คาบ มีคํา 3.0 หน่วยกติ 1.3 การวัดและประเมนิ ผลการเรียนร๎ู เป็นส่วนหน่งึ ของกระบวนการจดั การเรยี นการสอนด้วยเทคนคิ วธิ กี าร ที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถวัดและประเมินผลผู้เรียนได้อย่างรอบด้าน ทั้งความรู้ ความคิด กระบวนการ และ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการวัดธรรมชาติวิชา และระดับชั้นของผู้เรียน โดยตั้งอยู่บน พ้ืนฐานความเท่ียงตรง ยุตธิ รรม และเชอื่ ถือได้ 1.4 ผู้สอนวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ผู้เรียน เป็นรายวิชาตามตวั ช้วี ัดในรายวิชาพ้นื ฐาน และตามผลการ เรียนรู๎ในรายวิชาเพิ่มเติม ตามที่กำหนดในหน่วยการเรียนรู้ เป็นการประเมินความรู๎ความสามารถ ทักษะ เจตคติ ทกั ษะการคิด ท่กี ำหนดอยู่ในตัวชว้ี ดั ในหลักสูตร ซง่ึ จะนำไปสู่ผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้ การ ประเมินผู้เรยี นพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรยี น ความประพฤติ การสังเกตพฤติกรรม การร่วมกิจกรรม และการ ทดสอบควบคู่ไปในกระบวนการเรียนการสอน ตามความเหมาะสมของแต่ละระดับ และรูปแบบการศึกษา 2. การประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น เป็นการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในการอ่านหนังสือ เอกสาร และสื่อต่าง ๆ เพื่อหาความรู้ เพิ่มพูน ประสบการณ์ เพื่อความสุนทรีย์ และประยุกต์ใช้แล้วนำเนื้อหาสาระที่อ่านมาคิดวิเคราะห์ นำไปสู่การแสดงความ คิดเห็น การสังเคราะห์ สร้างสรรค์ การแก้ปัญหาในเรื่องต่าง ๆ และถ่ายทอดความคิดนั้นด้วยการเขียนที่มีสำนวน ภาษาถูกต้อง มีเหตผุ ลและลำดับข้ันตอนในการนำเสนอ สามารถสร้างความเข้าใจแก่ผู้อ่านได้อย่างชัดเจนตามระดับ ความสามารถในแต่ละระดบั ชน้ั 3. การประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เป็นการประเมินคุณลักษณะที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน อันเป็นคุณลักษณะที่สังคมต้องการในด้าน คุณธรรม จริยธรรม คํานิยม จิตสำนึก สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ทั้งในฐานะพลเมืองไทย และพลโลก หลักสูตรแกนกลางสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 คุณลักษณะ ได้แก่ รักชาติ ศาสนา กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ โดยในการประเมินให้ประเมินแต่ละคุณลักษณะ แล้วรวบรวมผลการประเมนิ จากผู้ประเมนิ ทกุ ฝ่ายเพอ่ื ให้ได้ขอ้ มลู นำมาสู่การสรปุ ผลเปน็ รายปี / รายภาค และใช้เปน็ ขอ้ มลู เพือ่ ประเมนิ การเลื่อน ช้นั และการจบการศึกษาระดบั ต่าง ๆ โรงเรยี นบ้านหมากแข้ง อำเภอเมืองอดุ รธานี จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง พทุ ธศกั ราช 2563 ระดับมัธยมศึกษาปีท่ี 3 | 96 ตวั ชี้วัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลางกลุม่ สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 4. การประเมินกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน เป็นการประเมินการปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของผู้เรียน และเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรมตามเกณฑ์ท่ี กำหนดในแต่ละกิจกรรม และใช้เป็นข้อมูลเพื่อประเมินการเลื่อนชั้นและการจบการศึกษากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่สถานศกึ ษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกระดับชั้น เพื่อส่งเสริมพัฒนาความสามารถของตนเองตามความถนัด ความสนใจ ให้เต็มศักยภาพ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนษุ ย์ทัง้ ด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสงั คม สร้างเยาวชนของชาติให้เปน็ ผู้มศี ีลธรรม จริยธรรม มรี ะเบียบวินยั ปลกู ฝงั และสร้างจิตสำนึกของการทำ ประโยชนเ์ พอื่ สงั คมและสามารถบรหิ ารการจดั การตนเองได้ สถานศึกษาต้องส่งเสริมการพัฒนาความสามารถของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ด้วยกิจกรรม 3 ลักษณะ ดังนี้ 4.1 กจิ กรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจโดย คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ด้วยกระบวนการทางจิตวิทยา การแนะแนวให้สอดคล้องครอบคลุมด้าน การศึกษา อาชพี ส่วนตัว และสงั คม 4.2 กจิ กรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวนิ ัย ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดีความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันกัน เอื้ออาทรและสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียนให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติด้วยตนเองใน ทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผนประเมินและปรับปรุงการทำงาน เน้นการทำงาน รว่ มกันเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับวฒุ ิภาวะของผู้เรยี น บริบทของสถานศกึ ษาและท้องถนิ่ กจิ กรรมนักเรียน ประกอบดว้ ย 1. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความ มีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี ความรบั ผดิ ชอบ การทำงานร่วมกนั การรู้จกั แก้ปญั หา การตัดสนิ ใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลอื แบ่งปัน กัน การประนีประนอมเพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสมบูรณ์ พร้อมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญา เปน็ ต้น 2. กิจกรรมชุมนุม ชมรม เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยเน้นให้ผู้เรียนปฏิบัติด้วยตนเอง ตั้งแต่การศึกษาวิเคราะห์ วางแผนปฏิบัตติ ามแผน ประเมินและปรับปรุงการทำงาน เน้นการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มกิจกรรมสำคัญในการพัฒนา ได้แก่ ชุมนุม หรือ ชมรมต่าง ๆ ที่สถานศึกษากำหนดขึ้นตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียนและบริบทของ สถานศึกษาและท้องถ่ิน โรงเรยี นบา้ นหมากแข้ง อำเภอเมืองอดุ รธานี จงั หวดั อุดรธานี สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านหมากแขง้ พทุ ธศกั ราช 2563 ระดบั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | 97 ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนร้แู กนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 4.3 กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ทำประโยชน์ตาม ความสามารถ ความถนัด และความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงามความ เสียสละต่อสังคม มีจิตใจมุ่งทำประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชน และสังคม การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ สามารถนำไปสอดแทรก หรือบูรณาการในกลุ่มสาระฯกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ผบู้ ำเพญ็ ประโยชนแ์ ละนกั ศึกษาวชิ าทหาร ได้ตามความเหมาะสม โดยสถานศกึ ษาจัดเวลาเรยี นให้ผู้เรียนดังนี้ ระดบั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 - 3 รวม 3 ปี จำนวน 45 ชว่ั โมง (เฉลยี่ ปีละ 15 ชว่ั โมง) ระดับมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 - 6 รวม 3 ปี จำนวน 60 ช่วั โมง (เฉล่ียปีละ 20 ชั่วโมง) โรงเรียนบา้ นหมากแขง้ อำเภอเมืองอดุ รธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหมากแข้ง พทุ ธศกั ราช 2563 ระดบั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 | 98 ตัวชีว้ ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุม่ สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ระดับมัธยมศกึ ษา 1. การตดั สนิ ผลการเรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดโครงสรา้ งเวลาเรยี น มาตรฐานการ เรียนรู้ / ตัวชี้วัด การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ที่สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ มีคุณภาพเต็มตามศักยภาพ และให้กำหนดหลักเกณฑ์การวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อตัดสินผลการเรียนของผู้เรียน ดงั น้ี 1.1 ตัดสินผลการเรียนเปน็ รายวิชา ผู้เรียนต้องมีเวลาเรยี นตลอดภาคเรยี น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทงั้ หมดในรายวิชานนั้ ๆ 1.2 ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตวั ช้วี ดั และผ่านตามเกณฑท์ ี่สถานศกึ ษากำหนด 1.3 ผู้เรยี นต้องได้รับการตัดสนิ ผลการเรยี นทกุ รายวิชา 1.4 ผู้เรยี นต้องได้รบั การประเมนิ และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากำหนดในการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2. การให้ระดบั ผลการเรยี น การตัดสินเพ่อื ให้ระดับผลการเรียนรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ใหใ้ ชต้ วั เลขแสดงระดับผลการเรียน เปน็ 8 ระดับ ดงั น้ี ระดบั ผลการเรยี น ความหมาย ช่วงคะแนนเปน็ ร้อยละ 4 ดเี ยี่ยม 80 – 100 3.5 ดมี าก 75 – 79 3 ดี 70 – 74 2.5 คอ่ นขา้ งดี 65 – 69 2 ปานกลาง 60 – 64 1.5 พอใช้ 55 – 59 1 ผ่านเกณฑข์ ้ันต่ำ 50 – 54 0 ตำ่ กว่าเกณฑ์ 0 – 49 ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รายวิชาท่ีจะนบั หน่วยกิตได้จะตอ้ งได้ระดับผลการเรยี น “1” ถึง “4” เท่านัน้ ในกรณีท่ีไม่สามารถใหร้ ะดับผลการเรยี นเป็น 8 ระดับได้ ให้ใช้ตวั อักษรระบเุ งื่อนไขของผลการเรยี นดังน้ี “ มส” หมายถึง ผูเ้ รยี นไม่มสี ิทธิเข้ารบั การประเมนิ ผลปลายภาคเรียน เน่อื งจากผู้เรยี นมเี วลาเรียนไม่ถงึ ร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นแต่ละวิชา และไม่ไดร้ บั การผ่อนผันใหเ้ ข้ารบั การวัดผลปลายภาคเรยี น “ ร ” หมายถงึ รอการตัดสินและยังตดั สนิ ผลการเรียนไมไ่ ด้ เน่ืองจากผู้เรียนไม่มขี อ้ มูลประเมินผลการเรียนรายวิชา นน้ั ครบถ้วน เชน่ ไม่ได้วดั ผลกลางภาคเรียน ไม่ไดส้ ง่ งานท่มี อบหมายให้ทำซ่งึ งานนน้ั เป็นส่วนหนึ่งของการตดั สนิ ผล การเรียน หรือมเี หตุสดุ วิสัยทีท่ ำใหป้ ระเมนิ ผลการเรียนไม่ได้ ทงั้ นต้ี ้องได้รบั ความเห็นชอบจากหวั หน้าสถานศึกษา กอ่ น ให้ผลการเรยี น “ ร ” โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอดุ รธานี จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหมากแขง้ พทุ ธศักราช 2563 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 | 99 ตวั ชี้วดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 การประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน ผลการประเมิน เป็นผ่านและไม่ผ่าน ถ้ากรณีที่ผ่านกำหนดเกณฑ์การตัดสินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน และ ความหมายของแต่ละระดับดงั น้ี “ ดเี ยี่ยม” หมายถงึ มีผลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียนทม่ี ี ความสามารถจบั ใจความสำคญั ได้ครบถ้วน เขียนวพิ ากษว์ จิ ารณ์ เขยี นสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นประกอบอย่างมีเหตุผลได้ถูกต้องและสมบูรณ์ ใช้ภาษาสุภาพ และเรยี บเรยี งได้สละสลวย “ดี” หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ทม่ี ีความสามารถจับใจความสำคญั ได้ เขยี นวิพากษว์ จิ ารณ์ และเขียนสร้างสรรค์ ไดโ้ ดยใช้ภาษาสุภาพ “ผ่าน” หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ท่ีมีความสามารถจบั ใจความสำคญั และเขียนวพิ ากษ์วิจารณไ์ ด้บ้าง “ไม่ผ่าน” หมายถึง ไม่มีผลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน หรือถ้ามีผลงาน ผลงานนั้นยังมีข้อบกพรํองที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก๎ไขหลาย ประการไม่สามารถจบั ใจความสำคญั และเขียนวพิ ากษว์ จิ ารณ์ได้ การประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เป็นการประเมินรวมทุกคุณลักษณะเพื่อการเลื่อนชั้น และจบการศึกษา เป็นผ่านและไม่ผ่าน ในการผ่าน กำหนดเกณฑ์การตัดสินเปน็ ดเี ยี่ยม ดี และผ่าน และความหมายของแต่ละระดับดงั นี้ “ ดีเยี่ยม” หมายถงึ ผู้เรยี นปฏิบตั ิตนตามคุณลักษณะจนเปน็ นสิ ยั และนำไปใช้ในชีวิตประ “ดี” จำวันเพื่อประโยชน์สุขของตนเองและสังคม โดยพิจารณาจาก ผลการ ประเมนิ ระดับดีเยี่ยม จำนวน 5 – 8 คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ ประเมนิ ต่ำกว่า ระดับดี หมายถงึ ผู้เรียนมคี ุณลกั ษณะในการปฏิบัตติ ามกฎเกณฑ์ เพื่อใหเ้ ป็นการยอมรับ ของสังคม โดยพิจารณาจาก 1. ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน 1 – 4 คุณลักษณะ และบาง คุณลกั ษณะได้ผลการประเมนิ ระดบั ดี หรอื 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี ท้ัง 8 คุณลักษณะ 3. ได้ผลการประเมินระดับดีขึ้นไป จำนวน 5 – 8 คุณลักษณะ และมีบาง คุณลักษณะได้ผลการประเมนิ ระดบั ผ่าน โรงเรยี นบ้านหมากแขง้ อำเภอเมอื งอดุ รธานี จังหวดั อุดรธานี สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านหมากแขง้ พุทธศกั ราช 2563 ระดบั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 | 100 ตัวช้วี ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 “ผ่าน” หมายถงึ ผเู้ รยี นรบั รแู๎ ละปฏบิ ตั ิตามกฎเกณฑแ์ ละเงื่อนไขท่ีสถานศกึ ษากำหนด “ไม่ผ่าน” โดยพจิ ารณาจาก 1. ได้ผลการประเมินระดบั ผ่าน ท้งั 8 คุณลักษณะ 2. ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน 1 – 4 คุณลักษณะ และคุณลักษณะท่ี เหลือได้ผลการประเมนิ ระดับผ่าน หมายถงึ ผู้เรียนรับรู้และปฏบิ ตั ิได้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์ และเง่ือนไขทสี่ ถานศกึ ษา กำหนดโดยพิจารณาจากผลการประเมนิ ระดับไม่ผ่าน ต้ังแต่ 1 คณุ ลกั ษณะ การประเมินกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรมการปฏิบัติกิจกรรมและ ผลงานของผู้เรยี น ตามเกณฑ์ทส่ี ถานศกึ ษากำหนด และใหผ้ ลการประเมินเป็นผ่าน ไม่ผา่ น “ ผ ” หมายถึง ผเู้ รียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ปฏบิ ัติกิจกรรมและมี ผลงานตามเกณฑ์ทส่ี ถานศกึ ษาก าหนด “ มผ ” หมายถึง ผู้เรยี นมเี วลาเข้าร่วมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ปฏิบตั ิกิจกรรม และ มผี ลงาน ไม่เป็นไปตามเกณฑท์ ่ีสถานศกึ ษากำหนด 3. การเปลีย่ นผลการเรียน 3.1 การเปล่ยี นผลการเรยี น “ 0 ” สถานศึกษาจัดให้มีการสอนซ่อมเสริมในมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัดที่ผู้เรียนสอบไม่ผ่านก่อน ด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ให้เกิดพัฒนาการตามมาตรฐานการเรียนรู๎ที่กำหนดให้ครบถ้วน จนผู้เรียนสามารถ ผ่านเกณฑ์การประเมินผล ครบทุกตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง แล้วจึงสอบแก้ตัวได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ให้ใด้ ระดับผลการเรียนตั้งแต่ “ 1 ” ถ้าผู้เรียนไม่ดำเนินการสอบแก้ตัวตามระยะเวลาที่สถานศึกษากำหนด ให้ อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีก 1 ภาคเรียน ทั้งนี้ต้องดำเนินการให้เสร็จ สิ้นภายในปีการศึกษานั้น ถ้าสอบแก้ตัว 2 ครั้งแล้ว ยังได้ระดับผลการเรียน “0” อีก ให้สถานศึกษาแต่งตั้ง คณะกรรมการดำเนินการเกยี่ วกบั การเปลีย่ นผลการเรยี นของผู้เรยี น โดยปฏบิ ัติ ดังนี้ 1. ถา้ เป็นรายวชิ าพ้ืนฐาน ให้เรียนซ้ำรายวิชานน้ั 2. ถา้ เป็นรายวชิ าเพมิ่ เติม ให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยนรายวชิ าเรียนใหม่ ท้ังนใี้ ห้อยใู่ นดุลยพนิ ิจของสถานศกึ ษา ในกรณีท่เี ปลย่ี นรายวิชาเรียนใหม่ใหห้ มายเหตุในระเบยี นแสดงผลการเรียนว่าเรยี นแทนรายวชิ าใด 3.2 การเปลยี่ นผลการเรยี น “ มส ” การเปล่ียนผลการเรยี น มี 2 กรณี ดังนี้ กรณีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 แต่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของเวลาเรียนทั้งหมดให้สถานศึกษาจัดให้เรียนเพิ่มเติม โดยใช้ชั่วโมงสอนซ่อมเสริมหรือใช้เวลาว่าง หรือ ใช่วันหยุด หรือมอบหมายงานให้ทำจนมีเวลาเรียนครบตามที่กำหนดไว้สำหรับรายวิชานั้น แล้วจึงให้วัดผล โรงเรียนบ้านหมากแขง้ อำเภอเมืองอดุ รธานี จงั หวัดอุดรธานี สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130