Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการเรียน บทที่ 6

เอกสารประกอบการเรียน บทที่ 6

Published by amonrat.sin, 2020-05-30 07:17:32

Description: บทที่ 6

Search

Read the Text Version

สาระสาคญั ทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ เป็นแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศทใ่ี หข้ อ้ เทจ็ จรงิ และความรู้ เร่อื งใดเร่อื งหน่ึงหรอื สงิ่ ใดสงิ่ หนึ่ง ท่สี รุปจากการศึกษาค้นคว้า แล้วนามารวมไว้ด้วยกันตาม ลกั ษณะของข้อเท็จจรงิ และความรู้ ทาให้เกิดเป็นทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิงหลายประเภ ท จงึ จาเป็นทจ่ี ะต้องเรยี นรู้ขอบเขต และลกั ษณะเฉพาะของทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ เหล่าน้ี ซ่ึงปัจจุบันทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิงมีในรูปแบบของส่ือส่ิงพิมพ์ เรยี กว่า หนังสืออ้างอิง เป็นหนังสือท่ใี ห้ความรูเ้ ก่ียวกับข้อเท็จจริงในเร่อื งใดเร่อื งหนึ่ง มีการจดั ทาในแบบท่งี ่ายต่อ การค้นคว้าหาคาตอบท่ีต้องการได้สะดวก รวดเร็ว หนังสอื อ้างอิงแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ หนังสืออ้างอิงท่ีให้คาตอบได้โดยตรง และหนังสืออ้างอิงท่ีแนะนาแหล่งข้อมูล นอกจาก ทรัพยากรสารสนเทศอ้างอิงในรูปแบบของส่ือสิ่งพิมพ์แล้ว ยังมีการจัดทาในรูปแบบของ ส่อื อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ ฐานข้อมูลซีดีรอม ฐานขอ้ มูลออนไลน์จากเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรยี กวา่ ทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมาย ลกั ษณะ และรปู แบบของทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ 2. ความหมาย ลกั ษณะ ประเภทและวธิ ใี ชห้ นงั สอื อา้ งองิ 3. ประโยชน์ของหนังสอื อา้ งองิ แต่ละประเภท 4. ทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ ในรูปแบบส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมาย ลกั ษณะและรปู แบบของทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ ได้ 2. ใชป้ ระโยชน์จากทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ ในรปู แบบตา่ ง ๆ ได้ 3. บอกความหมาย ลกั ษณะของหนงั สอื อา้ งองิ แต่ละประเภทได้ 4. เลอื กใชห้ นังสอื อา้ งองิ แต่ละประเภทไดต้ รงตามความตอ้ งการ

124 ทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งอิงเป็นแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศท่ใี ห้ขอ้ เท็จจรงิ และความรู้ เร่อื งใดเร่อื งหนึ่งหรอื ส่ิงใดสง่ิ หนึ่ง ท่สี รุปจากการศึกษาคน้ คว้า นามารวบรวมไว้ดว้ ยกนั ตาม ลกั ษณะของขอ้ เท็จจรงิ และความรู้ ทาให้เกิดเป็นทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิงหลายประเภท แต่ละประเภทมีลกั ษณะเฉพาะร่วมกัน นอกจากน้ีแหล่งทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิงแต่ละช่อื แมจ้ ะอยู่ในประเภทเดยี วกนั แต่ก็มรี ายละเอียดทแ่ี ตกต่างกนั จงึ จาเป็นทจ่ี ะต้องเรยี นรู้ขอบเขต และรู้จกั ลกั ษณะเฉพาะของทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ เหล่าน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อการศกึ ษา คน้ ควา้ เพอ่ื ใชอ้ า้ งองิ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ เป็นแหลง่ ขอ้ มูลท่มี คี วามสาคญั อย่างมาก เพราะจะให้ข้อมูลเน้ือหาสาระเฉพาะเร่อื งใดเร่อื งหนึ่งได้โดยไม่ต้องศึกษาทงั้ เล่ม มเี น้อื หาหลากหลายสาขาวชิ า ทรพั ยากรสารสนเทศอ้างองิ บางประเภทมกี ารปรบั ปรงุ เน้ือหาให้ เป็นปัจจบุ นั อยา่ งตอ่ เน่อื ง และมกี ารปรบั ปรุงรปู แบบการนาเสนอใหเ้ ขา้ กบั ยคุ สมยั ห้องสมุดทุกแห่งได้จดั หาทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิงมาไวเ้ พ่อื ให้บรกิ ารแก่ผู้ใช้ คน้ หาเร่อื งราวหรอื ขอ้ เทจ็ จรงิ ในเร่อื งใดเร่อื งหน่งึ โดยเฉพาะ เพ่อื จะไดค้ าตอบทเ่ี ป็นขอ้ เท็จจรงิ น่าเช่อื ถอื และทนั สมยั ซง่ึ ปัจจุบนั ทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ มใี นรปู แบบของสอ่ื สง่ิ พมิ พ์ ภาพท่ี 6.1 ตวั อยา่ งทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ ในรปู สอ่ื สงิ่ พมิ พ์ ของหอ้ งสมุดวทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี นอกจากทรพั ยากรสารสนเทศอ้างองิ จะมใี นรูปแบบของส่อื สง่ิ พมิ พ์แลว้ ยงั มีการ จดั ทาในรปู แบบของส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ไดแ้ ก่ ฐานขอ้ มูลซดี รี อม ฐานขอ้ มลู ออนไลน์จากเครอื ขา่ ย อนิ เทอรเ์ นต็ และจงึ ทาใหม้ กี ารเรยี กช่อื วา่ ทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ ความหมายของทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิง ทรพั ยากรสารสนเทศอ้างองิ หมายถงึ ขอ้ มูล สารสนเทศอนั มคี ณุ คา่ ซ่งึ นาเสนอใน รปู แบบตา่ ง ๆ ไม่วา่ จะเป็นสง่ิ พมิ พ์ ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ หรอื ฐานขอ้ มูล สามารถใช้คน้ ควา้ เฉพาะ เร่อื งไดอ้ ย่างสะดวกรวดเรว็ โดยไม่จาเป็นต้องศกึ ษาตลอดทงั้ เร่อื ง สถาบนั บรกิ ารสารสนเทศ

125 จะจดั ทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิงแยกออกจากทรพั ยากรสารสนเทศทวั่ ไป และไม่อนุญาต ให้ยืมออกจากห้องสมุด เพ่อื ให้ผู้ใชบ้ รกิ ารโดยรวมได้มโี อกาสใช้ศกึ ษาค้นคว้าโดยทวั่ ถึงกนั (อาไพวรรณ ทพั เป็นไทย. 2549 : 99) ลกั ษณะเฉพาะของทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิง ทรพั ยากรสารสนเทศอ้างองิ เป็นขอ้ เทจ็ จรงิ และความรเู้ ร่อื งใดเร่อื งหน่ึง ท่สี รปุ จาก การศกึ ษาคน้ ควา้ ทรพั ยากรสารสนเทศอ้างองิ แต่ละประเภทจะมลี กั ษณะเฉพาะและรายละเอยี ด ทแ่ี ตกตา่ งกนั จงึ จาเป็นทจ่ี ะตอ้ งทราบลกั ษณะเฉพาะของทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ ดงั น้ี 1. คุณสมบัติของผู้จดั ทา หรอื ผู้เขียน จะต้องเป็นบุคคลท่ีมีคุณวุฒิ มีความรู้ ความเชย่ี วชาญและประสบการณ์เฉพาะวชิ านนั้ ๆ จงึ จะเป็นหนังสอื ทม่ี คี ุณภาพและน่าเชอ่ื ถอื ได้ 2. ขอบเขตของเน้ือหา เป็นข้อมูลท่รี วบรวมความรู้และขอ้ เท็จจรงิ ขอ้ มูลตวั เลข หรือสถิติต่าง ๆ ซ่ึงส่วนใหญ่ใช้เพ่อื การค้นควา้ วจิ ยั หรอื ตรวจสอบข้อมูลในสาขาต่าง ๆ ท่มี ี ขอบเขตกวา้ งขวางช่วยในการตอบคาถามเฉพาะเร่อื ง ไม่จาเป็นตอ้ งอา่ นทงั้ เรอ่ื ง 3. เน้ือหาทนั สมยั อยู่เสมอ เพราะจะมกี ารแก้ไขปรบั ปรุง เพิ่มเติมเร่อื งราวใหม่ ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เป็นประจาทุกปี บางรายการมคี ุณคา่ ต่อการคน้ ควา้ ทางประวตั ิศาสตร์ 4. การจัดเรียงเน้ือหา เน้ือหาภายในมีการจัดเรียงลาดับอย่างเป็ นระบบ เช่น เรียงตามลาดบั อกั ษรแบบพจนานุกรม เรียงตามลาดบั เวลาท่เี กิดเหตุการณ์ขน้ึ หรอื แบ่งตาม ลกั ษณะทางภมู ศิ าสตร์ ทงั้ น้เี พ่อื ความสะดวกในการใชห้ รอื การคน้ ขอ้ มูล 5. มีการอ้างอิงอย่างเป็นระบบ เพ่ือให้ผู้อ่านใช้เป็นแนวทางในการหาความรู้ เพม่ิ เตมิ ได้ รปู แบบของทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิง ทรพั ยากรสารสนเทศอ้างองิ มหี ลายรูปแบบ ตามลกั ษณะของส่อื ทใ่ี ชใ้ นการบนั ทึก ซ่ึงมี 2 รูปแบบ คือ ทรัพยากรสารสนเทศอ้างอิงในรูปแบบของส่ือสิ่งพิมพ์ เรียกว่า หนังสอื อ้างอิง และทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งอิงในรูปแบบของส่อื อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ซีดรี อม สารสนเทศอ้างองิ ออนไลน์ผ่านเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ น็ต ซงึ่ ในการเลอื กใช้ประโยชน์จากรูปแบบใด นัน้ ข้นึ อยู่กบั ความสะดวก ความเหมาะสมกบั เน้ือหาท่ตี ้องการค้นควา้ และความก้าวหน้าของ เทคโนโลยีสารสนเทศ ทาให้รูปแบบสารสนเทศอา้ งอิงออนไลน์ ได้รบั ความนิยมเพิ่มมากข้นึ ในปัจจบุ นั

126 ทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิงในรปู แบบของสื่อส่ิงพิมพ์ (หนังสืออ้างอิง) ทรัพยากรสารสนเทศอ้างอิงในรูปแบบของส่ิงพิมพ์ มีบทบาทในการใช้เป็ นส่ือ เพ่ือการเรียนรู้ท่ีสาคัญ และห้องสมุดทุกประเภทจะจัดเก็บและให้บริการหนังสืออ้างอิงไว้ เป็นการเฉพาะขน้ึ อยู่กบั วธิ กี ารดาเนินการของบรรณารกั ษ์ สาหรบั หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั เทคนิคลพบุรี ไดจ้ ดั หาและให้บรกิ าร โดยแยกการให้บรกิ ารหนังสอื อา้ งองิ ออกจากหนังสอื ทวั่ ไป และกาหนด อักษรสญั ลักษณ์ด้วยตวั อักษร อ ย่อมาจากคาว่า อ้างอิง ใช้สาหรบั หนังสือภาษาไทย และ ตวั อักษร R หรอื Ref ย่อมาจากคาว่า Reference ใช้สาหรบั หนังสอื ภาษาองั กฤษ โดยอกั ษร สญั ลักษณ์ดงั กล่าว จะปรากฏอยู่เหนือเลขเรยี กหนังสอื ตดิ อยู่ด้านในของปกหน้าและปกหลัง ของหนงั สอื อา้ งองิ ทุกเล่ม ภาพท่ี 6.2 ตวั อยา่ งการจดั เกบ็ หนังสอื อา้ งองิ ของหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี ทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิงในรูปแบบของส่อื สง่ิ พิมพ์ ได้แก่ หนังสอื อ้างอิง เป็น แหล่งทจ่ี ะใหข้ อ้ มูลเบ้อื งตน้ หรอื จุดเรมิ่ ตน้ ในการศกึ ษาคน้ ควา้ ไม่ตอ้ งใชเ้ วลาในการศกึ ษามาก เพราะเร่อื งราวท่คี ้นไดใ้ นแต่ละครงั้ จะเป็นข้อความท่ไี ม่ยาว และมผี ู้ต้องการใชอ้ ยู่เป็นประจา มอี ยหู่ ลายประเภท สามารถใหป้ ระโยชน์ในการศกึ ษาคน้ ควา้ แตกต่างกนั ซง่ึ มรี ายละเอยี ด ดงั น้ี 1. ความหมายของหนังสืออา้ งอิง นกั วชิ าการหลายท่านไดใ้ หค้ วามหมายของหนังสอื อา้ งองิ ไวด้ งั น้ี หนังสืออ้างอิง หมายถึง หนังสือท่ีให้ความรู้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงในเร่อื งใด เร่อื งหนึ่งใช้สาหรบั คน้ คว้าประกอบเฉพาะเรอ่ื งเท่านัน้ มกี ารจดั ทาในแบบท่งี า่ ยต่อการค้นคว้า หาคาตอบท่ตี อ้ งการได้สะดวก รวดเรว็ โดยไม่จาเป็นท่ผี ู้ใชต้ ้องอ่านทงั้ เล่ม และอนุญาตให้ใช้ ภายในหอ้ งสมุดเท่านนั้ (ศนั สนยี ์ สุวรรณเจตต์. 2546 : 31)

127 หนังสอื อา้ งองิ หมายถงึ แหล่งรวมความรทู้ ส่ี ามารถหาขอ้ มูลทกุ อย่างท่เี กิดข้นึ ในโลก เป็นหนังสือท่ชี ่วยให้ผู้ใช้ค้นหาเร่อื งราวท่ีต้องการได้สะดวก หรือหนังสือท่ีรวบรวม สารนิเทศหรอื ความรู้เก่ยี วกบั เร่อื งราวต่าง ๆ สาหรบั ใช้ค้นคว้าอ้างองิ เพียงตอนใดตอนหนึ่ง เทา่ นนั้ ไม่ใชห่ นงั สอื ทต่ี อ้ งอ่านทงั้ เล่ม (น้าทพิ ย์ วภิ าวนิ . 2547 : 88) หนังสืออ้างอิง หมายถึง หนังสือท่ีมีการจัดทาข้ึนเป็นพิเศษให้ข้อเท็จจริงท่ี เช่อื ถือได้ ใช้หาคาตอบในเร่อื งใดเร่อื งหน่ึง ไม่อนุญาตให้ยืมออกนอกห้องสมุด บทความต่าง ๆ เขยี นข้นึ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ และมคี วามเชย่ี วชาญในสาขาวชิ านัน้ ๆ โดยเฉพาะ มีรูปแบบท่งี ่าย สะดวกแก่การใชค้ ้นควา้ มกี ารจดั เรยี งลาดบั เน้ือหาตามลาดบั อกั ษร ตามหวั ขอ้ วชิ า ตามลาดบั เหตุการณ์ หรอื เรยี งตามสภาพภูมศิ าสตร์ มสี ว่ นชว่ ยอานวยความสะดวกแก่ผใู้ ช้ คอื อกั ษรนาเล่ม คานาทาง ดรรชนีรมิ กระดาษ และมดี รรชนีและดรรชนีโยงเป็นจานวนมาก (สุกญั ญา กุลนิติ. 2549 : 32) หนังสอื อ้างอิง หมายถงึ ทรพั ยากรสารนิเทศอา้ งองิ ในรูปแบบของส่อื สงิ่ พมิ พ์ ซงึ่ เป็นหนังสอื ท่จี ดั ทาขน้ึ เพ่อื ใชค้ ้นหาคาตอบเฉพาะในเรอ่ื งทต่ี ้องการ เขยี นโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และเชย่ี วชาญในสาขาวชิ านนั้ ๆ ขอ้ มลู ทเ่ี ขยี นจงึ เชอ่ื ถอื ไดแ้ ละเป็นทย่ี อมรบั หอ้ งสมุดจะจดั เก็บ แยกจากหนังสอื ทวั่ ไป และไม่อนุญาตให้ยมื ออกนอกห้องสมุด หนังสอื พวกน้ีจะมสี ญั ลกั ษณ์ พิเศษปรากฏอยู่เหนือเลขเรียกหนังสือ โดยถ้าเป็นหนังสืออ้างอิงภาษาไทยจะมีตัวอักษร อ (ย่อมาจากคาว่า อ้างอิง) และถ้าเป็นหนังสอื อ้างอิงภาษาองั กฤษจะมีตวั อักษร R หรือ Ref (ย่อมาจากคาว่า Reference) ปรากฏอยู่ข้างบนเลขเรียกหนังสือ (อาไพวรรณ ทัพเป็นไทย. 2549 : 100) จากคาจากดั ความขา้ งต้นสรุปได้ว่า หนังสืออ้างอิง (Reference Books) หมายถึง หนังสือท่ีรวบรวมความรู้และข้อเท็จจริง ใช้ค้นหาเฉพาะเร่อื งท่ีต้องการคาตอบเขียนโดย ผู้ทรงคุณวุฒิและเช่ยี วชาญเฉพาะสาขาวิชานัน้ ๆ จงึ เป็นขอ้ มูลท่มี คี วามน่าเช่อื ถือ สามารถ นามาอา้ งองิ เพอ่ื เป็นหลกั ฐานทางดา้ นวชิ าการไดเ้ ป็นอยา่ งดี 2. ลกั ษณะของหนังสอื อ้างอิง หนังสอื อ้างองิ มีวตั ถุประสงค์เพ่อื ให้ผู้ใช้สามารถค้นหาขอ้ มูลได้อย่างสะดวก รวดเรว็ ครบถว้ นตามความตอ้ งการ จงึ มลี กั ษณะดงั น้ี 2.1 เป็นหนังสอื ทม่ี ุ่งให้ความรู้ เร่อื งราวและขอ้ เทจ็ จรงิ ท่สี าคญั รวบรวมความรู้ ไว้หลายสาขาวิชา เขียนโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชานัน้ มีการเรยี บเรียงเน้ือหาไว้อย่าง เป็นระบบ โดยจดั เรยี งลาดบั ตามตวั อกั ษรเพ่อื สะดวกแก่การใชค้ น้ หา เช่น มกี ารเรยี งตามลาดบั ตวั อกั ษร มกี ารเรยี งตามลาดบั หมวดวชิ า หรอื มกี ารเรยี งตามลาดบั เหตุการณ์ 2.2 ลกั ษณะพเิ ศษประจาเล่ม หนังสอื อ้างอิงมลี กั ษณะพิเศษท่ีช่วยในการคน้ หา ขอ้ มลู ในเล่มไดส้ ะดวกรวดเรว็ เช่น อกั ษรนาเลม่ ดรรชนีรมิ หน้ากระดาษ คานาทาง เป็นตน้

128 2.3 มีรูปเล่มขนาดใหญ่ ทาให้มีน้าหนักมากหรือมีจานวนหลายเล่มจบ ในชุดหน่ึง จึงไม่เหมาะท่ีจะอนุญาตให้ยืมออกนอกห้องสมุด และหากสูญหายหรือชารุด การจดั ซ้ือหามาทดแทนไม่อาจจดั ซ้ือได้เพียงบางเล่มสาหรบั หนังสือท่ีเป็นชุด ตวั อย่างเช่น สารานุกรม เป็นตน้ 2.4 เป็นหนังสือท่ีหายากและมีราคาสูง หรือเป็นหนังสือท่ีมีภาพประกอบ ท่สี าคญั หายาก หรอื เป็นหนังสือท่มี กี ารจดั พิมพ์อย่างมคี ุณภาพสงู เป็นพเิ ศษ ใชว้ สั ดุอย่างดี เช่น ปกทาดว้ ยไมห้ รอื ทาดว้ ยหนังสตั ว์ เป็นตน้ 3. วิธีใช้หนงั สืออา้ งอิง เน่ืองจากหนังสืออ้างอิงส่วนมากเป็ นการศึกษาค้นคว้าเฉพาะเร่ือง และ หนงั สอื อา้ งองิ แต่ละประเภทใหข้ อ้ มลู แตกต่างกนั ผใู้ ชจ้ งึ ควรพจิ ารณาวา่ ตอ้ งการคาตอบเกยี่ วกบั เร่อื งอะไร มเี น้ือหาตรงกับความตอ้ งการ หรอื มคี วามทนั สมยั มากน้อยเพยี งใด ดงั นัน้ ผทู้ ่จี ะใช้ หนังสืออ้างอิงจะต้องมีทักษะในการใช้หนังสืออ้างอิง ไม่ควรจาช่ือหนังสืออ้างอิงทุกเล่ม แต่ควรเขา้ ใจประเภท ลกั ษณะ และประโยชน์ของหนงั สอื อา้ งองิ แตล่ ะประเภท เพ่อื จะไดส้ ามารถ เลอื กใชห้ นงั สอื อา้ งองิ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ขนั้ ตอนในการเลอื กใชห้ นงั สอื อา้ งองิ ควรปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 3.1 พจิ ารณาเร่อื งทต่ี อ้ งการจะคน้ หา หรอื วเิ คราะหค์ าถามว่าต้องการรคู้ าตอบ เกย่ี วกบั เรอ่ื งอะไร เชน่ ความหมายของคา ขอ้ มลู ตวั เลข ประวตั ศิ าสตร์ เป็นตน้ 3.2 เลอื กประเภทของหนงั สอื อา้ งองิ ใหส้ อดคลอ้ งกบั เร่อื งทต่ี อ้ งการคน้ หาโดย คน้ หาจากบตั รรายการหรอื ฐานขอ้ มูลหอ้ งสมดุ ว่าอยู่ ณ ตาแหน่งใด 3.3 คน้ หาตวั เล่มจากเลขเรยี กหนังสอื ทส่ี นั หนงั สอื 3.4 ทาการวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คุณค่าของหนงั สอื อา้ งองิ ดงั น้ี 3.4.1 พจิ ารณาความน่าเช่อื ถอื จากคณุ สมบตั ขิ องผูเ้ ขยี นหรอื ผจู้ ดั ทา 3.4.2 พจิ ารณาประเภทและขอบเขตของเน้ือหาว่าตรงกบั คาถามท่ตี ้องการ คาตอบหรอื ไม่ โดยอา่ นคานา เพ่อื จะไดท้ ราบวตั ถปุ ระสงค์ ขอบเขตของเน้อื หาโดยสงั เขป 3.4.3 อ่านวธิ ใี ชห้ นงั สอื อา้ งองิ เพ่อื จะไดท้ ราบวธิ กี ารนาเสนอเน้ือหาว่ามี การจดั เรยี งเน้ือหาอย่างไร รวมทงั้ คาแนะนาอ่นื ๆ ท่เี ป็นประโยชน์ ช่วยในการค้นหาเร่อื งท่ี ต้องการได้รวดเรว็ และสารวจเน้ือหาในเล่ม เพ่อื จะได้ทราบว่ามเี น้ือหาเกี่ยวกับเร่อื งใดบ้าง ใหร้ ายละเอยี ดมากนอ้ ยเพยี งใด 3.4.4 พจิ ารณาลกั ษณะพเิ ศษของหนังสอื อา้ งอิง เช่น สารบญั คานาทาง ดรรชนีทา้ ยเลม่ อกั ษรนาเล่ม เป็นตน้ จะช่วยอานวยความสะดวกในการคน้ หาเร่อื งทต่ี อ้ งการได้ ดงั นนั้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุดจากการเลอื กใชห้ นังสอื อ้างองิ ผใู้ ชจ้ งึ ควรเลอื กใช้ หนงั สอื อา้ งองิ แตล่ ะประเภทใหเ้ หมาะสมกบั ปัญหาทต่ี อ้ งการจะคน้ หาคาตอบ

129 4. ประเภทของหนังสืออ้างอิง หนงั สอื อา้ งองิ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดงั น้ี 4.1 หนังสืออ้างอิงที่ให้คาตอบได้โดยตรง หนังสืออ้างอิงประเภทน้ีผู้ใช้ สามารถเลอื กใชเ้ พอ่ื คน้ ควา้ ขอ้ มูล และหาคาตอบไดท้ นั ที ไดแ้ ก่ 4.1.1 พจนานุกรม 4.1.2 สารานุกรม 4.1.3 หนงั สอื รายปีหรอื สมพตั สร 4.1.4 อกั ขรานุกรมชวี ประวตั ิ 4.1.5 ทาเนียบนาม หรอื นามานุกรม 4.1.6 หนงั สอื อา้ งองิ ทางภมู ศิ าสตร์ 4.1.7 หนงั สอื คมู่ อื 4.1.8 สง่ิ พมิ พร์ ฐั บาล 4.2 หนังสืออ้างอิงที่แนะนาแหล่งคาตอบ หนังสืออ้างอิงประเภทน้ีจะทา หนา้ ทบ่ี อกใหผ้ ใู้ ชท้ ราบว่าเร่อื งทต่ี ้องการคน้ ควา้ นนั้ หาไดจ้ ากทไ่ี หน ไดแ้ ก่ 4.2.1 หนังสอื บรรณานุกรม 4.2.2 หนงั สอื ดชั นหี รอื ดรรชนี นอกจากนนั้ หนังสอื อา้ งองิ ยงั แบ่งประเภท ตามขอบเขตของเน้อื หาหนงั สอื ไดด้ งั น้ี (1) หนังสืออ้างอิงทัว่ ไป เป็นหนังสือท่ีมีเน้ือหากว้างขวาง ไม่จากัดเฉพาะ เร่ืองใดเร่ืองหนึ่ง ใช้ประโยชน์ได้ทัว่ ไป รวมหลายสาขาวิชาไว้ด้วยกัน ตัวอย่างได้แก่ พจนานุกรม สารานุกรม หนังสอื รายปี อกั ขรานุกรมชวี ประวตั ิ นามานุกรม หนังสอื อา้ งองิ ทาง ภมู ศิ าสตร์ หนังสอื คู่มอื สงิ่ พมิ พร์ ฐั บาล หนงั สอื บรรณานุกรม หนังสอื ดรรชนี (2) หนังสืออ้างอิงเฉพาะวิชา เป็นหนังสือท่ีมีเน้ือหาเฉพาะสาขาวิชาใด วชิ าหน่ึง ผู้ใช้ต้องมคี วามรูใ้ นสาขาวชิ านัน้ ตวั อย่างได้แก่ พจนานุกรมเฉพาะวชิ า สารานุกรม เฉพาะวชิ า หนงั สอื คมู่ อื เฉพาะวชิ า หนงั สอื บรรณานุกรมเฉพาะวชิ า 4.1 หนงั สอื อ้างอิงที่ให้คาตอบได้โดยตรง มรี ายละเอยี ดดงั น้ี 4.1.1 พจนานุกรม (Dictionaries) พจนานุกรม คือ หนังสืออ้างอิงท่ีรวบรวมความรู้เก่ียวกับคาใน ภาษาต่าง ๆ และอธบิ ายรายละเอยี ดของคาแตล่ ะคา เช่น ความหมายของคา วลี คาจากดั ความ การสะกดคา การออกเสยี งท่ถี ูกต้อง ชนิดของคา ประวตั ิและท่มี าของคา คาพ้อง คาเหมือน คาตรงข้าม วิธีการใช้คา ตลอดจนการยกตัวอย่างประโยค เป็นต้น โดยมีการเรียบเรียง ตามลาดบั ตวั อกั ษร เพ่อื สะดวกในการคน้ หา พจนานุกรมมหี ลายประเภท

130 ประเภทของพจนานุกรม แบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภท คอื 1) พจนานุกรมภาษาทัว่ ไป คือ หนังสืออ้างอิงท่ีให้ความรู้ เก่ยี วกบั คา หรอื คาศพั ท์ในภาษาต่าง ๆ ทใ่ี ช้กนั อยู่ทวั่ ไป ซึง่ มที งั้ พจนานุกรมภาษาเดยี วทใ่ี ห้ คาอธิบายความหมายของคาเป็นภาษาเดียวกนั และพจนานุกรมสองภาษาท่ีให้คาอธิบาย ความหมายของคาเป็นภาษาอน่ื และพจนานุกรมหลายภาษาทใ่ี หค้ าอธบิ ายความหมายของคา มากกว่าหนึ่งภาษาข้นึ ไป นอกจากนัน้ ยงั มพี จนานุกรมคาพ้อง พจนานุกรมคาท่มี คี วามหมาย เหมือนกันหรือคาตรงกันข้าม เป็นต้น ตัวอย่างเช่น พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 พจนานุกรมไทย-องั กฤษ พจนานุกรมไทย-มาเลย-์ องั กฤษ เป็นตน้ ภาพท่ี 6.4 ตวั อยา่ งหนังสอื พจนานุกรมภาษาทวั่ ไปของหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนิคลพบุรี 2) พจนานุกรมเฉพาะวชิ า คอื หนังสอื อ้างอิงท่รี วบรวมคาศพั ท์ ทางวชิ าการเฉพาะสาขาวชิ าใดวชิ าหนึ่ง ท่ใี ห้คาอธบิ ายความหมายของคาด้วยภาษาท่เี ขา้ ใจ เฉพาะบุคคลในสาขาวชิ าเดยี วกัน ตัวอย่างเช่น พจนานุกรมศัพท์เศรษฐศาสตร์ พจนานุกรม ศพั ทค์ อมพวิ เตอร์ พจนานุกรมศพั ทว์ ศิ วไฟฟ้าอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เป็นตน้ ภาพท่ี 6.5 ตวั อย่างหนงั สอื พจนานุกรมเฉพาะวชิ าของหอ้ งสมุด วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี พ จน า นุ กรม มีค วาม ส าคัญ เพ ราะเป็ น แห ล่งอ้ า งอิงห รือ คู่มือท่ีช่วย ใน การเลอื กใชถ้ อ้ ยคาในการส่อื สารระหวา่ งบุคคล เป็นพน้ื ฐานและจาเป็นมากทส่ี ดุ ทงั้ ทเ่ี ป็นภาษา พดู และภาษาเขยี น ในการพูดและการเขยี นจะใชถ้ ้อยคาในลกั ษณะทแ่ี ตกต่างกนั เพ่อื ให้ผูพ้ ูด และผเู้ ขยี นสอ่ื ความหมายไดถ้ กู ตอ้ งตรงกบั ความตอ้ งการ เป็นแหลง่ อา้ งองิ ทน่ี ่าเชอ่ื ถอื สงู สดุ

131 4.1.2 สารานุกรม (Encyclopedias) สารานุกรม คือ หนังสืออ้างอิงท่ีรวบรวมความรู้และข้อเท็จจริง เกี่ยวกับสาขาวิชาการต่าง ๆ และให้คาอธิบายเร่อื งราวอย่างละเอียดกว้างขวาง หรือเป็น หนังสอื อ้างอิงท่รี วบรวมความรู้เฉพาะสาขาวชิ าใดวิชาหน่ึง เสนอความรู้และเร่อื งราวต่างๆ ท่ที ันเหตุการณ์อยู่เสมอ โดยรวบรวมความรู้เหล่านัน้ อยู่ในรูปของบทความหรือสรุปความ เขยี นโดยผู้เชย่ี วชาญในแต่ละสาขาวชิ า มตี าราง แผนท่ี และภาพประกอบเรอ่ื ง นามาเรยี บเรยี ง เน้อื หาตามลาดบั อกั ษรของหวั เรอ่ื งหรอื สาขาวชิ า อาจมดี รรชนีชว่ ยคน้ อยทู่ ้ายเล่ม มกี ารจดั ทา เป็นเลม่ เดยี วจบหรอื หลายเล่มจบ เรยี กว่าหนังสอื ชดุ เหมาะทจ่ี ะทาการศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากหนังสอื สารานุกรมใชเ้ ป็นขอ้ มลู อา้ งองิ ทม่ี คี วามน่าเชอ่ื ถอื สงู ประเภทของสารานุกรม แบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภท คอื 1) สารานุกรมทวั่ ไป คอื หนงั สอื อา้ งอิงทร่ี วบรวมความรูพ้ น้ื ฐาน ในสาขาวชิ าต่าง ๆ ทุกสาขาวชิ าไวใ้ นเลม่ เดยี วกนั หรอื ในชุดเดยี วกนั ให้คาอธบิ ายเน้ือหาเพ่อื เป็นความรูพ้ ้นื ฐานในเร่อื งหรอื หวั ขอ้ นนั้ ๆ คลอบคลุมทกุ สาขาวชิ า ตวั อย่างเช่น สารานุกรมไทย ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน สารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน สารานุกรมรอบรรู้ อบโลก เป็นตน้ ภาพท่ี 6.6 ตวั อย่างหนังสอื สารานุกรมทวั่ ไปของหอ้ งสมุด วทิ ยาลยั เทคนิคลพบุรี 2) สารานุกรมเฉพาะวชิ า คือ หนังสืออ้างอิงท่ีรวบรวมเร่อื งราว และรายละเอียดเก่ียวกับความรู้ในสาขาวิชาใดวชิ าหน่ึงโดยเฉพาะ จะให้คาอธบิ ายเน้ือหา ในสาขาวชิ านนั้ ๆ อยา่ งละเอียดลกึ ซ้งึ กว่าสารานุกรมทวั่ ไป ตวั อยา่ งเช่น สารานุกรมวฒั นธรรมไทย สารานุกรมสมุนไพรไทย สารานุกรมประวตั ศิ าสตรโ์ ลก เป็นตน้ ภาพท่ี 6.7 ตวั อยา่ งหนงั สอื สารานุกรมเฉพาะวชิ าของหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี

132 4.1.3 หนังสือรายปี (Yearbooks) หนังสือรายปี คือ หนังสืออ้างอิงท่ีบันทึกข้อมูล ข่าวสาร เหตกุ ารณ์ สถติ ติ วั เลขทส่ี าคญั โดยสงั เขป ในแต่ละรอบปีทผ่ี า่ นมา โดยมจี ุดมงุ่ หมายเพอ่ื รวบรวม เร่อื งราวสนั้ ๆ ท่เี กิดข้นึ ในปีท่แี ล้วมาในด้านต่าง ๆ เช่น การกีฬา การเมอื ง การปกครอง สงั คม วฒั นธรรม การศกึ ษา เหตุการณ์ความเคล่อื นไหวทส่ี าคญั ๆ ของประเทศและของโลก หรอื เกบ็ สถิติข้อมูลเป็นตัวเลขหรือตาราง อาจเขียนเป็นพรรณนาสัน้ ๆ จัดพิมพ์อย่างสม่าเสมอ ตวั อย่างเช่น The Guinness Book of Records เป็นตน้ ภาพท่ี 6.8 ตวั อย่างหนังสอื รายปีของหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี ประเภทของหนงั สอื รายปี แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คอื 1) หนงั สอื รายปีของสารานุกรม คอื หนังสอื รายปีของสารานุกรม ชุดต่าง ๆ ท่จี ดั ทาเพ่อื เพ่มิ ข้อมูลสารานุกรมชุดนัน้ ให้มีเน้ือหาทนั สมยั อยู่เสมอ จดั พิมพ์เป็น ประจาเพ่อื สนองความรแู้ ละความกา้ วหนา้ ทางวชิ าการในดา้ นต่าง ๆ ในรอบปีทผ่ี า่ นมา 2) หนังสือสมพตั สร (Almanacs) คือ หนังสือรายปีท่ีรวบรวม ขอ้ มูล สถติ ิ เร่อื งราว ดา้ นการเมอื ง เศรษฐกิจ สงั คม กฬี า ดนตรี และขอ้ มูลยอ้ นหลงั จากอดตี ท่ีเกิดข้ึนในรอบปีท่ีผ่านมา นามาจดั เรยี งเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนตามปฏิทิน จากัดเขตเฉพาะ ประเทศใดประเทศหนึง่ หรอื หลายประเทศทวั่ โลก เชน่ สยามออลมาแนค เป็นตน้ 3) หนังสอื รายปีสรุปขา่ วปัจจุบนั คอื หนังสอื ทบ่ี นั ทกึ เหตุการณ์ สาคญั ดา้ นการเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คม โดยประมวลจากขา่ วประจาวนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง แล้วเสนอในรูปสรุปความ ออกเป็นวารสารรายสปั ดาห์ มีแฟ้มจัดเก็บและดรรชนีสาหรบั คน้ เน้อื เรอ่ื งโดยละเอยี ด เชน่ สยามจดหมายเหตุ เป็นตน้ 4.1.4 อกั ขรานกุ รมชีวประวตั ิ (Biographical Dictionaries) อกั ขรานุกรมชวี ประวตั ิ คอื หนังสอื อา้ งองิ ทร่ี วบรวมชวี ประวตั ขิ อง บุคคลสาคญั ๆ หรอื บุคคลท่มี ีช่อื เสยี งทางสาขาวิชาชีพต่างๆ ในวงราชการหรือภาคเอกชน อาจจดั ทารวมอยู่ในเล่มเดียวกัน หรือแยกตามจุดมุ่งหมายหรือขอบเขตการจดั ทา และมี การจดั เรยี งช่อื เจา้ ของชีวประวตั ิตามลาดบั อกั ษร สาหรบั ชาวต่างประเทศจดั เรยี งตามลาดบั นามสกุล โดยให้รายละเอียดทางด้านประวตั ิส่วนตัว ได้แก่ วนั เดอื นปีเกิด ปีตาย ภูมิลาเนา

133 การศกึ ษา สถานภาพสมรส ครอบครวั ตาแหน่งหน้าท่งี าน ความสามารถ และผลงานทส่ี าคญั ตวั อยา่ งเช่น ประวตั คิ รู ชวี ประวตั นิ กั วทิ ยาศาสตร์ ชวี ติ และงานทูนกระหมอ่ มบรพิ ตั ร เป็นตน้ ภาพท่ี 6.9 ตวั อย่างหนงั สอื อกั ขรานุกรมชวี ประวตั ขิ องหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนิคลพบุรี ประเภทของอกั ขรานุกรมชวี ประวตั ิ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คอื 1) อักขรานุกรมชีวประวัติบุคคลทัว่ ไป เป็ นหนังสือรวบรวม ชวี ประวตั ิ ของบุคคลสาคญั โดยไมค่ านึงถงึ ชาติ ศาสนา และอาชพี 2) อกั ขรานุกรมชวี ประวตั ิของบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหน่ึง เป็นหนังสอื รวบรวมชีวประวัติของบุคคลสาคัญ หรือบุคคลท่ีมีช่ือเสียงในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ซึ่งอาจ แบ่งตามเชอ้ื ชาติ ศาสนา หรอื อาชพี กไ็ ด้ นอกจากน้ีอักขรานุกรมชีวประวัติ อาจแบ่งตามลักษณะการ รวบรวมได้อีก คอื อกั ขรานุกรมชีวประวตั บิ ุคคลท่ยี งั มชี วี ิตอยู่ อกั ขรานุกรมชีวประวตั ิบุคคล ทเ่ี สยี ชวี ติ แล้ว หนังสืออา้ งองิ ประเภทน้ีอาจมลี กั ษณะพิเศษ คือ แต่ละเล่มบรรจุประวตั ิบุคคล จานวนมาก และมกี ารจดั ลาดบั เน้ือหาท่เี ป็นระบบช่วยให้ค้นหาง่าย หรอื พิมพ์ด้วยกระดาษ อยา่ งดี หรอื พมิ พอ์ อกมาเป็นชุด หรอื พมิ พอ์ อกมาจานวนจากดั 4.1.5 ทาเนียบนาม หรอื นามานกุ รม (Directories) ทาเนียบนาม หรือนามานุกรม คือ หนังสืออ้างอิงท่รี วบรวมและให้ ความรู้เก่ียวกบั รายช่อื บุคคล ห้างรา้ น บรษิ ัท กระทรวง ทบวง สถาบนั สมาคม หน่วยงานต่าง ๆ มกี ารจดั เรยี งรายช่อื อย่างมรี ะบบเพ่อื สะดวกในการคน้ หา โดยจะจดั เรยี งตามลาดบั อกั ษรหรอื ตามลาดบั หมวดหมู่ กรณีเป็นบุคคลจะให้รายละเอียดเกี่ยวกบั ช่อื และนามสกุล ท่อี ยู่ ตาแหน่ง หน้าท่งี าน หมายเลขโทรศพั ท์ กรณีเป็นองคก์ ารหรอื สถาบนั จะใหร้ ายละเอยี ดเก่ยี วกบั ช่อื ท่ตี งั้ หมายเลขโทรศัพท์ หน้าท่ีความรบั ผิดชอบ บุคลากร และอาจให้รายละเอียดอ่ืนเพ่ิมเติมท่ี ควรทราบเก่ยี วกบั รายช่อื นัน้ ตัวอย่างเช่น สมุดรายนามผู้ใช้โทรศพั ท์ ทาเนียบผู้ทรงคุณวุฒิ ในประเทศไทย ทาเนยี บอาชวี ะตวั อยา่ ง เป็นตน้

134 ภาพท่ี 6.10 ตวั อยา่ งหนังสอื ทาเนียบนามหรอื นามานุกรมของหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนิคลพบรุ ี ทาเนียมนามหรอื นามานุกรม แบ่งไดห้ ลายประเภท คอื ทาเนยี บนาม ท้องถ่ิน ทาเนียบนามสถาบัน ทาเนียบนามของรฐั บาล ทาเนียมนามด้านธุรกิจการค้า และ ทาเนยี มนามกลุ่มบคุ คลในอาชพี ใดอาชพี หนงึ่ หนังสอื อา้ งองิ ประเภทน้ีนาไปใชป้ ระโยชน์ในการคน้ หา คดั เลอื ก ทอ่ี ยขู่ องบุคคลและหน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนสถานทต่ี งั้ ของหน่วยงาน ถอื เป็นแหล่งขอ้ มลู ท่มี ี ประโยชน์ในการติดต่อส่อื สารในชวี ติ ประจาวนั ของบุคคลทุกคน และหน่วยงานทุกหน่วยงาน ทงั้ ทเ่ี ป็นของรฐั บาลและเอกชน เพ่อื การตดิ ต่องานธุรกจิ การคา้ หรอื การตดิ ต่อเพอ่ื จุดมุ่งหมาย อย่างใดอย่างหนึ่ง การค้นหาขอ้ มูลท่ตี ้องการทาได้ง่าย โดยดูจากคานาและสารบัญจากนัน้ สามารถคน้ หาได้ทนั ที เพราะรายละเอียดของขอ้ มูลเรยี งตามแบบพจนานุกรม ทาเนียบนาม แตกตา่ งจากอกั ขรานุกรมชวี ประวตั ิ เพราะอกั ขรานุกรมชวี ประวตั จิ ะใหข้ อ้ มูลทล่ี ะเอยี ดมากกว่า สว่ นทาเนยี บนามจะใหข้ อ้ มูลสนั้ ๆ ทเ่ี กยี่ วกบั บคุ คลหรอื องคก์ ร 4.1.6 หนังสืออ้างอิงทางภมู ิศาสตร์ (Geographical Dictionaries) หนังสอื อา้ งองิ ทางภมู ศิ าสตร์ คอื หนังสอื อ้างอิงท่รี วบรวมความรู้ และขอ้ เท็จจรงิ ทางด้านภูมิศาสตร์ โดยมรี ายละเอียดเก่ียวกับช่อื และสถานท่ีทางภูมิศาสตร์ ได้แก่ ช่ือประเทศ จังหวัด เมือง อาเภอ มหาสมุทร ทะเล ภูเขา แม่น้า สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภูมิอากาศแหล่งทรพั ยากรธรรมชาติ ท่ีราบสูงของประเทศ และทวีปทัว่ โลก ตัวอย่างเช่น เทย่ี วเมอื งไทยสมุดภาพแผนทโ่ี ลก แผนทท่ี างหลวง เป็นตน้ ภาพท่ี 6.11 ตวั อยา่ งหนงั สอื อา้ งองิ ทางภมู ศิ าสตรข์ องหอ้ งสมุด วทิ ยาลยั เทคนิคลพบุรี

135 ประเภทของหนังสืออ้างองิ ทางภูมศิ าสตร์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ไดแ้ ก่ อกั ขรานุกรมภูมศิ าสตร์ หนงั สอื แผนท่ี หนงั สอื นาเทย่ี ว มรี ายละเอยี ดดงั น้ี 1) อกั ขรานุกรมภูมศิ าสตร์ (Gazetteers) คือ หนังสอื ท่ีมีลักษณะ คล้ายพจนานุกรม ให้รายละเอียดเกี่ยวกบั ช่อื ของสถานท่ี ช่วยใหท้ ราบถึงทต่ี งั้ ของเมอื ง ภูเขา แม่น้า หรอื ลักษณะทางกายภาพอ่ืน ๆ เน้ือหาแบ่งเป็นระดับโลก ทวีป ประเทศและภาค โดยจดั เรยี งตามลาดบั ตวั อกั ษรของชอ่ื ทางภูมศิ าสตร์ 2) หนงั สอื แผนท่ี (Atlases) คอื หนงั สอื ทใ่ี ห้รายละเอยี ดเกย่ี วกับ ลักษณะทางภูมิศาสตร์ ทงั้ ท่ีเกิดข้ึนตามธรรมชาติ เช่น สถานท่ีตัง้ ของประเทศ เมือง เขต พรมแดน ภูเขา แม่น้า มหาสมุทร เกาะ แสดงเส้นทางคมนาคม และอ่ืน ๆ ไว้ในเล่ม โดยมี สญั ลกั ษณ์ เครอ่ื งหมาย และมอี ตั ราสว่ นทเ่ี ป็นมาตรฐานเดยี วกนั ตลอดทงั้ เล่ม นาเสนอเน้อื หาใน ลกั ษณะภาพ แผนภูมิ ตาราง 3) หนังสอื นาเท่ยี ว (Guide Book) คอื หนังสอื ท่ใี หร้ ายละเอียด เกี่ยวกบั สถานท่ที อ่ งเทย่ี วต่าง ๆ โดยมขี อ้ มูลทางด้านภูมศิ าสตรท์ ค่ี วรทราบเพ่อื การท่องเท่ยี ว ได้แก่ ท่ตี งั้ การเดนิ ทาง ระยะทาง และเสน้ ทางคมนาคม สภาพดนิ ฟ้าอากาศ เป็นตน้ เพ่อื ใช้ เป็นคู่มือสาหรบั นักท่องเท่ียวหรอื ผู้สนใจ อาจมีรายละเอียดเพ่ิมเติม เช่น ท่ีพัก ค่าใช้จ่าย รา้ นอาหาร หรอื วฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ เพอ่ื ประกอบการตดั สนิ ใจของผเู้ ดนิ ทาง 4.1.7 หนังสือค่มู อื (Hand Books) หนังสอื คู่มอื คอื หนังสอื อ้างองิ ท่จี ดั ทาข้นึ เพ่อื รวบรวมเร่อื งราว เบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ท่ีน่าสนใจเก่ียวกับบุคคล เหตุการณ์ หรือเร่ืองในสาขาวิชาใดวิชาหน่ึง ให้รายละเอียดของเร่อื งอย่างสนั้ ๆ กะทดั รดั โดยมเี น้ือหาเกย่ี วขอ้ งกบั เร่อื งต่าง ๆ ได้ทุกเร่อื ง แต่เน้ือหาจะเฉพาะเจาะลกึ ในเร่อื งใดเร่อื งหน่ึงเท่านัน้ ซึ่งสามารถคน้ เร่อื งราวได้เบด็ เสรจ็ ใน เล่มเดยี ว และนาตดิ ตวั ไปใชไ้ ด้สะดวก ตวั อย่างเช่น คู่มอื ซ่อมเคร่อื งใช้ไฟฟ้า คู่มอื ตงั้ ครรภ์ และเตรยี มคลอด คู่มอื นักการตลาดท่องเที่ยวสาหรบั ผู้บรหิ ารระดบั สูง คู่มอื การช่วยชวี ติ ขนั้ พน้ื ฐาน เป็นตน้ ภาพท่ี 6.12 ตวั อย่างหนงั สอื คมู่ อื ของหอ้ งสมุดวทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี

136 หนังสอื คู่มอื แบง่ ไดเ้ ป็น 4 ประเภท คอื 1) คู่มอื ช่วยปฏิบตั ิงาน เป็นหนังสอื ท่ที าหน้าทแ่ี นะแนวทางให้ คาสงั่ สอนและแนะนา เชน่ หนงั สอื แนะนาอาชพี ตาราประกอบอาหาร คมู่ อื ซ่อมรถ เป็นตน้ 2) หนังสือรวบรวมความรู้เบ็ดเตล็ด เป็นหนังสือท่ีรวบรวม ความรทู้ ค่ี น้ ไดย้ ากในสาขาวชิ าตา่ ง ๆ 3) หนังสอื ค่มู อื เป็นหนงั สอื ทใ่ี หค้ าอธบิ ายและตคี วามหมายของ เรอ่ื งราวของเน้อื หาวชิ าใดวชิ าหนง่ึ ในแง่มุมหลาย ๆ ดา้ น 4) หนังสอื ทใ่ี ห้เร่อื งราวหรอื เน้ือหาสาคญั โดยย่อ เป็นหนังสอื ท่ี ใหค้ วามรใู้ นเรอ่ื งใดเรอ่ื งหนึง่ เฉพาะเร่อื งทส่ี าคญั โดยยอ่ ภายใตห้ วั เร่อื งหรอื ช่อื เร่อื งทเ่ี กยี่ วขอ้ ง หนังสอื อา้ งองิ ประเภทน้ี มปี ระโยชน์ในการใชเ้ ป็นแหลง่ อา้ งองิ หา ขอ้ เท็จจรงิ ในการตอบคาถามเฉพาะดา้ นใดด้านหนึ่งไดอ้ ย่างรวดเรว็ หรอื ใช้เป็นคู่มอื สาหรบั การศกึ ษาในเร่อื งท่ตี ้องการ หรืออาจใช้เป็นคู่มอื ในการปฏิบัติงานเพ่อื ช่วยแนะนาวธิ ที าหรือ วธิ กี ารปฏบิ ตั งิ านในสาขาวชิ าใดสาขาวชิ าหน่ึงไดเ้ ป็นอย่างดี 4.1.8 สิ่งพิมพร์ ฐั บาล (Government Publications) สงิ่ พมิ พ์รฐั บาล คอื สง่ิ พมิ พ์ท่จี ดั พิมพ์ข้นึ โดยหน่วยงานของรฐั อาจเป็นระดบั กระทรวง กรม กอง หรอื รฐั วสิ าหกจิ กไ็ ด้ โดยมคี วามมุ่งหมายเพ่อื เผยแพร่ความรู้ และประชาสมั พนั ธ์ข่าวสาร ความเคล่อื นไหวของหน่วยงานเพ่อื ให้ประชาชนทราบ สามารถ ใชป้ ระกอบการศกึ ษาคน้ ควา้ วจิ ยั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี เน้อื หาทวั่ ไปของสง่ิ พมิ พร์ ฐั บาล มกั จะเกย่ี วขอ้ ง กบั หน่วยงานนัน้ ๆ ตวั อย่างเช่น ราชกิจจานุเบกษา รายงานผลการดาเนินงานของหน่วยงาน ตา่ ง ๆ ภาพท่ี 6.13 ตวั อย่างสงิ่ พมิ พร์ ฐั บาล ทม่ี า : http://www.google.co.th/imglanding 4.2 หนงั สืออ้างอิงที่แนะนาแหล่งคาตอบ มรี ายละเอยี ดดงั น้ี 4.2.1 บรรณานกุ รม (Bibliographies) บรรณานุกรม คือ หนังสือท่รี วบรวมรายช่อื หนังสือหรือรายช่ือ วสั ดุทางการศึกษาทุกประเภท เพ่อื ใช้เป็นเคร่อื งมือในการค้นหาขอ้ มูลทางสาขาวชิ าต่าง ๆ รายละเอียดของหนงั สอื ประเภทน้ีจะเป็นการใหข้ อ้ มูลทางบรรณานุกรม ไดแ้ ก่ ช่อื และนามสกุล ผู้แต่ง ช่อื หนังสอื ครงั้ ท่พี มิ พ์ สถานทพ่ี มิ พ์ สานักพิมพ์ ปีพิมพ์ บรรณานุกรมบางเล่มอาจให้ เรอ่ื งยอ่ ของสง่ิ พมิ พ์ ซง่ึ เรยี กวา่ บรรณนิทศั น์

137 การจดั เรยี งลาดบั เร่อื งในหนังสอื บรรณานุกรม จดั เรยี งได้หลายวธิ ี คอื จดั เรยี งลาดบั อกั ษรแบบพจนานุกรมคละกนั ทงั้ ชอ่ื ผแู้ ต่ง ช่อื เรอ่ื ง หวั เรอ่ื ง หรอื จดั เรยี งลาดบั อกั ษรตามประเภทของช่อื เช่น ตามอกั ษรช่อื ของผู้แต่งและตามอักษรหวั เร่อื ง หรือจดั เรยี ง ตามระบบการแบ่งหมวดหมู่ ประโยชน์ของบรรณานุกรมคือใช้เป็นคู่มือในการค้นคว้าวจิ ัย ตวั อย่างเช่น บรรณานุกรมมหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ หนังสอื รายช่อื ส่อื การเรยี นการสอนท่บี ่งช้ี เน้อื หากล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เป็นตน้ ภาพท่ี 6.14 ตวั อย่างหนงั สอื บรรณานุกรมของหอ้ งสมุดวทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี 4.2.2 หนงั สือดชั นีหรือดรรชนี (Indexes) หนังสอื ดชั นีหรือดรรชนี คอื สงิ่ พมิ พ์ท่รี วบรวมรายช่อื บทความ ทางวชิ าการ ทจ่ี ะเป็นประโยชน์ในการศกึ ษาค้นควา้ วจิ ยั ซงึ่ ตพี มิ พใ์ นวารสารหรอื หนังสอื พมิ พ์ ต่าง ๆ ดรรชนีแต่ละรายการจะใหร้ ายละเอยี ดทส่ี ามารถสบื คน้ เพ่อื เขา้ ถงึ บทความท่ตี ้องการได้ ไดแ้ ก่ ช่อื ผู้แต่ง ช่อื บทความ ช่อื วารสาร ช่อื หนงั สอื พมิ พ์ ท่ลี งเร่อื งนนั้ ๆ ปีท่ี ฉบบั ท่ี วนั เดอื นปี ของวารสาร และเลขหน้าท่ีลงบทความ จัดเรียงลาดับช่ือผู้เขียนบทความหรือช่ือหัวเร่อื ง ดรรชนวี ารสารมกั นิยมทาในรูปวารสาร เพอ่ื ใหด้ รรชนีทท่ี าขน้ึ มคี วามเป็นปัจจุบนั หนังสอื อ้างองิ ประเภทน้ีบอกแหล่งขอ้ เท็จจรงิ หรือขอ้ มูลท่ตี ้องการ ช่วยในการคน้ ควา้ และสบื คน้ ขอ้ ความสาคญั หวั ขอ้ เรอ่ื งหรอื บทความท่ตี อ้ งการวา่ อยู่ในวารสาร หรือหนังสอื พิมพ์ฉบับใด อาจจะเป็นสง่ิ พมิ พ์ต่อเน่ืองหรือเป็นเล่มก็ได้ ส่วนดรรชนีท้ายเล่ม เป็นรายการคาหรอื ขอ้ ความสาคัญท่ีปรากฏอยู่ในเน้ือหาของหนังสือ เพ่อื ช่วยใหผ้ ู้ใช้สามารถ คน้ คาหรอื ขอ้ ความทต่ี ้องการไดอ้ ย่างสะดวกและรวดเรว็ เช่น ดชั นี เล่ม ๑-๒๕ สารานุกรมไทย สาหรบั เยาวชน เป็นตน้ ภาพท่ี 6.15 ตวั อย่างหนังสอื ดชั นขี องหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี

138 ทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิงในรปู แบบสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ ปัจจุบนั ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยสี ารสนเทศมีมากข้นึ หนังสืออา้ งอิงบางประเภท ได้เปล่ยี นสภาพจากส่อื สิง่ พมิ พ์ กลายมาอยู่ในรูปแบบของส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์ เป็นการบนั ทกึ ขอ้ มูลสารสนเทศทใ่ี ชอ้ า้ งอิงลงส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์ ได้แก่ รูปแบบฐานขอ้ มูลซีดรี อม และรูปแบบ ฐานขอ้ มูลออนไลน์ โดยการสบื คน้ ผา่ นเครอื ขา่ ยทางอนิ เทอรเ์ นต็ ดงั น้ี 1. ทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งอิงในรปู แบบฐานขอ้ มลู ซีดีรอม ฐานข้อมูลซีดีรอม (Compact Disc Read Only Memory : CD-ROM) เป็ น ฐานขอ้ มูลทห่ี น่วยงาน องคก์ ารหรอื บรษิ ทั ทางดา้ นสารสนเทศจดั ทาข้นึ แทนส่อื สง่ิ พมิ พ์เพราะ สามารถจดั เก็บสารสนเทศได้จานวนมากกว่าและสามารถเก็บได้ทัง้ ท่ีเป็นตัวอักษร ภาพ และเสียง โดยการบันทึกลงในแผ่นซีดีรอม จะต้องค้นคว้าข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถใช้บริการฐานข้อมูลซีดีรอมได้จากสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่ง ตัวอย่างเช่น พจนานุกรม สารานุกรม หนังสอื รายปี ภาพท่ี 6.16 ตวั อยา่ งทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ ในรปู แบบฐานขอ้ มลู ซดี รี อมของหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี 2. ทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งอิงในรปู แบบฐานขอ้ มูลออนไลน์ ฐานขอ้ มูลออนไลน์ (Online Database) เป็นการเข้าถึงสารสนเทศในเร่อื งใด เร่ืองหนึ่ง โดยการสืบค้นข้อมูลผ่านเครอื ข่ายทางอินเทอร์เน็ตได้ในเวลาเดียวกันหลายคน ถงึ แม้ว่าจะอยู่ต่างสถานท่กี นั สามารถค้นหาขอ้ มูลได้อย่างรวดเรว็ และประหยดั เวลา มขี ้อมูล ครบสมบูรณ์ทนั สมยั กว่าขอ้ มูลทม่ี าจากซีดรี อม เพราะสามารถปรบั เปลย่ี นขอ้ มูลไดต้ ลอดเวลา ตวั อย่างเชน่ เวบ็ ไซตพ์ จนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2542 เวบ็ ไซต์สารานุกรมไทย สาหรบั เยาวชน เวบ็ ไซต์หนงั สอื รายปี The Old Farmer’s Almanac เวบ็ ไซต์หนังสอื อา้ งองิ ทาง ภูมศิ าสตร์ เวบ็ ไซต์หนงั สอื อา้ งองิ ประเภทอกั ขรานุกรมชวี ประวตั ิ เป็นตน้

139 ตวั อยา่ ง แหล่งทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ ในรูปแบบฐานขอ้ มูลออนไลน์ เช่น ภาพท่ี 6.17 ตวั อย่างเวบ็ ไซต์พจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นเวบ็ ไซต์คน้ หาความหมายของ คาศัพท์ หรือเปิดหาคาศัพท์ตาม กล่มุ ตวั อกั ษร ทม่ี า : http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp ภาพท่ี 6.18 ตัวอย่างเว็บไซต์พ จนานุ กรม อิเล็ก ท รอนิ ก ส์ไท ย -อังก ฤ ษ เป็ นเว็บไซต์ท่ีอธิบายคาศัพท์ เฉพาะวิชาจากภาษาไทยเป็ น ภาษาองั กฤษ ทม่ี า : http://lexitron.nectec.or.th/2009_1 ภาพท่ี 6.19 ตัวอย่างเว็บไซต์สารานุกรมไทย สาหรับเยาวชน เป็ นเว็บไซต์ท่ี บรรจุเน้ือหาเพยี งบางส่วนเท่านัน้ ใช้ค้นหาความรู้ ทงั้ ภาพและเสียง วดี โี อ บทความเพ่อื ทารายงาน ทม่ี า : http://kanchanapisek.or.th/kp6/home.htm ภาพท่ี 6.20 ตัวอย่างเว็บไซต์สารานุกรมไทย ฉบบั กาญจนาภเิ ษก เป็นเวบ็ ไซต์ท่ี คน้ หาความรู้ บทความ โดยมกี าร จดั เรยี งหวั ขอ้ ตามลาดบั ตวั อกั ษร ทม่ี า : http://guru.sanook.com

140 ภาพ ท่ี 6.21 ตัวอย่างเว็บไซต์หนังสือรายปี ช่ื อ The Old Farmer’s Almanac เป็ น แห ล่งสารสนเทศด้านอากาศ วถิ ีประชากร การทาสวน และอ่นื ๆ เป็ นสมพัตสรท่ีเก่าแก่ท่ีสุดของ ประเทศสหรฐั อเมรกิ า ทม่ี า : http//www.almanac.com ภาพท่ี 6.22 ตัวอย่างเว็บไซต์หนังสือรายปี ช่ือ Infoplease เป็นแหล่งท่ใี ห้ข้อเท็จจรงิ ทเ่ี ป็นประโยชน์ และน่าสนใจจานวน หลายล้านรายการและครอบคลุม ทุกสาขาวชิ า ทม่ี า : http//www.infoplease.com ภาพท่ี 6.23 ตวั อย่างเว็บไซต์หนังสอื อ้างอิงทาง ภูมิศาสตร์ประเภทอักขรานุ กรม ภูมิศาสตร์เป็ นเว็บไซ ต์รวบรวม รายช่ือ ท างภูมิศาส ตร์ท่ีมีอยู่ใน ทอ้ งถน่ิ ตา่ ง ๆ ของประเทศไทย ทม่ี า : http://rirs3.royin.go.th/akara/index.html ภาพท่ี 6.24 ตัวอย่างเว็บไซต์หนังสืออ้างอิง ป ระเภ ท อัก ข รา นุ ก รม ชีว ป ระวัติ ให้รายละเอยี ดเกยี่ วกบั ประวตั บิ ุรุษ และสตรีท่ีมีช่ือเสียงผู้พัฒนาโลก คน้ หาได้จากปีเกิด ปีตาย ตาแหน่ง ผลงาน ทม่ี า : http://rirs3.royin.go.th/akara/index.html

141 สรปุ ท้ายบท ทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งอิงเป็นแหล่งขอ้ มูลท่ใี ห้ขอ้ มูลเน้ือหาสาระเฉพาะเร่อื งใด เรอ่ื งหนึ่งไดโ้ ดยไม่ตอ้ งศกึ ษาทงั้ เล่ม มเี น้อื หาหลากหลายสาขาวชิ า ทรพั ยากรสารสนเทศอา้ งองิ บางประเภทมีการปรบั ปรุงเน้ือหาให้เป็นปัจจุบันอย่างต่อเน่ือง และมีการปรบั ปรุงรูปแบบ การนาเสนอใหเ้ ขา้ กบั ยุคสมยั ห้องสมุดทุกแห่งไดจ้ ดั หาทรพั ยากรสารสนเทศอ้างอิงมาไว้เพ่อื ให้บรกิ ารแก่ผู้ใชค้ น้ หาเร่อื งราวหรอื ขอ้ เท็จจรงิ ในเร่อื งใดเร่อื งหน่ึงโดยเฉพาะ เพ่อื จะไดค้ าตอบ ทเ่ี ป็นขอ้ เท็จจรงิ น่าเช่อื ถือและทนั สมยั ซงึ่ ปัจจุบนั ทรพั ยากรสารสนเทศอ้างองิ มหี ลายรปู แบบ แบ่งตามส่อื ท่ีใช้ในการบันทกึ ซ่ึงมี 2 รูปแบบ คอื บันทกึ ในรูปแบบของส่อื สงิ่ พิมพ์ เรยี กว่า หนังสอื อ้างอิง และบันทึกในรูปแบบของส่อื อิเล็กทรอนิกส์ เรยี กว่า สารสนเทศอ้างองิ ได้แก่ ฐานขอ้ มูลซดี รี อม ฐานขอ้ มลู ออนไลน์ หนังสอื อา้ งองิ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื หนังสอื อา้ งอิง ท่ใี ห้คาตอบได้โดยตรง ได้แก่ พจนานุกรม สารานุกรม หนังสือรายปี อกั ขรานุกรมชวี ประวตั ิ นามานุกรม หนังสืออ้างอิงทางภูมศิ าสตร์ หนังสอื คู่มือ สง่ิ พิมพ์รฐั บาล และหนังสืออ้างอิงท่ี แนะนาแหลง่ คาตอบ ไดแ้ ก่หนังสอื บรรณานุกรม หนังสอื ดรรชนี ซง่ึ ในการเลอื กใชป้ ระโยชน์นัน้ ขน้ึ อยู่กบั ความสะดวกหรอื ความเหมาะสมกบั เน้ือหาทต่ี ้องการจะคน้ คาตอบ และความทนั สมยั เป็นปัจจุบนั ของเน้อื หานนั้

142 กิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ กิ จกรรม ที่ 1 ให้นักเรียนหาความหมายช่ือของตนเอง จากพ จนานุ กรมไทยฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 โดยระบุเลขหน้าของคาท่ีค้นพบด้วย กรณีช่ือต้องแยกคา หาความหมาย ให้เขียนความหมายของแต่ละคาให้ครบถ้วนทุกคา แล้วจงึ นามาสรุปเป็น ความหมายโดยรวม ดว้ ยการนาความหมายทห่ี าพบมาเรยี บเรยี งเขา้ ดว้ ยกนั ดงั ตวั อย่างตอ่ ไปน้ี 1. ตวั อยา่ งชอ่ื ความหมายเดยี ว เชน่ ชอ่ื วนั เพญ็ วนั เพญ็ หมายถงึ น. วนั กลางเดอื นนับตามจนั ทรคติ คอื วนั ทพ่ี ระจนั ทรข์ น้ึ เตม็ ดวง (หนา้ 1060) วนั ทนา หมายถงึ น. การไหว,้ การเคารพ (หนา้ 1061) 2. ตวั อยา่ งชอ่ื ตอ้ งแยกคา เช่น ธนวฒั น์ คาทค่ี น้ พบคอื ธน, ธน- หมายถงึ น. ทรพั ยส์ นิ (หน้า 551) วฒั น-, วฒั นะ หมายถงึ น. ความเจรญิ , ความงอกงาม (หน้า 1058) สรปุ ความหมายรวม ชอ่ื ธนวฒั น์ หมายถงึ ผมู้ ที รพั ยส์ นิ งอกงาม, ผูม้ คี วามเจรญิ ในทรพั ยส์ นิ ชอ่ื นักศกึ ษา……………………………………………………. ความหมาย ………………………..……………………………………………………………………………… ………………………..……………………………………………………………………………… ………………………..……………………………………………………………………………… ………………………..……………………………………………………………………………… ………………………..……………………………………………………………………………… ………………………..……………………………………………………………………………… ………………………..……………………………………………………………………………… ………………………..……………………………………………………………………………… ………………………..……………………………………………………………………………… ความหมายโดยรวม (เรยี บเรยี งจากความหมายทไ่ี ดม้ า เขยี นเป็นประโยคเดยี ว) ………………………..……………………………………………………………………………… ………………………..………………………………………………………………………………

143 แบบประเมินก่อนและหลงั การเรียนรู้ จงเลอื กคาตอบท่ีถกู ต้องท่ีสุดเพยี งคาตอบเดียว 1. ขอ้ ใดคอื ลกั ษณะพเิ ศษของหนังสอื อา้ งองิ ก. ใชต้ อบคาถามไดท้ ุกเรอ่ื งทต่ี อ้ งการ ข. มขี นาดรปู เลม่ เหมอื นหนงั สอื ทวั่ ไป ค. การจดั เรยี งเน้อื หาจากงา่ ยไปหายาก ง. รวบรวมเน้อื หาโดยผเู้ ชย่ี วชาญในเรอ่ื งนนั้ ๆ 2. ขอ้ ใดคอื หนังสอื อา้ งองิ ทแ่ี นะนาแหลง่ คาตอบว่าอยู่ทใ่ี ด ก. พจนานุกรม ข. บรรณานุกรม ค. สารานุกรม ง. นามานุกรม 3. ถา้ ตอ้ งการทราบความหมายของคาหรอื การสะกดคา ควรดจู ากหนังสอื อา้ งองิ ประเภทใด ก. พจนานุกรม ข. บรรณานุกรม ค. สารานุกรม ง. นามานุกรม 4. ถา้ ตอ้ งการคน้ หาหมายเลขโทรศพั ทข์ องวทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี สามารถดไู ดจ้ ากหนงั สอื อา้ งองิ ประเภทใด ก. พจนานุกรม ข. บรรณานุกรม ค. อกั ขรานุกรม ง. นามานุกรม 5. หนังสอื ชอ่ื เรอ่ื ง “เกดิ มาตอ้ งตอบแทนบญุ คณุ แผ่นดนิ พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์” จดั เป็น หนงั สอื อา้ งองิ ประเภทใด ก. พจนานุกรม ข. บรรณานุกรม ค. อกั ขรานุกรม ง. นามานุกรม

144 6. หนงั สอื ชอ่ื เรอ่ื ง “สารานุกรมรอบรรู้ อบโลก” จดั เป็นหนงั สอื อา้ งองิ ประเภทใด ก. หนังสอื ทใ่ี หค้ วามรเู้ กย่ี วกบั คาในภาษาตา่ ง ๆ ข. หนังสอื ทร่ี วบรวมความรทู้ ุกสาขาวชิ าทวั่ โลก ค. หนงั สอื ทใ่ี หข้ อ้ เทจ็ จรงิ ทางภมู ศิ าสตร์ ง. หนังสอื ทใ่ี หข้ อ้ เทจ็ จรงิ ของแหล่งขอ้ มูลทต่ี อ้ งการ 7. หนังสอื ชอ่ื เรอ่ื ง “แผนทท่ี างหลวงประเทศไทย” จดั เป็นหนงั สอื อา้ งองิ ประเภทใด ก. หนงั สอื ทใ่ี หค้ วามรเู้ กย่ี วกบั คาในภาษาต่าง ๆ ข. หนังสอื ทร่ี วบรวมความรทู้ กุ สาขาวชิ าทวั่ โลก ค. หนังสอื ทใ่ี หข้ อ้ เทจ็ จรงิ ทางภมู ศิ าสตร์ ง. หนงั สอื ทใ่ี หข้ อ้ เทจ็ จรงิ ของแหล่งขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการ 8. ขอ้ ใดคอื หนังสอื อา้ งองิ ประเภทหนังสอื รายปี ก. ENCYCLOPEDIA ข. GUINNES WORLD RECORD 2009 ค. WHO IS WHO IN THAILAND ง. NEW ENGLISH-THAI DICTIONARY 9. ขอ้ ใดจดั เป็นหนงั สอื อา้ งองิ ทางภมู ศิ าสตร์ ก. ประวตั ศิ าสตรล์ พบุรี ข. คมู่ อื ทอ่ งเทย่ี วเขอ่ื นป่าสกั ชลสทิ ธิ์ ค. ประวตั สิ มเดจ็ พระนารายณ์มหาราช ง. คมู่ อื ชมพพิ ธิ ภณั ฑว์ งั นารายณ์ 10. หนังสอื ทร่ี วบรวมคาแนะนาในการปฏบิ ตั ิ เช่น การปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้ จดั เป็นหนังสอื อา้ งองิ ประเภทใด ก. หนังสอื ดรรชนี ข. หนงั สอื อา้ งองิ ทางภมู ศิ าสตร์ ค. หนังสอื คมู่ อื ง. หนังสอื บรรณานุกรม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook